Fox’s Love...รักร้ายนายเจ้าเล่ห์ Yaoi (Boy’s Love) 18+ อัพตอนจบ (18/12/59) End
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Fox’s Love...รักร้ายนายเจ้าเล่ห์ Yaoi (Boy’s Love) 18+ อัพตอนจบ (18/12/59) End  (อ่าน 106837 ครั้ง)

ออฟไลน์ duckk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมอ่านแล้วเขิน อร๊ายย :impress2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อิฟอกซ์  ชิๆ

555

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2024
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
ไอ้เด็กจิ้งจอกนี้นิ!!!

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
หมั่นไส้อิฟ็อกซ์ค่าาา

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Fox’s Love 8

( Kin x Meok )

 

หลังจากเลิกกับคิน หมอกก็ใช้ชีวิตอยู่กับความเศร้าของตัวเอง แม้ว่าจะมาเรียนอย่างปกติแต่ในหัวกลับไม่มีเรื่องเรียนอยู่เลย แม่ของหมอกที่เห็นอาการของลูกชายก็สงสารจับใจแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะคำสั่งเด็ดขาดของบ้านคือของผู้เป็นสามีเท่านั้นและหมอกเองก็บอกว่าตั้งใจจะเลิกกับคินเอง




            "มีอะไรให้คิดงั้นเหรอ?" ผู้เป็นสามีถามขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้เป็นภรรยามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ




            "ฉันกำลังคิดเรื่องลูกน่ะค่ะ" ผู้เป็นสามีชะงักไปทันทีกับคำตอบของผู้เป็นภรรยา



            "ฉันไม่สบายใจเลยที่ใบหน้าของลูกเต็มไปด้วยความทุกข์แบบนี้ ลูกของเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ฉันรู้สึกไม่ดีค่ะคุณ ฉันสงสารลูก" ผู้เป็นภรรยาว่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผู้เป็นสามีนิ่งงันไปสักครู่ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบทั้งๆที่ในใจก็คิดไม่ต่างจากภรรยา




            "สักวันลูกจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม"



            "ฉันก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้น"...เพราะวันนี้เป็นวันศุกร์และพ่อแม่ของหมอกไม่อยู่บ้าน ทำให้หมอกชวนสีน้ำไปร้านเหล้าเพื่อดื่มคลายเครียด




            "คืนนี้ไปหาอะไรดื่มกันมั้ย?" หมอกก็เป็นฝ่ายหันมาชวน สีน้ำเลิกคิ้วนิดๆ



            "กินเป็นหรือไง?" หมอกยิ้มๆกับคำถามของเพื่อนสนิท แม้ว่าเขาจะดูลูกคุณหนูแต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์เสียหน่อย




            "เราก็ผู้ชายนะ แค่ไปดื่มๆคลายเครียดพอ ไหนๆวันนี้ก็วันศุกร์ด้วย" หมอกตอบสีน้ำพยักหน้ารับก่อนจะนัดแนะสถานที่และเวลา...หมอกออกจากบ้านมาตอนสองทุ่มเพราะนัดกับสีน้ำไว้สองทุ่มครึ่ง ความจริงมันก็หัวค่ำไปกับการไปร้านเหล้าแต่หมอกไม่อยากกลับดึก อยากดื่มๆให้พอคลายเครียดแล้วค่อยกลับ พอมาถึงร้านหมอกกับสีน้ำก็พากันสั่งเครื่องดื่มมาดื่ม โดยหมอกที่ตั้งใจมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้วก็รีบกระดกดื่มทันที




            "ค่อยๆก็ได้มั้ง" สีน้ำปรามขึ้นเมื่อเห็นหมอกกระดกเอาๆสามแก้วติด ซึ่งหมอกเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกันที่ดื่มหนักขนาดนี้




            "กินให้มันคลายเครียดไง" หมอกว่ายิ้มๆแต่ช่างเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นไม่น้อย



            "ไม่มีอะไรจะล่าหน่อยเหรอ?" หมอกชะงักกับคำถามของสีน้ำพร้อมกับนัยน์ตาสั่นระริก




            "เรา..." หมอกกัดปากอย่างครุ่นคิด
 



           "ไม่เป็นไร ถ้าไม่พร้อมจะบอกก็ไม่เป็นไร" หมอกนิ่งไปสักครู่ก่อนจะค่อยๆเล่าออกมา




            "เปล่าแต่เรา...เราไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เราคิดอะไรไม่ออกเลย" หมอกว่าด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา




            "เฮ้อ...ความรักมันเข้าใจยาก" สีน้ำว่าพร้อมถอนหายใจออกมา



            "สีน้ำไม่ดีใจเหรอ?" หมอกถามพร้อมกับมองหน้าสีน้ำ สีน้ำขมวดคิ้วทันทีกับคำถามของหมอกทันที




            "ก็สีน้ำชอบพี่คิน และเรากับพี่คิน..."



            "เดี๋ยวนะๆ นี่ยังไม่รู้เหรอว่าเรากับพี่คินเคลียร์กันแล้ว" หมอกชะงักไปทันทีกับคำพูดของเพื่อนสนิท เคลียร์อะไรกัน? หมายความว่ายังไงกัน!




            "เราว่าเรา...อาจจะไม่ได้ชอบพี่คินแบบนั้น" หมอกทำหน้างงอีกครั้งกับคำพูดของสีน้ำ




            "แล้ว..."



            "อารมณ์ประมาณว่าอยากอยู่ใกล้ก็จริง แต่มันก็ไม่ได้มีความสุขอะไร ไม่ได้หัวใจเต้นแรงอะไรทำนองนั้น"




            "ทำไมล่ะ? หรือสีน้ำมีคนอื่นที่รู้สึกแบบนี้ด้วย" หมอกถามกลับอย่างสงสัย



            "เอ่อ...ไม่มีหรอกๆ แค่เปรียบเปรยๆ" สีน้ำว่าพลางกระดกเหล้าเข้าปากบ้างหมอกพยักหน้ารับเพราะไม่อยากคาดคั้นสีน้ำ แค่เรื่องตัวเองยังเอาไม่รอดเลย เขาจะไปเป็นกูรูเรื่องความรักให้ใครได้...ยิ่งดึกบรรยากาศในร้านยิ่งดูคึกครื้น หมอกไม่รู้ว่าสีน้ำหายไปไหนเพราะอีกคนบอกว่าเดี๋ยวมา หมอกนั่งมึนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อยู่ไม่น้อย ตากลมมองโทรศัพท์ในมือที่ยังคงมีรูปคู่ของตัวเองกับอีกคนเป็นภาพพักหน้าจอตากลมสั่นระริกขึ้นมา ในใจเจ็บปวดอย่างหาสาเหตุไม่ได้และไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือว่าอะไรทำให้หมอกกดโทรออกไปที่เบอร์ของอีกคน



            ("หมอก") ปลายสายรับสายขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ



            "พี่คิน..." หมอกเรียกอีกคนเสียงเครือ น้ำใสๆไหลลงมาจากดวงตากลมโตอย่างห้ามไม่ได้ เพียงแค่ได้ยินเสียง หัวใจก็โหยหา อยากกอด อยากให้อีกคนมาอยู่ใกล้ๆ



            ("...")



            "ฮึก พี่คิน" หมอกร้องไห้ออกมาจนปลายสายหัวใจกระตุก



            "พี่คิน ฮึก คิดถึง ฮึก หมอกคิดถึงพี่คิน ฮึก" หมอกยังคงร้องไห้โดยที่หารู้ไม่ว่าคนปลายสายก็น้ำตาคลอเช่นกัน คินไม่รู้ว่าเพราะอะไรหมอกถึงโทรมาหาเขาแต่แค่ได้ยินเสียงของอีกคนหัวใจก็เจ็บปวดไปหมด คิดถึงมาก อยากกอด อยากให้อีกคนมาอยู่ใกล้ๆ



            "ฮืออออ หมอกรักพี่คิน หมอกไม่อยากเลิกกับพี่คิน ฮึก หมอกมันอ่อนแอ ฮึกพี่คิน ฮืออออ" ไม่ทันที่หมอกจะได้พูดอะไรต่อคินก็กดวางสายก่อนจะเปลี่ยนเป็นโทรหาสีน้ำทันที เขาพอจะเดาออกว่าหมอกคงอยู่ร้านเหล้าแต่เขาไม่แน่ใจว่าอยู่ที่ไหนจึงต้องโทรถามสีน้ำ...หมอกร้องไห้โฮออกมาทันทีที่เห็นว่าอีกคนตัดสายตา พี่คินคงเกลียดเขาไปแล้ว เกลียดจนไม่อยากจะได้ยินเสียงเขาแล้ว มันก็สมควรแล้ว คนอ่อนแออย่างเขา สมคสรแล้วที่จะไม่ได้ความรักจากคนดีๆอย่างพี่คิน หมอกหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเนอร์อีกครั้งแม้จะรู้ว่าตัวเองเริ่มพยุงสติไม่ค่อยไหวแล้วก็ตาม แต่เขาอยากดื่ม ดื่มให้เมา เผื่อว่าความเจ็บที่ใจนี้จะทุเลาบรรเทาลงไปบ้าง



พรึ่บ

หมอกชะงักทันทีที่มีมือหนามาคว้าแก้วแอลกอฮอล์เขาไป ตากลมสั่นระริกทันทีที่เห็นเจ้าของมือหนาดังกล่าว



            "พะ...พี่คิน"



            "ดื่มมากไปแล้ว พี่มารับกลับ" คินว่าพร้อมกับทำท่าจะพยุงร่างบางที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ ตาเยิ้มไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์



            "ฮึก อย่ามายุ่งกับหมอก เราเลิกกันแล้ว" หมอกว่าพร้อมพยายามขัดขืนอีกคนแต่มีหรือที่คินจะยอม ร่างสูงจัดการคนดื้อด้วยการอุ้มอีกคนท่าเจ้าสาวท่ามกลางความตกใจของร่างบางเดินออกจากร้านทันที



            "ปล่อยหมอกนะพี่คิน" หมอกพยายามดิ้นเท่าที่จะพอดิ้นได้ แต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาไร้เรี่ยวแรง



