Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1445820 ครั้ง)

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4050 เมื่อ25-09-2017 15:11:55 »

รอวันคืนดีกันครับ

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4051 เมื่อ25-09-2017 16:17:59 »

เอาใจช่วยโอ๊ตกับพี่กุนต์  :call:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4052 เมื่อ25-09-2017 17:33:37 »

คุณไผทน่าสงสัยจริงๆ!

ออฟไลน์ BeauBeeiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4053 เมื่อ25-09-2017 17:45:55 »

สงสารพี่กุนต์อ่า ต้องให้น้ำเกลือเลย แข็งแรงเร็วๆน้า

ประวัติไผทนี่น่าสงสัยจริงๆ ,, ว่าแต่มีพี่หมูโผล่มาด้วยเด้อ

คิดถึงๆ ,, รอวันกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งน้า

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4054 เมื่อ25-09-2017 23:44:55 »

จริงๆ พี่กุนต์น่าสงสารที่สุดนะ ต้องเอ่ยคำลา แม้อุราสุดอาลัย พี่กุนต์ทำไปทั้งหมดเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนที่น่าสมเพชเท่านั้นเอง อยากจะรักตัวเองให้มากขึ้น ... #ทีมพี่กุนต์

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4055 เมื่อ26-09-2017 14:35:45 »

ถ้าโอ๊ตรู้ คงเสียใจน่าดู
แค่ 3 วัน พี่กุนคนดีก็เปิดโอกาส
ให้คุณผไทตามจีบซะแล้ว

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4056 เมื่อ26-09-2017 17:01:52 »

 :sad2: :sad2: :sad2:

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4057 เมื่อ27-09-2017 19:46:27 »

 :hao5:ยังไงเราก็รักพี่กุล

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4058 เมื่อ28-09-2017 06:44:51 »

ไม่คิดจะปล่อยมือจากกนธี 

รู้สึกชอบโอ๊ตนิดนึง

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4059 เมื่อ28-09-2017 10:01:01 »

ขอบคุณมากค่ะ

ประเด็นที่เราไม่เอามาพูดกับเค้า เพราะตลอดเวลาที่คบกันมา เค้าดีมากๆ ถึงขนาดที่ไม่คิดว่าจะมีใครจะดีไปมากกว่านี้เลยค่ะ พอมีปัญหาเราเลยค่อนข้างน้อยใจหนักมาก ว่าเพราะอะไรกันนะ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ ตลอดเวลา่เวลาเรามีปัญหาเค้าเป็นที่พึ่งที่ดีของเราตลอด ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ทุกเรื่องจริงๆ เราว่าพอมันถึงจุดหนึ่ง ที่เค้าเคว้งเอง เค้าเลยไปไม่ถูก เลยพาลอารมณ์เสียไปซะหมด เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเค้าควบคุมไม่ได้   แต่พอถึงอย่างผ่านไปเค้าก็กลับมาดีเหมือนเดิมค่ะ เหมือนเป็นฝันไปเลย


เราไม่อยากพูดให้เค้ารู้สึกแย่ จริงๆตอนนี้เราก็โอเครแล้วแหละ ไม่ได้น้อยใจหรืออะไรแล้วละคะ เราก็คิดซะว่าช่วงตอนเราเป็นเมน น่าจะประมาณนี้แหละ 55555555555555555555



****

เราลุ้นขึ้นไม่เนี่ย คู่คุณแบมบูกับนายตึ้งหนืดเนี่ย นี่แอบเชียร์มาตั้งแต่แรกๆเลยนะ มันห่ำหั่นมาก ชอบบบ


คิดถึงพี่หมูกับนายดินด้วย   แฮปปี้ซินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
« ตอบ #4059 เมื่อ: 28-09-2017 10:01:01 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4060 เมื่อ28-09-2017 15:30:33 »

                                         :o12: :o12: :o12:
เมื่อไรเค้าจะดีกันค่ะ

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4061 เมื่อ29-09-2017 02:37:37 »

ผัดไทนี่มันเข้ามาเป็นตัวสร้างความแข็งแกร่งในรักครั้งนี้สินะ

แต่บอกเลย เกลียดคนสันดานแบบนี้สุดใจ

เป็นต้นเหต แต่ไม่รู้สึกผิดสักนิด ยังตามจีบแบบหน้าด้าน ๆ

ให้ตายเถอะ  :katai1:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4062 เมื่อ29-09-2017 08:40:26 »

อุปสรรคมากจริงคุ่นี้ เด่วเรื่องนั้นเรื่องนี้

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
Re: Sins : Greed -- [Ch.55-56] pg.135 -- 24/9/60
«ตอบ #4063 เมื่อ29-09-2017 22:46:22 »

ปมหลังคุณไผทนี่น่าสนใจมากกกก

อยากอ่านเรื่องของน้องอุ้ม น้องอ้นตอนโตจัง

เคยอ่านตอนเดียวละติดใจ

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4064 เมื่อ02-10-2017 17:29:28 »





Chapter 57




กนธีนั่งยองๆอยู่ตรงสวนข้างบ้าน ในมือถือส้อมพรวนอันเล็ก เขากำลังขุดดินตรงโคนต้นวาสนาให้ร่วนซุย ระหว่างนั้นเจ้าแกงส้มกับสี่ถั่วที่ถูกปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นก็เข้ามาเดินป้วนเปี้ยน ใช้สีข้างเบียดเสียดและเอาหน้าถูไถช่วงขาไปมา
   
“ส้ม..พาลูกไปกินข้าวสาลีเร็ว” เขาดันก้นมันเบาๆ อุตส่าห์ซื้อต้นอ่อนข้าวสาลีมาปลูกให้ แกงส้มกลับไม่สนใจ มาคอยเล็มไผ่ทองที่เพิ่งปลูกอยู่ได้
   
ถั่วแดงกับถั่วแปบพยายามเขี่ยปลาคาร์ฟในบ่อ กนธีเห็นแล้วหัวเราะระอา ต้องวางมือจากการทำสวนแล้วเข้าไปอุ้มพวกมันกลับห้อง
   
แม่บ้านที่เดินสวนมาเห็นหน้าเจ้านายเปรอะดินก็ทักเข้า

“คุณกุนต์..เปื้อนหมดทั้งตัวเลย ป้าบอกแล้วว่าให้ลุงแกทำเอง”
   
กนธียิ้มขัน “ผมอยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรเลยขุดดินฆ่าเวลา”
   
แกมองอย่างเห็นใจ แต่ไม่อยากออกปากทักให้เจ้านายเศร้าไปกว่าที่เป็น ที่คุณกุนต์หาเรื่องทำนั่นนี่ก็เพราะอยู่คนเดียวแล้วทนเหงาไม่ไหวต่างหาก
   
“ไปค่ะ..อาบน้ำแล้วมาทานขนมดีกว่านะ ป้าจะเตรียมไว้รอ”
   
กนธีพยักหน้า อุ้มแมววัยขวบทั้งสี่ตัวกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าแกงส้มวิ่งต้อยๆ พุงแกว่งซ้ายแกว่งขวาตามลูกมันมา ส่งเสียงร้องเรียกตามตลอดทาง
   
“เหงาใช่ไหมเด็กๆ” เขาปล่อยมันเข้าห้อง “ขอโทษที่ไม่ค่อยได้เล่นด้วย”
   
พวกมันลงไปกลิ้งกับพื้น บางตัวก็ม้วนหน้าม้วนหลัง เขี่ยไหมพรมเล่น
   
กนธีนั่งมอง นึกถึงตอนที่อ้นกับอุ้มอยู่กับเขา ถ้าอยู่ที่บ้านใหญ่ น้องๆจะเข้ามาเล่นกับแมวทุกครั้ง ตอนนี้ก็เหลือแต่เขาแล้วที่ต้องทำหน้าที่แทน
   
ชายหนุ่มถอนหายใจ “พวกเรา..ก็เหงาไม่แพ้กันหรอกน่า”
   
แกงส้มหงายท้องนอนผึ่ง มันครางเครืออย่างพอใจเมื่อเขาเกาพุงให้
   
“คุณกุนต์คะ” เสียงสาวใช้เข้ามาเรียก “คุณไผ่มาค่ะ”
   
“หมาหัวเน่ามาหรือ” กนธียิ้มออก เขานี่มันแย่แสนแย่ เวลามีความสุขก็ลืมน้อง เวลาอยู่คนเดียวค่อยคิดถึงมัน แต่ไผ่ก็ดีใจหาย ห่วงเขาตลอดเวลา แบบนี้มันถึงไม่ยอมหาแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที เอาแต่ดูแลพี่ชายไม่ได้เรื่องอย่างเขา
   
พสิษฐ์ไปเดินเล่นเยาวราชมา เขาซื้อหูฉลามมาฝากพี่ชายกับซุปรังนก
   
“เอามาทำไมให้แพง” กนธีติง “รวยนักหรือไง”
   
“อ้าว..” คนน้องมึนงง “แค่หูฉลามเอง ทีซื้อรถให้แฟนเด็กไม่ยักบ่น”
   
เขาหัวเราะฝืดเฝื่อน Esport คันนั้นยังจอดนิ่งอยู่ในโรงรถ   
   
“เออ..ซื้อมาแล้วก็เอาไปใส่ถ้วยให้ด้วย จะกินตอนร้อนๆนี่แหละ”
   
พสิษฐ์ยิ้มขัน วานสาวใช้ของพี่กุนต์ไปเตรียมให้ ตัวเขามาที่นี่ก็เพื่อมาดูให้แน่ใจว่าพี่กุนต์ไม่ได้ฝืนตัวเองจนป่วยอีก โชคดีที่วันก่อนแค่ให้น้ำเกลือ
   
“พี่น่ะไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกแล้วนะ ดูสังขารบ้าง”
   
“สี่สิบแล้วไง ยังวิ่งได้หลายกิโล” กนธีแกะเม็ดเกาลัดที่ยังร้อนอยู่
   
“พี่ดูแลตัวเองได้มันก็ดี แต่ในอนาคตก็น่าจะมีใครสักคนคอยอยู่ใกล้ๆ” เขาเลียบเคียงไปเรื่อย ในสายตาเขาตอนนี้ มีแต่อินทัชที่ดีที่สุด การที่เด็กมันเปิดใจกับเขา พูดคุยถึงความรู้สึกทั้งหมดทำให้เขาเชียร์มาทางมันขึ้นอีกจม
   
“แกไง” เขาแหย่ “หรือคิดจะทิ้งไปมีแฟนแล้ว”
   
พสิษฐ์ส่ายหัว “ถ้าผมแทนคนอื่นได้ พี่คงไม่เลี้ยงเด็กมาตั้งเยอะหรอก”
   
กนธีไม่ตอบ ได้แต่เคี้ยวเกาลัดแก้มตุ่ย
   
“อันที่จริงผมคิดว่าพี่คงมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าอนาคตจะเป็นยังไง ตอนนี้ทางมันอาจจะเบลอๆ ยังไม่ชัดเจน ก็รอเวลาไปก่อนแล้วกัน”
   
“พูดมากจังวะ” เขาแกะเกาลัดอีกเม็ดแล้วเอาเข้าปาก “กินไหม”
   
“ไม่เอา” ชายหนุ่มเอนหน้าหนี จับมือที่วุ่นวายไม่หยุด “พี่กุนต์หยุดกินแล้วหันมาตั้งใจฟังผมดีๆก่อน วันนี้ที่มาหาเนี่ย ตั้งใจจะพูดเรื่องคุณไผท..”
   
“แกตกหลุมรักคุณไท?”
   
“ถ้าผมบีบคอพี่ได้ผมทำไปแล้ว” พสิษฐ์หยิบถุงของกินไปวางไว้ที่โซฟาอีกตัว พี่กุนต์จะได้เลิกหลบไปหลีกมาสักที “พี่..ผมอยากให้พี่อยู่ห่างๆคุณไทไว้”
   
“เขาไปทำอะไรให้แกอีกล่ะ ขับรถเหยียบเท้าหรือไง”
   
“เขาเป็นคนไม่น่าไว้ใจ” เขาเล่าเรื่องที่ให้คนไปสืบเรื่องราวของไผทมา เอาตั้งแต่อดีต พ่อแม่ไม่มี กระทั่งคนอุปการะที่ตายไปทั้งสองคนแล้วทิ้งเงินไว้ให้จำนวนมาก ซ้ำร้ายคุณไผทยังเคยสู้กับแม่บุญธรรมเรื่องเงินมรดกอีกด้วย
   
กนธีรับฟังนิ่งๆ “แกจะสื่อว่าอะไร”
   
“คนดีๆที่ไหนจะแย่งสมบัติกับแม่บุญธรรม นั่นครอบครัวที่รับเขามาจากมูลนิธิเลยนะ แล้วการที่เขาพุ่งเป้าเข้ามาจีบพี่อีก จู่ๆก็มาเป็นหุ้นส่วนกัน จะบอกว่าทั้งหมดนี่เป็น destiny หรือไง” พสิษฐ์ขมวดคิ้ว “เขาจงใจเข้าหาชัดๆ”
   
“แกกลัวพี่จะไปรักเขาแล้วยกเงินมรดกให้เหมือนที่พ่อเขาทั้งสองคนทำหรือไง” กนธีถาม “ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่นะ แต่พี่ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจไปชอบเขา”
   
“ใครจะไปรู้อนาคต” พสิษฐ์พูดตรงๆ “ตอนโอ๊ต พี่ก็พูดแบบนี้ สุดท้ายแล้วไง พี่รับเด็กมันมา เอามาอยู่ด้วย ดูแลทุ่มเท รักหัวปักหัวปำ”
   
“นั่นมันโอ๊ต แต่นี่มันคุณไท” กนธีถอนหายใจ

“โอเค..ผมไว้ใจพี่ แต่ผมไม่ไว้ใจคุณไท” พสิษฐ์กังวล “ถ้าเป็นไปได้ ขายหุ้นร้านอาหารคืนเขาไปเถอะ เลิกคบเลิกยุ่งกันไปเลย ผมไม่ค่อยโอเคกับหมอนี่”

“ไม่ไว้ใจเพราะเขาไม่มีหัวนอนปลายเท้า เพราะเขาเป็นเด็กกำพร้า?” กนธีถาม “แค่เพราะประวัติคร่าวๆที่แกให้คนไปสืบมาน่ะหรือ”

“แล้วมันไม่น่าสงสัยหรือไง”

“เจ้าไผ่” คนเป็นพี่ตบบ่าน้อง “Don’t judge a book by it’s cover.”

พสิษฐ์นิ่งเงียบ เขารู้ตัวว่าตัดสินคุณไผทด้วยเนื้อหาผิวเผินภายนอก

“แกเชื่อในตัวพี่หรือเปล่า..พี่ของแกถึงจะรั้นไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้โง่”

“แล้วถ้างั้นพี่กุนต์ยอมปล่อยให้เขาเข้าหาทำไม” ร่างสูงถามอย่างข้องใจ เรื่องที่เขาได้ยินในโรงพยาบาลวันนั้น เขายังสงสัยอยู่จนตอนนี้

“อ้อ..เป็นแกนี่เองที่เอามือถือพี่โทรออก เสียไปกี่นาทีวะ” เขาบ่น “ไหนๆก็ถามมาแล้ว พี่ตอบให้..ที่พี่เปิดโอกาสกับเขา ไม่ใช่เพราะคิดจะคบหรือมีใจ”

“แล้วทำเพื่ออะไร”

“ที่พี่ยอมตามใจเขา เพราะคุณไทเป็นคนหัวดื้อ คนอย่างเขาไม่เลิกล้มความตั้งใจถ้าทำไปไม่เต็มที่ วันนี้ยังคาใจ วันหน้าเขาก็อาจจะมาใหม่ สู้ให้เขาเข้ามาให้หมดเรื่องราวไปเลยดีกว่า” กนธีตอบ “ปรบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ถ้าพี่ชัดเจนในส่วนของพี่ว่าไม่มีวันสนใจเขาในแง่นั้น พอเขาเหนื่อย เขาก็หยุดเอง”

“อะไรที่ทำให้มั่นใจแบบนั้น”

“เพราะว่าพี่กับเขา..” กนธีพึมพำ “มีความคิดคล้ายๆกันล่ะมั้ง”

..เหนื่อย..และหยุดไปเอง..

“อีกนานเท่าไรล่ะพี่กุนต์เขาถึงจะหยุดได้” พสิษฐ์ถาม “ไม่ใช่ว่าเขายังรุดหน้าจีบพี่ในช่วงที่โอ๊ตมันกลับมาหาพี่อีกคนนะ จะผิดใจกันเปล่าๆ”

กนธีนิ่งไป เขาบีบเปลือกเกาลัดกรอบแกรบ “ถ้าโอ๊ตถาม พี่ก็จะตอบตรงๆ ห่างกันไปแบบนี้ ถ้าเราเชื่อใจกันและกันมากพอ เรื่องมันก็คงจะจบลงได้”

พสิษฐ์เหนื่อยใจเหลือเกิน แต่ในเมื่อพี่กุนต์ตัดสินใจแล้ว เขาก็ยอมรับ เพียงแต่ว่าในส่วนของความไม่ไว้วางใจนั่น..เขายังไม่คิดจะรามือ

“พี่จะคิดยังไงก็ตามใจ แต่ถ้าผมเจอว่าคุณไทมีเรื่องไม่ดีซ่อนไว้ พี่ต้องตัดขาดกับเขาทันที ตกลงไหม” เขาขอให้กนธีรับปาก

“วางแผนจะทำอะไรหือ..เจ้าไผ่”

“ขุดคุ้ยอะไรนิดหน่อย” ถ้าต่างคนต่างอยู่ เขาก็ไม่คิดจะเข้าไปวุ่นวาย

..แต่พี่กุนต์คือครอบครัวของเขา..เขาไม่โอเค..

“เอาเถอะ ก็แล้วแต่แก” กนธียิ้มระอา “แต่ถ้าถามใจพี่นะ..พี่คิดว่าเขาไม่ได้เลวร้าย เรื่องพ่อบุญธรรมสองคนตายก็คงจะไม่มีคดีอะไรแอบแฝง คนหนึ่งหกสิบกว่านะไผ่ อีกคนก็อุบัติเหตุ ขับไปชนเอง คุณไทไม่ได้อยู่ด้วยสักหน่อย”

“มองในแง่ร้ายไว้ก่อนก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือ”

“พี่ว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมานะ ยังเคยสารภาพเลยว่าตอนแรกสนใจพี่เพราะว่าพี่รวยดี” เขาหัวเราะ “ชัดเจนกว่าเด็กคนอื่นที่พูดอ้อมค้อมเป็นไหนๆ”

‘สนใจเพราะว่ารวยดี’ เพราะแบบนี้ไง พสิษฐ์ถึงวางใจไม่ลง

ตอนนั้นเองที่ป้าแม่บ้านโผล่เข้ามาในห้องรับแขก แกแจ้งว่ามีคนมาหา

“ใครหรือครับ” กนธีไม่เคยนัดใครมาที่บ้าน

“คุณโอ๊ตกับเด็กๆค่ะ”

ใจคนฟังกระตุกวูบ ดวงตาเป็นประกายและรอยยิ้มก็ผุดกว้างในทันที พสิษฐ์หันมอง เขายิ้มน้อยๆเมื่อเห็นพี่กุนต์รีบลุกจนเกือบปัดถ้วยรังนกหล่น

..แค่นี้ก็รู้แล้ว..ว่าใครเป็นคนสำคัญ..

“พี่กุนต์จ๋า~” เสียงเจื้อยแจ้วของอ้นกับอุ้มร้องมาแต่ไกล

น้องแข่งกันวิ่งจนแทบสะดุดล้มคะมำ ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากนธีก้มลงไปรับตัวไว้ได้ก่อน ชายหนุ่มคุกเข่ากับพื้น อ้าแขนกอดรัดเด็กๆสองคนแนบแน่น

“พี่กุนต์ๆๆ” น้องอ้นกอดอีกฝ่าย “คิดถึงจังเลยครับ”

“คิดถึงพวกหนูเหมือนกันลูกรัก” กนธีหอมแก้มน้องซ้ายขวา น้องอุ้มทำปากจู๋รอ เขาเลยหันหน้าไปให้ น้องหอมเสียฟอดใหญ่ “ฮื่อ..หอมเต้าหู้”

กนธีฟัดแก้มน้องสองคน เสียงเล็กๆหัวเราะคิกคัก ทำเอาห้องรับแขกที่เงียบงันมีชีวิตชีวาและสว่างไสวขึ้นมาทันที พสิษฐ์มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม

“คุณอา” น้องอุ้มหันไปหาอาไผ่ ชูสองแขนรอ “อุ้มหนูๆ”

อายุปูนนี้เพิ่งมีเด็กมาอ้อน พสิษฐ์ใจละลายจริงๆ

กนธีหัวเราะเมื่อเจ้าไผ่ยกน้องอุ้มขึ้นขี่คอ เขาหอมหัวเหม่งน้องอ้นแล้วเงยหน้ามองไปทางประตูห้องรับแขก หัวใจเต้นตึกเมื่อสบเข้ากับร่างสูงใหญ่

อินทัชตามเข้ามาทีหลัง เขาหยุดมองอีกฝ่ายนิ่งๆ

ดวงตาสองคู่ประสานตรง ถึงแม้ไม่มีคำพูด แต่ความรู้สึกนั้นก็ตรงกัน

..คิดถึงแทบขาดใจ..

กนธียิ้มให้ น้องเห็นแล้วก็ยิ้มรับเล็กน้อย เขาลุกขึ้นยืน อุ้มน้องอ้นมานั่งด้วยกันที่เบาะตอนที่สาวใช้เอาน้ำกับขนมมาเสิร์ฟให้

“พี่กุนต์..” เสียงทุ้มต่ำเรียกหา

เขารู้สึกเหมือนถูกจับตรึงเอาไว้..เพียงแค่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“โอ๊ต..” กนธีพึมพำ กอดน้องอ้นแน่นขึ้นอีก

พสิษฐ์เหลือบมองคนทั้งคู่ที่ยังรักษาท่าทีกันอยู่ เขาเลยออกปากชวนอ้นกับอุ้มไปกินขนมที่ซุ้มในสวน จะได้ไปดูเต่าญี่ปุ่นที่เพิ่งซื้อมาใหม่ในบ่อ

เด็กๆตื่นเต้นดีใจ จูงมือคุณอาไผ่คนละข้างแล้วกึ่งดึงกึ่งลากออกไปข้างนอก ทิ้งให้พี่กุนต์กับพี่โอ๊ตอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องรับแขก

อินทัชข่มใจให้สงบ หากว่าเป็นเมื่อก่อน เขาจะดึงกนธีเข้ามากอดจูบให้หายอยาก แต่ตอนนี้ เขามีเรื่องสำคัญที่จะมาทำ “พี่ครับ..” เขาเดินเข้าไปหา

กนธีนิ่งอึ้งเมื่อเด็กหนุ่มคุกเข่าลง ในมือมีพวงมาลัยมะลิหอม และใจเขาก็แทบหยุดเมื่อน้องก้มลงกราบที่เท้า “โอ๊ต!..” รีบดึงตัวน้องขึ้นมา

“พี่กุนต์ครับ” อินทัชยังนั่งอยู่กับพื้น “ผมมาขอขมาลาบวช..”

ชายหนุ่มรู้สึกถึงกระบอกตาที่ร้อนผ่าว มองสบดวงตาที่อ่อนโยนคู่นั้น

“กรรมใดที่ผมเคยล่วงเกินพี่ไว้..ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม” อินทัชยกมือขึ้นพนม “ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลัง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ขอให้พี่..ที่เป็นเหมือนพ่อ เหมือนพี่ เหมือนครอบครัวที่สองของผม..ได้โปรดอโหสิกรรมแก่ผมนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป..จนตราบเท่านิพพาน”

กนธีกลั้นน้ำตาของเขาไว้ มือหนึ่งรับดอกไม้มาจากน้อง

..ทุกสิ่งที่บาดหมาง ทำร้ายน้ำใจกันมา ถือว่าสิ้นสุดลงตรงนี้..

“พี่ให้อภัยและยกโทษให้ทุกอย่าง” เขาเอื้อมจับมือน้อง “ขออโหสิให้”

อินทัชก้มลงไหว้ หยดน้ำร้อนผ่าวร่วงหล่นจากหางตา

“มะรืนนี้ มีโกนผมนาคที่วัด” เขาบอกพิธี “ผมบวชร่วมกับคนอื่น ไม่ได้มีพิธีแห่อะไร มีแค่ญาติพี่น้องของนาคแล้วเข้าอุโบสถ..เลยอยากจะเชิญพี่ไป”

“พี่จะไป” กนธีให้คำสัญญา “ไผ่ก็คงจะไปด้วย”

“ขอบคุณครับ” อินทัชมองคนที่เขารักหมดหัวใจ ขอลุแก่โทษอยู่ในอก ที่ผ่านมา เขาทำร้ายพี่กุนต์ไม่รู้ต่อกี่ครั้งแต่คนคนนี้ก็ให้อภัยทุกอย่างเรื่อยมา

..จากนี้ไป เขาจะขอพยายามเพื่อกนธีเป็นการกลับคืน.. 

“ผมตั้งใจจะบวชตลอดช่วงปิดเทอม เลยจะขอรบกวนฝากอ้นกับอุ้มไว้กับพี่ด้วยน่ะครับ” เขาเลียบเคียง “แต่ถ้าไม่สะดวก ผมยังพอหาคนได้บ้าง”
   
“สะดวกสิ ให้มาอยู่กับพี่นี่แหละ คนกันเองแท้ๆ” กนธีรีบรับปาก “ตั้งใจทำตามที่หวังเถอะนะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล พี่อยู่ทางนี้จะดูแลอ้นกับอุ้มให้”
   
อินทัชไหว้ขอบคุณ ช่วงเวลาที่ตั้งใจจะบวช ต้องท่องคำสวด ต้องนั่งสมาธิให้ใจสงบ เขาเหมือนได้โอกาสในการลดอารมณ์ร้อนของตัวเองลงบ้าง
   
“ผมขอฝากน้องไว้ด้วยนะครับ”
   
“อืม..” กนธียิ้มให้ “พี่เองก็ขออนุโมทนาบุญกุศลที่จะได้จากการบวชในครั้งนี้ อยู่ที่นี่..พี่จะพาอ้นกับอุ้มไปทำบุญให้คุณยายบ่อยๆนะ”
   
อินทัชพยักหน้ารับ ไม่ต้องการถามว่าช่วงเวลาที่เขาตัดขาดไปจากทางโลก พี่กุนต์จะไปอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร จะมีใครเข้าหาบ้าง เขาอยากสงบใจเพื่อทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ แล้วหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน
 
เขามาที่นี่..แค่จะขอให้พี่กุนต์ยกโทษให้กับความโง่เขลาทั้งหมดที่เคยมี
   
..เมื่อได้ยินจากปากอีกครั้ง เท่านี้ก็วางใจได้ลง..
   
กนธีเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน การพูดยืนยันจากปากเหมือนได้ยกเรื่องที่หนักออก แม้ว่าอันที่จริง..เขาจะไม่ได้โกรธหรือถือโทษอินทัชมาตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม
   
หากให้สารภาพ การได้พูดคุยเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันทำให้เขาคลายความอึดอัดและความทุกข์ลง ทุกอย่างที่กักเก็บและกดดันไว้เลือนหาย เป็นเพราะว่าเราสองคนกำลังเรียนรู้ที่จะเปิดใจ และยอมถอยคนละก้าวให้กัน
   
เมื่อได้เจอหน้า..ถึงได้มีแต่รอยยิ้มและความยินดี
   
..อยากให้รับรู้เอาไว้ ว่าพี่คนนี้ มีแต่ความปรารถนาดีให้จากใจจริง..
   
หลังจากนี้ เรื่องเขากับน้องจะเป็นอย่างไร..ให้เวลาเป็นตัวตัดสินเอง




…………………………………………………….



ในงานอุปสมบท มีผู้คนมาเข้าร่วมไม่มากนัก ไม่ได้มีพิธีรีตอง การจัดเลี้ยง หรืองานแห่แหนอะไร ทุกอย่างดำเนินด้วยความเรียบง่ายและสงบ
   
กนธีกับพสิษฐ์เป็นญาติผู้ใหญ่เพียงสองคนของอินทัช มีอ้นกับอุ้มคอยตามไม่ห่างระหว่างที่ทั้งสองคนคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ
   
อินทัชนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ ในมือถือพานรองด้วยใบบัว กนธีเดินเข้าไปหา นัยน์ตาอ่อนโยนทอดมอง ความรู้สึกมากมายถั่งโถมเมื่อจับต้องเส้นผมสีดำสนิท
   
“พี่ขออนุโมทนาด้วยนะ” เขากระซิบ
   
ปอยผมที่ถูกตัด ร่วงหล่นลงในพาน หัวใจสงบเหมือนสายน้ำนิ่งเย็น

กนธีเป็นสุขเหมือนกับว่าอีกฝ่ายคือลูกหลาน เขาขยับถอยให้น้องชายได้ขลิบผมอีกคนหนึ่ง หลังจากนั้น พระพี่เลี้ยงก็เข้ามาโกนผมนาคจนกระทั่งเสร็จสิ้น เด็กหนุ่มก้มลงกราบพี่ทั้งสองคนในฐานะของผู้มีพระคุณ

กนธีร้อนผ่าวในดวงตา เขาส่งดอกบัวให้ เพราะว่าน้องไม่มีพ่อกับแม่ เขาและพสิษฐ์เลยทำหน้าที่สะพายบาตร ถือตาลปัตร และถือพานแว่นฟ้าใส่ผ้าไตร อ้นกับอุ้มช่วยถือธูปเทียนแพตามหลังนาคที่เวียนประทักษิณรอบอุโบสถ

พ่อแม่ทุกคนเข้าไปส่งนาคด้านใน กนธีเป็นผู้ยื่นผ้าไตรให้น้อง ร่างสูงก้มลงกราบแล้วคลานเข่าไปหาพระอุปัชฌาย์ท่ามกลางรอยยิ้มยินดี

กนธีกลั้นความรู้สึกอิ่มเอมภายในที่ท่วมท้น คนที่เขารักและดูแลด้วยใจอยู่ตรงหน้า น้องพนมมือ วางผ้าไตรไว้บนแขน กล่าวคำขออุปสมบทพร้อมคนอื่น  ร่างสูงโน้มตัวลงเมื่อพระผู้ใหญ่ท่านคล้องผ้าอังสะให้

อินทัชเข้าไปครองผ้าไตรจีวรด้านหลังก่อนจะกลับออกมา จบคำขอสรณะและศีลสิบ กนธีประเคนบาตร แต่ท่านหลุบตาลงต่ำ ไม่ได้มองหน้า

พระอุปัชฌาย์บอกอนุศาสน์กับภิกษุใหม่ เสียงสวดคำบาลีดังก้องในอุโบสถ พระท่านรับคำ ‘อามะ ภันเต’ ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

อ้นกับอุ้มนั่งมอง เด็กๆพนมมือเมื่อได้ยินพระสวด กนธีรวบตัวน้องมากอดแนบอกแล้วจูบศีรษะคนละครั้ง รู้สึกเต็มตื้นในใจจนพูดไม่ออกเมื่อมองพระถวายเครื่องไทยธรรมและกรวดน้ำ สายน้ำใสสะอาดหลั่งรินลงในถ้วยรอง เป็นการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบิดามารดา และยายผู้ล่วงลับ

พสิษฐ์ตบบ่าของเขา กนธีหันไปยิ้มกับน้องชาย

เขาขอให้น้องได้ทำตามความตั้งใจ ได้ดำเนินตามสิ่งที่หวัง ขอให้หัวใจดวงนั้นมีแต่ความสงบ ได้ทำหน้าที่หลานที่ดีส่งกุศลให้คุณยายในสัมปรายภพ

ส่วนตัวเขา..จะขออยู่ในที่ของตนด้วยความรู้สึกที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ชายหนุ่มหันมองพระครั้งสุดท้ายแล้วก้มลงบอกน้องน้อยสองคน

“กลับบ้านของเรากันนะครับ”



…………………………………………………….



เสียงหัวเราะร่าเริงดังมาจากในห้องรับแขก ม่านที่ปิดทึบมาตลอดช่วงหลายวันถูกเปิดกว้างรับแสงแดดตอนบ่าย ต้นไม้ที่ใบเหี่ยวเฉาในสวนด้านนอกถูกดูแลรักษารดน้ำพรวนดินจนมันกลับมาชูช่อตามเดิม กระทั่งความเงียบเหงาของแต่ละวันก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงพูดคุย เกิดความวุ่นวายโกลาหลน้อยๆตามประสา

..แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข..

กนธีใช้เวลาไปกับการว่ายน้ำเล่นในสระกับน้องๆ นอนแพยางรูปเป็ดที่ถูกรื้อมาใช้ใหม่ เล่นเรือบังคับจนน้ำกระเด็นใส่พวกสี่ถั่ว ช่วยกันปลูกต้นไม้ริมรั้ว เด็ดมะนาวหลังบ้านมาให้ป้าแม่ครัวไว้ดอง แล้วก็จัดแจงหาหมัดให้บรรดาแมวๆ

เมื่อตกบ่าย เขาจะชวนอ้นกับอุ้มมาวาดรูประบายสี สมุดเพ้นท์ที่ใช้ไปได้ไม่กี่หน้าถูกเอากลับมาระบายอีกครั้ง เด็กๆผลัดกันวาดรูปเขากับพี่โอ๊ตในท่าทางต่างๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นภาพไหน จะมีพวกเขาจูงมือกันสี่คนเสมอ

กนธีนั่งขัดสมาธิกับพื้นพรม เท้าหัวมองน้องอุ้มเล่านิทานไปเรื่อย เขายิ้มมุมปาก ความอุ่นซ่านแผ่ขยายขึ้นในใจและครอบคลุมมันไว้ทั้งดวง

..บ้านจะสมบูรณ์..ก็ต่อเมื่อมีครอบครัว..

ป้าแม่บ้านเอาพายลูกตาลที่เพิ่งทำเสร็จกับชาเขียวเย็นมาให้เด็กๆ มีกาแฟตอนบ่ายของคุณกุนต์อีกอย่าง พอแกเห็นเจ้านายกึ่งนั่งกึ่งนอน มีน้องสองคนเข้ามาเล่น มาออดอ้อน สร้างรอยยิ้มให้ แกก็ยิ้มตามไปด้วย

“พอน้องๆมา คุณกุนต์ดูสดชื่นจริงๆค่ะ” แกวางถาดอาหารลง

กนธีเลิกคิ้ว “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยหรือครับ”

“เรียกว่าพลิกฝ่ามือเลยดีกว่าค่ะ” แกพูดให้ฟังก่อนจะเดินไป “ป้าดีใจนะคะที่คุณเลิกหมกตัวนิ่งๆสักที ที่ผ่านมาถึงจะไม่นาน แต่ป้าก็ไม่สบายใจเลย”

ชายหนุ่มยิ้มบาง หันไปกินพายที่น้องอ้นตักมาป้อน ส่วนน้องอุ้มก็ไม่ยอมน้อยหน้า ยกถ้วยกาแฟมาให้พี่กุนต์บ้าง แต่ก่อนจะเสิร์ฟ น้องแอบชิมไปนิด

“ขมอ่ะ” อุ้มสั่นหัวบรื๋อ ทำท่าขนลุกเหมือนตัวบุ้งถูกเขี่ย

กนธีหัวเราะชอบใจ “เดี๋ยวก็ตาค้างหรอกลูก”

“น้องอุ้มห้ามกินก่อนผู้ใหญ่นะ ไม่งั้นจะฟ้องพี่โอ๊ตเลย” พี่อ้นสอน

“หนูขอโทษฮะ” น้องทำปากยู่ “พี่กุนต์กินๆ”

กนธีอมยิ้ม ก้มลงดื่มกาแฟที่น้องถือมาให้ รสชาติถึงจะติดขมที่ปลายลิ้นอย่างที่น้องว่า แต่เขากลับรู้สึกถึงรสหวานที่ชวนให้ชื่นใจ

..เหมือนชีวิตกลับมามีความหมายอีกครั้ง..

“พี่กุนต์มีความสุขไหมที่พวกอ้นมาหา” อ้นเอาคางวางเกยบ่าลาด

“แน่นอนอยู่แล้วครับ” เขาหันไปจูบหน้าผากน้อง รวบตัวสองคนมานั่งบนตัก “มีความสุขสุดๆ..ไม่เจอกันอาทิตย์เดียว พี่เหมือนต้นไม้เหี่ยวเลย”

น้องอุ้มหัวเราะ “เดี๋ยวหนูรดน้ำให้นะฮะ”

“รดยังไงล่ะลูก เดี๋ยวพี่เปียกหมด” กนธีขบขัน

“รดแบบนี้ๆ” น้องเอาปากนิ่มๆมาจุ๊บซ้ายจุ๊บขวา จุ๊บแก้ม จุ๊บจมูก จุ๊บไหล่ จุ๊บแขน เรียกเสียงหัวเราะจากพี่กุนต์ได้น่าดู “สดชื่นไหมฮะ~”

กนธีมันเขี้ยวจนต้องจับมาฟัดแก้ม “ถ้ากลืนได้พี่จับกลืนลงท้องแล้ว”

“พี่กุนต์มีความสุข พี่กุนต์ก็อยู่กับพวกอ้นนานๆน้า” อ้นขอ

“ใช่ๆ หนูจะเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน” อุ้มรับรอง “จะกินผักทุกวันด้วย”

กนธีหัวเราะแผ่ว “โธ่..ลูกชาย ถึงกับยอมกินผักเลย” แม้แต่น้องที่ยังเด็กขนาดนี้ ยังรู้จักปรับปรุงสิ่งที่ตัวเองเป็นเพื่อใช้ชีวิตด้วยกัน

..แล้วเขาล่ะ..ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงบ้างหรือยัง..

“ถ้าหนูไม่กินผัก พี่กุนต์จะยังรักหนูไหม” อุ้มถาม

“ความรักของพี่มันยิ่งใหญ่กว่าผักไม่กี่ต้นแน่นอน” เขาให้ความมั่นใจ

อ้นตั้งใจฟัง เด็กชายเอียงคอถามอย่างสงสัย “แล้วถ้าวันหนึ่ง อ้นดื้อ อ้นซน อ้นเกเร อ้นทำให้พี่กุนต์ผิดหวัง พี่กุนต์จะยกโทษ จะยังรักอ้นไหมครับ”

กนธีนิ่งอึ้ง ไม่คิดว่าน้องจะถามแบบนี้ “อะไรทำให้หนูกลัวลูก..”

“ก็วันก่อน พี่โอ๊ตบอกว่าจะพาพวกเรามาอยู่กับพี่กุนต์ชั่วคราว อ้นก็งง อ้นเลยถามว่า ทำไมแค่ชั่วคราวล่ะ พี่โอ๊ตบอกว่า พี่โอ๊ตดื้อ ทำตัวไม่ดีให้พี่กุนต์เสียใจ ก็เลยจะแยกกันอยู่คนละบ้านไปก่อน..จนกว่าพี่กุนต์จะยกโทษ”

หัวใจคนฟังกระตุกวูบ เรื่องของพวกเขาสองคนกระทบใจน้องๆมาก

“น้องอุ้มร้องไห้เลย แต่อ้นปลอบน้องอุ้มว่าเดี๋ยวพี่กุนต์ก็ใจอ่อน”

“พี่..” เขาอ้ำอึ้ง ค่อยๆถาม “พวกหนูโกรธพี่ไหมลูกที่ทำแบบนี้”

“ม่ายโกรธ” อ้นส่ายหัว “ก็พี่โอ๊ตชอบดื้ออ่ะ จะตีบ้างก็ได้นะครับ”

กนธียิ้มออกมาได้ ไม่รู้จะเศร้าหรือจะขำดี

“แต่อ้นก็สงสัยนะ ถ้าอ้นทำให้พี่กุนต์เสียใจ พี่กุนต์จะยังรักอ้นไหม”

ชายหนุ่มรวบตัวน้องๆมากอดแน่น “รักสิลูก..ทำไมจะไม่รักล่ะ”

“แล้วถ้าพี่กุนต์โกรธอ้น พี่กุนต์จะแยกบ้านกับอ้นไหมครับ”

“โธ่” เขาลูบผมนุ่ม “ฟังดีๆนะลูกนะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น พวกหนู..เป็นครอบครัว เป็นหัวใจของพี่เสมอ” เขากระซิบ “หนูๆอยู่กับพี่ หนูเป็นตัวของตัวเอง อะไรที่มันไม่โอเค พี่ก็จะบอก เราค่อยๆมาเรียนรู้ มาปรับปรุงตัวเข้าหากันดีไหมครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้พี่เสียใจจนต้องอยู่กับความอึดอัดนะ”

“หนูไม่อยากให้พี่กุนต์เสียใจนี่นา” น้องอุ้มกอดอีกฝ่ายแน่น “พี่อ้นก็ไม่อยากให้พี่กุนต์เสียใจ พี่โอ๊ตก็ด้วย..พี่โอ๊ตเสียใจที่ทำให้พี่กุนต์เสียใจ”

กนธียิ้มจาง เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ลูบหัวน้องๆที่เข้ามาซบอก

..นั่นสิ..ไม่มีใครอยากทำให้ใครเสียใจทั้งนั้น..

“จะว่าไปแล้ว..พวกเราควบคุมไม่ได้ทุกอย่างหรอกครับ” เขาก้มลงดูเด็กน้อยในอ้อมกอด “ลิ้นกับฟัน..อยู่ใกล้กัน มันก็คงมีเจ็บบ้างเป็นธรรมดา”

ไม่แปลกอะไรที่การใช้ชีวิตร่วมกันจะมีเรื่องกระทบกระทั่งบาดหมาง พี่น้องอาจทะเลาะกัน คู่รักอาจทำร้ายจิตใจกัน เป็นเรื่องปกติทั่วไป สิ่งสำคัญคือการรู้จักผ่อนปรน อดทน ให้อภัยซึ่งกันและกันในขอบเขตที่ยอมรับได้ต่างหาก

“พี่กุนต์จะยกโทษให้พี่โอ๊ตเมื่อไรครับ” น้องอ้นถาม

“พี่ไม่ได้โกรธพี่โอ๊ตครับ เราแค่มีเรื่องไม่เข้าใจกันนิดหน่อยเท่านั้น”

“งั้นก็เข้าใจกันเร็วๆน้า อ้นไม่อยากให้ห่างกันนาน”

กนธียิ้มรับ ขยี้หัวเด็กน้อยที่แสดงให้รู้ว่าอยู่ข้างเขาเต็มที่

“หนูมีความลับจะเล่า” น้องอุ้มกระซิบ “ก่อนจะบวช พี่โอ๊ตมาบอกหนู”

ชายหนุ่มยิ้มขัน “อะไรครับ..สปายตัวน้อย”

“พี่โอ๊ตบอกว่า ดูแลพี่กุนต์ด้วย” น้องยิ้มตาปิด “ถ้ามีใครที่หล่อน้อยกว่าพี่โอ๊ตมาวุ่นวาย ให้หนูกับพี่อ้นตะโกนว่า พ่อกุนต์ครับ! แม่รอกินข้าวอยู่ที่บ้าน”

คนฟังแทบจะสำลัก เขาหัวเราะตัวโยน

..จะบวชก็ยังนิสัยไม่ดี สอนให้น้องโกหกได้ยังไง..

“พี่โอ๊ตบอกว่าคนที่จะมาแย่งพี่กุนต์จะได้คิดว่าอ้นกับน้องอุ้มเป็นลูก”

“แล้วก็หนีไปเอง” น้องอุ้มสมทบ

“เจ้าเล่ห์นัก” กนธีหัวเราะ

“พี่กุนต์อนุญาตให้อ้นกับน้องอุ้มตะโกนแบบนั้นไหมครับ”

“ไม่ต้องตะโกนหรอกครับ เพราะถ้ามีใครเข้ามาหาพี่จริงๆ..” เขายิ้ม “พี่จะบอกเองว่าชีวิตพี่มีลูกที่น่ารัก..กับภรรยาเจ้าเล่ห์อยู่แล้วทั้งคน” 

..ไม่ว่าใครก็หมดสิทธิ์ทุกกรณี..ไม่ให้ไปต่อได้แน่นอน..

“เย้ๆ” น้องๆชูสองมือเพราะภารกิจกล่อมพี่กุนต์ลุล่วงไปได้ด้วยดี
   
“เอาล่ะ..ลูกรักทั้งหลาย” กนธีบิดจมูกเชิดรั้น “วันนี้เราต้องกินข้าวเย็นด้วยกันเร็วหน่อยนะครับ คุณพ่อสุดหล่อมีงานเลี้ยงตอนทุ่มครึ่ง”
   
“หนูอยากกินไข่เจียว~”
   
“อ้นอยากกินไข่ต้ม~”
   
“โอเคๆ” เขาหัวเราะ ลุกตามแรงดึงของเด็ก “วันนี้พี่จะโชว์ฝีมือเอง เฮ้!”


.

.

.



[ต่อด้านล่าง]





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 17:34:48 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4065 เมื่อ02-10-2017 17:29:54 »


.

.

.


กว่าคุณพ่อจำเป็นจะออกจากบ้านแล้วมางานแต่งที่แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณได้ก็เกือบจะสองทุ่ม เขาใส่ซอง เขียนอวยพรบ่าวสาว แล้วจิ๊กของชำร่วยมาสองอัน
   
อันนี้ของอ้น อันนี้ของอุ้ม คิดในใจพลางเอาโมบายกระเบื้องหย่อนลงกระเป๋าเสื้อสูท ระวังไม่ให้เดินชนโต๊ะเข้าจนทำมันแตกละเอียดไปก่อน
   
กนธีแอบดื่มไวน์ แต่เขารู้ตัวว่าควรจะดื่มแค่ไหนไม่ให้เมาเพราะยังต้องขับรถกลับบ้าน จะทำอะไรต้องระวัง ชีวิตเขาไม่ใช่ตัวคนเดียวเสียหน่อย
   
คนในงานเดินสวนกันไปมา จับกลุ่มคุย ทักทาย พูดเรื่องธุรกิจปลีกย่อย เขาทักอยู่ห้าหกคนที่พอจะจำหน้าค่าตาได้แล้วก็วนอยู่แถวโต๊ะซูชิ กินเข้าไปสักสองสามคำ ดื่มน้ำส้มไปแก้วหนึ่ง จากนั้นก็ละเลียดขนมหวานหน้าตาประหลาด

เขาไม่อยากวุ่นวายสุงสิงกับใคร โชคดีที่เป็นงานเลี้ยงค็อกเทล เขาจะได้ไม่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับคนอื่นด้วยคร้านจะเข้างานสังคมเต็มที 
   
บ่าวสาวขึ้นมาบนเวที ไฟรอบด้านดับลง มีเสียงปรบมือ วีดีโอพรีเซนต์ความรักของคนสองคนถูกฉายขึ้น เขายืนมอง อมยิ้มไปกับเรื่องราวทั้งหมด
   
..ขึ้นชื่อว่ารัก..มันก็งดงามเสมอ..

ชายหนุ่มดูอย่างตั้งใจ เขาชอบงานแต่งงานเพราะมันสัมผัสได้ถึงความรักที่อบอวล ที่ผ่านมาเขาไปงานแต่งมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เคยถูกถามก็มากว่าเมื่อไรจะมีภรรยาบ้างแต่ก็ได้แค่ยิ้มรับ รู้ดีว่าไม่มีทางมีวันนี้เหมือนคนอื่นได้
   
เขาชอบผู้ชายด้วยกัน เคยทำใจยอมรับแล้วว่ายากที่จะหาใครมาร่วมชีวิตเป็นครอบครัว แต่เขาก็ได้เจอกับศรัณย์..คนที่ทำให้เขารู้จักรักครั้งแรก
   
ถึงแม้ว่าเรื่องในอดีตจะไม่ได้เต็มไปด้วยความสุข แต่ความทุกข์ที่แทรกอยู่ในเรื่องราวพวกนั้นก็ทำให้ความทรงจำเป็นสิ่งสวยงามไม่ใช่หรือ
   
เมื่อความรักครั้งนั้นจบลง เขาไม่หวังว่าจะได้รักใครอีกหน กระทั่งได้เจอและใช้ชีวิตกับอินทัช มันทำให้ความสุขในชีวิตกลับมา 
   
มีคนบอกว่าความรักในเพศเดียวกัน หาความจริงใจและมั่นคงได้ยาก หากถ้าจะให้พูดค้าน เขาก็ต้องบอกว่ามันมีอยู่ แต่ใครเล่าจะโชคดีหาจนเจอ
   
ที่จริงเขาเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้มีรักถึงสองครั้งสองหน เพียงแต่ว่าจะได้สานต่อกันไปจนถึงตอนจบหรือไม่ ขึ้นกับว่าเขาพร้อมจะเดินต่อตอนไหน

ถ้ามันจะไปต่อไม่ได้ ถ้าทุกอย่างจะต้องจบลง

..นั่นก็เพราะการตัดสินใจของเขาทั้งนั้น..ไม่ใช่เพราะใคร..
   
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าคู่นี้จะได้มีวันนี้กัน” เสียงแขกสองคนพูดคุยดังมา
   
กนธีเลิกคิ้ว ไม่ได้จะฟังหรอก แต่มืดอย่างนี้ เขาไม่อยากเดินไปไหน
   
“ก่อนหน้านี้น่ะเลิกกันไปหน พอห่างไป ฝ่ายชายคบแฟนเก่า ฝ่ายหญิงก็คบคนใหม่ จบกับคนใหม่ อยู่โสดๆกันสองปีถึงกลับมา นึกว่าเลิกถาวรซะแล้ว”
   
“คนเราเคยรักกันก็คงตัดไม่ขาด มันต้องมีเยื่อใยบ้าง” อีกฝ่ายพูด
   
“ที่จริงก็ทะเลาะกันบ่อยนะ ได้ยินเจ้าบ่าวเล่า เล็กๆน้อยๆก็ทะเลาะกัน ไม่รู้ว่าสามวันดีสี่วันไข้แบบนี้จะทุกข์หรือจะสุขมากกว่า”
   
“คู่รักก็แบบนี้แหละน่า รักกันบ้างตีกันบ้าง มีสีสันจะตาย”
   
พวกเธอหัวเราะคิกคัก พูดคุยกันต่ออย่างออกรส กนธีก็ได้แต่ยืนเฉย
   
เมื่อไฟเปิดขึ้นอีกครั้ง สองหนุ่มสาวก็ถูกพิธีกรสัมภาษณ์ กนธีเริ่มเดินหาของกินอีกครั้ง เขากำลังหยิบแซลมอนรมควันใส่จานตอนที่เจ้าบ่าวพูด
   
“ผมเองเป็นคนใจร้อน บางครั้งก็ชอบปากไม่ดี ไม่ค่อยฟังใคร มักจะเอาความคิดตัวเองเป็นหลัก ก็หวังว่าน้องเขาจะอดทนและให้อภัยเวลาผมทำตัวแย่”
   
“ฉันเองก็มีส่วนไม่ดีหลายอย่าง ทั้งขี้งอน ชอบงอแงให้พี่เขามาง้อ แต่หลังจากนี้สัญญาว่าจะทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น..เราจะสร้างครอบครัวไปด้วยกัน”
   
เจ้าบ่าวหันมายิ้มให้ “เราจะเดินไปด้วยกัน อยู่เคียงข้างกัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ เราจะไม่ปล่อยมือไปจากกัน เพราะช่วงที่ห่างไป พวกเรารู้ดีแล้วว่ามันเหงาแค่ไหนที่ไม่มีอีกฝ่าย..ผมไม่อยากตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอเธออีกแล้ว”
   
เจ้าสาวถึงกับร้องไห้ เจ้าบ่าวเลยดึงเธอเข้ามากอด เช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ในฮอลล์มีเสียงปรบมือดังลั่น กนธีหลุดยิ้มตามกับภาพอบอุ่นตรงหน้า

คนเราหากเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กันเป็นครอบครัวก็ต้องยอมรับการมีอยู่ของความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะด้านบวกหรือด้านลบ แต่ถ้ายืนยันไม่ให้ใครเข้ามาแตะต้องความรู้สึกแม้เพียงปลายเล็บก็ต้องแลกด้วยการใช้ชีวิตตามลำพัง

การอยู่คนเดียว..ย่อมไม่มีใครเข้ามาทำให้เสียใจ

แต่ก็ต้องรับมือกับความเหงาเศร้าซึม เมื่อหันไปข้างกายแล้วไร้ผู้คน

..เลือกเอาเอง..

กนธียืนกอดอกนิ่ง มองแขกเหรื่อในพิธีแต่งงานพูดคุยกัน ระหว่างที่ยกนาฬิกาขึ้นดู คิดว่าจะแอบกลับก่อน ใครคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นด้านข้าง

เขาหันไปมอง เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดสูทเดินมาหา ใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านแสดงความดีใจที่ได้เจอ

“พี่กุนต์จริงๆด้วย” อีกฝ่ายยกมือไหว้ “ผมมองอยู่ตั้งนาน”

กนธีนึกอยู่ครู่ “ซัน..” เขาลืมไปชั่วขณะ ไม่ได้เจอกันสักสองปีได้แล้ว ก็เขาอยู่กับโอ๊ตมาเป็นปี อยู่กับไววิทย์อีกแปดเดือน แล้วยังช่วงที่ตัวคนเดียวอีก

..เจ้านี่น่ะ..เด็กคนที่สามของเขาเองนั่นแหละ..

“ดีใจที่พี่ยังจำผมได้นะครับ” ซันยิ้มตาหยี เห็นรอยบุ๋มข้างแก้ม

กนธีมองนิ่ง นึกขึ้นได้ว่าอินทัชก็มีลักยิ้มอยู่เหมือนกัน

“พี่กุนต์สบายดีหรือเปล่าครับ แล้วมากับใคร”

“พี่มาคนเดียว” เขาตอบ “เราล่ะ” หันไปมองด้านหลัง เห็นชายวัยห้าสิบเจ้าของร้านเพชรในแวดวงไฮโซที่แสดงออกถึงรสนิยมทางเพศของตนชัดเจนหันมองมาทางพวกเขาบ่อยๆ แค่นี้ก็พอจะเดาอะไรได้แล้ว

ซันเหลือบไปมองด้านหลัง ลอบถอนหายใจ “ผมมากับเขาครับ”

กนธีพยักหน้ารับรู้ “ถ้างั้นก็ไปเถอะ เขาจะคอย”

เด็กหนุ่มทำตาเศร้า “ไม่ได้เจอพี่นานแล้ว ผมอยากคุยให้หายคิดถึง”

คนฟังหัวเราะแผ่วเบา การอยู่ตรงนี้นานๆ เขาจะสร้างศัตรูเสียเปล่า

“วันนี้คงไม่ค่อยสะดวก เอาเป็นว่า..เรานัดเจอกันวันหลังได้ไหมครับ”

กนธีเลิกคิ้ว ยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ “ในฐานะอะไรล่ะ”

ซันก้มหน้า ลูบท้ายทอยแสดงอาการเก้อเขิน “ก็..คนคุ้นเคยกัน”

“เรื่องเก่าๆมันก็เป็นแค่อดีต นัดเจอกันที่อื่น เราจะผิดใจกับคนใหม่”

คนอายุน้อยกว่าเงยหน้ามอง ขยับเข้าหาฝ่ายที่ยังยืนเฉยอยู่กับที่มากขึ้น คุณกนธีดูไม่หวั่นไหวไปกับตัวเขาเลย ทั้งที่เคยเอ็นดูกันมากแท้ๆ

“พี่ยังโกรธผมหรือเปล่า”

“ไม่ได้โกรธสักหน่อย” กนธีระบายยิ้มบาง “เท่าที่เคยรู้จักกันมา ซันเคยเห็นพี่โกรธหรือเปล่า..ไม่มีสักครั้งใช่ไหม”

“ให้พี่โกรธแล้วด่าผม ยังดีกว่าพี่นิ่งๆเงียบๆแล้วตัดผมทิ้งไปเลย”

ชายหนุ่มนิ่งอยู่ครู่ก็หัวเราะแผ่ว “พี่นี่มัน..นิสัยเสียสม่ำเสมอจริงๆ”

“ไม่หรอกครับ พี่กุนต์น่ะไม่ได้นิสัยเสียอะไร พี่กุนต์เป็นคนดีมากสำหรับผม พี่รู้อะไรไหม..ผมคิดถึงพี่ คิดถึงความใจดีของพี่มาตลอด”

“อืม..” กนธีฟังเงียบๆ

“ตลอดเวลาที่อยู่กับพี่ พี่ทำให้ผมมีความสุขมาก”

“จริงหรือ” เขาหลุบตามองมือที่เอื้อมแตะปลายนิ้วเขา

“ผมขอโทษนะครับที่ทำไม่ดี หลงคบซ้อน ทำลายความเชื่อใจของพี่”

กนธีไม่โต้ตอบ เขากำลังคิดว่าจะโดนพ่อค้าเครื่องเพชรทุบหัวตอนไหน

“ไม่ต้องขอโทษหรอก..พี่ไม่ได้โกรธอะไร เรื่องมันแล้วไปแล้ว” เขาค่อยๆดึงมือของเด็กออก เจ้านั่นทำท่าทางเหมือนลูกหมาน้อยที่ถูกทิ้ง

เพราะแบบนี้แหละ..แต่ก่อนเขาถึงตกหลุมเด็กเข้าเต็มเปา

“ผมก็แค่คิดถึงเรื่องดีๆที่เราเคยทำร่วมกัน” ซันพึมพำ ลดมือลงข้างตัว “วันนี้โชคดีได้เจอ..ผมอยากขอบคุณที่พี่เคยเลี้ยงดูผมมา ขอบคุณที่ให้เกียรติ ให้ความเอ็นดู ปฏิบัติกับผมอย่างสุภาพ ไม่เคยมีท่าทีดูถูกผมเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เหมือนคนอื่นอีกหลายคน..รุนแรงกับผม ทำเหมือนเป็นวัตถุ ไม่ใช่คน..”

กนธีมีสีหน้าอ่อนลง รู้สึกเห็นใจ แต่เขาเป็นแค่คนนอกไปแล้ว

..จะไม่ใจดีพร่ำเพรื่อกับใครอีก..

“ซัน” เขาเรียกเสียงนุ่ม ถ้าเป็นแต่ก่อนที่อยู่ด้วยกัน เวลาน้องดูเศร้า เขาจะดึงตัวมาซบอก จูบปลอบบนหน้าผากให้หายกังวล

แต่ตอนนี้ เขาทำแค่วางมือลงบนบ่า บีบกระชับให้กำลังใจ

“ถ้าทำได้..เลิกเป็นเด็กเลี้ยงแบบนี้เถอะนะ”

ดวงตาสีเข้มดูสั่นไหว “แล้วผมจะได้เงินมาด้วยวิธีไหนล่ะครับ” 

“ลองยืนด้วยตัวเองดีไหม..พี่รู้ว่ามันอาจลำบากช่วงแรก แต่หลังจากนั้น พี่ว่าซันน่าจะภูมิใจกับตัวเองมากขึ้น” กนธีนิ่งคิดอยู่พักก็พูด “มีเด็กคนหนึ่งที่พี่รู้จักดี เขาแบกรับภาระมากกว่าซัน แต่พยายามพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง ทั้งที่จะใช้ทางลัดก็ได้ แต่เขาเลี่ยงมัน” เลี่ยงจนสุดวิสัย เลี่ยงจนเกินตัว

อินทัชไม่ต่างจากศรัณย์ น้องหลีกหนีการเอาตัวแลกเงิน กระทั่งหนทางตันถึงได้ยอมรับข้อเสนอ ส่วนเขาเองก็เคยชินกับการใช้เงินแก้ปัญหา จนลืมไปว่าสำหรับโอ๊ต เงินที่เขาให้ มันไม่ใช่ทุกอย่าง และไม่ใช่คำตอบของความสัมพันธ์

เงินอาจทำให้ชีวิตราบรื่น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันไม่อาจใช้ซื้อได้ทุกอย่าง

..ความภาคภูมิใจ ความรู้สึกมีคุณค่า ความจริงใจ และ..ความรัก..

ตอนน้องอยู่กับเขา คงอดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ มานึกดูแล้ว เขามันก็คิดน้อยและขาดความใส่ใจไปกับเรื่องใหญ่แบบนี้จริงๆ

“พี่กุนต์..” ซันเรียกคนที่เงียบไป

“ขอโทษ” กนธีหันมอง สายตาอ่อนโยน “พี่แค่จะบอกว่า..ซันพยายามหน่อยนะ กล้าที่จะก้าวออกมาแล้วหางานอื่นทำ เรายังเด็ก มีโอกาสอีกมาก”

“พี่คิดว่าผมจะไปรอดได้หรือครับ”

“ซันเป็นคนเก่งนี่นา” เขายิ้มให้ “ลองเก็บไปคิดดูนะ”

“แล้วพี่กุนต์ล่ะ..” ซันถาม “ยังอุปการะเด็กอย่างพวกผมอยู่ไหม”

กนธีฟังเด็กมันย้อนถาม มันต้องสงสัยอยู่แล้ว เพราะเขาที่เป็นคนบอกให้เลิก ก็ไม่ได้ดีกว่าสักเท่าไร ในเมื่อคนเสนอเงินคือคนเริ่มวงจรพวกนี้เอง 

“ในเมื่อพี่ไม่เลิกให้สักที แล้ววันไหนพี่ถึงจะรู้..ว่าใครรักพี่จากหัวใจ”

เขาหัวเราะแผ่วเบากับคำต่อว่าที่จำได้ดีนั่นก่อนจะคลี่ยิ้มนุ่มนวล

..นับจากนี้ไป จะไม่มีการแลกเปลี่ยนด้วยเงินอีก..

“พี่เองก็จะหยุดไว้แค่นี้เหมือนกัน..”

..อินทัชคือเด็กในความดูแลคนสุดท้ายของเขา..









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 17:36:32 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4066 เมื่อ02-10-2017 18:31:21 »

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ o4u0n7

  • mgAmuptUF
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
    • secret ladies online
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4067 เมื่อ02-10-2017 18:31:34 »

 :hao5: ยินดีกับพี่กุนต์ด้วยที่เริ่มเข้าใจกับสิ่งที่โอ๊ตกำลังจะสื่อ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4068 เมื่อ02-10-2017 18:33:14 »

 :katai2-1: o13 :katai2-1:

 :L1: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ torto

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4069 เมื่อ02-10-2017 19:04:07 »

คนเรามันต้องคิดได้เองใช่ไหม เรื่องมันถึงจะจบ :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
« ตอบ #4069 เมื่อ: 02-10-2017 19:04:07 »





ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4070 เมื่อ02-10-2017 19:11:48 »

  :ling2: :ling2: :ling2:

อ่านได้ครึ่งเดียวเนื้อเรื่องหายไม่รุเปงรัย

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4071 เมื่อ02-10-2017 19:12:56 »

 :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4072 เมื่อ02-10-2017 19:57:15 »

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4073 เมื่อ02-10-2017 20:08:16 »

น้ำตาเราหยดแหมะๆเลย ตอนพี่โอ๊ตขอลาบวชพี่กุนต์และก็ตอนอยู่ในงานบวชด้วย มันซึ้งใจ ตื้นตันใจจริงๆ // นี่ฉันต้องเสียน้ำตาให้เรื่องนี้อีกกี่รอบกันนะ ~~  :m15:

น้องอ้น น้องอุ้ม นี่มันคิวปิดน้อยที่แท้ทรู หนูน่ารักกันมากกกกเลยลูกกก งือออออ  เอ็นดูกับความเป็นเด็กดีและความช่างอ้อนของทั้งคู่มากเลยไม่ต่างจากที่พี่กุนต์กับลุงไผ่หลงเลยเนอะ  :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4074 เมื่อ02-10-2017 20:24:18 »

พอถอยกันคนละก้าว มองอะไรได้ชัดขึ้น อะไร ๆ มันก็ดีขึ้นนะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4075 เมื่อ02-10-2017 20:40:22 »

ว้าว ว้าว ว้าว วันนี้พี่กุนต์โดนหลายดอก

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4076 เมื่อ02-10-2017 21:45:14 »

รักเรื่องนี้ รักแนวคิดของแต่ละคน  :mew1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4077 เมื่อ02-10-2017 22:05:00 »

ต่างคนต่างคิดได้แล้วก็จะเจอสิ่งที่ใจต้องการจริงๆ เอง แต่เราต้องการฟัดน้องอ้นกับน้องอุ้มมากๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4078 เมื่อ02-10-2017 22:11:17 »

ทุกอย่างกำลังกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถอยมาตั้งหลักกัน เอาใจช่วยทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.57] pg.136 -- 2/10/60
«ตอบ #4079 เมื่อ02-10-2017 22:13:38 »

ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นแล้วใช่มั้ย ท่าทางพี่กุนต์จะตัดสินใจได้แล้วว่าจะเอายังไง โอ๊ตสึกออกมานี่ซีนหวานๆมาเต็มแน่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด