#43
ดีนไม่เคยเห็นพ่อโกรธขนาดนี้มาก่อน ร่างสูงกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครสักคน แต่ดูจากสีหน้าแล้ว เนื้อหาที่คุยคงไม่น่าอภิรมณ์นัก จนกระทั่งได้ข้อสรุป
“บอกที่อยู่ของเลมา แล้วฉันจะเซ็นยกบริษัทให้เป็นของแก” คนฟังเบิกตากว้าง จังหวะเดียวกันที่เครื่องแฟกซ์ปริ้นอะไรบางอย่างออกมา พ่อเขาเดินไปหยิบมันมาวางลงบนโต๊ะ หยิบปากกาเซ็นก่อนจะส่งแฟกซ์กลับไป “ฉันเซ็นให้แกแล้ว บอกมาว่าที่ไหน”
มือหนาจดอะไรบางอย่างลงกระดาษก่อนจะยื่นมันมาให้เขา แต่หลังจากนั้นไม่นานคนคุยโทรศัพท์อยู่ก็ถึงกับสบถออกมาเป็นคำหยาบ พ่อกดวางสายแล้วเร่งเดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์
“มีอะไรเหรอครับ”
“มันบอกที่อยู่แต่มันไม่รับประกันความปลอดภัย ไอ้เฟรดดี้มันตั้งใจจะเอาทั้งของเราแล้วก็ทำให้แฮมินตันแพ้ในครั้งเดียว หัวใสขึ้นเยอะ จบงานนี้ได้เมื่อไหร่รับรองว่ามันจะไม่ได้เกิดอีกแน่”
“ก็พ่อปล่อยให้เขาบริหารตั้งสิบกว่าปี” ดีนอดแขวะไม่ได้
“ก็ตอนนั้นมันไม่มีค่าสำหรับพ่อ” ทั้งสองขึ้นประจำตำแหน่งบนเฮลิคอปเตอร์ ไม่นานนักตัวเครื่องก็ลอยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดีนพิมพ์โทรศัพท์ส่งข้อความบอกที่อยู่ให้คนซึ่งน่าจะโกรธจนแทบคลั่งแล้วเช่นเดียวกัน ไม่มีใครพอใจ ดีนดูเหมือนจะยังใจเย็น แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้เขาก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ดีนควรรู้เอาไว้”
“อะไร”
“เลเป็นน้องดีน” มือหนาที่กดโทรศัพท์อยู่ถึงกับชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้ามองพ่อตัวเองด้วยสายตาตกตะลึง “น้องแท้ๆ”
“พ่อมั่นใจแค่ไหน”
“ตอนนี้ 98%”
“แล้วอีก 2% ล่ะ”
“เก็บไว้เผื่อตรวจ DNA”
lamborghini aventador สีแดงโฉบเฉี่ยวกำลังพุ่งทะยานอยู่ในท้องถนนด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากได้ที่อยู่ของเลจากดีน ฮิมเหยียบคันเร่งชนิดที่ว่าไม่แตะเบรก เขากลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายมากกว่ากลัวว่าตัวเองจะตายหลายเท่า ยิ่งดีนโทรมาบอกเตือนว่ามันบอกที่อยู่ให้แต่มันยังไม่ได้รับประกันความปลอดภัย ฮิมก็ยิ่งสงบจิตใจไม่ลง
ร่างสูงโกรธชนิดที่ว่าชาตินี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะโกรธใครได้เท่านี้อีกไหม มันลักพาตัวเมียเขา ในวันที่เขาตั้งใจจะขอเลแต่งงาน ทำให้วันที่ฮิมตั้งใจจะทำให้มันเป็นวันที่ดีที่สุดกลายเป็นวันที่แย่ที่สุดแทน
ถ้าหากคนดีของเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาล่ะก็ ฮิมมั่นใจว่าวันนี้อาจจะเป็นวันแรกที่เขาจะได้ฆ่าคน
เอี๊ยด!
รถคันหรูเริ่มชะลอเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย จอดรถห่างมาอีกหน่อยเพื่อไม่ให้พวกมันสังเกตุเห็น มือหนาหยิบปืนในจังหวะเดียวกันที่มีคนมาเคาะประตู ชายสองคนที่ไม่พูดอะไรนอกจากโค้งหัวเคารพ ฮิมไม่ถาม ด้วยท่าทีนั่นคงเป็นคนที่ทำงานกับด้านมืดของแฮมินตันอย่างที่พ่อเขาเคยพูดเอาไว้นานแล้ว ทั้งสองล้มหน้าล้อมหลัง และไม่พูดอะไรนอกจากพาเขาเดินไปอีกทาง ย่องเข้าทางด้านข้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ แอบมองเข้าไปด้านในผ่านช่องว่างของผนังปูนที่ผุพัง
แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้ฮิมสติแตก…
“อย่าพึ่งครับท่าน พวกมันมีปืน” ชายคนหนึ่งออกแรงรังเมื่อฮิมทำท่าว่าจะบุกเข้าไป
“ให้กูรอเมียกูตายก่อนเลยไหมถึงจะบุกน่ะ” ฮิมกัดฟันกรอด ภาพที่เห็นคือเลถูกปิดปาก ข้อมือทั้งสองข้างถูกจับมัด ห้อยกับแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ด้านบนโดยที่ขาของน้องลอยพื้น ข้อมือที่เป็นตัวตึงแรงทั้งหมดเริ่มช้ำและได้เลือด จนฮิมไม่อยากจะคิดเลยว่าเลจะเจ็บขนาดไหน
“เราล้อมไว้หมดแล้ว แต่พวกมันยังอยู่ใกล้คุณเลมากเกินไป ถ้าเราเริ่มยิงใครสักคนในนั้น กลัวว่าพวกมันที่เหลือจะยิงใส่คุณเลกลับ และหากเรายิงไม่โดน เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที”
ฮิมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ต้องทำยังไง”
“หนึ่งรอให้พวกมันออกห่าง และสองคือรอให้นายท่านเจรจา ฝ่ายนั้นบอกว่าแฮมินตันต้องแพ้ในศาล”
คนฟังถึงกับเม้มปาก เขาเชื่อว่าพ่อเห็นเลสำคัญ แต่ผลกระทบต่อธุรกิจหลังจากนั้นมันมากมายมหาศาล ร่างสูงกำหมัดแน่น ตั้งใจจะอดทนรอต่อถ้าไม่ใช่เพราะมองเข้าไปในโกดังอีกครั้งแล้วพบว่าเลตื่น…
เจ็บ
คำนี้ผุดขึ้นมาในสมอง ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้น ภาพที่เห็นทำให้เลตกใจหากทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่ง เพราะเมื่อขยับ อาการเจ็บจี๊ดก็พุ่งเข้าสู่ข้อมือ เลก้มลงมองพื้นจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดที่ข้อมือมันเกิดจากอะไร เมื่อพบว่าเท้าของตัวเองนั้นลอยพื้นอยู่
“แกตื่นแล้วงั้นเหรอ” เสียงแหบของใครสักคนว่า เจ้าของเสียงเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างไม่สูงไม่เตี้ย อีกฝ่ายไล่สายตายืนกอดอกมองเขาราวกับประเมิน “ฉันเสี่ยงจับตัวแกมา เพราะมีคนๆ หนึ่งมาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตัน ตั้งใจจะใช้แกต่อรองพวกมันให้แพ้ในศาล ไม่นึกว่าจะมีประโยชน์มากขนาดนี้”
เลตอบกลับไม่ได้ เขาถูกปิดปากด้วยผ้ากลิ่นฉุน ร่างเล็กได้กวาดสายตาสำรวจขณะที่ฟังอีกคนพูด “สำคัญต่อแฮมินตัน แล้วยังสำคัญถึงขนาดที่แอรอนเซ็นยกบริษัทให้ฉันแบบง่ายๆ เพื่อขอที่อยู่ของแก”
ร่างบางปวดศีรษะ หัวเขากระแทกกับประตูตอนที่รถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนโดยไม่มีเหตุผล
แต่ในสถานการณ์นี้เลเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงถูกชน คงเพราะเพื่อจับเขาให้มาเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอะไรสักอย่าง
ดวงตากลมเริ่มต้นสำรวจโดยการมองไปรอบด้าน ยิ่งเห็นความรู้สึกกลัวก็ยิ่งซึมลึกเข้าถึงขั้วหัวใจ ผู้ชายห้าคนยืนถือปืนวนอยู่รอบตัวเขา ในห้องโถงขนาดใหญ่ชำรุดทรุดโทรมทว่าคุ้นตา
ที่นี่…
เขาหันไปสบตากับคนตรงหน้า ผู้ชายอังกฤษ ตาสีฟ้า ในชุดสูทสีน้ำเงิน เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเลคิดอะไร เจ้าตัวถึงได้เป็นคนเฉลยให้
“ดูคุ้นหรือเปล่า ไอ้คนที่มาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตันขายที่นี่ให้ฉัน มันบอกว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของแก” เขานิ่งเงียบ รู้ได้ทันทีว่าคนที่อีกฝ่ายพูดถึงคือใคร
พ่อที่ไม่ใช่พ่อของเขาอีกต่อไปแล้ว
ถึงจะไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ถึงจะไม่ได้ผูกพันธ์ แต่เลก็เคยคิดว่าคนๆ นั้นเป็นพ่อของตัวเองมาเกือบยี่สิบปี ความรู้สึกที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อนั้นจึงยังหลงเหลืออยู่ แต่วันนี้มันจบแล้ว จบแล้วจริงๆ คนๆ นั้นไม่ใช่พ่อของเขา ไม่ใช่ตั้งแต่แรก
“มันรู้แล้วว่าแกอยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาช่วยแก”
เลไม่ได้ฟัง เขาก้มหน้าลงแต่ในจังหวะที่เงยขึ้น สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับดวงตาคมคู่หนึ่งผ่านช่องว่างเล็กๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเต็มตา เลก็จำได้ว่าเจ้าของดวงตานี่คือใคร
พี่ฮิม
ร่างบางอดที่จะแสดงอาการดีใจไม่ได้ แต่ดีใจได้ไม่นานความกลัวก็กลับมาครอบงำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปลายกระบอกของปืนสีดำถูกจ่ออยู่กลางคอ
“แต่ถ้าแกยังเป็นตัวประกับให้ฉันแบบนี้ พวกมันคงไม่กล้าทำอะไร” เลสูดลมหายใจเฮือก หัวใจเขาเต้นระรัวตอนที่อีกฝ่ายอ้อมไปทางด้านหลัง ตะปบมือลงบนสะโพกแล้วลูบอยู่อย่างนั้น
เขาสบตากับพี่ฮิม นัยน์ตาคมคู่นั้นแววโรจน์ด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เลพยักหน้าให้ พยายามบอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจว่าฮิมมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องรอก่อน ไม่อยากนั้นอีกฝ่ายเองก็คงบุกเข้ามาช่วยเขาแล้ว
“ฉันเข้าใจว่าแกสำคัญกับแฮมินตันยังไง แต่แปลกใจที่แกดันสำคัญกับแอรอนด้วย หมอนั่นแทบไม่เคยมีจุดอ่อน แล้วอยู่ๆ แกก็ดันไปเป็นจุดอ่อนของมันซะได้” มันไล่มือขึ้นไปถึงเอว ล้วงเข้าไปในเสื้อฮู้ดแล้วไล่นิ้ววนตรงตุ่มไต ทว่าทันทีที่มืออีกข้างของมันเลื่อนลงด้านล่าง เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงอย่างช้าๆ เวลานั้นเองที่เลกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
“อยากรู้จริงๆ ว่าทำไม”
ปัง!
“ปล่อยมือออกจากเมียกูเดี๋ยวนี้”
ฮิมทนไม่ไหว เขาทนแล้วแต่มันไม่ไหว
มันจับเมียเขามัดขึงจนเท้าลอยพื้นไม่พอ มันยังกล้าลวนลามน้องอีก
รู้ตัวอีกทีฮิมก็เดินไปที่หน้าประตู เปิดมันเข้ามาโดยที่มีปืนห้ากระบอกหันมาทางเขาพร้อมที่จะยิงเข้าใส่
เพราะคนสำคัญต่อแฮมินตันเผยตัว เหล่าบอร์ดี้การ์ดที่คอยคุมกันจึงต้องเผยตาม ไม่นานนักห้อโถงที่ว่าใหญ่ก็เล็กลงไปถนัดตาเมื่อคนจำนวนมากแห่เข้ามาด้านใน หันปืนใส่กันคอยแต่จะกดลั่นไกถ้าไม่ติดที่ว่าตัวประกันอย่างเลถูกจับมัดเอาไว้ ถูกปืนสีดำกระบอกหนึ่งจ่อแนบชิดติดลำคอ
“คิดเอาไว้แล้วว่าต้องมา แล้วยังไงดีล่ะ ถ้ายิงฉันเด็กนี่ก็ตายตามไปด้วย จะเอาแบบนั้นไหม”
หยดเลือดสีแดงไหลจากข้อมือหยดลงตามต้นแขนที่ถูกรวบตึงแน่น ฮิมกัดฟันกรอด เขามองน้องแล้วพยายามต่อรอง
“เอาเลลงมา”
“ทำแบบนั้นแล้วฉันจะได้อะไร”
“อยากได้อะไร”
“สัก 10 ล้านเป็นไง ค่าเอาเด็กนี่ลงน่ะ”
“ได้ เงินสิบล้านดอลลาร์จะถูกโอนเข้าบัญชีของแก” ฮิมตกลงแบบไม่ต้องคิด ทว่า…
“อย่ามาตลก” มันเค้นเสียงหัวเราะใส่ “สกุลดอลลาร์ที่ไหน ยูโรต่างหาก”
10 ล้านยูโร แปลงเป็นสกุลเงินไทยเท่ากับ 400 ล้านบาท
“ได้” เขายอมจ่ายเพื่อไม่ให้เลเจ็บ ทุกอย่างถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง และทันทีที่มันได้สิ่งที่ต้องการ เลถูกปล่อยลง เท้าน้องแตะพื้นพอให้ฮิมได้หายใจคล่องขึ้นบ้าง นัยน์ตาคมมองไปยังข้อมือขาว ถ้าทำได้เขาอยากใช้เงินสั่งให้มันปลดเชือกที่รัดข้อมือเลจนเลือดออกนั่นอีก จะให้จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม
“ได้เรื่องเล็กกันแล้วมาพูดเรื่องใหญ่กันดีกว่า รู้ใช่ไหมว่าถ้าจะเอาตัวเด็กนี่ไปต้องแลกด้วยอะไร”
ทุกอย่างกลับมาจริงจัง ฮิมพยักหน้ารับ “แฮมินตันต้องแพ้ในศาล”
“แล้วแพ้หรือยังล่ะ”
“แพ้แล้ว”
(40%)
#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์
นักอ่าน : ไหนความหวาน ไหนๆ ความหวานของชั้นอยู่ไหน!
me : ท่านสามารถหาได้ในตอนพิเศษที่จะไม่มีลงในเว็บนะคะ-- ผัวะ! // โดนตบ
ล้อเล่นน้าา! ต่อจากตอนนี้มันก็หวาน หวานแล้ว หวานจริงๆ พอได้อิ่มใจ สาบาน! ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดต้องซื้อเล่มอย่างเดียว แต่ถ้าหวานจนน่าหมั่นไส้จะอยู่ในตอนพิเศษที่จะไม่ได้ลงเว็บค่ะ (ให้ฉันมีอะไรได้ขายบ้าง เพราะตอนนี้ก็ลงให้อ่านแทบทุกอย่างแล้วค้าบบ ;--;)