            "พี่ปล่อยแน่ครับถ้าหมอกไม่ดื้อ" คินวางหมอกที่เบาะข้างคนขับก่อนจะเดินมาอีกฝั่งแล้วขับรถออกไป...บรรยากาศบนรถเต็มไปด้วยความเงียบ หมอกรู้สึกหนักหัวไปหมดจนในที่สุดร่างบางก็หลับตาลง คินหันไปมองอีกคนนิดๆก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยเบาๆที่แก้มใส ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางจากตอนแรกจะไปส่งอีกคนที่บ้านกลับกลายไปที่คอนโดของเขาแทน...พอถึงคอนโดคินก็จัดการอุ้มหมอกขึ้นห้องทันที ร่างสูงวางร่างบางบนเตียงอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินไปหยิบผ้าชุบน้ำมาเพื่อเช็ดตัวให้อีกคนหลับสบาย



            "อื้อออ" เพราะความเย็นชื้นบริเวณลำคอทำให้หมอกครางออกมาแผ่วเบา ตากลมค่อยๆลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองคนตัวสูงตรงหน้าด้วยดวงตาสั่นระริก นี่เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า ฝันว่ากำลังอยู่กับพี่คิน เขากำลังในจริงๆใช่มั้ยเพราะในความจริงเขากับพี่คินเลิกกันแล้ว



            "พี่คิน..." หมอกครางชื่ออีกคนแผ่วเบา



            "ครับ" คินตอบรับพร้อมกับใช้มือเกลี่ยปอยผมที่หน้าผากใสแผ่วเบาอย่าวอ่อนโยน



            "ฮึก หมอกกำลังฝันอยู่ใช่มั้ย?" หมอกถามขึ้นพร้อมกับคว้ามือหนาของอีกคนมาแนบแก้มเอาไว้ คิดถึงเหลือเกิน หมอกรู้สึกคิดถึงคนตรงหน้าเหลือเกิน



            "ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?" คินถามกลับเสียงทุ้มอย่างปกติ



            "ก็เราเลิกกันแล้ว ฮึก หมอกคงฝันไป ฝันแน่ๆ" หมอกว่าไม่ค่อยเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นจิตสำนึกภายในใจที่กำลังโหยหาอีกคนทำให้ความในใจของหมอกพรั่งพรูมาไม่ขาด



            "หมอกอยากเลิกกับพี่มั้ย?" หมอกส่ายหน้ารัวทันทีเป็นคำตอบ เห็นที่ว่าคนเมามักจะพูดความจริงเห็นจะถูกเพราะตอนนี้หมอกพรั่งพรูความในใจออกมาไม่ขาด



            "หมอกรักพี่คิน หมอกไม่อยากเลิก ฮึก กับพี่คิน ฮึก หมอกคิดถึงพี่คิน" คินเผยยิ้มทันทีกับคำตอบของอีกคนใบหน้าหล่อค่อยๆโน้มลงมาจุ๊บลงที่ปากบางเบาๆแต่แม้จะเพียงแผ่วเบาก็ทำให้หมอกหัวใจเต้นรัว



            "พี่เองก็รักหมอกเช่นกัน นอนหลับนะครับ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน" หมอกส่ายหน้าอย่างดื้อดึง



            "ไม่เอา ฮึก ตื่นมาหมอกก็ไม่ได้เจอพี่คิน ฮึก หมอกกำลังฝันดี กอดหมอกหน่อยนะ ฮึก กอดหมอกหน่อยได้มั้ยครับพี่คิน" เสียงหวานว่าพร้อมกลับตากลมที่สบเข้ากับตาคมอย่างเปิดเผยความต้องการอย่างปิดไม่มิด คินพยักหน้ารับก่อนจะโน้มตัวมาจูบที่ริมฝีปากบางอีกคน



            "ครับ...พี่จะกอดหมอกแน่นๆเอง" สิ้นเสียงทุ้มริมฝีปากหนาก็ประกบลงมาอีกคนพร้อมกับสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากบางเพื่อเก็บเกี่ยวความหวานที่คิดถึงจนใจจะขาด หมอกจูบตอบอีกคนไปเช่นกัน สติสัมปะชัญญะไม่เหลืออีกแล้ว ร่างสองร่างกอดก่ายกัน เสื้อผ้าหลุดรุ่ยไปตอนไหนไม่อาจทราบได้ กายหนาสอดแทรกเข้ามาในกายบางก่อนจะขยับเคลื่อนสร้างความเสียวซ่านให้ทั้งคู่ไม่น้อย หมอกครวญครางร้องเรียกอีกคนไม่ขาดปากทำให้บทรักนี้ไม่สามารถจบได้เพียงรอบเดียว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คินหมอกค่า จะเลิกดราม่าละอย่าพึ่งเบื่อกันนะ 555555555

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เฮ้อออ คู่รองเรื่องนี้ไม่ค่อยน่าสนใจเลยอ่ะ รอคู่หลักวนปายยยยย

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Fox 17

 

วันนี้สีน้ำต้องนั่งๆนอนๆอยู่ในคอนโดฟ็อกซ์ทั้งวันโดนที่มีโซ่ล่ามอยู่ข้อเท้า แต่ที่เขานิ่งไม่ได้โวยวานแล้วไม่ใช่ว่าสมยอมนะเว้ยแค่โวยวายไปแม่งก็ไม่ปล่อยอยู่ดีก็เลยไม่รู้จะโวยวายไปทำไม ตอนนี้สีน้ำกำลังสับสนสิ่งที่เป็นอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าอีกคนต้องการอะไรจากเขากันแน่ เขามันโง่ เออยอมรับ ไม่งั้นคงไม่ตกหลุมพรางหมาจิ้งจอกตั้งแต่ทีแรก แล้วสุดท้ายก็ไม่สามารถปีนขึ้นมาจากหลุมพรางร้ายนั่นได้เลย ให้ตายสิ! เขาต้องเด็ดขาดดิวะ ในเมื่ออีกคนทำแบบนี้กับเขา คิดกับเขาแค่ของเล่น ของตายที่ได้มาง่ายๆแต่เขาแม่ง...แม่งๆๆ บ้าบอที่สุด!




            "เย็นนี้กูออกไปข้างนอกนะ" ฟ็อกซ์พูดขึ้นหลังจากที่เดินออกมาจากห้องน้ำ สีน้ำเบือนสายตาหนีแผ่นอกกว้างแบะหน้าท้องแกร่งที่เกาะด้วยหยดน้ำด้วยความรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ทั้งๆที่แม่วก็เคยเห็นมาแล้วแต่ทำไมทำเขินไปได้วะ!




            "อืม" สีน้ำตอบสั้นๆทำท่าไม่สนใจอีกคน ฟ็อกซ์ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาอีกคน




            "กูบอกว่าเย็นนี้กูจะออกไปข้างนอก" ฟ็อกซ์ว่าซ้ำพร้อมเชยคางอีกครให้หันหน้ามามองตัวเอง




            "ได้ยินแล้ว" สีน้ำว่าพร้อมทำท่าจะหันหน้าหนีอีกครั้ง



            "ได้ยินแล้วทำไมไม่มองหน้า เป็นเชี่ยไร?"



            "ไม่ได้เป็นเชี่ย เป็นคน คนที่เป็นเหมือนนักโทษที่โดนมึงล่ามโซ่ไว้แบบนี้" สีน้ำประชดออกมา ฟ็อกซ์ปล่อยมือจากคางอีกคนก่นจะถอนหายใจออกมา




            "ขี้ประชด"



            "มึงก็ขี้หงุดหงิด" ฟ็อกซ์กระตุกยิ้มนิดๆที่มุมปากกับคำโต้ตอบของอีกคนก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนสีน้ำผงะ




            "งั้นก็อย่าทำให้กูหงุดหงิดเพราะเวลาที่กูหงุดหงิดกูจะ..."



            "เชี่ย!" สีน้ำร้องออกมาพร้อมปัดมือหนาที่ลูบๆคลำๆบริเวณขาอ่อนของเขาออกอย่างแรง




            "หึๆ" ฟ็อกซ์หัวเราะในลำคอเบาก่อนจะผละออกจากอีกคน
 



           "อยู่ห้องดีๆอย่าดื้อล่ะ" ฟ็อกซ์ว่าอีกครั้งก่อนจะเดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแต่งตัว สีน้ำมองอีกคนค้อนๆนิดๆก่อนจะพึมพำออกมา




            "กูจะเล่นให้ห้องเละเลย"...เพราะเห็นว่าน้องชายดูมีลับลมคมในไทเกอร์เลยคิดว่าค่ำๆนี้หลังจากที่กินข้าวกับที่บ้านของแอลเสร็จจะแอบแวะไปที่คอนโดของน้องชายเขาต้องรู้ให้ได้ว่าที่คอนโดมันมีอะไรดีนักบ้านช่องถึงไม่ค่อยกลับ หึๆ




            "ไปแบบไม่บอกฟ็อกซ์จะไม่ว่าเหรอ?" แอลถามขึ้นขณะที่นั่งอยู่บนรถเดินทางกลับจากบ้านไปยังคอนโดของไทเกอร์ซึ่งก็คือที่เดียวกับคอนโดของฟ็อกซ์นั่นเอง




            "บอกไว้มันก็ทำลายหลักฐานสิ อย่างไอ้หมาจิ้งจอกนั่นต้องจับให้ได้แบบคาหนังคาเขา" ไทเกอร์ว่าพร้อมยกยิ้มมุมปาก




            "แกล้งน้องอ่ะ" แอลค้อนใส่อีกคนนิดๆ



            "เรียกซะน่ารักเลย เขาไม่ได้เรียกว่าแกล้ง เขาเรียกว่าก่อกวนมันต่างหาก หึๆ"...สีน้ำยังคงนั่งๆนอนฟในห้องด้วยความเบื่อเพราะไม่รู้จะทำอะไร ดูทีวีก็แล้ว เล่นเกมส์ก็แล้ว แม่งๆๆๆ เบื่อๆๆ ตากลมมองโซ่ที่ข้อเท้าตัวเองด้วยอารมณ์หงุดหงิด แม่ง เขาไม่ใช่นักโทษสักหน่อยมีสิทธิ์อะไรมาล่ามโซ่ กักขังเขาแบบนี้วะ ไอ้หมาจิ้งจอกเชี่ย! ไอ้หมาจิ้งจอกเผด็จการ!



แกรก


เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้นทำให้สีน้ำหันไปมองทันที ใบหน้าใสงุนงงไม่น้อยอยากจะถามคนสองคนที่เดินเข้ามาว่าผิดห้องหรือเปล่าแต่ถ้าผิดห้องคีย์การ์ดมันจะแสกนติดได้ไงเล่า!




            "เชี่ยย ล่ามโซ่เลยเหรอวะ?" ไทเกอร์ว่าอย่างอึ้งๆ แอลเองที่เดินตามเข้ามาก็อดอึ้งไม่ได้




            "เอ่อ...คือ..." สีน้ำอึกอักเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเพราะเขาเองก็ไม่รู้จักคนทั้งคู่




            "เอ่อ...พี่ชื่อแอลนะครับ ส่วนนี่ไทเกอร์พี่ชายของฟ็อกซ์" สีน้ำเบิกตากว้างทันทีที่รู้ว่าคนสองคนตรงหน้าเป็นใคร



           "เอ่อ...คือผม...ผม..."




            "ไม่ต้องอธิบายก็ได้ว่าเป็นอะไรกับไอ้หมาจิ้งจอกนั่นเพราะแค่มองก็รู้ หึๆ" ไทเกอร์ว่าพร้อมหัวเราะเบาๆในลำคอ สีน้ำทำหน้างงกับสิ่งที่ได้ยิน รู้อะไร? เขากับอีกคนไม่ได้เป็นอะไรกัน เขามันก็แค่ของเล่น




            "แล้วจะเอาไงดีล่ะไทเกอร์ ฟ็อกซ์จะมาจับน้องเขาล่ามแบบนี้ไม่ได้นะ" แอลว่าอย่างไม่ชอบใจนิดๆ เขาเองก็พอจะรู้นิสัยของพี่น้องตระกูลนี้อยู่และพอรู้ว่าคนตรงหน้าต้องพิเศษสำหรับฟ็อกซ์แน่ๆถึงแม้จะไม่รู้ว่าทั้งคู่ทะเลาะอะไรกันแต่การที่ฟ็อกซ์มากักขังอีกคนแบบนี้มันไม่ถูก




            "เราว่าเราคิดอะไรออกละ" ไทเกอร์ว่าพร้อมกระตุกยิ้มร้าย ร่างสูงหันไปมองสีน้ำที่มองมาที่เขาอย่างงงงๆ หึๆ เด็กไอ้ฟ็อกซ์ดูใสซื่อดีไม่เหมาะกับไอ้น้องน้องชายเจ้าเล่ห์ของเขาสักนิด แต่ก็ดี...เดี๋ยวเขาจะเล่นให้หมาจิ้งจอกหมดฤทธิ์เลย หึๆ

 

           "ชื่ออะไรน่ะเรา" ไทเกอร์ถามสีน้ำขึ้น



            "สีน้ำครับ"



            "สีน้ำอยากออกไปจากที่นี่มั้ย?" สีน้ำชะงักทันทีกับคำถามของพี่ชายของฟ็อกซ์ก่อนจะค่อยๆพยักหน้ารับ

 

           "งั้นดี พี่จะช่วยเอง"...ความจริงฟ็อกซ์ตั้งใจจะกลับคอนโดตั้งแต่สามทุ่มแต่เพราะลุงเทคที่นัดเลี้ยงยื้อเขาเอาไว้ ทำให้กว่าจะถึงคอนโดก็ปาไปห้าทุ่ม ฟ็อกซ์เปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบกับความมืด คิ้วหนาขมวดมุ่นก่อนจะเดินไปเปิดไฟก่อนจะต้องชะงักเมื่อเห็นโซ่กองอยู่ที่พื้น




            "สีน้ำ! สีน้ำ" ฟ็อกซ์ตะโกนเรียกอีกคนก่อนจะเดินหาทั่วห้องแต่ก็ไม่พบ ฟ็อกซ์สบถออกมาอย่างหงุดหงิดที่อีกคนหนีออกไปแล้วซึ่งเขาก็เด่ไม่ยากหรอกว่าสีน้ำหนีออกไปได้ยังไง เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่มีคีย์การ์ดห้องเขา มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาพี่ชายของตัวเองทันที




            ("ว่าไง~") ไทเกอร์รับสายเสียงร่า



            "พี่เอาสีน้ำไปไว้ไหน" ฟ็อกซ์ถามเสียงเรียบ



            ("สีน้ำอะไรวะ กูไม่ได้ชอบวาดรูประบายสีนะ หึๆ") ไทเกอร์ตอบกลับอย่างกวนๆ




            "ผมรู้ว่าพี่รู้ว่าผมหมายถึงอะไร พี่เอามันไปไว้ไหน?" ฟ็อกซ์ถามย้ำ





            ("งั้นกูขอถามมันก่อนว่าน้องหน้าใสนั่นเป็นอะไรกับมึงวะ?") ฟ็อกซ์ชะงักไปทันทีกับคำถามของพี่ชาย

 

           "เป็น...ก็เป็น..."
 



          ("ถ้ายังตอบกูไม่ได้ก็เป็นไร แต่ตอบตัวเองให้ได้ก่อน กูว่าคนฉลาดๆอย่างมึงน่าจะรู้คำตอบนะ งั้นแค่นี้ก่อนละกัน หาคำตอบได้เมื่อไหร่ค่อยโทรมาหากูใหม่ หึๆ")ไทเกอร์ว่าพร้อมทำท่าจะวางสาย

 

           "ผมชอบมัน" ฟ็อกซ์พูดออกมา



            ("แค่ชอบ?")



            "ก็...รักมั้ง...โอ๊ย พี่อยากถามมากดิวะ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่ก็รู้ผมเคยชอบเคยรักใครที่ไหน" ฟ็อกซ์ว่าออกมาพร้อมยีหัวตัวเองจนยุ่งไปหมด




            ("หึๆ กูจะบอกให้ก็ได้ว่ากูเอาเด็กมึงไปไว้ไหน...") ไทเกอร์เว้นวรรค ฟ็อกซ์ตั้งหน้าตั้งตาฟัง




            ("...เป็นที่ที่มึงคิดไม่ถึง หึๆๆ") สิ้นเสียงไทเกอร์ก็วางสายไปทันที ฟ็อกซ์ร้องเรียกพี่ชายแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างสูงสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เชี่ย...ไอ้พี่เชี่ย อย่าให้ถึงทีนะจะก่อกวนกลับเลยแม่ง!...หลัวจาดที่วางสายจากฟ็อกซ์ไทเกอร์ก็หัวเราะร่าทันที




            "แกล้งน้อง นิสัยไม่ดี" แอลว่าพร้อมย่นจมูกใส่คนรัก



            "ก็หมั่นมันอ่ะ เรื่องคนอื่นทำเป็นรู้มาก ทีเรื่องของตัวเองแม่งไก่อ่อน ฮ่าๆๆ" ไทเกอร์หัวเราะอีกครั้งก่อนจะหันไปมองสีน้ำที่นั่งหน้าแดงอยู่ไม่ไกล




            "ได้ยินแล้วนะว่าไอ้หมาจิ้งจอกนั่นคิดยังไง" สีน้ำกัดปากพร้อมพยักหน้ารับ ในใจยังคงเต้นรัวไม่หยุด ไม่คิดไม่ในว่าจะได้ยินคำนั้นจากปากของอีกคน แม่งๆๆๆ หยุดเต้นแรงได้แล้วไอ้หัวใจบ้า




            "ที่เหลือก็เคลียร์กันเองละกัน แนะนำนะมีอะไรก็ถามมันไปตรงๆเอาชัวร์ๆ ไอ้นั่นมันปากแข็ง" ไทเกอร์ว่าอย่างแนะนำก่อนจะหันไปหาแอล




            "ใช่แล้วนะครับน้องสีน้ำ ฟ็อกซ์น่ะเป็นคนฉลาดมากเรื่องคนอื่นแต่เรื่องของตัวเองน่ะไปไม่ค่อยเป็นหรอก ที่น้องสีน้ำเล่าอาจจะเพราะว่าเผลอพลั้งปากไป แต่สำหรับพี่พี่เชื่อว่าน้องสีน้ำพิเศษสำหรับฟ็อกซ์จริงๆนะครับ" สีน้ำนิ่งไปกับคำพูดของแอล เขาเองก็เคยคิดแบบนั้นแต่พอวันนั้นที่ได้ยินประโยคนั้นของอีกคนก็ทำให้สึกไม่ดีไม่น้อย เขาเลยไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่




            "งั้นพี่กับไทเกอร์กลับก่อนนะครับ มีอะไรโทรหาพี่ได้นะ" แอลว่าพร้อมส่งยิ้มให้สีน้ำอย่างเป็นมิตร สีน้ำพยักหน้ารับก่อนจะยกมือไหว้บอกลาไทเกอร์กับแอล พอทั้งสองออกไปสีน้ำก็ทิ้งตัวลงเตียงนอนที่คุ้นเคย...ใช่ ไทเกอร์พาสีน้ำมาส่งที่หอแต่ที่พูดแบบนั้นก็แค่แกล้งฟ็อกซ์เท่านั้นและจะลองดูว่าฟ็อกซ์จะกระวนกระวายขนาดไหนที่รู้ว่าสีน้ำถูกเอาไปซ่อนโดยไทเกอร์



            "เฮ้อ!" สีน้ำถอนหายใจออกมาพร้อมกับเอามือก่ายหน้าผากอย่างใช้ความคิดเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไปดีถ้าจะให้หลบหน้าอีกคนเป็นสัปดาห์เป็นเดือนคงทำไม่ได้เพราะเขาเองก็ต้องไปเรียน แถมที่เรียนก็ยังอยู่ที่เดียวกันอีกจะสามารถหลบหน้าได้สักแค่ไหนเชียว



ครืดๆ


สีน้ำเบิกตากว้างทันทีที่เห็นรายชื่อที่โทรเข้ามา ร่างบางกัดปากอย่างครุ่นคิดว่าควรจะรับสายอีกคนดีมั้ยก่อนจะปล่อยให้มันดังจนสัญญาณตัดไป...

 

           "แม่ง!" ฟ็อกซ์สบถออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อโทรหาสีน้ำเกือบสิบสายแต่อีกคนก็ไม่รับ ไม่รู้ว่าตั้งใจไม่รับหรือโทรศัพท์ไม่ได้อยู่กับตัวกันแน่



            "มึงอยู่ไหนวะสีน้ำ" ฟ็อกซ์พึมพำออกมาพร้อมกำโทรศัพท์มือถือแน่น ตาคมมองไปทั่วห้องที่เคยมีภาพของอีกคนวนเวียนอยู่ เขากำลังจะบ้า ใช่...เขาคิดแบบนั้นเขาไม่เคยรัก ไม่เคยชอบใครมาก่อนและไม่คิดว่าจะรู้สึกแบบนี้กับใครเหมือนกันแต่พอรู้สึกก็...แม่ง! รู้สึกมากจนแทบบ้าอยู่แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สมน้ำหน้าอิหมาจิ้งจอก 555555555 หวังว่าจะถูกใจคนที่หมั่นอิหมาจิ้งจอกนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
คนที่จะเล่นฟ๊อกซ์ได้คงเป็นพี่ๆรี่หละม้าง
คิๆๆ อย่างเพิ่มรับโทรศัพท์นะสีน้ำ เอาให้มันคลั่งไปอีกสักพัก
555

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มีความสมน้ำหน้า เจ้าจิ้งจอก หนักมากกก หึหึหึ :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
สมน้ำหน้าอีฟ๊อกซ์

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สะใจมากค่ะ

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สมน้ำหน้าตาฟ็อกเลย :m20:  :m20:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
555 ขำฟอกซ์อ่ะ

สงสารหมอก จะหมดมาม่าแล้วชิมิ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
สะใจอิจิ้งจอกปากแข็ง  :laugh: :laugh:

ตอนนี้ไทเกอร์ชนะเลิศ นี้มันไทเกอร์คนเดียวกะเรื่องที่แล้วป่าวเนี่ย นิสัยอย่างกะคนละคนเลย 55555 :m20: :m20:

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Fox 18

 

3วันแล้วที่ฟ็อกซ์ไม่ได้เจอสีน้ำ อีกคนไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยและก็ยังคงไม่รับสายเขาฟ็อกซ์ไปถามหมอกก็พบว่าหมอกเองก็ไม่รู้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน ร่างสูงรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อย วันนี้ก็เลยต้องกลับมาที่บ้านเพื่อพบพี่ชายตัวดีที่พักนี้กลับมาอยู่บ้านแทนที่จะอยู่คอนโด



        "อ้าวฟ็อกซ์" คิสทักขึ้นเมื่อเห็นน้องชายคนเล็กของบ้านเดินเข้ามา



        "สวัสดีครับพี่คิส เห็นพี่ไทเกอร์มั้ยครับ?" คิสทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะชี้ไปทางสวนหลังบ้าน



        "น่าจะอยู่แถวๆสวนนะ" ฟ็อกซ์พยักหน้ารัยก่อนจะเดินไปยังสวนหลังบ้านทันที



        "อื้อออ ไทเกอร์...อ๊ะ ฟ็อกซ์" แอลรีบดันไทเกอร์ออกทันทีที่หันไปเห็นฟ็อกซ์ ไทเกอร์ผละออกจากซอกคอขาวอย่างเสียดายก่อนจะมองหน้าน้องชายอย่างเซ็งๆ



        "ขัดจังหวะชิบหาย" ไทเกอร์บ่นออกมา



        "พี่เอาสีน้ำไปซ่อนไว้ที่ไหน?" ฟ็อกซ์เข้าเรื่องทันทีเพราะเขาไม่สามารถรีรอได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว มันก็ใช่ที่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสีน้ำเลย เลยไม่สามารถไปตามหาอีกคนได้ที่ไหน ยิ่งถ้าพี่ชายของเขาเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วด้วย เขายิ่งคิดว่ามันคงไม่ใช่สถานที่ธรรมดาๆแน่ๆ



        "ยังหาไม่เจอ?" ไทเกอร์เลิกคิ้วถามกลับอย่างงงๆ เออ...พอจะโง่ก็แม่งโง่เว้ยอีตอนฉลาดแม่งฉลาดจนน่าหมั่นไส้



        "ผมไม่รู้จะไปหามันที่ไหนแล้ว ผมไปที่บ้านพักตากอากาศของเรา โทรเช็คทุกที่ก็ไม่มี พี่แม่ง..." ฟ็อกซ์ว่าอย่างหงุดหงิด ใบหน้าหล่อขมวดมุ่นไปหมด



        "ฮ่าๆๆ เดี๋ยวนะๆ มึงบอกว่ามึงไปหาสีน้ำตามบ้านพักตากอากาศของเรา?"ไทเกอร์หัวเราะร่าทันทีกับสิ่งที่ได้ยิน แอลก็ยิ้มนิดๆ ยิ่งเห็นท่าทางของฟ็อกซ์ก็ยิ่งเชื่อใจได้ว่าฟ็อกซ์รู้สึกยังไงกับสีน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่ของเล่นที่สีน้ำกำลังสับสนอยู่แน่



        "ใช่...ผมไม่รู้จะไปตามหามันที่ไหนแล้ว" ฟ็อกซ์ว่าหน้าเครียด



        "งั้นพี่ขอถามนะ...ถ้าเจอสีน้ำฟ็อกซ์จะทำยังไง?" แอลถามขึ้นบ้าง   



        "หมายถึง?" ฟ็อกซ์ขมวดคิ้วอย่างงงๆ



        "หมายถึงเราน่ะจะทำยังไงให้สีน้ำเชื่อว่าความรู้สึกของเรามันคือเรื่องจริงเพราะตอนนี้สีน้ำคิดว่าเรามองสีน้ำเป็นแค่ของเล่น" แอลอธิบายให้อีกคนได้เข้าใจ



        "แม่ง คิดเองเออเอง" ฟ็อกซ์พึมพำออกมาแต่แอลก็ได้ยินมัน



        "ก็เรามันปากแข็งนี่ ตอบพี่มาก่อนว่าถ้าเจอสีน้ำ ฟ็อกซ์จะทำยังไง แล้วพี่จะบอกว่าควรไปหาสีน้ำที่ไหน?" ฟ็อกซ์นิ่งพร้อมกัดปากอย่างครุ่นคิดก่อนสบตากับแอลอย่างจริงจัง



        "ผมก็จะทำให้มันรู้ว่าความรู้สึกของผมมันคือความจริง!"…ฟ็อกซ์พึ่งเข้าใจคำว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็วันนี้ เขาไม่คิดเลยว่าพี่ชายและพี่สะใภ้จะแกล้งเขาโดยการเอาสีน้ำมาไว้ที่หอพัก ใช่...หอพักของมันเองนั่นแหละ แม่งๆๆ แล้วที่เขาวิ่งวุ่นตามหาอยู่นี่เพื่ออะไรกันวะ แม้ว่าจะหงุดหงิดไม่น้อยแต่ฟ็อกซ์ก็สัญญากับแอลแล้วว่าจะไม่รุนแรงกับสีน้ำหรือพูดจาให้สีน้ำไม่พอใจอีก ร่างสูงเดินขึ้นไปบนหอพักของอีกคนทันที



ก็อกๆๆ

เสียงเคาะประตูทำให้สีน้ำที่กำลังนั่งวาดรูปชะงัก สามวันที่หลบหน้าฟ็อกซืเขาไม่ได้ไปเรียนเลย เขาเพียงแต่ติดต่อถามงานจากหมอกและก็รุ้จากหมอกว่าอีกคนตามหาตัวเขา แม้ว่าจะอดไม่ได้ที่จะใจพองโตแต่ความรู้สึกโกรธอีกคนก็ยังมีอยู่และคิดว่าจะไม่ยอมให้อภัยง่ายๆหรอก สีน้ำละมือจากพู่กันในมือก่อนจะเดินไปที่ประตูทันที บางทีหมอกอาจจะมาหาเขาแต่ลืมโทรบอกก็ได้



แอดด

 

         “เฮ้ย!” สีน้ำอุทานขึ้นมาทันทีที่เห็นใบหน้าคนที่ยืนอยู่หน้าประตู มือบางทำท่าจะปิดประตูทันทีแต่ฟ็อกซ์ก็คว้ากรอบประตูไว้ก่อน



          “ปล่อยนะเว้ย!” สีน้ำว่าพร้อมมองหน้าอีกคนอย่างไม่พอใจ



          “ไม่ปล่อย กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”



          “แต่กูไม่มี!” สีน้ำกระแทกเสียงแล้วดึงประตูเข้ามาปิดทันทีโดยไม่สนว่ามันจะหนีบมือฟ็อกซ์



          “โอ๊ย!” ฟ็อกซ์ร้องออกมาทันทีก่อนจะรีบชักมือออก สีน้ำปิดประตูไปแล้วและไม่ว่าเขาจะเคาะเท่าไหร่อีกคนก็ไม่เปิด ฟ็อกซ์ถอนหายใจออกมาก่อนจะนั่งลงที่หน้าประตูห้องของอีกคนอย่างใช้ความคิด เขาควรทำยังไงต่อดีวะ...หลังจากที่ปิดประตูใส่อีกคนสีน้ำก็เดินวนไปวนมาในห้องด้วยความกระวนกระวายใจ รู้แหละว่ายังไงก็ต้องเจออีกคนเพราะพรุ่งนี้เขาเองก็ตัดสินใจจะไปเรียนเพราะไม่อยากจะขาดเรียนไปมากกว่านี้แล้วแต่นี่มันกระทันหันเกินไป เขาตั้งตัวและหัวใจไม่ทัน ให้ตายสิ...อ่อนแอชะมัด แม้ว่าจะพยายามรวบรวมสมาธิกลับมาทำงานต่อแค่ไหนแต่สีน้ำก็ไม่สามารถทำได้เลย สีน้ำไม่รู้เลยว่าฟ็อกซ์กลับไปแล้วหรือไงและตอนนี้เขากก็เริ่มหิวแล้วเสียด้วยสิ แม่งๆๆ กระเพาะเชี่ยร้องอยู่ได้รู้แล้วเว้ยว่าหิว



          “เป็นไงเป็นกัน” สีน้ำพูดกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์และกระเป๋าเงินเพื่อเตรียมตัวออกไปซื้อข้าวทันที



แอดดด

 

         “จะไปไหน” ฟ็อกซ์ถามขึ้นทันทีที่เห็นสีน้ำเปิดประตูออกมา สีน้ำไม่ตอบแต่กลับเดินออกไปอย่างไม่สนใจฟ็อกซ์ ฟ็อกซ์ถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินตามอีกคนไปทันที  สีน้ำเลือกมาซื้อข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ ตอนแรกกะจะซื้อใส่กล่องไปกินที่ห้องแต่คิดไปคิดมากินที่ร้านให้มันจบๆไปเลยดีกว่า



          “ป้าอ้วน กระเพราไข่ดาวเหมือนเดิมครับ” สีน้ำสั่งขึ้นพร้อมเดินไปนั่ง



          “ผมเอาเหมือนกันครับ” ฟ็อกซ์ว่าก่อนจะเดินไปนั่งโต๊ะเดียวกับสีน้ำแต่เป็นฝั่งตรงข้าม สีน้ำขมวดคิ้วใส่อีกคนทันที



          “ใครให้นั่ง” สีน้ำถามเสียงขุ่น



          “ไม่มี...แต่ที่มันว่าง” ฟ็อกซ์ว่าพลางยักไหล่ สีน้ำทำท่าจะเปลี่ยนโต๊ะแต่พอเห็นว่าอาหารที่สั่งได้พอดีเลยยอมนั่งที่เดิม สีน้ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวทันทีโดยไม่สนใจคนที่นั่งตรงข้ามที่เอาแต่มองมาที่เขา



          “อ่ะ” ฟ็อกซ์ว่าหลังจากตักไข่ดาวใส่จานอีกคน



          “อะไร?” สีน้ำขมวดคิ้วใส่



          “กูให้ไง” สีน้ำร้องเฮอะออกมาเบาๆ



          “โตๆ มานี่มาๆๆ อ่ะๆ พี่สีน้ำให้ กินเยอะๆจะได้อ้วน” สีน้ำเรียกสุนัขพันธุ์ไทยของเจ้าของร้านที่คุ้นเคยกันดีก่อนจะตักไข่ดาวที่ฟ็อกซ์ตักให้ตัวเองให้สุนัขทันทีโดยไม่สนว่าฟ็อกซืจะมองหรือรู้สึกยังไง ฟ็อกซืหัวเราะในลำคอเบาๆกับการกระทำของอีกคนนับเป็นการประชดประชันที่น่ารักดี



          “หัวเราะอะไร?” สีน้ำขมวดคิ้วใส่อีกคน



          “แค่คิดว่ามึงประชดน่ารักดี”



          “ใครประชด...กูไม่ได้ประชด กูแค่ไม่อยากกินของๆมึง” สีน้ำว่าด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อจนหมดจาน แม้ว่าในใจจะอดสั่นไหวกับคำว่าน่ารักของอีกคนไม่ได้ เชี่ยๆๆ ใจง่ายอีกแล้ว



          “ป้าอ้วนเก็บตังค์ด้วยครับ”



          “อ๋อ พ่อหนุ่มคนนี้จ่ายทั้งหมดแล้วจ้า” ป้าอ้วนว่ายิ้มๆ สีน้ำขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองหน้าฟ็อกซ์ทันที



          “เอาไป กูไม่อยากติดหนี้หรือค้างคาอะไรกับมึงอีก” สีน้ำว่าพร้อมปาเงิน35บาทใส่ฟ็อกซ์ ฟ็อกซ์ก้มไปเก็บก่อนจะลุกขึ้นมามองหน้าอีกคน



          “เกลียดกูขนาดนั้นเลยหรือไง?” สีน้ำชะงักไปทันทีกับคำถามของอีกคน เกลียดเหรอ?...มีความคิดแบบนี้อยู่ที่ไหน แค่โกรธ แค่ไม่พอใจ แค่...แค่น้อยใจกับคำพูดนั้นของอีกคน เออ...เขามันแม่งใจง่าย ใจอ่อน ใจอ่อนตั้งแต่ได้ยินว่ามันชอบเขาแล้ว



          “กูว่ามึงน่าจะรู้อยู่แก่ใจ” สีน้ำว่าส่งท้ายก่อนจะเดินออกจากร้านไปทันที ฟ็อกซ์ถอนหายใจออกมาแต่ไม่ได้เดินตามสีน้ำไป...วันนี้สีน้ำตั้งใจจะไปเรียนก็เลยตื่นนอนตั้งแต่เช้าเพราะมีเรียนแปดโมง แต่ถึงตื่นเร็วแค่ไหนตอนนี้ก็ปาไปเจ็ดโมงครึ่งแล้ว ให้ตายสิ...จะทันมั้ยเนี่ย!



แอดดด



          “เฮ้ย!” สีน้ำอุทานขึ้นมาทันทีที่เปิดประตูห้องมาเจออีกคน มาไมวะเนี่ย



          “สายแล้วนี่?” ฟ็อกซ์เลิกคิ้วพร้อมมองนาฬิกาข้อมือ



          “เรื่องของกู ถอย” สีน้ำว่าเสียงเรียบพร้อมทำท่าจะวิ่งไปแต่ฟ็อกซ์ก็คว้ากระเป๋าใส่กระดานวาดภาพของเขาไว้ก่อน



          “ปล่อยนะเว้ย!”



          “เดี๋ยวกูไปส่ง” ฟ็อกซ์ว่าพร้อมดึงกระเป๋าใส่กระดานวาดภาพของสีน้ำมาถือ



          “ไม่จำเป็น กูไม่ได้ขอ” สีน้ำว่าก่อนจะดึงกระเป๋าของตัวเองกลับมา



          “แต่กูอยากไปส่ง” ฟ็อกซ์ว่าพร้อมดึงกระเป๋าของอีกคนมาอีกครั้ง



          “เอ๊ะ มึงนี่มัน...”



          “กูหน้าด้าน มากด้วย” ฟ็อกซ์ยักไหล่ สีน้ำกัดปากมองหน้าอีกคนอย่างหงุดหงิดฟ็อกซ์กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินถือกระเป๋าใส่กระดานวาดรูปของสีน้ำเดินลงไปทันทีทำให้สีน้ำต้องยอมไปกับอีกคนในที่สุด...บรรยากาศบนรถเต็มไปด้วยความเงียบจนรถคันหรูของฟ็อกซืมาจอดที่ตึกคณะ สีน้ำเอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าใส่กระดานวาดภาพของตัวเองที่เบาะหลังก่อนจะหันกลับมา



          “อ๊ะ!” ร่างบางชะงักไปทันทีที่ฟ็อกซ์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ตากลมสบเข้ากับตาคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้



          “กูรู้ว่ามึงโกรธกู หรือบางทีอาจจะเกลียดกูไปแล้วแต่สิ่งที่กูจะบอกมึงคือ...” สีน้ำเบิกตากว้างทันทีที่ฟ็อกซ์ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิมทำให้เหลือระยะห่างระหว่างใบหน้าไม่ถึงคืบ ตาคมสบเข้ากับตากลมอย่างจริงจัง จนสีน้ำรู้สึกสั่นไหวไปทั้งใจ



          “...ความรู้สึกของกูคือความจริง ที่กูบอกชอบมึงในโทรศัพท์วันนั้นคือเรื่องจริง” 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ยังไม่ให้หายโกรธหรอกค่ะ อิหมาจิ้งจอกต้องพยายามมากกว่านี้ 5555555 เหลืออีกสองตอนจะจบแล้วน้า ยังไงก็ฝากติดตามกันยันจบด้วยเน้ออออออ
___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อย่ายอมว่ายๆ เอาให้หนัก หึหึ

ออฟไลน์ แม่น้องเปา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อยากได้หวานๆ..ฟ็อกต้องสู้นะ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ใจแข็งไว้สีน้ำ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
ยิ้มละจ้าาา
อุปสรรคยังมีอีกไหมมม

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แหมๆๆๆ อย่าหวั่นไหวนะคะลูก

ออฟไลน์ duckk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดด ชอบหมาจิ้งจอกจังงง :katai2-1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Fox’s Love 9

( Kin x Meok )

 

หมอกค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ตากลมกวาดสายตามองไปทั่วก็พบว่าเขาอยู่ในห้องของใครบางคนที่ไม่ใช่ห้องของตัวเอง หมอกเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีเมื่อนึกออกว่าเขาอยู่ในห้องของใคร เหตุการณ์เมื่อคืนย้อนเข้ามาในหัวของหมอกทันทีบทรักที่เร่าร้อนและอ่อนโยนทำให้หมอกอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง เมื่อคืนเขากับพี่คิน...



        “ตื่นแล้วเหรอ? พี่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราแล้ว” คินเดินเข้ามาในห้องนอนในชุดลำลองสบายๆมีผ้าคลุมกันเปื้อนติดมาด้วยเป็นคำตอบได้ดีว่ากลิ่นอาหารเช้าหอมๆที่ได้กลิ่นอยู่ตอนนี้เป็นฝีมือของใคร



        “หมอก...เอ่อ...หมอกว่าหมอกควรจะกลับ” หมอกว่าพร้อมลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วแต่เพราะช่องล่างที่พึ่งผ่านบทรักเมื่อคืนมาทำให้หมอกเซทันทีแต่ดีที่มือหนาของอีกคนมารับไว้ไม่งั้นร่างบางคงล้มไปกองกับพื้น



        “ทำไมรีบลุกแบบนี้เดี๋ยวก็ล้มหรอก” คินว่าอย่างดุๆนิดๆ หมอกรีบดันตัวอีกคนออกทันทีเพราะรู้สึกแปลกๆที่ต้องใกล้ชิดแบบนี้ เขากับอีกคนเลิกกันไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันอีกแม้ว่าเมื่อคืน...เอ่อ...ช่างเถอะ เขาเมามาก เขาจะถือว่ามันเป็นสันชาตยานของคนเมาก็แล้วกัน



        “รังเกียจพี่ขนาดนั้นเลยหรือไง?” คินถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อทำเอาหมอกหัวใจกระตุกทันที



        “หมอกไม่ได้...หมอก...”



        “หมอกอาจจะลืมว่าเมื่อคืนหมอกพูดอะไรกับพี่ไว้และพี่พูดอะไรกับหมอกบ้างแต่พี่ไม่ลืม...ไม่ลืมว่าหมอกบอกว่ารักพี่ และหมอกไม่อยากเลิกกับพี่” หมอกนิ่งไปทันทีไม่ใช่ว่าเขาจำไม่ได้ เขาจำได้ จำได้ทุกคำพูดว่าเขาพูดอะไรออกไปบ้างแต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ พูดไปตามใจคิด กระทำไปตามใจอยาก



        “ใครว่าหมอกลืมกัน” หมอกว่าพร้อมสบตาคม คินยกยิ้มนิดๆก่อนจะเดินเข้ามาหาหมอก มือหนายื่นมือไปกอบกุมมือบางมาจับไว้



        “มาพยายามกันมั้ย? พยายามเพื่อเรื่องของเรา” คินว่าพร้อมมองหน้าหมอกอย่างจริงจัง หมอกพยักหน้าด้วยนัยน์ตาสั่นระริก



        “พี่รักหมอกนะ”



        “หมอกก็รักพี่คินครับ”...อาหารมื้อเช้านี้ถือเป็นมื้อแรกที่หมอกกินมันอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากที่เลิกกับคินไป เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะรักอีกคนได้มากมายถึงขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าพอคืนดีกันโลกที่เคยหม่นหมองก็กลับกลายเป็นสีชมพูขึ้นมาทันตา



        “อร่อยมั้ย?” คินถามขึ้นยิ้มๆ



        “มากๆเลยครับ” หมอกก็ยิ้มตอบเช่นเดียวกัน คินยื่นมือมายีหัวอีกคนอย่างเอ็นดูก่อนจะเลื่อนมือมาเขี่ยเศษข้าวที่ติดอยู่ที่มุมปากบาง



        “กินเป็นเด็กเลย”



        “ก็มีคนเช็ดให้จนเคยตัวนี่ครับ” คินยิ้มทันทีกับคำพูดของร่างบางก่อนจะดึงแก้มอีกคนเบาๆ



        “น่ารักจังแฟนใครก็ไม่รู้”



        “แฟนชื่อคินครับ” หมอกว่าด้วยรอยยิ้มพร้อมกับแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อ...คินพาหมอกมาส่งที่บ้านในตอนสายๆ ความจริงหมอกอยากจะชวนอีกคนเข้าบ้านเพราะคิดว่าพ่อกับแม่ยังไม่กลับมาแต่คินก็ปฏิเสธก่อน คินอยากจะรอให้ถึงเวลาที่เขาสามารถเข้าออกบ้านอีกคนได้อยากเต็มตัว เขาอยากรอให้พ่อกับแม่ของหมอกยอมรับเขาอย่างเต็มใจแม้ว่ามันจะนานแค่ไหนหรือความหวังวิบหรี่เท่าไหร่เขาก็จะรอ



        “ขับรถกลับดีๆนะครับ” หมอกหันมาพูดกับอีกคนก่อนจะลงจากรถ



        “ไม่จูบลาเหรอ?” คินเลิกคิ้วถาม หมอกแก้มแดงทันทีก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากหนา คินยกยิ้มอย่างพึงพอใจ



        “ถึงคอนโดแล้วพี่โทรหานะ” หมอกพยักหน้ารับก่อนจะลงจากรถไป ร่างบางยืนมองตามจนรถคันหรูลับสายตาจึงเข้าบ้าน...วันนี้หมอกมาเรียนอย่างปกติ ฟ็อกซ์มาถามหาสีน้ำกับเขาทำให้เขาต้องรีบโทรหาเพื่อนสนิททันทีและก็พบว่าสีน้ำกำลังหลบหน้าฟ็อกซ์อยู่ ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่มีปัญหาอะไรกันและก็ไม่กล้าถามด้วย เอาเป็นว่าถ้าสีน้ำมาเรียนเมื่อไหร่ก็คงจะบอกเขาเอง เขาก็ได้แต่บอกงานที่อาจารย์สั่งระหว่างที่สีน้ำไม่มาเรียนเท่านั้น



        “เรียนเหนื่อยมั้ย?” คินถามขึ้นขณะที่ร่างสูงยืนรอหมอกอยู่ที่หน้าห้องเรียน



        “นิดนึงครับ ว่าแต่พี่คินเลิกเรียนตั้งแต่บ่ายสามแล้วนี่หน่า ทำไมถึงรอหมอกล่ะ?” หมอกถามอย่างงุนงง



        “วันนี้พี่จะไปบ้านของหมอก” หมอกทำตาโตทันทีที่ได้ยินคำตอบของอีกคน



        “มะ...หมายความว่ายังไงกันครับ?”



        “พี่จะเข้าไปคุยกับพ่อแม่ของหมอก” หมอกมีสีหน้ากังวลทันทีหลังจากที่ได้ยินคำพูดของคนรัก แหงแหละ...เขาจำได้ดีว่าตอนที่พ่อกับแม่รู้เรื่องเขากับพี่คินเป็นยังไงพ่อโกรธเขามากและไม่พอใจพี่คินมากด้วย เขากลัว...กลัวว่ามันจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม



        “ไม่เชื่อมั่นในตัวพี่เหรอ?” คินถามพร้อมกับคว้ามือบางมากุมไว้



        “หมอก...”



        “เชื่อในตัวพี่นะ พี่จะทำให้ท่านทั้งสองยอมรับเรื่องของเราให้ได้” คินว่าพร้อมมองหน้าหมอกอย่างจริงจัง หมอกยังคงมีสีหน้ากังวลใจไม่สร่างแต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำพูดของอีกคน ความรักของพวกเขาก็เหมือนการพนันหากไม่เสี่ยงก็จะไม่สามารถรู้ได้ว่าจะได้หรือจะเสีย หากได้ก็คือเรื่องดีแต่หากเสีย มันคงไม่เสียจนหมดตัวจนไม่สามารถกู้กลับได้หรอกใช่มั้ย? เขาคิดแบบนั้น...พอมาถึงบ้านคินก็เดินจับมือหมอกเข้าไปในบ้านของอีกคนทันที เขารู้ว่าหมอกกำลังกลัว กำลังกังวลแต่เขาจะทำให้หมอกเชื่อว่าเขาอยู่ตรงนี้ เขาอยู่ข้างๆและจะไม่ไปไหน



        “สวัสดีครับ” คินทักขึ้นทันทีพร้อมกับยกมือไหว้พ่อแม่ของหมอกที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขก แม่ของหมอกมองหน้าคินอย่างตกใจทันทีขณะที่พ่อของหมอกวางหนังสือพิมพ์ในมือและมองหน้าคินนิ่งๆ



        “มาทำไม?” พ่อของหมอกถามเสียงเรียบ



        “ผมอยากจะเข้ามาคุยกับคุณอาทั้งสองเรื่องของผมกับหมอกครับ” คินว่าพร้อมมองหน้าพ่อแม่ของหมอกอย่างจริงจัง พ่อของหมอกขมวดคิ้วมุ่นทันทีที่ได้ยินแบบนั้น



        “ยังต้องคุยอะไรอีก ฉันเคยบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าอย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีก” พ่อของหมอกว่าเสียงเย็น หมอกนัยน์ตาสั่นระริกทันทีกับท่าทางของผู้เป็นพ่อเขาคิดแล้วว่ามันต้องแบบนี้ ยังไงพ่อกับแม่ของเขาก็ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้



        “แต่ผมรักหมอก หมอกรักผม เรารักกันนะครับ”



        “รักงั้นเหรอ? ความรักที่เป็นเพียงเรื่องฉาบฉวย สักวันก็คงจืดจางลงไป ยังไงฉันก็ไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวของฉันมีชีวิตคู่แบบนั้นแน่”



        “พ่อครับแต่หมอกกับพี่คิน...”



        “หมอกแม่ว่าหมอกขึ้นไปบนห้องก่อนดีกว่า” แม่ของหมอกพูดขัดขึ้น

 

       “ไม่ครับแม่ หมอกจะอยู่ข้างๆพี่คิน หมอกจะไม่ยอมอ่อนแอที่เอาแต่หนีปัญหาอีกแล้ว” หมอกว่าพร้อมมองหน้าผู้เป็นแม่อย่างจริงจัง



        “นี่แกกล้าเถียงแม่เหรอหมอก!” ผู้เป็นพ่อว่าเสียงดุใส่หมอก



        “หมอกไม่ได้เถียงแม่ครับพ่อ แต่หมอกอยากทำให้พ่อกับแม่เห็นว่าหมอกไม่ได้อ่อนแอ หมอกรู้ตัวเสมอว่าหมอกเป็นลูกชายคนเดียว พ่อกับแม่เลี้ยงหมอกมาอย่างประคบหระหงม หมอกไม่เคยเสียใจที่ถูกตีกรอบเอาไว้เพราะหมอกรู้ว่าพ่อกับแม่รักหมอกและหมอกก็อ่อนแอเกินไปที่จะกล้าคิด กล้าตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเอง แต่เรื่องนี้...หมอกจะอ่อนแอต่อไปไม่ได้อีกแล้วครับ หมอกอยากเข้มแข็ง อยากแสดงให้พ่อกับแม่เห็นว่าหมอกสามารถยืดหยัดด้วยตัวเองได้จริงๆ หมอกคิด หมอกเลือกคนไม่ผิดจริงๆนะครับ” หมอกว่าพร้อมมองหน้าพ่อกับแม่อย่างอ้อนวอน ตากลมหน่วงคลอไปด้วยน้ำตาจนผู้เป็นแม่ต้องหันหน้าหนีเพราะเธอเองก็ไม่ชอบเลยเวลาที่เห็นลูกชายร้องไห้ เธอจำได้ดีตลอดเวลาที่หมอกอยู่โรงพยาบาล หมอกซึมเศร้าแค่ไหน



        “เลือกคนไม่ผิดงั้นเหรอ? แกแน่ใจได้ยังไงว่าแกเลือกคนไม่ผิด มันผิดตั้งแต่เพศแล้ว!” ผู้เป็นพ่อว่าเสียงดังจนหมอกสะดุ้ง



        “หากมองข้ามเรื่องเพศไป ผมมีอะไรไม่ดี ไม่คู่ควรตรงไหน คุณอาบอกผมสิครับผมพร้อมจะทำทุกอย่างให้ตัวเองคู่ควรกับหมอก เหมาะสมกับหมอก” พ่อของหมอกชะงักไปทันทีกับคำพูดของคิน ใช่...อีกคนดีทุกอย่าง ตระกูลดี ฐานะดี การศึกษาดีนิสัยดี เขายอมรับ ถ้าหมอกเป็นผู้หญิงเขาคงยอมรับคนตรงหน้าอย่างไม่มีข้อแม้แต่นี่...คนเป็นพ่ออย่างไม่สามารถทำใจยอมรับได้จริงๆ



        “พ่อเป็นห่วงหมอกใช่มั้ยครับ?” หมอกพูดขึ้นทำให้ผู้เป็นพ่อหันไปมองทันที



        “ที่พ่อพูดว่าอับอาย ขายขี้หน้า ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้นเลยใช่มั้ยครับ? พ่อห่วงหมอก กลัวว่าหมอกจะทนกับสายตาของคนอื่นไม่ได้ กลัวหมอกจะทนกับคำครหาของคนอื่นที่จะดูถูกเรื่องของหมอกกับพี่คินไม่ได้ พ่อกลัวหมอกเสียใจใช่มั้ยครับ? ฮึก...พ่อครับ...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่รักและห่วงหมอกมากขนาดนี้” ผู้เป้นพ่อชะงักไปทันทีกับคำพูดของลูกชายที่ตรงกับใจของเขา ใช่...เขาบอกเสมอว่าเขารับไม่ได้ เขาอับอาย ขายขี้หน้าแต่นั่นมันแค่เสี้ยวความคิดแค่นั้น สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วความรู้สึกของลูกคือสำคัญที่สุด หมอกอ่อนแอ พ่อย่างเขารู้ดี หมอกไม่สามารถทนได้แน่ถ้าหากต้องเจอสายตาเหยียดๆหรือคำพูดดูถูก ยังไงหมอกก็ไม่สามารถทนได้แน่ๆ เพราะฉะนั้นเขาต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพื่อตัวของหมอก เพื่อตัวของลูกชายของเขา



พรึ่บ



อยู่ๆหมอกก็คุกเข่าลงต่อหน้าผู้เป็นพ่อก่อนจะก้มกราบเท้าผู้เป็นพ่อทำเอาผู้เป็นแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆน้ำตาไหลลงมาทันที



        “ฮึก หมอกรักพ่อนะครับ แต่พ่อครับ...ได้โปรด...ให้โอกาสลูกชายที่อ่อนแอคนนี้ได้เข็มแข็งด้วยตัวเองเถอะนะครับ ถึงหมอกจะร้องไห้ ถึงหมอกจะเสียใจ หมอกรู้ว่าหมอกยังมีพ่อกับแม่ที่จะคอยปลอบหมอก ได้โปรดเถอะนะครับ...”



พรึ่บ



คินคุกเข่าต่อหน้าพ่อกับแม่หมอกบ้าง



        “ให้โอกาสให้ผมได้พิสูจน์ตัวเถอะนะครับ คุณอาทั้งสองยังไม่ต้องยอมรับผมก็ได้ แต่ได้โปรด ให้ผมแสดงให้คุณอาทั้งสองเห็นว่าผมดูแลหมอกได้ ผมจะไม่ทำให้หมอกเสียใจเป็นเด็ดขาด” คินว่าพร้อมมองหน้าพ่อกับแม่ของหมอกอย่างจริงจังและแน่วแน่ พ่อของหมอกยืนนิ่งไปก่อนจะถอนหายใจออกมา



        “ลุกขึ้น” หมอกและคินลุกขึ้นตามคำสั่ง



        “ถึงเวลาอาหารมื้อเย็นแล้ว จะกินก็ตามมา” ว่าแล้วผู้เป็นพ่อของหมอกก็เดินนำไปทางโต๊ะอาหารทันที หมอกกับคินมองหน้ากันอย่างงงๆนิดๆก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือเปล่านะ?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แต่งเรื่องครอบครัวบอกเลยว่าแต่งยากมาก แง้งงงงงงงงง ตอนหน้าจบแล้วนะคะ จบแฮปปี้อยู่แล้วไม่ต้องห่วง5555555

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Natsuki-ChaN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
คุ่นี้แฮปปี้ละ อยากอ่านคคู่สีน้ำกับฟ๊อกซ์คนซึนนนแล้วววว :katai4:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
จะจบแล้วอะ
สีน้ำเล่นฟ๊อกซ์ให้หนักกว่านี้หน่อยนะ
น้ำขึ้นให้รีบตัก 55+
ปล. คินหมอก ยินดีด้วยจ้า
ผ่านด่านคนอบครัวเรียบร้อย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Jang_B2UTY

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-5
Fox 19

 

คำพูดของฟ็อกซ์ยังคงวนเวียนในหัวของสีน้ำอยู่ตลอดเวลา ฮึ่ย์ๆๆ แม่งรู้ได้ไงวะว่าวันนั้นเขาแอบฟังอยู่ด้วย เป็นคุณริวจิตสัมผัสหรือไง! แล้วเขานี่ก็เป็นบ้าอะไรหัวใจเต้นแรงไม่เลิก โกรธอยู่นะเว้ยๆๆ อย่าลืมดิ!



ครืดๆ

เสียงโทรศัพท์ของสีน้ำดังขึ้นร่างบางหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นคนที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวเขาไม่เลิก สีน้ำกำลังชั่งใจว่าจะรับดีหรือไม่รับดี ในที่สุดก็กดรับจนได้



        "..." สีน้ำกดรับสายโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา



        ("นอนยัง?") ฟ็อกซ์ถามขึ้น สีน้ำนิ่งไปชักครู่กับคำถามของอีกคน

 

       "ยัง"



        ("กูก็ยัง")



        "ใครถาม ไม่ได้อยากรู้" สีน้ำว่ากลับเสียงแข็ง ฟ็อกซ์หัวเราะในลำคอทันทีกับคำพูดของอีกคน



        ("แต่กูอยากบอก หึๆ")



        "จะโทรมากวนประสาทกูแค่นี้ใช่มั้ย กูจะได้วาง" สีน้ำว่าพร้อมทำท่าจะกดวางแต่ฟ็อกซ์ก็พูดขึ้นก่อน   



    ("ฝันดี") สีน้ำกดวางทันทีด้วยหัวใจที่เต้นรัว บ้าๆๆ แบบนี้มันบ้าบอไปแล้ว ฝัน

ดงฝันดีอะไรวะกินยาไม่เขย่าขวด กินข้าวไม่เขย่าหม้อหรือไง!! แล้วเขาเนี่ยทำไมต้องเขินด้วยเนี่ย!...วันนี้สีน้ำมีเรียนตอน10โมงเลยไม่รีบเท่าไหร่ ร่างบางเดินออกจากหอพักเพื่อจะไปรอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ก็ต้องชะงักเมื่อมีรถคันหรูที่คุ้นตาจอดอยู่



        "ขึ้นรถ" ฟ็อกซ์พูดขึ้นพร้อมกับเดินมาดักหน้าสีหน้าไว้ สีน้ำทำหน้านิ่งทำท่าจะเดินผ่านอีกคนไปแต่มือหนาก็คว้าข้อมือบางไว้ก่อน



        "ปล่อย" สีน้ำว่าแต่ฟ็อกซ์ก็ไม่ยอมปล่อยแถมลากอีกคนไปที่รถ



        "แม่ง ทำไมต้องมายุ่งกับกูด้วยวะ" สีน้ำบ่นทันทีที่มานั่งอยู่ในรถของอีกคน



        "กูมารอมึงตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง" สีน้ำเลิกคิ้วนิดๆกับคำพูดของฟ็อกซ์



        "รอทำไม?"



        "รอรับมึงไปเรียน ไม่รู้ว่าวันนี้มึงเรียนสิบโมง" สีน้ำยกยิ้มทันทีที่รู้ว่าอีกคนรอเขาเกือบสองชั่วโมง สมน้ำหน้า!



        "มารับกูทำไมมิทราบ กูไปเรียนเองได้ ไม่ได้ขอด้วย" สีน้ำหันไปบอกกับอีกคนอย่างจริงจัง



        "ก็จีบมึงอยู่เลยต้องมาทำคะแนน" ฟ็อกซ์มองหน้าอีกคนพร้อมตอบออกมาหน้านิ่งๆ สีน้ำชะงักไปทันทีกับคำพูดของอีกคนพร้อมถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู



        "อะไรนะ?"



        "กูบอกว่ากูกำลังจีบมึง" สีน้ำหน้าร้อนผ่าวทันทีกับคำตอบของอีกคนจนต้องหันหน้าหนีด้วยความขวยเขิน ฟ็อกซ์เห็นใบหน้าใสที่ขึ้นสีระเรื่อก็กระตุกยิ้มมุมปากเบาๆก่อนจะออกรถ...ฟ็อกซ์มาส่งสีน้ำที่หน้าตึกคณะโดยที่สีน้ำไม่บอกลาอะไรอีกคนทั้งนั้นพอรถจอดก็รีบเปิดประตูลงไปทันที แหงแหละ...หัวใจของเขายังเต้นไม่สงบเลย แม่ง แค่คำว่าจีบใครๆก็พูดได้ป่ะวะ ทำไมต้องหัวใจเต้นแรงด้วยเนี่ย



          “สีน้ำ” เสียงของหมอกเรียกขึ้นทำให้สีน้ำเดินไปหาเพื่อนสนิททันที

 

         “มาเช้าจัง?”



          “มาพร้อมพี่คินน่ะ” หมอกตอบหน้าแดงๆ สีน้ำยิ้มๆให้กับเพื่อนสนิทที่เหมือนว่าตอนนี้ความรักเริ่มจะราบรื่นขึ้นมาบ้าง หมอกกับพี่คินคืนดีกันแล้วและเหมือนทางบ้านของหมอกจะเปิดโอกาสให้พี่คินแล้วด้วยแต่ไม่ใช่ทั้งหมดนะ คงต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ เขาเองก็เอาใจช่วย พี่คินรักหมอกมากและหมอกเองก็รักพี่คินมากเช่นเดียวกันไม่รู้ว่าทำไมแต่ก่อนเขาถึงมองไม่ออกนะ ทำไมถึงได้ร่วมแผนทำแผนการบ้าๆกับอีกคนเพื่อหวังจะแย่งพี่คินมาให้ได้ทั้งที่ความจริงแล้วถ้านับเป็นการแข่งขันเขาก็แพ้ตั้งแต่ไม่ได้เริ่มแล้วล่ะ



          “แล้วสีน้ำมายังไงอ่ะ? รถเมล์เหรอ?” หมอกถามขึ้น



          “เอ่อ...อื้ม” สีน้ำพยักหน้าตอบไปเพราะไม่อยากบอกความจริง ไม่ได้อยากปิดบังนะเพียงแต่เขายังไม่มั่นใจเลยว่าควรตอบหมอกว่ายังไงดี มากกับฟ็อกซ์ แล้วทำไมถึงมาด้วยกันรวมถึงเป็นอะไรกัน



           ‘กูบอกว่ากูกำลังจีบมึง’ คำพูดของอีกคนลอยเข้ามาในหัวของสีน้ำอีกครั้งใบหน้าใสขึ้นสีระเอทันที



          “เออใช่ๆ เราลืมบอกสีน้ำไปเลย วันนี้อาจารย์สินขอแรงเอกเราช่วยทำป้ายโฆษณางานของกิจการนักศึกษาหน่อย น่าจะเลิกดึกแน่ๆ” สีน้ำทำหน้ายู่ทันทีที่ได้ยินแม้ว่าจะเริ่มชินบ้างแล้วที่ว่าคณะของเขชาโดยเฉพาะสาขาของเขาที่พอมีงานคณะหรืองานมหาวิทยาลัยทีไรมักจะได้รับหน้าที่ทำป้ายโฆษณาตลอดและก็ชอบสั่งกันแบบกะทันหัน แบบสั่งวันนี้เสร็จพรุ่งนี้ พวกเขาก็คนนะเว้ยไม่ใช่หุ่นยนต์



          “น่าเบื่อจริงๆ” สีน้ำบ่นอุบอิบออกมา หมอกยิ้มๆนิดๆกับคำพูดของเพื่อนสนิท



          “นั่นสิ...ว่าแต่คืนนี้สีน้ำกลับกับเรามั้ย? เดี๋ยวเราให้พี่คินแวะไปส่ง เลิกดึกรถเมล์อาจจะหมดก็ได้” สีน้ำทำหน้าครุ่นคิดกับคำพูดของหมอก ไม่แปลกที่ว่าพอเลิกดึกแล้วพี่คินจะมารับหมอกเพราะสองคนเป็นแฟนกันส่วนเขา...ฮึ่ยๆๆ เขาจะไปนึกถึงอีกคนทำไมกันนะ ไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย



          “อื้ม ยังไงรบกวนด้วยนะ”...เที่ยงคืน...กว่าป้ายงานโฆษณาของกองกิจการนักศึกษาจะเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน นักศึกษาปี1คณะสถาปัตยกรรม สาขาออกแบบทัศนศิลป์พากันโห่ร้องกันอย่างดีใจที่จะได้กลับไปนอนที่หอพักกันเสียทีหลังจากที่นั่งทำป้ายนี้มาตั้งแต่ห้าโมงเย็น



          “พี่คินทางนี้ครับ” หมอกโบกมือเรียกคนรักทันทีที่เห็นคินเดินเข้ามาที่ใต้โถงคณะ สีน้ำหันไปมองเช่นเดียวกันก่อนจะชะงักที่เห็นใครบางคนที่เขาไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้เดินมาด้วย



          “อ้าวฟ็อกซ์” หมอกทักฟ็อกซ์ที่เดินมากับแฟนอย่างงงๆ เขาเองก็ไม่ได้สนิทอะไรกับฟ็อกซ์หรอกเพียงแค่อีกคนสนิทกับพี่คิน เขาเลยพอรู้จักไปด้วย แต่เวลาแบบนี้เด็กสาขาสถาปัตยกรรมมาทำอะไรกันแถมยังใส่ชุดลำลองธรรมดามาด้วยแปลว่ากลับไปแล้วและมาอีกครั้ง



          “กลับยัง?” ฟ็อกซ์หันมาถามสีน้ำ ทำให้ทั้งคินและหมอกหันมามองทันที



          “กูกลับพร้อมหมอก” สีน้ำว่าพร้อมคว้ากระเป๋าขึ้นมาทำท่าจะกลับแต่ฟ็อกซืก็ดึงกระเป๋าร่างบางไว้ก่อน



          “อะไรของมึง...อ๊ะ” สีน้ำสะดุ้งทันทีขณะที่กำลังโวยวายใส่อีกคน นิ้วเย็นๆของอีกคนที่แตะเข้าที่แก้มเบาๆทำให้อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายของสีน้ำเต้นรัวขึ้นมา นี่มันใต้โถงคณะนะเว้ย แล้ว...แล้วต่อหน้าเพื่อนในสาขาเขาอีกหลายสิบคน



          “ระบายสียังไงวะเปื้อนยันแก้ม” ฟ็อกซืว่าหลังจากที่เช็ดคราบสีให้อีกคน



          “เดี๋ยวนะๆ มีอะไรจะเล่าให้กูฟังมั้ยฟ็อกซ์” คินพูดขัดขึ้นทันที



          “นั่นสิสีน้ำ แบบว่าสีน้ำกับฟ็อกซ์...แบบว่า...”



          “ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ก็แค่คน...”



          “ผมจีบสีน้ำอยู่น่ะพี่” ฟ็อกซ์พูดขัดขึ้นทันที สีน้ำทำตาโตพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ เสียงโห่แซวของเพื่อนๆในสาขาที่ได้ยินประโยคเด็ดของฟ็อกซืดังขึ้นทันทีทำให้สีน้ำหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม



          “มึงพูดเชี่ยไรเนี่ย” ร่างบางหันไปโวยวายใส่อีกคนทันที



          “พูดความจริง ป่ะ...กลับกันเถอะ” ฟ็อกซืว่าพลางยักไหล่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของอีกคนมาถือให้แล้วจับมือบางเดินออกไปทันทีโดยที่สีน้ำไม่ทันได้คัดค้านอะไร...บรรยากาศบนรถตกอยู่ในความเงียบฟ็อกซ์ไม่ได้พูดอะไรส่วนสีน้ำก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน ตากลมเอาแต่มองออกนอกหน้าต่างเพราะยังรู้สึกเขินๆแปลกๆกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น แม้จะพยายามบอกตัวเองให้ใจแข็ง ห้ามอ่อนไหวแต่แม่งใครมันจะไปทำได้วะ ถ้าเป็นคนที่เขาไม่ได้รู้สึกด้วยก็คงจะพอไหวแต่กับอีกคน...แม่งๆๆๆ เลิกชอบมันตอนนี้ทันมั้ยวะ?



          “พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” ฟ็อกซ์ถามขึ้นขณะที่จอดรถอยู่ที่หน้าหอพักของสีน้ำ



          “บ่าย” สีน้ำตอบสั้นๆพร้อมทำท่าจะเปิดประตูลงแต่ความอัดอั้นในใจบางอย่างทำให้ร่างบางชะงักและหันไปหาอีกคนทันที



          “มึงทำแบบนี้ทำไมวะ?” สีน้ำถามอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมมองหน้าอีกคน



          “กูว่ากูตอบมึงไปแล้วนะ”



          “แต่ว่า...แต่ว่ามึง...” สีน้ำทำหน้าคิดหนักและสับสนไม่น้อย



          “กูกำลังจีบมึงเพราะกูชอบมึง” ฟ็อกซ์ตอบออกมาพร้อมมองหน้าสีน้ำอย่างจริงจัง สีน้ำชะงักพร้อมกัดปาก ตากลมหลุบต่ำไม่ได้สบตากับอีกคน



          “มึงยังไม่ต้องเชื่อกูก็ได้แค่ดูการกระทำของกูก็พอ” ฟ็อกซ์พูดต่อเมื่อเห็นว่าสีน้ำยังคงมีสีหน้าไม่ค่อยเชื่อและสับสนอยู่



          “แล้วถ้า...ถ้ากูยังเป็นแบบนี้ไม่ใจอ่อนกับมึงล่ะ มึงจะถอยมั้ย?” สีน้ำถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆนิดๆ บอกได้เลยว่าตอนนี้เขาใจอ่อนไปกว่าครึ่งแล้วแต่อีกใจดก็บอกว่าอย่าพึ่งยอมให้อีกคนไปทั้งใจ เขายังมั่นใจในตัวอีกคนไม่เต็มร้อย คนเจ้าเล่ห์ เจ้าแผนการ ไม่รู้ว่าพูดจริงพูดหลอกหรือว่าปั่นหัวอะไรเขาอีก เขาไม่สามารถคาดเดาจิตใจของอีกคนได้จริงๆ



          “กูก็...” ฟ็อกซ์ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้สีน้ำจนสีน้ำผงะ



          “...จับมึงปล้ำจนมึงยอมใจอ่อนกับกูเองไง”



          “ไอ้เชี่ย!!” สีน้ำผลักอีกคนออกอย่างแรงพร้อมด่าเสียงดังแล้วทำท่าจะลงจากรถทันที ฟ็อกซ์หัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะพูดขึ้นอีกคน



          “กูรอได้ รอให้มึงมั่นใจ นานแค่ไหนก็รอ ก็ชอบไปแล้วนี่หว่าทำไงได้”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เกลียดๆๆๆ เกลียดอิหมาจิ้กจอก 55555 คือเกลียดที่นางเต๊าะเก่งอะไรแบบนี้ คือนางเป็นคนไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆเนอะ เห็นจากตอนแรกๆกว่าจะทำให้สีน้ำยอมร่วมมือได้ไรงี้ เรื่องแค่นี้นางไม่มายค่า ตอนหน้าจบแล้วเน้ออออ ฮือๆๆๆ ฝากติดตามด้วยนะคะ

___จางบิวตี้___

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เป็นแบบนี้ทั้งบ้านเลยใช่มั้ยเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด