❤ Numb Guy!! บทร้าย....ผู้ชายเย็นชา ❤ 25-10-59 ❤ บทสุดท้าย ❤
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❤ Numb Guy!! บทร้าย....ผู้ชายเย็นชา ❤ 25-10-59 ❤ บทสุดท้าย ❤  (อ่าน 124834 ครั้ง)

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
บทที่ 6 บาดแผล

   สามวันแล้วที่ผมยังคงถูกล่มด้วยโซ่ตรวน เสียงของมันยามยามลากเสียดสีกระทบไปกับพื้นห้องช่างบาดหู ถึงแม้ว่ามันจะ
ไม่ได้รัดข้อเท้าของผมแน่นมาก แต่ความพยายามที่จะเอามันออกก็ทำให้ข้อเท้าเริ่มเป็นรอยเขียวช้ำดูน่ากลัว

   “ตื่นแล้วเหรอ”น้ำเสียงทุ้มหูทักทาย

   มันเป็นเสียงที่อ่อนโยน แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่ามันน่าฟังเอาซะเลย พี่คินดึงผมเข้าไปกอดก่อนจะจูบลงบนหน้าผากของผม
แผ่วเบา

   “ไปอาบน้ำได้แล้ว”

   พี่เขาดึงผมให้ลุกดึงเอาโซ่ตรวนลากไปกับพื้นร้าวกับเป็นนักโทษให้ผมเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ

   น้ำอุ่นถูกเปิดให้ไหลผ่านร่างกาย  ผมไม่ต้องเสียเวลาถอดเสื้อผ้าเพราะเสื้อผ้าทั้งหมดถูกพี่เขาเก็บไปหมด ปล่อยให้ผม
ต้องเปลือยตลอดเวลาเพราะเขากลัวว่าผมจะหนีไปอีกครั้ง

   “น้ำร้อนไปไหม”เขาถามเสียงเบาปรับอุณหภูมิน้ำให้เย็นขึ้นเล็กน้อย ผมได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้พี่เขาทำตามที่ใจอยาก

   “เจ็บไหม”เขาถามยามที่สอดนิ้วเข้าไปล้วงเอาของที่คั่งข้างข้างในออกมา ทิ้งให้ผมได้แต่สั่นเล็กๆเมื่อนิ้วนั้นกวาดวนไปทั่ว
กัดฟันให้กับความรู้สึกจุกหน่วงที่กำลังเกิดขึ้นเมื่อถูกกระตุ้น



   “ใส่เสื้อผ้าสิ”เสื้อผ้าถูกโยนมาตรงหน้าหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ ผมเงยหน้ามองพี่คินเล็กน้อย แปลกใจที่พี่เขายอมให้ผม
ใส่เสื้อผ้า

   “วันนี้วันหยุด พี่อยากพักผ่อน”พี่คินบอกแค่นั้นแล้วย่อตัวลงเบื้องหน้า จับข้อเท้าของผมข้างที่ถูกล่ามเอาไว้ขึ้นมาด้วย
ความเบามือ แล้วบรรจงลูบรอยช้ำนั่น

   “รัมภ์สัญญากับพี่ได้ไหมว่ารัมภ์จะไม่หนีพี่อีกถ้าหากพี่ปลดโซ่นี่ออก”

   คำถามที่พี่เขาเองก็น่าจำรู้คำตอบดีว่ายังไงผมก็ต้องยอม อย่างน้อยก็เพื่อให้ผมยังรู้สึกอยู่บ้างว่าผมไม่ใช่นักโทษที่ต้องล่ม
โซ่เอาไว้ตลอดเวลา ผมพยักหน้าเบาๆ

   พี่คินปลดโซ่ออก ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจูบลงบนรอยช้ำนั่น ผมสะดุ้งชักเท้าหนี แต่ก็ถูกจับเอาไว้ไม่ให้ขืนหนี

   “ไปกินข้าวกัน”

   พี่คินดึงมือให้ผมลุก ผมได้แต่เงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ เพราะปกติจะมีคนเอาอาหารมาให้ ถึงแม้ว่าสามวันที่ผ่านมา
ผมจะไม่เจอภูผาเลยก็ตาม

   อดไม่ได้ที่ผมจะเป็นห่วงภูผา ครั้งสุดท้ายที่เจอกัน สีหน้าของภาดูเหมือนกำลังหวาดกลัวและรู้สึกผิด ยามที่ตาคู่นั้นจ้อง
มองผมในตอนที่พี่คินกำลังกอดผมอย่างป่าเถื่อน

   “แล้วภูผาล่ะ”ผมถามถึงภูผาเมื่ออดเป็นห่วงไม่ได้

   “โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว ภูผาต้องไปเรียน”ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภูผาถึงไว้ผมทรงสกินเฮด

   “ไม่ได้ทำอะไรภูผาใช่ไหม”

   “พี่ไม่มีสิทธิทำอะไรภูผา ภูผาไม่ใช่คนของพี่ ถ้ารัมภ์เป็นห่วงภูผานักก็จำไว้ว่าอย่าดึงใครเข้ามาเดือดร้อน”

   “ภูผาไม่ผิด”

   “เรื่องนั้นรัมภ์ไม่จำเป็นต้องบอกพี่ เพราะพี่ไม่ใช่คนตัดสิน”พี่คินเสียงแข็งมากขึ้นเมื่อผมพูดถึงภูผาบ่อยครั้ง “วันนี้วันเสาร์
บางทีรัมภ์อาจจะได้เจอภูผา”

   “ผมจะโทรหาแม่ได้อีกไหม”ผมถามเมื่อพี่คินเคยขู่เอาไว้เรื่องโทรศัพท์

   “รัมภ์สามารถโทรหาแม่ได้ แต่ก่อนอื่นรัมภ์จะต้องลงไปกินข้าวกับพี่ก่อน”

   ผมพยักหน้ารับทันทีแล้วเดินตามพี่คินลงมายังชั้นล่าง จนถึงในครัว พี่คินดันให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้เบื้องหน้าเป็นโต๊ะกินข้าว

   แล้วก็ตามที่พี่คินได้บอกเอาไว้ ผมเหลือบมองภูผาที่ทยอยยกกับข้าวมาวางลงบนโต๊ะทีละอย่าง ข้อมือทั้งสองข้างพันผ้า
พันแผลเอาไว้ รวมถึงที่คอเองก็มีผ้าพันแผล

   ผมได้แต่มองตามจนรู้สึกว่าพี่คินเริ่มไม่พอใจ ถึงได้ละสายตาลงมามองจานข้าวของตัวเอง ปล่อยให้ภูผาและผู้หญิงอีกคน
ที่ดูเหมือนจะเป็นแม่บ้านยกข้าวมาให้

   น่าแปลกใจที่กับข้าวตรงหน้าเป็นกับข้าวที่ผมชอบทั้งหมดทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่เขา

   “กินสิ รัมภ์น่าจะชอบ พี่สั่งทำให้รัมภ์โดยเฉพาะเลยนะ”พี่คินยังคงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มแต่สายตาที่จ้องมาเหมือนกับ
เป็นการบังคับซะมากกว่า

   เผลอแปบเดียวภูผากับผู้หญิงคนนั้นก็หายไปแล้ว ทิ้งให้ผมจมอยู่กับความอึดอัดสองต่อสองกับพี่เขา กับข้าวที่ถึงแม้จะ
เป็นของชอบ แต่ก็ดูฝืดคอจนรู้สึกว่ามันไม่อร่อย

   ในที่สุดผมก็คว่ำช้อนลองเพราะกินต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ผมลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินกลับไปที่ห้อง ทว่าข้อมือก็ถูกคว้าเอาไว้ ดึง
ให้ทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ดังเดิม

   “พี่ยังกินไม่เสร็จ!!”

   สั้นๆแต่ได้ใจความ และผมก็ต้องฟังคำสั่งของพี่เขา เพื่อที่จะได้ใช้โทรศัพท์ตามที่ต้องการ

   รอจนพี่คินกินเสร็จ ผมถึงได้ลุกจากเก้าอี้อีกครั้งแล้วเดินตรงไปที่บันไดเพื่อกลับไปที่ห้องตัวเอง ถึงแม้จะแปลกใจที่พี่คิน
ยอมให้ผมออกมาจากห้อง พาผมลงมากินข้าวในครัว แต่ยังไงผมก็รู้ดีว่าผมก็ต้องกลับไปอุดอู้อยู่ในห้องนั่นอีก

   “จะไปไหน”

   แทนคำตอบผมเหลือบมองชั้นบนของตัวบ้าน แต่พี่คินส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วยิ้มออกมา ดึงให้ผมเข้าไปในห้องรับแขก ก่อน
จะหยิบรีโมทกดเปิดทีวี เป็นรายการที่ผมคุ้นตาดี เพราะชอบดูกับแม่ในวันหยุดตอนที่ช่วยแม่รับลูกค้าที่มาสั่งอาหาร

   “รัมภ์รู้ใช่ไหมว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูด”โทรศัพ?ถูกหยิบออกมาโชว์อยู่เบื้องหน้า

   ผมพยักหน้าแล้วรับมันมาไว้ในมือ รีกดเบอร์ที่จำได้ต่อหาปลายสายทันที

   “ฮะ ฮัลโหลแม่”ผมกรอกเสียงลงไป พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

   ‘รัมภ์เหรอลูก เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม รัมภ์ไม่เห็นบอกแม่เลยว่าเจ้านายรัมภ์ที่เขาให้รัมภ์ไปฝึกงานเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย’แม่
พูดในสิ่งที่ทำให้ผมขมวดคิ้ว เกร็งตัวเล็กน้อยเมื่อถูกดึงให้ขึ้นไปนั่งเกยตักในแบบที่ผมไม่ชอบ

   “ระ รัมภ์ยังไม่ได้บอกแม่เหรอ”

   ‘ขี้ลืมจริงๆลูกคนนี้ แม่เองก็เพิ่งจะรู้เอาตอนที่พี่เขามาหาแม่เมื่อสี่ห้าวันก่อน แถมเอารังนกมาให้แม่ต้มกินอีก’

   “เขาไปหาแม่เหรอ”ผมหันหน้าไปมองพี่คินด้วยความไม่พอใจขึ้นมาทันที

   แค่ผมเขายังไม่พอใจอีกรึไง ถึงได้ไปยุ่งกับครอบครัวผมแบบนั้น

   ‘ใช่จ๊ะ เขามาหาแม่ บอกว่ารัมภ์สบายดี แล้วก็เอาเงินเดือนที่รัมภ์ฝากเขามาให้แม่แล้วนะ’

   “งะ เงินเดือนอะไร”

   ‘อ่าว เจ้าลูกคนนี้ จำไม่ได้รึไงว่าตัวเองเอาเงินเดือนฝากพี่เขามาให้แม่’

   “อื้อ รัมภ์ลืมน่ะแม่ แล้วแม่ไปหาหมอวันนั้นหมอว่าไงบ้าง”

   ‘แม่ไม่เป็นไร หมอแค่บอกว่าแม่พักผ่อนน้อย เพราะแม่เปิดร้านดึก แต่เดี๋ยวนี้แม่ปิดร้านเร็วแล้วนะ สี่โมงเย็นแม่ก็ปิดแล้วล่ะ
บังเอิญมีบริษัทอะไรสักอย่างเนี่ยแหละมาผูกปิ่นโตข้าวกล่องแม่ทุกวันวันละหลายสิบกล่องให้แม่ทำไว้แล้วเขาก็มารับเอาไปตอน
สิบโมงไปให้พนักงาน แม่เลยมีเวลาพักผ่อนเยอะกว่าเดิม รัมภ์ไม่ต้องห่วงแม่หรอกนะ เงินเดือนๆหน้าก็เก็บเอาไว้ใช้ เอาไว้ซื้อ
ของที่อยากได้’

   “อื้อ แม่ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว”ผมบอกเสียงสั่น ผมไม่คิดว่าร้านขายออาหารตามสั่งเล็กๆจะมีคนมาสั่งข้าวกล่องอะไรทุก
วันขนาดนั้น มันเป็นการบังเอิญที่จงใจเกินไป

   ‘เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ แม่ต้องทำข้าวกล่องอีก เดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันตอนเขามารับ’

   “อืม แม่อย่าลืมดูแลตัวเองนะ”

   ‘รัมภ์เองก็ดูแลตัวเอง อย่าลืมห่มผ้าล่ะ แม่คิดถึงรัมภ์นะ’

   “รัมภ์ก็คิดถึงแม่”ผมตอบเสียงพร่าก่อนปลายสายจะตัดไป กระบอกตารู้สึกร้อนผ่าวราวกับน้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้
กำลังจะเอ่อล้น

   “พี่ทำบ้าอะไร พี่ไปหาแม่ผมทำไม”ผมสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนที่กอดรัด ลุกขึ้นมาจ้องหน้าพี่เขาด้วยความไม่พอใจที่เขา
ล้ำเส้นจนเกินไป “แล้วข้าวกล่องอะไรนั่นฝีมือพี่ใช่ไหม ถ้าพี่คิดจะเล่นอะไรล้ำเส้นอยู่ล่ะก็ หยุดเดี๋ยวนี้ อย่ามายุ่งกับครอบครัวผม”
เพราะผมมีแม่เหลือแค่คนเดียวในโลกนี้

   “พี่กำลังช่วยรัมภ์ไง ไม่ดีรึไงที่แม่รัมภ์จะได้พักผ่อน”

   “ถ้าพี่อยากจะช่วยผมพี่ก็ปล่อยผมไปสักที”

   “รัมภ์ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ พี่ไม่ยอมปล่อยรัมภ์ไปเด็ดขาด”น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดดังก้องก่อนจะดึงผมให้กลับไปนั่งบนตัก
กว้าง

   “ผมบอกว่าผมไม่ชอบ!!”ผมขืนตัวเอาไว้

   “วันนี้วันหยุด พี่อยากพักผ่อน รัมภ์อย่าดื้อได้ไหม”

   ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่พี่คินก็ยอมปล่อยมือให้ผมนั่งลงข้างๆแทนที่จะนั่งบนตักของเขา

   “ครบสามเดือนผมจะคืนเงินที่พี่เสียไปทั้งหมด”

   “พี่ไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่พี่ต้องการอย่างอื่นคืน”

   นั่นคือคือคำตอบของพี่เขา และมันก็เป็นเหมือนเดิม เหมือนเดิมที่ผมไม่รู้ว่าพี่เขาต้องการอะไรจากผม



   -8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8-8



   “ชอบไหม”เสียงกระซิบถามแข่งกับเสียงของลมทะเลที่พัดเข้าฝั่งจนผมที่เริ่มยาวปลิวมาปกหน้า

   “อืม”ผมพยักหน้าตอบรับย่ำฝ่าเท้าลงไปบนฝืนทรายขาวเม็ดละเอียด

   “ถ้ารัมภ์ชอบพี่จะพารัมภ์มาบ่อยเท่าที่รัมภ์ต้องการ”พี่คินบอกก่อนจะเดินมาชิดด้านหลังจมูกโด่งเฉียดแก้มผมไปแค่นิด
เดียวทำให้ผมสะดุ้งหันไปมองรอบๆเพราะยังมีคนงานหลายคนเดินอยู่แถวนี้

   “อย่า”

   “กลัวคนอื่นเห็น?”

   พี่คินถามแต่ผมไม่ตอบหลุบตามองพื้นทรายเบื้องล่างเมื่อเห็นคนงานสองคนกำลังมองอยู่ไกลๆ ดูเหมือนว่าคนที่นี่จะรู้กัน
หมดแล้วว่าผมเป็นใคร และที่ยิ่งไปกว่านั้นคนพวกกลับไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวได้แต่เฝ้ามองอยู่ไกลๆ

   “คนที่นี่เขารู้ว่ารัมภ์เป็นอะไรสำหรับพี่”พี่คินกระซิบดึงผมเข้าไปกอดก่อนจะจูบลงบนแก้มเบาๆ

   ทำเหมือนผมเป็นตุ๊กตาที่ต้องคอยทำตามที่พี่เขาสั่ง

   “กลับกันเถอะ วันนี้ลมแรง เดี๋ยวจะไม่สบาย ไว้วันอื่นพี่จะพารัมภ์มาเล่นน้ำ”

   ผมเหลือบมองประโยคสุดท้ายด้วยความสนใจทำให้พี่คินยิ้มออกมาเล็กๆ เขารู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมสนใจ อะไรที่ทำให้ผมไม่
พอใจ สามเดือนที่เราเคยคบกันทำให้เราต่างก็ศึกษาซึ่งกันและกันมากพอ



   หลังจากวันนั้นที่โซ่ถูกปลดออกไป พี่คินยอมให้ผมออกมาจากห้องเวลาที่เขาอยู่โดยที่มีเขาคุมอยู่ใกล้ๆ ผมถูกอนุญาตให้
เดินไปมาภายในบ้าน แต่ห้ามออกกไปข้างนอกหากไม่ได้รับอนุญาต ผมจะเจอกับภูผาแค่วันเสาร์กับอาทิตย์ แต่ถึงอย่างนั้นพี่คิ
นก็มักจะจับจ้องเอาไว้ด้วยสายคาดุดัน บังคับไม่ให้ผมเข้าใกล้ภูผาเกินเหตุ

   สองอาทิตย์แล้วที่พี่คินปล่อยให้ผมเดินไปมาในบ้านเวลาที่เขาอยู่ ยอมให้ผมคุยกับพี่นุ่มซึ่งเป็นคอยดูและเรื่องอาหารและ
เรื่องความสะอาดในบ้านหลังนี้เวลากลางวันและจะเลิกงานกลับบ้านในเวลาห้าโมงเย็นของทุกวัน ทำให้ผมรู้ว่าในเวลากลางคืน
ผมจะถูกทิ้งให้อยู่ในบ้านหลังนี้กับพี่คินสองคนเท่านั้น

   แล้ววันนี้พี่คินก็ทำให้ผมแปลกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อผมถูกพานอกฟาร์มสานรัก มาหยุดอยู่ที่ตลาดนัดของหมู่บ้านซึ่งมีทุกเย็น
ของวัน

   “พาผมมาที่นี่ทำไม”ผมถาม

   “ต่อไปนี้รัมภ์จะต้องเป็นคนทำกับข้าวเอง”

   “พี่นุ่นเป็นคนทำอยู่แล้วไม่ใช่รึไง”ผมเบือนหน้าหนี

   ไม่รู้ว่าพี่เขาจะเอายังไงกันแน่ แค่ขังริบอิสระของผมไปมันก็พอแรงอยู่แล้ว แล้วนี่ยังจะบังคับให้ผมทำกับข้าวอีก

   “พี่อยากกินกับข้าวฝีมือรัมภ์”พี่คิดตัดบทพาดึงมือผมให้เดินตามไปยังแผงขายผัก ซึ่งป้าคนขายก็ยิ้มทักพี่คินด้วยภาษาใต้
อย่างสนิทสนม

   ผมเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าหล่อเหลาดูกร้านขึ้นเล็กน้อยจากสีผิวที่เข้มขึ้นและหนวดเคราที่เริ่มขึ้นครึ้ม อาจจะเป็นเพราะพี่คิน
ดูคมผิวเข้มเป็นทันเดิมเหมือนคนใต้อยู่แล้วจึงทำให้ยิ่งดูเถื่อนเข้าไปอีกเมื่อไม่ได้ใส่ใจกับไรเคราดกบนใบหน้า

   “เลือกสิ”คำสั่งที่ผมขัดไม่ได้ จำใจเลือกผักหลายอย่างใส่ตะกร้าส่งให้ป้าคนขาย

   แล้วก็ต้องยิ้มตอบเมื่อป้าเขายิ้มให้ผมเหมือนกับคุ้นเคย แล้วรับถุงผักมาถือไว้

   “พ่อหนุ่มนี่หน้าตาดีเนอะ มิน่านายหัวถึงหวงนักหวงหนา”สำเนียงออกแปร่งๆชวนคุย


   “ครับ”ตอบรับอย่างช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีโอกาสและไม่คิดที่จะอธิบายอะไร

   ถุงผักถูกดึงไปถือแทนส่วนมือของพี่เขาอีกข้างก็ยังคงจับจูงให้ผมเดินตามไปยังเขียงหมู

   เหมือนเดิม พี่คินยังคงทักลุงคนขายหมูด้วยภาษาใต้ ซึ่งผมไม่คิดจะสนใจฟังบทสนทนาเพราะคิดว่าคงฟังไม่ออกอยู่แล้ว

   “เอาแบบไหนดี”พี่คินถามดันให้ผมเลือกเนื้อหมูส่วนต่างๆวางเรียงรายอยู่เบื้องหน้า”

   “เอาสันในชิ้นนี้ก็ได้ครับ แล้วก็สามชั้นชิ้นนี้”ผมจิ้มนิ้วไปที่ชิ้นเนื้อที่คิดว่าสวยที่สุดในแผง ได้วิชาเลือกของสดมาจากแม่
เพราะไปช่วยแม่ถือของจ่ายตลาดตอนเช้ามืดบ่อย

   “นอกจากจะตาน้ำข้าวแล้วยังตาถึงอีก มิน่านายหัวถึงไม่ปล่อยไปไหน”อีกแล้วที่ทั้งถูกชมและเหมือนถูกมองในแบบที่
ทำให้รู้สึกละอายใจในคราวเดียวกัน

   ผมรับถุงหมูมาถือไว้ และเหมือนเดิมพี่คินแย่งมันไปถือเอง ตลอดเวลาที่เดินอยู่ในตลาดนัดตอนเย็น รู้สึกเหมือนมีสาย
หลายคู่จ้องมองเหมือนตัวประหลาด พยายามคิดว่าที่เขามองผมเป็นเพราะผิวที่ขาวจัดกับสีตาและสีผมที่ได้มากพ่อ ไม่ใช่ใน
ฐานะอะไรสักอย่างที่เกี่ยวข้องกับพี่คิน



   สุดท้ายผมก็กลายเป็นคนทำกับข้าวแทนพี่นุ่มไปโดยปริยาย พี่คินจะออกไปทำงานในเวลาสิบโมงเช้าของทุกวันและจะ
กลับมากินข้าวกลางวันในเวลาบ่ายโมงเลิกงานห้าโมงเย็นซึ่งผมจะต้องคอยเตรียมสำรับข้าวรอพี่เขาสามมื้อต่อวัน ทำเหมือนผม
เป็นแม่บ้านของพี่เขาที่ต้องคอยดูแลเรื่องอาหารการกินภายในบ้าน

   “พี่กลับก่อนนะรัมภ์”พี่นุ่มบอกลาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน

   น่าแปลกที่พี่คินยังไม่กลับทิ้งให้ผมอยู่บ้านคนเดียว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่กล้าที่จะหนีอีกแล้ว จำนวนเงินที่ระบุในสัญญา
มันมากเกินไป อีกอย่าง ผมกลัวว่าพี่คินจะพาลไปลงกับแม่ที่อยู่คนตัวเดียว

   ในระหว่างที่กำลังเปิดตู้เย็นเพื่อดูของสดในตู้เตรียมทำมื้อเย็น เสียงกุกกักที่หน้าประตูหลังบ้านเรียกให้ผมหันไปมองด้วย
ความสงสัยคิดว่าเป็นพี่คิน แต่กลับไม่ใช่

   “อะ เอ่อ ผมลืมของเอาไว้เมื่อวันก่อน”ภูผาบอกเสียงขาดหาย ใบหน้าคมดูลำบากใจเมื่อผมจ้องอยู่

   “เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไป”ผมรั้งแขนภูผาเอาไว้

   “พี่ มีอะไรรึเปล่า”

   “พี่คิน เอ่อ พี่หมายถึงนายหัวของภูผา เขาไม่ได้ทำอะไรเราใช่ไหม”ผมถามด้วยความเป็นห่วง เพราะภูผาดูเกรงกลัวขึ้น
เยอะเวลาที่เข้าใกล้ผม

   “ไม่ นายหัวไม่ได้ทำอะไรผม พี่ไม่ต้องห่วง นายหัวภาคินไม่ใช่คนเลว”ภูผาส่ายหน้า “แล้ว เอ่อ พี่ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม นาย
หัวภาคินเป็นคนใจดี ถ้าพี่เชื่อฟังนายหัวจะดีกับพี่”

   “เรื่องนั้นพี่รู้”ผมพยักหน้า หลายวันที่ผ่านมาผมเรียนรู้แล้วว่าหากผมเชื่อฟังเขาเขาจะให้ในสิ่งที่ผมต้องการและเขาให้ได้

   “ผม ไม่ได้ตั้งใจมองพี่วันนั้น”ภูผาบอกเสียงแผ่ว เรื่องราวในคืนนั้นวนเวียนเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง

   “ช่างมันเถอะ ภูผาไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว พี่ไม่อยากดึงภูผามาเดือดร้อน”

   “ผมเข้าใจดีว่าการถูกขังเอาไว้มันเป็นยังไง ที่ผมช่วยพี่ผมเต็มใจ พี่ไม่ต้องห่วง ผมต้องกลับแล้ว ไว้วันเสาร์ผมจะมาใหม่”

   “อืม”ผมพยักหน้ารับเมื่อภูผาดูกังวลกับเรื่องเวลา

   

   “คุยอะไรกัน”ทันทีที่ภูผาเดินออกไปทาประตูหลัง เสียงไถ่ถามก็ดังขึ้นมา หันไปมองนัยน์ตาคู่คมกริบจ้องมองมาเหมือน
กำลังจับผิด

   วันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากทุกทีเมื่อพี่คินดูเหมือนจะหงุดหงิดกับอะไรมาก่อนหน้านี้

   “ภูผามาเอาของที่ลืมไว้”ผมรีบตอบไปตามความจริงเพราะกลัวว่าภูผาจะซวยเดือดร้อน

   “แค่นั้น?”

   “อืม”ผมพยักหน้า

   “พี่มีอะไรจะถามรัมภ์”พี่คินดึงแขนให้ผมเดินตามเข้าไปในห้องนั่งเล่นก่อนจะเปิดรายการข่าวช่วงเย็นทิ้งเอาไว้

   “รัมภ์รู้จักคนในรูปนี้ไหม”กระดาษเอสี่หลายแผ่นถูกวางลงบนโต๊ะเบื้องหน้า แต่ละแผ่นปริ้นรูปที่เหมือนจะตัดมาจากกล้อง
วงจรปิดในนั้นมีรูปของผู้ชายร่างสูงอายุประมานสามสิบกว่าๆท่าทางเหมือนกำลังติดต่อกับพนักงานที่เค้าน์เตอร์ของฟาร์มสานรัก

   “ไม่”ผมส่ายหน้ายื่นรูปพวกนั้นคืน

   “รัมภ์แน่ใจนะว่ารัมภ์ไม่รู้จัก”พี่คินคาดคั้น

   ผมได้แต่พยักหน้า จ้องตอบดวงตาคู่ดุที่มองมาเหมือนกับกำลังจับผิด ก็แล้วทำไมผมถึงจะต้องรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยในเมื่อ
ผมไม่เคยเจอผู้ชายคนนั้น

   “ผู้ชายคนนี้มาถามหารัมภ์ที่ออฟฟิต พี่อยากรู้ว่าเขารู้ได้ยังไงว่ารัมภ์อยู่ที่ฟาร์มสานรัก”

   “ผมไม่รู้”ผมตอบเสียงแข็งเมื่อถูกคาดคั้น ในเมื่อผมยืนยันไปแล้วว่าผมไม่รู้จักกับผู้ชายในรูป ทำไมพี่เขาจะต้องทำเหมือน
กับกำลังจับผิดทั้งที่ผมไม่ผิด

   “ถ้ารัมภ์ยืนยันแบบนั้นพี่ก็จะเชื่อรัมภ์”พูดจบพี่คินก็ถึงผมเข้าไปใกล้เหมือนทุกครั้งที่ทำเวลาที่กลับมาจากทำงาน ดึงผม
เข้าไปกอดแล้วก็จูบลงมา

   แต่ครั้งนี้กลิ่นสาบแปลกๆปะปนกับกลิ่นดินที่ติดมากับตัวของพี่เขาทำให้ผมขืนตัวออก

   “รัมภ์เหม็น?”

   ผมพยักหน้ามองดูพี่เขาก้มลงดมเสื้อของตัวเอง วันนี้พี่คินอยู่ในชุดทำงานที่รัดกุมเหมือนชุดของคนงานคนอื่นๆไม่เหมือน
ทุกวันที่อยู่ในชุดสุภาพดูสุขุม

   “พี่เข้าไปดูนกในถ้ำมา เห็นคนงานบอกว่าช่วงนี้นกหายไปเยอะผิดปกติ”

   “อืม”ผมพยักหน้าเตรียมลุกขึ้นเพื่อจะไปทำกับข้าว


   “จะไปไหน รัมภ์ยังไม่ได้ทักทายพี่”

   ถูกดึงมือเอาไว้ให้หันกลับไปแล้วตอบรับจูบทั้งที่กลิ่นดินยังปะปนติดอยู่บนร่างกายของพี่เขา

   นานนับหลายนาทีจนพี่เขายอมปล่อยผม แล้วเดินขึ้นชั้นบนเพื่ออาบน้ำ ทิ้งเวลาให้ผมได้ทำกับข้าวเตรียมเอาไว้สำหรับมื้อ
เย็น

   



-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จริงๆนายหัวของเราเค้าเป็นคนอ่อนโยนนะ ส่วนน้องรัมภ์เริ่มรู้แล้วว่าตัวเองต้องทำยังไง



ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เริ่มปรับตัวสินะ

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คินคงทั้งรักทั้งแค้นแหละ  :hao5:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
มีเรื่องแยกหรือตอนพิเศษของภูผาไหมคะ เหมือนน้องจะมีอะไรในใจสักอย่าง อยากรู้อ่ะ อิอิ  :L2: :pig4:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
ชอบตอนนี้นะแต่ก็ไม่อยากให้รัมภ์ใขอ่อนง่ายๆในสามเดือนนี้อ่ะ   

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ใครนะ มาถาม ตามหารัมภ์  :katai1:
พี่คิน มั่นคงในรัก รักรัมภ์จริงๆ เป็นคนรักที่ใครก็อยากได้  :o8:
อยากให้ความใกล้ชิด การทำดีต่อแม่รัมภ์ ทำให้รัมภ์ เห็นความรักจริงของพี่คิน  :man1:
รอ นะ  :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ chaweewong19841

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-2

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ใครได้พี่คินเป็นแฟนรักตายเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
บทที่ 7 ทำงาน

   “รัมภ์”เสียงกระซิบข้างหูปลุกให้ผมสะลึมสะลือตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า

   “รัมภ์”พี่คินเรียกย้ำคราวนี้จมูกโด่งคลอเคลียช่วงลาดไหล่ของผม กระดุมเสื้อค่อยๆถูกปลดออกทีละเม็ดอย่างเบามือ

   “อือ”ผมครางอือในลำคอเพราะยังคงง่วงงัน เบือนหน้าหนีเล็กน้อยเมื่อไรเคราสากถูกไถต้นคอชวนให้รู้สึกจั๊กจี้

   “รัมภ์ ตื่นได้แล้ว เด็กดี”

   “อือ ไม่เอา”ผมผลักพี่เขาออกเมื่อท้องฟ้านอกหน้าต่างยังคงมืดครึ้ม

   เสื้อนอนถูกปลดกระดุมออกจนหมด มือใหญ่กร้านแหวกสาบเสื้อออกจากกันก่อนที่พี่คินจะก้มลงไปตวัดลิ้นเลียปลายยอด
เล็กๆบนแผงอกให้ผมได้สะดุ้งลืมตาขึ้นมามองด้วยความตกใจ

   “ตื่นได้แล้วคนเก่ง”พึมพำทั้งที่ยังดูดดึงปลายยอดที่อยู่ในปากทำให้ผมขนลุกซู่

   “จะ จะทำอะไร”

   ได้แต่ถามเสียงสั่นเมื่อกางเกงขอบยางยืดถูกดึงลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้ากายหลับใหลถูกกอบกุมกระตุ้นด้วยมือร้อนผ่าวจน
ตื่นขึ้นมาถึงแม้ว่าใจจะไม่ได้ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นก็ตาม

   “คนเก่ง”

   เสียงปลอบประโลมยังคงดังพึมพำเมื่อริมฝีปากหยักพรมจูบลงมาทั่วหน้าในความมืด

   “ผมง่วง”

   ผมบอกออกไม่ ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับความต้องการของพี่เขาที่จู่ๆดันมาเกิดขึ้นเอาตอนเช้ามืดแบบนี้ ร่างกายของผม
สั่นเล็กๆเมื่อมือสากลากผ่านไปทั่วพร้อมกับลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดลงบนต้นคอไล่ไปจนถึงแผงอก

   “รัมภ์รู้ไหมว่ารัมภ์ตัวหอม”

   พี่คินพึมพำ เสียงหายใจหอบกระเส่ากระซิบข้างหู สองมือของพี่เขาจับขาของผมให้อ้าออกกว้างตอบรับกายสูงใหญ่แทรก
มาคั้นตรงกลาง

   ความง่วงของผมหายไปเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจลเย็นวาบถูกเทราดลงไปบนช่องทางด้านหลัง นิ้วแข็งกร้านถูกสอดเข้ามาทีเดียว
จนผมสะดุ้งคว้าคอพี่เขามากอดไว้อย่างไม่ตั้งใจ

   “อือ อย่าลึก”

   ผมร้องห้าม นิ้วที่ทั้งแข็งทั้งร้อนสอดเข้ามาแล้วคว้านไปทั่ว ผมได้แต่กัดฟันพยายามกลั้นเสียงเอาไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกมา

   “ร้องออกมาสิรัมภ์ พี่อยากได้ยินเสียงเวลาที่พี่เข้าไปในตัวรัมภ์”คำพูดลามกกำลังทำให้หน้าผมร้อนวูบ

   จูบเร่าร้อนถูกป้อนลงมาส่งลิ้นชื้นน้ำลายเข้ามาเกี่ยวกระหวัดข้างในโพลงปาก ร่างกายของผมกำลังถูกทาบทับด้วยร่างกาย
ที่ทั้งใหญ่แล้วก็แข็งแรง ผิวเนื้อร้อนราวกับไฟนาบลงมาแนบชิดชวนให้แทบหลอมละลายเหมือนขี้ผึ้งที่ถูกไฟลน

   “อือ”ผมครางออกมาเสียงเบาเมื่อพี่คินถอนนิ้วออก ปลายท่อนลำอุ่นร้อนจรดลงบนปากทางอ่อนไหว

   มันถูไถอยู่อย่างนั้น ทำให้ผมเกร็งตัวเพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรพี่เขาจะเข้ามา

   “อยากได้ไหม”พี่คินถามเสียงพร่าดวงตาดุดันแต่ดูแพรวพราวจ้องมองผมเหมือนกับกำลังพยายามอ่านใจ

   “ไม่”ผมตอบเสียงสั่นส่ายหัว

   “เป็นเด็กไม่ดีเลยรู้ไหม”พี่คินกระซิบ

   ก่อนที่ผมจะเบิกตากว้าง ท่อนเนื้อร้อนผ่าวอีกทั้งแข็งขืนสอดเข้ามารวดเดียว

   “ฮะ ฮึก”ผมสะอื้นจิกเล็บลงบนบ่ากว้าง ถึงแม้จะไม่เจ็บแต่ก็รู้สึกจุกหน่วงจนสิ่งที่พยายามอดกลั้นเอาไว้แทบจะปลดปล่อย
ออกมา

   พี่คินยังคงกระซิบทั้งคำปลอบโยนและคำพูดลามกน่าอายข้างหู แต่สำหรับผมแล้วมันกลับไม่เข้ามาในหูผมเลยเมื่อท่อน
กายใหญ่โตกระทั้นเข้ามาไม่หยุดหย่อน ฉุดดึงผมให้จมสู่ความกระสันที่ไม่อาจจะควบคุมได้

   “อะ อื้อ พี่คิน ผม พอ”ผมร้องไม่เป็นคำยามที่กายแข็งขืนดันเข้ามาจนสุด กระตุ้นให้ด้านหน้าบวมเป่งและใกล้จะปลดปล่อย
ออกมาเต็มทน

   ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพี่เขาปล่อยให้ผมนอนอีกครั้งตอนไหน รู้แค่ว่าเขาฝากฝังของต่างหน้าเอาไว้ข้างในกายจนมันไหล
ย้อนออกมา ก่อนร่างกายจะถูกดึงเข้าไปกอดแล้วหลับลงไปอีกครั้ง



   “รัมภ์ ตื่นได้แล้ว คนเก่ง”พี่คินแตะที่แขนผมอย่างเบามือ แต่ผมกลับสะดุ้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาปลุกผมด้วยการ
เรียกชื่อแบบนี้ผมต้องเจอกับอะไร

   ของเหลวที่ไหลย้อนออกมาทางช่องทางด้านหลังเรียกให้ผมหวนนึกถึงเมื่อเช้ามืด เบือนหน้าหนีสายตากรุ่มกริ่มมองมา
อย่างมีความหมาย

   “ไปอาบน้ำได้แล้ว”

   พี่เขาฉุดให้ผมลุกขึ้นจากเตียง แต่ขาเจ้ากรรมมันดันไม่มีแรงทำให้ผมเกือบจะทรุดลงไปด้วยความที่ไม่ตั้งตัวหากไม่มีแขน

แข็งแรงฉุดเอาไว้เสียก่อน

   “เป็นอะไรไป”ถามเสียงเรียบ ซึ่งนั่นทำให้ผมหงุดหงิด

   

   “ใส่ชุดนี้สิ”ชุดทำงานที่เหมือนกับชุดของคนสวนถูกยื่นมาข้างหน้า

   “ทำไมต้องชุดนี้”

   “วันนี้เราจะไปทำงานกัน”พี่คินใช้คำว่าเรา ผมเข้าใจทันทีว่ายังไงผมก็เลี่ยงคำสั่งไม่ได้

   ได้แต่รับชุดคนสวนนั้นมาใส่ทั้งที่ไม่ค่อยพอใจ ทั้งที่อย่างน้อยก็ต้องใส่กางเกงขายาวสุภาพกับเสื้อเชิ้ตแท้ๆ หรือว่าเขา
ต้องการจะแกล้งให้ผมอายต่อหน้าคนอื่น



   “ออฟฟิตไม่ได้ต้องขับรถไปเหรอครับ”ผมดึงแขนเสื้อของพี่เขาเอาไว้เมื่อเราสองคนเดินเลยรถของพี่เขาเข้าในป่าช่องทาง
เดินกว้างเท่าถนนเลนเดียว พื้นทางเดินค่อยๆชันขึ้นและเริ่มมีก้อนหินและเถาวัลย์ขึ้นรกเต็มไปหมด

   “เราไม่ได้จะไปออฟฟิต”

   เรามาหยุดอยู่ตรงปากทางเข้าถ้ำด้านหน้าของหน้าผาสูง เริ่มเห็นคนงานเดินสวนออกมาบ้าง ต่างก็ยิ้มทักทายนายหัวของ
พวกเขา พี่คินดึงผมให้ยืนอยู่เบื้องหน้าแล้วเอไฟฉายแบบสวมหัวสวมสวมให้ ทำให้ต้องขมวดคิ้วมุ่น ไม่ได้คาดคิดว่าเราจะต้อง
เข้าไปในถ้ำที่เกือบจะมืดสนิทแบบนั้น

   “พร้อมไหม”ถามเสียงเบาพลางเกลี่ยเอาปอยผมออกจากใบหน้าให้ ผมได้แต่พยักหน้า เพราะคิดว่าไม่พร้อมก็ต้องพร้อม
มาถึงขนาดนี้แล้ว

   เราสองคนเดินเข้ามาในถ้ำ พื้นถ้ำค่อนข้างมีหินงอกขึ้นมาทำให้พื้นไม่เงียบเสมอเวลาเดินจึงค่อนข้างลำบาก แต่พี่คินก็คอย
จับเอาไว้จากที่เกือบหน้าคว่ำไปหลายรอบ

   “ขึ้นไปสิ”

   ยิ่งเดินเข้ามายในถ้ำยิ่งมืดสนิทเรามาหยุดอยู่ที่นั่งร้านตัวสูงมีบันไดให้ปีนขึ้นไป ผมส่ายหน้าเบาๆ ถึงแม้มันจะไม่สูงมากแต่
มันก็ทั้งมืดทั้งเงียบจนน่ากลัว ผมมองไปรอบๆถ้ำ ถึงจะมีแสงจากไฟฉายบนหัวแต่มันก็ไม่ได้สว่างจนมองเห็นรอบด้าน แสงมันแค่
พอเห็นทางเดินข้างหน้าในระยะสั้นๆ จะมองเห็นแสงไฟจากไฟฉายของคนงานคนอื่นๆอยู่ไกลๆบ้างในบางครั้ง

   “ไม่เป็นไร พี่คอยจับเอาไว้อยู่”พี่คินดันผมขึ้นไปแล้วก็ปีนตามขึ้นมาติดๆ

   เรามาถึงแค่ชั้นตรงกลางของนั่งร้าน ถูกดันให้นั่งลงทั้งที่ขายังสั่น

   “ดูนี่สิ ตัวนี้พึ่งจะฝักออกจากไข่มาได้สองวัน”พี่คินชี้ให้ดูรังนกที่ซ่อนอยู่ในซอกหินมีลูกนกตัวเล็กเท่าปลายนิ้วมือขยับไป
มาอยู่ข้างใน

   “เราจะเก็บรังนี้ไปเลยเหรอ”ผมถามเมื่อลูกนกมันยังรอนอนรอพ่อแม่ของมันอยู่ในรัง

   “เราจะยังไม่เก็บมัน ต้องรอให้ลูกนกบินได้ก่อนถึงจะเก็บได้”

   “อืม”

   “รัมภ์อยากลองเก็บรังนกดูไหม รังตรงนั้นลูกนกพึ่งจะบินได้แล้วทิ้งรังไป”

   “แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหน”ถามออกไปด้วยความที่สงสัยมานานเกี่ยวกับการเก็บรังนก

   เพราะมันเป็นการคุกคามและเป็นการแย่งเอาที่อยู่อาศัยของนกไปทำให้นกต้องทำรังใหม่ เคยได้ยินมาว่านกบางตัวทำรัง
ด้วยน้ำลายจนน้ำลายกลายเป็นเลือด

   “มันจะสร้างรังใหม่ ถ้าไม่เก็บรังมันมันจะมาอยู่รังเก่า”

   “ก็ให้มันอยู่รังเก่าไปไม่ได้รึไง”ผมเบือนหน้าหนีไปมองเจ้าลูกนกกระดุกกระดิกไปมา

   “ได้มันก็ได้อยู่ แต่รังเก่าบางครั้งมันก็แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนัก บางทีแม่นกตัวเดิมกลับมาวางไข่ไข่อาจจะร่วงลงไปได้”

   “พี่เก็บรังของมันบ่อยแค่ไหน”

   “หลังฤดูผสมพันธุ์ตอนที่ลูกนกหัดบิน ปีหนึ่งก็สี่ห้าครั้ง ส่วนมากคนงานที่เข้ามาทุกวันพี่จะให้คอยดูแลนกในถ้ำอยู่ไกลๆ”

   ผมพยักหน้ารับพลางลุกขึ้นอีกครั้งไปยังอีกฟากของนั่งร้าน มองดูรังนกที่พี่คินชี้ให้ดูรังนกตรงหน้า

   “เอากระจกลงส่องดูข้างใน ถ้าไม่มีอะไรรัมภ์ก็เก็บมันได้”พี่คินส่งกระจกบานเล็กๆใส่มือ

   “ไหนพี่บอกว่ามันร้างแล้ว”

   “ส่องเพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้เก็บรังผิด แม่นกจะได้ไม่หนีไปที่อื่น”

   พี่คินอธิบายจับมือที่ถือกระจกไปส่องดูด้านในของรังนก ปรากฏว่าข้างในไม่มีอะไรพี่เขาจึงหยิบอุปกรณ์อะไรสักอย่างที่เป็น
เหล็กแผ่นแบนๆแล้วก็มีด้ามจับ

   “ลองทำดูสิ”พี่คินกระซิบเพราะกลัวว่านกในถ้ำจะตื่นจับมือให้ผมกดแผ่นเหล็กมีด้ามจับลงไปที่ด้านข้างของรังแล้วเอามือ
รองรับเอาไว้

   ในที่สุดรังนกสีขาวมอมมีขนนกติดอยู่ประปรายก็มาอยู่ในมือ

   “เก่งมากเด็กดี”พี่คินกระซิบโน้มหน้าลงมาใกล้แล้วจูบลงมาบนขมับ

   “แค่นี้เหรอ”

   “อืม แค่นี้”พี่คินพยักหน้า

   น่าแปลกที่เวลาเหมือนผ่านไปเร็วกว่าทุกวัน อาจจะเป็นเพราะผมได้ออกมาข้างนอก ได้ทำอะไรที่แปลกใหม่น่าตื่นเต้น
อย่างการปีนนั่งร้านขึ้นมาเก็บรังนกแบบนี้

   “กลับกันเถอะ วันนี้เราเก็บกันเยอะแล้ว”

   พี่คินชูถุงผ้าใส่รังนกที่เราเก็บขึ้นมาทั้งที่ในนั้นมีรังนกไม่ถึงสิบรังด้วยซ้ำ

   “นั่นเรียกว่าเยอะ?”

   “แค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวคนงานไม่มีงานทำ”บอกเสียงเบาก่อนจะยกมือขึ้นมาขยี้หัวผม

   ผมโยกหัวหลบเบือนหน้าหนี รู้สึกใจสั่นๆเมื่อพี่คินเป็นพี่คินอีกคน ไม่ใช่คนที่จับผมล่ามโซ่ในวันนั้น กลับไปเหมือนกับพี่คิ
นที่ผมเคยรู้จักเมื่อตอนที่เราเคยคบกัน

   “กลับกันได้แล้ว”พี่คินส่งถุงผ้าใส่รังนกให้คนงานที่อยู่แถวนั้นก่อนจะจูงมือให้เดินตามไปยังทางกลับบ้าน ระหว่างทางกลับ

   ผมเงยหน้ามองสองข้างทางต้นไม้ขึ้นสูงแผ่กิ่งก้านบดบังแสงอาทิตย์มีเพียงช่องว่างเล็กน้อยที่แสงจะลอดลงมา ดูเหมือน
เป็นดวงตาระยิบระยับประดับอยู่ด้านบน สายลมอ่อนๆพัดผ่านร่างของเราสองคนผสานกับเสียงคลื่นและเสียงนกหลายพันธุ์ที่เกาะ
อยู่บนกิ่งไม้ บางตัวก็บินผ่านหัวเราสองคนไปมา

   “อื้อ ผมยังไม่ได้อาบน้ำ”

   พอมาถึงบ้านพี่คินก็ดึงผมขึ้นไปยังห้องนอนทันที ผมถูกดึงไปกอดก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะกดจูบลงมาทำให้ต้องเบี่ยง
หลบ

   “ไม่เป็นไร”เสียงพร่าพลางพยายามปลดกระดุมเสื้อของผมออกทีละเม็ด

   “ผมยังไม่ได้อาบน้ำ”

   พยายามบอกแต่เขาก็ไม่ฟัง พี่คินเบียดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง สอดมือเข้ามาใต้เสื้อลูบผ่านบ้านเอวไปผมพาลให้ผมขนลุก

   “รู้ไหมว่าพี่ต้องอดทนขนาดตอนที่อยู่ในถ้ำนั่น”

   เสียงกระซิบแหบห้าวดังอยู่ข้างหู แต่เพราะผมดึงดันที่จะไม่ยอมเพราะต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่ได้อาบน้ำ พี่เขาเลยดึงเราทั้งคู่
เข้าไปในห้องน้ำ สายน้ำอุ่นจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายของราสองคน แต่พี่คินก็ยังไม่ปล่อยจูบ มือร้อนสากลูบผ่านร่างกายของ
ผมไปทั่ว

   จมูกโด่งถอยออกมาคลอเคลียพวงแก้มไล่ลงไปที่ซอกคอ ผมถูกจับให้หันหลังชิดผนังเย็นชืด ขาข้างหนึ่งถูกจับให้ยกขึ้น
มาเกี่ยวกับเอวสอบหนา แก่นกายของพี่คินร้อนผ่าวและแข็งขืนน่ากลัวจนผมต้องเบือนหน้าหนี เขาจับให้ท่อนกายของเราเสียดสี
กันไปมาจนผมเริ่มรู้สึกร่วมตามพี่เขาอย่างง่ายดาย

   สุดท้ายเราก็มีอะไรกันในห้องน้ำจนได้ เสียงหยดน้ำตกกระทบพื้นกับเสียงกระกระแทกกายลงมาของพี่เขายังคงก้องอยู่ใน
หู

   ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ออกไปไหนทำให้รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าที่ควรจะเป็น ผมทรุดกายลงนั่งริมเตียงนอนโดยมีพี่คินนั่งซ้อน
อยู่ด้านหลัง พี่คินถือผ้าขนหนูเอาไว้แล้วเช็ดลงมาที่หัวของผมอย่างเบามือจนผมเริ่มแห้งหมาดผมจึงได้ลมตัวลงนอน ลอบมองพี่
เขาคุยโทรศัพท์กับใครสักคนก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่

   “นอนอยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่กลับมา”พี่คินก้มลงมากระซิบแล้วจูบลงบนหน้าผากทิ้งให้ผมนอนอยู่บนเตียง ได้ยินเสียงประตูล็อก
อัตโนมัติปิดลงอีกครั้งจึงได้ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันนี้เขาเรียกว่าบทสวีทไหม ไม่ค่อยถนัดสักเท่าไรไอ้บทสวีทของพระนายเนี่ย ขอบคุณที่เข้ามากอ่านกันนะเจ้าคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำชมนายหัวภาคินของเรา ยินดีตอบรับทุกคำติชมเจ้าค่า

ออฟไลน์ ploy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารรัมภ์อ่ะ  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ worry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบภาคินอ่ะ :z2:

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สงสารรัมภ์มากๆ อยากเมือไรก็เอาหรอ?  :beat:  :z6:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
จะกลิ่นถ้ำกลิ่นขี้นกก็ไม่อาจกลบกลิ่นน้องรัมได้ อิพี่คินมันหื่นตลอดจริงๆ

ออฟไลน์ lalaly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พึ่งเข้ามาอ่าน .ชอบเรื่องนี้มากเลยครับ .เป็นนกำลังใจให้คนเเต่งครับ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากค่ะ รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ  o13

ออฟไลน์ TORORO-PD

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
พี่คิน ร้ายกาจจจจ

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ภาคินสุดยอด พระเอกแห่งปี

ออฟไลน์ jillongame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :hao3: :hao6: จริงๆโลเกชั่นในถั้มนี้ก็ไม่เลวนะ อิอิอิอิอิ :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2016 19:16:08 โดย NeLy เนลี่ »

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
พระเอกอยู่ไหน มาปลอบขวัญด่วน

ออฟไลน์ benicezii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 43
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อย่าเป็นอะไรน้ะ  :o12:

ออฟไลน์ 0%

  • 0percent.
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หือน้องรัมภ์จะโดนยิงหรือเปล่าเนี่ย ไอ้พวกเลว
พี่คินรีบมาช่วยน้องเร็วๆนะ

ออฟไลน์ lalaly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ถูกยิง . โอ้มั้ย

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่คินนนมาเร็วๆเลย! น้องกำลังแย่นะ  :z3:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
รอพี่คินมาช่วย

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
กรี๊ดด น้องรัมภ์ของพี่ อย่าเป็นไรน้าา

ออฟไลน์ Oเด็กหญิงเย็นชาO

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2016 20:38:35 โดย NeLy เนลี่ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด