NOTE : ขออภัยสำหรับคำผิด
Chapter 23
“นี่มันอะไร!!”
ทั้งสามคนที่กำลังจับกลุ่มนั่งคุยกันในเวลาว่าง ก็ต้องวงแตกทันทีเมื่อมีคนปาเอกสารบางอย่างลงมากลางโต๊ะ ใบไม้หันไปมองคนที่ตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธจ้องมองมาที่ตัวเองอย่างกินเลือดกินเนื้อแล้วต้องเมินหน้าหนีก่อนจะถอนหายใจแรงๆอย่างเหนื่อยใจ แม๊กซ์เพียงแค่กรอกตาแล้วทำหน้าเมื่อยๆเท่านั้น ก็มีแต่เอมที่นั่งจ้องหน้าผู้หญิงคนนั้นกลับ แฟนเก่าพี่นี่กัดไม่ปล่อยเลยจริงๆ เขาควรจะทำไงดี
“ฝีมือพวกแกใช่ไหม?!!!” เมื่อไม่ได้รับคำตอบทันทีก็เข้ามากระชากแขนเล็กๆของใบไม้อย่างแรง ใบไม้เพียงแค่เบ้หน้าออกมาเพราะความเจ็บเล็กน้อย ก่อนจะแกะมือเล็กๆนั้นออกจากแขนตัวเองแล้วสะบัดออกอย่างแรง พลางทำท่าปัดๆที่แขนตัวเองเบาๆ เรียกความคุกกรุ่นให้หญิงสาวตรงหน้ามากยิ่งขึ้น “นี่!! ตอบฉันมา!!”
“โอ๊ยเจ๊ มาพูดเสียงดงเสียงดังแถวนี้ทำไม ว่างมากนักเหรอเจ๊” เสียงที่ดังขึ้นมากลางวงก็หยุดหญิงสาวที่ตรงเข้ามาหาใบไม้อีกครั้งได้ เพื่อนทั้งสามคนต้องหันมามองหน้ากันอย่างสงสัย และคนที่โปรยยิ้มอย่างอารมณ์ดีมานั่งลงข้างๆเพื่อนขายาวอย่างแม๊กซ์ก็เป็นคำตอบได้อย่างดี
“เตวินแก!! หุบปากไปเลย!!”
“จิ๊ๆๆๆ ใช้ไม่ได้ ผู้หญิงประสาอะไรพูดจาไม่เพราะเลย ยาหยี...อย่าเป็นอย่างนี้ พี่ละปวดหัวกับคนนิสัยเสียแบบนี้จริงๆ” พูดพลางซบลงไปมนไหล่บางของแม๊กซ์ คนตากวางก็ได้ก็กรอกตาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆผลักหัวคนช่างลวนลามออก แล้วหันไปกอดอกมองหน้าหญิงสาวแทน ส่วนเพื่อนเขาน่ะเหรอ ใบไม้นั่งทำหน้าปลงๆ ส่วนเอมก็นั่งเท้าคางยิ้มบางๆ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆราวกับเรื่องตรงหน้านั้นมันช่างสนุกสนาน
“เล๊วเลวเนอะ” เสียงเอมมาลินที่พึมพัมออกมาเบาๆก็เรียกความโมโหของหญิงสาวได้อย่างดี เธอกระโจนเข้ามาหาเอมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องล้มลงไปกองกับพื้นเมื่อคนที่คิดจะปองร้ายผลักเธอออกอย่างแรง
“แก!!...ก..กรี๊…”
“หยุด! ห้ามกรี๊ด!!” เตวินยกมือขึ้นมาห้ามอย่างทันที ส่วนเด็กทั้งสามคนก็เตรียมอุดหูไว้เรียบร้อยแล้ว “นี่ฉันจะบอกอะไรให้” ว่าพลางรวบเอกสารที่กระจัดกระจายเต็มโต๊ะเข้ามาไว้ด้วยกันเคาะเบาๆสองสามทีก่อนจะมาวางไว้ตรงหน้าค่อยๆคลี่มันก็ออกมาดูทีละแผ่นแล้วก็ส่งยิ้มไปให้หญิงสาวที่กำลังค่อยๆลุกขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
“เอกสารพวกนี้ก็...หมายเรียกไง” ถูกต้อง หมายเรียก...หลังจากวันที่เกิดเหตุ จอมทัพก็พาใบไม้ไปโรงพักทันที และเพียงแค่วันเดียวหลักฐานทุกอย่างก็อยู่ในมือจอมทัพด้วยฝีมือเอมมาลิน มันส่งเอกสารให้ทนาย เตรียมส่งหลักฐานให้ตำรวจ แน่นอนว่าอีกไม่กี่วันต้องมีหมายจับและหมายศาลอีกฉบับสองฉบับส่งตรงถึงบ้านผู้หญิงคนนี้แน่ๆ
“ฉันรู้แล้ว ฉันอ่านออก!! แต่ฉันถามว่าฝีมือพวกแกใช่ไหม!!”
“ก็แหม...เห็นมาถามก็นึกว่าจะอ่านไม่ออกซะอีก” ส่งยิ้มกวนโมโหไปให้หญิงสาวอีกครั้ง แล้วเลื่อนเอกสารไปวางไว้ตรงหน้าหญิงสาวที่กำมือแน่น หน้าตาสะสวยต้องบูดเบี้ยวเพราะความโมโหของตัวเอง “ก็อาจจะใช่ ก็แบบ...เธอมาทำอะไรไม่ดีกับพวกเราเอง พวกเราก็มีสิทธิ์ที่จะเอาผิดกับเธอได้นี่ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ไปไหนนะ อ๋อ...สถานีตำรวจ และอืม...ศาล เผลอๆก็อาจจะ...คุกด้วย”
“ไม่มีทาง!!” นุชมองชายตรงหน้าเขม็ง ผู้ชายคนนี้ไม่เคยญาติดีกับเธอตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้ตอนที่เธอเป็นแฟนกับเพื่อนของเขาก็ไม่เคยยินดียินร้ายอะไรกับเธอทั้งสิ้น
“ก็เธอโง่เองที่ปล่อยให้จอมทัพมันเก็บเอกสารปลอมไว้อะนะ” โง่จริงๆนั่นแหละ ทำอะไรไว้มีกล้องจับไว้หมด ทีนี้ก็หลักฐานมัดตัวชัดเจน ยังจะบอกไม่มีทางอีก เฮ้อ คนเรานะ..
“อ..เอกสารนั่นเป็นของจริง!! เขาเป็นลูกของจอมทัพ!! ไอ้โง่ ไหนวันนั้นเราพูดรู้เรื่องกันแล้วไง!!” นุชที่จนมุมก็พุ่งเป้าไปที่ใบไม้ทันที มือเล็กๆทำท่าจะฟาดลงมา แต่ก็หยุดชะงักเมื่อมีน้ำเสียงกวนประสาทดังขึ้นมากวนใจอีกครั้ง
“นี่ๆๆๆ คิดจะทำร้ายร่างกายลูกเดียว เดี๋ยวก็โดนอีกกระทงซะหรอก” เตวินว่าพลางยกนิ้วชี้ขยับไปมาพลางส่ายหัวให้หญิงสาว ส่วนใบไม้ที่เห็นนุชถอยห่างออกไปก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย นึกว่าจะตบแล้วซะอีก...
“ผมเปล่า...คุณคงเข้าใจของคุณเอง” เอาจริงๆเขายังไม่ตกลงอะไรด้วยซ้ำ ผู้หญิงคนนี้ก็ตะโกนใส่เขาปาวๆแล้วเดินหนี ส่วนนุชก็ได้แต่ยกมือกอดอก เชิ่ดหน้าใส่ใบไม้อย่างไม่หวั่นเกรงใดๆ
“หึ..ยังไงจอมทัพก็ต้องรับผิดชอบฉันอยู่แล้ว เดี๋ยวแกก็ต้องถูกทิ้งอยู่ดี ยังจะโง่อยู่อีก” หญิงสาวก้าวเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มเยาะ จ้องตาดำขลับที่แววตาดูเปลี่ยนไปก่อนจะหัวเราะแผ่วๆออกมาเมื่อเห็นแววตาไหวหวั่นของใบไม้ คนโง่ก็ยังโง่อยู่วันยันค่ำนั่นแหละ “เขารักฉัน เราจะแต่งงานกัน เราจะสร้างครอบครัวกัน อย่ามาเป็นมารมากั้นขวางทางฉันกับเขา เข้าใจไหม!!”
“ผมขอโทษด้วย...แต่ถึงยังไงผมก็เชื่อในสิ่งที่พี่จอมทัพพูดอยู่ดี” สุดท้ายใบไม้ก็กดความรู้สึกต่างๆออกไป เรื่องผ่านมาจนหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปโดยที่เราสองคนยังคงเหมือนเดิม เขาเชื่อใจพี่...ว่าแล้วแววตาดับขลับนั่นดูจะกลับมานิ่งอีกครั้ง ปากอิ่มยกยิ้มบางๆให้หญิงสาวที่กำลังกำมือแน่นอย่างอดทนเพราะสู้อะไรไม่ได้
“นี่ป้า…” อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ใบหน้าโกรธเกรี้ยวสะบัดไปมองทันที แม๊กซ์เพียงกอดอกมองนิ่งๆเท่านั้น “อย่าต่อความยาวสาวความยืดจะได้ไหม ผมมีเรียนอีกห้านาที ผมต้องใช้เวลาไปที่ห้องเรียนสามนาที รีบพูดมาเร็วๆ จะได้จบๆสักที ผมจะสายแล้ว” เตวินหันไปมองคนข้างๆก่อนจะเลิกคิ้วมองงงๆ ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็ค่อยๆทะยอยเก็บของลงกระเป๋าแล้วคว้ามาสะพายเตรียมไว้เรียบร้อย
“นี่พวกแกคิดจะ...” หญิงสาวยกมือสั่นๆขึ้นมาชี้หน้าทุกคนพร้อมกับแววตาที่ดูไม่เข้าใจ จะมาไม้ไหนกันแน่!! อยู่ๆจะให้รีบพูดเนี่ยนะ! วันนี้ต้องจบแน่นอน..แต่ฉันต้องจะ...
“ผมให้เวลาแค่สิบวิ…” ก่อนจะได้คิดอะไรอีกเสียงของคนคนเดิมดังขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวเพียงได้แต่อ้าปากค้างอย่างพูดอะไรไม่ออกเท่านั้น “จะไม่พูดเหรอ ห้าวิแล้วนะ” แม๊กซ์ว่าพลางเคาะนาฬิกาไปมาสองสามครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นมาคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“ถ้าผมสาย ป้าต้องรับปิดชอบความรู้ที่จะไม่ได้เข้าสมองผม ผมไม่อยากจะโง่แบบป้าหรอกนะ สวัสดี” พูดจบก็ก้าวออกไปทันทีอย่างไม่สนใจใบหน้างงงวยของหญิงสาว ใบไม้ถอนหายใจออกมาแล้วเดินตามเพื่อนไป เอมมาลินยกมือขึ้นโบกไม้โบกมืออย่างร่าเริงก่อนจะเดินตามไปอีกคน
“บายครับคนสวย จ๊วบบบบ” เตวินว่าพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว นุชที่ถอยหลังก็ต้องยกมือขึ้นปัดใบหน้าที่ดูโรคจิตในความตัวเองออกไปอย่างพัลวัน เตวินที่เห็นอย่างนั้นก็รีบเด้งตัวออกแล้วหัวเราะชอบใจทันทีที่ยั่วโมโหคนตรงหน้าได้ รีบวิ่งตามคนรักของตนออกไปทิ้งไว้แต่เพียงหญิงสาวที่กระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
“แก!!....ไอ้โรคจิต!!”
เตวินที่วิ่งตามเด็กสามคนมาก็เข้ามากอดคอเด็กตากวางที่ยืนต่อแถวขึ้นลิฟท์เอาไว้ แล้วกดจมูกลงที่แก้มอูมๆนั่นหนึ่งที เรียกแววตาหงุดหงิดของแม๊กซ์ออกมาได้ในที่สุด เตวินยิ้มกว้างออกมาก่อนจะยกมือยีกลุ่มผมนุ่มเบาๆ
“ดูจะเป็นการจบเรื่องแบบงงๆอยู่นะ” เตวินว่า งงจริงๆนั่นแหละ อยู่ๆคิดจะจบก็จบ เอมมาลินที่ได้ยินก็หัวเราะลั่นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาพูด
“ไม่งงหรอกค่ะ จะสายแล้ว...คนอย่างแม๊กซ์ต้องเข้าเรียนตรงเวลา” เตวินได้ยินก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ เด็กคนนี้ทำเขาอึ้งหลายอย่างอีกแล้ว นอกจากจะกินเก่ง เล่นเกมเก่งจนเอาชนะมือเซียนอย่างเขาได้ ยังจะเรียนเก่งอีก รู้ได้ไงว่าแฟนผมเรียนเก่ง?....อืม...ก็ผมมั่นใจของผมของผมอะ ยาหยีของผมต้องเรียนเก่งอยู่แล้ว
“วันนี้ก็ตั้งใจเรียนนะ…” เตวินว่าพลางลูบกลุ่มนุ่มสีน้ำตาลเข้มเล็กน้อย แล้วยิ้มอย่างชอบใจเมื่อแก้มคนตรงหน้าแดงระเรื่อออกมา ก่อนจะยกนิ้วขึ้นไปเขี่ยนแก้มอูมเหมือนอันปังแมนที่เวลามันขึ้นสีแดงระเรื่อ เรียกค้อนวงโตจากดวงตากลมๆนั่นได้อีกครั้ง
“ขอบคุณนะครับพี่เตวิน…” เสียงใบไม้ที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังก็ทำให้เตวินหันไปมองก่อนจะยกยิ้มให้ “ไม่มีพี่คงแย่..”
“ไม่เป็นไร ไอ้จอมทัพมันไม่ว่าง ก็เลยฝากพี่มาดูหน่อย...มันอย่างกะมีเซนท์แหน่ะ...ดีนะที่มาทันพอดี”
ก็วันนี้จอมทัพมันต้องไปแก้งานน่ะสิ อาจารย์เรียกตัวด่วน ได้แต่หันมาบอกกับเขาคำสองคำว่าให้ไปดูน้องให้ด้วย ผมพยักหน้าให้เพื่อนที่ดูท่าจะเป็นห่วงไม่เลิก แต่ยังไงก็จะไปหาแม๊กซ์อยู่แล้ว ได้ข้อความกลับมาว่าอยู่ส่วนไหนของมหาลัยก็รีบบึ่งไปหาทันที แต่นั่นแหละพบเข้ากับแจ๊กพอตจนได้
“ขอบคุณนะคะ” เอมมาลินว่า เตวินยกยิ้มบางๆให้เท่านั้นก่อนจะเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อนิ้วเรียวเข้ามาสะกิดที่เอวเขาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองแม๊กซ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วต้องยิ้มกว้างเมื่อมีแขนเข้ามาเกี่ยวที่แขนตัวเอง ตากลมๆเหมือนกวางช้อนตามองเขาเล็กน้อย
“วันนี้ขอบคุณนะครับ” ก็รู้นะว่าเด็กตากวางไม่ได้ช่างอ้อนแบบใบไม้ แต่บางทีไอ้ท่าทางที่แสดงออกมาแบบไม่รู้ตัวเนี่ยแหละมันโคตรน่ารัก น่ารักจน...
“คืนนี้ขอฟัดจะได้ไหม” และสุดท้ายเตวินก็ได้ค้อนวงโตกับแรงหยิกที่เอวจนชายหนุ่มต้องรีบเด้งตัวออกมาก่อนจะลูบเอวตัวเองแรงๆ “มันเจ็บนะยาหยี...แค่พี่จะขอฟัดเองไม่เห็นจะต้องโมโหร้ายใส่กันเลย”
“หยุดพูดไปเลย!!!”
______________________________________________________
มีต่อด้านล่างค่ะ