• ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • ค ว า ม จ ริ ง ใ จ • แจ้งข่าว pre-order | 22-12-60 | P.41  (อ่าน 312749 ครั้ง)

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
จริงใจมีความน่ารักกกกกกก

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
แบบนี้ไง ทิวาเลยมีข้ออ้างมาต่อลองได้

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จริงใจนี่แซะลูกหมูได้ฮาจริงๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
devil boy จริงใจ ไม่แฟร์
ทั้งหวงพี่ ทั้งก่อกวนทิวากาล
นึกหน้ากลมๆ ของลูกหมูออกเลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เมื่อไหร่จะได้คุยกันน้า?

ออฟไลน์ PiiNaffe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
พึ่งเห็นเรื่องของเด็กปีศาจจจจจจจ นี่ไปอยู่ไหนมา

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ลูกหมูเอ้ยยยยยย ระหว่างทิวากับขนม ก็เลือกขนมสินะ...

กร๊ากกกกกก....เห็นลำดับความสำคัญของทิวาในชีวิตลูกหมูชัดเจนมาก...สงสารรรรรรรร

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เขินจริงใจ อยากมีสัมมีชื่อจริงใจ :z3:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
จริงใจนี่จริงใจจริงๆ

มีความปากแข็ง มีความเนียน มีความเพ้อ
แถมยังหนักมากด้วย ตัวหอมแย่แน่

แล้วดูคิดกับพี่น้องแต่ละอย่าง 5555 แต่ก็หวงหนักมาก

รอตอนเค้าจุ๊บกันค่ะ 5555

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 4
ผมกับความซวยแบบไม่ทันตั้งตัว







   ผมดึงหูฟังที่ใส่อยู่ออกจากหูเมื่อประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา แผ่นหลังกว้างยืดตรงอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร รู้สึกถึงความฉิบหายได้ลาง ๆ ....

   “พี่ฟ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?”

   “เพิ่งมาถึงครับ ไม่เห็นเจเจข้างล่างเลยขึ้นมาหา”

   ผมพยักหน้ารับเบา ๆ รู้สึกไม่ค่อยวางใจสักเท่าไหร่ การที่พี่ฟ้าเข้ามาหาถึงห้องแบบนี้ต้องมีเรื่องแน่ ๆ

   “ผมกำลังแกะเพลงน่ะครับ แล้วพี่ฟ้ามีเรื่องอะไรอยากคุยกับผมหรือเปล่า?”

   “มีสิ!” พี่ฟ้าตอบแล้วเดินไปนั่งที่ปลายเตียงของผม “พี่ชายเราจะกลับเมื่อไหร่ครับ?”

   “น่าจะสาย ๆ มั้งครับ ผมก็ไม่แน่ใจ” วันนี้เป็นวันเสาร์และเป็นวันที่จันทร์เจ้าจะกลับจากบ้านคุณย่าเพื่อนอนที่บ้านนี้ และโดยปกติแล้วพวกเราสามพี่น้องจะสลับกันไปนอนบ้านคุณย่าบ้างแล้วแต่ว่าจะไปวันไหน เพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นน้อยใจว่าหลานไม่รัก

   “พี่ฟ้าอยากรู้เรื่องเจเจกับเด็กทิวากาล เล่าให้พี่ฟ้าฟังหน่อยได้ไหมครับ?”

   “อ่า...”

   “พี่ฟ้ารู้ว่าเจเจรู้ เพราะฉะนั้นเล่ามาทุกอย่างห้ามโกหก และห้ามเล่าไม่หมดนะครับ”

   แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ... ผมพรูลมหายใจออกก่อนจะเริ่มเล่าทุกอย่างให้พี่ฟ้าฟัง ซึ่งเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ เล่าไปก็ลอบมองอาการของพี่ฟ้าไป ตอนนี้พี่ฟ้าได้นิ่งค้างกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว...

   “พี่ฟ้า... ใจเย็น ๆ นะครับ”

   “เจเจ พี่ฟ้าจะเป็นบ้า” พี่ฟ้าพูดเสียงสั่น มือสวยยกขึ้นกุมขมับ ผมเห็นท่าทางของพี่ฟ้าแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้ง นึกสงสารจันทร์เจ้าขึ้นมาดื้อ ๆ แต่ก็สงสารแค่จันทร์เจ้านั่นแหละนะ กับอีกคนน่ะ... หึ สมน้ำหน้ามากกว่า

   “พี่ฟ้ายังไม่อยากให้เจเจมีแฟนเลย...”

   “ผมแค่ให้ชอบเฉย ๆ ครับ ไม่อนุญาตให้คบกัน”

   “เฮ้อ...”

   “พี่ฟ้าเครียดแบบนี้เดี๋ยวจันทร์เจ้าก็พลอยนอยด์ไปด้วย”

   “เฮ้อ... นอกจากเจเจแล้วมีใครรู้เรื่องนี้บ้างครับ?”

   “เพื่อนเขานั่นแหละครับ”

   “อ๋อ...” พี่ฟ้าครางรับเสียงเบา เราคุยอะไรกันต่อนิดหน่อยก่อนที่พี่ฟ้าจะเดินออกไปเหมือนคนไร้สติ

   เรื่องนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติได้เลยมั้งเนี่ย... ผมพ่นลมหายใจออกมา ตอนนี้โคตรจะลำบากใจเลย จู่ ๆ ก็นึกเห็นใจจันทร์เจ้าขึ้นมา ช่างแม่งก่อนแล้วกัน จัดกระเป๋าไปค่ายมวยดีกว่า




   รู้สึกถึงสายตาแปลก ๆ ที่มองมา ดวงตาคมจึงมองไปยังบุคคลน่าสงสัย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นคนที่เคยเจอ ผมยกขวดน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบข้าง คนคนนั้นอาจจะมองไปเรื่อยเปื่อยก็ได้ ผมออกจากบ้านมาตอนเกือบเที่ยง ก่อนจะแวะร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อน้ำดื่ม ไม่รู้จะแวะทำไมเหมือนกันทั้งที่หากขับต่อไปอีกไม่นานก็จะถึงค่ายมวยแล้วแท้ ๆ

   “หึ! นั่นไงแฟนใหม่ผม” ผมได้ยินเสียงพูดแว่ว ๆ ดังมา ก่อนที่เจ้าของเสียงนั้นจะเดินเข้าไปหาผมที่ยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ มือสวยเกาะที่แขนแกร่งก่อนกระซิบลอดไรฟันให้ผมเล่นไปตามบทที่เขาจัดขึ้นมา “ช่วยแกล้งเป็นแฟนฉันหน่อย”

   ก็แย่ละ

   ถึงแม้จะสงสัยอยู่มากแต่ผมก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป เพราะว่าผู้ชายอีกคนเดินเข้ามาก่อนที่ผมจะได้ทักท้วง ถ้าเดาเอาเองผู้ชายคนที่เข้ามาใหม่ก็น่าจะเป็นแฟนหรือแฟนเก่าที่อาจจะทำอะไรให้คนที่เกาะผมอยู่โกรธหรืองอนแล้วมาง้อขอคืนดี แล้วทำไมผมถึงต้องยืนเฉย ๆ ให้ผู้ชายปากแดงคนนี้แตะเนื้อต้องตัวทั้งที่ควรจะสะบัดหรือปลดออกอย่างที่ควรจะเป็น ผมหลุบตามองคนตัวเล็กกว่า เจ้าตัวเชิดหน้าขึ้นพองาม ปลายจมูกเชิดรั้นบ่งบอกถึงนิสัย

   เวรกรรมอะไรของผมกันวะ

   “นี่มันอะไรกันภัค” ผู้ชายคนนั้นเอ่ย และมองผมสลับกับตัวหอม สายตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจทว่าเจือแววโมโหอยู่ด้วย

   “ก็อย่างที่บอก ฉันมีแฟนใหม่แล้ว เพราะฉะนั้นนายก็เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว” ผมแทบจะพ่นน้ำที่ดื่มอยู่ออกมา ให้ตาย มันคืออย่างที่ผมคิดจริง ๆ สินะ

   “อย่ามาโกหกกันเลย สเป็กภัคไม่ใช่คนอายุน้อยกว่า”

   “แล้วไง ผมจะเปลี่ยนสเป็กบ้างไม่ได้หรอ ถ้าคบกับคนอายุมากกว่าแล้วมันห่วย ลองคบกับเด็กจะเป็นอะไร”

   “พี่ไม่เชื่อหรอกว่า---”

   “จะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของคุณครับ ไม่เกี่ยวกับเรา” ตัวหอมเงยหน้าช้อนตาขึ้นมองผม เขาตกใจเล็กน้อยคงไม่คิดว่าผมจะพูดอะไรออกไป แต่ไม่นานก็ปรับสายตาให้กลับมาเป็นปกติได้ ผมจ้องตากับแฟนเก่าของณภัคอย่างไม่เกรงกลัว และแสดงออกให้รู้ไปเลยว่ารำคาญฉิบหายแล้วรีบไปสักทีเถอะ ไอ้เวร!

   “ฉันไม่ได้พูดกับแก” ผมไหวไหล่ไม่ยี่หระ ก่อนจะคว้าข้อมือเล็กของแฟนอุปโลกน์มาจับแล้วเดินไปที่รถ แต่แล้วแขนอีกข้างของตัวหอมก็ถูกคว้าเอาไว้โดยคุณแฟนเก่า

   “ปล่อยนะ!”

   “ไม่ ภัคต้องไปกับพี่”

   “ทำไมฉันต้องไปกับนาย ปล่อยสิ! โอ๊ย!” ตัวหอมร้องเสียงหลงเพราะถูกกระชากแขน หน้าเบ้อาจเพราะความเจ็บ โดยเนื้อแท้แล้วผมเป็นคนที่มีความเป็นสุภาพบุรุษสูง จึงเข้าไปดึงมือของแฟนเก่าตัวหอมออกแล้วเอาตัวไปบังร่างบางเอาไว้

   “หลบไปไอ้เด็กเวร”

   “คุณต่างหากที่ควรหลบไป การที่ภัคไล่คุณแปลว่าเขาไม่ต้องการอยู่ใกล้คุณนะ”

   “มึง!!!” เขาตะเบ็งเสียงด้วยความโกรธพร้อมกับง้างมือขึ้นคล้ายจะต่อย เออ ถ้าปล่อยหมัดมาผมก็พร้อมสวนนะเว้ย

   “ถ้าคุณชกผม ผมแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายได้นะครับ อ่า… ดูเหมือนหน้าร้านี้จะมี CCTV ด้วยแฮะ” ปลายนิ้วเรียวชี้ไปที่กล้องวงจรปิดตามที่พูด ไอ้นั่นกำหมัดแน่น ท่าทางฮึดฮัดนั่นทำให้ผมแสยะยิ้ม นิสัยโคตรเด็ก

   “ฝากไว้ก่อนเถอะมึง! พี่ไม่ยอมง่าย ๆ แน่ภัค” มันชี้หน้าคาดโทษผมแล้วบอกคนที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังของผมก่อนเดินจากไปด้วยความโกรธและเสียหน้า เมื่อไอ้หน้าด้านนั่นเดินออกไปแล้วผมจึงปล่อยมือที่จับมือเล็กออก ผู้ชายอะไรวะ ทำไมมือนุ่มขนาดนี้ (แต่มือไอ้หมูอ้วนก็นุ่มประมาณนี้นี่หว่า ช่างแม่งเหอะ)

   “เฮ้อ” ตัวหอมถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากที่รถยนต์คันหนึ่งเคลื่อนตัวออกไป เขาเงยหน้ามองผม “ขอบใจที่ช่วย”

   “ผมไม่ช่วยใครฟรี ๆ นะ” ผมบอก ความจริงทั้งนั้น ไม่ได้พิเศษเพราะเขาคือตัวหอมหรอกครับ ปกติผมไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของใคร ถ้ามีอารมณ์อยากช่วยหรือสมควรช่วยก็จะช่วย แต่บางเรื่องผมก็ช่วยเพราะผลประโยชน์ที่จะได้มา อย่างเช่นตอนนี้... ไม่ได้เต็มใจแต่แรก แต่มันนำพาซึ่งผลประโยชน์ ผมก็โอเค ทายาทนักธุรกิจก็งี้

   “อยากได้อะไรล่ะ?”

   “ตอนนี้ยังคิดไม่ออกครับ ไว้รู้แล้วผมจะบอกแล้วกัน ไปล่ะ” ยิ้มทิ้งท้ายก่อนจะเดินไปที่รถ

   “เดี๋ยวสิ!” เสียงแหบหวานร้องเรียกไว้ ผมหยุดและปัดมือเล็กที่คว้าไหล่ของผมพลางขมวดคิ้วและทำตาขวาง

   “อะไร?” เอ่ยถามออกไปเสียงห้วน

   “คิดว่าเราจะได้เจอกันอีกหรือไง”

   “นั่นสินะ…”

   “บอกมาว่าอยากได้อะไร”

   “ผมคิดไม่ออก แล้วถ้าโดนกดดันความคิดผมจะรวนไปเลย คุณไม่จำเป็นต้องตอบแทนอะไรแล้วก็ได้ ช่างมัน” เขากลอกตาขึ้นฟ้าขณะที่ฟังผมพูด ที่พูดไปนั่นก็จริงนะครับ ถ้ายิ่งเร่งหรือกดดัน ผมก็จะไม่อยากทำมัน

   “ถ้าอย่างนั้นก็แลกเบอร์มือถือกัน คิดออกเมื่อไหร่ก็โทรมา! ฉันไม่ชอบติดหนี้ใคร” ผมเลิกคิ้วเล็กน้อยกับข้อเสนอ มองพิจารณาคนตรงหน้าก็จะทำเป็นเหนื่อยและบอกตัวเลขสิบหลักของเบอร์มือถือส่วนตัวไป เข้าทางล่ะ... ไม่ต้องไปสืบให้เหนื่อย หึหึ ตัวหอมกดโทรศัพท์ยุกยิก เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของผมดังขึ้นเขาก็วางสาย

   “ฉันชื่อณภัค นายชื่ออะไร?”

   “จักรพรรดิ”

   “ชื่อเล่นสิ!”

   “จิ๊! ทำไมคุณเรื่องมากจังเลยครับ”

   “เอ๊ะ ไอ้เด็กบ้า!” นึกขำกับใบหน้าหงุดหงิดนั้นแต่ก็ต้องซ่อนสีหน้าไว้ภายใต้ความนิ่งเฉย “นายนั่นแหละที่เรื่องมาก บอกชื่อมาได้แล้ว!”

   “จริงใจ”

   “ฮะ? นายชื่อจริงใจเหรอ?”

   “ทำไมครับ ข้องใจอะไรกับชื่อผมงั้นเหรอ?”

   “เปล่า…”

   “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวครับ”

   “หะ เฮ้ย! เดี๋ยวสิ!!” ณภัครีบวิ่งเขาไปขวางหน้า แขนเล็กดันอกของผมเอาไว้ พอเห็นสายตาคมหลุบมองก็รีบปล่อยมือออก ตอนนี้เขายังเป็น คนอื่น สำหรับผมอยู่ ยังไม่ได้สิทธิแตะเนื้อต้องตัวผมได้

   “มีอะไรอีกครับ?” เอ่ยถามเสียงเบื่อ ในเวลานี้มันก็ยังไม่สายที่จะไปค่ายมวย แต่ผมไม่ควรที่จะอยู่ตรงนี้แล้ว เบื่อละ ไม่มีอะไรสนุกแล้ว

   “เอ่อ… คือว่า… เอ่อ”

   “ผมรีบ” บอกให้รู้ว่าไม่มีเวลามาเสียให้กับเขาอีก

   “ฉันอยากกลับบ้าน”

   “ก็กลับสิ มาบอกผมทำไม”

   “ฉันไม่รู้นี่ว่าที่นี่มันที่ไหน!”

   “จะบอกว่าหลงทาง?”

   “อือ…”

   “ก็แย่ละ” เห็นความฉิบหายกำลังวิ่งเข้ามาซัดเข้ากลางแสกหน้า ให้ตายเหอะ! วันอะไรของผมวะ! “แล้วคุณมาที่นี่ได้ยังไง?”

   “ก็…”

   ตัวหอมเล่าว่า จู่ ๆ เขาก็อยากจะลองนั่งรถเมล์ดูสักครั้ง ทั้งที่ชีวิตนี้ไม่เคยจะนั่งเลย ด้วยความที่เป็นคุณหนูฐานะดี หากไม่ขับรถเองก็มีคนรถตลอด หรือไม่เพื่อนก็จะมารับ แต่แล้วการขึ้นรถเมล์ครั้งแรกของเขาก็สำแดงฤทธิ์ มันพังตั้งแต่ก้าวขาขึ้นไปบนรถขนส่งสาธารณะนั่นแล้วด้วยซ้ำ ตั้งแต่ขึ้นรถผิดสาย จนกระทั่งนั่งมาเรื่อย ๆ แล้วจำเป็นต้องลงเพราะในรถแทบไม่เหลือใครแล้ว เขาจึงเดินมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดที่แถวนี้ และถึงได้พบว่าภีม(ซึ่งคือแฟนเก่า)ขับรถสะกดรอยตามมาและได้ปะทะคารมแบบเมื่อสักครู่

   แฟนตาซีไปไหนวะ

   “นายอย่าเงียบสิ” ผมเหยียดริมฝีปากเป็นเส้นตรง ถ้าคนตรงหน้าผมตอนนี้คือจันทร์เจ้าหรือจ๋าจ้า ผมคงพูดใส่หน้าไปแล้วว่า ‘โง่!’ แต่ความมีมารยาทก็มีมากจนไม่พูดแบบนั้นกับคนไม่สนิท คนบ้าอะไรไม่เคยนั่งรถเมล์แล้วครั้งแรกก็ดันนั่งคนเดียว แจ็คพอร์ตนั่งผิดสายเสียด้วย แล้วทำไมเมื่อกี้ไม่ให้ไอ้แฟนเก่านั่นไปส่งวะ อ๋อ ลืม ตอนนั้นผมเป็นแฟนหลอก ๆ ของเขาอยู่

   “คุณอยากพูดอะไร?” ผมถามไม่อ้อมค้อม เล่นบอกมาขนาดนั้นไม่มีจุดประสงค์ให้มันรู้ไปสิ

   “นายไปส่งฉันหน่อยได้ไหม…?”

   กูว่าละ...

   “ขอโทษที่ต้องบอกว่าไม่ ผมมีธุระ”

   “งั้นบอกฉันก็ได้ว่าต้องกลับยังไง”

   “ยาก” หรี่ตามองคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ทั้งทีปกติทำหน้าเหย่อหยิ่งแท้ ๆ น่าแกล้งชะมัด “คุณก็โทรให้เพื่อนมารับสิ”

   “พวกมันไม่อยู่สักคน…”

   “………ผมต้องไปแล้ว”

   “ฉันขอไปด้วยได้ไหม?” ดวงตาวาวน้ำที่กำลังช้อนมองอยู่นั้นกำลังทำให้ผมแทบลืมหายใจและเผลอตกปากรับคำไปอย่างง่ายดาย…

   “อือ”




   ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงค่ายมวยที่ผมมาฝึกประจำตั้งแต่ช่วงมัธยมปีที่สาม ตัวหอมก้าวลงจากรถจักรยานยนต์คันใหญ่อย่างเงอะงะ ผมเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่เห็นว่าตัวหอมรีบวิ่งตามเข้ามา

   “สวัสดีครับครู” ผมพุ่มมือไหว้ครูฝึกผู้ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวยแห่งนี้ด้วย

   “เออ ไหว้พระเถอะ แล้วนั่นใคร ข้าไม่เคยเห็นหน้า”

   “ผมเก็บได้ข้างทางน่ะครู” ตัวหอมถลึงตาใส่ ก่อนจะยกมือไหว้ครูของผม

   “ดูพูดเขาเจ้าเด็กนี่ ชื่ออะไรน่ะเรา?”

   “ภัคครับ ณภัค” ครูฝึกพยักหน้ารับ บอกกับเราว่าขอไปดูคนอื่น ๆ ซ้อมกันก่อน และก้าวเดินไม่กี่ก้าวก็ถูกเรียกไว้ด้วยลูกศิษย์ที่ติดอันดับว่าเป็นคนโปรดซึ่งนั่นก็คือผมเอง

   “ครูครับ ผมหิว”

   “หิวก็ไปหากินในครัวสิวะ!!!” ผมหัวเราะเมื่อกวนประสาทครูได้ ก่อนจะกระชับกระเป๋าเสื้อผ้าบนไหล่ หันไปมองคนที่มาด้วย

   “คุณจะไปกับผมไหม?”

   “ไปสิ!”

   ตอบแบบไม่คิดเลยสินะ

   ตัวหอมเดินตามหลังผมมาเงียบ ๆ สายตาก็มองดูรอบ ๆ จากพินิจพิจารณา คงไม่เคยมาค่ายมวยล่ะสิ อย่างเขาน่าจะเดินห้างหรู ๆ มากกว่า ท่าทางคุณหนูขนาดนั้น

   เมื่อมาถึงในครัว ผมก็จัดแจงตักกับข้าวใส่จาน และถามคนที่มาด้วยว่าจะทานด้วยกันหรือไม่ เมื่อได้คำตอบก็ตักเผื่อณภัคด้วย ตอนนี้เลยเวลาเที่ยงมาชั่วโมงครึ่งแล้ว นักมวยในค่ายก็คงจะทานกันหมดแล้ว โชคดีที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงจะได้หิ้วท้องกันจนตอนเย็นแน่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ผมไม่ซ้อมมันละ ไม่มีพลังงานให้ใช้

   “อ๊ะ!” ผมถึงกับถอนหายใจออกมา หลังจากที่เห็นคนอายุมากกว่าใช้ส้อมม้วนเส้นขนมจีนขึ้นแต่มันดันเลื่อนหลุดจากตัวส้อมกลับลงไปในจานจนน้ำแกงเขียวหวานกระเด็นกระดอน ไม่เคยกินขนมจีนหรอวะ ทำไมงอกง่อยขนาดนั้น

   “อย่ากินแบบนั้นสิ ขนมจีนไม่เชื่องเหมือนสปาเก็ตตี้นะคุณ”

   “ก็ฉันไม่เคยกินนี่!” เขาแหวใส่ผม ปากสีสดขมุบขมิบกับสายตาเอาเรื่องนั่นเขากำลังด่าผมอยู่อย่างแน่นอน

   “เฮ้อ” ผมถอนหายใจอีกครั้ง “ทำแบบนี้ครับ” แล้วก็สาธิตวิธีการกินขนมจีนให้คุณหนูณภัคดู เมื่อเห็นแล้วว่ากินยังไงณภัคก็ทำตาม ดูจากสีหน้าคงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ผมสอน แต่กระเพาะคงประท้วงหนักเพราะหิว เขาจึงยอมฟังที่ผมพูดและทำตามแต่โดนดี พอเห็นเขากินได้อย่างเอร็ดอร่อยก็เผลอยิ้มออกมา เขานี่มันโคตรเด็กน้อยเลยว่ะ

   “เอาอีกไหมครับ?” ผมถามคนที่เพิ่งเคยกินขนมจีนครั้งแรก ตัวหอมซัดเรียบไม่เหลือแม้แต่น้ำแม้แต่หยดเดียว

   “เอา!” ตอบทันทีแบบไม่คิดอะไร และยังยื่นชามมาให้ผมอีก ส่ายหน้าเบา ๆ รับชามจากมือสวยมาแล้วเปิดตู้กับข้าว หยิบเส้นขนมจีนใส่และตักน้ำแกงเขียวหวานราด ส่วนของผมรอบนี้เปลี่ยนเป็นน้ำยากะทิ

   “ขอบใจ” เขาบอกหลังจากที่ผมวางชามขนมจีนคืนให้ “ทำไมไม่เหมือนกัน?” เสียงเล็กร้องถาม ตาเรียวรีเบิกกว้างมองผมสงสัย

   “ของผมมันน้ำยากะทิ”

   “แล้วของฉันล่ะ?”

   “ของคุณก็แกงเขียวหวานไง ไม่เคยกินแกงเขียวหวานเหรอครับ?”

   “เคยสิ แต่ไม่คิดว่าจะกินกับแบบนี้ได้”

   “โลกนี้ไม่ได้มีแค่สปาเก็ตตี้นะครับ”

   “ฉันก็ไม่ได้คิดแค่สปาเก็ตตี้มาทั้งชีวิตสักหน่อย ไอ้เด็กเวร!”

   “หึหึ”

   หลังจากที่กินอาหารเที่ยงในเวลาเกือบบ่ายสองเรียบร้อยแล้ว ผมก็เก็บชามทั้งสองใบไปล้าง และมีตัวหอมยืนมองอยู่ไม่ไกล เมื่อพักให้อาหารย่อยแล้วผมจึงเข้าไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดสำหรับซ้อม นั่นก็คือกางเกงมวยตัวเดียวแต่สวมเลกกิ้งสีดำขายาวซ้อนไว้ โดยท่อนบนเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อ

   ผมแอบยิ้มเมื่อตัวหอมมองตาค้าง ผมมั่นใจนะว่าตัวเองหุ่นดีสามารถโชว์ได้โดยไม่อายใคร แต่พอมาโดยเขาจ้องแบบนี้มันก็อดวูบไหวไม่ได้ เมื่อผมหันไปสบตา คนอายุมากที่ตัวเล็กกว่าก็กลับไปทำหน้าบึ้งหน้าหยิ่งเหมือนเดิม ผมไม่ได้สนใจอะไรมากนัก โยนผ้าขนหนูผืนเล็กไว้บนเก้าอี้ข้าง ๆ ตัวที่ณภัคนั่งอยู่ ก่อนจะเอาน้ำมันมวยออกมานวดตามตัว จากนั้นจึงวอร์มร่างกายก่อนจะเริ่มซ้อม

   ระหว่างที่กำลังเตะกระสอบทรายอยู่ผมคอยมองคนที่ติดสอยห้อยตามมาด้วยเป็นระยะ ใบหน้าสวยแสดงออกชัดเจนว่าค่อนข้างเบื่อ เขาเอาโทรศัพท์มือถือออกมาเล่น ยกขึ้นในองศาที่เหมือนจะถ่ายรูป สักพักก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางหงุดหงิด

   “นาย”

   “หือ?” เลิกคิ้วขึ้นเป็นการถาม ตัวหอมจ้องหน้าระหว่างที่ผมกำลังดื่มน้ำและใช้ผ้าซับเหงื่อไปในขณะเดียวกัน

   “ฉันกับนายเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?”

   “จะจีบผมเหรอ? แต่มุกเก่าไปหน่อยนะครับ รู้สึกจะฮิตช่วงปู่ย่า ตายายผมยังเป็นวัยรุ่น”

   ตัวหอมพึมพำว่า กวนตีน แต่ผมมองผ่าน ไม่ใส่ใจ “ฉันจริงจังนะ!”

   “โห จริงจังด้วยแฮะ เขินจังเลยครับ”

   “ไอ้เด็กเวรเอ๊ย! นายมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่กวนประสาทที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา”

   “ว้าว! ดีจัง”

   “.............”   

   เขาเงียบ หน้าบึ้ง ไม่พอใจ ผมจึงคิดว่าควรเลิกกวนตีนตัวหอมได้แล้วล่ะ

   “คุณคิดว่าเราเคยเจอกันจริง ๆ เหรอ” ตัวหอมทำหน้าคิดจริงจัง คิ้วย่นเข้าจนแทบจะชนกันอยู่แล้ว

   “จำไม่ได้แฮะ แต่คุ้น ๆ ยังไงไม่รู้”

   ก็คนที่คุณเดินชนแล้วขอโทษแบบขอไปทีนั่นไงครับ

   “หน้าผมโหล่มั้ง หรือบางที... คุณอาจจะเคยเจอผมในฝันก็ได้”

   ยิ้มหล่อใส่ไปที ตัวหอมหน้าเหวอ ก่อนจะกลอกตาเบื่อหน่าย

   หึหึ เข้าใจละ ทำไมน้าเจ้าถึงชอบแกล้งแหย่พี่ฟ้านัก

   มันสนุกอย่างนี้นี่เอง...










----------------------------------------
ชอบคำว่า แฟนอุปโลกน์ แบบแปลก ๆ 55555555
อัพตอนใหม่ช้า เลยอัพสองเรื่องเลย
( 「มนุษย์แฟนเด็ก」  ไปอ่านกัน~)
ฝากติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านค่ะ ♥

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ค่อยเป็นค่อยไปนะจริงใจ

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
โอ้ยยยยยยย จริงใจ~~จะกวนไปไหน 55555555

ออฟไลน์ Papangtha

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตัวหอม~ มีบทกะเค้าสักที55556

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อยากดูหุ่นแบบภัคบ้าง 5555555555555

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
รอวันที่จริงใจต้องง้อลูกหมูเรื่องจากไม่ยอมบอกความจริงเรื่องตัวหอมให้รู้ว่ากำลังจีบกันอยู่

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จริงใจกวนตีนจริงๆนั่นแหละ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตอนจริงใจสั้นอะ

ไม่จุใจเลย

อยากอ่านยาวๆแล้ว

ให้ทันจันทร์เจ้า

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พอมาถึงช่วงที่สองคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการแล้วก็เห็นแววความป่วนตามมาเลยทีเดียว 555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
สายเลือดขี้แกล้งอันเข้มข้น :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ tkaido

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยืนยันคำเดิมอยากได้จริงใจเป็นสัมมี :hao7: :hao6: :oo1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: บุพเพอาละวาดแระ รอลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กวนหน้านิ่งมากกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

ออฟไลน์ hoshichi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
เจเจ หล่อไป ใจละลายแล่ววววว
คล้ายๆเจ้าชีวันมั้ยนะๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
จริงใจมีความเพ้อ เป็นโรคจิตชอบแกล้งคนที่ชอบ 5555
แหมมมม ตัวหอมอย่างนั้น ตัวหอมอย่างนี้ ตอนนี้ทำเป็นเมินเค้านะ

ถ้าคบกันจริง คงได้ผูกเชือกแน่ 55555

ออฟไลน์ HEARTBREAKER

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +418/-3
ความที่ 5
ผมกับบาปกรรมติดจรวด





   ผมกลับมาถึงบ้านก่อนเวลาอาหารเย็น หลังจากซ้อมมวยเสร็จแล้วก็ต้องไปส่งคนหลงทางอีก แต่เขาบอกว่าให้ส่งขึ้นแท็กซี่ก็พอ ผมไม่ขัดเพราะอยากกลับบ้านไปพัก เหนื่อยมาเกือบทั้งวันแล้ว แต่นี่มันอะไรกัน บรรยากาศอึดอัดแบบนี้มันไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้นในบ้านผมเลยนะ คนอื่น ๆ ก็ปกติครับ ที่ผิดปกติมีอยู่สองคน นั่นก็คือจันทร์เจ้ากับพี่ฟ้า ทั้งคู่นั่งแยกกันอยู่คนละมุม สิ่งที่เห็นประจำคือการที่ไอ้หมูเข้าไปคลอเคลียออดอ้อนออเซาะพี่ฟ้า ไม่ใช่ทำหน้าตึงใส่กันแบบนี้ อะไรกันวะ เกิดงอนขึ้นมาหรือไง แล้วเรื่องอะไรล่ะ

    “เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” ผมเอนตัวไปกระซิบถามน้าเจ้า น้าชายสุดหล่อยกยิ้มมุมปากแบบหล่อเหี้ย ๆ โคตรไอดอลเลย

    “ทะเลาะกัน” สั้น ๆ แค่นั้นไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่ผมก็รับรู้ได้โดยสัญชาตญาณ มันต้องเกี่ยวกับที่พี่ฟ้าเข้ามาหาผมเมื่อเช้าแน่ ๆ

   แล้วไอ้หมูต้องเป็นขนาดนี้เลยเหรอวะ มึนตึงใส่พี่ฟ้าเพราะคนอื่นเนี่ยนะ ใช้ได้ที่ไหนกัน!!

    “เรื่องทิวากาลเหรอครับ?”

    “ครับ”

    “จัดโต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ” ขณะที่ผมกำลังจะถามน้าเจ้าเพิ่มเติมก็มีแม่บ้านเข้ามาขัดเสียก่อน พวกเราเลยต้องย้ายไปที่ห้องอาหาร น้าเจ้าตบไหล่ผมสองสามทีแล้วเดินเลยไป

   ระหว่างทานข้าวผมก็คอยสังเกตการณ์อยู่เรื่อย ๆ เออ โคตรแปลก แต่ละคนทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้ อ๋อ หมายถึงพี่ฟ้ากับจันทร์เจ้าน่ะครับ เหมือนจะคุยแต่ก็ไม่คุย จันทร์เจ้าก็เอาแต่ก้มหน้าเขี่ยข้าวไปมา กินน้อยแบบนี้คิดอะไรอยู่แน่ ๆ

   “ลูกหมูเป็นอะไรลูก กับข้าวไม่อร่อยหรอครับ?” ในที่สุดก็มีคนถามคำถามนี้ออกมาสักที

   “เปล่าฮะ” ไอ้หมูตอบเสียงเบาระบายยิ้มให้คุณพ่อก่อนที่เจ้าตัวจะตักข้าวเข้าปาก

   “เครียดอะไรหรือเปล่าลูกหมู กินข้าวน้อยจังเลย” หมูอ้วนชะงักไปอีกครั้ง คราวนี้ยิ้มเจื่อนให้คุณแม่ แค่นี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าลูกหมูอันดับหนึ่งของบ้านเป็นอะไร ด้วยเพราะเครียดแล้วกินน้อย เลยสังเกตได้ไม่อยาก ชำเลืองมองพี่ฟ้า รายนั้นเม้มปากแน่น หน้าเครียดพอกัน

   “หนูเครียด...อาหารน่ากินทั้งนั้นเลยหนูเลือกไม่ถูก!!!” ทำเสียงเศร้าในตอนแรกแล้วจึงเปลี่ยนเป็นร่างเริงในช่วงท้าย ไอ้ลูกหมูหัวเราะแล้วตักอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย เสแสร้งทั้งนั้น ทุกคนก็พอจะรู้แต่ไม่พูดอะไรออกมา จึงยิ้มให้เขาเหมือนรู้ไม่ทันความคิดตื้น ๆ และพยายามหาเรื่องมาพูดคุยเปลี่ยนบรรยากาศ

   เมื่อทานอาหารมื้อเย็นเรียบร้อยแล้วก็ย้ายจากห้องอาหารมาที่ห้องนั่งเล่น เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนในครอบครัวจะใช้เวลาร่วมกัน สักพักจันทร์เจ้าก็ขอตัวกลับขึ้นห้องตัวเองโดยบอกว่ามีการบ้านต้องทำ พอพ้นหลังไอ้หมูปุ๊บหน้าเจ้าก็ผลักหัวพี่ฟ้าจนหน้าแทบคะมำ

   ทุกอย่างเงียบ กดดันมาก ผมยังหายใจแทบไม่ออก มองหน้ากันกับจ๋าจ้า ไอ้เปี๊ยกเหมือนจะร้องไห้ คงอยากออกไปจากตรงนี้อยู่เหมือนกัน น้องขยับเข้ามาใกล้ เมื่อผมยื่นมือไป จ๋าจ้าก็คว้าไปจับ

   “ขอตัวนะครับ” พี่ฟ้าพูดหลังจากที่เสยผมขึ้นก่อนเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปชั้นสอง จากน้ำเสียงแล้วรู้เลยว่าไม่ค่อยโอเค

   “มีอะไรหรือเปล่าเจ้า?” คุณยายเอ่ยถาม

   “ทะเลาะกันนิดหน่อย”

   “เพลิงฟ้ากับลูกหมูน่ะเหรอ?” น้าเจ้าพยักหน้าเป็นคำตอบ แค่นั้นก็พอจะเดาได้ มีไม่กี่เรื่องที่จะทำให้พี่ฟ้ากับจันทร์เจ้ามึนตึงใส่กันแบบนี้ ล่าสุดก็เมื่อหลายปีที่แล้ว ไอ้หมูงอนไม่คุยกับพี่ฟ้าเป็นวันเพราะพี่ฟ้าผิดสัญญาไม่พาไปกินไอศกรีม ส่วนตอนนี้ จันทร์เจ้าโตขึ้นเยอะ เรื่องเล็กน้อยแบบนั้นจึงตัดทิ้งไป จะมีปัญหาใหญ่ ๆ ตอนนี้ก็แค่เรื่องเดียว

   ทิวากาล

   “ให้ลูกหมูคิดเองนะ อย่าไปกดดันเขา” คุณแม่กล่าว “จริงใจน่ะตัวดี”

   “ผมทำอะไรล่ะครับ”

   “แม่รู้ว่าเราหวงพี่ แต่ถ้าเราอยากมีแฟนแล้วพี่ห้ามแบบนี้บ้างเราคงไม่ชอบใจ ใช่ไหมจ๊ะ?” ปิดท้ายประโยคคำถามด้วยรอยยิ้มหวาน ยิ้มที่ทำเอาคนมองขนลุกซู่ มันน่ากลัวกว่ายิ้มร้ายของแม่จริง ๆ เสียอีก

   ดุนลิ้นกับกระพุ้งแก้มเหมือนที่ชอบทำเวลาโดนขัดใจ

   “ผมขึ้นห้องดีกว่า goodnight ครับ”



   ตีกลองอยู่เป็นชั่วโมงถึงเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอน แม้จะแค่นั่งอยู่เฉย ๆ แต่ก็เล่นเอาเหงื่อโชกเหมือนกัน เหนียวตัวไปหมด เดินเช็ดผมออกจากห้องน้ำไปที่โต๊ะทำการบ้าน มองหนังสือบนโต๊ะแล้วก็ไหวไหล่ การบ้านไม่มีเพราะฉะนั้นลืมไปเถอะว่าผมจะแตะต้องมัน ถึงแม้จะสอบปลายภาคอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก็ตาม เอาเถอะ คนฉลาดเขาไม่มาอ่านหนังสือกันหรอก ซึ่งผมฉลาด และผมจะไม่อ่าน...มั้ง

   เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้น ระหว่างที่กำลังรอมันโหลดก็ลงไปที่ชั้นล่าง โดยยังมีผ้าขนหนูสีขาวสำหรับเช็ดผมพาดอยู่บนไหล่ เปิดตู้ลอยออกและหยิบถุงขนมออกมาสองห่อ กลับไปที่ตู้เย็น มีนมกล่องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางอยู่ไม่ไกลกัน และแน่นอนว่าเด็กอย่างผมนั้น..... คว้าเบียร์มาหนึ่งขวดเล็กกับอีกหนึ่งกระป๋อง มีเค้กด้วยว่ะ เหลือบมองนาฬิกา แค่สี่ทุ่มกว่า กลัวอะไรวะ

   เมื่อกลับขึ้นมาบนห้องอีกครั้ง ปัญหาอยู่ที่ผมจะเข้าห้องยังไงเพราะมือเต็มไปด้วยของที่ถือขึ้นมา ถ้ายื่นไปเปิดประตูของในมือได้หล่นหมดแน่ ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ผมถอยหลังออกเล็กน้อยเพื่อกะระยะที่พอดี ก่อนยกเท้าขึ้นและใช้มันกดด้ามจับประตูแล้วจึงถีบมันเข้าไปด้านใน พอเข้าห้องได้ก็ใช้เท้าปิดดังเดิม

   เยี่ยม!

   คีย์รหัสเข้าคอมพิวเตอร์ เปิดหน้าเว็บขึ้นมา สายตาก็มองหาของบางอย่าง ไอ้ฉิบหาย จะแดกเบียร์เสือกไม่เอาที่เปิดฝาขวดมา จะดื่มแบบกระป๋องก็เอาไปแช่ตู้เย็นแล้วขี้เกียจเดินไปเอา (ในห้องนอนมีตู้เย็นเล็ก ๆ) แต่คนฉลาดเขาต้องมีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ผมเกยฝาขวดที่ขอบโต๊ะก่อนจะตบลงไปเต็มแรงให้ฝามันกระเด็นออก ดีที่ของเหลวข้างในไม่หก ไม่อย่างนั้นต้องเช็ดอีก

   ผมแกะเพลง ดูวีดีโอคลิปเทคนิคต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตจนดึก เบียร์ที่เอามาก็หมดไปแล้ว รวมทั้งขนมด้วย พรุ่งนี้วันอาทิตย์จะตื่นสายขนาดไหนก็ทำไปเถอะ มองนาฬิกา เมื่อเห็นว่าพอสมควรแล้วก็จัดการปิดคอมพิวเตอร์ เก็บโน้ตเพลงที่แกะไว้ใส่แฟ้ม และเก็บขยะไปทิ้งก่อนจะเข้าไปแปรงฟันล้างหน้าในห้องน้ำแล้วขึ้นมานอนบนเตียง จัดหมอนให้สูงแล้วหนุนศีรษะลงไป คว้าโทรศัพท์มือถือมากดเล่น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นการแจ้งเตือนบนหน้าจอ มันก็แค่การเตือนจากการเปิดรับความเคลื่อนไหวของใครสักคนเท่านั้น

   phaknp hotter than hell


   ผมเบ้ปาก มองรูปภาพที่ถูกอัพโหลดประมาณสามชั่วโมงที่แล้ว รูปค่อนข้างมืดเพราะอยู่ในผับ คนในรูปยิ้มยั่ว ดวงตาเรียวปรือปรอยอาจเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือไม่ก็ตั้งใจทำ ในมือข้างหนึ่งมีแก้วน้ำสีอำพัน ส่วนอีกข้างนั้นเข้ายกขึ้นเท้าคาง ในรูปไม่ได้มีแค่คนเดียว เพราะแขนยาวของใครสักคนโอบไหล่แคบของเขาอยู่ ผมไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร เพราะไม่เห็นหน้า เห็นเพียงแค่ส่วนไหล่และแขนโผล่มาเท่านั้น

   บอกตรง ๆ ไม่ชอบว่ะ ผมคิดก่อนจะแยกยิ้มแล้วกด report หึหึ กดล็อกเครื่องแล้วโยนโทรศัพท์ไปไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม คว้ารีโมทคอนโทรลมากดปิดไฟก่อนจะไถลตัวเข้าใต้ผ้าห่ม นอนเถอะ ยิ่งดึกยิ่งฟุ้งซ่าน เพิ่งดื่มเบียร์มาด้วย เดี๋ยวเพ้อ





   “มึงงงงงงง เพื่อนรักกกกกกกกกกก” เสียงน่ารำคาญของใครสักคนดังเข้ามาพร้อมกับเปิดประตูแบบไร้มารยาท ผมมองไอ้เนตรอย่างรำคาญ แต่มันยังทำหน้าแป้นแล้นไม่สนใจ นึก ๆ แล้วอยากเอาไม้กลองในมือฟาดมันสักที

   “มีเหี้ยไร?”

   “ขอลอกการบ้านชีวะหน่อยดิ”

   “ก็แย่ละ”

   “แย่แน่ถ้ามึงไม่ให้กูลอก”

   ผมกลอกตา ใช้ไม้กลองชี้ไปที่กระเป๋า ไอ้เนตรทำหน้าหมา หูตั้งหางกระดิกวิ่งเข้าใส่เหมือนหมาเจอกระดูกอย่างรวดเร็ว “ทำไมมึงไม่ทำเองวะ”

   “โห่ แม่งยากจะตาย กูทำไม่ไหว” ไอ้เนตรบอก “อยากจะกราบขอบคุณมึงฉิบหาย”

   “ตอแหล” มันหัวเราะ ไอ้เชี่ยเนตรมันเรียนเก่งนะครับ ไม่งั้นคงมาอยู่ห้อง A กับผมไม่ได้ แต่ติดที่ว่ามันขี้เกียจเท่านั้นแหละ ทำตัวไม่สมเป็นเด็กสายวิทย์ห้อง A จะว่าไปก็ไม่ใช่แค่มันหรอก ผมเองก็ด้วย ด้วยความที่ถูกจัดว่าเป็นหัวกะทิของระดับชั้นจึงค่อนข้างกดดันและมีการแข่งขันสูงภายในห้อง แต่ผมกับเนตรโคตรชิล ช่างแม่งกับทุกอย่าง ใครจะแข่งก็แข่งไป กูไม่แข่ง ใครจะทำไม ด้วยความบ้าและไม่ใส่ใจโลกเลยทำให้ผมเป็นเพื่อนกันมันได้ คนอื่น ๆ ในห้องนั้นไปสายวิชาการกันเสียเกือบหมด ยกเว้นพวกผมสองคนนี่แหละ แต่ก็ยังมีโหมดบ้าบอกันอยู่

   “มึงเริ่มอ่านหนังสือสอบยังวะ?”

   “ไม่อ่าน”

   “เหยดดดด โอเค ถ้ามึงไม่อ่านกูก็ไม่อ่าน”

   “เกี่ยวไรกับกู มึงไม่อ่านแล้วจะสอบได้หรือไง!”

   “ก็มึงไอดอลกู มึงไม่อ่าน กูก็ไม่อ่านไง งงไรวะ”

   “ก็แย่ละ” ไอ้เนตรทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วก้มไปลอกการบ้านต่อ เออ เรื่องของมึง สอบตกกูจะสมน้ำหน้าให้

   “แต่ถ้าไม่อ่านกูสอบไม่ได้แน่เลยว่ะ ถึงกูจะฉลาดก็เถอะ”

   “มักเกิ้ลอย่างมึงก็ทำได้แค่นั้นแหละ อย่าสาระแนมาเทียบกับผู้วิเศษอย่างกู”

   “ไอ้เหี้ย!!”

   “ไหนเหี้ย!” ผมมองไปที่คนเปิดประตูเข้ามาใหม่ ไอ้น้องไจ๋เดินหน้าแป้นแล้นเข้ามา โยนกระเป๋าไว้ที่พื้น ผมเลยใช้ไม้กลองชี้ไปที่ไอ้เนตร

   “สวัสดีครับเหี้ย”

   “เหี้ยโพ่ง เดี๋ยวกูตบแว่นหลุด” ไอ้น้องไจ๋ไม่สำนึก ซ้ำยังหัวเราะเสียงใส แล้วเดินไปที่คีย์บอร์ดประจำตำแหน่งของมัน

   “ไอ้ฟ่างนัดซ้อมหรือเปล่า?”

   “ไม่นะครับ ช่วงนี้ใกล้สอบคงไม่นัดซ้อมหรอก”

   “อือ” รับคำในลำคอ ผมอยู่ในห้องชมรมจนกระทั่งถึงเวลาเข้าแถว อยากจะโดดแต่โดนไอ้เหี้ยเนตรลากออกมาแล้ว

   ตามธรรมเนียมของช่วงใกล้สอบ อาจารย์ส่วนใหญ่ก็จะเร่งสอนเพื่อปิดคอร์สและบอกแนวข้อสอบ แต่ก็ยังมีหลายท่านที่สั่งงานเยอะฉิบหาย ช่วงสองสัปดาห์นี้ผมจึงไม่ได้ไปไหน ยุ่งอยู่กับการเคลียร์งานส่ง ทั้งรายงาน โครงงานต่าง ๆ นานา ครูเขาไม่คิดว่านักเรียนต้องการเวลาอ่านหนังสือเหรอวะ ถึงแม้ผมจะพูดว่าไม่อ่านหนังสือ แต่ยังไงก็ต้องอ่านอยู่แล้ว ถึงจะเก่งแต่ไม่อ่านเลยยังไงก็ทำข้อสอบไม่ได้ ยิ่งข้อสอบโรงเรียนไทยยิ่งไปกันใหญ่ สอนในกรอบแต่ออกสอบแม่ง around the world ผู้วิเศษอย่างผมยังส่ายหน้า

   ทำงานส่งจนแทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือ อาทิตย์หน้าจะสอบแล้วแท้ ๆ ไอ้เนตรส่งข้อความมาอ้อนตีนอยู่หลายครั้งว่าทำงานไม่ทัน อ่านหนังสือไม่เข้าใจ ผมก็ไม่มีเวลาไปด่ามักเกิ้ลอย่างมันหรอก งานตัวเองยังแทบไม่รอด สั่งงานกันเหมือนจะเลิกเป็นครู

   “จริงใจ”

   “หือ?” ผมลืมตาขึ้นเมื่อถูกเขย่าแขน ขยับนั่งตัวตรงพลางถูมือกับบริเวณที่ถูกสัมผัส

   “ช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยได้ไหม? ออมไม่ค่อยเข้าใจน่ะ” คนเข้ามาทักเอ่ยถามเสียงเบาอย่างเกรงใจ ออมคือเพื่อนร่วมห้อง ไม่ได้สนิท คุยกันไม่กี่ครั้ง ผมมองหน้าเธอ ออมส่งยิ้มมาให้ ผมกระตุกยิ้มแล้วเริ่มอธิบายในหัวข้อที่เธอบอกว่าไม่เข้าใจ

   ไม่เข้าใจก็แย่ละ ออมเป็นเด็กหน้าห้อง สอบได้ท็อปไฟว์ตลอด จะมาถามอะไรกับเด็กหลังห้องอย่างผม ถึงจะอยู่ห้อง A แต่ผมไม่ตั้งใจเรียนเท่าไหร่หรอก เพราะบางทีมันก็น่าเบื่อ

   “อย่างนี้นี่เอง ขอบใจมากนะ ออมเข้าใจขึ้นเยอะเลย” เธอบอกพร้อมรอยยิ้ม ผมพยักหน้าตอบอือในคอ กำลังจะฟุบหน้ากับโต๊ะก็มีเสียงของใครสักคนดังขึ้นมา

   “จริงใจสอนแค่ออมหรอ ไม่สอนพวกเราบ้างอ่ะ” แล้วพวกเธอก็หัวเราะกัน พอมีคนเริ่ม ก็ต้องมีคนตาม

   “พวกแกก็น่ารักแบบออมก่อนสิ เผื่อจริงใจจะสอน”

   “ก็แย่ละ” ผมพึมพำประโยคติดปาก เลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าออมมองผมอยู่ เธอสะดุ้งก่อนจะยิ้มเขิน บอกขอบคุณผมอีกครั้ง แล้วกลับไปที่โต๊ะของเธอ เสียงแซวยังดังมากบ้างพอผมกวาดตามองก็เงียบกัน ควานหา head phone ในช่องโต๊ะออกมาสวม เปิดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดแล้วจึงหลับตาลง กอดอกเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้

   คาบนี้เป็นไม่เชิงว่าว่าง อาจารย์มาสั่งงานเอาไว้ก่อนจะไปเข้าประชุม ผมทำเสร็จไปตั้งแต่ต้นชั่วโมง เพราะอ่านเนื้อหาล่วงหน้าจึงเข้าใจได้ไม่ยาก และมักเกิ้ลอย่างไอ้เนตรก็เอาไปลอกเสร็จสรรพ เพราะไม่มีบ่วงมันถึงได้ฟุบหลับน้ำลายไหลยืดสบายใจเฉิบ บางทีก็สงสัย มันเข้ามาอยู่ห้องA ได้เพราะมันสมองหรือเพราะจับฉลากได้

   ผมตื่นก่อนเสียงสัญญาณหมดคาบจะดังประมาณห้านาที หลายคนเริ่มเก็บกระเป๋าเพื่อรอเรียนวิชาถัดไป ทว่าเนื่องจากอาจารย์ติดประชุมจึงไม่ใครเข้ามาสอน และก็คงเหมือนชั่วโมงก่อนหน้านั้นคือเอางานมาทำ คาบนี้ก็เป็นวิชาเดียวกับคาบเมื่อสักครู่ ผมซึ่งเป็นผู้วิเศษที่ไม่มีภาระอะไรแล้วจึงเป็นอิสระ ไอ้ห่าเนตรยังนอนน้ำลายยืดอยู่ ผมเก็บของใส่กระเป๋า และเอางานที่วิชานี้ที่ต้องส่งไปให้หัวหน้าห้องเพราะจะไปอยู่ห้องชมรมหรือไม่ก็ไปหาที่นอนในห้องสมุด

   “ของกูกับไอ้เนตร” ผมพูดพลางโยนสมุดบนโต๊ะมัน “ข้อเก้ามึงผิด” ไอ้หัวหน้าห้องทำหน้าเอ๋อ ๆ มันก้มไปมองโจทย์ข้อเก้าที่ผมว่าแล้วมองหน้าผม เออ เรื่องของมึง

   ปึง!

   ถีบโต๊ะไอ้เนตรเบา ๆ พอให้โยก มันสะดุ้งตื่น ทำหน้าโง่ ๆ มองซ้ายมองขวา “ไอ้เหี้ยยยยยย กูกำลังฝันดี”

   “ฝันเปียกหรอวะ”

   “พ่อง!! มีเชี่ยไร ไอ้ห่า จะได้จูบกับน้องกี้อยู่แล้ว” ไอ้เนตรทำหน้ามุ่ย น่าถีบฉิบหาย

   “กูจะไปห้องชมรม”

   “ไปไมวะ”

   ผมไหวไหล่ “นอน”

   ไอ้เนตรตาวาว ทำหน้าหมาทันที “กูไปด้วยยยย” จากนั้นมันก็รีบเก็บกระเป๋าแล้ววิ่งตามผมออกมา “อาจารย์ยังประชุมไม่เสร็จเหรอวะ”

   “อือ”

   “เซ็ง อยากกลับบ้านเลย เออ กูได้เกมใหม่มา สนเปล่า”

   “อ่านหนังสือจบบทยังมึงอ่ะ เสร่อ”

   “คลายเครียดโว้ย คลายเครียด”

   “ก็แย่ละ” ปล่อยให้ไอ้เนตรพล่ามไปคนเดียวจนกระทั่งมาถึงห้องชมรม ลองกดด้ามจับดู ปรากฏว่าแม่งล็อก โชคดีที่ผมมีกุญแจ ไม่งั้นเสียเวลาแน่ ไอ้ห่าเนตรพอเข้ามาในห้องชมรมของผมมันก็สาระแนไปเปิดแอร์ หามุมเหมาะ ๆ สำหรับการนอน เปิดกระเป๋าเทขนมที่เพิ่งแวะซื้อจากมินิมาร์ทออก ทำหน้าระรื่นจนน่าหมั่นไส้

   “กินด้วยกันป่ะมึง” ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่มุมห้อง โดยชันเข่าขึ้นหนึ่งข้าง เหยียดแขนพาดบนเข่าและเอาชีทมาอ่าน

   “เอามา” สิ้นเสียงผมมันก็โยนห่อขนมมาให้ ไอ้เนตรนอนกระดิกตีนสบายอุราไปแล้ว

   “มึงทำไรวะ ไหนบอกเป็นผู้วิเศษไม่อ่านหนังสือไง”

   “อ่านเล่น ๆ”

   “เล่น ๆ โพ่ง โจทย์ฟิสิกส์เนี่ย ไอ้ห่า ปวดหัวตาย”

   “นั่นสำหรับมักเกิ้ลอย่างมึง”

   “--ย! มึงมันก็แค่พวกเลือดสีโคลนโสโครก”

   “ก็แย่ละ”

   “โห มึง โคตรเทพ!” ไอ้เนตรเสนอหน้าเข้ามาหาผมหลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ใครมันบอกว่าผมเป็นเลือดสีโคลนโสโครกนะ? มันแย่งสมุดในมือผมไปพร้อมทำตาวาวอย่างกับว่ามันคือสมบัติล้ำค่า “ติวให้ผมด้วยสิคร้าบบบบบ”

   “ก็แย่ละ”

   “มึงไม่สงสารกูหรอ ถ้ามึงไม่ติวให้กูสอบตกแน่เลยนะเว้ย!”

   “เรื่องของมึง”

   “ไอ้ใจบาป! มึงมันหยาบยิ่งกว่ากระดาษทราย!”

   “thank you three times”

   “ไอ้ห่า” มันด่า “ติวให้กูเหอะมึง มึงจะได้ทบทวนด้วยไง ถือว่าทำบุญ” ไอ้เนตรกะพริบตาปริบ ๆ อ้อน โคตรสยอง

   “ไอ้หอยนางรมเอ๊ย!” ไอ้เนตรหัวเราะพอใจหลังจากที่ผมด่าออกไป มันทำหน้าระรื่นแล้วกลับไปที่เดิมของมัน ตอนนี้ใกล้ได้เวลาเลิกเรียนแล้วเหมือนกัน ผมจึงจัดของใส่กระเป๋า ในจังหวะที่ลุกขึ้น หูฟังที่คล้องอยู่บนคอก็ร่วงตกลงมา มันจะไม่เป็นอะไรหากผมไม่ก้าวเท้าออกไปแล้วเหยียบมันเข้าพอดี

   แกรบ!

   เงียบ... ผมนิ่งเหมือนโดนชัตดาวน์ ไอ้เนตรก็หันมามอง มันก้มมองที่ตำแหน่งเท้าของผม ทำหน้าเหวอแล้วหัวเราะลั่น

   “55555555555555555 บาปกรรมเพราะมึงไม่ติวให้กูไง”

   “ก็แย่ละ” เก็บหูฟังที่แตกออกเป็นสองส่วนขึ้นมา ไอ้ห่าเอ๊ย เพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่นานด้วยซ้ำ แพงด้วยไอ้เชี่ย ผมถอนหายใจเซ็งสุดชีวิต เลิกเรียนนี้คงต้องแวะเอาไปให้พี่นนท์(เจ้าของร้านหูฟัง)ดูให้

   “สู้ ๆ นะมึง 5555555555555555”

   “ไอ้ฉิบหาย!”







-------------------------------
เพ้อเจ้อบอยมาแย้ววววววววว
ขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านนะค้า ไว้เจอกันตอนหน้าครับผม
บั๊บบัย ♥

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด