• แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: • แฟนวิศวะ • 290519#sp - Never have I ever p.57  (อ่าน 605327 ครั้ง)

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
«ตอบ #1620 เมื่อ21-02-2019 20:04:13 »

ตัดจบแบบ...ขัดใจจจจจ
คิดถึงแล้วนะ

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 090117#41 p.54
«ตอบ #1621 เมื่อ21-02-2019 23:10:15 »

ทำไมทำร้ายกันแบบนี้  รอตอนต่อไป  :pig4:

ออฟไลน์ :mdred

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-61
• แฟนวิศวะ • 060318#42 p.55
«ตอบ #1622 เมื่อ06-03-2019 00:21:10 »



#42



แอด

“กลับมาแล้วเหรอ” ผมเอ่ยทักพี่ฮิมที่เดินเข้ามาในห้อง ร่างสูงเดินดุ่มๆ มาที่เตียงก่อนจะล้มตัวนอนทับผม “อื้อ หนักจัง! หือ ฮิมดื่มมาเหรอ”

ถามเพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์ พี่ฮิมพยักหน้า

“นิดหน่อยครับ” ผมขย้ำกลุ่มผมนุ่มเล่น คนที่นอนทับพุงเลอยู่ก็เลยเงยหน้าขึ้นแล้วพุ่งเข้ามาจูบริมฝีปาก มือหนาเลื่อนลงล่าง รูดซิบกางเกงของเลลง ผมรีบจับมือฮิมเอาไว้ก่อนที่มันจะเกินไปมากกว่านั้น

“พี่ฮิม น้องยังไม่ได้อาบน้ำ” คนติดกลิ่นแอลกอฮอล์ไซร้คอเลทีนึงก่อนจะผละออก ไปถอดเสื้อผ้าจนร่างกายเปล่าเปลือย ผมมองตามว่าฮิมจะทำอะไรจนกระทั่งเขาเดินเข้ามาอุ้มผมไปยังห้องน้ำ “ทำอะไรเหรอ”

“อาบน้ำ”​ ปากว่ามือถอดเสื้อผ้าของผมออกจนหมด น่าแปลกที่หลังจากนั้นฮิมไม่ได้พาไปที่อ่างแต่พาไปที่ฝักบัว เปิดก๊อกน้ำแล้วประกบริมฝีปากอีกครั้งหนึ่ง ผมถูกดันแผ่นหลังติดกำแพง ยกมือยึดบ่าหนาเป็นที่ค้ำ ขณะเดียวกันที่พี่ฮิมแทรกเข่าเข้ามาระหว่างขาทั้งสองข้าง ออกแรงยกขึ้นให้เท้าเลลอยเหนือพื้นจนเริ่มรู้สึกเสียวท้องน้อยวูบวาบ

จูบเร่าร้อนกินเวลานานกว่าสิบนาที จนตัวเลเปียกไปหมดเพราะน้ำจากฝักบัวที่เปิดให้มันไหลสาดลงมา เขาปล่อยริมฝีปากผม มือหนาปิดน้ำ จับหันหลังก่อนจะบีบสบู่เหลวล้นมือแล้วนำเอาลูบตัวเล เริ่มจากไหล่ หน้าอก หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขาและลึกเข้ามาถึงด้านใน

“อื้อ! พี่ฮิม” สองนิ้วเรียวกดเข้ามาคว้านลึกจนผมมีอารมณ์ตอบรับ อีกฝ่ายบังคับให้ขาเรียวอ้ากว้างในท่ายืนโดยการถูไถแก่นกายเข้ากับร่องสวยใต้รูเล็ก ทำให้อยากแทบทนไม่ไหว “อยากได้ฮิม”

ความปรารถนาของผมถูกเติมเต็มเมื่อแก่นกายร้อนผ่าวค่อยๆ แทรกเข้ามาด้านใน คนด้านหลังทิ้งตัวทาบแนบแผ่นหลังเลพร้อมกับจูบซบที่หัวไหล่ เริ่มต้นขยับสะโพกไปด้วยจังหวะเนิบนาบ

มือของผมถูกจับไขว้หลัง แผ่นอกขาวเปลี่ยนไปเป็นตัวค้ำ ยอดดอกเสียดสีไปตามผนังยามที่ร่างสูงกระทบสะโพกเข้าใส่แรงและเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ดีจนอยากจะบ้า

เราใช้เวลาในห้องน้ำไม่นาน เพราะหลังจากที่เสร็จเซ็กส์ครั้งแรกจบลง พี่ฮิมก็หันมาอาบน้ำให้ผมแบบจริงๆ จังๆ พร้อมกับเช็ดตัวให้เสร็จสรรพ

คิดว่ามันจบแล้วสินะ เปล่าหรอก

เพราะเราไปต่อกันบนเตียง



กิจกรรมบนเตียงนานกินเวลายาวนานเกือบสามชั่วโมง เลถูกแกล้งให้เป็นฝ่ายขึ้นตักนั่งขย่มอยู่นานหลายนาที และท้ายที่สุดมันก็จบลงตรงที่เจ้าของกายขาวแทบสลบ เลหายใจรวยริน ขณะซบหน้าลงตรงอกกว้างของคนที่นั่งพิงผนังหัวเตียงพลางกรีดนิ้วไล่แผ่นหลังขาวเล่น ปลายจมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่กลุ่มผมน้ำตาลเข้มและกระหม่อมบาง ริมฝีปากจูบซับเหงื่อไคลให้อย่างใคร่รัก

“พี่จะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีเล” ประโยคเปิดหัวข้อสนทนา เป็นผลให้คนที่ใกล้หลับแต่ยังไม่หลับต้องลืมตาขึ้น

แว่วเสียงทุ้มเจือความกังวลจนคนฟังจับสัมผัสได้ มือบางยกขึ้นลูบไล้ไปตามโครงหน้าคม เลยืดตัวขึ้นจูบเข้าที่ปากของอีกฝ่าย บอกให้รู้ว่าเขายังอยู่ที่นี่ ตรงนี้

สัมผัสบางเบาแต่ลึกซึ้งทำให้ร่างสูงยิ้มออก ฮิมจับมือที่ทาบแก้มตัวเองเอาไว้ ดึงมันมาแนบจูบลงไปที่หลังมือพร้อมทั้งใช้ลิ้นไล่เลียเบาๆ ไปตามร่องนิ้วจนชื้นแฉะ ขณะที่น้องถอนจูบออกก่อนจะวกลับไปซบหน้าลงกับอกแกร่งแล้วปิดตาแน่น

“เลอยู่กับพี่ฮิม” เสียงนุ่มพึมพำ ขยับเขยื้อนตัวนอนทาบบนกายหนาของอีกคนอย่างเต็มที่ “ฮิมต้องอยู่กับเลนะ”

“ตลอดไปเลยครับ” ฮิมว่า ขณะจัดท่าให้คนตัวบางนอนบนร่างกายตัวเองได้ง่ายขึ้น

“ดีจัง” เลตอบกลับก่อนจะเงียบไป เขารู้ว่าน้องใกล้หลับเต็มทนจึงไม่ถามอะไรต่อ ร่างสูงลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกฝ่ายให้หลับแทน ใช้เวลาไม่นานสุดอย่างก็เงียบ

เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเลหลับไปแล้ว

คนตัวสูงยังไม่ยอมนอนตาม นัยน์ตาคมแอบสำรวจร่างเล็กอีกพักหนึ่ง แสงจากด้านนอกลอดผ่านเข้ามาพอให้เห็นเป็นรางๆ เลตัวแดงกว่าปกติซึ่งเป็นผลมาจากความเอาแต่ใจของเขา รุกไล่ บีบขย้ำและทำรอยใส่แทบทุกที่ที่ริมฝีปากเคลื่อนไปถึง

พรึบ!

ผ้านวมถูกตวัดออก ฮิมหลุบตาลงมองสภาพต้นขาเรียวที่เต็มพร่างไปด้วยรอยจูบด้วยความพึ่งพอใจ นัยน์ตาคมตวัดกลับมามองที่ใบหน้าสวย แอบแกล้งน้องโดยการเอื้อมมือมาบีบแก้มนิ่มเข้าหากันจนคนหลับทำปากจู่เหมือนปลาปักเป้าแต่ถึงอย่างนั้นเลก็ยังน่ารักที่สุดอยู่ดี ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ เลไม่เคยน่าเกลียดในสายตาเขา ไม่เคย

มีแต่น่ารัก น่ารัก น่ารักเต็มไปหมด

ฮิมก้มลงจูบปากจ่อก่อนจะปล่อยมือออก อิงแนบศีรษะเข้ากับกลุ่มผมนุ่ม ประสานมือกับน้องเอาไว้แบบหลวมๆ ชั่ววินาทีเดียวปลายนิ้วของเขาสัมผัสนิ้วนางข้างซ้ายของอีกฝ่าย นิ้วเรียวไล่วนตรงนิ้วนางของอีกคนอยู่อย่างนั้น ปกติฮิมไม่เคยมีปัญหากับการที่เลไม่ใส่เครื่องประดับ พึ่งจะมารู้สึกว่านิ้วสวยๆ ของน้องมันออกจะว่างเปล่าเกินไป

ว่างเปล่าเกินไปจนอยากหาอะไรมาใส่ให้นิ้วนี้อย่างเช่นแหวน

ฮิมเคยบอกเลเอาไว้ว่าเขาอยากแต่งงานกับน้องหลังเรียนจบ เรียนจบที่ว่าไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่ใช่ของน้องเลแต่เป็นเขาเรียนจบ นั่นก็ว่าเร็วแล้ว ทว่าหลังจากที่มีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน ฮิมถึงได้รู้สึกว่ามันยังเร็วไม่พอ

หลักฐานทุกอย่างบนกายขาวชี้ชัด เจ้าตัวเป็นเมียทางพฤตินัยของเขามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

อย่าถามถึงเรื่องความรู้สึก เลได้มันไปแล้วตั้งแต่อีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กอายุไม่ถึงสิบขวบเลยด้วยซ้ำ ฮิมหลงรักคนตรงหน้า รักแรกที่ยาวนานที่สุดและมั่นใจว่ามันจะเป็นรักสุดท้าย

เจ้าของกายหนานิ่งอยู่นานเพราะต้องใจความคิด สติเขาหลุดก็ตอนที่เลครางพร้อมกับบิดตัวเมื่อยเนื่องจากอยู่ในท่ากึ่งนั่่งกึ่งนอนมาเกือบหนึ่งชั่วโมง น้องงัวเงียตื่นแต่ไม่ได้พูดอะไร ร่างบางขยับออกจากตักเขาไปนอนราบปล่อยให้ฮิมนั่งพิงหลังกับหัวเตียงต่อ เลเงียบไปอีกจนเขาคิดว่าน้องหลับไปแล้ว ทว่าจู่ๆ คนที่น่าจะหลับก็ยืดตัวขึ้น ยื่นมือมาโอบคอเขาแล้วดึงให้นอนราบลงข้างกาย เลจับใบหน้าหล่อเหลาแนบเข้าอก สอดมือคลึงกลุ่มผมหนาพร้อมกับเอ่ยราตรีสวัสดิ์

“Sleep tight, babe” สรรพนามที่ไม่ค่อยถูกใช้แทนตัวฮิมส่งผลให้คนฟังเผยรอยยิ้ม เขากอดเอวคอดเอาไว้ ขยับตัวขึ้นจัดท่าสลับตำแหน่งให้น้องมาซบอกเขาแทน นัยน์ตาคมมองหน้าคนรัก

“เมียพี่” เสียงทุ้มกระซิบใส่ข้างหูก่อนจะหลับตาลง ไม่คิดอะไร

ฮิมตัดสินใจแล้ว



หลายวันต่อมา

“หรือพี่ฮิมจะมีกิ๊ก” สิ้นเสียงของผม ปลายสายที่กำลังคุยอยู่ก็ถอนหายใจดังชนิดที่ว่าไม่เกรงใจกันเลยสักนิดเดียว “อะไรเล่า! พี่วินอะ”

(เลอย่าคิดมาก)

“อือ เลคิดมาก แต่เลไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ อะ”

(ทำไมถึงคิดอย่างนั้น) ผมขมมวดคิ้ว นึกไปถึงช่วงหลายวันก่อน

“ก็พี่ฮิมทำตัวแปลกๆ”

(มันแปลกยังไง)

“ยิ้มเยอะ ไม่เครียดเลย ดูมีความสุขมากสุดๆ”

(แปลกตรงไหนวะ)

“ก็ปกติฮิมไม่เป็นแบบนี้นี่!” มันดูมีความสุข มีความสุขมากเกินไป ผมเคยถามว่ามีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรออีกฝ่ายก็ให้คอตอบกลับมาว่า “พี่ฮิมบอกว่าธุรกิจที่มีปัญหาเริ่มราบรื่น ก็เลยมีความสุข”

(มีเหตุผลดีนี่ เลรู้ไม่ใช่เหรอว่าแฮมินตันช่วงนี้ก็กำลังมีปัญหาขัดแข้งกับคลาร์ก พึ่งออกข่าวว่าจะขึ้นศาลกันไป)

“ก็รู้” ตอนผมรู้ข่าว นามสกุลคู่แข่งที่คุ้นแสนคุ้นทำเอาผมตกใจ รีบโทรไปหาคุณพ่อของพี่ดีนแล้วก็ได้รับคำตอบมาว่าไม่ต้องห่วง ทุกอย่างจะดีขึ้นโดยที่แฮมินตันจะไม่เสียอะไร “แต่มันก็ไม่น่าจะมีความสุขได้มากขนาดนั้นไหม”

ได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือก ดังมาก! (น้องเล เรื่องอื่นพี่อาจจะเห็นด้วยแต่ถ้าคนมีความสุขแล้วไปหาว่าเขามีกิ๊กนี่มันออกจะยังไงอยู่นะ)

“ก็พี่วินไม่เข้าใจน้องอะ!” ผมอยู่กับพี่ฮิมมานานกว่าครึ่งชีวิตของผมซะอีก เข้าใจไหมว่ามันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายต้องมีอะไรปิดบัง แต่ดันไม่มีหลักฐานสักอย่างที่จะทำให้ผมรู้ว่าพี่ฮิมกำลังปิดอะไรอยู่ บอกไปใครจะเชื่อเล่า “พี่วินก็ไม่เชื่อเลเหรอ!”

(ก็ไม่เชื่อ?) เสียงทุ้มทวนคำพูด ตรงจุดจนทำให้ผมขนลุก (เอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครมาก่อนใช่ไหม)

“นิดหน่อย”

(ใคร?) ผมหน้าส่าย ไม่อยากบอกอย่างรุนแรงแต่ก็ต้องจำใจ

“พี่ดีน”

(เล!) น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายใจดังตามมา (ญาติก็ไม่ใช่ พี่ก็ไม่ใช่ ไปคุยกับมันทำไม)

“ก็เลโทรหาพี่วินก่อนแล้ว แต่พี่วินไม่รับสายน้องนี่”

(กูทำงานอยู่)

“อือ รู้ไงก็เลยโทรไปคุยกับพี่ดีนก่อน”

(แล้วคำตอบที่ได้?)

“เหมือนๆ กันอะ” ไม่ใช่แค่เหมือนหรอก แต่แทบจะตรงกันเป๊ะเลยต่างหาก ความคิดของพี่ดีนกับพี่วินมักจะคล้ายกัน ในบางเรื่องก็คล้ายกันจนน่ากลัวด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดที่ว่าสองคนนี้ชอบกัดกันบ่อยๆ ผมคงคิดว่าพวกเขาแอบไปอยู่ด้วยกันแน่ๆ เพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ที่ดูไบ พี่วินมีงานก่อสร้างที่นั่น ส่วนพี่ดีนก็พึ่งบินไปจัดการเรื่องเพชรเมื่อสามวันก่อน

(กังวลเหรอ) คำถามเผยความในใจ ผมพยักหน้าแม้ว่าคนปลายสายจะไม่เห็น พี่วินเหมือนจะรู้ว่าเลคิดอะไรอยู่ คำพูดของอีกฝ่ายช่วยทำให้ผมคิดได้เสมอ (พี่อาจจะไม่ได้ชอบไอ้ฮิมจนเชื่อทุกคำพูดของมันแบบเลไปซะทุกเรื่อง แต่มีเรื่องหนึ่งที่พี่เชื่อมันมากคือมันรักเล)

“อือ เลรู้”

(งั้นก็เชื่อใจ) ผมพยักหน้า ขี้เกียจคิดแล้ว ฟังพี่วินแล้วเชื่อใจพี่ฮิมถึงจะรู้สึกว่ามีอะไรคาราคาซังบ้างก็เถอะ

โทรศัพท์ขึ้นว่ามีสายแทรก เป็นเบอร์ของคนที่เป็นตัวต้นบทสนทนา

“พี่วินเลมีสายแทรก”

(งั้นแค่นี้แหละ มีไรโทรหากูแล้วกัน)

“จ้ะ” ผมตัดสายพี่วินแล้วกดรับสายพี่ฮิม

(รับช้าจัง พึ่งตื่นเหรอครับ)

“ตื่นนานแล้ว เมื่อกี้เลคุยกับพี่วินอยู่” ผมบอกความจริง ขณะเอนตัวทิ้งลงบนเตียง เงยหน้ามองเพดาน “ฮิมมีไรเหรอ”

(มากินข้าวกับพี่หน่อย) ยกโทรศัพท์ออกจากหูแล้วดูเวลา ใกล้เที่ยงแล้ว (พี่ส่งคนไปรับเลแล้ว รถรออยู่ที่หน้าบ้าน)

ผมถึงกับขมวดเมื่อได้ยิน บริการดีแบบนี้แสดงว่าอยากให้ไปมาก สงสัยจนต้องเอ่ยปากถาม

“มีอะไรพิเศษหรือเปล่า”

(ฉลองเงินหมื่นล้านให้น้องเลก่อนล่ะมั้ง) เลร้องอ๋อในใจ วันนี้ปัญหาธุรกิจน้ำมันระกว่างแฮมินตันกับคลาร์กขึ้นศาลกันวันนี้ ถ้าแฮมินตันชนะ เงินจำนวนมหาศาลที่ทุกคนอดทนต่อสู้กันมาก็จะกลายเป็นของเล ผมแทบวิ่งไปกอดพี่ฮิมและคุณพ่อฮิมอยู่แล้วตอนที่ได้รู้ว่า หลายสัปดาห์ที่เห็นทั้งสองกลับบ้านดึกเพราะทำงานหนักนั่น ทุกอย่างทำเพื่อผม

“เลต้องแต่งตัวดีๆ ไหม” ถามเสียงเบาเพื่อความแน่ใจ

(ขอน่ารักๆ)

“โอเคแล้วเจอกัน” ผมกดวางสายพี่ฮิม รีบลุกขึ้นไปแต่งตัวจากนั้นจึงเดินลงไปขึ้นรถที่จอดรอด้านล่าง “โอ้โห้”

ผมอ้าปากค้าง มองรถสปอร์ตคันหรูและคนขับที่ใส่ชุดทักซิโด้ยืนรออยู่ เริ่มรู้สึกว่าจะเป็นงานสำคัญจนต้องก้มลงมองตัวเอง เสื้อฮู้ดสีเหลืองกับกางเกงขาสามส่วนสีน้ำตาลอ่อน

แบบนี้น่ารักไหมหว่า

ตอนที่กำลังคิดว่าควรจะเปลี่ยนชุดดีไหม คนขับรถก็เดินไปเปิดประตู ส่วนผมเดินเข้าไปนั่งอย่างว่าง่าย

ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นเราก็ออกเดินทาง ผมกดโทรหาพี่ฮิมเพื่อที่จะรายงานอีกฝ่ายว่าออกจากบ้านแล้ว และเมื่อปลายสายกดรับ

“พี่ฮิม เลออกมะ--ปัง!”

สติของผมก็ดับวูบลงไปในทันที



หลายนาทีก่อนหน้า

ฮิมชอบสีดำ แต่วันนี้เขาอยู่ในชุดสูทสีขาว ทุกอย่างขาวล้วนแม้กระทั่งเนคไท ไม่ใช่แค่ชุดแต่บรรยากาศโดยรอบก็เช่นกัน ร้านอาหารสุดหรูระดับห้าดาวถูกเหมายกร้าน ทั่วทุกบริเวณถูกตกแต่งใหม่ด้วยโทนขาวหรือสีจำพวกสว่างสดใส ทุกอย่างนี้จัดขึ้นวันธรรมดาที่เขาจะสร้างมันขึ้นมาให้กลายเป็นวันพิเศษเมื่อเลมาถึง

ร่างสูงยกโทรศัพท์แนบหู รอนานกว่าปกติก่อนที่ปลายสายจะรับ

“รับช้าจัง พึ่งตื่นเหรอครับ” เขาเดา เพราะวันนี้เลไม่น่าจะออกไปไหน ถึงอยากออกไปก็ไปไม่ได้ เขาเตรียมคนเจาะยางรถทุกคันในบ้านเอาไว้แล้วถ้าเกิดทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

(ตื่นนานแล้ว เมื่อกี้เลคุยกับพี่วินอยู่) น้องว่า (ฮิมมีอะไรเหรอ)

“มากินข้าวกับพี่หน่อย” เขาเริ่มเรื่อง “พี่ส่งคนไปรับเลแล้ว รถรออยู่ที่หน้าบ้าน”

น้องเงียบไปสักพักแล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ

(มีอะไรพิเศษหรือเปล่า)

ฮิมหัวเราะในลำคอ หยิบกล่องสีดำกำมะหยี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง ตอบคำถามของปลายสายด้วยน้ำเสียงติดตลก “ฉลองเงินหมื่นล้านให้น้องเลก่อนล่ะมั้ง”

กายหนาลุกขึ้นยืนพิงผนัง นิ้วเรียวดันให้กล่องเปิดออก บางอย่างด้านในสะท้อนแสงวิบวับกับผ้ากำมะหยี่สีดำอย่างเห็นได้ชัด

แหวนสีเงินสว่าง มีเพชรเปล่งประกายอยู่ใจกลาง ด้านในสลักชื่อของคนที่จะมาเป็นเจ้าของแหวนวงนี้

LAY

(เลต้องแต่งตัวดีๆ ไหม)

“ขอน่ารักๆ” เขาปิดฝากล่องลง เก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกงดังเดิม

(โอเคแล้วเจอกัน) ทางนั้นว่าก่อนจะตัดสายไป ร่างสูงกวาดสายตาสำรวจทุกอย่างรอบกายก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้ทำได้แค่รอให้น้องมาถึง จากนั้นจึงจะเริ่มแผนการ

เขาจะขอเลแต่งงาน

คิดดีแล้ว ผู้ใหญ่รับรู้ รวมถึงพี่ชายสุดที่รักของน้องเลด้วยเช่นกัน วินอยู่ที่อังกฤษ มันคงยังไม่ได้บอกเลและปล่อยให้น้องเข้าใจอีกฝ่ายยังอยู่ที่ดูไบ น่าจะโผล่มาเซอร์ไพรส์หลังจากที่ฮิมขอเสร็จ ตอนนั้นแม่กับพ่อของเขาก็จะแวะมาฉลองด้วยพอดี เนื่องจากตอนนี้ท่านประธานแฮมินตันยังติดธุระอยู่ที่ศาลเรื่องน้ำมัน แต่ทางเรามีโอกาสชนะสูงมาก เขาจึงไม่กังวลอะไร

ที่กังวลก็จะมีแต่คำตอบของเล ฮิมมั่นใจพอสมควรว่าน้องจะตอบตกลง แต่ถ้าคำตอบไม่ใช่อย่างที่คิด บอกตามตรงถึงเป็นฮิมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำตอบของเล

ครืด

โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นอีกครั้งหนึ่ง ฮิมกดรับอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าใครโทรมา

(พี่ฮิม เลออกมะ-- ปัง!)

เสียงดังปังก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงทำให้คนฟังรู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลัง เขารู้สึกไม่ดี ไม่ดีเอามากๆ

“เลครับ”

(...)

“เล น้องเล” เสียงทุ้มสั่น ความกลัวแผ่ซ่านเข้าจิตใจเมื่อปลายสายไม่ตอบกลับ “ที่รัก”

(...)

“เลตอบพี่หน่อย!”

(มันสลบ เราชนแรงเกินไป เอาไงต่อดี…  มึงก็จับมันมัดดิวะ!)

“...”

(โคตรน่ารัก ถูกมัดแบบนี้อีก หุ่นด้วยแม่ง เฮ้ย! ขอมีอะไรกับมันก่อนได้ไหมวะ)

“...”

(ไม่ได้! เร็วหน่อย เกิดศาลตัดสินว่าให้คลาร์กแพ้ก่อนเราตายแน่)

คนฟังเสียงผ่านโทรศัพท์นิ่งเงียบ ฮิมรับรู้และประมวลเรื่องราวทั้งหมดอย่างรวดเร็ว ร่างสูงยืนนิ่งขณะที่ภายในไม่นิ่งเหมือนที่แสดงออกให้เห็น มือหนายกโทรศัพท์ออกจากหู ใบหน้าหล่อเหลาถมึงทึงอย่างน่ากลัว นัยน์ตาคมแดงก่ำ ลมหายใจขาดเป็นช่วงๆ ขณะที่กายหนาสั่นเทาเพราะความโกรธครั้งรุนแรงที่สุดที่เคยมีตั้งแต่ที่เขามีชีวิตมา

“พวกมึงกล้าทำเมียกู”





เครื่องบินส่วนตัวลำใหญ่บินเข้าสู่สนามบินฮีทโธรว์ ดีนเปิดโทรศัพท์ และทันทีที่เท้าของเขาเหยียบพื้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังลั่น ชื่อของปลายสายทำให้ดีนขมวดคิ้ว ถึงอย่างนั้นก็ยังกดรับ

“มีไรวะ”

(ไหนมึงบอกว่าคลาร์กไม่เล่นสปรก) ฮิมทักทายเขาด้วยประโยคคำถาม เป็นคำถามที่ทำเอาคนที่พึ่งเหยียบแผ่นดินอังกฤษถึงกับมึนหัว รีบถามย้ำด้วยความไม่แน่ใจ

“มึงว่าอะไรนะ”

(เลถูกจับตัวไป) ประโยคเข้าประเด็นทำให้คนฟังนิ่งค้าง (แฟนกู เมียกู ทั้งชีวิตของกู)

“...”

(มึงได้ยินไหมว่าเมียกูถูกพวกมึงจับไป!!!) ปลายสายตะคอกเข้าให้ ดีนขมวดคิ้วเครียด เขารับรู้ได้ว่าฮิมโมโหมาก เชื่อว่าเรื่องนี้มันไม่ได้พูดเล่น แต่เพราะมันบอกว่าคลาร์กจับตัวน้องเลไปนั่นแหละที่เป็นปัญหา พ่อเขาไม่ชอบเล่นสกปรก โดยเฉพาะกับน้องเลนั่นยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ (กูให้เวลามึง 30 นาที บอกคำตอบมาว่าเลอยู่ไหน ถ้าไม่อย่างนั้นนอกจากล้มน้ำมัน ธุรกิจเพชรกูก็จะตามล้มพวกมึงต่อ)

“มึงมัั่นใจว่าเป็นคลาร์ก?”

(ไม่ใช่คลาร์ก ก็คนของคลาร์ก)

ดีนเงียบ ร่างสูงตัดสินใจ “กูจะคุยกับพ่อให้”





วันนี้เงียบสงบ

แอรอนคิดอย่างนั้น ร่างสูงนั่งจิบชาอยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้าน ที่เงียบมาหลายวันก็เพราะช่วงนี้น้องเลไม่ค่อยเข้ามาหา จนรู้สึกเหงานิดหน่อย การที่น้องเลมาเล่นด้วยระยะหนึ่งเริ่มทำให้ชิน พอเด็กมันไม่มาแล้วก็เลยอดที่จะเหงาไม่ได้ ยิ่งเป็นเด็กรุ่นลูกแบบที่แอรอนอยากจะได้เป็นลูกแท้ๆ แล้วด้วยล่ะก็…

ช่างพูด ออดอ้อนเป็น เอาใจเก่ง น่ารักน่าชัง แทบจะตรงข้ามทุกอย่างกับลูกชายที่แท้จริงอย่างดีน แต่เอาเถอะ ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกยังไงเขาก็รักอยู่ดี

“นายท่านครับ” เลขาคนสนิทเดินเข้ามาวางแฟ้มหนึ่งลงบนโต๊ะ ขณะที่คนซึ่งนั่งจิบชาอยู่ปลายตามองแล้วถาม

“อธิบาย”

“ประวัติของคุณเลที่ท่านอยากได้”

“งั้นเหรอ ช่วงนี้ทำงานช้านะ” จำได้ว่าสั่งไปตั้งหลายวัน ทั้งๆ ที่ปกติไม่ว่างานนั้นมันจะใหญ่แค่ไหน ปีเตอร์สามารถทำให้มันสร็จได้ภายในสามวัน

“ขอโทษครับท่าน เราต้องตามหาคน แล้วยังต้องหาข้อมูล ตรวจข้อมูลให้มั่นใจว่าทุกเรื่องเป็นความจริง”

“แสดงว่ามีเรื่องน่าสนใจในประวัติน้องเลสินะ” เลขาของเขาพยักหน้า “เล่ามาสิ”

“คุณซาร่า แม่ของคุณเลต้องแต่งงานกับนายโนอาเพราะปัญหาทางธุรกิจของบ้านตัวเอง ภายหลังจากแต่งงานไม่ถึงสองเดือนก็ท้องซึ่งก็คือคุณเล”

“เรื่องนั้นฉันรู้แล้ว ยังไงต่อ”

“พอคุณเลอายุได้สองขวบ ซาร่าก็เสียชีวิต ต่อจากนั้นไม่นานตระกูลของโนอาก็ดำเนินธุรกิจพลาด ย่อยยับแทบจะล้มละลายถ้าไม่ใช่เพราะแฮมินตันยอมซื้อเอาไว้ ถึงอย่างนั้นเงินที่ได้จากการขายธุรกิจตัวเองก็ถูกใช้ไปกับการจ่ายหนี้”

“แทบไม่เหลืออะไรเลย” เสียงทุ้มว่า พยักหน้าให้คนพูดๆ ต่อ “แล้วเลล่ะ”

“คุณเลถูกแฮมินตันเลี้ยงมาครับ” ประเด็นน่าสนใจทำให้มือหนาที่กำลังยกชาขึ้นดื่มถึงกับชะงัก “พวกโนอาขายบ้านและกระจัดกระจายกันไปที่อื่น พวกเขาทิ้งคุณเลเอาไว้”

“ทิ้งเอาไว้?”

“ครับ ทิ้งเอาไว้ในบ้านที่ขาย ยังดีที่วันนี้แฮมินตันมาเจอ พวกเขารับคุณเลไปเลี้ยง มีสิทธิ์เป็นผู้ปกครองตามกฎหมายและเลี้ยงดูคุณเลเป็นอย่างดี”

“แล้วฝ่ายแม่ของเลไปไหนหมด” แอรอนไม่พอใจ อาการแสดงให้เห็นได้ชัดจากสีหน้า

“คุณซาร่าเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เสียตอนที่คุณเลอายุได้ขวบเดียว และญาติที่เหลือก็เป็นแค่ญาติห่างๆ ไม่สนิท พวกเขาเองก็คงไม่คิดว่าฝ่ายพ่อจะไม่เลี้ยงคุณเล”

“งั้นทำไม” เสียงทุ้มถาม “ทำไมไอ้โนอามันถึงทิ้งลูก”

ปีเตอร์เงียบ ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นหน้าเหล่มองแฟ้มบนโต๊ะที่ยังไม่ถูกเปิดอ่าน เขาไม่รู้ว่าควรจะไปเรื่องนี้ดีหรือไม่ เงียบไปนานจนเจ้านายถามย้ำ

“ฉันถามว่าทำไม” ร่างสูงที่ยืนอยู่ตัดสินใจยื่นมือไปหยิบแฟ้ม เปิดมันออกพร้อมกับวางลงบนโต๊ะอีกทีหนึ่ง

“เพราะคุณเลไม่ใช่ลูกของโนอาครับ” คนฟังชะงักพร้อมกับเบิกตากว้าง แอรอนมองหน้าเลขาคนสนิทก่อนจะหันไปมองเอกสารสำคัญบนโต๊ะ “นั่นคือเอกสารรับแพทย์ นายโนอาเป็นหมั้นตั้งแต่เกิด เขามีลูกไม่ได้”

“เล… ไม่ใช่ลูก… ของโนอา งั้นแฮมินตันเหรอ” เสียงทุ้มแหบแห้ง

“เจเดน แฮมินตันถึงจะเคยเป็นแฟนเก่าของคุณซาร่าก็ไม่ใช่พ่อของคุณเล เรื่องนี้พึ่งเป็นประเด็นเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนตอนที่คุณดีนพาคุณเลมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้ แต่ได้รับการตรวจและยันยืนแล้วว่าไม่ใช่” ปีเตอร์เอื้อมมือไปเปิดเอกสารหน้าถัดไป ใบรับรองแพทย์ใบที่สองวางอยู่ “อีกคนที่น่าจะเป็นพ่อของคุณเลคือนายปีรักษ์ เพื่อนสนิทของคุณซาร่า มีลูกด้วยกันชื่อวิน ตอนนี้เป็นพี่ชายต่างพ่อของคุณเล แต่ผมตรวจสอบแล้ว คุณซาร่าไปหาวินที่ไทยหลายครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเจอกันลบกับตอนที่คุณซาร่ารู้ว่าท้อง ระยะห่างของวันมันนานเกินไปที่จะทำให้นายปีรักษ์เป็นพ่อของคุณเล”

“นายหมายความว่ายังไงปีเตอร์”

“นายท่าน…” เจ้าของเสียงทุ้มรู้ว่าผู้เป็นนายคิดยังไง “คุณซาร่าท้องหลังจากแต่งงานได้สองเดือน ใบเกิดของคุณเลบอกว่าคลอดก่อนกำหนดสองเดือน แต่หลังจากที่ตามเราสืบมา เด็กตอนเกิดมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง คุณเลไม่ได้ถูกคลอดก่อนกำหนด”

“...”

“เธอท้องก่อนแต่ง เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากหมอที่คุณซาร่าไปฝากครรภ์ด้วย”

“...”

“และผู้ชายที่เป็นแฟนคนสุดท้ายก่อนที่คุณซาร่าจะแต่งงาน”

“...”

“ก็คือนายท่าน”

“นายจะบอกว่าฉันเป็นพ่อของเลใช่ไหมปีเตอร์”

“การแต่งงานของระหว่างโนอากับคุณซ่ารากะทันหันมาก ผมจำได้ว่านายท่านเลิกกับคุณซาร่าแค่เดือนเดียวก่อนที่เธอจะแต่งด้วยซ้ำ คุณเลคลอดก่อนกำหนดสองเดือนซึ่งไม่เป็นความจริง แสดงว่าก่อนที่คุณซาร่าจะแต่งงาน ในตอนนั้น…”

“เธอท้องแล้ว” แอรอนสรุป

ปีเตอร์พยักหน้ารับ ขณะที่ร่างสูงยังนั่งนิ่ง กายหนาเย็นเฉียบ เป็นครั้งแรกที่คนจบ MIT เกียรตินิยมอันดับหนึ่งรู้สึกว่าประมวลข้อมูลในสมองเริ่มไม่ทัน เพราะจับใจความได้แต่คำตอบ

เลเป็นลูกเขา เลเป็นลูก เลเป็นลูก น้องเลเป็นลูก

 “นายท่านยังไงนี้ก็ยังเป็นแค่ข้อสันนิฐาน ควรตรวจ DNA นะครับ”

“เลเป็นลูก ลูก! ลูก! ลูกฉันน่ารักจังวะปีเตอร์! น้องเล เลของคุณพ่อ!”

คงไม่ต้องแล้วสินะ

ปีเตอร์คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป เขาพยักหน้ารับให้เจ้านายด้วยความยินดี ขณะที่ร่างสูงถึงกับยืนขึ้น กระโดดโลดเต้นในรอบเกือบ 20 ปีด้วยความดีใจ เขาพลอยยินดีกับเจ้านายไปด้วย เพราะตลอดสิบปีมานี้นายท่านใช้ชีวิตเหมือนคนไม่มีความสุข ยิ่งถ้าไม่มีคุณดีนแล้วด้วยล่ะก็ มันคงจะแย่กว่านี้

“ฉันอยากเจอน้องของดีน”

“เดี๋ยวผมเตรียมรถให้ครับ”

“ช้า เอาเฮลิคอปเตอร์ไปเลย”

“ครับท่าน” เสียงทุ้มว่าก่อนจะเดินออกไปเตรียมการ เป็นเวลาเดียวกันที่แอรอนได้รับโทรศัพท์ ลูกชายคนแรกของเขาโทรมา ร่างหนากำลังจะบอกข่าวดีว่าดีนมีน้องให้ลูกชายได้ฟัง ติดที่ว่าทางนั้นเองกลับบอกข่าวร้ายที่สุดในชีวิตให้เขาฟังเสียก่อน

(พ่อ เลถูกจับตัวไป)






(100%)






 #วิศวะแดนแฟนมีเกียร์




ออฟไลน์ :mdred

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-61
• แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1623 เมื่อ06-03-2019 00:45:44 »



#43



ดีนไม่เคยเห็นพ่อโกรธขนาดนี้มาก่อน ร่างสูงกำลังยืนคุยโทรศัพท์กับใครสักคน แต่ดูจากสีหน้าแล้ว เนื้อหาที่คุยคงไม่น่าอภิรมณ์นัก จนกระทั่งได้ข้อสรุป

“บอกที่อยู่ของเลมา แล้วฉันจะเซ็นยกบริษัทให้เป็นของแก” คนฟังเบิกตากว้าง จังหวะเดียวกันที่เครื่องแฟกซ์ปริ้นอะไรบางอย่างออกมา พ่อเขาเดินไปหยิบมันมาวางลงบนโต๊ะ หยิบปากกาเซ็นก่อนจะส่งแฟกซ์กลับไป “ฉันเซ็นให้แกแล้ว บอกมาว่าที่ไหน”

มือหนาจดอะไรบางอย่างลงกระดาษก่อนจะยื่นมันมาให้เขา แต่หลังจากนั้นไม่นานคนคุยโทรศัพท์อยู่ก็ถึงกับสบถออกมาเป็นคำหยาบ พ่อกดวางสายแล้วเร่งเดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์

“มีอะไรเหรอครับ”

“มันบอกที่อยู่แต่มันไม่รับประกันความปลอดภัย ไอ้เฟรดดี้มันตั้งใจจะเอาทั้งของเราแล้วก็ทำให้แฮมินตันแพ้ในครั้งเดียว หัวใสขึ้นเยอะ จบงานนี้ได้เมื่อไหร่รับรองว่ามันจะไม่ได้เกิดอีกแน่”

“ก็พ่อปล่อยให้เขาบริหารตั้งสิบกว่าปี” ดีนอดแขวะไม่ได้

“ก็ตอนนั้นมันไม่มีค่าสำหรับพ่อ” ทั้งสองขึ้นประจำตำแหน่งบนเฮลิคอปเตอร์ ไม่นานนักตัวเครื่องก็ลอยทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดีนพิมพ์โทรศัพท์ส่งข้อความบอกที่อยู่ให้คนซึ่งน่าจะโกรธจนแทบคลั่งแล้วเช่นเดียวกัน ไม่มีใครพอใจ ดีนดูเหมือนจะยังใจเย็น แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้เขาก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ดีนควรรู้เอาไว้”

“อะไร”

“เลเป็นน้องดีน” มือหนาที่กดโทรศัพท์อยู่ถึงกับชะงัก ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้ามองพ่อตัวเองด้วยสายตาตกตะลึง “น้องแท้ๆ”

“พ่อมั่นใจแค่ไหน”

“ตอนนี้ 98%”

“แล้วอีก 2% ล่ะ”

“เก็บไว้เผื่อตรวจ DNA”



lamborghini aventador สีแดงโฉบเฉี่ยวกำลังพุ่งทะยานอยู่ในท้องถนนด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากได้ที่อยู่ของเลจากดีน ฮิมเหยียบคันเร่งชนิดที่ว่าไม่แตะเบรก  เขากลัวว่าน้องจะได้รับอันตรายมากกว่ากลัวว่าตัวเองจะตายหลายเท่า ยิ่งดีนโทรมาบอกเตือนว่ามันบอกที่อยู่ให้แต่มันยังไม่ได้รับประกันความปลอดภัย ฮิมก็ยิ่งสงบจิตใจไม่ลง

ร่างสูงโกรธชนิดที่ว่าชาตินี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะโกรธใครได้เท่านี้อีกไหม มันลักพาตัวเมียเขา ในวันที่เขาตั้งใจจะขอเลแต่งงาน ทำให้วันที่ฮิมตั้งใจจะทำให้มันเป็นวันที่ดีที่สุดกลายเป็นวันที่แย่ที่สุดแทน

ถ้าหากคนดีของเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาล่ะก็ ฮิมมั่นใจว่าวันนี้อาจจะเป็นวันแรกที่เขาจะได้ฆ่าคน



เอี๊ยด!

รถคันหรูเริ่มชะลอเมื่อใกล้ถึงจุดหมาย จอดรถห่างมาอีกหน่อยเพื่อไม่ให้พวกมันสังเกตุเห็น มือหนาหยิบปืนในจังหวะเดียวกันที่มีคนมาเคาะประตู ชายสองคนที่ไม่พูดอะไรนอกจากโค้งหัวเคารพ ฮิมไม่ถาม ด้วยท่าทีนั่นคงเป็นคนที่ทำงานกับด้านมืดของแฮมินตันอย่างที่พ่อเขาเคยพูดเอาไว้นานแล้ว ทั้งสองล้มหน้าล้อมหลัง และไม่พูดอะไรนอกจากพาเขาเดินไปอีกทาง ย่องเข้าทางด้านข้างของคฤหาสน์หลังใหญ่ แอบมองเข้าไปด้านในผ่านช่องว่างของผนังปูนที่ผุพัง

แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้ฮิมสติแตก…

“อย่าพึ่งครับท่าน พวกมันมีปืน” ชายคนหนึ่งออกแรงรังเมื่อฮิมทำท่าว่าจะบุกเข้าไป

“ให้กูรอเมียกูตายก่อนเลยไหมถึงจะบุกน่ะ” ฮิมกัดฟันกรอด ภาพที่เห็นคือเลถูกปิดปาก ข้อมือทั้งสองข้างถูกจับมัด ห้อยกับแชนเดอร์เลียขนาดใหญ่ด้านบนโดยที่ขาของน้องลอยพื้น ข้อมือที่เป็นตัวตึงแรงทั้งหมดเริ่มช้ำและได้เลือด จนฮิมไม่อยากจะคิดเลยว่าเลจะเจ็บขนาดไหน

“เราล้อมไว้หมดแล้ว แต่พวกมันยังอยู่ใกล้คุณเลมากเกินไป ถ้าเราเริ่มยิงใครสักคนในนั้น กลัวว่าพวกมันที่เหลือจะยิงใส่คุณเลกลับ และหากเรายิงไม่โดน เราจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที”

ฮิมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “ต้องทำยังไง”

“หนึ่งรอให้พวกมันออกห่าง และสองคือรอให้นายท่านเจรจา ฝ่ายนั้นบอกว่าแฮมินตันต้องแพ้ในศาล”

คนฟังถึงกับเม้มปาก เขาเชื่อว่าพ่อเห็นเลสำคัญ แต่ผลกระทบต่อธุรกิจหลังจากนั้นมันมากมายมหาศาล ร่างสูงกำหมัดแน่น ตั้งใจจะอดทนรอต่อถ้าไม่ใช่เพราะมองเข้าไปในโกดังอีกครั้งแล้วพบว่าเลตื่น…



เจ็บ

คำนี้ผุดขึ้นมาในสมอง ดวงตากลมค่อยๆ ลืมขึ้น ภาพที่เห็นทำให้เลตกใจหากทำอะไรไม่ได้นอกจากนิ่ง เพราะเมื่อขยับ อาการเจ็บจี๊ดก็พุ่งเข้าสู่ข้อมือ เลก้มลงมองพื้นจากนั้นเขาก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดที่ข้อมือมันเกิดจากอะไร เมื่อพบว่าเท้าของตัวเองนั้นลอยพื้นอยู่

“แกตื่นแล้วงั้นเหรอ” เสียงแหบของใครสักคนว่า เจ้าของเสียงเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างไม่สูงไม่เตี้ย อีกฝ่ายไล่สายตายืนกอดอกมองเขาราวกับประเมิน “ฉันเสี่ยงจับตัวแกมา เพราะมีคนๆ หนึ่งมาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตัน ตั้งใจจะใช้แกต่อรองพวกมันให้แพ้ในศาล ไม่นึกว่าจะมีประโยชน์มากขนาดนี้”

เลตอบกลับไม่ได้ เขาถูกปิดปากด้วยผ้ากลิ่นฉุน ร่างเล็กได้กวาดสายตาสำรวจขณะที่ฟังอีกคนพูด “สำคัญต่อแฮมินตัน แล้วยังสำคัญถึงขนาดที่แอรอนเซ็นยกบริษัทให้ฉันแบบง่ายๆ เพื่อขอที่อยู่ของแก”

ร่างบางปวดศีรษะ หัวเขากระแทกกับประตูตอนที่รถคันหนึ่งพุ่งเข้ามาชนโดยไม่มีเหตุผล

แต่ในสถานการณ์นี้เลเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงถูกชน คงเพราะเพื่อจับเขาให้มาเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองอะไรสักอย่าง

 ดวงตากลมเริ่มต้นสำรวจโดยการมองไปรอบด้าน ยิ่งเห็นความรู้สึกกลัวก็ยิ่งซึมลึกเข้าถึงขั้วหัวใจ ผู้ชายห้าคนยืนถือปืนวนอยู่รอบตัวเขา ในห้องโถงขนาดใหญ่ชำรุดทรุดโทรมทว่าคุ้นตา

ที่นี่…

เขาหันไปสบตากับคนตรงหน้า ผู้ชายอังกฤษ ตาสีฟ้า ในชุดสูทสีน้ำเงิน เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าเลคิดอะไร เจ้าตัวถึงได้เป็นคนเฉลยให้

“ดูคุ้นหรือเปล่า ไอ้คนที่มาบอกฉันว่าแกสำคัญกับแฮมินตันขายที่นี่ให้ฉัน มันบอกว่าที่นี่เป็นบ้านเก่าของแก” เขานิ่งเงียบ รู้ได้ทันทีว่าคนที่อีกฝ่ายพูดถึงคือใคร

พ่อที่ไม่ใช่พ่อของเขาอีกต่อไปแล้ว

ถึงจะไม่ใช่พ่อที่แท้จริง ถึงจะไม่ได้ผูกพันธ์ แต่เลก็เคยคิดว่าคนๆ นั้นเป็นพ่อของตัวเองมาเกือบยี่สิบปี ความรู้สึกที่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นพ่อนั้นจึงยังหลงเหลืออยู่ แต่วันนี้มันจบแล้ว จบแล้วจริงๆ คนๆ นั้นไม่ใช่พ่อของเขา ไม่ใช่ตั้งแต่แรก

“มันรู้แล้วว่าแกอยู่ที่นี่ อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาช่วยแก”

เลไม่ได้ฟัง เขาก้มหน้าลงแต่ในจังหวะที่เงยขึ้น สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับดวงตาคมคู่หนึ่งผ่านช่องว่างเล็กๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเต็มตา เลก็จำได้ว่าเจ้าของดวงตานี่คือใคร

พี่ฮิม

ร่างบางอดที่จะแสดงอาการดีใจไม่ได้ แต่ดีใจได้ไม่นานความกลัวก็กลับมาครอบงำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปลายกระบอกของปืนสีดำถูกจ่ออยู่กลางคอ

“แต่ถ้าแกยังเป็นตัวประกับให้ฉันแบบนี้ พวกมันคงไม่กล้าทำอะไร” เลสูดลมหายใจเฮือก หัวใจเขาเต้นระรัวตอนที่อีกฝ่ายอ้อมไปทางด้านหลัง ตะปบมือลงบนสะโพกแล้วลูบอยู่อย่างนั้น

เขาสบตากับพี่ฮิม นัยน์ตาคมคู่นั้นแววโรจน์ด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด เลพยักหน้าให้ พยายามบอกว่าไม่เป็นไร เข้าใจว่าฮิมมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องรอก่อน ไม่อยากนั้นอีกฝ่ายเองก็คงบุกเข้ามาช่วยเขาแล้ว

“ฉันเข้าใจว่าแกสำคัญกับแฮมินตันยังไง แต่แปลกใจที่แกดันสำคัญกับแอรอนด้วย หมอนั่นแทบไม่เคยมีจุดอ่อน แล้วอยู่ๆ แกก็ดันไปเป็นจุดอ่อนของมันซะได้” มันไล่มือขึ้นไปถึงเอว ล้วงเข้าไปในเสื้อฮู้ดแล้วไล่นิ้ววนตรงตุ่มไต ทว่าทันทีที่มืออีกข้างของมันเลื่อนลงด้านล่าง เสียงซิปกางเกงถูกรูดลงอย่างช้าๆ เวลานั้นเองที่เลกลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่อยู่

“อยากรู้จริงๆ ว่าทำไม”

ปัง!

“ปล่อยมือออกจากเมียกูเดี๋ยวนี้”



ฮิมทนไม่ไหว เขาทนแล้วแต่มันไม่ไหว

มันจับเมียเขามัดขึงจนเท้าลอยพื้นไม่พอ มันยังกล้าลวนลามน้องอีก

รู้ตัวอีกทีฮิมก็เดินไปที่หน้าประตู เปิดมันเข้ามาโดยที่มีปืนห้ากระบอกหันมาทางเขาพร้อมที่จะยิงเข้าใส่

เพราะคนสำคัญต่อแฮมินตันเผยตัว เหล่าบอร์ดี้การ์ดที่คอยคุมกันจึงต้องเผยตาม ไม่นานนักห้อโถงที่ว่าใหญ่ก็เล็กลงไปถนัดตาเมื่อคนจำนวนมากแห่เข้ามาด้านใน หันปืนใส่กันคอยแต่จะกดลั่นไกถ้าไม่ติดที่ว่าตัวประกันอย่างเลถูกจับมัดเอาไว้ ถูกปืนสีดำกระบอกหนึ่งจ่อแนบชิดติดลำคอ

“คิดเอาไว้แล้วว่าต้องมา แล้วยังไงดีล่ะ ถ้ายิงฉันเด็กนี่ก็ตายตามไปด้วย จะเอาแบบนั้นไหม”

หยดเลือดสีแดงไหลจากข้อมือหยดลงตามต้นแขนที่ถูกรวบตึงแน่น ฮิมกัดฟันกรอด เขามองน้องแล้วพยายามต่อรอง

“เอาเลลงมา”   

“ทำแบบนั้นแล้วฉันจะได้อะไร”

“อยากได้อะไร”

“สัก 10 ล้านเป็นไง ค่าเอาเด็กนี่ลงน่ะ”

“ได้ เงินสิบล้านดอลลาร์จะถูกโอนเข้าบัญชีของแก” ฮิมตกลงแบบไม่ต้องคิด ทว่า…

“อย่ามาตลก” มันเค้นเสียงหัวเราะใส่ “สกุลดอลลาร์ที่ไหน ยูโรต่างหาก”

10 ล้านยูโร แปลงเป็นสกุลเงินไทยเท่ากับ 400 ล้านบาท

“ได้” เขายอมจ่ายเพื่อไม่ให้เลเจ็บ ทุกอย่างถูกดำเนินการอย่างรวดเร็วตามคำสั่ง และทันทีที่มันได้สิ่งที่ต้องการ เลถูกปล่อยลง เท้าน้องแตะพื้นพอให้ฮิมได้หายใจคล่องขึ้นบ้าง นัยน์ตาคมมองไปยังข้อมือขาว ถ้าทำได้เขาอยากใช้เงินสั่งให้มันปลดเชือกที่รัดข้อมือเลจนเลือดออกนั่นอีก จะให้จ่ายเท่าไหร่ก็ยอม

“ได้เรื่องเล็กกันแล้วมาพูดเรื่องใหญ่กันดีกว่า รู้ใช่ไหมว่าถ้าจะเอาตัวเด็กนี่ไปต้องแลกด้วยอะไร”

ทุกอย่างกลับมาจริงจัง ฮิมพยักหน้ารับ “แฮมินตันต้องแพ้ในศาล”

“แล้วแพ้หรือยังล่ะ”



“แพ้แล้ว”









(40%)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์



นักอ่าน : ไหนความหวาน ไหนๆ ความหวานของชั้นอยู่ไหน!

me : ท่านสามารถหาได้ในตอนพิเศษที่จะไม่มีลงในเว็บนะคะ-- ผัวะ! // โดนตบ

ล้อเล่นน้าา! ต่อจากตอนนี้มันก็หวาน หวานแล้ว หวานจริงๆ พอได้อิ่มใจ สาบาน! ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดต้องซื้อเล่มอย่างเดียว แต่ถ้าหวานจนน่าหมั่นไส้จะอยู่ในตอนพิเศษที่จะไม่ได้ลงเว็บค่ะ (ให้ฉันมีอะไรได้ขายบ้าง เพราะตอนนี้ก็ลงให้อ่านแทบทุกอย่างแล้วค้าบบ ;--;)

 :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1624 เมื่อ06-03-2019 01:08:22 »

อืมมม ต่อที่เหลือเลยดีไหมคะ
กำลังสนุก อย่างลุ้น
จะยังไง จะเสียทรัพย์เพราะเลกันทุกคนรึ

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1625 เมื่อ06-03-2019 02:04:58 »

ลุ้นต่อไป :mew5:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1626 เมื่อ06-03-2019 07:12:34 »

นี่มานอารายยยยยยยย

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1627 เมื่อ06-03-2019 07:38:41 »

หายไปนานกลับมาก็ทำเราค้างนะไรท์

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1628 เมื่อ06-03-2019 08:55:15 »

 :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1629 เมื่อ06-03-2019 09:07:47 »

อะไรกันเนี่ยยยย  :katai1: :katai1:
ลุ้นๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
« ตอบ #1629 เมื่อ: 06-03-2019 09:07:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1630 เมื่อ06-03-2019 09:08:55 »

งงมากค่าาาาาา
กลายเป็นเรียกค่าไถ่สไตล์ขายของต่อของในตลาดสดไปเฉย ทุกอย่างมีราคาอะไรขนาดนี้

คือ400ล้านไปแล้ว แอรอนให้บริษัทไปอีก แล้วนี่พ่อพี่ฮิมมาบอกด้วยตัวเองรึป่าวว่าแพ้ คืออะไรมันจะผีขนาดนี้

ก็ถ้าเลได้กลับบ้านไปพร้อมสภาพที่ฝ่ายพี่ฮิมและแอรอนจ่ายหนักขนาดนี้โดยที่ไม่พลิกลอกฝ่ายคลากตายนี่ก็เฟลอ่ะ โมโห ฉลาดกันทุกคนแต่มาแพ้ให้พวกสวะ และก็นะถ้ายอมแบบนี้จริงๆเดี๋ยวคราวหน้าพวกนางก็มาจับเลอีก กลายเป็นจากนี้ไปไม่ต้องอยู่เป็นสุขต้องคอยระแวงไปตลอด....

เพราะงั้นพวกคลากต้องตายแล้วอ่ะ ไม่มีชอยส์อื่นให้พวกนางแล้วจริงๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1631 เมื่อ06-03-2019 10:48:22 »

น้องเลลลลลล แงงงค้างงงงงงงง

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1632 เมื่อ06-03-2019 15:38:40 »

รอตอนหวานๆ หวานให้เบาหวานแดกไปเลยค่ะคนเขียน (อุ้ย!!! หลุด  ขอโทษที) :katai2-1:

ออฟไลน์ Noina_Pn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1633 เมื่อ06-03-2019 16:15:26 »

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1634 เมื่อ06-03-2019 22:09:40 »

ทำไมหน่วงแบบนี่

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1635 เมื่อ06-03-2019 22:35:28 »

ผู้ใดแพ้หว่า  :ruready

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1636 เมื่อ07-03-2019 00:31:33 »

ลุ้นๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1637 เมื่อ07-03-2019 07:58:33 »

ชิวืตน้องเลนี่ กราฟชีวิตขึ้น-ลงๆ ตลอดเลยเน๊อะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1638 เมื่อ13-03-2019 11:00:54 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1639 เมื่อ13-03-2019 19:33:51 »

ถล่มมันให้เละ

ฆ่ามันให้ตายอย่า ทรมาณ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
« ตอบ #1639 เมื่อ: 13-03-2019 19:33:51 »





ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 060318#43 (40%) p.55
«ตอบ #1640 เมื่อ28-03-2019 10:10:25 »

แพ้เร็วเกิน

ออฟไลน์ :mdred

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-61
• แฟนวิศวะ • 060318#43 (100%) p.55
«ตอบ #1641 เมื่อ28-03-2019 23:13:12 »

นั่นไม่ใช่เสียงฮิม แต่เป็นเสียงของใครสักคนที่พึ่งเดินเข้ามา เลถึงกับเบิกตากว้าง ฮิมนิ่งค้างเมื่อเห็น “สู้ไม่ได้ก็จับคนมาต่อรอง วิถีแกเหรอเฟรดดี้”

“อย่างน้อยมันตอนนี้ก็ทำให้ฉันได้บริษัทของแกแล้วล่ะวะแอรอน”

เจ้าของชื่อนิ่งเงียบ ใบหน้าคมที่มักประดับด้วยรอยยิ้มบึ้งตึง “แฮมินตันแพ้แล้ว ปล่อยตัวเลมา”

“ฉันจะเชื่อคำพูดของแกได้ยังไง”

ครืด

แท็บเล็ตเครื่องใหญ่ถูกไถลไปให้ หน้าจอขึ้นข่าวว่าบริษัทยักษ์อย่างแฮมินตันแพ้ศาลความเสียหายและผลกระทบกินมูลค่าเกินกว่าที่จะประมาณได้ และไม่ใช่แค่ข่าวสำนักเดียว เรื่องนี้ออกข่าวทุกสำนัก

ฮิมเงียบเมื่อได้ยิน เขาเคารพการตัดสินใจของพ่อ วางใจได้ว่าเลจะปลอดภัย แม้รู้ว่าต่อจากนี้ไปคงได้หนักใจกับเรื่องอื่นแทน การแพ้ศาลในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พวกเขามีเปอร์เซ็นต์ในการชนะสูงจนฮิมตั้งใจว่าจะขอเลแต่งงานในวันนี้ได้ และเมื่อแพ้ผลกระทบมันก็ย่อมใหญ่เช่นเดียวกัน บอร์ดบริหารต้องถามถึงเหตุผล และเหตุผลของการช่วยคนๆ หนึ่ง ในมุมของนักธุรกิจบางคน มันอาจจะไม่คุ้มกับการเสียบริษัทที่จะทำเงินมูลค่ามหาศาลได้ขนาดนั้น

“หึๆ ตัดสินใจได้ดีนี่”

“ได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็ส่งตัวเลมา” แอรอนย้ำ

“ใครบอกว่าทุกอย่างที่ต้องการ”

“ยังต้องการอะไรอีก”

“คิดว่าฉันจะโง่หรือไง พวกแกล้อมฉันไว้ขนาดนี้ ถ้าฉันส่งตัวเด็กนี่ไปให้ ใครจะยืนยันความปลอดภัยให้ฉันได้ล่ะ”

“จะหนี?”

“ได้ข่าวว่ามันขับรถเก่ง” มันที่ว่า คือน้องเลซึ่งถูกปืนจ่อขมับ “ฉันจะให้มันขับรถให้ เราจะไปที่ท่าเรือ พอเรือออกแล้วฉันจะโยนเด็กนี่ลงน้ำ  ไม่อยากให้ตายก็ตามไปช่วยก็แล้วกัน”



เลชอบขับรถ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะทำให้เขาขับรถแล้วหนักใจเท่านี้

lamborghini aventador สีแดงถูกเปลี่ยนคนขับ เจ้าของข้อมือแดงเถือกจากการถูกเชือกรัดกำลังควบคุมมันพุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูงโดยที่มีปืนจ่อขมับแนบติด พร้อมลั่นไกฆ่าเขาได้ทุกเมื่อถ้าเกิดคิดตุกติกขึ้นมา

“เก่งจริงนี่ เห็นอย่างนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะรถเก่ง” คนนั่งข้างชวนคุยแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าคุย เลเงยหน้ามองกระจกหลัง มีรถอีกหลายคันขับตามอยู่ห่างๆ “หยิ่งจังนะแก”

อีกฝ่ายว่าเมื่อคนฟังไม่ยอมปริปาก

“ใครจะอยากคุยกับคนที่ลักพาตัวตัวเอง” เลพึมพำ

“ฉันได้ยินที่แกพูดนะ” เจ้าของปืนหัวเราะ “ก็เผื่ออยากต่อรอง”

“ให้ลงตรงนี้ได้ไหมละ”

“นั่นมากเกินไป เอาน่า! ถูกโยนลงน้ำยังไงก็ดีกว่าถูกโยนลงรถ” คนฟังเลือกที่จะเงียบต่อไป เลต่อรองไม่เก่ง และจากบทสนทนาเมื่อกี้เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะคุยกับผู้ชายที่กำลังนั่งอยู่ข้างคนขับ

เลไม่อยากถูกโยนลงน้ำ ไม่อยากถูกโยนลงจากรถ แต่ที่สำคัญเลยคือเขาไม่อยากนั่งอยู่ในสถานการณ์ที่มีปืนจ่ออยู่ข้างหัว เขามองข้อมือของตัวเอง มันเป็นรอยเลือดและรอยถลอกอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บแสบจากการถูกตรึงก็ยังคงเหลืออยู่จนถึงตอนนี้

พี่ฮิมบอกอยู่เสมอว่าเขาเอาแต่ใจ เลเชื่อว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นเพราะรอยรัดที่ประทับอยู่บนข้อมือเขาตอนนี้ทำให้คนมองรู้สึกขัดใจ โดยเฉพาะยิ่งต้นเหตุมานั่งข้างๆ แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยแบบนี้ เลหงุดหงิดจนต้องกัดริมฝีปาก เพราะพี่ฮิมที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ตอนอยู่ในโหมดโกรธขั้นสุดยังไม่ทำให้เลเจ็บตัวมากขนาดนี้

ร่างบางกลัวขณะเดียวกันก็แค้นอยู่ลึกๆ แต่การเฉียดตายมาหลายครั้งจะทำให้มีสติมากกว่าเดิม แถมคนลักพาตัวยังใจดีให้สิ่งที่เขาถนัดและสามารถใช้เป็นอาวุธได้อีก

รถ…

ทางนั้นคงตั้งใจเอาไว้ว่าจะให้เขาขับ เพราะเป็นการยืนยันได้ว่าจะไม่มีใครโจมตีรถคันนี้ แถมยังง่ายต่อการควบคุมเขาอีกด้วย ทว่ารู้ทั้งรู้ว่าเลขับรถเก่ง แต่กลับไม่คาดเซฟตี้เบล แถมยังชะล่าใจโดยการมองออกไปข้างนอกแล้วลดปืนลงเป็นบ้างครั้ง

เลเห็นโอกาสในการเอาตัวรอดด้วยวิธีของตัวเอง

กึก!

“แกเร่งความเร็วทำไม เฮ้ย!” เลตัดสินใจและทำในตอนนั้น ครั้งที่สามที่ร่างหนาข้างกายหันไปมองด้านนอก เขาก็เร่งความเร็วขึ้นให้พ้นรัศมีของรถที่ตามมาด้านหลัง จากนั้นจึงหักพวงมาลัยแล้วเหยียบคันเร่งอย่างแรงจนท้ายปัด ปล่อยตัวรถไถลไปตามถนนวนเป็นวงกลมทั้งหมดแปดครั้ง มากพอที่จะทำให้คนไม่คาดเข็มขัดตัวโงนเงนกระแทกทั้งกระจกและพื้นที่ด้านหน้าอย่างรุนแรง มือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายรีบยกขึ้นเกาะที่จับด้านบน ปืนถูกปล่อยตกลงใต้เบาะ เสียงล้อเสียดสีกับถนนดังเอี๊ยด เกิดควันสีขาวลอยคลุ้งพุ่งกลบทัศนียภาพรอบด้านจนมิด

เลปลดเซฟตี้เบลออก เขาเปิดประตูลงรถ วิ่งฝ่ากลุ่มควันออกไปด้านนอกจนเห็นร่างสูงที่ทำท่าจะวิ่งจะเข้ามาอยู่ก่อน เขารู้สึกจะร้องไห้ทันทีที่เห็น พี่ฮิมทำหน้าตกใจ อีกฝ่ายวิ่งเข้าหาพร้อมกับอ้าแขนรอรับ ปลายนิ้วพวกเขาแตะถึงกันในจังหวะเดียวกันที่เลได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง

“แสบนักนะแก!”

“อย่า!”



ปัง!



เสียงปืนดังในจังหวะเดียวกันที่เลโผล่เข้าสู่อ้อมกอดของอีกคน ร่างสูงพลิกตัวบังจังหวะที่น้องหลับตาแน่น ภายหลังจากที่กระสุนนัดแรกดังได้ไม่กี่วินาที รถยนต์สีดำสนิทกันกระสุนก็รีบแล่นเข้ามาจอดขวางกระสุนนัดที่สองเพื่อปกป้องผู้เป็นนาย

ปัง! ปัง! ปัง!

มือหนายกขึ้นลูบหัวปลอบคนที่กำลังซุกหน้าเข้าที่อกท่ามกลางเสียงปืนรัวที่ใส่กันอย่างบ้าระห่ำ เลค่อยๆ ลืมตาขึ้น เงยมองคนที่จ้องอยู่ก่อน

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ฮิมถามเสียงแผ่ว คนฟังลองขยับตัวก่อนจะส่ายหน้าเมื่อไม่รู้สึกเจ็บอะไร

“เลไม่เป็นไร”

“เก่งมาก” ฮิมกระซิบพร้อมกับเคลื่อนริมฝีปากจูบลงที่แก้ม “เก่งที่สุดเลย ที่รักของพี่”

คนฟังยิ้มรับ จดจ้องไปยังผู้ชายตรงหน้าที่ใส่ชุดสีแปลกตาแถมยังรู้สึกว่าวันนี้พี่ฮิมจะดูดีกว่าปกติ “ทำไมวันนี้ฮิมหล่อจังเลย”

“ชอบไหมล่ะ”

“ยังจะถาม” เลเข้ากอดเอวหนาแม้สถานการณ์ดูจะยังไม่อำนวย “เลชอบทุกอย่างที่เป็นฮิม”

“รักนะ”

“ท่านครับ กรุณาหลบไปกะ-- ท่านครับ!” หว่างคิ้วเข้าหากันเมื่อชายหนุ่มผู้มาเยือนมองพี่ฮิมแล้วทำหน้าตาตื่น เลเงยหน้ามองคนที่ตัวเองกอดอยู่ ฮิมยังคงยิ้มมุมปากให้ มือหนาลูบแก้มเขาไปพลางจนเลยิ้มรับ แต่ทันทีที่เจ้าตัวละอ้อมกอดออก รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายวับไปทันตา

มีบางสิ่งเปื้อนอยู่ที่มือเล ของเหลวชุ่มที่เปลี่ยนให้มือของเลกลายเป็นสีแดงเข้ม นัยน์ตากลมหลุบลงมองเสื้อผ้าขาวสะอาดของคนตรงหน้าที่ตอนนี้ถูกสีแดงซึ่งแผ่กระจายมาจากทางด้านหลังลามกินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่ง

“ฮะ… ฮิม” เลถอยออกห่าง ตากลมมองเลือดที่มือสลับกับคนตรงหน้าอย่างมีคำถาม เขาไม่อยากหาคำตอบให้ตัวเองแม้จะรู้อยู่ในใจ พี่ฮิมยังคงยิ้ม ร่างสูงทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นิ้วเรียววนเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าของคนที่กำลังสะอื้นหนัก กายหนาตั้งใจจะเข้ากอดน้องเพื่อกระซิบปลอบทว่าบาดแผลด้านหลังกลับส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด ยามความเจ็บปวดแทรกซึมไปทั่วทุกอนูผิว เจ้าของขายาวทรุดลงกับพื้น แขนแกร่งซึ่งกอดเอวบางแน่นรั้งให้คนตัวเล็กทรุดลงตาม “พี่ฮิม! ฮิม”

“เรียกรถพยาบาลด่วน นายท่านถูกยิง ด่วน! ย้ำ! ด่วน!” ประโยคตรงหน้าตอกย้ำกว่าความคิดของเขาถูกต้อง

“ไม่เอา… ฮือ ไม่เอา! ไม่เอาแบบนี้!” เลสั่นใหญ่ น้ำตาสีใสเจิ่งนองทั่วม่านตา หยดลงมากระทบหน้าของคนที่ถูกจัดท่าให้นอนอยู่บนตัก

“ไม่ต้องร้อง” เสียงนั้นแผ่วจนน่าใจหาย “พี่ไม่เป็น...ไร”

“ฮือ เลือดออกเต็มเลย! เอาตัวมาบังแทนเลทำไม”

“อย่างน้อย...ก็ช่วยเลได้” ฮิมพูดติดตลก “ไอ้วิน...มันจะได้...ไม่ต้องด่าพี่”

“เลไม่โอเค!”

“เดี๋ยว…ไปโรง...พยาบาลก็หาย” ฮิมประสานมือน้องเอาไว้ แนบลงตรงอกหวังให้อีกฝ่ายเย็นลง “ใจเย็นๆ ครับ”

“น้องเย็นไม่ได้” เลปฏิเสธ กวาดสายตามองชุดสีขาวที่ร่างสูงตั้งใจใส่มาเพื่อวันที่ดีบัดนี้ฉาบไปด้วยเลือดข้น เปรอะเปื้อนไปแล้วกว่าหนึ่งในสามของพื้นที่ชุดแล้วร้องไห้หนักกว่าเก่า

เลรออีกฝ่ายพูดอะไรสักอย่าง ทว่าฮิมหลับตานิ่ง เขาเริ่มเขย่าคนบนตักแรงๆ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะฮิมจะลืมตาขึ้นมา

“ไม่! ไม่! ไม่! ม่ายยยย! พี่ฮิม! ฮิมอย่าหลับแบบนี้!” การไม่มีเสียงตอบกลับนั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กเริ่มกรีดร้องจนแทบบ้าคลั่ง เลสติแตก ร่างเล็กร้องไห้โฮขณะกอดใบหน้าคมแนบอก “อย่าทำแบบนี้! ไม่เอาอย่างนี้!”

“รอรถพยาบาลไม่ได้แล้ว! ต้องนำส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นจังหวะเดียวกันที่เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ถือวิสาสะจอดลงกลางถนน

“ใช้เฮลิคอปเตอร์ได้เลย!” นำเสียงทุ้มของคนที่พึ่งกระโดดลงจากยานพาหนะทางอากาศว่า ดีนมองน้องถูกจับตัวแยกออกจากคนเจ็บ เจ้าตัวร้องเหมือนใจจะขาด เสียงร้องที่ทำให้คนฟังถึงกับปวดตามร้าว กล่องบางอย่างหล่นลงมาจากกระเป๋ากางเกงชุ่มเลือดของร่างสูงที่กำลังถูกนำตัวขึ้นยานพาหนะ ดีนสังเกตุเห็น เขาเดินไปหยิบมันขึ้นมาก่อนจะถือวิสาสะเปิดดู

สิ่งที่อยู่ด้านในทำให้คนมองสะอึก มือหนาปิดฝากล่องกำมะหยี่สีดำลง จากนั้นจึงเดินไปหาคนที่กำลังร้องไห้โฮจนพูดไม่เป็นภาษา ร่างเล็กรีบวิ่งมากอดเขาอย่างหาที่พึ่ง ดีนใช้จังหวะนั้นยัดของที่อยู่ในมือตนเองให้อีกฝ่าย กล่าวปิดท้ายว่า “ของฮิม”

เขากอดน้องแน่นกว่าเดิม คิดเอาไว้ว่าเลต้องร้องไห้หนักกว่าเก่า แต่ผิดคาด ทันทีที่เจ้าตัวเปิดกล่องแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ด้านในน้องกลับเงียบลง เสียงร้องลั่นกลายเป็นแค่เสียงสะอื้นกับปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ แทน เลละออกจากกอดของเขา วิ่งไปหาคนที่กำลังถูกหามขึ้นเฮลิคอปเตอร์



“เลไม่แต่ง!” เสียงแหบตะโกนลั่นใส่หน้าฮิมซึ่งสลบไม่ได้สติ “เลไม่แต่ง! ได้ยินไหมว่าน้องไม่แต่ง! ฟื้นเมื่อไหร่ค่อยมาขอแต่งใหม่ก็แล้วกัน!”





(100%)





#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

แบบวุ่นวายเหมือนการเมืองไทยในตอนนี้เลย55555​ ฝันดีค้าบบบ ตื่นขึ้นมาขอให้เป็นเช้าที่สดใสสำหรับทุกคนนน




ออฟไลน์ :mdred

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-61
• แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1642 เมื่อ28-03-2019 23:24:45 »



#44 (50%)



1 วันต่อมา

วินมองคนซึ่งนอนอยู่บนเตียง เขาจับแขนเรียวที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบข้อมือทั้งสองข้างหนึ่ง มองมันด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากคนหลับสนิท

ฮิมถูกส่งโรงพยาบาล ต่อจากนั้นไม่นานเลก็ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเหมือนกัน น้องเลอ่อนเพลียและหลับสนิทมาหนึ่งวันเต็ม

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้วินหัวเสีย ยิ่งเขารู้เรื่องก็ตอนที่ทุกอย่างจบลงแล้ววินก็ยิ่งหัวเสีย

แม้ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี แต่เขาไม่พอใจมากที่น้องตัวเองถูกจับไปเป็นตัวประกันแบบนั้น เพราะนั้นมันหมายความเรื่องอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับฮิมส่งผลให้เลได้รับอันตรายอีกแล้ว

วินไม่เคยรู้สึกกังขาเรื่องความรู้สึกของมันที่มีให้เล ไม่อย่างนั้นตอนที่มันโทรมาบอกว่าจะขอเลแต่งงานเขาก็คงคัดค้านไปแล้ว เขาแค่ห่วงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเล อะไรก็ตามที่ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาแต่เกิดจากอะไรบางอย่างที่ส่งผลกระทบมาถึงเลอย่างเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้

แต่เอาเถอะ เขาให้อภัยเพราะถือว่าอีกฝ่ายก็รักษาคำพูด มันปกป้องน้องเขาด้วยชีวิตจริงๆ

เลหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาให้ความสำคัญ ถ้าเสียเลไปเขาคิดว่าคงต้องระเบิดสมองตัวเองตาย

คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ บางทีเขาอาจจะต้องทำใจกับเรื่องพวกนี้ เพราะอาชีพในอนาคตที่เลดูสนอกสนใจอยากจะเป็นอย่างเช่นนักแข่งรถนั้นเสี่ยงต่อชีวิตมากเหลือเกิน

“ยังไม่ตื่นเหรอ” อีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ในห้องแต่นิ่งเงียบมานานถาม วินจ้องหน้ามัน

“มึงเห็นเลลืมตาไหมล่ะ”

“กูถามดีๆ” ดีนถอนหายใจ ลุกขึ้นก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อวาน ทันทีที่วินรู้เรื่องที่ว่าอีกฝ่ายมีสถานะต่อน้องเลเทียบเท่าเขา

มือหนาลูบใบหน้าขาวเบาๆ แล้วก้มลงหอมแก้มนุ่มอีกครั้งหนึ่ง

“ตื่นได้แล้ว” ส่งเสียงกระซิบ

เขาอยากให้เลตื่น มีอีกหลายเรื่องที่น้องต้องรู้

ร่างสูงกลับไปนั่งลงโซฟา รอไปอย่างเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งคนที่ออกจากห้องไปนานเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง

“จะบ่ายแล้วมึงไปกินข้าวไป เดี๋ยวกูเฝ้าต่อเอง” วินหันไปมองเลบนเตียงแวบหนึ่งก่อนจะพยักหน้า เขาเดินออกจากห้อง ขับรถออกไปหาอะไรกิน และพอกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งก็พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น

เลตื่นแล้ว



“เลจะไปหาพี่ฮิม!”

“น้องเลใจเย็นก่อน!”

“หาพี่ฮิม! จะไปหาฮิม! เอาฮิมมา!” วินรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่กำลังโวยวายอย่างไร้สติ เลสวมกอดเขาแน่นแล้วร้องไห้โฮ ร่างสูงลูบกลุ่มผมนุ่ม คอยปลอบประโลมให้อีกฝ่ายใจเย็นลงก่อน “วิน น้องอยากไปหาฮิม พาเลไปหาฮิมนะ”

“ไอ้ฮิมปลอดภัยดี” วินพูดความจริง หมอยืนยันแล้วว่าพ้นขีดอันตรายแค่ยังไม่ฟื้น “เลใจเย็นก่อน นิ่งไว้”

“เลแค่อยากไปหาพี่ฮิม”

“ไปได้” วินว่า ดวงตาคมมองเพื่อนร่วมห้อง โดนใครบางคนส่งสายตามาให้อย่างสื่อความนัย “หลังจากคุยเสร็จแล้ว”

“คุยอะไร?” เลถาม ทั้งห้องเงียบลง วินคลายอ้อมกอดออก ทำท่าว่าจะเดินออกไป “พี่วินจะไปไหน ไม่ให้ไป!”

น้องดึงเขาเอาไว้ ขณะที่วินตั้งใจว่าจะเดินออกจากห้อง เขาไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เลจะได้รู้เท่าไหร่แต่เพราะโดนเลกอดแน่น ขยับเดินกอดตามไม่ยอมปล่อย ท้ายที่สุดแล้วเขาเลยต้องอยู่กับน้อง กลับไปนั่งเตียงให้คนในชุดโรงพยาบาลนั่งตักซบอก

ในห้องเหลือแค่ วิน เล ดีนและร่างสูงที่เป็นผู้ใหญ่สุด พ่อของดีน

วินประสานมือน้องเอาไว้ในตอนที่เสียงทุ้มของดีนว่า “น้องเลเป็นลูกของคุณพ่อ”



15 นาทีต่อมา

วินค่อยๆ ย่องออกจากห้อง ปล่อยให้สองร่าง หนึ่งน้องชาย และสองคือผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเลไปหยกๆ ได้ใช้เวลาร่วมกัน เขาเปิดประตูออก เห็นคนที่ออกมาก่อนหน้า ดีนปรายตามองเมื่อเห็นวินออกมา เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง ตรงข้ามกับคนที่กำลังยืนพิงกำแพง กอดอกพอดี

“กูเป็นพี่ชายเลจริงๆ แล้ว” เสียงทุ้มชวนคุย ประโยคเริ่มต้นที่ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์เท่าไหร่ วินไม่ได้มีปัญหากับพ่อแท้ๆ ของเล เขารู้สึกดีใจที่น้องได้เจอพ่อแท้ๆ เพราะเลมีปมเรื่องนี้มาตลอด คนที่รู้สึกว่าจะมีปัญหาด้วยสักหน่อย เห็นจะเป็นคนลูก

เจอกันครั้งแรกมันทำท่าว่าจะชอบเล แต่คราวนี้มันกลายมาเป็นพี่แท้ๆ ของเล แล้วเขาจะวางใจได้ยังไงว่าวันดีวันคืนดีที่ไอ้ฮิมไม่อยู่มันจะไม่บุกห้องไปปล้ำน้องเขาน่ะ!

“อย่าคิดอกุศลกับน้องแท้ๆ ของมึงก็แล้วกัน” วินเตือน

ดีนขมวดคิ้วราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอก มันกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรสักอย่าง บังเอิญคนในห้องเดินออกมาซะก่อน เลวิ่งไปกอดไอ้ดีนก่อน พูดอะไรกันสักอย่างแล้วหัวเราะ ถัดจากนั้นจึงวิ่งมากอดเขา ซุกหน้าเข้าที่อก พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“เลอยากไปหาพี่ฮิม”



คนที่เลต้องการพบบัดนี้นอนอยู่เบื้องหน้า บนเตียงของโรงพยาบาล บนจมูกคาดทับด้วยหน้ากากออกซิเจนและยังหลับสนิท สภาพของพี่ฮิมไม่ได้ดูย่ำแย่ แค่ใบหน้าซีดเซียวกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด

ผมทาบมือลงบนหลังมือติดสายน้ำเกลือของอีกฝ่าย จากนั้นเปลี่ยนมาประสานเอาไว้ เพื่อให้ฮิมรู้ว่าผมยังอยู่ข้างกายแม้เขาจะยังไม่ได้สติ ซึ่งเป็นเพราะผมแท้ๆ

“พี่ฮิม เลขอโทษ”

“น้องเลไม่ต้องขอโทษหรอก” คุณแม่พี่ฮิมที่คอยยืนอยู่ข้างกายว่า ปากว่าแบบนั้นแต่สีหน้าเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด ท่านคงเฝ้าลูกชายทั้งคืน ร่างบางจับตัวผมเข้ากอด จับใบหน้าของผมซุกลงบ่า ลูบศีรษะแล้วปลอบเหมือนเด็กๆ “น้องเลไม่ผิด ผู้ใหญ่ผิดเอง มันเป็นปัญหาทางธุรกิจแต่ดันทำให้เลต้องมารับเคราะห์ แม่ขอโทษนะคะ”

“เลโอเค น้องไม่ได้เป็นอะไรมาก” ผมว่า ละตัวออกจากอ้อมกอด

“ดีแล้วที่น้องเลไม่เป็นอะไร เพราะถ้าเลเป็นอะไรไปอีกคน…” เสียงนุ่มหยุดชะงักไป เพราะคุณแม่เหมือนจะร้องไห้คุณพ่อพี่ฮิมจึงพาตัวออกไปสงบสติอารมณ์ด้านนอก ก่อนจะเดินกลับเข้ามานั่งที่โซฟา อีกฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกผมเข้าไปหา พอเลเดินไปนั่งข้างๆ ก็ถูกรวบตัวกอด

“โกรธเลไหม” ผมถาม “เลทำให้พี่ฮิมต้องเปลี่ยนแบบนี้”

“ไม่มีใครโกรธเล พวกเราต่างหากที่ต้องขอโทษน้อง” อีกฝ่ายจับแขนผม รอยเชือกจาการถูกรัดแน่นยังโชว์เด่ดอย่างเห็นได้ชัด “ขอโทษนะ”

ผมถอนหายใจ เอนหัวซบบ่าอีกคนด้วยความรู้สึกอ่อนแรง “พี่ฮิมจะพื้นไหม”

“ฟื้นอยู่แล้ว”

“ตอนโดนยิงฮิมสลบไปแล้วครั้งหนึ่ง เลกลัวพี่ฮิมไม่ตื่นอีกก็เลยบอกว่าจะยังไม่แต่งด้วย ให้ฟื้นแล้วค่อยมาขออีกทีนึง”

เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบาอยู่ข้างหู “ถ้างั้นยิ่งต้องฟื้น”

“แล้วก็…” ลากเสียงยาว กำลังคิดว่าเรื่องนี้อีกฝ่ายจะรู้แล้วหรือยัง “เลมีพ่อจริงๆ แล้วนะ”

เกิดเดดแอร์ไปประมาณสามสิบวินาที ก่อนที่เสียงทุ้มจะบอกว่า

“รู้แล้ว”

“แต่คุณพ่อสองก็ยังเป็นพ่อของเลนะ” ให้ตาย จากเริ่มต้นใช้คำว่าพ่อแค่กับพี่ฮิม ตอนนี้ผมเริ่มงงแล้วว่าควรจะใช้กับใคร ยังไง

“เกลียดคำว่าสอง ตัดมันออกไปได้ไหม ไอ้คนที่มาที่หลังน่ะควรจะเป็นที่สองหรือเปล่า”

“เขาทำให้เลเกิดมานะ”

“แต่มันไม่ได้เลี้ยงน้องหนิ” โอ้โห แรงมาก! ผมอ้าปากค้าง จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก สีหน้าของคุณพ่อพี่ฮิมจริงจังจนคิดเป็นเรื่องตลกไม่ได้ “ไม่งั้นก็กลับไปเรียกคุณลุง”

เอ้า! งอน “โอเค คุณพ่อก็ได้”

เลจะพยายามหาทางพูดคำว่าคุณพ่อแต่เจาะจงคนได้ก็ได้แล้ว

“น่ารักมาก” ว่าพลางจีบๆ แก้มผมเล่น จากแก้มก็ลามไปเอว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขย้ำๆ ขย้ำๆ ไปทั้งตัว

“แล้วคุณพ่อรู้ตอนไหน?”

“ตอนที่เลยังสลบ ไอ้คนน่าหมั่นไส้มันก็รีบมาทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อ”

บังเอิญ ไอ้คนน่าหมั่นไส้ ที่คุณพ่อพี่ฮิมว่าเดินเข้ามาพอดี ป๊ะป๋าแอรอน(เรียกงี้เลยก็แล้วกัน) เมื่อเห็นว่าเลกำลังนั่งอยู่บนตักของใคร ทางนั้นก็รีบเดินจ้ำเข้ามาดึงตัวของผมออกไปกอดทับ

สองพ่อจ้องตา เหมือนเห็นประกาศสายฟ้าอยู่แวบๆ

ผมผละตัวออก กลับไปนั่งจับมือพี่ฮิมอยู่ข้างเตียงเหมือนเดิม ส่วนอีกสองคนในห้องก็พร้อมใจกันเดินออกไปคุยกันด้านนอกแทน

“รีบๆ ตื่นนะ” พูดกับคนบนเตียงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รับรู้ถึงผมเลยก็ตาม



2 วันต่อมา

“น้องเลพักก่อนไหมครับ” ดีนจับบ่าของคนที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของฮิมมาแล้วสองคืน

คงจะเหนื่อย…

ดีนถือวิสาสะอุ้มคนหลับสนิทไปนอนบนโซฟา ใจจริงเขาอยากพาน้องกลับบ้าน แต่ดูเหมือนว่าถ้าเจ้าตัวตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลข้างเตียงคนป่วยแล้วล่ะก็ ทั้งบ้านคงเกิดการนองเลือด เพราะเลไม่ยอมไปจากที่ตรงนี้ อยู่เฝ้าข้างเตียงแบบข้ามวันข้ามคืนด้วยเหตุผลเดียวคืออยากให้ฮิมตื่นขึ้นมาแล้วเจอเลเป็นคนแรก ยังดีที่ข้าวปลามีหลายคนผัดเปลี่ยนเวียนเอามาให้ เพราะถ้าเลเกิดผอมลงไปมากกว่านี้ คนที่ดูท่าว่าจะตายคนแรกคงเป็นพ่อของเขา

รายนั้นรักน้องเลยิ่งกว่าอะไร ก่อนที่ยังไม่รู้ว่าน้องเป็นลูกแท้ๆ ก็เรียกว่าทุ่มเกินควรแล้ว แต่พอเลได้เป็นน้องชายของดีนเท่านั้นแหละ ไม่กี่วันหลังจากที่รู้ พ่อแทบจะยกธุรกิจสัมปาทานทั้งหมดที่มีให้น้องเลอยู่ร่อมร่อ

ดีนดีใจที่เลเป็นน้องชายแท้ๆ ของเขา แต่ก่อนที่เขาเคยคิดว่าอยากได้น้องเลเป็นสถานะอื่นที่มากกว่าน้อง แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว ร่างสูงรู้สึกว่าตัวเองอยากจะดูแลเลมากกว่า เขามีความสุขที่ได้เห็นคนตรงหน้ามีความสุข จะเหลือก็แต่พี่ชายอีกคนของเลที่ยังทำท่าไม่ไว้ใจ รายนั้นดูแล้วนิสัยไม่ต่างจากพ่อเขาสักเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ถ้าเขารับมือพ่อมาได้ รับมือกับอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะยาก

“พี่ดีน” คนที่ถูกอุ้มไปนอนที่โซฟาจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาขยี้ตางัวเงีย เขาเดินลงไปนั่งข้างๆ ทำตัวเป็นหมอนข้างเมื่อน้องกอด “หิวข้าว”

“อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่พาไป”

“กินไม่ลง” น้องว่า สาเหตุก็น่าจะเป็นเพราะคนบนเตียงยังไม่ฟื้น

“ทุกคนเป็นห่วงเล” ดีนจ้องหน้าน้อง พูดออกมาตามตรง “ฮิมมันคงไม่โอเค ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าเลผอมลง”

ชื่อที่ถูกอ้างอิงส่งผลต่อเลได้เสมอ น้องแสดงท่าทีเอนเอียงไปทางเขามากขึ้น “แล้วถ้าฮิมตื่นขึ้นมาตอนเลไปกินข้าวล่ะ”

“เชื่อพี่เถอะว่ามันจะไม่โกรธน้อง”

จบประโยคคนฟังก็ถอนหายใจ ลุกขึ้นแล้วบอกกับเขาขอเวลาเตรียมตัว ดีนอมยิ้ม รู้ได้ทันทีที่ว่าการพูดโน้มน้าวของเขาได้ผล ร่างสูงลุกขึ้นยืนมองผู้ป่วยบนเตียงขณะที่เลเดินเข้าห้องน้ำ ลองกระซิบเสียงแหบพร่าด้วยประโยคที่คิดว่าหากจิตสำนึกของคนตรงหน้าได้ยิน ดีนเชื่อว่ามันคงจะตื่นขึ้นมาทันที

“ลืมตาขึ้นมาได้แล้ว เลบ่นว่าอยากแต่งงาน ช้ากว่านี้น้องเปลี่ยนใจไปแต่งกับคนอื่น ใครก็ช่วยมึงไม่ได้นะ”

ดีนแสยะยิ้ม รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำอะไรที่ไร้สาระ เขาเดินออกจากห้องไปพร้อมเลและสั่งให้คนด้านนอกมาเฝ้าแทน ทันทีที่ประตูปิดสนิท ดีนไม่คิดเลยว่าสิ่งตัวเองพูดเอาไว้มันส่งผลแค่ไหน

เมื่อเปลือกตาสีไข่ที่ปิดสนิทมาสามวันเริ่มขยับ



45 นาทีต่อมา

“ฮิมฟื้นแล้วเหรอ” ดีนที่กำลังดื่มชาอยู่ถึงกับชะงัก ดูเหมือนคนตรงหน้าที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู๋จะไม่มีอารมณ์กินข้าวอีกต่อไป เลลุกขึ้นจากโต๊ะ ขณะที่ร่างสูงลุกตาม เปิดกระเป๋าตังค์หยิบแบงค์จำนวนหนึ่งออกมาวางซึ่งมากพอที่จะจ่ายค่าอาหารตรงหน้าได้ จากนั้นจึงเดินออกจากร้าน ขึ้นรถเหยียบเกือบสุดไปที่โรงพยาบาล

เลไม่รอให้รถจอดสนิทด้วยซ้ำ ร่างบางออกแรงวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไปที่ห้อง

ปัง!

“พี่ฮิม!”  เสียงตะโกนทำให้คนในห้องหันมามอง เลวิ่งไปดูที่เตียงซึ่ง… ว่างเปล่า “ฮิมล่ะ”

“หมอพาไปตรวจอยู่ มานั่งก่อน” วินจับน้องมาเช็ดเหงื่อ บังคับให้คนตัวเล็กนั่งลงบนโซฟา เลกวาดสายตามองในห้องมีแค่วิน ทั้งที่ควรจะมีมากกว่านี้เพราะตอนที่พี่วินโทรหาเขาได้ยินเสียงคนหลายคน

“ไปไหนกันหมด”

“แม่ฮิมไปกับฮิม ส่วนพ่อฮิมกับพ่อน้องเลพึ่งเดินออกไปคุยกันด้านนอก”

เลหันไปมองหน้าประตู เมื่อกี้เขารีบมากเลยไม่ได้สังเกตุ พึ่งเห็นว่าป๊ะป๋าแอรอนกำลังชูสองนิ้วให้ผ่านประตู ไม่กี่วิหลังจากนั้นคุณพ่อพี่ฮิมก็โผล่หน้าเข้ามาขยิบตาให้

“อีกนานไหม”

“ไม่นานหรอก ถูกพาไปตรวจสักระยะแล้ว เดี๋ยวก็มา”

จบประโยคนั้นได้ไม่นานประตูห้องก็ถูกเปิดออก คนที่เลอยากพบมากที่สุดถูกเข็นเข้ามาในห้อง ร่างบางลุกขึ้นยืนวิ่งเข้าไปกอดหลวมๆ เพราะกลัวอีกฝ่ายเจ็บ มือหนาลูบศีรษะเลตอบ ฮิมยังนิ่งเงียบจนกระทั่งถูกพยุงขึ้นบนเตียงดังเดิม นัยน์ตาคมจ้องคนที่ยังจับมือไม่ห่างแล้วขมวดคิ้ว

“ทำไมผอมลง” คำถามที่ทำให้คนฟังถึงกับสะอึก เหมือนที่พี่ดีนคาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด คนในห้องทยอยออกเพื่อให้ทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่ความหวังดีเริ่มสร้างความลำบากให้เลเมื่อฮิมจี้หนัก “น้องเล”

คนฟังทำหน้ารู้สึกผิด รีบประสานนิ้วทั้งสิบเข้ากับมือหนา “ก็เลเป็นห่วงฮิม”

“ไม่กินข้าวเหรอ?”

“กินไม่ลง” ร่างเล็กส่ายหน้า รีบเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา “ฮิมเจ็บไหม”

“ขึ้นมาให้พี่กอด” เลทำตามคำสั่ง ขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะถูกรั้งคอเข้าไปประทับจูบแผ่วเบา บรรยากาศสงบลง เลเอนตัวพิงบ่าในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนไปกับผู้ป่วย “ได้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นเยอะ”

“อืม”

“เล่าให้พี่ฟัง” เขาไม่อยากขัดพี่ฮิม เลเริ่มจากตอนที่ตัวเองตื่นหลังจากสงบไปหนึ่งวันเต็ม มารู้ว่าพ่อของพี่ดีนคือพ่อแท้ๆ ได้พี่ชายต่างแม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน แล้วก็ตอนที่คุณพ่อของฮิมกับป๊ะป๋าแอรอนเกือบทะเลาะกันเพราะเขา

“คุณพ่อรักน้องเลจะตาย”

“ไม่เห็นรู้มาก่อน”

“ก็แต่ก่อนเลทำหน้าเบ้ใส่คุณพ่อตลอดนี่”

“ไม่เถียง” เลว่า ร่างเล็กพยายามสังเกตุอารมณ์ของอีกฝ่ายเมื่อเห็นฮิมเงียบลง “ฮิมโอเคไหม”

“ทำไมพี่ต้องไม่โอเค”

“ก็…” เลเม้มปาก เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก อึดอัดจนคนป่วยสัมผัสได้ มือสากประคองใบหน้าสวยขึ้น แนบจูบลงบนแก้มใสกระซิบใส่ข้างหู

“เลมีความสุข พี่ก็มีความสุข”

“แต่เมื่อกี้ฮิมเงียบ” ฮิมถอนหายใจ เขาจำเป็นต้องสารภาพ

“พี่ปวดแผล” ไม่อยากบอกเลเพราะกลัวจะทำให้น้องเป็นห่วง และก็เป็นอย่างที่คาด ร่างบางขยับไปนั่งข้างเตียงแทนด้วยสีหน้าตื่นๆ

“เลขอโทษ” เสียงนุ่มว่าปรับหัวเตียงให้เอนลงต่ำเพื่อให้คนป่วยได้พักผ่อน “นอนดีกว่าเนาะ”

คนตัวสูงไม่ปฏิเสธ ฮิมจับมือน้องแนบเข้าที่แก้ม “อยู่กับพี่”

“พักผ่อนได้แล้วครับ”



ฮิมหลับแล้ว

เหมือนจะเพลียมาก เพราะไม่ถึงสิบนาที คนบนเตียงก็หลับสนิท ผมค่อยๆ ดึงมือที่ถูกจับแนบแก้มออก จัดผ้าห่มให้คนหลับก่อนจะเดินออกไปด้านนอก กอดหมับเข้าที่เอวของหนึ่งในสองพ่อที่ยังคุยกันไม่เสร็จ

“สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม” ป๊ะป๋าดึงตัวผมมาด้านหน้า จากฝ่ายกอดกลายเป็นฝ่ายถูกกอดจากทางด้านหลัง อีกฝ่ายวางคางไว้บนหัวเล จะว่าไปรอบตัวผมมีแต่คนสูงๆ เลยนะเนี่ย “คุณพ่ออยากนอนกอดน้องละ--”

“เลจะนอนเฝ้าพี่ฮิม” ผมพูดแทรกขึ้นมาทันควัน แน่นอนว่าคนฟังมีท่าทางขัดใจอย่างเห็นได้ชัด ป๊ะป๋าหันหน้าไปหาคุณพ่อพี่ฮิม ถามเสียงแข็ง

“อีกกี่วันถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้”

“สี่ห้าวันมั้ง ถามทำไม”

“เดี๋ยวจะเตรียมห้องที่บ้านให้”

“นี่ลูกฉัน จะให้ไปอยู่บ้านแกทำไม”

“ก็น้องเลต้องมาอยู่กับคุณพ่อสิใช่ไหมคะ” เพราะรู้ว่าผมไม่ยอมห่างพี่ฮิม ก็เลยต้องจัดห้องให้พี่ฮิมที่บ้านอย่างนั้นสินะ

“เสียใจ บังเอิญว่าบ้านนี้ก็มีห้องของน้องเลอยู่แล้ว ยิ่งฮิมเจ็บด้วยแบบนี้เอาที่ที่เคยอยู่ดีกว่า สะดวกกว่าเยอะ”

เลได้แต่หัวเราะแฮะๆ แรงกดดันรอบด้านทำให้บรรยากาศเริ่มมาคุขึ้นเรื่อยๆ ผมต้องการจะเปลี่ยนเรื่อง แล้วก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

“โอ๊ะ! คุณพ่อ” เรียกทั้งสองพ่อไม่ได้เจาะจงใคร แต่ขยับหนีออกจากป๊ะป๋าแอรอนแล้ววิ่งไปกอดพ่อพี่ฮิมแทน “ลำบากแย่เลยใช่ไหม?”

“ลำบาก?” คนฟังขมวดคิ้ว ทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ผมกัดริมฝีปากแน่น วกกลับไปกอดป๊ะป๋าอีกครั้ง

“ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าต้องช่วยคุณพ่อพี่ฮิมนะ”

“จะเอาเท่าไหร่” ท่านไม่ถามอะไรทั้งนั้น แต่เอ่ยคำพูดพร้อมยื่นเช็กให้เลย “แกเขียนๆ เอาเองแล้วกัน”

“เลพูดอะไรเนี่ย” คุณพ่อพี่ฮิมไม่ได้รับเอาไว้ ร่างสูงทำหน้างง เลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม

“ก็บริษัท…” พูดขึ้นจากนั้นก็ร่ายยาวจนจบ ผมน้ำตาคลอ “แย่เลยใช่ไหม”

ถึงคนที่ยิงพี่ฮิมจะถูกจับ แต่ศาลตัดสินแล้วว่าแฮมินตันแพ้คดี ถึงผมจะไม่เก่งเรื่องธุรกิจ แต่พี่ฮิมก็เคยกรอกหูอยู่ว่า เรื่องขึ้นศาลพวกนี้มันมีอิทธิพลพอสมควร แพ้ศาลหนึ่งครั้งความน่าเชื่อถือลดลงไปอยู่มากโข มันไม่ได้กระทบแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งแต่กระทบไปถึงส่วนรวม ดังนั้นผมเลยคิดว่าช่วงนี้แฮมินตันน่าจะตกที่นั่งลำบาก ทว่าคุณพ่อฮิมกลับส่ายหน้า

“น้องเข้าใจผิดแล้ว”

“อ้าว”

“แฮมินตันไม่ได้แพ้ศาล”

“หา?” ผมอ้าปากค้าง ไม่แพ้ได้ไง ก็ตอนนั้นออกข่าวเลยนะ! “ก็ข่าว…”

“สื่อถ้าใช้ให้เป็นก็มีประโยชน์” คนกอดผมกระซิบข้างหู ผมหันหน้าไปมอง ยังไม่เข้าใจจนกระทั่งได้เฉลย “จ่ายเงินให้เขียนข่าวว่าแพ้แล้วค่อยแก้ว่าไม่ได้แพ้ทีหลัง”

โอ้มายก็อดดดดดด

“ได้รับผลกระทบอยู่บ้างช่วงแรก แต่หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นปกติ ฉันต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายช่วยแก ได้ข่าวว่าตอนนั้นเซ็นยกบริษัทให้เพื่อแลกกับที่อยู่ของเลนี่”

“จริงเหรอ” ผมหน้าตาตื่น ขณะที่คุณป๋าของเลมีท่าที่ปลื้มปิติที่ผมถาม มากกว่าเรื่องที่ว่าเซ็นสัญญาเพื่อแลกกับที่อยู่

“เป็นห่วงเหรอคะ น่ารักจัง”

“จะเอาเท่าไหร่” ถามคำเดิมถูกย้อน คุณพ่อก้มลงหยิบเช็กบนพื้น เอาปากกาขีดลายเซ็นคุณป๋าออก แทนที่ด้วยลายเซ็นตัวเอง ซ้ำประโยคเดียวกันพร้อมกับแสยะยิ้ม “แกเขียนๆ เอาเองแล้วกัน”

รอยยิ้มบนใบหน้าของฝ่ายที่กอดเลอยู่หายไป เห็นท่าไม่ดีผมจึงต้องรีบห้ามศึกด้วยการกอดตอบแน่นๆ บังเอิญได้ผลดีเกินคาด ป๊ะป๋าแอรอนรีบวกความสนใจกลับมาที่เล รอยยิ้มประดับประดาบนใบหน้าดังเดิม “ตอบเลหน่อย”

“คนนี้เครียดแทนแล้ว” ว่าติดตลก ทว่าประโยคต่อมา ผมกลับตลกไม่ออก “มันได้ไปจริง”

กำลังจะอ้าปากค้าง ทว่า “แต่มีสิทธิครอบครองหลังจากออกมาจากคุกแล้วน่ะนะ ซึ่งตอนนี้ใบสัญญาที่มันได้ไปก็คง…”

เสียงฟิวดังต่อท้าย ทำมือเหมือนมีบางอย่างถูกลอยไปในอากาศ

“ยังไงก็ได้รับผลกระทบ เพราะคลาร์กที่แพ้น่ะ ชื่อเจ้าของบริษัทมันเป็นแกนี่”

ป๊ะป๋าทำหน้าเอือมระอา ปากบอกว่าจัดการได้ ไม่ต้องห่วง แล้วชวนผมคุยเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เลหันไปสบตากับคุณพ่อพี่ฮิม ร่างสูงอมยิ้มส่งสายตามาบอกว่าไม่จำเป็นต้องกังวล ผมยังไม่ค่อยวางใจหรอก แต่พวกผู้ใหญ่ดูเหมือนจะไม่ค่อยอยากให้เลยุ่งเรื่องนี้ ผมก็เลยปลง เลิกคิดแล้วไหลไปตามเรื่องที่คุณป๋าชวนคุยไปด้วยประการฉะนี้



พี่ฮิมได้ออกจากโรงพยาบาลไม่กี่วันหลังจากนั้น และท้ายที่สุดเราก็เลือกที่จะอยู่บ้านของคุณพ่อ แม้ป๊ะป๋าของผมจะอยากให้ผมย้ายไปอยู่อีกบ้านมากก็ตาม เพราะรู้ว่าผมจะคอยเฝ้าพี่ฮิม ไปไหนไม่ได้ ทางนั้นก็เลยแก้ปัญหาโดยการขึ้นเฮลิคอปเตอร์มากินข้าวเย็นด้วยเกือบทุกวัน เลว่าดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้การกินข้าวเย็นมีสีสันขึ้น เพราะต้องฟังผู้ใหญ่สองคนคุยกันปนๆ กับการเถียงกันไป

แผลของพี่ฮิมต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่ามันจะหาย ดังนั้นพี่วินและพี่ดีนจึงได้กลับไทยก่อน เพราะใกล้จะเปิดเทอมแล้ว ส่วนเลอยู่ในระหว่างการตัดสินใจ

จบเทอมนี้พวกพี่ๆ ก็เรียนจบ รับปริญญากันหมด สามพี่ของเลก็คงไม่มีใครอยู่ประจำที่ไทย พี่ฮิมต้องกลับมาอังกฤษ พี่ดีนก็เช่นกัน ส่วนพี่วินรายนั้นก็เปรยๆ ว่าอาจจะได้ไปทำงานอยู่ดูไบ ยังไม่แน่ใจแต่ก็คิดว่ารายนั้นก็คงจะไม่ได้อยู่ที่ไทย

พี่ๆ ของเลมีงานทำกันหมดแล้ว เหลือก็แค่ผมคนเดียว

ยิ่งคิดเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหนักใจ ทีแรกผมคิดว่าถึงพี่ฮิมจะกลับมาที่อังกฤษ ตัวเองก็จะเรียนที่ไทยต่อ แต่พอมีพี่วินพี่ดีน ยิ่งคุณพ่อแอรอนโผล่มาเพิ่ม ผมก็เริ่มคิดหนัก เพราะพึ่งรู้สึกว่ามีครอบครัวที่ครบขนาดนี้ ก็เลยไม่อยากห่าง ป๊ะป๋าเองก็คิดเหมือนกัน แต่ท่านไม่ได้บังคับ ให้โอกาสผมตัดสินใจทุกเรื่อง

โดยเฉพาะเรื่องการเรียนที่เลแทบจะวิ่งเต้นปรึกษาทุกคนไปแล้ว ไม่เว้นกระทั่งคุณพ่อของพี่วิน ดูจากประวัติ คุณพ่อแอรอนจบจาก MIT คุณพ่อพี่ฮิมจบมาจากหนึ่งในมหา’ลัย Ive league หรือคุณพ่อของพี่วินที่จบจากมหา’ลัยชื่อดังของอังกฤษก็ตาม ล้อมรอบตัวเลมีแต่คนเก่ง แต่คนเก่งทุกคนกลับไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกดดัน ไม่รู้ว่าเพราะว่าการเรียนของผนมันตกต่ำย่ำแย่หรืออย่างไร ทุกคนถึงไม่ได้มีท่าทีคาดหวังสูงนัก ป๊ะป๋ายิ่งแล้วใหญ่ ฝ่ายนั้นบอกเลยว่า…

ถ้าเรียนมันยากนัก น้องเลก็ไม่ต้องเรียนก็ได้ อยากทำอะไรก็ค่อยมาบอก คุณพ่อจะสนับสนุนเอง

อะไรประมาณนี้

กว่าผมจะตัดสินใจได้ วันนั้นก็เป็นวันสุดท้ายที่พี่ฮิมกำลังจะกลับไทย หลังจากแผลหายสนิทพอดี







(50%)



#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์

พอกันกับดราม่า ส่วนความหวานน่ะ มันเริ่มหลังจากนี้ ฮี่ๆๆๆๆๆ 5555555


ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1643 เมื่อ28-03-2019 23:55:24 »

เย้ๆๆๆ รอเค้าหวานกันนน  :mew1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1644 เมื่อ29-03-2019 00:04:27 »

รอๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1645 เมื่อ29-03-2019 00:12:06 »

เล หนูเริ่มจะญาติเยอะแล้วนะ  :hao3:

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1646 เมื่อ29-03-2019 00:24:08 »

ชอบการแก้เกมของคนเขียนที่ใช้สื่อ
ดีจริง แยบยล คิดไม่ถึง เยี่ยมเลย

น้องเลรู้จักครอบครัวจริงๆครบแล้วเนอะ
คราวนี้ไม่เหงาแน่ๆ สองพ่อคงปะทะคารมกันตลอด

รออ่านต่อจากนี้ค่า
รอคู่ดีนกับวินด้วย ยังไงน้าาาาา

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ(^^)

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1647 เมื่อ29-03-2019 00:26:30 »

น้องจะตัดสินใจยังไงงงง
แต่ละคนพร้อมเปย์น้องมาก โอ๊ยยยยย 5555555555

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1648 เมื่อ29-03-2019 05:25:57 »

โอยยยยน้องงงงงง หมดทุกข์หมดโศกนะลูก
รอความหวานอยู่จ้า

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
Re: • แฟนวิศวะ • 280319#44 (50%) p.55
«ตอบ #1649 เมื่อ29-03-2019 07:53:35 »

หมดเคราะห์สักทีนะน้องเลย แถมได้ป๊ะป๋ากับพี่ชายเพิ่มมาอีก  :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด