Sugar daddy เด็กเลี้ยง :: ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sugar daddy เด็กเลี้ยง :: ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม  (อ่าน 201225 ครั้ง)

ออฟไลน์ happy-jigsaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
เราชอบคนแบบแพงและเข้าใจคนแบบเสี่ยนะ

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ถ้าเราเป้นพระแพงคงไม่ทนเสี้ยขนาดนี้

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure

ออฟไลน์ Lilyrum

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
เพิ่งได้มาตามอ่าน สนุกมากเลยค่ะ ชอบบ

ออฟไลน์ ชอบอ่าน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบเรื่องนี้นะคะ อ่านได้เรื่อยๆรู้ตัวอีกทีจบแล้ว!!
โอ้ยยย หลงพระแพงหนักมาก ทั้งที่ควรจะม่า แต่พระแพงทำให้ฮาเฉยเลย
แอบอยากตบเสี่ย แต่ก็เข้าใจเสี่ยนะ #สายเปย์ที่แท้ทรู :katai2-1:

เนื้อเรื่องแทบจะไม่ค่อยมีบทสนทนาเลย แต่สนุกมากค่ะ เหมือนเป็นเรื่องเล่าเรื่องนึงมั้ง

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ ที่แต่งมาให้อ่าน :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่แพงเป็นคนเล่าก็คงโคตรดราม่าและเราคงเกลียดเสี่ยไปแล้ว
แต่พอเรื่องมันออกมาโทนขำๆ ทุกอย่างก็ดูซอฟท์และเราก็ดันคล้อยตามแพงไปซะอย่างงั้น
เอาจริงๆ แล้วมันก็เหมือนเวลาเรานั่งฟังเพื่อนเราเรื่องอะไรบางอย่างนะ ที่ในสถานการณ์จริงอาจจะซีเรียส
แต่พอดันเอามาเล่าให้คนอื่นฟังต่อกลายเป็นเรื่องตลกไป

ชอบแพงค่ะ แพงน่ารักมาก ดีใจทีอย่างน้อยสุดท้ายก็ได้ครองคู่กับเสี่ยแบบสมบรูณ์สักที
แถมยังได้ลูกน้อยกลอยใจอีก

ออฟไลน์ sangzaja122

  • บึนปากให้ทุกๆอย่าง
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พึ่งมีโอกาศได้มาตามรวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ รักในความจริง ความเรียล  :m2: รอรวมเล่มอยู่นะคะ <3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tn

  • mgKapleGD
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แรกๆเขียนได้เหมือนเล่ามากอ่ะ จะมีหลังๆนี่แหละที่ดูเหมือนนิยายบ้าง แต่เรื่องรวมคือจับใจความดีมากกก ชีวิตโลกสุด นี่ต้องยกความดีให้แพงจริงๆนะ ถ้านางไม่คิด+++ขนาดนี้ อิเสี่ยคงไม่มีวันได้รับรสสุขอย่างงี้ชัว
//เดาถูกเรื่องคู่รองจ้า ดีใจ ฉลองแปป//  :katai2-1:

ออฟไลน์ runtothemoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เป็นอีกเรื่องประทับใจมากๆๆๆ ชอบความมองโลกในแง่บวกของพระแพง ถึงบทสรุปจะออกมาผิดคาด แต่สำหรับคนอย่างพระแพงคงคิดดีแล้ว ก็คงรักของเขาอ่ะเนอะ เห็นมีความสุขดีกับเสี่ยแล้วก็น้องพระเพื่อนก็ยินดีไปกับความอดทนมาตลอด
หลงรักพระแพงมากกกกชอบการมองโลก ถึงเราจะหงุดที่ทำไมถึงได้ปล่อยวาง มองแง่บวกได้ขนาดนี้555555555
ขอบคุณคุณนักเขียนมากๆนะคะ จะติดตามเรื่องต่อไปเรื่อยๆเลย :mew1:

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
จับมือ





ร้อยวันพันชาตินานน๊าน  เสี่ยถึงจะชวนเขามางานเลี้ยงขนาดใหญ่แบบนี้ซักที  เขาที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเสี่ยมาสองปีก็เพิ่งได้มีโอกาสออกงานใหญ่ๆ กับเขาเป็นครั้งแรก  ซึ่งงานนี้ก็ไม่พ้นงานการกุศลของพวกไฮโซไฮซ้อ  คุณหญิงคุณนายทั้งหลายต่างก็ใส่เครื่องประดับมาอวดกันจนแพรวพราว  ถ้าเป็นสาวๆ หน่อยก็จะใส่ส้นสูงในชุดราตรีเปิดเว้าตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย  บางคนก็ใส่กระโปรงยาวแต่แหวกขาซะสูงปรี๊ด  เขาที่ถูกเสี่ยทิ้งไว้หลังจากเจอเพื่อนกลุ่มใหญ่  เลยยืนถือแก้วไวน์เหล่สาว  เก๊กหล่ออยู่ที่ข้างกำแพง

แหม  เขาไม่ใช่พวกสมัยนิยมหรือพวกหัวเก่าอะไรแบบนั้นหรอกนะ  แต่ไอ้คำว่าศิลปะหรือแฟชั่นน่ะ  มันไม่ได้เข้ามาอยู่ในหัวเขาเลยซักนิด  สิ่งที่เข้ามาในหัวเขาน่ะมีแต่...

กระโปรงนั่นน่าจะแหวกข้างสูงขึ้นมาอีกนิด  ไม่ก็  หลังน่ะไม่ต้องเอาผ้าซีทรูมาปิดก็ได้  เอาแบบเปิดให้เห็นเนื้อกันไปเล๊ย  แล้วเวลาก้าวขาเดินน่ะ  อื้อฮื้อ~

แม่เจ้าโว้ยยยย  ไม่ใช่ว่าเขาจะลามกหรอกนะ  แต่ขาขาวๆ  สวยๆ  เรียวๆ  นั่นน่ะเห็นแล้วอารมณ์พุ่งปรี๊ด  อยากจะทำเหรียญตกซัก 100  เหรียญ  แล้วค่อยๆ  เก็บ  ค่อยๆ  เก็บ  ไปทีละเหรียญๆ  อื้อหือออ  แค่คิดเลือดกำเดาก็จะพุ่ง  อยากพุ่งไปเก็บเหรียญแล้วแอบมองจริงโว้ย! 


แต่ก็นะ 

ได้แต่คิดแต่ทำไม่ได้!

เขาที่มีลูกหนึ่ง  ผัว  เอ๊ย  สามีหนึ่งเลยได้แต่ยลขาขาวๆ  สวยๆ  ของสาวไฮไซที่ไม่ได้นุ่งน้อยห่มน้อย  มองอาหารตาที่โชว์วาบหวิวพอให้หัวใจคนหนุ่มได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ  ส่วนบรรดาแม่แก่...  แค่กๆๆ  หมายถึงบรรดาคุณหญิงคุณนายที่มาประมูลเครื่องเพชรเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า  เขาก็มองเลยผ่านไป 

จะว่าไปการช่วยเหลือเด็กกำพร้าแบบนี้  เขาว่ามันก็เป็นตัวอย่างที่ดีต่อสังคมนะ  ถึงใครบางคนจะบอกว่าเอาหน้า  แถมเงินส่วนนี้ยังสามารถเอามาหักภาษีได้  แต่ก็เพราะมีคุณหญิงคุณนายอวดรวยพวกนี้นี่แหละ  เด็กน้อยด้อยโอกาสถึงได้มีกินมีใช้  เขาเองก็คอยไปทำบุญที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่บ่อยๆ (เพราะตัวเองบริจาคเลือดไม่ได้)  พอเห็นเด็กตัวเล็กๆ ถูกพ่อแม่ทิ้ง  อยู่รวมๆกันหลายคนเข้า  เขาก็ได้แต่นึกสงสาร 

เมืองไทยไม่ได้เปิดให้ทำแท้งเสรี  แต่เด็กไทยก็ท้องก่อนแต่งกันเยอะ  คนที่ตั้งท้องด้วยความไม่ได้ตั้งใจก็มีอยู่มาก  จะทำแท้งก็ถูกด่าหาว่าเลว  แต่พอมีลูก  บางคนก็จำเป็นต้องเอามาทิ้งเพราะความไม่พร้อม  เด็กคนหนึ่งพอเกิดออกมาแล้ว  ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็ต้องกินต้องใช้  แล้วกับคนที่ไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดู  แค่ทำให้ตัวเองมีชีวิตรอดไปวันๆ ยังทำได้ยาก  แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเลี้ยงลูก

เขาที่มีน้องพระเพื่อนเป็นเหมือนลูกสาวอยู่หนึ่งคนนี่รู้ดีเลยว่า  การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตมาเป็นคนดี  ร่างกายแข็งแรง  และมีคุณภาพชีวิตที่ดี(ตามสภาพกระเป๋าตังค์)  เขาบอกได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ  ถึงจะมีคนเถียงว่าคนจนเลี้ยงลูกได้ดีมีถมไป  แต่เราก็ไม่คงปฎิเสธไม่ได้ว่ามีเงินมากก็ย่อมมีกว่าไม่มี  เพราะงั้นถ้ามีโอกาส  เขาก็มักจะเอาเงินกับพวกเสื้อผ้าไปบริจาคที่สถานสงเคราะห์อยู่บ่อยๆ  เด็กพวกนี้จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขเพิ่มขึ้นมาอีกนิด  ส่วนใครจะทำแท้ง  ใครจะท้องแล้วทิ้ง  เรื่องพวกนี้คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐบาล  ขืนเขาคิดเยอะ  ก่อดราม่า  เดี๋ยวศพจะไม่สวย  แล้วไม่มีคนเลี้ยงพระเพื่อนซะเปล่าๆ

สู้เขาเอาเวลาอิสระอันน้อยนิดมาส่องสาวๆ  สวยๆ เยียวยาหัวใจดีกว่า  ดูอย่างคนนั้นสิ  ชุดราตรีสีดำยาว  แขนเสื้อก็ยาวแต่เปิดหลังจนเกือบจะถึง  ตื๊ด   โอยย  หลังเรียบเนียนจนอยากเห็นด้านหน้า  อยากดูสิว่าหน้าตาคุณเธอจะแหล่มขนาดไหน  จะสวยเนียนเหมือนแผ่นหลังที่ไร้รอยไฝฝ้าบ้างไหม  สาวเจ้าขายาว  หุ่นก็ดี  เขาชะโงกหน้าออกไปดู  อยากเห็นดวงหน้าน้องนวลให้เป็นบุญตาซักนิดสิ...

แต่....

เอิ่ม...

_๊าคคคคคมาก!!!  หลังยี่สิบ  หน้าหกสิบห้า!  ถ้าป้าจะดูแลกระดูกสันหลังกับแผ่นหลังดีขนาดนี้  ป้าเอาเงินไปทำโบท็อกบ้างเถอะครับ!  ฟิลเลอร์น่ะฉีดเข้าไปเยอะๆ  อย่าปล่อยให้หน้าเหี่ยวจนเห็นริ้วรอยกับถุงใต้ตาเสียสายตาหมด  วุ้ย!


คิก..


ป๊าดดดด  ใครบังอาจมาหัวเราะการส่องสาว(แก่) ตรูฟร๊ะ! 

เขาหันขวับไปทางต้นเสียงทันที  กะเตรียมสาดเหล้าใส่เต็มที่  ตูมีแก้วแชมเปญอยู่ในมือนะเห็นไหม  ขืนพูดจาไม่ถูกหูเดี๋ยวปั๊ดสาดแชมเปญใส่เสื้อ  คนที่มางานนี้ส่วนใหญ่รวยๆ กันทั้งนั้น  เพราะงั้นสูทมันต้องเป็นสูทสั่งตัดราคาแพงแต่ไม่ทนการกัดกร่อนของเหล้าแชมเปญแน่นอน! (อันธพาล...)


แต่...         

แต่พอหันไปทางทำไมไม่เจอใครเลยแฮะ  เขากะพริบตาปริบๆ  แอบขนลุกอยู่หน่อยๆ  เพราะกลัวจะเจอผีอำกลางโรงแรม  แต่พอกดสายตาลงอีกนิดเพราะเห็นปลายผม(หัว)ดำๆ
 
ชัดเลย...

พี่พี!

เฮ้ยยย  เผื่อใครจะจำพี่พีไม่ได้  พี่แกคือแขกรับเชิญที่เคยออกโรงมาแล้วตอนบทที่สิบเจ็ด  พี่พีแกเป็นแฟนกับคุณเพ้นท์  ส่วนคุณเพนท์คือคุณชายที่รวยเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มคนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์   คุณเพ้นท์แกทำตั้งแต่เก็งกำไรขายที่ดินรวมไปจนถึงการรับเหมาก่อสร้าง  ตึกใหญ่ๆ ในเมืองกรุงที่เห็นก็เป็นฝีมือพี่แกที่ไปดีลงานมาทั้งนั้น  แม้แต่พวกโครงการบ้านระดับ  Hi-End  ทั้งในและต่างจังหวัด  ต่างก็ได้บริษัทพี่แกเป็นคนจัดการ  พี่แกรับทำตั้งแต่ออกแบบ  ตกแต่ง  วางผัง  ไปจนถึงก่อสร้าง  งานที่ออกมาแต่ละก็งานสวยนิ้ง  จนใครหลายคนชื่นชอบและบอกกันปากต่อปากโดยเฉพาะชาวต่างชาติ
 
ดังนั้นบริษัทเสี่ยที่เป็นบริษัทนำเข้าและส่งออกวัสดุจำพวกชิ้นส่วนก่อสร้าง (พวกโครงเหล็กที่มีความทันสมัยเหมาะกับการสร้างตึกสูงๆ  ที่ต้องอาศัยความแข็งแรงเป็นพิเศษอะไรแบบนี้)  เลยต้องดีลติดต่อค้าขายกับบริษัทคุณเพ้นท์อยู่บ่อยๆ  เรียกว่าคุณเพ้นท์เป็นหนึ่งในลูกค้าระดับเอ็กครูซีฟหรือ VIP  เลยก็ว่าได้ 

เขาเห็นพี่พียืนหัวเราะคิกคักอยู่ข้างๆ  เลยว่าจะวางแผนจีบแกซักหน่อย...  อะไรนะ  นอกใจ  จะตะโกนฟ้องเสี่ย? 

ปัทโธ่  มันใช่ที่ไหนกันเล่า!  ของแบบนี้เขาเรียกกันว่าการรีมายด์(Reminds)  เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางด้านการค้า  พูดง่ายๆ แบบเจาะจงกว่านั้นอีกหน่อยก็คือ  การรีมายด์เปรียบเสมือนการบอกเตือนให้ลูกค้ายังจำได้ว่า  เฮ้  ยังมีบริษัทนี้อยู่นะ  อย่าลืมฉันแล้วไปซื้องานกับบริษัทอื่นเลยนะ 

ทุกวันนี้การค้า  ไม่ว่าตลาดไหนต่างก็มีคู่แข่งกันทั้ง  โดยเฉพาะกลุ่มตลาดที่แม้แต่เศรฐกิจจะชะลอตัวแต่ก็ยังมีความมั่นคง  ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาแบ่งเนื้อแซนด์วิช  การรีมายด์ลูกค้าจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยดึงฐานลูกค้าเอาไว้  ส่วนวิธีการรีมายด์ก็มีหลายแบบ  แต่หลักๆ ก็คือการทักทาย  ชวนพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวกับองค์กรและให้ความสำคัญกับลูกค้า 
   
หรือพูดง่ายๆ กว่านั้นก็คือนอกจากการเสนอขาย  การบริการหลังการขายก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน  ไม่ใช่ว่าพอขายของเสร็จก็พร้อมเฉดหัวลูกค้าทิ้ง  ลูกค้าคือคนสำคัญ (แต่ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า)  ถ้าหากอยากให้ลูกค้าทำการค้ากับเรานานๆ  เรายิ่งต้องมี service mind* (การรีมายด์ก็เป็นหนึ่งในขั้นตอนนี้)    มีการติดสินบนทางด้านจิตใจกับลูกค้า  ทั้งการพูดจาดีๆ  เพราะๆ  เอาอกเอาใจ  ลูกค้าจะได้เกิดความประทับใจและจดจำแต่ภาพลักษณ์ดีๆ ของบริษัทหรือสินค้า  หรือถ้าอย่างขี้โกงหน่อย  ลูกค้าคนไหนมีลูกมีเมีย(หรือมีผัว) แล้ว  บางทีเราก็ต้องคอยเทคแคร์คนกลุ่มนี้ด้วย  เพราะคนใกล้ตัวหรือคนคู่เรียงเคียงหมอน  คนกลุ่มนี้  บางทียังมีอิทพลต่อกันตัดสินใจของลูกค้า  มากกว่าโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมซะอีก
 
เหมือนอย่างบริษัทเสี่ยเองก็มีการกันเงินส่วนหนึ่งออกมาไว้เพื่อการนี้โดยเฉพาะ   เพราะนอกจากการพาลูกค้าไปหาอะไรกิน(ระหว่างตกลงทำสัญญา)  บางทีเราจะอาจจะต้องมีของฝาก  มีของขวัญชิ้นเล็กๆ เป็นของติดไม้ติดมือ  หรือในกรณีคู่ค้าเป็นผู้ชายเราก็อาจจะพาเขาไปออกรอบตีกอล์ฟ  ลงอ่างอาบอบนวด  (แค่กๆ)  ซึ่งเงินที่จ่ายไปในส่วนนี้เราก็จะเอามาทบกับต้นทุนบวกกับกำไรอีกที...

แหม  วงการธุรกิจ  อะไรก็เป็นเงินเป็นทองล่ะนะ  เราอาจจ่ายน้อยเพื่อเอาใจลูกค้าไปก่อน  รอจนลูกค้าติดใจเราค่อยไปค่อยขูดรีด  เอ๊ย  ไม่ใช่  หมายถึงตกลงราคากันอีกที  ลูกค้าได้ความประทับใจ  เราได้กำไรจากการขาย  วิน-วินกันทั้งฝ่ายเลยเนอะ (เหรอ) 


ดังนั้นเขาที่ยืนว่างอยู่พอดีเลยกะถือโอกาสฝึกการรีมายด์ไปในตัว  เพราะปกติในงานเลี้ยงแบบนี้ถ้าเสี่ยไม่ดึงตัวเขาไปแนะนำกับคนอื่นก่อน  นอกจากยืนรอนิ่งๆ  เขาก็ทำอะไรอื่นอีกไม่ได้  พวกคนรวยก็มีอีโก้แบบคนรวยที่จะไม่สนใจคนนอก  ยิ่งกับคนที่ไม่รู้จัก... หรือพูดให้หนักกว่านั้นก็คือคนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า  ถ้าไม่มีคนแนะนำก่อนก็อย่าหวังเลยว่าจะมีคนอื่นมาคุยด้วย 

อ่อ  ยกเว้นแต่ว่าคุณหล่อรวยหรือไม่ก็สวยแบบดาวค้างฟ้า  อย่างนั้นไม่ต้องมีภูมิหลังอะไรมาก  ขอแค่มีเงินกับหน้าตาที่ดี  คนอื่นก็อยากจะมาคุย

ส่วนตัวเขา...  เอาเป็นว่าเขาไม่หลงตัวเองว่าหล่อหรือรวย  เขาแค่มีหุ่นที่ดี(เสี่ยออกจะชมบ่อย)  แต่หุ่นเขามันดันอยู่ใต้ร่มผ้า  จะให้เปิดพุงโชว์ซิกพร้อมกับผิวสีแทนสุดเด่นก็ใช่ที่  ดังนั้นกับพี่พีที่เคยคุยกันมาก่อน  ถ้าเขาเดินเข้าไปทัก  พี่แกก็คงจำเขาได้แหละมั้ง

" ผมพระแพงครับ จากบริษัทเหมยฮัว" 

แนะนำตัวเสร็จก็ยื่นนามบัตรไปให้แบบเนียนๆ  พี่พียิ้มยาหยี  วางส้อมที่ถืออยู่ลงบนจานเค้กแล้วรับนามบัตรไปจากมือเขา

" พีครับ  เป็นเภสัชกร  ขอโทษทีนะ  ผมไม่มีนามบัตร  แค่ตามแฟนมาหาอะไรกิน  เรา...  มาคนเดียวเหรอ" 

พี่พีกวาดตาขึ้นๆ ลงๆ  ดูท่าพี่พีจะจำไม่ได้แฮะว่าเราเคยเจอกัน ดีนะเขาไม่ออกตัวแรง  ไม่งั้นคงหน้าแตกดังโพละ 

พี่แกกวาดมองเขาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า  เหมือนกับกำลังประเมินว่าเราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า  มันจะมาหลอกจีบไหม  แล้วที่สำคัญ  ไอ้นี่มันต้องเรียกพี่หรือน้อง 

ปัทโธ่...  ก็ใครใช้ให้พี่พีหน้าเด็กเล่า!     

“ เราเคยเจอกันมาก่อนที่สวนสาธารณะไงครับ  เมื่อห้าปีก่อน  ที่พี่พาหมาไปเดินเล่น  ผมเป็นรุ่นน้องมหาลัยเดียวกับพี่พีไง”

“ อ๋อออออออออออ”   อ๋อออออ  นี่คือนึกออกแล้ว!

“ ขอโทษนะ  พี่นึกไม่ออก   พอดีพี่จำหน้าคนไม่ค่อยเก่งน่ะ”  พี่พีว่าแล้วเราะแฮะๆ 

“.…”

แล้วพี่จะอ๋อทำไมตั้งยาววะ!

แต่ก็นั่นแหละ  ลูกค้าคือพระเจ้า (ไหนเมื่อกี้ว่าไม่ใช่?)  ต่อให้ลูกค้ากวน_ีนมาเราก็ทำได้แต่หัวเราะรับ  เขายืนคุยกับพี่พีสลับกับช่วยพี่แกรำลึกความจำ  ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง  พี่แกถึงได้ร้องอ๋อออกมาอีกรอบ

“ อ๋ออออออ  อ๋อๆๆๆ  พี่นึกออกแล้ว  เราที่เคยเข้าไปเล่นกับหมาพี่ตั้งแต่ตอนโน้นใช่ไหม  ขอโทษนะที่ตอนนั้นแฟนพี่เสียมารยาท  พอดีช่วงนั้นมีเรื่องขึ้นนิดหน่อย  แฟนพี่เลยขี้ระแวง  เราเป็นไงบ้าง  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน  ดู....  สูงขึ้น?”

เปล่าครับ  พี่เตี้ยลงต่างหาก....

มันใช่ที่ไหนกันเล่า!  ก็ใครใช้ให้พี่พีสูงแค่ร้อยหกสิบตื๊ด  แถมเวลาใส่สูทผูกไทด์  ต่อให้เขาสูงอยู่แล้ว  แต่เพื่อเสริมบุคลิกภาพ  เสี่ยเลยสั่งให้เขาซื้อรองเท้าคู่ใหม่มา  รองเท้าคู่นี้ส้นไม่สูงมาก  แต่พอมายืนเทียบกับพี่พีแล้ว...  อืมมม  พี่ตัวเล็กลงเยอะนะ

“ พี่พีกินอะไรหรือยังครับ  ไปนั่งหาอะไรกินด้วยกันไหม ผมยืนจนขาแข็งแล้วเนี่ย” 

เขาชวนพี่พีคุยเรื่องอื่น  ไม่คุยต่อเรื่องความสูง
   
และขอย้ำว่า  นี่ไม่ใช่การจีบหรือการขายอ้อย!  เขาแค่หาเรื่องชวนพี่พีคุยเพราะดูพี่พีเป็นคนชอบกิน  (ดูจากร่องรอยอาหารที่อยู่ในจานก็รู้)

ปกติงานเลี้ยงแบบนี้เขาเรียกว่างานกินทิ้ง  อาหารบุฟเฟ่ห์  อร่อยๆ  หรูๆ  นอกจากตอนเริ่มงาน  ช่วงหลังๆ ก็ค่อยมีใครไปหยิบทาน  ส่วนใหญ่จะกังวลเรื่องกลิ่นปาก  ไม่ก็พุงยื่น(กรณีผู้หญิง)  แถมการกินไปคุยไป  ถ้าไม่ใช่คนที่สนิทกัน  มันก็จะดูไม่ค่อยดี   ดังนั้นเพื่อความหล่อ  สวย  และดูดี   คนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะถือแค่แก้วเครื่องดื่มไม่ก็แก้วเชมเปญ  มีแค่เด็กๆ กันคนที่ไม่เป็นที่สนใจของชาวบ้านเท่านั้นแหละที่จะมานั่งกิน 

ส่วนเขา...  เขาหาอะไรกินรองท้องไปตั้งแต่ตอนเริ่มงานแล้ว  งานนี้เสี่ยพาเขามาแค่เปิดหูเปิดตา  ไม่ได้ตั้งใจพาเขามาแนะนำตัว  พอเสี่ยเจอกลุ่มเพื่อน  เสี่ยก็หายต๋อมไปกับกลุ่มเพื่อนสนิทแล้วบอกให้เขารออยู่แถวๆ นี้  เขาที่ยืนหัวโด่  เหล่สาว  มาพักใหญ่ตอนนี้ก็เริ่มท้องร้องจ๊อกๆ 
 
พี่พีที่ไม่มีใคร(ไม่มีแฟนคอยอยู่คุม)  พอเห็นเขาเอามือลูบท้องประกอบท่าทาง  พี่แกก็ทำตัวเป็นรุ่นพี่มหาลัยที่ดี  เดินตามเขามาที่โต๊ะบุฟเฟต์  ชี้แนะนำอาหารอันนั้นอันนี้  ส่วนตัวเองเลือกหยิบแต่เค้ก

พอเราสองคนตักอาหารมาได้เต็มสองจาน  เราสองคนก็รีบเข้ายึดโต๊ะของคนที่เพิ่งลุกออกไปทันที  งานเลี้ยงบุปเฟต์ส่วนใหญ่จะมีโต๊ะกับเก้าอี้ให้นั่งแค่ไม่กี่ที  ถ้าไม่ใช่ที่นั่ง VIP  ก็จะไม่มีที่ประจำ  ต้องทนยืนขาแข็งกันไป

“ เมื่อกี้เราว่า  เรามาจากบริษัทอะไรนะ”  พี่พีถามแล้วเริ่มจิ้มเค้กเข้าปาก  ส่วนเขาก็เริ่มกินปาม่าแฮมดูบ้าง  อร่อยจัง~

“ เหมยฮัวครับ  ขายพวกเหล็กสำหรับก่อสร้างอะไรเงี้ย”

เขากับพี่พีนั่งคุยไปกินไป  บริกรที่คอยโฉบไปโฉบมาก็ถามเขากับพี่พีว่าอยากดื่มอะไรไหม  เขาที่เลิกดื่มเหล้าไปแล้ว(ถ้าไม่จำเป็น)  แต่พอเห็นพี่พีสั่งพวกค็อกเทลมาดื่มเขาก็สองจิตสองใจ  ลูกค้าดื่ม  แต่เราไม่ดื่มคงดูไม่ดีค่อยมั้ง  เพราะงั้นเขาเลยสั่งค็อกเทลมั่วๆ ตามพี่พีไปตามเรื่องราว  กะว่าแค่จิบๆ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ เหรอ  ทำงานมากี่ปีล่ะ  งานหนักไหม”

เราสองคนนั่งกินไปคุยกันอย่างถูกคอ  เหล้าค็อกเทลที่ว่าจะแค่จิบๆ แปบๆ ก็หมดสองแก้วแล้ว  พี่พีที่กำลังเริ่มแก้วสาม  พอเริ่มเมา  พี่แกก็เริ่มจิ้มเค้กในจานตัวเองส่งมาป้อนถึงปากเขา  ปกติเขาไม่ค่อยชอบกินเค้ก  โดยเฉพาะกับพวกเค้กชอคโกเลต  แต่เค้กที่พี่ป้อนมา  มันเป็นเค้กผลไม้รสออกเปรี้ยวหน่อยๆ  เหมาะกับรสชาติของค็อกเทล  เขาอ้าปากกินเพลินแบบไม่รู้ตัวจนพี่พีหัวเราะคิกคัก  เราคุยกันตั้งแต่เรื่องสมัยเรียนมาจนเรื่องงานในปัจจุบัน  พี่พีรับปากเขาว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็จะบอกคุณเพ้นท์ให้

“ คราวหลังถ้าเจอกันในงานเรามาชวนพี่คุยอีกก็ได้  เราคุยสนุกดี  ปกติพี่อยู่แปบๆ  แปบเดียวก็หนีขึ้นนอนแล้ว” 

พี่พีว่าแล้วยิ้มตาหยี  มือหนึ่งของพี่พียกแก้วที่สี่ขึ้นดื่ม  ส่วนอีกมือป้อนเค้กใส่ปากเขา  พี่พีสลับส้อมที่ใช้ป้อนเค้กแบ่งเป็นของเขากับของพี  เขาอ้าปากกินต่อ  แต่ก็กะว่าจะกินเป็นคำสุดท้ายเพราะว่าเริ่มอิ่มแล้ว

แต่อนิจจา... 

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด! 


“ น้องพี” 


เสียงนรกดังมาจากด้านหลังด้านพี่พี  เขาที่เพิ่งรับเค้กเข้าปากเกือบจะติดคอตาย  หลักฐานคาตา...  คุณเพ้นท์ยิ้มเรียกพี่พี  แต่ตาสายตาของคุณเพ้นท์นี่จ้องเขาอย่างกับงูจ้องงับหัวลูกอ๊อด!

พุทโธ...

งานนี้เขาไม่ผิดนะ  เขาแค่เผลอกินไปเพราะมีคนป้อน!
      
“ พี่เพ้นท์คุยงานเสร็จแล้วเหรอครับ”

ไอ้นี่ (เปลี่ยนสรรพนาม) ก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าแฟนตัวเองกำลังงับหัวชาวบ้าน  พี่พีหันไปคุยกับคุณเพ้นท์เหมือนกับเป็นเรื่องปกติธรรมดา  สายตาคุณเพ้นท์อ่อนโยนลง  จนวูบหนึ่งเขารู้สึกอิจฉาพี่พีขึ้นมานิดๆ 

คุณเพ้นท์ผู้แสนใจดี(เฉพาะกับแฟนตัวเอง)  พอได้ยินคำถามก็ยกมือขึ้นจับแก้มจับหน้าผากพี่พีเหมือนกำลังวัดอุณหภูมิ  เสียงทุ้มหล่อถามพี่พีอย่างอ่อนโยนว่า  หนาวหรือเปล่าครับ  ง่วงนอนไหม  พี่บอกแล้วใช่ไหมครับว่าอย่าดื่มเยอะ

“ พีกินไปแค่สองแก้วเอ๊งงงงง”

เสียงสูงเชียว...

แต่สองคูณสองเป็นสี่  จะว่าพี่พีโกหกก็ไม่ได้

“ แล้วนี่....  กำลังคุยใครครับ”


คุณเพ้นท์ตวัดตาฉับ  หันกลับมาสนใจเขาบ้าง  อุณหภูมิในดวงคุณเพ้นท์ลดลงเหมือนสัตว์เลือดเย็นจนเขาตัวสั่นหงึกๆ   แต่ก่อนที่เขากำลังจะอ้าปากแนะนำตัวและเตรียมตัวหาทางชิ่งหนี  จู่ๆ ก็มีมือใหญ่ๆ อีกมือมาตบปุบนไหล่เขา  เขาสะดุ้งจนตัวโยนเพราะนึกว่าบอร์ดี้การ์ดของคุณเพ้นท์จะลากเขาไปฆ่า  เขาจำได้นะว่า  เมื่อห้าปีก่อนพี่แกมีบอร์ดี้การ์ดด้วย

" คุณเพ้นท์  นี่ผู้ช่วยคนใหม่ของผมเอง  ชื่อพระแพง  พระแพง  นี่คุณเพ้นท์ทำความรู้จักกันเอาไว้สิ"  เสียงเสี่ยดังขึ้นมาแทนเสียงมัจุราชจากความตาย  เขาสะกดหัวใจของตัวเองที่กำลังเต้นกระหน่ำให้เต้นเบาลง  มีเสี่ยมาช่วยงานนี้เขายังมีโอกาสรอด  เขาส่งยิ้มไปให้คุณเพ้นท์ตามมารยาทและกำลังจะลุกขึ้นเพื่อสวัสดี  แต่เสี่ยดันกดบ่าของเขาไว้  เขาเลยได้แต่ยิ้มเก้อ  ยกมือไหว้คุณเพ้นท์ทั้งที่ยังนั่งอยู่แบบนั้น 

“ สวัสดีครับ  ผมพระแพง...”

ทักทายยังไม่ทันจบประโยค  คุณเพ้นท์ก็จ้องเสี่ยหนึ่งแวบแบบที่ไม่คิดจะสนใจเขา  สายตาของคุณเพ้นท์ตอนที่มองเสี่ย  เรียกว่าไม่อยากจะเสวนายังน้อยไป  คุณเพ้นท์ตัดสนทนาของเขาโดยก้มหน้าลงไปคุยกับพี่พี  พี่พีพยักหน้ารับ  ก่อนหันกลับมาบอกเขาว่า  พี่ขอตัวกลับก่อนนะ

“ ไว้วันหลังเจอกันนะ” 

ชาตินี้ชีวิตนี้  อย่าเจอกันอีกจะดีกว่ามากครับ  ผมไม่อยากจะโดนแฟนขี้หวงของพี่งับหัวหรอกนะ!

แต่ก็นั่นแหละ...

ได้แต่คิดแต่ก็ไม่เคยได้พูด! 


เขายิ้มแหยๆ ให้พี่พีแทนการโบกมือบ๊าบบาย  รอคุณเพ้นท์บอกลาเสี่ยตามมารยาท(ใช้เวลาสามวินาที)  คุณเพ้นท์ก็พาพี่พีลุกออกจากโต๊ะ  วันนี้คุณเพ้นท์ใส่สูทขาวรองเท้าสีดำ  เวลาคุณเพ้นท์เดินกับพี่พี  แผ่นหลังของคุณเพ้นท์ดูเหมือนกับกำลังปกป้องพี่พีอยู่นิดๆ 

พี่พีเองก็เหมือนจะเคยชินกับการปกป้องแบบนี้  ทั้งสองคนเดินคุยกัน  จับมือกัน  คุยกันกะหนุงกะหนิงและหัวเราะให้กันโดยไม่แคร์สายตาใคร  ความอิจฉาผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาอีกครั้ง  คุณเพ้นท์กับพี่พี...  ทั้งสองคนเป็นผู้ชาย  แต่สองคนนี้ก็รักกันอย่างเปิดเผย  ไม่เหมือนเสี่ยกับเขา


" กล้ามากนะ  คิดยังไงถึงได้ไปจีบเด็กนั่น  หา!" 

เสี่ยกระซิบเสียงคำรามจนเขาหลุดออกจากภวังค์  แต่พอเขาใช้หน้ามึนๆ เอ๋อๆ  หันกลับไปมอง  เสี่ยก็ยิ้มหวานเหี้ยมเกรียม(?)  เปลี่ยนจากจับไหล่เขามาบิดหูเขาแทน

" เสี่ยเจ็บบบบบบ  เจ็บบบบบบ  เจ๊บบบบบบบบบบบ”

คราวนี้ต่อให้ไม่มีสติ  ปัญญาเขาก็ต้องเกิดล่ะวะ  นี่มันที่สาธารณะนะ  เสี่ยอย่ามาบิดหูกันเซ่!

“ ผมเปล่านะ!”

เขาปฏิเสธเสียงเบา  อยู่ในที่สาธารณะ  อยากโวยวายแต่ก็ได้แต่ส่งเสียงกระซิบ 

รอจนเสี่ยดึงจนหูเขาจนพอใจ  เสี่ยถึงได้ยอมปล่อยมือออกแล้วลากเขากลับขึ้นห้องพักที่จองไว้ก่อนล่วงหน้า  คืนนี้เขากับเสี่ยตกลงกันไว้แล้วว่าจะพักกันที่โรงแรม  วันนี้เป็นวันศุกร์  และเขาก็เอาน้องพระเพื่อนไปฝากไว้ที่บ้านพ่อกับเสี่ยแล้ว  เขากับเสี่ยที่ไม่ได้เอาท์ดอร์กันมานานเลยกะ....   อะแฮ่ม  เพิ่มรสชาติให้กับชีวิตคู่ที่นี่


" ผมเปล่าจีบซักหน่อย”  เขาเถียงข้างๆ คู่ๆ  นั่งหน้าหงิก  ปล่อยให้เสี่ยถอดเสื้อนอกออกเอง  สายตาเขาวนๆ เวียนๆ อยู่ที่มือเสี่ยมาตั้งแต่ตอนเดินออกมาจากห้องจัดงานแล้ว  ดูท่าเขาคงจะเมาค๊อกเทลแล้ว  เขาถึงได้นึกน้อยใจ  อยากให้เสี่ยจับมือเขา  แบบที่คุณเพ้นท์จับมือพี่พีบ้าง

เสี่ยถอนหายใจ  พอเห็นเขาหน้าบูดเป็น_ูดลิง  เสี่ยก็เดินตรงเข้ามาหาถามว่าเขาเมาแล้ว? 

ปกติเวลาเขาเมา  ความงี่เง่าของเขาจะเพิ่มขึ้นมาประมาณยี่สิบเปอร์เซ็นต์  และเสี่ยเองที่อยู่กับเขามานานก็พอจะรู้ว่าเขามีนิสัยแบบนี้  เขาพยายามสะกดความน้อยใจของตัวเองลงท้อง  นานๆ จะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันโดยไม่มีลูกมาขวาง  เขาไม่อยากให้ความงี่เง่าของตัวเองมาพาลใส่เสี่ยจนเสียเวลาไปเปล่าๆ ปลี้ๆ 

อีกอย่าง  เขากับเสี่ยอยู่ด้วยกันมาแล้วห้าปี   นิสัยเสี่ยเป็นยังไงก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้  เสี่ยไม่มีทางแนะนำเขาออกนอกหน้านอกจากเรื่องงาน  และถึงเสี่ยจะไม่ปิดบัง  แต่เสี่ยก็จะไม่ประกาศให้ใครรู้

เขาเก็บกลืนความเสียใจของตัวเองลงคอ  ปลอบใจตัวเองว่า  แค่นี้ก็ดีขนาดไหนแล้ว  ถึงชีวิตคู่ของเขากับเสี่ยจะไม่ได้จิ๊จ๊ะสวีทหวานเหมือนกับคู่ของใครคนอื่น   แต่เรื่องที่เสี่ยอ่อนโยน  ดูแลเอาใจใส่และมีเวลาให้กับเขามากขึ้นในทุกๆ ปี  แค่นี้ก็น่าจะพอบอกได้แล้วว่าเสี่ยเห็นเขาเป็นคนสำคัญ  แม้จะไม่ใช่ที่สุด  แต่ได้แค่นี้  เขาก็ควรพอใจแล้ว




แต่ก็ด้วยเพราะความเมาและความน้อยใจที่เก็บเต็มพุง  ถึงจะไม่ได้พูดอะไรออกไป  แต่พอเสี่ยลากเขาไปอาบน้ำ  เขาก็เข้าโรมรันพันตูกับเสี่ยอย่างไม่ยอมให้เอาเสี่ยให้เอาแต่ใจ 

เขาใช้ปากให้เสี่ยผ่านสายน้ำ  ดูดและขบเบาๆ จนของๆ เสี่ยเต้นตุบอยู่ในปาก  จัดการใส่ถุงยางให้เสี่ยและตัวเอง  และพอเสี่ยเริ่มมีอารมณ์  เขาก็จัดการออนท็อปเสี่ยไปสองรอบ

“ อารมณ์ไม่ดี?

เสี่ยถามเสียงหอบตอนที่เขายังขยับตัวอย่างเมามัน  เขาไม่ตอบคำถามเสี่ย  แต่ถอนตัวออกก่อนกดตัวลงไปใหม่ลึกๆ  เอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยเพื่อรับรู้ถึงตัวตนของเสี่ยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นมา

เสี่ยหรี่ตาลง  ประคองหนั่นสะโพกของเขาไว้  แล้วชี้นำให้เขาส่ายเอวเป็นวงกลม   เขาทำตามที่เสี่ยสั่งการ  หนุนเอวตัวเอง  เอียงตัวไปด้านหลัง  จนลูกชายเสี่ยโดนจุดของเขาอยู่บ่อยครั้ง 

มีอะไรกันมาห้าปี  ยางอายในเรื่องบนเตียง  ปลิวหายไปจากสมองเขาไปนานแล้ว  ยิ่งรวมกับความเมา  เขายิ่งอ้าขาออกและยิ่งส่งเสียงคราง  รอจนเสี่ยทนไม่ไหวอยากกลับมาเป็นฝ่ายนำ  เสี่ยก็สวนแทงขึ้นมา  ดันตัวเขาลงกับที่นอน  ลูบลูกชายเขาที่บวมเป่งจนจะปริแตก  ก่อนกดเข่าเขาแนบอก  แล้วโน้มตัวลงมาเพื่อจูบปากเขา

“ เด็กขี้อิจฉาเอ๊ย”

เสี่ยกระซิบล้อข้างใบหู  แล้วเปลี่ยนเอามือทั้งสองข้างที่จับเข่าเขาอยู่มาประสานมือกับเขาแทน 

ปกติเวลามีอะไรกันเขากับเสี่ยก็จับมือกันบ้าง  แต่น้อยมากที่จะประสานมือกันแบบนี้

เขากำมือเสี่ยที่ประสานลงมาแน่นจนขึ้นข้อขาว  กดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาคืนกลับบ่อ  แล้วอ้าปากส่งเสียงคราง   

รอจนเสี่ยโหมแรงลงมาในจังหวะสุดท้ายเพื่อพาเขาขึ้นไปสู่จุดสุดยอด  เขาหลับตาปี๋  แอ่นสะโพกขึ้น    และตอดรัดของๆ เสี่ยที่ขยับเข้าออกอยู่ภายใน 

เสี่ยกดมือเขาจนจมลงกับที่นอน  สาวเข้าสาวออก  ใส่จังหวะลงมา  ก่อนกดลงมาเน้นๆ ในจังหวะสุดท้าย

“ เสี่ย...  เสี่ย...   อ๊าาาาา!”

   



   
>>ต่อด้านล่าง<<





ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
สิบโมงเช้า 

เขาม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มแปลงร่างตัวเองกลายเป็นหนอนไหม   งานนี้ต่อเสี่ยจับเขาไปต้ม  เขาก็ไม่ยอมหลุดออกมาจากรังไหมหรอกโว้ย!

“ แพง  ออกมากินข้าว”

เสี่ยพูดเสียงแข็ง  แต่เขาโผล่ออกมาแต่ลูกตา  เมื่อคืนเขาเมาก็จริง  แต่เขาไม่ได้อ้อนเสี่ย  ไม่ได้น้อยใจเสี่ยจนขึ้นขย่มเองด้วย!

“ ตกลงไม่กิน?  ดีจะได้เรียกคนมาเก็บ”

เสี่ยพูดจริงทำจริง...   เขาโผล่หัวออกมาจากรังไหมทันที  ของกินวางอยู่เต็มโต๊ะ  จะเก็บทิ้งให้เสียดายเรอะ!

“ เอ้า  อ้าปาก”

เสี่ยบอกแล้วตักข้าวต้มกุ้งมาจ่อให้ถึงปาก  เขาขยับก้นที่เจ็บหน่อยๆ ของตัวเอง  ก่อนข่มความอายของปล่อยให้เสี่ยป้อนข้าวป้อนน้ำ  เสี่ยป้อนเข้าไป...  มุมปากก็ยกยิ้มไปแถมยังสายตาวิบวับ   
   
ความจริงเรื่องคืนเขาก็ไม่นึกหรอกว่าเสี่ยจะจับได้  แต่คงจะเป็นเพราะเขาเมา  บวกกับการที่เขามองตามพี่พีกับคุณเพ้นท์เดินจับมือสวีทหวานกันแบบไม่วางตา  เสี่ยอยู่ด้านหลังเขาอยู่ตลอดเลยพอจับความรู้สึกเขาได้

“ ทำไมคุณเพ้นท์ดูไม่ค่อยชอบเสี่ยอ่ะ”

ที่ชิงถามขึ้นมาก่อนนี่  ไม่ได้ถามเพื่อกันเสี่ยล้อเลยจริงจริ๊งงง

“ ฮึ” 

ฮึ  มาแบบนี้  แสดงว่าเสี่ยเริ่มกลับเข้าสู่โหมดปกติ   

เสี่ยบอกเขาว่า  คนทำมาค้าขายด้วยกัน  ต่อให้เป็นลูกค้ารายใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นคนที่คุยกันถูกคอเสมอไป  ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของผลประโยชน์และข้อตกลง  เงินมาของไป   ตกลงซื้อขายกันเสร็จมันก็เท่านั้น   ยิ่งกับคุณเพ้นท์(หรือบริษัทคุณเพ้นท์) ที่ซื้อขายกับบริษัทเสี่ยมาเป็นเวลานาน  แน่นอนว่าคุณเพ้นท์ไม่ได้ซื้อของเพราะตัวเสี่ย  แต่คุณเพ้นท์ซื้อเพราะสินค้าของเรามีคุณภาพดี
 
บริษัทของเราราคาเป็นกลาง  เวลาเราส่งของไป  ทุกครั้งเราไม่เคยมีของสอดไส้  วัสดุทุกชิ้นได้มาตรฐาน  ไม่มีหมกเม็ด   แล้วไม่ว่าทางฝั่งคุณเพ้นท์จะสั่งลอตใหญ่ขนาดไหน  รีบขนาดไหน  ถ้าไม่เร่งด่วนหรือเวลากระชั้นจนเกินไป  เราก็มีของส่งให้ทุกครั้ง  ดังนั้นต่อให้ไม่มี Service mind  คุณเพ้นท์ก็เลือกที่จะสั่งสินค้าและวัสดุจากเราก่อนเจ้าอื่นอยู่ดี  ส่วนเรื่องที่คุณเพ้นท์ไม่ชอบขี้หน้าเสี่ย....

“ ฮึ”

เสียงหัวเราะข้างบนนั่นมันสามารถขยายความได้ว่า  เพราะเสี่ยเป็น “เสี่ยเลี้ยง”  ซื้อเด็กกินจนเขารู้กันทั่วทั้งวงการ  คนที่มีเชื้อสายผู้ดีเก่าทำตัวอยู่ในกรอบอย่างคุณเพ้นท์เลยค่อนข้างรังเกียจเสี่ยที่มีนิสัยแบบนี้  ยิ่งพอเสี่ยแนะนำว่าเขาเป็นผู้ช่วยส่วนตัว  สำหรับคนที่รู้สันดานเสี่ยดี  ย่อมต้องคิดว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยงคนที่ใช้เต้าไต่...  เอ๊ย  ใช้  ตื้ด  ไต่ขึ้นมาแทนการใช้ความสามารถ  ดังนั้นเพื่อปกป้องแฟนที่แสนจะใสซื่อของตัวเอง (เสี่ยประชด)  ไม่ให้แปดเปื้อนคราบคาวคนอย่างพวกเขา  คุณเพ้นท์เลยคุยทักทายตามมารยาทแค่ไม่กี่คำ(นับเวลาได้สามวิ)  ก่อนรีบลากพี่พีให้ออกจากโต๊ะ 


“ ………………”

อืมมม  จุดแ_กข้างบนนั่นเป็นความคิดในใจของเขาเอง  เขาไม่โกรธหรอกที่คุณเพ้นท์มองว่าเขาเป็นคนเป็นคนไม่ดี  เป็นขายตัวแทนที่จะขายความสามารถ  เพราะถ้าหากให้พูดกันตามความจริง  เรื่องที่เสี่ยซื้อกินหรือแม้แต่เรื่องที่เขาเคยขายตัว  เรื่องพวกนี้ไม่ว่ามองยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนใหญ่ในสังคมจะยอมรับได้อยู่แล้ว  แต่สิ่งที่เขาทำให้เกิดอาการเขาแ_กจุดน่ะคือ  คุณเพ้นท์จะปกป้องพี่พีเกินไปหน่อยไหม  พี่พีอายุสามสิบแล้วนะ  ไม่ใช่เด็กสามขวบที่ถูกเขาหลอกลวงหรือทำให้แปดเปื้อนได้ง่ายๆ

“ ฮึ”

มาอีกหนึ่งดอก

เสี่ยบอกเสียงหมั่นไส้ว่า  คุณเพ้นท์หวงพี่พีมากกกกกก  (อันนี้เขาเติมก.ไก่เพิ่มเอง)  ทุกคนที่อยู่ในวงสังคม  ไม่มีใครไม่รู้ว่าคุณเพ้นท์รักและหวงพี่พีขนาดไหน  ตอนที่สองคนนั้นประกาศแต่งงาน  แม้ว่าจะเป็นการจัดงานแต่งเล็กๆ ที่มีแต่กลุ่มเพื่อน  แต่สาวๆ ที่รู้ข่าวก็น้ำตาตกในไปครึ่งค่อนกรุงเทพ 

คุณเพ้นท์  หล่อ  รวย  และดูดี  พอมีข่าวว่าจะสละโสดกับเด็กที่ไหนไม่รู้  สาวๆ ที่ไหนเขาจะยอมรับได้  เพราะงั้นครั้งหนึ่งเลยมีเหตุการณ์  มีสาวเจ้าใจกล้า  อดีตแฟนคุณเพ้นท์  เดินตรงไปฉะกับพี่พีที่กำลังหาอะไรกินอยู่ในงาน  ตอนนั้นแม้สาวเจ้าจะไม่ได้ส่งเสียงดัง  แต่พอเห็นพี่พีกะพริบตาปริบๆ  ก่อนพยายามเบี่ยงตัวออกมาเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืน  สาวเจ้าคนสวย...  ด้วยอารมณ์ที่ปะทุขึ้นมาเลยเริ่มส่งเสียงดัง

ส่วนคำด่า...  ก็เอาเป็นว่า  ไม่พ้นคำว่าเกาะผู้ชายกิน  แกล้งตีหน้าซื่อ  ไม่นานแกก็จะถูกทิ้ง

คุณเพ้นท์ที่ผละตัวออกระหว่างคุยธุระสำคัญ  พอได้ยินประโยคเด็ด... 

แม่เจ้าประคุณเอ๊ย  แค่คิดตามเขาก็ขนหัวลุกแทน  คุณเพ้นท์อาจเป็นสุภาพบุรุษก็จริง  แต่เรื่องพี่พีนี่คือห้ามให้ต้อง 

และวันนั้นถึงคุณเพ้นท์จะไม่ได้สาดเสียเท  แต่ก็ทำเอาเจ้าสาวหน้าม้านจนน้ำตาตกใน 

แล้วที่เด็ดยิ่งไปกว่านั้นก็นั้นก็คือ  สองสัปดาห์ถัดมา  บริษัทพ่อของสาวเจ้า  อยู่ๆ  ก็ถูกขุดเรื่องเก่าๆ ขึ้นมา  ทั้งสปก.(?)   ปปง.*  ต่างตบเท้าเข้าไปเยี่ยมเยียนถึงในบริษัท เรียกว่ถูกขุดคุ้ยทั้งเรื่องการฟอกเงิน  การลักลอบขนสินค้าหนีภาษี  รถหรูที่ได้มาดด้วยวิธีไม่ซื่อก็ถูกยึด 

เล่นเอาคนเป็นพ่อคนเป็นแม่  รีบวิ่งแจ้นมาขอโทษคุณเพ้นท์แทบไม่ทัน   

และถึงคุณเพ้นท์จะยอมปรานีปล่อยไป  แต่เรื่องที่ถูกขุดไปแล้ว  กว่าจะฟื้นฟูชื่อเสียงใหม่ได้  นอกจากจะต้องใช้เงินปิดข่าวไปหลายล้าน  ก็ต้องใช้เวลาอีกนานหลายปีกว่าบริษัทจะกลับมาอยู่ตัว  ส่วนสาวสวยตัวปัญหาก็ถูกที่บ้านส่งไปอยู่เมืองนอก 

เขาฟังเสี่ยเล่าจบก็กะพริบตาปริบๆ  อีกทีสองที  ดูเสี่ยรู้เรื่องคุณเพ้นท์กับพี่พีดีจังเนอะ 

เขาคิดอยู่ในใจ...  ไม่ใช่ว่าเสี่ยเคยคิดจีบคุณเพ้นท์แล้วถูกปฎิเสธมาหรอกนะ  คุณเพ้นท์ยิ่งหล่อๆ  น่าจะถูกใจเสี่ยอยู่ด้วย

แน่นอนว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว  เพราะเสี่ยดีดหน้าผากเขาดังโป๊ก  บอกว่าถ้าเขาคิดฟุ้งซ่านไม่เลิกได้ถูกจัดหนักอีกรอบแน่

เขาที่ถูกดีดหน้าผากก็ลูบหัวป้อยๆ  ฟังเสี่ยเล่าต่อว่า  หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นมา  เวลาคุณเพ้นท์พาพี่พีออกมางานเลี้ยง (ความจริงคือพาพี่พีมาหาอะไรกิน)  คุณเพ้นท์จะสั่งให้พวกบอดี้การ์ดคอยวนเวียนอยู่ห่างๆ รอบตัวพี่พี  ใครกล้ามาหาเรื่อง  ก่อกวน  ลวนลาม  หรือตามตื้อพี่พีให้เป็นสะพานหาประโยชน์ไปถึงคุณเพ้นท์  ร้อยทั้งร้อย  นอกจากเขาจะถูกบอดี้การ์ด “เชิญ” ออกไป  คุณเพ้นท์ยังขึ้นบัญชีดำกับทั้งบริษัท  ไม่คิดดีลงานต่อด้วย

“  อ่า…  แล้วเมื่อคืน” 

เขาเริ่มหน้าซีดเผือด  หูตกหางลู่  เริ่มรู้ถึงความผิดของตัวเอง  ถ้าเกิดเรื่องเมื่อคืนทำให้คุณเพ้นท์เข้าผิด  ไม่พอใจเขาที่เข้าไปชวนพี่พีคุยก่อนแล้วไม่ดีลงานกับบริษัทเสี่ยต่อจะทำยังไง  ปีๆ หนึ่งบริษัทได้เงินจากคุณเพ้นท์มาหมุนทีก็ตั้งหลายล้าน  แล้วถึงเมื่อคืนเขาไม่ลวนลามแต่หลักฐานคาตา  เขากินเค้กจากมือพี่พี  แถมให้นามบัตรในเชิงธุรกิจกับพี่พีไปแล้วด้วย


“ ฮึ”

......ถ้าพูดมากกว่านี้ดอกพิกุลจะหลุดออกมาจากปากหรือไงวะ!


แต่นั่นแหละนะ  ได้แต่คิดพูดออกไปไม่ได้!

เสี่ยบอกกับเขาที่หูตกหางลู่  หน้าซีดเผือดไม่หายว่า  คงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง  เพราะเสี่ยก็เองคอยจับตาดูเขาอยู่ห่างๆ  ตลอดเวลา  ตั้งแต่ตอนที่เขาเหล่สาว(!)  ชวนพี่พีคุย  ไปจนถึงตอนเขากับพี่คุยกันกะหนุงกะหนิงป้อนเค้กให้กันแล้วเขาก็กล้าอ้าปากงับ
 
เสี่ยบอกเขาให้สบายใจว่า  ถ้าพี่พีไม่ได้ท่าทีว่ารำคาญ  คุณเพ้นท์เองก็คงไม่คิดเล็กน้อยกับแค่ไอ้เรื่องที่แฟนตัวเองคุยกับคนอื่นแบบนี้

หงิงงงงงงงง

เสี่ยพูดมาแบบนี้....

เขาว่าเสี่ยไม่ได้กำลังจะพูดปลอบใจเขาหรอกว่าไม่มีอะไร  เพราะดูจากสายตาเสี่ยที่ส่งมาตอนนี้  เขาว่าเสี่ยคงกำลังอยากจะหามีดจิ้มพุงเขาต่างหาก!  กล้ากินเค้กจากมือคนอื่น  แถมถึงขั้นกล้าเหล่สาว....  นี่เสี่ยแอบดูเขามาตลอดเลยเหรอวะ!

“ แล้วยังจะเถียงอีกว่าไม่ได้ไปจีบใครอีกนะ! ”

หงิ้งงงงงงงงงงงงงงง

“ เสี่ยยยยย!!!  พระแพงขอโทษษษษษษ  พระแพงเจ้บบบบบบบบ!!!!!!”





จ๊บ



* ปปง.  = งานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน~

>>>  หายไปนานเลย  แฮะๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-07-2017 20:31:26 โดย teatimes »

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
คิดถึงอิเสี่ยและพระแพง. ฮิอิ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยยยยย คิดถึงเรื่องนี้

ออฟไลน์ joyey6217

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ครานี้เสี่ยมีบทพูดเยอะขึ้นนะ
คิดถึงพระแพง เเอนด์ เสี่ยแค่กๆ
คู่นี้ยังคงความแซ่บไม่เสื่อมคายจริงๆ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ตอนนี้เสี่ยมีบทพูดมากกว่าทั้งเรื่องรวมกันไหมคะ555555555555 มีความแซ็ว #เขียนไทยให้ถูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไม่แน่นะ อาจจะได้ ออเดอร์ล็อตใหญ่มากก็ได้

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ตอนพิเศษจริงๆ เสี่ยมีบทเยอะ อิอิอิ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คิดถึง มากกกกกกกกกก  :mew1: :mew1: :mew1:
ไรท์มาต่อ ดีงามต่อใจสุดๆ

พี่เพ้นท์ ที่หลงพี่พี นี่เพราะพี่พี น่ารัก อ้อนเก่ง แถมเอาอกเอาใจเป็นเลิศแน่เลย

พะแพง มีแอบเหล่สาว เสี่ยก็เห็นการเหล่นี้ด้วย  :hao3:
พี่พี ป้อนอาหารให้ เสี่ยก็เห็นอี๊ก  :z3: :z3: :z3:
แล้วพะแพงที่น้อยใจเสี่ย
อิจฉาพี่พีพี่เพ้นท์ ที่เดินจูงมือกระหนุงกระหนิง 
ก็ลงโทษเสี่ย ออนท็อปซะเลย เจ๊ยยยยยย    :z1:  :haun4: :pighaun:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
โธ่แพง ลึก ๆ ในใจก็คิดอยู่ไม่น้อยสินะ

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คิดถึงแพงงงงง และยังคงหมั่นไส้เสี่ย หึ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พะแพงงงงงงงงงงงงงงง  :pandalaugh: :pandalaugh: :pandalaugh:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
อยู่ในสายตาเสี่ยตลอด
อย่าพลาดเหล่ไปทางไหนเชียว

ออฟไลน์ Pangvivacious

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รู้สึกเสี่ยพูดมากขึ้น(รึเปล่า?55555555555)

ดูเสี่ยใจดีกะพระแพงมากขึ้นอะ ดีใจจุงงงง o18


ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คิดถึง..งงงงง พระแพงยังน่ารักเหมือนเดิม   :mc2:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
รั่วสมกับเป็นพระแพง และซึนสมกับเป็นเสี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด