<<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>  (อ่าน 105303 ครั้ง)

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


ต่อกันตรงนี้...





                เฉินหย่งหนานก้าวเข้าไปในบ้านหลังเล็กพร้อมกับรอยยิ้ม เขาทอดสายตามองฟางซินภรรยาของเขาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมี

สาวใช้คนหนึ่งยืนเยื้องอยู่คอยดูแลเด็กชายตัวน้อยวัยเพียงสองขวบที่กำลังเล่นอยู่บนพื้นห้อง เมื่อฟางซินได้ยินเสียงฝีเท้าของสามีจึงได้

เงยหน้ายิ้มรับ


                  “งานสวนสนามเสร็จแล้วหรือคะ”


                  หย่งหนานพยักหน้ารับ เขาก้าวเข้าไปอุ้มเด็กชายเฉินฮุ่ยจงบุตรของเขาขึ้นมาในอ้อมกอดแล้วหันไปคลี่ยิ้มให้ฟางซิน 

อย่างอ่อนโยน


                 “วันนี้เซียวจงดื้อหรือเปล่า”


                 ฟางซินส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นมาให้เห็นร่างกายที่บอบบางยิ่งกว่าตอนก่อนแต่งงานเสียด้วยซ้ำ


                 “ลูกไม่ดื้อหรอกค่ะ เซียวจงเป็นเด็กเลี้ยงง่ายคงเพราะรู้ว่าแม่ไม่ค่อยสบาย”


                  หย่งหนานมองฟางซินอย่างเห็นใจ หลังจากแต่งงานกันได้แปดปีเขากับฟางซินเพิ่งจะมีทายาทให้ปีที่ห้าหลังจากแต่งงาน

และหลังจากคลอดบุตรภรรยาของเขาก็มีสุขภาพไม่ใคร่ดีนัก


                “แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง”


               ฟางซินลุกขึ้นยืนก้าวเดินมาหาสามีและลูกพลางยิ้มให้หย่งหนานและห้อมแก้มบุตรชายที่ส่งเสียงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ในอ้อมกอด

ของพ่อ


                “น้องก็เป็นเช่นเดิมนั่นแหละค่ะ เบื่อตัวเองเหลือเกิน”


                 ฟางซินกล่าวอย่างระทดท้อ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดสุขภาพจึงไม่แข็งแรงอย่างเช่นสมัยยังเป็นสาวรุ่น หย่งหนานโอบบ่าภรรยา

เพื่อให้กำลังใจ


               “วันนี้ยังไม่ค่ำเกินไปนัก หากเธอเบื่อที่จะอยู่ในบ้านเราไปเที่ยวในตลาดกันดีไหม”


               “ได้หรือคะ”


                ฟางซินเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น หย่งหนานมีงานยุ่งทุกวันจนไม่ค่อยมีเวลาให้เธอสักเท่าไหร่ แต่ฟางซินก็เข้าใจว่าภาระของ

สามีนั้นมากมายเหลือเกิน


               “ได้สิ ฝากเซียวจงไว้กับพี่เลี้ยงสักวัน แล้วฉันจะพาเธอนั่งรถลากเที่ยวในตลาดยามค่ำ ขอเวลาเปลี่ยนชุดทหารออกสักครู่นะ

ฟางซิน”


               ใช้เวลาไม่นานหย่งหนานก็เปลี่ยนมาใส่ชุดเสื้อคลุมสีเข้มตามสมัยนิยม เมื่อไม่ใช่ชุดเครื่องแบบทหารกลับทำให้ใบหน้าของ

บุรุษวัยสามสิบดูอ่อนเยาว์ลงอีก


               “ไปกันเถอะ”


               เขาจูงมือฟางซินให้ออกไปนอกรั้วบ้านที่มีทหารเฝ้าเวรยามอยู่ภายนอกดังเช่นเคยและเรียกรถลากให้พาไปยังย่านการค้า

เมื่อได้ออกมาเที่ยวชมนอกบ้านฟางซินก็ดูจะสดชื่นขึ้นมาบ้าง


               รถลากวิ่งผ่านโรงงิ้วของหยางซื่อทำให้หย่งหนานชะงักงัน หัวใจของเขาพลันคิดไปถึงใบหน้ามอมแมมของเด็กชายตัวน้อยที่

เคยช่วยเหลือไว้ และเมื่อใจคิดปากจึงพลันสั่งรถลากทันที


               “หยุดก่อน”


               ฟางซินมองสามีอย่างแปลกใจ หย่งหนานจึงหันมายิ้มให้


               “โรงงิ้วของครูหยางดูยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตแล้ว แวะดูงิ้วกันก่อนก็ไม่เลวนะฟางซิน”


               เมื่อสามีต้องการฟางซินก็ไม่ปฏิเสธ เธอลงจากรถลากและเดินตามสามีที่จูงแขนเข้าไปในโรงงิ้วที่แน่นขนัดไปด้วยผู้ชมที่มา

รอชมงิ้วเรื่องม่านประเพณีในค่ำคืนนี้


                                                             TBC

                                          :hao4: :hao4:




ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  ตายห่าคร่าาาา  พี่ไป๋ซาน ตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีเอาตัวรอดแล้ว

จะว่าโกรธ ก็โกรธนะ   แต่ก็สงสารเหมือนกันนะ ที่ไป๋ซานต้องเป็นอยู่ทุกวันนี้ 

โกรธ ที่ผลักลูกเต่าไปข้างหน้าที่รู้ว่าจะต้องเจออะไร  แต่ก็ดีใจกับไป๋ซานที่หลุดพ้นซะที กับขุมนรกแบบนี้  :mew2:

 :hao7:  ตอนหน้าเขาเจอกันแล้ววว

ปล.เกลียด ไอ้เหล่าซือ จริงๆ  ทำไมแม่งไม่ตายๆไปตั้งแต่ช่วงญี่ปุ่นบุกที่หนานกิงนะ  แม่งน่าโดนจับไปเป็นมนุษย์ทดลองของญี่ปุ่นจริงๆ

ปล.2   :mc4:  ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว  พ่อพระเอกเรามีลูกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-01-2017 22:03:21 โดย yymomo »

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โอ๊ยยยยยยย

ตื่นเต้นมาก ลุ้นสุด ๆ

นายท่านจะจำได้ไหม

ดีที่ไป๋ซานไม่ได้ทำร้ายตัวเอง ต่อไปคงมีบทบาทสำคัญแน่ ๆ

แล้วเหวินเป่าจะมีชะตากรรมเดียวกับไป๋ซานไหม ตาลุงขี้หื่นนั่นก็มา

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ดีงามมากค่ะเรื่แงนี้ รอทุกวันเลยค่ะ
ชื่นชมผลงานของผู้เเต่ง เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอยยย รันทดใจ น้องต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ฮือ...พี่ไป๋ซานหนีไปแล้ว คราวนี้เหวินเปาจะรอดจากตาแกหื่นนัานได้ไหม
นายท่านจะยังจำลูกเต่าได้อีกรึป่าว

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชอบพี่ไป๋ซานมากอ่ะ เสียใจดีหนีไปแต่ก็ดีกว่าฆ่าตัวตายละนะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
พี่ไป่ซานกะไปแล้วเหวินเป่าจะได้เจอหยงหนานเสียที

หยงหนานจะตกหลุมรักไหมหรือว่าจะเฉยๆ

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Bingpao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                        ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                                 บทที่ 7


               เป็นเพราะมิได้สวมใส่ชุดทหารอย่างที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน น้อยคนนักจึงจะจดจำนายทหารชื่อเสียงโด่งดังอย่างเฉินหย่ง

หนานได้ ตอนนี้เขาจึงประคองภรรยาเข้าไปในโรงงิ้วโดยไม่มีใครทักทายหรือให้ความสนใจซึ่งก็เป็นสิ่งที่เขาพอใจอยู่มาก หย่งหนานจูง

ฟางซินภรรยาของเขาเข้าไปนั่งที่เก้าอี้แถวกลางที่ยังเว้นว่างอยู่ สายตาคมของเขามองเห็นเบื้องหลังของบุรุษที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดบน

เก้าอี้อย่างดีและข้างกายมีกาน้ำชารับรองอย่างดี

               เขาคนนั้นคือเหยาหงลี่ นักการเมืองสังกัดพรรคชาตินิยมที่เฉินจิ้งเหอเป็นหัวหน้าพรรค หย่งหนานขมวดคิ้วเพราะเคยได้ยิน

ข่าวความร่ำรวยและมากไปด้วยอิทธิพลของชายคนนี้ ท่ามกลางภาวะสงครามอันเลวร้ายและลุงของเขาที่ทำงานอย่างหนัก แต่นักการ

เมืองที่อยู่ใต้การปกครองดูเหมือนจะอยู่ดีกินดีเหลือเกิน


               “มีอะไรหรือคะ” ฟางซินเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาของสามี


               “เห็นนั่นไหม เขาคือเหยาหงลี่ รัฐมนตรีอะไรสักอย่างของคุณลุงไงล่ะ”


               ฟางซินมองตามสามี แม้จะต้องอยู่แต่ในบ้านเกือบตลอดเวลาแต่เพราะเป็นสตรีที่ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดีทำให้ฟางซิน

ติดตามสถานการณ์ของบ้านเมืองอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เสียชื่อว่าเข้ามาเป็นสะใภ้ของสกุลเฉิน


               “ดูวางท่าจังเลยนะคะ น้องได้ข่าวมาว่าเขาขึ้นชื่อเรื่องความร่ำรวยและความเจ้าชู้ด้วย”


               เธอพูดอย่างที่ใจคิด ฟางซินเองก็มาจากสกุลของขุนศึกตระกูลใหญ่จึงรู้จักผู้คนอยู่ไม่น้อย เมื่อมองเห็นกิริยาที่เหยาหงลี่นั่ง

จิบน้ำชาสายตาจ้องไปยังเวทีแล้วก็นึกไม่ใคร่นิยมนัก


               “ช่างเขาเถอะ วันนี้เรามาพักผ่อน งิ้วเรื่องอะไรนะ”


               หย่งหนานเลิกสนใจนักการเมืองผู้นั้นฟางซินจึงเลิกสนใจตามไปด้วย เธอหันไปถามชาวบ้านที่นั่งติดกันก่อนจะหันมาตอบ

คำถามสามี


               “เล่นเรื่องม่านประเพณีค่ะ”


               ชื่อเรื่องเรียกความสนใจจากฟางซินได้เป็นอย่างดี เธอเคยอ่านวรรณกรรมเรื่องนี้มาแล้วหลายรอบและประทับใจกับความรักที่

ถูกกีดกันด้วยชนชั้นศักดินามาก สายตาของฟางซินจึงจับจ้องไปบนเวทีเมื่อเห็นว่านักแสดงเริ่มทำการแสดงบวงสรวงเทพแปดเซียนแล้ว

เมื่อหย่งหนานเห็นภรรยาสดใสขึ้นเขาจึงยิ้มอย่างยินดีและหันไปให้ความสนใจกับการแสดงที่เริ่มต้นขึ้นบนเวทีเช่นกัน







               หลินเหวินเป่ายืนตัวสั่นอยู่หลังฉากด้วยความตื่นเต้น แม้จะเคยเห็นการร่ายรำและบทร้องจากเยี่ยไป๋ซานมาจนจำได้ขึ้นใจแต่

เขาก็ยังหวาดหวั่น หนุ่มน้อยวัยสิบหกปีกลัวทั้งเรื่องการแสดงและผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หากเป็นรอบอื่นเหวินเป่าอาจจะไม่กังวลเท่า

รอบที่มีนายเหยามาชมอยู่ด้วย เหวินเป่าไม่ต้องการมีชีวิตดังเช่นไป๋ซานที่ขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดหากแต่ต้องกลายเป็นของเล่นให้กับผู้มี

อิทธิพล


               “ตัวสั่นเชียวเหวินเป่า กลัวเหรอ”


               สะดุ้งเมื่อหยางเจี่ยนวางมือลงบนบ่าและเอ่ยทักจากด้านหลัง เหวินเป่าหันกลับไปมองหยางเจี่ยนและยอมรับตรงๆ


               “กลัวสิพี่เจี่ยน ถึงผมจะดูพี่ไป๋ซานบ่อยๆแต่ผมไม่เคยเล่นเองเลยนะ แล้วนี่อยู่ๆก็ต้องมาเล่นบทนี้ ไม่ให้ตื่นเต้นได้ยังไง”


               หยางเจี่ยนก้าวมาหยุดต่อหน้า เขามองเด็กในโรงงิ้วที่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กด้วยประกายตาวาววามประหลาดกว่าเคย เหวินเป่า

ในยามปกติแม้จะชอบคลุกฝุ่นคลุกดินจนใบหน้ามอมแมมก็ยังจัดว่างดงามกว่าสตรีเสียอีก ซ้ำเมื่อได้มาอยู่ในชุดชิงอี่เช่นนี้ยิ่งทำให้ความ

งามนั้นฉายชัดจนหยางเจี่ยนยังอดตกตะลึงไม่ได้ มันทำให้เขาเกิดความหวงแหนและเสียดายเวลาที่ผ่านมา


               “มั่นใจเถิดว่าทุกคนจะต้องชอบ ขนาดพี่ยังชอบเหวินเป่าในตอนนี้เลย”


               ถือโอกาสยกมือเชยคางมนขึ้นจนเหวินเป่ายิ่งตกใจ เขาผงะและถอยหนีหยางเจี่ยนและฝืนยิ้มส่งให้ลูกชายเจ้าของโรงงิ้ว

ท่าทีของหยางเจี่ยนผิดไปจากเดิมจนเหวินเป่าเอะใจ


               “อย่าพูดอย่างนั้นสิพี่เจี่ยน ผมไม่เห็นจะเปลี่ยนไปตรงไหน”


               “ใครบอกล่ะ” หยางเจี่ยนก้าวเข้าหา “รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เหวินเป่าตัวน้อยของพี่สวยที่สุดในนานกิงแล้ว”


               “พี่เจี่ยน ผมเป็นผู้ชายนะอย่ามาเยินยอกันแบบนี้เลย เอ่อ รีบไปเถอะ เราต้องออกไปแสดงกันแล้ว”


               เหวินเป่าผลักอกหยางเจี่ยนออกห่างก่อนจะสืบเท้าก้าวหนีไปยังทางเข้าออกไปสู่ด้านหน้าเวที เขายืนสงบนิ่งระลึกถึงครู

อาจารย์เพื่อให้การแสดงบทอิงไถนางเอกของเรื่องม่านประเพณีผ่านไปด้วยดี หนุ่มน้อยลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดนตรีเชิดเป็นสัญลักษณ์

เหวินเป่าจินตนาการถึงภาพของไป๋ซานก่อนจะสะบัดผ้าที่ชายแขนแล้วร่ายรำออกไป

               เสียงฮือฮาดังขึ้นทันทีที่เหวินเป่าก้าวไปสู่กลางเวทีเพราะคนดูเห็นว่าไม่ใช่เยี่ยไป๋ซานผู้โด่งดังและพากันพูดคุยราวกับนก

กระจอกแตกรัง เหวินเป่าใจเสียอยู่บ้างเมื่อเห็นดังนั้นแต่เมื่อการแสดงต้องดำเนินต่อไปเขาก็ต้องตั้งใจให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับการแสดง

และเมื่อเขาเริ่มเอื้อนเอ่ยขับร้องบทละครเหล่าคนดูกลับต้องยิ่งส่งเสียงฮือฮาหนักกว่าเดิมเพราะน้ำเสียงของเหวินเป่าใสราวกับระฆังแก้ว

ยิ่งกว่าไป๋ซานเสียอีก นั่นเองทำให้เหวินเป่าดึงดูดความสนใจจากคนดูได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกับเหยาหงลี่ที่นั่งจ้องตาไม่กะพริบจน

กระทั่งเหวินเป่าแสดงจนจบฉากเขาก็กวักมือเรียกหยางลี่ให้เข้าไปหาเขา


                “ไป๋ซานล่ะ”


               ชายสูงวัยราวห้าสิบเศษเอ่ยถามหยางซื่อที่ก้มหัวพินอบพิเทา


               “เอ่อ ท่านเหยาครับ เกิดเรื่องใหญ่ว่าไป๋ซานหนีไปครับ ผมจึงจำเป็นต้องใช้เด็กใหม่มาแสดง ถ้าขัดหูขัดตาก็ขออภัยท่าน

เหยาด้วย”


               ขัดหูขัดตางั้นรึ ไม่เลยสักนิด ซ้ำยังเจริญหูเจริญตาเสียยิ่งกว่าไป๋ซานที่เขาได้ครอบครองมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว เหยา

หงลี่ยกมือลูบคางพลางครุ่นคิดพร้อมกับปรายตามองไปด้านข้างเวทีที่พอจะเห็นเด็กหนุ่มผู้นั้นอยู่รำไร ความสดใหม่ช่างเย้ายวนใจจน

ต้องเอ่ยปาก


               “ไป๋ซานหนีก็ปล่อยมันไป ให้เงินใช้และมีชีวิตสุขสบายกลับไม่ชอบ หากมันอยากจะไปตกระกำลำบากก็ปล่อยมัน แต่ถ้าจะ

ทดแทนกันด้วยชิงอี่คนใหม่นี้ ฉันก็จะขอรับไว้พร้อมกับทุนอีกสักก้อนเป็นยังไง”


               หยางซื่อเบิกตากว้าง ดวงตาดุจหมาจิ้งจอกกรอกไปมาอย่างใช้ความคิด เขาจำที่มาได้ว่าเหวินเป่าเป็นเด็กที่หย่งหนานนำมา

ฝากไว้เมื่อแปดปีที่แล้ว หาใช่เด็กที่พ่อแม่นำมาขายฝากเช่นไป๋ซานหรือเด็กคนอื่นในคณะ


               “เอ่อ คือ... เหวินเป่านี้มัน...”


               “กลับไปคิดดูนะครูหยาง ในช่วงสงครามแบบนี้ครูหยางจะหาเงินได้ง่ายๆแบบนี้ที่ไหน ฉันมีเวลาให้จนกระทั่งงิ้วจบ หากไม่ได้

ชิงอี่คนนี้กลับไปต่อไปเงินทุนของครูหยางก็จะไม่มีอีกแล้ว”


               ยกมือโบกสะบัดให้หยางซื่อถอยออกไปเมื่อฉากใหม่เริ่มต้น หยางซื่อสืบเท้าออกมาพร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนักถึงผล

ประโยชน์ที่จะได้รับหากยินยอมตามความประสงค์ของเหยาหงลี่

               เสียงฮือฮาของคนดูรอบข้างทำให้หย่งหนานและฟางซินสบตากันอย่างแปลกใจ ฟางซินหันไปเอ่ยถามถึงสาเหตุจากคนดูที่

นั่งด้านข้างและหันกลับมาไขข้อข้องใจให้สามี


               “นางเอกคนนี้ไม่ใช่นางเอกคนที่เล่นประจำค่ะ เห็นว่าเป็นนางเอกใหม่ที่เพิ่งจะแสดงวันนี้วันแรก”


               หย่งหนานพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันกลับไปยังเวทีเพื่อชมการแสดง แต่ใบหน้าของผู้รับบทอิงไถนางเอกของเรื่องนั้นกลับสะดุด

ตาจนชายหนุ่มต้องเพ่งมองพิจารณาผ่านเครื่องสำอางที่วาดไว้เต็มวงหน้า


               “น้องว่านางเอกใหม่งดงามมากนะคะ เสียงร้องก็ไพเราะดีจัง”


               ฟางซินเอ่ยอย่างถูกใจเช่นเดียวกับคนดูคนอื่นที่หยุดส่งเสียงและหันไปสนใจกับนางเอกคนใหม่ ลีลาการร่ายรำและเสียงร้อง

สะกดใจคนดูได้อย่างไม่ยากเย็นแม้จะขึ้นแสดงเป็นครั้งแรก แต่สิ่งที่ทำให้หย่งหนานสนใจนั้นกลับเป็นความทรงจำเก่าๆที่ผุดขึ้นมา

ใบหน้ามอมแมมที่เขาเคยเห็นมานำมาวางทับไปกับเครื่องหน้านั้นดูช่างเหมาะเจาะลงตัวเหลือเกิน


               “หนูจะรอวันนั้น วันที่นายท่านกลับมารับ”


               “อากุย”


                เสียงเล็กสะอึกสะอื้นบีบคั้นหัวใจนั่นต่างหากที่สะกดใจของหย่งหนานไว้ ชายหนุ่มเผลอไผลจ้องมองร่างโปร่งบางร่ายรำตา

ไม่กะพริบ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเพราะมุ่งมั่นกับการทำงานจนลืมอะไรบางอย่างไว้เบื้องหลัง เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งลูกเต่าน้อยกลับกาย

เป็นหงส์ฟ้าร่ายรำอยู่บนเวที


                  ชายผ้าทิ้งตัวขณะท่อนแขนเรียวสะบัดโบกพริ้วลมราวกับทอจากผ้าไหมเนื้อดี ลีลาอ่อนช้อยราวกับมิใช่การแสดงครั้งแรก

กลับประทับเข้าสู่ใจกลางอกของหย่งหนานจนอัดแน่นไปหมด เสียงใสราวกับแก้วราคาแพงกรีดเข้าไปจนหย่งหนานลืมสิ้นทุกอย่าง ลืม

แม้แต่เสียงเรียกของภรรยาจนกระทั่งฟางซินถึงกับเขย่าแขนของเขา


                   “พี่หย่งหนาน พี่หย่งหนานคะ อะไรกันนี่จ้องมองจนจะหยุดหายใจแล้วนะคะ”


               หย่งหนานสะดุ้ง พลันหันไปสบตากับฟางซินด้วยความเก้อกระดากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนภรรยาหัวเราะคิกคัก


               “ดูสิ ทำราวกับไม่เคยชมงิ้ว”


               รอยยิ้มถูกจุดขึ้นบนใบหน้าของหย่งหนานจนดูสว่างไสว หัวใจที่มีแต่ความเคร่งเครียดในภารกิจของชาติผ่อนคลายจนเผย

รอยยิ้มได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ชายหนุ่มมิได้กล่าวอะไรตอบฟางซินอีกเมื่อทั้งคู่ต่างก็หันไปชมการแสดงราวกับมีแรงดึงดูด เมื่อ

ฉากสุดท้ายใกล้เข้ามาทุกที







               ความตื่นเต้นหมดไปเมื่อการแสดงผ่านพ้นตามลำดับ เหวินเป่าควบคุมตนเองให้อยู่ในบทบาทจนเรื่องราวล่วงเลยมาใกล้ถึง

ตอนจบ เขาร่ายรำและกวาดสายตาให้กับผู้ชมอย่างที่เคยเห็นไป๋ซานทำ สายตาทุกคู่จับจ้องมายังเขาบอกถึงความชื่นชมจนเหวินเป่านึก

ยินดี หากแต่ดวงตาเรียวพลันเบิกกว้างเมื่อได้สบสายตากับดวงตาคมคู่นั้นที่แม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่เหวินเป่าก็จำได้เสมอ


               “นายท่าน!”


               หัวใจกระตุกจนชะงักไปชั่วอึดใจ เหวินเป่ารวบรวมสมาธิอย่างที่สุดเพื่อจะกลับมาอยู่ในการแสดง เขาลอบมองจนกระทั่งมอง

เห็นบุรุษที่แสนดีของเขาหันไปยิ้มและเจรจากับสตรีผู้หนึ่งอย่างสนิทสนมหัวใจดวงน้อยก็พลันระทม

               การแต่งตัวของสตรีผู้นั้นบ่งบอกให้รู้ว่าแต่งงานไปแล้ว และใครเล่าจะเป็นสามีของหญิงที่บอบบางสูงศักดิ์เช่นนั้นหากมิใช่

บุรุษแสนสง่าที่นั่งเคียงข้างกันด้วยความเหมาะสมทุกประการ

                หัวใจดวงน้อยร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด เหวินเป่านึกถึงตนเองที่มีชาติกำเนิดแสนต่ำต้อย อย่าได้คิดเปรียบเทียบกับผู้ใด

ได้เลย มันช่างน่าเศร้าเหมือนงิ้วที่เขากำลังแสดงอยู่ในขณะนี้ ผิดที่เขาหาใช่อิงไถนางเอกของเรื่องที่อยู่ในตระกูลสูงส่ง แต่กลับเป็นเห

วินเป่าเด็กน้อยจากซ่องคณิกา


               น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นอาบแก้ม ดวงตาเรียวร้อนผ่าวเมื่อห้ามความโศกาไม่ได้ เหวินเป่ากลั้นสะอื้นเมื่อเขาต้องร้องบทงิ้วบท

สุดท้ายก่อนที่อิงไถจะกระโดดลงไปในผืนดินหน้าหลุมศพของซันป๋อเพื่อตายตามชายที่รักไปในตอนจบ





มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2017 14:35:51 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้...




โอ้ว่าอกเอ๋ย ไฉนเลยจึงแสนช้ำ

辛苦  崎嶇坎坷一肩挑

ซิน ขู่  ฉี ชู ค่าน จง อี  เจียน เทียว



เพราะรักต้องกลืนกล้ำน้ำตาอาดูร

以不得不吞眼泪悲伤集群

อี่ ปู้ เต๋อ  ปู้ ทุน เหยี่ยน เล่ย เปย ชาง  จี๋ ฉุน



รักแท้ถูกขัดขวาง หนทางใจสลายสูญ

爱被挫败了方式令人心碎的损失

อ้าย  เป้ย  ชั่ว  ป้าย เลอะ  ฟาง  ชื่อ  ลิ่ง  เหริน ซิน ซุ่ย เตอะ ซุน  ชือ



ข้านั้นเฝ้าเทิดทูนแต่ระกำด้วยคำคน

对我的灾祸是由人民效仿的

ตุ้ย  หว่อ  เตอะ จาย ฮั่ว  ชื่อ  โหย่ว  เหริน หมิน เซี่ยว ฝ่าง เต๋ย



ความรักเกิดจากจิต แต่กลับปลิดจากชิวหา

心灵之爱舌头

ซิน  หลิง จือ อ้าย  เฉอ โถ่ว



เหลื่อมล้ำเพราะเงินตราบังคับฟ้าให้แยกเรา

人有悲歡離合

เหริน โหยว  เปย  ฮวน หลี เหอ



แม้ใจอยากเคียงคู่ กับยอดชู้ที่แสนเศร้า

虽心靠并顶配伤心之事

ซุย  ซิน ค่าว ปิ้ง  ติ่ง เพ่ย  ชาง  ซิน จื่อ  ชื่อ



ความฝันพลันมัวเมาต้องจากกันจนวันตาย

梦想突然中毒从彼此直到死亡

เมิ่ง เสี่ยง ถู หราน  จ้ง  ตู๋  ฉง  ปี๋ ฉื่อ จื๋อ ต้าว สื่อ หวาง



โอ้ว่าฟ้าเอ๋ย ไฉนเลยจึงกลั่นแกล้ง

天堂,任何欺负

เทียน ถาง     เริ่น เหอ ชี ฟู่



รักนั้นมิเสแสร้งหากถูกแย่งให้ลาล่วง

之爱不假装是走是留传

จือ อ้าย ปู่ เจี้ย จวง ชื่อ โจ่ว ชื่อ หลิว ฉวน



ต่างคนต่างชนชั้นแม้บากบั่นสู้หนักหน่วง

人人一个种族主义之努力,甚至辛苦

เหริน เหริน อี๋ เก้อ จ้ง จู๋  อี้ จือ หนูลี่   เชิ่น จื้อ  ซิน  ขู่



ยังแพ้แก่คนลวงจนเจ็บทรวงแทบขาดใจ

蓬山此去无多路  输给上口部大快活

เผิง  ชาน   ฉื่อ  ชวี่  อู่ ตัว ลู่ ชู  เก่ย  ช่าง โขว่ ปู้  ต้า ไคว่ ฮัว



หลับตาเถิดนะพี่ ถึงชีวีจะห่างหาย

闭上眼睛怎么禁令回避

ปี้ ช่าง เหยี่ยน จิง เจินเมอะ จิ้น ลิ่ง  หุย ปี้



ใจน้องไม่กลับกลายรักพี่ชายจนวายปราณ

心里无爱别至去世

ซิน หลี่ อู๋ อ้าย เปี๋ย จื้อ ชวี่  ชื่อ



ชาตินี้ต้องแคล้วคลาด แต่ทุกชาติขอสุขสม

为了避免这 而每世才能到满意

เว่ย เลอะ  ปี้ เหมี่ยน  เจ้อ    เอ๋อ เหม่ย ชื่อ ฉาย เหนิง ต้าว หม่าน อี้



กายใจให้พี่ชมเพียงผู้เดียวตลอดกาล

身心底之福,可得永年

เชิน ซิน  ตี่  จือ ฝู่   เข่อ เตอะ หย่ง เหนียน






               ยิ่งมองเห็นความคู่ควรเท่าไหร่ น้ำตาของเหวินเป่าก็ยิ่งไหลเป็นสายน้ำ เหวินเป่าสวมวิญญาณของอิงไถถลาไปที่หลุมฝังศพ

ของซันป๋อและครวญคร่ำราวกับจะขาดใจ และทันใดนั้นอิงไถก็ทิ้งกายเพื่อให้ปฐพีเป็นพยานแห่งรักกลืนร่างลงไปเซ่นไหว้ความรักที่มีต่อ

เจ้าของหลุมศพ พลันผีเสื้อแสนงดงามสองตัวโบยบินขึ้นมาจากผืนแผ่นดินกลบร่าง

               เสียงปรบมืออื้ออึงดังท่วมท้นโรงงิ้ว เหล่าผู้ชมยกมือป้ายน้ำตากับการแสดงอันสมบทบาทแม้จะเป็นครั้งแรกของหลินเหวิน

เป่าแม้แต่ฟางซินก็ยังไม่วายสะอื้น หย่งหนานจ้องมองการแสดงที่จบลงอย่างสะท้อนใจ


               รักที่มิอาจเคียงคู่ หากแต่มิอาจห้ามใจไม่ให้รัก


               บุรุษชายชาติทหารจุกแน่นในอกเมื่อได้แต่มองม่านของโรงงิ้วที่ปิดลงกั้นเขากับเหวินเป่าจนมองไม่เห็นกันอีกต่อไป




                                  TBC

                        :sad4: :sad4:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2017 14:42:56 โดย Belove »

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หย่งหนานต้องช่วยเหวินเป่านะ !!!!
 อย่าให้ถูกขายเพราะไอ้คนละโมบ

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
สงสารอ่า คิดถึงไป๋ซาน นางยังจะมีบทอีกไหม คราวนี้หวังว่าหัวหน้าคณะงิ้วจะไม่ขายนายเอกของเรากินหรอกนะ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
เหวินเป่าจะรอดมือคนเลวไหมเนี่ย เจ้าของโรงงิ้วเห็นแก่ตัวมาก

ออฟไลน์ Bingpao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รำคาญเจ้าของงิ้ว  :z3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โอ๊ยยยยยย นายท่านรีบๆม่เอาตัวอากุยไปหน่อยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  โอ๊ยยย ชั้นล่ะเกลียดเหล่าซือจริงๆ  แต่แอบสะใจเล็กๆ ที่งานนี้จะขายเต่าน้อยไม่ได้ง่ายๆ

เพราะคนที่ฝากฝังมาอย่างหย่งหนานมันค้ำคอ  และงานนี้พ่อพระเอกเราก็มาดูด้วย  ทำอะไรมีโดนแน่

แต่พ่อพระเอกเราถึงกับตลึงไปเลย  ที่เต่าน้อยกลายร่างเป็นหงส์   มารีบพาตัวเต่าน้อยออกไปเลยนะ 

ปล.เสียดายที่ + ได้แค่ 1 อยากให้มากกว่านี้ในความใส่ใจองค์ประกอบเนื้อหาของเรื่องนี้จริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-01-2017 17:01:21 โดย yymomo »

ออฟไลน์ ฟุยุโกะ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารเป๋าเป่าน้อยอ่ะ รู้ว่านายท่านมีภรรเมียแล้วแถมโดนหมายตาจากคนหื่นกามอีก จะรอดไหมเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ pinkypromise

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พีคมากกกก แต่งเก่งมากกก

ตอนนี้อากุยกลายเป็นหงส์

แต่ยังไงเรื่องชาติกำเนิดจะมีดราม่ามาอีกมั้ย

รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ se7en_sins

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบเรื่องนี้มากกกกก น้ำตาจะไหลตามเหวินเป่า  :monkeysad:

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ  แต่งเก่งมากๆเลย  อ่านแล้วร้องไห้ตามเลย
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ภาษาดีมาก นายเอกต้องเป็นลูกใครสักคนที่มีอิทธิพลในญี่ปุ่นหรือเปล่า
ลุ้นๆๆ จะได้เจอกันแล้ว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                              ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                      บทที่ 8


               “เก่งมากเหวินเป่า”


               เสียงชื่นชมดังขึ้นจากหยางเจี่ยน ฝีมือของเหวินเป่าทำให้เขาแปลกใจรวมถึงทุกคนในคณะที่ไม่เคยคิดว่าเด็กหน้าตา

มอมแมมแท้ที่จริงที่เพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่หลังโรงงิ้ว หนุ่มน้อยแสดงราวกับเป็นศิลปินมากฝีมือทั้งที่เพิ่งจะขึ้นแสดงเป็นครั้งแรกและยัง

ไม่เคยผ่านการฝึกซ้อมในบทบาทนี้เลย


               “ขอบใจที่ชมนะพี่เจี่ยน”


               เหวินเป่าฝืนยิ้ม คราบน้ำตายังปะปนเปรอะเปื้อนไปกับเครื่องสำอางอยู่บนใบหน้า ภาพความเหมาะสมของคู่สามีภรรยารบกวน

จิตใจจนลืมเลือนเรื่องอื่นไปหมดสิ้น เหวินเป่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรงเขานึกอยากจะทอดกายไปกับที่นอนและหมอนแข็งๆเพื่อปล่อยให้น้ำตาไหล

ออกมาให้มันทุเลาความเจ็บปวดจากหัวใจ


               “ถ้าพี่ไป๋ซานไม่หนีไป เหวินเป่าก็คงยังไม่ได้แสดงฝีมือแบบนี้ ต่อไปเหวินเป่าจะต้องดังมากๆ ดังยิ่งกว่าพี่ไป๋ซานเสียอีก โรง

งิ้วของเราก็จะมีคนดูแน่นทุกรอบที่เราเปิดแสดง”


               น้ำเสียงของหยางเจี่ยนฟังดูมีความตื่นเต้น สายตาของเขาที่มองมายังหนุ่มน้อยเบื้องหน้าคล้ายจะเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็น

ได้ชัด มันดูมีความหวงแหนเป็นเจ้าของไม่เหมือนก่อนหน้านี้ หยางเจี่ยนเพียงแค่เอ็นดูและนึกสงสารแต่เมื่อได้เห็นความสามารถและ

ความงดงามของเหวินเป่าในชุดงิ้วชิงอี่ กลายเป็นหยางเจี่ยนหลงใหลกับหนุ่มน้อยที่เห็นมาแต่เยาว์ เขาฉวยโอกาสดึงมือเรียวของเหวิน

เป่ามาเกาะกุมไว้


               “อยู่กับพี่ไปตลอดนะเหวินเป่า ขอแค่มีเราทั้งคู่คณะงิ้วของเราจะต้องโด่งดัง เงินทองก็จะไหลมาเทมา”


               “เอ่อ พี่เจี่ยน อย่าทำแบบนี้”


                เหวินเป่าเพิ่งจะได้สติ เขารีบดึงมือออกมาพ้นการเกาะกุมด้วยความตกใจที่หยางเจี่ยนมีกิริยาถึงเนื้อถึงตัวอย่างไม่เคยเป็นมา

ก่อน หยางเจี่ยนเลิกคิ้วมองอย่างไม่พึงใจนัก


                  “ทำไมล่ะเหวินเป่า พี่แตะเนื้อต้องตัวแค่นี้ก็ยังต้องหวงเชียวรึ หรือว่าแค่เป็นชิงอี่เรื่องแรกก็เริ่มถือตัว”


                  “มันไม่ใช่แบบนั้นนะพี่เจี่ยน”


                   เหวินเป่าถอนหายใจ เขาก้าวไปยังราวไม้สำหรับเก็บชุดและเครื่องประดับงิ้ว หนุ่มน้อยถอดมันออกจนกระทั่งเหลือเพียง

ชุดยาวสีขาวที่สวมใส่อยู่ภายใน


                  “เหวินเป่า”


                 เสียงหยางซื่อดังขึ้นทำให้เหวินเป่าสะดุ้ง เขาหันกลับไปมองเจ้าของคณะงิ้วที่เดินตรงมาหา เหวินเป่าสบตากับหยางซื่อและ

พยายามแปลความหมายขณะที่หยางซื่อมองมา มีทั้งความชื่นชมและยุ่งยากใจปะปนกันไป


                “เหล่าซือ”


                “เก่งมาก ไม่นึกเลยว่าเธอจะแสดงได้ดีเช่นนี้”


                หยางซื่อเอ่ยชม เหวินเป่าคงจะนึกยินดีหากไม่มีประโยคถัดไปติดตามมา


               “คนดูชื่นชอบการแสดงของเธอมาก โดยเฉพาะท่านเหยา ท่านอยากจะตกรางวัลให้เธอเป็นพิเศษที่หน้าเวทีตอนนี้”


                “ไม่”


                เหวินเป่าตกใจสุดขีด


                “ผมไม่รับ ถ้าเหล่าซือต้องการเงินนั้นก็รับไว้เองเถิด”


                ดวงตาของหยางซื่อแปรเปลี่ยนเป็นเข้มงวดทันที ชายสูงวัยคว้าต้นแขนของเหวินเป่าไว้แน่นเมื่อเห็นหนุ่มน้อยคิดจะก้าวเท้า

หลบหนี


                “อย่ามากเรื่องนักเลยเหวินเป่า ท่านแค่จะพูดคุยด้วยเท่านั้นเอง”


                “พ่อ”


                 หยางเจี่ยนเข้ามายื้อยุดมือของบิดาไว้


               “ไม่ได้นะ พ่อจะให้เหวินเป่าออกไปให้ท่านเหยาเห็นไม่ได้เป็นอันขาด”


                 “บ๊ะ เจ้าเจี่ยนเข้ามายุ่งอะไรด้วย จะไปทำอะไรก็ทำเสียอย่ามาวุ่นวายเรื่องของผู้ใหญ่”


                 “พ่อ!”


                “เหล่าซือ!”


                 ไม่อาจขัดขวางได้แม้ว่าหยางซื่อจะลากแขนเหวินเป่าไปท่ามกลางสายตาของผู้คนในโรงงิ้ว หยางเจี่ยนได้แต่ก้าวเท้าตาม

ไปติดๆ และต้องหยุดเท้าลงเมื่อหยางซื่อพาเหวินเป่าไปคุกเข่าต่อหน้าเหยาหงลี่ที่นั่งจิบน้ำชาอยู่หน้าเวทีขณะที่คนดูคนอื่นทยอยออก

ไปจนหมดแล้ว บุรุษร่างท้วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราเนื้อดีและมีลูกน้องราวสี่ถึงห้าคนยืนเรียงรายอยู่เบื้องหลัง ยิ่งทำให้เขาน่าเกรง

ขามมากยิ่งขึ้นจนเหวินเป่าเนื้อตัวสั่น


                “ชิงอี่คนใหม่ชื่ออะไรนะครูหยาง”


               “เหวินเป่าครับท่านเหยา”


               กล่าวอย่างนอบน้อมเพราะเกรงอิทธิพลขณะที่เหยาหงลี่กวาดสายตาเรียวเล็กมองเหวินเป่าตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงใจ เหวิน

เป่าขนลุกเมื่อเห็นแววตากระหายฉายออกมาอย่างปิดไม่มิด


               “มานี่สิเหวินเป่า มารับรางวัล เธอเล่นได้สมบทบาทเหลือเกิน”


               เหวินเป่านั่งตัวแข็งจนหยางซื่อผลักไหล่เขาให้เข้าไปใกล้หงลี่มากยิ่งขึ้น


                “อย่าดื้อเหวินเป่า ท่านเหยากรุณาก็จงรับไว้”


                 เสียงบังคับขู่เข็ญทำให้เหวินเป่าอยากจะร้องไห้ เขาเหลือบตามองชายฉกรรจ์เบื้องหลังหงลี่อย่างหวาดกลัว หงลี่ใบหน้า

หวาดกลัวของเหวินเป่า เขาคว้าข้อมือของเหวินเป่าขึ้นมาและยัดธนบัตรขยุ้มหนึ่งใส่มือเรียวและบังคับให้เหวินเป่ากำมือรับไว้ แต่หงลี่ก็

ยังมิได้กระทำเพียงแค่นั้นเขาใช้มือบีบคางของเหวินเป่าให้เงยหน้าขึ้นเพื่อให้เขาจ้องมองถนัดตา


                “ปล่อย ปล่อยนะ”


                 หนุ่มน้อยดิ้นรน มือข้างที่ยังเป็นอิสระยกขึ้นปัดป้องแต่ก็ไม่เป็นผล หงลี่เพ่งมองใบหน้าที่ยังอยู่ภายใต้การฉาบด้วยเครื่อง

สำอางก่อนจะกระตุกยิ้มออกมา ความงดงามนั้นทะลุผ่านคราบแป้งขาวจนไม่ต้องเคลือบแคลง จากนั้นเขาจึงยอมปล่อยเหวินเป่าให้นั่งตัว

สั่นอยู่บนพื้น


               “ครูหยาง”


               เหยาหงลี่เพียงแค่ปรายตาหยางซื่อก็ถลาเข้าไปใกล้และค้อมศีรษะอย่างนอบน้อม


               “ครับ ท่านเหยา”


               นัยน์ตาของหงลี่บ่งบอกถึงความต้องการครอบครองร่างเล็กที่นั่งสั่นเทาอยู่ไม่ไกลนักอย่างเห็นได้ชัด


                 “เป็นเพราะครูหยางดูแลไม่ดีปล่อยให้ไป๋ซานหนีไป ครูหยางคงต้องรับผิดชอบเมื่อความสำราญของฉันมันหมดลง หวังว่า

เงินทองที่ฉันเคยมอบให้จะทำให้ครูหยางหาความสุขมาทดแทนให้ฉันได้กระมัง”


               เข้าใจความนัยนั้นเป็นอย่างดี หากแต่คราวนี้มันไม่ง่ายเช่นนั้น หยางซื่อลำบากใจจนเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก


              “ผมเข้าใจครับท่านหยาง แต่ว่าเด็กคนนี้ไม่เหมือนไป๋ซาน”


               เหยาหงลี่ตวัดสายตาใส่จนหยางซื่อสะดุ้งเฮือก


                 “หมายความว่าครูหยางจะไม่ยอมมอบชิงอี่คนนี้มาตอบแทนความช่วยเหลือของฉันงั้นหรือ ครูหยางคิดถึงผลที่จะตามมา

บ้างไหมหากขัดใจฉัน”


               “ท่านเหยาครับโปรดฟังก่อน”


                หยางซื่อพลันคุกเข่าอยู่ด้านข้างเก้าอี้ที่เหยาหงลี่นั่งอยู่ มือทั้งยกคือประสานคำนับพร้อมกับสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อ

เห็นสายตากรุ่นโกรธของเหยาหงลี่


                “เหวินเป่าเมื่อตอนอายุแปดขวบคุณชายเฉินนำมาฝากไว้กับกระผม หากผมมอบเหวินเป่าให้ท่านเหยาแล้วคุณชายเฉินมารู้

ภายหลังผมเกรงว่ามันจะบานปลายเป็นเรื่องใหญ่”


              เหยาหงลี่ชะงักจนคิ้วแทบขมวดเป็นปมเมื่อได้ฟังเหตุผลของหยางซื่อ


                 “คุณชายเฉิน เฉินไหน”


                “เฉินหย่งหนานผู้เป็นหลานของนายพลเฉินจิ้งเหออย่างไรล่ะครับ เขานำเหวินเป่ามาฝากไว้”


                  สายตาเรียวเล็กกลิ้งกลอกไปมา เหยาหงลี่ยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด เขายังคงจับจ้องแต่ใบหน้าของเหวินเป่า ยิ่งมอง

ความต้องการครอบครองก็ยิ่งเอ่อล้นจนไม่อาจห้ามใจได้


                “ป่านนี้เฉินหย่งหนานคงยุ่งอยู่แต่สงครามจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นใดนักหรอก และกว่าเขาจะกลับมาสนใจฉันก็คงพอใจกับ

สิ่งตอบแทนจนเบื่อหน่ายเสียแล้ว เพราะฉะนั้นครูหยางจงมอบชิงอี่ของครูมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”


                “ไม่นะ!”


                เหวินเป่าที่ได้ยินบทสนทนาเหล่านั้นถึงกับอกสั่นขวัญแขวนเมื่อรู้ว่ากลายเป็นที่ต้องการของบุรุษผู้มากไปด้วยกามารมณ์

หนุ่มน้อยขยับกายคิดหนีหากแต่แค่เพียงยันกายผุดลุกเขาก็ถูกลูกน้องของเหยาหงลี่ตรงเข้ามาคว้าต้นแขนทั้งสองข้างไว้จนดิ้นไม่หลุด

แม้แต่เหวินเป่าจะออกแรงทั้งหมดที่มี


                “หยุดนะ แกจะทำอย่างนี้ไม่ได้”


                  คนที่ส่งเสียงกร้าวก่อนจะตรงเข้ามาขัดขวางคือหยางเจี่ยน เขาเฝ้ามองเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อรู้ว่า

เหยาหงลี่คิดจะชิงตัวเหวินเป่าไปเขาจึงโกรธสุดขีดจนลืมอิทธิพลของนักการเมืองผู้นี้ หยางเจี่ยนพบเพชรน้ำงามเม็ดนี้ก่อนและเหวินเป่า

ควรจะเป็นของเขามิใช่ชายรุ่นบิดาที่กำลังจะช่วงชิงสมบัติของเขาไป


                   “อาเจี่ยน แกทำอะไรอย่างนั้น!”


                  หยางซื่อตกใจเมื่อเห็นบุตรชายตรงเข้าต่อสู้กับคนของเหยาหงลี่ด้วยความบ้าบิ่น เหวินเป่าฉวยโอกาสนั้นสะบัดต้นแขนหนี

และก้าวเท้าวิ่งออกไปด้านหน้าโรงงิ้วอย่างรวดเร็วโดยไม่หันหลังกลับ เหวินเป่ายอมไปตายอยู่เบื้องนอกดีกว่าตกเป็นสมบัติของผู้คน

เหล่านั้นที่เห็นเขาเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งที่ไร้ชีวิตจิตใจ


               “ไปตามกลับมาให้ได้”


                 ได้ยินเสียงกร้าวของเหยาหงลี่ดังอยู่เบื้องหลังพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่วิ่งติดตามมาแต่เหวินเป่าก็ไม่ยอมหยุด หัวใจของเหวิน

เป่าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวปีศาจร้ายในคราบมนุษย์ เขานึกถึงเพียงวีรบุรุษของเขาเพื่อจะเป็นความหวังให้รอดไปจากความเลวร้ายที่

กำลังเกิดขึ้นตอนนี้




มีต่ออีกนิด...



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 00:37:16 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้..



                เฉินหย่งหนานโอบบ่าประคองฟางซินภรรยาออกมาจากโรงงิ้ว ดวงตาคมยังเฝ้าครุ่นคิดถึงร่างโปร่งบางในชุดงิ้วที่ได้สบตาใน

ระยะไกล แม้ร่างนั้นจะเติบโตกว่าเมื่อแปดปีก่อนแต่ดวงตาเรียวหวานคู่นั้นกลับไม่แปรเปลี่ยนไปเลยสักนิดยามมองมาที่เขา


              “คณะงิ้วของครูหยางแสดงดีเหลือเกินนะคะ”


               ฟางซินเอ่ยขึ้นมาปลุกหย่งหนานจากภวังค์


               “คนดูพากันร้องไห้แม้แต่น้อง”


                เธอหัวเราะเบาๆอย่างถูกใจ


                 “คนที่เล่นบทอิงไถก็เล่นได้ดี รูปร่างหน้าตาเวลาแสดงก็อ้อนแอ้นราวกับมิใช่เป็นชาย”


                  หย่งหนานเพียงแต่ยิ้มรับ ฟางซินดูสดชื่นขึ้นมาบ้างเมื่อได้มาเปิดหูเปิดตานอกบ้าน หย่งหนานมองภรรยาอย่างห่วงใย


                  “เธอมีความสุขก็ดีแล้ว คลุมผ้าให้ดีกว่านี้เถอะน้ำค้างลงหนาแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายไปอีก”


                  ฟางซินยิ้มรับก่อนจะกระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นหนากว่าเดิม เดินเคียงคู่กันมาได้พักหนึ่งหย่งหนานจึงเตรียมจะเรียกรถลาก

ให้ไปส่งที่บ้าน หากแต่เสียงเอะอะที่ดังอยู่เบื้องหลังทำให้เขาหันขวับไปมองตามสัญชาตญาณ

                 ร่างโปร่งบางที่เพิ่งจะถูกม่านบนเวทีกางกั้นวิ่งตรงมาด้วยสีหน้าท่าทางตระหนกสุดขีดตามมาด้วยชายฉกรรจ์ท่าทางประสงค์

ร้าย หย่งหนานเบิกตากว้างเมื่อเห็นเหตุการณ์ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาจำต้องยื่นมือเข้าไปช่วย


                 “อากุย”


                หัวใจของเหวินเป่าเต้นราวกับเสียงรัวตีกลองยามตัวแสดงฝ่ายบู๊ออกศึกเมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไกลออกไปและส่ง

เสียงเรียกเขาไว้ เหวินเป่ากัดฟันวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตตรงไปหาความหวังของเขา


              “นายท่าน นายท่านช่วยด้วย”


               เหวินเป่าหมดแรงล้มลงตรงหน้าหย่งหนานนั่นเอง หนุ่มน้อยทรุดตัวลงหอบหนักจนฟางซินที่ยืนอยู่ด้วยมองอย่างสงสารและ

ดึงแขนของเขาให้ลุกขึ้นมาหลบอยู่เบื้องหลัง


              “มาตรงนี้เถอะชิงอี่น้อย”


              หย่งหนานส่งสายตาเข้มหยุดเหล่าชายฉกรรจ์ที่วิ่งติดตามมา พวกมันเมื่อเห็นว่าใครกางปีกปกป้องเหวินเป่าไว้จึงชะงักฝีเท้า

จนกระทั่งนายของพวกมันมาถึง


                “เกิดอะไรขึ้น อ้อ คุณเหยานั่นเอง”


                กวาดสายตาคมมองไล่ไปตามใบหน้าทีละคนรวมถึงเหยาหงลี่และหยางซื่อที่เพิ่งมาถึง หยางซื่อถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นว่าคือ

หย่งหนานหลานชายของนายกรัฐมนตรี


               “คุณชายเฉิน!”


                หยางซื่อนึกไม่ออกว่าจะมีวันไหนที่เขาดวงซวยเท่าวันนี้ เขายืนไหล่ตกลอบมองเสือสองตัวที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่


                “นึกว่าใคร หลานชายและฮูหยินนั่นเอง”


                  เหยาหงลี่ฝืนยิ้ม แม้ว่าชายหนุ่มข้างหน้าจะอ่อนอาวุโสกว่าหลายปีนัก แต่อีกฝ่ายเป็นถึงผู้ฝึกสอนทหารในกองทัพรัฐบาล

และเป็นถึงหลานชายของหัวหน้าพรรคชาตินิยมที่เขาสังกัดอยู่จึงจำเป็นต้องเกรงใจหย่งหนานอยู่มาก


                 “ไม่นึกว่าจะมาพบเจอกันข้างถนนในเวลาเช่นนี้”


                  หย่งหนานไม่สนใจคำทักทายตามมารยาทนั้น เขาเคยได้ยินเรื่องความมักมากของเหยาหงลี่มาบ้างว่ามีภรรยาหลายคนและ

พอเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าหวาดกลัวของเหวินเป่าที่หลบอยู่เบื้องหลังฟางซินทำให้ชายหนุ่มโกรธจนควันออกหูแต่ก็ต้องพยายาม

ระงับมันไว้


                  “ผมเองก็แปลกใจเช่นกันที่เห็นคุณเหยามาวิ่งเล่นอยู่บนถนนในยามค่ำคืน ทั้งที่ผมควรจะเห็นคุณเหยาที่รัฐสภามากกว่าใน

ภาวะสงครามเช่นนี้”


                    น้ำเสียงของหย่งหนานไม่ไว้หน้าแม้อีกฝ่ายจะอาวุโสกว่าจนเหยาหงลี่หน้าม้าน


                    “เกิดอะไรขึ้นกันแน่จึงต้องมีการวิ่งไล่จับเด็กหนุ่มคนนี้ครับครูหยาง”


                    หยางซื่อสะดุ้งสุดตัว ดวงตาของหย่งหนานมองเขาอย่างเอาเรื่องจนเขาปากสั่น


                   “เอ่อ คือ คือว่า...”


                     “เด็กคนนี้ติดค้างฉันอยู่”


                    เหยาหงลี่ข่มใจและเค้นเสียงตอบ เขาจะให้ทายาทสกุลเฉินผู้นี้รู้ไม่ได้ว่าเขากำลังหวาดหวั่น


                    “เขาจำเป็นจะต้องชดใช้ให้ฉันซึ่งพันตรีเฉินไม่ควรยุ่ง”


                   หย่งหนานเห็นสีหน้าของเหยาหงลี่แล้วก็ยิ่งโมโห เขาเหยียดยิ้มออกมาพร้อมกับเอ่ยอย่างไม่เกรงความอาวุโสของเหยา

หงลี่เลยสักนิด


                 “เด็กคนนี้อยู่ภายใต้การปกครองของผมที่ฝากครูหยางไว้เมื่อหลายปีที่แล้ว ผมคิดว่าครูหยางคงจำได้”


                  หันขวับไปหาจนหยางซื่อสะดุ้งเป็นคำรบสอง


                 “ขณะนั้นผมยังไม่พร้อมที่จะดูแลเด็กชายเพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ปกติ แต่มาบัดนี้ผมคิดว่าผมสามารถดูแลเหวิน

เป่าได้แล้ว หากผมจะขอรับเหวินเป่ากลับคืนครูหยางคงไม่ขัดข้อง”


                “เอ่อ...”


                 หยางซื่อจนด้วยคำตอบ ใครจะกล้าเอ่ยคำคัดค้านเมื่อหย่งหนานจ้องมองราวกับมีดมากรีดเนื้อเป็นชิ้นๆเช่นนี้


                 “และผมไม่รู้ว่าเหวินเป่าติดค้างอะไรกับคุณเหยาจึงต้องชดใช้จนถึงกับวิ่งตามกันราวกับเด็กวิ่งไล่จับ แต่ถ้าหากคุณเหยา

ต้องการการชดใช้จริงๆก็ได้โปรดตามมาที่บ้านผม ผมจะชดใช้แทนเด็กในปกครองของผมเอง คุณเหยาจะว่ากระไร”


                เหยาหงลี่กัดฟันกรอด เขาสบตาชายหนุ่มอย่างเคียดแค้นก่อนจะฝืนหัวเราะออกมา


               “ใครจะกล้าขัดพันตรีเฉินได้เล่า เฮอะ”


                สบถออกมาพร้อมกับมองเหวินเป่าอย่างเสียดาย เหยาหงลี่สะบัดหน้าเดินหันหลังกลับไปพร้อมหยางซื่อที่เสียดายเพชรเม็ด

งามที่เขาเพิ่งเจียรนัยเช่นกัน หย่งหนานมองเหล่าชายฉกรรจ์เดินตามเจ้านายกลับไปจนกระทั่งเห็นว่าปลอดภัยแน่แล้วเขาจึงหันไปหา

หนุ่มน้อยที่ยืนตัวสั่น


               “อากุย”


               “นายท่าน”


                 หมดสิ้นแล้วซึ่งความอดทน เหวินเป่าคุกเข่าและกอดขาของหย่งหนานพร้อมกับปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น ชายคนนี้ชุบ

ชีวิตของเขาขึ้นมาอีกครั้งและเป็นเจ้าชีวิตของเหวินเป่าอย่างแท้จริง ส่วนหย่งหนานได้แต่ถอนหายใจ เขาดึงแขนของเหวินเป่าให้ลุกขึ้น

ยืน ใบหน้าของหนุ่มน้อยเลอะไปหมดทั้งคราบแป้งและคราบน้ำตา หย่งหนานยิ้มให้อย่างปรานีเขายกมือขยี้ผมของเหวินเป่าอย่างอ่อน

โยน


                  “อย่าร้องไห้สิเด็กดี ฉันมารับเธอตามสัญญาแล้วนะเหวินเป่า”

             

                                          TBC

                                  :mc4: :mc4:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-02-2017 00:43:31 โดย Belove »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด