• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 311896 ครั้ง)

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1600
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
น่ารักกกกกกกกกก เจ้าเด็กปีศาจจจ

ออฟไลน์ MAILOVEZ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จริงใจนี่เป็นบุคคลที่นิยามคำว่าซึนได้ดีที่สุดละ รัก หวง เป็นห่วง แต่แสดงออกมาในรูปแบบไม่สน ไม่แคร์ ปากว่าแต่คือหวังดีทั้งนั้น มีความจริงใจไปอีก

ชอบจริงใจรอติดตามเรื่องนี้นะคะ รอจันทร์เจ้าด้วย สรุปคือรอทุกเรื่องเลยสู้ๆ นะคะเป็นกำลังใจให้น้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เด็กปีศาจมาแล้วววว  :katai2-1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาติดตามจักร-ภัค~

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จริงใจ ว่าลูกหมูกับน้องสาวเป็นตัวป่วน
จริงใจ ก็ป่วนใช่เล่นเหมือนกัน :katai5:
ขำจันทร์เจ้า นั่งๆก็วูบหลับเกือบตกเก้าอี้
ครอบครัวนี้มีความสุข
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ชอบโมเม้นท์ของสามพี่น้องค่ะ  :katai4:
น่าร้ากก :katai2-1:

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฮ้าาาาาาาาา :hao6: จริงใจมาละ

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จริงใจ เจ้าเด็กซึน ปากหนัก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ไม่น่าเบื่อค่ะ ชอบความจริงใจและพี่น้องที่ฮาเฮมากๆ ฮาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 2
ผมกับเรื่องนก ๆ







   “จริงใจ!!!”

   “เหี้ย!!!” ผมอุทานเสียงหลงพร้อมกับรีบจับผ้าเช็ดตัวที่พันเอวไว้มันมันจะร่วงหลุดไป ตาก็จ้องพี่ชายเขม็ง คนเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาโดยไม่ได้เคาะขออนุญาตยิ้มแห้งก่อนจะเดินต้วมเตี้ยมนั่งบนเตียงของผม

   “มาทำไม?” ผมถามหมูที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ไอ้อ้วนผุดตัวลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ

   “จริงใจ เบสท์บอกว่าพี่ชอบทิวา...”

   “ว่าไงนะ!!”

   “เบสท์บอกว่าพี่ชอบทิวา...” แทบจะเอาผ้าเช็ดผมอุดปากตัวเอง... ผมมองจันทร์เจ้านิ่ง ๆ โดยไม่พูดอะไร แต่พอเห็นหน้าหมา ๆ ของพี่แล้วก็ถอนหายใจออกมา พี่เบสท์นะพี่เบสท์ คนอุตส่าห์พูดกรอกหูจันทร์เจ้าอยู่ทุกวัน ยังจะมากรอกข้อมูลใหม่ให้เจ้าหมูอีก แม่งเอ๊ย!

   “พี่เบสท์บอกแล้วเชื่อไหม?”

   “เชื่อ...”

   “แน่ใจหรอว่าชอบจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเขวเพราะพี่เบสท์บอก” ลูกหมูเงยหน้ามองผม แล้วเริ่มขมวดคิ้วทำหน้าเครียด

   “เบสท์บอกว่าใช่”

   “แล้วก็เชื่อเหรอ? ถามตัวเองหรือยังว่าชอบไอ้ทิวากาลอะไรนั่นจริง ๆ หรือเปล่า”

   “ทิวาแก่กว่าจริงใจตั้งหลายปีนะ อย่าเรียกไอ้สิ”

   ผมกลอกตาขึ้นฟ้าพร้อมยกมือกอดอกแล้วจ้องหน้าจันทร์เจ้า เข้าข้างกันไปดิ “ไปถามตัวเองให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกมาจันทร์เจ้า ชอบจริง ๆ หรือชอบเพราะมีคนพูดให้คิดว่าชอบ”

   แอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อจันทร์เจ้าก้มหน้าลงต่ำ พี่ชายผมมันยังอ่อนด๋อยเกินไปที่จะมีความรัก หัวสมองมึน ๆ แบบนี้จะไปตามผู้ชายร้ายกาจแบบนั้นทันได้ยังไง ยื่นมือไปวางบนศีรษะพี่ชายแล้วขยี้เบา ๆ จันทร์เจ้าเงยหน้ามอง ผมแอบกัดปากตัวเองเมื่อเห็นว่าดวงตากลมโตของพี่ชายหม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งใบหน้าที่หงอยไปถนัดตา ไม่ได้ ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด เรื่องแบบนี้มันใช่เรื่องที่จะปล่อยไปได้ง่าย ๆ ที่ไหนกัน

   “ถ้าเกิดพี่ชอบทิวาจริง ๆ ล่ะ?”

   “ไปถามพี่ฟ้าสิ”

   “จริงใจน่ะ!”

   “คิดว่ามันชอบพี่หรือไง?”

   “ทำไมจริงใจใจร้าย...”

   “ถ้าชอบก็คงจะเอาไปเป็นแค่ของเล่นฆ่าเวลา ไม่คิดจริงจังหรอก พอเบื่อก็เขี่ยทิ้ง แค่เห็นหน้าก็รู้แล้วว่านิสัยเป็นยังไง!!”

   “ฮึก” ลูกหมูสะอื้นน้ำจาร่วงเผาะล้นขอบตาเมื่อโดนผมตวาดใส่ ผมเองก็ชะงักไปเมื่อเห็นว่าพี่ชายร้องไห้ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ร้องไห้ แต่ว่าแม่ง... ช่างมันเถอะ

   “ร้องทำไม”

   “ไม่รู้ จู่ ๆ มันก็ไหลออกมาเอง ฮือ”

   ผมแสยะยิ้มแล้วยื่นมือไปจับมือเล็กที่กำลังจะขยี้ตาไว้แล้วเช็ดน้ำตาให้พี่แทน เมื่อลูกหมูหยุดร้องไห้ ผมจึงเดินไปนั่งประจำที่กลองชุดของตัวเอง ก่อนจะหยิบไม้กลองออกมาแล้วเริ่มเล่นไปเรื่อย โดยพยายามใจแข็งไม่สนใจหมูหงอยบนเตียง สงสารก็สงสารอยู่หรอกนะ แต่มันน่าเป็นห่วงเกินไป ใช่ว่าจันทร์เจ้าจะไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง พี่ผมซื่อเหมือนไม่ทันคนก็จริง แต่จันทร์เจ้าไม่ได้โง่ การที่ถูกเขาและเพลิงฟ้าพูดกรอกหูว่ามันไม่ใช่นั้นไปขัดแย้งกับที่เพื่อนอย่างเบสท์บอกว่าใช่ เจ้าตัวคงจะสับสน ปล่อยไปแบบนี้แหละ สับสนไปเลย!

   น่าสงสาร แต่ผมไม่เห็นด้วย และหากเจ้าหมูจะไปถามพี่ฟ้าจริง ๆ ล่ะก็... คำตอบก็คงไม่ต่างจากที่ผมพูดไปสักเท่าไหร่ ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่ฟ้าหวงจันทร์เจ้ามากแค่ไหน และยิ่งรู้ว่าคนที่จันทร์เจ้าชอบเคยทำให้ลูกหมูต้องเสียน้ำตา พี่ฟ้าก็เมินหน้าหนีและให้คะแนนติดลบไปแล้วด้วยซ้ำ

   งานหยาบเลยล่ะ หึหึ



   “พี่จันทร์เจ้าไปไหนคะ หนูยังไม่เจอเลยตั้งแต่ตื่น” จ๋าจ้าเอ่ยถามไม่เจาะจง วันอาทิตย์อย่างนี้เป็นวันหยุดที่ครอบครัวจะใช้เวลาร่วมกัน วันนี้ผมไม่มีนัดไปซ้อมดนตรีและกะว่าจะไม่ออกไปไหนจึงเลือกที่จะอยู่บ้าน แต่เหมือนจะคิดผิดยังไงไม่รู้สิ

   “ไปบ้านคุณย่าเขาตั้งแต่เช้าแล้ว” คุณแม่ตอบคำถามจ๋าจ้า “เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าไปด้วยเห็นบอกว่าจะไปนอนบ้านคุณย่าสักหนึ่งอาทิตย์ ไม่รู้เป็นอะไร ตาก็ช้ำ ๆ เหมือนนอนไม่พอ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไม่รู้ใครไปทำอะไรให้” แล้วนั่นหรี่ตามองอย่างจับผิดทำไมล่ะครับ แค่เห็นสายตาของแม่ผมก็รู้สึกเสียวสันหลังวูบ ก็คนมันมีความผิดนี่เนอะ

   “พี่จริงใจหรือเปล่า?!”

   “อะไรล่ะ” ผมปัดมือน้องสาวที่ชี้หน้าอยู่ออก คิ้วเข้มยังคงขมวดมุ่นตั้งแต่ที่แม่บอกว่าจันทร์เจ้าไปบ้านคุณย่า งอนเหรอวะ เรื่องแค่นั้นเนี่ยนะ! ก็แย่ละ

   “ก็เมื่อคืนพี่จันทร์เจ้าไปหาพี่ที่ห้องไม่ใช่เหรอ แกล้งอะไรให้พี่เขาโกรธล่ะ”

   “ทำอะไรพี่งั้นเหรอจริงใจ?” แม่กดเสียงต่ำ ผมยังตีหน้านิ่งแม้ในใจจะอยากงอแง สุดท้ายก็ทนไม่ไหวกับสายตากดดันจากทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ไหนจะคุณตากับคุณยายรวมทั้งจ๋าจ้าด้วย ถ้ามีน้าเจ้ากับพี่ฟ้ามาอีกคน ผมคงเครียดจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า จำใจต้องเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟังทั้งหมดจนจบ รวมทั้งเรื่องของทิวากาลอะไรนั่นด้วย

   เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!

   “โอ๊ย แม่ครับ เจ็บ”

   “เจ็บสิดี คุณแม่ขา ตีอีกค่ะ” ผมถลึงตาใส่น้องสาวตัวแสบก่อนจะจับมือของแม่ที่กำลังจะตีแขนผมอีกครั้งมาจูบแล้วจึงเข้าไปกอดเอวมารดาก่อนซบไหล่อย่างออดอ้อน

   “ผมไม่ได้ตั้งใจให้ร้องไห้สักหน่อย”

   “แล้วเป็นไงล่ะ แม่ไม่ช่วยง้อนะ”

   “โธ่... ผมแค่เตือนเฉย ๆ เอง ร้องไห้ไร้สาระ โอ๊ย!” ลูบแขนตัวเองที่โดนตีพร้อมกับหน้าบึ้ง ทำไมทุกคนถึงได้เข้าข้างไอ้หมูนั่นกันหมด ทั้ง ๆ ที่ไม่ควรจะเห็นด้วยแท้ ๆ ถ้าเป็นแบบนี้คงต้องปรึกษาพี่ฟ้าแล้ว!

   “เรื่องนี้ปล่อยให้พี่ตัดสินใจเองไปก่อน อย่าเพิ่งเข้าไปยุ่งเข้าใจไหม จริงใจ”

   ก็แย่ละ


   หลังจากตกเป็นจำเลยสังคมผมก็หาทางชิ่งขึ้นมาบนห้อง นอนกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างเบื่อ ๆ สลับกับมองโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะตัดสินใจโทรเข้าเบอร์ของจันทร์เจ้า ปรากฏว่าไม่รับสาย แย่ละ โดนงอนแน่เป็นแบบนี้ แล้วมันเรื่องอะไรที่ไอ้หมูต้องมางอนผมเพราะคนอื่นเนี่ย ฉิบหายเถอะ เมื่อโทรไปอีกครั้งแล้วไม่รับ ผมจึงเปลี่ยนไปโทรเข้าเบอร์บ้านคุณย่าบ้าง

   (“บ้านฉัตรบดินทร์รัตน์ค่ะ”)

   “ผมจริงใจนะครับ จันทร์เจ้าอยู่ที่นั่นหรือเปล่า?”

   (“อยู่เมื่อช่วงเช้าค่ะคุณหนูจริงใจ ตอนนี้คุณหนูจันทร์เจ้าออกไปข้างนอกค่ะ”)

   “พี่บอกไหมครับว่าจะไปไหน?”

   (“ไม่ได้บอกไว้ค่ะ”)

   “อ๋อ ครับ ขอบคุณครับ”

   ไม่อยู่บ้านแล้วหายไปไหนวะ! ผมมองโทรศัพท์ในมือหลังจากที่วางสายไป จันทร์เจ้าน่ะถ้างอนหรือไม่พอใจใคร ต่อให้โทรหาไปเป็นร้อยสายก็ไม่รับ ข้อความส่งไปก็ไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน อย่าหวังว่าจะได้รับการตอบกลับ แล้วนี่ผมจะทำยังไงดีวะ... ถ้าจันทร์เจ้าจะออกไปข้างนอก ไม่ไปหาของกินก็ไปหาเพื่อน และเพื่อนอันดับหนึ่งที่ไอ้หมูจะไปก็คือพี่มีน

   “พี่มีน!”

   (“มึงไม่สวัสดีก่อนหรือไง?”) เสียงที่ตอบกลับมาทำให้ผมผละมองนิดหน่อย ไม่ใช่พี่มีนนี่ว่า ก็ถูกแล้วนี่

   “หวัดดีครับ”

   (“โทรมามีอะไร?”)

   “จันทร์เจ้าอยู่นั่นป่ะพี่?”

   (“ไม่”)

   “อ้าว แล้วพี่รู้ป่ะว่าลูกหมูจะไปที่ไหน”

   (“จะมาหากูนี่แหละ มึงทำมันงอนหรือไง?”) ได้ยินเสียงพี่รามินทร์ถอนหายใจแว่วเข้ามา ผมเงียบ ปลายสายก็เงียบ รู้สึกกดดันแบบพิลึก แต่การที่ผมไม่ตอบแบบนี้พี่เขาก็น่าจะประติดประต่อได้แล้ว (“มึงเรื่องอะไรกัน ตอบกูมา ไม่งั้นกูเสี้ยมไม่ให้มันดีกันมึงแน่”)

   “ก็แย่ละ”

   (“เล่ามา ทั้งหมด”)

   ทำไมต้องกดดันกูขนาดนี้ด้วย! สุดท้ายผมก็เล่าให้พี่รามินทร์ฟังครับ ก็ดี จะได้พรรคพวกเพิ่มด้วย พี่เขาก็หวงจันทร์เจ้าไม่น้อยนะ พี่มีนก็หวง แต่ออกแนวสปอยล์มากไปหน่อย ตามใจจนเว่อวัง

   (“สมน้ำหน้า”) นั่นคือประโยคแรกที่พี่เขาพูดหลังจากที่ผมเล่าให้ฟัง... โคตรเป็นพี่ที่ดี

   “โห พี่แม่ง ช่วยผมหน่อยดิ”

   (“หึ แล้วมึงรู้ได้ไงวะ ว่าเขาเป็นคนไม่ดี”)

   “อ้าว พูดงี้พี่จะอยู่ทีมจันทร์เจ้าหรอ?”

   (“งั้นมั้ง แค่นี้แหละ จันทร์เจ้ามาถึงแล้ว”)

   “เดี๋ยว!! พี่รามินทร์! พี่!” เวร สัญญาณถูกตัดไปแล้ว โยนโทรศัพท์ทิ้งไปเมื่อมันหมดประโยชน์ ถ้ายังดันทุรังจะโทรหาจันทร์เจ้าแล้วนอกจากจะไม่หายงอนยังจะงอนหนักกว่าเดิม เป็นโรคประสาท งอนใครแล้วจะไม่ยุ่งด้วย ทำไมพี่ผมถึงเป็นคนแบบนี้วะ!!!




   เฮ้อ...

   เสียงถอนหายใจดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าจากตัวผมเอง วันนี้วันจันทร์แล้ว แต่จันทร์เจ้ายังไม่แม้แต่จะแยแสผมเลย ... ปลายนิ้วเรียวสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือไปมา สายตายังจดจ้องอยู่ที่ข้อความนับสิบที่ถูกส่งไปแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน ใจแข็งอะไรขนาดนั้นล่ะลูกหมู ผมถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่ก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง เปิดกระเป๋านักเรียนหยิบไม้กลองคู่ใจออกมาแล้วจึงเดินไปที่กลองชุดชุดหนึ่งภายในห้องซ้อมชมรมดนตรี ในตอนเช้าขนาดนี้ที่ชมรมยังไม่มีใครมา ผมจึงถือโอกาสใช้กลองในห้องชมรมเป็นที่ระบายอารมณ์... ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่ทำอะไรเพื่อระบายอารมณ์ตัวเองออกไปก่อน ผมอาจจะไปเม้งแตกใส่ใครสักคนก็ได้

   “โห... ไปโกรธใครมาเนี่ย กลองจะแตกแล้ว” ผมหยุดไม้กลางเอาไว้และถอดหูฟังออกจากหูไปคล้องไว้ที่คอเมื่อเห็นว่ามีใครเข้ามา

   “มาเช้าจัง” ทักออกไปพร้อมกับควงไม้กลองเล่นแก้เซ็ง

   “สายกว่าจริงใจอยู่ดีนั่นแหละ แล้วนี่ไปหงุดหงิดอะไรมาถึงได้มาลงกับกลองแบบนี้”

   “หงุดหงิดตัวเองครับพี่เจนซ์” พี่เจนิซพยักหน้ารับรู้ หัวเราะหน่อย ๆ และไม่ถามอะไรต่อ ก็ดี ผมก็ไม่พร้อมจะบอกใครเหมือนกันว่าเป็นอะไรถึงได้หงุดหงิดขนาดนี้

   ผมอยู่ในห้องชมรมจนกระทั่งเข้าเรียน วันนี้โดดไม่เข้าแถวทำกิจกรรมตอนเช้า และกว่าจะออกจากห้องชมรมไปเข้าเรียนก็เกือบจะสาย ทำไมถึงได้รู้สึกขี้เกียจมากขนาดนี้ก็ไม่รู้สิ... อยากกลับบ้านไปนอนชะมัด

   “มึงเป็นไรวะ? ซึมเป็นท่อน้ำเสียเลยไอ้สัด” ผมมองไอ้เนตรที่นั่งข้าง ๆ ด้วยหางตาแล้วถอนหายใจออกมา

   “ทะเลาะกับจันทร์เจ้า”

   “ฉิบหาย! โดนงอนหนักเลยดิ มึงถึงได้เป็นขนาดนี้”

   “เออ!”

   “ฮ่าฮ่า สมน้ำหน้า มึงก็ชอบไปแกล้งพี่เขา คราวนี้เรื่องอะไรวะ?”

   “เสือก” ว่าเสียงนิ่งพร้อมกับปัดมือของไอ้เนตรออกจากไหล่แล้วเดินลงบันไดเพื่อไปทานข้าวกลางวัน

   ตลอดทั้งวันผมกลายเป็นคนสมาธิสั้นและเป็นเด็กไม่มีมารยาทที่ต้องจับโทรศัพท์มือถือแทบจะทุกสามนาที แต่สุดท้ายมันก็ยังเหมือนเดิม มีเพียงเขาที่ส่งข้อความไปหาพี่ชายแต่ก็ไม่มีการตอบรับ แม้กระทั่งเปิดอ่านก็ไม่มีด้วยซ้ำ โทรไปแล้วก็ไม่ยอมรับสาย ผมอยากจะคิดว่าลูกหมูคงติดเรียนและปิดเสียงโทรศัพท์มือถือหรือปิดเครื่องเอาไว้จึงไม่เห็นของความของผม แต่มันน่าน้อยใจตรงที่จันทร์เจ้าอัพโหลดรูปภาพลงใน SNS แต่ไม่ยอมสนใจผมเลย

   จะงอนบ้างแล้วนะเว้ย!!!

   เมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้นผมก็กวาดหนังสือและอุปกรณ์การเรียนทุกอย่างลงกระเป๋าโดยไม่ใส่ใจจัดให้เป็นระเบียบ ก่อนจะพุ่งออกจากห้องเรียนไปทั้งยังไม่ทันบอกลาเพื่อนด้วยซ้ำ ระหว่างที่ก้าวเร็ว ๆ เพื่อไปที่โรงจอดรถนั้น นิ้วเรียวกดพิมพ์ข้อความแล้วส่งไปถึงข้าวฟ่างประธานชมรมดนตรีและหัวหน้าวง HISTASIA ว่าวันนี้ผมไม่ขอเข้าชมรมเพราะจะไปง้อพี่ชาย แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องโดนด่า สนหรอ?

   ก็แย่ละ...



   ผมค่อย ๆ ขับรถซอกแซกเข้าไปเรื่อย ๆ เมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดงก็หยุดรถ ใช้เท้าทั้งสองข้างเหยียบพื้นเพื่อพยุงเอาไว้ ข้างซ้ายของผมคือแท็กซี่คันหนึ่ง และข้างขวานั้นคือรถเก๋งสี่ประตูทรงสวยที่ผมจำได้ว่ามันคือคันที่ตัวหอมขึ้นไปนั่งหลังจากชนผมเข้า ไม่ผิดหรอก เพราะผมจำทะเบียนรถได้ แต่ไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่ในรถด้วยหรือเปล่า

   ผมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยหลังจากที่รถยนต์คันที่จอดอยู่ข้างเขาแล่นผ่านไปเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ระหว่างที่ต้องรอเวลานับถอยหลังผมรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องผมอยู่ แต่น่าเสียดายที่ฟิล์มมืดเกินไปจนมองไม่ค่อยเห็นคนในรถ ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกได้ว่าสายตาที่จ้องมามันมากกว่าหนึ่งคู่ หวังว่าหนึ่งในนั้นจะมีตัวหอมนะ

   เมื่อมาถึงหน้าตึกเรียนของพี่ชาย ผมก็กดโทรศัพท์เพื่อโทรถามว่าพี่อยู่ไหน รอสายอยู่นานก็ไม่มีคนรับ ลูกหมูฝังใจโกรธผมขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมตอนทิวากาลพูดจาไม่ดีใส่ยังไม่ทันข้ามคืนพี่ก็หายโกรธแล้ว คิดแล้วน้อยใจขึ้นมา เดี๊ยะ อย่าให้เจอตัว พ่อจะเล่นอีกสักดอก แต่ถึงอย่างนั้นก็กดโทรหาอีกครั้ง และในที่สุดความพยายามของผมก็สำเร็จ

   “จันทร์เจ้า...”

   (“นี่พี่มีนนะครับ”) แย่ละ คนรับสายไม่ใช่จันทร์เจ้าว่ะ

   “อ้าว... จันทร์เจ้าล่ะครับ?”

   (“น้องจิ๋วหลับอยู่น่ะ พอดีพี่มาเจอจริงใจโทรมาก็เลยถือวิสาสะรับ”)

   “จันทร์เจ้าอยู่กับพี่มีนหรอครับ?”

   (“ใช่ครับ ที่คอนโดรามินทร์”)

   “อ่า... ผมไปที่นั่นได้ไหมครับ?”

   (“ได้สิ จะมาง้อน้องจิ๋วก็ซื้อขนมเข้ามาด้วยนะ คิคิ”) จริงใจหัวเราะฝืด ๆ ก่อนจะกดวางสายไป

   พี่มีนพูดแบบนั้นแสดงว่าจันทร์เจ้าต้องเล่าให้ฟังแน่ หรือไม่ก็เป็นพี่รามินทร์ แต่ช่างแม่งเหอะ ไปหาซื้อของเซ่นไหว้องค์ท่านดีกว่า เลี้ยวรถเข้าไปจอดไว้ที่หน้าร้านนมปัง หลังจากดับเครื่องผมก็ถอดหมวกกันน็อกที่สวมอยู่ออก สะบัด ๆ เสยผมให้เข้าที่ไม่ให้ยุ่งเกินไปจนดูไม่ได้ แต่ผมหน้าตาดี ทำยังไงก็ออกมาดูดีอยู่แล้ว เลยไม่เครียดเท่าไหร่

   ผมรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นว่ามีคนจ้องผมอยู่ และยิ่งแปลกใจมากขึ้นเมื่อพบว่าคนนั้นคือใคร ไม่คิดว่าจะได้เจออีกแฮะ... แต่เพื่อนของเขาคนนั้นทำไมถึงได้มองผมตาเยิ้มราวกับอยากจะกลืนกินไปทั้งตัวแบบนั้น โคตรคุกคาม

   “ก็แย่ละ” ผมพึมพำคำติดปากกับตัวเอง เดินผ่านโต๊ะของตัวหอมกับเพื่อนไปเพื่อสั่งขนมที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะหาโต๊ะนั่งรอคิว เวลาเย็นแบบนี้คนในร้านค่อนข้างเยอะ ไม่ค่อนข้างดิ โคตรเยอะ มีโต๊ะว่างอยู่ไม่เท่าไหร่ ที่ผมพอจะเห็นก็โต๊ะที่อยู่ใกล้เคาน์เตอร์แถมยังอยู่ข้างโต๊ะตัวหอมกับเพื่อน ส่วนอีกโต๊ะอยู่ไกลออกไปเกือบติดประตูทางเข้า และแน่นอนว่าผมไม่มีทางไปนั่งโต๊ะที่อยู่ไกลแน่นอน

   ระหว่างที่รอคิวตัวเองนั่นก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมาเล่นเกมรอ ทว่าเล่นไปสักพักก็เบื่อจึงปิดมันไว้แล้วางนิ่ง ๆ บนโต๊ะ ผมมองไปรอบ ๆ ร้าน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามีหลายสายตาจ้องมา แถมยังมีบางคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาอีก ใช่ว่าจะไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่เจอก็ไม่เคยชิน และค่อนข้างที่จะไม่สบอารมณ์ทุกครั้งด้วย ถ้าผมเป็นดาราหรือคนดังก็ว่าไปอย่าง แบบนี้มันค่อนข้างจะ...

   น่ารำคาญ...

   “โทษนะคะ” ผมเลิกคิ้วมองหน้าคนที่เข้ามาทั้ง หญิงสาวในชุดนักศึกษาเสื้อรัดรูปทั้งกระโปรงยังสั้นแสนสั้นกำลังส่งยิ้มให้ผม ข้าง ๆ นั้นมีผู้หญิงอีกสองคนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกัน

   “พวกพี่อยากนั่งตรงนี้ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ?”

   ก็แย่ละ

   ผมเดาะลิ้นก่อนจะพยักหน้าหนึ่งที “ครับ” บอกคำเดียวสั้น ๆ แล้วคว้ากระเป๋าเป้กับโทรศัพท์มือถือมาถือไว้แล้วเดินออกจากโต๊ะนั่งไปยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ โชคดีที่ตรงนั้นมีเก้าอี้ให้นั่งด้วย ไม่อย่างนั้นผมคงต้องอารมณ์เสียมากแน่นอน พี่พนักงานคงเห็นจึงส่งยิ้มแปลก ๆ มาให้ ผมจะคิดว่ามันเป็นยิ้มปลอบใจก็แล้วกัน

   “อุ๊ย แหก” เสียงเพื่อนตัวหอมพูดขึ้นพร้อมกับปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต สามสาวที่โดนผมหักหน้ามองจิกพี่เขากับตัวหอมอย่างไม่พอใจ อืม... ก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองหรอกนะ แต่มันอยู่ในกรอบสายตา และพวกเขาก็ไม่ได้พูดเสียงเบาด้วย ได้ยินกันทั้งร้านเลยมั้ง

   “ยุ่งอะไรล่ะอีตุ๊ด”

   “ตบปากตัวเองไปอีชะนี”

   “แล้วจะทำไมยะ!”

   “เปล่าหรอก แต่ว่าแหม กระเหี้ยนกระหือรือเข้าหาผู้ชายก่อนแต่ผู้ไม่สนใจนี่เขาเรียกว่าอะไรนะภัค?”

   “นก” ตัวหอมของผมพูดเสียงดังพอสมควร ก่อนทั้งสองจะหัวเราะกันคิกคัก คนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็พลอยหัวเราะไปด้วยเช่นกัน สามสาวได้แต่กำมือแน่นอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หึ แสบจังเลยแฮะ ว่าแต่...

   ชื่อภัคงั้นเหรอ...

   ผมยกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก เคาะนิ้วกับเคาน์เตอร์ไม่เป็นจังหวะระหว่างที่ฟังตัวหอมกับเพื่อนฉะกับผู้หญิงสามคนนั้นที่เขามาแย่งโต๊ะของผม และเมื่อได้ของได้สั่งไว้ก็จ่ายเงินค่าขนมก่อนจะรับมาแล้วเดินออกจากร้าน ผมจงใจเดินช้าเมื่อต้องผ่านโต๊ะของตัวหอมเพื่อต้องการมองหน้าอีกคนให้ชัด ๆ แม่ง... โคตรน่ารักเลยว่ะ!!

   ทั้งที่ปกติไม่ค่อยจะสนใจอะไร แต่ทำไมพอเป็นคนนี้ผมถึงได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษนะ

   ...ก็แย่ละ

   คิดอะไรพิลึกพิลั่น



   ผมขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเปิดกระเป๋าแล้วไม่เจอกุญแจรถ ผมก็ว่าผมเอาใส่กระเป๋าไว้แล้วนะ หายไปไหนวะ หรือจะตกอยู่ในร้าน เมื่อคิดแบบนั้นก็กลับเขาไปในร้านอีกครั้ง ใบหน้ากำลังยุ่งเหยิงและขัดใจสุด ๆ ผมเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ตรงที่เคยนั่งก่อนจะก้มหากุญแจรถที่ทำตก

   “หาอะไรคะน้อง?”

   “กุญแจรถครับ พี่เห็นหรือเปล่า?” ตอบพนักงานที่เข้ามาถามและถามพี่เขากลับ

   พี่พนักงานส่ายหน้าเป็นคำตอบ “ไม่นะน้อง น้องไปหาโต๊ะที่น้องนั่งก่อนหน้านั้นหรือยังคะ?”

   “อ่า.. ยังครับ ขอบคุณครับพี่” พี่พนักงานบอกว่าไม่เป็นไรแล้วกลับไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ ผมเสยผมไปด้านหลังอย่างหงุดหงิดหลังจากมองไปที่โต๊ะที่เคยนั่ง ผู้หญิงสามคนนั้นยังนั่งอยู่แบบนี้จะไปหาได้ยังไง

   ไม่มีทางเลือกเลยสิน่า...

   ผมดีดนิ้วเปาะพร้อมกับเดาะลิ้นในจังหวะเดียวกันหลังจากที่มองไปใต้โต๊ะแล้วเห็นแสงสะท้อนอะไรบางอย่างกระทบสายตา อยู่ใต้โต๊ะนั้นจริง ๆ แล้วจะเอายังไงนี่สิประเด็น

   “ขอโทษนะครับ”

   “อุ๊ย มีอะไรคะน้อง?” ทั้งสามสาวหยุดการสนทนาเอาไว้เมื่อเห็นว่าผมเข้าไปทัก สายตาแต่ละคนโคตรเป็นภัย ฉิบหายแล้วจักรพรรดิมึง แต่ผมแอบเห็นพวกเธอหันไปยักคิ้วให้ตัวหอมกับเพื่อนด้วยท่าทางเหนือกว่าด้วยว่ะ ไม่น่ารักเลยนะครับสาว ๆ

   “กุญแจผมตก ช่วยเก็บให้ผมหน่อยได้ไหมครับ?” ผมขอร้องด้วยความสุภาพ สามสาวก้มมองใต้โต๊ะก็เห็นว่ามีกุญแจอยู่จริง ๆ

   “น้องก็ก้มลงไปเก็บเอาเองสิคะ” ผู้หญิงคนที่เดินเข้ามาหาผมคนแรกเป็นคนบอกก่อนตวัดขาขึ้นไขว่ห้าง แบบนี้มันจงใจให้ผมเป็นโรคจิตหรือเปล่าวะ ผมเดาะลิ้นก่อนจะถอนหายใจตอนนี้ยิ่งอารมณ์ไม่คงทียังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ ไอ้จะก้มไปเก็บเองมันก็ได้อยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่าสาวเจ้าทั้งสามนั้นใส่กระโปรงกันสั้นมากขนาดนั้น ถ้าหากผมก้มลงไปไม่โดนหาว่าส่องใต้กระโปรงผู้หญิงเหรอ

   เอาไงดีวะ ยิ่งเสียเวลากันไปใหญ่ จะขอร้องให้พนักงานผู้หญิงมาช่วยเก็บให้ก็ดูจะไม่ใช่เรื่อง ไปรบกวนเขาอีก

   “ถ้าอย่างนั้น... ก็ขอโทษด้วยนะครับ” ผมบอกก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ มือหนาวางยึดไว้บนโต๊ะก่อนจะเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยแล้วยื่นเท้าเข้าไปเขี่ยกุญแจรถให้ออกมาด้านนอกก่อนจะหันหลังให้หญิงสาวทั้งสามคนนั้นแล้วย่อตัวลงไปเก็บก่อนจะเดินออกจากร้านไปโดยไม่สนใจใครอีก แต่ก็ได้ยินเสียงแว่วตามหลังมา...

   “ว้าย! นกซ้ำซ้อน!”


   ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย คล้าย ๆ จะจำได้ว่าเป็นเสียงของใคร








---------------------------------
จริงใจเพ้ออ่ะ!!
จริงใจในความจริงใจกับจริงใจมนุษย์แฟนเด็กเหมือนคนละคนเลย...
ในเรื่องนี้จริงใจเป็นคนดำเนินเรื่องเองเลยค่อนข้างเหมือนคนเพ้อ
ส่วนมนุษย์แฟนเด็กเจ้าเด็กปีศาจไม่ค่อยได้แสดงความรู้สึกอะไรมากเลยดูเป็นคนนิ่ง ๆ ; w ;
ไทม์ไลน์ความจริงใจจะช้ากว่ามนุษย์แฟนเด็กนะ ยังอยู่ในช่วงที่ไม่ได้วอแวตัวหอม
(พูดไรอ่ะ งง)

มาอัพช้าแล้วยังดึกอีก ฮือ ขอโทษด้วยครับผม
ปกติจะลงช่วงสองทุ่ม แต่วันนี้ไปเรียนขับรถมาเพิ่งถึงบ้านเลยดึกอย่างที่เห็น .__.

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะคะ
หากผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
เอ็นดูเด็กปีศาจด้วยน้าาาาาา



ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนใจเขาอะดี้  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ก็แย่ล่ะ รู้ไหมว่าจริงใจทำให้คนอ่านติดคำพูดนี้ไปแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ May99

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :hao7: :hao7: :hao7: มีความสะใจ นกซ้ำซ้อนนนนน  กร้ากกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เจอกันอีกแล้ว~

ออฟไลน์ punnicha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
ความจริงใจนี้55555 :laugh:  น่าร้ากก :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สาวๆ ที่เจอจริงใจ คงใจเต้น....ก็แย่ละ
ก็จริงใจ ทั้งสูง หุ่นดี หน้าตาดี คิ้วก็เข้มอีก
ยังไงจริงใจ ก็ไม่สนใจหรอก
เพราะจริงใจ สนใจคนตัวหอมไปแล้ว
จันทร์เจ้า ต้วมเตี้ยม น่าฟัดจริงๆ
เข้าใจพี่ฟ้า กับทิวาเลย
แต่พี่ฟ้าได้ฟัดๆ ลูกหมูตั้งแต่ยังเด็กๆเลย  :เฮ้อ: อิจฉาาาา
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
จริงใจกำลังมีความรัก

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สมน้ำหน้าชะนี ถ้าจริงใจได้ชะนีต้องเป็นเราคนเดียว :mew1: :hao6:

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ saruwatari_guy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
โอ๊ย เด็กปีศาจจอมซึนนน

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
"ก็แย่ละ" กลายเป็นประโยคติดปากของเราตามจริงใจไปแล้ว

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
เด็กปีศาจเท่มากกกกกกก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
มีความสะใจมากกกกกกกกกกกกกกอ่ะ หึๆๆๆๆๆ o3 o3

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 3
ผมกับพี่ชายตัวกลม







   “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คนที่มาเปิดประตูให้ พี่รามินทร์พยักหน้ารับแล้วเดินนำเข้าไปในห้อง เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่นก็เห็นพี่มีนนั่งดูทีวีอยู่ ผมวางกระเป๋าไว้ที่โซฟา สายตามองหาคนที่ต้องการมาหา

   “น้องจิ๋วนอนอยู่ในห้องนู่น” นิ้วเรียวของพี่มีนชี้ไปที่ประตูห้องห้องหนึ่ง “เข้าไปปลุกสิ”

   “นอนอีกละ”

   “ฮ่า ๆ แล้วขนมพวกนี้เอามาเซ่นองค์ท่านใช่มะ เดี๋ยวพี่เอาไปแช่ตู้เย็นให้ จริงใจไปปลุกน้องจิ๋วเถอะ นอนตอนเย็นไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

   “ครับ”

   ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนเล็ก ก็เจอพี่ชายนอนหลับพริ้มกอดหมอนข้างอยู่กลางเตียง ผมนั่งลงบนเตียง แอบเผลอกลั้นหายใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหมูหันขยับตัว ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาหลังจากที่เห็นจันทร์เจ้ายังหลับสนิท ผมส่งมือไปปัดผมด้านหน้าของพี่เบา ๆ ถ้าตื่นมาแล้วจันทร์เจ้าไม่ยอมคุยด้วยผมจะทำยังไงวะ…

   ขณะที่กำลังจะเอ่ยเรียกคนหลับ สายตาก็มองไปเห็นโทรศัพท์มือถือสีขาวของพี่ชายที่มีแสงสว่างขึ้นมาแต่ไร้เสียงเตือนและการสั่น ผมเอื้อมไปคว้ามันมา กดให้จอสว่างก็เห็นว่ามีแจ้งเตือนข้อความเข้า เมื่อจะเข้าไปดูก็ปรากฏว่าต้องใช้รหัสหรือแสกนนิ้วมือ แน่นอนว่าผมไม่รู้รหัส ถึงสนิทกันยังไงก็ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แต่ครั้งนี้... ขอเขาก้าวก่ายหน่อยแล้วกัน มือหนาจับมือขวาของพี่ชายเบา ๆ ก่อนจะทาบปลายนิ้วหัวแม่มือบนแป้นแสกน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นเมื่อสามารถปลดล็อกโทรศัพท์มือถือของพี่ได้แล้ว หึหึ เสร็จผมล่ะ

   แต่แล้วรอยยิ้มก็หายไปกลายเป็นคว่ำปากและขมวดคิ้วแทน หลังจากที่เห็นสิ่งที่อยู่บนจอ มันเป็นหน้าต่างสนทนาในแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่ถูกเปิดค้างเอาไว้ ดูเหมือนว่าจันทร์เจ้าจะไม่ได้ออกจากหน้านี้ไปก่อนที่เครื่องจะล็อก บางที... จันทร์เจ้าอาจจะเผลอหลับไประหว่างที่คุยกับอีกฝ่ายอยู่ แย่ละ อะไรจะขนาดนั้นวะ

   แล้วคืออะไร ตอบแชทคนอื่นได้แต่ไม่แม้แต่จะตอบแชทน้องเนี่ยนะ!!!

   จะน้อยใจจริง ๆ แล้วนะเว้ย! แม่ง

   
   ผมหน้าบึ้ง มองชื่อด้านบนที่ถูกเขียนว่า ‘TW.’ แล้วยิ่งหน้าบึ้งเข้าไปใหญ่ มันต้องย่อมาจาก ‘ทิวากาล’ อย่างแน่นอน แล้วไอ้ข้อความถามไถ่สารทุกข์สุกดิบนี่อะไรวะ! ไม่ไหวแล้วนะโว้ย!! ส่งมาทำไมเป็นสิบ ๆ ข้อความ จันทร์เจ้าไม่ตอบก็ยังจะส่งมาอยู่นั่นแหละ ไอ้....!!!

   TW. : อ่านไม่ตอบ

   TW. : หยิ่งหรอวะ

   เออหยิ่ง! ผมพ่นลมหายใจอย่างเบื่อ ๆ แต่ไม่นานก็ยิ้มร้ายออกมา ก่อนจะขยับปลายนิ้วแตะตัวอักษรบนหน้าจอทีละตัวแล้วกดส่ง หึหึ


   นี่จันทร์เจ้าเอง : เราไม่อยากคุยด้วยนี่ก็ไม่เลยตอบ

   นี่จันทร์เจ้าเอง : เลิกส่งข้อความมาหาเราได้แล้ว

   นี่จันทร์เจ้าเอง : เราเบื่อ!

   นี่จันทร์เจ้าเอง : แล้วเราก็รำคาญมาก ๆ ด้วย


   ผมมองตัวหนังสือที่เขียนว่า อ่านแล้ว แล้วยิ้มอย่างพอใจ คงจะเสียศูนย์ละสิ ถึงได้ตอบช้าแบบนั้น หึหึ ผิวปากเบา ๆ กดออกจากหน้านั้นแล้วดูอย่างอื่นบ้าง ไหน มีใครมาวอแวพี่ชายผมบ้าง อ่า... นอกจากทิวากาลคนนั้นยังมีตะวันอีกนี่นะ ผมกดเข้าไปดูข้อความระหว่างพี่ชายกับตะวัน ในนั้นก็แค่คุยเรื่องปกติทั่วไป แต่ดูเหมือนฝ่ายตะวันจะพยายามหยอดแต่จันทร์เจ้าไม่เล่นด้วย เออ อันนี้ค่อยไม่น่าปวดหัวหน่อย

   ความจริงแล้วผมก็เพิ่งจะนึกออกว่าเพื่อนของไอ้หมูอ้วนที่ชื่อตะวันนั้นคือคนที่มองผมด้วยสายตาแปลก ๆ เมื่อตอนผมไปหาจันทร์เจ้าที่ค่ายรับน้อง พอมาตอนนี้ก็พอจะเดาออกมาทำไมคนชื่อตะวันถึงได้มองผมแบบนั้น คงจะไปเห็นตอนที่จันทร์เจ้าหอมแก้มหรือไม่ก็กอดผมพอดี ช่างเถอะ คนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะจันทร์เจ้าเองก็ดูเหมือนไม่ค่อยเล่นด้วย ตัวปัญหาจริง ๆ มันคือทิวากาลต่างหากล่ะโว้ย!!

   TW. อะไรของมึง

   TW. เมากาวหรอ


   เมากาวที่หน้า...

   คนอะไรทำไมหน้าด้านจังวะ บอกไปแล้วว่ารำคาญไม่อยากคุยด้วยยังจะมาถามอีกว่าเป็นอะไร ไม่ได้ก็เมากาวครับ ไอ้ส--- เฮ้… ไม่ดี ผมไม่ควรสบถด้วยคำหยาบคายมากเกินไปมันเสียภาพลักษณ์มือกลองสุดคูลแห่ง HISTASIA

   ไหน ขอดูอีกหน่อย นอกจากแอพพลิเคชั่นนี้แล้วคุยกันที่ไหนอีกบ้าง ก็แย่ละไอ้ฉิบหาย! ทำไมมีคอนแท็คกันทุกแอพพลิเคชั่นเลยวะ ไม่ได้ละ ปล่อยไว้แบบนี้มีหวังหมูโง่โดนหมาป่าคาบไปแดกแน่ ๆ

   บล็อกแม่งให้หมด รำคาญ

   “หึหึ”

   “ทำอะไรกับมือถือพี่”

   “เหี้ย!” ผมอุทานเสียงดัง หันไปมองที่มาของเสียงก็พบว่าจันทร์เจ้านอนตะแคงข้างมองผมตาแป๋ว หน้าโง่ ๆ นั่นยิ่งดูโง่ขึ้นไปอีกเพราะเพิ่งตื่น หัวคิ้วเล็กย่นเข้าจนแทบชนกัน

   ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

   “ตื่นตั้งนานแล้วแต่ไม่ลืมตาเฉย ๆ ทำไมจริงใจยิ้มปีศาจ”

   เป็นเอ็ดเวิร์ด คัลเลนหรือไง มาอ่านใจได้เนี่ย

   ก็แย่ละ คิดอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นได้ยังไงวะจักรพรรดิ

   “ยิ้มปีศาจอะไร ไปล้างหน้าไป พี่มีนให้มาปลุก”

   “แล้วทำไมไม่ปลุก มาวอแวมือถือพี่ทำไม”

   “ดูไม่ได้เหรอ?” บีบเสียงให้ดูน่าสงสารพร้อมกับช้อนตามองพี่ชายด้วยสายตาหงอย ๆ จันทร์เจ้าถอนหายใจแผ่วเบา พยักหน้าช้า ๆ เมื่อฟังผมพูด ซึ่งผมเห็นแล้วมันน่ามันเขี้ยวจนอยากจะถีบให้ตกเตียงไปซะ! ทำเป็นเชื่อหน่อยไม่ได้หรือไงเล่า!

   “เค้าไม่มีสิทธิยุ่งกับพี่แล้วใช่ป่ะ?” ใช่ แบบนั้นแหละมึง ทำเสียงอ่อยเข้าไว้ ทำตาละห้อยแล้วก้มหน้าด้วย ปิดท้ายด้วยการเม้มปากและวางมือถือคืนให้พี่

   เท่านี้ก็…

   “มัน fake มากเลยจริงใจรู้เปล่า”

   ก็แย่ละ รู้ได้ไงวะ!

   ผมกลอกตา ในเมื่อเล่นบทเรียกคะแนนสงสารไม่ได้ก็ไม่ต้องทำมันละ

   “เออ เค้าทำอะไรก็ไม่ดีหรอก ไม่ได้ชื่อทิวานี่หว่า”

   “ทิวาเกี่ยวอะไร”

   “แค่ยกชื่อมายังไม่ได้ เหอะ!” จันทร์เจ้าขมวดคิ้วขณะที่มองหน้าผม คงจะคิดอยู่ล่ะสิว่าผมเป็นบ้าอะไร เหอ ขนาดตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าเป็นบ้าอะไร

   “ก็มันไม่เกี่ยวกับทิวา จะไปยกชื่อเขามาทำไมล่ะ จริงใจงงอะไร?”

   “จิ๊!”

   “ไม่ต้องมาจิปากเลย!” ไม่จิปากกลอกตาก็ได้ ลูกหมูคว้าโทรศัพท์มือถือคืนก่อนจะวิ่งออกจากห้องนอนไป ตัวผมเองก็ตามพี่ชายไปติด ๆ นั่งที่โซฟาอีกตัวตาก็มองจันทร์เจ้าไปด้วย รู้สึกในใจมันปั่นป่วนแปลก ๆ อย่างที่ไม่เคยเป็น ยิ่งเวลาที่ไอ้หมูเหลือบตามองผมก็ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้อง มองปากเล็กที่เม้มแน่นผมก็เม้มปากตาม...

   ความฉิบหาย is following you. Now

   “ไอ้เด็กปีศาจ!”

   “เฮ้ย!” ผมร้องพร้อมกับโยกตัวหลบหมอนอิงที่พี่ชายโยนใส่ และนั่นทำให้เจ้าของห้องทั้งสองหันมามองด้วย จันทร์เจ้ากำมือถือแน่น กัดฟันและหายใจแรงเพื่อข่มอารมณ์

   “มีอะไรน้องจิ๋ว?!” พี่มีนถามเสียงงง

   “จริงใจน่ะสิ แอบจับมือเราไปปลดล็อกโทรศัพท์ แล้วก็ตอบข้อความแทนเรา แถมยังบล็อกเพื่อนในนั้นเราด้วย!”

   “เอ่อ...” พี่มีนกำลังเอ๋อกับคำบอกเล่า แต่ในขณะเดียวกันนั้นพี่รามินทร์ก็หัวเราะออกมาแล้วยกนิ้วโป้งให้กับผม ผมรู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย อย่างน้อยพี่รามินทร์ก็อยู่ข้างผมล่ะน่า... เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

   “ก็แค่หวังดี” ผมพูดพร้อมกับยักไหล่ไม่สนใจ

   “หวังดีประสงค์ร้ายน่ะสิ” เบ้ปากให้ด้วยเลยอ่ะ

   “จะมาง้อหรือมาตีกันเพิ่มเนี่ย” ผมกับจันทร์เจ้าสะบัดหน้าไปคนละทางหลังจากที่พี่มีนพูดขึ้น

   “ไปคุยกันให้รู้เรื่องไป นี่ก็ฟังน้องมันหน่อย” พี่รามินทร์ล็อกคอจันทร์เจ้าเข้าหาตัวพร้อมกับบอกก่อนจะผลักไอ้ลูกหมู จันทร์เจ้ากลอกตาไปมา

   “จริงใจยังไม่ฟังเราเลย”

   “ไปคุยกัน” พี่รามินทร์ย้ำคำเสียงแน่น จันทร์เจ้ายอมลุกขึ้น คงจะขัดใจอยู่ไม่น้อย


   “จันทร์เจ้า” เจ้าของชื่อเชิดหน้ามองผมก่อนจะกอดอกแล้วนั่งลงปลายเตียง ผมเห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้กับท่าทางแบบนั้นของพี่ชาย กลอกตามองรอบห้องอย่างไม่รู้จะวางสายตาไว้ตรงไหนแล้วกอดอกไว้บ้าง

   “ขอโทษ”

   “จะพูดกับใครก็มองหน้าเขาด้วย อย่าเสียมารยาท”

   ได้ทีก็เอาใหญ่เลยนะ อย่าให้ถึงตาผมบ้างแล้วกัน พ่อจะเล่นให้ร้องไปฟ้องพี่ฟ้าแทบไม่ทัน

   “โกรธเค้าจริง ๆ หรอวะ?”

   “ไม่ได้โกรธ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย”

   “แล้วทำไมต้องหนีไปบ้านคุณย่า?”

   “แค่ไม่อยากเห็นหน้าจริงใจ” เล่นเอาสะอึก “ประโยคที่จริงใจพูดมันติดอยู่ในหัวไม่ยอมหลุดเลย พี่เลยไปนอนบ้านคุณย่า”

   ผมเดาะลิ้นพร้อมกับพยักหน้า “พูดแบบนี้แสดงว่าก็คิดใช่ไหม?”

   “อือ…” ลูกหมูเม้มปาก ก้มหน้ามองตักตัวเอง “มันก็เป็นไปได้ที่จะเป็นแบบจริงใจพูด แต่ยังไม่ลองจะรู้ได้ยังไง…”

   “ต่อให้ห้ามก็ไม่ฟังใช่ไหม?”

   “ฟังสิ… แต่ขอพี่ลองหน่อยไม่ได้เหรอ?”

   “ถ้าบอกว่าเค้าไม่อยากเห็นพี่เสียใจยังจะดื้ออยู่ไหม?” จันทร์เจ้าเงียบเม้มปากแน่น ตากลมเริ่มวาวน้ำ

   “จันทร์เจ้าครับ” ผมเรียกชื่อพี่ชายเสียงอ่อนลง ย่อตัวนั่งคุกเข่าลงหนึ่งข้างหน้าเตียงแล้วยื่นมือไปแทรกมือทั้งสองข้างของพี่ชายที่กำลังบีบกันแน่นให้พี่บีบมือผมแทน

   “พี่แค่ชอบทิวาเอง…”

   “ชอบเขาจริง ๆ หรือชอบเพราะมีคนบอกว่าชอบ”

   “ชอบ … จริง ๆ”

   ผมถอนหายใจเฮือกกับสิ่งที่หลุดออกมาจากปากพี่ชาย ในหัวของผมตอนนี้มันขาวโพลนว่างเปล่าไปหมด เมื่ออ้าปากจะพูดกลับเหมือนมีอะไรมาบีบเส้นเสียงของเขาจนไม่สามารถเปล่งเสียงออกไปได้

   “ก็แย่ละ…” น้ำตาเม็ดโตไหลออกจากดวงตาผ่านแก้มใสเมื่อคำพูดประจำตัวผมเปล่งออกไป ไม่รู้ทำไมจันทร์เจ้าถึงได้ร้องไห้กับคำโง่ ๆ แค่นั้น

   “แค่ชอบเฉย ๆ ไม่เป็นแฟนก็ได้…” ผมยกมุมปากขึ้น ยื่นมือข้างหนึ่งไปเช็ดน้ำตาจากแก้มให้พี่ ขี้แงจริง ๆ

   “ถ้ามันอยากได้พี่ล่ะ?”

   “...จะถามทุกคนก่อน”

   “หึ ถามพี่ฟ้าด้วยหรือเปล่า?”

   “ถามสิ พี่ฟ้ามีเหตุผล”

   “เฮ้อ…”

   “จริงใจ…~” ตอนนี้ผมอยากจะกลายเป็นคนหูหนวกตาบอดไปซะ จะได้ไม่ต้องมาได้ยินเสียงเรียกออดอ้อนและดวงตากลมโตใสแจ๋วนั่น ให้ตายเถอะ! ขนาดก้อนหินยังแหลกเป็นเม็ดทราย นับประสาอะไรกับหัวใจบาง ๆ ของผม

   ใจบางที่หน้า ไอ้ฉิบหาย!

   แต่บอกตรง ๆ ใจอ่อนยวบไปตั้งแต่ไอ้หมูหันก้มมองตักตัวเองละ

   ภูมิต้านทานโคตรต่ำ

   “เออ ยอมให้ชอบก็ได้”

   “จริงเหรอ!!? จริงใจน่ารักจัง พี่รักจริงใจที่สุดในโลกเลย” พอสมใจเข้าหน่อยก็รักที่สุดในโลก แล้วขอโทษครับคุณจันทิมันตุ์ แค่ยอมให้ชอบไม่ได้ยอมให้คบ แล้วผมยอมแค่คุณนะครับ กับไอ้ทิวากาลอะไรนั่นไม่ยอมโว้ย!

   ผมกลอกตาขึ้นฟ้า ทำเสียงรำคาญเมื่อพี่ชายโผเข้ากอด แถมยังหอมแก้มผมไม่หยุด บอกขอบคุณก่อนจะจุ๊บที่ริมฝีปากหนึ่งทีแล้วจึงได้ฤกษ์ผละออก เห็นหน้าโง่ ๆ ที่กำลังยิ้มกว้างดีใจแล้วนึกหมั่นไส้ชอบกล

   “อ๊ะ! พี่ยังไม่ลืมเรื่องที่จริงใจเล่นมือถือพี่นะ! เจ้าเด็กปีศาจ!” แย่ละ ต้องหาทางเอาตัวรอด ผมขยับริมฝีปากระบายยิ้มบางอย่างอ่อนโยนขณะที่สบตากับแววตาเขียวปั๊ดของพี่ชาย เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกชวนให้คนฟังเคลิ้มตาม

   “เค้าซื้อพุดดิ้งรสนมกับขนมปังร้านนมปังมาให้พี่ด้วย”

   จันทร์เจ้าเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินชื่อขนมสุดโปรด ก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องตรงไปหาเป้าหมายโดยลืมเรื่องที่ต้องสะสางไปเสียสิ้น ผมเดาะลิ้นพอใจและหัวเราะในลำคอ

   แค่นี้ก็เรียบร้อย…


   ออกมาด้านนอกเจอจันทร์เจ้ากำลังซัดพุดดิ้งกับขนมปังที่ผมซื้อมาอยู่พอดี หน้ากลม ๆ นั้นขยับยิ้มทีก็แทบแยกไม่ออกว่าอันไหนหน้าอันไหนพระจันทร์ แม่นี่ก็เข้าใจตั้งชื่อเนาะ อย่างกับรู้ล่วงหน้าว่าอนาคตลูกจะเป็นยังไง หึหึ

   “ยอมง่ายจังเลยวะ” พี่รามินทร์เริ่มเสี้ยม

   “สงสาร”

   “ไม่ใช่แพ้ลูกอ้อนหรอกเหรอ?” พี่มีนฝ่ายซ้ำเติม

   “ก็แย่ละ” ผมคว่ำปาก ขณะที่จันทร์เจ้ายิ้มกว้างจนตาหยีและหัวเราะเสียงสดใส ยิ้มทีหน้าบานเป็นกระด้ง

   ผมปล่อยให้เหล่าเพื่อนสนิทเขาคุยกันไป ระหว่างนั้นก็เอาโทรศัพท์มือถือออกมาเล่นเรื่อยเปื่อย ลองเข้าไปดูโซเชียลเน็ตเวิร์กบ้างอย่างที่ปกติไม่ค่อยได้ทำ ผมมีทุกอย่างนั่นแหละ แต่ไม่ค่อยเล่น วันไหนนึกครึ้มก็เข้าไปดู อย่างวันนี้ ปลายนิ้วหยุดค้างอยู่ที่โพสต์โพสต์หนึ่ง มันเป็นโพสต์ที่ถูกกดถูกใจโดยเพื่อนในนั้นจากเพจคิ้วท์บอยอะไรสักอย่างมาอีกที ถ้าเป็นอย่างอื่นผมจะเลื่อนผ่านไปโดยไม่ใส่ใจจะหยุดดู แต่สิ่งที่ปรากฏอยู่มันทำเอาหัวใจผมเต้นตึกตักไปหมด

   ก็แย่ละ

   ภัค ณภัค
   ปี 2 เศรษฐศาสตร์
   FB : Naphak Chaiyaphatsawat
   Twitter + Instagram + Ask.fm : phaknp
   Snapchat : npnaphak


   ความรู้สึกแรกเลยคือ... ตั้งชื่อโคตรสิ้นคิด แต่ผมจะไม่พูดมากเพราะเดี๋ยวจะเข้าตัวเอง เมื่อได้วาร์ปของเป้าหมายแล้วผมก็ไล่ส่องไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่อันแรกไล่ลงมาจนอันสุดท้าย ดูรูปที่เขาถ่ายลง ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ถ้าไม่บอกไว้ว่าเรียนเศรษฐศาสตร์ผมคงคิดว่าเขาเรียนแฟนชั่นอะไรเทือกนั้นแน่ เพราะรูปภาพส่วนใหญ่เป็นพวกเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ และเขาเป็นคนแต่งตัวเก่งและต้องจัดเต็มตลอด ซึ่งสำหรับผมแค่เสื้อตัวกางเกงตัวก็ออกจากบ้านได้แล้ว

   ก็อย่างว่า นิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน

   และจากการที่ส่องโซเชียลของเขาทุกอย่างทำให้ผมรู้ว่าตัวหอมเรียนที่เดียวกันกับจันทร์เจ้า แบบนี้ต้องหาเรื่องไปแถวนั้นบ่อย ๆ ละ ว่าแต่... ผมจะไปทำไมวะ โยนโทรศัพท์ทิ้งลง เอนตัวนอนบนเตียง ประสานมือรองท้ายทอยแล้วมองเพดานที่ตอนนี้ดูเหมือนจะมีหน้าของตัวหอมเต็มไปหมด แย่ละ ผมเป็นห่าอะไรเนี่ย ตั้งแต่กลับจากคอนโดพี่รามินทร์กับพี่มีนก็ดูเหมือนผมจะไม่ค่อยเป็นตัวเอง รู้สึกอยากคว้าโทรศัพท์มาเปิดดูตลอดเวลา

   ไม่ไหวละ ต้องหาอะไรทำ เด้งตัวลุกขึ้น คว้าโทรศัพท์มาถือไว้ เดินออกจากห้องนอนของตัวเองแล้วไปเปิดประตูห้องข้าง ๆ (วันนี้ผมตามจันทร์เจ้ามานอนบ้านคุณย่าครับ)

   “หมูทำอะไร?” คนถูกถามสะดุ้งเฮือก มองผมด้วยตาเขียวปั๊ด

   “ส่งข้อความทิวา”

   “ส่งหามันทำไม ดึกแล้วก็นอนไปดิ”

   “ทิวาไม่ตอบพี่เลยตั้งแต่ที่จริงใจส่งข้อความพวกนั้นไป”

   “มันเลิกชอบพี่แล้วไง เค้าบอกแล้ว ว่ามันไม่-----”

   “อ๊ะ!!! ทิวาโทรมาแหละ” ผมพูดยังไม่ทันไอ้หมูอ้วนก็ตะโกนแหวกอาการขึ้นมาเสียก่อน แล้วยังหมุนโทรศัพท์มือถือโชว์ผมอีก เดี๋ยวเจออิทธิฤทธิ์จักรพรรดิหน่อยเป็นไง ผมยื่นมือไปคว้าสมาร์ทโฟนสีขาวในมือลูกหมูมาแล้วชูขึ้นสุดแขน ขยับถอนออกจากปลายเตียงเพื่อกันไม่ให้เจ้าของแย่งคืนไปได้

   “เอาของพี่คืนมานะ!!!”

   “ไม่” ผมลอยหน้าลอยตากวนประสาท ตอนนี้สายเรียกเข้าถูกตัดไปแล้วแต่ไม่นานก็โทรกลับเข้ามาใหม่ “ดึกแล้ว นอนไป ไม่ต้องคุย”

   “คุยแป๊บเดียวเอง จริงใจอ่า”

   “ไม่ได้ พี่ต้องรีบนอนเร็ว ๆ”

   “นี่มันสี่ทุ่มยังไม่ครึ่งเลยนะ”

   “แล้วไง เพราะนอนดึกแบบนี้ไงพี่เลยตัวเตี้ยแบบนี้ ไม่ต้องคุย ไปนอน”

   “ไอ้เด็กปีศาจ!

   “ขอบคุณครับ หึหึ” ผมโยนโทรศัพท์คืนเจ้าของ ไม่ได้รับแล้วสามสาย คิดว่าไม่น่าจะโทรมาอีกแล้วมั้ง “ถ้านอนเร็วเดี๋ยวเค้าจะพาไปกินของอร่อยแบบไม่อั้น”

   เจ้าหมูลังเล เบะปากประกอบด้วย ใจก็คงอยากจะรับสายแต่อีกใจก็คงห่วงกิน แต่อย่างจันทร์เจ้าน่ะ เลือกได้ไม่ยากอยู่แล้ว หึหึ

   “ก็ได้ จริงใจต้องพาพี่ไปนะ”

   “อือ เค้าเลยผิดคำพูดกับพี่ที่ไหน”

   บิงโก!

   ลูกหมูหน้ามู่ทู่ ปากเป็ดยื่นออกมา มือก็กดหยุกหยิกกับโทรศัพท์ ไม่นานก็วางมันไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ไอ้หมูหันมุดเข้าไปใต้ผ้านวม ตายังมองผมอยู่

   “ออกไปสิ พี่จะนอน”

   “อย่าให้เค้ารู้ว่าแอบโทรหามันนะ ไม่งั้นอดแน่”

   “รู้แล้วน่า พี่ไม่เสี่ยง ชิชิ”

   “ดีมาก ไปละ หลับให้สนิท”

   “จริงใจก็หลับให้สนิทนะ”

   ครางรับในลำคอก่อนเปิดไฟในห้องให้ไอ้หมูอ้วนแล้วจึงกลับห้องของตัวเองบ้าง ตอนนี้เพิ่งสี่ทุ่มนิดหน่อยยังไม่ดึกมาก และผมยังไม่ง่วง จึงเอาโทรศัพท์ออกมาเล่นเกม พอเบื่อเกมก็ไปดูคลิปตีกลอง วนไปอยู่อย่างนั้นแล้วสุดท้ายผมก็ไม่รู้ว่าไปจบที่การเปิดดูรูปตัวหอมได้ยังไงเหมือนกัน...







------------------------------------
ขอบคุณค่ะ ♥

ออฟไลน์ harumi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +156/-33

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไอ้เด็กหวงพี่

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
หวงพี่ก็บอกมาเถอะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด