ใจยักษ์ 20
Rrrr Rrrr Rrrr
“ฮื่อออ พะ…พอก่อน…มีคนโทรมา” ผมบอกทศกัณฐ์พร้อมดันอกเขาให้ออกห่าง ทศกัณฐ์จึงถอนจูบออกแต่คิ้วที่ขมวดกันยุ่งก็บ่งบอกว่าเขาไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ผมดันตัวจะลุกขึ้นจากตักเขาแต่อีกคนกลับรัดเอวผมไว้เสียแน่น
“ปล่อย!” กดเสียงสั่งเขาไป แต่อีกคนกลับลอยหน้าลอยตา เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้ด้วยมือเดียวค้นในกระเป๋าสักพักก็หยิบโทรศัพท์ที่แผดเสียงขึ้นมาอีกรอบออกมา
“เออ ว่าไง” เขากดรับโทรศัพท์
“ไม่เห็น…แต่กูใกล้จะเสร็จ รออีกแปบเดียว”ทำไมเขาต้องหันมามองผมด้วยสายตาแบบนั้นวะ คำพูดก็ดูสองแง่สองง่ามพิกล
“อืมๆ ไม่เกิน20นาที” ติ้ด แล้วทศกัณฐ์ก็วางสายไป
“ปล่อยได้หรือยัง?”
“อืม…เหมือนน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นประมาณ1-2กิโลฯนะ กล้ามเนื้อก็ดูกระชับขึ้นนิดหน่อยแต่เอวก็ยังบางอยู่ดี”ทศกัณฐ์พูดพึมพำดับตัวเองขณะที่เขาบีบไปตามแขนและต้นขาผม ยังมีทาลูบๆแถวเอวอีก ไม่ได้สนใจที่ผมพูดเลยสักนิด
“เหอะ!แน่ล่ะ ก็บังคับกันออกกำลังกายซะขนาดนั้น ” หมั่นไส้จริงๆ ใครจะรู้บ้างว่าผมปวดตัวขนาดไหน ขาพึ่งจะชินจนหายปวด แต่พอไปตีแบดมาปุ๊บ อาการปวดแขนกูตามมาทันที จะไม่ให้ร่างกายผมได้พักเลยใช่ไหม แต่ผมก็งงอยู่นะ ออกกำลังกายให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นนี่มีด้วยหรอวะ
“แค่ทำตามที่บอกเดี๋ยวก็ดีเอง ฮึบ!”ทศกัณฐ์บอกก่อนจะจับเอวผมยกขึ้นจากตักตัวเองให้ผมยืนขึ้น
“ครับ…แล้วเรื่องนั้น” ผมท้วงสิ่งที่ผมต้องการ ในเมื่อผมยอมเขาถึงขนาดนี้ เรื่องนั้นเขาก็จะต้องทำตามที่ผมขอเช่นกัน
“กลับห้องค่อยคุยกัน”ผมพยักหน้าตกลง “กลับไปรอกับสมิธก่อน รอไปพร้อมกัน”ทศกัณฐ์เอ่ยสัมทับขึ้นมาอีกรอบ
“ผมจะไปก่อน นัดเพื่อนไว้แล้ว”ผมจัดผมเผ้าตัวเองให้เรียบร้อยโดยไม่สนใจที่เขาบอก
“รอ” เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวออกจากห้องไป ผมยืนเงียบมองตามหลังเขานิ่งๆ
ก็ได้…
.
.
.
.
.
.
“ไอ้รันต์ ทางนี้ๆ” เสียงร้องตะโกนเรียกของเมฆดังมาจากที่นั่งผู้ชมในโรงยิม คนหันมามองกันให้พรึ่บ ไม่ใช่อะไรหรอก มันเสียงดังไง เห็นอย่างนี้ก็อายนะครับ
“เบาๆก็ได้มั้ง” ผมบอกเมฆหลังจากที่เดินขึ้นมาจนถึงตัวมันแล้วนั่งลงข้างๆ ถัดจากเมฆไปเป็นอ๋องและเพื่อนร่วมสาขาอีก4คน พวกมันก็ยกมือทักทายผมตอนเดินมานั่ง
“กลัวมึงไม่ได้ยิน” เมฆว่าพร้อมกับมองไปที่สนามเป็นการแข่งบาสเก็ตบอลระหว่างคณะศิลปะกรรมฯและเภสัชฯ ซึ่งก็ใกล้จะรู้ผลแล้ว โชคดีที่คนไม่ค่อยเยอะมาก ส่วนมากก็จะมาเชียร์คณะตัวเองกันทั้งนั้น นัดต่อไปคงเป็นคณะผมแข่งแล้วล่ะ มีเก่ง พี่เซนท์ และพี่ดีเป็นตัวจริงในทีมด้วย
พูดถึงพี่เซนท์กับพี่ดี ก็นึกถึงไอ้ยักษ์บ้าอำนาจนั่น เหอะ!คิดว่าผมจะอยู่รอให้โง่หรอผมไม่เสี่ยงไปไหนมาไหนกับเขาให้คนอื่นรู้แน่ ใช่ว่าผมจำเป็นต้องฟังเขาทุกเรื่องสักหน่อย
ปิ้ด!ปี๊ดดดดดดดดดดด! เสียงกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลา ปรากฏว่าคณะเภสัชฯเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับคณะศิลปกรรมฯไป เสียงเฮฝั่งศิลปกรรมฯก็ดังดีใจกันลั่นสนามเลยทีเดียว เมื่อนักกีฬาทั้งสองคณะเดินออกจากสนามไป นักกีฬาบาสเกตบอลของคณะเศรษฐศาสตร์และคณะเทคโนฯก็เดินเข้ามาในสนามเพื่อวอร์มก่อนแข่ง แต่ก็ไม่อยากจะเข้าข้างหรอกนะที่พอคณะผมเดินมาก็มีเสียงกรี๊ดต้อนรับอย่างมากมาย ที่โดดเด่นที่สุดในทีมคงไม่พ้นพี่ดีที่ยืนสูงชะลูดอยู่ข้างๆพี่เซนท์
“นั่งไงไอ้เก่ง แข่งบาสแล้วใส่แว่นทำไมวะ เดี๋ยวเขาก็โยนบอลอัดใส่หน้าแว่นตาแตกหรอก” เสียงเมฆพูดขึ้นลอยๆ กูว่าเขาคงไม่ทำอย่างที่มึงพูดหรอกมั้งเมฆ
“กูว่าไม่หรอกมั้ง” เสียงอ๋องดังขึ้นตอบแทนความในใจผม
“แต่มันก็ดีนะ ทำทุกอย่างเพื่อคณะทั้งงานราษฎร์งานหลวงมันทำหมด” เพื่อนสาขาอีกคนเสริมบ้าง
“เหอะ!ถ้าทำแล้วมันเหนื่อยตัวเอง กูว่าอย่าทำดีกว่า” มึงป็นอะไรกับมันมากรึเปล่าเนี่ยเมฆ
ติ้ง! เสียงโปรแกรมแชทดังขึ้นเบาๆ ผมหันไปมองเมฆควับว่ามันได้ยินไหม ปรากฏว่ามันกำลังคุยอย่างออกรสชาติกับอ๋องและเพื่อนๆอยู่ ผมก็แอบถอนหายใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
THOSSAKAN : ทำไมหนีออกไปก่อน?
Run Run : แล้วทำไมผมต้องอยู่ครับ? ใครบอกว่าจะรอมิทราบ
THOSSAKAN : หรอ อยากโดนทำโทษหนักๆหรือเปล่า?
Run Run : ชิ่วๆๆๆ
เถียงคืนก็มีแต่เข้าตัวเองเลยตัดบทแม่งเลย จากนั้นผมก็รีบปิดโปรแกรมแชทลงทันที แต่ก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมาอีกรอบ
THOSSAKAN : Wow : D
ผมนึกถึงหน้าตากวนส้นของเขาออกเลย ปวดประสาทกับมันจริงๆ
“คุยกับใครอ่ะ” อยู่ๆเสียงของคนที่ผมคิดว่ากำลังคุยกับเพื่อนอยู่ก็ดังขึ้นที่ข้างหู มันเห็นรึเปล่าวะ
“เปล่า แค่เปิดดูข้อความของกรุ๊ปสาขาเราไง” ผมบอกเมฆเสียงเรียบๆ
“อ่อ” เมฆพยักหน้าแล้วหันไปดูนักกีฬาที่สนามต่อ ตอนนี้พวกเขากำลังซ้อมชู้ตลูกครับ พี่เซนท์โยนสามแต้มด้วย เก่งจริงๆเลยทั้งๆที่เขาตัวเล็กที่สุดในทีมด้วยนะ ไอ้เก่งก็สูงพอๆกับผมเลยแต่มันดูมีกล้ามเนื้อกว่าหน่อย
“กรี๊ดดด แก นั่นใช่พี่ทศกัณฐ์รึเปล่าวะ” ผู้หญิงที่นั่งถัดจากผมไปหน่อยกรี๊ดขึ้นเบาๆแล้วถามเพื่อนที่นั่งข้างกันอย่างไม่แน่ใจ
“ไหนวะแก”ผู้หญิงอีกคนพยายามมองหาตามคำพูดเพื่อน
“ก็นั่นไงๆ เดินขึ้นบันไดขึ้นมาแล้วนั่นไง” สายตาผมเหลือบมองตามเธออัตโนมัติ ไม่ได้สนใจหรอกนะจริงๆ เขานั่งชั้น3ส่วนผมนั่งชั้น5
“โอ้ย! ใช่จริงๆด้วย หน้าฝรั่งหล่อทะลุมดลูกขนาดนี้มีคนเดียว แล้วที่เดินตามหลังมาคือพี่สมิธไหมวะแก” เสียงเธอดี๊ด๊ามาก
“ใช่แก๊ ฉันฟินว่ะ เพราะพี่เซนท์กับพี่ดีลงแข่งบาสแน่ๆพวกพี่เขาถึงมาที่นี่ได้ ปกติไม่ค่อยเจอง่ายๆหรอก” ก็เจอแล้วนี่ไง
“สวัสดีท่านผู้ชมทุกๆท่านครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วนะครับสำหรับการแข่งขันแมตท์สุดท้ายของวันนี้ระหว่างคณะเทคโนโลยีและคณะเศรษฐศาสตร์ ขอเสียงตบมือด้วยครับ” เสียงตบมือและเสียงกรี๊ดดังระงมไปทั่วทั้งโรงยิม นักกีฬาเข้าแถวแสดงความความเคารพซึ่งกันและกัน เมื่อนักกีฬาตัวจริงประจำที่เรียบร้อยแล้ว กรรมการกดสัญเริ่มการแข่งขัน เมื่อลูกบาสลอยละล่องอยู่กลางอากาศ พี่ดีคือคนที่สามารถปัดลูกให้กับทีมได้ จากนั้นนักกีฬาก็ผลัดกันส่งลูกอย่างดุดันกันตั้งแต่ต้นเกมส์
“โห พี่เซนท์แม่งเล่นโคตรเก่งเลย ตัวเล็กกว่าทุกคนในทีแต่บุกโคตรเก่ง”เมฆชื่นชมพี่เซนท์เสียงดัง ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับที่เมฆว่า เขาเล่นเก่งจริงๆ ท่ามกลางผู้เล่นตัวสูงใหญ่แต่เขากลับเบียดแทรกคนพวกนั้นไปได้โดยไม่เป็นอุปสรรค ผมโคตรทึ่งเลยเห็นเขายิ้มร่าเริงอย่างนั้นแต่ในสนามเขาจริงจังมากไม่เหมือนพี่เซนท์ที่ผมรู้จักเลย
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ!!!! เสียงเชียร์แต่ละคณะดังไม่แพ้กันเมื่อนักกีฬาคณะใดคณะหนึ่งสามารถชู้ตลูกลงห่วงได้ เกมส์การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด จนเมื่อมาถึงควอเตอร์สุดท้าย สิ่งที่ผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นมันก็เกิดจนได้ ไอ้เก่งโดนศอกเซ็นเตอร์ฝ่ายตรงข้ามกระแทกหน้าจนหงายหลัง
“สัดเอ้ย!!!เล่นแรงไปแล้วไอ้เหี้ย!” เมฆลุกขึ้นตะโกนอย่างหัวเสีย คนที่นั่งใกล้ๆเราก็พากันหันมามองไม่เว้นแม้แต่พี่สมิธและทศกัณฐ์
“เมฆใจเย็นๆ นั่งลงก่อน”ผมดึงแขนไอ้เมฆให้นั่งลง มันจึงยอมนั่งลงแบบฟึดฟัด ตอนนี้กรรมการเป่านกหวีดฟาวล์ให้(C) ของคณะเทคโนฯ โค้ชจึงเปลี่ยนตัวให้เก่งออกแล้วส่งตัวสำรองอีกคนหนึ่งลงแทน เลือดกำเดาไหลด้วยว่ะ
“ไอ้เหี้ยนั่นเจอกูแน่” เมฆพูดพึมพำกับตัวเองแค้นๆ ผมได้ยินแบบนั้นจึงหันไปปราม
“เมฆ อย่าเล่นนอกเกมส์ มีอะไรก็สู้กันในสนามดิ เล่นกีฬามันก็ต้องมีอุบัติเหตุกันบ้าง” ผมลูบแขนมันเบาๆให้ใจเย็นลง ใช่ว่าผมไม่โกรธไอ้เหี้ยนั่นที่เล่นแรงขนาดนั้นจนทำคนอื่นบาดเจ็บ
“มึงก็ดูไอ้เหี้ยนั่นดิ กูเห็นแม่งเล่นแรงหลายทีละ ดูก็รู้ว่ามันจงใจ สำนึกไหมก็ไม่มี คำขอโทษยังไม่หลุดออกจากปากมันเลย” เมฆว่าอย่างมีน้ำโห
“ใจเย็นมึง ไอ้เก่งก็คงไม่เป็นไรมากแล้วล่ะกูโทร ลงไปถามไอ้ฝ้ายที่เป็นสวัสดิการทีมมันบอกไอ้เก่งมันโดเคแล้ว เลือดก็หยุดไหลแล้วด้วย”อ๋องบอกเกรงๆเมฆ คงไม่ค่อยเห็นมันอารมณ์ขึ้นขนาดนี้ด้วยมั้ง
“ไอ้เหี้ยนั่นมันเป็นใครไอ้อ๋อง”เก่งถามอ๋องเสียงนิ่ง สายตายังจับจ้องไปที่สนามที่การแข่งขันยังดำเนินต่อไป ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่เมฆถามแบบนี้
“มันชื่อไอ้เต้ เรียนเทคโนฯอุตสาฯ ปี2เหมือนเรา”อ๋องบอก มันเป็นคนที่กว้างขวางคนหนึ่งเลยล่ะไอ้อ๋อง
“เมฆ” ผมเรียกชื่อมันเสียงเข้มเป็นการปราม แม้ผมจะเคยเล่นงานคนอื่นมาเหมือนกันแต่เมฆไม่ใช่ วิธีการมันไม่เหมือนกัน เมฆมันคนตรงๆคงตัดสินกันด้วยกำลังแน่ๆซึ่งถ้าเรื่องนี้ถึงหูอธิบดีล่ะก็ แม่งเรื่องใหญ่แน่ เมฆนั่งนิ่งๆไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไง
เมื่อกรรมการเป่านกหวีดหมดเวลาแข่งขัน ก็มีเสียงตบมือแสดงความยินดีแต่ไม่มีความเฮฮากรี๊ดกร๊าดมากเท่าตอนแรกนัก อาจจะเพราะพึ่งผ่านเหตุการณ์สะเทือนขวัญมาหมาดๆ และก็คณะผมก็ชนะไปด้วยคะแนนขาดลอย ตอนช่วงสุดท้ายที่ต้องเข้าแถวจับมือกันเก่งก็ออกไปด้วย นับ่าดีแล้วที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก
“การแข่งจบแล้วก็ไปดูมันดิ จะได้ไม่ต้องมานั่งหัวร้อนอยู่แบบนี้” ผมหันไปบอกคนที่นั่งข้างๆ
“อะไรของมึง? กูไม่ได้สนใจมันขนาดนั้น” มันหันมาเลิกคิ้วถามผม แหมทำมาเป็นเฉไฉนะมึงนิ
“งั้นกูไปดูมันนะ” ผมแกล้งลุกขึ้นยืน
“กูไปด้วย” แหม่ รีบลุกเร็วเชียว ผมยักไหล่พร้อมเดินนำมันลงมา เห็นเหล่านักกีฬากำลังยืนพูดคุยกันอยู่ข้างสนาม
“น้องรันนนนนนนนนต์ คิดถึง” หมับ! พี่เซนท์ที่ยืนอยู่ในวงหันมาเจอผมก็ผละออกมาแล้ววิ่งปรี่ตรงมากอดผมทันที
“ครับ วันนี้พี่เซนท์เก่งมากๆเลย” ผมเอ่ยชมเขาจากใจจริง
“จริงหรอ น้องรันต์ก็ดูอยู่ใช่มะ พี่ก็เก่งจริงๆนั่นแหละ อิอิ” เขาผละกอดพูดกับผมพร้อมรอยยิ้มกว้างจนตาหยี
“ครับ” พอเห็นรอยยิ้มเขาผมก็อดยิ้มคืนไม่ได้
หมับ! แรงรัดต้นคอจากด้านหลังทำผมสะดุ้งจนมือฟาดข้างหลังตามสัญชาตญาณ
“โอ้ยยย!นี่มึงจะฆ่ากูหรอไอ้น้องรันต์” ไอ้พี่สมิธนี่เอง สมควรโดนแล้ว
“ก็พี่เล่นอะไรของพี่วะ ปล่อยผมเลย” ผมบอกพร้อมงือเขาออก แขนยิ่งปวดๆจากการตีแบดอยู่
“หนีกูมาก่อนยังไม่ชำระความ” เขาเลิกรัดคอแต่แขนยังพาดอยู่กับไหล่ผมอยู่ เขาตัวสูงกว่าผมแต่ก็เตี้ยกว่าทศกัณฐ์เล็กน้อย
“ผมนึกว่าพี่ไปแล้วไง” มันเบ้ปากใส่ พร้อมผลักหัวผมแรงๆหนึ่งทีก่อนจะหันไปคุยกับพี่เซนท์ เมื่อได้โอกาสผมจึงเอ่ยขอตัวเพื่อำปดูอาการของเก่ง
“ผมขอตัวก่อนนะครับ จะไปดูอาการเพื่อนหน่อย” พี่สมิธพยักหน้ารับยิ้มๆ
“เดี๋ยว”พี่สมิธรั้งคอผมเข้าไปใกล้ ก่อนจะก้มกระซิบข้างหูให้ได้ยินกันสองคน
“ไอ้ทศบอกให้กลับบ้านพร้อมกันนะ น้องรันต์J” ผมเงยหน้ามองเขานิ่ง ไม่รู้ว่าผมทำหน้ายังไงออกไปนี่เขารู้แล้วหรอ ตอนนี้ผมโคตรเกลียดรอยยิ้มบนใบหน้าไอ้พี่สมิธมาก อยากฆ่าทิ้งจริงๆถ้าทำได้ แต่ไอ้คนที่ผมอยากฆ่าที่สุดคงไม่พ้นไอ้ยักษ์ทศกัณฐ์สารเลวนั่นหรอก
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก หัวร้อนแทนไอ้เมฆแล้วกู!!!
+++++++++++++++++++++++++++++++
เอาไปก่อนครึ่งหนึ่งไม่เสร็จง่ะ ติดละครเว่อร์ งอแงๆ พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยเจอกัน อย่าปล่อยให้รอเก้ออีกนะ ถ้ามีอีกจะให้ทศกันณ์ทำโทษ
นี่จงใจมาสายเพื่อให้พี่ยักษ์ลงโทษนะ อิอิ