ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ู<3 รักผัวครับ <3 UP รักผัวครั้งที่ 10 100% 13/2/18 P.9  (อ่าน 231654 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
โอ๊ยยยยย หมั่นไส้กับการบอกว่าเอาเพชรมาเล่นหมากเก็บ ... ค่ะนังข้าว!!!
การอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วได้เม้นท์จิกกัดนังข้าว คือความสุขอย่างนึง 5555
ถึงจะจิกกัด แต่ก็ชอบนางนะ นางน่าหมั่นไส้ดี
นี่จินตนาการรูปร่างนางออก ยกเว้นหน้าตา เพราะผัวเทิดทูนมากกก
ชมสวย น่ารัก แต่ข้าวบอกตัวเองหน้าจืดๆ
หน้าตานางในจินตนาการเลยไม่มี

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
10

ผมจัดข้าวของอันได้แก่กระบอกน้ำ กางเกงโยคะ ผ้าขนหนูลงในกระเป๋า ส่วนเสื่อโยคะนั้นสะพายเอา กลอเรียที่ดูดฝุ่นอยู่ด้านนอกโผล่หน้าเข้ามาแซว

"แหม จะฟิตหุ่นตอนท้องเหรอคะ ?"

ผมหัวเราะ "ก็เพื่อนชวนเล่นน่ะ"

"ค่า ค่า งานอดิเรกคนรวย" แขวะพอหอมปากหอมคอแล้วร่างตุ๊ต๊ะก็กลับไปรบกับเครื่องดูดฝุ่นต่อ

ผมโทรหาพิชเพื่อรายงานว่าจะออกจากบ้านแล้ว เพื่อนที่ชวนผมมาเล่นโยคะไม่เคยเลท พิชไม่ปล่อยโอกาสที่ได้เมาท์แตกกับบรรดาแม่ๆ ที่ตั้งท้องในคลาสแน่นอน

ผมหยิบหูฟังมาเสียบกับไอโฟน ฟังเพลงระหว่างเข้าไปนั่งในรถโรสลอยที่คนขับมาเปิดให้ รู้สึกตัวเองดังเป็นเซเลปที่ต้องมีคนขับรถและบอดี้การ์ด

เปล่าเลย... ไม่มีปาปารัซซี่มาเก็บรูปยามเผลอของผมหรอก

แต่เป็นสามีขี้หวงต่างหากที่แทบไม่ให้ผมกระดิกตัวไปไหน จะออกไปชอปปิ้ง ไปหาหมอ ไปเล่นโยคะต้องมีบอดี้การ์ด นับตั้งแต่เรื่อง John Doe เขาก็ยิ่งเพิ่มความระวังมากขึ้น และถึงแม้ผมอยากเป็นเพื่อนกับ John Doe มากแค่ไหน เขาก็ห้ามติดต่อทุกช่องทาง

ผมถอนหายใจ

จะเถียงไปก็แพ้ เลยได้แต่ยอมรับ

...

วันนี้คลาสครึกครื้น เพราะซาช่า ครูโยคะของพวกเราแนะนำนักเรียนใหม่ บรรดาแม่ๆ ต่างไปรุมล้อมอย่างกระตือรือร้น

ผมเองก็พลอยเป็นกับเค้าไปด้วย

นักเรียนใหม่ในคลาสเป็นคนไทยเหมือนผมกับพิช ที่สำคัญคืออาศัยอยู่ตึกเดียวกับผมด้วย

"คนไทยหน้าเด้ก เด็ก" อลิเซีย แม่ลูกสามและอยู่ในท้องอีกหนึ่งรำพัน พลางยิ้มแต้ "ชื่ออะไรเหรอ ?"

"เรนครับ" นักเรียนใหม่ท่าทางเหมือนเด็กนักศึกษาตอบเสียงเบา พิชไม่รอช้าถามต่อ

"อายุเท่าไหร่ ท้องกี่เดือนแล้ว อยู่นิวยอร์กมานานไหม" หน้าหลังแว่นกระตือรือร้นเหมือนเด็กได้เพื่อนใหม่

"เอ่อ ยี่สิบสองครับ ท้องได้เดือนกว่าแล้ว" เรนลูบหน้าท้องอย่างเผลอตัว "เพิ่งมาอยู่ได้หกเดือนครับ"

"แล้วนี่ฝากท้องที่ไหน ?" ผมถามบ้าง เป็นคำถามสามัญไปแล้วสำหรับคนท้อง

เรนยิ้มบางๆ "ด๊อกเตอร์กาเบรียลครับ"

"หมอเดียวกับพวกเราเลย" พิชหัวเราะ จูงมือเรนเข้าไปในห้อง "ไว้พวกเราไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ อลิเซียจะไปไหม ?"

แม่ลูกสี่ส่ายหน้า "โนจ้ะ วันนี้ต้องกลับไปจัดการห้องให้เบบี๋น่ะ"

"โอเค งั้นมีแต่พวกเราเนอะ เรนจะกลับยังไง ?"

"เอ่อ สามีมารับครับ"

"งั้นชวนให้มากินข้าวด้วยกันเลยสิ" พิชผู้ชื่นชอบความวุ่นวายและเป็นมิตรกับทุกคนกล่าว ผมจะสะกิดให้ลดๆ ความตื่นเต้นหน่อยก็ไม่ทันเสียแล้ว ดูเรนเป็นเด็กเงียบๆ ไม่ช่างพูด จะกลัวพวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้

"เอ่อ..." เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างลังเล ก่อนจะตอบเบาๆ "ครับ"

....

จริงๆ แล้วคลาสโยคะของพวกเรามีนักเรียนน้อย แต่ราคาคอร์สแพงหูดับ นอกจากผม พิช เรนและอลิเซียแล้วก็มีบริททานีย์กับลีแลนด์เท่านั้น ทุกคนในคลาสร่ำรวยและเป็นมิตรมาก บริททานีย์เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนที่ยังทำงานอยู่แม้จะท้องได้แปดเดือน ส่วนลีแลนด์ทำงานเป็นทนายท้องได้หกเดือน ซาช่าที่เป็นครูสอนก็ร่าเริงแจ่มใส คงเพราะรู้ว่าพวกเรามาเรียนเพื่อหาเพื่อนหรือฆ่าเวลามากกว่าจะจริงจัง

แรกๆ เรนดูประหม่าและเกร็งเหมือนกระต่ายน้อย แต่เพราะอายุน้อยที่สุดทุกคนเลยเอ็นดู ไม่นานเขาก็เข้ากับพวกเราได้

สามีของเรนเป็นนักธุรกิจ ซึ่งผมและพิชก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอะไร เขาชื่อคุณภูมิเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันที่ร่างกายสูงใหญ่ ดูเรนจะรู้เกี่ยวกับสามีน้อยมาก และแม้กระทั่งกับสามี เด็กหนุ่มก็เกร็งๆ คงเพราะอายุห่างกันมาก เลยดูเหมือนผู้ปกครองกับเด็ก แต่กระนั้น ก็ดูเอาอกเอาใจกันดี

ผมกับพิชสบตากัน ยิ้มน้อยๆ
 
วันนี้สามีตัวโตของเรนไม่มาร่วมวงมื้อเที่ยงด้วยกัน แม๊กซ์ก็ติดธุระ พิชเลยสำแดงความแผลงออกมา บางอย่างแล่นผ่านแว่นของพิช ผมสะดุ้ง พิชคงมีอะไรสนุกๆ มาเล่นอีกแน่นอน

"นี่ เรามาเล่นอะไรกันไหม ?"

"อะไร ?" ผมดูดน้ำผักสมูตตี้ ร้านที่เรามากินเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่เอาใจคนท้องในนิวยอร์กด้วยเมนูมื้อกลางวันสำหรับคนท้อง เราสั่งมากินกันคนละชุดเพื่อกันบรรดาสามีที่ห่วงว่าพวกเราจะไปกินอะไรแสลงลูกในท้อง

"เรามาโอน้อยออกกัน คนที่ออกคนแรกต้องปฏิบัติภารกิจ"

"ภารกิจ ?" เรนทวนคำ ใช้สมาธิในการหั่นสเต๊กปลาในจาน

แพงก็แพง มีแต่ผักกับปลา

"ช่าย เต้นยั่วผัว"

ผมสำลักน้ำผัก เรนทำส้อมตกดังเคร้ง แต่พิชกลับโน้มตัวมาด้วยความตื่นเต้น

"นี่ไง คนที่ออกคนแรกต้องไปเต้น lady marmalade แล้วอย่าคิดจะโกง เพราะเราจะไปถามสามีด้วยว่าเซ็กซี่แค่ไหน"

ผมกับเรนกลืนน้ำลายเอื๊อก พิชสนุกแน่ล่ะ ในเมื่อเขาเก่งเรื่องเป่ายิงฉุบกับโอน้อยออกมากๆ ไม่รู้ทำบุญด้วยอะไร

"นี่ มีคอสตูมด้วยนา" ว่าแล้วพิชก็ล้วงๆ ควักๆ กระเป๋าออกมา ผ้าซาตินสีชมพูมันเลื่อมเป็นชุดเกาะอก ด้านหลังแต่่งด้วยคอร์เซ็ทผูกริบบิ้นอันใหญ่ อีกชิ้นเป็นบิกินนีสีชมพูและถุงน่องพร้อมสายรัด

"ไม่เล่นไม่ได้เหรอ" เรนพึมพำเสียงเบา ผมพยักหน้าเห็นด้วย แต่พิชสะกิดขา

'อะไร ?' ผมส่งสายตาเป็นคำถามไป พิชส่ายหน้าแล้วบอกเรน

"เรน ไปเอาส้อมใหม่ที่เคาเตอร์สิ" เรนฟังแล้วก็ลุกออกไปอย่างว่าง่าย ทันทีที่รุ่นน้องคล้อยหลังไป พิชก็เขยิบมาทางผมทันที

"ข้าวไม่คิดเหรอว่าระหว่างเรนกับผัวอ่ะดูแปลกๆ"

"แปลก ?"

"ใช่ ไม่ค่อยสนิทกันใช่ม้า คู่แต่งงานใหม่ก็งี้ อาจจะอายๆ"

ผมตามเขาทันแล้ว "เลยจะให้เต้นยั่วจะได้สนิทกัน ?"

พิชพยักหน้า ใบหน้าเกลื่อนด้วยรอยยิ้ม ผมกลืนน้ำลายเอื๊อก

แล้วจะไปยุ่งเขาทำไม... อยากจะถามแบบนี้ แต่พิชสนุกเกินกว่าจะฟังคำห้าม แล้วเรนก็กลับมาพร้อมส้อมอันใหม่พอดี เขาจึงผละออกไป

"เอาล่ะนะ guys... โอน้อยยย ออก!" ไม่ยอมให้ปฏิเสธ ผมยื่นมือออกไปอย่างลืมตัว

...ชิบโหง!

"อ้าว!"

"โอ๊ะ!"

หวยออกที่ใคร ไม่ใช่คนที่เขินๆ อายๆ กับสามีหรอก มาลงที่ผมนี่!

"ข้าวเหรอ" สายตาที่มองผมมาจากพิชระยิบระยับเชียว ผมอยากร้องไห้

เรนลูบหลังผมเบาๆ อย่างปลอบใจ

...นี่คงเป็นคำพูดที่ว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัวสินะ...

ผมจำใจรับชุดวาบหวิวมา... พร้อมคำถามในหัว

คนท้องห้าเดือนจะเต้นยั่วผัวยังไงให้เซ็กซี่ ?

...แม่ครับ ช่วยผมด้วย!

....

เมื่อรับภารกิจมาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ผมเริ่มจากซ้อมเต้น... จะซ้อมยังไง ในเมื่อมีกล้องวงจรปิดฉายภาพผมตลอดเวลาอย่างนี้ ?

เริ่มจากเอากล้องออกซักห้องก็แล้วกัน

ผมเอาชุดซ่อนในวอล์กอิน-โคลเซ็ทของตัวเองแล้วออกไปจัดดอกไม้ที่แม๊กซ์ส่งมาสำหรับวันนี้

วันนี้เป็นคาร์เนชันสีขาว แปลว่ารักบริสุทธิ์...

ส่วนเพชรที่ห้อยมากับช่อดอกไม้คือจี้รูปหยดน้ำทำจากคริสตัล แต่งด้วยเพชรรอบๆ ผมช้อนจี้และสร้อยออกมาเพื่อเก็บใส่เซฟที่ชักจะเต็มแล้ว และเอาช่อคาร์เนชันพร้อมการ์ดไปปักในแจกัน

You're my pure love...

ผมหน้าเห่อร้อน รีบเก็บการ์ดและทำอาหารเย็น แอบกินแอปเปิลดองจากบ้านพิชแล้วหาหม้อไหมาทำอาหารเย็นง่ายๆ เพราะหมดไอเดีย

สปาเกตตี้ก็แล้วกัน

ผมหั่นผักคลุกน้ำสลัดพอดีกับที่แม๊กซ์กลับบ้านมาพอดี เขาถอดโค้ทและผ้าพันคอแล้วตรงมากอดเอวผม

"อะไรน่ะครับ ?"

"วันนี้ฉันไม่มีไอเดีย กินสปาเกตตี้กับสลัดนะ ?"

"ครับ น่ากินจัง" หอมแก้มผมแล้วลูบหน้าท้องผมเบาๆ "ลูกดิ้นบ้างไหม ?"

ผมยิ้ม "อื้อ ตอนทำท่าสุริยะนมัสการถึบแรงเชียว สงสัยชอบโยคะ"

แม๊กซ์ทำหน้ายู่ "ตอนนี้ล่ะครับ ?"

"ไม่ดิ้นนะ สงสัยไม่หิว" ผมตอบ "ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิ แล้วมากินข้าว"

"โอเคครับ"

ผมถอนหายใจ เริ่มกลับมาคิดเรื่องภารกิจ จะเริ่มพูดยังไงให้แม๊กซ์เอากล้องออกซักตัวนึง

ผมรอจนเราสองคนอิ่มก่อน แม๊กซ์มานัวเนียจะขอ 'dinner sex' ผมเลยได้โอกาสตอนที่เขาถอดกางเกงผมออกไป

"อืมมม แม๊กซ์" ตั้งใจทำเสียงอ่อยแต่มันกลับฟังดูแรดจนผมยังรับไม่ได้

"ครับเจ้าหญิง"

"เอากล้องออกซักตัวนึงมั้ย"

แม๊กซ์เงยหน้าจากซอกคอผม "อะไรนะ ?"

"อืม กล้องตรงห้องน้ำน่ะ เธอไม่ต้องดูฉันอึฉันฉี่ก็ได้นี่ ?" ผมพูดต่อเบาๆ รวบรวมความกล้าขึ้นลูบไล้ตอหนวดแข็งๆ สีเขียวครึ้ม "นะ..."

"ทำไมครับ ? ผมเป็นห่วงคุณ ไม่ว่าคุณจะ..."

"ฉันอาย" ผมกระซิบ ไล้มือมาจรดยังรอยสักที่เป็นชื่อผมบนแผ่นอกตึงแน่น "นะ... ฉันอยากดูดีตลอดเวลาในสายตาเธอ..."

"เจ้าหญิง..."

"นะ... ได้โปรด" ผมจูบคางที่มีตอหนวดสั้นๆ แม๊กซ์หัวเราะเบาๆ

"อ้อนจังเลย... ก็ได้ครับ"

ผมยิ้ม ไม่นึกว่าจะง่ายขนาดนี้

"แต่คืนนี้... ต้องให้ผมกินให้อิ่มนะ" ว่าแล้วก็ยิ้มร้าย ผมหัวเราะ

"ได้... กินเท่าที่เธอต้องการเลย" และแล้วเราก็จูบกัน รอยจูบแสนหวานอุ่นไปถึงหัวใจ ลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัด น้ำลายไหลเยิ้มมุมปาก แม๊กซ์จูบไล้ไปถึงยอดอก เขาให้ผมคาบเสื้อยืดที่กางกั้นไว้ แล้วโลมเลียยอดอก ขบเม้มจนมันตั้งยอด ผมตัวสั่นระริก เสียววาบไปถึงสันหลัง

แค่เริ่มเขาก็ทำให้ผมเป็นขนาดนี้แล้ว...

ผมสะบัดหน้า แม๊กซ์ขบเม้มไปถึงสะดือ ใช้ฟันขบกางเกงในออก เขาพรมจูบหน้าท้องที่มีลูกของเราอยู่อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลยไปถึงกลางกาย ปากร้อนๆ เลียแท่งน้อยๆ ก่อนจะดูดทั้งแท่งเต็มสูบ ผมกระดกเอวตาม รสชาติกามลอยอ้อยอิ่งระหว่างเรา ผมได้แต่ครางหวิว ปากที่คาบเสื้ออยู่เผลอปล่อยผ้าออกมา แม๊กซ์จุ๊ปาก

"เด็กไม่ดี... คาบไว้ก่อนสิครับ"

"อ๊ะ อ๊าาาา" นิ้วมือเขา.... สอดแทงเข้าไปยังช่องทางด้านหลัง ผมอยากบอกพิชเหลือเกิน ว่าคู่ที่ไม่ต้องการเพิ่มระดับความสัมพันธ์ที่สุดก็คือผมนี่แหละ

ผมได้แต่แหงนเงย ขากางออกอัตโนมัติ ให้เขาดูดกลืนแท่งร้อน และนิ้วที่ชอนไชเข้ามาในร่างให้ถนัดถนี่

"อ๊าาา อื๊อออ เสียววว"

"อืมม เจ้าหญิงของผม" ทุกครั้งที่เขาเรียกผมว่าเจ้าหญิง ผมเห็นลูกสิงโตที่เปลือกตา มันเอาเท้าหน้าปิดตาคล้ายเขินอาย และเสียงกระพรวนที่ข้อเท้าก็ดังกรุ๊งกริ๊งคล้ายเข้าจังหวะ

ไม่ไหวแล้ว ผมเหมือนถูกผลักลงมาจากที่สูง แค่ริมฝีปากเขาก็ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้ ผมกรีดร้อง สองขาชี้เพดาน ปลดปล่อยออกมาเต็มปากสามี

แม๊กซ์ดูดเลียจนหมด คราบคาวที่มุมปากยิ่งทำให้เขาดูเซ็กซี่

ผมหายใจหอบ โน้มตัวไปหาเขา ก่อนจะแนบริมฝีปากหยักได้รูปนั่น

...คืนนี้ยังอีกยาวนาน...

.....

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมเดินมึนๆ ออกจากห้องนอน กลอเรียกลับไปแล้ว วันนี้ไม่มีคลาสโยคะ ผมจึงไม่จำเป็นต้องตื่นเช้า

ผมหาวและพยายามเดินกระย่องกระแย่งไปยังครัว ช่อดอกคามิลเลียสีแดงสดปักอยู่ในแจกัน ผมรีบกูเกิ้ลทันที

You're a Flame in My Heart

ผมยิ้ม หยิบช่อดอกไม้มาจูบเบาๆ ตรงกลางช่อมีแหวนเพชรสีชมพูอยู่ ล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กส่องประกายวิบวับ อืม มีเพชรให้ขัดอีกแล้ว

เอาเพชรไปเก็บแล้วเดินทอดน่องไปยังตู้เย็น กลอเรียทำซุปปลา หุงข้าวกล้อง ผมเอาไปอุ่นแล้วเริ่มกิน ตบท้ายมื้อสายด้วยโยเกิร์ตไขมันต่ำ

จบมื้อก็เอาจานชามเข้าเครื่องล้าง ก่อนจะนึกถึงภารกิจขึ้นมา

เอาวะ... หยิบโทรศัพท์แล้วเดินเข้าห้องน้ำ แหงนหน้าดูรอบๆ ก็เห็นว่าแม๊กซ์ถอดกล้องออกไปแล้วจริงๆ ผมค่อยโล่งอก

ห้องน้ำของเพนท์เฮาส์กว้างมาก กว้างจนสามารถซ้อมเต้นได้ แถมยังมีกระจกบานใหญ่ที่ผมกับแม๊กซ์เคยมา... ตรงหน้า

แก้มผมร้อน... เมื่อคิดถึงครั้งที่สามีเด็กกับตัวเองทำ 'อะไรๆ' ตรงนี้ จนต้องตบแก้มเบาๆ สองครั้งเพื่อตั้งสติ ก่อนจะเข้ายูทูปเปิดเพลง lady marmalade ทั้งที่ในใจกลับคิดว่าผมควรเปิดเพลงโมสาร์ทให้ลูกมากกว่า

แต่การเต้นก็เป็นการออกกำลังเหมือนกัน ลูกน่าจะชอบ ผมลูบพุงเบาๆ วันนี้ลูกสิงโตของผมดิ้นใหญ่ตอนได้กินซุป แล้วเขาก็ค่อยๆ เคลื่อนไปยังพุงด้านซ้าย เหมือนจะงีบหลับหลังมื้ออาหาร ผมหัวเราะเบาๆ เสียงกระพรวนดังตามจังหวะที่ผมขยับกาย

เอาวะ!

นั่งดูท่าเต้นจาก tutorial รอบหนึ่งแล้วก็เริ่มสตาร์ท

เห็นแบบนี้ผมจบศิลป์ฝรั่งเศสมา เคยได้ยินเพลงนี้มาบ้าง แต่ยังไม่เคยลงมาเต้น ที่ผ่านมาผมไม่ได้ถึงกับเท้าไฟ แต่ก็เต้นในผับมาเหมือนกัน

ดังนั้นก็ไม่น่ามีอะไรยาก ยังไงคนท้องก็จะเต้นหยองแหยงไม่ได้อยู่แล้ว

แต่ฟังแล้วก็อื้อหือ... เนื้อหาซ่องแตกสุดๆ มิน่าพิชถึงทำท่าสนุกได้ขนาดนั้น...

ผมนึกไปถึงคอสตูมที่พิชให้มา นี่เขาคิดจะใส่เองงั้นเหรอ... ท่าทางก็เรียบร้อย แต่ไหงกลับมีชุดร้อนแรงขนาดนั้น...

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (da-da-da)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (here ohooh yea yeah)
Mocha Choca lata ya ya (yea)
Creole lady Marmalade
Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir, what what what)
Voulez vous coucher avec moi


เพลงมาถึงท่อนกลาง ผมสะบัดหน้าเรียกสติ... คงต้องซ้อมหนัก

.......

สามสี่วันถัดมา ผมมีคลาสโยคะอีกรอบ กลอเรียช่วยจัดข้าวของพลางถามกล่องใส่ชุดสำหรับเต้น lady marmalade

"นี่กล่องอะไรเหรอคะ"

ผมยิ้มแห้ง กระแอมเบาๆ "ชุดน่ะ...เพื่อนให้มา อย่าบอกแม๊กซ์นะ"

กลอเรียทำตาโต พึมพำว่าสามีภรรยาคู่นี้มันอะไรกัน "เอาเถอะค่ะ ถึงเป็นสามีภรรยากันก็ต้องมีความลับกันบ้าง"

ผมฟังแล้วทะแม่ง เหมือนแม๊กซ์มีความลับกับผม "อะไรนะ ?"

กลอเรียส่ายหน้า รีบพูด "ไม่มีอะไรค่ะ คุณก็รีบไปเถอะ จะได้เวลาแล้วนี่คะ" ผมฟังแล้วดูเวลา ก่อนจะยกกระเป๋าเดินออกจากห้อง ลืมเรื่องแม๊กซ์ไปสนิท

.......

วันนี้คุณภูมิ สามีของเรน กับแม๊กซ์ไม่มาร่วมมื้อเที่ยงด้วย พิชเลยทำตัวตามสบาย ถามเรื่องซ้อมเต้นพลางหัวเราะคิกคัก เรนที่ดูขี้ตื่นก็ยิ้มขำ

"ทำไมข้าวต้องมาทำด้วย" ผมครวญ พิชจิ้มบรอคโคลีในจานแล้วตอบ

"ก็เล่นเกมแพ้เองนี่นา"

"ฮือออ เรนเอามั่งมั้ย ?" ผมหันไปถามน้องคนเล็ก เขารีบส่ายหน้า

"เรนเต้นไม่เป็น"

"ซ้อมไปเดี๋ยวก็เป็น" ผมเปิดยูทูปส่งให้เรน เด็กหนุ่มฟังแล้วหน้าแดง

"เนื้อหามัน..."

"ฮื่อ มูแรงรูจ แบบชวนผู้ชายไปนอนด้วย"

"อย่าร้องสุ่มสี่สุ่มห้านะ ระวังจะโดนฉุด" พิชเสริมพร้อมรอยยิ้ม

ผมหน้ามุ่ย กินอาหารคนท้องที่มีเมนูไม่กี่อย่างอย่างเซ็งๆ

ใครไม่โดนก็แล้วไป!

........

ในที่สุดก็ถึงวันนี้... ผมดูเวลาแล้วกระชับเสื้อคลุม กับข้าวทำไว้พร้อมแล้ว คิดว่าจะไม่เสิร์ฟก่อน ให้สามีดูภรรยาท้องห้าเดือนเต้นไปกินข้าวไปมันเสียเซลฟ์น่าดู

รอไม่นานเลย แม๊กซ์ก็กลับมาพร้อมลมหนาว เขารีบถอดเสื้อโค้ทกับผ้าพันคอแล้วมากอดผม

"หนาวเหรอครับเจ้าญิง ?" คงจะทักเสื้อคลุมสินะ ผมหน้าแดง ส่ายหน้าเบาๆ

"งั้นทำไมใส่เสื้อคลุม..." ผมไม่รอให้เขาพูดจบ ดันร่างสูงใหญ่ปานยักษ์ปักหลั่นไปที่ห้องนั่งเล่น แม๊กซ์โอนอ่อนแต่โดยดีแต่ขมวดคิ้ว "มีอะไรเหรอ ?"

ดันให้เขานั่งโซฟาเรียบร้อยแล้วก็พ่นลมหายใจเบาๆ หน้าตาคงซีเรียสมากจนเขาเป็นกังวล

"มีอะไรครับคนดี ? ที่รักของผม..."

ผมกระแอม แม๊กซ์เริ่มสังเกตแล้วว่าโต๊ะกลางถูกดันไปไว้มุมห้อง ผมชี้ไปที่เขาเชิงเตือน "นั่งเฉยๆ นะ"

แล้วผมก็เปิดเพลง

'Hey sista, go sista, soul sista, flow sista
Hey sista, go sista, soul sista, go sista'


Mya เริ่มเพลง ผมสะบัดเสื้อคลุมออก ทันทีทันใดแม๊กซ์ก็อ้าปากค้าง ผมข่มความอาย เต้นตามที่เคยซ้อมมา

เพลงนี้ไม่มีท่าเต้นแรงๆ กระทบกับลูก แต่มีท่าเลื้อย นั่งบนส้นแล้วอ้าขา ผมเต้นเท้าเปล่าทำให้ง่ายกว่าเต้นบนส้นสูงตามคลิป ลำพังแค่ท่าก็น่าอายแล้ว ไหนจะชุดก็แทบไม่ปิดอะไรอีก พอมาถึงท่อนกลาง ผมย่อตัว เปิดเข่าแล้วเลื้อยขึ้น

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (Hey hey hey)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (here)
Mocha Chocalata ya ya (oh yea)
Creole lady Marmalade


ผมขบริมฝีปาก เสียงกระพรวนข้อเท้าดังตามจังหวะ ลูกดิ้นเบาๆ อีกต่างหาก

อายเหรอลูก...

แม่ก็อาย...

ฮือ....

ดูแม๊กซ์ที่อ้าปากค้างแล้วกลั้นยิ้มจนแก้มบุ๋ม อะไรกัน... เขาควรจะหื่นกว่านี้สิ... เหมือนดูโชว์ตลกหรือไง ?

เอาล่ะ ถึงท่อนเด็ด

Voulez vous coucher avec moi ce soir
Voulez vous coucher avec moi

แม๊กซ์ยิ้มออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอก ความอายกลับมาโผล่ที่ผมแทน แก้มผมแดงก่ำ แต่ยังเต้นไม่หยุดด้วยสปิริตเกย์สาวฟรอมไทยแลนด์

ผมทั้งเลื้อย ทั้งสะบัดผมที่ยาวแค่ประบ่า ทั้งขย่มเบาๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นให้คิดด้วยว่าผมแบกลูกแตงโมที่อายุห้าเดือนอยู่ ตอนใส่ชุดคอร์เซ็ทก็รูดได้แค่ครึ่งเดียว โชคดีที่เป็นแบบผูก

Giuchie, Giuchie, ya ya dada (da daeaea yea)
Giuchie, Giuchie, ya ya here (ooh)
Mocha Choca lata ya ya (yea)
Creole lady Marmalade


ท่าประจำเพลงถูกนำมาใช้อีกครั้ง ผมส่ายเอวเบาๆ มือปิดบริเวณใต้สะดือ

จะจบเพลงแล้ว แม๊กซ์ยิ้มโชว์ฟันขาว นิ้วเคาะไปตามจังหวะเพลง

Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir)
Voulez vous coucher avec moi (all my sistas yea)
Voulez vous coucher avec moi ce soir (ce soir)
Voulez vous coucher avec moi (C‘Mon! uh)


เอาล่ะ จบ!

ผมหอบฮั่ก เดินไปปิดเพลงก่อนจะกัดริมฝีปาก เอาวะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ให้รู้ไปสิว่าผมยังเซ็กซี่ได้ คิดแล้วก็ก้าวไปหาสามี ลูกหยุดดิ้นแล้ว... และผมก็ยกขาคร่อมตักแข็งแกร่ง

"ชอบมั้ย ?" อย่าตอบว่าตลกเชียวนะ อีตาบ้า

แม๊กซ์เลียริมฝีปาก มือหนึ่งโอบเอวผม มือหนึ่งลูบไล้ถุงน่องสีขาว "ไอเดียใครครับ ?"

ผมปล่อยให้เขาสอดนิ้วเข้าไปในถุงน่อง ขย่มตัวเบาๆ "บอกมาก่อน ว่าชอบไหม"

แม๊กซ์หัวเราะ ลูบไล้ไปทั่วตัวผม "มีคนโง่ไม่ชอบด้วยเหรอ ?" เขาจูบผมก่อนจะไล้ตามโครงหน้า เลียตรงคางและตวัดลิ้นไปยังซอกคอ "เจ้าหญิง... คิดจะทำให้ผมตายเพราะหลงคุณหรือไง..."

ผมค่อยพ่นลมหายใจโล่งอก "ไอเดียพิชน่ะ ฉันเล่มเกมแพ้เลยต้องมาทำ"

แม๊กซ์ย้อนกลับมาจูบผมอีกครั้ง "ผมชอบ 'มาก' เลยครับ"

ผมดันเขาออก ยิ้มน้อยๆ "แต่ฉันท้องอยู่นะ คงไม่เซ็กซี่เท่าไหร่"

"คุณเซ็กซี่เสมอ" เขาดันผมให้นั่งชิดแผ่นอกหนา ผมรู้สึกถึงท่อนลำที่ดันก้นอยู่ หน้าร้อนผ่าว

เขา'ชอบ'ขนาดนั้นเลย อย่างน้อยๆ การที่ผมท้องก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเรื่องบนเตียงของเรา

ผมยิ้ม เพราะเพิ่งเต้นท่ายั่วสามีหมาดๆ เลยมีความกล้าที่จะเลื้อยบนหน้าอกตึงแน่น ผมแนบหน้าอกตัวเองชิดกับแผ่นอกกว้าง พร้อมลูบไล้ไปตามไหล่และท่อนแขน ก่อนจะโน้มตัวลงไปจุมพิตเบาๆ บนริมฝีปากหนา

"เป็นสามีข้าวนะครับ"

"เป็นของเจ้าหญิงข้าวคนเดียวครับ" และหลังจากนั้น... เรื่องเดิมๆ ที่เราไม่เคยเบื่อหน่ายก็บรรเลง เขาถอดบิกินนีออก รูดริบบิ้นคอร์เซ็ท มือลูบไล้สอดเข้าไปในถุงน่อง เขาชอบ...

...ผมเองก็เช่นกัน เมื่อบิกินนีท่อนล่างถูกรูดลงไปคาเข่าแล้ว ผมก็ช่วยเขารูดซิป โลหะเย็นๆ ทำให้ตัวผมร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตักเหมือนว่าเป็นครั้งแรก

แม๊กซ์บดจูบร้อนแรง ผมคงช้าไม่ทันใจเขา สามีเด็กของผมอุ้มผมขึ้นก่อนจะรูดชั้นในตัวเองลง อวดท่อนลำและกลุ่มขน ผมเลียริมฝีปาก ความใหญ่โตที่คุ้นเคย... ท่อนลำตระหง่านอยู่ใต้ร่าง

"Voulez vous coucher avec moi?" ผมถามเบาๆ
(คุณจะนอนกับฉันไหม ?)

"Oui" เขาตอบกลับมาเช่นกัน
(ไปสิ)

และเขากับผมก็โผเข้าหากันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว เราจูบกันอย่างร้อนแรง มือใหญ่นวดเฟ้นสะโพกผม ก่อนจะล่วงไปยังช่องทางที่ปิดสนิท ผมเลียริมฝีปากเขาและเลยไปถึงตอหนวดแข็งๆ บนคาง ปล่อยให้นิ้วมือหนาสอดเข้ามาในโพรงร้อนเบื้องล่าง จากนิ้วหนึ่งที่คับแน่น ค่อยๆ เป็นสองนิ้ว... และสามนิ้ว ผมหายใจหอบ จูบเขา... โดยไม่เว้นว่าง เสียงริมฝีปากจากคนสองคนดังจ๊วบจ๊าบในห้องนั่งเล่นเคล้าคลอกับเสียงกระพรวน จนกระทั่งผมรู้ว่าผมพร้อม... และเขาที่รู้ดียิ่งกว่า ผมโหย่งตัว สอดรับความใหญ่โตเข้าไปข้างในโพรง แม๊กซ์ช่วยลูบไล้เรือนกายให้ผมเสียวสะท้าน ร่างกายผมสั่นน้อยๆ กับความเจ็บปวดนั้น แต่ความใคร่ที่ถูกจุดมีมากกว่า...

เย็นวันนั้น ผมหยัดตัว แหงนเงย ถูกส่งขึ้นสู่ฟ้าก่อนจะถูกกระชากลงมาสู่พื้นโลก ถูกเหวี่ยงขึ้นสูง ก่อนจะหล่นลงมาจากปุยเมฆครั้งแล้วครั้งเล่า สองขาผมอ้ากว้าง ช่องทางชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรัก มันถูกเสียดสีจนเป็นฟองขาวถูไถเข้าออก รูดรั้ง กระแทกกระทั้นตรงจุดวาบหวามอย่างผู้ชำนาญนับไม่ถ้วน

แม๊กซ์รู้ร่างกายผมดี... ดีจนปรนเปรอให้ผมบ้าคลั่ง เราร่วมรักกันจากมนุษย์.... สู่สัตว์ป่า เสพสมกันจนร่างกายไม่อาจทนไหว

"ดี อ๊าาา ดี อีก อึกกก" ผมครางเสียงแหบแห้ง แม๊กซ์กระทั้นช่วงล่างเข้ามาถี่ยิบจนผมอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้าง

"เจ้าหญิง เจ้าหญิงของผม แน่น..."

"อึ๊กกก... อีกกก ลึก..." ผมตอบเขาด้วยจังหวะเดียวกัน แม้จะรู้ว่ามันน่าละอายก็ตาม แต่ผมก็ยังเรียกร้องความรุนแรงไม่หยุดหย่อน จนเสียงกระพรวนดังไม่หยุด

...ไม่รู้ว่าผมสลบไปเมื่อใด แต่ตื่นมาอีกครั้งก็ตีสองแล้ว แม๊กซ์ปล่อยให้ผมนอนบนตัวเขาเหมือนเช่นเคย

"ตื่นแล้วเหรอเจ้าหญิง ?" เขาส่งเสียงแหบๆ มาจากใต้ร่าง ผมเงยหน้าขึ้นมาจากรอยสัก ก่อนจะจูบเบาๆ บนผิวเนื้อสีแทน

"อืม" เสียงหายไปหมด วันนี้เราร้อนแรงกว่าทุกทีจริงๆ นั่นแหละ

"หิวไหมครับ ? เดี๋ยวผมไปอุ่นข้าวให้นะ" เสียงแม๊กซ์ค่อนข้างกังวลทีเดียว ผมนอนลงอีกครั้งอย่างเกียจคร้าน

"เธอกินหรือยัง ?"

"ยังเลยครับ"

"งั้นออกไปพร้อมกันดีกว่า" ผมดันตัวขึ้นอย่างยากลำบาก เหมือนอวัยวะถูกถอดออกเป็นชิ้นๆ แม๊กซ์ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรวบใต้บั้นท้ายผมและอุ้มผมด้วยแขนข้างเดียวเหมือนอุ้มเด็ก

"ผมอุ้มดีกว่า"

จะบอกว่าเดินเองได้ก็... ดูสภาพตัวเองแล้วก็ส่ายหน้า ปล่อยให้สามีเด็กอุ้มไปยังครัว เขาเอาข้าวต้มธัญพืชและเสต็กปลาที่แร็พเข้าไวโครเวฟด้วยมือเดียว ปากก็ถามอาการผมไปด้วย

"มีไข้หรือเปล่า ? ปวดหัวไหม ?"

ผมส่ายหน้า มือจัดเสื้อคลุมที่เขาใส่ให้ "ไม่เป็นไร"

"วันนี้เราทำกันเยอะ ผมกลัวว่าคุณจะป่วย"

ผมหัวเราะเบาๆ "ไม่เป็นไรเลย แต่หิวนิดหน่อย"

"โอเค เสร็จแล้วครับ" แม๊กซ์จัดให้ผมนั่งบนตัก "ผมป้อนนะ"

คร้านจะเถียงกับเขา ผมจึงพยักหน้า ให้สามีป้อนเหมือนคนเป็นง่อย จนกระทั่งเราผลัดกันกินจนหมด แม๊กซ์ช่วยผมเช็ดปากพลางพูดยิ้มๆ

"นานๆ ทีมีแบบนี้ก็ดีนะครับ"

"ชอบเหรอ ? ดีกว่าทุกทีไหม ?" ผมชักใจเสีย ถ้าเขาชอบให้ยั่ว ผมคงทำไม่ได้... บ่อยๆ

"ไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกไม่ชอบหรอกครับ" เขาโน้มตัวมาจุมพิตมุมปาก "ผมรักทุกเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน... ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดสุดเซ็กซี่มายั่วผม หรือใส่เสื้อยืดกางเกงผ้าแอบกินคุกกี้"

ผมค่อยๆ ยิ้ม "อื้ม สัญญานะว่าจะรักกันแบบนี้ไปตลอด"

"ตลอดกาล... ตลอดไปครับ" เสียงทุ้มหนักแน่น ผมกอดคอเขาไว้ แนบใบหน้ากับไหล่กว้าง แข็งแรง... ของของผม

รักผม... เป็นของผม... เพียงคนเดียว

รักข้าว... เป็นของข้าว... ตลอดกาล

แม๊กซ์ของข้าว

........

ช่วงหลังๆ หลังจากที่เต้นน่าอายไป... นี่มันอะไรกัน

เที่ยงวันหนึ่งแม๊กซ์หนีทีนามาร่วมวงเมาท์มอยโดยคนท้อง สายตาพิชเป็นประกายพลางถาม

"ว่าไงครับ ข้าวร้อนแรงไหม ?"

แม๊กซ์หัวเราะ "ไอเดียคุณนี่"

พิชยิ้ม "ช่ายครับ เป็นยังไงบ้าง ?"

เรนที่หน้าแดงไปถึงหูก็ยื่นหน้ามาฟังด้วย ผมหน้าร้อนฉ่า ก้มหน้าก้มตาจิ้มปลาแซลม่อนย่างเกลือ

แม๊กซ์ยิ้ม "ทำเอาผมอยากทำภรรยาท้องอีกรอบก็แล้วกันครับ"

พิชหวีดร้องเบาๆ พลางตีเก้าอี้ "โอ๊ย เขินแทน"

ควรจะเขินตั้งแต่แรกแล้วนะ... ผมก้มหน้างุด แม๊กซ์เลื่อนมือมาโอบเอวผม "ขอบคุณมากนะครับ"

"อุ๊ยยย ไม่เป็นไรครับ"พิชทำท่าสะดิ้งเกินงาม "ถ้าเป็นสามีผมคงนั่งหัวเราะแน่ๆ"

"โธ่พิช ปาป้าใจดีออก"

"ฮื่อ ใจดี มีอารมณ์ขันเกินไปน่ะสิ" พิชว่าพลางส่ายหน้า "นี่จะบ่ายแล้ว จะไปไหนกันไหม ?"

เรนส่ายหน้า พึมพำว่าเดี๋ยวสามีมารับ สำหรับผม...

"จะไปชอปปิ้งครับ" แม๊กซ์ตอบแทน ผมยิ่งหน้าแดง พิชมองลอดแว่นเชิงบอกว่ารู้นะ...

"แหมๆ น่าอิจฉาจริง เดี๋ยวผมเรียกแท๊กซี่กลับเหมือนกัน เจอกันนะข้าว"

"อื้อ" แล้วมื้อนั้นแม๊กซ์ก็จ่ายและพาผมไปยังรถเพื่อไปชอปปิ้ง

...ใช่ ชอปปิ้ง ที่ไม่รู้ว่าหลังจากภารกิจเต้นยั่วผัวแล้วทำไมเขาถึงบ้าชอปปิ้งได้ขนาดนี้ แถมแต่ละชุดก็สาว... จนไปซื้อที่แผนกแม่และเด็กได้เลย

ผมถอนหายใจ ถุงกระดาษเคลือบมันปั๊มแบรนด์สุดหรูใบแล้วใบเล่าลำเลียงเข้ารถ ไม่ต้องเลือกอะไรมาก พอใจ ดูไซส์ หยิบ ทั้งๆ ที่ผมห้ามแล้วห้ามอีก ตอนนี้ชุดคลุมท้องผมแออัดจนแม๊กซ์จะขยายวอล์กอิน-โคลเซ็ทใหม่แล้ว แม๊กซ์ยังไม่พอใจ ลามไปยังชุดกระโปรงที่จีบสม๊อก เลือกไซส์ใหญ่หน่อย แก้ชายให้สั้นลงเพราะผมเตี้ยอีกเป็นร้อยชุดวางเรียงรายเต็มราว ผมสะพรึงจนไม่กล้าไปเหยียบโซนนั้น

ถึงผมจะสาว แต่ก็ยังไม่กล้าใส่กระโปรง (ถึงจะเคยใส่มาแล้วก็เถอะ)

จนในที่สุด สัปดาห์ถัดมา แม๊กซ์ก็เอาชุดสวยๆ พวกนั้นมาแขวนไว้ที่สะดุดตา เขียนโน้ตว่าใส่แล้วไปหาที่ออฟฟิศหน่อย...

ผมรีบโทรหาต้นเรื่องทันที "แม๊กซ์!"

"ครับ ตื่นแล้วเหรอเจ้าหญิง" เสียงเขานุ่มหวาน แต่ผมไม่สนใจ

"ไอ้ชุดกระโปรงนี่มันอะไรกัน!"

"เจ้าหญิงใส่มาเที่ยวที่ออฟฟิศหน่อยสิครับ" ปลายสายอ้อนๆ ฝรั่งอ้อนเป็นด้วยเหรอ

ผมส่ายหน้า "ไม่มีทาง! ฉันจะใส่กางเกงวอร์ม"

"โธ่ เจ้าหญิง..." ผมกัดฟันตอบ

"ไม่!"

"นะครับ..."

"ไม่"

"นะครับ... นะ ที่รัก"

"ไม่..."

"คนดีของผม... ที่รัก... เจ้าหญิง..."

อึก... ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วย ผมตอบช้าลง "มะ... ไม่"

"คุณน่ารัก... เจ้าหญิงของผมน่ารัก... วันนี้ผมต้องเจรจากับบริษัท XX ผมอยากเอาคุณมาอวด"

"...กะ ก็ได้"

"อย่างนี้สิคนดีของผม"

ในที่สุุดผมก็ต้องใส่ชุดเดรสผ้าเนื้อนิ่มสีเบอร์กันดี ถุงน่องสีเทาและรองเท้าหนังอ๊อกฟอร์ด อะหือ Preppy Style สุดๆ เอาก็เอาวะ ขนาดชุดเต้น lady marmalade ยังกล้าใส่ แล้วกะอีแค่ชุดสไตล์กอปซิปเกิร์ลทำไมจะใส่ไม่ได้

ใส่ทุกอย่างเสร็จก็ชวนให้สงสัยว่าแม๊กซ์มองผมยังไง เอาผมไปเปรียบเทียบกับสาวๆ ที่ผ่านมาของเขาหรือเปล่า

แต่แม๊กซ์ชอบให้ผมแต่งสาวมาก... มากจนประหลาด

ผมลงลิฟต์ไปด้วยใจระทึก นึกอย่าให้เรนที่อยู่ตึกเดียวกันเจอเลย

ที่ฟรอนต์ไม่มีคนรู้จัก โอเค... นิค บอดี้การ์ดของผมปราดเข้ามาช่วยถือกระเป๋า ผมทักทายเขาสั้นๆ ก่อนที่รถโรสลอยจะขับมารับ

แม๊กซ์สั่งคนขับไว้แล้ว ผมจึงไม่ต้องสั่งอีก ไม่นานนัก เราก็ฝ่าการจราจรของกรุงนิวยอร์คมาถึงตึกของแม๊กซ์

ผมถอนหายใจ นิคเดินไปส่งผมถึงที่ห้องทำงานของแม๊กซ์ ผมผ่านด่านต่างๆ มาอย่างง่ายดาย ไม่ต้องไปตบตีกับเลขาหน้าห้องเหมือนในละคร ทีนาทักทายผมเสียงแหลม ก่อนจะกลอกตารายงาน

"คุณแม๊กซิมัสรอคุณอยู่เลยค่ะ"

"ทำไมผมต้องมาด้วยล่ะทีนา ?" ผมกระซิบถาม ทีนาโน้มตัวลงกระซิบกลับ

"ก็เจ้าของบริษัทที่มาเป็น Supplier เที่ยวนี้น่ะ เค้าเอาภรรยามาอวด แล้วคุณแม๊กซิมัสคงไม่ยอมน่ะสิคะ"

ผมเบะปาก แค่เนี้ย...

"ภรรยาเขาเป็นคนไทยด้วย คงแอบแข่งกันแหละ เอาล่ะ เข้าไปได้แล้วค่ะ" ไม่รอให้ตั้งตัว ทีนาเคาะประตู จนแม๊กซ์ตอบว่าเข้ามาแล้วก็ดุนหลังผมเข้าไปในห้อง

มองปราดเดียว... ผมยิ้มแหย

ฝรั่งร่างสูงใหญ่นั่งไขว้ขาอยู่ที่โซฟารับแขก เขามีเรือนผมสีทองอร่ามและดวงตาสีฟ้าดูเจ้าชู้ ข้างๆ เขาคือเด็กหนุ่มผมดำอายุราวๆ เรนที่... ผมจ้องพุงตัวเองแล้วมองท้องเขา เด็กคนนั้นท้องแก่ สวมเสื้อตัวยาวคลุมสะโพกและกางเกงผ้ายืด ดูสาวน้อยกว่าผมไม่กี่แต้ม

"มาพอดี" แม๊กซ์ส่งเสียงทักมาก่อน ฝรั่งลุกขึ้นหันมาทางผม

"อ้อ นี่..."

"ภรรยาฉัน ข้าว ข้าวนี่ครูซกับ..."

"ฟัาครับ ภรรยาผมชื่อฟ้า" เด็กที่ชื่อฟ้าก้าวออกมายกมือไหว้ผม เราสบตากันเงียบๆ เหมือนแลกเปลี่ยนความในใจว่า

...พวกสามีมันเล่นอะไรกันวะ

ครูซยิ้มเจิดจ้า "ภรรยานายน่ารักมาก... แต่ยังสู้ของฉันไม่ได้ว่ะ"

แม๊กซ์หัวเราะหึๆ "หึ นายไม่ดูดีๆ ผิวข้าวน่ะขาวมากนะ..."

ครูซไม่ยอมแพ้ "พูดถึงผิว...ฟ้าก็ผิวดีมาก"

ผมอยากเฟดตัวเองออกจากห้อง แม๊กซ์ดูเป็นกันเองกับครูซมาก ผมถอยออกมาช้าๆ เด็กที่ชื่อฟ้าก็เลื่อนมาทางผม กระซิบเป็นภาษาไทยเบาๆ

"เค้ารู้จักกันมาก่อนน่ะครับ"

ผมพยักหน้า "อ้อ... มิน่า" ปกติแม๊กซ์วางท่าจะตาย

"พอรู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีภรรยาเป็นคนไทย ผมก็โดนแต่งหญิงมาทั้งสัปดาห์" ฟ้าอัดอั้นมาก พูดรัวเร็วทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกัน

"พี่ก็โดนวันนี้แหละ" เราสบตากัน ก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือกัน

"ผมเข้าใจฮะ"

"ฮื่อ..." ใครจะเข้าใจกันได้ดีเท่าเราสองคนอีก ทั้งพิชทั้งเรนไม่ต้องนุ่งกระโปรงเหมือนผมนี่

"แล้วเอาไงดี ? นี่จะเอาพวกเรามาอวดเลยบังคับกันแบบนี้เลยน่ะเหรอ ?"

ฟ้าแสยะยิ้ม "ผมสู้ครูซไม่ไหวหรอกครับ... เห็นว่าคุณแม๊กซ์เป็นทั้งเพื่อนทั้งคู่แข่ง เลยแข่งแม้กระทั่งพวกเรา"

เราสบตากันอีกครั้ง....

"งั้น..."

"พี่ข้าวจัดการเลยฮะ"

ผมพยักหน้าให้ กระแอม "แม๊กซ์" เสียงผมอ่อนหวานกว่าปกติ แต่ตานี่เขียวปั๊ด

"ตกลงฉันต้องนุ่งกระโปรงเพราะงี้ใช่ไหม ?"

แม๊กซ์ที่ทุ่มเถียงกับครูซเรื่องต้นขาของภรรยาสะดุ้ง ยิ้มแห้งให้ "เอ่อ เจ้าหญิง..."

"เล่นบ้าๆ" ผมชักกรุ่นๆ ไม่สนุกนะเว้ย ใส่เล่นที่บ้านยังพอว่า นี่ต้องมาเผชิญหน้ากับคนตั้งมาก

"ฟ้าก็ไม่สนุกด้วยนะครูซ" ฟ้าก็ไม่ยอม

"จะแข่งอะไรก็แข่งกันไป แต่อย่าเอาพวกเราไปเกี่ยว ฉันกับฟ้าจะออกไปกินข้าวแล้ว"

"เดี๋ยวเจ้าหญิง!"

"ฟ้าครับ!"

ผมกับฟ้าจูงมือกันออกจากห้อง ปิดประตูโครมใหญ่ ทีนาที่นั่งวุ่นกับเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง

"อ้าว..."

"ไปกินข้าวเที่ยงกันทีนา" ผมชวน

"แล้วนั่น..."

"อ้อ นี่ฟ้า เป็นภรรยาครูซ"

"สนิทกันเร็วจังนะคะ"

ผมกับฟ้าหัวเราะ "เจออะไรบ้าๆ เหมือนกันน่ะ"

ประตูห้องทำงานเปิดออกดังโครม แม๊กซ์วิ่งออกมาคว้าแขนผม "ข้าววววววว"

"ฟ้าาา"

ทั้งผมทั้งฟ้าสะบัดแขนออก ขู่ออกมาพร้อมกัน "หยุดนะ!"

แม๊กซ์และครูซชะงักกึกเหมือนสุนัขโดนเจ้าของดุ

"เราจะไปกินข้าว"

"ไม่ต้องตามมานะ" ฟ้าสะบัดหน้าด้วย

และผมกับเพื่อนใหม่... เพื่อนคนไทยคนที่สามที่นิวยอร์กก็รู้จักกันผ่านวิธีประหลาดๆ แบบนี้

.........

//นังข้าวได้เพื่อนร่วมแก๊งค์ก๊อซซิปเกิร์ลละข่ะ ถ้ามีมาตรวัดความสาวนางคงแซงชะนีในเรื่องอย่างกลอเรียหรือทีนาไปแล้ววววววว

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ฮู๊ยยยย หายคิดถึงงงงงง

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อูยยย คิดถึงเรื่องนี้ คิดถึงนุ้งข้าว

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ความแซ่บของแก๊งนุ้งข้าว

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ได้แก๊งค์เพิ่มมาตั้งสองคน
คงไม่เหงาแล้วเนอะข้าว

ปล.สกิลอ้อนผัวยังคงแซ่บเหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือความแรดที่มากขึ้น 55555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มาต่อแล้ว~

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอยยยยย...........ชอบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไรท์กลับมาแล้ว  :mew1:

ว่าแล้ว เกมที่เล่นกันมีแม็กซ์อยู่เบื้องหลัง  :hao3:
แม๊กซ์ มันส์ หื่นสุดๆตลอดๆ
ไม่ใช่ข้าว รัก หลงผัวอย่างเดียวแล้ว :mew1:
แม๊กซ์ ก็รักเมีย  หลงเมียน่าจะที่สุดในโลกเลย
แม๊กซ์  ข้าว   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ pdolphin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
ย้อน ๆ ขึ้นไปดู ข้าวท้องตั้งแต่ 2016  นี่ก็ 2018   คาดว่าลูกของนางต้องเป็นลูกช้างแน่ ๆ ท้องที 2 ปี

ออฟไลน์ Pin_12442

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คนเขียนนนนนนนนนน ดีใจที่มาต่อนะคะ

ออฟไลน์ Natchapat.chanachon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออออ~~ ลำไยคนอวดหลัว :m20: :m20: :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ข้าวซ่องแตก! ยั่วผัวสำเร็จ
แต่ประเด็นที่กลอเรียพูดว่า "มีความลับ" นี่ยังไม่เคลียร์นะคะ ขอตอนต่อไปด่วนค่ะ

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
10 [Cont.]

น่าเสียดายที่ฟ้ากับครูซอยู่นิวยอร์กแค่สองสัปดาห์ ผมพาเพื่อนใหม่ไปตะลอนรอบนิวยอร์ก ไปดูเทพีเสรีภาพ เดินเล่นเซนทรัลปาร์ค เดินข้ามสะพานบรูคลิน ชอปปิ้งแถวบ้าน พาไปกินพิซซาอร่อยๆ กับเรนและพิช ผ่านไปแป๊บๆ ฟ้าก็กลับวอชิงตันกับสามี แต่เรายังติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กและอีเมลเสมอ

เวลาผ่านไปอย่างสงบ เผลอไม่นานผมก็ท้องได้เจ็ดเดือนกว่า แม่โทรมาทุกวัน เป็นห่วงผมตลอด พร้อมทั้งบอกว่าจะมาช่วยเลี้ยงหลานในช่วงที่ผมอยู่ไฟ

เอ่อ... ผมรู้ว่าผู้หญิงหลังคลอดต้องอยู่ไฟ ไม่อย่างนั้นจะปวดกระดูกหรืออะไรทำนองนั้นตอนแก่ แต่ผู้ชายต้องอยู่ด้วยเหรอ

แม่ก็ไม่รู้ แต่ยืนยันให้ผมอยู่ไฟ

หลังจากปรึกษากับแม๊กซ์แล้ว ผมก็เลยตามเลย อยู่ก็อยู่ ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว

ผมกับแม๊กซ์ชอบเดินแผนกเด็กอ่อน ตอนนี้ผมเรียนรู้แล้วว่าอย่าทำท่าอยากได้อะไร ไม่อย่างนั้นของชิ้นนั้นจะมาโผล่ที่บ้านอย่างง่ายดาย อย่างคาร์ซีทอย่างดี เสื้อผ้าเด็กอ่อน ของเล่นนุ่มๆ สีพาสเทลน่ารัก โมบายตุ๊กตา ถุงเท้าเด็กอ่อน

ส่วนพิชก็ท้องแก่แล้ว เขาเพลาๆ ปาร์ตี้ลงแล้ว คงเพราะปวดหลังปวดเอว ดีที่เราเล่นโยคะ มันช่วยได้มากจริงๆ นะ เรนก็เริ่มวิตกว่าตัวเองจะปวดเนื้อปวดตัวเหมือนพิชหรือเปล่า บริททานีย์คลอดน้องแล้ว เป็นเด็กผู้หญิงน่าฟัดชื่ออมิเลีย ลีแลนด์กับอลิเซียก็ท้องแก่ใกล้คลอด สมาชิกเล่นโยคะของเราเริ่มน้อยลง แต่พิชก็ยังไปมาหาสู่กับเพื่อนๆ อยู่

อย่างวันนี้ ช่วงเย็นเราจะไปกินข้าวบ้านพิชกัน ผมตั้งใจจะทำไก่อบโรสแมรีไปด้วย เสียดายที่บริททานีย์ต้องอยู่เลี้ยงลูกเลยมาร่วมกับเราไม่ได้

ดังนั้น ผมกับกลอเรียและนิค บอร์ดี้การ์ดจึงมาเดินซุปเปอร์ ซื้อไก่และเครื่องปรุงสำหรับเย็นนี้

ผมเดินเพลินๆ หยิบพวกธัญพืชขบเคี้ยวลงตะกร้า กลอเรียถือลิสต์ชอปปิ้งอยู่ข้างๆ พลางบ่นให้ผมเพลาๆ ขนมบ้าง

ตั้งแต่ท้องมา ผมกินเก่งมากจริงๆ

ขณะที่กำลังแอบกลอเรียเอาขนมซ่อนในตะกร้า เสียงห้าวๆ ก็ดังขึ้นเหนือหัว

"ข้าว ? ข้าวใช่ไหมน่ะ ?"

ผมเงยหน้าขึ้น อ้าปากค้าง

...ร่างสูง แต่ไม่เท่าแม๊กซ์ ตายิบหยี ผิวขาว...

คนที่ผมรู้จักดี...

"เบน..." เสียงหลุดปากออกมาไม่ดังกว่าเสียงกระซิบ ชายตรงหน้ายิ้มจนตาเป็นสระอิ แบบที่ผมเคยรัก

"ไม่นึกว่าจะมาเจอกันที่นี่ ได้ยินว่าแต่งงานแล้ว ?"

เบน...

ชายที่ฝากรอยแผลเอาไว้

ผมได้แต่พยักหน้าอย่างมึนๆ เบนหัวเราะเบาๆ แปลกที่เสียงหัวเราะนั้นยังคุ้นเคยผมอยู่ ทั้งๆ ที่เวลาก็ผ่านมานานแล้ว

นาน... จนผมลืมเขาไปแล้ว

การปรากฏตัวของเขาไม่ต่างจากกวนตะกอนให้น้ำขุ่น

"มีน้องแล้วสินะ ? ท้องได้กี่เดือนแล้ว ?"

"เจ็ดเดือนกว่าแล้ว"

"ดีจังนะ... สามีข้าวเป็นคนโชคดีนะ"

ผมหัวเราะเฝื่อนๆ ยักไหล่ "แล้ว... นี่มาอยู่นิวยอร์กเหรอ ?"

"อืม บริษัทส่งมาน่ะ"

"อ้อ" ผมตอบได้แค่นั้น ได้แต่มองคิ้วสีดำพาดเฉียงเหมือนดาบ ตาชั้นเดียว ใบหน้ามีโหนกแก้มและรอยหนวดเครา...

เบนเป็นลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง

เป็นคนที่ผมเคยรัก เคยกระซิบว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

แต่สุดท้าย... เขาก็จากไป ไม่สนใจ ไม่เหลียวหลังกลับมาว่าผมเป็นตายยังไง เจ็บปวดบ้างไหม เขาก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ ในขณะที่ทิ้งให้ผมจมกับทะเลน้ำตา

ไม่รู้ว่าแผลหายดีแล้ว...  หรือเพราะผมตั้งใจไม่สนใจความเจ็บปวด ผมจึงใช้ชีวิตฟรีเซ็กส์ ไม่รักใคร ไม่มอบหัวใจให้ใครง่ายๆ อีก ใช้ร่างกายเปลื้องความใคร่ แต่ทว่า...ผมก็พบแม๊กซ์ คนที่ประคับประคองผม ใช้ความรักโอบล้อม โอบอุ้มผมขึ้นมา

และเมื่อตอนนี้ คนที่ก้าวไปข้างหน้ามายืนอยู่ตรงหน้า ยิ้ม หัวเราะ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

"ข้าวยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ..."

"ไม่หรอก..."

"อ้อ ใช่ ไหนๆ ก็เจอกันแล้ว ขอเบอร์ติดต่อได้ไหม ? เผื่อจะได้มาคุยกันอีก"

คุย... คุยอะไรกัน

ผมแปลกใจ ที่มันไม่เจ็บแล้ว แผลที่เบนทิ้งไว้ให้กลายเป็นรอยแผลเป็นก็จริง แต่มันไม่เจ็บ ไม่ปวด ผมมองเขาตรงหน้าให้เต็มตา ไม่มีความรู้สึกใดๆ นอกจากมองคนรู้จักคนหนึ่ง

แม๊กซ์ช่่วยรักษาแผลนั้นจนหาย แผลที่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมี...

ผมจึงยิ้มให้ อดีตก็ปล่อยให้เป็นอดีต จึงตอบไปว่า "ติดต่อผ่านเฟซก็แล้วกัน ข้าวไม่สะดวกให้เบอร์น่ะ"

"อ้อ" เบนนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา "ผมเคยแอดข้าวไปแล้ว แต่ข้าวไม่รับแอด"

"งั้นเหรอ..." ผมคงเจ็บจนบล๊อกเขาไปแล้วมั้ง ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อกและเข้าแอพสีฟ้า กดรับแอดเบนอีกครั้ง "เบนสบายดีนะ ?"

เบนมองมือถืออย่างยินดี "อื้อ ตามอัตภาพน่ะ ข้าวล่ะ ?"

"ดีมากๆ เลย" ผมหัวเราะ ลูบท้องเบาๆ "นี่เย็นๆ ก็จะไปกินข้าวกับเพื่อนน่ะ คนไทยในนิวยอร์กเยอะกว่าที่คิดนะ"

"ดีจังเลยนะ" เบนทำท่าจะพูดอะไรอีก กลอเรียที่ยืนฟังเราคุยภาษาไทยกันมานานก็ขมวดคิ้ว สะกิดผม

"คุณข้าวคะ เดี๋ยวต้องกลับไปทำอาหารอีกนะคะ"

"อ๊ะ จริงด้วย" ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋า "ไว้คุยกันนะเบน"

ผมยกมือขึ้นโบกให้เขา แต่มือข้างหนึ่งของคนตัวสูงกลับคว้าแขนผมไว้ "ข้าว!"

ผมมองเขา มองมือ นิคก้าวเข้ามาผมจึงส่ายหน้าให้เขา ก่อนจะหันไปหาเบน "มีอะไรเหรอ ?"

เบนอึกอัก แล้วโพล่งออกมา "ผมขอโทษนะที่ทำข้าวเจ็บ... แต่ผมก็เจ็บไม่แพ้กัน ผมลืมข้าวไม่ได้เลย"

ผมขมวดคิ้ว ส่ายหน้าให้ "เบน... เรื่องก็ผ่านมานานแล้วนะ"

เบนเป็นฝ่ายจากไป... แต่งงานกับผู้หญิงสะสวยคนนั้น

"ผมหย่าแล้ว แต่งได้แค่ปีกว่าเราก็ทนกันไม่ได้ ส่วนผมก็ลืมข้าวไม่ลง" เบนกลืนน้ำลาย "ข้าว ผมรู้ว่าข้าวท้อง... แต่งงานแล้ว แต่ขอโอกาสให้ผมได้ไหม เด็กในท้องผมจะรักเหมือนลูกตัวเอง ผมจะรักข้าวมากกว่าที่เคยรัก... ดีกับข้าวยิ่งกว่าสามีของข้าว..."

ผมตะลึง...

..."เบน..."

"ข้าว..."

ผมส่ายหน้า ตั้งสติ แม้จะเคยรักมาก รักจนเจ็บเจียนตาย แต่ตอนนี้... ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำอะไรผมได้

"เบน ฟังข้าวนะ ตอนนี้ข้าวมีสามีแล้ว เขาดีกับข้าวมาก เรื่องของเราให้เป็นอดีตไปเถอะ เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ข้าวดีใจนะที่เจอเบน" ผมรีบพูดแล้วเลื่อนตะกร้าจากไป

ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเบนหลังจากนั้น แต่ผมไม่ต้องการกลับไปแล้ว

ผมรักแม๊กซ์...

...รักเกินกว่าที่ตัวเองคิดว่ารัก

เพราะเบนเข้ามา ผมจึงรู้ว่า แม๊กซ์ก็รักผมมากไม่ต่างกัน

...

ขากลับ ผมเล่าเรื่องคร่าวๆ ให้กลอเรียฟัง หล่อนพยักหน้าแล้วช่วยผมทำไก่อบโรสแมรี พร้อมทั้งเตือนให้ผมเล่าทุกเรื่องให้แม๊กซ์ฟังด้วย เพราะถ้าเขารู้คงรู้สึกไม่ดี

ผมก็คิดแบบนั้น

แม๊กซ์ขี้หึง แล้วยิ่งถ้ารู้เป็นคนสุดท้ายเขาคงเจ็บปวดมาก

เย็นวันนั้นผมเกือบลืมเรื่องเบนไปแล้ว ผมเข้าร่วมวงสนทนาเมาท์มอยละคร ดารา เกมโชว์กับเรน พิชและเด็กในร้านพิช ส่วนคุณภูมิ สามีของเรนก็นั่งดื่มและคุยกับปาป๊าและแม๊กซ์อีกวงหนึ่ง จนราวๆ สองทุ่มเราถึงทยอยกันกลับ

แม๊กซ์โน้มตัวมาจูบผมระหว่างที่สตาร์ทรถ ผมถึงนึกถึงเรื่องเบนขึ้นมาได้ ผมเล่าเรื่องเบน แต่เว้นเรื่องที่เขาแอดเฟซบุ๊กและขอให้ผมกลับไปหาเขาไว้

"สรุปว่าเขาเป็นแฟนเก่าของเจ้าหญิง ?"

"อืม บังเอิญเจอที่ซุปเปอร์น่ะ"

แม๊กซ์ยิ้ม "ผมดีใจนะที่คุณเล่าให้ฟัง..."

ผมยิ้มตอบ "อื้ม" ผมเอนตัวพิงไหล่แกร่งข้ามกระปุกเกียร์

ช่างเถอะ... อดีตทำอะไรผมไม่ได้ เช่นเดียวกับเบน... ต่อให้เขาคุกเข่าขอร้องให้ผมกลับไป... ผมก็คงไม่มีวันก้าวออกไปจากแม๊กซ์หรอก

......

ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ทั้งผมและแม๊กซ์ต่างก็ใช้ชีวิตเรียบเรื่อย ผมยังคงมีเซ็กส์กับเขาทุกคืน จูบกับเขาในตอนเช้า นอนหลับไปในอ้อมแขนเขา เช่นเดียวกับแม๊กซ์ที่ลูบไล้เรือนร่างผมราวกับถวิลหา ทั้งๆ ที่เราแนบชิดกันทุกเช้า ทุกเย็น ทุกคืน

ดอกไม้ เพชรนิลจินดาถูกส่งมาทุกวัน เรียกปื้นสีแดงบนแก้มผมได้ทุกครั้ง การ์ดสวยๆ ที่บอกว่าเขารักผมแค่ไหนถูกเก็บไว้อย่างดีในแสคร๊ปบุ๊ก ผมโรยกากเพชรระหว่างที่นั่งอยู่บนตักแม๊กซ์ เอนตัวพิงร่างเขาอย่างสบายตัว สบายใจ พร้อมทั้งเตะเท้าให้กระพรวนข้อเท้าสั่นกรุ๋งกริ๋ง

แม๊กซ์จูบปลายคางผมตอบ ผมขบริมฝีปากเขาเบาๆ

"รักนะ"

ผมยิ้ม "อื้อ รักเหมือนกัน"

"ผมรักมากกว่า"

"ฉันสิรักมากกว่า" ผมจูบไหล่กว้างผ่านเนื้อผ้า "ฉันทั้งท้อง ทั้งออกจากงาน ฉันสิรักมากกว่า"

แม๊กซ์หัวเราะ "คุณจินตนาการไม่ออกหรอกข้าว ว่าผมรักคุณแค่ไหน"

"ฉันว่าฉันรู้นะ" ผมกอดอก มองแสคร๊ปบุ๊กอย่างพึงพอใจ ก่อนจะจับคางที่มีหนวดเครารกเรื้อ "เธอก็ไม่รู้หรอกว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน"

แม๊กซ์โน้มตัวลงมาจูบผม... จูบแผ่วเบาทว่าลึกซึ้ง ใจผมเต้นแรงเหมือนสาวน้อยเสียจุมพิตแรก แม๊กซ์สอดมือเข้าในเรือนผม ประคองศีรษะผมไว้...

...ผมตกอยู่ในบ่วงรัก ตกหลุมรักจนปีนขึ้นไปไม่ได้

เขาค่อยๆ ปล่อยผมออกให้ผมได้พักหายใจ

...รัก รักนะ

ผมดึงเขาลงมาจูบอีกครั้ง

...รักที่สุดในโลกเลย...แม๊กซ์ของข้าว

.......

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมเปิดกูเกิ้ลหาสูตรอาหาร วันนี้ผมทำมันฝรั่งอบกับปาเอญ่า เข้ากันหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่แม๊กซ์ต้องกินล่ะ ระหว่างที่นั่งพัก ก็มีคนส่งข้อความมาให้

Ben Li send a message

ผมจิ้มไอแพดเข้าไปดู

เบนนั่นเอง เขาส่งข้อความมานัดผมไปกินข้าว ผมส่ายหน้าให้ตัวเอง ก่อนจะปฏิเสธไป

ถึงผมจะไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สมควรไปกินข้าวกับเขา เพราะหากแม๊กซ์รู้คงบ้านแตก แถมคิดในทางกลับกัน ถ้าแม๊กซ์เป็นผม ผมก็คงโมโหไม่ต่างกัน

ข้อความสั้นๆ ของเบนมีแค่นั้น ผมไม่ได้สนใจอะไรอีก

....

ช่วงเที่ยงๆ ร้านอาหารแถวศูนย์โยคะค่อนข้างยุ่ง ผม พิชและเรนจึงไปอีกร้านที่คนน้อยกว่า ผมสั่งลาซานญามานั่งกิน พวกผมเพิ่งมาร้านนี้เป็นครั้งแรกและเพิ่งรู้ว่าร้านนี้ก็มีเมนูคนท้องหลากหลาย

ผมเอากล่องใส่ชุด lady marmalade มาคืนพิชด้วย หลังจากพยายามลืมไปหลายรอบ พิชหัวเราะร่า เรนก็อมยิ้มน้อยๆ มีแต่ผมที่อยากให้ธรณีสูบไปซะจะได้ลืมความอาย

วันนั้นนิวยอร์กมีแดด พวกผมเลยนั่งโต๊ะด้านนอก อาบแดดให้สบายใจ พอมาอยู่ต่างประเทศจริงๆ ถึงเพิ่งรู้ว่าการมีแดดออกมันสบายตัวแค่ไหน

ถ้าอยู่ไทยพวกผมคงหลบอยู่ในตึก ตากแอร์เย็นๆ ไม่ออกมาตากแดดหรอก

ระหว่างที่นั่งกินปนนั่งเมาท์ จนนึกสงสัยว่าพวกเราเอาเรื่องเมาท์มาจากไหนเยอะแยะ นี่ขนาดอยู่ต่างประเทศ ยังเมาท์เรื่อง The mask singer เมื่อวานได้

แล้วจู่ๆ ก็มีแก้วน้ำผลไม้สมูตตี้มาเสิร์ฟ ผมกับพิชและเรนส่ายหน้าให้พนักงานเสิร์ฟ

"ไม่ได้สั่งครับ"

พนักงานเสิร์ฟตอบกลับยิ้มๆ "อ๋อ โต๊ะโน้นฝากมาน่ะค่ะ"

พวกเราหันไปตามที่หล่อนพยักเพยิด ผมสะดุ้งสุดตัว

เบน!

พอแก้ววางลงปุ๊บ เบนก็ลุกมาหาพวกเราทันที "สวัสดีครับ"

พิชกับเรนมองหน้ากันเหวอๆ "ครับ ?"

"ผมเบน... เป็นเพื่อนของข้าว"

ผมขมวดคิ้ว เบนมาทำอะไร ? ต้องการอะไรกันแน่ ?

นิคที่ยืนรอใกล้ๆ ก้าวเข้ามาชิด ผมโบกมือให้นิคเชิงบอกว่าไม่เป็นไร "ขอบคุณนะเบน แต่ข้าวอิ่มแล้ว พิช เรน ไปกันเถอะ"

ผมเลือกที่จะส่ายหน้า คิดว่าปฏิเสธมากๆ เข้าเบนคงจะถอยไปเอง

แต่ผมคิดผิด...

เบนเคลื่อนกายเข้ามาใกล้ "ข้าว คุยกันก่อนสิ"

ผมส่ายหน้า "เบน ข้าวว่าข้าวพูดชัดแล้วนะ"

ชายหนุ่มเอื้อมมือมาฉุดมือผมไว้ "ข้าว! ข้าวยังโกรธเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนเหรอ ผมขอโทษ..."

ผมพยายามสะบัดออก นิคปราดเข้ามาตรงกลาง ดันเบนออกไปพร้อมเตือนเป็นภาษาอังกฤษ "ถอยไป"

"ข้าว!"

พิชและเรนรีบเก็บข้าวของตามผม นิคที่ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องแต่เข้าใจว่าผมถูกคุกคามรีบดันตัวผมออกจากร้าน ขณะที่เรายื้อยุดกันอยู่นั้น ตัวผมก็ลอยหวือ แรงกระชากจากข้อมือแรงกว่านิคเสียอีก

"แม๊กซ์!"

แม๊กซ์โอบผมไว้กับอก ขมวดคิ้วแน่นพลางถามเบน "คุณเป็นใคร ?"

เบนเลิกคิ้ว "คุณคงเป็นสามีข้าวสินะ ผมชื่อเบน เป็นคนรักเก่าของข้าว"

"อ้อ" เสียงแม๊กซ์คล้ายเยาะ "งั้นคนรัก'เก่า' ก็ควรจะปล่อยภรรยาผมได้แล้วนะ" แม๊กซ์เหลือบมองข้อมือผมที่ถูกเบนดึงไว้ แล้วเขาก็กระชากออก เรนกับพิชอุทานออกมาพร้อมกัน

"เรื่องของคุณ ข้าวเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว อย่าลืมว่าเรื่องของคุณเป็นอดีตไปหมดแล้ว คุณไม่ใช่ทั้งปัจจุบันและอนาคตของข้าว กรุณาอย่ามายุ่งกับพวกเราอีก" แม๊กซ์พูดจบก็ลากผมออกจากร้าน

พิชกับเรนแยกตัวกลับ ส่วนผมขึ้นรถแม๊กซ์กลับเพนท์เฮาส์ แม๊กซ์ดูไม่ดีเลย ใบหน้าเขาถมึงทึง ไม่พูดไม่จา เพียงแค่ขับรถไปเรื่อยๆ เท่านั้น

"แม๊กซ์..." ผมเรียกเบาๆ

"เจ้าหญิง" เขาตอบ ตายังมองถนนเบื้องหน้า "คุณไม่ได้เล่าว่าแฟนเก่าคุณพยายามคืนดี"

ผมสะอึก "ฉันคิดว่ามันไม่มีอะไร... ฉันท้องอยู่ ใครจะมาพิศวาสคนท้องล่ะ"

แม๊กซ์แค่นหัวเราะ "เห็นได้ชัดว่ามีไม่ใช่เหรอ ?"

"แม๊กซ์ โกรธฉันเหรอ ?"

"ผมควรโกรธไหม ?" แม๊กซ์หันกลับมามองผม

ผมหน้าจ๋อย "นั่นสินะ... ขอโทษนะ ฉันไม่คิดจริงๆ ว่าเขาจะตามมา แต่ฉันปฏิเสธไปแล้ว"

แม๊กซ์ถอนหายใจ เอื้อมมือมากุมมือผมไว้ "ผมเชื่อคุณ ก่อนหน้านี้ผมเคยหึงหวงคุณจนทำทุกอย่างพัง ผมจะไม่กลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว"

"ขอบคุณนะ" ผมยิ้ม แม๊กซ์ค่อยยิ้มออก

"ผมเชื่อใจคุณนะเจ้าหญิง"

"ฉันรู้... ฉันรักเธอนะ"

"ผมก็รักคุณ..."

....

ผมนั่งเขียนสแคร๊ปบุ๊กคนเดียว วันนี้ไม่มีคลาสโยคะ พิชไปเยี่ยมญาติปาป้าที่ฟิลลาเดเฟีย เรนก็เงียบไป ผมไม่มีนัดไปไหนเลยนั่งขัดเพชรไปพร้อมกับเขียนสแคร๊ปบุ๊กไปด้วย

ผมฟังเพลงเพลินๆ ตอนนี้ในเมืองเปิดแต่เพลง Havana จนจะร้องตามได้อยู่แล้ว ผมไม่ได้เกลียดเพลงนี้ แต่เปิดมากๆ มันก็ติดหูเหมือนกันนะ

ผมเปิดเพลง Lana Del Rey เสียงยานๆ ของนักร้องคนนี้ทำให้ผมติดใจ ระหว่างนั้นก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย

ติ๊ง! เสียงเฟซบุ๊กขึ้นเตือน

Ben Li send a message

เบนอีกแล้วเหรอเนี่ย ผมนึกว่าเขายอมแพ้ไปแล้วเสียอีก ผมจิ้มนิ้วเข้าไปดูไม่ให้เสียมารยาท กลับกลายว่าเป็นคลิปสั้นๆ

เบนถือกีตาร์ในมือ เขากระแอมเบาๆ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ ใบหน้าตี๋ๆ ลูกครึ่งของเขาดูมีสเน่ห์มาก แต่ถึงยังไงก็ไม่สามารถทำให้ผมใจเต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนได้

I won't lie to you
I know he's just not right for you
And you can tell me if I'm off
But I see it on your face
When you say that he's the one that you want
And you're spending all your time
In this wrong situation
And anytime you want it to stop


เบนเริ่มเพลง ผมอึ้งไปแล้ว...

เพลง Treat you better เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่พยายามให้ผู้หญิงที่มีแฟนแล้วมาสนใจตัวเอง โดยบอกว่าตัวเองดีแค่ไหน และจะดีกับผู้หญิงคนนั้นยังไง

เบนเน้นตรงท่อนคอรัส

I know I can treat you better than he can
And any girl like you deserves a gentleman
Tell me why are we wasting time
On all your wasted crying
When you should be with me instead
I know I can treat you better
Better than he can


เสียงเบนจัดว่าดีทีเดียว ไม่คร่อมจังหวะเหมือนแม๊กซ์ แต่ถึงอย่างนั้น... ผมไม่ได้รักใครเพราะร้องเพลงเพราะเสียหน่อย

ผมนั่งฟังจนจบ ท้ายคลิป เบนยิ้มเศร้าและบอกว่า

"เขารุนแรงกับคุณใช่ไหมข้าว ดูจากที่เขากระชากคุณ เขาตบตีคุณด้วยหรือเปล่า ? เลิกกับเขาเถอะนะ ผมพร้อมจะรักคุณ ดูแลคุณ และถึงคุณจะท้อง แต่ผมก็ยินดีรับผิดชอบคุณทุกอย่าง... กลับมาหาผมเถอะนะ"

ผมไม่ตอบ ปิดคลิปและบล๊อกเบนทิ้ง

ผมถอนหายใจ... น่ากลัวว่าแม๊กซ์จะอาละวาด

และไม่ต้องรออะไรเลย.... ไม่ถึงห้านาที แม๊กซ์ก็กระหืดกระหอบจากบริษัทกลับบ้านมา ผมอึ้ง รู้ว่าเขามีพาสเวิร์ดเฟซบุ๊กผม แต่ไม่นึกว่าเขาจะเช็คตลอด

"เจ้าหญิง!" ใบหน้าหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยว

ผมหันกลับไปพลางส่ายหน้า "ฉันบล๊อกเขาไปแล้ว"

แม๊กซ์ยืนนิ่ง คว้าผมเข้าไปกอด "ใจผมจะขาด"

ผมถอนหายใจ กอดเขาตอบ "ไม่มีอะไรทั้งนั้น ใจเย็นๆ ไว้นะที่รัก"

แม๊กซ์ไม่ตอบ แต่เอื้อมมือมาปลดเสื้อผ้าผมออก ผมจูบเขาอย่างไม่ยอมแพ้... อยากให้เขาจำให้ขึ้นใจว่าผมเป็นของเขาเท่านั้น...

..."แม๊กซ์... ฉันเป็นของเธอ" ผมกระซิบ แม๊กซ์คำรามเบาๆ คล้ายลูกสิงโตที่มักโผล่มาหลังเปลือกตาผมเสมอ

อย่างน้อยเขาก็ไม่อาละวาดไร้สาระ... แต่ท่าทางนั้น เหมือนเก็บอะไรไว้ในใจ...

ผมได้แต่โอบกอดเขา ปรนเปรอเขาด้วยร่างกาย ให้เขามีความสุข

"แม๊กซ์ แม๊กซ์ ฉันรักเธอ..."

"ผมเชื่อใจคุณนะเจ้าหญิง"

ผมพยักหน้า "ฉันรักเธอ..."

.......

หลังเหตุการณ์วันนั้น เราก็เงียบๆ กันไป ผมอึดอัดกับท่าทีของแม๊กซ์ เขามักมารับผมที่ศูนย์โยคะ ไม่อนุญาตให้ผมไปกินข้าวเที่ยงกับเพื่อนๆ หรือถ้าไป เขาต้องไปด้วย ผมปรับทุกข์กับพิชและเรน ทั้งคู่ให้คำแนะนำว่า ให้รอจนกว่าแม๊กซ์จะกลับมาเชื่อใจผมอีก

ผมตะหงิดๆ ถึงผมไม่ได้ทำผิดอะไร แถมแม๊กซ์ก็ยังบอกว่าเชื่อใจผม แต่ทำไมทำตรงกันข้าม ?

ผมอดทนไม่ไหวจึงโพล่งออกมา แม๊กซ์เลื่อนมือมาบีบมือผมแน่น

"ผมไว้ใจคุณ แต่ไม่ไว้ใจคนอื่น" เสียงเขาคล้ายคำราม ผมถอนหายใจ

"เบนเงียบไปแล้ว ฉันบล๊อกเขาไปแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้"

แม๊กซ์ส่ายหน้า "ผมไม่สน อาจไม่ใช่แค่นายนั่น แต่ยังมีคนอื่นอีก"

ลงว่าพูดแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ล่ะ ยังไงแม๊กซ์ก็ต้องติดสอยห้อยตามผมไปทุกที่แน่นอน ผมไม่อยากทะเลาะกับเขาแล้ว แต่ยิ่งเขาหึงหวงผมเท่าไหร่ คุณค่าผมก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น...

...ผมได้แต่หวังให้เขาหายระแวงไวๆ เพราะผมก็อดทนแทบไม่ไหวเหมือนกัน

.....

แม๊กซ์ออกไปทำงานแล้ว วันนี้ผมล้าจากเซ็กส์เมื่อคืนจนคลานไปเรียนโยคะไม่ไหว เลยเท็กซ์บอกพิชให้ช่วยลาให้

ผมอาบน้ำ แปรงฟันแล้วเปิดห้องไปหาอะไรกิน

วันนี้มีผัดเปรี้ยวหวานที่ทำทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน กลอเรียช่วยต้มซุปให้ ผมถอนหายใจระหว่างที่ฟังกลอเรียบ่นเรื่องลูกชาย

ติ๊ง!

เสียงข้อความเข้าอีกแล้ว คราวนี้มาจากคนที่ไม่ได้อยู่ในเฟรนด์ลิสต์ ผมจิ้มเข้าไปดู

'ผมเบนนะ'
'ทะเลาะกับสามีหรือเปล่า'
'เรามาคุยกันไหม ผมรอข้าวอยู่ที่ฟรอนต์'


ผมแทบทำไอแพดตก พร้อมๆ กับเสียงโทรศัพท์บ้าน พนักงานที่ฟรอนต์โทรขึ้นมาว่ามีคนมาหา

ผมอ้าปากค้าง เบนรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่ เขาตามสโตกเกอร์ผมเหรอ!

ผมหน้าเครียด บอกกลอเรียว่าจะลงไปหาเพื่อที่ฟรอนต์ ยังไงซะ ที่ด้านล่างก็มีคนเยอะแยะ ทั้งพนักงาน ทั้งรปภ. ยังไงเบนก็ไม่กล้าทำอะไรผมหรอก

ผมปลุกปลอบตัวเอง

วันนี้ต้องคุยให้รู้เรื่อง แม๊กซ์จะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม

ใช้เวลาแค่สั้นๆ ผมก็ลงมาด้านล่างในชุดเสื้อยืด กางเกงวอร์ม คลุมทับด้วยโอเวอร์โค้ตอุ่นๆ เบนนั่งรอที่โซฟาอย่างสง่างาม แบบที่ผมในอดีตต้องนึกรัก

ผมพ่นลมหายใจออกมา นั่งลงตรงหน้า เบนยิ้มให้ ดูเขาเหนื่อยๆ

"สวัสดีข้าว"

"รู้ได้ยังไงว่าข้าวอยู่ที่นี่ ?" ผมไม่ตอบเขา กลับถามทันที เบนยักไหล่

"ผมจ้างนักสืบน่ะ"

ผมกัดริมฝีปาก ส่ายหน้า "เบนตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ?"

เบนยิ้มน้อยๆ ดูเศร้า "ผมอยากคืนดีกับคุณ"

"ฟังนะ" ผมพูดอย่างอดทน "นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราคุยกัน หลังจากนี้ข้าวจะไม่ติดต่อเบนอีก ไม่ว่าทางไหนก็ตาม เรื่องของเราจบลงไปแล้ว เบนควรก้าวต่อไป"

"อนาคตผมอยากมีคุณ" เสียงเขาระโหย พยายามยื่นมือออกมากุมมือผมไว้ แต่ผมดึงกลับ เอามือมากอดอก

"ข้าวมีคนที่สร้างอนาคตด้วยแล้ว... กลับไปเถอะ อย่าให้ข้าวรู้สึกแย่กับเบนเลย"

เบนเงยหน้าขึ้น เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง ขณะนั้นเอง... ลมหนาวจากด้านนอกก็พัดเข้ามา ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามา ผมไม่ทันจะทักหรือมองเขาให้เต็มตา แม๊กซ์ก็ดึงผมขึ้นจากโซฟาไปอยู่ด้านหลังเขา

"สารเลว!" เขาด่าแล้วเหวี่ยงกำปั้นลงที่แก้มเบน คนที่อยู่ในฟรอนต์หวีดร้อง แรงหมัดทำให้เบนเซไปเกาะโซฟา ผมรีบกอดแม๊กซ์เอาไว้

"แม๊กซ์!"

เบนหัวเราะหึๆ เงยหน้าขึ้นมองผม "คนใช้ความรุนแรงแบบนี้น่ะเหรอ... ที่คุณจะฝากชีวิตไว้" เขาตั้งใจบริภาษเป็นภาษาอังกฤษให้แม๊กซ์เข้าใจ ผมส่ายหน้า รีบดึงแม๊กซ์ออกมา

"ออกไป!" ผมตะโกน "ไปซะเบน! เราจบกันไปแล้ว! อย่ากลับมาอีก!"

เบนแค่นยิ้ม จ้องแม๊กซ์ตาถลน "ยังไงข้าวก็เหมาะกับคนที่ดีกว่าคุณ"

"Son of bitch!" แม๊กซ์จะถลาเข้าไปชกอีกหมัด แต่เบนไหวตัวหลบ พร้อมๆ กับรปภ.ที่กรูกันเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย

ต้องใช้ผู้ชายตัวโตๆ ถึงสองคนถึงจะดึงแม๊กซ์เอาไว้ได้ ส่วนเบนก็ถูกเชิญออกไปแล้ว หลังจากนั้น เขาก็ถูกแบนไม่ให้เข้าตึกของเรา ส่วนผมก็ถูกดึงขึ้นชั้นบน กลับไปยังเพนท์เฮาส์

ผมถูกกระชากลากถูเข้าห้อง กลอเรียถูกตวาดให้รีบกลับบ้าน ก่อนที่แม๊กซ์จะโยนผมลงที่โซฟา

เสียงกระวีกระวาดของกลอเรียดังขึ้นหน้าประตู ก่อนประตูจะถูกปิด ผมเด้งตัวขึ้นพยายามอธิบาย แต่ไม่...

...นัยน์ตาของแม๊กซ์ไม่มีความเชื่อใจอีกแล้ว

...ผมไม่ได้ทำอะไรเลย... ทำไมต้องเกิดอะไรแบบนี้กับผม

แม๊กซ์ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ แสยะยิ้ม "เพราะมันคุณเลยไปกินข้าวเที่ยงอีกร้านใช่ไหม"

ผมชะงัก... ข้าวเที่ยงที่ว่า คงเป็นวันที่เบนเลี้ยงสมูตตี้ ผมรีบส่ายหน้า "มะ..."

"แล้วยังนัดกันคุยที่บ้าน..." แม๊กซ์กัดฟันกรอด เหวี่ยงผมติดโซฟาอีกครั้ง ผมพยายามตะกายลุกขึ้นเป็นครั้งที่สอง "เจ้าหญิง... มันจีบคุณ บอกรักคุณ บอกว่ามันดีกว่าผมแค่ไหน ยังไม่พออีกเหรอ!"

"แม๊กซ์!" ผมร้อง "ฟังฉันกะ..." มือหยาบพุ่งตรงเข้ามากระชากเสื้อผมออก ผ้าเนื้อดีขาดแคว่กดังสะท้อนห้องนั่งเล่น ผมส่ายหน้าลูกเดียว แม๊กซ์ไม่ฟังอะไรแล้ว เขาดึงกางเกงผมออก ผมได้แต่ดิ้นรน พยายามทุบไหล่ให้เขาฟังผมก่อน

"แม๊กซ์! ฉันท้องอยู่นะ!"

"นี่ขนาดท้องยังโปรยสเน่ห์ได้ขนาดนี้" รอยยิ้มบูดเบี้ยววาดลงบนใบหน้าหล่อเหลา "ต้องให้ร่างกายคุณจำแล้วล่ะว่ามันเป็นของใคร"

ผมอ้าปากค้าง ดิ้นออกจากวงแขนแข็งแรง แต่ทว่าไร้ประโยชน์ มันกักผมไว้อย่างแน่นหนา แม๊กซ์ไม่สนใจอาการดิ้นรนของผมเลย เขารูดซิป และปฏิบัติกับผมเหมือนเป็นตุ๊กตาระบายความใคร่ ไม่ต้องอาศัยนิ้วนำทางหรือบอกรักหวานๆ ผมกรีดร้อง สองมือถูกล็อกไว้ สองขาถูกอ้าออก ท่อนลำขนาดใหญ่สอดแทงเข้ามาภายในที่แห้งผาก ผมตัวแข็งเกร็ง เจ็บจนเหมือนถูกเป็นชิ้นๆ แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมรองรับโทสะของเขา แต่ทว่า ไม่ว่าเมื่อไหร่ผมก็ไม่อาจทนได้เลย

แม๊กซ์กระแทกเข้ามา ผมร้องลั่น "แม๊กซ์ อย่าทำฉันเลย!"

"เจ็บ! ได้โปรด...." เสียงเนื้อเสียดสีกันทำให้ผมละอาย "อึกกก... จะ เจ็บบบ ฉันท้อง... ฉันท้อง" ผมพยายามเตือนสติเขาพลางพยายามดันเขาออกทว่าไร้ผล...

...เสียงเพลงยานคางดังก้องอยู่ในหัว

มันเป็นเพลงที่คุ้นเคย...

...I can hear sirens, sirens
He hit me and it felt like a kiss
I can hear violins, violins
Give me all of that ultraviolence...


ผมถูกข่มขืนอีกครั้ง...

...ขอบตาร้อนผ่าว ช่องทางรักเปื้อนเลือด น้ำอุ่นๆ ไหลอาบแก้ม

ทว่า...

...เขาไม่สนใจ

...ไม่สนใจอีกต่อไป

...

ออฟไลน์ aimer

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +401/-5
ผมพยายามขยับตัว ฝันอันประหลาด... ปิศาจร้ายควันดำพยายามกลืนกินผมและลูก ในฝันนั้นมีอัศวินหน้าตาหล่อเหลา เรือนผมสีน้ำตาล ดวงตาสีเดียวกันพยายามปกป้องผม... และเมื่อเขาปราบสัตว์ประหลาดลงได้ เขาก็ก้าวเข้ามาข่มขืนผมแทน

ฝันนั้นร้ายกาจ ผมเจ็บสะท้านไปทั่วร่าง ที่เจ็บยิ่งกว่าก็คือหัวใจ ทั้งๆ ที่ร่างกายถูกย่ำยี แต่หัวใจกลับมอบให้เขาอย่างง่ายดาย

ลูกสิงโตพยายามปกป้องผม ทว่ามันเป็นเพียงสิงโตน้อย เสียงคำรามไม่ยอมแพ้ของมันดังคลอกับเสียงกรุ๋งกริ๋งของกระพรวน

ผมตะโกนบอกว่าผมท้องอยู่ แต่เขาไม่เมตตาเลย...

...ผมหายใจติดขัด ฝันร้ายยังดำเนินต่อไป ในที่สุดผมก็ตื่นขึ้นมา ร่างกายหนักอึ้ง ช่องทางยังเจ็บแสบร้อน ผมลุกขึ้นอย่างทรมาน

เสียงเครื่องดูดฝุ่นด้านนอกเตือนว่ากลอเรียเข้ามาทำงานแล้ว และนี่คงผ่านมาคืนหนึ่งแล้ว

ผมพยายามกลั้นน้ำตา ลูบท้องตัวเองเบาๆ

...ลูกยังอยู่

หากผมเสียลูกไป... ผมคงไม่มีวันให้อภัยแม๊กซ์ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ผมจะสามารถกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง ในเมื่อตอนนี้ ลูกเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมไปแล้ว เขายังไม่ทันได้ลืมตาดูโลก แม่ของเขาก็ถูกข่มขืน...

...ผมกล้ำกลืนลงจากเตียง ร่างกายถูกทำความสะอาดหมดแล้ว คงเป็นแม๊กซ์ตามเคย ผมพยายามลงจากเตียง ทว่าแค่ก้าวแรกก็เจ็บสะท้านทั่วร่าง

ไม่เป็นไร... ผมพยายามเตือนตัวเอง

ไม่เป็นไร...

...ผมอาบน้ำ แปรงฟัน ตั้งใจจะไปหาข้าวกิน แต่ประตู...

ล็อก!?

ประตูห้องถูกล็อกจากด้านนอก! นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เป็นแบบนี้ แม๊กซ์เป็นคนล็อกอย่างไม่ต้องสงสัย แน่นอนว่าเมื่อผมพยายามหาพาสปอร์ต บัตรประชาชน หรือใบขับขี่ของไทยแล้วก็ไม่เจอ แม๊กซ์ต้องเป็นคนเอาไปเหมือนเมื่อครั้งที่แล้วแน่ๆ

ผมใจหายวาบ โผไปหาโทรศัพท์มือถือ... ไม่มีคลื่น ซิมถูกแกะออก ไม่มีสัญญาณไวไฟ ผมถูกขังอย่างแท้จริง

ผมรีบทุบประตูสุดแรง ไม่นานประตูก็ถูกไขออกจากด้านนอก กลอเรียใบหน้าซีดเผือดไม่แพ้กัน หล่อนยืนถือกุญแจค้างอยู่

"คุณข้าว!"

"กลอเรีย!"

"คุณแม๊กซิมัสบอกให้ไขตอนสิบเอ็ดโมง... พร้อมเสิร์ฟอาหาร ฉันไม่นึกว่าเขาจะ..."

ผมแค่นหัวเราะ ส่ายหน้าเบาๆ กลอเรียกัดริมฝีปาก "เป็นแบบนี้... ไม่ได้แล้วนะคะ"

ผมส่ายหน้า "จะทำอะไรได้ล่ะกลอเรีย"

กลอเรียนิ่งไปสักพัก ก่อนจะก้าวเข้ามาในห้อง เดินเลยไปยังส่วนวอล์กอิน-โคลเซ็ท มือหล่อนสั่นระริกขณะรื้อของชิ้นหนึ่งออกมา

มันเป็นกล่องสีขาว หล่อนยื่นให้ผม

"ฉันคิดว่า... คงเป็นการหึงหวงธรรมดาของคู่แต่งงาน แต่พอเห็นไอ้นี่กับที่ขังคุณไว้ในห้องแล้ว..."

ผมเปิดกล่องออก ร่างกายแข็งเป็นน้ำแข็ง...

...ของชิ้นนั้น... ของที่กลอเรียบอกว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยาสินะ

กลอเรียเงยหน้ามองรอบห้องอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะตัดสินใจ "ไม่ได้แล้วค่ะคุณข้าว! คุณถูกทำร้ายขนาดนี้! หนีเถอะค่ะ!"

"หนี ?" ผมถามกลับเสียงเบา

"เขาติดกล้องทั่วห้องแบบนี้ ป่านนี้คงรู้แล้วว่าฉันเอากล่องนี่ออกมา คุณมีเวลาไม่นานให้หนีนะคะ"

"ผมจะหนีไปไหนได้ ?" ผมกระซิบ กลอเรียคว้าแขนผมไว้แน่น

"สถานทูตไทยค่ะ คุณไปขอทำพาสปอร์ตชั่วคราวได้!"

ใจผมที่เต้นแรงกลับสงบอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นของชิ้นนั้น

ราวกับจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายกลับเข้าที่ ผมพึมพำ... นั่นสินะ

เขาหึงหวงผมจนข่มขืนผม และขังผมไว้ในห้อง... เฝ้ามองผมจากทุกที่ผ่านกล้อง

ใช่แล้ว... แต่ทำไมผมไม่โกรธเลย ไร้โทสะ ไร้อารมณ์ ผมหยิบของในกล่องขึ้นมาแล้วส่ายหน้าให้กลอเรีย "ไม่หรอก..."

"คุณข้าว..."

ผมส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆ มองดูกล้องและของในมือ "ผมจะไม่ไปไหน"

ความรักที่บ้าคลั่ง... มากล้น และแล้วความจริงก็คายออกมา

...ทุกอย่างที่เขาทำ ทุกประโยคที่เขาพูด

ไม่ใช่ผม... ไม่ใช่ผมเลยที่ขาดเขาไม่ได้

แต่เป็นเขาที่ขาดผมไม่ได้... ยอมทำทุกอย่าง

ผมกระชับ 'ของสิ่งนั้น' แล้วยิ้มให้กลอเรีย "ผม... ทิ้งเขาไปไม่ได้หรอก..."

.......

ผมขอให้กลอเรียกลับไปก่อน และให้หล่อนล็อกห้องให้ด้วย ผมกินอาหารแกนๆ ไม่รู้รสใดๆ ไม่นานนักก็มีเสียงจากด้านนอกเข้ามา

"ข้าว ?"

ผมวางขนมปังในมือลง รอกระทั่งประตูเปิดออกมา ใจสงบจนน่าประหลาด

แม๊กซ์ยืนอยู่หลังบานประตู... ดูทำอะไรไม่ถูก ผมยิ้มให้เขา...

เสียงเคร้งของโลหะกระทบกันดังขึ้นเบาๆ

'ของชิ้นนั้น' ถูกใช้แล้ว

"เจ้าหญิง..." ดวงตาเขาแดงก่ำ ราวกับจะร้องไห้ ขายาวก้าวเข้ามาใกล้ โอบกอดผมไว้อย่างแรง ผมหัวเราะเบาๆ

"เห็นหมดแล้วใช่ไหม ?"

เขาพยักหน้า

ผมลูบไล้โครงหน้าที่ผมรัก "ฉันทิ้งเธอไม่ได้..."

"เจ้าหญิง ผมทำอะไรลงไป..."

ผมจุ๊ปาก "ชู่ว์ ฉันเป็นภรรยาเธอนะ ต้องอยู่กับเธออยู่แล้ว..."

หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลผ่านแก้มที่มีหนวดเครา เขากวาดตามองร่างกายผมตั้งแต่ข้อเท้า... จนถึงใบหน้า

โซ่เงินมีปลอกหนังคล้องเท้าผมอยู่ โซ่ยาวพอให้เข้าห้องน้ำเท่านั้น ผมเป็นคนล่ามมันกับมือตัวเอง นี่คือ 'ของสิ่งนั้น' ที่แม๊กซ์ซ่อนไว้ในตู้

"เธออยากล่ามฉันมาตลอดเลยสินะ"

"ไม่... ไม่ครับ" เขาตอบทั้งๆ ที่น้ำตานองหน้า "ผมเผลอซื้อมันมา... อารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ข้าว เชื่อผมเถอะว่าผมอยากเห็นคุณยิ้ม หรือหัวเราะมากกว่าขังคุณไว้แบบนี้"

"แต่เธอขังฉัน... คงอยากทำมาตลอด ?"

เขาซบหน้ากับไหล่ผม "ตอนที่ผมรู้ว่าคุณเจอกับไอ้เบนอะไรนั่น ผมอยากข่มขืนคุณ ขังคุณ ให้คุณเป็นของผมคนเดียว แต่ตอนนี้... ผมรู้แล้วว่าผมทำอะไรลงไป"

ผมยิ้ม ประคองใบหน้าเขาไว้ด้วยสองมือ "ฉันเป็นให้เธอได้นะ"

แม๊กซ์คราง

"ฉันจะอยู่แต่ในนี้ เป็นภรรยาเธอ เลี้ยงลูกอยู่ในนี้ ไม่ให้ใครอื่นเห็น"

แม๊กซ์ส่ายหน้า "ยกโทษให้ผมเถอะเจ้าหญิง..." เขาพรมจูบใบหน้าผม ใจผมสงบนิ่งเหมือนน้ำใส เอนกายแนบร่างกายเขา

ไม่ว่าเขาจะตอบกลับมาอย่างไร... ผมก็ไม่กลัวแล้ว

ต่อให้เขาขังผมไว้ พันธนาการผมไว้ด้วยโซ่ ผมก็พร้อมที่จะถูกกักขัง

ผมมันบ้า... บ้าที่หลงรักเขา

เราทั้งสองต่างเป็นคนบ้า... แม๊กซ์กอดผมไว้แนบแน่น "เรา... เรามาเริ่มกันใหม่นะครับ... ผมอาจขอให้คุณให้อภัยมานับไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ผมขอโอกาส จะไม่มีครั้งที่สองแล้วจริงๆ"

ผมคลี่ยิ้มอ่อนโยน ปัดเรือนผมที่ปรกหน้าของแม๊กซ์ออก "อืม เริ่มกันใหม่นะ"

แม๊กซ์กอดผมแน่น... ให้ร่างกายสัมผัสกันและกัน แลกเปลี่ยนความรัก... จนมันลอยละล่อง ฟุ้งทั่วห้องอย่างอ่อนโยน

จะถูกขัง ล่ามโซ่ ถูกข่มขืนก็ช่างปะไร ทว่าทุกอย่างถูกก่อกำเนิดด้วยความรัก...

...รัก จนไม่อาจละทิ้งไปได้

ในอนาคต... ผมมั่นใจว่าแม๊กซ์จะไม่มีวันซ้ำรอยเดิมๆ อีก ทั้งดวงตาและน้ำตาเขาบอกเช่นนั้น...

...รัก จนเจ็บเท่าใดก็พร้อมที่จะเริ่มใหม่

...รัก จนคนภายนอกเช่นกลอเรียไม่เข้าใจ

...รัก จนยอมเป็นบ้า

...รัก ที่รักของผม

...แม๊กซ์จูบผมอย่างดูดดื่ม ปราศจากคำพูดระหว่างเรา มีเพียงความรักที่ลอยตัวอย่างอ้อยอิ่ง และเมื่อแม๊กซ์กำลังเลื่อนมือมาปลดกางเกงผม เขาชะงัก ผมยิ้มบาง

"ไม่เป็นไร... เธอทายาไว้แล้ว... ถ้าเบามือก็ไม่เป็นไร"

เขากัดฟันแน่น ก่อนจะส่ายหน้า "ผมทำคุณเจ็บอีกไม่ได้"

ผมโอบกอดเขาไว้ "ฉันเต็มใจ"

"อา... เจ้าหญิง"

"แม๊กซ์ อัศวินที่รักของฉัน..." เมื่อยอมรับแล้วก็ต้องก้าวต่อ "เป็นแด๊ดดี้ของลูกนะ"

"ได้ครับ... มามิ๊" เขายิ้ม อวดฟันสวย ผมหัวเราะเบาๆ

...ที่จริงแล้วเรื่องราวของผมกับแม๊กซ์มันเรียบง่ายเช่นนี้เอง

ผมรักเขา

เขารักผม

เรารักกัน...แค่นี้เอง

...ข้าวรักแม๊กซ์มากนะ ผมกระซิบเป็นภาษาไทยที่ข้างหูเขา ปล่อยให้เขาลูบไล้เรือนกายตามอำเภอใจ...

...รักมากนะ...

...

เดือนกว่าถัดมา

ในที่สุดก็ถึงกำหนดคลอด ยังไงครรภ์บุรุษอย่างพวกเราก็ต้องผ่าคลอดอยู่แล้ว พิชที่คลอดไปก่อนผมแบกสังขารมาเยี่ยม ปล่อยลูกให้ปาป้าเลี้ยงที่บ้าน อะไรจะสตรองเบอร์นั้น

ลูกสาวของพิชมีชื่อว่าอลิซาเบธ เป็นเด็กน้อยที่คล้ายปาป้ามาก น่ารักน่าหยิกตามประสาเด็กลูกครึ่ง

อ้อ ส่วนเบน หลังจากที่โดนแม๊กซ์อัดก็หายไปเลย ผมได้แต่หวังอย่าให้เขาปรากฏตัวอีก ผมร้ายกาจเกินไปแล้วใช่ไหมเนี่ย

ระหว่างที่รอเวลาลงมีด พิชก็โชว์รอยผ่าตัดที่ขอบไลน์บิกินนี เล็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย เรนก็ชะโงกหน้ามาดูอย่างอยากรู้อยากเห็น พิชยิ้มขำ

"เดี๋ยวก็มี ทั้งคู่แหละ"

เรนทำคอย่น "เจ็บไหมครับ ?"

"ไม่เลย บล๊อกหลังน่ะ แต่มีสติรู้อยู่นะ"

ผมหน้าซีด นึกถึงแม่ขึ้นมาทันที

"คิดถึงแม่สุดๆ เลยล่ะ" พิชเสริมเมื่อเห็นสีหน้าผม เขาช่วยตบบ่าให้กำลังใจ แม๊กซ์เปิดประตูเข้ามา หอบข้าวของพะรุงพะรัง มีอดัม ทีนา และนิคช่วยกันหอบของตามมา

ก่อนกำหนดคลอด แม่โทรมาบอกให้ผมเตรียมตะกร้าสำหรับเตรียมรับเด็กอ่อนไว้แล้ว แต่แม๊กซ์ยังไม่วางใจ ผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าอ้อม และของใช้จุกจิกเต็มสี่กระเป๋า ต้องใช้คนช่วยถืออีกสามคน

เมื่อถึงกำหนด ผมถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด เป็นอย่างที่พิชบอกจริงๆ ผมได้ยินแม้กระทั่งหมอกับพยาบาลคุยอะไรกัน แต่ไม่เจ็บไม่ปวดอะไร

ในที่สุดลูกชายตัวน้อยของผมก็ออกมาลืมตาดูโลก ผมน้ำตาไหล ขณะที่หมอประกาศชื่อว่าเป็นลูกผม พร้อมน้ำหนัก

เจ้าหนูของผมตัวโตน่าดู ผมถูกเข็นไปที่ห้องพักฟื้น หมอบอกให้ผมพยายามออกกำลัง แผลจะได้หายเร็ว

แม๊กซ์ปราดเข้ามาหาผมทันที พิชกับเรนกลับไปแล้ว ส่วนเจ้าตัวน้อยจะถูกเข็นมาทีหลัง แม๊กซ์ยิ้มกว้างจนเห็นรอยย่นที่ขอบตา ผมก็ยิ้มตอบ

ความรู้สึกการเป็นพ่อแม่คนมันเป็นแบบนี้นี่อีก

เราจับมือกันไว้ รอกระทั่งเจ้าตัวเล็กในเปลพลาสติกใสเลื่อนเข้ามาในห้อง พยาบาลแนะนำให้ลูกชายผมดื่มแต่นม อย่าดื่มน้ำหรืออาหารเสริม เพราะยังอายุไม่ถึง

น้ำตาผมหยดแหมะบนแก้มเล็กๆ ลูกสิงโตตัวน้อยกำลังหลับ ขนตาสีน้ำตาลหนาเป็นแพทอดตัวบนเปลือกตาบาง ผมลูบมือเล็กๆ ที่มีรายละเอียดครบถ้วน พึมพำไม่หยุดว่า "ลูกจ๋า..."

แม๊กซ์อดใจไม่ไหว หอมแก้มนุ่มๆ จนเจ้าตัวเล็กทำท่าจะตื่นเพราะรำคาญแด๊ดดี้แก ผมหัวเราะพลางตีแขนแม๊กซ์เบาๆ "เดี๋ยวลูกตื่นหรอก"

แม๊กซ์ยิ้ม มือลูบไล้หลังมือผม "ขอบคุณนะครับ"

ผมยิ้มตอบ "ฮื่อ ขอบคุณเหมือนกันนะ..."

รอยยิ้มที่แม๊กซ์ส่งให้นั้นเจิดจ้า ใบหน้าหล่อเหลาเหมือนดาราฮอลลีวู้ดทำเอาผมใจเต้นเหมือนแรกรัก ทั้งๆ ที่เรามีลูกด้วยกันแล้ว "เรามาเลี้ยงให้แกเป็นเด็กดีนะ"

"ครับ... ได้ทุกอย่าง อ้อ เจ้าหญิง เรื่องชื่อ..."

ผมจูบปลายจมูกเล็กๆ เด็กน้อยอืออาตอบ "ให้ชื่อว่าเลโอ... เพราะแกปรากฏตัวเป็นลูกสิงโตตลอดเลย"

"เลโอ... ผมชอบนะครับ"

"อืม ชื่อกลาง... ให้ชื่อว่าเป็นไทย เลโอ เป็นไทย เฮนเดอร์สัน"

แม๊กซ์จูบแก้มผมแล้วพยักหน้ารับ "เดี๋ยวผมไปจัดการเรื่องเอกสารนะครับ"

"อ้อ เดี๋ยว แม๊กซ์ ขอโทรศัพท์ได้ไหม ?"

"ครับ ?"

"ฉันอยากโทรหาแม่" ผมว่าพลางจะเช็ดน้ำตา แม๊กซ์จูบซับน้ำตานั้นแล้วกดเบอร์ ก่อนจะยื่นให้ผม

"ฮัลโหล ?" แม่ส่งเสียงมาตามปลายสาย ผมตื่นเต้นจนพูดไม่เป็นคำ

"แม่เหรอ!? ข้าวคลอดแล้วนะ" แม่ส่งเสียงร้องลั่นๆ

"เฮ้ย เหรอ อีกไม่กี่วันกูก็ไปหาแล้ว" ตามด้วยเสียงพ่อ น้องชายและน้องสะใภ้ ผมปาดน้ำตาออก คุยกับแม่อีกไม่กี่คำก็วาง ไม่นานนักผมก็หลับไป...

...ในฝัน ไม่มีสัตว์ประหลาด ไม่มีอัศวินหรือเจ้าหญิง

มีเพียงผม... และเด็กน้อยจ้ำม่ำแววตาคล้ายแม๊กซ์กุมมือผมอยู่ และแม๊กซ์... ที่กอดเราทั้งคู่ไว้

...แม๊กซ์... เลโอ... มามิ๊ขอบคุณทั้งสองคนนะ ที่เติมเต็มชีวิตมามิ๊...

...มามิ๊รักแด๊ดดี้กับเลโอนะครับ...

...รักที่สุดเลย...


[END]
.........

//โอ๊ยยย จบแล้วค่าาา เรื่องนี้ใช้เวลานานมาก เทียบกับจำนวนตอนแค่ 10 ตอน เฮ้อ ปาดเหงื่อ กว่ามันจะจบได้ เราลากนังข้าวให้คนอ่านอ่านไปด่ามันไป 555 จบก็ยังอวดหลัวเหมือนเดิม เพิ่มเติมอวดลูก เอากะนางเซ้

ตอนนี้เป็นตอนที่มีเพลงประกอบเยอะมาก อารมณ์ครึ่งแรกกับครึ่งหลังมาคนละม้วน ครึ่งแรกฮานังข้าวยั่วผัว ครึ่งหลังหน่วงๆ แต่สุดท้ายแล้ว ข้าวก็ยังเป็นข้าวรักผัวครับ ยอมผัวทุกอย่าง รักจนทิ้งไม่ได้และยอมทนอยู่ แม๊กซ์ก็ใช้โควต้าให้อภัยไปแล้วครั้งหนึ่ง และมาอีกครั้งตอนจบ เค้าสัญญากันว่าจะไม่มีอีกแล้ว ข้าวก็เชื่อ จะด่านางโง่ก็ได้ค่ะ แต่นางรักมาก รักจนยอมทุกอย่างจริงๆ

มันน่าคิดนิดนึงนะ เบนมาเป็นตัวร้าย + พระรอง แอบสงสารนางอยู่เหมือนกันนะคะ

ส่วนประสบการณ์คลอด เราอ้างอิงจากพี่สาวนะคะ เรายังไม่เคยมีผัวค่ะ //ประกาศอย่างก้าวร้าว มีอะไรผิดไปสะกิดได้เสมอค่ะ

เรื่องรวมเล่มจะมาแจ้งในเพจและในนี้ด้วยนะคะ ส่วนตอนพิเศษคือยังบ่ได้เขียนอะไรเลยค่ะ เลยขอยกยอดไปอยู่ในเล่มนะคะ

เพลงที่ใช้ในตอนนี้ค่ะ

Ultraviolence: Lana Del Rey https://www.youtube.com/watch?v=ZFWC4SiZBao
พูดถึงการใช้กำลังที่ให้ฟีล SM ค่ะ โดนทำร้ายแต่ยังรัก เหมือนนังข้าวเลยค่ะ

Treat you Better: น้องช้อน https://www.youtube.com/watch?v=lY2yjAdbvdQ
พูดถึงการจีบคนที่มีแฟนแล้ว แต่แฟนไม่ดีไง เลยอาสาเป็นแฟนแทน

Lady Marmalade: P!nk Xtina Mya Lil' Kim https://www.youtube.com/watch?v=RQa7SvVCdZk
พูดถึงสาวๆ ในซ่องชวนผู้ไปเล่นจ้ำบ๊ะกันค่ะ

และแล้วเรื่องนี้ก็จบลงแล้วนะคะ (ปาดเหงื่อ) ดีใจที่จบมากๆ เรื่องต่อไปที่จะเข็นคือ Stay Gold ค่ะ หลังจากที่น้องน้ำแกงโดนนังข้าวปาดหน้าอวดหลัวไปปีนึง เราจะค่อยๆ รื้อน้องน้ำแกงมาเขียนต่อนะคะ ตอนนี้จำอะไรไม่ได้แล้ว

...

.

.

.

จบจริงๆ ละค่ะ See you on FB and next story นะค้าาา :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
ใจหายใจฟ่ำหมดดดดด
แต่สุดท้ายก็จบด้วยดี โล่งอกกกก

ปล. รอน้ำแกงอยู่นะจ๊ะ เธอไม่รู้บ้างเลอออออออออออ
 

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
แอบกลัวข้าวจะแท้งลูกมากกกก
แม็กซ์นางจะรุนแรงกับคนท้องเกินไปละนะ
ดีนะนุ้งข้าวนางอึดทึกทน

จบซะแล้ว ยังอยากอ่านคนอวดหลัวต่ออยู่เลยค่ะ
แต่ก้รอเล่มอยู่ด้วยนะคะ ขอตอนพิเศษแบบคอมโบ
จัดเต็มทุกท่วงท่า ทุกลีลา 55555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
จบแล้ววว ทับใจอย่างยิ่ง!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สมควรและที่ขีาวจะอวดผัว  อวดลูก

แม็กซ์ ก็ช่างรัก หลงข้าวซะจริงๆ  :z3: :z3: :z3:
แม็กซ์ ข้าว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

เบน นายทำตัวเองแท้ๆ
ไม่เห็นค่าความรักของข้าว ทิ้งข้าวไปแต่งกับสาว
ฉุกใจได้คิด ก็เสียข้าวไปแล้ว
สมควรที่จะเจ็บปวดไปคนเดียว
ขอบคุณไรท์
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
จะมีตอนพิเศษที่ช่วยกันเลี้ยงลูกไหมคะ
คงวุ่นน่าดู

ออฟไลน์ iNklaNd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
แม็กซ์เอาอีกแล้ว รักแบบแม็กซ์ไม่เรียกรัก มันคือการอยากครอบครอง
แต่เมื่อมาเจอนังข้าวที่พร้อมตามใจ โดยอ้างคำว่ารัก
ก็เหมาะเจาะกันไปค่า ... ส่วนลูกชื่อเลโอ
ถ้ามีตอนพิเศษของน้อง เราว่าโตมานางจะตกหลุมรักผู้ชายชื่อลูคัสแน่นวลลล  :hao3:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
จบแล้วตามมาตั้งแต่ตอนแรกๆ จนแอบมาหาที่ห้องยังไม่มาต่อจนจบ ดีใจที่่่่่่ตอนจบแล้วตัวละครจบแต่เหมือนให้เราจินตนาการต่อได้ว่า เด่วเค้าจะดำเนินไปยังไง ขอบคุณมากๆนะคะ

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ชอบค่ะ เป็น 10 ตอนที่ดีมากเลย แต่ยังอยากได้ตอนพิเศษอยู่น้าาา อยากเห็นตอนเลโอเป็นหนุ่มจังค่ะ น่าจะคล้ายพ่อน่าดู

ปล.แบบรวมเล่มอยากให้มีอีบุ๊คด้วยจังค่ะ //ปิ๊งๆ

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
มีความอวดหลัวแรงเวอร์!!!

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านถึงหน้า4 ทนไม่ไหวแล้ว ขอเม้นก่อน
ฉากส่งรูปแล้วถามว่า อิจฉามะ
อย่าว่ายัยผีนั่นอิจฉา คนอ่านก็อิจฉาค่ะ ปัดโถ่ววว เรื่องอวดผัวชัดๆ ชีช้ำกระดองใจ แต่เราก็อ่านต่อ งงตัวเองเหมือนกัน 5555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด