NOTE : ขออภัยสำหรับคำผิดค่ะ
:แก้ไขเนื้อหาเล็กน้อยค่ะ
คำเตือน : มีฉากที่ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน
ควรอ่านคนเดียว อ่านเข้ามุมในที่ลับตาคน
ไม่ควรอ่านบนรถเมล์ รถไฟฟ้า บลาๆๆ
ปลีกตัวออกจากผู้ปกครอง พี่น้องและเพื่อนให้ได้มากที่สุด
ขอให้สนุกในการอ่านค่ะ
Chapter 19
ใบไม้ค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำออก สายตาสอดส่องผ่านช่องประตูก็พบกับแผ่นหลังกว้างที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือก็ระบายลมหายใจอย่างโล่งใจ เรียวขาเล็กค่อยๆย่องออกมาอย่างเงียบงัน แต่ก่อนที่จะได้ไปถึงเตียงแล้วเอาผ้าห่มมาห่อตัวเองไว้อย่างใจหวัง คนที่จดจ่ออยู่กับหนังสือก็หันมามองพอดี
“เสร็จแล้วเหรอ?”
ใบไม้รีบหลบตาพลางดึงชายเสื้อให้มาปิดเรียวขาของตัวเองให้ได้มากที่สุด พี่น่ะสิ พอให้หาเสื้อผ้ามาใส่ก็หันไปรื้อๆตู้เสื้อผ้า แล้วหันหยิบเสื้อตัวเดียวส่งมาให้หน้าตาเฉย แล้วบอกไม่มีกางเกงที่ผมใส่ได้ ให้ตายเถอะ!...ผมไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้นสักหน่อย แล้วดูสิ มันยาวแค่ต้นขาผมเอง คิดแกล้งผมอีกแล้วแน่ๆ
“เอ่อ...ค...ครับ...คือ...พี่ไม่มีกางเกงที่ผมใส่ได้จริงๆเหรอครับ”
ได้ยินอย่างนั้นจอมทัพก็ทำหน้าคิดไปสักพักแล้วส่ายหัวเบาๆให้ใบไม้ได้ทำหน้างอง้ำมากขึ้น…ใครจะไปบอกว่ามีกันล่ะ… พอเห็นสภาพใบไม้เป็นอย่างนี้แล้วก็รู้สึกว่าคิดถูกแล้วที่โกหกคำโตออกไป แก้มแดงๆ ปากอิ่มๆ เสื้อตัวเดียว...และเรียวขานวลเนียน…...
จอมทัพสะบัดหัวแล้วกระพริบตาเร็วๆพยายามละสายตาออกจากเรียวขานวลตรงหน้าให้ได้ รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นตาลุงโรคจิตคิดจะพรากผู้เยาว์อย่างไรอย่างนั้น ใบหน้าคมเบือนหน้าหนีก่อนจะหลับตาแล้วระบายลมหายใจออกมาแรงๆ...โรคจิตเอ๊ย...มึงมันโรคจิตตั้งแต่คิดพิเรนทร์ให้น้องใส่เสื้อตัวเดียวแล้ว....ห้ามคิดอกุศลกับน้องเด็ดขาด!!
“พี่ครับ...ไม่สบายรึเปล่าครับ”
เมื่อเห็นท่าทางแปลกของจอมทัพ ใบไม้ก็รีบสาวเท้าเข้าไปทันทีอย่างลืมตัว มือเล็กบางวางลงบนหน้าผากก่อนจะแนบกับแก้มสากของคนตรงหน้า แล้วต้องยิ้มออกมาอย่างสบายใจเมื่อจอมทัพ
ไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ แต่พอจะเดินหนีก็พบว่าตัวเองโดนล็อคตัวไว้ด้วยแขนแข็งแรงที่โอบเอวตัวเองไว้เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ดีจังใบไม้เป็นห่วงพี่ด้วย” ว่าพลางโอบเอวบางแน่นๆดึงรั้งให้เข้ามาอยู่หว่างขาตัวเองให้แนบชิดขึ้นไปอีก
“ผ...ผม...ก็ต้องเป็นห่วงพี่สิ”
“พี่ก็เป็นห่วงเรา...ไม่อยากให้เราเจ็บ...ไม่อยากให้เราไม่สบาย” จอมทัพยกมือขึ้นไปเกลี่ยแก้มนิ่มอย่างอ่อนโยน “ทำไมถึงเป็นห่วงพี่ล่ะ”
จอมทัพเงยหน้าถามคนตัวเล็กที่ดูจะอึกอักไปเล็กน้อยพร้อมกับแก้มที่แดงจัดขึ้นมาอย่างนั้น ใบไม้กัดริมฝีปากแน่น เพราะอะไรน่ะเหรอ?....ไม่รู้มันจะเร็วไปหรือเปล่ากับความรู้สึกของตัวเองที่รักพี่เข้าไปแล้ว..รักรอยยิ้มและสายตาอบอุ่นของพี่…รักความใจดี...รักความอบอุ่น...รักการดูแลเอาใจใส่...รวมถึงรักความร้ายกาจของพี่ด้วย อันหลังนี่ถือว่าอนุโลมเพราะเป็นพี่หรอกถึงไม่โกรธ
ใบไม้ค่อยๆไล้ปลายนิ้วไปทั่วที่หน้าคม...เลยไปถึงปาก ตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นไงนะ ‘ปากห้อยแต่ก็น่าจูบ’ หยุดมองก่อนสักพักก่อนจะหน้าแดงขึ้นมา แล้วถึงย้ายจากปากไปที่จมูก… ‘ถ้ามากดที่แก้มก็คงจะดี’ โดนมาหลายครั้งแล้วก็ดีจริงๆ ก่อนจะเลยขึ้นไปสบหับดวงตาคม...สิ่งเหล่าคือความคิดแปลกประหลาดตอนเจอพี่ครั้งแรก...และทุกสิ่งทุกอย่างคือรูปลักษณ์ภายนอกที่ทำให้ผมชอบพี่ตั้งแต่ครั้งแรกพบ… แต่ตัวตนจริงๆหลังจากนี้ต่างหากที่ทำให้ผมหลงรัก..
ผมทำใจกล้าอย่างสุดความสามารถที่จะได้สบกับดวงตาดวงนั้น ดวงตาที่ไม่เคยมอบความเย็นชาให้กับผมเลย ถึงมันจะนิ่งๆแต่มันก็จะมีประกายบางอย่างแฝงไว้เสมอ ผมสบตากับพี่อยู่อย่างนั้นเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง...ความอบอุ่น...ความใจดี...ความเป็นห่วง...ความรู้สึกทั้งหมด...มันฉายชัดอยู่บนดวงตาดวงนั้น...
จอมทัพที่ใบไม้สบตามาอย่างนั้นก็สบตาตอบ พร้อมยกมือขึ้นไปกุมแก้มนุ่มเอาไว้ ใบไม้ซบแก้มลงกับความอบอุ่นนั้นทันทีก่อนจะส่งยิ้มให้จอมทัพที่ยิ้มมาให้ก่อนแล้ว…
“พี่ว่า...เราควรจะเป็นแฟนกันจริงๆสักที” ใบไม้นิ่งไปพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างกับหัวใจที่เต้นรัวเร็วขึ้นอย่างไม่เป็นจังหวะ จอมทัพยิ้มให้กับท่าทางแบบนั้นก่อนจะว่าต่อ “พี่ดีพอสำหรับใบไม้หรือยัง...ความรู้สึกของเรา...มันชัดเจนแล้วใช่ไหม”
“พี่...เป็นคนดี...ดีเกินไปด้วยซ้ำ พี่ดูแลผมดีมาก..มากกว่าผมดูแลตัวเองเสียอีก”
“พี่เป็นคนดีของใบไม้แล้ว...ถึงเวลาที่ใบไม้ต้องเป็นคนดีของพี่จริงๆสักที” ใบไม้อดจะที่ขำไม่ได้กับคำพูดแบบนั้น ก่อนจะกุมแก้มกร้านทั้งสองข้างพลางก้มหน้าลงไปใกล้ๆ
“ได้สิครับ...เราแลกหัวใจกันแล้วนะ” ได้ยินอย่างนั้นจอมทัพก็ยิ้มก่อนจะรวบเอวของใบไม้เข้ามากอดเต็มรัก แล้วซุกหน้าตัวเองลงบนหน้าท้องแบนราบ “ผม...รักพี่นะครับ”
จอมทัพเงยหน้ามองพร้อมดวงตาคมที่ยี๋ลงเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มกว้างที่ใบไม้พึ่งได้เห็นเป็นครั้งแรก ใบไม้เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มตาม แล้วแขนแข็งแรงก็รวบเอวบางเข้ามากอดอีกครั้งพร้อมกับคำพูดที่ทำให้ใบไม้อบอุ่นไปทั้งหัวใจ
“พี่จะดูแลความรักของเราให้ดี”
_______________________________________________
ใบไม้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เรายิ้มให้กันอยู่ดีๆพี่ก็กดลงให้ผมนั่งลงไปบนตัก แล้วประคองแก้มผม มอบจูบแรกของเราและจูบแรกในชีวิตของผมให้อย่างอ่อนโยน ในตอนแรกมันก็แค่การแตะปากกัน แต่หลังจากนั้นก็ต้องหลับตาพริ้มลงเมื่อพี่จอมทัพค่อยๆเค้นคลึงริมฝีปากอย่างแผ่วเบา
มือใหญ่จับให้ขาเรียวอีกข้างเข้ามาขึ้นคร่อมบนตักตัวเองทั้งที่ยังไม่ละริมฝีปากออกมาปากอิ่มหวานพลางกดให้สะโพกของร่างบางให้แนบชิดตัวเองมากขึ้น จอมทัพละริมฝีปากออก คนตัวเล็กที่อยู่บนตักก็รีบหอบหายใจ ตาคมจ้องมองริมฝีปากอิ่มที่เผย่อขึ้นมา ก่อนจะกดจูบลงไปอีกครั้งอย่างอดใจไม่ไหวด้วยความร้อนแรงมากกว่าเดิม
“อ..อื้มม...อื้อ”
คนตัวเล็กที่ดูเหมือนใกล้ละลายเป็นผึ้งรนไฟก็รีบยกมือขึ้นคล้องคอแข็งแรงทีเป็นหลักยึดเมื่อตัวเองใกล้หมดแรงเต็มที มือเล็กกำคอเสื้อของอีกคนแน่นพยายามอดทนความรู้สึกขัดเขินและวาบหวามอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน ก่อนจอมทัพจะแอบยกยิ้มในใจเมื่อใบไม้เริ่มจูบตอบอย่างเงอะงะ น่ารัก...ทำไมน่ารักแบบนี้นะ.....
“อ๊ะ!...”
ใบไม้ก็ร้องออกมาอย่างตกใจพร้อมเกี่ยวขาเข้ากับเอวหนาไว้ เมื่อจอมทัพโอบอุ้มตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปที่เตียง ก่อนเรือนกายสูงใหญ่ทาบทับลงไปกับร่างเล็กที่อยู่ด้านล่าง ใบหน้าคมซุกไซร้ลงกับซอกคอหอมกรุ่น ปากหยักไล่กดจูบไปทั่วลำคอก่อนจะเลยขึ้นไปประกบกับปากอิ่มอีกครั้ง
ใบไม้หลับตาพริ้มโดยที่ริมฝีปากทั้งสองยังเค้นคลึงกันอยู่แบบนั้น ในสมองมันช่างขาวโพลนไม่มีความคิดใดๆตรงหน้า สองมือยกขึ้นคล้องคอ และขาเรียวทั้งสองก็อ้ากว้างออกปล่อยให้คนด้านบนได้แทรกเข้ามาให้แนบแน่นยิ่งขึ้น และใบไม้ก็ต้องสะดุ้งและกำมือแน่นเมื่อมีของชื้นแฉะไล้เลียอยู่ที่ริมฝีปากก่อนจะค่อยๆสอดแทรกเข้ามา
“อะ...อื้อ..อื้ออ..”
จอมทัพส่งเรียวลิ้นเข้าไปพร้อมๆกับส่งมือสอดเข้าไปในเสื้อที่คนตัวเล็กสวมอยู่ มือแกร่งลูบไล้ไปมาที่เอวบางก่อนจะเลยขึ้นไปลูบหน้าอกจนคนตัวเล็กต้องแอ่นอกรับจังหวะนั้น ส่วนเรียวลิ้นชื้นก็เกี่ยวกระหวัดไปทั่วช่องปากหวานหอม ลิ้นเล็กๆนั่นได้แต่คอยหลบหนีให้อีกคนได้ไล่ต้อนจนสุดท้ายก็ต้องเกี่ยวกระหวัดตอบจนได้
“อ๊ะ!...พี่ครับ...”
ใบไม้ต้องร้องเรียกอีกคนทันทีเมื่อจอมทัพละใบไม้ลงไปซุกไซ้ทั่วลำคอกับเสียงหอบหายใจอย่างรุนแรงที่เต็มไปแรงอารมณ์ ก่อนจะขบเม้มจนมันขึ้นรอยแดง มือก็ลูบลงไปฟ่อนเฟ้นขาอ่อนนุ่มมือพลางดันก็เรียวขานั้นอ้าให้กว้างขึ้นๆเพื่อตัวเองจะได้เข้าไปแนบชิดมากยิ่งขึ้น
‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก’
และนั่นก็เป็นเสียงที่ปลุกทั้งสองคนให้ได้สติขึ้นมา ใบไม้ลืมตาโพล่งขึ้นมาก่อนจะรีบดันตัวเองออกมาอย่างร้อนรน จอมทัพได้แต่กำมือแน่น ระบายลมหายใจออกมาแรงๆ พลางหลับตาลงพยายามจะเรียกสติและระงับอารมณ์ที่เตลิดของตัวเองกลับมาให้ ใบไม้ที่ดันตัวเองออกจากการกักขังของจอมทัพได้ก็ลุกขึ้นไปยืนเคว้งอยู่กลางห้องอย่างทำอะไรไม่ถูก
‘ปัง! ปัง! ปัง!”
“จอมทัพ!!...อยู่ปะวะ!!...เปิดประตู!”
เสียงของคนที่เรียกอยู่หน้าประตูที่ทำให้รู้ว่าเป็นใคร ก็ทำให้จอมทัพต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ พลางยีผมอย่างหัวเสีย ตาคมตวัดมองประตูแล้วลุกขึ้นก้าวฉับๆ ใบไม้ก็รีบหลบมุมเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ที่โต๊ะเขียนหนังสือพลางจัดการทั้งเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยและผมที่ยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย จอมทัพกระชากประตูเปิดออกมาพร้อมใบหน้าที่ทำให้คนมาเยือนรู้ว่าหงุดหงิดเต็มที
“เหี้ยเตวิน....มึงมาทำไมวะ!!” เพื่อนเวร!!...มึงแม่งมารผจญ
เตวินที่เห็นเพื่อนหงุดหงิดก็พลางยักไหล่แล้วเดินเข้าห้องอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นใครบางคนที่นั่งทำหน้าล่อกแล่กอยู่ที่โต๊ะ ถึงว่าหงุดหงิดอยู่กับน้องนี่เอง เตวินลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งพลางสำรวจรอบห้องอย่างสังเกต เตียงยับยู่ยี่ ส่วนน้องก็ผมยุ่ง เสื้อผ้ายับ
“แม่ง...นี่มึง...” เตวินยกมือชี้หน้าเพื่อนอย่างอึ้งๆ ที่ตีหน้ายักษ์มายืนขวางเพื่อนที่กำลังสำรวจคนของตัวเองอยู่
“มีอะไร!!”
“อ๋อออ...ก็...ไม่มีอะไร๊..มึงคงลืมว่ากูจะขึ้นมาเอาชีท” เตวินว่าพลางยักไล่พร้อมส่งสายล้อเลียนไปให้เพื่อน “แบบ..กูก็บอกมึงแล้วว่าจะขึ้นมา..กูก็เปล่ามาขัดอะไรยังไงๆ”
จอมทัพถอนหายใจใส่เพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของตน ใบไม้ที่เห็นอย่างนั้นก็รีบลุกขึ้นมาแล้วหลบออกไปทันที นั่นทำให้เตวินต้องตาโตขึ้นมาอีกเมื่อเห็นสภาพของใบไม้เต็มๆ ปากบวมๆ แล้วต้องตาโตกับรอยแดงที่ขา...นี่เพื่อนกูมันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอวะ
“โห...มึงนี่มัน...” ก่อนจะได้พูดอะไรจอมทัพก็คว้าชีทมาก่อนจะจับยัดใส่มือเพื่อนทันที
“ไม่ต้องพูด...เสร็จแล้วก็ออกไปซะ”
“เออๆ...กูไม่กวนละ...จะทำอะไรต่อก็ทำเลยนะ บาย...บ๊ายยย”
เตวินรีบลุกแล้วตรงไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วๆเมื่อจอมทัพยกเท้าขึ้นมาเตรียมถีบเพื่อนให้ออกจากห้อง เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงถอนหายใจของทั้งสองคนในห้อง จอมทัพที่หันไปมองน้องที่ยืนหลบมุมก็ต้องระบายลมหายใจออกมาอีกครั้ง ที่รีบไล่เพื่อนออกไปเพราะคิดว่าน้องคงต้องเขินและอายมากแน่ๆ มันคงไม่ดีเหมือนกันที่เพื่อนต้องมาเห็นน้องในสภาพนี้ เมื้อกี้เขาแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงไอ้เตวินมันจะกวนใจแต่ถ้าไม่มีมันเขาก็คงได้ล่วงเกินน้องไปมากกว่านี้แล้วจริงๆ
จอมทัพเดินเข้าไปหาใบไม้ที่ยืนอยู่ชิดพนังห้อง แล้วยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มแดงๆ คนตัวเล็กที่เห็นอย่างนั้นก็รีบหลบสายตาคมที่มองมาทันทีพร้อมกันบิดเสื้อตัวเองไปมาทั้งประหม่าทั้งเขิน ใครมันจะไปกล้าทนมองกันเล่า ผ่านเหตุการณ์แบบนั้นมาแท้ๆ
“พี่ขอโทษ...”
“เอ่อ...ผ..ผม ไม่...เป็นไร..ค..ครับ”
“ง่วงหรือยัง”
“ก็...น..นิดหน่อยครับ” ใบไม้ที่ยังก้มงุดอยู่ก็ได้แต่เหลือบมองปลายเท้าของอีกคนเท่านั้น จอมทัพที่เห็นก็นึกเอ็นดู ยกมือขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มพลางส่งยิ้มให้กับท่าทางขัดเขินของใบไม้
“งั้นนอนเถอะ ปะ..” จอมทัพจับจูงมืออีกคนให้เดินตามไปที่เตียง แล้วกดให้ร่างเล็กๆนอนลงพร้อมกับเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ “พรุ่งนี้เรียนเช้าใช่ไหม” จอมทัพว่าพลางนั่งลงบนเตียง ยกมือขึ้นมาลูบหัวอีกคนเบาๆ
“ครับ...พี่จะนอนตรงไหนเหรอครับ” ใบไม้ช้อนตามองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ
“นอนไปเถอะ...ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่มานอนเอง” จอมทัพยิ้มแล้วก้มลงมากดจูบบนหน้าผากของใบไม้ส่งสัญญาณให้อีกคนได้นอนเสียที “นอนนะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” ใบไม้ก็ได้แต่พยักหน้าแล้วหลับตาลงตามที่จอมทัพบอก
“ฝันดีนะครับ”
จอมทัพก็นั่งลูบหัวกลมๆของอีกคนจนกระทั่งที่ลมหายใจที่สม่ำเสมอกันแล้วถึงได้หยุดแล้วนั่งมองคนที่นอนหลับสนิทไปแล้ว...ตอนหลับก็น่ารัก... จอมทัพขำกับตัวเองเล็กน้อย ในหัวเขามีแต่คำว่าน้องน่ารัก นั่นแหละมันเป็นเสน่ห์ของใบไม้ ที่ร้ายกาจจนทำเขาขาดสติไปแล้ว ถ้าไม่รีบบอกให้หลับ มานอนช้อนตาแป๋วมองเขาอาจได้ขาดสติขึ้นมาอีกรอบแน่ๆ...กลิ่นหอมๆกับรสหวานๆยังติดปลายจมูกและปลายลิ้นของเขาอยู่เลย....
เมื่อคิดอย่างนั้นจอมทัพก็รีบเบือนหน้าของตัวเองหนีอย่างรวดเร็ว ...ท่าทางจะเป็นหนักว่ะเรา อุตส่าห์พยายามไม่คิดอกุศลกับน้องสุดท้ายก็คิดจนได้ อาจจะเพราะ...คำบอกรักที่ทำให้หัวใจเขาพองโต หรือกลิ่นหอมๆที่ดึงดูดเขาให้ไปดอมดม และทุกสิ่งทุกอย่างของใบไม้ มันอาจจะทำให้เขาถึงได้ขาดสติและทั้งหลงทั้งรักน้องไปแล้วก็ได้
ยังไงก็เถอะ...ตอนนี้เขาควรไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยเสียที....
________________________________________________
เสียงเปิดประตูห้องน้ำที่ดังขึ้นก็ทำให้ใบไม้ที่หลับสนิทไปแล้วสะดุ้งขึ้นมา พร้อมกับมองหาอีกคนทันที...พี่ไปไหน? เข้าห้องน้ำเหรอ? ใบไม้ได้แต่ระบายลมหายใจยาวๆแล้วนอนมองเพดานสีขาวที่มีแสงๆสลัวจากระเบียงส่องมาเท่านั้น
เอาจริงๆผมแทบมองหน้าพี่ไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมันทั้งเขินทั้งอายไปหมด ใครมันจะไปคิดเล่าว่าเราจะเกินเลยไปขนาดนั้น พี่แทบจะถอดกางเกงในผมออกแล้วถ้าไม่มีเสียงเคาะประตูของพี่เตวินเสียก่อน ไม่รู้จะขอบคุณหรือว่าจะยังไงดี มันคงเป็นเรื่องน่าอายและไม่ดีนักที่ผมยอมนอนทอดกายให้พี่เชยชมได้ง่ายๆแบบนั้น เพียงแต่...ผมคิดว่า ผมคงไม่เสียใจและผิดหวังถ้าเป็นพี่ ไม่รู้สิ ผมเชื่อมั่นใจตัวพี่จริงๆนะ ว่าหลังจากนี้เราคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
สัมผัสของพี่นุ่มนวลชวนหลง และบางทีมันก็ร้อนแรงจนผมแทบหายใจไม่ทัน ร่างกายพี่น่ะมัน...บ้า! อย่าคิดหื่นๆเด็ดขาดนะ ผมได้แต่นอนดิ้นๆแก้เขินไปแบบนั้น ผมผุดลุกขึ้นมองหาพี่อีกครั้ง แสงไฟจากระเบียงทำให้ผมตัดสินใจลุกขึ้นไปดู ก็พบว่าพี่จอมทัพที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ด้วยท่าทางเท่ๆแบบนั้น ...บ้าอีกแล้ว..ใบไม้บ้าอีกแล้ว ชอบหลงพี่ตลอดเลย ปกติพี่แทบไม่สูบบุหรี่ให้เห็นเลย นานๆทีพี่จะสูบให้เห็น พอผมเดินไปใกล้ๆก็จะรีบบี้ก้นบุหรี่ทิ้ง ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า แค่คิดว่าพี่คงเป็นห่วงผม
สุดท้ายคนตัวเล็กก็ไปยืนเกาะประตูกระจกแล้วยกมือขึ้นเคาะเรียกอีกคนเบาๆ จอมทัพที่เห็นใบไม้มายืนเกาะกระจกทำตาแป๋วใส่ก็ยกยิ้มขำแล้วรีบบี้บุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่ที่วางไว้ข้างทันที ใบไม้ที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเปิดประตูระเบียงออกไป
“นอนไม่หลับเหรอ” ใบไม้ส่ายหัว
“เปล่าครับ..ผมตื่นมาแล้วไม่เห็นพี่เลยลุกขึ้นมาดู” จอมทัพไม่ตอบเพียงแค่มองคนตัวเล็กยิ้มๆพลางเกี่ยวปอยผมนิ่มทัดหู แล้วเลื่อนมือขึ้นมากุมแก้มใสก่อนจะหยิกแก้มนิ่มๆอย่างหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ย!..พี่อ่า...อย่าแกล้งผมสิ”
“อยากทำตัวให้หมั่นเขี้ยวเอง” ว่าแล้วก็ยกมืออีกข้างขึ้นไปหยิกแก้มใสทั้งสองข้าง ความจริงอยากฟัดแก้มนุ่มนั่นมากกว่า แต่เหตุการณ์ที่เขาขาดสติ เขาก็ตระหนักได้ว่าต้องยับยั้งชั่งใจอย่าเข้าใกล้คนตัวเล็กมากเกินไป เดี๋ยวจะได้ฟัดไปทั้งตัวจริงๆ
“ฮื้อออ....” คนตัวเล็กได้แต่เบะปากทำหน้างอง้ำใส่อีกคน จอมทัพได้แต่หัวเราะขำเบาๆ ให้ใบไม้ได้มองค้อนใส่วงโต “พี่ครับบ...อย่าแกล้งกันซี่”
“บอกให้นอนทำไมไม่นอน..หื้ม?”
“ก็บอกแล้วนี่ว่าออกมาหาพี่เฉยๆ”
“อยากโดนฟัดอีกหรือไง”
“เอ๋?...” ใบไม้ได้ยินอย่างนั้นก็ได้แต่เอียงคอสงสัย แต่พอจอมทัพก้มหน้ามาใกล้พร้อมส่งทั้งสายตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เท่านั้นคนตัวเล็กก็ตาโตขึ้น ก็จะรีบถอยหลังไปทันที ฟ...ฟัด..เหรอ “ผ..ผมจะไปน...นอนแล้ว” และเสียงหัวเราะในลำคอนั่นแหละที่ใบไม้รีบเปิดประตูเข้าใบทันที ทิ้งให้จอมทัพได้แต่ส่ายหัวเบาๆ
____________________________________________
“ใบไม้!”
“หือ?” ใบไม้ส่งเสียงถามในคอในขณะที่สายตากำลังจดจ่อกับการเขียนงานลงกระดาษ
“นี่รอยอะไรอะ?” เอมมาลินเข้ามาก้มใกล้ๆแล้วชี้รอยที่พ้นปกเสื้อออกมา
“เอ๋?...รอยอะไรอะ” ใบไม้ก็ยังทำหน้างงไม่เข้าใจ แม๊กซ์ที่กอดอกมองอยู่แล้วทำหน้าเมื่อย รื้อกระเป๋าเอมสักพักก่อนจะยื่นกระจกพกพาอันเล็กออกมา
“ดูซะ...จะได้รู้สักที เห็นแล้วรู้สึกอายแทน” ใบไม้ที่ยังงงๆอยู่ก็รับมาพลางเงยหน้ามองเพื่อนที่พยักเพยิดหน้าใส่ก่อนจะยกกระจกขึ้นมาส่องแล้วตกเบิกตากว้างขึ้นอย่างต้องใจ
“เฮ้ย!!”
“คงจะรู้แล้วนะ” เอมมาพูดแล้วส่งขวดรองพื้นให้เพื่อนพร้อมตลับแป้ง “อะ...เผื่ออยากได้ เอาคอนซีลเลอร์ด้วยไหม?..”
ใบไม้รีบยกคอเสื้อขึ้นมาปิดรอยขบเม้มที่ต้นคอทันทีแล้วทำหน้าอยากจะร้องไห้ โอ๊ยยย...พี่จอมทัพเป็นครั้งแรกเลยที่อยากจะโกรธพี่ขึ้นมา ทำไมต้องทำรอยแบบนี้ด้วย ถ้าเจอพี่นะจะตีพี่ให้ช้ำเลยคอยดู
“นี่...ถามจริงๆนะ..” เอมมาลินเข้ามาสะกิดเบาๆพร้อมกับกระซิบกระซาบ “แบบ...กับพี่จอมทัพ..น่ะ...จึกๆกันแล้วจริงเหรอ” เท่านั้นแหละใบไม้ก็ตาโตแก้มแดงเห่อร้อนขึ้นมา พลางเหลือบมองเอมที่ทำหน้าจับผิดที กับแม๊กซ์ที่นั่งกอดอกทำหน้านิ่งอยู่
“ปะ...เปล่านะ...จริงๆ แค่..แค่เป็นแฟนกันเฉยๆ” เท่านั้นแหละเอมมาลินก็ต้องตาโตรีบเข้าไปเขย่าแขนเพื่อนทันที
“เหยยย...จริงดิ! เห็นมะบอกแล้วคนอย่างเอมมาลินมองไม่ผิดหรอก ฮ่าๆๆ” เอมมาลินหัวเราะเสียงดังพร้อมตบเข่าฉาดยกใหญ่ บอกแล้วว่านี่ใคร นี่เอมมาลินนะ มองแค่นี้ก็มองออกแล้ว ว่าเพื่อนเขานะ ไม่รอด! “ฉันก็บอกแล้วว่าแกน่ะ น่ารัก..พี่จอมทัพต้องชอบแน่ๆ” ว่าพลางยกมือขึ้นหยิกแก้มใบไม้ให้เพื่อนได้หน้ายุ่ง
“อย่าหยิกสิ...เมื่อคืนมีก็หยิกจนเจ็บหมดแล้ว” ใบไม้รีบเบือนหน้าหลบ ค้อนใส่เพื่อนแล้วลูบแก้มตัวเองเบาๆ
“แล้ว..เมื่อคืนนี่ยังไง..จึกกันจริงไหม..ไปอยู่ด้วยกันยังไง” เอมมาลินว่ายาวโดยมีแม๊กซ์ที่อยู่ตรงข้ามพยักหน้าสนับสนุนด้วย
“ก็กุญแจมันหาย...พี่ก็ไม่ให้นอนกับพวกแกสองคน...พี่เลยให้ไปนอนกับพี่ แต่มันก็แปลกๆนะ ฉันหากุญแจแทบตายหาไม่เจอ เทกระเป๋าออกมาจนหมดเลย แต่เมื่อเช้ามันมาโผล่อยู่ในกระเป๋าเฉย” ใบไม้ว่าพลางเกาหัวอย่างสงสัย ส่วนแม๊กซ์กับเอมก็เหล่ตามองกันเงียบๆแล้วแอบพยักหน้าให้อย่างรู้กัน
...พี่จอมทัพนี่ร้ายไม่เบา! ใบไม้ตาใสๆแบบนี้จะตามทันไหมเนี่ย!
“นายนอนกับพี่เขาบนเตียงเหรอ” แม๊กซ์ถามหน้าตาเฉยให้ใบไม้ได้แอบหน้าแดงเล็กน้อย
“เปล่า...พี่นอนข้างล่าง ฉันเข้านอนก่อน เช้ามาก็เจอพี่นอนอยู่ข้างล่างแล้ว”
“พี่จอมทัพนี่คนดี๊ คนดีเนาะ ทีหลังแกก็อ่อยเขาเยอะๆนะ...โอ๊ย แม๊กซ์อย่าหยิกแก้มสิ!” เอมมาลินหันไปแว้ดใส่แม๊กซ์ทันทีที่เพื่อนหยิกแก้มของตัวเองจนเจ็บ
“พูดอะไรให้เป็นกุลสตรีซะบ้าง” หญิงสาวได้แต่ค้อนใส่เพื่อนส่วนแม๊กซ์ได้แต่ส่ายหัวเบาๆให้เอมก่อนจะยกมือขึ้นวางลงบนไหล่ของใบไม้พลางส่งยิ้มให้ “ยินดีด้วยนะ ต่อไปนี้นายคงมีความสุขแล้ว” ใบไม้ก็พยักหน้าพลางยิ้มขอบคุณ
“แม๊กซ์ แกอยากมีความสุขปะ ฉันน่ะหมอดูอยู่แล้ว แม่หมอเอมจะทายให้เอามะ” หญิงสาวว่าพลางยักคิ้วใส่กวนๆ
“หมอดูเท่ากับหมอเดา...”
“หึ!...จะบอกอะไรให้ แกน่ะ ไม่พ้นพี่เตวินอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ”
“เอมมาลิน!!”
แน่นอนครับ...ตอนนี้คืนดีกันแล้ว แต่ต่อจากนี้คงจะทะเลาะกันเหมือนเดิม
_____________________________________________________
Talk : เค้ามาแล้วจ้า รอกันนานไหมมม
ขอโทษที่อัพช้ามากๆเลยนะคะ
น้องเกือบตกเป็นของพี่แล้วจ่ะถ้าไม่มีขาขัดคออย่างเตวิน
อย่าโกรธพี่แกเลย เดี๋ยวจะส่งคนปราบไปให้พี่แกอย่างแน่นอน 5555
ส่วนพี่จอมทัพคนดีก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว
รอลุ้นกันนะคะว่าพี่จอมทัพจะอดทนได้สักกี่น้ำ