กลัวคนอ่านจะลงแดง
มาต่อให้แล้วนะครับ
ใครอยากทำร้ายผม ไปทำร้ายป๋อมแป๋มแทนนะครับ
-------------------------------------------
บทที่ 24 แลกเชลย
วันนี้ เป็นวันที่ผมสอบเพิ่งเสร็จ... ถ้าสอบผ่านหมด ผมก็จะขึ้นทะเบียนเป็นบัณทิตใหม่กับเค้าเสียที... แต่ ก็ยังไม่มั่นใจเท่าไร เพราะ จะว่าไปสาขาที่ผมเรียน มันจบกันไม่ง่ายนัก... ถ้าเรียนจบ... ก็จะได้เลิกงานอย่างนี้เสียที ผมคิด...
พี่ ป้อม บาร์เทนเดอร์ ที่สนิทกัน ยังเคยพูดกึ่งเตือนตอนที่ผมออกไปกินข้าวกับแกก่อนเข้างาน ว่า “ขายดีๆ อย่างนี้ จะเลิกได้เหรอดิน ทำงานอย่างอื่นเงินมันไม่ดีเหมือนอย่างนี้นะ”
“ได้ สิครับพี่... ผมยอมรับว่าเงินมันอาจจะไม่ดี แต่ ผมอยากทำงานกลางวันเหมือนคนอื่นเหมือนกัน ไอ้งานอย่างนี้ มันจะทำได้นานแค่ไหนครับ มันก็ขายดี แรกๆ เนี่ยแหละ อยู่ๆ ไปใครจะเอา ยิ่งอายุเยอะๆ ยิ่งยาก”
“อือ... พี่ เห็นด้วยนะ เอาใจช่วยว่ะดิน...”
“ขอบคุณครับพี่...”
.......................................
“สอบเสร็จแล้วเหรอดิน” พี่ปิ๊กถามออกมาจากเคาเตอร์ ทันทีที่เห็นหน้า...
“ครับ พี่” ผมรับคำ ยกมือไหว้ “สวัสดีครับพี่ปิ๊ก สวัสดีครับพี่รัตน์”
“หวัด ดีจ๊ะ ตี๋หล่อ” พี่รัตน์ ยิ้มให้ ก่อนจะก้มหน้าลงทำบัญชีของแกต่อ... ดูเหมือนทั้งสองคนจะแบ่งงานกันได้ดี พี่ปิ๊กอยู่ข้างหน้า พี่รัตน์ อยู่ข้างหลัง... อย่าคิดมากสิ ผมหมายถึงอยู่ในเคาน์เตอร์...
ทักทาย กับพี่ป้อมสองสามคำ ก็ออกมานั่งคุยกับเพื่อนๆ จริงๆ แต่ละคนก็มีปัญหาต่างๆ กันไป ไอ้ป้องที่เป็นดาวของร้าน ความรู้แค่ ปอหก พ่อตาย แม่เป็นอัมพาต...อยู่บ้านที่เมืองมะขามหวาน กับน้องชาย น้องสาว ไอ้ป้องต้องทำงานส่งแม่ส่งน้องเรียนหนังสือ ส่วนไอ้ดล ก็ พ่อแม่ตายหมด... ความรู้ก็ปอหกเท่านั้นเอง... คนอื่นๆ ก็แตกต่างกันไปตามสภาพ...
สาม ทุ่มกว่าก็เริ่มมีลูกค้าเข้า รวมทั้งพี่ติ๋มด้วย (จำได้ไหมครับ คนที่ทำให้ผมกับไอ้ชลมีอะไรกันอ่ะ) แกลากผมไปนั่งด้วยตั้งแต่เดินเข้ามาที่ร้าน
“วันนี้มีนัดหรือเปล่า... ดิน”
“ไม่ทราบครับ ต้องถามพี่ปิ๊ก” ผมตอบ เพราะบางทีพี่ปิ๊กก็ไม่ได้บอกผมเหมือนกัน
พี่ติ๋มเดินไปที่เคาน์เตอร์ ครู่เดียวก็เดินกลับมา... “วันนี้ไปกับพี่นะ ดิน”
“ครับ” เลือกได้ด้วยเหรอวะตู หวังว่าแกคงไม่เอาใครไปด้วยอีกนะ... ไอ้ชลคนเดียว... ไอ้ดินก็ปางตาย... นี่ดีนะที่สอบ ไม่งั้น โดนมันรีดเกือบทุกวันที่ไม่ได้ลูกค้า หรือได้ลูกค้ากลับมาเร็วหน่อยมันก็เอา... ก่อนผมจะกลับหอก็มี
สี่ ทุ่ม พี่ติ๋มพาผมออกจากร้าน ตอนแรก ผมนึกว่าแกจะพาผมไปโรงแรม แต่ไม่ใช่... แกเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่แถวประตูน้ำ แกพาผมเข้าไปอีกบาร์นึง มีเวทีสำหรับโชว์คาบาเรต์ด้วย... (คงนึกออกนะครับ ว่าบาร์อะไร)
พี่ ติ๋มคงสนิทกับที่บาร์นี้พอสมควร เห็นกัปตัน ร่างยักษ์ เข้ามาคุยกับแก ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร นั่งดูโชว์ไปตามเรื่อง แต่ได้ยินแว่วๆ เหมือนกันครับ ว่าซองบุหรี่แตก ฝังมุกอะไรเนี่ยแหละ... เอาแล้ว เอาของตูไปคุยแล้ว...
นานพอดู... จนโชว์หมดรอบ ก็มีเด็กขึ้นไปเต้น บนแท่นกลมๆ แทน พี่ติ๋มก็หันมาบอกผม...
“ดิน... เดี๋ยวเราอยู่ที่นี่นะ”
ผมหันไปมองหน้า พี่ติ๋ม... “ยังไงครับพี่”
“เถอะ น่ะ... พี่ตี๊ เจ้าของที่นี่ เค้าอยากได้เรา”...พี่ติ๋มชี้ไปที่ ผู้ชายค่อนข้างท้วมนั่งอยู่ที่เคาเตอร์ “... พี่เลยแลกเรากับเด็กที่นี่... เดี๋ยวพี่ตี๊เค้าจัดการเรื่องค่าตัวเราเอง”
.... อะไรฟะ... เอากรูมาขายทอดตลาดเลยเรอะ แต่ผมยังไม่ได้พูดอะไร พี่ติ๋มก็เดินออกไปแล้ว พร้อมเด็กสองคน... ดีเนอะ หนึ่งแลกสอง... ค้ากำไรหรือเปล่าฟะ...
มีคนมาบอกผมให้ขึ้นไปข้างบน... เป็นห้องนอน มีเตียงกับห้องน้ำเล็กๆ ครู่เดียว... พี่ตี๊ก็เดินตามขึ้นมา...
“ชื่อดินเหรอ”
“ครับ”
“ขอ โทษนะ อาจจะรุกล้ำไปหน่อย... พอดีพี่ กับพี่ติ๋มเป็นเพื่อนกัน... พี่ติ๋มเค้ามาเล่าให้ฟังถึงสรรพคุณของเรา พี่ก็เลยอยากเห็น” พี่ตี๊พูดจาเรียบร้อย
“อยากเห็นอะไรครับ” ผมแกล้งเซ่อ พี่ตี๊ตีแขนผมดังเผียะ...
“ก็ไอ้ที่เราติดตัวมานั่นแหละ... เห็นบอกซองบุหรี่แตก ฝังมุกอีกต่างหาก”
ผม ยิ้มให้ พี่ตี๊ให้ผมไปอาบน้ำ ตัวเองนั่งรออยู่ที่เตียง ไม่นานผมก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเดินออกมานั่งข้างๆ แต่พี่ตี๊ผลักผมให้เอนนอนลง มือล้วงเข้าไปในผ้าขนหนู... ลูบคลำเป้าหมายที่แกอยากเห็น ไม่นานหรอกครับ ผมหยุดไปอ่านหนังสือสอบตั้งสองอาทิตย์ มีแค่น้องษาเท่านั้นที่มาอยู่สองสามวัน แล้วก็ไม่ได้หักโหมอะไร... พอมันถูกท้าทาย ลูกชายผมก็ผงาดเต็มมือพี่ตี๊
“อูย... ดิน... ใหญ่เบ้งเลย...” พี่ตี๊คราง ปลดผ้าออก ไอ้ที่แกอยากเห็นก็ออกมาโชว์ให้ดูเต็มๆ ตา
พี่ตี๊เล่นกับ “กระดอ” ฝังมุกของผมอยู่นาน ผมจะกอดแกลงมานอน แกก็บอกว่าไม่ได้อยากมีอะไรแบบนั้น แค่อยากเห็น อยากจับเท่านั้นเอง...
เอาวะ ไอ้ดิน... อย่างมากก็โดนชักว่าว... ผมนึกอยู่ในใจ... แต่ไม่งั้นสิครับ เพราะ พักใหญ่ก็มีเสียงเคาะประตู...
“พี่ตี๊... ถึงคิวหนูหรือยัง”
พี่ตี๊หัวเราะหึๆ พึมพำ... “อีฝ้าย”
แกลุกขึ้นไปปลดล๊อค... ประตูก็เปิดเข้ามา...เล่นเอา ผมตลบผ้าเช็ดตัวขึ้นปิด ลูกชายของผมแทบไม่ทัน ก่อนจะหันไปมองผู้บุกรุก...
คนเข้ามาใหม่ เป็น...คนที่เรียกว่า “นางโชว์” แต่ เป็นนางโชว์ที่สวยมาก แต่งหน้าทาปาก สวยกว่าพี่แดงอีก (ตอนที่ยี่สิบเอ็ด)
“เอา...มึง เร็วๆ ล่ะ เดี๋ยวมึงต้องขึ้นโชว์ไม่ใช่เรอะ”
“สบายเจ๊... ของหนู “เพลงสุดท้าย” อีกนาน...”
พี่ตี๊เดินออกไป ทิ้งให้ผมอยู่กับนางโชว์ชื่อฝ้าย ที่ปิดประตูล๊อคกลอนสนิท...
“ขอดูหน่อยสิ ดิน...” พี่ฝ้ายเดินเข้ามานั่งแทนพี่ตี๊ ตลบผ้าขนหนูที่ปิดกลางตัวผมออกไป
“หูย.ซซซซซซ บะเริ่มเลย”
พี่ ฝ้ายจับของผมที่ยังผงาดผงกอยู่ เต็มมือ วิพากษ์ วิจารณ์.... ผมยิ้มให้อย่างเคยชินกับคำพูด และก็การกระทำ เพราะพูดจบ พี่ฝ้ายก็ก้มหน้าลง วูบเดียว “กระดอ” ฝังมุกของผมที่พี่เค้าบอกว่า "บะเริ่มเลย" ก็หายเข้าไปในปากพี่ฝ้ายเกือบครึ่ง ตกลงมันใหญ่จริงป่ะวะ
ผม ปล่อยให้พี่ฝ้าย อมของผมอยู่ พักนึง ไม่นานหรอกครับ เพราะพี่ฝ้ายต้องขึ้นโชว์....ผมจะดึงพี่แกมาจูบ พี่แกก็ไม่ยอม กลัวต้องแต่งหน้าใหม่มั๊ง (แต่ไอ้ที่ลงไปอมของตูเมื่อกี้น่ะ... ลิปสติค เป็นวงรอบเลย อุ อุ) แกก็หันไปรื้อตรงลิ้นชักหัวเตียง... ครับ อุปกรณ์ การหากิน... เควาย กับถุงยาง...
หลัง จากจัดการกับอุปกรณ์ ไม่นานพี่ฝ้ายก็ลุกขึ้นมานั่ง... ครับ...ก็นั่งเทียนนั่นแหละ... แต่ของไอ้ดินมันไม่ธรรมดา ทำอะไรไม่ไหว้ครูก่อน ผลมันก็เลย....
“อู ยซซซ ดิน ใหญ่จัง ไม่ไหวแล้ว” พี่ฝ้ายคราง เมื่อหัวถอกบานๆ ของผมมุดเข้าไปเต็มเงี่ยง... จะลุกหนี....แต่มาทำผมเครื่องติดแล้วจะหนีกันง่ายๆ อย่างนี้เหรอ ไม่มีทางครับ สวยๆ อย่างนี้ ไอ้ดินของเอาเป็นบันทึกส่วนตัวอีกสักคนละกันนะครับพี่...
ไม่ทันที่พี่ฝ้ายจะตั้งตัว ผมก็ลุกขึ้นนั่งจับเอวแกดึงไว้ สองมือโอบประคองหลังเกร็งตัว ลุกขึ้นยืนเป็นลักษณะ “อุ้มแตง”
ได้ผลครับ พี่ฝ้ายผวากอดคอผมแน่น ตัวสั่นระริก เพราะไอ้ที่คาอยู่แค่หัวเมื่อกี้ พอโดนน้ำหนักกดทับลงมา มันก็ไหลพรืดเข้าไป “มิดแท่ง”
“ดิน... อูยซซซซ ใจร้าย” พี่ฝ้ายน้ำตาซึมที่หางตา
ผมจูบเบาๆ ที่หน้าผาก... กระซิบ “ก็ทำผมเครื่องติดแล้วจะหนีไปไหนละครับ”
“บ้า... พี่ไม่ตายก็ดีแล้ว... อู๊ยซซซซ ของตัวเองยังกะม้า...”
“เจ็บเหรอครับ”
“ยังจะถาม... มุกสะดุดกึกๆ เลย... ฉีกหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ผมโยกตัวเบาๆ สองสามที ก่อนจะหันวางพี่ฝ้ายลงนอนบนเตียงแทน จับสองขาของพี่ฝ้าย พาดบ่าขยับสะโพกเบาๆ
“ค่อยๆ ก่อนนะดิน... พี่จุก”
“ครับ พี่...” ผมรับคำ ทำตาพราว มองเห็นหน้ากันชัดๆ แบบนี้ พี่ฝ้าย “สวย” ได้ใจจริงๆ ส่วนบน พี่แกโมดิฟายจน อวบอิ่ม แต่ส่วนล่างยังไม่ได้ทำ แต่ดูๆ แล้วคงจะทำเร็วๆ นี้ เพราะ ท่าทางมัน...มีไว้ก็ไม่ได้ใช้...
ผม สาวเอว เริ่มจากช้าๆ ก่อน...จนพี่ฝ้ายเริ่มทำสีหน้าสบายขึ้น ผมจึงค่อยเร่งสปีดความเร็วขึ้น... มองลงไป เป็น “K” ผมในถุงยางเป็นมันปลาบ มีสีเลือดจางๆ... ผมยิ่งสงสาร... แต่ทำไงได้...
ชั้นเชิงลีลามีอยู่เท่าไรก็งัดขึ้นมาใช้ จนพี่ฝ้ายครางระงม เอามือลงไปรูดของตัวเองอยู่ไปมา
“ดินจ๋า...พี่เกือบแล้ว ดิน...อูยซซซซ”
ผมเร่งจังหวะขึ้น อีกไม่เท่าไร พี่ฝ้ายก็หลับตาพริ้ม...ครางซี๊ดยาวๆ เห็นอย่างนั้น ผมก็เร่งบ้าง.. จนกระทั่ง
“อูยซซซ...” กระแทกหนักๆ อีกสองสามที ผมก็กดสะโพกแน่น น้ำเงี่ยนหลั่งพรั่งออกมามากมาย...
ผมรอจนอาการเกร็งหมดจึงค่อยถอดถอนตัวออกมา เอากระดาษทิชชู่กำตรงโคน รูด “ปลอก” ออกทิ้งที่ถังขยะข้างเตียง แล้วลงไปกอดพี่ฝ้ายไว้อีกที
“เป็นไงครับพี่...”
“มันจุกน่ะ... คนใจร้าย... พี่จะโชว์ไหวไหมเนี่ยะ...”
ผม หัวเราะหึๆ นอนกอดกันสักครู่ก็ผลัดกันเข้าไปอาบน้ำ แต่งตัว... ตอนออกมาจากห้องน้ำ พี่ฝ้ายยัง บอกผม “แสบจังเลย ดิน... สงสัยฉีกแน่ๆ ... คนบ้า”
“ผมขอโทษคร๊าบ... วันหลังผมจะทำเบาๆ นะคร๊าบบบบบ”
ผมทำตาเจ้าชู้ จนพี่ฝ้ายสะเทิ้น... “เจ้าชู้นะเรา”....
ลงมานั่งดูโชว์ต่อ ไม่นานก็ถึงคิวพี่ฝ้าย เห็นแกออกมาโชว์เพลงเอก
...แสงตะวัน แสงจันทร์ แสงดาว....
พี่ ฝ้ายเดินขัดๆ นิดนึง ผมอมยิ้ม เพราะ ได้ยินเพลงว่า... “อยากให้เข้ารู้... ว่ามันเจ็บ... เจ็บเพียงไหน...” แกหันมามองค้อนผมนิดนึง ก่อนจะแสดงไปจนจบเพลง... เฮ้อ... เดอะโชว์มัสโกออน... จริงๆ...
----------------