เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 35 : เพศศึกษา จากเพลย์บอยตัวพ่อ ยิ้มสวยยิ้มเก่ง
“กว่าจะกลับบ้านกลับช่องได้นะไอ้ต๊อบ”
ไอ้พี่ติ๊กแซว ไม่ผิดจากที่เดาๆไว้ มันต้องหาเรื่องกระแนะกระแหนผมแน่นอน!
หลังจากผมไปส่งคุณแก้วที่ร้านเสื้อ เธอก็หอมแก้มสองข้างอย่างเท่าเทียม ผมมองกระทั่งเธอเดินหายเข้าไป กลิ่นกายหอมๆของคุณแก้วยังติดจมูก เสียงรองเท้าส้นสูงเหมือนยังดังตึกตักก้องหูผม อีกทั้งตอนที่เธอหันมามองกันเล็กน้อยก่อนจาก แววตาของเธอทำเอาผมแทบไม่สนใจรายละเอียดอื่นนอกจากคุณแก้วเท่านั้น
“อะไร นี่มึงเหม่ออะไรต๊อบ”
“เปล่า” ผมส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปนั่งบนโซฟา ก่อนจะเอนตัวพิงอย่างสบายใจ
“แม่ ไอ้ต๊อบมันมาแปลกมากเลย” ไอ้พี่ติ๊กติดกระดุมข้อมือ วันนี้มันแต่งตัวหล่อกว่าปกติ มันหันตะโกนเรียกแม่ผมที่อยู่ในครัว
“แล้วนี่พี่ติ๊กมึงจะไปไหน”
“กูจะไปรับนี”
ไอ้พี่ติ๊กว่าแล้วยักคิ้ว ตั้งแต่จะแต่งงาน อารมณ์มันก็ดูดีขึ้นมาก ปกติผู้ชายจะแต่งงานเขาน่าจะดูทุกข์ทรมานกันไม่ใช่เหรอวะ ยิ่งตอนกินเหล้านี่ยิ่งคุยกันอย่างกับอารมณ์เพื่อชีวิต
“ไอ้สัตว์ ไปล่ะ” พอมันแต่งตัวเสร็จก็ตบหัวผมสองสามครั้งก่อนไป ผมไล่ตีหลังมันไม่ทัน ได้แต่โวยวายอยู่บนโซฟา “ว่างๆเอาแฟนมึงมาด้วย กูอยากรู้ว่าเขาหลงผิดมาได้ยังไง”
“เสือกเลยพี่ติ๊ก”
ผมด่ามัน ก่อนจะล้มตัวลงกับโซฟาต่อ นิ้วปัดๆลูบๆที่ปลายจมูก พลิกไปมาบนโซฟา
แม่งเอ๊ย
เอาหน้าแนบหมอนตามใจอยาก จากนั้นก็ยังไม่หายไป ไอ้อาการแปลกๆในหัวก็ยังอยู่ดี แถมดูจะมากขึ้นด้วย
ปรับความเข้าใจกับคุณแก้วแล้ว
ที่บ้านก็ดูแฮปปี้ ไม่มีปัญหาอะไรสักอย่าง
ทุกอย่างก็ไปได้ดีจนไม่คิดว่าจะดีได้ขนาดนี้
แต่ว่า
ย้อนไปตอนนั้น ความรู้สึกจักจี้ที่ปลายหูก็แล่นเข้ามา ราวกับว่าตอนนี้เธอกำลังคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง
นี่มันแปลก มันไม่ควรเป็นอย่างนี้ ไม่ควรเลย ทำไมวะ
ผมลุกขึ้นนั่งปุบปับ นั่งขยี้หัวอยู่คนเดียว ก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วเดินไปที่ประตูบ้าน
“อ้าว ต๊อบ หนูเพิ่งกลับมา จะไปไหนอีกแล้ว” แม่ผมพูด ปากเหมือนกำลังจะว่าผมต่อว่างานการที่บ้าน ไม่คิดจะช่วยเลยใช่ไหม! แต่ผมก็ทำตัวรีบร้อนอยู่
“ไปหาไอ้ฟักน่ะแม่ เดี๋ยวกลับนะครับ”
ผมขับรถไปที่ทำงานไอ้ฟัก จากนั้นก็นั่งรออยู่ที่ร้านข้าวแถวบริษัทมัน “ฟัก โหล กูอยู่ที่ร้านข้าวตรงข้ามที่ทำงานมึง พักแล้วลงมาหาที”
(ฮะ?)
“เค กูรักมึง เจอกัน”
ผมนั่งสั่งเครื่องดื่มกินไปพลางๆ แล้วขบคิดไปพลางๆ
แต่เหมือนไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ออก ใจวุ่นวายไปหมด
อาการนี่หนักกว่าตอนอกหักอีก
แต่นี่เหมือนสั่นๆอยู่ข้างใน ทว่ามีสัญญาณเตือนที่ผมรู้ดีว่าอันตรายมากๆ
ผมนั่งที่มุมประจำเวลามากินข้าวกับไอ้ฟัก ไม่โดนแดด พอดีกับแอร์ แถมยังเป็นมุมโซฟาเงียบๆ ไม่เสียงดัง ดูส่วนตัวขึ้นมานิดนึง
หมุนโทรศัพท์เล่นไปสักพัก ผมก็เปิดไปดูข้อความที่คุณแก้วส่งมา
คุณแก้ว : ถ้ายังไม่หายเมื่อย คืนนี้ให้แก้วนวดให้อีกนะคะ
ต๊อบ : (สติ๊กเกอร์นอนตาย)
คุณแก้ว : แก้วคิดถึงแล้ว
ต๊อบ : ผมก็คิดถึง
คุณแก้ว : เย็นนี้คุณต๊อบจะค้างที่ไหนคะ
ในใจผม มีร่างเล็กๆของตัวเองอีกทีหนึ่งในสมอง มันกำลังยกมือทาบอกกุมปากอยู่เสียงดังอุ๊ก
เล่นเอาจุก
คุณแก้วถามแบบนี้ อยากให้ผมตอบไปแบบไหนดีล่ะครับ!
วาระแห่งชาติ เรื่องนี้ต้องได้รับการถกเถียงเพื่อหาข้อสรุปโดยด่วน
พอเที่ยงกว่าๆ ไอ้ฟักมันก็ออกมา มีส่งข้อความมาด่าผมด้วยว่าไม่ยอมบอกมันก่อน อยู่ดีๆมานัดมัน แต่จริงๆมันหาเรื่องเลี่ยงผู้หญิงในออฟฟิศที่มาติดพันมันอยู่ไปในตัว แล้วเสือกมาทำเก๊กด่าผม บ๊ะ ไอ้นี่
ทักทายแลกหมาแลกแมวในปากกันเสร็จก็สั่งข้าว จากนั้นไอ้ฟักก็กอดอก หน้าเชิด ถามผมเสียงเนือย “มีไร”
“กูคิดถึงมึง”
“ถุย”
“พัชร”
“ว่า”
“กู” ลิ้นพันกัน น้ำท่วมปาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก จนไอ้ฟักมันคงรำคาญ ไม่นานอาหารที่เพิ่งสั่งไปก็ถูกยกมา ผมก็ยังพูดไม่ออกอยู่ดี
ไอ้ฟักตั้งหน้าตั้งตากิน มันทำเป็นยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู คางเชิดนิดๆ ตาเหลือบมอง ก่อนจะก้มลงกินต่อ พูดโดยไม่สนใจไยดีผม “กูมีเวลาให้มึงได้ทั้งวัน”
ผมนั่งเขี่ยนิ้วโป้งเล่น จากนั้นก็สูดเอาลมเข้าปอดเยอะๆก่อนจะกลั้นใจพูดออกไป “กูชอบคุณแก้วมากเลย โคตรชอบเลย ทำไงดีวะ!”
พูดออกไปแล้ว พูดแล้วก็ดิ้นเป็นหนูติดจั่น “กูแบบ กูชอบเธอมาก ชอบจนกูขัดขืนอะไรไม่ได้เลย ยอมไปหมดเลย ยอมจนกูกลัวตัวเองไปหมดแล้ว กูไม่เคยเป็นขนาดนี้มาก่อนเลยฟัก”
“ช่วงมึงหลงเมียใหม่ๆก็แบบนี้” ไอ้ฟักพูดเรียบๆ มันตักข้าวเข้าปากอย่างดูดี เชี้ย นี่ขนาดแค่กินข้าวนะ “เป็นกันทุกคน ผู้ชาย ก็เหมือนกันหมด”
ประโยคหลังมันดูใส่อารมณ์ขึ้นมานิดหน่อย แต่ผมไม่ได้สนใจ นั่งขมวดคิ้วจุกกับประโยคแรกของมันมากกว่า
จะบอกมันยังไง
เรื่องนี้จะบอกใครได้บ้าง
“มึงจำช่วงที่กูห่างๆกับคุณแก้วได้มั้ย”
“อือฮึ”
“ที่มันจุดที่กูบอกว่าล้ำเส้นไม่ได้”
“เออ”
“แต่กูไม่กล้าบอกเธอ ไม่สิ กูบอกเธอแล้ว แต่ว่ามัน ฟัก” ผมพูดไม่ค่อยเป็นคำ เหมือนคิดอยู่กับตัวเอง
“สรุปคุณแก้วมึงยังมีงูอยู่?”
ผมเงียบไปพักใหญ่ จู่ๆบรรยากาศบนโต๊ะก็เหมือนเงียบไปสนิท
“อ้อ ปัญหาเรื่องเซ็กส์ว่างั้น” ไอ้ฟักเลิกคิ้ว มันค่อยๆเหลือบมองผมลงมา ก่อนจะกวาดตามองทั่วๆอย่างดูถูก “มีเซ็กส์มันก็ได้หลายทางนะต๊อบ มึงแบ๊ว หลงลืมไปว่าต้องแค่ข้างหน้าเหรอวะ”
ผมกลืนน้ำลาย ก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเองบ้าง ไอ้ฟักจิบน้ำ มันเริ่มพูดเรื่อยๆราวกับกูรูรู้ลึกรู้จริง
แต่มึงยังรู้ไม่หมด
“ของแบบนี้มันขึ้นอยู่ที่ความพอใจทั้งสองฝ่าย ต้องคุยกัน ชีวิตคู่จะได้ยืนยาว”
“มึงมีวิธี” ผมค่อยๆพูด เก๊กขรึมเข้าไว้ “ทำไงให้เธอพอใจบ้างวะ”
“มึงเชื่อมั้ย ขนาด บางทีก็ไม่ได้ทำให้ถึงจุดนะ ลีลาห่วยก็คือห่วย อย่างแรกมึงต้องเล้าโลมก่อน ดูว่าเธอชอบแบบไหน ลองถามก็ได้ แต่ถ้ามึงอยากเท่ก็ทำเลย แต่ที่แน่ๆมันต้องให้พอใจกันทั้งคู่ พอพร้อมมึงก็ค่อยๆใส่เข้าไป ขยับอย่างนุ่มนวล ไม่ใช่จิ้มยิกๆเป็นกระต่าย อย่างนั้นแม่งไม่รู้สึกอะไรหรอก น่ารำคาญ”
ผมฟังอย่างตั้งใจ นี่มันเพลย์บอยตัวพ่อกำลังสั่งสอนวิชาความรู้เลยนะโว้ย!
“หุ่นมึงดีมั้ย บางทีแค่มึงหุ่นดี เมียก็เข้ามาหาเองแล้ว ปล่อยตัวให้ท้วมโทรม เห็นแล้วหมดอารมณ์อย่างนั้นก็ไม่ไหว ผู้ชายในบริษัทกูบางคนหัวล้าน อายุรุ่นลุงสี่สิบกว่าๆ แต่หุ่นเสือกน่ากินฉิบหาย”
ผมร้องหะ ตอนแรกกำลังเคลิ้มมาชะงักประโยคหลังของมัน แต่ไอ้ฟักก็พูดต่อทันที ผมจึงรีบตั้งใจฟัง
“ทั้งเนื้อทั้งตัวมึง สะอาดมั้ย กลิ่นปาก แล้วก็หนวด อันนี้กูชอบ อย่าโกน” ไอ้ฟักชี้ ก่อนจะพูดต่อ ผมขมวดคิ้ว บางจังหวะก็ตามมันไม่ทัน “ถ้ามึงปอด มึงก็ปิดไฟเอาก็ได้”
“เชี้ย มึงจะไม่ดูถูกกูสักนาทีได้มั้ย”
“มึงจะฟังมั้ย?”
ไอ้ฟักปรายตา ราวกับมันกำลังมองผมจากมุมที่สูงกว่า สูงกว่าห่าไร นั่งเก้ากี้ก็ตัวเท่าๆกัน
“ฟังครับ”
“กูเข้าใจว่าช่วงแรกๆ สะกิดกันนิดหน่อยก็เครื่องติดละ แต่ถ้ามึงทำบ่อยเกินไป มันจะถึงจุดที่อิ่มตัวหรือเบื่อ”
ผมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เรื่องที่ว่าผมรู้สึกถึงอารมณ์กลัดมันตลอดเวลาที่นึกถึงคุณแก้ว เมื่อเข้านี้ก็เหมือนกัน แทนที่จะได้กินข้าวดีๆ สรุปก็ต้องเหนื่อยกันแต่หัววัน
ฮือๆๆ
“ชีวิตมันต้องมีรสชาติ แปลกใหม่บ้าง มึงเข้าใจมั้ยต๊อบ รู้จักหาจังหวะ ค่อยๆปล่อย จากนั้นก็เต็มที่ซะ”
คำแนะนำมันมีมุมมองให้ผมหลายอย่าง แต่ แต่มันก็ยังมีจุดหนึ่งที่ยังไม่ตรงประเด็นที่ผมต้องการ!
“แต่ถ้าอย่างนี้มึงก็ต้องสวมถุง ซื้อเจลด้วยล่ะ อย่าทะลึ่งไปใช่วาสลีน ถุงขาดหมด อีห่า”
“อันนี้กูรู้หรอก”
“เมียคนก่อนๆมึงนี่ได้บ้างมะ” ผมยังไม่ทันตอบ แค่ทำตาหลุกหลิก ไอ้ฟักก็พูดต่ออย่างรู้ดี “หรือยังไม่ทันได้ อย่าบอกนะทิ้งมึงไปเอาผัวใหม่หมด”
“เออน่ะ” ผมตอบปัดๆ ก่อนจะยกแก้วดื่ม ยิ่งคุยยิ่งคอแห้ง ซีเรียสจนหน้าผากปวดตุบๆ “ก็ตอนนั้นอายุเท่าไรเอง เรียนก็ยังไม่จบ มึงจะให้กูรีบเอาไปไหนวะ”
ไอ้ฟักทำเสียงเหอะ นั่น ดูมัน พอได้ทีเหนือกว่าผมมันก็เอาใหญ่เลย!
“ถ้าสมมติ วันดีคืนดีเมียมึงอยาก แต่มึงดันไม่เอา บ่น เหนื่อย ไม่มีอารมณ์ คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เก็บกดละ มึงอาจจะไม่ได้เห็นเมียขออีกเลย เผลอๆเก็บไปคิดเล็กคิดน้อยสะสมเข้ามากๆ เลิกกันไปก็หลายคู่แล้วที่กูเห็น”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะจดไว้ในใจ งั้นแปลว่าผมห้ามปฏิเสธคุณแก้ว
เอ๊ะ แต่ก่อนหน้านี้ผมก็ไม่เคยปฎิเสธเลยนะ หรือจริงๆแล้วผมแอบขัดขืนแล้ว แต่สุดท้ายก็กลายเป็นสมยอมวะ
“ผู้หญิงชอบสัมผัส” มันหยุดคิดนิดนึง “อย่างน้อยคุณแก้วของมึงก็มีความเป็นผู้หญิง เวลาทำเสร็จ สักแค่ว่าตัวมึงพออกพอใจแล้วก็กระโดดออกไปสนใจไยดีอะไรเลยแบบนั้น ผู้หญิงลึกๆแล้วไม่ชอบหรอก กอดหอม พากันไปอาบน้ำ จะอะไรก็ทำไป มึงต้องเอาใจใส่ให้มากๆ”
ภาพที่อ่าง ภาพที่คุณแก้วอุ้มผมไปที่เตียง แถมยังคลอเคลียไม่ห่างสักวินาทีก็ผุดขึ้นมา
โดยเฉพาะจูบของเธอ
ผมกระแอมกระไอเล็กน้อยแล้วฟังต่อ
“ลิ้น นิ้ว หลับหูหลับตาใช้ไป เดี๋ยวเมียก็หลงมึงเอง”
ไอ้ฟักกำลังจะพูดต่อ แต่ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา มันขมวดคิ้ว ดูหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ทันทีที่รับสาย ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นยิ้มที่ไม่มีความจริงใจสักนิดเดียว โอ้โห มันทำได้ไง เปลี่ยนหน้าได้เร็วขนาดนั้น ผมแอบทึ่ง
มันคุยกับลูกค้า เสร็จแล้วก็หันมาบอกผมว่าต้องกลับไปทำงานต่อ หลังจากที่เสร็จธุระตรงนี้ ผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านไปอาบน้ำอีกรอบก่อนจะแต่งตัวออกไปรับคุณแก้ว
เพิ่งเรียนมาหมาดๆ แม้คอร์สจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ไอ้ต๊อบมันก็ร้อนวิชา อยากลอง!
อยากลองแล้วโว้ย!
ทันทีที่เจอกัน คุณแก้วก็คล้องคอผมก่อนจะหอมแก้ม ผมหอมแก้มเธอคืนแล้วลูบผมคุณแก้วเบาๆ
“วันนี้คุณแก้วหิวมั้ยครับ”
“แก้วอยากกลับบ้าน วันนี้ไปกินที่บ้านกันนะคะ ของในตู้ยังมีอยู่ เดี๋ยวแก้วทำให้กินนะ”
คุณแก้วพูดเสียงหวาน วันนี้แต่งตัวน่ารักที่สุด
ระหว่างขับรถ ใจผมก็ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไร เอาแต่พะวงว่าจะเริ่มยังไงดีให้สวยงามและตอนจบก็ต้องสวยงามด้วย!
“คุณต๊อบเป็นอะไร หื้ม” คุณแก้วหันมาถาม เธออมยิ้มเล็กน้อย คิ้วสวยๆเลิกขึ้น “ทำหน้าตาแปลกๆ คิดอะไรอยู่คะ?”
“เอ่อ” ผมรีบเก็บอาการ “คิดถึงคุณแก้วครับ”
คุณแก้วทำเสียงเลี่ยนๆ เธอหยิกแก้มผมแล้วทำท่าทางหมั่นไส้ “ไม่เชื่อหรอก”
“จริงๆนะครับ”
เพราะตอนนี้คุณแก้วยังใส่ชุดๆสวย แต่งหน้าก็สวย ผมก็สวย ลบเค้าโครงเรื่องเมื่อคืนไปเกือบหมด ผมจึงค่อนข้างหายประหม่าลงมานิดหน่อย แต่ไอ้เรื่องที่เพิ่งศึกษาเล่าเรียนกับไอ้ฟักมาดันทำให้ผมมีอาการอยู่ไม่สุขซะได้!
“เอ๋ คุณต๊อบมีความลับอะไรหรือเปล่านะ” คุณแก้วเอียงคอ
ผมแทบจะกุมอก เป็นภาพที่บาดใจมาก
แต่ชายผู้ทรงพลังคนนี้จะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด!
“เพราะวันนี้คุณแก้วแต่งหน้าสวยมากๆเลยครับ ลิปที่ผมเพิ่งซื้อให้ใช่มั้ยล่ะ”
“ปากหวาน” คุณแก้วหัวเราะ เธอนอนเอนไปกับเบาะรถก่อนจะหันมาทางผม ต้นขาเผยถุงน่องมาให้เห็นลางๆ ผมลอบกลืนน้ำลาย “ไหน ตรงไหนที่สวยอีก”
มองถนน ต๊อบ มองถนน ไอ้ห่า เดี๋ยวตาย!
“วันนี้คุณแก้วก็ทำผมสวยมากครับ”
“ผมทรงนี้จริงๆแล้วเป็นทรงเดียวกับวันแรกที่เราเดตกัน จำได้มั้ยเอ่ย”
“จำได้สิครับ”
ผมเริ่มยิ้ม ยิ้มแบบกริ่มๆ ยิ้มแบบหึกเฮิมพอใจ ยิ่งคิดว่าคืนนี้จะลองเอาวิชาไปลงมือจริงก็ยิ่งเตลิด เมื่อเริ่มรู้สึกว่าจับจุดได้ สติสตังกลับมาเล็กน้อย ความทรงพลังกำลังจะเข้าร่างอีกครั้ง!
“แล้วจำได้มั้ยว่าวันที่เท่าไร”
คุณแก้วถาม แววตาเธอแม้จะยิ้มอยู่ แต่รังสีประหลาดๆที่ส่งมาทำเอาผมหันกลับไปยิ้มค้างให้เธอ เอาแต่คิดถึงเรื่องใต้สะดือ พอถูกคำถามที่ไม่ตั้งตัวว่าจะได้รับมาก่อน หัวผมมันก็โล่งในทันใด
ไอ้ฟักก็เพิ่งบอกให้เอาใจใส่ เอาใจใส่ให้มากๆไปอยู่หยกๆ
อ้าว
เชี้ย
ฉิบหายแล้วกู!
TBC
[2/07/2560]
ต๊อบแต๊บ ชายผู้ทรงพลัง! อุตส่าห์ไปเรียน คุณแก้วอย่าเพิ่งตัดทางเด็กมันสิข่ะ
