• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 311893 ครั้ง)

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ตอนนี้ยังเรื่อยๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
โอ๋ๆๆๆ กอดปลอบใจจริงใจน๊าาาาา (เนียนป่ะล่ะ?)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
สาระของเด็กม.ปลาย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึ  จริงใจมีความกวนตีนภายใต้ความเย็นชาสูงมาก

ออฟไลน์ ิbbeer.r

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รอต่อนต่อไปค่าาาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เดวิล เด็กปีศาจ เก่งนะ
ออม มาอ่อยขอให้ช่วยติว
ให้ทั้งที่เป็นเด็กเก่งอยู่แล้ว
เดวิล ก็รู้ทัน แต่อ่อยไปก็เท่านั้น
เพราะจริงใจ ใจอยู่ที่ตัวหอมไปแล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โอ้ กรรมตามทัน 5555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
อ่อยย ไม่ติดเค้าเรียก นก 5555

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จริงใจนี่แอบเพ้อเบาๆ555555555555555 :hao7:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เมื่อไหร่เขาจะได้สนทนาพาทีกันนะ

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 6
ผมกับภัยคุกคาม





   “มาทำไมวะ?” พี่นนท์ร้องถามจากเคาน์เตอร์คิดเงินเมื่อเห็นผมก้าวเข้ามาในร้าน มึงถามลูกค้าแบบนี้ก็ได้เหรอวะ ผมถอนหายใจ เดินไปหา วางหูฟังที่หักเป็นสองส่วนให้พี่นนท์แทนคำตอบ พี่มันเหวอไปเล็กน้อย มองหน้าผม แล้วหยิบไปดู

   “ทำไงมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้บ้าง?”

   “ซื้อใหม่” ขอบคุณ... ผมกลอกตา “มีตัวใหม่เพิ่งมาเมื่อเช้า กูยังไม่จัดเลย ถ้ามึงสนใจก็เข้าไปดูหลังร้าน”

   เดาะลิ้นเป็นคำตอบแล้วเดินผ่านไปที่ห้องสต็อก ผมมาใช้บริการร้านมันบ่อยจนสนิทกันมาก มากแค่ไหนล่ะจนได้รับสิทธิ์เข้ามาดูของที่ยังไม่จัดหน้าร้านเนี่ย ผมหยิบที่คิดว่าเป็นสินค้าตัวใหม่มาดู สักพักไอ้พี่นนท์มันก็เดินเข้ามาพร้อมร่ายสรรพคุณให้ฟัง แม่งโฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค ผมฉีกกล่องแล้วโยนไปสักที่ ทดลองระบบเสียงมันตรงนั้นแหละ ไอ้พี่นนท์มันก็ไม่ว่าอะไร ซ้ำยังแกะอีกรุ่นมาให้ผมลองอีก

   “เท่าไหร่วะ?”

   “หนึ่งสาม”

   “ก็แย่ละ”

   “มึงเอาป่ะล่ะ? ตัวนี้กูสั่งมาไม่เยอะ เอามาลองก่อน ถ้าขายดีถึงจะสั่งเพิ่ม”

   “เอาดิ”

   “ก็แค่นั้น” เดินตามไอ้พี่นนท์ออกไปหน้าร้าน ระหว่างนั้นก็กดโทรศัพท์โทรออกจากผู้มีอุปการคุณ

   “พ่อครับ ผมจะซื้อหูฟังอันใหม่ อันเก่ามันแตก ขอตังค์หน่อยครับ”

   (“จะเอาตอนนี้เหรอครับ?”)

   “ครับ”

   (“ราคาเท่าไหร่ เดี๋ยวพ่อบอกเลขาโอนไปให้”)

   ผมบอกราคาของหูฟัง พ่อไม่ได้ว่าอะไร ไม่นานก็มีเสียงข้อความเข้ามา เห็นการแจ้งเตือนการโอนเงินเข้า ผมกดยิ้ม ควักการ์ดออกมาจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นให้ไอ้พี่นนท์ พี่มันหยิบรับ หยิบการ์ดผมไปด้วยหน้าระรื่น แน่ดิ ได้ขายของแล้วนี่หว่า ผมอยู่วอแวในร้านพอสมควรแล้วจึงออกมา โดนใช้ให้ช่วยขายของอีก กะจะกลับบ้านเลยเพราะรู้สึกเหนื่อยขึ้นมา แต่ระหว่างทางกลับเห็นใครบางคนเข้าเสียก่อนผมจึงต้องเปลี่ยนความคิด

   หึหึ ยกยิ้มอยากนึกสนุก เมื่อมองเห็นร่างบอบบางของใครคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา เลื่อนหารายชื่อที่ถูกบันทึกไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อนแล้วจึงกดโทรออก รอสายอยู่สักพักเจ้าของเบอร์ถึงกดรับ มองจากตรงนี้ยังรู้เลยว่าเขาหงุดหงิดขนาดไหน

   (“มีอะไร!?”) เสียงหวานตวาดเจือไปด้วยความอารมณ์เสีย แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก

   “ผมหิว” บอกไปขณะที่สายตาจ้องไปยังร่างบาง รู้สึกว่าคำพูดของตัวเองมันงี่เง่าสิ้นดี แต่ช่างเถอะ ถ้ามันทำให้ผมได้เจอกับตัวหอมผมจะยอมไร้สาระเหมือนพวกมนุษย์ทั่วไป

   (“หิวก็ไปหาอะไรกินสิ มาบอกฉันทำไม?”)

   “คุณจำที่พูดไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อนไม่ได้เหรอ ว่าจะตอบแทนผม” ผมยกเรื่องเก่าขึ้นมาอ้าง จริง ๆ ตัวผมเองก็เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้ทำไมพอถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวหอมผมถึงไม่ลืมสักที เหมือนกับกลิ่นหอม ๆ นั่นที่ยังรู้สึกได้ที่ปลายจมูก

   (“จิ๊! อยากได้อะไรก็ว่ามา”) ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ขณะที่จ้องมองเสี้ยวหน้าสวยด้านข้าง ตัวหอมกำลังหงุดหงิดที่ผมโทรไปกวน แต่อย่าคิดว่าผมจะสำนึกเลย

   “เลี้ยงข้าวผมหน่อยสิครับคุณลูกหนี้ ตอนนี้ผมอยู่ xx คุณอยู่ที่ไหน?” ถามพลางเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายและหยุดอยู่ด้านหลัง ทำไมเขาไม่ระวังตัวเลยนะ ถ้าหากเป็นคนไม่หวังดีป่านนี้ไม่โดนโปะยาสลบแล้วลากไปไหนต่อไหนแล้วเหรอ คิดแล้วชักห่วงแฮะ...

   ก็แย่ละ

   (“ฉันอยู่ที่เดียวกับนายนั่นแหละ ตอนนี้นายอยู่ตรงไหน?”)

   “ข้างหลังคุณ” บอกแล้วกดตัดสาย ยักคิ้วใส่คนอายุมากกว่าที่หันมาเจอแล้วทำหน้าบึ้งจนไม่น่ามอง

   “อยากกินอะไรล่ะ?” ตัวหอมถามเสียงสะบัด ตาเรียวรีนั่นถลึงมองผม ผมล่ะกลัวว่ามันจะหลุดออกจากเบ้าจริง ๆ

   “คุณหิวหรือเปล่า?” ตอบกลับด้วยคำถาม และมองข้ามสายตาสำรวจของเขา แม้จะรู้สึกแปลก ๆ สักหน่อยที่โดนมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนั้น หากมันไม่ใช่สายตาดูถูกเหยียดหยามผมก็จะปล่อยไปถามนิสัยช่างแม่งที่พวกมักเกิ้ลไม่ค่อยมี

   “อ่า... นิดหน่อย”

   “ฉันอยากกินซูชิ / ผมไม่กินปลาดิบ” ผมกับตัวหอมพูดขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนจะหันหน้าหนีและกลอกตาขึ้นฟ้าในจังหวะเดียวกัน

   “ฉันอยากกิน ฉันจะกิน!” เขาโวยวายเหมือนเด็ก ๆ ซึ่งกรณีผมยอมไม่ได้ว่ะ ขอโทษนะ

   “ก็แย่ละ”

   “ไม่แย่”

   “ไม่เอา ผมไม่ชอบ ผมจะกินข้าว!”

   “เอ๊ะ! ฉันอายุมากกว่านะ ให้ฉันตัดสินใจสิ”

   “ผมเด็กกว่า คุณต้องตามใจผมสิครับ”

   “อย่าขัดใจฉันสิ”

   “.........”  ผมเงียบ ไม่เถียงต่อ ใบหน้าไร้รอยยิ้ม ดุนลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างที่ทำเป็นนิสัยเมื่อโดนขัดใจ ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงนักเรียนออกมากดเล่น

   ตัวหอมเองก็เงียบเหมือนกัน ผมเห็นความอึดอัดจากแววตาของเขา แม้ผมจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่สนใจเขานี่ และหลังจากไม่มีใครพูดอะไรอยู่หลายนาทีตัวหอมก็พูดขึ้น “ฉันอยากกินนี่... ไม่ได้กินนานแล้ว ... ไปร้านที่ไม่ได้มีแค่ซูชิก็ได้”

   แอบกดมุมปากเป็นรอยยิ้ม ไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายยอม เพราะหากไม่เขาพูดขึ้นมาก่อนผมเองก็จะเป็นฝ่ายพูดไปแล้ว และยอมให้เขาเลือกไปกินซูชิอย่างที่เขาอยากกิน แอบแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ตัวหอมยอมลงให้ผมแบบนี้ น่าประทับใจจังเลยน้า

   หึหึ




   “นาย”

   “ครับ?” เลิกคิ้วสูงมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ ผมสั่งอาหารไปหลายอย่างเพราะหิวมาก ส่วนคนตรงข้ามที่บอกว่านิดหน่อยก็สั่งไปเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นพวกซูชิและปลาดิบ แค่ได้ยินชื่อก็คาวขึ้นจมูกแล้ว

   “เพื่อนฉันจะมาหา นายโอเคหรือเปล่า?”

   “อาฮะ โอเคมั้ง”

   “เฮ้! ตอบดี ๆ สิ”

   “คุณจะถามผมทำไม ถึงบอกว่าไม่โอเค แต่คุณตอบตกลงเพื่อนไปแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นครับ?”

   “ชิ!” ตัวหอมทำเสียงขัดใจ ผมยักคิ้วกวนประสาทเขาไปหนึ่งที เอาจริง ๆ ที่บอกว่าเพื่อนจะมาแวบแรกก็แอบหัวร้อนอยู่เหมือนกัน ผมไม่ชอบที่จะมีคนไม่รู้จักหรือสนิทมาอยู่ใกล้ ๆ แต่หากเป็นเพื่อนเขาผมจะพยายามยอมให้ก็ได้ หวังว่าจะไม่วุ่นวายกับผมจนเกินไป

   “มองหน้าผมทำไมครับ?” ถามขึ้นบ้างเมื่อตัวหอมเอาแต่จ้องหน้าผมไม่วางตา ผมหล่อ ผมก็เข้าใจ ไม่ว่ามนุษย์คนไหนก็ชอบมองหน้าผมทั้งนั้น ถึงผมจะรู้สึกดีกับตัวหอม ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะจ้องหน้าผมแบบนั้นได้นี่ ผมอึดอัดนะเว้ย!

   “มองเฉย ๆ หน้านายไม่เหมือนผัวฉันหรอก”

   “เหมือนก็แย่ละ” เขาเบ้ปากใส่ผม คงนึกหมั่นไส้ “แต่คุณบอกว่าผมเป็นแฟนคุณนี่”

   “ฮอล~ เรื่องมันก็ตั้งสองสัปดาห์มาแล้วหรือเปล่า เลิกพูดไปสักทีเถอะ” ตัวหอมกลอกตา ทำหน้าเซ็ง ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

   “แล้วได้ผลป่ะครับ?”

   “ไม่เลย ไอ้บ้านั่นยังตื้อไม่เลิก น่ารำคาญ”

   “แผนโง่ ๆ แบบนั้นใครเชื่อก็แย่ละ”

   “นี่นาย!!” ตัวหอมชี้หน้า เบิกตาโตเมื่อโดนหลอกด่า ผมขยับริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม เขาเงียบไปทั้งที่เหมือนกับตั้งใจจะพูดอะไรสักอย่าง ก็ กะพริบตาปริบ ๆ ยกมือกอดอกหันหน้าหนี

   “รอนาน...... ป่ะ?”

   “สวัสดีครับ” ผมทักคนมาใหม่ จำเป็นต้องทักเพราะเขามองหน้าผมอยู่ ผมว่าผมจำเขาได้ เพื่อนของตัวหอม เจ้าของรถยนต์คนนั้น และคนที่นั่งอยู่กับเขาที่ร้านนมปังตอนผมไปขนมเพื่อเอาไปเซ่นไหว้องค์จันทร์เจ้า

   “อึ้งไรมึง ไม่เคยเห็นคนหรอ นั่งลง!” ตัวหอมแขวะแล้วฉุดแขนเพื่อนให้นั่งลงข้าง ๆ ผมค่อนข้างไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของตัวหอมถึงได้มองผมตาค้างแบบนั้น

   “ม มึง... น นั่น... น้อง น้องไฟแดงของกู...” เพื่อนตัวหอมพูดเสียงขาด ๆ หาย ๆ และชี้นิ้วมาที่ผม ตัวหอมกลอกตาขึ้นฟ้า ราวกับเอือมกับการกระทำของเพื่อน

   น้องไฟแดงคืออะไรวะ? หมายถึงผมเหรอ ถ้าอย่างนั้นผมไปเป็นของเขาตอนไหนวะ

   “ตั้งสติหน่อย!” ตัวหอมตะโกนใส่หน้าเพื่อนพร้อมจับคอเขย่า เพื่อนเขาชักสีหน้า จิปากใส่ตัวหอมของผม ก่อนจะหันไปยิ้มทำตาหวานเชื่อมให้ผม ผมผงะเล็กน้อย ก่อนจะขยับเอนตัวไปด้านหลังและยกแขนขึ้นกอดอกเป็นการป้องกันตัวเอง ก็แย่ละ น่ากลัวฉิบหาย

   ระหว่างนั้น พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ ทันทีที่ทุกจานวางครบ ผมก็จับอาวุธพร้อมแล้วเริ่มสงคราม สนใจแค่อาหารตรงหน้า และลืมไปว่ามีใครร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

   “มึง... ทำไมน้องเขาน่าเอ็นดูจังวะ” เสียงกระซิบกระซาบดังแว่ว ๆ ผมไม่ได้สนใจนัก

   “แล้วมึงก็อยากดูเอ็นด้วยล่ะสิ”

   “หยาบคาย! แต่ถ้าได้ดูก็ดีนะ คิกคิก”

   โดนนินทาระยะเผาขน แม้จะพูดกันเสียงเบาแต่ห่างไม่มาก ผมได้ยินอยู่แล้ว อีกอย่าง นักดนตรีอย่างผมหูค่อนข้างดีเป็นพิเศษ ขนลุกพิลึกแต่ไม่ได้นึกรังเกียจ เพียงแต่... พึมพำ ‘ก็แย่ละ’ อยู่ในใจ

   ถ้าตัวหอมเอ็นดูแล้วอยากจะดูเอ็นผมล่ะก็... ผมจะให้ดูก็ได้นะ หึหึ

   “น้องจริงใจอยู่ชั้นไหนหรอคะ?” พี่พีทเอ่ยถาม รู้ชื่อละ ได้ยินตัวหอมเรียก เขาเป็นผู้ชาย แต่พูดคะขา อาจเพราะด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างน่ารักและรูปร่างเล็ก มันเลยไม่บาดหูและดูไปด้วยกันได้

   “มอห้าครับ”

   “อุ๊ย ยังเด็กอยู่เลยเนอะ”

   “ผมไม่เหมือนเด็ก ม.ปลายหรอครับ?” ถามหลังยกน้ำขึ้นดื่ม เท้าศอกกับโต๊ะหนึ่งและจ้องไปในตาของพี่พีท ริมฝีปากสีอ่อนผุดรอยยิ้มน้อยเมื่อเห็นว่าคนอายุมากกว่าแก้มแดงระเรื่อ ผิดกับอีกคน ที่ทำหน้าเบื่อหน่าย หึหึ

   อย่าบอกว่าเพื่อนตัวหอมชอบผมนะ...

   “เปล่า ๆ แค่ดูเป็นผู้ใหญ่”

   “อ๋อ หน้าแก่”

   “ไม่ใช่ ๆ ๆ” พี่เขาโบกมือปฏิเสธพัลวัน เขาถอนหายใจเหมือนโล่งอกเมื่อผมยิ้ม “ว่าแต่... น้องจริงใจมารู้จักกับมันได้ยังไงหรอ?” นิ้วเรียวที่ไปที่ตัวหอมตรงคำว่ามัน

   “ผมว่าเพื่อนพี่น่าจะเล่าให้ฟังแล้วนะครับ” ผมพูด และจัดการกับข้าวของผมต่อ ตอนนี้มันพร่องไปมากกว่าครึ่งแล้ว อาการหิวเริ่มลดลงแต่ยังไม่ถึงกับอิ่ม และจากนั้นบนโต๊ะก็มีเพียงแค่เสียงของสองเพื่อนซี้ที่คุยกัน ผมก็คุยบ้างเมื่อเขาถาม ปลาดิบของพวกเขาก็ลดลงไปมาก พวกเขากินโคตรเก่งและกินเยอะมาก ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะไม่กินเยอะเสียอีก เพราะกลัวอ้วนอะไรแบบนั้น หรือกินปลาดิบเพื่อให้มีพยาธิวะ?

   เออ น่าคิด

   “นาย... ไม่กินปลาดิบจริง ๆ เหรอ? อร่อยนะ” ตัวหอมถาม ผมก็บอกเขาไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่กินปลาดิบ ไม่รู้จะถามอีกทำไมบ่อย ๆ ผมใช้กำปั้นปิดปากแล้วสั่นหัวเป็นคำตอบเพราะยังเคี้ยวอาหารในปากไม่หมด “ทำไมไม่กิน?”

   “...คาว”

   “ปลาสดไม่คาวนะคะ ไม่ลองชิมหน่อยหรอ?” ส่ายหัวปฏิเสธอีกครั้ง แต่สองเพื่อนซี้ก็ยังจะพยายามให้ผมลองกินปลาดิบพวกนั้นให้ได้ เมื่อโดนเซ้าซี้หนักเข้าก็ลอบพ่นลมหายใจออกมา บอกว่าจะยอมกินก็ได้ เท่านั้นแหละ สองเพื่อนสนิทก็ยิ้มกว้างดีใจ อยากกับถูกหวย และที่ผมยอมไม่ใช่เพราะใจอ่อนแพ้ลูกอ้อนอะไรทั้งนั้น รำคาญ

   “แซลมอนแล้วกันเนอะ หึหึ” ตัวหอมพูดพึมพำก่อนจะคีบเนื้อปลาชิ้นหนาสีส้มขึ้นมาแล้วส่งไปตรงหน้าของผม ผมหลับตาสงบสติและสวดภาวนาให้กับตัวเอง ไม่แน่ใจว่าถ้าอ้าปากรับปลาดิบโง่ ๆ นั่นเข้าไปแล้วเขาจะอ้วกออกมาทันทีหรือเปล่า อาการเกลียดปลาดิบนี่มันติดต่อจากการเลี้ยงดูได้ด้วยเหรอวะ เชื้อพี่ฟ้าจะแรงไปละ

   “เร็วสิ” กลอกตาใส่คนเร่ง ตัวหอมยื่นปลาดิบเข้าไปใกล้จนมันโดนริมฝีปากของผมแล้ว พี่พีทเองก็มองอย่างลุ้น ๆ อยู่เหมือนกัน

   “อ่อก!” ทันทีที่เนื้อปลาสดสัมผัสกับลิ้น ผมก็แทบจะคายมันออกมา มือหนายกขึ้นปิดปาก พยายามเคี้ยวเร็ว ๆ เพื่อที่จะกลืน ทว่าฟ้าช่างกลั้นแกล้ง ไอ้ฉิบหาย กลืนไม่ลงโว้ย!!! น้ำตาเอ่อขึ้นมาคลอหน่วยและปริ่มที่หางตา รีบยื่นมือไปดึงกระดาษทิชชูสำหรับเช็ดปากออกมาหลายแผ่น ใช้มือบังริมฝีปากเอาไว้แล้วจึงคายเนื้อปลาแซลมอนที่ใครต่อใครชอบหนักชอบหนาออก ก่อนจะรีบยกน้ำขึ้นดื่มอึก ๆ

   ทำไมพวกมนุษย์ชอบกินอะไรแบบนี้วะ!!

   “ขนาดนั้นเลยเหรอ...” ตัวหอมพึมพำถาม

   “น้องจริงใจโอเคไหมคะ?” ผมมองตาคนถามแวบหนึ่งก่อนจะหลับตาลง ประสานมือทั้งสองข้างแล้วเท้าศอกกับโต๊ะ จากนั้นจึงก้มหน้าลงซบมือที่ประสานกันเอาไว้

   ปวดหัวเลย

   ตอนที่กินครั้งแรกและครั้งล่าสุดนั่นยังไม่ขนาดนี้ แต่ว่าคราวนี้มันสาหัสมากจริง ๆ เข้าใจเลยว่าทำไมพี่ฟ้าถึงโกรธน้าเจ้าตอนแกล้งเอาปลาดิบยัดปาก รุนแรงกับใจจริง ๆ แย่ แย่โคตร ๆ

   “ลองอีกสักชิ้นไหม?”

   “ก็แย่ละ” ตัวหอมหัวเราะหลังจากที่แหย่ผมได้ “พวกคุณกินเข้าไปได้ยังไง?”

   “อร่อย!” ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน แต่ผมจริงใจหน้าแหยงไปแล้ว ขอปฏิญาณตนไว้ตรงนี้เลย ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะจะกินปลาดิบ ฉิบหายเถอะ

   เมื่อกินอาหารกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาจัดการค่าเสียหาย ที่บอกว่าจะให้ตัวหอมเลี้ยงคือผมตั้งใจแบบนั้นจริง ๆ แต่เมื่อเห็นราคาโดยรวมที่ค่อนข้างสูงแล้วก็เปลี่ยนความคิด ผมไม่สบายใจถ้าหากจะให้อีกคนจ่ายให้แม้ตัวหอมจะไม่ว่าอะไรก็ตาม มันไม่ใช่สไตล์ผมนี่หว่า แน่นอนว่าผมงอแงจนตัวหอมยอมให้ออกส่วนของตัวเอง แล้วบอกว่าครั้งหน้าค่อยเลี้ยง ร่างบอบบางได้แต่มองด้วยหางตาและพึมพำ ไอ้เด็กเวร เสียงเบา ผมยักคิ้วใส่เพราะได้ยิน เขาเองก็มองค้อน คงอยากด่าผม แต่ติดที่ว่าเพื่อนเขาชอบผมเลยด่าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนโดนด่าจะเป็นเขาเอง

   “น้องจริงใจจะไปไหนต่อหรือเปล่าคะ?”

   “กลับบ้านครับ”

   “ไปเดินกับพวกพี่ไหม?”

   ผมสั่นหัว “ไม่ล่ะครับ ผมอยากกลับบ้าน”

   “มึงอย่าไปชวนดิ กูไม่ให้ไปด้วย”

   “ใครให้มึงพูด!”

   “อีห่า เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อนเหรอ!”

   “เออ!”

   ผมมองมักเกิ้ลทั้งสองทะเลาะกันด้วยสายตาว่างเปล่า ยกมือขึ้นปิดปากเมื่อกำลังหาว ง่วงว่ะ

   “ผมขอตัวนะครับ” บอกแค่นั้นก่อนจะเดินแยกออกมา พี่พีทดูเสียดายนิดหน่อย ส่วนตัวหอมแทบจะปูพรมแดงให้เดิน อยากให้ผมไปไกล ๆ เหรอ ผมไม่ให้คุณสมหวังหรอก


   เมื่อมาถึงบ้านหลังจากที่อาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้ว ผมก็มาทิ้งตอนนอนหงายบนเตียงโดยห้อยขาเอาไว้ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดเล่น ก่อนเข้าไปที่โปรไฟล์ของใครบางคนที่ตั้งแต่รู้จักเขาผมก็กลายเป็นคนติดโทรศัพท์ แตะไปดูรูปภาพที่ถูกโพสต์ล่าสุด เป็นรูปที่คนโพสต์กำลังค้ำคางและทำหน้าเบื่อสถานที่คงจะเป็นที่บ้านของเขา ผมก็ไม่รู้ ผมเดา มันก็ไม่มีอะไรจึงเลือกที่จะข้ามไป

   รูปต่อมาคือรูปเขากับเพื่อนที่ถ่ายรูปกันในร้านอาหาร คนในรูปไม่ได้ถ่ายเอง เพราะหนึ่งในนั้นเป็นคนอ้อนวอนให้ผมถ่ายให้ แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวหอม พี่พีทนั่นแหละ และเลื่อนลงมาที่รูปที่สาม รูปนี้คือรูปอาหารธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดานั่นคือที่มุมบนของภาพนั้นดันติดผมมาด้วย แม้จะเห็นแค่ส่วนแขนก็เถอะ ผมกดยิ้มมุมปาก เลื่อนลงมาอ่านคอมเมนต์เพราะมันไม่มีคำบรรยาย

   phiitplease bitch!
   rapinthana แขนใครวะ!
   real_khram เดี๋ยวนี้แดกเด็กเหรอครับ
   real_khleun มึงนอกใจกูเหรอเมีย

   เดี๋ยว... คนสุดท้ายนี่มันเป็นใคร ผมขมวดคิ้วเป็นปม กดเข้าไปดูโปรไฟล์ของคนที่ชื่อคลื่น ปรากฏว่าในนั้นมีรูปคู่กับตัวหอมเยอะแยะเลยครับ เป็นอะไรกันแน่วะ เพื่อนไหม เพื่อนเหอะ ตัวหอมเพิ่งเลิกกับแฟนไม่ใช่ไง แล้วแฟนเขาไม่ใช่คนนี้ โอเคครับ สรุปเขาคือเพื่อนกัน เมื่อคิดแบบนั้นผมก็คลายความกังวล ยกยิ้มกับตัวเองนิดหน่อย ส่องเขาจนพอใจแล้วก็โยนโทรศัพท์ไปไว้ข้าง ๆ

   นึก ๆ ดูแล้วการที่ผมไม่ให้เขาเลี้ยงข้าววันนี้มันเหมือนหาเรื่องไปเจอเขาอีกเลยว่ะ แต่ความจริงตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะครับ แค่คิดว่ามันแพงไปเลยขอจ่ายเอง พอมาอยู่กับตัวเองแบบนี้แล้วก็เออ ไม่คิดนึกว่าการเป็นคนมีจิตสำนึกของผมจะนำพามาถึงข้ออ้างการไปหาตัวหอมในครั้งต่อไป หึหึ







------------------------------
#จักรภัค
จริงใจนี่เด๋อจริง ๆ เฮ้อออ /ส่ายหน้า แต่หล่อ ให้อภัย5555555555
อาจมีคำผิดอยู่นะคะ เดี๋ยวมาแก้ทีหลัง
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่าน ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
บั๊บบัย ♥

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
จริงใจเด๋อออจริงๆ555555555555 รอตอนหน้านะคะสู้ๆค่า :L2: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เชื่อพี่ฟ้าแรงจริงๆ :hao3:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9

ค่อยเป็นค่อยไปนะลูก  :)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 :mew6:เด็กนี่มันร้าย อิอิ มึความต้องการวอแวตัวหอมสูงมาก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จริงใจ เด๋อจริงๆ 555
ชอบจริงใจ ก็แย่ล่ะ

รอๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
จริงใจมีความมั่นสูงมากๆ แค่คิดว่าระหว่างเพื่อนกะแฟนคืออะไร ดับตอบได้ทันทีว่าเพื่อนเฉยเลย ถามตัวหอมยังเหอะ ชิ

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เมื่อไหน่จริงใจจะรุกตัวหอมคะ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เด๋อจริงๆเลยจริงใจ

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบประโยค "อยากให้ผมไปไกล ๆ เหรอ ผมไม่ให้คุณสมหวังหรอก" อ่านแล้วเขิน

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 7
ผมกับสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ






   เช้าวันถัดมาผมตื่นไปโรงเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือวันนี้น้องสาวขอติดรถไปด้วย ทั้งที่จ๋าจ้าจะไปโรงเรียนพร้อมพ่อกับแม่หรือไม่ก็จะมีคนรถไปส่งต่างหาก ไม่บ่อยนักหรอกที่จะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปกับผมแบบนี้

   “แน่ใจว่าจะไปกับพี่?” ผมถามน้องเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง เจ้าเด็กกะโปโลพยักหน้ารับเร็ว ๆ ไม่มีลังเล แถมยังสวมแจ็กเก็ตคลุมมาแล้วเรียบร้อย

   “แน่ใจค่ะ!”

   “อย่ามากรี๊ดก็แล้วกัน ไปเอาหมวกกันน็อกมา” จ๋าจ้ายิ้มร่า วิ่งไปเปิดตู้เก็บหมวกกันน็อกแล้วคว้ามาหนึ่งใบ

   “ขับระวังนะจริงใจ”

   “ครับ ยาย” รับคำคุณยายแล้วหันมามองเด็กสาวข้าง ๆ บ้าง จ๋าจ้ายกหมวกสวมใส่ศีรษะ ผมก็ยื่นมือไปช่วยใส่ให้เพราะชักจะรำคาญกับความเงอะงะชักช้าไม่ทันการของน้องสาว

   “โอเคยัง?” ถามพลางขยับหมวก น้องหัวโยกหัวคลอนตามไปด้วย

   “หนักจังเลยพี่จริงใจ” เสียงอู้อี้ดังมา ผมเลื่อนกระจกให้เปิดขึ้นก็เห็นสายตาวูบไหว

   “กลัวเหรอ? นั่งรถยนต์ไปไหม?”

   น้องพยักหน้าและสั่นหัว “กลัวนิดหน่อย แต่เค้าจะไปกับพี่”

   “ดื้อ!” เขกหัวไปหนึ่งทีทั้งที่ใส่หมวกอยู่นั่นแหละ จ๋าจ้ายิ้มเผล่ กระชับกระเป๋านักเรียนให้มั่นแล้วเดินไปยืนข้างรถของผม “ไปก่อนนะครับยาย”

   “จ้า ๆ ขับรถดี ๆ นะลูก ระวังด้วย อย่าขับเร็วล่ะ”

   “ครับผม”

   “ถ้าขับเร็วเดี๋ยวหนูฟ้องคุณยายเองค่ะ” จ๋าจ้าวิ่งมากอดคุณยาย ผมชี้หน้าคาดโทษน้อง หอมแก้มคนแก่หนึ่งที่แล้วคว้าหมวกกันน็อกสีดำของตัวเองที่วางอยู่บนถังน้ำมันมาสวม และจากนั้นจึงสวมถุงมือตาม เมื่อจัดการเรียบร้อยก็ตวัดขาขึ้นครับสปอร์ตบิ๊กไบค์สีเทาแมต

   “หนูไปเรียนก่อนนะคะคุณยาย”

   “ตั้งใจเรียนนะเด็ก ๆ”

   จ๋าจ้าปีนขึ้นมานั่งซ้อนท้าย แขนเล็กสวมกอดเอวของผมไว้ หันไปมองเล็กน้อยก่อนจะบิดคันเร่งแล้วขับออกไป เข็มชี้วัดเพิ่มระดับขึ้นตามการเร่งความเร็ว ปกติแล้วผมขับรถค่อนข้างเร็ว และการมีจ๋าจ้ามาด้วยไม่ได้ทำให้ผมลดความเร็วลงหรอกครับ ปกตินั่นแหละ เผลอ ๆ เร็วกว่าเดิมด้วยซ้ำ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงเราก็เดินทางมาถึงโรงเรียน ผมเลือกที่จะเข้าประตูด้านข้างมากกว่าด้านหน้า เพราะส่วนใหญ่ด้านหน้าเหมือนจะสำหรับนักเรียนที่มีรถมาส่งหน้าโรงเรียนแล้วเดินเข้าข้างในอีกที แต่คนที่เอารถมาเองก็เข้าอีกประตูกันทั้งนั้น

   บิดกุญแจดับเครื่องเมื่อได้ที่จอดแล้ว ถอดถุงมือหนังที่สวมอยู่ออกก่อนจะเลื่อนมือมาปลดสายล็อกแล้วจึงถอดหมวกกันน็อก แทรกก้านนิ้วเข้าไปในกลุ่มผม ขยี้เบา ๆ ก่อนเสยขึ้นไปด้านหลัง หันไปมองเด็กที่ตามมาด้วย ผมกดมุมปาก จ๋าจ๋ายังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง ลงไปยืนที่พื้น ยื่นมือไปปลดสายล็อก ถอดหมวกกันน็อกให้น้องด้วย จ๋าจ้าหน้าซีดเผือด หันมามองผมช้า ๆ

   อยากจะหัวเราะ

   “ไง?”

   “เค้าจะอ้วก”

   “ก็แย่ละ” ว่าพลางลูบผมยาวสลวยให้เข้าที่ มันชี้ฟูเพาะเสียดสีกับหมวก

   “อุ้มเค้าลงหน่อย” น้องกางแขนออกพร้อมกับยกขาข้างหนึ่งมาทางเดียวกัน กลายเป็นนั่งไพล่อยู่บนเบาะ ผมส่ายหน้าเบา ๆ สอดแขนข้างหนึ่งเข้าใต้วงแขนและยกตัวน้องสาวคนเล็กขึ้น จ๋าจ้าเองก็โอบคอผมเอาไว้ พอวางลงบนพื้น ก็เซไปยืนพิงกับตัวรถ

   “ขนาดนั้นเลย?”

   “สนุกอ่ะ แต่น่ากลัว พี่ขับรถเร็วแบบนี้เหรอ?”

   พยักหน้าเป็นคำตอบ ก็ผมมันชอบความเร็วนี่หว่า

   “โคตรน่ากลัววววว เค้าตัวเกร็งไปหมดเลย”

   “หึหึ เชื่อ” จ๋าจ้าหน้ามุ่ยเมื่อโดนผมหัวเราะขำ เราคุยกันไปเรื่อย ๆ ระหว่างที่เดินออกจากลานจอดรถ แล้วผมก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าชุดที่น้องใส่คือชุดนักเรียนและเป็นกระโปรง

   ฉิบหายเหอะ แล้วใส่กระโปรงมานั่งคร่อมสปอร์ตไบค์เนี่ยนะ!

   “จ้า”

   “ขา?”

   “กระโปรง” พูดเสียงนิ่ง จ้องหน้าน้องดุ ๆ จ๋าจ้ากะพริบตาปริบ ๆ ประมวลคำพูดของผม

   “เค้าใส่กางเกง!!” ไม่พูดเปล่า ถกกระโปรงขึ้นด้วย ผมเขกหัวเด็กป่วนไปทีหนึ่ง คนแม่งก็มอง ไอ้สัด! มองหาพ่อมึงเหรอ! กวาดสายตามองพวกนักเรียนชายที่อยู่บริเวณ เพียงไม่นานพวกนั้นก็หลบสายตาพรึบ

   “เป็นผู้หญิงมาเปิดกระโปรงแบบนี้ได้ยังไง!”

   “เค้าลืม... ขอโทษค่ะ”

   “อย่าทำอีก”

   “ครับผม!” ทำเสียงทะเล้นรับคำ “ฮันแน่~ หวงเค้าล่ะสิ”

   “ก็แย่ละ” ผมปัดมือเล็กออกจากหน้า “สงสารคนอื่นต้องมาเห็นอะไรที่เป็นพิษกับสายตา”

   “โอ๊ยยยยยยยย! เค้าจะฟ้องคุณแม่! ฟ้องทุกคนเลย”

   “หึหึ ... เลิกเรียนจะกลับพร้อมพี่หรือเปล่า?”

   “ไม่เอาแล้ววววว เค้าไม่สู้”

   “อ่อน”

   “โหย พี่ขับเร็วขนาดนั้นอ่ะ”

   “จันทร์เจ้ายังไม่บ่นเลย”

   “พี่จันทร์เจ้ากลัวอะไรบ้างล่ะคะ” จ๋าจ้าหน้ามุ่ย ก็จริง ไอ้หมูกลัวอะไรบ้างวะ “แล้วหมวกนี่เอาไปเก็บไว้ไหนงะ?”

   “ไว้ในล็อกเกอร์ไง เลิกเรียนแล้วก็อย่าลืมเอากลับไปด้วย แล้วโทรไปบอกที่บ้านด้วยล่ะ เขาจะได้มารับ”

   “ทราบแล้วค่ะคุณชายจักรพรรดิ”

   “กวนตีนแล้วครับคุณจิรภิญญา”

   “คิคิ เค้าเจอเพื่อนแล้ว ไปก่อนนะคะ ชาติชายยยยยยยยยย~” จ๋าจ้าโบกมือบ๊ายบายแล้ววิ่งไปหาเพื่อนทั้งตะโกนเสียงดัง ไหนความเป็นกุลสตรีที่คุณย่ากับคุณย่าทวดพร่ำสอนวะ นี่มันม้าดีดกะโหลกชัด ๆ



   “เพื่อนร้ากกกกก~” เลื่อนหูฟังที่คอมาครอบหูก่อนที่ไอ้เนตรจะมาถึงตัว ตอนนี้เป็นช่วงเบรกสิบนาทีระหว่างรอเรียนวิชาต่อไป ผมกอดอกหลับตาลง เป็นการตัดปัญหาที่จะเสวนากับไอ้เชี่ยเนตร

   “คุยกับกูหน่อยสิวะ”

   “มีอะไร!” ไอ้เนตรสะดุ้งและผงะออกไปเมื่อผมเสียงดัง คนอื่นในห้องก็คล้ายจะให้ความสนใจ

   “ใจเย็นมายเฟรนด์ คืองี้ กูขอยืมพาวเวอร์แบงก์หน่อย ลืมเอามา”

   ผมด่าไอ้เนตรด้วยสายตา มันทำหน้าเจียมเนื้อเจียมตัวแต่ยังคงความกวนตีนเอาไว้ ล้วงเอาควานหาแบตเตอร์รี่สำรองแล้วโยนให้มัน ไอ้เนตรก็กลับมาระริกระรี้ทันที

   วันนี้ทั้งวัน อาจารย์หลายท่านเร่งสรุปบทเรียนและบอกแนวข้อสอบที่จะออกสำหรับปลายภาคนี้ให้นักเรียนทราบ แต่เอาเถอะ บอกไม่บอกก็มีค่าเท่ากัน ยังไงซะก็ไม่รู้จะเริ่มอ่านตรงไหนอยู่ดี และความเสี่ยงที่ตรงที่อ่านจะไม่ออกสอบนั้นสูงมาก ไม่รู้ครูกลัวนักเรียนจะได้คะแนนเยอะหรือยังไง

   “จริงใจได้หัวข้อรายงานชีวะเรื่องอะไรเหรอ?” ผมเงยหน้าขึ้นมองคนถามระหว่างที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋า ออมยืนบีบมือตัวเองอยู่ข้างโต๊ะผม สีหน้าแสดงออกถึงความกล้า ๆ กลัว ๆ

   “ส่งไปแล้ว จำไม่ได้อ่ะ มีอะไรเหรอครับ?”

   “เรา เราอยากรู้น่ะ เผื่อได้หัวข้อเดียวกันจะได้ดูเป็นแนว” ออมยิ้ม ผมพยักหน้าหน่อย ๆ รายงานชีวะนี้อาจารย์สั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและให้ส่งภายในอาทิตย์นี้ โดยแต่ละคนจะได้หัวข้อคละ ๆ กันไป มีซ้ำกันบ้างเพราะมันไม่เยอะ และผมก็ส่งไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

   “ฮันแน่~ หาข้ออ้างมาคุยกับเพื่อนเราก็บอก เด็กหน้าห้องอย่างออมเหรอจะหาแนว” ไอ้เนตรเสนอหน้าไปแซว ออมเบิกตาโตก่อนยิ้มเขิน แก้มขาวขึ้นสีแดงเรื่อ ผมลอบถอนหายใจ โบกหัวไอ้เนตรไปที สาระแนจริง ๆ

   “บะ บ้าเหรอเนตร”

   “ไม่ต้องกลัว ๆ ไอ้จริงใจมันไม่กัด”

   “เสือกจริงมึง ไปทำงานให้เสร็จไป” ไอ้เนตรจิ๊จ๊ะในคอ ส่วนออม เธอยิ้มเจื่อน ๆ ให้ก่อนขอตัวกลับไปที่โต๊ะ และจากนั้นผมก็เก็บของใส่กระเป๋าตัวเองต่อ ตอนนี้เลิกเรียนแล้วล่ะครับ ในห้องยังเหลือนักเรียนอยู่ราว ๆ สิบกว่าคน

   “กูกลับล่ะ” บอกไอ้เนตรพลางเปิดล็อกเกอร์คว้าแจ็กเก็ตมาสวมและเอาหมวกกันน็อกออกมา ไอ้เนตรทิ้งปากกาหันมาทำตาเหลือก พุ่งตัวเข้าใส่จนผมต้องผงะถอยหลัง

   “ไม่ได้!”

   “เหี้ยไรล่ะ”

   “วันนี้กูมีนัดกินติมกับมายด์โรงเรียนสตรีที่กูเพิ่งไปขอเบอร์เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่ะ มึงต้องไปกับกู!”

   “ก็แย่ละ”

   “ไม่แย่โว้ย มึงต้องไป ต้องไป!!!”

   “ที่ไหน?” ผมถาม ไอ้เนตรตอบชื่อสถานที่มา ผมแทบกลอกตาเป็นเลขแปดไทย ฉิบหายเหอะ นัดห่าที่ร้านไอศกรีมในห้างกลางเมืองแบบนั้น คนเยอะฉิบหายดิ ตอนเย็นแบบนี้ด้วย

   “นะมึงนะ ไปกับกูนะ กูเขิน”

   “เออ!!”



   หลังจากไอ้เนตรทำงานเสร็จมันก็รีบระริกระรี้ลากผมไปลานจอดรถ ถ้าโดนทิ้งผมจะไม่แปลกใจเลย มีอย่างที่ไหนไปเดตแล้วลากเพื่อนไปด้วย อีกอย่างตัวมันยังเป็นผู้ชายอีก มันน่าขายหน้าไหม ผมว่าผมคิดผิดแล้วล่ะที่มากับมัน

   “คนเยอะฉิบ” ผมบ่นพลางขยี้ผม ไอ้เนตรที่เพิ่งเก็บหมวกกันน็อกเสร็จเดินเข้ามาใกล้พร้อมหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เห็นแล้วโคตรน่ารำคาญเลย

   “ธรรมดาป่ะวะ บ่นเป็นคนแก่ไปได้” มองมันด้วยหางตา ไอ้เนตรยิ้มแหย ยกมือไหว้ปลก ๆ “เข้าไปกันเหอะ ให้ผู้หญิงรอนานมันไม่ดี”

   ผมเบ้ปาก เดินตามมันไปเงียบ ๆ เบื่อแล้วว่ะ เมื่อวานก็เพิ่งมา วันนี้ยังต้องมาอีก ถ้าเจอตัวหอมก็คงดี...

   อืม... จะว่าไปแผนการเจอกันอีกครั้งผมจะอ้างอะไรดีนะ



   “สวัสดีคร้าบ~ มากันนานหรือยัง ขอโทษที่มาสายนะครับ” ผมแอบกลอกตาเมื่อไอ้เชี่ยเนตรเอ่ยทักทายเด็กผู้หญิงโรงเรียนสตรีทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงที่บอกตรง ๆ เลยว่าเลี่ยน!

   โคตรสยอง

   “ไม่นานจ้า พวกเราก็เพิ่งมา” คนตรงกลางตอบกลับพร้อมยิ้มหวานไม่แพ้กัน ผมกดมุมปากและผงกหัวเล็กน้อยเป็นการทักเมื่อเธอเลื่อนสายตามาที่ผม

   “เนตรพาเพื่อนมาด้วยเหรอ?”

   “ครับ! มายด์ไม่พอใจเหรอ เดี๋ยวเราไล่มันกลับ”

   ไล่ดิ! ไล่เลย! ผมสวนกลับในใจภายในใบหน้าเรียบนิ่ง สามสาวนี่ไม่เคยเห็นคนเหรอวะ มองอะไรกันขนาดนั้น บางทีผมก็อึดอัด

   “เปล่า ๆ ถามเฉย ๆ น่ะ มายด์ยังพาเพื่อนมาด้วยเลย” เธอว่าเสียงหวานก่อนจะแนะนำเพื่อนตัวเอง ไอ้เหี้ยเนตรตาโคตรเยิ้ม “คนนี้ชื่อน้ำหวานนะคะ และนี่ แตงกวาจ้ะ”

   “ดีจ้า~”

   “ยินดีที่ได้รู้จักครับ ไอ้นี่มันชื่อจริงใจ เพื่อนเราเอง”

   “ชื่อน่ารักจังเลย~” คนผมสั้นพูด แตงกวามั้ง ผมยิ้มหน่อย ๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร

   “เราสั่งอะไรมาทานกันเลยดีไหม?”

   “อือ ๆ มายด์สั่งเลยครับ” ไอ้เนตรยิ้มให้สาว ๆ ก่อนเอนตัวมากระซิบข้างหูผม “ไงมึง สวย น่ารักป่ะ”

   “ก็ดี”

   “จิ๊! ไม่คุยกับมึงละ”

   “จริงใจโสดหรือเปล่าคะ?” แตงกวาถาม ผมตัดเค้กเข้าปากก่อนจะตอบ

   “โสด....มั้ง”

   “อ้าว ทำไมมั้งล่า~”

   “เดี๋ยวก็ไม่โสดแล้ว” ผมพูดออกไป และในตอนนี้ก็มีหน้าของตัวหอมลอยอยู่เต็มไปหมด

   ฉิบหายเถอะ ทำไมผมถึงได้เพ้อเจ้อขนาดนี้วะ

   ไอ้เนตรเบิกตากว้างพร้อมยื่นมือมาเขย่าคอผม “มึงงงง มึงไปชอบใครมาทำไมกูไม่รู้เรื่อง!!!!”

   “สาระแน” ไอ้หมาเนตรอ้าปากพะงาบ ๆ ส่วนสามสาวก็ดูจะช็อกไปเหมือนกันกับคำพูดของผม

   “โห พูดกันแรงจังเลย”

   “มายด์อย่าไปฟังครับ ไม่ดี ๆ”

   “ถ้าจริงใจไม่โสดแล้วเราก็อกหักดิ” ผมเลิกคิ้ว แตงกวาลากกลับเข้าประเด็นเดิม เหลือบมองหน้ากันกับไอ้เนตร แค่สบตาก็เข้าใจกันละ

   “เกี่ยวกับผมด้วยเหรอ?”

   “แตงกวาชอบจริงใจไง พอรู้ว่ายัยมายด์จะมาเดตกับเนตร แล้วเนตรพาจริงใจมาด้วย แตงกวาก็ดีใจใหญ่เลย”

   “บ้า น้ำหวานพูดอะไรน่ะ”

   “เอ๊ะ! แต่จริงพูดว่าเดี๋ยวก็ไม่โสด แสดงว่าตอนนี้โสดน่ะสิ แตงกวาแกจีบจริงใจเลยสิ!”

   “ก็แย่ละ” ผมพูดกับตัวเอง แต่ได้ยินกันทั้งโต๊ะ ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม หันมองไอ้เนตร มันรีบจับไหล่ผมไว้ คงกลัวผมจะลุกออกไป ผมก็จะไปจริง ๆ นั่นแหละ เริ่มอยู่ยากละ การที่ต้องมาปั้นหน้าให้ใครผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ หากอยู่ตรงนั้นแล้วอึดอัดผมจะเดินหนีทันที ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นใคร นอกเสียจากว่าคนนั้นต้องมีความสำคัญกับผม ดูเหมือนขวานผ่าซาก ไม่มีมารยาท ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ อือ ผมก็เป็นแบบนั้นแหละ

   เอ๋า! ก็ไม่ชอบ อึดอัด จะอยู่ทรมานตัวเองทำไมวะ!

   ลืมไป บางทีก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และคนที่คุยด้วยนั้นเป็นใคร...

   ใช้เวลาอยู่ในร้านเกือบครึ่งชั่วโมงก็ได้ฤกษ์ไปจากตรงนั้นสักที สาว ๆ ชวนไปดูหนัง ผมปฏิเสธ ไอ้เนตรก็ดูลำบากใจที่ต้องปฏิเสธคู่เดตของมัน ถ้าผมไม่ไปด้วย จะให้มันไปกับผู้หญิงทั้งสามคนมันก็แปลก ๆ เนตรจึงจำใจตอบไปแบบนั้นผมไม่สงสารหรอกครับ เรื่องของมัน

   “เราขอไอดีจริงใจได้ไหม?” แตงกวาเอ่ยขึ้นพลางช้อนตามอง มองหาตัวช่วย ไอ้เชี่ยเนตรยืนคุยกับมายด์อยู่ห่างจากที่ผมอยู่ไปนิดหน่อย แต่มันมัวแต่คุยกับสาวไม่สนใจผมเลยสักนิด ตรงนี้ก็มีสายตาอ้อนวอนจากแตงกวา และน้ำหวานที่คอยยุยง กดดัน

   ทำงานเป็นทีมกันจริง ๆ

   “ผมไม่ค่อยเล่น”

   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราชวนคุย”

   ผมเงียบดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม “ไม่สะดวกอ่ะ ใกล้สอบแล้วด้วย ขอโทษนะ”

   “ใจร้ายจัง”

   “อือ” ผมครางรับในคอ เดินเข้าไปหาไอ้เนตร “กูไปละนะ”

   “อ้าวเฮ้ย! จะกลับแล้วเหรอ”

   “งั้นมั้ง เบื่อละ”

   “แล้ว...” ไอ้เนตรเหลือบมองไปที่แตงกวา ผมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มเป็นคำตอบและกลอกตาขึ้นฟ้านิดหน่อย มันหัวเราะหน่อย ๆ ไม่ได้รั้งอะไร “เออ กลับก็กลับ”

   “อืม ไปอ่านหนังสือด้วยมึงน่ะ”

   “พูดมาทำไมวะ ไม่มีมารยาท”

   ผมเบ้ปาก “ไปละ” บอกไอ้เนตร กดยิ้มมุมปากเล็กน้อยเป็นการบอกลากับสามสาว แล้วหมุนตัวออกมา

   ผมเดินไปเรื่อย ๆ เบื่อที่จะอยู่ตรงนั้น แต่รู้สึกยังไม่อยากกลับบ้าน จริง ๆ แตงกวาก็สวยนะครับ กึ่ง ๆ กับคำว่าน่ารัก แต่ผมไม่ได้ชอบไง อีกอย่างผมไม่ชอบคนตื๊อด้วยไงครับ ถ้าเข้ามาคุยเป็นเพื่อนปกติธรรมดาผมก็คุยด้วยได้ แต่นี่ก็นะ... รุกแรงเกิน กลัว



   “เลิกตามสักทีจะได้ไหม!” ผมหันมองต้นเสียงอัตโนมัติในช่วงที่เพลงจบระหว่างรอขึ้นเพลงใหม่ ปลายนิ้วกดหยุดเพลงก่อนปลดหูฟังมาคล้องไว้ที่คอ สายตามองตรงไปยังบุคคลที่คล้ายจะมีปัญหา ขายาวก้าวเข้าไปใกล้ก่อนจะหยุด กอดอกยืนมอง

   “น้องภัคอย่าไล่พี่เก่งสิครับ พี่เก่งเสียใจ”

   ตัวหอมหัวเสีย เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด หมุนตัวเดินหนีและหันมาเจอผมพอดี ผมกดยิ้ม ยกมือทั้งข้างหนึ่ง เขากลอกตาขึ้นฟ้าเดินกระแทกเท้าเข้ามาหาผม แขนเล็กส่งมาเกาะแขนของผมเอาไว้พร้อมกับเบียดกายเข้ามาชิด ส่วนตัวผมก็ขยับยืนตรงๆ

   อืม ได้เล่นละครอีกแล้วว่ะ

   “เด็กนี่มันเป็นใครครับ!” ผู้ชายคนนั้นชี้หน้าผมพร้อมตะโกนถามตัวหอมเสียงดังจนคนที่เดินผ่านหันมามอง

   “ยุ่ง!” ตัวหอมตะคอกกลับ ผู้ชายคนนั้นก็ก้มหน้าหงอ

   เอางั้นเหรอวะ?

   “มีเรื่องอะไรครับ?” ผมถามคนที่เกาะแขนอยู่

   “พี่เก่งมาจีบน้องภัคครับ” เหลือบมองคนพูด เขายิ้มกว้างเหมือนภูมิใจ เดี๋ยว ๆ ขอเวลางงแป๊บหนึ่งนะ ปกติแล้วคือต้องเหวี่ยงป่ะวะ ไม่พอใจเหมือนแฟนเก่าของตัวหอมที่ผมเคยเจอ แล้วทำไมพี่คนนี้ถึงได้ยิ้มซื่อให้ผมแบบนั้น “น้องเป็นอะไรกับน้องภัคของพี่เก่งครับ น้องชายเหรอ?”

   “ไม่ใช่น้องชายครับ” ผมตอบ

   “อ้าว แล้วเป็นอะไรกันอ่าครับ”

   ผมยิ้มปลดแขนตัวเองออกจากมือเล็ก ยกขึ้นโอบไหล่แคบและรั้งคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ขึ้นก่อนจะตอบ

   “แฟนครับ”

   คนชื่อพี่เก่งเบิกตากว้าง มองผมสลับกับตัวหอม และตัวหอมเองก็ดูจะตกใจกับคำตอบของผมไม่น้อย

   “มะ ไม่จริง น้องภัคเพิ่งเลิกกับภีมไม่ใช่เหรอครับ ทำไมมีแฟนใหม่เร็วแบบนี้ ทำไมไม่ให้พี่เก่งจีบเลย รู้ไหมว่าพี่เก่งรอมานานแค่ไหน คนสวยใจร้าย! ฮึก พี่เก่งเสียใจ” พี่เก่งเบะปาก น้ำตาล่วงเผาะอาบแก้มขณะที่พูด เขารนรานควักโทรศัพท์มือถือออกมากด “คุณแม่คร้าบ เก่งอกหัก ฮืออออออออ”

   “รักกันดี ๆ นะครับ พี่เก่งจะมาจีบตอนน้องภัคเลิกกับแฟน ฮึก คุณแม่~” เขาพูดเคล้าสะอื้น ใช้หลังมือปาดน้ำตาเหมือนเด็ก ๆ เมื่อพูดจบก็หันหลังวิ่งออกไป ปล่อยผมกับตัวหอมมองตามตาปริบ ๆ

   ไอ้เหี้ย!!! โคตรงง

   นี่มันเรื่องบ้าบออะไรวะ

   คนแบบนี้ก็มีด้วยเหรอ!!

   “นาย...”

   “...ครับ”

   “เขาร้องไห้”

   “อือ... เขาสติดีหรือเปล่าคุณ?”

   “มะ ไม่รู้” ผมก้มมอง เขาแหงนหน้าขึ้นพอดี เราสบตากัน เหมือนเวลาหยุดหมุนไปในความรู้สึก ผมไม่ได้ยิ้ม เขาไม่ได้ยิ้ม แต่ตอนนี้หัวใจผมมันกำลังเต้นผิดจังหวะกับนัยน์ตาใส ๆ ของเขาที่ไม่ค่อยได้เห็นหนัก “ใจเต้นแรงจัง เขินฉันเหรอ?”

   จบเลย อารมณ์โรแมนติกหายหมด

   ผมกลอกตากับยิ้มเหนือกว่าของเขา ไม่รู้เหรอวะว่ามันโคตรทุลักทุเล

   “เปล่า” ผมว่า ยกแขนออกจากการโอบไหล่ก่อนที่ตัวหอมจะออกปาก “คุณมาทำอะไร?”

   “เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่ดิ”

   “อือ ไม่อยากยุ่งเรื่องของผู้ใหญ่หรอกครับ” พูดออกไป เว้นจังหวะเล็กน้อย โน้มหน้าลงต่ำ กระซิบเสียงนุ่มอย่างที่ปกติไม่เคยเป็น “ผมแค่อยากยุ่งเรื่องของคุณ”

   “อะ ไอ้เด็กเวร!”

   ผมยิ้มรับคำด่า ไม่โกรธหรอกครับ ก็คนด่าแก้มแดงเสียขนาดนั้น หึหึ

   “หน้าแดงจัง เขินผมเหรอ?”

   ตัวหอมถลึงตาใส่ก่อนทุบไหล่ผมแล้วสะบัดหน้าหนี ปากอิ่มขยับขมุบขมิบบ่นคนเดียว

   “เชี่ย!! อีภัค ทิ้งกู! ว้าย น้องจริงใจ” ยิ้มให้คนมาใหม่ พี่พีทยิ้มหวานตอบกลับมา แถมด้วยการมองผมตาเยิ้ม แอบชำเลืองมองตัวหอม เขาเบะปากไม่สบอารมณ์

   “สวัสดีครับ”

   “สวัสดีจ้า ท่าทางจะดวงสมพงศ์กันนะคะ เมื่อวานก็เจอ วันนี้ก็เจอ”

   “ผมกับเพื่อนพี่เหรอครับ?”

   “กรี๊ด! หยาบคาย! กับพี่สิ!” พี่พีทมองค้อนไม่จริงจัง

   “พี่มาทำอะไรเหรอครับ?” ผมเอ่ยพลางก้าวเดินไปข้าง ๆ ตามพี่พีท ตัวหอมอยู่อีกฝั่งของเพื่อนเขา ถามเจ้าตัวไม่ได้ก็ถามเพื่อนสนิทเขานั่นแหละ

   “พี่เบื่อ ๆ เลยมาเดินเล่น”

   “อ๋อ...”

   “พาอีภัคมาเอานาฬิกาด้วย จริง ๆ นางมาเอาตั้งแต่เมื่อวานแต่ทางร้านเขาลืมหยิบของมา”

   “พูดมากนะมึง” ตัวหอมว่าเพื่อน

   “แล้วน้องจริงใจมาทำอะไรจ๊ะ?”

   “เพื่อนผมมันมาเดต เลยโดยลากมาด้วย”

   “น้องจริงใจก็เดตด้วยหรือเปล่า”

   “เปล่าครับ”

   พี่พีทหรี่ตามองคล้ายไม่เชื่อ ผมระบายยิ้มหน่อย ๆ พี่เขาเบิกตาโตก่อนเสมองไปทางอื่น

   อะไรวะ ขี้เขินกันทั้งคู่เลย

   “ตอแหล”

   “หึงเหรอครับ?” พูดพร้อมชะโงกหน้าไปใกล้ ตัวหอมผงะออก เหวี่ยงตาค้อนผมวงใหญ่พร้อมหน้าบูดบึ้ง

   “พูดอะไรไม่คิด ฉันจะหึงนายไปทำไม”

   “ผมหล่อไง”

   “ใจเย็นนะคะ ไม่ได้อยู่กันสองคนเนอะ” พี่พีทกลอกตาใส่ เขาคงรู้แหละว่าผมคิดยังไงกับเพื่อนเขา

   “มึงก็ไล่มันไปสิ!”

   “ไล่ให้โง่!” พี่เขาใช้นิ้วดันหน้าผากตัวหอม “ไปเอาของไป๊ กูรอข้างนอกกับน้อง”

   ตัวหอมจิปาก จิกตามองเพื่อนและมองผมอย่างไม่พอใจก่อนเดินเข้าไปในร้านนาฬิกา พี่พีทแหงนหน้าขึ้นส่งยิ้มให้ผม มือเล็กจับเข้าที่แขน ผมเกือบสะบัดออกแล้วดีที่ยั้งตัวเองไว้ทัน ไม่รู้สิ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแต่กลับรู้สึกสนิทใจกับพี่เขา แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม

   “น้องจริงใจคิดยังไงกับเพื่อนพี่?” รอยยิ้มเล็ก ๆ ของผมหายไปโดยอัตโนมัติเมื่อจู่ ๆ พี่พีทก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่มีแววล้อเล่นรวมทั้งสายตา

   “ชอบครับ”

   “จริงจังหรือแค่เอาเล่น ๆ เอาสนุก ถ้าคิดจะล้อเล่นก็เลิกเถอะนะ”

   ผมขมวดคิ้ว ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม “ผมไม่เคยทำอะไรเล่น ๆ ครับ”

   “หมายความว่าน้องจริงจังกับเพื่อนพี่?”

   “ประมาณนั้นมั้งครับ” ผมกดมุมปากเล็กน้อย “เพื่อนพี่ไม่ได้ชอบผมนี่นา”

   พี่พีทถอนหายใจ บ่นเพื่อนตัวเองอีกหน่อย “มันโง่”

   “ก็แย่ละ”

   “ถ้าน้องจริงใจชอบภัคจริง ๆ พี่ช่วยได้นะ”

   “หือ? ทำไมถึงจะช่วยผมล่ะครับ?”

   “ไม่รู้หรอกว่าทำไม แต่พี่รู้สึกว่าน้องจริงใจจะดูแลมันได้ คือพี่ไม่อยากเห็นมันเสียใจอีกแล้ว”

   ผมเงียบ ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะตัวหอมเดินออกจากร้านมาพอดี ระบายยิ้มบาง ๆ ให้พี่พีท

   “คุยอะไรกันวะ?”

   “เสือก”

   “เชี่ยนี่” ตัวหอมสบถใส่เพื่อน “เมื่อไหร่นายจะกลับไปสักที”

   “เมื่อส่งคุณถึงบ้านมั้งครับ”

   “กวนตีน” ยิ้มมุมปาก ยิ่งเห็นตัวหอมทำหน้ารำคาญผมยิ่งชอบใจ “จะไปได้ยัง เดี๋ยวไอ้แฝดกับชะนีบ่นอีก”

   “จิ๊ ขัดความสุขจริงมึงเนี่ย!”

   “น่ารำคาญจริง ๆ” ตัวหอมว่าแล้วเดินออกไปก่อน พี่พีทเบ้ปาก เขาส่งยิ้มแหย ๆ มาให้ เมื่อพี่เขาจะตามเพื่อไปผมจึงเรียกเอาไว้ก่อน

   “เดี๋ยวครับ! ผมขอเบอร์พี่ได้ไหม?”

   “มาได้แล้วพีท!! มัวแต่อ่อยผู้ชายอยู่นั่น”

   “โว้ย!! เอามันไปทิ้งที! ... พี่ไปก่อนนะ”

   “ครับ” ผมตอบรับ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าหลังจากบันทึกตัวเลขสิบหลักลงไปในรายชื่อผู้ติดต่อใหม่

   จากนี้อะไรก็คงจะง่ายขึ้น หวังว่านะ...

   ผมไม่รู้ว่า อีกแล้ว ที่พี่พีทพูดถึงนั้นมันเกิดขึ้นมากี่ครั้งแล้ว แต่ผมอยากจะทำให้มันไม่เกิดขึ้นอีก... คงต้องรอดูกันต่อไป







----------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2016 22:20:54 โดย HEARTBREAKER »

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ๋อยยยยยย แพ้ทางตอนจริงใจพูดเพราะอะ

งืออออ อยากได้ ขอได้ไหมคนนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด