บทนำ
“กูถึงหน้าคฤหาสน์ของมึงแล้วเนี่ย จะให้เข้าไปยังไงวะ”
[บ้านเว้ย หฤหาสน์พ่องมึง เห็นยามหน้าประตูไหม บอกพี่แกว่าเป็นเพื่อนกู กูบอกพี่เขาเอาไว้แล้ว แล้วก็เดินเข้ามา กูนั่งรอที่ห้องรับแขกเนี่ย]
“มึงเป็นคนชวนกูมาแท้ๆ ทำไมมึงไม่มารับแขกวะ ไอ้นี่!”
[เอาน่า...]
“เออๆ เดี๋ยวกูเข้าไป”
เจ้าของร่างสมส่วนเดินไปยังหน้าประตูรั้วใหญ่ที่มีป้อมยามอยู่บ่งบอกว่าฐานะของคนบ้านนี้ไม่ธรรมดาด้วยสีหน้าที่นิ่งๆ
“สวัสดีครับพี่” คนเป็นเพื่อนของลูกเจ้าของบ้านยกมือไหว้พี่ยามหน้าประตูอย่างนอบน้อมทำเอาพี่ยามรับไหว้แทบจะไม่ทัน
แต่ที่ยามตะลึงคือหน้ากับเสียงนี่แหละ ต่างกันจนรู้สึกสับสน
“มีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่า”
เจ้าของใบหน้าสวยหวาน ผมยาวที่มัดเป็นจุกในส่วนบน แล้วปล่อยยาวในส่วนล่าง ใบหน้าหวานขาวอมชมพูด ดูหุ่นบางๆ สมส่วนกับความสูง ยังไงนี่มันก็ผู้ชายชัดๆ แต่เสียงทุ่มต่ำมาดแมนนั้นก็เป็นคำตอบได้ดีว่าคนๆ นี้คือผู้ชาย
ผู้ชาย!!!
“ผมมาหาไอ้เขตน่ะครับ เป็นเพื่อนมัน”
“อ้อ! คุณหมูเพื่อนคุณเขตนี่เอง เชิญเลยครับ” ยามเปิดประตูให้กลังจากทักทายอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณครับ พี่ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณอะไรนั่นหรอก ผมไม่ชิน ผมแค่เพื่อนมันไม่ใช่เจ้านายพี่ เรียกไอ้หมูก็ได้” เจ้าตัวพูดขึ้นมายิ้มๆ ทำเอายามถึงกับหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ คงไม่ได้ครับ เพื่อนเจ้านายก็เหมือนเป็นเจ้านายอีกที”
“งั้นไม่ต้องเรียกคุณก็พอนะพี่ ผมก็ลูกชาวบ้าน ชาวนาจนๆ หาเช้ากินค่ำเหมือนๆ กับพี่นั่นแหละ แต่ดันมีเพื่อนรวยเท่านั้นเอง หึหึ”
“น้องนี่เป็นคนแปลกๆ นะ”
“ผมจะคิดว่าเป็นคำชมนะพี่”
“ใครได้เอ็งเป็นแฟนนี่ถือว่าโชคดีเลยล่ะ”
“โอ๊ยพี่!! ใครจะมาอยากเป็นแฟนคนจนๆ อย่างผม นี่ก็อยากจะแบ่งแฟนจากไอ้เขตมาสักคนเหมือนกัน” เหมือนว่าศตคุณหรือหมูจะลืมไปว่าตัวเองมาหาเพื่อน ไม่ได้มาพูดคุยกับยามหน้าบ้านเพื่อน
“ฮ่าๆ สักวันเดี๋ยวเองก็จะเจอเองแหละ”
ที่เขาไม่คบกับเอ็งเพราะเองสวยกว่าไง...จะมีใครอยากคบกับคนที่สวยกว่าเล่า
“งั้นผมขอตัวนะพี่ เดี๋ยวตอนกลับจะแวะมาทักทายใหม่”
“โอเคๆ โชคดีนะน้อง”
“ครับ” ร่างบางยิ้มให้แล้วเดินไป ซึ่งอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงตัวบ้านแล้ว
ในขณะที่ยามหนุ่มมองตามศตคุณไปอย่างต้องการจะสังเกตก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงของเจ้านายถามขึ้นมา
“นั่นใครน่ะเล้ง”
“คุณท่าน! เอ่อ...คุณหมูเพื่อนคุณเขตน่ะครับ” ยามรีบก้มศีรษะโค้งให้กับเจ้าของบ้านที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ วันนี้วันเสาร์ คุณท่านหยุด ก็เลยมักจะมาเดินเล่นดูสวน ดูต้นไม้ แต่การถามแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก ตั้งตัวไม่ทัน
“เพื่อน? นั่นผู้หญิงนี่”
“เอ่อ...ผู้ชายครับ ตอนแรกผมก็คิดว่าผู้หญิงเพราะสวยมาก แต่เสียงของเขาคือผู้ชายครับ” ตอบออกไปตามความจริง ไม่วายสังเกตใบหน้าของเจ้านายไปด้วย
“งั้นหรือ?” ใบหน้าหล่อคมของผู้เป็นนายมองตามร่างโปร่งบางนั่นไปอย่างสนใจนิดๆ
“เอ่อ...ครับ”
“งั้นฉันไปทำความรู้จักกับเพื่อน ‘ลูกชาย’ หน่อยก็แล้วกัน” เจ้าของเสียงทุ้ม ใบหน้าหล่อคมเข้ม ผิวสีแทน ร่างกายกำยำ แข็งแรง แม้จะวัยเลขสามแต่เขาก็ดูดีมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ก็พากันหลงเสน่ห์ของเจ้านายเขา
“ไงไอ้เขต...แม่งชวนกูมาก็ไม่ยอมออกไปรับ มึงคิดว่ากูเคยมาบ้านมึงหรือไง เลวจริงๆ” พอศตคุณเห็นเพื่อนอย่างแรกที่ทำคือบ่น
“โธ่...ไอ้สวย...ก็”
“หยุดเรียกกูแบบนี้กูไม่ชอบ”
“มึงควรจะรับความเป็นจริงว่ามึงมันสวย”
“จะให้กูสอนไหมหา!! เดี๋ยวก็ปล่อยให้ตกหรอก” ร่างโปร่งบางข่มขู่เพื่อนสนิทของตน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานุ่มของบ้านเพื่อนแบบไม่ต้องให้ใครชวน
ก็เมื่อยอ่ะ ทำไม!
“ทำเป็นงอนๆ โอเคๆ สอนก็สอน”
“ว่าแต่ไม่มีใครอยู่เหรอวะ” ใบหน้าสวยหันมองไปรอบๆ บ้านใหญ่หรูที่เพิ่งจะเคยได้เข้ามาเป็นบุญชีวิตด้วยความสนอกสนใจเป็นพิเศษ
“พ่อกูอยู่ แต่คงนอนพักหรือไม่ก็เดินเล่นที่สวนมั้ง”
“อ่อๆ หวังว่าคงจะไม่โผล่มาให้กูเกรงเล่นนะเว้ย ชื่อเสียงพ่อมึงยิ่งเลื่องลือจนกูกลัว ไม่อยากจะมาหามึงเลย บอกแล้วให้ไปที่บ้านกู” ศตคุณบ่นอิดออด ทำเอาเพื่อนตัวสูงใหญ่อย่างคณินหรือเขตที่ศตคุณเรียก ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“มึงมาบ้านกูน่ะดีแล้ว”
“กูไม่น่าเป็นเพื่อนมึงเลยว่าไอ้เขต แค่นี้คนทั้งมอก็นินทาว่ากูคบมึงเพราะมึงรวยจะแย่อยู่แล้ว”
“สนใจอะไรกับขี้ปากคนวะ”
“มึงก็พูดได้นี่!!”
“ฮ่าๆ เอาเถอะๆ ไปที่ห้องกูดีกว่ามึงจะได้เริ่มติว”
“ยุ่งยากจริงๆ ทำไมมึงต้องมาเรียนคณะเดียวกันกับกูวะ แล้วทำไมกูถึงเป็นเพื่อนกับมึงได้วะเนี่ย” คนสวยยังบ่นไม่หยุด มองไปยังบันไดบ้านของเพื่อนที่สวยจนไม่กล้าจะเหยียบมัน แต่ก็ขึ้นตามเจ้าของบ้านไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
เข้าไปในห้องของเพื่อนสนิทก็ถึงกับอ้าปากค้าง
นี่มันใหญ่กว่าห้องนอนเขาอีก น่าอิจฉาจริงๆ
“เข้ามาสิวะ ยืนนิ่งอยู่หน้าประตูทำไม”
“อ่ะ...อือ”
ห้องแม่งสวยมาก อ่า...แล้วเขาจะมีโอกาสได้มีบ้านแบบนี้ให้พ่อกับแม่อยู่ไหมเนี่ย แต่จะว่าไปแล้ว...บ้านของเขาถึงจะไม่สวยไม่ใหญ่ แล้วก็ไม่รวยแต่ก็อบอุ่น มีความสุขล่ะนะ
“เอ้า! เริ่มได้ ว่าแต่หิวหรือเปล่าวะ ตอนเที่ยงค่อยลงไปกินข้าวกัน มึงอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”
“อะไรก็ได้ ออกไปกินข้างนอกไม่ได้เหรอวะ” ศตคุณถาม ใบหน้าดูเป็นกังวล
“ทำไมวะ?”
“กูเกร็งอ่ะ ถ้ากินข้าวบ้านมึงต้องมีพิธีรีตองในการกินไหมวะ”
“ก็ไม่มีนี่ กินๆ ยัดๆ ตามที่มึงเคยนั่นแหละ”
“จะดีเหรอวะ!!”
“กินที่นี่แหละ เผื่อจะได้เจอพ่อกูด้วย” คณินพูดบอกยิ้มๆ ใบหน้าดีใจแปลกๆ ยามที่บอกว่าจะได้เจอกับพ่อของตน มันดีใจจนศตคุณอดขนลุกไม่ได้
พ่อเลี้ยงอาทิตย์คือชื่อพ่อของเพื่อนสนิทศตคุณเอง เจ้าไร่ผลไม้ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทย และเป็นอันดับหนึ่งของเชียงใหม่อีกด้วย ชื่อเสียงเรียงนามที่เขาว่ากันว่าโหดที่สุด ด่าใครก็คือด่าไปเลยไม่ไว้หน้า แล้วไหนจะบทลงโทษคนที่คิดไม่ดีกับไร่ ‘ศักดินนท์’ จนมีข่าวลือน่ากลัวๆ อย่าชนิดที่จับคนงานที่ทำผิดให้กลิ้งไปตามพื้นเนินของภูเขาจนสะบักสบอมนั่นอีก
“ไม่เจอได้ไหมวะ พ่อมึงน่ากลัวจะตาย กูได้ยินมา”
“มันก็แค่ข่าวลือ พ่อกูใจดีจะตาย ข่าวพวกนั้นก็แค่ไซโคพ่อกูให้เสียหายเท่านั้น” คณินแก้ต่างให้กับพ่อของตน ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นแหละ พ่อเขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะไม่สุงสิงกับใคร ใครอยากเข้าใจยังไงก็ปล่อยไปเพราะมันไม่ได้กระทบธุรกิจของพ่อเท่าไหร่นัก
“ร่ะ...เหรอ”
“ใช่ไง กูเลยพามึงมาแนะนำให้พ่อกูรู้จัก”
“แล้วทำไมต้องแนะนำด้วย ไม่เป็นไร กูเกรงใจ”
“ไม่ต้องกลัวๆ ถ้ามึงได้เห็น ได้เจอกับพ่อกูนะ เรื่องที่มึงเคยได้ยินจะหายไปเลย” ร่างสูงบอกเพื่อนสนิทยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายชอบใจ
มันดูไม่น่าไว้ใจจนศตคุณมองอย่างพิจารณา
“ทำไมมึงถึงดูกระตือรือร้นแปลกๆ วะ”
“เอ้า! ก็มึงเหมาะ...เอ้ย! สมควรที่จะได้รู้จักพ่อกูนะ เพราะยังไงมึงก็เพื่อนของกู ไม่รู้จักพ่อกูได้ยังไง ขนาดกูยังไปทำความรู้จักกับพ่อแม่มึงเลย” คณินพูด
“เออ!! แล้วกูก็กลายเป็นหมาหัวเน่าทันทีที่มึงไปบ้านกู” ร่างโปร่งบางสวนกลับเพื่อนอย่างไม่พอใจ ไม่ได้สงสัยที่เพื่อนเกือบหลุดอะไรบางอย่างออกมาเลยสักนิด
ไอ้หมูจอมซื่อบื้อเอ้ย!!
จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มลงมือติวหนังสือ เพราะใกล้จะสอบมิดเทอมกันแล้ว เลยต้องตั้งใจเป็นพิเศษ ทางคณินที่ยังมีเรื่องไม่เข้าใจก็ต้องให้เพื่อนสนิทมาช่วยติวให้
สองหนุ่มหล่อสวยแห่งคณะเกษตรศาสตร์ต่างกันพาตั้งใจอ่านหนังสือจนเวลาล่วงเลยมาเที่ยงกว่าๆ ท้องก็เริ่มประท้วงด้วยความหิว
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ไม่ได้ล็อกครับ” เจ้าของห้องตอบอกไป
“คุณเขต...พ่อเลี้ยงให้มาตามคุณกับเพื่อนคุณเขตไปทานข้าวค่ะ”
“ครับพี่ส้ม...บอกพ่อว่าอีกห้านาที”
“ค่ะ”
สาวใช้รับคำสั่งแล้วเดินออกจากห้องไป ส่วนร่างบางของศตคุณก็ปิดหนังสือที่อ่านโดยไม่ลืมคั่นหน้าเอาไว้ ก่อนก็หันไปมองหน้าเพื่อนด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น กลัวอะไรพ่อกูนักหนาวะ ไป! ลุกเลย”
“เออๆ ไปก็ไป” ร่างโปร่งลุกขึ้นอย่างอิดออด เดินตามร่างสูงใหญ่ของเพื่อนไปอย่างช่วยไม่ได้ หัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นพ่อเลี้ยงอาทิตย์ที่แสนจะโด่งดัง
พอเดินไปถึงห้องรับประทานอาหาร ตัวของศตคุณก็แข็งทื่อเมื่อเพื่อนเอ่ยแนะนำเขากับคนที่นั่งมองเขาอยู่ด้วยสายตาเรียบนิ่ง ดวงตาคมเหยี่ยวมองจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งร่าง
“พ่อ...นี่หมูเพื่อนของผมเอง หมูนี่พ่อกู พ่อเลี้ยงอาทิตย์”
“สะ สวัสดีครับ” มือขาวยกขึ้นไหว้อย่างมีมารยาททำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มพยักหน้ารับไหว้
“นั่งสิ” เสียงทุ้มดังกังวารจนร่างเล็กสะดุ้ง มองเพื่อนอย่างเลิกลัก
“มึงไปนั่งฝั่งนั้นนะ”
“ห๊ะ! กูนั่งข้างมึงไม่ได้เหรอ” อุทานตกใจเมื่อเพื่อนชี้ให้ไปนั่งอีกฝั่งหนึ่งซึ่งพ่อเลี้ยงอาทิตย์นั่งหัวโต๊ะ คณินเองก็ไปนั่งตรงฝั่งขวาของพ่อเลี้ยง ส่วนศตคุณก็จำยอมไปนั่งตรงข้ามกับเพื่อนซึ่งเป็นฝั่งซ้ายของพ่อเลี้ยง
คิดว่าพ่อของเพื่อนจะดูแก่มีอายุมากกว่านี้เสียอีก แต่นี่คืออะไร พ่อมันทั้งหล่อ ทั้งดูหนุ่ม...เสียงยังทุ้มหล่อจนน่าอิจฉานั่นอีก ร่างกายกำยำ บึกบึน ผิวสีแทนดูเท่ห์
ขนาดผู้ชายแมนๆ อย่างไอ้หมูคนนี้ ยังหวั่นไหวเลย
“ชื่อหมูใช่ไหมเรา” คนที่อายุมากที่สุดถามขึ้น ทำเอาคนถูกถามถึงกับสะดุ้ง แต่ยังพอเก็บอาการเอาไว้อยู่ เลยตอบกลับสั้นๆ ด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ครับ”
“ไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อเหมือนเจ้าเขตนะ”
“งั้นจะให้ผมเรียกคุณว่าอะไรล่ะ” ถามออกไปอย่างสงสัย
“ก็แล้วแต่...จะเรียกคุณอาทิตย์ คุณอา พ่อเลี้ยงตามที่นายสะดวก แต่พ่อนี่ให้เจ้าเขตมันเรียกคนเดียว”
“ครับ...คุณอาทิตย์” เลี่ยงการเรียกที่ดูสนิทสนมดีกว่า
แต่พอได้คุยกันแล้วก็รู้สึกว่าตัวพ่อเลี้ยงเองก็ไม่ได้ดูดุเท่าไหร่ ไม่เหมือนข่าวที่ได้ยินมาเลยสักนิดทำเอาใจกล้าคุยต่อไปได้อีก แต่คนๆ นี้ก็วางตัวนิ่งๆ ให้สมกับเป็นผู้ใหญ่ แม้จะคุยกับเขาด้วยก็ตาม
ที่ไม่ดุ ไม่โหดเพราะเขาเป็นเพื่อนลูกชายสินะ เฮ้อ...โล่งใจ
“เอ้า! กินข้าวเถอะ กินเสร็จแล้วก็ไปนั่งคุยที่ห้องนั่งเล่นก่อน”
“ครับพ่อ” ลูกชายเป็นคนรับคำสั่ง
ทั้งสามคนลงมือทานข้าวที่แสนจะดูดีตรงหน้า ศตคุณมองพ่อลูกบ้างนิดๆ ก่อนจะสนใจจานข้าวตัวเอง ไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนสนิทของตนกำลังมองศตคุณกับพ่อตัวเองแบบไหน
“เห็นเจ้าเขตบอกว่าทุกปิดเทอมนายจะทำงานพาร์ทไทม์ นี่คิดไว้หรือยังว่าจะทำที่ไหน” พ่อเลี้ยงอาทิตย์ถามขึ้นมา
“ก็มีไว้แล้วครับ”
“สนใจไปทำงานที่ไร่ฉันไหมล่ะ เรียนเกษตรนี่ก็น่าจะทำงานที่เกี่ยวข้องกับที่ตัวเองเรียน”
“จะดีหรือครับ”
“อืม...เอาเป็นว่ามาทำงานที่ไร่ ส่วนเงินเดือนก็ให้ตามปกติ มีที่อยู่ มีข้าวให้กินเหมือนคนงานทั่วๆ ไป” ศตคุณเหมือนโดนหลอกล่ออยู่ แต่ข้อเสนอดีๆ แบบนี้ทำไมจะไม่เอา
แต่ว่าข่าวลือเรื่องให้ลูกน้องกลิ้งไปตามเขานี่สิ ทำเอาตัดสินใจลำบาก
“ไปเถอะน่าไอ้หมู กูจะได้มีเพื่อนไง” คณินช่วยรบเร้าอีกคน
“อ่าๆ ก็ได้ครับ”
คนที่ปฏิเสธใครไม่เป็นเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ได้แต่รับอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ ไม่รู้เหมือนกัน ความรู้สึกของเขามันบอกว่าไม่ควรเข้าใกล้ครอบครัวนี้...
โดยเฉพาะพ่อเลี้ยงอาทิตย์
“หึหึ” เสียงหัวเราะของเพื่อนเขามันช่างดูเจ้าเล่ห์จริงๆ เลย
“ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะพ่อ” ร่างสูงของคณินลุกขึ้นทันที ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็วไม่รอให้ศตคุณแย้ง ร่างผอมบางนิ่งไปด้วยความเกร็ง ใบหน้าสวยหวานกว่าผู้หญิงบางคนมองไปรอบๆ แทนที่จะมองผู้ใหญ่ตรงหน้า ผมยาวสวยตกลงมาข้างหน้า เขาเลยทัดผมที่หูด้วยความเคยชิน แต่มันเป็นภาพที่ทำให้คนอายุมากกว่าหัวใจกระตุก สั่นไหวรุนแรง
ให้ตายสิ!! อย่าบอกนะว่าเขาคนนี้กำลังตกหลุมรักเด็ก ที่สำคัญเด็กคนนี้ยังเป็นเพื่อนของลูกชายอีกด้วย...
“เกร็งหรือ” เสียงทุ้มถามขึ้น เรียกเอาความสนใจของศตคุณหันไปมองหน้าหนุ่มหล่ออย่างพ่อเลี้ยงอาทิตย์ทันที
“เอ่อ...ครับ” ใบหน้าแดงซ่านอย่างขัดเขินกับสายตาคมๆ คู่นั้นจนต้องหันหน้าหนี
ไอ้เขต...กูไม่ไหวแล้ว มึงรีบกลับมาสิวะ!! ถ้ารู้ว่าพ่อมึงเสน่ห์แรงเหลือร้ายขนาดผู้ชายมาดแมนอย่างกูยังเขินเนี่ย กูไม่ตกลงไปทำงานกับมึงปิดเทอมนี้หรอก กูกลัวใจตัวเอง
“ไม่ต้องเกร็งหรอก ทำตัวสบายๆ ฉันไม่ดุ ไม่ว่าอะไรหรอก ถือว่าเป็นคนกันเอง ถ้านายมีอะไร อยากให้ช่วยเหลือตรงไหนก็บอก เพื่อเป็นการขอบคุณที่ช่วยเหลือลูกชายฉัน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมทำไปแบบไม่ได้หวังผลอะไร เขตมันก็เพื่อนของผม”
เป็นเด็กดีและน่าสนใจมาก
เขาเองก็ไม่ได้ชอบคนที่เด็กกว่าตั้งสิบกว่าปีแบบนี้หรอก แต่ศตคุณมีความเป็นผู้ใหญ่ มีมาดที่ดูดี คำพูดคำจาก็ถือว่ารู้กาลเทศะ หน้าตาและรูปร่างไม่ต้องพูดถึง...ชอบตั้งแต่เห็นแค่ด้านหลังแล้ว
แต่พ่อเลี้ยงอาทิตย์ไม่ได้ชอบผู้ชาย...หากแต่คนตรงหน้าก็ยั่วยวนเขาเหลือเกิน
“เอาน่า...ฉันก็มีแค่ลูกชายคนเดียวกับหลานๆ แค่ไม่กี่คน ไม่ค่อยมีใครช่วยใช้เงินหรอก วันๆ ฉันก็ทำแต่งาน อยู่แต่กับสวนกับไร่ อายุก็มากขึ้นทุกๆ วัน ยังไม่มีคนข้างกายเลย” พ่อเลี้ยงอาทิตย์เริ่มพูดอะไรที่ทำให้ศตคุณไม่เข้าใจ แต่พอสบสายตาคู่นั้นก็รีบผันหน้าหนีเพราะมันดูโลมเลียสุดๆ
นี่คือชั้นเชิงที่ต่างกันระหว่างคนที่อายุสามสิบกว่ากับเด็กอายุสิบเก้าปีสินะ แต่ที่พ่อเลี้ยงพูดมันหมายความว่ายังไง
“หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ”
“หึ...ถ้าการเงินมีปัญหา ก็ใส่ชุดนักศึกษามาหาฉันได้” สิ้นเสียงของผู้ใหญ่จอมเจ้าเล่ห์ ใบหน้าสวยก็แดงซ่านหนักเข้าไปอีก หัวใจเต้นรัวเร็ว มือไม้อ่อนแรง
ถ้าเป็นคนอื่นๆ ที่เคยเข้ามาจีบ มาพูด มาแซวแบบนี้ศตคุณไม่เคยรู้สึกอะไร แต่ทำไมกับคนๆ นี้ เขาถึงได้หวั่นไหวรุนแรง ขนาดที่เขาเผลอทำตัวอ่อนปวกเปียกออกมาอย่างเสียเชิงชายแบบนี้
อะไรกัน!! นี่เรากำลังโดนพ่อเพื่อน ‘จีบ’ อยู่งั้นเหรอ!!!
100 Per.

สวัสดีค่ะ ยูกิเองนะคะ วันนี้ฤกษ์งามยามดี(?) เปิดนิยายเรื่องใหม่ที่จะอัพแทนวาโยซ่อนรักที่จบไปแล้วนะคะ ส่วนนักอ่านใหม่ที่ไม่รู้จักยูกิก็ขอสวัสดีค่ะ ยูกิขอฝากนิยายเรื่องพ่อเลี้ยงอาทิตย์ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกๆ คนด้วยนะคะ ^_^
แฟนเพจยูกิเอง เข้าไปติดตามข่าวสารหรือพูดคุยกันได้ค่ะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/