เรื่อง :: บอกแล้วใช่ไหม ก่อนจีบให้ดูดีๆ ::
เขียน ::
ผู้ซึ่งหลงรักหญิงสาวในภาพวาด ::
บทที่ 34 : สั่งสอนให้มันรู้ว่าใครกันแน่เป็นผู้นำ
เทศกาลข้าวใหม่ปลามันยังไม่สิ้นสุด จนไอ้ฟักเริ่มด่าว่าผมหายหัวไม่สนใจมันแต่ผมก็ไม่ได้สนใจ หรือแปลว่าผมไม่สนใจตามที่มันว่าจริงๆ
มันหาว่าผมติดเมีย ลืมเพื่อนลืมฝูง ตอนมันติดเด็กมันผมไม่เห็นว่าอะไรสักคำ แถมยังเข้าไปช่วยมันอีกต่างหาก แล้วดูมันว่าผม เนรคุณจริงๆ
บางทีผมก็อยากจะบอกมันว่า ฟัก คุณแก้วต่างหากที่ติดกู
พูดแล้วก็หัวเราะขำ ยิ้มบ้าบออยู่คนเดียว แหม ก็หลังๆอยู่ดีไม่ว่าดีความหล่อผมมันก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
นี่สินะที่เขาว่ากันว่าผู้ชายยิ่งแก่ยิ่งภูมิฐาน
เสน่ห์ต๊อบมันก็ไม่ใช่น้อยๆ
พยักหน้างึมงำกับหมอนอย่างเห็นด้วยในความคิดนี้
แม้เรื่องเมื่อวานหลังจากผมไปละลายทรัพย์ตัวเองหรือช็อปปิ้งเป็นเพื่อนเธอ คุณแก้วก็เอาอกเอาใจผมเต็มที่ ผมหลับเป็นตาย ตื่นมาอีกทีฟ้าก็สว่าง ผมลากสังขารตัวเองไปล้างหน้าแล้วค่อยอาบน้ำ คุณแก้วไม่อยู่แต่ในห้องเรียบร้อยสวยงาม ความชมพูยังอยู่ดีสมเป็นห้องของคุณแก้วคนสวย
สภาพดูไม่จืด ผมมองกระจกแล้วถอนหายใจ มือลูบหน้าลูบตาเหมือนคนเพิ่งตกงาน
ตาย ตาย
โวะ ป๊าด นั่นอะไรนะ
รอยอะไรเยอะแยะไปหมด
ผมทนมองต่อไปไม่ได้ อยากจะยกมือต่อยกำแพงแล้วทำท่าเครียดแบบเท่ๆ
ถึงจะมีรอยที่บ่งบอกว่าเป็นคุณแก้ว แม่เสือสาวของผม แต่ว่ามันก็ออกจะเด่นเกิน ถ้าเกิดที่บ้านเห็นขึ้นมา แม่จะไม่ลากผมให้รับผิดชอบแต่งเธอเข้าบ้านซะเดียวนั้นเรอะ ไอ้พี่ติ๊ก ไอ้นี่ยิ่งตัวดี มันต้องล้อผมแน่ๆ งับกันขนาดนี้ คุณแก้วไม่ติดชื่อนามสกุลห้อยคอผมเลยล่ะครับ
แปลก หน้ากลับแดง ผมลูบคางตัวเองที่หนวดขึ้นมาเล็กน้อยเป็นตอสากๆ
เอาวะ ยังไงก็หล่อ
เห็นขวดอาบน้ำ ครีม และกระปุกนับร้อยน้ำหงน้ำหอมที่วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหรือหน้ากระจกในห้องน้ำเมื่อกี้แล้วผมก็รู้สึกแปลกจริงๆ มีความคล้ายไอ้ฟักอยู่หน่อย แต่ไอ้นั่นสไตล์มันก็ออกจะแบดบอยขนาดนั้น แต่ก็มีความเรื่องมากจู้จี้สูงเหมือนกัน
เห็นสีชมพูกับดมกลิ่นหอมลูกกวาดมากๆชักลายตา
เหมือนติดกับดักอะไรสักอย่าง ผมยืนขมวดคิ้ว ค้างคาใจแต่ก็นึกไม่ออก จากนั้นก็สลัดความคิดบ้าบอทิ้ง เดินลงไปด้านล่างช้าๆ เบาๆ แทบจะไม่ลงแรงตอนก้าวเป็นเพราะว่าเจ็บ เออ ยังเจ็บอยู่
พอเดินลงไปผมเห็นคุณแก้วกำลังทำอาหารเช้า ผมแอบมึนงงไปเล็กน้อย คุณแก้วใส่เสื้อเชิ้ตของผม กระดุมติดไม่เรียบร้อย กับกางเกงขาสั้นอีกตัว ผมมัดขึ้นลวกๆ ทำให้ไรผมของเธอตกลงอย่างเป็นธรรมชาติ
เธอยืนหันหลัง ลำคอขาวๆกับไรผมอ่อนๆดูน่ามองไปหมด ต้นขาเนียนๆด้านหลังเห็นแวบหนึ่งส่วนที่เหลือถูกโต๊ะตรงกลางบังไว้พอดิบพอดี
นั่นไง
มึง
ผมแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อย เชี้ย ตอนนี้ตาผมต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ ถึงได้มองคุณแก้วมุมไหนก็เซ็กซี่ไปหมด แม้แต่เวลาปกติ ก็ยังไม่เลิกนะมึง!
“คุณต๊อบหิวหรือยัง” คุณแก้วหันมาถามผม ใบหน้าของเธอยามนี้เกลี้ยงเกลา ดูสดใส น่ารักมากๆ
“หิวมากเลยครับ” แต่ถึงอย่างนั้นเช้านี้ผมกลับไม่กล้าสบตาคุณแก้วนาน เอาเป็นว่าตอนนี้ผมแทบจะเดินก้มหน้ามองพื้นแล้วลงไปนั่งอย่างเป็นระเบียบ
สภาพผมทรุดโทรมมากต่างจากคุณแก้วที่ยังสวยวันสวยคืน “ตื่นกี่โมงครับเนี่ย”
“หกโมงครึ่งได้ค่ะ” คุณแก้วกลับมาเป็นคุณแก้วคะขาของผม ดีต่อจิตใจผมไม่น้อย ผมแอบขยับไหล่นวดเบาๆ ร่างกายเหมือนหนักๆ ปวดไปหมดทั้งตัวไม่หาย
จากนั้นผมก็เอาแต่จ้องโต๊ะ มองไม้ มองหน้าต่าง มองแจกัน ในขณะที่เห็นแค่ปลายเท้ากับข้อขาขาวๆของคุณแก้ว ทำไมใจต้องเต้นแรง งงจริงๆ
ผมนั่งประสานมือไว้ที่โต๊ะ ใบหน้าก้มงุดมองนิ้วโป้งตัวเอง เอ๊ะ รอยฟัน
“คุณต๊อบ”
“คะ ครับ ครับ” ผมสะดุ้งเงยหน้าขึ้น ขนมปังปิ้งกับไข่ดาวแฮมวางอยู่ตรงหน้า คุณแก้วนั่งตรงข้ามผมก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาเล็กน้อย
“เหม่ออะไรหื้ม”
“อ้อ เอ่อ วันนี้” วันนี้ ว่าแต่วันนี้อะไรวะ พูดต่อสิต๊อบ คุณแก้วมองผม ผมก็หลบสายตาทันที ไม่วายหลบแล้วยังไปเผลอมองเสื้อของตัวเองที่คุณแก้วใส่ หน้าก็ยิ่งออกอาการเลิ่กลั่กขึ้นมา
“วันนี้?”
“วันนี้” ผมพูดซ้ำ รู้สึกว่าคอแห้งมาก ปากก็บวม ตาก็บวม แถมยังปวดเอวมาก ปวดจนไม่อยากขยับ
พอมาเจอหน้าจริงๆ ผมกลับยังคิดถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ จากนั้นความรู้สึกอยากมุดดินหนีกลับบ้านก็พลั่งพลู เชี้ย ผมควรกลับบ้านตอนนี้ กลับไปนอนเอาหน้ามุดหมอนซะ!
แต่ว่าถ้าทำอย่างนั้น มันก็เหมือนกับผมกำลังทิ้งเธออย่างเมื่อคราวก่อน
แต่คราวก่อนผมตกใจ คราวนี้ผมก็ยัง ยัง เอ่อ ตกใจ
สับสนโว้ยยย
“สงสัยวันนี้คุณต๊อบต้องนอนอีกหน่อย” คุณแก้วว่า เธอค่อยๆทาเนยลงบนขนมปังในจานผมก่อนจะหั่นแบ่งเป็นสองชิ้น “แก้วอาจจะลงมือหนักไปบ้าง”
พูดถึงการลงมือหนักไปบ้าง คุณแก้วก็ยิ้มก่อนจะค่อยๆเงยหน้าสบตาผมอีกครั้ง
ผมกลั้นใจ รีบพูดออกไปก่อนจะไม่มีความกล้าอีก “คุณแก้วครับ ผมว่า ผม อันนี้ผมอยากให้เราคุยกันอีกสักนิด”
“แก้วฟังอยู่” คุณแก้วพูดขณะหั่นขนมปังเป็นสี่ส่วนจากนั้นก็ป้อนผมมาหนึ่งชิ้น ผมกำลังจะพูดต่อ ด้วยความที่เรียกกำลังใจมาได้แล้วส่วนหนึ่งแต่ปากก็รับการป้อนของคุณแก้วไป ก่อนจะเคี้ยวๆแล้วรีบกลืน
หลังจากการเคี้ยวเสร็จ คุณแก้วก็ป้อนผมมาอีกคำ ก่อนจะบอกผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ค่อยๆกินสิคะ คุณต๊อบนี่ เป็นเด็กเชียว”
คุณแก้วเทน้ำให้ผม ผมรับมาดื่ม “คุณแก้วกินด้วยสิครับ”
“แก้วก็กินสลับกับป้อนคุณต๊อบนี่ไงเอ่ย”
ผมมองมือคุณแก้วที่กำลังถือมีดกับซ้อม ดูยังไงก็สวยจริงๆ ว่าแต่ เฮ้ย เดี๋ยว “คุณแก้วครับ เมื่อคืน”
คุณแก้วพยักหน้า เธอบอกให้ผมอ้าปาก “คุณต๊อบ อ้ำ”
“คุณแก้วไม่ฟังผมอะ” ผมเคี้ยวไปด้วยพูดไปด้วยอย่างหงุดหงิด หงุดหงิดที่พอเธอป้อนไอ้ผมก็แดกเอาลูกเดียว
“แก้วฟังอยู่ แต่คุณต๊อบนั่นแหละที่ไม่พูดสักที”
“คุณแก้วครับ เอ่อ เมื่อคืนผมค่อนข้างจะเจ็บ แบบว่ามันเจ็บแบบหน่วงใจ ปวดใจมาก แล้วก็ไม่คุ้นไม่ชิน”
“แก้วทำให้คุณต๊อบปวดใจ?” คุณแก้วพูดเสียงอ่อนลง มือทาบอก คล้ายว่าเธอสะเทือนใจขึ้นมา
มันก็ไม่เชิงปวดใจ แต่พอเห็นท่อนบนท่อนล่างของเธอเข้าเต็มๆแบบไม่มีหมกเม็ด นั่นแหละที่ทำผมปวดใจ ไม่พอ ถึงผมจะได้ทับคุณแก้ว แต่เป็นการนั่งทับที่ทำเอาจุติไปหลายรอบ แม่เจ้าโว้ย!
นั่นไม่เรียกไม่ว่านั่ง นั่นเรียกว่าโดนกักไม่ให้มีทางหนีชัดๆ!
“ก็คุณต๊อบน่าหมั่นเขี้ยว” คุณแก้วป้อนผมอีกคำ เธอเลียปลายนิ้วตัวเอง “คุณต๊อบไม่รู้ตัวเหรอว่าคุณต๊อบน่าหมั่นเขี้ยว”
คุณแก้วหลุดหัวเราะเมื่อเห็นผมทำหน้าซื่อบื้อ “ก็ได้ค่ะ งั้นคราวหน้าสลับๆกัน”
“สลับๆกัน” ผมทวนคำ
คุณแก้วพยักหน้าน้อยๆ ก่อนเอียงคอ มองผมด้วยรอยยิ้มละมุนละไม “สลับกัน”
ผมไม่รู้ว่าทำสีหน้าแบบไหนออกไป คุณแก้วถึงได้หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง เธอโน้มตัวข้ามโต๊ะเล็กๆมาหาผมก่อนจะจูบบนริมฝีปากผมดังมั๊วะ
ผมนั่งบื้อสักพักหน้าถึงค่อยๆแดงลามไปยันหู หลุดไอค่อกแค่กๆแล้วรีบจิบน้ำ “ละ แล้วที่หาว่าผมมองคนอื่นนี่มันมีด้วยเหรอครับ”
“เปล่านะ” คุณแก้วปฏิเสธ เธอเท้าคาง ก่อนมองผม “แก้วแค่บอกว่าคุณต๊อบหล่อ”
ผมขมวดคิ้ว ตอบเสียงกึ่งตัดพ้อ “แล้วมันใช่ความผิดผมเหรอครับ คุณแก้วไม่น่ารักเลย คุณแก้วต้องโทษคนอื่นไม่ใช่มารังแกผม” ถึงปากจะบอกว่าไม่น่ารัก แต่เสียงผมไม่เหมือนจะว่าเธอเลยสักนิด แถมหน้ามึงยังแดงด้วย ไอ้ต๊อบ!
แต่เมื่อมันออกจะ มันออกจะ เจ็บนิดๆ เจ็บจริงๆนะครับ ทำไมคุณแก้วดูไม่เชื่อไม่จริงจังกับคำผมเลย ฮือๆๆ
“แก้วดูเหมือนคนขี้หึงเหรอ”
คุณแก้วเอียงคอ มือที่เท้าคางอยู่ดูคล้ายแมวตัวหนึ่ง แต่ก็เหมือนจะเป็นแมวที่เริ่มมีลวดลาย มีเขี้ยวเล็บจากนั้นก็ไม่ทันรู้ตัวแมวตัวน้อยก็กลายเป็นเสือตัวใหญ่ ตัวเบ้อเร่อ!
บรรยากาศชักเปลี่ยนไป ถึงแม้ตอนนี้คุณแก้วจะยังสวยไม่เปลี่ยน แต่การที่เธอมองกันแบบนี้ จ้องกันแบบนี้ อีกทั้งยังมีความรู้สึกที่ผมบอกไม่ถูกมมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ปลายนิ้วคุณแก้วคลออยู่ที่ริมฝีปาก
ผมตอบ แกล้งไอนิดหน่อย จากนั้นก็ไม่พยายามมองช่วงต้นคอของคุณแก้วลงไป “จริงๆแล้วคุณแก้วของผมน่ารักมาก น่ารักมากๆครับ”
“ถ้าคุณต๊อบอยากลอง ทำให้แก้วหึงมากๆ แก้วก็จะจับคุณต๊อบกินทั้งๆที่อยู่ในชุดกระโปรกงับถุงน่อง”
ผมกระพริบตาปริบๆ
“จากนั้นแก้วก็จะไม่แต่งหน้า ไม่เมคอัพ ให้คุณต๊อบเห็นหน้าหล่อๆของแก้วไปสักอาทิตย์แบบนี้ดีมั้ยคะ”
ผมหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะกุมมือคุณแก้วแล้วถูๆ “คุณแก้ว อย่าแกล้งผมแบบนี้สิครับ”
“เอ๋ แต่แก้วพูดจริงๆนะ” คุณแก้วพูดเสียงใส ดวงตาก็ใส ราวกับว่าเธอกำลังพูดเรื่องบริสุทธิ์ใจอย่างมาก
“ถึงคุณแก้วไม่แต่งหน้า คุณแก้วก็น่ารักอยู่แล้วนะครับ” ผมรีบพูดเอาใจเธอ ให้คุณแก้วใจเย็นๆ คุณแก้วแม้กำลังยิ้ม พูดด้วยท่าทีอ่อนโยน น้ำเสียงรักเอาใจผมแค่ไหน แต่ผมรู้สึกว่ามันก็มีความผิดปกติอยู่!
“แก้วจะแต่งตัวให้บอยๆหน่อย แค่นี้เวลาเดินไปไหนมาไหนแก้วก็เหมือนแฟนหนุ่มของคุณต๊อบแล้ว”
“และแก้วก็จะไม่พูดคะขา ไม่พูดเสียงสองกับคุณต๊อบ แก้วจะแมนใส่คุณต๊อบให้คุณต๊อบนอนซบอกแก้ว ขัดขืนไปไหนไม่ได้”
ผมอ้าปากค้าง
โหดเหี้ยมมาก
โหดเหี้ยมอะไรเช่นนี้!
“ไม่เอา” ผมฟุบหน้ากับโต๊ะ คัดค้านเต็มที่ ในเมื่อผมทำอะไรคุณแก้วไม่ได้ ดุก็ไม่ขึ้น ไม้แข็งก็ไม่ไหว ผมก็จะงอแงโว้ย งอแง “คุณแก้วไม่ทำอย่างนั้นสิครับ ผมประท้วง ผมขอประท้วง”
ยิ่งนึกภาพตามผมยิ่งมือไม้อ่อน จู่ๆก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ถึงใบหน้าเธอจะเจริญหูเจริญตาทั้งสองแบบ แต่ว่าผมก็ยังชินกับตอนคุณแก้วเป็นคุณแก้วคนสวยของผมมากกว่า ฮือๆๆๆ
เหมือนคุณแก้วยิ่งพูดยิ่งสนุก ความคิดไหลเรื่อยๆไม่รีรอให้ผมได้พักหัวใจ รอยยิ้มคุณแก้วสว่างไสวทั่วใบหน้าก่อนจะมุมปากจะยกขึ้นน้อยๆ “คิดแล้วก็อยากจะทำซะเดี๋ยวนี้”
ผมครางเสียงอ่อนแรงเหมือนจะตายตรงนั้น “คุณแก้วว เอาเลย ถ้าเป็นความสุขคุณแก้ว ผมก็ไม่ขัดอยู่แล้ว”
“คุณต๊อบพูดจริงนะ” คุณแก้วเอ่ย น้ำเสียงดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก “คุณต๊อบพูดแล้วนะ”
“ผมประชด”
“ไหนบอกชอบที่แก้วเป็นแก้ว”
ผมครางฮือ พอคุณแก้วเล่นมุกนี้ใส่ก็เถียงไม่ค่อยจะออก ไม่สิ ตั้งแต่แรกผมก็ไม่เคยเถียงคุณแก้วชนะเลย!
“คุณแก้วครับ”
“ว่าไงครับ” คุณแก้วตอบ แต่เสียงเธอเหมือนกำลังจะพูดกับเด็ก “คุณต๊อบเขินแก้วเหรอ”
ผมก้มหน้า ฟุบกับโต๊ะไปอีกรอบ ยกมือปิดหูด้วย จะได้ไม่เห็นว่ามันแดง!
“โธ่” คุณแก้วว่าเสียงอ่อน จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงเก้าอี้ วินาทีถัดมาก็เป็นไออุ่นอยู่ข้างๆ คุณแก้วนั่งลงก่อนจะพยายามมองผมที่ฟุบอยู่ เธอพยายามยื่นหน้าเข้ามาตรงตักผม “คุณต๊อบ ดูสิ เขินจนหูแดงหมดแล้ว”
กลิ่นกายหอมๆ มือนุ่มๆ คุณแก้วถูแก้มกับตักผม ฝ่ามือวางไว้บนไหล่ก่อนจะขึ้นมากอดผมด้านหลัง ปลายคางเธอคลอเคลียบนหลังผม เธอแกล้งหอมผมไปทั่วแถมพยายามหอมแก้มเพื่ออ่อยผมด้วย “เด็กซน เงยหน้าขึ้นมาเร็ว”
“คุณแก้วขี้โกง” ผมพูดอู้อี้ ไม่ยอมเงยหน้า
“ใครกันแน่ที่ขี้งอน ดูสิ โดนแก้วแกล้งเข้าหน่อยก็ร้องไห้โยเยให้แก้วปลอบ” เธอจับติ่งหูผมเล่น กระซิบเบาๆไม่ห่าง น้ำเสียงยิ่งนุ่มนวลลงกว่าเดิม
แต่ผมจะไม่ยอมหลงกลเธออีกเด็ดขาด!
ไม่ว่าจะเอาความนุ่มนิ่มกับตัวหอมๆ แล้วก็เสียงอ่อนโยนแค่ไหน ผมก็จะไม่ใจอ่อน
นี่มัน มะ มันอัดอั้นมานานเกินไปแล้ว!
คุณแก้วจูบคอผม ก่อนจะแนบใบหน้าลงที่แผ่นหลัง เธอแกล้งสอดมือเข้ามาเกาคางผมเบาๆ
ไม่!
อย่านะต๊อบ!
“คุณต๊อบไม่รู้เหรอว่าคนที่เราชอบมักจะน่าแกล้งเป็นพิเศษ”
ผมส่ายหน้าขยุกขยิก ดูเหมือนเอาหัวถูบนโต๊ะมากกว่า นั่นมันตรรกกะอะไรกัน
“ตอนแก้วไม่แต่งหน้าไม่สวยขนาดนั้นเลยเหรอ” คุณแก้วพูดคล้ายจะน้อยใจ น้ำเสียงเธอเบาลง
ฉิบหายละ ผมแอบแง้มๆดู ก่อนจะรีบตอบกลับอย่างลืมตัว “สวย”
“แต่ว่ามัน เอ่อ ก็ก้ำกึ่ง แบบว่า จะว่าหล่อก็หล่อนะครับ”
คุณแก้วพยักหน้า น้ำเสียงแฝงความภูมิใจไม่น้อย “อืม…คุณต๊อบมีแต่ได้กับได้นะเนี่ย”
คุณแก้วโน้มใบหน้าเข้า เธอใช้ริมฝีปากดันแขนผมก่อนจะจูบเบาๆ จนแถวนั้นจั๊กจี้ไปหมด ผมคลายมือออก เงยหน้าขึ้นมาตามฝ่ามือคุณแก้วที่ประคองอยู่ เธอนั่งคุกเข่า ใบหน้าเกือบเท่าผมที่นั่งบนเก้าอี้
คุณแก้วกอดเอวผมไว้หลวมๆ เธอมองผมแล้วยิ้มน้อยๆ “งั้นก็โอเค”
นิ้วเกี้ยวชูขึ้นมาตรงหน้า เธอทวนคำพูดนั้นอีกครั้ง “สลับๆกัน”
ผมกระพริบตา ในใจวูบหนึ่งเหมือนมีพลุจุดฉลองอยู่สามสี่ครั้งก่อนจะยื่นนิ้วไปเกี่ยวคุณแก้วตอบ
แต่ก็ยังไม่แน่ใจ ผมแอบถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างลัง สายตาผมคุณแก้วอย่างระแวง คุณพระ เป็นครั้งแรกที่ผมมองเธออย่างนั้น! “คุณต๊อบไม่เชื่อแก้วเหรอ”
น้ำเสียงอ่อนหวาน คล้ายน้อยใจอย่างมาก รวมไปถึงดวงตาใสๆที่เริ่มแดงก่ำขึ้นมา
“ปะ เปล่านะครับ”
ผมรีบอุ้มคุณแก้วขึ้นมานั่งบนตัก แม้ว่าตอนแรกจะยกไม่ขึ้นเลยก็ตาม แต่พอคุณแก้วโถมกายมาหาผมเอง ผมก็รีบโอบคุณแก้วไว้ในใจหลงลืมความหนักหน่วงที่ต้นขาไป อีกทั้งหลงลืมความปวดเอวกับสะโพกด้วย!
“คุณแก้วไม่ร้องไห้สิ” ผมปลอบเธออย่างลนลาน สุดท้ายผมก็ทำใจโกรธคุณแก้วไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ชีวิตหัวหน้าครอบครัวกู อ่อนโยนดุจปุยนุ่นสมกับเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
“แก้วไม่ได้ร้องสักหน่อย” คุณแก้วว่าเสียงแง่งอน เธอไม่ยอมหันมามองผม “คุณต๊อบทำเหมือนแก้วเป็นคนอื่น”
“ผมเปล่า”
“เมื่อกี้คุณต๊อบทำ คุณต๊อบมองแบบนั้น”
“ผมล้อเล่น ไม่โกรธแล้ว ไม่เอาแต่ใจแล้ว ยอมแล้วครับ ผมยอมคุณแก้วทุกอย่างเลย” ผมหอมแก้มคุณแก้วคืน ถ้าไม่นับอย่างอื่นแก้มนี้ก็นุ่ม นุ่มนิ่มไปหมด การที่คุณแก้วมัดผมขึ้นแบบนี้ ปอยผมตกแบบนี้ ทำเอาผมไม่เป็นอันทำอย่างอื่นนอกจากใจเต้น
ผู้หญิงนี่เขาขี้แยอย่างนี้กันหมดหรือเปล่าวะ
แฟนเก่าที่ผมเคยคบๆมา ก็ไม่เคยเห็นเธอๆเหล่านั้นจะร้องไห้ตอนเลิกกันเลยนะ มีแต่ผมเนี่ยแหละเมาเป็นหมา
คุณแก้วหันแก้มอีกข้างให้ผม ก่อนจะบอก “ข้างนี้ด้วย”
ผมก็จุ๊บไปตามใจเธอไม่มีปฏิเสธ สุดท้ายไปๆมาๆผมก็หอมเธอจนแก้มฝาด คุณแก้วจึงตอบแทนด้วยการจูบผมกลับจนปากบวมไปข้างหนึ่ง ไม่พอเธอยังกัดผมด้วย และสุดท้ายไอ้ที่คุยกันไว้ผมก็ลืม รู้แต่ว่าโดนคุณแก้วจูบ จูบจนมึน และก็กลายเป็นผมที่นั่งตักคุณแก้ว…เอ๊ะ
คุณแก้วหัวเราะทุ้มๆ น้ำใสๆจากดวงตาหายไปอย่างปลิดทิ้งราวกับไม่เคยมีมาก่อน คุณแก้วอุ้มผม สภาพแตกต่างจากตอนที่ผมพยายามจะอุ้มเธอ จากนั้นผมก็อยู่บนโต๊ะ…เอ๊ะ
พอเราโกรธทั้งที่ไม่ผิด สุดท้ายก็กลายเป็นเราผิด แถมยังต้องง้ออีก
ผู้หญิงนี่
จะว่าไปก็เข้าใจยากจริงๆโว้ย!
TBC
[15/06/2560]
ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยข่ะ สามสี่คนก็มีกันแค่นี้ อย่าเพิ่งทิ้งเลา อยู่กับเลาก่อง