ตอนที่๓๐ ๕๐%
เธราเหลือบมองสหัสที่กำลังกันนักรบปีศาจให้ห่างออกจากตนก่อนตัดสินใจพุ่งตัวเข้าไปหารันตราทันที มือเรียวกำกริชในมือแน่น ดวงตาสีน้ำตาลมองไปที่ปีศาจตรงหน้าตรงๆ ชั่วระยะเอื้อมมือเธราแทงกริชออกไปแต่กลับสัมผัสเพียงความว่างเปล่า
“คิดเหรอว่ากริชโง่ๆของเจ้าจะได้สัมผัสตัวข้า” เสียงของรันตราที่มากระซิบอยู่ข้างหูทำเอาเธราหันตัวกลับไปยังต้นเสียงทันทีแต่ดูเหมือนจะช้ากว่ารันตรา เมื่อผมสีทองที่ดูเหมือนจะยาวออกมาได้ไม่สิ้นสุดนั้น รัดร่างของเขาเอาไว้แน่น ก่อนยกตัวเขาขึ้นแล้วส่งออกไปให้ลอยอยู่กลางอากาศนอกกำแพงเมือง
“ท่านเธราถูกปีศาจรันตราจับตัวได้แล้ว” คุชเอ่ยออกมาทั้งที่เหนื่อยหอบเสียงของเหล่าทหารที่กำลังต่อสู่กับนักรบปีศาจต่างเอ่ยคำที่ชวนขวัญเสียเมื่อเห็นพระสนมกำลังอยู่ในอันตรา เมื่อร่างของเธราที่อยู่บนกำแพงเมืองนั้น ถูดรัดรึงด้วยเส้นผมของรันตราและยกขึ้นอยู่กลางอากาศ
“ท่านเธรา” ธันที่กำลังต่อสู่อยู่ด้านล่างเงยหน้ามองร่างของเธราที่ลอยอยู่กลางอากาศโดยมีเส้นผมของรันตราพันรอบตัวแน่น ร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามพยายามตีฝ่าวงล้อมของเหล่านักรบปีศาจออกไปอย่างสุดความสามารถ “วี๊ดดด” ทันทีที่สิ้นเสียงผิวปากของธัน ก็ปรากฏร่างของม้าศึกและเหล่าทหารม้านับสิบตรงเข้ามายังวงล้อมการต่อสู้ทันที ทหารทุกคนมีคบเพลิงในมือเปลวไฟที่แผดเผาร่างของเหล่านักรบปีศาจให้มอดไหม้
“ระวังหลังให้ข้าทีคุช” ธันหันไปบอกกับสหายสนิทที่ตอนนี้ยืนหันหลังชนกัน เขาตัดสินใจพาตัวเองขึ้นมาบนกำแพงเมืองทันที
-----------------------------------------------------------------------------------------------
“ปล่อยเธรา” รันตราเลิกคิ้วทันทีริมฝีปากสวยแย้มยิ้มอย่างเย้ยหยันเมื่อองค์วิรัลฝ่ากองทัพปีศาจมาถึงตัวเขาทันทีที่เธราอยู่ในอันตราย แขนแกร่งล็อคคอของรันตราเอาไว้พร้อมคมดาบที่จ่ออยู่ที่ลำคอสวยของปีศาจร้าย
“จะทำอะไรข้า องค์วิรัล” รันตราเอ่ยช้าๆ ก่อนใช้มือของตนดันคมดาบให้ออกห่างจากคอมือเรียวบางออกแรงกดลงไปที่คมดาบจนเลือดสีดำค่อยๆไหลออกมาช้าๆ “ปีศาจฆ่าไม่ตาย ท่านก็น่าจะรู้ดี ของประจำตัวราชาก็หายไปแล้วจะเอาอะไรมาขับไล่ข้ากัน” รันตราพูดพลางหัวเราะเบาๆ คมดาบที่โดนเลือดของปีศาจค่อยๆผุกร่อนราวโดนกรด
“ข้าไม่มีสิ่งของประจำตัวราชา แต่อย่าลืมไปรันตราว่าข้าคือ กษัตริย์แห่งนันทานคร” วิรัลเอ่ยออกมานิ่งๆ ก่อนออกแรงกดดาบเข้าหามือของรันตรา ดาบที่โดนโลหิตของปีศาจกัดกร่อนจนบิ่นหักออกเป็นสองส่วน พร้อมกับมือของรันตราที่ขาดวิ่น วิรัลละแขนออกจากคอของรันตราก่อนใช้มือข้างนั้นรับเอาเศษดาบที่หักครึ่งไว้จนโลหิตสีแดงของมนุษย์ไหลออกมา
“ข้าวิรัลราชาแห่งนันทาผู้ขึ้นครองบัลลังค์ด้วยใจสุจริต โลหิตแห่งข้าจะขับไล่วิญญาณร้ายให้พ้นแผ่นดินนันทา” วิรัลประกาศก้องก่อนใช้เศษดาบหักที่อาบด้วยเลือดของตนปักลงไปที่หน้าผากของรันตรา ควันสีดำลอยคลุ้งออกมาจากใบหน้าของรันตราทันทีที่ถูกโลหิตของวิรัลแทบจะทันที
“อ๊ากกกกกก” รันตราร้องอย่างเจ็บปวดเส้นผมที่เคยพันยกเธราขึ้นสูงคลายออกจากร่างของเธราทันทีก่อนจะพุ่งมายังร่างขององค์วิรัลที่กำลังรัดตัวเขาเอาไว้
ฉึก!!! เส้นผมของรันตราแทงเข้าไปที่ลำตัวขององค์วิรัลทันที หากวิรัลเองก็รู้ทันร่างสุงใหญ่ผละออกพร้อมเอี้ยวตัวหลบทัน เส้นผมปีศาจจึงทำได้แค่เฉียดร่างไปเท่านั้น
ร่างของเธราที่ร่วงลงสุ่พื้นทันทีที่รันตราคลายเส้นผมออก สหัสกระโจนออกไปรับได้ทันท่วงที โชบุกับชุนที่ได้จังหวะเข้ามาสมทบ
“เป็นอะไรหรือเปล่าท่านเธรา” สหัสเอ่ยถามนายของตนอย่างเป็นห่วง เธราส่ายหน้าไปมาแม้จะยังคงจุกเจ็บจากการถูกรัดและยกขึ้นไปลอยอยู่บนอากาศ
“สหัส เจ้าป้องกันชุนให้เข้าใกล้รันตราได้ไหม” เธราหันไปถามสหัส สิงห์ราพยักหน้ารับแม้จะอยากอารักขาเธรามากกว่าแต่ไม่ว่าอย่างไรนี่คือคำสั่ง
องค์วิรัลถอยออกมาจากร่างของรันตรา ก่อนจะเหลือบไปเห็นว่าเธราเองก็ปลอดภัย ร่างสูงใหญ่ของวิรัลยกมือขึ้นเป็นเชิงคำสั่งให้ทหารทุกคนเตรียมพร้อม ควันสีดำลอยกรุ่นไปมารอบตัวปีศาจร้าย รันตาดึงเศษดาบออกมาก่อนพาตัวเองขึ้นไปลอยอยู่กลางอากาศอีกครั้ง ใบหน้าที่เคยงดงามมีแผลบาดลึก
“อั๊ก!!!” รันตราเปล่งเสียงออกมาราวเจ็บปวดหากความเจ็บปวดนั้นคงไม่ได้มาจากโลหิตของวิรัลทั้งหมด ร่างมนุษย์ของรันตราเริ่มผิดแปลกไป ผิวหนังที่เคยดูเนียนสวยเริ่มกร้านดำ ปีกสีดำสนิทงอกออกจากแผ่นหลังก่อนแผ่สยายออกมาราวอวดอ้าง ดวงตาสีฟ้าสวยแปลเปลี่ยนเป็นน้ำเงินเข้ม ใบหน้าที่เคยงดงามจับตากลับกลายเป็นปีศาจเต็มตัว ผิวเนื้อกร้านดำ เขี้ยวสีแดงสดโผล่พ้นริมฝีปาก พร้อมกับเล็บที่ยืดยาวจนน่าขนลุก ริมฝีปากขยายกว้างเผยให้เห็นซี่ฟันที่เรียงเล็กคนคล้ายฟันของสัตว์ร้าย
“ปีศาจ” เธราอุทานออกมาเขายอมรับว่าเริ่มหวั่นใจเมื่อเห็น ร่าง ที่แท้จริงของปีศาจ นี่สินะสิ่งที่ทุกคนหวั่นเกรง
“ยิง!” สิ้นคำสั่งของวิรัลธนูนับสิบก็ถูกปล่อยไปยังร่างของรันตรา แต่ไม่มีดอกไหนเลยที่ระคายเคืองผิวของรันตรา ร่างอัปลักษณ์ของรันตรายกมือข้างที่ขาดจากคมดาบของวิรัลขึ้นมาดูก่อนหัวเราะออกมาราวตลกเสียเต็มประดา แผลที่ใบหน้าของรันตราค่อยๆสมานตัว มือดำกร้านราวไม่ใช่มือของคนงอกออกมาราวมีชีวิต
“ข้า คิดว่าเล่นกับพวกเจ้ามาพอแล้วล่ะ” รันตราเอ่ยน้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นฟังดูแหบแห้งไร้ชีวิต รันตรายกมือขึ้นมาระดับอก ริมฝีปากที่กว้างจนน่าขนลุกเอ่ยท่องบางอย่างไปมาก่อนจะเกิดเป็นมวลควันสีดำสนิท แล้วร่างบางร่างก็โผล่ออกมาจากกลุ่มควันนั้น
“คาเซ” วิรัลอุทาน เมื่อพบว่าคนที่โผล่ออกมาจากกลุ่มควันนั้นคือคาเซ ร่างอ่อนปวกเปียกของคาเซยังคงถูกโซ่ตรวนพันธการเอาไว้เหมือนตอนที่ถูกขังในคุกใต้ดิน ผมยาวสีอ่อนยุ่งเหยิงท่าทางไร้เรี่ยวแรง
วิรัลผิวปากเบาๆเป็นจังหวะ ทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่รันตรากับคาเซ รันตราจับคอเสื้อของคาเซไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวทั้งที่ยังคงลอยอยู่กลางอากาศ
“ดวงใจของกบฏผู้สำนึกผิดงั้นรึ หึ” รันตราเอ่ยออกมาก่อนยกคาเซขึ้นมามองแววตาที่ทอดมองคาเซนั้นดูเจ็บปวด “หลงรักพี่ตัวเอง คงทั้งเทิดทูลทั้งยกย่อง เฝ้ามองมาตลอดสินะ หืม” รันตราพูดกับคาเซที่ตอนนี้ผงกหัวขึ้นมามองรันตราได้เพียงนิดก่อนจะทิ้งตัวลงไปราวคนไร้เรียวแรงอีกครั้ง “เพราะปล่อยให้ความริษยาครอบงำจนกาฝากเผยความในกัดกินเป็นอาหารจนอิ่มหนำ” รันตราเอ่ยออกมาช้าๆ “เจ้าจงโทษความริษยาในใจเจ้าเถิด ที่นำพาเรื่องราวมาถึงขนาดนี้”
“เจ้าก็มัวแต่ให้โทษคนอื่น ทั้งที่คนที่เป็นต้นเหตุทั้งหมดคือเจ้ารันตรา” เธราตะโกนออกไปอย่างเหลืออด “ถ้าเจ้าไม่สร้างเรื่องขึ้นมาตั้งแต่แรก เรื่องนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ถ้าเจ้าไม่ต้องการชีวิตของผู้บริสุทธิ์ก็จะไม่มีใครตายทั้งองค์หญิงโยนา รารีหรือแม้แต่ราชาแห่งวูธ”
“โยนาถูกพ่อตัวเองบันดาลโทสะฆ่าตาย รารีผูกคอตาย สวนราชาแห่งวูธก็สมควรตายแล้วคนที่ฆ่าลูกเพื่อปกป้องหน้าตาตัวเองนะเป็นคนเลวนะเธรา” รันตราพูดออกมาอย่างติดตลก “ข้าแค่รับเอาหัวใจของชายแก่นั่นเอาไว้ก่อนที่มันจะสิ้นใจตายเพราะความชราของตนเองก็เท่านั้น”
แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อ แหขนาดใหญ่ก็ถูกยิงออกไปจากกับดักที่ซ่อนไว้ตามรหัสผิวปากของวิรัล แหขนาดใหญ่กวาดเอาร่างของรันตราและคาเซไว้จนทั้งสองตกลงมาที่พื้นกำแพงเมืองทันทีแต่สิ่งที่ตกลงถึงพื้นีเพียงคาเซเท่านั้น ร่างของรันตราหายไป แต่กลับไปปรากฏที่ด้านหลังของราชาแห่งนันทานครองค์วิรัลที่กำลังสนใจคาเซไม่ทันได้ระวังตัว เล็บสีแดงสดนั้นพุ่งตรงยังร่างของราชาแห่งนันทานคร
ฉึก!อั๊ก! เล็บสีแดงสดนั้นฝังลึกเข้าไปในร่างก่อนจะกระชากออก ใบหน้าปีศาจนั้นเลิกคิ้วราวแปลกใจเมื่อคนที่ถูกฝังกรงเล็บนั้นกลับเป็นธัน
“ธัน!” เธราตะโกนเสียงดัง ก่อนพยายามพาตัวเองไปหาคนเจ็บที่ตอนนี้ทรุดลงไปกองกับพื้น ธันขึ้นมาบนกำแพงเมือง และทันทีที่เขาเห็นว่าองค์วิรัลนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย เขาก็เอาตัวเข้ากำบังเหนือหัวของตนจากกรงเล็บปีศาจทันที
วิรัลหันมามองธันที่เขามารับกรงเล็บแทนตนร่างแข็งแกร่งของหัวหน้าหน่วยทหารม้าคู่ใจทรุดลงไปต่อหน้าต่อตา ใบหน้าของธันที่ยังคงหันมามองเขาอย่างเป็นห่วง ทำเอาราชาแห่งนันทานครต้องขบกรามแน่น เขารู้ว่าธันคิดอย่างไรกับเธรา ภาพของธันที่สวมกอดเธราที่สวนดอกไม้ในตำหนักหยาดหมอกนั้นยังติดตา ไม่ว่าจะเป็นการถอนกาฝากที่เอรันทำหรือคำพูดของทรีสนั้นเขาได้ยินได้ฟังทั้งหมด แม้ตอนแรกเขาจะโมโหที่เธราไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเขาแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าเธราเองก็อึดอัดไม่น้อย ส่วนธันนั้นหลังจากถูกถอนกาฝากออกไปก็ไม่เคยมาวนเวียนต่อหน้าเขากับเธราอีกเลยถ้าไม่ได้รับคำสั่ง เขาจึงเลือกที่จะเงียบและเก็บความลับนี้ไว้ ถ้ามันจะทำให้คนที่เขารักและไว้ใจทั้งสองสบายใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เชื่อว่าเธราและธันจะไม่มีวันหักหลังเขา
วิรัลยกมือสั่งการให้ทหารเข้าไปดูแลคาเซ ก่อนที่ตัวเองจะพุ่งตัวเข้าไปหารันตราอีกครั้ง วิรัลและเธราเข้ามาถึงรันตราพร้อมกัน ดาบของวิรัลที่แหวกอากาศลงไปยังร่างปีศาจนั้นแม้จะทำร้ายให้เจ็บปวดไม่ได้แต่มันก็สร้างความพะว้าพะวงให้ได้ไม่น้อยการเคลื่อไหวของบุรุษที่ชาชินกับการทำสงครามนั้น ไม่ใช่เรื่องที่รับมือได้ง่ายนัก แม้ตอนนี้รันตราจะอยู่ในร่างของปีศาจแต่โลหิตของวิรัลที่เพิ่งโดนไปทำเอาพลังของเขาสั่นไหวพอสมควร
เธราอาศัยจังหวะที่วิรัลกำลังไล่จู่โจมใส่รันตราร่างโปรงขยับเข้าไปใกล้ ก่อนจะแทงกริชเข้าไปที่ลำตัวของรัยตราจนมิดด้าม
“อั๊ก!” เลือดสีดำทะลักออกมาตามรอยแผลที่เธราดึงกริชออก น่าแปลกที่คาวนี้แผลนั้นไม่สมานตัวเองได้ทันทีเช่นทุกครั้ง
“อาวุธจากเมืองเวทเท่านั้นที่สามารถหลั่งเลือดชาวเวทได้ คงจะจริงสินะ” เธราคิดดก่อนปล่อยหมัดเข้าไปที่หน้าของรันตราทันที
เมื่อเธราเปิดทางให้วิรัลจึงเหวี่ยงดาลลงไปที่ร่างของรันตราอีกครั้ง แต่เหมือนรันตราจะไม่ยอมให้ตนอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบนาน ปีกสีดำสนิทสยายใหญ่ก่อนจะสะบัดจนกระแทกร่างของวิรัลจนกระเด็นไปกระแทกพื้น มือกร้านคว้าเอาคอของเธราก่อนยกขึ้นสูงจนเท้าลอยจากพื้น
“ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเลยเธรา” รันตราเอ่ยออกมาเธราที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดแม้จะอึดอัดแต่สายตาเจ็บปวดของรันตราที่มองมานั้นเขากลับเห็นได้ชัด แววตาที่เหมือนของ คาเซ
“ปล่อยข้า” เธราพยายามดิ้นก่อนใช้เท้าถีบเข้าไปที่อกของรันตราหลายที แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเท่าไรเพราะรันตาเพียงแค่เซเล็กน้อยแต่ยังคงไม่ยอมปล่อยมือ เธราจึงตัดสินใจเอากริชแทงลงไปที่ข้อมือของรันตราทันทีได้ผล ปีศาจรันตราปล่อยเขาตกลงมาที่พื้นและดูเหมือนรันตราเองก็นึกไม่ถึงว่าทันทีที่เธราเป็นอิสระร่างสุงโปร่งของฝ่ายตรงข้ามจะลุกขึ้นและพุงตรงมายังเขาทันที
เธราพุ่งตัวเขาไปหารันตราด้วยความเร็วก่อนที่จะพากันล้มไปทั้งคู่ ก่อนเธราที่อยู่ด้านบนจะขึ้นนั่งค่อมบนตัวของปีศาจรันตรา พร้อมใช้กริชจ่อที่คอทันที
“ถึงไม่ตายก็จะเฉือนให้คอขาดเลยดูสิว่าจะงอกออกมาได้อีกไหม ไม่เชื่อก็ลองขยับตัวดู” เธราบอกออกมาทั้งที่เหนื่อยหอบใบหน้าแสนธรรมดานิ่งสนิท
“เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าเหรอพระสนมเธรา” รันตราเอ่ยออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะที่ดูเหมือนจะเย้ยหยันตนทั้งโลก
“แล้วเจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้าไหมล่ะ รัชทายาทรันตราแห่งกัชธาผู้มอบจิตวิญญาณให้ปีศาจ” เธราเอ่ยสวนกลับไปพร้อมออกแรงกดกริชมากขึ้น “กลับไปที่ของเจ้าซะ” เธราเอ่ยรอดไรฟัน
“ให้ข้ากลับไปที่ไหนดีเธรา” รันตราถามเธราก่อนแย้มยิ้มเบาๆรอยยิ้มเศร้าที่ทำเอาเธราแปลกใจ ร่างของรันตราค่อยๆกลายกลับมาเป็นร่างของมนุษย์อีกครั้งใบหน้าแสนสวยนั้นยังคงงามจับตา
“กลับไปที่ของเจ้าไง กลับไปซะข้าไม่อยากให้ใครต้องตายอีก”
“ข้าคงทำตามคำเจ้าไม่ได้จริงๆเธรา” สิ้นคำเล็บสีแดงสดก็พุ่งไปที่คอของเธราทันที แต่ดูเหมือนสหัสจะเร็วกว่าเมื่อร่างของสิงห์รานั้นพุ่งตรงมาที่เธราก่อนคว้าเอาตัวนายของตนออกมาให้ห่างรันตรา พร้อมกับชุนที่เข้ามาประจันหน้ารันตราทันที ร่างของชุนที่มีเลืดของยักษ์ผสมอยู่แดงกล่ำเพราะธาตุเตโชในตัว ไม่น่าเชื่อว่าชุนที่ตัวใหญ่โตขนาดนั้นจะรวดเร็วได้ขนาดนี้
ทันทีที่เห็นชุนรันตราก็วาดมือขึ้นสูง นักรบปีศาจปรากฏขึ้นรอบกายเขาทันที มือเรียวกดแผลที่ลำตัวของตนเบาๆแผลที่เกิดจากกริชของเมืองเวทนั้น บาดลึกจนเจ็บแปลบ
ชุนไม่ได้สนใจพวกนักรบปีศาจที่ถูดเสกขึ้นมาเท่าไรร่างสูงใหญ่จับร่างไร้ชีวิตนั้นฉีกออกจากกันราวเศษกระดาษ
“เก่งจริงอย่าหนี” ชุนตะโกนลั่น ก่อนพยายามเข้าไปให้ถึงตัวรันตราที่ดูจะได้รับบาดเจ็บพอสมควร
“หยุดก่อน” เสียงหวานของเอรันที่ตะโกนขึ้นทำเอาชุน ต้องชะงัก สหัสโชบุและเธราหันไปมองร่างบอบบางของเอรันอย่างสงสัยแม้แต่วิรัลเองก็ไม่เข้าใจการปรากฏตัวของหญิงสาว เอรันทรีสและลูกน้อยถูกขอร้องให้อยู่แต่ในตำหนักหยาดหมอกเพราะสถานการณ์อันตรายมาก และพวกเขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับการต่อสู้ครั้งนนี้น้ำใจที่มีให้มาตลอดก็มากเพียงพอแล้วเธราไม่อยากให้ใครต้องมาบาดเจ็บเพราะเขาอีก หากตอนนี้เอรันกลับปรากฏตัวออกมาท่ามกลางการต่อสู้ที่ดูจะรุนแรงมากขึ้น แสงอาทิตย์กำลังอัสดงนั้นบ่งบอกว่าทันทีที่ตะวันลับขอบฟ้ากองทัพเลือดจะทรงอานุภาพมากขึ้นอีกเท่าตัว และนั่นหมายถึงอันตรายที่ประเมิณค่าไม่ได้กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้
“หยุดเถอะ ท่านพี่” เอรันเอ่ยออกมาอย่างยากลำบากเพราะน้ำตาที่ใหลเต็มใบหน้า ร่างของปีศาจที่รายล้อมด้วยนักรบปีศาจแห่งกองทัพเลือดนั้นคือ รันตรา พี่ชายที่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันในสภาพแบบนี้ กัชธาแทบจะล่มสลายทุกอย่างทุกชีวิตอยู่ในสภาพหยุดนิ่ง ทุกคนในเมืองโดนสาปด้วยเวทที่แรงกล้า และหนึ่งชีวิตที่แสนสำคัญนั้นหลับใหลไปพร้อมกับกัชธา เพราะเหตุนี้สินะ รันตราถึงแลกพี่ชายของเธอยอมเป็นปีศาที่น่ารังเกียจ เพราะนอกจากชาวเวทแล้วก้มีเพียงปีศาจเท่านั้นที่สามารถปลุกชีพกัชธาได้
“เอรัน งั้นรึเจ้า...ยังไม่ตาย” รันตรามองร่างแสนสวยที่คุ้นตาของหญิงสาวตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บเสียด ร่างบอบบางเต็มไปด้วยน้ำตา ดวงตาสีฟ้าที่แทบจะถอดออกมาจากเขานั้นแสนจะคุ้นชินในความรู้สึก
“กัชธา กำลังจะตื่นแล้ว ท่านพี่ไม่ต้องฆ่าใครเพื่อปลุก...เขาอีกแล้วหมอกแห่งเวทจางลงไปมากแล้ว บางทีคำสาปนั้นอาจจะจางหายไปตามกาลเวลาแล้วก็ได้” เอรันบอกก่อนพาตัวเองมาใกล้รันตรา มือเรียวยกขึ้นโบกไปมาเบาๆร่างของนักรบปีศาจก็หยุดแข็งอยู่กับที่ราวไร้ชีวิต “ท่านไม่ต้องหาดวงใจปวดร้าวทั้งสามแล้ว ไม่ต้องฆ่าใครแล้ว ท่านพี่กลับกัชธาเถอะ”
“เอรันข้าไม่ชาวเวทแล้ว ข้าเป็นปีศาจ” เสียงตอบกลับมานั้นฟังดูเจ็บปวด
“ไม่ว่าอย่างไรท่านก็เป็นพี่ข้า ข้ามีลูกแล้วนะท่านมีหลานแล้วมีคนเรียกท่านว่า ท่านลุงแล้ว ได้โปรดอย่าทำเรื่องไม่ดีอีกเลย” เอรันขอร้องทั้งที่น้ำตายังคงนองหน้า แต่ทันใดนั้นบนท้องฟ้าก็ปรากฏบางสิ่งที่ไม่คาดคิดบางสิ่งนั้นตกลงมาจากฟากฟ้าผ้าคลุมใหล่ของราชาที่ลงมาคลุมไปที่ร่างของรันตรา
“ปักษา” วิรัลอุทานเบาๆก่อนเหลือบเห็นบางชีวิตที่ลอยอยู่กลางอากาศ ราซีนนั้นลอยอยู่กลาอากาศโดยมีปักษาใช้กรงเล็บจับตัวเอาไว้ ก่อนจะโยนร่างของราซีนลงมาพร้อมกับดาบประจำตัวราชา
เธราเงยหน้ามองไบนฟ้าก่อนจะพบกับร่างของปักษาสาวที่คุ้นตา “ข้าจะถือว่าข้าชดใช้บุญคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้แล้วกันแม้ข้าจะเกลียดหน้าเจ้ามนุษย์นั่น” ปักษาที่กลายร่างเป็นมนุษย์เอ่ยขึ้นใบหน้าหวานเชิดขึ้นราวดื้อรั้น ก่อนพยักเพยิดที่ราซีนอย่างไม่พอใจ
“ใครวะ” โชบุหันไปกระซิบกับสหัส
“ไม่รู้ แต่...ปักษาตนนี่เป็นชนชั้นสูงของอมุษย์ทำไมถึงรู้จักกับท่านเธราล่ะ” สหัสเองก็ยังไม่เข้าใจและทันทีที่ปักษาตนนั้นหันมาเห็นสหัส ก็ต้องหลบตาราวกลัวบางอย่าง
“เจ้าที่เคยถูกท่านราซีนจับไปน่ะเหรอ” เธราเอ่ยออกมาก่อนจะนึกถึงปักษาที่ตนช่วยไว้ได้
“ข้านำของบางส่วนไปทิ้งไว้ที่ตำหนักของท่านแล้ว ส่วนของที่ต้องใช้เจ้ามนุษย์นั่นเอามาแล้ว” ปักษาสาวกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ราซีนที่โยนดาบคืนวิรัล
“เจ้ามาได้ยังไงกัน” เธราอดที่จะถามไม่ได้
“รู้ไว้แค่เราชาวอมนุษย์ไม่ใช่พวกที่ลืมบุญคุณใครง่ายๆ ท่านช่วยชีวิตข้าชาตินี้ข้าไม่มีทางลืม” ปักษาสาวเอ่ยออกมาก่อนยกมือเธราขึ้นมาจุมพิต
“ขอบใจเธราบอกออกไปอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เพราะเขายังคงพยายามจดจ่ออยู่ที่รันตรากับเอรัน สองคนนั้นเป็นพี่น้องกัน เขาไม่อยากจะเชื่อ ร่างของรันตราตอนนี้ทรุดลงไปที่พื้นอย่างเจ็บ เอรันผวาจะเข้าไปช่วยหากโชบุที่เข้ามาประชิดตัวนั้นกลับดึงเอาไว้
“อ๊ากกกกกก” รันตราร้องอย่างเจ็บปวด ชุนเดินเข้าไปที่ร่างของปีศาจตรงหน้ามือหนาคว้าเอาลำคอของรันตรามาจับไว้แน่น
“อย่า ชุนข้าขอร้อง” เอรันร้องเสียงหลงร่างบอบบางพยายามสะบัดให้หลุดจากโชบุ หากเสียงของรันตราอาจจะไม่ได้ยินถึงชุนเมื่อครึ่งยักษ์นั้น ค่อยๆดึงร่างของรันตราออกเป็นสองส่วนเสียงกระดูกที่ลั่นฟังดูน่าขนลุก
“หยุดก่อนชุน”เป็นเธราที่เอ่ยปากห้ามเธราเดินเข้ามาหาชุนท่ดูเหมือนกำลังบ้าเลือดร่างกายใหญ่โตนั้นขึ้นสีจนน่ากลัว
“”หวังว่าเมียเจ้าคงไม่ห้ามอะไรน่าโมโหนะวิรัล” ราซีนเอ่ยออกมาก่อนถอนหายใจ เขาได้รับหน้าที่ให้ไปเอาของประจำตัวราชาลงมาจากยอดเขานันทา กว่าเขาจะขนของลงมานั้นไม่ง่ายนักโชคดีที่เขามาเจอกับปักษาสาวที่เธราเคยช่วยเอาไว้บินผ่านมา กว่าจะเกลี่ยกล่อมให้ยอมช่วยได้ก็ต้องชักแม่น้ำทั้งหา เพราะแม้ปักษาสาวจะอยากช่วยเธราแต่ตรงกันข้ามเธอกลับเกลียดหน้าเขาไม่น้อย แน่ล่ะเขาเป็นคนจับปักษาตนนี้ไปขายเป็นทาสนี่
“เตรียมโมโหเถอะ” วิรัลตอบง่ายๆ เธราก็คือเธรา ใจดีจนน่าโมโห
“เธรา ข้ารู้ว่าหน้าไม่อาย แต่ข้าขอร้องอย่ากลืนกินพี่ชายข้าเลยนะ ได้โปรดเถอะ” เอรันสะอึกสะอื้นก่อนสะบัดตัวให้พ้นจากโชบุ มือเรียวกอบกุมมือของเธราไว้ราวอ้อนวอน
“ท่านพี่...เจ็บปวดมามากแล้ว ทุกคนผิดกันหมด หากจะทำให้หายไปข้าเองก็สมควรหายไปไม่น้อยกว่พี่รันตราเลยสักนิด”เอรันสะอื้น เธรามองหญิงสาวตรงหน้านิ่งๆ ก่อนละสายตาไปยังรันตราที่ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ร่างแสนสวยนั่นนอนนิ่งอยู่บนพื้น เธราเดินไปใกล้รันตราก่อนจะดึงเอาผ้าคลุมใหล่ขององค์วิรัลออกมา คราบเลือดที่ติดมาตามผ้านั้นแทบจะย้อมสีผ้าจนทั่ว
รันตราสะอึกเล็กน้อยเมื่อผ้าหลุดจากตัว แต่ความเจ็บปวดนั้นไม่ได้ลงลงสักเท่าไหร่ ตอนนี้กระดูกในร่างของเขาแทบจะแหลกละเอียดค่ามือเจ้าลูกครึ่งยักษ์นั่น รันตราปรือตามองเธราที่เดินมาใกล้ก่อนแค่นหัวเราะอย่างสมเพศตัวเองเขาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกรันตราปิดเปลือกตาตัวเองลง ภาพของใครบางคนที่แสนคุ้นตาลอยเข้ามาในห้วงสำนึก ไม่ว่าอย่างไรเสียเขาก็ไม่เคยลืมได้จริงๆ แม้ว่าเขาจะถูกเจ้าลูกครึ่งยักษ์นี่กินเข้าไปแต่ดวงจิตเขาก็คงไม่มีทางลืม
“เอรัน รันตราต้องการชีวิตข้า ชีวิตพารัม แม้กระทั้งชีวิตของคาเซเจ้าคิดว่าข้าสมควรให้อภัยอย่างนั้นรึ” เธราหันไปถามเอรันที่ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา
“หากท่านไว้ชีวิตพี่ข้า ข้าสัญญาว่าท่านพี่รันตราจะไม่กลับมาให้ท่านเห็นหน้าอีก”
“เจ้าจะทำยังไงกัน” เป็นวิรัลที่ถามขึ้น พลางมองหน้าเธรา สีหน้าแบบนี้แค่เห็นเขาก็แทบจะเดาคำตอบของเธราออก
“ข้าจะส่งท่านพี่รันตราไปยังที่ของเขา ไปหาคนที่เขาไม่สามารถจากมาได้อีก ได้โปรดเถอะ” เอรันคุกเข่าลงก่อนก้มหัวลงแน่บพื้น เธรารีบเข้าไปพยุงให้ร่างบอบบางลุกขึ้น หากเอรันเป็นน้องสาวของรันตราจริง หญิงสาวตรงหน้าก็คือองค์หญิงแห่งกัชธาเป็นแน่
เธราหันไปมองวิรัลก่อนหันมามองร่างของรันตราที่ดูจะสะบักสะบอมไม่น้อย ชุนที่ดูเหมือนจะสงบลงบ้างแล้วถอนหายใจอย่างนึกรู้ว่คนตรงหน้าจะออกคำสั่งว่าอย่างไร
“ข้า...”เธรานิ่งไป สายตาแสนเศร้าขอรันตราฉายชัดเข้ามาในความรู้สึกอีกครั้ง ร่างสูงโปร่งหันไปหาองค์วิรัลที่ยืนนิ่งรอฟังอย่างใจเย็น เธราพาตัวเองไปยืนตรงหน้าของคนที่ได้ชื่อว่าเป้สราชาแห่งนันทานคร
“ข้าให้อภัยได้รึไม่” เธราถามออกมาอย่างไม่แน่ใจ มือเรียวกำผ้าคลุมที่ชุ่มเลือดแน่น “หากวันนหนึ่งท่านจากข้าไป แล้วมีหนทางเพียงนิดที่จะรั้งท่านกลับมาต่อให้ต้องหันหลังให้คนทั้งโลก ข้า...ก็คิดว่าข้าคงจะทำ” เธราเอ่ยออกมาช้าๆ “รันตราเองก็คงเหมือนกัน แม้เขาจะไม่มีสิทธิ์ฆ่าใคร แต่...เขาก็มีสิทธิ์ที่จะรักใครสักคนและทำเพื่อคนที่รักจนสุดกำลังแม้มันจะผิดก็เถอะ”
วิรัลถอนมองเธราที่ดูเหมือนจะลังเลกับการตัดสินใจครั้งนี้ของตนเอง รันตรานั้นรายกาจแต่บางสิ่งที่เขารู้มาปีศาจตรงนี้กลับน่าสงสารไม่น้อย สิ่งที่เธราพูดเขาเข้าใจดี และสำหรับเขาเธราต้องการอะไรให้ได้เขาก็จะให้
“แล้วแต่เจ้า แล้วกัน” วิรัลพูดก่อนหันหลังเดินจากไปทันที ราซีนเดินตามวิรัลออกไปแม้เขาจะไม่พอใจกับการตัดสินใจแบบนี้ของเธราสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการดีของเธรานั้น ส่งผลให้วันนี้ความดีนั้นส่งผลให้ทุกคนพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อเธรามีภัย วิรัลส่งสัญญาณให้ทหารสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นเหล่าบรรดานักรบปีศาจอันตธารหายไปทันทีที่รันตราได้รับบาดเจ็บสาหัส ธันถูกส่งตัวให้หมอหลวง ส่วนคาเซถูกนำตัวไปรักษาและเข้าคุกรอวันตัดสินโทษอีกครั้ง
เธรายืนมองเอรันที่ยกมือขึ้นอีกครั้งก็ปรากฏ ควันสีขาวจันตัวกันเป็นวงกลมกลางอากาศ คล้ายประตูอีกฝั่งหนึ่งนั้นเป็นภาพทิวทัศน์ที่แปลกตา แล้วร่างของรันตราก็ค่อยๆจางหายกลาเป็นควันลอยไปยังอีกฝั่งอย่างช้าๆ พร้อมกับรอยที่คอของเธราที่จางหายไปราวกับไม่เคยมี เธราจับคอตัวเองเบาๆอย่างไม่อยากเชื่อ เขาคิดว่าคงจะเป็นแผลเป็ตลอดชีวิตนี้ซะแล้ว
“ปีศาจถอนมนต์แล้ว ท่านไม่มีตราปีศาจหลายชีวิตแล้ว ทุกคนหลุดจากพันธนาการของปีศาจแล้ว” เอรันบอกเธรา มือบอบบางของเธอกอบกุมเอามือของเธราขึ้นมาจุมพิต
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ตอนจบแล้วมาก่อน ๕๐% นะคะ จะรีบมาต่อน้า
หลังจากนี้พิมจะทยอยรีไรท์แก้คำผิดตั้งแต่ตอนที่๑นะคะ
อาจมีการเพิ่มเติมบางส่วนให้สมเหตุสมผลมากขึ้นด้วย
รอติดตามตอนจบอีก ๕๐%สุดท้ายกันด้วยน้า
ขอบคุณค่าาา