★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2【ปู❤โจ】EP.21 สัญญาครับ [22/06/20]P13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2【ปู❤โจ】EP.21 สัญญาครับ [22/06/20]P13  (อ่าน 70661 ครั้ง)

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】


  :pig4: :เครดิตภาพ: ขอบคุณภาพจาก IG และเวปไซค์ค่ะ



【EP.10 อย่านะพี่หึงแรง】






เมื่อคืนได้เสียเหงื่อก่อนนอนค่อยสบายตัวหน่อย อาหารย่อยเพราะได้ออกแรงว่ะ ฮ่าๆๆ สำเร็จโทษไปสองยกก่อนนอน ข้อหาทำผมอิ่มเกินควร งานนี้ไม่ได้จุกเพราะแดกข้าวว่ะ แต่จุกเพราะเจอปูมังกรเข้าไปเต็มๆ สงสารเมียตัวเองฉิบหาย กร๊ากกกก…





"ยิ้มอะไรปู เลิกทำหน้าแบบนี้ได้ป่ะ" 



ฮันแน่ะ! มีเหวี่ยงๆ 



"ทำหน้าอารายยย… ก็คนมันสดชื่น ร่างกายกระปรี่กระเปร่ามันก็เลยอารมณ์ดีแบบนี้แหละ หึหึ"



"คนบ้า!! รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้โจมีประชุมเช้า แล้วยังเป็นประชุมลูกค้าคนสำคัญด้วยยังจะแกล้งกันอีก"





ผมจอดรถเสร็จโจยังไม่เลิกบ่นเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ ฟอดดดด…  หอมแก้มแม่งเลยหมั่นใส้ว่ะบ่นผัวอยู่ได้



กร๊ากกก… อารมณร์ดีเพราะมีความสุข





"กูทำโทษมึงไง"



"ทำโทษเรื่อง?"



โจหันมาถามด้วยความสงสัย



"เรื่องที่มึงดูแลกูดีเกินไป เรื่องที่มึงไม่ใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วก็เรื่อง…"



"เอ่อ… พอแล้วๆ โจรีบไปทำงานดีกว่าครับ" 



ฮ่าๆๆๆ ผมขำมันฉิบหาย นั่งตัวเกร็งให้ผมแกล้งเล่นอยู่ได้ ห่า!! แต่กูเสือกกรึ่มซะเองนี่ดิ 



"หึหึ ถ้าไม่ติดว่าเลื่อนประชุมไม่ได้นี่วนรถกลับบ้านเลยนะเนี้ยะ"



"ทะลึ่ง! โจไปทำงานก่อนนะ"



โจรีบหยิบกระเป๋าเตรียมออกจากรถ



"เดี๋ยว!! มึงลืมอะไรรึป่าวครับที่รัก"



"ห๊ะ! ลืมอะไรอ่ะ?" 



"อย่ามาตีเนียนให้ไว้เลย" ผมยื่นแก้มเข้าไปใกล้โจ รู้แล้วนะว่าลืมอะไร หึหึ



"เฮ้ออ… ตลอดอ่ะ"



จุ๊บบบ…



"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ"



โจจุ๊บแก้มผมแล้วพูดอย่างเขินๆ



"น่ารักมาก หึหึ ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวตอนเที่ยงมารับไปกินข้าว"



"อืม… ปูอย่าขับรถเร็วมากนะ"



"รู้แล้วน่า… แล้วเจอกัน"





ฟอดดดด…  โอ๊ยยย!! มันเขี้ยวเมียโว๊ยยย



"ครับ ตอนเที่ยงเจอกันนะ บาย"







หลังจากส่งโจเสร็จผมก็แวะไปหาไอ้ทิวที่ร้าน วันนี้มันเข้ามาด่ากราดลูกน้อง เรียกรวมพลกันแต่เช้าทั้งที่พวกเด็กในร้านมันได้นอนกันไม่ถึงสามชั่วโมงดี เมื่อคืนมีเรื่องครับ เกิดการทะเลาะกันระหว่างสองผัวเมีย ไอ้ทิวทะเลาะกับน้องมินเมียมันนั่งแหละ งานนี้หาสาเหตุยาก หลักฐานมาเต็มดิ้นไม่หลุดทำเอาไอ้ทิวถึงขั้นปวดหัวคิดไม่ออกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับมันได้ยังไง ผมก็ว่าระดับไอ้ทิวไม่น่าพลาดด้วยเรื่องแค่นี้นะ เพราะผมกับมันไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยแวะมาหามันมาเป็นเพื่อนปรับทุกข์ให้มันซะหน่อย หึหึ





ผมขับรถเข้ามาจองลานจอดรถข้างหลังร้าน เด็กในร้านไอ้ทิวเห็นผมก็ยกมือไหว้ผมทุกคน พวกมันหน้าถอดสีกันทุกคนเลยว่ะ สงสัยโดนไอ้ทิวด่าจัดหนัก หึหึ





ผมเดินผ่านความเงียบในร้านแล้วเดินตรงไปชั้นลอยที่เป็นห้องทำงานของไอ้ทิว เดินสวนกับไอ้เก่งมันยกมือไหว้แล้วยิ้มแห้งๆ ส่งให้ผม อย่าบอกนะว่ามึงก็ไม่รอด ไอ้เก่งเอ้ย!!







แกร๊ก....







ผมเปิดประตูห้องทำงานไอ้ทิว ยื่นหน้าแอบส่องเข้าไปข้างในเห็นไอ้ทิวเหลือกตาขึ้นมามอง หน้าแม่งโคตรโหดบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิด บรรยากาศมาคุสุดๆ ไม่น่าล่ะทำไมลูกน้องมันแต่ละคนยืนตัวซีดกันเลยทีเดียว





"เคาะประตูไม่เป็นรึไงสัส!!" 





ไอ้เหี้ย!! คำทักทายเพื่อนของมึงโคตรคลูเลยสาดดดด...





"กูจำเป็นต้องเคาะด้วยเหรอวะ หึหึ" ผมตอบแล้วเดินเข้าไปข้างใน



"มารยาทไงไอ้ควาย!! แล้วนี่ไปหมุดหัวอยู่ไหนมาห๊ะ กูบอกให้มาตั้งนานล่ะ" 



ไอ้ทิวมันเก็บเอกสารที่กำลังอ่านไว้มุมโต๊ะแล้วเดินมานั่งลงโซฟาเดี่ยวข้างๆ ผม



"หึหึ มึงเล่นแดกเหล้าย้อมใจตั้งแต่เช้าเลยเหรอวะ?" 



ผมกวาดสายตามองแก้วที่ผ่านการใช้งานกับขวดเหล้านอกที่สัดส่วนน้ำสีชาในขวดหายไปเกือบครึ่ง



"หึ!! เมื่อคืนกูนอนนี่"



ผมได้แต่ส่ายหัวให้เพื่อนตัวเอง มือก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมารินใส่แก้วแล้วยื่นให้มัน ไอ้ทิวก็รับไปถืออย่างว่าง่ายก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วให้ตัวผมเองบ้าง



"อ่อนไอ้สัส!! ทะเลาะกับเมียเสือกหนีออกจากบ้าน หึหึ"



ผมกับไอ้ทิวชนแก้วกันแล้วดื่มเพื่อลืมเธอ ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นครับ



"หนีเหี้ยอะไรไอ้สัส!! มันดิหนีกู"



"อ้าว!! เมียหนีกลับบ้านทำไมต้องประชดชีวิตมานอนที่นี่ด้วยวะ" 



"ประชดชีวิตเหี้ยอะไรของมึง กุรีบวิ่งตามมันแต่เสือกลืมกุญไว้ในห้องสัส!! รหัสห้องกุก็ลืม เปลี่ยนใหม่ล่าสุดรหัสเหี้ยอะไรกูคิดไม่ออกเลยขับรถมานอนนี่ไง" พูดจบมันก็ซดเหล้าย้อมใจไปหนึ่งแก้ว



"ฮ่าๆๆ กูขำไอ้สัส!! แลวนี่มึงได้คุยกันยัง?"



"ยังว่ะ มันปิดเครื่องหนีกู แม่มันบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เพราะลูกชายเขากำลังหัวเสีย เดี๋ยวจะหนักกันไปใหญ่ บอกให้กูใจเย็นแล้วรอเดี๋ยวแม่ยายกูจัดการว่ะ" 



"หึหึ มึงพลาดได้ไงวะ ปกติมึงไม่เคยพลาดเรื่องนี้นี่หว่า"



"ไม่รู้ไอ้เหี้ย!! กูมึนตึบเลยสัส!! มาแบบงงๆ ห่า!!" ไอ้ทิวบ่นอุบ



"เออๆ งั้นมึงใจเย็นก่อน กูว่าต้องมีอะไรผิดพลาด เอ๊ะ!! หรือมึงเองที่พลาดวะ" 





กร๊ากกกก... ไอ้เหี้ยทิวแม่งทำหน้าเหมือนอยากตาย กูคบมึงเป็นเพื่อนมากี่ปีไม่เคยเห็นแม่งทำหน้าอยากตายแบบนี้มาก่อนเลยว่ะเพื่อน





"กูพยายามทำให้ใจเย็นอยู่นี่ไง แม่ยายกูก็เงียบไปอีก ห่าเอ้ย!!" 



"สู้ๆ เว้ยเพื่อน ท่องไว้เมียเราเอาอยู่"





ผมนั่งคุยกับไอ้ทิวต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับ ขับรถกลับมาหาเมียผมบ้างดิ อาหารเที่ยงต้องถึงท้อง โจมันชอบทำงานลืมเวลา ผมเลยต้องไปเสนอหน้าทำตัวเป็นแฟนที่ดีคอยดูแลมันบ้าง หึหึ







ผมใช้เวลาไม่นานนักก็ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถ ผมจัดการล็อครถเรียบร้อยก็เดินเข้าตึกขึ้นไปหาโจ







"คุณปูสวัสดีค่ะ มารับเจ้านายไปทานข้าวเที่ยงใช่ไหมคะ" เลขาสาวทักทายผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม



"โจอยู่ในห้องใช่ไหม?"



"ค่ะ เจ้านายอยู่ในห้องค่ะ แต่..."





แกร๊ก.....





"คุณโจอยากทานอะไรดีครับ เดี๋ยวมื้อนี้ผมขอเลี้ยงข้าวคุณโจนะครับ ปฏิเสธผมมาสองครั้งแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมไม่ยอมนะ" 





ผมหันไปมองตามเสียงเจื้อแจ้วที่กำลังพูดชื่อเมียผมไม่ขาดปาก แม่ง!! มันเป็นใครวะเดินตามตูดเมียกูต้อยๆ เลยนะมึง!!



"เอ่อ... พอดีว่า..." "คุณโจอย่าปฏิเสธผมเลยครับ นะครับ"



"โจประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม?" 



ผมเดินเข้าไปแล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งโดยไม่สนใจไอ้หน้าตี๋ที่ยืนมองโจอย่างไม่ละสายตา



"เอ่อ... ปูมาถึงนานรึยัง อ่อ.. นี่คุณนภัทร ลูกค้าโปรเจคบ้านที่รังสิต ส่วนนี่ปูครับ เป็น..."



"แฟน!"  ผมตอบเองแหละ โจยิ้มแหยะๆ ให้ไอ้ตี๋นั่น ส่วนไอ้ตี๋หน้าขาวคนนั้นมันก็ยิ้มหน้านิ่งมองมาที่ผม



"สวัสดีครับคุณปู ยินดีที่ได้รู้จักครับ"



มันยื่นมือมาทำท่าจะจับมือทักทายผมแล้วยิ้มแบบที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ หึ!!



"อืม... หวัดดี"  ผมตอบแค่นั้นแหละครับ หน้าตามันไม่น่ายินดีที่ได้รู้จักสักนิด



"เอ่อใช่ งั้นเอาอย่างนี้ซิครับ เราไม่ทานอาหารเที่ยงพร้อมกันสามคนเลยก็ได้เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"



โจหันหน้ามามองผมเหมือนกำลังขอคำตอบ มันดูเกรงใจลูกค้านะแต่คงกลัวใจผมมากกว่า



"อืม..." ผมพยักหน้าตอบโจ โจมันยิ้มออกมานิดๆ 



"งั้นคุณนภัทรไปทานอาหารเที่ยงกับเราสองคนก็ได้ครับ แต่ผมขออย่างเดียวคือค่าอาหารให้เป็นหน้าที่ของทางผมดูแลลูกค้าแล้วกันนะครับ ผมจะได้ทานอาหารมื้อนี้อย่างสบายใจ"  โจมันฉลาดพูดแฮะ เมียใครว่ะโคตรเก่งเลย หึหึ



"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ อย่างน้อยวันนี้ผมกก็ได้ร่วมทานอาหารกับคุณโจสักที"



"ไปกันเถอะ"





หมั่นใส้โว๊ย!!! ขอถีบยอดหน้าคนสักทีได้ไหมวะ!!





"งั้นเราไปทานตึกตรงข้ามแล้วกันนะครับจะได้กลับมาคุยงานต่อไม่ทำให้คุณนภัทรเสียเวลามากจนเกินไป"



"ได้ครับได้ ผมทานได้หมดทุกอย่างเลยครับ"





ไอ้นี่แม่ง!! 





"ไปกันเถอะ" โจหันมายิ้มให้ผม







เราสามคนเดินลงมาจากตึกแล้วเดินข้ามถนนไปยังตึกสำนักงานที่อยู่ตรงข้าม ตอนนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นมาเปิดใหม่ รสชาติอร่อยใช้ได้โจชอบชวนผมมากินบ่อยๆ แต่ฝันไปเถอะว่าผมจะพาไอ้หน้าตี๋นี้ไปนั่งร้านประจำของเรา หึ!! แดกข้าวธรรมดานี่แหละมึง!!





"อ้าว ปูทำไม..." โจมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ



"ร้านนี้แหละ อาหารไทยอร่อยดี" ผมตอบ



"คุณโจอยากทานอาหารญี่ปุ่นไหมครับ ผมเห็นตรงนั้นมีอยู่ร้านนึง"  ไอ้ตี๋มันชี้ไปร้านประจำของโจ



"ไม่ค่อยอร่อยน่ะ วันนี้โจคงอยากกินอาหารไทยมากกว่าใช่ไหม?"



"อืม... ผมชอบทานอาหารไทยมากกว่าน่ะครับ คุณนภัทรทานได้ไหมครับหรืออยากจะเปลี่ยนเป็นร้านอื่นดี" 



"ไม่ครับ คุณโจทานอะไรผมทานได้หมดแหละครับ อันที่จริงผมชอบทานอาหารไทยมากเลยนะครับ"





หืมมม... ไอ้สัส!! เปลี่ยนสีไวเหี้ยๆ





"โจเข้าไปรอในร้านก่อน เดี๋ยวมา"



"จะไปไหนเหรอ?" "เดี๋ยวมาน่า" 





อารมณ์นี้แม่งไม่ไหวล่ะ กูกลัวความเป็นคนดีที่เข้าใจเมียของกูจะพังลงภายในสามวิ 





"อืม... รีบๆ กลับมานะ เดี๋ยวโจสั่งอาหารเผื่อนะ" 



"ขอบใจ" 





ผมเอื้อมมือไปปัดผมข้างหน้าโจเล็กน้อย มันดูยุ่งๆ ไม่เป็นทรง โจยิ้มให้ผมแต่สายตาไอ้ตี๋นี่มองทีไรน่าถีบยอดหน้าทุกที!





"งั้นเราเข้าไปสั่งอาหารรอกันเถอะครับ ผมเริ่มหิวแล้ว" 



"เอ่อ... ได้ครับ"





โจกับไอ้ตี๋ลูกค้าคนสำคัญเดินเข้าไปในร้าน ส่วนผมขอตัวไปปลดปล่อยอารมณ์แป๊ป อดทนมาสักพักล่ะ ขอปรับทัศนคติใหม่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะพังเพราะความหึงของผม







ผมเดินปลีกตัวออกมาคนเดียวยืนในพื้นที่สำหรับสบู่บุหรี่ จัดไปสองมัวเต็มๆ ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าไปที่ร้านอาหาร ปล่อยไว้นานไม่ได้ว่ะ งานนี้ไม่ไว้ใจไอ้ตี๋นี่เลยให้ตายเหอะ พอผมเดินเข้าไปในร้านก็เห็นว่าโจมองออกมานอกร้านพอดี เดาไม่อยากว่าโจกำลังมองหาผมอยู่นั่นเอง ไม่ได้หลงตัวเองหรอกสัส!! แต่เมียกูคนดีไงเป็นห่วงผัว ฮ่าๆๆๆ





"สั่งอะไรไปบ้าง?"  ผมเดินไปนั่งลงข้างโจแล้วถาม



"ของปูโจข้าวผัดเขียวหวานให้นะ เอาอะไรเพิ่มไหม?" 





โจมันรู้ใจ ถ้ามากินกับคนที่ไม่สนิทมันจะสั่งอาหารจานเดียวให้ผม เพราะผมไม่แดกร่วมกันคนอื่นง่ายๆ หรอกครับ



"อืม... เอาแค่นี้แหละ รีบๆ กิน รีบๆ กลับ" 



"คุณโจชอบทานอาหารร้านนี้เหรอครับ ผมว่าเมนูมันน้อยไปนะ เนี้ยะถ้าไปร้านที่ผมแนะนำนะผมว่าคุณโจต้องชอบแน่นอนครับ"



"เอ่อ... ผมชอบทานอะไรง่ายๆ นะครับ อาหารร้านนี้ก็อร่อยดีครับ ผมมาทานบ่อย" โจตอบกลับอย่างสุภาพ



"เหรอครับ งั้นผมสั่งเพิ่มอีกสักสองอย่างดีกว่า คุณโจการันตีขนาดนี้ต้องอร่อยแน่ๆ เลยครับ"



"เอ่อ... ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"





อย่างว่าแต่ช่วงสั่งอาหารที่ผมต้องนั่งอดทนไม่ให้ตะบะแตกเลยครับ พูดได้ว่าตั้งแต่เริ่มสั่งยันแดกข้าวเสร็จ ไอ้เหี้ย!! ป้อเมียกูฉิบหาย หงุดหงิดสัสอ่ะ โจมันก็ค่อนข้างเกรงใจ อารมณ์นี้คงแดกข้าวไม่อร่อยด้วยกันทั้งคู่เพราะข้าวในจานที่โจกินเหลือเยอะมาก แม่ง!! โคตรหงุดหงิดอ่ะ





"โจขอคุยด้วยแป๊ปนึง" 





โจพยักหน้าแล้วเดินตามผมเข้ามาในห้องทำงาน ส่วนไอ้ตี๋มันถูกเลขาโจลากไปกินกาแฟที่ห้องรับรอง แขกแล้วครับ ทำงานดีรู้งานแบบนี้ผมว่าจะบอกโจให้ขึ้นเงินเดือนเยอะๆ หน่อย หึหึ





"ขอโทษนะปู คือ..." ยังไม่ทันจะปิดประตูห้องโจก็รีบเอ่ยปากขึ้นทันที



"ขอโทษทำไม กินข้าวไปนิดเดียวเอง มึงจะกินอะไรอีกไหมจะได้ไปซื้อให้" ผมดึงโจให้นั่งลงข้างๆ ผม



"ไม่อ่ะ อิ่มแล้วครับ" โจยังคงทำหน้าสำนึกผิด



"อืม... งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพาไปหาอะไรอร่อยกิน" ผมลูบแก้มโจเบาๆ



"แล้วปูล่ะอิ่มไหม?"



"อิ่มดิ" กูตอบไปงั้นแหละ แดกไม่ลงเลยเหอะ



"เดี๋ยวโจจะต้องเข้าประชุมต่อนะ"



"อืม... รู้แล้วน่า อยู่ห่างไอ้ตี๋นั่นหน่อยแล้วกัน กูหึง" 





โจออกอาการหน้าแดงทันที มันยังไม่ชินนะครับ ส่วนผมก็พูดแม่งตรงๆ แบบนี้แหละ ชัดเจนดี





"โจทำงานนะปู ไม่ได้ทำอย่างอื่นสักหน่อย"



"อะไรๆ ทำอย่างอื่นน่ะทำอะไร หื้อ?" 





ฟอดดดด....





"ป่าวๆ ไม่ได้หมายความอย่างอื่นไง คุยกันแค่เรื่องงาน" โจรีบอธิบาย



"หึหึ รู้ตัวก็ดี อย่าทำให้กูหึงมากนักนะ กูเป็นคนห้ามตัวเองไม่ได้นานมึงเข้าใจที่กูพูดใช่ไหม?"



"อืม.. เข้าใจครับ แต่..."



"แต่อะไร?"



"แต่ปูก็น่าจะรู้นิว่าโจไม่มีทางคิดอะไรนอกเหนือจากงานอยู่แล้ว" โจตอบเสียงเบา



"หึหึ ดีมาก กูเชื่อมึง"





พูดจบมือผมก็จับเบาๆ ที่ปลายคางที่เกลี้ยงเกลาแล้วกดจูบลงที่ริมฝีปากนุ่มกดจูบลงเบาๆ ย้ำๆ แบบไม่ล่วงล้ำ สลับกับกัดปากบางเบาๆ ส่งความหึงหวงผ่านการจูบให้อีกคนรู้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง ผมจูบโจจนพอใจก็ผละออกอย่างเสียดาย อยากได้มากกว่านี้แต่ต้องอดทนอีกแล้ว!!





"ทำตัวดีๆ ล่ะ กูหึงแรง" ผมพูดก่อนจะกดจูบลงแรงๆ ที่ปากโจอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว



"อืม..." โจตอบพรึมพรำในลำคอ



"เดี๋ยวกูไปเล่นฟิตเนสรอ เลิกงานแล้วจะมารับกลับบ้าน"  ผมใช้นิ้วเกลี่ยไปมาที่ริมฝีปากบางเบาๆ



"ประชุมเสร็จประมาณหกโมงเย็น" โจพูดบอกผม "ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวกูจะนั่งในนี้สักพักแล้วค่อยไป"



"ตอนเย็นเจอกันนะ" 



"หึหึ มึงชอบทำตัวให้กูหลงมึงอีกแล้วนะ"  ผมหยิกแก้มโจด้วยความมันเขี้ยว



"ไม่คุยด้วยแล้วครับ โจไปประชุมก่อนนะ"



"อืม... ทำตัวดีๆ ล่ะ"



"ครับผม" โจตอบยิ้มๆ แล้วเดินไปหยิบของที่โต๊ะทำงาน



"ไปนะ" 



"หึหึ..." 





โจออกไปจากห้องทำงาน ส่วนผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีกสักพักก็เดินไปที่รถแล้วเตรียมอุปกรณ์สำหรับไปเล่นฟิตเนสครับ ทำไมวันนี้เวลามันผ่านไปช้าจังวะ!!





ผมเดินมาฟิตเนสเหมือนทุกๆ ครั้งนั่นแหละครับ วันนี้คนค่อยข้างเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายมาก พอจะมีมุมสงบให้ผมได้ออกกำลังกายเรียกเหงื่อระบายความเครียดอยู่บ้าง





เครื่องเล่นที่ผมเล่นประจำก็มีดัมเบล ลู่วิ่งไฟฟ้านี่ก็เล่นทุกครั้งที่มาเหงื่ออกเยอะดีผมชอบ ส่วนเครื่องเล่นอื่นก็เล่นครบทุกตัวนะครับ เล่นมากน้อยแล้วแต่ว่าวันนั้นมีเวลาว่างกี่ชั่วโมง







"สวัสดีครับพี่ โหหห... วันนี้โชคดีจังเจอพี่อีกแล้ว" มันยิ้มซะตาหยีเลย



"หึ! กูต้องดีใจด้วยไหม" ผมตอบ



"ดีใจซิครับ น้ำยังดีใจเลย" มันยืนยิ้มเฉ่งจนตาหยี



"แล้วนี่มานานรึยัง?"



"น้ำเพิ่งมาถึงเมื่อกี้เองครับ พอมาถึงก็มองหาพี่ก่อนเลย"



"มองหากูทำไม?"



"อ้าว! ก็พี่เคยสัญญากับน้ำว่าจะสอนน้ำเล่นเครื่องออกกำลังกายไงครับ" มันทำหน้าสลดไปนิดนึง



"หน้าตาก็เหมือนลูกคนรวยนิ ทำไมไม่จ้างเทรนเนอร์วะ"



"ก็น้ำไม่อยากจ้างนิครับ เพราะพี่สัญญาว่าจะสอนน้ำ"



"เออๆ สอนก็สอน วันนี้อยากเล่นเครื่องไหนล่ะ?" 





หน้าแม่งเหมือนหมาหงอยเลย ถึงมันจะงอแงเหมือนเด็กแต่มันก็ถือว่าเป็นเด็กที่มีมารยาทพอสมควร เพราะถ้ามากวนตีนใส่ผมมันคงโดนถีบไปนานแล้ว





"วันนี้น้ำอยากออกกำลังกายเบาๆ ก่อน เพราะคืนนี้น้ำต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบครับ ถ้าวันนี้น้ำเล่นหนักไปมีหวังสลบก็ได้อ่านหนังสือแน่ๆ เลย"





ดูจากหุ่นอันบอกบางเหมือนลูกคุณหนูอย่างมันพูดกก็คงจะจริง จะให้มันอึดถึกทนแบบผมคงจะยาก งั้นวันนี้ก็สงเคราะห์เด็กน้อยซะหน่อย สอนมันครั้งนี้ก็คงไม่ค่อยได้บังเอิญเจอกันบ่อยๆ หรอก 





"งั้นวันนี้เล่นนี่แล้วกัน" ผมชี้ไปที่ดัมเบลล์ 



"ได้ครับ"



"กล้ามเนื้อต้องค่อยๆ สร้าง เริ่มจากกล้าแขนนี่แหละจะได้ดูเป็นผู้ชายขึ้นอีกนิด"



"ได้ครับ" มันรีบตอบอย่างตั้งใจ





ผมสอนในท่ายกดัมเบลล์ที่พอเรียนรู้มาจากการออกกำลังกายของผมนี่แหละ ไม่ได้วิธีเล่นแบบพิเศษอะไรมากมายแต่มันก็ทำให้ผมหุ่นดูดีได้อย่างทุกวันนี้ ผู้หญิงเห็นนี่กรี๊ด ผู้ชายด้วยกันยังอิจฉา เอาน่า... อย่างน้อยผมก็ไม่ได้สอนมันมั่วๆ วะ







ระหว่างที่ผมสอนมันออกกำลังกายด้วยกันยกดัมเบลล์แบบง่ายๆ แต่ดูมันตั้งใจทำตามอย่างตั้งใจ บอกยังไงมันก็ทำอย่างนั้น พอทำถูกวิธีตามที่ผมสอน ผมเอ่ยปากชมว่าเก่งมันก็ยิ้มจนแก้มแทบปริ เหมือนเด็กดีใจเวลาได้รับคำชมนั่นแหละครับ







"ผมขอบคุณพี่มากเลยนะครับ ที่วันนี้สอนผมออกกำลังกาย ผมสนุกมากเลย"



"เว่อไปไหมมึง กูแค่สอนพื้นฐานเอง" ผมผลักหัวมันเบาๆ



"ไม่หรอกครับ สำหรับผมพี่เก่งมาก" มันยกนิ้วโป้งชูขึ้นสูง



"หึหึ เออๆ วันนี้พอแค่นี้ก่อน กูจะรีบไปอาบน้ำล่ะ"



"ครับๆ ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับ ผมก็ต้องรีบไปอาบน้ำเหมือนกัน ต้องรีบไปหาพี่ผมน่ะครับ ไปช้าต้องโดนบ่นแน่ๆ เฮ้อ..." 



"อืม... งั้นก็แยกกันตรงนี้เลย กูก็รีบ"



"สวัสดีครับ พี่ปู"





ผมหันไปโบกมือลามันครั้งสุดท้ายแล้วก็เดินเข้าไปข้างในจัดการอาบน้ำแต่งหล่อไปหาเมียผม



















ทำไมภาพมันบาดตาแบบนี้วะ เมื่อไหร่ไอ้ตี๋นี่จะไปให้พ้นลูกกะตากูสักที 





"เรื่องรายละเอียดที่เพิ่มเติมผมจะรีบสรุปแล้วส่งให้คุณณภัทรทางเมล์นะครับ" 



"ได้ครับ ยิ่งผมได้คุยกับคุณโจผมยิ่งสัมผัสถึงความเป็นมืออาชีพของคุณโจครับ สำหรับคุณโจเป็นคนที่เก่งมากๆ คนนึงเท่าที่ผมเคยรู้จักมาเลยนะครับ"



"เอ่อ... ขอคุณมากครับ ผมจะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดนะครับ"



"ได้ครับ ผมจะรอดูผลงานคุณโจนะครับ เดี๋ยววันนี้ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ"



"งั้นผมเดินไปส่งคุณณภัทรที่ลิฟท์นะครับ"



"ต้องเดินไปส่งด้วย"





ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่รู้ผีห่าซาตานเข้าสิงร่างผมตอนไหน คือปากมันไปเองแบบไม่ได้ตั้งใจพูดน่ะ





"ปูครับ"





โจหันมาค้อนผมนิดๆ แล้วไงอ่ะ กูไม่ชอบขี้หน้ามันนี่หว่า พยายามคิดว่ามันคืองานแต่ใจกูมันสั่งแบบนี้นี่หว่า เหอะ!!





ผมหยักไหล่เล็กน้อยแล้วก็พยายามข่มใจไล่ไอ้ตี๋นั่นให้ไปไวไว ใจมันไม่รักดีชอบขัดคำสั่งทางสมองแล้วทำตามใจตัวเองตลอด หึ!!



"คุณโจไม่ต้องเดินไปส่งผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเดินไปเองได้ คุณโจจะได้รีบกลับบ้านไงครับ ท่าทางวันนี้รถคงจะติดน่าดู"



"เอ่อ... งั้นผมขอลาคุณณภัทรตรงนี้เลยนะครับ"



"ครับ เดี๋ยวมีอะไรเพิ่มเติมผมจะโทรหาคุณโจนะครับ"



"ได้ครับ"





ฉากลากันทำไมมันยาวนานแบบนี้วะ ลีลาฉิบหาย!! มันยากตรงไหนแค่ขยับตีนแล้วเดินออกไปก็จบป่าววะ!!





"บายครับ" 







สาดดดด... กูเกลียดสายตาแบบนี้ที่สุด!!







"คุณปูหึงน่ากลัวจังค่ะ อิอิ" 



"เหรอครับ"



ผมยิ้มเล็กน้อยให้เลขาของโจ โจหันมาส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง



"รีบๆ ไปง้อเลยค่ะ จูนว่าเจ้านายท่าทางจะโกรธจริงนะคะ"



"หึหึ โจไม่กล้าโกรธผมหรอกน่า วันนี้ไม่มีงานต่อแล้วใช่ไหม?"



"ไม่มีแล้วค่ะ"



"โอเคครับ"





โถถถ... โจไม่โกรธผมหรอก ว่าแล้วรีบก่อนดีกว่าเดี๋ยวคดีพลิก





"กลับกันเลยไหม?"  ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงนานหรอกครับ ลีลาเดี๋ยวยาว สายแถต้องเฉือดนิ่มๆ



"วันนี้ปูทำตัวไม่ดีเลยนะครับ"





เฮื้อกกกก.... โดยแทงไปหนึ่งแผล





"ไม่ดียังไง กูพูดความจริง" ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟารับแขก



"แต่นั่นลูกค้านะปู"



"เออๆ รู้แล้วน่า! ต่อไปจะไม่ทำอีกโอเคยัง" 





โถถถ... คนอย่างไอ้ปูนะไม่ทำครั้งเดียวหรอก หึหึ





"ให้มันจริงเถอะ" โจทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ



"จริงดิ ป่ะๆ กลับบ้านกัน วันนี้อยากกินอะไรเดี๋ยวพาไปกินก่อนเข้าบ้าน"



"เปลี่ยนเรื่องไวตลอดแหละ!"



"ใคร? ใครเปลี่ยนเรื่อง ไหนๆ คนไหน?" ผมทำท่ามองหาทั่วห้อง โจมันแอบขำ



"พอเลย ทำเนียนตลอด" โจส่ายหัวทำท่าเหนื่อยใจ



"เดี๋ยวพาไปกินร้านอร่อยร้านใหม่แล้วกัน เห็นพวกไอ้เนย์มันบอกว่าอาหารอร่อย"



"ได้ครับ ปูรอแป๊ปนะโจขอเก็บของก่อน"



"อืม... ไม่ต้องรีบรออยู่"




















ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3





อาหารเย็นวันนี้ขอเสนอร้านอาหารย่านถนนวิภาวดีรังสิตครับ ไอ้เนย์มันแนะนำมาว่าอาหารอร่อย วันนี้เลยได้โอกาสพาที่รักมาลิ้มลองรสชาติอาหารซะหน่อยว่าอร่อยจริงไหม





ร้านอาหารตกแต่งน่านั่งดีครับ คนแน่นร้านใช้ได้ เป็นร้านอาหารสไตล์วินเทจเก๋ดีเหมือนกัน บรรยากาศใช้ได้ ต่อไปก็รอดูว่าอาหารจะอร่อยถูกปากผมกับโจรึเปล่า





"โจอยากกินอะไร?" 



"ทำตัวดีแปลกๆ นะครับ ถ้าจะลบล้างความผิดนี่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าไม่ได้ผลหรอก"



"ปากดีจัง เดี๋ยวโดยจูบกลางร้านจะหาว่ากูไม่เตือน"





ผมทำท่าเลียปากใส่มัน ฮ่าๆๆๆ โจแม่งหน้าเจื่อนเลยว่ะ





"งั้นสั่งมาสองสามอย่างก็พอเนอะ" 





คราวนี้ใครกันแน่ที่เปลี่ยนเรื่อง หึหึ บอกแล้วอย่าให้กูร้าย





"อยากกินอะไรก็สั่งมาเลยนะ เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแป๊ป"



"รีบมานะ"







ผมลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปถามพนักงานว่าห้องน้ำไปทางไหน พนักงานชี้ทางสว่างให้ผมทำให้ผมเดินมาถูกทาง เฮ้ย!! จะเล่าใหญ่ไปไหนวะกู







ผมเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ผิวปากสบายใจที่ได้ปลดปล่อยจนโล่งสบายตัวกันไป ลืมตัวว่าปวดฉี่เสือกนั่งแกล้งเมียตัวเองเฉย หึหึ ว่าแล้วก่อนกินข้าวขอยืนสูบบุหรี่แป๊ป







"อ้าว!! พี่ปูมาทำอะไรที่นี่ครับ?" 





ผมหันไปมองตามเสียงที่เรียกชื่อผม 





"หึ!! มาแดกขี้มั้ง แล้วนี่เรามาทำอะไรที่นี่ล่ะหรือมาแดกขี้เหมือนกัน"



"ง่ะ! ไม่ใช่ครับ น้ำมากินข้าวกับพี่ครับ" มันรีบตอบ



"พี่?"



"ใช่ครับ"



"เออๆ จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่รึไง เดี๋ยวก็ราดตรงนี้หรอก"



"เอ่อ... ครับๆ พี่ปูอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ เดี๋ยวน้ำรีบออกมา" พูดจบมันก็วิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความเร็วสูง





อ้าว!! แล้วมันให้กูยืนรอมันทำไมวะ งงในงง 







ผมยืนดูดบุหรี่ไฟฟ้าของผมต่อ ไอ้ยืนรอมันคงไม่ใช่เพราะกูยังไม่เสร็จธุระ มันคงไม่ฉี่เร็วขนาดนั้นมั้ง





"น้ำมาแล้ว"



"เฮ้ย!! ทำไมเสร็จเร็วจังวะ?" ผมถามมัน



"น้ำปวดฉี่นิดเดียวครับ ไม่เยอะ แฮะๆ" 



ดูคำตอบมัน กูควรเข้าใจไหม ฉี่นิดเดียวแบบนี้ก็ได้เหรอวะ



"เออๆ ช่างมันเถอะ กูเสร็จล่ะ แยกย้าย!" พูดจบผมก็เดินออกมาทันที



"พี่ปูครับ"





ผมหันกลับไปมองมันที่กำลังยืนยิ้มบ้าบอเหมือนทุกครั้งที่ผมเจอมัน





"อะไร?"



"น้ำดีใจนะครับที่เจอพี่วันนี้เป็นครั้งที่สองล่ะ"



"หึ! ดีใจเพื่อ ไร้สาระกูไปล่ะ บาย"



"บายครับ" 







ผมเดินออกมาในขณะที่ไอ้เด็กนั่นยังคงเดินยิ้มอยู่ที่เดิม ท่าจะบ้าว่ะ





"อาหารทำไมช้าจังวะ" 



ผมเดินมาถึงก็นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับมองหาจานอาหารว่าเมื่อไหร่จะมาเสริฟสักที



"หิวมากเหรอปู อดทนอีกนิดซิครับ เพิ่งสั่งไปยังไม่ถึงสิบนาทีเลยนะ"





เจอคำพูดแบบนี้ทำเอาอารมณ์ผมเย็นลงทันที คนนึงใจร้อนแม่งทุกอย่าง อีกคนก็ใจเย็นฉิบหาย เออดี! อย่างน้อยก็มีมันนี่แหละที่คอยพูดให้ผมใจเย็นลงได้บ้าง





"เออๆ สั่งไปกี่อย่าง?" 



"สามอย่างครับ ข้าวผัดปู สลัดผักกุ้งชุปแป้งทอด อกไก่ผัดมะม่วงหิมพานต์"



"อิ่มเหรอแค่นี้ เอาไรเพิ่มอีกดิ"



"พอแล้วปู กินอะไรเยอะแยะขนาดนั้นล่ะ"



"โอเคๆ พอก็พอ กูแค่อยากให้มึงกินเยอะๆ ผอมมากไปแล้วรู้ตัวไหม"



"โจผอมลงเหรอ" ผมก้มมองตัวเอง



"หึหึ"  ผมส่ายหัวให้กับคนหัวอ่อนอย่างมัน พูดอะไรก็เชื่อไปหมด



"น้ำหนักขึ้นตั้งสองโลจะผอมได้ไง"



"แต่กูว่าให้น้ำหนักขึ้นอีกสักสองโลจะดีกว่านี้"



"ทำไมอ่ะ โจว่าตอนนี้กำลังพอดีแล้วนะ"  ผมกระดิ๊กนิ้วให้โจขยับเข้ามาใกล้ๆ



"อะไรเหรอ?" 





ผมขยับเข้าไปใกล้ ริมฝีปากแนบชิดเกือบติดแก้มโจ โจสะดุ้งตัวถอยออกไปทันที แต่มือผมไวเลยล็อคตัวไว้ได้ทัน





"เพราะตอนกูกอดมึง ตอนกำลังมีอะไรกันกับมึงกูจะได้จับเต็มไม้เต็มมือไง"





พรึ่บ!!! โจผละตัวออกแล้วลงไปนั่งที่เก้าอี้หันหน้ามองซ้ายสลับขวามั่วไปหมด ฮ่าๆๆๆ





"เป็นอะไร หึหึ" ผมอดขำท่าทางมันไม่ได้จริงๆ ครับ



"พูดบ้าอะไรเนี้ยะปู" 



น้ำเสียงแอมโกรธนิดๆ ครับ แต่โคตรน่ารักสำหรับผม



"กลัวอะไร ไม่มีใครได้ยินหรอกน่า"



"เลือกล้อเล่นได้แล้วนะปู" 





เฮ้ยๆๆ แอบดุว่ะ เมียดุๆ กร๊ากกกก...





"เออๆ ไม่แกล้งล่ะ อาหารมาพอดีเลย กินข้าวกันนะที่รัก"





โจมันจะทำอะไรได้! นอกจากถอนหายใจ ฮ่าๆๆ มีความสุขก็ ณ จุดนี้







ผมกับโจนั่งทานข้าวกันไป คุยกันไป เรื่องงานบ้าง เรื่องไอ้ทิวบ้าง ใช่ครับ ผมเล่าให้โจฟังเผื่อมันจะมีทางออกดีๆ ให้ผมไปชี้ทางสว่างให้ไอ้ทิวมัน สงสารว่ะ







หลังจากทานอาหารกันจนอิ่มต่อไปกก็หน้าที่สายเปย์อย่างผมที่ต้องจ่ายค่าอาหาร อาหารอร่อยใช้ได้ ครั้งหน้าต้องมาลองเมนูใหม่ โจชอบรสชาติอาหารร้านนี้มากครับ







"เฮ้ออ... ทิวคงต้องใจเย็นๆ กว่านี้ อธิบายแล้วคุยกันดีๆ น้องมินคงเข้าใจเองแหละครับ" ผมกับโจกำลังเดินออกจากร้านมายังลานจอดรถ



"ไอ้ทิวโคตรซวย ไม่รู้จะช่วยมันยังไงดี"



"ช่วยอะไรไม่ได้หรอกปู เรื่องของคนสองคนนายทิวต่างหากต้องช่วยตัวเองมากที่สุด"



"เออว่ะ!! คืนนี้มันคงต้องช่วยตัวเองแล้วล่ะ เมียไม่อยู่นิ้วทั้งห้าคงพอช่วยมันได้"





ปึ่ก!!!





"อ้าว!! ทุบกูทำไมคร๊าบ"



"ช่วยมีสาระนิดนึงเถอะ ไหนบอกเป็นห่วงเพื่อนไงครับ" 



"ฮ่าๆๆ ก็แค่ล้อเล่นขำๆ น่า ไอ้ทิวมันคงมีทางออกที่ดีของมันนั่นแหละ มันเป็นคนก่อมันก็ต้องเป็นคนแก้ไข"



"เหรอครับ หูยยย... คมมาก ถ้าปูก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นล่ะ ปูจะแก้ไขยังไง?"



"เฮ้ย!! ระดับนี้ไม่มีพลาดครับผม เชื่อใจได้เลย" ผมตบอกบอกเมียรักอย่างมั่นใจ



"จริงอ่ะ?"



"จริงเด่!!"



"แล้วถ้า...."



"ถ้าอะไร ไม่มีแล้ว" 





ผมยืนยันเสียงแข็ง โจมันก็มองผมนิ่งเหมือนผมกำลังโดนจับโกหกยังไงอย่างงั้น





"ก็ดีครับ เพราะถ้ามีจริงโจคง..."



"โอ๋ๆ ไม่มีใครเลย..." 





ผมทำท่าจะสวมกอดเมียรัก แบบนี้ต้องปลอมซะหน่อย





"ไม่มีใครจริงๆ รักคนเดียว"















"พี่ปูครับ"









"มาได้ไงวะ"









"ใครเหรอครับปู?"







TBC.



อ่านแล้วฝากเม้นเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ อยากอ่านเม้นคนอ่านบ้างว่ารู้สึกอย่างไร ขอบคุณมากค่า

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :hao7:นี่คงเป็นอาการของพี่ปู ในโมเม้นทหลังจากนั้น  :hao7:

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ถึงเวลาซวยของพี่ปูแล้ว 5555ตามพี่ทิวไปติดๆ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กร๊ากๆๆๆๆๆ ปูงานเขัา
โจจัดการให้อยู่หมัดเลยนะ!!!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ว่าและ เป็นเรื่องแล้ว  :hao3:
น้ำใจ ไมตรี นี่ไม่ควรมี ถ้ามันมีแววจะเป็นเรื่อง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เพื่อนกันนี่ แววมาเหมือนกันเลย 5555

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】


  :pig4: :เครดิตภาพ: ขอบคุณภาพจาก IG และเวปไซค์ค่ะ



【EP.11 แค่คนรู้จัก】







ผมกับโจหันไปมองตามเสียงนั้นก็เห็นไอ้เด็กชื่อน้ำยืมยิ้มแฉ่งอยู่ที่ประตูซุ้มทางเข้าลานจอดรถ





"ใครเหรอครับปู?" โจหันมาถามผม



"อ่อ... แค่คนรู้จักนะ"



"พี่ปูกำลังจะกลับแล้วเหรอครับ?"



"เออกำลังจะกลับ"



"นั่นเพื่อนพี่ปูเหรอครับ?"





ทำไมมันขี้สงสัยแบบนี้วะ





"แฟนกูเอง หวัดดีซะซิ"



"เอ่อ... สวัสดีครับ" มันยกมือไหว้ตามที่ผมบอก



"สวัสดีครับ พี่ชื่อโจนะครับ" โจรับไหว้จากไอ้เด็กนั่นและแนะนำตัวอย่างมีมารยาท



"ผมชื่อน้ำครับ งั้นผมไม่กวนพี่สองคนแล้วนะครับ ผมขอตัวกลับก่อน"



"อ้าว อะไรของมันวะ"



พูดจบมันก็กลับหลังหันเพื่อเดินเข้าไปในร้าน ส่วนผมกับโจก็กำลังจะเดินไปที่รถของเรา





"น้ำมาทำอะไรตรงนี้ พี่เดินหาเราซะทั่วเลยนะ"



เสียงดุๆ นั้นทำให้ผมกับโจหันหลังกลับไปมองอีกครั้ง



"น้ำหลงทางกลับโต๊ะไม่ถูกนะครับ พี่ภัทรเดินหาน้ำเหรอครับ น้ำขอโทษ"



"ไม่เป็นไรๆ พี่จ่ายค่าอาหารเสร็จแล้วงั้นเรากลับบ้านกันเลยแล้วกัน"



"กลับเลยเหรอครับ น้ำว่า...."





"อ้าว!! คุณโจ"





กูจะใช้คำว่าอะไรกับสถานการณ์แบบนี้ดี ซวย!! โคตรซวย!! หรือโคตรโคตรซวยดีวะ ที่ต้องมาเจอไอ้ณภัทรอะไรนี่อีก



โจได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้มัน แอบหันมามองผมนิดๆ





"บังเอิญจังเลยครับ คุณโจมาทานอาหารร้านนี้เหมือนกันเหรอครับ" มันเดินจูงมือไอ้เด็กน้ำเข้ามาหาผมสองคน



"ใช่ครับ พอดีเพื่อนปูแนะนำร้านนี้มาน่ะครับ"



"อ้าวน้ำ ทักทายคุณโจด้วยครับ คุณโจเขากำลังสร้างบ้านหลังใหม่ให้เราอยู่นะนี่น้ำน้องชายผมเองครับ" ไอ้ณภัทรมันแนะนำเสร็จสรรพ



"สวัสดีครับ"



"เอ่อ... สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ" โจยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่กูนี่กำลังไม่โอเค



"นี่เราเคยเจอคุณโจแล้วเหรอ พี่ไม่ยักรู้เลย"



"น้ำเพิ่งรู้จักก่อนพี่ภัทรมาเมื่อกี้เองครับ พอดีน้ำรู้จักกับ..." มันเหลือบมองมาที่ผม



"รู้จักกับใคร?" พี่ชายมันถาม



"พอดีน้องน้ำรู้จักกับปูมาก่อนนะครับ ปูเพิ่งแนะนำให้ผมรู้จักกับน้องก่อนเจอคุณณภัทรเมื่อกี้นี้เองครับ" โจอธิบาย



"อ่อๆ ครับ แล้วน้องผมไปรู้จักกับคุณได้ยังไง?" อ้าวไอ้นี่ทีกับกูเลือกมาถามเสียงแข็งใส่นะมึง!!



"พี่ภัทรไม่มีอะไรหรอกครับ เดี๋ยวน้ำเล่าให้ฟังที่บ้านนะ เรารีบกลับกันเถอะพรุ่งนี้น้ำมีสอบแต่เช้า"



"อ้าว! แล้วทำไมมาบอกพี่ตอนนี้ล่ะ เรานี่ไม่ไหวเลยนะเดี๋ยวคืนนี้ดื่มนมอุ่นๆ จะได้อ่านหนังสือแล้วเก็บความรู้ไปสอบเยอะๆ โอเคไหม" มันลูบหัวน้องมันยังกะเด็กประถม



"ครับ"



"คุณโจครับ งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ"



"ครับ ขับรถดีๆ นะครับ ขอให้น้องน้ำทำข้อสอบได้คะแนนเยอะๆ นะครับ"



"ขอบคุณมากครับ"



"ไปน้ำเดี๋ยวถึงบ้านดึก" แล้วไอ้สองพี่น้องก็เดินออกไป



"โคตรซวยเลยกู" ผมพูดขึ้นหลังจากไอ้พี่น้องสองคนนั้นเดินห่างออกไป



"ไปเหอะ เรากลับบ้านกัน"







ผมกับโจเดินไปที่รถแล้วขับรถกลับบ้านของเรา ระหว่างทางโจก็นั่งเงียบ สักพักก็หลับไปซะงั้น ผมใช้เวลาขับรถอยู่บนท้องถนนประมาณชั่วโมงนิดๆ เพราะรถค่อยข้างติด พอมาถึงบ้านผมก็ปลุกโจให้ตื่น











"โจถึงบ้านแล้วตื่นเร็ว"







โจลืมตาขึ้นมามองผมแล้วพยักหน้าเล็กน้อย ผมปลดเข็มขัดนิรภัยให้โจและตัวผมเอง เราทั้งสองคนต่างเดินเข้าบ้านด้วยความเงียบ





"เป็นอะไรนั่งเงียบมาตลอดทาง?"



"ป่าวครับ แค่อิ่มเลยง่วงนะไม่มีอะไรหรอก"



"อืมๆ ป่ะเข้าบ้าน"





ผมปล่อยให้โจมันเดินนำหน้าไปก่อน แต่มันทำท่าแปลกๆ ชอบกล หันกลับมามองผมอยู่สองสามครั้งแล้วหันกลับไปโดยที่ไม่พูดอะไร เออ!! อะไรของมันวะ





โจเดินตรงขึ้นไปยังห้องนอน ส่วนผมเดินเช็คความเรียบร้อยในบ้านก่อนจะล็อคประตูอย่างแน่นหนา ไม่นานนักผมก็เดินตามโจขึ้นไปบนห้อง







"ทำไมยังไม่อาบน้ำอีกหรือว่ารอกู" ผมยักคิ้วกวนๆ เอาจริงๆ หน้าธรรมดาของผมกก็โคตรกวนตีนล่ะ



"เปล่าครับ ปูอาบก่อนก็ได้นะโจขอนั่งพักสักแป๊ปนึง"





แปลกโว๊ย! ปกตินี่กลับถึงบ้านอย่างแรกที่มันจะทำคือวิ่งเข้าไปอาบน้ำให้ตัวหอม ส่วนผมเองซะมากกว่าที่ชอบยื้อเวลาทำนู้นทำนี่ไปเรื่อย





"ก็**...ไม่มีอะไรนิ** **ปูจะอาบน้ำก่อนหรือให้โจอาบก่อน"**







โจเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว ตอนมันตอบนี่ไม่สบตาแสดงว่ามันต้องมีอะไรในใจ ท่าทางอยากจะถามอะไรสักอย่าง เห็นมันจ้องผมเงียบๆ นานล่ะก่อนมันจะหลับบนรถ





"คิดอะไรอยู่ไหนบอกมาซิ" ฟอดดดด....





อดไม่ได้จริงๆ อยากมากกว่ากอด อยากมากกว่าหอม แต่ท่าทางต้องคุยกับมันก่อน





"หื้ออ... อย่าน่าปู ไปอาบน้ำก่อนไป๊"





ป๊าดดด... มีไล่เสียงสูงวะ!!





"มึงเป็นอะไรเนี้ยะ!! หงุดหงิดอะไร ปกติไม่เห็นเคยเป็นแบบนี้ ไหนบอกอาการมาดิ๊" ผมขมวดคิ้วแน่น โจมันก็มองหน้าผมเหมือนมีคำถาม





"เฮ้อออ... ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ" มันถอยหายใจก่อนตอบ



"ปากหนักเหลือเกินนะมึง หึ!! ไปอาบน้ำกับกูเดี๋ยวนี้!!"





พรึ่บ!!!





"เฮ้ย!! ไม่เอา!!"



"มาดีๆ หรือจะให้ดูอุ้ม"



"ปู!! อย่าครับบบ..."







หึ!! ระดับผมไม่ต้องฉุดกระชากลากถูหรอกครับ รุ่นนี้ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลาอุ้มมาแก้ผ้าแล้วลงอ่างพร้อมกันนี่แหละง่ายดี







เพี๊ยะ!!







"ปูมืออย่าซนได้ไหมครับ นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวถูหลังให้ไม่ทั่วนะ"



"หึหึ... เดี๋ยวนี้รุนแรงขึ้นนะมึงรู้ตัวไหม"





ตอนนี้ผมถูกจับให้นั่งหันหลังโดยมีมันกำลังถูหลังทำความสะอาดร่างกายให้ผมหูยยย... ขนลุกสัส!!





"ก็คงจะติดนิสัยจากปูนั่นแหละ" ดูมันตอบดิ



"นิสัยดีๆ จากกูก็หัดเอาไปใช้ซะบ้าง ชีวิตจะได้ดีขึ้น"



"ดีแย่ล่ะ ถ้าเอานิสัยปูมาใช้จริงๆ บ้านคงพัง บริษัทคงเจ๋งเพราะไม่มีคนจ้างงานแน่นอน"



"อ้าวเฮ้ย!! พูดงี้ได้ไงกูออกจะนิสัยดี" ผมหันไปทำหน้าดุใส่



"ใจร้อนขนาดนี้ดีจะแย่เลยครับ"



"แน่ะๆ ต่อปากต่อคำนะ เดี๋ยวจูบแม่ง!!"





ผมทำท่ายื่นปากเข้าไปใกล้ๆ แต่ดันโดนนโจมันบิดคอให้หันกลับดึงกรึ่ก!! แม่งคอกูจะหักไหม!!





"รีบๆ อาบน้ำเถอะครับ แช่น้ำจนตัวจะเปลื่อยแล้วเนี้ยะ" มันบ่นไม่เลิกแฮะ







หมับ!!







"เฮ้ย!! ปูทำอะไรเนี้ยะ!!"



"หึหึ ลูกกูมันตื่นนะ เพราะมึงถูหลังกูนานเกินไป กูเสียว" ผมทำเสียงกระเส่าตอนท้าย



"บ้า!! แล้วมาบอกทำไมล่ะ ปล่อยมือโจก่อนครับปู"



"ทำให้กูหน่อยดิ แค่ปากก็พอหรือมึงเลือกเอาว่าจะทำให้หรือให้กูทำมึง"



"ปู!!" มันทำหน้าดุว่ะ แต่ทำไมกูของขึ้นหนักกว่าเดิมวะ กร๊ากกก....



"เอาน่า!! รีบๆ ทำจะได้รีบอาบน้ำให้เสร็จ มึงง่วงนอนแล้วไม่ใช่รึไง"





โจมันมองหน้าผมตาเขม็ง ขัดใจพี่เรอะ พี่บอกเลยว่าพี่ไม่ยอม คืนนี้พี่ต้องได้อย่างใดอย่างนึงเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ กูมีความเลวในสันดาน





"รอบเดียวพอนะครับ"





สุดท้ายนั้น.... กูก็ต้องได้ในสิ่งที่ปรารถนา





"ครับที่รัก... รักมึงจัง"





ฟอดดดด....

แล้วความสุขของผมก็เริ่มขึ้น







"อ่าา... ซี๊ดดดด.... ดีมากเลย อ่าาา...."





ปากนุ่มๆ ความรู้สึกอุ่นๆ กำลังครอบครองแก่นกายผมเอาไว้อย่างแนบแน่น มือเรียวกำลังรูดขึ้นรูดลงอย่างเป็นจังหวะ ปากบางกำลังทำหน้าที่ปรนเปรอความสุขให้กับผมอย่างไม่หยุดพัก





"ซี๊ดดดด.... เร่งอีกโจ อ่าาา... ดีมาก ตรงนั้น... อื้ออ.... ซี๊ดดด... แม่งเสียวฉิบหาย อ่าาา...."





โจยังคงใช้ปากออรัลเพื่อมองความสุขให้กับผม ความเสียวซ่านมันทำให้ผมแทบควบคุมสติไม่ได้





"อ๊ะ!! อื้อออ...."



"กูไม่ไหวแล้วโจ กูต้องการมึงทั้งตัว ตอนนี้ เวลานี้ ซี๊ดดดด...."



"อื้อออ..."







โจมองตาผมก่อนจะพยักหน้าตอบรับ ผมรู้หรอกน่าว่ามันก็รู้สึก อะไรที่มันเคยๆทำบ่อยๆ มันก็เรียกร้องหากันเองนั่นแหละ ต้องการ....







"เรามามีความสุขด้วยกันนะ อื้อออ...."





ผมดึงโจขึ้นมาสบตาเพียงเล็กน้อยก่อนที่เราสองคนจะเริ่มมีความสุขร่วมกันทั้งสองฝ่าย























ฟอดดดดด.....





"เหนื่อยไหม หื้ม?"



"อืม.... นิดหน่อยครับ"





ผมกดรีโมทปรับแอร์ให้ได้อุณภูมิที่ต้องการแล้วรวบตัวโจเข้ามากอด





"ง่วงนอนรึยัง?"





ปากผมถามก็ถามไปงั้นแต่ก็ยังไม่หยุดที่จะพรมจูบตรงนั้นตรงนี้ให้โจหดคอหนีเล่นๆ





"อืออ... ไม่เอาครับปู โจเหนื่อยจะแย่อยู่แล้วนะ"



"นิดเดียวเองน่า"



"โจเหนื่อยแล้วนะปู!!"



"หงุดหงิดอะไรกูเนี้ยะ ปกติไม่เห็นจะเคยเป็น"



"โจหงุดหงิดปูซะที่ไหนล่ะ ปล่อยก่อนโจจะลงไปกินน้ำข้างล่าง"







พรึ่บ!!

พูดจบมันก็ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนเฉยเลย อะไรของมันวะ







ปัง!!







กูว่าประตูจะพังก็งานนี้ เมนส์มันมารึป่าววะ แต่เอ๊ย!! มันจะมีเมนส์ได้ไงเมียกูเป็นผู้ชาย ยิ่งคิดก็ยิ่งงงว่ะ แล้วเนี้ยะน้ำในตู้เย็นข้างบนก็มีเสือกลงไปกินข้างล่าง คืออะไร? งานนี้กูคาใจสุดๆ ต้องเคลียร์ให้จบไม่งั้นกูนอนไม่หลับแน่คืนนี้รอช้าอยู่ทำไมล่ะครับ คิดขึ้นได้ผมก็รีบลุกจากเตียงแล้วเร่งสปีดตีนเดินตามมันลงไปข้างล่างทันที







ผมเดินออกจากห้องนอนลงมาชั้นล่าง เห็นมันยืนนิ่งๆ ถือขวดน้ำอยู่หน้าตู้เย็นแดกรึยังวะน้ำน่ะ







ผมยืนมองอยู่เงียบๆ สักพักก็เห็นมันถอนหายใจเฮื้อกใหญ่ เดินไปที่ตู้เย็นก็ยืนนิ่งอยู่อีกสักพัก อะไรวะถอนหายใจอีกแล้ว มึงหนักใจอะไรหนักหนาวะเมีย







โจยืนนิ่งเหมือนทำสมาธิอยู่สักพักก็วางขวดน้ำทิ้งไว้บนโต๊ะวางของข้างตู้เย็นแล้วหันตัวกลับมาทางที่ผมยืนอยู่







"เฮ้ย!! มายืนทำอะไรเงียบๆ เนี้ยะปู ตกใจหมด"







หน้าตาตอนพูดนี่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นไม่เหมือนโจคนที่ผมคุ้นเคยเลยว่ะ







"มานี่ดิ****"****ผมควักมือเรียก







โจเดินเก้ๆ กังๆ มาหาผม หึหึ มึงเป็นแบบนี้มันผิดปกติสุดแล้วโจเอ้ย







"มีอะไรเหรอ**?"**





"มึงนั่นแหละมีอะไรจะพูดก็พูดมา เห็นแอบมองกูนานล่ะ ปกติไม่เคยจะหงุดหงิดโวยวาย วันนี้เป็นอะไรพูดมาให้หมดอย่าคิดว่ากูไม่รู้****"





"เฮ้ออ**....นี่โจจะปิดบังอะไรปูไม่ได้เลยใช่ไหม"**มันพูดแบบเหนื่อยใจ



"คนอย่างมึงเนี่ยะโกหกอะไรใครเป็น ท่าทางแปลกๆ รนๆ นี่เก็บอาการให้ได้ซะก่อนค่อยมาโกหกกู หึหึ****"



"ก็เปล่า**...**ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ก็แค่...."



"แค่อะไร**?"**



"แค่ไม่เข้าใจนิดหน่อยนะ****"****ดูมันตอบ คืนนี้กูจะรู้เรื่องกับมึงไหม



"ไม่เข้าใจ สงสัยเรื่อง**?"**



"ก็เรื่อง**...."**มันลากเสียง



"จะบอกกูตอนนี้หรือจะให้กูจัดการมึงอีกสักยกกลางห้องครัวข้อหาหมั่นใส้ก่อนหื้อ**?"**

ผมรวบเอวโจเข้ามากอด



"เฮ้ออ**...ก็แค่งงนิดหน่อยว่าปูไปรู้จักกันน้องคุณณภัทรได้ยังไงก็แค่นั้นเอง"**



"หึหึ**..."**ผมแสยะยิ้มได้ชั่วร้ายมาก



"ยิ้มอะไรอ่ะ****"



"หึหึ**...มึงหึงกูกับไอ้เด็กนั่น"**



"บ้าเหรอ โจจะไปหึงทำไม ก็แค่อยากรู้ว่ารู้จักกันได้ยังไงแค่นั้นเอง ก็ปูถามทำไมล่ะ พอถามก็เป็นแบบนี้****"

โจมันไม่สบตาผมแบบนี้แสดงว่ามันกำลังกลบเกลือนสิ่งที่มันพูดออกมา



"ก็ไม่ไง**...แค่คนรู้จักเจอกันที่ฟิตเนส"**



"อ๋อ**...อืม...งั้นเหรอ"**





ท่าทางมันโคตรตลกอ่ะ ผมก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ ฮ่าๆๆๆ





"กูก็ว่าไอ้เด็กนั่นมันน่ารักดีนะ ขาวๆ ตี๋ๆ มหาลัย หึหึ****"





โจหันควับมามองผมทันที งานนี้กูยิ้มแก้มปริ สนุกล่ะ





"อืม**...น้องน้ำน่ารักจริงๆ** **นั่นแหละ"**



"อืม**..มันน่ารักดีอย่างที่มึงว่านั่นแหละ"**





เหี้ย**!!****ทำไมกูทำชั่วกับเมียรักได้ถึงเพียงนี้วะ** ฮ่าๆๆ สนุกว่ะ





โจมองหน้าผมนิ่ง กัดริมฝีปากเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจเบาๆ โดยไม่พูดอะไรต่อ





"แต่กูไม่ค่อยชอบเด็กอ่ะดิ มันไม่เร้าใจ****"





ฟอดดดด**....**

ผมหอมแก้มมันไปฟอดใหญ่ มันเขี้ยวโว๊ยยยย







"กูชอบมีแฟนอายุแก่กว่ากูนิดๆ หน้าหล่อๆ ตัวหอมๆ ผิวขาวเนียน ตัวไม่นิ่มแต่แน่น ทำงานออฟฟิต ใส่แว่นตอนทำงาน พอถอดแว่วออกตาฉ่ำน้ำนิดๆ ดูเป็นประกาย คิ้วเข้มๆ แบบนี้มากกว่าว่ะ หึหึ****"





พูดไปผมก็เกลี่ยนิ้วที่แก้มมันไป โจมันทำหน้าเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก อายกูอี๊ก**!!**





"พอเลยๆ ปูไปสนิทกับน้องน้ำอย่างนั้นมันจะดีเหรอ ดูท่าทางคุณณภัทรเขาจะหวงน้องเขามากด้วยนะ ถ้ารู้ว่าปูไปทำเจ้าชู้ใส่น้องเขาล่ะก็**...."**



"เฮ้ยๆ ใจเย็นก่อน กูไปทำเจ้าชู้อะไรตอนไหน น้องมันมาทักกูก่อนเถอะแล้วที่สำคัญเด็กแบบนั้นไม่ใช่สเปคกูเลย"



"ก็....ไม่ได้หมายความอย่างนั้นทั้งหมดซะหน่อย"



"เดี๋ยวๆ มึงอย่าบอกนะว่ามึงหึงกูอ่ะโจ****"





ผมจ้องมองลึกเข้าไปในแววตากำลังค้นหาความจริง กร๊ากกกก**....**





"อะไรครับ ป่าวนิ****"



"หึงอ่ะดิ โอ๋ๆ ที่รักหึงผัวก็ไม่บอก น่ารักจริงๆ เลย หึหึ****"****ผมกระโจนเข้าสวมกอดมันไว้แน่น



"บอกว่าไม่ได้หึงเหอะ**!"**



"ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนี้ขึ้นเสียงนะ ไม่เอาน่า**...น้องมันก็แค่คนรู้จักเหมือนคนอื่นทั่วๆ** **ไป"**



"อืม**...ถ้าปูบอกแบบนั้นโจก็จะเชื่อแบบนั้นแล้วกันครับ** **ปล่อยได้แล้วปูโจจะขึ้นไปนอนแล้ว"**





กูควรดีใจที่มึงหึงหรือกูควรกลัวที่มึงเริ่มขึ้นเสียงใส่กูดีวะ





"ให้มันจริงเถอะ"****ผมได้ยินมันพูดเสียงเบาๆ มีแอบถอนหายใจด้วยนะ****มันพยายามเก็บอาการแต่มันจะรู้ไหมว่าที่มันพยายามเก็บอาการไม่ให้ผมรู้อ่ะมันทำไม่เนียนเลย โถ**...**คนดีของไอ้ปู





"หึหึ**...**สรุปมึงหึงกูแต่ไม่กล้ายอมรับความจริงว่างั้น เค!!เอาเป็นว่ากูรับรู้แล้วกัน"





ฟอดดดด**....**





"อื้ออ**...พอได้แล้วครับ** **ไปนอนกันเถอะโจง่วงนอนแล้ว"**





มันปฏิเสธยังไงของมันวะ ซบกูใหญ่เลย กอดกูกลับด้วยนะ เอ๊ะ**!!**หรือมันจะอายไม่กล้าสู้หน้ากูวะ





"โอ๋ๆ ป่ะไปนอนกัน****"







พรึ่บ**!!**







"เฮ้ยปู**!!**ปล่อยครับ โจเดินเองได้!!"



"อยู่นิ่งๆ น่า**...เดี๋ยวอุ้มไปส่งถึงเตียงนอนเลย"**









ฟอดดดด**.....**



"กูดีใจนะที่มึงหึงกู****"





หลังจากตามไปเคลียร์กับมันจนพอรู้สาเหตุของอาการแปลกๆ วันนี้ก็ทำให้ผมเข้าใจแบบส่วนตัวว่ามันหึงผมว่ะ ไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะเว้ย**!!****มันหึงผมจริงๆ พอโอ๋เอ๋กันเสร็จก็มานอนกอดกันเพื่อมอบไออุ่นให้มันซะหน่อยโจมันจะได้คลายความหึงหวงผมลงไปบ้าง ไอ้สาดดด...**กูดีใจว่ะ







"เฮ้ออ... พูดตรงๆ นะปู โจก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงทำนิสัยแบบนี้ออกไปทั้งที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเหมือนกัน มันใช่ความหึงหวงเหรอโจก็ไม่รู้เพราะเพิ่งรู้สึกอย่างนี้เป็นครั้งแรก มันบอกไม่ถูกอ่ะ แต่มันรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นน้องเขามองมาที่ปูด้วยสายตาแบบนั้น เฮ้ออ... นี่โจกำลังหึงปูจริงๆ นะเหรอใช่เหรอ หรือว่าไม่ใช่ คือมันแค่รู้สึกแปลกๆ แค่นั้นเอง เฮ้ออ..."





โจมันพูดระบายความรู้สึกออกมาซะยืดยาว กูยิ้มเลยว่ะ หึงกูชัดๆ





"เฮ้ออ... มึงนี่ชอบทำให้กูหลงมึงมากขึ้นทุกวันแล้วนะ ทำยังไงกูถึงจะลดๆ ลงได้บ้างวะ รักมึงจะตายห่าแล้วเนี้ยะ" ฟอดดดด....





มันกอดผมแน่น





"รักกูหวงกูมันไม่ผิดหรอกรู้ไหม เพราะมึงเป็นคนของกู มึงจะหึงจะหวงกูก็ไม่แปลก รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาอย่างนั้น แสดงออกได้เต็มที่เลยกูโอเค กูออกจะดีใจด้วยซ้ำที่มึงหึงกูกับไอ้เด็กนั่น แต่มึงไม่ต้องกังวลไปหรอกเพราะกูไม่ได้สนใจอะไรมันเลยแม่แต่นิดเดียว"





โจมันเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองผม เรามองกันผ่านแสงไฟจากหัวเตียงที่ยังคงส่องแสงสว่างให้เห็นใบหน้าที่กำลังแสดงความรู้สึกมากมายให้อีกคนได้รับรู้





"เพราะคนที่กูรักมากที่สุดก็คือมึง"





ผมกดจูบลงที่ปากบางเบาๆ จูบแบบไม่ล่วงล้ำ กดจูบลงซ้ำๆ ย้ำๆ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกและความจริงใจในคำพูดของผมที่ผมพูดออกไปทุกคำว่ามันคือความจริง อยากให้โจมันมั่นใจและเชื่อใจ







ผมละปากออกจากปากโจ เราสองคนต่างส่งยิ้มบางๆ ให้กัน ผมไม่เคยรู้เลยว่าวันนึงผมจะอ่อนโยนกันคนๆ นึงได้มากมายขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเซ็กส์เป็นเพียงความต้องการเท่านั้นไม่ใช่ความรัก แต่ตอนนี้ผมว่าผมคงมีความรักให้คนนี้ได้คนเดียวเท่านั้น





"ขอบคุณนะปู โจรักปูนะครับ"



"หึหึ รักกูทำไมต้องมีน้ำตาวะ"



"ก็คนมันดีใจนิ"



"หยุดร้องไห้ได้แล้วมั้ง ถ้าดีใจก็กอดกูแน่นๆ พอ"





ผมรวบตัวโจเข้ามากอดให้แน่นขึ้น มันก็กอดผมแน่นมากเช่นเดียวกัน





"เฮ้ยๆ เช็ดน้ำตาได้แต่ห้ามสั่งขี้มูกนะเว้ย!!"





โจมันเอาหน้าถูๆ กับเสื้อนอนของผม ฮ่าๆๆ





"ฝันดีนะปู"





จุ๊บบบ.....





ปากอุ่นๆ จูบลงที่หน้าอกผม อ้าว!! ทำไมไม่จุ๊บปากกูวะ





"อืม... ฝันดีเหมือนกัน ไอ้ขี้แง หึหึ"







ถามว่าคืนนี้ผมนอนกันท่าไหน บอกเลยว่ากอดพี่แน่นๆ นะน้องนะทั้งคืนแหละครับ รักมันที่สุดล่ะ #ไอ้หล่อของผม

TBC....







เขียนไปก็ยิ้มไป พี่โจทำไมน่ารักจังวะ ฮ่าๆๆๆ

ฝากกดหัวใจ เม้นให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ รักน้า.....

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โจน่ารักอ่ะ หึงนะแต่ไม่อยากแสดงออก แบบนี้เฮียปูได้ใจแย่ 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยย น่ารักกรุบกริบมาก
อยากเห็นโจหึงโหดมั่ง แต่ท่าจะยาก 555

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ทิว❤มิน】



【EP.20 สงครามกลางห้าง】






ผมล่ะเบื่อความใจอ่อนของตัวเองจริ๊งจริง!! ทำอะไรห้ามอะไรไม่เคยเด็ดขาดกับมันสักทีให้ตายเถอะ!! ไม่สบายก็อยากออกนอกบ้าน บอกให้นอนพักก่อนก็บอกหายดีแล้ว หึ่ม!! ถ้าไข้กลับขึ้นมาเมื่อไหร่ได้เห็นดีกันแน่ คอยดูเถอะ!!





"เดินเร็วๆ ดิทิว"



"อยากซื้ออะไรหนักหนาวะ! พูดอะไรก็ไม่ฟังสักอย่าง ดื้อฉิบหาย!!"





ผมได้แต่บ่นเท่านั้นแหละครับ เอาเข้าจริงก็ทำได้แค่เข็นรถแล้วเดินตามมันต้อยๆ นั่นแหละครับหน้าที่ผัวที่ดี





"บ่นจัง มึงแก่ขนาดนั้นเลย" 





ดูดิ!! ยังมีหน้ามาย้อนผมหน้าตาเฉยอีก สักทีดีไหมหึ๊!!





"กูบ่นเพราะมึงยังไม่หายดี ตัวยังรุมๆ อยู่ยังอยากออกมาเดินตากแอร์ในห้างอีก อยากได้อะไรก็บอกกูก็ได้เดี๋ยวกูให้ลูกน้องที่ร้านแวะมาซื้อให้"



"เพราะใครล่ะทำให้กูไข้นะ" มันหันมาว๊ากผม



"เออๆ เรื่องนี้กูไม่เถียงมึงหรอกมิน ความผิดกูเองกูรู้ตัวดี แต่มึงรอให้หายก่อนไม่ได้เหรอวะ หายดีแล้วค่อยมาวันหลังก็ได้นิ"



"ก็กูตั้งใจมาวันนี้อยู่แล้ว! มึงเองก็บอกจะพากูมา กูนัดรับของที่กูสั่งวันนี้มึงจะอะไรหนักหนาวะ!!"





ตอนนี้ทั้งผมทั้งมินต่างหงุดหงิดด้วยกันทั้งคู่ เราเดินเถียงกันไปตามทางเดินในซุปเปอร์มาเก็ตชั้นล่างของห้าง คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองมาที่เราทั้งสองคน สายตาพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผมกับมินหยุดเถียงกันหรอกครับ ยิ่งเถียงกันหนักขึ้นมากกว่า





"นัดรับของอะไรของมึง มันสำคัญมากนักรึไง เลื่อนออกไปไม่ได้ไง!"



"ใช่!! มันสำคัญมากมึงจะทำไม เลื่อนไม่ได้!! กูไม่เลื่อน!!"





มินมองหน้าผมด้วยสายตาที่โกรธแบบจริงจัง ผมก็ใช่จะยอม เรื่องนี้คือผมก็โมโหจริงครับ เราเถียงกันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านจนผมต้องยอมแพ้ไปแล้วรอบนึง แต่ความหงุดหงิดกับการที่ขัดใจกับมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างควบคุมยาก มันไม่ยอมผมก็ยิ่งโมโหมันเพิ่มไปอีก พูดอะไรเตือนอะไรถ้ามันยิมฟังกันสักนิดผมคงจะรู้สึกดีกว่านี้





"แม่งเอ้ย!! พูดอะไรไม่เคยฟัง เถียงกูตลอด" 





มินหันควับกลับมามองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกได้ว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งผมก็ไม่ต่างจากมันสักเท่าไหร่





"มึงกลับบ้านไปเลย!! กูจะไปคนเดียว" พูดจบมินก็เดินออกไปทันที



"เฮ้ยมิน!! มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!"





ผมยอมรับว่าผมโคตรโมโหมันเลยครับ ครั้งนี้เราสองคนต่างไม่มีใครยอมใครซึ้งเหตุการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นมานานมากแล้ว อย่างน้อยถ้าเราทะเลาะกันไม่ผมก็มินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะยอมถอยเพื่อไม่ให้เรื่องมันเลวร้ายไปกว่าเดิม แต่ครั้งนี้ผมว่ามันเกินไป





ผมปล่อยมือจากรถเข็นแล้วรีบวิ่งตามมินไปทันที แต่เนื่องด้วยคนที่มาจับจ่ายซื้อของเดินกันค่อนข้างเยอะเลยทำให้ผมวิ่งตามมินไม่ทัน 





"แม่งเฮ้ย!! หายไปไหนแล้ววะเนี้ยะ"





ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหามินทันที แต่ทุกครั้งที่โทรติดผมก็ถูกตัดสายทุกครั้ง ผมกดโทรย้ำๆ เกือบยี่สิบสายก็ยังคงเหมือนเดิม 





"กูจะบ้าตาย!!"







หลังจากผมพยายามโทรหามินอยู่หลายครั้งแต่มินไม่ยอมรับ ผมเลยเริ่มเดินตามหามิน ห้างแม่งก็โคตรใหญ่เลยนะเว้ย! กูจะบ้าตาย!!







ผมเริ่มตามหามินจากชั้นล่าง เดินหาอยู่สักพักก็ไม่เจอผมเลยเปลี่ยนไปร้านที่มินชอบไป ร้านเสื้อผ้า รองเท้า เคาเตอร์น้ำหอม นาฬิกาก็ไม่เจอ ผมเดินวนหาอยู่เกือบชั่วโมง ระหว่างทางที่เดินผมก็กดโทรออกหามินตลอดทาง





"สายไม่ว่าง" 





ผมยืนมองจอโทรศัพท์ที่ขึ้นตัวหนังสือว่าคู่สายไม่ว่างแล้วกำโทรศัพท์จนแน่น ไม่รับสายผมแต่ยอมรับสายคนอื่นงั้นเหรอ







ครืดด... ครืดด....







ผมรีบมองที่หน้าจอโทรศัพท์อีกครั้ง ไม่ใช่มินครับ เป็นสายจากไอ้หมอมันโทรเข้ามาหาผม





"เออ... ว่าไง?"



"ไม่ว่าไงว่ะ กูแค่จะถามว่ามึงเจอไอ้เจ็กยังวะ?"



"เจ็กไหนของมึง กูไม่ว่างตอนนี้กำลังตามหาไอ้ตัวแสบอยู่ แม่ง!! เดินหายไปไหนแล้วไม่รู้เนี้ยะ!!"



"อ้าว!! มึงไม่ได้อยู่กับเมียมึงเหรอวะ?"



"เออ!! กูทะเลาะกัน มันเดินหนีกูไปแล้ว!"



"เวรล่ะ! พวกมึงทะเลาะอะไรกันอีกวะ ไม่น่าล่ะเมียมึงเลยโทรมาขอเบอร์ไอ้เจ็กจากกู"  ผมขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย



"ขอเบอร์ใคร ไอ้เจ็กไหนของมึง!"



"อ้าว! ไอ้เจ็กก็ไอ้โชคไง เพื่อนสมัยเรียนมหาลัยด้วยกันอ่ะ มึงจำไม่ได้เหรอวะ"  ผมคิดตามที่ไอ้หมอมันพูด



"โชคไหนวะ? แล้วทำไมมินต้องโทรหามันด้วย!!"



"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ ก่อน ก็วันนี้ไอ้โชคมันจะเอายาจีนไปให้มึงไง ยาที่สั่งนำเข้ามาจากจีนอ่ะ" 



"ยาอะไรของมึง ใครสั่ง?"



"โอ๊ยไอ้เหี้ย! กูงงไปหมดแล้วนะเนี้ยะ ก็เมียมึงไงสั่ง ให้กูสั่งยาให้มันบอกมันอยากได้แต่ในไทยไม่มีขาย กูเลยคิดขึ้นได้ว่าไอ้โชคมันจะบินกลับมาทำธุระที่ไทยพอดีแต่มันมาแค่วันเดียว กูเลยรีบบอกไอ้โชคให้ซื้อยาตามที่เมียมึงอยากได้มาให้ไง"



"แล้วไง ทำไมกูไม่รู้เรื่องนี้วะ"



"เอ้า!! แล้วกูจะรู้ไหมว่ามึงไม่รู้ไอ้ควาย!!"



"เออๆ มึงเลิกด่ากูก่อน แล้วบอกมาว่ามันนัดกับเมียกูที่ไหน"



"กูไม่รู้เว้ย!! กูรู้แค่ไอ้โชคมันไปถึงแล้วแต่มันติดต่อมึงไม่ได้สายไม่ว่างห่าเหวอะไรไม่รู้ มันเลยโทรมาบอกกูว่ามันหาพวกมึงไม่เจอ พอมันวางสายไปเมียมึงก็โทรมาหากูพอดี กูเลยให้เบอร์ไอ้โชคไป"



"ไอ้สัส!! เสือกมาบอกกูตอนนี้นะไอ้เหี้ย ไม่รอให้กูสองคนตีกันตายคาห้างก่อนล่ะ"



"เอ้า!! นี่กูผิดเหี้ยอะไรเนี้ยะ!" ไอ้หมอพูดขึ้น



"มึงผิดไอ้ควาย!! เอาเบอร์ไอ้เหี้ยเจ็กมาให้กูเดี๋ยวนี้!!"



"อ้าว!! ทำไมมึงไม่โทรหามินวะ"



"โถไอ้โง่!! ก็มันไม่ยอมรับสายกูไง!! มึงเอาเบอร์ไอ้เจ็กมากูจะไปกระทืบมันที่โทรหากูไม่ติด เร็วๆ สัส!!"



"ฉิบหายล่ะไอ้เจ็ก เฮ้ย!! ไอ้โชค ซวยล่ะมึง" ไอ้หมอมันบ่นพรึมพรำก่อนจะบอกเบอร์ไอ้โชคให้กับผม 





Tru... Tru....





"สวัสดีครับ"



"มึงอยู่ไหนไอ้เจ็ก!"



"เฮ้ย!! ใครวะ" ปลายสายอุทานขึ้นด้วยความตกใจแบบตั้งตัวไม่ติด



"กูถามว่ามึงอยู่ไหน? ให้ไว!!"



"เออๆ ผมอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ชั้น 4 ครับ เฮ้ย!! แล้วมึงเป็นใครวะมาถามกูทำไม?"





เหมือนไอ้เจ็กมันจะคิดได้ครับว่ามันเผลอบอกว่ามันอยู่ไหนทั้งที่มันยังจำไม่ได้ว่าคนที่โทรหามันคือผมเอง





"เสือกจริงๆ รอกูอยู่ตรงนั้นเลย!! ถ้ากูไปแล้วไม่เจอมึงกูเอามึงตายแน่!!"





ตู๊ด ตู๊ด....







ผมรีบเดินขึ้นไปชั้นสี่ทันที มองหาร้านอาหารญี่ปุ่นตามที่มันบอก ผมเดินหาสักพักก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้าน มองเข้าไปในร้านเห็นไอ้โชคนั่งยิ้มร่าพอมันเห็นผมมันก็รีบโบกไม้โบกมือมาทางผมทันที ส่วนมินที่นั่งหันหลังอยู่ค่อยๆ หันมามองตามแล้วหันกลับไปโดยไม่สนใจผมเลยสักนิด





"เฮ้ยไอ้ทิว มึงไปไหนมาวะกูนั่งรอตั้งนานแน่ะ"





ไอ้โชคพูดทักทายด้วยความดีใจ ผิดกับผมที่สายตายังคงมองจ้องที่เมียตัวเอง





"ทำไมไม่บอกเรื่องนัดกับไอ้เจ็กวันนี้?" ผมนั่งลงข้างมินแล้วถาม



"เฮ้ย!! กูชื่อโชคเว้ย!" 





ใช่ครับ.. มันชื่อไอ้โชค ชื่อจะไทยๆ หน่อยแต่ที่บ้านมันตระกลูคนจีนทั้งสาย หน้าตามันนี่ไม่ต้องบอกเลยว่าตี๋แค่ไหน พวกผมเลยเรียกมันว่าไอ้เจ็กเพราะพวกผมลงความเห็นกันแล้วว่าถ้าเรียกมันไอ้ตี๋มันจะดูน่ารักจนเกินไป ชื่อเจ็กเลยเหมาะสมกับมันที่สุดในตอนนั้นครับ





"มึงเงียบไปก่อน กูยังไม่ได้ถามมึง!!" ผมหันไปว๊ากไอ้เจ็ก



"มิน! กูถามก็ตอบ"  มินหันมามองที่ผมก่อนจะหันกลับไปหาไอ้เจ็ก



"ผมขอโทษที่ทำให้พี่เสียเวลานะครับ ขอบคุณมากที่ช่วยซื้อยามาให้ผม"



"เฮ้ย!! ไม่เป็นไรกันเองๆ พอพี่รู้ว่าจะซื้อมาให้ไอ้ทิวพี่ก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ ไอ้นี่มันเพื่อนเลิฟพี่ หึหึ"



"เลิฟห่าอะไร กูโทรหาเสือกจำกูไม่ได้ไอ้สัส!!" ผมด่าสวนแม่งเลย หมั่นใส้ทำเป็นพูดจาดีต่อหน้าเมียกู



"อ้าว!! แสดงว่าที่โทรมาโวยวายถามว่าตอนนี้กูอยู่ไหนเป็นมึงเองเหรอวะไอ้ทิว?"



"เออดิ!! กูเองมึงจะทำไม!!" 



"ไอ้ห่า!! กูตกใจฉิบหาย กำลังงงอยู่ว่ากูไปกวนตีนใครไว้ตอนไหนวะ ทั้งที่นานๆ จะกลับมาที่ไทยสักที เสือกมีคนโทรมาเหมือนจะมาดักฆ่ากูซะอย่างงั้น หึหึ"



"เกือบล่ะไอ้สัส!!" หันไปด่าไอ้เจ็ก



"ฮ่าๆๆ มึงนี่ยังดุฉิบหายเหมือนเดิมเลยนะ" ไอ้เจ็กพูดไปหัวเราะไป



"พอๆ เลิกหัวเราะปัญญาอ่อนได้ล่ะ นี่มึงนัดกับเมียกูโดยไม่บอกกูได้ไงวะ?"





มินหันมามองที่ผมด้วยสายตาไม่พอใจอีกล่ะ ทำไมวะ! มึงเมียกูจริงๆ นี่หว่า แล้วไอ้เจ็กก็เพื่อนกู เรียกเมียแค่นี้ทำหน้าไม่พอใจ





"เฮ้ย!! กูป่าวนะ ไอ้เนย์มันโทรมาสั่งๆๆ บอกเมียมึงอยากได้ยาตัวนี้ๆ แล้วกูก็แค่ซื้อยามาตามมันสั่ง พอกูลงเครื่องปุ๊บ มาถึงที่นัดหมาย กูก็ขอเบอร์มึงจากไอ้เนย์แต่กูโทรหามึงไม่ติดนี่หว่า... แล้วสักพักเมียมึงก็โทรมาหากู แม่ง!! กูตกใจเลยสัส!! เสียงผู้ชาย กูรู้ว่ามึงมีเมียแล้วแต่กูไม่รู้นี่หว่าว่าเมียมึงเป็นผู้ชายเหมือนกัน"



"โทรไม่ติดเสือกไม่โทรย้ำๆ วะ มึงโง่รึป่าว" 



"เอ้า!! นี่กูผิดเหรอวะ" ไอ้เจ็กทำหน้าเหมือนหมางง



"เออ!! มึงผิด" 



"เอ่อ... พี่โชคครับ ผมขอบคุณพี่โชคมากเลยนะครับสำหรับยาที่ผมฝากซื้อ นี่ครับค่ายา" มินยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้ไอ้โชค 



"เฮ้ย!! ไม่เป็นไรๆ ถือว่าเป็นของฝากจากพี่ล่ะกัน เอาไปให้ไอ้ทิวกินเหอะจะได้แข็งแรงไวๆ นะ" 



"ไม่ได้ครับพี่ ผมฝากพี่ซื้อแค่นี้ก็เกรงใจมากแล้วครับ พี่รับเงินจากผมเถอะนะครับ ผมจะได้สบายใจ" มินยื่นเงินให้ไอ้เจ็กอีกครั้ง



"รับไปเถอะน่า... มินมันไม่อยากได้ของฟรีจากมึงหรอก" ผมบอกไอ้เจ็ก





มินหันมามองค้อนผมก่อนจะหันกลับไปพยักหน้าแล้วยื่นเงินให้ไอ้เจ็กครับ





"อืมๆ รับก็ได้วะ เอางี้... ถ้าอยากได้ยาอีกโทรบอกพี่แล้วกันเดี๋ยวพี่ซื้อแล้วส่งมาให้นะ"



"ขอบคุณมากครับ" มินยกมือไหว้ไอ้เจ็กครับ



"หูยยย... ไปยกมือไหว้มันทำไมมิน ไอ้นี่มันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่คิดหรอกนะ หึหึ"



"อ้าว!! ปากดีล่ะไอ้เหี้ยทิว" ไอ้เจ็กพูดขึ้นขำๆ มันรู้ครับว่าผมด่ามันเล่นๆ



"กูพูดเรื่องจริง หึหึ"



"เออๆ จะพูดเรื่องอะไรก็พูดไปเถอะ กูต้องรีบกลับแล้วว่ะพอดีนัดแม่กินข้าวแล้วเดี๋ยวกูต้องบินต่ออีก"



"เออๆ ขอบใจมากมึง ไว้เจอกันคราวหน้าค่อยแดกข้าวกัน"



"เออๆ ตามนั้น" มันตอบผม



"น้องมินพี่กลับก่อนนะ ขอบใจมากสำหรับมื้อนี้นะครับ ถ้าอยากได้ยาเพิ่มบอกพี่ได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ"



"ครับ ขอบคุณพี่มากนะครับที่เป็นธุระให้" มินยกมือขึ้นไหว้ไอ้โชค



"เฮ้ยๆ กันเอง พี่ฝากดูแลไอ้เพื่อนนอกคอกคนนี้ด้วยแล้วกัน ถึงมันจะเหี้ยๆ หน่อยแต่มันก็ยังมีความดีอยู่บ้าง หึหึ"



"เฮ้ยๆ พูดอะไรเกรงใจกูด้วยไอ้สัส!!"





ผมเบรคมัน ตุบ ตุบ... ไอ้เจ็กลุกขึ้นมาตบบ่าผมไม่แรงนัก





"ฮ่าๆๆ ดีใจที่ได้เจอมึงนะเพื่อน แฟนมึงน่ารักดีว่ะ พี่ไปก่อนนะ เจอกันโอกาสหน้า"



"ครับ สวัสดีครับ"



"กูไปล่ะ โชคดีเพื่อน" มันทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่ผม ไอ้นี่มันร้ายนะเว้ย!



"ไอ้สัสเจ็ก!!" แล้วมันก็เดินออกไปจากร้าน ทิ้งผมกับมินให้นั่งเงียบกันอยู่ที่เดิม



"จะซื้อยาให้กูทำไมไม่บอกล่ะ แล้วยาอะไรที่ฝากมันซื้อมาเนี้ยะ" กูถามแก้เขิลแม่งเลย 



"ยาบำรุง" มินตอบสั้นๆ แล้วตักอาหารที่ยังกินไม่หมดขึ้นมากินหน้าตาเฉย 



"น่ารักนะเนี้ยะ เป็นห่วงกูก็ไม่บอก ไหนๆ ขอดูหน่อยว่ายามันหน้าตาเป็นยังไง" ผมก็แกล้งคุ้ยถุงยาแก้เขิลอีกรอบ



"ไม่หิวข้าวรึไง สั่งข้าวมากินดิ" 





อ่ะโด่! เอาจริงๆ ก็ห่วงผัวนั่นแหละ ทำเป็นคอแข็ง เฮ้ย!! ปากแข็งไปได้ 





"เออหิวๆ กินอะไรดีวะ มึงอยากกินอะไรอีกไหมที่รัก กูจะได้สั่งเพิ่มให้" ยิ้มหวานๆ ส่งไป



"อิ่มแล้ว" พูดจบมินก็วางช้อนเลยครับ



"เฮ้ย!! ได้ไง! กินเป็นเพื่อนหน่อยดิ กูกินคนเดียวไม่อร่อย อยากกินข้าวกับแฟน" 





ความหน้าด้านมีเท่าไหร่ใส่ไปให้หมดครับ





มินมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้าตอบรับ อร๊ากกก... กูรอดแล้ว





"งั้นสั่งของโปรดเราสองคนเนอะ น้องๆ สั่งอาหารหน่อยครับ"







ผมจัดการสั่งอาหารจานโปรดเพิ่มอีกสามอย่าง ระหว่างรออาหารผมก็ตามเก็บของเหลือบนโต๊ะไปพลางๆ มินก็นั่งกินไปเงียบๆ ผมถามมันก็ตอบนะ ตอบแบบถามคำตอบคำอ่ะครับ มันยังตึงๆ กับผมอยู่ ง้อต่อไปเว้ย!! สู้ตายไอ้ทิว







"โอ๊ยย... โคตรอิ่มเลยว่ะ" ผมเดิมลูบท้องกลางห้างอย่างมีความสุข



"มินเราไปไหนกันต่อดี อยากได้อะไรอีกไหม?"





งานเงียบโว๊ย!! เมียเงียบผัวไม่สบายใจเลยให้ตายเถอะที่รัก มึงงอนกูจริงจังมาก





"งั้นเราไปดูเสื้อกันดีไหม ไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่กันนานแล้วเนอะ" ผมคว้าคอมินเข้ามากอด มินมันก็นิ่งครับแต่สายตานี่มองจิกผมตลอด



"เอาถุงมานี่เดี๋ยวทิวถือให้คร๊าบ..." 







ในเมื่อบรรยากาศระหว่างเรามันเงียบจนเกินไปผมก็เลยต้องสร้างสีสรรซะหน่อย





"อยากได้อะไรอีกป่ะ?" ผมก้มหน้าเข้าไปใกล้จมูกแทบจะเฉียดแก้มเมีย กร๊ากกก... มินมันขนลุกว่ะ



"มินเลิกงอนกูน้า... กูขอโทษคร๊าบ... กูไม่รู้นิว่ามึงมาที่นี่เพราะกูอ่ะ" กูอ้อนๆ ง้อต่อไปเดี๋ยวมินมันก็ใจอ่อน



"อืม... ช่างมันเถอะ กูผิดเองแหละที่ไม่ได้บอกมึงก่อน"





อร๊ากกกก.... เมียใจอ่อนยอมยกโทษ เฮ้ย! เมียขอโทษผัวด้วยว่ะ!! นี่กุไม่ได้ฝันไปใช่ไหม





"หูยยย... ไม่ผิดเลย มึงห่วงกูไงเลยทำแบบนี้แต่วันหลังบอกกูนิดนึงก็ได้นะเราจะได้ไม่ต้องเถียงกัน เนอะๆ"



"อืมๆ รู้แล้ว" เฮ้ย! ว่านอนสอนง่ายเว้ยเฮ้ย "โอเค... เอาเป็นว่าเราผิดด้วยกันทั้งคู่แล้วกัน กูผิดที่กูโมโหเสียงดังใส่มึง ส่วนมึงก็ผิดที่ไม่ยอมบอกเหตุผลกูก่อน เคไหม?"



"อืม... ตามนั้น" ถึงคำตอบจะดูห้วนๆ แต่ผมก็รับรู้ได้ครับว่ามินก็รู้สึกผิดจริงๆ นั่นแหละ มินมันเก๊กอยู่ครับ



"หึหึ... บทจะว่านอนสอนง่ายก็ง่ายจังวะ ป่ะๆ เดี๋ยววันนี้ป๋าจ่ายไม่อั้นเลย อยากได้อะไรบอกป๋าเดี๋ยวป๋าจัดให้" หน้าใหญ่ใจโตไปเลยกู เอาใจเมียซะหน่อย หน้ามันหงอยๆ เห็นแล้วรู้สึกใจหาย ใจไม่ดีเลยว่ะ



"เอาของไปเก็บที่รถก่อนดิ"  ในที่สุดบทสนทนาก็เริ่มเข้าสู่โหมตปกติ



"ไม่เป็นไร กูถือให้มึงอยากดูอะไรก่อนล่ะ?"



"อืม... งั้นแวะร้านนี้แป๊ป"





ร้านที่มินเดินเข้าไปคือร้านที่เต็มไปด้วยอาหารเสริมหลากหลายยี่ห้อ นำเข้าจากหลากหลายประเทศ มินเดินตรงเข้าไปหาพนักงานขาย ผมก็เดินตามมินเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน





"ซื้ออะไร?"



"ซื้ออาหารเสริมให้มึงไง" มินตอบ



"ซื้ออะไรเยอะแยะ กูต้องกินเยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ"



"อืม... มึงแก่แล้วเลยต้องบำรุงเยอะๆ ไง" มินหันมายักคิ้วกวนๆ ใส่ผม



"หึ! ปากดีจริงๆ อยากซื้ออะไรก็ซื้อเดี๋ยวกูไปนั่งรอตรงนั้นแล้วกัน" 



"อืม... ไปดิ เดี๋ยวเรียกมาจ่ายเงิน" 





ผมได้แต่ส่ายหัวกับความกวนตีนของเมียตัวเอง แต่ก็ดีแล้วครับที่มินมันกลับมาสู่โหมตปกติได้ ผมขี้เกียจทะเลาะกับมันล่ะ เถียงไปก็ไม่เคยชนะสักครั้ง ยิ่งเรื่องนี้ผมแพ้แน่นอนเพราะมันคงห่วงผมมากมันเลยเลือกที่จะทำแบบนี้





ผมเดินมานั่งรอมินที่มุมรับรองลูกค้า มินสอบถามพนักงานอย่างตั้งใจโดยมีเภสัชกรเข้ามาแนะนำข้อมูลเพิ่มอีกคนครับ





ผมนั่งมองมินจากตรงนี้ก็สัมผัสได้ว่าสายตามินที่มองไปยังเภสัชกรสาวที่กำลังพูดแนะนำสินค้าอย่างตั้งใจ เฮ้อ... การที่ผมไม่สบายครั้งนี้คงทำให้มินเป็นกังวลมากซินะ ทั้งๆ ที่ไอ้หมอบอกว่าผลตรวจผมไม่ได้เป็นอะไรมากและไม่อันตรายอย่างที่คิดแต่มินก็คงไม่วางใจอยู่ดี







ทุกวันนี้มินยังคงคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับเราสองคน มินยังคงรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ทำให้ผมเกือบต้องตายเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น ผมพยายามบอกมินทุกครั้งว่ามันไม่ใช่ความผิดของมินหรือผม มันคือชะตากรรมของเราสองคน ถ้าไม่เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นเราอาจจะไม่ได้อยู่ด้วยกันและรักกันนานขนาดนี้ก็ได้ มินก็เหมือนจะเข้าใจตามที่ผมบอกทุกครั้งแต่มันก็ยังคงโทษตัวเองทุกครั้งอยู่ดี เอาวะ! เพื่อความสบายใจของมันผมจะยอมทำทุกอย่างแล้วกัน





ว่าแต่... ยาที่มันสั่งมาแดกยากป่าววะ ผมนั่งจับถุงพลิกไปพลิกมา พอได้กลิ่นผมนี่แทบอ้วกเลย กลิ่นแรงโคตร





"ทิวเสร็จแล้วจ่ายเงินให้หน่อยดิ" 



"อืม..."  ผมลุกขึ้นเดินไปหามิน ยื่นบัตรเครดิตให้แคชเชียร์สาว 



"ซื้อเยอะว่ะ" ผมแกล้งพูดหยอก



"ราคาเบาๆ ขนหน้าเข้งไม่ร่วงหรอกน่า" มินพูดอย่างอารมณ์ดี



"หึหึ.. ร่วงทั้งตัวล่ะไม่ว่า" 



"พูดมากจริง" มินต่อว่าผมไม่จริงจังนัก







อ่านต่อด้านล่าง....

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3

หลังจากผมจ่ายเงินเรียบร้อยเราสองคนก็ตกลงกันว่าจะไปดูเสื้อร้านประจำกันครับ ผมให้มินเดินไปรอที่ร้านส่วนผมก็เดินเอาของมาเก็บที่รถก่อน มินแม่งซื้อโคตรเยอะอ่ะ ชาตินี้จะแดกหมดไหมกู หึหึ





ผมเอาของที่ถือเต็มไม้เต็มมือยัดใส่หลังรถเสร็จก็ยืนสูบบุหรี่อีกแป๊ป ขอทำสมองให้มันโล่งก่อนจะก้าวขาไปเสียเงิน เอาวะ!! ในเมื่อชีวิตนี้ต้องเลี้ยงเมียผัวอย่างกูต้องขยันทำงานหาเงินให้มากขึ้น #เมียกูใช้เงินเก่งโคตร





ครืดดด.... ครืดดด....





ผมสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง "กำลังเดินไป" ผมสูบบุหรี่เข้าปอดเฮือกสุดท้ายก่อนจะทิ้งลงถังทรายข้างๆ อย่างเสียดาย 





"อยู่ไหนแล้ว?"



"อืม... เสร็จแล้วเนี้ยะกำลังเดินไป รอแป๊ป"



"เออ... เร็วๆ ล่ะ"



"คร๊าบ... กูกำลังไปแล้วคร๊าบ.."



"ช้า!!" ประโยคสุดท้ายเน้นๆ ชัดๆ สั้นๆ แล้วสายก็ตัดไปเลยครับ





ผมเดินออกจากลานจอดรถทันที ช้าไม่ได้ รอบหน้าคือโทรมาด่าแน่นอน ทีงี้ห่างกูไม่ได้ล่ะซิท่า ฮ่าๆๆๆ มีความเข้าข้างตัวเองสูงว่ะ







....







"เมื่อกี้คุยอยู่กับใคร?" 



"ป่าว... ไม่ได้คุย" มินหันมาตอบแล้วหันไปเลือกเสื้อต่อ



"ก็กูเห็นมึงคุยกับผู้หญิงคนที่เพิ่งเดินสวนกูออกไปเมื้อกี้" 



"คนไหนวะ"



"หึหึ... กูเห็นอยู่ว่าคุย"



"อ่อ... ผู้หญิงคนเมื่อกี้เขาอยากได้เสื้อตัวเดียวกับกูอ่ะ มันเหลือตัวเดียวเขาเลยบอกไม่เอาแล้ว เขาให้กู นี่ไงทิวตัวนี้สวยไหม?" มินโชว์เสื้อยืดสีเทาเข้มให้ผมดู



"แน่ใจนะว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มาจีบมึง"



"วู้!! ใครจะมาจีบกูล่ะ กูนี่ต้องไปจีบเขาดิถึงจะถูก"



"มิน!!" 



"อะไร!! เรียกเบาๆ ก็ได้ กูแค่พูดเล่น ไม่มีใครมาจีบกูทั้งนั้นแล้วกูก็ไม่ได้ไปจีบใครด้วย โอเคยัง?" ผมมองมินอย่างพิจารณา



"ไม่มีอะไรก็แล้วไป นอกใจกูเมื่อไหร่กูจะมึงหนักๆ ให้ลุกไม่ขึ้นเลยจำไว้นะ" 





มินอ้าปากค้างไปสามวิก่อนจะขมวดคิ้วมองผมด้วยสายตาจริงจัง





"มึงบอกตัวเองเถอะ!"  มินพูดจบก็เดินเอาเสื้อผ้าที่เลือกไว้ไปวางที่เค้าเตอร์สำหรับจ่ายเงิน



"ทิวมาจ่ายเงินดิ" 





ดูมันดิครับ เมื่อกี้ยังทำเก่งอยู่เลยแต่พอตอนนี้เรียกหาผมไม่หยุด กร๊ากกก... ไปจ่ายเงินให้เมียแป๊ป





"ทำไมรอบนี้ซื้อน้อย?" ผมถามเพราะเห็นมินหยิบเสื้อมาแค่สองตัวเองครับ ซึ่งผิดวิสัยมันมากๆ



"เดียวไปดูอีกร้าน ชอบแค่สองตัวนี้"



"หึ!! นึกว่าจะช่วยกันประหยัด" 



"ฝันกลางวันรึไง จ่ายเงินด้วยเดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำแป๊ป"







เคยได้ยินฉายานี้ไหมครับ เฮียทิวสายเปย์ ฮ่าๆๆ เมียสั่งต้องรีบจ่ายดิรออะไร ถามว่าไอ้คนสั่งหายไปไหน นู้นนนน... เดินตัวปลิวไปเข้าห้องน้ำสบายใจเขาล่ะ 





"ขอบคุณค่ะ" พนักงานยกมือไหว้หลังจากผมจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย วิ่งซิครับรออะไรต้องไปเยี่ยวเป็นเพื่อนเมีย กร๊ากกกก....





ปึก!!



"ขอโทษครับ เป็นอะไรมากไหมครับ" 





ด้วยความรีบผมเลยพลาดเดินชนผู้หญิงคนนึงจนล้มลงไปนั่งกับพื้น





"ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะฉันเองที่เดินไม่ดูทาง" เธอพยายามลุกขึ้นด้วยตัวเอง ผมจะช่วยพยุงเธอก็ผลักมือผมออก



"ผมขอโทษอีกทีนะครับ พอดีผมกำลังรีบ"



"ไม่เป็นไรค่ะ งั้นคุณรีบไปเถอะค่ะเพราะฉันก็มีธุระต้องรีบไปเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะคะ ขอโทษค่ะ" พูดจบเธอก็เดินก้มหน้าออกไปทันที ผมยืนมึนๆ งงๆ อยู่สักพักก็รีบเดินตรงไปยังห้องน้ำ



"หน้าคุ้นๆ ว่ะ"



"ทิว ทางนี้ๆ เร็ว" มินควักมือเรียกผมอยู่ร้านเสื้อผ้าอีกร้าน



"เข้าห้องน้ำเร็วจังวะ?"



"เยี่ยวครับไม่ได้ขี้ไม่ต้องพิถีพิถันมาก"



"เออๆ แล้วเข้าไปในห้องน้ำใช่ไหม มึงไม่ได้ยืนเยี่ยวข้างนอกนะ" 



"เข้าๆ เข้าไปเยี่ยวในห้อง มึงนี่พูดมากจริงๆ ซื้อตัวนี้นะสวยดี" มันชูเสื้อให้ผมดู



"อืมๆ อยากได้ก็เอา" "หูยยย... ป๋าสุดๆ ไปเลยครับพี่" มันทำหน้าทะเล้นล้อเลียนผม



"หึ!! ลีลาเยอะ เดี๋ยวก็อด"



"เฮ้ยๆๆ จ่ายเงินเลยเอาตัวนี้กับตัวนี้นะไอ้ป๋า ขอบคุณคร๊าบ"



"เรื่องนี้ไวเลยนะมึง เออๆ เอาสองตัวนี้นะ"



"ใช่! ถูกต้องครับ"





ผมล่ะปวดหัวกับมันจริงๆ ตอนแรกเกือบจะตีกันตายคาห้าง ตอนนี้ผมเปลี่ยนอารมณ์ตามมันแทบไม่ทัน เออดีๆ หลากหลายฉิบหาย







หลังจากเสียเงินไปก้อนนึงเพื่อให้เมียสบายใจก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนแล้วครับ ก่อนกลับคอนโดผมพามินแวะกินข้าวอีกรอบร้านแถวคอนโดนั่นแหละครับ มันบ่นวิ่งเหนื่อยและหิว ตัวก็รุ่มๆ แต่ดีขึ้นกว่าตอนออกจากบ้าน เราสองคนกินข้าวกันไปเถียงกันไปเหมือนปกติ พอกินเสร็จผมก็ขับรถพามินกลับคอนโด







"มินกินยาก่อน" พอมาถึงห้องมันก็นั่งๆ รื้อของที่ซื้อมาโดยไม่สนใจสิ่งใดในโลก



"ทิวมึงอย่างลืมกินยาที่กูฝากเพื่อนมึงซื้อนะ เขาบอกให้กินหลังอาหารเช้ากับเย็น เนี้ยะๆ เพิ่งกินข้าวมากินเลยดิ" มันรื้อถุงยาขึ้นมาคุ้ยๆ แล้วแกะกล่องยายื่นมาให้ผม



"กูต้องกินจริงๆ เหรอวะ" 





เอาจริงๆ ผมโคตรไม่ชอบแดกยาจีน แม่งเหม็นสัส!





"กินดิ!! ยาบำรุงมึงต้องกิน กูไปอ่านรีวิวในเน็ตมาเขาบอกว่ายานี้โคตรดี กินๆ อย่าพูดมาก กูอุตส่าห์สั่งมาให้มึงกินนะ"



"เออๆ กินก็กินวะ แต่วันหลังจะทำอะไรหัดถามหรือปรึกษากูบ้างนะ" 



"รีบกินดิ! บ่นอยู่ได้"  ผมเดินไปหยิบยาจากมือมิน ส่วนผมก็ส่งยาที่มือผมให้มันเหมือนกัน



"มึงก็กินด้วย ยังไม่หายไข้ดี"



"โอเค กินด้วยกัน วินๆ กันไป" มันหยักไหล่ด้วยท่าทางกวนตีนก่อนจะดึงขวดน้ำจากมือผมไปดื่ม



"อ่ะกูกินแล้ว ต่อไปตามมึงล่ะ" คราวนี้ก็ถึงตาผมว่ะ แม่งกลั้นใจแป๊ป 



"เหี้ย!! กลิ่นโคตรแรง" ผมบ่นอุบ



"ยาดีไง กลิ่นจะแรงๆ หน่อย" 



"กูต้องกินหมดนี่เลยเหรอวะ?"



ผมมองไปเห็นถุงยาแล้วอยากจะอ้วกออกมาเลยว่ะ



"กินหมดนี่แหละ จ่ายเงินไปแล้วเสียดาย" ดูมันตอบ



"งั้นกูจ่ายเงินให้มึงแล้วไม่ต้องกินต่อได้ไหม?"



"ไม่ได้!! ต้องกินให้หมด" มันพูดเสียงแข็ง



"เออๆ กินก็กินวะ" สรุปผมก็ต้องกินนั่นแหละ ดูท่าแล้วจะปฏิเสธยาก



"กูง่วงนอน"



"หึหึ ครบเลยนะมึง กินอิ่มแล้วง่วงนอนเนี้ยะ"



"ธรรมดา! กูไปนอนนะ จะออกไปร้านปลุกด้วย"



"อืมๆ เข้าไปนอนก่อนไป เดี๋ยวกูเก็บของแล้วจะตามเข้าไป"



"โอเค บาย ราตรีสวัสดิ์" แล้วมันก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องไปเลยครับ



"หึหึ กวนตีนฉิบหาย"







ผมเก็บของทุกสิ่งอย่างที่ซื้อมาให้เข้าที่เข้าทาง รวมถึงเสื้อผ้าที่มินรื้อไว้จนห้องกลับมาเป็นระเบียบมีพื้นที่ให้เดินอีกครั้ง ตอนแรกผมว่าจะเช็คเมล์อีกสักพักแต่ตอนนี้หนังตาผมก็จะปิดตามมินอยู่ล่ะ ผมจึงตัดสินใจทิ้งงานไว้ก่อน พักผ่อนเอาแรงดีกว่าคืนนี้ไปร้านค่อยทำก็ยังไม่สาย







ผมเดินเข้ามาในห้องนอนที่เปิดแอร์จนเย็นฉ่ำ มีร่างไอ้แห้งของผมนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มที่ปิดไว้ทั้งตัวเห็นแค่หัวมันโผล่ออกมา แล้วจะเปิดแอร์ซะเย็นขนาดนี้ทำไมกกูไม่เข้าใจ







ผมเดินไปคว้านหารีโมทแอร์ใกล้หมอที่มินนอน กดปรับอุณภูมิที่ 25 องศาก่อนจะสอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม





"อืออ... ทิว" มินขยับตัวงัวเงียเรียกชื่อผม



"กูเอง... นอนซะ"  ผมรวมตัวมินเข้ามากอด จูบลงที่หน้าผากมินเบาๆ สักพักผมก็หลับตามมินไป





















ติ๊งต่อง~~~~







ติ๊งต่อง~~~~







"อืออ... ทิวมีคนมามากดกริ่งอ่ะ มึงไปดูดิ"  มินมันเขย่าตัวผมจนผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา 



"เออๆ มึงนอนต่อเถอะเดี๋ยวกูไปดูเอง" จุ๊บบบ...





ผมจุ๊บลงที่แก้มผมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกมาจากห้องนอน







ติ๊งต่อง~~~~







"เออๆ มาแล้ว ใครวะ!! มึงจะกดให้นิ้วหลุดติดกริ่งหน้าห้องกูเลยรึไงแม่ง!!"







ติ๊งต่อง~~~~







"เออมาแล้วโว๊ย!!"







แกร๊ก!!!







"ใครวะ!!"







TBC.





เฮียทิวมาแล้วจ้า คิดถึงกันอย่าลืมกดหัวใจ กดคะแนน กดบวกๆ และเม้นให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ

ขอบคุณสำหรัับทุกเม้นทุกการติดตามนะคะ ขอบคุณมากค่า



ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อะไร ยังงัย ดูจะงงกับมินวันนี้นะ

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ทิว❤มิน】



【EP.21 เมื่อเรื่องมันเกิด】







ฤทธิ์ยาแน่ๆ แดกแล้วหลับดีจริง ไม่รู้นอนไปนานแค่ไหนแต่ตื่นมาแล้วโล่งหัวมากๆ สบายตัวขึ้นเยอะเลยว่ะ หึ! งานนี้ผมป่วยจะโทษใครนอกจากไอ้ป๋า เล่นผมซะยับแทบคลาน มีอะไรกับมันทีผมแทบตายคามือมันทุกครั้ง คนหรือม้าวะแรงดีฉิบหาย โอ๊ะๆ พูดแล้วปวดจี๊ดขึ้นมาเลย นี่แค่คิดก็ปวดไปหมดทั้งตัวแล้ว!!







เมื่อกี้มีคนมากดกริ่งห้องผมอ่ะ ไอ้เหี้ยโคตรหนวกหูเลย ผมนี่สะกิดไอ้ป๋ามันยิกๆ ให้มันรีบไปเปิดประตูส่วนผมจะได้นอนต่อ แต่พอตื่นแล้วมันดันนอนไม่หลับว่ะ ผมเลยลุกขึ้นมาล้างหน้าให้สดชื่นซะเลย ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาออกไปร้านแล้วขืนนอนต่อผมว่าไอ้ป๋ามันเทผมให้อยู่ห้องคนเดียวแน่ๆ ไม่เอาเว้ย!! ไปร้านมีเหล้าแดกฟรี มีเพลงมันส์ๆ ให้ฟัง แอบเหล่สาวบ้างเวลามันเผลอ กร๊ากกก... เรื่องอะไรจะยอมนอนอยู่ห้องคนเดียว ว่าแต่.... ทำไมไอ้ป๋ามันเงียบไปวะ ถ้าพวกเพื่อนมันมาหาป่านนี้คงพากันแหกปากเสียงดังไปแล้ว







"ทิวอยู่ไหน?" 





ผมเดินออกมาจากห้องนอนมองหาไอ้ป๋าจนทั่วห้อง เดินไปดูห้องทำงานก็ไม่เจอ ห้องครัวก็เงียบไม่มีแมวสักตัว หึหึ กูไม่ได้เลี้ยงแมวนี่หว่าจะมีแมวในห้องได้ไงล่ะ





"ไอ้ป๋าคร๊าบ... มึงอยู่ไหนคร๊าบ" 





ผมเดินเกาพุงตามหามันจนครบทุกมุมห้อง ไม่มีว่ะ! แล้วมันไปไหนวะเนี้ยะ!!





"ไอ้ทิวโว๊ย!! อยู่ไหน!! กูเริ่มหงุดหงิดแล้วนะแม่ง!! เรียกก็ไม่ยอมตอบ" 





เงียบครับ ไม่มีเสียงตอบรับ แม่งไปไหนของมันวะ







แอ๊ดดดด....







ผมหันไปมองตามเสียงที่ดังขึ้น ประตูห้องถูกเปิดออกแต่ไม่มีใครเดินเข้ามา





"หรือมันจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์ข้างล่างวะ เออดี!!ประตูก็ไม่ปิดดีๆ ถ้าขโมยเข้าห้องป่านนี้กูคงนอนเป็นศพล่ะ"





ผมเดินหงุดหงิดงุ่นง่านอารมณ์เสียไปยังประตูห้อง 





"ปาปา... ปาปา..." แล้วก็ตามด้วยเสียงหัวเราะเอิ้กอ๊าก



"เสียงเด็กห้องไหนวะ"





ผมเปิดประตูออกกว้างขึ้น ค่อยๆ โผล่หัวออกไปทีละน้อย ไม่อยากให้คนอื่นด่าว่าเผือกเลยต้องแอบดูพอ ก็คนมันอยากรู้นี่หว่า แต่ภาพที่ผมเห็นคือ!!





"ทิวมึงยืนทำอะไรอยู่หน้าห้องเนี้ยะ กูตามหาตั้งนาน"





ผมโผล่ตัวออกมาเจอตูดไอ้ป๋าครับ มันยืนหันหลังให้ประตู หันหน้าออกไปตรงทางเดินฝั่งบันไดหนีไฟ





"มิน คือ..." 





ไอ้ป๋ามันหันหน้ามาทางผม ทำไมหน้ามันสีตกขนาดนั้นวะ ซีดจนจะขาวอยู่ล่ะ 





"มึงเป็นอะไร หน้าซีดเหงื่อเต็มหน้าเลย แพ้ยาป่าว" ผมรีบเดินออกมาจากห้อง เดินไปหยุดยืนข้างๆ ไอ้ป๋าแล้วเอาหลังมือวางทาบที่หน้าผากมัน



"ตัวก็ไม่ได้ร้อนนิ แล้วมึงออกมายืนทำอะไรตั้งนาน เพื่อนมึงมาหาทำไมไม่พาเข้าห้องวะ"



"ป่าวมิน เพื่อนกูไม่ได้มีใครมาหากูหรอก" 



"อ้าว!! แล้วใครมาล่ะ" ผมถามด้วยความสงสัย



"กูคิดว่าคนนี้น่าจะมากูว่ะ"



"ใครวะ?" ผมมองไปตามนิ้วที่ไอ้ป๋ามันชี้



"ในรถเข็น" 



"เด็กคนนี้อ่ะนะ"



"อืม... ใช่" 



"แล้วมากับใครวะ ลูกใคร ลูกเพื่อนมึงเหรอ?"  ผมนั่งยองๆ ลงไปดูหน้าเด็กคนนั้นชัดๆ



"เฮ้ย!! น่าตาน่ารักดีวะ ลูกใครวะ?" 





ตามันโตๆ กลมๆ แก้มมันป่องๆ ปากแดงๆ น่ากัดฉิบหาย ผิวโคตรดี ขาวเหมือนสำลี เฮ้ย! หรือขาวเหมือนหิมะวะ เอาเป็นว่าขาวโคตรๆ อ่ะ ผมเอานิ้วเขี่ยแก้มยุ้ยๆ แม่งนิ่มเว่อ แถมยังยิ้มเก่งอีกด้วย โคตรน่ารักอ่ะ 





"กูไม่รู้" ไอ้ป๋ามันตอบ



"อ้าว!! อะไรของมึงวะ เมื่อกี้มึงบอกว่าไอ้เด็กนี่มาหามึงแล้วพ่อกับแม่เขาล่ะอยู่ไหน?" ผมเงยหน้าขึ้นถามไอ้ป๋า แต่มือยังแอบหยิกแก้มไอ้เด็กน่ารักคนนี้อย่างสนุกมือ



"แม่เขากูไม่รู้ว่าอยู่ไหน แต่...." 



"แต่อะไร?"



"มิน" ไอ้ป๋ามันเป็นอะไรวะ เรียกชื่อกูบ่อยไปล่ะ



"มึงเป็นอะไรของมึงเนี้ยะ ไม่สบายตรงไหนป่าวยืนเหงื่อไหลไม่หยุดเลย"  ผมละจากไอ้เด็กนั่นแล้วหันมาสนใจไอ้ป๋า มันไม่สบายป่าววะ หน้าโคตรซีดแถมเหงื่อออกเพียบเลย



"คือกู...." 



"มีอะไร!! มีอะไรก็พูดมา คือกูๆ อยู่ได้!!" มันไม่ตอบครับ มันยืนมองหน้าผมอยู่แบบนั้น 



"มิน"



"ทิวมึงเป็นอะไรกันแน่จะพูดก็ไม่พูดสักที"



"มึงสัญญากับกูก่อนว่ามึงจะใจเย็นๆ กับกู" ผมขมวดคิ้วแน่น อะไรของมันวะ



"เออๆ มีอะไรก็พูดมา ลีลาอยู่ได้"



"กูรักมึงนะ รักมึงคนเดียว" 





ผมยิ่งงงหนัก อะไรของมันวะ ทำท่าทางแปลกๆ ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ





"อะไรของมึงเนี้ยะ" มันไม่ตอบอีกแล้วครับ แต่มันยื่นการ์ดสีขาวส่งมาให้ผม



"อะไร?" ผมถาม



"มึงอ่านดูแล้วกัน"









To... พี่ทิว



ลูกของเราน่ารักใช่ไหมคะ เลี้ยงไม่ยากแกเป็นเด็กน่ารักหัวเราะง่ายมากค่ะ หวังว่าพี่จะรักและดูแลเขาด้วยความรักทั้งหมดที่พี่มี รักลูกของเราให้มากๆ นะคะ



แคทฝากดูแลลูกของเราด้วยนะ

                                                                                                                                                                                                            รักพี่ทิวนะคะ                                                                             

                                         แคท







ลูกของเราๆๆ "ลูกของเรา" คำนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หยุด ลูกของเรางั้นเหรอ ไม่ใช่ซิ!! ลูกของไอ้ป๋าต่างหาก ลูกของไอ้ป๋ากับผู้หญิงที่ผมไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยรู้เลยว่าไอ้ป๋าเคยคบกับใครมาบ้างก่อนที่จะเจอผม ไม่เคยรู้ว่ามันเคยทำใครท้อง ไม่เคยรู้ว่ามันมีลูกกับใครรึเปล่า ไม่เคยเลย







"มิน กูขอโทษ" 





ผมละสายตาจากการ์ดสีขาวที่ผมมองจ้องอยู่นานแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้ป๋าที่กำลังทำหน้ารู้สึกผิด ตอนนี้ผมไม่สามารถบอกความรู้สึกของผมตอนนี้ได้ว่าผมรู้สึกยังไง มันตื้อๆ งงๆ ไปหมด 





"ลูกมึงงั้นเหรอ เด็กคนนี้ลูกมึงงั้นเหรอ?" ผมถามมัน



"กูไม่รู้มิน กูไม่รู้ว่าใช่ลูกกูจริงๆ รึป่าว"



"ลูกมึงงั้นเหรอ หึหึ"



"มินมึงใจเย็นๆ ก่อนนะ เรื่องนี้กูว่าเราต้องคุยกัน" 



"คุยเรื่องอะไรเหรอทิว คุยเรื่องลูกมึงงั้นซินะ"



"มินมึงอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม"



"กูเป็นยังไงล่ะ!!"



"มิน" ไอ้ป๋ามันจับแขนผมแน่น





พรึ่บ!!





"กูไม่พร้อมคุยอะไรทั้งนั้น!!"



"เฮ้ย!! มินใจเย็นๆ ก่อน กูรักมึงนะ"







ผมเดินกลับเข้ามาในห้อง หยิบพวงกุญแจที่วางอยู่โต๊ะหน้าทีวีแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องนอน ล็อคประตูห้องนอนจากด้านใน





พรึ่บ!! 







ขาของผมหมดแรงเอาดื้อๆ ผมนั่งหมดแรงกอดเข่าตัวเองอยู่ที่พื้นห้อง ในหัวของผมยังคงมีประโยคเดิมวิ่งวนไปเวียนมาเต็มหัวไปหมด ลูกของเรา หึ!! ลูกของไอ้ทิว ลูกมันกับผู้หญิงที่ผมไม่รู้จัก ตอนนี้ผมคิดไม่ออกว่าผมควรจะทำยังไง ผมควรจะทำยังไงดีวะ!!







ปังๆๆๆ 





"มินเปิดประตูให้กูหน่อย"





ปังๆๆๆ 





"มินออกมาคุยกับกูก่อนนะ เราต้องคุยกัน"





ปังๆๆๆ 





"มินกูขอร้องนะ ออกมาคุยกับกู"



"มินกูรักมึงนะ ขอร้องล่ะออกมาคุยกับกูหน่อย"







ประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินและจับใจความได้คือมันบอกว่ามันรักผม ตอนนี้หัวใจผมถูกบีบจนปวดไปหมด สมองผมตื้อจนคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไปดี ผมสับสน ผมทำอะไรไม่ถูก อยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออก เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นยืนยังไม่มีเลย ทำไมวะ!!





ปังๆๆๆ





"มินออกมาคุยกันก่อนนะ เรื่องนี้กูอธิบายได้"



"กูจะฟังได้ยังไงล่ะทิว กูยังไม่รู้เลยว่ากูควรจะทำยังไงเหมือนกัน กูสับสนไปหมด" ผมพูดพรึมพรำกับตัวเอง หมดแรงจริงๆ ทำไมกูอ่อนแอแบบนี้วะ







ผมก้มหน้าลงซุกที่เข่าตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร้องไห้แบบไม่มีเสียง ใช่... ผมกำลังเสียใจ ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับมันดี







เสียงเคาะประตูเงียบไปแล้วแต่ผมยังนั่งร้องไห้บ้าบอไม่หยุด เสียงไอ้ป๋าเงียบไปแล้ว ทำไมผมรู้สึกเจ็บมากกว่าเดิมวะ เจ็บเป็นบ้า!!





ผมไม่รู้ว่าตัวเองนั่งอยู่ตรงนี้นานแค่ไหน แล้วหยุดร้องไห้ไปตอนไหน บรรยากาศในห้องเงียบสงบ เสียงจากด้านนอกที่เรียกหาผมก็เงียบลงไปแล้ว ผมพยายามลุกขึ้นยืนทั้งที่ร่างกายไร้เรี่ยวแรง คราบน้ำตาบนใบหน้ายังคงบ่งบอกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ดี







ผมเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์และโทรศัพท์มือถือยัดใส่กระเป๋า ผมมองเห็นตัวเองหน้ากระจกในสภาพที่ไม่น่าดูเท่าไหร่ 





"กูคงโง่มากซินะ"







ผมได้แต่หัวเราะเยาะตัวเองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจริงๆ ผมแค่อยากขอเวลาให้ตัวเองก็เท่านั้น







แกร๊ก.....







ไอ้ป๋าเงยหน้าขึ้นมามองผม มันนั่งอยู่ที่พื้นหน้าห้อง มันเข็นเด็กนั่นเข้ามาในห้องด้วย 





"มินคุยกับกูก่อนนะ กูอธิบายได้นะมิน"  มันลุกขึ้นแล้วโผล่เข้ากอดผม



"กูรักมึงคนเดียว เด็กนั่นไม่รู้ใช่ลูกกูจริงๆ รึป่าว แต่กูป้องกันตัวเองทุกครั้งนะ กูไม่พลาดแน่นอนมึงเชื่อใจกูนะ"





ผมแกะมือมันออกและผละตัวออกจากอ้อมกอดมัน ทิวมันมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ





"กูขอเวลาคิด" พูดจบผมก็เดินออกไปทันที



"มิน!! จะไปไหนรอกูก่อน!!"





เสียงร้องไห้งอแงของเด็กคนนั้น เสียงเรียกผมจากคนที่ผมรักที่สุดไม่ได้ทำให้ขาผมหยุดก้าวไปข้างหน้า 





"ทิวกูขอโทษ ตอนนี้กูไม่พร้อมจริงๆ" ผมได้แต่พูดกับตัวเองแบบนั้น ประตูลิฟท์กำลังถูกปิดลง 





"มินเดี๋ยวก่อน!!"







ลิฟท์ลงมาถึงชั้นล่าง ผมก้าวขาออกจากลิฟท์อย่างไรสติ เสียงไอ้ป๋ายังคงก้องในหูผม เสียงร้องไห้ของเด็กคนนั้นยังคงหลอกหลอนผมอยู่ ผมเดินออกมาผ่านพนักงานต้อนรับที่กำลังเร่งเก็บของกลับบ้านเพราะถึงเวลาเลิกงาน แท็กซี่สีฟ้าจอดอยู่หน้าคอนโด คุณป้าคนนึงกำลังปิดประตูรถแท็กซี่แล้วเดินเข้ามาในตึก







"พี่ครับ ไป xxx ครับ"





ตี๊ด...



เสียงกดมิตเตอร์ดังขึ้นก่อนที่รถจะออกตัว ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ป๋าวิ่งตามผมมาด้วยเท้าเปล่า มันยืนตะโกนเรียกผมแต่รถที่ผมนั่งกำลังออกเดินทางไปยังที่ๆ ผมอยากกลับไปมากที่สุด "พ่อหนุ่มคนนั้นเกิดเรื่องอะไรรึป่าวถึงวิ่งออกมาทั้งที่ไม่ใส่รองเท้าแบบนั้น" พี่คนขับแท็กซี่พูดขึ้น "ผมของีบหน่อยนะครับ ถ้าถึงแล้วพี่ช่วยเรียกผมที" "อ่อๆ ได้ครับได้" พี่แท็กซี่รีบตอบ























"พี่ไม่ต้องทอนนะครับ" ผมยื่นเงินให้พี่คนขับแท็กซี่



"หูยยย... มันเกินค่ามิตเตอร์พี่ตั้งเยอะนะน้อง"



"ไม่เป็นไรครับ ผมให้"





พี่แท็กซี่แกทำสีหน้าลำบากใจแต่ก็ต้องรับไว้เพราะผมยื่นเงินให้เสร็จก็เดินตรงไปยังหน้าบ้านทันที





"อ้าวคุณมิน ทำไมเดินมาล่ะครับ"  ลุงยามเห็นผมจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านก็รีบเดินออกมาเปิดประตูให้ผมทันที



"สวัสดีครับลุง วันนี้ผมไม่มีของกินมาฝากนะ"



"โถ... ไม่เป็นไรครับคุณมิน แล้วนี่คุณมินจะให้ผมขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปส่งไหมครับ"



"ไม่เป็นไรครับลุง เดี๋ยวผมเดินเข้าไปในบ้านเอง"



"เอ่อ... แล้วนี่คุณทิวไม่ได้มาด้วยเหรอครับ" 



"ไม่ได้มาครับ ผมขอตัวเข้าบ้านก่อนนะ"



"ไม่ให้ลุงขับรถไปส่งแน่นะ รถลุงเก่าไปหน่อยแต่แรงพอตัวนะครับ"



"ไม่เป็นไรครับ ผมเดินเข้าไปเองดีกว่า" 



"อ่อ... ครับ งั้นลุงขอตัวไปเฝ้ายามต่อนะครับ"







ผมทักทายกับลุงแกพอหอมปากหอมคอ ปกติถ้ากลับมาบ้านผมจะซื้อของกินมาฝากแกเป็นประจำ แกทำงานที่บ้านผมมานานมากตั้งแต่ผมยังเด็ก แกใจดีครับ ผมก็เป็นคนนึงที่เคารพแกเพราะแกเป็นคนดีมีน้ำใจ







ผมเดินตามทางเดินเข้ามาเรื่อยๆ จนถึงหน้าบ้าน ไฟในบ้านยังคงส่องสว่างเหมือนทุกๆ วัน เวลานี้แม่ผมคงนั่นอยู่หน้าจอทีวีรอดูละครที่ท่านชอบ พ่อของผมก็คงนั่งดูละครเป็นเพื่อนแม่เพราะกลัวแม่จะเหงาถ้าต้องนั่งดูละครเพียงคนเดียว







ผมก้าวขาเดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เวลาแบบนี้คนที่สำคัญที่สุดคงจะไม่ใช่ใครนอกเสียจากแม่สุดที่รักของผม







"คุณว่าม่ะ พระเอกคนนี้หล่อมาก"



"เฮ้อ... ผมนั่งอยู่ข้างคุณทั้งคนยังไปชมผู้ชายคนอื่นอีกเหรอ"



"แหวะ!! คุณนะแก่แล้วรู้ตัวซะบ้างนะคะ ไม่ได้หล่อเหมือนตอนหนุ่มๆ แล้วรู้ไว้ซะด้วย ชิส์!"



"หึหึ ผมก็หล่อของผมแบบนี้อยู่ทุกวัน ไม่งั้นตอนหนุ่มๆ คุณจะตามหึงตามหวงผมทุกวันเหรอ"



"ว๊ายย กล้าพูดนะคะ คุณต่างหากที่ตามตื้อฉันไม่เลิก"



"เอ้าๆ ผมยอมคุณก็ได้ ที่ผมยอมไม่ใช่อะไรหรอกนะ" พ่อผมทำหน้าเจ้าเลห์สุด



"ทำไม เพราะอะไรคะ?" แม่ผมก็ใช่ย่อย รายนี้ไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว



"ก็เพราะผมรักคุณไง ผมถึงยอม"



"คนบ้า!! แกแล้วยังจะมาพูดจาเลี่ยนๆ ใส่ฉันอีก ชิส์"















"อ่ะแฮ่มๆ จะจีบกันก็เห็นใจลูกชายคนนี้บ้างนะครับ" 



"ตาย!! ตามินมาได้ไงลูก โถถ... ลูกชายสุดที่รักของแม่"



ฟอดดด... ฟอดดด...



"สวัสดีครับแม่ คิดถึงจัง" ฟอดดด.....



ผมกับแม่กอดกันกลม รักมากครับผู้หญิงคนนี้



"เฮ้ยๆ หอมเมียฉันเบาๆ หน่อย" 



"อย่าไปสนใจตาแก่นั่นเลย"



"ไม่ได้หรอกครับแม่ ผู้ชายคนนั้นผมก็รักมากเหมือนกันครับ"



"จ้า... อยู่เป็นจริงๆ ลูกชายฉัน ไปๆ ไปหาพ่อเขาหน่อย บ่นคิดถึงเราทุกวัน"



"จริงเหรอครับ?" ผมแกล้งมองพ่อของผม



"หึ!! ใครบ่น ไม่มี!!" 



"ฮ่าๆ สวัสดีครับคุณพ่อที่เคารพรัก" 





ผมผละออกจากอ้อมกอดแม่ เราสองคนเดินไปนั่งลงที่โซฟาตัวยาว ประกบข้างซ้ายขวาแล้วกอดพ่อผมพร้อมกัน





"ตาแก่ขี้น้อยใจ" แม่ผมแซวพ่ออย่างสนุกสนาน



"คิดถึงพ่อม๊ากมากครับ สบายดีไหม คิดถึงผมมากอ่ะดิ"



"โอ๊ยย... พ่อจะมีเวลาที่ไหนไปคิดถึงแก ร้อยวันพันปีไม่ค่อยอยากจะกลับบ้านมาเยี่ยมพ่อ ถ้าไม่โทรบอกเจ้าทิวให้พาแกกลับบ้านบ้างพ่อจะได้เห็นหน้าแกไหมล่ะ หื้อ!" 





ผมชะงักกะลับคำพูดของพ่อไปนิดนึง 





"เออใช่ แล้วนี่เรามาคนเดียวเหรอ ตาทิวล่ะแม่ไม่เห็นได้ยินเสียงรถเลย"



"แม่ก็พูดไปนั่น ตาทิวเหรอจะปล่อยให้ลูกเรากลับมาคนเดียว ตัวติดกันยังกับปาท่องโก๋" 



"อ้าวตามิน แล้วพี่เขาไปไหนล่ะ ทำไมไม่เดินเข้ามาด้วยกัน"















"ตามินเป็นอะไร ทำไมไม่ตอบแม่ล่ะ"



"เอ่อ.. ครับๆ โหหห... แม่อ่ะ ผมง่วงนอนมากเลย ผมขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะครับ"





จุ๊บบบ...





"กู๊ดไนท์ครับแม่ กู๊ดไนท์นะครับพ่อ" พูดจบผมก็รีบเดินออกมา















"เดี๋ยวตามิน!!" เสียงแม่ผมตะโกนเรียก



"ฝันดีครับ รักแม่นะ" ผมตอบกลับแล้วรีบเดินขึ้นไปบนห้องนอนทันที







"วันนี้ทำตัวแปลกๆ นะ คุณว่าไหม?"



"ลูกคงมีเรื่องต้องคิดมั้ง"









ผมเดินเข้ามาในห้องนอนของผม ทุกอย่างยังถูกจัดวางไว้ที่เดิม ผมไม่ได้กลับบ้านมานานเท่าไหร่แล้วนะ ประมาณเดือนกว่าๆ ได้แล้วมั้ง เพราะหลังจากผมเลิกทำโปรเจ็คผมก็มาช่วยไอ้ป๋ามันทำงานที่ร้านเกือบทุกอย่าง ไอ้ป๋าสอนผมเกี่ยวกับงานบริหารที่ร้าน การสั่งสินค้าเข้าร้าน การดูแลระบบและความเรียบร้อยในร้านทั้งหมด รวมไปถึงการดูแลพนักงานทุกคนในร้านด้วย เรียกได้ว่าผมก็ทำงานยุ่งพอๆ กันกับไอ้ป๋ามันก็ว่าได้ เพราะสาขาที่เชียงใหม่ก็ขยายตัวเร็วมากพวกผมสองคนเลยหัวปั่นด้วยกันทั้งคู่







ผมเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอน มือขวาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปลดล็อคหน้าจอ สายที่ไม่ได้รับขึ้นเกือบร้อยสาย มีแต่เบอร์ไอ้ป๋าที่โทรมา ผมปล่อยให้มือถือสั่นอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่หยิบขึ้นมาดูเลยแม้แต่น้อย





ก๊อกๆๆ 





"ตามินลูก... แม่ขอเข้าไปได้ไหมครับ?" ผมหลับตาลงช้าๆ 



"ครับแม่"







ประตูถูกเปิดออกช้าๆ แม่ผมแทรกตัวเข้ามายืนส่งยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้ามานั่งลงบนเตียงนอนข้างๆ ผม





"มีอะไรจะเล่าให้แม่ฟังไหม?" แม่ใช้มือลูบที่หัวผมเบาๆ ผมหันไปกอดเอวแม่ไว้หลวมๆ



"แม่ครับ" 



"เป็นอะไรเราหนีแม่กับพ่อขึ้นมานอนซะงั้น ปกติไม่เคยจะนอนเร็วสักวัน"



"ป่าวซะหน่อย คนง่วงนอนก็ต้องนอนซิครับแม่"



"ย่ะ! แม่ไม่รู้เลยว่าลูกของแม่กำลังไม่สบายใจ แม่พูดถูกไหม?"





ผมมองหน้าแม่แล้วนิ่ง เอาจริงๆ นะแม่ผมรู้ทุกเรื่องอย่างที่แม่พูดนั่นแหละ ก็แม่เลี้ยงผมมานิใครจะเข้าใจลูกอย่างผมได้ดีไปกว่าแม่คนนี้ล่ะ



"มินไม่สบายใจอะไรมินเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก แม่ไม่อยากให้ลูกของแม่จมความทุกข์อยู่คนเดียวนะครับ"





มือของแม่ที่แสนอบอุ่นกำลังลูบลงที่หัวผมเบาๆ อย่างอ่อนโยน 



"ทะเลาะกับพี่เขามาเหรอ?"





ผมขยับตัวเข้าหาแม่ผมมากขึ้น แม่ผมโน้มตัวลงมาโอบกอดผมไว้เช่นกัน 





"เล่าให้แม่ฟังได้ไหมครับ หื้อ?" ฟอดดดด.....



"แม่ครับ..."













"พี่ทิวมัน..."







ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้แม่ผมฟัง แม่ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ ผมเล่าเกี่ยวกับข้อความในการ์ดใบนั้น เล่าถึงเด็กคนนั้นที่ผมเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ผมบอกแม่ผมว่าผมยังไม่พร้อมที่จะรับฟังทุกเรื่องเพราะผมสับสนมากจบคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี ผมเสียใจ ตกใจและตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 





"มินใจเย็นๆ นะลูก แม่ว่ามันอาจจะไม่ใช่อย่างที่มินคิดก็ได้นะครับ มินบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพี่เขาก็ตกใจเหมือนกัน แม่ว่านะ เด็กคนนั้นอาจจะไม่ใช่ลูกของตาทิวจริงๆ ก็ได้ ทำไมมินไม่ลองคุยกับพี่เขาดูก่อนละครับ"



"ไม่รู้ดิแม่ ตอนนั้นมินทำอะไรไม่ถูกเลย มันตกใจไปหมด"



"เราก็เลยหนีพี่เขากลับมาบ้านซะงั้น"



"ครับ.. ก็มิน...."



"อ๊ะๆ แม่เข้าใจๆ มินตกใจมาก คิดอะไรไม่ออก โกรธพี่เขาด้วยใช่ไหม?"



"อืม...." ผมพยักหน้าหงึกๆ



"เฮ้ออ.... ทำไมลูกแม่ยังไม่โตซะทีน้า..."



"แม่!!"



"อ้าว!! ก็แม่พูดเรื่องจริงนิ มินกำลังวิ่งหนีปัญหารู้ไหม"



"ป่าวนะแม่!!"  แม่ทำหน้าดุใส่ผมทันที













"อ๊ะๆ ตั้งใจฟังสิ่งที่แม่จะพูดให้มินฟังนะลูก"



"ครับ" 



"เรื่องที่เกิดขึ้นแม่ว่าทั้งมินทั้งพี่เขาก็ตกใจไม่แพ้กันหรอกจริงไหม ตาทิวก็คงไม่คิดว่าวันนึงจะเจอแจ๊คพ๊อตก้อนใหญ่ขนาดนี้ ส่วนลูกของแม่ก็เช่นกัน ต่างคนก็ต่างตกใจไม่แพ้กัน ตาทิวก็คงทำตัวไม่ถูก คงสับสนจับต้นชนปลายไม่ทัน ไหนจะกลัวทำลูกชายที่รักของแม่เสียใจอีกจริงไหม?"







ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ผมแค่นอนกอดแม่แล้วฟังแม่ผมพูดอยู่เงียบๆ







"ตอนนี้ทั้งมินทั้งตาทิวก็คงหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ไม่ได้เหมือนกัน ทำไมมินไม่ลองคุยกับพี่เขาดูล่ะครับว่าเรื่องที่แท้จริงมันเป็นยังไง เด็กคนนั้นลูกพี่เขาจริงไหม ช่วยกันคิดช่วยกันหาทางออกซิครับถึงจะถูกต้อง นี่มินเล่นทิ้งพี่เขาไว้คนเดียวแล้วหนีออกมาแบบนี้แม่ว่าไม่น่ารักเลยนะ ไหนบอกว่ารักพี่เขามากไง ทำไมทิ้งพี่เขามาซะล่ะ"







ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่ของผม 





"รักพี่เขารึป่าว?"



"รัก" ผมตอบเสียงเบา



"ถ้ารักกันก็ควรช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหารู้ไหมครับ"



"รู้ครับ มินขอโทษครับแม่"



"ขอโทษแม่ทำไม นู้นน... คนที่ลูกชายแม่ต้องไปขอโทษป่านนี้วิ่งวุ่นตามหาลูกแม่จนทั่วกรุงเทพแล้วมั้ง"



"มันจะตามหามินทำไม มันต้องดูลูกมันดิแม่"





เพี๊ยะ!!!





"ทำไมลูกแม่ไม่ยอมโตสักทีนะ แม่เพิ่งพูดอยู่หยกๆ เดี๋ยวเถอะ!"



"หูยยย... มินเจ็บนะแม่"



"แม่ตีให้เจ็บไงจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก ป่านนี้พี่เขาเป็นห่วงเราแย่แล้วมั้ง"



"มินขอแค่คืนนี้คืนเดียวนะแม่ มินอยากอยู่คนเดียวจริงๆ นะครับแม่ช่วยมินหน่อยนะ"



"เฮ้ออ... งั้นโทรไปบอกพี่เขาว่าคืนนี้เรากลับมานอนที่บ้าน พี่เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"















ใครจะกล้าโทรล่ะ โกรธมันอยู่นะแม่ มันแอบไปมีลูกลับหลังผมนะ





"ไม่โทรได้ไหมแม่แค่คืนเดียวเอง"



"เอ๊ะ! ตามินนี่ยังไงนะ"



"โห... แม่อ่ะขอที่พักพิงคืนเดียวเอง"



"เฮ้ออ... ฉันล่ะเหนื่อยใจกันลูกชายคนนี้จริงๆ เลย"





แม่ผมถอนหายใจเหนื่อยแต่ก็ยกคงปลอมผมเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผมเจอเรื่องไม่สบายใจ







ก๊อกๆๆ





"คุณผู้หญิงคะ โทรศัพท์จากคุณทิวค่ะ" ผมกับแม่มองหน้ากัน แม่สายหัวทำหน้าเหนื่อยใจเล็กน้อย



"เดี๋ยวแม่ไปรับโทรศัพท์ก่อนแล้วจะกลับมาจัดการเราต่อ"







แม่ผมทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วรีบเดินออกไปทันที เฮ้ออ... งานนี้ผมหูชาแน่







ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง นอนกดดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ขึ้นมิสคอลร้อยกว่าสาย ไอ้ป๋ามันยังคงโทรกระหน่ำเข้ามาหาผมรวมไปถึงเบอร์ไอ้ทีน ไอ้บี้ ไอ้นันเพื่อนผมครบแก๊ง







ติ้ง! ไอ้นัน : มึงหายหัวไปไหนวะไอ้มิน เฮียจะตามฆ่าพวกกูอยู่แล้วนะเว้ย!!





มันส่งสติ๊กเกอร์โมโหไฟลุกท่วมตัวมาให้ผมเป็นสิบๆ ตัว





มินสุดหล่อ : กูเหนื่อย กูอยากพัก เรื่องนี้กูจะเคลียร์กับมันเอง กูนอนล่ะ





ไอ้นัน : อ้าวเฮ้ย!! ตอบง่ายมากนะมึง เออๆ พักผ่อนซะ พรุ่งนี้เช้าทำบุญเผื่อกูด้วยแล้วกัน บายเพื่อน





ไอ้นันมันทิ้งท้ายไว้แค่นั้น มันรู้ว่าถึงมันถามให้ตายถ้าผมไม่อยากตอบผมก็จะไม่ตอบ







ผมนอนใช้ความคิดอยู่สักพักแม่ผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของผมพร้อมนมอุ่นๆ หนึ่งแก้ว





"พี่เขาโทรมาหาแม่เขาเป็นห่วงเรามากนะรู้ไหม"



"คร๊าบบ..."



"แม่บอกพี่เขาไปแล้วว่าคืนนี้มินจะนอนค้างที่บ้าน"



"ขอบคุณครับแม่"



"พรุ่งนี้มินกลับไปคุยกับพี่เขาซะนะ" แม่ลูบที่หัวผมเบาๆ



"ครับแม่"



"ดีมากครับ มีอะไรค่อยๆ คุยกันอย่าใช้อารมณ์แก้ปัญหาคุยกันด้วยเหตุผลให้พี่เขาได้มีโอกาสอธิบายบ้างส่วนมินก็รับฟังพี่เขาด้วยนะลูก"



"ครับแม่"





ฟอดดด....





"งั้นคืนนี้พักผ่อนเยอะๆ นะครับ แม่ก็จะไปนอนเหมือนกันเริ่มง่วงนอนล่ะ" จุ๊บบบ...



"ราตรีสวัสดิ์ครับ รักแม่นะ"



"จ้า... แม่ก็รักมินเหมือนกันครับ ฝันดีนะสุดหล่อของแม่"









ผมหยิบมือถือขึ้นมามองสายที่ไม่ได้รับ มันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผมตัดสินใจกดปิดเครื่องแล้วถอนหายใจเฮื้อกใหญ่พร้อมยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก







คืนนี้ผมจะนอนหลับไหม ไอ้ป๋าล่ะมันจะนอนหลับรึป่าว ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่ เฮ้ออ.... เด็กนั่นเป็นลูกมันจริงๆ ใช่ไหม







TBC.



ฝากเม้นให้กำลังใจคนเขียนด้วยเด้อ จุ๊บๆๆ



ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ตรวจDNA เลย ใช่ลูกทิวจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตรวจDNA เลย ใช่ลูกทิวจริงๆรึเปล่าก็ไม่รู้

คิดเหมือน
มิน หนีปัญหาอย่างแม่ว่าจริงๆ
ทิว เหนื่อยเลย จะตามมินมา เด็กก็คาห้องอีก   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มินก็งอนพี่เค้าเร็วเกินไปนะ น่าจะหยุดคิดซักนิดว่าอยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา พี่มันจะเอาเวลาที่ไหนไปทำผู้หญิงท้องง่ายๆ แบบไม่มีเงื่อนงำมาก่อน

ออฟไลน์ thanza1970

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มินอย่าคิดมากเลย ไหน ๆ เด็กก็มาอยู่ที่ห้องแล้วช่วยกันเลี้ยงลูกให้คนอื่นเถอะ
แต่คงไม่ใช่ลูกป๋าทิวแน่ ๆ เลี้ยงเด็กเอาบุญเนาะ
 :mew4:

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ทิว❤มิน】



【EP.22 ช่วยกันคิด】







เมื่อได้สติกลับมาผมดีดตัวขึ้นจากโซฟาทันที ไอ้ห่า!! เมื่อคืนคือกูนอนที่ร้าน มินหนีกลับไปนอนบ้าน อ้าว!! แล้วไอ้เด็กนั่นล่ะวะ กุทิ้งมันไว้ที่ห้องคนเดียวทั้งคืนเนี้ยะนะ!!





หลังจากไอ้ปูกลับไปผมก็ซัดเหล้าเพรียวๆ ต่อคนเดียวจนเมาหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่รู้แค่ว่าตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้ว ฉิบหายหนักเลยงานนี้ เอาไงดีวะ รีบกลับห้องก่อนหรือยังไง โทรหามินก่อนเผื่อมันจะเปิดเครื่อง





ท่านกำลังเข้าสู่บริการรับฝากข้อความ...





มันยังไม่เปิดเครื่องอีก แม่งไม่รู้จะโกรธกูนานแค่ไหน กูเริ่มงอนมึงแล้วนะมิน เฮ้ออ... เรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้วกันเพราะเมื่อคืนคุยกับแม่ยายแล้ว ท่านบอกว่าให้โอกาสน้องได้มีเวลาคิดสักหน่อย ท่านจะช่วยพูดให้ เฮ้อ... กูถอนหายใจครั้งที่เท่าไหร่แล้ววะทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้วะ





ผมลุกขึ้นจากโซฟาเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น มองหน้าตัวเองในกระจกก็คิดไปต่างๆ นาๆ เรื่องแบบนี้กูไม่น่าพลาดง่ายๆ แบบนี้ เป็นไปได้ยังไงวะ กูเนี่ยะนะทำผู้หญิงท้อง โอ๊ย!! ปวดหัวสัส!!







ก๊อกๆๆ





"เข้ามา" ผมเดินเช็ดหน้าออกมาจากห้องน้ำ 



"นายครับ กุญแจคอนโดครับนาย"





เมื่อเช้าผมสั่งให้ลูกน้องไปเอากุญแจสำรองที่เจ้าหน้าที่ดูแลคอนโด ผมโทรไปแจ้งทางคอนโดว่าผมลืมเอากุญแจออกมาจากห้อง ดีนะที่ผมอยู่มานานคุ้นเคยกับคนที่ดูแลอยู่ที่นั้นไม่งั้นผมคงต้องเข้าไปติดต่อเองเพราะที่นี่ระบบความปลอดภัยค่อนข้างดี





"เออ... เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ"



"เอ่อ... นายครับ ทางคอนโดแจ้งว่า..."



"ว่าอะไร?" ผมถาม



"ทางคอนโดแจ้งว่าห้องนายมีเสียงแปลกๆ ดังออกมาจากในห้องครับ เหมือนเสียงเด็กร้องไห้"



"แล้วไงต่อ?"



"ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อครับ ผมแค่บอกว่าจะมาแจ้งนายให้อ่ะครับ"



"เออ... ดีแล้ว เดี๋ยวมึงไปเตรียมรถให้กูด้วย"



"ได้ครับนาย"



















ผมขับรถออกมาจากร้านมุ่งหน้าไปยังคอนโด ตอนแรกกะว่าจะไปรอรับมินกลับด้วยกัน พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนผมก็คิดว่าผมควรให้เวลามันคิดอย่างที่แม่ยายผมบอก คิดกลับกันถ้ามีคนเอาเด็กมาทิ้งไว้แล้วบอกว่าเป็นลูกมันผมก็คงเสียใจไม่แพ้กัน ความคิดแรกคงงโกรธมันมากเหมือนที่มันโกรรธผมนั่นแหละ เพราะก่อนหน้าที่ผมกับมันจะมาเจอกันเราสองคนต่างผ่านเรื่องพวกนี้มาเยอะ ผมเองยังยอมรับว่าเรื่องนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าผมก็ไม่เป็นสองรองใครแต่ผมป้องกันทุกครั้งไง ผมเลยออกจะอึ้งแดกกับเรื่องเมื่อคืน พลาดตอนไหนอะไรยังไงผมจับต้นชนปลายไม่ถูกเลยว่ะ ส่วนมินเองก่อนมันจะเจอผมก็ไม่เบาเหมือนกัน ขนาดผมได้มันเป็นเมียแล้วยังไม่วายมีแฟนเก่าสาวใหม่มาตามติดตลอด แม่ง!! ปวดหัวฉิบหาย







ครืดด... ครืดด...





"เออ... ว่าไง?" "มึงอยู่ไหนวะ?"



"กูกำลังขับรถกลับคอนโด" ผมตอบไอ้ฟิว



"แล้วนี่น้องมันคุยกับมึงยัง?"



"หึ! คุยเหี้ยอะไรล่ะ มันปิดเครื่องหนีกูตั้งแต่เมื่อคืน"



"มึงใจเย็นๆ ไอ้สัส! ให้เวลาน้องมันหน่อยมันคงตกใจ"



"เออ!! กูไม่ตกใจเลยว่างั้น ไอ้ห่า!! อยู่ดีๆ ก็มีเด็กตัวเป็นๆ นอนดูดขวดนมอยู่หน้าห้องแล้วบอกว่าเป็นลูกกู เซอร์ไพรส์สัสเลย!!"



"เออๆ นั่นแหละมึงก็ใจเย็นๆ ก่อน มีอะไรให้พวกกูช่วยก็บอกแล้วกัน"



"เออ... ขอบใจว่ะเพื่อน เดี๋ยวกูถึงคอนโดก่อนว่าจะโทรหามินมันอีกที ตอนนี้กูจะบ้าตายอยู่แล้วมันไม่ยอมรับโทรศัพท์กูเลยว่ะ"



"เออ... มึงมีอะไรให้ช่วยก็บอกแล้วกัน เดี๋ยวคืนนี้กูกับไอ้เนย์จะเข้าไปหา"



"อืม... เดี๋ยวกูโทรหาพวกมึงอีกที" "โอเค... บายเพื่อน"







ผมใช้เวลาขับรถต่อสักพักก็กลับมาถึงคอนโด พนักงานต้อนรับมองผมแล้วยิ้มให้แปลกๆ เกิดอะไรขึ้นวะ หรือว่าเรื่องเสียงเด็กร้องไห้ ถ้าคนนอกคงคิดว่าห้องนี้มีผีแน่นอนเพราะตั้งแต่อยู่คอนโดนี้มาไม่มีเด็กคนไหนได้เข้ามาอยู่ห้องผมเลยนอกจากมิกกี้กับเจได เด็กสองคนนี้ไม่มีร้องงอแงแน่นอนเพราะเป็นเด็กที่โคตรอารมณ์ดีมีแต่เสียงหัวเราะ เฮ้อ... แล้วกูจะทำยังไงต่อดีวะ







ผมคิดไปเรื่อยจนเดินมาหยุดอยู่หน้าหัองของตัวเอง เอาจริงๆ ผมทำตัวไม่ถูกว่ะ มันแปลกๆ ถึงผมจะเคยเล่นกับหลานมาบ้าง เลี้ยงเจไดมาบ้างแต่ผมก็ยังไม่ชิน กูตายยย!!!







ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้อง ขยับเข้าไปชิดประตูห้องตัวเองแล้วเอาหูแนบประตู







"เงียบว่ะ" ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น 



"เอาไงดีวะ"  ผมยืนตั้งสติต่ออีกนิดก็ตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไป







ว่างเปล่า......













ในห้องเงียบไม่มีอะไรเลย ข้างโซฟาไร้รถเข็นเด็กคนนั้น ผมเดินวนดูอีกทีจนทั่วห้องก็ไม่เจออะไร







"หายไปไหนวะ อย่าบอกนะมันออกจากห้องเองได้"





กูก็คิดอะไรบ้าๆ เนอะ เด็กมันจะออกไปเองได้ไงว่ะ ผ่านไปแค่ข้ามคืนมันเดินได้แล้วเหรอ ตอนที่เข็นมันเข้ามามันยังนอนดูดนมเฉยๆ นี่หว่า... เอาไงล่ะทีนี้







ผมกำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาว่าจะโทรหาไอ้ฟิว งานนี้กูต้องการความช่วยเหลือด่วนว่ะเพื่อน รอนานกว่านี้กูประสาทแดกแน่ๆ แต่ทันใดนั้นสายตาผมก็เหลือบมองไปที่ประตูห้องนอน ความเย็นฉ่ำของแอร์ปรับอากาศ เสียงกุกักๆ ดังขึ้นเบาๆ ผมค่อยๆ เดินตรงไปยังห้องนอน ประตูที่เปิดแง้มอยู่เล็กน้อยผมค่อยๆ ผลักออกไป







"เฮ้ย!!!" ผมร้องขึ้นเสียงดังด้วยความตกใจ



"แหกปากทำไม!! นี่มึงหายหัวไปไหนมาห๊ะ!! ทิ้งไอ้เด็กนี่ไว้คนเดียวในห้องเนี้ยะนะ มึงจะบ้ารึไง!!" เสียงมินโวยวายขึ้นอย่างลืมตัว ไอ้เด็กที่นั่งดูดนมอยู่ในรถเข็นเด็กเมื่อคืนตอนนี้มันขึ้นไปนอนดูดจุกนมอย่างสบายใจอยู่บนที่นอนในห้องนอนผมแล้วครับ



"เอ่อ... กูไปนอนที่ร้านมา" ผมตอบไปแบบมึนๆ



"ไปนอนที่ร้าน?!!"



"อืม... กูไปนอนที่ร้าน เมื่อคืนวิ่งตามมึงเลยลืมกุญแจไว้ในห้องอ่ะ" ผมเกาะหัวแกร็กๆ ตอบได้โง่ง่าวมาก



"แล้วมึงจะยืนอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม อ่ะนี่ลงไปซื้อตามรายการนี้ขึ้นมาให้กู แม่ง!! เสือกทิ้งไอ้เด็กนี่ให้กูดูอยู่ได้คนเดียวทั้งคืน เหนื่อยฉิบหาย"



"มึงกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนเหรอ?" 



"เออดิ!! ก็กู...." 



"มิน!! ที่รักของกู!!"





หมับ!!



ฟอดดดด.... ฟอดดด....







"เฮ้ย!!! ไม่ต้องมากอดมาหอมกูเลย กูยังไม่ได้เคลียร์กับมึงเลยนะเว้ย!!"





ผมทั้งกอดทั้งหอมมันไม่หยุด ไอ้เหี้ยโคตรดีใจอ่ะ ดีใจที่มันกลับมาหาผมเอง โคตรดีใจเลยสัส





"ตอนนี้กูไม่สนว่ามึงจะเคลียร์หรือไม่เคลียร์แต่กูดีใจที่มึงกลับมา กูดีใจที่กลับมาแล้วเจอมึงนะมิน กูขอโทษที่เกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ขึ้น แต่กูไม่ได้ตั้งใจมึงรู้ใช่ไหม กูรักมึงมากมึงก็รู้ เมื่อคืนก็นอนไม่หลับเลยทั้งคืน กูคิดไม่ออกว่ากูควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี แล้วเรื่องมึงก็ควรจะทำยังไง ห่าเอ้ย!! กูแม่งปวดหัวฉิบหายเลยมึงรู้ไหม" ฟอดดด....



"โอ๊ยยย... มึงปล่อยกูก่อนได้ไหม กูหายใจไม่ออก"



"กูขอกอดมึงอีกแป๊ปนะ จิตใจกูยังไม่หายดีเลย กูกลัวมึงหนีกูไปอีก"





ในใจผมคิดแบบนี้จริงๆ นะ คือผมไม่อยากเสียมันไป ผมรักมันมากและผมก็ไม่คิดว่ามันจะเข้าใจผมมากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยผมก็อยากอธิบายให้มันฟังด้วยตัวผมเอง





มินขยับตัวเข้าหาผมแล้วกอดผม มืออุ่นๆ กำลังตบลงที่หลังผมแล้วลูบลงที่หลังผมเบาๆ มันถอยหายใจเล็กน้อยก่อนจะซบหน้าลงที่ไหล่ของผม





"กูขอโทษนะทิว"  คำพูดที่ผมกำลังได้ยินเหมือนผมกำลังหูฝาดยังไงอย่างงั้น 



"กูขอโทษที่หนีมึงออกไปแบบนั้น กูใจเย็นไม่พอที่จะรอฟังว่ามึงคิดยังไง รู้สึกยังไงทั้งที่กูสัญญากับมึงว่ากูจะใจเย็นตามที่มึงขอ แต่กูสติแตกว่ะ มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปกูตั้งรับไม่ทัน"



"อย่าว่าแต่มึงสติแตกเลย กูเองก็ยังมึนไปหมด"



"แม่บ่นกูหูชาเลย" มันพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้ม



"หึหึ บ่นว่าไงบ้าง เล่าให้กูฟังหน่อย"  ฟอดดดด....



"ไม่รู้ดิ บ่นหลายเรื่องกูจำไม่ได้ รู้แค่ว่าแม่กูเข้าข้างมึง" มันเอาหัวโขกเบาๆ ที่ไหล่ผม



"หึหึ แม่ยายกูน่ารักเสมอมึงว่าไหม?" ผมแกล้งพูดหยอก



"ก็มึงลูกรักแม่กูนิ" 





มินมันทำหน้าโคตรตลกอ่ะครับ จะงอนก็ไม่งอนจะโกรธก็ไม่โกรธ





"เฮ้ออ... เหมือนกูปลดล็อคความเครียดไปได้เปราะนึงเลย"



"กูขอโทษ" 



"อืม... กูไม่โกรธมึงหรอกมึงไม่ต้องขอโทษกูบ่อยขนาดนั้นก็ได้ เรื่องนี้น่าจะเป็นกูมากกว่าที่เป็นคนผิด เฮ้ออ... มันเกิดขึ้นได้ยังไงวะก็ในเมื่อกูก็..."





มินมันผละตัวออกจากผม นั่งมองหน้าผมสลับกับไอ้เด็กที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนที่นอน





"มึงอย่าเพิ่งโทษตัวเอง เพราะถ้ามึงโทษตัวเองตอนนี้แสดงว่าเด็กคนนี้เป็นลูกมึงจริงๆ ไม่ใช่เรื่องโกหก" 



"เออใช่! ใครบอกว่าเป็นลูกกูล่ะ กูว่าไม่ใช่หรอกเนอะมินเนอะ" 



"แถเก่ง!! กูยังไม่สรุปเว้ย! เรื่องนี้ต้องพิสูจน์ แต่กูบอกมึงก่อนเลยนะถ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของมึงจริงล่ะก็... จบไม่สวยแน่!!"





ผมกลืนน้ำลายเฮื้อกใหญ่ จากที่มั่นใจๆ ว่าเด็กคนนี้ไม่น่าจะใช่ลูกของผมตอนนี้ผมเริ่มกลัวๆ แล้วครับ กลัวเรื่องจบแล้วศพไม่สวย บรึ๊ย!!



"ตอนนี้ความผิดมึงยังไม่เคลียร์ เดี๋ยวมาช่วยกันคิดว่าจะเอายังไงต่อ"



"หูยยย... แบบนี้กูรักตายเลย"





กอดๆๆ กอดแน่นๆ ที่รักของไอ้ทิว 





"เดี๋ยวปั๊ด!! ตลกนะมึง" 





ลมแม่งพัดผ่านหน้าโคตรแรง เกือบแล้วกูฝ่ามือแน่นๆ เกือบฟาดลงที่หน้ากูแล้ว!! ดีนะเมียยังมีเมตตาต่อผัว





โอ๊ยย!! รอดตาย





"เฮ้ยที่รัก... นี่ทิวเองไงจำได้ไหม รักๆ รักมากเลยนะเนี้ยะ" 





งานนี้กูเนียนๆ ไปก่อนล่ะวะ เพื่อความอยู่รอด ในใจก็สวดภาวนาคิดหาทางรอด เฮ้ย!! คิดหาทางออกไปเรื่อย คิดๆๆ คิดซิวะไอ้ทิว!!





"พอเลย!! เลิกนัวเนียกูเหมือนหมาได้แล้ว มึงลงไปซื้อของมาให้กูก่อน"



"ซื้อไรคร๊าบ?"  กูต้องเอาตัวรอด!!



"ซื้อตามรายการที่กูเขียนให้ในกระดาษไง แม่ง!! จะเอาลูกมาทิ้งทั้งทีของเขิงก็ไม่ยัดใส่กระเป๋ามาด้วย แม่ใจยักษ์ฉิบหาย" พูดจบมันก็ทำตาเขียวหันมาทางผม



"กูไม่เกี่ยวดิ อย่ามองแบบนั้นกูเสียวหลัง"



"เฮ้อ... รีบๆ ลงไปซื้อของที่จำเป็นมาก่อน แม่กูบอกว่าค่อยเข้าไปหาแม่ที่บ้านพรุ่งนี้ค่ำๆ ฉะนั้นคืนนี้มึงต้องดูแลลูกกำมะลอของมึงเองจำไว้!!"







อร๊ากกกก...





ลูกกำมะลอของกูเหรอ แล้วทำไมต้องเป็นกูด้วยวะ!! ซวยฉิบหาย





"มึงลงไปซื้อกับกูดิ"



"ถ้ากูลงไปแล้วไอ้เด็กคนนี้ล่ะ"



"ก็ให้มันนอนที่นี่แหละ ส่วนมึงก็ลงไปข้างล่างกับกูไง"



"แล้วถ้ามันกลิ้งตกเตียงตายห่าขึ้นมาล่ะ มึงได้ขึ้นหน้าหนึ่งไทยรัฐแน่"





ขึ้นหน้าหนึ่ง... ขึ้นหน้าหนึ่งงั้นเหรอ ว๊ากกก... ไม่เอากูไม่เสี่ยง ตอนนี้กูไม่พร้อมเป็นข่าว





"เออๆ งั้นมึงรอกูแปปนะ เดี๋ยวกูรีบซื้อแล้วจะรีบขึ้นมา"



"อืม... รีบไปรีบมาล่ะ กูไม่ได้ใจดี 24 ชั่วโมงหรอกนะจำไว้ด้วย"



"คร๊าบ... รับทราบครับ รีบไปรีบกลับเลยครับผม"







เมื่อรับคำส่งจากเมียรักให้ไปซื้อของและคำขู่อีกเล็กน้อยผมก็รีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าตังค์แล้วลงไปซุปเปอร์มาร์เก็ตข้างล่างตึกทันที





"หูยยย... กูจะซื้อเป็นไหมเนี้ยะ!!"





ผมมองรายการในแผ่นกระดาษที่จดด้วยลายมือไก่เขี่ยของเมียผมแล้วถึงขั้นถอดใจ ห่าเอ้ย!! แต่ละอย่างนี่กูเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก ตอนที่เลี้ยงเจไดกูได้ซื้อของแบบนี้ไหมกูยังจำไม่ได้เลย ส่วนมากแม่มินนู้นที่ซื้อของใช้มาให้ ไม่ต้องรอให้หมดก็มีใหม่มาเพิ่มให้ตลอด ตายล่ะกู!! เอาไงดีวะเนี้ยะ







ผมเดินถือตะกร้าวนไปวนมาอยู่ช่องนมผงบ้าง แต่มินให้ซื้อนมกล่องแทนครับ มันบอกง่ายดีไม่ต้องชง แบบนี้ก็ได้เหรอวะ แต่เอาเถอะทำตามที่มันบอกนั่นแหละผมขี้เกียจมีปัญหาเพิ่ม หลังจากได้นมมาสองแพ็คผมก็ไปซื้อผ้าอ้อมสำเร็จรูปและของใช้อื่นๆ อีกมากมาย ทำไมของใช้เด็กมันเยอะขนาดนี้วะ แล้วกูจำเป็นต้องซื้อเยอะขนาดนี้ไหม ลูกกูจริงรึป่าวยังไม่รู้เลย







เฮ้ออ.... คิดแล้วเหนื่อยใจฉิบ







ผมยืนจ่ายเงินพนักงานก็มองหน้าผมแปลกๆ ทำไงได้ล่ะ ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปแล้วกัน มองจนกูทำตัวไม่ถูกแล้ว







"กูกลับมาแล้ว มินอยู่ไหน?" 



"ในห้องน้ำ" 





ผมรีบวางของทุกอย่างลงบนนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปหามินทันที





"ทำไรอ่ะ?" 



"ลูกมึงตื่นกูก็เลยอุ้มพามาล้างหน้าอ่ะ"



"เฮ้ย!! อย่าเพิ่งเรียกว่าลูกกูไม่ได้เหรอวะ"



"อ้าว!! แล้วมึงจะให้กูเรียกมันว่าอะไร" มินถามกลับ



"ไม่รู้ดิ กูก็เพิ่งเคยเห็นพร้อมมึงเมื่อวานนั่นแหละ ชื่ออะไรกูยังไม่รู้เลย"



"มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้ไหมทิว"



"ก็มึงกับกูไม่รู้ด้วยกันทั้งคู่ไง"



"เฮ้ออ... กูล่ะเหนื่อยใจ ถอยไปดิ" มินอุ้มเด็กคนนั้นเดินผ่านผมไป หน้าตามันก็น่ารักดีนะ แต่....



"แล้วนี่เราต้องเลึ้ยงมันอีกนานป่าววะ?"





ควับ!!!





"มองหน้ากูทำไม กูพูดอะไรผิด"



"มึงพูดไม่ผิดแต่มึงพูดได้โง่มากทิว"



"โธ่!! ก็มันใม่ใช่ลูกกูจริงๆ นะมิน"



"พอๆ เลิกพูดได้ล่ะ อ่ะนี่ผ้า"



"เอามาให้กูทำไมอ่ะ?" 



"เอามาเช็ดก้นมึงมั้งทิว เช็ดหน้าเนี้ยะๆ เห็นไหม" มินมันชี้ไปที่ไอ้เด็กคนนั้น



"เออๆ เช็ดก็เช็ดวะ"





ผมจัดการเอาผ้าที่มินยื่นให้ค่อยๆ เช็ดหน้าให้เด็กนั่นเบาๆ





"ทิวเสร็จแล้วไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าลูกกำมะลอมึงมาด้วยนะ วางอยู่ข้างๆ รถเข็นนะ"



"กูจะบ้าตาย ได้ยินคำว่าลูกเหมือนโดยฟ้าผ่าลงกลางใจกูเลย"





ผมเดินออกไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้างรถเข็นตามที่มินบอก ระหว่างที่ก้มลงไปหยิบสายตาผมกก็เหลือบไปเห็นกระเป๋าใบเล็กๆ อีกใบ





"มินกูเจอนี่อยู่ใต้รถเข็นด้วย" ผมยื่นกระเป๋าอีกใบให้มิน



"มึงเอามาจากไหน?"



"ก็ที่วางของใต้รถเข็นเด็ก"



"เมื่อคืนกูก็ไม่ได้สังเกตุ เห็นแต่ใบนี้เลยค้นๆ หาเสื้อมาเปลี่ยนให้เฉยๆ อ่ะ"



"เปิดดูดิ มีอะไรบ้างกูอยากรู้"



"แล้วทำไมมึงไม่เปิดเอง เผื่อมึงจะจำได้ว่าแม่มันคนไหน"





ผ่าง!!!





กูโดนไปอีกดอก เสียงหัวเราะเด็กน้อยดังขึ้นมันมองผมกับมินสลับกันไปมา มันก็หยุดยิ้มแล้วก็กลับมาหัวเราะใหม่



"ขำนะมึง พ่อมึงตลกมากรึไง" มินหันไปว๊าก



"มึงก็พูดดีๆ หน่อยมิน อย่างน้อยมันก็เด็กผู้หญิงนะเว้ย เด็กตกใจหมด"



"เด็กผู้หญิงห่าอะไรล่ะ ผู้ชายโว๊ย!!"



"ห๊ะ!! จริงดิ" 



"เออดิ!!" มินตอบเสียงหนักแน่น



"ใช่เหรอวะ หน้าแม่งโคตรแบ๊วเลย แล้วมึงรู้ได้ไงว่ามันเป็นเด็กผู้ชาย"



"ก็เมื่อคืนมันร้องแหกปากเสียงดังตอนกูกลับมาที่ห้อง พอมันเห็นกูเดินเข้ามามันก็แหกปากหนักกว่าเดิม กูเอาขวดนมข้างตัวมันยัดใส่ปากให้มันก็ไม่หยุดยิ่งร้องหนักกว่าเดิมอีก" มินเล่าเป็นนฉากๆ 



"แล้วไงต่อ?"



"กูก็เลยอุ้มมันขึ้นมาจากรถเข็น ห่า!! ขี้เหม็นฉิบหาย" 



"กร๊ากกกก... มันขี้แตกใส่มึงเหรอ ฮ่าๆๆ กูลั่นเลย" ผมหัวเราะลั่น ขำแม่งอ่ะ 



"มึงตลกมากเหรอทิว" 



"เฮ้ย! ป่าวๆๆ ไม่ตลกเลย ฮ่าๆ แล้วมึงทำยังไงต่อ?" 





ผมต้องกลั้นขำอย่างหนัก เดี๋ยวมินของขึ้นผมจะซวย





"ทำไงล่ะ กูก็กลั้นหายใจแล้วพามันเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำอ่ะดิ ตอนแรกกูก็คิดว่าเป็นเด็กผู้หญิงเหมือนมึงนั่นแหละ กูเลยหลับตาแล้วล้างก้นให้มัน"



"แล้วมึงล้างสะอาดเหรอวะ หลับตาล้างอ่ะ"



"ไม่รู้เว้ย!! ตอนนั้นกูไม่กล้ามองนี่หว่า แต่พอล้างไปดันไปจับบโดนไข่มันกูก็เลยค่อยๆ ลืมตาขึ้นดูเลยรู้ว่ามันเป็นเด็กผู้ชาย"



"ฮ่าๆๆ จับโดยไข่ เหี้ยกูขำจนปวดท้องไปหมดแล้ว"



"หัวเราะให้ตายไปเลยนะมึงอย่าหยุด" 





ผมแม่งกลั้นไม่อยู่จริงๆ ฟังมินมันเล่าจากเครียดๆ อยู่ก็ทำเอาผมหัวเราะลั่นเพราะมันนี่แหละ ไอ้เด็กนี่ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากเป็นลูกคู่ผมซะงั้น





"ฮ่าๆ กูเลิกหัวเราะก็ได้ แต่มันขำจริงๆ นี่หว่า มึงเล่ามาซะขนาดนั้น"



"แต่กูไม่ตลกด้วย!! ถ้ามึงจะอารมณ์ดีขนาดนี้มึงก็เอาลูกมึงไปเลี้ยงเองแล้วกัน" 



"เฮ้ยๆ ไม่ได้ดิ ไหนมึงบอกจะช่วยกันคิดไง ช่วยกันคิดก็ต้องช่วยกันเลี้ยงด้วยดิ นะๆ อย่างน้อยก็เลี้ยงจนกว่ากูรู้ว่าแม่มันเป็นใครกูจะเอาไปคืนแม่มันไง"



"เออ!! พูดมากจริง มึงควรหยุดหัวเราะแล้วคิดมาว่าไปทิ้งไข่ไว้ที่ใครบ้าง แล้วผู้หญิงที่เอาลูกมาทิ้งให้มึงอ่ะเป็นใคร มึงจำเขาได้ไหม?"



"เออ... แคทไหนวะ กูรู้จักรึป่าว"



"หืออ... ทีงี้จำชื่อแม่นเลยนะมึง!!" ผมสะดุ้งเฮือก ช่วงนี้หลบหลีกต้องไว เดี๋ยวมือเดี๋ยวตีนมาเต็มแน่ๆ 



"ป่าวๆ กูจำไม่ได้ไง กูก้อพูดตามที่อ่านในการ์ดใบนั้นนั่นแหละ"





อย่าจ้องกูแบบนั้นคร๊าบบ... กูพูดความจริงล้วนๆ นะเว้ย ย้ำเรื่องจริง!!





"แล้วจะเอาไงต่อ?" 



"กูว่าจะไปขอดูกล่องวงจรปิด อย่างน้อยก็น่าจะเห็นอะไรบ้างมึงว่าไหม"



"อืม... งั้นมึงโทรลงไปบอกพนักงานที่ดูแลดิ ว่าแต่มึงจะบอกเขาว่าอะไรล่ะ?"



"เออว่ะ งั้นขอกูคิดแป๊ปนะ"



"อืม... ระหว่างคิดมึงก็ไปเทนมใส่ขวดให้ลูกมึงด้วย มันกัดเสื้อกูจะขาดอยู่ล่ะ"



"เทใส่ขวดไหน?"



"ขวดนมไง!! กูให้เทใส่ขวดเหล้ามั้งทิว"



"อ้าว!! กูนึกว่าใช่ หึหึ!" "ไร้สาระสุด! อ้าวเฮ้ย!! มึงจะกัดเสื้อกูอีกนานไหม" 





ผมสะดุ้งแทนเลย แต่เชื่อป่ะไอ้เด็กนั่นมันหัวเราะชอบใจเฉยเลย มึงไม่กลัวเมียกูเหรอมันดุนะเว้ย!! 





"กูว่ามันชอบมึงนะมิน หึหึ" ผมแกล้งพูดหยอก



"อยากตายเหรอทิว" มันทำหน้าโหดใส่ผมแล้วเดินออกจากห้องไปเลยครับ





ตอนนี้ในห้องเหลือแค่ผมกับไอ้ลูกชายกำมะลอกำลังมองจ้องหน้ากันอยู่สองคน มันจ้องผม ผมจ้องมัน    เอาเด้!! ใครหลบตาก่อนคนนั้นแพ้เว้ย!!





"แอ๊ะ! มัมๆ หม่ำ" แล้วมันก็พูดคนเดียวไปเรื่อย มองเพดานบ้าง มองหน้าผมบ้าง



"มึงลูกใครวะ?"





ผมจ้องหน้าไอ้เด็กนั่น มันมองหน้าผมแล้วยิ้มเฉย









"ปา.. ปาปา"







"เฮ้ย!! ไม่ใช่โว๊ย!!"







ช๊อกแดกอ้าปากค้างเลยกู เรียกมาได้ ปาปาพ่องดิ!! กูอยู่ไม่ได้แล้วไปเทนมให้มันด่วนเลยจะได้แดกแล้วหลับๆ ไป ขนลุกสาดดดด...







"เป็นอะไรทำไมทำหน้าทำตาอย่างกับเห็นผี" ผมรีบเดินออกจากห้องมานั่งลงข้างมิน



"ผีเด็กอ่ะดิ น่ากลัวฉิบหาย"



"แล้วมึงออกมาไอ้เด็กนั่นมันจะอยู่กับใคร?"



"มันก็นอนอยู่บนเตียงนั่นแหละ"





แม่ง!! เรียกกูซะขนลุกเลย เสือกยิ้มอีกต่างหาก 





"เฮ้ออ... งั้นมึงไปเอาผ้านวมมาปูแล้วให้มันนอนที่พื้นตรงนี้ ปล่อยให้มันนอนคนเดียวเดี๋ยวมันก็กลิ้งตกเตียงหรอก" มินพูดอย่างเหนื่อยใจ



"มึงไปอุ้มมันดิ" 



"เอ้า!! เรื่องอะไรมาใช้กูล่ะ มึงนั่นแหละไป"



"เออๆ ก็ได้วะ แล้วนมล่ะ" 



"แม่งวุ่นวายฉิบหาย มึงไปอุ้มมันออกมาเดี๋ยวกูไปเอานมให้มันเอง"



"เวรกรรมอะไรของกูวะเนี้ยะ" 





ผมเดินกลับเข้ามาในห้องก็เห็นมันนอนคว่ำเอาหน้ามุดผ้าห่ม แม่งเหมือนหมาเลยว่ะ





"เฮ้ยๆ น้ำลายมึงอ่ะเต็มที่นอนกูแล้วมั้ง"





มันเงยหน้ามายิ้มครับ ยิ้มแบบเหมือนคนไม่รู้สึกตัวว่ากำลังโดนด่า





"มองหน้ากูทำไมวะ" 





มันหัวเราะครับ อารมณ์ดีอะไรหนักหนา กูนี่เครียดจะตายห่าล่ะ







พอผมเดินเข้าไปใกล้มันก็เหมือนรู้งาน อ้าแขนออกเหมือนจะให้ผมอุ้ม แสนรู้เหมือนหมาเลยนะมึง ผมเดินเข้าไปอุ้มมันขึ้นแนบอก อีกมือก็คว้าลากเอาผ้าห่อนวมออกมาด้วย







มินนั่งมองผมอยู่ตรงโซฟาในห้องนั่งเล่น ไอ้เด็กนี่ก็ดิ้นจังวุ้ย!!







"มองอะไร?"  ผมวางผ้านวมลงบนพื้นแล้วเอาตีนเขี่ยๆ ก่อนจะวางไอ้เด็กนั่นลงบนผ้า



"มองว่ามึงสองคนหน้าเหมือนกันรึป่าว" มินมันตอบแบบนี้ให้ผมทำไง เอ๋อเลย... เออ... ว่าแต่มันหน้าเหมือนกูรึเปล่าวะ



"เฮ้ย!! จะเหมือนได้ไงล่ะมันไม่ใช่ลูกกู!" ผมยืนยันเสียงหนักแน่น



"หึ!! ให้มันจริงเหอะ"



"โถถ... ที่รัก กูจะมีลูกได้ไงล่ะหื้อ... แต่ถ้ากูจะมีกูอยากมีลูกกับมึงคนเดียวนะ"





ฟอดดด....





ผมโผลเข้ากอดพร้อมกับหอมปลอบใจเมีย





"เอาหน้ามึงออกไปไกลๆ ก่อนที่กูจะรำคาณมึงไปมากกว่านี้!" 





เฮื้อกกกก.... แบบนี้กูตายแน่ๆ หน้ามันโคตรจริงจังบ่งบอกว่าไม่ได้พูดเล่น ไม่เอาๆ ช่วงนี้อย่าเพิ่งขัดใจมันเลยเดี๋ยวจบไม่สวย ผมค่อยๆ ผละออกมาจากเมียรักอย่างเสียดาย เสียใจจังเมียไม่รักแล้ว งือออ.... มินมันไม่สนใจผมเลยเพราะมันกำลังรื้อกระเป๋าใบเล็กของไอ้เด็กนั่นอยู่





"มีอะไรบ้าง ใบเกิดอ่ะมีป่ะ ไอ้เด็กนี่ชื่อไรมีเขียนบอกไหม?" ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ สนใจๆ คือกูอยากรู้ไงว่ามันมีประวัติอะไรบ้าง ข้อมูลที่พอจะเอาไปสืบต่อได้





"ถอยไปดิ!!"  มินว๊ากขึ้นเสียงดัง อย่าว่าแต่กูตกใจเลย นู้นๆ มึงดูไอ้เด็กนั่นด้วยมันจ้องมึงตาแป๋วแล้วคร๊าบบบ...





"เจออะไรบ้าง มิน... มิน...." "เงียบปากเหอะน่า!!!"







อย่าว่าแต่กูสะดุ้งเลย แม้แต่เด็กก็ยังไม่เว้นงานนี้สะดุ้งคู่ โถถถ... ไอ้เด็กน้อยเอ้ยกูว่ามึงมาหาพ่อมึงผิดบ้านแล้วว่ะ ถ้ามึงอยากได้พ่อที่ดีแม่ที่ดูแลลูกเก่งๆ กูว่าบ้านกูไม่มีสิ่งนี้ให้มึงแน่นอน ไว้อาลัยนั่งตัวตรงแล้วสงบนิ่งสามวิ







TBC.



ฝากเม้นเป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยนะคะ








ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โถ. มินน่ารักอ่ะ เป็นห่วงอิป๋าใช่มั๊ยล่ะ

เด็กน้อยก็น่ารัก น่าเอ็นดูอ่ะลูก

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3005
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
กรี๊ดดดด ลุ้นมาก ลูกใครหว่า???

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ทิว❤มิน】



【EP.23 ลูกใครหว่า?】









ตอนนี้ห้องผมเต็มไปด้วยนักสืบมือหนึ่ง พันทิพย์ต้องแพ้ โคนันยังไม่กล้าสู้เลยครับ เพราะ.....





"เฮ้ย! ลูกเฮียโคตรน่ารักเลยอ่ะ"





ป๊าบ!!!!





"ไอ้ห่านัน มึงจะพูดอะไรมึงช่วยดูหน้าเพื่อนมึงด้วย" ไอ้นันลูบหัวปอยๆ เมื่อถูกฝ่ามืออรหันต์ของไอ้บี้เข้าไป เออดีกูไม่ต้องเสียแรงลงไม้ลงมือเอง



"ถ้าจะมาปากหมาไม่ได้ช่วยอะไรมึงกลับบ้านมึงไปเลยไอ้นัน สัส!!" 





คราวนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เมียกูเอง!! 





"โหห... มึงก็ว่าไปนั่น กูพูดเล่นเว้ยเพื่อน หน้าตาไม่เห็นจะเหมือนเฮียตรงไหนเลย จริงป่ะไอ้ทีน"



"พอๆ พวกมึงหุบปากกันสักห้านาทีได้ไหมวะ กูเริ่มปวดหัวแล้ว" ผมกุมขมับแน่น





ติ๊ง.... //กูอยู่หน้าห้องล่ะ//

ไอ้ฟิวส่งข้อความมาหาผม





"เป็นเหี้ยอะไรไม่กดกริ่งหน้าห้อง" อารมณ์กูตอนนี้สวิงสุดๆ ไปเลย



"ใคร?" มินหันมาถาม "มินไปเปิดประตูให้ไอ้ฟิวดิ" 



"อืม..." มันตอบแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ไอ้ฟิวตามที่ผมบอก





แกร็ก....





"สวัสดีครับ"



"หึ... หน้าตาเคร่งเครียดเลยนะเรา ยิ้มหน่อยดิ ทำหน้าแบบนี้ไอ้ทิวมันเครียดตามแล้วมั้ง หึหึ" 



"ยิ้มไม่ออกพี่ผมเหนื่อย" 



"ใจเย็นๆ เชื่อใจไอ้ทิวมันหน่อย" ไอ้เนย์ตบลงที่ไหล่มินเบาๆ 



"มากันครบเลยเว้ย!" ไอ้มาร์เดินมานั่นลงข้างไอ้ทีน



"ทำไมมาช้านักวะ?" ผมถามขึ้น



"รอไอ้หมอ มันเพิ่งออกเวร"



"แล้วไอ้ปูหายหัวไปไหนวะ?"



"มันไปรับเมียมันดิ มึงหัวร้อนอะไรขนาดนั้นวะใจเย็นๆ ดิ"



"มึงไม่เป็นกูมึงไม่รู้หรอกไอ้มาร์ แม่งกูปวดหัวฉิบ"



"เอาน่า... ไหนๆ กูขอดูหน้าหลานกูหน่อยดิ" ไอ้มาร์พูดขึ้น





ไอ้สัส!! กูเพื่อนมึงไหม 





"โหหห... น่าตาโคตรน่ารักเลยวะ"





ไอ้หมอมึงอยากตายใช่ไหม ห๊ะ!!





"มึงเอาไงต่อ?" ไอ้ฟิวหันไปผลักหัวไอ้ห่ามาร์แล้วหันกลับมาถามผม



"กูว่าจะลงไปขอดูกล้องวงจรปิด กูโทรลงไปบอกผู้จัดการที่ดูแลที่นี่แล้ว"



"อืมก็ดี งั้นไปกันเลยไหมเผื่อจะได้รู้อะไรเพิ่มบ้าง มินเจอข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับเด็กคนนี้บ้างไหม?" ไอ้ฟิวหันไปถามมิน



"ไม่มีเลยพี่ ค้นในกระเป๋าก็มีแต่ใบเสร็จซื้อของเอกสารอะไรก็ไม่มี"



"อย่ามองกูแบบนั้นดิ" มินหันมามองผมด้วยสายตาโคตรน่ากลัว น่ากลัวเรื่องจะจบยากวะ



"เออๆ งั้นกูว่าพวกเราเริ่มจากดูกล้องวงจรปิดแล้วกัน"



"งั้นมึงลงไปกับกู มินด้วย ส่วนคนอื่นรออยู่นี่แหละ" 





ทุกคนพยักหน้ารับทราบ ส่วนผมกับมินแล้วก็ไอ้ฟิวลงไปข้างล่างเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดจากทางคอนโด





...







"สวัสดีครับคุณทิว" 



"สวัสดีครับ พอดีผมแจ้งผู้จัดการไว้ว่าจะขอดูกล้องวงจรปิดน่ะครับ"



"อ่อได้ครับได้ ผู้จัดการแจ้งผมไว้แล้วครับ เชิญคุณทิวทางนี้เลยครับ"





พวกผมสามคนเดินตามพี่พนักงานไปที่ห้องควบคุมภายในคอนโด เราสามคนถูกเชิญให้นั่งรอที่โซฟารับแขกก่อนที่พนักงานสาวอีกคนเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำเย็นๆ สามแก้ว





"น้ำค่ะ" พนักงานยิ้มให้ผม



"ขอบคุณครับ" ผมตอบรับเธอตามมารยาท แล้วเธอก็เดินออกไป



"คอนโดนี้ดูแลลูกบ้านดีจริงๆ ว่ะ มีน้ำเย็นๆ พร้อมรอยยิ้มซะด้วย หึหึ" ผมหันไปมองไอ้ฟิว



"หึ!" 



"หึอะไร?" ผมหันไปถามมิน



"กูหึเเฉยๆ ไม่ได้ไง!" 



"แล้วมึงจะหึเเฉยๆ ทำไม?" 



"เรื่องของกู!!" พูดจบมันก็หยิบโทรศัทพ์ขึ้นมากด ผมนี่งงแดกไปเลย



"เฮ้ยๆ พอ อย่าเพิ่งหาเรื่องเพิ่ม มึงเอาเรื่องนี้ให้จบก่อนไอ้ทิว" 



"กวนตีนกูตลอด" ผมผลักหัวมินด้วยความมันเขี้ยว มันมองหน้าผมตาเขม็งเลย



"คุณทิวเชิญทางนี้ครับ"





ผมลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนที่หน้าจอ CCTV ขนาดใหญ่ มินกับไอ้ฟิวก็เดินตามมาด้วยเช่นกัน





"ผมเริ่มเปิดให้ดูตามวันและช่วงเวลาที่คุณทิวแจ้งเลยนะครับ"



"ได้ครับ ขอบคุณมาก"







ภาพในกล้องวงจรปิดเริ่มฉายหลังจากที่ผมและมินกลับมาที่ห้องหลังจากออกไปข้างนอกวันนั้น ช่วงเวลาหลังจากกลับเข้ามาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มีคนที่อาศัยอยู่ในคอนโดชั้นเดียวกับผมเดินเข้าออกตามปกติ แต่ภาพที่ผมเห็นในนาทีที่ห้าสิบหกคือภาพที่ประตูลิฟท์เปิดออกแล้วมีผู้หญิงหนึ่งคนเดินเข็นรถเข็นเด็กออกมาจากลิฟท์แล้วเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องผม







"เฮ้ยๆ นี่ไงทิวไอ้เด็กนั่นอ่ะ"



"เออ... กูเห็นแล้ว"



"กูเห็นหน้าผู้หญิงไม่ชัดว่ะ แต่กูทำไมรู้สึกว่าสวยวะ" ไอ้ฟิวพูดขึ้น



"ไอ้ฟิว!!" 



"เออๆ กูขอโทษ ฮ่าๆ ดูต่อเนอะ"







ผู้หญิงคนนี้หยิบกระเป๋าสองใบที่ห้อยอยู่ที่รถเข็นเด็กและที่เธอสะพายมาอีกใบยัดใส่ใต้รถเข็นเด็กอย่างรีบร้อน หลังจากเธอจัดแจงทุกอย่างเสร็จเธอก็ก้มลงไปคุยกับเด็กคนนั้นก่อนจะยื่นมือเข้าไปในรถเข็นแล้วทำอะไรสักอย่าง เธอมองซ้ายมองขวาอยู่สักพักก็เริ่มกดกริ่งหน้าห้องของผมหลายต่อหลายครั้งแล้วก็เดินหายไปทางบันไดหนีไฟ โดยที่ทิ้งเด็กคนนั้นไว้หน้าห้องผม





"แม่ง!! มาง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอวะ" มินพูดขึ้น



"มึงคุ้นหน้าไหมไอ้ทิว?" ไอ้ฟิวมันถามผม



"โหห... พี่ฟิวถ้ามันจำหน้าคนที่มันนอนด้วยได้หมดก็เทพแล้วมั้ง!!"



"มิน!!" ผมเรียกชื่อมันเป็นการเตือน







เอาจริงๆ ผมไม่คุ้นหน้าเธอเลยจริงๆ ที่มินมันพูดก็มีถูกแต่ผมไม่ชอบที่มันมาพูดประชดผมตอนนี้ ในคลิปผู้หญิงคนนี้ยืนก้มหน้าตลอดไม่ค่อยเงยหน้าเลยทำให้ผมมองไม่ค่อยถนัด







"โทษนะครับ ช่วงเวลาที่นี้ไม่มีคนนั่งเฝ้ากล้องวงจรปิดเหรอครับ?" ผมถามพี่พนักงาน



"น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ผมกับน้องอีกคนผลัดเปลี่ยนกันครับ ผมกลับมานั่งดูจออีกทีก็เห็นคุณทิวออกมาเข็นรถเข้าห้องพอดี ก่อนหน้านี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ เพิ่งมาเห็นพร้อมคุณทิวนี่แหละครับ และผมก็เห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติผมกก็เลย...."  พี่พนักงานอธิบายให้ผมฟัง ผมได้ยินอย่างนั้นถึงขั้นถอนหายใจเเฮื้อกใหญ่





"แล้วมีกล่องไหนจับภาพผู้หญิงคนนี้ได้อีกไหมครับ" มินถามขึ้น



"รอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมเช็คให้" พี่พนักงานรีบเช็คให้ทันที



"กูว่าต้องมีก่อนหน้านั้นอีก ผู้หญิงคนนี้อาจจะเคยตามมึงมาที่ห้องก่อนหน้านี้ก็ได้ เพราะดูแล้วเธอค่อนข้างรู้ทางเข้าออกได้ดี" ไอ้ฟิวหันมาพูดกับผม



"กูก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน"



"มีภาพที่ทางหนีไฟครับ เธอเดินไปลงอีกชั้นแล้วเดินไปลงลิฟท์ครับคุณทิว"







ผมมองภาพตามที่พี่พนักงานเปิดให้ดู มีภาพเธอคนนี้เดินออกจากลิฟท์ชั้นล่างแล้วเดินไปยังลานจอดรถหน้าคอนโด





"พี่ๆ หยุดภาพแป๊ปครับ" มินพูดขึ้นหลังจากยืนเงียบมาสักพัก 



"ทิวเลขทะเบียน พี่ฟิวตามเลขทะเบียนได้นิ"



"พี่ครับ ช่วยขยายภาพนี้ให้ผมหน่อย" 



"ได้ครับ" พี่พนักงานหยุดภาพแล้วทำตามที่ผมขอ



"แบบนี้ก็ง่ายขึ้นอีกนิด" ไอ้ฟิวตบไหล่ผมเบาๆ



"ผมถ่ายรูปไว้ได้ไหมครับ?" มินถามพี่พนักงาน



"เอ่อ...." พี่พนักงานทำท่าลำบากใจ



"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมโทรคุยกับผู้จัดการคอนโดเอง เดี๋ยวยังไงผมรบกวนพี่ช่วยเช็คภาพย้อนไปอีกสักหนึ่งอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ก็ได้ ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติผมรบกวนพี่แจ้งผมทีนะครับ" ผมบอกพี่พนักงาน



"ได้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่ามันเป็นกฏของทางคอนโด ถ้าผมไม่ได้รับคำสั่งจากทางหัวหน้าผมไม่สามารถให้ข้อมูลออกไปจากห้องนี้ได้จริงๆ ครับ"



"ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจ ผมขอให้พี่ช่วยเช็คให้ผมอีกทีแล้วกันนะครับ ถ้ามีอะไรโทรหาผมได้ทุกเวลา"



"ได้ครับ เดี๋ยวผมรีบเช็คกล้องให้เลยครับ ขอบคุณมากนะครับที่เข้าใจผม"



"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ครับ"







พวกผมสามคนเดินออกจากห้องควบคุมโดยมีพี่พนักงานเดินออกมาส่งที่หน้าห้อง มินทำท่าหงุดหงิดที่ไม่ได้ถ่ายรูปทะเบียนรถออกมาด้วย ผมหันไปมองแล้วส่ายหัวเล็กน้อย 







"ทำไมไม่ได้วะแค่ถ่ายรูปแค่นี้เอง" 



"มันเป็นกฏของเขา มึงก็เข้าใจเขาหน่อย"



"แล้วมีคนแปลกหน้าเอาเด็กมาทิ้งหน้าห้องง่ายๆ แบบนี้ใครรับผิดชอบวะ" 





ผมหยุดเดินแล้วหันไปมองมิน มันจ้องหน้าผม หงุดหงิดง่ายจริงๆ เมียกู





"มานี่ดิ" ผมเรียกมิน



"อะไรอีก!!"  มันเดินทำหน้าหงุดหงิดเข้ามาหาผม ไอ้ฟิวก็เดินขำท่าทางของมิน



"มึงใจเย็นๆ ได้ข้อมูลแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว ใช่ไหมวะไอ้ฟิว?" 



"เออ... หึหึ" ไอ้ฟิวตอบ ผมกอดคอมินแล้วผิวปากอารมณร์ดี



"หมายความว่าไง?" มินถามผม



"มึงคิดว่าไอ้ฟิวเพื่อนกูเป็นคนยังไงล่ะ?" ผมถามกลับ



"พี่ฟิวทำไมวะ กูจะรู้ไหมล่ะ!! มึงจะพูดอะไรก็พูดมาเลยทิว"



"หึหึ แค่ทะเบียนแค่นี้ไอ้ฟิวมองแค่สามวิมันก็จำได้แล้ว มึงคิดว่าเพื่อนกูธรรมดารึไง"





ผมขยี้หัวมินด้วยความมันเขี้ยว







อารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยครับเพราะอย่างน้อยผมก็รู้ทะเบียนรถผู้หญิงคนนั้นแล้ว ต่อไปข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้คงไม่ยากเกินความสามารถของผมกับเพื่อนๆ หรอก







"จริงดิพี่ฟิว?" มินหันไปถามไอ้ฟิว



"อืม... ทะเบียนก็ชัดอยู่นะ เดี๋ยวพี่จัดการต่อให้" ไอ้ฟิวตอบ



"โหหห... เจ๋งวะ" มินยิ้มแฉ่ง



"สบายใจยัง?" ผมถามมิน



"ยัง!!" 



"ทำไม?" 



"กูยังไม่ได้คำตอบทั้งหมดไง!!" มันว๊ากใส่ผม ไอ้ฟิวขำกร๊ากเลยครับ







เฮ้อออ.... งานนี้กูคงต้องเหนื่อยไปอีกสักพัก







ภาพที่ผมเห็นหลังจากลงไปดูกล้องวงจรปิดคือ.....







แง~~ แง~~







"เฮ้ยๆ มึงรับผิดชอบเลยไอ้ทีน มึงทำลูกเฮียร้องไห้"



"อะไร!! กูไม่ได้ทำไรเลยเหอะ ไอ้นันมึงนั่นแหละเมื่อกี้แย่งกูอุ้มลูกเฮียเลยร้องไห้เลย"



"เฮ้ย!! กูยังไม่ทันได้อุ้มเลยเหอะ มึงอุ้มอยู่คนเดียว"



"ไอ้สัส!! เมื่อกี้มึงแย่งกูอุ้ม"



"กูเปล่า!!"



"มึงแย่ง!!"



"เฮียเนย์เอาน้ำมาสาดหน่อยดิ หมาแม่งกัดกันว่ะ" ไอ้บี้หัวเราะชอบใจ







แง~~ แง~~







"กูว่าพวกมึงควรหาทางให้เด็กหยุดร้องก่อนไหม" ไอ้เนย์พูดจบก็หันไปกดโทรศัพท์ต่อ



"แต่เฮียเป็นหมอนะ ช่วยหน่อยดิ"



"อ้าว!! กูไม่ใช่หมอเด็กไอ้ฟาย!! ลูกเมียกูก็ยังไม่มีกูทำไม่ได้เว้ย!!" ไอ้เนย์หันไปว๊าก







พวกผมสามคนเดินเข้ามาในห้องแล้วยืนมองความวุ่นวายอยยู่สักพักพวกมันยังไม่รู้ตัว พวกมันเถียงกันดังลั่นแข่งกับเสียงเด็กร้องไห้







แง~~ แง~~







"โอ๋ๆๆ พี่ขอโทษน้า หยุดร้องนะครับ เดี๋ยวป๊าหนูฆ่าพี่ทำไงอ่ะ พี่ขอโทษคร๊าบบ..."







ไอ้ทีนวางเด็กลงบนผ้านวมแล้วก้มกราบหวังว่ามันจะหยุดร้องไห้ โถไอ้สัส!! ควายล้วนๆ ไม่มีวัวปน







"เอาแล้ว... กูว่างานนี้มึงไม่รอดแน่ ทำลูกเฮียร้องไห้ไม่หยุดเลย"







...







"เฮ้ออ... กูว่าพวกมันมาสร้างความฉิบหายมากกว่ามาช่วยคิดนะ" ไอ้ฟิวพูดขึ้น







ทุกคนได้ยินดังนั้นจึง....







"เฮียยยยย...."





พวกมันแหกปากเรียกขึ้นพร้อมกัน





"พวกมึงทำอะไรกันวะ" ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟา ไอ้สามตัวนั้นเลื้อยลงไปนั่งพื้นกันหมด 



"พวกมึงทำไรมัน?"





มินเดินเข้าไปนั่งลงที่พื้นกับพวกเพื่อนๆ มัน ส่วนไอ้ฟิวเดินมานั่งข้างผม





แง~~ แง~~





"มินๆ น้องมันมองมึงอ่ะ นั่นๆ ควักมือเรียกมึงด้วย"





ป๊าบ!!





ฝ่ามือย่อมๆ ฟาดลงที่กลางหัวไอ้ทีน





"ควักมือเรียกบ้านมึงดิ"







คือเด็กไม่ได้ควักมือเรียกอย่างที่ไอ้บี้มันพูดหรอกครับ แต่เด็กมันมองมินคนเดียวแล้วเหมือนอยากจะให้มินอุ้มมากกว่ามั้ง เพราะมันพยายามกระดื้บๆ ไปหามิน เหมือนมันจะคลานแต่มันพยุงตัวเองยังไม่ได้มั้งครับ







"มินอุ้มมันดิ มันอยากให้มึงอุ้มมั้ง" ผมพูดบอกมิน



"มึงรู้ใจมันขนาดนั้นเลย" 



"อ้าว!! กูเห็นมันกระดื้บเป็นหนอนไปหามึงขนาดนั้น"



"รู้ดี! มานี่ไอ้อ้วน" 





มินยื่นมือทำท่าจะอุ้มไอ้เด็กนั่นก็ดิ้นใหญ่เลย มันหยุดร้องแล้วครับแต่น้ำหูน้ำตานี่เต็มหน้าไปหมด 





oO!!





พวกผมทุกคนมองหน้ากัน





"มึงเรียกใครไอ้อ้วนวะ?" ไอ้นันเสี่ยงชีวิตถาม



"ก็ไอ้เด็กนี่ไง อ้วนขึ้นอีกนิดก็ตัวแตกแล้วมั้ง" มินอุ้มมันขึ้นนั่งบนตัก



"หึหึ..." ผมหลุดขำอย่างกลั้นไม่อยู่



"มึงขำไรทิว?" มินมันหันมาถามผม



"ป่าวๆ กูว่ามึงเรียกมันได้เหมาะดี ไหนๆ มันก็ยังไม่มีชื่อก็เรียกมันแบบนี้ไปก่อนแล้วกัน"



"ไอ้อ้วนๆ ไอ้อ้วน ฮ่าๆๆ น่ารักดีวะ"





ไอ้บี้ไอ้ทีนเรียกไอ้เด็กนั่นพร้อมกับหัวเราะชอบใจ แต่มึงเอ้ย!! ไม่ได้ดูหน้าเพื่อนมึงเลย!





"หุบปาก!!"





พวกไอ้ทีนโดนว๊าก สมน้ำหน้ามึงไม่รู้เวล่ำเวลาเลย! พวกมันสามคนหันไปทำปากมุบมิบใส่กันเฉย แม่งไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานะพวกมึงเนี่ย







"เฮียสรุปว่าไง ลงไปดูกล้องแล้วเจอไรบ้างเล่าดิ" ไอ้นันถามขึ้น



"เห็นหน้าไม่ชัดแต่ได้เลขทะเบียนรถมา" ผมตอบมัน



"แล้วเอาไงต่ออ่ะเฮีย?" ไอ้ทีนถามต่อ



"ไม่เอาไง รอไอ้ฟิวไปหาข้อมูลมาก่อน"



"แล้วไอ้เด็กนี่ล่ะ มึงจะเอาไง?" มินหันควับมาถามทันที



"ก็คงต้องเลี้ยงมันไปก่อนมั้ง"



"มั้ง? เมื่อไหร่! ต้องเลี้ยงมันถึงเมื่อไหร่ กี่ชั่วโมง กี่วัน กี่เดือนห๊ะ!!"



"เฮ้ยมินมึงใจเย็นๆ ก่อนดิ" ไอ้ทีนสะกิดเพื่อนตัวเอง



"เอาไปฝากแม่กูไว้ก่อนก็ได้นิ กูไม่ให้มึงเลี้ยงมันหรอกน่า"



"แล้วมึงบอกพ่อแม่มึงยังว่ามึงมีลูกโผล่มาให้เขาเลี้ยงเนี้ยะ แล้วมันใช่เรื่องที่มึงจะไปผลักภาระให้ผู้ใหญ่เขามาเดือดร้อนกับมึงด้วยรึป่าวทิว เรื่องมันเกิดจากมึงนะมึงต้องเป็นคนจัดการแล้วแก้ปัญหาดิไม่ใช่ไปรบกวนพ่อกับแม่"







เป็นชุดเลยกู สรุปกูควรทำยังไงวะเนี้ยะ!! ปวดหัวฉิบหาย







"อ้าว!! แล้วมึงจะให้กูทำยังไงให้มึงพอใจล่ะ ถ้าเอาไว้นี่มันก็เป็นภาระมึงกับกูอีก ไหนมึงจะมาว๊ากกูเพราะเรื่องไอ้เด็กนี่อีก"



"ถ้ามึงเป็นกูล่ะ มึงจะรู้สึกยังไง!"







ผมกับมันต่างจ้องหน้ากัน ตามันนี่แถบจะถลนออกมาจากเบ้าอยู่ล่ะ ไอ้เหี้ยน่ากลัวฉิบหาย ส่วนไอ้พวกที่นั่งอยู่ก็หลบเข้ามุมถอดวิญญาณกันหมด







"เฮ้ออ... มันจะไปยากอะไรวะ" 







ทุกคนหันไปมองไอ้เนย์ด้วยสายตาเดียวกัน เพราะมันเป็นหน่วยกล้าตายที่เดินฝ่ามากลางสงครามเย็น ไอ้เนย์เก็บโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเอนหลังพิงโซฟาก่อนจะนั่งไขว่ห้างอย่างสบายใจ







"มึงสองคนก็เอาเด็กไปตรวจ DNA ซะก็จบเรื่องจะได้เลิกเถียงกันว่าลูกใคร"



"เออๆ ผมเห็นด้วยๆ ใช่เลยเฮีย" ไอ้ทีนยกมือเห็นด้วยทันที



"เออว่ะ ทำไมกูคิดไม่ออกวะ" 



"มึงคงจะคิดออกหรอกไอ้ทิว มึงเล่นสงครามประสาทกับแฟนมึงก็เสียเวลาไปเท่าไหร่แล้วล่ะ แทนที่จะไปตรวจตั้งแต่แรกก็รู้นานล่ะ" ไอ้เนย์พูดต่อ



"เออดี งั้นไปตรวจกันเลยจะได้จบๆ กูปวดหัวจะตายล่ะ"







แล้วภาพก็ตัดมาที่ไอ้อ้วนที่กำลังนอนดูนิ้วทำตาแป๋วมองพวกผมอยู่ที่ตักมิน มันกรอกตามองพวกผมก่อนจะดึงนิ้วออกแล้วหัวเราะขึ้นมาดื้อๆ







"มันเจ็บไหมอ่ะพี่ เด็กตัวแค่นี้เองถ้าโดนเข็มเจาะขนาดนั้นจะไม่เจ็บเหรอพี่เนย์"



"เดี๋ยวนี้การแพทย์ไทยก็ไม่ได้น้อยหน้าชาติใดในโลก ถ้ากรณีเป็นเด็กทารกเราจะทำการเจาะเลือดที่ส้นเท้าซึ่งจะแตกต่างจากผู้ใหญ่ที่เจาะเลือดตรวจตามปกติ แต่พี่จะตรวจด้วยการเก็บตัวอย่างจากเซลล์ในกระพุ้งแก้มฉะนั้นไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บตัวแน่นอน แต่เอ๊ะ! เรานี่ยังไงกัน สรุปอยากรู้ว่าเป็นลูกไอ้ทิวจริงหรือป่าวทำไมถึงห่วงเด็กคนนี้จังวะ หึหึ"



"ก็ป่าว... ก็เด็กไหมพี่ ขนาดผมเป็นผู้ใหญ่ยังไม่ค่อยชอบฉีดยาเลย แต่กก็ดีแล้วที่มันไม่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องนี้ ผมค่อยโล่งใจหน่อย"





พูดจบมินก็ก้มหน้าลงไปมองเด็กน้อยที่กำลังดึงชายเสื้อมินมากัดเล่น ท่าทางน่ารักเหมือนหมาน้อยที่กำลังเล่นกับเจ้าของ 



"ทิวกูว่ามันคงหิวนมแล้วมั้ง มึงไปเอามาดิ" ทุกคนหันไปมองมินสายตาเดียวกัน



"เออๆ แป๊ป" ผมลุกขึ้นไปเอานมตามคำสั่ง



"มองอะไร!!" คนซวยคือไอ้ทีนที่เสือกทำท่าอ้าปากค้างจนเกินเหตุ



"ฮ่าๆๆ พี่ว่ามินก็ออกจะเอ็นดูเด็กคนนี้อยู่นะ" 





ไอ้เนย์มึงกล้ามาก!! ผมรีบเดินเอานมมายื่นใส่มือมินแล้วเดินไปนั่งหายใจนิ่งๆ ที่เดิม





"อะไรพี่!! ผมจะไปเอ็นดูล่ะไรมันล่ะ เอามันไปตรวจเลยพรุ่งนี้!" พูดจบมินก็ยัดนมให้ไอ้เด็กอ้วนดูด ไอ้นี่ก็ไวปากยังกับเครื่องจักรดูดนมเสียงดังฉิบหาย



"แล้วถ้าตรวจแล้วเป็นลูกไอ้ทิวมันจริงๆ ล่ะจะทำไงต่อ?" 



"ไอ้เหี้ยฟิว!! มึงไม่ต้องพูดก็ได้ไหม" ผมหันไปว๊ากเพื่อนตัวเอง ไอ้เพื่อนเลวหาเรื่องให้กูอีกล่ะ



"อ้าวก็เรื่องจริง เตรียมใจไว้บ้างเพราะถ้ามันเกิดเป็นความเรื่องจริงขึ้นมาพวกมึงจะได้คิดหาทางออกกันต่อไง"



"แล้วถ้าไม่ใช่ลูกเฮียทิวล่ะเฮียฟิวจะทำไงต่อไป?" ไอ้นันพูดต่อ





ไอ้สัส!! กูนั่งเหงื่อตกรอเลย ชีวิตกูวุ่นวายหนักกว่าเดิมแน่





"นั่นดิ มึงคิดยังไอ้ทิว?" ไอ้เนย์หันมาถามผม 







ไอ้สาดดดด.... หันมาถามกูเร็วไปไหม กูยังไม่ทันคิดคำตอบเลยนะเว้ย!! สายตาที่กูกลัวตอนนี้คือเมียกู มึงเห็นไหมมันมองกูลูกตากลมๆ ของมันแถบจะหลุบออกจากเบ้าแล้ว อร๊ากกก!! ไอ้ทิวผู้น่าสงสาร







"กูก็ตามหาแม่มันดิแล้วเอาไปคืนไง ใช่ป่ะมินเนาะๆ ไม่ใช่ลูกกูแล้วกูจะเลี้ยงมันทำไมล่ะ" 





เหงื่อแตกพลั่กๆ เลยกู แอร์หัองกูเสียเหรอวะแม่งร้อนฉิบ!!





"มึงไม่ต้องถามกูเลย" 





มินแม่ง!! ตัดพ้อกูอีกล่ะ อร๊ากกกก





"พอๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว กูสรุปให้เองแล้วกัน พรุ่งนี้ไอ้ทิวมึงพาเมียกับลูกมึงไปหากูที่โรงพยาบาลตอนสิบโมง"



"เฮ้ย!! เมียไร ไหนเมียกูไอ้เหี้ยเนย์!!" 



"อ้าว!! ก็นั่นไงเมียกับลูกมึง" มันชี้มาที่มินกับไอ้เด็กอ้วนนั่นครับ ห่า! กูใจเสียหมด



"ร้อนตัวนะมึง" มินหันมามองตาเขียว



"ฮ่าๆๆ ขำเฮียว่ะ"







ป๊าบ!!







"โอ๊ย!! ไอ้มินมึงตบหัวกูทำไมเนี้ยะ!"



"หยุดเห่าได้ล่ะไอ้สัส รำคาณ!!"







แม่ง!! กูจะขำหรือจะร้องไห้ดีวะเนี้ยะ หลายอารมณ์ฉิบหาย กูปรับอารมณ์ไม่ถูกล่ะ สวิงเหี้ยๆ เลย







"งั้นตกลงเอาตามที่ไอ้เนย์บอกแล้วกัน ส่วนเรื่องทะเบียนรถกูจัดการต่อให้ ถ้าผลออกมาเป็นยังไงค่อยมาว่ากันต่อ วันนี้แยกย้ายเว้ย!!"





ไอ้ฟิวตัดฉับ!! ดีมากเพื่อน วันนี้กูเหนื่อยมาก





"ดีเหมือนกัน กูขี้เกียจฟังมันสองเถียงกันวะ หึหึ"





ไอ้หมอเนยย์ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจก่อนจะกอดคอไอ้ฟิวเพื่อนรักแล้วยิ้มมุมปากใส่กัน





"งั้นพวกกูก็กลับเลยนะไอ้มิน มึงก็อย่าเถียงเก่งขนาดนั้น ช่วงนี้ก็ช่วยๆ เฮียเลี้ยงลูกไปก่อน โถถ... เด็กน้อยผู้น่าสงสารของน้า" 



"ไอ้เหี้ยทีน!! ไสหัวกลับไปเลยไป!!" 





มินยกตีนขึ้นทำท่าจะถีบไอ้ทีน ขวดนมหลุดออกจากปากไอ้เด็กอ้วน มือป้อมๆ กำเสื้อมินไว้แน่น





"ฮ่าๆๆ งั้นพวกผมกลับเลยนะเฮีย เดี๋ยวพวกผมช่วยเฮียฟิวตามล่าหาข้อมูลอีกทาง"



"เออ... ขอบใจพวกมึงมาก ถึงจะไม่ค่อยได้ประโยชน์สักเท่าไหร่" 



"โหหห... เฮียก็ชอบพูดความจริงวะ"



"งั้นพวกกูกลับล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูโทรหาอีกที" ไอ้ฟิวเดินมาตบไหล่ผม



"เออ... ขอบใจมึงมากว่ะ"



"มินอย่าชวนเพื่อนพี่ทะเลาะมากนักล่ะ เดี๋ยวมันเครียดตายซะก่อน หึหึ" ไอ้เนยย์หันไปพูดกับมินที่ย้ายขึ้นไปนั่นข้างบนโซฟา แล้วทิ้งไอ้เด็กอ้วนให้นอนดูดนมอยู่บนผ้านวมที่พื้น



"ขอบคุณมากนะพี่"



"อืม... ไม่เป็นไร"



"พวกกูไปล่ะ บายเว้ย"







พวกมันก็ทยอยเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะบอกลาไอ้เด็กอ้วนด้วยการหยิบที่แก้มยุ้ยๆ ของมัน มันทำท่าจะร้องพวกไอ้ทีนเลยถอยกรูวิ่งออกจากห้องตามไอ้เนย์กับไอ้ฟิวออกไปทันที







ห้องทั้งห้องกลับคืนสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง โดยเหลือเราไว้สามคน ผมมองหน้ามิน มินมองหน้าผม แล้วสายตาเราสองคนก็แพลนไปที่ไอ้เด็กอ้วนที่นอนเคลิ้มทำท่าจะหลับเพราะฤทธิ์นม







"ทำไมหลับง่ายอย่างนี้วะ"  มินก้มลงไปดึงปลายผ้านวมขึ้นมาพันตัวไอ้เด็กอ้วนไว้ 



"ไอ้ตัวป่วนเอ้ย" ผมนั่งยองๆ ลงข้างๆ มันแล้วดึงขวดนมออกจากปากมัน

















"มองหน้ากูทำไม?" 





"คืนนี้เราเอาไงต่อดี?"







"ตัวใครตัวมันโว๊ย!!"







"เฮ้ย!! ที่รักกกก... รอกูด้วย!"









มึงไม่ควรทิ้งกูไว้แบบนี้นะที่รัก ไอ้เด็กนี่มันน่ากลัวจริงๆ นะ ช่วยกูด้วย!!









TBC.





ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ สำหรับใครที่ถามหาหนังสือภาค 1 รอรอบรีปริ้นน้า.. ขอบคุณที่ชอบและติดตามอ่านนิยายค่ะ ฝากกดหัวใจใส่คอมเม้นให้ด้วยน้า ขอบคุณมากค่า เยิฟๆ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด