★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2【ปู❤โจ】EP.21 สัญญาครับ [22/06/20]P13
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2【ปู❤โจ】EP.21 สัญญาครับ [22/06/20]P13  (อ่าน 62298 ครั้ง)

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew4: ลึกๆมินคงอยากเลี้ยงอ้วนไว้เอง แต่น่าจะกลัวไรซักอย่าง

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สงสารเด็กอ้วน...........  :mew2:
ถ้ามิน ทิวรับเป็นลูกนี่ดีทั้งเด็กทั้งทิว มินเลย

ทิว มิน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เราเคยเลี้ยงลูกเพือนแค่วันเดียวเอง ยังผูกพันเลย
กลับมาบ้านคิดถึงเด็กมากๆๆๆ คิดถึงจนอยากร้องไห้
ยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลย

มินกับทิวอยู่กับเด็กตั้งพักใหญ่ ความรู้สึกคงยิ่งกว่าเรา...

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】



【EP.14 เป็นที่รัก】






วันนี้งานเยอะมาก ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้ลุกเดินไปไหนเลยนอกจากนั่งดูแบบตรวจแบบอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เมื่อเช้าปูขับรถมาส่งผมแต่เช้าเพราะวันนี้ปูต้องไปหัวหิน ที่ร้านมีปัญหานิดหน่อยปูเลยถูกพี่ชายเรียกตัวให้กลับบ้านด่วน ใจจริงผมก็อยากไปด้วยนะแต่ผมติดงานนี่ซิ









เฮ้อออ... พอรู้สึกว่าต้องอยู่คนเดียวผมก็รู้สึกเหงายังไงไม่รู้ เมื่อตอนเที่ยงปูก็เพิ่งโทรมาหาบอกว่าถึงบ้านแล้วอีกสักพักจะไปร้าน เราคุยกันเหมือนปกติ ผมถูกบังคับให้กินข้าวให้ตรงเวลาเหมือนทุกครั้ง ถึงตัวจะอยู่ไกลแต่เชื่อไหมว่าปูไม่เคยขาดตกบกพร่องเรื่องขี้บ่นเลยครับเดี๋ยวนี้บ่นเก่งกว่าผมอีก ^^









คิดถึงจัง...







ก๊อก ก๊อก ก๊อก...





"เชิญครับ"



"บอสคะกาแฟค่า" 



"ขอบคุณครับ" 



"บอสคะ ทำไมทานข้าวเหลือเยอะอย่างนี้ล่ะคะ ตายๆ ถ้าคุณปูรู้จูนโดนดุแน่!!"



"ไม่หรอกน่า วันนี้จูนไม่โดนดุหรอกครับเพราะปูไม่อยู่ตั้งหลายวัน"



"เรื่องนั้นจูนทราบแล้วค่ะ คุณปูแปะโน๊ตไว้ที่โต๊ะทำงานจูนเมื่อเช้านี้ค่ะ ฝากให้จูนดูแลบอสค่า" เธอพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจังก่อนจะทำหน้าทะเล้นใส่ผม



"อ่อ... เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง"



"บอสไม่ต้องยิ้มชิวแบบนี้เลยนะคะ เดี๋ยวจูนไปเอาผลไม้มาให้ทานเพิ่มแล้วกันจะได้อิ่มท้องค่ะ"



"เฮ้ออ.. ตามสะดวกเลยครับคุณเลขา นี่ถ้าคนอื่นมาได้ยินคงเข้าใจว่าปูเป็นเจ้านายจูนแน่ๆ"



"ก็จูนมีเจ้านายสองคนนิคะ คนนึงให้เงินเดือนอีกคนให้ขนม คริคริ" 



"แต่ดูท่าทางขนมจะมีอิทธิพลมากกว่าเงินเดือนอีกนะครับ" ผมพูดขำๆ



"ขนมไม่ได้มีอิทธิพลอะไรมากหรอกคะ แต่ที่มีจูนยอมทำตามคำสั่งคุณปูเพราะคุณปูรักและเป็นห่วงบอสของจูนมากกกก... เหมือนที่จูนเป็นห่วงบอสไงค่ะ" 





ผมได้ฟังก็อดยิ้มไม่ได้ ทั้งปูและจูนดูแลผมอย่างดีจริงๆ ครับ





"คร๊าบ.. ขอบคุณมากครับคุณเลขาคนสวย"



"งั้นบอสรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจูนไปเอาผลไม้มาให้ค่ะ"









กลิ่นหอมๆ ของกาแฟทำให้ผมรู้สึกสดชื่นจัง เหมาะมากถ้าจะนั่งจิบกาแฟยามบ่ายแล้วลุยงานต่อ ช่วงนี้งานเยอะจริงๆ ถามว่าเหนื่อยไหมก็มีบ้างครับ แต่มันคืองานที่ผมรักผมเลยรู้สึกว่ามันเหนื่อยแบบพอทนได้ ยิ่งได้เห็นงานที่ทำออกมาเสร็จแล้วตัวมันจะเบาๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งไปเลย







ผมนั่งทำงานต่อไปเรื่อยๆ ผลไม้ถูกจัดใส่จานอย่างสวยงามเสริฟโดยเลขาที่รู้ใจที่สุด ก่อนเธอจะออกจากห้องไปเน้นย้ำผมอยู่หลายรอบว่าให้ทานให้หมด ผมได้แต่ยิ้มรับและทำตาม ต้องน้อมรับน้ำใจเธอหน่อยครับ







ครืดดด~~~







ผมมองไปยังโทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่บนโต๊ะทำงาน เบอร์ที่โทรเข้ามาไม่ใช่เบอร์จากคนที่ผมรอแต่เป็นเบอร์ที่ผมคุ้ยเคยเป็นอย่างดี





"สวัสดีครับ"



"คุณหนูคะ นี่ใช่เบอร์คุณหนูโจใช่ไหมคะ?"



"เอ่อ... ครับ คุณเป็น..."



"ป้าเองค่ะ ป้านวลเอง"



"อ่อ.. สวัสดีครับป้านวล"  ผมไม่คุ้นเสียงเธอผ่านสายโทรศัพท์สักเท่าไหร่เพราะไม่เคยมีใครโทรหาผมนอกจากลูกน้องคนสนิทของคุณพ่อ



"ป้าขอโทษที่โทรมารบกวนนะคะ แต่ตอนนี้คือว่า..."



"มีอะไรเหรอครับป้า?"



"คือคุณท่านเหมือนจะไม่สบายค่ะ แล้วลูกน้องที่บ้านก็ไม่มีใครอยู่เพราะคุณท่านให้ออกไปทำงานข้างนอกกันหมดค่ะ"



"ไม่มีใครอยู่เลยเหรอครับ แปลกจัง"



"มีอยู่สามสี่คนค่ะ แต่คุณท่านห้ามไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งเลย ป้าเพิ่งเอาอาหารเข้าไปให้ท่านที่ห้องเมื่อกี้เหมือนท่านจะอาการไม่ค่อยดีป้าเลยขอเบอร์จากลูกน้องคนสนิทของท่านแล้วมาโทรหาคุณหนูค่ะ"



"งั้นป้ารอสักครู่นะครับ ผมจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย"



"ค่ะๆ คุณหนูขับรถดีๆ นะคะ"



"ครับป้า ขอบคุณมากนะครับที่โทรมาบอกผม"







ผมรีบวางสายแล้วเก็บงานทุกอย่างที่ทำค้างอยู่วางไว้บนโต๊ะ เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกระเป๋าตังค์กับกุญแจรถได้ผมก็รีบออกจากห้องทำงานทันที







"คุณจูนผมจะไปทำธุระข้างนอกนะ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนให้โทรหาผม" 



"ได้ค่ะบอส"







ด้วยอาการเร่งรีบของผมทำให้เธอไม่ถามต่อ เราทำงานด้วยกันมานานเธอจะรู้ดีว่าด่วนสำหรับผมคือการไม่หยุดตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้น









ผมรีบเดินไปที่รถแล้วขับรถออกไปทันที โชคดีที่ไม่ใช่เวลาเลิกงานรถบนท้องถนนเลยโล่งพอสมควร ระหว่างที่ผมขับรถไปเรื่อยๆ ใจผมก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงและเป็นกังวลอย่างมาก พ่อของผมท่านแข็งแรงมาโดยตลอดไม่เคยป่วยให้ผมเห็นเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ทำไมถึงป่วยได้ล่ะ แล้วไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อีกด้วย ผมรีบขับรถให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เลือกใช้ทางลัดที่รถวิ่งไม่เยอะจนในที่สุดผมก็ขับรถมาถึงหน้าบ้านพ่อ









ประตูรัวหน้าบ้านถูกเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ ผมขับรถเข้าไปจอดในโรงรถ ป้านวลวิ่งออกมาต้อนรับผมด้วยหน้าตาที่ค่อนข้างเป็นกังวล ผมดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถทันที 









"คุณหนู"



"สวัสดีครับป้า ตอนนี้คุณพ่ออยู่ไหนครับ?"



"ท่านอยู่ในห้องทำงานค่ะ" "งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปหาท่านก่อนนะครับ"



"ค่ะๆ เชิญค่ะคุณหนู"







ผมเดินด้วยความเร่งรีบเข้าไปในบ้านแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงาน ผมหยุดยืนนิ่งแล้วมองตรงไปยังประตูบานหนาที่คุ้นตาก่อนจะเคาะประตูบานนั้น







ก๊อก ก๊อก ก๊อก





"ใคร?!! ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามากวนใจฉันตอนฉันทำงาน!!" เสียงดุดันที่ผมได้ยินบ่อยๆ ดังออกมาจากด้านในห้อง



"พ่อครับ ผมเองครับ... โจ" 







เสียงในห้องเงียบลง ผมยืนนิ่งยังไม่กล้าที่จะจับลูกบิดประตูเพื่อเปิดออกทั้งที่ใจอยากเปิดออกจะแย่







แกร็ก~~





ประตูบานหนาถูกเปิดออกจากด้านใน ผู้ชายร่างสูงที่ผมรีบขับรถมาหาด้วยความเป็นห่วงกำลังยืนยิ้มให้กับผม







"โจเองเหรอลูก"





หมับ!! 

พ่อกอดผมด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น 







"ลูกพ่อ มาๆ เข้ามาข้างในก่อน"



"สวัสดีครับพ่อ" ผมยกมือไหว้ท่าน



"ทำไมวันนี้มาหาพ่อได้ล่ะ แล้วจะอยู่กินข้าวเย็นกับพ่อไหม?" 







ผมเดินตามพ่อผมเข้าไปในห้องทำงาน เรานั่งลงที่โซฟารับแขกภายในห้อง ป้านวลยกน้ำเข้ามาเสริฟแล้วออกไปพร้อมกับปิดประตู







"พ่อสบายดีไหมครับ?" 





ผมนี่บ้าจริงๆ ทำไมไม่กล้าพูดตรงๆ กับพ่อตัวเองสักที ทั้งที่ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อดีขึ้นมาก เราสองคนสนิทกันมากขึ้น คุยกันมากขึ้น





"พ่อสบายดี พ่อไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย" พ่อผมตอบแล้วยิ้ม











"ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ มาหาพ่อทั้งทีทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยซิ นี่พ่อก็กำลังเบื่อๆ เลยลงมาอ่านหนังสือน่ะ"



"คือผม..."



"โจอยู่กินข้าวเย็นกับพ่อนะ เดี๋ยวพ่อจะสั่งป้านวลทำของโปรดให้"



"ครับพ่อ"



"เฮ้ออ... วันนี้ดีจังลูกชายมาเยี่ยมถึงที่บ้านแถมยังมากินข้าวเย็นเป็นเพื่อนพ่ออีก" พ่อผมพูดอย่างอารมณ์ดี



"ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้มาหาพ่อบ่อยๆ พอดีช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะครับ"



"เฮ้ย.. พ่อยังไม่ทันว่าอะไรเลย แค่เห็นโจมาวันนี้พ่อก็ดีใจแล้ว" ท่านตบลงที่ไหล่ผมเบาๆ



"ครับพ่อ" ผมได้แต่ตอบสั้นๆ อยากถามสิ่งที่ผมได้รู้มาผมก็ไม่กล้าถาม



"แล้วนี่แฟนเราไปไหนไม่มาด้วยกันเหรอ?"



"ปูกลับไปดูร้านที่หัวหินนะครับเลยไม่ได้มาด้วย"



"พ่อก็ว่าอยู่ เพราะปกติถ้าเป็นโจพ่อก็จะเห็นเจ้าปูตลอด" 







ผมได้แต่นั่งยิ้ม พ่อผมรักเราสองคนมากครับ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ท่านจะไม่ถามถึงใครคนใดคนหนึ่ง 







"งั้นวันนี้โจช่วยพ่อทำงานได้ไหม?"



"งานเหรอครับ"



"แค่เอกสารการเงินนิดหน่อย ตรวจๆ พอเป็นพิธีว่ามีอะไรที่ต้องดูเพิ่มไหมแค่นั้นเอง"











"อย่าทำหน้าหนักใจแบบนั้นซิ"



"เอ่อ... ได้ครับ"



"ดีมากไอ้ลูกชาย มีคนมาช่วยดูเอกสารให้พ่อจะได้พักบ้าง"



"งั้นพ่อขึ้นไปพักผ่อนเถอะนะครับ เดี๋ยวเอกสารผมจะช่วยตรวจดูให้ ถ้ามีอะไรผิดปกติผมจะช๊อตโน๊ตให้ครับ"



"เก่งมากลูก เอกสารวางอยู่บนโต๊ะทำงานพ่อนะ โจช่วยทำแทนพ่อทีเดี๋ยวพ่อขอตัวขึ้นไปพักสายตาข้างบนสักสองชั่วโมงแล้วเราค่อยมากินข้าวเย็นด้วยกัน" พูดจบท่านก็ลุกขึ้นยืน



"ผมไปส่งที่ห้องครับพ่อ" ผมลุกขึ้นแล้วเดินตามหลังพ่อผมไป ท่านหันกลับมามองพยักหน้าแล้วยิ้ม









ผมเดินขึ้นไปส่งพ่อผมที่ห้องนอนของท่าน พ่อผมเอนตัวนอนลงบนที่นอน แว่นสายตาถูกถอดออกแล้ววางไว้ที่โต๊ะโคมไฟข้างเตียง ผมห่มผ้าให้ท่าน







"ขอบใจนะลูก" 



"พ่อพักผ่อนนะครับ ถ้ามีอะไรโทรเรียกผมได้ตลอดนะครับ"



"ถ้าหิวข้าวขึ้นมาปลุกพ่อได้เลยนะ เผื่อพ่อจะนอนเพลิน หึหึ"



"ครับพ่อ นอนได้แล้วครับ" ผมจับผ้านวมขยับอยู่สองสามที พ่อส่งยิ้มให้ผมก่อนจะหลับตาลงช้าๆ





ผมยืนมองพ่อผมอยู่ข้างเตียงจนท่านหลับสนิท ฟังเสียงลมหายใจของท่านที่กำลังผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ





"พักผ่อนเยอะๆ นะครับพ่อ"













ผมเดินลงมาข้างล่างแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงาน ในใจก็คิดถึงเรื่องที่ป้านวลบอกว่าพ่อผมป่วย แต่พอมาเจอท่านผมก็ยังเห็นว่าท่านปกติดีทุกอย่าง ผมนั่งลงที่โต๊ะทำงานของพ่อ เอกสารต่างๆ ถูกว่างจนเต็มโต๊ะ เอกสารการเงิน เอกสารเบิกจ่ายต่างๆ ผมนั่งดูสักพักก็เริ่มอ่านเอกสารชุดแรกที่ท่านเปิดค้างไว้ เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงผมวางเอกสารที่มือลงแล้วลุกขึ้นบิดตัวแก้เมื่อยเล็กน้อย







"ทำไมพ่อทำงานเครียดแบบนี้เนี่ย ตัวเลขเยอะแยะไปหมด" 







อันที่จริงผมก็ต้องดูเอกสารการเงินของบริษัทผมนะครับ แต่ผมว่าดูง่ายกว่างานของพ่อผมเยอะเลย เพราะตัวเลขและข้อมูลทางการเงินของบริษัทผมมูลค่าเทียบเท่าบริษัทพ่อผมไม่ได้นะซิ ^^







ก๊อก ก๊อก ก๊อก..





"เชิญครับ"



"ขนมกล้วยค่ะคุณหนู ป้าเพิ่งทำเสร็จเลยเอามาให้คุณหนูลองทานดูค่ะ"



"ขอบคุณมากครับป้า"



"แล้วคุณท่านเป็นยังไงบ้างคะ?"



"ผมก็เห็นคุณพ่อปกติดีนะครับ" 



"แปลกจัง... เมื่อเช้าป้ายังเห็นคุณท่านหน้าตาซีดเซียวเหมือนคนไม่สบาย ตอนป้าเอายาขึ้นไปให้ท่านก็ดูเหมือนท่านเหนื่อยๆ แต่พอคุณหนูกลับมาท่านก็ดูเหมือนปกติทุกอย่างเลยค่ะ"



"ป้าไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะคอยดูคุณพ่อเอง"



"คุณหนูกลับมาบ้านท่านคงจะดีใจเลยหายป่วยมั้งคะ งั้นป้าไม่รบกวนคุณหนูแล้วนะคะ ป้าขอตัวไปทำงานก่อน ถ้าคุณหนูต้องการอะไรเพิ่มเรียกป้าได้ตลอดเลยนะคะ"



"ครับ"







ป้านวลเดินออกไปจากห้อง ผมหยิบโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา 







"ฮัลโหล"



"อยู่ไหน?" เสียงดุมากอ่ะ



"อยู่บ้านพ่อน่ะปู ขอโทษที่ลืมโทรไปบอกพอดีรีบออกมาเลยลืมน่ะ"



"เฮ้ออ... มึงเนี่ยน้า!! แล้วนี่ถึงบ้านพ่อนานรึยัง?"



"ถึงสักพักใหญ่แล้วครับ ขอโทษจริงๆ ลืมสนิทเลย อย่าโกรธเลยน้า"



"ครั้งหน้าโทรบอกกูให้เร็วกว่านี้!"



"ครับ.. รู้แล้วๆ ไม่ต้องเสียงดุขนาดนั้นก็ได้ กลัวจะตายแล้วเนี่ย" ผมแกล้งทำเสียงล้อเลียน



"ก็กูเป็นห่วง โทรไปที่โต๊ะไม่มีคนรับ แถมเลขามึงมารับสายกูช้าอีก"



"จูนเขาน่าจะยุ่งๆ อยู่น่ะ เพราะโจฝากงานให้จูนดูแลแทนโจไง" ผมอธิบาย



"เออ! ก็พอกูถามว่ามึงไปไหนก็บอกไม่รู้นี่หว่า กูเลยหงุดหงิดนิดหน่อย" น้ำเสียงแบบนี้ผมว่าหงุดหงิดมากครับ ไม่นิดหน่อยอ่ะ



"โอ๋ๆ ไม่อารมณ์เสียนะครับ ขอโทษจริงๆ ต่อไปจะไม่ลืมจะรีบโทรบอกเลยอ่ะ"



"กวนตีน!" ผมฟังแล้วได้แต่กลั้นยิ้ม



"แล้วนี่ปูอยู่ไหน?"



"บ้าน" ตอบสั้นๆ แบบนี้ยังหงุดหงิดอยู่ครับ คึคึ



"ตอบยาวๆ หน่อยซิ อยากฟังเสียงอ่ะ คิดถึง"



"บ้านกู! ยาวพอยัง"



"ยาวมากกกก..." ผมแกล้งลากเสียง



"ตลก! แล้วนี่รีบออกไปหาพ่อมีอะไรรึป่าว?"



"ป้านวลโทรมาบอกว่าพ่อไม่สบาย โจก็เลยรีบขับรถมาหาพ่อที่บ้าน"



"อ้าวเหรอ แล้วพ่อเป็นยังไงบ้าง?"



"ท่านก็ดูปกติดีอ่ะปู เนี่ยโจยังงงอยู่เลยสรุปว่าพ่อไม่สบายจริงรึป่าว"



"อ้าว! แล้วถามพ่อยังล่ะ"



"ถามแล้ว.. พ่อบอกว่าสบายดีเลยไปไม่ถูกเลย" 



"แล้วจะยังไงต่อ?"



"พ่อชวนกินข้าวเย็นด้วยนะ แล้วยังให้โจช่วยตรวจเอกสารให้อีก ตอนนี้พ่อนอนพักอยู่บนห้อง"











"ปูทำไมเงียบไปล่ะ"



"คิดอยู่"



"คิดอะไรเหรอ"



"เออน่า!"



"ดุอีกล่ะ" ผมแกล้งบ่น



"ป่าวดุเว้ย!! ก็คนกำลังใช้ความคิด"











ผมแกล้งเงียบบ้างดีกว่า ^^











"โจ"











"โจ!!"











"โจตอบเดี๋ยวนี้!!" แฟนใครเนี่ยโคตรดุเลย



"ครับๆ ว่าไง?"



"ทำไมเงียบ?!"



"กำลังคิดไง" ผมตอบ



"คิดอะไร?"



"อ่อ.. กำลังคิดว่าปูกำลังคิดอะไรอยู่นะซิ"



"หึ! กวนตีน ถ้าอยู่ใกล้ๆ มึงเจอดีแน่!"



"ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน้า.. ปูก็อย่าเงียบซิ"



"เออๆ แล้วจะกลับบ้านกี่โมง?"



"ยังไม่รู้เลย คงอยู่เป็นเพื่อนพ่อสักพักแล้วจะกลับมืดๆ ครับ"



"อืม.. ถ้าจะกลับโทรมาด้วย ฝากบอกพ่อด้วยว่าจะเข้าไปเยี่ยมวันหลัง"



"ได้ซิเดี๋ยวโจบอกพ่อให้นะ พ่อถามถึงปูด้วย"



"อืม.. งั้นก็ไปอยู่เป็นเพื่อนพ่อเถอะ ถ้าพ่อไม่สบายก็พาไปหาหมอ"



"ปูจะวางแล้วเหรอ?"



"จะออกไปข้างนอก"



"ไปไหน?"



"ไปหากิ๊ก หึหึ"



"ว่าไงนะ!" ผมหลุดทำเสียงดุออกไป



"ฮ่าๆ ล้อเล่น จะออกไปกับไอ้ป่านไปกระทืบคน"



"ปู.. ไม่ตลกเลยนะ!" อันนี้ผมดุจริง



"เออน่า.. ไม่มีอะไรหรอกแค่ไปเคลียร์กันนิดหน่อย"



"ขอร้องนะปู โจไม่อยากเห็นปูเจ็บตัวอีก"



"รู้แล้วน่า.. แค่คุยเฉยๆ ไม่มีอะไร"



"สัญญานะ"



"ครับเมีย"



"คนบ้า!!" เล่นเอาผมเขินแบบไม่ทันตั้งตัวเลยแฮะ



"งั้นแค่นี้นะ ไอ้ป่านมาแล้ว"



"ครับ คิดถึงนะ"



"อืม... กูก็คิดถึงมึง" แล้วปูก็วางสายไป







เฮ้ออ.. ถ้าปูอยู่ด้วยคงจะดีอย่างน้อยปูก็คงถามพ่อแทนผมว่าท่านเป็นอะไรไม่สบายตรงไหน ผมอยากได้ความกล้าจากปูสักนิดก็ยังดี







"พ่อจะตื่นรึยังนะ" ผมพรึมพรำกับตัวเอง







โครม!!!







"พ่อ!!"





ผมรีบวิ่งออกจากห้องทำงาน ป้านวลก็วิ่งออกมาจากห้องครัว ผมวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองแล้วตรงไปยังห้องนอนของพ่อ





แกร๊ก~





ผมเปิดประตูห้องนอนแล้ววิ่งเข้าไปในห้อง





"พ่อครับ เป็นอะไรรึป่าว?" ผมเข้าไปพยุงตังพ่อผมขึ้นจากพื้น



"ไม่เป็นไรลูก พ่อรีบลุกไปหน่อยเลยหน้ามืด"



"พ่อเจ็บตรงไหนรึป่าวครับ"



"พ่อไม่เป็นไรโจ ช่วยพยุงพ่อขึ้นนั่งที่เตียงที" 



"ครับ" ผมทำตามที่พ่อบอก



"หยิบแว่นให้พ่อที"



"นี่ครับ" ผมยื่นแว่นสายตาให้ท่าน



"สงสัยพ่อจะแก่แล้ว สายตาเริ่มไม่ค่อยดีเลยล้มง่าย"



"พ่อไปหาหมอนะครับ เดี๋ยวผมพาไป"



"เฮ้ยไปทำไม พ่อไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย"



"ไปนะครับพ่อ ไปให้หมอตรวจนิดนึงก็ยังดีอย่างน้อยผมจะได้สบายใจ" ผมพูดอ้อนวอนท่าน



"พ่อไม่เป็นอะไรจริงๆ ลูก พ่อแค่หน้ามืดนิดหน่อยเท่านั้น ขอโทษที่ทำให้โจเป็นห่วงนะลูก" พ่อบีบผมเบาๆ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน



"พ่อครับ" 



"เอางี้นะ ถ้าพ่อรู้สึกไม่ดีหรือไม่สบายตรงไหนพ่อจะรีบบอกโจทันที แต่ตอนนี้พ่อสบายดีโจไม่ต้องเป็นกังวลนะลูก"



"สัญญานะครับ ถ้าพ่อไม่สบายตรงไหนพ่อต้องรีบบอกผมทันที"



"ได้ๆ สัญญาก็สัญญา แหม... ไอ้ลูกคนนี้มันช่างเป็นเด็กดีของพ่อจริงๆ เลย"





^^ ผมได้แต่ยิ้มตอบรับคำชมนั้น หวังว่าพ่อจะทำตามสัญญานะครับ 





"พ่อหิวข้าวแล้วไม่รู้ป้านวลเตรียมกับข้าวเสร็จรึยังนะ"



"เดี๋ยวผมลงไปดูให้นะครับ"



"ไม่ต้องๆ ลงไปด้วยกันนี่แหล่ะ"



"พ่อลุกไหวไหมครับ ผมช่วย"



"ไหวๆ พ่อเดินไหวอยู่น่า" 



"ให้ผมช่วยนะครับพ่อ"



"เฮ้ออ.. เจ้าลูกคนนี้นิ หึหึ" พ่อพยักหน้าตอบรับ ผมรีบลุกขึ้นแล้วพยุงท่านให้ลุกขึ้น



"เดินดีๆ นะครับ"



"รู้แล้วน่า.."







ผมเดินประคองพ่อลงมาชั้นล่างแล้วให้พ่อนั่งรอที่โซฟา ผมเดินเข้าไปในห้องครัว ป้านวลกำลังเตรียมอาหารอย่างขมักเขม้น ป้าบอกผมว่าอาหารใกล้จะเสร็จแล้วป้าจะรีบตั้งโต๊ะให้ทันที ผมเดินกลับไปหาพ่อที่ห้องรับแขก พ่อกำลังกดทีวีเลือกดูช่องข่าวที่น่าสนใจ ผมนั่งคุยกับพ่อต่อสักพักป้านวลก็เดินออกมาบอกว่าอาหารพร้อมทานแล้ว







ผมกับพ่อนั่งกินข้าวด้วยกัน พ่อถามเรื่องงานของผมว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมเล่าให้ท่านฟังว่าผมได้งานที่ดีมาก ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันออกไปทำให้ผมได้คิดสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา งานของผมค่อนข้างยุ่งเพราะทำหลายโปรเจคในเวลาใกล้เดียวกัน พ่อถามผมว่าเหนื่อยไหม ผมตอบพ่อว่าผมสนุกและดีใจที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักครับ







หลังจากทานข้าวเสร็จผมกับพ่อก็มานั่งคุยกันต่อที่ห้องรับแขก เราพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พ่อสอนผมหลายอย่าง ผมนั่งฟังสิ่งที่พ่อสอนอย่างตั้งใจ







"โจต้องพักผ่อนให้มากๆ นะลูก โหมงานมากไปร่างกายจะไม่ไหวเอา"



"พ่อก็ด้วยนะครับ พักผ่อนบ้างอย่ามัวแต่ห่วงงานจนลืมห่วงสุขภาพตัวเอง"



"เออ! เจ้าลูกคนนี้นี่ย้อนพ่อเก่งจริง แต่ก่อนไม่เคยเห็นกล้าพูดกับพ่ออย่างนี้เลย"



"ก็ตอนนั้นผม...."







ผมจะพูดยังไงดีล่ะ พูดว่าตัวเองเป็นลูกที่พ่อไม่เคยใส่ใจเลยงั้นเหรอ ถ้าผมพูดความคิดของผมในตอนนั้นออกไปพ่ออาจจะรู้สึกแย่ก็ได้ ผมไม่อยากทำให้พ่อไม่สบายใจ







"พ่อขอโทษ" คำสั้นๆ ที่ทำเอาผมนิ่งเหมือนถูกแช่แข็ง



"พ่อขอโทษที่ไม่ได้เลี้ยงโจให้ดีกว่านี้ พ่อขอโทษที่ปล่อยให้โจถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ พ่อเป็นพ่อที่ไม่เอาไหนเลยว่าไหม"



"พ่อครับ ผม.."



"พ่อรู้ทุกอย่างแต่ก็ยังปล่อยให้โจอดทนกับความลำบากนั้นมาตั้งหลายปี พ่อขอโทษนะ"



"ผมไม่โทษพ่อเลยนะครับ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องไหนผมไม่เคยโทษพ่อเลยสักครั้งเดียว"



"พ่อรู้สึกผิดมาตลอดพ่อเลยพยายามที่จะแก้ไขทุกอย่างให้มันถูกต้อง โจเป็นลูกที่พ่อรักนะแต่พ่อไม่ดีเองที่ปล่อยปละละเลยจนทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง จนเกือบทำให้ลูกของพ่อ..."



"พ่ออย่าโทษตัวเองเลยครับ พ่อทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว ผมได้เรียนจนจบมีงานทำ ผมได้รับความกรุณาจากพ่อมากมายผมไม่เคยโกรธพ่อเลยสักครั้ง ผมกลับขอบคุณพ่อด้วยซ้ำที่ทำให้ผมเกิดมาบนโลกใบนี้ พ่อเลี้ยงผมมาจนโตแล้วผมยังจะต้องการอะไรอีก แค่นี้ผมก็ขอบคุณพ่อมากๆ แล้วครับ"







น้ำตาผมไหลออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ ผมรู้สึกถึงความรักที่พ่อมีให้ผมแต่ท่านไม่สามารถแสดงออกอย่างที่ท่านต้องการได้ ผมเข้าใจดี







"พ่อขอโทษนะลูก ต่อไปพ่อจะทำเพื่อลูกของพ่อทุกอย่างเท่าที่พ่อจะทำได้ ยกโทษให้พ่อที่ไม่เอาไหนคนนี้ด้วยนะ"



"พ่อครับ" ผมโผลเข้ากอดพ่อไว้แน่น ไม่ว่ายังไงผมยังคงรักพ่อของผมคนนี้เสมอ อ้อมกอดพ่ออบอุ่นมากถึงผมจะโตแล้วผมก็ยังโหยหาอ้อมกอดนี้ที่ผมรักที่สุด ผมรักพ่อนะครับ













"เฮ้ออ.. นี่พ่อคงแก่แล้วจริงๆ ทำไมอ่อนไหวง่ายแบบนี้ได้นะ"







ผมรีบเช็ดน้ำตาตัวเองไม่อยากให้พ่อเห็น ผมเริ่มรู้สึกอายนิดๆ โตแล้วแต่ยังร้องไห้เหมือนเด็กสิบขวบที่ยังไม่โต ถ้าปูเห็นเข้าคงล้อผมตายแน่







"พ่ออย่าโทษตัวเองอีกนะครับ เพราะถึงพ่อจะเป็นยังไงสำหรับผมแล้ว พ่อคือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของผมครับ"



"พ่อภูมิใจในตัวลูกนะ" ท่านยิ้มแล้วลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน



"พ่อครับ คืนนี้ผมขอค้างที่นี่ได้ไหม?"



"ได้ซิ เจ้านี่นิทำยังกับไม่ใช่บ้านตัวเอง ห้องนอนพ่อก็ทำไว้ให้ตั้งนานแล้วรอให้มาอยู่ทุกวัน"



"ขอบคุณครับพ่อ งั้นเดี๋ยวผมโทรไปลาพักร้อนกับเลขาสักสองสามวันดีกว่าผมจะได้อยู่คุยกับพ่อนานๆ ดีไหมครับ"



"เออ.. ดีๆ งั้นเราสองคนพ่อลูกลาพักร้อนด้วยกันเลยก็ดี ว่าแต่... เราจะทำอะไรกันดีล่ะได้หยุดตั้งหลายวัน"



"ฮ่าๆๆ แล้วแต่พ่อเลยครับ ผมได้หมดตามใจพ่อเลย" 







เสียงหัวเราะเราสองคนฟังแล้วเป็นเสียงที่บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขที่สุด ผมกับพ่อคุยกันจนดึกดื่นจนพ่อต้องขอตัวไปนอน ผมเดินไปส่งพ่อที่ห้องนอนก่อนออกจากห้องผมขอพ่อไม่ให้ล็อคกุญแจ ตอนแรกพ่อจะไม่ยอมพ่อบอกว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผมขอร้องพ่ออยู่สักพักพ่อก็ยอมตกลง









ผมบอกราตรีสวัสดิ์พ่อก่อนเดินออกจากห้อง ป้านวลจัดเตรียมห้องนอนไว้ให้ผม ห้องนอนที่พ่อทำขึ้นมาใหม่เพื่อผม ชุดนอนชุดใหม่ที่พ่อซื้อไว้ให้ผมและของใช้ที่จำเป็น ผมเดินตรวจดูสิ่งของต่างๆ จนรอบห้อง ในตู้เสื้อผ้ามีชุดนอนอยู่สองชุดแต่ต่างไซส์ ดูก็รู้แล้วครับว่าพ่อเตรียมไว้ให้ใครบ้าง ชุดลำลองที่ดูเรียบง่าย ทุกอย่างที่ผมเห็นทำเอาผมน้ำตาซึมเลยครับ









ครืดด~~







"ฮัลโหล"



"อยู่ไหน?" คำถามซ้ำๆ ที่ทำเอาผมแอบยิ้มแก้มปริ



"บ้าน" ผมตอบ



"บ้านไหน บ้านพ่อหรือบ้านเรา?"



"บ้านพ่อ" "ดึกแล้วทำไมยังไม่กลับอีก"



"ปูคืนนี้โจจะนอนค้างที่บ้านพ่อนะ" ผมบอกปู



"ทำไม พ่อไม่สบายมากเหรอ?"



"ยังไม่รู้เลย.. แต่โจเป็นห่วงพ่อน่ะ"



"อืม... จะนอนก็นอนเถอะแต่ล็อคประตูด้วย"



"ทำไมอ่ะ?"



"ถามอะไรหนักหนาวะ! บ้านพ่อมึงลูกน้องเยอะพวกมันไม่น่าไว้ใจกูบอกให้ล็อคก็ล็อกดิ!!"



"ครับๆ รับทราบแล้วครับ" ผมแอบยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้ว



"แล้วนี่จะนอนยัง?"



"เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จก็จะนอนเลย เออใช่... ปูรู้ไหมห้องที่พ่อทำไว้ให้มีของใช้ครบเลยนะ มีขอปูด้วย"



"หึหึ แล้วมีอะไรบ้างไหนเล่าดิ๊"



"ก็มีชุดนอน ชุดใส่อยู่บ้านแบบเรียบๆ แล้วก็มีของใช้ทุกอย่างเลย" "พ่อมึงใจดีเนอะ"



"อืม... พ่อใจดีมาก"



"แล้วพรุ่งนี้จะไปทำงานกี่โมง?"



"อ่อ.. พรุ่งนี้โจลาพักร้อนน่ะอยากอยู่ดูพ่อสักสองวัน พ่อก็หยุดทำงานนะปู โจว่าดีเหมือนกันพ่อจะได้พักผ่อนบ้าง"



"อืม.. ดีแล้ว"



"เฮ้ออ... แต่โจก็แอบเป็นห่วงงานนิดๆ อยู่นะ"



"ห่วงทำไมลูกน้องเยอะแยะ พักผ่อนบ้างก็ดีเดี๋ยวกูเคลียร์งานทางนี้เสร็จจะรีบกลับไปหา"



"อืม.. รีบๆ กลับมานะ"



"หึหึ.. นอนได้แล้ว"



"ปูก็เหมือนกันนะ กลับบ้านนอนได้แล้ว"



"อืม.. งานใกล้เสร็จแล้วก็ว่าจะกลับเหมือนกัน"



"ขับรถดีๆ นะปู อย่าซิ่งให้มากนักล่ะ"



"รู้แล้วๆ บ่นจริงเว้ย!"



"งั้นแค่นี้นะครับ ฝันดีนะ"



"เออ.. ฝันดีฝันถึงกูด้วย หึหึ"







คืนนี้คงเป็นคืนที่ผมนอนหลับฝันดีที่สุด ความสุขที่ผมรอมานานและความสุขที่ผมไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทุกอย่างมันดีไปหมด ความสุขที่เกิดจากพ่อและคนรัก ฝันดีนะครับ







TBC.

ละมุนแต่แอบหน่วง ใครอ่านแล้วซึ้งหรือใครอ่านแล้วน้ำตาแอบไหลยกมือขึ้น งุงิงุงิ ^^









ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew5: มันมีอะไรมากกว่าเเค่หน้ามืดธรรมดาใช่เปล่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตรงกับวันพ่อพอดี........
โจ รักพ่อ  :mew1: :mew1: :mew1:
 
ปู โจ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เหมือนโจจะเจอดร่าม่าอีกล่ะ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】



【EP.15 วันที่มีความสุข】







วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเพราะอยากทำอาหารเช้าให้พ่อด้วยตัวเองครับ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมรีบลงมาเตรียมของที่ต้องใช้โดยมีป้านวลเป็นผู้จัดหาส่วนประกอบที่สำคัญของอาหารมื้อนี้ครับ









"คุณหนูคะ ป้าเตรียมของตามที่คุณหนูต้องการไว้ให้ครบแล้วนะคะ"




"ขอบคุณครับป้า เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการต่อเองครับ"




"มีอะไรให้ช่วยเรียกป้าได้เลยนะคะ ป้านั่งแยกของใช้อยู่หลังครัวค่ะ"




"ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้"




"งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ" ป้านวลพูดจบก็เดินออกไป




"ตายล่ะ! ลืมบอกคุณจูนไปสนิทเลย"





ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความ บอกเลขาว่าผมลาพักร้อนสองวัน พอกดส่งข้อความถึงเลขาเรียบร้อยก็ผมก็ต้องรายงานตัวกับคนสำคัญอีกคน





"ตอนนี้น่าจะยังไม่ตื่นหรอก" ผมตัดสินใจกดส่งข้อความทางไลน์ไปบอกว่า...





//อรุณสวัสดิ์นะครับคนขี้เซา ตื่นแล้วโทรหาด้วยนะ คิดถึงครับ//





ผมยืนยิ้มกับโทรศัทพ์เหมือนกับคนบ้า หน้าออกร้อนนิดๆ แอบเขินอายตัวเองอยู่ไม่น้อย อืม... แต่ผมว่ามันโอเคนะ ผมรู้สึกดีกับสิ่งที่ทำและคนที่ได้รับก็คงรู้สึกดีไม่ต่างจากผม







ครืดดด~~







ผมมองไปที่โทรศัพท์ที่กำลังสั่นอยู่บนโต๊ะ สายโทรเข้าแอบทำให้ผมแปลกใจเล็กน้อย





"ฮัลโหลครับ ทำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง"




"ยังไม่ตื่นหรอก แค่เห็นข้อความว่ามีคนส่งมาบอกว่าคิดถึงเลยรีบโทรหา หึหึ"





^^ ดูพูดเข้า เล่นเอาผมไปต่อไม่ถูกเลย





"อ้าว ทำไมเงียบวะ"




"อ่อ... ก็ฟังตั้งใจฟังอยู่อ่ะ" ผมรีบตอบไปไหมนะ




"หึหึ มึงนี่ชอบทำตัวน่ารักเกินผู้หญิง ถ้าอยู่ใกล้ๆ กูจะกอดให้หายใจไม่ออกเลย"




"เลิกพูดเล่นได้แล้ว! ถ้าง่วงก็นอนต่อไปเลยโจจะทำอาหารเช้าให้พ่อครับ"




"เฮ้ออ.. พอโทรมาก็ให้รีบวางเนอะ คนอุตส่าห์คิดถึง"




"ก็ปูมัวแต่พูดล้อกันอยู่ได้ คุยเรื่องอื่นไปไม่ได้รึไงล่ะ"




"โอ๊ยยย อยากกลับกรุงเทพฯ โว๊ยยย..." หูผมแทบแตกแน่ะ




"อยากกลับก็รีบทำงานให้เสร็จซิ เดี๋ยวโจจะทำของอร่อยๆ ให้กินเลยดีไหม ต้อนรับกลับบ้านไง"




"กินมึงแทนได้ไหมอร่อยสุดแล้ว น่ากินไปทั้งตัวเลย หึหึ"




"ถ้าพูดแบบนี้โจวางแล้วนะ"




"อยากกัดต้นคอขาวๆ กลิ่นตัวหอมๆ ของมึงแค่คิดกูก็แข็งแล้วเนี่ย" 




"โอ๊ยย ไอ้บ้าปูแค่นี้นะ"




"อ่าา... ที่รัก"




"คนบ้า!! โจวางนะ บาย"





ผมกดวางสายเลยครับ คนอะไรทำตัวโรคจิตมากขึ้นทุกวันผมจะบ้าตาย!! ก็รู้นะว่าชอบพูดแกล้งให้ผมอายแต่บางครั้งที่ผมฟังมันไม่เหมือนการแกล้งนี่ซิครับ





ติ้ง!!





//กลับไปเจอดีแน่!! กูจะเก็บความหื่นนี้ไว้ทำกับมึงที่กรุงเทพฯ หึหึ//





"นี่โรคจิตตัวพ่อมาเองใช่ไหมเนี่ย" 





--"





เฮ้ออ... มีแฟนโรคจิตต้องทำใจครับ









ผมวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะแล้วเริ่มลงมือทำอาหารเช้ามื้อพิเศษให้พ่อของผม วันนี้อาหารง่ายๆ ที่ผมตั้งใจทำก็คือข้าวต้มปลาเก๋าและสลัดผักใส่ปลาทูน่า อาหารเบาๆ เพื่อสุขภาพหวังว่าพ่อจะชอบ ผมเริ่มตั้งหม้อเตรียมน้ำซุป หั่นเนื้อปลาให้ได้ขนาดพอดีคำ หั่นผักโรยเตรียมเห็ดหอม ขิงสดและเจียวกระเทียมจนหอมฟุ้งไปทั่วครัว ผมทำน้ำซุปแยก ข้าวก็หุงแยกไม่ได้ต้มรวมกันเหมือนข้าวต้มทั่วไป เนื้อปลาที่หั่นเตรียมไว้ก็นำไปลวกในหม้อน้ำซุปที่เตรียมไว้เป็นสูตรลับที่ผมชอบทำให้ปูกินอยู่บ่อยๆ หลังจากเตรียมเครื่องข้าวต้มจนเสร็จผมก็จัดแยกเรียงไว้อย่างสวยงาม อาหารนอกจากความอร่อยในรสชาติแล้วหน้าตาของอาหารนี่ก็สำคัญมากนะครับ ผมคิดว่างั้นนะ ^^









หลังจากผมเตรียมข้าวต้มเสร็จก็เตรียมล้างผักสำหรับทำสลัดทูน่า น้ำสลัดผมทำเองนะครับสูตรลับอีกแล้ว ผักสลัดถูกล้างด้วยน้ำสะอาด หั่นแล้วจัดเตรียมใส่ไว้ในชามสลัดขนาดพอดี น้ำสลัดถูกปรุงขึ้นสดใหม่และเทใส่ถ้วยแก้วขนาดเล็กสำหรับสองที่เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เดินไปดูน้ำซุปอีกนิดพอเปิดฝาหม้อออกเท่านั้นแหละ







หืออ... กลิ่นหอมมาก ^^







"กลิ่นหอมขนาดนี้ เช้านี้ต้องมีของอร่อยให้พ่อกินแน่เลยใช่ไหม" พ่อเดินเข้ามาหาผมในครัว




"พ่อหิวรึยังครับ ผมเตรียมอาหารเช้าเสร็จพอดีเลย"




"ดีๆ พ่อหิวพอดีเลย" 




"งั้นพ่อนั่งรอแป๊ปนึงนะครับ"







พ่อผมเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร ผมรีบเตรียมอาหารเช้าให้พ่อทันที ข้าวที่หุงเสร็จใหม่ทั้งนุ่มและหอมฉุยถูกตักใส่ชาม เนื้อปลาเก๋าที่ลวกจนสุกจัดวางบนข้าวตามด้วยเห็ดหอม ขิงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ วางเรียงกันอย่างสวยงามก่อนจะตักน้ำซุปใส่ชามให้ท่วมเหนือเนื้อปลาขึ้นมาเล็กน้อย โรยผักขึ้นฉ่ายและกระเทียมเจียวปิดท้ายเป็นอันเสร็จเรียบร้อย







"ข้าวต้มร้อนๆ มาแล้วครับ"




"แค่พ่อได้กลิ่นก็อร่อยแล้วนะเนี่ย"




"มีสลัดด้วยนะครับ พ่อทานก่อนได้เลยนะเดี๋ยวผมจัดสลัดใส่จานให้ครับ"




"ยกมาๆ วันนี้พ่อจะกินให้เยอะๆ ไปเลย"  ผมได้ฟังแค่นี้ก็รู้สึกดีใจมากแล้วครับ 




"หืออ... น่ากินทั้งสองอย่างเลยลูก"




"ทานเยอะๆ นะครับพ่อ ผมตั้งใจทำสุดฝีมือเลยนะครับ"




"ไหนพ่อลองซิมซิ" พ่อผมตักน้ำซุปขึ้นมาชิม




"เป็นยังไงบ้างครับ รสชาติพอไปได้ไหมครับพ่อ?"




"แค่พอไปได้งั้นเหรอพ่อว่าอร่อยมากต่างหากล่ะ รสชาติกลมกล่อมหอมกระเทียมเจียวอีกด้วย สุดยอด!" พ่อยกนิ้วโป้งให้ผม




"ขอบคุณครับ งั้นพ่อทานเยอะๆ นะครับ"




"มาๆ กินข้าวกันลูก"















"พ่ออิ่มมาก"



"ชาร้อนครับพ่อ"




"ขอบใจ" พ่อหยิบชาขึ้นมาจิบ




"วันนี้พ่ออยากออกไปไหนไหมครับ?"




"นั่นซิ แล้วโจล่ะวันนี้อยากไปไหนหรือทำอะไรรึป่าว พ่อไม่ได้คิดไว้เลยพ่อไม่ได้หยุดทำงานซะนานเลยไม่รู้ว่าวันหยุดคนอื่นเขาทำอะไรกันบ้าง หึหึ"




"งั้นเอาอย่างนี้ไหมครับพ่อ เราไปเดินซื้อต้นไม้กัน"




"เอาอย่างนั้นเหรอ อืม... พ่อก็ว่าดีเหมือนกันไม่ได้ทำอะไรแบบนี้นานแล้ว"




"ครับ" ผมตอบรับด้วยความดีใจ




"ไปเตรียมรถฉันจะออกไปข้างนอกกับลูก" พ่อผมหันไปสั่งบอดี้การ์ด




"พ่อให้เด็กขับรถให้นะ"




"ได้ครับพ่อ"







อันที่จริงผมก็แอบอึดอัดนะที่มีบอดี้การ์ดคอยเดินล้อหน้าล้อหลังอยู่รอบๆ ตัว แต่ด้วยงานที่พ่อผมทำท่านต้องมีคนคอยระวังความปลอดภัยให้เพราะคู่แข่งทางการค้าท่านเยอะ ทั้งในด้านมืดและด้านสว่างเลยทำให้พ่อผมต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลา







ผมนั่งรถไปกับพ่อโดยมีรถบอดี้การ์ดขับตามหลังมาอีกหนึ่งคัน ระหว่างทางผมเล่าเรื่องนู้นนั่นนี่ให้พ่อฟังเยอะไปหมด พ่อก็ฟังผมอย่างตั้งใจ เราคุยกันจนถึงร้านขายต้นไม้ที่ตั้งเรียงรายตลอดแนวข้างถนน   พ่อเล่าให้ผมฟังว่าแต่ก่อนตอนที่ผมยังไม่เกิดและงานพ่อไม่ได้เยอะขนาดนี้พ่อผมชอบปลูกต้นไม้มาก บ้านเก่าที่พ่ออยู่คือต้นไม้ที่พ่อปลูกเองทั้งหมด พองานเริ่มเยอะพ่อเริ่มมีกิจการที่มากขึ้นทำให้พ่อไม่ค่อยมีเวลาว่างเหมือนเดิม จากบ้านไม้สองชั้นก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังที่ใหญ่ขึ้น บ้านปัจจุบันที่พ่ออยู่คือหลังที่สามเพราะจำนวนคนในครอบครัวและคนในปกครองเยอะขึ้นพ่อเลยซื้อบ้านหลังนี้ครับ และความทรงจำทุกอย่างของผมเกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้เช่นกัน







หลังจากเดินดูต้นไม้ตามร้านต่างๆ เราใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงพ่อก็ได้กล้วยไม้ที่ถูกใจ พ่อบอกว่าเอามาปลูกไว้ดูความสวยงามก็พอ เอาไว้ดูเพลินๆ เวลาเดินเล่นในสวนฆ่าเวลาในยามที่พ่อว่างจากการทำงาน ผมว่าก็ดีเหมือนกันครับพ่อจะได้พักผ่อนบ้าง ^^







"เดินจนเพลินเลยพ่อไม่ได้มาเดินแบบนี้นานเท่าไหร่แล้วเนี่ย"




"พ่อเหนื่อยไหมครับ?" ผมถามพ่อเพราะเห็นเหงื่อพ่อออกค่อนข้างเยอะ




"พ่อไม่เหนื่อยหรอกแต่อากาศนี่ซิทำไมถึงร้อนอย่างนี้นะ"




"ผ้าเช็ดหน้าครับพ่อ" ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าให้พ่อ




"ขอบใจลูก" 




"พ่อนั่งรอผมแป๊ปนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำมาให้"



"ไม่ต้องโจ ให้ลูกน้องเดินไปซื้อจะเดินไปให้เหนื่อยทำไม"




"เดี๋ยวผมไปซื้อให้เองครับท่าน"




"ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้พ่อเอง" ผมบอกลูกน้องคนนั้น




"จะดีเหรอครับคุณหนูให้ผมไปซื้อให้ก็ได้ครับ"




"ไม่เป็นไร"




"หึหึ งั้นให้ลูกชายฉันไปซื้อเอง พวกแกไม่ต้อง"



"พ่อขึ้นไปนั่งรอผมบนรถนะครับ เดี๋ยวผมมา"




"อืม.. งั้นพ่อนั่งรอที่รถนะ"




"ครับ" ผมพูดจบก็เดินออกมาทันที




"ดูคุณโจไว้ด้วย อย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับลูกฉัน"




"ครับท่าน"







ผมเดินมาไกลจากรถไม่ไกลนักก็เจอร้านกาแฟเล็กๆ ร้านหนึ่ง ผมเดินเข้าไปในร้านแล้วเลือกสั่งน้ำดื่มและกาแฟสดอีกหนึ่งแก้ว ผมจ่ายเงินเรียบร้อยกำลังจะเดินมานั่งรอกาแฟที่สั่งก็ถูกชนเข้าอย่างจัง







ตุบ!!





"ขอโทษครับ เป็นอะไรมากไหมครับ" 





ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอผู้ชายร่างสูงกำลังยื่นมือเข้ามาจะช่วยพยุงผมขึ้นจากพื้น





"ไม่เป็นไรครับ ผมลุกเองไหว" ผมลุกขึ้นแล้วปัดเสื้อผ้าตัวเองเล็กน้อย



"ขอโทษจริงๆ นะครับ ผมเดินไม่ระวังเอง" ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น



"ไม่เป็นไรครับ ผมก็ไม่ระวังเหมือนกัน"













"คิวที่สี่สิบสามเชิญรับกาแฟค่ะ" ผมมองบัตรคิวตัวเอง





หมับ!





"มือคุณแดงเลย เจ็บไหมครับ?" ผู้ชายคนนั้นจับมือผมไปดู





พรึ่บ!





"เอ่อ... ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้เจ็บตรงไหน ขอตัวก่อนนะครับ"





กริ่ง! 

เสียงเปิดประตูร้านดังขึ้น





"คุณหนูครับ" บอดี้การ์ดพ่อผมเดินเข้ามาในร้านสองคน 



"ผมไม่เป็นไร"



"คิวที่สี่สิบสี่เชิญรับกาแฟค่ะ"



"เดี๋ยวผมไปรับกาแฟก่อน พวกคุณยืนรอตรงนี้นะ"



"ผมรับให้เองครับคุณหนู" บอดี้การ์ดคนนึงพูดขึ้น



"เฮ้ออ... นี่ครับบัตรคิว" ผมยื่นบัตรคิวให้บอดี้การ์ดคนนั้น เขาเดินไปรับกาแฟและน้ำดื่มแทนผมส่วนอีกคนก็ยื่นอยู่ไม่ห่างจากผมนัก



"ให้ผมเดินไปส่งไหมครับ คุณขับรถมาไหม?" ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้น



"อ่อ.. ไม่เป็นไรครับ ผม..."



"พวกเราดูแลคุณหนูได้คุณไม่ต้องยุ่ง" บอดี้การ์ดคนนั้นเดินเข้ามากันผมทันที



"เรียบร้อยครับคุณหนู กาแฟครับ"



"งั้นกลับเลยนะครับคุณท่านรออยู่"





ผมไม่ทันได้ตอบอะไรก็ต้องเดินตามออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ค่อยชินกับเหตุการณ์แบบนี้เลยแฮะ













"ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะ ผมดูแลตัวเองได้" ผมพูดระหว่างที่กำลังเดินกลับไปที่รถ



"พวกผมทำตามคำสั่งท่านครับ"



"เฮ้อ... ผมคงเลี่ยงไม่ได้ซินะ" ผมถอยหายใจเหนื่อย



"ผมทำตามหน้าที่ครับคุณหนู"



"เรียกชื่อผมก็ได้นะ เรียกคุณหนูผมว่ามันฟังแล้วแปลกๆ ยังไงไม่รู้"



"ไม่ได้หรอกครับ เพราะคุณหนูเป็นลูกของเจ้านายครับ"



"โอเคๆ อยากเรียกแบบนั้นก็ตามใจ ผมซื้อน้ำมาเผื่อด้วยนะ"



"ขอบคุณมากครับคุณหนู"





กว่าจะเดินถึงรถทำไมผมรู้สึกว่าไกลกว่าตอนเดินไปร้านอีก รอบตัวดันมีบอดี้การ์ดเดินตามตลอดทาง รู้สึกอึดอัดจัง











"น้ำครับพ่อ"



"ขอบใจมากลูก"



"พ่อหิวข้าวรึยังครับ?"



"ก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน พ่อว่าจะพาโจไปกินข้าวร้านประจำของพ่อก่อนกลับบ้าน"



"ได้ครับ งั้นเรารีบไปกันเลยนะครับเพราะนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย"



"ไปร้านประจำของฉัน" พ่อผมพูดสั่งลูกน้อง



"ครับท่าน"









ร้านอาหารอยู่ไม่ไกลจากทางกลับบ้านมากนัก เราใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงร้านอาหารที่พ่อผมพูดถึง ท่านบอกว่าอาหารที่นี่อร่อยท่านชอบมากเลยอยากพาผมมาลองทานดู ในร้านตกแต่งเป็นแบบเรือนไทย บรรยากาศเงียบสงบดูเป็นส่วนตัวมาก ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ 







"สวัสดีครับท่าน ไม่ได้เจอท่านนานเลยสบายดีไหมครับ?"



"สบายดีๆ ขอบใจที่ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองนะ" 



"ยินดีมากเลยครับท่าน"



"วันนี้พาลูกชายมากินข้าวนอกบ้านน่ะ ช่วยจัดที่นั่งให้ทีนะ"



"ได้ครับ สวัสดีครับคุณหนู"



"เอ่อ... สวัสดีครับ" ผมนี่ทำตัวไม่ถูกเลย คุณหนูๆ โดนเรียกแบบนี้ทั้งวันบอกตามตรงว่าไม่ชินเอาซะมากๆ เลยครับ เฮ้ออ...



"เชิญทางด้านนี้ครับท่าน โต๊ะประจำท่านยังว่างอยู่ครับ"



"อืม... ขอบใจมาก"







ผมเดินตามพ่อผมเข้าไปด้านในของร้าน โต๊ะประจำที่ว่าเนี่ยถูกจัดอยู่ในห้องที่แยกออกมาต่างหากจากโซนที่นั่งด้านนอก ข้างในห้องตกแต่งอย่างสวยงามให้บรรยากาศเหมือนนั่งทานข้าวที่บ้านยังไงอย่างงั้น





"เมนูครับท่าน" 





ทุกขั้นตอนถูกจัดเตรียมโดยผู้จัดการร้านและมีผู้ช่วยอีกสองคนที่คอยเตรียมความพร้อมต่างๆ สำหรับลูกค้าคนพิเศษ บอดี้การ์ดที่มาด้วยก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องตามหน้าที่





"โจอยากกินอะไรสั่งเลยนะลูก"



"ครับพ่อ"



"คุณช่วยจัดอาหารเซตประจำของผมด้วยแล้วกัน ส่วนของลูกชายผมรอเขาเลือกก่อนว่าเขาอยากทานอะไร"



"ได้ครับท่าน"





ผมเริ่มดูรายการอาหารอ่านจนตาลายก็เลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอะไรดี ราคาค่อนข้างแพงมากสำหรับผม รายชื่ออาหารแปลกใหม่ดูน่าสนใจมากแต่ไม่รู้สั่งมาแล้วจะทานได้ไหมเนี่ยซิ





"โจทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะลูก อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะพ่อจ่ายเอง หึหึ"



"ผมเลือกไม่ถูกเลยครับพ่อ ชื่ออาหารดูน่าทานไปหมด"



"สั่งเลยพ่อหิวแล้วนะ"



"ครับๆ งั้นผมเอา..." ผมสั่งอาหารตามเมนูมาสองอย่าง



"พ่อผมบอกทำไม่สั่งน้อยจัง มานี่พ่อจัดการเอง"





หลังจากนั้นผมก็นั่งฟังรายการอาหารที่พ่อสั่งจนหูอื้อไปหมด ชาตินี้จะกินหมดไหมนะ













"เป็นไงบ้างลูก อาหารอร่อยถูกปากไหม?"



"อร่อยมาครับพ่อ"



"ไว้วันหลังพ่อจะพาไปกินอีกร้านนะ ร้านนี้ก็เด็ดไม่แพ้กัน"



"ครับพ่อ"



"เฮ้อ.. พออิ่มมากๆ พ่อก็ชักจะง่วงนอนแล้วซิ หนังท้องตึงหนังตามันก็เริ่มหย่อน"



"พ่อนอนพักก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวถึงบ้านผมจะปลุกพ่อเอง"



"เออดีๆ งีบสักแป๊ปก็ดีเหมือนกัน" พูดจบพ่อก็หลับตาลงทันที ผมปรับเบาะให้พ่อ



"ขอบใจนะลูก"







ระหว่างที่พ่อนอนผมก็นั่งเช็คเมลในมือถือครับ งานที่ผมทำจะถูกอัพเดทผ่านการส่งอีเมล ลูกน้องในทีมทุกคนจะต้องรายงานความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับงานที่รับผิดชอบอย่างละเอียดและครบถ้วนทุกขั้นตอน งานจะมีการอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อที่งานจะได้ถูกแก้ไขและดำเนินการไปอย่างราบรื่น เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเราก็กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย พ่อผมขอตัวขึ้นไปนอนต่ออีกนิดท่าทางพ่อจะเพลียอยู่ไม่น้อยครับ ผมจะเดินขึ้นไปส่งพ่อที่ห้องแต่โดนพ่อไล่ให้ไปพักบ้าง ผมเลยได้ไปส่งพ่อแค่หน้าห้องครับ 







"นอนพักสักนิดก็ดีเหมือนกัน ตื่นมาตอนเย็นค่อยเตรียมอาหารให้พ่อแล้วกัน" ผมเดินตรงไปที่ห้องของตัวเอง







ครืดดด ~~





"ฮัลโหลปู" ผมรีบกดรับสายทันที 



"ทำอะไรอยู่?"



"เพิ่งกลับมาถึงบ้านน่ะ เมื่อเช้าออกไปเดินซื้อต้นไม้กับพ่อมา"



"สนุกจนลืมกูเลยนะ"



"ใครบอกลืมล่ะ เนี่ยโจว่าจะโทรหาปูพอดีเลยแต่ปูดันโทรเข้ามาซะก่อน"



"ตลอด! ถ้ากูไม่พูดจะคิดได้ไหมว่าต้องโทรหากูบ้าง"



"ก็กำลังจะโทรจริงๆ ไม่เอาล่ะไม่ทะเลาะกันซิ ปูกินข้าวรึยัง?"



"เปลี่ยนเรื่องเก่ง หึหึ"



"อ้าว! คนอุตส่าห์เป็นห่วงนะ ปูกินข้าวรึยังครับ?"



"กินแล้ว เพิ่งกินเสร็จเมื่อกี้"



"กินข้าวกับอะไรครับ?" 



"หลายอย่างอ่ะ ยายทำไว้เพียบเลย"



"แล้วหลานๆ ล่ะอยู่ไหน ทำไมเงียบจังไม่เห็นได้ยินเสียงเลย"



"นอนกลางวันอยู่ในห้องกินอิ่มก็นอนหลับเลย เลี้ยงง่ายฉิบหาย วันนี้งอแงไม่ยอมไปโรงเรียนไอ้ป่านต้องโทรไปลาโรงเรียนบอกว่าลูกเป็นหวัดไปโรงเรียนไม่ได้ หึหึ"



"คิดถึงจัง" ผมคิดถึงสองแสบจัง ถ้าผมไปด้วยคงจะวิ่งเล่นอยู่กับผมทั้งวันแน่ๆ



"สองแสบงอแงว่าทำไมอาโจไม่มาด้วย ไอ้ป่านบ่นใหญ่เลยว่ามึงไม่มาเลยทำให้มันเดือดร้อนต้องโกหกลูก หึหึ"



"ไว้ครั้งหน้านะ ไปด้วย"



"คิดถึงแต่หลานเหรอวะ แล้วกูล่ะไม่ได้เจอหน้ากูตั้งสองวันแล้วนะ"



"คิดถึงคร๊าบ.. รีบๆ กลับมานะรออยู่ทุกวันเลยเนี่ย"



"หึหึ ได้ฟังแบบนี้ค่อยมีแรงทำงานหน่อย"



"แล้วงานเป็นยังไงบ้าง?" ผมถาม



"เหลือจัดการต่ออีกนิดก็เสร็จแล้ว"



"พักผ่อนบ้างนะปู อย่าทำงานจนอดนอนล่ะ"



"คร๊าบ... รับทราบครับเมีย"



"พูดแบบนี้อีกแล้วนะ" ผมแกล้งดุไปงั้นแหละ อันที่จริงผมก็เริ่มชินกับคำพูดพวกนี้แล้วล่ะครับเพราะปูเล่นพูดกรอกหูผมอยู่ทุกวัน แต่พอฟังทีไรมันจั๊กจี้ยังไงก็ไม่รู้แฮ่ะ



"กูพูดกับมึงแบบนี้ทุกวันยังไม่ชินอีกเหรอวะ"



"ก็มัน... พอฟังแล้วมันรู้สึกแปลกๆ อ่ะ"



"แปลกอะไร ผัวเมียกันเขาก็เรียกกันแบบนี้แหละถูกแล้ว"



"เฮ้ออ... ไม่เถียงแล้วครับ อยากเรียกอะไรก็เรียกเถอะเพราะปูจะพูดอะไรก็ถูกไปซะหมดนั่นแหล่ะ"



"อ้าวงอนๆ อย่าบอกนะว่างอนกู"



"ป่าวซะหน่อย โจจะไปงอนปูทำไมล่ะ"



"มึงเนี่ยนะ! ชอบทำให้กูคิดถึงได้ตลอดเวลาจริงๆ หึหึ"





ผมแอบยิ้มและดีใจกับสิ่งที่ได้ฟัง ทุกครั้งที่ปูพูดแบบนี้ทำเอาหัวใจผมพองโตดีใจอย่างบอกไม่ถูก คำพูดที่ฟังแล้วไม่ได้หวานจับใจเหมือนคำบอกรักของคนอื่นๆ แต่กลับทำให้ผมรู้สึกดีมากถึงมากที่สุดเลยครับ สำหรับผมแค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว ^^





"โจเดี๋ยวกูต้องออกไปร้านแล้วนะ คืนนี้มีงานต้องทำอีกนิดหน่อย เย็นๆ จะโทรหาอีกที"



"ครับ ขับรถดีๆ นะปู ไว้คุยกันนะครับ"



"อืม.. ไปล่ะ บาย"







ผมทิ้งตัวนอนลงบนที่นอนแล้วยิ้มอยู่หน้ามือถือของตังเอง กดเข้าไปในอัลบั้มรูป ปลายนิ้วกดเลื่อนไปเรื่อยๆ มองดูรูปที่เราสองคนถ่ายด้วยกัน รูปตลกๆ ที่ปูชอบแกล้งผมตอนถ่ายรูป คนนึงหัวเราะชอบใจส่วนผมหน้าตาเอ๋อมากๆ ดูแล้วก็แอบขำตัวเองทุกครั้ง ผมนอนดูรูปอยู่สักพักก็เริ่มจะง่วงนอนขึ้นมาซะแล้ว ผมวางโทรศัพท์ลงแล้วก็เคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว

















ผมหลับไปนานมากตื่นมาอีกทีก็สี่โมงกว่าแน่ะ ผมรีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาแล้วลงไปข้างล่าง





"ตื่นแล้วเหรอ นอนหลับสบายไหมลูก?"



"หลับสบายดีครับ พ่อตื่นนานรึยังครับ?"



"พ่อก็เพิ่งลงมาก่อนหน้าโจแป๊ปเดียวเอง นี่พ่อว่าจะออกไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านโจจะไปกับพ่อไหม"



"ครับพ่อ งั้นเราไปเดินเล่นกันก่อนกลับมาผมจะทำอาหารเย็นให้นะครับ"



"ไม่ต้องๆ ป้านวลเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว โจไม่ต้องเหนื่อยทำเองซะทุกอย่างหรอกลูกแค่โจมาอยู่เป็นพ่อแวะมาหาพ่อบ้างก็พอแล้ว"



"ครับพ่อ งั้นเราไปเดินเล่นกันเถอะครับ"







ผมกับพ่อออกไปเดินเล่นที่สวนหย่อมหลังบ้าน พ่อเอากล้วยไม้ที่ซื้อมาห้อยไว้แล้วรดน้ำอย่างอารมณ์ดี ดูพ่อมีความสุขมากเลยครับ พ่อพูดถึงวิธีการดูแลต้นไม้ที่พ่อเคยปลูกจนออกดอกออกผลว่าพ่อเลี้ยงดูพวกต้นไม้ยังไงบ้าง ฟังแล้วก็เพลินดีครับ







ครืดดด~~





"ผมขอรับโทรศัพท์แป๊ปนึงนะครับพ่อ"



"รับเถอะ พ่อไม่ว่าอะไรหรอก"



"ฮัลโหลปู ว่าไงครับ"



"ไม่ว่าไง แค่อยากได้ยินเสียง"



"ปูไม่มีอะไรด่วนใช่ไหม ตอนนี้โจเดินเล่นเป็นเพื่อนพ่ออยู่น่ะ เดี๋ยวโจโทรกลับนะครับ"



"เออๆ ว่างแล้วโทรมาแล้วกัน"



"ขอโทษนะปู เดี๋ยวโจจะรีบโทรหานะครับ"



"โจไม่ต้องวางหรอกลูก เอาโทรรศัพท์มานี่มาพ่อขอคุยกับแฟนโจหน่อย"



"พ่อจะคุยกับปูเหรอครับ?"



"อืม.. โจเข้าบ้านไปชงกาแฟให้พ่อสักแก้วนะ พ่อขอคุยธุระไม่นานหรอกแค่อยากถามอะไรนิดหน่อย"



"ได้ครับพ่อ"



"ปูครับ พ่ออยากคุยด้วยน่ะ"



"อืม... ได้" ผมบอกปูเรียบร้อยผมก็ยื่นโทรศัพท์ให้พ่อครับ





"เอากาแฟไม่ใส่นม ไม่ใส่น้ำตาลนะลูก"



"ครับพ่อ" ผมเดินกลับเข้าบ้านแล้วปล่อยให้พ่อคุยกับปูตามที่พ่อต้องการ

















"สวัสดีครับท่าน"





"เรียกฉันว่าพ่อซิ ฉันมีเรื่องจะขอร้องนายนิดหน่อยน่ะ"





"ครับ พ่อพูดมาได้เลย"







"คือพ่อ....."







TBC.



ลูกเขยกับพ่อตาเขาจะคุยกัน เรามันคนนอกรอก่อนนะ 5555+  ฝากเม้น ฝากให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ จุ๊บๆ









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2018 23:08:12 โดย Star_ss »

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ต่อมเผือกกระตุกเลยเชียว อยากรู้พ่อตา-ลูกเขยคุยอะไรกัน.

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :mew5: พ่อโจท่าทางจะไม่สบายหนัก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อโจ คงรู้อาการที่ตัวเองเป็น เลยฝากให้ปูดูแลโจ
รวมทั้งธุรกิจ กิจการของครอบตรัวตัวเองแน่เลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
คุยไรกันค๊าาาาาาาา
คงไม่มีไรร้ายแรงนะ!!!

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】



【EP.16 คำขอร้อง​】​









ไอ้พวกนี้มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ เล๊ยยย... กูให้น้ำแถมกรอกข้าวให้แดกทุกวันยังกล้าทำกับกูอย่างนี้อีก มึง!! กูถึงร้านเมื่อไหร่จะกระทืบให้ยับคาตีเลยมึงคอยดู!! หัวร้อนไอ้สัส!






ปัง!!




"ไอ้ป่านโว๊ย!! ไอ้ป่าน!!"




"เฮ้ยๆ แหกปากลั่นบ้านเลยนะไอ้น้องเวร!" ไอ้ป่านเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมจานข้าว




"ปูกับย่าล่ะ?"




"ออกไปทำบุญที่วัดยังไม่กลับ มึงกินข้าวมารึยัง?"




"ยังไม่ได้กินเลย กูขับรถไปส่งโจที่ทำงานแล้วก็รีบตรงมาที่นี่เลย"




"งั้นเข้ามาแดกข้าวก่อน กูก็เพิ่งเริ่มกินเมื่อกี้นี่เอง"




"เออๆ มึงตักข้าวไว้ให้กูด้วย เดี๋ยวกูโทรไปบอกไอ้โจแป๊ปว่ากูถึงบ้านแล้ว"




"แค่นี้ต้องรายงานด้วยเหรอวะ อ่อนว่ะ! หึหึ"




"มึงดิอ่อน!" ผมยกนิ้วกลางให้มันเป็นรางวัล






พอปะทะกับไอ้ป่านเสร็จผมก็โทรไปหาโจ บอกมันว่าผมถึงบ้านแล้ว ผมถามมันว่ากินข้าวรึยัง มันตอบผมว่ากำลังจะกิน ไอ้กำลังจะกินเนี่ยคือยังและไม่ใช่จะกินจริงๆ ตามที่มันบอกหรอกนะ เพราะถ้ามันได้ทำงานเพลินเมื่อไหร่มันจะลืมทันทีว่าต้องกินข้าว ผมเลยต้องออกคำสั่งตามเคย เฮ้ออ.. นี่ถ้ากูไม่อยู่มึงจะกินข้าวให้ตรงเวลาบ้างไม่ได้รึไงวะ






ผมคุยกับโจอยู่สักพักก็ต้องวางสายเพราะผมเองก็ต้องรีบไปที่ร้านจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น ใจก็ไม่อยากวางสายหรอก อยากคุยกับมันนานๆ แต่ผมต้องรีบเคลียร์ปัญหาให้เสร็จเร็วๆ นี่ซิ ยิ่งเสร็จเร็วเมื่อไหร่นั่นแสดงว่าผมจะได้กลับไปหามันเร็วขึ้น รู้งี้น่าจะพามันมาด้วยซะก็ดี








"ไหนข้าวกู"




"มุมขวาข้างตู้กูคลุกให้แล้ว หึหึ"




"กวนตีนฉิบหาย!"




"แล้วนี่มึงจะเข้าร้านเลยไหม กูให้เด็กที่ร้านเตรียมงานไว้ให้แล้ว"




"เข้าดิ"




"กูไม่ได้ไปด้วยนะเพราะกูต้องเข้าไปดูงานให้พ่อ"




"เออ! เดี๋ยวกูไปเอง"




"อ่ะแดกนี่ซะ พอกูบอกว่ามึงจะมาย่าก็ทำไว้ให้มึงตั้งแต่เช้าเลย"




"ช่วยไม่ได้ว่ะ กูมันหลานรักคนเดียวในใจย่า หึหึ"




"ถุย!! ไอ้หลานรัก" ไอ้ป่านไอ้พี่ขี้อิจฉา






ผมนั่งกินข้าวกันไอ้ป่านสองคนก็พ่นน้ำลายใส่กันไปใส่กันมา กว่าจะกินข้าวเสร็จก็โดยกัดซะเยินเลย พอกินเสร็จก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเอง






ผมขับรถไปที่ร้านถึงร้านก็เกือบบ่ายสอง มีลูกน้องยืนเฝ้าหน้าร้านอยู่สามสี่คน พอมันเห็นรถผมเลี้ยวเข้าไปเท่านั้นแหละ!






"เฮ้ย นายมาแล้ว" 




"วิ่งเป็นหมาถูกน้ำร้อนลวกเลยนะพวกมึง"




"แหมนาย... พอพวกผมเห็นนายมาพวกผมก็ดีใจเป็นเรื่องธรรมดาซิครับนาย"




"เดี๋ยวกูจะแจกตีนเรียงตัวเลยดีไหมห๊ะ!! ไปเรียกไอ้ต้นมาบอกกูรออยู่ที่ห้องทำงาน"




"เยสเซอร์!! ได้เลยครับนาย" มันทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่ง 




"ไอ้พวกเวร!"






แม่ง! น่าถีบฉิบหาย







ผมเดินตรงไปยังห้องทำงาน เปิดประตูเข้าไปก็เจอกองเอกสารมากมาย ปวดหัวเลยกู อันที่จริงก็ทำใจไว้แล้วว่ากลับมาครั้งนี้ต้องรื้องานกันยาวเพราะมีตัวดีทำเรื่องไว้ให้ปวดหัว เหนื่อยอีกแล้วกู






ก๊อก ก๊อก  แกร็ก~





"สวัสดีครับนาย" ไอ้ต้นโผล่หน้าเข้ามาในห้องแต่ตัวยังคงยืนแสตนบายรออยู่ด้านนอก




"เปิดแล้วทำไมไม่เข้ามา มึงจะโผล่มาแค่หน้าเพื่อ!!"




"แฮ่ะๆ ผมรอนายอนุญาตก่อนครับผม"




"กวนตีน! มีมารยาทแปลกๆ นะมึง เข้ามาแล้วเปิดแอร์ให้กูด้วย" 




"ครับนาย.. เปิดแอร์เย็นๆ นายจะได้หายร้อน" มันรีบวิ่งเข้ามาทำตามที่ผมสั่ง




"เสร็จแล้วมานั่งลงแล้วรายงานกูให้ครบทุกเรื่อง"




"ได้ครับนาย" ไอ้ต้นวิ่งมานั่งลงเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานผม




"เล่ามากูรอฟังอยู่"




"คืออย่างนี้ครับนาย... เมื่อต้นเดือนผมช่วยนายป่านตรวจบัญชีกับเช็คสต๊อกครับ ผมนั่งตรวจใบเบิกสินค้าแล้วมันดูแปลกๆ ลายเซ็นต์บางใบมันไม่ค่อยเหมือนกัน ผมตรวจดูอยู่นานสองนาน นายเข้าใจป่ะผมสงสัยแล้วมันก็อึดอัด พออึดอัดมากๆ มันก็เลยต้องถามครับนาย"




"แล้วไงต่อ"




"ผมก็เลยตัดสินใจถามนายป่านดูว่าผมเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ผมยื่นใบเบิกสินค้าสองใบที่เห็นว่าแตกต่างกันชัดเจนให้นายป่านดู หื้อ.. พอนายป่านได้ดูใบเบิกที่ผมส่งให้เฮียก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วส่งสายตาโหดๆ มองมาที่ผม โอ๊ยย!! ตอนนั้นหัวใจผมหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยนะครับนาย ผมนึกว่างานนี้ผมพลาดแน่ๆ ต้องโดนนายป่านกระทืบแน่ๆ เอาไงต่อดีวะ ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกเพราะรังสีอำมหิตจากนายป่านทำเอาผมขาอ่อนเลยครับนาย" "มึงจะสาธยายอะไรหนักหนาวะ! เข้าเรื่องเลย!"




"โหหห... ใจเย็นดิครับนายให้ผมเล่านาทีชีวิตผมก่อน"






กูอยากจะบ้าตายนี่กูต้องมาฟังนาทีชีวิตมึงเพื่อ!! ที่พูดมานี่น้ำจะท่วมห้องกูอยู่แล้วไอ้เวร!!






"เมื่อไหร่นาทีชีวิตมึงจะจบวะ" ผมถามมัน




"เนี่ยครับนายใกล้ถึงใจความสำคัญแล้ว ก็ตอนนั้นผมว่านายป่านต้องหาว่าผมคิดว่านายป่านโกงเงินน้องชายตัวเองแน่นอน ผมนี่ยังไม่ทันขยับปากอธิบายเลย นายป่านก็ตบโต๊ะดังปัง!! ผมนี่กระโดนหนีตีนออกมาแทบไม่ทันเลยครับนาย"






ไอ้ต้นเล่าโคตรเห็นภาพ กูควรจะขำหรือสงสารมึงดี






"แล้วไอ้ป่านมันจะตบโต๊ะทำงานกูทำไมวะ มันไม่เจ็บรึไง"




"ไม่รู้ครับนาย ผมลืมถาม"




"กวนตีนล่ะไอ้ห่านี่! เล่ามานี่ไม่ได้สาระอะไรเลยนะมึงเสียเวลากูฉิบหาย! แล้วสรุปไอ้ป่านมันว่าไง?"




"นายป่ายพูดเสียดังขึ้นว่า... ไม่ใช่ลายเซ็นกูครับนาย ผมนี่ลมแทบจับนึกว่าจะตายซะแล้ว"




"มึงสรุปให้กูได้ไหมไอ้ห่าต้น! กูไม่ได้ว่างมาฟังมึงเล่าเรื่องทั้งวันนะโว๊ย!!"




"เนี่ยครับนายผมกำลังจะสรุปให้ฟังแล้วครับ"




"ถ้าสรุปยาวเกินสมควรมึงโดนกูถีบแน่!!"




"ครับๆ ก็พอนายป่านยืนยันว่าไม่ใช่ลายเซ็นต์นายผมสองคนก็ช่วยกันดูย้อนหลังไปทุกใบ ลายเซ็นต์ปลอมเริ่มมีเข้ามาเมื่อครึ่งเดือนก่อน ผมแยกออกจากกันให้นายป่านช่วยตรวจเช็คดูอีกทีว่าเป็นลายเซ็นปลอมจริงไหม พอนับรวมๆ กันก็มีทั้งหมดสิบห้าใบครับนาย"




"แล้วไงต่อ"




"นายป่านเลยตรวจใบเบิกของเทียบกับรายได้ที่เข้าร้านแล้วปรากฏว่าเงินหายไปบางส่วนครับนาย หลังจากนั้นนายป่านก็ให้ผมไปสืบมาว่าใครเป็นคนเอาใบเบิกไปเบิกของที่โกดังบ้าง ผมก็ทำตามที่นายป่านสั่งไปถามไอ้สินที่ดูแลโกดังแล้วขอดูรายชื่อคนที่เบิกของช่วงมีอยู่ประมาณสามคน ผมเอาสมุดเบิกของมาให้นายป่านแล้วนายก็เช็คเจอว่าไอ้ชลเป็นคนมาเบิกไปครับนาย หลังจากนั้นนายป่านก็เลยให้ผมไปตามตัวมันมา มันสารภาพหมดทุกอย่างว่ามันทำจริงแต่ว่ามันโดนบังคับให้ทำครับนาย พอนายป่านได้ฟังเรื่องทั้งหมดที่ไอ้ชลมันเล่านายป่านเลยให้ตามนายกลับมานี่แหละครับ"




"อืม.. กูเข้าใจแล้ว มึงไปตามไอ้ชลมา"




"ได้ครับนาย" ไอ้ต้นรีบออกไปทำตามที่ผมสั่ง








ช่วงที่เกิดเรื่องไอ้ป่านมันค่อนข้างยุ่งกับงานที่บ้านมันเลยพลาด เพราะมันมานั่งตรวจบัญชีย้อนหลังให้ผม อันที่จริงผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องนี้มากหรอกเพราะจำนวนเงินไม่ได้มากมายอะไรแต่ที่ต้องกลับมาเพราะมันเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าสำคัญต่อการอยู่ร่วมกันและมันเป็นคนในปกครองของผมเลยต้องกลับมาจัดการเรื่องนี้เอง จากเรื่องที่ผมได้ฟังจากไอ้ป่านคร่าวๆ ผมว่ามันเป็นคนน่าสงสารคนนึงด้วยซ้ำ







ก๊อก ก๊อก






"เข้ามา"




"สวัสดีครับนาย" มันยกมือไหว้ผม




"เออ! เอากองไว้ตรงนั้นแหละ"




"นายครับผมขอโทษ ผมขอโทษครับนาย" มันนั่งทรุดลงกับพื้นยกมื้อไหว้แล้วพูดขอโทษผมไม่หยุด




"หุบปากแล้วมาตรงนี้!" ผมสั่งมัน




"ครับนาย" มันก้มหน้าลงเช็ดน้ำตาลวกๆ แล้วลุกขึ้นเดินมาหาผม ไอ้ห่าแค่นี้มึงก็ร้องไห้เนอะ มันเดินมาหยุดยืนข้างหน้าโต๊ะทำงานผม




"ผมขอโทษครับนาย ผม..." 




"พอเลิกพูด!! ขนาดกูเลี้ยงดูพวกมึงดีขนาดนี้ยังกล้าทำกับกูได้ ข้าวที่แดกไปทุกมื้อเนี่ยไม่ได้ทำให้มึงสำนึกบุญคุณกูเลยใช่ไหมห๊ะ!!"




"ผมขอโทษครับนาย ผมผิดไปแล้วนายจะไล่ผมออกก็ได้นะครับ ผมจะรีบหาเงินมาคืนนายครับผมสัญญา" มันก้มหน้ายืนเช็ดน้ำตาเหมือนเด็กที่กำลังโดยพ่อดุ




"มึงทำแบบนี้ทำไม?"




"คือผม... ผมมีความจำเป็นครับนาย"




"มึงหยุดร้องไห้แล้วเล่ามาดิ๊!!"




"ครับนาย ผมขอโทษครับ" มันรีบเช็ดน้ำตาแล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ผมฟัง







ไอ้ชลมันเล่าว่าก่อนหน้านี้มันทำงานที่ร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ตั้งแต่อายุ 16 ปี มันจบแค่ ม.3 แล้วไม่มีโอกาสได้เรียนต่อเพราะต้องหาเงินเลี้ยงแม่ มันเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพราะมีพี่ที่มันรู้จักบอกให้มาลองมาสมัครงานดูเพราะเงินที่หาได้ไม่พอใช้ ตอนนี้มันต้องเลี้ยงแม่กับพ่อเลี้ยงมัน ตอนแรกพ่อเลี้ยงมันก็ดีช่วยหาเงินช่วยแม่มันทุกอย่างจนกระทั่งครึ่งปีที่แล้วพ่อเลี้ยงมันออกลาย พาลูกชายเข้ามาบ้านอีกคน แม่มันโดนพ่อเลี้ยงตบตีทุกวันเพื่อเอาเงินไปซื้อเหล้า ส่วนมันก็โดนพี่ชายต่างพ่อทำร้ายมันทุกวัน เงินที่หามาได้ก็โดนพ่อเลี้ยงกับพี่มันเอาไปใช้แทบไม่เหลือ ไอ้ชลมันทำอะไรไม่ได้เพราะถ้ามันต่อต้านเมื่อไหร่แม่กับมันจะโดนซ้อมจนนอนซมทั้งคู่ มันสงสารแม่แต่มันดันทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ มันพยายามซ้อนเงินบางส่วนเพื่อจะพาแม่หนีแต่ไอ้พ่อเลี้ยงก็เสือกตาดีหูไวเอาไปได้ทุกที มันไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเพราะมันกลัวแม่จะเป็นอันตราย







ไอ้ชลย้ายเข้ามาทำงานที่ร้านของผมได้เกือบปีแต่มันไม่บอกพ่อเลี้ยงมันว่ามันย้ายที่ทำงานใหม่ ทุกวันก่อนกลับบ้านมันต้องเปลี่ยนชุดที่มีคราบน้ำมันเครื่องเพื่อให้พ่อเลี้ยงมันไม่สงสัย ดีหน่อยที่ร้านที่มันเคยทำเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงมันเลยอ้างว่าทำกะกลางคืนได้ แต่พอมันเลิกงานมันก็จะรีบกลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนแม่มันทันที ผมได้ฟังถึงตรงนี้ผมก็้โคตรอึ้งว่ายังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอวะ








ไอ้ชลมันเล่าต่อว่าวันหนึ่งพี่ชายต่างแม่ของมันเอาเงินที่มันหาได้อย่างยากเย็นมาเที่ยวที่ร้านของผม แม่งเสือกดวงดีมาก พี่ชายมันเสือกเห็นไอ้ชลขนของอยู่หลังร้านทั้งที่ไอ้ชลไม่รู้ตัว พอกลับบ้านไปมันเลยถูกซ้อมอย่างหนักเรื่องที่มันไม่ยอมบอกความจริง มันถูกบังคับให้ขโมยเหล้ากลับบ้านไปให้พ่อเลี้ยงมันทุกวัน ตอนแรกมันเก็บเหล้าที่ลูกค้าไม่เอากลับบ้านไปให้พ่อเลี้ยงมันแต่พ่อเลี้ยงมันไม่เคยพอ สั่งให้มันทำยังไงก็ได้ให้เอาเหล้าออกมาให้ได้มากที่สุดโดยมีพี่ชายมันคอยไปรับเหล้าที่มันขโมยจากที่ร้านผมเพื่อเอาไปขาย มันไม่ยอมทำมันก็โดนซ้อมทุกวันจนในที่สุดมันต้องยอม ร่างกายมันไม่ไหวมันบอกมันเหนื่อยล้าเต็มที ถ้ามันอ่อนแอแม่มันก็จะลำบากไปด้วยมันเลยต้องทำ








"ผมขอโทษครับนาย ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่มีทางเลือกแล้วครับนาย ถ้าผมไม่ทำแม่ผมก็จะถูกพวกมันทำร้าย ผมทนเจ็บได้ครับนายแต่ผมทนเห็นแม่ถูกซ้อมทุกวันแบบนี้ไม่ไหวจริงๆ ผมขอโทษ" ไอ้ชลทรุดลงนั่งกับพื้น มันร้องไห้เหมือนเด็กอย่างไม่อาย




"แล้วมึงโดนซ้อมขนาดนี้ทำไมไม่บอกพวกไอ้ต้นวะ แล้วพวกมันเห็นมึงพวกมันไม่ถามรึไงว่าไปโดนตีนใครมา"




"ถามครับนาย แต่ผมบอกว่ามีเรื่องกับวัยรุ่นแถวบ้านครับ พวกเฮียต้นเคยจะช่วยผมหลายครั้งแต่ผมบอกว่าแค่ทะเลาะกันเล็กน้อยผมไม่เป็นไรครับ"




"เล็กน้อยห่าอะไรหน้าแหกขนาดนี้" หน้าไอ้ชลมีรอยช้ำบางๆ อยู่หลายจุด ตามแขนมันก็มีเช่นกัน ผมว่ามันคงต้องอึดน่าดูถึงทนได้ขนาดนี้




"ผมทนได้ครับนาย"




"ตัวเท่าลูกหมาบอกกูว่าทนได้เนี่ยนะ! วันหลังมีอะไรให้ปรึกษาไอ้ต้นหรือบอกพวกพี่ๆ ที่ร้าน มึงทำแบบนี้มันไม่ช่วยให้มึงกับแม่มีชีวิตที่ดีขึ้นรู้ยัง!! ต่อให้มึงขโมยเหล้าจนหมดร้านกูมึงกับแม่ก็ไม่รอดอยู่ดี กูเป็นนายมึง ถึงกูจะไม่ค่อยได้กลับมาที่นี่แต่มึงยังมีกูเป็นเจ้านาย มีอะไรมึงควรบอกไม่ใช่มาทำเรื่องแบบนี้ในร้านกูรู้ไหม!!"




"รู้ครับนาย ผมขอโทษครับ ผมจะพยายามหาเงินมาคืนนายให้ครบครับ นายหักจากเงินเดือนผมก็ได้ผมจะทำงานใช้หนี้นายจนหมดแล้วผมจะขอลาออกครับนาย"




"เฮ้ออ.. ปีนี้มึงอายุเท่าไหร่?" 




"ยี่สิบเอ็ดครับนาย" ผมนั่งคิดอยู่สักพักก็สั่งไอ้ชลไปว่า...




"คืนนี้มึงทำเหมือนเดิม ขโมยเหล้าร้านกูไปให้พ่อมึง!!" 




"ห๊ะ!! อะไรนะครับนาย"




"คืนนี้มึงพาพวกมันมาแล้วตามที่กูบอก"




"นายให้ผมขโมยลา.. เหล้านายเหรอครับ?"




"เออ... บอกพ่อเลี้ยงมึงว่ารอบนี้ได้ของเยอะกว่าเดิมให้พ่อกับพี่มึงมาช่วยกันขน มาให้ครบทุกคน"




"ผม.. ผมไม่เข้าใจทำไมนายถึง..." 




"ทำตามที่กูบอก คืนนี้ให้มันมาเอาเหล้าตามเวลาปกติ"




"ครับนาย แต่.."




"ออกไปได้แล้วกูจะทำงาน อ่อ.. เรียกไอ้ต้นให้เข้ามาหากูด้วย"




"ครับนาย ได้ครับ"




"ไปหาข้าวแดกแล้วตั้งใจทำงานซะ"




"ครับนาย" ไอ้ชลเดินออกจากห้องไปพร้อมกับความงุนงง








ฟังเรื่องไอ้ชลแล้วปวดหัว ตัวเท่าลูกหมาถ้ามันจะโดนกระทืบจนไม่มีทางสู้ก็มีแค่เหตุผลเดียวที่มันยอมทน เจ็บตัวไม่เป็นไรแต่ที่มันห่วงมากก็แม่มันนี่แหละ คงต้องฝึกกันใหม่แล้วมั้ง






ไอ้ต้นเข้ามาหาผมในห้องทำงาน ผมสั่งให้มันไปเตรียมงานบางอย่างให้ผม มันรับคำสั่งเสร็จก็รีบออกไปทำตามที่ผมสั่งทันที รีบทำให้มันจบเร็วๆ ผมจะได้รีบกลับกรุงเทพฯ ไปอยู่เป็นเพื่อนโจ








อ่านต่อด้านล่างนะคะ



ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
ต่อจากด้านบนค่ะ....






ผมสั่งงานไอ้ต้นเสร็จก็ขับรถกลับไปที่บ้านแล้วค่อยเข้าร้านอีกทีค่ำๆ พอรถผมจอบเทียบหน้าบ้านเท่านั้นแหล่ะ เด็กแสบสองคนแย่งกันวิ่งเข้ามาหา ผมอุ้มหลานรักทั้งสองคนแล้วจับฟัดจนหนำใจแต่เจ็บปวดตรงที่บอกว่าคิดถึงโจมากกว่าอาแท้ๆ อย่างผมนี่ซิ หึหึ มันน่าจับตีก้นจริงๆ ไอ้เด็กสองคนนี้ ผมเล่นเป็นเพื่อนหลานจนเหนื่อย งอแงกันใหญ่ใครห้ามก็ไม่ฟัง บอกอยากให้อาโจมาหาบ้าง อยากไปหาอาโจบ้างเล่นเอาผมเหนื่อยเลย พอหลานหมดฤทธิ์สลบคู่ผมถึงได้พัก ระหว่างรอไอ้ป่านกลับมาผมก็โทรหาที่รักของผมดิครับรออะไร คิดถึงมันจะแย่ล่ะ ว่าแต่ทำไมมันเงียบขนาดนี้วะไม่คิดจะโทรหากันเลย!! โทรเช็คสักหน่อยล่ะกัน















"โทรเบอร์โต๊ะแล้วกัน หึหึ"







Tru Tru~~~







"ทำไมไม่มีคนรับวะ!!"







Tru Tru~~~





ผมลองกดโทรอีกครั้ง ไม่มีคนรับอีกล่ะ 





"ไปไหนของมันวะ!! ถ้ากูโทรอีกรอบไม่มีคนรับกูจะของขึ้นล่ะนะ"





Tru...





"บริษัท... สวัสดีค่ะ"



"อ้าว.. โจไปไหนทำไมคุณจูนมารับแทนล่ะ"



"สวัสดีค่ะคุณปู บอสออกไปข้างนอกค่ะ"



"ไปไหนทำไมผมไม่รู้!!" "บอสบอกจูนว่ามีธุระด่วนค่ะคุณปู จูนไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าบอสไปไหน"



"เฮ้อ!! โทรมาบอกกันก่อนไม่เป็นรึไง"



"คุณปูโทรเข้ามือถือบอสนะคะ บอสน่าจะมีเรื่องสำคัญจริงๆ เลยรีบออกไปแบบนั้นค่ะ"



"อืม... ขอบคุณมาก เดี๋ยวผมโทรหาโจเอง"



"ค่ะคุณปู"





ผมวางสายจากจูนก็รีบโทรหาโจทันที มันน่าจริงๆ ไปไหนน่าจะบอกกันสักคำดิวะ!!







ผมโทรหาโจแอบหงุดหงิดที่มันไม่โทรบอกผมก่อนว่าจะออกไปไหน แถมไม่บอกใครไว้อีกว่าออกไปทำอะไรแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงมันได้ไงล่ะ แต่พอมันรับสายพอได้ยินเสียงมันผมก็ดีขึ้นมานิดนึง โจบอกว่าพ่อมันไม่สบายมันเลยรีบกลับไปที่บ้าน โจเล่ารายละเอียดให้ผมฟัง ผมแกล้งโมโหมันไปนิดหน่อยมันจะได้รู้ว่าครั้งหน้าต้องบอกผมให้รู้ก่อนจะทำอะไร ไปไหนมาไหนต้องบอกกันดิวะเผื่อเกิดอะไรขึ้นกับมันแล้วผมไม่รู้ล่ะจะทำยังไง พอคุยกันรู้เรื่องผมก็ปล่อยให้โจอยู่ดูแลพ่อมัน สองพ่อลูกนี้เพิ่งจะได้ดูแลกันจริงๆ ก็หลังจากเกิดเรื่องขึ้นครั้งนั้น ช่วงนี้โจงานเยอะเลยไม่ค่อยได้กลับบ้านไปหาพ่อสักเท่าไหร่ ปล่อยให้พ่อลูกได้อยู่ด้วยกันบ้างก็ดีเหมือนกัน







ไอ้ป่านกลับมาถึงบ้านมันก็ตรงดิ่งไปหาลูกมันก่อน พอเสร็จจากภาระกิจพ่อสุดที่รักของลูกๆ มันก็เข้ามาตามผมเพราะถึงเวลาต้องออกไปร้านอีกรอบ คืนนี้ผมว่าจะไม่ทำอะไรหนักมากเพราะโจมันขอร้องไว้หรอกนะ กูจะพยายามระงับอารมณ์ตัวเองเพื่อมึงแล้วกัน







ผมกับไอ้ป่านขับรถกลับเข้าไปที่ร้าน ระหว่างรอให้ถึงเวลาผมก็นั่งดื่มนั่งคุยกับไอ้ป่านไปพลางๆ เล่าเรื่องคืนนี้ให้มันฟังคร่าวๆ ไอ้ต้นเข้าบอกผมว่าเตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ผมแค่รอเวลา







"มึงจะทำอย่างนั้นจริงดิ" 



"อืม.. มึงคิดว่าไง?" ผมถามไอ้ป่าน



"ก็ดี" ไอ้ป่านตอบ



"งั้นมึงรอดูคืนนี้ กูว่าจะไม่ออกแรงอะไรมากถ้าไม่จำเป็น"



"คนอย่างมึงเนี่ยนะจะไม่ใช้ความรุนแรง ถุยยย!" 



"เออดิ!! กูคนดีนะเว้ย"



"ฮ่าๆ กูเกิดมาสามสิบกว่าปีเพิ่งรู้ว่ามึงเป็นคนดีก็วันนี้แหล่ะว่ะ" ไอ้ป่านหัวเราะเยาะในความดีของผม ไอ้พี่เลว!!



"กวนตีนไอ้สัส!"



"เอ้าดื่มๆ ฉลองน้องกูเป็นคนดีซะทีว่ะ ชนแก้ว!!"













ก๊อก ก๊อก ก๊อก...







ผมกับไอ้ป่านมองไปที่ประตูพร้อมกัน







"นายครับ ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ"



"อืม... เดี๋ยวกูตามไป อย่าเพิ่งทำอะไรนอกเหนือคำสั่งกู"



"ครับนาย"



"ไอ้ป่านมึงรอกูอยู่นี่แหละไม่ต้องไป" ผมหันไปพูดบอกไอ้ป่าน



"ได้ไงๆ กูต้องไปอยู่แล้วอย่าพูดมาก"



"เออๆ เรื่องของมึงเหอะ พูดเหี้ยอะไรไม่เคยฟัง" 



"หึหึ กูรู้ตัว" 





ผมอยากถีบมันสักทีสองทีจริงๆ กวนตีนตลอด ที่ไม่อยากให้มันไปเพราะมันอยู่ที่นี่ผมไม่อยากให้มันมีปัญหาภายหลัง ไหนจะหลานผมอีก แต่คนอย่างไอ้ป่านมันเคยยอมใครซะที่ไหน น้องเป็นยังไงพี่ก็เป็นอย่างนั้นแหละครับ โตมาด้วยกันขนาดนี้จะหลุดสันดานเดียวกันได้ยังไง







ผมเดินนำไอ้ป่านไปที่โกดังเก็บของด้านหลังร้าน มีลูกน้องผมสามสี่คนยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า พอมันเห็นผมก็รีบเปิดประตูทันที ภาพที่ผมเห็นคือไอ้ชลยืนก้มหน้ามองพื้นไม่สนใจใคร ส่วนอีกสองคนที่ผมเพิ่งเห็นหน้าวันนี้ครั้งแรกกำลังแหกปากด่าทอไอ้ชลไม่หยุดปาก พอผมเดินเข้าไปเสียงโว๊ยวายก็เงียบลงเพราะไอ้ต้นถีบเข้าที่หลังสามพ่อลูกอย่างเต็มตี







"เฮ้ยๆ กูบอกว่าไง" ผมพูดปรามไอ้ต้น



"นิดหน่อยเองนาย ผมปล่อยให้แหกปากมานานแล้วโคตรหนวกหูเลย"



"หึหึ... มึงนี่สอนไม่จำ เดี๋ยวไก่ตื่นกันพอดี" ผมพูดแล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ที่เด็กในร้านเตรียมไว้ให้



"เอาไงต่อดีครับนาย" ไอ้ต้นถาม



"มึง.. มึงเป็นใครวะ?"  ผมมองไปที่ไอ้คนที่ถาม สภาพแม่งดูไม่ได้เลยว่ะ



"กูควรเป็นคนถามว่ามึงเป็นใครมากกว่าไหม กล้าดียังไงสั่งเด็กในร้านกูให้มาขโมยของร้านกูวะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



"กูกับพ่อเปล่าขโมย ไอ้ชล! ไอ้ชลมันเป็นคนทำเองทุกอย่าง"



"เฮ้ย! นายผมเปล่านะครับ ผมโดยบังคับครับนาย"





ตุบ!!





ผมขยับตีนเบาๆ ไอ้เด็กปากดีคนนั้นก็ลงไปนอนกองที่พื้นโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรมาก





"พ่อช่วยด้วยดิ" มันยังมีหน้าไปว๊ากพ่อมันอีก



"กูจะช่วยมึงยังไงล่ะ ตัวกูเองยังเอาไม่รอดเลย ห่านิ!!" 



"พวกมึงสองคนนี่พอกันทั้งพ่อทั้งลูกเลยว่ะ หึหึ"



"ไอ้ชล!! มึงยังไม่มาช่วยกูอีก!!"



"เฮ้ย!!" พ่อเลี้ยงไอ้ชลร้องเสียงหลง



"กูแค่ง้างตีนเอง ยังไม่ทันได้ถีบเลยจะแหกปากทำไมวะ"



"มึง.. มึงจับกูกับลูกกูมาทำไม พวกกูทำอะไรผิด" 



"ยัง.. ยังจะหน้าด้านอีก พวกมึงขโมยของจากร้านนายกูยังจะมาหน้าด้านอีก นายครับให้พวกผมสั่งสอนมันเลยไหมครับ" ไอ้ต้นพูด



"ชู่ว์... อย่าเสียงดังซิวะ" ผมปรามไอ้ต้น



"กูกับพ่อเปล่าขโมย ไอ้ชลมันทำของมันคนเดียวเลย มันหลอกให้กูกับพ่อมากูไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย" ไอ้คนลูกยังหน้าด้านแถต่อ



"เงยหน้าแล้วมองกู" ผมสั่งเสียงเรียบนิ่ง ไอ้สองพ่อลูกค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาผมสั่ง



"กูจะให้โอกาสพวกมึงได้ใช้ชีวิตต่อหลังจากออกไปจากร้านกู..."



"ทำไมกูกับพ่อต้องทำตามด้วยวะ กูทำ..."





พลั่ก!!





"โอ๊ยยย!!" ผมถีบเข้าที่ไหลของมันเต็มๆ



"เฮ้ย!! มึงทำลูกกูทำไมวะ!!"



"ก็ลูกมึงเสือกพูดสวนกู" ผมหยิบบุหรี่ขึ้นมา ลูกน้องผมรีบวิ่งเข้ามาจุดไฟให้ ขอสูบบุหรี่ดับอารมณ์หน่อยแล้วกันกลัวเผลอทำอะไรรุนแรงลงไป วันนี้เมียขอมาว่าห้ามมีเรื่องซะด้วย



"วันนี้กูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะพวกมึงทำให้กูเสียเวลาไม่ได้เห็นหน้าเมียกูหนึ่งวันเต็มๆ กูจะพูดให้พวกมึงสองพ่อลูกเข้าใจง่ายๆ แล้วกัน เรื่องที่พวกมึงสองคนสั่งให้ไอ้ชลมาขโมยของที่ร้านกู กูจะไม่เอาเรื่องกูจะถือซะว่าทำบุญ แต่พวกมึงต้องไสหัวออกจากบ้านไอ้ชลภายในคืนนี้โอเคไหม?" 



"ทำไมกูต้องทำตามที่มึงพูดด้วย ไอ้ชลมันลูกกูหึ!! มึงเข้าใจอะไรผิดรึป่าว"





ไอ้ต้นมองมาที่ผม มันรู้งานดีจริงๆ ผมขยับมุมปากเพียงนิดเดียวไอ้พ่อเลี้ยงปากมาก็ถูกนวดสปาตีนจากไอ้ต้นพอหอมปากหอมคอ





"รู้รึยังว่าทำไมต้องทำตามที่กูบอก" ผมถามมัน



"มึงกล้าทำพ่อกู มึง!!"





ตุบ ตุบ!!





"กูว่าพอแล้วมั้งเดี๋ยวก็ตายคาตีนกันพอดี" ไอ้ป่านพูดจบก็มาแย่งบุหรี่ผมไปสูบซะงั้น ผมส่งสัญญาณให้ไอ้ต้นกับลูกน้องผมหยุด



"กูจะไม่แจ้งตำรวจให้จับพวกมึงข้อหาขโมยของร้านกู คืนนี้กลับไปเก็บของแล้วออกจากบ้านไอ้ชลไปซะ อ่อ... แล้วถ้าพวกมึงสองพ่อลูกยังไม่เลิกรังควานไอ้ชลกับแม่มันอีกกูจะให้พวกมึงเข้าไปนอนในตารางแล้วปล่อยให้แก่ตายอยู่ในนั้นกันทั้งพ่อทั้งลูก กูพูดแค่นี้หวังว่าพวกมึงคงเข้าใจแล้วนะ"



"ไอ้ชลมึง!!" ไอ้คนพ่อหันไปมองไอ้ชลด้วยความโกรธ





ตุบ!!





"กูจะไม่เตือนมึงเป็นครั้งที่สอง เพราะกูทำจริง" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



"แค่นี้เองเหรอนาย พวกผมยังไม่หายคันมือเลย"



"ไอ้ชลมานี่ดิ" ผมเรียก



"ครับนาย" มันตอบรับเสียงสั่น



"ต่อไปนี้ถ้าสองคนนี้มันยังมายุ่งกับมึงอีกให้ไปบอกไอ้ต้น"



"ครับนาย"



"หลังจากนี้ไอ้ต้นจะบอกมึงเองว่าต้องทำอะไรบ้าง"



"ครับนาย" ไอ้ชลตอบทั้งน้ำตา



"ไอ้ห่า เสือกร้องไห้อีก"



"ขอบคุณมากครับนาย ฮื้ออ.."



"ไอ้ต้นเดี๋ยวมึงจัดการตรงนี้ให้เรียบร้อย"



"ได้ครับนาย"





ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปโดยมีไอ้ป่านเดินตามมาติดๆ ส่วนที่เหลือให้ไอ้ต้นกับเด็กๆ ที่ร้านจัดการต่อ พวกมันรู้ว่าต้องทำยังไง ผมกับไอ้ป่านนั่งดื่มกันอีกสักพักก็ขับรถกลับบ้าน















เช้าวันรุ่งขึ้นผมโดนหลานๆ ก่อกวนแต่เช้า กะว่าจะนอนต่ออีกนิดดันได้ยินเสียงข้อความดังผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู โจส่งข้อความมาหา ผมยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะกดโทรหาคนที่ผมคิดถึงมากที่สุด ผมกับโจคุยกันปกติ กวนมันไปบ้างพอให้หายคิดถึง เรียกได้ว่าว่างเมื่อไหร่ผมก็จะโทรหามันทันที แต่การโทรหาโจครั้งล่าสุดของผมกลับทำให้ผมเป็นห่วงมันมากขึ้นกว่าเดิม







"ครับ ได้ครับ"



"ถ้ากลับมาแล้วเข้ามาหาพ่อที่บ้านทีนะ พ่ออยากให้เราช่วยทำอะไรให้พ่อหน่อย"



"ผมจะกลับพรุ่งนี้เช้าครับ พอดีธุระเสร็จเร็วกว่าที่คิด"



"ขอบใจมาก ขอบใจที่รักและดูแลโจอย่างดีมาโดยตลอดนะ"



"ขอบคุณพ่อที่ไว้ใจผมและให้ผมดูแลโจเช่นกันครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลโจให้ดีที่สุด"



"เฮ้ออ.. ได้ฟังแบบนี้พ่อก็ดีใจมากแล้ว เอ้าๆ ไว้เข้ามาคุยกัน"



"ได้ครับ ผมจะรีบเข้าไปหาที่บ้านนะครับ"



"อืม.. โจมาพอดีเลย จะคุยกับโจต่อไหม?"



"ไม่เป็นไรครับ ระหว่างนี้ผมฝากโจไว้กับพ่อแล้วกันเดี๋ยวผมจะไปรับแฟนผมกลับพรุ่งนี้ครับ"



"หึหึ... เพิ่งเคยรู้สึกว่าโดนแย่งลูกไปจากอกมันรู้สึกอย่างนี้นี่เอง" พ่อโจพูดขำๆ



"ช่วยไม่ได้ครับ ผมรักของผม"



"พ่อคงต้องดีใจซินะ"



"ครับ" ผมตอบ



"อืม.. แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"



"ครับ สวัสดีครับ"







ผมวางสายจากพ่อโจแล้วรู้สึกกังวลนิดหน่อย สิ่งที่พ่อโจเล่าให้ผมฟังคร่าวๆ คงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยแน่นอนและโจคงยังไม่รู้เรื่องนี้







"ฮัลโหลไอ้ป่านมึงอยู่ไหน?"



"บ้าน มีไร?"



"เดี๋ยวกูไปหามึง รอที่บ้านนั่นแหละ"





"เออ ตามนั้น"







TBC.

เกิดอะไรขึ้นหนอ รู้สึกถึงความเครียด 55555+ คนเขียนก็เครียดนะพูดเลย

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
มันจะมีอะไรอีกน้อ  :katai1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แง๊ๆๆ สงสารชลอ่ะ น้ำตาซึมเลย

ส่วนพ่อกะปูยังลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ปู❤โจ】



【EP.17 กอดให้หายคิดถึง​】​








ผมขับรถออกมาจากบ้านโดยทิ้งภาระให้ไอ้ป่านจัดการอีกสองเรื่อง ไอ้ป่านพยักหน้ารับกรรมมันไปโดยไม่ด่าหรือสาปแช่งผมสักคำ มันตบไหล่ผมแล้วเดินกลับเข้าห้องไปนอนต่อ เอาเป็นว่านี่คือคำตอบว่ามันจะจัดการทุกอย่างแทนผมเพราะผมมีภาระกิจที่น่าหนักใจกว่ารออยู่







อันที่จริงผมก็กะว่าจะรีบทำงานให้เสร็จคืนนี้เลยแล้วพรุ่งนี้รีบขับรถกลับกรุงเทพฯ ตอนเช้า แต่หลังจากผมได้ฟังเรื่องที่พ่อโจเล่าให้ฟังผมเลยต้องเปลี่ยนแพลนกลับโดยด่วน ระหว่างทางที่ผมขับรถมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ผมก็คิดเรื่องนั่นตลอดทาง ผมขับมาได้สักพักผมก็โทรหาโจเหมือนปกติ เราคุยกันไม่นานเพราะผมบอกโจให้รีบเข้านอน โจพูดง่ายและมักจะทำตามที่ผมบอกตลอด โจบอกคิดถึงผมก่อนวางสายมันทำให้ผมรู้สึกอยากกอดมันแน่นๆ ซะตอนนี้เลย







ผมขับรถออกมาจากบ้านสักพักก็แวะเติมน้ำมันพร้อมอัดกาแฟไปหนึ่งแก้วแล้วออกเดินทางต่อ ในใจคิดแค่ว่าต้องรีบไปให้ถึงเร็วที่สุด ผมอยากเจอหน้ามันจะแย่อยู่แล้ว คิดถึงมึงว่ะโจ



















"สวัสดีครับ" ลุงยามหน้าประตูบ้านกล่าวทักทายผม




"ผมมาหาโจ"




"คุณหนูโจใช่ไหมครับ เอ่อ... นี่มันก็ดึกมากแล้วผมว่า..." ลุงยามมองดูนาฬิกา




"ป่านนี้โจคงนอนหลับไปแล้ว งั้นผมรบกวนลุงบอกคนในบ้านสักคนแล้วกันว่าผมชื่อปูบอกแค่นั้นเดี๋ยวเขาก็รู้เอง"




"เอ่อ... ได้ครับๆ งั้นรบกวนคุณรอสักครู่นะครับลุงขอโทรถามคนในบ้านก่อน"





ลุงยามรีบวิ่งเข้าไปหยิบโทรศัพท์กำลังจะกดต่อสายโทรแจ้งตามที่ผมบอกแต่ประตูบ้านดันเปิดออกเสียก่อน ลุงยามรีบวางโทรศัพท์ลงเพราะมีลูกน้องพ่อโจเดินออกมาทำท่าต่อว่าลุงแเล็กน้อยก่อนจะเดินมาที่รถของผมพร้อมกับลุงยาม






"สวัสดีครับคุณปู ผมต้องขอโทษแทนลุงอ่ำแกด้วยนะครับ แกเพิ่งจะมาทำงานใหม่ยังจำแขกคุณท่านไม่ค่อยได้ครับ"




"ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ"




"ลุงต้องขอโทษนะครับคุณ ลุงไม่รู้จริงๆ ว่าคุณเป็นคนสนิทของนายท่าน"




"ไม่เป็นไรครับลุง"




"งั้นเชิญขับเข้าไปข้างในได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะรีบตามเข้าไป"




"อืม... ขอบใจมาก" ผมขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้าน พอลงจากรถก็มีบอดี้การ์ดพ่อโจเดินออกมาต้อนรับผม




"สวัสดีครับ ผมช่วยถือครับคุณปู"




"อืม.. ขอบใจมาก คุณท่านกับคุณโจขึ้นนอนหมดแล้วใช่ไหม?"




"ใช่ครับ คุณท่านกับคุณหนูขึ้นนอนตั้งแต่สี่ทุ่มแล้วครับ"




"คุณปูจะไปห้องคุณหนูเลยรึป่าวครับ หรืออยากทานอะไรก่อนไหมผมจะได้ไปเรียกป้ามาทำให้ทานครับ"




"ไม่เป็นไร เดินนำฉันไปที่ห้องคุณโจก็พอ"




"ได้ครับ งั้นเชิญทางนี้เลยครับ"





ผมเดินตามขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน เดินมาหยุดที่ประตูหน้าห้องของโจ ผมใช้มือจับลูกบิดประตูแต่ประตูถูกล็อคจากด้านใน ผมเผลอยิ้มด้วยความดีใจที่โจมันทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง





"คุณหนูล็อคประตูไว้ครับ ให้ผมเคาะเรียกให้ไหมครับ?"




"ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจัดการเอง วางกระเป๋าไว้ตรงนี้แหละขอบใจมาก"




"งั้นผมขอตัวไปทำงานต่อนะครับ"




"อืม.." ผมพยักหน้าเล็กน้อย







ก๊อก ก๊อก ก๊อก....





ผมยืนรอหน้าห้องมีแอบตื่นเต้นด้วยว่ะ ไม่เจอหน้าโจมันแค่กี่วันเองวะทำไมมันทำให้ผมตื่นเต้นได้ขนาดนี้







แกร๊ก~~







โจค่อยๆ แง้มประตูเปิดออกแล้วโผล่หน้าออกมาช้าๆ หน้าตาตอนมันตื่นนอนเนี่ยโคตรน่ากอดสุดๆ โจขยี้ตาตัวเองทันทีเมื่อมองเห็นผม







"หึหึ.. คิดว่าตัวเองตาฝาดอยู่รึไง"




"ปู!! มาได้ไงอ่ะ" ประตูห้องถูกเปิดออก โจยืดตัวตรงยืนยิ้มกว้างด้วยความดีใจ





พรึ่บ!!

ผมคว้าตัวโจเข้ามากอดทันที





"เฮ้อ.. รู้สึกดีเป็นบ้าเลยว่ะ" มันชื่นใจแบบบอกไม่ถูก




"มาถึงนานรึยัง?" โจถามผมทั้งๆ ที่ผมยังกอดมันแน่น





ฟอดดด...





"เพิ่มมาถึงเมื่อกี้นี่เอง"




"ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่าจะมาคืนนี้โจจะได้รอ"




"บอกก่อนมึงก็ไม่เซอร์ไพรส์ดิ"




"คึคึ... เซอร์ไพรส์มากเลยครับ" โจพูดล้อเลียนผม




"คิดถึงกูไหม?" ฟอดดด...




"อืม... คิดถึงมาก"  ดูมันตอบดิ แล้วแบบนี้ใครจะอดใจไหว




"กูโคตรคิดถึงมึงเลย" 





ฟอด ฟอดดด...





"พอแล้วปูนี่มันหน้าห้องนะ"




"หึหึ.. ก็กูอยากหอมมึงใครจะทำไม"




"ไม่มีใครทำไมหรอก แต่มันก็ไม่ควรไหมล่ะปูลูกน้องพ่ออยู่กันเต็มบ้าน"




"ช่างดิ! กูไม่สนว่าใครจะเห็นหรือไม่เห็น กูอยากกอดอยากหอมมึงกูก็จะทำ"





ฟอดดดด ฟอดดดด....





"เอ้ยปูพอได้แล้วน่า ขับรถกลับมาเหนื่อยๆ หิวไหม ให้โจหาอะไรให้ทานไหมครับ"




"ไม่ต้อง กูไม่หิว"




"งั้นเข้าไปในห้องก่อนไหมจะพักนั่งพักให้หายเหนื่อย"




"ถ้าเข้าไปในห้องแล้วกูจะได้มากกว่านั่งพักให้หายเหนื่อยไหม?" ผมแกล้งถาม




"แล้วปูอยากได้อะไรล่ะ เดี๋ยวโจหามาให้ถ้าหาได้อ่ะนะ"




"อยากได้มึงไง หึหึ"





ปึก!





"พูดแบบนี้อีกแล้วนะ แล้วสายตาแบบนี้เลิกทำได้แล้วเห็นแล้วขนลุกอ่ะ"




"หึหึ.. งั้นกูจะทำให้หายขนลุกเอง"





พรึ่บ!!

ผมคว้ากระเป๋าเสื้อผ้า อุ้มโจขึ้นจนตัวลอยก่อนจะใช้เท้าปิดประตูแล้วกดล็อคประตูทันที





"ปูปล่อยโจลงเถอะนะ"




"ไม่ปล่อย กูอุ้มไม่ดีรึไงจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินเข้าห้อง"




"บ้า! นี่ห้องนอนไม่ใช่สวนลุมนะ เดินแค่นี้จะเหนื่อยได้ไงล่ะ"





พรึ่บ!!

ผมวางโจลงที่นอน ทิ้งกระเป๋าลงพื้นแล้วขึ้นคร่อมตัวโจทันที





จุ๊บ...

ผมก้มลงจูบที่แก้มมันด้วยความมันเขี้ยว







"คิดถึงว่ะ" 




"ไปอาบน้ำก่อนไหมปู กลับมาเหนื่อยๆ จะได้สบายตัว" โจพูดเสียงตะกุกตะกัก โคตรน่ารักเลยว่ะ




"ค่อยอาบพร้อมมึง หึหึ"




"อะ.. อาบอะไร โจอาบน้ำแล้ว"




"เชื่อดิ มึงต้องอาบพร้อมกูอีกรอบแน่นอน" 







ผมก้มลงจูบที่ปากโจช้าๆ โจหลับตาแน่นแล้วจูบตอบรับผมอย่างว่าง่าย ริมฝีปากเนียนนุ่มที่ผมคิดถึงค่อยๆ ขยับริมฝีปากตามปากผมช้าๆ ผมบรรจงจูบอย่างอ่อนโยนก่อนจะสอดมือเข้าไปใต้เสื้อของโจ มือทั้งสองข้างยกขึ้นคล้องไว้ที่ต้นคอผม ร่างของโจกระตุกตามจังหวะสัมผัสจากมือสากยิ่งทำให้ผมได้ใจ เสียงครางในลำคอ ลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นออกมากระทบใบหน้าของผม กลิ่นกายที่ผมคุ้นเคยช่วยกระตุ้นความต้องการของผมได้ดี ผมเริ่มจูบโจหนักขึ้นขบเม้นที่ริมฝีปากนุ่มอย่างหื่นกระหายก่อนจะแทรงลิ้นเข้าไปรับรสหอมหวานในโพรงปากนุ่ม ผมเริ่มจูบโจหนักขึ้นเรื่อยๆ 





"อื้ออ..." เสียงครางกระเส่ายิ่งทำให้ผมอดใจไม่ไหว




"คิดถึงกูไหม?"




"อืม.. คิดถึงมากครับ"





ถึงผมจะชอบถามคำถามเดิมที่ผมอยากฟังคำตอบนั้นซ้ำๆ โจก็ไม่เคยลังเลที่จะตอบผมเลยสักครั้ง เพราะโจรู้ดีว่าเมื่อผมได้ฟังคำตอบนี้แล้วจะทำให้ผมหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง 





"ขอกูกอดให้หายคิดถึงหน่อยนะ"




"อืม..." โจพยักหน้าตอบรับก่อนจะเริ่มปลดกระดุมเสื้อให้ผม




"วันนี้กูจะทำเบาๆ กูสัญญา" ผมก้มลงพูดกระซิบข้างหูโจ มันยิ้มให้ผมแล้วใช้มือจับแก้มทั้งสองข้างของผมก่อนจะพูดว่า...




"ถ้าสิ่งที่ปูอยากทำมันทำให้เราสองคนมีความสุขร่วมกันโจก็พร้อมเสมอครับ"






จุ๊บ...

พูดจบมันก็ยืนปากเข้ามาจุ๊บที่ปากผมแล้วผละออกแล้วยิ้มบางๆ ให้ผม





"หึหึ.. งั้นคืนนี้มึงตามใจกูหน่อยแล้วกัน"







กระดุมทุกเม็ดบนเสื้อถูกแกะออกอย่างช้าๆ สายตาผมกำลังจดจ้องมือเรียวที่จับกระชับคอเสื้อทั้งสองข้างของผมก่อนจะรูดลงจนสุดแขนแล้วหลุดออกจากร่างผมไป มือเรียวลูบไล้ที่แผ่นอกลงมาถึงขอบกางเกงแล้วปลดกระดุมออกรูดซิปลากลงจนสุดเป้า ปลายนิ้วมือสัมผัสไล่ตามขอบกางเกงจนถึงข้างลำตัวแล้วดึงลงด้วยความชำนาญ ผมก้มลงประกบจูบที่ปากบางลิ้นร้อนสอดใส่เข้าไปด้านในโพรงปากนุ่มอย่างไม่รอช้า ปลายลิ้นตวัดรัดเกี่ยวกันพัลวัน รสจูบอันหอมหวานเปลี่ยนเป็นจูบที่แสนดูดดื่ม ผมสอดมือเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบางลูบไล้ผิวเนียนจนทั่วร่าง กรีดกรายปลายนิ้วสะกิดเบาๆ ที่ตุ่มไตทั้งสองข้างสลับไล่วนนิ้วบดขยี้อย่างเร้าอารมณ์





"อืออ..."







มือซ้ายเปลี่ยนมาจับที่ชายเสื้อชุดนอนแล้วดึงขึ้นจนสุดให้หลุดออก มือขวาลูบไล้ไล่ลงมาที่กางเกงแล้วกระชับแน่นดึงรวบรวดเดียวร่างบางก็เหลือเพียงกายที่ว่างเปล่า จากนั้นไม่รอช้ามือคว้าหมับจับที่แก่นกายสองลำให้แนบชิดติดกันแล้วรูดขึ้นลงตามจังหวะ เสียงครางอื้ออ่าดังกึงก้องเข้าไปในโสตประสาทสัมผัสได้ถึงความต้องการที่ไม่มีขีดจำกัด ผมรูดขึ้นลงที่แก่นกายแล้วเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะปล่อยของตัวเองให้เป็นอิสระแล้วปรนเปรอให้โจเพียงคนเดียว โจดิ้นพล่านหายใจแทบไม่ทันผมผละปากออกมาให้โจได้โกยอากาศเข้าปอดเพื่อหายใจ







"อื้ออ... ปูครับโจไม่ไหวแล้ว อื้ออ...อ่าาา..."





จุ๊บบ...

ผมกดจูบลงที่แก้มโจอย่างเอาใจ มือยังคงทำหน้าที่ปรนเปรอให้ความสุขปนความเสียวซ่านอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โจสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียวมือไม้อยู่ไม่เป็นสุข ร้องครางออกมาไม่เป็นเสียง ปากผมพรมจูบไล่ลงตามเรือนร่างที่ชุ่มเหงื่อจนมาหยุดอยู่ที่แก่นกายที่ปลายปริ้มไปด้วยน้ำรัก ลิ้นร้อนไม่รอช้าตวัดลิ้นชิมรสหวานปนคราวอย่างหื่นกระหายก่อนจะครอบปากรูดลงจนสุดความยาว





"อ่าาาา..." 





เสียงครางกระเส่าทำเอาใจผมเต้นแรงไม่หยุด แก่นกายที่ขยายจนคับแน่นอยู่ในปากบ่งบอกถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ผมเริ่มขยับปากรูดขึ้นลงตามจังหวะ โจแอ่นตัวขึ้นลงตอบรับอย่างไม่ขัดเขิน สองนิ้วไล่วนอยู่ที่ปากทางรักที่ผมหวงแหนสักพักก่อนจะกดนิ้วเข้าไปช้าๆ จนสุดความยาว





"อื้อออ..." โจกัดฟันแน่นด้วยความเสียว





ผมเริ่มขยับนิ้วเข้าออกแล้วเพิ่มทีละนิ้วจนครบ สองมือเรียวจับรวบที่เส้นผมของผมก่อนจะขย้ำกำแน่นไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังขึ้นถึงขีดสูงสุด ริมฝีปากบางกัดแน่นด้วยความอดกลั้น เสียงครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ ผมเร่งใช้ปากปรนเปรอความสุขให้โจอย่างไม่หยุดพักจนน้ำรักพุ่งกระฉุดเข้าในปากของผมจนล้นไหลออกมา





"อ่าาา...."





ผมรีบกลืนกินน้ำรักลงในลำคอ ลิ้นร้อนลากเลียน้ำรักที่ล้นออกมาจนหมดก่อนจะครบปากลงที่แก่นกายอีกครั้งแล้วดูดน้ำรักที่ยังคงปริ่มออกมาอย่างเอร็ดอร่อย




จ๊วบ จ๊วบ...





"อื้อ... ปูพอ.. พอแล้ว อ่าาา..."





ผมละปากจากแก่นกายที่หอมหวานแสนอร่อยแล้วลากลิ้นลงวนที่ช่องทางรักที่พร้อมเต็มที นิ้วแกร่งยังคงผลุบเข้าผลุบออกอย่างเป็นจังหวะ โจกัดฟังครางอื้ออึงด้วยความเสียว ผมไม่รอช้าจึงดึงนิ้วออกแล้วสอดใส่ลิ้นร้อนเข้าไปตรวจโพรงด้านในทันที





"อ่าา... ปู... อื้อออ..."





เสียงครางของโจช่างเย้ายวนทำเอาผมแทบคลั่ง แก่นกายผมรู้สึกปวดจนแทบระเบิด แค่เสียงครางก็ทำเอาอารมณ์ผมพุ่งถึงขีดสุด มันทำให้ความอดทนผมหมดลง ผมละปากจากช่องทางรักในทันที







"มึงพร้อมไหมกูไม่ไหวแล้ว" ผมกัดฟังแน่น





"เข้ามาเลยปู โจพร้อมแล้วครับ"







ผมประกบจูบปากโจทันทีที่จบประโยค เราแลกลิ้นกันพัลวัน เป็นจูนที่ร้อนแรงและหื่นกระหาย ความต้องการมันเพิ่มมากขึ้นทุกวินาที ผมเริ่มจอหัวปืนใหญ่ที่ช่องทางรัก โจสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วเลื่อนมืออันสั่นสะท้านลงไปที่บั้นท้ายผมแล้วดันเข้าหาตัวเอง





"อื้อออ..."





ผมเริ่มกดหัวปืนใหญ่เข้าไปทีละนิด กดบั้นท้ายลงและกระแทกเข้าไปจนมิดหัว





"ซี๊ดดดด...." ผมผละออกแล้วซู๊ดปากด้วยความเสียว





"อื้ออ... เข้ามาเลยครับที่รัก อ่าา..." โจครางแล้วกอดรัดผมไว้แน่น ข้างในมันทั้งคับทั้งแน่นไปหมด มันบีบรัดแน่นเหมือนหัวปืนผมกำลังจะขาดออกจากลำยังไงอย่างงั้น ตอดตุบๆ ไม่หยุด ผมได้แต่กัดฟันแน่นด้วยความอดกลั้น





"ข้างในมึงตอดกูดีจัง ซี๊ดดดด..."





ผมเริ่มขยับเข้าออกแล้วดันปืนใหญ่เข้าไปทีละนิด ยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่มันยิ่งตอดผมแรงขึ้น ผมกัดฟันแน่นด้วยความเสียวแล้วกดพรวดทีเดียวเข้าไปจนสุดทางรัก





"ซี๊ดดดด... แน่นสัส"





โจอดกลั้นความเสียวไว้ไม่ไหวดึงผมลงไปประกบจูบเกี่ยวลิ้นกันพัลวัน สองมือลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังทั้งจิกทั้งข่วนเพื่อระบายความเสียว ผมไม่รอช้าเริ่มชักปืนใหญ่ออกจนสุดแล้วกระแทกซ้ำเข้าไปจนสุด





ปึก ปึก ปึก!!





"อื้ออ... อ่าา.." มันเสียวสุดๆ ไปเลย





ผับ ผับ ผับ~~~





ผมกดสะโพกแน่นแล้วควงปืนกระแทกซ้ายทีขวาที โจบิดตัวดิ้นพล่านร้องครางด้วยความเสียว ผมจูบปากโจแรงๆ จนเกิดเสียงก่อนจะละออกมาออกไล่จูบไปทั่วร่างขาว ลิ้นร้อนไล่วนอยู่ที่ตุ่มไตที่ชูชัน มันท้าทายสายตาผู้หื่นกระหายอย่างผมยิ่งนัก ปากผมงับเข้าที่เป้าหมายแล้วดูดดึงด้วยความแรง ดูดกัดสลับกันจนเนื้อเกิดรอยช้ำเป็นสีแดงก่ำแต่ก็ยังไม่หนำใจ ผมดูดกัดสลับกันทั้งสองข้างอย่างหื่นกระหาย  โจครางอื้ออึงไม่หยุดยิ่งทำให้ผมได้ใจกระแทกเข้าออกด้วยความแรงพร้อมเร่งความเร็วใส่แบบไม่มียั้ง





ปัก ปัก ปัก~~~





เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นหวั่นไว ร่างบางหัวสั่นหัวคลอนเพราะถูกผมกระแทกด้วยความแรงเต็มกำลังสูบ ผมยกขาโจขึ้นพาดที่ไหล่แล้วกระแทกซ้ำจนหนำใจ





ปัก ปัก ปัก~~~





ยิ่งกระแทกแรงเท่าไหร่ยิ่งมันส์ ช่องทางรักยิ่ดตอดปืนผมแรงกระสุนก็พร้อมจะระเบิดออกจนแทบทนต่อไปไม่ไหว





ปัก ปัก ปัก~~~





"อ๊ะ อ๊ะ... ปูครับ อื้ออ...." 





"ดีไหมที่รัก อ่าา... มึงตอดกูดีจริงๆ ซี๊ดดด... ตอดแรงอีกที่รัก"





โจสะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียว มือคล้องคอผมไว้แน่น





พับ พับ พับ~~~~







ผมกระแทกใส่แบบไม่ยั้ง ยิ่งกระแทกแรงแม่งยิ่งเสียว มันทั้งตอดทั้งรัดปืนใหญ่ผมไม่หยุดหย่อน มันบับรัดปืนผมแน่นมากเท่าไหร่ผมยิ่งห้ามใจตัวเองไม่อยู่ กระแทกแรงอีกเร็วอีกแบบไม่หยุดพัก เลือดตัวในสูบฉีดวิ่งพล่านไปทุกความประสาท ความเสียงพุ่งพล่านจนถึงขีดสุด





พับ พับ พับ~~





"อ๊ะ อ๊ะ... ปูครับ อื้ออ... โจไม่ไหวแล้ว อื้ออ..."





โจปล่อยมือจากคอผมพยายามควานหาแก่นกายตัวเองที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ผมรวบมือโจเอาไว้แล้วดึงขึ้นมาจูบปลอบประโลม





จุ๊บบ...





"อดทนหน่อยที่รัก อ่าา... เดี๋ยวกูพาไปขึ้นสวรรค์พร้อมกัน"





"อือออ.... จูบโจหน่อย ปูครับ อ่าา..." 







ผมก้มลงประกบปากจูบที่รักตามคำขอร้อง โจครางอื้ออึงในลำคออย่างทรมาน ผมจูบปลอบโจอยู่สักพักก็ผละออกมากัดฟันกระแทกปืนใหญ่ใส่ร่างบางรัวๆ แบบไม่ยั้ง





"ซี๊ดดดด... ตอดแรงๆ เลยที่รัก อ่าา... ดีมากแบบนั้นแหละดี อื้อออ..."





ผับ ผับ ผับ~~~





ปัก ปัก ปัก~~~





เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่น ผมเร่งความเร็วขึ้นแรงขึ้นแบบสุดพลัง กระแทกเข้าออกจนสุดความยาว โจร้องครางด้วยความเสียวสุดจะกลั้น 





ปัก ปัก ปัก~~~





"พร้อมกันนะที่รัก ซี๊ดดดด..."





"อื้อออ.. ปูแรงอีก อ่าาา..."





ผับ ผับ ผับ~~~





ผมกระแทกเข้าออกอยู่สี่ห้าครั้งโจก็พ่นน้ำรักใส่หน้าท้องผม





"อ่าา....." 





ผมก้มลงไปลากลิ้นเลียน้ำรักก่อนจะกระแทกสุดแรงแล้วปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวโจ





"ซี๊ดดดด... อ่าาา..."





ผมก้มลงไปจูบที่หน้าผากโจแล้วฟุบหน้าลงที่ซอกคอขาว โจลูบเบาๆ ที่หัวผมแล้วกอดผม





"สุดยอดเลยว่ะ" ผมพูดพร้อมหอมหายใจ





"ปูมีความสุขไหม?"





"อืม... สุขมาก"







จุ๊บบ...

โจจูบที่หัวผมอย่างอ่อนโยน





"โจรักปูนะครับ"







ผมเงยหน้าขึ้นมองโจ มันยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้ง ผมยื่นมือไปเกลี่ยไรผมที่ปกปิดใบหน้าโจออกแล้วจูบลงที่หน้าผาก





จุ๊บ...

แก้มและจบลงที่ริมฝีปากบางเบาๆ อย่างอ่อนโยนก่อนจะละออกมาอีกครั้ง





"กูก็รักมึง เพราะมึงคือชีวิตของกู"





โจยิ้มอย่างมีความสุขซึ่งผมก็มีความสุขเช่นกัน ไม่ว่าเรื่องอะไรจะเกิดขึ้นเราจะก้าวผ่านไปด้วยกันและผมสัญญาว่าผมจะไม่ทิ้งมันและทำให้มันมีความสุขที่สุด



















"โจ.."




"ครับ.."




"อีกสองไหวไหม?"




oO!!




"เอ่อ... ขอดื่มน้ำก่อนได้ไหมอ่ะ"





"ในห้องมีน้ำไหม?"





"อืม... ตู้เย็นอยู่ข้างทีวีอ่ะ"





"โอเค... งั้นเดี๋ยวกูพาไปกินเอง"







พรึ่บ!!!

ผมอุ้มโจขึ้นทั้งที่ร่างกายเรายังคงเชื่อมต่อกันอยู่







"ซี๊ดดดด.... มึงตอดกูแรงแบบนี้กูคงเดินไปถึงตู้เย็นไม่ไหววะ"





"ปูก็เอาของปูออกไปก่อนซิ อื้อออ...."





"ค่อยกินน้ำทีหลังเนอะ"





"แต่โจหิวน้ำอ่ะปู... อ๊ะ!"





"อื้ออ... ข้างในมึงอุ่นมาก รัดกูแน่นจนกูจะแตกอีกรอบอยู่แล้ว อ่าา..."





"ปู... ถอดออกก่อน อ่าาา..."





สะโพกแกร่งขยับเข้าออกช้าๆ แล้วกระแทกเข้าไปเน้นๆ ย้ำที่จุดกระสัน แรงตอดรัดทำให้อดใจรอต่อไปไม่ไหว มันให้ความรู้สึกที่เสียวจับใจ





"มันดีมากเลยโจ ซี๊ดดดด... รัดแรงๆ เลยกูชอบ อ่าาา..."





"อ๊ะ... ปูอย่าแกล้งซิครับ อื้อออ..."





จุ๊บบ...





"ต่อเลยนะกูไม่ไหวแล้วมึงตอดกูรัวขนาดนี้ บ้าเอ้ย!! ซี๊ดด..."





ร่างบางถูกจับกระชับไว้แน่น จุดเชื่อมต่อทั้งสองร่างตอดรัดเหมือนไม่อยากแยกออกจากกัน





"อ๊ะ อื้ออ... ปูโจเสียวจังเลย" โจร้องครางออกมาอย่างลืมตัว





"กูโคตรเสียวเหมือนกัน ซี๊ดดด... กูทนไม่ไหวแล้ว อ่าาา..."







ร่างหนาพาร่างบางเดินทัวร์จนทั่วทุกมุมห้อง หยุดเดินตรงไหนกระแทกใส่แบบไม่ยั้งตรงนั้น ต่อให้ร่างบางร้องขอความเห็นใจก็ไม่มีผลเพราะร่างหนากำลังหื่นกระหายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งข้างในตอดรัดแรงมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ร่างบางร้องครวญครางด้วยความเสียวมากขึ้นเท่านั้น ร่างหนายิ้มกริ่มยิ่งได้ใจกระแทกปืนใหญ่ใส่ครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสนั่นหวั่นไหว ร่างกายทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ กลิ่นอายแห่งความสุขคละคลุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง ทั้งสองปลดปล่อยน้ำรักออกมาหลายต่อหลายครั้งจนร่างบางหมดแรงคอพับหลับคาอกไปโดยไม่รู้ตัว ร่างหนาจูบลงเบาๆ ที่แก้มเนียนก่อนจะกอดรัดร่างบางเอาไว้แล้วหลับไปในที่สุด

























"อืออ.... อ๊ะ!" โจขยับตัวเลยทำให้ผมตื่น





จุ๊บ...

"เจ็บเหรอ" ผมรวบตัวโจเข้ามากอด





"ปูอ่ะ ทำไมทำแบบนี้ล่ะ"





"หึ.. ทำอะไร?" ผมตีมึนแกล้งถาม





"ก็เนี่ย!" โจกวาดสายตามองไปที่ร่างเราสองคน





"อย่าบ่นน่า.. ก็นอนแบบนี้มันสบายกว่าใส่เสื้อผ้า หึหึ"





"แบบนี้ทุกทีเลย เมื่อคืนก็..." โจพูดแล้วหยุดไว้แค่นั้น





"โคตรมันส์" ผมพูดต่อ





ปึก!!





"จะบ้าเหรอ พูดออกมาได้ไม่อายรึไง"





ฟอดดด...



"อ่าาา... ชื่นใจว่ะ" ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจสิ่งที่โจพูด





"คนบ้า!" 





พรึ่บ!!

ผมจับตัวโจให้นอนหันหน้าเข้าหาผม





"ของมึงตื่นแล้วยังไม่รู้ตัวอีก" ผมล้วงมือเข้าไปจับแก่นกายของโจไว้แล้วนวดคลึงเบาๆ โจหลับตาแน่นแล้วฟุบหน้าลงที่อกผม





"อืออ... ปูอย่าแกล้งโจ"





คราวนี้ผมจับรวบทั้งของผมและของโจเข้าด้วยกันแล้วรูดขึ้นลงช้าๆ ตามจังหวะ





"ไม่ได้แกล้งกูแค่ช่วย หึหึ"





"ปูอย่าแกล้งโจน้า... ปล่อยโจเถอะ อื้ออ..."





"อดทนอีกนิดนะ เดี๋ยวกูจะทำให้หายอึดอัดจะได้สบายตัวไง"





จุ๊บบบ...





"อืมม... ครับ"


















อ่านต่อด้านล่างค่ะ ^^

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
อ่านต่อจากด้านบนนะคะ ^^







กว่าผมสองคนจะอาบน้ำเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง โจแม่งงอนผมว่ะ มันบอกผมทำเกินกว่าเหตุแล้วมันก็บ่นตัวเองที่ยอมตามใจผม ฮ่าๆๆ ผมแม่งไม่รู้จะสงสารหรือขำมันดี







"เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว" 





"ป่านนี้พ่อคงตื่นไปสามรอบแล้วมั้ง ปูมัวแต่.." แล้วมันก็หยุดชะงักไปต่อไม่ถูกเลยเว้ย ฮ่าๆๆ





"พ่อมึงคงรู้ว่าลูกเขยกลับมาบ้านเมื่อคืน"





"พ่อรู้แล้วเหรอว่าปูมาอ่ะ?"





"ก็ลูกน้องเขารู้แล้วคิดว่าเขาจะไม่รู้รึไง เลิกบ่นแล้วมานี่ม่ะ"





โจเดินเข้ามาหาผมอย่างว่าง่าย แต่ท่าเดินนี่ออกจะติดขัดนิดๆ เสียการทรงตัวไปเลยว่ะเมียกู





"รีบลงไปข้างล่างเถอะ ป่านนี้พ่อคงรอกินข้าวอยู่"





จุ๊บบ...

ผมจูบลงที่พุงน้อยของมัน มือก็บีบคลึงที่ก้นมันให้หายคันไม้คันมือ





"เจ็บมากไหม?" 







ที่ผมถามแบบนี้เพราะผมรู้ว่าเมื่อคืนผมค่อนข้างรุนแรงกับมันพอสมควร งานนี้ความผิดผมล้วนๆ ที่ห้ามใจตัวเองไม่ไหวทั้งที่สัญญากับมันไว้แล้วว่าจะทำมันเบาๆ แต่ผมก็ถือว่าเพลามือลงบ้างแล้วนะเพราะถ้าอยู่ที่บ้านผมคงทำมันแรงกว่านี้แน่นอน คนไม่ได้เจอกันหลายวันมันก็ยิ่งคิดถึงเป็นธรรมดาต้องก็มีกอบโกยความสุขกันบ้างล่ะวะ





"อืม..." โจพยักหน้าตอบแบบอายๆ





จุ๊บบ





"หายเจ็บยัง?" ผมจูบลงที่สะโพกมันอย่างเอาใจ





"อืม..." โจตอบเสียงเบา





"หายเจ็บจริงอ่ะ?"





"อืม... ก็ดีขึ้น เลิกแกล้งโจได้ไหมปู ลงไปข้างล่างกันเถอะโจไม่อยากให้พ่อรอนาน"





"กอดกูก่อนดิ"







โจมันกอดผมตามที่ผมขอส่วนผมก็กอดมันกลับไปเหมือนกัน เมียน่ารักมักว่าง่าย โคตรมีความสุขเลยว่ะ "หึหึ ป่ะลงไปข้างล่างกัน" ผมลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มโจ้ขึ้นจนตัวลอยก่อนจะหอมแก้มให้รางวัลมันฟอดใหญ่ มันหัวเราะกับสิ่งที่ผมทำ เห็นมันยิ้มผมก็โคตรมีความสุขแล้ว









ผมกับโจเดินลงมาข้างล่างของบ้าน พ่อโจนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก ท่านเงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม





"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้พ่อโจ





"นอนหลับสบายดีไหม?" 





"หลับสบายดีครับ" ผมตอบ





"ขับรถกลับมาไกลคงเหนื่อยมาก เอ่อ.. แล้วนี่หิวข้าวกันรึยังล่ะ"





"พ่อกินข้าวรึยังครับ?" โจถามพ่อ





"ยังเลย พ่อรอกินพร้อมเราสองคนน่ะ"





"พ่อ..." โจทำหน้าสลดทันที





"หึหึ ข้าวเช้าพ่อกินเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้าวเที่ยงรอกินพร้อมลูกไง"





"โจมันแค่เป็นห่วงพ่อมากน่ะครับ" ผมบอกท่าน





"อืมๆ พ่อรู้แล้ว ไปกินข้าวกันพ่อเริ่มหิวแล้วเหมือนกัน" พ่อโจเองก็ฉลาดใช่ย่อย







เราสามคนนั่งกินข้าวด้วยกัน บ้านนี้ค่อนข้างมารยาทสูงเวลากินข้าวคุยกันน้อยมากไม่เหมือนบ้านผม พอกินข้าวเสร็จพ่อโจก็ชวนไปนั่งจิบชากาแฟให้อาหารย่อย







"งานเสร็จเรียบร้อยดีใช่ไหม?" พ่อโจหันมาถามผม





"เรียบร้อยดีครับ"





"อืม... ดีแล้ว" ท่านตอบอย่างเรียบง่าย





"โจทำไมหน้าลูกดูซีดเซียวแบบนั้นล่ะ ไม่สบายรึป่าว?"





"ครับพ่อ เอ่อ... คือผม"





"เมื่อคืนโจบ่นปวดหัวนิดหน่อยนะครับ ผมจะพาโจไปหาหมอพอดีเลยว่าจะชวนพอไปตรวจร่างกายพร้อมกันซะเลย" โจหันมามองหน้าผม ผมยักคิ้วหล่อส่งไปให้หนึ่งทีเอาเป็นว่าเข้าใจกัน





"พ่อไม่ได้เป็นอะไร เราพาโจไปหาหมอเถอะ"





"พ่อครับ ไปให้หมอตรวจเถอะนะครับผมเป็นห่วง" โจพูดขอร้องพ่อ





"อย่าห่วงพ่อนักเลย พ่อไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย"





"พ่อครับ ผม..."





"เอาอย่างนี้ไหมครับ เดี๋ยววันนี้ผมพาโจไปให้หมอตรวจก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยเป็นคิวพ่อไปตรวจบ้าง แค่ตรวจสุขภาพประจำปีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ผลออกมาพ่อแข็งแรงดีโจก็จะได้สบายใจ เดี๋ยวผมจัดการนัดหมอให้เอง"







พ่อโจเงียบแล้วทำท่าหยุดคิด ส่วนโจก็นั่งลุ้นคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ







"อืม... เอาอย่างนั้นก็ได้ พ่อยอมทำตามที่ลูกขอนะเพราะพ่อไม่อยากให้ลูกต้องเป็นห่วง"





"ขอบคุณครับพ่อ" โจรีบพูดขอบคุณพ่อด้วยความดีใจก่อนจะหันมายิ้มให้ผม





"งั้นวันนี้ผมกับโจขออยู่กินมื้อเย็นกับพ่ออีกมื้อนะครับ"





"ได้ซิ อยากกินอะไรพ่อจะบอกให้แม่บ้านเตรียมรอเลย"







เราสามคนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน พ่อโจยิ้มง่ายขึ้นหัวเราะบ่อยขึ้น จากบุคลิกที่เงียบขรึมน่าเกรงขามท่านเปลี่ยนเป็นคุณพ่อที่แสนอบอุ่นเมื่ออยู่ต่อหน้าโจ ผมเล่าเรื่องงานที่ผมทำให้ท่านฟัง ส่วนท่านก็เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานของท่านให้ผมฟังเช่นกัน โจเป็นผู้ฟังที่ดีเสมอ พอตกเย็นเราก็ร่วมทานอาหารมื้อเย็นด้วยกันก่อนจะขอตัวกลับ







"ขับรถระวังด้วยนะ"





"ครับพ่อ"





"พ่อดูแลตัวเองด้วยนะครับ"





"โจก็ด้วยนะลูก"





"ไว้ผมจะพาโจมาหาบ่อยๆ นะครับ"





"อืม... ขอบใจมาก พ่อฝากโจด้วยนะ"





"ครับ"



ร่ำลากันเสร็จผมก็ขับรถพาโจกลับบ้านของเรา





















"ปู.."





"อืม.."





"ขอบคุณมากนะ" โจเดินเข้ามากอดแล้วซบหน้าลงที่ไหล่ผม







จุ๊บบ...





ผมจูบที่แก้มโจอย่างอ่อนโยนแล้วกระชับกอดมันไว้แน่น อย่างน้อยผมก็ช่วยคลายความกังวลให้มันได้บ้าง และต่อจากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะจับมือนี้ไว้ไม่มีวันปล่อย เราจะก้าวผ่านทุกอย่างไปด้วยกันผมสัญญา





TBC.


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อิปูไม่อ่อนโยนกะโจเลย ไม่เกรงใจบ้านพ่อโจเลย.


ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อิปูไหนว่าจะ "ทำเบาๆ" ไงยะ 5555

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2
【ทิว❤มิน】


  :pig4: :เครดิตภาพ: ขอบคุณภาพจาก IG และเวปไซค์ค่ะ




【EP.32 อ้วนผู้น่าสงสาร​​】​​












ผมหวังอยู่เสมอว่าเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นมันจะผ่านพ้นไปด้วยดี สิ่งที่ผิดพลาดจะต้องกลับมาถูกต้อง ความทุกข์จะหายไปในไม่ช้าแล้วทุกอย่างจะถูกแทนที่ด้วยความสุข ความสุขที่ผมรอคอย







แต่ทว่า...







"ปังๆ ปัง!! ปิ้ววว... อ้วนตาย ฮ่าๆๆ เจอกระสุนพี่เข้าไปถึงกับกลิ้งล้มไม่เป็นท่าเลยเหรออ้วน อ่อนมากไอ้น้อง ว่ะฮ่ะฮ่า... ให้รู้ซะบ้างว่ากำลังต่อกรอยู่กับใคร" 





--!! รู้สึกเครียด!!





"แฮ่ คิคิ ปู้ปปปป... กิกิกี้..."





"ฮ่าๆ สนุกใช่ไหมล่ะ บอกแล้วว่าอันนี้เวิร์คสุด อ่ะถูกใจก็ปรบมือคร๊าบบ..."





แปะ แปะ แปะ





"กีกี แฮ่ๆ คิคิ..." 





"ชอบอ่ะเด่ มาๆ ถ้าชอบขอรางวัลหน่อย"





ฟอดดดด ฟอดดดด...





"หื้มมม... มันเขี้ยวเว้ย!! ไอ้อ้วน!! ไอ้หมูตอนเอ้ยยย.. ฮ่าๆๆ ทำหน้าตลกดิ"





"ฮ่าๆๆ หน้าแม่งโคตรตลกเลย แบบนี้ต้องให้รางวัลคืน!! ลุยยยย..." ถึงกับก่ายหน้าผากเลยกู



--!!









"อ้าวทิว มาตั้งแต่เมื่อไหร่?"





--!! ขอรู้สึกเคว้งคว้างอีกรอบ





"มาตั้งนานแล้วมิน กูยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้วไม่มีใครสนใจกูสักคน" พูดจบผมก็เดินเอาถุงที่ถือมาไปวางไว้บนโต๊ะในห้องครัว





"เห็นมันป่ะอ้วนหรือไม่เห็น เอ๊ะ!! หรือเห็นนานล่ะแล้วไม่ยอมบอก สารภาพมาซะดีๆ ไม่งั้นโดน!!"







ผมอยากจะบอกมันสองคนว่า... ยังมีกูอยู่ตรงนี้อีกคนรู้ยัง โลกนี้ไม่ได้มีมึงอยู่แค่สองคนนะเว้ย!! แต่!!!  การที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้มีผลอะไรเลย มันสองคนยังคงเล่นสนุกสนานกันเหมือนเดิม คนนึงหัวเราะอีกคนก็ไล่ฟัดไล่หอมอยู่ไม่หยุด เฮ้ยยย!!! กูทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย!







"มิน!!" ผมเรียกชื่อเมียเสียงดังฟังชัด ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ สายตาทั้งสี่ข้างหันมามองที่ผม





"ข้าวอ้วนอ่ะ แม่ทำมาให้ด้วยป่ะ?"





--!! กูขอลาตายแป๊ป





"มึงถามกูมั่งก็ได้นะว่าเหนื่อยไหม หิวข้าวไหม กินอะไรมารึยัง ถามกูบ้างก็ได้!!" 





"หงุดหงิดอะไรอีกเนี้ยะ ข้างนอกอากาศร้อนรึไงหรือเมารถ"





"ไอ้แห้ง!!!" 





"ฮ่าๆๆ กูล้อเล่นน่า โอ๋.. พี่ทิวครับเหนื่อยไหมครับ มานี่ๆ นั่งลงแล้วใจเย็นๆ นะเดี๋ยวจะไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้"





มินมันลากผมลงไปนั่งข้างไอ้อ้วน ไอ้นี่ก็อยู่เป็นจริงๆ มันคลานเข้ามาหาผมแล้วแกล้งหยิบขวดนมไม่ได้ นิ้วป้อมๆ มันใช้เขี่ยขวดนมไปมาแทนที่มันจะหยิบขึ้นมากิน





"กินแล้วหุบปากซะ" ผมยัดนมใส่ปากไอ้อ้วน มันก็ดูดไปยิ้มไป





"น้ำมาแล้วคร๊าบท่านทิว" มินยื่นน้ำมาให้ผม





"ซื้อของเล่นมาอีกแล้ว?" ผมเหลือไปมองปืนสำหรับเด็กที่มีแสงสีเสียงครบครัน





"กูสั่งออนไลน์มาในเว็ป ไอ้อ้วนมันชอบมาก" มินพูดพร้อมหยิบปืนขึ้นมาโชว์ด้วยความภูมิใจ





"ของไม่มีสาระมึงซื้อมาให้มันทำไม เด็กตัวแค่นี้เขายังไม่เล่นปืนกันหรอกมิน"





"กูก็ไม่ได้ให้มันเล่นนิทิว กูเล่นให้มันดูไงแล้วมันก็ชอบมากเลยนะเว้ย ไอ้อ้วนมันหัวเราะไม่หยุดเลย"





"เฮ้ออ... กูปวดหัว" ผมถอยหายใจเหนื่อย





"ปวดหัวเหรอ ไม่สบายรึเปล่าไปนอนพักในห้องดิ เดี๋ยวกูอยู่เป็นเพื่อนไอ้อ้วนเอง"





--!! ปวดหัวหนักกว่าเดิมเลยกู





"มึงเลิกชวนมันเล่นได้แล้ว ไปเอาข้าวที่แม่ทำให้มาป้อนมันไปเดี๋ยวข้าวจะเย็นซะก่อน"





"โอเค รับทราบ" พูดจบมันก็วิ่งจู๊ดหายเข้าไปในห้องครัว





"ทิวต้องแบ่งข้าวไหม?" มินโผล่หน้าออกมาถาม





"แบ่งไว้กินตอนเย็นด้วยแม่บอกงี้" ผมตะโกนตอบกลับ





"โอเค รับทราบ"





กูว่ากูไมเกรนแดกว่ะ ปวดหัวฉิบหาย!!





"ไอ้อ้วนหยุดกินนม เอาขวดนมวางแล้วรอกินข้าว" ผมหันไปว๊ากใส่มันด้วยความหมั่นใส้





"ไม่ต้องมายิ้มเลย วางขวดนมลงเดี๋ยวนี้!!" 







ไอ้อ้วนมันยิ้มทั้งๆ ที่ผมกำลังขึ้นเสียงใส่มัน ปากเล็กค่อยๆ คลายจุกนมออกช้าๆ แล้วปล่อยให้ขวดนมไหลลงพื้นก่อนที่มันจะใช้ขาป้อมๆ ของมันเขี่ยขวดนมออกไปให้ห่างจากตัว







"ดีมาก อย่างน้อยมึงก็ยังทำตามที่กูสั่งบ้าง"





ไอ้อ้วนหัวเราะชอบใจ มันค่อยๆ คลานเข้ามาหาผมแล้วพยายามปีนขึ้นมาบนตักผม





"อยากนั่งตักต้องทำไงก่อน?"





มันยิ้ม ^^





"ทำไงก่อน ที่สอนไว้ไหนทำให้ดูดิ"







มือเล็กๆ ทั้งสองข้างกำลังพยายามประกบเข้าหากัน แต่ด้วยความพยายามอย่างสุดขีดจึงทำได้แค่... มือขวาจับไขว้ที่ข้อมือซ้ายแล้วยกขึ้นยกลงแล้วมือก็หลุดออกจากกัน







"หึหึ... เก่งมาก ครั้งหน้ายกมือค้างให้ได้นานกว่านี้แล้วจะให้รางวัล" ผมใช้มือลูบลงที่หัวไอ้อ้วนเบาๆ ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมานั่งตักแล้วฟัดแก้มยุ้ยๆ ของมันไปสองที





ฟอดด... ฟอดดด... 





ไอ้อ้วนมันขี้อ้อน รู้งานไปหมดครับ





"เล่นจนเหงื่อชุ่มเลยนะอ้วน" 





"ข้าวมาแล้ว..." มินถือจานข้าวไอ้อ้วนออกมาพร้อมกับแก้วน้ำหนึ่งใบ





"ใครป้อน?" ผมถาม





"มึงไง" มินยื่นจานข้าวมาให้ผม





"อ้าว! ทำไมมึงไม่ป้อนเอง"





"ไม่เอาอ่ะ เมื่อวานกูป้อนมันแล้วมันเหมือนจะอ้วกตลอดเลย" 





"มึงคิดมาก ป้อนมันคำเล็กๆ ดิ มันเพิ่งหัดกินข้าวบดได้ไม่กี่วันเอง ป้อนข้าวก่อนถ้ามันทำท่าจะอ้วกก็ป้อนน้ำตามไง"





"ได้เหรอ!" 





"เออดิ บางทีมันอาจกลืนไม่ทัน มึงต้องค่อยๆ ป้อน"





"ทำไมเวลาพี่ฟ้าป้อนให้ดูมันง่ายจังวะ"





"มึงใจร้อนไง ลองป้อนดู"





"งั้นมึงนั่งเป็นเพื่อนกูนะ ดูไอ้อ้วนกินข้าวไง"





"ไม่! เพราะกูจะไปอาบน้ำ กูร้อน" พูดจบผมก็อุ้มไอ้อ้วนขึ้นนั่งบนเก้าอี้เด็ก





"เอ้ยทิว!"





"ป้อนเอง" ผมออกคำสั่งครั้งสุดท้ายแล้วเดินหนีออกมาอย่างไม่มีเยื่อใย



















เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผมต้องปวดหัวกับไอ้แห้งและไอ้เด็กอ้วนจอมป่วน ย้อนไปเมื่อสามวันก่อนเป็นวันที่ครบกำหนดที่ผู้หญิงคนนั้นจะมารับไอ้อ้วนไปเลี้ยง ผมกับมินเราตกลงกันว่าจะคืนไอ้อ้วนไปโดยที่เราจะขอไปเยี่ยมไอ้อ้วนบ้างบางครั้งและอาจจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายตามที่เราสองคนเห็นสมควร เราทั้งสองฝ่ายตกลงกันและทุกอย่างก็ดูจะเป็นไปตามที่ได้แพลนไว้ แต่!! พอถึงวันที่จะต้องคืนตัวไอ้อ้วนโดยมีกระเป๋าและของใช้ทุกอย่างที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อย ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้น เธอขอให้ช่วยดูไอ้อ้วนให้อีกสามสี่วันเพราะเธอต้องไปเตรียมเอกสารที่จะรับไอ้อ้วนเป็นลูกบุญธรรม









ณ ตอนนั้นผมก็ไม่คิดว่ามันยากอะไรแค่เลี้ยงไอ้เด็กอ้วนเพิ่มอีกสามสี่วันเอง แต่สิ่งที่ผมต้องเจอในความเป็นจริงมันยากกว่าเยอะ ประสาทจะแดก!! มินกับไอ้อ้วนตัวติดกันแจ ไอ้อ้วนคลานได้ไวขึ้นมันคลานไปทั่วห้องให้ผมตามจับจนเหนื่อย งานยากมินให้ผมทำแต่งานง่ายๆ มันบอกว่ามันจะรับผิดชอบเอง เออดี! ไม่ค่อยเอาเปรียบกูเลยที่รัก









ทุกวันนี้ไอ้อ้วนอาบน้ำพร้อมมินทุกวัน หึ!! อย่าเรียกว่าอาบน้ำเลยครับมันเล่นน้ำกันซะมากกว่า พอไอ้อ้วนหัวเราะอารมณ์ดีไอ้แห้งก็สปอยใหญ่ พอผมเริ่มดุมันก็ย้อนผมมาว่า...





"มึงเป็นคนบอกเองนะว่าอยากทำอะไรเพื่อไอ้อ้วนก็ให้รีบทำไง เนี้ยะตอนนี้มันดูมีความสุขดีอย่างน้อยช่วงเวลาสั้นๆ กูก็อยากทำให้มันตามที่มึงบอกกูไงทิว" พูดจบมันก็ทำหน้าสลดใส่ผม พอผมเออออคล้อยตามมันก็กลับมาซ่าเหมือนเดิม สรุปมันไม่เคยผิด









เฮ้ออ... ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากตามใจมัน งานนี้ขัดใจยากเชื่อดิ! ตอนนี้ผมขอตัวไปอาบน้ำแช่น้ำให้สบายตัวก่อนล่ะกัน อีกสองวันๆ ไอ้ทิว ท่องไว้ให้ขึ้นใจ









หลังจากอาบน้ำเสร็จภาพที่ผมเห็นคือเมียคนโตนอนหลับหมดสภาพที่พื้น ไอ้เด็กอ้วนนอนดูดนมเอาหน้าซุกที่รักแร้เมียผม จานข้าวกับแก้วน้ำวางอยู่บนโต๊ะข้างโซฟา ปืนกระจุยหมอนกระจายหลับเหมือนตายกันทั้งคู่ กินแล้วนอนคำนี้ยังใช้ได้ผล ไอ้เด็กอ้วนกินเก่งมากตัวมันกลมขึ้นทุกวัน ส่วนมินก็กินเยอะขึ้นกว่าเดิมแต่กินยังไงก็ไม่อ้วนสักที









ต่อแต่นี้ไปคืองานเฮียเอง เก็บกวาดซากทั้งหมด โถ... ชีวิตไอ้ทิว









ครืดดด~~~~ ครืดดด~~~~

ผมหยิบโทรศัพท์มินขึ้นมาดูแล้วกดรับสาย





"สวัสดีครับ"





"มินสะดวกคุยไหมจ๊ะ?"





"พี่ฟ้าพอดีมินหลับอยู่ครับ"





"อ้าว นั่นทิวเหรอ"





"ครับ ผมเอง"





"เอ่อ... ยังไงดีล่ะ พอดีพี่มีเรื่องรบกวนเราสองคนนิดหน่อย"





"ได้ครับ มีเรื่องอะไรบอกผมไว้ก็ได้"





"แม่ฮะให้มิกคุยเอง นะฮะแม่" เสียงมิกกี้ดังรอดเข้ามาในสาย





"มิกกี้อย่าดื้อนะครับ ขอแม่คุยกับอาทิวก่อน"





"หึหึ.. พี่ฟ้ามีอะไรเหรอครับ?"





"คืออย่างนี้นะทิว มิกกี้งอแงอยากไปเล่นกับน้องน่ะ ขอร้องให้พี่โทรมาหามินให้มารับที่บ้านตั้งแต่ทิวขับรถกลับไปแล้ว พี่ดุเท่าไหร่ก็ไม่ฟังจะไปเล่นกับน้องท่าเดียวเลย"





งานเข้าแล้วกู! ผมหันไปมองสองแสบที่นอนกองรวมกันอยู่ที่พื้น 





"ขอโทษนะทิวที่พี่โทรมารบกวน พี่พยายามห้ามแล้วแต่มิกกี้งอแงไม่หยุดจริงๆ จ๊ะ"





"เอ่อ... ไม่เป็นไรครับ งั้นผมจะเข้าไปรับมิกกี้ช่วงเย็นๆ แล้วกันนะครับ ผมขอแวะเข้าไปทำธุระที่ร้านก่อนแล้วจะเข้าไปรับมิกกี้ที่บ้าน"





"ขอบคุณมากนะทิว มิกกี้ครับขอบคุณอาทิวเร็วครับเดี๋ยวอาทิวจะเข้ามารับที่บ้าน"





"ขอบคุณฮะอาทิว รักอาทิวที่สุดเลยฮะ จุ๊บบบบ... เย้ๆๆ มิกจะได้ไปเล่นกับน้องแล้ว"





"อ้าวมิกกี้ นั่นจะรีบไปไหนอีก ตายๆ พี่ล่ะปวดหัว ยังไงก็ฝากมิกกี้ด้วยนะทิว ถ้าดื้อมากๆ ก็เอากลับมาส่งที่บ้านได้เลยนะ"





"ได้ครับพี่ฟ้า เจอกันเย็นนี้ครับ"





"โอเคจ้า ขอบคุณมากนะจ๊ะ"





"ครับ สวัสดีครับ"









ความสงบสุขคงหายไปจากชีวิตผมอีกแล้วซินะ เพราะมันจะถูกแทนที่ด้วยความวุ่นวาย งานนี้คงต้องซื้อยาพาราไว้รอเลย ปวดหัวแน่กู!!









ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบผ้าห่มออกมาคลุมตัวให้สองแสบ หลังจากนั้นผมก็ทำความสะอาดเก็บกวาดทุกอย่างจนเสร็จ ตอนนี้สิ่งของในห้องถูกเคลื่อนย้ายจัดระเบียบใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่สันทนาการให้เหมาะสมกับการเลี้ยงเด็กเล็ก ข้าวของที่คิดว่าจะเป็นอันตรายต่อเด็กผมจัดการเก็บย้ายเข้าไปไว้ในห้องเก็บของบางส่วน ห้องทำงานถูกจัดระเบียบใหม่เล็กน้อยเพื่อให้พื้นที่กว้างขึ้น เอาเป็นว่าที่ทำทั้งหมดเพราะเมียสั่ง จบนะ!! ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ไอ้เด็กอ้วนมันคลานสำรวจห้องผมจนครบทุกซอกทุกมุมแล้วครับ









ตอนนี้ผมคงต้องรีบไปสะสางเอกสารของร้านที่ทำค้างเอาไว้หลายวัน ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ผมคงเหลือเวลาอีกไม่มาก เพราะถ้าสองคนนั้นตื่นผมคงต้องวางทุกอย่างแล้วไปอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด ปล่อยไว้ไม่ได้ครับ เชื่อซิว่าต้องเกิดเรื่องวุ่นวายอะไรสักอย่าง หึหึ























ก๊อก ก๊อก ก๊อก 



ผมวางเอกสารที่มือลง





"เข้ามาเลยประตูไม่ได้ล็อค"





"แท่นแท๊นน!! อ้วนกำลังหัดเดินแล้วคร๊าบท่านผู้ชม"





--"

ภาพที่ผมเห็นคือมินกำลังจับแขนทั้งสองข้างของไอ้เด็กอ้วนแล้วช่วยพยุงให้มันเดิน ขาป้อมๆ กำลังพยายามก้าวเดินอย่างสุดความสามารถ ดูท่าทางมันจะชอบมากกว่าจะรำคาณนะผมคิดว่างั้น







"หึหึ แน่จริงก็ปล่อยมือแล้วให้มันเดินเอง"





"ยังเดินไม่ได้ไง ก็พูดอยู่ว่ากำลังหัดเดินๆ ใช่ไหมอ้วน" 





คำตอบคือเสียงหัวเราะแล้วมันก็กระโดดดิครับ เด้งดึงๆ เหมือนลูกชิ้นหมู ฮ่าๆ มินก็ขำใหญ่ 





"เฮ้ยอ้วนพักก่อน เหนื่อย!!" มินวางไอ้เด็กอ้วนให้นั่งลงที่พื้น 





"ไปคลานเล่นได้แต่ห้ามซนนะเว้ย!" มินออกคำสั่ง





"เก่งเนอะพูดกันรู้เรื่อง" ผมเก็บเอกสารทั้งหมดใส่แฟ้ม





"ทิวเย็นนี้เราจะกินอะไรกันดี" ตื่นมาก็ถามหาของกินเลยนะมึง





"อยากกินอะไร?"





"คิดไม่ออกอ่ะ มึงช่วยคิดดิ"





"งั้นกูให้เวลามึงคิดแล้วกัน เดี๋ยวกูจะเข้าไปที่ร้านแป๊ปนึงแล้วไปรับมิกกี้ที่บ้าน"





"ไปรับมิกกี้ทำไม?"





"พี่ฟ้าโทรมาตอนมึงหลับ มิกกี้อยากมาเล่นกับไอ้อ้วน"





"งั้นมึงแวะซื้ออะไรมากินด้วยเลยก็ได้ ถามหลานด้วยว่าอยากกินอะไร"





"อืม.. เดี๋ยวจัดการให้"





"รีบไปรีบมาด้วย"





"ถ้าหิวก็หาอะไรกินรองท้องไปก่อน กูต้องไปคุยงานกับลูกน้องเสร็จแล้วจะรีบกลับ"





"งั้นซื้อไอติมมาให้ด้วยนะกูอยากกิน"





"อืม.. จะเอาอะไรเพิ่มก็โทรบอกกูแล้วกัน" 





ผมหยิบเอกสารทั้งหมดที่ต้องใช้เก็บใส่กระเป๋า มินเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์กับกุญแจรถมายื่นให้ผม





ฟอดดด...





"เดี๋ยวกูรีบกลับ"





"ขับรถดีๆ อย่าขับเร็วมาก"





"จูบทีดิ" ผมยื่นปากเข้าไปใกล้มิน





"ไอ้อ้วนอยู่ไม่จูบเว้ย!!" มินหันหน้าหนี





"ต้องจูบ!!" 





หมับ!!





ผมจับหน้ามินให้หันมาแล้วประกบปากจูบปากมินทันที 





"อืออ.. ทิว" จุ๊บบบ~~ ผมจูบมินแบบไม่ล่วงล้ำจูบจนพอใจก็ผละออก มันเขี้ยวมันจริงๆ อยากทำมากกว่านี้แต่ติดที่ไอ้อ้วนมันนั่งมองนี่ดิ





"ทำบ้าอะไรเนี่ยไอ้อ้วนมองอยู่นะเว้ย!" มินบ่นอุบ!





"ช่างมันดิ เด็กแค่นี้ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก หึหึ"





"ไอ้บ้าทิว รีบไปเลยไป!!"







ฟอดดด... หอมแก้มแม่งอีกที โชว์ไอ้อ้วนอีกรอบไปเลย ฮ่าๆ เดี๋ยวโตมามึงจะได้ทำเป็นเลยไม่ต้องสอนอะไรมาก







"อยู่กันดีๆ ล่ะ อย่าลืมป้อนข้าวไอ้อ้วน"





"รู้แล้วเหอะ!!"







ผมเดินอารมณ์ดีออกมาจากห้องแล้วตรงไปที่รถ ผมต้องรีบทำเวลานิดนึงปล่อยมันให้อยู่กันสองคนนานๆ ไม่ได้ครับ อันตราย!!















"สวัสดีครับนาย"





"ได้เรื่องอะไรบ้าง?" ผมถามไอ้เก่ง





"ข้อมูลค่อยข้างสมบูรณ์ครับนาย"





"อืม... งั้นตามกูขึ้นไปที่ห้อง"





"ครับนาย"







ผมเดินขึ้นมาที่ห้องทำงานสักพักไอ้เก่งก็ตามมาพร้อมกับน้ำดื่มสำหรับผม







"น้ำครับนาย" 





"อืม.. ขอบใจ"





"นี่ครับ ข้อมูลทั้งหมดที่ผมหามาได้" ไอ้เก่งวางซองเอกสารสีน้ำตาลบนโต๊ะทำงานของผม





"เล่ารายละเอียดมา" ผมแกะซองเอกสารแล้วหยิบกระดาษเอสี่ที่มีอยู่ในซองนั้นออกมา





"ตามที่ผมหาข้อมูลมาได้ เรื่องที่คุณเหมียวเสียชีวิตเป็นเรื่องจริงครับ ผมตามข้อมูลจากข่าวอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นช่วงเดือนนั้นจนพบว่าหลังจากคุณเหมียวเกิดอุบัติเหตุก็มีมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยจัดการเรื่องพิธีศพและจัดเก็บอัฐิไว้ที่วัดแถวลาดพร้าวครับ"





"แล้วมึงตามไปดูที่วัดไหม?"





"ไปดูแล้วครับนาย ผมให้เพื่อนของเพื่อนที่ทำร่วมกตัญญูช่วยคุยให้อีกทีจนได้ข้อมูลทั้งหมดมา เขาพาผมไปที่วัด ข้อมูลที่เขาบอกผมตรงตามที่ผมเห็นทุกอย่างครับ"





"แล้วไงต่อ" 





"คุณเหมียวพ่อแม่เสียตั้งแต่อายุสิบเจ็บครับ เธอได้รับความช่วยเหลือจากทางโรงเรียนเรื่องทุนการศึกษาเพราะเธอเป็นเด็กเรียนดี เธอเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยโดยไม่มีใครแสดงตัวว่าเป็นญาติเลยแม้แต่คนเดียว เธอโตมาโดยลำพัง หลังจากเธอเรียนจบมัธยมปลายเธอก็เรียนต่อปริญาตรีด้วยตัวเองมาตลอด คนที่เคยรู้จักหรือเคยเห็นเธอต่างบอกว่าเธอเป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อนสนิท เธอแค่เรียน ทำงานและใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวครับ"





"ญาติสักคนก็ไม่มีรึไงวะ" 





"ผมพยายามสืบจากคนใกล้ตัวที่รู้จักเธอแล้วครับ ไม่มีใครรู้จริงๆ ว่าเธอมีญาติไหมและเธอไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวกับใครเลยครับ"





"แล้วเรื่องคนที่ชื่อกานล่ะว่าไง?" ผมถามถึงผู้หญิงที่เอาไอ้อ้วนมาทิ้งไว้ที่ผม





"ช่วงนี้ดูเธอยุ่งๆ ครับ เหมือนเธอกำลังจะหางานทำเพิ่ม แต่..."





"แต่อะไร?" 





"ตามที่ผมเห็นเธอหางานไว้หลายที่มาก ผมตามเธอไปเกือบทุกที่แต่มีที่นึงที่ผมว่ามันไม่ธรรมดาครับ"





"ไม่ธรรมดายังไงวะ?" ผมถามต่อ





"ก็เอเจนท์ที่นั่นมันหางานให้คนทั้งในประเทศและต่างประเทศครับนาย"





"งั้นมึงไปหาข้อมูลมาให้กู"





"ได้ครับนาย"





"ส่วนนี่เอกสารร้านที่กูอนุมัติแล้ว มึงเอาไปจัดการต่อให้จบ"





"ครับนาย"





"แล้วเรื่องร้านมีปัญหาอะไรไหม?"





"ไม่มีครับนาย ช่วงนี้ผมให้เด็กตรวจลูกค้าเข้าออกอย่างละเอียด ส่วนเรื่องทะเลาะวิวาทก็มีบ้างนิดหน่อยครับแค่ลูกค้าเมาแล้วฟึดฟัดใส่กันพอเด็กที่ร้านเข้าไปห้ามก็จบครับ"





"เออดีมาก กูอาจจะไม่ได้เข้าร้านอีกสักสองสามวัน ถ้ามีเรื่องด่วนก็โทรหากู"





"ได้ครับนาย"





"นี่ค่าเหนื่อยมึง" ผมหยิบเงินในกระเป๋าแล้วยื่นให้ไอ้เก่ง





"ขอบคุณมากครับนาย" ไอ้เก่งยกมือไหว้แล้วรับเงินจากมือผมไป





"นายจะทานอะไรไหมครับ ผมจะได้ให้เด็กออกไปซื้อมาให้"





"มึงให้เด็กออกไปซื้อของกินสักสามสี่อย่าง เอาที่นายเล็กมึงชอบแล้วกัน"





"ได้ครับนาย"





"เออ.. ไม่มีอะไรแล้วมึงจะไปทำอะไรก็ทำไป กูจะทำงานอีกสักพักแล้วจะกลับ"





"ได้ครับนาย งั้นเดี๋ยวผมรีบเตรียมของที่นายสั่งรอนะครับ" พูดจบไอ้เก่งก็รีบออกไปทำหน้าที่ของมันทันที เรื่องรู้ใจเจ้านายให้ไว้ใจไอ้เก่งคนนี้ได้เลย ไม่มีผิดหวัง

















ผมนั่งทำงานจนถึงบ่ายสาม ไอ้เก่งจัดเตรียมสิ่งที่ผมสั่งใส่ไว้ในรถให้ผมเรียบร้อย งานในร้านคงต้องให้มันเป็นหูเป็นตาดูแลร้านแทนผมอีกสักสองสามวัน รอส่งไอ้อ้วนเสร็จทุกอย่างคงจะกลับมาเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม









ผมขับรถออกจากร้านตรงไปที่บ้านของมิน พอผมลงจากรถเจ้าหลานตัวแสบก็วิ่งออกมาต้อนรับผมพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดเล็กหนึ่งใบ นี่ยังไม่รวมกระเป๋าเป้ที่สะพายอีกหนึ่งใบข้างหลังนะครับ พี่ฟ้ายิ้มแห้งแล้วบอกผมว่าขอฝากตัวแสบไว้กับผมในวันหยุดนี้ เสาร์บวกอาทิตย์! ผมถึงกับพูดไม่ออกเลย พอมองหน้าหลานที่กำลังยิ้มแย้มมีความสุขก็ถึงกับปฏิเสธไม่ออก









เฮ้ออ... ไอ้ทิวผู้น่าสงสาร





TBC.





ฝากเม้นให้กำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ




ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: ชื่อตอนช่างแตกต่างกับชีวิตทิว

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เปลี่ยนเป็นเฮียทิวผู้น่าสงสารดีกว่ามั้ง ไม่มีเวลาสวีทกะเมียเลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
555 น่าจะเปลี่ยนเป็นทิวผู้น่าสงสารมากกว่านะ

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด ภาค 2


  :pig4: :เครดิตภาพ: ขอบคุณภาพจาก IG และเวปไซค์ค่ะ




【ตอนพิเศษ​ วัน(ใช้)แรงงานเมีย】​​









คืนนี้ที่ร้านคนเยอะเป็นพิเศษเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ครับ คนโสดรวมถึงคนไม่โสดเลยมารวมตัวแฮงเอาท์กันที่ร้านของผมรวมถึงไอ้พวกนี้ด้วย







"เฮ้ยๆ ชนแก้ว ดื่มเพื่อสันติภาพและเสรีภาพกันพวกเรา"





ป๊าบบ!!





รู้นะครับว่าเสียงฝ่ามือใคร หึหึ



"สันติภาพ เสรีภาพอะไรของมึงห๊ะไอ้บี้ แถวบ้านกูเรียกแดกฟรีไม่จ่ายเงินโว๊ย!!"



"โหหห... มึงอย่างกกับเพื่อนกับฝูงดิวะไอ้มิน เฮียเขาเป็นเจ้าของร้านเขายังไม่บ่นกูสักคำเลย ใช่ไหมครับเฮีย?" ไอ้บี้หันมาถามผม



"ถ้ามันไม่จ่ายเงินค่าเหล้ามึงเรียกไอ้เก่งเตรียมเด็กๆ ยืนรอหน้าร้านได้เลย" ผมหันไปพูดกับมิน



"จัดให้ครับไอ้ป๋า ของซื้อของขายใครเขาให้แดกฟรีกันเนอะ" มินยืนกอดอกยักคิ้วกวนตีนให้ไอ้บี้เพื่อนรักของมัน



"แดกฟรีเงียบๆ ก็ไม่มีใครรู้แล้วไอ้ฟาย!! เสือกโง่ไปบอกเขาก่อนทำไม" ไอ้ทีนด่า



"หึหึ แม่งไม่ฉลาดเหมือนมึงกับกูไง" ไอ้นันยกแก้วชนกับไอ้บี้ฉลองให้กับความฉลาดของตัวเอง



"โหหห... กูจะรู้ไหมล่ะว่าเดี๋ยวนี้เขาเป็นกันทั้งบ้านเลย งก!! เฮียแม่ง!!"





ป๊าบ!!!





"โอ๊ยย!! มึงตบหัวกูสองรอบแล้วนะไอ้มิน เจ็บนะเว้ย อู้ยย..."



"ใครให้มึงมาทะลึงกับกูล่ะ เฮียแม่งงั้นเหรอ!! แฟนกูเพื่อนเล่นมึงรึไงห๊ะ! ทะลึงล่ะ"



"ตบแม่งให้สมองไหลไปเลยเพื่อน มีเพื่อนโง่ๆ แบบนี้เสียชื่อวงตระกูลกูหมด" ไอ้นันยกแก้วขึ้นชนกับไอ้ทีน นี่พวกมึงเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ ใช่ไหมวะ



"หึหึ เดี๋ยวกูขึ้นไปข้างบนก่อน ถ้ามีอะไรก็ให้เด็กไปเรียก"



"อืม... อีกสักพักเดี๋ยวกูตามขึ้นไป"







ผมขอแยกตัวออกมาจากสงครามน้ำลายดีกว่าว่ะขี้เกียจฟังพวกมันเถียงกัน เห็นมันเถียงกันแบบนี้แต่พวกมันรักกันมาก เพื่อนเจ็บกูเจ็บตามประมาณนี้เลย วันนี้ก็มีแต่เพื่อนเมียผมนั่นแหละที่มาแดกฟรี ส่วนเพื่อนๆ ผมแม่งหายหัวกันไปหมด ไอ้ฟิวนี่เด็กติดแยกตัวออกจากกันไม่ได้ หึหึ ฟังไม่ผิดหรอกครับเด็กติดไม่ใช่ติดเด็ก ไอ้นี่ก็ตามใจเด็กมันไปซะทุกเรื่องแต่บางเรื่องอยากกวนตีนมันก็กวนตีนแบบสุดๆ เหมือนกัน ส่วนไอ้มาร์นี่พาหายหัวไปอย่างไร้ร่องรอยแม้กระทั่งไอ้เนย์ยังไม่รู้เลยว่าเพื่อนคู่ซี้มันหายหัวไปไหน







ผมเดินกลับขึ้นมาที่ห้องทำงานเพราะอยากอยู่เงียบๆ ช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องคิดเยอะ คิดอยู่ว่าการตัดสินใจของผมครั้งนี้ถูกต้องไหม แต่ผมว่าสิ่งที่ผมคิดคือคำตอบของทุกอย่าง ความสุขของผมและคนที่ผมรักมันจะต้องเป็นเรื่องที่ดีซิ เฮ้ออ... คิดแล้วก็ปวดหัวว่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ก็ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไว้มีโอกาสเหมาะๆ ค่อยบอกมินแล้วกัน







ก๊อก ก๊อก ก๊อก~





"อืม.. เข้ามา"



"นายครับ ผมสรุปค่าแรงสำหรับวันพรุ่งนี้ให้เรียบร้อยแล้วครับ ให้คุณมินตรวจสอบเมื่อตอนเย็นนายจะตรวจดูอีกทีไหมครับ?" ไอ้เก่งเดินถือเอกสารเรื่องค่าแรงพิเศษที่ผมให้เป็นค่าเหนื่อยพนักงานที่ร้านทุกคน





ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาร้านผมกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าทุกปี เราทำงานกันทุกวันแบบไม่หยุดพักเลยสักวัน บางคนยอมทำงานในวันหยุดเทศกาลเพื่อให้ได้เงินไปเลี้ยงครอบครัวที่รอและให้กำลังใจพวกเขาอยู่ข้างหลัง ผมเลยอยากให้ค่าเหนื่อยพวกมันเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยเพื่อให้พวกมันมีกำลังใจทำงาน มินเองก็เห็นด้วยเลยเป็นคนจัดการเดินเรื่องทุกอย่างโดยมีไอ้ต้นเป็นผู้ช่วยจัดเตรียมข้อมูลให้







"ไม่เป็นไร วางไว้นี่แหละเดี๋ยวกูเซ็นต์ให้"



"นี่ครับนาย" ไอ้เก่งวางแฟ้มเอกสารพร้อมเช็คไว้บนโต๊ะทำงานของผม



"นายมึงอีกคนยังอยู่ข้างล่าง มึงคอยดูไว้ให้กูด้วยอย่าให้เกิดเรื่องล่ะ"



"ครับนาย แต่ผมว่าคุณมินอารมณ์เย็นขึ้นเยอะแล้วนะครับตั้งแต่มาช่วยงานนายที่ร้าน"



"หึหึ อะไรทำให้มึงคิดอย่างนั้น"



"ผมก็ดูจากหลายๆ เหตุการณ์ครับนาย คุณมินเคลียร์เองได้ เวลามีลูกค้าทะเลาะกันคุณมินก็ใจเย็นขึ้นเคลียร์ได้ไม่มีเรื่องซะเอง เอ่อ.. ผมหมายถึงไม่เหมือนเมื่อก่อนนะครับ" ไอ้เก่งอธิบายเสียงเบา เหมือนมันเองก็ไม่ค่อยกล้าพูดอะไรมาก



"หึหึ มึงอย่าเพิ่งไว้ใจนายมึงมากนัก ถึงนายมึงจะโตขึ้นมานิดเดียวไม่ใช่ว่ากูจะไม่ห่วงมัน"



"ครับนาย ถ้านายไม่ฝากผมช่วยดูคุณมินไว้แทนนาย เดี๋ยวคุณมินก็ต้องฝากผมดูแลนายแทนคุณมินอยู่ดี เฮ้ย!" ไอ้เก่งรีบก้มหน้าทันที



"หึ! บอกกูมาว่านายอีกคนมันสั่งมึงว่ายังไง?"



"ไม่มีอะไรครับนาย" ไอ้เก่งมันสั่นหัวรัวๆ



"มึงจะบอกกูดีๆ หรือจะให้กูหยุดจ่ายเงินเดือนมึงก่อนสักสามเดือน" ผมเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง



"บอกครับบอก แต่นายอย่าบอกคุณมินนะครับว่าผมเอามาเล่าให้นายฟัง" ไอ้เก่งยืนปาดเหงื่อ ห้องทำงานกูร้อนขนาดนั้นเลยเหรอวะ



"เออ! รีบบอกมาก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจ"



"คืออย่างนี้ครับนาย เมื่อสองสามวันที่แล้วคุณมินเห็น เอ่อ... เห็นนายคุยกับลูกค้าในร้าน คุณมินก็เลย..."



"คุยกับใคร? ก็เลยอะไร"



"คุณมินเห็นนายคุยกับเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกับคุณดรีมเด็กเก่านายน่ะครับ วันนั้นคุณมินไล่ด่าพวกเด็กที่ยืนเฝ้าหน้าร้านจนพวกมันงงว่าคุณมินเป็นอะไร พวกมันทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียวครับนาย"



"แล้วไงต่อ หึหึ"



"มีเด็กหน้าร้านคนนึงมันกำลังเก็บแก้วอยู่ที่โต๊ะที่นั่งชิวนอกร้าน แล้วมันก็หันมากระทันหันเลยเดินชนคุณมินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณมินหันกลับไปง้างมือขึ้นเกือบจะต่อยมันแต่มันยกมือไหว้ขอโทษไว้ทัน ผมว่าคุณมินไม่ได้ตั้งใจหรอกครับนาย คุณมินแค่ไม่พอใจที่เห็นนายคุยกับเพื่อนคุณดรีมมากกว่าครับ"



"ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องเลยวะ"



"นายยังยืนคุยอยู่กับลูกค้าอีกโต๊ะครับแต่คุณมินเดินออกมาก่อน ผมเองก็ไม่กล้าบอกนายเพราะกลัวจะทำให้คุณมินอารมณ์เสียหนักกว่าเดิมน่ะครับ"



"หึหึ ไม่น่าล่ะวันนั้นมันไม่ค่อยคุยกับกูเลย กูก็นึกว่านายน้อยมึงเหนื่อยซะอีก"



"คุณมินหึงนายมากเลยนะครับ ถึงกับเรียกผมเข้าไปหาที่หลังร้านแล้วบอกให้ผมคอยเดินประกบนายไว้ ถ้านายเดินเข้าไปโต๊ะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเมื่อไหร่ให้ผมทำยังไงก็ได้ให้นายเดินออกมาจากโต๊ะนั้นภายในสามนาที ถ้ายืนนานเกินสามนาทีเมื่อไหร่รู้เรื่อง คุณมินบอกผมแค่นี้แหล่ะครับ นี่ขนาดบอกผมแค่สั้นๆ ผมยังขนลุกเลย คืนนั้นเล่นเอาผมเหนื่อยสุดๆ เพราะลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเรียกนายให้หยุดคุยด้วยทุกโต๊ะเลย"





"ไหนมึงบอกว่านายมึงโตขึ้นแล้วไงวะ หึหึ" ผมแกล้งถามไอ้เก่ง



"มันคนละเรื่องกันครับนาย ถึงคุณมินจะใจเย็นขึ้นเรื่องอื่นแต่เรื่องหึงนายนี่ผมไม่ขอออกความเห็นอะไรแล้วกันครับ ผมเกรงใจคุณมิน" ไอ้เก่งตอบแบบยิ้มแห้ง ไอ้เก่งเอ้ย! ทีอย่างนี้ไม่ออกตัวแทนนายมึงวะ ฮ่าๆๆ เอาเป็นว่ากูเข้าใจมึงแล้วกันเพราะกูรู้ว่านายน้อยมึงใช่ย่อยซะที่ไหนล่ะเรื่องแบบนี้



"อืม.. กูรู้แล้วมึงไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวกูจ่ายค่าเหนื่อยคืนให้แล้วกัน" ผมบอกไอ้เก่ง ปลอบใจมันซะหน่อยมันคงเสียขวัญกับเหตุการครั้งนี้ไม่น้อย



"งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับนาย"



"เออ! ออกไปได้แล้ว"



"เอ่อ.. นายครับ"



"มีอะไรอีกวะ"



"ค่าเหนื่อยผมไม่เอานะครับนาย แค่นายอย่าบอกคุณมินก็พอว่าผมเล่าเรื่องนี้ให้นายฟัง"



"เออๆ รู้แล้ว ออกไปทำงานต่อไป! ดูนายมึงไว้ด้วย"



"ครับนาย"





ผมควรดีใจที่มินมันหึงผมหรือควรสงสารไอ้เก่งดีล่ะงานนี้ ไม่น่าล่ะวันนั้นไอ้เก่งมันเดินตามผมทั้งคืน พอผมขึ้นมาที่ห้องทำงานมันก็เลิกตาม ส่วนไอ้ตัวต้นเรื่องนี่นั่งเงียบตลอดทางกลับบ้าน พอถึงบ้านก็อาบน้ำนอนเลย ผมจะกอดแม่งก็บอกร้อนไม่ให้กอด ตื่นเช้ามาก็นั่งกินข้าวเงียบ ชวนทำอะไรก็ไม่ทำ วันนั้นเล่นเอาผมประสาทแดกทั้งวัน ไอ้นู้นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่สน กว่าจะกลับมาเป็นมินคนเดิมผมเสียเงินค่าเสื้อผ้าไปเกือบสามหมื่น สายเปย์ที่แท้ทรูก็กูนี่แหล่ะไอ้ทิวเอง เมียใครว่ะโคตรน่ารักน่ากัดให้แขนขาด หึหึ





หลังจากฟังเรื่องเมียรักจนรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ผมต้องจ่ายเงินเอาใจมันหมดไปหลายหมื่น ผมก็นั่งทำงานต่อจนเวลาผ่านไปร่วมสองชั่วโมง มองนาฬิกาอีกทีก็เกือบจะตีหนึ่งแล้วครับ ป่านนี้แล้วทำไมมันยังไม่ขึ้นมาหาผมอีกว่ะ ใกล้เวลาร้านปิดแล้วด้วย ผมวางปากกาลงบนโต๊ะทำงานแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือยัดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานลงไปด้านล่าง





ผมกวาดสายตามองไปทั่วร้านสถานการณ์ทุกอย่างยังคงปกติดีทุกอย่าง คนยังเยอะแน่นร้านเหมือนเดิมจะกลับกันก็วินาทีสุดท้ายนู้น.. ผมเดินผ่านผู้คนมากมายไปที่โต๊ะที่มินกับเพื่อนมันนั่งกินเหล้า ที่ตรงนั้นไม่มีคนที่ผมกำลังตามหา ไอ้นันหันมาเห็นผมพอดีมันเลยชี้ไปที่ไอ้หนุ่มเท้าไฟหัวใจแดนซ์ซิ่ง กูจะบ้าตาย --"





ผมเดินไปนั่งลงข้างไอ้นันมันชงเหล้าแล้วยื่นแก้วให้ผม ส่วนไอ้หนุ่มเท้าไฟที่กำลังเต้นอย่างเอาเป็นเอาตายกับเพื่อนมันไม่หันมาสนใจผมสักนิด มันคงสนุกจนลืมไปแล้วว่าผมนั่งรอมันอยู่







"เพื่อนมึงนี่เพี้ยนขึ้นทุกวันนะไอ้นัน หึหึ"



"เฮียก็ว่าไปนั่น ไอ้มินมันเพี้ยนหนักเป็นปกติอยู่แล้วนะเฮีย" ไอ้นันยกแก้วขึ้นชนแก้วผม



"มันกินไปเยอะไหม?"





ผมเห็นสภาพเมียตัวเองตอนนี้แล้วเกินคำว่าเยอะไปแล้วครับ ขวดเหล้าวางเรียงกันสามขวดขนาดนี้ แดกหรืออาบกันแน่วะ





"เยอะเฮีย สติมันหลุ************ดไปตั้งแต่ชั่วโมงที่แล้วล่ะ"



"แล้วนี่พวกมึงกลับกันยังไง?"



"เรียกแท็กซี่ครับเฮีย ผมขอฝากรถไว้ที่ร้านหน่อยนะเฮีย ท่าทางจะไปไม่รอดด่านตำรวจ หึหึ"



"อืม.. ตามใจ ถ้าจะให้เด็กที่ร้านขับรถไปให้ก็ไปบอกไอ้เก่ง เดี๋ยวมันจัดการให้"



"ไม่เป็นไรครับเฮีย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมค่อยเข้ามาเอารถช่วงบ่ายเพราะต้องไปรับไอ้ทีนไปคุยงานกับลูกค้าแถวร้านเฮียนี่แหล่ะครับ"



"อืม.. เอางั้นก็ได้ตามใจมึง"



"เฮียจะพาไอ้มินกลับเลยรึป่าว เดี๋ยวผมไปตามมันให้"



"ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจัดการเองมึงนั่งกินต่อไปเถอะ"



"ครับเฮีย ขอบคุณสำหรับเหล้าฟรีด้วยนะเฮีย"



"เออ! เดี๋ยวกูลงบัญชีหนังหมาไว้ชาติหน้ามึงค่อยมาใช้คืนกู หึหึ" พูดจบผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกมาจากโต๊ะทันที ไอ้นันโวยวายยกใหญ่





เรื่องค่าเหล้าผมก็แกล้งพูดไปอย่างนั้นแหล่ะครับ เพราะพวกมันมากินทีไรเมียผมนี่แหล่ะตัวแดกเลย จะให้คิดเงินพวกมันก็ยิบย่อยเกินไป กินแค่นี้ไม่ทำให้ร้านผมเจ๊งหรอก เลี้ยงเมียเสียเยอะกว่านี้อีกแค่นี้ชิวครับ





ผมเดินแทรกเข้าไปในกลุ่มวัยรุ่นขาแดนซ์ ไอ้บี้กับไอ้ทีนกำลังกอดคอกันเต้น ส่วนเมียรักของผมนี่ขอโชว์เดี่ยวไม่เอี่ยวกับใคร หึหึ เฮ้ออ... ท่ามึงจะเยอะไปไหนครับที่รัก







"เฮียอารุณ.. สาหวาดคร๊าบบ.." ไอ้ทีนยกมือไหว้ผม



"เออ! ดีนะยังรู้ตัวว่าเช้าแล้ว" ก็ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าแล้วมันก็ควรเช้าแล้วไหมล่ะ แค่ฟ้ายังไม่สว่างก็แค่นั้นเอง



"มินกลับบ้าน" ผมจับแขนมิน มันเซเข้ามาหาผมทันที



"อ้าว.. นี่พี่ทิวเอง นึกว่าใคร อึ่ก!! เต้นกันหน่อยคร๊าบบบ..." มินพยายามจับตัวผมให้เต้นตามมัน



"สภาพแบบนี้ยังชวนกูเต้นได้อีกนะ กลับบ้านเถอะ" ผมรวบตัวมินเข้ามากอดไว้หลวมๆ มันเริ่มทรงตัวไม่อยู่แล้วครับแต่ไม่รู้มันไปเอาแรงจากไหนมาเต้น แถมยังคิดท่าเต้นพิเรนๆ ได้อีก



"เฮ้ยยย.. เต้นก่อนเด้! เต้นด้วยกันหน่อยยย... อ่ะโด่ ม้ายยย... วัยรุ่นเลย อึ่ก!!"



"พอได้แล้วมิน" ผมรวบตัวมันไว้ มันเริ่มอ่อนแรงแล้วครับ



"เฮียจะอาววว... อึ่ก! เพื่อนผมกลับบ้านแล้วใช่ป่าวว..."



"เออ พวกมึงก็พอกันได้แล้ว แยกย้ายกันกลับบ้านซะ" ผมสั่ง



"กราบบบ... คร๊าบบบ เฮียเดี๋ยวอีกแป๊ปนะคร๊าบบ... พวกผมขอแดนซ์อีกนิสสส..." ไอ้บี้ต่อทดเวลาบาดเจ็บ



"ตามใจ งั้นกูกลับก่อนมึงจะอยู่ต่อก็เรื่องของมึง"



"คร๊าบบ... หวัดดีคร๊าบบ... เฮีย" ไอ้บี้กับไอ้ทีนยกมือไหว้ผมแล้วพวกมันก็หันไปเต้นต่อ





ผมพามินเดินออกมาจากร้านอย่างทุลักทุเล คืนนี้ให้เด็กที่ร้านขับรถให้ครับเพราะผมเองก็ดื่มเยอะพอสมควร ส่วนมินนี่ไม่ต้องพูดถึงพอขึ้นรถได้ก็สลบคาอกผมทันที







"ทิวคร๊าบบบ.."



"อืม.. อยู่นิ่งๆ ดิ"



"พี่ทิวคร๊าบบบ.. อึ่ก!!"



"จะเอาอะไร?"



"มินจะอ้วกแล้วคร๊าบบ.. อึ่ก!!"



"เฮ้ย!! มานี่เลย"





พรึ่บ!!

ผมอุ้มมินขึ้นพาดบ่าแล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที





พรวดดดด!!!





--" กูคิดไว้ไม่มีผิด งั้นอาบน้ำเลยแล้วกัน







"อ่าา... โล่งจัง แฮ่ะๆ สบาย อึ่ก!!"



"เมายิ่งกว่าหมาก็เมียกูนี่แหล่ะ"





ผมจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งผมและมินออกทั้งหมดแล้วอุ้มมินไปล้างตัวที่ใต้ฝักบัว เละครับงานนี้ สภาพห้องน้ำแย่กว่าที่ผมคิด พอผมล้างตัวเราทั้งสองคนเสร็จเรียบร้อยก็อุ้มมินไปนั่งลงในอ่างอาบน้ำแล้วเปิดน้ำอุ่นให้มินแช่จะได้สบายตัว





"มินแช่น้ำรอไปก่อนนะ" มันพยักหน้าตอบรับ







ผมจัดการเก็บเสื้อผ้าเปื้อนอ้วกขึ้นมาล้างน้ำแล้วใส่ไว้ในตะกร้าผ้า พื้นห้องน้ำผมจัดการฉีดด้วยน้ำจนพื้นสะอาดแล้วบีบครีมอาบน้ำลงพื้นตามด้วยฉีดน้ำอีกรอบ ล้างแค่นี้ก่อนแล้วกันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ หันไปมองตัวต้นเรื่องที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในน้ำแล้วอยากจับมันกดน้ำให้ตื่นจริงๆ เลย แต่เอ๊ะ! หรือกูจะกดอย่างอื่นดีวะ หึหึ





ผมเดินไปล้างตัวที่ฝักบัวอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่อ่างอาบน้ำแล้วแทรกตัวลงไปนั่งซ้อนด้านหลังมิน สองมือรวบตัวมินเข้ามากอดไว้หลวมๆ แล้วลูบไล้ไล่จากปลายแขนขึ้นมาสู่ต้นคอขาวแล้วกัดลงที่คอจนเกิดรอย







"อื้ออ...." เสียงครางทำไมมันช่างเย้ายวนก็อย่างนี้วะ



"กูขอรอบนึงก่อนนอนนะ" ผมกระซิบบอกเสียงพร่า



"อื้ออ..." มินครางตอบรับเสียงหวานเมื่อผมเริ่มลูบไล้มือจากลำตัวลงไปใต้น้ำอุ่นด้านล่าง



"หึหึ อนุญาตแล้วนะ"





ฟอดดด....













"อื้อ.. หนาว"



ฟอดดด...





"หนาวเหรอ ขยับมานี่" ผมรวบตัวมินเข้ามากอด



"อ๊ะ!"



"ชู่ว์... นอนนิ่งๆ อย่าดิ้น"



"เจ็บ" มินพูดเสียงเบา





จุ๊บบบ...

"ไม่เจ็บแล้วน้า... ฝันดีนะครับ"

















เมื่อคืนตอนที่ผมอาบน้ำให้มินผมแอบกินมันไปสองรอบ ตอนแรกว่าจะทำมันรอบเดียวพอแต่อดใจไม่ไหวจริงๆ ยิ่งทำก็ยิ่งมันส์ ร้องครางยั่วยวนผมขนาดนั้นใครจะอดใจไหววะ พอตื่นมาเท่านั้นแหล่ะ







"โอ๊ยยย!! มึงทำอะไรกูทิว!!"



"อย่าโวยวายน่า... ทำยังกับไม่เคยไปได้ หึหึ"



ฟอดดด...

หอมแก้มปลอมใจเมียซะหน่อย





ปึ่ก!!





"แม่ง! กูเจ็บนะเว้ย!"



"นอนนิ่งๆ สักพักเดี๋ยวก็ดีขึ้น"



"แต่กูปวดหัว" มินเริ่มงอแง



"มึงกินเหล้าเยอะก็ปวดหัวเป็นธรรมดา เดี๋ยวกูไปเอายามาให้กิน"



"แม่ง!! กูเจ็บตัวไปหมดแล้ว ปวดหัวด้วย!!"





จุ๊บบบ...





"โอ๋.. เดี๋ยวกินยาก็ดีขึ้นครับ กินข้าวต้มไหมเดี๋ยวทำให้กิน"



"ไม่กิน!!" เริ่มแล้วครับ มันเริ่มงอแงแล้ว



"กินนะๆ นะ เดี๋ยวทำข้าวต้มให้กินจะได้กินยาไง" ผมรวบตัวมินเข้ามากอดอีกครั้งแล้วลูบปลอบให้มันรู้สึกดีขึ้นครับ



"มึงนิสัยไม่ดี!!"



"อืมๆ ขอโทษก็ได้ ยกโทษให้ได้ไหมครับที่รัก?"





ฟอดดดด....





"มึงแอบทำตอนกูเมา!!"



"ยอมรับผิดแล้วไง หายโกรธนะ"









"มินคร๊าบบ..."



"กูอยากเข้าห้องน้ำ" มินพูดเสียงเบา แบบนี้ลุกเองไม่ไหวชัวร์ ฮ่าๆๆ



"เดี๋ยวพาไป"



"อืม..." มินพยักหน้าตอบ





ผมลุกขึ้นจากเตียงแล้วอุ้มมินขึ้น





"มอร์นิ่งคิสกูก่อน"





ปึ่ก!!





"พาไปห้องน้ำเลย!!"



"นะๆ จุ๊บปากกูทีนึงก่อน"



"ไอ้บ้า!!"





จุ๊บบบ.....





"หึหึ มึงนี่น่ารักที่สุดเลยรู้ตัวบ้างไหมเนี่ย"

"ไม่รู้! พาไปห้องน้ำสักทีเถอะ!"



"คร๊าบ..."











หลังจากผมพามินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำเรียบร้อยก็อุ้มมันมานอนรอที่เตียง ส่วนผมก็รีบเข้าครัวไปทำข้าวต้มให้เมียสุดที่รักกิน พอกินข้าวต้มเสร็จก็รีบให้มินกินยาตามทันที กลัวเมียป่วย หึหึ





"มองอะไรนักหนัก"



"ก็แค่อยากมอง มึงง่วงก็นอนไปซิ"





ตอนนี้ผมกำลังนอนมองหน้าเมียรักของผม พอคิดถึงเรื่องที่ไอ้เก่งเล่าให้ฟังว่ามินมันหึงผมก็ให้ผมอดยิ้มดีใจไม่ได้ว่ะ หลงเมีย





"มึงจ้องกูแบบนี้จะหลับได้ไงล่ะ"



"หึหึ ตามึงจะปิดอยู่แล้วมินอย่าฝืน"



"ก็กูนอนไม่หลับ"



"งั้นมานี่ม่ะ เดี๋ยวกูกล่อมให้หลับเอง" ผมรวบตัวมินเข้ามากอด



"กูไม่ใช่เด็กซะหน่อย" มันบ่นไปงั้นแหล่ะ พอผมกอดมันก็ซุกหน้าเข้าหาผมทันที



"เออไม่เด็กแล้ว โตจนมีผัวแล้ว"





ตุบ!

มินต่อยเข้าที่ท้องผมไม่แรงมาก แต่ก็จุกนิดๆ เหมือนกัน มือหนักฉิบหายเมียกู





"นอนซะ ไม่กวนแล้ว"





ตอนนี้ปล่อยให้มินนอนพักผ่อนในอ้อมกอดของผมไปก่อนนะครับ ตื่นมาจะได้สดชื่นเผื่อผมจะได้ใช้งานมันต่อได้ วันนี้ขอหยุดอยู่บ้านนอนกอดเมียดีกว่า ^^





หึหึ แอบใช้แรงงานเมียหนักไปหน่อยต้องเอาใจเมียนิดนึง ที่ทำไปก็เพราะรักล้วนๆ รักที่สุดเลยคนนี้

END.




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด