11
NURSERY BLUE
ปีใหม่ผ่านไปแล้ว ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาผมได้กลับบ้านไปใช้ช่วงวันหยุดที่นั้น แต่ในใจก็ยังคิดถึงอีกคนอยู่ตลอดเวลา ‘ ไปบ้านฉันไหม ปีใหม่นี้จะพาทีกลับบ้านใหญ่ไปด้วยกันนะ ’ ตอนที่ได้ยินคำถามนี้ผมคิดว่าตัวเองคงฝันไปแน่ๆไม่คิดว่าคุณธามจะชวน แต่พอกลับมาคิดดีๆแล้วเขาอาจจะชวนผมในฐานะพี่เลี้ยงที ไม่ได้มีความพิเศษอะไรหรือในทางกลับกันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น คิดไปคิดมาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เฮ้อ…….
แล้วนอกจากเรื่องนี้ยังมีเรื่องมาให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองเพิ่มอีก คืนวันสินปีคุณธามโทรมาถึงจะโทรมาตอน5นาทีสุดท้ายก่อนเข้าปีใหม่ก็เถอะ แล้วตอนบอกสวัสดีปีใหม่นั้นอีกเล่นเอาตกใจเหมือนกันแต่ก็ดีใจมากกว่าแบบนี้จะคิดเข้าข้างตัวเองมากไปไหมนะ
สุดท้ายนี้คนที่ทำให้ผมมีเรื่องคิดวนไปวนมาในหัวกลับหายตัวไปสองวันแล้ว ผมกลับมาเปิดเนอสเซอรี่ได้สองวันแล้ว และก็เป็นสองวันที่คุณธามขาดการติดต่อไป พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วนะหรือว่าจะไปทำงานทีต่างประเทศอีกถ้าไปทำงานแล้วทีอยู่กับใครละหรืออะไรยังไงโทรไปถามดีไหมนะ เริ่มเซ็งที่จะคิดเองแล้วด้วยเอาวะโทรไปหาแล้วกันดีกว่ามานั่งคิดให้ปวดหัว ส่งเด็กๆกลับบ้านก่อนค่อยโทรแล้วกัน เด็กๆเริ่มทยอยกลับบ้านกันไปบ้างแล้วส่วนคนที่เหลืออยู่ก็พากันเล่นอยู่ในบ้าน เอาสมุดภาพมาเปิดดูบ้างเล่นตุ๊กตาบ้างระหว่างรอพ่อกับแม่มารับ ผมก็เข้าไปเล่นกับเด็กๆจนเด็กคนสุดท้ายกลับบ้าน
“ บะบายฮะ พี่ปาม”
“บายครับ”
พอส่งเด็กๆเสร็จผมก็ปิดประตูหน้าบ้านแล้วเข้ามาข้างใน เก็บกวาดของเล่นที่เด็กๆเล่นกันให้เข้าที พอทุกอย่างเข้าทีเข้าทางหมดแล้วก็หยิบโทรศัพท์มานั่งที่โซฟา นั่งชั่งใจสักพักก่อนจะโทรออกหาปลายสายรอไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา
[ ครับ ]
“ ฮันโหล คุณธาม”
[ ปาม]
“ ครับผมเอง คือว่าผมไม่เห็นทีมาที่เนอสเซอรี่เลยโทรมาถามนะครับ”
[ ที… โทษทีนะไม่ได้โทรบอก ทีไม่สบายก็เลยยุ่งๆ]
“ ทีไม่สบายหรอครับ ตอนนี้เป็นไงบ้างครับดีขึ้นหรือยัง”
[ ก็ดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้หมอนัดให้ไปดูอาการอีกที]
“ แล้วคุณธามกลับมาจากบ้านใหญ่หรือยังครับ”
[ กลับมาแล้ว]
“ อ้าว แล้วตอนกลางวันคุณธามไปทำงานใครอยู่กับน้องละครับ”
[ อยู่ด้วยกันเอางานมาทำทีบ้าน ]
“ ถ้ามาอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะครับไม่ต้องเกรงใจ หรือถ้ายังไงพาทีมาที่บ้านก็ได้นะครับจะได้ช่วยกันดู”
ใจจริงอยากจะให้พามาที่บ้านมากกว่าผมเป็นห่วงน้อง ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่เคยเห็นทีไม่สบายเลย คิดภาพทีตอนไม่สบายไม่ออกเลย ทีเป็นเด็กอารมณ์ดีอาจจะมีงอแงบ้าง
[ ไม่อยากพาไปเดียวเด็กที่นั้นจะพากันติดหวัด แต่ถ้าปามมาทีคงจะดีใจ]
หืม?
หมายถึงจะให้ผมไปหาทีแทนนะหรอ มันก็คงจะดีกว่าให้น้องมาหาผมอยู่นะทีไม่สบายอยู่ด้วย
“ ผมไปได้หรอครับ งั้นพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆผมจะเข้าไปนะครับ”
[ เย็นนี้ มาเย็นนี้ได้ไหมแล้วพรุ่งนี้พาทีไปหาหมอไปด้วยกันนะ]
พอฟังคุณธามพูดจบ ผมรู้สึกเหมือนโดนสะกด ทำไมเสียงเหมือนกำลังอ้อนละ แล้วทำไมต้องมีนะลงท้ายด้วยแล้วทำไมผมต้องใจเต้นวะครับ
“ คือว่ามัน….”
[ มาเถอะนะ เอาเสื้อผ้ามาค้างที่นี้ด้วยเดียงส่งแผนทีไปให้]
“ ครับ แล้วคุณธามกินข้าวหรือยังผมจะไปซื้อเข้าไปด้วยคุณธามอยากกินอะไรไหม” มาขนาดนี้ผมคงต้องตกลงแล้วละ
[ ยังไม่ได้กิน แล้วแต่ปามเถอะ]
“ ได้ครับ ครับ แล้วเจอกันครับ”
หลังจากวางสายคุณธามก็ส่งแผนที่มาให้ หือ? แล้วนี้เลขอะไรละเนี่ย พอดูแผนที่ดีๆ นี้มันทางไปคอนโดxx นิหรือนี้จะเป็นเลขห้อง คุณธามอยู่คอนโดหรอเอาน้าไปถึงเดียวก็รู้เองนั้นแหละ
ผมลุกไปเก็บของใส่เป้ นอกจากเสื้อผ้าตัวเองแล้วก็หยิบเสื้อผ้าทีมาด้วย ผมรู้สึกแปลกๆอยู่นะทุกทีจะเป็นคุณธามมาค้างที่บ้านแต่วันกลายเป็นผมที่ต้องไปค้างที่บ้านคุณธามแทนแอบตื่นเต้นเหมือนกันนะ เก็บของใส่เป้เสร็จผมก็ปิดบ้านล็อกให้เรียบร้อยแล้วสะพายเป้เดินไปขึ้นรถ แวะไปซื้อกับข้าวที่ร้านก๋วยจั๋บตรงสวนสาธารณะที่เคยมาก่อนหน้านี้แล้วก็ขับรถตรงไปบ้านคุณธามเลย
พอมาถึงที่หมายถึงก็เจอคอนโดหลาย10ชั้นตรงหน้า พอลองโทรพาถามคุณธามก็บอกว่ามาถูกแล้วขึ้นมาตามเลขชั้นเลขห้องที่คุณธามให้มาได้เลย ตอนมาก็ไม่ได้อะไรนะแต่พอจะเข้าลิฟต์นี้สิอยู่ๆก็ตื่นเต้นยิ่งพอประตูลิฟต์เปิดยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ ใจเย็นๆสิวะปามตื่นเต้นอะไรเนี่ย หายใจเข้าลึกกกกกก หายใจออกกกกก ใช่นั้นแหละๆใจเย็นๆโอเค๊
ผมเดินมาถึงหน้าห้องที่มีเลขเดียวกันกับที่คุณธามส่งมาให้ มีกริ่งหน้าด้วยผมต้องกดกริ่งนี้สินะ ต้องกดกี่ครั้งวะครั่งเดียวคุณธามจะได้ยินไหม กดสักสองครั้งเป็นไง เออๆสองครั่งกำลังดีว่าแล้วก็กดครับ กดไปหนึ่งครั้งแล้วก็เว้นช่วงหน่อยค่อยกดอีกที พอจะกดอีกทีเท่านั้นแหละประตูก็เปิดออกมาพร้อมกับเจ้าของห้อง
“ มาแล้วหรอเข้ามาสิ”
“ ครับ”
คุณธามเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อให้ผมเดินเข้าไป แล้วก็รับถุงที่ผมถือขึ้นมาเอาไปถือเอง
“ ทีนอนอยู่หน้าโซฟาเข้าไปหาสิ”
พอพูดจบเจ้าตัวเขาก็เดินแยกออกไป อีกทางพอมองตามไปก็เห็นคุณธามเดินเอาของเข้าไปเก็บในครัว ผมมองไปรอบๆห้องก่อนจะเดินเข้าไปที ห้องคุณธามบ่งบอกถึงเป็นผู้ชายจริงๆนะ ในห้องไม่ค่อยมีของตกแต่งเยอะอย่างที่คิดของส่วนใหญ่ที่เห็นก็เป็นของใช้จำเป็นที่ต้องมีเท่านั้น สีในห้องออกโทนทึบซะส่วนใหญ่ ผนังห้องเป็นสีขาวส่วนพวกเฟอร์นิเจอร์ต่างๆถ้าไม่เป็นสีดำก็น้ำตาลเข้ม เดินมาถึงโซฟาหน้าทีวีผมก็เจอเด็กน้อยนอนตาเยิ้มเพราะไม่สบายกำลังดังหางปลาโลมาอยู่ ผมวางเป้ไว้ข้างโซฟาแล้วคลานเขาเข้าไปหาที
“ ว่าไงครับคนเก่ง เป็นไงบ้างหืม ”
ผมยืนมือไปจับมือทีน้องก็จับตอบครับ ท่าทางทีดูซึมลงไปเยอะเลย
“ ปัม”
“ ครับพี่ปามเอง วันนี้พี่ปามจะมาอยู่เป็นเพื่อนนะ”
ผมนั่งคุยอยู่กับทีสักพักคุณธามก็เดินมานั่งด้วย
“ หมอบอกว่าทีเป็นอะไรหรอครับ”
“ ไข้หวัดนะ เป็นตอนที่กลับบ้านใหญ่อาจจะเพราะออกมาเล่นข้างนอกตอนอากาศหนาวเลยทำให้ไม่สบาย นี้ก็ดีขึ้นมากแล้วตัวไม่ร้อน แต่พรุ่งนี้หมอนัดไปดูอาการอีกที”
“ งั้นคงจะใกล้หายแล้วสิครับ ใช่ไหมคนเก่งรีบหายเร็วๆนะจะได้ไปเล่นกับพี่ที่บ้านไงเนอะ”
ผมนั่งเล่นกับทีไปพักใหญ่ๆน้องก็หลับครับ กินยาสักพักน้องก็หลับก่อนกินยาผมเช็ดตัวให้ทีเรียบร้อย เจ้าตัวเลยนอนตัวตัวหอมฟุ้งอยู่บนเบาะ ผมกับคุณธามเลยออกมานั่งกินข้าวกันแล้วก็คุยกันนิดหน่อยเลยรู้ว่าตั้งแต่กลับมาจากบ้านใหญ่คุณธามดูแลทีคนเดียวแถมยังต้องทำงานอีก(เอางานมาทำที่บ้าน)เลยยุ่งไปหมดทำให้ไปได้โทรไปบอกว่าทีไม่สบาย
“ แปลกใจหรอ ที่เป็นคอนโดแทนที่จะเป็นบ้าน”
อยู่ๆคุณธามก็ถามขึ้น อาจะเป็นเพราะว่าผมเอาแต่มองนู้นมองนี้ไปทั่วห้องก็ได้
“ นิดหน่อยครับ”
“ นี้เป็นคอนโดที่ซื้อตั้งแต่ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆนะพอแต่งงานไปก็ซื้อบ้านหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้มาอยู่นี้เท่าไรของเลยดูน้อยๆแต่พอหย่าบ้านหลังนั้นเลยยกให้อีกฝ่ายไป ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกเรื่องมันผ่านมาจะปีแล้ว”
“ ครับ”
นั้นสินะคุณธามแต่งงานแล้วแหละตอนนี้ก็มีลูก ผมลืมไปได้ยังไงว่าคุณธามแต่งงานแล้วแต่งงานกับผู้หญิงถึงจะหย่ากับไปแล้วแต่ความจริงที่ว่าคุณธามชอบผู้หญิงก็ไม่เปลี่ยนไปอยู่ดี
“ผมขอไปดูทีหน่อยนะครับ ไม่อยากปล่อยให้น้องนอนคนเดียว”
พูดจบผมก็ขอตัวเดินออกมาเลยไม่ได้หันกลับไปมองด้วยซ้ำว่าคนที่นั่งอยู่ฝั่งทำหน้ายังไง หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกคุณธามเข้าไปทำงานในห้องส่วนผมก็นอนอยู่กับทีหน้าโซฟาคุณธามมีออกมาดูบางพอทำงานเสร็จก็เอาผ้ามาปูนอนอีกฝั่งของที อยู่ๆผมก็รู้สึกไม่พร้อมที่จะคุยกับด้วยเลยทำได้แค่ทำเป็นนอนหลับทั้งอย่างนั้นได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้เช้าไอ้ความรู้สึกแบบนี้จะหายไป
อืม ~
อย่าทำสิ เพราะเมื่อคืนเอาแต่คิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเช้านี้เลยทำให้ไม่อยากตื่นสักเท่าไร แต่ก็อะไรบางอย่างมาก่อกวนด้วยการแตะหน้า ถึงจะไม่ได้แตะแรงอะไรแต่แตะซ้ำๆมันก็ไม่ไหวนะ พอคว้าสิ่งก่อกวนได้ก็กลายเป็นมือเล็กๆนิ่มๆลืมตาขึ้นดูก็เห็นตัวก่อกวนกำลังยิ้มให้
“ ตื่นแล้วหรอ ตื่นมาก็กวนเลยน้าาาา”
ผมเลยดึงทีเข้ามากอดเอามือลูบเข้าไปใต้เสื้อหน้าผากก็เอามาชนกัน อืม ตัวไม่ร้อนแล้ว ตาก็ไม่เยิ้มเหมือนเมื่อวานแถมยิ้มหวานแต่เช้าอีกน่าจะหายแล้ว ยังไงก็ไปให้หมดตรวจดูหน่อยละเนอะ
หลังจากฟัดแก้มทีไปสองสามทีแล้วผมก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองเลยตรงทีนอนไปหน่อยก็เห็นคุณธามยังนอนอยู่ อีกสักถ้าไม่ตื่นค่อยปลุกละกัน ผมเลยอุ้มทีเข้าไปล้างหน้าด้วยกันในห้องน้ำ ผมยังไม่ได้อาบน้ำให้ทีสายๆหน่อยค่อยเช็ดตัวเอา เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นคุณธามเริ่มขยับตัว
“ที ปะปาไม่ยอมตื่นทำไงดีน้า”
“ ปา จื่น”
“ ช่ายยยไม่ยอมตื่น ทีไปปลุกนะ เหมือนปลุกพี่ปามไงแบบนี้ๆ”
ผมเอามือไปตีแก้มทีเบาๆเป็นตัวอย่าง ทีก็จับมือผมไว้แล้วมือตัวเองมีตีแก้มผมบ้าง
“ แบบนี้แหละ เก่งมาครับ ไปปลุกเลยปลุกให้ตื่นนะ”
ผมพาทีเดินมาใกล้ๆกับตรงที่คุณธามนอนแล้วปล่อยที่ลง ทีก็คลานเข้าไปหาคุณธามพอคลานไปถึงก็หันกลับมามอง ผมเลยทำท่าเอามือตีๆให้ทีดู ทีก็หันกลับไปแล้วคลานเข้าไปบนตัวคุณธามก่อนจะเอามือมาวางทีหน้าแล้วถูๆ
“ อืมม”
โอ๊ะ ขยับตัวแล้ว พอทีเห็นแบบนั้นก็ทำอีก คราวนี้คุณธามลืมตาขึ้นมามองแถมเอามือมาจับมือทีไว้อีก พอโดนจับได้เจ้าตัวน้องก็หัวเรากลบเกลื่อนทันที
“ คิกคิกๆ”
“ กวนป๊าแต่เช้าเลยน้า”
พ่อลูกเขาก็ฟัดแก้มกันไปสักพักก็ขัยตัวพากันลุกขึ้นนั่ง แล้วมองมาทางผม
“ ปัมๆ”
พอลุกขึ้นนั่งได้หันมาเจอทีก็เรียกชื่อพร้อมกับชีมื้อมาทางผม อะไรนี้จะฟ้องมาผมเป็นคนบอกให้ทำหรอไม่หรอกน่า แต่แล้วทีก็ลุกขึ้นจะเดินมาหาผมแต่ก็เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ลงไปคลานเข้ามาหาผมแทน มาถึงก็ดึงมือผมมาตีทีแก้มตัวเอง แล้วหัวเราะคิกคัก
ทำตัวหน้ารักแต่เช้าเลย
“ คิกคิก ปัม”
“ หืม จะบอกว่าปามพาทำหรอที ไหนบอกป๊าสิปามไหม”
“ ปัมๆ “
ผมคิดว่าน้องไม่เข้าใจคำถามของคุณธามหรอกแค่ชื่อผมมันท้ายประโยค น้องเลยพูดตามไง แต่คนถามนี้สิพอได้ฟังคำตอบก็ยักคิ้วใส่ผมซะงั้นแถมยังขยับเข้ามาใกล้ๆแล้วเอามือมาตีแก้มผมเหมือนทีทีทำอีก
“ แบบนี้ใช่ ทำแบบนี้ใช่ไหมที”
“ ตำๆ”
แล้วตอนนี้ผมก็กลายเป็นของเล่นให้พ่อลูกคู้นี้ไปซะแล้ว คนพ่อเอามือมาตีแก้มผมส่วนคนลูกนิเอามือผมไปตีแก้มตัวเอง แต่ใกล้ขนาดนี้ก็แอบใจเต้นเหมือนกันนะ หัวใจจ๋าเต้นเบาๆสิเดียวเขาก็ได้ยินกันพอดี
“ พอแล้วครับ คุณธามบอกว่าวันนี้จะพาทีไปหาหมอไม่ใช่หรอครับ จะไปตอนไหนหรอครับ”
“ อืม 10โมง ยังพอมีเวลาอยู่ไม่ต้องรีบหรอก”
“ ครับ งั้นผมขอใช้ครัวนะ ทีอยู่กับปะป๋านะเดียวพี่ปามไปทำข้าวเช้า”
ช่วงเช้าผ่านไปเป็นปกติเหมือนอย่างทุกทีพอถึงเวลาที่ต้องออกไปโรงพยาบาล คุณธามก็เก็บของใช้จำเป็นใส่เป้ของทียกขึ้นสะพายหลังปิดไฟปิดแอร์ในห้องให้เรียบร้อน ส่วนผมอุ้มทียืนรออยู่หน้าปะตูแล้ว
ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงโรงพยาบาลครับ คุณเข้าไปติดต่อที่เคาร์เตอร์ส่วนผมก็พาทีมานั่งรอ เห็นคุณธามบอกว่ามาคราวก่อนทีโดนฉีดยาไปเข็ม พอวันนี้พามาอีกแค่เห็นเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเท่านั้นแหละทีปล่อยตุ๊กตาในมือแล้วกอดคอผมแทน
“ เป็นอะไรไปหืม ไปเราไม่เล่นตุ๊กตาแล้วหรอ”
“ อืมมมมม”
ทียังกอดคอผมอยู่ไม่ยอมปล่อย คุณธามกลับมาแล้วเข้ามานั่งด้วยเห็นทีกอดผมอยู่ ก็เอาตุ๊กตามาล่อแล้วบอกให้นั่งลงดีๆ
แต่ทีก็ไม่ยอม แถมไม่คุยกับคุณธามด้วย
“ ครั้งก่อนที่มาน้องร้องไห้หรอครับ”
“ อืม ใช่พอฉีดยาเสร็จ ไม่สิร้องตั้งแต่ฉีดยาละมั้งหลังจากนั้นก็มีงอแง”
อ๋อ มิน่าละ ไม่แปลกใจแล้วละครับว่าทำไมทีมีอาการแบบนี้ น้องคงจำได้ว่าครั้งก่อนที่มาโดนฉีดยาพอครั้งนี้มาอีกเลยคิดว่าต้องโดนอีกแน่นๆ แล้วที่ไม่ยอมคุยกับคุณธามก็เพราะคุณธามเคยพามาแล้วโดนฉีดยานะสิ เด็กๆที่ผมรู้จักก็มีอาการแบบนี้เหมือนกันครับ
“ กลัวเข็มหรอที หืม ไม่ต้องกลัวหรอกวันนี้แค่มาให้หมอตรวจเฉยๆเนอะ”
นั่งคุยกับทีได้ไม่นานเสียงพยาบาลก็เรียกให้เข้าไปพบหมอ พอเข้าไปน้องก็ไม่ยอมปล่อยมือจากผมเลยจนคุณหมอต้องเดินเข้ามาตรวจเอง
“ อะไรกันกลัวหรอตัวเล็ก รอบก่อนยังเล่นกันอยู่เลยนะเรา”
คุณหมอคุยเล่นกับทีไปก็ตรวจทีไปด้วย ส่วนทีก็ยังไม่ปล่อยมือจากผมเหมือนเดิม จนคุณหมอตรวจเสร็จ
“ เป็นไงบ้างครับ”
“ ไม่เป็นอะไรแล้วละครับสบายใจได้ แต่ช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งอาบน้ำให้น้องนะครับเช็ดตัวให้ไปก่อนอีกสักพักค่อยอาบให้ อะไรจะไม่
หันมาหากันหน่อยหรอตัวเล็ก เดียวให้วิตามินซีน้า”
สุดท้ายทีก็ยอมหันมานิดหน่อยตอนที่หมอยื่นวิตามินซีให้ พอตรวจเสร็จแล้วก็เบาใจขึ้นเยอะทีดีขึ้นแล้วยาตัวที่ให้ไปก่อนหน้านี้ก็ไม่ต้องกินแล้ว แต่รอบนี้ก็จะมาวิตามินให้กลับไปกินนิดหน่อย ระหว่างรอจ่ายค่าพยาบาลผมกับคุณธามก็พาทีมานั่งรอที่เดินพอนั่งลงเจ้าตัวเขาก็ยื่นซองวิตามินที่ได้ให้ดู พร้อมโบกไปมาพอไม่โดนฉีดยาก็อารมณ์เชียวน้า
“ ธาม”
แล้วอยู่ๆก็เสียงผู้หญิงเรียกคุณธามมากข้างหลังผม พร้อมกับเสียงเดินที่เข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดลงตรงหน้า
“ ธาม มาทำอะไรทีนี่ ทีไม่สบายหรอ”
“……”
“ ได้ยินเราไหมธาม อย่าเอาแต่จ้องสิตกลงว่าไงละ”
“ ทีไม่สบาย แต่หายแล้ว”
“ อืมๆ ทีไม่สบายหรอครับ มานี้มาขอแม่อุ้มหน่อย”
แม่?
หมายความว่าไง
ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของทีงั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นคน คนนี้ก็เป็นภรรยาของคุณธามใช่ไหม พอมองดีๆแล้วทีก็มีส่วนคล้ายกันอยู่บ้าง รอยยิ้มนี้ก็เหมือนกัน เธออุ้มทีไปจากผมแล้วหอมแก้มทีเบาพูดคุยหัวเราะกัน พอหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆผมเขาก็กำลังมองในสิ่งที่ผมมองเหมือนกัน แต่ผมไม่รู้ว่า คุณธามมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกแบบไหน
“ อันมาทำอะไรทีนี่”
“ อ๋อ อันมาฝากท้องนะ”
ผมไม่รู้ว่าผมควรพูดแสดงความยินดีด้วยไหม เมื่อเธอหันมายิ้มให้ผม ผมได้แค่ยิ้มตอบเธอไปส่วนคนถามเมื่อได้ฟังคำตอบก็
ไม่ได้ตอบอะไร ยังนิ่งเหมือนเดิมมองดูเธอเล่นกับที ตอนแรกผมบอกว่าไม่รู้ว่าคุณธามรู้สึกยังไงแต่ตอนนี้ผมบอกได้อย่างหนึ่งว่าความรู้สึกของผมกับคุณธามที่มองไปที่เธอนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง
..................TBC........................