My Boyfriend is a Zombie 1
อัฐเป็นซอมบี้ที่แปลกมาก ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ซอมบี้เข้าครองเมือง ผมเพิ่งเคยได้เจอซอมบี้แบบอัฐเป็นครั้งแรก
ผมอายุ 28 ปีเป็นประชากรรุ่นแรกที่เจอเหตุการณ์ผู้คนติดเชื้อเลยก็ว่าได้ ครอบครัวผมเป็นทหาร เพิ่งมีน้องชายพ่อที่ออกจากการรับราชการทหารมาเป็นคนรักของนักการทูต พ่อของผมเป็นนายพล ในวันที่โรคระบาดยากเกินกว่าจะควบคุม ผมกับแม่อาศัยอยู่ที่บ้านพักตากอากาศกับน้าสาวและเจนลูกสาวของเธอ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุแปดขวบ พวกเราถูกฝูงซอมบี้ที่เพิ่งติดเชื้อห้อมล้อมเอาไว้ พวกมันต่างวิ่งกรูกันเข้ามาเพื่อแพร่เชื้อ พ่อของผมส่งเฮลิคอปเตอร์ของทัพอากาศมารับได้ทันในวินาทีสุดท้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป น้าถูกกัดและถูกทิ้งให้อยู่ที่นั่น
ผมกับแม่และเจน... เราสามคนพร้อมกับผู้รอดชีวิตถูกพามายังฐานทัพเรือที่ลอยลำอยู่นอกเขตลองไอแลนด์ ที่นั่นเป็นเขตปลอดเชื้อ เป็นหนึ่งในฐานบัญชาการทางน้ำที่ทางการจัดเตรียมเอาไว้หากเกิดภาวะฉุกเฉิน
รัฐบาลได้เตรียมแผนรับมือสำหรับเหตุไม่คาดฝันมานานแล้ว และครอบครัวผมที่มีเส้นสายทั้งในและนอกรัฐสภา ต่างก็เตรียมตัวกันพร้อม รอจนถึงวันที่โรคระบาดไม่อาจควบคุมได้จริงๆ พ่อของผมจึงส่งคนมารับ
ผมละทิ้งฐานะคุณชาย เริ่มจับปืนตั้งแต่ตอนนั้น เจนเองก็เรียนหนังสืออยู่บนเรือนั่น บนฐานทัพเรือ เด็กทุกคนต้องทำงาน ไม่เรียนหนังสือก็ต้องฝึกการต่อสู้ ผมจับมีดถือปืนมาตั้งแต่อายุแปดขวบ ฝึกต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อป้องกันตัวทั้งจากคนเป็นและจากฝูงซอมบี้ เรียนหนังสือ ฝึกขับเครื่องบิน ขัดพื้น แม่ซึ่งเป็นลูกสาวนักธุรกิจก็เริ่มหันมาจับมีดทำอาหารเพื่อแบ่งเบาภาระบนเรือ
ความร่ำรวยและอภิสิทธิ์ในอดีตไม่มีค่าบนเรือแห่งนี้ ทุกๆ ปีทหารบนเรือจะผลัดกันออกไปช่วยเหลือคนเป็นและหาเสบียงอาหารที่ยังพอหาได้ พอคนกลุ่มใหม่เข้ามาพวกเขาจะถูกย้ายไปอยู่บนเกาะปลอดเชื้อเพื่อฝึกซ้อม คนเป็นบางกลุ่มที่ไม่สามารถออกไปหาอาหารหรือต่อสู้ร่วมกับทหารได้ พวกเขาจะต้องเลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก นำวัตถุดิบที่ได้เหล่านั้นส่งกลับมายังฐานทัพเรือ แลกกับพวกเสื้อผ้า นมผม ยา ผ้าอ้อม หรือแม้แต่ผ้าอนามัย
พวกเราใช้ชีวิตอยู่บนเรือแคบๆ สลับกับกลับขึ้นเกาะแบบนานๆ ครั้ง ในตอนที่ประชากรคนเป็นบนเกาะเริ่มมีมากขึ้นจนแออัด รัฐบาลจึงเริ่มแผนการกวาดล้างซอมบี้ ยารักษาซอมบี้ ไม่ใช่คำตอบของปัญหาในขณะนั้น พวกเราต้องเร่งฉกชิงพื้นที่ทางการเกษตรกลับมา ต้องสร้างที่พักอาศัย ต้องหาแหล่งผลิตอาหารให้กับมนุษย์ ดังนั้นการรักษาคนที่ติดเชื้อจึงเป็นเรื่องรอง
ผมถือปืนลงไปกวาดล้างซอมบี้ร่วมกับเพื่อนๆ บนเรือตั้งแต่อายุสิบสี่ปี ยิงหัวซอมบี้ตัวแรกก็ตอนนั้น พวกซอมบี้อาจดูเหมือนฝูงสัตว์ป่าที่น่ากลัว แต่ไม่ว่ายังไง พวกมันก็ไม่ใช่มนุษย์ พวกมันไม่มีสติปัญญา ไม่มีการวางแผนการ ดังนั้นเมื่อพวกมันกรูกันเข้ามาเราก็แค่ตั้งรับ ยิงหัวซอมบี้ทุกตัวที่กล้าดาหน้าเข้ามา กลิ่นพวกมันน่าขยะแขยงและชวนอ้วก กลิ่นเนื้อเน่าของพวกมันมักลอยมากับสายลมจนผมไม่อยากอาหารไปหลายวัน แต่พอนานวันเข้าผมก็ปรับตัวได้ ฆ่าฝูงซอมบี้ที่เคลื่อนตัวเข้ามาทีละร้อยถึงสองร้อยตน
ยังดีก่อนเชื้อร้ายจะแพร่ลุกลาม รัฐบาลกักตุนยากับอาวุธเตรียมเอาไว้ก่อนแล้ว พวกเราจึงสามารถมีกระสุนไว้เด็ดหัวซอมบี้อย่างเหลือเฟือ ซอมบี้กลุ่มไหนโง่หน่อย เราก็จะหลอกล่อให้ตกลงมาในหลุม แล้วใช้ไฟเผาพวกมันทั้งอย่างนั้น เมื่อทำการเก็บกวาดซอมบี้ออกจากอาณาเขตที่เราต้องการหมดแล้ว ที่เหลือเราก็สร้างกำแพง
พื้นที่เขตมอนทอคถือเป็นพื้นที่ถัดมาที่เราทำการกวาดล้าง ที่นั่นมีลักษณะเป็นแหลม มีช่วงคอดที่ง่ายต่อการสร้างกำแพง เส้นทางไฮเวย์ที่มีอยู่สายเดียวระหว่างเกาะกับแหลมเราก็ทำการระเบิดทิ้ง ซอมบี้ว่ายน้ำไม่เป็น เพื่อพวกมันตกน้ำ นอกจากออกซิเจนในน้ำจะไม่มากพอ ร่างกายของซอมบี้ก็ไม่ทนกับความเค็มของน้ำทะเลด้วย
ดังนั้นเมื่อไม่มีทางให้พวกมันเดิน พวกมันก็ไม่ทางผ่ากำแพงเข้ามาในเขตเมืองเพื่อเข้ามาทำอันตรายส่วนการเดินทางเข้าออกนอกเขต พวกเราก็จะใช้วิธีการโดยสารด้วยเรือ หรือไม่ก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของฐานทัพ
สำหรับเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ผ่านมายี่สิบปี ตอนนี้เมืองหลวงถูกย้ายไปอยู่ที่มอนทาน่าแล้ว ที่นั่นอากาศหนาวเย็น ประชากรน้อย จำนวนผู้คนที่ติดเชื้อมาแต่ดั้งเดิมก็มีน้อยกว่าพื้นที่อื่น รัฐบาลจึงส่งทหารกล้าตายอีกหนึ่งกลุ่มเข้าไปบุกยึดพื้นที่คืน ที่นั่นรัฐบาลออกแบบและวางแผนสร้างกำแพงเมืองให้แบ่งออกเป็นสองชั้น เขตเมืองหลวงชั้นนอก เป็นเขตพื้นที่ที่ใช้การเฝ้าระวังภัย ทำการเกษตรและการปศุสัตว์ ส่วนเมืองเมืองหลวงชั้นในจะเป็นเขตที่พักอาศัย โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ที่ว่าการฯ และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ก็มีอยู่ครบ
ส่วนเขตพื้นที่รอบๆ อุทยานแห่งชาติ Yellow stone ที่นั่นรัฐบาลสร้างกำแพงหนาสูงเท่ากับตึกสี่ชั้นเพื่อใช้ที่นั่นเป็นฐานปฏิบัติการณ์หลักของกองทัพภาคพื้นดิน แยกส่วนหนึ่งออกมาให้เป็นเอกเทศออกจากฐานทัพ เพื่อจัดตั้วเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน
ส่วนฐานทัพทางน้ำ เรายึดพื้นที่บริเวณปากอ่าวซีแอดเติลให้เป็นที่ตั้งฐานทัพเรือหลักแทนฐานทัพใหญ่ในVirginia
คนในครอบครัวของผม รวมถึงน้องชายของพ่อกับคนรักก็อาศัยอยู่ที่เมืองหลวงแห่งใหม่แห่งนั้น พวกเราย้ายเข้าไปอยู่ในเขตพื้นที่ปลอดภัยแทนที่จะอยู่บนเรือ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาเพื่อช่วยเหลือคนเป็นและหาของจำเป็นกลับเข้ามาสู่ฐานทัพ
ผม เจน และบรูซ เราสามคนมักอยู่กลุ่มเดียวกันในเวลาออกลาดลาดตระเวน เจนเป็นหมอทหารประจำกลุ่ม ส่วนบรูซ... เขาเป็นลูกชายของอดีตนาวาอากาศโทที่เสียไปแล้ว บรูซเป็นคนเก่ง แต่เขาค่อนข้างหัวรุนแรงอยู่พอควร ดังนั้นตอนที่เห็นอัฐวิ่งปนเข้ามากับซอมบี้ตัวอื่น บรูซจึงกระหน่ำไม่ยั่ง
ผมคบและรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนอยู่บนฐานทัพเรือ แต่จะเรียกว่าสนิทกันก็คงไม่ได้ บรูซเป็นคนหัวฝ่ายขวาเต็มตัว ผิดกับผมที่เป็นฝ่ายซ้าย
บรูซยึดถือคำสั่งของหัวหน้าปฏิบัติการเป็นที่ตั้งทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อมีคำสั่งลงมา ต่อให้ต้องฆ่าคนเป็นเพื่อปกป้องความปลอดภัยของเขต เขาก็สามารถปฏิบัติการได้ทันทีโดยไม่มีลังเล
แต่เรื่องนี้... จะมาโทษบรูซเพียงฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะสมัยที่เพิ่งมีการเริ่มเปิดเมือง ผมเคยประจำการอยู่ที่หน้าด่านบริเวณกำลังแพงอยู่สองสามปี ตอนนั้นคนเป็นบางกลุ่มที่พากันอพยพเข้ามาสู่เมืองหลวงแห่งใหม่ บางคนมีการลักลอบพาคนรักหรือคนในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อผ่านเข้ามาในเขตปลอดภัยด้วย พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองอาจทำคนอื่นเดือดร้อน ความผูกพันธ์ ความอาลัยอาวรณ์เป็นเหตุผลที่ทำให้พวกคนเหล่านี้สิ้นคิด
พวกเขาพาคนตัวเองที่ถูกกัดมาแล้วปะปนมากับเสบียงหรือสัมภาระกองโต การติดเชื้อซอมบี้จะต้องใช้เวลาสามวัน คนที่ถูกกัดจะติดเชื้อโดยสมบูรณ์ ดังนั้นขอแค่มัดผู้ติดเชื้อให้ดี ทำให้ผู้ยอมนอนอยู่นิ่งๆ แค่นั้นผู้ติดเชื้อก็อาจเล็ดลอดสายตาของหน่วยทหารตรวจตรา
แต่เหตุการณ์ในวันนั้น ผมจำได้ติดตา เด็กสาวผมบลอนด์อายุ 12 ปี เธอกระโดดออกมาจากลังสินค้า ตอนนั้นเธอติดเธอโดยสมบูรณ์แล้ว และเริ่มกัดกลุ่มคนเป็นที่กำลังทยอยเดินผ่านเข้าแพง
เราสั่งปิดกำแพงทันที และผมกับเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องยิงเธอและคนที่เธอกัดทิ้ง ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย คนที่ถูกกัดจึงมีแต่ต้องตาย แต่พ่อของเด็กสาวที่ลักลอบพาเธอเข้ามากลับหันปืนพกมายิงใส่พวกเรา ปลุกระดมกลุ่มคนอพยพที่มีปืนให้ฆ่าพวกเราตอบกลับ เขากล่าวหาพวกเราว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ซึ่งไม่ยังไม่ติดเชื้อ
ตอนนั้นบรูซโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขายิงเด็กสาวติดเชื้อคนนั้นและฆ่าเจาะกะโหลกคนเป็นพ่อตาม กว่าเหตุการณ์ความวุ่นวายในบริเวณหน้าด่านจะจบลง ก็มีคนถูกกัดไปแล้วสามคนและถูกพวกเรากำจัดแล้ว มีเจ้าหน้าที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกกระสุนจากฝูงชนยิงใส่จนบาดเจ็บและเสียชีวิตไปอีกนับสิบราย และในจำนวนนี้ก็ยังไม่นับรวมกับศพคนเป็นที่ถือปืนยิงทหารในระยะประชิด คนพวกนั้นถูกสไนเปอร์ที่ซุ่มอยู่บนแพงยิงทิ้งเพื่อปกป้องความปลอดภัยของคนส่วนใหญ่และพวกพพ้อง
ความเสียหายในเหตุการณ์ตอนนั้น มีผู้บริสุทธิ์จริงๆ ต้องจบชีวิตลงในจำนวนที่เกินกว่าที่รัฐบาลจะรับได้
บรูซและทหารที่สังหารคนเป็นถูกจับขึ้นศาลทหารในข้อหากระทำเกินกว่าเหตุ แต่ตอนหลังข้อกล่าวนั้นก็ถูกปัดไป เพราะถือว่าเป็นการป้องกันตัวและทำไปเพื่อปกป้องประโยชน์ของคนส่วนรวม
และเพื่อปกป้องเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นซ้ำสอง รัฐบาลจึงออกคำสั่งให้ตรวจตราคนทุกคนและของทุกชิ้นอย่างเข้มงวด กล่องทุกกล่องต้องถูกสแกน คนที่มีไข้ แม้จะไม่มีร่องรอยการถูกกัดหรือตัดเชื้อก็ต้องถูกกันไว้ในศูนย์ควบคุมโรคที่อยู่นอกกำแพง ถ้าไม่มีการติดเชื้อ พวกเขาจึงได้รับอนุญาติให้กลับเข้ามาในเขตกำแพงกหลังจากนั้น
สำหรับคนที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม รัฐบาลอนุญาตให้เราสังหารคนที่ความเสี่ยงกลุ่มนี้ได้ทันทีเพื่อปกป้องคนส่วนรวม ดังนั้นทุกปีๆ ผมต้องฆ่าคนเป็นที่พยายามฝ่าเข้ามาไม่ต่ำกว่าร้อยชีวิต พ่อบอกผมว่า เราจำเป็นต้องทำ เจนบอกผมว่าเราไม่มีทางเลือก ส่วนบรูซ... เขายึดถือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างไม่มีอิดออด ใครกล้าผิดกฏเขาก็กล้ายิงทิ้ว
ผมทนทำงานอยู่ที่กำแพงสามปี ก่อนขอย้ายไปอยู่เข้าสู่หน่วยลาดตระเวน เจนกับบรูซก็ย้ายตามผมมาในตอนนั้น บรูซหลงรักเจนข้างเดียวมานานแต่เขาก็ไม่เคยบอกให้ใครรู้ ส่วนเจนเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว พวกเขาพบกันหลังจากที่เขามาอยู่ในเขตกำแพง ผมที่ตรงกลางระหว่างคนสามคน นอกจากจากเป็นเพื่อนและญาติที่ดี ผมก็ไม่เคยยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพวกเขามากนัก เพียงแค่เมื่อตอนที่บรูซเมาหลังจากเจนประกาศหมั้น ผมเป็นคนพาบรูซกลับที่พัก และนั่นถึงได้รู้ว่าบรูซแอบหลงรักเจนมานาน
ดังนั้นในตอนที่การปฏิบัติการลาดตระเวนครั้งนี้เกิดการผิดพลาด แม้จะต้องตาย ผมกับบรูซก็ยังเลือกที่จะปกป้องเจน ยังดีที่อัฐโผล่มาช่วยพวกเราก่อน พวกเราถึงได้รอดชีวิต
และหลังจากที่อัฐล้างมือล้างปากเสร็จหลังกินปลาสดๆ เสร็จ อัฐก็เดินมาทางผม ชี้ไปสระปลาเพื่อสั่งให้ผมตักปลาขึ้นมาอีกรอบ ตอนแรกผมนึกว่าเขาอยากกินปลาอีกแต่ไม่มีปัญญาจับเอง แต่ปรากฏว่า เขาสั่งให้ผมหิ้วถังปลามาฝากเจนกับบรูซ
อัฐดูกระตือรือร้นมากเวลาที่ได้สนทนากับเจน เขาแนะนำตัวเองกับเจนโดยการใช้นิ้วเขียนตัวอักษรบนโต๊ะในห้องครัวทีตัว
A U Tเขาแนะนำตัวเองว่าอย่างนั้น
ผมไม่รู้ว่ามันเป็นภาษาของชาติใด แต่ก็พอจะเดาออกว่าน่าจะเป็นหนึ่งในภาษาเอเชีย เพราะอัฐเหมือนคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก
เมื่อได้รับการแนะนำตัว เจนจึงแนะนำตัวเองกลับ เขาแนะนำชื่อผมกับกับบรูซที่ละคน แล้วเริ่มลงมือทำความสะอาดปลา
เจนเองก็ดูทำใจได้ที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับซอมบี้ แต่นั่นอาจเป็นเพราะอัฐไม่ดูคุกคาม แถมยังใจดีแบ่งปลาที่เลี้ยงมาให้
“อัฐ คุณมีพวกเครื่องเทศไหม ฉันจะเอามาใส่ปลา” เจนถามหลังจากที่ขอดเกล็ดปลาเสร็จแล้ว ห้องครัวอัฐสะอาดเหมือนกับตัวบ้าน ภายในห้องครัวของอัฐมีอุปกรณ์ทำครัวครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมีด ช้อน จามชาม เครื่องปั่น ไปจนถึงที่ปิ้งขนมปัง
อัฐส่ายหัวแทนคำตอบก่อนเปลี่ยนเป็นพยักหน้า เขาเดินไปที่ด้านหนึ่งของครัว เปิดประตูชั้นวางของออกแล้วหยิบเกลือออกมา เกลือเป็นของที่ไม่มีวันหมดอายุ และเจนเองก็พอใจที่อย่างน้อยก็มีเกลือเป็นส่วนประกอบในการปรุงรส เจนจัดการแล่ปลา โรยเกลือเล็กน้อยก่อนส่งเข้าเตาอบที่อุ่นรอเอาไว้ ส่วนผมกับบรูซที่ว่างงาน อัฐก็เดินเฉียดตัวผมอีกครั้ง ส่งสัญญาณให้ผมกับบรูซที่ยังไม่ได้ล้างตัว หาศพซอมบี้มาแขวนตามที่กำแพง
การกระทำแบบนี้มันอาจจะดูโหดร้ายและไม่เคารพคนตายไปนิด แต่คนตายคงไม่คิดเล็กน้อยเท่ากับคนเป็น และการมีคนเป็นสามคนอยู่ในบ้านถึงคน การกลบกลิ่นเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการยืนยามมาก
อัฐยืนชี้นิ้วสั่งการเราสองคนให้ไปลอบยิงซอมบี้ที่วนๆ เวียนๆ อยู่แถวนี้ พอได้ศพมา เขาก็ยืนอยู่ใต้ลม สั่งให้ผมแขวนศพ ส่วนตัวเองดมกลิ่นว่าศพ ดูว่าซอมบี้ถูกเอามาแขวนจะพอจะกลบกลิ่นคนเป็นได้ไหม
บรูซหงุดหงิดหัวเสียที่ถูกอัฐใช้งาน แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงทำได้ทำตามสลับกับสบถเบาๆ
รอจนเราแขวนศพซอมบี้เสร็จเรียบร้อย อัฐก็ไล่ผมกับบรูซที่ตอนนี้ตัวสกปรกมากกว่าไปอาบน้ำฟอกสบู่ตรงที่สนามหญ้า เขาให้เหตุผล (เท่าที่เราจะสื่อสารกันได้) ว่า ผมกับบรูซเป็นผู้ชาย ดังนั้นต่อให้อาบน้ำข้างนอกก็ไม่เห็นต้องอาย แถมอาบน้ำข้างนอก ห้องน้ำในบ้านก็จะได้ไม่สกปรกเลอะเทอะ
ผมเงียบไปหนึ่งอึดใจในความรักสะอาด(และความลำเอียง) ของอัฐ ส่วนบรูซสบถหยาบคายด่าอัฐไปเรียบร้อยแล้ว น้ำในสายยางข้างสนามหญ้า ป่านนี้เย็นจัดจนเกือบจะเป็นน้ำแข็งเพราะใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว แต่พอผมเห็นอัฐถอดเสื้อเหลือกางเกงบ็อกเซอร์ และเริ่มเปิดก๊อกน้ำอาบแบบที่ไม่แคร์สายตาใคร ในฐานะผู้มาขอพักอาศัย ผมก็ได้แต่ถอดเสื้อออกและอาบน้ำตาม
ในระหว่างที่อาบน้ำ ผมเองก็แอบสำรวจดูรูปร่างและร่างกายของอัฐไปด้วย ไม่ใช่ว่าผมอยากจะลวนลามซอมบี้ แต่อัฐก็เป็นซอมบี้ที่แปลกเกินไปจริงๆ ถ้าไม่มีรอยกระสุนปืนที่เพิ่งถูกผมยิงมา ผมคงเชื่อว่าอัฐเป็นมนุษย์ เขาตัวขาวซีด รูปร่างสมส่วน มีกล้ามเนื้อ มีเส้นเลือดสีน้ำเงินโผล่ออกมาพอให้เห็นประปรายภายใต้ผิวขาวเนียน และนอกจากรอยแผลที่ถูกกัดจนเป็นรอยนูนเด่นชัดสามสี่รอย นอกนั้นผมก็แทบไม่เห็นริ้วรอยอื่นๆ ไม่มีบาดแผลหรือเนื้อเน่าที่พร้อมจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ อย่างพวกซอมบี้ตนอื่นที่ผมเคยเห็นจนชินตา และถ้าให้วิเคราะห์จากรูปร่างหน้าตา อัฐคงอายุแค่ยี่สิบปีเท่านั้น ก่อนจะกลายมาเป็นมาซอมบี้
ผมกับบรูซอาบน้ำ ฟอกสบู่และสระผมเร็วๆ เพื่อลดความหนาว ส่วนอัฐที่ไม่สะทกสะท้านกับน้ำเย็นก็ค่อยๆ อาบ ค่อยๆ ถูสบู่ไปเรื่อยๆ รอจนผมกับบรูซอาบน้ำเสร็จแล้ว อัฐก็ยังอยู่ในขั้นตอนของการถูตัว เขาชี้ไปทางชั้นวางของที่อยู่ไม่ห่างจนผมเห็นผ้าขนหนูซักกับเสื้อผ้าที่ผ่านการซักมาแล้ว ผมกับบรูซเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว ใส่เสื้อผ้าและเตรียมเดินเข้าบ้าน เสื้อที่อัฐเตรียมไว้ให้เล็กไปหน่อย แต่ก็ไม่ถึงขั้นอึดอัดเพราะเป็นเสื้อผ้าขนาดฟรีไซด์
ผมหันกลับไปมองอัฐที่อยู่ตรงสนามหญ้าอีกครั้ง เพื่อตรวจดูว่าอัฐอาบน้ำเสร็จหรือยัง แต่พอหันไปเห็น ผมถึงได้รู้ว่าที่อัฐอาบน้ำช้าไม่เป็นเพราะเขารักสะอาด แต่น่าจะเป็นเพราะมือของซอมบี้ คงทำให้อัฐไม่สะดวกในการให้อาบน้ำหรือล้างตัวเท่าไหร่นัก
ผมถอนหายใจ เดินกลับไปหาอัฐตอนที่เห็นเขาทำท่าจะขูดหัว(สระผม)ตัวเอง อัฐสามารถควบคุมและสั่งงานกล้ามเนื้อได้ก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้ไม่ดีเท่ากับมนุษย์ ผมเทยาสระผมที่หมดอายุแล้วลงบนฝ่ามือ ขยี้จนเกิดฟองและลงมือช่วยสระผมให้ อัฐสะดุ้งด้วยความตกใจเล็กน้อย แต่พอเข้าใจว่าผมจะช่วยสระผมให้ เขาก็นั่งลงกับพื้น แล้วปล่อยให้ผมสระผมได้ตามสบาย
ดีที่สมัยก่อน ผมเคยเลี้ยงหมาโกลเด้นรีทีฟเวอร์และเคยอาบน้ำให้มันมาแล้ว ดังนั้นการอาบน้ำให้ซอมบี้ (หรืออัฐ) จึงไม่ใช่เรื่องที่ลำบากมาก ผมหลีกเลี่ยงการสระผมบริเวณหน้าผากที่มีบาดแผลซึ่งกำลังสมานตัว เก็บความสงสัยไว้ในใจ แล้วล้างน้ำเปล่าในอัฐหลังจากใส่ครีมนวดผมแล้ว
และไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ทำมาถึงขนาดนี้แล้ว บริเวณแผ่นหลังที่อัฐเอื้อมมือมาทำความสะอาดไม่ถึง ผมก็ช่วยฟอกสบู่และขัดหลังให้อัฐอีกรอบ
ผิวของอัฐที่ผมสัมผัสได้ในตอนนี้เย็นจัดจากน้ำเย็นแต่ก็เรียบลื่น มันไม่ได้นุ่มลื่นเหมือนอย่างผิวของผู้หญิง หรือนุ่มนิ่มเหมือนกับผิวของมนุษย์ มันคล้ายๆ ผิวของตุ๊กตาพอซ์เลน(PORCELAIN) แต่นุ่มกว่านั้น ผมลูบ... เอ่ย ถูสบู่ให้อัฐจนทั่วตัว ก่อนจะล้างน้ำเปล่าและชช่วยอัฐเช็ดตัว เมื่อตัวแห้งอัฐก็เอาผ้าผันแผลมาพันแผลเพื่อป้องกันเสื้อผ้าเลอะ
แผลจากกระสุนของอัฐที่ถูกผมยิง ผิวบริเวณนั้นไม่ได้มีเลือดออกหรือคราบน้ำเหลืองไหลออกมาอีกแล้ว มันมีแต่มัดกล้ามเนื้อสีแดงๆ และใยขาวๆ ที่เริ่มเข้ามาปกคลุมแผลเอาไว้ทั้งหมด
ผมช่วยอัฐแต่งตัวในขั้นตอนสุดท้าย โกยเสื้อผ้าที่เลอะคราบซอมบี้ไปวางไว้แถวๆ กำแพงเพื่อเพิ่มกลิ่น และเพื่อว่าต้องเก็บไว้ใช้
พอล้างมือทำความสะอาดมือเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินกลับบ้าน ก่อนรวมวงเข้าไปทานอาหารที่เจนตัดแบ่งปลา และเตรียมจานให้ผมเสร็จเรียบร้อย
เนื้อปลาเทราต์จับสดใหม่โรยเกลือถือเป็นอาหารชั้นดีภายในอาณาบริเวณที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เนื้อปลาเทราต์นุ่มฉ่ำและมีมันกำลังดีกำลังดี ผมกินทีเดียวจนหมดจานก่อนจะขอปลาเพิ่ม
ในส่วนของอัฐ อัฐออกตัวแต่แรกแล้วว่าเขาไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ อัฐเพิ่งกินเนื้อปลาสดๆ ไปสี่ตัว แถมปลาแต่ละตัวก็ไม่ใช่ปลาตัวเล็กๆ ถ้าอัฐกินปลาไปขนาดนั้นแล้วยังไม่อิ่ม ตกกลางคืนผมคงต้องกังวลว่าอัฐจะมากินพวกผมแทนอาหารว่างไหม
และหลังจากมื้ออาหารจบลง ก็ได้เวลาที่เราสามคนต้องมานั่งคุยวางแผนต่อไปเป็นทางการเสียที พวกเรานั่งล้อมวงกันอยู่บนพื้นแถวๆ โซฟาภายในห้องรับแขก ไฟจากเตาพิงถูกจุดจดลุกโชนเพื่อให้ความอบอุ่นแทนการใช้เครื่องทำความร้อน อัฐขอตัวไปเดินเล่น ด้วยเหตุผลที่ว่ามีของที่ต้องออกไปออกเอา ผมเดาว่าเขาอยากให้พวกเราอยู่กันอย่างเป็นส่วนตัว แต่บรูซกลับกลัวว่าอัฐจะไปเพื่อนมา เขาเสนอว่าเราควรเด็ดหัวอัฐทิ้งแล้วเอาศพของเขาไปแขวนไว้ที่กำแพงรวมกับพวกซอมบี้
"บรูซ!" เจนเหวเสียงดังทันที และผมเองก็ไม่เห็นด้วย เรารอดจากเหตุการณ์เฉียดตายมาได้เพราะมีอัฐคอยช่วยเหลือ อาหารการกินหรือแม้แต่เสื้อผ้า อัฐก็ช่วยจัดหาให้
ดังนั้นต่อให้อัฐเป็นซอมบี้ ไม่ว่าเขาจะอันตรายกับมนุษย์หรือไม่ก็ตาม ถ้าหากเขาไม่คิดทำร้ายเราก่อน ผมก็ไม่เคยมีความคิดฆ่าคนที่ช่วยตัวเองไว้
“ฉันก็แค่เสนอ” บรูซยักไหล่
ผมไม่พอใจกับท่าทีขอไปทีของบรูซ แต่จะให้มาผิดใจกันในสถานการณ์แบบนี้ก็เห็นจะไม่มีประโยชน์อะไร ผมหันกลับไปคุยเจน ถามเจนว่า เธอคิดว่าอัฐเป็นยังไงบ้าง
“ไม่รู้สิ ฉันว่าเขาก็ดูเป็นเป็นซอมบี้ที่ดี เหมือนมนุษย์มาก แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นซอมบี้แบบเขามาก่อน เลยไม่แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัยจริงไหม”
“เธอแจ้งไปยังฐานหรือยัง ว่าพวกเรารอดชีวิต”
“แจ้งแล้ว ฉันแอบแจ้งฐานตอนที่อัฐพาพวกนายออกไปข้างนอก ฐานบอกว่าจะเร่งส่งคนมาช่วยพวกเราทันที เขาถามว่าพวกเราถูกเรากัดไหม ฉันตอบว่าไม่ ฐานถามเราว่า มีคนรอดชีวิตกี่คน ฉันบอกไปแค่เราสามคนเท่านั้น ส่วนควิน… ฉันไม่ได้พูดถึงเขา”
ควินคือผู้รอดชีวิตอีกคนจากเหตุเครื่องตก และเขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฮอร์ตกในครั้งนี้
“ฐานถามหรือเปล่าว่าทำไมฮอร์ถึงตก”
“ถาม แต่ฉันตอบไปว่าเป็นอุบัติเหตุ ฉันไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่ามีใครมีเป็นยังเป็นสายอีกบ้าง ปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ของเราควรเป็นแค่ภารกิจลาดตระเวนและเอาของมาเท่านั้น ฉันไม่คิดว่าเลยว่าควินจะทรยศ”
เจนพูดเสียงเศร้าจนผมต้องดึงเธอมากอด ทุกคนที่ออกปฏิบัติภารกิจด้วยกันในครั้งนี้ ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมตาย เราทำภารกิจอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง และไม่เคยมีครั้งไหนที่พลาด มีแต่ครั้งนี้เท่านั้นที่ทุกอย่างควรจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่มันความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเมื่อควินบังคับให้พวกเราบินออกนอกเส้นทาง
“แล้วแปลน….”
“ควินเอาไป แต่ฉันว่าเขาคงไม่รอด ซอมบี้ในแมนฮัตตันมีเยอะมาก ถ้าเขาไม่มีคนช่วยเหมือนกับอัฐที่ช่วยเรา ฉันคิดว่ายังไงเขาก็ไม่รอด ป่านนี้เขาคงถูกกัดและอยู่ในภาวะติดเชื้อแล้ว ไว้พรุ่งนี้… พวกเราค่อยให้อัฐช่วยพาพวกเรากลับไปที่ป่าดีไหม”
ผมสบสายตากับบรูซ ก่อนถูกบรูซปฏิเสธอย่างไม่ลังเล อัฐเป็นคนนอก บรูซไม่ไว้ใจให้อัฐรู้เรื่องราวของคนในฐานทัพ
“พรุ่งนี้เธอยื้ออัฐไว้ที่บ้าน ฉันกับบรูซจะกลับเข้าเอง เสื้อที่เราใส่พรางกลิ่นฉันยังไม่ทิ้ง มันคงเอากลับมาใส่ได้”
“อืม”
เมื่อไม่มีเรื่องอะไรให้พูดคุยเพิ่ม เราสามคนก็ผลัดก็ผลัดกันนอน เจนเป็นผู้หญิง ผมจึงให้เธอนอนใกล้ๆ ตัวภายในห้องรับแขกนี่ ส่วนตัวผมกับบรูซ เราสองคนสลับกันนอนช่วงสั้นๆ ครั้งละสองชั่วโมง และให้เจนอยู่กะสุดท้าย
รอจนถึงเวลาเที่ยงคืนและตีสอง อัฐก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมา ภายในบ้านก็เงียบกริบไม่มีแม้แต่เสียงหนูเดิน มีแต่เสียงลมกระทบหน้าต่างเบาๆ นั้น
ผมเติมฟืนเพิ่มในเตาผิงอีกเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนกับบรูซอีกรอบก่อนจะหลับมาลง
เราหลับๆ ตื่นๆ กันถึงรุ่งสาง ก่อนจะได้เสียงกรอกแกรกดังขึ้นที่หน้าประตูบ้าน เราสามคนตื่นกันเต็มตา มือถือปืน และเตรียมพร้อมจะยิงทุกอย่างที่กล้าเข้ามาในห้องนั่งเล่นแห่งนี้
แต่พอเห็นหน้าอัฐเดินเข้ามาพร้อมกับ "สิ่งของ"เต็มมือ เจนก็ตกใจจนอุทานเสียง
“อัฐ! คุณเอาอะไรกลับมาคะ!”
>>>ตอนหน้าซอมบี้จีบสาว 55555