ตอนที่ 13“กลับมาแล้วหรือครับ”
“อืม”
หลังจากที่ดรีมทานมื้อเย็นและอาบน้ำเรียบร้อยเตรียมตัวจะนอน เผ็ดก็กลับเข้ามาพอดี ดูจากสีหน้าของเผ็ดเหมือนจะเมื่อยล้าเต็มทน ไม่รู้ไปเก็บหนี้หรือไปทำอะไรมา ร่างบางเม้มปากพลางคิดเรื่องที่ควีนโทรมาเมื่อสักครู่ หรือที่กลับมาดึกดื่นเอาป่านนี้เพราะออกไปต่อกับเด็กหนุ่มคนนั้นหรือ พอคิดเรื่องนี้ทีไรก็ทำเอาร่างบางขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ดรีมจึงพยายามขับไล่ความคิดนั้นออกจากหัว ก่อนจะเบี่ยงประเด็นเข้าเรื่องอื่น
“คุณเผ็ดหิวรึเปล่าครับ ผมทำกับข้าวเผื่อไว้ให้”
“กูกินมาแล้วล่ะ จะนอนแล้วหรือ” ร่างสูงถามพลางเหล่มองชุดนอนที่อีกฝ่ายสวมใส่ อ่อยกันรึเปล่าเนี่ย ปกติไม่ค่อยเห็นใส่กางเกงขาสั้นนอน
“จะนอนแล้วครับ”
เผ็ดสาวเท้าเข้าไปรั้งเอวคอดอีกฝ่ายมาประชิด ร่างเล็กในอ้อมแขนมีท่าทีตกใจนิดหน่อย ยิ่งเผ็ดโน้มหน้าลงหวังจะปล้นจูบกลับโดนอีกฝ่ายเมินหน้าหนีซะอย่างนั้น ร่างสูงจึงได้แต่ใช้สันจมูกคมคลอเคลียที่ลำคอขาวอย่างหยอกล้อ หอมจริงๆเลย ยิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆผิวกายของดรีมก็ยิ่งหอมชวนน่าสัมผัส
“กู๊ดไนท์คิสก่อนสิ แล้วจะปล่อยไปนอน”
“ฮื้อ ไม่เอาครับ”
“ไม่จูบ กูก็ไม่ปล่อย” ร่างสูงยังคงกอดรัดตัวดรีมไว้อยู่อย่างนั้น
ยิ่งเผ็ดกอดรัดตัวดรีมแน่นขึ้นเท่าไหร่ ดรีมก็ยิ่งอึดอัดมากขึ้นไปทุกที ไม่ใช่เพราะอ้อมกอดจากร่างสูงเท่านั้นที่ทำให้ดรีมอึดอัด แต่เป็นเพราะกลิ่นจากตัวเผ็ดมันแปลกไป ปกติแล้วเผ็ดจะมีกลิ่นประจำตัวคือหอมแบบเย็นๆเวลาดรีมได้กลิ่นแล้วจะรู้สึกสดชื่นทุกที คราวนี้มีกลิ่นอื่นที่มาเจือปนอยู่กับกลิ่นเย็นๆนั้น มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายแป้งเด็ก หรือว่าจะเป็นกลิ่นที่ติดมาจากเด็กหนุ่มคนนั้น
ดรีมเงยหน้าสบตากับคนที่กอดเขาไว้ ร่างสูงก็สิ่งยิ้มมาให้ กลับมาที่ห้องก็มากอดเขา มาจูบเขา แต่พออยู่ข้างนอกก็กอดจูบกับอีกคน หรือดรีมจะเป็นแค่ของจำนำที่เอาไว้ระบายเท่านั้น ส่วนเด็กหนุ่มคนที่เผ็ดพาไปไหนต่อไหนก็คงเป็นตัวจริงของเผ็ด ร่างสูงจึงได้กล้าทำอะไรแบบนั้นในที่สาธารณะ ผิดกับเขาที่อยู่เพียงแต่ในห้อง ความรู้สึกเจ็บแปล็บแล่นเข้ามาที่หัวใจ ดรีมรู้สึกเหมือนจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว จึงได้รีบเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อจูบร่างสูง
มือหนาประคองเข้าที่ใบหน้าของดรีมก่อนจะบดจูบตอบกลับอย่างดุดัน ปากหยักที่กำลังละเลียดจูบเขาอยู่ตอนนี้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนกลับจูบใครอีกคน น้ำตาใสเริ่มเอ่อล้นขอบตา ดรีมจึงใช้แรงทั้งหมดผลักเผ็ดออกจนอีกฝ่ายเซถอยหลังไปเล็กน้อย ร่างสูงทำหน้าไม่เข้าใจก่อนที่จะเอ่ยปากได้ถาม ร่างบางก็รีบวิ่งเข้าห้องไปเสียแล้ว
“อะไรวะ...สงสัยจะเขิน” เผ็ดหัวเราะกับท่าทางของร่างบาง ก่อนจะปลีกตัวไปอาบน้ำเข้านอนบ้าง
เป็นเช้าที่ผิดปกติมากจริงๆ ร่างบางตื่นมาทำอาหารเช้าก่อนไปเรียนเป็นปกตินะ แต่สิ่งที่ผิดปกติก็คือดรีมไม่พูดไม่จากับเผ็ดเลยสักคำเดียว มื้อเช้าผ่านไปอย่างน่าอึดอัด เผ็ดเองก็เอาแต่ลอบมองอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ได้ถามออกไป จนกระทั่งขับรถมาส่งถึงหน้าคณะดรีมก็ยังไม่ปริปากพูดสักแอะเดียว
“เดี๋ยวตอนเย็นมารับ”
“ครับ”
ตอบรับเพียงแค่ไหนร่างบางก็ยกมือไหว้ก่อนจะเดินลงจากรถ เป็นอะไรของเขากันวะ หรือว่าจะมีเรื่องเครียด เอะหรือว่าจะโกรธเขา แล้วจะโกรธเขาเรื่องอะไรล่ะ เผ็ดยังไม่ได้ทำให้โกรธสักหน่อย สงสัยจะเครียดนั้นแหละ เอาไว้ตอนเย็นค่อยถามแล้วกัน ร่างสูงละสายตาจากแผ่นหลังบางที่เดินลิ่วๆเข้าคณะไป ก่อนจะขับรถตรงไปที่คณะนิติศาสตร์
เลิกเรียนเผ็ดก็ขับรถมารับจืดที่หน้าคณะเหมือนเดิม แต่จอดรออยู่ได้ประมาณสิบนาทีแล้วก็ไม่เห็นอีกคนจะมา ด้วยความสงสัยเผ็ดจึงลงจากรถเพื่อจะไปตามดรีม ตอนนี้หน้าคณะเศรษฐศาสตร์ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่แล้ว กวาดสายตามองไปรอบก็ไม่เห็นวี่แววคนร่างเล็กเลย เผ็ดกำลังจะโทรหาดรีมก็ชะงักเมื่อเห็นหญิงสาวผมบลอนด์กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ม้าหินอ่อนหน้าคณะ จำได้ว่าเป็นเพื่อนกับดรีม เผ็ดจึงสาวเท้าเข้าไปยืนหยุดตรงหน้าหญิงสาว
“ดรีมล่ะ”
“อ้าวคุณเผ็ด มารับดรีมหรือคะ” หญิงสาวผมบลอนด์เงยหน้าขึ้นจากจอสมาร์ทโฟนก่อนจะฉีกยิ้มให้เผ็ด
“อืม ดรีมไปไหน”
“กลับไปแล้วล่ะค่ะ เห็นบ่นว่าปวดหัว” เลิกเรียนปุ๊บดรีมก็รีบขอตัวกลับก่อนทันที เขาบอกกับควีนว่าปวดหัวมากเหมือนจะไม่สบาย เพราะเมื่อคืนดรีมนอนไม่ค่อยหลับเลยเอาแต่คิดเรื่องเผ็ดกับเด็กหนุ่มคนนั้นทั้งคืน
“แล้วทำไมหมอนั้นไม่บอกฉันสักคำ!” จะโทรบอกเขาก่อนไม่ได้เลยรึไง เห็นไหมเนี่ยว่าเป็นห่วง กลับไปจะฟัดซะให้เข็ด ว่าแล้วร่างสูงก็เอี้ยวตัวเตรียมจะกลับ แต่ก็โดนหญิงสาวดึงแขนไว้ก่อน
“อะไร!”
“ที่ดรีมปวดหัวก็เพราะคุณนั้นแหละ เมื่อคืนดรีมบ่นว่านอนไม่ค่อยหลับ”
“แล้วฉันไปทำอะไร”
“อ้าวนี่ยังไม่รู้ตัวอีกหรือคะ! หึ ผู้ชายก็เป็นแบบนี้หมดนั้นแหละ” ควีนยกมืออกก่อนจะเชิดหน้าไปอีกทาง
“แบบนี้แล้วแบบไหน?”
“ก็เมื่อวาน ฉันเห็นคุณไปเดินอี๋อ๋อกับเด็กที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังจูบกันกลางลานจอดรถขนาดนั้น ไม่อายฟ้าอายดินบ้างรึไง! แล้วเมื่อวันก่อนมาบอกว่าชอบเพื่อนฉันแต่พออีกวันก็ไปกับอีกคน ผู้ชายนี่เจ้าชู้หมดทุกคนรึเปล่ายะ!”
ควีนระบายความอัดอั้นตันใจออกมาซะหมด เพราะดรีมเองเป็นคนไม่กล้าพูด ไม่กล้าถาม ในฐานะเพื่อนคนสนิทควีนก็ขอพูดแทนแล้วกัน
“ว่าไงนะ!”
เผ็ดได้แต่ทำหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เมื่อกี้ยัยผมบลอนด์คนนี้บอกว่าเขาเจ้าชู้อย่างนั้นหรือ แถมยังว่าเขาไปจูบกับใครที่ลานจอดรถนั้นน่ะไม่ใช่ความจริงเลยสักนิด เมื่อวานเผ็ดพาน้องชายคนกลางไปฉลองเนื่องในโอกาสที่น้องของเขาสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหา’ลัยเดียวกันกับเขาต่างหาก พอผลประกาศจืดก็รีบโทรหาพี่ชายคนโตเป็นคนแรก ด้วยความดีใจและอยากจะแสดงความยินดีกับน้องก่อนใครในบ้าน เผ็ดจึงแอบพาน้องมาฉลองกันสองคนก่อน
“ยัยบ้า นั้นมันน้องชายฉันต่างหาก!”
“นะ...น้องชาย!”
“ก็เออน่ะสิ แล้วที่ลานจอดรถฉันไม่ได้จูบกับน้องชายตัวเองหรอกนะ ก็แค่จุ๊บกันตามประสาพี่น้องก่อนกลับ” มันก็เป็นเรื่องปกตินะสำหรับการกอดการหอมการจุ๊บกันระหว่างพี่น้อง ไม่ใช่แค่จืดหรอก ขนาดไอ้เปรี้ยวเกลียดมันขนาดไหนเผ็ดยังเคยจุ๊บเลย
“สะ..แสดงว่าฉันเข้าใจผิด...เอ่อ...ขอโทษนะคะคุณเผ็ด” ควีนหน้าเจื่อนลงไปเล็กน้อย ก่อนเธอจะเบิกตาโพลงออกมาเหมือนเริ่มคิดอะไรออก
“ตายแล้ว! คือฉัน...ฉันเอาเรื่องนี้บอกดรีมด้วยน่ะสิ แถมยังส่งรูปที่คุณเผ็ดกับน้องชายจุ๊บๆกันไปให้ดรีมดูด้วย...”
“นี่เธอ! แอบสะกดรอยตามฉันเรอะ”
“ก็ฉันสงสัยนี่คะ”
แล้วที่ดรีมไม่ยอมพูดจากับเผ็ดเมื่อเช้าก็เพราะเรื่องนี้ด้วยใช่ไหมเนี่ย กลับไปต้องรีบไปอธิบายซะแล้วสิ เดี๋ยวนะถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าดรีมหึงเขาแน่ๆ ถึงได้เอาแต่นั่งเงียบหน้างอไม่ยอมพูดด้วย หึหึ น่ารักชะมัดเลย
“ฉันกลับละ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณเผ็ด...ฉันมีอีกเรื่องนึง...”
ดรีมที่รีบกลับคอนโดมาตั้งแต่บ่ายสาม ก็อาบน้ำทานข้าวทานยาแล้วรีบเข้านอนทันที เนื่องจากเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ มาหลับก็ตอนรุ่งเช้า ไปเรียนด้วยอาการมึนๆแถมยังปวดหัวหนักอีก นอนไปได้สักพักประตูห้องก็ถูกเปิดออก ดรีมสัมผัสได้ถึงเตียงที่ยวบลง แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลืมตาขึ้นมาเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่ายังไม่นอน ดรีมเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยที่ลืมโทรบอกตอนนี้ได้แต่หวังว่าเผ็ดคงจะไม่โกรธเขา สัมผัสจากฝ่ามือใหญ่ลูบผมเขาคล้ายกับกล่อม ความอุ่นจากมือทำให้ดรีมรู้สึกผ่อนคลายจนผล็อยหลับไปอีกที
เช้าวันเสาร์ก็ยังคงเป็นเช้าที่หม่นหมองสำหรับดรีมอยู่ดี หลังจากตื่นร่างบางก็จัดการทำความสะอาดภายในห้องคอนโดของเผ็ดให้เรียบร้อยเกือบหมดทุกโซน เว้นแต่ห้องนอนของเผ็ดที่ยังไม่ได้เข้าไป เพราะร่างสูงยังไม่มีท่าทีว่าจะออกมา สงสัยจะยังไม่ตื่น พอทำความสะอาดเสร็จดรีมก็เข้าครัวทำอาหารเช้ารออีกฝ่าย สักพักสิ่งออดหน้าห้องก็ดังขึ้น ดรีมจึงละมือจากการทำอาหารวิ่งไปเปิดประตู
“พี่ดรีม สวัสดีครับ” ร่างสูงตรงหน้าคือเปรี้ยวน้องชายคนเล็กของเผ็ดนั้นเอง ดรีมยิ้มรับก่อนจะเปิดประตูให้เด็กหนุ่มเข้ามา
“พี่เผ็ดยังไม่ตื่นอีกเหรอครับ”
“ยังครับ คุณเปรี้ยวทานข้าวเช้ามารึยัง ผมกำลังทำมื้อเช้าให้คุณเผ็ดพอดีเลย”
“ยังเลยครับ หิวจนไส้กิ่วอยู่แล้ว” เด็กตัวยักษ์เบะปากก่อนจะยกมือลูบท้อง
“เอ่อ..ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณเปรี้ยวเข้าไปปลุกคุณเผ็ดทีครับ เดี๋ยวผมจะตั้งโต๊ะรอ”
“รับทราบครับ!”
ไม่นานเด็กยักษ์ก็ออกมาพร้อมกับพี่ชายที่มีสภาพเหมือนยังไม่ตื่นเต็มที่ ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด แถมยังใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวอีกจะโชว์หุ่นไปถึงไหนกัน ร่างสูงเดินมานั่งประจำที่ก่อนจะหยิบแซนวิชทูน่าเข้าปากไม่พูดไม่จา
“นี่พี่เผ็ด” เปรี้ยวกระตุกแขนพี่ชายตัวเองเบาๆ อีกฝ่ายจึงหันมาทำตาดุใส่น้องอย่างเคืองๆ
“วันนี้เปรี้ยวชวนพี่ดรีมไปเที่ยวได้ป่ะ”
“ไปเที่ยวไหนล่ะ แล้วเขาอยากไปกับมึงรึเปล่า ไอ้เปรี้ยว” พี่ชายเอ่ยถามก่อนจะชำเลืองมองร่างบางที่นั่งฝั่งตรงข้าม
“ไปห้างใกล้ๆนี่แหละ พี่ดรีมไปเป็นเพื่อนเปรี้ยวหน่อยสิ นะครับนะ” เด็กยักษ์ส่งสายตาอ้อนวอนมาทางดรีม
“อะ...เอ่อ...ผมแล้วแต่คุณเผ็ดครับ”
“อยากไปก็ไปสิ กูไม่ได้ว่าอะไร” ร่างสูงเอ่ยอนุญาตพร้อมกับกัดแซนวิชที่เหลือเข้าก่อน
ให้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ ปกติแค่ขอลงไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างยังไม่ค่อยอนุญาตเลย นอกจากเจ้าตัวจะไปกับดรีมด้วย แต่วันนี้มาแปลกยอมให้ไปเที่ยวกับเปรี้ยวแบบง่ายๆซะอย่างนั้น
“พี่เผ็ดไม่ไปไหนเหรอ”
“กูมีธุระทั้งวัน มึงก็พาดรีมไปเที่ยวกลับค่ำๆก็ได้”
“ได้เลยครับ ผมจะดูแลพี่ดรีมอย่างดีเลย”
มันแปลกจริงๆนะ...หรือว่าดรีมคิดไปคนเดียว
เปรี้ยวพาดรีมมาเดินเล่นห้างใกล้ๆคอนโด เดินดูนู้นดูนี่สักพักก็พาเขาไปดูหนังต่อ พอออกจากโรงหนังก็ปาไปห้าโมงเย็นแล้ว ดรีมก็อยากจะบอกเปรี้ยวอยู่เชียวว่ามันเริ่มค่ำแล้วควรกลับคอนโดได้แล้ว เดี๋ยวเผ็ดจะดุเอา แต่เจ้าเด็กยักษ์ก็ยังเพลิดเพลินกับการเดินดูของกระจุกกระจิกนู้นนี้อยู่ไม่ยอมพาดรีมกลับสักที พอถึงหกโมงเย็นเปรี้ยวก็งอแงอยากกินไอติม ดรีมก็ยอมตามใจพาเปรี้ยวไปนั่งกินไอติมจนเวลาล่วงเลยมาหนึ่งทุ่มเศษ เจ้าเด็กยักษ์จึงพาเขากลับแต่โดยดี
“อืม...พี่เผ็ดเหรอ...กำลังกลับนะ...อยู่หน้าคอนโดแล้วล่ะ...ครับ” ถึงหน้าคอนโดเปรี้ยวก็โทรรายงานพี่ชายก่อนจะพาดรีมขึ้นลิฟท์ไป
พอถึงหน้าห้องเปรี้ยวก็กดออดก่อนจะใช้คีย์การ์ดที่พี่ชายเอาไว้ให้เปิดประตูเข้าไป ดรีมเองก็ยังงงกับพฤติกรรมของเปรี้ยวไม่หาย จะกดออดทำไมถ้ามีคีย์การ์ด เจ้าเด็กยักษ์หันมายิ้มให้ก่อนจะดึงตัวดรีมเข้าห้อง ภายในห้องเงียบและมืดเอามากๆสงสัยคุณเผ็ดจะยังไม่กลับมา...
ปุ๊! ปัง!
“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู”
เสียงร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงของเผ็ดที่กำลังถือเค้กก้อนโตเดินมาที่เขา แสงเทียนที่ปักอยู่ในเค้กทำให้ดรีมเห็นหน้าของร่างสูงชัดเจนทีเดียว ไม่มีคำพูดใดๆมีเพียงรอยยิ้มจากร่างสูงที่ส่งมาให้ดรีม ความรู้สึกหม่นหมองที่มีมาตลอดสองวันที่ผ่านมาหายไปจนหมด รอยยิ้มของคนตรงหน้าทำให้ครีมยิ้มออกมาได้ หัวใจที่เหี่ยวเฉาก็กลับมาเต้นรัวอีกครั้ง
“เป่าสิ” คนตรงหน้าดรีมเอ่ยขึ้น ร่างบางจึงหลับตานึกอธิษฐานในใจก่อนจะก้มลงเป่าเปลวเทียนที่ปักอยู่บนเค้ก
“ฟู่วว”
“เย้”
เสียงเฮของคนหลายคนร้องขึ้นพร้อมกับไฟภายในห้องที่สว่างวาบขึ้นมา จากตอนแรกที่เห็นเพียงร่างสูงของเผ็ด พอไฟสว่างดรีมถึงกับอึ้ง มองไปยังด้านหลังของเผ็ดมีควีนเพื่อนสนิทของเขา เปรี้ยว ผู้ชายร่างสูงอีกสองคนไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ก่อนสายตาดรีมจะไปสะดุดกับร่างเล็กของอีกคนที่ค่อยๆโผล่มาจากหลังของเผ็ด เด็กคนนี้ที่จูบกับเผ็ด...
เด็กหนุ่มร่างเล็กผิวขาวจัดหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มคล้ายเด็กผู้หญิงเดินเข้ามาหาดรีม ก่อนจะยกมือไหว้อย่างมีมารยาท ร่างเล็กตรงหน้ายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ มองอย่างไรก็น่ารักไปซะหมด
“สวัสดีครับพี่ดรีม น้องชื่อ‘จืด’นะครับเป็นน้องชายพี่เผ็ด”
“นะ...น้องชายเหรอ”
“ครับ จืดขอโทษนะที่ทำให้พี่ดรีมเข้าใจผิด ต่อไปจืดจะไม่จุ๊บๆกับพี่เผ็ดอีกแล้ว เดี๋ยวพี่ดรีมจะหึงเอา”
“เอ่อคือ...” ดรีมถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ไม่ใช่ว่าหึงเผ็ดหรอก แต่เป็นเพราะว่าไม่รู้ก็เลยคิดว่าเผ็ดมีแฟนอยู่แล้วต่างหาก เลยทำให้ซึมๆไป
“ดรีมมมมมมมม ฉันเองก็ขอโทษนะที่ทำให้แกรู้สึกแย่ ฉันทำไปเพราะห่วงแกกลัวแกจะโดนหลอก ฉันก็เลยตีตนไปก่อนไข้” เพื่อนสาวคนสนิทเดินเข้ามาควงแขนดรีม เธอเบะปากเหมือนจะร้องไห้ ดรีมจึงยกมือลูบหัวเบาๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณควีนมากนะที่เป็นห่วงเรา”
“ถ้าอย่างนั้นก็หายโกรธกูได้รึยัง” ร่างสูงพูดขึ้นบ้าง
“ผ..ผมไม่ได้โกรธสักหน่อย ก็แค่...เอ่อ...”
“เอาไว้คุยกันทีหลังดีกว่าเรื่องของครอบครัว ตอนนี้กูหิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว” เพื่อนคนนึงของเผ็ดพูดขึ้น เขาเดินแทรกออกมาจากด้านหลังของเผ็ดก่อนจะยิ้มอย่างสดใสให้ดรีม
“สวัสดีครับ ผมชื่อกายเป็นเพื่อนไอ้เผ็ดมัน ส่วนไอ้คนนู้นชื่อภาคินก็เป็นเพื่อนไอ้เผ็ดอีกเช่นกัน” กายรีบเข้ามาแนะนำตัวกับดรีมพร้อมกับชี้นิ้วไปยังร่างสูงอีกคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง ภาคินพยักหน้ามาทีนึงกรายๆว่าเออนั้นแหละชื่อของเขา
“แล้วควีนมาได้ยังไง..เอ่อ...แล้วคุณเผ็ดรู้จักวันเกิดผมได้ยังไงครับ”
“เมื่อวานคุณเผ็ดไปรับแกที่คณะแต่แกกลับก่อน ฉันเห็นพอดีก็เลยบอกคุณเผ็ดว่าวันนี้วันเกิดแก ฉันกับคุณเผ็ดเลยวางแผนจะเซอร์ไพรส์น่ะ” ควีนอธิบายเรื่องทั้งหมด
“คุณเผ็ดก็เลยให้คุณเปรี้ยวพาผมไปเที่ยวทั้งวันน่ะหรือครับ”
“อืม...ถ้ามึงอยู่ห้องจะจัดห้องจะได้ยังไงกันล่ะ เลยต้องล่อให้ออกไปก่อน”
จริงๆแล้วดรีมเองก็เอาแต่คิดมากจนลืมวันเกิดตัวเองไปเลย พอเจอแบบนี้ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง และดรีมก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่างานวันเกิดเล็กๆของเขาเผ็ดจะเป็นคนคิดทำเซอร์ไพรส์ ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีงานวันเกิดแบบนี้สักครั้ง มีแค่ออกไปทานข้าวข้างนอกกับครอบครัวเท่านั้น และวันนี้เผ็ดก็ได้ทำให้ดรีมมีความสุขมากๆ ไม่มีคำพูดไหนที่จะอธิบายความสุขที่มีเอ่อล้นเต็มหัวใจ ไม่มีคำพูดไหนที่จะสวยหรูเท่ากับ...
“ขอบคุณครับ”
‘ขอบคุณที่มาเป็นความสุขของผม’
TBC.
talk ; ตอนนี้ก็แฮปปี้! และแล้วน้องจืดก็ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