• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 312669 ครั้ง)

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
หวังว่าก่อนจะไม่เสียใจอีกตลอดไป มันต้องมีเรื่องให้เสียใจก่อนอ่ะดิ อยากน้อยก็เรื่องที่จริงใจไม่ยอมบอกพี่ลูกหมูก่อนแล้วให้พี่ลูกหมูรู้เรื่องเอาเอง

ออฟไลน์ mjpnta

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
จริงใจอยู่กับน้องสาวน่ารักมากกกกก

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จริงใจมีผู้ช่วยคนสำคัญแล้วว

สู้ต่อไป

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เมื่อไหร่เขาจะได้กันคะคุณ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 8
ผมกับการใช้หนี้







   และแล้วสัปดาห์แห่งการสอบก็เวียนมาถึง เป็นสัปดาห์ที่นักเรียนส่วนใหญ่เกลียดมากที่สุด ผมมาถึงโรงเรียนด้วยเวลาปกติ แม้ใครหลายคนอาจจะมาก่อนเพื่อที่จะพูดคุยเกี่ยวกับวิชาที่จะสอบในเช้าวันนี้ ผมจะยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวก็แล้วกัน ไอ้เนตร ไอ้วาฬ เป็นต้น... พอพวกมันเห็นผมเดินเข้าไปในรัศมีสายตาก็พากันเด้งตัวขึ้นมาเหมือนโดนไฟจี้ตูด เห็นความฉิบหายอยู่ลาง ๆ จะเมินก็ได้เพราะผมเป็นฝ่ายเข้าไปหาพวกมันก่อน แม้จะยังไม่ถึงก็เถอะ

   “จริงจายยยยยยยยยย”

   “เพื่อนร้ากกกกกกกก” ไอ้สองตัวนั้นแหกปาก ทำเอากลุ่มที่อ่านหนังสืออยู่ใกล้ ๆ มองกันตาขวาง

   “ข้าวฟ่างเรียกซ้อมหรือไง?” ผมถาม มองไปที่วาฬ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันเสนอหน้ามาหาผมทุกฤดูการสอบตั้งแต่รู้จักกัน สอบย่อยก็ไม่เว้น

   “ยมทูตเรียกจะถูกกว่าว่ะ” มันทำหน้าใกล้ตาย “มึ้งงงงงง ทวนให้พวกกูอีกรอบหน่อยสิวะ”

   “ใช่ ใช่!” เนตรพยักหน้าเสริม เข้าคู่กันดีนักเรื่องนี้ ทั้งปกติตีกันฉิบหาย พอไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวล่ะสามัคคีกันเชียว

   “กูก็ติวให้พวกมึงไปแล้วไง” สัปดาห์ที่แล้วรวมทั้งเสาร์อาทิตย์ ผมต้องเอาเวลาทั้งหมดที่มีทุ่มให้พวกมันอย่างจำใจ ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นผมต้องไปวอแวตัวหอมดิ โคตรเซ็ง

   “กูตื่นเต้นว่ะ ลืมไปหมดแล้ว มึ้งงงงงง” ไอ้เนตรเข้ามาเกาะแขน ผมปัดออกทันที “ถือว่าทวนตัวเองด้วยไงมึง”

   “กูทวนจนหลับตาทำได้แล้ว ไอ้สัด” พวกมันเบะปากร้องไห้ พนมมืออ้อนวอน ผมถอนหายใจ มองนาฬิกาบนข้อมือ เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง กะจะไปห้องชมรม แต่โดนพวกนี้ก่อกวนเสียก่อน เอาเถอะ ถือว่าตัดรำคาญ

   “กูไม่มีหนังสือ”

   “กูมี!!!” พวกมันพูดขึ้นพร้อมกัน พร้อมหยิบหนังสือวิชาที่ใช้สอบขึ้นมารวมทั้งสมุดบันทึกที่ถูกเขียนด้วยลายมือยึกยือเกี่ยวกับสรุปย่อ

   ช็อตโน้ตก็มีไม่พากันอ่านวะ!

   กริ๊งงงงงงงงงง~~~

   เสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น พร้อมกับเส้นชีวิตของไอ้เนตรกับไอ้วาฬที่สั้นลง...

   “คุณจักรพรรดิครับ!! เป่ากระหม่อมกูที”

   “ก็แย่ละ! ไปขึ้นตึกเลยพวกมึง”

   พวกเหี้ยนี่ พาผมโดดกิจกรรมตอนเช้าแล้วยังจะให้ทำอะไรพิลึกอีก

   “มึงไม่เข้าใจคนโง่อย่างกูเลย” ไอ้วาฬพ้อ มีไอ้เนตรพยักหน้าหงึกเป็นลูกคู่

   “มึงโง่เอง ไม่ใช่เรื่องของกู”

   “จำไว้ว่าคนหล่อมันใจร้าย! ฝ้ายจ๋าาาา ช่วยทวนให้วาฬหน่อยคร้าบบบ” ไอ้เหี้ยวาฬวิ่งเสนอหน้าเข้าไปหารองหัวหน้าห้องห้องผม ก่อนกระแหนะกระแหน ออเซาะ

   ก็ดี หมดเวรหมดกรรมของผมละ

   ครืด

   หยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา

   08:19 phiit : สู้ ๆ ค่ะน้องจริงใจ(ของพี่)
   08:20 J9 : (สติ๊กเกอร์หนึ่งตัวถ้วน)
   08:20 phiit : สอบเสร็จนังภัคจะเลี้ยงข้าว
   08:21 phiit : โอ๊ะ!! มันบอกสอบเสร็จไม่เลี้ยง
   08:21 phiit : ต้องได้ท็อปทุกวิชาถึงจะเลี้ยง
   08:21 J9 : Deal

   ผมตอบไปแค่นั้น ก่อนกดปิดเสียงแล้วเก็บใส่ในถุงซิปล็อก เขียนชื่อและเลขที่ แล้วจึงโยนลงกล่องที่อาจารย์คุมสอบเอามาไว้ ตัวหอมดูถูกผมเกินไปละ ผมได้ท็อปทุกวิชา ทุกครั้งที่สอบ แถมยังคิดอันดับต้น ๆ ของสายชั้น ได้เกียรติบัตรนักเรียนดีเด่นทุกปี เตรียมเลี้ยงข้าวผมได้เลย!

   “นั่งดี ๆ ครูจะแจกข้อสอบ”

   สิ้นเสียงอาจารย์ผู้คุมสอบ เสียงคุยกันเซ็งแซ่ก็เงียบลงโดยพร้อมเพรียง คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อหันไปเห็นออมมองมาพอดี เธอส่งยิ้มและชูกำปั้นขึ้นเล็กน้อย ผมพยักหน้าลงเบา ๆ แล้วเสมองไปทางอื่น

   หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์จึงเริ่มแจกข้อสอบ เขียนชื่ออะไรเสร็จก็เริ่มทำ ผมไม่กังวลอะไรมาก แม้มันค่อนข้างยาก แต่ก็เคยทำผ่านมาแล้วจึงไม่มีปัญหา เพียงไม่กี่นาทีผมก็ทำข้อสอบเสร็จ วางกระดาษคว่ำไว้บนโต๊ะ มองรอบห้อง แต่ละคนยังก้มหน้าก้มตามุ่งมั่นกับข้อสอบของตัวเอง ดูเหมือนว่าผมจะเสร็จก่อนเพื่อนเลยว่ะ เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง มองไอ้เนตร มันคิ้วขมวดนิดหน่อยสลับกับยิ้มมุมปาก คงทำได้แหละ ออกไปข้างนอกดีกว่า

   ครืด

   ผมโคตรเกลียดโมเมนต์นี้ เวลาเงียบ ๆ แล้วเสียงอะไรสักอย่างดังขึ้น คุณจะตกเป็นเป้าสายตาทันที เสียงเก้าอี้โง่ ๆ นี่ก็เหมือนกัน

   “เดาเหรอวะ?”

   “ก็แย่ละ” ผมว่า หลังจากโดนอาจารย์แซว ท่านเป็นอาจารย์ที่ผมเรียนด้วย มีอะไรก็เรียกแต่จักรพรรดิ เลยสนิทกันนิดหน่อย เล่นหัวได้ หมายถึงอาจารย์น่ะนะ ตบหัวผมบ่อยจนสมองแทบหลุด

   “วิชาครูอย่าชุ่ยนะเว้ย ออกห้องมาก่อนจะให้ติดศูนย์”

   “แย่ละ ผมเคยทำอะไรชุ่ย ๆ ทีไหน เสร็จเร็วนี่ทำได้เถอะครับ”

   “จะบอกว่าเก่งว่างั้น?”

   “ก็พอตัวครับ” ผมโยกตัวหลบกระดาษเอสี่โง่ ๆ ที่ถูกม้วนเป็นอาวุธสำหรับฟาดผมโดยเฉพาะ “วิชาอาจาย์ผมออกตั้งแต่ยี่สิบนาทีแรกเลยคอยดู”

   “ทำเสร็จก็นอนอยู่นั่นแหละ ไม่ต้องรีบออกมา”

   “แบบนี้ก็ได้เหรอ”

   ผมเดินแยกออกมานั่งอยู่คนเดียวที่ม้านั่งหน้าห้อง กะจะเอาโทรศัพท์มาเล่นแต่ก็ลืมไปว่ามันอยู่ที่อาจารย์คุมสอบ เลยต้องควงดินสอในมือแก้เซ็ง การสอบช่วงเช้าสำหรับผมผ่านไปด้วยดี มันไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย ที่ทำได้ก็อาศัยจากที่อ่านมาล้วน ๆ อีกอย่างคงต้องขอบคุณสมองของตัวเองด้วยแหละมั้ง ไอ้เนตรที่ว่าตัวเองกากยังยิ้มหน้าแป้นออกจากห้องสอบ



   “กินข้าวกัน” มันชวน ไม่พูดถึงเรื่องสอบที่ผ่านมาให้ช้ำใจ ผมพยักหน้ารับ เอาโทรศัพท์ออกมาดูหลังจากได้คืนแล้ว มีแจ้งเตือนอยู่นิดหน่อย จากคนรู้จักทั้งนั้น อาจเพราะผมไม่ได้เปิดใช้สาธารณะ จึงไม่มีคนอื่นส่งข้อความหรืออะไรมาให้ได้ “กินไรวะมึง?”

   “ไม่รู้” บอกไปแบบสิ้นคิด กวาดมองร้านอาหารในโรงอาหาร มันก็มีขายทุกอย่างนั่นแหละ แต่เข้าใจความไม่รู้จะกินอะไรไหมครับ?

   อือ นั่นแหละ

   “ไม่รู้มึงก็ไปจองโต๊ะก่อน”

   “ไม่ต้องจองก็ได้มั้ง”

   “มึงจะนั่งแดกที่พื้นเหรอ ไอ้ห่านี่” สะบัดมือไล่ไอ้เนตรไปซื้อข้าวแล้วหันหลังให้มัน กวาดตามองหาว่าที่ไหนมีโต๊ะว่างบ้าง

   ผมเดาะลิ้น เดินไปทางสิบเอ็ดนาฬิกา ไอ้วาฬกำลังโบกมือเรียก ในโต๊ะนั้นมีเพื่อนมันและไจ่ไจ๋กับไอ้ฟ่างอยู่ด้วย เสนอหน้ามาทำอะไรกันวะ

   “ไอ้เนตรล่ะ?”

   “ซื้อข้าว” หันกลับไปทางร้านค้า ไอ้เนตรกำลังมาพอดี ผมจึงไปซื้อมื้อเที่ยงของตัวเองบ้าง

   “ไง ทำข้อสอบได้ป่ะ?” เงยหน้าจากโทรศัพท์มองคนถาม พี่เจนิซยืนต่อแถวอยู่ข้างหลังผม มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

   “ระดับนี้”

   “เออ ลืมว่าเก่ง”

   ผมยักไหล่ “แล้วพี่ล่ะ?”

   “เบ ๆ”

   “ทำเป็นเล่นไป”

   “ไม่เล่นเถอะ พนันกับพี่ไต้ฝุ่นไว้ ถ้าได้ท็อปเขาจะพาไปเที่ยว”

   “โห พี่ไต้ฝุ่นเข้าใจมาหาเรื่องมาล่อว่ะ ความเป็นไปได้แทบไม่มี”

   ผลัวะ!

   พี่เจนิซชักสีหน้า มองผมตาขวางพร้อมกับซัดหมัดเข้าไปที่ต้นแขน คุยกันสักพักพอได้อาหารที่สั่งก็แยกกัน ผมกลับไปที่โต๊ะ ไอ้พวกนั้นกำลังโม้เรื่องสอบอยู่ ทานข้าวไปเรื่อย ๆ คุยบ้างเงียบบ้าง ก่อนขึ้นอาคารก็ถูกขอร้องให้ช่วยทวนอีก ช่วงบ่ายจะสอบแค่สองวิชา ไม่หนักหนาอะไร เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น จึงต้องแยกย้ายกัน





   ครืด ครืด ครืด

   ผงกศีรษะขึ้นจากหมอน คว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่สั่นครืด ๆ อยู่บนโต๊ะมาเปิดดู พบว่าเป็นข้อความของใครก็แทบจะปาทิ้ง ผมมองแค่ข้อความพรีวิวบนหน้าจอ ไม่ได้กดเข้าไปอ่าน

   10:32 นี่จันทร์เจ้าเอง : เจ้าเด็กปีศาจจจจจจจจจจจจ
   10:32 นี่จันทร์เจ้าเอง : ตื่นหรือยังงงงงงง
   10:32 นี่จันทร์เจ้าเอง : พี่คิดถึงงงงงงงงงงง

   โคตรตอแหล

   ผมเมินข้อความของจันทร์เจ้า โดยการลบแจ้งเตือนและเข้าไปเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ ทว่าเพียงไม่กี่นาทีถัดมา ตัวปัญหาก็ส่งข้อความมาก่อกวนอีกจนได้ คนจะหลับจะนอนเนี่ย ปิดเทอมทั้งทียังจะก่อกวนอยู่ได้! และความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้น เมื่อผมจะปัดมันทิ้งกลายเป็นว่ากดเข้าไปดู

   ไอ้เหี้ย!!!! นิ้วลั่น!!!!

   แกรก ปัง!

   “จริงใจ!!!!”

   นั่นไง ไม่ถึงนาทีโผล่มาทั้งตัวเลย ผมโยนโทรศัพท์ทิ้ง ซุกหน้ากับหมอนใบโตแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัว แต่คนจะกวนยังไงก็ต้องทำทุกวิถีทางให้ประสบความสำเร็จ ผมกำผ้าปูที่นอนเมื่อรู้ถึงน้ำหนักของวัตถุบางอย่างที่กลางหลัง วัตถุนั้นมีน้ำหนักห้าสิบปลาย ๆ

   มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า จันทิมันต์

   วงศ์ อัศวโยธินทร์

   ชื่ออื่น จันทร์เจ้า เจเจ ลูกหมู หมูหัน อ้วน ไอ้อ้วน หมูอ้วน ไอ้หมูอ้วน ไอ้หมูผี

   “อือ...”

   “ไม่ต้องงอแงเลย ตื่นแล้วก็ลุกสิ พี่ส่งข้อความมาทำไมไม่ตอบ หาาาาาา!?” ไอ้หมูอ้วนโน้มตัวมาตะโกนใส่หู ฉิบหาย ปิดหูไม่ทันด้วย

   “ไม่อยากตอบบบบบบบบ”

   “ไอ้เด็กใจร้าย!” คนพูดเปลี่ยนจากนั่งทับเป็นนอนทับบนตัวผม

   “จะแบนแล้ว”

   “เว่อร์! พี่ไม่หนักขนาดนั้นสักหน่อย” ว่าแล้วก็กลิ้งมานอนข้าง ๆ เออ ค่อยยังชั่วหน่อย ผมซบหน้ากับหมอน หันไปด้านที่จันทร์เจ้านอนอยู่ พี่ชายนอนตะแคงเท้าศอกค้ำศีรษะ นิ้วเล็กยื่นมาจิ้มแก้มจึก ๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นลูบหัว สัมผัสเบา ๆ นั้นทำเอาผมเคลิ้มจะหลับให้ได้ แต่ถูกฉุดจากฝันโดยการตบแก้มเสียก่อน

   “จริงใจไปส่งพี่หน่อย”

   “ก็แย่ละ”

   “นะนะ ไปส่งพี่หน่อย พี่จะไปหาพี่มีน”

   “รถก็มีป่ะ ขับไปเองดิ” พลิกตัวนอนคว่ำ เอื้อมจะเอาโทรศัพท์มือถือมาเล่น มีแจ้งเตือนที่จอขึ้นมาจากการที่ผมเปิดรับความเคลื่อนไหวของใครสักคน แค่เห็นชื่อมุมปากก็ยกขึ้นโดยอัตโนมัติ จากที่ว่าจะเข้าไปดูสักหน่อยก็ต้องรีบคว่ำจอลงและไม่ลืมลบแบรนด์เนอร์ทิ้งด้วย เหล่มองคนที่ชะโงกหน้าเข้ามาดูอย่างโจ่งแจ้ง ตากลมวาววับเต็มเปี่ยมไปด้วยความอยากรู้

   “อะไรอ่ะ!”

   “สาระแน” ดันหน้าผากคนอยากรู้ไปหนึ่งที “ออกไปจากห้องเค้า ไปกับไอ้ฟักทองนั่นแหละ”

   “ไม่อาววววววว จะให้จริงใจไปส่ง พี่จะไปมหา’ลัยกับทูเอ็ม”

   “ตอนกลับก็ขับกลับไง”

   “ตอนกลับทิวาจะมาส่ง...” ผมกลอกตาในขณะที่จันทร์เจ้าทำตาแป๋ว “งานต้องเลิกดึกมากแน่เลย จริงใจจะให้พี่ขับรถกลับคนเดียวเหรอ? ตอนกลางคืนต้องมืดมากเลยนะ แถมอันตรายด้วย อีกอย่างบ้านเราก็ไกลจากมหา’ลัยของพี่ด้วย ใจคอจริงใจจะไม่ห่วงพี่เลยเหรอ? พี่น่าสงสารนะ ไม่สงสารพี่เหรอ...?”

   “ใครบอกจะไปนอนกับพี่ฟ้าน้าเจ้านะ?” ผมถามกลับเรียบ ๆ หลังอ้าปากหาวขณะฟังวรรณกรรมของพี่

   “จริงใจน่ะ!!!!”

   ยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ ก็บอกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าหลังจบงานจะไปนอนบ้านพี่ฟ้าเพราะกลับดึกและใกล้กว่า ได้ยินมาว่าที่มหาวิทยาลัยจัดงานประกวดดาวเดือน เจ้าตัวจึงไปจะเชียร์ ให้กำลังใจเพื่อน

   ครืด

   รีบคว้าโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาดู เป็นแจ้งเตือนการอัพเดตสเตตัสจากคนที่ผมไปกดติดดาวเอาไว้


   ณภ. @phaknp 1m
   อยากกินสเต็ก


   “จริงจายยยยยย~~”

   “หือ? อะไร?”

   “ไปส่งพี่หน่อยนะค้าบบบบ พี่ไม่ได้นั่งคุณเกรย์นานแล้วอ่ะ คิดถึง”

   “อือ ไปเตรียมตัวดิ”

   “เย้!!!! จริงนะ จริงนะ จริงใจของพี่น่ารักที่สูดดดดด เหวอ~~!!!”

   “เหี้ย!!!” ผมอุทานลั่นก่อนหัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นพี่ชายลุกขึ้นร้องดีใจและพลาดท่าจนเกือบจะหงายหลังตกเตียง แต่ดีที่ผมคว้าเอาไว้ทัน ไม่งั้นไม่อยากคิดเลยว่าจะเสียเงินเปลี่ยนพื้นห้องให้ผมไปเท่าไหร่ ไอ้หมูลูบอกตัวเองปลอบขวัญ ยิ้มเขิน ๆ แล้วกระโดดลงจากเตียงไป ก่อนออกจากห้องก็ไม่ลืมไล่ผมไปอาบน้ำอีก

   ส่วนคุณเกรย์ที่พูดถึงนั้นคือรถของผมเอง สปอร์ตไบค์นั่นไงครับ จันทร์เจ้าเรียกเอาเองเพราะสีของมันคือแมทเกรย์ เหมือนที่เรียกรถตัวเองว่าคุณฟักทอง เพราะสีเหมือนเนื้อฟักทอง ไม่รู้ว่าคิดงั้นจริง ๆ หรือหิว

   สะบัดผ้าห่มออกจากตัว เอาโทรศัพท์มือถือไปชาร์จก่อนเข้าห้องน้ำ ถอดชุดนอนที่สวมอยู่ออกโยนลงตะกร้าแล้วจึงเข้าไปในส่วนของโซนอาบน้ำหลังแปรงฟันเสร็จ ปกติแล้วผมเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใส่เสื้อผ้านอน จะถอดก็ได้แต่ถ้าใส่จะสบายใจมากกว่า ชุดนอนส่วนใหญ่พี่ฟ้าจะเป็นคนซื้อมาให้ ทั้งผม จันทร์เจ้า และจ๋าจ้า นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่ต้องใส่... ก็นะ ซื้อมาให้แล้วไม่ใช้ องค์ท่านลง ลำบากต้องง้ออีก ถึงจะเป็นลายปัญญาอ่อนยังไงก็ต้องใส่...

   เปิดฝักบัวให้สายน้ำอุ่นไหลชโลมทั่วผิวกาย กดครีมอาบน้ำลูบไล้ไปทั่วร่าง ตั้งแต่ช่วงลำคอ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ ตามลำแขน แผ่นอกลงไปจนถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อในระดับที่พอดี แหงนหน้าขึ้นรับสายน้ำ ก่อนเสยผมที่เปียกชื้นตกมาปรกหน้าไปด้านหลัง... อุณหภูมิที่ค่อนข้างสูงทำให้กระจกเป็นฝ้า

   ตอนเด็ก ๆ ผมชอบลูบมันเล่น หรือไม่ก็วาดรูปไปตามประสา โคตรแบ๊ว แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ทำสักเท่าไหร่ ผมปิดน้ำหลังจากล้างฟองสบู่และแชมพูออกไป เลื่อนบานประตูให้เปิดออก เอื้อมมือไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอว ก่อนจะหาผ้าอีกผืนมาเช็ดผมแล้วออกจากห้องน้ำ ไปที่ห้องแต่งตัวซึ่งมีประตูเชื่อมกันอยู่

   ใส่อะไรดีวะ?

   คำถามนี้ควรจัดเป็นปัญหาโลกแตก พอ ๆ กับมื้อนี้จะกินอะไรดี? เหมือนไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าอยู่นาน ไม่รู้หรอกว่าผ่านไปกี่นาที ไม่ได้นับ นับไม่ถูกด้วย แต่ตอนนี้ตัวผมแห้งแล้ว ผมก็หมาดแล้วเนี่ย และมันคงนานจริง ๆ เพราะจันทร์เจ้ามาเคาะเรียกแล้ว ผมออกไปเปิดด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างผืนเดียว

   “ยังไม่เสร็จอีกเหรอ!?”

   “ฮึ” สั่นหน้าให้พี่ เดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้ง และมีจันทร์เจ้าเดินตามเข้ามาด้วย “ไม่รู้จะใส่อะไรว่ะ”

   “ก็แย่ละ” เหล่มองคนที่เอาคำพูดของผมไปใช้ จันทร์เจ้า กอดอก ยกมือขึ้นลูบคาง กวาดตามองไปยังตู้เสื้อผ้าของผมที่มีเสื้อผ้ามากมายเรียงรายอยู่ “เดี๋ยวพี่เลือกให้”

   “ก็แย่ละ”

   “ไม่แย่ รับรองเลย!” ไอ้หมูดีดนิ้วดังเปาะ ก้าวเข้าไปยังส่วนที่เป็นเสื้อยืด “จริงใจใส่ชั้นยัง?”

   “ใส่แล้วดิ”

   ก็เหี้ยเหอะ ถามอะไรแบบนั้น แล้วยังไง ถ้ายังไม่ใส่ก็จะเลือกชั้นในมาให้ด้วยเหรอ ประสาท

   “อ่ะ! ใส่นี่ ไม่ต้องเรื่องมากนะ พี่รีบ!”

   อยากพูดออกไป รีบก็ไปเองสิวะ! แต่สิ่งที่ทำคือรับมาแล้วเอาไปใส่ ชุดที่จันทร์เจ้าเลือกคือ... เสื้อยืด oversize สีขาว เสื้อฮู้ดสีเทา ซึ่งพอสวมฮู้ดไปแล้วทำให้ชายเสื้อเกินออกมาหน่อย และแจ็กเก็ตยีนส์ คือ... แค่เสื้อก็สามตัวไปแล้ว เลือกอะไรไม่ดูอากาศประเทศไทย ที่น่าตบกะโหลกไปมากกว่านั้นคือผมดันยอมใส่โดนไม่แย้งอะไร ส่วนกางเกง เป็นยีนส์ทรงสกินนี่ มันค่อนข้างแนบฟิตไปกับลำขาสักหน่อย แต่ก็โอเค ไม่ลำบากอะไร ขาผมสวยด้วยไง พี่ฟ้าเลยชอบซื้อกางเกงประเภทนี้มาให้บ่อย ๆ

   “จริงใจเอากระเป๋าไหม?”

   “เอาดิ messenger สีดำน่ะ”







(มีต่อค่ะ)

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3





   หลังจากแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและจัดของจำเป็นบางส่วนใส่กระเป๋าแล้วจึงออกเดินทาง ผมมาส่งจันทร์เจ้าถึงหน้าคอนโดของพี่มีนกับพี่รามินทร์ เสร็จภารกิจแล้วจึงขับรถออกมาทันที แต่แวะจอดพักแป๊บหนึ่งเพื่อโทรศัพท์ มุมปากหยักถูกยกขึ้นเล็กน้อยระหว่างที่รอสาย

   “สวัสดีครับ”

   (“มีอะไร?”)

   “เลี้ยงข้าวหน่อยครับ”

   (“อย่าเพ้อเจ้อ ฉันไม่ว่าง”)

   “คุณอยู่ไหน? ผมว่าง”

   (“ไม่มีเรียนหรือไง มาก่อกวนคนอื่นเขาแบบนี้”) ผมหัวเราะกับน้ำเสียงติดรำคาญนั้น เห็นภาพเลยว่าหน้าบึ้งสักแค่ไหน

   “ปิดเทอมแล้วครับ คุณเรียนอยู่เหรอ แต่จะเที่ยงแล้วนะครับ ควรต้องพักสิ”

   (“จิ๊!! จะมาก็มา!”)

   “โอเค เดี๋ยวผมไปหา”

   สัญญาณถูกตัดไปทันทีที่เขาบอกว่าตัวเองอยู่ตรงไหน เมื่อดูแผนที่จากแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนแล้ว ผมก็บิดคันเร่ง ออกตัวไปยังสถานที่เป้าหมายทันที ใช้เวลาไม่นานผมก็มาหยุดที่หน้าตึกที่มีตัวอักษรเขียนว่า ‘คณะเศรษฐศาสตร์’ มองซ้ายขวาหาคนที่ต้องการพบ ไม่เห็นว่ะ... มือหนาเลื่อนกระจกบังลมขึ้น รออยู่อีกหน่อยยังไม่เห็นตัวหอมจึงล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหา หรือยังเรียนอยู่วะ งั้นเปลี่ยนเป็นส่งข้อความ

   11:49 J9 : ผมถึงแล้ว อยู่ไหนครับ?

   ส่งไปแล้ว... ยังไม่มีการเปิดอ่านหรือตอบกลับ อาจจะยุ่ง หน้าผมนี่แหละยุ่งแล้ว นักศึกษาคนอื่นก็ทยอยกันเดินออกมาแล้ว แล้วตัวหอมของผมไปอยู่ไหนวะ คนนี่ก็มองกันจังเลย แค่ไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาเนี่ย ชักจะหัวร้อนแล้วนะเว้ย! แดดลงกลางหัวเลยเนี่ย

   และราวสิบนาทีต่อมา... คนที่ผมกำลังรออยู่ก็เข้ามาในกรอบสายตาสักที ผมกอดอก พิงสะโพกกับตัวคุณเกรย์ มองไปยังร่างผอมบางที่เดินคุยกับเพื่อนสองสามคนหน้าเครียด รอบตัวเขาเหมือนมีประกายบางอย่างเปล่งแสงออกมา มันสามารถทำให้เขาโดดเด่นเกิดกว่าใคร และทำให้ทุกสายตาจับจ้องมองไปที่ตรงจุดนั้นโดยยากที่จะละสายตา

   ฉิบหายละ

   ใจบางโคตร ๆ

   ร่างบางชะงัก เมื่อเงยหน้ามาเจอผม เพื่อน ๆ ของเขาก็มอง แต่ผมมองไปที่ตัวหอมคนเดียว ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่ไม่นานคนที่ผมรอก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

   ไม่ปฏิเสธว่าดีใจ

   คิดว่าจะเดินหนีไปเสียอีก

   น่ารัก...

   “อยากทานอะไรครับ?” เลือกที่จะถามไปแบบนั้น เวลาตอนนี้เลยสิบสองนาฬิกาไปแล้ว ตัวหอมมุ่นคิ้ว มองหน้าผมเหมือนจะพูดอะไรแต่ไม่พูด มุมปากของผมยกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่มีใครเห็น

   ตัวหอมเงียบ ก่อนจะตอบ

   “สเต็ก”

   พยักหน้ารับคำรับคำง่าย ๆ โดยไม่ท้วงอะไร ผมมองเขา สักพักแล้วจึงถาม “ร้อนหรือเปล่า?”

   ตัวหอมไหวไหล่ “ร้อน”

   แน่ล่ะ แดดตอนเที่ยงแบบนี้โคตรสาหัส

   ผมเดาะลิ้น ถอดแจ็กเก็ตที่สวมอยู่ออกแล้วโยนไปคลุมศีรษะของคนอายุมากที่ตัวเล็กกว่า ตัวหอมร้องยี๋ ใช้นิ้วจีบคีบออกคล้ายรังเกียจนักหนา

   “ไม่ต้องรังเกียจขนาดนั้นก็ได้ครับคุณ”

   “โยนมาให้ฉันทำไมเล่า!?”

   “ผมขี้เกียจใส่ ใส่ให้หน่อย”

   ตัวหอมทำหน้าเบื่อ แต่ก็ยอมสวมแจ็กเก็ตที่ผมโยนให้ เขามองคุณเกรย์ด้วยสายตาลังเล เคยขี่มาแล้วยังจะกลัวอีก ช้าว่ะ ร้อนเนี่ย คนก็มองฉิบหาย อยู่คนเดียวว่าเด่นแล้ว พอมีตัวหอมยืนอยู่ด้วยยิ่งไปกันใหญ่ ตามอง ปากซุบซิบ ทำงานสัมพันธ์กันเหลือเกิน... ถือวิสาสะดึงข้อมือเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้ เพราะยังไม่ตั้งตัว จึงเซมาหาโดยง่าย

   ไม่รอให้บ่น ผมก็หยิบหมวกกันน็อกที่วางบนถังน้ำมันขึ้นมาสวมลงบนศีรษะของตัวหอม เขาผงะเล็กน้อย ก่อนยืนนิ่ง ๆ เปิดกระจกบังลมขึ้น สอดนิ้วเข้าไปตรงช่องระหว่างหน้าผาก พอสอดเข้าไม่ได้ผมก็ละมือออกมา จับหมวกไว้ทั้งสองข้าง บอกให้ตัวหอมก้มหน้า เงยหน้า และส่ายหน้าไปมา โอเคดีแล้วจึงล็อกสายรัดคางให้

   “แน่นไปหรือหลวมหรือเปล่าครับ?”

   “หลวม”

   เขาตอบ ผมปรับสายรัดให้จนพอดี ลองหมุนจากข้างหลังมากข้างหน้า และจากข้างหน้าไปข้างหลัง เมื่อหมวกไม่หลุดก็เป็นอันว่าโอเค กดยิ้มให้กับความเรียบร้อย

   “หนัก”

   “เดี๋ยวพาไปซื้อใหม่ครับ” ผมว่าขณะจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวรี ก่อนจะปิดกระจกบังลมลงให้เขาเบา ๆ และให้ตัวเอง ตวัดขาคร่อมคุณเกรย์ เตะขาตั้งขึ้นแล้วใช้ขาทั้งสองพยุง หันไปมองตัวหอม เขายืนนิ่งเหมือนทางตรงหน้าคือหน้าผาสูง ผมรอ ไม่ได้เร่ง แค่สตาร์ทเครื่องแล้ว มือเล็กวางบนไหล่ของผม ก่อนที่จะยกตัวเองตวัดขาขึ้นคร่อมคุณเกรย์บ้าง

   “กอดเอวผมสิ”

   “ไม่”

   ก็แล้วแต่...

   บรึ้น!

   “เหวอ!!!”

   หมับ!

   หึ...





   ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงร้านเป้าหมาย ผมดับเครื่อง ถอดหมวกกันน็อกออก ขยี้ผมตัวเองแล้วเสยขึ้นหนึ่งที เหลือบไปมองคนที่มาด้วยกัน เห็นได้ชัดว่ากำลังขาสั่น น่าเอ็นดูฉิบหาย หึหึ ตัวหอมสะดุ้งเมื่อผมเลื่อนมือไปปลดล็อกสายรัดและถอดหมวกออกให้ ผมของเขายุ่งฟูเล็กน้อย ด้วยความลืม คิดว่าอยู่กับจันทร์เจ้าหรือจ๋าจ้า จึงยื่นมือไปจัดการมัน น่าแปลก... ที่เขายืนนิ่ง ๆ ให้ผมทำ

   ในร้านคนเยอะมาก แต่ถือว่าโชคยังเข้าข้างที่ยังมีโต๊ะว่างเหลืออยู่ ผมกับตัวหอมเดินไปนั่งตรงนั้น คนในร้านหันมามองเรา อาจจะ... มองไปที่คนที่เดินนำหน้าผมอยู่ตอนนี้ และเลื่อนสายตามาที่ผม ตัวหอม เดินเชิดหน้าในองศาที่พอดี นัยน์ตาเฉี่ยวคมมองตรงไปจุดหมายด้านหน้า ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างที่กำลังพุ่งไปที่เขา ถ้าหากเป็นผู้หญิง... ท่าทางแบบนี้คงต้องเรียกว่า นางพญา

   ตัวหอมถอดเสื้อตัวนอกออก พับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นถึงข้อพับ ก่อนยกแขนดีดนิ้วเรียกพนักงานมารับออเดอร์

   โคตรควีน

   แย่ละ

   ผมละสายตาจากเขาไม่ได้เลย

   “รับอะไรดีคะ?”

   “สเต็กแซลมอนกับสลัดผัก”

   “พอร์คชอพ เฟรนซ์ฟรายส์ กับมันบดครับ”

   “รับเครื่องดื่มอะไรคะ?”

   “น้ำเปล่า” ผมกับตัวหอมพูดขึ้นพร้อมกัน พนักงานสาวจดออเดอร์ก่อนจะบอกให้รออาหารประมาณสิบห้าถึงยี่สิบนาที

   อือ... หิวนะ แต่คนเยอะขนาดนี้ก็พอจะเข้าใจ

   ผมมองคนตรงข้าม เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น สักพักจึงลุกออกจากโต๊ะไป ระหว่างเราไม่มีใครพูดอะไร มองตามทางไปที่เดิน คงไปห้องน้ำ

   เอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเล่นบ้าง เล่นเกมน่ะนะ ทว่า... เพียงลับหลังตัวหอมไปไม่นาน เสียงคุยกันของคนรอบ ๆ ก็ดังขึ้น

   “ณภัคมากับใครน่ะแก”

   “ไม่รู้สิ คงกิ๊กใหม่มั้ง”

   “เหรอ ครั้งนี้จะควงนานแค่ไหนล่ะ แต่คนนี้ยังดูเด็กอยู่เลยนะ”

   “น่าสงสารนะแก น้องเขาโดนหลอกมาหรือเปล่าวะ”

   “แต่ดูท่าทางก็ไม่ธรรมดานะ ดูนั่นสิ กระเป๋านั่นแบรนด์ P ราคาเกือบสี่หมื่น นาฬิกาก็ R เสื้อผ้าธรรมดาแบบนั้นก็แพงนะแก แค่รองเท้าคู่เดียวก็เป็นหมื่นแล้ว”

   ผมกลอกตากับเสียงกระซิบกระซาบพวกนั้น ให้ตาย แน่ใจว่ากระซิบกันจริง ๆ มักเกิ้ลนี่ใจกล้ากันดีนะ เจ้าตัวก็นั่งอยู่ยังจะกล้านินทา คงคิดว่าผมไม่ได้ยิน ขอโทษ นักดนตรีอย่างผมประสาทหูดียิ่งกว่าบัตเตอร์ ฮันเตอร์

   “ผู้นางงานดีทุกคนเลยว่ะ”

   “จริงแก พี่ภีมก็เลิศ เลิกกันไม่กี่อาทิตย์นางได้ผู้ใหม่มาควงแล้ว เคลมเร็วเว่อร์”

   “ณภัคนี่หว่า”

   เมื่อพูดจบพวกเธอก็หัวเราะกัน ผมคิ้วกระตุก ไม่รู้ทำไม ความรู้สึกมันบอกว่าที่เธอพูดชื่อตัวหอมออกมามันไม่ใช่แค่เรียกชื่อธรรมดา มันเหมือนกับเป็นความหมายแฝง... ผมวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ ยกแขนกอดอก แล้วหันไปมองที่โต๊ะนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เป็นขณะเดียวกับที่ตัวหอมกลับมาพอดี หนึ่งในนั้นที่บังเอิญสบตากับผมรีบก้มหน้างุดและสะกิดเพื่อน

   “โดนแบบนี้บ่อยเหรอ?” ผมถามคนตรงข้าม บุ้ยปากไปที่โต๊ะของคนกลุ่มนั้น ตัวหอมเลิกคิ้ว มองตามก่อนจะร้องอ๋อแล้วพยักหน้า “ไม่โกรธ?”

   “ไม่เห็นต้องลดตัวไปฟังคำพูดโง่ ๆ ไร้สาระพวกนั้นเลย”

   “.......ดีแล้ว”

   “พี่คะ! เช็คบิลด้วยค่ะ!”

   ผมปรายตามอง หลังจากจ่ายค่าอาหารเสร็จพวกเธอก็เดินก้มหน้าออกไป “หึ”

   เมื่ออาหารมาเสิร์ฟ เราก็ต่างคนต่างกิน หิวจัดกันทั้งคู่ จึงไม่มีใครพูดอะไร ทานเงียบ ๆ แต่ผมคอยเหลือบมองเป็นระยะ สเต็กอร่อยดี สมกับที่พี่พีทการันตี ก่อนหน้านั้นเคยคุยกันครับ พี่เขาบอกว่านอกจากสปาเก็ตตี้ที่ตัวหอมชอบสุด ๆ แล้ว อีกอย่างที่ติดท็อปก็คือสเต็ก และพี่เขาก็แนะนำร้านนี้มา ผมเลื่อนมือไปตักมันบดมาทาน เมื่อมันสัมผัสที่ปลายลิ้นคิ้วก็มุ่นเข้าหากันทันที กลืนลงไปเร็ว ๆ ก่อนดันถ้วยมันบดออกไป แล้วดื่มน้ำตาม

   ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อยนะ มันก็ดีนั่นแหละครับ กินได้ แต่ไม่อยากกิน อาจเพราะรสที่กินประจำมันไม่ใช่แบบนี้ จึงไม่ถูกปาก

   มันบดที่น้าเจ้าทำคือ The best of the best.

   Number one and only one.

   พูดแล้วจะหาว่าอวยน้า แต่น้าเจ้าทำอร่อยจริง ๆ กินที่ไหนก็ไม่ได้แบบนั้น ต้องกลับมาอ้อนวอนให้น้าทำให้ทานอยู่เรื่อย

   “ไม่อร่อย?” ตัวหอมถามหลังจากเห็นผมดันมันบดออกไปจากสาระบบ

   “เปล่าครับ”

   “ทำไมไม่กิน” เขาว่าแล้วตัดมันบดนั่นเข้าปาก “ก็อร่อยดี”

   “อือ มันไม่ถูกปาก ที่ทานประจำไม่ใช่แบบนี้ ฝืนคอ”

   “เรื่องมาก”

   “น้อมรับครับ” กดยิ้มส่งไปให้ ตัวหอมย่นจมูก ตาเรียวกลอกไปที่พนักงานที่เดินไปพอดี ผมไหวไหล่ จะได้ยินก็ช่าง ก็ไม่ชอบนี่หว่า จะให้ทำยังไง “คุณมีเรียนต่อไหมครับ?”

   “สองครึ่ง”

   โอเค.... มีเวลาอีกเกือบชั่วโมงครึ่งเลย

   “ทำไมมีเรียนล่ะ? ไม่หยุดเหรอ ได้ข่าวว่ามีประกวดดาวเดือน”

   “งานตอนเย็น เรียนปกติ”

   “อ๋อ...” แล้วทำไมจันทร์เจ้าไปหาพี่มีน ไม่มีเรียนเหรอวะ ช่างแม่งเหอะ “เดี๋ยวผมไปส่ง”

   “มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น”

   “พี่พีทบอกว่าคุณจะเลี้ยงข้าวผม”

   ตัวหอมขมวดคิ้วก่อนกลอกตาขึ้นฟ้า “เพ้อเจ้อ พูดเอาเองน่ะสิ”

   “ผมมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรนะ”

   “เหอะ ต้องได้ท็อปไม่ใช่หรือไง?”

   “ใช่ คุณเตรียมเลี้ยงข้าวผมมื้อใหญ่ได้เลย”

   “มั่นใจจัง”

   “แน่นอน”

   “สอบตกขึ้นมาฉันจะสมน้ำหน้าให้”

   “ก็แย่ละ อย่างผมไม่เคยสอบตกหรอก รอก่อนนะ จะเอาคะแนนมาอวด”

   “จะคอยดู”

   ผมยิ้ม ติดกับละ “อิ่มแล้วใช่ไหมครับ? งั้นเช็คบิลเลยนะ”

   “อือ”

   ผมเรียกพนักงานมาเก็บเงิน วางธนบัตรสีเทาไปให้โดยไม่รอให้คนที่มาด้วยพูดอะไร ตัวหอมมองตาม แล้วหันมามองหน้าผม

   “ไหนบอกจะให้เลี้ยง ใช้หนี้นายไง”

   “ว้า แย่จัง ผมลืม งั้นไว้ครั้งหน้านะครับ”

   “ครั้งหน้า!? คราวก่อนก็บอกครั้งหน้า มาคราวนี้ก็ยังจะครั้งหน้าอีก” ผมยังยิ้มหน้าระรื่นไม่สะท้านก็สายตาดุ ๆ แบบทุลักทุเลของเขา “นายใช้มันเป็นข้ออ้างมาเจอฉันใช่ไหม?”

   “ครับ” ตัวหอมดูจะเหวอไปเมื่อผมยอมรับแต่โดยดี ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากัน เสหน้ามองไปทางอื่น อวดแก้มที่ขึ้นสีเรื่อให้ผมได้เห็น

   คนแมน ๆ เขาก็กล้าทำกล้ารับแบบนี้แหละ

   พี่ฟ้าสอนมา











-----------------------------
จริงใจมาแย้วววววว เจ้าเด็กเด๋อที่น่าเลี้ยงดู
ขอโทษที่มาช้าครับผม แต่ก็ยังดีกว่าไม่มานะ ฮือ
จักรภัคก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย สงสาร แปดตอนแล้วนะ5555555555
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ เนี่ย มีจันทร์เจ้ามาป่วนด้วย คิดถึงลูกหมูก็มาอ่านความจริงใจนะ /)_(\
ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ บั๊บบัย ♥

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
จริงใจ หลานรักของพี่ฟ้าคนแมน
ค่อยๆจีบไปเดี๋ยวพี่ตัวหอมก็ใจอ่อน ปากคนนี่นะ น่าตบจริงๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 :mew1: :mew1:

ถ้าพี่ฟ้ารูว่าจริงใจเอาสิ่งที่สอนมาจีบคนอื่นจะว่าไง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
จริงใจมาบ่อยๆเด้อ อย่าปล่อยให้ป้ารอนานเลยนะลูกเอ้ย

ออฟไลน์ Jitsupa_milk

  • Just Milky('s) Way
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพลิงฟ้าคนแมน สอนเรื่องแมนๆให้หลานน o13

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
งื้อจริงใจจจจจจจจจจ ร้าย!!

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
คนแมน ๆ เขาก็กล้าทำกล้ารับแบบนี้แหละ
สัมผัสได้ถึงความลอยหน้าลอยตา เมื่ออ่านประโยคนี้ 5555
ทั้งหมั่นไส้ ทั้งเอ็นดูเจ้าเด็กจริงใจในเวลาเดียวกันจริงๆ

ออฟไลน์ Kalamall

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
 :hao3: สู้ๆหน่อยเจเจ รุกไปเลย ปิดเทอมแล้วออกตัวล้อฟรีไปเลย

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
555555555 คืออ่านเพลินๆ มาขำกร๊ากเอาตรงสุดท้ายนี่แหละ

คือจริงใจก็ผ่านหลักสูตร "คนแมนๆ" จากพี่ฟ้าเหมือนกันสินะ

อยากจะรับจริงใจไว้เลี้ยงดูจริงๆ...น่าร๊ากกกกก

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
รุกแรงๆไปเลยเจเจ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
คร้า!!!!!!!

จริงใจคนแมน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เจเจคนแมนนนนนนนนนนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ฮอลลลล เจเจโตขนาดเตาะหนุ่มเองได้แล้วสินะ   :katai2-1:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :jul3: พี่ฟ้าสอนมาดีจริงๆ..

ออฟไลน์ leefever

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เพิ่งได้มาอ่านน ตลกเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ
ขำตอนใช้เท้าเปิดประตู นึกว่าเป็นคนเดียวว

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอผู้ชายอย่างจริงใจหน่อยข่าาา
น่ารักมั้กกกกกก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พูดตรงมากจริงใจ!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คนที่ชอบนินทาคนนี่
เป็นเพราะสนใจเขา(หน้าตาดี รูปร่างดี)
และอิจฉาเขา(อยากได้ อยากดี อยากมีแบบเขา)สินะ
เด็กบ้านวงศ์อัศวโยธิน น่ารัก :mew1: :mew1: :mew1:
ไม่นินทาใคร ไม่สนใจคำนินทาด้วย
พี่ฟ้า รัก และดูแลเด็กบ้านนี้ทุกคนเลย สุดยอด
เด็กปีศาจ รุกณภัคและ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 9
ผมกับภารกิจที่ต้องพิชิต







   “ไปกันเลยไหมครับ?” ผมถามคนตรงข้าม

   “เดี๋ยว” เขาว่า พลางหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา เขานับเงินสักพักก่อนส่งมันมาให้ผม

   “ให้ผมทำไม?”

   “อย่ามาทำเป็นโง่ บอกให้ฉันเลี้ยงไม่ใช่หรือไง นายเสนอหน้าจ่ายไปก่อนทำไม”

   “ผมเกรงใจ มันแพง”

   “ไม่เป็นไร ฉันรวย”

   ตัวหอมแม่ง... ทำไมเป็นมักเกิ้ลโหดร้ายแบบนี้วะ เขายิ้มเยาะเย้ยที่ผมพูดไม่ออก จะให้ทำไงล่ะ สเต็กราคาแค่หลักร้อย เขาจ่ายได้สบายอยู่แล้ว ผมหน้าบึ้ง ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม กอดอกเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้

   “คุณแม่ง ใจร้ายว่ะ”

   “ทำไม? ไม่มีข้ออ้างมาเจอฉันเหรอ?”

   “ก็ใช่น่ะสิ แล้วผมจะเจอคุณได้ยังไง ความเป็นไปได้ไม่มีเลย”

   ตัวหอมเบ้ปาก ยื่นมือมาเขกหัวผมดังโป๊ก ผมยิ่งหน้าบึ้งหนักอีก เพิ่มเติมคือลูบหัวตัวเองนี่ไง เจ็บนะครับ เขกมาตั้งแรง ถึงผมไม่ใช่มักเกิ้ลแต่ก็มีความรู้สึกนะ ดูหน้าสะใจนั่นสิ ไม่ห่วงผมเลยสักนิด

   “ไอ้เด็กโง่”

   “ก็แย่ละ” หน้าไปทางอื่น เจอร้านเค้กพอดี “ยังเหลือเวลาอีกเยอะ หาของหวานกินกันครับ”

   “เฮ้ย! ฉันกินคลีน”

   “คลีนดิ สเต็กเกลี้ยงจานเลยเนี่ย ไปเถอะ

   “ไม่ไป เดี๋ยวอ้วน!”

   “ถ้าใจเราคลีน จะกินอะไรก็คลีนครับ”

   “อะ ไอ้เด็กบ้า!”

   ผมไม่ฟังเสียงโวยวายของตัวหอม ลากเขามาจนถึงร้านเค้กที่อยู่ห่างกันแต่ไม่กี่ร้อยเมตร เสียงโมบายดึงขึ้นเมื่อเราเปิดประตูเข้าไป คนที่นั่งอยู่ในร้านหันมามอง ได้ยินเสียงเหอะในคอจากคนอายุมากที่ตัวเล็กกว่า ผมเลื่อนมือที่จับแขนไปกุมมือเล็กเอาไว้ กวาดตามองหาโต๊ะว่าง แล้วถึงเดินไปนั่ง

   “ทานอะไรครับ?”

   “มอคค่าเฟรปเป้”

   “ขนมล่ะ?”

   “ไม่เอา อ้วน”

   “คุณผอมจะตาย เดี๋ยวผมสั่งให้แล้วกัน” ยักคิ้วให้คนที่กลอกตาขึ้นฟ้า ไม่เข้าใจคนที่ไม่ชอบทานของหวานเลยจริง ๆ โคตรพลาดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก “ช็อกโกแลตกับมอคค่าปั่นอย่างละแก้วครับ ขอเค้กช็อกโกแลตมูส ชาเขียว และชีสเค้กอย่างละชิ้น”

   “ทานที่นี่หรือกลับบ้านคะ?”

   “ที่นี่ครับ”

   “สักครู่นะคะ ทั้งหมด xxx บาทค่ะ” ส่งเงินให้พนักงานก่อนรับใบเสร็จ ผมขยับออกมายืนข้าง ๆ ระหว่างรอคิว และให้คนที่ต่อแถวอยู่ไปสั่ง มองไปที่ตัวหอม เขาใช้มือเท้าคางข้างหนึ่งและเล่นโทรศัพท์ไปด้วยโดยไม่สนใจสายตาของใครที่มองไป ท่าทางของเขาน่ามองไปทุกอย่างไม่ว่าจะทำอะไร

   “มากับณภัคหรอคะ?” เลิกคิ้วมองคนถาม “เป็นเด็กณภัคเหรอ? รู้หรือเปล่าว่าณภัคน่ะง่าย”

   ผมไม่ตอบแต่แสยะยิ้ม ฟังเธอพล่ามโดยไม่พูดอะไร ง่ายเหรอวะ? ทำไมกว่าผมจะเจอได้แต่ละครั้งมันโคตรสาหัส

   “ถ้าไม่อยากโดนมันหลอกก็อย่าไปยุ่งกับมันนะน้อง”

   ผมยังคงเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรไป แต่มองหน้าคนพูดไม่วางตา

   “นางควงผู้ชายเยอะแยะเลยนะคะ อย่าไปจริงจังล่ะ”

   “หึ”

   เลิกสนใจคำพูดไร้สาระเมื่อเสียงพนักงานตะโกนมา ผมจึงกลับไปที่เคาน์เตอร์

   “ขอบคุณครับ” เดินกลับไปที่โต๊ะโดยไม่มองหน้าคนพวกนั้น ได้ยินเพียงแค่เสียงสบถและคำพูดที่บอกว่าผมหยิ่งตามมา

   “คุยอะไรกับพวกนั้น?”

   “หือ? อ๋อ เขาบอกว่าคุณง่าย อย่าจริงจัง”

   ตัวหอมเหยียดริมฝีปากและพยักหน้าเบา ๆ คล้ายรับรู้พลางยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปขนมบนโต๊ะ ผมว่ามันต้องติดมือผมไปแน่ เพราะผมยื่นไปตัดเค้กพอดี

   “จิ๊ ยื่นมือมาทำไม”

   นั่นไง ผิดจากที่พูดที่ไหนล่ะ

   “ก็ผมจะกิน”

   “ให้ฉันถ่ายรูปก่อนสิ”

   “ก็แย่ละ” ตัวหอมหน้าบึ้ง ถ่ายใหม่ไม่ได้แล้วล่ะ เพราะผมแกล้งเขาด้วยการตัดมันทุกชิ้นจนไม่เหลือความสวยแล้ว “คุณโดนแบบนี้บ่อยเนอะ ที่ร้านสเต็กก็ทีหนึ่งแล้ว”

   “อะไร?”

   “นินทาไง”

   “หึ มีปัญญาทำได้แค่นินทาก็ทำไปเถอะ”

   “คุณไปทำอะไรให้เขาเกลียดหรอ?”

   “ฉันอยู่ของฉันเฉย ๆ คนพวกนั้นพากันพูดเอง” เขายักไหล่แสดงออกถึงการไม่สนใจ “แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?”

   “อะไรครับ?” ยกช็อกโกแลตปั่นขึ้นดื่ม และตัดเค้กเข้าปาก ตัวหอมที่ว่ากลัวอ้วนยังทานด้วยเลย

   “ที่ว่าฉันง่าย”

   ผมไหวไหล่ “ไม่รู้สิ ผมรู้จักคุณไม่นาน ยังไม่ได้สนิทอะไร ผมไม่อยากตัดสินคุณจากคำพูดคนอื่น”

   “ไปจำจากละครเรื่องไหนมา”

   “หึ จากความคิดผมนี่แหละ” ยักคิ้วกวนประสาทไปให้คนตรงข้าม ตัวหอมแสยะยิ้ม

   “ฉันง่ายอย่างที่คนพวกนั้นพูดกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้นก็เลิกชอบฉันซะ”

   “ง่ายจริงเหรอ? คบกับผมดิ”

   “ฝันอยู่เหรอ ทำไมฉันต้องคบกับนาย”

   “เห็นมะ คุณก็ไม่ได้ง่ายสักหน่อย อย่าดูถูกตัวเองสิครับ”

   “มันเรื่องจริง”

   “ก็แย่ละ พอเหอะ ผมชักรำคาญแล้ว”

   “หึ ถ้ามายุ่งกับฉันมาก ๆ ชีวิตนายจะแย่เอานะ”

   “ช่างแม่งดิ” ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ทำไมเขายังไม่หยุดพูดเรื่องนี้สักที ผมจะหงุดหงิดแล้วนะเว้ย พวกมนุษย์นี่ยังไง ทำไมการใช้ชีวิตดูยุ่งยากกันขนาดนี้

   “นายจะมาหงุดหงิดทำไม ไม่ใช่เรื่องของนายสักหน่อย”

   “ทำไมคุณเป็นมนุษย์ที่พูดไม่รู้เรื่องเลย” คิ้วของผมขมวดมุ่นขณะสบตากับตัวหอม “ถ้าคุณง่ายจริงก็มาคบกันดิ”

   ตัวหอมยกคิ้วขึ้นสูง ตาเรียวนั่นยังสบกับผมอยู่ เขาดูข้องใจกับคำพูดของผม งงอะไรวะ ในเมื่อตัวเองไม่ง่ายก็อย่าพูดว่าง่ายสิ เห็นมะ พอบอกให้คบกันก็ไม่ยอม แบบนี้เรียกง่ายเหรอ? คำว่าง่ายนี่หมายถึงง่ายยังไงอ่ะ ใจง่าย? หรอ งั้นมั้ง แล้วถ้าใจง่ายจริง ๆ ก็ตกลงดิ ทำไมต้องคิดอะไรเยอะแยะ แล้วทำไมมนุษย์ถึงได้เข้าใจอะไรยากกันจัง

   “ผมเลี้ยงง่ายนะ”

   คนอายุมากที่ตัวเล็กกว่าเบิกตาขึ้นเล็กน้อยก่อนกะพริบไล่ความงงแล้วหัวเราะออกมา ผมเสตามองไปทานอื่น ปากคว่ำเป็นปากเป็ด แต่ในความไม่สบอารมณ์ซ้อนความลิงโลดเอาไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นตัวหอมหัวเราะ โคตรสดใส ทำไมเขาถึงชอบทำหน้านิ่งนัก

   “จริง ๆ นะ”

   “อย่าทำตัวเหมือนหมาได้ป่ะ ไอ้เด็กเวร”

   “ถ้ามีคุณเป็นเจ้าของผมยอมเป็นหมาก็ได้ รับผมไปเลี้ยงสิครับ...” ท้ายประโยคผมกดเสียงอ้อน ตัวหอมกระแอมไอ ยกมอคค่าขึ้นดื่ม ตาเรียวหลบสายตามองที่จ้องไป แก้มนวลขึ้นซับแดงจาง ๆ

   หึ

   เขาเขิน

   น่ารักว่ะ

   “ไปส่งฉันได้แล้ว”





   หลังจากไปส่งตัวหอมที่มหาวิทยาลัยแล้วผมก็กลับบ้านทันที และเมื่อถึงบ้านถึงได้มีโอกาสจับโทรศัพท์ กดเข้าไปดูแจ้งเตือนของการอัพโหลดรูปภาพในแอพพลิเคชั่นแรก เป็นภาพขนมเค้กที่ตัวหอมถ่าย ซึ่งติดมือและขาผมไปด้วย แค่มือ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นผม...หรอวะ

   phaknp CAKE TIME
   rapinthana klan krai?
   phiitplease I know
   rapinthana tell me!!!!!!! @phiitplease
   phaknp เสือก @phiitplease @rapinthana
   real_khleun เมียกูมีชู้อีกละ
   real_khram จริงจังก็พามาเปิดตัวครับ
   phaknp เสือกกกกกกกกกกกก @real_khleun @real_khram
   papapapaya เจอพี่ภัคที่มากับใครไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าหล่อ งานดีมาก
   rapinthana พวกแกมันนังคนใจบาป! @phaknp @phiitplease ถ่ายรูปมาไหมคะ เมสเสจให้หน่อยค่ะ @papapapaya
   phaknp อย่าส่ง @papapapaya
   papapapaya แง พี่ภัคไม่ให้ส่ง @phaknp @rapinthana   

   ผมเลื่อนอ่านคอมเมนต์ไปเรื่อย ๆ มีคนบอกว่าเห็นผมเยอะเหมือนกันแต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ก็ดี จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย ผมไม่อยากเป็นจุดสนใจ มันน่ารำคาญ ก็เข้าใจว่าผมหล่อและหน้าตาดีมาก คนจะมองก็ไม่แปลก แต่ผมไม่ดาราหรือคนดังไง เป็นแค่เด็กธรรมดาที่เกิดมาหน้าตาดีเฉย ๆ

   แย่จริง ๆ






   เย็นวันถัดมา

   ผมชะงักเท้าเมื่อเดินออกมาแล้วเห็นจันทร์เจ้ากับใครบางคนกำลังเดินเข้ามาในบ้าน เพราะออกไปข้างมาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วทำไมไอ้หมูถึงได้พาผู้ชายเข้าบ้านแบบนี้!

   “แรด พาผู้ชายเข้าบ้าน”

   “พูดมากจัง เอานี่ไป” หมูอ้วนบ่นพลางส่งถุงขนมเค้กมาให้ “จริงใจสวัสดีทิวาสิ อย่าเสียมารยาท”

   “สวัสดี ...ครับ” ผมกลอกตา ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ทีแรกจะไม่ครับแต่ตาเขียวปั๊ดของไอ้หมูหันส่งมาเสียก่อน ไม่ได้กลัว แต่เดี๋ยวคนอื่นจะว่าเอาได้ว่าเป็นเด็กไร้มารยาท ไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน หงุดหงิดเลย พามาทำไมวะ

   “สวัสดีครับ” ผมเบ้ปาก หน้าก็ยิ้มอยู่หรอก แต่ใจอยากเข้าไปบีบคอหรือไม่ก็ไล่กลับบ้านไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

   “หม่ามะอยู่ไหน?” ไปที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินหนีพี่ชายกับทิวากาลไป ไม่อยากมองหน้า หัวร้อนไปหมด พี่ฟ้าก็ไม่อยู่ ผมคงทำอะไรมากไม่ได้ ดีไม่ดีอาจจะโดนแบนจากครอบครัวอีก เซ็ง แม่งเอ๊ย! หงุดหงิดโว้ย! เดี๋ยวจะกินเค้กให้หมดเลย

   เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น ทุกคนก็รวมตัวกันครบ รวมทั้งคนนอกอย่างทิวากาลด้วย

   “จริงใจ!” ลูกหมูแหวเสียงดังเมื่อผมตักผักบล็อกโคลี่ไปใส่จาน ผมรู้ว่าพี่ไม่ชอบ ถึงได้แกล้งไง สนุกดี

   ผมยิ้มเยาะก่อนแลบลิ้นใส่พี่ชายก่อนต้องหน้าบึ้งเพราะทิวากาลดันเสนอหน้าตักบล็อกโคลี่ในจานของจันทร์เจ้าไปกินเอง ไอ้หมูกะพริบตาปริบ ๆ แล้วยิ้มกว้าง แก้มกลมขึ้นสีระเรื่อให้ผมได้หมั่นไส้อีกรอบ ผมชำเลืองมองหาทีมงาน แต่ทุกคนกลับมียิ้มอ่อน ๆ ประดับหน้า อยากจะโทรตามพี่ฟ้ากลับมาจริง ๆ ไม่ได้ดั่งใจเลยโว้ย!

   “รู้ด้วยเหรอว่าลูกหมูไม่ชอบบล็อกโคลี่?” คุณแม่ถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าทิวากาล

   “ครับ” คนนั้นตอบสั้น ๆ แม่พยักหน้าเบา ๆ รับแล้วหันไปสบตากับพ่อ

   สื่ออะไรกันครับ บอกผมด้วยสิ

   “คิดถึงพี่ฟ้าจังครับ” ผมบ่นขึ้น ทุกคนมองแล้วส่ายหน้าคล้ายระอา

   “พี่จริงใจไม่มีพวกล่ะสิ” จ๋าจ้าทำหน้าล้อเลียน ผมถลึงตาใส่ก็ไม่สำนึก จำไว้เลยไอ้เปี๊ยก เดี๋ยวพาซิ่งมอเตอร์ไซค์

   กว่าการทานอาหารมื้อนี้จะจบลงก็เล่นเอาผมแทบหมดอากาศหายใจ และเมื่อทานอาหารทั้งคาวและหวานเรียบร้อยแล้วก็ย้ายมาในห้องนั่งเล่น ผมอยากหนีขึ้นห้องชะมัด แต่ตามมารยาทแล้วก็ควรอยู่ต้อนรับแขกในฐานะเจ้าบ้านที่ดี แต่ไม่อยากเป็นคนดีแล้วว่ะ คิดถึงพี่ฟ้า!!!

   พ่อแม่กับคุณตาคุณยายถามทิวากาลคำถามพวกเบสิกอะไรไปเรื่อย ผมไม่ค่อยสนใจจะฟังหรอก ไม่จำเป็นสักหน่อย และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง เมื่อคุณจอมจิตตรีบอกจะคุยกับทิวากาลเป็นการส่วนตัว ผมลุกออกไปคนแรกไม่รอให้แม่พูดซ้ำ จ๋าจ้าวิ่งมาเกาะแขนแล้วตามมาด้วย ผมเกือบสะบัดทิ้งไปแล้ว แต่นึกขึ้นได้ว่าเป็นน้องเลยไม่ได้ทำอะไร มีแต่จันทร์เจ้าที่งอแงจะอยู่ด้วยนั่นแหละ



   “พี่จริงใจว่าคุณพ่อกับคุณแม่คุยอะไรกับพี่กาลเหรอคะ?”

   “ไม่รู้” ผมตอบเสียงเรียบ ทิ้งไอ้เปี๊ยกไปนั่งหย่อนขาริมสระว่ายน้ำ จ๋าจ้าบ่นไปเรื่อยแต่ผมก็ไม่สนใจ จากนั้นระหว่างผมกับน้องก็ไม่ใครพูดอะไรขึ้นมา ต่างคนต่างเล่นโทรศัพท์ สังคมก้มหน้าที่แท้จริง

   “เจเจจจจจจจจจ~” เงยหน้าจากโทรศัพท์ไปมองเจ้าของเสียง พอเห็นว่าเป็นใครผมก็ก้มหน้าเล่นเกมตามเดิม

   “พี่จันทร์เจ้าไปไหนมาคะ?”

   “คุณตาใช้ไปนวดน่ะสิ!” ผมโน้มตัวไปข้างหน้าเมื่อเจ้าของเสียงเข้านั่งหันหลังชนกัน แถมยังเอนตัวทิ้งน้ำหนักใส่ผมอีก ถ้าผมลุกออกนี่หงายลงสระเลยนะ

   ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แล้ว...

   “ไรอ่ะ?”

   “กังวลนิดหน่อยอ่ะจริงใจ แง” ผมเอนศีรษะไปด้านหลังเพื่อโขกกับศีรษะของจันทร์เจ้า

   “คุณพ่อกับคุณแม่ไม่ทำอะไรพี่กาลหรอกค่ะ” เสียงจ๋าจ้าดังมา ตามด้วยเสียงถอนหายใจของจันทร์เจ้า

   “ลุกออกไปดิ๊” ผมบอก ไอ้หมูขยับไปผมจึงลุกขึ้นยืน เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง มองหมูหงอยแล้วกางแขนออก จันทร์เจ้าอ้าแขนออกพร้อมกับเดินเข้ามา เมื่อจันทร์เจ้าถึงตัว ผมก็รีบเบี่ยงตัวออก นั่นทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งตัวล่วงลงสระว่ายน้ำทันที

   ตู้ม!!!

   ผมกดยิ้มพอใจที่แผนสำเร็จ สายตามองไปเห็นคนมาใหม่ที่วิ่งหน้าตื่นมา จ๋าจ้าดึงเอาไว้ก่อนที่คนนั้นจะกระโดดลงสระและผมก็กางแขนกันไว้เช่นกัน ไอ้หมูโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำก่อนจะตะโกนว่าผมที่จงใจแกล้งให้ตัวเองตกน้ำ ส่วนผมก็หัวเราะพอใจ ไม่มีการช่วยใด ๆ ทั้งนั้น จันทร์เจ้าหัวร้อนไม่นานก็ไปแหวกว่ายสนุกสนานอยู่ในสระ ผิดกับทิวากาลที่ยังค่อนข้างตกใจและงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น

   “เล่นอะไรกัน” เขาถาม

   “จริงใจแกล้งเรา” คนในสระตะโกนขึ้นมา

   “ขี้ฟ้อง!”

   “ก็ทิวาถาม พี่ไม่ได้ฟ้อง!” จันทร์เจ้าแหวใส่พร้อมกับวักน้ำใส่ผม แต่ขอโทษผมหลบทันครับ ระดับบุญต่างกันก็งี้อ่ะนะ

   “ขึ้นมาได้แล้ว” คนของพี่บอก ผมได้แต่กลอกตาทำหน้าเซ็ง เซ็งคูณสองไปอีกเมื่อโดนไอ้เปี๊ยกตีแขน

   “จริงใจช่วยพี่หน่อย” ลูกหมูลอยเข้ามาเกาะขอบสระ ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ผมพร้อมกะพริบตาปริบ ๆ เป็นเชิงออดอ้อน

   ผมหรี่ตามองก่อนแสยะยิ้มแล้วตอบกลับไปอย่างเย็นชา “ไม่”

   “เจ้าเด็กปีศาจ ไม่มีน้ำใจ!”

   “ถ้าพี่บริสุทธิ์ใจเค้าก็จะช่วยนะ เรียกไปนี่จะดึงเค้าลงน้ำล่ะสิ นู่น บันไดก็มี ไม่งั้นก็กระโดดขึ้นมา” ไอ้หมูหน้ามุ่ยที่โดนรู้ทันก่อนจะปีนขึ้นจากสระโดยไม่ใช้บันได พอขึ้นจากน้ำได้ก็เข้ามากอดผมทั้งที่ตัวเปียก ดุนศีรษะสะบัดไปมาจนหยดน้ำที่เกาะอยู่กระเด็นไปทั่ว ยิ่งผมโวยวายจันทร์เจ้าก็กอดแน่นขึ้น โดยมีจ๋าจ้านั่งหัวเราะอยู่ และทิวากาลที่ส่ายหน้าอ่อนใจ

   เหี้ยเอ๊ย! เปียกเลยเนี่ย!

   “ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดได้แล้วเตี้ย”

   “แหงะ” เมื่อจันทร์เจ้าปล่อยแขนออก ผมก็ดันหน้าผากพี่ชายให้หงายเงิบ จันทร์เจ้าเหมือนจะเข้ามาเอาคืน แต่มองไปเห็นสายตาคนของตัวเองก็ยิ้มเจื่อน คว้าแขนจ๋าจ้าแล้ววิ่งเข้าบ้านไป

   แล้วทิ้งผมไว้กับทิวากาลสองคนแบบนี้ก็ได้เหรอ?

   ผมหมุนตัวหันหลังให้ทิวากาลแต่ไม่ได้เดินหนีไปไหน มือหนาล้วงกระเป๋าไว้หนึ่งข้างและอีกข้างล้วงเอาโทรศัพท์มือถือมากดเล่น ความจริงแล้วผมไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดคนของพี่เลยนะ แต่ไม่อยากคุยด้วย มันทำตัวไม่ถูก เขาคือคนที่จะมาแย่งพี่ผมไปไง แล้วแม่ง... ดูจากหนังหน้าแล้วเจ้าชู้แน่ ๆ อ่ะ นั่นเลยทำให้ผมไม่ถูกชะตากับเขาสักเท่าไหร่ ใครก็อยากให้คนที่เราห่วงเจอกับคนที่ดีป่ะวะ

   ปลายนิ้วเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ไปเรื่อย เจอเข้ากับรูปตัวหอมพอดี เพิ่งอัพโหลดไปไม่นานด้วย

   “ชอบเหรอ?”

   “อะไร?”

   “คนในรูปนั่นไง”

   “ก็แย่ละ” ผมพึมพำ ขมวดคิ้วมองคนของพี่และเบี่ยงโทรศัพท์หลบ รู้สึกเกลียดยิ้มบนหน้าหล่อ ๆ นั่นเฉยเลย ยิ้มเหมือนรู้ทัน ยิ้มเหมือนเหนือกว่า ทำไม อยู่ดอยอินทนนท์หรือไง

   “แต่ภัคไม่ชอบคนอายุน้อยกว่านี่”

   ผมชะงักขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม จ้องหน้าทิวากาลนิ่ง ทำไมผู้ชายคนนี้รู้จักตัวหอมของผม แล้วทำไมรู้ว่าตัวหอมไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า หรือว่าเขากับตัวหอมจะมีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกัน ก็เหี้ยละ ต้องไม่ใช่แบบนี้ดิ

   “คิดอะไรไปถึงไหน ภัคเป็นเพื่อนกับน้องสาวพี่เลยรู้จักกัน นายน่ะ ชอบเหรอ?”

   “ไม่ได้ถามสักหน่อย” ผมจิปาก มองหน้าคนของพี่ตรง ๆ

   “สีหน้าออกขนาดนั้นคงคิดอะไรดี ๆ หรอกนะ”

   “ว่าผมเหรอ?”

   “เปล่า” เขาไหวไหล่ “จันทร์เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเรามีคนที่ชอบแล้วเนี่ย?”

   “ไม่” พูดไปแล้วก็อยากตบปากตัวเอง การบอกไปแบบนั้นก็เท่ากับเป็นการยอมรับน่ะสิว่าชอบตัวหอม “คุณมั่วหรือเปล่า รู้จักณภัคจริง ๆ เหรอ”

   “ให้โทรหาไหมล่ะ?” ผมมองนิ่ง ไม่ตอบ แต่การเงียบก็ถือว่าเป็นคำตอบให้ทิวากาล เขาเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาแล้วกดโทรออกไปยังบุคคลที่สามซึ่งเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้โดยไม่ลืมเปิดสปีกเกอร์ด้วย

   “เฮลโล”

   (“พี่กาลลลลล โทรหาภัคทำไม คิดถึงเหรอ?”) ผมหน้าบึ้ง เชื่อแล้วแหละว่ารู้จักจริง ๆ และหงุดหงิดมากที่ตัวหอมตอบรับเสียงร่าเริงมากขนาดนั้น ไม่เห็นเหมือนเวลาคุยกับผม เอาแต่ทำเสียงรำคาญใส่ แม่ง...

   “อือ คิดถึง”

   (“อย่ามาพูดแบบนี้พี่กาล ถ้าภัคหวั่นไหวขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”)

   หวั่นไหวก็เหี้ยละ... ผมดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้ม ความหงุดหงิดเริ่มแล่นไปตัวร่างกาย ทำไมวะ ทำไมไม่เห็นเคยพูดกับผมแบบนี้เลย แถมยังบอกให้ผมเลิกชอบอีก เพราะผมอายุน้อยกว่าเหรอ? ตรรกะเหี้ยเกินไปละ

   “มีแฟนแล้วจะมาหวั่นไหวอะไรกับพี่”

   (“มีแฟนที่ไหน ไม่มี!”)

   “อ้าวเหรอ” คนของพี่ว่ากลั้วหัวเราะและชำเลืองมองผมที่อยู่ด้วย ผมจ้องมองเพียงแค่โทรศัพท์ในมือเขาเท่านั้น อยากรู้ว่าตัวหอมจะพูดอะไรอีก

   (“ใช่น่ะสิ! เบื่อแล้ว ขี้เกียจ มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ภัคไม่โอเคคคคคคคค”)

   เสียงโคตรงอแง ให้ทายตอนนี้เขาต้องกำลังหน้าบึ้ง

   “ไม่ลองเปลี่ยนแนวดูล่ะ คบเด็กงี้”

   (“ฮอลลลล ภัคไม่อยากมีลูกนะครับพี่กาล!”)

   “พี่ไม่ได้หมายถึงเด็กประถมนะภัค อ่า... เด็กอายุสิบเจ็ดก็น่าจะเป็นเด็กดี เลี้ยงง่ายนะ หึหึ” ผมชะงัก เหลือบมองหน้าคนพูด ริมฝีหยักเม้มเข้าหากัน ชัดเลยว่าเด็กอายุสิบเจ็ดที่คนของพี่พูดถึงน่ะคือผมเอง เหี้ยเหอะ ชงขนาดนี้บ้านเปิดร้านกาแฟหรอ

   (“เด็กผีน่ะสิ!”) ตัวหอมแหว (“ไม่คุยกับพี่กาลละ!”)

   “โอเค แค่นี้แหละ พี่โทรไปกวนเฉย ๆ”

   (“บ๊ายบายครับ”)

   จากนั้นสัญญาก็ถูกตัดไปโดยทิวากาล เขาสบตากับผมพร้อมยิ้มมุมปาก

   เกลียดว่ะ

   “เชื่อหรือยัง?”

   “อือ” ผมขานรับในลำคอ “สนิทกันมากหรือเปล่า?”

   “อะไรสนิทกันเหรอ”

   ผมกลอกตา “คุณกับณภัค”

   “เรียกพี่ก็ได้นะ”

   “ก็แย่ละ ตอบ ๆ มาเหอะ”

   “หึ สนิทระดับหนึ่ง”

   “ระดับหนึ่งนี่มันขนาดไหนเล่า!” ทิวากาลยักไหล่ ไม่ตอบ “ผมจะบอกไอ้หมูว่าพี่นอกใจมัน!”

   ทิวากาลหัวเราะลั่น น่าหงุดหงิดจังเลยวะ แล้วทำไมผมถึงไปเรียกเขาพี่แบบนั้น เสียภาพลักษณ์หมด

   “พี่กับภัคเป็นแค่พี่น้อง ไม่ต้องห่วงน่า” ผมยังคงหน้าบึ้งไม่หาย แม้เขาจะบอกแบบนั้น “ชอบภัคจริง ๆ เหรอ”

   “อือ”

   “ณภัคน่ะ เห็นหยิ่ง ๆ ไม่สนใจใครแบบนั้น จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นหรอก เอาใจเยอะ ๆ ใจดีกับเขาหน่อย ไม่นานก็ใจอ่อนเองแหละ”

   “เขาไม่ชอบเด็ก”

   “ใช่ เพราะภัคต้องการคนที่สามารถดูแลภัคได้ เลยคบแต่คนอายุมากกว่า”

   “มันก็ไม่เสมอไปป่ะวะ” ผมบ่นตัวเอง “เขามีปมเหรอ?”

   “จะว่าแบบนั้นก็ได้ พี่ไม่บอกนะ อยากรู้ก็ไปถามภัคเอง”

   “พี่รู้เหรอ?” ทิวากาลพยักหน้า “บอกผมไม่ได้เหรอ?”

   “บอกได้ แต่ภัคคงไม่อยากให้คนอื่นรู้ ทางที่ดีนายควรให้เขาบอกด้วยตัวเองดีกว่า”

   “ก็แย่ละ”

   “รู้จักกับภัคได้ยังไง นานหรือยัง?”

   ผมเงียบไปพักหนึ่ง สบตากับทิวากาลแล้วแสยะยิ้ม “ไม่บอก”

   คนของพี่กลอกตาขึ้นฟ้า ขณะที่ผมหัวเราะในลำคอแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน เอาไงดีวะ คนของพี่รู้จักกับตัวหอมแบบนี้ เกิดเขาเอาเรื่องตัวหอมมาขู่ผมก็แย่ดิ

   ฉิบหายละ เอาไงดีวะ

   ผมต้องหาตัวช่วย

   วิ่งขึ้นไปบนห้องตัวเอง กระโดดไปนอนคว่ำบนเตียงและเอาโทรศัพท์ออกมา เข้าโปรแกรมสนทนาเลื่อนหารายชื่ออยู่พักหนึ่งแล้วจึงพิมพ์ข้อความส่งไป

   21:46 J9 : สวัสดีครับ
   21:46 J9 : พี่พีทว่างหรือเปล่า?
   22:20 phiit : Hi
   22:22 phiit : เพิ่งเห็นข้อความ มีอะไรคะสุดหล่อ
   22:22  phiit : คิดถึงพี่เหรอ

   ผมสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์มีเสียงแจ้งเตือน เห็นข้อความแล้วถอนหายใจเบา ๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่พีทผมบล็อกไปละ

   22:22 J9 : *สติ๊กเกอร์ทำหน้านิ่ง*
   22:23  phiit : ล้อเล่นไม่ได้เหรอ
   22:23  phiit : จะถามหาอีภัคถูกมะ
   22:24 J9 : ครับ
   22:24  phiit : *สติ๊กเกอร์มองบน*
   22:24 phiit : ไอดีก็ให้ไปแล้วทำไมไม่คุยเองค้าาาาา
   22:24 J9 : ผมเขิน
   22:25 phiit : ถ้าไม่ติดว่าหล่อ
   22:25 phiit : พี่จะด่าหนูว่าตอแหลค่ะ
   22:25 J9 : ก็แย่ละ
   22:26 J9 : เข้าเรื่องนะครับ ทำไมเพื่อนพี่ถึงชอบคนอายุมากกว่า?
   22:26 phiit : ถ้าพี่ตอบจะได้อะไร?
   22:26 J9 : ได้ตอบไงครับ บอกผมเหอะ ผมน่าสงสาร
   22:27 phiit : ค่ะ!
   22:27 phiit : มันชอบคนอายุมากกว่าเพราะต้องการคนที่ดูแลมันได้ก็เท่านั้นเอง
   22:28 J9 : แค่เพราะต้องการคนดูแลเหรอ? ตรรกะไรวะ
   22:28phiit : ตอนนี้มันดูแลตัวเองไง เลยอยากมีคนดูแล แล้วรักมันจริง ๆ
   22:28 phiit : ไม่ใช่ว่าคบกันมันเพราะหน้าตามัน หรือเพราะเรื่องเซ็กส์ น้องเข้าใจป่ะ
   22:28 phiit : เออ นั่นแหละ
   22:29 J9 : เขามีเรื่องฝังใจเหรอครับ?
   22:29phiit : จะว่าแบบนั้นก็ได้ แต่พี่ไม่บอกนะ ไม่ต้องถาม
   22:29 J9 : พี่ไม่สงสารผมเหรอ
   22:30 J9 : เพื่อนพี่ไม่มีทางเล่าให้ผมฟังหรอก
   22:30 phiit : นั่นมันเป็นเรื่องที่น้องต้องทำให้เพื่อนพี่เปิดใจเล่าเรื่องของมันให้น้องฟัง
   22:30phiit : สู้นะลูก
   22:30 phiit : อีภัคมันแพ้คนอ่อนโยนและเอาใจ
   22:30  phiit : พี่นอนไปละ เดี๋ยวไม่สวย บรัยยยยย

   ได้แต่มองจอโทรศัพท์มือถือตาปริบ ๆ อยู่ที่ตัวผมเองสินะว่าจะทำให้ตัวหอมเปิดใจเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟังได้หรือเปล่า ถ้าผมทำได้ชีวิตแม่งโคตรจะคอมพลีท เอาเหอะ ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองก็แล้วกัน

   แพ้คนอ่อนโยนใช่ไหม

   แพ้คนเอาใจใส่ใช่ไหม

   ได้ตัวหอม ได้!

   เราได้เจอกันแน่









--------------------------------------
พี่ภัคไม่เลี้ยงเดี๋ยวเราเลี้ยงก็ได้นะจริงใจ /กวักมือ
ทีแรกลังเลว่าจะอัพหรือไม่อัพดี เพราะยังระแวงแอพดูดนิยายเวรนั่นอยู่ ฮือ
ใครที่มีเวลา เข้าไปรีพอร์ตแอพช่วยกันนะคะ -/\-

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ไว้เจอกันตอนหน้าเนอะ ♥

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
สู้ๆจริงใจเท่อยู่แล้วลูก~~


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด