Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Sins : Greed -- [SP.1 : Wedding Night] pg.146 -- 13/4/61  (อ่าน 1346493 ครั้ง)

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139 -- 5/11/60
«ตอบ #4170 เมื่อ05-11-2017 16:06:02 »





Chapter 62





บีเอ็มคันโปรดค่อยๆถอยเข้ามาจอดข้างอพาร์ทเมนท์ ยักแย่ยักยันอยู่ครู่ใหญ่เพราะพื้นที่คับแคบ ดีที่ว่ามีลูกคู่เป็นเสียงเจื้อยแจ้วคอยบอกหันซ้ายหันขวา
   
“ซ้ายฮะพี่กุนต์ ซ้ายเลย ซ้ายๆๆ” น้องอุ้มชูมือไปมา   
   
“ไอ้อุ้ม..” อินทัชหันมามองน้องที่ชะโงกดูท้ายรถให้จนคอยาวอยู่ตรงเบาะหลัง เขาเหนื่อยใจสุดๆ “ไหนยกมือซ้ายให้พี่ดูหน่อยว่าข้างไหน”
   
เด็กน้อยยกมือขวาทันที “เย้”
   
กนธีหัวเราะชอบใจ ขอบคุณน้องที่ช่วยบอกทางแม้เจ้าตัวดีจะพูดสลับซ้ายสลับขวาเสียหมด “ได้แล้วครับ จอดเอียงนิดเดียวไม่เป็นไรหรอก”
   
พวกเขาลงจากรถของพี่กุนต์ น้องอ้นเพิ่งถูกปลุกให้ตื่น พี่ชายคนกลางสลบเหมือดตั้งแต่ขึ้นรถเพราะพลังสูงทั้งวัน วิ่งถ่ายรูปตั้งแต่เช้าจนเย็น
   
อินทัชจูงน้องอุ้ม ส่วนกนธีเปิดประตูหลังคนขับแล้วช้อนตัวน้องอ้นที่ยังงัวเงีย พี่ชายคนโตช่วยยกขึ้นหลังให้เพราะปลุกแล้วดูจะตื่นยาก
   
“ไหวแน่นะพี่” เด็กหนุ่มถาม จับสองแขนของน้องกอดคอกนธี
   
“พี่ยังอุ้มโอ๊ตไหวเลย” เขาพูดยิ้มๆ “ท่าเจ้าสาวก็ไหว”
   
“ขอร้องเลยครับ” อินทัชจินตนาการตัวเองแบบนั้นไม่ออก
   
วันนี้พวกเขาสี่คนไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิตมา ตอนแรกตั้งใจจะพาเด็กๆไปชมพระที่นั่งวิมานเมฆเพราะว่าอ้นชอบวิชาประวัติศาสตร์แต่ว่าที่นั่นปิดซ่อมแซม กนธีเลยชวนไปเที่ยวสวนสัตว์ แล้วค่อยหาเวลาว่างไปพิพิธภัณฑ์อื่นๆกันทีหลัง
   
“พี่อ้นหลับไม่รู้เรื่องเลยอ่ะ” น้องอุ้มจูงมือพี่โอ๊ต ขึ้นบันไดฮึบๆ
   
“คงจะเหนื่อยน่ะครับ” กนธียิ้มเอ็นดู “อุ้มน้อยไม่เหนื่อยบ้างหรือ”
   
“เหนื่อยฮะ แต่ว่าถ้าหลับ จะไม่ได้คุยกับพี่กุนต์”
   
“โธ่..ลูก” คนอายุมากกว่าขยี้ผมนุ่มนิ่ม
   
อินทัชอมยิ้ม ไอ้เด็กแสบพวกนี้มันปะเหลาะเก่งจริง รู้ว่าเมื่อไรควรพูดอะไร และรู้ว่าควรจะอ้อนแบบไหนให้พี่ๆกลับมาอยู่ด้วยกัน
   
กนธีพาเด็กๆไปส่งที่ห้อง น้องอ้นสะลึมสะลือเพิ่งตื่นหลังจากที่วางตัวลงบนเตียง พี่โอ๊ตเลยสั่งให้ไปอาบน้ำ เจ้าหนูก็เดินละเมอไปแปรงฟัน
   
“อุ้มไปดูพี่อ้นที เป็นพี่เป็นน้อง ต้องผลัดกันดูแล” อินทัชบอก
   
“ซึมแซ่บ!” อุ้มน้องน้อยตะเบ๊ะรับ “พี่อ้น อาบน้ำกัน~”
   
กนธีหัวเราะอย่างนึกขัน เขาพาน้องเที่ยวตั้งแต่แปดโมงเช้า ตะลอนทั้งวันอยู่ในสวนสัตว์ทั้งที่แดดร้อนเปรี้ยง พาไปดินเนอร์กันที่ครัวริมน้ำแล้วถึงกลับห้องตอนสองทุ่มกว่า พรุ่งนี้น้องต้องไปเรียนอีก ไม่รู้จะขึ้นรถกันไหวไหม
   
“ถ้าตื่นไม่ทัน โทรบอกนะ พี่จะมารับ” เขาบอกเด็กอีกคน
   
อินทัชยิ้ม “พวกผมรับผิดชอบตัวเองได้พี่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
   
กนธีพยักหน้ารับ อดพึมพำไม่ได้ “ให้เอารถไปใช้ก็ไม่ยอม”
   
“ถ้าผมเอารถมา แล้วพี่จะมีโอกาสได้ไปรับไปส่งพวกเราหรือ”
   
คนฟังคล้อยตามอย่างว่าง่าย เขาลูบปลายคาง “นั่นสิ..”
   
อินทัชมองด้วยความเอ็นดูปนมันเขี้ยว อาศัยจังหวะอีกฝ่ายเผลอ ตั้งใจจะรวบตัวมากอด แต่ก็อ้าแขนวืดเมื่อพี่กุนต์เดินออกไปหยิบชุดนักเรียนของอ้นกับอุ้มมาเตรียมไว้ให้ เขาส่ายหัว ยิ้มอย่างระอาคุณพ่อเห่อลูก
   
“เสื้อผ้าชุดนักเรียนนี่ใครรีดให้น่ะ” กนธีก้มดูกลีบกางเกงคมกริบ
   
“ไอ้อ้นมันรีดเอง” อินทัชหยิบน้ำจากตู้เย็นไซส์เล็กมาให้เจ้าตัว
   
“อา..จริงด้วย ตอนนั้นที่เจอกันครั้งแรก น้องอ้นก็นั่งรีดผ้าอยู่” กนธีคิดแล้วยิ่งรักน้องทั้งสองคนเหลือเกิน เด็กดีอะไรขนาดนี้ ความภูมิใจของพ่อแม่ชัดๆ
   
“รักขนาดนี้ก็เอาไปเป็นลูกเลยดีไหมครับ”
   
เขาหันขวับมามอง ตาเป็นประกาย “ยกให้จริงหรือ”
 
อินทัชหัวเราะร่วน “จะให้ดีไหมนะ..” ทำทีเป็นครุ่นคิด
   
“คือ..ไม่ต้องยกให้ก็ได้ เดี๋ยวจะรู้สึกว่าพี่แย่งอ้นกับอุ้มไป” เขาลูบต้นคอตัวเอง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี “แต่ว่าทางกฎหมาย..ถ้าได้ก็ดีน่ะนะ..”
   
ร่างสูงอมยิ้มมุมปาก “จะพูดอะไรกันแน่ครับคุณ”

กนธีเหลือบตามอง เลียบเคียง “พี่อยากขอรับอ้นกับอุ้ม..เป็นลูก” เขามองน้องที่เงียบไป ไม่ตอบอะไรกลับ “คือพี่เข้าใจว่ามันเซ้นซิทีฟ เพราะว่าเด็กๆจะเปลี่ยนมาใช้นามสกุลพี่ ทีนี้..นามสกุลของโอ๊ต..เอาไงดี..”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ” อินทัชยิ้มขัน

“จริงหรือ” กนธีมีความหวังขึ้นมา

เด็กหนุ่มยักไหล่ “ผมไม่ได้ยึดติดกับนามสกุลขนาดนั้น แล้วอีกอย่าง..”

เขาหลุบตามองคนที่ดูตื่นเต้นดีใจท่าทางปิดไม่มิด ฉวยโอกาสทีเผลอ ดึงอีกฝ่ายมากักไว้ในอ้อมกอด พี่กุนต์ตัวแข็งไปชั่วขณะเมื่อเขาก้มลงกระซิบ

“ผมให้พวกมันไปใช้นามสกุลพี่ พี่เองก็มาใช้นามสกุลผมสิ..จะได้เจ๊า”

“ไอ้โอ๊ต~” กนธีเตะเข่าน้องตุบๆแต่มันไม่สะท้าน “หมายความว่าไง”

“เด็กใช้นามสกุลผู้ปกครอง” เขาพึมพำ “ภรรยาก็ต้องใช้นามสกุลสามี”

กนธีหันหน้าไปทางอื่น ร้อนวูบวาบไปหมดกับอ้อมกอดแข็งแรง

“ไหนบอกว่าโอ๊ตเป็นเมียพี่ไง ให้น้องไปประกาศขนาดนั้น”

อินทัชหัวเราะในลำคอ “ทางทฤษฎีผมเป็นเมียพี่”
   
กนธีตาพร่าพรายเพราะลมหายใจอุ่นๆที่รินรดข้างแก้ม
   
“แต่ในทางปฏิบัติ..พี่น่ะ..เป็นเมียผม”
   
“ฮื่อ..ไอ้เด็กเปรต”
   
อินทัชยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมทบทวนหน้าที่ของภรรยาให้เอาไหม”
   
คนฟังรู้สึกมึนเบลอ หัวใจเต้นตึกเมื่อใบหน้าคมเข้มโน้มลงใกล้ จมูกโด่งเป็นสันคลอเคลียอยู่สองข้างแก้ม กดจูบแผ่วเบาพร้อมกับหอมฟอด
   
“เมื่อไรจะใจอ่อนให้ผมรัก..” เขากระซิบเสียงพร่า แตะปากลงกับกกหู สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆเข้าเต็มปอด “คุณสามีอยากทำการบ้านจะตายอยู่แล้ว”
   
“หยุดเลย~” กนธีดึงผมมันแรงๆ เรียกเสียงหัวเราะชอบใจ
   
มีเสียงประตูห้องน้ำเปิด น้องอุ้มที่เปียกซ่กไปทั้งตัวเดินออกมาพร้อมกับพี่อ้นที่ยังหาวหวอดๆ กนธีเลยรีบผลักคนตรงหน้ากระเด็นไปอีกทาง
   
“พี่กุนต์จ๋า คืนนี้นอนกับพวกหนูไหม” อุ้มเดินโทงๆ อวดก้นเด้งดึ๋ง
   
“อยากให้นอนด้วยหรือครับ” กนธีผละไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้น้องๆ
   
อ้นหาวแล้วหาวอีก “พี่กุนต์นอนกับอ้นก็ได้ ให้พี่โอ๊ตนอนพื้นครับ”
   
อินทัชเขกกะโหลกน้องชายไปหน เขามันหมาหัวเน่าของแท้
   
กนธีหัวเราะเอ็นดู เช็ดตัวให้ทีละคน “สงสารพี่โอ๊ตน่ะสิครับ เอาไว้วันไหนอ้นกับอุ้มไปค้างที่ห้องของพี่สิ จะได้นอนกันสบายๆ ดีไหมครับ”
   
“เอาฮะเอา” น้องอุ้มรับปากแบบไม่มีการเล่นตัว
   
“เด็กดี” เขายิ้ม เอาแป้งเด็กมาทาตัวให้ “เป่าผมให้แห้งแล้วนอนซะลูก”
   
น้องๆรับคำว่าง่าย ผลัดกันเป่าผมให้แต่ละฝ่ายแล้วคลานขึ้นเตียง อุ้มที่พูดไม่หยุดทั้งวัน พอหัวถึงหมอนก็หลับผล็อยทันทีแบบไม่มีสัญญาณ
   
“ทำไมอ้นสุดหล่อของพี่ยังตาแป๋วล่ะ หืม..” ถามเด็กน้อยที่นอนมอง
   
“วันนี้ได้คุยกับพี่กุนต์นิดเดียวเองครับ” อ้นหาวอีกรอบ
   
“เอาไว้วันอื่นเราก็คุยกันได้ครับลูกชาย” กนธีลูบหน้าผากน้อง 
   
“อ้นอยากไปเที่ยวกับพี่กุนต์อีก”
   
เขาเลยยกมือขึ้นสัญญา “พี่จะพาอ้นไปพิพิธภัณฑ์ให้ทั่วกรุงเทพเลย”
   
อ้นยิ้มตาปิด ส่งจูบปากจู๋ให้พี่กุนต์ก่อนพลิกตัวนอนตะแคง
   
กนธีรอให้เด็กๆหลับสนิทแล้วถึงตัดสินใจกลับคอนโด
   
“ไม่รอให้ผมหลับอีกคนก่อนหรือ” อินทัชที่กอดอกมองอยู่นานถามขึ้น
   
“ไอ้เด็กโข่ง ไม่นอนก็อย่านอน”
   
เด็กหนุ่มหัวเราะเสียงเบา เดินไปส่งอีกคนตรงหน้าประตู พี่กุนต์ก้มลงใส่รองเท้า เขาถือเสื้อนอกไว้ให้ในขณะที่มองเจ้าตัวแทบไม่ละสายตา
   
“เอาล่ะ..สามทุ่มแล้ว พี่กลับก่อนนะโอ๊ต” กนธีหันมาบอก
   
อินทัชนิ่งอยู่ครู่ก็พยักหน้ารับ อดรู้สึกเหงาหงอยไม่ได้
   
ตอนที่กนธีแตะลูกบิดประตู เขาก็พูดขึ้น 

“ผมเคยสงสัย..ว่าความรู้สึกของคนที่รักกันจนตัดสินใจแต่งงาน เพื่อจะมีกันและกันในทุกๆวันไปตลอดชีวิต..มันเป็นยังไง”
   
กนธีมองน้อง อยากรู้ว่าโอ๊ตกำลังจะพูดอะไร
   
“เราจะต้องรักเขามากแค่ไหนนะ ถึงได้อยากเข้านอนพร้อมกัน ตื่นมาพร้อมกัน ทำทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน มีอีกฝ่ายเป็นเสี้ยวหนึ่งของชีวิต”
   
ดวงตาของเขาไหวสั่น แทบกลั้นหายใจด้วยความหวัง
   
อินทัชขยับเข้ามาหา จ้องมองไม่ผละไปไหน
   
“ตอนนี้ผมรู้แล้ว..เข้าใจดีแล้ว”
   
“ว่าอะไรครับ..” กนธีพึมพำถาม มองเหม่อที่ริมฝีปากสีอ่อนของเด็ก
   
“ว่าผมอยากมีพี่กุนต์..มาเป็นอีกเสี้ยวของชีวิตผม”
   
“โอ๊ต..” ชายหนุ่มคราง
   
“พี่ไม่รู้สึกหรือครับ” เขาจับปลายผมข้างแก้ม “ไม่อยากเข้านอนพร้อมผม ตื่นมาเจอหน้าผม กินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันหรือครับ”
   
“อยาก..” กนธีตอบเสียงเบาหวิว หัวใจเต้นแรง
   
“ถ้าอย่างนั้นก็กลับมาอยู่ด้วยกัน” อินทัชกระซิบ ใช้ปลายนิ้วไล้บนแก้มอย่างรักใคร่..หลงใหล “กลับมาหาอ้อมกอดของผมสักที”
   
เขาหลับตาลงเมื่อน้องโน้มเข้าหา ปากอุ่นร้อนแตะสัมผัสนุ่มนวล
   
“โอ๊ต..” กนธีเรียก “โอ๊ตของพี่..”

อินทัชขบกรามแน่น เขาดันตัวฝ่ายตรงข้ามชิดผนัง สองแขนกอดรัดช่วงเอว ลูบไล้แผ่นหลังพลางสอดมือเข้าใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ห้ามใจหนักหน่วงไม่ให้บีบเค้นแรงลงสะโพกแน่นตึงใต้กางเกงยีนส์เข้ารูป..เขาอยากรักกนธีจนจะบ้า

เด็กหนุ่มเลื่อนมืออีกข้างมาบีบปลายคางได้รูป แกล้งทำให้พี่กุนต์ร้องเบาๆ สบจังหวะให้เขาสอดลิ้นเข้าไป ดูดคลึงลิ้นอุ่นนุ่มของเจ้าตัวอย่างกระหาย

กนธีเอียงหน้ารับจูบหนักหน่วง สองแขนกอดบ่ากว้าง เขาเองก็จูบตอบน้องอย่างคนที่โหยหา จูบแบบนี้..รสชาติแบบนี้..ความร้อนที่แผดเผากันแบบนี้

..รัก..อินทัชคนเดียว..

พวกเขากอดกันและกันแนบแน่น และจากรสจูบที่รุนแรง รวดเร็ว ติดจะดุดันก็กลายเป็นการจูบที่เนิบช้าและอ้อยอิ่ง เหมือนหมอกควันที่ลอยผ่าน

กนธีขบกัดริมฝีปากบนของเด็กหนุ่ม และเขาก็ถูกปลายลิ้นร้อนนั่นโลมเลียกลับ นึกมันเขี้ยวจนต้องงับเรียวปากนั้นตอบเบาๆอย่างหยอกล้อ

“ไม่ใช่ลูกกวาดนะครับ..จะได้ทั้งดูดทั้งดึง” อินทัชแหย่

คนฟังหัวเราะ จูบลงบนซอกคอ กลิ่นน้ำหอมที่โอ๊ตใช้ เขาชอบจริงๆ

“ดึกแล้ว..” กนธีพึมพำ “ต้องกลับจริงๆแล้ว”

“ไม่อยากให้กลับ” อินทัชนวดคลึงกลางฝ่ามือ “พรุ่งนี้จะมาไหม”

“พรุ่งนี้ต้องไปงานแต่งเพื่อนรุ่นน้อง” เขาผละออกจากอ้อมกอด

“ไปกับใคร ที่ไหน มีเหล้าหรือเปล่า ถ้ากลับดึกบอกด้วย”

“ไปคนเดียว เพื่อนมันแต่งกันที่อยุธยา” กนธียิ้ม “คิดว่าคงกลับดึก มีเหล้าด้วยเพราะมันชวนอยู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ แต่จะพยายามไม่ดื่ม เอาแค่เบาะๆ”
   
อินทัชถอนหายใจ งานสังคมนี่มันเลี่ยงลำบาก “ถ้าถึงงานแล้วก็ช่วยแชร์โลเคชั่นมาด้วยครับ ปล่อยไปเอง ห่างตาแบบนี้ ผมเป็นห่วงพี่มากนะ”
   
“หลังจากนี้จะไม่อยู่ห่างตา ไม่ปล่อยให้ห่วงแล้ว”
   
“หือ?” ร่างสูงเลิกคิ้ว “พูดอีกทีสิครับ”
   
กนธีอมยิ้ม โยกหัวน้อง “ไปก่อนนะ แล้วค่อยเจอกัน”
   
อินทัชเดินออกมาส่งด้านนอก เขาว่าจะลงไปเป็นเพื่อนถึงรถ แต่พี่กุนต์บอกปัด เพราะพรุ่งนี้เขาต้องตื่นเช้าไปเรียนอีก นี่ก็ยังไม่ได้อาบน้ำเลย
   
“พี่กุนต์..” เขาเรียกไว้ เจ้าตัวหันมามอง “ฝันถึงผมบ้างนะ”
   
กนธีหลุดยิ้มออกมา ทั้งหน้าร้อนผ่าว..จีบได้จีบดี คิดว่าได้ผลหรือไง
   
..ใช่..ได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์เลย..



…………………………………………………….



วันนี้กนธีต้องไปงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องที่อยุธยา มันอายุสามสิบกว่าแล้วเพิ่งจะได้แต่ง แต่เขาว่าก็ไม่แปลกหรอก เดี๋ยวนี้ผู้ชายที่ไหนก็รอให้ฐานะพร้อมแล้วทั้งนั้น ดีเสียอีก การจะสร้างครอบครัวควรอาศัยวุฒิภาวะของทั้งสองคน
   
ชายหนุ่มตื่นสายเล็กน้อยเพราะวันนี้ว่างทั้งวัน ตั้งใจว่าช่วงบ่ายค่อยออก พอหยิบโทรศัพท์ดูก็เห็นว่ามีไลน์เข้าจากอินทัช ส่งมาอรุณสวัสดิ์ตั้งแต่ตีห้า
   
กนธียิ้มบาง ข้อดีของการมีความรัก ก็คือทำให้โลกรอบตัวสดใส แต่ว่าเหรียญมักมีสองด้าน ปัญหาที่มาจากความรัก เราเองก็ต้องหัดรับมือให้ดี เพราะไม่มีใครจะเลือกแต่ความสุขเข้าหาตัวได้ตลอดเวลา

..ในเมื่ออยากรัก ก็ต้องรู้จักปรับตัว รู้ให้เท่าทันสิ่งที่จะเกิด..
   
คนที่ชีวิตมีความสุข ไม่ใช่คนที่หนีเรื่องทุกข์ได้เก่ง แต่เป็นคนที่จัดการกับความทุกข์ที่เข้ามาได้ดี และรู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไรต่างหาก
   
กนธีพิมพ์ตอบกลับว่าอรุณสวัสดิ์ไปตอนเก้าโมงครึ่ง น้องกดอ่านแทบจะทันที คงอยู่ในคลาส แต่จับมือถือตลอด ถ้าอาจารย์ด่าจะสมน้ำหน้าให้
   
‘คิดถึงพี่จัง’
   
คนอ่านหัวเราะ รู้สึกถูกกระชากวัยกลับไปสมัยเป็นหนุ่ม..ตอนที่ถูกจีบครั้งแรก..โดนจีบจากคนที่มีใจให้ เหมือนโลกทั้งใบลอยในอากาศไปหมด
   
กนธีพิมพ์ตอบ ‘คิดถึงโอ๊ตเหมือนกัน’ 
   
อินทัชส่งสติ๊กเกอร์หมาคอร์กี้วิ่งวนด้วยท่าทางดีใจสุดขีดมาให้ ทำเอาเขานึกภาพหางที่กระดิกริกๆออกเลย..ทั้งตลก ทั้งน่าเอ็นดู
   
‘วันนี้ขับรถดีๆนะครับ อย่าใจร้อน ห้ามใช้มือถือ ถ้าจะคุยโทรศัพท์ก็ให้ใช้บลูทูธ ถ้าผมรู้ว่าพี่ดื้อ ผมจะจับฟาดก้นให้แดงเถือกเลย’
   
กนธียิ้ม เขารอคอยที่จะถูกเด็กมันสั่งแบบนี้มาตลอด การไม่มีช่องว่างระหว่างกันและกันช่วยให้ความสัมพันธ์แบบคู่รักแนบแน่นมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้จะเรียกร้องให้เราสองคนแนบสนิทจนไม่มีที่ให้หายใจหรอก
   
‘รับทราบครับพี่โอ๊ต พี่โอ๊ตก็ตั้งใจเรียน ถ้าอาจารย์ดุ พี่จะจับฟาดก้น’
   
ทางนั้นพิมพ์เลขห้ากลับมายาวเหยียด
   
‘จะไปเรียนแล้วครับ ถึงแล้วแชร์โลเคชั่นมาด้วยนะ’

‘แล้วก็อย่าดื่มจัดล่ะ ดูแลตัวเองหน่อย ที่ขอเยอะไม่ใช่ว่าอยากก้าวก่ายการใช้ชีวิตของพี่ แต่เพราะว่าผมเป็นห่วง อยากให้เราอยู่ด้วยกันนานๆ’
   
‘รักพี่กุนต์มากนะ..พี่เป็นหัวใจของผม’
   
กนธีถอนหายใจออกมาอย่างมีความสุข โอ๊ตมันพิมพ์รัวไม่ยอมให้เขาตอบเลย ไอ้เด็กคนนี้..เวลามันไม่รัก มันใจแข็งจนน่ากลัว พอมันรักขึ้นมา
   
..เขาก็แทบจะจมความรักของมันตาย..
   
“มีความสุขชะมัด” เขาพึมพำ ยิ้มอยู่ตัวคนเดียว
   
แดดตอนสายส่องผ่านม่านเข้ามา กนธีนั่งแช่อยู่สักพักก็ลุกขึ้นยืน เปิดระเบียงออกดูแสงของเช้าวันใหม่ สว่างจ้า..แต่ไม่ได้ทำให้ร้อนระอุ
   
เงาสะท้อนจากกระจกในกรอบรูปส่องเข้าตา กนธีหันมอง
   
ศรัณย์ยังยิ้มให้เขาเหมือนเคย..อยู่ ณ ที่แห่งเดิม
   
“ขอบคุณนะรัณย์..” กนธียิ้มให้คนรักเก่า “ขอบคุณ”
   
เขารู้ว่าศรัณย์เอาใจช่วยเขา ไม่ว่ารักครั้งใหม่ของเขาจะเกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร หรือกับใคร ศรัณย์ก็จะอวยพรให้เสมอ..อวยพรให้มีชีวิตต่อไป
   
กนธีลูบลงบนภาพถ่ายในความทรงจำ

..ความรักของเรายังคงเป็นนิรันดร์..

.

.

.



ชายหนุ่มมาถึงโรงแรมใหญ่ในอยุธยาตอนหกโมงเย็น แขกคนอื่นเริ่มทยอยกันมาแล้ว เขาใส่ซอง เขียนอวยพรคู่บ่าวสาวและถ่ายรูปกับทุกคนไปเป็นสิบ
   
ช่วงที่ศรัณย์จากไป เขาหลบจากการพบปะเพื่อนฝูงอยู่นาน ปกติก็ไม่ค่อยเข้าวงสังคม พอมีแผลใจก็ยิ่งเก็บตัว แต่ตอนนี้เขากลับมายิ้มได้อย่างเดิม
   
กนธียังคงชอบไปงานแต่งงาน การที่คนรอบข้างรักกัน มันทำให้โลกนี้สดใสมากกว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คนเกลียดกัน และการอยู่ท่ามกลางรอยยิ้มของความสุข มันก็ทำให้ตัวเรามีความสุขตามไปด้วย
   
เขาทักทายเพื่อนแต่ละคน พูดคุยเรื่องสมัยเรียน ชนแก้วกับพวกมันพอเป็นพิธีเพราะมีเด็กขอไม่ให้ดื่ม พอช่วงที่บ่าวสาวขึ้นเวทีก็มีใครบางคนโทรมา
   
“ว่าไงครับพี่โอ๊ต” เขาปลีกตัวออกมาคุยด้านนอก ตอนที่มาถึงเขาแชร์โลเคชั่นให้มันไปแล้ว น้องจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง “กินข้าวเย็นหรือยัง”
   
‘ยังพี่’ ปลายสายตอบกลับ ‘นี่งานเลิกกี่โมงครับ’
   
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะอยู่ฉลองกับพวกมันอีกหน่อย มีอะไรหรือ”
   
‘ผมกำลังไปหา’
   
กนธีนิ่งอึ้ง “อะไรนะ”
   
‘ขอโทษที่ไม่ได้บอกครับ ผมเข้าไปเอารถที่บ้านของพี่ แต่ให้คุณไผ่ช่วยโทรบอกป้าแม่บ้านก่อนแล้ว’ อินทัชพูด ‘กลัวพี่ดื่มมากแล้วจะกลับไม่ไหว’
   
“เฮ้ย..จะขับมาเองเลยหรือ” เขาเริ่มอยู่ไม่สุข “นี่อยู่ไหน”
   
‘กำลังเข้าถนนเอเชีย..รถวิ่งกันเร็วชะมัดเลย’
   
กนธีชะงัก ความกังวลพุ่งเข้าเกาะกุมใจ น้องเพิ่งขับรถเป็น ยังไม่แข็งนัก จะขึ้นทางด่วนหรือออกถนนใหญ่ เขาเป็นห่วงเหลือเกิน
   
..ห่วง..กลัวเรื่องจะซ้ำซ้อนกับศรัณย์..
   
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้นะโอ๊ต” กนธีสั่ง “ไม่ต้องมา พี่กลับเองได้”
   
‘ทำไมล่ะ นี่กำลังไปหาไง’

“โอ๊ต..” ใจเขาร้อนรน “กลับบ้านนะ พี่เป็นห่วง พี่..”

กนธีสูดลมหายใจเข้าลึก รับรู้ว่าปลายนิ้วเริ่มเย็น
   
“มารับหน่อย..ทำเพื่อพี่ได้ไหมรัณย์”   

‘พี่กุนต์..’

“กลับบ้านเถอะนะ” เขาขอ เสียงเบาหวิว “ไม่อยากให้เกิดอะไรกับโอ๊ต”

‘อะไรจะเกิดกับผมล่ะ’ ทางนั้นถามอย่างอ่อนโยน

กนธีจับมือที่สั่นเล็กน้อยเอาไว้ ชั่ววูบหนึ่ง ภาพอดีตแล่นเข้ามาในหัว และมันก็ทำให้เขานึกกลัวจนหายใจไม่ออก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับน้อง ถ้า...

‘พี่กุนต์..ห่วงผมมากหรือ’

กนธีหลับตาลง “ห่วงสิ..ห่วงที่สุด”

‘ห่วงผมเพราะว่ารักผมใช่ไหม’ อินทัชถามอย่างล้อเลียน

“เจ้าเด็กโง่เง่า” ชายหนุ่มหัวเราะแผ่ว ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เขาอมพะนำอยู่ ไม่ว่าจะนึกอยากแกล้งหรือถ่วงเวลาให้ไกลออกไป ขอให้สิ่งนั้นยุติลง

..แล้วซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองให้มากขึ้น..

..เพราะเวลาไม่เคยรอใคร..

รักครับ..รักพี่โอ๊ตมากนะ” กนธีกระซิบ กุมอกซ้ายผ่านเสื้อสูทที่สวม สัมผัสหัวใจที่เต้นแรง “รักมานานแล้ว..และจะรักเป็นคนสุดท้ายในชีวิตด้วย”

‘ว้าว..’ อินทัชทำเสียงเซอร์ไพรส์ ‘อยากเห็นหน้าพี่ตอนนี้จัง’

“เด็กโง่..ไม่ต้องมาหาหรอก กลับบ้านเถอะ พี่จะกลับเดี๋ยวนี้แหละ”

‘อีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้วพี่ อย่าเพิ่งออกมา รอผมก่อน’ อินทัชตอบ ‘ผมจะวางสายแล้ว ไม่อยากคุยไปขับไป มันอันตราย’

“โอ๊ต..” กนธีคราง “ทำไมดื้ออย่างนี้”

‘ผมไม่เป็นอะไรหรอกพี่ จะขับระวังๆ’ น้องบอก ‘รักพี่กุนต์นะครับ’

คนฟังกำตัวเสื้อแน่น โอ๊ตตัดสายไปแล้ว แต่เขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

..ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น..เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองไปชั่วชีวิต..

กนธีบังคับลมหายใจให้เป็นปกติ เขาบอกตัวเองให้เชื่อใจ นี่เป็นแค่อีกวันที่ต้องรอให้น้องมาหา ไม่ว่าอดีตจะเป็นอย่างไรก็อย่าเอามาซ้อนทับปัจจุบัน

เขากลับเข้าไปในงาน ทำตัวให้วุ่นวายด้วยการเดินไปรอบห้องบอลรูมเพื่อปัดความวิตกกังวลทิ้งไป แต่ในช่วงที่พูดคุยกับคนมากมาย เขาสัมผัสได้ว่าระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงที่ต้องทนกับความเป็นห่วง มันยาวนานเหมือนครึ่งปี

เมื่อรู้แล้วว่าการต้องอยู่ห่างกันทำให้ทรมานขนาดนี้ แล้วคนเราจะมีทิฐิต่อกันไปทำไม กลับมารักกัน แสดงความรู้สึกต่อกันให้คุ้มค่าลมหายใจดีกว่า

..เราไม่รู้ว่ายังจะมีวันพรุ่งนี้อีกไหม..

..เพราะฉะนั้น รักกันวันนี้ ให้สมกับที่ได้มีวาสนามาพบเจอ..
   
กนธีเดินเลี่ยงออกมาจากงาน พลิกดูนาฬิกาข้อมือเรื่อยแต่ไม่กล้าโทรหา รถบนถนนใหญ่วิ่งเร็ว แล้วยังจะมีสิบแปดล้อที่ชอบวิ่งกลางคืนอีก
   
เขาคอยอย่างอดทน ข่มความกระวนกระวายของตนเอง

“นั่นกุนต์หรือเปล่า”

กนธีมุ่นหัวคิ้ว เสียงที่ลืมไปแล้ว คือเสียงของเพื่อนเก่า

เขาชะงัก รู้ว่าคงมีสักวันที่ได้กลับมาเจอกันอีก..เพื่อนในอดีตที่ใช้คำว่า ‘เพื่อน’ เป็นฉากบังหน้า แต่ไม่เคยแสดงความหวังดีกับเขาอย่างจริงใจ


.

.

.


[ต่อด้านล่าง]




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2017 16:23:14 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ nigiri-sushi

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 547
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1165/-8
    • Nigiri-Sushi Page
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139 -- 5/11/60
«ตอบ #4171 เมื่อ05-11-2017 16:06:51 »






“กุนต์ใช่ไหม..ไม่ทักกันหน่อยหรือไง” คนด้านหลังพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “อุตส่าห์ได้เจอทั้งที..กุนต์ไม่ได้ติดต่อเพื่อนฝูงเลยนะตั้งแต่งานแต่งคราวนั้น”

มือของกนธีกำแน่น

ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน..คือวันสุดท้ายที่เขามีศรัณย์อยู่ข้างกาย

ความรู้สึกหลายอย่างพลุ่งพล่าน ความโกรธแล่นวูบเข้ามา ความชิงชังก่อตัว ความรังเกียจ เวทนาอีกฝ่ายวนเวียนในหัว เขาไม่อยากมอง ไม่อยากให้สายตาบันทึกภาพของหมอนี่ ไม่อยากเก็บไว้ในสมองให้รกความจำเสียด้วยซ้ำ

แต่เขาไม่โทษ ‘เพื่อน’ คนนี้หรอก เขาโทษตัวเองที่ไม่มั่นคงพอ

ชายหนุ่มยืนนิ่ง หยุดอารมณ์ลบไม่ให้เข้ามาครอบงำ ไม่อย่างนั้นเขาจะจมดิ่ง และสุดท้าย คงถูกฉุดลงในปลักโคลนไม่แตกต่างไปจากเรื่องเมื่อสี่ปีที่แล้ว

“ว่าไงล่ะกุนต์..ไม่มองเรา แปลว่ายังโกรธเรื่องเก่าอยู่หรือ”

กนธีหันกลับมาเผชิญหน้า ความรู้สึกราบเรียบ นิ่งสนิทเหมือนน้ำ มือที่กำไว้คลายลง เพราะยิ่งเขาบีบแน่น คนที่เจ็บคือเขา ไม่ใช่คนอื่นเลย

“สวัสดี..ไม่เจอกันนานนะ” เขายิ้มให้

“นึกว่าจะไม่คุยกันซะแล้ว” ทางนั้นมอง ปากยิ้ม แต่ดวงตายังทอแววอิจฉาเพื่อนเก่าอย่างเคย แน่ล่ะ..พื้นฐานชีวิตครอบครัวต่างกัน คนหนึ่งคาบช้อนเงินช้อนทอง อีกคนพ่อแม่หย่า ทุกอย่างด้อยจนน่าสมเพช ได้แต่แหงนคอมองฟ้า

แต่เพราะรั้งตัวเองขึ้นที่สูงไม่ไหว จึงจงใจฉุดคนอื่นลงมาเหยียบย่ำ

สาสมใจ ถ้าทำให้คนรอบข้างทุรนทุราย ลิ้มรสการไม่เป็นสุขเหมือนเขา

“สบายดีไหม” กนธีถามเสียงเรียบ

“สบายดีตามประสา” อีกฝ่ายกระตุกยิ้มมุมปาก

เขาไม่ชอบกนธียิ่งกว่าใคร คนที่รวยมาตั้งแต่เกิด สุขสบายโดยไม่ต้องดิ้นรน สมัยเรียน หมอนี่ทำตัวดีนิดหน่อยรอบข้างก็รักใคร่ ไม่ว่าใครก็เข้าหาชื่นชม เป็นที่จับตามองทั้งที่ไม่ได้น่าสนอะไร ผิดกับเขา..ทำดีให้ตายก็ไม่มีใครหันมา

จะว่าไป..กนธีที่แสนเพอร์เฟ็กต์คนนั้นก็มีจุดบกพร่องเยอะ ทั้งสนใจแต่เพศเดียวกัน ซ้ำยังใช้เงินซื้อความสัมพันธ์เพราะหาคนรักจริงไม่มี แว่วมาว่าพักหลังก็ซื้อเด็กมานอนด้วยเป็นรายๆไป จบคนนี้เริ่มใหม่กับคนนั้น..น่าสมเพชที่สุด

เขาเยาะยิ้มเมื่อคิดขึ้นได้ “นี่กุนต์ยังชอบคบแต่ผู้ชายที่เด็กกว่าอยู่ไหม”

กนธีนิ่งไปครู่ ไม่คิดว่าจะถูกทักทายด้วยเรื่องที่เสียมารยาท ตอนแรกความไม่สบอารมณ์เริ่มคุกรุ่น หากเมื่อเห็นรอยยิ้มหยัน เขาก็เข้าใจในนาทีนั้น

..พฤติกรรมของคนคนนี้ ไม่มีคุณค่าใดๆเลยที่จะเก็บมาใส่ใจ..

กนธีหัวเราะหึ หลับตาลงพร้อมกับถอนหายใจอย่างขบขัน

คำพูดทั้งหมด หากรู้ทันแต่แรกว่าเป็นการจงใจสร้างความปั่นป่วน เขาควรจะละวางและไม่เก็บมาใส่ใจ หากแต่มันไม่ทันการเสียแล้ว กว่าจะคิดได้ก็ล่วงเลยมาจนปัจจุบัน และมันทำให้เขาสูญเสียศรัณย์ไปตลอดกาล

แต่วันนี้ เขาคือกนธีอีกคน ไม่ใช่คนเดิมที่ฝังตัวกับเรื่องเดิม

ไม่ใช่คนที่จะหวั่นไหว คลอนแคลนไปกับคำพูดของใคร

“ก็ยังชอบอยู่เหมือนเดิม” กนธีตอบยิ้มๆ

ไม่สนใจหากว่ารสนิยมของเขาจะถูกเอาไปป่าวประกาศ อย่างไรก็มีข่าวแว่วมาตลอดอยู่แล้วว่าเขาเป็นอย่างไร แค่ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนเดินมาถามจริงจังเพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว อย่างมากพวกมันก็ถามว่าเมื่อไรจะแต่งงาน เขาก็เพียงยิ้มตอบไป ไม่พูดอะไร ใครจะเก็บไปคิดต่อก็ไม่ใช่เรื่องแล้ว

คนที่รักเขาจริงก็จะรักเขาในแบบที่เขาเป็น ไม่ว่าจะเก็บเงียบ หรือจะแสดงออก เขาก็จะได้รับเกียรติและได้รับความเคารพในสิทธิส่วนบุคคลตรงนั้น

แต่คนที่ไม่มีใครรักจริง ทั้งยังไม่กล้าจะยอมรับตนเอง ไม่กล้าเผชิญกับสายตาของสังคม ก็ต้องทนอยู่กับความขัดแย้งใจต่อไป ต้องแสดงออกด้วยการเหยียดหยามคนอื่น เพียงเพื่อจะยกรั้งตัวเองขึ้นมา กู้ความรู้สึกดีคืนให้ตนบ้าง

“อย่างนั้นหรอกหรือ..ก็ชัดเจนดี” อีกฝ่ายเหยียดยิ้ม “แล้วนี่คบมากี่คนแล้วล่ะ เห็นว่ารายล่าสุดเป็นบาร์เทนเดอร์ทำงานในเลาจน์ด้วยใช่ไหม”

กนธียืนนิ่ง สงสัยว่าเขาจะมาตอบคำถามไร้สาระพวกนี้ทำไมกัน

“ดีจังเลยนะที่เป็นกุนต์ หาคนใหม่มาแทนคนเก่าได้เรื่อยๆ ไม่ยากอะไร” เขาพูดอย่างจงใจ “แต่อาจจะลำบากหน่อยถ้าจะใช้เงินซื้อความจริงใจน่ะ”

“เป็นห่วงหรือ” กนธีถาม “ขอบคุณนะที่กังวลแทนเราไปมาก”

คนฟังขมวดคิ้วมุ่น

“ก็เรายังไม่ได้คิดอะไรก็มีคนคิดแทนให้เสร็จ เหนื่อยน่าดู แต่ก็ขอบคุณ”

“พูดเก่งขึ้นนี่” เขายิ้มบาง “เหมือนจะเปลี่ยนไปเยอะนะ”

“แต่นายดูไม่เปลี่ยนเลย” กนธีพูด “ไม่ค่อยจะหวังดีกับใครเหมือนเดิม”

“หึ..รู้ได้ยังไงว่าเราไม่หวังดีกับใคร”

“ถามใจตัวเองสิ” กนธีตอบเสียงเรียบ

ตอนนั้นเองที่มือถือในกางเกงสั่นขึ้น เขารีบหยิบออกมา พรูลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าอินทัชโทรหา เขากดรับสาย ดีใจจนปิดไม่อยู่

“โอ๊ต..เจ้าเด็กดื้อด้าน อยู่ไหนแล้ว”

‘ผมมาถึงโรงแรมแล้วครับ จอดรถแล้วด้วย พี่อยู่ห้องไหน’

กนธีหลุดยิ้มกว้าง รีบบอกห้องจัดงานกับน้องไป “รีบมานะครับ”

‘ใจร้อนจัง..อยากเจอผมล่ะสิ’ ได้ที น้องก็แหย่ใหญ่

“อืม..อยากเจอ คิดถึงจะตายแล้ว”

ทุกคำพูดที่คุยกับปลายสายตกอยู่ในสายตาของเพื่อนอีกคนตลอด ยิ่งเพิ่มความรู้สึกร้อนรนในใจให้กับคนที่ไม่ชอบกนธีเป็นทุนเดิม

“เด็กใหม่หรือ”

กนธีมองด้วยสายตาว่างเปล่า “เราขอตัวก่อน” เขาหันกลับในจังหวะที่ทั้งตัวเกือบจะปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาหยุดยืนด้านหลังกะทันหัน

“คิดแล้วว่าต้องเป็นพี่กุนต์” อินทัชยิ้มให้ คว้าร่างตรงหน้าที่เหมือนจะก้าวถอยไปเล็กน้อยได้ทัน “รูปร่างแบบนี้ ส่วนสูงแบบนี้ เห็นจากข้างหลังก็จำได้”

“โอ๊ต..” กนธีมองน้อง ยิ้มออกมาได้ “นี่เหยียบมาเท่าไร”

“ไม่เร็วหรอกครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้ เผลอตัวยกมือขึ้นจับปลายผมที่ยาวระต้นคอของกนธีด้วยความเอ็นดู พี่กุนต์เวลาใส่สูทเข้ารูป..เซ็กซี่เป็นบ้า

“ทีหลังอย่าดื้อกับพี่อีกนะ” กนธีจับบ่าน้อง มองเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่เด็กสวม เขาเพิ่งสังเกตว่าบ่าของโอ๊ตดูกว้างขึ้นแค่ไหน ซ้ำยังจะสูงกว่าเดิมเสียอีก

“ถ้าดื้ออีก พี่ก็จับผมตีก้นเลยเป็นไง” เขายักคิ้วล้อ

ไม่ทันที่จะได้คุยอะไรต่อ บุคคลที่สามก็แทรกขึ้น

“คนนี้เองหรอกหรือ..บาร์เทนเดอร์ที่ว่าน่ะ”

อินทัชขมวดคิ้ว คำถามนั้นฟังไม่ค่อยเข้าหูนัก

“เพื่อนพี่กุนต์หรือครับ” เขาถามคนรัก

“เพื่อนเก่าน่ะ” กนธีถอนหายใจ “กลับบ้านกันดีกว่า”

“เดี๋ยวสิ..ไม่คิดจะแนะนำหน่อยหรือ” ฝ่ายนั้นรั้ง

เขามองกวาดทั่วร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ดูดีอย่างหาตัวจับยาก สายตาที่มองมาก็ดูหวานเชื่อม จับจ้องแต่เงาของกนธีจนน่ารำคาญ

..ทำไม..ถึงได้แต่อะไรดีๆไว้ในกำมืออยู่เรื่อย..

ไวเท่าความคิด คำพูดส่อเสียดถูกถามออกไป “นี่เด็กคนที่เท่าไรล่ะ”

อินทัชนึกรู้ทันทีว่านี่คือคนในอดีตของพี่กุนต์ คนที่อีกฝ่ายเคยเล่าให้ฟังตอนที่เขารับเงินมาจากคุณพสิษฐ์ให้ช่วยเป็นเพื่อนคุยปลอบใจ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนผู้ไม่หวังดีที่ยุแยงชีวิตรักของคนอื่น แต่การที่พี่กุนต์เสียคุณศรัณย์ไป เขาไม่โทษหมอนี่หรอก..ไม่ขอโทษใครสักคน เรื่องมันแล้วไปแล้วก็อย่ารื้อฟื้น

แต่นิสัยเห็นใครดีกว่าตัวเองไม่ได้เนี่ย..เห็นแล้วมันรำคาญตาจริงๆ

“น้องก็ดูใช้ได้อยู่นะ แต่เราอยากบอกด้วยความหวังดีนะกุนต์ ถ้าเอาแต่มีความสัมพันธ์แบบนี้ กุนต์จะหาคนจริงใจไม่เจอ อายุมากขึ้นทุกทีแล้วนี่”

กนธีดึงแขนเด็กหนุ่มให้เดินไปที่ลานจอดรถ แต่อินทัชหยุดยืนนิ่ง

“คุณนี่เอง” เขากอดอกมอง “จากวันนั้นจนวันนี้ คุณดูไม่เปลี่ยนไปเลย”

ทางนั้นชะงัก “อะไร เราเคยเจอกันหรือไง”

“ไม่เคยเจอหรอกครับ” อินทัชส่ายหัว “ผมหมายถึง..สี่ปีที่แล้วคุณชอบยุ่งกับชีวิตคนอื่นยังไง ปัจจุบันก็ยังชอบขวนขวายอยากรู้ชีวิตคนอื่นเหมือนเดิม”

“นาย!”

กนธีเลิกคิ้ว มองผู้ชายอายุน้อยกว่าที่กางปีกปกป้องเขาเต็มที่

“แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าพี่กุนต์จะมีคนจริงใจเข้าหาหรือเปล่า” เขาบอก “ห่วงตัวเองก่อนดีกว่า คอยยุแยงชีวิตคู่คนอื่นก็เพราะว่าตัวเองหาไม่ได้ใช่ไหม”

อีกฝ่ายเบิกตากว้าง คาดไม่ถึงว่าจะโดนต่อว่าตรงๆ

“รีบๆหน่อยก็ดีนะครับ เพราะคุณเองก็แก่ขึ้นทุกวันเหมือนกัน”

..มาหาว่าหนูกุนต์ของเขาอายุมาก ใจเย็นไม่ลงจริงๆ กล้าดียังไง..

“แต่ของคุณ ถ้าอยากจะหาคน ‘จริงใจ’ ก็อาจจะลำบากหน่อย เพราะคุณเอง แม้แต่กับเพื่อนยังไม่มีความจริงใจให้เลย ใครจะมาจริงใจกับคุณ”

“โอ๊ต..ไอ้ตัวดี กลับกันเถอะ” กนธีลากเด็กออกห่าง

“ปากดีนัก เป็นแค่เด็กเลี้ยงคนที่เท่าไรก็ไม่รู้ ออกตัวเหมือนเป็นคนรัก”

อินทัชหรี่ตามอง อารมณ์เริ่มกรุ่น “คนที่เท่าไรก็ช่าง คุณน่ะหาได้สักคนบ้างไหม อย่าประจานตัวเองให้น่าสมเพชกว่านี้เลย”

“โอ๊ต..พอเถอะ” บุคคลที่ยืนเงียบมานานขมวดคิ้ว ดึงตัวน้องให้หลบอยู่ด้านหลัง..ก่อนที่มันจะทิ้งกำปั้นไปสักหมัด “จะบอกให้นะ..ถ้าอยากรู้มากนัก”

ฝ่ายตรงข้ามยืนจ้องหน้า

โอ๊ตเป็นคนรักของเรา..และเป็นคนที่เรารัก ไม่ใช่เด็กที่รับเลี้ยง

อินทัชชะงัก มองกนธีด้วยใจที่เต้นแรง บอกรักกันสองคนว่าน่าดีใจแล้ว แต่คำประกาศรับรองความสัมพันธ์พวกเขาต่อหน้าคนอื่น กลับทำให้ดีใจยิ่งกว่า

..เพราะคนเหล่านี้ คือพยานในความสัมพันธ์ของพวกเรา..

“น่าขำ ถึงกับเอาบาร์เทนเดอร์ในเลาจน์มาเป็นแฟน ศักดิ์ศรีสิงหนาทหมดไปแล้วหรือ” เพื่อนเก่าหัวเราะเยาะ “ให้ฟรียังต้องคิดเลยมั้ง”

“เขาทำงานสุจริต ต้องอายใครหรือ เหยียดอาชีพคนอื่นไปหน่อยมั้ง”

กนธีไม่สบอารมณ์ คำพูดดูแคลนแบบนี้เขาไม่ชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาต่อว่า ‘คนของเขา’ ยิ่งทนฟังเฉยไม่ได้ น้องเป็นคนรัก เขาก็ต้องปกป้องคนรัก

อินทัชมองกนธีตาเป็นประกาย หักห้ามใจไม่รวบตัวหนูกุนต์มาฟัด

“อีกอย่าง..การรักใครสักคน มันไม่ต้องมีศักดิ์ศรีหรอก” เพราะในเวลาที่อยากได้ความรัก เราจะวางหัวใจไว้แทบเท้าอีกฝ่ายโดยไม่ต้องไตร่ตรอง “มีแต่คนที่รักใครไม่เป็นเท่านั้นที่จะหาข้ออ้างสารพัดมาทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น”

คนฟังกำหมัดแน่น ไม่คิดว่าจะถูกตอบโต้จากคนที่เคยวิ่งไปกับคำยุ

“ทีนี้ก็หมดข้อสงสัยแล้วนะ ถ้าจะเอาไปเล่าต่อก็เล่าให้ถูกด้วย” กนธีว่า

เขาหันไปหาน้อง ยื่นมือออกมากอบกุมปลายนิ้วใหญ่ไว้

“เขาชื่ออินทัช..เป็นคนรักของเรา” กนธียิ้มให้เพื่อนเก่าก่อนจะบอกคนข้างกาย “กลับบ้านกันครับ..คิดถึงอ้นกับอุ้มแล้ว”

อินทัชยิ้มจนแก้มบุ๋ม เลิกสนใจบุคคลนอกความสัมพันธ์ แต่พอจะเดินออกไปจากห้องบอลรูม เขาก็ยังไม่วายกลับมาบอกคนที่ถูกทิ้งให้ยืนเดียวดาย

“จำเอาไว้อีกทีนะว่าผมชื่ออินทัช เป็นคนรักของกนธี สิงหนาท” 

เขายิ้มกว้าง ท่าทางมีความสุข

และเราก็รักกันมาก..อย่าหาว่าอวดเลย
   
เด็กหนุ่มสาวเท้ายาวๆตามออกมาจากโรงแรม ทันเห็นแผ่นหลังของกนธีที่หยุดยืนอยู่ตรงลานกว้างริมแม่น้ำ เขามองซ้ายขวา เห็นว่าไม่มีใครก็ตรงเข้ารวบตัวอีกฝ่ายเข้าหาอ้อมกอด พี่กุนต์ดูจะชะงักไปเล็กน้อยเพราะตั้งตัวไม่ทัน
   
“เจ้าโอ๊ต..รัดแน่นแบบนี้ ซี่โครงพี่ป่นหมด”
   
“ฮื่อ..อย่ามาเว่อร์” เขาหัวเราะ กดจูบข้างแก้ม “อืม..หอมจัง”
   
กนธีไม่รู้จะเอาหน้าไปหลบตรงไหน เพราะมันร้อนผ่าวไปหมด
   
“รักพี่มากเลย..รักสุดๆ”
   
“จะฆ่ากันใช่ไหม” ฆ่าเขา..ให้จมทะเลความรักตายมันตรงนี้
   
อินทัชหัวเราะ จูงข้อมือเจ้าตัวมายืนอีกมุม “ไหนๆก็ได้วิวโรแมนติกแล้ว มาตรงนี้หน่อยครับ อยากให้ฟังอะไรหน่อย”

กนธีมองอีกฝ่ายด้วยความมึนงงเมื่อน้องยื่นหูฟังที่ต่อกับโทรศัพท์ของตัวเองมาตรงหน้า เขาเลิกคิ้ว ถามว่าจะให้ทำอะไร

“หนูกุนต์ทำไมขี้สงสัย” อินทัชจับมันยัดใส่หู “บอกให้ฟังก็ฟังสิ”

เด็กเปรต..เขานึกด่ามันในใจ เบือนหน้าหนีใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาชิด กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากช่วงตัวสูงใหญ่กระตุ้นไอร้อนผ่าวในร่าง

..ห่างหายไปไม่นาน..ทำไมดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากขนาดนี้..

“ได้ยินไหม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบถาม

“อือ” เขาพยักหน้า เหลือบมองคนที่สูงขึ้นจนต้องเงยหน้าคุย “ที่จริงเร่งเสียงอีกนิดก็ได้..ไม่ใช่ว่าหูตึงนะ แค่อยากได้ยินให้ชัด” เพราะมันเบลอๆจนหูอื้อ

ใครอีกคนหัวเราะเบาๆ ดวงตาคมกล้าวาววับเวลาจ้องมอง
   
กนธีกลับมาตั้งใจฟัง เพลงที่ถูกบันทึกไว้ในมือถือเริ่มขึ้นทำนอง มันเป็นเสียงของกีต้าร์โปร่งที่อินทัชเล่นจนคุ้นชิน..ไม่รู้ว่าแอบไปเล่นมาตอนไหน
   
If I had to live my life without you near me

The days would all be empty. The nights would seem so long

กนธีหลุดยิ้มออกมา “พี่รู้จัก..”

“แหงล่ะ” อินทัชยกแขนขึ้นพาดกับกำแพงด้านหลัง นัยน์ตาสีดำหลุบต่ำ มองคนที่เอาสองมือจับหูฟังเหมือนกลัวว่าจะหลุด

..รักเป็นบ้า..

‘With you I see forever oh so clearly. I might have been in love before. But it never felt this strong’ เสียงนุ่มนวลร้องคลอไปกับดนตรี

ทุกเนื้อหา ทุกความหมาย มันลึกซึ้งและสื่อถึงความรู้สึกบางอย่าง

กนธีรู้สึกถึงหัวใจที่สั่นไหว ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามา ขยายแล่นลามอยู่ในอกข้างซ้าย เมื่อเงยขึ้นสบตา..คล้ายกับว่ามีกระแสไฟแล่นปลาบลง

Our dreams are young and we both know

They'll take us where we want to go

ดวงตาสีเข้มจ้องไม่วาง ทำเอาอีกคนเผลอหันหนี แต่ฝ่ามือกร้านจับไหล่ลาด ดึงตัวให้กลับมา เขาคว้าแขนกนธีไว้ ดึงหูฟังและมือที่จับไม่ปล่อยออกห่าง เสียงเพลงค่อยๆเบาลง แต่ทุกคำร้องและทำนองยังดังเล็ดลอด

Hold me now touch me now. I don't want to live without you

อินทัชก้มหน้าลงต่ำ เปิดปากกระซิบข้างหู “Nothing's gonna change my love for you. You oughta know by now how much I love you. One thing you can be sure of. I never ask for more than your love.”

ใจคนฟังเหมือนจะหยุดเต้น จากนั้นมันก็เต้นแรงขึ้น..แรงขึ้น เสียงที่ดังอยู่แนบชิดนั้นอ่อนโยน ติดตรึงในความรู้สึก และจับต้องได้ยิ่งกว่าครั้งไหน

กนธีรู้สึกว่ากระบอกตาร้อนผ่าว แต่เขาไม่ได้ร้องไห้หรอก

..ก็แค่..รู้สึกดีใจที่ได้ความรักของตัวเองกลับมา..

อินทัชดึงร่างอีกคนเข้ามาในอ้อมกอด ปลายจมูกโด่งสัมผัสคลอเคลีย

“Nothing's gonna change..” เขาก้มจูบข้างแก้ม “my love for you.”

กนธียิ้มจาง กอดตอบคนตรงหน้า

..มีความสุขชะมัด..

“เป็นไง” อินทัชถาม กอดไม่ปล่อย “เสียงที่อัดกับร้องสดชอบแบบไหน”

“ฮื่อ..” ถามตรงๆแบบนี้จะให้ตอบว่าอะไรล่ะ

“ไม่ต้องอายครับ” เด็กหนุ่มหัวเราะ มองคนที่เก้อเขินแล้วทำหน้ามึนใส่อย่างมันเขี้ยว ต้องกอดแน่น “หนูกุนต์ตกหลุมรักพี่โอ๊ตอีกครั้งก็สารภาพให้ชัด”
   
กนธีทำเสียงในลำคอ ไอ้ตอนคุยกันในโทรศัพท์ก็พูดได้ง่ายหรอก แต่มาถูกรุกเร้าแบบนี้ เขารู้สึกเหมือนอมอะไรอยู่เป็นก้อน เสียงหายไปไหนก็ไม่รู้
   
“พี่..”
   
“พี่อะไรครับ” อินทัชแหย่
   
“คิดเองสิวะ” เขาเดินหนี แต่หัวเบลอจนหันรีหันขวาง ไปไม่ถูก
   
“อ้าวๆ ขี้โกงแล้ว” ร่างสูงยิ้มขัน “ไม่ตอบไม่พากลับบ้านนะ”
   
“เอออ..” กนธีบ่น “ก็รักไง..บอกแล้วว่ารัก ถามไรนักหนาเนี่...”
   
เสียงสุดท้ายขาดหายเพราะรสจูบที่ก้มลงปิดปากกะทันหัน เขาชะงัก ทั้งตัวถูกรวบกอด กักขังไว้ในอ้อมแขนคู่นั้นแนบแน่น เนื้อตัวเบียดเสียด แทบจะหลอมละลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันท่ามกลางสายน้ำที่ไหลผ่านความมืด
   
“บ้าเอ๊ย..” อินทัชกัดปากหนูกุนต์แล้วสบถเบาๆ กอดอีกฝ่ายจมไว้กับแผ่นอก รับรู้ว่าคนรักเองก็ร้อนผ่าวไม่แพ้เขา “เราเช่าโรงแรมกันคืนนี้ดีไหม”
   
“ไอ้เด็กเปรต” กนธีดึงผมมัน หัวเราะร่วน “แล้วน้องจะอยู่ยังไง”
   
“มันโตแล้ว อยู่กันเองได้มั้ง” เขาข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน 

โธ่เว้ย..ไม่น่าประมาทอานุภาพทำลายล้างจากจูบของกนธีเลย น่าจะรู้ว่ามีอิทธิพลเหนือจิตใจเขาแค่ไหน แค่แตะๆจับๆก็จะระเบิดตายอยู่แล้ว!

“ไม่ได้ๆ” กนธีส่ายหัว “น้องยังเล็ก กลับบ้านกันเดี๋ยวนี้เลย”

“โอย..” อินทัชโอดครวญ “จะกอดพี่ทั้งที ทำไมอุปสรรคเยอะนัก”

คนฟังหัวเราะทั้งที่หน้าร้อนไปหมด มองคนที่สูดลมหายใจเฮือกๆอย่างพยายามควบคุมตัวเองสุดความสามารถ น่าเอ็นดูและน่ามันเขี้ยวในคราวเดียว

“จะรีบไปทำไม” เขาพึมพำ จัดเสื้อเชิ้ตที่ยับยู่ของน้องให้เรียบ

อินทัชก้มลงมองปากที่น่าจับจูบ จับฟัดให้บวมปริบ

“พี่ก็อยู่ของพี่ตรงนี้” กนธีบอก “ไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย”

“จะสื่อว่าอะไรครับ”

“เรายังมีพรุ่งนี้ด้วยกันไม่ใช่หรือ” เขาพูดเสียงเบา ดึงฝ่ามือน้องมากุม นวดคลึงเล่นด้วยความรักใคร่ก่อนจะยกขึ้นจูบ “ทั้งพรุ่งนี้..แล้วก็วันต่อๆไป”

อินทัชใจอ่อนยวบ เข้าใจความหมายลึกซึ้ง “นั่นสินะครับ..”

..จะรีบร้อนไปทำไม..ในเมื่อหลังจากนี้..

..เราจะมีกันและกันในทุกๆเวลา..จนวันสุดท้าย..







....................................................................................






เฮ้! อีกสองตอนจะจบล้าววว อิๆ ขอบคุณที่ติดตามกันมาอย่างยาวนานจนถึงตอนนี้น้าาา


 :mew1:





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-11-2017 16:22:45 โดย nigiri-sushi »

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4172 เมื่อ05-11-2017 16:21:10 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: โอ๊ยยยยยยยย ....ตายอย่างสงบ  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4173 เมื่อ05-11-2017 18:24:22 »

โอ๊ยยย น้ำตาลขึ้นค่ะ ตาร้อนเป็นประกายพรึ่บพรั่บ ทำไมเค้าหวานกันขนาดนี้

ทุกอย่างลงตัว ใจมั่นคง ไม่ปิดกั้น เข้าใจกัน แล้วยังรักกันไม่เสื่อม จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก
บอกรักกันให้โลกรู้กันไปข้างค่ะ

หนูกุนต์ก็ละลายแล้ว ละลายอีก ทำไมพี่โอ๊ตชงเข้มจัง 5555

น้องอ้นน้องอุ้มน่ารักมากลูก ช่างเจรจา


ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4174 เมื่อ05-11-2017 18:28:20 »

โอ้ย หวานมาก

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4175 เมื่อ05-11-2017 19:02:36 »

 :katai2-1: o13 :katai2-1:


 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4176 เมื่อ05-11-2017 20:03:27 »

โอยยยยยย จะเป็นลม

หวานอะไรกันขนาดนี้ ฮือออออ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4177 เมื่อ05-11-2017 20:03:54 »

ฮึ่ย น่าตบปากเพื่อนพี่กุนต์คนนั้นจริงๆเป็นคนขี้อิจฉาที่น่ารังเกียจแบบสุดๆจริงๆ ดีที่โอ๊ตมาทันเลยตอกซะหน้าหงายเลย สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆ

อีกสองตอนจะจบแล้ว งั้นตอนที่เรารอคอยก็กำลังจะมาใช่ไหม อิอิ เราใสๆนะ

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4178 เมื่อ05-11-2017 20:06:23 »

กอดพี่กุนแน่นๆ :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ yayee2

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +554/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4179 เมื่อ05-11-2017 20:10:13 »

อุ๊ย อิแม่น้ำตาลขึ้นฉับพลัน
อิน้องโอ๊ตนี่มันเก่งจริง ทำให้อิแม่พลอยเขินไปกับพี่กุนต์ด้วยล่ะ
อร๊ายย..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
« ตอบ #4179 เมื่อ: 05-11-2017 20:10:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พันธุ์ไทย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4180 เมื่อ05-11-2017 20:14:57 »

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4181 เมื่อ05-11-2017 20:44:48 »

เหม็นความรักจริงๆ

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4182 เมื่อ05-11-2017 20:58:04 »

โอ้ยยยย

หมั่นไส้อีพิโอ๊ต

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4183 เมื่อ05-11-2017 21:07:09 »

หวานมากกกก

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4184 เมื่อ05-11-2017 21:18:48 »

หวานซะ

ออฟไลน์ BABYBB

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4185 เมื่อ05-11-2017 21:28:01 »

อิพี่โอ้ตออกตัวแรงมาก ทำดีมากเด้ออออ o13

ออฟไลน์ namaquaru

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4186 เมื่อ05-11-2017 21:43:13 »

อย่าหาว่าอวดเลย555555555555
เด็ดมากพี่โอ๊ต~

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4187 เมื่อ05-11-2017 21:45:07 »

หวานๆมากๆๆ หวานจนน่าอิจฉา
เห็นเค้ามีความสุข เราก็ดีใจ ยิ้มจนตีนกาจะขึ้นแล้ว

รักกันไปนานๆๆๆๆนะ หมดเรื่องร้ายๆแล้ว จากนี้คงมีแต่เรื่องดีๆละนะ

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4188 เมื่อ05-11-2017 22:19:16 »

ถ้ามีลูกแบบน้องอุ้ม น้องอ้น จะรักนายเลย
น้องๆเด้กดี น่าร้ากกกกก~~~
ชอบเวลาที่บรรยายเมื่อพี่ดอ๊ตเรียกน้องๆก็จะเรียกมัน
แต่พอบรรยายเป็นพี่กุนต์ก็จะอุ้มน้อย น้องอ้น >.<

นี่ถ้าพี่โอ๊ตทนไม่ไหว แล้วเปิดห้องจริงๆคงเดือดร้อนคุณไผ่ ซึ่งไม่รู้อยู่ไหนกันแน่55555

ปล.ตอนอ่านนี่สงสัยนะ รถพี่กุนต์ละใครจะมาเอาไป คนขับรถหรอ แบบนั่งรถมาเอางี้
หรือไง ใครเอา 55555 ทำไมต้องมาสงสัยก็ไม่รู้วววว

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4189 เมื่อ06-11-2017 06:08:40 »

ิกอดดดดดดดดดด. หวานนนนนนนมากกกกกกกด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
« ตอบ #4189 เมื่อ: 06-11-2017 06:08:40 »





ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4190 เมื่อ06-11-2017 06:59:20 »

ดีต่อใจ :mew1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4191 เมื่อ06-11-2017 07:52:27 »

หวานเจี๊ยบ เขินอ่ะ ดีใจกับความรักของทั้งคู่นะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4192 เมื่อ06-11-2017 08:35:21 »

 :m1: :m1: :m1: :m3: :m3: :m3: :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4193 เมื่อ06-11-2017 09:28:41 »

หวานจนมดขึ้นหมดแล้วเนี่ย  :impress2:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4194 เมื่อ06-11-2017 09:45:01 »

โอ๊ยยยย อิพี่โอ๊ตคนอวดเมียหวานไปแล้วนะ  :o8: :-[

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4195 เมื่อ06-11-2017 09:47:36 »

กว่าจะมาถึงจุดนี้เค้าทั้งคู่ผ่านอะไรมาเยอะจริง ๆ

ไม่สงสานผัดไทนะ ด่าไปเยอะ สม

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4196 เมื่อ06-11-2017 11:02:37 »

เขินแทน 5555

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4197 เมื่อ06-11-2017 11:33:47 »

ช่วงเร่งน้ำตาลทดแทนหลายตอนที่ผ่านมาค่าาาาา โอ๊ยยยยย ใจบาง.... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอ NC แบบขนลุกซู่ก่อนจบด้วยนะคะคุณข้าวปั้น  :hao6:  มาแล้วต้องไปให้สุดค่ะ Fighto!!

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4198 เมื่อ06-11-2017 11:44:28 »

โอ๊ยหวานละมุนอุ่นละมัยมาก


พี่กุณ เบนยกให้เป็นพระเอกนางเองในดวงใจเลย  ควบไปเลยสองตำแหน่ง

คือดีงามพระราม8 มากก อ่านแล้วหลงรักคนคนนี้มาก  :mew1:



ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: Sins : Greed -- [Ch.61-62] pg.139-140 -- 5/11/60
«ตอบ #4199 เมื่อ06-11-2017 14:59:07 »


“จำเอาไว้อีกทีนะว่าผมชื่ออินทัช เป็นคนรักของกนธี สิงหนาท” 

เขายิ้มกว้าง ท่าทางมีความสุข

“และเราก็รักกันมาก..อย่าหาว่าอวดเลย”
.....พี่กุนต์ของน้อง เด็กนี่มันร้ายมากค่ะ เขินนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด