<<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<ม่านไหมลายพยัคฆ์>>  (อ่าน 105540 ครั้ง)

ออฟไลน์ Banarot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
นังนี่หนิ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
โอ้ยยยยอย่าร้ายกับน้องกุยเลยนะคะคนแต่ง แงแง
 :hao5:
อยากจะขึ้นคร่อมละตบตบตบๆๆๆๆๆให้อิไป๋หน้าแหก ทำไมเกิดมาละเลวงี้ละ
พี่หย่งหนานถล่มเลยค่าาา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
เกลียดดดดดดด  :z6:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
แย่ๆๆๆๆๆ สงสารลูกเต่า รอบตัวมีแต่คนไม่ดี

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
ร้ายมากไป่ซาน !!

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เห็นแก่ตัวและโง่เง่าที่สุด น่าสมเพชที่สุด

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
แปะก่อนน้า  o18

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ความเท่าเทียมไม่เคยมีจริง
เหวินเป่าพูดถูกทุกอย่าง

ว่าแต่.....พี่หย่งหนาน พี่อ้อนน้องเหวินเป่ามากเกินไปแล้ว! อิจฉามาก!

ปล. ดีใจที่ Malimaru มาอ่านตามที่ไปล่อลวงไว้ ฮ่า ๆ ๆ
บอกแล้วว่าเรื่องนี้เลอค่ามาก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ยังกล้าเรียกเหวินเป่าว่าเพื่อนอีกเหรอนั่น  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pearlypear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z6: :z6: :z6: อยากถีบไป๋ซาน

ออฟไลน์ pinkypromise

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะคอมเม้นท์อะไรได้ นอกจาก เลว!!!

ไป๋ซาน อีงูพิษษษ

ขอจบเด็ดๆสักฉากให้สาสมกับความร้ายของนางง

คนแบบนี้ต้องไม่อยู่ดี อีผี

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                        ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                               บทที่ 22


               “พวกมันกำแหงมากขึ้นทุกวัน”


               พันเอกเฉินหยางซุนผู้นำกองกำลังทหารแห่งรัฐบาลจีนสบถออกมาอย่างหงุดหงิด การปราบปรามประชาชนที่หันไปขึ้นต่อ

พรรคสังคมนิยมกลายเป็นงานหนักสำหรับเขา จลาจลเกิดขึ้นทุกวันในหัวเมืองใหญ่และเมืองหลวงอย่างนานกิง


               “แทนที่จะเอางบประมาณไปฟื้นฟูบ้านเมืองกลับต้องมาเสียเพราะพวกที่กินอุดมการณ์แทนข้าว”


               เฉินหย่งหนานถอนหายใจกับคำปรารภรุนแรงของพี่ชาย เขาเข้าใจดีว่าหยางซุนเป็นคนใจร้อนและอยากให้เหตุการณ์เหล่านี้

จบลงโดยเร็ว


               “ประชุมคณะรัฐบาลคราวนี้คงมีการแก้ปัญหาออกมาเป็นรูปธรรมบ้างนะครับ”


               “เฮอะ พวกนั้นน่ะเหรอ ก็ดีแต่นั่งอยู่ในห้องประชุม เคยออกไปดูของจริงกันบ้างไหม ไม่เห็นมีคำสั่งอะไรออกมาให้เด็ดขาด

เสียที คุณพ่อก็มัวแต่อยากทำตามระบบทั้งที่ควรจะถล่มพวกมันให้ราบไปทั้งพรรคได้แล้ว”


               หย่งหนานอาจจะต้องนั่งฟังญาติผู้พี่ต่อไปอีกนานหากไม่มีเสียงเคาะประตูดังขัดเสียก่อน และเมื่อเขาเอ่ยปากอนุญาตประตู

ห้องก็ถูกผลักออกโดยจ่าสิบเอกไห่ทหารคนสนิทของหย่งหนานนั่นเอง


               “มีอะไรหรืออาไห่”


               “ขอประทานโทษครับ มีจดหมายมาถึงพันตรีเฉินครับ”


               ท่าทีของจ่าไห่ที่ไม่ยอมก้าวเข้ามาภายในห้องทำให้หย่งหนานรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้ได้แม้แต่หยางซุน

เขาจึงลุกจากาเก้าอี้เอ่ยอำลากับญาติผู้พี่และเดินออกมาด้านนอก จ่าไห่ส่งแผ่นกระดาษให้เขาทันทีด้วยสีหน้าร้อนรน


               “มีคนมาส่งให้ผมเมื่อสักครู่นี้เองครับ ผมเห็นว่าข้อความมันแปลกๆก็เลยรีบนำมาให้นาย”


               หย่งหนานรับมาอ่านทันทีและเนื้อความในจดหมายนั้นทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก


               “หัวกระดาษคือสัญลักษณ์ของพรรคสังคมนิยม และข้อความที่เขียนมาว่าให้ไปรับเหวินเป่ากลับแปลว่าพวกนั้นคุมตัวเหวิน

เป่าไว้ในตอนนี้”


               หัวใจของหย่งหนานเต้นรัวและร้อนราวกับไฟ เขานึกหวั่นว่าฝ่ายตรงข้ามจะคิดไม่ซื่อ จ่าไห่ที่รู้จักเหวินเป่าเป็นอย่างดีก็พลอย

ร้อนรนไปด้วย


               “สั่งมาเถอะครับนาย จะให้ทำอย่างไร”


               “จัดคนฝีมือดีมากับเราสักสิบคน เราจะไปรับเหวินเป่ากลับมา”


               จ่าไห่รับคำสั่งและรีบวิ่งไปทันที เพียงไม่นานหย่งหนานและลูกน้องก็ขับรถยนต์มาถึงหน้าที่ตั้งสาขาของพรรคสังคมนิยมตาม

จดหมายที่ได้รับมา ด้านหน้ามีคนของพรรคยืนออกันอยู่และต่างแหวกทางเมื่อเห็นว่าผุ้ที่ก้าวลงมาจากรถคือพันตรีเฉินหย่งหนาน


               “นายจะเอายังไง” จ่าไห่ถามอย่างไม่ไว้ใจนัก เขากวาดสายตามองอย่างระแวดระวัง “ให้ผมไปด้วยนะ”


               ยังไม่ทันจะสั่งการคนของพรรคสังคมนิยมคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาอย่างนอบน้อม


               “ท่านอู๋รอพบกับท่านนายพันอยู่ด้านในครับ แต่ขอให้ไปเพียงผู้เดียวและรับรองความปลอดภัยด้วยอำนาจของหัวหน้าพรรค

สังคมนิยม”


                   หย่งหนานชั่งใจอยู่ไม่กี่วินาทีจึงได้หันมาออกคำสั่งกับลูกน้องว่าให้รออยู่ด้านนอก จากนั้นเขาก็ก้าวอย่างองอาจเข้าไปใน

ถิ่นของฝ่ายตรงข้ามแค่เพียงลำพัง หย่งหนานเดินตามผู้นำทางไปถึงห้องประชุมเล็กๆห้องหนึ่ง พลันได้เห็นอู๋จินไห่นั่งอยู่หัวโต๊ะโดยมี

เหวินเป่าและชายที่เขาจำได้ว่าเคยอยู่ในคณะงิ้วนั่งประกบสองฝั่ง สีหน้าของเหวินเป่าตื่นเต้นเมื่อมองเห็นเขา

                  อู๋จินไห่หัวหน้าพรรคสังคมนิยมเพ่งมองบุรุษรุ่นลูกที่ก้าวเข้ามาด้วยความนิยมอยู่ในใจ แม้จะเหยียบถ้ำเสือแต่พันตรีเฉินหย่ง

หนานกลับไม่มีกิริยาลนลานให้เห็นแม้แต่น้อย เขายังคงความสง่างามอยู่ในชุดทหารเต็มยศและสบตากลับมาด้วยสีหน้ามั่นคง


                  “ผมไม่นึกว่าหลังจากที่เราได้สนทนากันในป่าเมื่อสิบปีก่อนแล้ว เราจะได้พบกันในสภาพเช่นนี้”


                 น้ำเสียงนั้นเรียบเฉยหากแต่ทำให้จินไห่หน้าชาทันที อันที่จริงเขาเพิ่งรู้และมาถึงที่นี่ก่อนหน้าหย่งหนานจะมาถึงไม่นานนัก

แม้จะมีคำสั่งให้ไป๋ซานชักชวนเหวินเป่าให้เข้าร่วมกับทางพรรคแต่จินไห่นึกไม่ถึงว่าไป๋ซานจะใช้วิธีควบคุมตัวเหวินเป่าไว้และเรียกให้

หย่งหนานมาที่นี่ จินไห่รู้เรื่องนี้ได้เพราะคนที่ทำงานที่นี่คนหนึ่งเป็นคนของผิงอันภรรยาของเขารีบแจ้งข่าวต่อผิงอัน เมื่อผิงอันรู้ก็รีบมา

บอกต่อกับจินไห่ทันทีทำให้จินไห่ต้องรีบมาแก้สถานการณ์ เขายังไม่อยากได้ชื่อว่าใช้วิธีขู่บังคับเพื่อให้หย่งหนานต้องทำตาม


                 “ไม่ว่าจะพบกันในสภาพไหนก็ถือว่าได้พบกันแล้วผู้พันไม่คิดว่านับเป็นวาสนาหรอกรึ”


                 จินไห่ทักทายเปิดทางด้วยเสียงนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ที่กล่อมให้ผู้คนคล้อยตามไปเกือบค่อนประเทศ นัยน์ตาเคร่งเครียด

กว่าเคยของหย่งหนานหันไปมองเหวินเป่าและเอ่ยคำถามตรงเข้าเรื่องทันที


                “มีธุระอะไรกับเหวินเป่าหรือครับ ถึงกับต้องให้คนของคุณไปรับมาที่นี่”


                 อู๋จินไห่เหลือบแลสายตาไปทางด้านข้างเพื่อมองหนุ่มน้อยวัยเกือบยี่สิบที่ยังมีสีหน้าตื่นเต้นตกใจเจืออยู่ เขาระบายรอยยิ้ม

ออกมาเมื่อคิดว่าควรจะเริ่มเจรจากับหย่งหนานแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เต็มใจมาที่นี่


               “ไป๋ซาน พาคนของพันตรีเฉินออกไปด้านนอกก่อน ฉันขอคุยกับพันตรีเฉินตามลำพัง”


               ไป๋ซานรีบลุกขึ้นทันที เขารอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว ไป๋ซานไม่คิดว่าจินไห่จะมาที่นี่แต่เมื่อเห็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยมมาถึง

พร้อมกับใบหน้าขุ่นเคืองไป๋ซานก็หน้าซีดทันที


                 “ทำไมถึงจัดการงานนอกคำสั่ง”


                จินไห่ดุเขาเมื่อทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว


               “รู้หรือเปล่าว่ามันอาจเกิดปัญหาให้ต้องตามแก้ไขกันอีก”


                จากนั้นจินไห่ก็ให้พาเหวินเป่าเข้าไปนั่งรอในห้องประชุมและอีกเพียงไม่นานพันตรีเฉินหย่งหนานก็มาถึง


                 ประตูห้องประชุมปิดลงแล้วเหลือเพียงเขากับผู้นำของพรรคสังคมนิยมที่เป็นคู่แข่งและกำลังต่อสู้เพื่อปฏิวัติการปกครองอีก

ครั้ง หย่งหนานสบตากับจินไห่เพื่อรอให้อีกฝ่ายเผยข้อความที่ต้องการเจรจาออกมา


                “อย่างที่เราเคยสนทนากันพันตรีเฉิน” จินไห่เริ่มต้นเอ่ยปาก


               “มาบัดนี้ก็พิสูจน์แล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวคิดของฉันและต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น บอกตามตรง

ก็ได้ว่าฉันมองไม่เห็นทางแพ้แม้แต่นิดเดียว หากแต่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็ต้องการคนเก่งมาช่วย จะเป็นการดีมากหากฉันจะได้รับเกียรติ

จากเธอ”


                  หย่งหนานหน้าตึงขึ้นมาทันที เขาไม่คิดว่าจินไห่จะกล้าชักชวนให้เขาทรยศต่อพรรคชาตินิยม


                 “ขอบคุณที่ทาบทามครับคุณอู๋ แต่ผมคงไม่เหมาะกับแนวคิดแบบสังคมนิยมเท่าใดนัก”


                ปฏิเสธทันควันอย่างไม่ต้องคิด แต่จินไห่ยังมีความพยายามมากพอที่จะเกลี้ยกล่อมอย่างที่เคยทำสำเร็จมาแล้วหลายครั้งที่

ชักชวนเหล่าขุนศึกจากมณฑลห่างไกลให้แปรพักตร์มาอยู่กับเขา


                 “ไตร่ตรองให้ดีก่อนเถิดพันตรีเฉิน ฉันมองเห็นชัยชนะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมนี้แล้ว หากเธอช่วยงานฉันเธอจะได้ในสิ่งที่เหนือ

กว่าลุงของเธอมอบให้เสียอีก”


              หย่งหนานทอดสายตามองจินไห่ด้วยความหมายที่คนถูกมองถึงกับคอแข็ง เขามองเห็นนัยน์ตาแห่งเกียรติยศศักดิ์ศรีที่ไม่

ยอมลงให้กับใคร


                 “ลุงของผมเคยสอนเสมอว่าอำนาจเป็นสิ่งหอมหวานที่ใครๆก็ต้องการ และกับคนที่ไม่เคยมีอำนาจพอได้มันมาไม่ว่าจะนำ

ไปใช้กับคนระดับไหนก็ตาม หากทำให้อีกฝ่ายเกรงกลัวได้เขาก็จะเสพย์ติดในอำนาจที่ตัวเองมีและต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆไม่มีวันจบ

สิ้น”


                หย่งหนานลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ สายตามั่นคงของเขาบอกให้รู้ว่าไม่มีอำนาจใดมาบังคับใจเขาได้


              “ผมคงคุยธุระกับคุณอู๋ได้เพียงเท่านี้”


              “เฉินหย่งหนาน”


               จินไห่มองร่างสูงสง่าด้วยความเสียดายในฝีมือและความคิดก้าวหน้า


               “ฉันขอให้เธอตัดสินใจอีกครั้ง หากเธอก้าวออกไปจากห้องนี้แล้ว เมื่อฉันได้รับชัยชนะในอนาคตจะไม่มีที่ให้เธอยืนอีกต่อไป”


                มุมปากของหย่งหนานปรากฏรอยเหยียดยิ้มขึ้นมาเมื่อเขาพูดเป็นประโยคสุดท้าย


                 “ผมไม่เคยมั่นใจสิ่งใดเท่านี้มาก่อนเลยครับ ขอให้คุณมีความสุขกับชัยชนะที่คุณวาดหวังไว้ในอนาคตแต่ในวันนี้ผมขอให้

คุณเปิดทางให้ผมพาเหวินเป่ากลับไปโดยไม่มีความขัดแย้งต่อกัน ยินดีที่ได้พบกันในวันนี้ครับคุณอู๋จินไห่”


                 หย่งหนานหันหลังเปิดประตูแล้วก้าวออกไปโดยไม่สนใจว่าจะสร้างความขุ่นเคืองให้จินไห่แค่ไหน เขาดึงมือของเหวินเป่า

มากุมไว้และพาเดินอย่างมั่นคงไปยังรถยนต์ทหารของเขาโดยที่ไม่มีใครกล้าขัดขวางจนกระทั่งพลขับบังคับรถให้เคลื่อนออกมาหย่ง

หนานจึงได้ถอนหายใจเมื่อรู้ว่าต่อจากนี้ไปอู๋จินไห่จะดำเนินการทุกรูปแบบเพื่อชัยชนะที่เขาต้องการ

                 ส่วนเหวินเป่านั้นแม้จะถูกไป๋ซานหลอกลวงให้เจ็บใจแต่เขาก็ยังเป็นห่วงเพื่อนรุ่นพี่อยู่ดี เขาเพิ่งรู้เมื่อตอนที่อู๋จินไห่มาถึงที่นี่

ว่าแท้จริงแล้วไป๋ซานคืออนุภรรยาของผู้นำพรรคสังคมนิยม เหวินเป่านึกสงสารไป๋ซานในทางเดินของชีวิตแต่นั่นก็คือสิ่งที่ไป๋ซานเลือก

เอง และขณะที่ก้าวตามหย่งหนานกลับออกไปจากสาขาพรรคสังคมนิยมเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากห้องประชุมที่เพิ่ง

เดินออกมา เหวินเป่าอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ไป๋ซานนั่นเองที่เป็นต้นเหตุของเสียง เหวินเป่าเห็นไป๋ซานถูกลูกน้องของอู๋จินไห่ใช้

กรรไกรกร้อนผมดกดำที่ไป๋ซานรักมากจนเหลือเพียงตอผมติดหนังศีรษะ


                  “ไปเถอะ เหวินเป่า” หย่งหนานกระชับมือนุ่มเป็นการเตือน


                  “ผลแห่งการกระทำย่อมมาจากสิ่งที่คนๆนั้นเลือกทำ เรากลับกันเถอะ”


                   เหวินเป่าได้แต่ถอนหายใจและเดินตามหย่งหนานไปที่รถยนต์ทหาร ต่อจากนี้ไปเส้นทางเดินชีวิตของเขาคงจะไม่ได้พบ

กับไป๋ซานอีกต่อไป




มีต่ออีกนิด...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2017 21:08:51 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
อ่านต่อตรงนี้...




                  สงครามเต็มรูปแบบเกิดขึ้นแล้วหลังจากนั้นไม่นาน ระหว่างเฉินจิ้งเหอและอู๋จินไห่ ผู้นำคนสำคัญของสองฟากฝั่งทั้งที่เคย

เป็นเพื่อนร่วมรบในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบสาธารณรัฐ หากแต่วันนี้พวกเขา

ขัดแย้งกันเพราะอุดมการณ์ที่ฝั่งหนึ่งต้องการนำพาประเทศไปสู่แนวคิดประชาธิปไตยแต่อีกฝั่งเห็นด้วยกับการปกครองแบบสังคมนิยม

สงครามครั้งแรกเกิดขึ้นที่แมนจูเรีย ยุทธศาสตร์สำคัญทางภาคเหนือที่ทุกฝ่ายต้องการ พรรคสังคมนิยมสามารถยึดไปได้เมื่อเดือน

กันยายน ปีคริสต์ศักราช


                  ครั้งที่สองเกิดขึ้นที่หวายไห่ จิ้งเหอต้องการสกัดไม่ให้พรรคสังคมนิยมลงใต้จึงส่งกำลังทหารเข้าไปพร้อมอาวุธยุโธปกรณ์ที่

ได้รับการช่วยเหลืออีกครั้งจากสหรัฐอเมริกาเพื่อปะทะกับทัพของพรรคสังคมนิยม กองทัพรัฐบาลถูกล้อมที่เมืองซูโจว ทหารจากกอง

ทัพรัฐบาลแสนกว่านายถูกทัพจากพรรคสังคมนิยมถึงสามแสนคนล้อมเอาไว้ จนในที่สุดรัฐบาลต้องเสียที่ตั้งสำคัญไปทั้งช่างไห่

กวางตุ้ง  ในต้นเดือนมกราคมปีคริสต์ศักราช 1949


                   และที่สำคัญที่สุด พวกเขาสูญเสียแม่ทัพมือดีอย่างเฉินหยางซุนบุตรชายของเฉินจิ้งเหอไปด้วย

                   ไม่มีน้ำตาจากจิ้งเหอผู้เป็นบิดาเมื่อก้มลงมองศพบุตรชายเป็นครั้งสุดท้าย ภรรยาของเขาผู้เป็นมารดาของหยางซุนยืน

สะอื้นอยู่เบื้องหลังรวมถึงภรรยาและบุตรธิดาทั้งสามของหยางซุนเช่นกัน เหวินเป่าที่มาร่วมงานศพพร้อมกับหย่งหนานจุกแน่นในอก

เมื่อการสูญเสียนั้นเข้ามาสู่คนในครอบครัว

                   เหวินเป่าเกลียดสงคราม ไม่ว่าจะสงครามกับชาติอื่นหรือในชาติเดียวกัน เขาเกลียดความเลวร้ายที่ผู้คนต้องสูญเสียเพื่อ

คำว่าชัยชนะเพียงคำเดียว


                “อเมริกาส่งงดการส่งกำลังอาวุธมาช่วยเราแล้วครับ เพราะเราแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นไม่ได้”


                ไม่มีเวลาให้ความเสียใจมากนักในเมื่อสงครามยังดำเนินต่อไป หย่งหนานต้องขึ้นมาดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองทัพทหาร

แห่งชาติจีนแทนหยางซุน เขาเอ่ยเสียงเครียดกับจิ้งเหอเมื่อข่าวล่าสุดส่งมา


                 “ผมคิดว่าเราคงต้องหาทางไปจากที่นี่”


                “หลานคิดว่าเราจะพ่ายแพ้?”


                 “ในเวลานี้ผมคิดว่าใช่ เรายังไม่ชนะในตอนนี้” หย่งหนานถอนหายใจหนักหน่วง


                   “ลุงยอมตายในแผ่นดินเกิดหากว่าลุงรักษาทุกอย่างไว้ไม่ได้”


                    “คุณลุงรักษาได้แต่ต้องอาศัยเวลาครับ ถ้าคุณลุงตายไปแล้วผู้คนที่ยังเชื่อมั่นในตัวคุณลุงล่ะครับ พวกเขาจะอยู่อย่างไร

ทุกคนก็จะตายกันหมดพร้อมกับคุณลุง แต่ถ้าคุณลุงยอมผ่อนด้วยการพาทุกคนไปจากที่นี่เพื่อไปตั้งหลัก อีกไม่นานคุณลุงก็จะพาทุกคน

กลับมาทวงคืนได้”



                หย่งหนานเตือนสติผู้เป็นลุง



                “ชาติพยัคฆ์ย่อมไม่เกรงกลัวต่อและไม่อ่อนข้อต่อสิ่งใด รวมถึงอุปสรรคที่เข้ามาขัดขวางทางเดิน เราจะต้องต่อสู้จนกว่าจะ

ถึงวันที่เราเป็นพยัคฆ์ติดปีก”



                  คำเตือนของหย่งหนานทำให้จิ้งเหอตัดสินใจได้



                “ตกลง เริ่มต้นดำเนินการตามที่หลานเห็นว่าถูกต้อง เราจะย้ายไปตั้งหลักและกลับมาในวันที่เราพร้อมจะทวงคืนทุกอย่าง”


              หย่งหนานก้าวเข้ามาในห้อง เขาเอนกายลงนอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย สมองของเขาครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งเหวิน

เป่าเดินเข้ามานั่งลงบนขอบเตียงและวางมือแนบแก้มของเขา


                   “พี่หย่งหนาน”


                   เห็นใจสามีเหลือเกินที่ต้องตรากตรำทำงานหนัก แต่เหวินเป่าทำได้เพียงให้กำลังใจและช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนอยู่

เบื้องหลังเท่านั้น หย่งหนานเปิดเปลือกตาขึ้นมองและฝืนยิ้มให้เหวินเป่า


                “เซียวจงหลับไปแล้วหรือ”


                เด็กชายฮุ่ยจงโตพอที่จะนอนคนเดียวได้แล้ว แต่เหวินเป่าจะเข้าไปดูแลก่อนที่เด็กน้อยจะหลับไป


               “ลูกหลับแล้วครับ เหนื่อยมากหรือครับวันนี้”


                 หย่งหนานดึงแขนให้เหวินเป่าเอนกายลงมาบนแผงอกของเขาพลางลูบกลุ่มผมนุ่มมือ สายตาจับจ้องบนเพดานอย่างใช้

ความคิด


                  “รัฐบาลจะพ่ายแพ้และเราต้องหนี”


                 เขาใช้คำพูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อมเหมือนพูดกับจิ้งเหอ



                  “พี่ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อาจจะไปตายหรืออาจจะลำบากแสนสาหัส”


                  “ผมจะไปกับพี่” เหวินเป่าตอบได้อย่างไม่ต้องคิด



                 “ไตร่ตรองก่อนเถิดเหวินเป่า เธอยังมีทางเลือก อย่าลืมว่าเธอยังมีพระญาติอยู่ที่ญี่ปุ่นและยังมีเงินทองที่นายพลคิริซาวะ

ทิ้งไว้ให้ พี่ยังคงเก็บไว้ให้เธอทั้งหมด หากเธอเลือกทางนั้นเธอจะไม่ต้องลำบากใดๆ”


                “อย่าได้ไล่ผมเลยครับพี่หย่งหนาน” เหวินเป่ารำพันอยู่กับอกกว้าง


                “ชีวิตของผมคือพี่ คือเซียวจง ผมไม่ต้องการสบายโดยปล่อยให้พี่และลูกลำบากเด็ดขาด”


                 “แม้ว่าจะมองไม่เห็นอนาคตเลยงั้นหรือ”


                  “อนาคตของผมคือขอให้ได้เคียงข้างพี่จนวันตายจากกัน”


                  หย่งหนานตื้นตันกับความรักที่เหวินเป่ามีต่อเขา ร่างบางถูกพลิกให้เอนกายลงไปบนเตียงกว้าง หย่งหนานจ้องมอง

ใบหน้าหวานที่ทวีความงดงามเมื่อเหวินเป่าอายุล่วงเข้ายี่สิบปีเต็มแล้ว เขาหวนคิดถึงอดีตที่พบกันเป็นครั้งแรก


                 “พี่ไม่เคยคิดเลยว่าเด็กมอมแมมที่วิ่งตัดหน้ารถพี่ในวันนั้นจะมาเป็นเมียและคู่คิดที่ดีของพี่ในวันนี้”


                 เหวินเป่ายิ้มรับ น้ำตาแห่งความซาบซึ้งเอ่อคลอในหน่วยตา


                 “ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้มาใช้ชีวิตคู่กับวีรบุรุษที่ช่วยผมออกมาจากขุมนรกและความเสี่ยงตายหลายต่อหลายครั้ง”     


                “ก็เธอน่ะมันดื้อ”


                  หย่งหนานบีบจมูกโด่งหยอกล้อก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงไปปิดปากช่างพูดด้วยริมฝีปากของเขาพร้อมกับเสาะหาความ

หวานจากโพรงปากฉ่ำที่เผยอรอรับด้วยความเต็มใจ


                 “ผมจะไม่ดื้ออีกแล้วครับ สัญญา”


                 เหวินเป่าเอ่ยเสียงหวานเมื่อหย่งหนานปรนเปรอเขาด้วยจูบร้อนรุ่มไปทั้งตัวเมื่อกายเปล่ากดเบียดแนบเนื้อให้สัมผัสแห่งรัก

ได้ทำงาน


               “ให้ผมทำให้พี่หย่งหนานมีความสุขนะครับ”


                  เอ่ยอย่างแสนซนก่อนจะดันไหล่กว้างให้เป็นฝ่ายนอนหงายอยู่บนเตียง หย่งหนานคลี่ยิ้มอย่างถูกใจเมื่อเหวินเป่ากล้า

หาญปีนป่ายขึ้นมาบนกายแกร่งและกลายเป็นฝ่ายกดสะโพกลงไปปรนเปรอมอบความสุขให้เขา ใบหน้าหวานยามขับเคลื่อนอยู่กลางลำ

ตัวช่างเย้ายวนชวนให้ติดใจ


                “ดีมากอากุยของฉัน ขยับอีกนิดนะคนดี”


                 หย่งหนานรำพันอย่างมีความสุข เขาดึงเหวินเป่าให้โน้มตัวลงมาสู่อ้อมกอด ส่วนประสานทำงานมอบความรักให้กันอย่าง

ต่อเนื่องเมื่อเขาขยับเอวช่วยให้เหวินเป่าไปสู่ฝั่งฝันก่อนที่เขาจะตามไปติดๆ


                   ใบหน้างามแดงฉ่ำเต็มอิ่มไปด้วยความสุขสมขณะนอนทอดกายให้เขากอด หย่งหนานอดใจไม่อยู่จนต้องจูบที่แก้ม

นวลอย่างหวงแหน


                   “ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วว่าจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่ ต่อจากนี้พี่จะไม่ปล่อยมือจากเธออีกแล้วลูกเต่าน้อย พี่จะดูแลเธอ

จนลมหายใจสุดท้าย”


                    เหวินเป่ายิ้มรับ เขาซุกหน้าเข้าหาความอบอุ่นด้วยความไว้วางใจว่าหย่งหนานจะทำได้ดังคำพูดที่เขาเอ่ยปากสัญญา   


                  เหวินเป่าและหย่งหนานจะดูแลซึ่งกันไปจนลมหายใจสุดท้ายของกันและกัน                                                 



                                          :oni1: :oni1: :oni1:






                                   
                                                คอมเมนท์ได้นะ เดี๋ยวสักพักจะมีบทสรุปมาให้จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2017 21:23:39 โดย Belove »

ออฟไลน์ fahsai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 815
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-2
ขอให้ปลอดภัยนะคะ พี่หย่งหนาน ลูกเต่าน้อย

ออฟไลน์ Crossley

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
ความรักของเขาน่ารักจัง :hao5:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
 :katai2-1: แอบสะใจเล็กๆสำหรับนังไป๋
 :katai1: พี่หย่งกับน้องกุยรักษาตัวดีๆเน้อ คุณลุงด้วย

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                                       ม่านไหมลายพยัคฆ์

                                                                             บทส่งท้าย



               สงครามใหญ่ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นที่เป่ยจิง(ปักกิ่ง)และเทียนสิน(เทียนจิน)ในปลายเดือนมกราคม ปีคริสต์ศักราช 1949


               หลังจากสิ้นสุดสงครามและสูญเสียการครองครองเมืองสำคัญก็นับได้ว่าพรรคชาตินิยมหมดความได้เปรียบต่อพรรค

สังคมนิยมโดยสิ้นเชิง

               ระหว่างนั้น พรรคชาตินิยมที่วางแผนการอพยพไว้แล้วจึงกระจายข่าวการอพยพไปยังเกาะไต้หวันซึ่งเป็นทำเลที่ดีที่สุดที่

เพราะสหรัฐอเมริกายึดคืนมาจากญี่ปุ่นเมื่อเสร็จสิ้นสงครามโลกและยังไร้ผู้ครอบครอง นักธุรกิจพ่อค้าหัวก้าวหน้าต่างสมัครใจที่จะอพยพ

ติดตามเฉินจิ้งเหอไปเริ่มต้นในสถานที่ใหม่รวมทั้งทหารและประชาชนจำนวนกว่าสามล้านคนที่ยังภักดีต่อพรรคชาตินิยม ทุกคนหวังที่จะ

ได้กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้งในวันข้างหน้า

               การอพยพเริ่มต้นกลางปีคริสต์ศักราช 1949 ประชาชนกว่าสามล้านคนทยอยลงเรือทหารและเรือสินค้าพร้อมกับเงินทองและ

วัตถุโบราณจำนวนมากไปยังเกาะไต้หวันด้วยความเร่งรีบด้วยการดูแลของเหล่าทหาร เฉินหย่งหนานให้ลูกน้องของเขาช่วยเหลือ

ประชาชนอย่างใกล้ชิดรวมทั้งตัวเขาเองด้วยก็ไม่ยอมทิ้งผู้คนไปไหน เขาลงมือช่วยแบกหามสิ่งของด้วยตัวเอง เหวินเป่าคอยทำงาน

เคียงข้างขันแข็งแม้หย่งหนานจะให้เขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปพร้อมกับสมาชิกในครอบครัวก่อนเหวินเป่าก็ไม่ยอม


ไป


               เฮลิคอปเตอร์รอบสุดท้ายนำเฉินจิ้งเหอบุคคลสำคัญที่สุดออกจากแผ่นดินกว้างใหญ่ของจีนไปยังเกาะไต้หวัน และประกาศ

การเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นด้วยการช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกาในปลายเดือนกันยายน คริสต์ศักราช 1949

               เรือทหารลำสุดท้ายออกจากท่าแล้ว ท่ามกลางการกระจายตัวของกองทัพพรรคสังคมนิยมไปทั่วท่าเรือแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เมื่อเรือนั้นลอยลำไกลจากท่าเกินกว่าจะมุ่งกลับหลัง เฉินหย่งหนานทอดสายตาเด็ดเดี่ยวจ้องมองแผ่นดินบ้านเกิดเป็นครั้งสุดท้าย เขา

มองเห็นอู๋จินไห่ยืนมองจากฝั่งมาทางลำเรือเช่นกัน


               หย่งหนานค้อมศีรษะอำลาศัตรูจากระยะไกล แม้กระนั้นเขาก็ยังมองเห็นรอยยิ้มของอู๋จินไห่ที่ส่งมาให้หลังจากได้รับชัยชนะ

ไปครอบครองแต่อู๋จินไห่ก็ไม่ได้ฆ่าเขา


               จับจูงมือของเหวินเป่าก้าวไปกราบหน้าของเรือ ท่ามกลางท้องทะเลสีครามกว้างใหญ่ที่มีแผ่นดินจีนอยู่เบื้องหลัง หย่งหนาน

วางมือบนต้นแขนของเหวินเป่าและกระชับไว้มั่นเมื่อสายตาของเขาจ้องมองไปยังแผ่นดินผืนใหม่ที่เขาฝากอนาคตไว้


              แม้พยัคฆ์จะบาดเจ็บ เขาเชื่อว่ามันจะฟื้นตัวได้ในไม่ช้าเพื่อรอวันที่มันจะโผผินเป็นพยัคฆ์ติดปีกอีกครั้ง


              “ชาติพยัคฆ์ย่อมไม่เกรงกลัวและไม่อ่อนข้อต่อสิ่งใดแม้ว่าสิ่งนั้นจะปลิดลมหายใจของมัน พยัคฆ์ย่อมไม่ยอมแพ้ มันจะ

กระโจนเข้าใส่และต่อสู้จนลมหายใจสุดท้ายของมัน”


               1 ตุลาคม คริสต์ศักราช 1949 นายอู๋จินไห่ประกาศชัยชนะเหนือรัฐบาลของพรรคชาตินิยมและประกาศเปลี่ยนแปลงการ

ปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมนับแต่นั้นเป็นต้นมา



                                                The end




               Belove’s Talk


             
ปลื้มปริ่มที่แต่งจบ ถถถถ


                  ก่อนแต่งนี่เครียดมากนะ หาข้อมูลมาเยอะ กองสุมๆอยู่ในสมองเต็มไปหมดเลย


             ได้โจทย์มาว่าเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ เอาละวา จะแต่งยังไงให้มันสนุก ดูเป็นนิยายไม่ใช่สารคดี

              และคิดไว้เลยว่าเรตติ้งคงจะต่ำเตี้ย




              และเมื่อแต่งจบแล้ว...

             เออ กูก็แต่งได้เว้ย แต่งจนจบด้วยนะ คนอ่านก็เยอะกว่าที่คาดไว้นะ ดีใจจังนะ




               
ขอบคุณตัวเองด้วยที่กล้าแต่ง ถ้าไม่ก้าวผ่านความกลัว ความกังวลก็คงไม่มีความสุขเท่านี้

              ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ
150 ปี ประวัติศาสตร์จีนยุคป่วยไข้จากสงครามฝิ่นสู่มหาอำนาจโลก

               ของคุณวีระชัย โชคมุกดา จากสำนักพิมพ์ยิปซีที่ใช้เป็นบรรณานุกรม


                   ขอบคุณบทความในเรื่องสงครามโลกและการเปลี่ยนแปลงการปกครองของจีนจากในเว็บไซต์ทั้งหลาย

              ที่ใช้ข้อมูลมาแต่งนิยายจนจบ




                สุดท้ายนี้ อิอิ

             ขอบคุณคนอ่านทุกคนก๊าบที่มาอ่านกันและคอมเมนท์เป็นกำลังใจทั้งในเว็บ ในทวิตเตอร์และในแฟนเพจ


             เป็นกำลังใจให้ดั้นด้นแต่งมาได้




               ขอแรงใจจากคนอ่านเป็นคอมเมนท์ความรู้สึกหลังจากได้อ่าน “ม่านไหมลายพยัคฆ์” จบแล้ว

            คำวิจารณ์ก็ได้ จะได้ใช้ปรับปรุงนิยายเรื่องต่อไป



             
  ขอบคุณที่สุดเลยจ้า
 

              ป.ล. มีประกวดอะไรตรงไหนก็มาเรียกไปส่งเข้าประกวดบ้างเน้อ

               
               

               
                                                            :pig3: :pig3: :pig3: :pig3: :pig3:
           
               

               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2017 21:57:02 โดย Belove »

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
อยากอ่านชีวิตตหลังจากย้ายไปไต้หวันแล้ววจ้าา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2017 21:53:24 โดย NUTSANAN »

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ชีวิตรักหลังจากไปไต้หวันจะเป็นไงน้าา  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jungjiyoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ฮรืออออออ ดีต่อใจเหลือเกิน เป็นนิยายที่อ่านไปขนลุกไป มีความดีงาม ละเอียดจนเกรงใจถ้าจะอ่านผ่านๆ  ขอบคุณนะคะที่ทำงานดีขนาดนี้ออกมาให้อ่าน
ส่วนที่อยากให้ปรับ เราอยากให้ลงรายละเอียดตอนหลังฮูหยินตายอีกเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกว่าทุกคนเศร้า และผ่านพ้นมาด้วยกัน ถ้าเร็วเกินไป มันทำให้รู้สึกเหมือนสองคนได้รางวัลจากการตายอะค่ะ (คือในเรื่องไม่เร็วไปจนรู้สึกแบบนั้นนะ แต่อยากให้ดึงละเอียดตอนนี้หน่อย แบบเมียตายกว่าจะทำใจได้ อากุยเองก็กลัวจะไปแทนที่ อะไรแบบนี้)

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ดีงามสมที่รอคอย

ชื่นชมการทำการบ้านของคุณ Belove
ความกระชับของเนื้อเรื่องทำให้อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน

ขอบคุณมาก ๆ

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
โอ๊ยยยย  ไม่ว่างมาอ่านแปปเดียว  กลับมาอีกทีจบแล้ว   :z3: :z3: :z3:  โทษงานมากก็ไม่ได้เดี๋ยวไม่มีตังเปย์หนุ่มๆในสต็อกของ นข.

ขอโพสรวมๆเลยแล้วกัน   

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่ดีมากๆเรื่องนึงเลยทีเดียว  มันมีรสชาติครบเกือบทุกรส 

ส่วนตัวชอบ เจ๊ฟางซินที่สุด  คือเป็นคนที่มีความคิดดีมากๆ  แต่เสียดายที่เจ๊แกไปสบายซะละ 
ส่วนผิดหวังมากที่สุดต้องยกให้ไป๋ซาน  ไป๋ซานคือคนที่เราสงสารมากๆคนนึงเลยกับสิ่งที่ต้องเจอ  แต่ในตอนจบเรากลับเกลียด  แต่มันอารมณ์แบบเกลียดไม่สุดอ่ะ  เพราะตัวไป๋ซานเองนั้นไม่ได้รับโอกาสดีๆแบบลูกเต่าน้อย  และตอนนั้นที่ไป๋ซานได้ยินจินไห่พูดโน้มน้าวใจคน  ใจที่ต้องการความเท่าเทียมจึงเอนเอียงไปแบบไม่ทันยั้งคิดและความไม่รู้เดียงสา 
แต่เมื่อโตขึ้นมา แทนที่จะคิดไตร่ตรองอะไรให้ดีกว่าเดิม  กลับยึดมั่นในสิ่งที่เชื่อจนไม่มองทางอื่นๆ  สุดท้ายแล้วความเชื่อคนที่เทิดทูนก็กลับมาทำร้ายตน  ได้แต่เบะปากมองบนใส่จริงๆ
แต่ที่ทำให้เกลียดจริงๆเลยคือดันมาหรอกเต่าน้อยซะได้  น่าโมโหตรงนี้แหละ

ส่วนตอนจบทำได้ดีมากๆ ดีจนแอบน้ำตาซึม  ตอนแรกลุ้นมากๆนะว่าจะหนีไปไหนกัน  สุดท้ายมาลงล็อคที่ไต้หวัน  (ถึงกับไปหาประวัติของไต้หวันมาอ่านเลยทีเดียว)

สุดท้ายแล้วขอขอบคุณ belove ที่แต่งนิยายน้ำดีให้ได้อ่าน 

 :pig4:

ปล.รออุดหนุนนะจ๊ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2017 00:28:45 โดย yymomo »

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
จบได้ดี ๆๆๆๆๆ
ปลื้มกับนิยายเรื่องนี้มากๆ เลยค่าาาา

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
จบแบบชีวิตคือชีวิต ประวัติศาสตร์สงครามโลก มีความรักเป็นบทนำ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :pig4: :pig4: :pig4:  :L2:  แต่งได้เยี่ยมมากครับ ประทับใจขอชื่นชม :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ด้วยความที่เราเรียนเอกสังคมและรับรู้เรื่องราวพวกนี้มาจนปวดหััวขอยอมรับเลยว่าคนเขียนทำการบ้านมาดีมาก แต่มีบางจุดในช่วงสงครามนานกิงซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เราว่าคนเขียนให้รายละเอียดเรื่องความโหดร้ายของทหารญี่ปุ่นน้อยไปหน่อย หลายคนที่อ่านและไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์จีนช่วงนั้นอาจไม่เข้าใจว่่าทำไมเหวินเป่าถึงเกลียดชังทหารญี่ปุ่นนัก เพราะความโหดร้ายที่ชาวนานกิงได้รับจากสงครามครั้งนั้นมันมากเกินจะบรรยาย ถ้าคนเขียนจะบรรยายเพิ่มเติมเรื่องความช่วยเหลือที่ถูกตัดขาดกับความเหี้ยมโหดของทหารญี่ปุ่นจะช่วยเพิ่มเติมความเข้าใจในมิติจองตัวเหวินเป่าเองว่าทำไมถึงเกลียดพวกญี่ปุ่นนัก (ตอนทำรายงานเรื่องสงครามนานกิงเราร้องไห้แบบเป็นวรรคเป็นเวรมาก)




ขอชื่นชมเรื่องการทำการบ้านและวินัยในการอัพนิยายของคนเขียน สำนวนภาษาที่พัฒนาขึ้นจากเรื่องก่อนๆทำให้รู้สึกได้ว่ากำลังอ่านนิยายประวัติศาสตร์ที่ดีมากอีกเรื่อง จังหวะการดำเนินเรื่องพอดีพองามไม่เยิ่นเย้อเกินไปและไม่กระชับเกินควรนับว่าดีมากๆเลย


ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้ให้อ่าน ขอบคุณในความพยายาม ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ^^

ออฟไลน์ Crossley

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
เป็นตอนจบที่เหมาะสมมากๆเลยค่ะ ก่อนอื่นขอชื่นชมนิยายเนื่องนี้ที่มีเนื้อเรื่องมีข้อมูลเยอะมากแต่คุณคนแต่งสามารถทำให้ไม่ยืดเยื้อน่าเบื่อเลยสักนิด แถมยังขยันอัพอีก สุดยอดมากๆค่ะ รอผลงานเรื่องต่อไปนะคะ :L1:

ออฟไลน์ Ice_Iris

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +74/-0


ขอตอนพิเศษ

มันหน่วงใจอยู่เยอะมาก

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ


ออฟไลน์ express_men

  • Catching Light.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
    • SpeedlightTH
ดีงามมาก ทำการบ้านมาดีสุดๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด