บทส่งท้าย
ความรู้สึกแรกหลังจากผ่านค่ำคืนแสนยาวนานของพีทนั้นสามารถบอกได้เลยว่า พัง ร่างกายปวดระบมไปหมดขยับนิดขยับหน่อยก็ต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ ดีที่มีหมีตัวใหญ่คอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเรียกง่าย ๆ ว่าแทบจะทุกย่างก้าวเลยก็ว่าได้ อย่างเช่นตอนนี้ที่พีทยืนยันว่าจะออกมากินข้าวนอกห้องนอนเพราะพีทรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ป่วยหนักจนถึงขนาดลุกไม่ไหวอะไรขนาดนั้น แต่เด็กหมีของเขาดูท่าว่าจะคิดไม่เหมือนกันตอนที่ลุกจากเตียงจะเดินออกมานอกห้องคิวแทบจะอุ้มเขาออกมาอยู่แล้ว
ทำอย่างกับเขาเป็นผู้หญิงท้องแก่ไปได้
แล้วดูตอนนี้นะ พีทมีหน้าที่แค่นั่งเฉย ๆ รออีกคนหาข้าวหาปลามาให้กินรู้สึกว่าตัวเองเหมือนราชาอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ถ้าการเป็นราชาแล้วต้องแลกกับแบบเมื่อคืนพีทก็ขอเป็นคนธรรมดาทั่วไปจะดีกว่า ไม่รู้ว่าคิวเอาแรงมาจากไหนทั้ง ๆ ที่ตัวเองป่วยอยู่แท้ ๆ พีทไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าร่างกายคิวปกติสมบูรณ์แล้วตัวเองจะต้องเจอกับอะไร
“คิดอะไรอยู่ครับทำไมทำหน้านิ่วหรือว่าพีทเจ็บตรงไหน”
คิวรีบปรี่เข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ดวงตาคมสอดส่ายมองดูตามร่างกายของคนตัวขาวอย่างจริงจังจนพีทอดยิ้มเอ็นดูไม่ได้ เห็นไหมบอกแล้วว่าคิวทำอย่างกับเขาเป็นผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด อะไรจะเป็นห่วงขนาดนั้น คนตัวขาวประคองแก้มคนที่นั่งคุกเข่าสำรวจร่างกายเขาอยู่ตรงหน้าให้ขึ้นมามอง ก่อนจะบีบจมูกคนหน้าหล่อด้วยความหมั่นเขี้ยว
“คิดว่าคิวห่วงพีทจนเกินไป”
คนถูกหาว่าห่วงจนเกินไปเลิกคิ้วสูง
“ตรงไหนกันครับ”
“ตรงนี้ไงครับ พีทเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ไม่ต้องประคบประหงมขนาดนี้ก็ได้”
ไม่ว่าเปล่าคนตัวขาวยืดแก้มอีกฝ่ายเล่น คิวส่ายหน้าทั้งที่โดนบีบอยู่อย่างนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้
“ก็ผมห่วงจริง ๆ นี่ ผมหนักมือไปหน่อยผมรู้ตัว ขอโทษนะครับพีทแต่ผมอดใจไม่ไหวจริง ๆ”
พีทรีบเอามือปิดปากอีกคนไม่ให้พูดเรื่องน่าอายนั้นต่อ นึกเกลียดตัวเองเบา ๆ ที่ทำอะไรใจกล้าขนาดนั้นลงไปแต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้พีทก็เลือกที่จะทำแบบเดิมเพราะเขาได้เรียนรู้แล้วว่าช่วงเวลาที่ไม่มีอีกคนอยู่มันทรมานแค่ไหนและมันเจ็บไม่ได้เสี้ยวหนึ่งเลยเมื่อเห็นสายตาตัดพ้อปวดร้าวจากคิวตอนไล่เขาออกจากห้องเมื่อคืนนี้ พีทจึงอยากลองเป็นคนเห็นแก่ตัวดูสักครั้งขอทำตามหัวใจตัวเองดูสักหนโดยไม่คิดจะหาเหตุผลอะไรมาคัดค้าน
พีทแค่อยากรักคิวอยากรักไปเรื่อย ๆ อยากมอบความรักให้โดยไม่ต้องมีอะไรมารองรับ ไม่ต้องคิดถึงใคร คิดถึงแต่ความสุขของตัวเองและอีกคน
“น่ารัก”
“อะไรกันครับ อยู่ ๆ ก็มาชม”
พีทถามกลั้วหัวเราะก้มมองเด็กหมีตรงหน้าที่ยิ้มกว้างคว้าสองมือของเขามาจูบแช่เบา ๆ
“ผมชอบเวลาพีทเขิน พีทน่ารักและจะน่ารักมากกกกกกเวลาอยู่บนเตียง”
“พอเลย ๆ”
พีทรีบร้องห้ามเมื่ออีกคนลากเสียงยาวน้ำเสียงทุ้มเจือความเจ้าเล่ห์เอาไว้แล้วยังสายตาแพรวพราวที่มองเขาอย่างกับจะกลืนลงท้องไปด้วยทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ เรียนรู้จากเมื่อคืนแล้วว่าคิวเป็นคนพูดจริงทำจริงและพีทไม่ควรยั่วอีกคนในเวลานี้ ไม่สิ...ไม่ควรยั่วอีกคนเลยต่างหาก!
“หึหึหึ”
“ไม่ต้องหัวเราะแบบนี้เลยนะ”
พีทแกล้งขึงตาดุใส่อีกคนแต่ในเวลานี้คิวไม่ได้รู้สึกกลัวคนตัวขาวสักนิด ดูเขาสิอย่างกับแมวขู่น่าฟัดมากกว่าน่ากลัวอีก ร่างสูงลุกขึ้นยืนและกางแขนคร่อมคนที่นั่งอยู่ แก้วตาใสเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนกเมื่อเด็กตัวสูงโน้มกายลงมาหาจนปลายจมูกคลอเคลียกัน มือขาวรีบดันไหล่อีกคนเอาไว้ไม่ให้ใกล้กันไปมากกว่านี้ คิวยิ้มมุมปากแล้วกัดปากล่างอีกคนด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ผมหัวเราะแบบไหนหรือครับ
ที่รัก”
ฉ่า!!!!
พีทรู้สึกว่าแก้มตัวเองร้อนวูบวาบเมื่อได้ยินอีกคนเรียกกันแบบนี้ คือเมื่อสายตอนที่พวกน้อง ๆ มารู้สึกเหมือนคิวก็เรียกเขาแบบนี้แต่ตอนนั้นงัวเงียและง่วงเกินกว่าจะเขินพอมาได้ยินเต็มสองรูหูแถมยังในระยะใกล้แบบนี้อีก คนแก่แบบเขาแทบจะหัวใจวายตาย ดวงตาคู่สวยหลบสายตาหวานที่มองตรงมาด้วยความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปกปิด ริมฝีปากแดงช้ำขบเม้มเข้าหากันอย่างคนประหม่า
“แบบ...แบบ โอ๊ยคิวครับขยับออกไปหน่อยแล้วก็เลิกมองแบบนี้ได้แล้ว”
“ทำไมครับที่รัก”
“เลิกเรียกแบบนี้ด้วย”
“ไหนลองบอกเหตุผลผมมาก่อนสิ”
พอถูกไล่ต้อนมาก ๆ เข้าคนอายุมากกว่าก็วกสายตากลับมาจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าตรง ๆ คิวอมยิ้มมองคนตัวขาวที่อมลมพองแก้มเหมือนเด็กถูกขัดใจแล้วก็ต้องท่องนะโมสามจบในใจเพื่อไม่ให้ตัวเองลากพีทขึ้นเตียงอีกรอบ ก็ใครใช้ให้น่ารักเรี่ยราดขนาดนี้กันเล่า
“พีท
เขิน!”
เนี่ย !! แล้วยังมาพูดจาน่ารักแบบนี้อีก มันน่าฟัดไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย
ป้าบ!
“โอย...ตีผมทำไมครับพีท”
“ก็คิวทำหน้าหื่น”
พูดไปตัวเองก็กระดากอายแต่ขอเถอะ ถ้าคิวยังมองเขาด้วยสายตาอย่างเมื่อครู่ข้าวที่ตั้งอยู่คงได้เป็นหมันและเขาก็อาจจะได้แอดมิดเข้าโรงพยาบาลอย่างแน่นอน ดีที่เด็กตัวสูงยอมรามือแต่ก่อนจะลุกไปนั่งดี ๆ ก็ฟัดแก้มเขาไปเสียหลายที เชื่อเขาเลยจริง ๆ
“ผมว่าหยุดพรุ่งนี้อีกวันดีไหมครับ”
คนตัวขาวส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพักอีกสัดนิดพีทว่าคงจะดีขึ้น”
คิวขมวดคิ้วตีหน้าดุใส่คนดื้อ เดินยังต้องมีเขาคอยพยุงตลอดยังจะอวดเก่งไปทำงานพรุ่งนี้อีก มันน่าตีให้ก้นลาย
“เดินยังไม่ค่อยไหวเลยนะแล้วจะทำงานไหวได้ยังไงกัน”
“ก็...”
“ดื้อ”
“คิว!”
พีทแหวใส่อีกคนเมื่อตัวเองถูกหาว่าดื้อ เขาไม่ได้ดื้อสักหน่อย ก็แค่คิดว่าพรุ่งนี้น่าจะทำงานไหวก็เท่านั้นถ้าได้พักอีกสักนิดเย็น ๆ อาการก็น่าจะดีขึ้น...ล่ะมั้ง ถึงจะไม่ใช่ชายหนุ่มบริสุทธิ์ผุดผ่องอะไรแต่พีทก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้มานานมากแล้วนะจะให้พูดว่าไหวอย่างเต็มปากก็ไม่ได้เสียด้วย แต่จะให้พูดว่าไม่ไหวมันก็ไม่ใช่วิสัยของตัวเองอีกเหมือนกัน
“หยุดต่ออีกสักวันเถอะนะครับ เชื่อผมเถอะ”
คิวเอื้อมมือไปคว้ามือขาวมากุมเอาไว้แล้วกล่าวกับอีกคนอย่างใจเย็น เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้คิวก็เลือกที่จะใช้ไม่อ่อนกับคนตรงหน้า และแน่นอนว่าต้องเพิ่มลูกอ้อนเข้าไปในน้ำเสียง
“นะครับผมเป็นห่วงพีทจริง ๆ”
“ก็ได้ครับ”
เยส! คิวตะโกนกู่ร้องภายในใจ ชายหนุ่มยิ้มกว้างและส่งชามข้าวต้มให้คนตัวขาวส่วนตัวเองนั้นเป็นอาหารสิ้นคิดอย่างกะเพราหมูสับไข่ดาว ด้วยความเป็นห่วงคุณแฟนหมาด ๆ คิวจึงไม่อยากทิ้งอีกคนให้อยู่คนเดียวนานจึงเลือกเมนูที่แม่ค้าสามารถทำได้รวดเร็วที่สุด
ด่าได้นะแต่อย่าแรง เขาเพิ่งหายจากอาการใจบาง
“มีความสุขมากหรือไงหมี”
คิวเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวของตัวเองเลิกคิ้วถามพีท
“ก็ยิ้มไม่หุบ”
“ครับ มีความสุขมากเลย เหมือนฝัน โอ๊ย! พีทหยิกผมทำไมครับ”
“ก็หยิกให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ฝันไงครับ”
คิวฟังอีกคนพูดแล้วยิ้มเต็มแก้ม พีทเองก็ยิ้มหวานมองอีกคนอยู่เช่นกัน
“ผมดีใจที่มีวันนี้ ขอบคุณนะครับที่กลับมา”
พีทส่ายหน้าหวือแล้วคว้ามืออีกคนมากุมไว้
“พีทต่างหากที่ต้องขอบคุณคิว ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่นะครับ ขอบคุณที่ให้โอกาส ขอโทษที่ทำตัวไม่ดี ขอโทษที่ร้าย ขอโทษที่งี่เง่า ขอโทษนะครับ”
คิวลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะเดินมานั่งตรงหน้าอีกคนที่หมุนตัวตามมาหา มือใหญ่เกลี่ยแก้มใสอย่างแสนรักแววตาคู่คมทอดมองอีกคนด้วยความอ่อนโยน พีทหลับตาแนบแก้มกับมือของคิวเพื่อซึมซับความอ่อนโยนของคน ๆ นี้ โชคดีเท่าไหร่กันนะที่ได้มาเจอคิว คนที่สามารถดึงเขาออกมาจากอดีตและพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไปได้
พีทเคยคิดว่าคงไม่มีใครหรอกที่ทำให้เขาสามารถรักได้มากเท่าพี่คิน จนกระทั่งคนตรงหน้าเดินเข้ามาทำให้หัวใจที่เคยปิดตายได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งและด้วยความโง่ของตัวเองเกือบจะทำให้ความรักครั้งนี้หลุดลอยไป พีทมัวแต่กลัวอดีตกลัวอนาคตจน
ลืมคิดถึงปัจจุบันปัจจุบันที่คิวอยู่ตรงหน้าและไม่หายไปไหน คิวที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างไม่ว่าเขาจะทำตัวไม่ดีใส่มาสักกี่ครั้ง อยากจะขอบคุณแต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดกี่ครั้งถึงจะเพียงพอ
“จะร้ายกว่านี้ผมก็ไม่ว่าหรอกครับ
ขอแค่พีทกลับมาก็พอ”
“เด็กบ้าเอ๊ย”
พีทโถมตัวกอดคนตรงหน้าจนคิวหงายหลังล้มลงนอนกับพื้น ดีที่เป็นพื้นพรหมเลยไม่เจ็บมาก เด็กหมีหัวเราะเบา ๆ ลูบหัวปลอบผู้ใหญ่ขี้แงที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของเขา
คิวไม่รู้หรอกว่าตัวเองโง่ไหมหรือใจอ่อนเกินไปหรือเปล่า เขาแค่คิดว่าอะไรที่เป็นความสุขของเขาตัวเขาเองก็อยากจะคว้าเอาไว้และอยู่กับมันให้นานที่สุด คิวไม่อยากมาเสียใจในภายหลังว่าทำไมไม่ทำแบบนั้น ถ้าทำแบบนี้จะดีกว่านะหรืออะไรก็แล้วแต่
บางทีกับความรักเราก็ไม่ควรคิดอะไรจนมากเกินไป อยู่กับปัจจุบันดูแลกันให้ดีที่สุดวันข้างหน้าต่อให้เลิกรากันไปก็จะได้เหลือสิ่งดี ๆ ไว้ให้จำเก็บเป็นความทรงจำที่ล้ำค่าว่าครั้งหนึ่งเราเคยรักคน ๆ นี้
“รักคิวนะครับ”
“ชื่นใจจังเลย”
พีทหัวเราะทั้งน้ำตากอดเด็กหมีที่ตัวเองนอนทับแน่น เด็กอะไรก็ไม่รู้ทำให้เข้าเสียศูนย์ได้มากขนาดนี้
“คิว”
“ครับ”
“คนเมื่อวานที่คิวอยู่ด้วยตอนเย็นเป็นใครครับ”
เมื่อตอนนี้มีฐานะชัดเจนแล้วพีทก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ เรื่องราวของคน ๆ นั้นคาใจคนตัวขาวมาตั้งแต่เมื่อวานมันมีทั้งความกลัวและความหึงหวงอัดแน่นอยู่ในอก เขาต้องอกแตกตายแน่ถ้าไม่ได้ถามออกไป
“หืม? ใครครับ”
พีทขยับตัวลุกขึ้นนั่งโดยมีคิวยันตัวตามขึ้นมา ทั้งสองคนนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหากัน
“เมื่อวานตอนเย็นพีทไปกินข้าวที่ห้างกับน้องณินแล้วก็เห็นคิวอยู่กับเด็กผู้ชายคนนึงตัวเล็ก ๆ น่ารัก”
คิวเลิกคิ้วสูงด้วยความแปลกใจ เมื่อวานเขาไปห้างสรรพสินค้าจริงแล้วก็ไม่ได้ไปคนเดียวแต่ไปกันเป็นขโยงต่างหากทั้งเพื่อนของเขาคริษฐ์ณินซันแล้วก็พวกเพื่อนของแพรวที่เป็นเพื่อนในคณะของณินด้วย งงไหมตัวเขายังงงเลยว่าจะขนกันไปเยอะขนาดนั้นทำไม แต่เพื่อน ๆ ของแพรวก็ตลกดีทำให้เขาหายเครียดได้เยอะเลย
จะว่าไปแล้วคนที่ตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ หรือว่าจะเป็น...
“มาร์คหรือครับ”
พีทขมวดคิ้วจนหัวคิ้วแทบชนกันเมื่อชื่อไม่คุ้นหูหลุดออกมาจากปากคนรักหมาด ๆ ของตัวเอง
“ไม่รู้สิครับ พีทไม่รู้จักนี่”
อากัปกิริยาเหมือนหึงนั้นทำให้คิวยิ้มกว้างหัวใจฟูฟ่องอดไม่ได้ที่จะคว้าคนตัวขาวเข้ามากอด แขนแกร่งโอบเอวคนตัวเล็กกว่ารั้งให้อีกคนขึ้นมานั่งคร่อมตัก จมูกโด่งซุกซนไล่หอมแก้มนุ่มที่เบี่ยงตัวหนีแต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นและโดนหอมไปฟอดใหญ่หลายครั้ง
“ไม่หึงนะครับ มาร์คเป็นเพื่อนของเพื่อน”
“สนิทกันจนถึงขั้นจับมือถือแขนเลยหรือครับ ปกติคิวหวงตัวจะตาย”
ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่มากสำหรับคิวเพราะเด็กหนุ่มไม่เคยเจอพีทในโหมดหึงมาก่อน อยากอธิบายก็อยากอยากแกล้งก็อยากแต่ในสถานการณ์ที่เขาสองคนเพิ่งจะคืนดีกันไม่ควรแกล้งเป็นอย่างยิ่ง
“พวกนั้นน่าจะรวมหัวกันแกล้งพีทน่ะครับ”
“หือ?”
พีทหันขวับมาจ้องเด็กตัวใหญ่ด้วยสายตาคาดคั้นจนคิวต้องรีบอธิบายต่อ ไม่อย่างนั้นคนที่ซวยอาจจะเป็นเขา เรื่องเมื่อวานเขาไม่รู้ไม่เห็นจริง ๆ นะ เขาแค่ทำตามคำสั่งของเพื่อน ๆ แค่นั้นเอง ให้ยิ้มเขาก็ยิ้มให้แสดงเขาก็แสดง แต่เขาไม่เห็นพีทจริง ๆ นะ พวกนั้นบอกเขาว่าเป็นการซ้อมก่อนเจอของจริง ไม่คิดว่าเขาเองก็จะโดนพวกเพื่อนหลอกเหมือนกัน
“เมื่อวานอยู่ ๆ พวกณินก็มาหาผมแล้วก็ลากไปห้างด้วยกัน ผมไม่รู้ว่าพีทเห็นตอนไหนอาจจะเป็นตอนที่มาร์คมันลืมตัวก็ได้แต่มันไม่มีอะไรจริง ๆ นะครับ”
“น้องณิน....ฮึ่มม”
พีทเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเรียกชื่อเด็กจอมบงการ ฝากไว้ก่อนเถอะมีโอกาสจะเอาคืนอย่างแน่นอน
“แต่ผมดีใจนะที่พีทหึง”
“ไม่ได้พูดสักหน่อย”
พีทหันหน้าหลบสายตาอีกคนที่มองมา คิวกระชับอ้อมกอดวางคางบนไหล่ของอีกคนสองแขนขาวเปลี่ยนมากอดคอคิวไว้หลวม ๆ ใบหน้าหล่อจัดซบลงบนไหล่หนาพ่นลมหายใจยาว
“พีทขี้หึงนะรับได้หรือเปล่า”
“ผมขี้หึงกว่าอีก”
“พีทงี่เง่านะ”
“ผมรับได้ครับ ผมจะคอยแก้ส่วนนี้ให้พีทเอง”
“พีทกินยาก”
“อันนี้ผมรู้ดีครับ”
“ทำงานไม่เป็นเวลาวันหยุดแบบคนธรรมดาก็ไม่ค่อยมี”
“แค่กลับมาให้ผมกอดทุกวันก็พอแล้วครับ”
“หมี”
“ครับ?”
“
รักที่สุดเลยครับ”
อดีตเก็บไว้เป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขปัจจุบันให้ดีขึ้นและอนาคตที่ยังไม่มาถึงก็อย่าไปกลัวกับมันมาก อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดอยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดีที่สุดก็พอและสำหรับความรักครั้งใหม่นี้...ลองดูสักตั้งก็แล้วกัน
end
talk. พี่พีทอาจจะต้องร้องเพลงว่า ลองดูกับเธออีกครั้งเป็นไงก็เป็นกันนนน จะเจ็บอย่างเดิมซ้ำ ๆ ก็ให้มันรู้ไปปปป ฮือออ ถึงเวลาบอกลากันแล้ว ขอบคุณทุกคนที่อยู่กันมาถึงตอนสุดท้ายน้า ขอบคุณมาก ๆ เลยที่รักพี่พีทและน้องคิว เราไม่รู้จะพูดอะไร 555555 มันรู้สึกโหวง ๆ แล้วก็ดีใจที่แต่งจบ 55555555 ถ้ามีโอกาสจะแต่งตอนพิเศษมาให้อ่านกันนะคะ เราจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นน้า รักทุกคนมาก ๆ เลยค่า
#ทั้งหมดใจ
ปล.เรื่องรวมเล่มเราไม่กล้าจริง ๆ กลัวไม่มีคนซื้อ 555555555