38.ผมตกลงกับบิ๊กว่าเราจะกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนในบ่ายวันศุกร์ โดยแวะรับจุ๊ที่หอก่อนแล้วค่อยพากันออกเดินทาง พอถึงเวลาน้องมันก็รับอาสาทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้ ผมนั่งอยู่ข้างกัน ในขณะที่จุ๊นั่งงีบอยู่ที่เบาะหลัง คงเพราะเสียงเพลงที่เปิดคลออยู่เบา ๆ ทำให้รู้สึกง่วง พอนึกได้อย่างนั้นก็นึกห่วงคนขับขึ้นมาเสียจนผมไม่กล้าจะงีบหลับตามจุ๊ไปอีกคน
“แวะปั๊มหากาแฟกินกันเถอะ”
บิ๊กหันมามองผม ก่อนจะหันกลับไปมองถนน “ง่วงเหรอครับ งีบก็ได้นะ”
“อยากกินขนม”
“หึ ๆ” น้องมันหัวเราะ ก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันข้างหน้า “เป็นห่วงก็บอกกันตรง ๆ สิครับ”
“กลัวมึงหลับใน แล้วพาจุ๊เจ็บตัวไปด้วยต่างหาก”
“ใจร้าย” จอดรถได้ก็หันมางอแงใส่ผม “จะพูดให้ดีใจหน่อยก็ไม่ได้”
“เหมือนเดิมนะ”
“...”
“เดี๋ยวกูไปสั่งกาแฟรอ ปลุกจุ๊ด้วย เผื่ออยากจะกินอะไร”
เดินลงจากรถได้ผมก็เดินตรงไปสั่งกาแฟกับขนมที่กินได้ง่าย ๆ บนรถมาสองสามอย่าง ก่อนจะหันไปถามน้องมันกับจุ๊ที่เพิ่งเดินตามมาถึงว่าอยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่า จุ๊บอกปฏิเสธแล้วแยกไปซื้อพวกขนมกรุบกรอบที่ร้านสะดวกซื้อแทน เลยเหลือแค่ผมกับน้องมันนั่งรอกาแฟอยู่ที่ร้าน
“แม่บอกว่าจะทำกับข้าวเอาไว้ให้ กลับไปให้อุ่นกินกันได้เลย” ผมบอกขณะตักเค้กเข้าปาก “กูเลยซื้อแค่พวกคุกกี้ไว้กินรองท้องบนรถนะ”
“ครับ”
ผมเงียบเมื่อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก พอก้มหน้าลงได้ก็รีบจัดการกับเค้กในจานที่เหลืออยู่อีกครึ่งชิ้นจนเกลี้ยง ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามน้องมันไปเมื่อได้ของที่สั่งครบแล้ว จุ๊กลับมาถึงที่รถพร้อม ๆ กับพวกเรา ในมือถือถุงขนมใหญ่ ๆ มาสองถุงกับน้ำอัดลมแก้วใหญ่
“เยอะขนาดนี้ ไปถึงก็คงกินข้าวไม่ไหวแล้วครับ”
ผมหัวเราะก่อนจะตอบ “นั่นสิ”
เราออกเดินทางกันต่อโดยไม่แวะที่ไหนอีก และเป็นอย่างที่คิดเมื่อพวกเราไม่สามารถกินข้าวเย็นที่แม่ทำไว้ให้ได้ เพราะอิ่มกับขนมที่แวะซื้อมา ถึงเวลาเข้านอนผมก็จัดให้จุ๊นอนบนเตียง ส่วนตัวเองย้ายลงมานอนเบียดกับน้องมันบนฟูกข้างล่าง จุ๊ดูตื่นเต้นมากที่ได้มาบ้านผม เอ่ยปากถามนู้นนี่แทบไม่หยุด ก่อนจะขอให้ผมรับปากว่าจะพาเดินชมให้ทั่วบ้าน โดยเฉพาะในวนที่จุ๊เอาแต่พูดว่าคงเต็มไปด้วยออกซิเจน
เราต่างคนต่างหลับลึกกันไปทันทีที่หัวแตะโดนหมอน แต่ก่อนที่สติจะจมหายไปกับความง่วง ผมก็ยังทันได้รู้สึกถึงแรงกอดรัดของน้องมัน ก่อนจะอมยิ้มหลับไปพร้อมกับคำว่า ฝันดี ที่ดังเบา ๆ อยู่ข้างหู
“ไม่ปลุกบิ๊กเหรอ”
ผมส่ายหัวไปมา ก่อนจะตอบ “นาน ๆ ที ปล่อยให้นอนพักไปเหอะ”
จุ๊พยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ ผมเลยหันกลับไปห่มผ้าให้น้องมันดี ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามจุ๊ออกมาข้างนอก เราอาบน้ำแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้ว ผมเลยพาเธอลงมาเดินเล่นในสวนไปก่อนระหว่างรอให้น้องมันตื่น มื้อเช้าวันนี้แม่จัดการเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเหมือนทุกครั้ง พร้อมกับโน้ตที่บอกเอาไว้ว่าต้องออกไปทำธุระเป็นเพื่อนแม่มล
ผมพาจุ๊เดินเล่นสวนรอบ ๆ บ้านไป แต่ยังไม่ทันได้พาเดินไปไกลถึงสระบัว ก็ต้องชวนกันกลับเข้ามาในบ้านเมื่อได้ยินเสียงน้องบัวร้องไห้ดังออกมา จุ๊มีท่าทีตื่นเต้นกับการได้เห็นน้องบัวอาบน้ำกินข้าว ตอนนี้น้องอายุย่างเข้าหกเดือนแล้ว เริ่มจำหน้าคนรอบตัวได้ เลยมีสีหน้าตกใจนิดหน่อยตอนที่ผมกับจุ๊อุ้ม ถึงจะไม่ถึงขนาดอุ้มไม่ได้ แต่น้องบัวก็ไม่ยอมให้พวกเราอุ้มได้นาน และพอน้องร้องไห้ออกมาพวกเราก็ทำได้แค่ส่งน้องคืนให้พี่เลี้ยงไป
“ถ้าคุณเบลล์กลับบ้านมาบ่อย ๆ น้องก็ยอมให้อุ้มเองแหละค่ะ” ผมพยักหน้าไปกับคำพูดของพี่เลี้ยง “เหมือนคุณมีนไงคะ”
“...”
“รายนั้นกลับบ้านมาทุกอาทิตย์ สนิทกับน้องบัวมากเลย”
“มีนมาเล่นกับน้องบ่อยเหรอครับ”
“ค่ะ” พี่เลี้ยงว่ายิ้ม ๆ “ท่าจะหลงเสน่ห์หนูบัวไปแล้ว”
ผมส่งยิ้มเจื่อน ๆ ไปให้ ก่อนจะชวนจุ๊ไปหามื้อเช้ากินในครัวเมื่อบิ๊กตื่นขึ้นมาแล้ว ระหว่างมื้ออาหารจุ๊ก็คอยชมฝีมือการทำอาหารของแม่ผมไม่หยุด แล้วก็บ่น ๆ ตัวเองที่มัวแต่นอนขี้เซาเสียจนพลาดโอกาสมาขโมยสูตรอาหารแม่ผมในครัวเมื่อเช้า ผมหัวเราะไปกับคำพูดของจุ๊ นึกขำกับท่าทางร่าเริงไร้ขีดจำกัดของเธอ
แรก ๆ ที่บิ๊กเข้ามาในชีวิต รอบตัวผมก็เริ่มเต็มไปด้วยสดใสแบบนี้ ยิ่งตอนนี้มีจุ๊เพิ่มเข้ามาอีกคนเหมือนบ้านมันยิ่งจะสดใสมากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
“รีบกินสิครับ เดี๋ยวจะได้พาพี่จุ๊ไปดูสระบัว”
“อยากเห็นมากเลย ไอ้บิ๊กมันโม้ว่าดอกบัวเยอะและสวยมาก”
ผมมองจุ๊ ก่อนจะหันไปยิ้มให้บิ๊ก “เว่อร์ไปไหม”
“ผมพูดตามความรู้สึก” น้องมันว่ายิ้ม ๆ “เร็วสิครับ”
“...”
“ผมต้องรีบกลับมาตีสนิทกับน้องบัวอีกนะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ไม่เจอกันนาน จนไม่ยอมให้ผมอุ้มแล้วเนี้ย”
“หึ ๆ”
เห็นท่าทางมุ่งมั่นของน้องมันแล้ว ผมก็นึกอยากจะเห็นว่ามันจะสามารถตีสนิทกับน้องบัวจนยอมให้อุ้มได้จริงไหม
Ma-NuD_LaW
เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ
