ตอนที่๘
เธรายืนนิ่งๆอยู่กลางห้องโถงที่ทำพิธีเสี่ยงทาย คนนอกถูกให้ออกไปจนหมดเธรามองคาเซกับคุชและนายทหารคนอื่นที่ดูจะกังวลกับผลเสี่ยงทายไม่น้อย
“เปลี่ยนให้หม่อมฉันไปแทนเถอะกระหม่อม” ร่างขาวซีดของคุชเอ่ยขึ้น
“อย่ามาทำเอาหน้าไอ้เผือก” ประโยคขัดหูทำให้เธราหันไปมอง ร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามผมสั้นเกรียนแววตาเหยียดเล็กๆทีทอดมองมาที่เธราทำเอาคนถูกมองโมโหตะหงิดๆ
“ธันอย่าหยาบคาย” เป็นคาเซที่ห้ามขึ้น แต่ดูเหมือนคนถูกปรามจะไม่สนใจร่างใหญ่โตเดินมาตรงหน้าเธราทำความเคารพ ก่อนจับมือของเธราไปจุมพิต
“ถวายบังคมพะยะคะพระสนม นามของหม่อมฉันคือ ธัน หัวหน้ากองทหารม้าแห่งนันทานครกระหม่อม” ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่น้ำเสียงนั่นฟังดูเย้ยหยันพิกล เธราได้แต่พยักหน้าไปแกนๆ จริงๆไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า ทันทีที่พิธีเสี่ยงทายออกมาว่าเป็นเขาทุกคนก็ออกอาการกังวลทันที จริงๆก็สมควรที่เหล่าทหารที่แสนจงรักภักดีจะเป็นห่วงองค์ราชาของตน เพราะพระสนมที่ทำตัวเป็นอากาศธาตุมาเกือบสองปีอยู่ดีๆจะมารับหน้าที่สำคัญแบบนี้ใครจะไว้ใจ เธราหันไปมองคนที่นั่งเงียบๆจิบไวน์ราวทองไม่รู้ร้อนแล้วเหนื่อยใจ จริงๆแค่อง์วิรัลเอ่ยปากว่าเขาไม่ต้องไปแล้วให้นายทหารสักคนไปแทนทุกอย่างก็จบ
“ผลเสี่ยงทายออกมาแล้วจะโวยวายอะไรกันนักหนา” ประโยคแรกขององค์วิรัลไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นสักนิด
“พวกเจ้าคิดว่าข้าจะไร้ฝีมือจนต้องให้พวกเจ้าคอยล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลารึไง” วิรัลลุกขึ้นมายืนข้างๆเธราที่ดูจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว
“เลิกกังวลไร้สาระ ถ้าห่วงข้านักก็ไปเตรียมการให้พร้อมสำรวจทางขึ้นให้หมดหน้าผาด้านล่างให้ทหารเตรียมพร้อมไว้แล้วอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเองก็ไม่ต้องเสนอตัว ถ้าอยากปกป้องข้าไปทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ผลเสี่ยงทายออกมาแล้วยอมรับมันซะ” เหมือนจะเป็นคำตัดสินเมื่อเธราเห็นทุกคนแสดงความเคารพก่อนทยอยเดินออกไป
“เป็นข้า......ไม่เป็นไรหรือกระหม่อม” เธราถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ
“ทำไม....กลัวรึ”
“ไม่กลัวกระหม่อม แต่ไม่คิดว่าจะดี”
“ไม่ต้องคิดมาก ไปเตรียมตัวได้แล้ว” วิรัลตัดบท ก่อนเดินจากไป
ทางขึ้นเขาเต็มไปด้วยทหารที่เตรียมพร้อมตลอดเวลา เธราอยู่ในชุดเตรียมพร้อมก่อนที่จะออกมาที่นี่เธรากลับไปที่ตำหนักท้ายบึงเพื่อบอกข่าวว่าตนเองต้องเป็นผู้ติดตาองค์วิรัลขึ้นไปถวายเครื่องบูชาบนเขา สหัส โชบุแลละชุนจึงเอ่ยปากจะตามมาด้วย
“พาสัตย์เลี้ยงมาเป็นฝูงเลยนะกระหม่อม” คนที่เอ่ยทักประโยคบาดหูนั้นคือ ธัน ไม่รู้เธราคิดไปเองรึเปล่าธันดูไม่ชอบเขาเท่าไร และคำพูดที่ดูเหมือนหาเรื่องกลายๆนั่นทำเอาสัตว์เลี้ยงที่ถูดพาดพิงถึงดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไร
“อย่ามีเรื่องนะ ทั้งสามคนเลย” เป็นเธราที่ต้องหันไปปรามคนที่มาด้วย
“สามคนนี้ไม่ใช่สัตว์เลี้ยง เขาใจเสียใหม่นะธัน” เธราหันมาบอกหัวหน้ากองหารม้าแห่งนันทานคร
“มาแล้วหรือกระหม่อมใกล้ได้เวลาแล้ว” เป็นคาเซที่เดินมาบอก วันนี้แม้แต่คาเซที่ปกติมักอยู่ในชุดสวยงามของชาววัง ก็ดูเตรียมพร้อมจนแปลกตา
“องค์วิรัลล่ะ”
“องค์วิรัลรออยู่ที่พิธีทางขึ้นแล้วกระหม่อม”
คาเซพาเธรามาที่สถานที่จัดพิธี ของมากมายถูกจัดเรียงเพื่อทำพิธีสำคัญ กองไปกองใหญ่ถูกจุดขึ้นและโหมแรงด้วยแรงลมกองไฟศักดิ์สิทธี่จะต้องลุกโชนตลอดคืนเพื่อส่องทางให้องค์ราชาตามความเชื่อ ของที่จะต้องนำขึ้นไปเพื่อทำพิธีบูชาบรรพบุรุษถูกจัดเตรียมอย่างดี ของต่างๆถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสวยงาม เธราได้รับมีดสั้นที่มีขนาดยาวกว่าฝ่ามือนิดหน่อยด้ามมีดประกอบด้วยพลอยสีแดงสด ตัวมีดสลักเสลาสวยงามเป็นเรื่องราวของนอทานพื้นเมือง คมมีดสะท้อนแสงไปบ่งบอกถึงความคมได้เป็นอย่างดี
“พระสนมกับองค์วิรัลต้องเสด็จกลับลงมาก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นนะกระหม่อม” คาเซกำชับอีกครั้งท่าทางคนตรงหน้าดูห่วงมากจริงๆ เธรายกมือขึ้นตบไหล่คาเซเบาๆ ก่อนยิ้มให้ราวให้กำลังใจ
“เอาน่าคาเซ ถึงข้าจะไม่เก่งเท่าคุชหรือบรรดาแม่ทัพนายกองของนันทานคร แต่ฝีมือข้าก็ไม่ขี้ริ้วนะอย่างน้อยข้าก็ไม่เป็นภาระให้องค์วิรัลแน่นอน อย่าเครียดน่าอุตส่าแต่งตัวมาซะเต็มยศพกดาบซะด้วย” เธราพยายามพูดให้คาเซเบาใจ
---------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------
-----
เมื่อถึงเวลาวิรัลกับเธราก็ออกเดินขึ้นเขาตามประเพณี ภูเขานันทาเป็นภูเขาประจำเมืองบรรดากษัตย์องค์ก่อนที่สวรรคตร่างจะถูกนำมาฝังที่ยอดเขาแห่งนี้เพื่อเป็นการส่งให้กลับไปยังสวรรค์ตามความเชื่อของนันทานคร เพราะฉะนั้นภูเขาแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยศพ แค่คิดเธราก็เข่าอ่อนแล้ว เขาไม่ค่อยถูกกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่
วิรัลเหลือบมองคนข้างหลังที่เดินตาม และเริ่มเร่งฝีเท้ามาใกล้คนแทบจะชนหลังเขาอยู่แล้ว
“มีอะไร” วิรัลหยุดเดินก่อนหันไปถาม เมื่อคนที่เดินตามตอนนี้แทบจะสิงเขาอยู่แล้ว คนถูกถามดูกระอักกระอ่วน ใบหน้าที่ไม่ขาดรอยยิ้มตอนนี้มีแววกังวลแปลกๆ ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองรอบๆตัวราวว่ากลัวจะมีอะไรโผล่มาตลอดเวลา
“นันทานครนี่มีกษัติมากี่พระองค์แล้วกระหม่อม”
“เจ้าจะมาอยากรู้อะไรตอนนี้เธรา” วิรัลเริ่มหงุดหงิด
“ก็........เห็นเขาว่ากันว่ากษัตย์ที่สวรรคตแล้วจะถูกนำมาฝังที่นี่ งะ...งั้นก็แปลว่าที่นี่เป็นสุสานของเหล่าบูรพกษัตย์องค์ก่อนๆ คือ...คือ”
วิรัลมองคนที่เก่งกล้าสารพัดที่ยิ่งพูดยิ่งหน้าซีดตรงหน้าแล้วต้องกลั้นหัวเราะ ท่าทางคนตรงหน้าจะกลัวจริงจัง วิรัลจับแขนของเธราให้ออกเดินและรั้งให้มาเดินอยู่ข้างๆกัน มือหน้าจับมือของเธราห้ากุมชายผ้าคลุมไหล่ของตนไว้ “จับชายผ้าข้าไว้เขาบอกกันมานะว่าชายผ้าคลุมไหล่ของราชาจะปัดเป่าวิญญาณร้ายได้” ฟังดูเหมือนหลอกเด็กแต่ดูเหมือนเธราจะเชื่อเต็มหัวใจเพราะทันทีที่วิรัลพูดจบเธราก็กำชายผ้าคลุมของวิรัลแน่นก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้
ภูเขานันทาจริงๆแล้วเป็นสถานที่หาของป่าของชาวบ้านเหมือนภูเขาทั่วไป จะมีส่วนที่ต้องห้ามก็คือส่วนที่ใช้ฝังศพของเหล่าบูรพกษัตย์องค์ก่อนๆ ซึ่งเป็นส่วยหน้าผาสูงชันบนยอดเขา ระหว่างทางสว่างไปด้วยคบเพลิงที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นระยะ จริงๆมันไม่ใช่เรื่องยากเลยในการเดินขึ้นเขาเพราะทุกอยากถูกจัดเตรียมเพื่ออำนวยความสะดวกไว้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นทางเดินที่ถูกถางอย่างดี สัญลักษณ์บอกทางหรือแม้กระท้องแสงสว่าง เธรามองไปรอบๆอุ่นใจขึ้นนิดหน่อยเมื่อกำผ้าของวิรัลไว้ในมือในเมื่อมันปัดเป่าวิญญาณร้ายได้พวกวิณญานคงไม่ออกมาให้เขาเห็น
สองคนเดินขึ้นเขาไปอย่างเงียบๆ วิรัลที่เดินอยู่ดีๆก็รู้สึกถึงแรงดึงเมื่อหันกลับไปก็พบว่าเธรากำลังสนใจกล้วยไม้ป่าสีแปลกตาที่ขึ้นอยู่บนกิ่งไม้ร่างสูงโปร่งหยุดยืนดูอย่างสนใจโดยที่มือยังกำชายผ้าของวิรัลไว้แน่น
“เรียกว่าดอกอะไรหรือกระหม่อมสีแปลกตาดีจัง” เธราเอ่ยถามขึ้นเมื่อวิรัลเดินกลับมาหา รอยยิ้มฉายชัดเต็มใบหน้านั้นทำเอาคนที่จะเดินกลับมาตำหนิต้องเก็บคำเอาไว้
“กล้วยไม้แสงจันทร์” เมื่อได้คำตอบเธราก็พยักหน้าหงึกหงัก ก่อนยื่นหน้าไปดมใกล้ๆ
“ไม่มีกลิ่นหรอก” วิรัลบอกอีกครั้ง เธรามีท่าทีเสียดายอย่างเห็นได้ชัด
“เสียดายน่าจะมีกลิ่นหอม”
วิรัลดึงมือเธราให้เดินตามมาที่โขดหินข้างทาง ก่อนชี้ให้ดูดอกไม้สีขาวเล็กๆที่ขึ้นเป็นกอข้างๆโขดหินราวต้นหญ้า เธรานั่งลงก่อนหากยังไม่ทันได้ทำอะไรกลิ่นหอมอ่อนๆก็ลอยเข้าจมูก ใบหน้าเรียบๆฉีกยิ้มจนเต็มริมฝีปากก่อนหันไปบอกองค์วิรัลอย่างตื่นเต้น
“อันนี้หอมกระหม่อม” วิรัลนั่งลงข้างๆเธรา ก่อนก้มลงไปเด็ดดอกไม้เล็กๆนั้นขึ้นมา
“ดอกสายลม” วิรัลบอกก่อนส่งดอกเล็กๆนั้นให้เธรา
“ถ้าไม่สังเกตไม่เห็นเลยนะเนี้ยไปแอบอยู่ตามโขดหินแบบนี้ แต่ห๊อมหอมนะกระหม่อม” เธราพูดไปเรื่อยก่อยรับดอกไม้เล็กๆนั้นมาดมอย่างติดใจ
วิรัลไม่ได้เอ่ยอะไรต่อร่างสูงใหญ่ออกเดินขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อทำพิธีให้เสร็จตามเวลา วิรัลเดินมาถึงแท่นทำพิธีที่ยอดเขาเมื่อพระจันทร์ตรงหัว ร่างสูงใหญ่จัดการทุกอย่างอย่างคล่องแคล้ว เธราได้แต่ค่อยช่วยหยิบจับเท่าที่ทำได้
ห่อผ้ามากมายที่นำขึ้นมาถูกแกะออก เครื่อบูชามากมายถูกนำมาจัดเรียงในแท่นพิธี เธรายืนมองวิรัลทำพิธีไปเรื่อยๆ ร่างสุงใหญ่ของวิรัลดูน่าเกรงขามเมื่อต้องกับแสงไฟที่จุดขึ้น ผมสีดำสนิทที่แทบจะกลืนไปกับราตรีกาล ริมฝีปาดได้รูปขยับเอ่ยคำกล่าวบูชาเป็นจังหวะ
“เสร็จแล้วหรือกระหม่อม” เธราเอ่ยถามขึ้นเมื่อวิรัลเดินมาหา
“ใช่ เหลือแค่เทเหล้ารัมลงบูชาแผ่นดิน” เธราพยักหน้าเข้าใจก่อนหันไปหยิบเหยือกเหล้ารัมที่เตรียมมาส่งให้องค์วิรัล
เหยือกเหล้ารัมที่ปิดผนึกแน่นหนา ถูกเปิดเพื่อทำพิธีการสุดท้ายให้เสร็จสิ้นแต่หากทันทีที่ฝาถูกเปิดออก อสรพิษตัวเขื่องก็เผยตัวออกมาและฉกลงไปที่แขนขององค์วิรัลเต็มเขี้ยว วิรัลปล่อยเหยือกตกลงพื้นก่อนก่อนถอยห่างออกมา
เธรารีบเข้าไปใกล้วิรัลก่อนดึงแขนที่โดนกัดมาดูรอยเขี้ยวปรากฏชัดเจน เธราหยิบเอามีดสั้นที่มีติดตัวออกมา ก่อนกรีดลงบนแผลและก้มลงดูดเอาพิษออกอย่างไม่ลังเล
“เป็นอย่างไรบ้างกระหม่อม” เธราเอ่ยถามวิรัลอย่าร้อนใจเมื่อคนที่โดนพิษดูสลึมสลือคล้ายง่วงนอน “องค์วิรัลอย่างเพิ่งหลับนะกระหม่อม” เธราเรียกวิรัลและเขย่าคนตัวใหญ่ไปมา สายตาพลางมองหาตัวอสรพิษที่ไม่รู้เลื้อยหนีไปไหนแล้วอย่างน้อยถ้ารู้ว่าเป็นงูชนิดไหนจะได้รักษาถูก
“องค์วิรัล องค์วิรัล อย่างเพิ่งหลับนะกระหม่อม” เธราพยายามปลุกคนตัวโต ซึ่งวิรัลตอบมาได้แค่เสียง อือ เบาๆในลำคอ แผลที่ทำการดูดพิษทิ้งไปแล้วบางส่วนเริ่มมีรอยเขียวช้ำ เธราฉีกชายเสื้อมัดไว้เหนือแผล ก่อนค่อยๆพยุงคนตัวโตเดินลงเขาอย่างทุกลักทุเลปากก็พยายามเรียกชื่อวิรัลไปตลอดทาง
พยุงกับมาได้สักพักก็ต้องเสียหลักล้มไปทั้งคู่ เพราะส่วนสูงที่ต่างเป็นคืบเธราตัวเล็กกว่าวิรัลพอดูยิ่งตอนนี้คนตัวโตดูจะไม่มีแรงพยุงตัวเองเลย น้ำหนักทั้งหมดจึงถูกทิ้งมาที่เธราเต็มๆ
“องค์วิรัลๆ ได้ยินหม่อมฉันไหมอย่างเพิ่งหลับนะกระหม่อม” เธราเขย่าวิรัลไปมาความกลัวเริ่มเข้าครอบคลุมเมื่อวิรัลดูไม่ตอบสนอง ใบหน้าได้รูปที่เคยโดดเด่นตอนนี้ซีดเซียว ไม่มีเสียงอือตอบกลับมายามเรียกอีกแล้ว
“ตื่นๆ องค์วิรัล อย่าหลับกระหม่อมตื่นก่อนๆองค์วิรัล องค์วิรัล ท่านรัลตื่นก่อน ตื่นๆก่อนอย่าหลับ โว๊ยยย เพี๊ยะ!!!” เธราตัดสินใจตบลงไปบนใบหน้าองค์วิรัลเต็มแรงใบหน้าซีดๆค่อยๆเห่อแดงเป็นรอยมือดูเหมือนได้ผลเมื่อดวงตาคมเริ่มกระพริบเบาๆ พร้อมตอบกลับมาเป็นเสียง อือ เบาๆในลำคอ
เมื่อมีอาการตอบรับกลับมาเธราเริ่มใจชื่น ร่างสูงโปร่งถอดเสื้อของตัวเองออกก่อนฉีกออกเพื่อใช้เป็นเชือกรัดตัวองค์วิรัลให้ติดกับแผ่นหลัง เพื่อที่จะแบกคนตัวโตลงเขามาอย่างทุลักทุเล
สหัส โชบุและชุนที่นั่งรอเธราอยู่ที่ทางขึ้นเขาอย่างเงียบๆ อยู่ดีๆสหัสก็มีอาการแปลกๆ ใบหน้างดงามมีแววกังวลก่อนพึมพำออกมาเบาๆ
“อันตราย”
“อะไร” โชบุที่ไวต่อสิ่งรอบข้าวถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นอาการแปลกๆของสหัส
“เกิดเรื่อง แต่ไม่ใช่กับท่านเธรา” สหัสตอบ
“เกิดอะไรกับองค์วิรัลเหรอ” โชบุถามซ้ำคราวนี้คำพูดกลายเป็นกระซิบเบา
“ไม่แน่ใจแต่ว่า....” สหัสจับไปที่อกข้างซ้ายตัวเองเบาๆ
“รู้สึกเหมือนท่านเธรากำลังหวาดกลัวอะไรสักอย่าง” สหัสบอกดวงตาสีเทามีแววกังวลฉายชัด เพราะทำสัญญาเลือดต่อกัน จึงสามารถสื่อถึงกันได้เมื่อฝ่ายใดรู้สึกกลัวหรือกังวล
“ขึ้นไปดูไหม” เป็นชุนที่เอ่ยขึ้น
“เราต้องบอกพวกนั้นไหม” โชบุถามพลางเหลือบมองไปทางคาเซและเหล่าทหารที่ดูเตรียมพร้อมตลอดเวลา
“ข้าไปบอกเอง” สหัสบอกก่อนเดินเข้าไปหาคาเซ โดยไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่มองมาอย่างไม่ไว้ใจ
“พวกข้าจะขึ้นไปรับท่านเธรา”
“ไม่ได้” ไม่ใช่คาเซแต่เป็นคุชกับทันที่แทบจะตอบออกมาพร้อมกัน
“กลัวพวกข้าจะขึ้นไปฆ่านายของเจ้าเหรอ อย่าห่วงไป ข้าแค่จะขึ้นไปรับนายของข้า ส่วนนายของเจ้าถ้าเป็นศพจะสงเคราะห์แบกลงมาให้” ไม่ใช่สหัสแต่เป็นโชบุที่โพล่งขึ้นมา ริมฝีปากบางที่ประดับด้วยเขี้ยวยิ้มเยาะ คำพูดที่เรียกความไม่พอใจได้ทันทีจนคาเซต้องห้ามไว้
“หมายความว่ายังไงสหัส” คาเซที่ถามขึ้น
“ข้ารู้สึกว่ามีอันตราย ท่านเธรารู้สึกกลัวและกังวล” สหัสตอบก่อนแตะที่อกข้างซ้ายตัวเอง คาเซเข้าใจได้ในทันทีเพราะสหัสกับเธราสามารถสื่อความรู้สึกถึงกันได้
แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรกันกีเยงตะโกนขอความช่วยเหลือมาจากภูเขา ไม่รอให้ใครพูดสั่งทุกคนพุ่งตัวขึ้นไปบนเขาทันที ภาพของเธราไม่สวมเสื้อร่างกายเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนจากการล้มลุกคลุกคลานมีองค์วิรัลที่ดูจะไม่มีสติเหลือแล้วแบกอยู่บนหลังเรียกความตกใจจากคนที่เห็นได้ไม่น้อย
-----------------------------------------
-----
องค์วิรัลถูกพากลับเข้าวังหลวงทันทีหมอหลวงถูกเรียกการรักษาเริ่มขึ้นทันที เมื่อหมดหน้าที่และมั่นใจว่าตัวเองทำได้ดีที่สุดแค่นี่ต่อไปก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอหลวง เธราจึงปลีกตัวออกมาเพื่อที่จะกลับตำหนักตัวเอง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาก็ถูกสาดด้วยน้ำโครมใหญ่
“ล้างซวยซะหน่อยนะเพคะพระสนม” ใบหน้าแสนสวยขององค์หญิงโยนามีแววสะใจที่เห็ยเธราตกใจที่อยู่ดีๆก็ถูกสาดน้ำ
“องค์หญิงโยนาสาดน้ำใส่หม่อมฉันทำไม” เธราพยามยามใจเย็นถามกลับไป ก่อนหันไปสงสายตาห้ามปรามสหัส
“รู้ตัวว่าไร้ฝีมือยังสะเออะเข้าเสี่ยงทาย ถ้าองค์วิรัลเป็นอะไรไปเจ้าจะรับผิดชอบยังไงต่อให้เผ่าหมู่บ้านมาลันเคียของเจ้าทิ้งก็ไม่สาสมนะเพคะ” โยนาพูดอย่างเย้ยหยันเธอโมโหที่เธราเอ่ยถึงชู้รักของเธอต่อหน้าองค์วิรัล และทำให้เธอโดนเสด็จพ่อต่อว่ามากมาย โยนาหมายมั่นปั้นมือมาตั้งแต่ออกจากเมืองของตัวเองว่าจะต้องใช้เสน่ห์มัดใจองค์วิรัลให้ได้ นันทานครใหญ่โตและยิ่งมั่นคงเมื่อองค์วิรัลปกครองเธอจะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้ ทุกอย่างคงเป็นไปด้วยดีถ้าเธราไม่พูดเรื่องชู้รักเธอขึ้นมา
“องค์หญิงกระหม่อมนี่ท่านเป็นห่วงองค์วิรัลหรือเสือกกระหม่อม” อยู่ดีๆโชบุก็โพล่งประโยคที่ทำเอาเธราตาโต
“หยาบคายแกกล้าดียังไงไอ้ลูกครึ่งชั้นต่ำ” โยนาแทบจะดิ้นเมื่อถูกว่าตรงๆ
“ทำไมต้องไม่กล้าข้าไม่ได้เกรงกลัวอะไรเจ้า หรือแม้กระทั่งพ่อของเจ้า องค์หญิงโยนาแห่งวูธสินะเดี๊ยวพอหมดพิธีเฉลิมฉลองก็กลับบ้านกลับเมืองตัวเองไปเถอะอย่ามาจับผู้ชายแถวนี้เลยเท่าที่ดูก็ไม่มีใครอยากได้นะ กระหม่อม” หมดประโยคยาวเหยียดโชบุก็จับแขนเธราให้เดินกลับตำหนัก โดยไม่ได้สนใจเสียงวี๊ดๆขององค์หญิงโยนาที่ดังอยู่ข้างหลัง
แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาที่หน้าต่าง เธราขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะเบ้หน้าเพราะระบมไปทั้งตัว รอยขีดข่วนจากการล้มลุกคลุกคลานเมื่อวานได้รับการใส่ยาตั้งแต่เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนนอน รารีที่นั่งใส่ยาให้ก็บ่นไม่เลิกจนสุดท้ายเธราต้องแกล้งหลับนางกำนัลคนสนิทถึงหยุดบ่น เธราลากตัวเองออกมาข้างนอกอย่างยากลำบาก เธรานั่งลงตรงที่เธราเตรียมอาหารเช้าไว้ให้ โชบุกับชุนดูจะพึ่งพาได้มากเมื่อทั้งสองช่วยกันให้อาหารปลารดน้ำต้นไม่เสร็จแต่เช้า
แต่ยังไม่ทันได้กินข้าวเช้าให้สบายใจ คาเซเดินหน้าเครียกมาหาพร้อมทหารนับสิบนาย
“มีอะไรคาเซ” เธราถามขึ้น “องค์วิรัลเป็นยังไงบ้าง”
“ขอเชิญพระสนมเสด็จไปกับหม่อมฉันเถอะกระหม่อม”
“เกิดอะไรขึ้นคาเซ” เธราเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติจากน้ำเสียงของคาเซ
“เออ.....องค์หญิงโยนาถูกปลงพระชนต์กระหม่อม!!!!”
-------------------------------------
---------
--
เธราตามคาเซมาที่ห้องโถงใหญ่ที่มีไว้สำหรับจัดงาน แต่ตอนนี้บรรดาแขกผู้มีเกียรติต่างๆกำลังอยู่ในอาการขวัญผวา เมื่อพระธิดาแห่งกษัตย์วูธถูกฆ่าตาย และองค์วิรัลเองก็ยังเจ็บหนัก
ทันทีที่กษัตย์แห่งวูธเห็นเธราก็ตรงปรี่เข้ามาทำร้าย จนคาเซต้องเข้ามาขวางไว้และให้ทหารกันองค์กษัตย์แห่งวูธออกห่างเธรา
“แก แกมันฆาตกรแกฆ่าโยนา แกฆ่าลูกสาวฉัน” เสียงปรักปรำจากกษัตย์แห่งวูธดังลั่น ร่างของชายชราสั่นเท่าด้วยความโศกเศร้าและโกรธแค้น
“ทำไมเขาคิดว่าข้าฆ่าองค์หญิงโยนาละคาเซ” เธราที่ตอนนี้ยังไม่เข้าใจสถาณการณ์เอ่ยถามคาเซ
คาเซพาเธราไปที่หลังม่านสีเข้มที่กั้นไว้เพื่อว่างพระศพขององค์หญิงโยนา ผ้าสีขาวถูกนำมาคลุมร่างของโยนาเอาไว้ คาเซเปิดออกภาพตรงหน้าทำเอาเธราต้องเบือนหน้าหนีร่างบบบางของโยนานั้นเต็มไปด้วยเลือดชุดที่เคยสวยงามตอนนี้อาบไปด้วยสีแดงของโลหิต ดวงตากลมโตเบิกโพลงราวหวาดกลัวเต็มที่อกด้ายซ้ายยุบลงราวโดนกดทับอย่างแรง
“องค์หญิงโยนาถูกแทงเข้าที่หัวใจ คนร้ายออกแรงจนมีดทะลุร่างลงไปปักที่พื้นจนเป็นรอย กระดูกตรงหน้าแตกละเอียด” คาเซอธิบายก่อนนำผ้ามาคลุมศพไว้ตามเดิม
“แล้วทำไมกษัตย์แห่งวูธถึงคิดว่าข้าทำล่ะคาเซ”
“นี่คือสิ่งที่ปลิดชีวิตองค์หญิงโยนากระหม่อม มันปักคาอยู่ที่อกขององค์หญิงตอนมีคนพบศพ” คาเซบอกก่อนนำถาดที่คลุมด้วยผ้าสีขาวมาให้เธรา เมื่อมือเรียวเปิดดูแล้วหัวใจแทบหยุดเต้น
“น....นี่มัน”เธราถึงกับพูดไม่ออก
“ใช่กระหม่อม มีดสั้นที่พระองค์พกขึ้นไปบนเขาพร้อมองค์วิรัลเมื่อคืน”

มาแล้วค่าาาาา
มาตามสัญญา
มีใครเล่นทวิตใหมคะ
ถ้าเล่นมาติดแท็ก #วิรัลลืมเมีย กันเถอะมาเล่นกันค่าา
ส่วนตัวชอบไปเวิ่นในทวิตบ่อยๆ เอาไว้โพศรูปอิจเมจ หรือสปอยเล็กๆน้อยกันนะ
ฝากเธรากับวิรัลด้วยค่าาา