พิมพ์หน้านี้ - ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: aimer ที่ 17-08-2016 19:28:58

หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 19:28:58
๊***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

Aimer's novels & short stories

[Completed] Tiger & Bunny :: http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37498.0
[On Air] Stay Gold :: http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47031.0
[On Air] Starry Starry Night Short stories Collection :: http://www.tunwalai.com/story/100394/starry-starry-night-short-stories-collection
[On Air] THE MYTHS http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55345
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 17-08-2016 19:43:35
เจิม ตัวเเดงๆ นังข้าวคนอวดผัว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 19:50:12
รักผัวครั้งที่ 1

'ต่อไปเป็นรายงานข่าวพิเศษค่ะ ยอดครรภ์บุรุษหรือผู้ชายที่เลือกที่จะตั้งครรภ์โดยทางการแพทย์นั้นเพิ่มขึ้นถึง 25% ทั่วโลก และในปัจจุบันมีสินค้าต่างๆ เพื่อผู้ชายตั้งครรภ์ในตลาดเพิ่มขึ้น อาทิเช่น เสื้อคลุมท้อง อาหารเสริม...'


เสียงรายงานข่าวจากผู้ประกาศข่าวในโทรทัศน์เป็นภาษาอังกฤษดังขึ้น ผมลูบท้องตัวเองเบาๆ


'...และปัจจุบัน ความเสี่ยงของครรภ์บุรุษได้ลดลงถึง 80% ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเพื่อฝังมดลูกเทียม รวมไปถึงฮอร์โมนต่างๆ ก็ได้ลดลง ดังนั้น จึงเห็นได้ว่าชายที่รักเพศเดียวกันได้ตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น แม้ในทางกฏหมายจะยังไม่มีการปรับแก้เกี่ยวกับบุตรที่เกิดขึ้นจากคู่สมรสเพศเดียวกัน...'


เสียงยังดังต่อเนื่อง ผมถอนหายใจ ควานหารีโมตเพื่อปิดเสียง ดูแต่ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า และเมื่อพบว่าการปิดเสียงไม่ได้ช่วยอะไรเลยจึงหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าลึก และปล่อยออกมาช้าๆ เหมือนที่หมอเคยสอน


ผู้ชายตั้งท้องเคยเป็นเรื่องตลกในอดีต แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ


ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น


ในร่างกายผม มีชีวิตเล็กๆ อาศัยอยู่ได้สองสัปดาห์แล้ว...


...และตั้งแต่ตั้งท้องมา พ่อของลูกก็ได้ค่อยๆ เปลี่ยนไป





สามีของผมเปลี่ยนไป...








แม๊กซ์หรือแม๊กซ์ซิมัสเป็นชายร่างสูงใหญ่เหมือนนักมวยปล้ำ กล้ามแน่นไปทั้งตัว เรือนผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาคมสีเดียวกันคมกริบ ใบหน้าหล่อเหลาบาดตาดูโดดเด่น


แม๊กซ์อายุน้อยกว่าผมสี่ปี แต่กลับประสบความสำเร็จกว่า ในขณะที่ผมในวัยสามสิบ ทำงานเป็นเสมียนในบริษัทเล็กๆ ได้รับเงินเดือนน้อยนิดพอเลี้ยงตัวเองนั้น แม๊กซ์กลับเป็นเจ้าของธุรกิจหลายแห่ง เขามีบาร์เป็นของตัวเองในทำเลทองถึงแปดที่ในหกรัฐ เป็นเจ้าของร้านอาหารเฟรนไชส์ทั่วประเทศ มีคลับหรูหราในโมนาโก เวกัสและแอลเอ มีร้านอาหารฝรั่งเศสสุดหรูบนยอดตึกสูง มีเชฟมิชลินทำงานให้นับสิบ เขาทั้งหล่อเหลา มีเสน่ห์ เก่งกาจ ร่ำรวย ราวกับสามารถได้ทุกอย่างบนโลก


หันกลับมาที่ผม...


ผู้ชายเอเชียตัวเล็กๆ ที่หน้าตาธรรมดา แถมยังเป็นเกย์มาตั้งแต่เด็ก ไม่มีกระทั่งเรสซินเดนท์อเมริกันจนกระทั่งแต่งงาน แม้กระทั่งในประเทศแม่อย่างประเทศไทย ผมก็ยังธรรมดาจนกลืนหายไปกับผู้คน ผมเคยทำงานเป็นพนักงานบัญชีให้บริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง เงินเดือนน้อยจนใจหาย เกิดและโตที่ต่างจังหวัด เพิ่งมาหางานทำที่เมืองกรุง อย่าว่าแต่อยู่ต่างประเทศอย่างตอนนี้เลย ในตอนนั้น แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านยังไม่มีปัญญาเหยียบย่างไป


ผมพบแม๊กซ์ระหว่างที่เขากำลังเที่ยวผู้หญิงในเมืองไทย...


ไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ผมเป็นเกย์ ไม่ได้ถือเรื่องเซ็กส์อะไร ขอแค่ถูกใจก็ขึ้นห้องง่ายๆ วันที่พบเขา... ผมเลือกผู้ชายที่พอดูได้จากผับแล้วไปโรงแรมอย่างง่ายดาย


นั่นแหละผม ผู้ชายง่ายๆ ไร้จุดเด่น หน้าตาจืดชืดและสำส่อน


ส่วนเขา... กำลังทะเลาะกับโสเภณีสาวสวยอยู่ข้างทาง


คนที่ผมเลือกจากผับแค่นหัวเราะโสเภณีคนนั้น ทั้งๆ ที่พวกเราก็ไม่ได้ต่างจากพวกเขาหรอก อาจจะแย่ยิ่งกว่าตรงที่โสเภณียังได้เงินจากเซ็กส์ ในขณะที่พวกเราไม่ได้อะไรเลย...


โสเภณีคนนั้นสวมชุดหรู ใบหน้าตบแต่งอย่างดี เธอได้ยินที่ผู้ชายข้างตัวผมหัวเราะเยาะ จึงหันกลับมามองอย่างโกรธแค้น พร้อมทั้งตะโกนด่าพวกเรา แล้วฝรั่งตัวยักษ์ก็ด่าเธออีกทอดหนึ่ง


ผมดูภาพวายป่วงเบื้องหน้า คู่นอนผมด่าหล่อนกลับ และทำท่าจะไปร่วมวงด้วย ผมถอนหายใจแรงๆ ตัดสินใจไม่ขอยุ่งเกี่ยว แต่ช้ากว่าหญิงสาวที่เดินดุ่มๆ เข้ามา ปรี่จะทำร้ายคู่นอนผม


หลังจากนั้นก็อีรุงตุงนังสิ้นดี โสเภณีโถมตัวเข้ามาตบเกย์ข้างๆ ลูกค้าฝรั่งของเธอบริภาษเธอด้านหลัง ผมพยายามยื้อคู่นอนตัวเอง


วงทะเลาะเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนคนหันมามุง ผมอายแทบมุดดินหนี ในที่สุดหล่อนก็รู้ตัวและสะบัดหน้าจากไป ส่วนคู่นอนผมก็หงุดหงิดเกินกว่าจะไปต่อกับผมได้


ดังนั้น เมื่อเหล่าไทยมุงทั้งหลายค่อยๆ สลายตัว จึงเหลือเพียงผมกับฝรั่งตัวโตคนนั้น


เรามองหน้ากัน...


...อาจเพราะความเมา...


...ของใครสักคนหนึ่ง


อาจเพราะความแปลก...


...ของโชคชะตา


เขาชวนผมไปแทน ส่วนผมที่พลาดจับผู้ชายแล้ว... ก็คิดว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ผมไม่เคยนอนกับฝรั่งมาก่อน อีกทั้งเขาก็ยังหล่อเหมือนดาราฮอลลีวูด ท่าทางร่ำรวย ดังนั้น เราสองคนจึงเปิดห้องที่โรงแรมใกล้ๆ


...คืนนั้นเราใช้ถุงยางไปกี่ชิ้น ผมจำไม่ได้


เซ็กส์นั้นร้อนแรงที่สุด ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเกย์ถึงชอบฝรั่งนัก ตัวผมเองแม้จะนอนหมดเรี่ยวแรง แต่ก็ยังอดส่ายสะโพกให้เขาเข้ามาไม่ได้


เขาบอกว่าเขาชื่อแม๊กซ์ในเช้าวันถัดมา ผมบอกชื่อจริงของตัวเองตอบ เพราะคิดว่าคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว...


...แล้วสิ่งที่ประหลาดกว่าค่ำคืนนั้นก็เกิดขึ้น


แม๊กซ์บอกผมว่าเขาไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อน ก็น่าจะจริง ดูจากการยัดเข้ามาโดยไม่ขยับขยาย คงคิดว่าช่องทางผู้ชายเหมือนของผู้หญิงจึงดึงดันเข้ามา ผมร้องลั่นอย่างเจ็บปวด แต่แม๊กซ์ก็ยังไม่สนใจ เขาป่าเถื่อน... ร้อนแรงจนผมระทวย แม้กระทั่งรู้สึกถึงเลือดที่ไหลตามต้นขาก็ยังหยุดไม่ได้


ถึงจะเจ็บ แต่ก็เสียวกระสัน


ไม่รู้เพราะผมเป็นผู้ชายคนแรกหรือเปล่า... หลังจากนั้น...


...เขาก็ใช้เวลาสามเดือนในเมืองไทยตามจีบผม


แปลกประหลาดที่สุด เรื่องนี้ควรเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับแปดของโลก


ผมหยุดความสัมพันธ์กับเขาไว้ที่เซ็กส์เฟรนด์ ไม่ได้คาดหวังว่าจะคบกับเขาจริงจัง สามเดือนผ่านไป ผมยังนอนกับเขาและผู้ชายคนอื่น เขาจึงรามือกลับประเทศ


ผมรู้สึกโหวงๆ แต่ก็ไม่ได้เศร้าจะเป็นจะตาย


ในเดือนที่สี่ มีการลงทุนระหว่างร้านอาหารเฟรนไชส์จากอเมริกามาเปิดสาขาที่ไทย ที่ฮือฮาคือ เจ้าของบริษัทเฟรนไชส์มาคุมงานด้วยตัวเอง


...แม๊กซ์เลือกลงทุนในไทยทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจมาก่อนเพื่อมาตามจีบผม...


...แปลกประหลาดยิ่งกว่าเรื่องผู้ชายตั้งท้องได้เสียอีก


ผมยังคงไม่เชื่อ แต่เขาก็ตามตื๊อเหลือเกิน ตื๊อจนหัวใจที่ด้านชาของผมละลาย แต่กระนั้น ใช่ว่าผมจะหยุดนอนกับคนอื่น


ผมสับสน เมื่อผู้ชายที่แสนสมบูรณ์แบบบอกรัก ในขณะที่ผมไม่มีอะไรเลย ไม่มีดี ไม่มีจุดเด่น ไม่มีอะไรทั้งนั้น ผมจึงไม่เชื่อว่าความรู้สึกนั้นจะยืนยาว และได้แต่หวังว่าเขาจะเบื่อไปเอง



2 ปีกับ 4 เดือน...



...เป็นช่วงเวลาทั้งหมดที่แม๊กซ์ตามตื๊อผม เขาเสมอต้นเสมอปลาย เคยปฏิบัติกับผมอย่างไรก็อย่างนั้น มีเพียงความหึงหวงที่มากขึ้นทุกวันๆ แม้ผมจะไม่เคยตกลงคบกับเขาสักครั้ง


ในที่สุดผมก็พ่ายแพ้ แพ้หัวใจตัวเอง แพ้ความดีของเขา แพ้ใบหน้าหล่อๆ จึงตกลงคบกับแม๊กซ์ เลิกเที่ยวผู้ชายโดยสิ้นเชิง


แต่ผมเป็นแฟนแม๊กซ์ได้แค่ไม่กี่เดือน สถานะของเราก็เปลี่ยน


แม๊กซ์ขอหมั้นผมหลังจากที่คบกันได้เพียง 3 เดือน ผมคงถูกเขามอมไวน์ราคาแพงจนเมาเลยตอบตกลง


หมั้นได้เพียง 2 สัปดาห์ สถานะก็เปลี่ยนอีกครั้ง


คราวนี้ผมคงเมาหนักกว่าเดิม เพราะเขาคุกเข่าลง หยิบกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ออกมา แล้วเปิดออก อวดแหวนวงเล็กทำจากทองคำขาว ประดับด้วยเพชรเม็ดงามใหญ่กระแทกสายตา


บางทีอาจเป็นเพราะแสงวาววับจากเพชรหลายสิบกะรัตที่ทำให้ผมเบลอ เผลอพยักหน้าเมื่อเขาถามผมว่า


'Will you marry me?'


และแหวนวงนั้นก็มาประดับที่มือผมอย่างงงๆ พร้อมกับขบวนขันหมากที่เขาจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่บ้านเกิด พ่อกับแม่เองก็ยังงงจนกระทั่งผมยื่นขอเรสซินเดนท์และย้ายมาอยู่นิวยอร์กกับเขา


งานแต่งงานของเราหรูหราอลังการเสียจนนิตยสารหลายฉบับต้องทำสกู๊ป ผมที่ไม่มีปากมีเสียงอะไรได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว แม๊กซ์จัดงานทุกอย่างด้วยตัวเอง เลือกกระทั่งผ้าปูโต๊ะด้วยตัวเอง


ขนาดความเห็นยังไม่มี ให้เงินสักสลึงเขาก็ไม่เอา


ผมไม่ต้องออกเงินเลย งานแต่งยิ่งใหญ่นั้นเป็นที่ฮือฮา แค่ชุดเจ้าสาวของผม... ที่เป็นกางเกงกับสูท ผมก็ไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว ต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็เถอะ


หลังแต่งงาน เขาพาผมไปอยู่เพนท์เฮาส์สุดหรู มีแม่บ้านและคนขับรถ ร่ำๆ จะจ้างบอดี้การ์ดให้ด้วยเพราะกลัวว่าความงามของภรรยาจะทำให้มีคนมาลักพาตัว


ผมไม่ได้ชมตัวเอง เขาพูดแบบนี้จริงๆ ผมได้แต่เงยหน้าขึ้นมองฟ้า ถอนหายใจยาวเหยียด


เราแต่งงานได้สองปีกว่า เขาก็ออดอ้อนอยากมีลูก


จริงๆ แล้วอย่าว่าแต่ลูกเลย แม้กระทั่งสามีผมก็ยังไม่คิดมาก่อนว่าจะมี


แต่ในที่สุด... ผมก็ยอมเขาอีกครั้ง ยอมทนเจ็บแทบตาย ยอมฉีดยาทุกอาทิตย์ ยอมไปหาหมอทั้งๆ ที่ตัวเองกลัวโรงพยาบาล และยอมทน 'ทำลูก' อยู่หลายสัปดาห์


ถึงแม้ผมจะมีมดลูกเทียมฝังอยู่ในอุ้งเชิงกรานแล้ว แต่ยังต้องอาศัยสามีเพื่อถ่ายน้ำเชื้อเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนเป็นตัวอ่อน


กระบวนการถ่ายน้ำเชื้อมีตั้งแต่กระบวนการทางการแพทย์ซึ่งมีความสำเร็จสูง จนไปถึงกระบวนการทางธรรมชาติ...


...แม๊กซ์เลือกวิธีธรรมชาติโดยไม่ลังเล และเพื่อให้ผมตั้งใจกับการมีลูก เขาได้บังคับให้ผมออกจากงาน ทั้งขู่ทั้งหว่านล้อมจนผมยอมเขาอีกครั้ง


สามสัปดาห์เพื่อทำลูกได้ผ่านไปท่ามกลางความทรมานของผม


ถึงช่วงแรกๆ เซ็กส์เพื่อลูกของเราจะหวานซ่าบซ่านก็เถอะ เขาทั้งรุนแรง ทั้งอ่อนโยน ทั้งกระทั้นเข้ามาจนสุด ผมร้องครวญคราง ส่ายสะโพกยั่วยวนสามี โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อย่าว่าแต่ส่ายสะโพก แค่หายใจเบาๆ ก็เจ็บไปทั่วร่าง


เหนื่อยจนเผลอหลับทั้งๆ ที่เขายังคาอยู่ในก้น
กินข้าวทั้งๆ ที่อุปกรณ์ผลิตลูกของเขาที่ใหญ่เท่าแขนผมหรืออาจะใหญ่กว่า ทั้งใหญ่และยาวแม้กระทั่งเทียบกับไซส์ฝรั่งด้วยกันนั้นยังติดอยู่ข้างใน


เขาหลั่ง... ผมหลั่ง... เขาหลั่ง... ผมหลั่ง... แล้วผมก็หลั่งจนไม่มีอะไรเหลือ ในท้องมีแต่อสุจิของเขาอัดแน่น เยอะจนถ้าลูกของผมอยู่ในนั้น ลูกต้องจมน้ำรักพ่อตายแน่ๆ


แต่เขาก็ยังไม่หยุด...


คล้ายกับว่าสัตว์ป่าหลุดออกจากการควบคุม เหมือนผู้ชายเพิ่งถูกปล่อยออกจากคุก


เขายอมปล่อยเมื่อท้องของผมป่องราวกับมีครรภ์อ่อนๆ และไม่สามารถรองรับน้ำรักได้อีกแม้แต่หยดเดียว เมื่อถอนออก ผมได้ยินเสียงคล้ายจุกก๊อกหลุดออกจากขวด รูเล็กๆ ของตัวเองน่าจะหลวมคลายเต็มที่ อาจจะแย้มออกจนน่ากลัวเหมือนที่เคยเห็นหนังโป๊เกย์ไปแล้ว


แต่...


จริงๆ แล้วมันบวมมาก บวมจนปิดมิด ผมต้องนอนนิ่งๆ เพื่อให้อสุจิสามีเกิดการปฏิสนธิสักพัก แล้วค่อยทำความสะอาด


เขาวนเวียนลูบท้องป่องๆ จูบตามไรผม เรียกผมว่า 'princess'


ผมไม่มีอารมณ์วาบหวามเหลืออยู่แม้แต่น้อย สิ่งที่ผมอยากทำคือนอนยาว นอนจนกว่าโลกจะแตก แต่แม๊กซ์ไม่ยอม ยังพรมจูบไปทั่วร่าง บิดทึ้งยอดอกจนแทบขาด แล้วค่อยยอมให้ผมทำความสะอาด


ปัญหาเกิดอีกครั้ง เมื่อเราอยู่ในห้องน้ำ


ผมควรจะปล่อยน้ำรักของสามีออกได้แล้ว ร่างกายผมก็เพลียจนหัวแทบดิ่งลงพื้น แต่ช่องทางที่ควรจะหลวมโพรก กลับเม้มแน่น ไม่ยอมคายน้ำออกมา เดือดร้อนถึงแม๊กซ์ต้องให้ผมนั่งบนเคาเตอร์หินอ่อน หลังพิงกระจก ถ่างขาเหมือนจะคลอดต่อหน้าเขา


แม๊กซ์สอดนิ้วเข้ามาควานทำความสะอาด มันยังแน่นและกระตุกเหมือนจะดึงนิ้วเขาให้ขาด ผมได้แต่มองเหมือนจะบอกว่าเรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวจริงๆ นะ


'...ข้าว ถ้าคุณยังตอดผมแบบนี้ ผมคงทำคุณท้องแตกแน่ๆ'


'ไม่...'


'แน่นจริง... อ้าขาออกซิ' ผมได้แต่ขยับตัวตามที่เขาสั่ง


'บ้าจริง!' เขาสบถออกมาเบาๆ สูดลมหายใจลึก จับขาทั้งสองข้างของผมกางออกจนสุด


ในที่สุดก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างทุลักทุเล ผมผล็อยหลับไป...


และตื่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับความแข็งขืนในท้อง...


...แม๊กซ์! นี่แม้กระทั่งตอนผมหลับยังเสียบเข้ามาอยู่เรอะ!




จากความพยายามของแม๊กซ์และความทรมานจนเป็นลมไปหลายครั้งของผม ในที่สุดก็ติดลูก ผมถอนหายใจเฮือกๆ เมื่อคิดว่าคงพ้นจากเซ็กส์มารธอนเสียที


คุณหมอหน้าสวยท้องแก่ยิ้มให้กำลังใจพวกเรา ขณะแนะนำเรื่องต่างๆ ที่ต้องดูแลในช่วงตั้งครรภ์


'เรื่องเซ็กส์... ควรระวังท่าให้ดี อย่าให้ทับครรภ์คุณแม่ หมอแนะนำว่า...' สมองผมเบลอไปหมด ดูท้องโตๆ ของคุณหมอที่ดันเสื้อกาวน์ออกมาแล้วอดคิดไม่ได้ว่าอีกไม่กี่เดือนผมคงไม่ต่างกัน


'คุณข้าว ?' คุณหมอคนงามเรียก โบกมือตรงหน้า 'ไม่เป็นไรนะครับ ?'


ผมพยักหน้า หมอเองก็เถอะ สวยขนาดนี้ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชาย ทั้งๆ ที่เป็นฝรั่งแท้ๆ ทำไมถึงมีหน้าตาสวยยิ่งกว่าผู้หญิงอีก สามีหมอต้องโชคดีมากแน่ๆ


หมอยังคงพูดต่อไป มีแต่แม๊กซ์ที่ตั้งใจฟังไม่ให้ตกหล่น ส่วนผมก็เข้าเฝ้าพระอินทร์ไปเรียบร้อยแล้ว...







'ติ๊ง'

ข้อความเด้งขึ้นในความเงียบ ผมสะดุ้งตื่น หยิบโทรศัพท์ขึ้นดู


'เจ้าหญิง วันนี้คุณไม่ต้องทำข้าวเย็นนะ' แม๊กซ์ส่งมา ผมอ่านแล้วค่อยๆ วางมือถือลง ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง...


...แม๊กซ์ไม่เคยพลาดอาหารที่ผมทำ เขาบอกว่าชอบเห็นผมรวบผมสั้นๆ ต่ำๆ ที่ท้ายทอยและสวมผ้ากันเปื้อน


ไม่ใช่แค่นั้น...


แม๊กซ์มักจะหายไปกับนักร้องสาวที่ทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งหลังเลิกงาน


หล่อนชื่ออลิซ


หล่อนสวย อายุน้อย มีดวงตาสีเขียวสดใส มีเสียงหัวเราะหวาน


...มีทุกอย่างที่ผมไม่มี




'ติ๊ง' อีกข้อความถูกส่งมา
'คืนนี้ผมจะกลับดึก ไม่ต้องรอ'


แม๊กซ์ไม่เคยกลับดึก... มีแต่จะกลับก่อน แต่ช่วงสัปดาห์ที่สองของการตั้งครรภ์ แม๊กซ์กลับดึกทุกคืน



ผมปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองดูข้าวของหรูหรารอบตัวด้วยหัวใจว่างเปล่า


เพนต์เฮาส์สุดหรูจะมีค่าอะไร ถ้าไม่มีเขาอยู่ข้างๆ
ผมไม่เคยต้องการชีวิตแบบนี้ สิ่งที่ผมต้องการมีเพียงแค่เขาที่อยู่ข้างๆ รักผมเหมือนเดิม



ผมเพียงแค่ต้องการพ่อของลูก...



...สามีผมคงมีคนใหม่ และคงใกล้เวลาที่ผมจะต้องไป...







จำได้ว่ามีกฏหมายเกี่ยวกับเด็กที่เกิดขึ้นจากคู่สมรสเพศเดียวกัน ไม่รู้ว่าผมยังจะได้สิทธิเลี้ยงลูกหรือเปล่า ถึงผมจะไม่มีอะไร แต่ผมก็เป็นแม่ของแก เป็นคนที่อุ้มท้องลูกมา ศาลน่าจะเห็นใจบ้าง


ส่วนสินสมรส ค่าเลี้ยงดู... ไม่ต้องการทั้งนั้น


ผมอยากกลับบ้าน กลับไปเลี้ยงลูกที่ชนบทเงียบๆ







ผมก้มหน้าลงซบกับฝ่ามือ ไม่อาจห้ามความคิดฟุ้งซ่านได้







ผมรู้ว่าวันนี้จะต้องมาถึงสักวัน เขาดีเกินไปสำหรับผม สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ อยู่คนละชั้นกับผม ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว สักวันผมก็ต้องเสียเขาไป สักวันเขาต้องเบื่อผม


ผมรู้ดี
แต่ก็ยังไม่อาจห้ามใจได้ ยอมปล่อยตัวปล่อยใจจนกระทั่งมีลูกด้วยกัน


จะโทษใครได้นอกจากตัวเอง ?


สองปีที่แม๊กซ์ตามตื๊อ สองปีที่ไม่ได้เล่นตัว แต่เพราะกลัววันนี้จะมาถึงต่างหาก







ใจผมอ่อนยวบ ยอมเป็นของเขาไปนานแล้ว...










"ยังไม่นอนอีก ?" แม๊กซ์กลับมาจากงานและเห็นผมนั่งจับเจ่าคนเดียวบนโซฟา


"อืม กลับมาแล้วเหรอ กินอะไรไหม ?" ผมตอบเบาๆ เดินเข้าไปหาเพื่อช่วยถือเอกสาร แต่ร่างสูงใหญ่กลับหลบเลี่ยง


"กินมาแล้ว ข้าวไปนอนเถอะ"


ผมชะงักกับอาการนั้น กัดริมฝีปากเบาๆ มองแม๊กซ์ถอดรองเท้าออกตามคำขอหลังแต่งงานของผมแล้วเดินเข้ามาในห้อง


"เป็นอะไรไป ?" น้ำเสียงส่อแววรำคาญ "นี่ทำอะไรทั้งวัน ? อย่าบอกว่านั่งเฉยๆ ?"


ผมส่ายหน้า ได้กลิ่นน้ำหอมบนเสื้อโค้ตที่แขวนไว้






หัวใจหล่นวูบเหมือนใบไม้ปลิว...


ดวงตาร้อนผ่าว...


...กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง... กลิ่นเดียวกับอลิซ...









คืนนั้นเราเข้านอนเงียบๆ แม๊กซ์ไม่เข้ามากอดเหมือนทุกครั้ง


ตั้งแต่แต่งงานมา ไม่เคยมีคืนไหนที่ผมจะนอนห่างจากสามีขนาดนี้



เรื่องแบบนี้จะดำเนินไปถึงไหน ? ผมจะทนได้ถึงเมื่อไหร่ ? เมื่อไหร่ที่ผมจะสามารถถามไปได้ตรงๆ ?


ผมมันขี้ขลาด

แม้จะเจ็บเจียนตาย หัวใจทุรนทุราย แต่ก็ยังบอกตัวเองว่าขอเวลาอีกนิด... ขอมองแผ่นหลังกว้างบึกบึน ขอจ้องใบหน้าหล่อเหลา ขอสัมผัสถึงไออุ่นจากร่างกายเขาอีกสักนิด...


...แม้กระทั่งคนโง่ก็รู้ว่าผมพยายามยื้อเวลา...


ผมมันโง่ โง่ที่รักเขา...









"ข้าว พรุ่งนี้ไปหาหมอเองนะ"


แม้ไม่เคยมีสักครั้งที่หมอนัดแล้วผมจะไปคนเดียว แต่ผมก็พยักหน้า ไม่เรียกร้องอะไร แม้ปากจะเปิดออก อยากถามว่าทำไม แต่กลับไร้เสียง


ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะติดธุระอะไร สำคัญขนาดไหน ต่อให้สัญญามีผลประโยชน์สักกี่ล้าน แม๊กซ์ก็ไม่เคยให้ผมไปหาหมอคนเดียว


เขาต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทุกๆ เรื่องในชีวิตผมและลูก






แต่เขาคงเปลี่ยนใจ...


ผมหลุบตาลง กินข้าวต่อไปเงียบๆ









"สามีไม่มาเหรอครับ ?" หมอถามอย่างใจดี ส่งยิ้มให้


ผมส่ายหน้าตอบ หมอคงสังเกตได้


"คุณแม่ดูเศร้าๆ นะครับ มีอะไรหรือเปล่า ? ลองเข้าทดสอบภาวะซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ไหมครับ ? หมอจะนัดจิตแพทย์ให้"


ผมพยายามยิ้ม "ไม่มีอะไรครับ"


"แต่คุณดูเศร้ามากจริงๆ อย่าชะล่าใจนะครับ อารมณ์ของคุณแม่มีผลกับลูกทุกอย่าง"


ลำคอผมแห้งผาก หัวใจเต้นเชื่องช้า มองดูท้องโป่งนูนของหมอและสีหน้าหวังดี ก่อนจะเอ่ยช้าๆ "หมอครับ... ถ้าหย่า คนที่ตั้งท้องจะได้สิทธิเลี้ยงลูกไหมครับ ?"


"หย่า ? ทำไมครับ ? เกิดอะไรขึ้น ?" หมอตกใจ "หรือว่า... เกี่ยวกับที่สามีไม่มาวันนี้ ? ทะเลาะกันเหรอครับ ?"


ผมส่ายหน้า"ไม่ได้ทะเลาะกัน... แต่คิดว่าเขาคงอยากมีลูกกับคนอื่นมากกว่า"


"God... ลองคุยกันดีๆ ก่อนไหมครับ สามีคุณดูรักคุณมากนะครับ"


ผมหัวเราะเบาๆ "อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปได้ครับ"









อีกมื้อที่กับข้าวเย็นชืด... ผมมองดูที่นั่งตรงกันข้าม มีอาหารที่เขาชอบวางอยู่ตรงหน้า


แต่แม๊กซ์ไม่อยู่ตรงนั้น...





ผมหลับตาลง...










วันหนึ่ง ผมกำลังนอนกลางวันเงียบๆ จ้องมองเพดานสีขาวอย่างครุ่นคิด แล้วจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

กดชื่อของคนที่จำเบอร์จนขึ้นใจและโทรออก เสียงสัญญาณดังสองสามครั้งก่อนจะมีเสียงหวานๆ รับ

'สวัสดีค่ะ'



...อลิซ


แม๊กซ์ไม่ชอบให้ใครใช้โทรศัพท์... เขาให้รหัสผ่านทุกอย่างกับผม ไม่ว่าจะโทรศัพท์ อีเมล์ บัตรเครดิต เฟซบุ๊ก ฯลฯ ก็ตาม แต่ผมไม่เคยเปิดดูเลย


ผมรีบวางสาย ลุกขึ้นไปหยิบไอแพด เข้าบัญชีเฟซบุ๊กของแม๊กซ์ด้วยรหัสผ่านที่เขาให้มา


เฟซบุ๊กของแม๊กซ์เงียบเหงา เขาไม่ชอบโซเชียลนัก แต่ช่องแชทกลับมีข้อความมากมาย



Alice Turner
'อย่าให้ภรรยาคุณรู้นะคะ'
'เจอกันค่ะ'
'เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกคืนนะคะ'



ผมไม่สามารถดูข้อความก่อนหน้านี้ได้... มือสั่นเทาเกินควบคุม ภาพตรงหน้าพร่าเลือน


ไม่รู้สึกตัวกระทั่งได้ยินเสียงไอแพดตกพื้น






...ข้อความเพียงเท่านั้นบอกชัดว่าเวลาของผมหมดลงแล้ว


...ผมหลอกตัวเองอีกต่อไปไม่ได้แล้ว...
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 19:50:30
ผมตัดสินใจออกไปหาเขาหลังเลิกงาน คิดว่าหากจะถูกบอกเลิก อย่างน้อยก็ขอเป็นข้างนอก ไม่ใช่ในบ้านที่ไม่มีที่ไป


ผมยัดเสื้อผ้าของตัวเองที่ไม่ได้มาจากเขาลงกระเป๋า ตัวสั่นเทิ้มเมื่อค่อยๆ กดจองตั๋วเครื่องบิน


กลับบ้านกันนะลูก... บ้านของแม่ ของตายาย ที่ประเทศไทย ที่โน่นอากาศร้อนจัดตลอดทั้งปี มีอาหารอร่อยๆ เยอะแยะ ลูกจะได้โตมาท่ามกลางแสงแดด แม่จะพาลูกไปเล่นสงกรานต์ พาไปลอยกระทง ไปรดน้ำดำหัวญาติๆ


ลูกไม่ต้องกังวล...


ผมลูบท้องที่ยังแบนราบด้วยน้ำตา


ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ผมยังมีลูก หรือต่อให้เขาฟ้องเอาลูกไป... ผมแค่พาลูกหนีเสียก็สิ้นเรื่อง


คิดได้ดังนั้นหัวใจก็สงบลง แม้จะเจ็บรอนๆ


แต่ผมก็เข้มแข็ง จะต้องเข้มแข็ง







ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...







สำนักงานของแม๊กซ์อยู่ในเมือง ผมนั่งแท๊กซี่ไปลงหน้าตึก แล้วกดลิฟต์ไปยังชั้น 35


แม๊กซ์เช่าทั้งชั้นเพื่อทำสำนักงาน เมื่อไปถึง คนงานเริ่มเลิกงาน ปกติแม๊กซ์จะอยู่สำนักงาน แต่เวียนไปดูแลร้านอาหารต่างๆ ในนิวยอร์กเดือนละครั้ง เขาเอาใจใส่กับงานมาก พนักงานแทบทุกคนต้องผ่านสายตา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมประธานเช่นเขาถึงรู้จักนักร้องในร้านอาหารอย่างอลิซ


ทีนา เลขาวัยกลางคนของแม๊กซ์จำผมได้ เธอพยักหน้าทักทายแล้วยกหูโทรศัพท์ขึ้นจะแจ้งเจ้านาย แต่ผมส่ายหน้า ยิ้มอ่อนระโหยให้


"เซอร์ไพรซ์น่ะ"


ทีนามีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ "คุณไม่เข้าไปจะดีกว่า..."


ผมอยากถามว่าทำไม แต่คิดว่าตัวเองรู้คำตอบดี


ผู้บริหาร หุ้นส่วนทุกคนของแม๊กซ์รู้จักผม และเคยชินกับการที่ผมพรวดพราดไปหาแม๊กซ์ถึงห้องประชุมดี

ดังนั้น จะมีใครที่ทำให้แม๊กซ์ยุ่งและไม่สามารถให้พบเข้าไปหาได้ ?


ผมก้าวต่อไปอย่างมั่นคง มือกระชับหูกระเป๋า

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ผมมีบ้าน มีครอบครัว มีลูก...







ผมพร้อมจะไป...










ประตูเปิดออก ภาพเบื้องหน้า... แม้จะเตรียมใจมาก่อนแล้ว แต่หัวใจผมก็ราวกับว่าถูกตีกระหน่ำ


หัวใจจะสลายไปได้ไหมนะ...

อลิซค้อมตัวชิดร่างสูงใหญ่ ท่าทางใกล้ชิด พวกเขากำลังดูเอกสารแผ่นหนึ่ง

แม้จะเสื้อผ้าอยู่ครบ แต่ก็เดาไม่ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น


ผมกลืนคำพูดลงคอ คนทั้งสองเงยหน้าขึ้นมามอง


"อ้าว คุณข้าว" เธอส่งยิ้มหวานมาให้ แต่สายตาผมอยู่ที่แม๊กซ์...


...ใบหน้าหล่อเหลาสะดุ้ง มีร่องรอยความตระหนกชัดเจน


ผมสูดลมหายใจ ก้มลงหยิบกระเป๋าที่ทำหล่น พูดช้าๆ เบาๆ แต่ชัดเจน "พอรู้มาบ้างแล้วล่ะแม๊กซ์... เอกสารหย่าส่งไปที่เมืองไทยนะ"


ฝุ่นผง... หัวใจได้กลายเป็นผุยผง ไม่มีค่า ไม่มีประโยชน์ใดๆ มีเพียงให้เขาเหยียบย่ำ ความรักที่มีให้เป็นแค่เศษขยะให้เขาดูถูก

ผมลูบท้องโดยไม่รู้ตัว



ไปเถอะ กลับบ้านเราเถอะ...



"เดี๋ยว!" ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ผมหันหลังเดินหนี แต่แรงฉุดที่ข้อมือก็ทำให้ผมสะดุด


"ข้าว! จะไปไหน ไม่ใช่นะ!"


น้ำตามาจากที่ใดไม่รู้ มันกลบวิสัยทัศน์ไปหมด ทีนาวิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนก


"ข้าว ได้โปรด! มากับผมก่อน!"


โดยไม่ฟังเสียง แม้ทีนาจะปราดเข้ามาห้าม แต่เขาก็กระชากผมติดมือ พาเดินดุ่มๆ ออกจากบริษัท


"ประธานคะ คุณข้าวยังท้องอยู่นะ!"


เขาไม่ฟังอะไรทั้งนั้น บีบข้อมือผมแทบแหลก พาลงลิฟต์ด้วยใบหน้าเครียดขึง







หากจะบอกเลิก ช่วยบอกตรงนี้ ผมได้แต่ภาวนาในใจ












เขาพาผมไปยังลานจอดรถ ยัดผมเข้าไปในรถโดยไม่พูดอะไร แล้วขับออกจากตึก

ระหว่างทาง เขายังคงเงียบ ผมเลิกคาดหวังให้เขาพูดแล้วเอนกายแนบประตู เกาะกระจกดูการจราจรคับคั่งของกรุงนิวยอร์ก


"เลิกกันเถอะ... เลิกกันใช่ไหม" ผมถามเสียงพร่า กอดกระเป๋าบนตัก "ฉันรู้... ฉันรู้... ฉันจะเป็นคนไปเอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการให้เธอรับผิดชอบ ฉันจะหย่า..."


ใบหน้าเขายิ่งโหดเหี้ยม ขบกรามแน่นเป็นสัน มือที่จับพวงมาลัยบีบแน่นจนขึ้นข้อขาว "ใคร... ใครบอกว่าผมจะเลิกกับคุณ ?" เขาถามเสียงต่ำลอดไรฟัน


ผมเช็ดน้ำตา "เธออยากเลิกกับฉัน"


"ผมไม่อนุญาต" เสียงของเขาห้วนสั้น "ผมไม่อนุญาตให้คุณหย่า!"


ผมกัดริมฝีปาก ไม่ตอบ


ผมตอบไม่ได้ ไม่มีอะไรออกจากปาก สิ่งที่กรีดร้องอยู่ในสมองคือ


ลูกจ๋า ลูกแม่... จะไม่มีใคร ไม่มีใคร ไม่มีวันเอาลูกไปจากแม่ได้!









รถแล่นมาถึงร้านอาหารของเขา... และอลิซ เขาจอดที่หน้าร้าน เปิดประตูให้ผมลงไป


ในร้านเก็บกวาดทำความสะอาดแล้ว และเริ่มเตรียมพร้อมสำหรับให้บริการในตอนเย็น แม๊กซ์ลากผมไปยังเวทีเตี้ยๆ ที่มีเครื่องดนตรีวางอยู่


ร้านนี้เป็นร้านอาหารกึ่งผับราคาถูก มีดนตรีสดและเบียร์ แม๊กซ์บอกว่าร้านนี้เป็นร้านแรกที่เขากู้เงินมาลงทุน ดังนั้น ต่อให้ร้านอื่นๆ หรูหรากว่าและทำกำไรมากกว่าสักแค่ไหน เขาก็ยังจะเก็บร้านนี้ไว้ เพราะร้านนี้คือจุดเริ่มต้น


ร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ปักหลั่นก้าวขึ้นไปบนเวทีหลังจากบังคับให้ผมนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง


เขาหันไปสั่งงานลูกน้องเบาๆ แล้วนักดนตรีสองสามคนก็เดินขึ้นเวที


ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูง มือหยิบกีตาร์


ผมตะลึง...


แม๊กซ์เกลียดการเล่นดนตรี เขาร้องเพลงเสียงหลง เกลียดการแสดงต่อหน้าผู้คน


ผมเห็นเขาสูดลมหายใจลึก ปรับไมค์ให้สูงตามส่วนสูง แล้วโน้ตตัวแรกก็ดังขึ้นเบาๆ พร้อมๆ กับเสียงคีย์บอร์ดและกลอง


'Dreams are like angels
They keep bad at bay
Love is the light
Scaring darkness away
I’m so in love with you
Make love your goal'



...เพลงนี้ เพลงที่ผมฟังซ้ำๆ จนเขาหึงนักร้องสาวเสียงใสยูทูป

'The power of love
A force from above
Cleaning my soul
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal'



ดวงตาสีน้ำตาลจ้องตรงมาที่ผม เสียงร้องทุ้มๆ ที่ไม่เข้ากับดนตรีเท่าใดนัก หากแต่หนักแน่นและแน่วแน่ เขาตั้งใจร้องท่อนถัดไป

'I’ll protect you from the hooded claw
Keep the vampires from your door
When the chips are down I’ll be around
With my undying death defying love for you
Envy will hurt itself
Let yourself be beautiful
Sparkling light, flowers and pearls and pretty girls
Love is like an energy
Rushing in, rushing inside of me'



ผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนที่ดวงตาและค่อยๆ ไหลอาบแก้ม

เพลงนี้ไม่ใช่เพลงรักหวานซึ้ง หากเต็มเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจ ความรักอันหนักแน่น


'I’ll protect you from the hooded claw
Keep the vampires from your door
When the chips are down I’ll be around
With my undying death defying love for you
Envy will hurt itself
Let yourself be beautiful
Sparkling light, flowers and pearls and pretty girls
Love is like an energy
Rushing in, rushing inside of me, hmmm...'

The power of love
A force from above
Cleaning my soul
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal

This time we go sublime
Lovers entwined divine divine
Love is danger, love is pleasure
Love is pure, the only treasure
I’m so in love with you
Make love your goal

The power of love
A force from above
Cleaning my soul
The power of love
A force from above
A sky scraping dove
Flame on burn desire
Love with tongues of fire
Purge the soul
Make love your goal

Make love your goal



เมื่อเพลงจบลง ผมถึงเพิ่งรู้ตัวว่าร้านเปิดนานแล้ว และรอบตัวผมก็เต็มไปด้วยพนักงานและลูกค้า


พวกเขาเงียบกริบ... พากันมองบนเวทีที่มีร่างสูงใหญ่นั่งอยู่


แม๊กซ์วางกีตาร์ลง มองตรงมาที่ผมไม่คลาดสายตา "ผมให้อลิซฝึกเพลงนี้ให้ผมอยู่เดือนนึง" เขาพูดใส่ไมโครโฟน ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองจากลูกค้าและพนักงาน "นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณยอมตั้งท้องลูกของเรา... ผมดีใจมาก แต่รู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน ยิ่งหลังจากนั้นตอนคุณท้อง ผมเห็นคุณทรมาน เห็นคุณแพ้ท้อง ผมก็ทรมานไม่แพ้คุณเลยเจ้าหญิง ผมถึงเพิ่งรู้ว่าคุณเสียสละแค่ไหน ยอมเจ็บปวดแค่ไหน..."


"ผมอยากทำอะไรสักอย่างให้คุณ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้ต้องการอะไร ผมเลยคิดว่า ถ้าหากผมร้องเพลงที่คุณชอบ... เพื่อคุณ มันอาจส่งความในใจให้คุณได้บ้าง"


"ทุกคนครับ" เขาเรียกทุกคนในร้านด้วยรอยยิ้ม ดวงตาแวววาว "ที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้ คือเจ้าหญิงของผม คือคนที่สวยที่สุดในโลก คนที่ดีที่สุดในโลก คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต และเขาก็เป็นของผม... ของผมคนเดียว เขาได้ตั้งท้องเพื่อผม และผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่มีลูกเพื่อผม ข้าว... ผมรักคุณ รักคุณ"


ผมอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อ...


รอบกายค่อยๆ มีเสียงปรบมือดังขึ้น ในสมองผมยังอื้ออึง


แม๊กซ์ลงจากเวทีแล้ว มือใหญ่กระชับตัวผมเข้าสู่อ้อมกอด


ผมเข้าใจแล้ว...


"ข้าว... ผมรู้ว่าคุณเข้าใจผิดเรื่องผมกับอลิซ แต่ว่าผมกับหล่อนไม่มีอะไรกันจริงๆ ที่ผมหายไปกับหล่อนบ่อยๆ เพราะว่าผมไปฝึกเล่นกีตาร์และร้องเพลง แล้วก็..." ผมเอื้อมมือสั่นเทาออกไปปิดปากเขา ส่ายหน้าเบาๆ


"ฉันรู้..."


ริมฝีปากได้รูปจูบฝ่ามือที่ปิดอยู่ เขาโน้มตัวลงมากระซิบ "คุณถามใครก็ได้ เช็กกับใครก็ได้..."


"ฉันเชื่อเธอ..." เสียงผมยังสั่นไปด้วย


เข้าใจแล้ว...


ที่เขาสนิทกับอลิซ ที่เขาหายไปหล่อน ที่เขากลับบ้านค่ำ...


"วันที่คุณไปหาหมอ... ผมซ้อมกับอลิซครั้งสุดท้าย ที่นี่แหละ"


"แล้วที่อลิซรับโทรศัพท์..." ผมถามเบาๆ


"ผมวางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วไปเข้าห้องน้ำ อลิซถือวิสาสะรับสายคุณเอง แต่ผมต่อว่าเธอไปแล้ว"


ผมพยักหน้ารับ เท่านี้ก็พอ... ผมเชื่อเขา


แม๊กซ์ไม่ใช่คนมีความสามารถทางด้านดนตรี การจะร้องและเล่นกีตาร์ให้ได้จนจบเพลงต้องอาศัยการฝึกซ้อมอย่างหนัก


ผมเชื่อเขา...


และหลังจากนั้น พนักงานทุกคนก็เข้ามายืนยัน ไม่พอ อลิซที่ตามมาทีหลังเข้ามาขอโทษที่รับสายผมด้วยตัวเอง พร้อมทั้งแนะนำแฟนหนุ่มให้รู้จัก


"ฉันเห็นคุณโทรมา เลยคิดว่าเรื่องด่วนเลยรีบรับน่ะค่ะ" เธอบอก ผมไม่รู้ว่าผมควรเชื่อเธอหรือไม่ เพราะถึงแม้จะมีแฟนแล้ว แต่สายตาที่เธอมองสามีผมนั้นยังเร่าร้อน


แต่สามีผมกลับไม่สนใจเธอเลย เขาตอบเธอรุนแรงแล้วพาผมกลับบ้าน








แม๊กซ์ถูกผมไล่ไปอาบน้ำ ผมจึงแอบหยิบโทรศัพท์เขาขึ้นมา


รู้ว่าไม่ดี ผมเชื่อเขาก็จริง แต่ความอยากรู้อยากเห็นมีมากกว่า ผมสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ เข้าไปดูเฟซบุ๊กของเขา เปิดแชทขึ้นมา


Maximus 'อลิซ ผมอยากให้คุณสอนผมร้องเพลงกับเล่นกีตาร์'
Alice 'แหม ทำไมจู่ๆ จะหัดละคะ'

Maximus 'คนอื่นไม่ว่าง'

Alice 'บอกก่อนสิคะว่าทำไม'

Maximus 'ผมจะเล่นให้ภรรยาผม'

Alice 'น่าอิจฉาเขาจัง'

ผมอ่านถึงตรงนี้แล้วรู้สึกร้อนไปทั้งตัว อลิซ... คิดจะจับสามีผมจริงๆ!

Maximus 'หลังเลิกงานผมจะไปหา'

Alice 'ค่ะ'


หลังจากนั้นเป็นข้อความโต้ตอบเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ฝึกซ้อม สามีผมไม่ได้นอกใจเลย แม้ในแชท อลิซจะพยายามอ่อยเป็นระยะๆ แต่แม๊กซ์ก็ตอบกลับห้วนๆ เสมอ ผมอ่านทุกข้อความอย่างตั้งใจ


Alice 'ฉันขอโทษที่รับโทรศัพท์ภรรยาคุณค่ะ'
'แต่คนขี้หึงแบบนั้นเหมาะกับคุณหรือคะ'
'คุณเหมาะกับผู้หญิงมากกว่านะคะ'



มือผมสั่นน้อยๆ


Maximus 'อย่ากล้าพูดถึงภรรยาผมแบบนั้นอีก'


ผมยิ้มเมื่อเห็นข้อความนี้ หลังจากนั้นอลิซก็พูดแต่เรื่องการฝึกซ้อมอย่างเดียว จนกระทั่งถึงข้อความเจ้าปัญหาที่ผมเห็น


Alice 'อย่าให้ภรรยาคุณรู้นะคะ'
'เจอกันค่ะ'
'เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกคืนนะคะ'



สามีผมตอบหลังจากที่ผมแอบเช็คตอนนั้นไปว่า


Maximus 'ผมรักภรรยาผม เลิกพูดจาแบบนี้เสียที'
'ผมรำคาญ'



อลิซขึ้นข้อความว่าอ่าน และไม่ตอบกลับอะไร ผมดูรายชื่อเพื่อนในลิสต์ อลิซถูกบล๊อกไปแล้ว


ผมรีบเช็กแอพสนทนาอื่นๆ แต่ก็ไม่มีอะไร ผมเปิดดูทุกแอพ พยายามค้นหาความผิดปกติ แต่ก็ไม่เจออะไรทั้งนั้น


ผมห้ามรอยยิ้มไม่ได้


"สนุกไหมครับ ?" เสียงทุ้มเอ่ยล้อๆ ดังขึ้นเหนือหัว ผมสะดุ้ง เงยหน้ามองสามีในชุดนอน


"เอ่อ... ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจ"


"มีกล้องวงจรปิด แล้วก็นี่" เขาพูด เดินไปรื้อเอกสารจากกระเป๋า หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาให้ผม


ผมก้มลงอ่าน 'หนังสือสัญญาจ้าง' ในนั้นระบุค่าจ้างและขอบเขตการทำงานของครูสอนดนตรีอย่างอลิซ ด้านใต้มีลายเซ็นต์อลิซ


ผมวางกระดาษลง นิ่งคิด พยายามถามตัวเองว่าเชื่อเขาไหม ทว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้า ผมก็รู้ใจตัวเอง


เชื่อ... ต่อให้เขาโกหกผมก็เชื่อ แต่กระนั้น ผมก็ยังอยากรู้


"แล้วทำไมต้องเป็นอลิซ ?"


"นักดนตรีคนอื่นไม่ว่างน่ะครับ ไม่ก็กลัวผมจนไม่กล้าสอน จะให้ผมไปหาครูสอนที่นัดเวลาได้ในเวลากระชั้นขนาดนี้ก็หาไม่ได้ อลิซอาสาขึ้นมา ผมเลยจ้างหล่อน"


ผมบอกเขาว่าผมเชื่อ และผมก็เชื่อจริงๆ แต่ที่ยังพยายามหาช่องโหว่ นอกจากอยากรู้แล้ว ก็เพื่อให้ตัวเองดีใจล้วนๆ


"แล้วทำไมตอนนอน... ไม่ยอมกอดฉันเหมือนเดิม ?" ผมหน้าแดงไป ถามไป


เขายิ้มกว้าง หัวเราะลั่น "ก็คุณบอกเอง ว่าไม่ให้กอด"


"เอ๋ ?"


"คุณลืมเหรอ ? ใจร้ายจังนะ หลังจากที่ไปหาหมอครั้งก่อนน่ะ คุณบอกว่าเรามีเซ็กส์กันมากเกินไป กลัวว่าจะสะเทือนถึงลูก พอผมกอด คุณก็ห้าม บอกว่ากลัวผมจะมีอารมณ์" เขายักไหล่ "ก็จริงของคุณ ผมแตะตัวคุณทีไรมีอารมณ์ทุกที คงจะห้ามตัวเองไม่ให้ทำอะไรคุณไม่ไหว หลังจากนั้นผมเลยไม่กล้ากอดคุณนอน"


ผมอดห้ามตัวเองไม่ให้ยิ้มไม่ได้ จำได้แล้ว ผมพูดจริงๆ นั่นแหละ "แต่เธอหงุดหงิดใส่ฉัน"


"ผมลนต่างหาก คุณก็รู้ว่าผมโกหกคุณไม่เก่ง ขืนให้คุณซักมากๆ ผมต้องหลุดแน่"


เจ้าเด็กนี่! ผมหัวเราะ "ทำอะไรให้ฉันเครียดรู้ไหม ฉันคิดว่าเธออยากเลิกกับฉัน นี่ถึงกับจองตั๋วกลับบ้านแล้ว"


คราวนี้คนที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หุบยิ้มฉับ ขมวดคิ้วมุ่น "คุณว่าอะไรนะ ?"


"เธอทำฉันเครียด..."


"ไม่ใช่ตรงนั้น"


"ฉันคิดว่าเธออยากเลิก..."


"ไม่ใช่! คุณบอกจะกลับบ้าน กลับไทย! ที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านคุณ สามีคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณจะไปไหน!" เขาสาวเท้าเข้ามารวบตัวผมไปกอด "ข้าว... ทีนี่คือบ้านของคุณ เข้าใจไหมครับ ?"


ผมซุกหน้าลงกับหน้าอกแข็งๆ หน้าแดงไปถึงหู พยักหน้ารับ "อืม เข้าใจแล้ว"


แม๊กซ์พ่นลมหายใจ ค่อยๆ ปล่อยผมออกอย่างเสียดาย "...เสียดาย แต่ผมกอดคุณนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว"

ผมยิ่งหน้าแดง อ้าปากค้าง เห็นแม๊กซ์น้อยที่ไม่น้อยเลยชี้หน้าผมอยู่! ในเวลาสั้นๆ เท่านั้นไอ้นั่นแข็งโป้กจนเป้ากางเกงนอนนูนขึ้นมาได้ยังไงกัน!


เขาเบือนหน้าหนี อุบอิบพูด "อย่ามองผมแบบนั้น... คุณทั้งน่ารักทั้งสวย ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์"


ร่างกายไม่โกหก ผมยิ้มขำ เขายังต้องการผมจริงๆ


ผมโถมตัวใส่ร่างสูง สองมือโอบรอบเอวสอบ เงยหน้าขึ้นช้อนตาสบ กระซิบเสียงหวาน... ออดอ้อน... ผัว


มีคำหนึ่งในภาษาไทยที่แม๊กซ์ชอบมาก


คำว่าผัว... คำนี้หยาบกว่าสามี ผิดกับภาษาอังกฤษที่มีแต่คำว่า Husband


เขาชอบให้ผมเรียกเขาด้วยคำนี้เป็นภาษาไทย... ถึงแม้ทั้งประโยคจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม


"ฉันอยากให้'ผัว'ทำจังเลย"


และอีกคำที่เขาชอบ... ในภาษาไทย เขามักเรียกผมด้วยคำนี้เสมอ ตอนที่ผมไม่โกรธเขาน่ะนะ

"ได้ครับ 'เมีย'"

.......

// นังข้าวบุกเล้าค่ะ!! หลังจากลงเรื่องนี้ให้คนอ่านหมั่นไส้ในเพจแล้ว เลยอยากหาดาวไลน์มาหมั่นไส้นังข้าวคนอวดผัวต่อค่ะ

WARNING (ทันไหม) เรื่องนี้ Mpreg เคะแก่กว่า เคะแรด เดี๋ยวเยๆ ค่ะ มีฉากอยู่ที่นิวหยวก เมะขี้หึง เมะโรคจิต ไม่มีดราม่า ไม่มีไคลแม๊กซ์ ไม่มีตัวร้าย ไม่มีนอกใจ ไม่มีทำร้ายร่างกาย/จิตใจ ไม่มีสาระ ไม่มีตรรกะ ไม่มีความสมจริง ไม่มี5อะไรเลยค่ะ จบในตอนนะคะ ฉากนิวหยวกแต่ละฉากได้จากการอ่านพันทิปและดูยูทูปค่ะ ตรงไหนไม่สมจริงหรือผิดพลาดรบกวนบอกด้วยนะคะ บางฉากอิงมาจากของจริง บางอันแต่งเพิ่มค่ะ

เรื่องนี้จะค่อยๆ ทยอยอัพนะคะ <3 นิยายรายสะดวกเหมือนเดิม 555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 20:13:45
รักผัวครั้งที่ 2


ผมตั้งใจเลือกอลิซ


ทำไมน่ะเหรอ


เพราะภรรยาผมน่ารักมากไงล่ะ


ข้าวเป็นชายไทยหน้าตาจิ้มลิ้ม ผิวขาวเหมือนกระเบื้องเคลือบ ผมคิดว่าผิวคนเอเชียคงเป็นแบบนี้ ขาวสะอาดและนุ่มนิ่ม เรือนผมสีดำขลับ ตาโต ปากนิด จมูกหน่อยอย่างกับตุ๊กตา ผมชอบเขาตั้งแต่เห็นเขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตและกางเกงแสล็กบนถนนในกรุงเทพแล้ว


โสเภณีที่ผมหิ้วมาจากปาร์ตี้ขโมยเงินผมไปและผมกำลังโกรธสุดเหวี่ยง ในตอนนั้นเองผมก็เห็นเจ้าหญิงเดินเปล่งประกายเคียงคู่มากับผู้ชายอีกคนหนึ่ง


โชคดีที่วันนั้นผมชวนเขาไปโรงแรมได้


หน้าตาน่ารัก ตัวเล็กจ้อยก็จริง แต่เขากลับแก่กว่าผมถึงสี่ปี ซ้ำยังร้อนแรงบนเตียงอีกต่างหาก คืนแรกของเราเขาอาสาใส่ถุงยางให้ ร่างกายบอบบางขาวสะอาดบิดเร่าบนเตียง ครางเสียงหวาน จิกเล็บเข้ามาในเนื้อ ร้องเสียงหลง ผมกระแทกกายเข้าไปไม่ยั้ง ภายในเขาตอดรัดถี่ยิบ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้ชายแท้ถึงหลงรักเกย์ได้


เขาพลิกตัวขึ้น ผมเห็นเลือดไหลตามง่ามขาและบั้นท้ายสวย ยิ่งทำให้อารมณ์คุกกรุ่น ดวงตาผมมองไปตามริมฝีปากแดงๆ ที่ครางหวาน ช่องทางสีชมพูดูไร้เดียงสากลับกลืนกินความใหญ่โตอย่างละโมบ


'เอาอีก อื้ม แรงอีก!' เสียงนั้นฟังไม่ได้ศัพท์ ขาเรียวหยัดขึ้น อวดปากทางที่ขมิบตอด เขาช้อนตามองผมอย่างยั่วยวน สะโพกส่ายร่อนควงท่อนลำอย่างเอร็ดอร่อย


ผมกระชับเอวบาง สวนกระแทกกลับไป ช่างร้อนแรง...



ผมใช้ถุงยางไปทั้งหมดแปดชิ้น แต่ยังไม่เต็มอิ่มเลย ทว่าข้าวกลับสลบเหมือด เลือดแห้งกรังติดปากทาง


ผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก รื้อข้าวของของเขา เจอบัตรประชาชนที่อ่านไม่ออก แต่โชคดีที่มีชื่อภาษาอังกฤษอยู่ด้านล่าง ผมรีบหนิยโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายบัตรประชาชนของเขาเก็บไว้ในเครื่อง แล้วใช้มือถือเขาโทรเข้าเครื่องตัวเอง


ข้าวที่นอนบนเตียงขยับกายเบาๆ นอนซุกหน้า มือกอดตัวเองเหมือนทารก ต่างกับชายที่กล้าขึ้นควบไอ้นั่นคนแปลกหน้าราวคนละคน


ผมยิ้มให้กับใบหน้าไร้เดียงสานั้น ค่อยๆ คลี่ผ้าห่มคลุมกายขาว


ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง


รู้แค่ว่า อยากอยู่กับคนๆ นี้ อยากเห็นสีหน้ามากกว่านี้...








ข้าวคงคิดว่าพวกเราคงไม่ได้เจอกันอีก แต่วันจันทร์ถัดมา ผมก็ใช้เพื่อนในเมืองไทยให้จ้างนักสืบเอกชนตามหาข้าว


ผมทำเป็น'บังเอิญ' เจอเขาบ่อยๆ ร่างเล็กๆ ในชุดสุภาพที่ปกปิดความร้อนแรงไว้มิดชิดนั้นใช้ชีวิตประจำวันสามัญเหมือนปกติ


ผมไปกินข้าวที่ฟู๊ดคอร์ทที่เขาไปบ่อยๆ
ผมทำเป็นไปดื่มกาแฟแถวๆ ใกล้บริษัทเขา
ผมถือแผนที่ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวหลงทางใกล้อพาร์ตเมนต์เขา


จากการบังเอิญเจอบ่อยครั้ง ข้าวก็ค่อยๆ ตอบรับผม เราไปกินข้าวกันบ้าง ข้าวแนะนำอาหารไทยข้างทางให้ผมกิน พอผมแสร้งถามเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวในไทย เขาก็กระตือรือร้นแนะนำ


ข้าวไม่ควรทำแบบนั้นเลย


มันยิ่งทำให้ผมยึดติดกับเขา ยิ่งได้เห็นมุมมองอื่นๆ ของข้าว ได้เห็นใบหน้าหวานใสแดงระเรื่อด้วยอากาศร้อน ได้เห็นริมฝีปากนุ่มๆ และฟันขาวขบกัดของหวาน ได้เห็นใบหน้าสดใส ได้ฟังเสียงหัวเราะ ยิ่งทำให้ผมคลั่งไคล้


ในท้องผมมีผีเสื้อโบยบินทุกครั้งที่เห็นเขา


แต่ข้าวใจแข็งเหลือเกิน


ไม่ว่าจะชวนไปเดทกี่ครั้ง เขาก็หยุดความสัมพันธ์พวกเราไว้ที่เซ็กส์เฟรนด์ แต่เซ็กส์ครั้งต่อๆ มากลับจืดชืดนัก


ผมรู้ว่าเขาตั้งใจทำตัวแบบนั้น เพราะกับคู่ขาคนอื่นๆ ข้าวไม่ได้ลดความร้อนแรงลงเลย แต่กับผม เขากลับทำหน้าเบื่อหน่ายเหมือนสามีเบื่อภรรยาที่แต่งงานกันมานาน ทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน เขาจะรีบทำให้เสร็จ ไม่มีการส่ายสะโพก ไม่ขยับขายั่วเย้า ไม่ครางให้ผมได้ยิน


ผมควรจะเสียใจ แต่กลับลิงโลด เมื่อครบกำหนดพักร้อน ผมก็ตัดสินใจอะไรบางอย่างได้


ข้าวไม่ควรทำแบบนั้นจริงๆ


ไม่ควรปฏิบัติกับผมแตกต่างกับคนอื่น... เพราะนั่นยิ่งทำให้ผมเข้าข้างตัวเอง


ผมกลับไทยมาอีกครั้งในฐานะนักลงทุน


อันที่จริง ประเทศที่ร้านอาหารเฟรนไชส์ควรลงทุนลำดับต่อไปคือสิงคโปร์ แต่ผมกลับลัดคิวให้ประเทศไทยก่อน ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจเลย และมันก็ไม่ได้ทำกำไรให้มากมาย


แต่ผมไม่สนใจ ไม่สนใจหุ้นส่วนที่ติเรื่องนี้ด้วย ผมควักกระเป๋าตัวเองลงทุนอย่างเร่งรีบ ในที่สุดก็ได้ร่วมมือกับบริษัทเครือข่ายห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศได้


ผมรีบบินไปไทยอย่างยินดี ไปเปิดสาขาแรกในประเทศไทยด้วยตัวเอง... แค่ชั่วโมงเดียว รีบทักทายหุ้นส่วนในไทยกับบุคคลสำคัญในงานเปิดตัว ก่อนจะเร่งรีบถอดสูท ขับรถไปรอคนตัวเล็กเลิกจากงาน


สองปีสี่เดือน ระยะเวลาที่ผมตามจีบคนสวยใจร้าย ข้าวเป็นคนใจแข็งที่สุดที่ผมเคยเจอ ทั้งๆ ที่น่ารักนุ่มนิ่ม แต่กลับปากไม่ตรงกับใจ ตีหน้าเย็นชาทุกครั้งที่เจอผม แต่กลับยอมให้ผมไปรับไปส่ง ถึงผมจะทุรนทุรายด้วยความหึงหวงเมื่อเจ้าหญิงของผมไปนอนกับชายแปลกหน้า แต่ข้าวกลับมอบรสแสนหวานให้ด้วยจูบทุกครั้งที่ผมพบว่าเขามีอะไรกับคนอื่น


ราวกับไถ่โทษอย่างไรอย่างนั้น


ทุกครั้งที่เขายอมให้ผู้ชายอื่นเข้าไปในตัว เขาจะกลับมาหาผมด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
ทุกครั้งที่เขายอมให้คนอื่นจูบ เขาจะจูบผมด้วยความร้อนแรงยิ่งกว่า


ถึงจะเป็นแค่เซ็กส์เฟรนด์ แต่ผมรู้ว่าเจ้าหญิงใจอ่อนกับผมมาก ผมจึงทำตัวเป็นเด็กดี เป็นหมาที่ซื่อสัตย์ รอคอยให้ข้าวกลับมา


สองปีสี่เดือนที่ผมไม่มีอะไรกับใคร เพราะไม่อยากเห็นใบหน้าเจ็บปวดของข้าว สองปีสี่เดือนที่ผมเป็นของตาย เป็นตัวเลือก เป็นเซ็กส์เฟรนด์ เป็นคนที่ข้าวออกปากไล่ เป็นคนที่ข้าวนั่งคร่อมตัก เป็นคนที่ข้าวร้องไห้ให้


ในที่สุด ผมก็ได้ข้าวมาครอง... ผมขอเขาเป็นแฟน แล้วข้าวก็ตอบกลับมามึนๆ


ยิ่งกว่ามีผีเสื้อตีในท้องอีก เหมือนผมบินได้ เหมือนผมเป็นคนที่เหนือกว่าคนทั้งโลก


หลังจากนั้น ผมก็เว้นระยะเวลาสักหน่อย บินไปโน่นมานี่ ทำตัวยุ่งๆ เข้าไว้ให้ข้าวหงุดหงิด เมื่อผมขอเขาหมั้น ข้าวก็ตอบตกลง


คราวนี้ผมได้ใจ แหวนแต่งงานที่สั่งทำตั้งแต่คืนแรกที่เรานอนด้วยกันถูกใส่กล่องกำมะหยี่หรู ผมคุกเข่าให้เจ้าหญิงเพื่อขอเขา
แต่งงาน


ข้าวมองแหวนเพชรในมือแล้วกระพริบตาปริบๆ ราวกับประกายเพชรทำให้ตาเขาพร่าเลือน ส่วนผมที่ใจตุ้บๆ ต่อมๆ แม้กระทั่งตัวเองยังรู้ตัวดีว่าเร็วเกินไปนั้นภาวนาในใจ


'Say yes! Say yes! Say yes!'


แล้วเจ้าหญิงของผมก็พยักหน้า

ข้าวตอบด้วยเสียงหวาน ดวงตาเป็นประกาย น่ารักน่าใคร่ งดงามกว่าใครบนโลก 'Yes. I will.'



ผมร้องตะโกนอย่างยินดีกลางร้านอาหารสุดหรู อุ้มคนตัวเล็กเต็มอ้อมแขน ไม่สนใจอาการขัดเขินของเขา ผมบอกคนทั้งร้านว่า

'He will marry me! He's mine!'



วันนั้นเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิต ผมไม่รีรอรีบกูเกิ้ลหาพิธีแต่งงานแบบไทยทันที คืนนั้นผมไปส่งข้าวกลับอพาร์ตเมนต์ เขาปฏิเสธที่จะไปค้างกับผมที่คอนโดหัวชนฝา ทิ้งให้ผมนอนไม่หลับคนเดียวบนเตียงกว้าง เพียงแค่คิดว่าอีกไม่นานผมจะได้เจ้าหญิงแสนสวยมานอนเคียงข้าง ได้เห็นใบหน้าน่ารักทุกเช้าที่ตื่นนอน จะได้เห็นเขายืนอยู่ในครัว และถ้าโชคดี ผมจะได้ลูบท้องที่มีลูกของเราอยู่ข้างในด้วย


ผมฝันหวาน ยิ่งคิดยิ่งมีความสุข ยิ่งนอนกระสับกระส่าย ผีเสื้อในท้องฝูงใหญ่บินว่อน เหมือนกับว่าผมกลายเป็นผีเสื้อเสียเอง
 

ในที่สุดผมสั่งให้เลขาหาออร์แกไนเซอร์จัดพิธีไทย ยกขบวนไปถึงต่างจังหวัด บ้านเกิดข้าว


ข้าวไปคุยกับพ่อแม่ก่อนแล้ว แต่ดูพวกเขายังงงๆ แม้กระทั่งผมกับข้าวจดทะเบียนกันแล้ว หรือกระทั่งตอนที่พวกเขาผูกข้อมือพวกเราด้วยด้ายสีขาว พ่อกับแม่ข้าวก็ยังดูมึนๆ


เราค้างที่บ้านเกิดข้าวสามวัน พ่อกับแม่ใจดี ถึงจะงงๆ แต่ก็รับรองพวกเราอย่างดี แม่ของข้าวทำอาหารอร่อยแต่เผ็ด พ่อของข้าวชอบเลี้ยงไก่ ส่วนน้องชายข้าวก็มีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนแล้วและมีลูกด้วยกันสองคน ข้าวเรียกพวกเขาด้วยภาษาไทยที่คล้ายคำด่าว่า 'แว๊นซ์กับสก๊อย' ผมไม่รู้ความหมาย แต่คิดว่าคงเป็นคำไม่ดี เพราะดูแม่จะโกรธ


ถึงครอบครัวข้าวจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่ก็เป็นมิตรมาก พ่อชวนผมดื่มบรั่นดีกลั่นจากข้าวโพด เล่นเอาผมเมาทั้งๆ ที่ดื่มไปได้ไม่มาก แต่พ่อก็ยังยกนิ้วให้ ผมเดาเอาว่าคงชมว่าผมคอแข็งละมั้ง


พ่อกับแม่เรียกผมว่า 'เขยฝรั่ง' เพิ่งรู้จากผู้ช่วยคนไทยที่บริษัทส่งมาช่วยงานว่าแปลว่า 'Westerner son-in-law' แต่ดูเหมือนในความรู้สึกคนไทยจะไม่ได้แปลตรงตัวแบบนั้น เพราะข้าวไม่ยอมแปลคำนี้ให้ แถมยังมีท่าทางโกรธๆ เมื่อใครเรียกผมแบบนั้น


'เค้าคิดว่าฉันแต่งกับเธอเพราะเงิน! เธอไม่เข้าใจหรอกว่าคนบ้านนอกคิดยังไงเมื่อแต่งงานกับฝรั่งน่ะ' ข้าวกระฟัดกระเฟียด ผมรีบกอดเขาแน่น ปลอบโยนเขาว่า


'ผมรู้ ผมเข้าใจ ข้าวไม่ได้เป็นคนโลภมากแบบนั้น'


แต่ในใจผมกลับอยากให้ข้าวโลภมาก รักเงินมากๆ เป็น gold digger ยิ่งแต่งกับผมเพราะเงินได้ยิ่งดี เพราะผมมีเงินมากมาย ดังนั้นเขาจะได้รักผมคนเดียวไปนานๆ


หลังจากนั้นผมก็พาข้าวมาจัดพิธีอีกครั้งที่นิวยอร์ก บ้านเกิดผม พ่อกับแม่ผมมาร่วมงานด้วย แม้จะไม่ชอบใจนัก แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่ผมเด็กๆ แต่ก็ทำหน้าที่ผู้ปกครองสุดความสามารถ ผมจึงไม่ได้รู้สึกขาดเหลืออะไร ดังนั้น การที่ผมแต่งงานกับผู้ชาย พวกเขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรนอกจากยินดีไปกับผม


ครอบครัวผมไม่ได้รักกันหรือสนิทสนมเหมือนครอบครัวข้าว แค่พ่อกับแม่มาได้ผมก็แปลกใจแล้ว


ผมเตรียมพร้อมทุกอย่างให้เจ้าหญิงของผม ทั้งเพนต์เฮาส์ในทำเลทอง แม่บ้าน คนขับรถ ไม่ว่าจะอะไร ผมก็พร้อมหาให้ทุกอย่าง


หลังงานแต่ง ข้าวที่มาแต่ตัวและรอยยิ้มสวยๆ ก็อ้าปากค้าง ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อมองข้าวของหรูหราและห้องกว้างขวางที่ตกแต่ง
ด้วยสีเอิร์ธโทนที่ข้าวชอบ


ผมช่วยเอาโค้ตไปเก็บให้ข้าว ส่งยิ้มให้เขา แต่ข้าวกลับทำหน้าพิลึก แล้วบอกว่า


'เธอน่าจะเก็บเงินไว้บ้าง'


ผมหุบปากฉับ ลืมไปตลอดว่าเขาแก่กว่าผม เพราะหน้าอ่อนเยาว์นั้นแน่ๆ


แล้วผมยิ่งโมโหหนัก เมื่อข้าวไม่ยอมมีอะไรกับผมที่โซฟา เขากลับว่าจะทำเลอะแล้วเสียค่าซักแห้งแพงหูฉี่


ผมรีบส่ายหน้า ปลอบโยนเขาว่า 'มาเถอะครับเจ้าหญิง ไม่ต้องห่วง ต่อให้ไม่ส่งซักแล้วซื้อใหม่ทุกครั้งที่เรามีเซ็กส์กันผมก็ยอม'


แต่ข้าวส่ายหน้าลูกเดียว แค่เอาตูดแตะโซฟาก็สะดุ้งโหยง


ข้าวเป็นคนแปลก


'ข้าว ทีตอนทำกันในรถที่ลานจอดรถคุณยังยอมเลย' ผมอ้อน แต่ข้าวหน้าแดงจัด อุบอิบตอบ


'นั่นมันฉุกเฉิน... เธอหาถุงยางไม่เจอเอง...'


เราเคยทำกันในรถออดี้ของผม ส่วนที่ผมหาถุงยางไม่เจอก็เพราะผมไม่หาต่างหาก ท่าทางที่ต้องขมิบไม่ให้น้ำขาวๆ ไหลออกจากก้น ใบหน้าแดงก่ำขณะใส่กางเกงในและกางเกงแสล็กน่ะน่ารักจะตาย


แต่ผมอยากประเดิมโซฟาใหม่ บ้านใหม่ด้วยการมีอะไรกันทุกซอกทุกมุมจริงๆ ในที่สุดจึงต้องยอมพูดอย่างใจป้ำ 'ถ้าอย่างนั้น ผมยอมใส่ถุงยางก็ได้'


ข้าวหน้าแดงไปถึงคอ น่ารักเหลือเกิน 'บะ...บ้า! ปกติเธอก็ปล่อยในตัวฉันตลอด ที่จะทำเลอะน่ะมันฉันต่างหาก!'


ผมรอคำนี้อยู่พอดี ขยับยิ้มแล้วยกเขาขึ้นพาดบ่า 'งั้นผมจะใส่ถุงยางให้คุณก็แล้วกัน'


ข้าวร้องลั่น ผมโยนเขาลงบนโซฟากว้าง รีบตวัดตัวคร่อมก่อนที่คนตัวเล็กจะโวยวาย 'อย่าดื้อนะเจ้าหญิง ให้ผมทำเสียดีๆ ไม่อย่างนั้นผมจะทำจนคุณเดินไม่ได้'


'ปะ ปกติก็เดินไม่ไหวอยู่แล้วนี่!' ข้าวร้องอย่างเหลืออด ผมหัวเราะ ดันบ่าแคบให้ติดโซฟา


'งั้นคุณก็อย่าเดินไปซักสองเดือนนะครับ!'


เสื้อผ้าหลุดออกจากร่างขาวๆ อย่างง่ายดาย ข้าวดิ้นอย่างต่อต้าน ท่าทางจะไม่ชอบโซฟาจริงๆ พิลึกคน ทั้งๆ ที่ในห้องน้ำปั๊มที่ไทยเราก็ทำกันมาแล้ว อย่าว่าแต่ที่โซฟาเลย


ข้าวถูกปอกเปลือกล่อนจ้อน เนื้อตัวขาวสะอาดเหมือนเด็กแรกเกิด ผมไล่จูบทั่วตัว เขารีบปัดป้องตัวเองเหมือนเจ้าสาวพรหมจรรย์


'ฮื้อ... หยุด ไม่เอา ไปที่เตียงเถอะนะ...' เสียงเขาอ่อนจนน่าสงสาร ผมเงยหน้าจากยอดอกน่ารัก จูบปากเขาหนักๆ ก่อนจะรับคำ


'ได้...' แล้วก็ก้มหน้าขบเม้มเนื้อนิ่มที่ทำให้รู้สึกดีต่อ ไล้ลงไปถึงหน้าท้องแบนราบ ลงลิ้นเลียวนแอ่งสะดือเล็กๆ แล้วไล่ลงไปถึงหว่างขาขาว


'อื้อ... อะ อะ หยุด...' มือเล็กๆ พยายามดันผมออก แต่ผลไม้แสนอร่อยอยู่ตรงหน้าแล้ว และผมก็กระหายมากเสียด้วย...


ริมฝีปากกลืนกินท่อนลำเล็กๆ เข้าปาก ปลายหัวไร้เดียงสาที่คงไม่เคยใช้งานยังเป็นสีชมพูเข้าไปนอนบนลิ้นผมเรียบร้อย ผมขบเคี้ยวแท่งเล็กๆ อย่างเอร็ดอร่อย ดูดกลืน เคล้าคลึงไปถึงลูกกลมๆ สองลูกน่ารักด้านล่าง


ข้าวคราง สองขาที่อยู่ข้างหูหนีบแน่น เสียวสะท้านไปถึงสันหลัง ผมก็ร้อนจัดโดยเฉพาะกลางตัว ข้าวน่ารักมาก น่ารักยิ่งกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก ถึงจะเคยใช้ปากให้เขามาแล้ว แต่ข้าวก็ยังน่ารัก... น่ารักเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง


เอวบอบบางลอยไม่ติดโซฟาเมื่อผมแลบลิ้นเลียส่วนปลายที่ร่องเล็กๆ เขากรีดร้องคับห้อง ผมสูบกลืนท่อนลำ ปรนเปรอเขาไม่นาน น้ำหวานก็กระฉอกออกจากผลไม้สด


ผมกลืนน้ำรักเข้าไปจนเกลี้ยง ส่งยิ้มให้คนใต้ร่าง 'เห็นไหม ไม่เปื้อนแล้ว'


ข้าวครางฮือๆ 'ไหนบอกว่าจะพาไปที่เตียง...'


'ไปครับเจ้าหญิง แต่หลังจากที่ผมเสร็จนะ...' ว่าแล้วก็ถอดกางเกง ตามด้วยกางเกงใน ข้าวตาโต ขยับกายหนี แน่ล่ะ ของผมเป็นที่ภาคภูมิใจไม่น้อย ข้าวก็ควรจะภูมิใจด้วยที่เป็นภรรยาและเป็นเจ้าของไอ้แม๊กซ์น้อย


'อย่าโกงนะ...' ข้าวส่ายหน้า ถดตัวให้พ้นจากผม 'ปะ ไปที่เตียงเถอะ'


ผมไม่ตอบ แต่ตะปบร่างน้อยให้เข้ามาชิด ปิดปากสวยด้วยริมฝีปากตัวเอง ส่งมือไปลูบไล้เรือนร่างนุ่มนิ่ม จิกยอดอกสีชมพู แล้วย้ายไปที่ก้นนิ่ม ใช้สองมือแหวกออก นิ้วควานหาช่องทางเล็กๆ ก่อนจะดันตัวเขาขึ้น ผมไม่สนใจแล้วว่าข้าวจะเสียดายโซฟามากขนาดไหน


ข้าวต่อต้านเพียงครู่หนึ่ง เมื่อผมยกสองขาเรียวขึ้นให้พับติดหน้าอก และก้มตัวลงไปลิ้มรสช่องทางสีหวาน ลิ้นควานควักป้อนน้ำลายเต็มปาก ยิ่งดูดกินยิ่งหวานอร่อย ร่างกายผมร้อนรุ่ม อยากสอดใส่เข้าไปในร่างนี้ให้เต็มไปด้วยน้ำรัก ให้ทั้งตัว ทั้งใบหน้า ทั้งริมฝีปากมีน้ำอสุจิอาบไปทั่วจนส่งกลิ่นผมออกมา


ผมใช้ทั้งนิ้วและลิ้นเล้าโลมหยอกล้อกับโพรงแคบ นิ้วชี้ค่อยๆ ดันเข้าไปเพื่อขยาย รูเล็กๆ นั้นไม่ยอมต้อนรับสักน้อย ถึงจะเคยรับของผมเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว แต่มันก็ยังผลักไสออก ผมจึงต้องละเลงจูบให้หนักขึ้น ข้าวครางอย่างเสียดเสียวอยู่เหนือหัว ท่อนลำเล็กๆ ชูชันมีน้ำใสปริ่มส่วนปลาย


ผมงอนิ้วชี้ ขูดผนังด้านในเมื่อข้าวรับผมเข้าไปแล้ว จากนิ้วหนึ่งเปลี่ยนเป็นสอง และค่อยๆ กลายเป็นสาม ในที่สุดช่องทางก็ว่าง่าย ตอบรับผมอย่างยินดี ผมกดลงเน้นตรงจุดกระสันภายในอย่างช่ำชอง ข้าวร้องซี๊ด


'ฮ้า ตรงนั้น อื้มมม แรงอีก'


ผมยิ้ม ใครกันที่ไม่ยอมมีเซ็กส์น่ะ


นิ้วล้วงลึกเข้าไปจนสุด ข้าวขบฟัน 'ฮื้อ พะ.. พอ'


'หืม ?' ผมค่อยๆ ถอนนิ้วออกมา บดเบียดจูบ ขยี้ริมฝีปากแสนหวาน ลิ้นร้อนควานไปทั่วช่องปาก เราแลกลิ้นจนน้ำลายข้าวไหลเยิ้มเลอะแก้ม เซ็กซี่เป็นที่สุด


'อึก เข้ามา... ฉันอยากได้... อยากได้ของนาย...' ข้าวครางไม่เป็นคำ สองขาอ้าออกเชิญชวนผมให้ลิ้มรส ผมหัวเราะเจ้าเล่ห์


'อยากได้อะไรครับ ?'


ข้าวหน้าแดง โถ ที่รัก มาถึงขนาดนี้แล้วยังอายอยู่อีก เขาหายใจหอบ ให้คำตอบที่ผมชอบ '**ยนาย ฉันอยากได้ **ยแม๊กซ์'


ข้าวร้อนแรงเหลือเกิน ผมให้รางวัลเขาด้วยจูบ มือประคองความใหญ่โตที่อยากเข้าไปสำรวจช่องทางจะแย่ให้จ่ออยู่ปากทาง ข้าวตัวสั่นระริก ขนลุกเกรียว ความอุ่นร้อนเท่าท่อนแขนเสือกแทงเข้าไปจนสุด ข้าวตัวสั่นและต้องอ้าขาให้กว้างกว่าเดิม


'ฮ้า แม๊กซ์'


'อื้ม อื้ม เอาอีก ฮ้าา อื้อ แรง... อึก...'


'แรงอีก... แรงอีก อื้อ อื้ม ตรงนั้น...'


เราสองคนเหงื่อไหลเยิ้มแทบเป็นเนื้อเดียว ผมกระแทกท่อนลำเข้าไปในรูเล็กๆ ที่ต้องอ้าออกจนแทบฉีกเพื่อรองรับได้หมด ข้าวเจ็บไม่น้อยเพื่อรับผมเข้าไปจนสุดความยาว ผมไม่รอให้เขาปรับตัว รีบขยับเสียดสี บดขยี้ภายในราวกับจะให้แหลกเป็นจุล


ผมรู้จักภายในของข้าวดี เขาชอบให้ใส่เข้าไปให้ลึก จนกระแทกเกิดเสียงกึก แล้วหลังจากนั้นให้ทำให้แรงที่สุด เขาชอบแบบนั้น ชอบให้ร่างกายโดนย่ำยี มือเล็กๆ จิกไหล่ผมจนเลือดซึม ไม่สนใจด้วยซ้ำว่ารูตัวเองจะฉีกขาดหรือไม่


เอาเข้าจริงผมก็ไม่สนใจเหมือนกัน


ผมจับเขานั่งตัก เรามาอยู่ในท่านั่ง ข้าวเสร็จไปครั้งหนึ่งแล้ว ภายในบีบแน่น ยิ่งเขานั่งทับแบบนี้ยิ่งสัมผัสภายในได้ลึกล้ำ ข้างในของเขาบีบรัดผมแทบขาดใจ ความอุ่นร้อนโอบล้อมหวานละมุนและร้อนแรง โพรงชื้นร้อนระอุ ผมครางเสียงต่ำ เสียงพั่บๆ ของเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นในห้อง ปนกับเสียงแจ๊ะๆ ของน้ำหล่อลื่นภายในก้นข้าว


ข้าวยันตัวขึ้น สะบัดเอว ดวงตาวาววามด้วยรสกาม


ผมชอบนัก เขาในร่างนี้


มาแล้ว ข้าวที่ร่านสวาท


ลิ้นน้อยๆ แลบเลียริมฝีปาก สองขาหยัดขึ้นเพื่อส่งแรง โน้มตัวมาด้านหน้า ส่งริมฝีปากมาจูบผมอย่างร้อนแรง ผมลูบไล้ไปตามเอวบางคอด เขาโหย่งตัวหยัดกายขึ้นช้าๆ กดจูบ ลิ้นนุ่มหวานควานเข้ามาในโพรงปาก ขณะที่แอ่นอกให้เสียดสีกับผิวเนื้อร้อนผ่าวของผม ช่องทางด้านล่างที่กระสันอยากก็ค่อยๆ รูดท่อนเนื้อผมจนร้องดังซี๊ด


'ข้าว... แน่น...'


ข้าวพูดทั้งๆ ที่ยังบดริมฝีปากผมปนเสียงหอบ 'ฮื้ม เดี๋ยวจะสนุกกว่านี้...'


โพรงเล็กๆ รูดขึ้นจนแทบหลุด แล้วจู่ๆ ข้าวก็ขยับสะโพก ปล่อยน้ำหนักตัวให้ท่อนลำร้อนเสียดแทงเข้าไปในตัวรวดเดียว


ความร้อนผ่าวและแรงตอดทำให้ผมครางเสียงดัง ยอดเยี่ยมจนตาพร่า ข้าวก็ตัวหงิกงอ พ่นน้ำหวานกระเด็นมาจนถึงหน้าอก คนตัวเล็กหวีดร้อง โพรงร้อนราวกับไฟบีบรัดเกร็งกระตุก ส่วนกลางกายผมขยายใหญ่ขึ้นอีกจนดันหน้าท้องแบนๆ ให้ป่องขึ้น


'ฮึก หยะ ใหญ่...' ผมจูบริมฝีปากช่างยั่วแล้วเริ่มขยับกาย ส่งแรงกระทั้นจากด้านล่างเสียบเสยเสียดแทงมุมหวานๆ ภายในที่ฉ่ำชื้น ข้าวตัวสั่นระริก เม็ดเหงื่อหวานกระทบกายผมจนเปียกชุ่ม ผมเอื้อมมือออกไปประคองยอดอกนุ่มนิ่ม หัวนมข้าวเป็นสีชมพูเหมือน
เยลลี ทั้งเด้งทั้งนุ่มทั้งอร่อย ผมขบเยลลีข้างหนึ่ง ใช้ลิ้นตวัด กระแทกเอวให้ท้องแบนราบป่องเป็นรูปทรง ข้าวเกาะไหล่ผมแน่น ครางฮือๆ อย่างเสียวกระสัน


ผมเลียริมฝีปาก เพิ่มแรงขบเยลลีสีหวาน


ข้าวจิกเล็บที่ไหล่ ช้อนตาเงยขึ้นสบ กระซิบเสียงพร่า ดวงตาเลื่อนลอย 'ฮื้มม ดี อ๊ะ รัก... รักนะ...'


อา... ข้าว...


...ยั่วผมแบบนี้ได้ยังไงกัน


หลังจากนั้น จากเซ็กส์ได้กลายเป็นการผสมพันธุ์ เราสองคนกลายเป็นสัตว์ ข้าวเป็นสัตว์ตัวเมีย ถ่างขาให้ผมเสียเสยทุกมุม ส่งเสียงร้องครางรัญจวน เหงื่อชะโลมกายจนเปียกชื้น จากโซฟาหนานุ่มผมอุ้มข้าวทั้งๆ ที่ยังฝังตัวเองอยู่ภายในให้ไปอยู่หน้าประตูห้องนอน แต่ก็ไม่ถึงเตียงหรอก...


...ผมเสร็จไปแล้วรอบหนึ่ง อีกรอบอยู่ที่หน้าประตูนั่นเอง ผมดันร่างบอบบางติดผนัง ข้าวโอบขารัดเอวผมแน่นเพราะกลัวตก นั่นยิ่งทำให้ผมเสือกแทงเข้าไปในช่องทางแคบๆ ได้ลึกขึ้น


แล้วเราค่อยไปจบกันที่เตียงอีกยก ส่วนข้าวนั้น หมดแรงและเป็นลมไปตั้งแต่เสร็จเป็นรอบที่หกที่ปากประตูห้องนอนแล้ว...











หลังจากคืนเข้าหอแสนร้อนแรง ผมจึงบังเกิดความสงสารภรรยาในที่สุด ในเช้าวันที่สามที่เรามีเซ็กส์มารธอน ผมจึงถอนตัวออกจากช่องทางนุ่มหยุ่น


ข้าวเกิดมาเพื่อถูกข่มขืนอย่างแท้จริง ขนาดผมสอดใส่ กระแทกกระทั้น ควานควักเขาติดๆ กันถึงสามวันสามคืน ปากทางเขากลับแย้มอ้าออกเพียงเล็กน้อย ปากทางยังเกร็งกระตุกตอดรัดแท่นลำอย่างหิวโหยราวกับป้อนเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม


เจ้าหญิงเปิดตาขึ้นดูผมง่วงๆ ครางฮือในลำคอ 'เอาออกไป...'


'แน่ใจเหรอครับ ?' ผมยิ้ม คาท่อนลำไว้ครึ่งๆ อย่างตั้งใจจะแกล้ง 'ข้าวชอบ **ยผมจะตาย'


ข้าวส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้ แต่ไม่มีแรงต่อต้าน เพียงแต่ซบหน้าลงกับหมอน แล้วกรนออกมาหน้าตาเฉย


ผมจึงถอนใจ ยอมปล่อยให้ข้าวนอนในที่สุด








เรามีอะไรกันทุกวัน แต่นั่นก็หยุดไม่ให้ข้าวไม่ไปทำงานไม่ได้ ผมทั้งอ้อนวอน ข่มขู่ ขอร้องไม่ให้เจ้าหญิงไปทำงานเป็นเสมียนที่บริษัทเล็กๆ นั่นแทบตาย ทั้งๆ ที่เงินเดือนก็น้อยนิด ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมอยู่ในห้องเฉยๆ ให้ผมปรนเปรอ


ผมมองแผ่นหลังเล็กตาละห้อยทุกครั้งที่เขาหันหลังเข้าออฟฟิศ


แต่ถึงอย่างนั้น เพราะทำงานทุกวัน ผมจึงเห็นข้าวตื่นนอนก่อนแล้วทำอาหารเช้าให้


ข้าวช่างเอาใจใส่ ทั้งเอาอกเอาใจเก่งเหลือเกิน ผมหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น เคยบอกเขาแล้วว่าไม่จำเป็น แต่ข้าวก็ยืนยันที่จะตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าเพื่อทอดแพนเค้กและแฮมให้ วันไหนที่มีเวลา ข้าวจะหุงข้าว ทำอาหารไทยให้กิน


กาแฟที่ข้าวชงก็อร่อยกว่าร้านกาแฟ ผมจูบแก้มนุ่มๆ กอดเอวบาง ซุกหน้ากับซอกคอขาว ลำบากไปนิดเพราะเจ้าหญิงตัวเล็กมาก ข้าวต้องทำกับข้าวไปลากผมที่เกาะหนึบเป็นปรสิตเอเลียนไปด้วย


เราอยู่ด้วยกันมาสองปี สองปีที่ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต อยากตื่นนอนมาเจอข้าวแบบนี้เรื่อยไป ภาวนาให้วันคืนแสนหวานอย่าได้จบลง


ผมออดอ้อนเขาให้อุ้มท้องลูกของเรา ข้าวปฏิเสธอยู่หลายครั้ง ในครั้งที่สิบ เขาจึงตกลงด้วยท่าทางมึนๆ เพราะผมถามเขาขณะที่กระแทกตัวเข้าไปในร่างน้อยจนแทบย่อยยับ


ข้าวอุ้มท้อง อุ้มท้องลูกของผม!


ช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ ข้าวตัวน้อยจะมีท้องป่องโป่งนูน คราวนี้ไม่ว่าใครก็จะไม่มีทางได้ข้าวไปอีกแล้ว เขาเป็นของผมคนเดียว เขาจะอุ้มท้องให้ผมและออกจากงาน


แต่กระบวนการอุ้มท้องของผู้ชายนั้นยากลำบาก ข้าวต้องตรวจสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต หน่วยงานของรัฐเข้ามาประเมินพวกเรา ทั้งสภาพทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ของพวกเรา หลังจากนั้น ข้าวยังต้องฉีดฮอร์โมนจำนวนมาก เข้ารับการผ่าตัดอีกหนึ่งครั้งเพื่อฝังมดลูก และยังต้องนอนนิ่งๆ เพื่อให้มดลูกเติบโตและแข็งแรงพอที่จะมีลูก


ผมกุมมือแสนสวยไว้ ขบริมฝีปาก หวังสุดใจว่าจะสามารถเจ็บปวดแทนเขาได้ ข้าวที่ตัวเล็กบอบบางนอนหน้าซีดเซียว อาเจียนเอายาบำรุงออกมาจนไม่เหลือ หลังจากที่ลูกติดแล้ว ข้าวยังต้องทุกข์ทรมานกับการแพ้ท้อง เขาวิ่งวนอาเจียนสลับกับนอนหลับ ผมทำอะไรไม่ได้เลย นึกโกรธตัวเองที่ทำให้คนที่รักเจ็บปวดขนาดนี้


ผมจึงอยากทำอะไรเพื่อข้าวสักอย่าง


แต่ถึงจะแต่งงานและมีลูกด้วยกันแล้ว ข้าวก็ยังเป็นข้าว ถึงจะเป็นภรรยาผมแล้ว แต่ยังมีส่วนที่ไม่น่ารักอยู่


ข้าวคิดเสมอว่าผมดีเกินไป เขาไม่แน่ใจในตัวผมเลย เขาบอกผมตลอดว่าหากวันหนึ่งเจอคนที่ดีกว่าให้ผมบอกเขาตรงๆ เขาจะเป็นฝ่ายไปเอง


F**ck!


เจ้าหญิงคิดอะไรเพ้อเจ้อ! ถ้าผมลงหลุมไปแล้ว ผมยังตั้งใจแน่วแน่ว่าจะนอนหลุมเดียวกับข้าว! เพื่อยืนยันว่าผมรักเขาจริงและจะไม่มีทางทิ้งไป ผมจึงคิดจะร้องเพลงให้เขา


ผมคนนี้นี่แหละจะร้องเพลง


ตั้งแต่เด็ก ผมเกลียดการร้องเพลง ตอนเด็กๆ เคยต้องไปร่วมกิจกรรมร้องเพลงของโรงเรียนในวันคริสต์มาส ผมร้องเสียงหลงจนทุกคนหัวเราะ หลังจากนั้นผมก็หันมาเอาดีทางด้านกีฬา ลืมอาชีพร็อคสตาร์ในฝันไป


ข้าวชอบฟังเพลงหนึ่ง เป็นเพลงที่พูดถึงความรักล้นใจ แต่ไม่ได้หวานแหวว ติดจะเศร้าด้วยซ้ำ เสียงนักร้องหวานใสคลอกับเปีย
โน ข้าวฟังวนไปวนมาจนผมอิจฉานักร้องในยูทูป ยิ่งเห็นหน้าตาน่ารักของสาวนักร้องแล้วผมก็รีบปิดไอแพด แล้วอุ้มภรรยาที่นอกใจผมขึ้นเตียง!


ชอบนักใช่ไหม ต่อไปนี้ผมจะร้องเพลงนี้ให้เขาเอง!


ผมจะทำในสิ่งที่ไม่ถนัดให้เขา ตอบแทนที่เขารักผม อยู่เคียงข้างผม และอุ้มท้องให้ผม!




หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 20:14:03
ผมเป็นคนประเภทเพอร์เฟ็คชันนิสต์ จะร้องเพลงทั้งทีจะร้องเสียงหลงไม่ได้ ประกอบกับความทรงจำอันเลวร้ายของตัวเอง ผมจึงหาครูสอนดนตรีทันที


แต่ครูสอนดนตรีที่สามารถสอนในเวลาที่ผมว่างได้ก็หายาก ประกอบกับผมวางแผนได้อย่างหนึ่ง


เพราะข้าวเจียมตัวเสมอ ท่าทางที่วางตัวเองให้ต่ำต้อยนั้นทำให้ผมโกรธ เขาไม่เคยหึงผมเลยสักครั้ง มีแต่บอกว่าให้หาคนที่คู่ควรกว่าเขา ถ้าดวงตาสีดำขลับนั้นไม่รื้นน้ำตาอย่างเจ็บปวดแล้วล่ะก็ ผมคงทำโทษเขารุนแรงกว่านี้แน่ (ทุกครั้งที่ข้าวทำตัวแบบนี้ ผมจะกักเขาไว้บนเตียง ไปต่อที่ระเบียง จบที่ห้องครัว ถ้าเขาทำให้ผมโกรธมากๆ ผมจะเริ่มตั้งแต่ปากประตู ไล่ไปทุกห้อง ทุกซอกทุกมุมของบ้าน ยิงยาวไปจนถึงวันที่สามที่สี่)


ผมมีนักร้องที่ร้านอาหารอยู่ หล่อนเหมาะสมกับแผนการอย่างสมบูรณ์แบบ


อลิซเป็นนักร้องเสียงหวาน เป็นครูสอนดนตรีและขับร้อง เธอกำลังเก็บเงินสร้างสตูดิโอของตัวเองจึงมาทำงานที่ร้านของผม และที่สำคัญ... แววตาที่ทอดมองผมทั้งๆ ที่ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วนั้นเร่าร้อน


อลิซชอบผมแน่ๆ หล่อนเอ่ยปากยั่วยวนผมหลายครั้ง ต่อหน้าข้าวก็เคย แต่คนประสาทด้านชาอย่างเจ้าหญิงกลับไม่รู้ตัว


อลิซก็สมเป็นผู้หญิงสำส่อน พอผมเอ่ยปากถามนักดนตรีที่ร้าน หล่อนเสนอตัวทันที ผมจึงตะครุบข้อเสนออย่างรวดเร็ว


ผมจะได้ยั่วข้าวให้หึง พร้อมๆ กับสามารถร้องเพลงให้เจ้าหญิงด้วย ผมปลาบปลื้มกับแผนการมาก









ผมจงใจกลับดึก หาน้ำหอมที่อลิซใช้มาพรมบนเสื้อโค้ตให้ข้าวได้กลิ่น จงใจใช้น้ำเสียงห้วนๆ แต่ใจแทบสลายเมื่อเห็นหน้าละห้อยของเขา


ในที่สุดข้าวก็ทนไม่ไหว...


...แต่ผิดคาด แทนที่เจ้าหญิงจะโวยวายเข้ามาทะเลาะกับอลิซ ข้าวกลับสงบมาก นอกจากดวงตาและร่างกายที่สั่นเทาแล้ว เขาก็นิ่งจนน่ากลัว


"ฉันรู้... ฉันรู้... ฉันจะเป็นคนไปเอง เธอไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ต้องการเงิน ไม่ต้องการให้เธอรับผิดชอบ ฉันจะหย่า..."


ผมฟังแล้วโกรธไปทุกขุมของร่างกาย ยิ่งเห็นกระเป๋าในมือแล้วยิ่งรู้ว่าข้าวจะไปจริงๆ


"ผมไม่อนุญาต" ผมสั่งเสียงเหี้ยม แล้วลากเขาไปที่ร้านอาหาร


ในรถ ข้าวยังพูดเพ้อเจ้อว่าผมจะเลิกกับเขาซ้ำๆ ผมขบกรามแน่น ไม่คิดเลยว่าแค่จะแกล้งยั่วให้เมียหึงจะบานปลายได้ขนาดนี้


ผมพาเขาไปนั่งหน้าเวที ไม่สนใจลูกค้าที่เริ่มเข้าร้าน ดนตรีค่อยๆ เริ่มขึ้น ผมนับจังหวะในใจ รู้สึกตื่นเต้นและกังวล แต่ก็ยังพยายามมองคนตรงหน้า คนที่แสนน่ารักจนน่าสงสาร คนที่ผมรักหมดใจ คนที่เป็นแม่ของลูก


ผมร้องเพลงจนจบ ข้าวตาโต ผมรักเขาเหลือเกิน รักจนแทบถลันลงจากเวทีไปหาเขา เจ้าหญิงของผม


ผมวางกีตาร์ลง สูดลมหายใจลึก ค่อยๆ พูดสิ่งที่อยู่ในใจช้าๆ ตั้งใจให้เขารับฟังทุกคำ "นับตั้งแต่วันที่รู้ว่าคุณยอมตั้งท้องลูกของเรา... ผมดีใจมาก แต่รู้สึกผิดไปพร้อมๆ กัน ยิ่งหลังจากนั้นตอนคุณท้อง ผมเห็นคุณทรมาน เห็นคุณแพ้ท้อง ผมก็ทรมานไม่แพ้คุณเลยเจ้าหญิง ผมถึงเพิ่งรู้ว่าคุณเสียสละแค่ไหน ยอมเจ็บปวดแค่ไหน..."


"ผมอยากทำอะไรสักอย่างให้คุณ... ทั้งๆ ที่รู้ว่าคุณไม่ได้ต้องการอะไร ผมเลยคิดว่า ถ้าหากผมร้องเพลงที่คุณชอบ... เพื่อคุณ มันอาจส่งความในใจให้คุณได้บ้าง"


"ทุกคนครับ" ผมเรียกทุกคน "ที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมนี้ คือเจ้าหญิงของผม คือคนที่สวยที่สุดในโลก คนที่ดีที่สุดในโลก คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต และเขาก็เป็นของผม... ของผมคนเดียว เขาได้ตั้งท้องเพื่อผม และผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ขอบคุณ ขอบคุณมาก ขอบคุณที่รักผม ขอบคุณที่มีลูกเพื่อผม ข้าว... ผมรักคุณ รักคุณ"


ผมพูดจากใจ ทุกคำที่เปล่งเสียงออกไป ผมตั้งใจทุกคำ ทุกความรู้สึกของผมเป็นของข้าวเพียงคนเดียว









เมื่อกลับมาถึงบ้าน ข้าวยิ่งทำตัวน่ารัก หึงหวงแบบที่ผมอยากให้เขาทำ เจ้าหญิงแอบรื้อข้าวของของผม แล้วหยิบโทรศัพท์มาดูประวัติแชท


ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ไปอาบน้ำตามที่เขาบอกแต่โดยดี แต่คนตัวเล็กหมกมุ่นกับการหาความจริงจนไม่รู้ตัวว่าผมยืนมองเขาตั้งนานแล้ว


"สนุกไหมครับ ?" ผมถามล้อๆ ข้าวสะดุ้ง เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าตระหนกเหมือนกระรอกน้อย


"เอ่อ... ฉัน... ฉันไม่ได้ตั้งใจ"


"มีกล้องวงจรปิด แล้วก็นี่"  ผมบอก เดินไปรื้อเอกสารจากกระเป๋า หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาให้


ข้าวก้มลงอ่าน 'หนังสือสัญญาจ้าง' และซักผมอีกหลายเรื่อง ผมยิ่งยินดี ส่วนกลางกายยิ่งร้อนรุ่มเมื่อเขายิ่งแสดงท่าทางหึงหวง จนกระทั่งมาถึงประโยคที่ว่า


"ทำอะไรให้ฉันเครียดรู้ไหม ฉันคิดว่าเธออยากเลิกกับฉัน นี่ถึงกับจองตั๋วกลับบ้านแล้ว"


ผมหุบยิ้มฉับ โทสะแล่นริ้วๆ ขึ้นมา "คุณว่าอะไรนะ ?"


"เธอทำฉันเครียด..."


"ไม่ใช่ตรงนั้น"


"ฉันคิดว่าเธออยากเลิก..."


"ไม่ใช่! คุณบอกจะกลับบ้าน กลับไทย! ที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านคุณ สามีคุณอยู่ที่นี่แล้ว คุณจะไปไหน!" ผมเดินเข้าไปกอดเขาแรงๆ "ข้าว... ทีนี่คือบ้านของคุณ เข้าใจไหมครับ ?"


เขาซุกหน้าเข้าหาอกผมอย่างน่ารัก "อืม เข้าใจแล้ว"


ผมอยากทำมากกว่านั้น ไอ้แม๊กซ์น้อยตั้งโด่แล้ว แค่กอดเขา แค่ได้ยินเสียงเขาเท่านั้น "...เสียดาย แต่ผมกอดคุณนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว" ผมเบือนหน้าหนี ไม่กล้าสบตาหวานๆ "อย่ามองผมแบบนั้น... คุณทั้งน่ารักทั้งสวย ยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์"


ทั้งๆ ที่ผมพยายามห้ามตัวเอง แต่ข้าวกลับพูดจาแสนน่ารัก พูดคำไทยที่ผมชอบออกมาเต็มปากด้วยใบหน้าแดงก่ำ


"ฉันอยากให้'ผัว'ทำจังเลย"


ผมจึงตอบเจ้าหญิงของผมกลับไปด้วยคำที่คู่กัน "ได้ครับ 'เมีย'"



อา... เจ้าหญิงครับ ความผิดของเจ้าหญิงล้วนๆ ที่น่ารักขนาดนี้ ผมคิดขณะก้มตัวลงจูบดูดดื่ม ในใจคิดว่าคงต้องลางานให้ตัวเองอีกสามวัน

....

// ถามว่ามีสาระไหม... ไม่! มีแต่เรื่องฉาวๆ คาวๆ เยๆ ข่ะ ข้าว.คน.อวด.ผัว ข่ะ ยิ่งนานยิ่งหมั่นไส้นาง สามารถลากนังข้าวไปจิกได้ตามใจชอบข่ะ 
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 20:23:17
รักผัวครั้งที่ 3


ผมยิ้มแหยๆ ให้กับสามี พลางรับเอากล่องเล็กๆ มา


แม๊กซ์ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี แขนล่ำๆ อุ้มผมขึ้นจากพื้น กระซิบข้างหู "เปิดสิครับเจ้าหญิง"


เรียกเจ้าหญิงบนเตียงก็อย่างหนึ่ง แต่เรียกข้างนอกก็นับเป็นอีกเรื่อง ตั้งแต่ท้องมา เขาเรียกผมว่าเจ้าหญิงแทบทุกคำ ยิ่งหลังจากกลับมาจากร้านอาหารแล้ว แม๊กซ์ยิ่งหวานจนน้ำตาลขึ้น แรกๆ ผมก็ดีใจหรอก แต่การที่ผู้ชายอายุสามสิบมาตั้งท้อง เป็นภรรยาผู้ชายอีกคนน่ะ ยังไม่พออีกเหรอ ?


ผมยังต้องเป็นเจ้าหญิงให้เขาอีก


ถ้าเรามีลูกสาวด้วยกันล่ะ ไม่ตลกแย่หรือไงที่เรียกเจ้าหญิงในรูปพหูพจน์น่ะ (princesses)


แม๊กซ์ไม่ทันคิดหรอก สามีผมน่ะเฉลียวฉลาด เก่งกาจทุกเรื่องก็จริง แต่บางเรื่องก็เหมือนเขาใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องที่เป็นซิกส์แพ็คคิดแทนสมอง


ในมือผมมีกล่องผ้าเล็กๆ ประดับด้วยไข่มุกที่ยอด ล้อมด้วยเพชรเม็ดน้อยระยิบระยับ แบบที่สาวๆ เห็นเป็นต้องชอบ แต่นอกจากเพชรที่อยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายแล้ว ผมก็ไม่ต้องการเพชรที่ไหนอีก


จริงๆ แล้วต่อให้แม๊กซ์มอบห่วงกระป๋องน้ำอัดลมให้แทนแหวนแต่งงาน ผมก็แต่งกับเขาอยู่ดี


ผมแอบถอนหายใจไม่ให้คนตัวโตที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เห็น ตีหน้าตื่นเต้นขณะเปิดกล่อง...


...เครื่องประดับชิ้นจิ๋ววางอยู่บนผ้ากำมะหยี่สีดำ


มันเป็นสร้อยทองคำขาว ตัวจี้เป็นรูปดาวหวานแหววทำจากอัญมณีหลากสี เด่นด้วยทับทิมเม็ดงามตรงกลาง ผมถอนหายใจอีกครั้งโดยไม่ปิดบัง


เรียกเจ้าหญิงยังพอรับได้ แต่เครื่องประดับสาวแตกนี่มันอะไรกัน


"คุณไม่ชอบเหรอ ?" แม๊กซ์ขมวดคิ้ว ท่าทางเป็นกังวล "ผมเลือกนานมากเลยนะ มา ลองดูหน่อย ทับทิมตรงกลางจะขับผิวคุณแน่ๆ"


ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่สาม ให้เขาวางตัวเองลงแล้วหันหลังให้ แม๊กซ์วางสร้อยเส้นบางเฉียบทาบทับลงบนลำคออย่างตื่นเต้น มือใหญ่เกี่ยวตะขอเบาๆ แล้วปัดผมยาวของผมให้มาด้านหน้า ระลำคอ ผมถูกจับให้หันกลับมา แม๊กซ์มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึงพอใจ


"สวยมาก เจ้าหญิงของผมสวยที่สุด"


ผมไม่รู้ว่าในสายตาแม๊กซ์ผมเป็นยังไง แต่ผมน่ะหน้าตาบ้านๆ แบบที่เห็นได้ตามแผงเต้าหู้ทั่วไป ดังนั้นการที่คนหน้าตาหล่อคมเหมือนดาราชมผมไม่ขาดปากว่าสวยอย่างนั้น สวยอย่างนี้มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ


แม๊กซ์จุ๊ปาก นวดหัวคิ้วผมเบาๆ "เจ้าหญิง อย่าขมวดคิ้วสิครับ ไม่ดีกับลูกในท้องนะ"


ผมดันเขาออก แค่แตะตัวผมนิดเดียวตอนใส่สร้อยคอ เจ้าแม๊กซ์ในร่มผ้าก็ดีดผึงแทงก้นผมแล้ว


ถึงร่างกายจะร้อนวูบวาบตามสัมผัสเขาไปด้วย แต่ต้องอดทน บอกตัวเองว่าจะให้สามีทำตามใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้นลูกคงลำบาก


"ขอบคุณนะ" ผมพูดเบาๆ แม๊กซ์ยิ้มกว้าง เดินเข้ามาใกล้ เบียดกระแซะจนแทบไม่มีช่องว่าง ท่อนลำอันเขื่องแข็งตัวจนผมร้อนตาม


"ดะ เดี๋ยว เราเพิ่งทำกันไป... ครึ่งชั่วโมงก่อนนะ!" ผมห้ามเสียงอ่อย ชายตามองกลางหว่างขาสามีแล้วกลืนน้ำลาย จริงๆ แล้วไม่ถึงสามสิบนาทีด้วยซ้ำ ผมเพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเมื่อสิบห้านาทีก่อนเอง


แต่ทำไงดี... ร่างกายเริ่มร้อนแล้ว แต่ทำบ่อยไม่ได้หรอกนะ... ถึงหมอจะไม่ห้ามก็เถอะ... แต่หมอคงไม่รู้ว่าเรามีเซ็กส์กันบ่อยขนาดนี้


อย่างน้อยๆ ต้องวันละครั้ง ถ้ามีเวลา ก่อนแม๊กซ์ไปทำงาน หลังอาหารเช้า เขาจะกินผมที่ห้องครัวครั้งหนึ่ง หรือถ้าผมไม่ง่วงจัด หลังเลิกงาน ยังไม่ทันทำข้าวเย็น แม๊กซ์ก็จัดอีกยก


พอผมท้อง เรามีอะไรกันบ่อยยิ่งกว่าตอนที่ไม่มีลูกเสียอีก อาจเพราะผมว่างเกิน ไม่ได้ไปทำงานแล้ว พอทำงานบ้านเสร็จ(ที่ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ เพราะแม่บ้านชาวโคลัมเบียเหมาไปทำหมด) ผมก็นั่งๆ นอนๆ ดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต คุยกับพ่อแม่ เล่นเกม อ่านหนังสือ สายๆ ก็นั่งคุยกับกลอเรีย แม่บ้านชาวโคลัมเบีย แล้วกลอเรียจะออกไปซื้อของสดสำหรับอาหารเย็นให้ ผมจะเริ่มลงมือทำข้าวเย็นตอนสี่โมงกว่า


ผมว่างจนไม่รู้จะว่างยังไง เคยบอกเรื่องนี้กับแม๊กซ์แล้ว แต่เขากลับบอกให้ผมอดทนหน้าตาเฉย ผมบอกให้เลิกจ้างกลอเรีย เพราะผมจะได้ทำงานบ้าน เราก็ประหยัดเงิน แต่เขาปฏิเสธ เขาไม่อยากให้ภรรยาท้องทำอะไร


ผมขอทวนคำ เขาไม่อยากให้ภรรยาท้องทำอะไร ทำอะไรที่ว่า คือไม่ทำอะไรเลยจริงๆ นอกจากทำอาหารเช้าและเย็นแล้ว ผมก็ว่างมาก จริงๆ แล้วเขาจะจ้างแม่ครัวให้ทำอาหารแทนด้วยซ้ำ แต่ติดที่สามีผมชอบดูผมใส่ผ้ากันเปื้อนมากเกินไป (เขาเคยขอให้ผมเปลือย นุ่งแต่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียว แน่นอนว่าผมขัดใจสามีไม่เป็น แต่เราทำกันน้อยลง เพราะบางวันกลอเรียมาทำงานเช้า แล้วมาเห็นนายจ้างสองคนกำลังกระแทกกระทั้นกันอยู่ในครัว หลังจากนั้นเราก็มีอะไรกันตอนเช้าน้อยลง โดยที่ผมโก้งโค้งให้เขาไป หวาดเสียวว่ากลอเรียจะโผล่มาเมื่อไหร่ไป)


พอเข้าสัปดาห์ที่สี่ ผมก็ทำใจแล้วว่าคงต้องว่างงานไปอย่างน้อยอีกเก้าเดือน


แม้กระทั่งไปซุปเปอร์ใกล้ๆ แม๊กซ์ยังไม่ยอมให้ผมไปคนเดียวเลย เขาเพ้อเจ้อว่าจะมีคนมาลักพาตัวผมเพราะผมไม่ยอมจ้างบอดี้การ์ด เวลาจะออกไปข้างนอก ถ้าเขาไม่อยู่ ผมต้องให้กลอเรียไปเป็นเพื่อน


ผมบ่นจนเขาคงรำคาญ ในที่สุดเขาก็หางานอดิเรกที่อยู่แต่ในห้องให้จนได้




งานที่ว่าคือ...



งานขัดเพชร



งานอดิเรกที่ไม่รู้เขาเอาสมองที่ไหนมาคิด! คงจะดูหนังไทยจำพวกคุณหญิงคุณนายกับผมมากไปแน่ๆ เขาจึงเพียรซื้อเพชรพลอยมาให้ผมขัดเล่น


สร้อยที่ผมสวมอยู่เป็นสร้อยอัญมณีเส้นที่แปด ในเซฟของเรายังมีเพชรน้ำงาม แหวน กำไลข้อมือ และเครื่องประดับที่ผมคงไม่มีวันใส่อีกกองพะเนิน


วันๆ ผมที่ว่างงาน กลับต้องมานั่งขัดเพชรแทน


ถ้าเลือกได้ ผมขอกลับไปอยู่ว่างๆ เหมือนเดิมดีกว่า


แต่ข้อดีอย่างเดียวของการบ้าซื้อเครื่องประดับของเขาคือ...


"ข้าว... ผมบอกแล้วว่าทับทิมน่ะขับผิว" เขากระซิบข้างหู ลอกคราบผมจนหมดที่ห้องนั่งเล่นนั่นแหละ ร่างกายผมเปลือยเปล่า สวมเพียงสร้อยทับทิมบนคอให้เขาชม


มือใหญ่ลูบไล้ไปตามลำคอ ริมฝีปากฝากรอยจูบไปตามทาง ผมยิ้มหวาน กระซิบข้างหู "งั้นเดี๋ยวให้รางวัลนะ... my good boy"


รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ไม่แพ้กันตอบกลับมา เขาบดเบียดจูบไล่ลงตามหน้าท้องมาเรื่อยๆ แล้ววกกลับมาที่ริมฝีปาก ป้อนจูบร้อนให้ลึกไปถึงโคนลิ้น ผมตอบกลับด้วยความร้อนแรงไม่ต่างกัน


ไฟติดแล้ว... ผมเอื้อมมือไปจับเข็มขัดหนังบนเอวสอบ รูดมันออกอย่างช่ำชอง บอกเขาทั้งๆ ที่ริมฝีปากเรายังติดกันหนึบว่า "ถอดสิ"


สามีผมเป็นเด็กดี ถอดกางเกงอย่างรวดเร็ว รูดซิปลง แต่คาไว้แค่นั้น ปล่อยให้ผมลูบไล้ท่อนเนื้อบวมพองใต้กางเกงใน


"มาสิ..." ส่งเสียงออดอ้อน มือลูบซิกส์แพ๊กและล้วงเข้าไปในกางเกงใน ผ่านกลุ่มขนหยาบๆ จับความใหญ่โตด้วยมือเดียว แล้วช้อนตามอง


"ซนจริงเจ้าหญิง" เขาหัวเราะเสียงทุ้ม ผมล่ะหวังให้เขาแปลงร่างเป็นมิสเตอร์เกรย์ จับผมขังพืด ล่ามโซ่แล้วข่มขืนจริงๆ


ใบหน้าหล่อเหลาขบริมฝีปากเบาๆ ผมเตรียมจะหันหลังอวดบั้นท้ายให้ แต่แม๊กซ์กระชากต้นขาข้างหนึ่งขึ้นข้างเอว ผมตัวลอย ขาอีกข้างแทบหยั่งไม่ถึงพื้น


"อ๊ะ..." ร่างเปลือยเปล่าอยู่ในท่าแปลกประหลาดค้างเติ่ง เขาไม่รอช้า ดันกางเกงในลงแล้วต้นแขนล่ำหนาก็กระชากตัวผมให้ซบ อกผมแนบติดร่างกายเขา เนื้อต่อเนื้อ ผมสะกดกลั้นลมหายใจไม่ไหว ร่างกายร้อนผ่าว เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น ส่วนกลางร่างกายก็แข็งขืน แม๊กซ์มองลงมาด้วยสายตาระยิบระยับราวกับกลืนกินผมไปทั้งตัว


ผมหอบหายใจ ถึงยังไม่ได้คลายช่องทางเอาไว้ แต่ตอนนี้ ต่อให้เขาสอดใส่เข้ามาแล้วเลือดอาบ ผมก็ยอม ผมคิดแล้วยกขาข้างที่ติดเอวเขาขึ้นสูง อวดปากทางที่พร้อมยิ่งกว่าพร้อมให้สามี "มาสิ อื้มมม"


ความใหญ่โตค่อยๆ มุดเข้าโพรงร้อนมาทีละน้อย ความคับแน่นและแห้งฝืดทำให้ผมร้อง เจ็บจริงๆ ไม่ได้ดัดจริต แต่ความร้อนแรงในร่างมีมากกว่า ผมยืดตัวขึ้นพยายามจูบปากเขา


แม๊กซ์สนองอย่างดี จูบผมตอบ


ร้อน... ร้อน... ทั้งใหญ่ ร้อนและแข็ง มันดุนดันเข้ามาถึงช่องท้อง ผมโหย่งตัวด้วยความแสบ แต่แม๊กซ์คว้าตัวผมทั้งตัวกระแทกสวนแท่งร้อน


"อ๊ากก เจ็บ!" ไม่ไหวแล้ว เข้ามาทั้งแบบนี้ไม่ได้จริงๆ ผมจิกต้นแขนเขาเชิงร้องขอให้หยุด แต่แม๊กซ์กลับตอบเสียงห้าว


"อยากได้ไม่ใช่เหรอ ?"


"ฮึกก มันเจ็บ" เขาไม่สนใจ ดวงตาคล้ายสัตว์ป่าแล้ว ผมรู้ตัวดีว่าถ้าวันนี้เขาไม่ได้รีดน้ำในตัวผมเขาจะไม่มีทางหยุดแน่ๆ


"คลายออก เดี๋ยวก็ฉีกหรอก!" จะคลายได้ขนาดไหน! ไม่ดูตัวเองบ้างมันใหญ่แค่ไหน ขนาดตอเท่ากับท่อนแขนผมไม่ฟังเสียงร้องห้าม


"อ๊ะ อย่า! อึ่ก!" ผมร้องเสียงหลง ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคล้ายฉีกขาดจากด้านล่าง เจ็บจนเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ


ผมอ้าปากค้าง


ผลจากการยั่ว เป็นยังไงล่ะ แม๊กซ์ไม่เคยทำอะไรเล่นๆ


สามีผมเข้ามาจนสุดแล้ว มิดโคนจนรู้สึกได้ถึงขนหยาบๆ ถูไถก้น ผมสูดลมหายใจลึก ละล่ำละลักบอก "มะ ไม่เอาแล้ว... เอาออกไป"


แม๊กซ์ไม่พูด ไม่ตอบ แต่เริ่มขยับ ผมกรี๊ดอีกครั้ง ท่อนลำในท้องเริ่มเสียดสี บดเบียดเนื้อภายในรุนแรง


แค่เริ่มก็แทบสลบ เอวผมชา ขาปวดหนึบ ถูกยกค้างอยู่ในท่าแปลกประหลาด ขนาดคนที่ผ่านศึกมาไม่น้อยอย่างผมยังทรมาน เขาคงรำคาญที่ผมไม่ยอมตอบสนอง สองแขนแข็งแรงจึงรองใต้บั้นท้าย แล้วยกผมตัวลอย ผมร้องหวือ สองขารีบโอบเอว


ท่านี้อีกแล้ว!


เขาจูบแก้ม "เลือดออกนิดหน่อย..." นิดหน่อย... ทำไมก้นเปียกขนาดนี้ล่ะ... ผมไม่กล้าก้มลงดู เอาเป็นว่าเชื่อเขาก็แล้วกัน ไม่เชื่อสามีก็ไม่รู้จะไปเชื่อใครแล้ว


"ขยับแล้วนะเจ้าหญิง" ผมจะห้ามเขาไหวเหรอ กลางกายผมมันหดฟีบไปหมดแล้ว เจ็บจนไม่มีเรี่ยวแรงพูด แต่ก็ยังพยักหน้าตอบ


ท่อนลำยักษ์บดเบียดกับจุดอ่อนไหวภายในอย่างเอาอกเอาใจ คล้ายกับจะขอโทษที่ทำให้เจ็บ ผมยกแขนโอบรอบคอเขาแน่น ความร้อนแรงเริ่มพุ่งเบียดความเจ็บปวด


"อ๊ะ ตรงนั้น... อึกก"


ผมเกร็งตัว ความใหญ่โตร้อนผ่าวแทงเสยขึ้นมาอย่างไม่กลัวหลวม และเริ่มเพิ่มจังหวะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถี่ยิบ ผมจิกเล็บเข้าต้นคอ เปิดปากคราง


"ฮึกก ใหญ่ แม๊กซ์... แม๊กซ์"


"ฮ้า... ข้าว เจ้าหญิง... เจ้าหญิงของผม"


แม๊กซ์จูบผมรัว ในช่วงเวลาร้อนแรง ความร้อนพุ่งสูง ผมเกร็งถี่ บีบรัดเขาแน่น ลำคอแหงนเงยขึ้นเพดาน ไม่มีอะไรให้ดูหรอก แต่มันร้อนจนทนไม่ไหว


"อึกก อ๊าาา" ไม่ไหวแล้ว... แม๊กซ์กระแทกแต่จุดตายของผม... ดวงตาผมพร่าพราย ร่างกายเกร็งกระตุก บั้นท้ายและท่อนลำเล็กๆ สั่นรุนแรงตามจังหวะกระแทก


ภาพเบื้องหน้าขาวโพลน...


เสียงกรีดร้องของตัวเองน่าจะดังมาก แต่ผมไม่ได้ยิน รู้สึกเพียงความใหญ่โตที่ขยับเข้าออกเท่านั้น


ความเสียวแปลบพุ่งสูง จนน้ำรักฉีดพ่นออกมาเลอะหน้าท้องแข็งแรง ผมอ้าปาก น้ำลายย้อยเหนียวหนืด แต่แม๊กซ์กลับดูดกินอย่างหิวกระหาย ท่อนลำเบื้องล่างเสือกไสจนร่างกายแทบชา


...คืนนี้ยังอีกยาวนาน












ผมนอนคว่ำ ตื่นขึ้นมาตอนรุ่งสาง แม๊กซ์ทำความสะอาดร่างกายให้แล้ว เหลือแค่น้ำรักของเขาที่ยังเจิ่งนองเต็มก้น


สามีผมโรคจิต นอกจากชอบดูผู้ชายในผ้ากันเปื้อนแล้ว ยังชอบเห็นน้ำรักเต็มโพรงผมด้วย


ฉีกไหมนะ...


ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้ว กลอเรียจะมาหรือยัง ผมต้องทำเป็นนอนหลับสนิทในห้อง ห้ามตื่นเด็ดขาด ต่อให้กลอเรียชวนผมดูรูปลูกชายสุดฮ็อตก็ตาม


น่าอายจะแย่ ทั้งน้ำรักทั้งเสื้อผ้าเลอะเทอะเต็มห้องนั่งเล่น เมื่อคืนกลับมาที่เตียงได้ยังไงผมก็ไม่รู้ จำได้แค่ว่าตอนที่สามีปล่อยเข้ามาเป็นรอบที่สองผมก็หมดสติไปแล้ว


ผมคิดฟุ้งซ่าน พยายามขยับตัวจะไปล้างก้น แต่...


...ลุกไม่ขึ้น



แก่ขนาดนี้แล้วเหรอ! ผมกลอกตาขึ้นมองเพดาน หัวก็เต้นตุบๆ เหมือนจะมีไข้


แต่ก่อนอย่าว่าแต่เซ็กส์เลย คืนหนึ่งผมได้กับผู้ชายทีเดียวสี่คนก็ยังไหว แต่เดี๋ยวนี้เหมือนร่างกายจะเปลี่ยนไป เหมือนเคยได้ยินว่า ถ้ามีอะไรกับผู้ชายคนเดิมบ่อยๆ ข้างในจะเปลี่ยนเป็นรูปร่างของผู้ชายคนนั้น ไม่สามารถรองรับของคนอื่นได้อีก


ถ้าเป็นเรื่องจริง ข้างในผมคงหลวมโพรก ไม่ว่าของผู้ชายคนไหนเข้ามาก็คงเหมือนเอานิ้วก้อยไปแกว่งในโอ่งนั่นล่ะ


ผมซบหน้ากับหมอน ถอนหายใจยาวๆ มองผู้ชายตรงหน้า ทั้งรักทั้งหวง และไม่เข้าใจ


ใบหน้ามีมิติหล่อเหลา คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหนา หล่อจนน่าจะควงกับนางแบบสวยๆ ได้สบาย ไหนจะทรัพย์สมบัติมากมาย สติปัญญาก็เฉลียวฉลาด น่าจะมีโง่อยู่เรื่องเดียว


เรื่องที่มารักกับผมนี่แหละ


ผมมองเขาจนเพลิน แต่แล้วตาที่ปิดสนิทก็ค่อยๆ ลืมขึ้น ผมสะดุ้ง


แม๊กซ์สบตาผม ดวงตาสีน้ำตาลคมดุก็จริง แต่ตอนนี้กลับหวานเชื่อม เขายิ้มบางๆ "นอนไม่หลับเหรอ ?"


ผมส่ายหน้า ไม่รู้ทำไมต้องทำเสียงเล็กเสียงน้อยตาม "...อยากอาบน้ำน่ะ แต่ลุกไม่ขึ้น"


"ขอโทษนะครับเจ้าหญิง ผมเสียดายน้ำในก้นคุณเลยไม่กล้าล้างออก" โรคจิตชัดๆ ผัวกู... ได้แต่คิดแล้วส่ายหน้า


"เอาเถอะ ก็เป็นแบบนี้ประจำ"


"มา ผมพาคุณไปอาบน้ำนะ" เขาบอกแล้วลุกขึ้น แต่ผมห้ามไว้


"ไม่เป็นไร นอนเถอะ วันนี้มีประชุมไม่ใช่เหรอ"


"แต่คุณลุกไม่ขึ้นนี่" ใบหน้าหล่อเหลามีท่าทางเหมือนเด็กๆ ผมหัวเราะเบาๆ ทั้งๆ ที่ยังนอนอยู่ในท่ากบโดนรถทับ


"ช่วยฉันลุกก็พอ เธอไปนอนเถอะ"


แม๊กซ์ไม่ตอบ ช่วยพยุงผมขึ้น ผมจะบอกราตรีสวัสดิ์ แต่ร่างสูงใหญ่กลับอุ้มผมพาดบ่า


โลกหมุนอีกรอบ เขาไม่สนใจผมที่ร้องห้าม "แม๊กซ์!"


"ข้าว!" เขาเรียกผมด้วยเสียงดุๆ "อย่าดื้อนะ!"


ผมฟังแล้วอดหยิกเนื้อแน่นๆ ไม่ได้ "เจ้าเด็กนี่!"


เขาหัวเราะเสียงห้าว เปิดไฟห้องน้ำแล้วอุ้มผมด้วยมือเดียว "อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็ก ผมอ่อนกว่าคุณแค่สี่ปี"


"ตั้งสี่ปีต่างหาก" ผมเถียง แต่ดูเหมือนกำลังงอนมากกว่า แม๊กซ์จับคนแก่วางในอ่างอาบน้ำ คว้าเอวให้ยื่นก้นออกมา มือหนึ่งประคอง มือหนึ่งสอดนิ้วล้วงเข้าไปภายใน


ผมสะดุ้ง ซุกหน้ากับไหล่กว้าง ถามเสียงอู้อี้ "เลือด... เยอะไหม"


ได้ยินเสียงลมหายใจคล้ายถอนใจเบาๆ "นิดหน่อย..."


"เอาจริงๆ"


"น้อยกว่าครั้งที่แล้ว"


ผมหลับตา ไม่กล้ามอง เห็นผมเป็นมาโซแบบนี้แต่ก็กลัวเลือด ยิ่งไหลจากก้นแล้วยิ่งไม่น่าพิศมัย


"ก็รูคุณเล็ก" พูดออกมาได้... แต่เป็นผัวเมียกันมาตั้งสองปีแล้ว เรื่องแบบนี้ก็ควรจะคุยให้รู้เรื่องกันไปเลย ผมเงยหน้าขึ้นมองเขา จากส่วนสูงของผม จากมุมที่ผมอยู่ เห็นได้แค่ปลายคางที่มีหนวดครึ้ม


เดี๋ยวเช้าๆ ต้องบังคับให้โกน


"แม๊กซ์ เราไม่ทำแบบนี้กันแล้วนะ... อย่างน้อยๆ ก็ตอนท้อง"


เขาพยักหน้า หยิบฝักบัวมาเปิดน้ำ ใช้สายน้ำอุ่นนวดปากทางให้คลายความเจ็บปวด "ผมเข้าใจ"


"แล้วจะทำตามไหม ?" ผมลงเสียงหนัก บิดเนื้อกล้ามแขน แม๊กซ์ก้มลงมาจูบกระหม่อมเบาๆ


"ทำครับเจ้าหญิง ผมสัญญา ไม่มีเที่ยวหน้าแล้ว จะรอจนกว่าคุณจะคลอด"


ก็ยังดีนะ... ผมพ่นลมหายใจออกมาอย่างสบายตัว แม๊กซ์อาบน้ำอุ่นให้เหมือนอาบน้ำเด็ก ท่าทางเขาจะอาบน้ำลูกได้ดีแน่ๆ


ลูกยังไม่ทันเกิด ผมก็มอบหมายหน้าที่ให้ล่วงหน้าแล้ว


"จะนอนเลยก็ได้ เดี๋ยวผมพาคุณกลับเตียงเอง" สามีผมเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนนะ แต่ความสบายที่โอบล้อม ทั้งน้ำเสียงและอุณหภูมิของฝ่ามือและน้ำอุ่น ทั้งอ้อมกอดแข็งแรงที่โอบกระชับ ผมสบายทั้งร่างกายและหัวใจ


ดวงตาค่อยๆ ปิดลง ปากยังพึมพำ "พรุ่งนี้โกนหนวดด้วยนะ..."


เขาหัวเราะ กล้ามอกสั่นสะเทือนมาถึงผม แต่เขาจะพูดอะไรหลังจากนั้นผมก็ไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ...









ตื่นขึ้นมาอีกครั้งแม๊กซ์ก็ออกไปทำงานแล้ว ลุกขึ้นจากเตียงอย่างปวดเมื่อย แม๊กซ์วางยาไว้แผงหนึ่งให้ข้างเตียง คงกลัวว่าผมจะมีไข้


ผมเดินกระย่องกระแย่งออกจากนอนห้อง กลอเรียกำลังแพ๊คอาหารใส่กล่อง ผมเลยเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกา... เกือบเที่ยงแล้ว


"ตื่นแล้วเหรอคะ ?" แม่บ้านร่างตุ้ยนุ้ย ใส่ต่างหูห่วงเชยๆ หันมาถาม ผมพยักหน้า


"ฉันทำกับข้าวให้คุณไว้แล้วค่ะ นมสด โยเกิร์ต ควินควากับซีเรียลก็ซื้อไว้ให้แล้วนะคะ" เธอบอกอย่างกระฉับกระเฉง ผมหน้าร้อน นี่แม๊กซ์คงสั่งกลอเรียเอาไว้แล้วสินะ


"ขอบคุณครับ" กลอเรียพยักหน้ารับแล้วพูดเร็วปรื๋อติดสำเนียงสเปนต่อ


"เดี๋ยวทานยาด้วยนะคะ คุณแม๊กซิมัสสั่งไว้ค่ะ"


ผมนั่งบนโต๊ะอาหารอย่างว่าง่าย กลอเรียอุ่นซุปมันฝรั่งและเนื้อไก่ร้อนๆ มาให้ พร้อมทั้งวางยาและน้ำก่อนจะเก็บข้าวของเตรียมออกไป


"เดี๋ยวสิ กลอเรีย นั่งคุยกันก่อนไม่ได้เหรอ ?" ผมอ้อน ก็บ้านเงียบๆ น่ะน่าเบื่อจะตาย ผมไม่อยากขัดเพชรแล้วนี่นา


กลอเรียส่ายหน้า "คุณแม๊กซิมัสแนะนำครอบครัวที่อยู่ชั้น 19 ให้น่ะค่ะ นั่นก็คนรวยเหมือนกัน แต่งานหนัก มีลูกตั้งสามคน ฉันต้องรีบไปขัดส้วมแสนสนุกค่ะ" ในคำพูดหญิงละตินมีแต่การประชดประชันทุกคำ ผมมองหล่อนตาแป๋ว


"ทำไมทำงานหนักจัง"


"ถ้าคุณมีลูกคุณก็จะเข้าใจค่ะ"


"คาร์ลอสก็เป็นเด็กดีนี่ ?" ผมหมายถึงลูกชายสุดหล่อของกลอเรีย คาร์ลอสเป็นหนุ่มละตินสุดฮ็อต เล่นฟุตบอล* เรียนเก่ง ได้ทุนนักกีฬาเข้ามหาวิทยาลัย


"ค่ะ หวังว่ามันคงไม่ได้ไปทำใครท้อง" กลอเรียหน้ายุ่ง สะพายกระเป๋า "อย่าลืมนะคะว่าคนอื่นไม่ได้โชคดีเหมือนคุณ ถ้าผัวฉันรวยได้ครึ่งหนึ่งของคุณแม๊กซิมัส ฉันคงไม่ต้องมาต้มซุปให้คุณหรอกค่ะ"


ผมหัวเราะลั่น ส่ายหน้า "นี่ของผมนะ ต่อให้เป็นกลอเรียก็เถอะ ผมไม่ยกให้หรอก"


กลอเรียยิ้มขำ ตบก้นผมดังเพี๊ยะ "ร้ายนักนะคะคุณ เอาล่ะ ทานข้าวแล้วทานยานะคะ อย่าดื้อกับสามีเลยค่ะ เขาเป็นห่วงคุณ คนดีๆ แบบนี้ไม่มีแล้วนะคะ"


ผมพยักหน้า "โอเค ขอบคุณนะ"


"ค่ะ ฉันไปแล้วนะคะ ถ้าจะเอาอะไรให้ส่งข้อความมา พรุ่งนี้จะซื้อเข้ามาค่ะ"


"ขอบคุณครับ"


แล้วกลอเรียก็ออกจากห้องไป ผมถอนหายใจ ตักซุปเข้าปากอย่างหงอยๆ ตามองไปยังตู้เซฟหลังรูปภาพติดผนัง


วันนี้ก็ต้องเอาไอ้หินพวกนั้นออกมาขัดอีกแล้วเหรอเนี่ย...










"ฉันทนไม่ไหวแล้ว" ผมตะโกนในห้องคนเดียว โยนเพชรลงบนโต๊ะ คลานลงไปหยิบไอแพดขึ้นมาเล่นเกมเพลินๆ ครู่หนึ่งแล้วฟาดงวงฟาดงากับหมอน


เบื่อ! เบื่อ! เบื่อ!


ถึงกลอเรียจะค่อนขอดว่าคนทั้งโลกอยากมานั่งเบื่อแบบผมก็เถอะ แต่ความเบื่อ ความว่างเปล่านี้มันก็ทรมานเหมือนกันนะ



ผมเก็บเพชรพลอยและถอดสร้อยทับทิมบนคอใส่เซฟ หยิบของเล่นทั้งหลายที่สามีซื้อให้ ทั้งมือถือ ไอแพด เกมบอย เกมเพลย์ เครื่อง wii เกม xbox และหนังสือเป็นบ้าหอบฟางแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น


โยนของทั้งหมดลงกับกองหมอน คว้าหนังสือ Inferno มาอ่านได้สองหน้าแล้วก็เบื่อ หยิบไอแพดขึ้นมาเฟซไทม์หาพ่อแม่


เงียบ...


ไม่มีคนรับ ผมเลยโทรเข้าบ้านแทน


เสียงกริ่งดังหลายครั้งจนเกือบดับ ในที่สุดก็มีเสียงงัวเงียรับสาย "ฮัลโหล"


ผมตอบอย่างยินดี "แม่ ข้าวเองนะ"


แม่เงียบไปชั่วครู่ "หา ไอ้ข้าว เอ็งโทรมาอะไรตอนนี้ ผัวทิ้งเรอะ"


"ไม่ใช่ อย่าแช่งสิ แม่ ข้าวเบื่ออ"


"ไอ้ลูกบ้า! แค่เบื่อนี่ต้องโทรมากวนกู นี่กี่โมงแล้วมึงรู้ไหม ?"


ผมเงยหน้าขึ้นดูนาฬิกา "บ่ายสอง"


"ตีสองโว้ย! กูกำลังนอน อย่าโทรมากวน!" แม่ด่าแล้ววางสายดังสนั่น ผมมองมือถืออย่างงงๆ ทำปากเบะ


ลืมไป...
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-08-2016 20:23:42
ผมอยากออกไปข้างนอกบ้าง หลังทำอาหารเย็นเสร็จโดยมีสามีนั่งดูอยู่เฉยๆ แล้วจึงบอกไป แต่แม๊กซ์กลับมองกลับด้วยสายตากราดเกรี้ยว


"มีใคร ?"


"ใคร ?" ผมถามกลับงงๆ วางหมูสามชั้นทอดน้ำปลาบนโต๊ะเป็นจานสุดท้าย หลังๆ มานี่แม๊กซ์ชอบกินอาหารไทย ไม่บ่นเรื่องกระเทียมแล้ว "พรุ่งนี้กินแกงเขียวหวานไหม จะได้ให้กลอเรียซื้อมะเขือมาให้"


"ผมถามว่า คุณมีใคร มีชู้อยู่ข้างนอกใช่ไหม ?" เสียงเหี้ยม ผมวางช้อนดังเคร้ง


ไอ้บ้า! นอนเน่าอยู่ในห้องทั้งวัน จะไปมีชู้กับใครได้! ขนาดเซ็กส์ทอยเอ็งยังเก็บไปทิ้งเลย! "ไม่มี! ฉันแค่เบื่อห้อง!"


"คุณมีใคร ?" ไอ้คนฉลาดยังไม่เชื่อ มองอย่างคาดคั้น ลุกขึ้นก้าวยาวๆ มากระชากแขนผมขึ้น "Son of bitch! มันเป็นใคร! มันรู้หรือเปล่าว่าคุณมี 'ผัว' แล้ว"


ภาษาไทยพูดไม่เคยชัด มีคำว่าผัวๆ เมียๆ เท่านั้นที่ออกเสียงชัดแจ๋ว ผมโกรธไม่แพ้กัน แต่ขี้เกียจทะเลาะเลยส่ายหน้า "จะมีได้
ยังไง ฉันอยู่แต่ในห้อง"


เขาปล่อยแขนผมออก แรงจนขึ้นรอยแดง


"แล้วนอกจากเธอ คงไม่มีใครหลงผิดแล้วล่ะ" ผมเสริมเบาๆ แต่แม๊กซ์ดันหูดี หันกลับมา


"ผมตาดีต่างห่าง กลัวว่าจะมีไอ้เวรตะไลที่ไหนตาดีเหมือนผมน่ะสิ!"


"ฉันเนี่ยนะ" ร้องเสียงสูงอย่างไม่เชื่อ ไม่อยากทะเลาะกับเขาจริงๆ เลยเลี่ยงไปคดข้าวใส่จานมาให้ "จะมีใครเอาอีก จะหึงอะไรก็ให้น้อยๆ หน่อย"


"คุณไม่รู้ตัวเลยข้าว..." เขาถอนหายใจ หอมแก้มผมอย่างนุ่มนวล แล้วยกแขนข้างที่เขากระชากขึ้นมาจูบเบาๆ "ขอโทษนะครับ
เจ้าหญิง... เจ็บไหม"


"ไม่หรอก... กินข้าวเถอะ" ผมตัดบท นั่งลงตรงข้าม หยิบจานของตัวเอง


"หมูนี่อร่อย" แม๊กซ์พูดอย่างเอาใจ "คุณทั้งน่ารักทั้งแสนดีแบบนี้ จะไม่ให้ผมหึงได้ยังไง"


ผมห้ามตัวเองสุดชีวิตไม่ให้กลอกตา "เอาเถอะ ว่าไงก็ว่ากัน"


"ถ้าคุณเบื่อ... ลองหาอะไรทำไหม ?" ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้ ทะเลาะกันไปยกหนึ่ง ไปจบที่เตียงเหมือนเดิม


"ไม่เอาเพชรแล้วนะ" ผมขู่


"ครับ... ลองทำอาหารไหม ?"


ผมฟังแล้ววางช้อน ไม่รู้เพราะฮอร์โมนแปรปรวนของคนท้องหรือเปล่าทำให้ตอบเสียงกระชาก "ไม่อร่อยก็ไม่ต้องกิน!"


"กินครับกิน อร่อยมาก" แม๊กซ์รีบตักต้มโคล้งถ้วยของผมเข้าปาก จะห้ามก็ไม่ทันแล้ว


เขาหน้าเสีย ต้มโคล้งของผมน่ะรสชาติคนไทย ฝรั่งอย่างเขากินเข้าไปคงเผ็ดน่าดู แม๊กซ์รีบยกน้ำขึ้นดื่ม แก้มพอง ตาบวมน่าขัน ผมหัวเราะลั่น เอื้อมมือไปตบแก้มเขาเบาๆ


"นั่นน่ะถ้วยของฉัน ฉันทำแยกหม้อให้เธอแล้ว" ชี้ไปที่อีกถ้วยหนึ่ง "เดี๋ยวเอานมให้ เผ็ดล่ะสิ"


ปากแม๊กซ์แดงจัด ตาคมมีน้ำตารื้น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ผมรินนมใส่แก้วยื่นให้อย่างขำปนสงสาร


แม๊กซ์ดื่มนมไปเกือบลิตร น่าจะอิ่มมาก แต่ก็กินอาหารที่ผมทำให้จนหมด ผมเก็บจานด้วยความรู้สึกฟูฟ่อง คนทำอาหารก็คงรู้สึกดีกันทุกคนนั่นแหละ เวลาเห็นคนกินกินจนหมด


"ผมช่วย" แม๊กซ์ที่ปากแดงๆ บวมตุ่ย น้ำตาคลอเบ้าพับแขนเสื้อเชิ้ตปราดเข้ามา ผมดันตัวเขาออกไปเบาๆ


"ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันทำเอง"


แม๊กซ์ยังรีรออยู่ ก่อนจะค่อยๆ พูด "เจ้าหญิง ผมพูดจริงๆ นะ ถ้าคุณไม่ชอบเพชร ลองหาอย่างอื่นทำก็ได้..."


"ทำอาหารน่ะเหรอ ? ไว้จะลองคิดดูนะ" ผมใช้แปรงขัดเศษอาหารออกจากถ้วยชาม แล้ววางลงบนเครื่องล้างจาน


"ที่รัก ผมพูดจริงๆ นะ" เขากอดผมทั้งๆ ที่ในมือผมเลอะเทอะ "คุณทำอาหารอร่อยอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากเห็นคุณไม่มีความสุข"


ผมฟังแล้วยิ้ม เช็ดมือให้สะอาด ตีแขนที่กอดเอวเบาๆ "ฉันมีความสุขดี แค่เบื่อนิดหน่อย ไว้จะลองเรียนทำอาหารก็ได้" ผมเว้นครู่หนึ่ง "เธอจะให้ฉันไปเรียนที่ไหน"


"พรุ่งนี้ผมจะจ้างครูมาสอนที่บ้าน" ชายหนุ่มจูบแก้มผมเต็มแรง "เด็กดี... เจ้าหญิงของผมน่ารักที่สุด"


ที่บ้าน... อีกแล้ว ผมหลับตาลงช้าๆ "เธอจะไม่ให้ฉันออกไปไหนเลยเหรอ ?"


"อย่าไป" เสียงทุ้มกระซิบ "อย่าออกไปไหนเลยเจ้าหญิง..."


"จะให้ฉันอยู่แต่ในบ้าน ?"


"ได้โปรด..." เสียงเขาคล้ายจะขาดรอนๆ "อย่าไปไหน... อย่าออกไปไกลตาผมเลยนะ... ผมหวงคุณ หึงคุณมาก ไม่อยากให้ใครเห็นคุณ ได้ยินเสียงคุณ หายใจร่วมกับคุณ..."


"เด็กขี้หึง" ผมฟังแล้วคล้ายบินได้ แม๊กซ์รักผมมาก รักจนคล้ายคนบ้า แต่นั่นก็ช่างน่าเอ็นดู


ร่างสูงโน้มตัวลงซุกหน้ากับซอกคอผม "ผมขี้หึง" เขายอมรับ "ผมรักคุณมาก มากจนแค่คิดก็ทนไม่ได้ถ้ามีใครแย่งคุณไป"


"...."


"ยิ่งคุณท้องลูกของเรา ผมยิ่งหวง"


หน้าผมคงแดงไปถึงไหนแล้วแน่ๆ แต่เขากลับกระชับอ้อมกอด จูบที่ข้างใบหู จงใจกระซิบให้ได้ยิน "ผมอยากร่วมรักกับคุณตลอดเวลา ผมหึงทุกอย่างที่อยู่ใกล้คุณ เซ็กส์ทอย เสื้อผ้า มือถือ..."


โอเค อันนี้จะโรคจิตเกินไปแล้ว เซ็กส์ทอยยังพอเข้าใจ แต่ถ้าผัวมาบอกว่าหึงกางเกงในนี่มันก็เกินรับได้ "พอๆ แม๊กซ์" ผมห้าม "ไปอาบน้ำได้แล้ว"


เขายังไม่ยอมขยับ งึมงำข้างหู "เจ้าหญิงใจร้าย... คนสวยใจร้าย... ผมรักคุณมากแท้ๆ"


ผมเงยหน้าขึ้นมองเพดาน กลอกตาอย่างห้ามไม่อยู่ เอาเถอะ...


"ไปอาบน้ำ!" ผมดันเขาออก สบสายตาเหมือนลูกหมาถูกทิ้งแล้วใจอ่อน "พรุ่งนี้ฉันจะเรียนทำอาหารที่บ้านก็แล้วกัน"


แม๊กซ์ยิ้มหวาน ปรี่เข้ามากอดอีกรอบ "เจ้าหญิงของผม! ไปอาบกับผมนะครับ!"


ไม่รอให้ผมร้อง เขาอุ้มผมด้วยวงแขนแข็งแรง ผมตีกล้ามท้องซิกส์แพ็คเขาแล้วขบกัดกล้ามแขน


มีผัวเด็กต้องคอยหมั่นเช็คร่างกาย...





จะให้ดีต้องให้ผัวเช็ค!

สายตาที่เขม้นมองจากหญิงชราทำให้ผมขนลุก


แอนเดรีย... ครูสอนทำอาหารของผมเป็นหญิงชราชาวจีน-อเมริกัน มีรายการสอนทำอาหารที่โด่งดังทางช่องเคเบิล เชี่ยวชาญด้านอาหารจีน


ไม่รู้แม๊กซ์ไปหาตัวเชฟดังระดับเซเลบริตี้แบบนี้มาจากไหน แต่ที่รู้คือต้องแพงมาก และหล่อนก็ไม่ค่อยจะชอบผมเท่าไหร่


"ใส่ผ้ากันเปื้อนค่ะ" หล่อนบอก ผมจึงหยิบผ้ากันเปื้อนสีชมพูกรุลายฉลุและติดระบายลูกไม้ที่แม๊กซ์บังคับให้ใส่ขึ้นมา หญิงชราถอนหายใจพรืด แต่ไม่ได้พูดอะไร


หลังจากนั้น ดูแอนเดรียจะอารมณ์ดีขึ้นเมื่อพบว่าผมสามารถหั่นหัวหอมได้โดยที่น้ำตาไม่ไหล ใช้มีดอย่างคล่องแคล่ว รู้ว่าส่วนไหนของมะเขือเทศที่กินได้


"นึกว่าคุณจะเป็นพวกคนรวยที่ไม่ได้เรื่องเสียอีก"


ผมยิ้ม ตอบด้วยท่าทางสุภาพ "ผมไม่ใช่คนรวยหรอกครับ"


"คุณแต่งงานกับคนรวย ก็เป็นคนรวยสิ" แอนเดรียเหลือบมองแหวนเพชรทิฟฟานีบนนิ้วผม ผมหัวเราะแหะๆ อย่างเขินๆ มือหั่นแอสพารากัสต่อไป


ชั๊วะ! เสียงเบาๆ ดังขึ้นบนเขียง ผมชะงัก มัวแต่เขินกระบิดกระบวน เอาจนได้!


แอนเดรียสะดุ้ง รีบคว้ามือผมขึ้นแล้วพาไปล้างแผลอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเหี่ยวย่นมีร่องรอยความวิตก "เจ็บไหม ?"


ผมดูบาดแผลที่ซุ่มซ่ามหั่นนิ้วตัวเองแล้วส่ายหน้า เจ็บแปล๊บๆ แผลเป็นเส้นแนวยาวสีขาวเล็กๆ ไม่ลึก "ไม่เป็นไรครับ" ผมตอบง่ายๆ ฉีกกระดาษทิชชูในครัวมาซับ แต่แอนเดรียดึงมือผมไป


"ไม่ได้ ต้องไปโรงพยาบาล"


ผมหัวเราะ "อย่าล้อเล่นน่าแอนเดรีย คุณก็รู้ว่าคนทำครัวต้องได้แผลอยู่แล้ว แผลนี่ก็แค่มีดบาดนิดเดียวเอง" เลือดออกสองสามหยดเห็นจะได้ แต่แอนเดรียกลับหน้าเครียดจัด เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเรียกรถ


"เดี๋ยว! คุณจะทำอะไรน่ะ!" ผมร้อง แต่หญิงชราไม่สนใจ ทำเหมือนผมเป็นลูกหลานหัวดื้อ


เมื่อเธอวางโทรศัพท์ลง ก็หันมาพูดด้วยเสียงทะมึน "ไปโรงพยาบาล หยิบโค้ตได้แล้วคุณข้าว"


"หา" ผมอุทาน หน้าตื่น "เดี๋ยวๆ แผลแค่นี้เอง เอาพลาสเตอร์ติดก็ได้ คุณไม่ต้องซีเรียส" แต่แอนเดรียเลยคำว่าซีเรียสไปแล้ว สีหน้าเธอเหมือนรายการทีวีสุดฮิตของตัวเองโดนแคนเซิล ลูกชายกลายเป็นเกย์และสามีนอกใจพร้อมๆ กัน


เธอไม่ฟังผม ดึงแขนไปยังปากประตู หยิบเสื้อโค้ตมาสวมให้อย่างรวดเร็ว ปากพึมพำ "ถึงว่าสิ... เงินเยอะปัญหาก็เยอะ"


"คุณพูดอะไรน่ะ"


โทรศัพท์แอนเดรียดังอีกครั้ง เธอรีบดันผมให้ออกจากห้อง กดลิฟต์และพาไปที่รถสีดำอย่างว่องไวผิดกับอายุ


"คุณทำเกินไปไหม ?" ผมถูกผลักมานั่งด้านหลังของรถเล็กซัส SUV หล่อนเหวี่ยงประตูปิดแล้วสั่งคนขับรถด้วยใบหน้าเคร่งเครียดปานโลกถล่ม เหมือนแผลเท่าแมวข่วนของผมรุนแรงหนักหนาสาหัส


แอนเดรียหันกลับมามอง พ่นลมหายใจออกแรงๆ "เกินไป ? ที่เกินไปน่ะผัวคุณต่างหาก! ถ้าเขารู้ว่าฉันทำคุณเลือดออก รายการทีวีฉันคงล่ม!"


"เดี๋ยวๆ แล้วรายการทีวีของคุณเกี่ยวอะไรกับแม๊กซ์ ?"


"ก็ร้านอาหารเฟรนไชส์ของแม๊กซิมัสเป็นสปอนเซอร์! ตอนนี้เขากำลังจะเซ็นสัญญาทำอาหารสำเร็จรูปโดยใช้สูตรอาหารของฉันด้วย!"


มิน่าล่ะ แม๊กซ์ถึงเรียกเชฟคิวทองมาสอนผมถึงบ้านได้


แอนเดรียขมวดคิ้วมุ่น "น่าจะเปิดไซเรน"


"เดี๋ยววววววว" ผมร้องเสียงหลง "แผลแค่นี้จะไปโรงพยาบาลทำไม!"


เธอถอนหายใจ มือกดมือถืออย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนักโทรศัพท์ก็ดัง "ไปคุยกับผัวคุณเองเถอะ!"










ผมนั่งหน้าโง่อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนที่วุ่นวายสุดๆ ทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยไหม แต่ผมก็ได้ฉีดยากันบาดทะยักหนึ่งเข็ม ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่ามีดทำครัวน่ะ กลอเรียขัดจนเงาวับสะอาดสะอ้าน ขนาดใช้ส่องหน้าตัวเองได้


แอนเดรียคุยโทรศัพท์เสียงเครียด แล้วแม๊กซิมัสก็วิ่งเข้าห้องฉุกเฉินมาอย่างเร่งรีบ


"เจ้าหญิง!" เรียกเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน เหมือนจะมาดูใจเมียใกล้ตาย ผมเงยหน้าขึ้นมองเหวอๆ คนไข้และหมอพากันหัน
มามอง


ถ้าไม่รู้มาก่อน ใครก็คงคิดว่าผมนอนพะงาบๆ แน่ๆ


"คุณคะ เบาเสียงด้วยค่ะ!" พยาบาลดุ เขาจึงหุบปากแล้วสาวเท้าเร็วๆ เข้ามาหาผม


"ที่รัก เป็นอะไรไหม ?" เสียงเขาละห้อย คว้ามือผมไปจูบ "เจ็บไหมคนดี..."


ผมคิ้วกระตุก เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ "ไม่เป็นไร..."


"โธ่ ที่รัก ใครทำคุณเลือดออก" เอ่อ แผลมีดบาดเท่าแมวข่วนเนี่ยนะ แอนเดรียสะดุ้งโหยง


แม๊กซ์ลูบไล้มือผมอย่างเป็นห่วง ทั้งพรมจูบและปลอบโยน แต่ผมถอนหายใจ


"แม๊กซ์"


"อย่าพูดแบบนั้น" เขาห้าม ก้มลงมองผมด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอ ปากจูบมือผม "คุณเป็นหัวใจของผม... อย่าทำให้ตัวเองเจ็บตั..."


"แผลน่ะ อยู่อีกข้าง" ผมยกมืออีกข้างให้ พยักเพยิดไปที่แผลเท่าปลายเล็บบนนิ้วชี้ เล็กจนแทบมองไม่เห็น


แม๊กซ์หน้าเสีย วางมือข้างที่ไม่เป็นอะไรลง กระแอมคอให้โล่ง "แฮ่ม เดี๋ยวผมไปจ่ายเงินนะ"


ผมกลอกตา










คืนนั้นเราเลยฉลองที่ผมไม่เป็นอะไร (ทั้งๆที่ บอกทางโทรศัพท์ไปแล้วว่าไม่มีอะไร) บนเตียง แม๊กซ์จัดหนักไปห้ายกให้สาสมกับความเป็นห่วง ผมงงเล็กๆ ทั้งๆ ที่ผมป่วยหนัก(ในความคิดเขา) แล้วไหงมาลงที่ผมได้


แม๊กซ์เสร็จไปแล้ว แต่ความใหญ่โตยังไม่อ่อนตัว ผมหอบหายใจ เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา


ตีสาม...


ดีมาก... เริ่มฟัดกันตั้งแต่บ่ายสี่ มาเสร็จตอนตีสาม แทนที่จะห่วงแผลมีดบาด ควรห่วงว่าเมียแก่ตัวเองจะรับไหวดีกว่าไหม


"ผมใจหายหมดเลยรู้ไหม...." เขาพึมพำ ซบหน้าลงกับหน้าอกผม พูดไม่พอ ลิ้นเลียยอดอกไปด้วย มืออีกข้างก็บีบหน้าอกเล่นให้ผมเสียวสะท้าน


"อึก... อะ แอนเดรียไม่ได้บอกว่า ฮ้า..." เสียงหายไปกลางประโยค ปากร้อนเข้าครอบติ่งเนื้อเล็กๆ ที่หน้าอก ฟันคมขบจนผมร้องไม่เป็นภาษา "ฮึกก แค่มีด บะ บาด..."


"บอก" เสียงอู้อี้ เอื้อมมือไปนวดหน้าอกอีกข้างอย่างเท่าเทียม "แต่ผมไม่วางใจ"


"พะ... พอก่อน...." ผมดันเขาออก แต่แม๊กซ์ยังดึงดันดูดนมผมเหมือนทารก ปลายคางที่มีเคราถูไถจนผิวร้อนแสบ ทั้งๆ ที่เล้าโลมอยู่ท่อนบน แต่ในร่องก้นผมเสียดเสียวแปลบๆ


นี่สินะที่เรียกว่าคันหู


"ถ้าคุณเป็นอะไรไปผมคงใจสลาย" แม๊กซ์พูดหงอยๆ บีบนมผมเล่นทั้งๆ ที่มันแบนราบ ผมส่ายเอวโดยไม่รู้ตัว


"อึก..."


"ผมจะแคนเซิลงานกับแอนเดรียทั้งหมด" เขาฮึ่มฮั่ม บีบหน้าอกแรงขึ้นอีก ผมไม่ไหวแล้ว


"ยะ... อย่า..."


"คุณชอบ" เขาค้านอย่างดื้อดึง กัดปลายยอดหน้าอกอย่างแรงคล้ายจะยืนยัน ผมร้องคราง ความร้อนพุ่งพรวดลงไปที่หว่างขา ท่อนลำเล็กๆ ปลดปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย


"เห็นไหมว่าคุณชอบ" ไม่ว่าเปล่า เอื้อมมือไปโยกท่อนลำผมเล่นด้วย ผมหายใจทางปากอย่างหอบเหนื่อย เขาเข้ามาวนเวียนบริเวณซอกคอ


"มะ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น... อย่าแคนเซิลงานแอนเดรีย..."


ตาคมหรี่ลง นี่คิดไปถึงไหนอีกล่ะนี่ "อย่าบอกนะว่า..."


"หล่อนแก่จนเป็นอาม่าฉันได้แล้วนะ!" ผมปราม ดันหัวเขาออก ถ้ายังนัวเนียกันอยู่ มีหวังได้เสร็จอีกรอบ "แต่... แต่ อาหารสำเร็จรูปสูตรหล่อนน่าจะทำกำไรไม่ใช่เหรอ"


"อืม กำไรดีไม่น้อย"


"แล้วจะยกเลิกทำไม!? อ๊ะ!" เขาพุ่งมาตะครุบริมฝีปาก บีบปลายคางผมจนเจ็บ หลังจากนั้นสอดลิ้นเข้าไปจนถึงโคน เลาะเล็มปลายฟันทุกซี่แล้ว เขาก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากผมเหมือนสุนัขตัวโต


"อื้ม น่ารักจัง เจ้าหญิงเป็นห่วงผมด้วย... แต่ไม่ได้แล้วนะ ผมไม่ยอมให้คุณเรียนทำอาหารแล้วล่ะ"


"ฮื้อ... แค่มีดบาด..."


"ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ผมจะไม่ให้อะไรมาทำร้ายคุณทั้งนั้น" ไม่ว่าเปล่า คว้าขาทั้งสองข้างของผมให้ยกสูง โชว์บั้นท้ายและช่องทางที่มีน้ำขัง


เขาเลียริมฝีปาก "อันตรายขนาดนี้... กลับไปนั่งขัดเพชรเถอะครับเจ้าหญิง"


"อ้า อึก..." ไม่ไหวแล้ว ไม่พูดเปล่า ดันความร้อนเข้ามาด้วย ท่อนลำขนาดใหญ่สอดเข้ามาที่กลางร่อง ผมรู้สึกได้ถึงความใหญ่โตแสนร้อนแรง และเนื้อนุ่มของตัวเองที่โอบรัด


"แม๊กซ์ แม๊กซ์..."


"ครับ เจ้าหญิง" เขาโถมตัวเข้ามาจนสุด ผมสูดปากร้อง เหมือนจิ๊กซอว์กลับเข้าที่ เติมเต็มช่องท้องจนคับแน่น


"ฉันรักเธอ..."


เขาเริ่มขยับ สวนแรงส่ายสะโพกของผม ความร้อนแรงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เสียงทุ้มบอกกับริมฝีปากผมหนักแน่น "ผมรักคุณมากกว่า... มากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้อีก"



อืมมม... ริมฝีปากหวานฉ่ำ นาทีนั้นผมไม่สนใจแล้วว่าต้องไปนั่งขัดเพชรต่อหรืออะไร รู้แค่ว่า...

...รักเด็กบ้าโรคจิตคนนี้เหลือเกิน


.........

// ข่ะ ผัวกลัวเมียว่างงาน เลยหาเพชรให้ขัดเล่น  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 17-08-2016 20:50:48
อวดมากมาย อวดไม่มียั้งจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 17-08-2016 20:53:27
หมั่นไส้ ค.อ.ผ. ค่ะ  :mew6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 17-08-2016 21:10:36
รำคาญจังเลยค่ะ
 :hao4:

ไม่ผัวรวยให้อวดบ้าง
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 17-08-2016 21:13:47
อิจฉานุ้งข้าว!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-08-2016 21:17:07
แมกซ์ รัก หลงใหล ข้าว สุดๆ ไปเลย
แต่ข้าวก็รักแมกซ์เด็กโรคจิตคนนี้เหลือเกิน
ผัวเมีย คู่นี้หลงใหลกันสุดๆ
คนอ่าน ก็หลงไหล เด็กโรคจิต กับ เจ้าหญิง เช่นกัน
ชอบบ  :katai2-1:
     :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 18-08-2016 06:30:40
อ่านตอนแรกน้ำตาซึมเลย พอเคลียร์กันได้คือ...

ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งหึง ทั้งหวง

โอ้ยยย อวดกันเกินไปแล้ววว

 :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 18-08-2016 07:33:53
 :hao5: อิจฉาหนูข้าวอย่างแรง ผัวรักผัวหลงซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 18-08-2016 07:44:31
อยากมีผัวให้อวดบ้างจังเลยโว้ย :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Mi.07 ที่ 18-08-2016 09:49:32
โอ้โห่ ผัวจะหลงอะๆรเบอร์น้านนนนน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-08-2016 10:13:54
เบื่อ คอผ จริงๆ เอะอะนั่งขัดเพชรตลอด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 18-08-2016 10:21:18
หึ นังข้าว

หมั่นระดับสิบค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 18-08-2016 10:33:39
เข้ามารอติดตามงานของคุณ aimer

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 18-08-2016 11:40:02
นึกว่าชื่อเรื่องคนอวดผัว หมั่นใส้มากข่ะ 55
ผัวเมียคู่นี้ทั้งรักทั้งหลงกันเอง
นี่ขนาดท้องนะเนี่ยจัดเต็มซะขนาดนี้
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปนะคะ

+1 กดเป็ดให้กำลังใจคนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 18-08-2016 13:05:01
หมั่นนายเอกมาก 555 อวดจริงจังอ่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: purpleguy ที่ 18-08-2016 14:17:17
 :haun4: ฟินฝุดๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 18-08-2016 16:00:20
แนะนำให้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น "คนอวดผัว" ค่ะ ตรงกว่าชื่อเดิมอีก

อ้อ หมั่นข้าวแรงมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 18-08-2016 17:23:26
555555555555ทั้งอีโรติกทั้งฮาคู่นี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-08-2016 17:50:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 18-08-2016 19:31:27
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-08-2016 19:44:07
ร้อนแรงมาก  แล้วก็มีอารมณขันแบบแปลกๆ  55555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 18-08-2016 20:17:48
ผัวมีดีให้อวดก็อวด -หน่องข้าวมิได้กล่าวไว้-
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 18-08-2016 20:49:39
ฮาเฮียแม๊กมากกกกก จะเยอะไปไหนคะ 555555555 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-08-2016 21:47:34
ตอนแรกแอบซึม ๆ พอตอนต่อมา หื่นได้ใจ อะไรจะ หึง หวง ได้ฮ่าขนาดนี้ ผัวเมียคู่นี้รักกันสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yingcnx1 ที่ 18-08-2016 22:08:04
ความขี้ห่วงทะลุปรอทไปไกลแล้วจร้าา..........
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 18-08-2016 22:30:52
เพลาๆหน่อยนะพ่อคู๊นนนนน  เมียกำลังท้องกำลังไส้
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-08-2016 22:32:14
มาติดตามคนอวดผัว~
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 18-08-2016 23:28:53
หมั่นไส้ข้าวแรงมากกกกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: peaceminus1 ที่ 18-08-2016 23:49:34
ชอบแนวนิยายจริง ถูกใจ ตอนแรกก็น้ำตาไหลไปเห้อะ พออ่านไปมา คนเขียนบอกไม่ดราม่า ไม่ทำร้าย ไม่นอกใจ ไม่มีตัวร้าย ฯลฯ มีแต่เยๆฉาวๆคาวๆ ยอมค่ะ ยอมใจ ชอบ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Maple ที่ 19-08-2016 00:19:53
มีความขึ้นต้นด้วยความดราม่า เปิดอ่านมาน้ำตาก้มา อินจัดเข้าถึงบทบาทสุดชีวิต สักพักอีนี่หลงเมียมาก รักมาก อะไรจะหลงเมียเบอร์นี้ ชีวิตรักนางน่าประทับจิต มีความอลังการงานสร้างของสามี โถ่พ่อคุณ ขวัญเอ๋ยขวัญมา แค่มีดบาดคะ 5555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 19-08-2016 00:24:49
 :haun4: :jul1:
น่าเห็นใจน้องข้าวจริงๆ  :serius2:
เบื่อๆ ว่างงาน นั่งเล่นอยู่บ้าน ขัดเพชรเล่น ชิส์ส์ส์
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-08-2016 02:57:21
อวดเกิ๊นนนนน 555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-08-2016 08:07:23
อิจฉาข้าว มีผัวดี

ชอบตรงที่ไม่มีดราม่า ไม่มีนอกใจ
No ดราม่าทุกอย่าง

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 19-08-2016 13:08:56
ผัวรักผัวหลงอะไรขนาดนี้ มันฟินนมากก
มาลงบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-08-2016 16:16:21
ระดับมันสูงส่งยิ่งนักค่ะ อวดต่อไปค่ะ รอชม
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 19-08-2016 18:37:38
แหม่ อ่านแล้วพูดอะไรไม่ออกเลย ฮ่าๆๆๆ
ยิ่งอ่านยิ่งชอบนะตลกดี อิตาฝรั่งก็เกิ๊นนนนน !! อะไรมันจะขนาดนั้น
นี่ถ้าเมียพี่แกโดนยุงกัด คงจะเหมาบริษัทกำจัดยุงมาที่บ้านอ่ะ 
ที่น่าลุ้นก็คืน พี่แกต้องหึงแม้กระทั้งลูกแน่ๆ รอดูจ้า อิอิ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-08-2016 21:24:36
ชอบอ่ะมาอวดบ่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 19-08-2016 21:49:05
อื้อหืออออ ขี้อวดมากทั้งสองคนนั่นแหละ

หมั่น!!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 19-08-2016 21:57:52
หมั่นไส้ข้าวมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 19-08-2016 22:39:13
หมั่นไส้ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 20-08-2016 14:42:50
เวอร์วังกว่าอีตาแม๊กไม่มีแล้วค่ะ มอบตำแหน่งผัวรวยผัวดีเด่นให้ไปเลย ขึ้เวอร์มาก
รอดูนางหึงลูกตัวเอง ถ้าลูกนางนิสัยเหมือนนางนี่ได้มีตีกันไปข้างระหว่างพ่อลูกแน่ มันส์พะยะค่ะ55555555555
หมั่นข้าว อวดอวยผัวเบอร์แรงสุด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-08-2016 14:47:48
อิจฉามากกกกกกกก
อยากได้แบบนี้สักคน

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-08-2016 15:25:31
พึ่งเข้ามาอ่าน เราคิดว่าชื่อเรื่องไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่ ตอนได้อ่านตอนแรกนี่นึงว่าเนื้อเรื่องจะเศร้า นี่ร้องไห้ไปแล้วด้วยนะ555555555555 พออ่านมาเรื่อยๆนี่ขำจริง ยิ่งตอนโดนมีดบาดนี่ขำเลย555555 รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-08-2016 16:53:54
 :z1:     สงสารน้องข้าวจังเลยค่ะ เจ้าหญิงเจ้าขา
มีผัวโรคจิตแถมใหญ่มาก. ทนๆไปนะคะเบื่อนักก็ขัดเพชรไปค่ะ
ลูกจ๋า หัวจะโนไหมนั่น สั่นสะเทือนบ๊อยบ่อย
อิอิ เอาใจช่วยคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 21-08-2016 21:35:34
เปิดตัวมาใสใสดราม่าบีบน้ำตาคืออะไรรร
มีความอวดผัวรวยมากจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 22-08-2016 08:14:15
เจ้าหญิงบนหอคอยงาช้างชัดๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 22-08-2016 12:48:13
ชอบงานอวดผัวของนางจริงๆ ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 22-08-2016 18:51:58
อิจ อวดผัวแรงมาก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 22-08-2016 22:23:47
อื้อหือ
อะไรมันจะหึงหวงจนน่าหมั่นไส้ขนาดนี้
โอ้ยยยย ข้าว ฉันอิจฉาเธอ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 24-08-2016 23:52:24
ชอบชื่อเรื่อง 5555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: autopilot ที่ 25-08-2016 09:24:11
ขำมากกกกกกก รออวดผัวครั้งต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 25-08-2016 17:37:04
หมั้นไส้มาก ขอหยาบคะ ดอกกกกกกกกกกกกกกก มาก นังข้าว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 25-08-2016 17:50:45
นุ้งข้าวผิดอัลไล นุ้งข้าวไม่เข้าใจ 55555
ข้าว ไสย ไสย ค่ะ เเค่สวยค่ะ ปั๋วรัก ปั๋วหลงค่ะ เเค่ปั๋ว หล่อ รวย ฟววววย ใหญ่ค่ะ 55555 อยากอ่านนุ้งข้าว คนอวดผัว ให้จบ สามารถกดติดตามเพจนักเขียนได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 26-08-2016 20:45:54
รักผัวครั้งที่ 4

ผมไม่รู้ว่าเมื่อสองปีที่แล้ว ผมยอมให้ภรรยาออกไปทำงานคนเดียวได้อย่างไร บริษัทเล็กๆ ของข้าวตั้งอยู่ในหลืบในฮาร์เลม* ไม่ไกลจากย่านที่เราอยู่นักก็จริง แต่อันตรายกว่ามาก ผมจึงต้องขับรถไปรับไปส่งทุกวัน ตอนเที่ยงก็ให้ข้าวแพ็กอาหารกลางวันไปกินในออฟฟิศ ไม่อนุญาตให้ออกมานอกอาคารโดยเด็ดขาด

เมื่อข้าวหยุดทำงาน ผมโล่งใจเป็นอย่างมาก ตลอดสองปีนั้น ผมใจตุ๊กๆ ต่อมๆ ตลอด กลัวว่าข้าวจะเป็นอะไรไป กลัวว่าจะถูกทำร้าย กลัวว่าจะนอกใจผมไปหาคนอื่น กลัวว่าเจ้าหญิงจะหวาดกลัวกับสภาพแวดล้อม กลัวสารพัด แค่คิดว่าข้าวต้องเผชิญกับคนจำนวนมาก (แม้ข้าวจะทำงานเอกสารก็เถอะ) ต้องหายใจร่วมกับคนอื่นที่ผมไม่รู้จัก ผมก็ทรมานแล้ว

แต่ไม่คิดว่า ขนาดขังข้าวไว้ในบ้าน ผมก็ยังไม่หายกังวล ย่านที่เราอยู่นั้นปลอดภัยก็จริง ทั้งตึกก็มีเวรยาม การรักษาความปลอดภัยแน่นหนา แต่ผมก็ยังไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้น

ดังนั้น กลอเรียจึงไม่ได้ถูกจ้างมาเพื่อทำความสะอาดและซักรีดผ้า หล่อนถูกสั่งให้เป็นเพื่อนคุยของข้าวและคอยดูแลไม่ให้ข้าวพบเจอคนข้างนอก หากข้าวจะออกไปไหน ต้องมีกลอเรียที่มาขออนุญาตจากผมก่อนไปเป็นเพื่อน

กระนั้นเลย... ผมก็ไม่สามารถล่ามโซ่ให้ข้าวเป็นของผมเพียงคนเดียวอย่างที่คิดได้

ข้าวเป็นคนสวย เป็นคนมีสเน่ห์ ถึงจะเป็นคนเงียบๆ แต่ก็มีฟีโรโมนคลุ้ง

ยิ่งช่วงนี้ข้าวคงเบื่อที่อยู่คนเดียวในตอนกลางวัน เขาโทรกลับบ้านบ่อยขึ้น อ่านเวบบอร์ดที่ผมอ่านไม่ออกสักตัวแทบทุกวัน ใช้เวลาไปกับละครไทยในยูทูปที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ดูเหมือนเขาจะคิดถึงบ้านมาก ยิ่งพูดถึงเพื่อนๆ และครอบครัวที่ไทยบ่อยๆ จนผมกลัวว่าสักวัน ผมจะกลับบ้านมาพบกับห้องที่ว่างเปล่า เจ้าหญิงของผมหนีกลับประเทศไป

ดังนั้นผมจึงพยายามฝืนตัวเองพาเขาออกนอกบ้านมากขึ้น แต่ยังรักษาระยะห่างกับคนอื่นๆ ไว้ให้มากที่สุด

ไม่นึกเลย...

ความเหงาของข้าวก็ทำให้เขานอกใจจริงๆ...



"สำหรับค่าฮอร์โมนตอนนี้เป็นปกตินะครับ หมอจะสั่งยาบำรุงเหมือนเดิม สัปดาห์นี้จะเข้าสัปดาห์ที่ 5 แล้ว ถ้าหากคุณแม่มีไข้หรือไม่สบายให้มาพบหมอ..."

ผมจ้องหน้าหมอหน้าสวยเขม็ง ระหว่างยืนซ้อนหลังเจ้าหญิง

ข้าวยิ้มหวานสดใสรับคำหมอ ทั้งคู่พูดเล่นกันสั้นๆ แล้วก็ต้องหยุด เพราะผมบีบไหล่บางแน่น

"ข้าว" ผมเตือน

ไม่ชอบเลย... ตอนแรกที่เลือกด็อกเตอร์กาเบรียลเพราะเขาเป็นหมอที่โด่งดังเรื่องครรภ์บุรุษที่สุด แล้วตอนนี้ยังท้องกับสามีด้วย ดังนั้นจึงไม่มีทางมายุ่มย่ามกับกับภรรยาผมแน่นอน

แต่พอเจอหมอครั้งแรก ข้าวอ้าปากค้าง กรามแทบหล่นลงไปกับพื้น เพราะหมอหน้าตาสวยมาก ผมสีทอง ตาสีฟ้าเหมือนเทวดา มีรอยยิ้มอบอุ่นนุ่มนวล ถ้าหมอไม่เสียงหวาน ตาหวานขนาดนี้ ผมคงไม่หึงข้าว

แต่การดูแลครรภ์ยังต้องดำเนินต่อไป ผมจำเป็นต้องยอมรับว่า ปัจจุบันนี้ ด๊อกเตอร์กาเรียลคือตัวเลือกที่ดีที่สุด แพงที่สุดของวงการ แม้จะไม่ชอบหน้าหมอ แต่ผมก็ต้องทน ยิ่งต้องพบหมอทุกสัปดาห์เพื่อดูค่าฮอร์โมน ยิ่งทำให้ผมไม่วางใจ หมอยิ่งสวย ยิ่งใจดี ข้าวยิ่งชอบ แต่ผมยิ่งเกลียด

"คุณพ่ออย่ารุนแรงกับคุณแม่เกินไปนะครับ" หมอพูดสุภาพแต่เลื่อนสายตามาที่มือที่บีบไหล่ข้าวเป็นเชิงเตือน

ผมคำรามเสียงต่ำ "หมอควรสนใจเรื่องตัวเองไหมครับ ?"

หมอแสยะยิ้ม "ถ้าคนไข้ถูกทารุณหรือมีปัญหาเรื่องถูกใช้ความรุนแรง หมอก็มีสิทธิแจ้งความนะครับ"

ผมปล่อยมือออกจากไหล่บาง ข้าวกัดริมฝีปาก ตาแดงๆ คงเจ็บไม่น้อยแต่ไม่ยอมปริปาก

ผมเกลียดตัวเอง

เกลียดตัวเองที่ไม่มีทางเลือกให้ภรรยา ทั้งๆ ที่ผมรักเขายิ่งกว่าใครบนโลก

"ไม่มีอะไรหรอกครับ" ข้าวหัวเราะแผ่วๆ แล้วขอตัวหมอออกมา

"ถ้าอย่างนั้น..." หมอเคลื่อนตัวอุ้ยอ้ายเพราะท้องแก่ใกล้คลอด "หมอจะเขียนใบสั่งยาบำรุงนะครับ มีฮอร์โมน โฟลิค แคลเซียม...." หมอตบท้ายด้วยการบอกให้พวกเราไปรอจ่ายเงินที่ด้านนอก






ผมออกไปจ่ายเงิน ทิ้งภรรยาท้องไว้ที่ล็อบบี้ ในแผนกมีคนท้องทั้งชายและหญิงนั่งรออยู่ เมื่อกลับมาอีกครั้ง โทสะที่เกิดจากความหึงหวงก็พวยพุ่ง

ภรรยาผมมีชู้!

ข้าวกำลังนั่งคุยอย่างออกรสเป็นภาษาไทยกับผู้ชายเอเชียสวมแว่นคนหนึ่ง

ผมเดินรี่เข้าไปหา ข้าวหันกลับมายิ้มหวาน แนะนำตัวผู้ชายสวมแว่นที่น่าจะตั้งครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว

"นี่ แม๊กซ์ นี่พิช คนไทยที่อยู่ที่นี่ล่ะ เค้ามีร้านนวด... พิช นี่แม๊กซ์ สามีผมเอง"

ชายแปลหน้ายื่นมือออกมาจับอย่างเป็นมิตร "สวัสดีครับ ผมพิช"

ผมจับมือชายคนนั้นแกนๆ แต่ข้าวที่ยังไม่รู้ถึงความโกรธของผม ยังดีที่บทสนทนาต่อมาเป็นภาษาอังกฤษให้ผมเข้าใจด้วย "ดีจังที่เจอคนไทยที่นี่ ผมแทบไม่ได้ออกจากแมนฮัตตันเลย"

เจ้าหญิง... ทำไมทำท่าทางสนิทสนมกับมันขนาดนั้น... ทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จัก ทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ช่างคุย

เพราะคิดถึงบ้านมากเกินไป เพราะคิดถึงไทยมากไป... เลยทำให้เจ้าหญิงเลือกที่จะมีชู้ ?

ผมคิดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ มองดูคนตัวเล็กกลับไปจ้อเป็นภาษาไทยที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง มีเข้าใจเป็นคำๆ เช่น 'ข้าว' 'กิน' 'บ้าน'

ผมรู้จักคำพวกนี้ ข้าวแปลว่า Rice เป็นอาหารหลักของคนไทย ผมเห็นข้าวหอมมะลิแล้วนึกถึงข้าว เม็ดเล็กๆ กลิ่นหอม ขาวสะอาด มีรสหวาน คนไทยกินข้าวเพื่อดำรงชีวิต เช่นเดียวกับผมที่จำเป็นต้องมีข้าวในชีวิต

ข้าวคงเพิ่งรู้ตัวว่าเสียมารยาทที่คุยกับชู้เป็นภาษาไทยต่อหน้าผม เขาปรับมาเป็นภาษาอังกฤษ

"พิชอยู่ที่ควีนส์เหรอ ?"

"ใช่ครับ ข้าวอยู่ตรงของแมนฮัตตัน ?"

"ผมอยู่ติดเซนทรัล ปาร์คน่ะครับ "

"แถว Upper East เหรอครับ ?"

ข้าวพยักหน้า "ครับ ติด 5th avenue"

"ว้าว ว้าว! ย่านคนรวยแท้ๆ มิน่าล่ะ ถึงมาตรวจที่นี่ได้" พิชหัวเราะไปด้วย ลูบหน้าท้องป่องๆ ไปด้วย "จริงด้วยสิ คุณเอานามบัตรผมไปนะครับ เผื่อไปย่านควีนส์ แถวนั้นคนไทยเยอะ"

"ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่เคยไปเสียที" ข้าวรับนามบัตรมาแล้วกล่าวขอบคุณ

ผมนั่งบื้อใบ้ คลาดสายตาเจ้าหญิงแค่ห้านาที ภรรยาผมก็นอกใจแล้ว! โทสะแล่นริ้วๆ จนรู้สึกร้อน ผมลุกพรวด

"ข้าว กลับ!" พูดเสียงห้วน ดึงแขนผอมๆ ให้ลุกขึ้น ข้าวทำตามอย่างอิดออด หันกลับไปลาชู้คนไทย

"ใจร้อนจังเลย... พิช ผมไปก่อนนะ แล้วจะแวะไปหาที่ร้านนะครับ"

พิชยิ้มกว้าง โบกมือให้ "ครับ ไว้แวะมานะครับ ยินดีต้อนรับตลอด"

ผมรีบลากข้าวแล้วยัดร่างเล็กๆ เข้าไปในรถ

ข้าวบ่นงึมงำขณะคาดเข็มขัด ผมรู้ว่าเขาก็หงุดหงิดไม่แพ้กันกับอาการหึงไปทั่วของผม

"จะอะไรนักหนานะ ฉันควรมีเพื่อนบ้างสิ"

"คุณรู้จักเขาแค่ห้านาที" ผมสวนกลับ ห้านาที... แค่ห้านาทีเท่านั้น! ภรรยาคนสวยของผมก็มีผู้ชายใหม่อย่างง่ายดาย!

"ก็พวกเราเป็นคนไทย เมื่อก่อนฉันก็ทำงานเจอคนเยอะแยะ แต่ไม่ค่อยเจอคนไทย แถมฉันยังถูกคอกับพิชด้วย เขาแต่งงานกับคนที่นี่เหมือนกัน"

ข้าวหน้าหงิก เอามือกอดอก ท่าทางคงงอนผม ความน่ารักและคำอธิบายทำให้โทสะค่อยๆ คลายลง สถานะชู้ของพิชเลื่อนลงมากลายเป็นคนแปลกหน้า ผมรีบเอาใจเจ้าหญิง "วันนี้ผมไม่เข้าบริษัท เราไปชอปปิ้งกันเถอะ"

ข้าวชอบคนเยอะๆ ชอบไปเดินเล่นในเซนทรัล ปาร์ค แต่เขากลับไม่ชอบเดินแถว 5th avenue ละแวกบ้านเรา เขาบอกว่าเหมือนเดินอยู่ในซีรีส์ มีแต่ร้านหรูหราแบบนั้น เขารับไม่ไหว ส่วนผมก็โอเคกับการไปเซนทรัล ปาร์คของเขา หากเขาจะไปแล้วมีกลอเรียหรือผมไปด้วย แต่ไม่ว่าจะที่ไหนบนโลก ผมก็ไม่อนุญาตให้เจ้าหญิงไปคนเดียวโดยเด็ดขาด! แค่ผมห่างเขาแค่ห้านาทีเท่านั้น เขาก็สามารถไปหัวเราะคิกคักกับคนใหม่ได้แล้ว! (สถานะเลื่อนขึ้นอีกครั้งตามแรงหึง)

เจ้าหญิงยังคงเงียบกริบ กอดอกแน่น หันออกไปมองกระจก ถ้ารถไม่กำลังแล่น ผมคงคิดว่าเขากำลังมองชายอื่นนอกหน้าต่างแน่ๆ "ข้าว โกรธผมเหรอ ? ไม่เอาน่า เจ้าหญิง อย่าโกรธผมสิ"

"..."

"ไปชอปปิ้งนะครับ เอารองเท้าใหม่ไหม ? หรือจะโค้ต นี่ใกล้ฤดูหนาวแล้ว คุณน่าจะซื้อโค้ตใหม่"

ใบหน้าเล็กที่ประกอบด้วยตากลมโต จมูกโด่งเล็กๆ และริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มหันกลับมามองผม "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนะ! จะได้ง้อด้วยการพาไปชอปปิ้ง!"

"ครับๆ ไม่ชอปก็ไม่ชอป" เจ้าหญิงไม่ชอบของหรูหรา ตอนที่ไปเยี่ยมบ้านเก่าผมในบรูคลิน ภรรยาผมวิ่งเข้าหาร้าน Trift shop อย่างมีความสุข

ผมรีบวิ่งไปดึงเขาแทบไม่ทัน หลังจากนั้นผมก็แทบไม่ให้เจ้าหญิงออกจากแมนฮัตตันอีก

ไม่ใช่ว่ารังเกียจอดีตตัวเอง ครอบครัวผมค่อนข้างมีฐานะ พวกเราอาศัยอยู่ในบรูคลินตั้งแต่ผมเกิด สมัยวัยรุ่นผมเองก็เข้าร้าน Trift shop บ่อยๆ แต่พอโตมา เนื่องด้วยอาชีพการงาน ทำให้ผมเลือกใช้ของมีระดับขึ้นมา แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ของมือสอง

สำหรับคนที่ผมรัก ผมย่อมอยากให้เขาใช้ของดีที่สุด รองเท้าผ้าใบที่ข้าวใส่อยู่คือ Yeezy สีเทาที่โด่งดัง แต่เป็นสำหรับผู้หญิง เพราะไซส์ข้าวมีแต่ของผู้หญิงไม่ก็เด็ก

แน่นอนว่าคนที่ไม่สนใจเรื่องราคาไม่รู้ว่าทั้งตัวมีราคาเท่าไหร่ เจ้าหญิงรู้แค่ผมเป็นคนซื้อเสื้อผ้าให้เขา บางวันก็มีของออนไลน์มาส่งถึงหน้าบ้าน (กลอเรียเป็นคนเซ็นต์รับ)

เพราะข้าวเป็นแบบนี้ ผมถึงรัก

รถค่อยๆ แล่นไปตามการจราจรอันวุ่นวาย ข้าวเริ่มเบื่อความเงียบ และคงจะหายงอนผมแล้วจึงชวนคุย "ไหนๆ วันนี้ก็ว่าง เราไปควีนส์กันไหม พิชบอกว่ามีร้านอาหารไทยเยอะมาก"

มือที่จับพวงมาลัยแข็งเกร็ง ผมไม่ชอบได้ยินชื่อชายอื่นออกจากปากเขา สถานะพิชเลื่อนขึ้นเป็นชู้แปลกหน้าอีกครั้ง "พิช... อีกแล้วเหรอ"

"อืม เค้าบอกว่ามีวัดไทยด้วยนะ ฉันมาอยู่ตั้งสองปีแต่ทำไมไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย จะว่าไปครั้งสุดท้ายที่ออกจากแมนฮัตตันน่ะเมื่อไหร่กัน"

"ต้นปีไง ผมพาคุณกลับไทย" ผมตอบเสียงเข้ม "เรานั่งแท๊กซี่ผ่านควีนส์แล้วไง"

"สงกรานต์น่ะเหรอ" ข้าวเบะปาก พ่นลมหายใจออกมาคล้ายเหนื่อยหน่าย "น่าเบื่อ"

กระดูกผมลั่นกร๊อบ ทั้งหึง ทั้งโกรธตีกันมั่วไปหมด "แต่งกับผมแล้วน่าเบื่อ ?"

"ฉันอยากไปกินข้าวไทยที่ควีนส์จัง" ข้าวไม่ทันได้ยิน เมื่อเห็นผมเงียบไปถึงหันกลับมามองหน้า เขาค่อยรู้ว่าผมโกรธ เสียงหวานพูดหงุงหงิง "โกรธอะไร ?"

"ผมไม่ชอบให้คุณพูดถึงคนอื่น" ไร้สาระ... ผมรู้ตัวดี แต่ผมหวงข้าวมาก มือที่จับพวงมาลัยก็แน่นจนแทบแหลกคามือ ไม่คิดเลยว่าคำสารภาพของผมจะทำให้เจ้าหญิงหัวเราะลั่น ใบหน้ามุ่ยๆ ถึงสดใสขึ้นบ้าง

"ฉันพูดถึงย่านคนไทยหรอก เธอจะหึงคนไทยทุกคนได้ยังไง เอาเถอะ วันนี้ไม่ไปก็ได้ พาฉันไปเซนทรัล ปาร์คหน่อย"

ผมดีใจที่ข้าวกลับมาอารมณ์ดี ความน่ารักของเขาทำให้ผมอยากหยุดรถแล้วจูบเขาเสียตรงนี้

ข้าวเริ่มฮัมเพลงเบาๆ ผมขยับรอยยิ้ม

ข้าวร้องเพลงกล่อมเด็ก...

เจ้าหญิงไม่รู้ตัว... เมื่ออุ้มท้องลูกของเราได้เกือบสองเดือน ข้าวเริ่มสนใจเรื่องการบำรุงครรภ์และทารกมากขึ้น บางครั้งผมเห็นเขาเปิดเพลงบรรเลงเปียโนสำหรับเด็ก และบางครั้งก็ฟังเพลงกล่อมเด็กคนเดียว

ข้าวใส่ใจลูกของเรา...

"ถ้าอย่างนั้น เราไปซื้อยาของคุณก่อน แล้วไปดูของใช้เด็กอ่อนไหม ?"

ข้าวยิ้ม "ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ ?" เขาก้มลงมองใต้โค้ต "นี่ยังดูไม่ออกเลยนะว่าท้อง เหมือนลงพุงมากกว่า"

"ไม่หรอก เรายังไม่มีเปลหรือข้าวของของลูกเลยนี่ ?" แต่มีห้องเด็กอ่อนแล้ว ผมสร้างไว้ตั้งแต่เมื่อข้าวยอมอุ้มท้อง ข้าวเป็นคนเลือกวอลเปเปอร์เอง และมีห้องนั้นห้องเดียวที่เรารู้กันเงียบๆ ว่าจะไม่มีทางไปมีอะไรกันในนั้นเด็ดขาด

"ไปดูเฉยๆ นะ อย่าเพิ่งซื้ออะไร"

"ครับ"





แต่ผมสั่งเปลไปแล้ว... ทันทีที่เห็นของใช้จิ๋วๆ ในร้าน ข้าวก็ตาเป็นประกาย ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเป็นสีพาสเทล สดใสน่ารัก เจ้าหญิงลูบตุ๊กตาสิงโตอย่างมีความสุข

"เล็กจังเนอะ" คนตัวเล็กพูดตรงกับที่ผมคิด ชะโงกหน้าดูรถเข็นเด็กหลายขนาด "เรายังไม่รู้เลยว่าลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง อย่าเพิ่งซื้อเลยนะ"

ผมคว้ามือเล็กที่กำลังจะพลิกป้ายราคาอย่างนุ่มนวล "ก็ได้ครับ แล้วพวกขวดนมล่ะ ?"

"ยังไม่คลอดเลย เอาไว้ที่บ้านก็เป็นฝุ่นเปล่าๆ" ข้าวห้าม "เธอสั่งเปลเหรอ ?"

ผมพยักหน้า มีแค็ตตาล็อกเปลหลากสีสันในมือ

"โยกได้และล็อกได้ด้วยค่ะ" พนักงานขายพูดฉะฉาน "มีระบบโยกเบาๆ สำหรับคุณแม่ด้วย ไม่ทราบว่าน้องกี่เดือนแล้วคะ ?"

พวกเรามองหน้ากัน แล้วยิ้มให้กันบางๆ เป็นสัญญาณเงียบๆ ที่บ่งบอกว่าพวกเรารู้ใจกันขนาดไหน แต่พนักงานขายกลับเข้าใจอีกอย่าง

"หรือจะซื้อรับขวัญคะ ?"

"เปล่าครับ ภรรยาผมท้อง" ผมโอบเอวเล็กอย่างภาคภูมิใจ "แต่เพิ่งได้สองเดือน เราเลยมาดูไว้ก่อน"

"อ๋อ" หล่อนปรับสีหน้ารวดเร็ว "ยินดีด้วยนะคะ ร้านเรามีคู่รักเกย์มาซื้อบ่อยๆ ค่ะ"

เราสองคนรับคำ ผมยื่นบัตรเครดิตให้หล่อนเพื่อจ่ายค่าเปล เมื่อรับใบเสร็จและใบนัดสำหรับมาส่งในวันพรุ่งนี้แล้ว เราก็ออกจากร้าน เดินไปยังเซนทรัล ปาร์ค

วันหยุดของเราเรียบง่าย ผมรักบรรยากาศแบบนี้ กุมมือเล็กไว้เคียงข้างกัน ทำให้ผมอุ่นใจว่า ท่ามกลางผู้คนมากมายที่บังอาจหายใจร่วมกับเจ้าหญิงนั้น ไม่ว่าอย่างไร ข้าวก็เป็นของผมเพียงคนเดียว

เมื่อตกเย็นเราไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารที่ข้าวชอบ กลับมาก็มีเซ็กส์

ข้าวร้อนแรงเสมอ ผมเห็นหน้าท้องเล็กๆ ที่ยื่นออกมาแล้วอดใจไม่ไหว ผมอุ้มข้าววางบนเตียงอย่างอ่อนโยน จูบหน้าผากเขาแล้วสำรวจลูกในท้อง

ท้องของคนตัวบางยังเล็ก ป่องออกมาน้อยๆ เหมือนลงพุงมากกว่า ผมพรมจูบบนผิวนวลกลมๆ "น่ารักจัง"

ข้าวหัวเราะ ช่วยผมดึงเสื้อยืดออกจากตัว "คิดถึงตัวเองตอนหน้าท้องแบนๆ ขึ้นมาเลย"

"คุณน่ารัก แบบไหนก็น่ารัก" ผมรูดกางเกงในตัวเล็กลง เจ้าหญิงตัวน้อยเปลือยกายล่อนจ้อน ข้าวเอื้อมมือมาโอบรอบศีรษะผมไว้ กระซิบเสียงหวาน

"จริงเหรอ งั้นแด๊ดดี้ คืนนี้รักมามี๊เยอะๆ เลยนะ"

ช่วงยั่วยวนนัก ยิ่งคิดว่าเขาเป็นของผม อุ้มท้องให้ผม อยู่ในอ้อมแขนผมแล้วยิ่งคลั่ง ผมจูบเขาอย่างเร่าร้อน ปรนเปรอเขาด้วยมือและลามไปถึงบั้นท้ายกลม

บีบขยำก้นเล็กๆ ปากดูดครอบยอดอกนุ่มเหมือนเยลลี ข้าวส่งเสียงครางหวาน มือจิกหลังคอ สะโพกบางส่ายเบาๆ ผมดูดยอดอกทั้งสอง บีบคลึงจนตั้งเต้า ความร้อนผ่าวจากร่างกายไปรวมกันที่หว่างขา ผมอยากสอดใส่เข้าไปใจจะขาด แต่ข้าวที่ถูกเล้าโลมก็ช่างเซ็กซี่

คนตัวเล็กหายใจหอบ ขยับบั้นท้าย กางขา คุกเข่าคร่อมตักผม ถูไถหน้าอกแบนราบให้คลึงกับริมฝีปาก ผมคว้าบั้นท้ายไว้ ปากดูดเลียเยลลีเม็ดน้อยอย่างแรง สองมือแหวกเนินนุ่มๆ ออกจนเจอจุดกึ่งกลาง นิ้วแห้งสอดเข้าไป... ฝืดคับมาก เจ้าหญิงครางฮืออยู่เหนือศีรษะ มือน้อยตอบกลับด้วยการเอื้อมลงมาสุดแขนเพื่อจับแก่นกายผม มือนุ่มจับสะเปะสะปะก่อนลูบไล้ท่อนลำอย่างรักใคร่

"อืม อืม..."

นิ้วที่สองฝืนยัดเข้าไปในรูเล็กๆ แค่นิ้วยังคับแน่น เนื้อนุ่มแทบฉีกขาด เสียงหวานกระเส่า "เจ็บ... อึก..."

"เจลนะครับ ?"

"อืม..." ข้าวยอมแพ้ ผมไม่อยากให้เขาได้เลือด แม้ที่ผ่านมาพวกเราไม่ชอบใช้เจล เพราะข้าวบอกว่ามันรู้สึกเหนอะหนะ ผมก็ไม่อยากให้มีอะไรแปลกปลอมเข้าไปในก้นข้าวนอกจากของของผม แต่ตอนนี้ท้องข้าวเริ่มใหญ่ขึ้น ถ้ายังฝืนอยู่อาจกระเทือนถึงลูกได้

ผมบีบเจลจากหลอดใส่มือ นวดคลึงปากทางอย่างอ่อนโยน เอวบางกระตุกเบาๆ ข้าวยังคงคุกเข่าบนตักผม ซบหน้ากับศีรษะ สูดลมหายใจแรงเมื่อนิ้วสอดเข้าไป

"ฮึก... เข้ามา... เข้ามาอีก..."

ผมควานเข้าไป นิ้วหนึ่งจากมือซ้าย และอีกนิ้วจากมือขวา นิ้วทั้งสองช่วยกันเปิดถ่างรูเล็กๆ ให้พร้อมต้อนรับของใหญ่กว่า ข้าวถูไถร่างกายเขากับร่างกายผม เราแนบสนิทกันจนแทบเป็นเนื้อเดียว ผิวนุ่มเปียกชื้นด้วยเหงื่อ ผมจูบต้นคอเขา ขยับนิ้วเบาๆ เป็นจังหวะสลับกับดึงใบหน้าน้อยลงมาจูบ

เซ็กส์วันนี้ร้อนแรงและเนิบช้า ผมตั้งใจจะอ่อนโยนกับเขา

ท่อนลำเล็กๆ ของข้าวติดกับหน้าท้องผม เขาถูมันกับกล้ามท้องไปตามจังหวะขยับนิ้ว เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ข้าวครางหวานเมื่อผมเพิ่มจังหวะ นิ้วชี้เพิ่มเข้าไปอีกนิ้วกลายเป็นสาม ผมงอนิ้ว ขูดเนื้อเยื่อตรงจุดที่เจ้าหญิงชอบภายใน ในขณะที่ข้าวทั้งจูบปากทั้งลูบไล้ท่อนลำผมคืน

ร่างเล็กกระตุก ข้าวร้องทั้งๆ ที่ปากถูกปิดอยู่ สัมผัสร้อนๆ แฉะที่หน้าท้องบอกว่าข้าวเสร็จไปแล้วอย่างง่ายดาย ริมฝีปากอิ่มอ้ากว้าง พยายามโกยอากาศเข้าสู่ปอด ผมดันไหล่เขาลง หากแต่มือเล็กยันไว้

"ฉะ... ฉันขึ้นเอง" ข้าวกระซิบ มือจับท่อนลำใหญ่ให้ตรงปากทาง ผมเอานิ้วออกแล้วประคองเอวบางอย่างเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรนะครับ ?"

"ฮื้มม..."

ผมก้มลงมอง ข้าวโหย่งตัว หยัดกายขึ้น เพื่อค่อยๆ กดบั้นท้ายลงมา สัมผัสนุ่มนวลคับแน่นที่กระตุกตอดเริ่มตั้งแต่ปลายหัว ใบหน้าหวานแหงนเงยขึ้นสูดปากด้วยความเสียวระคนเจ็บ ผมต้องอดใจไม่กระแทกเขาให้ลึกที่สุด

เจ้าหญิงรู้ว่าผมมองอยู่ ส่วนปลายเข้าไปได้ครู่เดียว เขาก็สูดหายใจ ดันผมลงกับเตียง ส่วนภรรยาผมขยับขาให้กว้าง ให้ผมมองภาพรูเล็กๆ ค่อยๆ กลืนกินความใหญ่โตเข้าไปเชื่องช้า

"ชอบไหม ? ของเธอเข้ามาแล้วนะ" เสียงเบาๆ เจือเสียงครางเร้าอารมณ์ ท่อนลำสีชมพูของเขาแข็งตั้งไม่ต่างกัน เขาชอบแบบนี้...

"อื้มม... อึกก ใหญ่จัง... แข็ง..."

"ฮึก... ฮ้า..." เมื่อเข้าไปได้ต่อเนื่องเพียงครึ่งท่อน ข้าวก็หมดแรงคอพับคออ่อน มือยันหน้าท้องผมไว้ "จะ เจ็บ... ทำไมวันนี้มันใหญ่กว่าทุกวัน?"

น่ารักเกินทน... ผมทนไม่ไหว... ยิ่งเขาพูดคล้ายบ่นกับตัวเองยิ่งทำให้ผมเพิ่มแรงที่จับเอวบาง ดันร่างเล็กๆ ลงไปพรวดเดียวจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบท่อนขา ข้าวเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง น้ำลายย้อยมุมปาก กรีดร้องคับห้อง

"อ๊าา!!"

เข้าไปจนสุดแล้ว ข้าวยังหายใจหอบ ท่อนลำเล็กๆ ที่อ่อนไหวกระฉอกน้ำหวานออกมาอีกครั้ง ผมเริ่มขยับตัว ไม่รอให้เขาได้ปรับตัว ข้าวครางฮือ ล้มตัวลงนอนแนบอยู่บนอกผม เราทั้งสองแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว ผมรู้สึกได้ถึงผิวเนื้อนุ่มนวลแสนหวาน หัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวเร็ว

ข้าวส่ายสะโพกรับแรงกระแทกด้วย เขาเป็นภรรยาที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก ช่วงยั่วที่สุดในโลก หวานอร่อยที่สุดในโลก ผมทนไม่ไหว ดูเขาจะชอบท่านี้ แต่ผมเข้าไปได้ไม่ลึกนัก จึงพลิกตัว ให้ร่างเล็กมาอยู่ข้างล่างแทน

เพราะพลิกทั้งๆ ที่ยังเสียบคาอยู่ ข้าวร้องลั่น ผมดึงขาทั้งสองขึ้นพาดบ่า ดันท่อนลำให้เข้าไปจนสุด ร่างเล็กๆ ช่วยสานต่อ เขาโอบรอบคอผม ครางยั่วยวน ผมเสียสติ ความตั้งใจที่จะอ่อนโยนไม่ทารุณภรรยาท้องตัวเล็กหายวับ ผมกระทั้นเข้าไปสุดแรง เสียงของเหลวดังเยิ้มอยู่ข้างใน ข้าวสะบัดหน้า เรือนผมสีดำกระจายเต็มหมอน ริมฝีปากหอบฮัก

"ฮึก... อึก แม๊กซ์ อ๊า อ๊า... แม๊กซ์"

เจ้าหญิงของผมกระเทือนไปตามแรง ผมซอยถี่ยิบ ข้าวหายใจไม่ทัน ช่องทางแคบยิ่งล้อมรอบท่อนลำ กระตุกตอบ ผมยิ่งรู้ว่าเขาชอบ

ชอบถูกข่มขืน ชอบถูกย่ำยี

ความใหญ่โตร้อนแรงถูกความนุ่มโอบดูดกลืนอย่างกระหาย ราวกับว่าผมคืออาหารอันโอชะ ข้าวกรีดร้อง เล็บขูดเข้ามาที่ไหล่ เขาแอ่นอกหรา เหงื่อผุดพรายไปทั่วร่าง ส่งกลิ่นหอมหวาน

"อ๊าา ลึกกก ฮึกกก..."

ผมจูบปากนั่นเสีย ก่อนที่จะทำผมคลั่งมากไปกว่านี้ ไม่เช่นนั้น ผมคงทำให้เขาแท้งลูกแน่ๆ

ข้าวร้องทั้งๆ ที่ปากถูกปิด ร่างบอบบางกระตุกรั้ง เนื้อเยื่อบีบแน่น ยิ่งแคบลง ท่อนขาเรียวเกร็งคล้ายชัก เขาถึงฝั่งเป็นครั้งที่สาม

ผมดุนดันเข้าไปจนสุด จนร่างข้างใต้กระแทกกับฟูก เคลื่อนไปจนแทบชนหัวเตียง แรงตอดถี่ด้านล่างทำให้ผมร้อนผ่าว ตาพร่าพราย จุดสูงสุดพุ่งพรวด เสียวสะท้าน

ความร้อนฉีดเข้าไปในเอวบางรุนแรง สะโพกกลมสั่นสะท้าน ผมขย้ำมันเต็มแรงเต็มมือ

"ฮึก... ระ ร้อน... เยอะ... ไหลออกมาแล้ว..." ข้าวครางไม่ได้ศัพท์ คงหมายถึงน้ำรักที่เยิ้มล้นออกมาจากช่องทาง ผมเริ่มขยับอีกครั้ง ไม่นานน้ำสีขาวขุ่นที่ขังด้านในก็เริ่มตีเป็นฟอง

ผมจุมพิตปากอิ่ม ดวงตากลมเลื่อนลอย ช่องทางบีบผมแน่นเป็นครั้งที่สี่ แค่ผมถึง ปลายท่อนลำเล็กก็ปลดปล่อยออกมาด้วย

ช่างเป็นร่างกายที่ร่านอะไรแบบนี้

แต่ผมรักร่างกายที่ร่านเร่า รักดวงตาคู่นี้ รักแม้กระทั่งสองมืออันอ่อนแรงเริ่มดันแผ่นอกผม "อะ.. ออกไป..."

ผมไม่สนใจ รวบสองมือนั้นขึ้นเหนือศีรษะ เริ่มกระแทกอีกครั้ง คราวนี้จังหวะจ้วงแทงรุนแรงขึ้น สอดใส่ลึกกว่าเดิม บดเบียดจุดวาบหวามของเจ้าหญิง ขยี้มันจนร่างขาวบางสั่นกระตุก

ข้าวแหงนเงยใบหน้า สองขาชี้เพดาน ก้นกลมลอยไม่ติดฟูก ริมฝีปากร้องคราง "ฮึก... แม๊กซ์ แม๊กซ์..." ชื่อผมดังไม่ขาดปาก บ่งบอกว่าผมสำคัญกับเขามากแค่ไหน แล้วคำที่มีอานุภาพทำลายล้างได้ยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ก็หลุดออกจากปากอิ่มสวย

สามคำนั้นทำให้ผมคลั่งไคล้ ทำให้ผมหลงใหลเขา ทำให้ผมเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก

"แม๊กซ์...  ฉันรักเธอ... แม๊กซ์..."





ผมนอนตะแคง ดูจมูกเล็กๆ ที่หายใจเข้าออกเชื่องช้า

อกบางๆ ขยับขึ้นลง มีหัวใจดวงน้อยเต้นอยู่ข้างใน ผมก้มตัวลงจูบหัวใจนั้น

ข้าวนอนหันเข้าหาอกผม หัวหนุนต้นแขน หน้าซุกอกตัวเอง สองมือกำเป็นกำปั้นน้อยๆ คล้ายท่านอนทารก เหมือนที่ผมเห็นในคืนแรกที่เรานอนด้วยกัน

ข้าวนอนท่านี้ประจำ เจ้าหญิงดูเปราะบางกว่าที่เคย ผมลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมดำขลับ ปัดผมที่ระใบหน้าออกให้เขาหลับสบาย

เจ้าหญิง... ฝันถึงผมบ้างไหม ?

หรือฝันถึงคนแปลกหน้าที่ชื่อพิช ? (สถานะเลื่อนลงแล้ว เพราะผมเต็มอิ่มกับการร่วมรัก ข้าวครางแต่ชื่อผม ทำให้ผมแน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดนอกใจแม้แต่น้อย)

หรือเจ้าหญิงจะฝันถึงประเทศไทยที่อากาศร้อนระอุตลอดทั้งปีนั่น ?

หรือจะฝันถึงผมและลูกๆ ของพวกเรากัน ?

ผมฟุ้งซ่าน รีบจูบหน้าผากมน สุดหวงแหน


ปฏิกิริยาของด็อกเตอร์กาเบรียลและพิชทำให้ผมตระหนักว่าข้าวจำเป็นต้องออกจากบ้านบ้าง ต้องเจอผู้คน แค่กลอเรียที่แวะมาคุยแค่ช่วงเช้า (เพราะผมหวงข้าวจนไม่อยากให้เจ้าหญิงไปสนิทสนมกับหล่อนมากเกินไป) คงไม่พอ

จริงๆ ผมรู้มานานแล้วว่ามีย่านคนไทยที่ควีนส์ ไม่ใช่แค่เพราะหึงหวงข้าว แต่เพราะกลัวว่าจะยิ่งทำให้ข้าวอยากกลับไทยจนทิ้งผมไป

ถ้าผมจะผ่อนปรนข้าวอีกหน่อย... พาเขาไปเดินเล่นหลังเลิกงานหรือพาไปที่ออฟฟิศด้วยจะดีไหมนะ ?

ให้เขานั่งข้างๆ ผม... ไม่สิ ไม่ดี มันห่างไป ให้เลขาฯ เอาเก้าอี้มาวางให้เจ้าหญิงนั่งติดกับผมระหว่างที่ผมทำงานน่าจะดีกว่า

แต่นั่นยังไม่ทำให้ผมพอใจนัก

ในที่สุดจึงได้ข้อสรุป ผมจะพาข้าวไปออฟฟิศด้วย ให้นั่งเก้าอี้ติดกับผมก็ห่างไป ต่อให้ติดขนาดที่เข่าเราชนกันก็เถอะ ผมจะให้ข้าวนั่งบนตักผม... นั่นแหละดีที่สุด

ผมจะได้หอมแก้มนุ่มๆ ถนัด

จะได้กอดเอวเขาตลอดเวลาทำงาน

แค่คิดก็สุขใจ


หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 26-08-2016 20:46:50



ผมไม่คิดว่าการหอบหิ้วภรรยาไปทำงานด้วยจะเป็นเรื่องใหญ่โต ระหว่างที่บอกเรื่องนี้กับเจ้าหญิงในมื้อสายวันถัดมา ข้าวถึงกับทำขนมปังปิ้งหล่น

"อะไรนะ!?"

"เจ้าหญิง ไปทำงานกับผมนะ"

"พูดชัดๆ ซิ ไปทำงานกับหรือไปที่ทำงานกับ"

ผมก้มลงเก็บขนมปังที่ตก แล้วโยนใส่ถังขยะ "ไปที่ทำงานกับผมนะ" ผมคว้ามือเขามาคลึงเล่น "ผมทนคิดถึงคุณระหว่างทำงานไม่ได้"

ข้าวมองหน้าผม มองมือที่กุมแน่น "เราแต่งงานกันมาสองปีแล้วนะ"

"ผมกลัวข้าวจะเบื่อ" ผมจูบมือน้อย อีกมือหนึ่งของข้าววางตะหลิวลงแล้วตบบ่าผมเบาๆ ราวกับจะช่วยเรียกสติ

"แล้วเธอไม่เบื่อฉันรึไง อยู่ติดกันตลอด 24 ชั่วโมงน่ะ"

ผมส่ายหน้า "ไม่เบื่อครับ นะ เจ้าหญิง ไปกับผมนะ คุณบอกว่าคุณไม่อยากอยู่บ้านเฉยๆ นี่ หลังๆ มาก็ไม่ยอมขัดเพชรแล้ว"

"ไม่ ฉันไม่มีทางไปแน่" ข้าวยืนยัน ดึงมือออกไม่ให้ผมกุม ผมได้แต่มองตามอย่างเสียดาย "ประธานบริษัทกระเตงเมียไปทำงานด้วยมันตลกจะตาย แล้วฉันแก่ปูนนี้ ยิ่งเห็นหน้ากันบ่อยๆ เธอยิ่งเบื่อฉันง่ายๆ"

"ข้าว..." ผมร้อง ลุกขึ้นกอดเขาแน่น ไม่ยอมให้เขาหันหน้าไปหยิบน้ำมันใส่กระทะ ไม่เข้าใจ น้ำมันมะกอกดูดีกว่าหน้าผมตรงไหน "ไม่เอานะ ไปกับผมนะครับ"

"แม๊กซ์ อย่าดื้อ" ข้าวดุ แกะผมออกอย่างลำบาก เพราะผมตัวใหญ่กว่าเขาครึ่งหนึ่ง ข้าวเลยยิ่งเหมือนเด็กถูกผู้ใหญ่ข่มขืน "ออกไปก่อน ฉันจะทำกับข้าว"

"ข้าววววววววว"

"ไม่เอา! อย่าดื้อได้ไหม" เขาทำเหมือนผมเป็นเด็ก ดุไม่พอมีขู่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลก็ปลอบ "แม๊กซ์... เด็กดี วันนี้ฉันจะทำหมูชุบแป้งทอดแบบที่เธอชอบให้นะ เอามือออกก่อน"

ผมฟังแล้วโมโห เจ้าหญิงแก่กว่าผมแค่สี่ปี แต่บางทีก็ทำเหมือนผมเป็นลูกชายเขา! เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ ผมคว้าเอวบางมารัดแน่น กระชากกางเกงผ้ายืดลงไปกองที่เข่าจนเห็นเนื้อขาวๆ นุ่มๆ

"อ๊ะ!" ข้าวร้อง ไม่ทันแล้ว ผมดันตัวเขาให้ติดกับเคาเตอร์ งับใบหูเบาๆ มือล้วงไปที่หว่างขาขาว

"แม๊กซ์! ปล่อย!"

"อื้มม ขอกิน 'ข้าว' ก่อน" ผมจูบแก้มแดง อุณหภูมิข้าวเริ่มร้อนระอุ เขามีอารมณ์ง่าย ร่างกายอ่อนไหว ข้อนี้ผมรู้ดี

เรามีเซ็กส์กันอีกครั้งที่ครัว...

...ระหว่างที่สอดใส่ เจ้าหญิงที่ไม่มีสติถูกผมกระแทกจนตาลอย น้ำลายไหลเยิ้ม ตอบรับอย่างว่าง่าย

"ข้าวไปที่ทำงานกับผมนะ..."

"อืมม อืมมม" ร่างบอบบางถูกทำจนตัวสะเทือน ของบนเคาเตอร์หินอ่อนถูกกวาดลงพื้นหมด มีเพียงกายขาวๆ ที่ตอนนี้เป็นสีชมพูหวานที่ทอดตัวอยู่บนนั้น

ผมยิ้มอย่างพอใจ จ้วงแทงลงตำแหน่งอ่อนหวานด้านใน เนื้อเยื่อสีชมพูเข้มโอบรัดอย่างร้อนแรง ผมยังคงถูไถที่จุดรุนแรงเพื่อให้รางวัลเจ้าหญิง

"เด็กดี... เจ้าหญิง... เด็กดีของผม"

ผมร้ายกาจ ผมเจ้าเล่ห์ ผมรู้

แล้วคุณคิดว่าข้าวยอมตกลงแต่งงานกับผมได้ยังไงล่ะ ? ถ้าไม่ใช่ตอนที่เขาไม่มีสติเหมือนตอนนี้น่ะ

เพราะหลวมตัวรับปากผมไปแล้ว เช้าวันจันทร์เจ้าหญิงจึงเดินขาถ่างลุกจากเตียง เพื่อแสดงออกให้เห็นว่าโกรธผมอยู่ ข้าวจึงทำอาหารเช้าเพียงแค่ขนมปังปิ้งและแยม

หน้าสวยๆ งอง้ำตลอดเวลาที่ทาแยมให้ผม แต่ก็ยังชงกาแฟให้อยู่ดี

"โกรธอยู่เหรอเจ้าหญิง ?"

ข้าวลงไม้ลงมือกับกระทะและจานชามแทน เก็บกวาดซากจากเมื่อวานลงถังขยะ "รู้ตัวนี่"

"อย่าโกรธเลยครับ... มา ผูกไทด์ให้ผมหน่อย" ผมอารมณ์ดีตอบ ข้าววางจานใบสุดท้ายลงบนเครื่องล้างจานแล้วยื่นคางให้ น่ารักน่าเอ็นดู

"ฝันไปเถอะ! ไม่ต้องมาอ้อนเลย"

ผมหัวเราะ ไม่นำพาหน้าหงิกๆ มือจับเนคไทด์ที่พาดบนคอแล้วตวัดเส้นทั้งสองอย่างคล่องแคล่ว ปากก็เย้าภรรยาไป "เจ้าหญิงใจร้ายจัง"

"หึ!" ยังคงโกรธอยู่ ข้าวล้างมือแล้วคว้าขนมปังเข้าปาก ใช้ตาโตๆ มองผมเพื่อประกาศว่ากำลังไม่พอใจ

"นี่ผมต้องกินขนมปังปิ้งไปอีกกี่วันครับ ?"

ข้าวไม่ตอบ แต่ยอมลุกขึ้นไปหยิบสูทมาให้

ให้ตายเถอะ... ภรรยาผมทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย





ผมนั่งดูข้าวหน้างอบนตักมาทั้งวัน แต่เมื่อเลิกงาน ในที่สุดเจ้าหญิงก็ยอมเปิดปาก ดวงตาที่ตวัดมองผมโกรธๆ ในที่สุดก็อ่อนลง

"เมื่อยไหม... เล่นอะไรพิเรนทร์" ร่างเล็กลุกจากตัก ผมรู้สึกโหวงๆ ตาม

ทีนาเข้ามาเก็บเอกสารพอดี หล่อนกลอกตาใส่พวกเราส่งท้ายแล้วเดินออกไป ข้าวทิ้งตัวลงบนพรม ถอนหายใจ

"ทำไมฉันเหมือนโดนทำโทษเลยล่ะเนี่ย"

ผมจุ๊ปาก ดูเอกสารงบบนโต๊ะก่อนพับแฟ้มโยนไว้บนโต๊ะ ตัวเลขพวกนั้นไม่ได้น่ารักน่าปล้ำเหมือนเจ้าหญิงเลยสักนิด

"พรุ่งนี้ไม่มาแล้วนะ" คนตัวเล็กลุกขึ้นเอามือปัดก้น "เหมือนฉันเป็นตัวประหลาดเลย ทีนากลอกตาใส่ตั้งแปดครั้ง"

"คุณนับด้วยเหรอ ?"

"ฉันไม่มีอะไรทำน่ะสิ ดูเธอทำงานน่ะน่าเบื่อจะตาย"

ผมหัวเราะ "ผมเลิกงานแล้วครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมช่วยคุณขนเกมกับหนังสือมา"

แล้วสามวันถัดมา ห้องทำงานที่กว้างขวาง โล่งตาของผมก็กลายเป็นรังเล็กๆ ของข้าว เจ้าหญิงขนหนังสือมาอ่าน เอาพรมมาปูสำหรับนอนกลิ้ง ทีนาที่ไม่รู้ประชดหรือช่วยจริงๆ ก็ขนหมอนอิงฟูๆ นุ่มๆ มาให้ด้วย

ผมดูคนที่นอนกลิ้งเล่นไอแพดแสนสบาย ยิ้มกว้าง

"เดี๋ยวผมจะออกไปประชุมนะที่รัก" ผมหยิบเสื้อนอกจากราวแขวน ข้าวเงยหน้าขึ้นมองแล้วโบกมือไล่

"อืม"

ผมห้ามใจไม่อยู่ ตรงรี่เข้าไปหอมแก้มเจ้าหญิงแรงๆ จนแก้มนวลบวมตุ่ย น่ารักจนอยากถอดเสื้อผ้าให้หมดทุกชิ้นและลากมานั่งคร่อมตักจริงๆ

"ฮื้อ..." ข้าวเบือนหน้าหนี ผิวเนื้อขาวๆ แดงเป็นปื้นตามรอยหนวดเครา "บอกแล้วให้โกนหนวด..."

ผมรับคำ "ครับ.. ครับ ไปแล้วนะครับ"

"อืม" มือเล็กโบกไล่เป็นครั้งที่สอง ผมจูบหน้าผากเขา มือเลื้อยไปตามเอวบาง เลิกเสื้อเชิ้ตขึ้น ข้าวดิ้นหนี รีบหันมาดุ

"รีบไปประชุมเลย! อย่ามานัวเนียนะ!" เขาดันผมออกสุดแรง ผมฮึ่มๆ ไม่ยอมแพ้ บังคับเขาจนจูบปากสวยจนได้

เราคลอเคลียกันบนพรมจนมีเสียงเคาะประตู ทีนาส่งเสียงร้องเตือนหน่ายๆ "คุณแม๊กซิมัสคะ เหลือเวลาอีกยี่สิบนาทีค่ะ!"

ผมถอนหายใจ กลิ่นหอมหวานของผิวนุ่มๆ ยังติดจมูก ยอมตัดใจลุกขึ้น จูบเขาอีกครั้งส่งท้าย ยากจะตัดใจจากเจ้าหญิงจริงๆ ผมนึกหงุดหงิดบริษัทลูกที่คิดจะเสนอโปรเจคมาเอาวันนี้

"คุณแม๊กซิมัสคะ! ไปแค่สองชั่วโมงเองค่ะ!" ทีนารัวประตูแล้ว หล่อนเป็นเลขาที่เก่งกาจก็จริง แต่บางครั้งก็เหมือนถูกส่งมาคุมผมอีกที

"ไปแล้วครับ คุณทีนาเข้ามาเลย!" ข้าวตะโกนตอบ ทีนาเปิดประตูเข้ามา ที่แขนคล้องโค้ตของผม มือมีแฟ้มเอกสารพะรุงพะรัง เตรียมพร้อมให้ผมเสร็จสรรพ

"อดัมรออยู่ที่รถแล้วค่ะ!" หล่อนเร่ง อดัมเป็นเลขารองจากทีนา เขาเป็นเพื่อนสนิทผมสมัยอยู่มหาวิทยาลัยด้วย

พอข้าวได้ยินชื่ออดัมก็โผล่หน้ามาจากหนังสือนิยาย "เอ๊ะ อดัมเหรอ!?"

ผมปราม "ไม่มีเวลาทักทายแล้วข้าว"

ข้าวชอบอดัม เพราะอดัมใจดี จะว่าไปอดัมก็คล้ายหมอกาเบรียลเหมือนกัน ต่างกันตรงที่อดัมเป็นชายร่างเล็ก ลงพุง อารมณ์ดี ใจเย็น มีลูกสาวฝาแฝด

ข้าวหน้ามุ่ย "รู้แล้วล่ะน่า รีบไปเถอะ"

ผมอยากจูบลาอีกที แต่ทีนาขึงตาเขียวปั๊ดมาให้ จึงต้องรีบออกจากห้อง




หนึ่งสัปดาห์แสนหวานผ่านไป ผมทำงานในห้องเดียวกับข้าว กินมื้อเที่ยงพร้อมกับข้าว มื้อเที่ยงที่ไม่ต้องไปนั่งกินกับหุ้นส่วนหรือพาร์ทเนอร์ธุรกิจ หรือไม่ต้องนั่งกินคนเดียวในออฟฟิศ บ่ายมาพออยากพักสายตาก็หนุนตักเจ้าหญิงงีบ

ผมมีความสุข แต่ข้าวหน้างอลงทุกวันๆ

"คุณทีนาบอกว่าเธอทำงานช้าลง"

ผมคำราม ถึงจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ผมอยากอยู่กับข้าวมากกว่า เมื่อก่อนข้าวไม่ได้มาอยู่ออฟฟิศด้วยกัน ผมทำงานไวมาก เพราะต้องรีบกลับไปหาข้าว แทบไม่มีงานค้าง เพราะอยากกลับไปใช้เวลาที่บ้านกับข้าว

ข้าวลูบผมผมเล่น ผมขยับศีรษะบนตักนุ่มแล้วตอบ "ไม่ช้าหรอกครับ..."

"เอาจริงๆ"

"..."

"งั้นพรุ่งนี้ฉันไม่มาแล้วนะ" ข้าวยื่นคำขาด ผมดีดผึงลุกขึ้นนั่ง คว้าไหล่บางแน่น "ข้าว! คุณสัญญาแล้วนะ!"

ข้าวส่ายหน้า "ฉันสัญญาว่าจะมา แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะมากี่วันนี่"

ร้ายกาจ! เจ้าหญิงของผมทำไมเจ้าเล่ห์แบบนี้นะ! ผมคิดอย่างเจ็บแค้น กอดคนตัวเล็กแน่นจนเหมือนเขาหายไปในอก "เจ้าหญิงครับ... ไม่เอานะ"

"ฉันมาแล้วเธอไม่มีสมาธินี่ พรุ่งนี้ฉันจะอยู่บ้านเหมือนเดิม" เจ้าหญิงยืนยัน ผมอ้อนวอนหลายครั้ง ทั้งปลอบทั้งขู่ก็แล้ว ข้าวก็ยังยืนยันคำเดิม จนทีนาต้องเคาะประตู

"ฉันมาเอาเอกสารค่ะ เข้าไปได้ไหมคะ"

"ได้!" "ไม่!" ทั้งผมและข้าวตอบพร้อมกัน ข้าวผลักอกผมออก ผมเหมือนใจจะขาด เพราะทีนาเชื่อข้าวมากกว่าผมจึงเปิดเข้ามา ทำให้ผมจำเป็นต้องลุกขึ้นไปเคลียร์เอกสารให้หล่อนให้เรียบร้อย

ข้าวนะข้าว... ทำไมทำกับผมได้

ข้าวอารมณ์ดี ผมหน้ามุ่ย...

วันจันทร์ถัดมา มื้อเช้ากลับมาเพียบพร้อมเหมือนเดิม แต่ผมคิดถึงร่างขาวๆ ที่ออฟฟิศมากกว่า

"หน้างอเชียว" ข้าวหัวเราะคิก ใช้นิ้วดีดจมูกผม "ไปทำงานได้แล้ว อย่างอแง"

ผมไม่สนใจแล้วว่าข้าวจะทำเหมือนผมเป็นเด็กหรือไม่ ผมซบหน้าลงกับไหล่บาง "ไม่อยากห่างจากคุณเลย"

ข้าวลูบหลังปลอบ "โอ๋ๆ ไปทำงานได้แล้วที่รัก"

ในที่สุด ข้าวก็ทั้งผลักทั้งดันผมออกจากห้อง เหมือนคุณแม่ลากลูกไปโรงเรียนวันแรก ผมมองร่างเล็กที่ปิดประตูตาละห้อย เดินหงอยๆ ไปที่ลิฟต์...

...คิดถึงข้าวจัง





ไม่มีข้าวผมทำงานดีกว่าจริงๆ ประสิทธิภาพและความเร็วเพิ่มขึ้น เพราะเที่ยงนี้อยากไปรับเจ้าหญิงมากินข้าวด้วยกัน ผมจึงรีบเคลียร์งาน แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด โปรเจคใหม่ที่ร่วมมือกับแอนเดรียมีปัญหาเรื่องสุขอนามัยและแหล่งผลิต ผมจึงต้องเรียกทีมโปรเจคนี้มาประชุมด่วน

อย่าว่าแต่ได้กินข้าวกับเจ้าหญิงเลย ผมต้องนั่งกัดแซนด์วิชไก่งวงจืดชืดกับกาแฟรสชาติเหมือนน้ำล้างจาน พลางมองหน้าเหม็นสาบของลูกน้อง

คิดถึงหน้าหวานๆ ใจจะขาด

เฮ้อ...


กว่าจะได้ข้อสรุปก็ปาเข้าไปบ่ายสาม ผมให้กำลังใจคนในทีมเป็นครั้งสุดท้ายแล้วโทรบอกทีนาว่าจะกลับบ้านเลย งานที่ค้างอยู่ยกยอดเป็นพรุ่งนี้

ทีนาเห็นใจผม "ทราบแล้วค่ะ วันนี้ไม่มีอะไรด่วนแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะวางแฟ้มไว้ที่โต๊ะนะคะ"

ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก ผลของการมัวแต่นัวเนียเมีย งานที่ค้างอยู่ไม่ต่างจากภูเขาลูกย่อมๆ แล้ว

วางโทรศัพท์ลงแล้วรีบขับรถกลับบ้าน งานเอาไว้พรุ่งนี้ ตอนนี้ผมคิดถึงเจ้าหญิงใจจะขาด




ผมเปิดห้อง คิดว่าจะรีบเข้าไปกอดเอวบางให้ชื่นใจ ดูแต่หน้าเหี่ยวๆ มาทั้งวัน อยากเห็นหน้าสวยๆ บ้าง

ผมไม่เห็นข้าวอยู่ในห้องนั่งเล่น คาดว่าเขาคงไปงีบที่ห้องนอน ช่วงนี้ข้าวนอนกลางวันบ่อยขึ้น นานขึ้น หมอเองก็บอกว่าเป็นเพราะฮอร์โมน

เดินตรงไปที่ประตูห้องนอน วางแผนจะซุกตัวข้างๆ คนตัวเล็ก จูบปลุกให้เขาตื่นเหมือนเจ้าหญิงนิทรา คิดไว้เสียโรแมนติก แต่พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น

...ข้าวไม่อยู่

ผมใจหายวาบ รีบเดินไปดูห้องอื่นๆ

ห้องทำงาน... ไม่อยู่

ห้องสมุด... ไม่อยู่

ห้องครัว... ไม่อยู่

ห้องกินข้าว... ไม่อยู่


และอีกสารพัดห้อง ผมเปิดประตูเหมือนคนบ้า ชะโงกหน้าเข้าไปดู ตะโกนเรียกลั่นบ้าน "ข้าว! ข้าว! เจ้าหญิงครับ! ออกมานะ!"


แต่ไม่มีเสียงตอบ ผมยิ่งร้อนรน ค้นทุกซอกทุกมุม แม้กระทั่งลิ้นชักที่คนตัวเล็กขนาดข้าวน่าจะซุกเข้าไปได้ก็ไม่เว้น ใจผมเหมือนไฟ ไม่สามารถอยู่นิ่งได้

เมื่อแน่ใจแล้วว่าข้าวไม่ได้อยู่ในบ้าน ไม่ได้อยู่ที่ไหนสักที่ เสื้อโค้ต กระเป๋าเงินและโทรศัพท์ก็หาย ผมรีบโทรหากลอเรียทันที

"กลอเรีย ข้าวไม่อยู่บ้าน!"

กลอเรียอุทานเสียงดังเป็นภาษาสเปน "ตอนเช้ายังอยู่นะคะ ฉันยังนั่งคุยกับเขาอยู่เลย"

"คุณแน่ใจนะ!" นาทีนี้ผมไม่ไว้ใจกลอเรียแล้ว ผลุนผลันออกจากห้อง ลืมกระทั่งโค้ต รีบกดลิฟต์รัว

"แน่ใจค่ะ! แน่ใจมากๆ แต่เอ๊ะ..." หล่อนชะงัก

"มีอะไร!" ลิฟต์มาแล้ว ผมกดชั้นแรกทันที

"คุณข้าวแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอกเลยค่ะวันนี้ ฉันคิดว่าเขามีนัดกับคุณ"

ผมฟังแล้วใจหล่นลงพื้น แตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ "ว่าอะไรนะ"

"เขาใส่เสื้อเชิ้ตค่ะ ปกติอยู่บ้านเขาจะใส่เสื้อยืดกับกางเกงผ้ายืดใช่ไหมคะ แต่วันนี้เขาใส่เชิ้ตกับยีนส์ค่ะ" กลอเรียทวนความทรงจำ

"บางที... บางที... เขาอาจโดนลักพาตัว" ผมกระซิบ เครียดยิ่งกว่าการประชุมบ้าๆ นั่นอีก

"ไม่ค่ะ ฉันคิดว่าไม่ค่ะ คุณลองถามตาโรเบิร์ตที่เฝ้าประตูดูสิคะ"

ผมวิ่งไปยังล็อบบี้ เหลียวหาคนเฝ้าประตูในเครื่องแบบ "เดี๋ยวผมโทรกลับ" ผมวางสาย

"มีอะไรให้ช่วยไหมครับ ?" คนเฝ้าประตูถามสุภาพ ผมตรงรี่เข้าไปหา

"คุณเห็นข้าวไหม ?" เพราะตึกนี้ขายแต่ห้องชุดราคาแพง ความปลอดภัยจึงสูงตาม คนเฝ้าประตู แม่บ้าน เมด พนักงานทุกคนจึงจำหน้าและชื่อของผู้พักได้ไม่มีตกหล่น

คนเฝ้าประตูทำท่าคิด "อ๋อ... เห็นครับ วันนี้คุณข้าวออกไปข้างนอกครับ ผมยังเรียกแท๊กซี่ให้อยู่เลย"

ผมทั้งโล่งใจและเจ็บปวด

ข้าวออกไปไหน... จะไปไหนได้ ข้าวไม่มีเพื่อนที่นี่ ไม่สนิทกับใครทั้งนั้น

"เขาไปไหน คุณรู้ไหม ? เอาสัมภาระไปด้วยหรือเปล่า ? ไปคนเดียวหรือมีคนไปด้วย ? ไปหาใคร ?" ผมรัวคำถามไม่ยั้ง คนเฝ้าประตูก็สมกับที่ถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนสูงลิ่ว เขาตอบชัดเจนทุกคำถาม

"คุณข้าวมาคนเดียวไม่มีสัมภาระครับ เขาไม่ได้บอกว่าจะไปหาใคร แต่ให้ผมเรียกแท๊กซี่เพื่อไปถนน Woodside ย่านควีนส์ครับ"

ผมชะงัก ความทรงจำลอยกลับมา... ข้าวบอกว่าอยากไปกินอาหารไทยที่ควีนส์ ถึงกับรบเร้าผมหลายครั้ง ผมปฏิเสธทุกครั้งเพราะหวงข้าว... กลัวว่าข้าวจะคิดถึงบ้านจนหนีผมไป

ไม่คิดว่า...

ผมไม่มีเวลาไปเอารถ รีบเรียกแท๊กซี่แล้วไปควีนส์ทันที




หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 1-3 17.8.16 P.1
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 26-08-2016 20:47:17
ความลนทำให้ผมขาดสติ เมื่อมานั่งในรถ จึงนึกขึ้นได้ว่าควรโทรหาข้าวเป็นอันดับแรก ไม่ใช่กลอเรีย แต่เพราะผมจ้างกลอเรียมาเพื่อเป็นผู้ปกครองให้ข้าว ผมจึงคิดหาคนรับผิดชอบโดยอัตโนมัติ

ผมโทรหาข้าว ได้ยินเสียงสัญญาณทั้งหมดห้าครั้ง ข้าวก็รับสาย

"อืม แม๊กซ์ ?" เสียงข้าวฟังดูผ่อนคลาย ผมโล่งใจ อย่างน้อยเขาก็ปลอดภัยดี

"คุณอยู่ไหน ?" ผมเน้นเสียงหนัก แต่ข้าวกลับหัวเราะคิกคัก

"ทายดูสิ"

"ผมไม่ทาย" ผมพูดเสียงเย็นชา "ผมไม่เล่นนะข้าว บอกผมมา!"

ข้าวตกใจ รีบตอบ "ฉันอยู่ควีนส์ ย่านคนไทยน่ะ มากินข้าวที่นี่"

ผมฟังแล้วยังไม่วางใจเสียทีเดียว "บอกที่อยู่มา เดี๋ยวผมไปรับ"

"อืม เข้าใจแล้ว ฉันอยู่ที่..." เสียงเขาอ่อยเหมือนเด็กถูกจับได้ว่าทำผิด "อย่าโกรธเลยนะ..."





โทสะผมพุ่งเสียดฟ้า ข้าวบอกว่ามากินมื้อเที่ยงที่นี่... ไม่ได้บอกว่ามีชู้!

เขาหนีออกจากบ้าน ฉวยโอกาสที่ผมไม่อยู่มาหาพิช! ผู้ชายท้องสมควรตายคนนั้น!


ผมปัดพิชออก เขาเดินอุ้ยอ้ายมาห้าม "ใจเย็นๆ คุณแม๊กซ์"

หากไม่ติดว่าผู้ชายคนนี้กำลังท้อง ผมคงต่อยเขาไปแล้ว ผมมองเขา พูดเสียงเย็น "'เมีย'ผมอยู่ไหน"

พิชกลืนน้ำลาย ถอยกรูดไปอยู่หลังเคาเตอร์ "เขามาร้านนวด... ก็ต้องมานวดสิ..."

ผมไม่ฟังอะไรอีก ก้าวเข้าไปในร้าน ดนตรีไทยบรรเลงพร้อมบรรยากาศผ่อนคลายนั้นไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย




ข้าวมาหาพิชที่ร้านนวดในควีนส์! เมียผมมีชู้!

ด้านในมีห้องเล็กๆ กั้นด้วยผ้าและฉากกั้น ผมเปิดฉากกั้นทีละห้องโดยไม่เกรงใจ คิดอย่างเดียวว่าต้องจับชู้ให้ได้คาหนังคาเขา!

เสียงอุทานวี้ดว้ายดังไม่เข้าหู พิชเดินเข้ามาขู่ว่าจะแจ้งความ ผมไม่แคร์อะไรทั้งนั้น เมื่อเปิดฉากกั้นห้องสุดท้ายก็เจอข้าวที่กำลังคุยจ๋อยๆ อยู่กับหญิงชราคนหนึ่ง

ผมใจสลาย...

...ข้าวทำแบบนี้กับผมได้ยังไง...


คนนอกใจกลับหันหน้ามาด้วยรอยยิ้มแจ่มใส "อ้าว แม๊กซ์ มาแล้วเหรอ มานวดด้วยกันสิ ป้าเพ็ญเค้านวดเก่งมากเลยนะ"

หญิงชราวาดมือไปยังไหล่บางที่ผมเคยพรมจูบเป็นการอวด "นวดจับเส้นค่ะคุณ ดูเส้นตึงๆ แบบนี้..."

"ข้าว" ผมเรียกเสียงเย็น "กลับบ้าน" ปัดมือเหี่ยวย่นนั้นออกอย่างแรง คว้าตัวข้าวออกมา "กลับบ้าน!"

หญิงชราตะลึง พิชตามเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก "นี่มันอะไรกัน! คุณบ้าไปแล้วเหรอแม๊กซ์ ข้าวแค่มากินข้าวแล้วก็มานวดจับเส้น คุณทำอะไรของคุณ!"

ผมไม่ตอบ คนพวกนี้ไม่มีค่าให้ผมเสียเวลาด้วย ผมลากข้าวออกจากร้าน เรียกแท๊กซี่แล้วยัดตัวเองและคนนอกใจเข้าไป

ระหว่างทาง เราไม่คุยอะไรกันทั้งนั้น ผมพยายามระงับโทสะไม่ทำร้ายข้าว เขาคงรู้ดี ยอมให้ผมดึงขึ้นห้องเงียบๆ

เมื่อถึงห้อง ผมยังไม่พูดอะไร พูดไม่ออกสักคำ จำได้ว่าตัวเองแทบบ้าเมื่อไม่เห็นข้าว จำได้ว่าตัวเองวาดภาพว่าจะนอนกอดเอวบางอย่างไร

ผมถูกหักหลัง ถูกนอกใจ

"คุณนอกใจผม" ผมพูดได้แค่นั้น

ข้าวอ้าปากเหวอ "นอกใจ ? แค่ไปกินข้าวกับไปนวดเนี่ยนะ นอกใจ ?"

ผมสูดลมหายใจลึก "สำหรับผม แค่คุณไปคุยกับคนที่ผมไม่อนุญาต แล้วยิ่ง..." ผมเค้นเสียงอย่างเจ็บปวด "ให้คนที่ไม่รู้จักแตะต้องเนื้อตัว... ก็ถือว่าเป็นการนอกใจแล้ว!"

ข้าวยิ่งตะลึง "คนนวดคือป้าแก่ๆ ที่ใกล้จะลงโลงเนี่ยนะ ?"

"ผมไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร" ผมจ้องเขาเขม็ง "ผมหวงคุณ หึงคุณทั้งนั้น"

ข้าวอ้าปากค้างแล้วหุบ แล้วอ้าอีกครั้ง "...ขะ ขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันคิดมาตลอดว่าเธอพูดเล่น"

"ผมไม่ได้ล้อเล่น แล้วทำไมคุณไปไม่บอกผม"

"บอกแล้ว... ฉันส่งข้อความหาเธอแล้ว แล้วฉันก็กลัวเธอจะกลับมาไม่เจอ เลยแปะโน้ตไว้ที่ประตู" ร่างเล็กลุกขึ้นไปยังประตูบ้าน ชี้ที่หลังประตู มีโน้ตแปะอยู่จริงๆ ในนั้นบอกเสร็จสรรพว่าไปที่ไหน กลับมากี่โมง คงเพราะผมลน เลยไม่ทันสังเกต

ผมรีบยกโทรศัพท์ขึ้นดู ข้อความใหม่จากข้าวจริงๆ เนื้อหาในนั้นเหมือนโน้ตเป๊ะ ผมถอนหายใจ มองคนตัวเล็กที่ยืนตรงหน้า "ผมไม่เห็น... ทำไมคุณไม่โทรมา ?"

"เธอทำงานอยู่ ฉันจะโทรไปได้ยังไง"

ผมพูดไม่ออก แข้งขาอ่อนแรง รีบคว้าเอวข้าวไว้ กลัวเหลือเกินว่าความใจร้อนของตัวเองจะทำให้ข้าวจากผมไป

ข้าวไม่ได้นอกใจ ไม่ได้มีชู้ ไม่ได้หนีออกจากบ้าน

ข้าวแค่คิดถึงประเทศบ้านเกิด...

ส่วนผมมันแค่คนโง่...

"ข้าว..."

เจ้าหญิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดันผมออกอย่างนิ่มนวล "ฉันไม่คิดว่าเธอจะขี้หึงขนาดนี้... ไม่สิ เธอไม่ไว้ใจฉันเลยต่างหาก เป็นเพราะอดีตของฉันใช่ไหม ?" ร่างเล็กทรุดลงนั่งบนโซฟา เขาไม่ผลักไสผมออกเมื่อผมกุมมือน้อยแน่น

ผมฟังแล้วสะอึก รีบตอบ "ไม่ใช่นะ!"

ข้าวสบตาผมนิ่ง ดวงตาใสกระจ่างคู่นั้นมีความเศร้าบรรจุเต็มเปี่ยม ผมไม่คิดเลยว่าจะทำให้ดวงตาคู่นี้หมองลงได้ ยิ่ง...

...น้ำใสเอ่อล้นลงมา

ข้าวไม่เคยร้องไห้แบบนี้... ไม่เคยร้องไห้ที่ไม่ใช่ร้องบนเตียง ผมรีบเช็ดน้ำตาบนแก้มนวล แต่หยดต่อมาก็ไหลริน

ผมทำให้ข้าวร้องไห้...

"ฉันรู้ว่าฉันเคยเป็นคนยังไง ฉันเป็นผู้ชายที่ให้คนที่ไม่รู้ชื่อมุดเข้ามาในก้น เป็นคนที่ขึ้นเตียงกับใครก็ได้" รอยยิ้มบนใบหน้าบิดเบี้ยว "รู้ไหมว่าฉันเคยนอนกับผู้ชายถึง 4 คนในคืนเดียว... โดยไม่ละอาย ฉันสำส่อน ฉันง่าย ฉันไร้ค่า เพราะแบบนี้เธอถึงไม่ไว้ใจฉันใช่ไหม ?"

ไม่เลย... ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ข้าวมีค่าเสมอ ข้าวสูงส่ง เป็นเจ้าหญิง เป็นคนเดียวที่ผมรัก

และตอนนี้คนที่ผมรักก็กำลังร้องไห้... เพราะผม

"ถึงฉันจะไม่เคยมีใคร ถึงจะไม่เคยคิดถึงใครนอกจากเธอ ถึงจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องนอกจากเธอ แต่นั่นก็ไม่พอสินะ... ยังไงฉันก็มีอดีตแบบนั้น... ฉันไม่ควรเลย... ไม่ควรแต่งกับเธอ ไม่ควรมีลูก ฉันไม่อยากให้ลูกมีแม่สำส่อนแบบฉัน" ข้าวเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง เขาร้องไห้ไปสะอื้นไป ผมฟังแล้วใจหาย... ใจสลาย

ข้าวคิดแบบนี้เอง... ทุกครั้งที่ผมหึงหวงไร้เหตุผล ความเป็นคนของข้าวก็ลดลงด้วย

ผมกอดข้าวแน่น "อย่าร้องเลยเจ้าหญิง... อย่าร้อง ผมผิดเอง ผมขอโทษ ผมไม่เคยคิดว่าคุณไร้ค่าเลย ผมรักคุณ ผมบูชาคุณ คุณมีค่าสำหรับผม สำหรับลูกที่กำลังจะเกิด เขาจะภาคภูมิใจที่มีคุณเป็นแม่ เหมือนที่ผมภูมิใจที่มีคุณเป็นภรรยา" ผมจูบเรือนผมนุ่ม ข้าวสะอื้นจนตัวโยน

"ผมผิดเองทั้งหมด ผมมันโง่เอง... ทั้งโง่ทั้งบ้า ผมขอโทษ ผมเป็นคนทำลายทุกอย่างเอง อย่าร้องเลยที่รัก"

ผมทำลายคนที่รักด้วยมือตัวเอง

"ข้าว... คนดี ที่รักของผม... ผมขอโทษ"

ร่างเล็กค่อยๆ ดันผมออก ไม่สบตา ไม่มองหน้า "แม๊กซ์... ถ้ายังเป็นแบบนี้ ฉันรับไม่ไหวจริงๆ เราห่างกันสักพักเถอะ..."

ไม่จริง! ไม่จริง! ไม่จริง! ใจผมกรีดร้อง ผมรีบคว้าคนตรงหน้าไว้ราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปกับตา "ไม่นะ!"

"ฉันจะกลับไทย... ไม่ต้องห่วง ฉันไม่มีใครทั้งนั้น ฉันจะกลับไปอยู่บ้าน หางานแถวบ้านทำ... เลี้ยงลูกเอง ถ้าเธอคิดถึงลูกค่อยไปหา ดีไหม ?"

"ไม่ดี!" ผมตอบรัวเร็ว ละล่ำละลักคว้าเขากลับมา "ไม่เอาทั้งนั้น! คุณต้องอยู่ที่นี่กับผม! ผมไม่ปล่อยให้คุณไปไหน ไม่มีวัน!"

ข้าวปล่อยโฮอย่างยั้งไม่อยู่ "ฉันเหนื่อยเหลือเกินแม๊กซ์... ฉันรักเธอ แต่ฉันก็เหนื่อยเหลือเกิน ฉันเปลี่ยนอดีตไม่ได้ ฉันควรทำยังไง ?"

เมื่อร่างเล็กกลับมาอยู่ในอ้อมกอดอีกครั้งผมจึงค่อยโล่งใจ ผมกอดเขาแน่นหนา ไม่ยอมให้อะไรมาพรากเราไปได้ "คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น... อยู่ที่นี่กับผม ผมจะไม่ทำอีกแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว"

"ผมจะไม่หึงคุณจนบ้าอีก... จะไม่ทำให้คุณลำบากใจอีก อย่าจากผมไปเลย ได้โปรด เจ้าหญิง อยู่กับผมเถอะนะ" หากทำได้ ผมอยากคุกเข่าลงอ้อนวอน

หากข้าวไปจากผม แล้วผมจะทำยังไง ? จะอยู่อย่างไร ?

ผมถูกข้าวตามใจจนเคยตัว ตื่นเช้ามาต้องเห็นหน้าเขา ต้องได้ยินเสียงเขา ต้องกอดเขา

แค่ไม่เจอข้าวแค่ไม่กี่ชั่วโมงผมยังแทบขาดใจตาย หากเขาจากผมไปจริงๆ ผมคงตายทั้งเป็น


ข้าวไม่ตอบทันที ลูบแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายเชื่องช้า ดวงตาที่มีน้ำตาเปรอะเปื้อนจ้องมองผม

ผมรู้ดี ในความเงียบนั้น วินาทีนี้สำคัญที่สุด หากข้าวปฏิเสธ ผมจะสูญเสียทั้งเขาและลูกไปตลอดกาล...


คนที่กุมชีวิตของผมขยับริมฝีปากช้าๆ คล้ายไม่แน่ใจ นิ้วเรียวขยับแหวนแต่งงานของเราไปมา ผมใจหาย หากเขาจะคืนแหวน...

...แม้กระทั่งลูกข้าวก็จะเอาไป พรากวิญญาณ พรากหัวใจผมไปทั้งหมด

ผมกลั้นหายใจ รอคอยคำตอบ...

เสียงหวานสั่นพร่า กระซิบเบายิ่งกว่าเสียงลม "อย่า... อย่าทำอีกได้ไหม ?"

ผมเบิกตากว้าง "คุณให้อภัยผม ?"

ข้าวดูลังเล ค่อยๆ พยักหน้า มือที่จับแหวนเลื่อนมันกลับไปที่เดิม ผมรีบคว้าตัวเขาอย่างยินดี "ขอบคุณครับเจ้าหญิง ขอบคุณครับ" ผมจูบแก้มเปียกๆ ทั้งสองจนช้ำ ข้าวดูสับสน แต่ก็ยอมให้ผมจูบ

ผมจูบริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ไม่คิดว่าคนคนนี้จะยอมอยู่กับผม

ข้าวเอื้อมมือมาแตะที่หลังผมเบาๆ เชิงบอกให้หยุด ผมยอมปล่อยเขาอย่างเสียดาย

"เธอต้องไปขอโทษพิชด้วยรู้ไหม ถ้าเขาฟ้องเธอขึ้นมาจะแย่เอา" ข้าวเสริม "ขอโทษป้าเพ็ญด้วย ถ้าพวกเขาต้องการเงินทำขวัญ... เธอก็ต้องจ่าย เพราะเธอผิดที่ไปพังร้านเขา"

ผมตัวแข็งเมื่อได้ยินชื่อพิช แต่ข้าวก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ "พิชเป็นคนดี เขามีสามีแล้ว ทั้งท้องโย้ ทั้งสาวขนาดนั้น สาวจนอีกนิดก็จะไปผ่าฮี๋ได้แล้ว"

"ผ่า... vergina เกี่ยวอะไรด้วย ?" ผมงงกับคำเปรียบเทียบ ข้าวหน้าแดง กระแอมเบาๆ

"เอาเป็นว่าเขาเป็น gay friend ของฉัน... เธอไม่ต้องหึงหวงอะไรเลย เขารักสามีเขามากด้วย"

ผมจำใจพยักหน้า เพราะอยากเป็นเด็กดี "ก็ได้ครับ..."

"แล้วก็..." ข้าวเว้นวรรค พูดช้าๆ "ฉันคิดถึงบ้านนะ... ยิ่งอยู่คนเดียวยิ่งคิดถึง... บางครั้งฉันจะไปที่ควีนส์บ้าง ไปดูละครไทย ไปกินอาหารไทย ไปวัดไทย... ฉันจะไม่ไปคนเดียวเหมือนวันนี้ แต่จะพาเธอไปด้วย เราจะพบกันครึ่งทาง เธอโอเคไหม ?"

ผมรู้ว่าข้าวยอมให้ผมมากแล้ว แค่เขายังยอมอยู่กับผม ผมก็ยอมทำทุกอย่าง "ครับ ตกลง"

ข้าวเห็นผมว่าง่ายก็ถอนหายใจ "ขอให้วันนี้เป็นครั้งสุดท้าย... อย่าทำแบบนี้อีกนะ"

ผมพยักหน้ารับ กอดเอวเขาแน่น ข้าวลูบศีรษะผมเบาๆ เหมือนปลอบประโลม "ฉันรักเธอนะ รักเธอมาก"

"ผมก็รักคุณ รักคุณมากกว่า"

เสียงใสหัวเราะแผ่วๆ "เอาล่ะ ลุกเถอะ ฉันจะไปอาบน้ำ"

"ผมจะอาบให้" ผมอาสา อุ้มเขาเต็มวงแขน ข้าวไม่ปฏิเสธ กอดหลังผมแน่น จนผมต้องถาม "เซ็กส์คืนดี ?"

หน้าสวยๆ แดงก่ำ เขาพยักหน้า ไม่ยอมตอบ ผมยิ้มกว้าง

...ข้าวไม่ควรทำแบบนี้จริงๆ

ผมยิ่งรักเขามากขึ้น มากขึ้นจนเขาน่าจะไม่สามารถรับไหว

เหตุการณ์วันนี้ทำให้ผมย้อนกลับไปมองตัวเอง ว่าสองปีที่ผ่านมา ข้าวเป็นฝ่ายยอมลงให้ผมมากแค่ไหน

ยอมจากบ้านเกิดเมืองนอน
ยอมทรมานตัวเองเพื่ออุ้มท้อง
ยอมกดความน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองทุกครั้งที่ผมหึงหวง
ยอมทนกับความเหงา
ยอมถูกผมขังไว้คนเดียวในบ้าน


ยอมผมมาทุกอย่าง...  สิ่งที่ผมตอบแทนคือความบ้าคลั่ง สิ่งที่ผมมอบให้ความภักดีคือการเอาแต่ใจอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ผมมันโง่ ทั้งโง่ทั้งเลว

แต่หลังจากวันนี้ ผมจะรักเขาให้มาก จะไม่ให้เขาต้องร้องไห้อีก

"ผมรักคุณ" ผมกระซิบบอกระหว่างที่สอดใส่ ข้าวตอบกลับด้วยเสียงปนสะอื้น

"ฉันก็รักเธอ..."

.........

// ในมุมมองข้าว นังแม๊กซ์คือผัวแสนดี แต่พออ่านมุมของแม๊กซ์แล้ววว  :ling3: มึงโรคจิตตตตตต!!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-08-2016 21:09:56
โอ๊ยอีผัวบ้า จ่ายค่าทำขวัญหนักๆเลยย่ะ ถ้าฉันเป็นทีน่าฉันคงกลอกตาจนเมื่อยเบ้าตาแหละ 55555
ขอบคุณที่มาต่อซะยาวเลยค่ะ  :katai2-1:   
ส่งดท้ายอิฉันสงสารลูกในท้องค่า. อีพ่ออีแม่บ้าเซ็กส์เหลือเกิน. ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 26-08-2016 21:46:51
โธ่...พ่อแม็ก อะไรจะหึงหวงหน้ามืดขนาดนั้น กับคนแก่ก็ไม่เว้น เฮ้อออออ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-08-2016 22:01:30
ใคร จะอิจฉาข้าว บ้างนะ
ที่ได้สามี สุดรัก สุดหลงขนาดนี้ :mew1: :mew1: :mew1:
หรือ ใคร จะคิดว่า เฮ้อ โชคดีจัง
ที่ไม่มีสามีเป็นโรคจิตสุดๆ แบบข้าว :ling1: :ling1: :ling1:
สนุกกกก  มากกกก ชอบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 26-08-2016 22:08:54
แม๊กซ์ ไอ้โรคจิต! นี่ด่านะคะไม่ใช่ชม โรคจิต!
ข้าวคนดี โอ๋นะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-08-2016 22:44:40
นะ...ผัวบางทีก็ยิ่งกว่าลูกแฝด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 26-08-2016 23:50:09
สนุกดีค๊า   :ling1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 27-08-2016 00:34:50
อีตาแม๊กซ์เยอะสิ่ง เวอร์วังไม่มีเปลี่ยน555555555 สงสารลูกเขาจัง คลอดมาหัวจะโนข้างนึงมั้ยเนี่ย โอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 27-08-2016 01:11:16
แอบจบแล้วก็ได้แต่ กรอกตา มองบน
เล่นใหญ่รัชดาลัยมากกกกกก55
เวลาเข้าฉากนั้นที่ไร ชั้นกลัวลูกพวกแกไหลจริงๆ
ข้าวแกควรจะปรึกษาหมอ ปัญหาหูรูดเสื่อม
ก่อนวัยอันควรไว้แต่เนิ่นๆนะ เพราะผัวแกมันใช้งานหนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-08-2016 02:30:28
จะหวงเมียอะไรขนาดน้านนนน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 27-08-2016 06:16:04
คุณแม๊กซ์ บางทีมันก็มากไปนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 27-08-2016 06:44:13
อะไรจะขี้หึงขี้หวงป่านนั้น
เครียดแทนข้าวเลย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-08-2016 07:46:57
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 27-08-2016 09:45:47
ชอบจังงงงงงงงง =.,=
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 27-08-2016 10:24:28
แค่ชื่อเรื่องก็น่าหมั่นไส้แล้วค่ะ 555555555555 ผัวนางดีทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องหึงมากไปหน่อย /เปิดเพลงขี้หึง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 27-08-2016 11:01:09
แม็กซ์ แกหวงข้าวเกินไปแล้วนะยะ
ให้คุณเขามีอิสระบ้าง เขาอึดอัด โอ๋ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 27-08-2016 11:07:38
 :hao6:  แซ่บบบบ. เรื่องนี้ต่อจากเรื่องไหนรึป่าวอ่ะจะได้ตามไปอ่าน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 27-08-2016 11:39:39
/ล้องห้ายจนล่างปะทับองคชาญาเนบิวลาเข้าสิง

ได้!! คอผ. คปต. สัดปีศาฐแห่งกาแลตซีจะรงโทดแก นางพญางูฅาว มะม่วงผู้ทำสันยากับปีสาด จะทำให้แกรู้ถึงสัดทำชาดก ล๊ะเข้าถึงศาฐดา... ฆ้าฅอสาทุบุน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 27-08-2016 12:37:12
เรียกน้ำเเกงมาตบค่ 5555555 เอ๊ะ อ๊ะ ผัวหึง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-08-2016 17:45:09
ฮ่าๆ สงสารข้าวนะ ไม่ได้สงสารแม๊กซ์เลย
เข้าใจอยู่นะว่ารัก แต่ก็ควรจะให้อิสระบ้าง เขายอมจากบ้านเกิดเมืองนอนมาตั้งไกล ทั้งยังตั้งท้องให้อีก คนเราไกลบ้านก็มีอารมณ์เหงาบ้างแหละ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 27-08-2016 19:44:55
ข้าว ทำอะไร ผู้ก็รักนะคะ อิจ!! มาก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 27-08-2016 22:15:17
ดัดจริตมากกกกกก นี้ด่าตัวเองคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-08-2016 22:25:47
หึงหวงได้เว่อร์วังมาก!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 27-08-2016 22:31:31
นี่ขนาดรักกันมากขนาดนี้แล้วยังมีปัญหากันอยู่ที่ว่าไม่ยอมคุยกันให้รู้เรื่องต่างหาก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 27-08-2016 22:49:41
อ่านตอนนี้แล้วใจกระตุก
สงสารข้าว รู้สึกว่ายิ่งคุณสามีรักมากเท่าไหร่กรงขังจะยิ่งหนาขึ้น แน่นขึ้น และแคบลง
เฮ่อ! หึงมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่มันก็ควรจะมีลิมิต มีเส้นขีดขั้นไว้บ้าง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-08-2016 01:34:49
ความรักของแม๊กซ์ ไม่เข้าใจสังคมของคนไทย คนไทยเราไม่ได้มาจากครอบครัวเดี่ยวอย่างฝรั่งนี่ เราเป็นครอบครัวใหญ่มีญาติมีเพื่อนฝูง
 รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 28-08-2016 10:12:37
แม็กซ์เหมือนโรคจิตจริงๆ โคตรห่วง หวงเมีย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-08-2016 15:07:39
แม็กซ์เอ้ย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-08-2016 17:53:52
 :hao4: รักมากหึงมากจริงๆไม่รู้จะดีใจหรือกลุ้มใจแทนดี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 28-08-2016 22:58:41
แมกแกเล่นใหญ่มาก เว่อวัง ปล่อยข้าวเค้าไปหาสมาคมแม่บ้านไทยต่างแดนบ้างเหอะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 29-08-2016 01:36:47
ผัวหรือลูก. หึงอะไรเบอร์นั้นฮีเล่นใหญ่มากค่ะ555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 29-08-2016 02:55:00
หนูข้าววววววว ทำบุญด้วยอะไร ถึงได้ผัวแสนดีแบบนี้

ดีจนน่ากลัว :hao3:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 30-08-2016 20:30:06
ลดความหึงหวงลงบ้างเถอะพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 30-08-2016 22:04:02
นางกลับมาอวดผัวแล้วววววววววววว ขอบคุณที่มาต่อจ้า  :katai2-1:
หึงวัวตายควายล้ม หึงไม่บันยะบันยัง เหนื่อยแทนข้าว

เอาใจช่วยจ้า รอติดตามต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 01-09-2016 18:46:12
รักผัวครั้งที่ 5

ผมนั่งเล่นไอแพดฆ่าเวลา บนโต๊ะมีน้ำยาล้างเพชรสองขวด แปรงขนนุ่มและผ้าที่นุ่มยิ่งกว่าหน้าผม ลำโพงที่มีเพลงกล่อมเด็กดังต่อเนื่องเบาๆ

ผมอยากให้ลูกฉลาด ไปอ่านเจอมาว่า ดนตรีมีส่วนช่วยพัฒนาสมองตัวอ่อน ดังนั้นผมจึงเปิดยูทูปหาเพลงให้ลูกฟัง อย่างน้อยๆ ก็อยากให้ลูกฉลาดเหมือนพ่อหรือฉลาดกว่าผมก็ยังดี

ผมหาวหวอด ยามบ่ายเช่นนี้ช่างชวนง่วงเหลือเกิน

ขี้เกียจเก็บ

หลังจากที่แม๊กซ์ไปโวยวายที่ร้านพิชแล้ว ผมก็สั่งให้เขาไปขอโทษพิช แต่แม๊กซ์ยังอิดออดจนทุกวันนี้ ผมได้แต่ชะเง้อดูประตูว่าเมื่อไหร่จะมีหมายศาลมาเรียกสามี

แต่ผ่านมาสามวันแล้ว ก็ยังเงียบกริบ ไม่รู้พิชว่ายังไง

วันนี้ผมตั้งใจว่าจะต้องโทรหาพิชเพื่อนัดให้แม๊กซ์ไปขอโทษให้ได้ คิดแล้วก็วางไอแพดลง นั่งจ้องประกายเงางามของเพชรและอัญมณีตรงหน้า พร่าพรายจนแสบตา

ผมเท้าแขนไว้บนโต๊ะ นั่งจ้องเพชรแล้วถอนหายใจ หยิบเม็ดหนึ่งที่เงาวาววับมาคลึงเล่น เม็ดใหญ่มาก กี่กะรัตก็ไม่รู้ แต่ใหญ่เหมือนที่เคยเห็นประดับชุดลิเกเลย ถึงดีไซน์จะสวยกว่ามากก็ตาม

ผมเอาเพชรมาเรียงเล่น ส่วนที่ทำเป็นเครื่องประดับแล้วเขี่ยไปกองอีกฝาก ไม่ได้สนใจมูลค่า เพราะเดี๋ยวแม๊กซ์ก็หามาเติมให้

ถึงจะเกิดเรื่องไป แต่คิดว่าแม๊กซ์หยุดให้ผมขัดเพชรไหม ?

ก็ไม่

ยังคงซื้อมาเกือบทุกวัน มีเพิ่มคือ...

...ติ๊ง... เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น ผมถอนหายใจอีกรอบ พนักงานจากล็อบบี้โทรขึ้นมา "มีพัสดุมาค่ะ"

"อะไรครับ ?"

"ดอกไม้ค่ะ" พนักงานสาวตอบกลับด้วยเสียงสุภาพ ผมกลอกตาขึ้นฟ้า

"ครับ เอาขึ้นมาเลย" ตึกไฮโซนี้ไม่อนุญาตให้พนักงานส่งของมาส่งถึงห้อง ถึงอย่างนั้น ปกติแม๊กซ์ก็ไม่เคยให้ผมมารับพัสดุเองเลย กลอเรียต้องเป็นคนรับตลอด

ตอนนี้บ่ายโมงกว่า กลอเรียไปทำงานที่ชั้น 19 ต่อแล้ว วันนี้ 'พัสดุประจำวัน' มาช้ากว่าทุกวัน ถ้าแม๊กซ์รู้ล่ะก็ ต้องไปโวยวายที่ร้านแน่ๆ ผมคิดดังนั้นก็ตั้งใจจะไม่ให้สามีรู้

มีเสียงออดดังขึ้นจากหน้าบ้าน ผมส่องตาแมวดูโดยที่ไม่จำเป็น พนักงานหญิงของตึกในเครื่องแบบถือช่อดอกกุหลาบขนาดมโหราฬขนาดที่ตัวหล่อนยังถือไปเอนไป

ผมเปิดประตูรับ พนักงานหญิงทวนที่อยู่ตามกฏ แล้วยื่นแท๊ปเลตออกมาให้เซ็นต์รับ

ผมไม่เคยรับพัสดุเอง เก้ๆ กังๆ อยู่หน้าประตู ดูเหมือนหล่อนจะชินกับความไม่รู้เดียงสาของพวกคนรวยที่อยู่ที่นี่ดี จึงสอนให้ผมเซ็นต์บนหน้าจอทัชสกรีนอย่างใจดี

พนักงานที่นี่อารมณ์ดี สุภาพ มีใจบริการทะลุปรอทกันทุกคน คิดว่าเงินเดือนคงแพงมากแน่ๆ ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นพนักงานที่ล็อบบี้พูดได้ถึงสี่ภาษา

"ขอบคุณค่ะ มีการ์ดด้วยนะคะ" หล่อนบอก ผมกล่าวขอบคุณ พนักงานไซส์ฝรั่งเห็นตัวผมผ่านช่อกุหลาบแล้วยิ้มน้อยๆ

"ให้เข้าไปส่งไหมคะ ?"

ผมสูง 155 เซนต์ ถ้าเป็นหน่วยวัดที่นี่ก็ 5 ฟุตเท่านั้น แต่พนักงานหญิงคนนี้สูงกว่าผมมาก น่าจะ 175 ขึ้นไป ช่อดอกไม้สูงเกือบเท่าตัวหล่อน นั่นหมายถึงว่ามันอาจสูงเลยศีรษะผมขึ้นไปอีก...

"รบกวนด้วยครับ" ผมเปิดประตู ยอมแพ้

"เอาไว้ตรงไหนดีคะ ?" พนักงานถามอย่างสุภาพ ผมชี้มั่วๆ ที่กลางห้องรับแขก หล่อนช่วยจัดแล้วกล่าวขอบคุณที่ใช้บริการ

โอ๊ย สุภาพทุกระดับประทับใจ

เมื่อพนักงานไปแล้ว ผมปิดและล็อกประตูตามหลัง แม๊กซ์สอนว่า ตึกนี้ไม่จำเป็นต้องให้ทิปส์ เพราะค่าส่วนกลางแพงจนผมขนหัวลุก

ผมเดินกลับมาที่ห้องรับแขก จ้องดอกกุหลาบสีทับทิมแดงฉานดอกโตก้านตรง ไร้หนาม มันบานสวยสะพรั่ง ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก

มหกรรมพืชสวนโลกสาขานิวยอร์ก Upper East เริ่มต้นเมื่อสามวันที่แล้ว แม๊กซ์ส่งดอกไม้สีครามลักษณะเป็นช่อแท่งๆ ช่อใหญ่มาให้ ผมกระพริบตาปริบๆ รับมาจากกลอเรีย คืนนั้นแม๊กซ์ติดตามผลโดยจัดผมไปหกยก ถามว่าผมตกลงคำถามของดอกไม้ไหม

ผมอ้าปากหาว ไล่ให้เขาไปปิดไฟนอน เพราะตอนนี้อย่าว่าแต่ลุกขึ้นไปล้างก้นเลย แค่ไปปิดไฟยังไม่มีปัญญา แต่แม๊กซ์เซ้าซี้จนผมรู้ว่าเขาตั้งใจส่งดอกไม้มาขอโทษผม

จริงๆ ไม่ต้องทำอะไรขนาดนั้นก็ได้ ผมยกโทษให้เขาตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเจอกันครั้งแรกแล้ว ใครใช้ให้เขาหล่อล่ำขนาดนั้นล่ะ

สามีเด็กร้อยแรงม้าเจ้ากี้เจ้าการเอามือถือตัวเองมาเข้ากูเกิ้ลให้ บอกว่าให้เสิร์ชชื่อดอกไฮยาซินธ์

ผมพิมพ์ผิดๆ ถูกๆ ไอโฟนก็ฉลาดจริง สะกดให้หมด ใจอยากขอร้องสามีว่าพรุ่งนี้ค่อยโรแมนติกได้ไหม แต่พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นดวงตาสีน้ำตาลมองตอบกลับมาอย่างคาดหวัง

ความหมายของดอกไฮยาซินธิ์คือ... to apologize... to sorry

แม๊กซ์หน้าแดง น่ารักจัง ผมวางไอโฟนลง สมองยังเบลอๆ ตอบเขาว่า "Yes, I do"

แค่ขอโทษก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้เลย... ผมซุกกล้ามอกเขา พูดไม่ออก ซึ้งจนไม่มีคำพูด ถ้าเป็นผมคงคิดอะไรแบบนี้ไม่ออกแน่ๆ

สำหรับเกย์ไทยใจสาว ขอโทษครั้งนึงแค่พาไปกินหมูกะทะก็ถือว่าทุ่มทุนสร้างแล้ว ผมหาวหวอดๆ ตบหน้าท้องเป็นลูกๆ ของแม๊กซ์เล่น

แต่ที่นี่ไม่มีหมูกะทะนี่ หรือว่ามี ? จะว่าไปตอนอยู่ไทยผมเคยขอโทษเขาโดยการพาไปเลี้ยงหมูกะทะมาแล้วเหมือนกัน เขาบ่นงึมงำว่ามีแต่เศษหมู น้ำจิ้มก็เผ็ดไป แถมยังทำหัวเหม็นด้วย ไม่รู้ผมพาฝรั่งไปลำบากหรือไปขอโทษกันแน่

หลังจากนั้นมา ก็มีช่อดอกไม้เดินพาเหรดเข้าห้องวันละครั้งและจะมาเฉพาะตอนที่กลอเรียอยู่เท่านั้น แม๊กซ์คงรู้ว่าภรรยาโง่ เลยแนบการ์ดมาด้วย เพราะเอาแค่ดอกไม้มาผมก็ไม่รู้ความหมายอยู่ดี จะบอกว่ารู้จากกูเกิ้ลก็อายชอบกล

วันนี้เป็นดอกกุหลาบแดง ผมไปยืนเทียบ ก้านยาวมาก จัดช่อในแจกันเซรามิกสีขาวเก๋ไก๋ ทั้งแจกันและดอกไม้สูงเลยศีรษะผมไป ผมเลยต้องลำบากไปลากสตูลมาต่อขาเพื่อควานหาการ์ด เดี๋ยววันนี้สามีถามจะได้ตอบได้

ผมก้มลงหยิบการ์ดตรงกลางช่อ ดอกแต่ละดอกก็โตไปไหน ใหญ่กว่าหน้าผมอีกละมั้ง

พอดึงการ์ดออกมา ก็พบว่า ที่ร้อยการ์ดกับก้านกุหลาบไว้ด้วยกันไม่ใช่ริบบิ้น

แต่เป็นสร้อยทองคำขาว มีจี้เพชรเล็กๆ ทรงเลขแปดแนวนอนคล้อง...

...คุณพระ ราคามันเท่าไหร่กัน

ดอกกุหลาบดอกใหญ่ ก้านตรงไร้หนาม ที่ผมใช้เวลาที่มีเหลือเฟือนั่งนับแล้วว่ามี 999 ดอกนั้นมาพร้อมแจกันและสร้อยเพชร

การ์ดทำจากกระดาษอย่างดีขลิบลาย มีลายมือแม๊กซ์เขียนเป็นตัวพิมพ์ เพราะผมอ่านลายมือตัวเขียนเขาไม่ออกว่า

'I Love You, my princess'

ง่ายๆ แค่นั้นเอง ผมกลับพองฟู ดีใจยิ่งกว่าได้ดอกไม้หรืออัญมณี ผมเก็บการ์ดไว้อย่างดี ส่วนดอกไม้ก็วางไว้ที่เดิม สร้อยเพชรโยนลงบนโต๊ะให้อยู่กับเพื่อนๆ ที่นอนแอ้งแม้ง

เอาเถอะ แอบกูเกิ้ลนิดนึงละกัน... เผื่อเด็กถาม บอกตัวเองอย่างนั้น แต่ยิ้มแก้มปริจนหมั่นไส้ตัวเอง

ดอกไม้ 999 ดอก... หมายถึง... รักชั่วฟ้าดินสลาย

ผมรีบกลับไปหาดอกกุหลาบ ปีนสตูลแล้วเอาหน้าซุก กอดทั้งการ์ดและดอกไม้ไว้

แม๊กซ์ส่งมานี่รู้ความหมายไหมนะ... ไม่สิ ต้องรู้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นสร้อยคงไม่เป็นรูปอินฟินิตี้หรอก

ผมฉลาดขี้นมาบ้าง เลขแปดที่เห็นนั้นหมายถึงอินฟินิตี้ ไม่มีที่สิ้นสุด มาพร้อมดอกไม้ที่บอกว่ารักชั่วฟ้าดินสลาย...

...บ้าเอ๊ย! เพราะฮอร์โมนแน่ๆ ผมจะร้องไห้




ผมร้องไห้ไปหนึ่งยก กอดการ์ดและสร้อยไว้แน่น พอไปรื้อดูกองอัญมณีที่สามีให้ ไม่ใช่แค่สูงค่า ทว่าแต่ละชิ้นยังมีความหมายอีกด้วย แต่คนโง่อย่างผมกลับคิดว่าเขาแค่ซื้อมาเพื่อเอาใจผมเท่านั้น

กูเกิ้ลช่วยผมไว้จริงๆ

แต่แม๊กซ์ไม่เคยถาม ไม่เคยต้องการคำชม แค่ผมยิ้มให้เขา เขาก็ดีใจมากแล้ว ไม่เข้าใจเลย ทั้งๆ ที่ทุ่มทั้งความคิดทั้งเงินไปขนาดนั้น แต่กลับไม่ต้องการอะไรตอบแทน

น้ำตาหยดแหมะลงบนเพชรเม็ดโตที่ยังไม่เข้าเรือน

น้ำตาจากความตื้นตัน ไม่ใช่เสียใจ

เอาเถอะ... ถึงแม๊กซ์จะขี้หึงจนบ้าบอไปหน่อยก็ตาม แต่ว่าใครบนโลกที่ไม่มีข้อบกพร่องน่ะ ?

ผมรักเขา เขารักผม แค่นี้ก็พอแล้ว

ผมตั้งใจแบบนั้น จึงรีบเก็บอัญมณีทุกชิ้นเข้ากล่องเซฟ ล็อกด้วยรหัสแล้วดันลงไปในเซฟอีกครั้ง ใช้รหัสที่ต่างกันเพื่อล็อก รู้สึกเพลียจนง่วง ผมต้านไม่ไหว เดินไปที่ห้องนั่งเล่น ล้มตัวลงงีบ กอดหมอนอิงนุ่มๆ จนหลับไป

ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง พบว่าหลับไปได้ครู่เดียว ร่างกายดีขึ้นมาก ผมหายใจพรู หยิบไอแพดแล้วเดินเข้าครัว เมื่อเห็นดอกกุหลาบในห้องรับแขกความรู้สึกตื้นตันก็จุกมาอยู่ที่ลำคอ

ผมหวานไม่เท่าแม๊กซ์ ไม่มีอะไรดี แต่เพราะเขารักผม... รักผมมากเหลือเกิน อย่างน้อยๆ จึงคิดว่า น่าจะทำเมนูที่แม๊กซ์ชอบให้เป็นการขอบคุณ

มือสวมผ้ากันเปื้อนคล้องคอ พยักหน้าเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง



ไม่ใช่ขอบคุณเรื่องเพชรหรือดอกไม้... แต่... ขอบคุณที่รักกัน...




ผมเริ่มทำอาหารเร็วกว่าทุกวัน ทุกทีก็ทำตามใจอยาก อยากกินอะไรก็ทำอันนั้น ไม่เคยถามเพื่อนร่วมโต๊ะว่าอยากกินอะไรเสียที เอาแค่ว่าไม่ต้องทำเผ็ดก็พอ แต่วันนี้ผมตั้งใจมาก เปิดไอแพดเพื่อทำเมนูสุดหิน...

จริงๆ ของโปรดแม๊กซ์เรียบง่าย สมัยอยู่ไทยผมก็สังเกตเขาบ้าง

เหมือนเด็ก... ชอบกินพวกเนื้อ ปิ้งๆ ย่างๆ ทอดๆ จนน่ากลัวค่าไขมันจะสูง ผมจึงเบรกๆ ทำพวกผักให้เขาบ้าง ฝรั่งก็มีเมนูผัก แต่มาพร้อมชีส จะกินทีก็มีแต่พวกสลัดกับสารพัดน้ำสลัด สำหรับผม จะน้ำอะไรมันก็คือสลัด กินทุกวันจนแทบอ้วก

ผมมาจากประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก แหล่งอารยธรรม อู่ข้าวอู่น้ำ จะเล่นง่ายหั่นผักมาคลุกๆ ก็ใช่ที่ ถึงสามีจะกินหมดเกลี้ยงไม่บ่นสักคำก็เถอะ

ของโปรดแม๊กซ์คือ เนื้อวัวเสียบไม้ย่างแบบอิสลาม ข้าวมันไก่น้ำจิ้มเผ็ดน้อย หมูชุบแป้งทอด สามอย่างนี้กินได้ไม่มีเบื่อ กินเหมือนเด็กจริงๆ

เมนูวันนี้น่าจะแตกต่างไปหน่อย เอาแบบที่เขาไม่เคยกิน...

เงยหน้าดูนาฬิกา มีเวลาอีกประมาณสามชั่วโมง เอาวะ!

สู้เพื่อผัว!

เมนูปราบเซียนเมนูแรก หรุ่ม! อย่าว่าแต่ฝรั่งไม่รู้จักเลย ผมก็ยังไม่เคยกิน ต้องเสิร์ชหาวิธีวุ่นวาย
เมนูต่อมาที่ผมไม่ค่อยทำ เพราะเละทุกที สมัยก่อนว่ากันว่าหาคนทำอร่อยยาก เป็นตัววัดทักษะลูกสะใภ้ก็ว่าได้ โชคดีที่สามีผมเป็นฝรั่ง... แกงส้ม
เมนูสุดท้าย ของโปรดเขาและผมทำประจำ หมูชุบแป้งทอด
ของหวานที่ผมมักจะแค่ปอกผลไม้ที่กลอเรียซื้อมาเสิร์ฟง่ายๆ วันนี้ตั้งใจเต็มที่ เอาวะ ขนมจีบนก จะเป็นนกหรือไก่แจ้เดี๋ยวก็รู้


เริ่มแรก ขนมจีบ แค่อ่านส่วนผสมและวิธีทำผมก็พับโครงการไป เวลาน้อยมาก จะมาค่อยๆ ทำก็คงไม่ทัน นึกขึ้นได้ว่าสมัยเรียนเคยได้ไปประกวดแกะสลักผักเหมือนกัน ฝีมือก็ใช่ย่อย แข่งระดับประเทศ เอาเป็นว่าแกะผลไม้ให้สามีงงเล่นก็แล้วกัน

ผมทำหมูชุบแป้งทอดก่อน เพราะทำง่าย เตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นเหลือแค่แม๊กซ์มาก็ลงทอด
หรุ่มนี่สิ หนักใจ เอาเป็นว่าผัดใส้ไว้ก่อน รากผักชีไม่มี... เอาเถอะ
แกงส้ม มีน้ำพริกแกงส้มกับน้ำตาลปี๊บที่แม่ให้มา ใกล้จะหมดแล้ว ชะอมไม่มี คนไทยในนิวยอร์กไปซื้อกันที่ไหนหว่า แล้วภาษาอังกฤษของชะอมคืออะไร เอาเป็นผักรวมใส่กุ้งก็แล้วกัน ภาวนาไม่ให้รสชาติเป็นยาถ่ายด้วยเถอะ

ส่วนผลไม้ ปอกแล้วแกะทิ้งไว้ก็แล้วกัน ง่ายที่สุด ผมหยิบมีดมาจดๆ จ้องๆ แอปเปิ้ล เปิดไอแพดหาวิธีทำ เดี๋ยวนี้มีสอนในยูทูปด้วย ช่วยชีวิตได้มาก ฝีมือผมยังไม่ตก เพราะไม่มีมีดแกะสลัก ผมจึงแกะเป็นหงส์สองตัว มีส้มเหลือ เอามาปอกเป็นครอบครัวเป็ด เสร็จแล้วก็ห่อแร็ป เข้าตู้เย็น เอาเข้าจริงก็ไม่ยากนี่นา ทำทุกวันก็ยังได้ ผมได้ใจ

ต่อมาก็แกงส้ม เที่ยวนี้ทำตามยูทูปอย่างเคร่งครัด ไม่เผ็ดมาก ผมโยนแครอทที่แกะเป็นรูปดอกไม้ลงไปในหม้อพร้อมกับสารพัดผักและกุ้ง แม๊กซ์ชอบให้ผักเปื่อยๆ หน่อย ตั้งหม้อทิ้งไว้ ชิมแล้วชิมอีกจนมั่นใจว่าไม่เป็นยาถ่ายแน่ๆ แล้วก็หันไปทำหรุ่ม

เมนูสุดท้าย ผมสูดลมหายใจ เพิ่มพลังวัตร เมนูนี้ต้องมือเบา ใจเย็นมาก

ผมเอาน้ำมันชุบทิชชู่ ทาบางๆ ในกะทะ ตั้งไฟอ่อน รอจนร้อน แล้วค่อยกลั้นใจเอามือจุ่มลงไปในกะละมังไข่ดิบเพื่อทำไข่ห่อ เที่ยวแรก... เส้นใหญ่มหาศาล จนเหมือนผมทำไข่ยัดใส้ให้สามี

เที่ยวสอง พอดูได้ รอจนมันค่อยๆ เหลือง แต่พอหยิบส้อมมาจะพลิกด้านให้สุกทั่ว ขาดเฉย!

เที่ยวถัดๆ มา ไม่ขาดก็กรอบเกินไป ผมแทบโยนกระทะทิ้ง แต่พอหันกลับไปในห้องรับแขกเห็นดอกกุหลาบดอกโตยืนอย่างสง่างามก็ถอนหายใจ เริ่มใหม่

ในที่สุดก็ทำได้เริ่มสวยขึ้นเรื่อยๆ จนพอมีกำลังใจ พักไว้บนเขียง เอาผักชีมาแต่ง พริกไม่ต้อง แม๊กซ์ไม่กิน โรยใส้ลงไปแล้วห่อ คราวนี้ไม่ยาก ผมค่อยๆ ทำไปจนหมด จัดไว้บนจานให้สวย ใส่แรปไว้ พอแม๊กซ์มาจะได้อุ่นสักหน่อยแล้วขึ้นโต๊ะเลย

ผมหุงข้าวปิดท้าย

ไม่นึกเลยว่าแค่ทำกับข้าวจะทำให้เหนื่อยขนาดนี้ ผมถอดผ้ากันเปื้อนไปอาบน้ำล้างกลิ่นเหม็น ใกล้ได้เวลาที่แม๊กซ์จะกลับมาแล้ว

อยากตัวหอมๆ ไปรับ

คิดอะไรเป็นสาวน้อยก่อนหยิบไอแพดขึ้นมา เสียงทักข้อความจากเฟซบุ๊กดังรัว

ใครกัน...

เวลานี้ที่ไทยน่าจะหลับสนิทกันหมด

ผมเลื่อนหน้าจอ มีแชทจากคนแปลกหน้าทักมา โปรไฟล์ยังเป็นหัวโล้นๆ สีฟ้า ใช้ชื่อว่า 'John Doe' นี่มันชื่อนิรนาม

ผมเปิดข้อความดูแล้วสะอึก

'Shameless s*ut'
'lewd bi*ch'
'stupid who*e'
'Cu*t b*th'


(อีร่านไร้ยางอาย
อีร่าน
กะหรี่โง่
อีหน้า**)

ใครกัน! ผมรีบดูโปรไฟล์ ทุกอย่างเงียบกริบ เพิ่งสมัครใหม่มาเพื่อด่าผมโดยเฉพาะ ไม่มี cover ไม่มีข้อมูลอะไรทั้งนั้น

ใครกัน!
ผมสูดลมหายใจลึก... ไม่รู้ว่าเป็นใคร จะว่าเป็นคนรักของคู่ขาที่ไทยก็ไม่น่าลำบากด่าเป็นภาษาอังกฤษ แถมผมยังแต่งมาได้ตั้งสองปีแล้ว อะไรที่เคยทำก็เลิกมาตั้งนาน ไม่น่าจะใช่

หรือคู่ขา ?
แต่นอกจากชื่อเล่นและเบอร์โทรแล้วก็ไม่มีใครมีข้อมูลส่วนตัวผมอีก พอผมย้ายมาอยู่ที่นี่ผมก็เปลี่ยนเบอร์แล้ว

คนที่นี่ ?
เป็นไปไม่ได้... ผมไม่รู้จักใคร ไม่เคยไปอ่อยใคร ไม่เคยมีอะไรกับใครนอกจากสามี

ผมนั่งคิดอยู่นาน... ที่เข้าเค้าที่สุดน่าจะเป็นของฝั่งแม๊กซ์มากกว่า อาจจะเป็นแฟนเก่าหรือคู่ขาเก่าๆ ผมมั่นใจว่าสามีไม่มีใครนอกจากผมแน่นอน เป็นไปได้ที่แฟนเก่าแม๊กซ์จะส่งข้อความมาระราน

ผมไม่คิดจะบอกเขา เพราะเพิ่งมีเรื่องพิชไปหมาดๆ ผมจึงตอบกลับเอง

'thx'
'my husband always compliments me like that'
'forgot to tell... he falls head over heels for me'
'jealous?
'
(ใจจ้ะ
ผัวก็ชมบ่อยๆ อ่ะนะ
ลืมบอกไป ผัวรักกูหัวปักหัวปำ
อิจฉาป้ะ)

ผมแสยะยิ้ม ข้อความเด็กๆ แค่นี้ไม่ได้ทำให้ผมกลัวหรอก ตราบใดที่คนของผมยังรักผมขนาดนี้ ผมถ่ายรูปดอกกุหลาบช่อโตและสร้อยเพชรแนบไปด้วย พิมพ์ถามอีกครั้ง

'jealous?'
(อิจฉาป้ะ ?)

ไม่จบ ทางนั้นขึ้นว่าอ่าน กำลังพิมพ์ ผมถ่ายการ์ดที่แม๊กซ์เขียนว่ารักผม เรียกผมว่าเจ้าหญิงให้ไปด้วย ถามอีกรอบ

'feel jealous now? this's how he loves lol you f**cking trash'
(อิจฉายัง ? นี่แหละที่ผัวรักกู คริคริ อีขยะสด)

วางไอแพดลงอย่างครึ้มอกครึ้มใจ แล้วไปอาบน้ำ คราวนี้ตั้งใจอาบขัดถูทุกซอกทุกมุม...

slut เหรอ... ผัวชมบ่อยๆ จ้ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 01-09-2016 18:49:40
แม๊กซ์กลับก่อนเวลา ผมไปรับเขาด้วยหัวหอม ตัวหอม หอมไปถึงง่ามนิ้ว เขากอดผมแล้วจูบหน้าผากอย่างยินดี

"กลับมาแล้วครับเจ้าหญิง" ผมซุกหน้าในอ้อมแขนกว้าง ดีใจที่สุด

"ขอบคุณมากนะแม๊กซ์"

"ได้รับกุหลาบแล้วใช่ไหมครับ ?" ร่างสูงใหญ่จูบแก้มผมทั้งสองข้าง ผมยิ้มหวานตอบ

"อืม ได้แล้วล่ะ ช่อใหญ่มากเลย ขอบคุณนะ"

"คุณชอบสร้อยไหม ?" ตาสีน้ำตาลเป็นประกาย ผมยืดตัวขึ้น จงใจเกลี่ยผมออกจากต้นคอ อวดสร้อยที่เขาเพิ่งให้มา

"ชอบมาก... แต่ว่า..."

"น่ารักจัง" เขาอุ้มผมขึ้นให้โอบรอบคอ จูบต้นคอเบาๆ ผมกอดเขาไว้แน่น จูบเขาคืนบ้าง

"วันหลังไม่ต้องแล้วนะ... ทั้งดอกไม้ทั้งเครื่องประดับ แค่เธอรักฉัน แค่นี้ฉันก็ดีใจมากแล้วล่ะ" ฟังดูเลี่ยน แต่ผมจริงใจ ไม่ได้อยากได้แก้วแหวนเงินทองหรือดอกไม้ของเขา อยากได้แค่ความรัก... เท่านั้นเอง

ดวงตาสีน้ำตาลของแม๊กซ์เปล่งประกาย... เขาคว้าผมไปจูบ "น่ารัก... เจ้าหญิงน่ารัก..."

เรามีอะไรกันตรงนั้นอีกครั้ง ผมรู้สึกอาย แต่ทำยังไงได้... แม๊กซ์ต้องการ ผมเองก็ร้อนตามไปด้วย เขาจับผมนั่งตัก แม๊กซ์ชอบท่านี้ เพราะผมตัวเล็ก จึงเหมือนเขาข่มขืนผมอยู่ เวลาสอดเข้ามาก็สุดโคน เราจูบกันไปถึงลิ้น เลาะเล็มไปตามแนวฟัน ความใหญ่โตแทงพรวดขึ้นมา ผมโอบล้อมเขาไว้ เคลิบเคลิ้มจนหลับตา สองมือคล้องลำคอหนา แม๊กซ์ช้อนใบหน้าผมขึ้น  อีกมือประคองเอว ผมค่อยๆ ขยับ ในท้องเต็มแน่นด้วยท่อนลำของเขา

slut เหรอ...

ผมโหย่งตัวขึ้น กัดริมฝีปากเขาเบาๆ และถอนออก แอ่นอกหราให้เขาชิม แล้วยกเอวสูง ก่อนทิ้งตัวกลับ ความจุกแน่นดันพรวดขึ้นมาถึงคอหอย แม๊กซ์ครางซี๊ด

"เจ้าหญิง... ข้าว ข้าว..."

"ชอบ... ไหมม..." ผมร้อง เป็นฝ่ายขึ้นขยับ ดันพุงกลมๆ ให้ติดกับหน้าท้องเป็นลอน ท่อนลำมุดเข้ามุดออกในตัวผมอย่างเอร็ดอร่อย

ผมเป็น slut ผมจะร่าน แล้วใครจะทำไม ผมจะร่านให้สามีคนเดียว

ดันเข้าดันออก... ท้องแน่นจุกแล้ว แต่แม๊กซ์ยังไม่พอใจจังหวะ เขาคว้าข้อเท้าทั้งสองให้วางบนไหล่ ทั้งๆ ที่ผมนั่งตักเขาอยู่ สองมือจับเอว เสียบเสยขึ้นมาไม่กลัวลำใส้ผมหลวม ผมร้อง จังหวะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมเห็นหน้าเขาชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลาที่แสดงอารมณ์ถึงขีดสุด เหงื่อแห่งรสกามสาดกระเซ็นอาบร่างเราทั้งสอง ดวงตาสีน้ำตาลที่บ่งบอกว่าลุ่มหลงในตัวผม

"แน่น... เจ้าหญิงครับ... ดี ดี"

"ฮื้มมม อึกกก เข้ามาอีก ลึก...ฮ้าา"

ผมขยับก้นรับ แม๊กซ์กระดกเอวไม่ยั้ง ผมร้องเสียงหลง เขาดันเข้ามาจนสุดจนน่ากลัวว่าจะไปสะกิดลูก ผมจิกต้นคอเขา เผยอปากรับจุมพิต ขยับเอวไปตามจังหวะ ความเสียวซ่านบีบรัด ผมแหงนหน้าร้อง ความร้อนพุ่งพรวด น้ำหวานไหลเยิ้มออกจากท่อนลำตัวเอง ผมหายใจหอบ แม๊กซ์ยังไม่หยุด สองขาแข็งแรงลุกขึ้น ให้ผมอยู่ในท่าถูกอุ้ม เขาชอบ... ชอบข่มขืนผม ผมก็ชอบถูกเขาย่ำยี

"อ๊ะ อ๊ะ เข้ามา อึก... ใหญ่... ใหญ่จัง"
"แม๊กซ์ แม๊กซ์ อ๊าาา ชอบ ชอบบ"

"ข้าว เจ้าหญิงของผม... เจ้าหญิง..."

ผมถูกท่อนลำปักคา กระแทกเข้ามาไม่หยุด กวาดต้อนเนื้อ บดขยี้ตรงจุดอ่อนไหว สองขาผมเกร็งกระตุก ก้นที่มือเขาประคองไว้ไม่ให้หล่นก็สั่นระริก แค่เริ่มต้นผมก็เสร็จไปแล้วอีกน้ำ

ขึ้นยกที่สามสำหรับผม ผมบีบรัดท่อนลำให้แน่นเข้า ยิ้มยั่วสามี เขาตอบแทนด้วยการแทงงัดขึ้นมา ผมร้อง ของเขาไม่ใช่เล็กๆ มีของเท่าท่อนแขนล้วงลึกเข้าไปขนาดนั้น ผมน่าจะหลวมมากแล้ว แต่แม๊กซ์ยังไม่หยุด

"ลึกอีก... แรงอีก อึกกก"

"เจ้าหญิงง ที่รัก ข้าวของผม... ฮ้าาา"

ผมถูกจับเปลี่ยนท่าอีกครั้ง... ผมที่สระไดร์อย่างดีเปียกโชก มือลูบท้องน้อยเบาๆ กลัวเหมือนกันว่าจะไปรบกวนลูก แต่แม๊กซ์กลับคว้ามือทั้งสองไปไขว้ไว้ด้านหลัง เขาจับให้ผมยืนโก้งโค้ง ส่วนตัวเขากระแทกผมมาจากด้านหลังอย่างรุนแรงจนผมสะเทือน แรงอัดของแม๊กซ์ทำให้ผมเข่าอ่อน สู้เขาไม่ไหวจริงๆ สมองหนึบชาด้วยรสหวาน น้ำลายไหลเยิ้ม แม๊กซ์ดึงผมหันหน้ากลับไปจูบ ส่งแรงอัดตะโบมเข้ามาจนท้องขึ้นเป็นรูปร่างของเขา ผมครางทั้งๆ ที่ถูกจูบ

ไม่ไหวแล้ว... ไม่ไหวแล้ว...

"อึกก ถึง... ฮ้าาา ถึงง..." ความเสียวซ่านที่ถูกขยี้จุดภายในทำให้ผมขนลุกชัน เสียวสะท้านไปถึงสันหลัง สองขาแข็งเกร็ง ผมถึงจุดสุดยอดครั้งที่สามอย่างรุนแรง... แรงจนภาพตรงหน้าขาวโพลน เล็บจิกไหล่แม๊กซ์จนได้เลือด ปลายเท้าปลายนิ้วหงิกงอ ไม่รับรู้กระทั่งถูกจับให้นอนลงอ้าขากว้าง ความใหญ่โตปักเข้ามาจนสุด ได้ยินเสียงกระแทกดึงกึกปนกับเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงของเหลวถูกตีฟองด้านใน

ข้าว the slut ของแท้ มีสามีแบบนี้ใครไม่กลายร่างบ้างให้มันรู้ไป!





ผมนั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม อธิบายทีละจานๆ ให้ฝรั่งรู้ถึงความเหนื่อยยากของเมีย แม๊กซ์แสนดี คว้าหรุ่มเข้าปากแล้วเคี้ยวกร้วมๆ เหมือนเคี้ยวอาหารฟาสต์ฟู๊ด ผมน้ำตาตกใน จะกินให้มันละเมียดละไมหน่อยก็ไม่ได้ อุตส่าห์แกะสลักผัก ประณีตบรรจงทำหรุ่มให้สามี เกือบไปนั่งพับเพียบเอี้ยมเฟี้ยมเอาพัดโบกคุณหลวงเป็นเมียทาสแล้ว

แต่ฝรั่งย่อมเป็นฝรั่ง สนใจเสียที่ไหน อร่อยเป็นใช้ได้

"อร่อย" ก็ยังดีที่ชม "ข้าวทำเพื่อผมเหรอ ?"

ก็ใช่... แต่พอได้ยินชัดๆ แล้วก็อาย ผมพยักหน้าทั้งๆ ที่หน้าร้อนวูบวาบ แม๊กซ์มีสีหน้าประทับใจ "ทั้งแกะสลักผลไม้นี้ด้วย ?"

ผมพยักหน้ารับ "อะ... อือ แต่ว่าไม่มีมีดแกะสลักนะ ไม่งั้นสวยกว่านี้... ฮื้มมม" แม๊กซ์กระโจนข้ามโต๊ะมาจูบ เขาบีบคางจนผมยอมแพ้ รสสัมผัสของลิ้นและน้ำลายถูกกรอกเข้าไป

ผมถูกวางยา... น้ำลายของทำให้ผมเร่าร้อน แม๊กซ์บดขยี้ริมฝีปาก เมื่อค่อยๆ ถอนออก สีหน้าเขาภาคภูมิใจมากและตักกินทุกอย่างจนหมด ผมได้แต่เขี่ยข้าวในจานช้าๆ

น่าอายยิ่งกว่าขึ้นคร่อมกันอีก...

"ข้าวน่ารัก... น่ารักที่สุด... จะทำให้ผมหลงไปถึงไหนกัน"

ผมก้มหน้างุด

"เจ้าหญิงครับ... คุณทำให้ผมอิจฉาตัวเองแล้วรู้ไหม... จะมีใครในโลกโชคดีเหมือนผมอีก..."

ผมแทบลงไปมุดใต้โต๊ะ คำหวานของเขาชัดเจน หนักแน่น แม๊กซ์ไม่ละสายตาไปจากผมเลย แล้วยังคว้ามือไปจูบ สบตาเนิ่นนาน "เจ้าหญิงครับ... รักนะ... รักมากเหลือเกิน"

บุ้ม! เหมือนหน้าระเบิด ผมบิดตัวเขินจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ขยับตัวเงอะงะบอกเขา "กะ... กินข้าวเถอะ"

ใบหน้าแม๊กซ์นั้นบ่งบอกชัดเจนว่าอยากทำอีกรอบ คราวนี้ด้วยความอ่อนโยนมากกว่าความใคร่ เมื่อเรากินเสร็จ เขาช่วยผมเก็บจาน ผมจึงจูบแก้มเขาเบาๆ

"อ่อนโยนจัง..." ผมกระซิบ เราใกล้กันจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ

"รักจัง..." เขาตอบกลับมา ใช้ปลายจมูกโด่งเขี่ยปลายจมูกผม "หน้าแดงใหญ่เลย... น่ารักที่สุด"

ผมเบือนหน้าหนี ด้วยความอ่อนโยนของแม๊กซ์ทำให้ผมลืมเรื่องที่มีคนมาด่าผมถึงที่ว่าหน้าฉีไปสนิท ผมรู้ว่าเขาอยากทำ ในร่มผ้าเขาแข็งจนโป่งออกมา แต่ผมยังมีเรื่องต้องทำวันนี้จึงดันเขาออกเบาๆ ไล่เขาไปออกกำลังฟิตหุ่นแทน ผมยกคำอ้างข้างๆ คูๆ ว่าพักนี้เขาไม่ค่อยออกกำลัง หุ่นไม่ฟิตเหมือนตอนแต่งงานใหม่ๆ ใบหน้าแม๊กซ์สลดลงเหมือนถูกผมต่อยเข้าที่ท้อง ร่างสูงใหญ่เลยรีบไปที่ห้องฟิตเนส (แม๊กซ์สร้างไว้ในบ้าน) ยกเวทสร้างซิกส์แพ็กกับกล้ามแน่นๆ ให้ผมตีเล่น

ผมหน้าแดง... แต่พอนึกขึ้นได้ว่ากล้ามของแม๊กซ์ทำให้ผมมีอารมณ์ขนาดไหนก็รู้สึกร้อนผ่าว... ผมมัน Slut

ผมนึกขึ้นมาได้ แล้วหัวเราะเบาๆ

Slut แล้วไง ? จะทำให้อิจฉาจนอกแตกตายไปเลย

เปิดโปรไฟล์ของคนนิรนามขึ้นมาดู อยากรู้ว่าเป็นใครจริงๆ

Slut แล้วไง... ผมส่งสัญลักษณ์นิ้วกลางกลับไปให้แล้วบล๊อคคนนั้นเสีย

คนประเภทนี้ไม่มีค่าพอให้สนใจ ดีแต่เห่าหอนอิจฉาคนอื่นไปวันๆ อย่าคิดว่าผมเป็นนางเอกหนังไทยที่แสนอ่อนแอ โดนคนด่าแล้วมานั่งร้องไห้กระซิกๆ ให้ไปเสียสุขภาพจิตแบบนั้นน่ะ ไม่เอาหรอก เก็บแรงไว้ทำกับข้าวให้แม๊กซ์ยังดีกว่า หรือจะไปทะเลาะกับแม๊กซ์เพราะเรื่องคนไม่มีหน้าในเฟซบุ๊กแบบนั้นน่ะหรือ ถ้าให้เลือกคนที่ใช้ชื่อว่า John Doe กับสามีสุดหล่อ ร่ำรวย รักผมมาก ผมเลือกสามี

ผมยิ้มหวานให้คนนิรนาม กดปุ่มรีพอร์ตเบาๆ

มึงก็ได้แค่ด่าเท่านั้นแหละ Slut ที่สามีรัก สามีหลง... แล้วยังไง ?

Jealous?



ผมนั่งบนตักแม๊กซ์ เบื้องหน้ามีไอโฟนสามเครื่อง ไอแพดสองเครื่อง โทรศัพท์บ้านอีกหนึ่งเครื่อง

ผมมีสองเครื่อง เครื่องนึงเอาไว้ใช้ที่นี่ อีกเครื่องปิดไว้เอาไว้กลับไทย ไอแพดเครื่องหนึ่งของผม อีกเครื่องของแม๊กซ์และโทรศัพท์บ้านที่เหมือนเอาไว้ติดต่อกับล๊อบบี้เท่านั้น

ทั้งหมดมีพาสเวิร์ดเดียวกัน โดยมีผมเป็นคนตั้งให้ตามอารมณ์

พาสเวิร์ดทุกอย่างของแม๊กซ์ เขายื่นให้ผมจัดการ

ผมชันเข่าขึ้นเพราะเมื่อย แม๊กซ์ไม่สนใจเครื่องมือติดต่อสื่อสารทั้งหมดเบื้องหน้า มือเขานัวเนียอยู่ที่อกและเอว บนตักที่นั่งอยู่ก็รู้สึกถึงอะไรแข็งๆ ดันก้นอีกแล้ว

"แม๊กซ์" ผมเรียก

"ครับ ?" เขาจับเอวผมให้นั่งชิดกับของแข็งบนตัก ผมขยับตัวหนี แต่นั่นยิ่งเป็นการขยี้ท่อนลำให้มีอารมณ์

"เจ้าหญิง อื้มม ไม่ต้องโทรแล้ว มาทำกันเถอะ" เขาพรมจูบที่ไหล่ ดึงเสื้อสเว็ตเตอร์ผมลงจนคอย้วย โรคหวงของกำเริบทันที ผมหยิกต้นแขนล่ำๆ

"หยุด! ฉันชอบเสื้อตัวนี้ ห้ามทำยาน!"

แม๊กซ์ชักโมโห ไม่เข้าใจ โกรธอะไรอีก แต่แล้วความจริงก็เปิดเผยเมื่อเขาดึงเสื้อสเว็ตเตอร์ผมออกรวดเดียวทางหัว แล้วบี้ยอดอกแรงเหมือนตั้งใจจะดึงให้ขาด ผมร้องดังโอ๊ย

"คุณทำให้ผมหึงอีกแล้วนะ!"

"หะ... หึงอะไร!" ถอดออกแล้วก็หนาวสิ ฝรั่งไม่ชินอากาศร้อนฉันใด คนไทยก็ไม่ชินอากาศหนาวฉันนั้น ผมเอามือกอดอก คลานออกจากตักแข็งๆ ไปเอาสเว็ตเตอร์กลับมา

แม๊กซ์คำรามเสียงต่ำ คว้าหลังคอผมเหมือนจับแมว "ข้าว... ผมหึงที่คุณหวงสเว็ตเตอร์นั่นจนไม่ยอมให้ผมทำ!"

"โอ๊ย!" ไม่ว่าเปล่า ถอดกางเกงผมด้วย! อะไรกัน! ตอนแรกผมตั้งใจจะสั่งสอนแม๊กซ์ตามประสาคนมีอายุมากกว่าว่าให้รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ เขาเถียงขาดใจ โดยบอกว่า ความรับผิดชอบก็ผมนี่ไง เขาได้ผมแล้วเลยรวดทำให้ท้องไปด้วย มีความรับผิดชอบสุดๆ

ผมพูดไม่ออก เหมือนตอนนี้เลย

"แม๊กซ์ สเว็ตเตอร์นั่นกว่าจะซักให้มันย้วยขนาดนั้น... อึก! อย่าจับ!" มือใหญ่ตะครุบหว่างขา ดึงกางเกงนอกและกางเกงในลงจนไปกองอยู่ที่ต้นขา ผมขืนสุดชีวิต ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่ได้ทำอะไร

"ไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรน่า"

"เธอผลัดมาสามวันแล้วนะ!" ผมหุบขา มือใหญ่ที่สอดเข้าไปตรงกลางเลยติดอยู่ แต่ชนะได้แค่แป๊บเดียวก็ต้องครางเสียงดัง แม๊กซ์คว้าลูกกลมของผมเต็มมือแล้วนวดคลึงเล่น

"เจ้าหญิง... ไปที่เตียงเถอะครับ" กระซิบเสียงหวานใส่หู ผมดิ้นรนเหมือนปลาโดนโยนมาไว้บนบก ในที่สุดก็คว้าไอโฟนมาได้เครื่องนึง ของแม๊กซ์... ช่างเถอะ

ผมมีเบอร์พิชอยู่ในนามบัตรข้างๆ แม๊กซ์จิ๊ปากไม่พอใจ อีกมือล้วงเข้าไปที่แก้มก้น ทั้งบีบทั้งเคล้น ตอนนี้ผมถูกหมอนวดไซส์ฝรั่งนวดส่วนล่างจนระทวย แม๊กซ์มือหนึ่งเลื่อนมาจับท่อนลำเล็กๆ อีกมือลูบไล้ช่องทาง ผมที่ถูกประกบระหว่างกลาง จะขยับหนีไปด้านหน้าก็เจอมือใหญ่ จะไปด้านหลังเขาก็สอดนิ้วเข้ามา ทำให้ผมคลั่ง เขาโน้มตัวลงมาจูบผม... จนน้ำลายผมฟูเต็มปาก เขาดูดทั้งลิ้นและฟัน ดูดลึกไปถึงคอ ผมกำลังจะสติแตกแล้ว แต่มือที่กำไอโฟนเย็นเฉียบนั้นก็ค่อยๆ เลื่อนไปตีหลังคอเขา แม๊กซ์หยุดจูบอย่างไม่พอใจ

"หรือจะตรงนี้ ?" เขาถามเสียงกระเส่า กดปลายจมูกชนกับปลายจมูกผม ผมสูดดมกลิ่นหอมของเหงื่อที่กระตุ้นอารมณ์แล้วตอบอย่างไม่มีสติ

"ฮื้อ... โทรก่อน..."

"อืมม งั้นขอกินก่อน"

"แม๊กซ์... แม๊กซ์..." จูบนั่นมันอะไรกัน แม๊กซ์จูบไปทั่วใบหน้า สองมือก็แข็งขัน ทั้งสอดทั้งลูบไล้ นิ้วแข็งๆ ดันเข้าไปในเนื้อหยักด้านในหนึ่งนิ้วแล้ว เขาแกล้งงอนิ้วเพื่อครูดจุดกระสันด้านใน เอวผมแอ่นร่อน ร้องเสียงดัง

"อ๊าาาาาาา!!!" จุดสุดยอดมาถึงโดยไม่รู้ตัว ท่อนลำคายน้ำออกมาถึงหน้าอก ผมยังไม่ทันโกยอากาศเข้าปาก เขาก็หยิกหน้าอกแล้วก้มลงชิม สติผมล่องลอยเต็มที่ แต่ก็ยังพยายามฝืน คล้ายทำ dying messange ก่อนตาย

"แม๊กซ์ ฮ้าาา... ถ้า... ถ้ายอมให้ฉันโทร... ฉันจะ... อึก..." นิ้วที่สองล้วงเข้าไปด้านในแล้ว สะโพกไร้ยางอายของผมแอ่นหรา สองขาอ้ากว้างให้สอดเข้าไปอีก "ฉันจะ... อมให้เธอ..."

แม๊กซ์หยุดมือทันที ผมเหมือนถูกดึงลงมาจากสวรรค์กลางคัน ได้แต่มองหน้าคนที่ก้มลงมาด้วยม่านน้ำตา

แม๊กซ์ตาเป็นประกาย "จริงเหรอ ?"

ผมพยักหน้าอ่อนแรง เขาหยิบโทรศัพท์ที่ตกลงไปให้ผม คว้านามบัตรมากดเบอร์เรียบร้อยแล้วส่งให้

ผมรับมางงๆ จนกระทั่งเสียงคนรับสายนั่นแหละถึงได้สติ

"ฮัลโหล ?"

"อ๊ะ พิช!"

"ฮัลโหล นั่นใครครับ ?" พิชถามเป็นภาษาอังกฤษมาทางปลายสาย ผมตอบเป็นภาษาไทย

"สวัสดีครับคุณพิช ผมเองข้าว อื้ออ!" แม๊กซ์ช่วยผมถอดเอากางเกงในและกางเกงยืดออกไปจากขา ตาจ้องหว่างขาผมไม่กระพริบ

"อ้อ... คุณข้าว" เสียงของพิชฟังดูประหลาดใจมากกว่าโกรธ ผมรู้สึกได้ถึงสัญญาณดี

"คือ... ผมโทรมาขอโทษคุณเรื่องวันก่อน" แม๊กซ์จับให้ผมนั่งอ้าขา มีเขานั่งดูช่องทางผมเต้นระริกคล้ายอยากให้มีอะไรแข็งๆ มาอยู่เป็นเพื่อน ผมเงยหน้ามองเพดาน ไม่กล้ารับรู้ว่าสามีจะเล่นอะไรพิเรนทร์อีก

พิชเงียบไปสักครู่ "อ้อ ครับ"

"ผมต้องขอโทษแทนสามีจริงๆ นะครับ"

"ขอโทษแทน ?" เสียงพิชค่อนข้างเย็นชา ผมชักใจไม่ได้ แม๊กซ์ผละออกมานั่งบนพรม แล้วซุกหน้าลงมาที่ต้นขา ผมรีบดันศีรษะเขาออกไป

"ครับ คือ... ผมจะให้สามีไปขอโทษคุณด้วยตัวเองอีกครั้ง แล้วก็จะได้คุยเรื่องค่าเสียหายด้วย" ผมพยายามใจดีสู้คนท้อง แต่แม๊กซ์นี่สิ ดันผมลงไปนอนแผ่ จับสองขาตั้งชันขึ้น... บั้นท้ายที่เย็นโล่งทำให้ผมสมองปั่นป่วน

"...ผมจะบอกให้ว่า ผมไม่ให้อภัย" เสียงพิชเข้ม ชัดเจน ผมใจแป้ว กระทั่งแม๊กซ์มาจับส่วนกลางก็หด ไม่รู้เพราะหนาวหรือเปล่า "แต่ว่า... ถ้าคุณนัดสามีมาที่บ้านผมวันอาทิตย์นี้ ผมจะให้อภัยครับ"

"เอ๊ะ..." ผมชะงัก ใช้ขาถีบอกแม๊กซ์ที่เข้ามานัวเนียง่ามขาออกไป

พิชหัวเราะเบาๆ "วันนี้อาทิตย์นี้บ่ายโมงนะครับ เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้ คือผมจะจัดปาร์ตี้เลี้ยงพนักงานในร้านน่ะครับ อยากให้คุณมาร่วมด้วย"

"แต่ว่า..." แม๊กซ์รวบสองขาผมไปวางบนอกแกร่ง เริ่มเลียตั้งแต่ปลายนิ้วเท้า "อึ่ก... จะ จะดีเหรอครับ ?"

"ครับ ป้านวลก็มาด้วย สามีคุณจะได้ขอโทษป้าเค้าโดยตรง"

"ฮ้าาา" แข้งขาอ่อนแรง แม๊กซ์ลากผมไปใกล้ ใช้มือเล้าโลมกลางหว่างขาอีกครั้ง "ขะ ขอบคุณครับ ละ แล้วผมต้องทำ อึ่กก อะไร พวกอะ.. ฮ้าา อาหารไปไหมครับ" ไม่ไหวแล้ว อยากวางสายเหลือเกิน แต่มิตรภาพดีๆ แบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ พิชใจกว้างที่ไม่ถือสา แต่ตอนนี้ผมถือสาไอ้หน้าหล่อที่กำลังเอาปากสูบท่อนลำน้อยๆ ของผมเหลือเกิน

"ไม่ต้องหรอกครับ มาทานที่นี่ดีกว่า พวกเราทำอาหารไทยกินกันด้วย ไม่ต้องเกรงใจนะครับ"

"ตะ แต่..." ปากเขามัน โอ้วว ไม่ไหวแล้ว แม๊กซ์ดูดท่อนลำผมอย่างแรง มือก็เขี่ยลูกบอลเล็กๆ ไปด้วย ผมเงยหน้าขึ้นสูดปาก เอามือปิดโทรศัพท์

"ถ้าคุณไม่สบายใจ อบพวกขนมหรือทำอาหารง่ายๆ มาก็ได้ครับ"

ผมรีบรับคำ "ครับ ขอบคุณมากครับ"

"เรื่องค่าเสียหาย... ผมจะลงบิลไว้ให้นะครับ คิดตามจริง"

"ครับ... ครับ!"

ทางนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ผมพ่นลมหายใจอย่างร้อนแรง กัดริมฝีปากแน่น ลิ้นร้อนโลมเลียไปทั่วท่อนลำจนเปียกแฉะ ผมหายใจหอบถี่ กลั้นเสียงจนทรมาน

"คุณข้าวครับ..."

"คะ ครับ..."

"ผมขอถามตรงๆ อย่างหนึ่ง ถือเสียว่าเป็นเพื่อนก็แล้วกันนะครับ..."

"อึก!" ท่อนลำสั่นระริก แม๊กซ์เลียปลายยอด เอาลิ้นดุนตรงรอยแยก ผมครางในคอดังอ๊า แล้วน้ำขาวๆ ก็เยิ้มออกมา

"...คุณกำลังมีเซ็กส์ใช่ไหมครับ ?"

ผมอ้าปากค้าง สมองตื่นตัวเต็มที่ รีบยันสามีออกไป "อะ..."

พิชหัวเราะ "เขาหึงเพราะผมใช่ไหม... คงไม่ชอบใจล่ะสิที่คุณโทรมาหาผม ไม่เป็นไรครับ... สามีผมก็เคยทำแบบนั้น เพื่อนผมโกรธไปหลายคนเลยล่ะ"

ผมตะลึง ไม่นึกว่าในโลกนี้ยังมีคนแบบแม๊กซ์อยู่อีก ตกใจจนลืมไปว่าผัวยังอารมณ์ค้างอยู่

"ผมอยากเป็นเพื่อนกับคุณนะข้าว วันอาทิตย์มาให้ได้นะครับ"

ขนาดเจอความบ้าไปขนาดนี้แล้ว... ยังอยากเป็นเพื่อนกับผมอยู่ ผมแทบลงไปกราบกับความใจกว้างของพิชจริงๆ

"ขอบคุณครับ... ขอบคุณมากๆ เลยครับ"

"ครับ แล้วเจอกัน" พิชหัวเราะกึกๆ ส่งท้าย "บอกสามีคุณเพลาๆ หน่อยนะครับ พอท้องได้หกเดือนแบบผมแล้วมันจะลำบากมากๆ เลยล่ะ ถ้าไม่ให้เขาฝึกงดตั้งแต่ตอนนี้ อีกหน่อยคุณจะเมื่อยปากเมื่อยมือมาก"

พิชวางสายดังแกร๊ก...

...คำเตือนนั้น... สิบแปดบวกชัดเจน

ผมก้มลงดูสามีที่หื่นกระหายเต็มที่...

...ถ้าสอดใส่ไม่ได้ คงต้องใช้ทั้งมือและปากแทนสินะ...

แม๊กซ์เลียริมฝีปาก ลุกขึ้นถอดกางเกงดังแกร๊ก คว้าท่อนลำเปียกโชกมาตบแก้มผมเบาๆ

ต่อให้รักผมแค่ไหน แม๊กซ์ก็ยังเป็นผู้ชาย ผู้ชายที่มีความฝันว่าอยากเป็นพระเอกหนังโป๊ อยากแตกใส่หน้าเมียแบบนางเอกหนังเรต แต่คนที่โดนทำอย่างผมไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ว่าคู่นอนคนไหนผมก็ห้ามทำเด็ดขาด เพราะมันเหมือนคุณค่าผมลดลงเหลือแค่น้องอาโอกิ น้องมิยาบิเท่านั้นเอง

ผมไม่ใช่นางเอกหนังโป๊ ผมเป็นเมียเขา ถูกต้องตามกฏหมายและประเพณี

แต่ผู้ชายก็คือผู้ชาย แรงที่ตบแก้มด้วยขาที่สามของเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ ลมหายใจหืดหาดดังเหนือหัว

ผมนึกถึงคำเตือน...

...ผมชอบเซ็กส์ แต่เกลียดโบลว์จ๊อบ เพราะไม่ชอบน้ำคาวๆ ที่ไหลเต็มปาก

"อย่ากลืนนะเจ้าหญิง คุณท้องอยู่" เขาไล้ปลายคางผมอย่างอ่อนโยน แต่จ้องเหมือนข่มขืนผมชัดๆ

ผมจำใจอ้าปาก อมความใหญ่โตเข้าไป... ใหญ่จนปากแทบฉีก เข้าไปได้แค่ปลายหัวก็ทรมาน หายใจไม่ออกแล้ว แต่แม๊กซ์จับหัวผมไว้แล้วดันพรวดเข้ามาจนสุด กลุ่มขนหยาบติดจมูก กลิ่นผู้ชายเต็มปากเต็มคำ ท่อนลำเขาไหลลงไปแทงในลำคอ ผมแทบอาเจียน

สองมือใหญ่ประคองท้ายทอย แล้วผลักหัวผมเข้าหาหว่างขา ส่วนเอวกระดกเข้ามา กระแทกปากผมเหมือนกระแทกบั้นท้าย

ปากผมโดนข่มขืนจนล้า น้ำลายเยิ้มลงมาเปียกโซฟา ได้แต่ครางให้เขาเอาออกไป เขาทำผมเจ็บจริงๆ แต่แม๊กซ์สูดปากอย่างพึงพอใจ ปลายฟันผมครูดท่อนเนื้อด้วย เขาเหมือนไม่รู้สึก...

...หลายนาทีอันเจ็บปวดทรมาน ผมด้านชาไปหมด ลำคอปวดแสบปวดร้อน ปากเหมือนจะฉีก แม๊กซ์เสร็จไวกว่าปกติ เหมือนการใช้ปากจะกระตุ้นอารมณ์เขา แท่งยักษ์ร้อนระอุพองตัวเต็มคอ เหมือนจะไหลลงไปสู่หลอดลม ผมหายใจไม่ออก แล้วเขาก็กระแทกไม่ยั้ง เสียบลึกลงไปในคอ ท่อนลำสั่นระริก เลือดร้อนระอุเต้นเร่า พ่นน้ำร้อนจัดออกมาเต็มคอ เขาค่อยๆ ดึงออก มีน้ำไหลเยิ้มตามทาง ผมสุดจะทนไหว โกยอากาศเข้าปอด ความพะอืดพะอมเต็มปากและลำคอ ผมคายทุกอย่างออกมา รสสัมผัสที่อยู่ภายในยังเฝื่อน แรงกระแทกยังทำให้เจ็บ ผมอาเจียนจนหมดสิ้น

แม๊กซ์ตกใจไม่น้อย เขาใช้มือรองสิ่งปฏิกูลของผมกระทั่งผมอ้วกออกมาจนหมด แล้วอุ้มผมไปยังห้องน้ำ รีบล้างตัวล้างปากให้ผม ผมบ้วนน้ำหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น หน้าซีดเหมือนศพ แม๊กซ์ต้องประคองผมไปอาเจียนที่โถส้วมอีกครั้ง

ได้อ้วกออกมาแล้วค่อยดีขึ้น ผมหมดแรง ทรุดนั่งลงกอดโถส้วม น้ำตาจากที่ไหนก็ไม่รู้ไหลท่วมตา ตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงตอนนี้ แม๊กซ์ไม่มีคำพูดแม้สักคำ

ผมซบหน้าลงกับสุขภัณฑ์ เมื่อสัมผัสกล้าๆ กลัวๆ แตะลงที่ไหล่ ผมกระซิบด้วยเสียงที่เหลือเพียงน้อยนิดว่า "...ออกไป"

ผมไม่เคยไล่สามีมาก่อน ไม่เคยเลย ไม่เคยไม่อยากมองหน้าเขามาก่อน

ผมรักเขา แต่ตอนนี้ผมไม่อยากเห็นเขา

หน้าแม๊กซ์เหยเกเหมือนจะร้องไห้ เขาโอบผมไว้ แม้ผมจะดิ้นหนี แต่กระทั่งยกแขนผมยังไม่มีแรง หรือต่อให้ผมมีแรง ผมก็สู้เขาไม่ได้อยู่ดี

"ขอโทษครับ ขอโทษ... อย่าไล่ผมไปไหนเลย เจ้าหญิง..."

ผมไม่รับรู้คำขอโทษหลังจากนั้น สติผมดับวูบลง...

...ที่คอห่านนั่นแหละ




หายใจไม่ออก...

ผีอำรึ!?


ผีนิวยอร์กอำด้วยเหรอ ?

ผมคิดอย่างพรั่นพรึง ผีนิวยอร์กนี่จะเป็นฝรั่งหรือละตินหรือคนดำ แต่ที่รู้คือต้องรวยมากๆ เพราะมาตายในเพนต์เฮาส์สุดหรูใน Upper East

ผมฟุ้งซ่าน เสียงและความรู้สึกอุ่นของลมหายใจทำให้ผมตื่นเต็มตา

ผมก้มลงมองสิ่งที่ทับอยู่... แขนใหญ่ ของใคร?

อ้อ... สามีผมเอง

ร่างกายรู้สึกถึงความนุ่มที่ห่อหุ้มอยู่ สัมผัสที่อบอุ่น สัมผัสที่ผมไม่เคยได้รับตอนนอนนับตั้งแต่แต่งงานกับแม๊กซ์

ผมใส่ชุดนอน! ชุดนอนราคาแพงอย่างดี หรูจนผมไม่กล้ารู้ราคา แต่คุณภาพมันก็ดีมากๆ นุ่มสบาย ขยับตัวอย่างไรก็ไม่รั้งไม่ยืด

ผมขยับตัวขลุกขลัก ไม่เจ็บก้นด้วย! แต่เจ็บปาก...

ความทรงจำอันเลวร้ายวาบเข้ามาในสมอง พร้อมๆ กับความรู้สึกแย่...

แม๊กซ์ทำได้ยังไงกัน ทั้งๆ ที่ผมเคยบอกแล้วว่าไม่ชอบ
แต่ผมก็เป็นคนอนุญาตเอง... แม๊กซ์ยังเด็ก ยังไม่รู้ว่าควรทำถึงไหน

ผมมองแขนล่ำอย่างสับสน ควรจะโกรธดีหรือยิ้มหวานชมว่าที่รักเก่งฝุดๆ เลยดี ?

ถ้าผมโกรธ แม๊กซ์จะเบื่อผมไหม ?

เกย์สาวน้อยที่ร่านขนาดขึ้นควบผู้ชายกลับเรื่องมากไม่ยอมอมให้

"ตื่นแล้วเหรอครับ ?" แม๊กซ์งึมงำ ซุกหน้ากับซอกคอผม ดวงตาเราสบกันในความมืด ก่อนแม๊กซ์จะรีบกระชับอ้อมกอด เหมือนเขาได้สติ

 "เจ้าหญิง... อา เจ้าหญิง ข้าวของผม... อย่าโกรธผมเลยนะ ไม่สิ โกรธผมก็ได้ แต่อย่าเกลียดผมเลยนะ ผมขอโทษ... ขอโทษครับ จะไม่ทำอีกแล้ว" เสียงเขาสั่น พยายามเข้ามาจูบผม "อย่าทิ้งผมไปเลยนะ... อย่าทิ้งผมไปเลย..."

แม๊กซ์พูดไม่รู้เรื่อง ผมจูบแก้มเขาเบาๆ "อืม"

"เจ้าหญิง ?"

ผมยกแขนที่บี้แบนเพราะโดนทับขึ้นลูบหน้าท้องก่อน โอเค เขาไม่ทับลูก แล้วค่อยลูบหน้าคมเข้มนั้น "เธอก็รู้ใช่ไหมว่าฉันไม่ชอบ คราวก่อนฉันก็อ้วกแบบนี้"

ริมฝีปากใต้ไรหนวดขยับคล้ายจะเถียง ก่อนหุบลง "ผมผิดเองครับ... ผมผิดเอง ผมขอโทษ ข้าว สัญญากับผมนะ จะไม่ไปไหน..."

ผมหัวเราะเบาๆ เขาช่างน่ารัก... แม้จะทำกับผมถึงขนาดนั้น แต่ก็ยังน่ารัก แล้วนั่นก็ถือเป็นความผิดผมครึ่งหนึ่งด้วย "ฉันท้องป่องขนาดนี้จะให้ฉันไปไหนได้ฮึ ?"

เขากอดผมแน่น จนผมต้องเตือนไม่ให้ทับลูก

"ขอบคุณครับ... ขอบคุณ เจ้าหญิงของผม" เขาระดมจูบทั้งหน้า เหมือนหมาตัวโต ผมจูบเขาตอบ

"แล้วก็... ฉันเป็นคนอนุญาตเอง... จะโกรธเธอก็ไม่ถูก"

"เจ้าหญิง... ไม่ผิด..." ผมเอามือปิดปากเขา ส่ายหน้า

"ชู่ว์ เราผิดด้วยกันทั้งคู่นะ โอเคไหม ? ตอนนี้มาล้างปากฉันได้แล้ว แด๊ดดี้" แม๊กซ์ยิ้ม... ดวงตาเป็นประกาย ผมชอบใบหน้าที่มีความสุขของเขา ชอบยามที่เขาสอดลิ้นเข้ามา กวาดต้อนผมจนจนมุม

เขาชอบ... ชอบให้ผมเรียกเขาว่าแด๊ดดี้ "มามิ๊ครับ... แด๊ดทำมิ๊เจ็บไหม ?" เขากระซิบทั้งๆ ที่ปากเรายังเชื่อมต่อกัน ผมยกแขนขึ้นโอบรอบคอเขา

"ฮื่อ... มิ๊เจ็บมากๆ เลยครับแด๊ด แด๊ดต้องรักษามิ๊นะ"

เขายิ้ม กอดผมเป็นเนื้อเดียว... แล้วชุดนอนราคาแพงของผมก็ค่อยๆ หลุดออก...

ก่อนหน้านี้ผมไม่เชื่อในความรัก เพราะเคยเจ็บช้ำมาก่อน... แต่แม๊กซ์ได้ค่อยๆ สอนผมว่า..
...ความรักก็เรียบง่ายแบบนี้ ทำให้คนที่เรารักมีรอยยิ้ม โกรธกัน ทะเลาะกันแล้วคืนดีกัน มีเซ็กส์กันบ้าง หัวเราะให้กันบ้าง บางทีก็พูดอะไรตลกๆ ออกมาพร้อมกัน บางครั้งแค่มองตากันเราก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอะไร...

มือใหญ่ลูบแผ่นอก ตัวผมรุ่มร้อน

...ผมรักทั้งหมดนี้ รักความรักของเขา รักตัวเขา รักลูกของเรา และรักทั้งหมดนั้น...

...ทำให้ผมรักตัวเอง...




หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 4 26/8/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 01-09-2016 18:54:05
ผมนั่งคิดแทบตายว่าควรเอาอะไรไปขอขมาพิชกับป้าเพ็ญดี แต่คนต้นเรื่องยังลอยหน้าลอยตาไปทำงาน กลับมากินข้าว ค่ำมาก็มาอ้อนขอมีอะไรด้วยตามปกติ ผมรู้สึกเหนื่อยใจ

ถ้าที่นี่มีกระเช้าแบรนด์ก็ดีสินะ ง่ายดี สมัยอยู่ไทยแค่หิ้วกระเช้าแบรนด์ไปก็จบแล้ว ดูดีมีราคา ถูกกาละเทศะ

พอเปิดปากถามเรื่องนี้กับสามี เขาก็ยักไหล่ ตอบง่ายๆ ว่า "ไวน์ไง"

"แต่พิชท้องอยู่นะ" ผมตีกล้ามซิกส์แพ็กดังเพี๊ยะ ไม่ค่อยถนัด เพราะเขานั่งซ้อนหลังอยู่ เราสองคนเปลือยเปล่า เหงื่อชุ่มตัว เพิ่งเสร็จจากการประกอบกิจกรรมเข้าจังหวะมาหมาดๆ แถมยังเอาท่อนลำเปียกชื้นมานาบไว้ที่ต้นขาผมอีก
 
"แต่สามีเขาไม่ได้ท้องอยู่นี่"

ก็จริง... ฝรั่งดื่มแอลกลอฮอล์เป็นเรื่องปกติ ไม่ดื่มให้เมาหรอกนะ คนที่เมาจนคลานกลับบ้านน่ะจะถูกมองอย่างดูถูก แม๊กซ์ก็ดื่มวิสกี้ ประมาณว่านอนคิดอะไรเพลินๆ ก็จิบเหล้าอะไรแบบนี้ แต่ตั้งแต่ผมท้องเขาก็งดดื่ม

แม๊กซ์บอกปีที่ผลิตไวน์กับผม คิดว่าราคาคงแพงมากแน่ๆ ถึงแม๊กซ์จะใจร้อนแต่เขาก็เป็นนักธุรกิจ อย่างน้อยก็คงรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

สามีผมหอมแก้มเบาๆ "คิดอะไรยุ่งยากจังเจ้าหญิง"

ผมบิดแก้มเขา "เธอนั่นแหละที่คิดน้อย ไม่รู้จักกาละเทศะเลย"

แม๊กซ์ไม่สนใจ ลูบหน้าท้องป่องเหมือนลงพุงของผมอย่างมีความสุข "เอาน่า ทางนั้นบอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ อย่าคิดมากเลย"

ผมแก่กว่าเขา ผมเป็นคนไทย ผมคิดมากกว่าเขา แต่ถ้าผมไม่คิด ก็คงไม่มีใครคิด ผมถอนหายใจ เอนหลังพิงอกแกร่งให้เขากอด

"งั้นเหรอ... เอาอย่างที่เธอว่าก็ได้ ตื่นเต้นจังเลยเนอะ ฉันยังไม่เคยไปปาร์ตี้คนไทยเลย"

แม๊กซ์จูบแก้มผม "เรารีบไปขอโทษแล้วรีบกลับนะ ?"

"น่าเกลียดตาย เกรงใจเขา"

"อยู่นานยิ่งรบกวน ไม่ใช่ว่าเขาอยากปาร์ตี้กันในหมู่เพื่อนฝูงเหรอ ?" แม๊กซ์กล่อม ผมชักคล้อยตาม แต่เอ๊ะ...

"ถ้าเค้าไม่อยากให้พวกเราไป แล้วจะเชิญทำไมล่ะ ?"

"ก็พวกคนไทยขี้เกรงใจไม่ใช่เหรอไง"

หรือจะจริง... แม๊กซ์จูบต้นคอ ผมจั๊กจี้หัวเราะออกมา เขายิ้มกว้าง "อย่าเครียดเลยครับข้าว มาต่ออีกรอบดีกว่า"

คืนก่อนวันปาร์ตี้ พิชโทรมาเพื่อยืนยันนัดและอธิบายที่อยู่ เขายังถามอีกด้วยว่า "ข้าวว่าอะไรที่หากินยากที่นี่ ?" น้ำเสียงเขาชวนคุย เป็นมิตรมากจนผมเกรงใจ

"เอ่อ... ผมไม่ค่อยทราบครับ แต่ผมอยากกินสาคูเผือกน่ะครับ พิชจะทำร้านอาหารเหรอ ?"

พิชหัวเราะเบาๆ "ยังหรอกครับ... แค่ร้านนวดก็งานล้นมือแล้ว เอาเป็นว่าแล้วเจอกันนะครับ"

"ครับ ขอบคุณครับ" ผมวางสาย

หรือพิชจะบอกว่าอยากกินสาคู ? แต่ผมไม่มีเม็ดสาคู... ผมนอนก่ายหน้าผาก ไม่รู้ทำยังไงดี จะไปมือเปล่าเอาไปแต่ไวน์อย่างที่แม๊กซ์บอกก็น่าเกลียด

เอาเป็นว่า... อบคุกกี้ก็แล้วกัน...

ผมคิดอย่างจนแต้ม...



ผมเกร็ง... แม๊กซ์ชิว ชิวไปไหน... เขาจอดรถที่หน้าบ้านตามที่อยู่ที่พิชให้มา ผมรีบตีแขนสามีให้ดูบ้านพิช

สวยมาก... สวยแบบขนาดอยู่เมืองไทยยังแพง

บ้านสองชั้นขนาดกลางๆ ก่อด้วยอิฐ มีหน้าต่างรอบบ้าน ปล่องไฟเล็กๆ บนหลังคาชวนให้รู้สึกน่ารักแบบบ้านขนมปังขิง ส่วนด้านหน้าบ้านเป็นสวนสวยสไตล์อังกฤษที่ตอนนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เราเดินผ่านตู้จดหมายที่ทำจากไม้แกะสลักลายไทยเข้าไปกดกริ่ง ผมสังเกตว่าในสวนมีข้าวของตกแต่งแบบไทยๆ หลายอย่าง เช่นอ่างน้ำล้นที่ไม่รู้คิดยังไงมาวางในประเทศที่มีหิมะตก แถมยังมีรูปปั้นหินสาวน้อยห่มสไบมัดจุกถือคนโฑอยู่ใกล้ๆ รอบๆ ประดับด้วยหินแกะสลักลายปลามังกร... เอาเข้าไป กะจะกวักทรัพย์เต็มที่ ที่น่าแปลกคือ ของไทยๆ เรียกเงินเข้าบ้านแบบนี้ดันเข้ากับสวนสไตล์อังกฤษด้วยสิ ผมนึกทึ่งคนออกแบบสวน

พิชเปิดประตูออกมารับพวกเรา เขาเห็นสายตาผมที่จ้องสวนของเขาแล้วหัวเราะ พวกเราทักทายกันสักครู่ พิชช่วยเอาโค้ตไปเก็บแล้วพาเดินเข้าไปในตัวบ้าน

ในบ้านก็ยังสวย ตกแต่งด้วยสีโทนอุ่น มีรูปวาดและผ้าไทยใส่กรอบติดกำแพงให้ความรู้สึกหรูหรา พวกเราถอดรองเท้าตามคำเชิญของเจ้าของบ้านแล้วใส่สลิปเปอร์ผ้าฝ้าย ผมรู้สึกประหม่าจนต้องเกาะแขนแม๊กซ์

พิชเดินนำไปยังห้องรับแขก มีเตาผิงทำจากหินก้อนใหญ่เด่นสง่าอยู่ใต้โทรทัศน์จอกว้าง เจ้าของบ้านดึงผมและแม๊กซ์ไปแนะนำตัว

"ข้าว แม๊กซ์ นี่สามีผม แบรต กิลด์" พิชแนะนำผู้ชายร่างใหญ่ สูงพอฟัดพอเหวี่ยงกับแม๊กซ์ ผมเคยเห็นในพาสปอร์ตแม๊กซ์ เขาสูง 1.97 เมตร ผู้ชายคนนี้สูงกว่านิดหน่อย ลำตัวล่ำหนา ลงพุงและขนดก ผมทองและดวงตาสีฟ้า จมูกงุ้ม ตาลึก ใบหน้าค่อนข้างยาว ถึงจะมีพุงแต่ก็ยังดูดี แบบที่พวกเกย์เรียกว่า 'หุ่นหมี'

แบรตยื่นมือออกมาจับมือพวกเรา ผมเงยหน้าขึ้นมองแม๊กซ์เชิงเตือนให้เขาทำตัวมีมารยาท สามีผมหน้าตาเฉยเมย ยังดีที่พยักหน้ารับบ้าง

"ขอบคุณที่เชิญพวกเรามานะครับ" ผมพูด สะกิดให้แม๊กซ์ยื่นของไถ่โทษ "นี่แทนคำขอโทษ... และคำขอบคุณจากพวกเรา"

แม๊กซ์ยื่นไวน์ออกไปตามมารยาท แบรตรับไปและหัวเราะเบาๆ "ขอบคุณครับ... คุณข้าวกับคุณแม๊กซ์ที่ไปอาละวาดที่ร้านพิชใช่ไหม ?"

ผมหน้าชา รู้สึกอยากมุดดินหนี ส่วนแม๊กซ์เริ่มขมวดคิ้ว ตาวาวอย่างไม่พอใจ หรือพิชจะเชิญพวกเรามากลั่นแกล้ง ?

แต่มันเด็กเกินไป... ทั้งผมและพิชต่างก็โตๆ กันแล้ว... แถมที่ผมคิดนั่นยังเป็นฉากในหนังวัยรุ่นฝรั่งอีกด้วย

พิชเห็นท่าไม่ดี รีบพูดแทรก "ผมเล่าให้สามีฟังเอง... ข้าวอย่าคิดมากนะ ผมไม่ได้โกรธอะไร เพียงแต่แบรตฟังเรื่องนี้แล้วรู้สึกชอบน่ะ"

"ชอบ ?"

แบรตหัวเราะจนพุงกระเพื่อม "ผมกับพิชเคยคุยกันเล่นๆ เมื่อหลายปีก่อนตอนที่เขาจะทำร้านน่ะ ว่าจะมีคู่รักคู่ไหนหึงกระทั่งมานวดไหม ไม่นึกว่าจะมีจริงๆ พวกคุณเพิ่งแต่งงานเหรอครับ ?"

ผมกระแอม หน้าแดงเถือก พวกผมนี่แหละเหนือความคาดหมาย ไม่อยากคิดว่าต่อไปมีลูกจะกลายเป็นครอบครัวแบบไหน

ครอบครัววุ่นวาย ครอบครัวนี้ผียังกลัว...

"เปล่าครับ แต่งได้สองปีแล้ว" แม๊กซ์ตอบแทน ท่าทางผ่อนคลายลงมาก แบรตยิ้มจริงใจให้ จนผมรู้สึกผิดที่พวกเขามาคบกับพวกเรา

"โอ้ แต่งได้สองปีแล้วยังรักกันขนาดนี้ เราต้องเอาอย่างบ้างแล้วล่ะพิช" แบรตโอบพุงกลมๆ ของพิชอย่างรักใคร่

"ขอบคุณครับคุณกิลด์"

"เรียกว่าปาป้า แบร์ก็ได้ครับ... พิชกับเพื่อนๆ เค้าก็เรียกผมแบบนี้" แบรตว่า ชวนพวกเราไปที่ห้องทานอาหาร

ปาป้า แบร์... พิชก็ช่างตั้งชื่อ ได้สามีหุ่นหมีเลยเรียกว่าพ่อหมีไปเลย น่ารักเหมือนกัน

ผมสะกิดสามี "เรามีชื่อเล่นกันบ้างไหม ?"

"เจ้าหญิงครับ... คุณเป็นเจ้าหญิงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีชื่อเล่น" แม๊กซ์ไม่รับมุก ตอบเสียงอ่อนโยนแล้วจูบหน้าผากผม พิชหันมามองพวกเราพร้อมรอยยิ้ม

พิชกับสามีนิสัยดีมาก แนะนำพวกเราให้รู้จักคนอื่นๆ ที่ห้องอาหาร ทุกคนเป็นคนไทยและเป็นผู้หญิงล้วน พวกเขาเป็นลูกน้องที่ร้านพิชทั้งหมด มีทั้งอายุน้อยและวัยป้า ทุกคนเป็นมิตรมาก ส่งเสียงทักพวกเรากันอย่างดี ชวนพวกเรากินอาหารไทยทำเอง ผมน้ำลายสอ ลาบ ส้มตำ แกงกะทิ ของเผ็ดๆ แซ่บนัวทั้งนั้น ทำให้ผมมองกล่องในมือแม๊กซ์อย่างเก้อเขิน

ผมอบคุกกี้มา... สงสัยจะไม่มีใครกิน

พิชสังเกตกล่องในมือ ผมจึงดึงมาจากแม๊กซ์เพื่อยื่นให้ "คือ... ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรมาดี เลยอบคุกกี้มา..." ผมอาย ประหม่าสุดๆ

นี่เป็นปาร์ตี้คนไทยครั้งแรกของผม

ที่ผ่านมาเคยไปปาร์ตี้กับแม๊กซ์บ้าง แต่นั่นเป็นแบบหรูๆ ผมแค่ใส่สูท ถือแชมเปญ ยืนคุยเรื่องลมฝนไปตามเรื่อง หัวเราะให้ถูกจังหวะก็พอ

แต่นี่เป็นปาร์ตี้เฉพาะคนสนิท มีแต่คนไทยอีกต่างหาก...

ขณะที่ผมยืนเก้กังก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นบ้างเมื่อแม๊กซ์มายืนด้านหลัง คล้ายจะเป็นกำลังเสริมให้ผม และบอกผมว่าไม่เป็นไร...

แล้วใครหนึ่งในกลุ่มก็เดินมารับกล่องคุกกี้ไป

...ป้านวล

เธอยิ้ม "ดีจังนะคะคุณ ดูน่าอร่อย"

ผมน้ำตาแทบไหล ดีใจที่ป้าไม่มีท่าทางโกรธ รีบหยิกให้แม๊กซ์พูดขอโทษ เขาค้อมตัวนิดๆ อย่างเป็นธรรมชาติ

"เรื่องวันก่อนต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมกับภรรยามีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย"

ป้านวลหัวเราะ มือตีกล้ามแม๊กซ์ "แหม ป้าไม่โกรธหรอกค่ะ หล่อขนาดนี้ ตกใจมากกว่า คุณแม๊กซ์มีภรรยาน่ารักแบบนี้คงตามหึงแย่"

น่ารัก... ผู้ชายวัยสามสิบเนี่ยนะ ป้านวลไม่มีท่าทางพูดเล่น หล่อนวางกล่องคุกกี้ลงบนโต๊ะแล้วกวักมือเรียกพวกเราไปนั่งล้อมวง

"กินน้ำตกค่ะคุณ คุณแม๊กซ์ทานเผ็ดได้ไหมคะ ?"

แม๊กซ์ส่ายหน้า ป้าอีกคนที่นั่งตรงข้าม ผมจำได้ว่าชื่อป้าสายหัวเราะร่วน มือปั้นข้าวเหนียวอย่างเมามัน "แหม เขยฝรั่งมีภรรยาไทยก็ต้องหัดกินเผ็ดสิคะพ่อคุณ มาๆ"

แล้วทั้งกลุ่มก็เฮลั่น พากันเชียร์สามีผมให้กินน้ำตก แม๊กซ์ทำหน้าเหยเก ดูเป็นที่รื่นเริงของสาวๆ เขาทนแรงยุไม่ไหว จึงยอมตักเข้าปากเสียคำหนึ่ง

ผมมองอย่างลุ้นๆ...

"ฮ้าาาาา เผ็ด!!" เสียงทุ้มร้องลั่น คว้าแก้วน้ำมาดื่มจนหมดแก้ว แต่ก็ยังไม่พอ เดือดร้อนพิชต้องมาช่วยเติม

พวกเราพากันหัวเราะฝรั่งกินเผ็ดไม่ได้ ปาป้า แบร์เลยโชว์เทพ ควักน้ำตกกินคำใหญ่ ปั้นข้าวเหนียวจิ้มกับตำขนมจีนใส่ปลาร้าให้แม๊กซ์ดูเป็นขวัญตา

ผมรีบห้ามผู้ชายที่ไม่ยอมใคร "แม๊กซ์ เธอกินไม่ไหวหรอก"

แม๊กซ์อ้าปากค้าง ดูเด็กและตลกมาก ป้านวลหัวเราะจนน้ำตาไหล ยกมือยอมแพ้ "พอเถอะ อย่าแกล้งคนหล่อเลย พวกเราทำแยกไว้ต่างหากแล้ว คิดแล้วว่าแม๊กซ์น่าจะกินไม่ได้"

พิชและสาวๆ ช่วยกันยกอาหารอย่างอื่นที่เผ็ดน้อยมาหลายจาน ผมขอบคุณพวกเขาไม่ขาดปาก แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พวกเขายังเอาใจใส่ มีน้ำใจจริงๆ

ผมช่วยคัดอาหารที่ไม่น่าจะเผ็ดใส่จานแม๊กซ์ เวลานี้เขาดูเป็นเด็กน้อยเกาะผมแจ ให้ผมเขี่ยพริกออกให้ ดูท่าทางขยาดไม่น้อย

"อันนี้กินได้" ผมชิมน้ำจิ้มคอหมูย่างแล้วบอก "เผ็ดนิดๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ อร่อยมาก"

แม๊กซ์เชื่อฟังอย่างดี ผมล่ะอยากให้เขาเป็นเด็กดีแบบนี้ไปตลอดจริงๆ

อาหารอร่อย ทุกคนใจดีกินคุกกี้ผมจนหมด ชมด้วยว่าอร่อยมาก แม๊กซ์หน้าบาน โม้ใหญ่ว่าผมทำอาหารอร่อย ทุกคนพากันขำที่เขาเห่อผมขนาดนี้ หน้าผมงี้แดงไปถึงหู

แล้วปาป้า แบร์ก็เปิดไวน์ที่แม๊กซ์ให้ รินแจกทุกคนยกเว้นผมและพิช ป้านวลชวน 'คุณแม๊กซ์สุดหล่อ' คุยน้ำไหลไฟดับ ส่วนปาป้า แบร์ขอตัวไปทำงาน เขานั่งอยู่หน้าคอมใกล้ๆ ห้องอาหาร

ผมและพิชมองหน้ากันแล้วยิ้มให้กันเหมือนกับรู้จักกันมานาน

"ปกติข้าวดื่มไหม ?" พิชเอ่ยขึ้นก่อนเป็นภาษาไทย ผมส่ายหน้า

"ไม่ค่อยนะ แค่เวลาไปปาร์ตี้กับแม๊กซ์น่ะ"

"พิชก็เหมือนกัน" จากคุณและผมกลายเป็นข้าวและพิช ผมดีใจที่มีเพื่อนคนไทยเสียที "แต่ตอนอยู่ไทยนี่ดื่มตลอด วันหยุดต้องไปกินเหล้าอ่ะ จนกระทั่งแต่งกับปาป้าถึงรู้สึกว่า แต่งงานแล้ว มีครอบครัวแล้ว จะทำตัวเหมือนยังโสดไม่ได้"

ผมพยักหน้า เห็นด้วย "อืม นั่นสินะ มีหลายอย่างที่เลิกไปเหมือนกัน" นอนกับคนแปลกหน้า... คือสิ่งแรกที่ปูนแดงหมายหัวไว้ว่าต้องเลิกเด็ดขาด

"ตอนอยู่ไทยข้าวทำงานอะไรเหรอ ?"

"มนุษย์เงินเดือนทั่วไปน่ะ พิชล่ะ ?"

"ฮื่อ เหมือนกัน" ดวงตาใต้เลนส์มองไปยังปาป้า แบร์เป็นประกาย ผมเห็นแต่ความรักบรรจุอยู่ในนั้น

"ดูท่าพิชคงรักปาป้ามากสินะ" ตาคู่นั้นยังไม่ละสายตาจากปาป้าเลย พิชสะดุ้ง หน้าแดงไปถึงหู

"อะ... อื้อ... รักมาก..." แม้จะเขิน แต่สายตากลับยังจ้องอยู่ที่ร่างหมีหลังคอมที่ปลีกตัวจากทุกคน ปาป้านั่งคนเดียว แต่ก็ยังอยู่ในระยะสายตาพิช

"ปาป้าแคร์พิชมากเลยนะเนี่ย" ผมประทับใจ ปาป้าคงรู้ตัว เงยหน้าขึ้นมาสบตากับพิชแล้วยิ้มให้ หนุ่มไทยหน้ายิ่งแดง

พิชพยักหน้า "ฮื่อ... เพราะ... เพราะ... แบบนี้ยังไงล่ะ พิชถึงยอมย้ายมาอยู่ที่นี่กับปาป้า... ปาป้าก็กังวลนะ เพราะปาป้าอายุมากแล้วจะไม่เหมาะกับพิช"

"หืม ? ปาป้าอายุเท่าไหร่แล้ว ?"

"...ปีนี้ก็สี่สิบสองแล้วล่ะ" ดูแล้วก็ตามวัย ฝรั่งแก่ไวอยู่แล้ว บางคนอายุแค่สี่สิบแต่หน้าไปไกลกว่ามาก สำหรับปาป้า ต้องถือว่าดูแลตัวเองดี ถึงจะร่างใหญ่หนา มีพุงแต่ก็แข็งแรง

"พิชล่ะ ?"

"สามสิบ" พิชก้มหน้าลงจ้องมือตัวเอง "พิชก็แก่แล้วล่ะ...จนกลัวว่าจะมีลูกไม่ได้ เลยต้องยอมเสียเงินไปหาหมอกาเบรียล เพราะทั้งพิชและปาป้าอยากมีลูกมาก ถ้าเทคโนโลยีมาเร็วกว่านี้ก็ดีสิ... พวกเราจะได้มีลูกตั้งแต่ยังหนุ่มๆ เหมือนข้าว"

ผมฟังแล้วชะงัก "พิช... คิดว่าข้าวกับแม๊กซ์อายุเท่าไหร่ ?"

"แม๊กซ์น่าจะสามสิบล่ะมั้ง ข้าว..." พิชเอียงคอมองผม "น่าจะยี่สิบสาม... ยี่สิบห้า ?"

ผมหัวเราะ "พิชชมข้าวใช่ป้ะ ปีนี้ข้าวก็สามสิบเหมือนกัน แม๊กซ์ยี่สิบหก"

"เฮ้ย จริงดิ" พิชร้อง "ข้าวเหมือนเด็กจบใหม่เลย"

"แม๊กซ์ก็กังวลเรื่องอายุข้าวเหมือนกัน ถึงได้เลือกหมอกาเบรียลไง" ผมเสริม "แต่ก็ดีนะ เราเลยได้รู้จักกัน"

"นั่นสิ" พิชยิ้มกว้าง "ดีจังที่เจอข้าว... พิชอยู่ย่านควีนส์ คนไทยเยอะก็จริง แต่คนที่เป็นเกย์แถมยังท้องเหมือนพิชน่ะหายากมาก... เพื่อนๆ พี่ๆ ที่ร้านก็เป็นคนดีนะ แต่พวกเค้าก็เป็นผู้หญิง..."

ผมพยักหน้ารับ "ข้าวเข้าใจ"

"พิชเหงา" พิชพูดเบาๆ "เหงามาก... ปาป้าก็บอกว่าพิชเป็นคนขี้เหงาถึงเปิดร้านนวดให้ อย่างน้อยจะได้คุยกับคนในร้านหรือเจอลูกค้าบ้าง ข้าวล่ะ ? มาอยู่นิวยอร์กได้กี่ปีแล้ว เหงาบ้างไหม ?"

ผมนึก จะว่าไปก็เหงาเหมือนกันตอนที่แต่งมาใหม่ๆ แต่ก็รีบหางานทำทันที "สองปีแล้วล่ะ เหงามากๆ เมื่อก่อนยังไปทำงานในฮาร์เลมเลย เงินเดือนนิดเดียวเอง ค่าน้ำมันที่แม๊กซ์ขับไปส่งยังแพงกว่าอีก แต่อย่างน้อยก็เป็นเงินของเรา อยากใช้จ่ายอะไรก็ไม่ต้องเกรงใจแม๊กซ์"

"แม๊กซ์คงตามใจข้าวน่าดูเลย"

ผมหน้าแดง "...ก็ตามใจอยู่"

"พวกเราโชคดีเนอะ" พิชยกแก้วน้ำส้มในมือขึ้น ผมยื่นแก้วในมือออกไปชนแก้วเบาๆ

เสียงกริ๊กกังวานใส เหมือนมิตรภาพของพวกเรา

"ฮื่อ พวกเราโชคดีมากๆ ที่ได้เจอคนดีๆ แล้วพวกเรายังได้มาเจอกันอีก"

ผมยิ้มให้พิช และได้รอยยิ้มกว้างตอบกลับมา

ผมมีเพื่อนคนไทยคนแรกที่นิวยอร์กแล้ว...



"สนุกดีเนอะ" เรากลับบ้านเมื่อค่ำ อาหารที่บ้านพิชอร่อยและแซ่บมาก พิชเซอร์ไพร์สผมด้วยสาคูเผือกที่เขาถามเมื่อวันก่อน

ผมกินไปอย่างตื้นตัน ไม่นึกว่าจะมีคนเอาใจใส่ขนาดนี้

ส่วนเรื่องค่าเสียหายนั้น ตอนแรกทั้งพิชและปาป้าจะไม่ยอมท่าเดียว ผมทั้งตื๊อทั้งอ้อนวอน ในที่สุดเขาก็ยอมรับเงินก้อนนั้นไป

แม๊กซ์บอกว่า ถ้าเจอฝรั่งด้วยกัน คงไม่ใช่เงินแค่นั้นแน่ ผมเห็นด้วย

"คนไทยใจดี" ผมชมคนไทยด้วยกันเอง ถึงอยู่เมืองไทยจะตีกันขนาดไหน แต่พอมาอยู่แปลกบ้านแปลกเมือง พวกเราก็รวมกลุ่มกันโดยอัตโนมัติ

"ข้าวน่ารัก" แม๊กซ์ชมบ้าง แต่ไม่เกี่ยวอะไรกันเลย ผมหัวเราะ เหมือนผมจะหัวเราะเยอะมากวันนี้

"วันนี้ข้าวยิ้มบ่อย หัวเราะตลอด... ดีจัง"

"เธอก็เหมือนกัน... คุยอะไรกับปาป้า ท่าทางสนุกเชียว"

แม๊กซ์เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ รอยยิ้มบนใบหน้าเขาทำให้ดูอ่อนเยาว์ลงมาก "ปาป้าเป็นสถาปนิกน่ะ ผมสนใจบ้านเขา ปาป้าเลยชวนคุยเรื่องอสังหาฯ"

"จะเป็นทรัมป์รึไง" ผมแซว ก้าวเข้าไปในรถ แม๊กซ์ปิดประตูและมานั่งที่คนขับ

"ให้ตายก็ไม่เอา... ข้าว... พวกเขาเป็นคนดี" ท้ายประโยคแม๊กซ์พูดเบาๆ ผมฟังแล้วยินดี เด็กน้อยของผมในที่สุดก็โตเสียที เพื่อนของแม๊กซ์น้อยมาก เท่าที่รู้จักคืออดัม เลขาของเขากับเจนน่า สาวเลสเบี้ยนที่ทำงานเป็นโปรเจก แมเนเจอร์ให้เขา

สรุปว่าเพื่อนทั้งสองของแม๊กซ์เป็นกึ่งๆ ลูกน้องด้วย

"พวกเราโชคดีที่เจอพวกเขานะ"

"นั่นสิ..."

"พิชชวนมาอีกอาทิตย์หน้าน่ะ"

แม๊กซ์เข้าเกียร์ "ตกลง"

ผมเลื่อนมือไปกุมมือใหญ่บนกระปุกเกียร์

...ทีละเล็ก ทีละน้อย โลกของพวกเราค่อยๆ กว้างขึ้น

พวกเราจะค่อยๆ เดินไปด้วยกัน... ช้าๆ แต่มั่นคง

"ขอบคุณมากนะที่พาฉันมา... ฉันรักเธอนะ แด๊ดดี๊"

ผมเห็นรอยยิ้มบริสุทธิ์บนใบหน้าหล่อเหลาของเขา แม๊กซ์หันมาตอบ "ผมก็เหมือนกัน... แด๊ดรักมามี๊ที่สุดเลย"

ผมโชคดี... โชคดีที่มีคนรักแสนดีและรักผมมากเหลือเกิน

โชคดีที่ได้เจอคนดีๆ

เหมือนโลกจะเหวี่ยงแต่ความโชคดีมาให้ผม... ไม่แปลกหรอกที่จะมีคนอิจฉา

คนนิรนามในโลกออนไลน์ก้าวเข้ามาสู่ความคิดอีกครั้ง ผมถ่ายรูปมือทั้งสองของผมและแม๊กซ์กุมกันบนกระปุกเกียร์ ปลดบล็อกคนคนนั้น

กดส่งรูปไปให้

'jealous ?'

มือใหญ่ทับมือน้อยในความมืด มีเพียงดนตรีบรรเลงสำหรับพัฒนาการลูกในท้องเท่านั้นที่ดังคลอเบาๆ เราสองคนดื่มด่ำกับความเงียบและบรรยากาศหวานๆ เพียงเราสอง

อิจฉาล่ะสิ ?

..................

// หมั่นนังข้าวข่ะ มีการถามตลอดว่าอิจฉาป้ะๆๆ แหมๆๆๆ

ตอบคุณ aeecd เรื่องนี้ไม่มีต่อค่า มีเท่านี้จริงๆ 55

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ดีใจมากๆ มีคนใช้พาสาเทพเมนต์ด้วย เปงชาญาแห่งกาแลกซี่สีกุหราบก้อม่บอก คริ! ขอบคุณทุกเมนต์ ทุกแรงหมั่นที่มีต่อนังข้าวค่ะ อ่านทุกเมนต์เลย เยิฟฟฟฟฟฟฟฟฟ <3 <3 <3 ด่านังข้าวกันเยอะๆ เลยนะคะ นุ้งนกเชียร์ให้พี่ตาทุกคนหมั่นมันค่าาา  :3123:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 01-09-2016 19:19:24
หมั่นค่ะ อย่างนี้ต้องตบ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 01-09-2016 20:01:27
ไม่ต้องไปสืบหรอกว่าใครส่งข้อความมาด่า คือคนอ่านเองแหละ 5555555
อ๊ะ ล้อเล่นนนนนนนน
ต้องทำบุญ ถวายสังฆทานสักกี่ถัง ถึงจะได้สักครึ่งของนังข้าว เบื่อคนอวดผัว เบื่อพวกผัวรัก ผัวหลง เบะปากเเรง
 :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 01-09-2016 20:01:49
ให้ตายเหอะ อะไรจะรักกันขนาดนี้ ทั้งอิจฉา ทั้งหมั่นไส้  :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 01-09-2016 20:06:00
ใครส่งข้อความมากันน้อ แด๊ดดี้กับมามี้รักกันรุนแรงแบบนี้ลูกน้อยจะเป็นยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 01-09-2016 20:21:59
 :hao5: อิจฉาด้วยคนแต่ไม่กล้าส่งข้อความไปด่านะหนูข้าวแกแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-09-2016 20:55:11
ใครช่างกล้าว่าน้องข้าวแบบนั้นเนี่ย หยามกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-09-2016 21:20:03
อิจนางมากกกกก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 01-09-2016 21:22:48
ข้าวทำดีมาก
ให้มันอิจฉาตายไปเลย

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-09-2016 22:36:50
ก็อิจฉานิดหน่อยอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-09-2016 23:01:29
ข้าว น่ารัก มากกก
แม๊กซ์ ก็รักเมียสุดๆ
เพราะแม๊กซ์ รักข้าวสุดๆ หรือเปล่า
ที่ทำให้มีคนอิจฉาข้าว
เลยส่งข้อความมา  :katai1:
แล้วไง  โดนข้าวส่งข้อความให้หลายๆ เลย
'jealous ?'
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 01-09-2016 23:11:37
อิจมากกกกกกก  บอกเลย
ข้าวเธอทำบุญด้วยกันอะไรยะ :hao5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-09-2016 00:29:34
อิจฉาความรักอันเว่อร์วังของคู่นี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 02-09-2016 01:07:50
ตอนแรกอ่านไปๆ ชักคิดร้ายว่าจะเป็นพิชรึเปล่า ที่ส่งข้อความมาด่า
แต่ดูๆ แล้วไม่น่าจะใช่ ยังไงก็ขอบคุณที่มาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 02-09-2016 01:17:16
หมั่นข้าวกับสามีจังค่ะ จะหวานเว่อร์อะไรขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 02-09-2016 01:45:31
ข้าว.....บอกได้คำเดียวว่าเธอ  แร๊งงง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 02-09-2016 02:28:17
ข้าวนี่ทำบุญด้วยอะไรคะ
สร้างพระประธาน สร้างโบสถ์ หรือสร้างวัด
บอกน้องมา น้องจะไปทำบ้าง ชีวิตดี๊ดี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-09-2016 07:32:27
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 02-09-2016 08:49:54
ทำบุญวัดไหนจ๊ะข้าวถึงได้ผัวดีขนาดนี้ จะไปทำบ้าง เออออ อิจฉา55555555555555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-09-2016 09:07:49
 :z1:   :hao6:  อิจแรงมาก ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-09-2016 12:45:39
John Doe หน่ะ กูเอ๊งงงงง 555 อิจเบอร์สุด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 02-09-2016 12:55:34
อยากอ่านตอนหนูข้าวท้องโตกะตอนคลอดจังค่ะ ถถถถ

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 02-09-2016 13:13:25
ถามว่าอิจฉาไหม

อิจฉาสิเธอ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 02-09-2016 16:10:20
ชอบมากกก หวาน เลี่ยน หื่น ฮา ครบรส 555555
กิ่งทองใบหยกฟุดๆ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 02-09-2016 17:19:34
อิจถ่าได้ผัวงี้นะไม่ต้องทำงานเอาอย่างเดียว ให้น้ำเต็มท้องเลยอิจฉา
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 02-09-2016 19:02:39
อิจไหม?  => มาก!!!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-09-2016 19:58:29
อวดสามีตลอดนะหนูข้าววว :mew4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 03-09-2016 06:10:57
หวาน กันจริงๆๆๆ  เมื่อไหร่ ข้าวจะคลอด ลูก เสียที   :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 03-09-2016 12:02:17
ยอดเลยข้าว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fammi50 ที่ 04-09-2016 01:21:35
นี่บอกเลยค่ะ ว่ากรอกตามองบนแบะปากจนเมื่อยหน้าไปหมดแล้ว อวดแรง หึ! :a5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-09-2016 03:14:54
ผัวดีดีมันมีแต่ในนิยายใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 04-09-2016 11:06:08
ชั้นเกลียดความ อิจฉาป้ะ? ของนางมากกกก  :katai1: นังข้าวต้องแอบทำของใส่ผัวฝรั่งแน่ๆเลยค่ะ!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 04-09-2016 11:10:53
เดี๋ยววว ทำไมอ่านๆไปเริ่มรู้สึกหมั่นข้าว ฮ่าๆๆๆ    :m20:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 04-09-2016 17:13:22
จริงๆแล้วๆเราคิดว่าเรื่องควรจะชื่อ สูด หอม ดอม ดม...รักเมียมากครับมากกว่านะ ฮาาาาาาาา ดีค่ะเนื้อเรื่อง อ่านได้เรื่อยๆ รอตอนต่อไปนะคะ  :3123:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 04-09-2016 20:04:35
กลัวลูกหลุดบ้างม้ายยย  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-09-2016 23:31:55
 :katai4:

เพิ่งอ่านจบ!!!

มันแซ่บมาก อันที่จริงคนนิรนามในเฟสก็คือคนอ่านเนี่ยแหล่ะ อิจฉาพี่ข้าว  :ling3:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-09-2016 13:49:42
รักผัวครั้งที่ 6

แสบ...

ผมแสบจนต้องร้องออกมา

ท่อนลำเขาที่ปักแน่นคาที่ช่องทางทำให้ผมทรมานจนอยากตายไปเสียพ้นๆ

เจ็บยิ่งกว่าครั้งแรก เจ็บยิ่งกว่า... ขาผมถูกถ่างออกกว้าง เสียงลมหายใจเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาดันตัวเข้ามาอย่างดื้อดึง

"อ๊าา เอาออกไป!"

ผมชอบเซ็กส์... แต่ทำไมไม่ว่าแม๊กซ์จะเล้าโลมมากแค่ไหน ผมกลับหาวแล้วพลิกตัวให้

ผมไม่ได้ต้องการเป็นแบบนี้

ผมเป็นผู้ชาย เข้าใจดีว่าผู้ชายต้องการอะไร สันดานเก่าๆ ของผู้ชายก็เหมือนกันหมด... ไม่ใช่ว่าไม่กลัวแม๊กซ์นอกใจหรือมั่นใจในรูปโฉมขนาดนั้น

คนอย่างแม๊กซ์จะหาสาวสวยอีกกี่คนก็ได้ จะทิ้งผมไปเมื่อไหร่ก็ได้

แต่ที่ทำให้ผมมั่นใจคือ เขาเต็มอิ่มกับร่างกายผม หากปรนเปรอสามีจนอิ่มแล้ว เขาย่อมไม่ออกไปหากินข้างนอก ผมคิดแบบนั้น

แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวจริงๆ เจ็บแสบจนต้องลืมตาขึ้นมองใบหน้าเขา แม๊กซ์อารมณ์คุกกรุ่น เขากุมมือผมไว้ พูดเสียงแผ่ว "ผ่อนคลายหน่อยเจ้าหญิง"

ผมทำไม่ได้... ผมไม่มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย แต่เขายังคงเข้ามา...

เจลก็ไม่ช่วยอะไร ได้แต่ผลักไสเขาออกไป แต่ไม่ว่าจะดิ้นรนเท่าไหร่ แม๊กซ์ก็ยังดันเข้ามาจนสุดความยาว ผมอ้าปากกว้าง หอบอากาศเข้าปอด ตาพร่ามัวด้วยน้ำตา

"มะ ไม่เอานะแม๊กซ์ ได้โปรดเถอะ... ได้โปรด..." ผมอ้อนวอน เจ็บจนสมองชาหนึบ ความใหญ่โตร้อนผ่าวเต้นตุบๆ อยู่ในโพรงร้อน แม๊กซ์พ่นลมหายใจ

"คุณชอบ... ชอบให้ผมย่ำยีไม่ใช่เหรอ"

ผมส่ายหน้าจนผมกระจายบนหมอน แม๊กซ์ไม่สนใจเสียงร้องห้าม เขาคว้าขาผมขึ้นแล้วกระแทกเข้ามาสุดแรง!

ฉีกแน่ๆ!

ผมกรีดร้อง สองมือกุมท้องไว้ แม๊กซ์จะกระแทกโดนลูกไหม ลูกจะเจ็บไหม ยิ่งผมดิ้นรนหนี เขายิ่งมีอารมณ์ ความใหญ่โตแข็งและร้อนควานควักเข้ามาจนหนังหัวชาหนึบ

"อย่า... ไม่เอา ฮือ... ไม่เอา..."

"ข้าว ฮ้าา คุณฟิตจริงๆ"

"อึกก..." ผมสั่นสะเทือนไปตามแรง ความเจ็บแล่นไปทั่วทั้งร่าง ผมร้องไห้ออกมา พยายามปัดใบหน้าเขาออก ไม่ยอมให้กดจูบ ไม่เอาแล้ว... ไม่เอาอีกแล้ว เจ็บ...

แม๊กซ์ไม่สนใจเสียงร้องของผมเลย...

เซ็กส์ที่ถูกฝืนบังคับ... ครั้งแรกที่ผมไม่มีอารมณ์ร่วมแม้แต่น้อย... ยาวนานเหลือเกิน... ผมร้องไห้สลับกับหมดสติ เจ็บจนชาไปทั่วร่าง ช่องทางถูกฉีกออกเพื่อรองรับเขาเข้ามา

ความคิดสุดท้ายที่ล่องลอยคือ...

...ผมถูกข่มขืน...

...ผมถูกสามีข่มขืน...


...

เราไปหาหมอกาเบรียลเพื่อตรวจตามนัด ผมนัดพิชไปพร้อมกันเพื่อไปกินอาหารเที่ยงหลังจากนั้น

หมอโกรธแม๊กซ์มากเมื่อตรวจพบร่องรอยฉีกขาดที่ช่องทางและผมที่มีไข้ หมอถามหลายครั้งว่าจะแจ้งความไหม แม๊กซ์ยืนนิ่งแข็ง ผมรู้ว่าเขาก็เสียใจเหมือนกันที่รุนแรงกับผม

ผมส่ายหน้า

หมอพูดไม่ออก แต่เขียนใบสั่งยาให้มารักษาแผลที่ก้น แล้วเราก็ออกไปเจอพิชกับปาป้าที่ล็อบบี้ วันนี้พิชตรวจเสร็จก่อนผมตั้งแต่เช้า เขายังคงร่าเริงและอ่อนโยนเหมือนเคย

"หน้าซีดจัง ข้าวเป็นอะไรหรือเปล่า ?"

ผมยิ้มตอบ "ไม่เป็นไรหรอก..." แค่ยืนได้ก็เก่งแล้ว ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา ผมรู้สึกตัวเองด้านชา จำได้ว่าตัวเองร้องขอให้สามีหยุดไปแค่ไหน แต่แม๊กซ์ก็ไม่สนใจ

เสียงร้องของผมไม่มีค่า

จนผมเริ่มคิดแล้วว่า ผมมีค่าแค่ไหนสำหรับเขา

แค่รูระบายอารมณ์ที่ตั้งท้องได้ ?

ไม่ว่าแม๊กซ์จะพูดอะไร ขอโทษผมแค่ไหน ใบหน้าของเขาก็พร่าเลือนเพราะน้ำตาที่เอ่อล้น แม๊กซ์ยิ่งเอาอกเอาใจ พาผมไปอาบน้ำ ร้องขอให้ผมให้อภัย

ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไร ควรรู้สึกอย่างไร

อยากอยู่กับเขาหรืออยากจากไป


ผมนั่งในอ่างอาบน้ำ กลัวว่าจะแท้งลูก... แต่ขยับตัวไม่ได้ ขณะก้มลงมองเลือดไหลเป็นทาง

หากเขาทำให้ผมเสียลูกไป... ไม่ว่าผมจะรักเขามากแค่ไหน ผมก็จะไม่มีวันให้อภัย

ไม่ให้อภัยทั้งตัวเองและเขา

แม๊กซ์ช่วยผมแต่งตัว หาซุปร้อนๆ ให้กิน กอดผมเต็มวงแขน เช้ามาผมมีไข้ เขาหาหยูกยาให้กิน ถึงกับหยุดงานเพื่อมาดูแลผม

ผมเห็นความตั้งใจจริงของเขา แต่มันชาไปหมด...

วันนี้เราจึงมาหาหมอกาเบรียล แล้วไปกินอาหารกลางวันกับพิช ผมเสียใจที่นัดพิชออกมาแล้วเป็นอย่างนี้ พิชกับปาป้าเป็นคนดี พอเรากินกันเสร็จ พวกเขาก็อวยพรให้ผมหายป่วยเร็วๆ หากดีขึ้นเมื่อไหร่ค่อยโทรไปนัดกินข้าวก็ได้

ผมกลับบ้านมาโดยมีแม๊กซ์ช่วยพยุง เขากุลีกุจอหาน้ำให้กิน "ข้าว... ดื่มน้ำหน่อยนะครับ"

ผมรับแก้วมา ดื่มน้ำอุ่นๆ จนหมด แม๊กซ์นั่งที่ปลายเท้าอย่างหมดแรง เขามองตามสายตาผมไปที่แจกันดอกกุหลาบ...

...แจกันสีขาวยังส่องประกายสวย แต่ดอกกุหลาบแดงสดเหี่ยวเฉาลงหมดแล้ว

"ผมจะให้คนมาเปลี่ยน" แม๊กซ์เอาใจ ช่วยผมถอดถุงเท้า "ข้าว... ฟังผมอยู่หรือเปล่า ?" เสียงของเขาทรมาน แต่เชื่อเถอะว่าผมทรมานกว่าเขา

ร่างสูงใหญ่เลื่อนขึ้นมานั่งข้างๆ โอบกอดผมไว้ "ข้าว... เจ้าหญิง... คุณจะไม่ให้อภัยผมเลยเหรอ ? เจ้าหญิงครับ..."

เจ้าหญิง... เขาเรียกใครกันนะ ?

สมองมึนชา ผมค่อยๆ ล้มลง ภาพใบหน้าเหลือเพียงสีสันแปลกประหลาดจนแสบตา ในหัวเต้นตุ้บๆ จนผมอยากให้มันหยุดเสียที

"เจ้าหญิง!" เสียงนั้นร้องดัง

ใครกัน ?

วงแขนอุ่นๆ ที่อุ้มผมขึ้นอย่างร้อนรนนั้นทำให้ผมร้องไห้... ทั้งรักทั้งกลัวเขา...

ในลึกสุดของจิตใจกระซิบบอกว่าให้อภัยเขาอีกสักครั้งเถอะ... อีกสักครั้ง... อีกครั้งหนึ่ง จะได้สบาย จะได้ดื่มด่ำกับความรักที่เขามีให้อย่างสบายใจ

แต่สมองที่ปวดจนเหมือนหลุดออกมานั้นสั่งห้ามเสียงกร้าว... เขาผิดสัญญามากี่ครั้งแล้ว... แล้วเขารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ... แล้วต่อไป... ต่อไป... เขาจะทำร้ายผมและลูกไหม...

...จะทุบตีผมไหมหากผมไม่ได้ดังใจเขา...
...จะข่มขืนผมอีกไหมหากเขาถูกผมปฏิเสธ...
...จะทำร้ายผมไหมหากเขาหึงอีก...

...แล้วที่สำคัญ... เขาจะทำให้ลูกเป็นอันตรายหรือเปล่า...
[/b]

.....

ผมหลับไปนาน กระทั่งได้ยินเสียงเรียกของโทรศัพท์ ผมควานมือหา ร่างกายไม่หนักเท่าไหร่แล้ว สมองที่เหมือนจะระเบิดก็ดีขึ้น ตัวไม่ร้อน ผมกดรับ เสียงปลายสายดังอย่างร้อนรน

"กว่าจะรับนะมึง! ทำไมแม่ติดต่อเอ็งไม่ได้เลยวะ ผัวเอ็งรับก็พูดอะไรไม่รู้เรื่อง"

ผมฟังเสียงแม่แล้วน้ำตาไหล... "ข้าวไม่สบายน่ะ"

"อ้าว... เป็นอะไร" เสียงแม่เป็นห่วง ผมสะอื้นเบาๆ

"มีไข้"

"กำลังท้องกำลังใส้ดันเป็นไข้ บอกแล้วว่าอย่าไปเมืองนอกเมืองนา แล้วใครจะช่วยดูแล" แม่บ่นไม่หยุด แต่ผมกลับยิ้ม

"ดีใจที่แม่เป็นห่วง"

"ห่วงสิ ไม่ห่วงลูกแล้วจะให้เป็นห่วงหมาที่ไหน" แม่ฮาร์ดคอร์ "แล้วยังไง ผัวมึงมันดูแลบ้างหรือเปล่า พาไปหาหมอหรือยัง"

"อือ... ไปมาแล้ว"

"ดีแล้ว ถ้ามันไม่ดีก็กลับมา เข้าใจไหม ?" ผมแปลกใจที่แม่พูดอย่างนี้ เพราะแม่เห่อเขยฝรั่งจะตาย

"ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะแม่"

แม่พ่นลมหายใจ "ผู้ใหญ่ดูแล้วรู้ ผัวมึงน่ะรักมึง... รักจนน่ากลัว แต่ที่ยอมปล่อยมึงไปเพราะเห็นรักกัน แล้วก็โตๆ กันแล้ว..." แม่เว้นวรรค เอ่ยช้าๆ "วันนี้กูตื่นมาแล้วใจไม่ค่อยดี กลัวมึงจะเป็นอะไรไป ผัวมึงคงไม่ได้ทำร้ายใช่ไหม ?"

เขาข่มขืนข้าว... ผมกลั้นสะอื้น กลืนคำนั้นลงไป หากพูดออกไป คนที่บ้านต้องรีบบินมาบังคับผมหย่าแน่ๆ

"มะ... ไม่จ้ะ" เสียงผมสั่น แม่จับความผิดปกติได้

"อย่าบอกนะว่า... มันตีมึงนะ... ตัวเล็กแค่นั้นจะเอาอะไรไปสู้มันได้... รีบกลับมา!"

ผมพยายามหัวเราะ "ไม่ใช่สักหน่อย... แม่ก็ห่วงเกินไป แล้วข้าวจะกลับได้ยังไง ไม่มีเงินซื้อตั๋วหรอก" ผมพยายามผ่อนคลาย แต่แม่กลับสวนทันควัน

"มันจะซักกี่แสน กูจะซื้อให้ หรือจะให้พวกกูไปรับ ?"

ผมขำไม่ออก แม่จริงจังมาก เซ้นส์ของคนเป็นแม่แรงจนน่ากลัว "ข้าวไม่เป็นไรจริงๆ แค่ไม่สบายนิดหน่อย"

"ให้มันแน่นะ"

"จ้ะ" แล้วเราก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระ จนกระทั่งแม่วางสายไป ผมจึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง รีบดูนาฬิกา...

บ่ายสองกว่า... แม๊กซ์ไปไหนนะ

ใจหาย... เมื่อตื่นขึ้นมาไม่เห็นเขา แต่รีบปลอบใจตัวเองว่าเขาคงไปทำงาน พยุงตัวเองขึ้นเข้าห้องน้ำ พอล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็รู้สึกดีขึ้น

แม่พูดทำให้ผมสะกิดใจ รีบตรงไปยังลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง มีครีมทาผิวสารพัดที่สามีซื้อให้วางเรียงราย ผมไม่สนใจ หยิบกุญแจที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาไข

ผมเก็บเอกสารส่วนตัวของไทยไว้ในลิ้นชักนี้ ส่วนของไทยผมเก็บไว้เอง ส่วนของอเมริกันแม๊กซ์เก็บไว้ให้

รื้อดูทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ บัตรประชาชนของไทย...

...ไม่มี...

ผมหน้าซีด จำได้ชัดๆ ว่าต้นปีเก็บไว้ที่นี่ แล้วหลังจากนั้นก็เก็บลงลิ้นชัก ที่สำคัญ... ผมเขย่าลิ้นชักอย่างบ้าคลั่ง

พาสปอร์ตไม่มี!

กลอเรียจะขโมยไปหรือ... ไม่หรอก กลอเรียจะขโมยไปทำไม เอกสารของไทยไร้ค่าสำหรับหล่อน

ใจผมหล่นวูบ คิดได้อย่างเดียว...

...แม๊กซ์...

...

สมองเบลอไปหมด เสียงประตูห้องนอนดังจากด้านนอกทำให้ผมสะดุ้ง แม๊กซ์กลับมาแล้ว... เสียงนั่นอะไรกัน...

เสียงไขกุญแจ

ขนผมลุกชัน...

ผมอยู่ในบ้านคนเดียวทำไมต้องล็อกกุญแจห้อง...

ประตูเปิดออก ร่างสูงใหญ่ทะมึนค้ำหัว เขายืนมองผมที่นั่งบนพื้น ข้าวของกระจัดกระจาย

ดวงตาเขาส่องประกายวาบ เสียงทุ้มนุ่ม "ข้าวไม่เปิดไฟล่ะ ?" มือใหญ่เอื้อมไปกดสวิตช์ ผมรู้สึกได้ว่าตัวสั่นระริก

"ทำไมไปนั่งแบบนั้น หายดีแล้วเหรอครับ ?" เขายิ้มเย็น ผมพยายามพูดออกไป

"พาสปอร์ต... พาสปอร์ตฉันอยู่ไหน..."

เขาหัวเราะ "คุณพูดอะไรน่ะ"

"พาสปอร์ตแม๊กซ์! พาสปอร์ตของฉัน!" ผมร้องเสียงดัง ใจหดเกร็ง ชายตรงหน้าเหมือนคนแปลกหน้า เขาค่อยๆ ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ ผมกลัวจนผงะถอย

"พาสปอร์ต... ผมเก็บไว้ให้ไงครับเจ้าหญิง คุณเป็นอะไรไป ? หรือ..." มือใหญ่คว้าผมจากพื้น เขาแรงเยอะมาก... หากเขาจะ...

"ทำไมตัวสั่น ? คุณจะเอาพาสปอร์ตไปทำอะไร ?"

ผมกลืนน้ำลาย ความรุนแรงที่เขาทำไว้ยังฝังอยู่ในสมอง กลัวเขาจับใจ กลัวจนไม่กล้ามองหน้า

"หรือคุณ... มีใคร ?" น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ผลักผมลงบนเตียง "เจ้าหญิง... ไม่ว่าไอ้อีนั่นจะเป็นใคร... อยู่ที่ไหน... แต่ผมไม่ปล่อยให้คุณไปหามันหรอกนะ" เขาหัวเราะเบาๆ "คุณเป็น'เมีย'ผม... มีหน้าที่รับความรักจากผมเท่านั้น ผมไม่ปล่อยให้คุณออกไปหรอก..."

"เธอ... เธอเลยล็อกห้องงั้นเหรอ..." ใจผมกู่ร้องว่าไม่จริง ขอให้เขาโกหก ขอให้นี่เป็นเรื่องโกหก

ใบหน้าหล่อเหลาส่ายเบาๆ "เจ้าหญิงคนดี... คุณจะออกไปไหนทำไม ผมจะปรนเปรอให้คุณทุกอย่าง..."

ผมหมดแรง ไม่สามารถผลักเขาที่คร่อมเหนือร่างกายได้ "แม๊กซ์... ทำไมทำกับฉันอย่างนี้..."

เขาจูบต้นคอ จุมพิตริมฝีปาก "เพราะคุณเป็นของผม"

"ฉันเป็นของเธอ... ของเธอคนเดียว... แต่เธอสัญญากับฉันแล้ว..."

"ผมรักษาสัญญา" เขายืดตัวตรง แววตาปวดร้าว "ผมให้คุณไปหาพิชตั้งสองครั้ง พาคุณไปวัดไทย พาคุณไปเดินเล่น... ผมถึงขีดจำกัดแล้วข้าว ผมทนดูคุณไปมีคนใหม่ไม่ได้!"

ผมอ้าปากค้าง "คนใหม่... ใครกัน หรือเธอหึงพิชกับปาป้าอีก!"

"ไม่ใช่พวกเขา!" แม๊กซ์เสียงเครียด ทึ้งเสื้อผ้าผมออก ยิ่งผมดิ้นหนีเขายิ่งรุนแรง ผมคลานไปจนสุดเตียง ร้องทั้งน้ำตา

"ทำไม... ทำไมพวกเราถึงกลายเป็นแบบนี้ได้... แม๊กซ์..." ผมกุมคอเสื้อไว้ เขาคลานเข้ามาคว้าเอวผม ผมตัวสั่น กลัวว่าเขาจะข่มขืนอีก

แต่แม๊กซ์กลับจับผมนั่งตัก กอดผมเงียบๆ อยู่อย่างนั้น ชายคนที่ผมไม่รู้จักหายไปแล้ว... กลายเป็นแม๊กซ์คนเดิม...

ผมสะอื้น เขาค่อยๆ เชยคางผมขึ้นเพื่อจูบซับน้ำตา เสียงขมขื่น ดวงตารวดร้าว "ผมทำคุณร้องไห้อีกแล้ว... ทำไมผมถึงเลวแบบนี้นะ... คนนั้นเป็นใครกันข้าว ? มันทำให้คุณมีความสุขกว่าอยู่กับผมใช่ไหม ?"

ผมส่ายหน้า "ใคร... ฉันไม่มีใครนอกจากเธอ... ทำไม..." ผมกัดริมฝีปาก "ทำไมถึงกล่าวหาฉันแบบนั้น... จริงๆ แล้วเธอไม่เชื่อใจฉันเลยไม่ใช่หรือไง!"

อ้อมแขนแข็งแรงนั้นกอดผมแน่นเข้า เขาซุกหน้ากับต้นคอผม เสียงสั่นเครือเหมือนเด็กน้อย "เจ้าหญิง... เจ้าหญิง... ผมไม่อยากเสียคุณไป... แต่มันชัดเจนขนาดนี้แล้ว"

"อะไรชัดเจน"

"คุณไม่มีอารมณ์กับผม... ไม่ใช่เป็นเพราะคุณมีคนอื่นหรือไง ?"

ผมฟังแล้วอึ้ง นึกย้อนกลับไปวันก่อน... แม๊กซ์พยายามเล้าโลมผมอยู่หลายชั่วโมงจริงๆ

แล้วจะว่าเขาข่มขืน... ก็ไม่เชิง ต้องเรียกว่าปล้ำมากกว่า เขาทั้งปลอบทั้งจูบทั้งบอกรัก แต่ผมดิ้นจนไม่ฟังเขาท่าเดียว

แม๊กซ์ใช้เจลจนหมดหลอดเพื่อช่วยหล่อลื่น ผู้ชายที่มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ถอยกลับยากมาก ผมก็รู้ดี แต่ยังไม่ยอมให้เขาเข้ามา... ที่เขาไม่ฟังผมห้ามเพราะ... เอ่อ ถึงจุดนั้นแล้ว ไม่ว่าใครก็คงหยุดไม่ได้จริงๆ ต่อให้เป็นผมก็เถอะ

ผมรีบดึงความทรงจำกลับมา...

...ผมร้องไห้ให้เขาหยุดเพราะเจ็บ แม๊กซ์หยุดไม่ได้จริงๆ หลังจากกระแทกเข้ามาแล้วสวนกลับ เขาเสพสมกับร่างกายผมก็จริง... แต่แม๊กซ์ไม่ได้ทำจนสุด เขากระทั้นเข้าออกก่อนจะถอดถอนออกเมื่อเห็นเลือดไหลเยิ้ม

ผมเจ็บก็จริง แต่ก็คิดว่าแม๊กซ์ห้ามตัวเองเต็มที่แล้ว ผู้ชายที่อารมณ์ถึงจุดนั้นแล้ว ผมเข้าใจดีว่าห้ามตัวเองยาก คิดแล้วก็ถอนหายใจ

แม๊กซ์ไม่ได้ข่มขืนผมหรอก...

หลังจากถอดถอนแล้วเขาเอาท่อนลำมาถูไถตรงหว่างขาแทน ผมส่ายหน้าให้ตัวเอง ทำไมถึงเพิ่งนึกขึ้นได้นะ ฟูมฟายมาหลายวัน... ส่วนที่หมดสติไปก็เพราะร้องจนหมดแรง... ทำตัวเองชัดๆ

เพราะหมดสติสลับกับฟื้นขึ้นมา เลยทำให้ความทรงจำขาดๆ หายๆ สัมผัสได้แต่ท่อนร้อนผ่าวที่ถูไถตัว...

หรือต่อให้เขาข่มขืนผมจริงๆ... ผมคงโกรธ... แล้วก็ให้อภัย

เหมือนเดิมๆ ที่ผ่านมา ผมรักเขาจนเกินไป แค่เห็นใบหน้าคมโศกสลดแล้วก็ใจหายไปด้วย เขาไม่มีความสุขผมก็ไม่มีความสุข ความรู้สึกผมผูกติดเขามากเกินไป รักเขาจนเกินไป

แล้วผมที่รักการมีเซ็กส์เป็นชีวิตจิตใจขนาดนั้นจู่ๆ ก็ไม่มีอารมณ์ เป็นใครก็ตกใจ แล้วยิ่งแม๊กซ์... คนที่หึงแรงขนาดนี้ยิ่งคิดมาก ต่อให้เป็นผมก็เถอะ ถ้าเขาไม่ยอมมีอะไรกับผม ผมก็คงคิดว่าเขามีคนอื่นเหมือนกัน

คิดตกแล้วถอนหายใจ กอดเขาตอบ "โธ่เอ๊ย"

"เจ้าหญิง..."

"ฉันไม่ได้มีใครหรอก... แค่... ไม่มีอารมณ์เท่านั้นเอง" ผมกลัวเขาเก้อสิเนี่ย...

ที่แม๊กซ์เก็บพาสปอร์ตไว้ ขังผมไว้ คงคิดเหมือนเด็กๆ นั่นแหละว่ากลัวผมจะออกไปหาคนอื่น

น่ารัก... บ้าแต่น่ารัก

"แต่ว่า แต่ว่า..." แม๊กซ์ก้มลงมอง "หรือ... ผมจะไม่ดี ?"

ผมสำลัก "แค่ก! เธอเก่งแล้วแม๊กซ์!"

"แล้วทำไม... จู่ๆ..." อย่าว่าแต่เขาไม่เข้าใจเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผมส่ายหน้าตอบ

"ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน... ช่วยลุกที ปวดฉี่" ผมดันร่างใหญ่ออก ก่อนหน้านี้มองเขาเป็นคนแปลกหน้าได้ยังไงกันนะ แม๊กซ์ก็คือแม๊กซ์ เด็กน้อยแสนน่ารักที่เป็นสามีผม

"คุณเข้าห้องน้ำบ่อยจัง" แม๊กซ์ช่วยพยุงผมเข้าห้องน้ำ ผมเกาะเสื้อเขาไว้... เงยหน้าขึ้นมอง

แม๊กซ์เพิ่งกลับจากที่ทำงาน ขนาดโค้ตยังไม่ถอดเลย "ทำไมไม่ถอดโค้ตก่อน"

"ผมเป็นห่วงคุณ... วันนี้ผมหยุดงานครึ่งเช้า ตอนบ่ายก็รีบไปสะสางงานแล้วกลับมา เจ้าหญิงโกรธเหรอ ?"

"เปล่า..." รีบจนลืมถอดโค้ต แม๊กซ์รักผมมากจริงๆ ผมกระย่องกระแย่งไปกดชักโครก นั่งแปะลงอย่างเหน็ดเหนื่อย

ไข้ขึ้นทำให้หมดแรงจริงๆ ผมมองสามีที่ยืนรอผมฉี่แล้วกระอักกระอ่วน

"เอ่อ... แม๊กซ์"

"ครับ ?"

"ออกไปก่อนได้ไหม ?"

"คุณเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้นนะเจ้าหญิง ไปหาหมออีกครั้งไหม" แม๊กซ์ไม่สนใจคำขอ ยืนกอดอกรออยู่หน้าปากประตู ผมเอามือปิดหน้า กระเพาะปัสสาวะบวมโป่งจนจะราดอยู่แล้ว แต่ผมจะฉี่ยังไงทั้งที่สามียืนดูอยู่

"ฉันท้อง... คนท้องก็ฉี่บ่อยแบบนี้แหละ" อยากมุดดินหนี "ออกไปหน่อยไม่ได้เหรอ... นะ ได้โปรดเถอะ"

"ผมเป็นห่วงคุณ" แม๊กซ์ปฏิเสธชัดเจน

"ถ้าฉันอึล่ะ ?"

"ผมจะเช็ดก้นให้คุณ" ไม่มีวี่แววล้อเล่น แต่ผมตาเหลือก รีบคลานไปดันเขาออกจากห้องน้ำทั้งๆ ที่กางเกงยังคาอยู่ที่เข่า

"แต่ฉันไม่ยอม! ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้น!" ผมร้อง หน้าแดงไปถึงหู ทั้งขยะแขยงทั้งดีใจ

ดีใจแบบแหยงๆ

"เจ้าหญิง..." แม๊กซ์ไม่พอใจ ผมปิดประตูไล่ดังปัง แต่ร่างสูงใหญ่ยังยืนรออยู่หน้าประตูเหมือนหมาแสนจงรักภักดี

"อย่าโรคจิตนะ!" ผมขู่

"เจ้าหญิง..."

"พอเลย!" จะฉี่ออกไหมวันนี้ อยากร้องไห้ ปกติแค่ไปยืนฉี่ในห้องน้ำแล้วมีคนมายืนที่โถถัดไปผมก็ฉี่ไม่ออกแล้ว แล้วนี่ผัวมายืนคุมแม้กระทั่งกระบวนการฉี่!

"เปล่า... ผมแค่คิดอะไรได้น่ะ" เขาตะโกนตอบกลับมา "ถ้าคุณอาย... ผมปิดตาก็ได้!"

มันจะช่วยอะไรไหม! "เธออยู่ข้างนอกอยู่แล้ว จะปิดตาทำไม!"

"งั้นปิดหูก็ได้" แม๊กซ์อ้อนวอน

ก็เข้าท่า... ไม่เห็นไม่ได้ยินก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ ผมคิดแล้วผ่อนคลาย "งั้นปิดหูเดี๋ยวนี้เลยนะ!"

ผมทำธุระเสร็จอย่างมีความสุข ฟินจนน้ำตาไหล สงสารลูกเหลือเกินที่มีพ่อแม่แบบนี้

พอล้างมือ กดชักโครกเสร็จแล้วก็เปิดประตู แม๊กซ์ยังยืนรอที่เดิม มือมีไอแพด ท่าทางยินดี ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ตัวเองหน้าด้านซื้อที่ตรวจครรภ์แล้วเขายืนรออยู่หน้าห้องน้ำ

เดจาวู

"เจ้าหญิงงงงงงงง" เขาโถมตัวมากอดผมเต็มรัก ผมร้องโอ๊ะ

"มีอะไร"

"เจ้าหญิง... ที่รัก ผมว่าผมรู้สาเหตุที่คุณไม่มีอารมณ์แล้วล่ะ" แม๊กซ์ดูตื่นเต้นเป็นเด็กๆ ผมได้แต่ลูบหลังลูบหน้าเขาปลอบ

"นี่เธอจะปล่อยผ่านไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย"

"ผมเป็นห่วงคุณนี่นา" เขาตอบ อุ้มผมไปวางที่เตียง แต่ผมกลับหัวเราะ...

จำไม่ได้เลยว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนกลัวและเศร้าขนาดไหน เพิ่งรู้ว่าคนท้องสามารถบิวด์ตัวเองได้ขนาดนี้

สามารถเปลี่ยนจากสามีแสนดีให้เป็นฆาตกรโรคจิตได้ พลังมโนของฮอร์โมนช่างน่ากลัวจริงๆ

"เธอเป็นห่วงไอ้ที่อยู่หว่างขาตัวเองมากกว่ามั้ง" ผมอารมณ์ดีพอกระทั่งแหย่เขากลับไป แม๊กซ์หน้าบูด

"ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ ไอ้นี่ก็เป็นห่วงคุณนะ" เขายิ้ม คว้ามือผมไปจับแม๊กซ์น้อยมหึมาเป็นการพิสูจน์ ผมอุทาน ร้องเสียงดัง หน้าแดงไปถึงหู

"บะ บ้า เลิกเล่นเลย!"

"ฮ่าๆ เจ้าหญิงหน้าแดงเลย... น่ารักจัง"

"ตกลงว่ามีอะไร" ผมถอนหายใจ แม๊กซ์น้อยแข็งโป๊กแล้ว ท่าทางอยากเข้ามาในตัวผมเต็มแก่ แม๊กซ์จับผมนั่งตัก โอบกอดผมจากด้านหลัง หยิบไอแพดขึ้นมาให้ดู

"ปกติคนท้องจะไม่มีอารมณ์ทางเพศในไตรมาศแรก แต่ในไตรมาศที่สองจะร้อนแรงสุดๆ เลยล่ะ"

"อ๊ะ... ถ้าอย่างนั้น" ผมเงยหน้าขึ้นมองคางเขียวๆ

"ฮื่อ ผมว่าน่าจะใช่นะ แต่ให้ชัวร์..."

"ไปถามพิชดีไหม ?"

"ผมจะบอกว่าไปหาหมอ แต่ถามพิชก่อนก็ได้ พวกคุณสนิทกันจนคุยเรื่องนี้ได้แล้วเหรอ ?"

นั่นสินะ... แต่พิชเคยถามผมตรงๆ เลยนี่ว่ากำลังมีเซ็กส์อยู่หรือเปล่า เรื่องแค่นี้น่าจะถามเขาได้มั้ง...

...พอแม๊กซ์ทัก ผมก็ชักหวั่นเหมือนกัน ผมกับพิชเพิ่งเป็นเพื่อนกันได้เดือนเดียว แต่นี่จะสนิทสนมคลุกวงในกันแล้ว

...สงสารพิชกับปาป้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-09-2016 13:51:40
แม๊กซ์ไปส่งผมทำบุญที่วัดไทย เพราะผมเคยบอกเขาว่าถ้าทำบุญมากๆ แล้วผมจะคลอดอย่างราบรื่น เขาเอียงคอมองแต่ก็ไม่ค้าน

ผมละดีใจที่เขาไม่ได้สนใจไปกูเกิ้ลต่อว่าวัดไทยมีบทสวดให้คลอดง่ายจริงไหม

ผมอยากทำบุญไว้เยอะๆ จากคนที่เข้าวัดเพราะแม่สั่งกลับไปวัดด้วยตัวเองนี่มันช่างประหลาด ฮอร์โมนอีกแน่ๆ ที่ทำให้เป็นอย่างนี้

ผมทำบุญให้ลูก ให้แม๊กซ์ ให้พ่อแม่ น้องชายและน้องสะใภ้ หลานๆ และปู่ย่าตายาย ที่สำคัญคือพิชกับปาป้า สงสารคู่สามีภรรยาคู่นี้เหลือเกินที่ต้องมาเจอผมกับแม๊กซ์

เสร็จแล้วเราสองคนก็ไปยังร้านของพิช จูงมือกันเดินในวันหนาวๆ แบบนี้รู้สึกดีชะมัด ฟุตบาธที่นี่ก็กว้างขวางจนเราเดินเคียงคู่กันได้ ไม่ต้องจับมือกันไปหลบฝาท่อระบายน้ำไป ให้ควันจากร้านขายไก่ย่างเข้าตาไป

โรแมนติกมากๆ

วันนี้พิชกับป้านวลทำอาหารไทย เลยโทรชวนพวกเรามากินมื้อเที่ยง แม๊กซ์ลางานอีกแล้ว เขาลางานบ่อยจนผมกลัวบริษัทจะเจ๊ง กลัวว่าจะเป็นเหมือนในละครไทย ประธานบริษัทวันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่มาเฝ้าเมียกับให้นางร้ายเกาะแกะ

แต่พอโทรเช็คกับอดัมและทีนา ก็พบว่าสามีผมเคลียร์งานไว้แล้ว โปรเจคของแอนเดรียกำลังเข้าสู่ช่วงพัฒนารสชาติ ยังไม่มีอะไรน่าสนใจ ส่วนอีกโปรเจคของบริษัทลูกก็เน้นตลาดต่างประเทศ เพราะอเมริกาเจอกับสภาวะถดถอยมาหลายปีแล้ว โดยหวังว่าจะดึงยอดขายจากทั่วโลกมารักษาอาการบอบช้ำ

จริงๆ แล้วเป็นประธานบริษัทก็ไม่ง่ายเลยนะ เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา แม๊กซ์คงจะเครียดเหมือนกัน ผมที่อยู่บ้านนั่งๆ นอนๆ เลยได้แต่ตั้งใจว่าจะเป็นที่พักพิงให้เขา ให้เขากลับมาแล้วเจอแต่ความสุข ความผ่อนคลาย

นี่ว่าจะไปเรียนนวดกับพิชด้วย สเน่ห์ปลายจวักผมมีอยู่แล้ว ถ้านวดน้ำมันอโรมาเป็นด้วย... ก็ให้รู้ไปสิว่าผัวจะไม่รักน่ะ!

ผมกระชับอุ้งมือ อมยิ้มกับความคิด ร่าเริงจนแม๊กซ์หน้าบูด "ทำไมถึงดีใจที่ได้เจอชายอื่นขนาดนั้น ?" นี่คงคิดอะไรไร้สาระอีกแล้วล่ะสิ ผมหัวเราะ ลมแรงตีหน้าจนผมปลิวเข้าปาก แม๊กซ์ก้มลงมาช่วยดึงออกให้อย่างอ่อนโยน

"ฉันคิดถึงเธอต่างหาก..."

แม๊กซ์หน้าแดง "จริงเหรอ ?"

"จริงสิ"

"แน่นะ"

"อื้ม..." ทำไมมันเหมือนเพลงเลยเนี่ย จริงรึ จริงซิ แน่นะ อ๋อแน่ซิ... ผมกำลังจะกลายร่างเป็นดาวใจ ไพจิตร เราก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านพิชพอดี

เสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋ง ในร้านตกแต่งด้วยสีขาวสบายตา สว่างไสวด้วยโคมไฟที่ทำจากไม้ พิชโผล่หน้าออกมาจากเคาเตอร์

"สวัสดีครับ... อ้าว ข้าวมาแล้วเหรอ ?"

"ฮื่อ" ในร้านอบอุ่นสบาย ผมช่วยแม๊กซ์ถอดโค้ตแล้วเอาไปเก็บ ส่วนของตัวเองแม๊กซ์ก้มลงมาช่วยถอด

พิชดูพวกเราสลับกันเก็บโค้ตด้วยสายตาเอ็นดู "น่ารักจังน้าพวกคุณเนี่ย... เอาล่ะ เดี๋ยวผมให้เด็กมาดูหน้าร้านนะ" พิชพาเราไปยังหลังร้าน มีพนักงานร้านนั่งพักอยู่สองสามคน ผมยกมือไหว้ป้าๆ ส่วนแม๊กซ์ก็พยักหน้าทักทาย

บรรดาสาวๆ(เหลือ)น้อยในร้านพิชร้องทักแม๊กซ์เกรียวกราว ทั้งชมไม่หยุดว่าสามีผมหล่อขึ้นบ้าง ทักว่าวันนี้ใส่สีน้ำเงินแล้วขึ้นบ้าง จนพิชต้องปราม

พวกเราตั้งวงล้อมโต๊ะเล็กๆ หลังร้าน มีพนักงานคนอื่นๆ ที่เคยเจอกันตอนปาร์ตี้มาร่วมสมทบ บางคนมาช่วยจัดโต๊ะแล้วผละออกไปรับลูกค้า

มื้ออาหารอร่อยและทุกคนก็คุยสนุก ผมคอยช่วยแปลบทสนทนาให้แม๊กซ์เป็นระยะๆ ช่วงบ่ายเรากินกันอิ่มตื้อ ผมช่วยพิชเก็บกวาดและล้างจาน ส่วนแม๊กซ์ที่ยังปักหลักอยู่ดูท่ายังไม่ไปทำงาน

"ข้าว กลับเถอะ"

ผมหันกลับไปมอง "ต้องช่วยพิชล้างจานอีกนะ" แค่มากินฟรีก็แย่แล้ว แต่แม๊กซ์ก็ช่วยโฆษณาร้านพิชโดยการซื้อคูปองของที่นี่ไปแจกลูกน้องจำนวนไม่น้อย

"แต่ผมต้องไปทำงาน" แม๊กซ์หน้าบูด เขาลามาแค่ช่วงสายๆ ถึงเที่ยง ควบเวลาพักกลางวันไปด้วย ผมเกรงใจพิชมาก

"ไม่เป็นไรหรอก รีบไปเถอะข้าว" พิชตอบยิ้มๆ ยิ่งทำให้ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาเป็นเพื่อนกับผมด้วย

"ไม่ได้หรอก เกรงใจ" ผมส่ายหน้า รีบไปดุสามี "แม๊กซ์ ทำแบบนี้มันเสียมารยาทนะ"

พิชเพิ่งเคยเห็นผมดุ เขาหัวเราะคิก รับเอาจานไปล้างน้ำเปล่า "งั้นแม๊กซ์ก็ปล่อยข้าวอยู่นี่สิ นั่งคุยกันก็ได้ ไว้เลิกงานค่อยมารับ"

ไอเดียดี ผมรีบพยักหน้า "เอางั้นก็ได้ แม๊กซ์ค่อยมารับนะ"

"แต่ข้าว..." เขางอแง ส่ายหน้ารัว "กลับเถอะนะ..."

"แม๊กซ์..."

"ข้าว..."

"แม๊กซ์..."

พิชไม่เสนอให้ผมกลับเอง เพราะรู้ว่าแม๊กซ์ต้องโวยวายแน่ๆ ขนาดผมกลับแท๊กซี่นะนั่น

"ข้าววววววว" ถ้าเป็นเด็กไทยคงกระทืบเท้าเร่าๆ ใส่ผมไปแล้ว แต่ผมก็ส่ายหน้าอย่างดุดัน

"ไม่เอานะแม๊กซ์ สัญญากับฉันว่ายังไง ?"

เหมือนผมมีลูกชาย แม๊กซ์ขบฟันกรอดๆ "....แต่..."

"ไม่เป็นไรหรอกครับ" พิชเข้ามาช่วย "ผมสัญญาว่าจะไม่พาข้าวไปไหน นั่งคุยกันอยู่ในร้านนี่แหละ ไม่พาไปนั่งหน้าร้านด้วย"

"แม๊กซ์ เถอะนะ... ฉันอยากอยู่กับเพื่อน" ผมเน้นคำว่าเพื่อน เงยหน้าขึ้นมองเขา... ตั้งใจช้อนตาอ้อน ในที่สุดแม๊กซ์ก็พ่ายแพ้ ยอมผ่อนปรน

"ก็ได้... แล้วผมจะรีบมารับนะ"

"โอเค ขับรถดีๆ ล่ะ" ผมยิ้มกว้าง ในที่สุดก็ส่งลูกชายไปโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว

...

หลังจากแม๊กซ์กลับไปแล้ว ผมกับพิชก็นั่งเมาท์มอยอยู่หลังร้าน ช่วยเขานับสต๊อกและบรรจุหีบห่อน้ำมันนวดอโรมาที่ส่งมาจากไทย

"มีหลายกลิ่นเหมือนกันนะ" ผมพูดอย่างทึ่งๆ

พิชเป็นคนทำงานเก่งมาก เขาไม่ได้มีแค่ร้านนวด แต่ขายส่งพวกสินค้าสปาอะไรแบบนี้ให้ร้านนวดอื่นๆ จนเป็นคล้ายๆ เอนเยนต์ของที่นี่ พวกร้านนวดและสปาขนาดกลางและเล็กต่างก็มาสั่งที่เขา พิชยังขายปลีกพวกสินค้าสปา อโรมาให้ฝรั่งที่นี่อีกด้วย

ผมเอานิ้วกรีดกล่องกระดาษ จับมันพับและขึ้นรูปอย่างง่ายดาย

"ฮื่อ ตอนแรกพิชก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกสปาอะไรพวกนี้มันสำหรับคนรวยทั้งนั้น"

"จริง" ผมเห็นด้วย เอาขวดน้ำมันดีไซน์สวยงามใส่กล่องกระดาษ "นี่พิชรับมาจากไหนเหรอ ?" โอท็อปทั้งนั้น

"บ้านเกิดพิชเองแหละ แม่พิชเป็นกลุ่มแม่บ้านน่ะ พิชไปจ้างเค้าออกแบบแพคเกจสวยๆ แล้วเอามาใช้ที่ร้านก่อน เห็นเข้าท่าเลยวางขายหน้าร้าน แล้วค่อยขายส่ง"

"เก่งจัง" ผมชื่นชม พลางคิดว่าบ้านเกิดตัวเองมีอะไรให้ขายบ้าง อืม มองออกไปก็ทุ่งนา มองขวาก็ควาย...

"จริงๆ แล้วถ้าขายที่จีนจะดีกว่านี้มาก เมกาน่ะตลาดเล็กลงเรื่อยๆ เศรษฐกิจแย่มาก ที่มาแรงคือจีน... แต่ก็นั่นแหละ พิชไม่ได้ทำหวังรวยขนาดนั้นหรอก แถมครอบครัวก็อยู่ที่นี่ด้วย"

"หมายความว่า... ถ้าอยู่ไทยพิชจะทำเหรอ ?" ผมทึ่งมากๆ พิชเก่งสุดๆ ทั้งขยันทั้งหัวดี

"ใช่ ทำสิ เมื่อก่อนพิชอยู่บริษัทส่งออกน่ะ พอเห็นลู่ทางบ้าง... อยากลาออกจากพนักงานเงินเดือนจะแย่ ไปเรียนภาษาจีนเพิ่มเติม เก็บเงินซักก้อน แล้วลองเอาของแถวบ้านไปออกร้านหลายๆ ที่ดู" พิชยักไหล่ "ถ้าอยู่ไทยน่ะนะ... แต่ยังไม่ทันออกจากงานก็แต่งมาอยู่กับปาป้าแล้ว"

"น่าเสียดายนะ" ผมมันสันดานคนจน เห็นเงินอยู่ข้างหน้าแล้วอยากคว้าไว้ "แถวบ้านข้าวไม่มีอะไรให้ขายด้วย... มีแต่กลิ่นโคลนสาบควาย"

"อย่าล้อเล่นไปนะข้าว มีคนทำน้ำหอมกลิ่นทุ่งนามาแล้ว" พิชจริงจัง ผมอิจฉาปาป้าจังเลย ได้ภรรยาทั้งเก่งทั้งขยัน หัวก็ดี นิสัยก็เยี่ยม ใจกว้าง ใจเย็น ใจดี

"งั้นเหรอ... ฝรั่งชอบอะไรแปลกๆ เนอะ"

"คงเหมือนเราล่ะมั้งที่ชอบอะไรแปลกๆ ของฝรั่ง อย่างพิซซ่าไง ไปอยู่บ้านเราทำไมมันแพงได้ขนาดนั้นนะ"

ผมขำ แม๊กซ์ห้ามไม่ให้ผมกินจังค์ฟู๊ดโดยเด็ดขาด สำหรับที่นี่ คนรายได้น้อยถึงจะกินอาหารขยะ

"แต่ที่นี่ผักดันแพง" ผมเสริม

"นั่นสิ..."

ผมช่วยพิชพับกล่องไปได้เยอะแล้ว เร็วกว่าเจ้าของร้านเสียอีก พิชเงยหน้ามองแล้วอุทาน "โห ไวจัง ข้าวมีฝีมือนะ วันก่อนที่ทำคุกกี้มาก็อร่อย"

"จริงเหรอ" ผมเขิน

"จริงสิ มีฝีมือทางประดิดประดอยนะเนี่ย กล่องพวกนี้พิชยังงมตั้งนานกว่าจะประกอบได้"

"เมื่อก่อนเคยแกะสลักน่ะ" ผมตอบ ดีใจที่มีประโยชน์กับเพื่อนบ้าง "อ๊ะ จริงสิ ว่าจะถามพิช"

"ฮื่อ มีอะไรเหรอ ?"

"คือ... พิช ตอนท้อง... พวกเราๆ เนี่ยจะไม่ค่อยมีอารมณ์เหรอ ?"

"อารมณ์ ?"

ผมก้มหน้าต่ำ "อารมณ์ เอ่อ อย่างว่า... น่ะ"

"อ๋อ อารมณ์ทางเพศน่ะเหรอ" พิชทะลุกล้างป้อง เหมือนตอนที่ถามผมเรื่องเซ็กส์ไม่มีผิด ผมพยักหน้า คิดว่าหน้าคงแดงไปถึงไหนแล้วแน่ๆ

"พิชน่ะหมดอารมณ์กับปาป้าไปสามเดือนเลยล่ะ" หนุ่มไทยใส่แว่นตอบ โยนน้ำมันนวดที่ใส่กล่องแล้วลงหีบ "ปาป้าก็พยายามนะ... พยายามเล้าโลม แต่มันไม่มีอารมณ์อ่ะ โกรธก็มี ในที่สุดเลยต้องเอามือช่วยปาป้า"

อือหือ... รู้ลึกรู้จริง ไม่มีกั๊ก ผมมองพิชทึ่งๆ พูดออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้ แถมยังเล่าจนหมดด้วยท่าทางผ่อนคลายราวกับเก็บกักไว้นานแล้ว

ไม่น่าล่ะ เขาถึงบอกว่าลำบากใจที่ไม่มีเพื่อนเกย์เลย

"กลัวผัวไปมีกิ๊กเหมือนกัน ข้าวก็รู้ว่าผู้ชายน่ะไม่ได้ระบายมันก็หารูมุดจนได้นั่นแหละ"

"เอ่อ... แล้วพิชทำไงอ่ะ"

"คุมหนักเลยล่ะ ปาป้าเค้าไม่ซีเรียสนะ อย่างว่าแหละนะ คนไม่มีอะไรให้ปิดก็ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เค้าให้พิชคุมทุกอย่างเลย พิชไปรับไปส่งที่ทำงาน กระเป๋าเงินก็ไม่มีบัตรเครดิต กลับบ้านมาก็เอาใบเสร็จมากาง... พิชหึงจนบ้าไปเลยล่ะ เพราะรู้ว่าตัวเองไม่สามารถให้ความสุขปาป้าได้"

โอ้โห... สำหรับผมมันกลับกันมากกว่า

"แล้วไงต่อ" ความเผือกทำให้ผมสะกิด พิชหัวเราะ ขยับแว่น

"ก็ไม่ยังไง... ปาป้าก็ทนเอาตั้งสามเดือน ไม่รู้ทนได้ไง... โดนลูกน้องล้อด้วย แต่ปาป้าก็ไม่ว่าอะไรนะ พิชก็พยายามนะ ออนท๊อปก็แล้ว ออรัลก็แล้ว แฮนด์จ๊อบทุกแล้ว ทุกรูที่มีในตัวอ่ะจะให้ปาป้าเข้ามาหมด แต่มันไม่มีอารมณ์ไง... เลยเจอกันครึ่งทาง ให้ปาป้าเข้ามาที่ต้นขาเอา"

ผมพยักหน้ารับ ถ้าที่ต้นขาก็ไหว... เหมือนที่แม๊กซ์ทำวันก่อน

"มันเทียบกันไม่ได้หรอก แต่ต้องทนเอา เพราะถ้าเข้ามาแล้วมันจะเจ็บมาก ถึงสอดได้พิชก็ไม่มีอารมณ์ ไม่แฮปปี้"

"โห ทำไมท้องแล้วลำบากอย่างนี้ล่ะเนี่ย" ผมรำพัน พิชหัวเราะ

"แค่เกิดมาเป็นรับก็ลำบากแล้วเนอะ"

"นั่นสิ"

"ยังต้องมาตั้งท้องอีก เป็นผู้ชายแท้ๆ เมื่อก่อนมีอะไรกับใครก็ไม่ต้องกลัว ระวังแค่โรค"

"...ถูก แค่ใส่ถุงยางก็จบ ไม่ต้องแพ้ท้อง ไม่ต้องมีพุง" ก้มลงดูหน้าท้องตัวเอง แล้วดูพุงพิช อีกไม่นานผมก็จะเป็นแบบนั้น

แต่พิชยังทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉง

"พิชกี่เดือนแล้วอ่ะ ?"

"หกแล้วล่ะ เหลืออีกไตรมาศเดียว"

"โห" ผมคราง ชักกลัวขึ้นมาเหมือนกัน "ท้องใหญ่จังเลย... น้องเป็นผู้หญิงนี่ ?" พิชเคยบอกผมเมื่อตอนเจอกันครั้งแรกที่โรงพยาบาล พิชพยักหน้า

"ฮื่อ ไว้คลอดแล้วข้าวมาปาร์ตี้ด้วยนะ" พิชชอบปาร์ตี้มาก ชอบอยู่กับคนเยอะๆ มิน่าปาป้าถึงบอกว่าพิชขี้เหงา

"ได้สิ ไปแน่ๆ"

"ของข้าวก็อีกเดือนเดียวสินะ ?"

ของผมเดือนหน้าก็ต้องอัลตร้าซาวด์ดูเพศและสุขภาพของลูกแล้ว ผมตื่นเต้นขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว "ใช่แล้ว แล้วหมอกาเบรียลจะคลอดเมื่อไหร่เหรอ ?"

"เห็นว่าจะโอนคนไข้ไปให้หมอโซฟีเดือนหน้าน่ะ น่าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น"

หมอกาเบรียลก็ได้เวลาคลอดเหมือนกัน เห็นว่ามีปัญหาต้องคลอดก่อนกำหนด แม้กระทั่งหมอที่ดูแลคนอื่นก็ยังไม่สามารถควบคุมสุขภาพตัวเองได้

ผมกับพิชจึงเริ่มเมาท์เรื่องหมอกาเบรียล เรื่องร้านนวด เรื่องรัฐบาลไทย เรื่องดารา เรื่องนักร้อง... สรรหาหัวข้อมาเมาท์ได้ไม่จบไม่สิ้น ราวกับเราเป็นเพื่อนเก่าแก่

จนกระทั่งแม๊กซ์มารับ ผมกับพิชยังเมาท์กันไม่จบ

พิชออกมาเดินส่งผมกับแม๊กซ์ที่หน้าร้าน บอกว่าจะโทรมานัดพวกเราไปกินข้าวด้วยกันอีก ผมกับแม๊กซ์รับปากแล้วกลับบ้าน

ผมคิดว่าเที่ยวหน้าจะปอกผลไม้ ทำอาหารไทยมาฝากพิช

พอมีคนชมแล้วก็ชักบ้ายออยากทำขึ้นมา

ดีใจจังที่มีเพื่อน

...

กลับบ้านมาพวกผมถอดโค้ต แม๊กซ์หอบแฟ้มกลับมาทำงานด้วย ผมแปลกใจ เพราะปกติไม่ค่อยเห็นเขาหอบงานมาทำที่บ้าน ชักกลัวเหมือนกันเพราะมัวแต่มาเฝ้าผม จะทำให้เสียงานเสียการ

ผมทำให้เขาลำบากหรือเปล่าเนี่ย

ผมช่วยถือของไปไว้ในห้องนั่งเล่น "ถ้างานเยอะ... ฉันไม่ออกไปไหนก็ได้นะ เธอจะได้ไม่ต้องมาเฝ้าฉัน" ถ้าบอกแค่ว่าไม่ต้องมาเฝ้า ผมรู้ว่าแม๊กซ์ไม่ยอมแน่ๆ ถ้าผมไม่ออกไปไหนเสีย แม๊กซ์ก็ไม่ต้องเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรครับ แค่เอามาเช็คเท่านั้นเอง" เขาพูดยิ้มๆ รับของจากมือผมไป "ขอผมทำงานก่อนกินข้าวนะ คงไปช่วยคุณทำมื้อเย็นไม่ได้"

ผมหัวเราะ "ปกติเธอช่วยอะไรที่ไหน... แล้วจะทำอะไร ?" แม๊กซ์คัดเอกสารกับโน้ตบุ๊กลุกไปไว้ที่ครัว

"ก็ทำงานไง"

"แล้วมาทำอะไรที่ครัว ?" ผมเดินตามไป แม๊กซ์ส่งผ้ากันเปื้อนให้ ยิ้มกรุ้มกริ่ม

"ก็เจ้าหญิงน่ารัก... ใส่ผ้ากันเปื้อนแล้วน่ารัก... ตอนทำอาหารก็น่ารัก... ผมไม่ยอมพลาดหรอก"

ผมถอนหายใจ... ผัวกูโรคจิต...

....

คืนนั้นแม๊กซ์มาจับๆ จูบๆ หอมๆ ผมหลายรอบ เอามือเล้าโลมก็แล้ว ผมจั๊กจี้แต่ปลุกอารมณ์ไม่ขึ้น

อย่างที่พิชบอกจริงๆ นี่โชคดีที่ผมมาหมดอารมณ์เอาเดือนสุดท้ายของไตรมาศแรก ไม่รู้ผู้หญิงเป็นเหมือนกันไหม อาจจะต่างออกไปก็ได้ มิน่าสามีถึงนอกใจภรรยาตอนท้อง

แม๊กซ์ยังไม่หมดความอดทน ปลุกผมมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ผมได้แต่มองหน้าเขาแล้วส่ายหน้า "ฉันไม่อยากทำ"

"ผมทำคุณเจ็บเหรอ ?" แม๊กซ์ยังจำคราวที่แล้วที่เขาปล้ำผมได้ ผมมองหน้าหล่อๆ ที่สลดหงอย ยกมือขึ้นลูบตามโครงหน้า

"ไม่หรอก... ฉันแค่ไม่มีอารมณ์น่ะ"

"หรือผมไม่เก่ง ?" ยิ่งถามยิ่งเศร้า ผมอยากจิ้มตาเขาเสียจริง มองผมแบบนั้นแล้วอยากเข้าไปโอ๋

"เก่งสิ... ไม่เก่งจะทำฉันท้องได้ยังไง"

"แต่คุณไม่แฮปปี้..."

"ที่รัก เธอเก่งแล้ว ทำฉันคราง ทำฉันถึง โอเค้ ?" ผมจ้องหน้าเขาเขม็ง กลัวว่าสามีจะเอาไปคิดมาก เข้าใจดีว่าสำหรับผู้ชายเรื่องแบบนี้ฆ่าได้หยามไม่ได้ "แต่เพราะฮอร์โมน ฉันท้อง ฉันเลยไม่มีอารมณ์ สงสารฉันเถอะนะ"

"เจ้าหญิง..." เสียงทุ้มๆ อ้อน ผมอ้าแขนรับเขาเข้ามา ให้สามีนอนซุกหน้าอกแบนๆ ของตัวเองได้สักพัก มือแม๊กซ์ก็เลื้อยไปเล่นหัวนม ผมสะดุ้ง

"แม๊กซ์!"

"ลองดู เผื่อฟลุกน่ะ" แม๊กซ์ตอบ หยิกติ่งเนื้อเล็กๆ แล้วเลิกเสื้อผมขึ้นอย่างไม่เกรงใจ

"แม๊กซ์!"

ปากร้อนคาบยอดอกผมไว้ ชมว่าสีสวยบ้าง นุ่มบ้าง ผมกดศีรษะเขาแนบอก ซุกหน้ากับเรือนผมสีน้ำตาล กลิ่นตุๆ แฮะ

ลิ้นร้อนโลมเลียไปทั่ว... ถูกเล้าโลมมาครึ่งชั่วโมง มันก็บวมๆ แล้ว ผมปล่อยให้เขาดูดนมเล่นเหมือนเด็กทารก มีเสียวเป็นระยะๆ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะให้เขาเข้ามา ในที่สุดแม๊กซ์ก็ยอมปล่อยออก ใช้ลิ้นตวัดเลียหนักๆ ครั้งสุดท้ายอย่างอาวรณ์

"ผมแข็งแล้ว" พูดพลางเลื่อนตัวขึ้นมาจูบ ผมอ้าปากรับลิ้นเขาเข้ามา

"อื้อ... ทำไงดี..." หัวสมองเริ่มเบลอ

"เจ้าหญิงจูบอีกสิ" สั่งราวกับที่เรากำลังทำอยู่ไม่ใช่จูบ แม๊กซ์แทบคว้านเข้ามาในลำคอ ผมนึกถึงคำพูดพิชขึ้นมาได้...

ทุกรูให้ใส่เข้ามาหมด... เพราะผู้ชายน่ะ ขอแค่มีรูก็มุดได้

ช่างเปรียบเทียบอะไรได้น่ากลัว แต่ก็จริง...

ผมไม่ชอบเลย แต่ผมเป็นภรรยาเขา... เรื่องแบบนี้ผมรู้ดี รู้ดียิ่งกว่าใคร มีประสบการณ์ตรงที่โดนนอกใจ โดนแทงข้างหลังก็เพราะแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ?

ผมจูบแม๊กซ์ตอบอย่างดุดัน

ไม่เอา! ไอ้ที่ผ่านๆ มาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ แต่กับผู้ชายคนนี้

ไม่ให้!

จะชะนีหรือเกย์สาวน้อยที่ไหนก็ไม่ให้!

เซ็กส์ไม่ใช่รัก แต่เป็นส่วนหนึ่งของความรัก และผมจะเก็บเอาไว้เอง จะหวงเอาไว้ทั้งหมด ผมผละออกมาจากริมฝีปากหนา เลียปลายคางเขายั่ว มือควานลงไปที่กางเกงนอน จับหว่างขาเขาเต็มไม้เต็มมือ ยิ้มมุมปาก

"แข็งจัง..."

"เจ้าหญิง..." แม๊กซ์คราง "อย่าซนสิครับ..."

ผมจูบเขาอีกครั้ง จงใจยั่ว "มาสิ เดี๋ยวฉันจะดูแลเธอเอง"

แล้วผมก็จูงมือเขาไปห้องน้ำ ถึงตัวเองจะค่อนข้างแห้งเหี่ยวก็เถอะ แต่ก็จงใจทอดสายตาให้ ไม่ได้สาวแตก แต่ก็ปลุกอารมณ์เขาจนแม๊กซ์แทบกระโจนมาอยู่แล้ว

ผมใส่น้ำในอ่างจนเต็ม ช่วงร่างสูงใหญ่ถอดเสื้อผ้า หยิบฟองน้ำมาช่วยเขาล้างตัว

ของแม๊กซ์ตั้งตระหง่านเหยียดตรง เหมือนร้องบอกว่าอยากมุดเข้ามาในตัวผมเต็มแก่ ถ้าเป็นปกติผมคงส่ายสะโพก รีบเอาตัวเข้าถวาย แต่ตอนนี้ได้แต่ตกใจในความใหญ่ของมัน ที่ปลายเริ่มมีน้ำใสปริ่มออกมาแล้ว

แม๊กซ์ไม่พูดอะไรเลย ยิ่งผมลูบไล้เรือนร่างเขา เขายิ่งกัดฟันแน่น ยิ่งอดทน

ผมเอาน้ำอุ่นล้างร่างกายแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยมัดกล้ามและลุกเข่าลง

ผมไม่ชอบทำแบบนี้ ไม่ชอบเลยจริงๆ

แต่เพื่อเขา...

แม๊กซ์ดูตกใจ

ผมเสยผมขึ้น เอาผมที่เกะกะหน้าขึ้นทัดหู แล้วค่อยๆ อ้าปากครอบส่วนปลายของท่อนลำ แม๊กซ์ต้องย่อเข่าลงมาเพื่อให้พอดีกับใบหน้า

ผมส่งยิ้มให้เขา เพื่อบอกว่าผมเต็มใจ "ทานละนะ" ผมกระซิบเบาๆ กับหน้าขาแข็งแรง "อย่าใจร้ายกับฉันเกินไปนะ..."

แม๊กซ์อ้าปากจะห้าม แต่ก็กลืนน้ำลายเมื่อผมเริ่มใช้ลิ้นเลียส่วนปลาย ขบเบาๆ ไปตามลำท่อน จูบไปตามทาง เสียงทุ้มครางเครือดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้รู้ว่ามาถูกทางแล้ว

ผมจำหนังเอวีได้ น่าจะประมาณนี้

ผมรับเข้าไปทั้งท่อนไม่ได้ ปากผมเล็กเกินไปจึงได้แต่รูดชักสลับกับดูดอม ส่งเสียงหวานๆ ครางไปชื่นชมไปด้วย แบบที่ตัวเองยังคิดว่าโคตรร่าน โคตรแรด โคตรกะ*รี่

"ฮื้มม... แข็งจัง...."

"ซี๊ดดด..." แม๊กซ์ชอบ โยกเอวเบาๆ เข้ากับปาก ผมใช้ลิ้นตวัด ดูดเลียไป มือนวดคลึงไปถึงลูกกลมทั้งสองข้าง ผมซุกหน้ากับพงหญ้า กลืนกินกลิ่นผู้ชายเต็มปาก คาว สาก... แต่ร้อน ผมขยับศีรษะไปตามจังหวะของเขา เอาแบบที่แม๊กซ์ชอบ... เมียจัดให้

ออรัลแล้ว ดูดเขาจนแก้มตอบ แม๊กซ์ยิ่งแข็ง ความใหญ่โตที่เท่ากับท่อนแขนผม หรืออาจจะใหญ่กว่าพองขยาย ผมตะลึง นี่มันยังใหญ่ได้อีกเหรอเนี่ย! แล้วปกติมันไม่เสยขึ้นไปถึงสะดือผมเลยเหรอ...

ด้วยความอยากรู้ เอาท่อนแขนขึ้นทาบเงียบๆ

...ความใหญ่และยาวของมัน... อย่าให้ผมบอกเลย

ดูดจนเมื่อยปาก เลียจนน้ำลายแห้ง แม๊กซ์ก็ไม่เสร็จซักที เขาเป็นคนเสร็จช้า ผมรู้ดี แต่ชักไม่ไหว กรามจะค้างแล้ว ผมอนาถสังขารตัวเอง แก่จนทำรักให้ผัวไม่ไหว

เลยตัดสินใจ ตัดใจ... กลืนน้ำลาย... เลียริมฝีปากเพิ่มความชุ่มชื้น เงยหน้าขึ้นสบตากับเขาแล้วยิ้ม...

"ฉันรักเธอนะ" ผมบอกเขาเบาๆ แล้วอ้าปาก... รับท่อนลำลงคอ... กลืนมันลงไป แน่นจนจุก จนแทบอ้วก มันสอดแทรกเข้าลงไปถึงที่ไหนผมไม่รู้ อาจจะลงไปถึงกระเพาะปัสสาวะ แต่ผมก็ยังหลับตา กลืนลงไปจนปากแทบฉีก น้ำตาไหล น้ำลายเยิ้ม แม๊กซ์ครางลั่น กระดกเข้าออก สอดแทรกเหมือนเขากำลังทำรักผมผ่านทางช่องทางด้านหลัง ผมขยับศีรษะตามจังหวะเขา

"อื้อ อื้อ"

"ข้าว... ข้าว... เจ้าหญิงของผม... ของผม"

รอบกายเราร้อนแรง ผมเหงื่อหลั่งริน หายใจไม่ออก ปากถูกอุดด้วยความใหญ่โต แล้วจู่ๆ แล้วท่อนลำในปากก็สั่นระริก ผมครางฮือลั่น

"ซี๊ดดดดด!" แม๊กซ์กัดฟัน หลับตาแน่น น้ำคาวๆ ระเบิดเต็มปาก แม๊กซ์รีบดึงออก ก้มลงช่วยผมคายน้ำรักเขาออกมา

"ที่รัก... เจ้าหญิงอย่ากลืนนะ!" เขาอุ้มผมไปที่ชักโครก ลูบหลังลูบไหล่

ผมคายน้ำกามรสคาวเฝื่อนและน้ำย่อยออกมา แม๊กซ์เปิดฝักบัวช่วยผมล้างปาก ร่างสูงใหญ่พยุงผมไปพิงผนังห้องน้ำ

"เจ้าหญิง... เจ้าหญิง..." แม๊กซ์จับผมนั่งตัก "เป็นยังไงบ้างครับ ?"

ผมลืมตาขึ้นมาเขา หอบหายใจ "แม๊กซ์..."

"ครับ ?"

"เป็นยังไง ?" เสียงผมขาดห้วง เจ็บปาก เมื่อยกรามไปหมด

แม๊กซ์ชะงัก ค่อยๆ โน้มตัวลงจูบ "เจ้าหญิง... คุณไม่ต้องทำแบบนี้เลย..."

"ฮื้อ..." ผมส่ายหน้า ก้มลงมองหว่างขาเขา...

ไม่จริงนะ... เจ็บขนาดนี้แล้วยังแข็งโป้กอยู่!

แม๊กซ์หน้าเครียด "คุณอาบน้ำแล้วไปพักเถอะ"

ผมส่ายหน้า ไม่ยอมท่าเดียว ผมเป็นเมียเขานะ! "ฮื้อ ไม่เอา! เธอยังมีอารมณ์อยู่นี่..."

"ก็คุณ..." แม๊กซ์อ้าปากแล้วหุบ อ้าแล้วหุบเหมือนปลาทองหลายที ก่อนจะหลุบตาลง "ก็เจ้าหญิง... น่ารัก... ตอนที่ฝืนเอาของผมเข้าปากก็ยิ่งน่ารัก.... ปากเล็กๆ ของคุณดูดอมของผมอร่อยเชียว"

ผมหน้าแดงไปด้วย มือจับท่อนลำเขาไปด้วย กลืนน้ำลาย "ร่างกายฉันดีขนาดนั้นเลยเหรอ ?"

แม๊กซ์หน้าแดงตาม ร่างกายร้อนระอุ "ดีที่สุดในโลก"

ผมยิ้ม โหย่งตัวขึ้น ปากสั่ง "หยิบสบู่ให้หน่อย"

"เจ้าหญิง... คุณจะทำอะไร" แม๊กซ์ยื่นขวดสบู่เหลวให้ ผมเปิดฝาปั๊มออก โยนมันทิ้งไป แล้วเทสบู่ลงบนท่อนลำเขา ตอนนี้มันแข็งจัด ใหญ่โตทั้งยังมันวาว ผมเทสบู่ลงฝ่ามือตัวเอง ก่อนจะสอดนิ้วลงไปที่ปากทาง

แสบ... เจ็บจัง...

สบู่เหลวเกินไป ใช้แทนเจลไม่ไหว ยิ่งตอนที่ผมไม่มีอารมณ์ยิ่งเลวร้าย ผมจ้องหน้าคมเข้มของสามีไป ยิ้มให้เขาไป นิ้วสอดเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวก็กัดริมฝีปาก

"เจ้าหญิง! พอแล้ว!" แม๊กซ์ได้สติ ดึงมือผมออก แต่ผมส่ายหน้า คลานเข่าเข้าไปชิดเขา มือใหญ่พยายามดึงให้ผมลุก แต่ผมรู้ดีว่าผมสู้แรงเขาไม่ได้ ดังนั้น...

มือจับที่ท่อนลำ แม๊กซ์ร้อง "พอ!"

ผมไม่ฟังเสียง ขยับก้นให้แล้วให้ความใหญ่โตสอดเข้าไปเต็มแรง ดันตัวลงนั่งพรวดเดียว

"อื๊ออออออ!" เจ็บ... เจ็บเหลือเกิน... ผมอ้าปากค้าง น้ำลายไหลเยิ้ม เจ็บจนเหมือนถูกฉีก ได้กลิ่นคาวสนิมมาพร้อมกับกลิ่นหอมหวานของสบู่ ผมรู้ว่าเลือดต้องออก แต่ก็ยังฝืนขยับสะโพก

"ข้าว... เจ้าหญิงของผม เอาออกเดี๋ยวนี้!" แม๊กซ์ดุ ตาวาว แต่ทำไมมันแข็งอยู่เลยล่ะ ผมรู้ว่าเขาชอบ ชอบความรุนแรง ชอบข่มขืนผม...

...และผมจะให้เขาข่มขืน

ผมไม่สนใจ ดันอกเขาออก "ทำ... ขยับสิ..."

"ไม่... ไม่... เจ้าหญิง!"

"ไม่... เข้ามาอีก... ลึกอีก" ผมหอบฮั่ก จ้องดวงตาสีน้ำตาล "ถ้าเธอไม่แตกในตัวฉัน... ฉันจะไม่ยอมให้ถอนออก"

เขาอ้าปากค้าง ผมไม่เคยเห็นแม๊กซ์อึ้งขนาดนี้มาก่อน ผมรวบรวมกำลังที่เหลือขยับตัวไปจูบเขา ส่ายสะโพกให้ท่อนลำบดเบียดเข้า ยิ่งลึกยิ่งดี ในที่สุดแม๊กซ์ก็ทนความร้อนแรงไม่ไหว เขาดันความใหญ่โตขึ้น ผมร้อง สองขาอ้ากว้าง ทำให้เขายิ่งเห็นว่ากลางกายผมหดฟีบ

"ข้าว..."

"ไม่ต้องสนใจ" ผมพูดด้วยเสียงหอบ ดันตัวขึ้นลง กัดฟันแน่น "เธอใช้ก้นฉันก็พอ..."

เรามีเซ็กส์กันก็จริง แต่เป็นเซ็กส์ที่ขื่นขมที่สุด ผมเจ็บรวดร้าวไปทั้งตัว แม๊กซ์พยายามปลุกเร้าอารมณ์ แต่ผมแสบจนปลุกไม่ขึ้น เขากระแทกเข้ามาที่จุดอ่อนไหว ผมฟื้นตัวในที่สุด แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ สั้นจนเสร็จสมไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่อยากเป็นเมียเซ็กส์ห่วยแตก จึงกดสะโพก ขมิบตอด ส่ายก้น ทำทุกอย่างให้เขาพอใจ

แม้ท่อนลำที่อยู่ในตัวผมจะมุดเข้ามุดออกอย่างแข็งขัน แต่หน้าตาแม๊กซ์ไม่ดีนัก

เขาตั้งหน้าตั้งตาสอดใส่ ปรนเปรอผม จนในที่สุดน้ำร้อนก็ฉีดพุ่งเข้ามาในตัว ผมหายใจหอบ เลือดและน้ำกามไหลย้อยออกมาปนเปกันจนเป็นสีชมพู

เมื่อเห็นน้ำรักเขาแล้วผมจึงหมดห่วง โลกมืดไปอย่างรวดเร็ว

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-09-2016 13:58:12
ผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้งกลางดึก แม๊กซ์ล้างตัวผมให้แล้ว รวมถึงก้นด้วย ปกติเขาชอบคาน้ำรักตัวเองไว้ แต่เที่ยวนี้เขาเก็บกวาดจนหมด

ผมลืมตาขึ้น แม๊กซ์ยังไม่นอน แต่นั่งพิงหัวเตียง ให้ผมนอนหนุนตักเขา

"แม๊กซ์" ผมเรียกเบาๆ ปิดไฟหมดแล้วแสดงว่าแม๊กซ์ไม่ต่ออีกรอบ

"ข้าว" แม๊กซ์พยุงผมขึ้นนั่งแต่ผมเจ็บก้นจนนั่งตรงๆ ไม่ได้ แม๊กซ์หาหมอนมาให้รองถึงค่อยยังชั่วขึ้น

"ทำไมไม่นอน ?"

แม๊กซ์ดึงผมไปอยู่ในอ้อมแขน ท่าทางเหม่อลอย มือเล่นผมของผม "ที่รัก..."

"แม๊กซ์ ? คิดอะไรอยู่ ?"

"...อืม..."

"แม๊กซ์ ?" ผมกระตุ้นอีกครั้ง จูบคางสีเขียวเบาๆ ได้กลิ่นหอมของแชมพูลอยมา เขาสระผมแล้ว "แม๊กซ์ เครียดเรื่องงานเหรอ ?"

สามีผมส่ายหน้า "เปล่า... ผมคิดเรื่องคุณน่ะ"

ผมฟังแล้วตัวแข็ง ไม่จริงน่า... สองปีเองนะ "เธอ... เบื่อฉันแล้ว..." เมียเซ็กส์ห่วย เราเข้ากันไม่ได้ ร่างกายคุณไม่ตอบสนอง... ผมคิดข้ออ้างในการบอกเลิกได้เป็นล้านข้อ แต่อ้อมแขนที่รัดผมกลับแน่นขึ้น เขาจูบผมที่หน้าผาก พูดเสียงสั่นพร่า

"เจ้าหญิง... ผมทำให้คุณลำบากใช่ไหม ?"

ใจผมหดเกร็ง... ข้ออ้างนี้เพิ่งเคยเจอ ผมยันตัวเองออกจากอ้อมแขนเขา เห็นแววตาโหยหาในดวงตาสีน้ำตาล เขายื่นมือออกมาพยายามคว้าผมไว้

"ที่รัก... ที่รัก..."

"ไม่ต้องมาที่รักกับฉัน!" ผมเลือดขึ้นหน้า ข้ออ้างแม่งห่วยที่สุดที่เคยเจอ! อย่างน้อยๆ บอกว่าเซ็กส์ห่วยแตกหรือผมดีเกินไปยังดีเสียกว่า!

"ข้าว... เจ้าหญิง..." เขารีบดึงผมไปกอด แต่ผมขืนตัว แค่ขยับตัวก็ร้าวเกินทน นี่ยิ่งดิ้นหนีจากอ้อมแขนแข็งแรงจนผ้าห่มปลิวยิ่งทำให้เจ็บจนน้ำตาไหลแต่ผมไม่แคร์ ดันตัวเขาออก พอเขาเข้ามากอด ผมก็ดันออกไปอีก เราทั้งคู่หอบฮัก ผมออกแรงแต่สู้เขาไม่ไหว เลยข่วนเข้าที่หน้าหล่อๆ แม๊กซ์ไม่กล้ารุนแรงกับผม ได้แต่พยายามกอดผมไว้

"จะเลิกกับฉันใช่ไหม! เซ็กส์ฉันห่วยแตกเลยจะเลิกใช่ไหม! ได้! ฉันจะเลี้ยงลูกเอง!" ผมอาละวาด เล็บจิกแผ่นหลังเปลือยจนเลือดซิบ สองขายันหน้าท้องแข็งแรงออก ต่อให้เอาซิกส์แพ๊กมาล่อผมก็ไม่สนแล้ว!

"เจ้าหญิง! อย่าอาละวาดสิ!"

"หนอย! ข้ออ้างบัดซบ! เลิกก็เลิก!"

"เจ้าหญิง! ระวังลูก!"

ผมมองไม่เห็นอะไรแล้ว ร้องไห้โฮ "ลูกฉัน! เธอไม่ต้องยุ่ง!"

"เจ้าหญิง!" แม๊กซ์กดตัวผมไว้ ในที่สุดผมก็หมดแรงอยู่ในอ้อมกอดเขา "ใจเย็นๆ ผมไม่ได้เลิกกับคุณ"

ผมสะอื้น น้ำตากลบตาจนภาพพร่าไปหมด เหมือนลูกตาผมจมน้ำ "ฮึก... แล้วทำไม... แล้วทำไม..."

"ผมไม่ได้เลิก" แม๊กซ์ยืนยัน กดจูบผมแรงๆ "ผมรักคุณ รักคุณมากขึ้นทุกวัน"

"แต่เธอบอก..."

"ผมทำให้คุณลำบาก" เขาเชยคางผมขึ้น จ้องหน้าตรงๆ "ผมทำให้คุณฝืน... ครั้งที่แล้วผมข่มขืนคุณ ครั้งนี้ผมฝืนให้คุณมีอะไรด้วย... ผมขอโทษ"

ผ่านม่านน้ำตา ผมเห็นดวงตาสีน้ำตาลที่แสดงความสำนึกผิด ได้แต่เลื่อนมือไปแตะใบหน้าเขาเบาๆ

"ผมคิด... คิดย้อนกลับไปว่าตัวเองเห็นแก่ตัวแค่ไหน ผมทำร้ายคุณ ผิดสัญญา หลอกคุณ... เพราะผมรักคุณ อยากได้คุณมาอยู่ข้างๆ... ผมขอโทษ" น้ำเสียงเขาสั่นพร่า ผมหลุบตาลง

ทำไมผมจะไม่รู้...

ผมรู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร ที่ผมแต่งงานกับเขา เขาคิดว่าเพราะเขามอมไวน์ผม ที่ผมไปออฟฟิศกับเขา เพราะเขาคิดว่าผมไม่มีสติ

ถึงผมจะไม่มีสติจนตอบตกลง แต่ถ้าผมไม่เต็มใจ ยังไงผมก็ต้องปฏิเสธ

"ยิ่งครั้งนี้คุณฝืนเพื่อผมจนตัวเองบาดเจ็บ... ผมยิ่งทรมานรู้ไหม อย่าทำแบบนี้อีกเลย คุณทำให้ผมเจ็บปวดไปด้วย" แม๊กซ์ดึงผมไปจูบอย่างบ้าคลั่ง "เจ้าหญิง... เจ้าหญิง... ผมรู้ว่าผมโชคดีแค่ไหนที่มีคุณ... แต่อย่าทำแบบนี้ ผมชอบเซ็กส์ แต่ผมรักคุณมากกว่า แค่เพื่อให้ตัวเองมีความสุข แต่ต้องทำให้คุณเจ็บ... ผมไม่เอาแบบนั้น" เขากระซิบ

"ผมข่มขืนคุณครั้งหนึ่ง... ครั้งเดียวก็พอแล้ว... ผมจะไม่ทำให้คุณเจ็บปวดอีก"

ผมซบหน้ากับแผงอกแกร่ง ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม ปล่อยให้เขาจูบเพื่อเช็ดน้ำตาออกไป

"เข้าใจแล้ว... ขอโทษนะ..."

"คุณไม่ผิด ไม่มีอะไรต้องขอโทษ ที่เลวคือผมคนเดียว" แม๊กซ์ซบหน้ากับไหล่ผม "เจ้าหญิงของผม... ผมรักคุณนะ"

คำบอกรักของเขา... ทำให้ใจที่แห้งผากของผมชุ่มชื้น ร่างกายก็รุ่มร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ผมหลับตาลง ซึมซับความรู้สึกนั้น "...อีกที"

"เอ๊ะ ?"

ผมยิ้ม ดันเขาออกเบาๆ แล้วถอดเสื้อออกทางศีรษะ แม๊กซ์รีบดึงเสื้อผมกลับ แต่ผมดื้อ "แม๊กซ์"

"ข้าว! จะทำอะไรน่ะ!"

ผมถอดเสื้อออกจนได้ ผลักเขาลงนอนบนเตียง คลานไปนั่งบนอกแกร่ง "บอกรักฉันอีกสิ... คราวนี้..." ผมยิ้มอายๆ แต่ขยับสะโพกที่ปวดร้าว "ทำฉันไป... บอกรักฉันไปนะ..." ผมขย่มเขาเบาๆ ให้เห็นเป้าน้อยๆ ที่เริ่มแข็ง...

แข็งตัวได้ยังไงผมก็ยังงงตัวเอง ทั้งๆ ที่สามีช่วยปลุกมาตั้งนาน แต่แค่เขาบอกรักเท่านั้นเอง...

"ไม่เอาเซ็กส์... แต่จะเอาเมคเลิฟ" ยิ่งพูดยิ่งอายตัวเอง แม๊กซ์เด้งตัวขึ้นมา ถอดกางเกงผมทันใด ผมหัวเราะกับท่าทางเร่งร้อนนั้น

"แต่ก้นคุณ..."

ผมสะบัดกางเกงออก ช่วยเขาถอดกางเกง แล้วไปนั่งบนตัก "ฉันทนได้... มาเถอะ มารักฉันหน่อย" ผมอ้าแขนกว้าง ให้เขากอด

เราสองคนกลายเป็นเนื้อเดียว ผมแทบหลอมเหลว อย่าว่าแต่มีอารมณ์เลย ต่อให้ไม่มีก็ต้องมี เขาจูบผม... เบาๆ อ่อนโยน ลูบไล้เรือนกายอย่างทะนุถนอม จูบไปทั่วตัว ทั้งหน้าอก ไหล่ หน้าท้อง... ใช้ปากมอบความสุขให้ผมกลับ ผมบิดตัวเร่า แบขาอ้าหราให้เขากินอย่างสะดวก เขาจูบไปยังต้นขา ขบกัดบริเวณที่ผมมองไม่เห็น เลียไปจนถึงปากทางที่แดงช้ำภายในเป็นแผล เขาใช้ปากปลอบประโลม แล้วเราก็ร่วมรักกันจริงๆ เราผลัดกันบอกรัก... จุมพิต ส่งยิ้มให้กัน

เราไม่เคยมีอะไรกันโดยไม่เปิดไฟมาก่อน แต่ครั้งนี้ในความมืด หัวใจเรากลับชัดเจนยิ่งกว่า

ผมได้ยินเสียงหอบลมหายใจยามเขาสอดใส่เข้ามา แม้จะเจ็บ แต่ความรักที่ท่วมท้นทำให้ผมทนไหว ค่อยๆ ขยับกาย เขาเอาใจใส่ผม ระมัดระวังทุกท่า จูบผม รักผม...

...รักแม๊กซ์

ผมรักเขา...


เรา 'ร่วมรัก' กันจริงๆ เราดำเนินไปอย่างเชื่องช้า แต่เต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ เราจูบกันแล้ว จูบกันอีก แล้วยิ้มออกมาพร้อมกัน หัวใจเราสื่อสารกันได้...

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมอิ่มเอม นอนอยู่บนร่างกายแข็งแกร่ง ปล่อยให้แม๊กซ์ลูบไล้ลาดไหล่ที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"นานๆ ทีแบบนี้ก็ดีนะ คุณยังเจ็บอยู่ไหม ?"

"อืม ปวดๆ" แต่อะไรนะ... นานๆ ที ? ผมชอบแบบนี้มากเลยนะ

แม๊กซ์จูบผมอีกครั้ง "ผมรักคุณจัง พรุ่งนี้ผมใส่ยาให้นะ แล้วกินยาด้วยนะครับ"

"อื้อ แล้วทำไมบอกว่านานๆ ที ?" ผมชักไม่พอใจแล้ว แต่สามียังไม่รู้ตัว จูบไหล่ผมอย่างมีความสุข

"ขืนทำแบบนี้ทุกวันเมื่อยแย่ เอาจังหวะเหมือนทุกทีดีกว่า"

"...."

"ทุกทีคุณร้อนแรงกว่านี้... ถึงผมจะชอบให้คุณละลายในอ้อมแขนก็เถอะ แต่..."

"แสดงว่าเธอชอบให้ฉันร่าน ?"

"แบบนี้ผมก็ชอบ แต่จังหวะมันช้าไป" แม๊กซ์เริ่มรู้ตัว จูบผมอย่างเอาใจ "เอาเหมือนทุกทีนะครับ... นะ"

ผมคำรามฮึ่ม เคยได้ยินมาว่าแต่ละคนมีจังหวะของตัวเอง ผมชอบช้าๆ แบบนี้ แต่แม๊กซ์ยังเด็ก ขืนมาจูบลูบไล้ เน้นเล้าโลมไม่เน้นสอดใส่เขาคงอึดอัดแย่ ผมพยายามคิดแบบนั้น แต่ยังอดค้อนเขาไม่ได้

"เจ้าหญิง..."

"แค่เซ็กส์น่ะจะมีกับใครก็ได้ แต่เธอร่วมรักกับคนรักได้คนเดียวนะ"

"ผมรู้แต่..." เขาอ้าปากเถียง "เซ็กส์ก็ควรจะมีแต่กับคนรักไม่ใช่เหรอ ?"

"เมื่อก่อนฉันไม่ได้รักเธอยังมีเซ็กส์กับเธอได้เลย!"

"งั้นแสดงว่าคุณยังมีเซ็กส์กับคนอื่นได้เหมือนกันสิ!" แม๊กซ์เดือดตาม

"เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ!" ผมโมโหแล้ว บรรยากาศหวานๆ หายลับไปกับตา ผมเห็นรอยเล็บตัวเองบนหน้าเขาแล้วก็ยกมือขึ้น เตรียมจะข่วนอีกรอบ "ทั้งมีเซ็กส์ทั้งร่วมรักมีกับฉันคนเดียว เข้าใจไหม!"

จากอารมณ์เดือดดาล แม๊กซ์ผ่อนลมหายใจและหัวเราะ "เข้าใจแล้วครับๆ"

ผมถอนหายใจ เอนตัวลงไปนอนซบเขาอีกครั้ง "อย่าให้รู้นะ..."

"รู้อะไร ? ผมหวงคุณขนาดนี้ยังจะหึงผมอีก"

"ทำไมเสียงระรื่นขนาดนั้น" ผมหน้าบูด

"ดีใจ..." แม๊กซ์ตอบซื่อๆ "ดีใจที่คุณหึง..."

ผมชะงัก จริงสิ... ที่ผ่านเอาแต่คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขามาตลอด แต่ตอนนี้ผมหึงได้เต็มปากแล้ว

"ผมชอบ... ให้คุณหึง" แม๊กซ์พูดอีก ลูบผมเล่นผมอมยิ้ม ซบหน้ากับกล้ามแน่นๆ

"ฮื่อ... ฉันรักเธอนะ..."

เขาก้มลงจูบเรือนผม พูดซ้ำ "คุณหึงนี่น่ารักจัง... รักคุณนะครับ เจ้าหญิงของผม"

...

ผมหลับสนิท ไม่ฝัน ไม่สะดุ้งตื่น มารู้ตัวอีกทีก็สายแล้ว วันนี้ก็เหมือนทุกวัน กลอเรียทำความสะอาดอยู่ในครัว ผมเดินขาถ่างไปหาหล่อน ทักทายเหมือนทุกๆ วัน

"อรุณสวัสดิ์"

"สายแล้วค่ะคุณ" กลอเรียเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าชื่นมื่นของผมแล้วพูดอย่างหมั่นไส้ "แหม เมื่อคืนร้อนแรงกันอีกสินะคะ อย่าลืมสิว่าคุณท้องอยู่"

ผมหัวเราะแหะๆ โผเผไปนั่งที่เก้าอี้ แต่แล้วก็ร้องโอ๊ยลั่น

ก้น! เจ็บขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!

ผมน้ำตาตกใน กลอเรียรีบวิ่งไปหาเบาะมาให้รองนั่ง ปากแซว "แหมๆ ลูกแฝดละมั้งคะ"

ผมน้ำตาเล็ด รู้สึกข้างในมันลื่นๆ แม๊กซ์ทายาไว้ให้แล้วแน่ๆ เมื่อรู้ตัวแล้วก็ถาม "แม๊กซ์ล่ะ ?"

"ออกไปทำงานแล้วค่ะ เขาฝากให้ฉันดูแลคุณด้วย" กลอเรียเดินไปยังตู้เย็น หยิบจานอาหารออกมา "จะกินเลยไหมคะ ? จะได้กินยา"

"อื้ม ฝากด้วยนะ"

แม่บ้านชาวโคลัมเบียร่างตุ้ยนุ้ยเดินไปอุ่นอาหารให้ แต่ผมตะหงิดๆ ชอบกล "วันนี้ทำแพนเค้กเหรอ ?" ปกติกลอเรียทำพวกซุป บอร์ชอะไรพวกนี้ แต่ละอย่างทำให้ผมคิดถึงแกงจืดใส่สาหร่ายที่บ้านสุดๆ ถึงจะอร่อยก็เถอะ

"ฉันไม่ได้ทำค่ะ" หล่อนยิ้มมีเลศนัย "สามีคุณต่างหากละคะ โทรมาถามวิธีทำตั้งแต่เช้า"

ผมมองตามจานแพนเค้กที่กลอเรียยกมาให้ เป็นแพนเค้กหน้าตาประหลาด ไหม้นิดหน่อย ทำจากแป้งสำเร็จ

กลอเรียยิ้มขำ "ยังสั่งให้ฉันรีบทำความสะอาดก่อนคุณจะตื่นด้วยนะ ถ้าคุณมาเห็นสภาพครัวก่อนหน้านี้แล้วจะตกใจ นึกว่าระเบิดถล่ม นี่หมดแป้งแพนเค้กไปสี่กล่อง กว่าจะออกมาได้เท่านี้"

ผมเอาส้อมจิ้ม แข็งโป๊ก แต่พอนึกถึงภาพผู้ชายตัวโตยืนหน้าเตา พยายามปลุกปล้ำกับแผ่นแป้งแล้วก็หัวเราะ หัวใจอิ่มเอม พองฟู...

ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ผมถึงนึกถึงคนนิรนามที่ส่งข้อความมาด่าผมได้ ผมบล๊อกเขาไปหลายวันแล้ว เอาเข้าจริงก็เหงาเหมือนกันนะ ผมเล่นโซเชียลก็จริง แต่ไม่ค่อยโพสต์อะไร ส่วนใหญ่เป็นภาพที่พิช พ่อแม่ น้องชายและน้องสะใภ้และเพื่อนๆ ที่ไทยแท็กมา ยังไงก็ตามทั้งหมดสู้กับภาพที่แม๊กซ์โพสต์ไม่ได้เลย ฝีมือถ่ายรูปเขาก็ห่วยพอๆ กับเล่นดนตรีและทำอาหาร แต่ก็ตั้งใจถ่ายให้ผมตลอด มีข้อความสั้นๆ ง่ายๆ หวานๆ ที่บ่อยคือชอบแคปสถานะของเรามาโชว์

อย่าง Relationship status: Married - Maximus Henderson

ไม่รู้จะโชว์อะไรบ่อยนักหนา มีเพื่อนผมมาเมนต์อย่างหมั่นไส้บ่อยๆ แม๊กซ์ใช้กูเกิ้ลทรานสเลทแล้วตอบว่า Thanks ทุกข้อความ ตอบแทนเจ้าของเฟซอย่างผมซะงั้น ขนาดข้อความที่ด่าผมว่าเป็นดอกไม้สีทอง ฝรั่งก็หน้าระรื่นบอกขอบคุณแทนเมีย เล่นเอาผมอยากเอาหัวโขกตาย

ผมคิดแล้วก็ถ่ายรูปแพนเค้กหน้าเบี้ยวๆ พร้อมข้อความขอบคุณไปให้แม๊กซ์ เราสองคนส่งข้อความกันน้อยมาก เพราะวันๆ นึงแม๊กซ์ต้องจัดการกับข้อมูลมหาศาล ต้องอ่านรายงานเยอะแยะผมไม่อยากให้มีอะไรไปหนักหัวเขาอีก นอกจากเวลาจำเป็นจริงๆ อย่างตอนที่เขาทำงานหรือผมจะฝากซื้อของแล้วกลัวว่าเขาจะลืม ผมถึงส่งข้อความ

มือเลื่อนปลดบล๊อกบุคคลนิรนาม โหย... ด่าซะยาวเชียว ข้อความ Racism ก็มา ลิงเหลืองงั้นงี้ ไอ้เจ๊กนั่นนี่ ผมหัวเราะหึๆ เอารูปแพนเค้กเมื่อครู่ส่งไป แล้วพิมพ์

My brunch... He did for me
You know, he's not good at cooking
but he did for me
that's how he loves me
LOVES ME
jealous?
JEALOS?
[อาหารมื้อสายกูไง ผัวกูทำให้
มึงก็รู้นิ ว่าผัวกูทำอาหารไม่เก่ง
แต่เค้าก็ทำให้กูนะ
เค้ารักกูขนาดไหน
รักกู
อิจฉาไหม
อิจฉาป้ะ]


ทิ้งระเบิดแล้วก็บล๊อกอีกที หัวเราะอย่างนางมารร้ายจนกลอเรียต้องโผล่หน้าเข้ามาดู "คุณหัวเราะเหมือนในละครน้ำเน่าเลย"

ผมยิ้มให้ "ผมมันตัวร้ายนี่ครับ"

"ค่า" หล่อนส่งสายตาแทนคำว่าหมั่นไส้ให้ แล้วสะบัดก้นไปดูดฝุ่นต่อ ผมหยิบน้ำเชื่อมมาราดแพนเค้ก กลอเรียใจดีหั่นสตอเบอร์รีกับกล้วยไว้ให้เป็นยาช่วยชีวิต ถึงจะไม่แน่ใจว่ากินแล้วท้องเสียหรือเปล่าแต่ผมก็กินแพนเค้กฝีมือแม๊กซ์

เนื้อหยาบเหมือนกระดาษ แข็งโป๊ก ผมตั้งใจกินจนหมด รับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเขา

กลอเรียเดินเข้ามาช่วยอุ่นนมให้ผม ถึงปากจะบ่น จะทำตาคว่ำใส่ยังไง หล่อนก็เอาใจใส่ผมมาก ไว้วันหลังผมจะอบคุกกี้ให้

"กลอเรีย คุณแพ้กลูเตนไหม ?"

"เปล่านี่คะ"

"แล้วกินพวกขนมอบได้ไหม ?"

"ได้สิคะ คุณอยากกินเหรอ ?"

ผมส่ายหน้า "คุณชอบคุกกี้ไหม ? ไว้ผมจะอบให้นะ เอาเป็นแบบนิ่มหรือแบบกรอบดี ?"

กลอเรียชะงัก ถอดถุงมือยางแล้วยื่นมาจับแก้มผม "คุณนี่น้า... เพราะเป็นแบบนี้ไง คุณแม๊กซิมัสถึงหลงคุณน่ะ"

ผมยิ้มตอบ ดื่มนมจนหมดและกินยากับน้ำ

...ใช่สิ... ใครๆ ก็รู้ว่าสามีรักผมแค่ไหน...

...อิจฉาไปเถอะ อิจฉาให้ตายเลย แล้วผมจะนอนก่ายหน้าท้องซิกส์แพ๊กเขาแล้วหัวเราะเยาะ
[/b]

ผมใช้นิ้วโป้งแตะที่หน้าจอเบาๆ โปรไฟล์ของคนนิรนามยังว่างเปล่าเหมือนเดิม

ฉันจะทำให้แกอิจฉาจนเลือดกระอัก
ฉันจะทำให้แกดิ้นทุรนทุรายตอนที่ฉันเสวยสุขกับหนุ่มรูปงาม
ฉันจะยิ้มหวานตอนที่เขาจูบ... ใช่ เขาจะจูบฉันคนเดียว รักฉันคนเดียว


ผมปลดบล๊อกอีกครั้ง พิมพ์ด้วยมือเดียว

Everybody knows how much he loves me...
don't stop texting me
I enjoy your jealousy
[ใครๆ ก็รู้อ่ะนะว่าผัวรักกู
อย่าหยุดส่งข้อความมาล่ะ
ความอิจฉาของมึงทำให้กูบันเทิงสุดๆ]


มาสิ... จะด่าอะไรก็เข้ามา...

ผมยิ้ม

ก็สามีรักผมขนาดนี้... แล้วไง ?

...

ผมกินแล้วไปเข้าห้องน้ำ กลับออกมาเจอกลอเรียยังทำความสะอาดตู้โชว์เลยคุ้ยตู้เย็นหาอะไรกิน มีซีเรียลบาร์อยู่

ได้ด่าคนแล้วอารมณ์ดีจนอยากกินช็อกโกแลตขึ้นมา มันมีคาเฟอีนอยู่ถึงจะน้อยก็เถอะ แต่แม๊กซ์ก็สั่งห้ามจนในบ้านไม่เหลือสักแท่ง ผมแทบตะกุยตู้เย็นแล้ว อยากกินของหวานๆ ของหวานๆ หวานๆ...

...ไปรื้อตู้เก็บอาหารแห้งดู ในที่สุดก็เจอคุกกี้ที่ทำทิ้งไว้ตอนที่ไปบ้านพิช ผมมองรอบตัวเหมือนกำลังทำผิด ให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนลอกข้อสอบเพื่อน

แม๊กซ์ไม่ชอบให้ผมกินจุบจิบระหว่างท้อง แต่ผมอยากกินนี่นา

แอบขอโทษสามีในใจ โทษลูกว่าอยากกินแล้วคว้าเข้าปาก ได้ยินเสียงหึ่งๆ ของเครื่องดูดฝุ่นอีกครั้ง กลอเรียกำลังเก็บห้องนอน แสดงว่าทางสะดวก

ไม่ได้ยอตัวเองนะ แต่คุกกี้อร่อยจริงๆ

ผมสิ้นหวังแล้ว นึกถึงสภาพตัวเองหลังคลอด น่าจะตุ้ยนุ้ยตุ๊ต๊ะพุงย้วยแน่ๆ แต่ร่างกายกลับย่อเข่าลงนั่งยองๆ ที่มุมครัว กอดโถคุกกี้เหมือนหมีพูห์กอดโถน้ำผึ้ง

เฮ้อ... ขอโทษนะแม๊กซ์ ขออีกชิ้นเถอะ

เพลิดเพลินกับขนมจนลืมสังขาร กริ่งหน้าบ้านดังขึ้น ผมสะดุ้งโหยง เศษขนมกรุบกรอบร่วงกราวถึงได้รู้ตัว รีบปิดฝาแล้วลากเอาเก้าอี้มาต่อขาเก็บไว้ชั้นสูงๆ จะได้ลืมจนราขึ้น

โอ๊ยย ตัวก็เตี้ย ถ้าอ้วนล่ะก็เป็นตอม่อแน่ๆ เลย ฮือ คนน่ารักตัวเตี้ยเรียกว่าตัวเล็ก แต่ถ้าอ้วนและเตี้ยน่าจะเรียกอึ่งอ่าง

ผมไว้อาลัยให้ตัวเอง มือเปิดฝาโถอีกรอบ หยิบอีกชิ้นออกมา... ชิ้นสุดท้ายพอดี

ทันใดนั้นพลังมโนของฮอร์โมนจินตนาการไปถึงสภาพตัวเองอุ้มลูกเดินกลางถนนในนิวยอร์ก มีโฮมเลสยื่นหนังสือพิมพ์ให้อย่างสงสาร... ผมโดนผัวทิ้ง โดนสามีไล่ออกจากบ้านเพราะเป็นไอ้อ้วน เป็นเกย์ไม่พอยังอ้วนเตี้ยอีก

คิดไปก็กินไป เฮ้อ... ก่อนจะถึงวันนั้นกินตุนไว้ก่อนดีไหมเรา

"คุณข้าวคะ" กลอเรียเรียก ผมสะดุ้งอีกรอบ ยัดคุกกี้คำสุดท้ายเข้าปาก ปีนลงมาจากเก้าอี้

แม่บ้านหรี่ตา "แอบกินอะไรคะ ?"

"ไอ้อี" คุกกี้ยังคาปาก ผมส่ายหน้าจนขนมแทบร่วง กลอเรียถอนหายใจ

"หลักฐานชัดขนาดนี้ กินเลอะอีกต่างหาก" หล่อนจุ๊ปาก "กินให้เสร็จแล้วไปที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ มีดอกไม้จากคุณแม๊กซิมัสมาส่ง"

ผมรีบกลืนคุกกี้ ส่งสายตาอ้อนๆ ให้แม่บ้าน "กลอเรีย..."

"คะ ?"

"คือ...."

"ไม่ให้บอกสามีคุณ ?" แม่บ้านยิ้มขัน "พวกคุณนี่เหมือนเด็กเลย ทานไปเถอะค่ะ"

"ไม่บอกนะ ?" ผมยื่นนิ้วก้อยออกไปให้หงอยๆ แต่กลอเรียเดินเลยไป

"บอกแน่ค่ะ คุณอยากให้ฉันตกงานหรือไง ? ไปที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ สามีคุณส่งดอกไม้มา" โบกมือไล่เสร็จสรรพ ผมยิ้มแหยๆ ให้หล่อนแล้วเดินไปห้องรับแขกตามคำสั่ง

แม๊กซ์ยังคงส่งดอกไม้มาสม่ำเสมอ... วันนี้เป็นดอกเล็กๆ เหมือนดอกไม้ป่า จัดมาในโถกลมๆ เตี้ยๆ อันเล็กๆ สีขาวสะอาด ดอกไม้มีห้ากลีบหลากสีสัน ทั้งสีขาว สีม่วงแดงและสีฟ้า ผมดูตัวโถกลมๆ แล้วก็เห็นสิ่งที่ห้อยมา

เป็นการ์ดแข็งและสร้อยเพชร... เช่นเคย แต่วันนี้มีจี้อันเล็กๆ ที่ทรงเดียวกับดอกไม้ ผมหยิบสร้อยออกมาสวมให้ตัวเอง มือพลิกดูโถสีขาว เห็นแล้วชอบมาก ทรงกลมๆ ป้อมๆ ของมันน่ารักดี ผมยกโถดอกไม้ไปอวดกลอเรีย "กลอเรีย! ดอกไม้ล่ะ"

"ค่า ค่าเห็นแล้ว ดอก Viscaria ซะด้วย" หล่อนเดินอุ้ยอ้ายออกมาดู "แหม บานฤดูนี้พอดี คุณแม๊กซิมัสก็ช่างหา"

ผมเกาหัว "ดอก Viscaria ?" คงไม่มีความหมายให้ไปกูเกิ้ลอีกนะ

"ค่ะ ดอกนี้ปลูกง่าย ใช้เมล็ดปลูกได้ค่ะ"

ผมอุทาน "จริงเหรอ น่ารักจัง"

"ค่ะ ที่ไทยไม่มีเหรอคะ ?"

ผมส่ายหน้า น่าจะประมาณดอกกระดุมทองละมั้ง แต่มันน่ารักจริงๆ นะ ผมชอบจนยกไปไว้ที่ห้องนั่งเล่น กลอเรียบ่นตามหลังมา

"คุณนี่ก็แปลกคน ชอบอะไรง่ายๆ แบบนี้แทนที่จะชอบกุหลาบหรือลิลลี่"

ผมยิ้มให้หล่อน หยิบมือถือมาจิ้มหาความหมาย

...Will You Dance with Me?

วันนี้แปลกกว่าทุกวัน หยิบโถขึ้นมาพลิกดูการ์ด เป็นใบปิดหนังบนกระดาษแข็ง ริชาร์ด เกียร์กับเจนนิเฟอร์ โลเปซเต้นรำอยู่ตรงกลาง

ผมยิ้ม เขาจำได้...

Shall we dance ตัวหนังสือตวัดสวยของแม๊กซ์เพิ่มด้านล่าง
please, your highness?

...ตอนแต่งงานกันใหม่ๆ ผมรื้อเอาหนังมานั่งดูกับเขา หนึ่งในนั้นคือ Shall we dance ผมเป็นเกย์สาวน้อย ชอบดูหนังรักโรแมนติกที่พระเอกหล่อๆ แต่แม๊กซ์ดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่องก็หลับ พอเขาตื่นขึ้นมาผมก็งอนงี่เง่าใส่

ไม่นึกว่าแม๊กซ์จะจำได้

ผมวางโถน้อยลง จุมพิตการ์ดเบาๆ

ขอบคุณนะครับ... ที่รักกัน

...

เที่ยงๆ แม๊กซ์โทรมาหาผม เสียงร้อนรน "ข้าว คุณกินแพนเค้กหรือยัง ?"

"กินแล้ว" ผมตอบ กำลังจะขยับปากขอบคุณแต่เสียงปลายสายร้องอ๊าก

"กินแล้ว!?"

"ทำไมเหรอ ?" หรือเขาทำตกพื้นแล้วเอามาให้ผม ? ใส่ยาพิษลงในแพนเค้ก ?

"คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ?" เขาถามละล่ำละลั่ก ผมชักเอะใจ

"ไม่เป็นไรนี่"

ปลายสายผ่อนลมหายใจ "คือ... คุณไม่โกรธใช่ไหม..."

"โกรธอะไร ?"

"ก็มันไม่อร่อย" เสียงหงอยๆ "รู้งี้ผมให้กลอเรียทำก็ดี... ผมนึกยังไงไม่รู้ทำให้คุณกิน... ขอโทษนะครับ"

ผมโล่งอก นึกว่าผัวจะฆ่าหมกเพนต์เฮาส์แล้ว "ขอบคุณนะแม๊กซ์ ฉันกินได้ สบายดี"

เราส่งจุ๊บกันหลายหนก่อนวางสาย แม๊กซ์บอกผมว่าไม่ต้องทำมื้อเย็นเพราะเขาจะซื้อเข้ามา ผมตกลง คิดว่าก็ดีเหมือนกัน สังขารตัวเองตอนนี้ไม่น่าจะยืนนานๆ ไหว

ผมวางโทรศัพท์ลง

แม๊กซ์หนอแม๊กซ์... น่ารักจริง

....

แม๊กซ์บอกจะซื้อกับข้าวเข้ามา สิ่งที่อยู่ในหัวผมคือกระเพาไข่ดาวในกล่องโฟมเสริมสร้างมะเร็งที่ขายริมฟุตบาธ สตรีทฟู๊ดไทยก้าวไกลทั่วโลก

แต่นึกไม่ถึงว่า...

รถเข็นอาหารทำจากเงินเลื่อนเข้ามาในห้อง แม๊กซ์เดินเข้ามารุนหลังผมให้เข้าไปในห้องอาหาร พนักงานชายในเสื้อหูกระต่าย ใส่เสื้อกั๊กและกางเกงจีบสีดำ รองเท้าหนังมันวับเข้ามาจัดโต๊ะ เชิงเทียนเงางามวางอยู่ตรงกลางพร้อมดอกไม้จัดช่อ เทียนไขสีขาวสามเล่มถูกจุด ผ้าปูโต๊ะสีขาวถูปูจนเต็ม

ผมนั่งเหวอๆ ดูบริการระดับมิชลินแล้วดูเสื้อยืดกางเกงวอร์มตัวเอง ยังมีเศษคุกกี้ติดอยู่เลย ผมรีบแอบปัดออก แม๊กซ์ดี๊ด๊าเลื่อนเก้าอี้ให้ จูงผมนั่งลง

"แม๊กซ์ ?" ผมถามเสียงมึนๆ

"ครับ ?" เขาสะบัดผ้าวางบนตัก ผมทำตามอย่างงงๆ

"เธอบอกจะซื้ออาหารเข้ามา ?"

แม๊กซ์พยักหน้ารับ

"แล้วนี่มัน ?"

"อาหารไงครับ ผมสั่งคอร์สอาหารไทยประยุกต์มา" ตอบด้วยรอยยิ้มหล่อลากกระชากตับ ผมมึน อาหารไทยในหัวคือลาบหมูที่นั่งกินกับยาดอง แต่พอเห็นฝรั่งถือไวโอลินเข้ามาในบ้านแล้วบรรยากาศกลิ่นโคลนสาบควายก็หายวับ

แม๊กซ์มองผมตาเยิ้ม ผมมองรอบตัวแล้วกลับไปมองเขา "ต้องทำแบบนี้เลยเหรอ ?"

"ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบเหรอ ? คุณดื่มไวน์ไม่ได้ผมก็ไม่ดื่มนะ"

โน้ตตัวแรกบรรเลง ผมอยากคิดว่าแม๊กซ์ไม่รู้หรอกว่าเพลงเดี่ยวไวโอลินเพลงนี้ชื่ออะไร นักดนตรีวัยกลางคนผมยาวเล่นดนตรีคลาสสิคอย่างดื่มด่ำ ผมคิดถึงเพลงขอใจแลกเบอร์โทรที่เพิ่งปิดก่อนแม๊กซ์กลับ

ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปร้านหรูๆ กับแม๊กซ์ อย่างตอนที่เขาขอแต่งงานก็อยู่ที่ห้องอาหารในโรงแรม แต่ไม่เคยมีห้องอาหารโรงแรมมาอยู่ที่บ้าน

อาหารจานแรกเสิร์ฟ ดีที่ผมเรียนรู้วิธีกินแบบฝรั่งมาระหว่างที่เดทกับเขาแล้วเลยไม่เคอะเขิน แต่มันประหลาดใจจริงๆ ที่มีบริกรหนุ่มหน้าตาเฉยเมยมาเสิร์ฟถึงที่

จานแรกเป็นออร์เดิร์ฟ ปอเปี๊ยะสดแซลมอนชิ้นเล็กๆ พอดีคำราดซอส ผมหยิบส้อมมาจิ้มกิน อร่อยแฮะ แม๊กซ์ไม่หยุดแค่นี้ ระหว่างที่ผมเคี้ยว เขาก็รับช่อดอกกุหลาบมาจากพนักงานหญิงอีกคนหนึ่ง

กุหลาบ... สีแดงเลือด มีมอสสีเขียวๆ ติดที่โคน ผมไม่อยากถามต่อหน้าคนนอกเลยรอจนเขายื่นให้

"Rosebud moss 99 ดอก"

ผมนับเพลินๆ แม๊กซ์ก็เฉลย ใต้โต๊ะแอบหยิบมือถือมากูเกิ้ล แต่สามียิ้มให้ ล้วงเข้าไปใต้โต๊ะเอามือถือออกมาเสียก่อน ผมล่ะอาย พนักงานจะคิดไหมว่าเราล้วงๆ จับๆ อะไรกันอยู่ใต้โต๊ะ

"Rosebud moss แทนคำสารภาพรัก... จำนวนดอกหมายถึงว่า..." เขาเน้นเสียง วางมือถือลงในถาดเงินที่พนักงานหญิงมารับไป และหันมาจ้องหน้าผม สบตานิ่ง ราวกับประกาศอะไรสักอย่าง

"ผมจะรักคุณ... จนวันตาย..."

ผมหน้าแดงก่ำ หลุบตาลง ไม่กล้าสบดวงตาสีน้ำตาล แต่แม๊กซ์กลับเอื้อมมือมากุมมือผมไว้ "เจ้าหญิงของผม... ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษที่รุนแรง... ขอโทษที่ฝืน แต่ผมรักคุณเหลือเกิน..."

ผมวางช่อดอกไม้ไว้บนตัก พยักหน้าอายๆ "ฮื่อ..."

"เจ้าหญิง..."

ผมก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ เพลงเพราะไม่เข้าหูเลย ได้ยินแต่เสียงทุ้มๆ ของเขา "ฉัน... ก็รักเธอ..." คำรักที่พูดบ่อยๆ แต่ทำไมมาครั้งนี้พูดยากนัก ผมพูดเสียงเบา เงยหน้าขึ้น สบตาเขานิ่ง ไม่ได้แค่อยากบอกให้เขารู้เหมือนทุกครั้ง แต่อยากให้เขาจารลงไปในใจ ไม่ใช่แค่คำรักทั่วไป ครั้งนี้มีความหมายลึกซึ้ง

"ฉัน..." ผมสูดลมหายใจลึก "รักเธอ... ฉันยินดีเป็นแม่ให้ลูกของเรา... ฉันอยากสร้างครอบครัวไปกับเธอ" มือที่กุมผมอยู่กระชับมั่น ผมเห็นรอยย่นตรงหางตา แม๊กซ์ยิ้มกว้างจนตาหยี
"ขอบคุณ... ที่เลือกฉันนะ"

แม๊กซ์กุมมือผมไปจุมพิต "ผมก็ขอบคุณ... ขอบคุณที่เลือกผมนะครับ"

เรายิ้มให้กัน สบตากัน หวานยิ่งกว่าร่วมรัก

เสียงดนตรีขับกล่อมเราทั้งสอง ผมเลิกเขินอาย ชวนเขากินอาหาร กินไปคุยกันไป ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสดีอย่างนี้ ได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับหนุ่มสุดร้อนแรงที่รักผมจนหมดใจ

เรื่องที่เรานำมาคุยกันมีไม่จบไม่สิ้น ราวกับเราไม่ค่อยได้คุยกันนัก ผมรู้แล้วว่าทำไมฝรั่งถึงต้องมีบรรยากาศดีๆ แบบนี้ อาหารอร่อย การบริการไม่ขาดสาย ผมพูดมากขึ้น แม๊กซ์ก็คุยสนุก เหมือนเรากลับไปสมัยที่ยังเดทกันใหม่ๆ

ต่างกันที่ตอนนี้ในท้องมีพยานรักของเราอยู่

เมื่อของหวานมาถึง เป็นไอศกรีมวานิลลาติดทองคำเปลวกับสตอร์เบอร์รี รสหวานหอมของวานิลลาอบอวลเต็มปาก อร่อยจนหยุดไม่ได้ ยิ่งมีสตอร์เบอร์รีรสเปรี้ยวอมหวานมาตัดยิ่งทำให้ผมจ้วง เรากินกันจนอิ่ม เช็ดปาก เพลงเล่นจบพอดี นักดนตรีโค้งให้พวกเรา ผมปรบมือชื่นชมถึงจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ไพเราะมาก

พนักงานมาเก็บจานไป เสียงกีตาร์มาจากที่ไหนสักที่ ผมหันกลับไปดู

เอาจริงดิ!

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 5 1/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-09-2016 13:58:37
นักดนตรีหนุ่มใส่หมวกพร้อมขาตั้งไมค์ยืนอยู่ในห้องนั่งเล่น แม๊กซ์จับจูงมือผมไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

เพลงที่ดังอยู่คุ้นหูมาก...

แม๊กซ์โค้งตัวลง ถามเสียงทุ้ม "Shall we dance ?"

ผมอยากแทรกแผ่นดินหนี สงสัยอยู่พอดีว่านักดนตรีมาทำไม
 
มิน่าล่ะเขาถึงส่งดอก Viscaria มา แถมยังมีการ์ดที่ทำจากใบปิดหนังอีก ผมนึกว่าเขาจำได้ว่าผมชอบริชาร์ด เกียร์เสียอีก

แม๊กซ์โค้งตัวรอ ผมสับสน ไม่ใช่เรื่องจะตอบรับหรือเปล่าแบบสาวน้อยในหนังหรอก แต่ไม่รู้ว่าจะโค้งตอบหรือถอนสายบัวดี ผมเป็นเกย์ก็จริงแต่เป็นผู้ชาย

"เจ้าหญิง..." เสียงเรียกนุ่มๆ ทำให้ผมตัดสินใจได้...

...ถอนสายบัว!

เอาเถอะนะ ถวายบัวก็ทำมาแล้ว ถอนสายบัวน่าอายน้อยกว่าเยอะ แถมที่นี่ก็ไม่มีใครอื่น บ้านก็บ้านผม ผัวก็ผัวผม จะสาวนิดสาวแตกก็ช่างมันเถอะ

แม๊กซ์ยืดตัวขึ้น ยิ้มถูกใจ จับมือผมไว้แล้วโอบแน่น

ผมเต้นจังหวะวอลซ์เป็น ก็เพราะต้องออกงานกับเขานั่นแหละ แต่จะเอามากกว่านี้ไม่ได้ ผมไม่ใช่เจนนิเฟอร์ โลเปซจะได้แทงโก้เกาะเกี่ยวร่างกายบึกบึน

"ทำตัวสบายๆ แบบเต้นในงานพรอมไง" เขาโอบแผ่นหลัง กระชับแน่น ท่าทางจะไม่พาผมไปจังหวะรุมบ้า ว่าแต่จังหวะรุมบ้ามันมีใช่ไหม

จะเรียกว่าเต้นก็ยาก ผมไม่เคยไปพรอม เขาคงรู้ตัว เสริมเบาๆ "เหมือนที่คุณดูในหนังแวมไพร์หน้าซีดๆ ก็ได้"

ผมขำ หนังรักโรแมนติกของผมเขาดูไม่จบสักเรื่อง แวมไพร์หน้าซีดที่ว่าก็เรื่องทไวไลท์ แม๊กซ์มาตื่นเอาตอนฉากสุดท้ายที่เบลลาเต้นรำกับเอ็ดเวิร์ด

เพลงที่เล่นสดเป็นเพลงจังหวะกลางๆ ผมคิดว่านักดนตรีคงเร่งจังหวะให้เข้ากับการเต้นรำ

เราสองคนแค่โอบกอดกัน ขยับตัวไปตามเพลงตามใจชอบเท่านั้นเอง

มันรู้สึกดีมากๆ เลยนะ

'Well, you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but your so hot that I melted'


เพลงนี้ที่ผมชอบ...

ไม่ว่าจะอะไรในชีวิตผม แม๊กซ์จำได้หมด

'I fell right through the cracks, now I’m tryin to get back
before the cool done run out I’ll be givin it my best test'


อบอุ่นจัง... ลูกในท้องผมคงมีความสุขไปด้วย เรากอดกัน ยิ้มให้กัน แล้วก็จูบกัน...

...จนดนตรีจบลง ผมไม่ใช่ซินเดอเรลลา แม๊กซ์ไม่ใช่เจ้าชาย เราไม่ต้องเร่งรีบไปไหน จนนักดนตรีเก็บข้าวของออกไปแล้ว พนักงานทั้งหมดก็กลับออกไป ทั้งบ้านเหลือเราเพียงสองคน ผมยังจำโน้ตตัวสุดท้ายที่ก้องกังวาลได้ มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ในห้อง

ผมยิ้ม เขายิ้ม

ร่างสูงใหญ่ก้มลงเพื่ออุ้มผมขึ้น รวบบั้นท้ายอยู่บนท่อนแขน ท่านี้ผมจึงอยู่สูงกว่าเขา เห็นโลกในมุมมองคนตัวสูงบ้าง แม๊กซ์โน้มตัวมาจูบพุงกลมๆ

"น่ารักจัง"

ผมหัวเราะ ใช้สองมือประคองใบหน้าคมคาย

เบลล่ามีเอ็ดเวิร์ด
บียอนเซ่มีเจย์ซี
อลิซาเบธมีมิสเตอร์ดาร์ชี
จูเลียตมีโรมิโอ
แคร์รีมีมิสเตอร์บิ๊ก


แต่ผมโชคดีกว่าพวกเขา โชคดีกว่าใครบนโลก

โน้มตัวลง ผมเคี้ยวใบมิ้นต์ที่ประดับบนไอศกรีมมาแล้ว ไม่ต้องกลัวกลิ่นกระเทียม จึงทาบริมฝีปากลงบนริมฝีปากเขาได้อย่างมั่นใจ

"รักนะ... ที่รักของข้าว"

ที่รักของผมจูบตอบกลับมา "ผมอยากหยุดเวลาไว้จัง..."

"อย่าเลย... แค่เราอยู่ด้วยกันทุกๆ วันก็โรแมนติกแล้ว" ผมยิ้มกับริมฝีปากเขา แม๊กซ์หัวเราะ

"ผมบอกคุณหรือยัง ว่าผมรักคุณมาก..."

ผมยิ้ม ยิ้มจนแก้มจะแตก "ยังเลย... ฉันขี้ลืมนะ บอกฉันบ่อยๆ"

เขาบดจูบ ผมกอดคอเขาแน่น "รักคุณครับ... รักคุณ ข้าวของผม เจ้าหญิงของผม... มามิ๊ของผม"

"ฉันเป็นของเธอ... ของแม๊กซ์คนเดียว รักนะครับ... แด๊ดดี้" ผมตอบด้วยเสียงนุ่มพอกัน

...ข้าวก็มีแม๊กซิมัส

"ว่าแต่... คุกกี้อร่อยไหมเจ้าหญิง ?" ลูกตาวาวๆ ระยิบระยับอย่างล้อเลียน ผมหัวเราะ ก้มลงดูเขา

"อร่อยสิ ชิมไหม ?"

"ไม่เชื่อ" เขาจูบผมอีก "ไม่ค่อยได้รสชาติ... ขออีกที"

เราจูบกันอีกครั้ง แม๊กซ์เริ่มเต้นรำทั้งๆ ที่ยังอุ้มผมอยู่ ทั้งๆ ที่ปราศจากเสียงเพลงหรือท่วงทำนองใดๆ ทั้งๆ ที่สองเท้าเราเปลือยเปล่า

...ข้าวคนนี้มีแม๊กซิมัสล่ะ

ต่อให้อิจฉาให้ตายยังไง ผมก็ไม่ยกเขาให้ใครหน้าไหนบนโลกหรอก จงดิ้นพราดๆ ด้วยความอิจฉาไปเถอะ

"รักนะ"

"รักคุณครับมามิ๊"

..........................................

โอ๊ยย หมั่นไส้ อะไรจะรักผัวขนาดนี้ นังแม๊กซ์อะไรจะโรแมนติกขนาดเน้

ตอนนี้มี hidden issue เรื่อง DV เบาๆ ค่ะ ในมุมมองข้าวกับมุมมองแม๊กซ์จะมองต่างกัน เช่นเรื่องเซ็กส์กับร่วมรัก ข้าวจะอ่อนไหวกว่า เพราะเป็นเกย์สาว ส่วนแม๊กซ์คิดว่ามันแค่คือ synonym ส่วนมุมมองความรักของทั้งคู่ก็ค่อนข้างต่างกัน เพราะแม๊กซ์เป็นชายแท้และยังเด็ก ส่วนข้าวแก่กว่าและเป็นเกย์ เพราะมีความรักดีๆ เลยพยายามยื้อไว้สุดชีวิตน่ะค่ะ

เรื่องนี้พอมีสาระไหมเนี่ย 555 ขอบคุณมากนะคะ  :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 16-09-2016 14:50:35
อยากเห็นตัวเล็กแล้ววว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-09-2016 15:01:42
แม๊กซ์นี่รักข้าวแปลกๆ เนอะ ^^"
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-09-2016 15:13:22
อ่านกี่รอบๆๆๆๆ ก็อิจจจจจจ สครีมมากค่าาา อยากมีปั๋วอย่างพี่แม๊กซ์
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 16-09-2016 17:02:23
มองบนเลยจ้า อวดผัวไปอี๊กกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 16-09-2016 17:06:23
หมั่นไส้แรงมากค่ะพูดเลย แต่ดีแล้วที่รักกัน
ข้าวนี่อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เดี๋ยวดราม่าเรือหาย เดี๋ยวหวานมดตกน้ำตาลตาย คนอ่านนี่เครียดดดดดด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-09-2016 17:58:10
แอบห่วงเหมือนแม่อ่าาาา
แต่ก็อิจนางมากกกกกกกกก คึคึ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 16-09-2016 18:34:36
หมั่นไส้นังข้าว ชิ!
มีผัวหล่อ รวย เด็ก เซ็กซ์เด็ด
มันก็น่าอิจฉาาาาจริงๆ อ่ะเนอะ 5555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-09-2016 18:54:44
เราก็รู้นะว่านี่นิยาย เอาขำๆ แต่เรากลับคิดว่ามันจะเป็นได้เหรอที่คนรวยมีความสามารอย่างแม็กซ์จะมีด้านมืดแบบหน้ามืดกับข้าวได้ถึงขนาดนี้ แล้วอีกอย่างคุณไปถึงขั้นให้ผู้ชายท้องไ้ด้เองแบบนี้. มันต้องผ่านการประเมินสภาพจิตทั้งผัวทั้งเมียแล้ว การเตรียมตัวและความเข้าใจจะต้องมากกว่าที่ให้กับการตั้งครรภ์ปกติโดยผู้หญิง(มดลูกแท้)ด้วยซ้ำไป ถ้าคุณไม่ได้ศึกษามาก้อน่าจะฟังหมอปรึกษาหมอบ้างว่าแต่ระยะมันต้องระวังเรื่องอะไร. มีอาการแบบไหนคือปกติ แบบไหนคือผิดปกติ
เรื่องเซ็กส์ระหว่างตั้งครรภ์มันต้องควบคุมให้เหมาะสมนะ เหมือนๆกับเรื่องการใช้ฮอร์โมนเสริมเข้าไปแหละ เพราะผู้ชายผลิตเองไม่ได้ เห้อ เวิ่นมาทั้งหมดคือแค่อยากจะตบกะโหลกแม็กซ์ด้วยความหมั่นไส้ค่ะ. นั่นถือเป็นความไม่เคารพ(จากความรุนแรง)และลดทอนความเป็นแม่ของข้าวนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-09-2016 19:05:20
โอ้ย คนอวดผัว คนอวยเมีย  :z2:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 16-09-2016 19:35:51
มองบนจนกว่าตาขาวจะหลุดเข้าเบ้าตา 555555555 โอ้ยยยยย อิจฉาปะ ฉันได้ยินคำนี้ทีไร จะนึกภาพปากคว่ำของแม่นางข้าวตลอด โคตรอิน 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 16-09-2016 19:37:16
คู่นี้ยังไง อวดได้อวดดีจริงๆ รักกันหนักมากกกกกก   :z3:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: viky_mama ที่ 16-09-2016 19:39:16
ดิชั้นหมั่นไส้นังข้าวมากค่ะคุณพระ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-09-2016 19:52:54
ผัวรักผัวหลงจริงๆน้าาาา น้องข้าว :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-09-2016 20:11:08
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 16-09-2016 20:14:28
 :katai1: อ่านแล้วอิจฉาตาร้อนผ่าว ผัวรักผัวหลงจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-09-2016 20:29:53
ยังไงก็ได้ 5555 ชอบ John Doe สุดในเรื่อง  เพราะนั่นมันกุนี่ 5555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-09-2016 22:38:06
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 17-09-2016 01:52:17
อิจฉาอ่ะ ชอบข้่าวตอนด่าคน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 17-09-2016 02:13:51
เรากำลังคิดว่าข้าวพูดกับเราอยู่ อิจฉาใช่ไหม ใช่เราอิจหนักมากกกกกกกก 5555555 อยากได้สามีแบบนี้สักคนแต่ขอไม่จิตเท่าแม็กนะ นางจะรักมากหลงมากเกินไปล๊าวววว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 17-09-2016 02:20:33
อวดมาเลยจ้ะ
มีอะไรให้อวด ขนมาให้หมด
อิจแรงมากกกกกกกกกกกก

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-09-2016 08:52:46
ชอบความรุนแรงอ่ะ ฉากในฝัน  :hao6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-09-2016 09:44:36
เลิกช่วงอวดผัวแล้วเอาตัวเล็กมาอวดได้แล้วค่ะ อยากเห็นน้องแล้วว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 17-09-2016 09:52:07
 :hao7: :hao7: :hao7: เป็นคู่ผัวเมียที่สุดแสนจะเวอร์วัง :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 17-09-2016 12:19:09
หมั่นไส้นางมากค่ะ!!! 55555555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 17-09-2016 12:38:08
หวานยันไส้ตื่งเลยอะไรจะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-09-2016 00:50:13
โรแมนติกมากกกกก~ จนหมั่นไส้อ่ะ!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 18-09-2016 10:17:15
ข้าว สุดยอด
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-09-2016 17:00:18
ชีวิตดี๊ดี สามีอยู่ในโอวาท
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 18-09-2016 17:22:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 18-09-2016 18:16:47
หมั่นใส้นังข้าว #คนอวดผัว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 21-09-2016 11:22:53
ชอบมากกกกก ผัวมีความซาดิส55555555 :hao7:
แต่ชอบบบอยากดูตอนเด็กๆโตตต
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 22-09-2016 15:00:13
เพิ่งเข้ามาอ่าน อิจฉาข้าวสุดๆ หมั่นไส้มากด้วย ชาติที่แล้วทำบุญมาดีเหลือเกิน  :heaven
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kanokwan_kt ที่ 25-09-2016 02:29:11
คนอวดผัว. หมั่นอิข้าวมากค่ะ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 02-10-2016 03:22:56
7.

หลังจากมื้ออาหารสุดหรูที่บ้านแล้ว ผมก็ตั้งใจจะทำให้ข้าวมีความสุขแบบนั้นทุกๆ วัน ถึงแม้เขาจะบอกว่าแค่เรานอนดู Law and order ซีซันเก่าๆ ด้วยกันก็มีความสุขแล้วก็ตาม

ผมชอบรอยยิ้มเขินอายของเจ้าหญิง แก้มกลมๆ เป็นสีชมพูหวาน ตัวของข้าวก็หวาน ผมอุ้มเขา อุ้มลูกในท้อง ยิ้มให้กัน ใจเราสื่อสารกันได้

ยิ่งนานวันเขายิ่งทำผมหลงใหล ลุ่มหลง... รักเขาจนร่างกายเล็กๆ นั้นรับไม่ไหว

ข้าวไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมรักเท่าไหร่ช่วงนี้ นอนเก่ง กินเก่ง แอบผมกินขนมเป็นเด็กๆ ผมไม่ค่อยอยากให้เขากินจุบจิบเท่าไหร่นัก เพราะพอคลอดมาจะลดยาก ไม่ใช่ว่าผมอยากเห็นภรรยาผอมแห้ง แต่ตัวเขาเองนั่นแหละที่จะคิดมากอีก นี่แค่ท้องและน้ำหนักขึ้นมานิดหน่อยข้าวก็หน้าซีดทุกครั้งที่ขึ้นตาชั่งแล้ว

ผมไม่ได้สนใจว่าข้าวจะอ้วนหรือผอม จะสูงหรือต่ำ แค่ข้าวเป็นข้าว แค่น่ารักแบบนี้ทุกๆ วันก็พอแล้ว

ผมรู้ว่าข้าวพยายามทำทุกอย่างเพื่อผม อาจเพราะรักหรือเพื่อตอบแทน แต่บางครั้งก็ดันทุรัง เขาฝืนมีเซ็กส์ ฝืนร่างกายให้ผมสอดใส่ ฝืนทำออรัล ทั้งๆ ที่ใบหน้ามีแต่น้ำตาเปรอะเปื้อน ร่างกายสั่นระริก เลือดไหลเยิ้มออกจากช่องทาง แต่เขากลับมุ่งหน้าปรนเปรอผม... ผมเลวที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น เลวยิ่งกว่าที่พบว่าตัวเองชื่นชอบใบหน้าฝืนทนของเขามาก ชอบเสียงร้องไห้ เสียงหวานที่ร้องให้ผมหยุด ริมฝีปากอิ่มที่ขบเม้มแน่นอย่างเจ็บปวด ร่างเล็กๆ ที่ดิ้นพล่าน... ทำให้ผมทำผิดพลาดลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมข่มขืนเขา...

...ข่มขืนจนร่างเล็กๆ หมดสติไป เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็กระแทกลงไปอีก รุนแรงขึ้นไปอีก

ผมชอบความรุนแรง แต่ปฏิกิริยาหลังจากนั้นทำให้ผมเสียใจ

ข้าวกลายเป็นตุ๊กตา ให้ผมอาบน้ำ ทำแผล นอนพัก กินอาหาร ไม่มีรอยยิ้ม ไม่พูดอะไรเกินจำเป็น ตัวสั่นเทาเมื่อผมแตะต้อง ดวงตานั้นไม่มีอารมณ์ใดๆ จนกระทั่งไปหาหมอ หมอถามย้ำหลายครั้งว่าข้าวจะแจ้งความไหม เขารู้ว่าผมทำอะไรกับร่างกายเล็กๆ นั้นไปบ้าง แต่ข้าวปฏิเสธเสียงเบา ผมอยากร้องไห้ แม้กระทั่งผมทำผิดกับเขา รุนแรงกับเขา เจ้าหญิงก็ยังโอบกอดผม ให้อภัยผม

เพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด ผมกลัวว่าข้าวจะหนีผมไป กลัวว่าจะทนผมไม่ได้ จึงฉวยโอกาสที่เขาไข้ขึ้นนอนพักรักษาตัว ขังเขาไว้ในห้อง ล็อกประตูด้วยกุญแจหลายชั้น เอาพาสปอร์ตและเอกสารต่างๆ ของไทยไปเก็บไว้ ให้ข้าวกลายเป็นเจ้าหญิงราพันเซลผู้อยู่บนหอคอย รอคอยเพียงแต่ผมเพียงคนเดียว

หากไม่มีพาสปอร์ตข้าวก็ไปไหนไม่ได้ จากผมไปไม่ได้ หากเจ้าหญิงเป็นนก... ผมคงเด็ดปีกคู่สวยออก เพียงเพื่อให้เขาอยู่กับผมไปตลอดกาล

เจ้าหญิงหวาดกลัว ผมรู้ว่าเขากลัวจึงพยายามอ่อนโยนด้วย และข้าวก็ค่อยๆ กลับมาเป็นเจ้าหญิงคนเดิม... ยิ้มให้ผมเหมือนเดิม ผมรักเขาจนใจจะขาด อยากเก็บไว้คนเดียว อยากอยู่กับเขาตลอดเวลา ต่อให้ไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งเขาก็เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ผมก็ไปนั่งเฝ้าหน้าประตูทุกครั้ง ไม่ยอมให้เจ้าหญิงของผมคลาดสายตา ผมยอมเป็นหมา เป็นอะไรก็ได้ ขอแค่เขายังรักผมก็พอ

ผมไม่ได้ล้อเล่นที่จะชำระร่างกายให้ ไม่ว่าจะถ่ายหนักหรือถ่ายเบา ผมก็พร้อมจะเช็ดล้างให้ หากผมขาดสติ ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง...

เรากอดกัน จูบกัน มีเซ็กส์กัน นั่นยังไม่พอ ไม่เคยเพียงพอเลย

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 02-10-2016 03:24:36
ผมกอดเขาไว้ในอ้อมแขนยามนอน จูบหน้าผากมนให้เขาหลับสบาย แต่ผมรู้ว่าแผลที่ผมกรีดลงไปมันหนักหนาและลึกเกินไป... ลึกจนกระทั่งข้าวเองก็มองไม่เห็น หรือจงใจไม่สนใจ

ผมมองจมูกเล็กๆ ปากเล็กๆ ตากลมโตที่ปิดสนิท ข้าวขมวดคิ้ว... คงฝันไม่ดีนัก ไม่รู้ว่าผมกลายเป็นฝันร้ายของข้าวหรือเปล่า

แล้วเจ้าหญิงก็เริ่มดิ้น ดันอ้อมแขนผมออก กรีดร้อง เหงื่อไหลริน ตัวสั่นเทา...

...ใคร ? ใครทำให้เจ้าหญิงของผมฝันร้ายขนาดนั้น

ริมฝีปากเผยอ ถีบผ้าห่มออก ในความมืดนั้น ดวงตาปิดสนิทมีน้ำตานอง "อย่า... อย่าทำ!" ผมคว้าแขนเขาไว้ กลัวจะทำร้ายตัวเอง แต่ร่างเล็กๆ นั้นดิ้นพล่าน เสียงที่ละเมอร้องออกมาทำให้ผมใจสลาย

"อย่าทำฉันเลย... แม๊กซ์..."

ผมอยากจูบเขา... จูบอย่างอ่อนโยน สัญญาว่าจะไม่มีเรื่องร้ายๆ ใดๆ เกิดขึ้นกับเขาอีก

แต่ไม่ทันเสียแล้ว... ไม่ทันแล้ว

ผ่านไปชั่วครู่ร่างเล็กจึงค่อยๆ สงบลง แต่ยังคงร้องไห้เงียบๆ ไม่รู้ว่าผมในฝันนั้นกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ข่มขืนเขา ทุบตีเขาแล้วหรือเปล่า

แผลที่เจ้าหญิงเพียรซุกซ่อนไว้ยามตื่น จงใจละเลยมันไปเพื่อไม่ให้ผมรู้ค่อยๆ ปริออก... แผลลึกที่ผมเป็นคนสร้าง... กรีดลงไปลงบนหัวใจเขาและตอนนี้มันก็ได้กลับมาทำร้ายตัวผมเอง

เจ้าหญิง... อย่าร้องไห้เลยนะ

ผมรักคุณ...


....

ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ในวงแขนก็ว่างเปล่า รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยว่าข้าวจะหนีไป แต่เกือบทุกวันก็เป็นแบบนี้ ผมตื่นขึ้นมาคนเดียว มีบางวันที่ผมสูบวิญญาณเขาจนหมดแรงจึงจะได้เห็นหน้าน้อยๆ นอนอยู่ข้างๆ

รีบลุกขึ้นวิ่งไปยังห้องครัว พอเห็นก้นกลมๆ ในชุดนอนหลวมๆ ก็รู้สึกเบาใจ เซ็กส์ซี่ปนไร้เดียงสาในบอยเฟรนด์เชิร์ต ข้าวน่ารัก ไม่รู้ตัวว่าผมยืนดูอยู่ มือบางเปิดหม้อหุงข้าว คดข้าวออกมาแล้วเทลงกระทะ

ภาพธรรมดาๆ นั้นทำให้หัวใจผมอุ่นละมุน

ภรรยาตัวน้อยยืนง่วนอยู่คนเดียวในครัว ทำอาหารให้สามีอย่างผมกิน อุตส่าห์ยอมตื่นเช้าเกือบทุกวัน...

...น่ารักจัง

ในที่สุดเจ้าหญิงก็รู้ตัว หันกลับมา หน้าน้อยๆ เป็นสีชมพู อุทานดัง "อ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ ? ไม่ให้สุ้มให้เสียง"

เจ้าหญิงน่ารักจนไม่น่าเชื่อว่าเหยื่อข่มขื่นที่ฝันร้ายเมื่อคืนนั้นคือคนเดียวกัน...

ผมยิ้ม เดินเข้าไปกอดเอว ย่อตัวลงนิดหน่อยเพื่อให้วางคางลงบนศีรษะได้ "ทำอะไรกินครับ ?"

"ข้าวผัดก็แล้วกันนะ... ง่ายดี ฉันต้มน้ำแกงไว้ให้น่ะ"

"ฮื้อ  fried rice... rice ข้าววว"

"ครับๆ" ข้าวตบแขนที่กอดเขาเบาๆ "ปล่อยก่อน ไปอาบน้ำล้างหน้าซะ จะได้มากินข้าว"

เขาทำเหมือนผมเป็นเด็ก... แต่ก็น่ารัก ผมงับหูเล็กเบาๆ ถ้าต่อไปเรามีลูกสาวก็ดีสินะ... ลูกสาวตัวน้อยที่เหมือนกับข้าว ตาโตแป๋วแหววเหมือนกับข้าว ยืนอยู่ในครัวช่วยแม่ทำอาหารเหมือนข้าว

"ถ้าเป็นลูกสาวก็ดีสิเนอะ" ผมยอมปล่อยเนื้อนุ่มๆ อย่างเสียดาย

"เดี๋ยวก็รู้เพศแล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก"

"ฮื่อ ผมอยากได้ลูกสาว... เจ้าหญิง คลอดลูกสาวน่ารักๆ ให้ผมนะครับ" ผมทำท่าจะโผเข้าไปหาเขาอีกครั้ง แต่ข้าวชูตะหลิวขึ้นมาห้าม

"พอเลย ไปอาบน้ำ แล้วฉันไปกำหนดเพศลูกได้ที่ไหนกัน"

ผมอยากหอมแก้มนวลจัง แต่ข้าวตีหน้าดุ ชี้ไปที่ห้องน้ำ "ไป ไปอาบน้ำ"

คนไทยทำไมชอบอาบน้ำจัง... จริงๆ ผมอาบวันละครั้งเท่านั้น แต่ตั้งแต่แต่งกับข้าว ผมอาบวันละสองครั้งเหมือนเขา ถอดรองเท้าก่อนเข้าบ้านเหมือนเขา

"ครับ" รับคำหงอยๆ ดูแก้มกลมๆ อย่างเสียดาย

...แก้มของข้าวไม่ได้มีน้ำตาแล้ว... ดีจัง

ถ้ารอยแผลสามารถหายไปได้เหมือนเช็ดน้ำตาออกไปก็ดีสินะ

....

ผมกลับมาบ้านพร้อมกับโหลมะกอกดอง ช่วงนี้ข้าวแพ้ท้องหนักมาก ถึงพิชจะบอกว่าอาการเขาไม่หนักเท่าคนอื่นก็เถอะ แต่แค่เห็นเขาวิ่งเข้าวิ่งออกห้องน้ำเพื่ออาเจียนแล้วก็ใจหล่นวูบ

ข้าวบ่นอยากกินของดองๆ ผมเลยสั่งเลขาฯ ให้หาซื้อให้ อดัมหัวเราะและกลับมาพร้อมกับโหลมะกอกดอง ผมขอบอกขอบใจ จ่ายเงินแล้วรีบกลับบ้าน

ข้าวอยู่ในครัว สีหน้าไม่ค่อยดีนัก กำลังโยนกล่องทิ้งถังขยะ ผมวางมะกอกดองลง ชะโงกหน้าไปดู ข้าวหัวเราะเบาๆ "คุกกี้น่ะ... แอบกินอีกแล้ว" ใบหน้าเล็กเอียงคอน้อยๆ ทำหน้าราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด ผมยิ้ม

"ที่รัก ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"

"ก็มัน...." ข้าวเกาศีรษะ "ก็กลัวอ้วนนะ แต่หยุดกินไม่ได้อ่ะ" ปากอิ่มเบะอย่างเอาแต่ใจ ผมจุ๊บริมฝีปากนุ่มเบาๆ มันช่างหวาน ได้กลิ่นข้าวโอ๊ตของคุกกี้จางๆ

"แค่ไม่กินชอกโกแลตก็พอแล้วครับ"

"ฮื่อ แล้วเอาอะไรมาเหรอ ?" ข้าวชะเง้อไปยังบนโต๊ะ ผมเลื่อนโหลให้อย่างเอาใจ

"มะกอกดองไง ข้าวบอกว่าอยากกินของดอง"

ข้าวหยิบโหลขึ้นมาอย่างยินดี เปิดฝาออกแล้วหยิบมาชิม ผมรอปฏิกิริยาอย่างตื่นเต้น เมื่อมะกอกสีตุ่นๆ เข้าปาก แค่คำแรกเท่านั้น ข้าวก็วิ่งไปคายทิ้ง

ผมใจแป้ว รับโหลมะกอกมาวางที่เดิม

"เจ้าหญิง ไม่อร่อยเหรอครับ ?"

ข้าวล้างปาก เงยหน้าขึ้นมา "ก็มัน... ฝาดอ่ะ ต่างกับที่คิด"

"คุณอยากได้แบบไหน ? จะว่าไปวันนี้คุณได้เพชรแล้วหรือยัง ?"

ผมชอบให้ข้าวใช้ของที่ผมให้ สวมอัญมณีที่ผมออกแบบ ใส่ชุดที่ผมซื้อให้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาจะได้บ่งบอกว่าเป็นของผมคนเดียว

"อื้ม" วันนี้เพชรเป็นสร้อยข้อมือรูปเถามะกอก ข้าวยื่นข้อมือมาทั้งๆ ที่น้ำตายังคลออยู่ในดวงตา "นี่ไง"

ผิวขาวนวลกับสร้อยข้อมือเพชรเส้นบางสีขาวเปล่งประกายดูเข้ากันจนเหมือนภูติพราย นางฟ้าแสนสวยในนิทาน ผมยิ้ม ยกข้อมือบางขึ้นมาจูบ

มะกอกหมายถึงสันติภาพ ผมต้องการให้ชีวิตคู่ของเรามีแต่สันติสุขหลังจากที่เราผ่านเรื่องร้ายๆ มาแล้ว รวมไปถึงต้องการให้ข้าวมีสุขภาพแข็งแรง ก้าวผ่านฝันร้ายไปให้ได้

หากทำได้ ผมยอมแลกกับทุกอย่างเพียงเพื่อให้เจ้าหญิงหลับฝันดี

ทำไมในฝันนั้น ไม่ใช่ผมที่เป็นอัศวินปกป้องเจ้าหญิงนะ ทำไมผมถึงกลายเป็นปิศาจร้ายได้

"เจ้าหญิงของผม"

ข้าวหน้าแดง ดึงมือกลับแล้วยกโหลมะกอกไปเก็บ "กินข้าวเถอะ วันนี้ทำสปาเกตตี้นะ เผื่อเธอเบื่ออาหารไทย"

ผมไม่มีปากเสียงเรื่องในบ้านอยู่แล้ว ไม่ว่าข้าวจะทำอะไรให้กินผมก็ตักเข้าปากได้โดยไม่ปริปาก จริงๆ อาหารไทยก็ไม่เลว ข้าวทำอะไรก็อร่อย แต่บางครั้งผมก็คิดถึงอาหารที่เติบโตมาเหมือนกัน เจ้าหญิงเอาใจใส่ผมแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นั้นทำให้ผมร้อนระอุ มีอารมณ์ขึ้นมา

คนตัวเล็กเดินกลับมาถาม "จะกินเลยไหม ?"

"ข้าว... เจ้าหญิง... ผมอยากกิน 'ข้าว' มากกว่า" ผมเน้นคำว่าข้าวเป็นภาษาไทย แต่เจ้าหญิงกลับคิดว่าผมหมายถึง Rice

"อ้าว งั้นรอเดี๋ยว เดี๋ยวหุงข้าวให้... อ๊ะ" น่ารักจัง... อะไรจะน่ารักขนาดนี้ พอเอวบางขยับจะไปยืนหน้าเตา ผมก็รีบเอื้อมมือคว้ากลับมา

"ผมอยากกิน 'ข้าว' นี่" นิ้วลูบแก้มใส ข้าวอ้าปากแล้วหัวเราะ ตีแขนผมเบาๆ

"ทะลึ่ง!"

ข้าวก็ทะลึ่งพอกันถึงเข้าใจที่ผมคิด... เราสองคนทะลึ่งจนเสกเด็กน้อยเข้าท้องเขาได้ ผมจูบหน้าผากนวล "ไปออกกำลังกันซักยกนะครับ มามิ๊ของผม" มือผมล้วงเข้าในกางเกงยืดนิ่มๆ ตะปบหว่างขาขาว

ข้าวไม่ค่อยมีอารมณ์นักในช่วงหลัง ผมได้แต่หวังให้เขาผ่านพ้นไตรมาศแรกไวๆ จะได้กลับมาร้อนแรงเหมือนเดิม

แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อที่จะเล้าโลมเขาหรอกนะ ต่อให้ใช้เวลามากกว่าปกติก็ตาม

ข้าวหน้าแดง "ตะ... แต่ฉันไม่ค่อยมีอารมณ์" เรียวขาขยับถูมือผมในร่มผ้า ผมพรมจูบเส้นผมนุ่ม

"ผมจะทำให้คุณมีอารมณ์เอง ไว้ใจแด๊ดดิ๊นะครับเจ้าหญิง ?" ผมตั้งใจถามทุกครั้งก่อนมีเซ็กส์ ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์อย่างครั้งที่แล้วอีก

ผมจะไม่รุนแรงกับเขาอีก ไม่ทำอีกเด็ดขาด

ข้าวหลุบตาลง พยักหน้าช้า "อะ... อื้อ ฝากด้วยนะ"

ผมรีบอุ้มคนท้องวิ่งเข้าห้องนอนอย่างรวดเร็ว! น่าจะไวยิ่งกว่าวิ่งโอลิมปิกเสียอีก

โธ่ เจ้าหญิงของผม จะน่ารักอะไรขนาดนี้นะ ถ้าผมรักคุณมากไปกว่านี้จะทำยังไง...

...แค่นี้ก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วครับ

......

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 02-10-2016 03:26:10
ข้าวน่ารัก ผมสีดำแผ่กระจายบนหมอนสีขาวเหมือนม่านน้ำตก ผิวขาวเหมือนช่วงนี้จะอิ่มเอิบ ผมจุ๊บพุงน้อยๆ ข้าวจั๊กจี้จนหัวเราะเบาๆ ผมเลื่อนขึ้นไปจูบริมฝีปากอิ่ม เราจูบกันพัวพันเนิ่นนาน อิ่มอร่อยจนไม่อยากละออกมา ผมจับหว่างขาขาว ขาสองข้างบิดเข้าหากันแล้วครางเสียงหวาน

"ฮื้มมม เข้ามาเถอะ"

ที่รัก... เจ้าหญิงของผมฝืนตัวเองอีกแล้ว พักหลังมานี้เขาไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศก็จริง แต่ผมก็สามารถปลุกเร้าเขาได้ แม้จะใช้เวลาไปสักหน่อย

ขณะที่มือกำลังโอบรอบท่อนลำเล็กขาวสะอาด ตัวเจ้าหญิงนวลเนียนเหมือนเด็ก ไม่มีขนไม่มีริ้วรอย ผมจูบทั่วทั้งตัวโดยเฉพาะหน้าท้องที่ยื่นออกมาน้อยๆ น่ารักน่าชัง

"ไม่ได้ครับ คุณยังไม่พร้อม"

"ใช้เจลเยอะๆ สิ" เจ้าหญิงสั่ง คำสั่งของข้าวทำให้ผมมีอารมณ์ รู้สึกได้ถึงความแข็งขืนเต็มกางเกง แต่ถ้าฝืนเข้าไปตอนนี้ข้าวคงเจ็บมาก ผมเจ็บยังพอทนไหว แต่นี่ภรรยาตัวน้อยของผมจะทนไหวได้ยังไง ผมไม่ต้องการให้เขามีเลือดหรือน้ำตา ไม่ต้องการกระทั่งให้คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน

ผมตอบไป "ถึงใช้เจลก็ไม่ได้ ถ้าคุณไม่มีอารมณ์ก็เหมือนข่มขืนน่ะสิ"

ข้าวยิ้มยั่วยวน ชูสองแขนขึ้นบอกให้ผมอุ้ม ผมคล้องเอวบางมานั่งตัก กลิ่นกายหอมสะอาดของคนเป็นแม่ยิ่งทำให้กางเกงผมเปียก เจ้าหญิงขย่มตัวบนหน้าตัก กัดริมฝีปากน้อยๆ

"แข็งขนาดนี้... ฉันชักมีอารมณ์แล้วสิ"

ผมหน้ามืด ใบหน้าแสนหวาน เสียงหวาน กลิ่นหอมๆ ผมดันเขาลงอีกครั้ง ปากขบเม้มหว่างขาขาวที่เริ่มแข็งตัว ผมดูดกลืนอย่างเอร็ดอร่อย กัดเบาๆ ที่ถุงทั้งสองด้านล่าง ร่างกายช่างเรียบเนียนไปหมดเหมือนเด็กแรกเกิด ทั้งๆ ที่บริสุทธิ์ขนาดนี้ กลับสามารถครางกระเส่ายั่วยวนผู้ชายได้ราวกับโสเภณี

เอวบางสั่นระริก กระดกขึ้นติดริมฝีปาก ไรหนวดผมทำให้คนด้านล่างจั๊กจี้ เรียวลิ้นทำให้ขาทั้งสองที่ใกล้ใบหน้าหนีบแน่นด้วยความเสียวซ่าน ผมชอบทำให้เขาคลั่ง ยิ่งข้าวร้องดัง แหงนเงยใบหน้าขึ้นจนเห็นลูกกระเดือกเล็กๆ บนลำคอขาว กรีดร้องอย่างสุขสม น้ำรักใสๆ พุ่งออกมาเต็มปากยิ่งทำให้ผมอยากย่ำยีเขา

ผมดูดกลืนน้ำคาวที่หอมหวานลงคอ จูบเขาด้วยริมฝีปาก ข้าวครางฮือ หนีบลำตัวผมแน่น เมื่อปล่อยเขาให้เป็นอิสระ น้ำลายเหนียวๆ ก็ไหลเยิ้มลงมาตามคางเพรียว ผมเลียน้ำลายหยดนั้นอย่างกระหาย

ดวงตาสีนิลระยิบระยับ ชูมือทั้งสองขึ้นออดอ้อนอีกครั้ง "ฮื้ออ มาเถอะนะ ฉันได้แม๊กซ์"

"อยากได้อะไรครับ ?" ผมแกล้ง จูบอกขาวนวลและเยลลีสีชมพู ดูดมันแรงๆ จนกลายเป็นสีแดงสุกปลั่งน่ากิน ข้าวแอ่นอกให้ผมชิมรสอย่างยินดี

"อยากได้ อึ่ก..." ยังไม่ยอมพูดเสียที หน้าขาวแดงฉานไปถึงหู น่ารักจนแทบกลืนไปทั้งตัว ผมทั้งบิด ทั้งหยิบทึ้ง ทั้งขบยอดอก ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะมาหลงสเน่ห์ผู้ชายด้วยกัน ถ้าเป็นผมตอนวัยรุ่นคงขยะแขยง แต่นี่... ไม่ว่าจะยอดอก เครื่องเพศ หรือกระทั่งน้ำรักผมก็อยากกินให้หมด แม้ทั้งกระทั่งกลิ่นหอมหวานนี้ก็จะไม่ยอมแบ่งใคร

"ไม่พูดผมก็ไม่ทำนะครับ" ผมยิ้ม บีบเยลลีทั้งสองข้างจนแผ่นหลังเจ้าหญิงไม่ติดฟูก กรีดร้องเสียงหลง ข้าวชอบแบบนี้ ความเจ็บปวดนิดๆ ทำให้เขาหฤหรรษ์

"อ๊าาา อ๊ะะ... อึ่กก อยากได้ ข้าวอยากได้ของแม๊กซ์ อยากได้ค**แม๊กซ์ ฮึกกก" เจ้าหญิงยิ่งหน้าแดง ผมบิดเยลลีอีกครั้งแล้วลงลิ้นปลอบประโลม นวดคลึงแผ่นอกแบนเรียบเบาๆ ก่อนจะคว้าเนื้อประคองให้เป็นก้อนเพื่อดูดกินง่ายๆ

ผมชอบหน้าอกข้าว บางครั้งผมก็ดูดยอดอกเขาจนมันบวมเป่ง มีน้ำลายเกรอะ ข้าวต้องใช้พลาสเตอร์ปิดเพื่อใส่เสื้อ ไม่เช่นนั้นเนื้อยอดอกที่บวมแดงช้ำคงเสียดสีกับเสื้อผ้าจนเจ็บปวด

"อึ่กก... พะ พูดแล้ว ทำเสียที!" หน้าแดงไปถึงคอ ทำไมต้องมาเขินอายกับคำพูดบนเตียงด้วยนะ ทุกทีทำมากกว่านี้ยังไม่เขินขนาดนี้เลย

แต่ก็น่ารัก เพราะเป็นแบบนี้แหละถึงน่ารัก ไม่ใครน่ารักเท่า ผมจูบปากเขา กระซิบเบาๆ "พูดให้ครบสิเจ้าหญิง"

ปากน้อยๆ อ้าค้าง ตากลมโตเบิกมอง และคนน่ารักก็กลืนน้ำลาย ยอมพูดจาลามกแบบที่ผมชอบออกมาจนได้ "ฮึก... ได้โปรดเอา... เอา... ค**แม๊กซ์เข้ามาที่**ข้าวนะครับ ฮึกกก" น้ำตาไหลจนได้ แต่เป็นน้ำตาของความอับอายปนกับความเสียว ผมจูบตามรอยน้ำตา เอื้อมมือไปปลดกางเกง

"มาช่วยสามีถอดหน่อยสิ" เจ้าหญิงพยักหน้าอายๆ แล้วลุกขึ้นมาจับขอบกางเกงผม แต่ผมจูบหน้าผากมนก่อนสั่ง

"ใช้ปากสิครับ"

ข้าวช้อนตามอง แพขนตาหนาสั่นระริกเย้ายั่วเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ แล้วปากอิ่มก็ก้มลงคาบซิปผมลง เสียงโลหะเสียดสีกันดังก้องในห้องนอนของเรา ผมรักเขาจนบรรยายไม่ได้ แล้วศีรษะน้อยๆ ก็เงยขึ้นมอง ผมจับเขานอนลงอีกครั้ง ยกขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า คว้าเจลมาบีบอย่างไม่กลัวเปลือง สัมผัสเย็นซ่าชวนให้รู้สึกดี พอมองข้ามความเหนอะหนะไปข้าวก็ชอบมันไม่น้อย แต่ผมอยากให้น้ำรักผมเป็นตัวหล่อลื่นมากกว่า แค่คิดว่าในก้นกลมๆ ที่ผมรักนั้นต้องมีของเหลวอะไรไม่รู้เข้าไปอยู่ข้างในก็ชวนหงุดหงิดแล้ว

ถ้าเจ้าหญิงคลอดเมื่อไหร่ผมจะจัดหนัก รีบทำลูกคนที่สองแบบที่ไม่ให้เขาได้พักให้ดู

หัวใจข้าวเต้นตึกตัก แรงจนผมได้ยิน เสียงหวานครางชื่อผมอย่างน่ารัก ยิ่งท่อนลำอันใหญ่ค่อยๆ สอดเข้าไป ข้าวยิ่งหน้าแดง

"แม๊กซ์ แม๊กซ์... อื้มมม..."

เจลช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและไม่มีเลือด ผมค่อยๆ สอดตัวเองลงไปในช่องทางคับแน่น เนื้อนุ่มหวานและเยื่อเมือกสีชมพูโอบกระชับแน่นเหมือนหญิงพรหมจรรย์ ผมสงสัยเสมอว่าเจ้าหญิงทำอย่างไรร่างกายถึงยังสดใหม่ขนาดนี้ ของผมใหญ่โตจนเท่ากับท่อนแขนเขา และยังมีเซ็กซ์กับเขาทุกวัน แต่โพรงอุ่นร้อนกลับยังคับฝืดทุกครั้งที่สอดใส่

ผมกระแทกเข้าไปด้านในที่ร้อนจัด ข้าวหายใจหอบ กระซิบเสียงพร่า "อื้อ เบา... เบาๆ ฮ้า..." แต่ไม่ทันแล้ว ผมจับขาเพรียวชูขึ้น กระดกเอวกระแทกหนักๆ หมุนเอวสอดคว้านเข้าไปจนลึกดังกึก โพรงร้อนบีบผมแน่นไม่ยอมคลาย ราวกับท่อนลำผมคือของอร่อยที่ต้องกลืนกินให้หมด

ยิ่งผมรุนแรง ข้าวยิ่งชอบ สองขายิ่งอ้ากว้างให้ผมสอดใส่เข้าไปลึกขึ้น ผมหน้ามืด จับสองขาแล้วโหย่งตัวขึ้น ไม่ไหวแล้ว จะน่ารักน่ากินอะไรขนาดนี้

ท่อนล่างของเจ้าหญิงอยู่ในมุมฉาก ข้าวตาเหลือกค้าง ผมลืมไปว่าเขายังท้องอยู่ แต่ความใคร่ก็บดบังสติ ผมทิ้งน้ำหนักลงไปในปากทางแดงก่ำ ลึกจนสุด ข้าวกรีดร้อง ตัวบิดเกร็งสั่นระริก ท่อนลำขาวๆ ที่สั่นสะเทือนฉีดพ่นน้ำไกลจนถึงหน้าอก ผมโน้มตัวลงเลียมันลงคอ ก่อนจะเริ่มกระแทกอีกครั้ง ท่านี้ทำให้ผมสอดลึกกว่าทุกครั้ง ข้าวครางไม่หยุด จิกเล็บลงมาบนเนื้อผมจนแผ่นหลังเป็นรอย

แต่ผมชอบ

ทุกครั้งที่มองกระจกแล้วเห็นรอยเล็บของเจ้าหญิง ทำให้ผมภาคภูมิใจทุกครั้งว่าผมทำให้เขาคลั่งได้แค่ไหน

คราวนี้รอยคงลึกกว่าทุกวัน...

...........

ข้าวนอนหอบฮัก อสุจิไหลเยิ้มจากร่องก้น ผมลูบไล้เนื้อนวลอย่างมีความสุข ทั้งอุณหภูมิ กลิ่นหวานที่ปนเปื้อนคราบคาวของกามารมณ์ช่างยั่วยวนนัก ผมจูบเขา ดูดดึงริมฝีปากอิ่มจนบวมเจ่อ ทีนี้ทั้งปากบนและปากล่างของเขาก็แดงบวมพอๆ กันแล้ว

ข้าวกอดผมไว้ ซบหน้ากับท่อนแขน พูดเบาๆ "หิวหรือยัง ?"

โดนไปขนาดนี้ยังเป็นห่วงผมอยู่เลย ผมจูบเรือนผมนุ่ม ยิ่งเจ้าหญิงรักผม ยิ่งทำให้ผมหลงเขาหนักขึ้น "เริ่มหิวแล้วครับ"

ข้าวได้ยินก็ผละออก ค่อยๆ พยุงตัวนั่งแต่ก็ร้องซี๊ดออกมา คงแสบไม่น้อย เขาคลานลงจากเตียงไปสวมเสื้อผ้า ผมมองก้นน้อยๆ ที่หันมาหาผมเต็มตา เห็นคราบกามยังไหลนองเต็มสองขาสวยแล้วอยากป้อนน้ำนมให้ลูกกินอีก

"เจ้าหญิงครับ"

ข้าวหยิบเสื้อผมมาสวม เสื้อเชิร์ตตัวใหญ่หลวมโคร่งจนเป็นเดรสยาวเลยก้น แต่ยังพอเห็นคราบน้ำอสุจิเยิ้มออกมาได้

ผมมองดูเขาด้วยความสงสัยว่าจะทำอะไร ในที่สุดเจ้าหญิงก็ติดกระดุมเสร็จ มือน้อยยังสั่นอยู่เลย

"ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวฉันไปอุ่นให้" เพราะผมบอกว่าหิวข้าวจึงฝืนลงจากเตียงนี่เอง... หัวใจผมบิดกระหวัด ทั้งรักทั้งสงสาร ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองมีดีอะไรจึงได้เจ้าหญิงมาครอบครอง

เพราะข้าวเป็นแบบนี้... ผมถึงรักเขามาก

"มานอนเถอะครับ เดี๋ยวผมทำเอง" ผมอุ้มเขากลับมาที่เตียง ตั้งท่าจะเช็ดตัวให้ แต่ข้าวยื้อมือไว้ หน้าแดง

"มะ ไม่ต้องเช็ด..."

"เจ้าหญิง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"

เจ้าหญิงกัดริมฝีปาก แก้มกลมแดงจนเหมือนจะแตกแล้ว "กะ... ก็เธอชอบไม่ชอบเหรอ..."

ชอบสิ! ชอบให้ลูกๆ ตัวเองนองในก้นเจ้าหญิงที่สุด ข้าวบ่นว่าผมโรคจิตแต่ก็ตามใจทุกครั้ง ผมอยากต่ออีกรอบแต่ดูสภาพภรรยาท้องแล้วคงไม่ไหวจริงๆ เลยฟัดแก้มแล้วจุ๊บเบาๆ บอกเสียงสั่น "ขอบคุณครับ เจ้าหญิงของผม"

"ฮะ... ฮื่อ" ข้าวหลบหน้า เอามือปัดริมฝีปาก "พะ พอก่อน หนวดมันตำ"

ผมยอมถอย แต่ไม่อยากทิ้งภรรยาไว้คนเดียวเลย ข้าวมองหน้าผม ดวงตาสีดำขลับสดสวยมีความรักเต็มเปี่ยม ผมรู้ว่าเขาก็รู้สึกเหมือนกัน

เราอยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา แค่ห่างกันแค่ห้องเดียวก็ทรมานแล้ว

ผมค่อยๆ ขยับปาก ประนีประนอม "เจ้าหญิง งั้นผมอุ้มไปที่ครัวนะครับ ?"

ข้าวพยักหน้า ผมช้อนตัวเขาขึ้นมา ตัวข้าวอุ่นเหมือนเด็ก ร่างกายบอบบางนุ่มนิ่มยิ่งกว่าผู้หญิงจนผมกลัวว่าถ้าใครมาแตะต้องเขา จะทำให้เจ้าหญิงของผมแตกร้าว ผมจูบปลายผมเขา ไล่ไปถึงลาดไหล่บาง

เพราะแบบนี้ไง ถึงยอมให้คนอื่นเห็นไม่ได้ แค่หายใจร่วมก็น่าหงุดหงิด แค่ยืนในบริเวณเดียวกันก็อยากกระชากคนคนนั้นออกไป ให้เหลือแค่ผมคนเดียวที่ข้าวจะมองเห็น จะยิ้มให้ หายใจรินรด

"เดี๋ยวอุ่นให้นะ ฉันใส่มะเขือเทศเยอะๆ แบบที่เธอชอบด้วย"

อา เจ้าหญิง... เจ้าหญิงครับ... ผมรักคุณ รักจนจะบ้าอยู่แล้ว

ไม่จำเป็นต้องทำอาหารหรือมีเซ็กส์กันก็ได้ แค่อยู่เฉยๆ ผมก็รักคุณแล้ว ยิ่งเอาใจใส่ ยิ่งยิ้มให้ ยิ่งรักตอบ ยิ่งทำให้ผมคลั่งใคล้ หลงใหลคุณ

ผมอุ้มข้าวทั้งๆ ที่มีความคิดแบบนั้น ข้าวสัมผัสได้ เขารู้ว่าผมรักเขามากแต่ความรักที่เขาคิดว่าผมมีให้เขานั้นเทียบไม่ได้เลยกับความจริงที่ผมรู้สึก

มากล้น... มาก... มากเกินไป จนร่างเล็กๆ ของเจ้าหญิงไม่สามารถทานทนได้

มากจนเมื่อเจ้าหญิงรู้ความจริง... เขาจะต้องทิ้งผมไป

"ผมรักคุณ" ผมบอก ข้าวเงยหน้าจากเตามายิ้มให้ แม้ร่างกายจะอ่อนเปลี้ยแต่ก็ยังทำอาหารให้ผมอย่างกระตือรือร้น ผมไปยืนซ้อนหลังเป็นหลักให้เขา

มือเล็กโอบรอบแขนผมที่กอดรัดเอวเขา "ฉันก็รักเธอ"

...

ลมหายใจหอบถี่ ร่างเล็กในอ้อมแขนสั่นระริก ริมฝีปากอ้าค้าง แพขนตาหนาสั่น ผมดูคนที่รักในอ้อมแขนอย่างทรมาน ปรารถนาเข้าไปในความฝัน ปกป้องภรรยาตัวน้อย

ข้าวยังกระซิบชวนปวดใจ "แม๊กซ์... อย่า อย่าทำฉันเลย..."

รอยแผลบนหัวใจข้าวไม่ต่างจากแก้วที่ร้าว แม้มันจะบางเบา แต่หยั่งลึก

ที่รัก เจ้าหญิงของผม...

ผมจูบเขา กอดเขาไว้ ผมไม่ต้องการเป็นฝันร้ายของข้าว ไม่ต้องการเป็นสัตว์ประหลาดที่ข่มขืนเขา...

แต่ในความฝันนั้น... ผมทำอะไรไม่ได้เลย
...

ข้าวนอนหลับไม่สนิทนักเมื่อคืน แต่ก็ยังฝืนตื่นมาทำอาหารเช้าให้ ผมลุกไปจูบแก้มนวล โอบกอดเขาไว้ ภรรยาตัวสั่นน้อยๆ ทำให้ผมตระหนักได้ว่า บางที... อาจไม่ใช่แค่ในความฝันที่ผมเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้ ผมคลายอ้อมกอด เจ้าหญิงเงยหน้าขึ้นมอง

"มีอะไรหรือเปล่า ?" ข้าวยังคงเป็นห่วงผม แต่ผมกลับรู้สึกทรมาน มือที่จับตะหลิวหยุดสั่นแล้ว เมื่อผมหยุดสัมผัส

เจ้าหญิงกลัวผม... เห็นได้ชัดว่าฝันร้ายนั้นยังไม่จางหายไป

ผมตัดสินใจพูดตรงๆ เมื่อเจ้าหญิงวางจานอาหารเช้าลงบนโต๊ะและนั่งลงตรงข้าม "ข้าว คุณฝันร้ายหรือเปล่า ?"

แม่ของลูกตัวแข็งทื่อ เบิกตากว้างแล้วส่ายหน้าระรัว "ไม่นะ"

เห็นได้ชัดว่าโกหก ผมวางส้อมลง จ้องตาเขาตรงๆ "เจ้าหญิง อย่าโกหกผม เราแต่งงานกันแล้ว เป็นคนคนเดียวกัน คุณบอกผมได้ทุกเรื่อง"

ข้าวกัดริมฝีปาก หลุบตาลง ดวงตากลมโตวาวด้วยน้ำ ท่าทางราวกับจะร้องไห้ได้ทุกเมื่อ " ฉันไม่เป็นไรจริงๆ"

ยากกว่าที่คิด... ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหญิงต้องโกหก แค่คิดว่าเขามีอะไรที่ปิดบังอยู่ก็ทำให้หงุดหงิดแล้ว แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องส่วนตัวแม้กระทั่งความฝันก็เถอะ แต่นั่นก็เป็นฝันร้ายที่ทำให้เขาทรมานและผมในฐานะสามี ก็ไม่ยอมให้เรื่องนั้นทำร้ายเจ้าหญิงของผม

ผมเหยียดยิ้ม "ถ้าอย่างนั้นคุณกลัวผมเหรอ ?"

ข้าวอ้าปากค้าง ส่ายหน้าจนหน้าม้าปลิว "เปล่านะ!" คำตอบนี้คงไม่โกหก ข้าวเป็นคนโกหกไม่เก่ง ดวงตาใสแจ๋วนั้นไม่เคยปิดบังอะไรได้เลย

เจ้าหญิงฝันร้าย... ผมก็ทรมานไปด้วย

ผมหลับตาลงแล้วเปิดตามองดูคนเบื้องหน้าช้าๆ

ข้าวยังคงเงียบกริบ บรรยากาศระหว่างเราหนักอึ้ง... ทั้งๆ ที่ตั้งแต่แต่งงานมา เราไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย

ผมต้องการให้เขาพูด แต่ข้าวปรารถนาให้ผมลืมมันไปเสีย และมันทำให้ผมมีโทสะ

เมื่อกินข้าวเช้าจนหมด ผมลุกขึ้น ข้าวช่วยหยิบโค้ตให้เหมือนทุกเช้า ผมรู้ว่าเขาเครียด ดวงตากลมโตมองผมอย่างตัดพ้อ

ผมรู้ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมบอก และการที่ผมทำมึนตึงตลอดอาหารเช้าก็ทำให้เขาเจ็บปวด

เจ้าหญิง... ผมรักคุณนะ

เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้น โทสะก็ค่อยๆ เบาบางลง

หากตอนนี้เจ้าหญิงยังไม่พร้อมที่จะเล่า ผมก็จะไม่ฝืนอีกแล้ว ผมไม่ต้องการไล่ต้อนเขา

ผมดึงเอวบางมากอด ยิ้มให้ "เจ้าหญิง ผมรักคุณนะ... ถ้าหากคุณยังไม่พร้อมที่จะเล่า ผมก็จะรอ"

ข้าวดูอึ้งไป ก่อนจะเม้มปาก พยักหน้า "อะ อื้อ..." ดวงตานั้นสุกใสเหมือนเด็ก "แม๊กซ์... ขอบคุณนะ ฉันรักเธอ"

ผมเชยคางเขาขึ้นมาจูบ ความรักท่วมท้นระหว่างเรา ผมรักเขา รักลูกของเขา รักแม้กระทั่งเรื่องปิดบัง ผมรู้ดี ในฝันที่เขาไม่ยอมเล่านั้น ผมกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ทำร้ายเขา แต่กระนั้น แม้เขาจะกลัวผม แต่ในความจริง ในยามตื่น ข้าวคือเจ้าหญิงของผม รักผม เป็นภรรยาของผม

"มันเป็นแค่ฝันครับเจ้าหญิง ผมอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ผมรักคุณนะครับ"

ข้าวค่อยมีรอยยิ้ม พยักหน้า ลูบท้องเบาๆ "ลูกก็รักเธอนะแด๊ดดี้"

"งั้นแด๊ดดี้ไปทำงานก่อนนะมามิ๊" เห็นเขามีสุขผมก็มีความสุขไปด้วย ข้าวน่ารัก เจ้าหญิงของผม "เดี๋ยววันนี้เที่ยงๆ ผมจะมารับไปหาหมอนะครับ"

วันนี้เรามีนัดอัลตราซาวด์ดูเพศของลูก ข้าวหัวเราะเบาๆ "ตื่นเต้นจังเนอะ"

"นั่นสิครับ" เจ้าหญิงดูกระตือรือร้นมาก ผมจูบหน้าผากนวล

ข้าวเดินมาส่งที่ประตู โบกมือให้จนลับตา

ผมลงลิฟต์มาอย่างยากลำบาก อยากกลับไปกอดเอวบางใจจะขาด เฮ้อ... ช่างเถอะ วันนี้ผมจะได้กลับมากินข้าวเที่ยงกับเจ้าหญิงและลาช่วงบ่าย เราจะได้รู้เสียทีว่าลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

....

ข้าวแต่งตัวน่ารักอีกแล้ว เขาสวมเสื้อผ้าที่ผมซื้อให้ เป็นชุดเอี๊ยมที่สามารถปรับสายได้ เผื่อสำหรับท้องโต

"ทำไมเธอซื้อแต่เสื้อผ้าผู้หญิงให้ฉันเนี่ย" ข้าวบ่นขณะที่หันก้นให้ สวมขาลงไปในกางเกงเอี๊ยม ผมช่วยเขาปรับสายให้พอดีแล้วกอดแน่น

"ก็คุณน่ารัก"

"พูดแบบนี้อีกแล้ว" ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงเป็นริ้วชวนมอง ข้าวนั่งบนเตียงหยิบถุงเท้าขึ้นมา ผมก้มตัวลงช่วยใส่ถุงเท้าให้เขา มือเล็กๆ เกาะไหล่ไว้ ปากยังบ่นงึมงำ

"หายโกรธแล้วเหรอ ?"

"โกรธ ? อ้อ เมื่อเช้านี่เอง" ผมจูบตาตุ่มและปลายนิ้วเท้าก่อนสวมถุงเท้าให้ "หายแล้วครับ แค่เห็นคุณยิ้มผมก็หายโกรธแล้ว"

"ฉัน... ไม่ใช่ไม่อยากบอกเรื่องความฝันหรอกนะ..." ข้าวดูลังเล ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงสั่นพร่าของเขา จึงรีบสวมถุงเท้าให้ทั้งสองข้างแล้วดึงมือน้อยมาพรมจูบ

ไม่ชอบเลย ไม่อยากให้เจ้าหญิงเป็นแบบนี้ ไม่ต้องการให้มีอะไรมาแผ้วพานแม้แต่น้อย

"ชู่ว์ ไม่เป็นไรครับคนดี"

"แต่... แต่เธอไม่ชอบใจใช่ไหมล่ะ"

ผมส่ายหน้า "ผมไม่เป็นไรเลยครับเจ้าหญิง... ยิ้มหน่อยสิครับคนดี วันนี้เราจะเห็นลูกแล้วนะ"

ริมฝีปากสวยค่อยๆ ยิ้มตาม ผมหัวเราะ จูบแก้มนวล "อย่างนั้น คนเก่งของผม พร้อมยังครับ ?"

ข้าวพยักหน้า ยิ้มหวานบนใบหน้าละลายใจ ผมอยากกอดเขาไว้... ล่ามโซ่เขาไว้ ให้เจ้าหญิงยิ้มให้ผมเพียงคนเดียว

มือน้อยแตะที่ไหล่เบาๆ ผมจึงต้องกลืนความคิดนั้นไป และเปลี่ยนมาจูงมือแทน

"ไปกันเถอะ"

....

ด็อกเตอร์กาเบรียลลาคลอดสองเดือน คนที่มาแทนคือด็อกเตอร์โซฟี หล่อนเป็นมือรองในเรื่องครรภ์บุรุษ มีชื่อเสียงพอๆ กับด็อกเตอร์กาเบรียลทีเดียว

ตอนนี้หล่อนกำลังทาเจลลงบนท้องเจ้าหญิง ท้องได้สามเดือนแล้ว แต่ยังเล็กอยู่เลย เหมือนกับลงพุงมากกว่า

ข้าวจับมือผมไว้ ท่าทางตื่นเต้น "แม๊กซ์..."

ผมยิ้มให้ "ที่รัก ใจเย็นๆ ครับ"

ด็อกเตอร์โซฟีหน้าตาเฉยเมย ไม่ยิ้ม ไม่ปลอบ ดูเป็นหมอที่ต่างกับด็อกเตอร์กาเบรียลคนละขั้ว หล่อนจับเครื่องอัลตราซาวด์ถูบนหน้าท้อง บนจอปรากฏภาพขาวดำของทารกน้อย ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นลูก แต่เป็นครั้งแรกที่เห็นว่าลูกเพศอะไร

หมอดูหน้าจอครู่หนึ่ง ข้าวลุกลี้ลุกลนถาม "ลูก... ลูก... ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ ?"

"ยินดีด้วยค่ะ" หน้าตาหมอยังคงแข็งทื่อ "ผู้ชายค่ะ เห็นไหมคะ ตรงนี้เป็นอวัยวะเพศ" หล่อนชี้ให้ดูจุดในภาพ ผมดูไม่ออกหรอก แต่ข้าวจ้องเหมือนจะหลุดเข้าไปอยู่ในจอ

ความรู้สึกที่เห็นลูก... ผมบอกไม่ถูก ตื้นตัน... คำนี้น่าจะใกล้เคียงที่สุดแล้ว

ทุกครั้งที่เจอลูก ผมรู้สึกเพียงแค่เป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง แต่เมื่อเห็นเพศและหัวใจน้อยๆ แม้จะเป็นเพียงภาพลางๆ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้น

ข้าวจิกมือผมแน่น น้ำตาคลอ "ลูก... ลูกเป็นผู้ชายล่ะ" รอยยิ้มบนใบหน้าสว่างไสว

หมอเช็ดเจลออกให้จนสะอาด แล้วคนตัวเล็กก็โผเข้าอ้อมกอดผม "แม๊กซ์... เราได้ลูกชาย"

ผมจูบเขา จูบตั้งแต่คางมนจนถึงหน้าผาก "ครับ... เราได้ลูกชาย"

"ดีใจจังเลยนะ"

ลูก... ลูกของผม ลูกชายของผมกับข้าว

ความรู้สึกของพ่อคงเป็นแบบนี้สินะ

หมอบอกจะอัดรูปอัลตร้าซาวด์ของลูกให้เรา ผมรับมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าเงินอย่างดี เก็บไว้เคียงข้างกับรูปคู่ของผมกับข้าว เจ้าหญิงก็ถือรูปแน่น จ้องไม่วางตา

เราต่างรู้สึกเหมือนกัน... ตื้นตันยินดี

เราเดินจูงมือกันออกจากโรงพยาบาล วาดฝัน คุยกันถึงเรื่องอนาคต "ลูกจะชื่ออะไรดีน้า ?"

"นั่นสิครับ"

"อยากให้ลูกมีทั้งชื่อไทย ชื่ออังกฤษเลย"

"เอาไว้เป็นชื่อกลางก็ได้"

"จริงด้วย ต่อไปเธอต้องสอนลูกเล่นเบสบอลด้วยนะ ถ้าลูกแข็งแรงเหมือนเธอก็คงดี" รอยยิ้มหวานละมุน ผมรักเขาสุดหัวใจ

"ผมจะสอนลูกขับรถ... เราจะไปออกทริปกันทั้งครอบครัว"

"ดีจัง ถ้าลูกเป็นหนุ่มต้องหล่อเหมือนเธอแน่ๆ เลย" ข้าวซบไหล่ผมและเงยหน้าขึ้นมา เราสบตากันเงียบๆ

ที่ลานจอดรถนั้น กลายเป็นสถานที่แห่งความฝัน ความหวัง

ลูกชายของเรา...

เจ้าหญิงเขย่งตัวจูบ ริมฝีปากอิ่มนิ่มบ่งบอกถึงความรัก จูบที่เบาบาง อบอุ่น ทำให้ผมโอบกอดเขาแน่น

"ลูกของเราล่ะแม๊กซ์"

"ลูกของเรา... ลูกของเจ้าหญิงกับผม"

ข้าวยิ้มกว้าง ผมเปิดประตูรถให้เขา เมื่อเข้าไปนั่งแล้วก็ยังจ้องมองแต่ภาพอัลตราซาวด์อย่างมีความสุข

เรายังคงคุยกันไม่หยุดเรื่องลูก จู่ๆ โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ปลายสายเป็น...

"ติดตั้งเสร็จแล้วครับ"

ผมตอบเสียงห้วน "อืม ขอบใจมาก"

"พร้อมใช้ทันที เชื่อมต่อกับคอมแล้วครับ"

"ดีมาก เดี๋ยวไปรับเช็คที่ทีนานะ"

"ครับ"

ข้าวยังคงคุยเสียงแจ๋ว ผมวางโทรศัพท์ลง "งานเหรอ ?"

ผมพยักหน้า "ครับ"

...

ช่วงบ่ายผมลางาน แม้ข้าวจะบอกว่าไม่จำเป็นก็ได้ แต่พอเห็นลูกแล้ว... ผมคิดว่าคงไปทำงานไม่ไหว ต้องทำอะไรสักอย่าง

เปลที่สั่งไว้หลายอาทิตย์ก่อนยังไม่ได้ประกอบ ผมมัวแต่ยุ่งๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจลางานมาประกอบเปล

ถึงใครจะว่าบ้าก็เถอะ

ผมกับข้าวเอารูปใส่กรอบ วางไว้บนโต๊ะกินข้าว อีกใบหนึ่งผมจะเอาไปไว้ที่ออฟฟิศ

ข้าวมีความสุขจนนั่งดูลูกได้ทั้งวัน เราสองคนใช้เวลายามบ่ายอย่างอ้อยอิ่ง ผมประกอบเปล ข้าวนั่งข้างๆ คอยส่งเครื่องมือให้ผิดๆ ถูกๆ

เจ้าหญิงมีครอบครัวกับผม อีกไม่นาน องครักษ์ตัวน้อยๆ ของผมก็จะออกมาดูโลก คอยปกป้องแม่ไม่ให้มีริ้นไรตอม

ผมจูบแก้มเขาอย่างมีความสุข

เราคุยกันซ้ำไปซ้ำมา ทะเลาะกันเรื่องชื่อลูกแล้วก็หัวเราะเสียงดัง ผมจูบแก้มเจ้าหญิงจนแดงปลั่งน่ารัก ข้าวช่วยขันน็อตให้ ผมตอกตะปู

เราอิงแอบกัน จับมือกัน จูบแก้มกัน... ความรู้สึกนั้นมากกว่าคู่รัก

ถึงจะรู้และมั่นใจว่าผมจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต แต่ทารกในท้องเจ้าหญิงก็เติมเต็มความรู้สึกของเรา ว่าพวกเราไม่ได้แค่จะรักกันไปจนสิ้นลมหายใจ แต่เราคือครอบครัว ครอบครัวที่มีเจ้าหญิง มีผมและมีองครักษ์ตัวน้อย

ถึงจะใช้เวลานานกว่าปกติ ในที่สุด เปลเด็กสุดหรูก็ประกอบเสร็จ

ผมโอบเอวข้าวมองดูของลูกชิ้นแรกของเรา

"รู้สึก... เป็นครอบครัวขึ้นมาเลย" 

"จริงด้วย..."

"รู้สึก... เป็นแม่"

"ผมก็เป็นแด๊ดดี้จริงๆ จังๆ แล้วสิ"

เราหัวเราะให้กัน ผมจูบเขาอีกครั้งและอีกครั้ง อุ้มเขาขึ้นเพื่อจูบหน้าท้องน้อยๆ "มามิ๊ก็น่ารัก ลูกต้องน่ารักแน่ๆ เลย"

"ฮื้ออ ถ้าลูกหน้าเหมือนฉันก็น่าสงสารจะตาย ให้เหมือนเธอดีกว่า"

ผมไม่เถียงเขา เพราะรู้ดีว่าเถียงไปก็แพ้เลยวางเขาลง และจูงมือออกจากห้องเด็ก

"งั้นเรามาทำน้องให้ลูกกันเถอะครับ"

"ดะ... เดี๋ยว! ลูกยังไม่ทันคลอดเลยนะ" เจ้าหญิงหน้าแดงแจ๋ ผมยิ้ม

"เดี๋ยวไม่ทันใช้นะครับเจ้าหญิง..."

........

คืนนั้นผมเต็มอิ่มกับเซ็กส์ ข้าวเรียกมันว่า 'ร่วมรัก' แต่สำหรับผม 'เซ็กส์' หรือ 'ร่วมรัก' ก็คือสิ่งเดียวกัน เราจูบ หัวเราะ ถ่ายทอดความรักเชื่องช้า ทุกสัมผัสมีความหมาย ไม่ใช่แค่ปลุกเร้าอารมณ์ แต่หมายถึงบอกรักให้อีกฝ่ายรับรู้ เจ้าหญิงชอบให้ผมสัมผัส เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากยักยิ้มสวยชวนให้จุมพิต

ไม่ว่าจะเส้นผม แก้ม จมูก ขนตา หน้าท้อง ต้นขา ช่องทาง... ทุกส่วนของร่ายกายเจ้าหญิงต่างเป็นของผมทั้งหมด รสชาติหวานหรือกลิ่นหอมๆ นี่ก็ด้วย ผมขบริมฝีปากเขาเบาๆ

"รักนะ" เสียงนี้ก็เป็นของผม

"รักที่สุดเลยครับ" ผมจุมพิตปากนุ่มนั้น

ลูกในท้องของเราจะเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุด จากพ่อแม่ที่รักกันที่สุด

ผมโอบกอดเขาในอ้อมแขน... คืนนี้ ข้าวจะไม่ฝันร้าย ความรักที่ผมมอบให้ จะวาดทับลงบนประสบการณ์อันเลวร้าย เพียงมีผมอยู่ ไม่ว่าจะในฝันหรือความเป็นจริง ผมก็จะติดตามไปปกป้องเจ้าหญิงเอง

เจ้าหญิงของผมตัวชื้นเหงื่อ แต่หลับสนิท ผมฝืนตัวเองไม่ให้หลับตาลงเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ฝันร้าย

เจ้าหญิงครับ... เจ้าหญิงของผม

ผมรักคุณ


.......

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 02-10-2016 03:27:49
ผมดื่มกาแฟที่ทีนาชงอย่างมีความสุข จอคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นหลายช่อง แต่ละช่องมีภาพแต่ละห้องในบ้านผมอยู่

ตอนนี้บ่ายกว่าแล้ว เจ้าหญิงเพิ่งละเลียดกินข้าวเที่ยงเสร็จ กิริยาน่ารักในจอทำให้ผมอยากพุ่งตัวกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้

ผมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านตัวเองทุกๆ ห้อง ไม่เว้นกระทั่งในห้องน้ำ แม้กระทั่งเจ้าหญิงจะขับถ่ายผมก็อยากดูทุกวินาที

ไอเดียสุดบรรเจิดนี้ได้มาตอนที่เราเต้นรำด้วยกัน เศษคุกกี้ติดเสื้อข้าวเหมือนเด็กๆ ผมแอบขัน อยากเห็นคนตัวเล็กๆ ที่แอบกินคุกกี้ขึ้นมาจึงหาทางที่จะจับตาดูภรรยาทุกฝีก้าว

ผมนั่งดูในจอ เมื่อตอนเช้าหลังจากที่ผมมาทำงาน กลอเรียเข้ามาทำงาน พร้อมกับดอกส้มที่ผิดฤดูไปหน่อย แต่มีความหมายดีในกระเช้า ข้าวดีใจมาก ท่าทางกระโดดโลดเต้นทำให้ผมชักห่วงลูกในท้อง แต่เขาก็ดูมีความสุขดี ผมเริ่มชักสีหน้าเมื่อเจ้าหญิงเริ่มเกาะหนึบกลอเรีย หลังจากจูบแก้มทักทายกันแล้ว ข้าวก็ยื่นกล่องคุกกี้หอมกรุ่นให้ ท่าทางกลอเรียยินดี เสียดายที่ไม่ได้ยินเสียง แต่ภรรยาผมและแม่บ้านก็คุยกันอย่างออกรส

ดูเหมือนข้าวจะไม่รู้ความหมายของดอกไม้ที่ผมส่งไปตามเคย... เอาเถอะ เขาดีใจก็ดีแล้ว ดูเหมือนเจ้าหญิงจะสนใจผลส้มกลมๆ มากกว่า ผมดูเขานอนเอกขเนกปอกเปลือกส้มกินอย่างเอร็ดอร่อยอย่างเพลิดเพลิน จนทีนาส่งเสียงร้องเตือนจึงกลับไปทำงาน

ช่วงบ่ายพอมีเวลาจึงกลับมาเปิดดูอีกครั้ง ตอนนี้ข้าวเอาจานอาหารไปไว้ในเครื่องล้างจาน และเดินไปนั่งที่โต๊ะ

ผมเห็นชีวิตประจำวันแล้วยิ้มกว้าง

นอกจากจะได้เห็นชีวิตเขาแล้ว ผมยังแน่ใจได้ว่าเจ้าหญิงของผมจะไม่นอกใจ ไม่มีริ้นไรไต่ตอม บางทีอาจทำให้ข้าวยอมสารภาพเรื่องที่เขาฝันร้ายได้ง่ายขึ้น

ผมพยายามหาเหตุผลให้ตัวเอง ถึงจะรู้ว่านี่มันไม่ปกติก็ตาม

แต่ถ้า... ระหว่างที่ผมไม่อยู่ ข้าวมีคนอื่นขึ้นมา ผมคงแย่

ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเขา แต่หวงเกินไป ห่วงเกินไป ความรักของผมมันหนักหน่วงจนข้าวรับไม่ไหว

ข้าวนั่งขัดเพชรอยู่ที่โต๊ะ มีลำโพงอยู่ข้างๆ อยากรู้จังว่ากำลังฟังอะไร เพลงเด็กหรือเปล่านะ

"อะแฮ่ม" เสียงกระแอมจากปากประตูทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นจากจอ ชายร่างเตี้ย หัวล้าน ลงพุงยืนอยู่ไกลๆ ผมถอนหายใจ

"อดัม" หน้าตาเพื่อนสนิทไม่ได้น่ารักสักครึ่งของเจ้าหญิงเลย ผมจำใจถาม

"มีอะไร ?"

"ไม่สวัสดีเลยนะ" อดัมค่อนแคะ ก่อนจะวางแฟ้มลงบนโต๊ะ "อันนี้สรุปรายงานจากการเปลี่ยน  supplier"

"อืม" ผมรับมา อดัมทำงานเก่ง เป็นทั้งเลขาทั้งคนตามงานให้ "ขอบใจ"

"แล้วดูอะไร ?"

"ไม่มีอะไร" ผมรีบล็อกเอาต์ออกจากระบบ อดัมลากเก้าอี้มานั่งรอผมอ่านรายงาน ผมเห็นเขาจึงนึกขึ้นได้

เห็นเป็นแฟมิลีแมนแบบนี้ ก่อนที่จะมีลูกสาวฝาแฝด อดัมเคยนอกใจแอนนา ภรรยาครั้งหนึ่ง โชคดีที่แอนนาให้อภัย ทั้งคู่จึงกลับมาเป็นครอบครัวได้อีกครั้ง ตอนนี้อดัมทั้งรักทั้งหลงลูกสาวทั้งสองมากจนไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งเคยนอกใจภรรยา

"นายว่า คนเราปิดบังคนรักเรื่องอะไร ?" ผมถามทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าข้าวปิดบังอะไรผม

อดัมตกใจ "นายจะบอกว่านายจะนอกใจข้าว ?"

ผมแยกเขี้ยว "ตลกล่ะ"

"หรือข้าวจะนอกใจนาย ?"

ผมฟังแล้วสะอึก ข้าวไม่ได้นอกใจผม ถึงจะมีเรื่องให้ชวนเข้าใจผิดก็เถอะ "ไม่ใช่ แค่อยากรู้"

"อ้อ ถ้านอกจากเรื่องนอกใจแล้วล่ะก็ คงเป็นเรื่องเงินมั้ง ?"

"เงิน ?" ข้าวไม่ใช่คนสุรุ่ยสุร่าย ไม่ชอบใช้จ่ายอะไรไร้สาระ ข้าวของที่มีผมก็เป็นคนซื้อให้ทั้งนั้น "ไม่ใช่"

"ข้าวมีเรื่องปิดบังหรือไง ?"

"อืม ก็ทำนองนั้น" ฝันร้ายของเจ้าหญิง... ถึงจะรู้ว่าเขาฝันถึงผมก็ตาม แต่ผมก็ยังอยากได้ยินจากปากเขามากกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงต้องปิดบัง จึงต้องถามคนที่เคยมีประสบการณ์ชีวิตคู่อย่างอดัม

"งั้นเหรอ" โชคดีที่อดัมไม่ใช่คนช่างสงสัย หากเป็นเจนน่าคงซักจนสะอาด "คงเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายล่ะมั้ง เลยคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น"

ผมวางปากกาลง ทำร้ายจิตใจ ? ฝันร้ายจนทรมานเพราะผม แต่ก็ยังไม่ยอมพูดออกมา เพียงเพราะกลัวว่าจะทำร้ายผม ?

บ้าเอ๊ย...

ผมกำหมัดแน่น

รู้อยู่ว่าภรรยารักผมมาก แต่ไม่คิดว่ารักมากขนาดนี้...

รัก รัก... รักจนน่ากลัวว่าหัวใจแบกรับไว้ไม่ไหว

"ทั้งๆ ที่.... มันก็ทำร้ายตัวเองด้วยเหมือนกันน่ะนะ ?"

"บางทีคนเราก็ยอมให้ตัวเองเจ็บปวด มากกว่ายอมให้คนรักเจ็บนะ" ดวงตาเล็กหยีสีเขียวของอดัมมองดูผมราวกับมองตัวเองในอดีต

"ทำไม ?"

"เพราะรักไงล่ะ" เขาถอนหายใจ "ถ้านายกำลังจะนอกใจข้าว ขอบอกเลยว่านายกำลังทำผิดมหันต์ ข้าวรักนายมาก คนดีๆ แบบนั้นหาไม่ได้อีกแล้วนะ"

"ฉันไม่ได้นอกใจ" ผมส่ายหน้า เปิดเอกสารหน้าถัดไป "ไม่มีวัน"

"ถ้านายว่างั้น" เขายักไหล่ "ว่าแต่ พวกเพื่อนๆ ไม่ได้เจอนายมาสองปีแล้วนะ ไม่คิดจะแวะไปทักทายหน่อยเหรอ ? พาข้าวไปก็ได้"

ผมเคาะปากกา "ไม่"

"ทำไมล่ะ พวกนั้นโตๆ กันแล้ว ไม่ได้ดื่มกันยันเช้าเสียหน่อย"

"ไม่" ผมย้ำคำเดิม วงกลมจุดที่สงสัยแล้วปิดแฟ้ม "ตัวเลขยังสูงไป บอกเจนน่าแบบนี้นะ"

"หล่อนมาทึ้งอกนายแหง ว่าแต่ทำไมไม่ไปเจอเพื่อนล่ะ ?"

ผมถอนหายใจ ล็อกอินเข้าไปดูกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ข้าวกอดตุ๊กตาช้างน้อยหลับสนิทบนโซฟาตัวกว้างเหมือนเจ้าหญิงนิทรา น่ารักน่าใคร่

"ฉันไม่อยากให้ข้าวรู้จักตัวฉันในอดีต"

"เลยตัดขาดจากเพื่อนเก่าน่ะเหรอ ?" เสียงอดัมแย้งอย่างไม่เห็นด้วย "นายจะปิดไปได้อีกสักเท่าไหร่กัน"

"ฉันไม่สน แต่ข้าวจะต้องไม่รู้ว่าฉันเคยทำอะไรไว้" เจ้าหญิงขยับตัว ท่าทางสบาย ไม่เหมือนคนฝันร้าย

"เอาเถอะ" อดัมรับแฟ้มไปแล้วยักไหล่ "งั้นฉันไปล่ะ ไว้รบกับเจนน่าเรื่องตัวเลขเองละกัน"

ชายร่างเตี้ยออกจากห้องไป ผมแตะที่หน้าจอคอมเบาๆ ราวกับจะสัมผัสคนในนั้น

เจ้าหญิงครับ... เจ้าหญิงของผม

ผมจะไม่ให้อะไรมาแผ้วพานคุณเป็นอันขาด...

....

วันนี้ผมเลิกงานเร็ว เพราะร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้บ้านเราจะปิดตอนห้าโมง ผมจูบแก้มข้าวที่มานั่งรอที่ล็อบบี้แล้วดุเขา

"ทำไมไม่รอบนห้อง"

ข้าวทำปากยื่น สวมโค้ทเรียบร้อย ผมเสียดายที่นิวยอร์กไม่นิยมเสื้อผ้าสีสันสดใส เจ้าหญิงจึงต้องสวมเสื้อผ้าสีทึมๆ

"ถ้ามีใครทำอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ?" ถึงการรักษาความปลอดภัยในตึกนี้จะยอดเยี่ยมก็เถอะ ทุกคนในตึกรู้ดีว่าผมหวงข้าวมากแค่ไหน

"ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันได้ดื่มน้ำส้มฟรีด้วยล่ะ" ข้าวยิ้มหวาน อวดแก้วน้ำส้มที่นำมาเสิร์ฟอย่างมีความสุข

ผมถอนหายใจ ตรวจเช็คดูร่างเล็กว่าไม่มีอะไรบุบสลายแล้วจูงมือเขาออกจากตึก

"อยากไปเดินเล่นจัง" ลมหนาวพัดกรู การจราจรบนถนนยังคับคั่ง ผู้คนเดินผ่านทางเท้าขวักไขว่ ด้านตรงข้ามตึกคือเซ็นทรัล ปาร์คและมีแผงขายของเล็กๆ น้อยๆ จำพวกรูปวาด

"ไม่มีเวลาแล้วครับ"

"กลับมาไปเดินเล่นหน่อยดีไหม ?"

ช่วงนี้มืดเร็ว เช็นทรัล ปาร์คยังไม่ปิดหรอก แต่ผมไม่อนุญาตเด็ดขาด "ไม่ได้ ถ้ามีคนมาทำอะไรเจ้าหญิงจะทำยังไง ?"

ข้าวถอนหายใจ เดินจับมือผมไปยังที่จอดรถ "ฉันก็มีเธอไงแม๊กซ์"

คำพูดของข้าวทำให้ร่างกายผมอบอุ่น ผมถอดผ้าพันคอให้คนตัวเล็ก ถึงจะยังไม่เข้าหน้าหนาวแต่ก็ผมก็ให้เขาสวมเสื้อผ้าปุกปุยแล้ว ผมไม่เสี่ยงให้ภรรยาท้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด

"วันนี้คุณทำอะไรบ้าง ?" ผมเปิดประตูให้ข้าว แล้วอ้อมมาสตาร์ทรถ เปิดฮีธเตอร์ให้อบอุ่น

ข้าวยิ้ม ดึงผ้าพันคอลง "ขัดเพชร กิน แล้วก็นอน... ดูละคร โทรกลับบ้าน ลุกขึ้นมากินอีก แล้วก็นอน"

ผมยิ้ม เหมือนที่เห็นในกล้องวงจรปิด ข้าวไม่ได้โกหกแม้แต่น้อย ขาเล็กๆ ในบู๊ตเตะเล่น "แล้วก็ วันนี้ใส่สร้อยข้อมือที่เธอให้มาด้วยล่ะ" เขายื่นแขนออกมาอวด ผมจูบข้อมือบางแล้วยิ้มให้

สร้อยข้อมือทำจากทองคำขาว สั่งทำพิเศษ ประดับด้วยจี้เล็กๆ รูปส้มและดอกส้มทำจากเพชร ด้านในเป็นกระพรวนเล็กๆ ส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งดูเข้ากับข้าวดี

"ที่ไทยเราใส่กระพรวนที่ข้อเท้าทารกด้วยล่ะ พอเธอใส่แบบนี้ให้ฉันเลยเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลย"

ผมหัวเราะ "ข้าวน่ารัก" น่ารักเหมือนเด็กน้อย... ที่ผมใส่กระพรวนให้เขาก็เพราะอยากได้ยินเสียงกรุ๋งกริ๋งนี่แหละ

จะว่าไปสร้อยข้อเท้าก็เข้าท่า ผมสั่งทำสร้อยข้อเท้าให้เขาใส่ติดตัวไว้ดีกว่า

ผมจดลิสต์เครื่องประดับของเดือนหน้าไว้ในใจ

ผมออกแบบเครื่องประดับไว้ให้ข้าวเยอะมาก นึกขำตัวเองว่าเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่สนใจของเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้กลับมาออกแบบได้ เพราะข้าวแท้ๆ ผมอยากให้เขาสวมเสื้อผ้าที่ผมซื้อให้ ใส่เครื่องประดับที่แสดงความเป็นเจ้าของจากการออกแบบของผม แค่เพชรยังไม่พอ อัญมณีสูงค่าชิ้นไหนก็เทียบเขาไม่ได้เลย ข้าวมีคุณค่ามากกว่านั้น สูงค่ายิ่งกว่าสิ่งใดบนโลก

"แล้วจะซื้ออะไรเหรอ ?" ข้าวตื่นเต้นที่ได้ออกจากบ้านบ้าง เหมือนเจ้าหญิงบนหอคอยงาช้างที่ไม่ค่อยเห็นโลกภายนอก ไร้เดียง บริสุทธิ์

...และเป็นของผมคนเดียว

"ลองดูเก้าอี้โยกดีไหมครับ ? ผมอ่านมาว่าคนท้องนั่งเก้าอี้โยกจะช่วยให้ทารกมีพัฒนาการ"

"พัฒนาการอะไร ?"

ผมหัวเราะ "ผมจำไม่ได้แล้ว แต่เอาเป็นว่าดี"

"เก้าอี้โยก... อย่างกับยายแก่แน่ะ" บ่นทั้งๆ ที่หน้าระรื่น เจ้าหญิงเอาหน้าแนบกระจกรถเหมือนเด็ก ดูกลุ่มนักท่องเที่ยวอย่างสนใจ บ่นหงุงหงิง "จะมีคนไทยเดินอยู่ข้างนอกนั่นไหมน้า..."

ข้อมือผมเกร็ง คงไม่ใช่ว่า...

...ข้าวคิดถึงบ้านอีกแล้วนะ ?

ทุกวันนี้ผมยอมให้เขาไปเที่ยวหาพิชสัปดาห์ละครั้งที่ควีนส์ ไปที่ร้านบ้าง ที่บ้านบ้าง ผมคิดว่าเท่านั้นน่าจะพอแล้ว แต่ข้าวกลับยังคงเหงา... ดูจากเบอร์ที่โทรกลับบ้านนั่นก็ได้

ผมเช็คเบอร์โทรจากใบเสร็จของข้าวทุกเดือน ถึงเขาจะหวงโทรศัพท์เพราะมีเกมเล่นค้างไว้เยอะจนไม่ยอมให้ดูก็เถอะ ผมก็ยังเช็คว่าเขาโทรออกไปไหนได้อยู่ดี

ข้าวโทรหาไม่กี่คนบนโลก กลอเรีย พิช ที่บ้าน พ่อแม่ น้องชาย น้องสะใภ้ ญาติๆ เท่านั้น

ผมจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งเขาไป ไม่ว่าวิธีไหนก็ตาม เพราะต้องการเช็คมือถือจึงต้องทำตัวเป็นเด็กดี แล้วตะล่อมขอเขาเอา หากบังคับแย่งข้าวคงได้ร้องไห้อีกแน่ๆ

ตอนนี้ข้าวอารมณ์ดี คุยว่าคุกกี้ที่ทำให้กลอเรียอร่อยอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วปิดท้ายด้วยเสียงอ่อยๆ "แต่ฉัน... แอบกินไปครึ่งถาดล่ะ"

ผมหัวเราะ ดึงแก้มนุ่มเบาๆ "กี่ชิ้นล่ะครับ ? ไหนว่าลูกไม่ได้ใช้ ?"

หน้าสวยเบะลง "ก็... ก็... มันอร่อยนี่นา"

"กินไปเถอะครับ"

"ไม่ดุนะ ?" เห็นผมเป็นอะไรล่ะนี่

"ไม่ดุครับ ข้าวจะอ้วน จะผอม ผมก็รัก"

ภรรยากลับหน้าซีด "ไม่เอาอ้วนนะ! ถ้าอ้วนแล้วเตี้ย ไม่สวยเลย... ไม่เอานะ!"

"เจ้าหญิงสวยเสมอ ไม่ต้องวิตกหรอกครับ"

"ไม่เอา" เจ้าหญิงคราง ส่ายหน้าหวือ "เธอต้องทิ้งฉันไปแน่ๆ"

ข้าวคิดมากตลอด คิดว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับผม ทั้งๆ ที่จริงแล้วผมต่างหากที่ไม่คู่ควรกับความรักของเขา

ผมอยากจูบเขา ติดที่มือยังอยู่ที่พวงมาลัยนี่สิ

"ผมไม่มีวันทิ้งคุณหรอก... ผมรักคุณ 'โผมรักโคน'" ผมพยายามพูดภาษาไทยให้หวานซึ้ง แต่เจ้าหญิงกลับหัวเราะ

"ไปฝึกพูดมาอีกรอบเหรอ ?" สมัยที่จีบเขาใหม่ๆ ผมเคยพยายามเรียนภาษาไทย แต่พอพูดว่า 'คุณซวยมาก' ข้าวก็หัวเราะลั่น โบกมือให้พูดภาษาอังกฤษดีกว่า

ผมกระแอม ยอมรับ "ครับ"

"ดีจัง" มือเล็กกุมมือผมเหนือกระปุกเกียร์ "ขอบคุณนะ ถึงฉันจะอ้วนฉุก็รักใช่ไหม ? ถึงจะหนักเป็นร้อยโลก็รักใช่ไหม ?"

ผมคำนวนหน่วยกิโลกรัมเป็นปอนด์... 220 ปอนด์เลยเหรอ

แต่เมื่อเห็นริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้าง ก็พยักหน้า "ครับ"

ต่อให้พุงหลามจนติดพื้น ต่อให้อ้วนจนเดินไม่ได้ ผมก็จะอุ้มคุณไปเอง ต่อให้เข้าห้องน้ำไม่ได้ ผมก็จะให้คุณขับถ่ายตรงนั้น ทำความสะอาดอวัยวะทุกส่วนให้เอง

บางที... อาจจะดีก็ได้... เจ้าหญิงจะได้ไม่ไปไหน ขยับตัวไม่ได้ เป็นของผมคนเดียว พึ่งพาแต่ผมคนเดียว

"จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม่ใช่เหรอ ร้านอยู่ตรงนั้นนะ" ข้าวปลุกผมจากภวังค์ ผมรีบหาที่จอด ใกล้ๆ กันมีร้านขายเครื่องเขียนด้วย ผมต้องตะครุบคนตัวเล็กไว้ก่อนที่จะหายไปกับฝูงชน

ร้านเฟอร์นิเจอร์ใกล้ปิดแล้ว แต่เพราะทีนาโทรมาแจ้งล่วงหน้าจึงยังเปิดรอพวกเรา เจ้าหญิงจึงใช้เวลาเดินเลือกช้าๆ ตามสบาย

ในที่สุดข้าวก็เลือกเก้าอี้โยกทำจากไม้ บุนวมตัวใหญ่ได้ ผมยื่นการ์ดให้แล้วเลือกหมอนอิงเพิ่มอีกสามสี่ใบ จ่ายไปก็ต้องคอยห้ามไม่ให้เขาดูป้ายราคาไป เพราะกลัวว่าเห็นราคาแล้วข้าวจะรีบกลับบ้าน ไม่ยอมซื้อของแม้แต่ชิ้นเดียว

หลังจากเซ็นรับแล้ว ทางร้านบอกว่าพรุ่งนี้จะมาส่งที่บ้าน ผมจึงส่งข้อความบอกกลอเรียให้รอรับ ส่วนตัวเองพาภรรยาไปกินดินเนอร์ที่ร้านใกล้ๆ

หลังมื้ออาหาร ผมยังมีของเซอร์ไพรซ์รอข้าวอยู่ที่บ้าน

ทันทีที่เปิดประตูกลิ่นหอมสดชื่นของส้มก็โชยมา ข้าวอ้าปากค้าง เงยหน้ามองผม "มีเซอร์ไพรซ์เหรอ ?"

ท่าทางเขาเหมือนเด็ก ตื่นเต้นเป็นเด็กน้อย

ผมพยักหน้า "ครับ กลิ่นดอกส้ม"

ข้าวเดินไปรอบๆ ห้อง เครื่องประดับตกแต่งเป็นเถามะกอกและดอกส้มเล็กๆ กระจุ๋มกระจิ๋มปักในแจกันแทนดอกกุหลาบสีแดงก้านตรง

"น่ารักจัง" ข้าวดอมดมดอกไม้สีขาวที่รวบเป็นช่อ ผมเดินตามมาช่วยเขาเก็บโค้ต

"ลองไปดูในครัวสิครับ"

ข้าวแทบถลาไป เหมือนเด็กในเช้าวันคริสมาสต์ เท้าเล็กๆ ซอยถี่แล้วร้องโอ้โหดังๆ

"ว้าว แม๊กซ์!"

ผมเดินตามเข้าไปในครัว บนเคาเตอร์มีกองผลไม้เขตร้อนวางจนเต็มจนเหมือนยกทั้งสวนมาอยู่ในบ้าน

ผมยิ้ม "ชอบไหมครับ ?"

กลิ่นหอมๆ สดชื่นก็มาจากดอกส้มและผลไม้รสเปรี้ยว ผมโอบกอดเขาจากด้านหลัง "เป็นไงครับ ? คุณบ่นว่าอยากกินของเปรี้ยวๆ ผมเลยไปหามาให้" เรียกว่าทีนาต่างหากที่เป็นคนรวบรวมมาตามคำสั่ง

ซุปเปอร์ทั้งหมดในนิวยอร์กถูกสั่งให้คัดผลไม้สดจากไทย จีน เวียดนาม อินโดนีเซียและมาเลเซีย ลำบากทีนาทีเดียว หล่อนกลอกตาเป็นรูปอินฟินิตี้ทั้งหมดสามสิบหกครั้ง แต่ก็หามาจนได้

ส้มเกลี้ยง ส้มโอ มะม่วง สับปะรด สตอร์เบอร์รีอมเปรี้ยว มะกอกดองแบบไทย กีวี มะเฟือง เสาวรส ผลไม้แปลกๆ สีเขียวๆ ที่ข้าวรีบโผเข้าไปหาแล้วหยิบขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

"ตะลิงปลิง! หามาได้ไงเนี่ย ขนาดที่ไทยยังหากินยากเลย"

ผมไม่เคยเห็นหรอก แต่ก็พยักหน้ารับ เขี่ยแก้มใสเบาๆ "ชอบไหมครับ มามิ๊ ?"

เจ้าหญิงวางผลไม้แปลกหน้า ชื่อแปลกลงแล้วหอมแก้มผมแรงๆ "ขอบคุณมากนะ ชอบมากเลย" เขาจัดแจงหยิบมีดปอกผลไม้มานั่งลง เลื่อนถาดมาไว้ข้างๆ

"ปอกแล้วนะ กินไหมแม๊กซ์ ?"

ผมส่ายหน้า แค่เห็นก็เข็ดฟันแล้ว ผมรีบชี้ชวนให้เขาดูที่กลางกองผลไม้ "ดูดีๆ สิครับ"

ข้าวแทบไม่สนใจที่ผมชี้ ใจอยู่ที่ผลไม้เปรี้ยวจัดเหล่านั้น มือบางรื้อมะม่วงดิบออกแล้วร้องโอ้โหอีกครั้ง

...เพชรสีเหลืองราคาแพงจัดวางอย่างมีศิลป์อยู่ท่ามกลางกองส้ม เพชรเม็ดนี้ยังไม่ได้เข้าเรือนแต่เจียระไนเป็นทรงกลม อันหมายถึงความรักนิรันด์ ไม่มีที่สิ้นสุด ผมหวังว่าข้าวคงมีไอเดียเอาเพชรเม็ดนี้ทำเป็นเครื่องประดับสวยๆ เข้ากับผิวขาวๆ ของเขา

"สวยจัง เพทายเม็ดนี้" ข้าวหยิบเพชรที่เม็ดใหญ่เท่านิ้วโป้งขึ้นมาส่อง ผมหน้าบูด

"เพชรครับเจ้าหญิง ไม่ใช่เพทาย"

"อ้าว เหรอ ฉันดูไม่ออกหรอก คงแพงน่าดู" ข้าววางเพชรลงที่เคาเตอร์เบาๆ แล้วกลับมานั่ง ดึงถาดผลไม้สีเขียวเข้ามาใกล้ๆ ท่าทางน้ำลายสอ ชี้ที่ตู้เย็น "แม๊กซ์ เอาน้ำปลาหวานมาหน่อย"

"เดี๋ยว ข้าว แล้วเพชร..." ดูเหมือนเพชรสีเหลืองที่ผมไปประมูลมาอย่างยากเย็นจะมีค่าน้อยกว่าผลไม้เสียอีก ผมถอนหายใจ เอาเพชรเก็บใส่กล่องกำมะหยี่ ข้าวหัวเราะขำ

"อย่าน้อยใจเลยน่า ขอบคุณสำหรับเพชรนะ แต่สำหรับฉัน ไม่มีอะไรมีค่าเท่ากับความรัก ความใส่ใจที่เธอมีให้แล้วล่ะ" ข้าวตอบพลางหยิบผลไม้ ผมฟังแล้วถึงใจชื้น เขาจูบริมฝีปากผมเบาๆ เป็นการปลอบใจ ก่อนจะสั่ง "น้ำปลาหวานๆ หยิบให้ด้วย"

ผมถอนหายใจ "น้ำปลาหวาน ?" มีของแปลกอยู่ในตู้เย็นบ้านเราด้วยหรือนี่

"ซอสสีดำๆ ที่เธอว่าเหม็นน่ะ"

อ้อ ซอสข้นเหนียวสีดำกลิ่นเหม็นเหมือนของเน่านั่นเอง เห็นว่าพิชเอามาให้ขวดใหญ่ ผมหยิบจากตู้เย็นแล้วยื่นให้ ข้าวรับไปเหมือนลูกคนแรก ทะนุถนอมยิ่งกว่าเพชรสีเหลืองเสียอีก

เจ้าหญิงวางขวดซอสสีดำและผลไม้ลง หันกลับมามองผม "จะว่าไป... ดอกส้มหมายถึงอะไรเหรอ ?"

ผมอุ้มเขาขึ้นจากเก้าอี้ ไม่อยากให้สนใจซอสเหม็นๆ มากกว่าผมนัก ถ้าไม่สนใจเพชร อย่างน้อยก็สนใจผมหน่อยก็ยังดี "หมายถึง... รักตลอดกาล... กับมีลูกเต็มบ้าน หลานเต็มเมืองครับ"

ข้าวฟังแล้วหน้าแดง ผมจับแก้มนิ่มเล่น "แล้วก็หมายถึง การแต่งงาน... ครอบครัว"

เจ้าหญิงซุกหน้ากับอกผม งึมงำเสียงแผ่วๆ "ความหมายดีจัง..."

ผมยิ้ม "ผมรักคุณนะครับ"

"ฮื่อ... รักนะ"

"ผมรักมากกว่า"

"ฉันรักกว่า" ข้าวไม่ยอมแพ้ แต่จะทางไหนผมก็กำไรอยู่ดี คนในอ้อมแขนถึงเพิ่งรู้ตัว เงยหน้าขึ้นอวดแก้มกลมแดงก่ำ ริมฝีปากอิ่มขยับช้าๆ

"ถ้าอย่างนั้น..." มือน้อยจับคอเสื้อผมเบาๆ "สร้อยข้อมือก็หมายถึง..."

"เหมือนกันครับ ความรักของผม" ผมกุมมือน้อยมาจูบ ข้าวขบริมฝีปาก ท่าทางกลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม

ความรักอบอวลระหว่างเราสอง กลิ่นผลไม้เขตร้อนที่หอมกรุ่นนั้นยังหวานหอมสู้ความรักเราไม่ได้

ความรักที่ไม่ใช่เพียงของคนสองคน แต่หมายถึงครอบครัว ความรักที่มั่นคง เต็มไปด้วยความผูกพันธ์... ความรักของผม

ข้าวเปิดปากอีกครั้ง พูดด้วยเสียงแผ่วขาดห้วง เขินอายจนต้องซุกอกผมอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้น... แด๊ดดี๊เข้ามาทักทายลูกชาย... หน่อยนะครับ ?"

อา ต้องแบบนี้ ข้าวที่รัก... เจ้าหญิงน้อยของผม!

ผมอุ้มเขาไปที่โซฟา ที่ที่มีดอกส้มดอกเล็กๆ เบ่งบานล้อมรอบ ผมจูบเขาบางเบา ราวกับว่าเรากำลังร่วมรักกันอยู่ในสวนดอกไม้แสนหวาน ข้าวช่วยผมถอดเสื้อผ้าออก ในที่สุดคนตัวเล็กก็เปลือยกายล่อนจ้อน ผมดูร่างกายเล็กๆ สีขาวสะอาดเหมือนชื่อ กลิ่นกายหอมยั่วยวนไม่แพ้ดอกส้ม

เมื่อพรมจูบทั่วร่างแล้ว ผิวนวลก็ขึ้นสีชมพูระเรื่อ ราวกับดอกไม้บนหิมะแรกขาวสะอาด ข้าวขบบริเวณคอผมกลับ หน้าแดง เอามือปิดปากขณะบอก "ฉัน... ฉัน ไม่มีสร้อยให้เธอ แต่จะจูบให้เป็นรอยแทนนะ ?"

น่ารักอะไรอย่างนี้!

ที่รักครับ จะสร้อยหรืออะไรก็ไม่สำคัญทั้งนั้น คุณมีค่ากับผมมากกว่าสิ่งใด

ผมจูบหน้าท้อง จูบข้อมือ จูบคอ เสียงกรุ๋งกริ๋งของกระพรวนดังเบาๆ

เราจูบกันอีกครั้ง ผมเลื่อนมือหาเจลมาบีบใส่ช่องทางและอวัยวะตัวเอง ระหว่างนั้นก็ก้มลงจูบปลายหัวสีชมพู ใช้ปากครอบ กลิ่นส้มไม่อาจกลบกลิ่นหอมหวานได้เลย หว่างขาขาวขยับออก อวดส่วนกลางที่ยังอ่อนแออยู่

"หื้มมม ไม่ต้อง... เข้ามาเลย"

ข้าวยังไม่ค่อยมีอารมณ์ทางเพศเท่าใดนัก แต่ผมก็พยายามใช้ลิ้นปลุกเร้าเขา นิ้วชี้ค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในช่องทางคับแคบ นวดคลึงให้คลายออก ผมดูดกลืนท่อนลำเล็กน่ารักจนชุ่มน้ำลาย ขบกัดถุงกลมนิ่ม รูดขึ้นลงจนข้าวขยับขา ครางเบาๆ

เมื่อเริ่มแข็งตัว ผมก็ขยับนิ้วเบาๆ แล้วถอนออก ใบหน้าสวยราวกับเมาเหล้า มัวเมาในห้วงกามแสนหวาน ริมฝีปากอิ่มขยับอีกครั้ง เป็นคำที่ผมชอบ คำที่ทำให้ผมคลั่งใคล้

"ฉันรักเธอ..."

ผมบดจูบคำคำนั้น "ผมรักคุณ" กระซิบกับริมฝีปาก อยากให้เขาจำให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกังวลกับสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือฝันร้าย

ผมจะเป็นสามี เป็นอัศวิน เป็นองครักษ์ เป็นคนรักของเขา จะปกป้อง ดูแลทุกย่างก้าว ให้เจ้าหญิงของผมมีแต่ความสุขสบาย

ผมสอดใส่เชื่องช้า แม้ใจอยากกระแทกกระทั้น แต่ในท้องน้อยๆ นั้นมีองครักษ์ตัวเล็กอยู่จึงต้องทะนุถนอม ข้าวคราง บิดตัวเร่า

"อื้มม อ่อนโยนจัง"

"ชอบไหมครับ ?" เหงื่อเม็ดน้อยผุดพราย ข้าวยิ้มหวาน พยักหน้า

"กอดหน่อย"

ผมกอดเขาแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งตัก กระแทกเอวบางจากด้านล่าง สะโพกกลมส่ายร่อนต้อนรับท่อนลำอย่างยินดี ภายในร้อนผ่าวและเปียกชื้น โพรงร้อนตอดรัดผมจนคลั่ง ข้าวรู้ดี...

"อืมม แรงได้นะ..." ฟันขาวขบที่ไหล่ "เข้ามาอีก... ลูกอยากให้แด๊ดดิ๊รักแรงๆ เหมือนกัน"

เพื่อยืนยัน สองขาอ้ากว้าง เมื่อผมอัดกระแทกอย่างแรง ข้าวกรีดร้อง เล็บจิกแผ่นหลังอย่างสุขสม "อื้มม แรงอีก... อ้า อ๊าา อื้มม"

"ซี๊ดด แน่น..."

"เอาอีก... อึก!"

เราร่วมรักกันอย่างร้อนแรง ผมว่าลูกต้องตกใจแน่ๆ แต่ผมก็ไม่ลดแรงลง ข้าวเกร็งสะโพก ตาหวานลอยเคลิ้ม พ่นน้ำหวานออกมาแล้ว แต่ผมยังโหมกระหน่ำ จ้วงแทงไม่ลดละ ยกขาขาวข้างหนึ่งขึ้นสูงพาดไหล่ สอดประสานเป็นจังหวะเดียว เมื่อเหงื่อผมไหลรินลงบนหน้านวล ข้าวกลับแลบลิ้นเลียเหงื่อเม็ดนั้น สบตาด้วยสายตายั่วยวน

"ผมรักคุณ!"

"อ๊าา อ๊าา แรงอีก! ลึกก ใหญ่ ฮ้าาา" ข้าวสะบัดหน้า แอ่นเอวขึ้นสูง กางขารับการรุกราน รุนแรงจนโซฟาส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด

กลิ่นกามช่างหอมยั่วเย้ายิ่งกว่ากลิ่นผลไม้เขตร้อน...

...และตัวเขาก็ร้อนแรงยิ่งกว่าแสงอาทิตย์กลางคิมหันต์ฤดู

...

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 6 16/9/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 02-10-2016 03:28:18
ผมสวมโค้ตและผ้าพันคอให้ข้าว วันนี้เจ้าหญิงสวมเสื้อคอบัวมีกระดุมหน้า เสื้อผ้าแบบยูนิเซ็กส์เข้ากับเขาได้ดี ผ้าพันคอแคชเมียร์สีน้ำตาลลายบูเบอร์รีเข้ากับเสื้อโค้ตสีกากี น่ารักเหมือนเด็กน้อย

ผมพาเขาไปเดินเล่นที่เซ็นทรัล ปาร์ค มือน้อยเกาะกุมผมแนบสนิท แม้เซ็นทรัล ปาร์คจะอยู่ตรงข้ามกับตึกของเราแต่ผมก็ไม่ค่อยปล่อยให้เขาไปเดินเล่นนัก แต่ด็อกเตอร์โซฟีเน้นเรื่องสภาพจิตใจของข้าว อีกทั้งอากาศบริสุทธิ์จะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ผมจึงยอมจูงมือเขาเดินเล่น ข้าวหยุดเดินเป็นพักๆ ดูบรรดาของที่ระลึกและหนังสือมือสอง พอเดินไปได้สักพักก็สะกิดผมที่แผงวาดรูปเหมือนที่ตั้งอยู่ดาษดื่น ผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้นัก แต่ข้าวตื่นเต้นมาก ใช้เวลาแค่สิบนาทีเราก็ได้รูปวาดที่ไม่เหมือนสักเท่าไหร่มาให้ผมถือ เมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ผ่านบรรดาคนที่พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นและออกกำลัง ข้าวก็หน้าบูด บ่นว่า

"เหมือนฉันเป็นสัตว์เลี้ยงให้เธอพามาเดินเล่นเลย"

ผมหัวเราะ โอบเอวบาง "โธ่ เจ้าหญิง สัตว์เลี้ยงอะไรจะน่ารักขนาดนี้"

ข้าวยังคงทำปากยื่น แต่พอเห็นประตูสวนสัตว์ก็ตื่นเต้น ดึงชายเสื้อผมให้เข้าไปดู แต่น่าเสียดายที่วันนี้ปิดทำการ เราสองคนจึงเดินเล่นไปเรื่อยๆ พอหิวก็แวะซื้อฮอตด็อกกิน เจ้าหญิงประคองอาหารฟาสต์ฟู๊ดลงนั่งบนพื้นหญ้า มีกระรอกใจกล้ามาเล่นใกล้ๆ

เย็นแล้วก็จริง แต่ยังมีคนมาพักผ่อนเรื่อยๆ

ลมฤดูใบไม้ร่วงหนาวเย็น แต่พอเรานั่งเคียงข้างกันกลับรู้สึกอบอุ่น

ผมลูบไล้หน้าท้องเล็กๆ โดยไม่รู้ตัว เจ้าหญิงที่กินไส้กรอกเต็มปากยิ้มแต้ ปากเปื้อนมัสตาร์ดจนผมต้องช่วยเช็ดให้

"ลองคุยกับลูกสิ" เจ้าหญิงบอก เอามือตบหน้าท้องดังแปะ ผมลังเล ก่อนจะโน้มตัวลงกระซิบ

"ลูกจะเข้าใจเหรอ ?"

"ไม่รู้เหมือนกัน" ข้าวกินคำสุดท้ายแล้วพับกระดาษห่อฮอทด็อทของผมและของตัวเองเรียบร้อย เอาใส่กระเป๋าโค้ตเพื่อเอาไปทิ้งที่บ้าน "แต่ฉันว่าลูกเข้าใจนะ... เข้าใจว่าเรารักเขามากแค่ไหน"

ผมยิ้ม ก้มลงจูบหน้าท้องผ่านเสื้อผ้าหนาเตอะ

ลูกจะเกิดในฤดูหนาว... แต่จะมีความรักของพวกเราเป็นเครื่องป้องกันความหนาวเหน็บ ให้ความอบอุ่นแก่เขาไปตลอดชีวิต

ทั้งผมและข้าว จะกลายเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดในโลก รักลูกที่สุดในโลก

ผมบอกลูกที่อยู่ในครรภ์เบาๆ "เป็นเด็กดีกับมามิ๊นะครับ อัศวินน้อยของแด๊ด"

เจ้าหญิงหัวเราะ ลูบหน้าท้องสำทับ "นั่นสิ... อย่าดื้อ อย่าซนกับแด๊ดกับมิ๊นะ มิ๊ตัวเล็กนิดเดียว ถ้าลูกซนมิ๊ต้องเหนื่อยแย่แน่ๆ เลย"

"โตมาแล้วคอยปกป้องมิ๊ด้วยนะครับ... อัศวินของแด๊ด เจ้าหญิงของพวกเราสวยน่ารัก มีสเน่ห์สุดๆ จนใครๆ ก็อยากได้ ลูกต้องคอยดูแลเข้าใจไหม ?"

"ขนาดคุยกับลูกยังไม่วายหึงนะ" เจ้าหญิงตีแขนผมเบาๆ แล้วโน้มตัวลงมาหอมแก้มที่มีหนวดเครา แม้จะบ่นว่าสากระคาย แต่เจ้าหญิงก็ชอบจูบแก้มผมพอๆ กับที่ผมชอบจูบเขา

ผมจูบริมฝีปากอิ่มเป็นการตอบแทน

"ดีใจจัง"

"ฉันก็ดีใจ" เจ้าหญิงตอบแล้วหยิบมือถือมาถ่ายรูป เห็นว่าจะบันทึกไดอารีคุณแม่ ผมเองก็ตื่นเต้นไปด้วย ข้าวบอกว่าหากครบกำหนดเก้าเดือนเมื่อไหร่จะเอามาให้ผมอ่าน เผื่อลูกโตพอรู้เรื่องก็จะทำเป็นนิทานให้อ่านก่อนนอน

เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ผมสู้ข้าวไม่ได้ แต่ผมชอบไอเดียเขา เจ้าหญิงเริ่มทำสมุดบันทึกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนของร้านที่ใกล้ร้านเฟอร์นิเจอร์ ผมเห็นเขาง่วนตัดรูป ติดสติ๊กเกอร์และพับรูปสัตว์และดอกไม้ต่างๆ ติดสมุดเล่มใหญ่ บางหน้าผมได้รับเกียรติให้เขียนบันทึกด้วย

ผมรู้สึกว่า... ความรักของเราไม่ใช่แค่ของพวกเราอีกแต่ไป แต่เป็นความรักที่กว้างขึ้น อบอุ่นขึ้น เผื่อแผ่ไปยังลูกน้อย ความห่วงใย ความผูกพันธ์ถักทออย่างเป็นธรรมชาติและนุ่มนวลอบอุ่น ทว่าเงียบงัน

ความรักที่ไม่หวือหวา ฉูดฉาด หรือโรแมนติก

แต่เป็นความรักแบบนี้... แบบที่ผมโอบกอดเขาไว้ในยามที่เจ้าหญิงฝันร้าย

ความรักในแบบที่เขานั่งตักผมในเย็นวันที่อากาศหนาวในเซ็นทรัล ปาร์ค และเราฟังเสียงหัวใจกันและกัน บอกรัก ลูบไล้และพูดคุยกับอัศวินน้อยในท้อง

ผมกับข้าว... เรากลายเป็นครอบครัว

ครอบครัวของผมและเจ้าหญิง

ครอบครัวที่แสนสมบูรณ์แบบของพวกเรา


.............

// โรคจิตมากคุณพระะะะะะะะะะะะะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 02-10-2016 05:43:16
โอ๊ยยย
เบาหวานขึ้นตา


อิจฉานะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-10-2016 06:13:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 02-10-2016 07:40:39
ถึงโรคจิตแต่มความหวานมาก ชอบจ้า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-10-2016 10:00:21
 :hao4: เหมือนต่างคนต่างมีปมไงไม่รู้ ดูไม่ค่อยสุขเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-10-2016 10:43:35
มากมายจริงๆ คุณแม็ก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-10-2016 12:49:19
ความแม็กซ์มาเต็มมม
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 02-10-2016 13:35:08
ออกจิตๆ แต่ชอบอ่ะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 02-10-2016 17:37:46
โอยยย น้ำตาลขึ้นเจ้าข้าเอ้ยยย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 02-10-2016 18:58:01
มุ้งมิ้งๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 02-10-2016 19:22:55
ไม่รู้สึกว่ามันหวานเท่าไร คือมันผิดธรรมชาติมากๆอ่ะ พระเอกดูหมกมุ่นและน่ากลัวนิดๆ เขายึดมั่นถือมั่นมากจริงๆ แลดูเป็นคนไม่มีวุฒิภาวะสมตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าไร แต่ก็รออ่านนะ เผื่อมีอะไรเข้ามาเปลี่ยนหรือเกิดปมอะไรบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 02-10-2016 19:36:09
เริ่มกลัวใจแม็กซ์อ่ะ อย่าจิตเยอะนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 02-10-2016 21:18:46
จุใจมาก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-10-2016 21:30:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 02-10-2016 21:41:37
รักปานจะกลืนกิน  ต้องใช้คำนี้เลย  อดีตจะเป็นยังไงก็ไม่รู้  ขออย่าให้มีดราม่าหนัก ๆ นะคะ ยังสงสัยใครด่าข้าว 

รอค่ะ  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 02-10-2016 21:59:02
แม๊กดูน่ากลัวแต่ก็อบอุ่นดี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-10-2016 08:51:19
รักมากจนน่ากลัว~
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-10-2016 14:04:52
รอออๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Bangzazazall ที่ 09-10-2016 21:00:49
ข้าว เธอเป็นนายเอกที่ฉันอิจฉามากที่สุด เท่าที่เคยอ่านนิยายมากเลยนะย่ะ แม็กซ์นางดูหลงจนหัวปรักหัวปรัม จนฉันกลัว555555555 แต่ก็ยังชอบอ่ะ ._. อยากรู้อดีตของแม็กซ์แล้ว จะทำให้ข้าวเจ็บหรือเปล่านะ? แต่ฉันรู้ว่าหล่อนรักข้าวหล่อนจะไม่ยอมให้ข้าวต้องเจ็บแน่ๆ ฉันเชื่อ!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: goldentime ที่ 09-10-2016 21:18:59
เเม็กซ์นี้โรคจิตเต็มขั้นเลย 5555 อิจฉาข้าวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 16-10-2016 10:59:28
nc เยอะม๊ากกกกก! ไม่รู้จะหมั่นไส้ใครมากกว่ากันดี ข้าวก็ขี้อวด แต่แม๊กซ์ก็ใช่ย่อย
สรุปครอบครัวนี้น่าหมั่นไส้ค่าาาาา 5555
หวานกันจัง พระเอกเป็นนักเปย์ตัวยง อิจฉาน้องข้าวจริงๆ
อยากรู้อดีตของแม๊กซ์จังค่ะ เลวร้ายมากเลยหรอ? หรือยังไง?

 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-10-2016 20:52:07
8.

ผมนั่งอยู่บนรถขากลับจากฮอลล์เมโทรโพลิตัน การแสดงดนตรีสดคลาสสิค

จริงๆ แล้วผมกับแม๊กซ์ก็ไม่ใช่คอดนตรีคลาสสิคหรอก เขาชอบฟังก็จริงแต่ก็ไม่ใช่แฟนตัวยงอะไรทำนองนั้น แต่ครั้งนี้เขาจองตั๋วที่ดีที่สุดเพื่อให้ผมและลูกได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลง

คนไทยว่าไว้ อันชนใดไร้ดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนักก็คงจริง เพราะถึงแม้จะฟังไม่รู้เรื่อง แต่ดนตรีครั้งนี้ก็ไพเราะนุ่มนวล บางครั้งก็ตื่นเต้นเร้าใจ และบางครั้งก็แสนสนุก แสนซนเหมือนอยู่กลางป่าใหญ่

ผมอยากให้ลูกมีความสุข สัมผัสเสียงดนตรีหลากหลายแบบนี้ เข้าถึงอารมณ์แบบนี้ พวกเราจึงตัดสินใจจองตั๋วคอนเสิร์ตเพื่อฟังดนตรีสด

ครั้งนี้เราสวมชุดสุภาพเพื่อให้เกียรติสถานที่โรงโอปราห์อันหรูหรา ทุกหนทุกแห่งระยิบระยับด้วยทองคำและสีแดงเข้ม แม๊กซ์เตรียมชุดสำหรับผู้หญิงให้ผม ถึงจะตะขิดตะขวางใจ แต่กางเกงแสล็กที่มีอยู่ก็เริ่มคับแล้ว ในที่สุดก็ต้องยอมใส่ชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อน ปักลายดอกไม้ดูเข้ากับฤดูใบไม้ร่วง รองเท้าที่สวมเป็นรองเท้าส้นเตี้ยใส่สบาย แม๊กซ์สั่งตัดให้ผมโดยเฉพาะเพราะกลัวว่าผมจะโดนรองเท้ากัด รองเท้าสีขาวมุกเหลือบฟ้าประดับด้วยมุกแท้และอัญมณีเข้ากับชุดและชุดเครื่องประดับ ผมของผมยาวเคลียไหล่ แม๊กซ์ตื่นเต้นจนจ้างบรรดาสาวประเภทสองที่เป็นช่างทำผม ช่างแต่งหน้ามาช่วยบรรจงแต่ง เกล้าผมขึ้น ประดับด้วยเครื่องประดับมุกเป็นหลัก พวกเขาบอกว่าเข้ากับอิมเมจสดใส บริสุทธิ์และเป็นคุณแม่หมาดๆ ของผม

เพราะรู้ดีว่าจะฝืนไปก็เท่านั้น แม๊กซ์เล่นขนทีมงาน ชุดเดรส เครื่องประดับและข้าวของไว้เพียบแบบนี้ ผมก็น้ำท่วมปาก ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยอมแต่งหญิงจัดเต็มสักครั้งในชีวิต

จิอาโน หัวหน้าทีมช่างชาวอิตาลีกรีดร้องอย่างยินดีเมื่อเห็นผลงาน เขาไม่ยอมให้แม๊กซ์เข้ามาดูกรรมวิธีเปลี่ยนผู้ชายให้เป็นผู้หญิง เปลี่ยนเกย์ให้เป็นตุ๊ดสาว เมื่อทีมงานเรียกแม๊กซ์เข้ามา ผมถึงคิดว่ามันก็คุ้มเหมือนกันนะ ที่ยอมแต่งหญิงเนี่ย

เพราะหนุ่มหล่อสามีผมอ้าปากค้าง หน้าแดงจัด ตาเบิกโต ยื่นมือออกมาเงอะงะ ชมเสียงสั่น "สะ สวยจัง"

ผมยิ้มเขินอาย จิอาโนบอกว่ายิ่งทำให้แก้มผมแดงขึ้นไปอีก

แล้วเราก็ขอบคุณทีมงานและลงไปชั้นล่าง แม๊กซ์จองลิมูซีนไว้แล้ว เราไปนั่งอยู่ด้านหลัง ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่นั่งรถหรู แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแต่งหญิง ผมจับกระโปรงอย่างไม่มั่นใจ ถามเสียงสั่น

"ดูแปลกไหม ?"

แม๊กซ์ลูบหน้า เขาอยู่ในชุดสูทสามชิ้นและหูกระต่าย "สวยจนผมอยากเก็บคุณไว้คนเดียว"

ผมยิ้มตอบ บิดถุงมือในมือเล่น "จริงเหรอ ?"

"จริงที่สุด"

"แล้วเทียบกับปกติแล้ว ?" ผมอยากรู้ว่าเขาอยากให้ผมแต่งหญิงมากกว่าหรือเปล่า

"ผมชอบทั้งคู่นะ" เขาหัวเราะ เอื้อมมือมาคลึงมือผมเบาๆ ช่วยสวมถุงมือทั้งสองข้าง ปิดท้ายด้วยแหวนแต่งงาน "คุณที่อยู่ที่บ้านเป็นแม่ของลูกๆ แต่คุณที่แต่งตัวสวยเป็นภรรยา... ทั้งหมดน่ะเป็นของผม ผมชอบทั้งคู่เลย"

ผมยิ้ม จูบแก้มเขาตอบ

ผมก็รักเขาที่สวมสูทและสวมเสื้อยืดย้วยๆ อยู่บ้านเหมือนกัน

เราจะเป็นคู่รักที่มีความสุขที่สุดในโลก

แม๊กซ์ที่รัก เป็นของข้าวนะ เป็นของข้าวตลอดไป

....

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-10-2016 20:54:40
วันนี้เรามีนัดทำแอปเปิลดองกัน

จริงๆ แล้วผมพ้นไตรมาสแรกแล้วก็ไม่ค่อยแพ้ท้องเท่าไหร่ แต่แม๊กซ์ติดใจมะกอกดองที่ไม่สามารถทำให้ภรรยามีความสุขได้ เขาโทษตัวเองว่าทำให้ผมอาเจียน ทั้งๆ ที่จริงแล้ว รสชาติมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

แต่ถึงยังไง เขาก็ชวนผมไปซื้อแอปเปิลเขียวมาดองกับพิช ผู้เสนอตัวว่ารู้สูตรมาจากพันทิป จะทำแอปเปิลดองเมดอินนิวยอร์กกัน พิชรักเรื่องสนุกอยู่แล้ว มิน่าพวกเขาถึงคบกับผมได้นาน เพราะพวกผมน่ะยุ่งวุ่นวายสุดๆ พิชก็ชอบเรื่องวุ่นๆ ยิ่งคนเยอะ ยิ่งเรื่องเยอะ ยิ่งสนุก เขาถึงเสนอตัวว่าให้มาทำแอปเปิลดองกันที่บ้านเขา ปาป้าส่ายหน้าเบาๆ แต่ก็รู้นิสัยภรรยาดีเลยช่วยพิชเคลียร์พื้นที่

วันนี้ท้องฟ้าโปร่ง ปาป้าเอาร่มคันโตมากาง ป้าๆ พากันขอลาหยุด บ้าพลังสู้พิชไม่ไหว เลยมีแค่ผมกับแม๊กซ์ พิชกับปาป้าเท่านั้น

ผมให้แม๊กซ์หิ้วแอปเปิลเขียวอ่อนๆ จะได้กรุบกรอบมาสิบกิโล หลังจากแบ่งถวายพระไปสามกิโล ที่เหลือก็กะว่าจะดองแจก เผื่อพิชจะเอาใส่ถุงเล็กๆ เอาขายหน้าร้าน ผมจะได้เงินมากินขนมเล่นด้วย

แน่นอนว่าพิชเป็นคนต้นคิด ส่วนผมมีหน้าที่ทำ

ปาป้าเป็นสถาปนิกและเคยเป็นช่างไม้มาก่อนจึงใช้มีดคล่อง ส่วนสามีผม นอกจากเล่นกีฬาและทำงานแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นเลย ได้แต่หิ้วกล่องปฐมพยาบาลฉุกเฉินเหมือนผมกำลังเก็บกู้ระเบิดอย่างลุ้นระทึก

"ช่วยเอาไอ้กล่องนั่นไปจากหน้าฉันที" ผมบอก วางมีดอย่างเหลืออด แต่หน้าตาแม๊กซ์เหมือนผมไปทำภรรยาท้องเขาแท้ง

"แต่เจ้าหญิง...."

"เอาน่า เอาน่า" พิชมาช่วยไกล่เกลี่ยอย่างนึกสนุก ท่าทางคล่องแคล่ว "ข้าวใช้มีดเก่งจะตาย แล้วมีแม๊กซ์อยู่ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว จริงไหม ?"

เขาน่าจะไปเป็นครูอนุบาลนะ ผมว่าพิชต้องเป็นครูที่ดีแน่ๆ เลย เพราะแม๊กซ์ยอมวางกล่องลง แต่ยังจับจ้องผมและมีดอย่างไม่ไว้วางใจ

"เก่งมากที่รัก" ปาป้าก็ชมด้วย หอมแก้มภรรยาเบาๆ แต่พิชดุทั้งๆ ที่หน้ายิ้ม

"เดี๋ยวผีผลักหรอก ถือมีดอยู่"

"ผี ?" ฝรั่งหุ่นหมีพลิกมีดปอกผลไม้ในมือเล่น พิชยิ่งดุ ดูไม่รู้เลยว่าหัวโบราณ "อย่าเล่นมีด เค้าถือ"

"คนไทยถือเยอะจัง"

"จำไว้ด้วยนะ" ผมสอนเด็กอนุบาลของตัวเองไปด้วย "เพราะเป็นกุศโลบายคนสมัยก่อนน่ะ ถ้าเล่นตอนถือมีดจะเป็นอันตราย"

"แค่บอกตรงๆ ก็เข้าใจแล้วนี่" ยังมีเถียง มือแอบหยิบแอปเปิลที่คว้านใส้แล้วกิน ผมตีมือดังเพี๊ยะ "ซนจริง"

แม๊กซ์หัวเราะ

วันนั้นเป็นวันที่พวกเรามีความสุข ถึงปาป้าจะทำน้ำส้มสายชูหกไปหน่อย น่าจะเปรี้ยวพอตัวเลยล่ะ ผมกับพิชรีบโกยเกลือใส่ แล้วตักใส่โหลอย่างมีความสุข

"กิน 'แก่ๆ' ก็อร่อยดี แต่กรุบๆ ก็กรอบดีเนอะ" พิชเล่นมุก ยักคิ้วหลิ่วตาให้ ผมหน้าแดงรับ ตีแขนเขาเบาๆ

"บ้า!"

"คิก! ชอบล่ะสิ! กรุบๆ แบบนี้น่ะ เอากลับบ้านไป 'กิน' กันเลยนะ"

.........

ขากลับจากบ้านพิชผมบอกให้แม๊กซ์หยุดจอดที่เซเว่น มีพวกเด็กในรถมัสแตงนั่งดื่มเบียร์หน้าร้านแต่ไม่เกะกะอยู่ แม๊กซ์ทำท่าจะไม่หยุดแต่ผมตีแขนเขาเชิงบังคับ

"แม๊กซ์!"

แม๊กซ์เบ้หน้า "เจ้าหญิง! มันอันตราย!"

ถึงเด็กพวกนั้นนุ่งน้อยห่มน้อยในวันที่อากาศหนาวไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้เกะกะระรานอะไร นั่งดื่มกันไปคุยกันไปในลานจอดรถ ผมจึงส่ายหน้า "ทำเป็นพูดดี แต่ก่อนก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ?" ผมเดาจากหนังวัยรุ่นอเมริกัน

สีหน้าแม๊กซ์ซีดเผือก ทำให้รู้ว่าเดาถูก "แต่ผมเลิกแล้ว"

"อย่าเวอร์ไปหน่อยเลย ฉันลงไปซื้อของแป๊บเดียว เธอลงมาด้วยกันสิ" แม๊กซ์ยอมดับเครื่อง เดินลงมาด้วยกัน ในร้านมีเด็กผู้หญิงใส่เกาะอกสะบึ้มชม้อยตาใส่แม๊กซ์ แต่คนของผมเดินตามผมต้อยๆ เหมือนหมา ผมหัวเราะเบาๆ ชี้ที่เด็กคนนั้นแล้วพูด

"เนื้อหอมเหมือนกันนี่"

แม๊กซ์เป็นผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกัน ไม่รู้มองตามเพราะผมชี้หรือสนใจหน้าอกหน้าใจกันแน่แต่ผมก็รีบหยิบกล่องเล็กๆ รวมกับของอื่นๆ พอตอนคิดเงิน ผมก็ชี้ชวนเขาคุยเรื่องแผงหมากฝรั่งบนเคาเตอร์ จึงไม่มีโอกาสเห็นว่าผมซื้ออะไรมา

ผมว่าแม๊กซ์ต้องโมโหตอนแรก

แล้วชอบตอนท้าย

แหม.... ผมยังชอบเลย

พอเราออกมาจากเซเว่นอันอบอุ่นแล้ว เด็กผมบลอนด์ผิวแทนปลอมๆ ก็ชูขวดเบียร์ให้ผมพร้อมผิวปากแซว ผมหัวเราะ รีบควงแขนแม๊กซ์

แต่สามีผมดึงผมไปทางด้านหลัง ตีหน้ายักษ์ใส่เด็กคนนั้น ท่าทางเหมือนฆาตกรพร้อมฆ่าคนทุกเมื่อ มือเขาคลำไปยังกระเป๋ากางเกงยีนส์ด้านหลังด้วย...

อย่าบอกนะว่า...

"เธอพกปืน ?" ผมกระซิบเสียงเบา ถุงเซเว่นในมือเขาแกว่งชนหน้าขา แต่แม๊กซ์ส่ายหน้า

"แค่ขู่น่ะ เด็กเหลือขอพวกนี้ ของจริงอยู่ในรถ"

"..."

ผมพูดไม่ออก "ฉันไม่อยากมีสามีเป็นฆาตกร"

"โธ่ เจ้าหญิง แค่ขู่เฉยๆ" เขาเปิดประตูรถให้ รีบยัดผมเข้าไป "ไม่มีหรอก"

"เอาจริงๆ" เขาเป็นแบบนี้เสมอเวลาโกหก ผมตีหน้าเครียด กอดถุงพลาสติกในมือ แม๊กซ์จึงถอนหายใจ เลื่อนมาทางผม คลำใต้เบาะตัวเองไม่กี่ครั้งก็หยิบปืนสั้นขึ้นมาอย่างเชี่ยวชาญ...

ทีปอกแอปเปิลยังเงอะงะ ทีปืนผาหน้าไม้...

มือใหญ่ทำอะไรกับปืนไม่กี่กริ๊กก็ชูให้ดู ลูกปืนเปลือยอยู่ในมือ "เห็นไหม ไม่มีลูก"

ผมยอมเชื่อ ภาวนาอย่าให้เขาได้ใช้ปืนเลยก็แล้วกัน "มันอันตรายนะ"

"ครับ ไม่ต้องห่วง ผมเลิกนานแล้ว" เลิก ?

"อะไรนะ ?"

แม๊กซ์ถอยออกจากซอง "ก็ของพวกนั้นไง... เมาจนเช้า ยา ปืน ผู้หญิง..." เสียงเขาเหมือนกัดลิ้น แล้วยื่นมือมาปิดหูผมข้างหนึ่ง "ของไม่ดี อย่าให้ลูกฟังเลยครับ"

"เพิ่งรู้ว่าเธอ... เหมือนในหนังเลย" ผมพึมพำ จริงสินะ เจอเขาครั้งแรกก็ปาร์ตี้เซ็กส์ ถ้าไม่เฮ้วจริงๆ คนดีๆ มีหรือจะจัดปาร์ตี้แบบนี้

"ไม่มีแล้ว" เขายืนยัน "ไม่มีจริงๆ ผมรักคุณเจ้าหญิง ผมเป็นคนดีของคุณนะครับ"

เขาทำให้ผมกลัว... ในฝันที่เงียบงัน ที่ผมไม่เคยบอกเขา ในครั้งนั้น ประสบการณ์อันเลวร้ายยังฝังแน่นอยู่ในใจ ผมรู้ดีว่าแม๊กซ์รู้ แต่เขาได้แต่ปลอบโยน ไม่เคยถาม ไม่เคยทำให้ผมกลัวอีก

ผมรู้ดีว่าจะไม่เกิดเรื่องอย่างในฝันอีก

จะไม่มีอีกแล้วแน่ๆ

เขาจะไม่มีวันใช้ปืนนั้นกับผม

จะไม่มีวันข่มขืนผมอีก

พอคิดถึงเรื่องนี้ได้ ผมค่อยสบายใจ แหวนแต่งงานของเราส่องประกายในความมืด แทนคำบอกรัก แต่ผมยังอยากได้ยิน "แม๊กซ์... สัญญากับฉัน..."

"ผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณหรือลูก" เขาตอบทันที รู้ดีว่าผมคิดอะไร มือใหญ่หยาบกร้านกอบกุมมือผมไว้บนกระปุกเกียร์ แหวนแต่งงานเม็ดโตของเราทับซ้อนกัน ผมยิ้มให้กับภาพนั้นและแอบบันทึกภาพเงียบๆ "ไม่มีวัน..."

คำสัญญาทำให้ผมเบาใจ ปืน เหล้า ยา ผู้หญิง และความเลวร้ายในอดีตของเขา แม๊กซ์ซิมัสคนเดิมที่เคยใช้ชีวิตสิ้นเปลือง ปาร์ตี้หนัก ชอบเซ็กส์ ใช่.... ผู้ชายคนนั้น

ลูกปืน อาจจะเขม่าควันที่เขาซ่อนเร้นใต้เบาะของรถเบนท์ลีย์สุดหรู ความต่างกันสุดขั้ว

เขาเป็นพ่อที่ดี สามีที่แสนดี รักผม ทะนุถนอมผม แต่กลับมีปืนในครอบครอง โอบไหล่ผมอย่างหวงแหน พร้อมที่จะกระโจนเข้าไปอัดหน้าใครก็ตามที่กล้ามาแหยมกับผม ทั้งๆ ที่ใส่สูทเป็นปัญญาชนและผู้ดี

แม๊กซ์ซิมัส...

...ความต่างนั้นทำให้ผมเร่าร้อน ผมมีอารมณ์ทั้งๆ ที่ไม่ควรเลย ผมยังท้อง ยังเป็นแม่ แต่กลับมีอารมณ์กับแบดกายดิบเถื่อน

ใช่ จะผู้ชายคนไหน ก็เป็นของผมทั้งนั้น จะถ่อยขนาดเล่นยา จะเป็นผู้ดี จะอะไรก็ตาม ก็เป็นของผม ทำให้ผมแหงนเงยศีรษะขึ้น กระชับมือที่กอบกุม ถุงพลาสติกตกเกลื่อนเบาะ

"แม๊กซ์.... จอดที"

"มีอะไรหรือเปล่าครับ ?"

เราเพิ่งกลับมาจากปาร์ตี้ครอบครัวแสนสุข ผมท้องได้สามเดือนกว่า เป็นแม่คนแล้ว แต่...

"เมื่อก่อนเธอเล่นยา ปาร์ตี้ ต่อยคนด้วยไหม ?"

"มันก็มาด้วยกัน..."

ผมได้ยินเสียงเพลงครางแสนหวานในหัว เหมือนอาการเสพติดยาที่ถอนไม่หาย เหมือนอาการลงแดง

ผมเสพติดเซ็กส์ ติดท่อนลำของเขา ชอบให้เข้ามาในก้น ทั้งๆ ที่ยังท้อง แต่ก็ยังร่านเป็นหมาตัวเมีย

ความคิดผมยิ่งรุนแรง ผมจิกหลังมือเขา ช้อนตามอง บิดเอวเร่า จงใจเผยความนัยผ่านขนตางอนของตัวเอง ลูกกระเดือกของคนตัวสูงขยับขึ้นลง ผมเห็นความแข็งขืนในกางเกงยีนส์สุภาพของเขา

"ไม่เจ้าหญิง... ไม่ที่นี่ ไม่อีกแล้ว..."

"อา..." ผมกระซิบ "ลูกยังไม่เกิด ที่รัก... เธอทำให้ฉันมีอารมณ์เองนะ แค่คิดว่าเธอเคยร้ายแค่ไหน ตอนนี้เป็นสามีที่ดีแค่ไหน..."

"ผมเป็นผู้ชายที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าคุณ เจ้าหญิง" เขาตอบเสียงพร่า รถเบนท์ลีย์จอดในซอกตึกแคบๆ ผมรู้ดี ไอหมอกของนิวยอร์ก แสงไฟสลัวของไฟข้างทางเร้าอารมณ์เรา

เอื้อมมือไปเปิดเพลง แทร็กแสนยานคางดังขึ้นทันที

'He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


เราเลียริมฝีปาก ผมก้มลงหยิบกล่องกระดาษเล็กๆ ขึ้นมา ดวงตาหล่อคมคายในความมืดเบิกขึ้นเล็กน้อย "นั่น ?"

"เธอจะต้องชอบ ชอบให้ฉันถูก้นเข้าไปแรงๆ" ผมฉีกซองถุงยางแล้วคาบไว้ในปาก ปีนข้ามเบาะไปนั่งบนตักเขา

"เล่นเพลงนั้น" เขาสั่ง ตอนนี้ผมชอบให้เขาสั่ง ให้เขาร้าย ให้เขาดิบเถื่อน "เพลงที่ทุบตีผู้หญิง"

"มันคือการข่มขืน" ผมจูบเขา ปิดปากนั้นเสีย เราจะคุยกันด้วยภาษากายแทนแล้ว "เธอข่มขืนฉัน ตอนนี้จงทำอีกครั้งในรถเบนท์ลีย์ของเธอ ข่มขืนฉันอีกครั้ง ให้ฉันมีความสุขจนครางออกมา"

แล้วเสื้อผ้าเราก็ถอดทั้งครึ่งๆ กลางๆ

นี่ไม่ใช่เซ็กส์ครั้งแรกในรถของเรา แต่เป็นเซ็กส์ครั้งแรกที่ผมท้องและในรถคันนี้ ซิปโลหะถูกรูดจนสุดและมันก็เย็นยะเยือกบนผิว เราจูบกันนัวเนีย เขาจิกเข้าไปในเรือนผมผม ผมชอบ ชอบแบบนี้

เอาอีก เอาอีก ได้โปรด อย่าได้หยุด ที่รัก

'He used to call me poison
Like I was poison ivy
I could have died right there
Cause he was right beside me'


แรงอัดกระแทกทำให้ผมจุกจนลิ้นคาปาก ส่งเสียงกรีดร้องก้องเต็มรถดังแข่งกับเสียงไซเรนของรถตำรวจ เราอาจถูกจับที่นี่ ลูกต้องมีปมด้อยไปชั่วชีวิต

แต่ตอนนี้ ไม่ว่าตรงหน้าคือยาพิษหรือกรงขังเราก็ยินดีกลืนกินมันลงไป

ผมคือเถาพิษ คืออีตัว คือกะหรี่ คือนางร่านที่ขับควบผู้ชาย ขาดดุ้นใหญ่ไม่ได้ ปุ่มปมของถุงยางยิ่งทำให้ทุกอย่างยากขึ้น แต่น้ำมันหล่อลื่นทำให้ผมดันมันเข้าไปลึกจนสุด แรงเสียดสีโพรงร้อน เมือกอุ่นๆ ข้างในของผมเป็นสีชมพู สีของความรัก ลิ้นของผมเป็นสีแดง สีของความรักเช่นกัน และเราจะรักร้อนแรงกว่านี้

เขาบีบหน้าอก บีบเคล้น ข่มขืนมัน จิกกัดมันจนเลือดซึม ตีก้นผมจนแสบชา แต่ผมกลับขย่มตัวไม่หยุด รถเบนท์ลีย์ของเราสั่นสะเทือนเหมือนอยู่ใจกลางเฮอริเคน

สองขาผมพาดบนคอหนา ลำตัววางบนคอนโซล หลังอิงพวงมาลัย ไม่สนใจราคา

เราจะข่มขืนกันตรงนี้ เอากันให้เหมือนหมา ผสมพันธุ์กันจนท้องอัดแน่น

ผมอยากใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นอเมริกันที่ผมขาดไปกับเขา ชีวิตแบบนี้ สุดโต่ง สะบัดหน้าจนเรือนผมกระจาย เขย่าขย่มโยกให้โลกสะเทือน เราจะเป็นแบบนี้

ชะนีน้อยอกอึ๋มเหรอ... ตอนนี้ผู้ชายที่เธอเหล่กำลังขย่มฉันอยู่ ขย่มอย่างแรง ฟัดก้นฉัน ชมว่าข้างในฉันแน่นอย่างกับจิ๊มิ๊ซิงๆ เลยล่ะ

ผมกรีดร้อง กอดคอเขาแน่น ให้มือจิกเข้าไปในเรือนผม จูบกันแรงขึ้นอีกจนเลือดซิบ ให้เลือดไหลให้โซมกาย

ผมรักเขา

อา.... ผู้ชายของผม

ความดิบเถื่อนนี้ ความสุภาพนี้... จะเป็นขั้วไหน ต่างก็เป็นของผมทั้งนั้น

ผมเลียริมฝีปากเขา ฟังเพลงท่อนสุดท้ายแสนหวาน

'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


.......

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-10-2016 20:59:15
"Give me all of that ultraviolence" ผมฮัมเพลงเบาๆ เสียงกรุ๋งกริ๋งของสร้อยข้อเท้าดังคลอกับเสียงเพลง เมื่อคืนเราใช้ถุงยางไปเกือบหมดกล่อง นัวเนียกันในรถแล้วแม๊กซ์ถึงได้สติ ขับรถพาผมไปยังโรงแรมจิ้งหรีดใกล้ๆ อุ้มผมขึ้นห้องทั้งๆ ที่สภาพไม่เรียบร้อย เตียงเก่าๆ ของโรงแรม แสงไฟนีออนไร้รสนิยมราคาถูกเหมือนยุคแปดศูนย์สะท้อนเงาของคนสองคนที่ผสมพันธุ์กันอยู่

ถุงยางเกือบหมดกล่อง ผมสลบเหมือด แม๊กซ์บึ่งรถพาผมกลับบ้าน หลังจากได้พักแล้ว ผมก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสร้อยข้อเท้าที่ทำจากดาวดวงน้อยๆ ส่องประกายระยิบระยับ แน่นอนว่าต้องเป็นเพชร ผมขยับเท้าอย่างพึงพอใจ แม๊กซ์ยิ้มในความมืด ถามผมว่า

"ชอบไหม ?"

ผมโอบกอดเขาไว้ คืนนี้ไม่มีฝันร้ายใดๆ เขาวาดทับ ข่มขืนผมซ้ำ ร่วมรัก มีเซ็กส์ ผสมพันธุ์ ทำทุกอย่างกับผม กลืนกินค่ำคืนอันน่าหวาดผวาไปสิ้น "ชอบสิ ชอบทุกอย่างเลย"

เสียงข้อเท้าดังกรุ๋งกริ๋งทุกครั้งที่ผมขยับ แม๊กซ์ก็ชอบใจไม่น้อย จูบข้อเท้าผมและเริ่มเลียนิ้วเท้าทีละนิ้วๆ

จนรุ่งสาง ผมจึงฝืนสังขารไปทอดไข่ดาวกับแฮมให้เขา ปิ้งขนมปังธัญพืช ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าคนที่ต้องการสารอาหารพวกนี้คือคนท้องอย่างผม ไม่ใช่เขา แต่แม๊กซ์ก็ยังยืนยันที่จะกินอาหารจืดชืดพวกนี้เป็นเพื่อน ผมย่างแซลมอนเผื่อเขาด้วย หมอบอกมาว่าผมต้องกินปลาเยอะๆ แม๊กซ์เลยจัดปลามาเกือบทุกชนิด จนผมจะร้องเหมียวเหมียวแล้วล่ะ

หลังอาหารเช้า เราจูบกันก่อนไปทำงาน แล้วผมถึงกลับไปหลับอีกยก คราวนี้ท้องอิ่ม หลับสบาย เสียงกรุ๋งกริ๋งฟังไปก็เพลินดี เหมือนสัตว์เลี้ยงยังไงชอบกล

ช่างเถอะ....

....

ช่วงบ่ายผมตื่นมาอีกครั้งเพราะกลอเรีย หล่อนทำมันฝรั่งอบ ซุปปลา และขนมปังไว้หอมกรุ่น ตั้งแต่ผมท้องกลอเรียก็ตั้งอกตั้งใจทำอาหารมากขึ้น ไม่ใช่แค่ซุปง่ายๆ เหมือนทุกครั้ง ผมก็ตั้งใจทำอาหารให้หล่อนเป็นการตอบแทน วันก่อนเพิ่งทำส้มตำแครอทไป กลอเรียกินไปบ่นไปว่าเผ็ดแต่ก็ไม่หยุด

ดอกไม้วันนี้เป็นดอกลิลลี่ขาว บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ ผมแอบขำ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนทำกันจนรถขย่มขนาดนั้นน่ะนะ แต่ลิลลี่ดอกโตขาวสะอาดเหมือนดั่งหิมะแรกก็ช่วยให้ห้องสดใส พอผมเล่าเรื่องดอกส้มให้กลอเรียฟัง หล่อนก็ตกใจขนาดพ่นภาษาสเปนออกมาว่าแม๊กซ์ต้องเหมาผลไม้เขตร้อนขนาดไหนเพียงเพื่อให้ผมกินแก้แพ้ท้องเนี่ย ผมอมยิ้ม ไม่บอกหรอกว่ายังมีเพชรสวยๆ อีกเยอะแยะน่ะ แต่หล่อนก็สังเกตเห็นอยู่ดี

"แหม ขยับเท้าเชียวนะคะ" กลอเรียเบะปาก กลอกตา "จะอวดกันไปถึงไหนคะเนี่ย"

ผมหัวเราะ ให้หล่อนเอาเก้าอี้โยกที่สามีซื้อให้มานั่งอ่านหนังสือเล่น โยกทีเสียงเบาๆ ดังกรุ๋งกริ๋งก็ดังคลอ กลอเรียดูผมแล้วค่อนขอด "กลัวคนทั้งโลกไม่รู้เหรอคะว่าอวด แหม" ไม่ทันสิ้นเสียง ก็มีเสียงออดตามมาอีก กลอเรียบ่นงึมงำ "วันนี้ดอกไม้ก็มาแล้ว เพชรก็มาแล้ว ยังมีอะไรอีกคะเนี่ย"

ผมตื่นเต้นไปด้วย เอานิ้วคั่นหนังสือของฮาร์เปอร์ ลี แทนแดน บราวน์ คิดว่าท้องแล้วน่าจะอ่านอะไรสำหรับเด็กมากกว่านิยายสืบสวนตื่นเต้น อาจไม่ดีกับลูกก็ได้

ผมคิดเอาเองน่ะนะ แถมยังเปิดเพลงกล่อมเด็ก เพลงโมสาร์ทมาตั้งแต่ตื่นนอน จนกลอเรียจะทำงานไปหลับไปอยู่แล้ว

จะว่าไป ก่อนหน้านี้ แม๊กซ์เคยบอกจะจ้างวงแชมเบอร์เอาไว้ให้กล่อมลูกแทนดนตรีจากยูทูป แต่นั่นชักเกินไปละ สามีผมเวอร์จริงๆ ถึงขนาดใช้วงดนตรีจริงแทนเพลงกล่อมเด็ก กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่ารวยน่ะ

"มาแล้วค่ะ กล่องแปลกๆ นะคะ" กลอเรียวางกล่องของขวัญผูกโบว์สีส้มบนโต๊ะ ท่าทางราคาไม่สูงนัก ไม่เหมือนแม๊กซ์ทุกทีเลย ไม่ใช่ว่าผมอยากได้แต่ของแพงๆ หรอกนะ แต่เหมือนไม่ใช่มาจากเขามากกว่า

แหม อย่างน้อยผมก็ชอบอ่านแดน บราวน์นะ

กลอเรียพลิกกล่องดู "ไม่มีการ์ด" คิ้วหล่อนชักขมวด "ชักแปลกๆ นะคะ เหมือนไม่ได้มาจากคุณแม๊กซิมัส" หล่อนพูดตรงใจ แต่ก็แกะกล่องออก ด้านในไม่ใช่ระเบิด แหงล่ะ การรักษาความปลอดภัยระดับไวท์เฮาส์ขนาดนี้ ระเบิดคงเล็ดลอดออกมาไม่ได้แน่ๆ แต่ของข้างในคือตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง ท่าทางน่ารักเชียว ผมกำลังจะยื่นมือออกไปรับมากอด แต่กลอเรียจับหมีโชคร้ายยัดกล่อง

"เดี๋ยวค่ะ" หล่อนส่งข้อความสักพัก แล้วก็เบิกตากว้าง "ไม่ได้มาจากคุณแม๊กซิมัส!"

เอาแล้วไง! ผมตกใจตามไปด้วย

หรือว่า.... John Doe คนนั้น.... พักหลังมาผมกับเขาไม่ได้ด่ากันมากมายแล้ว เหมือนใช้คำแรงๆ ด่ากันเอามันมากกว่า ผมเคยถามเป็นเพื่อนเขาหลายครั้ง แต่เขาก็ปฏิเสธ เอาจริงๆ ผมเหงาเลยนะถ้าไม่มีเขาน่ะ เพราะผมจะไปอวดสามีกับใครได้อีกล่ะ

แต่ถูกคุกคามในอินเตอร์เน็ตก็เป็นเรื่องหนึ่ง ในชีวิตจริงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กลอเรียบอกว่าจะแจ้งความ แต่ผมห้ามไว้ ตำรวจคงหัวเราะเยาะ มาแจ้งความเพราะมีคนส่งตุ๊กตาหมีมาให้เนี่ยนะ

ผมไม่ศรัทธาในระบบตำรวจมาจากประเทศไทยนั่นแหละ

ผมวิตก ไม่อยากด่วนสรุปว่ามาจากบุคคลนิรนามเพราะต้องการคุกคามจริงๆ กลอเรียท่าทางเป็นกังวล หล่อนย้ำหลายครั้งว่าต้องบอกสามีผม แต่ผมปฏิเสธไม่ให้หล่อนบอกแม๊กซ์ ไม่เช่นนั้นเรื่องคงยิ่งยุ่ง ผมนึกภาพแม๊กซ์เป็นโฮราชิโอแบบในหนังซีเอสไอออกเลย ต้องเอาไปตรวจดีเอ็นเอ หาแหล่งผลิต หาที่มาแน่ๆ และไม่ยอมจบง่ายๆ

ผมคิดว่า มาจากจอห์น โดแน่ๆ ไม่ต้องเอาเข้าแล็บซีเอสไอก็เดาได้

แต่ด้วยเหตุใดก็สุดรู้ เพราะคุกคาม เยาะเย้ย ดูถูกหรือเพราะบริสุทธิ์ใจจริงๆ ?

แต่เขาก็เคยด่าผมสาดเสเทเสีย มีความมุ่งร้ายเต็มเปี่ยม จะให้เชื่อว่าคนแปลกหน้าที่เกลียดชังกันส่งของขวัญมาให้มันก็แปลกๆ ถึงหลังๆ มานี้เขาจะน่ารักขึ้นเยอะก็เถอะ ถึงขนาดส่งการ์ดอวยพรที่อ่านดูยังไงก็บริสุทธิ์ใจมาให้

แต่มันก็ยังแปลกๆ

ยิ่งช่วงนี้ ผมรู้สึกเหมือนถูกเฝ้ามองชอบกล... แต่ตึกที่มีการรักษาความปลอดภัยระดับนี้ ไม่คิดว่าน่าจะมีอะไรผิดพลาด...

...หรือจะ ?

ไม่สิ


ผมส่ายหน้า โฟกัสตัวเองให้อยู่ที่กล่องของขวัญที่กลอเรียรับปากว่าจะให้ผมบอกสามีเอง แต่ก็ยึดไปตรวจสอบ
 
หลังกลอเรียกลับไปแล้ว ผมตัดสินใจไม่บอกแม๊กซ์ ส่งข้อความไปหาบุคคลนิรนามแทน คิดว่าให้เรื่องจบก่อนแล้วคิดบอกสามี แต่เขาก็ไม่ตอบกลับ สงสัยทำงานอยู่

เพราะใช้ความคิดมากไป ผมที่ไม่ค่อยมีสมองนักเลยวางหนังสือลง โยกเก้าอี้เล่น เพลงกล่อมเด็กกล่อมแม่ไปด้วย ยิ่งคลอกับเสียงกรุ๋งกริ๋งยิ่งได้จังหวะ เก้าอี้โยกช้าๆ เหมือนเปล ผมหลับตา แทนที่ในสมองจะกังวลเรื่อง John Doe แต่กลับฝันเรื่องลูกสิงโตสีทองเล่นลูกไหมพรมอยู่แทบเท้า

อาจเพราะสัญชาติญาณความเป็นแม่บอกผมว่า...

...John Doe นั้นปลอดภัย และไม่มีอันตรายใดๆ กับลูกน้อยของผมแม้แต่น้อย


ผมหลับสนิท เก้าอี้โยกช้าๆ ลูกสิงโตส่งเสียงคำรามเบาๆ จากบริเวณข้อเท้า....

....

แม๊กซ์กลับมาก่อนงานเลิกชั่วโมงนึง ผมยังไม่ทันตื่นดีนักเลย เขาหน้าตาตระหนกวิ่งเข้าบ้าน โค้ท ผ้าพันคออะไรก็ยังไม่ทันถอด เหมือนผมจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น

"เจ้าหญิง!" เขาโยนทุกอย่างลง ผมปวดใจไปตามแลปทอปที่ถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี ร่างสูงใหญ่รีบวิ่งมาอุ้มผมจากเก้าอี้โยก ผมงัวเงียตื่นขึ้นมา ลูกสิงโตสีทองที่เล่นไหมพรมบนพื้นหายไปแล้ว

"ลูกสิงโต..." ผมงึมงำ เหมือนใจจะสลายตามไปด้วย ก้มลงดูพรมนุ่ม แต่ไม่มีลูกสิงโตตัวนั้นแล้ว ลูกสิงโตสีทองที่งับข้อเท้าผมเล่นบางหน บางครั้งก็ช้อนตากลมโตของมันมอง ผมลูบไล้ กอดจูบเจ้าตัวน้อย...

...เหมือนลูก

ผมขยี้ตา แม๊กซ์ถาม "ลูกสิงโต ? หรือว่าสัตว์หลุดมา ?" ท่าทางเขาแตกตื่น ผมสะดุ้ง ส่ายหน้ารัว

"ไม่ใช่ ฉันฝันน่ะ แล้วทำไมรีบกลับมาล่ะ ?"

แม๊กซ์วางผมลงกับโซฟา จัดแจงหมอนอิงนุ่มๆ และผ้าคลุมตักให้ เหมือนผมเป็นยายแก่กระดูกเปราะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สามีผมนั่งลงบนพื้น คุกเข่าลงข้างหนึ่ง จ้องตาอย่างเป็นการเป็นงาน

"มีคนแปลกหน้าส่งของมาใช่ไหม ?"

"เอ๊ะ ?" ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขาเลย ? หรือกลอเรีย ? ไม่หรอก อะไรที่หล่อนรับปากแล้วหล่อนจะไม่ทำ กลอเรียซื่อสัตย์และไว้ใจได้ถึงทำงานกับแม๊กซ์ได้

แล้ว...

"เธอรู้ได้ยังไง ?"

แม๊กซ์อ้ำอึ้ง แต่รีบพูดต่อเสียงเขียว "พักหลังมานี้ คุณได้รับโน้ตแปลกๆ จากคนแปลกหน้าด้วยใช่ไหม ?"

ผมอึ้งไป แม๊กซ์รู้ได้อย่างไร

เหตุผลที่ผมไม่ตกใจกับตุ๊กตาหมี เพราะการ์ดในกล่องที่ได้มาสองสามครั้งนั่นแหละ มันถูกพิมพ์มาทำนองยินดีด้วย ไม่มีข้อความที่เป็นเจตนาร้าย กลอเรียกังวลกับเรื่องนี้มาก แต่ผมบอกหล่อนว่าเป็นเพื่อน หล่อนจึงไม่บอกแม๊กซ์ แต่มีครั้งหนึ่งแม๊กซ์เกือบจับได้ ผมรีบทิ้งกล่องแล้วบอกเขาว่าแอบกินคุกกี้ โชคดีที่เขาเชื่อ

"เจ้าหญิง ทำไมคุณไม่บอกผม ?" เขาเขย่าตัว หน้าตาถมึงทึงราวกับฆาตกร ข้อมือจับต้นแขนผมแน่น "หรือคุณไม่ไว้ใจผม ?"

"เธอต่างหากที่ไม่ไว้ใจ" ผมพยายามดันตัวเขาออก มองตอบกลับ ดวงตาคู่นั้นดุดันจนผมกลัว ถึงจะพยายามบอกตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันทำร้ายผมอีกก็ตาม

แต่พักหลังมานี้... ผมรู้สึกถูกจับตามอง... นั่นคงไม่ใช่แค่รู้สึกไปเอง...

"หรือเธอ... ?" เสียงผมขาดหาย ถูกเขย่าจนหัวหมุนไปหมด หน้าตาเขาเจ็บปวดแต่ดิบเถื่อน คล้ายสัตว์ได้รับบาดเจ็บ

"ผมติดกล้องวงจรปิดทั้งบ้าน" แม๊กซ์ตอบอย่างไม่แยแส ผมอ้าปากค้างกับคำตอบ

อะไรนะ!

"ธะ... เธอว่าอะไรนะ..."

"ทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ คุณร้องเพลงไปด้วยอาบน้ำไปด้วย แม้กระทั่งขับถ่ายผมก็ยังอยากเห็นคุณ รู้ไหม ?" ใบหน้าขมวดขึ้ง "ไม่คิดว่าจะทำให้จับชู้ได้!"

"ชู้!" ผมเต้น ลุกขึ้นพรวด หมอนและผ้าคลุมตกลงพื้น ร่างกายร้อนผ่าว "ชู้ที่ไหนกัน ฉันยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร!"

"งั้นจะเป็นใครได้อีกล่ะที่ส่งข้อความ ตุ๊กตาหมีมาน่ะ!" แม๊กซ์ตะคอก คว้าเอวผมไว้ ผมดิ้นแรง

"แม๊กซ์! อย่า! ฉันท้องนะ!"

"บอกผมซิ! มันเป็นใคร ชู้คนไหนของคุณ...." เสียงกระซิบโหดเหี้ยมดังข้างหู คล้ายจะฆ่าให้ตาย... ไม่สิ

ตัวผมสั่น คิดถึงปืนกระบอกนั้น...

...เขาจะฆ่าจริงๆ


"ผมจะฆ่ามัน... แล้วเอาคุณล่ามโซ่ ให้คุณท้องแล้วท้องอีก คลอดลูกให้ผมเป็นครอกๆ เหมือนหมาตัวเมีย (bitch) สมกับคุณดีใช่ไหม ? อีตัวสุดร่าน ? (slut bitch)"

ผมเบิกตากว้าง คำพูดพวกนั้น... เราใช้กันบนเตียงก็จริง เพื่ออารมณ์ร้อนแรง แต่ไม่เคยเอามาด่าทอกันเลย...

...ใจผมหล่นวูบ

แม้ไม่ทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ข่มขืน แต่เขาก็ทำร้ายผมได้เจ็บแสบไม่แพ้กัน

ดวงตาร้อนผ่าว ร่างกายอ่อนแรง เขารับตัวผมไว้ก่อนที่ผมจะล้มไปกองกับพื้น ลูกสิงโตสีทองบนพรมในฝันคำรามเบาๆ อย่างเป็นห่วง ใช้จมูกดุนข้อเท้าที่มีสร้อยคล้อง

เขาสัญญากับผมแล้ว...

เขาสัญญากับผมแล้ว...

ว่าจะปกป้องผม ไม่มีวันทำร้ายผม...

ลูกสิงโตนั้นดูเศร้า... ผมไม่อยากให้มันเศร้าเลย

....

........

...........

...............

หมาตัวเมีย... ผมกระซิบกับลูกสิงโตตัวนั้น

แม่เป็นแม่สิงโตต่างหากเนอะ... แต่บางที... แม่ก็เป็นได้แค่หมาตัวเมียของพ่อเท่านั้นจริงๆ

ลูกสิงโตช้อนดวงตาที่มีน้ำตาคลอมองตอบกลับมา ราวกับจะปลอบประโลม

ขอโทษนะลูก.... ที่มีแม่แบบนี้...

...ที่มีแม่เป็นหมาตัวเมีย...
[/b]

ร่านทั้งๆ ที่ท้อง ทั้งๆ ที่รักพ่อของลูกมาก ทำทุกอย่างเพื่อเขา ต้องการเขา แต่ทุกอย่างอาจมากไป มากไปจนเขาไม่เห็นค่า เหยียบย่ำมัน ทำลายมัน

'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence'


เปล่าหรอก... มันไม่ใช่รสชาติของจูบ... มันคือรสชาติของ...

...การถูกข่มขืน

.....

ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แม๊กซ์นั่งอยู่ข้างๆ โยนมือถือลงบนเตียง ดูท่าโทสะยังคุกกรุ่นแต่เบาบางลงแล้ว เมื่อเห็นผมลืมตาตื่น เขารีบถลามาใกล้ๆ ดึงมือผมไปจูบ

"เจ้าหญิง!"

ในหัวผมมีสรรพเสียง เขาจูบผมเหมือนกับข่มขืน ตัวผมแข็งทื่อ เสียงไซเรนที่ดังมาไม่ถึงตึกของเราดังก้องในหัว เสียงกรุ๋งกริ๋งของสร้อยข้อเท้า เสียงลูกสิงโตงับข้อมือเบาๆ

มันดังกลบเสียงแม๊กซ์ไปหมด ผมเห็นปากเขาอ้าแล้วหุบสลับกัน แต่ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร

"ผมอ่านข้อความทั้งหมดแล้ว ผมจะรับผิดชอบเรื่อง John Doe เอง" แม้กระทั่งโทรศัพท์ผมก็ยังเอาไปดูด้วยเหรอ...

เสียงเพลงดังในหัว ปนกับเสียงเขาที่ฟังไม่ได้ศัพท์

"ทำไมคุณไม่บอกผมก่อนหน้านี้..."
'I can hear sirens, sirens'
"อย่าห่วงเลย...."
'กรุ๋งกริ๋ง กริ๋ง I can hear sirens, sirens'
"เป็นลมไป..."
'กรรรร กรุ๋งกริ๋งง sirens, sirens...'
"แทบแย่..."
'sirens, sirens...'
"โทษ.... ผมขอโทษ... จะไม่มีอีกแล้ว เจ้าหญิง..."
เสียงต่างๆ ในหูและในสมองเงียบไป จู่ๆ เสียงของแม๊กซ์ก็ดังก้องกังวานไปทั้งร่าง มันคุ้นเคย

ใช่

เขาสัญญาแบบนี้

หลังจากที่กล่าวหาผม

หลังจากที่ข่มขืนผม

หลังจากที่...


'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss'


ผมอ้าปาก พยักหน้าเชื่องช้า เชื่อเขา ไม่ว่าอย่างไรก็เชื่อเขา แต่ผมฟังที่เขาพูดไม่ออกสักคำ ทุกคำพูดของเขา ราวกับมีคำสบถด่า คำนั้นที่เขาใช้เรียกผม กรีดลงบนร่างทุกครั้งที่เขาออกเสียง

แม๊กซ์ถอนหายใจ จูบผม แต่มันเหมือนถูกข่มขืน ผมเหมือนถูกขืนใจ ถูกเปลือยกาย ไม่ได้ร้อนแรงอะไรเลย แต่เหมือนถูกเสียบประจานบอกกับทุกคนว่าผมเป็นแม่มดและ...

...ผมกำลังถูกเผาทั้งเป็น

"เด็กดีของผม ผมจะไม่มีวันทำร้ายคุณ...." ราวกับเขาลงท้ายด้วยคำว่าบิช... ผมหลับตา ปล่อยให้มือใหญ่โอบกอดร่าง แต่รู้สึกไม่ต่างจากถูกมีดกรีดแทง เถือเนื้อผมออก ขูดไขกระดูกขึ้นดูดกิน กลืนลูกชายผมทั้งที่ยังอยู่ในครรภ์

ลูกสิงโตร้องอย่างหวาดผวา

ในสมองผมกรีดร้องทั้งๆ ที่ตาชุ่มน้ำและอยู่ในอ้อมแขนเขา

'ใครก็ได้... ช่วยด้วย'

....

วันต่อมาแม๊กซ์โดดงานช่วงบ่าย ผมเริ่มกลับมามีความรู้สึกอีกครั้ง แม้จะไม่ทุกข์ทรมานถึงขั้นอยากร้องไห้ทุกครั้งที่เขาสัมผัส แต่คืนนั้นผมก็ไม่ยอมมีอะไรกับเขา แม๊กซ์เข้าใจดี พาผมไปกินอาหารกลางวันสุดหรู พูดจาน่าฟัง ซื้อเพชรให้ผมสองชุด บอกว่าเอาไว้ใส่ไปฟังคอนเสิร์ตด้วยกันอีก ผมตั้งตารอ อย่างน้อยก็บอกตัวเองให้ตั้งตารอ

ผมหัวเราะ จูบเขา กอดแขนเขา รักเขา

ผมรักเขาจริงๆ แต่ทำไมมันทรมานเหลือเกิน

แม่โทรมาอีกครั้ง ผมบอกว่าผมไม่เป็นไร เขารักผมดี เราออกไปชอปปิ้งกัน ผมทำเสียงให้น่าหมั่นไส้ เขาบอกว่าเสื้อผ้าผมเริ่มคับแล้ว ผมจะใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์มไปตลอดไม่ได้ เราจึงซื้อชุดคลุมท้อง แม้จะแปลกๆ เพราะมันดูยูนิเซ็กส์ เพราะร้านนี้เป็นร้านขายเสื้อผ้าครรภ์บุรุษ แบบแมนๆ ก็มี แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องซื้อให้ผมดูสาวขนาดนี้ด้วย

"สาวไปไหม ?" ผมถามอย่างวิตก ชุดคลุมสองชั้น ชั้นบนเป็นสีขาว ชั้นล่างเป็นสีงาช้าง ดูเรียบหรู แต่แม๊กซ์ยิ้มกว้าง จูบผมกลางร้าน พนักงานสาวประเภทสองส่งยิ้มหวาน ผมยิ้มเขิน ถึงจะไม่เจ็บปวดใจเท่าเมื่อวาน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดังเช่นเคย

ผมกลับบ้านมา มีกองเสื้อผ้าอยู่ในถุง ยังมีส่วนที่เหลือขนมาไม่หมดที่จะถูกส่งมาพรุ่งนี้จากร้านอีก คืนนั้นเรามีเซ็กส์กันอย่างร้อนแรง แม้ผมจะมีความสุขกับมัน แต่ทำไมเหมือนหัวใจถูกตัดขาดอย่างนี้นะ ?

ยิ่งกว่าวันไนต์สแตนด์ ยิ่งกว่ามีเซ็กส์ทั้งที่ไม่ได้รักเสียอีก

ทั้งๆ ที่รักเขาเหลือเกิน รักจนทนไม่ได้

ผมนอนบนตัวเขา ปล่อยให้เขาลูบไล้ท้อง พรมจูบและคุยกับลูก

"พ่อเลวร้ายกับแม่มาก อย่าดื้อนะลูก" เขากระซิบ ผมน้ำตาไหล... ลูกสิงโตหลังเปลือกตางับนิ้วมือที่สวมแหวนแต่งงานเบาๆ คล้ายจะช่วยแด๊ดดิ๊ง้อ

เหงื่อรสเค็มปร่าถูกเลีย เขายังคงจูบผม "ยังโกรธผมใช่ไหมที่รัก ? ผมผิดไปแล้ว อย่าโกรธผมนานนักเลย... มันทรมาน..." ผมรู้ เขาทรมานไม่ต่างจากผม แต่...

...ลำคอแหงนเงยคล้ายกระตุก

ลูกสิงโตสีทอง...
...เพชรเม็ดโต
เสื้อผ้าราคาแพง...


...ผมได้ยินเสียงไซเรน และเสียงกรีดร้องดังที่ตัวเองเคยละเลยมัน ผมจงใจอีกครั้ง ปล่อยให้เสียงทุ้มนุ่มกำซาบลงไปในใจ เติมเต็มจิตวิญญาณอันกลวงเปล่า

มือเลื่อนลงไปลูบไล้เรือนผมนุ่มสีน้ำตาลเส้นเล็ก

ลูกคงจะเหมือนพ่อ...

"ฉันให้อภัย..." เสียงนั้นไม่ได้ดังไปกว่ากระซิบ แต่แม๊กซ์ได้ยินทุกคำ ผมได้ยินเสียงทอดถอนหายใจของเขา

คำโกหกนั้นส่งเสียงดังกว่า...

ผมหลับตาลง ปล่อยให้สัมผัสที่เริ่มมีชีวิต นุ่มนวลอบอุ่นนั้นลูบไล้เรือนกาย เชื่อมต่อพวกเราทั้งร่างกาย จิตใจและวิญญาณ

เสียงสร้อยข้อเท้าดังกรุ๋งกริ๋ง เสียงทุ้มนุ่มนวลสบายใจ ลูกสิงโตสีทองที่เล่นข้อเท้าพวกเรา ทั้งหมดคือครอบครัวแสนสุข

แต่ในหัวผมกลับร้องเพลงวนเวียนไปมา 'I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss'


....

หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 18-10-2016 21:00:30
 :-[
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 7 2/10/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-10-2016 21:03:36
ในสัปดาห์ถัดมา ด็อกเตอร์บอกว่าลูกของเราแข็งแรงดี เจ้าหนูน้อยจะเริ่มถีบท้องแม่และพวกเราควรสื่อสารกับลูกบ้างแล้ว พวกเรารับคำอย่างยินดี แล้วก็กลับบ้าน

ผมที่นั่งทำสแครปบุ๊กอยู่บนพื้นอย่างง่วงๆ ช่วงนี้ฝันร้ายกลับมาบ่อยๆ จึงนอนกลางวันเยอะขึ้น แม้แม๊กซ์จะพยายามปลุกขึ้นมาและโอบกอด บอกผมว่าไม่เป็นไร แต่ความรู้สึกส่วนลึกนั้นกลับต่อต้านคำหวานของเขา

ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ อยากกลับไปเชื่อใจเขาเหมือนเมื่อก่อน แต่คำว่าบิชและความรุนแรงที่เขาเคยกระทำ ทำให้ผมหวาดผวาในยามค่ำคืน แม๊กซ์ก็จนใจ ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าใด ในความฝันนั้น เขาก็ยังคงเป็นสัตว์ร้าย ไม่ใช่เจ้าชายที่ปกป้องเจ้าหญิง แม้ในยามตื่น ในซอกลึกของใจยังคงหวาดกลัวปืนกระบอกนั้นของเขา กลัวว่าสักวันมันอาจขึ้นนกและเล็งไกมาที่ผมและลูก หากผมไม่ทำตามที่เขาสั่ง เราเริ่มคุยกันเรื่องการบำบัด ผมไม่อยากคุยเรื่องในใจให้คนแปลกหน้าฟังเท่าใดนัก แต่ตกลงกับเขาแล้วว่า หากอาการยังไม่ดีขึ้น ผมจะยอมเข้ารับการบำบัด

ขณะที่โมสาร์ทเล่นเพลงที่ฟังไม่รู้เรื่องแต่ช่วยให้จิตใจสงบ อากาศในห้องฤดูใบไม้ร่วงอบอุ่นสบายและผมก็เล่นกากเพชรวิบวับบนหน้ากระดาษสมุดนั้น แม๊กซ์ก็เข้ามาในห้อง นั่งขัดสมาธิข้างๆ

ผมเงยหน้าขึ้นมอง เขาสวมเสื้อหมิ่นเหม่

สายตาผมมีแต่คำถาม คงบอกชัดเจนว่าตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะร่วมรักใดๆ แต่แม๊กซ์กลับยิ้ม และถอดเสื้อออก

"ยังไม่แห้งดี แต่อยากให้คุณเห็นก่อนเป็นคนแรก" เขาพูด เสื้อเชิร์ตสีขาวถูกปลดออก ผมอ้าปากค้าง ตาโต

หน้าอกที่เรียบตึงแน่นสีแทนสุขภาพดีของเขา... มีรอยสักรูปตาข่ายดักฝันถักทออย่างละเอียดละออเป็นอักษรภาษาอังกฤษคำว่า Kaw แถมข้างๆ ยังเป็นเกราะอัศวินและดาบไขว้กันราวกับปกป้องตัวอักษร Kaw ที่สวมมงกุฏเจ้าหญิงอยู่

รอยแผลรอยสักยังตกสะเก็ด ไม่แห้งดี แต่เห็นชัดเจนว่างดงามจนนับได้ว่าเป็นงานศิลปะ แม๊กซ์หัวเราะเก้อๆ เมื่อผมยังอ้าปากค้าง

"ตอนแรกผมจะสักหน้าคุณ แต่มันคงเชยไป... เลยคิดว่า อย่างน้อยๆ รอยสักนี้ก็แทนสัญญาว่าผมจะไม่ทำร้ายคุณอีก... ได้ไหมครับ ? อย่างน้อยในฝัน ก็ให้ผมเป็นอัศวินปกป้องคุณเถอะนะ"

มิน่าล่ะ พักนี้เขาถึงแปะแผลตลอดเวลา ไม่ยอมให้ผมช่วยทำแผล แถมยังสวมเสื้อมีเซ็กส์ตลอด ผมคิดว่าเขาคงลงพุงหรือหุ่นเปลี่ยนไปทำนองนั้น เลยไม่ถามให้อับอาย แท้จริงแล้ว...

"เจ้าหญิง.... ?"

ความหวาดกลัว ความไม่แน่ใจ ความไม่เชื่อใจ เสียงกระซิบของนักร้องเสียงหวานยานคางได้ปลาสนาการไปจนหมดสิ้น ราวกับไม่เคยมีอยู่ ผมโผตัวเข้าหาเขา

อ้อมกอดที่เคยทำให้ผมหวาดผวา... กลับคืนมาแล้ว แค่รอยสักนั้น กลับทำให้ผมเชื่อใจเขาได้ดังเดิม ไม่สิ มากกว่าเดิมเลยหรือ ?

ผมมันโง่

ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ

แม๊กซ์ก้มลงจูบผมที่ริมฝีปากอย่างอ่อนโยน กระซิบกับริมฝีปาก "นะครับ ?"

ผมลูบไล้รอยสักที่เป็นแผลตกสะเก็ดนั้น ประทับริมฝีปากลงไปเชื่องช้า "จะเปลี่ยนใจไม่ได้อีกแล้วนะ ?" เขารู้ว่าผมไม่ได้หมายถึงรอยสัก...

...รอยสักที่กรีดลงบนเนื้อหนังตรงอกข้างซ้าย เหนือหัวใจ จะคงอยู่ ณ ที่นั่นไปตลอดกาล ไม่มีวันลบเลือน รอยหมึกจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเลือด สูบฉีด แลกเปลี่ยนอากาศ เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ภายใต้ผิวหนัง ฝังลึกในจิตวิญญาณไปจนตาย

...จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว รอยสักนี้จะไม่มีวันจางหายไป


แม๊กซ์ยิ้ม กุมมือผมบนหัวใจเขา "ไม่คิดจะเปลี่ยนอยู่แล้วครับ"

ผมยิ้มตอบ เขาจูบอีกครั้งก่อนค่อยๆ สวมสร้อยข้อเท้าที่ข้อเท้าอีกข้างให้ผม คราวนี้เป็นรูปดาบที่ฝังเพชรและอัญมณีเล็กๆ ร้อยเรียง เขาจับผมนั่งหันหน้าเข้าหากัน ดึงข้อเท้าทั้งสองขึ้นจูบ

"ข้างหนึ่งเป็นดวงดาวในใจผม เจ้าหญิงที่รัก" นอกจากเป็นรูปดวงดาวแล้ว ผมเพิ่งสังเกตว่าจี้เล็กๆ รูปดาวนั้นสลับกับมงกุฏเจ้าหญิงล้อมเพชร ส่วนตัวสร้อยก็เป็นรูปเถามะกอกอ่อนหวาน แม๊กซ์จูบข้อเท้าอีกข้างหนึ่ง "ส่วนข้างนี้ จะเป็นโล่และดาบคอยปกป้องคุณเอง แทนตัวผมนะครับ เจ้าหญิงของผม" ผมขยับเท้า สร้อยข้อเท้าข้างขวาเป็นรูปโล่และดาบทำจากทองคำขาวแท้ ฝังเพชรเช่นเคย ส่วนตัวสร้อยเป็นรูปโซ่ดูขึงขังเข้มแข็ง

ผมหัวเราะ วางสมุดสแครปบุ๊กใกล้ๆ ดึงหน้าว่างๆ มาให้เขา แล้วยื่นไอโฟนให้ "ถ่ายรูปเท้าทั้งสองข้างสิแด๊ดดิ๊ แล้วเอามาติดในสมุดกัน ฉันจะให้เธอเขียนนะหน้านี้"

แม๊กซ์ดูตกใจยิ่งกว่าหุ้นตกฮวบฮาบ "จริงเหรอครับ ?"

ผมพยักหน้า ยิ้มตอบ หัวเราะเบาๆ ส่ายข้อเท้าทั้งสองที่มีสร้อยข้อเท้าเพชรล้อมด้วย "จริงสิ แด๊ดดิ๊"

"ดีจัง" แม๊กซ์อ้อนวอนขอเขียนสแครปบุ๊กมานานแล้ว นานๆ ครั้งผมถึงจะให้เขาเขียน เขาถือเป็นเกียรติมาก จริงๆ แล้วไม่ใช่ผมขี้งกหรืออะไร แต่เพราะอยากให้เป็นเรื่องราวของผมกับลูกเท่านั้นมากกว่า จะว่าไปก็ขี้งกจริงๆ นั่นแหละ

แม๊กซ์รวบสองเท้าผมขึ้นมาจูบนิ้วโป้ง ขบกัดมันเบาๆ ทั้งสองข้าง "ผมรักคุณจริงๆ นั่นแหละ มามิ๊"

"ฉันก็รักเธอจริงๆ นั่นแหละนะ แด๊ดดิ๊" ผมตอบกลับ ยกขาทั้งสองขึ้นสลับกันเป็นท่วงท่าที่เขาชอบ แล้ววางลงบนข้างเอวแกร่ง แนบตัวเองกับท่อนขาแข็งแรง "เขียนสแครปบุ๊กกันนะ บอกลูกว่าเรารักกันแค่ไหน แด๊ดดิ๊กับมามิ๊รักลูกแค่ไหน นะครับ ?"

"เป็นเกียรติมากครับ" แม๊กซ์รับสมุดมา ให้ผมนั่งตัก...

...แล้วเราก็ใช้เวลาช่วยกันติดรูปเท้าผมและสร้อยข้อเท้า แม๊กซ์บรรยายไม่เก่ง จึงเขียนอะไรซ้ำไปซ้ำมาว่าผมน่ารักขนาดไหน ทำผิดต่อผมเพียงใด ขอให้ลูกเป็นเด็กดี แต่ผมก็คิดว่าเขาน่ารักมากแล้วล่ะ

แม้จะไม่มีเซ็กส์ แต่เราก็เรียนรู้ที่จะบอกรักกันในอีกรูปแบบหนึ่ง

ขอแค่อยู่ด้วยกัน

ขอแค่รักกัน

ขอแค่เขาเป็นของผม ไม่สิ เขาเป็นของผมอยู่แล้ว

John Doe เป็นอย่างไรผมเริ่มไม่สนใจแล้ว แม๊กซ์จะจัดการอย่างไรก็เรื่องของเขา ขอแค่ไม่เลวร้ายจนเป็นคดีความก็พอ ถึงผมจะรู้โดยสัญชาติญาณก็เถอะว่า John Doe ไม่ใช่คนเลวร้าย

ผมเอนไหล่เขา ไม่พูดเรื่องนี้ให้เสียบรรยากาศ แต่มั่นใจว่าเกลี้ยกล่อมเขาได้แน่นอน

การ์ดที่ John Doe ส่งมาหลังๆ เต็มไปด้วยความปรารถนาดีและปราณีต ยากที่จะคิดว่าเขาอยากทำร้ายพวกเรา

ผมอาจโง่ก็ได้ ช่างปะไร

แม๊กซ์อาจส่องกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ดูผมขับถ่าย ทำอะไรอุบาทว์ๆ รุกล้ำความเป็นส่วนตัว ความเป็นมนุษย์ของผม ช่างปะไร

ในเมื่อเขารักผม และทุกอย่างที่เขาทำล้วนแล้วแต่มาจากความรัก

ผมจูบแก้มคนที่คร่ำเคร่งเขียนสแครปบุ๊ก "เป็นอัศวินให้ฉันนะ"

เขาจูบผมตอบ "ครับ เจ้าหญิง"

............................................................

// ตอนนี้มีประเด็นแฝง มาดูว่าใครจะโกหกได้นานกว่ากัน แม๊กซ์หรือข้าว 555 ข้าวโกหกตัวเอง แม๊กซ์ก็ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกค่ะ กลายเป็นวงจรอุบาทว์ เหมือนเดินอยู่ในนรก แต่ต้องมีสักวันที่วงจรนี้แตกสลาย ใครสักคนทนไม่ได้ เน้นอีกครั้ง เรื่องนี้ไม่มีพล็อต ไม่มีสาระ ไม่มีอัลลัยเลยนอกจากการอวดผัวของนังข้าวชริงๆ นะ

ตอนนี้ใช้เพลง Ultraviolence ของ ลานาทั้งตอนเลยค่ะ ลองฟังดูได้ หลับสบายดีค่ะ 555 https://www.youtube.com/watch?v=ZFWC4SiZBao
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-10-2016 21:29:47
หมั่นไส้แม็กซ์

จะทำผิดซ้ำๆอีกกี่ครั้งงงงงงงงงง?
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 18-10-2016 21:40:19
 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-10-2016 22:24:12
เออ ชอบ ดูแข็งกันเพ้อดี สองคนนี้ 555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 18-10-2016 22:24:48
ยังค่ะ ยังไม่พอ!! ยังเลวได้อีกค่ะ มาดูกันค่ะว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน เชอะ เอาเข้าไปบำบัดทั้งคู่เลยค่ะ เผื่อหายพิลึก ผัวนี่ก็ระแว๊งระแวง เจอไรนิดหน่อยหน้ามืดเชียว  อีกสักพักคงมีตบตีกันแน่ๆเลยค่ะ ตบตีเสร็จก็ต้องมาบอก ผมขอโทษเจ้าหญิง ผมไม่ได้ตั้งใจ assh*le!  :mew5: ส่วนนังข้าว นังตัวดี ดูซิจะทนได้อีกกี่น้ำถ้าผัวยังสำนึกไม่สุดแบบนี้  :katai4:

ปล.อย่าซีเรียสนะคะ อถรรสค่ะ นี่แอบเอ็นดูความผัวรวยแบบอินฟินีตี้ของนางข้าว รวยแบบไม่มีสิ้นสุด 55555555 
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-10-2016 22:45:10
โรคจิตดี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 18-10-2016 23:08:30
ต่ะอวดผัวจ่ะอิจเบาๆ ถ้าได้แบบนี้อึดอัดน่าดู
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-10-2016 23:46:54
พอกันทั้งคู่แหละเนาะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 19-10-2016 00:18:08
เหนื่อยกับการที่แม็กโมโหแล้วทำร้ายจิตใจข้าวซ้ำๆ แล้วข้าวก็ให้อภัยซ้ำ รอวันที่วงจรอุบาทแตก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 19-10-2016 00:41:52
สงสารข้าว :hao5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: leeyaoi ที่ 19-10-2016 00:57:26
รำคาญความสัมพันของคู่นี้

พระเอกดูสติไม่สบประกอบ อันนี้เห็นได้ชัดๆ

แต่ว่านายเอกก็พอกัน ระแวงเกินไป คิดมากเกินไป ตัดพ้อจนน่ารำคาญ

แต่บางเรื่องก็ดูคิดน้อยเกินไปมากๆ

คือดูหลายๆตอนแล้ว

ทั้งคู่ไม่เชื่อใจกันเลย  ไม่เลยสักนิด

จะรอตอนระเบิดลง รู้สึกว่าไปกันไม่รอด555



หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-10-2016 06:57:40
อยากเชื่อข้าวนะ
แม็กซ์ คลั่งข้าวเกินไป ผิดปกติ
หวงข้าว รุกล้ำความเป็นส่วนตัว
เป็นโรคจิตแล้วละ ในสองคนนี้
คนที่ควรเข้ารับการบำบัด น่าจะเป็นแม็กซ์นะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 19-10-2016 11:02:15
เราว่าต้องเป็นข้าวชัวส์ที่ทนกับวงจรนี้ไม่ได้ แม็กรุกล้ำความเป็นส่วนตัวและชีวิตไปหมดแล้ว แทบจะกลืนกินมันทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-10-2016 11:18:29
เหมือนอยู่กันแบบระแวงนะ

จะทนกันได้อีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-10-2016 13:50:47
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 19-10-2016 14:11:29
อยากรู้ว่าใครส่งมาน้า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-10-2016 20:40:17
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-10-2016 09:35:16
ดูเหมือนรักกันจนน่าอิจฉาแต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปคงได้จบไม่สวยแน่ๆ แต่เราก็ยังหวังให้แม็กซ์ได้รักษาสัญญาจริงๆ ซักทีกับข้าวไม่ทำให้ข้าวต้องเสียใจอีก เราอยากให้เรื่องนี้จบแบบมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kothan ที่ 20-10-2016 21:30:41
เรื่องนี้ไม่มีมาม่าชิมิ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 21-10-2016 18:33:09
เหมือนเดิมเลย วนไปค่ะพี่สุชาติ!!!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 21-10-2016 20:16:45
นังน้องข้าววว โอ้ยย ชอบน้องข้าววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 24-10-2016 18:57:30
คิดว่าข้าวน่าจะทนไม่ไหวก่อนนะ  พากันไปบำบัดเถอะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 25-10-2016 21:02:37
โอ้ยยย อ่านไปยิ้มทั้งน้ำตาไปอ่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 26-10-2016 02:34:26
แม็ก เธอควรไปบำบัดนะ

ข้าว สตอล์คโฮมซินโดรมใช่ไหมคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 01-11-2016 21:20:28
อ่านๆไปก็ชักจะหมั่นทั้งผัวทั้งเมีย  o18
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 20-11-2016 19:02:10
คิดถึงข้าวตัวน้อยๆ :katai2-1: :hao5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 27-11-2016 16:01:17
เป็นความรักที่หนักจริงๆ :z10:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 19-12-2016 11:08:38
รอ...เจ้าตัวน้อย ของข้าวกะแม๊กซ์ ออกมาว่าจะทำให้สองคนนี้ทำตัวดีขึ้นไหม......ลุ้นกันต่อปายยยยยยยยย~
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: now43 ที่ 24-12-2016 20:38:00
รอหมั่นไส้นังข้าวมานานล่ะค่ะ เมื่อไหร่จะมาคะคุณขาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 25-12-2016 19:55:14
หมั่นทั้งคู่เลยยย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 27-12-2016 11:16:39
เป็นห่วงลูกในท้อง :sad4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 03-01-2017 21:51:25
ยัยน้องข้าวไปไหนน คิดถึงแล้ววว โว้ยย
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-07-2017 23:38:18
อยากอ่านต่อจังเลยค่ะ
คิดถึง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 01-08-2017 20:12:24
สนุกนะ แต่อ่านไป บางครั้ง ปวดหัว แมกซ์จิตจนน่ากลัว  :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 04-12-2017 12:05:31
9

ยามบ่ายของวันหนึ่ง ระหว่างที่ผมยังง่วงเหงาหาวนอน พิชก็โทรมา เขามาพร้อมไอเดียดีๆเพื่อนผมคนนี้ชอบเรื่องบันเทิงเริงใจเสียจริงๆ

"ทำไมเราไม่ไปเล่นโยคะกันล่ะ ?"

ผมฟังแล้วหูผึ่ง พิชที่วิดิโอคอลมายิ้มจนตาหยี ส่งเสียงถาม "ทำอะไรน่ะข้าว ?"

"ขัดเพชร" ตอบแล้วดันเพชรไปสุมไว้มุมหนึ่ง

"เยอะจัง น่าไปขโมยจริง" พิชล้อเล่น ขยิบตาให้ "เป็นโยคะคนท้องล่ะ คนสอนเป็นผู้หญิง ไม่ต้องห่วงเรื่องสามีจะหึง"

ขนาดหมอกาเบรียลท้องโตขนาดนั้นแม๊กซ์ยังหึงเลย ผมเถียงในใจ พิชให้รายละเอียดโยคะคนท้องก่อนจะถาม "เพชรเยอะขนาดนี้แม๊กซ์ซื้อให้เหรอ ?"

ผมพยักหน้า

"แล้วต้องขัดทุกวันเลยเหรอ ?"

"ไม่หรอก เป็นบางวันน่ะ บางทีเบื่อๆ ก็เอามาเล่นหมากเก็บก็มี" พิชฟังแล้วตาโต ขยับแว่น

"นี่ถ้าไม่ใช่เพื่อนกัน ฉันว่าข้าวกำลังอวดผัวอยู่นะ"

ผมหัวเราะหึๆ ยักไหล่ ไม่ตอบคำ แต่สัญญาว่าจะถามแม๊กซ์เรื่องโยคะดู

....

"ไม่!" คือคำตอบเดียวที่ผมคาดเอาไว้แล้ว ผมนั่งกินชีโตสกรุบๆ ดูดนิ้วจุ๊บๆ แม๊กซ์มองตามลิ้นผมที่เลียผงชูรสในขนมแล้วกลืนน้ำลายตาม มือใหญ่ดึงผมขึ้น พูดเสียงอ่อน "ไปทำกันนะครับ"

ผมจงใจเลียนิ้วที่เปื้อนขนม "หืมมม ?"

ชายหนุ่มสุดหล่อ มาดเท่ เรือนผมสีน้ำตาล ตาสีช็อกโกแลตสุดฮอตคุกเข่าลงข้างๆ สีหน้าทรมาน "มีเซ็กส์กันเถอะ" ลูกกระเดือกเขาขยับตามจังหวะที่ผมดูดนิ้ว

"มีอารมณ์แค่ฉันกินขนมนี่นะ ?" ผมใช้ปลายเท้าแตะหว่างเขาเบาๆ เสียงกระพรวนสร้อยข้อเท้าดังกรุ๋งกริ๋ง ผมยิ้มน้อยๆ แม๊กซ์ครางฮือ

"อย่าทรมานผมเล่นสิเจ้าหญิงงงงงง"

"งั้นให้ฉันไปเข้าคลาสโยคะก่อน"

"ไม่เอา มันอันตราย ไหนจะเรื่อง John Doe อีก" เขาตอบทันควัน "ทำไมคุณไม่เข้าใจนะว่าตัวเองน่ารักขนาดไหน"

จะให้ผมเข้าใจได้ยังไง เมื่อมองหน้าตัวเองในกระจกทุกวันก็เห็นหน้าจืดๆ ตอบกลับมาทุกที ผมส่ายหน้าจนผมปลิว "งั้นก็ไม่ทำ"

"เจ้าหญิง" เสียงเขาละห้อยเหมือนหมา ผมหัวเราะหึๆ อย่างนึกสนุก เพิ่งรู้ว่าแกล้งสามีมันสนุกแบบนี้ จงใจเปิดแท๊ปเล็ต ลำโพงบลูทูธเปิดเพลง I'm slave 4 you ของแม่บริท แค่ส่ายสะโพกเบาๆ ไปตามจังหวะเพลง ไม่ต้องพูดถึงข้าวคนเก่าที่ขึ้นไปแด๊นซ์บนฟลอร์เลย แม๊กซ์ก็กลั้นใจตะโกนข้ามห้อง

"ก็ได้!"

ผมยิ้ม แต่ต้องหุบยิ้มฉับ เมื่อสามีวาร์ปมาที่ห้องรับแขกอย่างว่องไว ตาดุเข้มร้อนแรง "แต่ต้องทำตามกฏผมนะ ห้ามดื้อ ห้ามซน"

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ" เขาจับข้อมือทั้งสองของผมขึ้น บดเบียดจูบเข้ามา ต้องก้มตัวจนเมื่อยคอแน่ๆ เลย แต่ใครจะไปสนล่ะ ในเมื่อผมก็เขย่งตัวยอมให้จูบขนาดนี้

"จะมีคนไปรับไปส่งคุณ รถที่คุณใช้จะเป็นรถโรสลอยด์กันกระสุน บอดี้การ์ดจะทำหน้าที่ทุกครั้งที่คุณอยู่ข้างนอก" เขาสั่งทั้งๆ ที่ปากยังตะกละตะกลามกลืนกินริมฝีปากผมอยู่

"ฮื้อออ อื้มมมม" ประธานาธิบดียังไม่คุ้มกันแน่นหนาขนาดนี้เลยมั้ง

"ผมยังจับ John Doe ไม่ได้ ขอให้คุณอดทนไปก่อนนะครับ แล้วผมจะไปรับคุณเอง" ลิ้นสอดเข้ามาล้ำลึก ผมหายใจกระเส่า ร้อนจนหายใจไม่ออก ต้องร้องขอให้สามีช่วยปลดกระดุม...

...ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งจริงๆ

เมื่อก่อนก็ว่าแม๊กซ์หื่นกามแล้ว หลังจากที่แต่งตัวแบบที่เขาชอบจากเสื้อผ้าร้านยูนิเซ็กส์ ชุดหวานๆ ดูตุ๊ดๆ รสนิยมแม๊กซ์แต่ดันเข้ากับผมอย่างประหลาดนั้น ทำให้เขาทำเช้า ทำเย็น ทำกลางวัน ทำทุกที่ไม่เว้นวันหยุดราชการหรือสถานที่ หลังรถเบนท์ลีย์ที่เขาจ้างคนขับมาเพื่อมามีอะไรกับผม ในออฟฟิศเขาในช่วงดึก ตรอกเล็กๆ ในบรูคลิน และเอาท์ดอร์อีกหลายที่นับไม่ถ้วน จนตอนนี้ผมเดินขาถ่างเหมือนท้องแก่ แถมยังเป็นผู้หญิงท้องแก่ สาวจนไม่รู้จะสาวยังไง สาวจนพิชต้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมต้องทำปากขมุบขมิบบอกเขาว่าอย่าถามให้เจ็บปวดเลย

ผมเป็นเกย์ ไม่ใช่ตุ๊ด อาจเป็นสาวน้อย แต่ยังภาคภูมิใจในจู๋เล็กๆ ของตัวเองอยู่

แต่แม๊กซ์ตอนนี้ใช้มือรูดเอาๆ กลางหว่างขา เอาคืนที่โดนผมแกล้ง ผมตัวงอ จิกผมสีน้ำตาลแน่น "ฮึกกกก"

ปากและมือทำงานประสานกันดีเกินไป ผมกรีดร้อง น้ำตาไหลตามหางตา สองขาหุบแน่นด้วยความเสียว แม๊กซ์จะไม่หยุดจนกว่าจะได้กินน้ำรักผม เขาเรียกน้ำอสุจิผมว่า 'Honey' ฟังดูแหวะ แต่ผู้ชายคนนี้บ้าพอที่จะทำอย่างนี้จริงๆ

เขาดูน้ำผึ้งของผมจนอ่อนเปลี้ย ผมขาสั่น ต้องกอดคอเขาไว้ แล้วแม๊กซ์จะอุ้มผมขึ้นเพื่อหอมแก้ม จูบซอกคอ จูบไปทั้งตัว แล้วเราก็เอนตัว

...ภาพตัดไปที่แจกันเซรามิกขลิบทอง ดอกกุหลาบดอกละหลายร้อยเหรียญหล่นตุ๊บจากแรงสั่นระเทือนของเขา

เดี๋ยวววววววววว!

ให้ผมอธิบายให้จบ เขาชอบให้ผมใส่เพชรของเขา เสียงกรุ๊งกริ๊งของสร้อยข้อเท้ายิ่งดังเพราะเขาสอดใส่เข้ามาแล้วกระแทกแรงๆ เขายิ่งชอบ แม๊กซ์ทำให้ผมแหงนเงย กรีดร้องไม่เป็นภาษา สอดใส่จนรูเล็กๆ บวมคับ 

"คับจัง น่ารักที่สุด เจ้าหญิงของผมมม"

"ฮึกกก ฮ้าาา" หลังเปลือกตาผมเห็นลูกสิงโตสีทองเอาสองเท้าหน้าปิดตา ผมงึมงำ "ปิดตานะลูก"

เสียงดังกึกกระแทกดังมดลูกเทียม เขาเข้าไปลึกขนาดนั้นเลย จะฉีกมดลูกผมให้ขาดเลยหรือไง ผมหายใจหอบ สองขาชี้ฟ้า เขาบิดยอดอก ดูดกินมันเหมือนซอมบี้ในเดอะ วอล์กกิ้ง เดธ

ไม่ไหวแล้ว.... ท่อนลำขนาดเขื่องที่บดเบียดทั้งมดลูกเทียม ทั้งอะไรต่อมิอะไรในลำใส้ควานควักจนเหมือนจะดึงมันออกมาทางก้น ผมถูกถูไถจนตัวสั่นระริก สะโพกบิดเร่า สองเขาไขว้เข้าหากัน กรีดร้องยาวนาน

น้ำหวานฉีดพ่นรุนแรงออกจากท่อนลำเล็กที่ผมภาคภูมิใจ

สองแขนตกลงข้างตัว เพิ่งรู้ว่าเป็นของตัวเองก็ตอนที่แม๊กซ์เริ่มยกที่สอง...

...ที่รัก จะฆ่ากันด้วยเซ็กส์ใช่ไหม เขาโน้มตัวกระซิบระหว่างที่สอดใส่ตลอดเวลาว่า

"เจ้าหญิง.... ผมรักคุณ..."

..........

ว่ากันว่าก่อนพายุจะมา ท้องฟ้าจะสงบนิ่ง คงคล้ายกับสถานการณ์ตอนนี้ เช้าวันนี้ก็เหมือนกับทุกๆ วัน ผมชงโจ๊กข้าวโอ๊ตอันเต็มไปด้วยธัญญาหาร มอร์นิ่งคิสสามีก่อนไปทำงาน แล้วมานั่งขัดเพชรแก้เซ็ง

ผมถาม John Doe แล้วเรื่องตุ๊กตาหมี มีข้อความขึ้นว่าอ่าน แต่เขาไม่ตอบกลับอะไรเลย  แต่กระนั้น ผมยังมั่นใจว่าเขาไม่ใช่ภัยคุกคามครอบครัวเรา หลังจากนั้นมา John Doe ก็เงียบหายไป ราวกับไม่เคยมีตัวตน แม้ผมจะพยายามติดต่อเขาหลายครั้งก็ตาม

ผมคิดพลางถอนหายใจก่อนที่ไอแพดจะดังทำลายเสียงเพลงโมสาร์ท

ผมหยิบขึ้นมาดู หัวใจกระตุกวูบ

วิดิโอคลิป... มาจาก John Doe! ผมพิจารณาดู ถ้อยคำ สำนวนดูเปลี่ยนไป จากสำนวนแต๋วแตกก็แข็งกร้าว คล้ายผู้ชาย มีลักษณะขู่ ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยขู่หรือเรียกร้องอะไรจากผมหรือสามีเลย นอกจากด่าผมเท่านั้นเอง

ข้อความนั้นขู่ว่า หากผมยังไม่เลิกกับแม๊กซ์ คลิปนี้จะแพร่ไปทั่วโลกออนไลน์

ผมรีบเปิดคลิปดู แอบขอโทษลูกในใจ

ผู้ชายเอเชียตัวเล็ก ผิวขาว ท่าทางคล้ายผมกำลังเริงรักอยู่กับฝรั่งตัวล่ำใหญ่ถึงสี่คน ร้อนแรงและร่านเร่า

ผมกดปิด ตัวสั่นระริก...

...ไม่ใช่ คนในคลิปนั้นไม่ใช่ผม ผมไม่เคยนอนกับฝรั่งมาก่อนแม๊กซ์ ข้อนี้แม๊กซ์ก็รู้ดี... แต่หากคลิปนี้ไปถึงแม๊กซ์ เขาจะเชื่อผมไหม...

...ทันทีที่คิดแบบนี้ ไอแพดก็ตกลงกับพื้น ผมก้มลงเก็บอย่างยากลำบาก เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น แม๊กซ์...

...หรือว่า

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในความเงียบ สายๆ แบบนี้กลอเรียยังไม่มา ผมสะดุ้งเฮือก

แม๊กซ์....

หรือว่าเขาได้รับคลิปเหมือนกัน...

ผมตั้งสติ รับสายและได้ยินเสียงร้อนรนดังขึ้นมา

"เจ้าหญิง อย่าออกไปไหนจนกว่าผมจะไปถึง" เขาสั่งแล้วรีบวางสาย แสดงว่าเขาเองก็ได้รับคลิปแล้วเช่นกัน ผมรีบวิ่งรอบบ้าน รูดม่านปิด จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงกุญแจ ตัวผมแข็งทื่อ ในมือควานหาอาวุธ

หรือว่า John Doe สามารถบุกขึ้นตึกมาได้ ?

"ทำไมเงียบจัง คุณข้าว ?" เสียงแปร๋นๆ มาก่อนตัวทำให้ผมถอนหายใจ วางแจกันในมือลง

กลอเรียถอดโค้ตและผ้าพันคอ มองหน้าผมอย่างสงสัย "มีอะไรเหรอคะ ?"

ผมส่ายหน้า แล้วประตูก็เปิดอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นร่างสูงใหญ่ที่ผมคุ้นเคยดี ผมรีบโถมตัวเข้าหา ท่ามกลางสายตางุนงงของกลอเรีย

"อะไร เพิ่งไปทำงานไม่ใช่เหรอคะ..."

แม๊กซ์กอดผมแน่น จูบกระหม่อมผมแล้วเบือนหน้าไปสั่ง "กลอเรีย วันนี้กลับไปก่อนนะ"

"ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรโทรเรียกได้ตลอดเวลานะคะ" หล่อนดูตกใจ แต่ก็รีบเก็บข้าวของออกไป รอจนประตูปิดดีแล้ว แม๊กซ์ก็ลงกลอน อุ้มผมไปนั่งที่โซฟา

ผมรีบดึงเขาไว้ บอกเสียงละล่ำละลัก "แม๊กซ์ แม๊กซ์... คนในคลิปนั่น... ไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่..."

ท่าทางแม๊กซ์ดูหัวเสีย แต่ไม่ใช่จากผม เขาพยักหน้า กอดผมเต็มวงแขน เสื้อโค้ตยังไม่ถอดออก "ผมรู้ ผมจำคุณได้ นั่นไม่ใช่คุณ"

ผมโล่งอก ซุกหน้ากับโค้ตกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่กลอเรียซัก "แล้วเธอโกรธอะไร ?"

"ผมมันไร้ความสามารถ เจ้าหญิง" เสียงเขาอู้อี้กับหัวผม ยังคงไม่คลายอ้อมแขน "อัศวินของคุณตามหามันไม่เจอ มันเปลี่ยนเลข ip ทำให้การแกะรอยยากขึ้น"

"โธ่ ที่รัก" ผมร้องได้คำเดียว ในขณะที่ผมลัลล้าขัดเพชรอยู่ สามีของผมกลับเคร่งเครียดตามหาบุคคลนิรนามในอินเตอร์เน็ตที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ ผมประคองสองแก้มที่มีเคราครึ้ม ก่อนจูบลงบนริมฝีปากแดงๆ นั่น

อัศวินของผม... ของเจ้าหญิงข้าว ที่รักของผม

"แค่เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่ฉันก็พอแล้วล่ะ" ผมพูด ก่อนจะนึกได้ว่าเรื่องราวไม่ง่ายขนาดนั้น แม๊กซ์มีหน้ามีตา ถึงคลิปนั่นจะไม่ใช่ผม แต่เมื่อมันถูกแพร่ออกไปและใช้ชื่อผม ความน่าเชื่อของสามีผมก็ลดลงด้วย ผมกัดริมฝีปาก ได้แต่กอดเขาไว้อย่างอ่อนล้า

"แต่อีกไม่นานเราจะเจอมัน" เสียงแม๊กซ์แข็งกร้าว ราวกับประกาศศึกใหญ่ "ผมจ้างแฮกเกอร์มือดีมาแล้ว เขาบอกว่าถ้ามันโผล่มาอีกครั้ง เราจะแกะรอยมันได้"

"พอดีเลยสินะ แต่ว่า... คำขู่นั่น..." ผมพูดอย่างวิตก ผมไม่ต้องการทำร้ายสามีผมทางอ้อม เขาเป็นนักธุรกิจ มีคนนับหน้าถือตา เรื่องนี้ต้องกระทบความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน

"เราจะไม่ยอมอ่อนข้อให้มัน" เขากุมมือผมไว้ จูบผมอีกครั้ง "เจ้าหญิงของผม คุณไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น... ทำใจให้สบาย แล้วพักผ่อนเยอะๆ นะครับ"

เขาสังเกต... สังเกตว่าแม้ในยามมีสติผมจะไม่ต่างจากเดิม แต่คำพูดและสิ่งที่เขาเคยทำร้ายผมได้ทิ้งบาดแผลเอาไว้ ในยามค่ำคืน ผมจึงฝันร้าย แม๊กซ์พยายามปลุกผมจากฝันและปลอบประโลม ตัวผมสั่นระริก กลิ่นกายของเขาชวนง่วงงุนและปลอดภัย ผมจึงหลับได้อีกครั้ง แต่รอยแผลนั้น...

...ไม่ว่าเขาจะทำตัวดีชดเชยแค่ไหน เมื่อแก้วร้าวครั้งหนึ่งแล้ว มันก็ยังคงปรากฏอยู่ที่นั่น ไม่มีวันลบเลือน เช่นเดียวกับรอยสักของเขา ที่บ่งบอกว่ามีผมเพียงคนเดียว จะรักและปกป้องผมทัดเทียมหัวใจ รอยสักที่กรีดลึกลงไปใต้ผิวหนัง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เขายินดีเป็นรอยแผลของผม เพื่อปกป้องผม

ผมอดไม่ได้ที่จะจูบรอยสักบนหน้าอกตึงแน่น กล้ามหน้าท้องเป็นลูกๆ ชวนให้วาบหวาม

ดวงตาแม๊กซ์ส่อประกาย ผมเข้าใจดี แต่รีบขืนตัวออก กระแอมเบาๆ "ไปทำงานได้แล้ว"

เขาหัวเราะ เอามือลูบหน้าอกตรงหัวใจ "ตรงนี้เป็นของคุณนะครับ เจ้าหญิง"

ผมหน้าแดง ย่อตัวรับ จูบเขาตอบ "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ตอนนี้เจ้าหญิงมีคำสั่งให้อัศวินไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงเจ้าหญิงและลูกแล้ว"

แม๊กซ์หัวเราะ ท่าทางนั้นราวกับนายแบบ หล่อเหลา สง่างาม เขากอดผมอีกครั้งก่อนจะจูบแน่นๆ แล้วกลับไปทำงาน

ประตูปิดลง แม๊กซ์คงเฝ้ามองผมผ่านทางกล้องวงจรปิดเช่นเคย

ช่างปะไร

ผมกอดตัวเอง ร่างกายอ่อนเปลี้ยแทบละลายไปกับพื้น

หวานซาบซ่า... จะมีสามีสักกี่คนที่รีบกลับบ้านมาเพื่อปลอบประโลมภรรยา ?

ผมเอามือแตะริมฝีปากเบาๆ จูบเขาทั้งร้อนแรงและหวานหอม เหมือนดอกไม้ เหมือนน้ำหวาน...

...ผมเป็นเจ้าหญิงของเขา

John Doe ต้องการให้ผมเลิกกับเขาน่ะเหรอ...

ฝันไปเถอะ...

แม๊กซ์ไม่ให้ผมตอบกลับ เพราะกลัวว่าจะเป็นการยั่วยุ ผมเข้าใจดี จึงได้แต่มองไอแพดที่ปรากฏคลิปนั้นแล้วแสยะยิ้ม

ไม่ว่าแกจะเป็นใคร... ชะนีหรือตุ๊ดคนไหน แต่สามีฉัน เลือก 'ฉัน'

เชื่อ 'ฉัน'

รัก 'ฉัน'

แต่งงานกับ 'ฉัน'

ผมคว่ำไอแพดลง สูดลมหายใจลึกๆ ลูบท้อง หลับตาลง ลูกสิงโตแทะไอแพดเล่น ผมหัวเราะเบาๆ เปลี่ยนท่านั่ง เสียงกรุ๋งกริ๋งของสร้อยข้อเท้าทำให้ใจสงบ

จะทำให้สามีเลิกกับฉันน่ะเหรอ...

...ชาติหน้าก็ไม่มีวัน เพราะต่อให้ตายลงหลุมไปแล้ว เราก็จะรักกัน ร่วมรักกันไปจนตาย ไปจนชาติหน้า

แกไม่มีวันได้สิ่งที่ต้องการ

ไม่มีวันทำให้พวกเราเลิกกัน

ไม่มีวัน!


...............
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 04-12-2017 12:07:03
แม๊กซ์กลับบ้านมาเร็วกว่าปกติ ผมเพิ่งทำกับข้าวเสร็จ เขาก็เข้ามานัวเนีย บ่นงึมงำว่าไปเจอเพื่อนเก่ามา และพวกเพื่อนๆ ก็ต่างอยากให้แม๊กซ์พาผมไปอวดทั้งนั้น ผมวางจานข้าวลง จัดดอกคาร์เนชันสีเหลืองที่ได้มาวันนี้แล้วมองดูเขาอย่างงุงงง

"แค่ไปหาเพื่อนเท่านั้นเอง นัดกันที่ไหนล่ะ"

แม๊กซ์ตอบร้านผับแห่งหนึ่งในบรูคลิน ผมพยักหน้าตอบ "ไปกันเถอะ เธอไม่ค่อยได้เจอเพื่อนแล้วนี่ ?"

แม๊กซ์ยังคงโอดครวญ ผมทะเลาะกับเขายกหนึ่ง แน่นอนว่าในระบบภรรยาธิปไตยนั้นผมย่อมเป็นคนชนะ แม๊กซ์งึมงำพร้อมกำชับว่า ไม่ว่าพวกเพื่อนๆ จะพูดอะไร อย่าได้ไปเชื่อ เขารักผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมยิ้มขำ แม๊กซ์สมัยเรียนคงเฮ้วไม่น้อย

ผมเลยถามถึงเรื่องแกะรอย ip ของบุคคลนิรนาม แม๊กซ์ขมวดคิ้วแน่น แม้จะทั่งท่าทางเคร่งเครียดยังดูหล่อเหลาเลย เขาตอบว่า "ถ้ามันติดต่อมาอีกครั้ง เราจะพบมันแน่!"

และผมค่อนข้างมั่นใจว่าคนร้ายต้องตายแน่ๆ ที่บังอาจมาแหยมกับแม๊กซ์

....

ร้านอาหารกึ่งผับที่บรูคลินบรรยากาศดี ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม๊กซ์ถึงไม่อยากให้ผมมานัก พวกเพื่อนๆ ทยอยกันมาทั้งหญิงและชาย พวกเขาสุภาพและให้เกียรติผมมาก

จะมีก็แค่ไมเคิล ที่ท่าทางแปลกๆ นัก แม๊กซ์เคยกระซิบบอกว่าไมเคิลเป็นเพื่อนสนิท แต่ตอนนี้กลับดูเหินห่างชอบกล บรรยากาศงานเลี้ยงรุ่นเป็นไปด้วยดี หากจู่ๆ ไมเคิลจะไม่โพล่งออกมา

"ฉันยังไม่อยากเชื่อว่านายเป็นเกย์" หน้าของเขาแดงก่ำด้วยฤทธิ์เหล้า "เห็นเมื่อก่อนเกลียดเกย์ซะขนาดนั้น"

ผมเลิกคิ้ว ตั้งใจจะถามต่อ แต่สาวๆ ชวนผมไปนั่งคุยด้วยทำให้จึงต้องลุกจากที่นั่ง แม๊กซ์ฝากฝังให้ซาราห์ช่วยดูแลผม หล่อนหัวเราะ พลางบอกว่าเขาจะหวงผมมากไปแล้ว พวกสาวๆ คุยกันสนุก พากันให้กำลังใจผมในการใช้ชีวิตคู่กับแม๊กซ์ ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเขาร้ายไม่น้อยเลย

"เขาเดทกับสาวสวยแค่สองวันแล้วก็เลิก"

"ฉันไม่เคยเห็นเขาคบกับใครเกินสองอาทิตย์เลย"

"ก็แน่ล่ะนะ รูปร่างหน้าตาแบบเขา" สาวๆ พากันเมาท์สามีผม ทำให้ผมนึกสนุก ถามหลายเรื่องเกี่ยวกับเขาตอนสมัยเรียน บรรยากาศกำลังสนุกสนานได้ที่ แต่แล้วจู่ๆ ดาญ่า เพื่อนหญิงคนหนึ่งที่เงียบมาตลอดก็โพล่งขึ้น

"ตอนนี้หลงตูดน่ะสิ" รอยยิ้มเหยียดหยันปรากฏบนใบหน้าสะสวยของหล่อน ผมเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ผมยิ้มบางตอบ พลางจิบน้ำผลไม้ในมือ "ใช่ครับ ตอนนี้แม๊กซ์ทั้ง 'หลง' ท้้ง 'รัก' อ๊ะ ที่รักจะไปไหนน่ะ" ผมถามเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกจากวงล้อมเพื่อนๆ

"ไปเข้าห้องน้ำครับ"

"ไปด้วยสิ" ผมลุกขึ้นตาม ปรายตามองดาญ่า

ผมไปส่งสามีเข้าห้องน้ำ ก่อนจะลากตัวเขาเข้าห้องน้ำที่แยกออกมา ดันร่างสูงใหญ่ติดผนัง ล็อกกลอน ผมยิ้มเอื่อย

"แม๊กซ์..." มือลูบไล้ไปตามแผงอกแข็งแกร่ง เขามองแล้วยิ้มน้อยๆ

"มีอะไรครับ เจ้าหญิงของผม ?"

"เธอคบกับดาญ่านานแค่ไหน ?" มือไล้เข้าไปตรงสาบเสื้อ ดันร่างเข้าไปชิด ยกขาขึ้นบดเบียดเป้ากางเกงสามี

ใกล้... จนได้กลิ่นแอลกลอฮอล์ที่ชวนให้มึนเมา

"จำไม่ได้..." ดวงตาสีน้ำตาลแวววาว มือจับที่ข้อมือผม "หรือหล่อนจะ..."

ผมยิ้ม "หล่อนอาจเป็น John Doe ?"

"ไว้ผมจะเช็คดู" เขาตอบ โน้มกายลงจูบที่ซอกคอผม "ที่รัก... ยั่วผมแบบนี้คงไม่ได้กลับง่ายๆ"

ผมหัวเราะหึ.... "อยากให้ทุกคนรู้ไหม ว่าเธอรักฉันแค่ไหน ?"

ลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปากหนา เขางับที่เนื้อที่โผล่มาจากคอเสื้อผมเบาๆ "รับบัญชาครับ เจ้าหญิงของผม"

แล้วทั้งมือและปาก.... น้ำลาย ลิ้น ตวัดโลมเลียผม เราจูบกันอย่างเร่าร้อน ลิ้นทั้งสองตวัดโอบล้อมกันในช่องปาก เลาะเล็มเหงือกและฟัน เลียขอบปาก เรื่อยไปจนถึงคางและซอกคอ ลมหายใจร้อนๆ เป่ารดกันและกัน ผมครางหวิว วงแขนแกร่งโอบล้อมรอบเอว มือหนากำลังจะสอดเข้าไปในชายเสื้อแล้ว แต่ผมจับไว้ก่อนพลางหอบหายใจ

"อื้อ... พอก่อน" ผมเคลื่อนกายไปยืนบนสองเท้า จูบปลายคางเขาเบาๆ "เราเข้าไปกันเถอะ แล้วค่อยไปต่อกัน... ทีหลังนะ"

เขายิ้ม...

...แล้วจูบผมแผ่วเบาที่ริมฝีปาก

"ผมรู้ว่าคุณจะทำอะไร..." รอยยิ้มนั้นฉายแววเอ็นดู ทั้งๆ ที่ผมแก่กว่า ผมเบือนหน้าหนี ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

"ไม่ได้ทำอะไร..."

"ผมชอบ" เขาหัวเราะเบาๆ สองมือสอดใต้สะโพกผมแล้วอุ้มขึ้น "หึงผมแบบนี้บ่อยๆ นะครับเจ้าหญิง"

ผมหน้าร้อนฉ่าที่ถูกจับได้

ผมแค่... อยากให้ทุกคน โดยเฉพาะดาญ่ารู้ว่าสามีผมรักผมแค่ไหน... เท่านั้นเอง

"อื้อ ปล่อยลงเถอะ เราเข้ามานานแล้ว"

เขากดจูบที่ริมขมับผม "รับบัญชาครับ เจ้าหญิง"

แล้วเราก็กลับเข้าไปในร้าน สายตาทุกคู่มองมาที่เราสองคน ส่วนใหญ่ออกแนวล้อเลียนวาววับ มีบางคนที่ฉายแววรังเกียจชัดเจน

ส่วนแม๊กซ์... ไม่สนใจสายตาคู่ไหนเลย เขาโอบเอวผมแล้วพาผมไปนั่งตักตัวเองที่โต๊ะ

"ฉันจะกลับแล้วนะ" สามีผมเอ่ยช้าๆ

ในวงล้อมชายหนุ่มและหญิงสาวหน้าตาดีนั้น แม๊กซ์ไม่เขินอายที่จะพูดต่อเลย "จะไปต่อน่ะ"

เสียงโห่ฮาจากเพื่อนๆ ดังขึ้น มีเพียงดาญ่าที่เบะปาก และไมเคิลที่มีสายตาเกลียดชังเท่านั้น ทว่าแม๊กซ์ไม่สนใจ เขาโอบเอวผมลุกขึ้น วางเงินบนโต๊ะแล้วพาผมออกจากร้านไป

ภายนอกร้านลมหนาวกรีดผม ผมซุกกายแนบสนิทกับสามี ปล่อยให้เขาพยุงผมไปที่รถ

ร่างของแม๊กซ์สูงใหญ่....

ดังนั้น ไม่ว่าจะกี่สิบ John Doe ก็ไม่มีทางทำร้ายผมได้

และวันนี้... ท่ามกลางเพื่อนๆ เขา สามีผมก็พิสูจน์แล้วว่า เขาภาคภูมิใจแค่ไหนที่มีผมเป็นภรรยา

ผมดมกลิ่นแอลกลอฮอล์ที่ปนเปกับอาฟเตอร์เชฟ

กลิ่นของชายฉกรรจ์ กลิ่นของคนหนุ่ม กลิ่นของเขา กลิ่นของแม๊กซิมัส กลิ่นของอัศวิน กลิ่นของสามี กลิ่นของคนของผม กลิ่นของความรัก...

"ฉันรักเธอ" เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้นทำให้เขาโน้มกายลงมา

"ผมก็รักคุณ"

ผมยิ้มบาง ซุกหน้ากับวงแขนกว้าง อยากกลับบ้านแล้วกอดก่ายร่างกายกำยำนี้ ตีตราจองทุกอณูผิว ให้เขารู้ ให้ทุกคนบนโลกรู้...

...ว่านี่คือสามีของผม

...อัศวิน คนรัก ผู้ปกป้อง แม๊กซิมัสของข้าว...

...ใครจะมากล้าแย่งไป...

...ก็ลองดู!...

........

หลังจากนั้นก็ไม่มีข้อความอะไรจาก John Doe อีกเลย เรื่องคลิปนั้นแม๊กซ์ไม่ได้สนใจอะไร เขาเพียงแต่หัวเราะเยาะที่ John Doe ทำได้แค่นั้น

หลังเราร่วมรักกัน ร่างกายชื้นเหงื่อ ผมหลับตาพักบนร่างกายเขา เสียงกระพรวนกรุ๋งกริ๋งดังก้องห้องกว้าง ผมถามเบาๆ "แม๊กซ์... เธอรู้ได้ยังไงว่านั่นไม่ใช่ฉัน"

ในคลิปนั่นถ่ายไกลๆ เห็นร่างกายเท่านั้น ส่วนของใบหน้าไม่ชัดนัก

แม๊กซ์หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาทุ้มต่ำ ผมพลอยขยับไปด้วย "โธ่ ที่รัก... ตัวคุณนวลเนียนไปหมด ขนก็แว๊กซ์ออก ในคลิปนั่นตัวรับขนดกขนาดนั้นจะเป็นคุณไปได้ยังไง"

ผมฟังแล้วอึ้ง... ตลอดสองปีที่อยู่กับเขา ผมมีความลับที่เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่ความลับก็วันนี้ ผมพลิกกายรวดเร็วจนแม๊กซ์ต้องคว้าตัวไว้

"ระวังหน่อยครับ มามิ๊"

ผมเบิกตากว้าง พลิกตัวอย่างระมัดระวังท้องที่เริ่มดูออกว่าตั้งครรภ์แล้วทวนถาม "อะไรนะ ?"

มือหนาลากไล้แผ่นหลังผม จูบกระหม่อมแล้วกระซิบ "เมียผม ผมกอดทุกวัน รู้จักทุกตารางนิ้วบนร่างกายคุณ ทำไมผมจะจำไม่ได้"

"มะ ไม่ใช่" ผมเงยหน้าขึ้นจากอ้อมกอด ตาเบิกกว้าง "ธะ... เธอรู้..."

"อะไรครับ ?"

"ว่าฉัน... แว๊กซ์ขน..."

แม๊กซ์หัวเราะ "ไม่เห็นแปลกนี่ คุณเป็นผู้ชาย จะมีขนบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก"

บึ้ม! หน้าผมระเบิด ไม่นึกไม่ฝันว่าเขารู้มาตลอด...

...ผมภาคภูมิใจกับการเป็นเกย์รับมาตลอด ไม่นึกว่ากระทั่งแว๊กซ์ขนเขาก็รู้

ถึงจะสาวแตกขนาดไหน ผมก็เป็นผู้ชาย ถึงขนจะบาง แต่ก็พอมี ต้องขอบคุณผู้หญิงฝรั่งที่ขนดก ผลิตภัณฑ์กำจัดขนจึงหลากหลาย ผมเลยมีตัวเลือกเยอะ ผมแอบแว๊กซ์มาตลอดสองปี ไม่คิดว่าสามีตัวเองก็รู้

ก็ผมอยากเป็นเคะบอบบางที่ไม่มีขนเหมือนในมโนภาพของผู้ชายนี่!

"ธะ... เธอรู้มานานแค่ไหนแล้ว..."

"รู้มาตลอดแหละครับ" เขารวบตัวผมขึ้นกอดแน่น เกลี่ยเส้นผมออกจากใบหน้าแล้วจุมพิตเบาๆ "เป็นอะไรไป ?"

ผมก้มหน้างุด "ฮือ... ฉันอาย" พอกันที... คงไม่มีอะไรเกี่ยวกับผมที่เขาไม่รู้แล้วล่ะ

"อายอะไรครับ ไม่ว่ายังไงคุณก็เป็นเจ้าหญิงของผมอยู่ดี"

"ถึงจะขนดก..."

"ถึงเจ้าหญิงจะขนดก..."

"ถึงจะอ้วนเผละ"

"ถึงเจ้าหญิงจะอ้วนเผละ"

"ถึงจะสาวแตก"

"ถึงเจ้าหญิงจะสาวแค่ไหน... ถึงคุณจะเป็นยังไง ผมก็รัก เลิกกังวลได้แล้วครับ แล้วไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ แว๊กซ์ขนแล้วนะ"

ผมหัวเราะ ลูบไล้รอยสักบนแผงอกแกร่ง แล้วจูบเบาๆ "เข้าใจแล้ว... ขอบคุณนะ"

"ขอบคุณที่รักกัน..."

"ขอบคุณที่รักเกย์สาว มีขน แถมลงพุง"

แม๊กซ์ยิ้มหวาน "ผมสิต้องขอบคุณ"

"ขอบคุณที่มีคุณ... ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน"

"ขอบคุณที่ยอมเป็นภรรยาผม... รักนะครับเจ้าหญิงตัวน้อยของผม"

"อื้อ รักนะ อัศวินของฉัน" ผมแนบใบหน้ากับแผงอกสีแทนอย่างคนสุขภาพดี สูดกลิ่นเหงื่อจางๆ

คืนนี้จะไม่มีปิศาจร้าย... จะมีเพียงเจ้าหญิงกับอัศวิน

อัศวินที่รักเจ้าหญิงมาก... และเจ้าหญิงที่รักอัศวินไม่แพ้กัน

และทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป...

...พวกเราไม่ใช่ตอนจบของนิทาน แต่พวกเราจะมีความสุขไม่ต่างจากนิทาน

ใครใช้ให้แม๊กซ์รักผมมากขนาดนี้... ไม่สิ ใครให้คนที่ผมรัก รักผมมากไม่ต่างกันล่ะ ?

.......
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 8 18/10/16 P.7
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 04-12-2017 12:09:47
ราวๆ สองสามวันถัดมา ไม่มีข้อความอะไรจาก John Doe อีก ผมรู้สึกสบายใจไม่น้อย ดอกไม้ประจำวันนี้คือดอกทิวทิปสีแดง ผมรีบกูเกิ้ลหาความหมาย

...True love... รักแท้

ผมให้กลอเรียจัดช่อในแจกัน วันนี้มีสร้อยข้อมือฝังเพชรรูปดอกทิวลิปมาด้วย ผมเอามาใส่อย่างชอบใจ

ทั้งสร้อยข้อเท้า แหวนเพชร สร้อยข้อมือ ทุกอย่างทำจากทองคำขาวและฝังเพชรเม็ดงาม ทุกชิ้นละเอียด ประณีตจนผมไม่อยากรู้ราคา

และวันนี้ก็เป็นวันพิเศษ แม๊กซ์ยอมให้ผมไปเล่นโยคะได้ หลังจากที่ไปคุยมาหลายที่ ก็ตกลงที่ศูนย์โยคะในแมนฮัตตัน ตอนแรกผมกังวลเรื่องราคา แต่พิชกลับยิ้มแป้น ไม่พูดเรื่องนั้นอีก ทำให้ผมสบายใจไม่น้อย

ตอนนี้ผมท้องได้สี่เดือนแล้ว ลูกเริ่มดิ้นและเตะท้อง ผมรู้สึกถึงความตึงที่หน้าท้องเบาๆ เขาคงอยากออกมาดูโลก แม๊กซ์เห่อลูกมาก เขาหอบหิ้วรูปผมและลูกไปทุกที่

แม๊กซ์คุยจิ๊จ๊ะกับลูกทุกครั้งที่ว่าง ก่อนออกไปทำงานก็หอมลูกผ่านพุงผมไปด้วย ผมหัวเราะคิก

"ดูคุณอารมณ์ดีนะคะ" กลอเรียที่ลากเครื่องดูดฝุ่นทักอย่างหมั่นไส้ ผมลอยหน้าลอยตาตอบ

"ก็อารมณ์ดีทุกวัน"

"แหมๆ" หล่อนกลอกตาแล้วไม่พูดอะไรต่อ ผมหัวเราะ ดูเวลาก็ใกล้เวลานัดคลาสโยคะกับพิชแล้ว ผมเก็บข้าวของที่กลอเรียช่วยจัดแล้วเตรียมตัวจะออกจากบ้าน

แต่ไอโฟนของผมดังขึ้นเสียก่อน

...John Doe...

ผมรีบโทรหาแม๊กซ์ หวังสุดใจว่าครั้งนี้เขาจะจับบุคคลนิรนามนี้ได้

สัญญาณดังเพียงสองครั้งแม๊กซ์ก็รับสาย "เจ้าหญิง ?"

"แม๊กซ์! John Doe!"

แม๊กซ์เงียบไปเพียงเสี้ยววินาที "เดี๋ยวผมโทรกลับนะครับ"

"อืม"

ไม่นานนัก แม๊กซ์ก็โทรกลับมา "เจ้าหญิง เราจับมันได้แล้ว! คุณใจเย็นๆ ก่อนนะ ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง"

ผมตอบรับ แล้วดูจอโทรศัพท์อย่างชั่งใจ

แม้จะเชื่อว่าแม๊กซ์สามารถจัดการทุกอย่างได้ แต่ผมยังกังวล

แค่ดูเฉยๆ ว่า John Doe ส่งข้อความอะไรมาคงไม่เป็นไรมั้ง...

It should be ended
I apologize for everything
At first, I do not mean to harm you


ผมอ้าปากค้าง ไม่นึกว่าบุคคลนิรนามที่ด่าผมมาตลอดจะมาขอโทษ แถมยังบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย!

Asshole

ผมพิมพ์ตอบกลับ อีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

I understand your furious
But I don't hate you
I know the secret of your husband


ผมกัดริมฝีปาก... ความลับ... ความลับอะไรของแม๊กซ์ ผมดูข้อความถัดไป

The secret that he hides from you
He was not willing to join his friends' party, wasn't he?
He did not want you to know his secret...


ผมสูดลมหายใจลึก

What secret?

ฝ่ายนั้นพิมพ์กลับมา

Meet me at XX cefe in Manhattan on XX street and I'll tell you everything

ผมอ่านแล้วชั่งใจ แม๊กซ์ไม่เต็มใจที่จะพาผมไปพบเพื่อนๆ จริงๆ แต่เพื่อนส่วนใหญ่ของเขาก็เป็นมิตรดี...

...ความลับ ความลับอะไร

ผมดูข้อความสุดท้ายของ John Doe แล้วตัดสินใจ

OK, I'll meet you

อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

I'm wearing blue scarf, near the door

ผมตอบกลับ

OK

แล้วหยิบกระเป๋าเงิน มือถือออกจากบ้าน

....

เพราะไม่อยากให้แม๊กซ์รู้ ผมเลยออกทางประตูหลังตึก ถ้าออกทางประตูหน้า บอดี้การ์ดและคนขับรถต้องสงสัยแน่ที่ผมไม่ไปคลาสโยคะ

ผมบอกแคนเซิลพิชสั้นๆ ทางข้อความ แล้วหาแท๊กซี่ไปย่านธุรกิจตามที่อีกฝ่ายบอกมา

ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ พอหลับตาลง ก็พบว่าลูกสิงโตตัวนั้นยังคลอเคลียอยู่ที่เท้า ผมขยับตัวอย่างไม่สบายตัวบนเบาะหลังแท๊กซี่ เสียงกระพรวนดังเบาๆ เสียดสีกับข้อเท้า

ความลับ... ความลับของแม๊กซ์

John Doe อาจโกหกผม แต่ท่าทางที่แม๊กซ์ไม่ต้องการให้ผมไปพบเพื่อนๆ หรือความจริงที่ว่าเขาแทบไม่เชิญใครมางานแต่งของเรานั้นก็เป็นความจริง

...ผมควรทำอย่างไรดี ?

...

ระยะทางจากตึกที่ผมอาศัยกับร้านกาแฟที่นัดไม่ห่างกันนัก ยังใกล้กับสำนักงานของแม๊กซ์ด้วย ระหว่างทาง เขาโทรมาหลายสาย ผมตัดสายทิ้งแล้วลูบท้องเบาๆ

ความคิดผมบินไปไกลสุดกู่จนต้องพาตัวเองกลับมาหลายครั้ง ผมรีบจ่ายเงินแล้วลงไปยังร้านกาแฟ

ลมหนาวปะทะใบหน้า ผมเดินกอดตัวเองไปยังร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างเก๋ไก๋ ดูราคาแพง เมื่อเปิดประตูก็พบกับ John Doe...

...ไม่ใช่ดาญ่า

แต่เป็นชายหนุ่มวัยใกล้เคียงกับแม๊กซ์ เขามีผิวขาวซีด ผมสีทราย ตัวผอมกะหร่องจนผ้าพันคอสีฟ้าดูเทอะทะสำหรับเขา

ผมเดินเข้าไปใกล้ ถามเบาๆ "John Doe?"

เจ้าของชื่อปริศนาเงยหน้าขึ้น พูดชื่อผมอย่างฝรั่งหัดพูดภาษาไทย "Kaw?"

ผมพยักหน้า ทำเสียงให้ราบเรียบ "บอกมา"

เขายิ้ม แต่ไม่ได้ดูเป็นยิ้มของคนที่เหนือกว่าเลย "นั่งก่อนสิ คุณท้องอยู่นี่ รับเป็นโกโก้ก็แล้วกันนะ"

จริงๆ โกโก้ก็มีคาเฟอีน แต่ผมไม่อยากเรื่องมากเลยพยักหน้า "มีอะไรก็พูดมา"

ชายตรงหน้าสั่งโกโก้ให้ผมแล้วถามเบาๆ "กี่เดือนแล้ว ?"

"4" ผมไม่อยากอยู่นานนัก ยิ่งนานแม๊กซ์ก็จะยิ่งตามหาผมพบ แล้วผมจะห่างไกลจากความลับนั้นไปอีก

"งั้นเริ่มเลยนะ... ผมก็ไม่อยากให้คุณเสียเวลา คุณได้ยินชื่อผมจากปากแม๊กซิมัสบ้างไหม ?"

"ชื่ออะไรล่ะ ?" หรือจะเป็นคนรักเก่าของแม๊กซ์... ผมฟุ้งซ่าน

"โจนาธาน บิชอป"

"ไม่เลย" ผมตอบ นิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อโกโก้มาเสิร์ฟ

เขาหัวเราะเบาๆ ฟังดูเศร้า นัยน์ตาเขาส่อแววเจ็บปวด ผมยิ่งปักใจเชื่อว่านี่คือคนรักเก่าของแม๊กซ์

"คุณเป็นแฟนเก่า ?" ผมถาม ใจเริ่มเจ็บ... แต่คนตรงหน้ากลับส่ายหน้า

"เปล่า... ยิ่งกว่าแฟนเก่า เขาคงไม่บอกคุณแน่ ว่าเขาเคยฆ่าคน"

แกร๊ง... แก้วในมือผมดังกระทบกับจานรอง "อะไรนะ!?"

"แต่ไม่ตาย...." รอยยิ้มนั้นดูเย้ยหยัน "ผมไม่ได้เกลียดคุณข้าว... แต่เกลียดแม๊กซิมัส! สมัยที่เราอยู่เกรดเก้า ผมเป็นเพื่อนร่วมห้องเขา... เป็นชนกลุ่มน้อยในโรงเรียน แอบหลงรักเขา แอบมองเขา... หรือที่คุณเรียกว่าเกย์นั่นแหละ ผมไม่ได้ป่าวประกาศหรือต้องการอะไรจากแม๊กซิมัส แต่พอเขากับเพื่อนๆ รู้ว่าผมเป็นเกย์... ที่หลงรักเขา นรกของผมก็เริ่มต้น" มือที่จับแก้วกาแฟอยู่สั่นระริก ผมสังเกตเห็นรอยแผลบนข้อมือสีซีด

"ผมถูกขังไว้ในล็อกเกอร์ ถูกแก้ผ้าจับมัดในโรงยิมตอนฤดูหนาว ถูกจับกดน้ำในคาบพละ ถูกขังไว้ในห้องน้ำ..." เสียงหัวเราะเสียดสีคั่นเสียงแหบๆ "ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย... แค่ความสนุก แค่ความรังเกียจของคนที่คุณนอนกอดอยู่ทุกคืนทำให้ทุกวันเหมือนนรก!"

ผมอึ้ง... ไม่นึกว่านี่คือความลับของแม๊กซ์ ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนดีนัก เขาใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างผาดโผน ผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ปาร์ตี้ ผู้หญิง... หรืออย่างร้ายที่สุดก็ยาเสพติด แต่ไม่คิดว่าเขาจะรังแกคนคนหนึ่งได้ขนาดนี้

"ผมพยายามฆ่าตัวตายหลายครั้ง! แต่ไม่สำเร็จ ในที่สุดพ่อแม่ผมทนไม่ไหวก็ต้องย้ายผมไปอยู่ซีแอตเติล"

"แล้ว... ทำไมไม่แจ้งความ" ผมถามแผ่วๆ

"หึ... ใครจะกล้าไปแจ้งความแม๊กซิมัส ไม่มีใครเชื่อผมนอกจากครอบครัว ในที่สุดผมก็เป็นฝ่ายหนีไปเอง..."

"ข้าว!" เสียงเรียกห้าวๆ ดังขึ้นหลังเสียงกระดิ่งของร้าน ดังกลบเสียงของโจนาธาน ผมสะดุ้ง หันกลับไปตามเสียงเรียก

แม๊กซ์!

ดูเขารีบร้อน โค้ทถูกสวมไว้อย่างหมิ่นเหม่ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวเร็วๆ มายังผมแล้วคว้าแขนจนเจ็บ

"ข้าว! เป็นอะไรหรือเปล่า ?"

"แม๊กซ์... เบาๆ" ผมปรามเขา แม๊กซ์ไม่สนใจโจนาธานแม้แต่น้อย เขาดึงผมให้ลุกขึ้นแล้วตรวจด้วยสายตาว่าผมไม่อะไรหล่นหาย

"ไม่คิดว่าจะมีวันนี้นะ" โจนาธานพูดขึ้น แม๊กซ์จึงหันหน้าไปหา

"แก!? John Doe?"

โจนาธานยิ้มหยัน "จำฉันไม่ได้เหรอ... แกเกือบฆ่าฉันไปหลายครั้งเลยนะ"

ใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าแม๊กซ์จะจำได้ "โจนาธาน... บิชอป ?" เสียงที่ลอดริมฝีปากมาแผ่วเบา ก่อนจะเน้นหนัก "แกต้องการอะไร!?"

"แค่อยากให้ชีวิตคู่ที่แสนเพอร์เฟคของแกร้าวฉานบ้าง" เขาเบือนหน้ามาทางผม "แต่ไม่สำเร็จสินะ... ภรรยาแกแข็งแกร่งมาก ดีและรักแกจนแกไม่คู่ควร"

แม๊กซ์ฟังแล้วรีบโอบผมไว้ ราวกับกลัวผมหายไป "ถ้าแกต้องการอะไรมาลงที่ฉัน ไม่ใช่ลงที่ข้าว!"

โจนาธานหัวเราะแห้งๆ ส่ายหน้าและยกมือขึ้นเชิงยอมแพ้ "ฉันไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว... ตั้งแต่ส่งตุ๊กตาหมีไปให้ก็เพื่อขอโทษ"

ตุ๊กตาตัวนั้น...

...มันก็จริง นอกจากคำด่าแล้ว John Doe ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรพวกเราเลย

"ฉันไม่ได้ขอให้แกยกโทษให้ แต่อยากให้แกเลิกยุ่งกับข้าว!" แม๊กซ์เค้นเสียง มือทุบโต๊ะดังตึง ทว่าโจนาธานกลับไม่เกรงกลัว เขาส่ายหน้า

"ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ... หรืออะไรจากพวกแกอีก..."

ผมเม้มปาก สะกิดแม๊กซ์ "แม๊กซ์... เรื่องเลวร้ายทั้งหมด... เธอทำอย่างนั้นเหรอ ?"

แม๊กซ์โอบผมไว้ทั้งตัว จูบเรือนผมอย่างปลอบประโลม "ใจเย็นๆ นะครับเจ้าหญิงของผม"

"แม๊กซ์ เธอทำเหรอ" เสียงผมหนักขึ้น จ้องเขาอย่างหาคำตอบ แม๊กซ์เงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า

"...คุณได้ยินอะไรมา ?"

"ขังคนในล็อกเกอร์... ทำร้ายคนคนหนึ่งจนเขาฆ่าตัวตาย"

ราวกับจู่ๆ ร่างบึกบึนก็หมดแรง มือเขาสั่นระริกขณะลูบเรือนผมผม "...จริงครับ"

ผมหลับตาลง ก่อนจะเบิกตาขึ้นช้าๆ "ขอโทษซะ"

"อะไรนะครับ ?"

"ขอโทษโจนาธานซะ"

"เจ้าหญิง..."

"ฟังฉัน ถ้ายังอยากเป็นสามีฉันอยู่ ขอโทษเขาซะ" ผมยื่นคำขาด โจนาธานเบิกตากว้าง แม๊กซ์สูดลมหายใจลึก หันไปหาร่างผอมแห้ง

"ขอโทษ... ขอโทษจริงๆ"

"ผม... ผมไม่ได้คาดหวังอะไรแบบนี้" โจนาธานตอบช้าๆ

"ฉันก็ขอโทษแทนสามีฉันด้วย เราไม่สามารถย้อนเวลาไปเพื่อแก้ไขได้ พวกเราทำได้แค่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ"

โจนาธานยิ้ม ผมเห็นนัยน์ตาเขาเอ่อคลอด้วยน้ำตา "คุณสมควรแล้วที่เอาแม๊กซิมัสอยู่... ตอนที่ไมเคิลเล่าเรื่องพวกคุณให้ฟังตอนแรกผมก็ไม่เชื่อ ตอนนี้ผมเชื่อแล้วจริงๆ"

"เชื่ออะไร ?" ผมถาม ดึงแม๊กซ์ไว้

"คุณเหมาะสมเป็นภรรยาหมาบ้าอย่างเขาน่ะสิ" โจนาธานหัวเราะเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ไม่ฝืดเฝืออีกแล้ว "ผมอาจรอมาตลอดหลายปี รอคำขอโทษจากเขา... เอาเถอะนะ เราเลิกแล้วต่อกันเถอะ ผมก็ทำให้พวกคุณกังวลไม่น้อยเหมือนกัน"

"ขอบคุณนะ" ผมยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ "แล้วที่คุณว่าไมเคิล..."

โจนาธานพยักหน้า "ไมเคิล มอร์... เพื่อนแม๊กซิมัสนั่นแหละ... เขาเป็นคนแรกที่มาขอโทษผม แล้วหลังจากนั้นเราก็คบกัน เขาเป็นคนส่งข้อความหาคุณช่วงหลังๆ แล้วก็เปลี่ยน ip น่ะ"

มิน่าล่ะ... ข้อความช่วงหลังๆ ฟังดูคุกคาม ไม่สาวแตกเหมือนก่อนหน้า

"เขาเป็นคนส่งคลิปไปด้วย ผมห้ามเขาไม่ได้จริงๆ"

ผมส่ายหน้า "ไม่เป็นไร"

โจนาธานยิ้ม "ขอบคุณนะ ผมต้องไปแล้ว" เขาลุกขึ้น หยิบโค้ทก่อนจะโบกมือให้และออกจากร้านไป

เหลือไว้แต่ผมกับสามี... ผมถอนหายใจเฮือก "แม๊กซ์... งานเธอล่ะ ?"

"รอได้ครับ" เขาตอบ ยังจับตัวผมไว้ ผมบีบมือเขากลับ "อยากเล่าอะไรไหม ?"

แม๊กซ์เม้มปากจนเป็นเส้นตรง "ไปที่ออฟฟิศผมนะครับ"

ผมพยักหน้า

....

แม๊กซ์ยังทำเหมือนเดิม ผมทักทายทีนา เขาช่วยผมถอดโค้ท และสั่งทีนาไม่ให้ใครเข้ามาก่อนจะปิดประตู

ผมนั่งพักที่โซฟาหนังแท้ แม๊กซ์หยิบน้ำผลไม้จากห้องข้างๆ มาให้ผม และยกตัวผมให้นั่งตักเขา ใบหน้าหล่อเหลาซบลงตรงบ่าผม เขาดูหมดพลัง... ไม่เหมือนแม๊กซิมัสผู้เข้มแข็ง

ผมลูบศีรษะเขาเบาๆ

บางครั้ง... ไม่ต้องเข้มแข็งหรือแข็งแกร่งก็ได้

เพื่อเผชิญความจริง จะอ่อนแอบ้างก็ได้


ขอเพียงเขาสำนึกถึงความผิดตัวเอง...

"เจ้าหญิง..." เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ "อย่าจากผมไปนะ..."

"จะให้ฉันไปไหน ?" ผมตอบ

"คุณรู้ความจริงหมดแล้ว... อย่ารังเกียจผมเลยนะ" น้ำเสียงเจือความอ้อนวอน ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนยกสองมือขึ้นโอบเขาไว้

"ไม่หรอก... ไม่ไปไหน ถ้าเธอยังต้องการฉัน ฉันก็จะอยู่กับเธอ"

"เจ้าหญิง ข้าวของผม..." แม๊กซ์ซุกหน้าเข้ามา ลมหายใจอุ่นๆ สัมผัสผิวกันและกัน ผมยิ้มน้อยๆ

"เธอตามฉันเจอได้ยังไง ?"

"ผมล็อกอินเฟซบุ๊กของคุณกับแกะรอย ip หลังจากโทรหาคุณไม่ติด"

มิน่าล่ะ... "สมัยวัยรุ่นเธอร้ายมากเลยเหรอ ?"

แม๊กซ์แค่นหัวเราะ "มีแค่เสพยาที่พวกเราไม่ทำ คุณพอจะฟังได้ไหมครับ ? เรื่องของโจนาธานทำให้ผมรู้สึกผิดมาตลอด..."

ผมพยักหน้า ลูบเรือนผมสามีไปด้วย ตอนนี้เขาต้องการอ้อมกอดมากกว่าเซ็กส์

และไม่ว่าอะไร ผมก็พร้อมจะมอบให้เขา...

...ที่รักของผม

"พวกผม ซาราห์ ดาญ่า ไมเคิลและคนอื่นๆ... พวกเราเป็นคิงและควีนของโรงเรียน เป็นนักกีฬาและเชียร์ลีดเดอร์ เรียนเก่ง หน้าตาดี ร่ำรวย ใครๆ ก็เชื่อถือ พวกเราเหลิงไปกับชื่อเสียง ใช้ชีวิตอย่างราชา ดูถูกคนอื่นๆ ที่ไม่เหมือนเรา"

"เหมือนในหนังน่ะเหรอ ?"

"ครับ... แบบนั้นเลย เรารังแกคนที่อ่อนแอกว่า พวกเกย์ อีโม เนิร์ด... ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง ทำให้ชีวิตมอปลายคนอื่นๆ เหมือนตกนรก... แต่พอโตขึ้น พวกเราถึงเพิ่งนึกเสียใจ โดยเฉพาะรู้ว่าโจนาธานพยายามฆ่าตัวตาย"

ผมไม่ตอบ ยังลูบเรือนผมเขาเหมือนปลอบโยนเด็ก

"ยิ่งอายุมากขึ้น มันยิ่งเหมือนตราบาป เป็นรอยแผลที่สำนึกผิดช้าไป... ผมถึงไม่อยากให้คุณเจอเพื่อนๆ ผม เพราะพวกเขาก็เหมือนผม... และไม่อยากให้คุณรู้ว่าอดีตผมเลวร้ายแค่ไหน"

"เธอเป็นหัวหน้าเลยเหรอ ?"

"ใช่ครับ... ผมเป็นหัวโจก เป็นควอเตอร์แบ๊ก" ผมน่าจะเดาได้ตั้งแต่ปืนพกของเขาแล้ว ไหนจะเซ็กส์ปาร์ตี้ที่ไทยอีก "ผมเป็นคิง เป็นราชาที่เหยียบหัวคนอื่นขึ้นไปตั้งแต่เรียน ผมเพิ่งสำนึกผิดได้ตอนรู้จักกับคุณ" ริมฝีปากเขาโค้งขึ้นน้อยๆ "ถึงผมจะเลวร้ายแค่ไหน แต่ผมกลับอยากเป็นคนดีของคุณ เป็นคนที่คุณรัก..."

"อืม เข้าใจแล้ว" ผมคลายอ้อมกอด ก้มลงไปกระซิบข้างหูเขาเบาๆ "เธอเป็นคนที่ฉันรัก..."

"คุณจะยังอยู่เคียงข้างผมไหม ? ผมที่เลวร้าย..." เสียงเขาอ่อนแอ ผมยกมือขึ้นปิดปากเขา จ้องนัยน์ตาคมกริบสีน้ำตาล

"ฟังฉันนะ แม๊กซิมัส... ไม่ว่าอดีตเธอจะเป็นอะไร ขอให้เธอสำนึกผิดกับมัน... ฉันขอแค่นั้น แล้วเราก็จะจูงมือกันผ่านมันไป ให้มันเป็นอดีต เป็นบทเรียน... เข้าใจไหม ?"

"ข้าว... ข้าว..." แม๊กซ์พึมพำ จูบมือผมที่ปิดปาก "ผมรักคุณ ผมต้องบอกคุณอีกกี่ครั้ง ว่าผมรักคุณ..."

"ฉันก็รักเธอ... ฉันจะไม่เบื่อที่บอกรักด้วย" ผมดึงมือออก แล้วแทนที่มันด้วยริมฝีปาก

จูบของเราแผ่วเบา... แต่ตราตรึง

ก่อนที่แม๊กซ์จะโอบกอดผมไว้ทั้งตัว ร่างทั้งร่างผมโอบล้อมด้วยกลิ่นของเขา

ไม่ต้องแข็งแกร่งที่สุด ดีที่สุดก็ได้... อัศวินของผม

เสียงกระพรวนดังกรุ๋งกริ๋ง ผมเห็นลูกสิงโตคล้ายฉีกยิ้มตรงเปลือกตา

นั่นสินะ... ไม่ต้องเข้มแข็งก็ได้... บางครั้งบางคราว ก็อ่อนแอให้ผมโอบกอดและปลอบโยน

มือของเขาเลื่อนไปลูบไล้หน้าท้องผมเบาๆ ผมยิ้มให้ทั้งๆ ที่ริมฝีปากเรายังแนบสนิท

ไม่ต้องแสนดีเหมือนฮีโร ไม่ต้องไร้ที่ติเหมือนพระเอกนิยาย...

...แค่เป็นคนของผม รักข้าวคนนี้

...แค่นี้ก็เป็นอัศวินของผม เป็นสุดที่รักของผมแล้ว ผมผ่อนลมหายใจ กอดเขาไว้ในวงแขน


"ข้าวรัก... รักแม๊กซิมัส... รักแด๊ดดิ๊ครับ"

"แด๊ดดิ๊ก็รักเจ้าหญิง รักมามิ๊... ที่สุดในโลกครับ..."
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: eveeveclub ที่ 04-12-2017 13:26:19
ตอนนี้เริ่มต้นด้วยความหมั่นไส้คนอวดผัว ยั่วยวนซ่องแตกไปอีก 
มีความระทึกตอนข้าวออกไปตามหาความลับ
แล้วจบลงด้วยความรักลึกซึ้งของสองผัวเมีย   :mew6:

ออกเล่มมาเลยค่ะ พร้อมเปย์ :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2017 14:33:34
รักเต็มหน้า ฉันรักเธอ เธอรักฉัน นังข้าวนังคนอวดผัว ชิชิ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 04-12-2017 23:18:06
ต้องบอกว่าแม็กมีเมียที่แข็งเกร่งมากจริงๆ
ไม่มีอะไรมาทำอันตรายใดๆนางได้
นางจะอยู่ยงคงกระพัน
อยู่เคียงข้างหลัวตราบนานเท่านาน

ปล.หายไปนานเลย คิดถึงนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-12-2017 23:37:58
 :m19: :m19: :m19:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 06-12-2017 18:45:48
โอ๊ยยยยย หมั่นไส้กับการบอกว่าเอาเพชรมาเล่นหมากเก็บ ... ค่ะนังข้าว!!!
การอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วได้เม้นท์จิกกัดนังข้าว คือความสุขอย่างนึง 5555
ถึงจะจิกกัด แต่ก็ชอบนางนะ นางน่าหมั่นไส้ดี
นี่จินตนาการรูปร่างนางออก ยกเว้นหน้าตา เพราะผัวเทิดทูนมากกก
ชมสวย น่ารัก แต่ข้าวบอกตัวเองหน้าจืดๆ
หน้าตานางในจินตนาการเลยไม่มี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 30-01-2018 20:36:48
10

ผมจัดข้าวของอันได้แก่กระบอกน้ำ กางเกงโยคะ ผ้าขนหนูลงในกระเป๋า ส่วนเสื่อโยคะนั้นสะพายเอา กลอเรียที่ดูดฝุ่นอยู่ด้านนอกโผล่หน้าเข้ามาแซว

"แหม จะฟิตหุ่นตอนท้องเหรอคะ ?"

ผมหัวเราะ "ก็เพื่อนชวนเล่นน่ะ"

"ค่า ค่า งานอดิเรกคนรวย" แขวะพอหอมปากหอมคอแล้วร่างตุ๊ต๊ะก็กลับไปรบกับเครื่องดูดฝุ่นต่อ

ผมโทรหาพิชเพื่อรายงานว่าจะออกจากบ้านแล้ว เพื่อนที่ชวนผมมาเล่นโยคะไม่เคยเลท พิชไม่ปล่อยโอกาสที่ได้เมาท์แตกกับบรรดาแม่ๆ ที่ตั้งท้องในคลาสแน่นอน

ผมหยิบหูฟังมาเสียบกับไอโฟน ฟังเพลงระหว่างเข้าไปนั่งในรถโรสลอยที่คนขับมาเปิดให้ รู้สึกตัวเองดังเป็นเซเลปที่ต้องมีคนขับรถและบอดี้การ์ด

เปล่าเลย... ไม่มีปาปารัซซี่มาเก็บรูปยามเผลอของผมหรอก

แต่เป็นสามีขี้หวงต่างหากที่แทบไม่ให้ผมกระดิกตัวไปไหน จะออกไปชอปปิ้ง ไปหาหมอ ไปเล่นโยคะต้องมีบอดี้การ์ด นับตั้งแต่เรื่อง John Doe เขาก็ยิ่งเพิ่มความระวังมากขึ้น และถึงแม้ผมอยากเป็นเพื่อนกับ John Doe มากแค่ไหน เขาก็ห้ามติดต่อทุกช่องทาง

ผมถอนหายใจ

จะเถียงไปก็แพ้ เลยได้แต่ยอมรับ

...

วันนี้คลาสครึกครื้น เพราะซาช่า ครูโยคะของพวกเราแนะนำนักเรียนใหม่ บรรดาแม่ๆ ต่างไปรุมล้อมอย่างกระตือรือร้น

ผมเองก็พลอยเป็นกับเค้าไปด้วย

นักเรียนใหม่ในคลาสเป็นคนไทยเหมือนผมกับพิช ที่สำคัญคืออาศัยอยู่ตึกเดียวกับผมด้วย

"คนไทยหน้าเด้ก เด็ก" อลิเซีย แม่ลูกสามและอยู่ในท้องอีกหนึ่งรำพัน พลางยิ้มแต้ "ชื่ออะไรเหรอ ?"

"เรนครับ" นักเรียนใหม่ท่าทางเหมือนเด็กนักศึกษาตอบเสียงเบา พิชไม่รอช้าถามต่อ

"อายุเท่าไหร่ ท้องกี่เดือนแล้ว อยู่นิวยอร์กมานานไหม" หน้าหลังแว่นกระตือรือร้นเหมือนเด็กได้เพื่อนใหม่

"เอ่อ ยี่สิบสองครับ ท้องได้เดือนกว่าแล้ว" เรนลูบหน้าท้องอย่างเผลอตัว "เพิ่งมาอยู่ได้หกเดือนครับ"

"แล้วนี่ฝากท้องที่ไหน ?" ผมถามบ้าง เป็นคำถามสามัญไปแล้วสำหรับคนท้อง

เรนยิ้มบางๆ "ด๊อกเตอร์กาเบรียลครับ"

"หมอเดียวกับพวกเราเลย" พิชหัวเราะ จูงมือเรนเข้าไปในห้อง "ไว้พวกเราไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ อลิเซียจะไปไหม ?"

แม่ลูกสี่ส่ายหน้า "โนจ้ะ วันนี้ต้องกลับไปจัดการห้องให้เบบี๋น่ะ"

"โอเค งั้นมีแต่พวกเราเนอะ เรนจะกลับยังไง ?"

"เอ่อ สามีมารับครับ"

"งั้นชวนให้มากินข้าวด้วยกันเลยสิ" พิชผู้ชื่นชอบความวุ่นวายและเป็นมิตรกับทุกคนกล่าว ผมจะสะกิดให้ลดๆ ความตื่นเต้นหน่อยก็ไม่ทันเสียแล้ว ดูเรนเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ช่างพูด จะกลัวพวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้

"เอ่อ..." เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างลังเล ก่อนจะตอบเบาๆ "ครับ"

....

จริงๆ แล้วคลาสโยคะของพวกเรามีนักเรียนน้อย แต่ราคาคอร์สแพงหูดับ นอกจากผม พิช เรนและอลิเซียแล้วก็มีบริททานีย์กับลีแลนด์เท่านั้น ทุกคนในคลาสร่ำรวยและเป็นมิตรมาก บริททานีย์เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนที่ยังทำงานอยู่แม้จะท้องได้แปดเดือน ส่วนลีแลนด์ทำงานเป็นทนายท้องได้หกเดือน ซาช่าที่เป็นครูสอนก็ร่าเริงแจ่มใส คงเพราะรู้ว่าพวกเรามาเรียนเพื่อหาเพื่อนหรือฆ่าเวลามากกว่าจะจริงจัง

แรกๆ เรนดูประหม่าและเกร็งเหมือนกระต่ายน้อย แต่เพราะอายุน้อยที่สุดทุกคนเลยเอ็นดู ไม่นานเขาก็เข้ากับพวกเราได้

สามีของเรนเป็นนักธุรกิจ ซึ่งผมและพิชก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอะไร เขาชื่อคุณภูมิเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่ร่างกายสูงใหญ่ ดูเรนจะรู้เกี่ยวกับสามีน้อยมาก และแม้กระทั่งกับสามี เด็กหนุ่มก็เกร็งๆ คงเพราะอายุห่างกันมาก เลยดูเหมือนผู้ปกครองกับเด็ก แต่กระนั้น ก็ดูเอาอกเอาใจกันดี

ผมกับพิชสบตากัน ยิ้มน้อยๆ
 
วันนี้สามีตัวโตของเรนไม่มาร่วมวงมื้อเที่ยงด้วยกัน แม๊กซ์ก็ติดธุระ พิชเลยสำแดงความแผลงออกมา บางอย่างแล่นผ่านแว่นของพิช ผมสะดุ้ง พิชคงมีอะไรสนุกๆ มาเล่นอีกแน่นอน

"นี่ เรามาเล่นอะไรกันไหม ?"

"อะไร ?" ผมดูดน้ำผักสมูตตี้ ร้านที่เรามากินเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่เอาใจคนท้องในนิวยอร์กด้วยเมนูมื้อกลางวันสำหรับคนท้อง เราสั่งมากินกันคนละชุดเพื่อกันบรรดาสามีที่ห่วงว่าพวกเราจะไปกินอะไรแสลงลูกในท้อง

"เรามาโอน้อยออกกัน คนที่ออกคนแรกต้องปฏิบัติภารกิจ"

"ภารกิจ ?" เรนทวนคำ ใช้สมาธิในการหั่นสเต๊กปลาในจาน

แพงก็แพง มีแต่ผักกับปลา

"ช่าย เต้นยั่วผัว"

ผมสำลักน้ำผัก เรนทำส้อมตกดังเคร้ง แต่พิชกลับโน้มตัวมาด้วยความตื่นเต้น

"นี่ไง คนที่ออกคนแรกต้องไปเต้น lady marmalade แล้วอย่าคิดจะโกง เพราะเราจะไปถามสามีด้วยว่าเซ็กซี่แค่ไหน"

ผมกับเรนกลืนน้ำลายเอื๊อก พิชสนุกแน่ล่ะ ในเมื่อเขาเก่งเรื่องเป่ายิงฉุบกับโอน้อยออกมากๆ ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไร

"นี่ มีคอสตูมด้วยนา" ว่าแล้วพิชก็ล้วงๆ ควักๆ กระเป๋าออกมา ผ้าซาตินสีชมพูมันเลื่อมเป็นชุดเกาะอก ด้านหลังแต่่งด้วยคอร์เซ็ทผูกริบบิ้นอันใหญ่ อีกชิ้นเป็นบิกินนีสีชมพูและถุงน่องพร้อมสายรัด

"ไม่เล่นไม่ได้เหรอ" เรนพึมพำเสียงเบา ผมพยักหน้าเห็นด้วย แต่พิชสะกิดขา

'อะไร ?' ผมส่งสายตาเป็นคำถามไป พิชส่ายหน้าแล้วบอกเรน

"เรน ไปเอาส้อมใหม่ที่เคาเตอร์สิ" เรนฟังแล้วก็ลุกออกไปอย่างว่าง่าย ทันทีที่รุ่นน้องคล้อยหลังไป พิชก็เขยิบมาทางผมทันที

"ข้าวไม่คิดเหรอว่าระหว่างเรนกับผัวอ่ะดูแปลกๆ"

"แปลก ?"

"ใช่ ไม่ค่อยสนิทกันใช่ม้า คู่แต่งงานใหม่ก็งี้ อาจจะอายๆ"

ผมตามเขาทันแล้ว "เลยจะให้เต้นยั่วจะได้สนิทกัน ?"

พิชพยักหน้า ใบหน้าเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก

แล้วจะไปยุ่งเขาทำไม... อยากจะถามแบบนี้ แต่พิชสนุกเกินกว่าจะฟังคำห้าม แล้วเรนก็กลับมาพร้อมส้อมอันใหม่พอดี เขาจึงผละออกไป

"เอาล่ะนะ guys... โอน้อยยย ออก!" ไม่ยอมให้ปฏิเสธ ผมยื่นมือออกไปอย่างลืมตัว

...ชิบโหง!

"อ้าว!"

"โอ๊ะ!"

หวยออกที่ใคร ไม่ใช่คนที่เขินๆ อายๆ กับสามีหรอก มาลงที่ผมนี่!

"ข้าวเหรอ" สายตาที่มองผมมาจากพิชระยิบระยับเชียว ผมอยากร้องไห้

เรนลูบหลังผมเบาๆ อย่างปลอบใจ

...นี่คงเป็นคำพูดที่ว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวสินะ...

ผมจำใจรับชุดวาบหวิวมา... พร้อมคำถามในหัว

คนท้องห้าเดือนจะเต้นยั่วผัวยังไงให้เซ็กซี่ ?

...แม่ครับ ช่วยผมด้วย!

....

เมื่อรับภารกิจมาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ผมเริ่มจากซ้อมเต้น... จะซ้อมยังไง ในเมื่อมีกล้องวงจรปิดฉายภาพผมตลอดเวลาอย่างนี้ ?

เริ่มจากเอากล้องออกซักห้องก็แล้วกัน

ผมเอาชุดซ่อนในวอล์กอิน-โคลเซ็ทของตัวเองแล้วออกไปจัดดอกไม้ที่แม๊กซ์ส่งมาสำหรับวันนี้

วันนี้เป็นคาร์เนชันสีขาว แปลว่ารักบริสุทธิ์...

ส่วนเพชรที่ห้อยมากับช่อดอกไม้คือจี้รูปหยดน้ำทำจากคริสตัล แต่งด้วยเพชรรอบๆ ผมช้อนจี้และสร้อยออกมาเพื่อเก็บใส่เซฟที่ชักจะเต็มแล้ว และเอาช่อคาร์เนชันพร้อมการ์ดไปปักในแจกัน

You're my pure love...

ผมหน้าเห่อร้อน รีบเก็บการ์ดและทำอาหารเย็น แอบกินแอปเปิลดองจากบ้านพิชแล้วหาหม้อไหมาทำอาหารเย็นง่ายๆ เพราะหมดไอเดีย

สปาเกตตี้ก็แล้วกัน

ผมหั่นผักคลุกน้ำสลัดพอดีกับที่แม๊กซ์กลับบ้านมาพอดี เขาถอดโค้ทและผ้าพันคอแล้วตรงมากอดเอวผม

"อะไรน่ะครับ ?"

"วันนี้ฉันไม่มีไอเดีย กินสปาเกตตี้กับสลัดนะ ?"

"ครับ น่ากินจัง" หอมแก้มผมแล้วลูบหน้าท้องผมเบาๆ "ลูกดิ้นบ้างไหม ?"

ผมยิ้ม "อื้อ ตอนทำท่าสุริยะนมัสการถึบแรงเชียว สงสัยชอบโยคะ"

แม๊กซ์ทำหน้ายู่ "ตอนนี้ล่ะครับ ?"

"ไม่ดิ้นนะ สงสัยไม่หิว" ผมตอบ "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิ แล้วมากินข้าว"

"โอเคครับ"

ผมถอนหายใจ เริ่มกลับมาคิดเรื่องภารกิจ จะเริ่มพูดยังไงให้แม๊กซ์เอากล้องออกซักตัวนึง

ผมรอจนเราสองคนอิ่มก่อน แม๊กซ์มานัวเนียจะขอ 'dinner sex' ผมเลยได้โอกาสตอนที่เขาถอดกางเกงผมออกไป

"อืมมม แม๊กซ์" ตั้งใจทำเสียงอ่อยแต่มันกลับฟังดูแรดจนผมยังรับไม่ได้

"ครับเจ้าหญิง"

"เอากล้องออกซักตัวนึงมั้ย"

แม๊กซ์เงยหน้าจากซอกคอผม "อะไรนะ ?"

"อืม กล้องตรงห้องน้ำน่ะ เธอไม่ต้องดูฉันอึฉันฉี่ก็ได้นี่ ?" ผมพูดต่อเบาๆ รวบรวมความกล้าขึ้นลูบไล้ตอหนวดแข็งๆ สีเขียวครึ้ม "นะ..."

"ทำไมครับ ? ผมเป็นห่วงคุณ ไม่ว่าคุณจะ..."

"ฉันอาย" ผมกระซิบ ไล้มือมาจรดยังรอยสักที่เป็นชื่อผมบนแผ่นอกตึงแน่น "นะ... ฉันอยากดูดีตลอดเวลาในสายตาเธอ..."

"เจ้าหญิง..."

"นะ... ได้โปรด" ผมจูบคางที่มีตอหนวดสั้นๆ แม๊กซ์หัวเราะเบาๆ

"อ้อนจังเลย... ก็ได้ครับ"

ผมยิ้ม ไม่นึกว่าจะง่ายขนาดนี้

"แต่คืนนี้... ต้องให้ผมกินให้อิ่มนะ" ว่าแล้วก็ยิ้มร้าย ผมหัวเราะ

"ได้... กินเท่าที่เธอต้องการเลย" และแล้วเราก็จูบกัน รอยจูบแสนหวานอุ่นไปถึงหัวใจ ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัด น้ำลายไหลเยิ้มมุมปาก แม๊กซ์จูบไล้ไปถึงยอดอก เขาให้ผมคาบเสื้อยืดที่กางกั้นไว้ แล้วโลมเลียยอดอก ขบเม้มจนมันตั้งยอด ผมตัวสั่นระริก เสียววาบไปถึงสันหลัง

แค่เริ่มเขาก็ทำให้ผมเป็นขนาดนี้แล้ว...

ผมสะบัดหน้า แม๊กซ์ขบเม้มไปถึงสะดือ ใช้ฟันขบกางเกงในออก เขาพรมจูบหน้าท้องที่มีลูกของเราอยู่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลยไปถึงกลางกาย ปากร้อนๆ เลียแท่งน้อยๆ ก่อนจะดูดทั้งแท่งเต็มสูบ ผมกระดกเอวตาม รสชาติกามลอยอ้อยอิ่งระหว่างเรา ผมได้แต่ครางหวิว ปากที่คาบเสื้ออยู่เผลอปล่อยผ้าออกมา แม๊กซ์จุ๊ปาก

"เด็กไม่ดี... คาบไว้ก่อนสิครับ"

"อ๊ะ อ๊าาาา" นิ้วมือเขา.... สอดแทงเข้าไปยังช่องทางด้านหลัง ผมอยากบอกพิชเหลือเกิน ว่าคู่ที่ไม่ต้องการเพิ่มระดับความสัมพันธ์ที่สุดก็คือผมนี่แหละ

ผมได้แต่แหงนเงย ขากางออกอัตโนมัติ ให้เขาดูดกลืนแท่งร้อน และนิ้วที่ชอนไชเข้ามาในร่างให้ถนัดถนี่

"อ๊าาา อื๊อออ เสียววว"

"อืมม เจ้าหญิงของผม" ทุกครั้งที่เขาเรียกผมว่าเจ้าหญิง ผมเห็นลูกสิงโตที่เปลือกตา มันเอาเท้าหน้าปิดตาคล้ายเขินอาย และเสียงกระพรวนที่ข้อเท้าก็ดังกรุ๊งกริ๊งคล้ายเข้าจังหวะ

ไม่ไหวแล้ว ผมเหมือนถูกผลักลงมาจากที่สูง แค่ริมฝีปากเขาก็ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้ ผมกรีดร้อง สองขาชี้เพดาน ปลดปล่อยออกมาเต็มปากสามี

แม๊กซ์ดูดเลียจนหมด คราบคาวที่มุมปากยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่

ผมหายใจหอบ โน้มตัวไปหาเขา ก่อนจะแนบริมฝีปากหยักได้รูปนั่น

...คืนนี้ยังอีกยาวนาน...

.....
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 9 4/12/16 P.8
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 30-01-2018 20:40:02
ผมเดินมึนๆ ออกจากห้องนอน กลอเรียกลับไปแล้ว วันนี้ไม่มีคลาสโยคะ ผมจึงไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า

ผมหาวและพยายามเดินกระย่องกระแย่งไปยังครัว ช่อดอกคามิลเลียสีแดงสดปักอยู่ในแจกัน ผมรีบกูเกิ้ลทันที

You're a Flame in My Heart

ผมยิ้ม หยิบช่อดอกไม้มาจูบเบาๆ ตรงกลางช่อมีแหวนเพชรสีชมพูอยู่ ล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กส่องประกายวิบวับ อืม มีเพชรให้ขัดอีกแล้ว

เอาเพชรไปเก็บแล้วเดินทอดน่องไปยังตู้เย็น กลอเรียทำซุปปลา หุงข้าวกล้อง ผมเอาไปอุ่นแล้วเริ่มกิน ตบท้ายมื้อสายด้วยโยเกิร์ตไขมันต่ำ

จบมื้อก็เอาจานชามเข้าเครื่องล้าง ก่อนจะนึกถึงภารกิจขึ้นมา

เอาวะ... หยิบโทรศัพท์แล้วเดินเข้าห้องน้ำ แหงนหน้าดูรอบๆ ก็เห็นว่าแม๊กซ์ถอดกล้องออกไปแล้วจริงๆ ผมค่อยโล่งอก

ห้องน้ำของเพนท์เฮาส์กว้างมาก กว้างจนสามารถซ้อมเต้นได้ แถมยังมีกระจกบานใหญ่ที่ผมกับแม๊กซ์เคยมา... ตรงหน้า

แก้มผมร้อน... เมื่อคิดถึงครั้งที่สามีเด็กกับตัวเองทำ 'อะไรๆ' ตรงนี้ จนต้องตบแก้มเบาๆ สองครั้งเพื่อตั้งสติ ก่อนจะเข้ายูทูปเปิดเพลง lady marmalade ทั้งที่ในใจกลับคิดว่าผมควรเปิดเพลงโมสาร์ทให้ลูกมากกว่า

แต่การเต้นก็เป็นการออกกำลังเหมือนกัน ลูกน่าจะชอบ ผมลูบพุงเบาๆ วันนี้ลูกสิงโตของผมดิ้นใหญ่ตอนได้กินซุป แล้วเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไปยังพุงด้านซ้าย เหมือนจะงีบหลับหลังมื้ออาหาร ผมหัวเราะเบาๆ เสียงกระพรวนดังตามจังหวะที่ผมขยับกาย

เอาวะ!

นั่งดูท่าเต้นจาก tutorial รอบหนึ่งแล้วก็เริ่มสตาร์ท

เห็นแบบนี้ผมจบศิลป์ฝรั่งเศสมา เคยได้ยินเพลงนี้มาบ้าง แต่ยังไม่เคยลงมาเต้น ที่ผ่านมาผมไม่ได้ถึงกับเท้าไฟ แต่ก็เต้นในผับมาเหมือนกัน

ดังนั้นก็ไม่น่ามีอะไรยาก ยังไงคนท้องก็จะเต้นหยองแหยงไม่ได้อยู่แล้ว

แต่ฟังแล้วก็อื้อหือ... เนื้อหาซ่องแตกสุดๆ มิน่าพิชถึงทำท่าสนุกได้ขนาดนั้น...

ผมนึกไปถึงคอสตูมที่พิชให้มา นี่เขาคิดจะใส่เองงั้นเหรอ... ท่าทางก็เรียบร้อย แต่ไหงกลับมีชุดร้อนแรงขนาดนั้น...

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (da-da-da)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (here ohooh yea yeah)
Mocha Choca lata ya ya (yea)
Creole lady Marmalade
Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir, what what what)
Voulez vous coucher avec moi


เพลงมาถึงท่อนกลาง ผมสะบัดหน้าเรียกสติ... คงต้องซ้อมหนัก

.......

สามสี่วันถัดมา ผมมีคลาสโยคะอีกรอบ กลอเรียช่วยจัดข้าวของพลางถามกล่องใส่ชุดสำหรับเต้น lady marmalade

"นี่กล่องอะไรเหรอคะ"

ผมยิ้มแห้ง กระแอมเบาๆ "ชุดน่ะ...เพื่อนให้มา อย่าบอกแม๊กซ์นะ"

กลอเรียทำตาโต พึมพำว่าสามีภรรยาคู่นี้มันอะไรกัน "เอาเถอะค่ะ ถึงเป็นสามีภรรยากันก็ต้องมีความลับกันบ้าง"

ผมฟังแล้วทะแม่ง เหมือนแม๊กซ์มีความลับกับผม "อะไรนะ ?"

กลอเรียส่ายหน้า รีบพูด "ไม่มีอะไรค่ะ คุณก็รีบไปเถอะ จะได้เวลาแล้วนี่คะ" ผมฟังแล้วดูเวลา ก่อนจะยกกระเป๋าเดินออกจากห้อง ลืมเรื่องแม๊กซ์ไปสนิท

.......

วันนี้คุณภูมิ สามีของเรน กับแม๊กซ์ไม่มาร่วมมื้อเที่ยงด้วย พิชเลยทำตัวตามสบาย ถามเรื่องซ้อมเต้นพลางหัวเราะคิกคัก เรนที่ดูขี้ตื่นก็ยิ้มขำ

"ทำไมข้าวต้องมาทำด้วย" ผมครวญ พิชจิ้มบรอคโคลีในจานแล้วตอบ

"ก็เล่นเกมแพ้เองนี่นา"

"ฮือออ เรนเอามั่งมั้ย ?" ผมหันไปถามน้องคนเล็ก เขารีบส่ายหน้า

"เรนเต้นไม่เป็น"

"ซ้อมไปเดี๋ยวก็เป็น" ผมเปิดยูทูปส่งให้เรน เด็กหนุ่มฟังแล้วหน้าแดง

"เนื้อหามัน..."

"ฮื่อ มูแรงรูจ แบบชวนผู้ชายไปนอนด้วย"

"อย่าร้องสุ่มสี่สุ่มห้านะ ระวังจะโดนฉุด" พิชเสริมพร้อมรอยยิ้ม

ผมหน้ามุ่ย กินอาหารคนท้องที่มีเมนูไม่กี่อย่างอย่างเซ็งๆ

ใครไม่โดนก็แล้วไป!

........

ในที่สุดก็ถึงวันนี้... ผมดูเวลาแล้วกระชับเสื้อคลุม กับข้าวทำไว้พร้อมแล้ว คิดว่าจะไม่เสิร์ฟก่อน ให้สามีดูภรรยาท้องห้าเดือนเต้นไปกินข้าวไปมันเสียเซลฟ์น่าดู

รอไม่นานเลย แม๊กซ์ก็กลับมาพร้อมลมหนาว เขารีบถอดเสื้อโค้ทกับผ้าพันคอแล้วมากอดผม

"หนาวเหรอครับเจ้าญิง ?" คงจะทักเสื้อคลุมสินะ ผมหน้าแดง ส่ายหน้าเบาๆ

"งั้นทำไมใส่เสื้อคลุม..." ผมไม่รอให้เขาพูดจบ ดันร่างสูงใหญ่ปานยักษ์ปักหลั่นไปที่ห้องนั่งเล่น แม๊กซ์โอนอ่อนแต่โดยดีแต่ขมวดคิ้ว "มีอะไรเหรอ ?"

ดันให้เขานั่งโซฟาเรียบร้อยแล้วก็พ่นลมหายใจเบาๆ หน้าตาคงซีเรียสมากจนเขาเป็นกังวล

"มีอะไรครับคนดี ? ที่รักของผม..."

ผมกระแอม แม๊กซ์เริ่มสังเกตแล้วว่าโต๊ะกลางถูกดันไปไว้มุมห้อง ผมชี้ไปที่เขาเชิงเตือน "นั่งเฉยๆ นะ"

แล้วผมก็เปิดเพลง

'Hey sista, go sista, soul sista, flow sista
Hey sista, go sista, soul sista, go sista'


Mya เริ่มเพลง ผมสะบัดเสื้อคลุมออก ทันทีทันใดแม๊กซ์ก็อ้าปากค้าง ผมข่มความอาย เต้นตามที่เคยซ้อมมา

เพลงนี้ไม่มีท่าเต้นแรงๆ กระทบกับลูก แต่มีท่าเลื้อย นั่งบนส้นแล้วอ้าขา ผมเต้นเท้าเปล่าทำให้ง่ายกว่าเต้นบนส้นสูงตามคลิป ลำพังแค่ท่าก็น่าอายแล้ว ไหนจะชุดก็แทบไม่ปิดอะไรอีก พอมาถึงท่อนกลาง ผมย่อตัว เปิดเข่าแล้วเลื้อยขึ้น

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (Hey hey hey)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (here)
Mocha Chocalata ya ya (oh yea)
Creole lady Marmalade


ผมขบริมฝีปาก เสียงกระพรวนข้อเท้าดังตามจังหวะ ลูกดิ้นเบาๆ อีกต่างหาก

อายเหรอลูก...

แม่ก็อาย...

ฮือ....

ดูแม๊กซ์ที่อ้าปากค้างแล้วกลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม อะไรกัน... เขาควรจะหื่นกว่านี้สิ... เหมือนดูโชว์ตลกหรือไง ?

เอาล่ะ ถึงท่อนเด็ด

Voulez vous coucher avec moi ce soir
Voulez vous coucher avec moi

แม๊กซ์ยิ้มออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก ความอายกลับมาโผล่ที่ผมแทน แก้มผมแดงก่ำ แต่ยังเต้นไม่หยุดด้วยสปิริตเกย์สาวฟรอมไทยแลนด์

ผมทั้งเลื้อย ทั้งสะบัดผมที่ยาวแค่ประบ่า ทั้งขย่มเบาๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คิดด้วยว่าผมแบกลูกแตงโมที่อายุห้าเดือนอยู่ ตอนใส่ชุดคอร์เซ็ทก็รูดได้แค่ครึ่งเดียว โชคดีที่เป็นแบบผูก

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (da daeaea yea)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (ooh)
Mocha Choca lata ya ya (yea)
Creole lady Marmalade


ท่าประจำเพลงถูกนำมาใช้อีกครั้ง ผมส่ายเอวเบาๆ มือปิดบริเวณใต้สะดือ

จะจบเพลงแล้ว แม๊กซ์ยิ้มโชว์ฟันขาว นิ้วเคาะไปตามจังหวะเพลง

Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir)
Voulez vous coucher avec moi (all my sistas yea)
Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir)
Voulez vous coucher avec moi (C‘Mon! uh)


เอาล่ะ จบ!

ผมหอบฮั่ก เดินไปปิดเพลงก่อนจะกัดริมฝีปาก เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ให้รู้ไปสิว่าผมยังเซ็กซี่ได้ คิดแล้วก็ก้าวไปหาสามี ลูกหยุดดิ้นแล้ว... และผมก็ยกขาคร่อมตักแข็งแกร่ง

"ชอบมั้ย ?" อย่าตอบว่าตลกเชียวนะ อีตาบ้า

แม๊กซ์เลียริมฝีปาก มือหนึ่งโอบเอวผม มือหนึ่งลูบไล้ถุงน่องสีขาว "ไอเดียใครครับ ?"

ผมปล่อยให้เขาสอดนิ้วเข้าไปในถุงน่อง ขย่มตัวเบาๆ "บอกมาก่อน ว่าชอบไหม"

แม๊กซ์หัวเราะ ลูบไล้ไปทั่วตัวผม "มีคนโง่ไม่ชอบด้วยเหรอ ?" เขาจูบผมก่อนจะไล้ตามโครงหน้า เลียตรงคางและตวัดลิ้นไปยังซอกคอ "เจ้าหญิง... คิดจะทำให้ผมตายเพราะหลงคุณหรือไง..."

ผมค่อยพ่นลมหายใจโล่งอก "ไอเดียพิชน่ะ ฉันเล่มเกมแพ้เลยต้องมาทำ"

แม๊กซ์ย้อนกลับมาจูบผมอีกครั้ง "ผมชอบ 'มาก' เลยครับ"

ผมดันเขาออก ยิ้มน้อยๆ "แต่ฉันท้องอยู่นะ คงไม่เซ็กซี่เท่าไหร่"

"คุณเซ็กซี่เสมอ" เขาดันผมให้นั่งชิดแผ่นอกหนา ผมรู้สึกถึงท่อนลำที่ดันก้นอยู่ หน้าร้อนผ่าว

เขา'ชอบ'ขนาดนั้นเลย อย่างน้อยๆ การที่ผมท้องก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเรื่องบนเตียงของเรา

ผมยิ้ม เพราะเพิ่งเต้นท่ายั่วสามีหมาดๆ เลยมีความกล้าที่จะเลื้อยบนหน้าอกตึงแน่น ผมแนบหน้าอกตัวเองชิดกับแผ่นอกกว้าง พร้อมลูบไล้ไปตามไหล่และท่อนแขน ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตเบาๆ บนริมฝีปากหนา

"เป็นสามีข้าวนะครับ"

"เป็นของเจ้าหญิงข้าวคนเดียวครับ" และหลังจากนั้น... เรื่องเดิมๆ ที่เราไม่เคยเบื่อหน่ายก็บรรเลง เขาถอดบิกินนีออก รูดริบบิ้นคอร์เซ็ท มือลูบไล้สอดเข้าไปในถุงน่อง เขาชอบ...

...ผมเองก็เช่นกัน เมื่อบิกินนีท่อนล่างถูกรูดลงไปคาเข่าแล้ว ผมก็ช่วยเขารูดซิป โลหะเย็นๆ ทำให้ตัวผมร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตักเหมือนว่าเป็นครั้งแรก

แม๊กซ์บดจูบร้อนแรง ผมคงช้าไม่ทันใจเขา สามีเด็กของผมอุ้มผมขึ้นก่อนจะรูดชั้นในตัวเองลง อวดท่อนลำและกลุ่มขน ผมเลียริมฝีปาก ความใหญ่โตที่คุ้นเคย... ท่อนลำตระหง่านอยู่ใต้ร่าง

"Voulez vous coucher avec moi?" ผมถามเบาๆ
(คุณจะนอนกับฉันไหม ?)

"Oui" เขาตอบกลับมาเช่นกัน
(ไปสิ)

และเขากับผมก็โผเข้าหากันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว เราจูบกันอย่างร้อนแรง มือใหญ่นวดเฟ้นสะโพกผม ก่อนจะล่วงไปยังช่องทางที่ปิดสนิท ผมเลียริมฝีปากเขาและเลยไปถึงตอหนวดแข็งๆ บนคาง ปล่อยให้นิ้วมือหนาสอดเข้ามาในโพรงร้อนเบื้องล่าง จากนิ้วหนึ่งที่คับแน่น ค่อยๆ เป็นสองนิ้ว... และสามนิ้ว ผมหายใจหอบ จูบเขา... โดยไม่เว้นว่าง เสียงริมฝีปากจากคนสองคนดังจ๊วบจ๊าบในห้องนั่งเล่นเคล้าคลอกับเสียงกระพรวน จนกระทั่งผมรู้ว่าผมพร้อม... และเขาที่รู้ดียิ่งกว่า ผมโหย่งตัว สอดรับความใหญ่โตเข้าไปข้างในโพรง แม๊กซ์ช่วยลูบไล้เรือนกายให้ผมเสียวสะท้าน ร่างกายผมสั่นน้อยๆ กับความเจ็บปวดนั้น แต่ความใคร่ที่ถูกจุดมีมากกว่า...

เย็นวันนั้น ผมหยัดตัว แหงนเงย ถูกส่งขึ้นสู่ฟ้าก่อนจะถูกกระชากลงมาสู่พื้นโลก ถูกเหวี่ยงขึ้นสูง ก่อนจะหล่นลงมาจากปุยเมฆครั้งแล้วครั้งเล่า สองขาผมอ้ากว้าง ช่องทางชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรัก มันถูกเสียดสีจนเป็นฟองขาวถูไถเข้าออก รูดรั้ง กระแทกกระทั้นตรงจุดวาบหวามอย่างผู้ชำนาญนับไม่ถ้วน

แม๊กซ์รู้ร่างกายผมดี... ดีจนปรนเปรอให้ผมบ้าคลั่ง เราร่วมรักกันจากมนุษย์.... สู่สัตว์ป่า เสพสมกันจนร่างกายไม่อาจทนไหว

"ดี อ๊าาา ดี อีก อึกกก" ผมครางเสียงแหบแห้ง แม๊กซ์กระทั้นช่วงล่างเข้ามาถี่ยิบจนผมอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้าง

"เจ้าหญิง เจ้าหญิงของผม แน่น..."

"อึ๊กกก... อีกกก ลึก..." ผมตอบเขาด้วยจังหวะเดียวกัน แม้จะรู้ว่ามันน่าละอายก็ตาม แต่ผมก็ยังเรียกร้องความรุนแรงไม่หยุดหย่อน จนเสียงกระพรวนดังไม่หยุด

...ไม่รู้ว่าผมสลบไปเมื่อใด แต่ตื่นมาอีกครั้งก็ตีสองแล้ว แม๊กซ์ปล่อยให้ผมนอนบนตัวเขาเหมือนเช่นเคย

"ตื่นแล้วเหรอเจ้าหญิง ?" เขาส่งเสียงแหบๆ มาจากใต้ร่าง ผมเงยหน้าขึ้นมาจากรอยสัก ก่อนจะจูบเบาๆ บนผิวเนื้อสีแทน

"อืม" เสียงหายไปหมด วันนี้เราร้อนแรงกว่าทุกทีจริงๆ นั่นแหละ

"หิวไหมครับ ? เดี๋ยวผมไปอุ่นข้าวให้นะ" เสียงแม๊กซ์ค่อนข้างกังวลทีเดียว ผมนอนลงอีกครั้งอย่างเกียจคร้าน

"เธอกินหรือยัง ?"

"ยังเลยครับ"

"งั้นออกไปพร้อมกันดีกว่า" ผมดันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เหมือนอวัยวะถูกถอดออกเป็นชิ้นๆ แม๊กซ์ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรวบใต้บั้นท้ายผมและอุ้มผมด้วยแขนข้างเดียวเหมือนอุ้มเด็ก

"ผมอุ้มดีกว่า"

จะบอกว่าเดินเองได้ก็... ดูสภาพตัวเองแล้วก็ส่ายหน้า ปล่อยให้สามีเด็กอุ้มไปยังครัว เขาเอาข้าวต้มธัญพืชและเสต็กปลาที่แร็พเข้าไวโครเวฟด้วยมือเดียว ปากก็ถามอาการผมไปด้วย

"มีไข้หรือเปล่า ? ปวดหัวไหม ?"

ผมส่ายหน้า มือจัดเสื้อคลุมที่เขาใส่ให้ "ไม่เป็นไร"

"วันนี้เราทำกันเยอะ ผมกลัวว่าคุณจะป่วย"

ผมหัวเราะเบาๆ "ไม่เป็นไรเลย แต่หิวนิดหน่อย"

"โอเค เสร็จแล้วครับ" แม๊กซ์จัดให้ผมนั่งบนตัก "ผมป้อนนะ"

คร้านจะเถียงกับเขา ผมจึงพยักหน้า ให้สามีป้อนเหมือนคนเป็นง่อย จนกระทั่งเราผลัดกันกินจนหมด แม๊กซ์ช่วยผมเช็ดปากพลางพูดยิ้มๆ

"นานๆ ทีมีแบบนี้ก็ดีนะครับ"

"ชอบเหรอ ? ดีกว่าทุกทีไหม ?" ผมชักใจเสีย ถ้าเขาชอบให้ยั่ว ผมคงทำไม่ได้... บ่อยๆ

"ไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกไม่ชอบหรอกครับ" เขาโน้มตัวมาจุมพิตมุมปาก "ผมรักทุกเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน... ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดสุดเซ็กซี่มายั่วผม หรือใส่เสื้อยืดกางเกงผ้าแอบกินคุกกี้"

ผมค่อยๆ ยิ้ม "อื้ม สัญญานะว่าจะรักกันแบบนี้ไปตลอด"

"ตลอดกาล... ตลอดไปครับ" เสียงทุ้มหนักแน่น ผมกอดคอเขาไว้ แนบใบหน้ากับไหล่กว้าง แข็งแรง... ของของผม

รักผม... เป็นของผม... เพียงคนเดียว

รักข้าว... เป็นของข้าว... ตลอดกาล

แม๊กซ์ของข้าว

........

ช่วงหลังๆ หลังจากที่เต้นน่าอายไป... นี่มันอะไรกัน

เที่ยงวันหนึ่งแม๊กซ์หนีทีนามาร่วมวงเมาท์มอยโดยคนท้อง สายตาพิชเป็นประกายพลางถาม

"ว่าไงครับ ข้าวร้อนแรงไหม ?"

แม๊กซ์หัวเราะ "ไอเดียคุณนี่"

พิชยิ้ม "ช่ายครับ เป็นยังไงบ้าง ?"

เรนที่หน้าแดงไปถึงหูก็ยื่นหน้ามาฟังด้วย ผมหน้าร้อนฉ่า ก้มหน้าก้มตาจิ้มปลาแซลม่อนย่างเกลือ

แม๊กซ์ยิ้ม "ทำเอาผมอยากทำภรรยาท้องอีกรอบก็แล้วกันครับ"

พิชหวีดร้องเบาๆ พลางตีเก้าอี้ "โอ๊ย เขินแทน"

ควรจะเขินตั้งแต่แรกแล้วนะ... ผมก้มหน้างุด แม๊กซ์เลื่อนมือมาโอบเอวผม "ขอบคุณมากนะครับ"

"อุ๊ยยย ไม่เป็นไรครับ"พิชทำท่าสะดิ้งเกินงาม "ถ้าเป็นสามีผมคงนั่งหัวเราะแน่ๆ"

"โธ่พิช ปาป้าใจดีออก"

"ฮื่อ ใจดี มีอารมณ์ขันเกินไปน่ะสิ" พิชว่าพลางส่ายหน้า "นี่จะบ่ายแล้ว จะไปไหนกันไหม ?"

เรนส่ายหน้า พึมพำว่าเดี๋ยวสามีมารับ สำหรับผม...

"จะไปชอปปิ้งครับ" แม๊กซ์ตอบแทน ผมยิ่งหน้าแดง พิชมองลอดแว่นเชิงบอกว่ารู้นะ...

"แหมๆ น่าอิจฉาจริง เดี๋ยวผมเรียกแท๊กซี่กลับเหมือนกัน เจอกันนะข้าว"

"อื้อ" แล้วมื้อนั้นแม๊กซ์ก็จ่ายและพาผมไปยังรถเพื่อไปชอปปิ้ง

...ใช่ ชอปปิ้ง ที่ไม่รู้ว่าหลังจากภารกิจเต้นยั่วผัวแล้วทำไมเขาถึงบ้าชอปปิ้งได้ขนาดนี้ แถมแต่ละชุดก็สาว... จนไปซื้อที่แผนกแม่และเด็กได้เลย

ผมถอนหายใจ ถุงกระดาษเคลือบมันปั๊มแบรนด์สุดหรูใบแล้วใบเล่าลำเลียงเข้ารถ ไม่ต้องเลือกอะไรมาก พอใจ ดูไซส์ หยิบ ทั้งๆ ที่ผมห้ามแล้วห้ามอีก ตอนนี้ชุดคลุมท้องผมแออัดจนแม๊กซ์จะขยายวอล์กอิน-โคลเซ็ทใหม่แล้ว แม๊กซ์ยังไม่พอใจ ลามไปยังชุดกระโปรงที่จีบสม๊อก เลือกไซส์ใหญ่หน่อย แก้ชายให้สั้นลงเพราะผมเตี้ยอีกเป็นร้อยชุดวางเรียงรายเต็มราว ผมสะพรึงจนไม่กล้าไปเหยียบโซนนั้น

ถึงผมจะสาว แต่ก็ยังไม่กล้าใส่กระโปรง (ถึงจะเคยใส่มาแล้วก็เถอะ)

จนในที่สุด สัปดาห์ถัดมา แม๊กซ์ก็เอาชุดสวยๆ พวกนั้นมาแขวนไว้ที่สะดุดตา เขียนโน้ตว่าใส่แล้วไปหาที่ออฟฟิศหน่อย...

ผมรีบโทรหาต้นเรื่องทันที "แม๊กซ์!"

"ครับ ตื่นแล้วเหรอเจ้าหญิง" เสียงเขานุ่มหวาน แต่ผมไม่สนใจ

"ไอ้ชุดกระโปรงนี่มันอะไรกัน!"

"เจ้าหญิงใส่มาเที่ยวที่ออฟฟิศหน่อยสิครับ" ปลายสายอ้อนๆ ฝรั่งอ้อนเป็นด้วยเหรอ

ผมส่ายหน้า "ไม่มีทาง! ฉันจะใส่กางเกงวอร์ม"

"โธ่ เจ้าหญิง..." ผมกัดฟันตอบ

"ไม่!"

"นะครับ..."

"ไม่"

"นะครับ... นะ ที่รัก"

"ไม่..."

"คนดีของผม... ที่รัก... เจ้าหญิง..."

อึก... ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วย ผมตอบช้าลง "มะ... ไม่"

"คุณน่ารัก... เจ้าหญิงของผมน่ารัก... วันนี้ผมต้องเจรจากับบริษัท XX ผมอยากเอาคุณมาอวด"

"...กะ ก็ได้"

"อย่างนี้สิคนดีของผม"

ในที่สุุดผมก็ต้องใส่ชุดเดรสผ้าเนื้อนิ่มสีเบอร์กันดี ถุงน่องสีเทาและรองเท้าหนังอ๊อกฟอร์ด อะหือ Preppy Style สุดๆ เอาก็เอาวะ ขนาดชุดเต้น lady marmalade ยังกล้าใส่ แล้วกะอีแค่ชุดสไตล์กอปซิปเกิร์ลทำไมจะใส่ไม่ได้

ใส่ทุกอย่างเสร็จก็ชวนให้สงสัยว่าแม๊กซ์มองผมยังไง เอาผมไปเปรียบเทียบกับสาวๆ ที่ผ่านมาของเขาหรือเปล่า

แต่แม๊กซ์ชอบให้ผมแต่งสาวมาก... มากจนประหลาด

ผมลงลิฟต์ไปด้วยใจระทึก นึกอย่าให้เรนที่อยู่ตึกเดียวกันเจอเลย

ที่ฟรอนต์ไม่มีคนรู้จัก โอเค... นิค บอดี้การ์ดของผมปราดเข้ามาช่วยถือกระเป๋า ผมทักทายเขาสั้นๆ ก่อนที่รถโรสลอยจะขับมารับ

แม๊กซ์สั่งคนขับไว้แล้ว ผมจึงไม่ต้องสั่งอีก ไม่นานนัก เราก็ฝ่าการจราจรของกรุงนิวยอร์คมาถึงตึกของแม๊กซ์

ผมถอนหายใจ นิคเดินไปส่งผมถึงที่ห้องทำงานของแม๊กซ์ ผมผ่านด่านต่างๆ มาอย่างง่ายดาย ไม่ต้องไปตบตีกับเลขาหน้าห้องเหมือนในละคร ทีนาทักทายผมเสียงแหลม ก่อนจะกลอกตารายงาน

"คุณแม๊กซิมัสรอคุณอยู่เลยค่ะ"

"ทำไมผมต้องมาด้วยล่ะทีนา ?" ผมกระซิบถาม ทีนาโน้มตัวลงกระซิบกลับ

"ก็เจ้าของบริษัทที่มาเป็น Supplier เที่ยวนี้น่ะ เค้าเอาภรรยามาอวด แล้วคุณแม๊กซิมัสคงไม่ยอมน่ะสิคะ"

ผมเบะปาก แค่เนี้ย...

"ภรรยาเขาเป็นคนไทยด้วย คงแอบแข่งกันแหละ เอาล่ะ เข้าไปได้แล้วค่ะ" ไม่รอให้ตั้งตัว ทีนาเคาะประตู จนแม๊กซ์ตอบว่าเข้ามาแล้วก็ดุนหลังผมเข้าไปในห้อง

มองปราดเดียว... ผมยิ้มแหย

ฝรั่งร่างสูงใหญ่นั่งไขว้ขาอยู่ที่โซฟารับแขก เขามีเรือนผมสีทองอร่ามและดวงตาสีฟ้าดูเจ้าชู้ ข้างๆ เขาคือเด็กหนุ่มผมดำอายุราวๆ เรนที่... ผมจ้องพุงตัวเองแล้วมองท้องเขา เด็กคนนั้นท้องแก่ สวมเสื้อตัวยาวคลุมสะโพกและกางเกงผ้ายืด ดูสาวน้อยกว่าผมไม่กี่แต้ม

"มาพอดี" แม๊กซ์ส่งเสียงทักมาก่อน ฝรั่งลุกขึ้นหันมาทางผม

"อ้อ นี่..."

"ภรรยาฉัน ข้าว ข้าวนี่ครูซกับ..."

"ฟัาครับ ภรรยาผมชื่อฟ้า" เด็กที่ชื่อฟ้าก้าวออกมายกมือไหว้ผม เราสบตากันเงียบๆ เหมือนแลกเปลี่ยนความในใจว่า

...พวกสามีมันเล่นอะไรกันวะ

ครูซยิ้มเจิดจ้า "ภรรยานายน่ารักมาก... แต่ยังสู้ของฉันไม่ได้ว่ะ"

แม๊กซ์หัวเราะหึๆ "หึ นายไม่ดูดีๆ ผิวข้าวน่ะขาวมากนะ..."

ครูซไม่ยอมแพ้ "พูดถึงผิว...ฟ้าก็ผิวดีมาก"

ผมอยากเฟดตัวเองออกจากห้อง แม๊กซ์ดูเป็นกันเองกับครูซมาก ผมถอยออกมาช้าๆ เด็กที่ชื่อฟ้าก็เลื่อนมาทางผม กระซิบเป็นภาษาไทยเบาๆ

"เค้ารู้จักกันมาก่อนน่ะครับ"

ผมพยักหน้า "อ้อ... มิน่า" ปกติแม๊กซ์วางท่าจะตาย

"พอรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีภรรยาเป็นคนไทย ผมก็โดนแต่งหญิงมาทั้งสัปดาห์" ฟ้าอัดอั้นมาก พูดรัวเร็วทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกัน

"พี่ก็โดนวันนี้แหละ" เราสบตากัน ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือกัน

"ผมเข้าใจฮะ"

"ฮื่อ..." ใครจะเข้าใจกันได้ดีเท่าเราสองคนอีก ทั้งพิชทั้งเรนไม่ต้องนุ่งกระโปรงเหมือนผมนี่

"แล้วเอาไงดี ? นี่จะเอาพวกเรามาอวดเลยบังคับกันแบบนี้เลยน่ะเหรอ ?"

ฟ้าแสยะยิ้ม "ผมสู้ครูซไม่ไหวหรอกครับ... เห็นว่าคุณแม๊กซ์เป็นทั้งเพื่อนทั้งคู่แข่ง เลยแข่งแม้กระทั่งพวกเรา"

เราสบตากันอีกครั้ง....

"งั้น..."

"พี่ข้าวจัดการเลยฮะ"

ผมพยักหน้าให้ กระแอม "แม๊กซ์" เสียงผมอ่อนหวานกว่าปกติ แต่ตานี่เขียวปั๊ด

"ตกลงฉันต้องนุ่งกระโปรงเพราะงี้ใช่ไหม ?"

แม๊กซ์ที่ทุ่มเถียงกับครูซเรื่องต้นขาของภรรยาสะดุ้ง ยิ้มแห้งให้ "เอ่อ เจ้าหญิง..."

"เล่นบ้าๆ" ผมชักกรุ่นๆ ไม่สนุกนะเว้ย ใส่เล่นที่บ้านยังพอว่า นี่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนตั้งมาก

"ฟ้าก็ไม่สนุกด้วยนะครูซ" ฟ้าก็ไม่ยอม

"จะแข่งอะไรก็แข่งกันไป แต่อย่าเอาพวกเราไปเกี่ยว ฉันกับฟ้าจะออกไปกินข้าวแล้ว"

"เดี๋ยวเจ้าหญิง!"

"ฟ้าครับ!"

ผมกับฟ้าจูงมือกันออกจากห้อง ปิดประตูโครมใหญ่ ทีนาที่นั่งวุ่นกับเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง

"อ้าว..."

"ไปกินข้าวเที่ยงกันทีนา" ผมชวน

"แล้วนั่น..."

"อ้อ นี่ฟ้า เป็นภรรยาครูซ"

"สนิทกันเร็วจังนะคะ"

ผมกับฟ้าหัวเราะ "เจออะไรบ้าๆ เหมือนกันน่ะ"

ประตูห้องทำงานเปิดออกดังโครม แม๊กซ์วิ่งออกมาคว้าแขนผม "ข้าววววววว"

"ฟ้าาา"

ทั้งผมทั้งฟ้าสะบัดแขนออก ขู่ออกมาพร้อมกัน "หยุดนะ!"

แม๊กซ์และครูซชะงักกึกเหมือนสุนัขโดนเจ้าของดุ

"เราจะไปกินข้าว"

"ไม่ต้องตามมานะ" ฟ้าสะบัดหน้าด้วย

และผมกับเพื่อนใหม่... เพื่อนคนไทยคนที่สามที่นิวยอร์กก็รู้จักกันผ่านวิธีประหลาดๆ แบบนี้

.........

//นังข้าวได้เพื่อนร่วมแก๊งค์ก๊อซซิปเกิร์ลละข่ะ ถ้ามีมาตรวัดความสาวนางคงแซงชะนีในเรื่องอย่างกลอเรียหรือทีนาไปแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 30-01-2018 21:37:38
ฮู๊ยยยย หายคิดถึงงงงงง
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-01-2018 22:45:37
อูยยย คิดถึงเรื่องนี้ คิดถึงนุ้งข้าว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 31-01-2018 00:08:44
ความแซ่บของแก๊งนุ้งข้าว
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 31-01-2018 00:25:49
ได้แก๊งค์เพิ่มมาตั้งสองคน
คงไม่เหงาแล้วเนอะข้าว

ปล.สกิลอ้อนผัวยังคงแซ่บเหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือความแรดที่มากขึ้น 55555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 31-01-2018 08:17:58
มาต่อแล้ว~
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-01-2018 10:09:42
โอยยยยย...........ชอบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไรท์กลับมาแล้ว  :mew1:

ว่าแล้ว เกมที่เล่นกันมีแม็กซ์อยู่เบื้องหลัง  :hao3:
แม๊กซ์ มันส์ หื่นสุดๆตลอดๆ
ไม่ใช่ข้าว รัก หลงผัวอย่างเดียวแล้ว :mew1:
แม๊กซ์ ก็รักเมีย  หลงเมียน่าจะที่สุดในโลกเลย
แม๊กซ์  ข้าว   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 31-01-2018 18:47:57
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 31-01-2018 20:15:34
ย้อน ๆ ขึ้นไปดู ข้าวท้องตั้งแต่ 2016  นี่ก็ 2018   คาดว่าลูกของนางต้องเป็นลูกช้างแน่ ๆ ท้องที 2 ปี
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 31-01-2018 23:30:02
คนเขียนนนนนนนนนน ดีใจที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Natchapat.chanachon ที่ 02-02-2018 20:03:42
รออออ~~ ลำไยคนอวดหลัว :m20: :m20: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 11-02-2018 20:27:05
ข้าวซ่องแตก! ยั่วผัวสำเร็จ
แต่ประเด็นที่กลอเรียพูดว่า "มีความลับ" นี่ยังไม่เคลียร์นะคะ ขอตอนต่อไปด่วนค่ะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 13-02-2018 20:32:05
10 [Cont.]

น่าเสียดายที่ฟ้ากับครูซอยู่นิวยอร์กแค่สองสัปดาห์ ผมพาเพื่อนใหม่ไปตะลอนรอบนิวยอร์ก ไปดูเทพีเสรีภาพ เดินเล่นเซนทรัลปาร์ค เดินข้ามสะพานบรูคลิน ชอปปิ้งแถวบ้าน พาไปกินพิซซาอร่อยๆ กับเรนและพิช ผ่านไปแป๊บๆ ฟ้าก็กลับวอชิงตันกับสามี แต่เรายังติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กและอีเมลเสมอ

เวลาผ่านไปอย่างสงบ เผลอไม่นานผมก็ท้องได้เจ็ดเดือนกว่า แม่โทรมาทุกวัน เป็นห่วงผมตลอด พร้อมทั้งบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงหลานในช่วงที่ผมอยู่ไฟ

เอ่อ... ผมรู้ว่าผู้หญิงหลังคลอดต้องอยู่ไฟ ไม่อย่างนั้นจะปวดกระดูกหรืออะไรทำนองนั้นตอนแก่ แต่ผู้ชายต้องอยู่ด้วยเหรอ

แม่ก็ไม่รู้ แต่ยืนยันให้ผมอยู่ไฟ

หลังจากปรึกษากับแม๊กซ์แล้ว ผมก็เลยตามเลย อยู่ก็อยู่ ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว

ผมกับแม๊กซ์ชอบเดินแผนกเด็กอ่อน ตอนนี้ผมเรียนรู้แล้วว่าอย่าทำท่าอยากได้อะไร ไม่อย่างนั้นของชิ้นนั้นจะมาโผล่ที่บ้านอย่างง่ายดาย อย่างคาร์ซีทอย่างดี เสื้อผ้าเด็กอ่อน ของเล่นนุ่มๆ สีพาสเทลน่ารัก โมบายตุ๊กตา ถุงเท้าเด็กอ่อน

ส่วนพิชก็ท้องแก่แล้ว เขาเพลาๆ ปาร์ตี้ลงแล้ว คงเพราะปวดหลังปวดเอว ดีที่เราเล่นโยคะ มันช่วยได้มากจริงๆ นะ เรนก็เริ่มวิตกว่าตัวเองจะปวดเนื้อปวดตัวเหมือนพิชหรือเปล่า บริททานีย์คลอดน้องแล้ว เป็นเด็กผู้หญิงน่าฟัดชื่ออมิเลีย ลีแลนด์กับอลิเซียก็ท้องแก่ใกล้คลอด สมาชิกเล่นโยคะของเราเริ่มน้อยลง แต่พิชก็ยังไปมาหาสู่กับเพื่อนๆ อยู่

อย่างวันนี้ ช่วงเย็นเราจะไปกินข้าวบ้านพิชกัน ผมตั้งใจจะทำไก่อบโรสแมรีไปด้วย เสียดายที่บริททานีย์ต้องอยู่เลี้ยงลูกเลยมาร่วมกับเราไม่ได้

ดังนั้น ผมกับกลอเรียและนิค บอร์ดี้การ์ดจึงมาเดินซุปเปอร์ ซื้อไก่และเครื่องปรุงสำหรับเย็นนี้

ผมเดินเพลินๆ หยิบพวกธัญพืชขบเคี้ยวลงตะกร้า กลอเรียถือลิสต์ชอปปิ้งอยู่ข้างๆ พลางบ่นให้ผมเพลาๆ ขนมบ้าง

ตั้งแต่ท้องมา ผมกินเก่งมากจริงๆ

ขณะที่กำลังแอบกลอเรียเอาขนมซ่อนในตะกร้า เสียงห้าวๆ ก็ดังขึ้นเหนือหัว

"ข้าว ? ข้าวใช่ไหมน่ะ ?"

ผมเงยหน้าขึ้น อ้าปากค้าง

...ร่างสูง แต่ไม่เท่าแม๊กซ์ ตายิบหยี ผิวขาว...

คนที่ผมรู้จักดี...

"เบน..." เสียงหลุดปากออกมาไม่ดังกว่าเสียงกระซิบ ชายตรงหน้ายิ้มจนตาเป็นสระอิ แบบที่ผมเคยรัก

"ไม่นึกว่าจะมาเจอกันที่นี่ ได้ยินว่าแต่งงานแล้ว ?"

เบน...

ชายที่ฝากรอยแผลเอาไว้

ผมได้แต่พยักหน้าอย่างมึนๆ เบนหัวเราะเบาๆ แปลกที่เสียงหัวเราะนั้นยังคุ้นเคยผมอยู่ ทั้งๆ ที่เวลาก็ผ่านมานานแล้ว

นาน... จนผมลืมเขาไปแล้ว

การปรากฏตัวของเขาไม่ต่างจากกวนตะกอนให้น้ำขุ่น

"มีน้องแล้วสินะ ? ท้องได้กี่เดือนแล้ว ?"

"เจ็ดเดือนกว่าแล้ว"

"ดีจังนะ... สามีข้าวเป็นคนโชคดีนะ"

ผมหัวเราะเฝื่อนๆ ยักไหล่ "แล้ว... นี่มาอยู่นิวยอร์กเหรอ ?"

"อืม บริษัทส่งมาน่ะ"

"อ้อ" ผมตอบได้แค่นั้น ได้แต่มองคิ้วสีดำพาดเฉียงเหมือนดาบ ตาชั้นเดียว ใบหน้ามีโหนกแก้มและรอยหนวดเครา...

เบนเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง

เป็นคนที่ผมเคยรัก เคยกระซิบว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่สุดท้าย... เขาก็จากไป ไม่สนใจ ไม่เหลียวหลังกลับมาว่าผมเป็นตายยังไง เจ็บปวดบ้างไหม เขาก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ ในขณะที่ทิ้งให้ผมจมกับทะเลน้ำตา

ไม่รู้ว่าแผลหายดีแล้ว...  หรือเพราะผมตั้งใจไม่สนใจความเจ็บปวด ผมจึงใช้ชีวิตฟรีเซ็กส์ ไม่รักใคร ไม่มอบหัวใจให้ใครง่ายๆ อีก ใช้ร่างกายเปลื้องความใคร่ แต่ทว่า...ผมก็พบแม๊กซ์ คนที่ประคับประคองผม ใช้ความรักโอบล้อม โอบอุ้มผมขึ้นมา

และเมื่อตอนนี้ คนที่ก้าวไปข้างหน้ามายืนอยู่ตรงหน้า ยิ้ม หัวเราะ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

"ข้าวยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ..."

"ไม่หรอก..."

"อ้อ ใช่ ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ขอเบอร์ติดต่อได้ไหม ? เผื่อจะได้มาคุยกันอีก"

คุย... คุยอะไรกัน

ผมแปลกใจ ที่มันไม่เจ็บแล้ว แผลที่เบนทิ้งไว้ให้กลายเป็นรอยแผลเป็นก็จริง แต่มันไม่เจ็บ ไม่ปวด ผมมองเขาตรงหน้าให้เต็มตา ไม่มีความรู้สึกใดๆ นอกจากมองคนรู้จักคนหนึ่ง

แม๊กซ์ช่่วยรักษาแผลนั้นจนหาย แผลที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมี...

ผมจึงยิ้มให้ อดีตก็ปล่อยให้เป็นอดีต จึงตอบไปว่า "ติดต่อผ่านเฟซก็แล้วกัน ข้าวไม่สะดวกให้เบอร์น่ะ"

"อ้อ" เบนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา "ผมเคยแอดข้าวไปแล้ว แต่ข้าวไม่รับแอด"

"งั้นเหรอ..." ผมคงเจ็บจนบล๊อกเขาไปแล้วมั้ง ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อกและเข้าแอพสีฟ้า กดรับแอดเบนอีกครั้ง "เบนสบายดีนะ ?"

เบนมองมือถืออย่างยินดี "อื้อ ตามอัตภาพน่ะ ข้าวล่ะ ?"

"ดีมากๆ เลย" ผมหัวเราะ ลูบท้องเบาๆ "นี่เย็นๆ ก็จะไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ คนไทยในนิวยอร์กเยอะกว่าที่คิดนะ"

"ดีจังเลยนะ" เบนทำท่าจะพูดอะไรอีก กลอเรียที่ยืนฟังเราคุยภาษาไทยกันมานานก็ขมวดคิ้ว สะกิดผม

"คุณข้าวคะ เดี๋ยวต้องกลับไปทำอาหารอีกนะคะ"

"อ๊ะ จริงด้วย" ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋า "ไว้คุยกันนะเบน"

ผมยกมือขึ้นโบกให้เขา แต่มือข้างหนึ่งของคนตัวสูงกลับคว้าแขนผมไว้ "ข้าว!"

ผมมองเขา มองมือ นิคก้าวเข้ามาผมจึงส่ายหน้าให้เขา ก่อนจะหันไปหาเบน "มีอะไรเหรอ ?"

เบนอึกอัก แล้วโพล่งออกมา "ผมขอโทษนะที่ทำข้าวเจ็บ... แต่ผมก็เจ็บไม่แพ้กัน ผมลืมข้าวไม่ได้เลย"

ผมขมวดคิ้ว ส่ายหน้าให้ "เบน... เรื่องก็ผ่านมานานแล้วนะ"

เบนเป็นฝ่ายจากไป... แต่งงานกับผู้หญิงสะสวยคนนั้น

"ผมหย่าแล้ว แต่งได้แค่ปีกว่าเราก็ทนกันไม่ได้ ส่วนผมก็ลืมข้าวไม่ลง" เบนกลืนน้ำลาย "ข้าว ผมรู้ว่าข้าวท้อง... แต่งงานแล้ว แต่ขอโอกาสให้ผมได้ไหม เด็กในท้องผมจะรักเหมือนลูกตัวเอง ผมจะรักข้าวมากกว่าที่เคยรัก... ดีกับข้าวยิ่งกว่าสามีของข้าว..."

ผมตะลึง...

..."เบน..."

"ข้าว..."

ผมส่ายหน้า ตั้งสติ แม้จะเคยรักมาก รักจนเจ็บเจียนตาย แต่ตอนนี้... ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำอะไรผมได้

"เบน ฟังข้าวนะ ตอนนี้ข้าวมีสามีแล้ว เขาดีกับข้าวมาก เรื่องของเราให้เป็นอดีตไปเถอะ เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ข้าวดีใจนะที่เจอเบน" ผมรีบพูดแล้วเลื่อนตะกร้าจากไป

ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบนหลังจากนั้น แต่ผมไม่ต้องการกลับไปแล้ว

ผมรักแม๊กซ์...

...รักเกินกว่าที่ตัวเองคิดว่ารัก

เพราะเบนเข้ามา ผมจึงรู้ว่า แม๊กซ์ก็รักผมมากไม่ต่างกัน

...

ขากลับ ผมเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้กลอเรียฟัง หล่อนพยักหน้าแล้วช่วยผมทำไก่อบโรสแมรี พร้อมทั้งเตือนให้ผมเล่าทุกเรื่องให้แม๊กซ์ฟังด้วย เพราะถ้าเขารู้คงรู้สึกไม่ดี

ผมก็คิดแบบนั้น

แม๊กซ์ขี้หึง แล้วยิ่งถ้ารู้เป็นคนสุดท้ายเขาคงเจ็บปวดมาก

เย็นวันนั้นผมเกือบลืมเรื่องเบนไปแล้ว ผมเข้าร่วมวงสนทนาเมาท์มอยละคร ดารา เกมโชว์กับเรน พิชและเด็กในร้านพิช ส่วนคุณภูมิ สามีของเรนก็นั่งดื่มและคุยกับปาป๊าและแม๊กซ์อีกวงหนึ่ง จนราวๆ สองทุ่มเราถึงทยอยกันกลับ

แม๊กซ์โน้มตัวมาจูบผมระหว่างที่สตาร์ทรถ ผมถึงนึกถึงเรื่องเบนขึ้นมาได้ ผมเล่าเรื่องเบน แต่เว้นเรื่องที่เขาแอดเฟซบุ๊กและขอให้ผมกลับไปหาเขาไว้

"สรุปว่าเขาเป็นแฟนเก่าของเจ้าหญิง ?"

"อืม บังเอิญเจอที่ซุปเปอร์น่ะ"

แม๊กซ์ยิ้ม "ผมดีใจนะที่คุณเล่าให้ฟัง..."

ผมยิ้มตอบ "อื้ม" ผมเอนตัวพิงไหล่แกร่งข้ามกระปุกเกียร์

ช่างเถอะ... อดีตทำอะไรผมไม่ได้ เช่นเดียวกับเบน... ต่อให้เขาคุกเข่าขอร้องให้ผมกลับไป... ผมก็คงไม่มีวันก้าวออกไปจากแม๊กซ์หรอก

......

ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ทั้งผมและแม๊กซ์ต่างก็ใช้ชีวิตเรียบเรื่อย ผมยังคงมีเซ็กส์กับเขาทุกคืน จูบกับเขาในตอนเช้า นอนหลับไปในอ้อมแขนเขา เช่นเดียวกับแม๊กซ์ที่ลูบไล้เรือนร่างผมราวกับถวิลหา ทั้งๆ ที่เราแนบชิดกันทุกเช้า ทุกเย็น ทุกคืน

ดอกไม้ เพชรนิลจินดาถูกส่งมาทุกวัน เรียกปื้นสีแดงบนแก้มผมได้ทุกครั้ง การ์ดสวยๆ ที่บอกว่าเขารักผมแค่ไหนถูกเก็บไว้อย่างดีในแสคร๊ปบุ๊ก ผมโรยกากเพชรระหว่างที่นั่งอยู่บนตักแม๊กซ์ เอนตัวพิงร่างเขาอย่างสบายตัว สบายใจ พร้อมทั้งเตะเท้าให้กระพรวนข้อเท้าสั่นกรุ๋งกริ๋ง

แม๊กซ์จูบปลายคางผมตอบ ผมขบริมฝีปากเขาเบาๆ

"รักนะ"

ผมยิ้ม "อื้อ รักเหมือนกัน"

"ผมรักมากกว่า"

"ฉันสิรักมากกว่า" ผมจูบไหล่กว้างผ่านเนื้อผ้า "ฉันทั้งท้อง ทั้งออกจากงาน ฉันสิรักมากกว่า"

แม๊กซ์หัวเราะ "คุณจินตนาการไม่ออกหรอกข้าว ว่าผมรักคุณแค่ไหน"

"ฉันว่าฉันรู้นะ" ผมกอดอก มองแสคร๊ปบุ๊กอย่างพึงพอใจ ก่อนจะจับคางที่มีหนวดเครารกเรื้อ "เธอก็ไม่รู้หรอกว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน"

แม๊กซ์โน้มตัวลงมาจูบผม... จูบแผ่วเบาทว่าลึกซึ้ง ใจผมเต้นแรงเหมือนสาวน้อยเสียจุมพิตแรก แม๊กซ์สอดมือเข้าในเรือนผม ประคองศีรษะผมไว้...

...ผมตกอยู่ในบ่วงรัก ตกหลุมรักจนปีนขึ้นไปไม่ได้

เขาค่อยๆ ปล่อยผมออกให้ผมได้พักหายใจ

...รัก รักนะ

ผมดึงเขาลงมาจูบอีกครั้ง

...รักที่สุดในโลกเลย...แม๊กซ์ของข้าว

.......
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 13-02-2018 20:34:58
ผมเปิดกูเกิ้ลหาสูตรอาหาร วันนี้ผมทำมันฝรั่งอบกับปาเอญ่า เข้ากันหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่แม๊กซ์ต้องกินล่ะ ระหว่างที่นั่งพัก ก็มีคนส่งข้อความมาให้

Ben Li send a message

ผมจิ้มไอแพดเข้าไปดู

เบนนั่นเอง เขาส่งข้อความมานัดผมไปกินข้าว ผมส่ายหน้าให้ตัวเอง ก่อนจะปฏิเสธไป

ถึงผมจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สมควรไปกินข้าวกับเขา เพราะหากแม๊กซ์รู้คงบ้านแตก แถมคิดในทางกลับกัน ถ้าแม๊กซ์เป็นผม ผมก็คงโมโหไม่ต่างกัน

ข้อความสั้นๆ ของเบนมีแค่นั้น ผมไม่ได้สนใจอะไรอีก

....

ช่วงเที่ยงๆ ร้านอาหารแถวศูนย์โยคะค่อนข้างยุ่ง ผม พิชและเรนจึงไปอีกร้านที่คนน้อยกว่า ผมสั่งลาซานญามานั่งกิน พวกผมเพิ่งมาร้านนี้เป็นครั้งแรกและเพิ่งรู้ว่าร้านนี้ก็มีเมนูคนท้องหลากหลาย

ผมเอากล่องใส่ชุด lady marmalade มาคืนพิชด้วย หลังจากพยายามลืมไปหลายรอบ พิชหัวเราะร่า เรนก็อมยิ้มน้อยๆ มีแต่ผมที่อยากให้ธรณีสูบไปซะจะได้ลืมความอาย

วันนั้นนิวยอร์กมีแดด พวกผมเลยนั่งโต๊ะด้านนอก อาบแดดให้สบายใจ พอมาอยู่ต่างประเทศจริงๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าการมีแดดออกมันสบายตัวแค่ไหน

ถ้าอยู่ไทยพวกผมคงหลบอยู่ในตึก ตากแอร์เย็นๆ ไม่ออกมาตากแดดหรอก

ระหว่างที่นั่งกินปนนั่งเมาท์ จนนึกสงสัยว่าพวกเราเอาเรื่องเมาท์มาจากไหนเยอะแยะ นี่ขนาดอยู่ต่างประเทศ ยังเมาท์เรื่อง The mask singer เมื่อวานได้

แล้วจู่ๆ ก็มีแก้วน้ำผลไม้สมูตตี้มาเสิร์ฟ ผมกับพิชและเรนส่ายหน้าให้พนักงานเสิร์ฟ

"ไม่ได้สั่งครับ"

พนักงานเสิร์ฟตอบกลับยิ้มๆ "อ๋อ โต๊ะโน้นฝากมาน่ะค่ะ"

พวกเราหันไปตามที่หล่อนพยักเพยิด ผมสะดุ้งสุดตัว

เบน!

พอแก้ววางลงปุ๊บ เบนก็ลุกมาหาพวกเราทันที "สวัสดีครับ"

พิชกับเรนมองหน้ากันเหวอๆ "ครับ ?"

"ผมเบน... เป็นเพื่อนของข้าว"

ผมขมวดคิ้ว เบนมาทำอะไร ? ต้องการอะไรกันแน่ ?

นิคที่ยืนรอใกล้ๆ ก้าวเข้ามาชิด ผมโบกมือให้นิคเชิงบอกว่าไม่เป็นไร "ขอบคุณนะเบน แต่ข้าวอิ่มแล้ว พิช เรน ไปกันเถอะ"

ผมเลือกที่จะส่ายหน้า คิดว่าปฏิเสธมากๆ เข้าเบนคงจะถอยไปเอง

แต่ผมคิดผิด...

เบนเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ "ข้าว คุยกันก่อนสิ"

ผมส่ายหน้า "เบน ข้าวว่าข้าวพูดชัดแล้วนะ"

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาฉุดมือผมไว้ "ข้าว! ข้าวยังโกรธเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนเหรอ ผมขอโทษ..."

ผมพยายามสะบัดออก นิคปราดเข้ามาตรงกลาง ดันเบนออกไปพร้อมเตือนเป็นภาษาอังกฤษ "ถอยไป"

"ข้าว!"

พิชและเรนรีบเก็บข้าวของตามผม นิคที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องแต่เข้าใจว่าผมถูกคุกคามรีบดันตัวผมออกจากร้าน ขณะที่เรายื้อยุดกันอยู่นั้น ตัวผมก็ลอยหวือ แรงกระชากจากข้อมือแรงกว่านิคเสียอีก

"แม๊กซ์!"

แม๊กซ์โอบผมไว้กับอก ขมวดคิ้วแน่นพลางถามเบน "คุณเป็นใคร ?"

เบนเลิกคิ้ว "คุณคงเป็นสามีข้าวสินะ ผมชื่อเบน เป็นคนรักเก่าของข้าว"

"อ้อ" เสียงแม๊กซ์คล้ายเยาะ "งั้นคนรัก'เก่า' ก็ควรจะปล่อยภรรยาผมได้แล้วนะ" แม๊กซ์เหลือบมองข้อมือผมที่ถูกเบนดึงไว้ แล้วเขาก็กระชากออก เรนกับพิชอุทานออกมาพร้อมกัน

"เรื่องของคุณ ข้าวเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว อย่าลืมว่าเรื่องของคุณเป็นอดีตไปหมดแล้ว คุณไม่ใช่ทั้งปัจจุบันและอนาคตของข้าว กรุณาอย่ามายุ่งกับพวกเราอีก" แม๊กซ์พูดจบก็ลากผมออกจากร้าน

พิชกับเรนแยกตัวกลับ ส่วนผมขึ้นรถแม๊กซ์กลับเพนท์เฮาส์ แม๊กซ์ดูไม่ดีเลย ใบหน้าเขาถมึงทึง ไม่พูดไม่จา เพียงแค่ขับรถไปเรื่อยๆ เท่านั้น

"แม๊กซ์..." ผมเรียกเบาๆ

"เจ้าหญิง" เขาตอบ ตายังมองถนนเบื้องหน้า "คุณไม่ได้เล่าว่าแฟนเก่าคุณพยายามคืนดี"

ผมสะอึก "ฉันคิดว่ามันไม่มีอะไร... ฉันท้องอยู่ ใครจะมาพิศวาสคนท้องล่ะ"

แม๊กซ์แค่นหัวเราะ "เห็นได้ชัดว่ามีไม่ใช่เหรอ ?"

"แม๊กซ์ โกรธฉันเหรอ ?"

"ผมควรโกรธไหม ?" แม๊กซ์หันกลับมามองผม

ผมหน้าจ๋อย "นั่นสินะ... ขอโทษนะ ฉันไม่คิดจริงๆ ว่าเขาจะตามมา แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว"

แม๊กซ์ถอนหายใจ เอื้อมมือมากุมมือผมไว้ "ผมเชื่อคุณ ก่อนหน้านี้ผมเคยหึงหวงคุณจนทำทุกอย่างพัง ผมจะไม่กลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว"

"ขอบคุณนะ" ผมยิ้ม แม๊กซ์ค่อยยิ้มออก

"ผมเชื่อใจคุณนะเจ้าหญิง"

"ฉันรู้... ฉันรักเธอนะ"

"ผมก็รักคุณ..."

....

ผมนั่งเขียนสแคร๊ปบุ๊กคนเดียว วันนี้ไม่มีคลาสโยคะ พิชไปเยี่ยมญาติปาป้าที่ฟิลลาเดเฟีย เรนก็เงียบไป ผมไม่มีนัดไปไหนเลยนั่งขัดเพชรไปพร้อมกับเขียนสแคร๊ปบุ๊กไปด้วย

ผมฟังเพลงเพลินๆ ตอนนี้ในเมืองเปิดแต่เพลง Havana จนจะร้องตามได้อยู่แล้ว ผมไม่ได้เกลียดเพลงนี้ แต่เปิดมากๆ มันก็ติดหูเหมือนกันนะ

ผมเปิดเพลง Lana Del Rey เสียงยานๆ ของนักร้องคนนี้ทำให้ผมติดใจ ระหว่างนั้นก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

ติ๊ง! เสียงเฟซบุ๊กขึ้นเตือน

Ben Li send a message

เบนอีกแล้วเหรอเนี่ย ผมนึกว่าเขายอมแพ้ไปแล้วเสียอีก ผมจิ้มนิ้วเข้าไปดูไม่ให้เสียมารยาท กลับกลายว่าเป็นคลิปสั้นๆ

เบนถือกีตาร์ในมือ เขากระแอมเบาๆ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ใบหน้าตี๋ๆ ลูกครึ่งของเขาดูมีสเน่ห์มาก แต่ถึงยังไงก็ไม่สามารถทำให้ผมใจเต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนได้

I won't lie to you
I know he's just not right for you
And you can tell me if I'm off
But I see it on your face
When you say that he's the one that you want
And you're spending all your time
In this wrong situation
And anytime you want it to stop


เบนเริ่มเพลง ผมอึ้งไปแล้ว...

เพลง Treat you better เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามให้ผู้หญิงที่มีแฟนแล้วมาสนใจตัวเอง โดยบอกว่าตัวเองดีแค่ไหน และจะดีกับผู้หญิงคนนั้นยังไง

เบนเน้นตรงท่อนคอรัส

I know I can treat you better than he can
And any girl like you deserves a gentleman
Tell me why are we wasting time
On all your wasted crying
When you should be with me instead
I know I can treat you better
Better than he can


เสียงเบนจัดว่าดีทีเดียว ไม่คร่อมจังหวะเหมือนแม๊กซ์ แต่ถึงอย่างนั้น... ผมไม่ได้รักใครเพราะร้องเพลงเพราะเสียหน่อย

ผมนั่งฟังจนจบ ท้ายคลิป เบนยิ้มเศร้าและบอกว่า

"เขารุนแรงกับคุณใช่ไหมข้าว ดูจากที่เขากระชากคุณ เขาตบตีคุณด้วยหรือเปล่า ? เลิกกับเขาเถอะนะ ผมพร้อมจะรักคุณ ดูแลคุณ และถึงคุณจะท้อง แต่ผมก็ยินดีรับผิดชอบคุณทุกอย่าง... กลับมาหาผมเถอะนะ"

ผมไม่ตอบ ปิดคลิปและบล๊อกเบนทิ้ง

ผมถอนหายใจ... น่ากลัวว่าแม๊กซ์จะอาละวาด

และไม่ต้องรออะไรเลย.... ไม่ถึงห้านาที แม๊กซ์ก็กระหืดกระหอบจากบริษัทกลับบ้านมา ผมอึ้ง รู้ว่าเขามีพาสเวิร์ดเฟซบุ๊กผม แต่ไม่นึกว่าเขาจะเช็คตลอด

"เจ้าหญิง!" ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยว

ผมหันกลับไปพลางส่ายหน้า "ฉันบล๊อกเขาไปแล้ว"

แม๊กซ์ยืนนิ่ง คว้าผมเข้าไปกอด "ใจผมจะขาด"

ผมถอนหายใจ กอดเขาตอบ "ไม่มีอะไรทั้งนั้น ใจเย็นๆ ไว้นะที่รัก"

แม๊กซ์ไม่ตอบ แต่เอื้อมมือมาปลดเสื้อผ้าผมออก ผมจูบเขาอย่างไม่ยอมแพ้... อยากให้เขาจำให้ขึ้นใจว่าผมเป็นของเขาเท่านั้น...

..."แม๊กซ์... ฉันเป็นของเธอ" ผมกระซิบ แม๊กซ์คำรามเบาๆ คล้ายลูกสิงโตที่มักโผล่มาหลังเปลือกตาผมเสมอ

อย่างน้อยเขาก็ไม่อาละวาดไร้สาระ... แต่ท่าทางนั้น เหมือนเก็บอะไรไว้ในใจ...

ผมได้แต่โอบกอดเขา ปรนเปรอเขาด้วยร่างกาย ให้เขามีความสุข

"แม๊กซ์ แม๊กซ์ ฉันรักเธอ..."

"ผมเชื่อใจคุณนะเจ้าหญิง"

ผมพยักหน้า "ฉันรักเธอ..."

.......

หลังเหตุการณ์วันนั้น เราก็เงียบๆ กันไป ผมอึดอัดกับท่าทีของแม๊กซ์ เขามักมารับผมที่ศูนย์โยคะ ไม่อนุญาตให้ผมไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆ หรือถ้าไป เขาต้องไปด้วย ผมปรับทุกข์กับพิชและเรน ทั้งคู่ให้คำแนะนำว่า ให้รอจนกว่าแม๊กซ์จะกลับมาเชื่อใจผมอีก

ผมตะหงิดๆ ถึงผมไม่ได้ทำผิดอะไร แถมแม๊กซ์ก็ยังบอกว่าเชื่อใจผม แต่ทำไมทำตรงกันข้าม ?

ผมอดทนไม่ไหวจึงโพล่งออกมา แม๊กซ์เลื่อนมือมาบีบมือผมแน่น

"ผมไว้ใจคุณ แต่ไม่ไว้ใจคนอื่น" เสียงเขาคล้ายคำราม ผมถอนหายใจ

"เบนเงียบไปแล้ว ฉันบล๊อกเขาไปแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้"

แม๊กซ์ส่ายหน้า "ผมไม่สน อาจไม่ใช่แค่นายนั่น แต่ยังมีคนอื่นอีก"

ลงว่าพูดแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ล่ะ ยังไงแม๊กซ์ก็ต้องติดสอยห้อยตามผมไปทุกที่แน่นอน ผมไม่อยากทะเลาะกับเขาแล้ว แต่ยิ่งเขาหึงหวงผมเท่าไหร่ คุณค่าผมก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น...

...ผมได้แต่หวังให้เขาหายระแวงไวๆ เพราะผมก็อดทนแทบไม่ไหวเหมือนกัน

.....

แม๊กซ์ออกไปทำงานแล้ว วันนี้ผมล้าจากเซ็กส์เมื่อคืนจนคลานไปเรียนโยคะไม่ไหว เลยเท็กซ์บอกพิชให้ช่วยลาให้

ผมอาบน้ำ แปรงฟันแล้วเปิดห้องไปหาอะไรกิน

วันนี้มีผัดเปรี้ยวหวานที่ทำทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน กลอเรียช่วยต้มซุปให้ ผมถอนหายใจระหว่างที่ฟังกลอเรียบ่นเรื่องลูกชาย

ติ๊ง!

เสียงข้อความเข้าอีกแล้ว คราวนี้มาจากคนที่ไม่ได้อยู่ในเฟรนด์ลิสต์ ผมจิ้มเข้าไปดู

'ผมเบนนะ'
'ทะเลาะกับสามีหรือเปล่า'
'เรามาคุยกันไหม ผมรอข้าวอยู่ที่ฟรอนต์'


ผมแทบทำไอแพดตก พร้อมๆ กับเสียงโทรศัพท์บ้าน พนักงานที่ฟรอนต์โทรขึ้นมาว่ามีคนมาหา

ผมอ้าปากค้าง เบนรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่ เขาตามสโตกเกอร์ผมเหรอ!

ผมหน้าเครียด บอกกลอเรียว่าจะลงไปหาเพื่อที่ฟรอนต์ ยังไงซะ ที่ด้านล่างก็มีคนเยอะแยะ ทั้งพนักงาน ทั้งรปภ. ยังไงเบนก็ไม่กล้าทำอะไรผมหรอก

ผมปลุกปลอบตัวเอง

วันนี้ต้องคุยให้รู้เรื่อง แม๊กซ์จะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ใช้เวลาแค่สั้นๆ ผมก็ลงมาด้านล่างในชุดเสื้อยืด กางเกงวอร์ม คลุมทับด้วยโอเวอร์โค้ตอุ่นๆ เบนนั่งรอที่โซฟาอย่างสง่างาม แบบที่ผมในอดีตต้องนึกรัก

ผมพ่นลมหายใจออกมา นั่งลงตรงหน้า เบนยิ้มให้ ดูเขาเหนื่อยๆ

"สวัสดีข้าว"

"รู้ได้ยังไงว่าข้าวอยู่ที่นี่ ?" ผมไม่ตอบเขา กลับถามทันที เบนยักไหล่

"ผมจ้างนักสืบน่ะ"

ผมกัดริมฝีปาก ส่ายหน้า "เบนตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ?"

เบนยิ้มน้อยๆ ดูเศร้า "ผมอยากคืนดีกับคุณ"

"ฟังนะ" ผมพูดอย่างอดทน "นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน หลังจากนี้ข้าวจะไม่ติดต่อเบนอีก ไม่ว่าทางไหนก็ตาม เรื่องของเราจบลงไปแล้ว เบนควรก้าวต่อไป"

"อนาคตผมอยากมีคุณ" เสียงเขาระโหย พยายามยื่นมือออกมากุมมือผมไว้ แต่ผมดึงกลับ เอามือมากอดอก

"ข้าวมีคนที่สร้างอนาคตด้วยแล้ว... กลับไปเถอะ อย่าให้ข้าวรู้สึกแย่กับเบนเลย"

เบนเงยหน้าขึ้น เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง ขณะนั้นเอง... ลมหนาวจากด้านนอกก็พัดเข้ามา ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา ผมไม่ทันจะทักหรือมองเขาให้เต็มตา แม๊กซ์ก็ดึงผมขึ้นจากโซฟาไปอยู่ด้านหลังเขา

"สารเลว!" เขาด่าแล้วเหวี่ยงกำปั้นลงที่แก้มเบน คนที่อยู่ในฟรอนต์หวีดร้อง แรงหมัดทำให้เบนเซไปเกาะโซฟา ผมรีบกอดแม๊กซ์เอาไว้

"แม๊กซ์!"

เบนหัวเราะหึๆ เงยหน้าขึ้นมองผม "คนใช้ความรุนแรงแบบนี้น่ะเหรอ... ที่คุณจะฝากชีวิตไว้" เขาตั้งใจบริภาษเป็นภาษาอังกฤษให้แม๊กซ์เข้าใจ ผมส่ายหน้า รีบดึงแม๊กซ์ออกมา

"ออกไป!" ผมตะโกน "ไปซะเบน! เราจบกันไปแล้ว! อย่ากลับมาอีก!"

เบนแค่นยิ้ม จ้องแม๊กซ์ตาถลน "ยังไงข้าวก็เหมาะกับคนที่ดีกว่าคุณ"

"Son of bitch!" แม๊กซ์จะถลาเข้าไปชกอีกหมัด แต่เบนไหวตัวหลบ พร้อมๆ กับรปภ.ที่กรูกันเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย

ต้องใช้ผู้ชายตัวโตๆ ถึงสองคนถึงจะดึงแม๊กซ์เอาไว้ได้ ส่วนเบนก็ถูกเชิญออกไปแล้ว หลังจากนั้น เขาก็ถูกแบนไม่ให้เข้าตึกของเรา ส่วนผมก็ถูกดึงขึ้นชั้นบน กลับไปยังเพนท์เฮาส์

ผมถูกกระชากลากถูเข้าห้อง กลอเรียถูกตวาดให้รีบกลับบ้าน ก่อนที่แม๊กซ์จะโยนผมลงที่โซฟา

เสียงกระวีกระวาดของกลอเรียดังขึ้นหน้าประตู ก่อนประตูจะถูกปิด ผมเด้งตัวขึ้นพยายามอธิบาย แต่ไม่...

...นัยน์ตาของแม๊กซ์ไม่มีความเชื่อใจอีกแล้ว

...ผมไม่ได้ทำอะไรเลย... ทำไมต้องเกิดอะไรแบบนี้กับผม

แม๊กซ์ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ แสยะยิ้ม "เพราะมันคุณเลยไปกินข้าวเที่ยงอีกร้านใช่ไหม"

ผมชะงัก... ข้าวเที่ยงที่ว่า คงเป็นวันที่เบนเลี้ยงสมูตตี้ ผมรีบส่ายหน้า "มะ..."

"แล้วยังนัดกันคุยที่บ้าน..." แม๊กซ์กัดฟันกรอด เหวี่ยงผมติดโซฟาอีกครั้ง ผมพยายามตะกายลุกขึ้นเป็นครั้งที่สอง "เจ้าหญิง... มันจีบคุณ บอกรักคุณ บอกว่ามันดีกว่าผมแค่ไหน ยังไม่พออีกเหรอ!"

"แม๊กซ์!" ผมร้อง "ฟังฉันกะ..." มือหยาบพุ่งตรงเข้ามากระชากเสื้อผมออก ผ้าเนื้อดีขาดแคว่กดังสะท้อนห้องนั่งเล่น ผมส่ายหน้าลูกเดียว แม๊กซ์ไม่ฟังอะไรแล้ว เขาดึงกางเกงผมออก ผมได้แต่ดิ้นรน พยายามทุบไหล่ให้เขาฟังผมก่อน

"แม๊กซ์! ฉันท้องอยู่นะ!"

"นี่ขนาดท้องยังโปรยสเน่ห์ได้ขนาดนี้" รอยยิ้มบูดเบี้ยววาดลงบนใบหน้าหล่อเหลา "ต้องให้ร่างกายคุณจำแล้วล่ะว่ามันเป็นของใคร"

ผมอ้าปากค้าง ดิ้นออกจากวงแขนแข็งแรง แต่ทว่าไร้ประโยชน์ มันกักผมไว้อย่างแน่นหนา แม๊กซ์ไม่สนใจอาการดิ้นรนของผมเลย เขารูดซิป และปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นตุ๊กตาระบายความใคร่ ไม่ต้องอาศัยนิ้วนำทางหรือบอกรักหวานๆ ผมกรีดร้อง สองมือถูกล็อกไว้ สองขาถูกอ้าออก ท่อนลำขนาดใหญ่สอดแทงเข้ามาภายในที่แห้งผาก ผมตัวแข็งเกร็ง เจ็บจนเหมือนถูกเป็นชิ้นๆ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมรองรับโทสะของเขา แต่ทว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ไม่อาจทนได้เลย

แม๊กซ์กระแทกเข้ามา ผมร้องลั่น "แม๊กซ์ อย่าทำฉันเลย!"

"เจ็บ! ได้โปรด...." เสียงเนื้อเสียดสีกันทำให้ผมละอาย "อึกกก... จะ เจ็บบบ ฉันท้อง... ฉันท้อง" ผมพยายามเตือนสติเขาพลางพยายามดันเขาออกทว่าไร้ผล...

...เสียงเพลงยานคางดังก้องอยู่ในหัว

มันเป็นเพลงที่คุ้นเคย...

...I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence...


ผมถูกข่มขืนอีกครั้ง...

...ขอบตาร้อนผ่าว ช่องทางรักเปื้อนเลือด น้ำอุ่นๆ ไหลอาบแก้ม

ทว่า...

...เขาไม่สนใจ

...ไม่สนใจอีกต่อไป

...
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 ??% 30/1/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 13-02-2018 20:47:45
ผมพยายามขยับตัว ฝันอันประหลาด... ปิศาจร้ายควันดำพยายามกลืนกินผมและลูก ในฝันนั้นมีอัศวินหน้าตาหล่อเหลา เรือนผมสีน้ำตาล ดวงตาสีเดียวกันพยายามปกป้องผม... และเมื่อเขาปราบสัตว์ประหลาดลงได้ เขาก็ก้าวเข้ามาข่มขืนผมแทน

ฝันนั้นร้ายกาจ ผมเจ็บสะท้านไปทั่วร่าง ที่เจ็บยิ่งกว่าก็คือหัวใจ ทั้งๆ ที่ร่างกายถูกย่ำยี แต่หัวใจกลับมอบให้เขาอย่างง่ายดาย

ลูกสิงโตพยายามปกป้องผม ทว่ามันเป็นเพียงสิงโตน้อย เสียงคำรามไม่ยอมแพ้ของมันดังคลอกับเสียงกรุ๋งกริ๋งของกระพรวน

ผมตะโกนบอกว่าผมท้องอยู่ แต่เขาไม่เมตตาเลย...

...ผมหายใจติดขัด ฝันร้ายยังดำเนินต่อไป ในที่สุดผมก็ตื่นขึ้นมา ร่างกายหนักอึ้ง ช่องทางยังเจ็บแสบร้อน ผมลุกขึ้นอย่างทรมาน

เสียงเครื่องดูดฝุ่นด้านนอกเตือนว่ากลอเรียเข้ามาทำงานแล้ว และนี่คงผ่านมาคืนหนึ่งแล้ว

ผมพยายามกลั้นน้ำตา ลูบท้องตัวเองเบาๆ

...ลูกยังอยู่

หากผมเสียลูกไป... ผมคงไม่มีวันให้อภัยแม๊กซ์ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะสามารถกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ในเมื่อตอนนี้ ลูกเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปแล้ว เขายังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก แม่ของเขาก็ถูกข่มขืน...

...ผมกล้ำกลืนลงจากเตียง ร่างกายถูกทำความสะอาดหมดแล้ว คงเป็นแม๊กซ์ตามเคย ผมพยายามลงจากเตียง ทว่าแค่ก้าวแรกก็เจ็บสะท้านทั่วร่าง

ไม่เป็นไร... ผมพยายามเตือนตัวเอง

ไม่เป็นไร...

...ผมอาบน้ำ แปรงฟัน ตั้งใจจะไปหาข้าวกิน แต่ประตู...

ล็อก!?

ประตูห้องถูกล็อกจากด้านนอก! นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เป็นแบบนี้ แม๊กซ์เป็นคนล็อกอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าเมื่อผมพยายามหาพาสปอร์ต บัตรประชาชน หรือใบขับขี่ของไทยแล้วก็ไม่เจอ แม๊กซ์ต้องเป็นคนเอาไปเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วแน่ๆ

ผมใจหายวาบ โผไปหาโทรศัพท์มือถือ... ไม่มีคลื่น ซิมถูกแกะออก ไม่มีสัญญาณไวไฟ ผมถูกขังอย่างแท้จริง

ผมรีบทุบประตูสุดแรง ไม่นานประตูก็ถูกไขออกจากด้านนอก กลอเรียใบหน้าซีดเผือดไม่แพ้กัน หล่อนยืนถือกุญแจค้างอยู่

"คุณข้าว!"

"กลอเรีย!"

"คุณแม๊กซิมัสบอกให้ไขตอนสิบเอ็ดโมง... พร้อมเสิร์ฟอาหาร ฉันไม่นึกว่าเขาจะ..."

ผมแค่นหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ กลอเรียกัดริมฝีปาก "เป็นแบบนี้... ไม่ได้แล้วนะคะ"

ผมส่ายหน้า "จะทำอะไรได้ล่ะกลอเรีย"

กลอเรียนิ่งไปสักพัก ก่อนจะก้าวเข้ามาในห้อง เดินเลยไปยังส่วนวอล์กอิน-โคลเซ็ท มือหล่อนสั่นระริกขณะรื้อของชิ้นหนึ่งออกมา

มันเป็นกล่องสีขาว หล่อนยื่นให้ผม

"ฉันคิดว่า... คงเป็นการหึงหวงธรรมดาของคู่แต่งงาน แต่พอเห็นไอ้นี่กับที่ขังคุณไว้ในห้องแล้ว..."

ผมเปิดกล่องออก ร่างกายแข็งเป็นน้ำแข็ง...

...ของชิ้นนั้น... ของที่กลอเรียบอกว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาสินะ

กลอเรียเงยหน้ามองรอบห้องอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะตัดสินใจ "ไม่ได้แล้วค่ะคุณข้าว! คุณถูกทำร้ายขนาดนี้! หนีเถอะค่ะ!"

"หนี ?" ผมถามกลับเสียงเบา

"เขาติดกล้องทั่วห้องแบบนี้ ป่านนี้คงรู้แล้วว่าฉันเอากล่องนี่ออกมา คุณมีเวลาไม่นานให้หนีนะคะ"

"ผมจะหนีไปไหนได้ ?" ผมกระซิบ กลอเรียคว้าแขนผมไว้แน่น

"สถานทูตไทยค่ะ คุณไปขอทำพาสปอร์ตชั่วคราวได้!"

ใจผมที่เต้นแรงกลับสงบอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นของชิ้นนั้น

ราวกับจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายกลับเข้าที่ ผมพึมพำ... นั่นสินะ

เขาหึงหวงผมจนข่มขืนผม และขังผมไว้ในห้อง... เฝ้ามองผมจากทุกที่ผ่านกล้อง

ใช่แล้ว... แต่ทำไมผมไม่โกรธเลย ไร้โทสะ ไร้อารมณ์ ผมหยิบของในกล่องขึ้นมาแล้วส่ายหน้าให้กลอเรีย "ไม่หรอก..."

"คุณข้าว..."

ผมส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆ มองดูกล้องและของในมือ "ผมจะไม่ไปไหน"

ความรักที่บ้าคลั่ง... มากล้น และแล้วความจริงก็คายออกมา

...ทุกอย่างที่เขาทำ ทุกประโยคที่เขาพูด

ไม่ใช่ผม... ไม่ใช่ผมเลยที่ขาดเขาไม่ได้

แต่เป็นเขาที่ขาดผมไม่ได้... ยอมทำทุกอย่าง

ผมกระชับ 'ของสิ่งนั้น' แล้วยิ้มให้กลอเรีย "ผม... ทิ้งเขาไปไม่ได้หรอก..."

.......

ผมขอให้กลอเรียกลับไปก่อน และให้หล่อนล็อกห้องให้ด้วย ผมกินอาหารแกนๆ ไม่รู้รสใดๆ ไม่นานนักก็มีเสียงจากด้านนอกเข้ามา

"ข้าว ?"

ผมวางขนมปังในมือลง รอกระทั่งประตูเปิดออกมา ใจสงบจนน่าประหลาด

แม๊กซ์ยืนอยู่หลังบานประตู... ดูทำอะไรไม่ถูก ผมยิ้มให้เขา...

เสียงเคร้งของโลหะกระทบกันดังขึ้นเบาๆ

'ของชิ้นนั้น' ถูกใช้แล้ว

"เจ้าหญิง..." ดวงตาเขาแดงก่ำ ราวกับจะร้องไห้ ขายาวก้าวเข้ามาใกล้ โอบกอดผมไว้อย่างแรง ผมหัวเราะเบาๆ

"เห็นหมดแล้วใช่ไหม ?"

เขาพยักหน้า

ผมลูบไล้โครงหน้าที่ผมรัก "ฉันทิ้งเธอไม่ได้..."

"เจ้าหญิง ผมทำอะไรลงไป..."

ผมจุ๊ปาก "ชู่ว์ ฉันเป็นภรรยาเธอนะ ต้องอยู่กับเธออยู่แล้ว..."

หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลผ่านแก้มที่มีหนวดเครา เขากวาดตามองร่างกายผมตั้งแต่ข้อเท้า... จนถึงใบหน้า

โซ่เงินมีปลอกหนังคล้องเท้าผมอยู่ โซ่ยาวพอให้เข้าห้องน้ำเท่านั้น ผมเป็นคนล่ามมันกับมือตัวเอง นี่คือ 'ของสิ่งนั้น' ที่แม๊กซ์ซ่อนไว้ในตู้

"เธออยากล่ามฉันมาตลอดเลยสินะ"

"ไม่... ไม่ครับ" เขาตอบทั้งๆ ที่น้ำตานองหน้า "ผมเผลอซื้อมันมา... อารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ข้าว เชื่อผมเถอะว่าผมอยากเห็นคุณยิ้ม หรือหัวเราะมากกว่าขังคุณไว้แบบนี้"

"แต่เธอขังฉัน... คงอยากทำมาตลอด ?"

เขาซบหน้ากับไหล่ผม "ตอนที่ผมรู้ว่าคุณเจอกับไอ้เบนอะไรนั่น ผมอยากข่มขืนคุณ ขังคุณ ให้คุณเป็นของผมคนเดียว แต่ตอนนี้... ผมรู้แล้วว่าผมทำอะไรลงไป"

ผมยิ้ม ประคองใบหน้าเขาไว้ด้วยสองมือ "ฉันเป็นให้เธอได้นะ"

แม๊กซ์คราง

"ฉันจะอยู่แต่ในนี้ เป็นภรรยาเธอ เลี้ยงลูกอยู่ในนี้ ไม่ให้ใครอื่นเห็น"

แม๊กซ์ส่ายหน้า "ยกโทษให้ผมเถอะเจ้าหญิง..." เขาพรมจูบใบหน้าผม ใจผมสงบนิ่งเหมือนน้ำใส เอนกายแนบร่างกายเขา

ไม่ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร... ผมก็ไม่กลัวแล้ว

ต่อให้เขาขังผมไว้ พันธนาการผมไว้ด้วยโซ่ ผมก็พร้อมที่จะถูกกักขัง

ผมมันบ้า... บ้าที่หลงรักเขา

เราทั้งสองต่างเป็นคนบ้า... แม๊กซ์กอดผมไว้แนบแน่น "เรา... เรามาเริ่มกันใหม่นะครับ... ผมอาจขอให้คุณให้อภัยมานับไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ผมขอโอกาส จะไม่มีครั้งที่สองแล้วจริงๆ"

ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยน ปัดเรือนผมที่ปรกหน้าของแม๊กซ์ออก "อืม เริ่มกันใหม่นะ"

แม๊กซ์กอดผมแน่น... ให้ร่างกายสัมผัสกันและกัน แลกเปลี่ยนความรัก... จนมันลอยละล่อง ฟุ้งทั่วห้องอย่างอ่อนโยน

จะถูกขัง ล่ามโซ่ ถูกข่มขืนก็ช่างปะไร ทว่าทุกอย่างถูกก่อกำเนิดด้วยความรัก...

...รัก จนไม่อาจละทิ้งไปได้

ในอนาคต... ผมมั่นใจว่าแม๊กซ์จะไม่มีวันซ้ำรอยเดิมๆ อีก ทั้งดวงตาและน้ำตาเขาบอกเช่นนั้น...

...รัก จนเจ็บเท่าใดก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่

...รัก จนคนภายนอกเช่นกลอเรียไม่เข้าใจ

...รัก จนยอมเป็นบ้า

...รัก ที่รักของผม

...แม๊กซ์จูบผมอย่างดูดดื่ม ปราศจากคำพูดระหว่างเรา มีเพียงความรักที่ลอยตัวอย่างอ้อยอิ่ง และเมื่อแม๊กซ์กำลังเลื่อนมือมาปลดกางเกงผม เขาชะงัก ผมยิ้มบาง

"ไม่เป็นไร... เธอทายาไว้แล้ว... ถ้าเบามือก็ไม่เป็นไร"

เขากัดฟันแน่น ก่อนจะส่ายหน้า "ผมทำคุณเจ็บอีกไม่ได้"

ผมโอบกอดเขาไว้ "ฉันเต็มใจ"

"อา... เจ้าหญิง"

"แม๊กซ์ อัศวินที่รักของฉัน..." เมื่อยอมรับแล้วก็ต้องก้าวต่อ "เป็นแด๊ดดี้ของลูกนะ"

"ได้ครับ... มามิ๊" เขายิ้ม อวดฟันสวย ผมหัวเราะเบาๆ

...ที่จริงแล้วเรื่องราวของผมกับแม๊กซ์มันเรียบง่ายเช่นนี้เอง

ผมรักเขา

เขารักผม

เรารักกัน...แค่นี้เอง

...ข้าวรักแม๊กซ์มากนะ ผมกระซิบเป็นภาษาไทยที่ข้างหูเขา ปล่อยให้เขาลูบไล้เรือนกายตามอำเภอใจ...

...รักมากนะ...

...

เดือนกว่าถัดมา

ในที่สุดก็ถึงกำหนดคลอด ยังไงครรภ์บุรุษอย่างพวกเราก็ต้องผ่าคลอดอยู่แล้ว พิชที่คลอดไปก่อนผมแบกสังขารมาเยี่ยม ปล่อยลูกให้ปาป้าเลี้ยงที่บ้าน อะไรจะสตรองเบอร์นั้น

ลูกสาวของพิชมีชื่อว่าอลิซาเบธ เป็นเด็กน้อยที่คล้ายปาป้ามาก น่ารักน่าหยิกตามประสาเด็กลูกครึ่ง

อ้อ ส่วนเบน หลังจากที่โดนแม๊กซ์อัดก็หายไปเลย ผมได้แต่หวังอย่าให้เขาปรากฏตัวอีก ผมร้ายกาจเกินไปแล้วใช่ไหมเนี่ย

ระหว่างที่รอเวลาลงมีด พิชก็โชว์รอยผ่าตัดที่ขอบไลน์บิกินนี เล็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย เรนก็ชะโงกหน้ามาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น พิชยิ้มขำ

"เดี๋ยวก็มี ทั้งคู่แหละ"

เรนทำคอย่น "เจ็บไหมครับ ?"

"ไม่เลย บล๊อกหลังน่ะ แต่มีสติรู้อยู่นะ"

ผมหน้าซีด นึกถึงแม่ขึ้นมาทันที

"คิดถึงแม่สุดๆ เลยล่ะ" พิชเสริมเมื่อเห็นสีหน้าผม เขาช่วยตบบ่าให้กำลังใจ แม๊กซ์เปิดประตูเข้ามา หอบข้าวของพะรุงพะรัง มีอดัม ทีนา และนิคช่วยกันหอบของตามมา

ก่อนกำหนดคลอด แม่โทรมาบอกให้ผมเตรียมตะกร้าสำหรับเตรียมรับเด็กอ่อนไว้แล้ว แต่แม๊กซ์ยังไม่วางใจ ผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าอ้อม และของใช้จุกจิกเต็มสี่กระเป๋า ต้องใช้คนช่วยถืออีกสามคน

เมื่อถึงกำหนด ผมถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด เป็นอย่างที่พิชบอกจริงๆ ผมได้ยินแม้กระทั่งหมอกับพยาบาลคุยอะไรกัน แต่ไม่เจ็บไม่ปวดอะไร

ในที่สุดลูกชายตัวน้อยของผมก็ออกมาลืมตาดูโลก ผมน้ำตาไหล ขณะที่หมอประกาศชื่อว่าเป็นลูกผม พร้อมน้ำหนัก

เจ้าหนูของผมตัวโตน่าดู ผมถูกเข็นไปที่ห้องพักฟื้น หมอบอกให้ผมพยายามออกกำลัง แผลจะได้หายเร็ว

แม๊กซ์ปราดเข้ามาหาผมทันที พิชกับเรนกลับไปแล้ว ส่วนเจ้าตัวน้อยจะถูกเข็นมาทีหลัง แม๊กซ์ยิ้มกว้างจนเห็นรอยย่นที่ขอบตา ผมก็ยิ้มตอบ

ความรู้สึกการเป็นพ่อแม่คนมันเป็นแบบนี้นี่อีก

เราจับมือกันไว้ รอกระทั่งเจ้าตัวเล็กในเปลพลาสติกใสเลื่อนเข้ามาในห้อง พยาบาลแนะนำให้ลูกชายผมดื่มแต่นม อย่าดื่มน้ำหรืออาหารเสริม เพราะยังอายุไม่ถึง

น้ำตาผมหยดแหมะบนแก้มเล็กๆ ลูกสิงโตตัวน้อยกำลังหลับ ขนตาสีน้ำตาลหนาเป็นแพทอดตัวบนเปลือกตาบาง ผมลูบมือเล็กๆ ที่มีรายละเอียดครบถ้วน พึมพำไม่หยุดว่า "ลูกจ๋า..."

แม๊กซ์อดใจไม่ไหว หอมแก้มนุ่มๆ จนเจ้าตัวเล็กทำท่าจะตื่นเพราะรำคาญแด๊ดดี้แก ผมหัวเราะพลางตีแขนแม๊กซ์เบาๆ "เดี๋ยวลูกตื่นหรอก"

แม๊กซ์ยิ้ม มือลูบไล้หลังมือผม "ขอบคุณนะครับ"

ผมยิ้มตอบ "ฮื่อ ขอบคุณเหมือนกันนะ..."

รอยยิ้มที่แม๊กซ์ส่งให้นั้นเจิดจ้า ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนดาราฮอลลีวู้ดทำเอาผมใจเต้นเหมือนแรกรัก ทั้งๆ ที่เรามีลูกด้วยกันแล้ว "เรามาเลี้ยงให้แกเป็นเด็กดีนะ"

"ครับ... ได้ทุกอย่าง อ้อ เจ้าหญิง เรื่องชื่อ..."

ผมจูบปลายจมูกเล็กๆ เด็กน้อยอืออาตอบ "ให้ชื่อว่าเลโอ... เพราะแกปรากฏตัวเป็นลูกสิงโตตลอดเลย"

"เลโอ... ผมชอบนะครับ"

"อืม ชื่อกลาง... ให้ชื่อว่าเป็นไทย เลโอ เป็นไทย เฮนเดอร์สัน"

แม๊กซ์จูบแก้มผมแล้วพยักหน้ารับ "เดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องเอกสารนะครับ"

"อ้อ เดี๋ยว แม๊กซ์ ขอโทรศัพท์ได้ไหม ?"

"ครับ ?"

"ฉันอยากโทรหาแม่" ผมว่าพลางจะเช็ดน้ำตา แม๊กซ์จูบซับน้ำตานั้นแล้วกดเบอร์ ก่อนจะยื่นให้ผม

"ฮัลโหล ?" แม่ส่งเสียงมาตามปลายสาย ผมตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นคำ

"แม่เหรอ!? ข้าวคลอดแล้วนะ" แม่ส่งเสียงร้องลั่นๆ

"เฮ้ย เหรอ อีกไม่กี่วันกูก็ไปหาแล้ว" ตามด้วยเสียงพ่อ น้องชายและน้องสะใภ้ ผมปาดน้ำตาออก คุยกับแม่อีกไม่กี่คำก็วาง ไม่นานนักผมก็หลับไป...

...ในฝัน ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีอัศวินหรือเจ้าหญิง

มีเพียงผม... และเด็กน้อยจ้ำม่ำแววตาคล้ายแม๊กซ์กุมมือผมอยู่ และแม๊กซ์... ที่กอดเราทั้งคู่ไว้

...แม๊กซ์... เลโอ... มามิ๊ขอบคุณทั้งสองคนนะ ที่เติมเต็มชีวิตมามิ๊...

...มามิ๊รักแด๊ดดี้กับเลโอนะครับ...

...รักที่สุดเลย...


[END]
.........

//โอ๊ยยย จบแล้วค่าาา เรื่องนี้ใช้เวลานานมาก เทียบกับจำนวนตอนแค่ 10 ตอน เฮ้อ ปาดเหงื่อ กว่ามันจะจบได้ เราลากนังข้าวให้คนอ่านอ่านไปด่ามันไป 555 จบก็ยังอวดหลัวเหมือนเดิม เพิ่มเติมอวดลูก เอากะนางเซ้

ตอนนี้เป็นตอนที่มีเพลงประกอบเยอะมาก อารมณ์ครึ่งแรกกับครึ่งหลังมาคนละม้วน ครึ่งแรกฮานังข้าวยั่วผัว ครึ่งหลังหน่วงๆ แต่สุดท้ายแล้ว ข้าวก็ยังเป็นข้าวรักผัวครับ ยอมผัวทุกอย่าง รักจนทิ้งไม่ได้และยอมทนอยู่ แม๊กซ์ก็ใช้โควต้าให้อภัยไปแล้วครั้งหนึ่ง และมาอีกครั้งตอนจบ เค้าสัญญากันว่าจะไม่มีอีกแล้ว ข้าวก็เชื่อ จะด่านางโง่ก็ได้ค่ะ แต่นางรักมาก รักจนยอมทุกอย่างจริงๆ

มันน่าคิดนิดนึงนะ เบนมาเป็นตัวร้าย + พระรอง แอบสงสารนางอยู่เหมือนกันนะคะ

ส่วนประสบการณ์คลอด เราอ้างอิงจากพี่สาวนะคะ เรายังไม่เคยมีผัวค่ะ //ประกาศอย่างก้าวร้าว มีอะไรผิดไปสะกิดได้เสมอค่ะ

เรื่องรวมเล่มจะมาแจ้งในเพจและในนี้ด้วยนะคะ ส่วนตอนพิเศษคือยังบ่ได้เขียนอะไรเลยค่ะ เลยขอยกยอดไปอยู่ในเล่มนะคะ

เพลงที่ใช้ในตอนนี้ค่ะ

Ultraviolence: Lana Del Rey https://www.youtube.com/watch?v=ZFWC4SiZBao
พูดถึงการใช้กำลังที่ให้ฟีล SM ค่ะ โดนทำร้ายแต่ยังรัก เหมือนนังข้าวเลยค่ะ

Treat you Better: น้องช้อน https://www.youtube.com/watch?v=lY2yjAdbvdQ
พูดถึงการจีบคนที่มีแฟนแล้ว แต่แฟนไม่ดีไง เลยอาสาเป็นแฟนแทน

Lady Marmalade: P!nk Xtina Mya Lil' Kim https://www.youtube.com/watch?v=RQa7SvVCdZk
พูดถึงสาวๆ ในซ่องชวนผู้ไปเล่นจ้ำบ๊ะกันค่ะ

และแล้วเรื่องนี้ก็จบลงแล้วนะคะ (ปาดเหงื่อ) ดีใจที่จบมากๆ เรื่องต่อไปที่จะเข็นคือ Stay Gold ค่ะ หลังจากที่น้องน้ำแกงโดนนังข้าวปาดหน้าอวดหลัวไปปีนึง เราจะค่อยๆ รื้อน้องน้ำแกงมาเขียนต่อนะคะ ตอนนี้จำอะไรไม่ได้แล้ว

...

.

.

.

จบจริงๆ ละค่ะ See you on FB and next story นะค้าาา :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 13-02-2018 23:07:10
ใจหายใจฟ่ำหมดดดดด
แต่สุดท้ายก็จบด้วยดี โล่งอกกกก

ปล. รอน้ำแกงอยู่นะจ๊ะ เธอไม่รู้บ้างเลอออออออออออ
 
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 13-02-2018 23:59:37
แอบกลัวข้าวจะแท้งลูกมากกกก
แม็กซ์นางจะรุนแรงกับคนท้องเกินไปละนะ
ดีนะนุ้งข้าวนางอึดทึกทน

จบซะแล้ว ยังอยากอ่านคนอวดหลัวต่ออยู่เลยค่ะ
แต่ก้รอเล่มอยู่ด้วยนะคะ ขอตอนพิเศษแบบคอมโบ
จัดเต็มทุกท่วงท่า ทุกลีลา 55555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-02-2018 12:19:40
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 14-02-2018 22:00:07
จบแล้ววว ทับใจอย่างยิ่ง!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-02-2018 23:40:06
สมควรและที่ขีาวจะอวดผัว  อวดลูก

แม็กซ์ ก็ช่างรัก หลงข้าวซะจริงๆ  :z3: :z3: :z3:
แม็กซ์ ข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

เบน นายทำตัวเองแท้ๆ
ไม่เห็นค่าความรักของข้าว ทิ้งข้าวไปแต่งกับสาว
ฉุกใจได้คิด ก็เสียข้าวไปแล้ว
สมควรที่จะเจ็บปวดไปคนเดียว
ขอบคุณไรท์
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 15-02-2018 22:53:52
จะมีตอนพิเศษที่ช่วยกันเลี้ยงลูกไหมคะ
คงวุ่นน่าดู
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 18-02-2018 13:33:16
แม็กซ์เอาอีกแล้ว รักแบบแม็กซ์ไม่เรียกรัก มันคือการอยากครอบครอง
แต่เมื่อมาเจอนังข้าวที่พร้อมตามใจ โดยอ้างคำว่ารัก
ก็เหมาะเจาะกันไปค่า ... ส่วนลูกชื่อเลโอ
ถ้ามีตอนพิเศษของน้อง เราว่าโตมานางจะตกหลุมรักผู้ชายชื่อลูคัสแน่นวลลล  :hao3:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-03-2018 04:11:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 25-04-2018 19:06:03
จบแล้วตามมาตั้งแต่ตอนแรกๆ จนแอบมาหาที่ห้องยังไม่มาต่อจนจบ ดีใจที่่่่่่ตอนจบแล้วตัวละครจบแต่เหมือนให้เราจินตนาการต่อได้ว่า เด่วเค้าจะดำเนินไปยังไง ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 29-05-2018 22:30:46
ชอบค่ะ เป็น 10 ตอนที่ดีมากเลย แต่ยังอยากได้ตอนพิเศษอยู่น้าาา อยากเห็นตอนเลโอเป็นหนุ่มจังค่ะ น่าจะคล้ายพ่อน่าดู

ปล.แบบรวมเล่มอยากให้มีอีบุ๊คด้วยจังค่ะ //ปิ๊งๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 30-05-2018 22:43:53
มีความอวดหลัวแรงเวอร์!!!
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 01-06-2018 00:20:33
อ่านถึงหน้า4 ทนไม่ไหวแล้ว ขอเม้นก่อน
ฉากส่งรูปแล้วถามว่า อิจฉามะ
อย่าว่ายัยผีนั่นอิจฉา คนอ่านก็อิจฉาค่ะ ปัดโถ่ววว เรื่องอวดผัวชัดๆ ชีช้ำกระดองใจ แต่เราก็อ่านต่อ งงตัวเองเหมือนกัน 5555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 01-06-2018 20:49:42
นังข้าววววววว เธอจะได้เพชรทุกวันไม่ได้นะ เกินไป เกินไปแล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 02-06-2018 16:34:44
แม็กขี้หึงเกินไป สงสารข้าว

รักข้าวววววววว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 04-06-2018 15:11:44
รักและอิจฉา นังข้าวมากคะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 02-08-2018 21:55:16
จบแล้ววว เย่! ในที่สุดก็ลงเอยด้วยดี~
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: LSK ที่ 08-08-2018 13:56:42
ไม่ได้อ่านมาสองปีกว่า คิดถึงเรื่องนี้มากเลย  :กอด1:
กลัวข้าวแท้งมากด้วย
สรุปข้าวกับแม็กโรคจิตทั้งคู่ถึงอยู่ด้วยกันได้
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้จนจบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: icehorizonte ที่ 11-09-2018 16:56:59
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-09-2018 14:21:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JellyfishB ที่ 15-09-2018 01:58:28
ร้อนแรง รุนแรงมากเว่ออออ
ข้าวคนอวดผัวววว

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 26-09-2018 17:06:22
ประทับใจเรื่องนี้มากค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมานะครับผม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 27-09-2018 17:01:33
งื้อ จบแล้ว
เลือดจะหมดตัวให้ได้เลย
ดราม่ายิ่งกว่าอีก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ  o13 :sad4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Yata Misaki ที่ 28-09-2018 01:23:56
มันunhealthy relationshipสุดๆ...
เป็นห่วงอนาคตจริงๆ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 29-09-2018 14:41:42
พออ่านจบแล้วรู้สึกหน่วงมากๆ แรกก็หมั่นไส้คนอวดผัวนะ ไปมาๆเรากลับรู้สึกว่าข้าวกำลังตกอยู่ในสภาวะToxic relationship อ่านแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เฮ้ออออ ได้แต่หวังลมๆแล้งว่าแม็กซ์จะกลับตัวอย่างที่พูดจริงๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: babylu ที่ 30-10-2018 19:00:12
ร้อนแรงเหลือเกินนน :haun4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 18-11-2018 18:21:40
สนุกมากเลยค่ะ นึกว่า10ตอนยังไม่จบอ่านไปอ่านมา อ้าวจบแล้วเฉย
 เม้นรวบยอดนะคะ แอบนึกว่าจะดราม่าเพราะแต่ละคนนี้แบบฮอือหือมาก
แต่ก็คุยกันได้แบบหวานๆ น่ารักค่ะชอบความอวดผัว แต่ชีวิตนาง
ฉากเรทแซ่บมาก :hao7:

 ปล.อย่าลืมจ่าหัวเรื่องว่าจบแล้วนะคะ อาจโดนลบเรื่องได้ :ling3:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-11-2018 12:55:00
เป็นรักที่มากด้วย...#passion  :hao4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 23-11-2018 18:10:55
 :L2:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 23-11-2018 23:23:57
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 25-11-2018 00:05:43
เบื่อนังข้าว  :z6:

ชอบอวดผัวไม่พอ
มีการเอาเพชรมาเล่นหมากเก็บ
ไม่รวยทำไม่ได้นะ
รักกันที่ตัวตนจริงไปคู่นี้ ถึงไม่ชอบแต่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 26-11-2018 15:19:38
นั่งไขว่ห้างอ่านพร้อมกรอกตาเป็นเลขแปดไทย
ด้วยความหมั่นไส้ อิจฉา และวงวารความsm ของผัวเมียคู่นี้
เหมือนเป็นคู่ที่เพอเฟคสำหรับสายตาคนนอก
แต่สำหรับน้องข้าวนั้นนนน คงต้องมีโปรแกรมขมิบช่วงล่างระหว่างขัดเพชรเป็นแน่ เพราะผัวช่างขยันเหลือเกิน :m20: :m20:  น้องเลโอมีอวัยวะเกินบ้างมั้ยนี่อยากรู้
ขอบคุณสำหรับความสนุกนี้นะคะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 26-11-2018 19:03:27
ชื่อเรื่องออกแนวฮา..แต่เนื้อหา ดราม่า เอสเอ็ม :ruready..ฮาร์ดคอด้วย  :heaven
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 27-11-2018 00:49:30
คนอวดผัว 2018 มากกก ชอบบบบบบบบ 555555 ผัวรักผัวหลงมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 27-11-2018 10:49:23
มันเหมือนมีความสุขไม่สุด แต่ก็น่าอิจฉาอะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mybear_sr ที่ 29-11-2018 01:27:54
อ่านจบแล้วคงต้องงดของหวานไปสักสามวัน รู้สึกสำลักความหวานจากแม็กซ์และข้าว เป็นคู่รักที่เหมาะกันดีนะ มันอาจจะเป็toxic relationship สำหรับคนอื่นแต่เราว่าสำหรับสองคนนี้เขาพอดีกัน อาจจะไม่ดีไปหมดแต่ดีพอสำหรับกัน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ น่ารักมากๆเลย ^^
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ffern ที่ 03-12-2018 00:28:09
เป็นสิบตอนที่รู้สึกว่ายาวนานมาก มากจริงๆเป็นสิบตอนที่มีประมาณหนึ่งล้านครส. ครสที่ชัดสุดๆคือนังข้าวอวดผัวเก่งงงงงงงงงงงง นับถือใจคนเขียนมากเราว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ดีเลย ได้มองหลายๆเเง่มุม เเล้วเราก็เชื่อว่าคนที่ยอมเพราะความรักเเบบนังข้าวมีอยู่จริงเเน่นอนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-12-2018 11:29:46
คนอวดผัวที่แท้ทรู
แต่กว่าจะลงตัว
โหดสัสรัสเซียกันทั้งคู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: HunHan9407 ที่ 04-12-2018 08:06:34
 :z2: :z13:  :katai1: :mew6:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 30-12-2018 20:07:10
ดีใจจังที่จบลงด้วยดี รักทั้งคู่นะคะ ขอบคุณนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 31-12-2018 08:52:28

แม๊คดีทุกอย่างจริงๆ ยกเว้นตอนโกรธเพราะหึงหวง  น่ากลัวมากเวอร์    :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 31-12-2018 17:01:03
จบลงด้วยดี สนุกมากจร้า
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 01-01-2019 09:11:04
แต่ละตอนยาวมากกกกกกก อ่านไปก็ลุ้นว่าจะจบยังไง 555
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 01-01-2019 15:38:13
อ่านๆไปแล้วคิดว่าควรหาหมอทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 10-03-2019 07:56:20
 :z10: อ่านแล้วเหนื่อย ลุ้นจะมีเลือดตกยางออกไม๊
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 รักผัวครั้งที่ 1 17.8.16
เริ่มหัวข้อโดย: airjang ที่ 14-03-2019 20:56:21
สนุก ลุ้นระทึก จากหืดๆหาดๆ คนรักผัวอวดผัว จะหักมุมกลายพันธุ์เป็น ผีอวดผัว หรือเปล่า

2 คนนี้จิตๆพอกัน

ถ้าจะจบแบบ เลือดนองอพาร์ทเมนท์สุดหรูพร้อมเสียงไซเรนของรถตำรวจ+รถพยาบาล ก็ไม่เลวนะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-03-2019 21:12:30
 :hao4: พระเอกเรื่องนี้หึงโหดมาก
มีความจิตนิดๆ คลั่งไคล้เมียหนัก แต่คือรักเมียมาก ดีที่ยังพอมีความสำนึกผิด

ปรบมือในความเปย์ของผัว เป็นอีกเรื่องที่สายหื่นไม่ควรพลาด  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 02-05-2019 15:25:52
ช่างเป็นเรื่องที่ดูรักและหลงเมีย จนดูโรคจิตไปเลยค่ะ เป็นคู่ที่เหมาสมนะเอาจริง คนนึงก็ชอบกระทำอีกคนก็ชอบโดนกระทำ สรุปเค้าควรคู่กัล! เดี๋วจะตามไปอ่านต่อในเล่มนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 04-05-2019 13:38:31
 o13
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 07-05-2019 03:31:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: fongbeersss ที่ 24-05-2019 21:31:02
เรากลับมาอ่านรอบที่สามแล้ว เป็นเรื่องในดวงใจเลย :กอด1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 26-05-2019 23:32:47
นี่ถึงขั้นกรีดร้อง พีคตอนล่ามกุญแจมือ แม่มมันแบบ รักผัวมากครับจริงๆ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: pmuntana ที่ 29-07-2019 21:47:11
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ  ชอบมากๆ อ่านแล้วฟิน อินทุกตอนค่ะ :กอด1: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 01-10-2019 11:55:39
จบแล้ววววว เราแอบแย้งตรงกลอเรียบอกให้หนีละข้าวไม่หนีนะ ข้าวควรหนีจริง เพื่อดัดนิสัยแม็กซ์ ถ้าเค้าไม่ได้รับรู้เอง เค้าคงไม่รู้หรอก เราว่าข้าวไม่น่าทน ขืนจะรักกันก็เหอะ
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 08:59:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 24-11-2020 16:28:04
 :z13: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 11-12-2020 23:35:39
เรื่องนี้เราอ่านไม่จบอ่ะ
พระเอกดูจิตๆอ่ะ
หึงบ้าหึงบอแล้วทำร้ายข้าว
มันเกินไป อ่านแล้วรับไม่ได้
ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนค่ะ