<<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>  (อ่าน 105531 ครั้ง)

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ฟางซิน

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นายหญิงช่างเป็นนางฟ้าเหลือเกิน :sad4:

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
รักฟางซินแล้วสิ

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ therappizdrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
นายหญิงงงสงสารอ่ะ

แต่งงานการเมือง รักกับสาก็ดีอยู่หรอก

แต่พ่อดันทรยศ สงสาร

คู่พระนายนี่ก็รักกันเป่าปี่มากจ้า หวานอมขมกลืน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                                   ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                                          บทที่ 18


               เกิดความโกลาหลขึ้นทันทีเมื่อนายหญิงของบ้านเป็นลมหมดสติไปกับพื้น หย่งหนานปรี่เข้าไปช้อนแขนอุ้มฟางซินกลับไปยัง

ห้องนอนและเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วงพร้อมกันกับที่เหม่ยฮัวสาวใช้คนสนิทรีบนำน้ำมันหอมมาให้การดูแล เหวินเป่าที่กำลังดูแลคุณ

ชายน้อยฮุ่ยจงก็รีบอุ้มบุตรของเจ้านายติดตามมา


               “เกิดอะไรขึ้นครับ”


               ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นอาการของฟางซิน หญิงสาวเริ่มได้สติกลับคืนมาบ้างแล้วแต่ดวงตายังคงล่องลอยอยู่พักใหญ่และ

สักพักจึงร้องไห้ออกมา


               “ฟางซิน เธออย่างเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย ข่าวนั้นอาจจะเป็นแค่ข่าวลวง”


               หย่งหนานเป็นห่วงภรรยามาก สีหน้าของเขาเป็นกังวลทั้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผลกระทบต่อจิตใจของฟางซิน ในตอน

นี้เขาละล้าละลังเมื่อจะต้องรีบออกไปปฏิบัติงานแต่ภรรยาของเขาก็ยิ่งน่าเป็นห่วง


               “ผมจะดูแลนายหญิงให้เอง นายท่านรีบไปทำงานเถอะครับ”


               เหวินเป่ารับอาสา หย่งหนานพยักหน้าด้วยความไว้วางใจ เขาดึงมือของฟางซินมากุมไว้และปลอบประโลมภรรยา


               “เข้มแข็งไว้นะฟางซิน ฉันจะรีบกลับมาเมื่อเรื่องทุกอย่างคลี่คลายแล้ว”


               หย่งหนานรีบร้อนออกไปจากห้องทั้งที่ในใจยังกังวล เหวินเป่ากล่อมฮุ่ยจงในอ้อมกอดที่กำลังร้องไห้ให้เงียบลงและมองฟาง

ซินด้วยความเป็นห่วง


               “ฮูหยิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ”


               เหม่ยฮัวที่คอยปรนนิบัติเองก็ยังไม่เข้าใจเรื่องราวเช่นกัน เธอรีบรุดเข้ามาดูแลฟางซินหลังจากได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจ

ของเพื่อนสาวใช้ที่ยืนดูแลเจ้านายอยู่ในห้องโถง เมื่อรีบวิ่งเข้ามาในบ้านก็เห็นหย่งหนานอุ้มฟางซินเข้ามาในห้องแล้ว ฟางซินที่เพิ่ง

ได้สตินอนนิ่งมองเหม่อไปที่เพดานน้ำตาไหลเป็นทางยาวจากหางตา


               “เหม่ยฮัว” ฟางซินพูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่นเครือ เหม่ยฮัวเป็นสาวใช้ที่ติดสอยห้อยตามกันมาจากสกุลหลี่หญิงสาวจึงไว้ใจพอที่

จะระบายความอัดอั้นออกมา “คุณพ่อหักหลังข้อตกลงกับรัฐบาล ทั้งๆที่มีฉันเป็นตัวประกันในข้อตกลงนั้น ทำไมคุณพ่อถึงยอมละทิ้ง

เกียรติยศศักดิ์ศรีของขุนศึก ทำไม”


               “โถ ฮูหยิน”


               เมื่อรู้สาเหตุแล้วเหม่ยฮัวกับเหวินเป่าก็ได้แต่มองหน้ากัน ทั้งคู่สงสารฟางซินเป็นอย่างมากแต่ก็ช่วยเหลือสิ่งใดไม่ได้เลย

นอกจากคอยดูแลและเป็นกำลังใจให้หญิงสาวเท่านั้น ฟางซินผินหน้ามามองเฉินฮุ่ยจงบุตรชายวัยสามขวบในอ้อมกอดของเหวินเป่า

อย่างสะท้อนใจ


               “โธ่เอ๋ยลูกแม่ ทำไมต้องมากลายเป็นเช่นนี้ อยู่ๆก็ได้ชื่อว่าเป็นเชื้อสายผู้ก่อกบฏ”


               “นายหญิงอย่าเพิ่งคิดมากเลยครับ ตอนนี้นายหญิงหน้าซีดเหลือเกิน ทำใจดีๆและพักผ่อนก่อนดีกว่า”


               เหวินเป่าว้าวุ่นใจเหลือเกินที่นายหญิงที่แสนดีของเขาตกอยู่ในสภาพย่ำแย่เช่นนี้ เขาถอนหายใจด้วยความสงสารและทำได้

เพียงช่วยดูแลฮุ่ยจงเจ้านายตัวน้อยในขณะที่สาวใช้คนอื่นวุ่นวายอยู่กับการประคับประคองร่างกายและจิตใจของฟางซินแต่ดูเหมือนว่า

จะไม่ได้ผล


              กว่าหย่งหนานจะกลับเข้าบ้านอีกครั้งเวลาก็ผ่านไปถึงสองวัน เป็นครั้งแรกที่ไหล่กว้างคู้ลงจนรู้ว่าเขากลัดกลุ้มเพียงไหน     

เหวินเป่ารีบอุ้มฮุ่ยจงมารับบิดาแต่สีหน้าของหย่งหนานทำให้เหวินเป่าใจหาย เหวินเป่าได้แต่มองตามหลังเมื่อหย่งหนานเดินเข้าไปใน

ห้องที่มีฟางซินนอนหลับตานิ่งอยู่บนเตียง

               หย่งหนานทอดถอนหายใจขณะทรุดนั่งที่ขอบเตียงและมองเห็นภรรยาของเขา ฟางซินยิ่งบอบบางราวกับกระดาษที่พร้อมจะ

ขาดจากกันได้ทุกเมื่อ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้นมาและเมื่อเห็นว่าเป็นสามีหยาดน้ำตาก็กลับคลอขึ้นมาอีก


               “เหตุการณ์ความรุนแรงยุติลงแล้ว” หย่งหนานพูดเสียงเบา เขาดึงมือฟางซินมากุมไว้


               “รัฐบาลปราบปรามผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมลงได้แต่ก็มีการสูญเสียไปไม่น้อย”


               ฟางซินเบิกตากว้าง นัยสำคัญจากข้อความนั้นกำลังส่งสารถึงเธอ


               “แกนนำหลายคนถูกจับกุม และหลายคนก็ถูก...จัดการ”


               ริมฝีปากของฟางซินสั่นระริกจนต้องกัดไว้แน่น ดวงตาแดงก่ำและเปียกชื้นขณะสบตากับสามี เสียงแผ่วเบาหลุดออกมาจน

แทบฟังไม่ได้ศัพท์


               “คุณพ่ออยู่ในกลุ่มไหนคะ”


               หย่งหนานกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสัน มันเป็นการแจ้งข่าวที่เขาลำบากใจที่สุดในชีวิต


               “ขุนศึกหลี่เสียชีวิตแล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา”


               ฟางซินเบิกตากว้าง แม้จะคาดเดาได้ถึงจุดจบหากแต่เมื่อรู้ว่าสิ่งที่คาดเดานั้นกลายเป็นเรื่องจริงหญิงสาวก็ไม่สามารถทำใจ

ได้โดยง่าย หญิงสาวหลับตาลงและสะอึกสะอื้นออกมาด้วยความเสียใจ

               หย่งหนานปล่อยให้ภรรยาร้องไห้ออกมา ในช่วงเวลานี้ฟางซินไม่ได้ต้องการคำปลอบใจใดๆนอกจากความเอาใจใส่ ชาย

หนุ่มประคองร่างบอบบางที่สะอึ้นจนตัวโยนให้เข้าสู่อ้อมกอดของเขา ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเหวินเป่าที่ยืนอุ้มฮุ่ยจงอยู่หน้า

ห้อง

                น้ำตาของเหวินเป่าไหลเป็นทางด้วยความเวทนาสงสารฟางซิน เขารู้ดีว่าความสูญเสียนั้นทำให้หัวใจแหลกสลายแค่ไหน

เขาทำได้แค่เพียงส่งความห่วงใยไปให้หญิงสาวที่ร้องไห้จนหมดแรงในอ้อมกอดของสามี








               อาการของฟางซินไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้ว่าข่าวร้ายจะผ่านไปหลายวันแล้ว หย่งหนานกังวลจนต้องเชิญมิสเตอร์จอห์นนายแพทย์

ฝรั่งมาดูแล


               “สภาพจิตใจของมาดามเฉินนั้นย่ำแย่ ส่งผลให้ร่างกายยิ่งทรุดหนัก ผมคงช่วยอะไรไม่ได้นอกจากวิตามินบางตัวและยานอน

หลับอย่างอ่อนเท่านั้น”


               มิสเตอร์จอห์นกล่าวอย่างหนักใจก่อนจะกลับโรงพยาบาลและยิ่งทำให้หย่งหนานกลุ้มใจมากขึ้น แม้ว่าประมุขของบ้านเฉินจิ้ง

เหอและป้าสะใภ้ของเขาจะมาเยี่ยมเยียนก็ไม่ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น


               “ไม่ต้องไปทำงานหรอก” หยางซุนญาติผู้พี่บอกหย่งหนาน “งานที่รัฐสภาพี่จะไปดูแลให้เอง นายอยู่ดูแลเมียเถอะ”


               หย่งหนานไม่เคยหยุดงานมาก่อน เป็นสิ่งที่เขาละอายใจที่ไม่เคยได้ดูแลภรรยา แต่เขาเองก็ไม่นึกว่าเมื่อได้หยุดงานและได้

ดูแลฟางซินจริงๆภรรยาของเขาจะอาการทรุดหนักขนาดนี้


               “กินโจ๊กหน่อยไหม กำลังอุ่นพอดี”


               เขาประคองฟางซินที่แทบจะลืมตาไม่ขึ้นให้ลุกพิงหัวเตียงไว้ ฟางซินฝืนยิ้มอย่างยากเย็น


               “น้องไม่รู้สึกหิวเลยค่ะ”


               “ไม่หิวก็ต้องกินบ้าง ร่างกายของเธอจะเอาอะไรไปต่อสู้กับโรคภัย”


               หย่งหนานดุด้วยความเป็นห่วง ฟางซินจึงยอมฝืนกินได้ไม่กี่คำ หญิงสาวมองสามีด้วยความสลดใจ


               “พี่หย่งหนานคะ เราเป็นสามีภรรยากันมีอะไรก็ควรพูดกันตรงๆ และขอให้เราได้พูดคุยกันในขณะที่น้องยังมีสติสัมปชัญญะ

ครบถ้วน”


               “เธอต้องการจะบอกอะไร”


               หย่งหนานยกมือลูบศีรษะของฟางซินด้วยความสงสาร เขาตั้งใจฟังเสียงแหบโหยแผ่วเบาที่หลุดจากริมฝีปากแห้งผากของ

ภรรยา


               “บอกน้องอย่างตรงไปตรงมานะคะ พี่รู้สึกเช่นไรกับเหวินเป่า”


               หย่งหนานสะดุ้งอยู่ในใจคล้ายกับคนที่มีหอกแหลมแทงอยู่ด้านหลัง เขาฝืนยิ้มให้กับฟางซินที่จ้องมองรอคำตอบ


               “จะรู้สึกเช่นไรล่ะ ฉันสงสารในความอาภัพของเหวินเป่าก็เท่านั้น”


               “พี่จะปิดบังน้องไปถึงเมื่อไหร่กันคะ น้องไม่ได้โง่ขนาดดูไม่รู้ว่าพี่กับเหวินเป่ารักกันอยู่”


               “ฟางซิน!”


               หย่งหนานตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึงเมื่อได้ยินคำกล่าวของภรรยา  ฟางซินยิ้มบางๆและวางมือมาบนหลังมือของเขา


                “แม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันมานานแต่น้องก็รู้ว่าพี่แค่สงสารน้องมันไม่ใช่ความรัก เท่าที่พี่ให้น้องมาน้องก็ยินดีมากแล้ว อย่าให้

น้องกลายเป็นคนขัดขวางทางรักของพี่เลย”


               “เธอพูดอะไรของเธอ ฟางซิน”


               ส่งเสียงดุภรรยาเพราะนึกละอายแก่ใจ แต่ฟางซินยังคงมอบรอยยิ้มมาให้เขา


               “ไม่ว่าใครจะพูดติฉินอะไร อย่าให้พวกเขาเข้ามาทำให้หัวใจรักของพี่สั่นคลอน อย่าให้ม่านประเพณีขัดขวางทางเดินชีวิตของ

พี่ น้องอยากเห็นพี่มีความสุข”


               หย่งหนานสบตาภรรยาด้วยความสับสน ฟางซินประสานสายตาอยู่ชั่วครู่หญิงสาวก็เอนกายลงบนเตียง


               “น้องอยากพูดแค่นี้ ส่วนความหมายน้องคิดว่าพี่คงเข้าใจดี อยู่ที่พี่จะยอมรับหรือเปล่า”


               ฟางซินหนีจากบทสนทนาด้วยการหลับตาทิ้งไว้แต่หย่งหนานที่ยังว้าวุ่น เขาก้าวออกจากห้องอย่างเงียบๆทั้งที่สมองและ

หัวใจของเขาอื้ออึงไปด้วยคำถามถึงทางเดินที่เขาควรจะเลือก








               เหวินเป่าที่กลายเป็นพี่เลี้ยงฮุ่ยจงอุ้มเด็กชายตัวป้อมเข้ามาหามารดาในยามค่ำดังเช่นทุกคืนก่อนจะพาฮุ่ยจงไปนอนที่ห้อง

ระยะหลังเหวินเป่าต้องย้ายไปนอนห้องเดียวกับเด็กน้อยเพราะพี่เลี้ยงของฮุ่ยจงต้องมาผลัดเปลี่ยนกับเหม่ยฮัวดูแลฟางซิน

               ฮุ่ยจงหัวเราะเอิ้กอ้ากในอ้อมกอดของเหวินเป่า ฟางซินพอจะยิ้มออกเมื่อได้เห็นบุตรชาย เหวินเป่าพยายามใช้ความสดใส

ของตัวเองช่วยบรรเทาความเศร้าให้ฟางซินแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลนัก นายหญิงที่แสนดีกลับดูแย่ลงทุกวัน


               “เหวินเป่า ส่งเซียวจงให้เหม่ยฮัวไปเดินเล่นข้างนอกแล้วเธอจงอยู่พูดคุยกับฉันสักประเดี๋ยวเถิด”


               หนุ่มน้อยไม่อิดออด เขาส่งเด็กชายร่างป้อมให้เหม่ยฮัวรับไปนอกห้องตามคำสั่งจนเหลือเพียงเขาและฟางซินเพียงลำพัง


               “นายหญิงมีอะไรจะใช้ผมหรือเปล่าครับ”


               เหวินเป่าถามด้วยความหวังดี หากฟางซินต้องการสิ่งใดเขาจะรีบไปทำให้ทุกอย่างแม้ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม ฟางซินท

อดสายตามองด้วยความเอ็นดู


               “มีสิ งานสำคัญด้วย ฉันจะฝากให้เธอดูและเซียวจงและนายท่านของเธอหากว่าฉันไม่อยู่”


               เหวินเป่าเอะใจ เขารู้สึกไม่ดีกับคำพูดของฟางซินเลยแม้แต่นิด


               “นายหญิงจะไปไหนครับ ไกลไหม แล้วนานกี่วัน”


               ฟางซินทอดถอนลมหายใจ หญิงสาวเบนสายตาเหม่อมองไปบนเพดานราวกับมันเป็นท้องฟ้าแสนสวยสำหรับเธอ


               “ไม่รู้สิว่าจะนานไหม ฉันเหนื่อยและทรมานมาเยอะแล้วอยากจะพักผ่อนบ้าง เห็นเธอดูแลเซียวจงได้เป็นอย่างดีฉันก็เบาใจ

และอีกอย่างที่ฉันขอคำมั่นสัญญาจากเธอ”


               หญิงสาวหันกลับมาสบตากับเหวินเป่าและเอ่ยขอคำสัญญานั้น


               “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าทิ้งพี่หย่งหนานไป เธอจะให้คำมั่นสัญญากับฉันได้ไหมเหวินเป่า”


               “นายหญิง!”


               เหวินเป่านิ่งงันไปกับคำขอร้องของฟางซิน เขาไม่กล้าหลบสายตาที่มองเขาด้วยความหวังเต็มเปี่ยม


               “จงเป็นตัวแทนดูแลสามีและลูกชายของฉันทดแทนที่ฉันทำไม่ได้ ดูแลและรักทั้งสองคนอย่างที่เธอทำอยู่ในตอนนี้และ

ตลอดไป ฉันขอเธอเพียงเท่านี้เธอจะทำให้ฉันได้หรือเปล่า”


                เหวินเป่าร้อนจมูกไปหมด เขาต้องกลั้นน้ำตาไว้อย่างยากเย็น ฟางซินมองลึกเข้ามาในดวงตาจนดำดิ่งไปสู่ก้นบึ้งของหัวใจ

และเหวินเป่าไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าฟางซินล่วงรู้ความรู้สึกของเขา


               “ผมสัญญาครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะอยู่เคียงข้างนายท่านและคุณชายน้อย”


               ตัดสินใจเอ่ยออกมาจากหัวใจ ฟางซินยิ้มรับพร้อมกับหยดน้ำตาที่รินไหล


               “แค่เธอสัญญาฉันก็วางใจทุกอย่างแล้ว ขอบใจนะเหวินเป่า ขอบใจจริงๆ วันนี้ฉันคงหลับฝันดีที่ได้ยกความกลัดกลุ้มออกจาก

อก”


               หญิงสาวหลับตาลงโดยที่ยังไม่ได้ทำให้ความสงสัยของเหวินเป่ากระจ่างแจ้ง เขายังงงงันว่าทำไมฟางซินต้องคาดคั้นให้เขา

เอ่ยปากรับคำสัญญา แต่เพราะฟางซินผล็อยหลับไปอย่างง่ายดายเหวินเป่าจึงไม่กล้าจะถามเพื่อคลายความข้องใจ เขาย่องออกมาจาก

ห้องเพราะว่ากลัวฟางซินจะตื่นก่อนจะรับฮุ่ยจงมาจากเหม่ยฮัวเพื่อไปนอนในห้อง


               เหวินเป่านอนหลับเคียงข้างเด็กชายตัวน้อยจนใกล้รุ่งสางจึงได้สะดุ้งตื่นพร้อมกับคนทั้งบ้านเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของ   

เหม่ยฮัว เหวินเป่ารีบวิ่งออกไปยังห้องของฟางซินเพื่อที่จะพบว่าหย่งหนานกำลังประคองร่างอันไร้วิญญาณของภรรยาเข้าสู่อ้อมกอด

เป็นครั้งสุดท้าย




มีต่ออีกนิด...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2017 00:32:42 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้....




               งานศพของฟางซินทำตามประเพณีจนกระทั่งครบเจ็ดวันจึงได้นำร่างไปฝังไว้ที่หลุมฝังศพของสกุลเฉิน ตลอดเวลาที่ผ่านไป

เหวินเป่ายังคงมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อในคืนนั้นหลังจากได้พูดคุยกับเขาแล้วฟางซินก็นอนหลับเช่นปกติ แต่เมื่อเหม่ยฮัวที่นอน

อยู่ด้วยในห้องลุกขึ้นมาในตอนย่ำรุ่งเพื่อมาดูแลเจ้านายก็กลับพบว่าฟางซินนอนนิ่งหน้าซีดเขียวหมดลมหายใจไปแล้ว

               ใบหน้าของหญิงสาวดูอิ่มเอิบกว่าครั้งยังมีชีวิตด้วยซ้ำเมื่อเหวินเป่าอุ้มฮุ่ยจงมาเคารพศพมารดา เขาไม่ได้พูดคุยปลอบใจหย่ง

หนานที่เต็มไปด้วยความสลดหดหู่ และชายหนุ่มก็ต้องวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมงานศพของภรรยาที่มีแขกเหรื่อมาร่วมงานมากมาย

จนถึงวันนี้ วันที่พวกเขาส่งวิญญาณฟางซินไปสู่สวรรค์

               บ้านสกุลเฉินกลับเข้าสู่สภาวะเดิมเพียงแต่ขาดสะใภ้คนเล็กไปแล้ว ค่ำคืนนี้บ้านหลังเล็กของหย่งหนานยิ่งเงียบเหงากว่าเคย

เมื่อต่อจากนี้จะไม่มีฟางซินอีกต่อไป หย่งหนานนึกสะท้อนใจเมื่อเขาคิดถึงความดีที่ฟางซินมีต่อเขา ความคิดถึงภรรยาทำให้หย่งหนาน

ก้าวเดินไปยังห้องนอนของฮุ่ยจงพยานรักของเขากับฟางซิน

               บุตรชายที่ยังไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่ามารดาจะไม่กลับมาหาตน บัดนี้นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเคียงข้างด้วยร่างบางที่นอนตะ

แคงกอดฮุ่ยจงไว้ราวกับจะมอบความอบอุ่นให้เด็กน้อยทดแทนที่ขาดหายไป หย่งหนานเลื่อนสายตาไปมองเสี้ยวหน้าหวานที่เขาแทบ

ไม่มีเวลาใส่ใจเมื่อต้องจัดการกับเรื่องราวอันแสนเศร้า ตลอดเวลาเขาเห็นเหวินเป่าคอยช่วยงานราวกับไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อย มัน

ทำให้เขายิ่งรู้สึกผูกพันลึกซึ้งกับหนุ่มน้อยตรงหน้ามากขึ้นทุกที

                อดใจไม่ไหวที่จะใช้ปลายนิ้วแตะไล้ไปบนแก้มนุ่มด้วยความคิดถึงจนเจ้าของแก้มสะดุ้งเบาๆและลืมตาตื่นขึ้นมาในความมืด

สลัว มีเพียงแสงจากโคมไฟเท่านั้นแต่หย่งหนานก็ชัดเจนเสมอในสายตาของเขา เหวินเป่ายันกายลุกขึ้นมานั่ง เขามองสบตากับหย่ง

หนานด้วยความห่วงใยเพราะรู้ว่าชายหนุ่มตั้งใจจัดงานศพเพื่อภรรยา


               “นายท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ หิวหรือเปล่า ถ้าหิวผมจะไปหาอะไรมาให้รองท้อง”


               “ไม่ต้องวุ่นวายไปหรอกเหวินเป่า ฉันยังไม่หิว”


               หย่งหนานปรามอีกฝ่ายไว้ เขาเพียงอยากเห็นใบหน้าหวานให้ชื่นแก่ใจอันหม่นหมองเท่านั้น


               “เธอล่ะ เหน็ดเหนื่อยจากงานบ้างหรือเปล่า”


               เหวินเป่าส่ายหน้า เขาไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิดเพราะเขาเองก็รักและเทิดทูนฟางซินมาก


               “ผมไม่เหนื่อยเลยแม้แต่น้อยครับ ผมอยากช่วยให้งานศพของนายหญิงออกมาดีที่สุด ต่อจากนี้จะไม่มีนายหญิงอยู่ด้วยแล้ว”


               สีหน้าของเหวินเป่าสลดลงทันที เขาหันไปมองฮุ่ยจงที่หลับสนิทอยู่กลางเตียง


               “สงสารคุณชายน้อยเหลือเกินที่ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่ยังเล็ก”


               หย่งหนานมองความผูกพันที่เหวินเป่ามีต่อฮุ่ยจงด้วยความตื้นตัน พลันคำพูดสุดท้ายของฟางซินก็ดังก้องอยู่ในหัว


               “ไม่ว่าใครจะพูดติฉินอะไร อย่าให้พวกเขาเข้ามาทำให้หัวใจรักของพี่สั่นคลอน อย่าให้ม่านประเพณีขัดขวางทางเดินชีวิตของ

พี่ น้องอยากเห็นพี่มีความสุข”


              นึกขอบคุณภรรยาที่เข้าใจเขาจนถึงวาระสุดท้าย เขานึกโกรธความกลัวในจิตใจของตนเองที่ไม่กล้าจะยอมรับความจริง คำสั่ง

เสียของฟางซินทำให้เขาได้คิด

               หย่งหนานรักเหวินเป่า และเขาจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดมาขัดขวางเส้นทางรักของเขาอีกแล้ว

               ปลายนิ้วสากประคองกรอบหน้าหวานให้หันกลับมาสบตากับเขา หย่งหนานจ้องมองใบหน้านั้นจนหัวใจของเขาแช่มชื่นราวกับ

ต้นไม้แล้งน้ำที่ได้พบกับฝนแรกของฤดูกาล

                “หากเธอสงสารเซียวจงนักเธอก็จงดูแลเขาทดแทนที่เขาต้องเสียแม่ไป ได้หรือไม่อากุย”


               น้ำเสียงทอดหวานอย่างที่เหวินเป่าไม่เคยได้ยินมาก่อน และนั่นทำให้เหวินเป่าไม่อาจเอ่ยคำใดได้อีกจนกระทั่งกลีบปาก

ของเขาถูกปิดลงด้วยจุมพิตจากบุรุษที่เขาหลงรักมาตั้งแต่แรกเจอ



                                   TBC



                        อั๊ยยะ หน้ากระดาษหมด!!

                          :m29: :m29:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2017 00:37:35 โดย Belove »

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
สงสารฟางซิน ขอให้อากุยกับนายท่านผ่านทุกอย่างไปไ้ด้วยดี

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แว้กกกกกกกกกกก ค้างไปอี๊กกกก :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3

ออฟไลน์ pinkypromise

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัดฉับบบบบเช้ยยย
สงสารฟางซิน แต่นางก็เป็นสตรีที่ฉลาดจริงๆ
หย่งหนานไหนเฮียบอกเข้าห้องมาหาลูก
เจ้ว่าไม่ใช่ละนะ อิอิอิ

ออฟไลน์ anntonies

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 847
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
ฟางซินเป็นผู้หญิงคนนึงที่ใช้ชีวิตได้สวยงามตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่มีที่ติเลยจริงๆ
หย่งหนานโชคดีที่มีทั้งอาเปากับฟางซินที่รัก

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
สงสารนางจัง

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ฟางซินนางคือนางฟ้าค่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ทำไมทำอย่างเน้~~~~~
ฟางซินนางเข้าใจสามีอย่างดีแท้ 
ลุ้นให้อากุยกะหย่งหนานฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้

ออฟไลน์ sujusaranghae

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารฟางซิน นางจะดีไปไหน
ต่อจากนี้เป็นหน้าที่ของหย่งหนานแล้วเนอะว่าจะให้เหวินเป่าอยู่ในฐานะอะไร

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                                ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                                         บทที่ 19



               หัวใจของเหวินเป่าเต้นไหวระรัวและร่างกายนั้นก็ยังสั่นสะท้าน ผิวหนังของเขาร้อนวูบวาบไปหมดเมื่อกลีบปากนุ่มราวกับ

กุหลาบสดแดงฉ่ำถูกริมฝีปากแห้งสากของชายชาติทหารครอบครองไว้จนหมดสิ้น ราวกับอีกฝ่ายจะรู้ว่าเขาอ่อนด้อยซึ่งประสบการณ์

หย่งหนานจึงไม่ได้เร่งเร้าเอาแต่ใจ เขาค่อยๆและเล็มความหวานทีละเล็กทีละน้อยอย่างใจเย็นเพื่อให้เจ้าหนูตัวน้อยที่แสนไร้เดียงสาได้

คุ้นเคยกับสัมผัสเย้ายวนที่พยัคฆ์เช่นเขากำลังสอนให้รู้จัก

               ปลายนิ้วที่ประคองกรอบหน้างามแตะไล้มาถึงมุมปาก หย่งหนานกดน้ำหนักแผ่วเบาเพื่อให้ริมฝีปากนั้นเปิดทางให้เขาสอด

ลิ้นเข้าไปช้าๆ ร่างบางสะดุ้งจนเขาต้องโอบกอดเข้าไว้เพื่อให้ความตื่นกลัวนั้นพอจางหายไปได้บ้าง เขาค่อยๆเพิ่มน้ำหนักลงไปจนเหวิน

เป่าเผยอริมฝีปากกว้างขึ้น และเขาพลันตวัดลิ้นครอบครองลิ้นเล็กไว้ทันที


               “อื้อ อึก”


               หนุ่มน้อยในอ้อมกอดสำลักเบาๆหย่งหนานทำเพียงแค่ผละออกแค่เล็กน้อยให้เหวินเป่าพอได้สูดลมหายใจเพิ่มเติมเข้าไป

หลังจากนั้นเขาก็ตวัดลิ้นเกี่ยวพันความหวานราวกับภมรหนุ่มที่กำลังไล่เก็บเกี่ยวน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ จมูกโด่งกดลงที่แก้มเนียน

เพื่อสูดดมความหอมของเนื้อนุ่มจนชื่นใจ เพียงแค่เริ่มต้นหย่งหนานก็หลงไปกับความหอมหวานของเหยื่อที่เขากำลังครอบครองเสีย

แล้ว


               “ว่าอย่างไรเล่าเด็กน้อยของฉัน”


               หย่งหนานทวงคำตอบอยู่ข้างหู น้ำเสียงของเขาแทบจะไม่ได้หลุดลอดลำคอออกมาแต่เหวินเป่าก็ฟังได้ถนัดใจนัก กลิ่นกาย

ของบุรุษผู้งามสง่าโรยรินเข้าจมูกชักชวนให้เตลิดจนมิอาจยับยั้งหัวใจไว้ได้อีก เหวินเป่าทั้งอยากจะวิ่งหนีเพราะความขัดเขินแต่อีกใจ

หนึ่งก็อยากจะสัมผัสให้ลึกซึ้งถึงความปรารถนาต่อวีรบุรุษของเขา


               “ผมเป็นชาย...”


               “แต่ฉันรักเธอ”


               ดูจะไปด้วยกันไม่ได้เลยกับบทสนทนานั้น หากแต่มันกลับต่อกันได้เป็นอย่างดี ดวงตาสองคู่สบประสานค้นคว้ากันอยู่

ท่ามกลางความมืดสลัวเพื่อรอคำตอบที่ต่างมีให้แก่กัน


               “เธอมิได้รักฉันอย่างที่ฉันรักเธอหรืออากุย”


               ปลายเสียงตัดพ้อทำให้เหวินเป่าใจหาย สีหน้าผิดหวังของหย่งหนานเป็นภัยต่อหัวใจจนต้องรีบวางมือเรียวไว้บนบ่ากว้าง

พร้อมทั้งละล่ำละลักคำตอบออกไปทันที


               “ผมรักนายท่าน ผมเฝ้ารอนายท่านมาตลอดตั้งแต่เด็กๆและผมก็จะรักนายท่านตลอดไปนะครับ”


               “ถ้าเช่นนั้นแล้ว เธอยินดีที่จะอยู่กับฉัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับฉัน อยู่เป็นคู่คิดให้กับฉันหรือเปล่าอากุย”


               เหวินเป่าไม่คิดจะปฏิเสธ ต่อให้หย่งหนานไม่ร้องขอเขาก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เขาอยากเคียงคู่กับหย่งหนานไม่ว่า

จะด้วยสถานะใดก็ตาม


               “ได้สิครับ ผมจะอยู่กับนายท่าน”


               หย่งหนานลอบยิ้มในความมืด ดวงตากระจ่างใสบอกให้รู้ว่าเหวินเป่าเปิดเผยความในใจออกมาจนหมดสิ้น มันเป็นความยินดี

อย่างที่สุดสำหรับหย่งหนานที่เขาได้รู้จักความรักอันแท้จริงหลังจากที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับฟางซินด้วยหน้าที่ประกอบกับความสงสาร และ

ตอนนี้หย่งหนานก็ไม่ต้องการรีรออะไรอีกต่อไปแล้ว

               ร่างบางถูกประคองให้เอนกายกลับไปบนที่นอนนุ่มอีกครั้ง เหวินเป่าเบิกตากว้างเพราะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อไปหากว่า

แผ่นหลังแตะกับที่นอนไปแล้ว เลือดในกายวิ่งวนกันให้วุ่นหัวใจเต้นเร็วแรงทั้งความอยากรู้อยากเห็นและความหวาดหวั่นในสิ่งที่เขาไร้

ประสบการณ์


                “นายท่าน เอ่อ คุณชายน้อยอยู่ด้วยนะครับ”


               “เซียวจงหลับสนิทแล้ว เขาคงหลับยาวตลอดทั้งคืนตามประสาเด็กน้อย เธออย่าวิตกไปเลย”


               หย่งหนานไม่หลงกล ดวงตาคมทอดมองใบหน้างดงามราวกับสวรรค์สร้างอย่างหลงใหล ความขัดเขินของเหวินเป่ายิ่ง

ชักชวนให้เขาต้องการเป็นเจ้าของครอบครองทั้งหัวใจและร่างกายนี้ มือใหญ่ขยับถอดดึงเสื้อผ้าของเหวินเป่าออกทีละชิ้น หลังมือสัมผัส

ไปกับผิวนุ่มอย่างจงใจเพื่อสร้างความคุ้นเคยจนในที่สุดเหวินเป่าก็เหลือเพียงเรือนร่างงดงามนวลเนียนอวดสายตาอยู่ในความมืดสลัว


               “อยะ อย่าจ้องแบบนั้นสิครับนายท่าน”


               เหวินเป่าอับอายเหลือเกิน ดวงตาคมแสนดุยามสั่งการกับทหารทั้งกองทัพบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นความพอใจเมื่อได้จ้องมอง

ร่างกายของเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เหวินเป่านึกอายจนต้องยกมือมาปิดบังจุดอ่อนไหวแต่กลับถูกมือใหญ่ขัดขวางด้วยการดึงมือ

เขาไปกุมไว้


               “ร่างกายของเธองดงามมาก อย่าเขินอายไปเลยเด็กน้อยของฉัน รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ฉันปรารถนาในตัวเธอมากแค่ไหน”


               ไม่เพียงบอกกล่าวด้วยคำพูด หย่งหนานยังบอกด้วยการกระทำของเขา ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าตนเองอย่างรวดเร็วและเป็นฝ่าย

อวดร่างกายแข็งแกร่งของตนบ้าง เหวินเป่าได้แต่กัดริมฝีปากตนเองเมื่อเขาไม่สามารถละสายตาจากร่างอันสมชายชาตรีได้ หย่งหนาน

สูง ไหล่กว้างหนา ผิวกายสีเข้มกว่าชาวจีนทั่วไปเพราะคร้ามไอแดดจากการที่ต้องฝึกปรือทหารในกองทัพ ปรากฏรอยแผลเป็นจางๆ

หลายรอยอยู่ตามแผ่นหลังและชายโครงแต่มันกลับช่วยเสริมให้ชวนมองมากขึ้นไปอีก แผงอกล่ำไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเป็นลอนมา

ถึงกลางลำตัว

               ไล่สายตามาถึงจุดกึ่งกลางกายเหวินเป่าก็ถึงกับสะดุ้ง แก้มนวลฉีดสีแดงเปล่งปลั่งจนหย่งหนานอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออก

มาอย่างเอ็นดู เขาเอนกายลงนอนตะแคงเคียงข้างพลางวางมือไปบนเนื้ออุ่นแล้วเลื่อนมือลูบไล้ ผิวกายของเหวินเป่าช่างนุ่มมือไปทุก

สัดส่วน

               หย่งหนานจูบเบาๆที่ลาดไหล่ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปสูดดมความหอมของเนื้อกายที่ซอกคอระหง เขาขยับขึ้นไปทาบทับอยู่บน

กายโปร่งบังคับไม่ให้เหวินเป่าขยับหลีกหนีเมื่อเขาปรนจูบขบเม้มทีละส่วน หนุ่มน้อยสะท้านไปเสียทุกจุดที่ริมฝีปากร้อนนั้นสร้างรอยสีระ

เรื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้บนร่างกายของเขา


               “อื้อ นายท่าน!”


               ผวาเฮือกเมื่อเป้าหมายใหม่ของหย่งหนานคือยอดอกสีชมพูสะดุดตาบนกายขาว เขาจูบมันเพื่อทักทายก่อนจะงับกลืนเข้าไป

และโลมเลียด้วยปลายลิ้น ร่างบางแอ่นกายเข้าหาทันที เหวินเป่าตวัดแขนโอบกอดไปรอบลำคอของเขาอย่างไม่รู้ตัวขณะที่หย่งหนาน

วางมือร้อนของเขาไปบนต้นขานุ่มมือและบีบเค้นเบาๆ


               “เธอหอมมากเลยรู้ไหม”


               หย่งหนานเผลอรำพันออกมาอย่างติดใจ


               “ทั้งหอมและหวานจนฉันอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว”


               ปากร้อนเลื่อนต่ำลงไปวนเวียนอยู่แถวท้องน้อยจนเหวินเป่าเกร็งไปหมดทั้งตัว เขาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อจุดอ่อนไหวถูกกระชับ

กอบกุมด้วยมือสาก หนุ่มน้อยไร้เดียงสาพลันผวากระเจิดกระเจิงทันทีเมื่อรู้สึกได้ว่าปลายมนถูกโลมไล้กระตุ้นให้ตื่นตัวก่อนที่เขาจะรับรู้

ถึงความเปียกชื้นเมื่อหย่งหนานกลืนกินมันเข้าไปอย่างที่เขาบอกออกมาจริงๆ


               “ฮึก นายท่าน อย่าทำเช่นนั้นมันไม่ดีครับ”


               เหวินเป่าสำนึกตนเองอยู่เสมอว่าต่ำต้อยแค่ไหน การที่หย่งหนานกระทำเช่นนี้ทำให้เขานึกละอายใจ หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่

ยอมหยุด ซ้ำร้ายยังกลืนกินเข้าไปจนหมดอย่างถูกใจและดูดดุนจนร่างกายของเหวินเป่าตื่นตัวจนต้องบิดกายไปมาอย่างทรมาน


               “นะ นายท่าน ผม อ๊า...”


               หายใจหอบหนักเมื่อหย่งหนานกระชากเขาขึ้นไปสู่จุดสุงสุดบนปุยเมฆ เหวินเป่าตัวสั่นเมื่อหย่งหนานยังไม่ยอมหยุด เขาดูด

กลืนน้ำคาวที่เหวินเป่าปลดปล่อยออกมาเป็นคราแรกเข้าปากจนหมดสิ้น หนุ่มน้อยได้แต่แหงนหน้ามองเพดานห้องกับประสบการณ์ใหม่

ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน


               “เธอกำลังทำให้ฉันคลั่ง”


               หย่งหนานกล่าวเสียงแหบพร่าเมื่อเขาคืนอิสระให้กับเหวินเป่า เขาชันกายขึ้นมองใบหน้าหวานที่บัดนี้แดงก่ำลามมาถึง

หน้าอก ดวงตาคู่เรียวเบิกกว้างฉ่ำหวานด้วยน้ำหล่อเลี้ยง ริมฝีปากเผยอหอบเบาๆชวนให้บดขยี้ลงไปด้วยไฟปรารถนา หย่งหนานปลุก

เร้าจนร่างกายนี้พร้อมแล้วที่เขาจะได้ครอบครองเสียที


               “เป็นของฉันทั้งกายและใจเถิดนะอากุย”


               เสียงเรียกชื่อของเขาคราวนี้ชวนให้รู้สึกหวามไหวกว่าครั้งไหนๆ และเหวินเป่าก็ไม่อาจดึงดันได้อีกต่อไปเมื่อร่างแกร่งโน้มลง

มาทาบทับอีกครั้งพร้อมปรนจูบที่หนักหน่วงและเร่าร้อนกว่าเคย ท่อนล่างของเขาถูกบดเบียดด้วยความแข็งขืนชวนให้ตกใจ เรียวขาของ

เขาถูกแยกออกจากกันด้วยสะโพกหนาและทันใดนั้นท่อนลำแข็งแกร่งที่อดทนรออยู่นานแล้วก็เปิดทางด้านนอกเข้าไปทันที


               “อึก นายท่าน!”


               สะดุ้งวาบไปทั้งตัวเมื่อช่องทางถูกล่วงล้ำ ความเจ็บแปลบโถมเข้ามาจนขนตาเปียกชื้น หย่งหนานต้องปลุกปลอบด้วยจุมพิต

หวานอีกพักใหญ่กว่าเหวินเป่าจะดีขึ้น เขาเองไม่รีบร้อนเพราะไม่อยากให้คนที่เขารักต้องเจ็บไปมากกว่านี้


               “ดีขึ้นไหม อย่าเกร็งนะลูกเต่า”


               เขาสบตาหวานที่กลอกไปมาด้วยความหวาดหวั่น


               “นายท่าน ผมกลัว”


               หย่งหนานลูบผมนุ่มอย่างอ่อนโยน เขาสอดแขนเข้าไปใต้บ่าและโอบกอดร่างเล็กไว้


               “อย่ากลัวไปเลย ไว้ใจฉันนะอากุย ฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บไปมากกว่านี้”


               เขาสัมผัสร่างกายบอบบางด้วยความรักอีกครั้ง หย่งหนานปรนเปรออยู่รอบยอดอกอันแสนหวานสลับกันทั้งสองข้างจนกระทั่ง

ได้ยินเสียงครางแผ่วมาจากริมฝีปากอ่อนนุ่ม เขาค่อยๆดันกายเข้าไปช้าๆในช่องทางแสนบริสุทธิ์ ช่องทางนั้นทั้งอุ่นและชื้นมันบีบตัว

รองรับการประสานกายของเขาจนหย่งหนานนึกอยากจะสบถออกมา เขาอยากจะครอบครองร่างกายนี้เหลือเกิน




มีต่ออีกนิด....




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-03-2017 00:13:50 โดย Belove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้...




               “เก่งมาก ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้วนะ”


               กระซิบบอกสถานะเมื่อเขาดึงดันเข้าไปได้จนหมด เม็ดเหงื่อผุดออกมาอยู่ตรงขมับของเหวินเป่า หนุ่มน้อยรับรู้ถึงการครอบ

ครองเมื่ออีกฝ่ายเติมเต็มอยู่ในช่องทาง ความเจ็บปวดในคราแรกจางหายไปบ้างแล้วและทดแทนด้วยความต้องการที่หย่งหนานปลุกขึ้น

มา


               “อื้อ นะ นายท่าน ผม ผม...”


               เหวินเป่ากัดฟันเมื่อเอวแกร่งดึงตัวเองออกจนใจหาย จากนั้นเขาก็ต้องตกใจเมื่อหย่งหนานดันกายกลับเข้ามาอีกครั้ง ช่อง

ทางของเขาถูกเสียดสีไปด้วยความร้อนระอุเมื่อหย่งหนานกระทำเช่นนั้นหลายครั้งเข้า และเมื่อครั้งหนึ่งที่ท่อนลำนั้นกระแทกเข้าสู่จุด

หนึ่งภายในเหวินเป่าก็ถึงกับเผลอร้องลั่นจนเกรงว่าเด็กชายฮุ่ยจงจะตื่น

               หย่งหนานคำรามในลำคอเมื่อค้นพบจุดสำคัญเข้าแล้ว ร่างนุ่มที่อยู่ใต้ล่างผวาเข้ากอดเขาทั้งแขนและขาโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัว

แขนทั้งสองของเหวินเป่าโอบกอดอยู่รอบลำตัวชื้นเหงื่อของเขา เรียวขากอดเกี่ยวรัดแน่นขณะที่เขาขยับเอวเร่งจังหวะ เมื่อรู้ดังนั้นหย่ง

หนานก็ไม่รอช้าเขามุ่งเป้าไปที่จุดซ่อนเร้นภายในจนช่องทางฉ่ำชื้นไปหมด


                “โอ เด็กน้อยของฉัน ฉันใกล้จะบ้าเพราะเธอแล้ว”


               ร่างกายของเหวินเป่าบีบคั้นรอบลำกาย หย่งหนานถึงกับหน้ามืดเมื่อเห็นสวรรค์อยู่รำไร เหวินเป่าเกร็งไปทั้งตัวดวงตาคู่หวาน

มองสบกับเขาอย่างร้องขอ


               “นายท่าน ผมไม่ไหวแล้ว”


               หย่งหนานช่วยคนที่เขารักให้ถึงฝั่งฝันอีกครา ท่อนเนื้อนุ่มของเหวินเป่าถูกเขากอบกุมเอาไว้ในมือใหญ่ เหวินเป่าหลับตาพ่น

เสียงครางยาว สีหน้าราวกับเจ็บปวดพลันสลายไปทันทีจนกลายเป็นล่องลอยเมื่อหย่งหนานรีดน้ำออกจนหมดสิ้น ส่วนตัวเขาเองก็ทนไม่

ไหวเช่นกัน หย่งหนานชันกายทรงตัวด้วยเข่าทั้งสอง เขาจับปลายเท้าของเหวินเป่าให้แยกกว้างก่อนที่เขาจะเร่งความเร็วจังหวะสุดท้าย

เพื่อจะติดตามเหวินเป่าไปสู่ความหฤหรรษ์

               ทิ้งกายลงไปกับร่างนุ่มและพากันหอบหายใจเหนื่อยหนัก รอจนหายเหนื่อยหย่งหนานจึงได้ค่อยๆดึงเอวออกช้าๆ เหวินเป่า

กลั้นใจเมื่อหย่งหนานดึงกายออกไปจนหมด เขาใจหายเมื่อร่างกายพลันโหวงว่าง ระหว่างนั้นหย่งหนานจูบเขาเบาๆเพื่อรับขวัญ


               “เธอเป็นเมียของฉันแล้วนะอากุย”


               ประโยคแสดงความเป็นเจ้าของทำให้เหวินเป่าเขินจัด เขาเบนสายตาหนีเพราะไม่กล้าสู้ตากับดวงตาคมที่มองเขาด้วย

ประกายตาพร่างพราวกว่าทุกครั้ง


               “นายท่าน...”


               “ฉันไม่ใช่นายท่านของเธออีกแล้ว”


               หย่งหนานคว้ามือเรียวมาจูบที่ฝ่ามือก่อนจะนวดเฟ้นเบาๆ


               “ฉันไม่ใช่เจ้านาย จงเลิกเรียกฉันว่านายท่าน”


               “แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ”


               เหวินเป่าเอียงคอมองอย่างฉงน ก็เขาเรียกหย่งหนานว่านายท่านมาตลอดจนไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปเรียกว่าอะไรดี หย่งหนานคลี่

ยิ้ม เขาพูดเสียงหวานจนหัวใจของเหวินเป่าเต้นรัว


               “เรียกฉันว่าพี่หย่งหนานสิ”


               หนุ่มน้อยชะงัก เพราะความเจียมตัวเจียมใจทำให้เขาไม่กล้าเรียกอีกฝ่ายแบบนั้น และดูเหมือนหย่งหนานจะมองออกว่าเขา

คิดอะไรอยู่ ชายหนุ่มเชยคางมนไว้พลางพูดเสียงอ่อนโยน


               “เลิกดูถูกตัวเองเสียที เธอไม่ใช่คนต่ำต้อยนะอากุย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยอมรับแต่แท้จริงเธอเป็นถึงราชนิกุลของจักรพรรดิแห่ง

ญี่ปุ่นฉันเสียอีกที่ต่ำต้อยกว่าเธอ และที่สำคัญคือเธอเป็นคนที่ฉันรัก”


               ประโยคสุดท้ายนั่นเองที่สร้างความมั่นใจให้กับเขา เหวินเป่าช้อนสายตามองก่อนจะพูดเสียงเบาออกมา


               “พี่หย่งหนาน”


               หย่งหนานอมยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายก้มหน้างุดหลบสายตาด้วยความขัดเขิน พวงแก้มฉ่ำไปด้วยเลือดวัยหนุ่มจนเขาต้องหอม

แก้มเสียให้ชื่นใจ


               “ไม่ได้ยินเลย พูดให้ดังกว่านี้ได้ไหม”


               หัวใจของเหวินเป่าแทบละลายด้วยเสียงหวานนั้น เขาไม่เคยคิดว่าเวลาที่ชายชาติทหารหน้าดุออดอ้อนจะทำให้คนฟัง

ยินยอมทำทุกอย่างขนาดนี้


               “พี่หย่งหนาน พอใจหรือยังครับ”


               เหวินเป่าส่งเสียงดังประชดอย่างลืมตัวจนเด็กชายฮุ่ยจงสะดุ้งตื่น เหวินเป่าตกใจต้องรีบหันไปกล่อมให้เด็กน้อยคล้อยหลับไป

อีกครั้งก่อนจะหันมาเห็นบิดาของฮุ่ยจงมองมาสายตาเป็นประกาย


               “เพราะนายท่าน เอ๊ย พี่หย่งหนาน ดูสิ ทำให้ลูกตื่น”


               “สงสัยว่าจะต้องคืนตำแหน่งพี่เลี้ยงเด็กให้แม่นมตัวจริงเสียแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องมานอนกับเซียวจงเช่นนี้”


               “ให้ผมกลับไปนอนที่ห้องของผมใช่ไหมครับ”


               “ใครว่าล่ะ คืนพรุ่งนี้เป็นต้นไปเธอต้องไปนอนกับพี่ที่ห้องของพี่ตลอดไป”


               “แต่ว่า...”


               “สามีภรรยาก็ต้องนอนห้องเดียวกัน เธออย่าปฏิเสธเลย ว่าแต่เมื่อสักครู่พี่ทำให้เธอเจ็บมากไหมลูกเต่าน้อย”


               คำถามของหย่งหนานทำให้เหวินเป่าหน้าแดงอีกครั้ง


               “เจ็บสิครับ แต่มันก็ทนได้...”


               “แล้วมีความสุขไหม”


               เหวินเป่ากลั้นใจพยักหน้า เขาอายจนไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรดี หย่งหนานสอนประสบการณ์ใหม่ให้เขาได้อิ่มเอมกับความ

ปรารถนาในความต้องการของมนุษย์ และยิ่งเป็นคนที่เขารักทุกอย่างก็ยิ่งมีความหมาย


               “พี่ขอแก้ตัวอีกครั้งจะได้ไหม”


               หนุ่มน้อยเบิกตากว้างพลันเงยหน้ามาสบตากับคนที่จ้องมองอยู่แล้ว หย่งหนานเหมือนย้อนวัยกลับมาสู่รุ่นเดียวกันกับเขาชวน

ให้ตะลึงมองเมื่อชายหนุ่มวางมือลงมาบนเรือนร่างขาวผ่องอีกครั้ง


               “คราวนี้พี่จะไม่ทำให้เธอเจ็บอีก พี่สัญญา”


               หย่งหนานไม่ปล่อยให้เขาได้ตอบโต้อะไรอีกเมื่อริมฝีปากของเขาถูกปิดไว้ด้วยจูบแสนอ่อนหวาน เหวินเป่าได้แต่พริ้มตาลง

และปล่อยให้ชายหนุ่มได้กระทำดังที่พูด ชีวิตที่แสนอาภัพของเหวินเป่าเพิ่งได้รู้จักคำว่าความสุขจากชายที่มอบชีวิตใหม่ให้เขาคนนี้



                                                                 TBC


                         ปลาบปลื้มมม มีความรู้สึกเหมือนแม่ที่ส่งลูกเข้าหอแต่งงาน 5555

                         มาเร็วๆค่า มาอวยพรให้คู่ข้าวใหม่ปลามันกันหน่อยเร้ววว

                                  :L1: :-[ :m1: :oni2:
               

ออฟไลน์ Crossley

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
โอ๊ยนายท่านนนน พรากผู้เยาว์มากๆ
อากุยน่ารักก  :-[

ออฟไลน์ iNcamisang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เดี๋ยวลูกตื่น
>\\\\\\<
น่าร้ากกกกกก

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
โอยยยยยยย ถ้าเล้ามีให้โหวตตัวละครหญิงดีเด่นเราจะโหวตฟานซินเลย
นางดีจนนาทีสุดท้ายจริงๆ

ว่าแต่หยงหน่านทำอะไรไม่เกรงใจลูกเลยนะ อิอิ

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
ฉันไม่ใช่นายท่านของเธออีกแล้ว. จ้าาาาาา ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ เก็บกดมานานใข่ปะหย่งหนาน

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
5555เหมือนตายอดตายอยาก

ไม่ยั้งเลยนะหยงหนาน

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ปลื้มปริ่ม หยดย้อย หอยหวาน เอ้ยๆ น้ำผึ้งเดือนห้า มีต่อรอบสองด้วยอ่ะ พี่หย่งหนาน กักเก็บมานานแสนนาน เพื่อเอามาใส่ลูกเต่า อิอิ

ออฟไลน์ pinkypromise

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวีดมากกกกกก กรี๊ดดดดเดเเ

ไม่เกรงใจเซียวจงเลยจริงๆๆ ขนาดตื่นมาทีแล้ว

ป๊ะป๋าก็ยังไม่หยุดจ้า 55555555 สงสัยอดอยากมานาน

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เห็นเงียบๆเรียบๆ พี่หย่งหนานก็ใช่ย่อยนะจ๊ะ 5555

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
เต่าน้อยน่ารัก โดนกินซะแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด