《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 236451 ครั้ง)

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #570 เมื่อ07-06-2017 17:12:44 »

ใจยักษ์ 28.1

“โอ๊ย! ซี๊ดดด” เมฆปัดมือเรียวที่กำลังใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็ดแผลบนใบหน้าให้

“เว่อร์ สมควรแล้วจะต่อยกันทำไมไม่รู้” ผมบ่นขณะใส่ยาให้เขา

“ใครจะไปรู้ว่ามันจะเก่งขนาดนั้น แม่งเสือกออมแรงอีก เจ็บใจชะมัด” เมฆพึมพำเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยินอยู่ดี ออมแรงแล้วเมฆยังสู้ไม่ได้เลยงั้นหรอ จริงๆทักษะเมฆไม่ได้ขี้เหร่เลยนะครับ เขาเล่นกีฬาเทควันโดจนได้สายดำทั้งกีฬาชกมวยอีก ไม่น่าจะยับเยินขนาดนี้

“เมฆสู้เขาไม่ได้เลยหรอ”

“ถ้าพูดแบบไม่มีอคติ...กูเทียบไม่ติดเลยล่ะ” เมฆบอกเซ็งๆ มือกดรีโมทเปลี่ยนช่องรัว

“เขาเคยหายไปจากชั้นสามด้วยนะ”ผมพูดขึ้นเมื่อนึกถึงตอนที่เขาไปนอนที่หอผมแล้วเมฆมาในตอนเช้า เขาหายไปจากระเบียงอย่างไร้ร่องรอย ผมก็แปลกใจอยู่แต่ถ้าจะให้ถามเซ้าซี้ก็ไม่ใช่นิสัยผมอีกนั่นแหละ

“จริงหรอ? มันเป็นตัวอะไรว้า?” เมฆครุ่นคิด โดยส่วนตัวผมว่าเขาก็เป็นคนธรรมดาไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดมาจากที่ไหนหรอก อาจจะมีทักษะด้านต่อสู้ที่ดีกว่าคนอื่น แต่ดูๆไปเขาเหมือนพวกมาเฟียในละครเหมือนกัน มีการ์ดประจำตัวแต่ก็ไม่ได้ใส่ชุดดำแว่นดำจนน่ากลัว ปืนผมก็ไม่เคยเห็นนะ อย่างจับคนมาฆ่าหรือทรมานก็ไม่มี...หรือว่ามีหว่า? ช่างเถอะ เขาจะเป็นใครก็ไม่ใช่เรื่องของผมอยู่ดี

“แล้วจะกินอะไร ข้าวต้มไหม?จะได้ทานง่ายๆ” ผมถามหลังจากทำแผลเสร็จ

“เออ จะทำอะไรก็ทำมาเถอะ” เมฆตอบปัดๆ สายตาก็ดูแต่ทีวี ผมเข้าใจเขานะคือเมฆก็เป็นคนมั่นใจในฝีมือตัวเองระดับหนึ่ง พอมาแพ้คนที่เก่งกว่าตัวเองมากๆแล้วยังออมแรงให้มันก็ต้องเสียเซลฟ์บ้างเป็นธรรมดา

ผมทำข้ามต้มหมูสับให้เมฆ เขาทานได้ไม่เยอะเท่าปกติ พอทานเสร็จผมก็เอายาแก้ปวดและแก้อักเสบให้เขาทาน เราสองคนนั่งเล่นๆนอนๆดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นจนสามทุ่ม เมฆเข้าไปอาบน้ำ  ความจริงแล้วผมมาที่นี่ไม่บ่อยนักเคยค้างแค่สองครั้ง เพราะปกติเมฆเขาก็จะกลับไปนอนที่บ้านไม่ค่อยได้นอนที่นี่หรอก

Rrrr Rrrr Rrrr
เสียงมือถือผมดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นทศกัณฐ์ที่โทรมา

“ครับ”

(อีกสิบนาที) ผมมองนาฬิกาพบว่าอีกสิบนาทีคือสี่ทุ่ม คือเวลาที่เขากำหนด

“ครับ เดี๋ยวรันต์กลับ”

(พี่รออยู่ข้างล่าง)

“พี่อยู่ไหน?”

(หน้าคอนโดมัน รีบลงมาล่ะ) เขาบอกเรียบๆแล้วกดวางสาย แปลกใจเล็กน้อยที่เขารู้จักคอนโดเมฆ แต่ถ้าอยากรู้จริงๆคงไม่เกินความสามารถเขาอยู่ดี

“มันตามแล้วหรอ” เมฆเดินออกมาจากห้องนอน ผมพยักหน้าให้ ลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมกลับ

“มากอดหน่อยมา” เมฆอ้าแขนออกกว้าง ผมเดินเข้าไปกอดเขาโดยไม่มีข้อแม้ แม้ว่าผมจะไม่ใช่คนตัวเล็กแต่รูปร่างค่อนข้างผอม ตัวผมจมเขาไปในอกเมฆ คางเกยไหล่เขาไว้ เมฆซุกหน้าลงกับกลุ่มผมกอดแน่นจนหายใจแทบไม่ออก

“กูไม่อยากปล่อยมึงเลย” เมฆว่า

“กอดไว้ตลอดเมื่อยตายเลย เริ่มหายใจไม่ออกแล้วเนี่ย” ผมว่าขำๆ

“ไอ้เด็กบ้า กูหมายถึงปล่อยมึงให้มันต่างหาก” เมฆเขกหัวผมเบาๆ

“ให้เขาทำไมทำไม ไม่ได้เป็นอะไรกันกับเขาสักหน่อย”

“ใช่หร๊อ ที่กูเห็นมันไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ”

“มันไม่เป็นแบบไหนทั้งนั้นแหละ”

“มึงทำเป็นพูดดีไป ถ้ามึงรักมันไปแล้วมึงจะไม่พูดแบบนี้”

“น้องจะไม่รัก” ผมพูดเสียงแข็ง ความรักคือสิ่งที่ผมเกลียดและอยากถอยห่างมากที่สุด

“ความรู้สึกไม่ได้ห้ามกันง่ายๆนะรันต์ ไม่ว่าจะโกรธ เกลียด เสียใจ เจ็บปวด มีความสุขหรือว่า...รัก ตราบใดที่หัวใจน้องยังเต้นอยู่ น้องไม่มีทางหนีมันพ้น”

“...” หัวใจน้องหยุดเต้นไปตั้งนานแล้วเมฆ

“เอาเถอะ ไม่ว่ามึงจะรู้สึกอย่างไรกูก็จะอยู่ข้างๆมึงเสมอ จะสุขหรือว่าเสียใจก็บอกกูบ้าง อย่าคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวเลยนะ” เมฆผละอ้อมกอด สองมือยึดไหล่ผมไว้ ลูบหัวเบาๆแบบเอ็นดูมาก ผมยังเงียบเพราะคงไม่มีวันนั้น

“ไปเถอะเดี๋ยวกูลงไปส่ง...ความรู้สึกเหมือนลูกสาวกำลังจะห่างจากอกยังไงไม่รู้” เมฆดุนหลังจะพาผมลงไปข้างล่าง แต่ประโยคสุดท้ายเขาพูดงึมงำในลำคอซึ่งผมได้ยินไม่ชัด

“เมฆพูดว่าไงนะ?”

“ไม่มีอะไรๆ รีบไปเถอะก่อนมันจะแดกหัวกูอีกรอบ” เมฆเดินมาส่งผมถึงรถที่ทศกัณฐ์จอดเลียบฟุตบาตรหน้าคอนโดฯ ทศกัณฐ์ยังนั่งรออยู่ในรถไม่ได้ลงมา ผมหันไปล่ำลาเมฆ แต่ก่อนผมจะขึ้นรถเมฆไม่วายหอมแก้มผมฟอดใหญ่พร้อมแสยะยิ้ม ผมก็งงว่าจะยิ้มทำไม แต่พอเห็นทศกัณฐ์เปิดประตูลงมาเท่านั้นแหละ เลยรีบไล่เมฆขึ้นห้องพร้อมส่งสายตาปรามทศกัณฐ์ไว้ทันที ทศกัณฐ์จิ๊ปากหงุดหงิดก่อนจะกลับเข้าไปในรถ เมฆก็ยิ้มร่าแล้วเดินกลับเข้าไปในคอนโดฯ ผมจึงเปิดเข้าไปนั่งในรถ

“อื้อออ” ยังไม่ทันที่ก้นจะแตะเบาะดี ทศกัณฐ์ก็กระชากแขนผมเข้าไปใกล้พร้อมประกบจูบลงมาอย่างหนักหน่วง ผมสัมผัสได้ถึงรสชาติฝาดๆพร้อมกลิ่นคาวของเลือดซึ่งไม่รู้ว่ามาจากปากเขาหรือผมกันแน่ ทศกัณฐ์บดจูบเนิ่นนานจนผมแทบขาดใจจึงผละออกให้ผมโกยอากาศเข้าปอด ริมฝีปากได้รูปไล้วนอยู่ข้างแก้มก่อนจะกัดแรงๆ ซึ่งทำผมเจ็บจนร้องเสียงหลง

“มันเจ็บนะ! เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก” ผมว่าอย่างหงุดหงิด

“ให้มันหอมแก้มทำไม แล้วก่อนหน้านี้ให้มันทำอะไรบ้าง!”ทศกัณฐ์ตะคอกลั่นรถมือหนาบีบแขนผมแทบหัก ไอ้คำถามแรกไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายนี่ทำผมจี๊ดเลย เขาดูถูกผมมากผมรู้จักกับเมฆก่อนจะมารู้จักกับเขาตั้งกี่ปี

“จะให้ทำอะไรมันก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ!” ผมตะคอกกลับ ปกติผมเย็นและจะยอมให้เขาก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้มันมากเกินไปจริงๆ แค่นี้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายก็แทบไม่เหลืออยู่แล้ว เขายังมาขยี้ซ้ำจนไม่เหลือชิ้นดี

“กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร” สรรพนามเขาเปลี่ยนตามผม

“กูไม่ใช่สิ่งของ ร่างกายกู กูจะให้ใครทำอะไรก็ได้” ผมประชดเขา ขึ้นกูมึงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“คำตอบฟังดูร่านดี เดี๋ยวกูจะสนองคนร่านๆอย่างมึงให้หายอยากK เลย” ทศกัณฐ์เหยียดยิ้ม

ผลั๊ว! ผมชกเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทศกัณฐ์หน้าหันตามแรงชก ผมหันหลังให้เขาจะเปิดประตูลงจากรถ แต่อีกคนกลับไวกว่า กระชากแขนผมแล้วไขว้มือผมไว้ด้านหลังทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเขาข้างเดียว ทศกัณฐ์เอี้ยวตัวไปด้านหลังหยิบเข็มขัดหนังมัดแขนผมไว้จนแน่นแล้วคาดเบลท์ทับอีกที จากนั้นจึงกระชากรถออกจากบริเวณด้วยความเร็วชนิดที่หน้าผมคว่ำคะมำไปโขกคอนโซลรถ

“อย่าคิดว่ากูจะกลัว! มึงไม่มีทางบังคับกูได้” ผมจะไม่มีวันแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเด็ดขาด

“อย่าท้าทายกู ที่ผ่านมากูอาจจะใจดีกับมึงมากเกินไป แล้วมึงจะรู้ว่าน่ากลัวจริงๆมันเป็นยังไง” เขาพูดเสียงเย็น ผมขนลุกซู่แต่ก็ยังทำใจดีสู้เสือ ยังมีอะไรที่เลวร้ายกว่าที่ผมเคยเจอมาอีกหรอ

+++++++++++++++++

ทศกัณฐ์ดึงผมลงจากรถแล้วแบกขึ้นบ่า ผมทั้งดิ้นทั้งโวยวาย แต่เขาก็ไม่สนใจไม่ต่อปากต่อคำเดินตรงดิ่งเข้าลิฟท์ เมื่อลิฟท์เปิดออกที่ชั้นสี่สิบ แม้ไม่อยากจะยอมรับแต่ตอนนี้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว ทศกัณฐ์เปิดประตูเข้าไปในห้องเดินตรงดิ่งไปที่ชั้นสอง ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตอื่น ทำไมเวลาสำคัญๆแบบนี้พี่สมิธไม่อยู่วะ

ตุบ! รู้ตัวอีกทีผมก็ถูกโยนลงเตียงคิงไซส์ในห้อง แม้จะเป็นเตียงสปริงแต่ก็ทำผมจุกได้เหมือนกัน ทศกัณฐ์ปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดๆอย่างใจเย็น แผ่นอกกว้างและหน้าท้องเป็นลอนๆปรากฏสู่สายตา มือหนาเลื่อนถอดเข็มขัดและกระดุมกาเกงออก เหลือเพียงอันเดอร์แวร์สีเข้มติดบนร่างกาย ผมถดกายหนีรู้ชะตากรรมต่อจากนี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  ทศกัณฐ์ย่างเท้าขึ้นมาบนเตียงกระชากข้อเท้าผมจนถลาเข้าไปอยู่ใต้ร่างเขา มือหนากระชากเสื้อผมทีเดียวขาดออกจากกัน

ใบหน้าหล่อเหลาโฉบลงมากระแทกริมฝีปากกับผมอย่างแรงจนได้รสเลือด ผมหันหน้าหนีแต่แต่เขาก็ล็อคคางพร้อมบีบกรามผมจนปวด สุดท้ายก็ต้องยินยอมเปิดปากให้เขาสอดลิ้นเข้ามา ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดดูดดึงกับลิ้นผมจนชาไปหมด ผมหายใจไม่ออกเขาก็ไม่สนใจจนแทบจะขาดใจเขาก็ผละออกแล้วกระแทกลงมาใหม่ซ้ำๆย้ำๆอยู่แบบนั้นเป็นสิบๆรอบ มือหนาก็ไม่ว่างเว้นทั้งบีบทั้งขยี้ยอดอกผม มันทั้งเจ็บและเสียวซ่านขึ้นมาพร้อมๆกัน ริมฝีปากทศกัณฐ์ย้ายจากริมฝีปากไปที่ซอกคอเขากัดแล้วดูดซ้ำๆจนผมต้องกัดฟันแน่นด้วยความเจ็บปวด มือผมที่ถูกมัดอยู่ก็เริ่มชาจากการโดนทับ ลำคอที่แทบไม่มีที่ให้เขาทำรอยแล้วเขาก็เลื่อนริมฝีปากมาจัดการกับยอดอกต่อ เขาใช้มือขยี้ยอดอกจนแดงเป่งแล้วครอบริมฝีปากดูดแรงๆซ้ำ ความเสียวพรุ่งปราดไปทั่วร่าง

“อ๊าห์...” ผมเสียวมากจนหลุดครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทศกัณฐ์ร้องหึในลำคอ แล้วสลับไปทำยอดอกอีกข้างเหมือนกัน

“อ๊ะ...อ๊าห์...พะพอที” มันเสียแบบทรมานจนแทบขาดใจ เขาไม่สนใจเสียงร้องผม ยังตั้งหน้าตั้งตาดูดชิมอยู่อย่างนั้นจนร่างผมเกร็งกระตุกแล้วเสร็จในที่สุดทั้งๆที่ไม่ได้แตะต้องเลยสักนิด ผมหอบหายใจถี่ ทศกัณฐ์ผละออกแล้วดึงกางเกงพร้อมอันเดอร์แวร์ออกจากร่างกายผม ความเย็นปะทะเข้ากับร่างกายเปลือยเปล่าทำให้ผมตัวสั่นนิดๆ ทศกัณฐ์จับขาผมตั้งชันและถ่างออกมองด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก ผมหันหน้าหนีความอัปยศที่เกิดขึ้น หลายครั้งที่เรามีเซ็กส์กันเขาจะให้เกียร์ติผมไม่มองโจ่งแจ้งหรือทำให้ต้องรู้สึกอายมากนัก แต่ครั้งนี้แค่ถนุถนอมสักนิดยังไม่มี

“จะหันหน้าหนีทำไม มองดูของผัวกำลังจะเข้าไปในตัวมึงหน่อยสิ” ทศกัณฐ์กดเสียงต่ำ จับแก่นกายผมชักรูดแรงๆจนเจ็บแสบ

“มึงไม่ใช่ผัวกู! อึก!” แม้จะทั้งเจ็บทั้งเสียว แต่ผมก็ตอบโต้อีกคนอย่างไม่ยอมแพ้ แววตาทศกัณฐ์วาวโรจน์ขึ้น ถ้าผมไม่คิดไปเองดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มขึ้นกว่าปกติ

“ดี!จนกว่ามึงจะครางเรียกกูว่าผัว กูจะไม่หยุดกูจะเอามึงจนสลบคาKกูเลย” พูดจบเขาก็เอื้อมตัวไปหยิบบางสิ่งในลิ้นชักแล้วโยนเข้าปาก ร่างสูงชักแก่นกายตัวเองสองสามที จับขาผมแยกออกจากกันแล้วยัดแก่นกายตัวเองเข้ามาในร่างกายผมทีเดียวมิด

“อ๊ากกกกก” ผมกรีดร้องสุดเสียง ช่องทางด้านหลังเจ็บเหมือนจะขาดเป็นชิ้นๆ ของเหลวหนืดๆที่ไหลออกมาทำให้ผมรู้โดยทันทีว่าเป็นเลือด ทศกัณฐ์ขยับสะโพกไม่สนใจความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับผม แววตาเขาว่างเปล่าจนน่ากลัว ผมหลับตาไม่อยากรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น

“อ๊ะ...อ๊าห์...อ๊าห์....อ๊ะ...อ๊ะ!” ผมร้องครางไม่เป็นภาษา ทศกัณฐ์ถอนตัวออกมาจนเกือบหลุดก่อนจะกระแทกกายเข้าไปจนสุด จุดกระสันภายในผมถูกเขาขยี้ซ้ำๆจนต้องครางเสียงหลง แม้ว่ามันจะเสียวมากเท่าไหร่แต่ความเจ็บปวดจากช่องทางที่ฉีกขาดยิ่งทวีขึ้นมากเท่านั้น เขาซอยสะโพกถี่รัวเมื่อใกล้ถึงฝั่ง ผมเกร็งกระตุกก่อนจะปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สองช่องทางข้างหลังขมิบรัดตามกลไกธรรมชาติร่างกาย ทศกัณฐ์กระแทกแรงๆอีกสีห้าทีแล้วเสือกกายเข้ามาจนสุดก่อนจะกระตุกปลดปล่อยธารสีขาวออกมาอัดแน่นอยู่ภายใน มันมากมายจนร้อนไปถึงท้องน้อยเขาแช่ค้างอยู่นิ่งๆ ไม่ถึงหนึ่งนาทีต่อมาแก่นกายที่แช่อยู่ภายในก็ขยายขึ้นมาอีกครั้ง เขาพลิกตัวผมให้คว่ำหน้า จับสะโพกให้ลอยเด่นขึ้นแล้วกระแทกลงมาอีกครั้ง

“อ๊าห์....” ผมร้องครางจนเสียงแหบแห้ง

“พูดมาสิ...ว่าใครเป็นผัวมึง” ทศกัณฐ์ก้มลงมากระซิบชิดใบหู ขณะที่ส่วนล่างยังคงขยับกายเข้าออกอย่างต่อเนื่อง

“ไม่มีวันเป็นมึง!”ทศกัณฐ์ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก เขายืดตัวขึ้นพร้อมกระแทกลงมารุนแรง จุกจนแทบจะรับไม่ไหว แล้วหลังจากนั้นความเลวร้ายจริงๆที่ผมไม่เคยได้สัมผัสก็บังเกิดขึ้น

ผมไม่รู้ว่าวันเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ตัวผม บนเตียง และที่ต่างๆภายในห้องเต็มไปด้วยน้ำคาวกาม ผมสลบไปขณะที่เขายังกระแทกกระทั้นใส่ร่างกายอยู่ ตื่นมาเขาก็ยังเสพย์สมร่างกายผมอยู่เหมือนเดิม เขาให้ผมดื่มแค่น้ำเมื่อร่างกายเริ่มจะไม่ไหว ผมครางจนแทบไม่มีเสียงออกมาจากลำคอ เป็นแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนผมคิดว่าถ้าเขาไม่หยุดผมอาจจะตายจริงๆก็ได้
ก่อนที่ผมจะหลับไปครั้งสุดท้ายเขาก้มลงมาจูบที่อ่อนโยนที่สุดตั้งแต่เริ่มทำ พร้อมกระซิบแผ่วเบา

“รันต์เป็นคนของพี่ตั้งแต่แรก อย่าหวังว่าจะไปจากพี่ได้เพราะพี่ไม่ยอม!”

ผมจับใจความที่เขาพูดไม่ได้ แต่น้ำตาผมกลับไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา แต่ทำไมหัวใจผมถึงได้เจ็บปวดกับสิ่งที่เขาทำมากมายขนาดนี้...

+++++++++++++++++++++

อิพี่ยักษ์ทำไมใจร้ายกับน้องขนาดนี้  :z6: นี่แหละคือตัวตนอีกด้านของทศกัณฐ์ ถ้าลองมองดีๆก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าพี่ทศค่อนข้างจะเป็นสุภาพบุรุษนะแม้จะเจ้าเล่ห์แต่เขาจะหาวิธีทำให้รันต์สมยอมเสมอ แต่ครั้งนี้ถึงขั้นหักหาญน้ำใจน้องขนาดนี้มันเพราะอะไรกันนะ แค่หึงจริงๆหร๊อ ติดตามครึ่งหลังต่อไปฮับ อิอิ :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-06-2017 17:50:32 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ jaokhwan

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #571 เมื่อ07-06-2017 17:24:47 »

อ้าว หักมุม T^T :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #572 เมื่อ07-06-2017 17:44:27 »

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

สงสารน้องรันต์อ่ะ ยักษ์ทำมั้ยทำแบบนี้ :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #573 เมื่อ07-06-2017 17:46:05 »

จะถอยหลังลงคลองอีกเหรอ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #574 เมื่อ07-06-2017 18:13:19 »

 :fire: :fire: :fire: :fire:

ออฟไลน์ MorethanMore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #575 เมื่อ07-06-2017 18:43:15 »

มันมีเหตุผลอะไรหรือเปล่า แค่หึงไม่น่าใช่ รันต์ดื้อหรอ หรือว่าโกรธเรื่องไหนมาแล้วรันต์ดื้อเลยทำแบบนี้

ออฟไลน์ Fonz_Juz19

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #576 เมื่อ07-06-2017 20:10:45 »

ทำไมพี่ยักษ์ทำแบบนี้คะ
น้องผิดอะไร ทำไมไม่ถามน้องดีๆ
สงสารน้องรันต์มากเลย
อยากอ่านต่อแล้วววว
มาต่อเร็วๆนะคะ สู้ๆค่ะคนเขียน

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #577 เมื่อ07-06-2017 20:32:55 »

ยักกกกกกกกกกกษ์ โว้ย!!!

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #578 เมื่อ07-06-2017 20:55:00 »

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #579 เมื่อ07-06-2017 20:56:39 »

หมาบ้าเข้าสิงรึไงฮะอียักษ์บ้า ไม่ถนอมน้องบ้างเลย  :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
« ตอบ #579 เมื่อ: 07-06-2017 20:56:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #580 เมื่อ08-06-2017 11:27:05 »

โกรธยักษ์แล้ว ข่มขืนน้องทำไม  :z6:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #581 เมื่อ08-06-2017 12:46:00 »

“ให้มันหอมแก้มทำไม แล้วก่อนหน้านี้ให้มันทำอะไรบ้าง!”
“จะให้ทำอะไรมันก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับคุณ!”
รันต์ ต่อปากต่อคำท้าทาย ทั้งที่รูว่าทศกัณฐ์ เป็นคนอย่างไร
ถ้ารันต์ ตอบแบบไม่ใช้อารมณ์ ก็คงไม่ทำให้ทศโกรธ

คนผิดที่แท้จริงคือเมฆ ไปหอมแก้มรันต์อวดทศ
เมฆทำเพื่อความสะใจ ยั่วโมโห และท้าทายทศ
ทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างรันต์กับทศ
ถ้าเมฆรู้ว่าทำไปแล้วรันต์เจออะไรบ้าง
เมฆจะรู้สึกอย่างไรนะ

แล้วรันต์ก็ถูกทศ ใช้ความรุนแรง ข่มขืน จนเกือบสลบ
คงเพราะทั้งหึง ทั้งโกรธ ที่ถูกท้าทาย
แต่ก็ยังได้ยิน แม้จับใจความไม่ได้
“รันต์เป็นคนของพี่ตั้งแต่แรก อย่าหวังว่าจะไปจากพี่ได้เพราะพี่ไม่ยอม!
แล้ทศ ทำไมต้องรุนแรงกับรันต์ขนาดนี้
อ่อนโยน ทนุถนอมรันต์หน่อยสิ
รันต์ ยิ่งเป็นคนใจเด็ด ใจแข็ง
ยิ่งรุนแรง ป่าเถื่อนใส่ อีกหน่อยรันต์จะหายไปจากชีวิต

ทศ คือพี่ชายที่เคยเล่นกับรันต์ตอนยังเด็กใช่มั้ย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #582 เมื่อ08-06-2017 15:24:00 »

ไม่ถนอมน้องเลยยย........
กลัวใจน้องจริงๆๆ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #583 เมื่อ08-06-2017 19:53:27 »

สงสารน้องกลัวว่าพอน้องตื่นมาจะเป็นยังไงเนี่ยแต่ก็อยากให้น้องเอาคืนอีพี่ยักษ์เหมือนกัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #584 เมื่อ09-06-2017 00:28:51 »

โอ้ยยยยยย กำลังจะดีอยู่แล้ว แต่ก็ทะเลาะกันอีกจนได้ รันต์ก็ไม่น่าพูดกับพี่ยักษ์แบบนั้นเลย พอพูดแบบนั้นพี่เค้าก็โกรธ ตัวรันต์ก็เจ็บอีก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++50%++[7/6/60]
«ตอบ #585 เมื่อ09-06-2017 01:45:14 »

มีความรู้สึกว่าจะหม่นและดราม่าต่อไปอีกยาวๆ
ไม่เปิดใจจริงๆจังๆสักคน

งานนี้ไม่โทษใครนะ จะรอดูว่าจะเลือกความเจ็บปวดกันไปถึงเมื่อไหร่...

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #586 เมื่อ09-06-2017 18:06:05 »

ใจยักษ์ 28.2


 ร่างสูงของสมิธเดินเตร็ดแตร่ไปตามฟุตบาทหน้าคอนโดฯคู่นอนของเขา  วันนี้เป็นวันที่สามแล้วที่เขาไม่ได้กลับไปนอนห้องทศกัณฐ์ เนื่องจากไอ้เพื่อนตัวดีส่งข้อความมาบอกเขาว่าสองสามวันนี้ให้หาที่นอนเอาเอง ไอ้ห้องตัวเองมันก็มีอยู่หรอก เพียงแต่มันไม่อยากนอนคนเดียวน่ะสิช่วงนี้ก็เทียวไปนอนกับคนนู่นทีคนนี้ทีอย่างกับสัมภเวสี

สวบ! เสียงใบไม้ดังไม่ไกลจากบริเวณที่เขาเดินแว่วเข้ามาในหูใครมันจะมาเดินเล่นในเวลาตีสี่กว่าๆแบบนี้ สมิธถอนหายใจแรงๆอย่างหมดความอดทน

“ออกมา” สมิธพูดภาษาอังกฤษเสียงเรียบ

เงียบกริบ! สมิธหมุนตัวกลับไปด้านหลังมองไปยังบริเวณที่เกิดเสียง  จะไม่ออกมาดีๆใช่ไหม!

“ผมบอกให้ออกมา!” เขากดเสียงเข้มขึ้นอีกระดับใบหน้าถมึงทึง ถ้าเหรันต์มาเจอเขาตอนนี้คงไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นแน่ๆ

สวบสาบ! เสียงขยับบริเวณพุ่มไม้ดังขึ้นเบาๆก่อนจะปรากฏร่างชายฉกรรจ์สองคน พวกเขาทั้งคู่สูงราวๆ190ซม. เค้าโครงหน้าและรูปร่างที่สูงใหญ่บ่งบอกถึงเชื้อชาติตะวันตก พวกเขาทั้งคู่ก้มหัวให้สมิธเล็กน้อยอย่างแสดงความเคารพ

“สะกดรอยตามผมทำไม” สมิธกอดอกเค้นถามเสียงเข้ม เขารู้ตัวมาได้สักพักแล้วว่ามีคนตาม ตอนแรกก็คิดว่าเป็นคนของทศกัณฐ์ แต่ขนาดอยู่กับทศกัณฐ์เขายังรู้สึกเหมือนโดนจ้องมอง นั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นคนของใคร เพราะมันมีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละ!

“ผมทำตามหน้าที่ครับ” หนึ่งในชายชุดดำกล่าว

“หน้าที่อะไร? ผมโตแล้วนะโย ไม่จำเป็นต้องมีคนมาคอยตาม” สมิธบอกกับโยฮันเนสหนึ่งในชายชุดดำที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แน่ล่ะว่าเขารู้จัก เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก แถมอีกฝ่ายยังเป็นลูกน้องฝีมือดีของไอ้วิปริตนั่นด้วย

“นายท่านเป็นห่วงคุณสมิธ” โยฮันเนสบอกไปตามความจริง ตั้งแต่ที่สมิธโดนแทงพวกเขาได้แผลกันถ้วนหน้าโทษฐานสะเพร่าทำให้ ‘คนโปรด’ ของนายได้รับบาดเจ็บ แม้จะมีคนของคุณทศกัณฐ์คอยดูแลด้วย พวกเขาก็ต้องระวังให้มากกว่านี้

“ไม่มีการมีงานทำกันหรือไงวะ ถึงได้ว่างมาตามขนาดนี้เนี่ย!” สมิธขยี้ผมตัวเองเซ็งๆ บ่นฝนฟ้าอากาศไปเรื่อย จนเมื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดไปบ้างแล้วเขาจึงหันไปพูดกับโยฮันเนส

“คุณมาก็ดีเหมือนกัน พาผมไปเอารถหน่อยดิ” สมิธทิ้งรถไว้ที่คลับแล้วมาคอนโดด้วยรถของผู้หญิงที่เขามาค้างด้วย เขารู้ทั้งรู้ว่าโยฮันเนสเป็นคนของใครแต่โยก็ดีกับเขามาโดยตลอด แม้จะไม่อยากข้องเกี่ยวด้วย แต่จะให้เดินหาแท็กซี่ในตอนตีสี่แบบนี้ก็เห็นทีจะไม่ไหว อีกอย่างเวลานี้ไอ้หมอนั่นไม่มีทางมาอยู่ที่นี่แน่

“สักครู่นะครับ” โยฮันเนสยกมือถือขึ้นโทรเรียกลูกน้องสองสามประโยค ไม่ถึงห้านาทีเมอร์เซเดส เบนซ์ GLE Coupe สีเทา ก็จอดสนิทเทียบฟุตบาทที่พวกเขายืนอยู่ โยฮันเนสเปิดประตูด้านหลังให้สมิธเข้าไปนั่ง

“เชิญครับ” สมิธขึ้นไปนั่งบนรถ เขาหลับตาลงเพื่อพักสายตา ช่วงนี้ดีขึ้นหน่อยที่นอนโดยไม่ต้องใช้ยาแล้ว มีบ้างที่สะดุ้งตื่นช่วงตีสามตีสี่อย่างวันนี้ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าช่วงแรกที่ไม่ได้นอนเลย

“ครับนาย...อยู่บนรถครับ…กำลังจะพาไปเอารถครับ...หลับอยู่ครับ จะให้ผมปลุกไหมครับ?...ครับ...ทราบแล้วครับ” โยฮันเนสวางสายจากผู้เป็นนาย ลอบมองสมิธผ่านกระจกที่หลับตานิ่ง เขารู้ว่าสมิธไม่ได้หลับแต่ก็ไม่ยอมบอกนาย เพราะรู้ดีว่าสมิธจะเป็นอย่างไรถ้าหากต้องคุยกับเจ้านายเขาตอนนี้ ปล่อยให้เด็กคนนี้ได้มีความสุขกับอิสระภาพที่มีไปอีกสักนิด ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกริบคืนโดยผู้ชายที่ชื่อว่า ‘ลูคัส ฮาลน์’

“คุณสมิธครับ ถึงแล้วครับ” โยฮันเนสเดินลงไปเปิดประตูให้กับสมิธ สมิธลืมตาขึ้น นึกแปลกใจที่ถึงเร็วกว่าที่คาด

“ผมบอกว่าให้พาไปเอารถไม่ใช่หรอ” เมื่อลงมาจากรถแล้ว สมิธถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ที่หน้าคอนโดฯของตัวเอง

“คุณสมิธขึ้นไปพักเถอะครับ เรื่องรถผมจะจัดการเอามาไว้ให้”

“ผมต้องการความเห็นจากคุณหรอ? ผมไปเอาเองก็ได้” ว่าจบสมิธก็หมุนตัวจะเดินไปอีกทาง เวลานี้จะตีห้าแล้ว อีกอย่างคอนโดเขาไม่ใช่ซอยเปลี่ยวดังนั้นไม่มีอะไรให้กลัว แต่เท้าของเขาก็ต้องหยุดชะงักลงกับคำพูดของโยฮันเนส

“นายบอกให้คุณสมิธขึ้นไปนอนพัก ถ้ายังดื้อดึงท่านจะพาคุณสมิธไปเอารถด้วยตัวท่านเอง” สมิธกัดฟันแน่น ไม่น่าเรียกไอ้พวกนี้ออกมาตั้งแต่แรกเลยจริงๆ

“จิ๊! คิดว่าวิธีนี้จะขู่ผมได้หรอ”

“คุณสมิธจะลองดูก็ได้นะครับ ก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่าท่านเป็นคนอย่างไร”

“ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันทั้งนั้น!...อยากจะทำอะไรก็เชิญ” สมิธขว้างกุญแจรถตัวเองให้โยฮันเนสรับได้พอดีแล้วเปลี่ยนทิศทางเดินเข้าคอนโดแทน โยฮันเนสส่ายหน้ายิ้มๆ เคยดื้ออย่างไรก็ยังดื้ออย่างนั้นเผลอๆอาจจะมากกว่าเมื่อก่อนซะอีก แต่ก็ยังมีคนที่สามารถกำราบเด็กดื้อได้ล่ะนะ เพราะแค่เอ่ยชื่อ คุณสมิธก็ไม่กล้าขยับตัวแล้ว ไม่รู้จะสงสารหรืออย่างไรดี

สมิธกดลิฟท์มาที่ชั้นสี่สิบ เขาไม่อยากอยู่คนเดียว มาอยู่กับไอ้น้องรันต์คงดีกว่า ผ่านมาจะเข้าสู่วันที่สามแล้วพวกนั้นคงจี๋จ๋ากันเรียบร้อยแล้วล่ะมั้ง  จะว่าไปเขาก็ตลกได้พวกนั้นเหมือนกัน ไอ้เพื่อนตัวดีเขาชอบไอ้น้องรันต์มากขนาดนั้นก็ยังไม่รู้ใจตัวเอง ส่วนไอ้น้องรันต์ยิ่งแล้วใหญ่ บื้อเอาโล่เลย

กริ่งงงง กริ่งงงงง กริ่งงงงงง

สมิธกดออดย้ำประมาณสามที รอไม่ถึงห้านาทีประตูก็เปิดออก ทศกัณฐ์เดินกลับเข้าไปในห้อง สมิธมองตามหลังเปลือยของเพื่อนงงๆ จมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นบางอย่างจนเขาต้องขมวดคิ้ว

หลังถอดรองเท้าเสร็จเขาเดินตามทศกัณฐ์เข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เจอร่างสูงใหญ่กำลังนั่งกระดกแอลกอฮอล์ที่เหลืออยู่ค่อนกรมอยู่หน้าโซฟาเพียงคนเดียว ทั้งกายมีเพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียวติดอยู่ กลิ่นกายคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้าและบุหรี่ ซากบุหรี่ที่กองพะเนินและขวดเหล้าที่วางระเกะระกะอีกสามขวดทำให้เขาแปลกใจกับอาการเพื่อน นี่มันนั่งดื่มมานานเท่าไหร่แล้ว?

“เป็นอะไร? ทำไมมานั่งแดกเหล้าอยู่ตรงนี้” สมิธถามพร้อมนั่งลงข้างๆเพื่อน

“...” ทศกัณฐ์ไม่ตอบ แม้ใบหน้าจะเรียบเฉยแต่ทศกัณฐ์กัณฐ์กลับมีแววตาที่เครียดขมึงปนเหม่อลอย สมิธสังเกตเห็นมือที่สั่นอยู่นิดๆของเพื่อน เขาถอยห่างออกเล็กน้อยแล้วถามซ้ำ

“เกิดอะไรขึ้น...แล้วไอ้น้องรันต์ล่ะ” มีอยู่ไม่กี่เรื่องหรอกที่ทำให้เพื่อนเขาไม่เป็นตัวของตัวเองได้

“...บนห้อง...สลบไปแล้ว” ทศกัณฐ์เหมือนพูดออกมาคนเดียว มือบีบหัวตาตัวเองเครียดๆ

“มึงทำอะไรมัน!”

“....” ทศกัณฐ์เงียบแทนคำตอบ นั่นทำให้เขารู้ว่าสภาพไอ้น้องรันต์ตอนนี้ปางตายแน่นอน สมิธจึงวิ่งไปที่ชั้นสอง หวังว่าไอ้น้องรันต์คงยังไม่จมกองเลือดตายนะ!

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้อง กลิ่นที่ลอยออกมาปะทะหน้าเขาทำให้ถึงกับต้องเบ้หน้าปิดจมูกทันที กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้อง มันไม่ใช่กลิ่นคาวของเลือดแต่เป็นกลิ่นที่เขาจำมันได้ดี เมื่อเท้าเหยียบเข้าไปบนพื้นห้องแสงไฟในห้องสว่างวาบโดยอัตโนมัติ ข้าวของที่ระเกะระกะบางส่วน ไหนจะพวกของต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น เขาค่อยๆก้าวเดินไปที่เตียงช้าๆ ยิ่งเห็นสภาพไอ้น้องรันต์ชัดเท่าไหร่ ตัวเขาก็ยิ่งสั่นขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

เหรันต์หลับตาพริ้มหลับอยู่บนเตียง ที่หางตายังมีคราบน้ำตาเกาะอยู่เล็กน้อย ริมฝีปากแตกและบวมเจ่อ สมิธค่อยๆยื่นมือที่สั่นเทาไปจับผ้าห่มที่คลุมตั้งแต่ต้นคอลงไปให้เลิกขึ้น สภาพที่เห็นทำไห้เขาหลับตากัดฟันแน่นก่อนจะวิ่งเข้าไปโก่งคออ้วกในห้องน้ำ สภาพที่เห็นน้องทำให้เขาอยากฆ่าไอ้เพื่อนตัวดีนัก ทั้งรอยกัดและรอยดูดทั่วตัวที่แดงจนเป็นจ้ำม่วงๆ  คราบน้ำกามที่แห้งกรังติดตามตัว ที่หว่างขามีน้ำรักปนกับเลือดไหลออกมา สภาพเตียงยิ่งแทบดูไม่ได้

สมิธเดินสั่นๆออกมาจากห้องน้ำเจอเพื่อนตัวเองยืนมองเมียอยู่ที่ปลายเตียงยิ่งทำให้เขาโมโห สมิธถลาตัวไปหาทศกัณฐ์ก่อนจะซัดหมัดใส่ปากเพื่อนเป็นครั้งแรก ทศกัณฐ์ล้มลงตามแรงชก ผลจากการไม่ได้นอนสามวันสามคืนและแอลกอฮอลล์ทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่

“มึงทำแบบนี้ได้ยังไงไอ้ทศ!!! มึงข่มขืนมันทำไม!!!” สมิธโกรธจนตัวสั่น ขนาดเขาตะโกนลั่นห้องขนาดนี้ไอ้น้องรันต์มันยังไม่ตื่นเลย คิดดูเอาว่ามันโดนทำหนักขนาดไหน

“มันท้าทายกู มันบอกกูว่ามันจะให้ใครทำอะไรร่างกายมันก็ได้...กูโกรธมาก...อารมณ์ตอนนั้นกูไม่อยากให้มันเป็นของคนอื่น กูไม่อยากให้ใครแตะต้องมัน แม้แต่มองกูก็ไม่ชอบ” อารมณ์เขาตอนนั้นสูงปรี๊ด โกรธตั้งแต่รันต์เลือกไปกับไอ้เมฆ ยิ่งมาเห็นมันหอมแก้มรันต์ต่อหน้าต่อตาอารมณ์โกรธเขายิ่งเดือดจนประทุ

“แล้วมึงข่มขืนมันทำไม จำเป็นต้องทำขนาดนี้ไหม”

“กู...ควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอนนั้นมันทำไปด้วยจิตสำนึกด้านมืดล้วนๆ”ทศกัณฐ์ซบหน้าลงกับมือตัวเอง เขาพลาดแล้ว อะไรๆที่ดีขึ้นก็มาพังเพราะความขาดสติ สองวันสามคืนกว่าที่เขาจะรู้ตัว

“ว่าไงนะ” สมิธถามอย่างไม่เชื่อหู ทศกัณฐ์น่ะหรือควบคุมตัวเองไม่ได้ คนที่ถูกฝึกตั้งแต่สามขวบ ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาจนความรู้สึกตายด้านน่ะหรือจะควบคุมตัวเองไม่ได้ หรือจะเป็นเพราะ...

“ ‘ไอ้นั่น’ มันกำเริบหรอ มึงพึ่งรับเซรั่มไปเองไม่ใช่หรือไง ยังไม่ถึงสามเดือนเลย” ปกติเซรั่มจะทำให้ร่างกายอยู่ในสภาวะปกติได้3-4 เดือน

“กูก็ไม่รู้ มันก็ไม่ได้ควบคุมไม่ได้ตลอด แต่สติมันจะหลุดแค่คิดว่ามันจะมีคนอื่น มันจะไปจากกู” ภาวะควบคุมตัวเองไม่ได้เป็นหนึ่งในความผิดปกติของร่างกายทศกัณฐ์ ต้องได้รับเซรั่มทุกๆสามเดือนเพื่อให้ระบบประสาททำงานปกติ แต่ถ้ามีเรื่องที่กระทบจิตใจของเขาอย่างรุนแรงก็จะเป็นเรื่องแม่ที่ทำให้เขาหลุดจนกลับมาแทบไม่ได้ต้องได้รับเซรั่มทันที ครั้งนี้ก็เป็นเรื่องของเหรันต์อีก ไม่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะทำให้เขาเป็นได้ถึงขนาดนี้

“แล้วจะเอายังไง กลับไปรับเซรั่มที่อังกฤษหรอ” น้ำเสียงสมิธอ่อนลง แม้เพื่อนเขาจะผิด แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากอาการผิดปกติของร่างกายที่มันเป็นอยู่

“อืม คงต้องไปปรึกษาพวกเขาดูว่าเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง”

“เฮ้อ เมื่อไหร่พวกเขาจะคิดค้นยาที่ทำให้มึงหายขาดได้วะ กูเหนื่อยแทนมึงจริงๆ” สมิธถอนหายใจยาวๆอย่างเหนื่อยล้า

“เขาบอกว่าคืบหน้าไปแล้ว70% แต่ยังไม่กล้าทดลองกับกู” ทศกัณฐ์พูดเสียงนิ่ง เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าอยู่หรือตายก็มีค่าเท่ากัน แต่ทำไมตอนนี้เขากลับขี้ขลาด ไม่ได้กลัวความตาย แต่กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเด็กคนนี้อีก

“แล้วไอ้น้องรันต์ จะเอายังไงต่อ ถ้ามันตื่นขึ้นมากูบอกได้คำเดียวเลยว่ามันไม่มีทางเหมือนเดิมกับมึงแน่” สมิธกล้าเอาหัวเป็นประกันเลยว่าถ้าไอ้น้องรันต์ตื่นขึ้นมาไม่มันก็เพื่อนเขาคงต้องตายกันไปข้าง

“กูทำเหี้ยกับมันไปแล้ว ก็รอดูตอนมันฟื้นว่าจะเป็นยังไง” ทศกัณฐ์ว่าเสียงเครียด ถ้ารันต์แข็งใส่เขา ช่วงแรกเขาก็จำเป็นต้องแข็งใส่กว่า เขารู้จักนิสัยรันต์ดี ไม่อย่างนั้นคงเอาไม่อยู่ พออารมณ์อีกคนเย็นลงแล้วค่อยหาวิธีง้อทีหลัง

“ทำอะไรก็คิดดีๆ  ไอ้รันต์มันก็เหมือนกระจกมึงทำแบบไหนมันก็จะสะท้อนกลับหามึงแบบนั้นและสิ่งที่ได้แถมมาด้วยมีแต่ความโกรธความเกลียด” สมิธบอกเพื่อนอย่างเป็นกังวล เกือบจะดีแล้วไอ้ทศเอ้ย

“ต่อให้มันเกลียดกูแค่ไหน กูก็จะไม่มีทางปล่อยมือมัน กูยอมโดนมันเกลียดไปตลอดชีวิตยังดีกว่าให้มันหายไปจากสายตา” ทศกัณฐ์ขยับตัวลุกก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับเด็กน้อยของเขา สวมกอดอีกคนจากด้านหลังอย่างหวงแหน สมิธมองเพื่อนด้วยสายตาเรียบนิ่งอย่างน้อยเพื่อนเขามันก็ยังสำนึกและมีความรู้สึกให้กับไอ้รันต์ รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปผิดกับอีกคนที่มันไร้หัวใจ เขาจึงมีแต่ความเกลียดที่มอบให้มันก็เท่านั้นเอง....

+++++++++++++++++++

เอ้า เข้าใจพี่ทศแกขึ้นรึยัง ถึงจะเป็นเพราะความผิดปกติของร่างกายแต่เพราะหวงและยึดติดเกินไปก็เลยทำให้ขาดสติได้ง่ายๆล่ะนะ มาลุ้นกันต่อว่าน้องรันต์ฟื้นมาแล้วจะเป็นอย่างไร เปรมไม่ชอบดราม่าเท่าไหร่ อาจจะมีหน่วงๆบ้างอีกไม่กี่ตอนเดี๋ยวมันก็ผ่านไปละ ส่วนพี่สมิธก็นะ...รอดูเสียงตอบรับจากคนอ่านอีกที แต่ว่าตอนหน้า ‘เขา’ มาแน่นอน :z2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #587 เมื่อ09-06-2017 18:24:10 »

 :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #588 เมื่อ09-06-2017 19:00:00 »

 :z3:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #589 เมื่อ09-06-2017 19:10:50 »

 :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
« ตอบ #589 เมื่อ: 09-06-2017 19:10:50 »





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #590 เมื่อ09-06-2017 19:13:48 »

รันต์ไม่เหมือนเดิมแน่
แล้วทำไมไม่ทำความสะอาดให้รันต์
มัวแต่กินเหล้าสูบบุหรี่ เพื่อ  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MorethanMore

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #591 เมื่อ09-06-2017 19:33:23 »

เค้าไม่โทษใครเลย ไม่ได้ชื่นชมพระเอกข่มขืนด้วย เกลียดด้วซ้ำ แต่สำหรับทศกับันต์ คือแรลทั้งคู่ไง คนหนึ่งท้าทาย คนนึงป่วยเลยควบคุมตัวเองไม่ได้ ทศไม่มีความรู้สึก ไม่เข้าใจความรัก รู้แค่หวง ส่วนรันต์หวาดกลัว เจอแบบรันต์ใครจะกล้ารักถามจริง ทศก็ไม่รู้ไรเลยถ้าถูกฝึกให้ฆ่าแต่เด็ก นั่นแปลว่าดีแล้วที่รันต์ไม่ตายจำตอนที่รันต์ถุกบีบคอได้เลยตอนนั้นทศยังไม่รู้สึกเลยกล้าฆ่ารันต์ แต่ตอนนี้เราว่าทศรักรันต์ เลยทำร้ายแบบนี้ ผิดมาก แต่เราให้ทศสี่สิบรันต์ห้าสิบห้าเฆมห้า

ว่าแต่ มันเกี่ยวอะไรกันเนี่ย การที่ทศหายตัวได้ การที่ทศร้ายกาจเฉลยละ เหลือจัดการศัตรูรันต์ กับ สานต่อความสัมพันธ์ใช่ปะ ตื่นเต้นเลย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #592 เมื่อ09-06-2017 19:47:12 »

 :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #593 เมื่อ09-06-2017 20:36:43 »

ทำน้องเจ็บขนาดนี้ มันก็คงไม่เหมือนเดิมอยู่แล้วล่ะ เฮ้ออออ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #594 เมื่อ09-06-2017 21:16:46 »

 :mew6:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #595 เมื่อ10-06-2017 11:26:57 »

ไม่เข้าข้างใคร ก็ผิดด้วยกันทั้งคู่ ผิดมากหน่อยก็อิคนยั่วโมโห

คนนึงยุขึ้น อีกคนก้อปากกล้า อิที่มันกำลังดีก็พัง

อยู่ที่น้องแล้วล่ะมั้ง ว่าเปิดใจได้แค่ไหน ขอให้หายไว ๆ ทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #596 เมื่อ10-06-2017 11:41:04 »

นี่ไม่ห่วงคู่ยักษ์เลย
ห่วงสมิธมากๆสงสารนางอีกไม่นานก็ต้องกลับไปอยู่ในนรกแล้วสินะ
เกลียดอิ"เขา"มากเลย เกลียดรอไว้ตั้งแต่ยังไม่เจอตัว
ขอบคุณค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 28♡++100%++[9/6/60]
«ตอบ #597 เมื่อ11-06-2017 00:28:10 »

 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 29♡++50%++[19/6/60]
«ตอบ #598 เมื่อ19-06-2017 20:48:41 »

ใจยักษ์ 29.1

กริ่งงงง กริ่งงงง

สมิธสะดุ้งตื่นเพราะเสียงกริ่งหน้าห้อง สายตาเหลือมองนาฬิกาพบว่าตอนนี้คือเวลา9 โมงเช้า หลังจากเคลียร์กับทศกัณฐ์แล้ว สมิธจึงลงมาเปิดทีวีดูฆ่าเวลาแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะผล็อยหลับไป เขาลุกขึ้นจากโซฟาเดินมึนๆไปเปิดประตู ขยี้ตาเบาๆให้คลายความง่วง

“หืม สายขนาดนี้ยังง่วงอยู่หรอ?สมิธ” เสียงทุ้มพร้อมภาษาอังกฤษสำเนียงเมืองผู้ดีเอ่ยเนิบๆ สมิธลืมตาขึ้นมองอีกคนเต็มตา ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างก่อนจะกระโดดกอดคนที่อยู่หน้าประตูเต็มแรง

“โอ๊ะ! เบาๆ” เกรย์ แอนเดอร์สัน จิตแพทย์หนุ่มนัยน์ตาน้ำข้าวตบหลังสมิธเบาๆพร้อมหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู 

“ก็มันคิดถึงนี่หว่า มาไม่เห็นบอก” สมิธผละออกแล้วบ่นงึมงำใส่เกรย์ เขาเบี่ยงตัวเปิดทางให้เกรย์เข้ามาในห้อง เกรย์เดินเข้าห้องพร้อมเอามือพาดบ่าสมิธเข้าไปด้วยกัน

“คิดถึงแล้วทำไมไม่ไปหา...นี่ยังไม่ชำระความเรื่องนอนไม่หลับแล้วไม่ยอมบอกพี่เลยนะ” เกรย์ดุสมิธออกไปเล็กน้อย “แล้วนี่ทศกัณฐ์ไปไหนซะล่ะ” เกรย์ถามหาเจ้าของห้องตัวจริง

“นอนกับเมียอยู่บนห้องนู่น มันทะเลาะกันด้วย” เขาได้ทีก็รีบฟ้องคนเป็นพี่

“อ่า ทศกัณฐ์โทรบอกให้พี่มาดูอาการเขาอยู่...ชื่ออะไรนะ?” เกรย์พยายามนึก

“รันต์...เหรันต์” สมิธตอบพลางนึกหน้าไอ้น้องรันต์ที่ตอนนี้หลับสนิทอยู่ข้างบน

“เออ ใช่ๆ ท่าทางจะหนักน่าดู ทศกัณฐ์ถึงตามพี่มาดูให้ก่อน”

“อืม ไอ้ทศมันบ้า แต่จริงๆก็เป็นผลมาจากยานั่นด้วยที่ทำให้มันควบคุมตัวเองไม่ได้” สีหน้าสมิธบ่งบอกถึงความกังวล เขาเป็นห่วงเพื่อนยิ่งกว่าตัวเองเสียอีก เพราะทศกัณฐ์เป็นทั้งเพื่อนและผู้มีพระคุณที่ให้ชีวิตใหม่แก่เขา

“อืม ร่างกายใกล้จึงขีดจำกัดแล้วล่ะนะ” เกรย์ไม่ใช่หมอที่ดูแลทศกัณฐ์โดยตรง แต่เขาก็พอรู้อาการคร่าวๆบ้าง แต่ไอ้เด็กข้างๆเขานี่แหละที่เขาเป็นหมอประจำตัว

“ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่พวกเขาหลับอยู่ เรามาคุยเรื่องของสมิธกันหน่อยดีไหม” เกรย์กระตุกยิ้ม สมิธหน้าซีดเฉหลบสายตา การรักษาของเกรย์ไม่เหมือนจิตแพทย์คนอื่น ค่อนข้างจะหน้ากลัวสำหรับสมิธอยู่มากทีเดียว

เกรย์กดไหล่สมิธให้นั่งลงที่โซฟาตัวเดี่ยว ส่วนเขาเดินไปลากเก้าอี้แล้วนั่งไขว่ห้างมือประสานกันไว้ที่ตักเผชิญหน้ากับสมิธ

“กินข้าวหรือยัง?” จิตแพทย์หนุ่มเอ่ยถามเนิบๆ สบายๆ

“ยัง เดี๋ยวค่อยกิน”

“ทำไมไม่กิน มันสายแล้วไม่ใช่หรอ” น้ำเสียงของเกรย์ยังคงสบายๆ

“ก็...ก็ยังไม่หิวเท่าไหร่” สมิธสายตาล่อกแล่ก แต่เขาก็ตอบทุกอย่างไปตามความจริง

“อ่อ...แล้วเรียนเป็นยังไงบ้าง เครียดรึเปล่า?”

“ก็เรื่อยๆ ไม่เครียดอ่ะ โง่อยู่แล้ว บางทีก็ลอกไอ้ทศ ถูไถให้เกรดมันผ่านโปรฯ”

“อือฮึ...นอนกับผู้หญิงครั้งล่าสุดตอนไหน”

“เมื่อคืน” สมิธตอบ สบตากับนัยน์ตาสีอ่อนของเกรย์ตรงๆ

“ผู้ชายล่ะ?”

“เกรย์!!! ผมไม่ใช่เกย์เว้ย!” สมิธสวนกลับอย่างหัวเสีย แต่จิตแพทย์หนุ่มกับยิ้มให้บางๆ แล้วถามเรื่องราวในชีวิตประจำวันของสมิธไปเรื่อยๆ

“...มีอะไรอยากเล่าให้พี่ฟังไหม?” เกรย์พูดเสียงนุ่ม มือลูบผมสีเข้มของสมิธอย่างอ่อนโยน แต่ก่อนคนตรงหน้าเขาตัวเล็กกว่านี้ ผิวขาวจัด และดูหวาดกลัวคนอื่นจนน่าสงสาร ดูตอนนี้สิ เด็กชายสมิธที่เขาเคยเจอในตอนแรกแทบไม่เหลือเค้าเดิม ร่างกายสูงสมส่วนตามพันธุกรรมของเชื้อชาติ มีแววตาที่สดใสและเข้มแข็งขึ้น เขาดีใจที่สมิธมีความเปลี่ยนแปลง

“ผม...เจอมัน” สมิธกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะตอบ เขาก้มหน้ามองพื้น มือทั้งสองบีบเข้าหาตัวเองจนแน่น

“อาการตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง” จิตแพทย์หนุ่มถามเสียงเรียบ ไร้คำปลอบโยนใดๆจากปากเขา

“มันคลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดและผม...กลัว” สมิธกัดปากตัวเอง ตัวสั่นเทิ้มอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อนึกถึงความรู้สึกตอนนั้น

“ใจเย็นๆ มันทำอะไรสมิธไม่ได้หรอก” เกรย์นวดหลังมือสมิธให้ผ่อนคลาย สมิธผ่อนคลายขึ้นตัวหยุดสั่นแล้วเกรย์จึงพูดต่อ

“รู้อะไรไหม จริงๆสมิธก็ปกติเหมือนคนทั่วไป เพียงแต่ยังติดอยู่แค่นิดเดียว” เกรย์เริ่มตะล่อมเด็กน้อยให้เข้าสู้กระบวนการรักษา เกรย์ไม่ได้หลอก สมิธมีอาการดีขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนสมิธไม่สามารถเข้าสังคมร่วมกับผู้อื่นได้เลย ยิ่งเรื่องแตะเนื้อต้องตัวยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้เขาจับสมิธได้ ไม่มีอาการสะดุ้งหรือตื่นกลัวให้เห็น ดีขึ้นเกิน70% ด้วยซ้ำ

“อะไรหรอ” สมิธเมื่ออยู่ต่อหน้าเกรย์ก็เหมือนเด็กน้อย ตามีแววประกายด้วยความหวังว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่สะดุ้งตื่นในบางคืน หรือหวาดระแวงผู้ชายที่แตะตัวเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

“สมิธ คุณกำลังยึดติดอะไรไว้อยู่รึเปล่า?” เกรย์พูดยิ้มๆพร้อมนวดมือให้คนอายุน้อยกว่า สมิธกำมือแน่นแววตาฉายชัดถึงความเจ็บปวดเมื่อนึกถึง

“ผมกลัว กลัวมัน...แค่ได้ยินเสียงก็สั่นไปหมดแล้ว” เขากลัวไอ้ผู้ชายสารเลวคนนั้นมาก แค่ได้ยินชื่อร่างกายก็ชาดิกไปทั้งตัว

“แล้วไม่อยากหายกลัวเหรอ” เกรย์เอ่ยเสียงทุ้มฉีกยิ้มให้สมิธด้วยความอ่อนโยน

“อยากดิ!” สมิธรีบโพล่ง ทำไมเขาจะไม่อยากลืมคนเลวๆพรรค์นั้น มันทำให้เขาต้องตกนรกทั้งเป็น อยากตาย...ก็ตายไม่ได้

“อย่างนั้นก็เผชิญหน้ากับความกลัวแล้วเอาชนะมันซะ”

“ไม่เอา!”สมิธปฏิเสธทันใด เขาชักมือกลับ สายตามองเกรย์อย่างหวาดหวั่น ถ้าให้เขาต้องไปเผชิญหน้ากับมันอีก ฆ่าเขาให้ตายซะยังจะดีกว่า

“งั้นก็หนีมันไปตลอดชีวิตนั่นแหละ”เกรย์ไหวไหล่พูดเรียบๆ เขามันโหดเหี้ยมก็ตรงนี้ชอบบังคับให้สมิธทำในสิ่งที่ฝืนใจสุดๆ

“เกรย์...ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วหรอ”สมิธเสียงหงอยจนเกรย์เกือบจะใจอ่อน แต่เขาก็ยังดึงดันทำตามวิธีของเขาต่อไป เชื่อสิว่าจะเป็นผลดีต่อสมิธในอนาคต และเป็นบทลงโทษให้ใครบางคนรู้สึกตัวสักที

“ไม่มี...ฟังนะสมิธ ผมไม่ได้บอกให้คุณเผชิญหน้ากับมันคนเดียวสักหน่อย ตอนนี้คุณมีคนที่พร้อมจะอยู่ข้างคุณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ หรือรุ่นน้อง ใช่ไหม?” สมิธพยักหน้ารับ “เจ็ดปีมานี้มันได้ก้าวล้ำมาหาคุณรึเปล่า?ได้เดินเข้ามาเฉียดใกล้ให้คุณรู้สึกอะไรไหม? คุณสามารถนอนกลับใครก็ได้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนคนอื่นมีสิทธ์มองได้แค่ปลายเท้าคุณเท่านั้น จะแตะเนื้อต้องตัวยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ถูกไหม?” สมิธเงียบ ถูกอย่างที่เกรย์บอกทุกอย่าง ผู้ชายคนนั้นรักษาสัญญา ไม่เคยย่างกรายเข้ามาใกล้เขาอีกเลย แต่ถึงอย่างนั้นสมิธก็รู้ว่าตัวเขาเองอยู่ในสายตาผู้ชายคนนั้นตลอด อยู่ในกรงเหมือนเดิมเพียงแต่มันขยายใหญ่ขึ้น หลอกให้เขาตายใจว่าได้อิสระกลับคืนมา แม้จะรู้แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าต้องอยู่แบบเดิม ชีวิตที่เป็นได้เพียงทาสอารมณ์ของอีกคน

“คุณไม่ได้พูดเพื่อช่วยเพื่อนตัวเองหรอกใช่ไหม” เกรย์กระตุกยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมายังทำให้คุณเชื่อใจผมไม่ได้อีกหรอ ถึงแม้มันจะเป็นเพื่อนสนิทแต่สิ่งที่มันทำกับคุณก็ค่อนข้างจะเลวร้ายเกินไป ผมไม่อยากพูดเพื่อให้คุณให้อภัยมัน แต่การที่คุณโกรธเกลียดมันไปก็เท่านั้น คุณจะไม่สามารถลืมมันได้เลย” เพื่อนสนิทเขาฉลาดอย่างร้ายกาจ ไม่ทำให้รักแต่เลือกที่จะทำให้เกลียดจนลืมไม่ลง เป็นคนที่มีตรรกะในการใช้ชีวิตแปลกๆ ก็อย่างว่า ครอบครัวนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อจะได้ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

“แล้วผม...ต้องทำอย่างไรบ้าง” แม้สีหน้าและแววตาจะมีความลังเลใจ แต่สมิธก็อยากที่จะเข้มแข็งขึ้น ไม่อยากที่จะแพ้ให้คนสารเลวแบบนั้นอีกแล้ว

“เริ่มจากดูรูปก่อนเป็นไง?” เกรย์ฉีกยิ้มอย่างกระตือรือร้น หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเสิร์ชหารูปเพื่อน มันหาไม่อยากหรอก ในเมื่อ ลูคัส ฮาลน์ คือนักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งรัสเซีย-อังกฤษ วัย27 ปี เขาเป็นทายาทคนโตของ แคสเซียส ฮาลน์ เจ้าของกิจการ God Casino บ่อนการพนันครบวงจรถูกกฎหมาย ที่นี่เป็นบ่อนระดับไฮคลาสสำหรับคนมีเงินและชนชั้นสูงเท่านั้น มีสาขาอยู่ทุกทวีปในโลก รวยชนิดที่ว่าสามารถซื้อเครื่องบินเจ็ทได้วันละลำเลยทีเดียว ลูคัสทำหน้าที่เป็นผู้บริหารคาสิโนช่วยพ่อตั้งแต่อายุ17ปี เขาไม่ได้มีชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป นั่นก็คงเป็นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เพื่อนของเขามีนิสัยและรสนิยมที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น ตอนนี้ลูคัสนั่งบริหารดูแลอยู่สามทวีป คือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่จะประจำอยู่ที่ลาสเวกัส มหานครแห่งแสงสีและแหล่งคาสิโนที่มากที่สุดในโลก แต่ช่วง2-3 ปีหลังดูเหมือนไอ้เพื่อนสนิทเขาจะมาประจำอยู่มาเก๊าบ่อยผิดปกติ ก็อย่างว่าล่ะนะ หึๆ

ถามว่ามารู้จักกันได้ยังไงน่ะหรอ...เรื่องมันยาว ข้ามไปเถอะ!

เกรย์ยื่นรูปผู้ชายตัวสูง ผมยาวสลวยสีทองถูกมัดรวบตึงไว้ด้านหลัง ดวงตาคมกริบสีเขียวมรกต พร้อมร้อยยิ้มที่มุมปากอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว กรอบหน้าเรียวออกคม ดูยังไงมันก็แค่ไอ้ผู้ชายหน้าหวานท่าทางใจดี ใครจะคิดว่ามันคือปีศาจในคราบมนุษย์ สมิธเบ้ปากใส่รูปที่เห็นเหยียดๆ

“เฮ้ยๆ โทรศัพท์พี่” เกรย์รีบห้ามเมื่อสมิธคว้าโทรศัพท์เขาไปแล้วทำท่าจะขว้างทิ้ง สมิธทำท่าโก่งคออ้วกใส่โทรศัพท์แล้วคืนให้เกรย์ที่หัวเราะลั่นห้อง

“ขำอะไรเล่า” สมิธหน้ายุ่งชกไหล่หมอประจำตัวเบาๆ

“ฮ่าๆๆ โอเคๆ ด่านแรกผ่าน มาขั้นตอนต่อไปกัน” กว่าเกรย์จะหยุดหัวเราะได้ก็กินเวลาร่วมสิบนาทีแล้วเข้าสู่โหมดจริงจัง

“อะไรอีก” สมิธมองอย่างหวาดระแวง จริงอยู่ที่เห็นรูปแล้วเขาไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวชัดเจนอะไร แม้ในใจเขาจะกระตุกนิดๆแต่ความขยะแขยงเมื่อครั้นเห็นหน้าก็ยังมากมายไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเป็นรูปภาพสมิธจึงกล้าต่างหาก

“ฟังเสียง”

“ไม่เอา!” สมิธแย้งรีบลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อจะหนีไปแต่ก็โดนเกรย์จับแขนเอาไว้ก่อน

“จะหนีหรือ? เข้มแข็งหน่อยสิ ไหนทศกัณฐ์บอกว่าไม่เหมือนเดิมแล้วไง” เกรย์พูดเรียบๆ แววตาเขามีแต่ความเย็นชา สมิธไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาเป็นเพื่อนกัน ที่ยังกล้าคุยกับเกรย์ทุกวันนี้ก็เพราะเกรย์ช่วยเหลือเขาหลายอย่าง ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วๆไป สมิธกำหมัดแน่น ยอมกลับไปนั่งลงที่เดิม

“เก่งมากเด็กดี” เกรย์ลูบหัวพร้อมยิ้มให้สมิธบางๆ มือแกร่งกดหมายเลขต่อสายถึงอีกคน เกรย์จัดการเปิดลำโพงโทรศัพท์ รอสายนานจนเกือบจะตัด แต่ก็มีสัญญาณกดรับพร้อมเสียงทุ้มที่เปล่งออกมาเป็นภาษาอังกฤษ

“ว่าไง” เสียงทุ้มโทนต่ำ ทำลมหายใจสมิธติดขัดขึ้น เกรย์ลูบมือคนไข้เขาเบาๆก่อนจะกรอกเสียงคุยกับปลายสาย

“ทำอะไรอยู่วะ” ปลายสายเงียบไปนิดก่อนจะเอ่ยตอบ

“...ทำงาน ถามแปลกนะมึง” น้ำเสียงลูคัสมีความแคลงใจเล็กน้อย

“ฮ่าๆๆ กูก็ถามไปงั้นแหละ” เกรย์พูดสบายๆ

“เหรอ แล้วมึงล่ะ ทำอะไรอยู่”

“กูก็พักผ่อนอ่ะ ไม่ได้ทำงานจนเงินทับตายเหมือนมึง” เกรย์เหน็บเพื่อนตามนิสัยบ้างานของมัน

“มึงอยู่กับมิทตี้ใช่ไหม” ปลายสายโพล่งออกมาโดยที่คนฟังไม่ทันตั้งตัว สมิธตาเบิกกว้างอย่างตกใจมือกำเข้าหากันแน่นยิ่งกว่าเดิม

“…”

“อยู่จริงๆสินะ ไงมิทตี้” ลูคัสพูดย้ำความคิดตัวเองน้ำเสียงเปลี่ยนเป็นอีกโทน สมิธที่ได้ยินแทบจะอ้วกออกมา ดวงตาแดงก่ำด้วยความกลัว เขาเกลียดผู้ชายคนนี้ที่สุดก็ตรงที่มันรู้ทันคนอื่นไปเสียทุกเรื่อง ฉลาดมากจนน่ากลัว ที่สามารถอยู่ในระดับผู้บริหารได้ตั้งแต่อายุสิบเจ็ดไม่ใช่เพราะเส้นพ่อ แต่เพราะความสามารถของลูคัสที่ไม่มีใครกล้าค้านสักคนว่าเขาไม่เหมาะสม

“เชี่ยไรของมึง กูไม่ได้อยู่กับน้อง” เกรย์ทำเป็นแก้ตัวกลบเกลื่อน จริงๆเขาก็ชั่ว จะพูดให้มันจับไม่ได้ก็ทำได้แต่เขาก็ไม่ทำ ใช่! เขาตั้งใจให้ลูคัสรู้ ไม่ใช่เพื่อเอาใจเพื่อน แต่เพื่อให้สมิธเข้มแข็งขึ้นต่างหาก

“หึๆ ให้มันโทรหาพี่ คิดถึงกันหรือไง?” ลูคัสไม่สนใจเสียงท้วงจากเกรย์ ยังคงกระเซ้าแหย่อีกคนที่เขารู้ว่าฟังอยู่แน่ๆ เกรย์อ้าปากพูดไม่ออกเสียงว่า ‘อดทนไว้’ สมิธกัดฟันแน่นอย่างอดทน นิสัยเขาเป็นที่รู้ดีว่าใจร้อนและโผงผาง มีอะไรก็จะพูกออกไปตรงๆทันที ชอบก็บอกว่าชอบ เกลียดก็บอกว่าเกลียด

“…”

“เอ...หรือจะให้พี่ไปหาดี พี่ก็เริ่มคิดถึงมิทตี้แล้วแฮะ” ลูคัสยังคงยั่วยุอีกคนไม่เลิก เกรย์เห็นสมิธท่าไม่ดีก็เตรียมจะตัดสายแต่คนเด็กกว่ากลับคว้าโทรศัพท์จากเขาไปจ่อปากแล้วตะคอกสุดเสียง

“มึงจะไปตายที่ไหนก็ไป!!! ไม่ต้องมาเสือกคิดถึงกู! กูขยะแขยง...มึงได้ยินไหมว่ากูเกลียดและขยะแขยงมึง!!” สมิธหอบแฮ่ก เขาใส่อารณ์ไปมากจนเหนื่อย

“หึๆ ปากดีจริงๆ อย่างนี้มันน่าจับจูบให้หายซ่า” แม้ลูคัสจะยังมีเสียงหัวเราะติดอยู่ แต่น้ำเสียงที่เปลี่ยนไปก็เรียบเย็นจนน่าขนลุก

“มึงอย่าคิดว่ากูจะกลัว กูไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว” สมิธพูดเสียงเข้มลอดไรฟัน เขาพยายามจะไม่ใช้อารมณ์จะไม่บ้าหลงเดิมตามเกมส์มันอีก แม้ในใจเขาจะหวาดหวั่นเพียงใดแต่สมิธจะไม่มีทางเผยออกมาให้มันได้เห็นความอ่อนแอของเขาอีก

“แล้วพี่จะคอยดูว่านายจะเปลี่ยนไปสักแค่ไหน...แต่รู้อะไรไหมสมิธต่อให้นายเปลี่ยนไปสักแค่ไหนนายก็ไม่มีทางหนีพี่พ้น...ดูจากชื่อนายเป็นตัวอย่างสิ ติ๊ด!” ลูคัสพูดยังไม่ทันจบประโยคดีสมิธก็รีบชิงตัดสายทันที เขาส่งโทรศัพท์ให้เกรย์ เดินลิ่วไปห้องน้ำเปิดก็อกแล้วกวักน้ำสาดใส่หน้าตัวเองหลายๆทีเพื่อเรียกสติ สมิธเงยหน้าขึ้นมองเงาตัวเองในกระจกแล้วเหยียดยิ้มออกมาอย่างสมเพชในโชคขะตาตัวเอง

นั่นสินะ...เขาจะหนีจากมันได้ยังไงกัน เพราะเขาคือ สมิธ ฮาล์น บุคคลที่ตกอยู่ใต้อาณัติ ลูคัส ฮาล์น โดยสมบูรณ์แบบ...

+++++++++++++++

แฮร่ เปรมมาแย้วหลังจากตรอมใจไปพักใหญ่ :hao5: กว่าจะจูนตัวเองกลับมาได้ ขอโทษนักอ่านทุกคนจริงๆ ขอมาทีละครึ่งให้หายคิดถึงกันไปก่อน เรื่องชื่อสมิธจะมีเฉลยในตอนต่อๆไป เชิญเดากันไปก่อนเลย ฮี่ๆ ส่วนเฮียลุคคือพระเอกที่เปรมจะปั้นให้คนด่ามากที่สุด อิอิ จุ๊ฟ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2017 20:55:26 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ monalism

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 29♡++50%++[19/6/60]
«ตอบ #599 เมื่อ19-06-2017 22:12:13 »

มิทตี้สู้ๆค่ะ //ยังไม่ชินกับชื่อในวงการของนาง  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด