35th Step : ท่วงทำนองรักในต่างแดน
[Leng]
ตอนนี้เวลาเกือบบ่ายสี่โมงเย็นแล้วครับ อาการหิวก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด ผมโทรศัพท์ไปขอลาหยุดเพิ่มอีกวัน ถึงจะโดนบ่นและตำหนิ แต่ด้วยความขยันที่ผ่านมา ก็ทำให้ได้รับอนุญาตในที่สุด
ไอ้อิงมาอยู่ที่นี่แค่สี่วัน แต่ผมคงลาหยุดยาวไม่ได้และจะให้รอจนถึงวันหยุดสดสัปดาห์ก็ไม่ทัน เพราะมันต้องกลับวันเสาร์นี้แล้ว ผมเลยมีเวลาให้มันเต็มที่แค่วันนี้กับพรุ่งนี้เท่านั้นครับ
ผมมองไอ้อิงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ก่อนที่มันจะขอนอน แล้วสั่งให้ผมปลุกตอนถึงเวลาอาหารเย็น ซึ่งผมจะเป็นคนทำทั้งหมดเองครับ
"พี่อิง กูออกไปซื้อของนะ"
"...อืม"
ผมมองคนที่นอนหลับตาตอบเล็กน้อย ก่อนจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่อ ผมใช้เวลาเดินเลือกของอยู่พักใหญ่ กว่าจะกลับถึงที่พัก พระอาทิตบ์ก็ตกดินแล้ว
วันนี้ผมจะโชว์ฝีมือด้วยการทำสเต๊กครับ หลังจากจัดเตรียมของครบ ผมก็เริ่มปรุงรสเนื้อสเต๊กด้วยกระเทียม พริกไทยและโรสแมรี ส่วนในการย่างก็ใส่เกลือและน้ำมันมะกอก ก่อนจะราดด้วยซอสสูตรพิเศษของคุณพอร์วิลสันพร้อมไข่ดาวน้ำที่แสนน่ากิน โดยที่มี
เครื่องเคียงเป็นสลัดและมันฝรั่งทอดครับ
ผมวุ่นวายอยู่ในห้องครัวราวชั่วโมง ในขณะที่กำลังเตรียมทุกอย่างใส่จาน เสียงของไอ้อิงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"ทำอะไร"
"ก็อาหารเย็นไง เจ๋งใช่ป่ะ"
ผมหันไปยิ้มให้อีกฝ่ายที่กำลังมองอาหารฝืมือของผมอย่างสนใจ ก่อนที่มันจะหันมามองผมต่อ
"ก็งั้นๆ"
"นี่เป็นฟิเลมิยองเลยนะ"
ผมลงทุนซื้อเนื้อสเต๊กชั้นเลิศมาทำ จะมองแล้วบอกแค่ 'ก็งั้นๆ' มันออกจะดูถูกกันไปหน่อยนะครับ
"หึ! ก็หวังว่าคงไม่เสียของ"
"โหย...มึงไม่ต้องกินเลยพี่อิง กูเคืองแล้วเว้ย"
ผมชักสีหน้าไม่พอใจออกมา ไอ้อิงก็ยกมือลูบหัวของผมเบาๆ ก่อนจะทำเมินด้วยการเดินจากไป
"นึกว่ากลายเป็นคนแล้ว แต่ก็ยังเป็นหมาเหมือนเดิม"
"ฮะ! หมายความไงวะ"
ผมได้แต่มองคนที่เดินห่างไปเล็กน้อย อันที่จริงผมก็ไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองอะไรหรอกนะครับ แค่แสดงท่าทางไปแบบนั้นเอง
คอยดูเถอะ! เจอเสน่ห์ปลายจวักของไอ้เล้งคนนี้แล้วจะอึ้ง!
ผมอมยิ้มกับตัวเองแล้วกลับมาสนใจอาหารที่เตรียมเอาไว้ต่อ เมื่อจัดจานเสร็จก็ยกออกไปเสิร์ฟ
..........
"เป็นไงวะ"
ผมมองคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาอยากรู้เต็มที่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำอาหารให้มันกินเลยนะครับ
"โอเค"
"แค่นี้?!"
ผมขมวดคิ้วมองไอ้อิง ทว่าอีกฝ่ายก็ยังทำหน้านิ่ง แล้วหั่นสเต๊กใส่ปากต่อด้วยท่าทางที่แสนจะปกดิตนน่าหงุดหงิด
"กูไม่ใช่นักวิจารณ์อาหาร แดกแล้วท้องไม่เสียก็โอเคแล้ว"
"พี่อิง!!!"
ผมตีหน้าบึ้งกับคำตอบ ก็ไม่ได้หวังให้มันเอ่ยยกยอปอปั้นอะไรนักหรอก แต่ก็ช่วยพูดให้กำลังใจหน่อยไม่ได้หรือไง
ไอ้เหี้ย!! ชมกูหน่อยแล้วเขามึงจะงอกหรือไงวะ!!!
ผมได้แต่ต่อว่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ ทั้งที่สเต๊กก็ออกจะเนื้อนุ่มละลายในปากขนาดนี้ แล้วไหนจะตั้งใจทำสุดฝีมืออีก ยังจะมีหน้ามากินเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรอยู่ได้
"ทำหน้าแบบนั้น สเต๊กที่ตัวเองทำไม่อร่อยหรือไง"
ผมจ้องเขม็งมองคนที่ยังมีหน้ามาถาม ก่อนจะหั่นสเต๊กคำใหญ่เข้าปาก แล้วเคี้ยวอย่างข่มอารมณ์
"ก็...พอกินได้!”
ประชดแม่งไปเลย! งอนแล้วโว้ย!
"เหรอ กูคงคิดไปเองว่าอร่อย สงสัยหิว"
อ่า...
"จริงเหรอวะ..."
ผมถามกลับแบบไม่เต็มเสียงนัก อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อครู่ก็ไม่รู้หายไปไหนหมด มีแต่อาการพองโตที่กำลังขยายออกอยู่ในใจนี่แหละ
"กูไม่ชอบพูดซ้ำ"
แม่ง! มาทำซึนใส่กูอีก
ผมได้แต่นั่งมองอีกฝ่ายกินโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ภายในใจก็นึกหมั่นไส้คนตรงหน้าเต็มแก่ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากยิ้มออกมา
หึ! หายงอนก็ได้
ผมมองไอ้อิงแบบเพลินๆ ไม่รุ้ว่าครั้งสุดท้ายที่ได้กินข้าวด้วยกันแบบนี้ตอนไหนแล้ว อาจจะเป็นสุกี้มื้อสั่งลาในวันนั้น
"แดกช้า"
"ฮะ?!"
ไอ้อิงไม่ได้สนใจท่าทีตกใจและงุนงงของผม นอกจากแย่งชิ้นเนื้อที่เหลืออยู่พร้อมกับเครื่องเคียงในจานของผมส่วนหนึ่งไปกินเองเฉย
"แหม...อร่อยมากเลยล่ะสิ"
ผมพูดหยอกไอ้อิงอย่างกวนประสาท ส่วนคนถูกแหย่ก็แค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วตอบโต้กลับเสียงเรียบ
"แค่รำคาญ ไม่แดกสักที"
"ก็อยากกินอย่างอื่นมากกว่า"
ผมส่งสายตาสื่อถึงความนัยอย่างยั่วอารมณ์อีกฝ่ายเล่น แล้วไอ้อิงก็รู้ดี มันถึงทำหน้าดุออกมาอย่างเคย
"ปากดี"
"พี่อิงคิดอะไร กูหมายถึงอยากกินของหวานต่างหาก วันนี้ทำเค้กกาแฟเอาไว้"
ผมหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างพอใจ เมื่อได้รับสายตาคาดโทษที่ส่งมาให้
แกล้งแฟนแล้วมีความสุขดีจัง...
.........
ตอนนี้เวลาสองทุ่มสิบห้านาที หลังจากท้องเริ่มย่อยอาหารจานหลักแล้ว ผมก็เตรียมเสิร์ฟอาหารหวานต่อ
ถึงเค้กกาแฟแบบโฮมเมดไม่ได้มีหน้าตาน่ากินอะไรนัก แต่ผมก็รับประกันเรื่องรสชาติได้นะครับ
"อันนี้มึงก็ทำเอง?"
"อืม แฟนมึงเก่งใช่ไหม"
ผมยักคิ้วส่งยิ้มให้ไอ้อิง ก่อนจะวางจานเค้กขนาดเล็กที่ด้านข้างมีไอศกรีมรสรัมเรซินจัดอยู่ด้วย
"สรุปมึงมาเรียนอะไร ทำอาหารเหรอ"
"ก็มาเรียนเรื่องวางแผนระบบงานให้บริษัทป๊ากับบริหารเสน่ห์ให้แฟน"
กงนตีนมา กูหยอดกลับ ไม่ยอมเว้ย!
ถ้าจะทำนิ่ง ก็อย่าหน้าแดงสิวะ ฮ่าๆ
ผมยิ้มมองไอ้อิงอย่างอารมณ์ดี ราวกับบรรยากาศเมื่อในอดีตได้เดินทางมายังปัจจุบันอีกครั้ง
"ท้องจะเสียหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"ไม่กินก็ได้ กูตั้งใจทำกินเองคนเดียวอยู่แล้ว"
"วันนี้วันเกิดกู"
ไอ้อิงพูดเสียงห้วน แล้วตักเค้กเข้าปาก หลังจากนั้นมันก็จัดการไอศกรีมต่อ ผมมองคนที่กินของหวาน ทั้งที่ทำหน้าบึ้งอย่างมีความสุข ก่อนจะจุ๊บตรงริมฝีปากหยักล่อตาที่เปื้อนไอศกรีมเบาๆ
"สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
ไอ้อิงไม่ได้ตอบอะไร นอกจากมองผมครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนสายตาไปทางอื่น แต่แค่เห็นผิวแก้มที่แดงระเรื่ออย่างต่อเนื่อง ผมก็พอใจแล้วครับ
"ยิ้มอะไร ทำเองก็แดกเองบ้าง"
ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้โต้ตอบ เนื้อเค้กนุ่มรสกาแฟก็เข้ามาอยู่ในปากของผมเรียบร้อยด้วยการป้อนของคนตรงหน้า
"อืม ทำไมหวานวะ"
"อะไรของมึง?"
ไอ้อิงมองผมอย่างสงสัย ผมก็ตีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะทำท่าเหมือนเพิ่งค้นพบสัจธรรมบางอย่าง
"สงสัยเพราะความรักของคนทำกับคนป้อน เค้กกาแฟแทนที่จะขม ก็เลยว้านหวาน...เนอะ"
ก็ว่า...จะไม่แล้วนะ แต่ก็อดใจไม่ได้จริงๆ ครับ
"เพ้อเจ้อ"
หึ! จะด่ากู ก็อย่ายิ้มสิวะ..
..........