เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 32 : เอาใจเมีย
หลังจากคุณแก้วร้องไห้ซบอกผมไปตลอดทั้งคืน แน่นอนว่าผมไม่ได้กลับบ้าน ผมทำใจปล่อยให้คุณแก้วนอนคนเดียวทั้งน้ำตาอย่างนั้นไม่ได้จริงๆ
คนสวยร้องคาอก ยิ่งเป็นคนสำคัญของเราด้วยแล้ว ยังไงก็ทำไม่ได้ ต๊อบทำไม่ได้!
คุณแก้วดูตื่นเต้นมาก วันนี้คุณแก้วอยากไปซื้อของ ผมคิดว่าเธออาจจะกำลังเตรียมตัวก่อนจะถึงวันงานแน่ๆ
“แต่ว่าคุณแก้วครับ” งานมันอีกตั้งกี่อาทิตย์ ไม่ใช่มะรืนนี้หรือพรุ่งนี้เสียหน่อย ปากก็อยากจะพูดอย่างนั้น แต่พอเห็นแววตาตื่นเต้นของคุณแก้ว ผมก็หุบปากทันที มึงนะมึง ต๊อบ คุณแก้วกำลังมีความสุข ก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร
“ว่าไงเอ่ย” คุณแก้วเอียงคอ ยิ้มให้ผม วันนี้เธอแต่งตัวน่ารักมาก ดูย้อนวัยไปสักสามปีได้ กระนั้นผมมันก็กินหญ้าอ่อนมาตั้งแต่ต้น นี่ยิ่งย้ำเข้าไปใหญ่ว่าคุณแก้วอายุน้อยกว่าผมจริงๆ
คิดแล้วก็แอบยืดอกหน่อยๆ
ผมยิ้มให้คุณแก้ว ก่อนจะจับมือเธอเดินไปด้วย คุณแก้วหลบตาผมเล็กน้อย ทำเป็นไม่มองที่มือของเรา กระทั่งถึงจุดหมายที่เธอตั้งไว้ คุณแก้วก็แทบจะกึ่งลากกึ่งจูงผมเข้าไป
มาตั้งแต่ห้างเปิด ก็เพื่อการนี้
ผมร้องโหในใจ ร้านใหญ่มาก นึกว่าขายอุปกรณ์เกมคอนโทรล แต่กลับกันนี่มันร้านเครื่องสำอางชัดๆ คุณแก้วเดินไปหยิบตะกร้า ผมก็หยิบมาจากคุณแก้วอีกที ทำตัวเป็นผู้ชายที่ดีช่วยเธอถือของ
ปล่อยให้คุณหญิงคุณนายเลือกตามสบาย ผมเดินต้อยๆตามเธอ
คุณแก้วคล้องแขนผม ก่อนจะชี้อันนั้นเลือกอันนี้แล้วก็หันมาถามความเห็นผม ผมช่วยได้นิดหน่อย ช่วยได้แค่ถือของกับจ่ายตังค์จริงๆ คุณแก้วเลือกเถอะครับ
“คุณต๊อบเคยมาหรือเปล่า” คุณแก้วถามผม ถามด้วยน้ำเสียงอ้อนเล็กๆผสมอยากรู้หน่อยๆ
“ไม่เคยเลยครับ แต่เหมือนเพื่อนจะเคยชวนมา แต่ตอนนั้นผมไม่ว่างพอดี” นึกย้อนไปแล้วก็ไอ้ฟักนั่นเองที่พยายามจะลากผมมา แต่ผมไม่ว่าง ช่วงนั้นกำลังช่วยงานที่บ้านอยู่
“เพื่อนคนไหน”
“เพื่อนสนิทผมคนที่เคยเล่าให้ฟังไงครับ”
คุณแก้วพยักหน้า คล้องแขนผมเดินดูของต่อ “สำลีเช็ดหน้าแก้วจะหมดแล้ว ไปดูสำลีกัน”
เธอพาผมเดินไปโซน ในนี้ลายตามากจริงๆ ยิ่งกว่าไปดูพริตตี้ที่งานมอเตอร์โชว์ ผมเห็นว่าหน้าร้านมีเก้าอี้อยู่ตัวสองตัว แต่ถ้าผมกดพลีชีพตอนนี้…ก็…ก็คงจะไม่ดี ไม่ๆ ไม่เอาดีกว่า เดินเป็นเพื่อนคุณแก้วนี่แหละดีที่สุดแล้ว เธอกำลังมีความสุข เห็นได้ชัดเลยว่ามีความสุขแค่ไหน ดูใบหน้าเธอสิ ดูรอยยิ้มของเธอ
ผมท่องเอาไว้ในใจ เพื่อความสุขคุณแก้ว ผมยอมพลีกายทุกอย่าง
ตะกร้าเริ่มมีน้ำหนัก แม้กระนั้นกว่าจะเดินออกจากจุดๆหนึ่งได้ คุณแก้วดูอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงโดยเฉพาะโซนลิปสติก
หลังจากได้ลิปมาสามแท่ง รอยยิ้มคุณแก้วก็เจิดจ้ากว่าเดิม เธอวางลงในตระกร้าก่อนจะถามผมเสียงหวาน “คุณต๊อบอยากได้อะไรมั้ยคะ”
“มีที่ผมซื้อได้ด้วยเหรอครับ”
“มีสิ ในนี้มันก็มีครบเกือบทุกอย่างนะ”
“ผมยังนึกไม่ออกเลย คุณแก้วอยากได้อะไรอีกมั้ยละคะ”
เธอหันมาหยิกแก้มผมก่อนจะหัวเราะ นั่นไง เธอแพ้ผมจะตาย “แก้วชอบให้คุณต๊อบพูดคะขาก็จริง แต่ก็ต้องพูดแค่กับแก้วนะ”
เธอลากผมไปดูแปรงแต่งหน้า แต่ก็ไม่วายหันมามองผมเล็กน้อย ดวงตาคู่นั้นค่อยๆช้อนขึ้น “คุณต๊อบไม่เบื่อนะ”
ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะตอบ “ไม่หรอกครับ”
“จริงนะ”
“จริงค่ะ”
ผมได้ยินเสียงเธอร้องเบาๆในลำคอ คุณแก้วไม่เคยหลุดกริยาขนาดนี้มาก่อน แต่ก็โคตรน่ารัก น่ารักเป็นบ้า ฮือๆๆ คุณแก้วมองแบบนี้ไอ้ผมมันก็หวั่นไหวนะครับ “เดี๋ยวนี้ชอบอ่อยแก้วจังเลยนะ เมื่อก่อนก็น่ากัดจะตายอยู่แล้วยังจะมาทำตัวให้น่ากัดมากกว่าเดิม”
คิ้วผมเลิกสูงกว่าเดิม ไหงคุณแก้วทำเหมือนอยากจะลงมือตะบี้ตะบันผมแต่ก็แง่งอนผมไปในเวลาเดียวกันล่ะครับ
แล้วเธอก็ฟัดแก้มผมไปสองทีสมใจหมาย
ต่อมาคุณแก้วก็เลือกแปรงแต่งหน้ามาได้หนึ่งเซ็ต สีชมพูๆ
ป๊าด ราคานั่นขนาดลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วนะ
“แก้วอยากซื้อน้ำหอมให้คุณต๊อบ น้า ไปดูอีกนิดเดียว แก้วสัญญาไม่นานหรอก”
“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ผมพูดเสียงอ่อน เสียงยิ่งนุ่มจนแทบไม่เชื่อว่าตัวเองจะพูดออกมา
“แก้วกลัวคุณต๊อบเบื่อ แก้วไม่อยากให้คุณต๊อบอยู่กับแก้วแล้วเบื่อนี่”
“ผมไม่เคยเบื่อเลยนะ อยู่กับคุณแก้วผมจะเบื่อได้ยังไง” เห็นเธอยังทำหน้าตาน่าสงสาร ผมก็รีบพูดปลอบ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ใจผมสั่นไปหมดแล้ว “ถ้าคุณแก้วชอบมา วันหลังผมก็จะมาเป็นเพื่อนตลอดเลย ดีมั้ยครับ ว่าไงคะ”
คุณแก้วแกล้งทำเป็นไม่ยิ้ม แต่น่ะแหละ เธอกำลังกลั้นยิ้มสุดๆ
ตอนนี้ตระกร้าที่ผมแบกอยู่เริ่มหนักแขน แต่เพราะมีคุณแก้วกอดอยู่เช่นกัน ผมจึงลืมเรื่องนั้นไปสักพัก กระทั่งตอนจ่ายตังค์ผมจึงได้รู้ว่าอะไรคือของจริง
เขาถึงว่าพอมีเมียแล้วจน มันเป็นงี้นี่เอง
อยู่โสดๆไม่ชอบ ชอบไขว้ขวาหาความสุขเพิ่ม ไอ้ต๊อบ มึงเอ๊ย
ผมพยายามไม่หน้าซีด เดี๋ยวคุณแก้วเธอจะรู้สึกไม่ดี อดทนไว้ เงินทองเป็นของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่คุณแก้วมีคนเดียว
“คุณต๊อบ มาค่ะ เดี๋ยวแก้วจ่ายเอง”
ผมแกล้งบีบจมูกเธอก่อนจะยื่นบัตร จ่ายเงินเสร็จสรรพ จากนั้นก็หิ้วถุงใบใหญ่จูงมือคุณแก้วออกมา เนื่องจากคนก็ค่อนข้างเยอะ
ออกมาได้สักทีโว้ย
ผมสูดหายใจอย่างสดชื่น “คุณแก้วอยากไปดูอะไรอีกมั้ยครับ รองเท้ามั้ย?”
“อือ ไปค่ะ” คุณแก้วพยักหน้า เธอจูงมือผมไปชั้นบน เป็นรองเท้าแบรนด์หนื่ง แต่สิ่งที่ผมเห็นเป็นอันดับแรกกลับกลายเป็นเก้าอี้
เก้าอี้!
คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง
เจอเก้าอี้แล้วครับ!
ผมนั่งลงวางของอย่างสบายใจ ก่อนจะมองคุณแก้วที่เลือกรองเท้าอยู่ตรงหน้า ข้อเท้าเธอขาวมาก คุณแก้วค่อยๆลองรองเท้าทีละข้างแต่การยืนของเธอ ไม่ว่าจะนั่งจะก้มหรือโค้งตัวลง ทำไมผมกลับมองว่ามันเซ็กซี่ซะไม่มี
กู่ไม่กลับแล้วกู
ผมสูดหายใจเข้าลึก นั่งเท้าไปข้างหน้าวางมือที่ประสานกันไว้ใต้คาง ก่อนแอบเบนสายตาไปมองทางซ้ายแล้ววกกลับไปมองคุณแก้วอีกครั้ง
ปอยผมคุณแก้วตกลง รองเท้าสวมเข้ากันเสร็จเธอก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองผม สายตาเราก็ประสานกันพอดี
“ทะลึ่ง”
คุณแก้วพูด เธอยิ้มมุมปาก คิ้วเรียวโค้งขึ้นเล็กน้อย
“คะ ครับ?”
“แอบมองหน้าอกแก้วเหรอคะ”
จากท่าทีงุนงง ผมกลับกลายเป็นหน้าแดงก่ำ แต่กระนั้นก็รีบปฏิเสธ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรแบบที่เธอว่าสักนิดเดียว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ภาพและประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา จะว่านานก็ไม่นาน จู่ๆภาพฟองน้ำคุณแก้วก็ลอยเข้าหัวผมเป็นอย่างแรก “ปะ เปล่านะครับ”
แม้จะบอกเปล่า แต่สีหน้าตอนนี้กลับยิ่งเผยพิรุธอย่างน่าโมโห คุณแก้ว ผมยังไม่ทันคิดอะไรไม่ดีเลย แต่คุณแก้วนั่นแหละที่ทำร้ายผมชัดๆ!
คุณแก้วไม่ได้จี้ถามผมต่อ เธอแค่เอาแต่อมยิ้มอย่างมีเลศนัยเอาไว้ เธอยืนขึ้นก่อนจะมานั่งข้างๆผม ขาเรียวไขว้กันไว้อย่างสวยงาม คุณแก้วเอียงคอ ซบข้างๆไหล่ผมแล้วกระซิบเบาๆ “คู่นี้สวยมั้ยคะ”
จู่ๆหูผมมันก็แดง ร้อนด้วย ร้อนแบบ ร้อน!
ผมพยายามเพ่งสมาธิไปที่รองเท้าส้นสูงสีมุกๆของเธอ พยายามอย่างมาก มากเท่าที่จะทำได้แต่เสียงผมมันกลับยังแอบสั่น สั่นทำไมต๊อบ มึงสั่นทำไม “สะ สวยครับ”
“แล้วคู่นี้กับคู่นั้น” คุณแก้ววนนิ้วที่ไหล่ผมช้าๆ “คู่ไหนสวยกว่า”
อ้าว ฉิบหายแล้วไงกู ผมขมวดคิ้วและพยายามไม่สนใจข้างๆไหล่ตัวเองหรือการที่คุณแก้วเข้ามาอ้อนกันแบบนี้ “สวยทั้งคู่เลยครับ”
“แก้วเลือกไม่ถูก คุณต๊อบช่วยเลือกหน่อยสิ”
“งั้นก็ เอ่อ ซื้อให้หมดเลยดีมั้ยครับ”
ทันทีที่ผมพูดจบ คุณแก้วก็หอมแก้มผมไปฟ๊อดใหญ่ๆ “คุณต๊อบของแก้วฉลาดจังเลย”
เธอลุกขึ้นก่อนจะบอกพนักงานที่ยืนมองเราอยู่นานสองนานแล้ว “เอาสี่คู่นั้นทั้งหมดเลยนะคะ”
ผมหันขวับ จากสองเป็นสี่ มันเพิ่มมาได้ยังไง ยังไม่ทันไรคุณแก้วก็กลับมาคล้องแขนผมก่อนจะหอมอีกฟ๊อดใหญ่ๆ
…ก็ได้ครับ
ทำไมปฏิเสธไม่ได้เลย
พออะไรๆเป็นคุณแก้ว ก็ได้แต่ครับ ครับ ครับ ครับ!
เหมือนพ่อตอนอยู่กับแม่เข้าไปทุกทีแล้วกู
ฮือ
พอถึงบ้านก็เกือบค่ำๆแล้ว การไปช็อปกับผู้หญิงนี่มันก็น่าตกใจอยู่เหมือนกันนะครับ ผมแบกของไปวางที่โต๊ะ รองเท้าสี่ เสื้อสาม กระโปรงสอง กับถุงเครื่องสำอางอีกถุงใหญ่ซึ่งในนั้นยิ่งกว่ากระเป๋าโดเรมอน อะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด
ผมไม่เคยล้าขนาดนี้มาก่อน ไม่ต้องไปมันแล้วฟิตนงฟิตเนส แค่นี้กล้ามก็จะขึ้นแล้ว
ผมโทรไปบอกแม่ว่าอยู่กับคุณแก้วแล้ว แม่แทบจะไม่หวงลูกชายคนนี้สักหน่อยเลยเหรอ ผมเอนตัวบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง คุณแก้วเดินไปหยิบน้ำมาให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“โธ่ พ่อราชสีห์ของแก้ว คอตกเชียว”
“ผมจะตายแล้วครับ” ผมพูดอย่างหมดแรงก่อนจะเอนตัวไปทางคุณแก้วเพื่อหนุนตักเธอ ผมซุกเข้ากับเอวคุณแก้ว เธอหอมจริงๆ
“วันนี้คุณแก้วใช้งานผมหนักมาก”
เธอโอ๋ผมใหญ่ ก่อนจะลูบหลังผม เธอก้มลงหอมผมเบาๆ “แก้วยังไม่ทันใช้งานคุณต๊อบเลยนะ”
“ผมตาลายมากเลย”
ผมพูดขณะยังซุกคุณแก้วไว้ เสียงเลยอู้อี้ ผมเริ่มจะง่วงจริงๆเข้าแล้ว และการนอนให้เธอลูบหัวแบบนี้ก็สบายจริงๆนั่นแหละ
“วันนี้แก้วสนุกจังเลย”
จะไม่สนุกได้ยังไง เธอหัวคิกคักใหญ่ คุณแก้วก้มลงกอดผมแน่นๆ ไปๆมาๆเราก็คุยหงุงหงิงกันอยู่สองคน “เหนื่อยเหรอคะ”
ผมตอบครับลากเสียงยาวๆ ไอ้ฟักได้ยินทีอาจจะอ้วกออกมาแน่ๆ เพื่อนมึงก็มีมุมน่ารักหรอกโว้ย
“ข้อหาที่ก่อนหน้านี้ไม่มาง้อแก้ว ตอนนี้แก้วหายงอนแล้วนะคะ”
“ดีใจจังเลยค่ะ” ผมแกล้งตอบ ดัดเสียงใส่เธอ เสียงหัวเราะคุณแก้วยิ่งดังกว่าเดิม
“ไปอาบน้ำกัน นะ นะ นะ”
คุณแก้วพูดอ้อนผมใหญ่ เธอก้มลงพูดข้างหูผมย้ำๆ ผมยิ่งซุกหนีเธอกว่าเดิม แต่เป็นการหนีที่ไม่พ้นตัวใดๆทั้งสิ้น
“แช่น้ำอุ่นๆ เดี๋ยวแก้วนวดให้ดีมั้ยคะ”
คุณแก้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอตบหลังผมอย่างเรียบเรื่อย ปลายนิ้วเธอเล่นอยู่ที่ติ่งหูผม
“เงยหน้ามาคุยกับแก้วหน่อย ไม่งอนสิ” คุณแก้วกระซิบ “งอนแก้วเหรอ ไหนบอกอยู่กับแก้วแล้วไม่เบื่อ” น้ำเสียงเปลี่ยน ดูก็รู้ว่าเกมกำลังพลิก เธอเริ่มเป็นฝ่ายน้อยใจผมอย่างรวดเร็ว!
“ไม่งอนแล้วครับ ใครบอกผมงอนคุณแก้ว” ผมพลิกตัวกลับมา แต่ยังคงหนุนตักคุณแก้วอยู่
มีความสุขจัง
มันจะมีอะไรสุขไปกว่านี้อีก
“อาบน้ำกัน แก้วเริ่มร้อนแล้ว เดี๋ยวแก้วนวดหลังให้คุณต๊อบนะ”
คุณแก้วจูงผมไปชั้นบน ผมเดินตามเธอเหมือนโดนมนต์สะกด นั่งรอเธอที่เตียง สักพักคุณแก้วก็ส่งผ้าเช็ดตัวให้ผม ผมถอดเสื้อผ้านุ่งผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำ เห็นคุณแก้วกำลังเปิดน้ำในอ่าง
แต่คุณแก้วยังอยู่ในชุดเดิม เธอโพกผ้าเก็บผมไว้สูงๆ “คุณต๊อบมานี่สิ น้ำกำลังอุ่นๆ”
ผมลงไปอย่างว่าง่าย แม้ในใจจะตุ่มๆต่อมๆ ไม่น่าจะมีอะไรหรอก ไม่น่าๆ
ต๊อบ มึงคิดเรื่องไม่ดีออกมาแบบนี้ได้ยังไง คุณแก้วเขาอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ!
ผมลงไปแช่ แช่มันทั้งผ้าเช็ดตัวนั่นแหละ จะให้ผมถอดโชว์ตรงนี้ มันก็อออกจะอย่างไรอยู่ อย่างน้อยคุณแก้วก็ยังเป็นสาวเป็นนางอยู่นะครับ คุณแก้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่นานน้ำก็เกือบเต็ม เธอหยดสบู่ลงมาก่อนหน้านี้ ฟองเต็มอ่าง แถมยังได้กลิ่นกุหลาบด้วย
ผมหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย สักพักก็มีมือหนึ่งนวดที่ไหล่ผมช้าๆ ฝ่ามือนุ่มๆกดเบาๆลูบจนมาถึงต้นคอผม
“สบายมั้ย”
“สบายมากเลยครับ”
“หอมมั้ยคะ”
“หอมมากครับ”
“คุณต๊อบหลับตานะ เดี๋ยวแก้วล้างหน้าให้”
ขณะที่น้ำอุ่นๆผ่านหน้าช้าๆ คุณแก้วก็นวดๆใบหน้าให้ผมไปด้วย โอ้ย ผมไม่เคยเคลิ้มอะไรขนาดนี้มาก่อน เคลิ้มจนลืมเวลา
ความผ่อนคลายนี้ทำเอาความเมื่อยล้าตลอดทั้งวันหายไป ผมเกือบจะหลับอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะคุณแก้วกระซิบอยู่ ผมนอนเงยหน้าอยู่ เมื่อลืมตาช้าๆ พอเห็นว่าเป็นคุณแก้วอยู่ด้านบนก็เผลอสำลักน้ำตายเองออกมา
คุณแก้วสวมผ้าคลุมอาบน้ำสีขาว และใบหน้าเธอตอนนี้ก็ไร้การปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น
คุณแก้วมีสีหน้างุนงง ในมือถือฝักบัว เธอถามผมอย่างเป็นห่วง “คุณต๊อบ น้ำเข้าจมูกเหรอ”
ผมโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “ปะ เปล่าครับ”
“คุณต๊อบยังไม่ชินตอนแก้วล้างเครื่องสำอางอีกเหรอคะ” คุณแก้วถามผม เธอดึงให้ผมกลับนอนลง ผมรีบกุมผ้าเช็ดตัวไว้ก่อนจะทำตามใจเธอ แม่งเอ๊ย เกือบหลุด ดีนะมีฟองแห่งศีลธรรมอยู่
ผมนอนเพลินเกินไปถึงขนาดคุณแก้วเปลี่ยนชุดตอนไหนล้างหน้าตอนไหนก็ยังไม่รู้เลยเหรอ ฮือๆๆๆ
“ก็ เอ่อ ไม่หรอกครับ” ผมตอบอ้อมแอ้ม “คุณแก้วก็ยังสวยที่สุดจริงๆนะครับ”
“คุณต๊อบนี่” คุณแก้วหัวเราะ เธอจิ้มแก้มผม “แก้วรู้ แก้วหล่อซะขนาดนี้ ยังจะมาโกหกว่าสวยอยู่ได้”
โอย…ก็ถ้าจะให้พูดตรงๆ บางทีผมก็ทำตัวไม่ถูกนะครับ
เห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของผม คุณแก้วก็แกล้งโน้มตัวเข้ามาให้ผมชิดกับอกของเธอ มือคุณแก้วกอดคอผมจนหายเข้าไปใต้ฟอง ทว่าผมรู้ดีว่าผิวเนื้อที่สัมผัสกันระหว่างผมและเธอชัดเจนแค่ไหน มือคุณแก้ววางอยู่ที่หน้าท้องกับช่วงบนของผม ก่อนเธอจะโน้มใบหน้ามาใกล้ๆ
“เอาล่ะ เด็กดื้อ”
แล้วผ้าเช็ดตัวผืนแน่งน้อยก็หลุดลอยไปพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“นอนลงดีๆได้แล้วนะครับ”
TBC
[7/06/2560]