★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】
:เครดิตภาพ: ขอบคุณภาพจาก IG และเวปไซค์ค่ะ
【EP.10 อย่านะพี่หึงแรง】
เมื่อคืนได้เสียเหงื่อก่อนนอนค่อยสบายตัวหน่อย อาหารย่อยเพราะได้ออกแรงว่ะ ฮ่าๆๆ สำเร็จโทษไปสองยกก่อนนอน ข้อหาทำผมอิ่มเกินควร งานนี้ไม่ได้จุกเพราะแดกข้าวว่ะ แต่จุกเพราะเจอปูมังกรเข้าไปเต็มๆ สงสารเมียตัวเองฉิบหาย กร๊ากกกก…
"ยิ้มอะไรปู เลิกทำหน้าแบบนี้ได้ป่ะ"
ฮันแน่ะ! มีเหวี่ยงๆ
"ทำหน้าอารายยย… ก็คนมันสดชื่น ร่างกายกระปรี่กระเปร่ามันก็เลยอารมณ์ดีแบบนี้แหละ หึหึ"
"คนบ้า!! รู้ทั้งรู้ว่าวันนี้โจมีประชุมเช้า แล้วยังเป็นประชุมลูกค้าคนสำคัญด้วยยังจะแกล้งกันอีก"
ผมจอดรถเสร็จโจยังไม่เลิกบ่นเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ ฟอดดดด… หอมแก้มแม่งเลยหมั่นใส้ว่ะบ่นผัวอยู่ได้
กร๊ากกก… อารมณร์ดีเพราะมีความสุข
"กูทำโทษมึงไง"
"ทำโทษเรื่อง?"
โจหันมาถามด้วยความสงสัย
"เรื่องที่มึงดูแลกูดีเกินไป เรื่องที่มึงไม่ใส่เสื้อผ้าเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วก็เรื่อง…"
"เอ่อ… พอแล้วๆ โจรีบไปทำงานดีกว่าครับ"
ฮ่าๆๆๆ ผมขำมันฉิบหาย นั่งตัวเกร็งให้ผมแกล้งเล่นอยู่ได้ ห่า!! แต่กูเสือกกรึ่มซะเองนี่ดิ
"หึหึ ถ้าไม่ติดว่าเลื่อนประชุมไม่ได้นี่วนรถกลับบ้านเลยนะเนี้ยะ"
"ทะลึ่ง! โจไปทำงานก่อนนะ"
โจรีบหยิบกระเป๋าเตรียมออกจากรถ
"เดี๋ยว!! มึงลืมอะไรรึป่าวครับที่รัก"
"ห๊ะ! ลืมอะไรอ่ะ?"
"อย่ามาตีเนียนให้ไว้เลย" ผมยื่นแก้มเข้าไปใกล้โจ รู้แล้วนะว่าลืมอะไร หึหึ
"เฮ้ออ… ตลอดอ่ะ"
จุ๊บบบ…
"ขอบคุณที่มาส่งนะครับ"
โจจุ๊บแก้มผมแล้วพูดอย่างเขินๆ
"น่ารักมาก หึหึ ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวตอนเที่ยงมารับไปกินข้าว"
"อืม… ปูอย่าขับรถเร็วมากนะ"
"รู้แล้วน่า… แล้วเจอกัน"
ฟอดดดด… โอ๊ยยย!! มันเขี้ยวเมียโว๊ยยย
"ครับ ตอนเที่ยงเจอกันนะ บาย"
หลังจากส่งโจเสร็จผมก็แวะไปหาไอ้ทิวที่ร้าน วันนี้มันเข้ามาด่ากราดลูกน้อง เรียกรวมพลกันแต่เช้าทั้งที่พวกเด็กในร้านมันได้นอนกันไม่ถึงสามชั่วโมงดี เมื่อคืนมีเรื่องครับ เกิดการทะเลาะกันระหว่างสองผัวเมีย ไอ้ทิวทะเลาะกับน้องมินเมียมันนั่งแหละ งานนี้หาสาเหตุยาก หลักฐานมาเต็มดิ้นไม่หลุดทำเอาไอ้ทิวถึงขั้นปวดหัวคิดไม่ออกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับมันได้ยังไง ผมก็ว่าระดับไอ้ทิวไม่น่าพลาดด้วยเรื่องแค่นี้นะ เพราะผมกับมันไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ วันนี้ผมเลยแวะมาหามันมาเป็นเพื่อนปรับทุกข์ให้มันซะหน่อย หึหึ
ผมขับรถเข้ามาจองลานจอดรถข้างหลังร้าน เด็กในร้านไอ้ทิวเห็นผมก็ยกมือไหว้ผมทุกคน พวกมันหน้าถอดสีกันทุกคนเลยว่ะ สงสัยโดนไอ้ทิวด่าจัดหนัก หึหึ
ผมเดินผ่านความเงียบในร้านแล้วเดินตรงไปชั้นลอยที่เป็นห้องทำงานของไอ้ทิว เดินสวนกับไอ้เก่งมันยกมือไหว้แล้วยิ้มแห้งๆ ส่งให้ผม อย่าบอกนะว่ามึงก็ไม่รอด ไอ้เก่งเอ้ย!!
แกร๊ก....
ผมเปิดประตูห้องทำงานไอ้ทิว ยื่นหน้าแอบส่องเข้าไปข้างในเห็นไอ้ทิวเหลือกตาขึ้นมามอง หน้าแม่งโคตรโหดบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิด บรรยากาศมาคุสุดๆ ไม่น่าล่ะทำไมลูกน้องมันแต่ละคนยืนตัวซีดกันเลยทีเดียว
"เคาะประตูไม่เป็นรึไงสัส!!"
ไอ้เหี้ย!! คำทักทายเพื่อนของมึงโคตรคลูเลยสาดดดด...
"กูจำเป็นต้องเคาะด้วยเหรอวะ หึหึ" ผมตอบแล้วเดินเข้าไปข้างใน
"มารยาทไงไอ้ควาย!! แล้วนี่ไปหมุดหัวอยู่ไหนมาห๊ะ กูบอกให้มาตั้งนานล่ะ"
ไอ้ทิวมันเก็บเอกสารที่กำลังอ่านไว้มุมโต๊ะแล้วเดินมานั่งลงโซฟาเดี่ยวข้างๆ ผม
"หึหึ มึงเล่นแดกเหล้าย้อมใจตั้งแต่เช้าเลยเหรอวะ?"
ผมกวาดสายตามองแก้วที่ผ่านการใช้งานกับขวดเหล้านอกที่สัดส่วนน้ำสีชาในขวดหายไปเกือบครึ่ง
"หึ!! เมื่อคืนกูนอนนี่"
ผมได้แต่ส่ายหัวให้เพื่อนตัวเอง มือก็หยิบขวดเหล้าขึ้นมารินใส่แก้วแล้วยื่นให้มัน ไอ้ทิวก็รับไปถืออย่างว่าง่ายก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วให้ตัวผมเองบ้าง
"อ่อนไอ้สัส!! ทะเลาะกับเมียเสือกหนีออกจากบ้าน หึหึ"
ผมกับไอ้ทิวชนแก้วกันแล้วดื่มเพื่อลืมเธอ ฮ่าๆๆ ผมล้อเล่นครับ
"หนีเหี้ยอะไรไอ้สัส!! มันดิหนีกู"
"อ้าว!! เมียหนีกลับบ้านทำไมต้องประชดชีวิตมานอนที่นี่ด้วยวะ"
"ประชดชีวิตเหี้ยอะไรของมึง กุรีบวิ่งตามมันแต่เสือกลืมกุญไว้ในห้องสัส!! รหัสห้องกุก็ลืม เปลี่ยนใหม่ล่าสุดรหัสเหี้ยอะไรกูคิดไม่ออกเลยขับรถมานอนนี่ไง" พูดจบมันก็ซดเหล้าย้อมใจไปหนึ่งแก้ว
"ฮ่าๆๆ กูขำไอ้สัส!! แลวนี่มึงได้คุยกันยัง?"
"ยังว่ะ มันปิดเครื่องหนีกู แม่มันบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้เพราะลูกชายเขากำลังหัวเสีย เดี๋ยวจะหนักกันไปใหญ่ บอกให้กูใจเย็นแล้วรอเดี๋ยวแม่ยายกูจัดการว่ะ"
"หึหึ มึงพลาดได้ไงวะ ปกติมึงไม่เคยพลาดเรื่องนี้นี่หว่า"
"ไม่รู้ไอ้เหี้ย!! กูมึนตึบเลยสัส!! มาแบบงงๆ ห่า!!" ไอ้ทิวบ่นอุบ
"เออๆ งั้นมึงใจเย็นก่อน กูว่าต้องมีอะไรผิดพลาด เอ๊ะ!! หรือมึงเองที่พลาดวะ"
กร๊ากกกก... ไอ้เหี้ยทิวแม่งทำหน้าเหมือนอยากตาย กูคบมึงเป็นเพื่อนมากี่ปีไม่เคยเห็นแม่งทำหน้าอยากตายแบบนี้มาก่อนเลยว่ะเพื่อน
"กูพยายามทำให้ใจเย็นอยู่นี่ไง แม่ยายกูก็เงียบไปอีก ห่าเอ้ย!!"
"สู้ๆ เว้ยเพื่อน ท่องไว้เมียเราเอาอยู่"
ผมนั่งคุยกับไอ้ทิวต่ออีกสักพักก็ขอตัวกลับ ขับรถกลับมาหาเมียผมบ้างดิ อาหารเที่ยงต้องถึงท้อง โจมันชอบทำงานลืมเวลา ผมเลยต้องไปเสนอหน้าทำตัวเป็นแฟนที่ดีคอยดูแลมันบ้าง หึหึ
ผมใช้เวลาไม่นานนักก็ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถ ผมจัดการล็อครถเรียบร้อยก็เดินเข้าตึกขึ้นไปหาโจ
"คุณปูสวัสดีค่ะ มารับเจ้านายไปทานข้าวเที่ยงใช่ไหมคะ" เลขาสาวทักทายผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"โจอยู่ในห้องใช่ไหม?"
"ค่ะ เจ้านายอยู่ในห้องค่ะ แต่..."
แกร๊ก.....
"คุณโจอยากทานอะไรดีครับ เดี๋ยวมื้อนี้ผมขอเลี้ยงข้าวคุณโจนะครับ ปฏิเสธผมมาสองครั้งแล้วนะครับ ครั้งนี้ผมไม่ยอมนะ"
ผมหันไปมองตามเสียงเจื้อแจ้วที่กำลังพูดชื่อเมียผมไม่ขาดปาก แม่ง!! มันเป็นใครวะเดินตามตูดเมียกูต้อยๆ เลยนะมึง!!
"เอ่อ... พอดีว่า..." "คุณโจอย่าปฏิเสธผมเลยครับ นะครับ"
"โจประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม?"
ผมเดินเข้าไปแล้วถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งโดยไม่สนใจไอ้หน้าตี๋ที่ยืนมองโจอย่างไม่ละสายตา
"เอ่อ... ปูมาถึงนานรึยัง อ่อ.. นี่คุณนภัทร ลูกค้าโปรเจคบ้านที่รังสิต ส่วนนี่ปูครับ เป็น..."
"แฟน!" ผมตอบเองแหละ โจยิ้มแหยะๆ ให้ไอ้ตี๋นั่น ส่วนไอ้ตี๋หน้าขาวคนนั้นมันก็ยิ้มหน้านิ่งมองมาที่ผม
"สวัสดีครับคุณปู ยินดีที่ได้รู้จักครับ"
มันยื่นมือมาทำท่าจะจับมือทักทายผมแล้วยิ้มแบบที่ผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ หึ!!
"อืม... หวัดดี" ผมตอบแค่นั้นแหละครับ หน้าตามันไม่น่ายินดีที่ได้รู้จักสักนิด
"เอ่อใช่ งั้นเอาอย่างนี้ซิครับ เราไม่ทานอาหารเที่ยงพร้อมกันสามคนเลยก็ได้เดี๋ยวมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง"
โจหันหน้ามามองผมเหมือนกำลังขอคำตอบ มันดูเกรงใจลูกค้านะแต่คงกลัวใจผมมากกว่า
"อืม..." ผมพยักหน้าตอบโจ โจมันยิ้มออกมานิดๆ
"งั้นคุณนภัทรไปทานอาหารเที่ยงกับเราสองคนก็ได้ครับ แต่ผมขออย่างเดียวคือค่าอาหารให้เป็นหน้าที่ของทางผมดูแลลูกค้าแล้วกันนะครับ ผมจะได้ทานอาหารมื้อนี้อย่างสบายใจ" โจมันฉลาดพูดแฮะ เมียใครว่ะโคตรเก่งเลย หึหึ
"เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ อย่างน้อยวันนี้ผมกก็ได้ร่วมทานอาหารกับคุณโจสักที"
"ไปกันเถอะ"
หมั่นใส้โว๊ย!!! ขอถีบยอดหน้าคนสักทีได้ไหมวะ!!
"งั้นเราไปทานตึกตรงข้ามแล้วกันนะครับจะได้กลับมาคุยงานต่อไม่ทำให้คุณนภัทรเสียเวลามากจนเกินไป"
"ได้ครับได้ ผมทานได้หมดทุกอย่างเลยครับ"
ไอ้นี่แม่ง!!
"ไปกันเถอะ" โจหันมายิ้มให้ผม
เราสามคนเดินลงมาจากตึกแล้วเดินข้ามถนนไปยังตึกสำนักงานที่อยู่ตรงข้าม ตอนนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นมาเปิดใหม่ รสชาติอร่อยใช้ได้โจชอบชวนผมมากินบ่อยๆ แต่ฝันไปเถอะว่าผมจะพาไอ้หน้าตี๋นี้ไปนั่งร้านประจำของเรา หึ!! แดกข้าวธรรมดานี่แหละมึง!!
"อ้าว ปูทำไม..." โจมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ
"ร้านนี้แหละ อาหารไทยอร่อยดี" ผมตอบ
"คุณโจอยากทานอาหารญี่ปุ่นไหมครับ ผมเห็นตรงนั้นมีอยู่ร้านนึง" ไอ้ตี๋มันชี้ไปร้านประจำของโจ
"ไม่ค่อยอร่อยน่ะ วันนี้โจคงอยากกินอาหารไทยมากกว่าใช่ไหม?"
"อืม... ผมชอบทานอาหารไทยมากกว่าน่ะครับ คุณนภัทรทานได้ไหมครับหรืออยากจะเปลี่ยนเป็นร้านอื่นดี"
"ไม่ครับ คุณโจทานอะไรผมทานได้หมดแหละครับ อันที่จริงผมชอบทานอาหารไทยมากเลยนะครับ"
หืมมม... ไอ้สัส!! เปลี่ยนสีไวเหี้ยๆ
"โจเข้าไปรอในร้านก่อน เดี๋ยวมา"
"จะไปไหนเหรอ?" "เดี๋ยวมาน่า"
อารมณ์นี้แม่งไม่ไหวล่ะ กูกลัวความเป็นคนดีที่เข้าใจเมียของกูจะพังลงภายในสามวิ
"อืม... รีบๆ กลับมานะ เดี๋ยวโจสั่งอาหารเผื่อนะ"
"ขอบใจ"
ผมเอื้อมมือไปปัดผมข้างหน้าโจเล็กน้อย มันดูยุ่งๆ ไม่เป็นทรง โจยิ้มให้ผมแต่สายตาไอ้ตี๋นี่มองทีไรน่าถีบยอดหน้าทุกที!
"งั้นเราเข้าไปสั่งอาหารรอกันเถอะครับ ผมเริ่มหิวแล้ว"
"เอ่อ... ได้ครับ"
โจกับไอ้ตี๋ลูกค้าคนสำคัญเดินเข้าไปในร้าน ส่วนผมขอตัวไปปลดปล่อยอารมณ์แป๊ป อดทนมาสักพักล่ะ ขอปรับทัศนคติใหม่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะพังเพราะความหึงของผม
ผมเดินปลีกตัวออกมาคนเดียวยืนในพื้นที่สำหรับสบู่บุหรี่ จัดไปสองมัวเต็มๆ ก่อนจะรีบเดินกลับเข้าไปที่ร้านอาหาร ปล่อยไว้นานไม่ได้ว่ะ งานนี้ไม่ไว้ใจไอ้ตี๋นี่เลยให้ตายเหอะ พอผมเดินเข้าไปในร้านก็เห็นว่าโจมองออกมานอกร้านพอดี เดาไม่อยากว่าโจกำลังมองหาผมอยู่นั่นเอง ไม่ได้หลงตัวเองหรอกสัส!! แต่เมียกูคนดีไงเป็นห่วงผัว ฮ่าๆๆๆ
"สั่งอะไรไปบ้าง?" ผมเดินไปนั่งลงข้างโจแล้วถาม
"ของปูโจข้าวผัดเขียวหวานให้นะ เอาอะไรเพิ่มไหม?"
โจมันรู้ใจ ถ้ามากินกับคนที่ไม่สนิทมันจะสั่งอาหารจานเดียวให้ผม เพราะผมไม่แดกร่วมกันคนอื่นง่ายๆ หรอกครับ
"อืม... เอาแค่นี้แหละ รีบๆ กิน รีบๆ กลับ"
"คุณโจชอบทานอาหารร้านนี้เหรอครับ ผมว่าเมนูมันน้อยไปนะ เนี้ยะถ้าไปร้านที่ผมแนะนำนะผมว่าคุณโจต้องชอบแน่นอนครับ"
"เอ่อ... ผมชอบทานอะไรง่ายๆ นะครับ อาหารร้านนี้ก็อร่อยดีครับ ผมมาทานบ่อย" โจตอบกลับอย่างสุภาพ
"เหรอครับ งั้นผมสั่งเพิ่มอีกสักสองอย่างดีกว่า คุณโจการันตีขนาดนี้ต้องอร่อยแน่ๆ เลยครับ"
"เอ่อ... ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"
อย่างว่าแต่ช่วงสั่งอาหารที่ผมต้องนั่งอดทนไม่ให้ตะบะแตกเลยครับ พูดได้ว่าตั้งแต่เริ่มสั่งยันแดกข้าวเสร็จ ไอ้เหี้ย!! ป้อเมียกูฉิบหาย หงุดหงิดสัสอ่ะ โจมันก็ค่อนข้างเกรงใจ อารมณ์นี้คงแดกข้าวไม่อร่อยด้วยกันทั้งคู่เพราะข้าวในจานที่โจกินเหลือเยอะมาก แม่ง!! โคตรหงุดหงิดอ่ะ
"โจขอคุยด้วยแป๊ปนึง"
โจพยักหน้าแล้วเดินตามผมเข้ามาในห้องทำงาน ส่วนไอ้ตี๋มันถูกเลขาโจลากไปกินกาแฟที่ห้องรับรอง แขกแล้วครับ ทำงานดีรู้งานแบบนี้ผมว่าจะบอกโจให้ขึ้นเงินเดือนเยอะๆ หน่อย หึหึ
"ขอโทษนะปู คือ..." ยังไม่ทันจะปิดประตูห้องโจก็รีบเอ่ยปากขึ้นทันที
"ขอโทษทำไม กินข้าวไปนิดเดียวเอง มึงจะกินอะไรอีกไหมจะได้ไปซื้อให้" ผมดึงโจให้นั่งลงข้างๆ ผม
"ไม่อ่ะ อิ่มแล้วครับ" โจยังคงทำหน้าสำนึกผิด
"อืม... งั้นเดี๋ยวตอนเย็นพาไปหาอะไรอร่อยกิน" ผมลูบแก้มโจเบาๆ
"แล้วปูล่ะอิ่มไหม?"
"อิ่มดิ" กูตอบไปงั้นแหละ แดกไม่ลงเลยเหอะ
"เดี๋ยวโจจะต้องเข้าประชุมต่อนะ"
"อืม... รู้แล้วน่า อยู่ห่างไอ้ตี๋นั่นหน่อยแล้วกัน กูหึง"
โจออกอาการหน้าแดงทันที มันยังไม่ชินนะครับ ส่วนผมก็พูดแม่งตรงๆ แบบนี้แหละ ชัดเจนดี
"โจทำงานนะปู ไม่ได้ทำอย่างอื่นสักหน่อย"
"อะไรๆ ทำอย่างอื่นน่ะทำอะไร หื้อ?"
ฟอดดดด....
"ป่าวๆ ไม่ได้หมายความอย่างอื่นไง คุยกันแค่เรื่องงาน" โจรีบอธิบาย
"หึหึ รู้ตัวก็ดี อย่าทำให้กูหึงมากนักนะ กูเป็นคนห้ามตัวเองไม่ได้นานมึงเข้าใจที่กูพูดใช่ไหม?"
"อืม.. เข้าใจครับ แต่..."
"แต่อะไร?"
"แต่ปูก็น่าจะรู้นิว่าโจไม่มีทางคิดอะไรนอกเหนือจากงานอยู่แล้ว" โจตอบเสียงเบา
"หึหึ ดีมาก กูเชื่อมึง"
พูดจบมือผมก็จับเบาๆ ที่ปลายคางที่เกลี้ยงเกลาแล้วกดจูบลงที่ริมฝีปากนุ่มกดจูบลงเบาๆ ย้ำๆ แบบไม่ล่วงล้ำ สลับกับกัดปากบางเบาๆ ส่งความหึงหวงผ่านการจูบให้อีกคนรู้ว่าใครคือเจ้าของที่แท้จริง ผมจูบโจจนพอใจก็ผละออกอย่างเสียดาย อยากได้มากกว่านี้แต่ต้องอดทนอีกแล้ว!!
"ทำตัวดีๆ ล่ะ กูหึงแรง" ผมพูดก่อนจะกดจูบลงแรงๆ ที่ปากโจอีกครั้งอย่างมันเขี้ยว
"อืม..." โจตอบพรึมพรำในลำคอ
"เดี๋ยวกูไปเล่นฟิตเนสรอ เลิกงานแล้วจะมารับกลับบ้าน" ผมใช้นิ้วเกลี่ยไปมาที่ริมฝีปากบางเบาๆ
"ประชุมเสร็จประมาณหกโมงเย็น" โจพูดบอกผม "ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวกูจะนั่งในนี้สักพักแล้วค่อยไป"
"ตอนเย็นเจอกันนะ"
"หึหึ มึงชอบทำตัวให้กูหลงมึงอีกแล้วนะ" ผมหยิกแก้มโจด้วยความมันเขี้ยว
"ไม่คุยด้วยแล้วครับ โจไปประชุมก่อนนะ"
"อืม... ทำตัวดีๆ ล่ะ"
"ครับผม" โจตอบยิ้มๆ แล้วเดินไปหยิบของที่โต๊ะทำงาน
"ไปนะ"
"หึหึ..."
โจออกไปจากห้องทำงาน ส่วนผมนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีกสักพักก็เดินไปที่รถแล้วเตรียมอุปกรณ์สำหรับไปเล่นฟิตเนสครับ ทำไมวันนี้เวลามันผ่านไปช้าจังวะ!!
ผมเดินมาฟิตเนสเหมือนทุกๆ ครั้งนั่นแหละครับ วันนี้คนค่อยข้างเยอะแต่ก็ไม่วุ่นวายมาก พอจะมีมุมสงบให้ผมได้ออกกำลังกายเรียกเหงื่อระบายความเครียดอยู่บ้าง
เครื่องเล่นที่ผมเล่นประจำก็มีดัมเบล ลู่วิ่งไฟฟ้านี่ก็เล่นทุกครั้งที่มาเหงื่ออกเยอะดีผมชอบ ส่วนเครื่องเล่นอื่นก็เล่นครบทุกตัวนะครับ เล่นมากน้อยแล้วแต่ว่าวันนั้นมีเวลาว่างกี่ชั่วโมง
"สวัสดีครับพี่ โหหห... วันนี้โชคดีจังเจอพี่อีกแล้ว" มันยิ้มซะตาหยีเลย
"หึ! กูต้องดีใจด้วยไหม" ผมตอบ
"ดีใจซิครับ น้ำยังดีใจเลย" มันยืนยิ้มเฉ่งจนตาหยี
"แล้วนี่มานานรึยัง?"
"น้ำเพิ่งมาถึงเมื่อกี้เองครับ พอมาถึงก็มองหาพี่ก่อนเลย"
"มองหากูทำไม?"
"อ้าว! ก็พี่เคยสัญญากับน้ำว่าจะสอนน้ำเล่นเครื่องออกกำลังกายไงครับ" มันทำหน้าสลดไปนิดนึง
"หน้าตาก็เหมือนลูกคนรวยนิ ทำไมไม่จ้างเทรนเนอร์วะ"
"ก็น้ำไม่อยากจ้างนิครับ เพราะพี่สัญญาว่าจะสอนน้ำ"
"เออๆ สอนก็สอน วันนี้อยากเล่นเครื่องไหนล่ะ?"
หน้าแม่งเหมือนหมาหงอยเลย ถึงมันจะงอแงเหมือนเด็กแต่มันก็ถือว่าเป็นเด็กที่มีมารยาทพอสมควร เพราะถ้ามากวนตีนใส่ผมมันคงโดนถีบไปนานแล้ว
"วันนี้น้ำอยากออกกำลังกายเบาๆ ก่อน เพราะคืนนี้น้ำต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบครับ ถ้าวันนี้น้ำเล่นหนักไปมีหวังสลบก็ได้อ่านหนังสือแน่ๆ เลย"
ดูจากหุ่นอันบอกบางเหมือนลูกคุณหนูอย่างมันพูดกก็คงจะจริง จะให้มันอึดถึกทนแบบผมคงจะยาก งั้นวันนี้ก็สงเคราะห์เด็กน้อยซะหน่อย สอนมันครั้งนี้ก็คงไม่ค่อยได้บังเอิญเจอกันบ่อยๆ หรอก
"งั้นวันนี้เล่นนี่แล้วกัน" ผมชี้ไปที่ดัมเบลล์
"ได้ครับ"
"กล้ามเนื้อต้องค่อยๆ สร้าง เริ่มจากกล้าแขนนี่แหละจะได้ดูเป็นผู้ชายขึ้นอีกนิด"
"ได้ครับ" มันรีบตอบอย่างตั้งใจ
ผมสอนในท่ายกดัมเบลล์ที่พอเรียนรู้มาจากการออกกำลังกายของผมนี่แหละ ไม่ได้วิธีเล่นแบบพิเศษอะไรมากมายแต่มันก็ทำให้ผมหุ่นดูดีได้อย่างทุกวันนี้ ผู้หญิงเห็นนี่กรี๊ด ผู้ชายด้วยกันยังอิจฉา เอาน่า... อย่างน้อยผมก็ไม่ได้สอนมันมั่วๆ วะ
ระหว่างที่ผมสอนมันออกกำลังกายด้วยกันยกดัมเบลล์แบบง่ายๆ แต่ดูมันตั้งใจทำตามอย่างตั้งใจ บอกยังไงมันก็ทำอย่างนั้น พอทำถูกวิธีตามที่ผมสอน ผมเอ่ยปากชมว่าเก่งมันก็ยิ้มจนแก้มแทบปริ เหมือนเด็กดีใจเวลาได้รับคำชมนั่นแหละครับ
"ผมขอบคุณพี่มากเลยนะครับ ที่วันนี้สอนผมออกกำลังกาย ผมสนุกมากเลย"
"เว่อไปไหมมึง กูแค่สอนพื้นฐานเอง" ผมผลักหัวมันเบาๆ
"ไม่หรอกครับ สำหรับผมพี่เก่งมาก" มันยกนิ้วโป้งชูขึ้นสูง
"หึหึ เออๆ วันนี้พอแค่นี้ก่อน กูจะรีบไปอาบน้ำล่ะ"
"ครับๆ ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับ ผมก็ต้องรีบไปอาบน้ำเหมือนกัน ต้องรีบไปหาพี่ผมน่ะครับ ไปช้าต้องโดนบ่นแน่ๆ เฮ้อ..."
"อืม... งั้นก็แยกกันตรงนี้เลย กูก็รีบ"
"สวัสดีครับ พี่ปู"
ผมหันไปโบกมือลามันครั้งสุดท้ายแล้วก็เดินเข้าไปข้างในจัดการอาบน้ำแต่งหล่อไปหาเมียผม
…
…
ทำไมภาพมันบาดตาแบบนี้วะ เมื่อไหร่ไอ้ตี๋นี่จะไปให้พ้นลูกกะตากูสักที
"เรื่องรายละเอียดที่เพิ่มเติมผมจะรีบสรุปแล้วส่งให้คุณณภัทรทางเมล์นะครับ"
"ได้ครับ ยิ่งผมได้คุยกับคุณโจผมยิ่งสัมผัสถึงความเป็นมืออาชีพของคุณโจครับ สำหรับคุณโจเป็นคนที่เก่งมากๆ คนนึงเท่าที่ผมเคยรู้จักมาเลยนะครับ"
"เอ่อ... ขอคุณมากครับ ผมจะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดนะครับ"
"ได้ครับ ผมจะรอดูผลงานคุณโจนะครับ เดี๋ยววันนี้ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ"
"งั้นผมเดินไปส่งคุณณภัทรที่ลิฟท์นะครับ"
"ต้องเดินไปส่งด้วย"
ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่รู้ผีห่าซาตานเข้าสิงร่างผมตอนไหน คือปากมันไปเองแบบไม่ได้ตั้งใจพูดน่ะ
"ปูครับ"
โจหันมาค้อนผมนิดๆ แล้วไงอ่ะ กูไม่ชอบขี้หน้ามันนี่หว่า พยายามคิดว่ามันคืองานแต่ใจกูมันสั่งแบบนี้นี่หว่า เหอะ!!
ผมหยักไหล่เล็กน้อยแล้วก็พยายามข่มใจไล่ไอ้ตี๋นั่นให้ไปไวไว ใจมันไม่รักดีชอบขัดคำสั่งทางสมองแล้วทำตามใจตัวเองตลอด หึ!!
"คุณโจไม่ต้องเดินไปส่งผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเดินไปเองได้ คุณโจจะได้รีบกลับบ้านไงครับ ท่าทางวันนี้รถคงจะติดน่าดู"
"เอ่อ... งั้นผมขอลาคุณณภัทรตรงนี้เลยนะครับ"
"ครับ เดี๋ยวมีอะไรเพิ่มเติมผมจะโทรหาคุณโจนะครับ"
"ได้ครับ"
ฉากลากันทำไมมันยาวนานแบบนี้วะ ลีลาฉิบหาย!! มันยากตรงไหนแค่ขยับตีนแล้วเดินออกไปก็จบป่าววะ!!
"บายครับ"
สาดดดด... กูเกลียดสายตาแบบนี้ที่สุด!!
"คุณปูหึงน่ากลัวจังค่ะ อิอิ"
"เหรอครับ"
ผมยิ้มเล็กน้อยให้เลขาของโจ โจหันมาส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
"รีบๆ ไปง้อเลยค่ะ จูนว่าเจ้านายท่าทางจะโกรธจริงนะคะ"
"หึหึ โจไม่กล้าโกรธผมหรอกน่า วันนี้ไม่มีงานต่อแล้วใช่ไหม?"
"ไม่มีแล้วค่ะ"
"โอเคครับ"
โถถถ... โจไม่โกรธผมหรอก ว่าแล้วรีบก่อนดีกว่าเดี๋ยวคดีพลิก
"กลับกันเลยไหม?" ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงนานหรอกครับ ลีลาเดี๋ยวยาว สายแถต้องเฉือดนิ่มๆ
"วันนี้ปูทำตัวไม่ดีเลยนะครับ"
เฮื้อกกกก.... โดยแทงไปหนึ่งแผล
"ไม่ดียังไง กูพูดความจริง" ผมเดินไปนั่งลงที่โซฟารับแขก
"แต่นั่นลูกค้านะปู"
"เออๆ รู้แล้วน่า! ต่อไปจะไม่ทำอีกโอเคยัง"
โถถถ... คนอย่างไอ้ปูนะไม่ทำครั้งเดียวหรอก หึหึ
"ให้มันจริงเถอะ" โจทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ
"จริงดิ ป่ะๆ กลับบ้านกัน วันนี้อยากกินอะไรเดี๋ยวพาไปกินก่อนเข้าบ้าน"
"เปลี่ยนเรื่องไวตลอดแหละ!"
"ใคร? ใครเปลี่ยนเรื่อง ไหนๆ คนไหน?" ผมทำท่ามองหาทั่วห้อง โจมันแอบขำ
"พอเลย ทำเนียนตลอด" โจส่ายหัวทำท่าเหนื่อยใจ
"เดี๋ยวพาไปกินร้านอร่อยร้านใหม่แล้วกัน เห็นพวกไอ้เนย์มันบอกว่าอาหารอร่อย"
"ได้ครับ ปูรอแป๊ปนะโจขอเก็บของก่อน"
"อืม... ไม่ต้องรีบรออยู่"
…
…