ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231625 ครั้ง)

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
รักผัวครั้งที่ 4

ผมไม่รู้ว่าเมื่อสองปีที่แล้ว ผมยอมให้ภรรยาออกไปทำงานคนเดียวได้อย่างไร บริษัทเล็กๆ ของข้าวตั้งอยู่ในหลืบในฮาร์เลม* ไม่ไกลจากย่านที่เราอยู่นักก็จริง แต่อันตรายกว่ามาก ผมจึงต้องขับรถไปรับไปส่งทุกวัน ตอนเที่ยงก็ให้ข้าวแพ็กอาหารกลางวันไปกินในออฟฟิศ ไม่อนุญาตให้ออกมานอกอาคารโดยเด็ดขาด

เมื่อข้าวหยุดทำงาน ผมโล่งใจเป็นอย่างมาก ตลอดสองปีนั้น ผมใจตุ๊กๆ ต่อมๆ ตลอด กลัวว่าข้าวจะเป็นอะไรไป กลัวว่าจะถูกทำร้าย กลัวว่าจะนอกใจผมไปหาคนอื่น กลัวว่าเจ้าหญิงจะหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อม กลัวสารพัด แค่คิดว่าข้าวต้องเผชิญกับคนจำนวนมาก (แม้ข้าวจะทำงานเอกสารก็เถอะ) ต้องหายใจร่วมกับคนอื่นที่ผมไม่รู้จัก ผมก็ทรมานแล้ว

แต่ไม่คิดว่า ขนาดขังข้าวไว้ในบ้าน ผมก็ยังไม่หายกังวล ย่านที่เราอยู่นั้นปลอดภัยก็จริง ทั้งตึกก็มีเวรยาม การรักษาความปลอดภัยแน่นหนา แต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้น

ดังนั้น กลอเรียจึงไม่ได้ถูกจ้างมาเพื่อทำความสะอาดและซักรีดผ้า หล่อนถูกสั่งให้เป็นเพื่อนคุยของข้าวและคอยดูแลไม่ให้ข้าวพบเจอคนข้างนอก หากข้าวจะออกไปไหน ต้องมีกลอเรียที่มาขออนุญาตจากผมก่อนไปเป็นเพื่อน

กระนั้นเลย... ผมก็ไม่สามารถล่ามโซ่ให้ข้าวเป็นของผมเพียงคนเดียวอย่างที่คิดได้

ข้าวเป็นคนสวย เป็นคนมีสเน่ห์ ถึงจะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็มีฟีโรโมนคลุ้ง

ยิ่งช่วงนี้ข้าวคงเบื่อที่อยู่คนเดียวในตอนกลางวัน เขาโทรกลับบ้านบ่อยขึ้น อ่านเวบบอร์ดที่ผมอ่านไม่ออกสักตัวแทบทุกวัน ใช้เวลาไปกับละครไทยในยูทูปที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนเขาจะคิดถึงบ้านมาก ยิ่งพูดถึงเพื่อนๆ และครอบครัวที่ไทยบ่อยๆ จนผมกลัวว่าสักวัน ผมจะกลับบ้านมาพบกับห้องที่ว่างเปล่า เจ้าหญิงของผมหนีกลับประเทศไป

ดังนั้นผมจึงพยายามฝืนตัวเองพาเขาออกนอกบ้านมากขึ้น แต่ยังรักษาระยะห่างกับคนอื่นๆ ไว้ให้มากที่สุด

ไม่นึกเลย...

ความเหงาของข้าวก็ทำให้เขานอกใจจริงๆ...



"สำหรับค่าฮอร์โมนตอนนี้เป็นปกตินะครับ หมอจะสั่งยาบำรุงเหมือนเดิม สัปดาห์นี้จะเข้าสัปดาห์ที่ 5 แล้ว ถ้าหากคุณแม่มีไข้หรือไม่สบายให้มาพบหมอ..."

ผมจ้องหน้าหมอหน้าสวยเขม็ง ระหว่างยืนซ้อนหลังเจ้าหญิง

ข้าวยิ้มหวานสดใสรับคำหมอ ทั้งคู่พูดเล่นกันสั้นๆ แล้วก็ต้องหยุด เพราะผมบีบไหล่บางแน่น

"ข้าว" ผมเตือน

ไม่ชอบเลย... ตอนแรกที่เลือกด็อกเตอร์กาเบรียลเพราะเขาเป็นหมอที่โด่งดังเรื่องครรภ์บุรุษที่สุด แล้วตอนนี้ยังท้องกับสามีด้วย ดังนั้นจึงไม่มีทางมายุ่มย่ามกับกับภรรยาผมแน่นอน

แต่พอเจอหมอครั้งแรก ข้าวอ้าปากค้าง กรามแทบหล่นลงไปกับพื้น เพราะหมอหน้าตาสวยมาก ผมสีทอง ตาสีฟ้าเหมือนเทวดา มีรอยยิ้มอบอุ่นนุ่มนวล ถ้าหมอไม่เสียงหวาน ตาหวานขนาดนี้ ผมคงไม่หึงข้าว

แต่การดูแลครรภ์ยังต้องดำเนินต่อไป ผมจำเป็นต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้ ด๊อกเตอร์กาเรียลคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แพงที่สุดของวงการ แม้จะไม่ชอบหน้าหมอ แต่ผมก็ต้องทน ยิ่งต้องพบหมอทุกสัปดาห์เพื่อดูค่าฮอร์โมน ยิ่งทำให้ผมไม่วางใจ หมอยิ่งสวย ยิ่งใจดี ข้าวยิ่งชอบ แต่ผมยิ่งเกลียด

"คุณพ่ออย่ารุนแรงกับคุณแม่เกินไปนะครับ" หมอพูดสุภาพแต่เลื่อนสายตามาที่มือที่บีบไหล่ข้าวเป็นเชิงเตือน

ผมคำรามเสียงต่ำ "หมอควรสนใจเรื่องตัวเองไหมครับ ?"

หมอแสยะยิ้ม "ถ้าคนไข้ถูกทารุณหรือมีปัญหาเรื่องถูกใช้ความรุนแรง หมอก็มีสิทธิแจ้งความนะครับ"

ผมปล่อยมือออกจากไหล่บาง ข้าวกัดริมฝีปาก ตาแดงๆ คงเจ็บไม่น้อยแต่ไม่ยอมปริปาก

ผมเกลียดตัวเอง

เกลียดตัวเองที่ไม่มีทางเลือกให้ภรรยา ทั้งๆ ที่ผมรักเขายิ่งกว่าใครบนโลก

"ไม่มีอะไรหรอกครับ" ข้าวหัวเราะแผ่วๆ แล้วขอตัวหมอออกมา

"ถ้าอย่างนั้น..." หมอเคลื่อนตัวอุ้ยอ้ายเพราะท้องแก่ใกล้คลอด "หมอจะเขียนใบสั่งยาบำรุงนะครับ มีฮอร์โมน โฟลิค แคลเซียม...." หมอตบท้ายด้วยการบอกให้พวกเราไปรอจ่ายเงินที่ด้านนอก






ผมออกไปจ่ายเงิน ทิ้งภรรยาท้องไว้ที่ล็อบบี้ ในแผนกมีคนท้องทั้งชายและหญิงนั่งรออยู่ เมื่อกลับมาอีกครั้ง โทสะที่เกิดจากความหึงหวงก็พวยพุ่ง

ภรรยาผมมีชู้!

ข้าวกำลังนั่งคุยอย่างออกรสเป็นภาษาไทยกับผู้ชายเอเชียสวมแว่นคนหนึ่ง

ผมเดินรี่เข้าไปหา ข้าวหันกลับมายิ้มหวาน แนะนำตัวผู้ชายสวมแว่นที่น่าจะตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว

"นี่ แม๊กซ์ นี่พิช คนไทยที่อยู่ที่นี่ล่ะ เค้ามีร้านนวด... พิช นี่แม๊กซ์ สามีผมเอง"

ชายแปลหน้ายื่นมือออกมาจับอย่างเป็นมิตร "สวัสดีครับ ผมพิช"

ผมจับมือชายคนนั้นแกนๆ แต่ข้าวที่ยังไม่รู้ถึงความโกรธของผม ยังดีที่บทสนทนาต่อมาเป็นภาษาอังกฤษให้ผมเข้าใจด้วย "ดีจังที่เจอคนไทยที่นี่ ผมแทบไม่ได้ออกจากแมนฮัตตันเลย"

เจ้าหญิง... ทำไมทำท่าทางสนิทสนมกับมันขนาดนั้น... ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จัก ทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ช่างคุย

เพราะคิดถึงบ้านมากเกินไป เพราะคิดถึงไทยมากไป... เลยทำให้เจ้าหญิงเลือกที่จะมีชู้ ?

ผมคิดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มองดูคนตัวเล็กกลับไปจ้อเป็นภาษาไทยที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง มีเข้าใจเป็นคำๆ เช่น 'ข้าว' 'กิน' 'บ้าน'

ผมรู้จักคำพวกนี้ ข้าวแปลว่า Rice เป็นอาหารหลักของคนไทย ผมเห็นข้าวหอมมะลิแล้วนึกถึงข้าว เม็ดเล็กๆ กลิ่นหอม ขาวสะอาด มีรสหวาน คนไทยกินข้าวเพื่อดำรงชีวิต เช่นเดียวกับผมที่จำเป็นต้องมีข้าวในชีวิต

ข้าวคงเพิ่งรู้ตัวว่าเสียมารยาทที่คุยกับชู้เป็นภาษาไทยต่อหน้าผม เขาปรับมาเป็นภาษาอังกฤษ

"พิชอยู่ที่ควีนส์เหรอ ?"

"ใช่ครับ ข้าวอยู่ตรงของแมนฮัตตัน ?"

"ผมอยู่ติดเซนทรัล ปาร์คน่ะครับ "

"แถว Upper East เหรอครับ ?"

ข้าวพยักหน้า "ครับ ติด 5th avenue"

"ว้าว ว้าว! ย่านคนรวยแท้ๆ มิน่าล่ะ ถึงมาตรวจที่นี่ได้" พิชหัวเราะไปด้วย ลูบหน้าท้องป่องๆ ไปด้วย "จริงด้วยสิ คุณเอานามบัตรผมไปนะครับ เผื่อไปย่านควีนส์ แถวนั้นคนไทยเยอะ"

"ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยไปเสียที" ข้าวรับนามบัตรมาแล้วกล่าวขอบคุณ

ผมนั่งบื้อใบ้ คลาดสายตาเจ้าหญิงแค่ห้านาที ภรรยาผมก็นอกใจแล้ว! โทสะแล่นริ้วๆ จนรู้สึกร้อน ผมลุกพรวด

"ข้าว กลับ!" พูดเสียงห้วน ดึงแขนผอมๆ ให้ลุกขึ้น ข้าวทำตามอย่างอิดออด หันกลับไปลาชู้คนไทย

"ใจร้อนจังเลย... พิช ผมไปก่อนนะ แล้วจะแวะไปหาที่ร้านนะครับ"

พิชยิ้มกว้าง โบกมือให้ "ครับ ไว้แวะมานะครับ ยินดีต้อนรับตลอด"

ผมรีบลากข้าวแล้วยัดร่างเล็กๆ เข้าไปในรถ

ข้าวบ่นงึมงำขณะคาดเข็มขัด ผมรู้ว่าเขาก็หงุดหงิดไม่แพ้กันกับอาการหึงไปทั่วของผม

"จะอะไรนักหนานะ ฉันควรมีเพื่อนบ้างสิ"

"คุณรู้จักเขาแค่ห้านาที" ผมสวนกลับ ห้านาที... แค่ห้านาทีเท่านั้น! ภรรยาคนสวยของผมก็มีผู้ชายใหม่อย่างง่ายดาย!

"ก็พวกเราเป็นคนไทย เมื่อก่อนฉันก็ทำงานเจอคนเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยเจอคนไทย แถมฉันยังถูกคอกับพิชด้วย เขาแต่งงานกับคนที่นี่เหมือนกัน"

ข้าวหน้าหงิก เอามือกอดอก ท่าทางคงงอนผม ความน่ารักและคำอธิบายทำให้โทสะค่อยๆ คลายลง สถานะชู้ของพิชเลื่อนลงมากลายเป็นคนแปลกหน้า ผมรีบเอาใจเจ้าหญิง "วันนี้ผมไม่เข้าบริษัท เราไปชอปปิ้งกันเถอะ"

ข้าวชอบคนเยอะๆ ชอบไปเดินเล่นในเซนทรัล ปาร์ค แต่เขากลับไม่ชอบเดินแถว 5th avenue ละแวกบ้านเรา เขาบอกว่าเหมือนเดินอยู่ในซีรีส์ มีแต่ร้านหรูหราแบบนั้น เขารับไม่ไหว ส่วนผมก็โอเคกับการไปเซนทรัล ปาร์คของเขา หากเขาจะไปแล้วมีกลอเรียหรือผมไปด้วย แต่ไม่ว่าจะที่ไหนบนโลก ผมก็ไม่อนุญาตให้เจ้าหญิงไปคนเดียวโดยเด็ดขาด! แค่ผมห่างเขาแค่ห้านาทีเท่านั้น เขาก็สามารถไปหัวเราะคิกคักกับคนใหม่ได้แล้ว! (สถานะเลื่อนขึ้นอีกครั้งตามแรงหึง)

เจ้าหญิงยังคงเงียบกริบ กอดอกแน่น หันออกไปมองกระจก ถ้ารถไม่กำลังแล่น ผมคงคิดว่าเขากำลังมองชายอื่นนอกหน้าต่างแน่ๆ "ข้าว โกรธผมเหรอ ? ไม่เอาน่า เจ้าหญิง อย่าโกรธผมสิ"

"..."

"ไปชอปปิ้งนะครับ เอารองเท้าใหม่ไหม ? หรือจะโค้ต นี่ใกล้ฤดูหนาวแล้ว คุณน่าจะซื้อโค้ตใหม่"

ใบหน้าเล็กที่ประกอบด้วยตากลมโต จมูกโด่งเล็กๆ และริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มหันกลับมามองผม "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ! จะได้ง้อด้วยการพาไปชอปปิ้ง!"

"ครับๆ ไม่ชอปก็ไม่ชอป" เจ้าหญิงไม่ชอบของหรูหรา ตอนที่ไปเยี่ยมบ้านเก่าผมในบรูคลิน ภรรยาผมวิ่งเข้าหาร้าน Trift shop อย่างมีความสุข

ผมรีบวิ่งไปดึงเขาแทบไม่ทัน หลังจากนั้นผมก็แทบไม่ให้เจ้าหญิงออกจากแมนฮัตตันอีก

ไม่ใช่ว่ารังเกียจอดีตตัวเอง ครอบครัวผมค่อนข้างมีฐานะ พวกเราอาศัยอยู่ในบรูคลินตั้งแต่ผมเกิด สมัยวัยรุ่นผมเองก็เข้าร้าน Trift shop บ่อยๆ แต่พอโตมา เนื่องด้วยอาชีพการงาน ทำให้ผมเลือกใช้ของมีระดับขึ้นมา แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ของมือสอง

สำหรับคนที่ผมรัก ผมย่อมอยากให้เขาใช้ของดีที่สุด รองเท้าผ้าใบที่ข้าวใส่อยู่คือ Yeezy สีเทาที่โด่งดัง แต่เป็นสำหรับผู้หญิง เพราะไซส์ข้าวมีแต่ของผู้หญิงไม่ก็เด็ก

แน่นอนว่าคนที่ไม่สนใจเรื่องราคาไม่รู้ว่าทั้งตัวมีราคาเท่าไหร่ เจ้าหญิงรู้แค่ผมเป็นคนซื้อเสื้อผ้าให้เขา บางวันก็มีของออนไลน์มาส่งถึงหน้าบ้าน (กลอเรียเป็นคนเซ็นต์รับ)

เพราะข้าวเป็นแบบนี้ ผมถึงรัก

รถค่อยๆ แล่นไปตามการจราจรอันวุ่นวาย ข้าวเริ่มเบื่อความเงียบ และคงจะหายงอนผมแล้วจึงชวนคุย "ไหนๆ วันนี้ก็ว่าง เราไปควีนส์กันไหม พิชบอกว่ามีร้านอาหารไทยเยอะมาก"

มือที่จับพวงมาลัยแข็งเกร็ง ผมไม่ชอบได้ยินชื่อชายอื่นออกจากปากเขา สถานะพิชเลื่อนขึ้นเป็นชู้แปลกหน้าอีกครั้ง "พิช... อีกแล้วเหรอ"

"อืม เค้าบอกว่ามีวัดไทยด้วยนะ ฉันมาอยู่ตั้งสองปีแต่ทำไมไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย จะว่าไปครั้งสุดท้ายที่ออกจากแมนฮัตตันน่ะเมื่อไหร่กัน"

"ต้นปีไง ผมพาคุณกลับไทย" ผมตอบเสียงเข้ม "เรานั่งแท๊กซี่ผ่านควีนส์แล้วไง"

"สงกรานต์น่ะเหรอ" ข้าวเบะปาก พ่นลมหายใจออกมาคล้ายเหนื่อยหน่าย "น่าเบื่อ"

กระดูกผมลั่นกร๊อบ ทั้งหึง ทั้งโกรธตีกันมั่วไปหมด "แต่งกับผมแล้วน่าเบื่อ ?"

"ฉันอยากไปกินข้าวไทยที่ควีนส์จัง" ข้าวไม่ทันได้ยิน เมื่อเห็นผมเงียบไปถึงหันกลับมามองหน้า เขาค่อยรู้ว่าผมโกรธ เสียงหวานพูดหงุงหงิง "โกรธอะไร ?"

"ผมไม่ชอบให้คุณพูดถึงคนอื่น" ไร้สาระ... ผมรู้ตัวดี แต่ผมหวงข้าวมาก มือที่จับพวงมาลัยก็แน่นจนแทบแหลกคามือ ไม่คิดเลยว่าคำสารภาพของผมจะทำให้เจ้าหญิงหัวเราะลั่น ใบหน้ามุ่ยๆ ถึงสดใสขึ้นบ้าง

"ฉันพูดถึงย่านคนไทยหรอก เธอจะหึงคนไทยทุกคนได้ยังไง เอาเถอะ วันนี้ไม่ไปก็ได้ พาฉันไปเซนทรัล ปาร์คหน่อย"

ผมดีใจที่ข้าวกลับมาอารมณ์ดี ความน่ารักของเขาทำให้ผมอยากหยุดรถแล้วจูบเขาเสียตรงนี้

ข้าวเริ่มฮัมเพลงเบาๆ ผมขยับรอยยิ้ม

ข้าวร้องเพลงกล่อมเด็ก...

เจ้าหญิงไม่รู้ตัว... เมื่ออุ้มท้องลูกของเราได้เกือบสองเดือน ข้าวเริ่มสนใจเรื่องการบำรุงครรภ์และทารกมากขึ้น บางครั้งผมเห็นเขาเปิดเพลงบรรเลงเปียโนสำหรับเด็ก และบางครั้งก็ฟังเพลงกล่อมเด็กคนเดียว

ข้าวใส่ใจลูกของเรา...

"ถ้าอย่างนั้น เราไปซื้อยาของคุณก่อน แล้วไปดูของใช้เด็กอ่อนไหม ?"

ข้าวยิ้ม "ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ ?" เขาก้มลงมองใต้โค้ต "นี่ยังดูไม่ออกเลยนะว่าท้อง เหมือนลงพุงมากกว่า"

"ไม่หรอก เรายังไม่มีเปลหรือข้าวของของลูกเลยนี่ ?" แต่มีห้องเด็กอ่อนแล้ว ผมสร้างไว้ตั้งแต่เมื่อข้าวยอมอุ้มท้อง ข้าวเป็นคนเลือกวอลเปเปอร์เอง และมีห้องนั้นห้องเดียวที่เรารู้กันเงียบๆ ว่าจะไม่มีทางไปมีอะไรกันในนั้นเด็ดขาด

"ไปดูเฉยๆ นะ อย่าเพิ่งซื้ออะไร"

"ครับ"





แต่ผมสั่งเปลไปแล้ว... ทันทีที่เห็นของใช้จิ๋วๆ ในร้าน ข้าวก็ตาเป็นประกาย ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเป็นสีพาสเทล สดใสน่ารัก เจ้าหญิงลูบตุ๊กตาสิงโตอย่างมีความสุข

"เล็กจังเนอะ" คนตัวเล็กพูดตรงกับที่ผมคิด ชะโงกหน้าดูรถเข็นเด็กหลายขนาด "เรายังไม่รู้เลยว่าลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อย่าเพิ่งซื้อเลยนะ"

ผมคว้ามือเล็กที่กำลังจะพลิกป้ายราคาอย่างนุ่มนวล "ก็ได้ครับ แล้วพวกขวดนมล่ะ ?"

"ยังไม่คลอดเลย เอาไว้ที่บ้านก็เป็นฝุ่นเปล่าๆ" ข้าวห้าม "เธอสั่งเปลเหรอ ?"

ผมพยักหน้า มีแค็ตตาล็อกเปลหลากสีสันในมือ

"โยกได้และล็อกได้ด้วยค่ะ" พนักงานขายพูดฉะฉาน "มีระบบโยกเบาๆ สำหรับคุณแม่ด้วย ไม่ทราบว่าน้องกี่เดือนแล้วคะ ?"

พวกเรามองหน้ากัน แล้วยิ้มให้กันบางๆ เป็นสัญญาณเงียบๆ ที่บ่งบอกว่าพวกเรารู้ใจกันขนาดไหน แต่พนักงานขายกลับเข้าใจอีกอย่าง

"หรือจะซื้อรับขวัญคะ ?"

"เปล่าครับ ภรรยาผมท้อง" ผมโอบเอวเล็กอย่างภาคภูมิใจ "แต่เพิ่งได้สองเดือน เราเลยมาดูไว้ก่อน"

"อ๋อ" หล่อนปรับสีหน้ารวดเร็ว "ยินดีด้วยนะคะ ร้านเรามีคู่รักเกย์มาซื้อบ่อยๆ ค่ะ"

เราสองคนรับคำ ผมยื่นบัตรเครดิตให้หล่อนเพื่อจ่ายค่าเปล เมื่อรับใบเสร็จและใบนัดสำหรับมาส่งในวันพรุ่งนี้แล้ว เราก็ออกจากร้าน เดินไปยังเซนทรัล ปาร์ค

วันหยุดของเราเรียบง่าย ผมรักบรรยากาศแบบนี้ กุมมือเล็กไว้เคียงข้างกัน ทำให้ผมอุ่นใจว่า ท่ามกลางผู้คนมากมายที่บังอาจหายใจร่วมกับเจ้าหญิงนั้น ไม่ว่าอย่างไร ข้าวก็เป็นของผมเพียงคนเดียว

เมื่อตกเย็นเราไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารที่ข้าวชอบ กลับมาก็มีเซ็กส์

ข้าวร้อนแรงเสมอ ผมเห็นหน้าท้องเล็กๆ ที่ยื่นออกมาแล้วอดใจไม่ไหว ผมอุ้มข้าววางบนเตียงอย่างอ่อนโยน จูบหน้าผากเขาแล้วสำรวจลูกในท้อง

ท้องของคนตัวบางยังเล็ก ป่องออกมาน้อยๆ เหมือนลงพุงมากกว่า ผมพรมจูบบนผิวนวลกลมๆ "น่ารักจัง"

ข้าวหัวเราะ ช่วยผมดึงเสื้อยืดออกจากตัว "คิดถึงตัวเองตอนหน้าท้องแบนๆ ขึ้นมาเลย"

"คุณน่ารัก แบบไหนก็น่ารัก" ผมรูดกางเกงในตัวเล็กลง เจ้าหญิงตัวน้อยเปลือยกายล่อนจ้อน ข้าวเอื้อมมือมาโอบรอบศีรษะผมไว้ กระซิบเสียงหวาน

"จริงเหรอ งั้นแด๊ดดี้ คืนนี้รักมามี๊เยอะๆ เลยนะ"

ช่วงยั่วยวนนัก ยิ่งคิดว่าเขาเป็นของผม อุ้มท้องให้ผม อยู่ในอ้อมแขนผมแล้วยิ่งคลั่ง ผมจูบเขาอย่างเร่าร้อน ปรนเปรอเขาด้วยมือและลามไปถึงบั้นท้ายกลม

บีบขยำก้นเล็กๆ ปากดูดครอบยอดอกนุ่มเหมือนเยลลี ข้าวส่งเสียงครางหวาน มือจิกหลังคอ สะโพกบางส่ายเบาๆ ผมดูดยอดอกทั้งสอง บีบคลึงจนตั้งเต้า ความร้อนผ่าวจากร่างกายไปรวมกันที่หว่างขา ผมอยากสอดใส่เข้าไปใจจะขาด แต่ข้าวที่ถูกเล้าโลมก็ช่างเซ็กซี่

คนตัวเล็กหายใจหอบ ขยับบั้นท้าย กางขา คุกเข่าคร่อมตักผม ถูไถหน้าอกแบนราบให้คลึงกับริมฝีปาก ผมคว้าบั้นท้ายไว้ ปากดูดเลียเยลลีเม็ดน้อยอย่างแรง สองมือแหวกเนินนุ่มๆ ออกจนเจอจุดกึ่งกลาง นิ้วแห้งสอดเข้าไป... ฝืดคับมาก เจ้าหญิงครางฮืออยู่เหนือศีรษะ มือน้อยตอบกลับด้วยการเอื้อมลงมาสุดแขนเพื่อจับแก่นกายผม มือนุ่มจับสะเปะสะปะก่อนลูบไล้ท่อนลำอย่างรักใคร่

"อืม อืม..."

นิ้วที่สองฝืนยัดเข้าไปในรูเล็กๆ แค่นิ้วยังคับแน่น เนื้อนุ่มแทบฉีกขาด เสียงหวานกระเส่า "เจ็บ... อึก..."

"เจลนะครับ ?"

"อืม..." ข้าวยอมแพ้ ผมไม่อยากให้เขาได้เลือด แม้ที่ผ่านมาพวกเราไม่ชอบใช้เจล เพราะข้าวบอกว่ามันรู้สึกเหนอะหนะ ผมก็ไม่อยากให้มีอะไรแปลกปลอมเข้าไปในก้นข้าวนอกจากของของผม แต่ตอนนี้ท้องข้าวเริ่มใหญ่ขึ้น ถ้ายังฝืนอยู่อาจกระเทือนถึงลูกได้

ผมบีบเจลจากหลอดใส่มือ นวดคลึงปากทางอย่างอ่อนโยน เอวบางกระตุกเบาๆ ข้าวยังคงคุกเข่าบนตักผม ซบหน้ากับศีรษะ สูดลมหายใจแรงเมื่อนิ้วสอดเข้าไป

"ฮึก... เข้ามา... เข้ามาอีก..."

ผมควานเข้าไป นิ้วหนึ่งจากมือซ้าย และอีกนิ้วจากมือขวา นิ้วทั้งสองช่วยกันเปิดถ่างรูเล็กๆ ให้พร้อมต้อนรับของใหญ่กว่า ข้าวถูไถร่างกายเขากับร่างกายผม เราแนบสนิทกันจนแทบเป็นเนื้อเดียว ผิวนุ่มเปียกชื้นด้วยเหงื่อ ผมจูบต้นคอเขา ขยับนิ้วเบาๆ เป็นจังหวะสลับกับดึงใบหน้าน้อยลงมาจูบ

เซ็กส์วันนี้ร้อนแรงและเนิบช้า ผมตั้งใจจะอ่อนโยนกับเขา

ท่อนลำเล็กๆ ของข้าวติดกับหน้าท้องผม เขาถูมันกับกล้ามท้องไปตามจังหวะขยับนิ้ว เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ข้าวครางหวานเมื่อผมเพิ่มจังหวะ นิ้วชี้เพิ่มเข้าไปอีกนิ้วกลายเป็นสาม ผมงอนิ้ว ขูดเนื้อเยื่อตรงจุดที่เจ้าหญิงชอบภายใน ในขณะที่ข้าวทั้งจูบปากทั้งลูบไล้ท่อนลำผมคืน

ร่างเล็กกระตุก ข้าวร้องทั้งๆ ที่ปากถูกปิดอยู่ สัมผัสร้อนๆ แฉะที่หน้าท้องบอกว่าข้าวเสร็จไปแล้วอย่างง่ายดาย ริมฝีปากอิ่มอ้ากว้าง พยายามโกยอากาศเข้าสู่ปอด ผมดันไหล่เขาลง หากแต่มือเล็กยันไว้

"ฉะ... ฉันขึ้นเอง" ข้าวกระซิบ มือจับท่อนลำใหญ่ให้ตรงปากทาง ผมเอานิ้วออกแล้วประคองเอวบางอย่างเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรนะครับ ?"

"ฮื้มม..."

ผมก้มลงมอง ข้าวโหย่งตัว หยัดกายขึ้น เพื่อค่อยๆ กดบั้นท้ายลงมา สัมผัสนุ่มนวลคับแน่นที่กระตุกตอดเริ่มตั้งแต่ปลายหัว ใบหน้าหวานแหงนเงยขึ้นสูดปากด้วยความเสียวระคนเจ็บ ผมต้องอดใจไม่กระแทกเขาให้ลึกที่สุด

เจ้าหญิงรู้ว่าผมมองอยู่ ส่วนปลายเข้าไปได้ครู่เดียว เขาก็สูดหายใจ ดันผมลงกับเตียง ส่วนภรรยาผมขยับขาให้กว้าง ให้ผมมองภาพรูเล็กๆ ค่อยๆ กลืนกินความใหญ่โตเข้าไปเชื่องช้า

"ชอบไหม ? ของเธอเข้ามาแล้วนะ" เสียงเบาๆ เจือเสียงครางเร้าอารมณ์ ท่อนลำสีชมพูของเขาแข็งตั้งไม่ต่างกัน เขาชอบแบบนี้...

"อื้มม... อึกก ใหญ่จัง... แข็ง..."

"ฮึก... ฮ้า..." เมื่อเข้าไปได้ต่อเนื่องเพียงครึ่งท่อน ข้าวก็หมดแรงคอพับคออ่อน มือยันหน้าท้องผมไว้ "จะ เจ็บ... ทำไมวันนี้มันใหญ่กว่าทุกวัน?"

น่ารักเกินทน... ผมทนไม่ไหว... ยิ่งเขาพูดคล้ายบ่นกับตัวเองยิ่งทำให้ผมเพิ่มแรงที่จับเอวบาง ดันร่างเล็กๆ ลงไปพรวดเดียวจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบท่อนขา ข้าวเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง น้ำลายย้อยมุมปาก กรีดร้องคับห้อง

"อ๊าา!!"

เข้าไปจนสุดแล้ว ข้าวยังหายใจหอบ ท่อนลำเล็กๆ ที่อ่อนไหวกระฉอกน้ำหวานออกมาอีกครั้ง ผมเริ่มขยับตัว ไม่รอให้เขาได้ปรับตัว ข้าวครางฮือ ล้มตัวลงนอนแนบอยู่บนอกผม เราทั้งสองแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว ผมรู้สึกได้ถึงผิวเนื้อนุ่มนวลแสนหวาน หัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวเร็ว

ข้าวส่ายสะโพกรับแรงกระแทกด้วย เขาเป็นภรรยาที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ช่วงยั่วที่สุดในโลก หวานอร่อยที่สุดในโลก ผมทนไม่ไหว ดูเขาจะชอบท่านี้ แต่ผมเข้าไปได้ไม่ลึกนัก จึงพลิกตัว ให้ร่างเล็กมาอยู่ข้างล่างแทน

เพราะพลิกทั้งๆ ที่ยังเสียบคาอยู่ ข้าวร้องลั่น ผมดึงขาทั้งสองขึ้นพาดบ่า ดันท่อนลำให้เข้าไปจนสุด ร่างเล็กๆ ช่วยสานต่อ เขาโอบรอบคอผม ครางยั่วยวน ผมเสียสติ ความตั้งใจที่จะอ่อนโยนไม่ทารุณภรรยาท้องตัวเล็กหายวับ ผมกระทั้นเข้าไปสุดแรง เสียงของเหลวดังเยิ้มอยู่ข้างใน ข้าวสะบัดหน้า เรือนผมสีดำกระจายเต็มหมอน ริมฝีปากหอบฮัก

"ฮึก... อึก แม๊กซ์ อ๊า อ๊า... แม๊กซ์"

เจ้าหญิงของผมกระเทือนไปตามแรง ผมซอยถี่ยิบ ข้าวหายใจไม่ทัน ช่องทางแคบยิ่งล้อมรอบท่อนลำ กระตุกตอบ ผมยิ่งรู้ว่าเขาชอบ

ชอบถูกข่มขืน ชอบถูกย่ำยี

ความใหญ่โตร้อนแรงถูกความนุ่มโอบดูดกลืนอย่างกระหาย ราวกับว่าผมคืออาหารอันโอชะ ข้าวกรีดร้อง เล็บขูดเข้ามาที่ไหล่ เขาแอ่นอกหรา เหงื่อผุดพรายไปทั่วร่าง ส่งกลิ่นหอมหวาน

"อ๊าา ลึกกก ฮึกกก..."

ผมจูบปากนั่นเสีย ก่อนที่จะทำผมคลั่งมากไปกว่านี้ ไม่เช่นนั้น ผมคงทำให้เขาแท้งลูกแน่ๆ

ข้าวร้องทั้งๆ ที่ปากถูกปิด ร่างบอบบางกระตุกรั้ง เนื้อเยื่อบีบแน่น ยิ่งแคบลง ท่อนขาเรียวเกร็งคล้ายชัก เขาถึงฝั่งเป็นครั้งที่สาม

ผมดุนดันเข้าไปจนสุด จนร่างข้างใต้กระแทกกับฟูก เคลื่อนไปจนแทบชนหัวเตียง แรงตอดถี่ด้านล่างทำให้ผมร้อนผ่าว ตาพร่าพราย จุดสูงสุดพุ่งพรวด เสียวสะท้าน

ความร้อนฉีดเข้าไปในเอวบางรุนแรง สะโพกกลมสั่นสะท้าน ผมขย้ำมันเต็มแรงเต็มมือ

"ฮึก... ระ ร้อน... เยอะ... ไหลออกมาแล้ว..." ข้าวครางไม่ได้ศัพท์ คงหมายถึงน้ำรักที่เยิ้มล้นออกมาจากช่องทาง ผมเริ่มขยับอีกครั้ง ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นที่ขังด้านในก็เริ่มตีเป็นฟอง

ผมจุมพิตปากอิ่ม ดวงตากลมเลื่อนลอย ช่องทางบีบผมแน่นเป็นครั้งที่สี่ แค่ผมถึง ปลายท่อนลำเล็กก็ปลดปล่อยออกมาด้วย

ช่างเป็นร่างกายที่ร่านอะไรแบบนี้

แต่ผมรักร่างกายที่ร่านเร่า รักดวงตาคู่นี้ รักแม้กระทั่งสองมืออันอ่อนแรงเริ่มดันแผ่นอกผม "อะ.. ออกไป..."

ผมไม่สนใจ รวบสองมือนั้นขึ้นเหนือศีรษะ เริ่มกระแทกอีกครั้ง คราวนี้จังหวะจ้วงแทงรุนแรงขึ้น สอดใส่ลึกกว่าเดิม บดเบียดจุดวาบหวามของเจ้าหญิง ขยี้มันจนร่างขาวบางสั่นกระตุก

ข้าวแหงนเงยใบหน้า สองขาชี้เพดาน ก้นกลมลอยไม่ติดฟูก ริมฝีปากร้องคราง "ฮึก... แม๊กซ์ แม๊กซ์..." ชื่อผมดังไม่ขาดปาก บ่งบอกว่าผมสำคัญกับเขามากแค่ไหน แล้วคำที่มีอานุภาพทำลายล้างได้ยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ก็หลุดออกจากปากอิ่มสวย

สามคำนั้นทำให้ผมคลั่งไคล้ ทำให้ผมหลงใหลเขา ทำให้ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก

"แม๊กซ์...  ฉันรักเธอ... แม๊กซ์..."





ผมนอนตะแคง ดูจมูกเล็กๆ ที่หายใจเข้าออกเชื่องช้า

อกบางๆ ขยับขึ้นลง มีหัวใจดวงน้อยเต้นอยู่ข้างใน ผมก้มตัวลงจูบหัวใจนั้น

ข้าวนอนหันเข้าหาอกผม หัวหนุนต้นแขน หน้าซุกอกตัวเอง สองมือกำเป็นกำปั้นน้อยๆ คล้ายท่านอนทารก เหมือนที่ผมเห็นในคืนแรกที่เรานอนด้วยกัน

ข้าวนอนท่านี้ประจำ เจ้าหญิงดูเปราะบางกว่าที่เคย ผมลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมดำขลับ ปัดผมที่ระใบหน้าออกให้เขาหลับสบาย

เจ้าหญิง... ฝันถึงผมบ้างไหม ?

หรือฝันถึงคนแปลกหน้าที่ชื่อพิช ? (สถานะเลื่อนลงแล้ว เพราะผมเต็มอิ่มกับการร่วมรัก ข้าวครางแต่ชื่อผม ทำให้ผมแน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดนอกใจแม้แต่น้อย)

หรือเจ้าหญิงจะฝันถึงประเทศไทยที่อากาศร้อนระอุตลอดทั้งปีนั่น ?

หรือจะฝันถึงผมและลูกๆ ของพวกเรากัน ?

ผมฟุ้งซ่าน รีบจูบหน้าผากมน สุดหวงแหน


ปฏิกิริยาของด็อกเตอร์กาเบรียลและพิชทำให้ผมตระหนักว่าข้าวจำเป็นต้องออกจากบ้านบ้าง ต้องเจอผู้คน แค่กลอเรียที่แวะมาคุยแค่ช่วงเช้า (เพราะผมหวงข้าวจนไม่อยากให้เจ้าหญิงไปสนิทสนมกับหล่อนมากเกินไป) คงไม่พอ

จริงๆ ผมรู้มานานแล้วว่ามีย่านคนไทยที่ควีนส์ ไม่ใช่แค่เพราะหึงหวงข้าว แต่เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้ข้าวอยากกลับไทยจนทิ้งผมไป

ถ้าผมจะผ่อนปรนข้าวอีกหน่อย... พาเขาไปเดินเล่นหลังเลิกงานหรือพาไปที่ออฟฟิศด้วยจะดีไหมนะ ?

ให้เขานั่งข้างๆ ผม... ไม่สิ ไม่ดี มันห่างไป ให้เลขาฯ เอาเก้าอี้มาวางให้เจ้าหญิงนั่งติดกับผมระหว่างที่ผมทำงานน่าจะดีกว่า

แต่นั่นยังไม่ทำให้ผมพอใจนัก

ในที่สุดจึงได้ข้อสรุป ผมจะพาข้าวไปออฟฟิศด้วย ให้นั่งเก้าอี้ติดกับผมก็ห่างไป ต่อให้ติดขนาดที่เข่าเราชนกันก็เถอะ ผมจะให้ข้าวนั่งบนตักผม... นั่นแหละดีที่สุด

ผมจะได้หอมแก้มนุ่มๆ ถนัด

จะได้กอดเอวเขาตลอดเวลาทำงาน

แค่คิดก็สุขใจ



ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5



ผมไม่คิดว่าการหอบหิ้วภรรยาไปทำงานด้วยจะเป็นเรื่องใหญ่โต ระหว่างที่บอกเรื่องนี้กับเจ้าหญิงในมื้อสายวันถัดมา ข้าวถึงกับทำขนมปังปิ้งหล่น

"อะไรนะ!?"

"เจ้าหญิง ไปทำงานกับผมนะ"

"พูดชัดๆ ซิ ไปทำงานกับหรือไปที่ทำงานกับ"

ผมก้มลงเก็บขนมปังที่ตก แล้วโยนใส่ถังขยะ "ไปที่ทำงานกับผมนะ" ผมคว้ามือเขามาคลึงเล่น "ผมทนคิดถึงคุณระหว่างทำงานไม่ได้"

ข้าวมองหน้าผม มองมือที่กุมแน่น "เราแต่งงานกันมาสองปีแล้วนะ"

"ผมกลัวข้าวจะเบื่อ" ผมจูบมือน้อย อีกมือหนึ่งของข้าววางตะหลิวลงแล้วตบบ่าผมเบาๆ ราวกับจะช่วยเรียกสติ

"แล้วเธอไม่เบื่อฉันรึไง อยู่ติดกันตลอด 24 ชั่วโมงน่ะ"

ผมส่ายหน้า "ไม่เบื่อครับ นะ เจ้าหญิง ไปกับผมนะ คุณบอกว่าคุณไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ นี่ หลังๆ มาก็ไม่ยอมขัดเพชรแล้ว"

"ไม่ ฉันไม่มีทางไปแน่" ข้าวยืนยัน ดึงมือออกไม่ให้ผมกุม ผมได้แต่มองตามอย่างเสียดาย "ประธานบริษัทกระเตงเมียไปทำงานด้วยมันตลกจะตาย แล้วฉันแก่ปูนนี้ ยิ่งเห็นหน้ากันบ่อยๆ เธอยิ่งเบื่อฉันง่ายๆ"

"ข้าว..." ผมร้อง ลุกขึ้นกอดเขาแน่น ไม่ยอมให้เขาหันหน้าไปหยิบน้ำมันใส่กระทะ ไม่เข้าใจ น้ำมันมะกอกดูดีกว่าหน้าผมตรงไหน "ไม่เอานะ ไปกับผมนะครับ"

"แม๊กซ์ อย่าดื้อ" ข้าวดุ แกะผมออกอย่างลำบาก เพราะผมตัวใหญ่กว่าเขาครึ่งหนึ่ง ข้าวเลยยิ่งเหมือนเด็กถูกผู้ใหญ่ข่มขืน "ออกไปก่อน ฉันจะทำกับข้าว"

"ข้าววววววววว"

"ไม่เอา! อย่าดื้อได้ไหม" เขาทำเหมือนผมเป็นเด็ก ดุไม่พอมีขู่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลก็ปลอบ "แม๊กซ์... เด็กดี วันนี้ฉันจะทำหมูชุบแป้งทอดแบบที่เธอชอบให้นะ เอามือออกก่อน"

ผมฟังแล้วโมโห เจ้าหญิงแก่กว่าผมแค่สี่ปี แต่บางทีก็ทำเหมือนผมเป็นลูกชายเขา! เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ผมคว้าเอวบางมารัดแน่น กระชากกางเกงผ้ายืดลงไปกองที่เข่าจนเห็นเนื้อขาวๆ นุ่มๆ

"อ๊ะ!" ข้าวร้อง ไม่ทันแล้ว ผมดันตัวเขาให้ติดกับเคาเตอร์ งับใบหูเบาๆ มือล้วงไปที่หว่างขาขาว

"แม๊กซ์! ปล่อย!"

"อื้มม ขอกิน 'ข้าว' ก่อน" ผมจูบแก้มแดง อุณหภูมิข้าวเริ่มร้อนระอุ เขามีอารมณ์ง่าย ร่างกายอ่อนไหว ข้อนี้ผมรู้ดี

เรามีเซ็กส์กันอีกครั้งที่ครัว...

...ระหว่างที่สอดใส่ เจ้าหญิงที่ไม่มีสติถูกผมกระแทกจนตาลอย น้ำลายไหลเยิ้ม ตอบรับอย่างว่าง่าย

"ข้าวไปที่ทำงานกับผมนะ..."

"อืมม อืมมม" ร่างบอบบางถูกทำจนตัวสะเทือน ของบนเคาเตอร์หินอ่อนถูกกวาดลงพื้นหมด มีเพียงกายขาวๆ ที่ตอนนี้เป็นสีชมพูหวานที่ทอดตัวอยู่บนนั้น

ผมยิ้มอย่างพอใจ จ้วงแทงลงตำแหน่งอ่อนหวานด้านใน เนื้อเยื่อสีชมพูเข้มโอบรัดอย่างร้อนแรง ผมยังคงถูไถที่จุดรุนแรงเพื่อให้รางวัลเจ้าหญิง

"เด็กดี... เจ้าหญิง... เด็กดีของผม"

ผมร้ายกาจ ผมเจ้าเล่ห์ ผมรู้

แล้วคุณคิดว่าข้าวยอมตกลงแต่งงานกับผมได้ยังไงล่ะ ? ถ้าไม่ใช่ตอนที่เขาไม่มีสติเหมือนตอนนี้น่ะ

เพราะหลวมตัวรับปากผมไปแล้ว เช้าวันจันทร์เจ้าหญิงจึงเดินขาถ่างลุกจากเตียง เพื่อแสดงออกให้เห็นว่าโกรธผมอยู่ ข้าวจึงทำอาหารเช้าเพียงแค่ขนมปังปิ้งและแยม

หน้าสวยๆ งอง้ำตลอดเวลาที่ทาแยมให้ผม แต่ก็ยังชงกาแฟให้อยู่ดี

"โกรธอยู่เหรอเจ้าหญิง ?"

ข้าวลงไม้ลงมือกับกระทะและจานชามแทน เก็บกวาดซากจากเมื่อวานลงถังขยะ "รู้ตัวนี่"

"อย่าโกรธเลยครับ... มา ผูกไทด์ให้ผมหน่อย" ผมอารมณ์ดีตอบ ข้าววางจานใบสุดท้ายลงบนเครื่องล้างจานแล้วยื่นคางให้ น่ารักน่าเอ็นดู

"ฝันไปเถอะ! ไม่ต้องมาอ้อนเลย"

ผมหัวเราะ ไม่นำพาหน้าหงิกๆ มือจับเนคไทด์ที่พาดบนคอแล้วตวัดเส้นทั้งสองอย่างคล่องแคล่ว ปากก็เย้าภรรยาไป "เจ้าหญิงใจร้ายจัง"

"หึ!" ยังคงโกรธอยู่ ข้าวล้างมือแล้วคว้าขนมปังเข้าปาก ใช้ตาโตๆ มองผมเพื่อประกาศว่ากำลังไม่พอใจ

"นี่ผมต้องกินขนมปังปิ้งไปอีกกี่วันครับ ?"

ข้าวไม่ตอบ แต่ยอมลุกขึ้นไปหยิบสูทมาให้

ให้ตายเถอะ... ภรรยาผมทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย





ผมนั่งดูข้าวหน้างอบนตักมาทั้งวัน แต่เมื่อเลิกงาน ในที่สุดเจ้าหญิงก็ยอมเปิดปาก ดวงตาที่ตวัดมองผมโกรธๆ ในที่สุดก็อ่อนลง

"เมื่อยไหม... เล่นอะไรพิเรนทร์" ร่างเล็กลุกจากตัก ผมรู้สึกโหวงๆ ตาม

ทีนาเข้ามาเก็บเอกสารพอดี หล่อนกลอกตาใส่พวกเราส่งท้ายแล้วเดินออกไป ข้าวทิ้งตัวลงบนพรม ถอนหายใจ

"ทำไมฉันเหมือนโดนทำโทษเลยล่ะเนี่ย"

ผมจุ๊ปาก ดูเอกสารงบบนโต๊ะก่อนพับแฟ้มโยนไว้บนโต๊ะ ตัวเลขพวกนั้นไม่ได้น่ารักน่าปล้ำเหมือนเจ้าหญิงเลยสักนิด

"พรุ่งนี้ไม่มาแล้วนะ" คนตัวเล็กลุกขึ้นเอามือปัดก้น "เหมือนฉันเป็นตัวประหลาดเลย ทีนากลอกตาใส่ตั้งแปดครั้ง"

"คุณนับด้วยเหรอ ?"

"ฉันไม่มีอะไรทำน่ะสิ ดูเธอทำงานน่ะน่าเบื่อจะตาย"

ผมหัวเราะ "ผมเลิกงานแล้วครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมช่วยคุณขนเกมกับหนังสือมา"

แล้วสามวันถัดมา ห้องทำงานที่กว้างขวาง โล่งตาของผมก็กลายเป็นรังเล็กๆ ของข้าว เจ้าหญิงขนหนังสือมาอ่าน เอาพรมมาปูสำหรับนอนกลิ้ง ทีนาที่ไม่รู้ประชดหรือช่วยจริงๆ ก็ขนหมอนอิงฟูๆ นุ่มๆ มาให้ด้วย

ผมดูคนที่นอนกลิ้งเล่นไอแพดแสนสบาย ยิ้มกว้าง

"เดี๋ยวผมจะออกไปประชุมนะที่รัก" ผมหยิบเสื้อนอกจากราวแขวน ข้าวเงยหน้าขึ้นมองแล้วโบกมือไล่

"อืม"

ผมห้ามใจไม่อยู่ ตรงรี่เข้าไปหอมแก้มเจ้าหญิงแรงๆ จนแก้มนวลบวมตุ่ย น่ารักจนอยากถอดเสื้อผ้าให้หมดทุกชิ้นและลากมานั่งคร่อมตักจริงๆ

"ฮื้อ..." ข้าวเบือนหน้าหนี ผิวเนื้อขาวๆ แดงเป็นปื้นตามรอยหนวดเครา "บอกแล้วให้โกนหนวด..."

ผมรับคำ "ครับ.. ครับ ไปแล้วนะครับ"

"อืม" มือเล็กโบกไล่เป็นครั้งที่สอง ผมจูบหน้าผากเขา มือเลื้อยไปตามเอวบาง เลิกเสื้อเชิ้ตขึ้น ข้าวดิ้นหนี รีบหันมาดุ

"รีบไปประชุมเลย! อย่ามานัวเนียนะ!" เขาดันผมออกสุดแรง ผมฮึ่มๆ ไม่ยอมแพ้ บังคับเขาจนจูบปากสวยจนได้

เราคลอเคลียกันบนพรมจนมีเสียงเคาะประตู ทีนาส่งเสียงร้องเตือนหน่ายๆ "คุณแม๊กซิมัสคะ เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีค่ะ!"

ผมถอนหายใจ กลิ่นหอมหวานของผิวนุ่มๆ ยังติดจมูก ยอมตัดใจลุกขึ้น จูบเขาอีกครั้งส่งท้าย ยากจะตัดใจจากเจ้าหญิงจริงๆ ผมนึกหงุดหงิดบริษัทลูกที่คิดจะเสนอโปรเจคมาเอาวันนี้

"คุณแม๊กซิมัสคะ! ไปแค่สองชั่วโมงเองค่ะ!" ทีนารัวประตูแล้ว หล่อนเป็นเลขาที่เก่งกาจก็จริง แต่บางครั้งก็เหมือนถูกส่งมาคุมผมอีกที

"ไปแล้วครับ คุณทีนาเข้ามาเลย!" ข้าวตะโกนตอบ ทีนาเปิดประตูเข้ามา ที่แขนคล้องโค้ตของผม มือมีแฟ้มเอกสารพะรุงพะรัง เตรียมพร้อมให้ผมเสร็จสรรพ

"อดัมรออยู่ที่รถแล้วค่ะ!" หล่อนเร่ง อดัมเป็นเลขารองจากทีนา เขาเป็นเพื่อนสนิทผมสมัยอยู่มหาวิทยาลัยด้วย

พอข้าวได้ยินชื่ออดัมก็โผล่หน้ามาจากหนังสือนิยาย "เอ๊ะ อดัมเหรอ!?"

ผมปราม "ไม่มีเวลาทักทายแล้วข้าว"

ข้าวชอบอดัม เพราะอดัมใจดี จะว่าไปอดัมก็คล้ายหมอกาเบรียลเหมือนกัน ต่างกันตรงที่อดัมเป็นชายร่างเล็ก ลงพุง อารมณ์ดี ใจเย็น มีลูกสาวฝาแฝด

ข้าวหน้ามุ่ย "รู้แล้วล่ะน่า รีบไปเถอะ"

ผมอยากจูบลาอีกที แต่ทีนาขึงตาเขียวปั๊ดมาให้ จึงต้องรีบออกจากห้อง




หนึ่งสัปดาห์แสนหวานผ่านไป ผมทำงานในห้องเดียวกับข้าว กินมื้อเที่ยงพร้อมกับข้าว มื้อเที่ยงที่ไม่ต้องไปนั่งกินกับหุ้นส่วนหรือพาร์ทเนอร์ธุรกิจ หรือไม่ต้องนั่งกินคนเดียวในออฟฟิศ บ่ายมาพออยากพักสายตาก็หนุนตักเจ้าหญิงงีบ

ผมมีความสุข แต่ข้าวหน้างอลงทุกวันๆ

"คุณทีนาบอกว่าเธอทำงานช้าลง"

ผมคำราม ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ผมอยากอยู่กับข้าวมากกว่า เมื่อก่อนข้าวไม่ได้มาอยู่ออฟฟิศด้วยกัน ผมทำงานไวมาก เพราะต้องรีบกลับไปหาข้าว แทบไม่มีงานค้าง เพราะอยากกลับไปใช้เวลาที่บ้านกับข้าว

ข้าวลูบผมผมเล่น ผมขยับศีรษะบนตักนุ่มแล้วตอบ "ไม่ช้าหรอกครับ..."

"เอาจริงๆ"

"..."

"งั้นพรุ่งนี้ฉันไม่มาแล้วนะ" ข้าวยื่นคำขาด ผมดีดผึงลุกขึ้นนั่ง คว้าไหล่บางแน่น "ข้าว! คุณสัญญาแล้วนะ!"

ข้าวส่ายหน้า "ฉันสัญญาว่าจะมา แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะมากี่วันนี่"

ร้ายกาจ! เจ้าหญิงของผมทำไมเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ! ผมคิดอย่างเจ็บแค้น กอดคนตัวเล็กแน่นจนเหมือนเขาหายไปในอก "เจ้าหญิงครับ... ไม่เอานะ"

"ฉันมาแล้วเธอไม่มีสมาธินี่ พรุ่งนี้ฉันจะอยู่บ้านเหมือนเดิม" เจ้าหญิงยืนยัน ผมอ้อนวอนหลายครั้ง ทั้งปลอบทั้งขู่ก็แล้ว ข้าวก็ยังยืนยันคำเดิม จนทีนาต้องเคาะประตู

"ฉันมาเอาเอกสารค่ะ เข้าไปได้ไหมคะ"

"ได้!" "ไม่!" ทั้งผมและข้าวตอบพร้อมกัน ข้าวผลักอกผมออก ผมเหมือนใจจะขาด เพราะทีนาเชื่อข้าวมากกว่าผมจึงเปิดเข้ามา ทำให้ผมจำเป็นต้องลุกขึ้นไปเคลียร์เอกสารให้หล่อนให้เรียบร้อย

ข้าวนะข้าว... ทำไมทำกับผมได้

ข้าวอารมณ์ดี ผมหน้ามุ่ย...

วันจันทร์ถัดมา มื้อเช้ากลับมาเพียบพร้อมเหมือนเดิม แต่ผมคิดถึงร่างขาวๆ ที่ออฟฟิศมากกว่า

"หน้างอเชียว" ข้าวหัวเราะคิก ใช้นิ้วดีดจมูกผม "ไปทำงานได้แล้ว อย่างอแง"

ผมไม่สนใจแล้วว่าข้าวจะทำเหมือนผมเป็นเด็กหรือไม่ ผมซบหน้าลงกับไหล่บาง "ไม่อยากห่างจากคุณเลย"

ข้าวลูบหลังปลอบ "โอ๋ๆ ไปทำงานได้แล้วที่รัก"

ในที่สุด ข้าวก็ทั้งผลักทั้งดันผมออกจากห้อง เหมือนคุณแม่ลากลูกไปโรงเรียนวันแรก ผมมองร่างเล็กที่ปิดประตูตาละห้อย เดินหงอยๆ ไปที่ลิฟต์...

...คิดถึงข้าวจัง





ไม่มีข้าวผมทำงานดีกว่าจริงๆ ประสิทธิภาพและความเร็วเพิ่มขึ้น เพราะเที่ยงนี้อยากไปรับเจ้าหญิงมากินข้าวด้วยกัน ผมจึงรีบเคลียร์งาน แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด โปรเจคใหม่ที่ร่วมมือกับแอนเดรียมีปัญหาเรื่องสุขอนามัยและแหล่งผลิต ผมจึงต้องเรียกทีมโปรเจคนี้มาประชุมด่วน

อย่าว่าแต่ได้กินข้าวกับเจ้าหญิงเลย ผมต้องนั่งกัดแซนด์วิชไก่งวงจืดชืดกับกาแฟรสชาติเหมือนน้ำล้างจาน พลางมองหน้าเหม็นสาบของลูกน้อง

คิดถึงหน้าหวานๆ ใจจะขาด

เฮ้อ...


กว่าจะได้ข้อสรุปก็ปาเข้าไปบ่ายสาม ผมให้กำลังใจคนในทีมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วโทรบอกทีนาว่าจะกลับบ้านเลย งานที่ค้างอยู่ยกยอดเป็นพรุ่งนี้

ทีนาเห็นใจผม "ทราบแล้วค่ะ วันนี้ไม่มีอะไรด่วนแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะวางแฟ้มไว้ที่โต๊ะนะคะ"

ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก ผลของการมัวแต่นัวเนียเมีย งานที่ค้างอยู่ไม่ต่างจากภูเขาลูกย่อมๆ แล้ว

วางโทรศัพท์ลงแล้วรีบขับรถกลับบ้าน งานเอาไว้พรุ่งนี้ ตอนนี้ผมคิดถึงเจ้าหญิงใจจะขาด




ผมเปิดห้อง คิดว่าจะรีบเข้าไปกอดเอวบางให้ชื่นใจ ดูแต่หน้าเหี่ยวๆ มาทั้งวัน อยากเห็นหน้าสวยๆ บ้าง

ผมไม่เห็นข้าวอยู่ในห้องนั่งเล่น คาดว่าเขาคงไปงีบที่ห้องนอน ช่วงนี้ข้าวนอนกลางวันบ่อยขึ้น นานขึ้น หมอเองก็บอกว่าเป็นเพราะฮอร์โมน

เดินตรงไปที่ประตูห้องนอน วางแผนจะซุกตัวข้างๆ คนตัวเล็ก จูบปลุกให้เขาตื่นเหมือนเจ้าหญิงนิทรา คิดไว้เสียโรแมนติก แต่พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น

...ข้าวไม่อยู่

ผมใจหายวาบ รีบเดินไปดูห้องอื่นๆ

ห้องทำงาน... ไม่อยู่

ห้องสมุด... ไม่อยู่

ห้องครัว... ไม่อยู่

ห้องกินข้าว... ไม่อยู่


และอีกสารพัดห้อง ผมเปิดประตูเหมือนคนบ้า ชะโงกหน้าเข้าไปดู ตะโกนเรียกลั่นบ้าน "ข้าว! ข้าว! เจ้าหญิงครับ! ออกมานะ!"


แต่ไม่มีเสียงตอบ ผมยิ่งร้อนรน ค้นทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งลิ้นชักที่คนตัวเล็กขนาดข้าวน่าจะซุกเข้าไปได้ก็ไม่เว้น ใจผมเหมือนไฟ ไม่สามารถอยู่นิ่งได้

เมื่อแน่ใจแล้วว่าข้าวไม่ได้อยู่ในบ้าน ไม่ได้อยู่ที่ไหนสักที่ เสื้อโค้ต กระเป๋าเงินและโทรศัพท์ก็หาย ผมรีบโทรหากลอเรียทันที

"กลอเรีย ข้าวไม่อยู่บ้าน!"

กลอเรียอุทานเสียงดังเป็นภาษาสเปน "ตอนเช้ายังอยู่นะคะ ฉันยังนั่งคุยกับเขาอยู่เลย"

"คุณแน่ใจนะ!" นาทีนี้ผมไม่ไว้ใจกลอเรียแล้ว ผลุนผลันออกจากห้อง ลืมกระทั่งโค้ต รีบกดลิฟต์รัว

"แน่ใจค่ะ! แน่ใจมากๆ แต่เอ๊ะ..." หล่อนชะงัก

"มีอะไร!" ลิฟต์มาแล้ว ผมกดชั้นแรกทันที

"คุณข้าวแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกเลยค่ะวันนี้ ฉันคิดว่าเขามีนัดกับคุณ"

ผมฟังแล้วใจหล่นลงพื้น แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ "ว่าอะไรนะ"

"เขาใส่เสื้อเชิ้ตค่ะ ปกติอยู่บ้านเขาจะใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้ายืดใช่ไหมคะ แต่วันนี้เขาใส่เชิ้ตกับยีนส์ค่ะ" กลอเรียทวนความทรงจำ

"บางที... บางที... เขาอาจโดนลักพาตัว" ผมกระซิบ เครียดยิ่งกว่าการประชุมบ้าๆ นั่นอีก

"ไม่ค่ะ ฉันคิดว่าไม่ค่ะ คุณลองถามตาโรเบิร์ตที่เฝ้าประตูดูสิคะ"

ผมวิ่งไปยังล็อบบี้ เหลียวหาคนเฝ้าประตูในเครื่องแบบ "เดี๋ยวผมโทรกลับ" ผมวางสาย

"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ ?" คนเฝ้าประตูถามสุภาพ ผมตรงรี่เข้าไปหา

"คุณเห็นข้าวไหม ?" เพราะตึกนี้ขายแต่ห้องชุดราคาแพง ความปลอดภัยจึงสูงตาม คนเฝ้าประตู แม่บ้าน เมด พนักงานทุกคนจึงจำหน้าและชื่อของผู้พักได้ไม่มีตกหล่น

คนเฝ้าประตูทำท่าคิด "อ๋อ... เห็นครับ วันนี้คุณข้าวออกไปข้างนอกครับ ผมยังเรียกแท๊กซี่ให้อยู่เลย"

ผมทั้งโล่งใจและเจ็บปวด

ข้าวออกไปไหน... จะไปไหนได้ ข้าวไม่มีเพื่อนที่นี่ ไม่สนิทกับใครทั้งนั้น

"เขาไปไหน คุณรู้ไหม ? เอาสัมภาระไปด้วยหรือเปล่า ? ไปคนเดียวหรือมีคนไปด้วย ? ไปหาใคร ?" ผมรัวคำถามไม่ยั้ง คนเฝ้าประตูก็สมกับที่ถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนสูงลิ่ว เขาตอบชัดเจนทุกคำถาม

"คุณข้าวมาคนเดียวไม่มีสัมภาระครับ เขาไม่ได้บอกว่าจะไปหาใคร แต่ให้ผมเรียกแท๊กซี่เพื่อไปถนน Woodside ย่านควีนส์ครับ"

ผมชะงัก ความทรงจำลอยกลับมา... ข้าวบอกว่าอยากไปกินอาหารไทยที่ควีนส์ ถึงกับรบเร้าผมหลายครั้ง ผมปฏิเสธทุกครั้งเพราะหวงข้าว... กลัวว่าข้าวจะคิดถึงบ้านจนหนีผมไป

ไม่คิดว่า...

ผมไม่มีเวลาไปเอารถ รีบเรียกแท๊กซี่แล้วไปควีนส์ทันที





ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ความลนทำให้ผมขาดสติ เมื่อมานั่งในรถ จึงนึกขึ้นได้ว่าควรโทรหาข้าวเป็นอันดับแรก ไม่ใช่กลอเรีย แต่เพราะผมจ้างกลอเรียมาเพื่อเป็นผู้ปกครองให้ข้าว ผมจึงคิดหาคนรับผิดชอบโดยอัตโนมัติ

ผมโทรหาข้าว ได้ยินเสียงสัญญาณทั้งหมดห้าครั้ง ข้าวก็รับสาย

"อืม แม๊กซ์ ?" เสียงข้าวฟังดูผ่อนคลาย ผมโล่งใจ อย่างน้อยเขาก็ปลอดภัยดี

"คุณอยู่ไหน ?" ผมเน้นเสียงหนัก แต่ข้าวกลับหัวเราะคิกคัก

"ทายดูสิ"

"ผมไม่ทาย" ผมพูดเสียงเย็นชา "ผมไม่เล่นนะข้าว บอกผมมา!"

ข้าวตกใจ รีบตอบ "ฉันอยู่ควีนส์ ย่านคนไทยน่ะ มากินข้าวที่นี่"

ผมฟังแล้วยังไม่วางใจเสียทีเดียว "บอกที่อยู่มา เดี๋ยวผมไปรับ"

"อืม เข้าใจแล้ว ฉันอยู่ที่..." เสียงเขาอ่อยเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าทำผิด "อย่าโกรธเลยนะ..."





โทสะผมพุ่งเสียดฟ้า ข้าวบอกว่ามากินมื้อเที่ยงที่นี่... ไม่ได้บอกว่ามีชู้!

เขาหนีออกจากบ้าน ฉวยโอกาสที่ผมไม่อยู่มาหาพิช! ผู้ชายท้องสมควรตายคนนั้น!


ผมปัดพิชออก เขาเดินอุ้ยอ้ายมาห้าม "ใจเย็นๆ คุณแม๊กซ์"

หากไม่ติดว่าผู้ชายคนนี้กำลังท้อง ผมคงต่อยเขาไปแล้ว ผมมองเขา พูดเสียงเย็น "'เมีย'ผมอยู่ไหน"

พิชกลืนน้ำลาย ถอยกรูดไปอยู่หลังเคาเตอร์ "เขามาร้านนวด... ก็ต้องมานวดสิ..."

ผมไม่ฟังอะไรอีก ก้าวเข้าไปในร้าน ดนตรีไทยบรรเลงพร้อมบรรยากาศผ่อนคลายนั้นไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย




ข้าวมาหาพิชที่ร้านนวดในควีนส์! เมียผมมีชู้!

ด้านในมีห้องเล็กๆ กั้นด้วยผ้าและฉากกั้น ผมเปิดฉากกั้นทีละห้องโดยไม่เกรงใจ คิดอย่างเดียวว่าต้องจับชู้ให้ได้คาหนังคาเขา!

เสียงอุทานวี้ดว้ายดังไม่เข้าหู พิชเดินเข้ามาขู่ว่าจะแจ้งความ ผมไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เมื่อเปิดฉากกั้นห้องสุดท้ายก็เจอข้าวที่กำลังคุยจ๋อยๆ อยู่กับหญิงชราคนหนึ่ง

ผมใจสลาย...

...ข้าวทำแบบนี้กับผมได้ยังไง...


คนนอกใจกลับหันหน้ามาด้วยรอยยิ้มแจ่มใส "อ้าว แม๊กซ์ มาแล้วเหรอ มานวดด้วยกันสิ ป้าเพ็ญเค้านวดเก่งมากเลยนะ"

หญิงชราวาดมือไปยังไหล่บางที่ผมเคยพรมจูบเป็นการอวด "นวดจับเส้นค่ะคุณ ดูเส้นตึงๆ แบบนี้..."

"ข้าว" ผมเรียกเสียงเย็น "กลับบ้าน" ปัดมือเหี่ยวย่นนั้นออกอย่างแรง คว้าตัวข้าวออกมา "กลับบ้าน!"

หญิงชราตะลึง พิชตามเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก "นี่มันอะไรกัน! คุณบ้าไปแล้วเหรอแม๊กซ์ ข้าวแค่มากินข้าวแล้วก็มานวดจับเส้น คุณทำอะไรของคุณ!"

ผมไม่ตอบ คนพวกนี้ไม่มีค่าให้ผมเสียเวลาด้วย ผมลากข้าวออกจากร้าน เรียกแท๊กซี่แล้วยัดตัวเองและคนนอกใจเข้าไป

ระหว่างทาง เราไม่คุยอะไรกันทั้งนั้น ผมพยายามระงับโทสะไม่ทำร้ายข้าว เขาคงรู้ดี ยอมให้ผมดึงขึ้นห้องเงียบๆ

เมื่อถึงห้อง ผมยังไม่พูดอะไร พูดไม่ออกสักคำ จำได้ว่าตัวเองแทบบ้าเมื่อไม่เห็นข้าว จำได้ว่าตัวเองวาดภาพว่าจะนอนกอดเอวบางอย่างไร

ผมถูกหักหลัง ถูกนอกใจ

"คุณนอกใจผม" ผมพูดได้แค่นั้น

ข้าวอ้าปากเหวอ "นอกใจ ? แค่ไปกินข้าวกับไปนวดเนี่ยนะ นอกใจ ?"

ผมสูดลมหายใจลึก "สำหรับผม แค่คุณไปคุยกับคนที่ผมไม่อนุญาต แล้วยิ่ง..." ผมเค้นเสียงอย่างเจ็บปวด "ให้คนที่ไม่รู้จักแตะต้องเนื้อตัว... ก็ถือว่าเป็นการนอกใจแล้ว!"

ข้าวยิ่งตะลึง "คนนวดคือป้าแก่ๆ ที่ใกล้จะลงโลงเนี่ยนะ ?"

"ผมไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร" ผมจ้องเขาเขม็ง "ผมหวงคุณ หึงคุณทั้งนั้น"

ข้าวอ้าปากค้างแล้วหุบ แล้วอ้าอีกครั้ง "...ขะ ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันคิดมาตลอดว่าเธอพูดเล่น"

"ผมไม่ได้ล้อเล่น แล้วทำไมคุณไปไม่บอกผม"

"บอกแล้ว... ฉันส่งข้อความหาเธอแล้ว แล้วฉันก็กลัวเธอจะกลับมาไม่เจอ เลยแปะโน้ตไว้ที่ประตู" ร่างเล็กลุกขึ้นไปยังประตูบ้าน ชี้ที่หลังประตู มีโน้ตแปะอยู่จริงๆ ในนั้นบอกเสร็จสรรพว่าไปที่ไหน กลับมากี่โมง คงเพราะผมลน เลยไม่ทันสังเกต

ผมรีบยกโทรศัพท์ขึ้นดู ข้อความใหม่จากข้าวจริงๆ เนื้อหาในนั้นเหมือนโน้ตเป๊ะ ผมถอนหายใจ มองคนตัวเล็กที่ยืนตรงหน้า "ผมไม่เห็น... ทำไมคุณไม่โทรมา ?"

"เธอทำงานอยู่ ฉันจะโทรไปได้ยังไง"

ผมพูดไม่ออก แข้งขาอ่อนแรง รีบคว้าเอวข้าวไว้ กลัวเหลือเกินว่าความใจร้อนของตัวเองจะทำให้ข้าวจากผมไป

ข้าวไม่ได้นอกใจ ไม่ได้มีชู้ ไม่ได้หนีออกจากบ้าน

ข้าวแค่คิดถึงประเทศบ้านเกิด...

ส่วนผมมันแค่คนโง่...

"ข้าว..."

เจ้าหญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดันผมออกอย่างนิ่มนวล "ฉันไม่คิดว่าเธอจะขี้หึงขนาดนี้... ไม่สิ เธอไม่ไว้ใจฉันเลยต่างหาก เป็นเพราะอดีตของฉันใช่ไหม ?" ร่างเล็กทรุดลงนั่งบนโซฟา เขาไม่ผลักไสผมออกเมื่อผมกุมมือน้อยแน่น

ผมฟังแล้วสะอึก รีบตอบ "ไม่ใช่นะ!"

ข้าวสบตาผมนิ่ง ดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นมีความเศร้าบรรจุเต็มเปี่ยม ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้ดวงตาคู่นี้หมองลงได้ ยิ่ง...

...น้ำใสเอ่อล้นลงมา

ข้าวไม่เคยร้องไห้แบบนี้... ไม่เคยร้องไห้ที่ไม่ใช่ร้องบนเตียง ผมรีบเช็ดน้ำตาบนแก้มนวล แต่หยดต่อมาก็ไหลริน

ผมทำให้ข้าวร้องไห้...

"ฉันรู้ว่าฉันเคยเป็นคนยังไง ฉันเป็นผู้ชายที่ให้คนที่ไม่รู้ชื่อมุดเข้ามาในก้น เป็นคนที่ขึ้นเตียงกับใครก็ได้" รอยยิ้มบนใบหน้าบิดเบี้ยว "รู้ไหมว่าฉันเคยนอนกับผู้ชายถึง 4 คนในคืนเดียว... โดยไม่ละอาย ฉันสำส่อน ฉันง่าย ฉันไร้ค่า เพราะแบบนี้เธอถึงไม่ไว้ใจฉันใช่ไหม ?"

ไม่เลย... ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ข้าวมีค่าเสมอ ข้าวสูงส่ง เป็นเจ้าหญิง เป็นคนเดียวที่ผมรัก

และตอนนี้คนที่ผมรักก็กำลังร้องไห้... เพราะผม

"ถึงฉันจะไม่เคยมีใคร ถึงจะไม่เคยคิดถึงใครนอกจากเธอ ถึงจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องนอกจากเธอ แต่นั่นก็ไม่พอสินะ... ยังไงฉันก็มีอดีตแบบนั้น... ฉันไม่ควรเลย... ไม่ควรแต่งกับเธอ ไม่ควรมีลูก ฉันไม่อยากให้ลูกมีแม่สำส่อนแบบฉัน" ข้าวเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง เขาร้องไห้ไปสะอื้นไป ผมฟังแล้วใจหาย... ใจสลาย

ข้าวคิดแบบนี้เอง... ทุกครั้งที่ผมหึงหวงไร้เหตุผล ความเป็นคนของข้าวก็ลดลงด้วย

ผมกอดข้าวแน่น "อย่าร้องเลยเจ้าหญิง... อย่าร้อง ผมผิดเอง ผมขอโทษ ผมไม่เคยคิดว่าคุณไร้ค่าเลย ผมรักคุณ ผมบูชาคุณ คุณมีค่าสำหรับผม สำหรับลูกที่กำลังจะเกิด เขาจะภาคภูมิใจที่มีคุณเป็นแม่ เหมือนที่ผมภูมิใจที่มีคุณเป็นภรรยา" ผมจูบเรือนผมนุ่ม ข้าวสะอื้นจนตัวโยน

"ผมผิดเองทั้งหมด ผมมันโง่เอง... ทั้งโง่ทั้งบ้า ผมขอโทษ ผมเป็นคนทำลายทุกอย่างเอง อย่าร้องเลยที่รัก"

ผมทำลายคนที่รักด้วยมือตัวเอง

"ข้าว... คนดี ที่รักของผม... ผมขอโทษ"

ร่างเล็กค่อยๆ ดันผมออก ไม่สบตา ไม่มองหน้า "แม๊กซ์... ถ้ายังเป็นแบบนี้ ฉันรับไม่ไหวจริงๆ เราห่างกันสักพักเถอะ..."

ไม่จริง! ไม่จริง! ไม่จริง! ใจผมกรีดร้อง ผมรีบคว้าคนตรงหน้าไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปกับตา "ไม่นะ!"

"ฉันจะกลับไทย... ไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีใครทั้งนั้น ฉันจะกลับไปอยู่บ้าน หางานแถวบ้านทำ... เลี้ยงลูกเอง ถ้าเธอคิดถึงลูกค่อยไปหา ดีไหม ?"

"ไม่ดี!" ผมตอบรัวเร็ว ละล่ำละลักคว้าเขากลับมา "ไม่เอาทั้งนั้น! คุณต้องอยู่ที่นี่กับผม! ผมไม่ปล่อยให้คุณไปไหน ไม่มีวัน!"

ข้าวปล่อยโฮอย่างยั้งไม่อยู่ "ฉันเหนื่อยเหลือเกินแม๊กซ์... ฉันรักเธอ แต่ฉันก็เหนื่อยเหลือเกิน ฉันเปลี่ยนอดีตไม่ได้ ฉันควรทำยังไง ?"

เมื่อร่างเล็กกลับมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้งผมจึงค่อยโล่งใจ ผมกอดเขาแน่นหนา ไม่ยอมให้อะไรมาพรากเราไปได้ "คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น... อยู่ที่นี่กับผม ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว"

"ผมจะไม่หึงคุณจนบ้าอีก... จะไม่ทำให้คุณลำบากใจอีก อย่าจากผมไปเลย ได้โปรด เจ้าหญิง อยู่กับผมเถอะนะ" หากทำได้ ผมอยากคุกเข่าลงอ้อนวอน

หากข้าวไปจากผม แล้วผมจะทำยังไง ? จะอยู่อย่างไร ?

ผมถูกข้าวตามใจจนเคยตัว ตื่นเช้ามาต้องเห็นหน้าเขา ต้องได้ยินเสียงเขา ต้องกอดเขา

แค่ไม่เจอข้าวแค่ไม่กี่ชั่วโมงผมยังแทบขาดใจตาย หากเขาจากผมไปจริงๆ ผมคงตายทั้งเป็น


ข้าวไม่ตอบทันที ลูบแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายเชื่องช้า ดวงตาที่มีน้ำตาเปรอะเปื้อนจ้องมองผม

ผมรู้ดี ในความเงียบนั้น วินาทีนี้สำคัญที่สุด หากข้าวปฏิเสธ ผมจะสูญเสียทั้งเขาและลูกไปตลอดกาล...


คนที่กุมชีวิตของผมขยับริมฝีปากช้าๆ คล้ายไม่แน่ใจ นิ้วเรียวขยับแหวนแต่งงานของเราไปมา ผมใจหาย หากเขาจะคืนแหวน...

...แม้กระทั่งลูกข้าวก็จะเอาไป พรากวิญญาณ พรากหัวใจผมไปทั้งหมด

ผมกลั้นหายใจ รอคอยคำตอบ...

เสียงหวานสั่นพร่า กระซิบเบายิ่งกว่าเสียงลม "อย่า... อย่าทำอีกได้ไหม ?"

ผมเบิกตากว้าง "คุณให้อภัยผม ?"

ข้าวดูลังเล ค่อยๆ พยักหน้า มือที่จับแหวนเลื่อนมันกลับไปที่เดิม ผมรีบคว้าตัวเขาอย่างยินดี "ขอบคุณครับเจ้าหญิง ขอบคุณครับ" ผมจูบแก้มเปียกๆ ทั้งสองจนช้ำ ข้าวดูสับสน แต่ก็ยอมให้ผมจูบ

ผมจูบริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ไม่คิดว่าคนคนนี้จะยอมอยู่กับผม

ข้าวเอื้อมมือมาแตะที่หลังผมเบาๆ เชิงบอกให้หยุด ผมยอมปล่อยเขาอย่างเสียดาย

"เธอต้องไปขอโทษพิชด้วยรู้ไหม ถ้าเขาฟ้องเธอขึ้นมาจะแย่เอา" ข้าวเสริม "ขอโทษป้าเพ็ญด้วย ถ้าพวกเขาต้องการเงินทำขวัญ... เธอก็ต้องจ่าย เพราะเธอผิดที่ไปพังร้านเขา"

ผมตัวแข็งเมื่อได้ยินชื่อพิช แต่ข้าวก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ "พิชเป็นคนดี เขามีสามีแล้ว ทั้งท้องโย้ ทั้งสาวขนาดนั้น สาวจนอีกนิดก็จะไปผ่าฮี๋ได้แล้ว"

"ผ่า... vergina เกี่ยวอะไรด้วย ?" ผมงงกับคำเปรียบเทียบ ข้าวหน้าแดง กระแอมเบาๆ

"เอาเป็นว่าเขาเป็น gay friend ของฉัน... เธอไม่ต้องหึงหวงอะไรเลย เขารักสามีเขามากด้วย"

ผมจำใจพยักหน้า เพราะอยากเป็นเด็กดี "ก็ได้ครับ..."

"แล้วก็..." ข้าวเว้นวรรค พูดช้าๆ "ฉันคิดถึงบ้านนะ... ยิ่งอยู่คนเดียวยิ่งคิดถึง... บางครั้งฉันจะไปที่ควีนส์บ้าง ไปดูละครไทย ไปกินอาหารไทย ไปวัดไทย... ฉันจะไม่ไปคนเดียวเหมือนวันนี้ แต่จะพาเธอไปด้วย เราจะพบกันครึ่งทาง เธอโอเคไหม ?"

ผมรู้ว่าข้าวยอมให้ผมมากแล้ว แค่เขายังยอมอยู่กับผม ผมก็ยอมทำทุกอย่าง "ครับ ตกลง"

ข้าวเห็นผมว่าง่ายก็ถอนหายใจ "ขอให้วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย... อย่าทำแบบนี้อีกนะ"

ผมพยักหน้ารับ กอดเอวเขาแน่น ข้าวลูบศีรษะผมเบาๆ เหมือนปลอบประโลม "ฉันรักเธอนะ รักเธอมาก"

"ผมก็รักคุณ รักคุณมากกว่า"

เสียงใสหัวเราะแผ่วๆ "เอาล่ะ ลุกเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ"

"ผมจะอาบให้" ผมอาสา อุ้มเขาเต็มวงแขน ข้าวไม่ปฏิเสธ กอดหลังผมแน่น จนผมต้องถาม "เซ็กส์คืนดี ?"

หน้าสวยๆ แดงก่ำ เขาพยักหน้า ไม่ยอมตอบ ผมยิ้มกว้าง

...ข้าวไม่ควรทำแบบนี้จริงๆ

ผมยิ่งรักเขามากขึ้น มากขึ้นจนเขาน่าจะไม่สามารถรับไหว

เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมย้อนกลับไปมองตัวเอง ว่าสองปีที่ผ่านมา ข้าวเป็นฝ่ายยอมลงให้ผมมากแค่ไหน

ยอมจากบ้านเกิดเมืองนอน
ยอมทรมานตัวเองเพื่ออุ้มท้อง
ยอมกดความน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองทุกครั้งที่ผมหึงหวง
ยอมทนกับความเหงา
ยอมถูกผมขังไว้คนเดียวในบ้าน


ยอมผมมาทุกอย่าง...  สิ่งที่ผมตอบแทนคือความบ้าคลั่ง สิ่งที่ผมมอบให้ความภักดีคือการเอาแต่ใจอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ผมมันโง่ ทั้งโง่ทั้งเลว

แต่หลังจากวันนี้ ผมจะรักเขาให้มาก จะไม่ให้เขาต้องร้องไห้อีก

"ผมรักคุณ" ผมกระซิบบอกระหว่างที่สอดใส่ ข้าวตอบกลับด้วยเสียงปนสะอื้น

"ฉันก็รักเธอ..."

.........

// ในมุมมองข้าว นังแม๊กซ์คือผัวแสนดี แต่พออ่านมุมของแม๊กซ์แล้ววว  :ling3: มึงโรคจิตตตตตต!!!

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ๊ยอีผัวบ้า จ่ายค่าทำขวัญหนักๆเลยย่ะ ถ้าฉันเป็นทีน่าฉันคงกลอกตาจนเมื่อยเบ้าตาแหละ 55555
ขอบคุณที่มาต่อซะยาวเลยค่ะ  :katai2-1:   
ส่งดท้ายอิฉันสงสารลูกในท้องค่า. อีพ่ออีแม่บ้าเซ็กส์เหลือเกิน. ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โธ่...พ่อแม็ก อะไรจะหึงหวงหน้ามืดขนาดนั้น กับคนแก่ก็ไม่เว้น เฮ้อออออ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใคร จะอิจฉาข้าว บ้างนะ
ที่ได้สามี สุดรัก สุดหลงขนาดนี้ :mew1: :mew1: :mew1:
หรือ ใคร จะคิดว่า เฮ้อ โชคดีจัง
ที่ไม่มีสามีเป็นโรคจิตสุดๆ แบบข้าว :ling1: :ling1: :ling1:
สนุกกกก  มากกกก ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
แม๊กซ์ ไอ้โรคจิต! นี่ด่านะคะไม่ใช่ชม โรคจิต!
ข้าวคนดี โอ๋นะคะ

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
นะ...ผัวบางทีก็ยิ่งกว่าลูกแฝด

ออฟไลน์ waiman

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกดีค๊า   :ling1: :pig4:

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 944
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
อีตาแม๊กซ์เยอะสิ่ง เวอร์วังไม่มีเปลี่ยน555555555 สงสารลูกเขาจัง คลอดมาหัวจะโนข้างนึงมั้ยเนี่ย โอ้ยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
แอบจบแล้วก็ได้แต่ กรอกตา มองบน
เล่นใหญ่รัชดาลัยมากกกกกก55
เวลาเข้าฉากนั้นที่ไร ชั้นกลัวลูกพวกแกไหลจริงๆ
ข้าวแกควรจะปรึกษาหมอ ปัญหาหูรูดเสื่อม
ก่อนวัยอันควรไว้แต่เนิ่นๆนะ เพราะผัวแกมันใช้งานหนักจริงๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
จะหวงเมียอะไรขนาดน้านนนน

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คุณแม๊กซ์ บางทีมันก็มากไปนะ  :hao4:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
อะไรจะขี้หึงขี้หวงป่านนั้น
เครียดแทนข้าวเลย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบจังงงงงงงงง =.,=

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 822
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
แค่ชื่อเรื่องก็น่าหมั่นไส้แล้วค่ะ 555555555555 ผัวนางดีทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องหึงมากไปหน่อย /เปิดเพลงขี้หึง

ออฟไลน์ AiiSoul

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แม็กซ์ แกหวงข้าวเกินไปแล้วนะยะ
ให้คุณเขามีอิสระบ้าง เขาอึดอัด โอ๋ยยยยยยย

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0
 :hao6:  แซ่บบบบ. เรื่องนี้ต่อจากเรื่องไหนรึป่าวอ่ะจะได้ตามไปอ่าน

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
/ล้องห้ายจนล่างปะทับองคชาญาเนบิวลาเข้าสิง

ได้!! คอผ. คปต. สัดปีศาฐแห่งกาแลตซีจะรงโทดแก นางพญางูฅาว มะม่วงผู้ทำสันยากับปีสาด จะทำให้แกรู้ถึงสัดทำชาดก ล๊ะเข้าถึงศาฐดา... ฆ้าฅอสาทุบุน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aommama

  • เป็ดมึน คนเซอร์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-5
เรียกน้ำเเกงมาตบค่ 5555555 เอ๊ะ อ๊ะ ผัวหึง

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ฮ่าๆ สงสารข้าวนะ ไม่ได้สงสารแม๊กซ์เลย
เข้าใจอยู่นะว่ารัก แต่ก็ควรจะให้อิสระบ้าง เขายอมจากบ้านเกิดเมืองนอนมาตั้งไกล ทั้งยังตั้งท้องให้อีก คนเราไกลบ้านก็มีอารมณ์เหงาบ้างแหละ

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ข้าว ทำอะไร ผู้ก็รักนะคะ อิจ!! มาก

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ดัดจริตมากกกกกก นี้ด่าตัวเองคะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
หึงหวงได้เว่อร์วังมาก!!

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
นี่ขนาดรักกันมากขนาดนี้แล้วยังมีปัญหากันอยู่ที่ว่าไม่ยอมคุยกันให้รู้เรื่องต่างหาก

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
อ่านตอนนี้แล้วใจกระตุก
สงสารข้าว รู้สึกว่ายิ่งคุณสามีรักมากเท่าไหร่กรงขังจะยิ่งหนาขึ้น แน่นขึ้น และแคบลง
เฮ่อ! หึงมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่มันก็ควรจะมีลิมิต มีเส้นขีดขั้นไว้บ้าง

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ความรักของแม๊กซ์ ไม่เข้าใจสังคมของคนไทย คนไทยเราไม่ได้มาจากครอบครัวเดี่ยวอย่างฝรั่งนี่ เราเป็นครอบครัวใหญ่มีญาติมีเพื่อนฝูง
 รออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
แม็กซ์เหมือนโรคจิตจริงๆ โคตรห่วง หวงเมีย

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
แม็กซ์เอ้ย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด