“ถ้าจ้องนานกว่านี้กูจะท้องแล้วนะ”
เสียงห้าวๆดังขึ้นพร้อมกับแววตาแพรวระยับที่เหลือบมาทางเขา ลักษณ์สะดุ้ง เผลอหลบตาเพราะไม่ทันตั้งตัว
“ประสาท” ด่าออกไปด้วยคำติดปาก เอื้อมมือไปคว้าแก้วพลาสติกใบสุดท้ายในกะลังมังขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายเอื้อมมือมาคว้าเช่นกัน แต่ไม่ได้คว้าแก้ว ลักษณ์ดูออกว่าฝ่ายนั้นจงใจคว้ามือของเขาตะหาก
แก้วพลาสติกสีเขียวใบนั้นหลุดจากมือลักษณ์ลงไปลอยตุบป่องในน้ำฟองฟอดเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีใครสนใจ มือเล็กพยายามดึงออกทว่าฝ่ามือของอีกฝ่ายกลับเหนียวแน่นกว่าน้ำยาล้างจานลื่นๆเสียอีก สงสัยชาติก่อนจะทำบุญด้วยตีนตุ๊กแก
“ปล่อยเลย กูจะรีบล้าง” ลักษณ์พูดรัวเร็ว
“กูไม่รีบ มีเวลาล้างทั้งคืน” ไวน์ตอบกลับมา “ฝนตกน้ำท่วม คืนนี้กูขอค้างที่นี่นะลักษณ์”
คนฟังอ้าปากค้าง ไวน์รู้ว่าอีกฝ่ายเตรียมจะปฏิเสธแต่เขาก็รู้อีกนั่นแหละว่าสุดท้ายแล้วนั้น คนแบบลักษณ์ก็ยังเป็นคนแบบลักษณ์วันยันค่ำ
“ก็ได้” ท่าทางตอบกลับมาแบบไม่เต็มใจนัก แต่ก็ปล่อยให้ ‘เพื่อน’ เดินตากฝนลุยน้ำกลับบ้านไม่ลง หึ...
“นอนห้องมึงนะ”
ถ้าเป็นปกติ ลักษณ์คงย้อนกลับไปว่า ‘ก็ต้องห้องกูดิ จะไปนอนห้องพี่รามหรือไง’ ไปแล้ว ทว่าสายตาของไวน์ที่มองมาและสัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือที่ยืดมือของเขาอยู่ใต้ฟองฟอดของน้ำยาล้างจานนั้นทำให้ลักษณ์ใจสั่น ไม่สามารถตอบกลับไปได้เหมือนเคย
“ว่าไง...ลักษณ์”
“ปล่อยมือก่อน”
“ตอบตกลงก่อน”
“ไม่”
“งั้นก็ไม่ปล่อย แช่น้ำอยู่อย่างนี้แหละ”
“ไอ้ไวน์! กูจะรีบทำงานให้เสร็จ”
“ก็บอกตกลงก่อนสิ กูนอนพื้นก็ได้ ไม่ไปแย่งที่มึงบนเตียงหรอก” ไวน์พูดด้วยเสียงน่าสงสาร ในใจเริ่มนับหนึ่งถึงสาม เขาเห็นลักษณ์เม้มปากแน่น กวาดตาลอกแลกหาหนทางอื่น จากนั้นก็กลืนน้ำลายอึกนึง สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วอ้าปาก
“เป็นแฟนกันนะ” ไวน์พูดเร็วปรื๋อตัดหน้า
“ตกลง....เห้ย เมื่อกี้ว่าไรนะ” ลักษณ์ตาเหลือก มองหน้าเขาค้างเหมือนเห็นผี ไวน์หัวเราะเสียงดังยกมือขึ้นโบกข้างหน้า
“ตกลงแล้วนะ เอ้าหุบปากหน่อย แมลงวันเข้าปากแล้ว”
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรไอ้ไวน์ กูฟังไม่ทัน”
“ฟังไม่ทันแล้วจะตอบตกลงได้ไง” ไวน์ย้อนกลับมายิ้มๆ ใช้ปลายนิ้วโป่งไล้หลังมือลื่นๆของอีกฝ่ายเล่นเบาๆ พลางเอื้อมมือไปหยิบแก้วใบสุดท้ายในกะลังมังขึ้นมาล้างด้วยวิธีที่ลักษณ์ไม่เคยเห็นใครใช้มาก่อน
มันวาดแขนโอบรอบตัวเขาแล้วจับมือเขาล้างจานเหมือนเวลาที่แม่จับมือสอนลูกกินข้าว ลักษณ์รู้สึกเหมือนตัวเองถูกน็อคด้วยกำปั้นที่มองไม่เห็นเข้าเต็มๆหน้า สมองมึนงงจากไอตัวของคนที่แนบชิดอยู่ ปลายคางที่มีหนวดขรุขระวางป้วนเปี้ยนอยู่แถวซอกคอปนกับลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ามาปะทะที่หลังคอและซีกแก้มของเขาเป็นจังหวะ กินเน็สบุ๊คคงต้องบันทึกสถิติการล้างแก้วหนึ่งใบด้วยเวลานานที่สุดเท่าที่ลักษณ์เคยทำมา
“เกลี้ยงแล้ว” เสียงห้าวๆกระซิบข้างหู ดึงสติของคนที่นั่งตาลอยมองแก้วในมือเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน “เปิดน้ำเร็ว จะได้ล้างน้ำเปล่า” เสียงนั้นบงการมาอีก ท่อนแขนล่ำสันเปลี่ยนมาโอบรอบเอวของเขาเอาไว้หลวมๆแล้วเจ้าตัวก็เอื้อมมือมาเปิดก๊อกตรงหน้าลักษณ์เสียเองเมื่อเห็นว่าลักษณ์ยังนั่งนิ่งอยู่
ไวน์จับมือเขาหยิบจานชามขึ้นมาล้างน้ำเปล่าทีละใบ มันใช้เวลานานกว่าการล้างปกติถึงสามเท่า แถมยังเปลืองน้ำ ลักษณ์คิดในใจทว่ากลับไม่ได้ดึงมือออก...
“ฉันรู้ว่าเธอกังวล อาการเธอบอกทางสายตา ฉันรู้ว่าเธอไม่กล้าที่จะพูดจาเปิดหัวใจ ฉันรู้ว่าเธอกำลัง อยากรู้ว่าฉันนั้นคิดอะไรอยู่...” เสียงห้าวๆดังขึ้นที่ริมหู ลักษณ์ชะงัก... “อาจเพราะว่าเป็นเวลาเนิ่นนานที่เราได้พบกัน อาจเพราะว่ามีเพียงเธอคนเดียวที่ดูฉันสนใจ อาจเพราะฉันไม่มองใคร อาจเพราะฉันมองเพียงเธอคนเดียว..”
“นึกว่าสวดมนต์อยู่” คนฟังขัดขึ้นทั้งที่หน้าแดงจัด
“หากอยากถาม ว่าฉันนั้นคิดอะไรมั้ย ก็จะขอบอกเธอเลยว่าใช่ ฉันคิด” คนร้องไม่สนใจ ยังคงร้องต่อไปประหนึ่งก๊อกน้ำเป็นไมค์และจานชามช้อนส้อมเป็นคนดู “คิดว่าเธอเป็นคนน่ารักดี มีตังค์พอใช้หรือเปล่า ถ้าไม่มี ก็อยากจะชวนเธอพูดคุยกันยาวๆ”
“มันไม่ได้ร้องงี้นะกูว่า”
“เพราะวันนี้บรรยากาศก็ดี๊ดี มีเสียงน้ำและ...ถั่วฝักยาว” เศษผักลอยผ่านหน้าลงท่อระบายน้ำไป ลักษณ์มองตามแล้วหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ คนร้องทำหน้าพิกลแล้วร้องต่อ “ถ้าไม่รีบไป ก็อยู่ล้างกันจนเช้า จนจานหมดร้าน จนเธอง่วงนอน”
“รีบล้างดีกว่านะ ชักง่วงจริงๆด้วย เสียงร้องมึงเหมือนเสียงสวดกล่อมเลย”
ไวน์จุ๊ปาก ขยับจะตอบแต่ก็มีเสียงเดินลงบันไดจากชั้นบนมาเสียก่อน เขารีบปล่อยมือจากลักษณ์อย่างรวดเร็วพอดีกับที่ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นเดินลงมาชั้นล่าง
“เหนื่อยหน่อยนะวันนี้ ไม่ต้องล้างหมดก็ได้ เพิ่งหายป่วยกัน วางกองไว้ก่อน ให้รามมันกลับมาล้างต่อพรุ่งนี้”
“คืนนี้พี่รามไม่นอนบ้านเหรอครับ” ไวน์ชิงถาม อาศัยจังหวะนั้นดันเก้าอี้ออกห่างจากลักษณ์
“เห็นว่าเพื่อนมีปัญหาหรืออะไรสักอย่าง”
“อ้อ”
“ลักษณ์ เล่นอะไรน่ะ ทำไมเสื้อเปียกอย่างนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก ไวน์ก็อีกคน....เล่นอะไรระวังกันบ้าง” ประโยคหลังป้าดาหันมาพูดกับคนโตกว่าโดยตรง ไม่รู้ทำไมไวน์ถึงรู้สึกว่าเธอจงใจสื่อบางอย่างถึงเขา
“ครับ...จะเสร็จแล้วครับ” ลักษณ์ตอบอุบอิบ
“รีบขึ้นนอนได้แล้ว เจ้าไวน์คืนนี้นอนห้องรามก็ได้ ได้ไม่ต้องเบียดกัน รามมันไม่ว่าอะไรหรอก” ป้าดาพูดทิ้งท้ายเอาไว้เป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินกลับขึ้นบันไดไปชั้นบน ทิ้งให้เด็กหนุ่มสองคนยืนมองหน้ากัน
ลักษณ์ตัวสั่นเพราะกลั้นหัวเราะ มองหน้าอีกคนที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสะใจ
“ขำอะไร”
“เปล่า” เขาตอบกลับไป ก้มลงหยิบจานที่ล้างเสร็จแล้วขึ้นไปวางเรียงผึ่งเอาไว้ให้แห้ง ท่าทางของไวน์ดูหงอยลงอย่างเห็นได้ชัดจนเขานึกขำ ไม่นึกเลยว่าจะได้เห็นสีหน้าเหมือนหมาหงอยแบบนี้จากคนที่ป๊อปปูล่าที่สุดในมหาลัย
...เป็นอีกครั้งที่ลักษณ์ถามตัวเองว่ากำลังฝันไปหรือเปล่า
ได้เป็นคนที่รัก...และถูกรักตอบกลับมา
“คิดอะไรอยู่ หรือว่าหลับในไปแล้ว” สองมือโบกไปมาตรงหน้า ลักษณ์ส่งยิ้มกลับไปให้จนอีกฝ่ายมองหน้าเขากลับมาอย่างแปลกใจ “เป็นอะไรหรือเปล่า จู่ๆก็มาจ้องหน้ายิ้ม”
“ก็แค่ดีใจ”
“เรื่อง?”
“ไม่รู้สิ...” ลักษณ์เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน มีร่างสูงสมส่วนของอีกฝ่ายเดินตามขึ้นมาติดๆ มาหยุดที่หน้าห้องนอนของลักษณ์
“ห้องพี่รามอยู่ทางโน้น”
“ขอหยิบของก่อน”
ลักษณ์เลิกคิ้ว เปิดประตูห้องให้อีกฝ่ายเข้าไป ไวน์มาค้างบ้านลักษณ์บ่อยจนมีของใช้ส่วนตัวอยู่ที่นี่เหมือนเป็นบ้านอีกหลัง เพิ่งมีระยะหลังนี่แหละที่ห่างหายไปบ้างทว่าข้าวของก็ยังคงวางอยู่ที่เดิมราวกับเจ้าของห้องไม่เคยแตะต้องมัน
ไวน์เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืด กางเกงบอลมาถือเอาไว้ รับผ้าเช็ดตัวมาจากลักษณ์ สายตาคมไวก็ดันเหลือบไปเห็นภาพวาดด้วยดินสอที่วางเอาไว้บนโต๊ะในห้อง
เป็นรูปสระบัวของโรงเรียนที่เขาเพิ่งไปตามหาลักษณ์เมื่อตอนเย็น แสงแรเงายังไม่ดีถึงขึ้นมืออาชีพ แต่ก็พอดูเค้าโครงออกว่าอะไรเป็นอะไร รวมถึงเงาของคนสองคนที่อยู่ริมสระบัวด้วย คนหนึ่งนั่งอยู่หลังผืนผ้าใบส่วนอีกคนนอนเท้าคางอยู่ข้างๆ
สายตาของคนที่ดูเหมือนจะกำลังวาดภาพอยู่นั้นกลับไม่ได้จับจ้องไปที่ผืนผ้าใบหรือวิวทิวทัศน์ที่ใช้เป็นแบบ หากกลับเหลือบมองไปทางคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆนั้นแทน มุมปากยิ้มนิดๆราวกับกำลังพึงใจ
“รูปนี้มัน..” ...กลับกัน ไวน์คิดต่อในใจ เป็นเขาไม่ใช่หรือที่เป็นฝ่ายคอยแอบมองลักษณ์เรื่อยมา หากิจกรรมอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาสามารถอยู่ใกล้ชิดกับอีกคนได้นานๆ ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายทั้งที่เป็นคนไม่ชอบทำอะไรซ้ำซากจำเจ
“เคยถามใช่มั้ยว่าทำไมถึงต้องวาดรูปสระบัวซ้ำๆด้วย” ลักษณ์พูดขึ้นช้าๆ “แต่ก่อนกูก็ไม่รู้ รู้แค่อยากวาดมันทุกวัน วาดเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจสักที ต้องกลับไปวาดใหม่ทุกเย็น”
“ลักษณ์”
หัวใจของไวน์เต้นแรงตอนที่เขาเพิ่งสังเกตว่ามีกระดาษอีกแผ่นซ้อนอยู่ใต้รูปใบนั้น ไวน์หยิบรูปใบแรกออกวางเอาไว้ที่เดิม สายตาจับจ้องไปที่ภาพที่สองที่ถูกวาดขึ้นด้วยฝีมือที่น่าจะเป็นคนเดียวกันกับรูปแรกแต่พัฒนาขึ้นจากเดิมมาก
ภาพผู้ชายคนหนึ่งเดินตากฝนที่ตกหนักฝ่ารถที่จอดเรียงรายอยู่เต็มถนน เสื้อเปียกชุ่มผมลู่แนบศีรษะ ใบหน้าของคนๆนั้นดูคล้ายกับเขาราวกับแกะ แววตาที่มองทอดตรงมาเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนแรงจนเหมือนสายฝนฉ่ำนั้นไม่อาจลดความร้อนใจของเขาได้เลย
ห้องเงียบได้ยินแต่เสียงละครโทรทัศน์ดังมาจากห้องป้าดา
“มึงไม่ได้ความจำเสื่อม” ไวน์กระซิบ
“บางอย่างก็ไม่ได้ลืมกันได้ง่ายๆ” ลักษณ์กระซิบตอบแล้วยิ้ม “อยากขอบคุณและก็ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง...” ลักษณ์พูดไม่จบเพราะอีกฝ่ายดึงตัวเข้าไปกอดอย่างแรง
“รู้ตัวก็ดีแล้ว”
“ตอนนั้นคิดถึงแต่มึงคนเดียวเลยนะ แล้วมึงก็มาปรากฏตัวตรงหน้าเหมือนเล่นกล” ลักษณ์พูด ซบใบหน้าลงกับแผ่นอก ยกมือขึ้นกอดตอบกลับไปแน่นพอกัน “นึกว่าฝัน มันน่ากลัว...”
“ชู่ว” ไวน์แตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากของเขา “อย่าไปนึกถึงเลย ลืมไปได้ยิ่งดี”
“ไม่อยากลืม” ลักษณ์ตอบ เงยหน้าขึ้นสบตาเขา “จะเก็บเอาไว้ในใจ”
ไวน์ยิ้มก้มลงมาหาจนปลายจมูกเสียดสีกันเบาๆ
“กองรวมอยู่ที่ตีนเขาลูกนั้นใช่มั้ย”
คิ้วคนฟังขมวดนิดๆแล้วก็คลายออกเป็นรอยยิ้มหวานที่ไวน์ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ภูเขาลูกใหญ่ในใจน่ะเหรอ”
“อาจจะใช่” ไวน์ตอบกลับมากลั้วหัวเราะ ก้มลงประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางที่เผยอน้อยๆนั้น ลักษณ์ผงะหนี สำลักนิดหนึ่งเพราะความตกใจ ฝ่ายนั้นไม่ปล่อยให้เขาได้ตั้งตัวนาน บดริมฝีปากประชิดแนบสนิทจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียว พอเขาเผลอตัวก็ส่งปลายลิ้นเข้ามาทักทายหยอกเย้าสร้างความปั่นป่วนในช่องท้องไปหมด
ลักษณ์ยกมือขึ้นจับเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้ อีกมือก็เกาะไหล่เป็นหลังพยุงตัว ใบหน้าของเขาถูกมือของอีกฝ่ายจับเชยขึ้นให้แหงนเงยรับสัมผัสได้ถนัดถนี่ ชั่วขณะหนึ่งลักษณ์รู้สึกเหมือนตัวเองได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กคนหนึ่งข้างในอก เป็นเสียงหัวเราะที่สดใสที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา มันดังประสานกับเสียงเต้นของหัวใจเขา
“ดูเหมือนห้องพี่รามจะล็อคนะ” เขาได้ยินเสียงไวน์พึมพำ ฝ่ามือร้อนๆเริ่มปัดป่ายลอดเข้ามาใต้เสื้อยืดที่เขาสวมเอาไว้
....มีกุญแจสำรอง....ลักษณ์คิดในใจ แต่ไม่รู้ว่าได้ตอบออกไปหรือเปล่า
.................................................................................
อ่ะแฮ่มม มาต่อแล้วนาจาา หายไปทำงานหาเงินยังชีพ555555ใครอ่านตอนนี้แล้วงงแนะนำให้กลับไปอ่านแชทของไวน์อีกรอบ ถ้าคุณยังงงอยู่ ไว้ต่อตอนหน้าล่ะกันนะ
ฉากหลังจากนี้ก็..เอ่อ เค้าก็คงใช้กุญแจไขประตูกันน่ะค่ะ ลงในเด็กดีไม่ได้อ่ะนะเสียจายโด้ยยย แต่เราก็ไม่ค่อยถนัดหรอก ผ่านๆไปเลยก็ได้ (ผ่านไปทางเล้าเป็ดก็ดี5555 แต่เป็นตอนหน้านะ)
ใกล้จบล้าววว ตื่นเต้น ดีใจแต่ก็ใจหาย ตอนนี้มีเกมทาpชื่อนิยายเรื่องใหม่ที่จะมาต่อจากแอบลักษณ์อยู่ในทวิตกับแฟนเพจเราเอง ไปเล่นได้ ตอบถูกคนเเรกได้รางวัล ตอบซ้ำกับคำตอบที่ถูกอาจจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ 5555
นักอ่านเงาเเสดงโปรดแสดงตัว ใครชอบเรื่องนี้ติดแท็ค #แอบลักษณ์ นะจ้ะ
กดไลค์แฟนเพจด้วยเด้ออ FB :
Melenalike