บทจบ (ครึ่งหลัง)
แต่อนิจจา....
เกิดเป็นคนหล่อนี่ช่างมีกรรม ตอนที่กำลังเดินออกจากห้องอยู่ๆ ก็เจอเสี่ยมายืนขวางทางไว้ ถึงนี่จะเป็นห้องของเสี่ย... แต่เสี่ยบอกกันล่วงหน้าก่อนก็ได้!
เขาที่ตะลึง ตึง ตึง เพราะถูกเสี่ยจับได้ว่ากำลังหนีออกจากบ้านแบบคาหนังคาเขา ก็ได้แต่ยกมือไหว้เสี่ยแก้เก้อ เสี่ยยังอยู่ในชุดสูทเรียบกริบเหมือนเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน เสี่ยมองเขาด้วยสายตาสงสัยก่อนเลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะถามว่าเขาจะหิ้วของออกไปไหนกันแน่
ครับ ผมจะหนีออกจากบ้านครับ เพราะอย่างนั้นขอเสี่ยจงโปรดหลีกทางให้ผมด้วย...
จะบ้าเรอะ! เขาจะบอกแบบนั้นได้ที่ไหนกันเล่า!
แต่ถึงถูกจับได้เราอย่ายอมรับ เพราะงั้นเขาเลยอ้อมแอ้มบอกเสี่ยไปว่า จะออกไปธุระข้างนอกแล้วเตรียมตัวชิ่ง แต่เสี่ยเหรอจะเชื่อ เป้หนึ่งใบกับกระเป๋าลากทำตัวอย่างกับพวก AF เตรียมกลับบ้าน เสี่ยคงจะยอมเชื่อหรอกนะ!
" มานี่!" เสี่ยคำราม
แถมเสี่ยคำรามแล้วไม่คำรามเปล่า เสี่ยลากคอเขากลับเข้ามาในห้อง (ลากคอจริงๆ ไม่ใช่คำอนุมาน) ยิ่งเสี่ยเจอใบโอนหุ้นพร้อมแหวนที่ตั้งหลาบนเคาน์เตอร์ เสี่ยยิ่งอยากฉีกเขาเป็นชิ้นๆ พอเสี่ยลากเขาที่ถือของพะรุงพะรังกลับมาที่ห้องนั่งเล่นได้เสี่ยก็เหวี่ยงเขาลงกับพื้น
แล้วโปรดอย่าคิดว่าจะมีพวกฉาก 18+ ประเภทเสี่ยตบก่อนตามด้วยจูบจากนั้นก็กระชากเขาลงบนโซฟาแล้วเขาก็อิ๊อ๊าจนจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง นี่มันชีวิตจริงนะที่ไม่ใช่ละคร! เพรางั้นพอเสี่ยเหวี่ยงเขาได้ เขาก็ตั้งหลักเตรียมสวนกลับเต็มที่ กะว่าถ้าเสี่ยตบมาเมื่อไหร่เขาสวนกลับเสี่ยแน่ไม่ต้องรอถึงขั้นจูบด้วย!
" เป็นอะไร!" เสี่ยคำรามอีกรอบแล้วทิ้งตัวลงกับโซฟา
เสี่ยเองก็คงเห็นเขาเตรียมต่อสู้เต็มที่ เสี่ยเลยข่มความโกรธแล้วดึงเนคไทออกแล้ว ก่อนเอามือปิดหน้า กดมือลงที่สันจมูกต่อด้วยนวดขมับ เสี่ยทำท่าทางเหมือนเสี่ยจะเครียดมาก นี่ตกลงเขาทำผิดจนทำให้เสี่ยเครียด? จะบ้าเหรอ! เขาต่างหากล่ะที่ต้องเครียด!
แต่พอเสี่ยไม่พูดอะไรต่อเขาก็ไม่พูด เขากับเสี่ยจ้องตากันสลับไปมา จนเวลาผ่านไปเขาก็เตรียมทำตัวเป็น AF ที่กำลังจะออกจากบ้านอีกรอบ คว้ากระเป๋าลากได้ก็ก้าวเท้าฉับๆ เตรียมออกจากห้อง แต่นั่นแหละเสี่ยเหรอจะยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ ลองเสี่ยอยากได้อะไรเสี่ยก็ต้องได้ ตัวเขาก็เหมือนกัน ถึงเขาจะไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเสี่ยต้องรั้งไว้แต่พอเสี่ยคว้าไหล่เขาได้ เขาที่รอสวนกลับมานานก็สวนหมัดกลับไปแบบเน้นๆ กะเอาให้หน้าหล่อๆ นั่นเสียโฉมนั่นแหละเขาถึงจะพอใจได้
แต่อนิจจา.....(อีกรอบ)
มือติดกระเป๋าลาก!
เขาที่มือไม้ถือข้าวของพะรุงพะรังก็ดันเสียจังหวะจนต้องหยุดชะงัก จะใช้หมัดซ้ายสวนกลับไปแทน เสี่ยก็กันได้เพราะเสี่ยตั้งตัวติดได้แล้ว เขาที่จะชกต่อก็ชกไม่ออก จะด่าก็ด่าไม่ได้ เลยบ่อน้ำตาแตกแ_่งเลย มองอะไร.... ไม่เคยเห็นหมีควายร้องไห้หรือไงวะ!
เสี่ยเองพอเห็นเขาร้องไห้ก็ได้แต่ทำหน้าตกใจ เดินเข้ามาปลอบหมีควาย(ที่ไม่ได้โกนหนวดมาสองวัน) พร้อมกับถามว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ โถ พ่อคุณสมองมด เป็นมดเอ็กซ์ที่กำลังจะแปลงร่างมั้งถามมาได้!
แต่ก็นั่นแหละ พอเสี่ยเข้ามากอดปลอบพร้อมกับเกลี่ยน้ำตาโอบหน้ากอดหลัง ไม่ว่าทิฐิหรือมานะความตั้งใจจริงมาจากไหนก็ถูกเสี่ยทำลายลงได้อย่างราบคาบ เสี่ยดึงเขาที่ยังร้องไห้มากอดปลอบอีกรอบ ปลดประเป๋าเป้กับกระเป๋าลากออก แล้วดึงเขาลงไปนั่งบนตักเสี่ยที่โซฟา จัดท่าเป็นอีหนูนั่งตักเสี่ยเสร็จ เสี่ยก็ถามเขาอีกรอบว่าเป็นอะไรกันแน่ ร้องไห้เสียใจหรือน้อยใจตรงไหม หื้อม
เขาที่เห็นเสี่ยโอ๋แม้จะรู้ว่าเสี่ยกำลังข่มความโกรธเพราะเส้นเอ็นที่คอเสี่ยขึ้นชัดมาก แต่เพราะความน้อยใจที่กักเก็บมานานเลยทำให้เขาเลือกที่จะไม่ใส่ใจและพรั่งพรูสิ่งต่างที่อยู่ในใจออกมาจนหมดสิ้น ลากยาวมาตั้งแต่เรื่องความน้อยใจ เรื่องที่ถูกทิ้งอยู่ในห้อง เรื่องที่เสี่ยจะแต่งงานกับคุณปุยฝ้าย เรื่องหุ้นที่เรื่องเสี่ยหลอกใช้ และวนกลับมาที่เรื่องคุณปุยฝ้ายอีกรอบ
โดยในระหว่างที่เสี่ยฟัง เสี่ยก็คำรามเสี่ยงต่ำเป็นการตอบรับอยู่ในลำคอหลายครั้ง แต่พอเขายิ่งเล่าเสี่ยก็ยิ่งนิ่งและโกรธมากขึ้น เขาที่ยังไม่รู้สถานการณ์ก็ได้แต่พล่ามต่อไปเรื่อยๆ จนไหล่เสี่ยเปียกน้ำตาจนชุ่ม และในตอนที่เขาเล่ามาถึงจุดที่เสี่ยใช้เขาเป็นหมาก คราวนี้... เสี่ยคำรามเสียงต่ำของจริง เสี่ยตบลงที่ก้นจนเกิดเสียงดังเหมือนกับเป็นการลงโทษ เขาที่อยู่ๆ ก็ถูกตีเลยได้แต่ทำตาปริบๆ และฟังเสี่ยสบถสองสามเป็นภาษาเดนิชและได้ยินเสี่ยคำรามเป็นชื่อไอ้รุต
เขาที่เริ่มรู้ว่าทุกอย่างน่าจะมีการผิดโผขึ้นแล้วเลยได้แต่กระดึ๊บๆ จะลงจากตักเสี่ยให้ได้ แต่คงทันหรอก เพราะเสี่ยดึงหูเขาเอาไว้ทั้งสองข้างแล้วถามเสียงเหี้ยม
" ตกลงรุตมันบอกอะไรเราบ้าง!"
" บอกว่าเสี่ยจะแต่งงานครับ!" โอ๊ยๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆ เสี่ยจะมาดีดหูเขาทำไม ไอ้รุตมันออกเขามาแค่นี้จริงๆ เขาสาบานได้ เขาไม่ผิดนะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้รุตด้วย!?
เอาเป็นว่าสุดท้ายวันนั้นกว่าเขาจะปรับความเข้าใจกับเสี่ยได้เขาก็เกือบหน้ามืด เสี่ยจัดหนักจัดเต็มกับเขาไปจนครบสามรอบ โดยที่ครั้งแรก... คงเพราะเสี่ยเองก็อดทนข่มกลั้นมานานเพราะมีแต่เรื่องเครียด เลยปลดปล่อยออกมาเร็วมากเรียกได้ว่านกกระจอกไม่ทันจะกินน้ำ... แค่กๆๆ เอาเป็นว่าครั้งแรกเสี่ยปลดปล่อยออกมาเร็วมากเพราะเขาที่กำลังดิ้นหนีอยู่จากการเกิดเรท 18+ กว่าจะมารู้ตัวอีกทีเสี่ยก็ปลดปล่อยออกมาแล้วเต็มถุงยางแล้ว เขาเองจะขำก็ขำไม่ออก จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ได้เพราะไม่อยากให้เสี่ยขายหน้า แต่ก็นะ...อย่างเสี่ยเหรอจะไม่รู้อยู่มาด้วยกันนานขนาดนี้... เพราะอย่างนั้นพอเสี่ยเปลี่ยนถุงยางใหม่ได้ เสี่ยก็กดลงมาแบบไม่ยั้งเรียกว่าเขาต้องยอมร้องขอชีวิตนั่นแหละเสี่ยถึงยอมปล่อยให้เขาไปได้
เฮ้อ~ สรุปว่าวันนั้นเขาเสร็จเสี่ยไปสามรอบ(เสี่ยสี่รอบถ้านับตามจำนวนน้ำ) โดยครั้งที่สามของเขาเสี่ยเล่นจนเขาหน้ามืดเกือบล้มทับเสี่ยให้ได้ จากที่กำลังเล่นท่ายากเสี่ยก็เลยต้องค่อยๆ ช่วยประคองตัวเขานอนลงกับเตียงเพราะเขาหมดแรงมาม่า พอเสี่ยที่ถามเขาว่าไม่ได้กินอะไรหรือไงทำไมถึงแรงตกแบบนี้ เขาก็ตอบไปตามตรงว่าเขากินแต่มาม่ามาตลอดหกมื้อ เท่านั้นล่ะ พ่อเจ้าประคุณเอ๊ย ขยับท่อนล่างอย่างเดียวไม่พอ เสี่ยยังขยับท่อนบนด้วย เสี่ยดีดหน้าผากเขาดังเป๊าะๆๆๆ บอกว่าเขาคิดคิดมาก แถมฟังไม่ศัพท์จับไปกระเดียดด้วย!
เอ๊า! นี่ตกลงว่าเขาผิดว่างั้น!?
แต่เอาเป็นว่า เขาจะผิดจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่พอเสี่ยจัดการเขาครบสามรอบจนเขาหมอบราบคาบไม่มีแรงเถียง เสี่ยก็ไปอาบน้ำและสรุปเรื่องราวให้เขาฟังแบบสั้นๆว่า เสี่ยสั่งให้รุตบอกว่าให้เขาอยู่แต่ในคอนโดก็จริงแต่ไม่ถึงขั้นออกไปข้างนอก เวลาออกไปไหนมาไหนก็ให้ระวังตัวด้วยเพราะมีคนของคุณปุยฝ้ายอยู่ไปทั่ว ส่วนเรื่องข้าวเสี่ยก็บอกให้โทรสั่งมากินได้เพราะว่าเสี่ยไม่ได้ห้าม
เอาจริงๆ เลยนะความจริงแล้วสิ่งที่เสี่ยสั่งความมากับไอ้รุตครั้งแรกสุดน่ะยาวเป็นมาเป็นหางว่าว แต่เพราะเขามัวแต่ช็อคก็เลยจับใจความไม่ได้ และพอเสี่ยบอกมาเขาก็ได้แต่หางตกเพราะเวิ่นไปเยอะ ถึงจะเดาเรื่องได้ 8 ส่วนแต่เรื่องที่คิดว่าเสี่ยไม่ได้บอกเขาเสี่ยบอกว่าถือเป็นโมฆะเพราะเสี่ยสั่งความมากับไอ้รุตไอ้แล้ว
แต่ว่านะเท่าที่จำความได้นอกจากเรื่องที่มันบอกว่าเสี่ยจะแต่งงานเขาก็จับใจความอื่นไม่ได้ ขนาดนอกจากเรื่องมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเสี่ยเขาก็ยังจับใจความไม่ได้ และพอเสี่ยเห็นว่าเขายังมีแรงเถียงเสี่ยเลยตบที่ตูด เอ๊ยก้นเขาที่เพิ่งผ่านใช้งานอีกหนึ่งรอบแล้วโทรศัพท์หาไอ้รุต
เท่านั้นล่ะพ่อเข้าประคุณเอ๊ยยย ระเบิดลงอีกรอบ เสี่ยที่ตอนแรกพูดภาษาไทย(เพราะเขาอยู่ฟังด้วย) อยู่ๆ ด่าไอ้รุตเป็นภาษาเดนิชยาวยืด คือทั้งยาวทั้งยืดจนเขามีแรงลุกไปอาบน้ำเสร็จพอออกมาเสี่ยก็ยังด่าไอ้รุตไม่เลิก เขาที่อาบน้ำจนสบายตัวแล้วก็นอนทิ้งตัวลงกับเตียงปล่อยให้เสี่ยลูบหัวลูบหางไปเล่น
สุดท้ายและท้ายที่สุดของเรื่องคือ เรื่องนี้มีไอ้รุตเป็นลาสบอส มันยอมรับสารภาพว่ามันบอกแค่ในส่วนที่ว่า พี่อธิปหรือเสี่ยจะแต่งงานจริงแต่เรื่องอื่นมันไม่ได้พูด มันบอกว่าช่วงสองสามวันก่อนมันยุ่งมาก ทั้งเรื่องการจัดการกับงานเอกสาร ช่วยหัวหน้าแผนกเมคข้อมูล ตามคนกับทนายและรวบรวมนักสืบสายสืบที่เกี่ยวข้อง เรียกได้ว่ามันยุ่งจนหัวปั่นมากๆ และที่นี้มันก็เลยเลือกบอกเขาแต่เรื่องสำคัญๆ อย่างเรื่องที่เสี่ยจะแต่งงาน กับเรื่องทุกอย่างเป็นแผนที่เสี่ยวางไว้เพราะฉะนั้นมันเลยสั่งให้เขาอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก อ๋อ แล้วมันก็บอกด้วยว่ามันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเสี่ย หรือพี่อธิปเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย
ไอ้เรื่องที่ตัวเขาตกใจจนสติหลุดและฟังไม่ครบก็เป็นความผิดที่เขายอมรับ แต่พอวันหลังจากที่เขาเมาแอ๋พอโทรหามันอีกครั้ง มันก็ดันยุ่งเพราะตอนนั้นเสี่ยถูกกักตัวหรือก็คืออยุ่กับตัวผู้บริหารแล้ว มันที่เป็นสายสืบลับเฉพาะกิจ (เพราะหน้ามันไม่เหมือนกับหน้าเสี่ยซักนิดเลยไม่มีใครจับได้) เลยต้องเป็นคนวิ่งวุ่นเตรียมหาทั้งหาหลักฐานมาชี้แจงในที่ประชุมและเข้าควบคุมพนักงานที่น่าสงสัยไม่ให้หนีออกไปข้างนอก พอเขาโทรหามันๆ ก็เลยด่ายับ(เป็นภาษาเดน) และรวบรัดตัดตอนอย่างที่เขาเคยได้ยินว่า อย่าออกไปข้าง อย่าคุยโทรศัพท์กันคนอื่นด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนเป็นพยานได้เพราะเขาได้ยินคำสั่งมาแค่นี้ (เขาไม่ผิดด้วย!)
ส่วนเสี่ยเองพอฟังที่ลูกพี่ลูกน้องแถ พี่แกก็กดที่สันจมูกอีกหนึ่งรอบ ตบลงที่ก้นเขาอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะซุกตัวลงมานอนด้วยความปวดหัวไม่แพ้กัน ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้วเพราะเขาออกกำลังกายกับเสี่ยกันนานมาก
เสี่ยเล่าในเขาฟังในส่วนของแผนการที่ตกหล่นจากไอ้รุตกับไอ้ขิมว่า ทุกอย่างเป็นแผนที่เสี่ยวางไว้เพื่อจับตัวคุณปุยฝ้ายกับผู้บริหาร X และแน่นอนว่าเรื่องที่เสี่ยจดทะเบียนสมรสก็เป็นเรื่องจริง แต่ใบทะเบียนสมรสน่ะเป็นของเก๊ เรียกได้ว่าใบทะเบียนสมรสที่เสี่ยใช้เสี่ยปริ๊นท์จากเครื่องถ่ายเอกสารที่มีความละเอียดสูง โฟโต้ช็อปนิดหน่อยก็ได้ใบทะเบียนสมรสปลอมที่เหมือนจริงมาก ทั้งความหนากระดาษและสีของข้อความ เรียกได้ว่าสมจริงเป๊ะถ้าไม่สังเกตจริงๆก็คงไม่รู้ดูผ่านๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนจดทะเบียน เสี่ยก็จ้างคนแถวนั้นมาใส่สูทผูกไทด์ สรุปง่ายๆ คือเสี่ยจดทะเบียนสมรสจริง แต่ใบทะเบียนเป็นของเก๊ไม่มีผลทางกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้น
ส่วนของเรื่องลูก เด็กในท้องคุณปุยฝ้ายนี่ก็เป็นลูกของเสี่ยจริงไม่มีหมกเม็ด แต่พอเขาแย็บๆ ถามเสี่ยว่า เสี่ยไปทำอีท่าไหนเสี่ยถึงมีลูกได้เพราะเสี่ยเป็นเกย์แบบบอร์นทูบี คือตอนที่เขาถามน่ะ เขาก็ถามออกไปแบบไม่คิดมาก เพราะนึกว่าเสี่ยจะตอบมาว่าความจริงเสี่ยเป็นไบที่มีอะไรกับผู้หญิงก็ได้อะไรแบบนี้ แต่ที่ไหนได้พอเสี่ยฟังคำถามเขาจบ เสี่ยก็ถามกลับเสียงเหี้ยมว่าอยากดูท่าไหนเป็นพิเศษไหมเสี่ยจะได้จัดให้ เขาที่เพิ่งถูกกินตับมาจนหมดแรงข้าวต้นเลยได้แต่ขนหัวลุก เพราะจากที่จำได้คือทุกครั้งที่เสี่ยอยู่กับคุณปุยฝ้ายเสี่ยจะค่อนข้างเครียดและมาต้องมาปลดปล่อยกับเขาทุกรอบ ดังนั้นเขาก็เลยพอจะเดาคำตอบได้ว่าเสี่ยต้องใช้วิธีการหรือไม่ก็วิธีอะไรซักอย่างที่ไม่น่าพิสมัยทำลูกกับคุณปุยฝ้ายแน่ และแน่นอนว่าพอเจอเสี่ยยิ้มเหี้ยมเขาก็ไม่อยากถามต่อให้เจ็บตัวหรือเหนื่อยหนักมากขึ้น เขาเลยเปลี่ยนเรื่องอย่างชาญฉลาดถามใหม่ว่าทำไมเสี่ยต้องมาหลอกใช้เขาด้วย (อันนี้คือถามอย่างชาญฉลาดแล้ว)
และตรงนี้แหละที่เสี่ยเขกหัวเขาอีกรอบบอกว่าเขาคิดมาก ถ้าเสี่ยอยากหลอกใช้จริง เสี่ยก็ไปหลอกใช้คนอื่นก็ได้ทำไมต้องมาหลอกใช้เขาด้วย เขาที่ถูกเสี่ยหลอกล่อก็ได้แต่คิดตามจนสรุปได้มันก็จริงแหละนะ... แต่เอ... หรือว่าไง มันไม่น่าจะใช่นะเสี่ยนะ
เสี่ยเองพอเห็นเขาไม่เชื่อก็ดีดที่หูเขาอีกหนึ่งรอบ (ชอบยุ่งกับหูชาวบ้านจริง!) ก่อนจะแถว่า เสี่ยบอกแล้วว่าเสี่ยไม่ได้หลอกใช้ เสี่ยก็แค่มองเห็นว่าทุกอย่างเป็นผลประโยชน์ร่วม ประมาณว่ายิงปืนนัดเดียวเสี่ยได้นกมาทั้งฝูงเลยว่างั้น
คือเสี่ยบอกว่าตอนแรกเสี่ยแค่เครียดเลยอยากได้เด็กมาระบายอารมณ์ด้วย (ซึ่งอันนี้เขาไม่ว่าเพราะเขาเองก็ตัดสินใจมาก่อนแล้วว่าอยากช่วยเสี่ยคลายเครียด) ส่วนเรื่องบ้านเสี่ยก็ให้ก็เขาเป็นของขวัญจริงไม่ได้มีนัยยะอะไรแอบซ่อน เพียงแต่เรื่องนี้นั่นแหละที่เสี่ยบอกว่าเป็นผลประโยชน์ร่วม เสี่ยมีความสุขที่ได้เปย์(ก็เสี่ยสายเปย์เกรด A+) ส่วนเขาก็มีความสุขที่ได้บ้านใหม่ที่รีโนเวตแล้ว(เหรอวะ.... ก็คงใช่แหละมั้ง เพราะเขามีความสุขจริง) ส่วนเรื่องหุ้นกับเรื่องคุณปุยฝ้าย เสี่ยก็ถือว่าเป็นผลประโยชน์ร่วม เสี่ยจับคุณปุยฝ้านกับผู้บริหาร X ส่วนเรื่องหุ้นเสี่ยก็ไม่ได้หลอกเขา เพราะเสี่ยเห็นว่าไม่ได้สำคัญมากเสี่ยเลยไม่พูด
เขาที่ได้ฟังเสี่ยแถจนสีข้างจะถลอกก็ได้แต่ทำใจว่า เอาวะ ความรักทำให้คนตาบอด เขาจะยอมตาบอดให้เสี่ยหลอกใช้เอาบ้างก็ได้ เพราะถ้าหากเทียบกับกรณีคุณปุยฝ้าย เรื่องของเขามันเรื่องจิ๊บๆ เพราะคุณเธอถูกหลอกซ้ำหลอกซ้อนทั้งจากคนที่เธอรักและมาถูกเสี่ยหลอกอีกรอบ และอีกอย่างหนึ่งคือเสี่ยเองก็ยังมีความจริงใจกับเขาบ้าง เพราะมาถึงตอนนี้เสี่ยก็ยังไม่เคยบอกว่ารัก และใช้คำว่ามาหลอกใช้เขา
ในตอนเช้าที่เขาพอตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะหลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ ก็เจอสร้อยกับแหวนที่ถอดออกไปแล้ว โดนถูกเสี่ยใส่กลับที่อยู่ตำแหน่งเดิม เสี่ยคาดโทษเขาอีกด้วยว่าถ้าเอาออกอีกเสี่ยจะทิ้งเขาไว้ให้ไปอยู่กับไอ้ธันวาจริงๆ ด้วย
อ่อ ส่วนเรื่องไอ้ธันวานี่เขาก็สารภาพไปหมดเปลือกแล้วว่ามันชวนไปทำงานด้วย ส่วนรูปแบล็กเมล แน่นอนว่าเสี่ยไม่เชื่อ แถมเสี่ยก็เอายังเอารูปที่เขาที่โคตรอุบาทว์มาโชว์หลาด้วย เขาที่เพิ่งตื่นนอนคราวนี้ก็ต้องตื่นขึ้นมาเต็มตาจนต้องมาเล่นท่า 69 เพื่อขอเสี่ยให้ลบรูปอุบาทว์กับรูปเต้นรูปเสาแสนทุเรศนั่นอีกหนึ่งรอบ
ซึ่งเขาขอบอกเลยว่าเสี่ยโคตรลามก เพราะคราวนี้เสี่ยเล่นยิงสดไม่ใส่ถุงยางเพราะไม่มีการสอดใส่ แต่กับเขาที่อยู่ด้านบนก็โดนเสี่ยตบก้นบ้าง ฉกน้องชายเขาที่ตั้งเด่แต่เช้าบ้าง และพอเผลอๆ เสี่ยก็เอานิ้วที่สวมถุงยางใส่เขามาในก้นเขาที่ละนิ้วสองนิ้วและกดลงมาที่จุดของเขาซ้ำๆ ทำเอาที่ต้องใช้ปากทำให้เสี่ยต้องกระตุกไปมาหลายรอบ แล้วพอเสี่ยใกล้เสร็จ เสี่ยก็ใส่เข้ามาทั้งสามนิ้วและขยับเขาออกจนเขาต้องขยับสะโพกตามไปด้วย ต้องขอบอกเลยว่าท่านี้เขาจะเป็นเป็นท่าสุดท้ายแน่ๆ เพราะตอนที่เสี่ยเสร็จเสี่ยก็ปล่อยออกมาเต็มปากเขา ส่วนของเขาเสี่ยที่ใส่ถุงยางให้น้องเขาแล้วก็สะอาดสด ใสกิ๊ง ส่วนด้านหลัง... เอาเป็นว่านั่นเป็นการปลดปล่อยด้านหลังด้วยนิ้วเป็นครั้งแรก เขาที่เพิ่งเคยเสร็จทางด้านนี้ก็ได้แต่ทรุด ลำบากเสี่ยให้ช่วยพลิกตัวเขาออกเพราะเขาหมดแรงข้าวต้ม มาม่าที่กินมาตลอดหกมื้อเลยพลังงานไปแล้วของจริง
เขาที่เพลียจัดก็เลยหลับสนิทและพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็เจอกับอาหารอ่อนๆ อย่างข้าวต้มที่เสี่ยคงเตรียมไว้อยู่ข้างโต๊ะในห้อง เขาที่หมดแรงรวมทั้งที่อดอยากมานานเลยกินข้าวต้มถ้วยใหญ่หมดไปหนึ่งถ้วย และพออิ่มมีแรงออกไปข้างนอกก็เจออาหารแบบฟูลเซ็ตอีกหนึ่งชุด
เสี่ยครับ... เอาเป็นว่าเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมาผมให้อภัยเสี่ยนับจากนี้...
จะบ้าเหรอ! คนนะไม่ใช่ชูชกที่จะมาหลอกกันด้วยของกินได้!
แต่ก็นะที่กินแต่มาม่ามาตลอดหกมื้อ พอเจออาหารดีๆ ความโกธก็หายเกลี้ยง กินไปก็บ่นเสี่ยไปว่าฟันแล้วทิ้งเพราะเสี่ยหายออกไปทำงานต่อเป็นที่เรียบร้อย
เฮ้อ~ เรื่องนี้เอาเป็นว่าเขากับเสี่ยต่างก็เข้าใจกันผิดเพราะสื่อสารกันไม่ครบ ส่วนลาสบอสอย่างไอ้รุตพอเขาโทรไปมันก็ปิดเครื่อง คาดว่ามันคงเตรียมบินไปเดนมาร์กบ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องวันที่เสี่ยมาหาเขาแล้วหาไม่เจอเสี่ยก็คาดโทษเอากับเขาอีกรอบ เอาเป็นว่าเขาผิดทั้งขึ้นทั้งร่องเพราะวันนี้เสี่ยตั้งใจจะมาอธิบายด้วยตนเองแค่เขาดันไม่อยู่ เขางั้นเขาเลยเป็นคนผิดแต่เสี่ยไม่ผิดเลยซะงั้น
แต่ก็นะความรักทำให้คนตาบอด ต่อให้เสี่ยบอกมาแบบไหนเขาก็เชื่อ และพอเอาเข้าจริงเขาเองก็ไม่ต่างกับคุณปุยฝ้าย เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรออกมาเขาก็พร้อมที่จะยอมเชื่อ แม้ว่าเขาจะไม่ผิดแต่พอเสี่ยเปิดปากบอกว่าผิดเขาก็ยอมปิดปากพูดอย่างว่าง่าย ยอมให้เสี่ยคาดโทษโดยบอกว่าคราวหน้าจะต้องยอมให้เสี่ยใช้อุปกรณ์... เอ๊ย ไม่ใช่ๆ เสี่ยไม่พูด เขาก็ไม่ได้พูด! เพียงแต่ว่าอยู่ด้วยกันมานาน เสี่ยชอบเซ็กซ์แบบไหนทำไมเขาจะไม่รู้!
เอาเป็นว่าเรื่องของเขากับเสี่ยถ้าไม่นับเรื่องบนเตียงที่จบแบบสยิวกิ๋ว ก็ถือว่าจบลงแบบแฮบปี้เอนดิ้ง เขาก็รักเสี่ยต่อไปแบบมึนๆ เสี่ยเองก็ไม่เคยบอกรักเขาแต่ก็อยู่แบบนี้กับเขาไปเรื่อย เขาเองพอคาดว่าจบเรื่องนี้ก็จะถูกเขี่ยทิ้ง ก็ได้รับกุญแจคอนโดเป็นของปลอบใจแทน พร้อมกับชื่อในคอนโดที่เสี่ยเปลี่ยนให้เป็นชื่อของเขาเป็นที่เรียบร้อย เขาที่เหนื่อยใจกับเสี่ยสายเปย์ก็ได้แต่ทำใจยอมใจยอมรับ เอาวะ นี่อาจจะเป็นคำบอกรักในแบบของเสี่ยก็ได้ใครจะรู้
ส่วนเรื่องทำงานกับธันวาเขาก็ต้องปฎิเสธไปเป็นที่เรียบร้อยเพราะว่าเสี่ยสั่งห้าม ความจริงแล้วเสี่ยอยากจะเลื่อนขั้นให้เขาขึ้นมาผู้ช่วยเสี่ย เพื่อที่เสี่ยจะได้กินตับเขาง่ายๆ ... แต่อยากนึกนะว่าจะไม่รู้ เสี่ยลามกและโรคจิตแต่ไหน เอาเป็นว่าเขาที่อยู่กับเสี่ยมาขนาดนี้ก็รู้ดีเลยแหละว่าเสี่ยไม่ยอมจบที่โซ่ แส้ กุญแจมือแน่ๆ ดีนะที่ตอนเสี่ยจะเล่นดิลโด้ เขาสั่งห้ามขาดว่าถ้าเสี่ยกล้าทำเขาจะจรเข้ฟาดหางเสี่ยจริงๆ แน่ เสี่ยเลยยอมลามือแล้วมาหยุดที่การใช้ไข่สั่นแทน แต่ อ๊ะๆๆๆ โปรดอย่าคิดลึก เขาไม่ได้ปล่อยให้เสี่ยใส่เข้ามาหรอก เขาแค่ปล่อยให้เสี่ยเล่นแต่ภายนอก
พอๆๆ ที่เหลือไปจินตาการต่อกันเองเพราะเขาจะไม่พูด เอาเป็นว่าเขาอยู่กับเสี่ยแบบนี้ก็มีความสุขมาก ถึงเสี่ยจะยังแอบไปมีกิ๊กเพราะเสี่ยดันนึกถึงรสชาติของเก่าๆ แบบเด็กแซบๆ ประมาณว่าปกติเป็นลูกแมวขี้อ้อนแต่พอขึ้นเตียงก็เปลี่ยนมาเป็นแมวยั่วสวาท ไอ้เขาที่ตัวใหญ่เท่าควายจะให้ไปเลียนแบบเด็กก็ใช่ที่ สุดท้ายก็เลยเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเองและอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ว่างๆ ก็แอบส่องสาวไปทั่ว และเพราะมีการไล่พนักงานเก่าออกไปเยอะเขาเลยได้นั่งตำแหน่งของพี่เทพแทน
อ่อ แล้วก็เรื่องของพี่เทพน่ะ เรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดพีคของจุดพีค เพราะความจริงแล้วคือพี่เทพหนอนบ่อนใส้ที่ทำงานให้กับผู้บริหาร X มานาน เรียกว่ากินไปเยอะหนักมากเลยก็ว่าได้ และถ้าทุกคนจำได้จะมีครั้งหนึ่งที่เขาเอา KFC มาเลี้ยงครั้งนั้นพี่เทพเองก็อยู่กินด้วย แต่เพราะไม่ได้สนิทมากเขาก็เลยไม่ได้เอ่ยชื่อ และก็นั่นแหละคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ใครจะไปคิดถึงว่าแท้จริงคนอย่างพี่เทพที่ทำงานอยู่มานานแต่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งทั้งที่ไม่เคยทำงานพลาดแท้จริงแล้วเป็นหนอนบ่อนใส้ พอเสี่ยจับผู้บริหาร X ได้และเรื่องทุกอย่างแตกโผละ พี่แกที่ถูกหางเลขไปด้วย เลยพาลจะมาระบายความโกรธกับเขาซะงั้น เขาเองก็ไม่ได้รู้เรื่องก็เอาแต่นั่งเศร้า
ซึ่งเรื่องนี้แหละที่ทำเอาเขาสยองขวัญมาถึงทุกวันนี้ เสี่ยเล่าให้เขาฟังว่าทางฟร้อนท์โทรมาบอกเสี่ยเรื่องที่พี่เทพจะบุกเข้ามาในคอนโดเพื่อที่เป่าขมองเขาให้ได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้พี่แกเคียดแค้นจัดก็น่าจะมาจากเรื่องที่เขาไม่ยอมออกไปหาคุณปุยฝ้ายตามแผน พี่แกเลยหันมาโกรธเขาแทนซะงั้น ไอ้เขาเองที่ตอนนั้นกำลังแดก เอ๊ย กินมาม่าอยู่ก็ไม่ได้รู้เรื่องเลยว่ากำลังจะถูกเปล่าสมองจนกำลังจะไปพบยมบาลอยู่ร่อมร่อ จนกระทั่งพี่เทพถูกจับตัวไปและถูกเสี่ยยัดข้อหาพยายามฆ่าและมีอาวุธปืนอยู่ในครอบครองอย่างผิดกฎหมายเขาก็ยังไม่ได้รู้เรื่อง ได้แต่นั่งจิตตกนึกว่าตัวเองเป็นหมาถูกทิ้ง และต้องนั่งคอยเสี่ยอยู่คนเดียวในห้อง
และเขาขอบอกอีกรอบเลยนะว่า เรื่องนี้ไอ้รุตนั่นแหละที่เป็นลาสบอส เพราะตอนที่เกิดเรื่องเสี่ยเองก็กำลังจัดการเรื่องเอกสารอยู่กับทนาย และกำลังทำเรื่องส่งฟ้องก็ยุ่งมากเพราะมีผู้เกี่ยวข้องเยอะ ตัวเสี่ยเองที่ยุ่งจนบางมื้อข้าวก็ไม่ได้กิน ก็ได้แต่โทรสั่งให้ไอ้รุตโทรมาหาเขาอีกรอบ ฝากถามมาด้วยว่าเขาปลอดภัยดีไหม ไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า แต่ก็นะ มันที่มันโทรมาบอกเขาน่ะ ทุกคนคงจำได้ว่ามันบอกแค่ว่า "ทุกอย่างปกติดีแล้วให้เขากลับไปทำงานต่อได้"
แล้วไหนล่ะคำว่าพี่เทพจะบุกมายิงเขา แล้วไหนล่ะคำว่าเสี่ยฝากมาถามว่าเขาปลอดภัยดีไหม...
ไม่มี! ไม่มีเลยซักนิด!
เพราะงั้นเสี่ยที่ถูกเข้าใจผิดเลยไปจัดการคาดโทษไอ้รุตที่อยู่ถึงเดนมาร์กอีกหนึ่งรอบ เขาเองก็โทรไปด่ามันเป็นภาษาบ้านเกิดตัวเองอีกหนึ่งรอบ บอกมันว่าถ้าครอบครัวเขากับเสี่ยแตกแยกก็เป็นเพราะมึงนั่นแหละที่เป็นตัวเสี้ยม!
แต่มีเหรอที่มันจะสนใจ พอกลับถิ่นเก่าไปได้มันก็ลั้ลลาแฮปปี้ แถจนสีข้างถลอกเหมือนคนเป็นลูกผู้พี่ก่อนจะปล่อยให้เขาด่าแล้วก็ตัดสายทิ้ง เสี่ยเองก็นะ...พอลูกพี่ลูกน้องบอกอะไรเสี่ยก็เชื่อ เสี่ยแก้ตัวบอกว่าไอ้รุตมันบอกว่าเขาอยู่ที่คอนโดก็มีความสุขดี
ซึ่งเขามีความสุขตรงไหนไม่ทราบ!
เพราะเท่าที่เขาจำได้คือวันที่มันโทรมาบอกเขาน่ะ เขาก็ได้แต่อือๆ ออๆ เพราะคิดว่าตัวเองถูกหลอกใช้ก็เลยเอาแต่เฮิรซ์ เสี่ยเองพอเห็นเขาไม่โทรไปก็นึกว่าเขามีความสุขดี อยู่ดีกินดีเพราะได้หยุดสี่วันก็เลยนึกว่าเขาแฮปี้มาก แต่แฮปปี้ด๋อยอะไรล่ะ นั่งเป็นหมาหงอยรอโทรศัพท์จากเสี่ยอยู่ในห้อง!
และเพราะเสี่ยนึกว่าเขาอยู่ดีกินดี พอวันพฤหัสเสี่ยที่เพิ่งทำงานเสร็จก็เลยกะจะมากอดเขาให้เต็มคราบ เพราะคิดว่าเขาอยู่ดีและแฮปปี้คงเตรียมตัวพร้อม แต่ที่ไหนได้เปิดห้องมาดันมาเจอหมีที่กำลังจะหนีออกจากห้อง แถมหมีหนียังไม่พอ หมียังอะละวาดใส่ด้วย! ก็แหม... ก็ตอนนั้นคนมันเฮิรซ์หนวดเลยไม่ได้โกนก็เลยเหมือนหมีไปบ้าง แต่แล้วไงล่ะ เขาไม่ผิด ไอ้รุตนั่นแหละผิดที่ก่อเรื่อง! แล้วเขาก็ออกจะหล่อเร้าใจออกเพราะเสี่ยเองก็เสร็จไปตั้งสี่น้ำ