ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231904 ครั้ง)

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ผัวรักผัวหลงจริงๆน้าาาา น้องข้าว :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :katai1: อ่านแล้วอิจฉาตาร้อนผ่าว ผัวรักผัวหลงจริงๆเลย

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ยังไงก็ได้ 5555 ชอบ John Doe สุดในเรื่อง  เพราะนั่นมันกุนี่ 5555

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อิจฉาอ่ะ ชอบข้่าวตอนด่าคน

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
เรากำลังคิดว่าข้าวพูดกับเราอยู่ อิจฉาใช่ไหม ใช่เราอิจหนักมากกกกกกกก 5555555 อยากได้สามีแบบนี้สักคนแต่ขอไม่จิตเท่าแม็กนะ นางจะรักมากหลงมากเกินไปล๊าวววว

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อวดมาเลยจ้ะ
มีอะไรให้อวด ขนมาให้หมด
อิจแรงมากกกกกกกกกกกก

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบความรุนแรงอ่ะ ฉากในฝัน  :hao6:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เลิกช่วงอวดผัวแล้วเอาตัวเล็กมาอวดได้แล้วค่ะ อยากเห็นน้องแล้วว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alt1991

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :hao7: :hao7: :hao7: เป็นคู่ผัวเมียที่สุดแสนจะเวอร์วัง :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
หมั่นไส้นางมากค่ะ!!! 55555555

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
หวานยันไส้ตื่งเลยอะไรจะขนาดนั้น

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
โรแมนติกมากกกกก~ จนหมั่นไส้อ่ะ!

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ข้าว สุดยอด

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ชีวิตดี๊ดี สามีอยู่ในโอวาท

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
หมั่นใส้นังข้าว #คนอวดผัว

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ชอบมากกกกก ผัวมีความซาดิส55555555 :hao7:
แต่ชอบบบอยากดูตอนเด็กๆโตตต

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เพิ่งเข้ามาอ่าน อิจฉาข้าวสุดๆ หมั่นไส้มากด้วย ชาติที่แล้วทำบุญมาดีเหลือเกิน  :heaven

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kanokwan_kt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
คนอวดผัว. หมั่นอิข้าวมากค่ะ :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
7.

หลังจากมื้ออาหารสุดหรูที่บ้านแล้ว ผมก็ตั้งใจจะทำให้ข้าวมีความสุขแบบนั้นทุกๆ วัน ถึงแม้เขาจะบอกว่าแค่เรานอนดู Law and order ซีซันเก่าๆ ด้วยกันก็มีความสุขแล้วก็ตาม

ผมชอบรอยยิ้มเขินอายของเจ้าหญิง แก้มกลมๆ เป็นสีชมพูหวาน ตัวของข้าวก็หวาน ผมอุ้มเขา อุ้มลูกในท้อง ยิ้มให้กัน ใจเราสื่อสารกันได้

ยิ่งนานวันเขายิ่งทำผมหลงใหล ลุ่มหลง... รักเขาจนร่างกายเล็กๆ นั้นรับไม่ไหว

ข้าวไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมรักเท่าไหร่ช่วงนี้ นอนเก่ง กินเก่ง แอบผมกินขนมเป็นเด็กๆ ผมไม่ค่อยอยากให้เขากินจุบจิบเท่าไหร่นัก เพราะพอคลอดมาจะลดยาก ไม่ใช่ว่าผมอยากเห็นภรรยาผอมแห้ง แต่ตัวเขาเองนั่นแหละที่จะคิดมากอีก นี่แค่ท้องและน้ำหนักขึ้นมานิดหน่อยข้าวก็หน้าซีดทุกครั้งที่ขึ้นตาชั่งแล้ว

ผมไม่ได้สนใจว่าข้าวจะอ้วนหรือผอม จะสูงหรือต่ำ แค่ข้าวเป็นข้าว แค่น่ารักแบบนี้ทุกๆ วันก็พอแล้ว

ผมรู้ว่าข้าวพยายามทำทุกอย่างเพื่อผม อาจเพราะรักหรือเพื่อตอบแทน แต่บางครั้งก็ดันทุรัง เขาฝืนมีเซ็กส์ ฝืนร่างกายให้ผมสอดใส่ ฝืนทำออรัล ทั้งๆ ที่ใบหน้ามีแต่น้ำตาเปรอะเปื้อน ร่างกายสั่นระริก เลือดไหลเยิ้มออกจากช่องทาง แต่เขากลับมุ่งหน้าปรนเปรอผม... ผมเลวที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น เลวยิ่งกว่าที่พบว่าตัวเองชื่นชอบใบหน้าฝืนทนของเขามาก ชอบเสียงร้องไห้ เสียงหวานที่ร้องให้ผมหยุด ริมฝีปากอิ่มที่ขบเม้มแน่นอย่างเจ็บปวด ร่างเล็กๆ ที่ดิ้นพล่าน... ทำให้ผมทำผิดพลาดลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมข่มขืนเขา...

...ข่มขืนจนร่างเล็กๆ หมดสติไป เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็กระแทกลงไปอีก รุนแรงขึ้นไปอีก

ผมชอบความรุนแรง แต่ปฏิกิริยาหลังจากนั้นทำให้ผมเสียใจ

ข้าวกลายเป็นตุ๊กตา ให้ผมอาบน้ำ ทำแผล นอนพัก กินอาหาร ไม่มีรอยยิ้ม ไม่พูดอะไรเกินจำเป็น ตัวสั่นเทาเมื่อผมแตะต้อง ดวงตานั้นไม่มีอารมณ์ใดๆ จนกระทั่งไปหาหมอ หมอถามย้ำหลายครั้งว่าข้าวจะแจ้งความไหม เขารู้ว่าผมทำอะไรกับร่างกายเล็กๆ นั้นไปบ้าง แต่ข้าวปฏิเสธเสียงเบา ผมอยากร้องไห้ แม้กระทั่งผมทำผิดกับเขา รุนแรงกับเขา เจ้าหญิงก็ยังโอบกอดผม ให้อภัยผม

เพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด ผมกลัวว่าข้าวจะหนีผมไป กลัวว่าจะทนผมไม่ได้ จึงฉวยโอกาสที่เขาไข้ขึ้นนอนพักรักษาตัว ขังเขาไว้ในห้อง ล็อกประตูด้วยกุญแจหลายชั้น เอาพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆ ของไทยไปเก็บไว้ ให้ข้าวกลายเป็นเจ้าหญิงราพันเซลผู้อยู่บนหอคอย รอคอยเพียงแต่ผมเพียงคนเดียว

หากไม่มีพาสปอร์ตข้าวก็ไปไหนไม่ได้ จากผมไปไม่ได้ หากเจ้าหญิงเป็นนก... ผมคงเด็ดปีกคู่สวยออก เพียงเพื่อให้เขาอยู่กับผมไปตลอดกาล

เจ้าหญิงหวาดกลัว ผมรู้ว่าเขากลัวจึงพยายามอ่อนโยนด้วย และข้าวก็ค่อยๆ กลับมาเป็นเจ้าหญิงคนเดิม... ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม ผมรักเขาจนใจจะขาด อยากเก็บไว้คนเดียว อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา ต่อให้ไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเขาก็เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ผมก็ไปนั่งเฝ้าหน้าประตูทุกครั้ง ไม่ยอมให้เจ้าหญิงของผมคลาดสายตา ผมยอมเป็นหมา เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่เขายังรักผมก็พอ

ผมไม่ได้ล้อเล่นที่จะชำระร่างกายให้ ไม่ว่าจะถ่ายหนักหรือถ่ายเบา ผมก็พร้อมจะเช็ดล้างให้ หากผมขาดสติ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง...

เรากอดกัน จูบกัน มีเซ็กส์กัน นั่นยังไม่พอ ไม่เคยเพียงพอเลย


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมกอดเขาไว้ในอ้อมแขนยามนอน จูบหน้าผากมนให้เขาหลับสบาย แต่ผมรู้ว่าแผลที่ผมกรีดลงไปมันหนักหนาและลึกเกินไป... ลึกจนกระทั่งข้าวเองก็มองไม่เห็น หรือจงใจไม่สนใจ

ผมมองจมูกเล็กๆ ปากเล็กๆ ตากลมโตที่ปิดสนิท ข้าวขมวดคิ้ว... คงฝันไม่ดีนัก ไม่รู้ว่าผมกลายเป็นฝันร้ายของข้าวหรือเปล่า

แล้วเจ้าหญิงก็เริ่มดิ้น ดันอ้อมแขนผมออก กรีดร้อง เหงื่อไหลริน ตัวสั่นเทา...

...ใคร ? ใครทำให้เจ้าหญิงของผมฝันร้ายขนาดนั้น

ริมฝีปากเผยอ ถีบผ้าห่มออก ในความมืดนั้น ดวงตาปิดสนิทมีน้ำตานอง "อย่า... อย่าทำ!" ผมคว้าแขนเขาไว้ กลัวจะทำร้ายตัวเอง แต่ร่างเล็กๆ นั้นดิ้นพล่าน เสียงที่ละเมอร้องออกมาทำให้ผมใจสลาย

"อย่าทำฉันเลย... แม๊กซ์..."

ผมอยากจูบเขา... จูบอย่างอ่อนโยน สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆ ใดๆ เกิดขึ้นกับเขาอีก

แต่ไม่ทันเสียแล้ว... ไม่ทันแล้ว

ผ่านไปชั่วครู่ร่างเล็กจึงค่อยๆ สงบลง แต่ยังคงร้องไห้เงียบๆ ไม่รู้ว่าผมในฝันนั้นกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ข่มขืนเขา ทุบตีเขาแล้วหรือเปล่า

แผลที่เจ้าหญิงเพียรซุกซ่อนไว้ยามตื่น จงใจละเลยมันไปเพื่อไม่ให้ผมรู้ค่อยๆ ปริออก... แผลลึกที่ผมเป็นคนสร้าง... กรีดลงไปลงบนหัวใจเขาและตอนนี้มันก็ได้กลับมาทำร้ายตัวผมเอง

เจ้าหญิง... อย่าร้องไห้เลยนะ

ผมรักคุณ...


....

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในวงแขนก็ว่างเปล่า รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยว่าข้าวจะหนีไป แต่เกือบทุกวันก็เป็นแบบนี้ ผมตื่นขึ้นมาคนเดียว มีบางวันที่ผมสูบวิญญาณเขาจนหมดแรงจึงจะได้เห็นหน้าน้อยๆ นอนอยู่ข้างๆ

รีบลุกขึ้นวิ่งไปยังห้องครัว พอเห็นก้นกลมๆ ในชุดนอนหลวมๆ ก็รู้สึกเบาใจ เซ็กส์ซี่ปนไร้เดียงสาในบอยเฟรนด์เชิร์ต ข้าวน่ารัก ไม่รู้ตัวว่าผมยืนดูอยู่ มือบางเปิดหม้อหุงข้าว คดข้าวออกมาแล้วเทลงกระทะ

ภาพธรรมดาๆ นั้นทำให้หัวใจผมอุ่นละมุน

ภรรยาตัวน้อยยืนง่วนอยู่คนเดียวในครัว ทำอาหารให้สามีอย่างผมกิน อุตส่าห์ยอมตื่นเช้าเกือบทุกวัน...

...น่ารักจัง

ในที่สุดเจ้าหญิงก็รู้ตัว หันกลับมา หน้าน้อยๆ เป็นสีชมพู อุทานดัง "อ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ ? ไม่ให้สุ้มให้เสียง"

เจ้าหญิงน่ารักจนไม่น่าเชื่อว่าเหยื่อข่มขื่นที่ฝันร้ายเมื่อคืนนั้นคือคนเดียวกัน...

ผมยิ้ม เดินเข้าไปกอดเอว ย่อตัวลงนิดหน่อยเพื่อให้วางคางลงบนศีรษะได้ "ทำอะไรกินครับ ?"

"ข้าวผัดก็แล้วกันนะ... ง่ายดี ฉันต้มน้ำแกงไว้ให้น่ะ"

"ฮื้อ  fried rice... rice ข้าววว"

"ครับๆ" ข้าวตบแขนที่กอดเขาเบาๆ "ปล่อยก่อน ไปอาบน้ำล้างหน้าซะ จะได้มากินข้าว"

เขาทำเหมือนผมเป็นเด็ก... แต่ก็น่ารัก ผมงับหูเล็กเบาๆ ถ้าต่อไปเรามีลูกสาวก็ดีสินะ... ลูกสาวตัวน้อยที่เหมือนกับข้าว ตาโตแป๋วแหววเหมือนกับข้าว ยืนอยู่ในครัวช่วยแม่ทำอาหารเหมือนข้าว

"ถ้าเป็นลูกสาวก็ดีสิเนอะ" ผมยอมปล่อยเนื้อนุ่มๆ อย่างเสียดาย

"เดี๋ยวก็รู้เพศแล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก"

"ฮื่อ ผมอยากได้ลูกสาว... เจ้าหญิง คลอดลูกสาวน่ารักๆ ให้ผมนะครับ" ผมทำท่าจะโผเข้าไปหาเขาอีกครั้ง แต่ข้าวชูตะหลิวขึ้นมาห้าม

"พอเลย ไปอาบน้ำ แล้วฉันไปกำหนดเพศลูกได้ที่ไหนกัน"

ผมอยากหอมแก้มนวลจัง แต่ข้าวตีหน้าดุ ชี้ไปที่ห้องน้ำ "ไป ไปอาบน้ำ"

คนไทยทำไมชอบอาบน้ำจัง... จริงๆ ผมอาบวันละครั้งเท่านั้น แต่ตั้งแต่แต่งกับข้าว ผมอาบวันละสองครั้งเหมือนเขา ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเหมือนเขา

"ครับ" รับคำหงอยๆ ดูแก้มกลมๆ อย่างเสียดาย

...แก้มของข้าวไม่ได้มีน้ำตาแล้ว... ดีจัง

ถ้ารอยแผลสามารถหายไปได้เหมือนเช็ดน้ำตาออกไปก็ดีสินะ

....

ผมกลับมาบ้านพร้อมกับโหลมะกอกดอง ช่วงนี้ข้าวแพ้ท้องหนักมาก ถึงพิชจะบอกว่าอาการเขาไม่หนักเท่าคนอื่นก็เถอะ แต่แค่เห็นเขาวิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำเพื่ออาเจียนแล้วก็ใจหล่นวูบ

ข้าวบ่นอยากกินของดองๆ ผมเลยสั่งเลขาฯ ให้หาซื้อให้ อดัมหัวเราะและกลับมาพร้อมกับโหลมะกอกดอง ผมขอบอกขอบใจ จ่ายเงินแล้วรีบกลับบ้าน

ข้าวอยู่ในครัว สีหน้าไม่ค่อยดีนัก กำลังโยนกล่องทิ้งถังขยะ ผมวางมะกอกดองลง ชะโงกหน้าไปดู ข้าวหัวเราะเบาๆ "คุกกี้น่ะ... แอบกินอีกแล้ว" ใบหน้าเล็กเอียงคอน้อยๆ ทำหน้าราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด ผมยิ้ม

"ที่รัก ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"

"ก็มัน...." ข้าวเกาศีรษะ "ก็กลัวอ้วนนะ แต่หยุดกินไม่ได้อ่ะ" ปากอิ่มเบะอย่างเอาแต่ใจ ผมจุ๊บริมฝีปากนุ่มเบาๆ มันช่างหวาน ได้กลิ่นข้าวโอ๊ตของคุกกี้จางๆ

"แค่ไม่กินชอกโกแลตก็พอแล้วครับ"

"ฮื่อ แล้วเอาอะไรมาเหรอ ?" ข้าวชะเง้อไปยังบนโต๊ะ ผมเลื่อนโหลให้อย่างเอาใจ

"มะกอกดองไง ข้าวบอกว่าอยากกินของดอง"

ข้าวหยิบโหลขึ้นมาอย่างยินดี เปิดฝาออกแล้วหยิบมาชิม ผมรอปฏิกิริยาอย่างตื่นเต้น เมื่อมะกอกสีตุ่นๆ เข้าปาก แค่คำแรกเท่านั้น ข้าวก็วิ่งไปคายทิ้ง

ผมใจแป้ว รับโหลมะกอกมาวางที่เดิม

"เจ้าหญิง ไม่อร่อยเหรอครับ ?"

ข้าวล้างปาก เงยหน้าขึ้นมา "ก็มัน... ฝาดอ่ะ ต่างกับที่คิด"

"คุณอยากได้แบบไหน ? จะว่าไปวันนี้คุณได้เพชรแล้วหรือยัง ?"

ผมชอบให้ข้าวใช้ของที่ผมให้ สวมอัญมณีที่ผมออกแบบ ใส่ชุดที่ผมซื้อให้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาจะได้บ่งบอกว่าเป็นของผมคนเดียว

"อื้ม" วันนี้เพชรเป็นสร้อยข้อมือรูปเถามะกอก ข้าวยื่นข้อมือมาทั้งๆ ที่น้ำตายังคลออยู่ในดวงตา "นี่ไง"

ผิวขาวนวลกับสร้อยข้อมือเพชรเส้นบางสีขาวเปล่งประกายดูเข้ากันจนเหมือนภูติพราย นางฟ้าแสนสวยในนิทาน ผมยิ้ม ยกข้อมือบางขึ้นมาจูบ

มะกอกหมายถึงสันติภาพ ผมต้องการให้ชีวิตคู่ของเรามีแต่สันติสุขหลังจากที่เราผ่านเรื่องร้ายๆ มาแล้ว รวมไปถึงต้องการให้ข้าวมีสุขภาพแข็งแรง ก้าวผ่านฝันร้ายไปให้ได้

หากทำได้ ผมยอมแลกกับทุกอย่างเพียงเพื่อให้เจ้าหญิงหลับฝันดี

ทำไมในฝันนั้น ไม่ใช่ผมที่เป็นอัศวินปกป้องเจ้าหญิงนะ ทำไมผมถึงกลายเป็นปิศาจร้ายได้

"เจ้าหญิงของผม"

ข้าวหน้าแดง ดึงมือกลับแล้วยกโหลมะกอกไปเก็บ "กินข้าวเถอะ วันนี้ทำสปาเกตตี้นะ เผื่อเธอเบื่ออาหารไทย"

ผมไม่มีปากเสียงเรื่องในบ้านอยู่แล้ว ไม่ว่าข้าวจะทำอะไรให้กินผมก็ตักเข้าปากได้โดยไม่ปริปาก จริงๆ อาหารไทยก็ไม่เลว ข้าวทำอะไรก็อร่อย แต่บางครั้งผมก็คิดถึงอาหารที่เติบโตมาเหมือนกัน เจ้าหญิงเอาใจใส่ผมแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นั้นทำให้ผมร้อนระอุ มีอารมณ์ขึ้นมา

คนตัวเล็กเดินกลับมาถาม "จะกินเลยไหม ?"

"ข้าว... เจ้าหญิง... ผมอยากกิน 'ข้าว' มากกว่า" ผมเน้นคำว่าข้าวเป็นภาษาไทย แต่เจ้าหญิงกลับคิดว่าผมหมายถึง Rice

"อ้าว งั้นรอเดี๋ยว เดี๋ยวหุงข้าวให้... อ๊ะ" น่ารักจัง... อะไรจะน่ารักขนาดนี้ พอเอวบางขยับจะไปยืนหน้าเตา ผมก็รีบเอื้อมมือคว้ากลับมา

"ผมอยากกิน 'ข้าว' นี่" นิ้วลูบแก้มใส ข้าวอ้าปากแล้วหัวเราะ ตีแขนผมเบาๆ

"ทะลึ่ง!"

ข้าวก็ทะลึ่งพอกันถึงเข้าใจที่ผมคิด... เราสองคนทะลึ่งจนเสกเด็กน้อยเข้าท้องเขาได้ ผมจูบหน้าผากนวล "ไปออกกำลังกันซักยกนะครับ มามิ๊ของผม" มือผมล้วงเข้าในกางเกงยืดนิ่มๆ ตะปบหว่างขาขาว

ข้าวไม่ค่อยมีอารมณ์นักในช่วงหลัง ผมได้แต่หวังให้เขาผ่านพ้นไตรมาศแรกไวๆ จะได้กลับมาร้อนแรงเหมือนเดิม

แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อที่จะเล้าโลมเขาหรอกนะ ต่อให้ใช้เวลามากกว่าปกติก็ตาม

ข้าวหน้าแดง "ตะ... แต่ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์" เรียวขาขยับถูมือผมในร่มผ้า ผมพรมจูบเส้นผมนุ่ม

"ผมจะทำให้คุณมีอารมณ์เอง ไว้ใจแด๊ดดิ๊นะครับเจ้าหญิง ?" ผมตั้งใจถามทุกครั้งก่อนมีเซ็กส์ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างครั้งที่แล้วอีก

ผมจะไม่รุนแรงกับเขาอีก ไม่ทำอีกเด็ดขาด

ข้าวหลุบตาลง พยักหน้าช้า "อะ... อื้อ ฝากด้วยนะ"

ผมรีบอุ้มคนท้องวิ่งเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว! น่าจะไวยิ่งกว่าวิ่งโอลิมปิกเสียอีก

โธ่ เจ้าหญิงของผม จะน่ารักอะไรขนาดนี้นะ ถ้าผมรักคุณมากไปกว่านี้จะทำยังไง...

...แค่นี้ก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วครับ

......


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ข้าวน่ารัก ผมสีดำแผ่กระจายบนหมอนสีขาวเหมือนม่านน้ำตก ผิวขาวเหมือนช่วงนี้จะอิ่มเอิบ ผมจุ๊บพุงน้อยๆ ข้าวจั๊กจี้จนหัวเราะเบาๆ ผมเลื่อนขึ้นไปจูบริมฝีปากอิ่ม เราจูบกันพัวพันเนิ่นนาน อิ่มอร่อยจนไม่อยากละออกมา ผมจับหว่างขาขาว ขาสองข้างบิดเข้าหากันแล้วครางเสียงหวาน

"ฮื้มมม เข้ามาเถอะ"

ที่รัก... เจ้าหญิงของผมฝืนตัวเองอีกแล้ว พักหลังมานี้เขาไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศก็จริง แต่ผมก็สามารถปลุกเร้าเขาได้ แม้จะใช้เวลาไปสักหน่อย

ขณะที่มือกำลังโอบรอบท่อนลำเล็กขาวสะอาด ตัวเจ้าหญิงนวลเนียนเหมือนเด็ก ไม่มีขนไม่มีริ้วรอย ผมจูบทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะหน้าท้องที่ยื่นออกมาน้อยๆ น่ารักน่าชัง

"ไม่ได้ครับ คุณยังไม่พร้อม"

"ใช้เจลเยอะๆ สิ" เจ้าหญิงสั่ง คำสั่งของข้าวทำให้ผมมีอารมณ์ รู้สึกได้ถึงความแข็งขืนเต็มกางเกง แต่ถ้าฝืนเข้าไปตอนนี้ข้าวคงเจ็บมาก ผมเจ็บยังพอทนไหว แต่นี่ภรรยาตัวน้อยของผมจะทนไหวได้ยังไง ผมไม่ต้องการให้เขามีเลือดหรือน้ำตา ไม่ต้องการกระทั่งให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน

ผมตอบไป "ถึงใช้เจลก็ไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีอารมณ์ก็เหมือนข่มขืนน่ะสิ"

ข้าวยิ้มยั่วยวน ชูสองแขนขึ้นบอกให้ผมอุ้ม ผมคล้องเอวบางมานั่งตัก กลิ่นกายหอมสะอาดของคนเป็นแม่ยิ่งทำให้กางเกงผมเปียก เจ้าหญิงขย่มตัวบนหน้าตัก กัดริมฝีปากน้อยๆ

"แข็งขนาดนี้... ฉันชักมีอารมณ์แล้วสิ"

ผมหน้ามืด ใบหน้าแสนหวาน เสียงหวาน กลิ่นหอมๆ ผมดันเขาลงอีกครั้ง ปากขบเม้มหว่างขาขาวที่เริ่มแข็งตัว ผมดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย กัดเบาๆ ที่ถุงทั้งสองด้านล่าง ร่างกายช่างเรียบเนียนไปหมดเหมือนเด็กแรกเกิด ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ กลับสามารถครางกระเส่ายั่วยวนผู้ชายได้ราวกับโสเภณี

เอวบางสั่นระริก กระดกขึ้นติดริมฝีปาก ไรหนวดผมทำให้คนด้านล่างจั๊กจี้ เรียวลิ้นทำให้ขาทั้งสองที่ใกล้ใบหน้าหนีบแน่นด้วยความเสียวซ่าน ผมชอบทำให้เขาคลั่ง ยิ่งข้าวร้องดัง แหงนเงยใบหน้าขึ้นจนเห็นลูกกระเดือกเล็กๆ บนลำคอขาว กรีดร้องอย่างสุขสม น้ำรักใสๆ พุ่งออกมาเต็มปากยิ่งทำให้ผมอยากย่ำยีเขา

ผมดูดกลืนน้ำคาวที่หอมหวานลงคอ จูบเขาด้วยริมฝีปาก ข้าวครางฮือ หนีบลำตัวผมแน่น เมื่อปล่อยเขาให้เป็นอิสระ น้ำลายเหนียวๆ ก็ไหลเยิ้มลงมาตามคางเพรียว ผมเลียน้ำลายหยดนั้นอย่างกระหาย

ดวงตาสีนิลระยิบระยับ ชูมือทั้งสองขึ้นออดอ้อนอีกครั้ง "ฮื้ออ มาเถอะนะ ฉันได้แม๊กซ์"

"อยากได้อะไรครับ ?" ผมแกล้ง จูบอกขาวนวลและเยลลีสีชมพู ดูดมันแรงๆ จนกลายเป็นสีแดงสุกปลั่งน่ากิน ข้าวแอ่นอกให้ผมชิมรสอย่างยินดี

"อยากได้ อึ่ก..." ยังไม่ยอมพูดเสียที หน้าขาวแดงฉานไปถึงหู น่ารักจนแทบกลืนไปทั้งตัว ผมทั้งบิด ทั้งหยิบทึ้ง ทั้งขบยอดอก ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมาหลงสเน่ห์ผู้ชายด้วยกัน ถ้าเป็นผมตอนวัยรุ่นคงขยะแขยง แต่นี่... ไม่ว่าจะยอดอก เครื่องเพศ หรือกระทั่งน้ำรักผมก็อยากกินให้หมด แม้ทั้งกระทั่งกลิ่นหอมหวานนี้ก็จะไม่ยอมแบ่งใคร

"ไม่พูดผมก็ไม่ทำนะครับ" ผมยิ้ม บีบเยลลีทั้งสองข้างจนแผ่นหลังเจ้าหญิงไม่ติดฟูก กรีดร้องเสียงหลง ข้าวชอบแบบนี้ ความเจ็บปวดนิดๆ ทำให้เขาหฤหรรษ์

"อ๊าาา อ๊ะะ... อึ่กก อยากได้ ข้าวอยากได้ของแม๊กซ์ อยากได้ค**แม๊กซ์ ฮึกกก" เจ้าหญิงยิ่งหน้าแดง ผมบิดเยลลีอีกครั้งแล้วลงลิ้นปลอบประโลม นวดคลึงแผ่นอกแบนเรียบเบาๆ ก่อนจะคว้าเนื้อประคองให้เป็นก้อนเพื่อดูดกินง่ายๆ

ผมชอบหน้าอกข้าว บางครั้งผมก็ดูดยอดอกเขาจนมันบวมเป่ง มีน้ำลายเกรอะ ข้าวต้องใช้พลาสเตอร์ปิดเพื่อใส่เสื้อ ไม่เช่นนั้นเนื้อยอดอกที่บวมแดงช้ำคงเสียดสีกับเสื้อผ้าจนเจ็บปวด

"อึ่กก... พะ พูดแล้ว ทำเสียที!" หน้าแดงไปถึงคอ ทำไมต้องมาเขินอายกับคำพูดบนเตียงด้วยนะ ทุกทีทำมากกว่านี้ยังไม่เขินขนาดนี้เลย

แต่ก็น่ารัก เพราะเป็นแบบนี้แหละถึงน่ารัก ไม่ใครน่ารักเท่า ผมจูบปากเขา กระซิบเบาๆ "พูดให้ครบสิเจ้าหญิง"

ปากน้อยๆ อ้าค้าง ตากลมโตเบิกมอง และคนน่ารักก็กลืนน้ำลาย ยอมพูดจาลามกแบบที่ผมชอบออกมาจนได้ "ฮึก... ได้โปรดเอา... เอา... ค**แม๊กซ์เข้ามาที่**ข้าวนะครับ ฮึกกก" น้ำตาไหลจนได้ แต่เป็นน้ำตาของความอับอายปนกับความเสียว ผมจูบตามรอยน้ำตา เอื้อมมือไปปลดกางเกง

"มาช่วยสามีถอดหน่อยสิ" เจ้าหญิงพยักหน้าอายๆ แล้วลุกขึ้นมาจับขอบกางเกงผม แต่ผมจูบหน้าผากมนก่อนสั่ง

"ใช้ปากสิครับ"

ข้าวช้อนตามอง แพขนตาหนาสั่นระริกเย้ายั่วเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ แล้วปากอิ่มก็ก้มลงคาบซิปผมลง เสียงโลหะเสียดสีกันดังก้องในห้องนอนของเรา ผมรักเขาจนบรรยายไม่ได้ แล้วศีรษะน้อยๆ ก็เงยขึ้นมอง ผมจับเขานอนลงอีกครั้ง ยกขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า คว้าเจลมาบีบอย่างไม่กลัวเปลือง สัมผัสเย็นซ่าชวนให้รู้สึกดี พอมองข้ามความเหนอะหนะไปข้าวก็ชอบมันไม่น้อย แต่ผมอยากให้น้ำรักผมเป็นตัวหล่อลื่นมากกว่า แค่คิดว่าในก้นกลมๆ ที่ผมรักนั้นต้องมีของเหลวอะไรไม่รู้เข้าไปอยู่ข้างในก็ชวนหงุดหงิดแล้ว

ถ้าเจ้าหญิงคลอดเมื่อไหร่ผมจะจัดหนัก รีบทำลูกคนที่สองแบบที่ไม่ให้เขาได้พักให้ดู

หัวใจข้าวเต้นตึกตัก แรงจนผมได้ยิน เสียงหวานครางชื่อผมอย่างน่ารัก ยิ่งท่อนลำอันใหญ่ค่อยๆ สอดเข้าไป ข้าวยิ่งหน้าแดง

"แม๊กซ์ แม๊กซ์... อื้มมม..."

เจลช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและไม่มีเลือด ผมค่อยๆ สอดตัวเองลงไปในช่องทางคับแน่น เนื้อนุ่มหวานและเยื่อเมือกสีชมพูโอบกระชับแน่นเหมือนหญิงพรหมจรรย์ ผมสงสัยเสมอว่าเจ้าหญิงทำอย่างไรร่างกายถึงยังสดใหม่ขนาดนี้ ของผมใหญ่โตจนเท่ากับท่อนแขนเขา และยังมีเซ็กซ์กับเขาทุกวัน แต่โพรงอุ่นร้อนกลับยังคับฝืดทุกครั้งที่สอดใส่

ผมกระแทกเข้าไปด้านในที่ร้อนจัด ข้าวหายใจหอบ กระซิบเสียงพร่า "อื้อ เบา... เบาๆ ฮ้า..." แต่ไม่ทันแล้ว ผมจับขาเพรียวชูขึ้น กระดกเอวกระแทกหนักๆ หมุนเอวสอดคว้านเข้าไปจนลึกดังกึก โพรงร้อนบีบผมแน่นไม่ยอมคลาย ราวกับท่อนลำผมคือของอร่อยที่ต้องกลืนกินให้หมด

ยิ่งผมรุนแรง ข้าวยิ่งชอบ สองขายิ่งอ้ากว้างให้ผมสอดใส่เข้าไปลึกขึ้น ผมหน้ามืด จับสองขาแล้วโหย่งตัวขึ้น ไม่ไหวแล้ว จะน่ารักน่ากินอะไรขนาดนี้

ท่อนล่างของเจ้าหญิงอยู่ในมุมฉาก ข้าวตาเหลือกค้าง ผมลืมไปว่าเขายังท้องอยู่ แต่ความใคร่ก็บดบังสติ ผมทิ้งน้ำหนักลงไปในปากทางแดงก่ำ ลึกจนสุด ข้าวกรีดร้อง ตัวบิดเกร็งสั่นระริก ท่อนลำขาวๆ ที่สั่นสะเทือนฉีดพ่นน้ำไกลจนถึงหน้าอก ผมโน้มตัวลงเลียมันลงคอ ก่อนจะเริ่มกระแทกอีกครั้ง ท่านี้ทำให้ผมสอดลึกกว่าทุกครั้ง ข้าวครางไม่หยุด จิกเล็บลงมาบนเนื้อผมจนแผ่นหลังเป็นรอย

แต่ผมชอบ

ทุกครั้งที่มองกระจกแล้วเห็นรอยเล็บของเจ้าหญิง ทำให้ผมภาคภูมิใจทุกครั้งว่าผมทำให้เขาคลั่งได้แค่ไหน

คราวนี้รอยคงลึกกว่าทุกวัน...

...........

ข้าวนอนหอบฮัก อสุจิไหลเยิ้มจากร่องก้น ผมลูบไล้เนื้อนวลอย่างมีความสุข ทั้งอุณหภูมิ กลิ่นหวานที่ปนเปื้อนคราบคาวของกามารมณ์ช่างยั่วยวนนัก ผมจูบเขา ดูดดึงริมฝีปากอิ่มจนบวมเจ่อ ทีนี้ทั้งปากบนและปากล่างของเขาก็แดงบวมพอๆ กันแล้ว

ข้าวกอดผมไว้ ซบหน้ากับท่อนแขน พูดเบาๆ "หิวหรือยัง ?"

โดนไปขนาดนี้ยังเป็นห่วงผมอยู่เลย ผมจูบเรือนผมนุ่ม ยิ่งเจ้าหญิงรักผม ยิ่งทำให้ผมหลงเขาหนักขึ้น "เริ่มหิวแล้วครับ"

ข้าวได้ยินก็ผละออก ค่อยๆ พยุงตัวนั่งแต่ก็ร้องซี๊ดออกมา คงแสบไม่น้อย เขาคลานลงจากเตียงไปสวมเสื้อผ้า ผมมองก้นน้อยๆ ที่หันมาหาผมเต็มตา เห็นคราบกามยังไหลนองเต็มสองขาสวยแล้วอยากป้อนน้ำนมให้ลูกกินอีก

"เจ้าหญิงครับ"

ข้าวหยิบเสื้อผมมาสวม เสื้อเชิร์ตตัวใหญ่หลวมโคร่งจนเป็นเดรสยาวเลยก้น แต่ยังพอเห็นคราบน้ำอสุจิเยิ้มออกมาได้

ผมมองดูเขาด้วยความสงสัยว่าจะทำอะไร ในที่สุดเจ้าหญิงก็ติดกระดุมเสร็จ มือน้อยยังสั่นอยู่เลย

"ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้" เพราะผมบอกว่าหิวข้าวจึงฝืนลงจากเตียงนี่เอง... หัวใจผมบิดกระหวัด ทั้งรักทั้งสงสาร ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมีดีอะไรจึงได้เจ้าหญิงมาครอบครอง

เพราะข้าวเป็นแบบนี้... ผมถึงรักเขามาก

"มานอนเถอะครับ เดี๋ยวผมทำเอง" ผมอุ้มเขากลับมาที่เตียง ตั้งท่าจะเช็ดตัวให้ แต่ข้าวยื้อมือไว้ หน้าแดง

"มะ ไม่ต้องเช็ด..."

"เจ้าหญิง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"

เจ้าหญิงกัดริมฝีปาก แก้มกลมแดงจนเหมือนจะแตกแล้ว "กะ... ก็เธอชอบไม่ชอบเหรอ..."

ชอบสิ! ชอบให้ลูกๆ ตัวเองนองในก้นเจ้าหญิงที่สุด ข้าวบ่นว่าผมโรคจิตแต่ก็ตามใจทุกครั้ง ผมอยากต่ออีกรอบแต่ดูสภาพภรรยาท้องแล้วคงไม่ไหวจริงๆ เลยฟัดแก้มแล้วจุ๊บเบาๆ บอกเสียงสั่น "ขอบคุณครับ เจ้าหญิงของผม"

"ฮะ... ฮื่อ" ข้าวหลบหน้า เอามือปัดริมฝีปาก "พะ พอก่อน หนวดมันตำ"

ผมยอมถอย แต่ไม่อยากทิ้งภรรยาไว้คนเดียวเลย ข้าวมองหน้าผม ดวงตาสีดำขลับสดสวยมีความรักเต็มเปี่ยม ผมรู้ว่าเขาก็รู้สึกเหมือนกัน

เราอยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แค่ห่างกันแค่ห้องเดียวก็ทรมานแล้ว

ผมค่อยๆ ขยับปาก ประนีประนอม "เจ้าหญิง งั้นผมอุ้มไปที่ครัวนะครับ ?"

ข้าวพยักหน้า ผมช้อนตัวเขาขึ้นมา ตัวข้าวอุ่นเหมือนเด็ก ร่างกายบอบบางนุ่มนิ่มยิ่งกว่าผู้หญิงจนผมกลัวว่าถ้าใครมาแตะต้องเขา จะทำให้เจ้าหญิงของผมแตกร้าว ผมจูบปลายผมเขา ไล่ไปถึงลาดไหล่บาง

เพราะแบบนี้ไง ถึงยอมให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แค่หายใจร่วมก็น่าหงุดหงิด แค่ยืนในบริเวณเดียวกันก็อยากกระชากคนคนนั้นออกไป ให้เหลือแค่ผมคนเดียวที่ข้าวจะมองเห็น จะยิ้มให้ หายใจรินรด

"เดี๋ยวอุ่นให้นะ ฉันใส่มะเขือเทศเยอะๆ แบบที่เธอชอบด้วย"

อา เจ้าหญิง... เจ้าหญิงครับ... ผมรักคุณ รักจนจะบ้าอยู่แล้ว

ไม่จำเป็นต้องทำอาหารหรือมีเซ็กส์กันก็ได้ แค่อยู่เฉยๆ ผมก็รักคุณแล้ว ยิ่งเอาใจใส่ ยิ่งยิ้มให้ ยิ่งรักตอบ ยิ่งทำให้ผมคลั่งใคล้ หลงใหลคุณ

ผมอุ้มข้าวทั้งๆ ที่มีความคิดแบบนั้น ข้าวสัมผัสได้ เขารู้ว่าผมรักเขามากแต่ความรักที่เขาคิดว่าผมมีให้เขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับความจริงที่ผมรู้สึก

มากล้น... มาก... มากเกินไป จนร่างเล็กๆ ของเจ้าหญิงไม่สามารถทานทนได้

มากจนเมื่อเจ้าหญิงรู้ความจริง... เขาจะต้องทิ้งผมไป

"ผมรักคุณ" ผมบอก ข้าวเงยหน้าจากเตามายิ้มให้ แม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแต่ก็ยังทำอาหารให้ผมอย่างกระตือรือร้น ผมไปยืนซ้อนหลังเป็นหลักให้เขา

มือเล็กโอบรอบแขนผมที่กอดรัดเอวเขา "ฉันก็รักเธอ"

...

ลมหายใจหอบถี่ ร่างเล็กในอ้อมแขนสั่นระริก ริมฝีปากอ้าค้าง แพขนตาหนาสั่น ผมดูคนที่รักในอ้อมแขนอย่างทรมาน ปรารถนาเข้าไปในความฝัน ปกป้องภรรยาตัวน้อย

ข้าวยังกระซิบชวนปวดใจ "แม๊กซ์... อย่า อย่าทำฉันเลย..."

รอยแผลบนหัวใจข้าวไม่ต่างจากแก้วที่ร้าว แม้มันจะบางเบา แต่หยั่งลึก

ที่รัก เจ้าหญิงของผม...

ผมจูบเขา กอดเขาไว้ ผมไม่ต้องการเป็นฝันร้ายของข้าว ไม่ต้องการเป็นสัตว์ประหลาดที่ข่มขืนเขา...

แต่ในความฝันนั้น... ผมทำอะไรไม่ได้เลย
...

ข้าวนอนหลับไม่สนิทนักเมื่อคืน แต่ก็ยังฝืนตื่นมาทำอาหารเช้าให้ ผมลุกไปจูบแก้มนวล โอบกอดเขาไว้ ภรรยาตัวสั่นน้อยๆ ทำให้ผมตระหนักได้ว่า บางที... อาจไม่ใช่แค่ในความฝันที่ผมเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้ ผมคลายอ้อมกอด เจ้าหญิงเงยหน้าขึ้นมอง

"มีอะไรหรือเปล่า ?" ข้าวยังคงเป็นห่วงผม แต่ผมกลับรู้สึกทรมาน มือที่จับตะหลิวหยุดสั่นแล้ว เมื่อผมหยุดสัมผัส

เจ้าหญิงกลัวผม... เห็นได้ชัดว่าฝันร้ายนั้นยังไม่จางหายไป

ผมตัดสินใจพูดตรงๆ เมื่อเจ้าหญิงวางจานอาหารเช้าลงบนโต๊ะและนั่งลงตรงข้าม "ข้าว คุณฝันร้ายหรือเปล่า ?"

แม่ของลูกตัวแข็งทื่อ เบิกตากว้างแล้วส่ายหน้าระรัว "ไม่นะ"

เห็นได้ชัดว่าโกหก ผมวางส้อมลง จ้องตาเขาตรงๆ "เจ้าหญิง อย่าโกหกผม เราแต่งงานกันแล้ว เป็นคนคนเดียวกัน คุณบอกผมได้ทุกเรื่อง"

ข้าวกัดริมฝีปาก หลุบตาลง ดวงตากลมโตวาวด้วยน้ำ ท่าทางราวกับจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ " ฉันไม่เป็นไรจริงๆ"

ยากกว่าที่คิด... ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหญิงต้องโกหก แค่คิดว่าเขามีอะไรที่ปิดบังอยู่ก็ทำให้หงุดหงิดแล้ว แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องส่วนตัวแม้กระทั่งความฝันก็เถอะ แต่นั่นก็เป็นฝันร้ายที่ทำให้เขาทรมานและผมในฐานะสามี ก็ไม่ยอมให้เรื่องนั้นทำร้ายเจ้าหญิงของผม

ผมเหยียดยิ้ม "ถ้าอย่างนั้นคุณกลัวผมเหรอ ?"

ข้าวอ้าปากค้าง ส่ายหน้าจนหน้าม้าปลิว "เปล่านะ!" คำตอบนี้คงไม่โกหก ข้าวเป็นคนโกหกไม่เก่ง ดวงตาใสแจ๋วนั้นไม่เคยปิดบังอะไรได้เลย

เจ้าหญิงฝันร้าย... ผมก็ทรมานไปด้วย

ผมหลับตาลงแล้วเปิดตามองดูคนเบื้องหน้าช้าๆ

ข้าวยังคงเงียบกริบ บรรยากาศระหว่างเราหนักอึ้ง... ทั้งๆ ที่ตั้งแต่แต่งงานมา เราไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย

ผมต้องการให้เขาพูด แต่ข้าวปรารถนาให้ผมลืมมันไปเสีย และมันทำให้ผมมีโทสะ

เมื่อกินข้าวเช้าจนหมด ผมลุกขึ้น ข้าวช่วยหยิบโค้ตให้เหมือนทุกเช้า ผมรู้ว่าเขาเครียด ดวงตากลมโตมองผมอย่างตัดพ้อ

ผมรู้ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมบอก และการที่ผมทำมึนตึงตลอดอาหารเช้าก็ทำให้เขาเจ็บปวด

เจ้าหญิง... ผมรักคุณนะ

เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้น โทสะก็ค่อยๆ เบาบางลง

หากตอนนี้เจ้าหญิงยังไม่พร้อมที่จะเล่า ผมก็จะไม่ฝืนอีกแล้ว ผมไม่ต้องการไล่ต้อนเขา

ผมดึงเอวบางมากอด ยิ้มให้ "เจ้าหญิง ผมรักคุณนะ... ถ้าหากคุณยังไม่พร้อมที่จะเล่า ผมก็จะรอ"

ข้าวดูอึ้งไป ก่อนจะเม้มปาก พยักหน้า "อะ อื้อ..." ดวงตานั้นสุกใสเหมือนเด็ก "แม๊กซ์... ขอบคุณนะ ฉันรักเธอ"

ผมเชยคางเขาขึ้นมาจูบ ความรักท่วมท้นระหว่างเรา ผมรักเขา รักลูกของเขา รักแม้กระทั่งเรื่องปิดบัง ผมรู้ดี ในฝันที่เขาไม่ยอมเล่านั้น ผมกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ทำร้ายเขา แต่กระนั้น แม้เขาจะกลัวผม แต่ในความจริง ในยามตื่น ข้าวคือเจ้าหญิงของผม รักผม เป็นภรรยาของผม

"มันเป็นแค่ฝันครับเจ้าหญิง ผมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ผมรักคุณนะครับ"

ข้าวค่อยมีรอยยิ้ม พยักหน้า ลูบท้องเบาๆ "ลูกก็รักเธอนะแด๊ดดี้"

"งั้นแด๊ดดี้ไปทำงานก่อนนะมามิ๊" เห็นเขามีสุขผมก็มีความสุขไปด้วย ข้าวน่ารัก เจ้าหญิงของผม "เดี๋ยววันนี้เที่ยงๆ ผมจะมารับไปหาหมอนะครับ"

วันนี้เรามีนัดอัลตราซาวด์ดูเพศของลูก ข้าวหัวเราะเบาๆ "ตื่นเต้นจังเนอะ"

"นั่นสิครับ" เจ้าหญิงดูกระตือรือร้นมาก ผมจูบหน้าผากนวล

ข้าวเดินมาส่งที่ประตู โบกมือให้จนลับตา

ผมลงลิฟต์มาอย่างยากลำบาก อยากกลับไปกอดเอวบางใจจะขาด เฮ้อ... ช่างเถอะ วันนี้ผมจะได้กลับมากินข้าวเที่ยงกับเจ้าหญิงและลาช่วงบ่าย เราจะได้รู้เสียทีว่าลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

....

ข้าวแต่งตัวน่ารักอีกแล้ว เขาสวมเสื้อผ้าที่ผมซื้อให้ เป็นชุดเอี๊ยมที่สามารถปรับสายได้ เผื่อสำหรับท้องโต

"ทำไมเธอซื้อแต่เสื้อผ้าผู้หญิงให้ฉันเนี่ย" ข้าวบ่นขณะที่หันก้นให้ สวมขาลงไปในกางเกงเอี๊ยม ผมช่วยเขาปรับสายให้พอดีแล้วกอดแน่น

"ก็คุณน่ารัก"

"พูดแบบนี้อีกแล้ว" ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงเป็นริ้วชวนมอง ข้าวนั่งบนเตียงหยิบถุงเท้าขึ้นมา ผมก้มตัวลงช่วยใส่ถุงเท้าให้เขา มือเล็กๆ เกาะไหล่ไว้ ปากยังบ่นงึมงำ

"หายโกรธแล้วเหรอ ?"

"โกรธ ? อ้อ เมื่อเช้านี่เอง" ผมจูบตาตุ่มและปลายนิ้วเท้าก่อนสวมถุงเท้าให้ "หายแล้วครับ แค่เห็นคุณยิ้มผมก็หายโกรธแล้ว"

"ฉัน... ไม่ใช่ไม่อยากบอกเรื่องความฝันหรอกนะ..." ข้าวดูลังเล ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงสั่นพร่าของเขา จึงรีบสวมถุงเท้าให้ทั้งสองข้างแล้วดึงมือน้อยมาพรมจูบ

ไม่ชอบเลย ไม่อยากให้เจ้าหญิงเป็นแบบนี้ ไม่ต้องการให้มีอะไรมาแผ้วพานแม้แต่น้อย

"ชู่ว์ ไม่เป็นไรครับคนดี"

"แต่... แต่เธอไม่ชอบใจใช่ไหมล่ะ"

ผมส่ายหน้า "ผมไม่เป็นไรเลยครับเจ้าหญิง... ยิ้มหน่อยสิครับคนดี วันนี้เราจะเห็นลูกแล้วนะ"

ริมฝีปากสวยค่อยๆ ยิ้มตาม ผมหัวเราะ จูบแก้มนวล "อย่างนั้น คนเก่งของผม พร้อมยังครับ ?"

ข้าวพยักหน้า ยิ้มหวานบนใบหน้าละลายใจ ผมอยากกอดเขาไว้... ล่ามโซ่เขาไว้ ให้เจ้าหญิงยิ้มให้ผมเพียงคนเดียว

มือน้อยแตะที่ไหล่เบาๆ ผมจึงต้องกลืนความคิดนั้นไป และเปลี่ยนมาจูงมือแทน

"ไปกันเถอะ"

....

ด็อกเตอร์กาเบรียลลาคลอดสองเดือน คนที่มาแทนคือด็อกเตอร์โซฟี หล่อนเป็นมือรองในเรื่องครรภ์บุรุษ มีชื่อเสียงพอๆ กับด็อกเตอร์กาเบรียลทีเดียว

ตอนนี้หล่อนกำลังทาเจลลงบนท้องเจ้าหญิง ท้องได้สามเดือนแล้ว แต่ยังเล็กอยู่เลย เหมือนกับลงพุงมากกว่า

ข้าวจับมือผมไว้ ท่าทางตื่นเต้น "แม๊กซ์..."

ผมยิ้มให้ "ที่รัก ใจเย็นๆ ครับ"

ด็อกเตอร์โซฟีหน้าตาเฉยเมย ไม่ยิ้ม ไม่ปลอบ ดูเป็นหมอที่ต่างกับด็อกเตอร์กาเบรียลคนละขั้ว หล่อนจับเครื่องอัลตราซาวด์ถูบนหน้าท้อง บนจอปรากฏภาพขาวดำของทารกน้อย ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นลูก แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าลูกเพศอะไร

หมอดูหน้าจอครู่หนึ่ง ข้าวลุกลี้ลุกลนถาม "ลูก... ลูก... ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ ?"

"ยินดีด้วยค่ะ" หน้าตาหมอยังคงแข็งทื่อ "ผู้ชายค่ะ เห็นไหมคะ ตรงนี้เป็นอวัยวะเพศ" หล่อนชี้ให้ดูจุดในภาพ ผมดูไม่ออกหรอก แต่ข้าวจ้องเหมือนจะหลุดเข้าไปอยู่ในจอ

ความรู้สึกที่เห็นลูก... ผมบอกไม่ถูก ตื้นตัน... คำนี้น่าจะใกล้เคียงที่สุดแล้ว

ทุกครั้งที่เจอลูก ผมรู้สึกเพียงแค่เป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง แต่เมื่อเห็นเพศและหัวใจน้อยๆ แม้จะเป็นเพียงภาพลางๆ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้น

ข้าวจิกมือผมแน่น น้ำตาคลอ "ลูก... ลูกเป็นผู้ชายล่ะ" รอยยิ้มบนใบหน้าสว่างไสว

หมอเช็ดเจลออกให้จนสะอาด แล้วคนตัวเล็กก็โผเข้าอ้อมกอดผม "แม๊กซ์... เราได้ลูกชาย"

ผมจูบเขา จูบตั้งแต่คางมนจนถึงหน้าผาก "ครับ... เราได้ลูกชาย"

"ดีใจจังเลยนะ"

ลูก... ลูกของผม ลูกชายของผมกับข้าว

ความรู้สึกของพ่อคงเป็นแบบนี้สินะ

หมอบอกจะอัดรูปอัลตร้าซาวด์ของลูกให้เรา ผมรับมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าเงินอย่างดี เก็บไว้เคียงข้างกับรูปคู่ของผมกับข้าว เจ้าหญิงก็ถือรูปแน่น จ้องไม่วางตา

เราต่างรู้สึกเหมือนกัน... ตื้นตันยินดี

เราเดินจูงมือกันออกจากโรงพยาบาล วาดฝัน คุยกันถึงเรื่องอนาคต "ลูกจะชื่ออะไรดีน้า ?"

"นั่นสิครับ"

"อยากให้ลูกมีทั้งชื่อไทย ชื่ออังกฤษเลย"

"เอาไว้เป็นชื่อกลางก็ได้"

"จริงด้วย ต่อไปเธอต้องสอนลูกเล่นเบสบอลด้วยนะ ถ้าลูกแข็งแรงเหมือนเธอก็คงดี" รอยยิ้มหวานละมุน ผมรักเขาสุดหัวใจ

"ผมจะสอนลูกขับรถ... เราจะไปออกทริปกันทั้งครอบครัว"

"ดีจัง ถ้าลูกเป็นหนุ่มต้องหล่อเหมือนเธอแน่ๆ เลย" ข้าวซบไหล่ผมและเงยหน้าขึ้นมา เราสบตากันเงียบๆ

ที่ลานจอดรถนั้น กลายเป็นสถานที่แห่งความฝัน ความหวัง

ลูกชายของเรา...

เจ้าหญิงเขย่งตัวจูบ ริมฝีปากอิ่มนิ่มบ่งบอกถึงความรัก จูบที่เบาบาง อบอุ่น ทำให้ผมโอบกอดเขาแน่น

"ลูกของเราล่ะแม๊กซ์"

"ลูกของเรา... ลูกของเจ้าหญิงกับผม"

ข้าวยิ้มกว้าง ผมเปิดประตูรถให้เขา เมื่อเข้าไปนั่งแล้วก็ยังจ้องมองแต่ภาพอัลตราซาวด์อย่างมีความสุข

เรายังคงคุยกันไม่หยุดเรื่องลูก จู่ๆ โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ปลายสายเป็น...

"ติดตั้งเสร็จแล้วครับ"

ผมตอบเสียงห้วน "อืม ขอบใจมาก"

"พร้อมใช้ทันที เชื่อมต่อกับคอมแล้วครับ"

"ดีมาก เดี๋ยวไปรับเช็คที่ทีนานะ"

"ครับ"

ข้าวยังคงคุยเสียงแจ๋ว ผมวางโทรศัพท์ลง "งานเหรอ ?"

ผมพยักหน้า "ครับ"

...

ช่วงบ่ายผมลางาน แม้ข้าวจะบอกว่าไม่จำเป็นก็ได้ แต่พอเห็นลูกแล้ว... ผมคิดว่าคงไปทำงานไม่ไหว ต้องทำอะไรสักอย่าง

เปลที่สั่งไว้หลายอาทิตย์ก่อนยังไม่ได้ประกอบ ผมมัวแต่ยุ่งๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจลางานมาประกอบเปล

ถึงใครจะว่าบ้าก็เถอะ

ผมกับข้าวเอารูปใส่กรอบ วางไว้บนโต๊ะกินข้าว อีกใบหนึ่งผมจะเอาไปไว้ที่ออฟฟิศ

ข้าวมีความสุขจนนั่งดูลูกได้ทั้งวัน เราสองคนใช้เวลายามบ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ผมประกอบเปล ข้าวนั่งข้างๆ คอยส่งเครื่องมือให้ผิดๆ ถูกๆ

เจ้าหญิงมีครอบครัวกับผม อีกไม่นาน องครักษ์ตัวน้อยๆ ของผมก็จะออกมาดูโลก คอยปกป้องแม่ไม่ให้มีริ้นไรตอม

ผมจูบแก้มเขาอย่างมีความสุข

เราคุยกันซ้ำไปซ้ำมา ทะเลาะกันเรื่องชื่อลูกแล้วก็หัวเราะเสียงดัง ผมจูบแก้มเจ้าหญิงจนแดงปลั่งน่ารัก ข้าวช่วยขันน็อตให้ ผมตอกตะปู

เราอิงแอบกัน จับมือกัน จูบแก้มกัน... ความรู้สึกนั้นมากกว่าคู่รัก

ถึงจะรู้และมั่นใจว่าผมจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต แต่ทารกในท้องเจ้าหญิงก็เติมเต็มความรู้สึกของเรา ว่าพวกเราไม่ได้แค่จะรักกันไปจนสิ้นลมหายใจ แต่เราคือครอบครัว ครอบครัวที่มีเจ้าหญิง มีผมและมีองครักษ์ตัวน้อย

ถึงจะใช้เวลานานกว่าปกติ ในที่สุด เปลเด็กสุดหรูก็ประกอบเสร็จ

ผมโอบเอวข้าวมองดูของลูกชิ้นแรกของเรา

"รู้สึก... เป็นครอบครัวขึ้นมาเลย" 

"จริงด้วย..."

"รู้สึก... เป็นแม่"

"ผมก็เป็นแด๊ดดี้จริงๆ จังๆ แล้วสิ"

เราหัวเราะให้กัน ผมจูบเขาอีกครั้งและอีกครั้ง อุ้มเขาขึ้นเพื่อจูบหน้าท้องน้อยๆ "มามิ๊ก็น่ารัก ลูกต้องน่ารักแน่ๆ เลย"

"ฮื้ออ ถ้าลูกหน้าเหมือนฉันก็น่าสงสารจะตาย ให้เหมือนเธอดีกว่า"

ผมไม่เถียงเขา เพราะรู้ดีว่าเถียงไปก็แพ้เลยวางเขาลง และจูงมือออกจากห้องเด็ก

"งั้นเรามาทำน้องให้ลูกกันเถอะครับ"

"ดะ... เดี๋ยว! ลูกยังไม่ทันคลอดเลยนะ" เจ้าหญิงหน้าแดงแจ๋ ผมยิ้ม

"เดี๋ยวไม่ทันใช้นะครับเจ้าหญิง..."

........

คืนนั้นผมเต็มอิ่มกับเซ็กส์ ข้าวเรียกมันว่า 'ร่วมรัก' แต่สำหรับผม 'เซ็กส์' หรือ 'ร่วมรัก' ก็คือสิ่งเดียวกัน เราจูบ หัวเราะ ถ่ายทอดความรักเชื่องช้า ทุกสัมผัสมีความหมาย ไม่ใช่แค่ปลุกเร้าอารมณ์ แต่หมายถึงบอกรักให้อีกฝ่ายรับรู้ เจ้าหญิงชอบให้ผมสัมผัส เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากยักยิ้มสวยชวนให้จุมพิต

ไม่ว่าจะเส้นผม แก้ม จมูก ขนตา หน้าท้อง ต้นขา ช่องทาง... ทุกส่วนของร่ายกายเจ้าหญิงต่างเป็นของผมทั้งหมด รสชาติหวานหรือกลิ่นหอมๆ นี่ก็ด้วย ผมขบริมฝีปากเขาเบาๆ

"รักนะ" เสียงนี้ก็เป็นของผม

"รักที่สุดเลยครับ" ผมจุมพิตปากนุ่มนั้น

ลูกในท้องของเราจะเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด จากพ่อแม่ที่รักกันที่สุด

ผมโอบกอดเขาในอ้อมแขน... คืนนี้ ข้าวจะไม่ฝันร้าย ความรักที่ผมมอบให้ จะวาดทับลงบนประสบการณ์อันเลวร้าย เพียงมีผมอยู่ ไม่ว่าจะในฝันหรือความเป็นจริง ผมก็จะติดตามไปปกป้องเจ้าหญิงเอง

เจ้าหญิงของผมตัวชื้นเหงื่อ แต่หลับสนิท ผมฝืนตัวเองไม่ให้หลับตาลงเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ฝันร้าย

เจ้าหญิงครับ... เจ้าหญิงของผม

ผมรักคุณ


.......


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมดื่มกาแฟที่ทีนาชงอย่างมีความสุข จอคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นหลายช่อง แต่ละช่องมีภาพแต่ละห้องในบ้านผมอยู่

ตอนนี้บ่ายกว่าแล้ว เจ้าหญิงเพิ่งละเลียดกินข้าวเที่ยงเสร็จ กิริยาน่ารักในจอทำให้ผมอยากพุ่งตัวกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้

ผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านตัวเองทุกๆ ห้อง ไม่เว้นกระทั่งในห้องน้ำ แม้กระทั่งเจ้าหญิงจะขับถ่ายผมก็อยากดูทุกวินาที

ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ได้มาตอนที่เราเต้นรำด้วยกัน เศษคุกกี้ติดเสื้อข้าวเหมือนเด็กๆ ผมแอบขัน อยากเห็นคนตัวเล็กๆ ที่แอบกินคุกกี้ขึ้นมาจึงหาทางที่จะจับตาดูภรรยาทุกฝีก้าว

ผมนั่งดูในจอ เมื่อตอนเช้าหลังจากที่ผมมาทำงาน กลอเรียเข้ามาทำงาน พร้อมกับดอกส้มที่ผิดฤดูไปหน่อย แต่มีความหมายดีในกระเช้า ข้าวดีใจมาก ท่าทางกระโดดโลดเต้นทำให้ผมชักห่วงลูกในท้อง แต่เขาก็ดูมีความสุขดี ผมเริ่มชักสีหน้าเมื่อเจ้าหญิงเริ่มเกาะหนึบกลอเรีย หลังจากจูบแก้มทักทายกันแล้ว ข้าวก็ยื่นกล่องคุกกี้หอมกรุ่นให้ ท่าทางกลอเรียยินดี เสียดายที่ไม่ได้ยินเสียง แต่ภรรยาผมและแม่บ้านก็คุยกันอย่างออกรส

ดูเหมือนข้าวจะไม่รู้ความหมายของดอกไม้ที่ผมส่งไปตามเคย... เอาเถอะ เขาดีใจก็ดีแล้ว ดูเหมือนเจ้าหญิงจะสนใจผลส้มกลมๆ มากกว่า ผมดูเขานอนเอกขเนกปอกเปลือกส้มกินอย่างเอร็ดอร่อยอย่างเพลิดเพลิน จนทีนาส่งเสียงร้องเตือนจึงกลับไปทำงาน

ช่วงบ่ายพอมีเวลาจึงกลับมาเปิดดูอีกครั้ง ตอนนี้ข้าวเอาจานอาหารไปไว้ในเครื่องล้างจาน และเดินไปนั่งที่โต๊ะ

ผมเห็นชีวิตประจำวันแล้วยิ้มกว้าง

นอกจากจะได้เห็นชีวิตเขาแล้ว ผมยังแน่ใจได้ว่าเจ้าหญิงของผมจะไม่นอกใจ ไม่มีริ้นไรไต่ตอม บางทีอาจทำให้ข้าวยอมสารภาพเรื่องที่เขาฝันร้ายได้ง่ายขึ้น

ผมพยายามหาเหตุผลให้ตัวเอง ถึงจะรู้ว่านี่มันไม่ปกติก็ตาม

แต่ถ้า... ระหว่างที่ผมไม่อยู่ ข้าวมีคนอื่นขึ้นมา ผมคงแย่

ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเขา แต่หวงเกินไป ห่วงเกินไป ความรักของผมมันหนักหน่วงจนข้าวรับไม่ไหว

ข้าวนั่งขัดเพชรอยู่ที่โต๊ะ มีลำโพงอยู่ข้างๆ อยากรู้จังว่ากำลังฟังอะไร เพลงเด็กหรือเปล่านะ

"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากปากประตูทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นจากจอ ชายร่างเตี้ย หัวล้าน ลงพุงยืนอยู่ไกลๆ ผมถอนหายใจ

"อดัม" หน้าตาเพื่อนสนิทไม่ได้น่ารักสักครึ่งของเจ้าหญิงเลย ผมจำใจถาม

"มีอะไร ?"

"ไม่สวัสดีเลยนะ" อดัมค่อนแคะ ก่อนจะวางแฟ้มลงบนโต๊ะ "อันนี้สรุปรายงานจากการเปลี่ยน  supplier"

"อืม" ผมรับมา อดัมทำงานเก่ง เป็นทั้งเลขาทั้งคนตามงานให้ "ขอบใจ"

"แล้วดูอะไร ?"

"ไม่มีอะไร" ผมรีบล็อกเอาต์ออกจากระบบ อดัมลากเก้าอี้มานั่งรอผมอ่านรายงาน ผมเห็นเขาจึงนึกขึ้นได้

เห็นเป็นแฟมิลีแมนแบบนี้ ก่อนที่จะมีลูกสาวฝาแฝด อดัมเคยนอกใจแอนนา ภรรยาครั้งหนึ่ง โชคดีที่แอนนาให้อภัย ทั้งคู่จึงกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกครั้ง ตอนนี้อดัมทั้งรักทั้งหลงลูกสาวทั้งสองมากจนไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยนอกใจภรรยา

"นายว่า คนเราปิดบังคนรักเรื่องอะไร ?" ผมถามทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าข้าวปิดบังอะไรผม

อดัมตกใจ "นายจะบอกว่านายจะนอกใจข้าว ?"

ผมแยกเขี้ยว "ตลกล่ะ"

"หรือข้าวจะนอกใจนาย ?"

ผมฟังแล้วสะอึก ข้าวไม่ได้นอกใจผม ถึงจะมีเรื่องให้ชวนเข้าใจผิดก็เถอะ "ไม่ใช่ แค่อยากรู้"

"อ้อ ถ้านอกจากเรื่องนอกใจแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องเงินมั้ง ?"

"เงิน ?" ข้าวไม่ใช่คนสุรุ่ยสุร่าย ไม่ชอบใช้จ่ายอะไรไร้สาระ ข้าวของที่มีผมก็เป็นคนซื้อให้ทั้งนั้น "ไม่ใช่"

"ข้าวมีเรื่องปิดบังหรือไง ?"

"อืม ก็ทำนองนั้น" ฝันร้ายของเจ้าหญิง... ถึงจะรู้ว่าเขาฝันถึงผมก็ตาม แต่ผมก็ยังอยากได้ยินจากปากเขามากกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงต้องปิดบัง จึงต้องถามคนที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตคู่อย่างอดัม

"งั้นเหรอ" โชคดีที่อดัมไม่ใช่คนช่างสงสัย หากเป็นเจนน่าคงซักจนสะอาด "คงเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายล่ะมั้ง เลยคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น"

ผมวางปากกาลง ทำร้ายจิตใจ ? ฝันร้ายจนทรมานเพราะผม แต่ก็ยังไม่ยอมพูดออกมา เพียงเพราะกลัวว่าจะทำร้ายผม ?

บ้าเอ๊ย...

ผมกำหมัดแน่น

รู้อยู่ว่าภรรยารักผมมาก แต่ไม่คิดว่ารักมากขนาดนี้...

รัก รัก... รักจนน่ากลัวว่าหัวใจแบกรับไว้ไม่ไหว

"ทั้งๆ ที่.... มันก็ทำร้ายตัวเองด้วยเหมือนกันน่ะนะ ?"

"บางทีคนเราก็ยอมให้ตัวเองเจ็บปวด มากกว่ายอมให้คนรักเจ็บนะ" ดวงตาเล็กหยีสีเขียวของอดัมมองดูผมราวกับมองตัวเองในอดีต

"ทำไม ?"

"เพราะรักไงล่ะ" เขาถอนหายใจ "ถ้านายกำลังจะนอกใจข้าว ขอบอกเลยว่านายกำลังทำผิดมหันต์ ข้าวรักนายมาก คนดีๆ แบบนั้นหาไม่ได้อีกแล้วนะ"

"ฉันไม่ได้นอกใจ" ผมส่ายหน้า เปิดเอกสารหน้าถัดไป "ไม่มีวัน"

"ถ้านายว่างั้น" เขายักไหล่ "ว่าแต่ พวกเพื่อนๆ ไม่ได้เจอนายมาสองปีแล้วนะ ไม่คิดจะแวะไปทักทายหน่อยเหรอ ? พาข้าวไปก็ได้"

ผมเคาะปากกา "ไม่"

"ทำไมล่ะ พวกนั้นโตๆ กันแล้ว ไม่ได้ดื่มกันยันเช้าเสียหน่อย"

"ไม่" ผมย้ำคำเดิม วงกลมจุดที่สงสัยแล้วปิดแฟ้ม "ตัวเลขยังสูงไป บอกเจนน่าแบบนี้นะ"

"หล่อนมาทึ้งอกนายแหง ว่าแต่ทำไมไม่ไปเจอเพื่อนล่ะ ?"

ผมถอนหายใจ ล็อกอินเข้าไปดูกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ข้าวกอดตุ๊กตาช้างน้อยหลับสนิทบนโซฟาตัวกว้างเหมือนเจ้าหญิงนิทรา น่ารักน่าใคร่

"ฉันไม่อยากให้ข้าวรู้จักตัวฉันในอดีต"

"เลยตัดขาดจากเพื่อนเก่าน่ะเหรอ ?" เสียงอดัมแย้งอย่างไม่เห็นด้วย "นายจะปิดไปได้อีกสักเท่าไหร่กัน"

"ฉันไม่สน แต่ข้าวจะต้องไม่รู้ว่าฉันเคยทำอะไรไว้" เจ้าหญิงขยับตัว ท่าทางสบาย ไม่เหมือนคนฝันร้าย

"เอาเถอะ" อดัมรับแฟ้มไปแล้วยักไหล่ "งั้นฉันไปล่ะ ไว้รบกับเจนน่าเรื่องตัวเลขเองละกัน"

ชายร่างเตี้ยออกจากห้องไป ผมแตะที่หน้าจอคอมเบาๆ ราวกับจะสัมผัสคนในนั้น

เจ้าหญิงครับ... เจ้าหญิงของผม

ผมจะไม่ให้อะไรมาแผ้วพานคุณเป็นอันขาด...

....

วันนี้ผมเลิกงานเร็ว เพราะร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้บ้านเราจะปิดตอนห้าโมง ผมจูบแก้มข้าวที่มานั่งรอที่ล็อบบี้แล้วดุเขา

"ทำไมไม่รอบนห้อง"

ข้าวทำปากยื่น สวมโค้ทเรียบร้อย ผมเสียดายที่นิวยอร์กไม่นิยมเสื้อผ้าสีสันสดใส เจ้าหญิงจึงต้องสวมเสื้อผ้าสีทึมๆ

"ถ้ามีใครทำอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ?" ถึงการรักษาความปลอดภัยในตึกนี้จะยอดเยี่ยมก็เถอะ ทุกคนในตึกรู้ดีว่าผมหวงข้าวมากแค่ไหน

"ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันได้ดื่มน้ำส้มฟรีด้วยล่ะ" ข้าวยิ้มหวาน อวดแก้วน้ำส้มที่นำมาเสิร์ฟอย่างมีความสุข

ผมถอนหายใจ ตรวจเช็คดูร่างเล็กว่าไม่มีอะไรบุบสลายแล้วจูงมือเขาออกจากตึก

"อยากไปเดินเล่นจัง" ลมหนาวพัดกรู การจราจรบนถนนยังคับคั่ง ผู้คนเดินผ่านทางเท้าขวักไขว่ ด้านตรงข้ามตึกคือเซ็นทรัล ปาร์คและมีแผงขายของเล็กๆ น้อยๆ จำพวกรูปวาด

"ไม่มีเวลาแล้วครับ"

"กลับมาไปเดินเล่นหน่อยดีไหม ?"

ช่วงนี้มืดเร็ว เช็นทรัล ปาร์คยังไม่ปิดหรอก แต่ผมไม่อนุญาตเด็ดขาด "ไม่ได้ ถ้ามีคนมาทำอะไรเจ้าหญิงจะทำยังไง ?"

ข้าวถอนหายใจ เดินจับมือผมไปยังที่จอดรถ "ฉันก็มีเธอไงแม๊กซ์"

คำพูดของข้าวทำให้ร่างกายผมอบอุ่น ผมถอดผ้าพันคอให้คนตัวเล็ก ถึงจะยังไม่เข้าหน้าหนาวแต่ก็ผมก็ให้เขาสวมเสื้อผ้าปุกปุยแล้ว ผมไม่เสี่ยงให้ภรรยาท้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด

"วันนี้คุณทำอะไรบ้าง ?" ผมเปิดประตูให้ข้าว แล้วอ้อมมาสตาร์ทรถ เปิดฮีธเตอร์ให้อบอุ่น

ข้าวยิ้ม ดึงผ้าพันคอลง "ขัดเพชร กิน แล้วก็นอน... ดูละคร โทรกลับบ้าน ลุกขึ้นมากินอีก แล้วก็นอน"

ผมยิ้ม เหมือนที่เห็นในกล้องวงจรปิด ข้าวไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย ขาเล็กๆ ในบู๊ตเตะเล่น "แล้วก็ วันนี้ใส่สร้อยข้อมือที่เธอให้มาด้วยล่ะ" เขายื่นแขนออกมาอวด ผมจูบข้อมือบางแล้วยิ้มให้

สร้อยข้อมือทำจากทองคำขาว สั่งทำพิเศษ ประดับด้วยจี้เล็กๆ รูปส้มและดอกส้มทำจากเพชร ด้านในเป็นกระพรวนเล็กๆ ส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งดูเข้ากับข้าวดี

"ที่ไทยเราใส่กระพรวนที่ข้อเท้าทารกด้วยล่ะ พอเธอใส่แบบนี้ให้ฉันเลยเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลย"

ผมหัวเราะ "ข้าวน่ารัก" น่ารักเหมือนเด็กน้อย... ที่ผมใส่กระพรวนให้เขาก็เพราะอยากได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋งนี่แหละ

จะว่าไปสร้อยข้อเท้าก็เข้าท่า ผมสั่งทำสร้อยข้อเท้าให้เขาใส่ติดตัวไว้ดีกว่า

ผมจดลิสต์เครื่องประดับของเดือนหน้าไว้ในใจ

ผมออกแบบเครื่องประดับไว้ให้ข้าวเยอะมาก นึกขำตัวเองว่าเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่สนใจของเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้กลับมาออกแบบได้ เพราะข้าวแท้ๆ ผมอยากให้เขาสวมเสื้อผ้าที่ผมซื้อให้ ใส่เครื่องประดับที่แสดงความเป็นเจ้าของจากการออกแบบของผม แค่เพชรยังไม่พอ อัญมณีสูงค่าชิ้นไหนก็เทียบเขาไม่ได้เลย ข้าวมีคุณค่ามากกว่านั้น สูงค่ายิ่งกว่าสิ่งใดบนโลก

"แล้วจะซื้ออะไรเหรอ ?" ข้าวตื่นเต้นที่ได้ออกจากบ้านบ้าง เหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้างที่ไม่ค่อยเห็นโลกภายนอก ไร้เดียง บริสุทธิ์

...และเป็นของผมคนเดียว

"ลองดูเก้าอี้โยกดีไหมครับ ? ผมอ่านมาว่าคนท้องนั่งเก้าอี้โยกจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการ"

"พัฒนาการอะไร ?"

ผมหัวเราะ "ผมจำไม่ได้แล้ว แต่เอาเป็นว่าดี"

"เก้าอี้โยก... อย่างกับยายแก่แน่ะ" บ่นทั้งๆ ที่หน้าระรื่น เจ้าหญิงเอาหน้าแนบกระจกรถเหมือนเด็ก ดูกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างสนใจ บ่นหงุงหงิง "จะมีคนไทยเดินอยู่ข้างนอกนั่นไหมน้า..."

ข้อมือผมเกร็ง คงไม่ใช่ว่า...

...ข้าวคิดถึงบ้านอีกแล้วนะ ?

ทุกวันนี้ผมยอมให้เขาไปเที่ยวหาพิชสัปดาห์ละครั้งที่ควีนส์ ไปที่ร้านบ้าง ที่บ้านบ้าง ผมคิดว่าเท่านั้นน่าจะพอแล้ว แต่ข้าวกลับยังคงเหงา... ดูจากเบอร์ที่โทรกลับบ้านนั่นก็ได้

ผมเช็คเบอร์โทรจากใบเสร็จของข้าวทุกเดือน ถึงเขาจะหวงโทรศัพท์เพราะมีเกมเล่นค้างไว้เยอะจนไม่ยอมให้ดูก็เถอะ ผมก็ยังเช็คว่าเขาโทรออกไปไหนได้อยู่ดี

ข้าวโทรหาไม่กี่คนบนโลก กลอเรีย พิช ที่บ้าน พ่อแม่ น้องชาย น้องสะใภ้ ญาติๆ เท่านั้น

ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเขาไป ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม เพราะต้องการเช็คมือถือจึงต้องทำตัวเป็นเด็กดี แล้วตะล่อมขอเขาเอา หากบังคับแย่งข้าวคงได้ร้องไห้อีกแน่ๆ

ตอนนี้ข้าวอารมณ์ดี คุยว่าคุกกี้ที่ทำให้กลอเรียอร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วปิดท้ายด้วยเสียงอ่อยๆ "แต่ฉัน... แอบกินไปครึ่งถาดล่ะ"

ผมหัวเราะ ดึงแก้มนุ่มเบาๆ "กี่ชิ้นล่ะครับ ? ไหนว่าลูกไม่ได้ใช้ ?"

หน้าสวยเบะลง "ก็... ก็... มันอร่อยนี่นา"

"กินไปเถอะครับ"

"ไม่ดุนะ ?" เห็นผมเป็นอะไรล่ะนี่

"ไม่ดุครับ ข้าวจะอ้วน จะผอม ผมก็รัก"

ภรรยากลับหน้าซีด "ไม่เอาอ้วนนะ! ถ้าอ้วนแล้วเตี้ย ไม่สวยเลย... ไม่เอานะ!"

"เจ้าหญิงสวยเสมอ ไม่ต้องวิตกหรอกครับ"

"ไม่เอา" เจ้าหญิงคราง ส่ายหน้าหวือ "เธอต้องทิ้งฉันไปแน่ๆ"

ข้าวคิดมากตลอด คิดว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับผม ทั้งๆ ที่จริงแล้วผมต่างหากที่ไม่คู่ควรกับความรักของเขา

ผมอยากจูบเขา ติดที่มือยังอยู่ที่พวงมาลัยนี่สิ

"ผมไม่มีวันทิ้งคุณหรอก... ผมรักคุณ 'โผมรักโคน'" ผมพยายามพูดภาษาไทยให้หวานซึ้ง แต่เจ้าหญิงกลับหัวเราะ

"ไปฝึกพูดมาอีกรอบเหรอ ?" สมัยที่จีบเขาใหม่ๆ ผมเคยพยายามเรียนภาษาไทย แต่พอพูดว่า 'คุณซวยมาก' ข้าวก็หัวเราะลั่น โบกมือให้พูดภาษาอังกฤษดีกว่า

ผมกระแอม ยอมรับ "ครับ"

"ดีจัง" มือเล็กกุมมือผมเหนือกระปุกเกียร์ "ขอบคุณนะ ถึงฉันจะอ้วนฉุก็รักใช่ไหม ? ถึงจะหนักเป็นร้อยโลก็รักใช่ไหม ?"

ผมคำนวนหน่วยกิโลกรัมเป็นปอนด์... 220 ปอนด์เลยเหรอ

แต่เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้าง ก็พยักหน้า "ครับ"

ต่อให้พุงหลามจนติดพื้น ต่อให้อ้วนจนเดินไม่ได้ ผมก็จะอุ้มคุณไปเอง ต่อให้เข้าห้องน้ำไม่ได้ ผมก็จะให้คุณขับถ่ายตรงนั้น ทำความสะอาดอวัยวะทุกส่วนให้เอง

บางที... อาจจะดีก็ได้... เจ้าหญิงจะได้ไม่ไปไหน ขยับตัวไม่ได้ เป็นของผมคนเดียว พึ่งพาแต่ผมคนเดียว

"จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่เหรอ ร้านอยู่ตรงนั้นนะ" ข้าวปลุกผมจากภวังค์ ผมรีบหาที่จอด ใกล้ๆ กันมีร้านขายเครื่องเขียนด้วย ผมต้องตะครุบคนตัวเล็กไว้ก่อนที่จะหายไปกับฝูงชน

ร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้ปิดแล้ว แต่เพราะทีนาโทรมาแจ้งล่วงหน้าจึงยังเปิดรอพวกเรา เจ้าหญิงจึงใช้เวลาเดินเลือกช้าๆ ตามสบาย

ในที่สุดข้าวก็เลือกเก้าอี้โยกทำจากไม้ บุนวมตัวใหญ่ได้ ผมยื่นการ์ดให้แล้วเลือกหมอนอิงเพิ่มอีกสามสี่ใบ จ่ายไปก็ต้องคอยห้ามไม่ให้เขาดูป้ายราคาไป เพราะกลัวว่าเห็นราคาแล้วข้าวจะรีบกลับบ้าน ไม่ยอมซื้อของแม้แต่ชิ้นเดียว

หลังจากเซ็นรับแล้ว ทางร้านบอกว่าพรุ่งนี้จะมาส่งที่บ้าน ผมจึงส่งข้อความบอกกลอเรียให้รอรับ ส่วนตัวเองพาภรรยาไปกินดินเนอร์ที่ร้านใกล้ๆ

หลังมื้ออาหาร ผมยังมีของเซอร์ไพรซ์รอข้าวอยู่ที่บ้าน

ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นหอมสดชื่นของส้มก็โชยมา ข้าวอ้าปากค้าง เงยหน้ามองผม "มีเซอร์ไพรซ์เหรอ ?"

ท่าทางเขาเหมือนเด็ก ตื่นเต้นเป็นเด็กน้อย

ผมพยักหน้า "ครับ กลิ่นดอกส้ม"

ข้าวเดินไปรอบๆ ห้อง เครื่องประดับตกแต่งเป็นเถามะกอกและดอกส้มเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋มปักในแจกันแทนดอกกุหลาบสีแดงก้านตรง

"น่ารักจัง" ข้าวดอมดมดอกไม้สีขาวที่รวบเป็นช่อ ผมเดินตามมาช่วยเขาเก็บโค้ต

"ลองไปดูในครัวสิครับ"

ข้าวแทบถลาไป เหมือนเด็กในเช้าวันคริสมาสต์ เท้าเล็กๆ ซอยถี่แล้วร้องโอ้โหดังๆ

"ว้าว แม๊กซ์!"

ผมเดินตามเข้าไปในครัว บนเคาเตอร์มีกองผลไม้เขตร้อนวางจนเต็มจนเหมือนยกทั้งสวนมาอยู่ในบ้าน

ผมยิ้ม "ชอบไหมครับ ?"

กลิ่นหอมๆ สดชื่นก็มาจากดอกส้มและผลไม้รสเปรี้ยว ผมโอบกอดเขาจากด้านหลัง "เป็นไงครับ ? คุณบ่นว่าอยากกินของเปรี้ยวๆ ผมเลยไปหามาให้" เรียกว่าทีนาต่างหากที่เป็นคนรวบรวมมาตามคำสั่ง

ซุปเปอร์ทั้งหมดในนิวยอร์กถูกสั่งให้คัดผลไม้สดจากไทย จีน เวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซีย ลำบากทีนาทีเดียว หล่อนกลอกตาเป็นรูปอินฟินิตี้ทั้งหมดสามสิบหกครั้ง แต่ก็หามาจนได้

ส้มเกลี้ยง ส้มโอ มะม่วง สับปะรด สตอร์เบอร์รีอมเปรี้ยว มะกอกดองแบบไทย กีวี มะเฟือง เสาวรส ผลไม้แปลกๆ สีเขียวๆ ที่ข้าวรีบโผเข้าไปหาแล้วหยิบขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

"ตะลิงปลิง! หามาได้ไงเนี่ย ขนาดที่ไทยยังหากินยากเลย"

ผมไม่เคยเห็นหรอก แต่ก็พยักหน้ารับ เขี่ยแก้มใสเบาๆ "ชอบไหมครับ มามิ๊ ?"

เจ้าหญิงวางผลไม้แปลกหน้า ชื่อแปลกลงแล้วหอมแก้มผมแรงๆ "ขอบคุณมากนะ ชอบมากเลย" เขาจัดแจงหยิบมีดปอกผลไม้มานั่งลง เลื่อนถาดมาไว้ข้างๆ

"ปอกแล้วนะ กินไหมแม๊กซ์ ?"

ผมส่ายหน้า แค่เห็นก็เข็ดฟันแล้ว ผมรีบชี้ชวนให้เขาดูที่กลางกองผลไม้ "ดูดีๆ สิครับ"

ข้าวแทบไม่สนใจที่ผมชี้ ใจอยู่ที่ผลไม้เปรี้ยวจัดเหล่านั้น มือบางรื้อมะม่วงดิบออกแล้วร้องโอ้โหอีกครั้ง

...เพชรสีเหลืองราคาแพงจัดวางอย่างมีศิลป์อยู่ท่ามกลางกองส้ม เพชรเม็ดนี้ยังไม่ได้เข้าเรือนแต่เจียระไนเป็นทรงกลม อันหมายถึงความรักนิรันด์ ไม่มีที่สิ้นสุด ผมหวังว่าข้าวคงมีไอเดียเอาเพชรเม็ดนี้ทำเป็นเครื่องประดับสวยๆ เข้ากับผิวขาวๆ ของเขา

"สวยจัง เพทายเม็ดนี้" ข้าวหยิบเพชรที่เม็ดใหญ่เท่านิ้วโป้งขึ้นมาส่อง ผมหน้าบูด

"เพชรครับเจ้าหญิง ไม่ใช่เพทาย"

"อ้าว เหรอ ฉันดูไม่ออกหรอก คงแพงน่าดู" ข้าววางเพชรลงที่เคาเตอร์เบาๆ แล้วกลับมานั่ง ดึงถาดผลไม้สีเขียวเข้ามาใกล้ๆ ท่าทางน้ำลายสอ ชี้ที่ตู้เย็น "แม๊กซ์ เอาน้ำปลาหวานมาหน่อย"

"เดี๋ยว ข้าว แล้วเพชร..." ดูเหมือนเพชรสีเหลืองที่ผมไปประมูลมาอย่างยากเย็นจะมีค่าน้อยกว่าผลไม้เสียอีก ผมถอนหายใจ เอาเพชรเก็บใส่กล่องกำมะหยี่ ข้าวหัวเราะขำ

"อย่าน้อยใจเลยน่า ขอบคุณสำหรับเพชรนะ แต่สำหรับฉัน ไม่มีอะไรมีค่าเท่ากับความรัก ความใส่ใจที่เธอมีให้แล้วล่ะ" ข้าวตอบพลางหยิบผลไม้ ผมฟังแล้วถึงใจชื้น เขาจูบริมฝีปากผมเบาๆ เป็นการปลอบใจ ก่อนจะสั่ง "น้ำปลาหวานๆ หยิบให้ด้วย"

ผมถอนหายใจ "น้ำปลาหวาน ?" มีของแปลกอยู่ในตู้เย็นบ้านเราด้วยหรือนี่

"ซอสสีดำๆ ที่เธอว่าเหม็นน่ะ"

อ้อ ซอสข้นเหนียวสีดำกลิ่นเหม็นเหมือนของเน่านั่นเอง เห็นว่าพิชเอามาให้ขวดใหญ่ ผมหยิบจากตู้เย็นแล้วยื่นให้ ข้าวรับไปเหมือนลูกคนแรก ทะนุถนอมยิ่งกว่าเพชรสีเหลืองเสียอีก

เจ้าหญิงวางขวดซอสสีดำและผลไม้ลง หันกลับมามองผม "จะว่าไป... ดอกส้มหมายถึงอะไรเหรอ ?"

ผมอุ้มเขาขึ้นจากเก้าอี้ ไม่อยากให้สนใจซอสเหม็นๆ มากกว่าผมนัก ถ้าไม่สนใจเพชร อย่างน้อยก็สนใจผมหน่อยก็ยังดี "หมายถึง... รักตลอดกาล... กับมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองครับ"

ข้าวฟังแล้วหน้าแดง ผมจับแก้มนิ่มเล่น "แล้วก็หมายถึง การแต่งงาน... ครอบครัว"

เจ้าหญิงซุกหน้ากับอกผม งึมงำเสียงแผ่วๆ "ความหมายดีจัง..."

ผมยิ้ม "ผมรักคุณนะครับ"

"ฮื่อ... รักนะ"

"ผมรักมากกว่า"

"ฉันรักกว่า" ข้าวไม่ยอมแพ้ แต่จะทางไหนผมก็กำไรอยู่ดี คนในอ้อมแขนถึงเพิ่งรู้ตัว เงยหน้าขึ้นอวดแก้มกลมแดงก่ำ ริมฝีปากอิ่มขยับช้าๆ

"ถ้าอย่างนั้น..." มือน้อยจับคอเสื้อผมเบาๆ "สร้อยข้อมือก็หมายถึง..."

"เหมือนกันครับ ความรักของผม" ผมกุมมือน้อยมาจูบ ข้าวขบริมฝีปาก ท่าทางกลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม

ความรักอบอวลระหว่างเราสอง กลิ่นผลไม้เขตร้อนที่หอมกรุ่นนั้นยังหวานหอมสู้ความรักเราไม่ได้

ความรักที่ไม่ใช่เพียงของคนสองคน แต่หมายถึงครอบครัว ความรักที่มั่นคง เต็มไปด้วยความผูกพันธ์... ความรักของผม

ข้าวเปิดปากอีกครั้ง พูดด้วยเสียงแผ่วขาดห้วง เขินอายจนต้องซุกอกผมอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้น... แด๊ดดี๊เข้ามาทักทายลูกชาย... หน่อยนะครับ ?"

อา ต้องแบบนี้ ข้าวที่รัก... เจ้าหญิงน้อยของผม!

ผมอุ้มเขาไปที่โซฟา ที่ที่มีดอกส้มดอกเล็กๆ เบ่งบานล้อมรอบ ผมจูบเขาบางเบา ราวกับว่าเรากำลังร่วมรักกันอยู่ในสวนดอกไม้แสนหวาน ข้าวช่วยผมถอดเสื้อผ้าออก ในที่สุดคนตัวเล็กก็เปลือยกายล่อนจ้อน ผมดูร่างกายเล็กๆ สีขาวสะอาดเหมือนชื่อ กลิ่นกายหอมยั่วยวนไม่แพ้ดอกส้ม

เมื่อพรมจูบทั่วร่างแล้ว ผิวนวลก็ขึ้นสีชมพูระเรื่อ ราวกับดอกไม้บนหิมะแรกขาวสะอาด ข้าวขบบริเวณคอผมกลับ หน้าแดง เอามือปิดปากขณะบอก "ฉัน... ฉัน ไม่มีสร้อยให้เธอ แต่จะจูบให้เป็นรอยแทนนะ ?"

น่ารักอะไรอย่างนี้!

ที่รักครับ จะสร้อยหรืออะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น คุณมีค่ากับผมมากกว่าสิ่งใด

ผมจูบหน้าท้อง จูบข้อมือ จูบคอ เสียงกรุ๋งกริ๋งของกระพรวนดังเบาๆ

เราจูบกันอีกครั้ง ผมเลื่อนมือหาเจลมาบีบใส่ช่องทางและอวัยวะตัวเอง ระหว่างนั้นก็ก้มลงจูบปลายหัวสีชมพู ใช้ปากครอบ กลิ่นส้มไม่อาจกลบกลิ่นหอมหวานได้เลย หว่างขาขาวขยับออก อวดส่วนกลางที่ยังอ่อนแออยู่

"หื้มมม ไม่ต้อง... เข้ามาเลย"

ข้าวยังไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเท่าใดนัก แต่ผมก็พยายามใช้ลิ้นปลุกเร้าเขา นิ้วชี้ค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในช่องทางคับแคบ นวดคลึงให้คลายออก ผมดูดกลืนท่อนลำเล็กน่ารักจนชุ่มน้ำลาย ขบกัดถุงกลมนิ่ม รูดขึ้นลงจนข้าวขยับขา ครางเบาๆ

เมื่อเริ่มแข็งตัว ผมก็ขยับนิ้วเบาๆ แล้วถอนออก ใบหน้าสวยราวกับเมาเหล้า มัวเมาในห้วงกามแสนหวาน ริมฝีปากอิ่มขยับอีกครั้ง เป็นคำที่ผมชอบ คำที่ทำให้ผมคลั่งใคล้

"ฉันรักเธอ..."

ผมบดจูบคำคำนั้น "ผมรักคุณ" กระซิบกับริมฝีปาก อยากให้เขาจำให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกังวลกับสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือฝันร้าย

ผมจะเป็นสามี เป็นอัศวิน เป็นองครักษ์ เป็นคนรักของเขา จะปกป้อง ดูแลทุกย่างก้าว ให้เจ้าหญิงของผมมีแต่ความสุขสบาย

ผมสอดใส่เชื่องช้า แม้ใจอยากกระแทกกระทั้น แต่ในท้องน้อยๆ นั้นมีองครักษ์ตัวเล็กอยู่จึงต้องทะนุถนอม ข้าวคราง บิดตัวเร่า

"อื้มม อ่อนโยนจัง"

"ชอบไหมครับ ?" เหงื่อเม็ดน้อยผุดพราย ข้าวยิ้มหวาน พยักหน้า

"กอดหน่อย"

ผมกอดเขาแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งตัก กระแทกเอวบางจากด้านล่าง สะโพกกลมส่ายร่อนต้อนรับท่อนลำอย่างยินดี ภายในร้อนผ่าวและเปียกชื้น โพรงร้อนตอดรัดผมจนคลั่ง ข้าวรู้ดี...

"อืมม แรงได้นะ..." ฟันขาวขบที่ไหล่ "เข้ามาอีก... ลูกอยากให้แด๊ดดิ๊รักแรงๆ เหมือนกัน"

เพื่อยืนยัน สองขาอ้ากว้าง เมื่อผมอัดกระแทกอย่างแรง ข้าวกรีดร้อง เล็บจิกแผ่นหลังอย่างสุขสม "อื้มม แรงอีก... อ้า อ๊าา อื้มม"

"ซี๊ดด แน่น..."

"เอาอีก... อึก!"

เราร่วมรักกันอย่างร้อนแรง ผมว่าลูกต้องตกใจแน่ๆ แต่ผมก็ไม่ลดแรงลง ข้าวเกร็งสะโพก ตาหวานลอยเคลิ้ม พ่นน้ำหวานออกมาแล้ว แต่ผมยังโหมกระหน่ำ จ้วงแทงไม่ลดละ ยกขาขาวข้างหนึ่งขึ้นสูงพาดไหล่ สอดประสานเป็นจังหวะเดียว เมื่อเหงื่อผมไหลรินลงบนหน้านวล ข้าวกลับแลบลิ้นเลียเหงื่อเม็ดนั้น สบตาด้วยสายตายั่วยวน

"ผมรักคุณ!"

"อ๊าา อ๊าา แรงอีก! ลึกก ใหญ่ ฮ้าาา" ข้าวสะบัดหน้า แอ่นเอวขึ้นสูง กางขารับการรุกราน รุนแรงจนโซฟาส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด

กลิ่นกามช่างหอมยั่วเย้ายิ่งกว่ากลิ่นผลไม้เขตร้อน...

...และตัวเขาก็ร้อนแรงยิ่งกว่าแสงอาทิตย์กลางคิมหันต์ฤดู

...


ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมสวมโค้ตและผ้าพันคอให้ข้าว วันนี้เจ้าหญิงสวมเสื้อคอบัวมีกระดุมหน้า เสื้อผ้าแบบยูนิเซ็กส์เข้ากับเขาได้ดี ผ้าพันคอแคชเมียร์สีน้ำตาลลายบูเบอร์รีเข้ากับเสื้อโค้ตสีกากี น่ารักเหมือนเด็กน้อย

ผมพาเขาไปเดินเล่นที่เซ็นทรัล ปาร์ค มือน้อยเกาะกุมผมแนบสนิท แม้เซ็นทรัล ปาร์คจะอยู่ตรงข้ามกับตึกของเราแต่ผมก็ไม่ค่อยปล่อยให้เขาไปเดินเล่นนัก แต่ด็อกเตอร์โซฟีเน้นเรื่องสภาพจิตใจของข้าว อีกทั้งอากาศบริสุทธิ์จะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ผมจึงยอมจูงมือเขาเดินเล่น ข้าวหยุดเดินเป็นพักๆ ดูบรรดาของที่ระลึกและหนังสือมือสอง พอเดินไปได้สักพักก็สะกิดผมที่แผงวาดรูปเหมือนที่ตั้งอยู่ดาษดื่น ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้นัก แต่ข้าวตื่นเต้นมาก ใช้เวลาแค่สิบนาทีเราก็ได้รูปวาดที่ไม่เหมือนสักเท่าไหร่มาให้ผมถือ เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ผ่านบรรดาคนที่พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นและออกกำลัง ข้าวก็หน้าบูด บ่นว่า

"เหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงให้เธอพามาเดินเล่นเลย"

ผมหัวเราะ โอบเอวบาง "โธ่ เจ้าหญิง สัตว์เลี้ยงอะไรจะน่ารักขนาดนี้"

ข้าวยังคงทำปากยื่น แต่พอเห็นประตูสวนสัตว์ก็ตื่นเต้น ดึงชายเสื้อผมให้เข้าไปดู แต่น่าเสียดายที่วันนี้ปิดทำการ เราสองคนจึงเดินเล่นไปเรื่อยๆ พอหิวก็แวะซื้อฮอตด็อกกิน เจ้าหญิงประคองอาหารฟาสต์ฟู๊ดลงนั่งบนพื้นหญ้า มีกระรอกใจกล้ามาเล่นใกล้ๆ

เย็นแล้วก็จริง แต่ยังมีคนมาพักผ่อนเรื่อยๆ

ลมฤดูใบไม้ร่วงหนาวเย็น แต่พอเรานั่งเคียงข้างกันกลับรู้สึกอบอุ่น

ผมลูบไล้หน้าท้องเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว เจ้าหญิงที่กินไส้กรอกเต็มปากยิ้มแต้ ปากเปื้อนมัสตาร์ดจนผมต้องช่วยเช็ดให้

"ลองคุยกับลูกสิ" เจ้าหญิงบอก เอามือตบหน้าท้องดังแปะ ผมลังเล ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบ

"ลูกจะเข้าใจเหรอ ?"

"ไม่รู้เหมือนกัน" ข้าวกินคำสุดท้ายแล้วพับกระดาษห่อฮอทด็อทของผมและของตัวเองเรียบร้อย เอาใส่กระเป๋าโค้ตเพื่อเอาไปทิ้งที่บ้าน "แต่ฉันว่าลูกเข้าใจนะ... เข้าใจว่าเรารักเขามากแค่ไหน"

ผมยิ้ม ก้มลงจูบหน้าท้องผ่านเสื้อผ้าหนาเตอะ

ลูกจะเกิดในฤดูหนาว... แต่จะมีความรักของพวกเราเป็นเครื่องป้องกันความหนาวเหน็บ ให้ความอบอุ่นแก่เขาไปตลอดชีวิต

ทั้งผมและข้าว จะกลายเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดในโลก รักลูกที่สุดในโลก

ผมบอกลูกที่อยู่ในครรภ์เบาๆ "เป็นเด็กดีกับมามิ๊นะครับ อัศวินน้อยของแด๊ด"

เจ้าหญิงหัวเราะ ลูบหน้าท้องสำทับ "นั่นสิ... อย่าดื้อ อย่าซนกับแด๊ดกับมิ๊นะ มิ๊ตัวเล็กนิดเดียว ถ้าลูกซนมิ๊ต้องเหนื่อยแย่แน่ๆ เลย"

"โตมาแล้วคอยปกป้องมิ๊ด้วยนะครับ... อัศวินของแด๊ด เจ้าหญิงของพวกเราสวยน่ารัก มีสเน่ห์สุดๆ จนใครๆ ก็อยากได้ ลูกต้องคอยดูแลเข้าใจไหม ?"

"ขนาดคุยกับลูกยังไม่วายหึงนะ" เจ้าหญิงตีแขนผมเบาๆ แล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มที่มีหนวดเครา แม้จะบ่นว่าสากระคาย แต่เจ้าหญิงก็ชอบจูบแก้มผมพอๆ กับที่ผมชอบจูบเขา

ผมจูบริมฝีปากอิ่มเป็นการตอบแทน

"ดีใจจัง"

"ฉันก็ดีใจ" เจ้าหญิงตอบแล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูป เห็นว่าจะบันทึกไดอารีคุณแม่ ผมเองก็ตื่นเต้นไปด้วย ข้าวบอกว่าหากครบกำหนดเก้าเดือนเมื่อไหร่จะเอามาให้ผมอ่าน เผื่อลูกโตพอรู้เรื่องก็จะทำเป็นนิทานให้อ่านก่อนนอน

เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ผมสู้ข้าวไม่ได้ แต่ผมชอบไอเดียเขา เจ้าหญิงเริ่มทำสมุดบันทึกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนของร้านที่ใกล้ร้านเฟอร์นิเจอร์ ผมเห็นเขาง่วนตัดรูป ติดสติ๊กเกอร์และพับรูปสัตว์และดอกไม้ต่างๆ ติดสมุดเล่มใหญ่ บางหน้าผมได้รับเกียรติให้เขียนบันทึกด้วย

ผมรู้สึกว่า... ความรักของเราไม่ใช่แค่ของพวกเราอีกแต่ไป แต่เป็นความรักที่กว้างขึ้น อบอุ่นขึ้น เผื่อแผ่ไปยังลูกน้อย ความห่วงใย ความผูกพันธ์ถักทออย่างเป็นธรรมชาติและนุ่มนวลอบอุ่น ทว่าเงียบงัน

ความรักที่ไม่หวือหวา ฉูดฉาด หรือโรแมนติก

แต่เป็นความรักแบบนี้... แบบที่ผมโอบกอดเขาไว้ในยามที่เจ้าหญิงฝันร้าย

ความรักในแบบที่เขานั่งตักผมในเย็นวันที่อากาศหนาวในเซ็นทรัล ปาร์ค และเราฟังเสียงหัวใจกันและกัน บอกรัก ลูบไล้และพูดคุยกับอัศวินน้อยในท้อง

ผมกับข้าว... เรากลายเป็นครอบครัว

ครอบครัวของผมและเจ้าหญิง

ครอบครัวที่แสนสมบูรณ์แบบของพวกเรา


.............

// โรคจิตมากคุณพระะะะะะะะะะะะะ

ออฟไลน์ JUST_M

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ๊ยยย
เบาหวานขึ้นตา


อิจฉานะเนี่ย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ถึงโรคจิตแต่มความหวานมาก ชอบจ้า

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao4: เหมือนต่างคนต่างมีปมไงไม่รู้ ดูไม่ค่อยสุขเท่าไหร่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด