°•°•°Hidden Wood°•°•°•[เส้นผมบังใจเขา] #แอบลักษณ์ อัพบทที่28 22/6/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: °•°•°Hidden Wood°•°•°•[เส้นผมบังใจเขา] #แอบลักษณ์ อัพบทที่28 22/6/60  (อ่าน 105309 ครั้ง)

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
เห้ออออออ ไม่มีวี่แววจะดีขึ้น อุตส่าดีใจที่โดนยาแล้วลงท้ายที่ไม่เอากัน(เหมือนๆ นิยายส่วนมาก) แต่ดันความจำเสื่อมนี่สิ  :ling2:

ออฟไลน์ Naam3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
หวังว่าพี่รามคงมีเหตุผลพอ
ไวน์ ลักษณ์ต้องพากันไปทำบุญบ้างแล้ว คลาดกันตลอด ไม่รู้จะได้รักกันเมื่อไหร่ เฮ้อ...... :mew5:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
แค่มีใจ ตรงกัน มันไม่พอ
ถ้าไม่ขอ เปิดใจ ไร้ความฝัน
ต้องเปิดปาก อยากบอก ตอกสัมพันธ์
เราเป็นคน รักกัน มั่นเสมอมา

ได้กลิ่นตุๆ#หมาหัวเน่า#นิวนี่เอง
กร๊ากกกกกก

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
ตอนที่ 24

Love or friendship, one cannot serve two masters.

 

 

 

 

             GoodLuck: อืม

 

          ไวน์จ้องตัวอักษรไม่กี่ตัวที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์อีกรอบ  เขารีบกดโทรเข้าเครื่องของอีกฝ่ายทันที  ลักษณ์ไม่รับสาย 

            Wishmeluck:  รับโทรศัพท์กูหน่อยนะ  ไม่ก็ตอบกลับมามากกว่านี้ได้มั้ย

            Wishmeluck:  ลักษณ์  ได้โปรดเถอะ  อืมของมึงหมายความว่ายังไงกันแน่

            Wishmeluck:  ตอบกูหน่อยนะลักษณ์

            Wishmeluck:  ถ้ากูอาการทรุดหนักไป จะทำไง

           

GoodLuck: ก็ตายๆไปสิ

GoodLuck: มาบอกกูทำไม

           

 

            ประโยคที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำเอาไวน์ชะงัก  เขาอ่านประโยคนั้นซ้ำอย่างครุ่นคิด   ข้อความที่เพลินเล่าให้ฟังย้อนกลับมาอีกครั้ง ...ลักษณ์มันความจำเสื่อม  จำเรื่องที่โดนยาไม่ได้

           

            Wishmeluck:  นี่พี่รามใช่มั้ยครับ

GoodLuck: 555555

GoodLuck:  อาจจะใช่

            Wishmeluck:  ผมอยากคุยกับลักษณ์หน่อย

            Wishmeluck:  นะครับ  ให้โอกาสผมได้ปรับความเข้าใจกับลักษณ์หน่อย  อย่างน้อยมันก็เป็นเรื่องระหว่างผมกับลักษณ์  ได้โปรดให้ผมได้คุยกับลักษณ์เถอะครับ

            Wishmeluck:  พี่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมรักลักษณ์มานานแค่ไหน  พี่เป็นคนให้โอกาสผมเอง  ตอนนี้ผมขอแค่โอกาสสุดท้ายก็ได้  ให้ผมได้เจอลักษณ์  ไม่ก็คุยกับเค้าสักนิดได้มั้ยครับ

           

            ไวน์กดส่งข้อความยาวเหยียดพวกนั้นไป  อีกฝ่ายอ่านแล้วก็ไม่ตอบกลับมา  หายเงียบไปนานจนเขาใจเสีย  คิดว่าคงไม่เหลือโอกาสให้เขาอีกแล้ว

 

            Wishmeluck:  พี่รามครับ  พี่ก็รู้ว่าเรื่องวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น  ผมผิดเองที่ดึงนิวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย  แต่ว่าตอนนั้นลักษณ์ก็เป็นคนปฏิเสธผมก่อน  ผมว่าลักษณ์รู้ว่าเรื่องนี้เราผิดกันทั้งสองฝ่าย  ลักษณ์ก็มีส่วนที่ไม่รู้ใจตัวเอง  แต่เรื่องที่ลักษณ์ถูกวางยาตอนหลังนั้น   เป็นความผิดจากผมคนเดียวที่ผมดูคนแบบนิวไม่ออก  ผมไม่นึกเลยว่าเขาจะร้ายได้ขนาดนั้น  และไม่คิดเลยว่านิวจะเข้าทางสิงหาที่เป็นพี่รหัสของลักษณ์  ผมประมาทเองเลยทำให้ลักษณ์ต้องเจอเรื่องแย่ๆ

            Wishmeluck:  ผมเสียใจนะพี่ราม  เห็นลักษณ์ทรมานจากไอ้ยานรกนั่น  หัวใจผมมันก็เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  ผมรู้ว่าผมสร้างเรื่องยุ่งๆขึ้น  แต่เรื่องทุกอย่างก็เกิดจากความไม่รู้  ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต  แต่ถ้าพี่ไม่ยอมให้ผมได้คุยกับลักษณ์  เราก็ไม่มีทางได้เข้าใจกันเสียที

           

 GoodLuck:  แล้วถ้าเจอลักษณ์ จะพูดอะไรกับมัน

           

            Wishmeluck:  ถ้าพี่รามเป็นห่วงว่าผมจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นล่ะก็  ไม่ต้องห่วงครับ  ผมไม่อยากให้ลักษณ์จำเหตุการณ์เลวร้ายแบบนั้นขึ้นมาได้ด้วยซ้ำ  ผมดีใจที่ลักษณ์ลืม และจะทำทุกทางให้เค้าเชื่อว่าตัวเองแค่ป่วยเฉยๆ  แต่ว่าเรื่องพี่รหัสของลักษณ์ ยังไงผมก็ต้องขอจัดการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด  ไม่อย่างนั้นลักษณ์อาจจะเป็นอันตรายได้อีก

 

GoodLuck:  ตอบไม่ตรงคำถาม

            Wishmeluck:  ผมจะบอกว่าผมรู้สึกยังไงและขอโอกาสจากเค้าอีกครั้ง

            GoodLuck:  กูคิดว่ามึงกำลังเจอภูเขาลูกใหญ่นะ

            Wishmeluck:  หมายถึงพี่น่ะเหรอ

GoodLuck:  ไม่รู้สิ

GoodLuck:  คงงั้นมั้ง

            ไวน์อ่านทวนประโยคนั้น  กัดริมฝีปากเบาๆ

            Wishmeluck:  ถ้าพี่รามไม่ยอมจริงๆ ผมก็คงต้องยอมถอย

            Wishmeluck:  ผมไม่อยากให้มีเรื่องกัน

GoodLuck:  อ้าว

GoodLuck:  ถอดใจเร็วจัง

            Wishmeluck:  ก็ถ้าพี่รามไม่ให้โอกาสผม  ผมก็ไม่อยากผิดใจกับพี่

            Wishmeluck:  เพราะผมก็เคารพรักพี่เหมือนพี่ชายคนนึง

            Wishmeluck:  ผมแค่หวังว่าพี่รามจะไม่ใจร้ายกับน้องชายตัวเอง

            Wishmeluck:  เพราะลักษณ์ก็รักผมเช่นกัน

GoodLuck:  มั่นใจมากไปหรือเปล่า

GoodLuck:  ลักษณ์อาจจะลืมมึงไปแล้วก็ได้

GoodLuck:  บอกแล้วไงว่ามันความจำเสื่อม

            Wishmeluck:  ถ้าลักษณ์ลืมผมไปแล้วจริงๆ ผมก็จะทำทุกทางให้เค้าจำผมได้

GoodLuck:  ทำยังไงหรอ

            Wishmeluck:  ถ้าผมเจอเค้า ผมจะแสดงให้ดู

 

 

            ไวน์พิมตอบกลับไป  อีกฝ่ายอ่านแล้วไม่ยอมตอบกลับมาอีก  ชายหนุ่มรอคำตอบอยู่สักพักจนมั่นใจว่าคงไม่ตอบกลับมาแล้วจึงวางโทรศัพท์ลง  เขาลุกขึ้นลากเสาน้ำเกลือกลับไปที่เตียงผู้ป่วยตามเดิม

            ...อย่างน้อยเขาก็ได้ลงมือทำอะไรบ้างแล้ว  ไม่ได้ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปวันๆ  ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่อ่านข้อความจะรู้สึกแบบไหน  เขาเดาไม่ถูก  มีคนเคยบอกว่าเวลาเราเจ็บป่วยจะทำให้สภาพอารมณ์ของเราหดหู่กว่าปกติ  ไวน์ว่าก็น่าจะจริง

            วันเวลาผ่านไปขณะที่เขาก็เฝ้าแต่เร่งวันเร่งคืน  ไวน์ได้ออกจากรพ.ในที่สุด  เพลินกับนพพาเขามาส่งที่บ้าน หมอบอกว่าเขาควรจะพักผ่อนต่ออีกสักสองสามวันถึงค่อยกลับไปเรียนต่อ  ไม่ควรออกไปไหนนอกจากนอนพักอยู่ที่บ้าน  แต่คนอย่างไวน์ก็ดื้อมากพอที่จะถ่อสังขารเดินจากบ้านตัวเองข้ามซอยมาจนถึงหน้าร้านอาหารของป้าดา

            ป้าดาเหลือบมาเห็นเขาเข้าคนแรก  เธอรีบเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางดีอกดีใจ

            “ไวน์ลูก  เป็นยังไงบ้าง  เห็นเพื่อนหนูบอกว่าไม่สบาย  หายดีหรือยัง ซูบไปเยอะเลยเนี่ยดูซิหลานฉัน”  ป้าดากระวีกระวาดพาเขาเข้าไปในร้าน  พี่รามหันหน้ามามองแวบหนึ่งด้วยแววตาที่ไวน์รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก  เขายกมือขึ้นไหว้พี่ชายของลักษณ์  อีกฝ่ายเพียงแต่พยักหน้าให้นิดเดียว 

            “นั่งก่อนลูก  กินอะไรมาหรือยัง”

            “ป้าดาครับ  ลักษณ์อยู่มั้ย”   เขารีบชิงถาม  จับมือของผู้สูงวัยกว่าเอาไว้แน่น  ป้าสีดาหันมามองเขางงๆแล้วก็ตอบกลับไป

            “ลักษณ์มันไปเดินเที่ยวเล่นอะไรของมันไม่รู้   ตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลมาป้ารู้สึกว่ามันแปลกๆไปเหมือนกัน” 

            “เที่ยวเล่น?  เค้าไปไหนเหรอครับ  ไปคนเดียวเหรอ”  ไวน์รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที

            “อืม  มันก็อย่างนี้แหละ  เวลาไม่สบายใจก็นู่น  ขัดห้องน้ำจนมือเปื่อยไปหมดแล้วมั้ง  สงสัยคงเบื่อเลยออกไปเดินเล่นหน่อย  เดี๋ยวก็กลับมาเอง  เมื่อวานมันก็ไป”  ป้าดาพูด  ท่าทางไม่ใส่ใจนัก  เพราะแถวนี้เป็นถิ่นของหลานชาย  เดินเล่นมาตั้งแต่เด็กจนปรุหมดแล้ว

          ไวน์มองไปทางพี่รามอย่างกังวล  เขาปฏิเสธที่จะกินอาหารเย็นของป้าดา  อาศัยจังหวะที่พี่รามว่างเลียบๆเคียงๆเข้าไปหา  ทำทีว่าเข้าไปช่วยเก็บโต๊ะด้วยเหมือนทุกที

            “พี่รามครับ”

            “อะไร”  อีกฝ่ายตอบกลับมาห้วนๆ  ดวงตาคมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างดุๆ

            “คือผม...พี่เห็นข้อความที่ผมส่งให้แล้วใช่มั้ยครับ”

            “ข้อความอะไรของคุณ  ผมไม่รู้เรื่อง”  สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ไวน์ใจเสียยิ่งกว่าเดิม

            “ก็ได้ครับ  พี่ไม่ยอมรับว่าเป็นพี่ก็ไม่เป็นไร  แต่ว่าพี่รามครับ  อนุญาตให้ผมได้คุยกับลักษณ์อีกครั้งได้มั้ยครับ”

            “ไอ้ลักษณ์ไม่อยู่”

            “ผมทราบครับ  แล้วก็รู้ด้วยว่าพี่รู้ว่าลักษณ์อยู่ที่ไหนตอนนี้”

            “ผมไม่รู้  ถึงรู้ก็ไม่บอก”   พี่รามยกจานเป็นตั้งขึ้น  เขารีบชิงดึงจากมืออีกฝ่ายมาถือเอาไว้เสียเอง  คนโตกว่ายักไหล่แล้วเดินไปเก็บเงินอีกโต๊ะนึงต่อ  ไวน์รอจนอีกฝ่ายว่างจึงเข้าไปหาใหม่

            “คุณจะตามผมอีกนานมั้ยเนี่ยฮึ”

            “ผมรักลักษณ์ครับพี่  รักมาตลอด  ผมเลิกกับนิวแล้วพี่ก็รู้  มันจบไม่สวยเท่าไหร่ลักษณ์ก็เลยพลอยโดนลูกหลงไปด้วย  ผมรู้สึกผิดมากนะครับ  ผมเสียใจที่ทำให้ลักษณ์ต้องเจอเรื่องร้ายๆ...”

            “พอก่อน”

            “ผมไม่หยุดจนกว่าพี่จะเห็นใจผม”

            “คุณอาจจะไม่อายคนในร้าน แต่ผมอาย”  พี่รามพูดห้วนๆ  ไวน์เพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาได้พูดกลางร้านอาหารที่มีลูกค้านั่งกินข้าวกันอยู่เต็มร้าน  และต่างมองมาที่เขากับพี่รามเป็นตาเดียว

            ไวน์ยอมถอยไปรอข้างหลังร้าน   เขาช่วยอีกฝ่ายคิดเงินบ้างเวลาที่งานเริ่มล้นมือ  พอเวลาผ่านไปคนเริ่มซา  เขาก็เข้าไปหาพี่รามใหม่   

            “พี่ราม  พี่ก็รู้ว่าลักษณ์ก็รักผมเหมือนกัน  ทำไมพี่ถึงไม่อยากให้เราสมหวังล่ะครับ   พี่ไม่อยากให้ลักษณ์มีความสุขหรอครับ”

            “ผมอยากให้น้องชายมีความสุขคุณไวน์  ผมเคยบอกคุณว่ายังไงจำได้หรือเปล่า”  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งก้มลงเช็ดโต๊ะแรงๆราวกับจะให้สีมันหลุดออกมา

            “พี่จะไม่ยอมให้ใครทำลักษณ์เสียใจ”

            “และคุณก็ทำไปแล้ว”

            “ผมทำลงไปเพราะผมไม่รู้ตะหาก  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเราสองคน  พี่รามจะไม่ให้โอกาสผมแก้ตัวหน่อยเลยหรอ  อย่างน้อยผมก็ดูแลลักษณ์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมานะครับ”

            ไวน์เดินตามอีกฝ่ายเข้าไปหลังร้านที่เป็นห้องครัวและปลอดจากสายตาผู้คน  พี่รามหันมาเผชิญหน้ากับเขาด้วยสีหน้าแววตาที่ทำให้ไวน์รู้สึกมือเย็นทั้งๆที่ไม่ใช่คนที่กลัวอะไรง่ายๆ  เขาเคยได้ยินมาก่อนเมื่อนานมาแล้วว่าสมัยเรียนพี่รามเป็นคล้ายๆหัวหน้าแก๊งค์อันตรพาลของมหาลัย  เกือบโดนไทร์แต่ก็รอดมาได้จนจบ  เรื่องฝีมือเตะต่อยของพี่แกนั่นโด่งดังถึงขึ้นเคยล้มรุ่นพี่ตัวใหญ่กว่าสองเท่ามาได้สบายๆ

            และไวน์ก็ไม่คิดอยากจะลองทดสอบฝีมือของตัวเองในตอนนี้ด้วย

            “พี่ราม....”  ร่างนั้นยืนพิงเคาน์เตอร์ในครัวทอดสายตามองเขานิ่งๆ

            “คุณทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของผม  ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าถ้าคุณผิดหวังจากน้องผมด้วยเรื่องอะไรก็แล้วแต่  คุณจะไม่ใจเร็วด่วนได้  ไปคว้าใครมาสร้างปัญหาให้น้องผมอีก”

            “เรื่องของนิวเกิดขึ้นเพราะผมเสียใจ ผิดหวังจากลักษณ์ก็จริง  แต่ว่าตอนนั้นผมนึกว่าตัวเองหมดหวังแล้ว  ผมไม่รู้ว่าลักษณ์รักผม  ผมก็เลยแค่อยากลองเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนดู”

            “คุณประชดน้องผมใช่มั้ย”  อีกฝ่ายสวนกลับ  ไวน์อึ้งไปแล้วก็ก้มหน้ายอมรับ

            “ครับ  ผมทำเพราะประชดลักษณ์ด้วย”

            “การประชดกันมันเป็นวิธีการของเด็กๆ  คนที่โตพอแล้วเค้าไม่ทำกัน  คุณต้องใจเย็นกว่านี้  ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้  คนที่เข้ามาในชีวิตแต่ละคน  ไม่ใช่ทุกคนจะมาดีหรือร้ายให้เห็นชัดๆ  จิตใจคนมันเปลี่ยนกันได้ต้องใช้เวลาดูไปนานๆ  คุณก็น่าจะเข้าใจเรื่องนี้แล้ว  คราวนี้ยังดีที่น้องผมไม่เป็นอะไรไป ถ้าลักษณ์เป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็  ผมกับป้าดาคงจะเสียใจมากยิ่งกว่าคุณหลายเท่านะคุณไวน์”

            “ผมขอโทษครับพี่”  ไวน์ยกมือขึ้นไหว้  ให้พี่รามขึ้นเสียงดุด่าเขาไม่ก็ชกหน้าเขาสักเปรี้ยงเสียยังดีกว่าพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาแต่ฟังแล้วเย็นชาห่างเหินแบบนี้

            “ถ้าสมมตว่าคุณเป็นพี่ชายอย่างผม  คุณจะยกโทษให้คนที่ทำให้น้องชายตัวเองเสียใจแถมยังเกือบตายทั้งเป็นมั้ย”

            ไวน์ขอบตาร้อนผ่าว  เขารู้ว่าพี่รามเป็นคนเด็ดขาด  คำไหนคำนั้น   และถ้าเขาเป็นพี่ของลักษณ์เหมือนที่อีกฝ่ายสมมตจริงๆ  เขาก็คงไม่ปล่อยให้ไอ้หน้าไหนที่สร้างปัญหาให้น้องเขาเข้าใกล้น้องเด็ดขาด

            เขามัวแต่คิดถึงความเจ็บปวดของตัวเองจนลืมไปว่ายังมีคนที่รักลักษณ์ไม่น้อยไปกว่าเขาอยู่อีกถึงสองคน

            “ครับพี่...ผม...เข้าใจแล้ว”  ไวน์ตอบเสียงแผ่ว  “ไม่เป็นไรครับ   ผม...”  ไวน์อยากพูดว่าขอโทษอีกสักครั้งแต่ก็พูดไม่ออก  เขารู้ว่าคนอย่างรามคงไม่ใจอ่อนง่ายๆ  แค่ยอมให้เขาตามติดน้องชายตัวเองมาหลายปีก็นับว่าบุญมากแล้ว

            นี่เรื่องของเขากับลักษณ์จะต้องจบลงเพียงเท่านี้จริงๆเหรอ  แค่คิดในอกก็วูบโหวง  สมองมึนๆตื้อๆชอบกล  หรือเป็นเพราะว่าเขายังไม่หายไข้ดี?





ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk

ต่อนะคะ






            พี่ชายของลักษณ์ยืนกอดอกมองหน้าเขา  ไวน์ไม่เคยรู้สึกกดดันขนาดนี้มาก่อน   ทั้งความรู้สึกผิดและเสียใจจุกแน่นอยู่ข้างใน 

            “คุณอยากให้ผมยกโทษให้คุณเหรอ...ถ้างั้นก็จงไปจากร้านนี้ซะ”  คำพูดของอีกฝ่ายทำเอาคนฟังเงยหน้าขึ้นอย่างคาดไม่ถึง  แววเสียใจปนใจหายฉายวาบอยู่ในดวงตาคมเข้ม

            “แต่ว่า...พี่ราม...” ไวน์พูดตะกุกตะกักแล้วก็ยืนนิ่งอั้น  เขาไม่รู้ว่าจะสรรหาถ้อยคำหรือเหตุผลอะไรมาพูดกับอีกฝ่ายอีกแล้ว  เรื่องคราวนี้มันหนักหนาเกินไปและเขาก็เข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายในฐานะพี่ชาย

            คงต้องยอมรับความจริง...

            “ยังจะยืนอยู่อีก  รีบไปสิ  แล้วก็รับน้องกูกลับมาด้วย  จะปิดร้านแล้ว   ไปพามันกลับมาช่วยกูล้างจาน”  คำพูดหน้าตายของพี่ชายลักษณ์ทำให้คนเด็กกว่าอ้าปากค้างอีกรอบก่อนจะร้องตะโกนออกมา

            “ขอบคุณมากครับพี่  ผมรับปากว่าจะไม่ทำให้ลักษณ์เสียใจอีกแล้ว”

            “มึงไม่ต้องมาปากดีหรอกไวน์  น้ำหน้าอย่างมึงกูไม่เชื่อแล้ว  นี่กูเห็นแก่น้องหรอกนะถึงได้ยอมให้  แต่บอกเลยว่าโอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ”

            “ผมจะถือว่ามันเป็นโอกาสสุดท้ายของผมเลยครับ  ผมจะทำให้ดีที่สุด”  ไวน์พูดอย่างหนักแน่น  ยกมือไหว้คนที่เขานับถือเหมือนพี่ชายอีกครั้ง  รามพยักหน้ารับแล้วทำท่าจะเดินออกไปจากห้องครัว  “เดี๋ยวครับพี่  แล้วลักษณ์อยู่ที่ไหนหรอครับตอนนี้”

            “ปกติมึงชอบไปสุมหัวที่ไหนกันล่ะ  กูจะไปรู้ได้ไง”

            พี่รามเดินออกไปแล้ว  ไวน์ยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินตามออกมาบ้าง  เขาแวะลาป้าดาก่อนจะรีบจ้ำไปทางสนามเด็กเล่นเก่าที่เขากับลักษณ์เคยไปนั่งเล่นด้วยกัน  เดินไม่กี่นาทีก็ถึง  ที่นั่นเต็มไปด้วยเด็กน้อยมาวิ่งเล่นกัน บ้างก็พากันไกวชิงช้าอย่างสนุกสนาน  ไม่มีเงาของคนที่เขาตามหาอยู่

            ไวน์เดินย้อนกลับมาอย่างผิดหวัง  เขามาหยุดที่ป้ายรถเมล์หน้าปากซอย  ครุ่นคิดถึงสถานที่อื่นที่ลักษณ์น่าจะไป  มันจะต้องไม่ไกลจากที่นี่มากนัก  หรือจะเป็นมหาวิทยาลัย?

            ชายหนุ่มโหนรถเมล์มาลงหน้ามอ  ลืมไปสนิทว่าตัวเองเพิ่งออกมาจากรพ. หัวใจเต้นแรงตอนที่เดินเข้าไปที่คณะฯเภสัช  วันนี้เป็นวันหยุดเรียน แต่ก็มีนักศึกษามานั่งล้อมวงคุยกันเล่นอยู่ใต้ตึกพอสมควร   เขาชะเง้อมองหาพักหนึ่งก็เจอเด็กสาวชั้นเดียวกันที่เขาเคยนึกอิจฉาเธอ

            “เอ้อ....วิป  เราไวน์เองนะ  จำได้มั้ย”   เธอกระพริบตาแล้วก็พยักหน้า

            “จำได้  จะมาทวงร่มหรอ”

            “เปล่าๆ  คือเรามาตามหาลักษณ์น่ะ  เขามาที่นี่หรือเปล่า”

            “ลักษณ์เหรอ  ไม่เห็นนะ  เค้าไม่สบายเข้ารพ. เลยลาหยุดหลายวันน่ะ  อ้าว...เธอไม่ได้สนิทกับเค้าเหรอ”

            “อ๋อหรอ  ขอบคุณนะ  งั้นเราขอตัวก่อน”  ไวน์ตอบกลับไปคนละเรื่องแล้วรีบแยกออกมา  ลักษณ์ไม่ได้มาที่คณะฯ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไปคณะแพทย์  เพราะไม่อย่างนั้นพวกนพกับเพลินก็ต้องเห็นแล้ว  เหลือที่ไหนอีก...ห้องสมุด?

          เขาเดินวนในห้องสมุดสองรอบ  สำรวจทุกมุมโต๊ะจนแน่ใจว่าไม่มีร่างของลักษณ์แอบหลบมุมอยู่ตรงไหน  เขาเดินลงมาจากตึกอย่างหงอยๆ  โทรศัพท์ของลักษณ์ก็ปิดเครื่องตลอดราวกับซื้อมาไว้ทับกระดาษ

          เดินมานั่งที่ป้ายรถเมล์อีกรอบอย่างเหนื่อยอ่อน  ร่างกายของเขายังไม่กลับมาสมบูรณ์พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์  คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย  เขานั่งมองรถหลายคันที่ขับผ่านไปผ่านมา  นึกถึงเรื่องราวต่างๆอย่างใจลอย

            เด็กมัธยมปลายเดินจับกลุ่มผ่านหน้าไปเป็นกลุ่มใหญ่  ท่าทางสดชื่นเต็มไปด้วยพลังนั้นทำให้เขาอดเปรียบเทียบตัวเองไม่ได้  แค่เข้ามหาวิทยาลัยมาไม่กี่เดือน  ทำไมถึงได้ดูดพลังเขาไปได้มากมายขนาดนี้นะ  อยากกลับไปเป็นเด็กม.ปลายอีกจัง....เดี๋ยวนะ  ม.ปลายงั้นเหรอ

            “พี่ๆ  รอด้วยครับ  ผมไปด้วย”  ไวน์ผุดลุกขึ้นยืน โบกมือตามหลังรถเมล์ที่กำลังจะออกจากป้าย  สายที่มุ่งหน้าผ่านโรงเรียนเก่าของเขากับลักษณ์...จริงสิ  ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกกันนะ

            ที่ๆเราชอบไปนั่งสุมหัว...

            โชคดีที่รถไม่ติดเพราะไม่ได้เป็นวันทำงาน   เขาลงจากรถโดยสารประจำทางมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนเก่าของตัวเอง  สภาพด้านนอกไม่เปลี่ยนไปเลย ก็เพิ่งผ่านวันปัจฉิมไปไม่กี่เดือน    ใบหน้าของเขากับเพื่อนอีกหลายคนประดับติดอยู่บนป้ายที่รั้วโรงเรียน  มีตัวอักษรเขียนเอาไว้ใหญ่โตว่าเด็กโรงเรียนนี้สอบติดแพทย์กี่คน  ถัดไปเป็นทันตะ  และริมสุดเป็นเภสัช

            ใบหน้าของลักษณ์ถูกตัดไปเหลือครึ่งเดียวเพราะที่บนกำแพงไม่พอ  แถมชื่อก็สะกดผิดอีกต่างหาก  .....โธ่  ไอ้เพื่อนลักษณ์

            เขาก้าวเข้าไปในโรงเรียน  รู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่ได้กลับมาสักพักแล้ว  แม้ว่าทุกอย่างจะคุ้นตาทว่าความรู้สึกข้างในกลับไม่เหมือนเดิม  มันอบอุ่นปนใจหายอย่างบอกไม่ถูก  ไวน์รู้สึกเหมือนคนที่ซมซานออกไปแล้วได้กลับมาบ้านที่ไม่ใช่ที่ของเราอีกต่อไปแล้ว  ถึงใครจะบอกว่าชีวิตสมัยมหาวิทยาลัยดีอย่างไร   เขาก็ยังรู้สึกว่าชีวิตตอนมัธยมนี่แหละที่เรียกได้ว่ามีความสุขอย่างแท้จริง

            เดินเรื่อยๆอ้อมตึกและสนามบอลที่มีนักกีฬาโรงเรียนลงซ้อมอยู่ไปทางด้านหลัง  ผ่านทางแคบๆทะลุโรงอาหาร  เดินเลี้ยวซ้ายผ่านห้องน้ำเก่าๆ  ตรงไปเรื่อยตามทางเดินเล็กๆที่สองข้างทางเคยเป็นสวนที่ขาดการดูแลมาเนิ่นนาน  จนกระทั่งมาทะลุถึงด้านหลังที่เป็นที่กว้าง  มีสระบัวอยู่ตรงกลาง  ล้อมด้วยต้นไม้ต้นใหญ่ๆ  ใกล้ๆกันนั้นมีตึกเก่าที่ปล่อยทิ้งร้างเอาไว้

            สระบัวมีดอกบัวดอกใหญ่ๆบานสะพรั่ง  ลมโชยเบาๆหอบเอากลิ่นหอมอ่อนๆของเกสรบัวลอยมาเข้าจมูก  ชวนให้คิดถึงบรรยากาศเก่าๆเมื่อหลายปีก่อน  ยามพักเที่ยงหรือเลิกเรียนที่เขากับลักษณ์มักจะหลบความวุ่นวายมาแอบงีบหลับ  ไม่เขาก็นั่งเงียบๆมองดูอีกฝ่ายวาดภาพ

            ลักษณ์คงไม่รู้ว่าเขารักบรรยากาศเงียบสงบที่เหมือนโลกทั้งโลกมีแค่เราสองขนาดไหน  เขาชอบเวลาที่ได้นอนเท้าคาง  กางหนังสือเอาไว้บนพื้นหญ้า   ทอดสายตาจับไปที่มือเล็กๆที่จับดินสอขยับไปมาอยู่ใกล้ๆ  ร่างภาพแรเงาบนกระดาษอย่างลื่นไหล  นัยน์ตากลมโตจับจ้องไปที่งานตรงหน้าอย่างตั้งใจ  เหงื่อซึมออกมาที่ปลายจมูกโด่งรั้นเล็กน้อยและตามขมับ  ซึ่งเจ้าตัวจะยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเป็นระยะ โดยเฉพาะเวลาที่วาดออกมาแล้วไม่ได้ดั่งใจ

            บางครั้งยามที่เจ้าตัวเหนื่อยล้าก็จะวางดินสอลงแล้วหันมาทางเขา  พูดคุยเล่นกันพอให้ยิ้มออก  แล้วร่างเล็กผอมบางเหมือนเด็กแกนก็จะเอนตัวลงนอนข้างๆ  เงยหน้าขึ้นมองใบไม้บนยอดไม้สูงนั้นเล่น  บางทีก็มีนกตัวเล็กๆมาเกาะกิ่งร้องเสียงแหลมใสให้ฟังเพลินๆ

            ไวน์กวาดสายตามองไปรอบๆสระบัว  เดินไปหยุดที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นโปรดที่ประจำของเราสองคน   ต้นหญ้าบริเวณนี้ลาบเตียนกว่าที่อื่นเพราะพวกเขามาอาศัยนั่งเล่นนอนเล่นหลายปีจนมันไม่งอกขึ้นมาใหม่....ไม่มีเงาของคนที่เขาตามหา

            “ลักษณ์  อยู่แถวนี้หรือเปล่า”  เขาตะโกน  แทบจะได้ยินเสียงตัวเองสะท้อนกลับมาในความเงียบสงัดนั้น  “นี่กูเองไวน์  ถ้ามึงอยู่แถวนี้ก็ออกมาเถอะ”

            ไม่มีเสียงตอบกลับมาหรือแม้แต่เสียงขยับตัว  ไวน์ถอนหายใจยาวเขาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นใต้ต้นไม้ต้นนั้น  วูบหนึ่งที่เขารู้สึกคล้ายกับมีร่างของอีกฝ่ายนั่งอยู่ข้างๆ  เหมือนวันเก่าก่อน   

            “ไอ้ลักษณ์  มึงเอาแต่วาดรูปสระบัวซ้ำไปซ้ำมาทำไมวะ  ไม่เบื่อบ้างเหรอ”

          “สิ่งที่ชอบไม่มีคำว่าเบื่อหรอก”

          “มึงชอบสระบัวนี่ขนาดนั้นเลย?”  ไวน์ได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปแบบนั้น

          “..............”  ไม่มีคำตอบจากลักษณ์  เจ้าตัวยังขะมักเขม้นกับงานอดิเรกตรงหน้าอย่างเพลิดเพลิน   ไวน์เห็นอีกฝ่ายวาดรูปจากมุมเดิมๆมาเป็นร้อยครั้งแล้วมั้ง  วาดเสร็จแล้วก็แก้  แก้เสร็จ ก็เปลี่ยนวาดใหม่อีก  วนซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นจนเขารำคาญแทน

          ไม่รู้จะชอบวิวสระบัวอะไรนักหนา  ไม่เบื่อบ้างหรือไง ...แต่บางทีลักษณ์อาจจะพูดถูก....ไม่มีคำว่าเบื่อสำหรับสิ่งที่ชอบงั้นหรือ  ถ้าคำพูดนี้เป็นจริง  เขาก็คงไม่มีวันเบื่อลักษณ์สินะ

          “มึงจะเบื่อกูมั้ย...ลักษณ์”  จู่ๆเขาก็หลุดปากถามออกไป  ยั้งไม่ทัน  อีกฝ่ายรามือหันมามองหน้าเขางงๆ  “หมายถึงว่า...มึงเคยคิดแบบ..รู้สึกเบื่อเพื่อนสนิทบ้างมั้ย”  เขาอึกอัก  ลักษณ์หรี่ตาลง

          “มึงเบื่อกูหรอไวน์  งั้นมึงกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะ”  ไม่ต้องรู้จักมาสามปี ไวน์ก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังน้อยใจอยู่  เขารีบแก้ตัว

          “ไม่ใช่อย่างนั้น  กูไม่เคยเบื่อมึงเลยลักษณ์  นั่งดูมึงวาดรูปก็เพลินดี  กูแค่กลัวว่าสักวันนึงมึงจะเบื่อกูเฉยๆ” 

          “กลัวไว้ก็ดี  ชอบมาแย่งสาวที่กูเล็งไว้”

          “กูไม่ได้ตั้งใจเปล่าวะ  แล้วใจคอมึงเบื่อกูแล้วจะทิ้งกูหรือไง  กูไม่ยอมหรอกนะ  ได้กูแล้วก็ต้องรับผิดชอบดิ”  เขาพูดกลับไป  หัวเราะอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆนั้นแดงก่ำ  น่าจะเพราะความโกรธมากกว่าอย่างอื่น

          “ได้พ่อง”  เขาได้ยินลักษณ์พูดอุบอิบ  “ทำเหมือนเป็นผัวเมีย  ประสาท   กูไม่พูดกับมึงแล้วไวน์  กลับบ้านดีกว่า  เอ้า เก็บของ”

          “ทีอย่างนี้ล่ะสั่งเอาสั่งเอา”  เขาแกล้งพูด  “กูก็น้อยใจเป็นเหมือนกันนะ”

          “โอ๋ๆ  หัวล้านเหรอ  ใจน้อยจัง”  ลักษณ์พูดพลางหัวเราะ  ใช้บอร์ดเคาะศีรษะของเพื่อนตัวสูงกว่าเบาๆ แต่เขาแกล้งทำหน้าบึ้งเอียงหัวหลบ  ไม่ยอมยิ้มตอบ  “โกรธจริงหรอ  หรือว่าน้อยใจ?”  ร่างผอมบางจับชายเสื้อของเขาเอาไว้แล้วจ้องหน้าถาม

          ไวน์สบตากลมโตแกล้งจ้องค้างเอาไว้ครู่หนึ่งจนอีกฝ่ายขมวดคิ้ว  หันหน้าหนี

          “มึงง้อใครไม่เป็นเลยหรือไงลักษณ์”  เขาได้ยินเสียงตัวเองถามออกไป  ลักษณ์หันหน้ามามองแล้วสั่นศีรษะ 

          “กูไม่ค่อยชอบง้อใคร  ง้อไม่เป็น”

          “แล้วถ้าวันนึงกูโกรธมึงมากๆล่ะ  มึงจะง้อกูมั้ย”

          “ต้องดูก่อนว่าโกรธกันเรื่องอะไร”

          “เรื่องที่มึงเป็นฝ่ายผิด”

          “ก็....ขอคิดดูก่อน”

          “ตอบมาเลยไม่ได้รึไง”   เขาเร่งรัด  อีกฝ่ายทำหน้าครุ่นคิดเอาจริงเอาจัง

          “ก็ถ้ามึงทำตัวน่าง้อ  กูก็จะยอมง้อ”  ลักษณ์พูดออกมาช้าๆ

          “แบบไหนถึงเรียกว่าน่าง้อล่ะ”  เขาซักต่อ  เท้าก็เดินเรื่อยๆออกมาจนเกือบถึงหน้าโรงเรียน  เย็นมากแล้วแต่ก็ยังมีเด็กเตะบอลกันเล่นอยู่  ลูกบอลลูกหนึ่งลอยละลิ่วจากสนามมาทางพวกเขาสองคน  ไวน์เป็นคนเห็นก่อน  เขายกมือขึ้นผลักเพื่อนหลบไปข้างๆแล้วใช้มือปัดลูกบอลลูกนั้นให้เปลี่ยนทิศทางลอยไปตกใกล้ๆ   

          เด็กม.ต้นวิ่งมายกมือไหว้ขอโทษแล้วก็วิ่งไปเก็บบอลกลับไปเล่นต่อ  ไวน์หันไปยักคิ้วไปให้คนที่ยืนอึ้งอยู่ด้วยความตกใจนั้นนิดนึง

          “เดินต่อสิครับคุณลักษณ์  ตกใจอะไรขนาดนั้น”

          “เปล่าซะหน่อย  เจ็บที่มึงผลักซะแรงเนี่ยแหละ”  เจ้าตัวบ่นอุบยกมือขึ้นคลำแขนตัวเองป้อยๆ

          “ก็ดีกว่าหน้าแหกหัวปูดนั้นแหละ”  ไวน์ตอบกลับพลางหัวเราะ   เอื้อมมือไปจับแขนเรียวบางของอีกคนขึ้นมาแล้วเป่าลมพรวดลงไปตามแบบฉบับที่อาจารย์ลักษณ์เคยประสิทธิประสาทวิชาให้  “เป่าหายเพี้ยง”

          “โอ๊ย  กูไม่ใช่เด็กอนุบาลนะ”  ลักษณ์ดึงแขนกลับไปอย่างฉุนๆ  “รีบเดินเร็วเข้า  จะได้ไปช่วยป้าดา  วันนี้ลูกค้าน่าจะเยอะ”

          “กูไม่ไปแล้ว  จะกลับบ้าน”  ไวน์ตอบ   อีกฝ่ายชะงักหันมามองหน้าเขางงๆ  สักพักก็หัวเราะออกมา เข้ามาเกาะแขนเขาด้วยท่าทางที่ไวน์ไม่เคยเห็นมาก่อน

          “ไปเถอะ  ข้าวฟรีนะ  ตอบแทนที่มึงช่วยกูปัดบอลเมื่อกี้นี้ไง”  สายตาที่ช้อนขึ้นสบตาเขาทำเอาคนมองใจอ่อนยวบ  จากที่ตั้งใจว่าจะแกล้งงอนต่อให้เพื่อนง้อดูสักหน่อยก็เป็นอันต้องล้มเลิกไปเพราะกระแสอ้อนนิดๆที่ปนมาในแววตาและน้ำเสียงของคนพูด

          ลักษณ์มันร้ายจริงๆ...

          “ตอบแทนโดยการให้กูไปช่วยมึงเสิร์ฟที่ร้านเนี่ยนะ”  ไวน์แกล้งพูดเสียงดัง  อีกฝ่ายหัวเราะจนตาหยี ยิ้มกว้างอวดฟันเรียงสวยในเรียวปากบาง  รอยยิ้มที่ทำให้ทุกอย่างรอบตัวสว่างไสวราวกับฉาบด้วยแสงตะวัน

          “ก็ตอบแทนกันไง”  ลักษณ์ตอบกลั้วหัวเราะ  ฉุดแขนเขาให้รีบเดินเร็วขึ้น



            ไวน์มองเห็นร่างสองร่างเดินกอดคอกันผ่านหน้าเขาไป  เสียงหัวเราะของทั้งคู่ยังก้องอยู่ในโสตประสาทราวกับเพิ่งเกิดขึ้นจริงเมื่อครู่  ไม่ใช่เนิ่นนานมาเกือบสี่ปีแล้ว กลายเป็นอดีตที่มีชีวิตอยู่แค่ในความทรงจำเท่านั้น 

            ชายหนุ่มซบใบหน้าลงกับหัวเข่านิ่งนาน

            เสียงน้ำในบึงกระฉอกเบาๆตรงหน้าปลุกเขาตื่นจากภวังค์  ไวน์เงยหน้าขึ้นมองทันเห็นครีบปลาสะบัดจนน้ำกระจาย   ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้ขอบสระบัวอีกนิด  ชะโงกหน้าลงไปมองริมสระอย่างระมัดระวัง  ปลาตัวเล็กๆสีดำๆ ผสมกับปลาตัวยาวๆสีซีดว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว  ไม่ได้ตัวใหญ่เหมือนที่เห็นมันสะบัดหางที่กลางสระเมื่อครู่ 

            จ๋อม!

          น้ำในสระแตกกระจายใกล้ตัวเขามากจนหยดน้ำกระเซ็นมาโดนขากางเกง  ฝูงปลาในน้ำแตกฮือว่ายหนีกันไปคนละทิศคนทางเพราะถูกมือดีปาหินลงมาใส่กลางวง  ทว่าเพียงไม่นานพวกมันก็ย้อนกลับมาว่ายวนเวียนกันต่อเหมือนเดิม

            จ๋อม!

            ของแข็งตกกระทบผิวน้ำอีกครั้ง   มันเฉียดไหล่ของเขาไปนิดเดียว  ไวน์ลุกขึ้นยืนหันขวับไปมองต้นเหตุที่น่าจะมาจากต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลจากที่นั่งเดิมของเขานั่นเอง

            หัวใจเต้นแรงเหมือนตีกลอง  ไวน์ถามออกไปเสียงดัง

            “เด็กที่ไหนมาเล่นปาหินแถวนี้”

            ตุบ!

            ก้อนหินขนาดเท่านิ้วโป้งลอยมากระทบแผ่นอกของเขา  มันไม่ได้เจ็บมากนักหรอก  แต่เขาก็ยกมือขึ้นแตะที่หน้าอกซ้ายที่ถูกประทุษร้าย  รู้สึกถึงก้อนเนื้อข้างใต้ที่เต้นกระแทกแผ่นอกอยู่ภายใน  สัญชาตญาณบอกเขาว่าถ้าไม่ใช่คนที่เขาตามหาอยู่  ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นใครไปได้อีก

            ถึงเวลาเคลียร์ทุกอย่างให้กลับเข้าที่เข้าทางอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว   เราสองคนจะได้...มีความสุขเสียที

            “ออกมาเร็ว  อย่าแอบ...ลักษณ์”

 

            .....................................................................................



มาอัพต่อนะจ้ะ  นี่อยากอัพทุกวันเลยยย  (คึกอะไรเบอร์นั้น) 

ขอบคุณมากๆเลยที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้  นักเขียนเงาเเสดงตัวหน่อยเร็วววว

มีความสุขมากเลยอ่ะ  บอกยังว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยาวเรื่องแรกของเราที่ไม่ใช่แฟนฟิค

รู้สึกว่าแบบ...เออ มันก็มีคนอ่านอยู่เนอะ  ดีใจอ่ะ 

ขอบคุณอีกรอบ   ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ  ติชมมากันได้เลยนะ จะได้พัฒนา 

เจอกันตอนหน้า 

พรุ่งนี้ไรท์ไม่อัพนะ  ไปทำฝาย5555555  เข้าค่ายเด็กดียังบ่จบเลยจร้าาา 

ทวิตเตอร์ #แอบลักษณ์

FB: MelenalikeFanpage

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เป็นเรื่องที่อ่านรวดเดียว หน่วงมากๆอึดอัดใจสุดๆก็ขอให้เคลียร์กันได้สักทีนะ

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
อืม..... นี่ฝีมือพี่รามป่ะ 5555555   
ขัดขวางความรักของชาวบ้านนี่เป็นบาปนะเฮีย
โบราณว่าช่วยให้คนสมหวัง ยินดีกับความรักของผู้อื่นรักเราจะดี
ถ้าขัดขวางความรักคนอื่นระวังอกหักรักคุดนะเฮีย อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
จะเจอกันได้หรือยัง
ทำเป็นพระเอกนายเอกหนังอินเดียไปได้

แค่รักกัน
มันยังไม่พออีกเหรอ

ปรับความเข้าใจกันซะ
---โบกหัวทิ่ม---

หุหุ

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อ่านรวดเดียวเลย  ชอบมากๆ ขอบคุณไรท์มากๆนะ มาต่อไวๆน้า เค้ารออยู่ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ่านรวดเดียวเลย..สนุกมากค่ะมีทุกรสชาติตอนนี้ขาดหวานอย่างเดียวเลย :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ runtothemoon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ลุ้นนน ลักษณ์จะยอมคุยด้วยดีๆมั้ย :ling1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
บีบหัวใจไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ Naam3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
ตอนที่ 25

Everybody is somebodys daydream.

 

 

 

 

           

 

            เขากำก้อนหินเล็กๆในมือเอาไว้แน่น  เหลือบตามองลงไปที่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ที่พาตัวเองขึ้นมานั่งเล่นนอนเล่นได้พักใหญ่  ก่อนจะเผลอหลับไปและถูกปลุกขึ้นด้วยเสียงฝีเท้าของใครบางคนเข้า

            ....คนที่เขากำลังคิดถึง

            ศีรษะทุยที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสั้นๆเกือบติดหนังศีรษะของคนตัวสูงอยู่ห่างจากกิ่งไม้ที่เขาเกาะนั่งอยู่ไม่มาก  ฝ่ายนั้นกำลังเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ต้นข้างๆที่เขาแอบอยู่นั้น

            “อย่าให้เจอนะ  ไม่งั้นล่ะก็....”   เสียงห้าวๆพูดขึ้นดังๆเหมือนตั้งใจขู่  ลักษณ์เลิกคิ้วแล้วปาก้อนหินในมือใส่เป้าหมายตรงหน้ากะให้ลงกลางกระหม่อม

            ตุบ!

            “โอ๊ย!”   แม่นยำราวกับจับวาง  เสียงอุทานดังขึ้นทันที

            มันไม่ได้ดังขึ้นจากคนที่ถูกก้อนหินกระแทกใส่ศีรษะ  แต่กลับมาจากเจ้าของข้อเท้าผอมๆที่ถูกมือแข็งๆคว้าหมับแล้วดึงอย่างไม่ทันตั้งตัวจนร่างทั้งร่างไถลพรืดลงมาจากกิ่งไม้

            ลักษณ์ใจหายวาบ  ร่วงลงมาจากกิ่งไม้ที่สูงกว่าตัวเขาหลายคืบ   นึกว่าจะต้องกระแทกพื้นจุกแอ้กแต่เขากลับยังลอยอยู่เหนือพื้นดินเพราะมีวงแขนของคนที่กระตุกข้อเท้าเขาเมื่อครู่กางรับเอาไว้ได้ทัน

            แขนเรียวโอบรอบลำคอแข็งแรงของอีกฝ่ายแน่นอย่างตกใจ   เสี้ยวหน้าคมอยู่ห่างออกไปเพียงคืบ  ดวงตาสองคู่สบกันในระยะประชิด  แววตาที่ลักษณ์เห็นนั้นเต้นระริกด้วยประกายของความปีติยินดีปนกับแววอะไรอย่างอื่นที่ทำให้ใบหน้าของเขาร้อนซู่ขึ้นมาฉับพลัน

            “จับได้แล้ว....มือปาหิน”  เสียงห้าวๆนั้นกระซิบที่ข้างหูของเขา  ก่อนที่ลักษณ์จะรู้สึกได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ซีกแก้มข้างนั้น  “แอบทำไม  ไม่รู้หรือไงว่าอยากเจอแค่ไหนน่ะฮึ”

            “ปล่อยก่อน”  ลักษณ์พูดออกมาเป็นประโยคแรก  หัวใจของเขาเต้นรัวจนกลัวว่ามันอาจจะผิดจังหวะเข้าได้ในวินาทีใดวินาทีหนึ่งข้างหน้า

            อีกฝ่ายส่ายหน้าเบาๆ  รอยยิ้มนิดๆปรากฏอยู่บนริมฝีปากสวยที่ลักษณ์เคยนึกอิจฉานั้น

            “ไม่ปล่อยแล้ว  เดี๋ยวหนีไปอีก”

            “จะหนีไปไหนเล่า”  ลักษณ์อุบอิบกับแผ่นอกกว้าง  ซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองเอาไว้  ไม่รู้ทำไมตอนนี้เขาถึงได้เขินสายตาของอีกฝ่ายเหลือเกิน  ทั้งๆที่เคยเห็นดวงตาคู่นี้มาตั้งหลายปีแล้ว 

            คงเป็นเพราะแววตาของไวน์ในวันนี้ต่างไปจากเดิมมาก   เมื่อประกอบกับรอยยิ้มนั้น  ลักษณ์อยากจะพูดว่าเขาเกลียดเขี้ยวๆแหลมๆเกๆที่มุมปากของอีกฝ่ายเหลือเกิน  มันให้ความรู้สึกทั้งเจ้าเล่ห์และเซ็กซี่ในเวลาเดียวกันอย่างบอกไม่ถูก 

            “ไม่หนีแน่นะ”  ปลายจมูกโด่งก้มลงถามจนชิดแก้มของเขา  ลักษณ์เอียงหน้าหนีแล้วพยักหน้า 

            “รีบปล่อยเถอะ  ไม่กลัวนิวมาเห็นหรือไง”  ลักษณ์พูดเร็วปรื๋อ

            คนฟังหุบยิ้ม  มองหน้าเขาอย่างแคลงใจ  แววผิดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาคมที่มองมายังเขา

            “นิว?  นิวมาเกี่ยวอะไรด้วย”

            “ก็เขาเป็นแฟนไม่ใช่หรือไง”  ลักษณ์ตอบกลับไป  ไม่สบตาอีกฝ่าย  ไวน์นิ่งไปนิดแล้วยอมวางเขาลงยืนบนพื้นแต่โดยดี

            “ที่ไม่สบาย....หายดีหรือยัง..ลักษณ์”  ฝ่ายนั้นถามขึ้นช้าๆ  เปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย  ตาจับจ้องมาที่เขาไม่กระพริบ

            “อืม  ดีขึ้นแล้วล่ะ”

            “หมอบอกว่าเป็นอะไรเหรอ”

            “หมอไม่ได้บอกอะไร แต่พี่รามบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่”   ลักษณ์ตอบกลับไป  ก้มหน้าลงพิศดูมดตัวเล็กๆที่เดินเรียวกันเป็นแถวบนพื้นดินร่วนๆ  “ถามทำไมเหรอ”

            แว่วเสียงคล้ายถอนหายใจดังขึ้นเหนือศีรษะของเขา

            “เปล่า  แค่...เป็นห่วง”  อีกฝ่ายตอบกลับมา  “ไปติดหวัดที่ไหนมา”

            “ไม่รู้สิ...คงตากฝนหน้าคณะฯตอนที่รอพี่สิงห์มั้ง”

            “วันนั้นพี่สิงห์พาไปกินที่ไหน”  ไวน์ถามต่อมาอีกราวกับเป็นสิ่งที่อยากรู้เต็มประดา

            “ร้านแถวๆนอกเมือง  จำเชื่อร้านไม่ได้  รู้แต่คงเมาเละเพราะจำอะไรไม่ได้เลย  รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่รพ.แล้ว”  ลักษณ์พูดแล้วหัวเราะเบาๆ  เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนตรงหน้าอย่างรวดเร็วจนอีกฝ่ายซ่อนแววตาเอาไว้ไม่ทัน  พอเห็นแววตาที่ฝ่ายนั้นมองมา ลักษณ์ก็ขมวดคิ้ว

            “เป็นอะไรไป  ทำไมทำหน้าอย่างนั้น  หรือว่าปวดขี้?  มีห้องน้ำอยู่ตรงโน้นนะ”

            คนฟังนิ่งอั้น  มองหน้าเขาเหมือนจะพูดอะไรออกมาแต่สุดท้ายก็ไม่มีคำพูดใดหลุดรอดริมฝีปากคู่นั้น  ไวน์มองหน้าเขานานมาก

            “ช่างมันเถอะนะ....ทั้งเมาทั้งเป็นไข้ ไม่แปลกที่จะลืม” ดวงตาคมเหลือบมองริมฝีปากของเขาแทน  “แต่ว่านายคงไม่ลืมเรื่องที่ฟาร์มหรอกนะ”

            ลักษณ์ไม่ตอบ  เขาเบือนหลบสายตาของอีกฝ่ายทันควัน

            “เรื่องทำสนามเด็กเล่นน่ะเหรอ  ไม่ลืมหรอก”

            “ไม่ใช่เรื่องนั้น”

            “อ้อ....เรื่องรีดนมวัวใช่มั้ย  ก็สนุกดีนะ”

            “เรื่อง...ไวน์”

            “หืม?”

            “เห็นดื่มไปเยอะเลยนี่  ชอบเหรอ”

            “อืม...ก็รสชาติดี” 

            “อยากชิมอีกมั้ย”  ลักษณ์เริ่มรู้สึกว่าอีกฝ่ายก้าวเข้ามาชิด  ก็เลยค่อยๆก้าวถอยหลังทีละก้าว  รักษาระยะห่างระหว่างคนสองคนให้เท่าเดิม

            “ไม่”  ตอบออกไปสั้นๆ  ขาก็ก้าวถอยหลัง  เพียงแค่ครึ่งก้าวแผ่นหลังก็ชนเข้ากับเปลือกไม้แข็งๆของต้นไม้ใหญ่ที่ขวางอยู่   พอลักษณ์ทำท่าจะเบี่ยงตัวหลบ  มือของอีกฝ่ายก็ยึดที่ต้นแขนทันที   “คะ..คิดจะทำอะไรน่ะ...”  ทำไมเสียงของเขาถึงไม่ขึงขังเข้มดุเหมือนที่ตั้งใจเลยนะ

            “จะจูบ”  อีกฝ่ายตอบกลับมาตรงเผงพร้อมกับริมฝีปากได้รูปสวยที่ขยับเข้ามาจนเกือบชิดใบหน้าของเขา  ลักษณ์ตัวลีบยกมือขึ้นดันปลายคางของอีกฝ่ายเอาไว้  พูดละล่ำละลัก

“ไม่ได้นะ  กูไม่อยากเป็นมือที่สามของ...ของใคร”

“มึงไม่ใช่มือที่สาม”

“แต่ว่านิว...”

“กูเลิกกับนิวไปแล้ว”

“นิวทำผิดอะไร”

ไวน์ขยับจะตอบแล้วก็เปลี่ยนใจ  ....ถ้าเขาเล่าเรื่องทั้งหมดที่นิวทำ  ก็เท่ากับว่าความลับเรื่องที่ลักษณ์โดนยาต้องถูกเปิดเผย  และไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะระลึกถึงเหตุการณ์แย่ๆพวกนั้นขึ้นมาอีกก็ได้  อุตส่าห์ลืมไปหมดแล้วแท้ๆ  เขาไม่อยากให้ลักษณ์จำความทรมานในตอนนั้นได้เลยแม้เพียงเศษเสี้ยว

“กูผิดเองที่ไม่รักเขา”  ไวน์ตอบออกไปเรียบๆ  เขาคิดว่านี่เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดแล้ว  แม้ว่าเขาจะอยากเล่าความชั่วร้ายของนิวและพี่รหัสของลักษณ์มากแค่ไหนแต่ก็ต้องทนเก็บเอาไว้ก่อน

อีกฝ่ายเลิกคิ้ว

“อ้อ”

“ไม่ถามต่อหน่อยหรอว่ารักใครอยู่”

“ทำไมกูต้องถามด้วยล่ะ”  ลักษณ์อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอตัว ออกแรงดันอกอีกฝ่ายออก  แล้วรีบชิ่งหนีออกมาจากมุมอับที่เสียเปรียบนั้น

“อ้อ...” ไวน์อุทานเลียนแบบอีกฝ่าย  “ลืมไปว่าเป็นพวกชอบคิดไปเอง”

ดวงตากลมโตคู่นั้นตวัดมองเขา  ได้ยินเสียง ‘ฮึ’ หลุดออกมาเบาๆ

“กูกลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวฝนจะตกแล้ว”  คนพูดหันหลัง  ทำท่าจะรีบเดินจ้ำทว่าคนตัวสูงกว่าคว้าตัวเอาไว้ได้เสียก่อน

ท้องฟ้าด้านบนเริ่มมืดครึ้ม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังมีแสงแดดให้เห็น 

“อยากตากฝนอีกหรือไง  เดี๋ยวก็ได้นอนรพ.อีกหรอก” ลักษณ์พูดเสียงดัง  คนฟังชะงัก  เงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด  มือยังเหนี่ยวรั้งรอบเอวบางไม่ยอมปล่อย

“รู้ได้ไงว่ากูตากฝนหนักเลยต้องเข้ารพ.”  ไวน์ถามเสียงเข้ม  “พี่รามบอกงั้นหรอ”

“ใช่”  อีกฝ่ายตอบรับทันควัน  พยายามสะบัดตัวออก

“อย่าโกหก”  ไวน์สวน  หรี่ตาลง คิ้วเข้มขมวดมุ่น  “จริงๆจะว่าไปแล้วมันก็แปลก...”  ไวน์พูดช้าๆ  เหมือนพูดกับตัวเอง  เขาเพิ่งเอะใจว่าท่าทางของอีกฝ่ายดูประหลาดชอบกล  ถ้าลักษณ์ความจำเสื่อมจริงล่ะก็...

“แปลกตรงไหน  พี่รามบอกกูว่ามึงปอดบวมเลยต้องนอนรพ.  อย่างมึงจะมีอะไรได้นอกจากเดินตากฝนกลับบ้าน  ทำอยู่แล้วประจำนี่”  ลักษณ์พูดเร็วปรื๋อ

“อืม   นั่นสินะ”  ไวน์พยักหน้ารับ  “ใช่  กูเดินตากฝนก็เลยป่วย....งั้นเรารีบกลับบ้านกันดีกว่า  เพิ่งออกจากรพ.ทั้งคู่  เดี๋ยวไข้กลับกันพอดี”

มือที่รั้งร่างของเขาเอาไว้นั้นเปลี่ยนเป็นกระชับเอวแน่นแล้วออกแรงกึ่งลากพาเขาเดินไปที่หน้าโรงเรียนอย่างไม่มีทางเลี่ยง  ลักษณ์ทั้งหยิกทั้งตีก็ไม่ยอมปล่อย  สุดท้ายเขาต้องหันไปถลึงตาใส่พร้อมกับกระทืบเท้าลงบนรองเท้าแตะคีบของอีกฝ่ายแรงๆ

“โอ๊ะ!”  ไวน์อุทาน ชักเท้าหนี  ยอมปล่อยมือจากเอวของเขาเป็นอิสระแต่เปลี่ยนไปจับมือของลักษณ์ขึ้นมากุมเอาไว้แทน

“ไม่ต้องจับ”  ลักษณ์พูดเสียงแข็ง  อีกฝ่ายเหลือบมองด้วยหางตาแล้วก็ลากเขาขึ้นรถเมล์ที่มาจอดป้าย  มือข้างนั้นบีบกระชับฝ่ามือของลักษณ์เอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย  แม้กระทั่งตอนที่รุนหลังให้ลักษณ์นั่งบนเก้าอี้แทนที่ผู้ชายอีกคนที่ลงป้ายนั้น

ไวน์ยังอุตส่าห์มายืนจับมืออยู่ข้างๆเก้าอี้ที่นั่งของเขา  ไม่แคร์สายตาของผู้โดยสารคนอื่นที่เหลือบมองมาเป็นระยะ

“ปล่อยได้แล้ว”  ลักษณ์พูด  บิดมือตัวเองออกอีกรอบ....ไม่สำเร็จอีกตามเคย  เพราะเขาไม่ได้ออกแรงเต็มที่จริงจัง  จะทำไงได้ในเมื่อเสียงกระซิบในหัวใจของเขาบอกว่า...ไม่อยากปล่อยมือเลยสักนิด

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้  เพราะเจ้าตัวยืนกำมือเขาเฉยด้วยสีหน้ายิ้มๆ...ให้ตายสิ   ทำไมลักษณ์รู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันเจ้าเล่ห์กว่าที่เคยกันนะ

หรือเขาจะคิดมากไปเอง

รถมาจอดป้ายใกล้ปากซอยบ้านของลักษณ์  ไวน์จูงเขาลงจากรถเมล์  พอเท้ายืนบนพื้นดิน  สายฝนก็เทซู่ลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย   ทำเอาเสื้อที่สวมอยู่เปียกไปครึ่งตัว  มันคงจะเปียกมากกว่านี้ถ้าไอ้ไวน์ไม่ลากเขาถูลู่ถูกังเข้าไปหลบฝนใต้ชายคาเซเว่นอีเลเว่น

“ไม่ทันฝนจนได้”  เขาบ่นเบาๆ  อีกฝ่ายหันมามอง  “ดูท่าจะตกนานด้วย  โทรบอกพี่รามให้เอาร่มมารับดีมั้ย”  ลักษณ์หันไปปรึกษาคนข้างๆอย่างลืมตัว

“รบกวนเขาเปล่าๆ  ไม่รีบไปไหนนี่”  ไวน์พูด  ทำท่าจะเดินเข้าเซเว่น  แต่ลักษณ์รั้งมือเอาไว้

“ตกหนักแบบนี้เดี๋ยวน้ำท่วม  ต้องลุยน้ำเข้าไปทำไง”

“เก๊าะขี่หลัง”  ไวน์ตอบกลับมา  “มากับพี่ไวน์ไม่ต้องกลัว  ขอพี่ซื้อขนมรองท้องก่อน  ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่บ่าย  จะเป็นลมแล้ว”

“อ้าว  แล้วก็ไม่บอก”  อีกฝ่ายอุทาน  แล้วก็เป็นฝ่ายลากไวน์เข้าไปซื้อของในร้านแทน

ไวน์ลอบมองใบหน้าเล็กรูปหัวใจที่เงยขึ้นเลือกขนมบนชั้นอย่างตั้งอกตั้งใจนั้นด้วยความรู้สึกแสนแปลก  เป็นความรู้สึกใหม่ที่เขาเพิ่งจะรับรู้ได้เมื่อครู่ใหญ่ๆนี้เอง  จะว่าเป็นตอนที่อีกฝ่ายหลุดปากบอกอะไรบางอย่างออกมาก็เป็นได้  กวาดตามองแขนผอมๆที่เอื้อมหยิบนมขวดคู่กับซาลาเปาส่งให้เขา  ก่อนที่จะหยิบเต้าหู้นมสดของตัวเองมาถือเอาไว้ด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆนั้น  ไวน์ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้

“เป็นบ้าอะไรอีก  ยืนยิ้มอยู่ได้...เอาไปคิดตังค์สิ”  ลักษณ์พูด  แต่ไม่ยอมสบตาเขาเลยตั้งแต่อยู่บนรถเมล์แล้ว   ไวน์ก้มหัวค้อมรับล้อเลียน  เดินไปคิดเงินที่แคชเชียร์  ส่วนอีกฝ่ายเดินออกไปรอด้านนอก

เขาตามออกมา  มือล้วงหยิบเต้าหู้นมสดของโปรดของอีกฝ่ายมาส่งให้  ส่วนตัวเองก็หยิบเอาซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็มขึ้นมากัดเข้าปาก

“ขาดขนมจีบ”  ไวน์พูดขึ้นลอยๆ   อีกฝ่ายเหลือบตาขึ้นมอง

“ก็เข้าไปซื้อดิ  แต่มันไม่มีโปรโมชั่นซื้อคู่แล้วลดอ่ะ”   ลักษณ์ตอบกลับมา

“ไม่ต้องหรอก  เดี๋ยวไวน์จีบเอง”  คนพูดพูดทั้งที่ซาลาเปาเต็มปาก แล้วก็หัวเราะออกมา  ส่วนคนฟังทำหน้างง

“พูดว่าไงนะ  ฟังไม่รู้เรื่อง”

“ไม่ต้องมาทำไก๋  คิดว่าคนเขาไม่รู้ทันหรือไง”  ไวน์กลืนอาหารลงคอ  ดื่มนมตามจนหมดขวดแล้วก็หันมาพูดด้วยสีหน้ามีเลศนัย ทำเอาคนฟังร้อนตัว

“ไก๋เก๋ยอะไร  ประสาท...รีบกินเร็วๆ  จะได้กลับบ้าน”

            “ฝนยังไม่หยุดเลยจะรีบไปไหน”

            ก็จริงของไวน์...สายฝนยังเทกระหน่ำประหนึ่งว่าจะชดเชยหน้าร้อนที่ผ่านมา  น้ำฝนเจิ่งนองอยู่บนพื้นถนนระบายลงท่อไม่ทัน  อีกไม่นานซอยเล็กๆนี้ก็คงจะต้องท่วมแน่ๆ   เหมือนทุกครั้งที่เคยเป็น

            “สงสัยจะได้ขี่หลังจริงๆ”  ไวน์พูดแกมหัวเราะ  “หรือจะตากฝนกลับตอนนี้  เราก็มีอุปกรณ์นะ”  อุปกรณ์ที่อีกฝ่ายว่าก็คือถุงพลาสติกบางๆของเซเว่นนั่นเอง  แถมยังมีอยู่เพียงถุงเดียวด้วย  “รู้สึกเหตุการณ์นี้คุ้นๆนะ”  ไวน์พูดขึ้นมาตรงใจเขา  ลักษณ์ก็กำลังนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอยู่พอดี

            “ถุงเท่ากระแบะมือ  ใส่ไปคนเดียวเถอะ”

            “แล้วจะเดินตากฝนหรือไง”

            “เย็นดี”  ลักษณ์ตอบหน้าตาเฉย  ทำท่าจะเดินออกไปจากใต้ชายคาที่บังฝน  ไวน์รีบคว้าแขนเอาไว้  พูดเสียงเข้ม

            “คราวที่แล้วไม่เข็ดใช่มั้ย”

            “อ๋อ  ที่มึงป่วยจนขาดสอบ แล้วก็โดนพี่รามสวดยับทั้งคู่ใช่มั้ย”

            “เปล่า...หมายถึง..”  ไวน์ชะงัก  เปลี่ยนเรื่องทันควัน  “เออ...หมายถึงเรื่องนั้นนั่นแหละ  ยังไม่เข็ดอีกหรือไง  ก็ไม่อยากโดนพี่รามด่าอีกหรอกนะ”

            รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากของคนฟังก่อนจะสว่างไสวไปทั่วใบหน้า

            “พี่รามไม่ด่าหรอก”  ลักษณ์กระซิบ   ไวน์มองตอบด้วยสายตาค้นคว้าแต่เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  หันไปมองสายฝนที่เริ่มเบาบางลง  “ปัญหาแค่นี้มันเส้นผมบังภูเขา...เห็นชายคาของร้านอาแปะโชห่วยนั่นมั้ย  เราเดินเลาะไปตามกันสาดก็ได้”

            “ทำไมกูถึงไม่ทันคิดนะ”  ไวน์พูดเบาๆ  แล้วยิ้มกว้าง  “ภูเขาออกใหญ่โตดันมองไม่เห็น”

            “รีบๆเดินเถอะ”  ลักษณ์ตอบกลับมา  เริ่มออกเดินเลาะไปตามใต้ชายคาร้านรวงต่างๆที่เรียงรายเป็นแนวไปตลอดตั้งแต่หน้าปากซอยจนกระทั่งถึงร้านของป้าดา  พวกเขาสวนกับพี่รามที่เดินจ้ำออกมาจากร้านด้วยใบหน้าเคร่งเครียด  พี่รามเหลือบมองพวกเขาสองคนแวบเดียวเท่านั้นแล้วก็เดินผ่านไปโดยไม่พูดอะไร

            “กลับมากันพอดี  ป้าว่าจะโทรตามมาช่วยเก็บร้านหน่อย  ต้องเลื่อนตู้เข้ามาข้างในด้วย  เดี๋ยวน้ำท่วมแล้วเปียกเละหมด”  ป้าดากวักมือเรียกพวกเขาเข้าไปช่วยเก็บของเพราะน้ำเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาจากท่อหน้าร้าน  วุ่นวายอยู่พักใหญ่จนลืมเรื่องต่างๆที่ค้างคาไปเสียสนิท  กว่าจะเสร็จเรียบร้อย  ไวน์ก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งพับเพียบตักข้าวเย็น(กับข้าวที่เหลือในร้าน) เข้าปากอย่างหิวโหย  คนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่พื้นตรงหน้านั้นก็มีสภาพไม่ต่างกัน  ลักษณ์กินข้าวหมดจานก่อนเขาเสียอีก

            “ฝนยังไม่หยุดตกเลย”  ไวน์ปรารภขึ้นมาลอยๆ  ลักษณ์เงยหน้าขึ้นหันไปมองหน้าร้านที่ระดับน้ำปริ่มๆกับพื้นชั้นล่างที่พวกเขานั่งกินข้าวอยู่  พวกโต๊ะเก้าอี้ถูกยกขึ้นไปซ้อนเก็บชั้นสองหมดแล้วตามมาตรการกันไว้ดีกว่าแก้ของป้าดา 

            “คงตกทั้งคืน”  ลักษณ์พูดอย่างกังวล  ถ้าน้ำท่วมร้านขึ้นมาจริงๆ ก็คงลำบาก  ไหนจะต้องขาดรายได้ไปแล้วยังต้องมาบูรณะใหม่หลังน้ำลดอีก   “เราควรเตรียมพวกกระสอบทรายหรือเปล่า”

            “คงไม่ถึงขั้นนั้นมั้ง”

            “สองปีก่อนก็คิดอย่างงี้ไม่ใช่เหรอ  โต๊ะเก้าอี้แช่น้ำพังหมดเลย  จำไม่ได้หรือไง  ที่ต้องลงมาลุยน้ำถึงเอวตอนตีหนึ่งขนของขึ้นบ้านน่ะ”  เหตุการณ์น้ำท่วมหนักในปีนั้นเขายังจำได้ไม่ลืม

            “จำได้”  ไวน์ลากเสียง  “เอวของมึงน่ะแค่เข่าของกูเอง”

            “เวอร์ไปล่ะ”  ลักษณ์กระแทกเสียงแล้วลุกขึ้นยืน  ยกจานกลับไปรวมไว้เป็นกองใหญ่หลังร้านแล้วเริ่มล้าง   ไวน์ตามเข้ามาช่วยด้วย  ร่างสูงลากเก้าอี้เล็กมานั่งเบียดข้างๆเขา

            “กระเถิบไปหน่อย ไปล้างน้ำเปล่านู่นสิ  จะมาแย่งล้างฟองทำไม”  ลักษณ์พูดฉุนๆเมื่ออีกฝ่ายแย่งเอาฝอยขัดหม้อไปถือเอาไว้เสียเอง

            “หม้อนี้ล้างยาก  มึงชอบบ่นไม่ใช่เหรอว่าขี้เกียจขัด”  ไวน์ตอบกลับมา  ดึงหม้อไปขัดแรงๆ  ลักษณ์จุ๊ปากเอื้อมมือไปหยิบจานที่เหลือมาล้างแทน

            เสียงเปิดน้ำผสมกับเสียงหม้อไหกะละมังแก้วจานกระทบกันฟังแล้วกลับให้ความรู้สึกแปลกๆชอบกล  บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นคาวของอาหารและเปียกเฉอะแฉะ  ยุงหลายตัวเริ่มบินว่อน  เสียงฝนตกกระทบหลังคาเป็นฉากหลัง  มันไม่โรแมนติกเลยสักนิด  แต่ให้ตายสิ  ทำไมใจเขาถึงได้เต้นแรงนักก็ไม่รู้

            หรือเพราะคนที่กำลังใช้ฟองน้ำล้างแก้วอย่างบรรจงอยู่ข้างตัวก็ไม่ทราบ

            เขาชอบใบหน้าของไวน์เวลาที่ตั้งใจทำอะไรสักอย่าง  คิ้วเข้มคู่นั้นจะขมวดนิดๆ  แววตามุ่งมั่นมองตรงไม่วอกแวก  จมูกโด่งคมและริมฝีปากได้รูปสวยสีสดเม้มจนเกือบเป็นเส้นตรง...

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
 





               “ถ้าจ้องนานกว่านี้กูจะท้องแล้วนะ”

            เสียงห้าวๆดังขึ้นพร้อมกับแววตาแพรวระยับที่เหลือบมาทางเขา   ลักษณ์สะดุ้ง เผลอหลบตาเพราะไม่ทันตั้งตัว

            “ประสาท” ด่าออกไปด้วยคำติดปาก  เอื้อมมือไปคว้าแก้วพลาสติกใบสุดท้ายในกะลังมังขึ้นมา  เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาคว้าเช่นกัน  แต่ไม่ได้คว้าแก้ว  ลักษณ์ดูออกว่าฝ่ายนั้นจงใจคว้ามือของเขาตะหาก

            แก้วพลาสติกสีเขียวใบนั้นหลุดจากมือลักษณ์ลงไปลอยตุบป่องในน้ำฟองฟอดเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีใครสนใจ   มือเล็กพยายามดึงออกทว่าฝ่ามือของอีกฝ่ายกลับเหนียวแน่นกว่าน้ำยาล้างจานลื่นๆเสียอีก  สงสัยชาติก่อนจะทำบุญด้วยตีนตุ๊กแก

            “ปล่อยเลย  กูจะรีบล้าง”  ลักษณ์พูดรัวเร็ว

            “กูไม่รีบ  มีเวลาล้างทั้งคืน”  ไวน์ตอบกลับมา  “ฝนตกน้ำท่วม คืนนี้กูขอค้างที่นี่นะลักษณ์”

            คนฟังอ้าปากค้าง  ไวน์รู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมจะปฏิเสธแต่เขาก็รู้อีกนั่นแหละว่าสุดท้ายแล้วนั้น   คนแบบลักษณ์ก็ยังเป็นคนแบบลักษณ์วันยันค่ำ 

            “ก็ได้”  ท่าทางตอบกลับมาแบบไม่เต็มใจนัก  แต่ก็ปล่อยให้ ‘เพื่อน’ เดินตากฝนลุยน้ำกลับบ้านไม่ลง  หึ...

            “นอนห้องมึงนะ”

            ถ้าเป็นปกติ ลักษณ์คงย้อนกลับไปว่า ‘ก็ต้องห้องกูดิ  จะไปนอนห้องพี่รามหรือไง’  ไปแล้ว  ทว่าสายตาของไวน์ที่มองมาและสัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือที่ยืดมือของเขาอยู่ใต้ฟองฟอดของน้ำยาล้างจานนั้นทำให้ลักษณ์ใจสั่น  ไม่สามารถตอบกลับไปได้เหมือนเคย

            “ว่าไง...ลักษณ์”

            “ปล่อยมือก่อน”

            “ตอบตกลงก่อน”

            “ไม่”

            “งั้นก็ไม่ปล่อย  แช่น้ำอยู่อย่างนี้แหละ”

            “ไอ้ไวน์!  กูจะรีบทำงานให้เสร็จ”

            “ก็บอกตกลงก่อนสิ  กูนอนพื้นก็ได้  ไม่ไปแย่งที่มึงบนเตียงหรอก”  ไวน์พูดด้วยเสียงน่าสงสาร  ในใจเริ่มนับหนึ่งถึงสาม  เขาเห็นลักษณ์เม้มปากแน่น  กวาดตาลอกแลกหาหนทางอื่น  จากนั้นก็กลืนน้ำลายอึกนึง  สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วอ้าปาก

            “เป็นแฟนกันนะ”  ไวน์พูดเร็วปรื๋อตัดหน้า

            “ตกลง....เห้ย  เมื่อกี้ว่าไรนะ”   ลักษณ์ตาเหลือก  มองหน้าเขาค้างเหมือนเห็นผี  ไวน์หัวเราะเสียงดังยกมือขึ้นโบกข้างหน้า

            “ตกลงแล้วนะ  เอ้าหุบปากหน่อย แมลงวันเข้าปากแล้ว”

            “เมื่อกี้พูดว่าอะไรไอ้ไวน์  กูฟังไม่ทัน”

            “ฟังไม่ทันแล้วจะตอบตกลงได้ไง”  ไวน์ย้อนกลับมายิ้มๆ ใช้ปลายนิ้วโป่งไล้หลังมือลื่นๆของอีกฝ่ายเล่นเบาๆ  พลางเอื้อมมือไปหยิบแก้วใบสุดท้ายในกะลังมังขึ้นมาล้างด้วยวิธีที่ลักษณ์ไม่เคยเห็นใครใช้มาก่อน

            มันวาดแขนโอบรอบตัวเขาแล้วจับมือเขาล้างจานเหมือนเวลาที่แม่จับมือสอนลูกกินข้าว  ลักษณ์รู้สึกเหมือนตัวเองถูกน็อคด้วยกำปั้นที่มองไม่เห็นเข้าเต็มๆหน้า  สมองมึนงงจากไอตัวของคนที่แนบชิดอยู่  ปลายคางที่มีหนวดขรุขระวางป้วนเปี้ยนอยู่แถวซอกคอปนกับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ามาปะทะที่หลังคอและซีกแก้มของเขาเป็นจังหวะ  กินเน็สบุ๊คคงต้องบันทึกสถิติการล้างแก้วหนึ่งใบด้วยเวลานานที่สุดเท่าที่ลักษณ์เคยทำมา

            “เกลี้ยงแล้ว”  เสียงห้าวๆกระซิบข้างหู  ดึงสติของคนที่นั่งตาลอยมองแก้วในมือเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน  “เปิดน้ำเร็ว  จะได้ล้างน้ำเปล่า”  เสียงนั้นบงการมาอีก  ท่อนแขนล่ำสันเปลี่ยนมาโอบรอบเอวของเขาเอาไว้หลวมๆแล้วเจ้าตัวก็เอื้อมมือมาเปิดก๊อกตรงหน้าลักษณ์เสียเองเมื่อเห็นว่าลักษณ์ยังนั่งนิ่งอยู่

            ไวน์จับมือเขาหยิบจานชามขึ้นมาล้างน้ำเปล่าทีละใบ  มันใช้เวลานานกว่าการล้างปกติถึงสามเท่า แถมยังเปลืองน้ำ  ลักษณ์คิดในใจทว่ากลับไม่ได้ดึงมือออก...

            “ฉันรู้ว่าเธอกังวล อาการเธอบอกทางสายตา ฉันรู้ว่าเธอไม่กล้าที่จะพูดจาเปิดหัวใจ  ฉันรู้ว่าเธอกำลัง  อยากรู้ว่าฉันนั้นคิดอะไรอยู่...”  เสียงห้าวๆดังขึ้นที่ริมหู  ลักษณ์ชะงัก...   “อาจเพราะว่าเป็นเวลาเนิ่นนานที่เราได้พบกัน  อาจเพราะว่ามีเพียงเธอคนเดียวที่ดูฉันสนใจ  อาจเพราะฉันไม่มองใคร  อาจเพราะฉันมองเพียงเธอคนเดียว..”

            “นึกว่าสวดมนต์อยู่”  คนฟังขัดขึ้นทั้งที่หน้าแดงจัด

            “หากอยากถาม  ว่าฉันนั้นคิดอะไรมั้ย   ก็จะขอบอกเธอเลยว่าใช่  ฉันคิด”  คนร้องไม่สนใจ  ยังคงร้องต่อไปประหนึ่งก๊อกน้ำเป็นไมค์และจานชามช้อนส้อมเป็นคนดู  “คิดว่าเธอเป็นคนน่ารักดี  มีตังค์พอใช้หรือเปล่า  ถ้าไม่มี  ก็อยากจะชวนเธอพูดคุยกันยาวๆ”

            “มันไม่ได้ร้องงี้นะกูว่า”

            “เพราะวันนี้บรรยากาศก็ดี๊ดี  มีเสียงน้ำและ...ถั่วฝักยาว”  เศษผักลอยผ่านหน้าลงท่อระบายน้ำไป  ลักษณ์มองตามแล้วหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ  คนร้องทำหน้าพิกลแล้วร้องต่อ  “ถ้าไม่รีบไป  ก็อยู่ล้างกันจนเช้า   จนจานหมดร้าน  จนเธอง่วงนอน”

            “รีบล้างดีกว่านะ  ชักง่วงจริงๆด้วย  เสียงร้องมึงเหมือนเสียงสวดกล่อมเลย”

            ไวน์จุ๊ปาก  ขยับจะตอบแต่ก็มีเสียงเดินลงบันไดจากชั้นบนมาเสียก่อน  เขารีบปล่อยมือจากลักษณ์อย่างรวดเร็วพอดีกับที่ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นเดินลงมาชั้นล่าง

            “เหนื่อยหน่อยนะวันนี้  ไม่ต้องล้างหมดก็ได้  เพิ่งหายป่วยกัน  วางกองไว้ก่อน ให้รามมันกลับมาล้างต่อพรุ่งนี้”

            “คืนนี้พี่รามไม่นอนบ้านเหรอครับ”  ไวน์ชิงถาม  อาศัยจังหวะนั้นดันเก้าอี้ออกห่างจากลักษณ์

            “เห็นว่าเพื่อนมีปัญหาหรืออะไรสักอย่าง”

            “อ้อ”

            “ลักษณ์  เล่นอะไรน่ะ ทำไมเสื้อเปียกอย่างนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก  ไวน์ก็อีกคน....เล่นอะไรระวังกันบ้าง”  ประโยคหลังป้าดาหันมาพูดกับคนโตกว่าโดยตรง  ไม่รู้ทำไมไวน์ถึงรู้สึกว่าเธอจงใจสื่อบางอย่างถึงเขา

            “ครับ...จะเสร็จแล้วครับ”  ลักษณ์ตอบอุบอิบ

            “รีบขึ้นนอนได้แล้ว  เจ้าไวน์คืนนี้นอนห้องรามก็ได้  ได้ไม่ต้องเบียดกัน   รามมันไม่ว่าอะไรหรอก”  ป้าดาพูดทิ้งท้ายเอาไว้เป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินกลับขึ้นบันไดไปชั้นบน  ทิ้งให้เด็กหนุ่มสองคนยืนมองหน้ากัน 

            ลักษณ์ตัวสั่นเพราะกลั้นหัวเราะ  มองหน้าอีกคนที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสะใจ

            “ขำอะไร”

            “เปล่า”  เขาตอบกลับไป ก้มลงหยิบจานที่ล้างเสร็จแล้วขึ้นไปวางเรียงผึ่งเอาไว้ให้แห้ง   ท่าทางของไวน์ดูหงอยลงอย่างเห็นได้ชัดจนเขานึกขำ  ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นสีหน้าเหมือนหมาหงอยแบบนี้จากคนที่ป๊อปปูล่าที่สุดในมหาลัย

            ...เป็นอีกครั้งที่ลักษณ์ถามตัวเองว่ากำลังฝันไปหรือเปล่า

            ได้เป็นคนที่รัก...และถูกรักตอบกลับมา

            “คิดอะไรอยู่  หรือว่าหลับในไปแล้ว”  สองมือโบกไปมาตรงหน้า   ลักษณ์ส่งยิ้มกลับไปให้จนอีกฝ่ายมองหน้าเขากลับมาอย่างแปลกใจ  “เป็นอะไรหรือเปล่า จู่ๆก็มาจ้องหน้ายิ้ม”

            “ก็แค่ดีใจ”

            “เรื่อง?”

            “ไม่รู้สิ...”  ลักษณ์เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน  มีร่างสูงสมส่วนของอีกฝ่ายเดินตามขึ้นมาติดๆ  มาหยุดที่หน้าห้องนอนของลักษณ์ 

            “ห้องพี่รามอยู่ทางโน้น”

            “ขอหยิบของก่อน”

            ลักษณ์เลิกคิ้ว  เปิดประตูห้องให้อีกฝ่ายเข้าไป  ไวน์มาค้างบ้านลักษณ์บ่อยจนมีของใช้ส่วนตัวอยู่ที่นี่เหมือนเป็นบ้านอีกหลัง  เพิ่งมีระยะหลังนี่แหละที่ห่างหายไปบ้างทว่าข้าวของก็ยังคงวางอยู่ที่เดิมราวกับเจ้าของห้องไม่เคยแตะต้องมัน

            ไวน์เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืด กางเกงบอลมาถือเอาไว้  รับผ้าเช็ดตัวมาจากลักษณ์ สายตาคมไวก็ดันเหลือบไปเห็นภาพวาดด้วยดินสอที่วางเอาไว้บนโต๊ะในห้อง 

            เป็นรูปสระบัวของโรงเรียนที่เขาเพิ่งไปตามหาลักษณ์เมื่อตอนเย็น  แสงแรเงายังไม่ดีถึงขึ้นมืออาชีพ แต่ก็พอดูเค้าโครงออกว่าอะไรเป็นอะไร  รวมถึงเงาของคนสองคนที่อยู่ริมสระบัวด้วย   คนหนึ่งนั่งอยู่หลังผืนผ้าใบส่วนอีกคนนอนเท้าคางอยู่ข้างๆ

            สายตาของคนที่ดูเหมือนจะกำลังวาดภาพอยู่นั้นกลับไม่ได้จับจ้องไปที่ผืนผ้าใบหรือวิวทิวทัศน์ที่ใช้เป็นแบบ  หากกลับเหลือบมองไปทางคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆนั้นแทน  มุมปากยิ้มนิดๆราวกับกำลังพึงใจ

          “รูปนี้มัน..”  ...กลับกัน  ไวน์คิดต่อในใจ  เป็นเขาไม่ใช่หรือที่เป็นฝ่ายคอยแอบมองลักษณ์เรื่อยมา  หากิจกรรมอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาสามารถอยู่ใกล้ชิดกับอีกคนได้นานๆ   ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายทั้งที่เป็นคนไม่ชอบทำอะไรซ้ำซากจำเจ

            “เคยถามใช่มั้ยว่าทำไมถึงต้องวาดรูปสระบัวซ้ำๆด้วย”  ลักษณ์พูดขึ้นช้าๆ  “แต่ก่อนกูก็ไม่รู้  รู้แค่อยากวาดมันทุกวัน  วาดเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจสักที   ต้องกลับไปวาดใหม่ทุกเย็น”

            “ลักษณ์”

            หัวใจของไวน์เต้นแรงตอนที่เขาเพิ่งสังเกตว่ามีกระดาษอีกแผ่นซ้อนอยู่ใต้รูปใบนั้น   ไวน์หยิบรูปใบแรกออกวางเอาไว้ที่เดิม  สายตาจับจ้องไปที่ภาพที่สองที่ถูกวาดขึ้นด้วยฝีมือที่น่าจะเป็นคนเดียวกันกับรูปแรกแต่พัฒนาขึ้นจากเดิมมาก

            ภาพผู้ชายคนหนึ่งเดินตากฝนที่ตกหนักฝ่ารถที่จอดเรียงรายอยู่เต็มถนน  เสื้อเปียกชุ่มผมลู่แนบศีรษะ  ใบหน้าของคนๆนั้นดูคล้ายกับเขาราวกับแกะ  แววตาที่มองทอดตรงมาเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนแรงจนเหมือนสายฝนฉ่ำนั้นไม่อาจลดความร้อนใจของเขาได้เลย

            ห้องเงียบได้ยินแต่เสียงละครโทรทัศน์ดังมาจากห้องป้าดา

            “มึงไม่ได้ความจำเสื่อม”  ไวน์กระซิบ

            “บางอย่างก็ไม่ได้ลืมกันได้ง่ายๆ”  ลักษณ์กระซิบตอบแล้วยิ้ม   “อยากขอบคุณและก็ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง...”  ลักษณ์พูดไม่จบเพราะอีกฝ่ายดึงตัวเข้าไปกอดอย่างแรง

            “รู้ตัวก็ดีแล้ว”

            “ตอนนั้นคิดถึงแต่มึงคนเดียวเลยนะ  แล้วมึงก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเหมือนเล่นกล”  ลักษณ์พูด  ซบใบหน้าลงกับแผ่นอก  ยกมือขึ้นกอดตอบกลับไปแน่นพอกัน  “นึกว่าฝัน  มันน่ากลัว...”

            “ชู่ว”  ไวน์แตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากของเขา “อย่าไปนึกถึงเลย  ลืมไปได้ยิ่งดี”

            “ไม่อยากลืม”  ลักษณ์ตอบ  เงยหน้าขึ้นสบตาเขา “จะเก็บเอาไว้ในใจ”

ไวน์ยิ้มก้มลงมาหาจนปลายจมูกเสียดสีกันเบาๆ

            “กองรวมอยู่ที่ตีนเขาลูกนั้นใช่มั้ย”

            คิ้วคนฟังขมวดนิดๆแล้วก็คลายออกเป็นรอยยิ้มหวานที่ไวน์ไม่เคยเห็นมาก่อน

            “ภูเขาลูกใหญ่ในใจน่ะเหรอ”

            “อาจจะใช่”  ไวน์ตอบกลับมากลั้วหัวเราะ  ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางที่เผยอน้อยๆนั้น  ลักษณ์ผงะหนี  สำลักนิดหนึ่งเพราะความตกใจ   ฝ่ายนั้นไม่ปล่อยให้เขาได้ตั้งตัวนาน  บดริมฝีปากประชิดแนบสนิทจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียว  พอเขาเผลอตัวก็ส่งปลายลิ้นเข้ามาทักทายหยอกเย้าสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องไปหมด

            ลักษณ์ยกมือขึ้นจับเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้  อีกมือก็เกาะไหล่เป็นหลังพยุงตัว  ใบหน้าของเขาถูกมือของอีกฝ่ายจับเชยขึ้นให้แหงนเงยรับสัมผัสได้ถนัดถนี่  ชั่วขณะหนึ่งลักษณ์รู้สึกเหมือนตัวเองได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กคนหนึ่งข้างในอก  เป็นเสียงหัวเราะที่สดใสที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา  มันดังประสานกับเสียงเต้นของหัวใจเขา

            “ดูเหมือนห้องพี่รามจะล็อคนะ”  เขาได้ยินเสียงไวน์พึมพำ  ฝ่ามือร้อนๆเริ่มปัดป่ายลอดเข้ามาใต้เสื้อยืดที่เขาสวมเอาไว้

            ....มีกุญแจสำรอง....ลักษณ์คิดในใจ  แต่ไม่รู้ว่าได้ตอบออกไปหรือเปล่า

            .................................................................................

           

            อ่ะแฮ่มม  มาต่อแล้วนาจาา  หายไปทำงานหาเงินยังชีพ555555ใครอ่านตอนนี้แล้วงงแนะนำให้กลับไปอ่านแชทของไวน์อีกรอบ  ถ้าคุณยังงงอยู่ ไว้ต่อตอนหน้าล่ะกันนะ

     ฉากหลังจากนี้ก็..เอ่อ  เค้าก็คงใช้กุญแจไขประตูกันน่ะค่ะ  ลงในเด็กดีไม่ได้อ่ะนะเสียจายโด้ยยย  แต่เราก็ไม่ค่อยถนัดหรอก  ผ่านๆไปเลยก็ได้ (ผ่านไปทางเล้าเป็ดก็ดี5555 แต่เป็นตอนหน้านะ) 

     ใกล้จบล้าววว ตื่นเต้น  ดีใจแต่ก็ใจหาย  ตอนนี้มีเกมทาpชื่อนิยายเรื่องใหม่ที่จะมาต่อจากแอบลักษณ์อยู่ในทวิตกับแฟนเพจเราเอง  ไปเล่นได้  ตอบถูกคนเเรกได้รางวัล ตอบซ้ำกับคำตอบที่ถูกอาจจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ 5555

นักอ่านเงาเเสดงโปรดแสดงตัว  ใครชอบเรื่องนี้ติดแท็ค #แอบลักษณ์  นะจ้ะ

กดไลค์แฟนเพจด้วยเด้ออ FB : Melenalike

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ดีใจที่เข้าใจกันได้ สุขแบบเหงาๆยามฝนพร่ำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pim14

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :mew1: เข้าใจกันสักดี ขอช็อตสวีตกระหน่ำมาได้เลยค่ะ ไม่ต้องยั้ง ไวน์สุดหล่ออดทนรอมานานแล้ว ปล่อยพลังออกมาให้หมด แฟนคลับยินดีเป็นพยานแห่งฉากรักนี้เอง อิอิ ชอบเรื่องนี้มาก อ่านแล้วเหมือนเห็นตัวละครออกมาเดินอยู่ใกล้ๆ รีบมาต่อตอนใหม่นะคะ คนรออ่าน ลุ้น ใจจะขาด

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
กว่าจะถึงวันนี้ ดีใจกับไวน์ด้วยน้าาาาา  :mew1:

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ตอนแรกอ่านแล้วไม่ชอบลักษณ์แอบลำไย ต่อมาไวน์ก็เริ่มไม่ชอบ ต่อด้วยอิหนูนิว อินมากอะอ่านแล้วร้องไห้ตาม :hao5:

ออฟไลน์ marisa9397

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กว่าจะมาถึงวันนี้รักกันนานๆน้าาา

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
คนรักกัน ยังไงมันก็ใช่อยู่วันยันค่ำ

คนที่ไม่ใช่ ชิ้วๆๆๆๆๆๆ ไปไกลๆๆๆๆ

น่ารักอ่ะคู่นี้
ไวน์&ลักษณ์

ออฟไลน์ MorethanMore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านไปสงสารตัวเองไป
ตอนแรกสงสารไวน์ สักพัก เกิดคำถาม ไวน์ผิดตรงไหนที่คบกับคนที่ชอบในเมื่อลักษ์บอกเด็ดขาดชัดเจน แค่เพื่อน ไวน์ก็ไปคบคนอื่นดิ แบบทำไมอะ แอบรักมานานเลยต้องเจ็บนาน ๆ หรือเหรอ? ไม่จำเป็นไหมอะ ในเมื่อลักษ์บอกเอง แถมจะจีบผญด้วย ไวน์ก็แค่พอแล้ว

เอ้าพออ่านไปอีกลักษ์ชอบรักไวน์ แต่ช้าไปไหม นี่เชียร์ให้ไวน์ไม่กลับมาด้วยซ้ำ ก็ขอแค่เพื่อนก็จะให้แค่เพื่อน ส่วนนิว เป็นใครใครก็โกรธ แต่คงคาดไม่ถึงว่าพี่สิงห์จะทำขนาดนี้ นิวเราเฉย ๆ มาก แต่นางร้ายเพราะ ถูกทำร้าย

พี่รามถามจริงทำไมต้องโกรธไวน์ คนที่ผิดคือลักษ์นะ ปฏิเสธไวน์อะ พอไวน์คบคนอื่น แล้วลักษ์เจ็บเพราะเพิ่งรู้ตัวนี่ผิดเหรอไง

แต่ในที่สุดเขาก้รักกันสักที เฮ้อ ถอนหายใจ 5555

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อ่านทันแล้วววววว

หน่วง อึดอัด ลำไย และ โล่งใจ 555555

สรุปโดยรวม แต่ท้ายสึด รอติดตามค่ะ

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
ไม่ต้องแอบรักกันแล้วนะ...

สิงเล้า เพราะเล้าเป็ดนี้ดีมีคุณภาพ รออ่านฉากหวีดหวิว. อุอิอุอิ....


 :hao6:  :hao7:  :hao6:  :hao7:  :hao6:  :hao7:

....

.

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ก็ว่าลักษณ์ไม่น่าจะถึงความจำเสื่อมเพราะก็ไม่ได้ช็อคยาขนาดนั้นอาจจะแค่เบลอๆงงๆและพอสติมาครบก็คงจำได้ ดีใจที่ลงเอยด้วยดีกว่าจะมาถึงจุดนี้คนอ่านหน่วงใจกันไปเท่าไหร่ เสียใจที่ใกล้จบแล้วและเราทายชื่อนิยายเรื่องหน้าผิด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด