20
ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก...
ผมนั่งขยำกางเกงบนโซฟาในห้องรับแขกอย่างตึงเครียดหลังจากที่พี่แม็กหย่อนผมไว้นี่แล้วบึ่งรถออกไปทันที ผ่านไปกว่าชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววของร่างสูงเลย ทิ้งให้ผมนั่งโดดเดี่ยวท่ามกลางสายตาของน้องสาวที่มองมาอย่างเกลียดชังและคุณแม่ที่เพียงลอบมองเงียบๆ เสริมให้เสียงนาฬิกาลูกตุ้มกดดันโสตประสาทยิ่งขึ้น
ผมทนบรรยากาศกดดันนี่ไม่ไหวจนต้องเอ่ยออกมาเบาๆ “คุณแม่ครับ คือเรื่องนี้...”
“รอพี่เขากลับมาก่อนนะโบ แล้วเราค่อยคุยกันทีเดียว”
คุณแม่ตัดบทด้วยน้ำเสียงที่ผมเองก็บอกไม่ถูกว่าโกรธหรือไม่ ผมจึงตอบรับในลำคอ ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง
ไม่นานนักก็แว่วเสียงเครื่องยนต์เข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เพิ่มเติมคือเสียงผู้หญิงโหวกเหวกใกล้เข้ามา
MAGNUM
ผมส่งไอ้โบไว้ที่บ้านมันเสร็จก็หันรถกลับออกมาทันที เห็นมันทำหน้าเหลอหลาวิ่งตามมาได้สามก้าวก็ทำละล้าละลังเหมือนไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตดี สุดท้ายก็เดินหูลู่หางตกเข้าบ้านไป อยากขำอยู่หรอกแต่มันไม่ใช่เวลา ตอนนี้ต้องรีบไปที่หนึ่งก่อน
บ้านผมนั่นเอง
จากคฤหาสน์หรูและมหา’ลัยก็ไกลโขอยู่ แบบว่าคนละโซนกับบ้านผมเลย ต้องฝ่าการจราจรที่แน่นขนัดเกือบครึ่งชั่วโมงถึงจะเข้าหมู่บ้านได้
บ้านผมเป็นทาวน์เฮ้าส์สองชั้นไม่เล็กไม่ใหญ่สำหรับคนฐานะปานกลาง สภาพค่อนไปทางเก่า ไม่มีสวนสวยๆ รถแพงๆ จอดในบ้านหรอก มีแค่อีแก่ของแม่ที่หน้าตาไม่น่าผ่านตรวจสภาพก็เท่านั้น
ที่นี่ก็ยังเหมือนเดิม รกร้าง อึมครึม หม่นหมอง สถานที่ที่ผมเคยอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิด เมื่อก่อนนี้เคยเป็นสวรรค์น้อยๆ ของครอบครัวเราเลยล่ะ ...ถ้าไม่มีมันสักคนคงจะมีความสุขกว่านี้
ผมเฝ้าตั้งตาคอยชีวิตมหา’ลัยอย่างใจจดใจจ่อ พอรู้ว่าติดที่ไหนผมก็จัดการหาที่อยู่ใหม่ทันที พยายามออกไปจากบ้านเฮงซวยนี่ให้เร็วที่สุด เพราะตั้งแต่ที่มันเปลี่ยนไป ก็ไม่เคยมีเสียงหัวเราะปรากฏขึ้นอีกเลย
“แม่!” ผมร้องเรียก มั่นใจว่าแม่ต้องอยู่บ้านเพราะอีแก่ไร้ขาตั้งยังจอดพิงรั้วอยู่ พอไร้เสียงตอบรับผมก็รัวกริ่งบนรั้วจนกว่าแม่จะได้ยิน
ติ๊ง ต่อง... ติ๊งต่อง ติ๊งๆๆๆ
“โว้ย! ได้ยินแล้วโว้ย! หมาที่ไหนวะ แม่จะฟาดให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย”
“ก็หมาลูกแม่หมาไง ไหน ไหน ฟาดดิ ต่อไปจะไม่กลับแม่งแล้วบ้านอ่ะ”
หญิงกลางคนในชุดอยู่บ้าน (ไม่ควรออกบ้าน) เดินไปด่าไปไม่ลืมหูลืมตาจนไม่ทันสังเกตผู้มาเยือนที่เป็นถึงลูกแท้ๆ ผมก็ทักกลับตามประสาแม่ลูกไม่เจอกันนาน พอแม่ได้ยินก็รีบเงยหน้าทำตาโตอย่างตื่นตะลึง ผมเท้าเอวถอนหายใจ กลอกตามองบนหนึ่งรอบเซ็งๆ
“แม็ก?” ทำไม? เห็นหน้าลูกนี่แปลกขนาดนั้นเลย?
“เออดิแม่” เอนตัวพิงประตูรั้วด้วยท่าทางที่น่าดักตีเป็นที่สุด
“แกมาได้ยังไงเนี่ย”
“ขับรถมา”
“กวนตีน” แม่รู้ดีที่สุดว่าลูกเป็นคนยังไง ฮ่าๆ
ผมเลิกต่อปากต่อคำ เปิดรั้วเข้าบ้านไปหาน้ำดื่ม ก่อนจะทิ้งตัวบนโซฟาหน้าทีวี แม่เดินมาหาแล้วยืนกอดเอาหัวผมซบพุงเหี่ยวๆ มือก็ลูบหัวลูบหลังอย่างคิดถึง พลางบ่นไปเรื่อยว่า “แกหายไปไม่ติดต่อแม่เล๊ยยย ปล่อยคนแก่นั่งเหงาอยู่บ้านคนเดียว มีลูกชายว่าจะไว้ใช้สอยมันก็หายหัวจนจะลืมทางกลับบ้านแล้วมั้ง ข่าวข่มขืนคนแก่ก็มีตั้งเยอะ ไม่รู้จักห่วงแม่มั่ง”
“โวะ บ้านอย่างกับบ้านผีสิง แถมมีผีเฝ้าบ้าน โจรที่ไหนจะกล้า โอ๊ย!”
โดนเบิ้ดกะโหลกเสียงนี่ดังเพราะเชียว ผมเริ่มเข้าเรื่องเพราะธุระที่มานี่คือมารับแม่นั่นเอง
“ไปเปลี่ยนชุดไป จะพาไปข้างนอก” ผมสั่ง
“อะไร? ไปไหน? ไปทำไม?” แม่ถาม
ผมก็พูดเสียงเนือยแค่ “ไปเหอะน่า”
แม่ยอมขึ้นชั้นสองไปเปลี่ยนชุดแต่โดยดี แล้วกลับลงมาด้วยชุดที่ดูดีที่สุดในตู้ ผมเผ้าก็หวีใหม่เรียบร้อย แถมแอบไปป้ายลิปแดงแปร๊ดมาอีก ผมเดินนำไปรอที่รถ แม่เองก็เงียบไป สงสัยจะคิดเดาในหัวให้วุ่นไปแล้วล่ะมั้ง
“จะบอกได้รึยังว่าแกจะพาฉันไปไหน” เสียงแหลมถามขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เราออกเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว ก็ไม่ได้จะปิดบังหรอก แต่ไว้ใกล้ๆ แล้วค่อยบอก จะได้ปวดหูทีเดียว ถ้าแม่รู้แต่แรกนะ เฮอะ หูชา
“ไม่เอาไปขายหรอกน่า... อย่างมากก็เอาไปทิ้งบ้านพักคนชรา โอ๊ยๆ ! ขับรถอยู่เนี่ย!”
คนซ้อนด่าผมเป็นชุดพลางระดมกำปั้นทุบหลังผมรัวๆ รถล้มหน้าแหกขึ้นมานะแม่...
อดเห็นลูกสะใภ้นะ
“ไอ้แม็ก นี่ที่ไหนเนี่ย ใหญ่อย่างกับวัง”
แม่ถาม ปากที่ทาลิปสติกสีแดงเลือดนกจากตลาดนัดอ้าค้าง พึมพำว่าฉากถ่ายหนังบ้างล่ะ พิพิธภัณฑ์บ้างล่ะ โคตรเว่อร์ ผมขับเข้าไปแล้วไล่แม่ลง เตะขาตั้งจอดรถคู่ใจไว้หน้าประตู คุณอรพินยิ่งงงตาเหลือกเมื่อป้ารุ่นราวคราวเดียวกันมาเชิญเข้าบ้านอย่างสุภาพ
ก่อนที่จะเข้าไปผมก็หันมาคุยกับแม่ “แม่ นี่บ้านคนรวย ผู้ดีมาก พูดจาดีๆ หน่อยละกัน”
“หา? แล้วแกพาฉันมาทำไม อย่าบอกนะว่าไปยืมเงินเขาแล้วไม่มีปัญญาใช้คืนเลยให้แม่มาเคลียร์อ่ะ”
คิดได้เนาะ ก่อนที่จินตนาการจะกว้างไกลไปกว่านี้ ผมจึงบอกไปว่า
“ป่าว... พามาขอสะใภ้”
“หา?!!!”
COMBO
“...”
ผมกับคุณแม่หันไปทางประตูพร้อมกันเป็นจุดเดียวเมื่อได้ยินเสียงโวยวายแว่วมาแต่ไกล แม่บ้านที่ไปเปิดประตูกลับมาบอกคุณแม่ว่าพี่แม็กมาถึงแล้ว ได้ยินดังนั้นหัวใจพลันเต้นรัว ดีใจที่เขากลับมาแล้ว บรรยากาศกดดันเมื่อกี้ก็หายไปในพริบตา ผมชะเง้อมองหาร่างสูง อยากจะวิ่งไปหาเสียด้วยซ้ำถ้าไม่ติดหน้างอๆ ของหมิวผมคงไม่รู้ตัวว่าแสดงออกเกินไป
“ไอ้แม็ก! ไอ้ลูกหมา! บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเที่ยวเยี่ยวเรี่ยราดไปทั่วทำไมไม่จำ!”
“โอ๊ย! แม่! เบาๆ บอกว่าอย่าเสียงดังไง”
“แกทำผู้หญิงท้องใช่มั้ย!”
“จะบ้าเหรอ พามาหาแฟน ไม่ได้ให้มาสู่ขอ”
“ก็แกบอกว่า ‘มาขอสะใภ้’ ไม่ใช่รึไงฮึ”
“มาขอ ไม่ได้มาสู่ขอ เข้าใจป่ะ”
เสียงเหล่านั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึง ผู้หญิงที่มากับพี่แม็กรูปร่างท้วมเล็กน้อย ตาดุเหมือนพี่แม็กเลย พอพวกเขาเห็นเราที่นั่งอยู่แม่เขาก็ชะงักไป เธอหันไปมองหมิวแล้วพูดว่า
“แม็ก... นั่นเด็กมัธยมใช่มั้ย”
“หยุดเลยแม่”
“แกพรากผู้เยาว์?!”
คนเป็นลูกพรูลมหายใจยาวกลอกตามองบน เขาหันมาแนะนำกับคุณแม่ผม
“ผมพาแม่มาแล้วครับ ถ้างั้นผมขอเข้าเรื่องเลย...”
“เชิญคุณแม่นั่งก่อนสิแม็ก” คุณแม่ขัดขึ้นแล้วผายมือมาที่โซฟาฝั่งตรงข้าม แม่บ้านยกของว่างมาเสิร์ฟแขกที่หนึ่งในนั้นนั่งตัวเกร็งอย่างเห็นได้ชัด คุณแม่ยิ้มให้อย่างสุภาพ ส่วนอีกฝ่ายก็ยิ้มกลับแหยๆ ก่อนที่จะเริ่มเข้าประเด็น “สวัสดีค่ะคุณอรพิน ดิฉันนิภา คุณแม่ของน้องหมิวกับคอมโบค่ะ ตามสบายนะคะ”
คุณอรพิน... แม่ของพี่แม็ก ผมเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าคุณแม่รู้จักชื่อของเขาได้ยังไง
“ขนาดพูดยังผู้ดี อุ๊บ!”
พอคุณป้าจะพูดพี่แม็กก็เอาคุกกี้ยัดใส่ปากทันที เธอมองลูกตาขวาง ส่วนพี่เขาก็คงอายที่แม่ตัวเองโผงผางล่ะมั้ง เขาสั่งให้คุณป้าเงียบๆ ก่อนจะยืดตัวตรง ปรับสีหน้าให้จริงจัง
“ต้องขอโทษด้วยที่พามาแนะนำช้า ที่จริงแล้วผมกะจะคบกันเงียบๆ ไม่ตั้งใจให้ผู้ใหญ่รู้ด้วยซ้ำ แต่ถ้าเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังไงผมก็ขออนุญาตคุณน้านิภา ให้เราคบกันด้วยเถอะครับ”
ฉ่า...
หน้าผมเห่อร้อนกับคำพูดตรงไปตรงมานั้น พี่เขาทำเหมือนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ เฉยเมยได้ถึงขั้นมองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมคงคิดเช่นนั้นถ้าไม่ได้เห็นแววตาแน่วแน่ที่สบกับคุณแม่โดยตรงอย่างไม่หวั่นไหว
“บอกให้เรียก ‘แม่’ ไงครับ จำไม่ได้เหรอ”
คุณแม่บอกพร้อมยิ้มละไม พี่แม็กขานรับแล้วทำท่าจะลุกมาหาผมแต่ถูกขัดโดยคนข้างๆ เสียก่อน
“เดี๋ยวนะตาแม็ก... เอ่อ... คุณคะ คือ ใครก็ได้ ช่วยอธิบายทีว่านี่มันเรื่องอะไร” คุณป้าทำสีหน้าไม่เข้าใจสุดขีด เธอพูดยาวเหยียดแล้วหันไปทางหมิว “แล้วนี่ รู้จักกันมาก่อนเหรอ แกไม่เคยเล่าอะไรให้ฉันฟังเลยนะแม็ก แล้วอยู่ๆ ก็... โอ... ขอโทษด้วยนะหนู ลูกชายแม่มันก็หัวทึบแบบนี้แหละ แต่ยังไงหนูก็เป็นผู้หญิง ถ้ามีอะไรให้แม่รับผิดชอบ...”
“อะแฮ่ม!”
เสียงเข้มกระแอมขัดมารดา ทำหน้าเบื่อหน่ายแล้วชี้นิ้วมาทางผม ปรากฏเครื่องหมายคำถามเต็มหน้าผากหญิงกลางคน เธอมองผมกับหมิวสลับไปมา สุดท้ายก็มาหยุดสายตาลงที่ผมแล้วถามว่า “คนนี้?” ที่เหลือพยักหน้ายืนยัน
“เด็กๆ ไปพักผ่อนเถอะจ้ะ ตรงนี้ให้ผู้ใหญ่คุยกันดีกว่า” คุณแม่ไล่
ผมมองรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่ลุกผึงตรงมาหาทันทีที่ได้รับคำอนุญาตกลายๆ เขาโอบไหล่ดันผมไปทางบันได พูดอย่างร่าเริงว่า “ไหนน้า~ กูลืมห้องมึงไปแล้ว พาไปดูหน่อยสิ”
เขาก็พูดไปงั้นแหละ เพราะแรงดันนั้นพาเราไปในทางที่ถูกต้องโดยที่ไม่ต้องการการนำทางจากเจ้าบ้านด้วยซ้ำ ได้ยินหมิวกระแทกเสียงอย่างหัวเสีย “แค่นี้อ่ะนะ!” แล้วเดินตอกส้นผ่านหางตาไป พี่แม็กก็ไม่ได้สนใจ ทำเพียงเปิดประตูห้องนอนอย่างถือวิสาสะ เป็นอันว่าสถานการณ์เริ่มล่อแหลมและผมกำลังตกอยู่ในอันตราย
“อื้อ!”
นั่นไง! ริมฝีปากร้อนประกบจูบลงมาทั้งที่ประตูยังปิดไม่สนิทดี วงแขนล็อกร่างไว้ภายใน บดจูบเสียจนผมแทบขาดอากาศจนต้องระดมทุบหลังเขาให้ปล่อยเสียที
“ฮ่า! เชี่ยแม่ง- พี่จะทำอะไร ถ้าคนอื่นมาเห็นจะว่ายังไง”
“ก็ไม่เห็นเป็นไร แม่เราก็รู้แล้ว จะกลัวอะไร”
พี่ก็พูดง่ายสิ ไม่ได้หน้าบางเหมือนผมนี่ ตะวันส่องหัวแถมคนในบ้านเยอะแยะยังจะ ‘ทำ’ อีก ผมต่อสู้สุดกำลังแต่เขาก็ไม่สนแรงมดอันน้อยนิดเลย... ผมทำได้เพียงกลั้นเสียงให้มากที่สุดสินะ
“อื้อ...”
Messenger Chat
- แม่ง! ทำไมเป็นแบบนี้วะ
- ?- ผู้ใหญ่คุยกันดี ไม่เห็นว่าอะไรเลย นี่ผู้ชายคบกันนะ ชีวิตง่ายไปหน่อยมั้ย
- ทำไมล่ะ นึกว่าไม่ทะเลาะกันแล้วก็ดีซะอีก- ไม่ชอบ! เกลียดมัน ภาพมันนอนกกกันยังติดตาอยู่เลย ทุเรศ
- งั้นหมิวต้องการอะไรล่ะ...
- ทำยังไงก็ได้ไม่ให้มีสมหวังกัน
- เอาพี่แม็กไปสิ ส่วนไอ้หมูนั่นมันก็มีคนตาถั่วชอบมันอยู่
- ไม่เอาไปเองล่ะ นึกว่าหมิวชอบพี่แม็กซะอีก- เมื่อก่อน แต่ตอนนี้ไม่ไหวอ่ะ แค่คิดว่าเคยแหย่รูไหนมาก็จะอ้วกละ ขยะแขยง
- ค่อยๆ ช่วยกันคิด อย่าเพิ่งวู่วามแล้วกัน แล้วก็ติดต่ออีกคนหรือยัง ทางนั้นรู้คงจะตื่นเต้นน่าดู- คุยแล้ว นางก็ไม่โอเคกับเรื่องนี้เหมือนกัน
- แล้วจะเอาไง
...
- ก็... ปล่อยให้มันเป็นไป...
- หึ... จ้ะ แม่นางฟ้า
[/color]
ถ้าบอกว่าอ่านหนังสือจนลืมพล็อตจะโกรธมั้ย...
ทั้งงานทั้งเรียนเหนื่อยจังเลย
พยายามจะไม่ตันน้า 555