SIDELINE. ผมเป็นเด็กเสี่ย (21.03.21) ตอนพิเศษ อาถรรพ์ดินเนอร์ (1) [Updated]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SIDELINE. ผมเป็นเด็กเสี่ย (21.03.21) ตอนพิเศษ อาถรรพ์ดินเนอร์ (1) [Updated]  (อ่าน 128742 ครั้ง)

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอน้าาาาาาาาอย่าทิ้งกันจริงๆนะจ่ะ
คิดถึงตุลย์และคุณศานนท์มากมายยย :ling1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ติดตามค่าาา ชอบมากกก เรื่องดูไม่หวือหวา แต่ดูมีอะไรน่าค้นหา ชอบนายเอกแบบนี้  :mew1:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ขอเป็นกำงใจให้เรื่องการเรียนค่ะ

ใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยให้คุ้มที่สุด อยากเรียนอะไรก็ไปลงเรียน อยากออกค่ายก็ไป ทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้เต็มที่ หาเพื่อนต่างคณะ

เชื่อพี่เถอะ ชีวิตช่วงนี้ไร้กังวลมากที่สุดแล้ว รับผิดชอบหน้าที่ของตนเองให้ดีและครบถ้วน

จบไปแล้วโอกาสจะได้อิสระอย่างนี้ต้องรออีกหลายปี

ชีวิตต้องใช้ให้คุ้ม

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
ติดตามค่ะ อ่านสนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ YANIZAxx™

  • มิได้ประมา ท ..แต่เห นือความคาดหมา ย !
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
โอ้ววว นานๆทีมีฟิคถูกเสปค นายเอกไม่น่ารำคาญมาก
รอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่า

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
รอนะคะ สัญญากันแล้วห้ามหลอกกันน้าา  :hao5:

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel

ออฟไลน์ .hnk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
โอเอ็มจี้ .. ยังไม่ทันได้อ่านตอนตุลย์?มีความสุขเลยง่ะ แง๊ จะรอนะคะ
อย่าทิ้งเรื่องนี้น้า ฮื่ออออออออ
ส่วนตัวชอบคุณศาน? โอ้ย ชอบเสน่ห์คนแก ถ้ามีตอหนวดนิดๆพอซุกไซร้ซอกคอให้ครูดผิวคงฟินดี /โอ้ยแค่คิดกำเดาก็จิไหล แฮ่กๆ (ทำไมหื่น....)

 :haun4:

ออฟไลน์ Snimsoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รอนะคะ เรารอได้ เลารอเก่งนะ

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มายังน้าาาาาาา มาได้แล้วน้าาาาาาาาาา
 :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Caramella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
โดนดันแล้วววว แอร๊ยยยยยยย เอ้า! ลงก็ลง ถถถถถ ตอนนี้คิดว่าจะตุนไว้ถึงวันที่ 30 ค่อยทะยอยปั่นฟีตลงให้รัวๆ 555+ แต่ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อย่างน้อยทุกคนก็ยังไม่ลืมเลา #ยิ้มหวาน
-----------------------------------------------

[8.2]

เช้านั้น ศานนท์พาเขามายังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ก่อนจะโยนทิ้งให้แฮร์สไตล์ลิสที่เจ้าตัวรู้จักมักจี้โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง ส่วนตัวเองก็รีบร้อนออกจากร้านไป ครึ่งวันนั้นตุลย์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการถูกจับหันซ้ายหันขวา ย้ายไปตรงโน้นทีตรงนี้ที มีคนมารุมมาตุมยิ่งกว่าดาราหนังในทีวี


ไอ้ที่พูดว่า ‘ไปด้วยกันหน่อย’ เอาเข้าจริงกลับเป็นเขาที่ต้องเค้นสมองสรรหาวิธีร้อยแปดอย่างมารับมือช่างผมที่พยายามยัดเยียดไอเดียแปลกๆ ใส่บนตัวเขาประหนึ่งรังสรรค์ผลงานชิ้นเอกอย่างสุภาพ ไม่ให้เสียชื่อศานนท์ในฐาน ‘ลูกค้าประจำ’ ซึ่งพอย้อนคิดถึงหน้าของเขาคนที่ทำให้เขาต้องมาจุ้มปุกอยู่นี่ มันก็น่าหงุดหงิดไม่น้อย


แต่ถึงแม้ว่าจะกินเวลาไปหลายชั่วโมง และนั่งจนชนิดที่ว่าก้นระรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลลัพธ์ออกมาดีเกินคาดไว้มาก


ภาพสะท้อนในกระจกเงาที่ตั้งอยู่ตรงข้าม คือ ใบหน้าผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่จัดว่าหวาน แต่องค์ประกอบต่างๆ ก็สะดุดตามากพอจะทำให้คนเหลียวหลังกลับมามอง ผมรองทรงต่ำแฟชั่นถูกตัดและย้อมเป็นน้ำตาลเทา เผยให้เห็นต้นคอและไหปลาร้าที่โผล่พ้นคอเสื้อยืดขลับให้ชายที่จ้องกลับมานั้นดูมีเสน่ห์กว่าเคย


“เป็นยังไงคะ ชอบหรือเปล่า” สไตล์ลิสถาม ขณะที่หมุนเก้าอี้เขาช้าๆ เพื่อให้เห็นใบหน้าในองศาที่ต่างกัน


ตุลย์ยิ้มบางๆ เขายังตอบไม่ได้ว่าชอบหรือไม่ หากจะอธิบายความรู้สึกตอนนี้คงต้องพูดว่า ‘แปลกตา’ เสียมากกว่า


“แบบนี้ต้องถูกใจคุณศานนท์แน่ๆ”


“........”


ยังไม่ทันขาดคำ เจ้าของชื่อที่หายหน้าหายตาไปกว่าครึ่งค่อนวันก็โผล่มาหน้าร้านราวกับกะเวลาไว้พอดิบพอดี ฝ่ายนั้นสาวเท้ายาวๆ เข้ามาหา คลี่ยิ้มอย่างหน้าหมั่นไส้ตอนที่เห็นเขา


“เธอดูดีขึ้นนะ”


ตุลย์หน้ากระตุก


จะบอกว่าเมื่อก่อนเขาหน้าตาทุเรศงั้นสิ?


ไม่รู้จะเอ่ยปากพูดอะไร นอกจากฉีกยิ้มรับแกนๆ เป็นคำตอบ ศานนท์เห็นอย่างนั้นก็แกล้งทำทีเมินผ่าน หันไปคุยกับแคชเชียร์แล้วยื่นบัตรเครดิตใบหนึ่งให้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“ไม่ชอบอย่างนั้นสิ?”


 ฝ่ายนั้นถามด้วยระดับน้ำเสียงแค่พอได้ยินระหว่างที่กำลังรอพนักงงานทำรายการ


“เปล่า...”


“จริงเหรอ”


“ผมจะโกหกคุณทำไม?”


“ก็สีหน้าเธอมันฟ้องว่าโกหก”


ห๊ะ?


ตุลย์ยกมือลูบหน้าตามที่ศานนท์พูดแทบจะในทันที กว่าจะรู้ว่าตกหลุมพรางหนุ่มใหญ่เข้าให้ก็ตอนที่อีกฝ่ายหัวเราะในคอให้กับมือที่ค้างเติ่งกลางอย่างอากาศอย่างคนวางไม่ถูกของเขา


การถูกปั่นหัวทำให้เขารู้สึกงุ่นง่านจนต้องเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อตัดบทก่อนที่จะเผลอแสดงสีหน้าไม่พอใจชัดเจนไปกว่านี้ จนกระทั่งแคชเชียร์ส่งบัตรคืนพร้อมใบเสร็จ ศานนท์จึงพาเขาออกจากร้าน


เดินออกมาได้สักพัก จู่ๆ อีกฝ่ายก็โพล่งขึ้น


“ขอโทษที่ทิ้งเธอไว้ เมื่อเช้าฉันติดธุระกับลูกค้า”


“ทำไมครับ?” ตุลย์เลิกคิ้ว “คุณไม่จำเป็นต้องบอกผมก็ได้นี่”


คนฟังถอนหายใจอ่อน “ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ เพราะครั้งนี้ ‘เรา’ เริ่มต้นไม่สวย”


เรา?


ตุลย์เค้นเสียงในคอ “สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่ใช่เด็กขายคนนั้นแล้ว อีกอย่างเรื่องระหว่างคุณกับผมก่อนหน้านี้ก็ไม่มีอะไรลึกซึ้งมากพอจะเรียกว่า ‘เรา’”



ประโยคนั้นทำเอาศานนท์เงียบไปอึดใจ


“เย็นชาจังนะ”


มันยากที่จะคาดเดาเจตนารมณ์อีกฝ่ายภายใต้น้ำเสียงคล้ายล้อเล่นนั้น คงดีกว่าถ้าเดินตามเงียบๆ แล้วทำเหมือนไม่เคยพูดอะไรออกไป


แต่จู่ๆ หนุ่มใหญ่ก็เอื้อมมือมาโอบเอวหลวมๆ แล้วรั้งเขาให้เดินตามเข้าไปในร้านเสื้อผ้าบุรุษแห่งหนึ่ง สภาพร้านคุ้นตาจนน่าแปลกใจ หากไม่นานเขาก็ระลึกได้ตอนที่มองปราดผ่านชื่อร้านว่ามันคือร้านประจำของธวัตรตอนที่เขามักติดสอยห้อยตามอีกฝ่ายไปไหนมาไหนช่วงแรกๆ


“เมื่อคืนเธอไม่ได้เก็บเสื้อผ้ามาไม่ใช่เหรอ เลือกเอาสักหน่อยสิ” ไม่ว่าเปล่าฝ่ายนั้นยังดันหลังเบาๆ เป็นเชิงให้ตัดสินใจ


เขาเดินเมียงมองอยู่สักพัก พอไม่รู้จะทำอะไรต่อก็หันไปถามคนด้านหลัง


“คุณชอบแบบไหน?”


ปกติแล้วเรื่องเสื้อผ้าธวัตรจะเป็นคนจัดการหามาให้ น้อยครั้งที่เขาจะเป็นฝ่ายเลือกเอง ซึ่งครั้งสุดท้ายมันก็นานมากจนแทบจำไม่ได้


“ถามความเห็นฉันเหรอ?” ศานนท์เลิกคิ้วเล็กน้อย เข้ามาหยิบเสื้อตัวหนึ่งจากราวตรงหน้าเขา “ตัวนี้เป็นยังไง”


เขารับเสื้อตัวนั้นมาโดยไม่คิดอะไรมาก จังหวะนั้นศานนท์ก็เดินหายฝั่งตรงข้าม ก่อนจะกลับมาพร้อมเสื้อผ้าใส่ไม้แขวนสองสามตัวโดยมีพนักงานของร้านเดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง


“ลองแบบนี้ดู”


ตุลย์พยักหน้าหงึกหงัก รับเสื้อผ้าพวกนั้นมา ก่อนเดินตามพนักงานเข้าไปในห้องลองชุด เขาใช้เวลาลองไม่นาน แค่เช็คให้แน่ใจว่าทุกตัวใส่ได้พอดีก็เดินกลับออกมา แปลกใจนิดหน่อยตอนที่เห็นศานนท์ยืนกอดอกอยู่ด้านหน้าคล้ายกำลังรออะไรสักอย่าง


“เป็นยังไง ใส่ได้ไหม?”


“ครับ อยากให้ผมลองให้ดูไหม”


 หนุ่มใหญ่ส่ายหน้าช้าๆ “ไม่เป็นไร ไว้คราวหลังเถอะ”


ศานนท์ปล่อยเขาเลือกกางเกงและชุดลำลองเพิ่มอีกสามสี่ชุด โดยที่คราวนี้อีกฝ่ายขอให้พนักงานเป็นคนจัดการให้ ส่วนตัวเองก็นั่งรออยู่ตรงมุมร้าน กดโทรศัพท์ฆ่าเวลา ตุลย์เวียนไปกลับห้องลองอยู่สองสามครั้ง พอได้เสื้อผ้าพอสำหรับที่จำเป็น เขาก็คร้านจะเลือกต่อ ส่วนค่าใช้จ่ายหนุ่มใหญ่ก็เป็นคนจัดการให้เหมือนเคย


ศานนท์แวะทำธุรอีกสองสามอย่าง ก่อนจะออกจากห้างสรรพสินค้าช่วงเย็นๆ ระหว่างทางพวกเขาไม่ได้คุยอะไรกัน นอกจากถามตอบเป็นพิธี ความเงียบยิ่งทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วน พอกลับถึงบ้าน ตุลย์ก็ขอตัวขึ้นมาที่ห้อง วางข้าวของระเกะระกะไว้บนโซฟาแล้วทิ้งตัวนอนหงายตามแบบคนหมดอาลัยตายอยาก


จะว่าไปห้องนี้ก็กว้างขวางอยู่พอตัว ดูไม่เหมือนห้องเดี่ยวสักนิด เฟอนิเจอร์หลายชิ้นอย่างพวกตู้โต๊ะดูมีอายุ ทว่ากลับยังอยู่ในสภาพดีเหมือนถูกดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างที่กำลังนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พลันก็สะดุดตาเข้ากับวัตถุทรงสูงบนโซฟาข้างศีรีษะ


“...ไอ้นี่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ตอนแรกนี่?”


ถึงแม้เมื่อคืนจะมืดมาก แต่เขาก็มั่นใจว่าบนโต๊ะตัวนี้ไม่เคยมีแก้วลายหินอ่อนวางไว้


ตุลย์เด้งตัวนั่ง หยิบมันขึ้นมา ก่อนจะพบว่าด้านในมีเครื่องเขียนสามสี่ชิ้นใส่ไว้ เขาลุกขึ้น เดินดูรอบๆ แล้วก็เป็นไปดังคาด มีข้าวของเครื่องใช้จำนวนหนึ่งถูกนำมาเติมในครัว ห้องนอน และห้องนั่งเล่น พอชะโงกหน้าเข้าไปในห้องน้ำ ก็ได้กลิ่นอ่อนๆ ของน้ำหอมและสบู่ บนชั้นวางของมีแปรง ยาสีฟัน และข้าวของส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่งที่โผล่มาจากไหนไม่รู้


บางทีนี่อาจเป็นเรื่องดีที่สุดของวันนี้


ตุลย์คว้าผ้าเช็ดตัวบนจากในตู้ ตัดสินใจอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเปลี่ยนมาสวมชุดนอน ชั่วครู่ที่เดินออกมาเห็นถุงกระดาษระเกะระกะก็เกิดความคิดอยากจะหยิบของข้างในออกมาลองเสียอย่างนั้น เขาสุ่มหยิบเสื้อออกมาตัวหนึ่ง มันเป็นเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม ปลายแขนเป็นสีฟ้าเกือบขาว ร่างโปรงยกขึ้นทาบลำตัว แล้วมองภาพที่สะท้อนจากอยู่ในจอทีวี 


ก็ดูไม่เลว...


เขายิ้มมุมปาก


จะว่าไปศานนท์ก็เข้าใจเลือก


ก๊อก ก๊อก ก๊อก!


ไม่ทันไรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตุลย์เก็บเชิ้ตที่อยู่ในมือใส่ลงถุง ก่อนจะเดินลิ่วๆ ไปเปิดประตูรับแขกยามวิกาล  ซึ่งก็ไม่อาจเป็นใครอื่นนอกจากเจ้าของบ้าน ศานนท์อยู่ในชุดเตรียมนอนไม่ต่างจากเขา หากสิ่งที่บ่งบอกตรงกันข้ามเห็นทีจะเป็นขวดไวน์ในมือซ้ายของอีกฝ่าย


“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”


แทนคำตอบ หนุ่มใหญ่ยื่นไวน์ขวดนั้นให้เขา


“ขอเข้าไปได้ไหม”


ตุลย์รับมาถืออย่างงงๆ


ของก็อยู่ในมือ แถมเจ้าตัวก็ยังยืนกรานจะเข้ามาให้ได้ เห็นทีเขาคงไม่มีทางเลือกมากนัก


“ครับ ยังไงที่นี่ก็บ้านคุณอยู่แล้ว”


ร่างโปร่งถอยหลังให้ก้าวหนึ่ง ให้คนด้านนอกผ่านเข้ามาแล้วงับประตูเบาๆ ครั้นหันกลับมาก็เห็นว่าอีกฝ่ายทิ้งตัวนั่งบนโซฟายาวที่เขาวางถุงระเกะระกะเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ฝ่ายนั้นก็ชิงเริ่ม


“ฉันว่าจะหาโอกาสคุยกับเธอตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”


ประโยคนั้นชักทำให้ตุลย์ไม่แน่ใจ “ผมทำอะไรให้คุณไม่ชอบหรือเปล่า ถ้ามี ผม...”


“ก็นั่นแหละที่ฉันไม่ชอบ เธอไม่เป็นตัวของตัวเอง” ศานนท์สบตาเขานิ่งๆ


“แต่ผมว่าคุณคงไม่ชอบเวลาที่ผมเป็นตัวของตัวเองมากกว่า”


ความเงียบโรยตัวอย่างน่ากระอักกระอั่ว หากหนุ่มใหญ่ยังคงนิ่งฟังเหมือนรอให้เขาพูดบางอย่าง จนสุดท้ายตุลย์ก็เป็นฝ่ายวางขวดไวน์ในมือลงบนโต๊ะตรงหน้าศานนท์


“ถ้าอยากให้ผมเป็นเผม คุณก็ต้องตอบคำถามว่าผมมาอยู่ที่นี่เพื่ออะไร”


 “เป็นแบบนี้มันก็ดีต่อตัวเธอไม่ใช่หรือ”


“ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้น...” ตุลย์เม้มปาก รู้ว่าต่อให้เค้นยังไงอีกฝ่ายก็คงไม่ยอมพูด “ก็ได้ ยังไงตอนนี้คุณก็เป็นเจ้าชีวิตผม ถ้าคุณไม่อยากตอบ ผมจะเลิกถาม”


เขาเดินเลี่ยงร่างสูงไปอีกทาง ทว่าประโยคต่อมากลับทำให้ต้องชะงักฝีเท้า


“ฉันไม่เคยพูดว่าเธอเป็นของฉัน”


กระแสเสียงของศานนท์นิ่งเรียบและจริงจังกว่าทุกครั้ง ยิ่งตอนที่หันไปสบตาฝ่ายนั้น เขาก็ยิ่งหวาดหวั่น


“ถ้าเธอยังไม่เข้าใจ ฉันไม่ได้ซื้อเธอ แต่ซื้อ ‘โอกาส’ ให้เธอออกมาจากที่นั่น ตัวเธอเองน่าจะเข้าใจที่ดีสุด ว่ามันแทบ ‘ไม่มีโอกาส’ ที่จะก้าวออกมาจากที่ตรงนั้น โดยไม่สูญเสียบางอย่างแลกเปลี่ยน”


“แล้วทำไมเป็นผม?”


มันช่างงี่เง่าที่คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจฉุดใครสักคนขึ้นจากหลุมดำโดยอ้างถึงความสัมพันธ์แบบคนรู้จักที่ดำเนินไปได้ไม่ถึงเดือน ทั้งที่ยังมีคนอื่นที่ดีกว่า ฉลาดและเก่งกาจกว่าเขาอีกตั้งมากมาย แล้วทำไมถึงไม่เลือกคนเหล่านั้นแทนที่จะเป็นเขา


“ฉันรู้ว่าเธอมีค่ามากกว่านั้น แต่เธอแค่... อยู่ผิดที่ผิดทาง”


ตุลย์เบ้ปาก  “เผื่อคุณยังไม่รู้ ผมไม่เชื่อข้ออ้างงี่เง่าอะไรแบบนั้นหรอก”


“เฮ้”


หนุ่มใหญ่จับแขนเขาไว้หลวมๆ แต่แรงนั้นไม่มากพอจะรั้งไว้ หากเขาขัดขืน


“ถ้าไม่เชื่อคำพูดฉัน ก็ลองเชื่อใจฉัน “


“จะให้ผมเชื่อคุณยังไง”


“เชื่อสิ เพราะฉันไม่คิดจะโกหกเธอ...”


ว่าจบฝ่ายนั้นก็ยึดมือเขาไปจูบ สัมผัสอุ่นๆ ระคนชื้นที่แตะลงบนหลังมือชวนให้รู้สึกวาบวาม กริมฝีปากลากผ่านมาหยุดที่ท้องแขน และผละออกอย่างอ่อยอิ่งในตอนที่ดวงตาของฝ่ายนั้นสบสานกับเขาด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน ศานนท์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะรั้งใบหน้าเขามาจูบ มือหนาช้อนหลังท้ายท้อย เค้นคลึงเร่งเร้าให้จูบตอบ


ริมฝีปากของพวกเขาดูดดึงกันจนเกิดเสียงเบาๆ ผละออกเชื่องช้า และเปลี่ยนองศาเพื่อลิ้มรสอีกฝ่ายในมุมที่แตกต่าง  ทุกครั้งที่สัมผัส มันอ่อยอิ่งและวาบวาม ชวนให้ไขว่เขว่อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกว่าชักจะไปกันใหญ่ก็ตอนที่สะโพกถูกลูบไล้ผ่านเนื้อผ้าด้วยมือของใครบางคน


ตุลย์ผละริมฝีปาก ดันไหล่ศานนท์ข้างที่ลูบสะโพกเขาออก แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ  ถูกหนุ่มใหญ่คว้าลงมาบนโซฟาทั้งตัว ก่อนพลิกตลบให้เขาลงมาอยู่ใต้ร่างโดยมีอีกฝ่ายคร่อมทับ


“คุณ!”


ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ศานนท์แนบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง จูบนั้นเชื่องช้าและวาบหวานทว่ากลับคุมเขาได้อยู่หมัด ตุลย์ครางในคอเมื่อส่วนที่อ่อนไหวด้านล่างถูกกอบกุมผ่านเนื้อกางเกง เขาแค่ปรือตามอง เสพสมอารมณ์ซาบซ่านที่แล่นพล่านทุกครั้งที่อีกฝ่ายเค้นคลึงมัน อดไม่ได้ที่จะครางอือในคอตอนที่ศานนท์แทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เสื้อยืดถูกถกขึ้น ก่อนจะมือหนาจะสอดเข้าไปลูบไล้แผ่นอก พวกเขาแลกลิ้นกัน จูบและดูดเม้มริมฝีปากกันและกัน โดยที่มีต้นขาของหนุ่มใหญ่เสียดสีเป้ากางเกงอย่างจงใจปลุกปั่นอารมณ์


จู่ๆ ศานนท์ผละออก แล้วแนบจูบลงอีกครั้งตรงหน้าท้องที่สะท้อนขึ้นลงเพราะจังหวะหายใจหอบติด ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีมืออีกฝ่ายแทรกอยู่ในกางเกง กุมบั้นท้ายเขาเหมือนพร้อมจะถลกกางเกงทิ้งได้ทุกเมื่อ ส่วนอีกข้างก็ล้วงเอาถุงยางในกระเป๋า ขณะที่ปากพูดยังประโยคตรงกันข้าม


“ฉันไม่บังคับ... ถ้าเธอไม่อยากก็จะหยุดตรงนี้”


ตุลย์ถลึงตาใส่อีกฝ่าย


มาไกลขนาดนี้ ให้หยุดกับผีสิ!


อารมณ์งุ่นง่านทำให้เขาคว้าท้ายทอยอีกฝ่ายมาบดจูบ ศานนท์แปลกใจกับความปุบปับแต่ก็แค่ชั่ววินาทีก่อนที่กางเกงเขาจะถูกถลกไปกองกับพื้น ขาถูกยกขึ้นพาดบ่าก่อนส่วนอุ่นร้อนที่จ่ออยู่ตรงปากทางจะถูกสอดใส่เข้ามาภายในกาย ทิ้งช่วงอยู่ไม่นานอีกฝ่ายก็ขยับสะโพกบดเบียดส่วนที่แข็งขืนเข้ามาลึกยิ่งขึ้น


“อะ อ้า...”


เขาครางตอนที่มันเสียดสีถูกจุดอ่อนไหวภายใน ก่อนอารมณ์เสียวซ่านจะยิ่งแล่นพล่านเมื่อหนุ่มใหญ่จงใจย้ำสะโพกใส่จุดเดิมแล้วแช่ค้างไว้ ขณะที่ทาบน้ำหนักเกือบทั้งหมดลงบนร่างเขา


“ตรงนี้เหรอ”


อีกฝ่ายไม่รอคำตอบ แต่เรียกเสียงครางจากเขาด้วยการเร่งรัดจังหวะผ่อนหนักเบา เล่นเอาสติเขากระเจิงกระเจิงเมื่อจุดกระสันถูกบดเบียดซ้ำๆ ด้วยจังหวะที่เอาแน่เอานอนไม่ได้


ร่างเขาถูกดันขึ้นติดที่พักแขน หนุ่มใหญ่ถอนกายออก ก่อนจะแทรกเข้ามาอีกครั้ง แล้วเริ่มเดินสะโพกเร่งถี่กระชั้น ต้นขาเขาถูกกดลงแนบกับเบาะ อ้าออกกว้างให้เอื้อต่อการสอดใส่ ครั้นจะขยับตัวหนีแรงกระทั้นที่จงใจย้ำจุดกระสันจนแทบคุ้มคลั่ง พื้นที่ของโซฟาก็แคบจนไม่อาจกระดิกกระเดี้ยไปไหนเกินสองเซ็น ได้แค่บิดเร้าตามแรงอารมณ์ เสพสมความรู้สึกเสียวซ่านที่ร่างสูงยัดเยียดให้กลายๆ แล้วฝังเล็บลงบนลาดไหล่เพื่อระบายออกเป็นระยะ ไม่นานเขาก็ไปถึงฝั่งฝันด้วยสติกระเจิดกระเจิง ช่องทางตอดรัดกระชั้นทำให้อีกฝ่ายเสร็จสมตามมาติดๆ


พวกเขาต่างก็หอบกันทั้งคู่ หลังที่แนบติดเบาะแฉะเหงื่อจนได้เสียงเอี๊ยดอ๊าดเวลาขยับตัว หนุ่มใหญ่เกลี้ยผมเขา ก่อนจะยึดท้องแขนไปจูบเบาๆ แต่ครั้งนี้เขาดันไหล่คนที่คร่อมอยู่ด้านบนด้วยเสื้อผ้าเกือบครบเพื่อให้อีกฝ่ายถอนกายออก ซึ่งหนุ่มใหญ่ก็ยอมลุกไปนั่งข้างๆ โดยไม่ดึงดัน


ดูเหมือนกิจกรรมเมื่อสักครู่จะทำถุงกระดาษที่กินพื้นที่บนโซฟาหล่นไปกองระเกะระกะบนพื้น แต่ร่างโปร่งคร้านจะสนใจ ตุลย์หยิบกางเกงขึ้นมาสวมลวกๆ ไม่ลืมคว้าขวดไวน์เดินหายเข้าไปในครัว ทิ้งให้อีกฝ่ายจัดการตัวเอง


เขาไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องเซ็กส์ เพราะตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายตกลงปลงใจ มันก็คือความสัมพันธ์ทางกายรูปแบบหนึ่งซึ่งดีกว่าขายตัวแลกเงินเป็นไหนๆ 


ตุลย์หมุนขวดดำสนิทในมือ ตรายี่ห้อสีทองสะท้อนวิบวับยามต้องแสงไฟ


ส่วนไวน์นี่... ถือเป็นบรรณาการของเขาก็แล้วกัน


แต่ไหนแต่ไรมาเขาชอบรสชาติของไวน์อยู่แล้ว พอเห็นว่าเป็นของดีจึงอดจะหยิบเครื่องไม้เครืองมือมาเปิดลองไม่ได้


ของเหลวสีน้ำตาลอมแดงถูกรินใส่แก้ว เนื้อสีคล้ายกับบรั่นดีทว่าไม่เข้มเท่า พอยกขึ้นจรดริมฝีปากก็ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของไม้โอ๊ค บางทีก็คล้ายลูกเกด หากพอแตะปลายลิ้นกลับไร้ความหวานโดยสิ้นเชิง ผิดกับความเข้มโดดเด่นของแอลกอฮอล์


“ขวดนั้นคือ Sherry” เขาไม่แปลกใจที่ศานนท์เดินตามเข้ามา “...ดื่มกับน้ำแข็งเข้าท่ากว่า”


ไม่ว่าเปล่า ฝ่ายนั้นยื่นมือมารับแก้วไวน์จากเขา เปิดช่องฟรีซ ตักน้ำแข็งใส่ลงไปสองสามก้อนพอให้เนื้อไวน์ดูดซับความเย็น แล้วส่งคืนให้


“ลองดูสิ”


ตุลย์รับมาดื่ม ต้องยอมรับว่าพอความเข้มข้นเจือจางลง รสชาติของมันก็กลมกล่อมขึ้นมาก


ร่างโปร่งเดินสวนเจ้าของบ้านออกไปยังห้องนั่งเล่น เมื่อครู่ข้าวของยังกระจัดกระจาย แต่ตอนนี้มันถูกเก็บแอบไว้ตรงมุมกำแพง ศานนท์เดินตามหลังเขามา ก่อนจะทิ้งตัวลงที่โซฟาตัวเดิม


“เธอไม่ชอบเซ็กส์เหรอ?”


ตุลย์ชะงักเล็กน้อยเมื่อจู่ๆ ฝ่ายนั้นโพล่งขึ้น


“ทำไมครับ”


“สังเกตุตั้งแต่ตอนอยู่ที่คลับแล้ว เธอไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วม”


เขาขมวดคิ้ว ประโยคนั้นพาลให้นึกถึงคำพูดที่ธวัตรเคยว่าไว้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว


“หัดมีจริตบนเตียงซะบ้าง”


“ผมไม่เก่งเรื่องบนเตียงหรอก ที่ผ่านมาส่วนใหญ่มันเป็นงานฉาบฉวย ผมแค่รองรับอารมณ์ลูกค้า ไม่จำเป็นต้องเสร็จทุกครั้งก็ได้”


ว่าแล้วลอบถอนหายใจเบาๆ ขนาดนายหน้ายังบ่นว่าเขาห่วยเรื่องบนเตียงบ่อยๆ แล้วนับประสาอะไรกับหนุ่มใหญ่ที่ลงเงินลงแรงซื้อเขามา


“มาสิ” ศานนท์ตบหน้าขาเบาๆ “ฉันจะสอน”


เขาส่ายหน้า “ผมเพิ่งทำกับคุณไปเมื่อกี้ อีกอย่าง... ผมไม่ทำถ้าไม่มีถุงยาง”


สองครั้งยังพอว่า แต่เรื่องถุงยางเขาไม่อรุ่มอร่วยเด็ดขาด โดยเฉพาะหลังจากประเมินแล้วว่า ศานนท์คงไม่ใช่พวกบ้าเซ็กส์ถึงขนาดพกถุงยางหลายๆ ชิ้นติดตัว


มือหนาเอื้อมมาโอบเอวหลวมๆ “ไม่สอดใส่ ตกลงไหม?”


อยู่ต่อหน้าศานนท์สองต่อสอง เขาคงไม่มีทางเลือกมากนัก


“...งั้นก็ได้”


ตุลย์ทิ้งลงนั่งคร่อมหน้าขา ก่อนเป็นฝ่ายเอียงศีรษะแนบริมปากแลกจูบกับหนุ่มใหญ่ มือหนาเสยผมเขาขึ้นทีหนึ่ง ก่อนจะลดมากอบสะโพก รั้งขอบเกงกางลงอย่างลื่นไหลไม่สะดุดขณะที่ยังจูบนัวเนียกัน แล้วถลกเสื้อยืดเขาออก


ศานนท์ถอนจูบ เปลี่ยนมาซุกซอกคอ ปลายคางและกกหู ไม่ว่าลากจูบผ่านตรงไหน เขาจะรู้สึกถึงสัมผัสสากๆ จากไรหนวดทุกครั้งจนอดย่นคอไม่ได้ เห็นแบบนั้นหนุ่มใหญ่ก็หัวเราะเบาๆ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะจับแขนเขาตวัดโอบรอบคอตัวเอง แล้วกระซิบเสียงพร่า


“ทำแบบที่ฉันทำกับเธอ”


ตุลย์ไม่แน่ใจนักว่ามันหมายถึงอะไร สิ่งที่แรกที่เขาทำคือ แหงนหน้าจูบปลายคางหนุ่มใหญ่ หยุดดูดเม้มไรหนวดเล็กน้อย แล้วเลื่อนลงมาคลอเคลียไหปลาร้า กดจูบลงเบาๆ ขณะที่มือลากไล้ไปตามแผ่นหลังอีกฝ่าย


ศานนท์ก็แค่นักธุรกิจหน้าตาธรรมดาที่วันๆ ทำแต่งานนั่งโต๊ะ ไม่มีเวลาพอรักษาหุ่นให้เฟิร์มตลอดเวลาเหมือนคนรุ่นๆ ดังนั้นแผ่นหลังของเขาจึงไม่ได้เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นๆ น่าสัมผัส


จะเอาอะไรมากกับคนอายุสี่สิบ สำหรับเขา ศานนท์ก็แค่ผู้ชายวัยกลางคนธรรมดา ไม่มีอะไรที่แปลกใหม่จากคนธรรมดาหรือน่าสนใจเป็นพิเศษ...


“อ้ะ อา...”


นิ้วที่กดลากจากต้นคอค่อยๆ ลดหลั่นลงมาแนวกระดูกสันจรดก้นกบ ก่อนจะสอดลึกเข้ามาในช่องทางคับแทบในเวลาเดียวกัน กวาดต้อนเร่งให้เขาตอดรัดสิ่งแปลกปลอมนั้นจนต้องครางระบายอารมณ์ปั่นป่วนในช่องท้อง ร้อนรุมราวกับถูกแผดเผาทุกครั้งที่สัมผัสถูกผิวกายอีกฝ่าย ยิ่งตอนที่มือหนาฟ้อนเฟ้นไปตามร่างกาย พร้อมกับความเบียดเสียดตรงหว่างขาตอนที่สะโพกถูกกดให้ส่วนล่างของทั้งคู่เสียดสีกัน สติก็ฟุ้งกระเจิง ลืมคำสบประมาทเมื่อครู่สนิท 


แล้วเรื่องราวต่อจากนั้นก็ชักจะไร้สติขึ้นทุกที....
.
.
.
.
.
.
.
“ฮา... ฮา... ใส่เข้ามา”


ไม่ว่าเปล่า มือยังกำส่วนที่แข็งขึงของอีกฝ่ายไว้แน่น


ศานนท์ย่นคิ้ว มองคนร่างโทรมเหงื่อหอบที่แฮ่กๆ บนตักเขาด้วยอารมณ์เตลิด ค่อยๆ ยันตัวคุกเข่า ให้ส่วนนั้นของเขาจ่อจดอยู่ตรงบั้นท้าย เห็นแบบนั้นศานนท์ก็รีบยึดสะโพกอีกฝ่ายไว้


“เธอไม่ทำ ถ้าไม่ใส่ถุง...”


แต่ก็ช้าเกินกว่าจะเตือนสติเมื่อร่างโปร่งจงใจทิ้งน้ำหนักลงมา ช่องทางถูกหล่อลื่นจากครั้งที่แล้วจึงไม่ยากที่เริ่มขยับทันที กระทันหันจนคิ้วหนุ่มใหญ่ขมวดแน่นขึ้น ครางในคอเมื่อช่องทางสอดรับเขาเป็นอย่างดี


ความแข็งขึงที่คับแน่นอยู่ภายในคงทำให้ฝ่ายนั้นอึดอัดพอตัว ถึงเท้าแขนบนไหล่เขาเป็นตัวช่วย แต่อย่างนั้นก็ตุลย์ดูจะพอใจกับการได้คุมเกมด้านบน และเลือกถูกสอดใส่ในระดับความลึกที่ตัวเองรู้สึกดี เพราะยิ่งเขากระตุ้น ฟ้อนเฟ้นหนักเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เสียงหอบปนครางจากปากเจ้าตัวถี่ข้างหู ก่อนจะถูกข่วนหลังสองสามครั้ง ไม่นานก็ตุลย์ก็ครางหนักๆ ปลดปล่อยอย่างรวดเร็วบนหน้าท้องเขา ในขณะที่ตัวเขาเพิ่งไต่อารมณ์ไปได้ไม่เท่าไหร่


คงรับรู้สึกสิ่งที่ยังแข็งคับอยู่ในร่าง เจ้าตัวถึงได้ปริปากบอกเสียงแหบพร่า


“จะทำต่อก็ได้ อย่าเสร็จในตัวผมก็พอ...”


------------------------------------------
ติได้ตามสะดวกนะเจ้าค้า อิอิ เมลล่าไม่ถนัดซีนตัวละครคุยกันธรรมดา แต่ถ้าด่ากัน ไฝว้กัน ทะเลาะกันนี่ถนัดนักแล ถถถถ 
คือบางครั้งเมลล่าก็ไม่แน่ใจว่าเขียนออกมาดีเท่าที่หลายคนหวังไหม ถ้ามีตรงไหนที่รู้สึกว่าดรอปไป แนะนำได้เลยเจ้าค่ะ น้อมรับทุกคำติชมจริงๆ ถถถถถ
ตอนนี้เมลล่ากำลังเขียนตอน 9 แต่มันไม่กระดิก...... ผลาญเวลา 5 ชม. ไปฟรีๆ กับสามหน้า โอ้วววว แล้วมันจะจบเมื่อไหร่กันเนี่ยยยย ไม่ต้องเขียนเรื่องใหม่กันพอดี! #crycry
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ถึงแม้ว่าหลายคนอาจลืมเลาไปล้าวววว ถถถถถ
ขอบคุณ คุณ Alternative สำหรับคำแนะนำเรื่องชีวิตการเรียนด้วยค่า เมลล่าก็ยังอยู่ในช่วงรอยต่อ บางครั้งก็สงสัยว่าอะไรคือสิ่งดีที่สุดสำหรับตัวเรา แต่เอาเข้าจริงสรุปแล้ว มันก็ไม่มีสิ่งที่ดีที่สุด มีแต่ต้องลองทำดูก่อนถึงจะรู้ว่าผลลัพธ์มันดีต่อเราไหม #พูดอัลไลไม่รู้เรื่อง
และ ขอขอบคุณ คุณ Kimkidoy สำหรับการดันกระทู้แบบรัวๆ ถถถถถถ เมลล่ายังไม่รู้เลยว่านิยายตัวเองมันสนุกตรงไหน 55555+ แต่ก็ขอบคุณมากๆ ที่ติดตามกันมาแม้ว่าเนื้อเรื่องจะวนๆ อยู่ในอ่าง
สุดท้ายนี้ Merry Christmas นะคะ มีความสุขมากๆ ในช่วงคริสมาสและปีใหม่ และขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจอีกครั้งค่ะ #ลงไปหมอบกราบ

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เย้ๆๆมาแล้ว

ตุลย์ยังเด็กไม่เดียงสาพอเจอลีลาคนแก่ถึงกับสติแตกเลย ชั่วโมงบินมันต่างกันอ่ะเนอะ :hao7:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
หึหึ   ไม่ทำถ้าไม่มีถุง แต่ไม่ทนเมื่อเจอลีลาผู้ใหญ่  อั๊ยยยย

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน

เงื่อนไขมันเปลี่ยนแปลงได้เมื่อร้อนแรงเกินทนไหว อิอิ

ลุงควรไปฟิตหุ่นบ้างนะ มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายนะลุง

อยากให้ลุงจีบตุลย์ไปเรื่อย ๆ ฉันชอบตอนเขาจีบ เขาเขินกัน อร๊ายยยยย

ปล.1 รู้สึกว่าห้องของตุลย์มันมีลักษณะเหมือนคอนโดมากกว่าห้องในบ้านหลังใหญ่ จากประสบการณ์ที่ชอบดูหนังสือตกแต่งบ้านแล้ว ห้องในบ้านหรู ๆ มักจะมีแค่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มและตู้เย็นคล้าย ๆ ในโรงแรม มากกว่าจะเป็นครัวแบบเป็นกิจลักษณะ ฉันอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ เพราะเมลล่าอาจจะหมายถึงแบบนี้อยู่แล้ว แต่พอใช้คำว่า 'ครัว' ใจมันก็ไพล่ไปนึกถึงหม้อชามรามไห เตา ตู้เย็น ตู้กับข้าวขึ้นมาทุกที

ปล. 2 เรื่องเรียนเรื่องชีวิตมันไม่มีดีที่สุดหรอกค่ะ มันดีที่สุด ณ ตอนนั้นที่ตัดสินใจ ภายใต้สภาพการณ์และเงื่อนไขตอนนั้น
พิจารณา ไตร่ตรองให้รอบคอบ แล้วลงมือทำไปเลย เราถึงจะรู้คำตอบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2016 08:45:17 โดย alternative »

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เรารู้แล้วๆ คุณ(ลุง)ศานซื้อน้องมาเพื่อจะลดหุ่นใช่ไหม? แหมๆๆหุ่นจะฟิตสมใจไหมต้องรอดู ฮ่าๆๆ :hao7:

ออฟไลน์ kimkidoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ว้ากกกกกกกกกกดีใจจจจมาต่อแล้ววววววว
แหม่ เปย์เชียวนะคะคุณศาน รักในความเปย์
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมชอบเรื่องนี้นะ สงสัยชอบคนแก่เหมือนตุลย์มั้ง อิอิ
รอดูต่อไปว่าเค้าจะอยู่กันยังไงน้าาาคู่นี้ :mew1:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าชอบคนแก่  :hao7:

ออฟไลน์ Kaewkaew

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 525
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
พึ่งกลับมาเล้า เปิดเจอเรื่องนี้ ชอบชื่อ ลองเข้ามาอ่าน
ติดใจขั้นสุดดดด ตอนแรกก็ชอบธวัตร ชั้นรู้จักนิสัยเธอดี พ่อแบดบอยยย
แต่เกมพลิกจ้า เมื่อคนเขียนประกาศแล้วว่าตาลุงเป็นพระเอก
ก็เริ่มรักตาลุง นางดีมากกกก หูยยยย รักเลยยย
ชอบบบบ รอตอนต่อไปอยู่นะ สู้ๆ นะคะ

ปล. ขอแบบคุณศานนท์สักคนได้มั้ย ดีแบบนี้!!! (ตะกี้ยังตาลุงอยู่เลย!!)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

ออฟไลน์ LoveIsMe

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านแปดตอนรวดพึ่งจะได้เข้ามาเม้นต์บอกก่อนว่าชอบมากกกกกกกกก ตุลย์ไม่ได้ใสซื่อจนน่ารำคาญแล้วก็ไม่ได้กร้านโลกจนต้องควักยาดมมาดม มีเหตุผลให้เข้าใจได้ ธวัตรเห็นแก่ตัวได้ใจเรามาก พอได้มาอ่านพาร์ทของเฮียแกเรารู้สึกว่าจริงๆธวัตรก็รู้สึกดีๆกับตุลย์นะ มีความห่วงความผูกพันธ์ถ้าเห็นแก่ตัวเองน้อยกว่านี้นึกถึงใจคนอื่นบ้างตุลย์กับธวัตรก็คงไม่เป็นแบบนี้แต่ก็ดีแล้วล่ะ ตุลย์จะได้เจอลุงศาน :hao7: ลุงศานเป็นพระเอกแบบที่อยากอ่านมาก ไม่หล่อ ไม่ห่นดี ลุงแก่แล้วนะ ดูเป็นอะไรที่จับต้องได้ อ่านไปก็ยิ้มไป หลุด อิลุงมึงงงง ก็หลายครั้ง 55555 คนเขียนสู้ๆนะคะจะกลับไปอ่านตอนเก่ารอ  :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Caramella

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
9th Night: ราคาที่ต้องจ่าย


ตุลย์ไม่แน่ใจนักว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง จำได้เลาๆ ว่าเขาเป็นฝ่ายร้องขอ หลังจากนั้นเรื่องราวต่างๆ ก็ชักเลยเถิดไปใหญ่ ก่อนจะมาจบลงบนเตียงในสภาพเปลือยเปล่าทั้งคู่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนรุ่งสาง


เขาขยับตัวลุกขึ้นนั่งตรงขอบเตียง โล่งใจที่หว่างขาไม่ชื้นแฉะ แปลว่าหนุ่มใหญ่ไม่ได้ตีตราไว้ในร่างตามที่ให้สัญญาเป๊ะ แต่กระนั้นการทิ้งเวลานอนเกือบครึ่งค่อนคืนไปกับเรื่องอย่างว่าก็ทำให้เขางัวเงียและปวดหัว ไม่ต่างจากคนข้างๆ ที่ยังนอนหลับสนิทใต้ผ้านวม


จะว่าไปดูเหมือนห้องนี้ไม่ได้ถูกสร้างสำหรับอยู่คนเดียวจริงๆ นั่นแหละ...


ตุลย์กวาดสายตามองรอบๆ พื้นที่สี่เหลี่ยมที่ยังไม่คุ้นชินดีนัก นอกจากขนาดที่กว้างขว้างเกินไป เตียงคิงไซส์ที่เขานั่งอยู่ และคนข้างๆ ก็สรุปเสร็จสรรพได้ว่า ศานนท์วางแผนมาอย่างดีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ปากเพิ่งบอกให้เชื่อใจอยู่หยกๆ แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม


ส่วนเมื่อคืน... เขาก็เสียท่าเข้าให้เต็มเปา


ตุลย์หย่อนตัวลงจากเตียงเงียบๆ แต่กระนั้นแรงยวบยาบก็ยังทำให้ผู้ร่วมเตียงรู้สึกตัว ศานนท์พลิกตัว ลืมตางัวเงียไม่ต่างกัน


“กี่โมงแล้ว...?”


 น้ำเสียงแหบอย่างคนเพิ่งตื่นถาม แล้วถอนหายใจแรงครั้งหนึ่ง


“คงประมาณตีห้าครึ่งได้ครับ วันนี้ผมมีเช็คชื่อคาบเช้า คุณจะนอนต่อก็ได้”


“เช้าขนาดนี้เลยเหรอ?”


“เปล่าครับ จากที่นี่ผมไม่แน่ใจว่าใช้เวลาเท่าไหร่”


เขาเพิ่งย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้ได้เพียงไม่กี่วัน ออกข้างนอกก็แทบนับครั้งได้ จู่ๆ จะให้ดิ่งตรงไปมหาลัยทันเวลาโดยที่ไม่ชำนาญเส้นทางก็คงจะเหลือเชื่อเกินไป


ศานนท์เกยหน้าผาก นอนมองเพดานอยู่ชั่วอึดใจ


“ถ้าอย่างนั้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันไปส่ง เธอจะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถประจำทาง”


“ก็ได้ครับ” ตอบอย่างไม่ลังเลนัก


ก็ในเมื่ออีกฝ่ายยื่นโอกาสให้ เขาจะถือว่าเป็นสิ่งที่สมควรได้แล้วกัน


ตุลย์คว้าผ้าเช็ดตัว หยิบเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ  พอเป็นพิธี แต่จังหวะที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ถูกคนบนเตียงเรียกชื่อไว้


“ไม่เป็นไรใช่ไหม?”


“ครับ?” เขาเลิกคิ้ว “...ถ้าหมายถึงเรื่องเมื่อคืน คุณไม่ต้องห่วงหรอก ผมสบายดี”


ว่าจบก็ทิ้งความเงียบไว้ให้คนเบื้องหลัง ก่อนจะเดินลิ่วๆ ไปอาบน้ำแต่งตัว


 โชคร้ายที่ก่อนมาเขาหุนหันเกินไปจนไม่ทันคิดถึงเครื่องแบบนักศึกษา ถึงตอนนี้เลยทำได้แค่เลือกเสื้อและกางเกงคู่หนึ่งที่ดูสุภาพจากบรรดาเสื้อผ้าในตู้ที่ศานนท์เป็นคนซื้อและส่งขึ้นมาให้ในสภาพซักรีดเรียบร้อยพร้อมใส่


ตุลย์แต่งตัวขณะที่มองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจก นับเป็นเรื่องดีที่ศานนท์ไม่ได้ทิ้งร่องรอยความเป็นเจ้าของไว้ตามตัว เขาจึงไม่ต้องปกปิดอะไรเพิ่มเหมือนช่วงที่ทำงานไนท์คลับ


หลังจัดการตัวเองลวกๆ ประมาณหนึ่ง เขาก็ออกมาจากห้องน้ำ แปลกใจเมื่อพบว่าเตียงนอนว่างเปล่าปราศจากผู้อาศัยอีกคน  แต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากอีกห้อง พอชะโงกหน้าไปดูก็เห็นศานนท์ในสูทสีน้ำเงิน นั่งเอกขเนกรออยู่บนโซฟาตัวเดียวกับที่เพิ่งมีอะไรกันไปเมื่อวาน


“เรียบร้อยแล้วครับ” ว่าพลางกลัดกระดุมเสื้อที่เหลือไปพลาง


กลับเป็นหนุ่มใหญ่ที่พอเห็นเขาก็มองตามตาไม่กระพริบ


“มีอะไรหรือเปล่า?” เขาเลิกคิ้ว กลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายอย่างไม่แน่ใจนัก


คราวนี้เป็นศานนท์ที่หลุดยิ้มให้กับท่าทีนั้น คล้ายปฏิเสธไม่ได้ว่ากำลังมองอยู่จริงๆ


“เปล่า... แค่คิดว่าเธอดูเข้ากับเสื้อผ้าแบบนี้จริงๆ ดูดีขึ้นกว่าที่คิดไว้ตอนแรกเสียอีก”


ถูกทักแบบนั้น เขาก็ก้มมองสภาพตัวเองก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันเป็นเสื้อสีขาวแบบที่มักใส่เป็นประจำที่คลับ และเป็นสีที่ศานนท์ชินตาที่สุด เพียงแต่ครั้งนี้มันถูกตัดเย็บปราณีตกว่า และเข้ากับรูปร่างเขาอย่างพอดิบพอดี


“ขอบคุณ”


ตุลย์หลบตา สบกับสายตาแบบนั้นนานๆ จะพาลให้ทำตัวไม่ถูกเปล่าๆ


“มาเถอะ” อีกฝ่ายเข้ามาโอบเอวเขาไว้หลวมๆ โดยที่ไม่สัมผัสถูกตัวเกินไป “ทานอะไรก่อนไปไหม”


“เช้าขนาดนี้ผมยังทานอะไรไม่ลงหรอก”




พวกเขาลงบรรไดมาชั้นล่าง ก่อนจะพบว่ามีผู้หญิงอายุราวสามสิบสี่สิบเดินวุ่นวายขวักไขว่อยู่กับเก็บกวาดข้าวของและจัดโต๊ะอาหาร พอหนึ่งในสองเห็นศานนท์ก็หยุดเอ่ยทัก ‘คุณผู้ชายของบ้าน’ อย่างสุภาพ


“เช้านี้ผมคงไม่อยู่ทาน ส่วนตอนสายๆ จะมีคนเอาชุดนักศึกษามาส่ง ผมอยากให้ช่วยจัดการซักรีดหน่อย”


หนุ่มใหญ่ปรายมาทางเขาแว่บหนึ่งเหมือนจะพูดว่า ‘เตรียมเอาไว้หมดแล้ว’ หลังจากนั้นก็คุยอะไรกับพวกเธอสองสามอย่างแล้วเดินออกไปสตาร์ทรถ ส่วนเขาก็แค่เปิดประตูสอดตัวเข้าไปนั่งข้างคนขับโดยไม่มีคำถามอะไรเพิ่มเติม ไม่นานรถก็ค่อยๆ เคลื่อนผ่านตัวบ้านออกไปสู่ถนนใหญ่ที่การจราจรคับคั่ง


ตุลย์มองรถติดแหงกเรียงเป็นแถวยาวทั้งที่เพิ่งขับออกมาได้เพียงสองสามนาทีอย่างเบื่อหน่าย


 “คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?”


“ไปสิ แต่ไปส่งเธอก่อนก็ไม่ได้ช้ากว่ากันเท่าไหร่”


ได้ฟังแบบนั้น เขาก็ไม่รู้จะซักอะไรต่อ


ความเงียบนั้นน่าอึดอัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องติดอยู่บนรถกับคนที่ไม่รู้ว่าควรวางตัวในฐานะอะไร เขาเลยแก้ปัญหาด้วยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโน้นเล่นนี่ไปพลาง ถึงแม้ว่าจะต้องกดเข้าๆ ออกๆ โปรแกรมเดิมซ้ำฆ่าเวลา ก็ดีกว่าการนั่งเฉยๆ จนกระทั่งสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว รถด้านหน้าหลายคันก็เริ่มเคลื่อนตัว


“ก้มหน้าก้มตา ไม่คุยกับฉันเลยนะ”


ตุลย์เหลือบตามองคนที่จู่ๆ ก็เอ่ยทำลายความเงียบ ก่อนจะกดปิดหน้าจอ


“ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับคุณ”


“ไม่ได้โกรธฉันเพราะเรื่องเมื่อคืนหรอกใช่ไหม”


“อ๋อ หมายถึงเรื่องคุณตั้งใจพกถุงยางมาอึ๊บผมน่ะเหรอ?”


ถูกจี้ตรงๆ หนุ่มใหญ่ก็คล้ายจะอึกอักอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเปลี่ยนไปจดจ่อกับการขับรถโดยไม่มองหน้าเขา


“ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมไม่ได้โกรธอะไร มันก็แฟร์ทั้งกับผมและคุณอยู่แล้ว”


ศานนท์ได้เขาเป็นคู่นอน ในขณะที่ตัวเขาก็ได้สิ่งของบรรณาการจากอีกฝ่ายเป็นค่าตอบแทน ซึ่งนับว่าสมน้ำสมเนื้อ และที่สำคัญคือไม่มีใครต้องเสียอะไรฟรีๆ


มาถึงตรงนี้ หนุ่มใหญ่ก็เงียบไปหลายอึดใจ...


“...ฉันชอบเธอนะ”


ตุลย์หันขวับ สมองยังช็อคและมึนงงกับความกะทันหัน เขาเหลอหลาพูดอะไรไม่ออก แล้วนาทีต่อมาก็ขมวดคิ้วเป็นปมคล้ายไม่แน่ใจว่าหูเพิ่งได้ยินอะไรไปหมาดๆ


“ฉันพูดจริงๆ” ศานนท์ปรายหางตากลับมาแว่บหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองทาง


เห็นแบบนั้น ตุลย์ก็หน้าแหย “คงไม่ใช่เพราะว่าคุณอายุมากขึ้น แล้วขี้เหงาหรอกนะ”


ฝ่ายนั้นเลิกคิ้วแปลกใจกับคำตอบของเขา ก่อนหัวเราะเบาๆ 


“เธอนี่ช่างประชดประชันเหลือเกินนะ”


“...เรื่องนั้นผมนึกว่าคุณรู้นานแล้วเสียอีก คุณศานนท์”


หนุ่มใหญ่อมยิ้มขำขัน เลือกจะจบบทสนทนาไว้แค่นั้นเมื่อรถแล่นเข้ามาในเขตมหาลัยวิทยาลัยอันคุ้นเคย ก่อนจะจอดลงตรงหน้าตึกขณะที่มีคนประมาณหนึ่งเดินขวักไขว่สวนกันไปมา


ตุลย์หยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเกงเกง แต่จังหวะที่จะลงรถก็อดสะดุดกับสายตาของคนขับมองตามประหนึ่งว่าเขาเผลอไปหยิบของมีค่ามหาศาลอะไรมาจากตู้เซฟอีกฝ่าย


“ทำไมครับ? ต้องจูบก่อนลงด้วยหรือเปล่า”


“..........”


คราวนี้หนุ่มใหญ่ไม่ตอบ แต่ยึดหลังมือขวาเอาไว้แทน


ตุลย์ถอนหายใจทีหนึ่งเมื่อตัวเองพลิกกลายมาเป็นฝ่ายเสนอโดยไม่ตั้งใจ แล้วชะโงกหน้าไปจูบอีกฝ่าย แตะริมฝีปากเบาๆ แค่พอเป็นพิธี แต่ความหมั่นไส้ก็ทำให้อดลอบกัดปากล่างหนุ่มใหญ่เบาๆ ไม่ได้ ครั้นแล้วตุลย์ก็ลงจากรถมุ่งหน้าไปยังตึกอีกฝากเหมือนทุกวัน


เป็นเรื่องปกติที่เขามักจะถูกมองด้วยสายตาหลากหลายเวลาเดินผ่านกลุ่มคน จากที่เคยต้องรวบรวมความกล้ามากมาย ทุกวันนี้ก็กลายเป็นชินชา


เขาเดินสวนกับหญิงสาวกลุ่มหนึ่งโดยไม่ได้สนใจอะไร พอลับหางตา พวกเธอก็เริ่มคุยกันเจื้อยแจ้ว หนึ่งในนั้นถามเสียงดังฟังชัดว่า ‘คนนั้นใครอ่ะ’ ซึ่งดังพอจะทำให้เขาหันไปแว่บหนึ่งตามสัญชาตญาณ พวกเธอก็ยิ่งหัวเราะคิกคักกันใหญ่


“แก เมื่อกี้เขาหันมาด้วยแหละ โคตรดูดีเลย!”


ตุลย์เกือบชะงักแต่ครู่เดียวก็ร้อง ‘อ๋อ’ ในใจ


...ไม่ว่าเสื้อผ้า รองเท้า ทรงผม หรือแม้กระทั่งสีผม ก็ถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดในวันเดียว คงไม่แปลกถ้าคนที่เห็นเขาในภาพลักษณ์เก่าแค่สองสามครั้งจะจำไม่ได้ว่าเป็นใคร


หากจังหวะที่กำลังจะขึ้นบันไดไปยังห้องบรรยาย กลุ่มคนที่เดินสวนลงมาก็ทำให้รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว


พวกคนที่ไนท์คลับ... คนที่เคยจ่ายเงินเพื่อให้ได้ตัวเขา


ชั่ววินาทีนั้นเหมือนร่างกายนิ่งแข็งเป็นหิน พอรู้สึกตัวก็ไม่เหลือทางเลือกนอกจากเปลี่ยนเป้าหมายไปยังลิฟท์กะทันหัน ถึงไม่บอกก็รู้อาการเลิ่กลั่กของตัวเองตกอยู่ในสายตาคนกลุ่มนั้นอย่างเสี่ยงไม่ได้


เขาไม่พร้อมเผชิญหน้าตรงๆ ต่อให้คนพวกนั้นลืมว่าเขาเป็นใครก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นก็มากกว่าจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และไม่ว่าจะอยากปฏิเสธเท่าไหร่ ก็ยังต้องยอมรับความจริงที่ว่าเรื่องในวันที่ธวัตรส่งเขาไปให้คนพวกนั้น มันได้สร้างบาดแผลและความหวาดหวั่นทิ้งไว้ลึกๆ ในใจ


คงไม่มีใครทนมองตัวเองถูกย่ำยีเหมือนสิ่งของได้โดยไม่คิดอะไรหรอกจริงไหม...


“ขอโทษครับๆ ๆ”


ร่างโปร่งสอดตัวเข้าไปในลิฟท์วินาทีสุดท้ายก่อนที่จะประตูจะปิด ถึงแม้ว่าจะต้องเบียดเสียดกับคนด้านใน แต่อย่างน้อยการรักษาระยะให้ห่างจากคนพวกนั้น มันก็ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย


เอาเข้าจริงแล้ว เขาในตอนนีก็ไม่ต่างจากพวกชุบตัวใหม่ ที่หวังจะให้ผู้คนลืมเรื่องราวแย่ๆ ในอดีตของตัวเอง...


พอพาร่างมาถึงชั้นบรรยาย ตุลย์ก็เลือกที่นั่งค่อนไปทางมุมหนึ่งก่อนจะทิ้งตัวลง นักศึกษาจำนวนไม่น้อยเริ่มทะยอยเข้ามาในห้อง อีกไม่นานพื้นที่โล่งๆ คงเต็มไปด้วยผู้คน ระหว่างที่กำลังรอเวลา เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นไปพลาง


บังเอิญสบตากับนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง ก่อนจะเธอจะยิ้มให้แล้วเดินไปหากลุ่มเพื่อน เป็นเครื่องการันต์ดีชั้นดีว่าภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปครั้งนี้ทำให้หลายคนหลงลืมตัวตนเขาไปจริงๆ


ได้ยินแว่วๆ ว่าหนึ่งในนั้นพูดชื่อเขา จากนั้นหญิงสาวก็ร้อง ‘ห๊ะ’ เสียงดัง ก่อนที่เธอจะเริ่มสันนิษฐานต่างๆ นาๆ ถึงเหตุผลที่เขาเปลี่ยนไปอย่างปุบปับ แทบทุกถ้อยคำมันถากถางเสียดสีเกินกว่าจะตั้งใจฟัง


แต่ก็เป็นเช่นนั้นอยู่นานก่อนที่อาจารย์เจ้าของวิชาจะเข้ามาทำให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบอีกครั้ง


แต่ทว่าดูเหมือนจะเป็นโชคร้ายสำหรับเขาเสียอย่างนั้น...


“วันนี้อาจารย์ไม่สอน แต่จะให้นักศึกษาจับกลุ่มกันสามถึงสี่คนทำหนังสั้น”


พดสั่งงานและอธิบายลายละเอียดเพิ่มอีกไม่มาก เจ้าของวิชาก็เดินลิ่วๆ ออกจากห้องไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็เกิดความโกลหลขนาดย่อมๆ ขึ้นเมื่อนักศึกษาพากันจับกลุ่มของตัวเอง ตะโกนโหวกเหวกไปทั่ว เห็นแบบนี้เขาก็ลอบถอนใจ


ต่อให้ทำเป็นไม่แสแยยังไง การอยู่และทำงานในที่ที่ถูกคนกว่าครึ่งค่อนเกลียดชังก็ยังเป็นเรื่องที่ยาก...


“ตรงนี้ขาดคนหนึ่ง มีใครยังไม่มีกลุ่มไหม!?” ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนจากอีกมุมของห้อง


แต่ในจังหวะที่ตั้งใจลุกเดินไปหาเธอ จู่ๆ ก็ถูกสะกิดไหล่โดยใครบางคน พอหันไปถึงพบว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เขาออกจะคุ้นหน้าอยู่บ้าง


“นายๆ มีกลุ่มหรือยัง กลุ่มฉันขาดคนนึง”


“ยัง”


“งั้นตามมานี่ว่องๆ เลย”


ฝ่ายนั้นเดินนำฝ่าผู้คนขึ้นไปยังโต๊ะชั้นที่อยู่บนกว่าหน่อย จนกระทั่งเห็นว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งยืนโบกมือหยอยๆ อยู่ข้างสาวอีกคนนั่นแหละ


“ได้คนครบแล้ว”


“ดีเลย ขอบคุณมากนะแม็ก” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้เพื่อนชายของเธอ ก่อนจะหันมาทางเขาด้วยสีหน้าสนอกสนใจประหนึ่งเจอของแปลกใหม่ “เธอชื่ออะไร?”


“ตุลย์”


พอได้ยินชื่อเขาเธอก็ร้อง ‘อ๋อ’ ออกมาทันที ในขณะที่คนชื่อแม็กถึงกับหน้าเปลี่ยนสี แต่ก่อนที่เพื่อนชายของเธอจะพูดอะไร หญิงสาวก็ชิงทักทายเสียก่อน


“เราชื่อจีจี้นะ ยินดีที่ได้รู้จัก ส่วนสองคนนี้คือ แม็กกับฟ้า เป็นเพื่อนร่วมกลุ่มโปรเจ็คหนังสั้น อยู่กับเรางานอาจจะหนักหน่อย”


เธอยิ้มแหยเหมือนกลัวเขาเปลี่ยนใจ ก่อนจะปรบทีหนึ่งด้วยท่าทีขยันขันแข็งไฟแรงสุดๆ


“เอาล่ะ คนครบแล้ว ทีนี้ก็จะได้เริ่มวางแผนกันสักที!” 


------------------------------------------------


เปิดตัวตัวละครใหม่ใสๆ กุ๊กกิ๊กค่ะ ถถถถ เขิลจัง มีคนรักเรื่องนี้ อร๊ายย เขิลตัวลอยแล้วจริงๆ นะ ดีใจที่คนรักลุงศานนท์ค่ะ #เลาคือทีมคนแก่ เดี๋ยวๆๆๆ ผิดๆๆๆ! แอบกังวลว่าคาแรกเตอร์ลุงจะอ่อนไปไหม อิมเมจอีก ความมีมิติอีก ถถถ คิดไปถึงสุไหงโกลกแล้วว

 ส่วนเรื่องครัวที่คุณ Alternative ติงมา เมลล่าพลาดมากกกกกกกกกกกก  :ling1: ไม่ได้พลาดแค่ห้องเดียวด้วย พลาดยกเซ็ตเลย ถถถถ #ปล่อยไก่สุดๆ บ้าน = สิ่งปลูกสร้างที่แบ่งเป็นห้องๆ ชัดเจน แล้วชุ้นจะเอาห้องทุกอย่างไปรวมๆๆ กันไว้เหมือนในคอนโดได้ไง แอ๊กกกกก แก้ไม่ทันแล้วด้วย แอร๊ยยย ต้องรอรีไรท์เลยค่ะ เพราะบางฉากอาจะต้องเปลี่ยนทั้ง location และลายละเอียด ฮือออ ล้างสมองกันไปก่อนเนอะ ลืมๆๆๆๆ 55 ยังไงขอบคุณที่เตือนมากๆ ค่ะ สงสัยต้องวาดแปลนบ้านละทีนี้ เข้าสุภาษิตคบเด็กสร้างบ้าน 5555+ไก่วิ่งออกจากเล้ารัวๆ #ตีๆๆๆ :hao7:

สุดท้ายมาเหมือนเดิมค่ะ เมลล่ารักทุกคลลล ถถถถถ รักจริงๆ น้า ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้กันค่ะ  :mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-01-2017 10:15:10 โดย Caramella »

ออฟไลน์ mimo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดีใจค่ะ กลับมาต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ :impress3:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
หวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น ไปเรื่อยๆ ไม่ต้องดราม่าแล้วนะ รออ่านตอนหน้าค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ตุลย์ใจร้าย ตีแสกหน้าเลยว่า ลุงตั้งใจพกถุงมากินเด็ก 555

บ้า ๆๆ ๆ จะวห้บอกตรง ๆ หรือไง ลุงก็หน้าบางเป็นนะเฟ้ย

คราวหน้าพกเป็นโหลเลยนะ อิอิ

ขอให้ตุลย์ได้เจอเพื่อน ๆ ดี ๆ บ้างนะ

ปล. โอเค เรื่องครัวฉันจะทำเบลอ ๆ ลืมฉากลุงจีบเด็กด้วยไวน์ ฉากฟาดฟันบนโซฟา และฉากอื่น ๆ ...

ออฟไลน์ l2_in*

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 229
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
รอค่าาาา นานๆจะเจอแนวนี้
เชียร์ให้ลุงฟิตหุ่นมาล่อเด็ก 55555555
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ลุงจะมัดใจ ตุลได้ไหม อัพเร็วๆน๊า รออยู่

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
 :3123: เอาใจช่วยทั้งสงคน

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ลุงเคอะ ลุงกำลังอ่อยเด็กใช่ไหมเคอะ :katai3: แอร๊ยยยยย

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ลุงนี่เอาใจน้องตุลเต็มที่เลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด