ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231896 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
มากมายจริงๆ คุณแม็ก

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ความแม็กซ์มาเต็มมม

ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ออกจิตๆ แต่ชอบอ่ะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ kawoat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
โอยยย น้ำตาลขึ้นเจ้าข้าเอ้ยยย

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
มุ้งมิ้งๆ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ไม่รู้สึกว่ามันหวานเท่าไร คือมันผิดธรรมชาติมากๆอ่ะ พระเอกดูหมกมุ่นและน่ากลัวนิดๆ เขายึดมั่นถือมั่นมากจริงๆ แลดูเป็นคนไม่มีวุฒิภาวะสมตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าไร แต่ก็รออ่านนะ เผื่อมีอะไรเข้ามาเปลี่ยนหรือเกิดปมอะไรบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เริ่มกลัวใจแม็กซ์อ่ะ อย่าจิตเยอะนะ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
จุใจมาก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
รักปานจะกลืนกิน  ต้องใช้คำนี้เลย  อดีตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้  ขออย่าให้มีดราม่าหนัก ๆ นะคะ ยังสงสัยใครด่าข้าว 

รอค่ะ  ขอบคุณค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แม๊กดูน่ากลัวแต่ก็อบอุ่นดี

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รักมากจนน่ากลัว~

ออฟไลน์ jaevin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-3
รอออๆ

ออฟไลน์ Bangzazazall

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ข้าว เธอเป็นนายเอกที่ฉันอิจฉามากที่สุด เท่าที่เคยอ่านนิยายมากเลยนะย่ะ แม็กซ์นางดูหลงจนหัวปรักหัวปรัม จนฉันกลัว555555555 แต่ก็ยังชอบอ่ะ ._. อยากรู้อดีตของแม็กซ์แล้ว จะทำให้ข้าวเจ็บหรือเปล่านะ? แต่ฉันรู้ว่าหล่อนรักข้าวหล่อนจะไม่ยอมให้ข้าวต้องเจ็บแน่ๆ ฉันเชื่อ!

ออฟไลน์ goldentime

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เเม็กซ์นี้โรคจิตเต็มขั้นเลย 5555 อิจฉาข้าวจริงๆ

ออฟไลน์ Cloudnine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 730
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
nc เยอะม๊ากกกกก! ไม่รู้จะหมั่นไส้ใครมากกว่ากันดี ข้าวก็ขี้อวด แต่แม๊กซ์ก็ใช่ย่อย
สรุปครอบครัวนี้น่าหมั่นไส้ค่าาาาา 5555
หวานกันจัง พระเอกเป็นนักเปย์ตัวยง อิจฉาน้องข้าวจริงๆ
อยากรู้อดีตของแม๊กซ์จังค่ะ เลวร้ายมากเลยหรอ? หรือยังไง?

 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
8.

ผมนั่งอยู่บนรถขากลับจากฮอลล์เมโทรโพลิตัน การแสดงดนตรีสดคลาสสิค

จริงๆ แล้วผมกับแม๊กซ์ก็ไม่ใช่คอดนตรีคลาสสิคหรอก เขาชอบฟังก็จริงแต่ก็ไม่ใช่แฟนตัวยงอะไรทำนองนั้น แต่ครั้งนี้เขาจองตั๋วที่ดีที่สุดเพื่อให้ผมและลูกได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลง

คนไทยว่าไว้ อันชนใดไร้ดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนักก็คงจริง เพราะถึงแม้จะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ดนตรีครั้งนี้ก็ไพเราะนุ่มนวล บางครั้งก็ตื่นเต้นเร้าใจ และบางครั้งก็แสนสนุก แสนซนเหมือนอยู่กลางป่าใหญ่

ผมอยากให้ลูกมีความสุข สัมผัสเสียงดนตรีหลากหลายแบบนี้ เข้าถึงอารมณ์แบบนี้ พวกเราจึงตัดสินใจจองตั๋วคอนเสิร์ตเพื่อฟังดนตรีสด

ครั้งนี้เราสวมชุดสุภาพเพื่อให้เกียรติสถานที่โรงโอปราห์อันหรูหรา ทุกหนทุกแห่งระยิบระยับด้วยทองคำและสีแดงเข้ม แม๊กซ์เตรียมชุดสำหรับผู้หญิงให้ผม ถึงจะตะขิดตะขวางใจ แต่กางเกงแสล็กที่มีอยู่ก็เริ่มคับแล้ว ในที่สุดก็ต้องยอมใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน ปักลายดอกไม้ดูเข้ากับฤดูใบไม้ร่วง รองเท้าที่สวมเป็นรองเท้าส้นเตี้ยใส่สบาย แม๊กซ์สั่งตัดให้ผมโดยเฉพาะเพราะกลัวว่าผมจะโดนรองเท้ากัด รองเท้าสีขาวมุกเหลือบฟ้าประดับด้วยมุกแท้และอัญมณีเข้ากับชุดและชุดเครื่องประดับ ผมของผมยาวเคลียไหล่ แม๊กซ์ตื่นเต้นจนจ้างบรรดาสาวประเภทสองที่เป็นช่างทำผม ช่างแต่งหน้ามาช่วยบรรจงแต่ง เกล้าผมขึ้น ประดับด้วยเครื่องประดับมุกเป็นหลัก พวกเขาบอกว่าเข้ากับอิมเมจสดใส บริสุทธิ์และเป็นคุณแม่หมาดๆ ของผม

เพราะรู้ดีว่าจะฝืนไปก็เท่านั้น แม๊กซ์เล่นขนทีมงาน ชุดเดรส เครื่องประดับและข้าวของไว้เพียบแบบนี้ ผมก็น้ำท่วมปาก ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยอมแต่งหญิงจัดเต็มสักครั้งในชีวิต

จิอาโน หัวหน้าทีมช่างชาวอิตาลีกรีดร้องอย่างยินดีเมื่อเห็นผลงาน เขาไม่ยอมให้แม๊กซ์เข้ามาดูกรรมวิธีเปลี่ยนผู้ชายให้เป็นผู้หญิง เปลี่ยนเกย์ให้เป็นตุ๊ดสาว เมื่อทีมงานเรียกแม๊กซ์เข้ามา ผมถึงคิดว่ามันก็คุ้มเหมือนกันนะ ที่ยอมแต่งหญิงเนี่ย

เพราะหนุ่มหล่อสามีผมอ้าปากค้าง หน้าแดงจัด ตาเบิกโต ยื่นมือออกมาเงอะงะ ชมเสียงสั่น "สะ สวยจัง"

ผมยิ้มเขินอาย จิอาโนบอกว่ายิ่งทำให้แก้มผมแดงขึ้นไปอีก

แล้วเราก็ขอบคุณทีมงานและลงไปชั้นล่าง แม๊กซ์จองลิมูซีนไว้แล้ว เราไปนั่งอยู่ด้านหลัง ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งรถหรู แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแต่งหญิง ผมจับกระโปรงอย่างไม่มั่นใจ ถามเสียงสั่น

"ดูแปลกไหม ?"

แม๊กซ์ลูบหน้า เขาอยู่ในชุดสูทสามชิ้นและหูกระต่าย "สวยจนผมอยากเก็บคุณไว้คนเดียว"

ผมยิ้มตอบ บิดถุงมือในมือเล่น "จริงเหรอ ?"

"จริงที่สุด"

"แล้วเทียบกับปกติแล้ว ?" ผมอยากรู้ว่าเขาอยากให้ผมแต่งหญิงมากกว่าหรือเปล่า

"ผมชอบทั้งคู่นะ" เขาหัวเราะ เอื้อมมือมาคลึงมือผมเบาๆ ช่วยสวมถุงมือทั้งสองข้าง ปิดท้ายด้วยแหวนแต่งงาน "คุณที่อยู่ที่บ้านเป็นแม่ของลูกๆ แต่คุณที่แต่งตัวสวยเป็นภรรยา... ทั้งหมดน่ะเป็นของผม ผมชอบทั้งคู่เลย"

ผมยิ้ม จูบแก้มเขาตอบ

ผมก็รักเขาที่สวมสูทและสวมเสื้อยืดย้วยๆ อยู่บ้านเหมือนกัน

เราจะเป็นคู่รักที่มีความสุขที่สุดในโลก

แม๊กซ์ที่รัก เป็นของข้าวนะ เป็นของข้าวตลอดไป

....


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
วันนี้เรามีนัดทำแอปเปิลดองกัน

จริงๆ แล้วผมพ้นไตรมาสแรกแล้วก็ไม่ค่อยแพ้ท้องเท่าไหร่ แต่แม๊กซ์ติดใจมะกอกดองที่ไม่สามารถทำให้ภรรยามีความสุขได้ เขาโทษตัวเองว่าทำให้ผมอาเจียน ทั้งๆ ที่จริงแล้ว รสชาติมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

แต่ถึงยังไง เขาก็ชวนผมไปซื้อแอปเปิลเขียวมาดองกับพิช ผู้เสนอตัวว่ารู้สูตรมาจากพันทิป จะทำแอปเปิลดองเมดอินนิวยอร์กกัน พิชรักเรื่องสนุกอยู่แล้ว มิน่าพวกเขาถึงคบกับผมได้นาน เพราะพวกผมน่ะยุ่งวุ่นวายสุดๆ พิชก็ชอบเรื่องวุ่นๆ ยิ่งคนเยอะ ยิ่งเรื่องเยอะ ยิ่งสนุก เขาถึงเสนอตัวว่าให้มาทำแอปเปิลดองกันที่บ้านเขา ปาป้าส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็รู้นิสัยภรรยาดีเลยช่วยพิชเคลียร์พื้นที่

วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง ปาป้าเอาร่มคันโตมากาง ป้าๆ พากันขอลาหยุด บ้าพลังสู้พิชไม่ไหว เลยมีแค่ผมกับแม๊กซ์ พิชกับปาป้าเท่านั้น

ผมให้แม๊กซ์หิ้วแอปเปิลเขียวอ่อนๆ จะได้กรุบกรอบมาสิบกิโล หลังจากแบ่งถวายพระไปสามกิโล ที่เหลือก็กะว่าจะดองแจก เผื่อพิชจะเอาใส่ถุงเล็กๆ เอาขายหน้าร้าน ผมจะได้เงินมากินขนมเล่นด้วย

แน่นอนว่าพิชเป็นคนต้นคิด ส่วนผมมีหน้าที่ทำ

ปาป้าเป็นสถาปนิกและเคยเป็นช่างไม้มาก่อนจึงใช้มีดคล่อง ส่วนสามีผม นอกจากเล่นกีฬาและทำงานแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นเลย ได้แต่หิ้วกล่องปฐมพยาบาลฉุกเฉินเหมือนผมกำลังเก็บกู้ระเบิดอย่างลุ้นระทึก

"ช่วยเอาไอ้กล่องนั่นไปจากหน้าฉันที" ผมบอก วางมีดอย่างเหลืออด แต่หน้าตาแม๊กซ์เหมือนผมไปทำภรรยาท้องเขาแท้ง

"แต่เจ้าหญิง...."

"เอาน่า เอาน่า" พิชมาช่วยไกล่เกลี่ยอย่างนึกสนุก ท่าทางคล่องแคล่ว "ข้าวใช้มีดเก่งจะตาย แล้วมีแม๊กซ์อยู่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว จริงไหม ?"

เขาน่าจะไปเป็นครูอนุบาลนะ ผมว่าพิชต้องเป็นครูที่ดีแน่ๆ เลย เพราะแม๊กซ์ยอมวางกล่องลง แต่ยังจับจ้องผมและมีดอย่างไม่ไว้วางใจ

"เก่งมากที่รัก" ปาป้าก็ชมด้วย หอมแก้มภรรยาเบาๆ แต่พิชดุทั้งๆ ที่หน้ายิ้ม

"เดี๋ยวผีผลักหรอก ถือมีดอยู่"

"ผี ?" ฝรั่งหุ่นหมีพลิกมีดปอกผลไม้ในมือเล่น พิชยิ่งดุ ดูไม่รู้เลยว่าหัวโบราณ "อย่าเล่นมีด เค้าถือ"

"คนไทยถือเยอะจัง"

"จำไว้ด้วยนะ" ผมสอนเด็กอนุบาลของตัวเองไปด้วย "เพราะเป็นกุศโลบายคนสมัยก่อนน่ะ ถ้าเล่นตอนถือมีดจะเป็นอันตราย"

"แค่บอกตรงๆ ก็เข้าใจแล้วนี่" ยังมีเถียง มือแอบหยิบแอปเปิลที่คว้านใส้แล้วกิน ผมตีมือดังเพี๊ยะ "ซนจริง"

แม๊กซ์หัวเราะ

วันนั้นเป็นวันที่พวกเรามีความสุข ถึงปาป้าจะทำน้ำส้มสายชูหกไปหน่อย น่าจะเปรี้ยวพอตัวเลยล่ะ ผมกับพิชรีบโกยเกลือใส่ แล้วตักใส่โหลอย่างมีความสุข

"กิน 'แก่ๆ' ก็อร่อยดี แต่กรุบๆ ก็กรอบดีเนอะ" พิชเล่นมุก ยักคิ้วหลิ่วตาให้ ผมหน้าแดงรับ ตีแขนเขาเบาๆ

"บ้า!"

"คิก! ชอบล่ะสิ! กรุบๆ แบบนี้น่ะ เอากลับบ้านไป 'กิน' กันเลยนะ"

.........

ขากลับจากบ้านพิชผมบอกให้แม๊กซ์หยุดจอดที่เซเว่น มีพวกเด็กในรถมัสแตงนั่งดื่มเบียร์หน้าร้านแต่ไม่เกะกะอยู่ แม๊กซ์ทำท่าจะไม่หยุดแต่ผมตีแขนเขาเชิงบังคับ

"แม๊กซ์!"

แม๊กซ์เบ้หน้า "เจ้าหญิง! มันอันตราย!"

ถึงเด็กพวกนั้นนุ่งน้อยห่มน้อยในวันที่อากาศหนาวไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกะกะระรานอะไร นั่งดื่มกันไปคุยกันไปในลานจอดรถ ผมจึงส่ายหน้า "ทำเป็นพูดดี แต่ก่อนก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ?" ผมเดาจากหนังวัยรุ่นอเมริกัน

สีหน้าแม๊กซ์ซีดเผือก ทำให้รู้ว่าเดาถูก "แต่ผมเลิกแล้ว"

"อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย ฉันลงไปซื้อของแป๊บเดียว เธอลงมาด้วยกันสิ" แม๊กซ์ยอมดับเครื่อง เดินลงมาด้วยกัน ในร้านมีเด็กผู้หญิงใส่เกาะอกสะบึ้มชม้อยตาใส่แม๊กซ์ แต่คนของผมเดินตามผมต้อยๆ เหมือนหมา ผมหัวเราะเบาๆ ชี้ที่เด็กคนนั้นแล้วพูด

"เนื้อหอมเหมือนกันนี่"

แม๊กซ์เป็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน ไม่รู้มองตามเพราะผมชี้หรือสนใจหน้าอกหน้าใจกันแน่แต่ผมก็รีบหยิบกล่องเล็กๆ รวมกับของอื่นๆ พอตอนคิดเงิน ผมก็ชี้ชวนเขาคุยเรื่องแผงหมากฝรั่งบนเคาเตอร์ จึงไม่มีโอกาสเห็นว่าผมซื้ออะไรมา

ผมว่าแม๊กซ์ต้องโมโหตอนแรก

แล้วชอบตอนท้าย

แหม.... ผมยังชอบเลย

พอเราออกมาจากเซเว่นอันอบอุ่นแล้ว เด็กผมบลอนด์ผิวแทนปลอมๆ ก็ชูขวดเบียร์ให้ผมพร้อมผิวปากแซว ผมหัวเราะ รีบควงแขนแม๊กซ์

แต่สามีผมดึงผมไปทางด้านหลัง ตีหน้ายักษ์ใส่เด็กคนนั้น ท่าทางเหมือนฆาตกรพร้อมฆ่าคนทุกเมื่อ มือเขาคลำไปยังกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังด้วย...

อย่าบอกนะว่า...

"เธอพกปืน ?" ผมกระซิบเสียงเบา ถุงเซเว่นในมือเขาแกว่งชนหน้าขา แต่แม๊กซ์ส่ายหน้า

"แค่ขู่น่ะ เด็กเหลือขอพวกนี้ ของจริงอยู่ในรถ"

"..."

ผมพูดไม่ออก "ฉันไม่อยากมีสามีเป็นฆาตกร"

"โธ่ เจ้าหญิง แค่ขู่เฉยๆ" เขาเปิดประตูรถให้ รีบยัดผมเข้าไป "ไม่มีหรอก"

"เอาจริงๆ" เขาเป็นแบบนี้เสมอเวลาโกหก ผมตีหน้าเครียด กอดถุงพลาสติกในมือ แม๊กซ์จึงถอนหายใจ เลื่อนมาทางผม คลำใต้เบาะตัวเองไม่กี่ครั้งก็หยิบปืนสั้นขึ้นมาอย่างเชี่ยวชาญ...

ทีปอกแอปเปิลยังเงอะงะ ทีปืนผาหน้าไม้...

มือใหญ่ทำอะไรกับปืนไม่กี่กริ๊กก็ชูให้ดู ลูกปืนเปลือยอยู่ในมือ "เห็นไหม ไม่มีลูก"

ผมยอมเชื่อ ภาวนาอย่าให้เขาได้ใช้ปืนเลยก็แล้วกัน "มันอันตรายนะ"

"ครับ ไม่ต้องห่วง ผมเลิกนานแล้ว" เลิก ?

"อะไรนะ ?"

แม๊กซ์ถอยออกจากซอง "ก็ของพวกนั้นไง... เมาจนเช้า ยา ปืน ผู้หญิง..." เสียงเขาเหมือนกัดลิ้น แล้วยื่นมือมาปิดหูผมข้างหนึ่ง "ของไม่ดี อย่าให้ลูกฟังเลยครับ"

"เพิ่งรู้ว่าเธอ... เหมือนในหนังเลย" ผมพึมพำ จริงสินะ เจอเขาครั้งแรกก็ปาร์ตี้เซ็กส์ ถ้าไม่เฮ้วจริงๆ คนดีๆ มีหรือจะจัดปาร์ตี้แบบนี้

"ไม่มีแล้ว" เขายืนยัน "ไม่มีจริงๆ ผมรักคุณเจ้าหญิง ผมเป็นคนดีของคุณนะครับ"

เขาทำให้ผมกลัว... ในฝันที่เงียบงัน ที่ผมไม่เคยบอกเขา ในครั้งนั้น ประสบการณ์อันเลวร้ายยังฝังแน่นอยู่ในใจ ผมรู้ดีว่าแม๊กซ์รู้ แต่เขาได้แต่ปลอบโยน ไม่เคยถาม ไม่เคยทำให้ผมกลัวอีก

ผมรู้ดีว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างในฝันอีก

จะไม่มีอีกแล้วแน่ๆ

เขาจะไม่มีวันใช้ปืนนั้นกับผม

จะไม่มีวันข่มขืนผมอีก

พอคิดถึงเรื่องนี้ได้ ผมค่อยสบายใจ แหวนแต่งงานของเราส่องประกายในความมืด แทนคำบอกรัก แต่ผมยังอยากได้ยิน "แม๊กซ์... สัญญากับฉัน..."

"ผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณหรือลูก" เขาตอบทันที รู้ดีว่าผมคิดอะไร มือใหญ่หยาบกร้านกอบกุมมือผมไว้บนกระปุกเกียร์ แหวนแต่งงานเม็ดโตของเราทับซ้อนกัน ผมยิ้มให้กับภาพนั้นและแอบบันทึกภาพเงียบๆ "ไม่มีวัน..."

คำสัญญาทำให้ผมเบาใจ ปืน เหล้า ยา ผู้หญิง และความเลวร้ายในอดีตของเขา แม๊กซ์ซิมัสคนเดิมที่เคยใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ปาร์ตี้หนัก ชอบเซ็กส์ ใช่.... ผู้ชายคนนั้น

ลูกปืน อาจจะเขม่าควันที่เขาซ่อนเร้นใต้เบาะของรถเบนท์ลีย์สุดหรู ความต่างกันสุดขั้ว

เขาเป็นพ่อที่ดี สามีที่แสนดี รักผม ทะนุถนอมผม แต่กลับมีปืนในครอบครอง โอบไหล่ผมอย่างหวงแหน พร้อมที่จะกระโจนเข้าไปอัดหน้าใครก็ตามที่กล้ามาแหยมกับผม ทั้งๆ ที่ใส่สูทเป็นปัญญาชนและผู้ดี

แม๊กซ์ซิมัส...

...ความต่างนั้นทำให้ผมเร่าร้อน ผมมีอารมณ์ทั้งๆ ที่ไม่ควรเลย ผมยังท้อง ยังเป็นแม่ แต่กลับมีอารมณ์กับแบดกายดิบเถื่อน

ใช่ จะผู้ชายคนไหน ก็เป็นของผมทั้งนั้น จะถ่อยขนาดเล่นยา จะเป็นผู้ดี จะอะไรก็ตาม ก็เป็นของผม ทำให้ผมแหงนเงยศีรษะขึ้น กระชับมือที่กอบกุม ถุงพลาสติกตกเกลื่อนเบาะ

"แม๊กซ์.... จอดที"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ ?"

เราเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้ครอบครัวแสนสุข ผมท้องได้สามเดือนกว่า เป็นแม่คนแล้ว แต่...

"เมื่อก่อนเธอเล่นยา ปาร์ตี้ ต่อยคนด้วยไหม ?"

"มันก็มาด้วยกัน..."

ผมได้ยินเสียงเพลงครางแสนหวานในหัว เหมือนอาการเสพติดยาที่ถอนไม่หาย เหมือนอาการลงแดง

ผมเสพติดเซ็กส์ ติดท่อนลำของเขา ชอบให้เข้ามาในก้น ทั้งๆ ที่ยังท้อง แต่ก็ยังร่านเป็นหมาตัวเมีย

ความคิดผมยิ่งรุนแรง ผมจิกหลังมือเขา ช้อนตามอง บิดเอวเร่า จงใจเผยความนัยผ่านขนตางอนของตัวเอง ลูกกระเดือกของคนตัวสูงขยับขึ้นลง ผมเห็นความแข็งขืนในกางเกงยีนส์สุภาพของเขา

"ไม่เจ้าหญิง... ไม่ที่นี่ ไม่อีกแล้ว..."

"อา..." ผมกระซิบ "ลูกยังไม่เกิด ที่รัก... เธอทำให้ฉันมีอารมณ์เองนะ แค่คิดว่าเธอเคยร้ายแค่ไหน ตอนนี้เป็นสามีที่ดีแค่ไหน..."

"ผมเป็นผู้ชายที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าคุณ เจ้าหญิง" เขาตอบเสียงพร่า รถเบนท์ลีย์จอดในซอกตึกแคบๆ ผมรู้ดี ไอหมอกของนิวยอร์ก แสงไฟสลัวของไฟข้างทางเร้าอารมณ์เรา

เอื้อมมือไปเปิดเพลง แทร็กแสนยานคางดังขึ้นทันที

'He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


เราเลียริมฝีปาก ผมก้มลงหยิบกล่องกระดาษเล็กๆ ขึ้นมา ดวงตาหล่อคมคายในความมืดเบิกขึ้นเล็กน้อย "นั่น ?"

"เธอจะต้องชอบ ชอบให้ฉันถูก้นเข้าไปแรงๆ" ผมฉีกซองถุงยางแล้วคาบไว้ในปาก ปีนข้ามเบาะไปนั่งบนตักเขา

"เล่นเพลงนั้น" เขาสั่ง ตอนนี้ผมชอบให้เขาสั่ง ให้เขาร้าย ให้เขาดิบเถื่อน "เพลงที่ทุบตีผู้หญิง"

"มันคือการข่มขืน" ผมจูบเขา ปิดปากนั้นเสีย เราจะคุยกันด้วยภาษากายแทนแล้ว "เธอข่มขืนฉัน ตอนนี้จงทำอีกครั้งในรถเบนท์ลีย์ของเธอ ข่มขืนฉันอีกครั้ง ให้ฉันมีความสุขจนครางออกมา"

แล้วเสื้อผ้าเราก็ถอดทั้งครึ่งๆ กลางๆ

นี่ไม่ใช่เซ็กส์ครั้งแรกในรถของเรา แต่เป็นเซ็กส์ครั้งแรกที่ผมท้องและในรถคันนี้ ซิปโลหะถูกรูดจนสุดและมันก็เย็นยะเยือกบนผิว เราจูบกันนัวเนีย เขาจิกเข้าไปในเรือนผมผม ผมชอบ ชอบแบบนี้

เอาอีก เอาอีก ได้โปรด อย่าได้หยุด ที่รัก

'He used to call me poison
Like I was poison ivy
I could have died right there
Cause he was right beside me'


แรงอัดกระแทกทำให้ผมจุกจนลิ้นคาปาก ส่งเสียงกรีดร้องก้องเต็มรถดังแข่งกับเสียงไซเรนของรถตำรวจ เราอาจถูกจับที่นี่ ลูกต้องมีปมด้อยไปชั่วชีวิต

แต่ตอนนี้ ไม่ว่าตรงหน้าคือยาพิษหรือกรงขังเราก็ยินดีกลืนกินมันลงไป

ผมคือเถาพิษ คืออีตัว คือกะหรี่ คือนางร่านที่ขับควบผู้ชาย ขาดดุ้นใหญ่ไม่ได้ ปุ่มปมของถุงยางยิ่งทำให้ทุกอย่างยากขึ้น แต่น้ำมันหล่อลื่นทำให้ผมดันมันเข้าไปลึกจนสุด แรงเสียดสีโพรงร้อน เมือกอุ่นๆ ข้างในของผมเป็นสีชมพู สีของความรัก ลิ้นของผมเป็นสีแดง สีของความรักเช่นกัน และเราจะรักร้อนแรงกว่านี้

เขาบีบหน้าอก บีบเคล้น ข่มขืนมัน จิกกัดมันจนเลือดซึม ตีก้นผมจนแสบชา แต่ผมกลับขย่มตัวไม่หยุด รถเบนท์ลีย์ของเราสั่นสะเทือนเหมือนอยู่ใจกลางเฮอริเคน

สองขาผมพาดบนคอหนา ลำตัววางบนคอนโซล หลังอิงพวงมาลัย ไม่สนใจราคา

เราจะข่มขืนกันตรงนี้ เอากันให้เหมือนหมา ผสมพันธุ์กันจนท้องอัดแน่น

ผมอยากใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นอเมริกันที่ผมขาดไปกับเขา ชีวิตแบบนี้ สุดโต่ง สะบัดหน้าจนเรือนผมกระจาย เขย่าขย่มโยกให้โลกสะเทือน เราจะเป็นแบบนี้

ชะนีน้อยอกอึ๋มเหรอ... ตอนนี้ผู้ชายที่เธอเหล่กำลังขย่มฉันอยู่ ขย่มอย่างแรง ฟัดก้นฉัน ชมว่าข้างในฉันแน่นอย่างกับจิ๊มิ๊ซิงๆ เลยล่ะ

ผมกรีดร้อง กอดคอเขาแน่น ให้มือจิกเข้าไปในเรือนผม จูบกันแรงขึ้นอีกจนเลือดซิบ ให้เลือดไหลให้โซมกาย

ผมรักเขา

อา.... ผู้ชายของผม

ความดิบเถื่อนนี้ ความสุภาพนี้... จะเป็นขั้วไหน ต่างก็เป็นของผมทั้งนั้น

ผมเลียริมฝีปากเขา ฟังเพลงท่อนสุดท้ายแสนหวาน

'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


.......


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
"Give me all of that ultraviolence" ผมฮัมเพลงเบาๆ เสียงกรุ๋งกริ๋งของสร้อยข้อเท้าดังคลอกับเสียงเพลง เมื่อคืนเราใช้ถุงยางไปเกือบหมดกล่อง นัวเนียกันในรถแล้วแม๊กซ์ถึงได้สติ ขับรถพาผมไปยังโรงแรมจิ้งหรีดใกล้ๆ อุ้มผมขึ้นห้องทั้งๆ ที่สภาพไม่เรียบร้อย เตียงเก่าๆ ของโรงแรม แสงไฟนีออนไร้รสนิยมราคาถูกเหมือนยุคแปดศูนย์สะท้อนเงาของคนสองคนที่ผสมพันธุ์กันอยู่

ถุงยางเกือบหมดกล่อง ผมสลบเหมือด แม๊กซ์บึ่งรถพาผมกลับบ้าน หลังจากได้พักแล้ว ผมก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสร้อยข้อเท้าที่ทำจากดาวดวงน้อยๆ ส่องประกายระยิบระยับ แน่นอนว่าต้องเป็นเพชร ผมขยับเท้าอย่างพึงพอใจ แม๊กซ์ยิ้มในความมืด ถามผมว่า

"ชอบไหม ?"

ผมโอบกอดเขาไว้ คืนนี้ไม่มีฝันร้ายใดๆ เขาวาดทับ ข่มขืนผมซ้ำ ร่วมรัก มีเซ็กส์ ผสมพันธุ์ ทำทุกอย่างกับผม กลืนกินค่ำคืนอันน่าหวาดผวาไปสิ้น "ชอบสิ ชอบทุกอย่างเลย"

เสียงข้อเท้าดังกรุ๋งกริ๋งทุกครั้งที่ผมขยับ แม๊กซ์ก็ชอบใจไม่น้อย จูบข้อเท้าผมและเริ่มเลียนิ้วเท้าทีละนิ้วๆ

จนรุ่งสาง ผมจึงฝืนสังขารไปทอดไข่ดาวกับแฮมให้เขา ปิ้งขนมปังธัญพืช ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าคนที่ต้องการสารอาหารพวกนี้คือคนท้องอย่างผม ไม่ใช่เขา แต่แม๊กซ์ก็ยังยืนยันที่จะกินอาหารจืดชืดพวกนี้เป็นเพื่อน ผมย่างแซลมอนเผื่อเขาด้วย หมอบอกมาว่าผมต้องกินปลาเยอะๆ แม๊กซ์เลยจัดปลามาเกือบทุกชนิด จนผมจะร้องเหมียวเหมียวแล้วล่ะ

หลังอาหารเช้า เราจูบกันก่อนไปทำงาน แล้วผมถึงกลับไปหลับอีกยก คราวนี้ท้องอิ่ม หลับสบาย เสียงกรุ๋งกริ๋งฟังไปก็เพลินดี เหมือนสัตว์เลี้ยงยังไงชอบกล

ช่างเถอะ....

....

ช่วงบ่ายผมตื่นมาอีกครั้งเพราะกลอเรีย หล่อนทำมันฝรั่งอบ ซุปปลา และขนมปังไว้หอมกรุ่น ตั้งแต่ผมท้องกลอเรียก็ตั้งอกตั้งใจทำอาหารมากขึ้น ไม่ใช่แค่ซุปง่ายๆ เหมือนทุกครั้ง ผมก็ตั้งใจทำอาหารให้หล่อนเป็นการตอบแทน วันก่อนเพิ่งทำส้มตำแครอทไป กลอเรียกินไปบ่นไปว่าเผ็ดแต่ก็ไม่หยุด

ดอกไม้วันนี้เป็นดอกลิลลี่ขาว บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ ผมแอบขำ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนทำกันจนรถขย่มขนาดนั้นน่ะนะ แต่ลิลลี่ดอกโตขาวสะอาดเหมือนดั่งหิมะแรกก็ช่วยให้ห้องสดใส พอผมเล่าเรื่องดอกส้มให้กลอเรียฟัง หล่อนก็ตกใจขนาดพ่นภาษาสเปนออกมาว่าแม๊กซ์ต้องเหมาผลไม้เขตร้อนขนาดไหนเพียงเพื่อให้ผมกินแก้แพ้ท้องเนี่ย ผมอมยิ้ม ไม่บอกหรอกว่ายังมีเพชรสวยๆ อีกเยอะแยะน่ะ แต่หล่อนก็สังเกตเห็นอยู่ดี

"แหม ขยับเท้าเชียวนะคะ" กลอเรียเบะปาก กลอกตา "จะอวดกันไปถึงไหนคะเนี่ย"

ผมหัวเราะ ให้หล่อนเอาเก้าอี้โยกที่สามีซื้อให้มานั่งอ่านหนังสือเล่น โยกทีเสียงเบาๆ ดังกรุ๋งกริ๋งก็ดังคลอ กลอเรียดูผมแล้วค่อนขอด "กลัวคนทั้งโลกไม่รู้เหรอคะว่าอวด แหม" ไม่ทันสิ้นเสียง ก็มีเสียงออดตามมาอีก กลอเรียบ่นงึมงำ "วันนี้ดอกไม้ก็มาแล้ว เพชรก็มาแล้ว ยังมีอะไรอีกคะเนี่ย"

ผมตื่นเต้นไปด้วย เอานิ้วคั่นหนังสือของฮาร์เปอร์ ลี แทนแดน บราวน์ คิดว่าท้องแล้วน่าจะอ่านอะไรสำหรับเด็กมากกว่านิยายสืบสวนตื่นเต้น อาจไม่ดีกับลูกก็ได้

ผมคิดเอาเองน่ะนะ แถมยังเปิดเพลงกล่อมเด็ก เพลงโมสาร์ทมาตั้งแต่ตื่นนอน จนกลอเรียจะทำงานไปหลับไปอยู่แล้ว

จะว่าไป ก่อนหน้านี้ แม๊กซ์เคยบอกจะจ้างวงแชมเบอร์เอาไว้ให้กล่อมลูกแทนดนตรีจากยูทูป แต่นั่นชักเกินไปละ สามีผมเวอร์จริงๆ ถึงขนาดใช้วงดนตรีจริงแทนเพลงกล่อมเด็ก กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่ารวยน่ะ

"มาแล้วค่ะ กล่องแปลกๆ นะคะ" กลอเรียวางกล่องของขวัญผูกโบว์สีส้มบนโต๊ะ ท่าทางราคาไม่สูงนัก ไม่เหมือนแม๊กซ์ทุกทีเลย ไม่ใช่ว่าผมอยากได้แต่ของแพงๆ หรอกนะ แต่เหมือนไม่ใช่มาจากเขามากกว่า

แหม อย่างน้อยผมก็ชอบอ่านแดน บราวน์นะ

กลอเรียพลิกกล่องดู "ไม่มีการ์ด" คิ้วหล่อนชักขมวด "ชักแปลกๆ นะคะ เหมือนไม่ได้มาจากคุณแม๊กซิมัส" หล่อนพูดตรงใจ แต่ก็แกะกล่องออก ด้านในไม่ใช่ระเบิด แหงล่ะ การรักษาความปลอดภัยระดับไวท์เฮาส์ขนาดนี้ ระเบิดคงเล็ดลอดออกมาไม่ได้แน่ๆ แต่ของข้างในคือตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง ท่าทางน่ารักเชียว ผมกำลังจะยื่นมือออกไปรับมากอด แต่กลอเรียจับหมีโชคร้ายยัดกล่อง

"เดี๋ยวค่ะ" หล่อนส่งข้อความสักพัก แล้วก็เบิกตากว้าง "ไม่ได้มาจากคุณแม๊กซิมัส!"

เอาแล้วไง! ผมตกใจตามไปด้วย

หรือว่า.... John Doe คนนั้น.... พักหลังมาผมกับเขาไม่ได้ด่ากันมากมายแล้ว เหมือนใช้คำแรงๆ ด่ากันเอามันมากกว่า ผมเคยถามเป็นเพื่อนเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธ เอาจริงๆ ผมเหงาเลยนะถ้าไม่มีเขาน่ะ เพราะผมจะไปอวดสามีกับใครได้อีกล่ะ

แต่ถูกคุกคามในอินเตอร์เน็ตก็เป็นเรื่องหนึ่ง ในชีวิตจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กลอเรียบอกว่าจะแจ้งความ แต่ผมห้ามไว้ ตำรวจคงหัวเราะเยาะ มาแจ้งความเพราะมีคนส่งตุ๊กตาหมีมาให้เนี่ยนะ

ผมไม่ศรัทธาในระบบตำรวจมาจากประเทศไทยนั่นแหละ

ผมวิตก ไม่อยากด่วนสรุปว่ามาจากบุคคลนิรนามเพราะต้องการคุกคามจริงๆ กลอเรียท่าทางเป็นกังวล หล่อนย้ำหลายครั้งว่าต้องบอกสามีผม แต่ผมปฏิเสธไม่ให้หล่อนบอกแม๊กซ์ ไม่เช่นนั้นเรื่องคงยิ่งยุ่ง ผมนึกภาพแม๊กซ์เป็นโฮราชิโอแบบในหนังซีเอสไอออกเลย ต้องเอาไปตรวจดีเอ็นเอ หาแหล่งผลิต หาที่มาแน่ๆ และไม่ยอมจบง่ายๆ

ผมคิดว่า มาจากจอห์น โดแน่ๆ ไม่ต้องเอาเข้าแล็บซีเอสไอก็เดาได้

แต่ด้วยเหตุใดก็สุดรู้ เพราะคุกคาม เยาะเย้ย ดูถูกหรือเพราะบริสุทธิ์ใจจริงๆ ?

แต่เขาก็เคยด่าผมสาดเสเทเสีย มีความมุ่งร้ายเต็มเปี่ยม จะให้เชื่อว่าคนแปลกหน้าที่เกลียดชังกันส่งของขวัญมาให้มันก็แปลกๆ ถึงหลังๆ มานี้เขาจะน่ารักขึ้นเยอะก็เถอะ ถึงขนาดส่งการ์ดอวยพรที่อ่านดูยังไงก็บริสุทธิ์ใจมาให้

แต่มันก็ยังแปลกๆ

ยิ่งช่วงนี้ ผมรู้สึกเหมือนถูกเฝ้ามองชอบกล... แต่ตึกที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับนี้ ไม่คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดพลาด...

...หรือจะ ?

ไม่สิ


ผมส่ายหน้า โฟกัสตัวเองให้อยู่ที่กล่องของขวัญที่กลอเรียรับปากว่าจะให้ผมบอกสามีเอง แต่ก็ยึดไปตรวจสอบ
 
หลังกลอเรียกลับไปแล้ว ผมตัดสินใจไม่บอกแม๊กซ์ ส่งข้อความไปหาบุคคลนิรนามแทน คิดว่าให้เรื่องจบก่อนแล้วคิดบอกสามี แต่เขาก็ไม่ตอบกลับ สงสัยทำงานอยู่

เพราะใช้ความคิดมากไป ผมที่ไม่ค่อยมีสมองนักเลยวางหนังสือลง โยกเก้าอี้เล่น เพลงกล่อมเด็กกล่อมแม่ไปด้วย ยิ่งคลอกับเสียงกรุ๋งกริ๋งยิ่งได้จังหวะ เก้าอี้โยกช้าๆ เหมือนเปล ผมหลับตา แทนที่ในสมองจะกังวลเรื่อง John Doe แต่กลับฝันเรื่องลูกสิงโตสีทองเล่นลูกไหมพรมอยู่แทบเท้า

อาจเพราะสัญชาติญาณความเป็นแม่บอกผมว่า...

...John Doe นั้นปลอดภัย และไม่มีอันตรายใดๆ กับลูกน้อยของผมแม้แต่น้อย


ผมหลับสนิท เก้าอี้โยกช้าๆ ลูกสิงโตส่งเสียงคำรามเบาๆ จากบริเวณข้อเท้า....

....

แม๊กซ์กลับมาก่อนงานเลิกชั่วโมงนึง ผมยังไม่ทันตื่นดีนักเลย เขาหน้าตาตระหนกวิ่งเข้าบ้าน โค้ท ผ้าพันคออะไรก็ยังไม่ทันถอด เหมือนผมจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น

"เจ้าหญิง!" เขาโยนทุกอย่างลง ผมปวดใจไปตามแลปทอปที่ถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี ร่างสูงใหญ่รีบวิ่งมาอุ้มผมจากเก้าอี้โยก ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา ลูกสิงโตสีทองที่เล่นไหมพรมบนพื้นหายไปแล้ว

"ลูกสิงโต..." ผมงึมงำ เหมือนใจจะสลายตามไปด้วย ก้มลงดูพรมนุ่ม แต่ไม่มีลูกสิงโตตัวนั้นแล้ว ลูกสิงโตสีทองที่งับข้อเท้าผมเล่นบางหน บางครั้งก็ช้อนตากลมโตของมันมอง ผมลูบไล้ กอดจูบเจ้าตัวน้อย...

...เหมือนลูก

ผมขยี้ตา แม๊กซ์ถาม "ลูกสิงโต ? หรือว่าสัตว์หลุดมา ?" ท่าทางเขาแตกตื่น ผมสะดุ้ง ส่ายหน้ารัว

"ไม่ใช่ ฉันฝันน่ะ แล้วทำไมรีบกลับมาล่ะ ?"

แม๊กซ์วางผมลงกับโซฟา จัดแจงหมอนอิงนุ่มๆ และผ้าคลุมตักให้ เหมือนผมเป็นยายแก่กระดูกเปราะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สามีผมนั่งลงบนพื้น คุกเข่าลงข้างหนึ่ง จ้องตาอย่างเป็นการเป็นงาน

"มีคนแปลกหน้าส่งของมาใช่ไหม ?"

"เอ๊ะ ?" ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาเลย ? หรือกลอเรีย ? ไม่หรอก อะไรที่หล่อนรับปากแล้วหล่อนจะไม่ทำ กลอเรียซื่อสัตย์และไว้ใจได้ถึงทำงานกับแม๊กซ์ได้

แล้ว...

"เธอรู้ได้ยังไง ?"

แม๊กซ์อ้ำอึ้ง แต่รีบพูดต่อเสียงเขียว "พักหลังมานี้ คุณได้รับโน้ตแปลกๆ จากคนแปลกหน้าด้วยใช่ไหม ?"

ผมอึ้งไป แม๊กซ์รู้ได้อย่างไร

เหตุผลที่ผมไม่ตกใจกับตุ๊กตาหมี เพราะการ์ดในกล่องที่ได้มาสองสามครั้งนั่นแหละ มันถูกพิมพ์มาทำนองยินดีด้วย ไม่มีข้อความที่เป็นเจตนาร้าย กลอเรียกังวลกับเรื่องนี้มาก แต่ผมบอกหล่อนว่าเป็นเพื่อน หล่อนจึงไม่บอกแม๊กซ์ แต่มีครั้งหนึ่งแม๊กซ์เกือบจับได้ ผมรีบทิ้งกล่องแล้วบอกเขาว่าแอบกินคุกกี้ โชคดีที่เขาเชื่อ

"เจ้าหญิง ทำไมคุณไม่บอกผม ?" เขาเขย่าตัว หน้าตาถมึงทึงราวกับฆาตกร ข้อมือจับต้นแขนผมแน่น "หรือคุณไม่ไว้ใจผม ?"

"เธอต่างหากที่ไม่ไว้ใจ" ผมพยายามดันตัวเขาออก มองตอบกลับ ดวงตาคู่นั้นดุดันจนผมกลัว ถึงจะพยายามบอกตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายผมอีกก็ตาม

แต่พักหลังมานี้... ผมรู้สึกถูกจับตามอง... นั่นคงไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง...

"หรือเธอ... ?" เสียงผมขาดหาย ถูกเขย่าจนหัวหมุนไปหมด หน้าตาเขาเจ็บปวดแต่ดิบเถื่อน คล้ายสัตว์ได้รับบาดเจ็บ

"ผมติดกล้องวงจรปิดทั้งบ้าน" แม๊กซ์ตอบอย่างไม่แยแส ผมอ้าปากค้างกับคำตอบ

อะไรนะ!

"ธะ... เธอว่าอะไรนะ..."

"ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ คุณร้องเพลงไปด้วยอาบน้ำไปด้วย แม้กระทั่งขับถ่ายผมก็ยังอยากเห็นคุณ รู้ไหม ?" ใบหน้าขมวดขึ้ง "ไม่คิดว่าจะทำให้จับชู้ได้!"

"ชู้!" ผมเต้น ลุกขึ้นพรวด หมอนและผ้าคลุมตกลงพื้น ร่างกายร้อนผ่าว "ชู้ที่ไหนกัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร!"

"งั้นจะเป็นใครได้อีกล่ะที่ส่งข้อความ ตุ๊กตาหมีมาน่ะ!" แม๊กซ์ตะคอก คว้าเอวผมไว้ ผมดิ้นแรง

"แม๊กซ์! อย่า! ฉันท้องนะ!"

"บอกผมซิ! มันเป็นใคร ชู้คนไหนของคุณ...." เสียงกระซิบโหดเหี้ยมดังข้างหู คล้ายจะฆ่าให้ตาย... ไม่สิ

ตัวผมสั่น คิดถึงปืนกระบอกนั้น...

...เขาจะฆ่าจริงๆ


"ผมจะฆ่ามัน... แล้วเอาคุณล่ามโซ่ ให้คุณท้องแล้วท้องอีก คลอดลูกให้ผมเป็นครอกๆ เหมือนหมาตัวเมีย (bitch) สมกับคุณดีใช่ไหม ? อีตัวสุดร่าน ? (slut bitch)"

ผมเบิกตากว้าง คำพูดพวกนั้น... เราใช้กันบนเตียงก็จริง เพื่ออารมณ์ร้อนแรง แต่ไม่เคยเอามาด่าทอกันเลย...

...ใจผมหล่นวูบ

แม้ไม่ทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ข่มขืน แต่เขาก็ทำร้ายผมได้เจ็บแสบไม่แพ้กัน

ดวงตาร้อนผ่าว ร่างกายอ่อนแรง เขารับตัวผมไว้ก่อนที่ผมจะล้มไปกองกับพื้น ลูกสิงโตสีทองบนพรมในฝันคำรามเบาๆ อย่างเป็นห่วง ใช้จมูกดุนข้อเท้าที่มีสร้อยคล้อง

เขาสัญญากับผมแล้ว...

เขาสัญญากับผมแล้ว...

ว่าจะปกป้องผม ไม่มีวันทำร้ายผม...

ลูกสิงโตนั้นดูเศร้า... ผมไม่อยากให้มันเศร้าเลย

....

........

...........

...............

หมาตัวเมีย... ผมกระซิบกับลูกสิงโตตัวนั้น

แม่เป็นแม่สิงโตต่างหากเนอะ... แต่บางที... แม่ก็เป็นได้แค่หมาตัวเมียของพ่อเท่านั้นจริงๆ

ลูกสิงโตช้อนดวงตาที่มีน้ำตาคลอมองตอบกลับมา ราวกับจะปลอบประโลม

ขอโทษนะลูก.... ที่มีแม่แบบนี้...

...ที่มีแม่เป็นหมาตัวเมีย...
[/b]

ร่านทั้งๆ ที่ท้อง ทั้งๆ ที่รักพ่อของลูกมาก ทำทุกอย่างเพื่อเขา ต้องการเขา แต่ทุกอย่างอาจมากไป มากไปจนเขาไม่เห็นค่า เหยียบย่ำมัน ทำลายมัน

'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


เปล่าหรอก... มันไม่ใช่รสชาติของจูบ... มันคือรสชาติของ...

...การถูกข่มขืน

.....

ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แม๊กซ์นั่งอยู่ข้างๆ โยนมือถือลงบนเตียง ดูท่าโทสะยังคุกกรุ่นแต่เบาบางลงแล้ว เมื่อเห็นผมลืมตาตื่น เขารีบถลามาใกล้ๆ ดึงมือผมไปจูบ

"เจ้าหญิง!"

ในหัวผมมีสรรพเสียง เขาจูบผมเหมือนกับข่มขืน ตัวผมแข็งทื่อ เสียงไซเรนที่ดังมาไม่ถึงตึกของเราดังก้องในหัว เสียงกรุ๋งกริ๋งของสร้อยข้อเท้า เสียงลูกสิงโตงับข้อมือเบาๆ

มันดังกลบเสียงแม๊กซ์ไปหมด ผมเห็นปากเขาอ้าแล้วหุบสลับกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร

"ผมอ่านข้อความทั้งหมดแล้ว ผมจะรับผิดชอบเรื่อง John Doe เอง" แม้กระทั่งโทรศัพท์ผมก็ยังเอาไปดูด้วยเหรอ...

เสียงเพลงดังในหัว ปนกับเสียงเขาที่ฟังไม่ได้ศัพท์

"ทำไมคุณไม่บอกผมก่อนหน้านี้..."
'I can hear sirens, sirens'
"อย่าห่วงเลย...."
'กรุ๋งกริ๋ง กริ๋ง I can hear sirens, sirens'
"เป็นลมไป..."
'กรรรร กรุ๋งกริ๋งง sirens, sirens...'
"แทบแย่..."
'sirens, sirens...'
"โทษ.... ผมขอโทษ... จะไม่มีอีกแล้ว เจ้าหญิง..."
เสียงต่างๆ ในหูและในสมองเงียบไป จู่ๆ เสียงของแม๊กซ์ก็ดังก้องกังวานไปทั้งร่าง มันคุ้นเคย

ใช่

เขาสัญญาแบบนี้

หลังจากที่กล่าวหาผม

หลังจากที่ข่มขืนผม

หลังจากที่...


'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss'


ผมอ้าปาก พยักหน้าเชื่องช้า เชื่อเขา ไม่ว่าอย่างไรก็เชื่อเขา แต่ผมฟังที่เขาพูดไม่ออกสักคำ ทุกคำพูดของเขา ราวกับมีคำสบถด่า คำนั้นที่เขาใช้เรียกผม กรีดลงบนร่างทุกครั้งที่เขาออกเสียง

แม๊กซ์ถอนหายใจ จูบผม แต่มันเหมือนถูกข่มขืน ผมเหมือนถูกขืนใจ ถูกเปลือยกาย ไม่ได้ร้อนแรงอะไรเลย แต่เหมือนถูกเสียบประจานบอกกับทุกคนว่าผมเป็นแม่มดและ...

...ผมกำลังถูกเผาทั้งเป็น

"เด็กดีของผม ผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณ...." ราวกับเขาลงท้ายด้วยคำว่าบิช... ผมหลับตา ปล่อยให้มือใหญ่โอบกอดร่าง แต่รู้สึกไม่ต่างจากถูกมีดกรีดแทง เถือเนื้อผมออก ขูดไขกระดูกขึ้นดูดกิน กลืนลูกชายผมทั้งที่ยังอยู่ในครรภ์

ลูกสิงโตร้องอย่างหวาดผวา

ในสมองผมกรีดร้องทั้งๆ ที่ตาชุ่มน้ำและอยู่ในอ้อมแขนเขา

'ใครก็ได้... ช่วยด้วย'

....

วันต่อมาแม๊กซ์โดดงานช่วงบ่าย ผมเริ่มกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง แม้จะไม่ทุกข์ทรมานถึงขั้นอยากร้องไห้ทุกครั้งที่เขาสัมผัส แต่คืนนั้นผมก็ไม่ยอมมีอะไรกับเขา แม๊กซ์เข้าใจดี พาผมไปกินอาหารกลางวันสุดหรู พูดจาน่าฟัง ซื้อเพชรให้ผมสองชุด บอกว่าเอาไว้ใส่ไปฟังคอนเสิร์ตด้วยกันอีก ผมตั้งตารอ อย่างน้อยก็บอกตัวเองให้ตั้งตารอ

ผมหัวเราะ จูบเขา กอดแขนเขา รักเขา

ผมรักเขาจริงๆ แต่ทำไมมันทรมานเหลือเกิน

แม่โทรมาอีกครั้ง ผมบอกว่าผมไม่เป็นไร เขารักผมดี เราออกไปชอปปิ้งกัน ผมทำเสียงให้น่าหมั่นไส้ เขาบอกว่าเสื้อผ้าผมเริ่มคับแล้ว ผมจะใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์มไปตลอดไม่ได้ เราจึงซื้อชุดคลุมท้อง แม้จะแปลกๆ เพราะมันดูยูนิเซ็กส์ เพราะร้านนี้เป็นร้านขายเสื้อผ้าครรภ์บุรุษ แบบแมนๆ ก็มี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องซื้อให้ผมดูสาวขนาดนี้ด้วย

"สาวไปไหม ?" ผมถามอย่างวิตก ชุดคลุมสองชั้น ชั้นบนเป็นสีขาว ชั้นล่างเป็นสีงาช้าง ดูเรียบหรู แต่แม๊กซ์ยิ้มกว้าง จูบผมกลางร้าน พนักงานสาวประเภทสองส่งยิ้มหวาน ผมยิ้มเขิน ถึงจะไม่เจ็บปวดใจเท่าเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดังเช่นเคย

ผมกลับบ้านมา มีกองเสื้อผ้าอยู่ในถุง ยังมีส่วนที่เหลือขนมาไม่หมดที่จะถูกส่งมาพรุ่งนี้จากร้านอีก คืนนั้นเรามีเซ็กส์กันอย่างร้อนแรง แม้ผมจะมีความสุขกับมัน แต่ทำไมเหมือนหัวใจถูกตัดขาดอย่างนี้นะ ?

ยิ่งกว่าวันไนต์สแตนด์ ยิ่งกว่ามีเซ็กส์ทั้งที่ไม่ได้รักเสียอีก

ทั้งๆ ที่รักเขาเหลือเกิน รักจนทนไม่ได้

ผมนอนบนตัวเขา ปล่อยให้เขาลูบไล้ท้อง พรมจูบและคุยกับลูก

"พ่อเลวร้ายกับแม่มาก อย่าดื้อนะลูก" เขากระซิบ ผมน้ำตาไหล... ลูกสิงโตหลังเปลือกตางับนิ้วมือที่สวมแหวนแต่งงานเบาๆ คล้ายจะช่วยแด๊ดดิ๊ง้อ

เหงื่อรสเค็มปร่าถูกเลีย เขายังคงจูบผม "ยังโกรธผมใช่ไหมที่รัก ? ผมผิดไปแล้ว อย่าโกรธผมนานนักเลย... มันทรมาน..." ผมรู้ เขาทรมานไม่ต่างจากผม แต่...

...ลำคอแหงนเงยคล้ายกระตุก

ลูกสิงโตสีทอง...
...เพชรเม็ดโต
เสื้อผ้าราคาแพง...


...ผมได้ยินเสียงไซเรน และเสียงกรีดร้องดังที่ตัวเองเคยละเลยมัน ผมจงใจอีกครั้ง ปล่อยให้เสียงทุ้มนุ่มกำซาบลงไปในใจ เติมเต็มจิตวิญญาณอันกลวงเปล่า

มือเลื่อนลงไปลูบไล้เรือนผมนุ่มสีน้ำตาลเส้นเล็ก

ลูกคงจะเหมือนพ่อ...

"ฉันให้อภัย..." เสียงนั้นไม่ได้ดังไปกว่ากระซิบ แต่แม๊กซ์ได้ยินทุกคำ ผมได้ยินเสียงทอดถอนหายใจของเขา

คำโกหกนั้นส่งเสียงดังกว่า...

ผมหลับตาลง ปล่อยให้สัมผัสที่เริ่มมีชีวิต นุ่มนวลอบอุ่นนั้นลูบไล้เรือนกาย เชื่อมต่อพวกเราทั้งร่างกาย จิตใจและวิญญาณ

เสียงสร้อยข้อเท้าดังกรุ๋งกริ๋ง เสียงทุ้มนุ่มนวลสบายใจ ลูกสิงโตสีทองที่เล่นข้อเท้าพวกเรา ทั้งหมดคือครอบครัวแสนสุข

แต่ในหัวผมกลับร้องเพลงวนเวียนไปมา 'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss'


....


ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ในสัปดาห์ถัดมา ด็อกเตอร์บอกว่าลูกของเราแข็งแรงดี เจ้าหนูน้อยจะเริ่มถีบท้องแม่และพวกเราควรสื่อสารกับลูกบ้างแล้ว พวกเรารับคำอย่างยินดี แล้วก็กลับบ้าน

ผมที่นั่งทำสแครปบุ๊กอยู่บนพื้นอย่างง่วงๆ ช่วงนี้ฝันร้ายกลับมาบ่อยๆ จึงนอนกลางวันเยอะขึ้น แม้แม๊กซ์จะพยายามปลุกขึ้นมาและโอบกอด บอกผมว่าไม่เป็นไร แต่ความรู้สึกส่วนลึกนั้นกลับต่อต้านคำหวานของเขา

ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ อยากกลับไปเชื่อใจเขาเหมือนเมื่อก่อน แต่คำว่าบิชและความรุนแรงที่เขาเคยกระทำ ทำให้ผมหวาดผวาในยามค่ำคืน แม๊กซ์ก็จนใจ ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าใด ในความฝันนั้น เขาก็ยังคงเป็นสัตว์ร้าย ไม่ใช่เจ้าชายที่ปกป้องเจ้าหญิง แม้ในยามตื่น ในซอกลึกของใจยังคงหวาดกลัวปืนกระบอกนั้นของเขา กลัวว่าสักวันมันอาจขึ้นนกและเล็งไกมาที่ผมและลูก หากผมไม่ทำตามที่เขาสั่ง เราเริ่มคุยกันเรื่องการบำบัด ผมไม่อยากคุยเรื่องในใจให้คนแปลกหน้าฟังเท่าใดนัก แต่ตกลงกับเขาแล้วว่า หากอาการยังไม่ดีขึ้น ผมจะยอมเข้ารับการบำบัด

ขณะที่โมสาร์ทเล่นเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่องแต่ช่วยให้จิตใจสงบ อากาศในห้องฤดูใบไม้ร่วงอบอุ่นสบายและผมก็เล่นกากเพชรวิบวับบนหน้ากระดาษสมุดนั้น แม๊กซ์ก็เข้ามาในห้อง นั่งขัดสมาธิข้างๆ

ผมเงยหน้าขึ้นมอง เขาสวมเสื้อหมิ่นเหม่

สายตาผมมีแต่คำถาม คงบอกชัดเจนว่าตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะร่วมรักใดๆ แต่แม๊กซ์กลับยิ้ม และถอดเสื้อออก

"ยังไม่แห้งดี แต่อยากให้คุณเห็นก่อนเป็นคนแรก" เขาพูด เสื้อเชิร์ตสีขาวถูกปลดออก ผมอ้าปากค้าง ตาโต

หน้าอกที่เรียบตึงแน่นสีแทนสุขภาพดีของเขา... มีรอยสักรูปตาข่ายดักฝันถักทออย่างละเอียดละออเป็นอักษรภาษาอังกฤษคำว่า Kaw แถมข้างๆ ยังเป็นเกราะอัศวินและดาบไขว้กันราวกับปกป้องตัวอักษร Kaw ที่สวมมงกุฏเจ้าหญิงอยู่

รอยแผลรอยสักยังตกสะเก็ด ไม่แห้งดี แต่เห็นชัดเจนว่างดงามจนนับได้ว่าเป็นงานศิลปะ แม๊กซ์หัวเราะเก้อๆ เมื่อผมยังอ้าปากค้าง

"ตอนแรกผมจะสักหน้าคุณ แต่มันคงเชยไป... เลยคิดว่า อย่างน้อยๆ รอยสักนี้ก็แทนสัญญาว่าผมจะไม่ทำร้ายคุณอีก... ได้ไหมครับ ? อย่างน้อยในฝัน ก็ให้ผมเป็นอัศวินปกป้องคุณเถอะนะ"

มิน่าล่ะ พักนี้เขาถึงแปะแผลตลอดเวลา ไม่ยอมให้ผมช่วยทำแผล แถมยังสวมเสื้อมีเซ็กส์ตลอด ผมคิดว่าเขาคงลงพุงหรือหุ่นเปลี่ยนไปทำนองนั้น เลยไม่ถามให้อับอาย แท้จริงแล้ว...

"เจ้าหญิง.... ?"

ความหวาดกลัว ความไม่แน่ใจ ความไม่เชื่อใจ เสียงกระซิบของนักร้องเสียงหวานยานคางได้ปลาสนาการไปจนหมดสิ้น ราวกับไม่เคยมีอยู่ ผมโผตัวเข้าหาเขา

อ้อมกอดที่เคยทำให้ผมหวาดผวา... กลับคืนมาแล้ว แค่รอยสักนั้น กลับทำให้ผมเชื่อใจเขาได้ดังเดิม ไม่สิ มากกว่าเดิมเลยหรือ ?

ผมมันโง่

ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ

แม๊กซ์ก้มลงจูบผมที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน กระซิบกับริมฝีปาก "นะครับ ?"

ผมลูบไล้รอยสักที่เป็นแผลตกสะเก็ดนั้น ประทับริมฝีปากลงไปเชื่องช้า "จะเปลี่ยนใจไม่ได้อีกแล้วนะ ?" เขารู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงรอยสัก...

...รอยสักที่กรีดลงบนเนื้อหนังตรงอกข้างซ้าย เหนือหัวใจ จะคงอยู่ ณ ที่นั่นไปตลอดกาล ไม่มีวันลบเลือน รอยหมึกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเลือด สูบฉีด แลกเปลี่ยนอากาศ เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ภายใต้ผิวหนัง ฝังลึกในจิตวิญญาณไปจนตาย

...จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว รอยสักนี้จะไม่มีวันจางหายไป


แม๊กซ์ยิ้ม กุมมือผมบนหัวใจเขา "ไม่คิดจะเปลี่ยนอยู่แล้วครับ"

ผมยิ้มตอบ เขาจูบอีกครั้งก่อนค่อยๆ สวมสร้อยข้อเท้าที่ข้อเท้าอีกข้างให้ผม คราวนี้เป็นรูปดาบที่ฝังเพชรและอัญมณีเล็กๆ ร้อยเรียง เขาจับผมนั่งหันหน้าเข้าหากัน ดึงข้อเท้าทั้งสองขึ้นจูบ

"ข้างหนึ่งเป็นดวงดาวในใจผม เจ้าหญิงที่รัก" นอกจากเป็นรูปดวงดาวแล้ว ผมเพิ่งสังเกตว่าจี้เล็กๆ รูปดาวนั้นสลับกับมงกุฏเจ้าหญิงล้อมเพชร ส่วนตัวสร้อยก็เป็นรูปเถามะกอกอ่อนหวาน แม๊กซ์จูบข้อเท้าอีกข้างหนึ่ง "ส่วนข้างนี้ จะเป็นโล่และดาบคอยปกป้องคุณเอง แทนตัวผมนะครับ เจ้าหญิงของผม" ผมขยับเท้า สร้อยข้อเท้าข้างขวาเป็นรูปโล่และดาบทำจากทองคำขาวแท้ ฝังเพชรเช่นเคย ส่วนตัวสร้อยเป็นรูปโซ่ดูขึงขังเข้มแข็ง

ผมหัวเราะ วางสมุดสแครปบุ๊กใกล้ๆ ดึงหน้าว่างๆ มาให้เขา แล้วยื่นไอโฟนให้ "ถ่ายรูปเท้าทั้งสองข้างสิแด๊ดดิ๊ แล้วเอามาติดในสมุดกัน ฉันจะให้เธอเขียนนะหน้านี้"

แม๊กซ์ดูตกใจยิ่งกว่าหุ้นตกฮวบฮาบ "จริงเหรอครับ ?"

ผมพยักหน้า ยิ้มตอบ หัวเราะเบาๆ ส่ายข้อเท้าทั้งสองที่มีสร้อยข้อเท้าเพชรล้อมด้วย "จริงสิ แด๊ดดิ๊"

"ดีจัง" แม๊กซ์อ้อนวอนขอเขียนสแครปบุ๊กมานานแล้ว นานๆ ครั้งผมถึงจะให้เขาเขียน เขาถือเป็นเกียรติมาก จริงๆ แล้วไม่ใช่ผมขี้งกหรืออะไร แต่เพราะอยากให้เป็นเรื่องราวของผมกับลูกเท่านั้นมากกว่า จะว่าไปก็ขี้งกจริงๆ นั่นแหละ

แม๊กซ์รวบสองเท้าผมขึ้นมาจูบนิ้วโป้ง ขบกัดมันเบาๆ ทั้งสองข้าง "ผมรักคุณจริงๆ นั่นแหละ มามิ๊"

"ฉันก็รักเธอจริงๆ นั่นแหละนะ แด๊ดดิ๊" ผมตอบกลับ ยกขาทั้งสองขึ้นสลับกันเป็นท่วงท่าที่เขาชอบ แล้ววางลงบนข้างเอวแกร่ง แนบตัวเองกับท่อนขาแข็งแรง "เขียนสแครปบุ๊กกันนะ บอกลูกว่าเรารักกันแค่ไหน แด๊ดดิ๊กับมามิ๊รักลูกแค่ไหน นะครับ ?"

"เป็นเกียรติมากครับ" แม๊กซ์รับสมุดมา ให้ผมนั่งตัก...

...แล้วเราก็ใช้เวลาช่วยกันติดรูปเท้าผมและสร้อยข้อเท้า แม๊กซ์บรรยายไม่เก่ง จึงเขียนอะไรซ้ำไปซ้ำมาว่าผมน่ารักขนาดไหน ทำผิดต่อผมเพียงใด ขอให้ลูกเป็นเด็กดี แต่ผมก็คิดว่าเขาน่ารักมากแล้วล่ะ

แม้จะไม่มีเซ็กส์ แต่เราก็เรียนรู้ที่จะบอกรักกันในอีกรูปแบบหนึ่ง

ขอแค่อยู่ด้วยกัน

ขอแค่รักกัน

ขอแค่เขาเป็นของผม ไม่สิ เขาเป็นของผมอยู่แล้ว

John Doe เป็นอย่างไรผมเริ่มไม่สนใจแล้ว แม๊กซ์จะจัดการอย่างไรก็เรื่องของเขา ขอแค่ไม่เลวร้ายจนเป็นคดีความก็พอ ถึงผมจะรู้โดยสัญชาติญาณก็เถอะว่า John Doe ไม่ใช่คนเลวร้าย

ผมเอนไหล่เขา ไม่พูดเรื่องนี้ให้เสียบรรยากาศ แต่มั่นใจว่าเกลี้ยกล่อมเขาได้แน่นอน

การ์ดที่ John Doe ส่งมาหลังๆ เต็มไปด้วยความปรารถนาดีและปราณีต ยากที่จะคิดว่าเขาอยากทำร้ายพวกเรา

ผมอาจโง่ก็ได้ ช่างปะไร

แม๊กซ์อาจส่องกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ดูผมขับถ่าย ทำอะไรอุบาทว์ๆ รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ความเป็นมนุษย์ของผม ช่างปะไร

ในเมื่อเขารักผม และทุกอย่างที่เขาทำล้วนแล้วแต่มาจากความรัก

ผมจูบแก้มคนที่คร่ำเคร่งเขียนสแครปบุ๊ก "เป็นอัศวินให้ฉันนะ"

เขาจูบผมตอบ "ครับ เจ้าหญิง"

............................................................

// ตอนนี้มีประเด็นแฝง มาดูว่าใครจะโกหกได้นานกว่ากัน แม๊กซ์หรือข้าว 555 ข้าวโกหกตัวเอง แม๊กซ์ก็ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกค่ะ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ เหมือนเดินอยู่ในนรก แต่ต้องมีสักวันที่วงจรนี้แตกสลาย ใครสักคนทนไม่ได้ เน้นอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีสาระ ไม่มีอัลลัยเลยนอกจากการอวดผัวของนังข้าวชริงๆ นะ

ตอนนี้ใช้เพลง Ultraviolence ของ ลานาทั้งตอนเลยค่ะ ลองฟังดูได้ หลับสบายดีค่ะ 555 https://www.youtube.com/watch?v=ZFWC4SiZBao

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
หมั่นไส้แม็กซ์

จะทำผิดซ้ำๆอีกกี่ครั้งงงงงงงงงง?

ออฟไลน์ naya-devil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เออ ชอบ ดูแข็งกันเพ้อดี สองคนนี้ 555

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ยังค่ะ ยังไม่พอ!! ยังเลวได้อีกค่ะ มาดูกันค่ะว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน เชอะ เอาเข้าไปบำบัดทั้งคู่เลยค่ะ เผื่อหายพิลึก ผัวนี่ก็ระแว๊งระแวง เจอไรนิดหน่อยหน้ามืดเชียว  อีกสักพักคงมีตบตีกันแน่ๆเลยค่ะ ตบตีเสร็จก็ต้องมาบอก ผมขอโทษเจ้าหญิง ผมไม่ได้ตั้งใจ assh*le!  :mew5: ส่วนนังข้าว นังตัวดี ดูซิจะทนได้อีกกี่น้ำถ้าผัวยังสำนึกไม่สุดแบบนี้  :katai4:

ปล.อย่าซีเรียสนะคะ อถรรสค่ะ นี่แอบเอ็นดูความผัวรวยแบบอินฟินีตี้ของนางข้าว รวยแบบไม่มีสิ้นสุด 55555555 

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
โรคจิตดี

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ต่ะอวดผัวจ่ะอิจเบาๆ ถ้าได้แบบนี้อึดอัดน่าดู

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พอกันทั้งคู่แหละเนาะ

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
เหนื่อยกับการที่แม็กโมโหแล้วทำร้ายจิตใจข้าวซ้ำๆ แล้วข้าวก็ให้อภัยซ้ำ รอวันที่วงจรอุบาทแตก

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
สงสารข้าว :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด