ผมตื่นขึ้นมา เช้าวันจันทร์ก็เป็นไปตามปกติ ไปเรียนสายนิดๆ เพราะเริ่มปรับตัวกลับความใกล้ระหว่างหอกับมหาลัยได้แล้ว จึงเริ่มสายเสมอเหมือนเดิม (ไม่ดีนะค้าบ อย่าเอาเยี่ยงอย่างล่ะคุณหนูๆ)
วันนี้ผมไปช่วยพวกไอ้แบงค์ถ่ายหนังจนดึกดื่น กลับมาห้องสี่ทุ่มนิดๆ แล้วล่ะคับ เห็นห้องข้างๆไม่ได้ล็อคแม่กุญแจแสดงว่าเจ้าของห้องอยู่ อืมมม ทำไรอยู่วะ แอบอยากเสือกเรื่องชาวบ้านซะงั้น แต่เอ...ไปเคาะก็ไม่รู้จะบอกว่ามีธุระอะไร อืม เข้าห้องเราดีกว่า...วันนี้ได้งานใหม่มาด้วย นั่งทำงานดีกว่า
เวลาก็เดินผ่านไป เรื่อยๆเรื่อยๆเรื่อยๆ
จนเกือบเที่ยงคืนเสียงประตูห้องข้างๆก็เปิดปิด ปัง!!! (ดังเหมือนเคย)
แล้วทุกอย่างก็เงียบลงเช่นเดิม
...............
......................
....Gear
ผมนั่งเล่นเนทอย่างกระวนกระวาย แม่งทำไมไอ้เต้มันไม่ออนสักทีวะ เมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงว่ากลับห้องแล้วนี่หว่า
จะไปเคาะห้องมันก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลไรไปอ้าง แต่ในใจก็อยากคุยกับมันสักนิดก็ยังดี วันนี้ยังไม่เจอหน้าเลยเฮ้อ
จนจะตีหนึ่งแล้วแม่งก็ยังไม่ออน หิวก็หิว กูกะจะรอชวนไปกินข้าวด้วยในเอ็มสักกะหน่อย เว้ย หงุดหงิด ออกไปกินข้าวคนเดียวก็ได้วะ แล้วผมก็เดินออกไป ปิดประตูห้องเสร็จก็ยืนรอสักพัก คิดเข้าข้างตัวเองว่าถ้ามันได้ยินเสียงประตูแล้วอาจจะเดินออกมาเหมือนกัน แต่แล้วก็เงียบสนิท...เฮ้อ กินข้าวคนเดียวอีกแล้วสิกู
.....................
..............
.....................Tae
พอได้ยินเสียงประตูห้องไอ้พี่เกียร์ ก็ทำให้รู้สึกอยากเจอหน้าพี่เค้าขึ้นมาตะหงิดๆ ไม่มีสมาธิทำงานต่อเลยแฮะ
ออนเอ็มดีกว่า เปิดไปก็ไม่เห็นชื่อ nobody knows ออนอยู่ แต่มีชื่ออื่นๆ ทั้งไอ้เพื่อน พี่ น้อง ออนกันตรึม
ไม่หลับไม่นอนไงวะ พวกนี้ วันจันทร์แท้ๆ ไอ้เต้นึกสงสัย (และคนอื่นก็น่าจะนึกด่าผมแบบนี้เหมือนกัน ฮ่าๆๆ)
“เมื่อวานไปเดินสวนกับใครมา” พี่แซนทักผมในเอ็ม (ขออณุญาตไม่พิมพ์เหมือนหน้าเอ็ม แบบปกตินะคร้าบ)
“อ้อ ไปกับพี่เกียร์คับ พี่เห็นด้วยหรอ ไม่เห็นมาทักเลย”
“ป่าว มีคนเห็นแล้วมาบอก”
“บอกว่าไรล่ะพี่”
“บอกว่าเห็นมึงกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้ หล่อเชียว เดินกอดคอกันอยู่”
อืมมม เห็นช่วงเดินปกติก็ไม่ได้เนาะ มันต้องบังเอิญตอนกอดคอด้วย
“ไม่มีไรหรอก ไปซื้อหนูอ่ะ”
“เออ ว่าแต่รู้สึกจะเจอพี่เกียร์ไรนี่บ่อยนะคับ ยังไงอยู่” อย่ามาทำตัวเป็นนักสืบน่ะพี่
“ก็พี่เขาอยู่ห้องข้างเต้อ่ะ”
“หรอคับ คนข้างห้องพี่ไม่เห็นเคยไปไหนมาไหนกันเลย”
“ก็ลากไปสิคับ ฮ่าๆ”
“กูก็รอเค้ามาลากอยู่ เห็นแต่แม่งลากผู้หญิงเข้าห้อง” ฮ่าๆ ผมนั่งอ่านที่พี่เขาพิมพ์มาก็อดขำไม่ได้
“ต้องลากก่อนเลยคับ รอเค้ามาลาก ก็แห้งตายคาห้องแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ”
“เออ อย่าเปลี่ยนประเด็น ตกลงยังไงแน่ พี่เกียร์อะไรเนี่ย” พี่แซนยังคงซักต่อ
“พี่เขาไม่ได้เป็นเกย์คร้าบ แค่รุ่นพี่รุ่นน้องอ่ะ”
อืม แน่ใจป่าววะ พิมพ์ไปแบบไม่ค่อยแน่ใจในความรู้สึกระหว่างกันและกัน
“อืมคับ แล้วจะรอฟังความคืบหน้า” แล้วแกก็ออฟไลน์ไปเฉยเลย ไรวะ งง
….
……………..
………..Gear
อืม ป่านนี้ไอ้ตัวเล็กมันจะหลับยังวะ เอาไงดีๆ คิดหาวิธีเจอหน้ามันก่อนนอนไม่ออก ...เฮ้อ
นั่งกินข้าวไป คิดไป แล้วทำไมกูต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย ไม่เข้าใจตัวเอง สักพักก็ดันเจอพวกเพื่อนไอ้เต้เดินมากินข้าวร้านนี้ มาซะไกลเลยนะพวกมึง หรือจะมาหาไอ้เต้วะ
“อ้าวไงพี่เกียร์ หวัดดีคับ” พวกมันทักทาย พร้อมใจกันยกมือไหว้ผม
“อืมๆ มาหาไอ้เต้หรอ” ผมทักทายตามมารยาท ไม่ได้ยิ้มเท่าไหร่ ซึ่งเป็นปกติวิสัยของผม
จนคนที่ไม่สนิทจะคิดว่าผมหยิ่งและเก็ก ที่จริง ผมเขิลที่จะยิ้มให้พวกเขามากกว่า
แล้วผมก็วางตัวไม่ค่อยถูกด้วย เวลาเผชิญหน้ากับคนที่ไม่สนิท เลยได้แต่เงียบ
“ป่าวพี่ พอดีอยากกินข้าวร้านนี้ แต่ก็กะจะแวะไปหามัน ไม่รู้มันหลับยัง เมื่อเย็นถ่ายหนังกัน ก็ไม่คิดว่าจะมากินที่นี่ ไม่งั้นคงมาพร้อมกันแล้ว” ไอ้ทอปพูดอธิบายซะยาว
“อ่อ เออ พรุ่งนี้มีเรียนกันป่าวล่ะ”
ไอ้ทอปคงงงที่ผมถาม ปกติผมแทบไม่ได้คุยกับมันเลย มันจะสนิทกับพี่เกี๊ยงมากกว่า
“ไม่มีอ่ะ พี่ล่ะคับ”
“มีบ่ายสองโน่น กินเหล้ากันป่ะ” แหะๆ หาเรื่องขึ้นไปนั่งห้องไอ้เต้ได้แล้วเว้ยยยย ฉลาดมากไอ้เกียร์ ให้มันได้ยังงี้สิ
“ฮะ อะไรนะพี่” ไอ้ทอปคงงง แต่ไอ้สองคนที่มาด้วย ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้ท่าทางจะสนใจ ลิงโลดเชียร์ไอ้ทอปใหญ่
“เออ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” นั่นไง ใจดีเลี้ยงรุ่นน้องขึ้นมาทันใดเลย สันดานจริงๆ ผมนึกด่าตัวเองอย่างมีความสุข
“อารมณ์ไหนเนี่ยพี่ สอบตกหรืออกหัก ฮ่าๆ” ไอ้ทอปแซว
“เออ พูดมาก เดี๋ยวกูเปลี่ยนใจเลย มาๆ รีบแดกข้าว”
“เดี๋ยวผมลองโทรหาไอ้คุณชายก่อนแล้วกันคับ เผื่อมันยังไม่กิน จะได้สั่งขึ้นไปเผื่อมันด้วย” หนึ่งในเพื่อนไอ้เต้พูด
“อ่อ เออ มันก็ไม่มีเรียนใช่ป่ะ” แยบต่อ
“คับ” ไอ้คนที่โทรหันมาบอกแล้วมันก็กลับไปคุยโทร
“เฮ้ยไอ้เต้ทำไรวะ”
…
“ดีเลยมึง แดกเหล้ากัน”
...
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวพวกกูไปหาถึงที่”
...
“เออ มีคนเลี้ยงเว้ย กินข้าวยัง เดี๋ยวซื้อไปให้”
...
“อ่อ เออได้ๆ พวกกูอยู่ข้างล่างนี่แหละ แป็บนึง เคลียร์สถานที่ได้เลยคับคุณชาย”
“มันจะกินคอกเทลชีสเซเว่นว่ะ เดี๋ยวกูไปซื้อให้ก่อน” ผมให้เงินมันไปซื้อมิกเซอร์ด้วย ส่วนเหล้าห้องผมมีสำรองอยู่แล้วล่ะคับ ฮ่าๆๆ แล้วไอ้นั่นมันก็เดินไปเซเว่น ไอ้ทอปกับไอ้อีกคนก็ไปสั่งข้าวใส่กล่อง ส่วนผมก็กินให้ว่องสิคับ
หุหุหุ ทำไมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นทันตาเลยวะพอจะได้เจอมัน วู้ๆๆวี๊ดวิ๊วๆๆๆ
พอขึ้นมาผมก็แยกไปเอาเหล้ามา พอเดินเข้าไปในห้องไอ้เต้ พวกมันก็ตั้งวงไพ่เรียบร้อยแล้ว
…………
…………………
…………..Tae
“คึกไรพี่ อยากกินเหล้าดึกๆดื่นๆ” ผมทำหน้ากวนๆยิ้มๆถามได้พี่เกียร์พอเค้าเดินเข้ามานั่ง
“พอดีเจอพวกเพื่อนมึงอ่ะ เบื่อๆเลยชวนมากิน”
“อ่ะนะ จนเต้จะนอนและ”
“อ้าวหรอ งั้นเดี๋ยวนอนห้องพี่ก่อนก็ได้มั้ง” เอ้า ห้องผมก็มี ทำไมต้องไปนอนห้องพี่ล่ะ
“เฮ้ย ไม่ได้ว่าไร แค่บอกเฉยๆ ก็ไม่มีไรทำแล้วเลยกะจะนอนไว ก็ดี ได้กินเหล้าฟรี ใช่ป่ะพวกมึง”
ผมหันไปพูดกับเพื่อนๆ แล้วไอ้พวกเพื่อนผมก็ประสานเสียงรับกันพร้อมเพียง “คร้าบบ”
“แล้วพี่เล่นไพ่เป็นหรอ” ไม่เคยเห็นเล่น แต่หน้าตาคงแบบนี้เล่นเป็นแหละ
“เล่นไรกันอ่ะ” พี่เกียร์ถาม ชโงกหน้าเข้ามาดูในวง
“สลาฟอ่ะ” ผมตอบ
“อืม ได้ๆ” พี่เกียร์รับแก้วเหล้าจากไอ้ฟลุคแล้วกระเถิบเข้ามานั่งในวงอบายมุขรอบดึก
“5 คนเล่น 9 เกมั้ยมึง” ไอ้ทอปถาม
“ได้ไงวะมีเกย์คนเดียว ฮ่าๆๆ” ไอ้ฟลุคกวนตีนไอ้ทอปคับ
“หรือว่ามากกว่านั้นวะ” ไอ้เหี้ยฟลุคยังคงกวนตีนต่อ แล้วชำเลืองมองผมกับพี่เกียร์ พี่เขาจะหลบตามันไป
แล้วหันมามองผมแป๊บนึง ส่วนผมก็ได้แต่ทำเป็นขำกลบเกลื่อน
“พูดเหี้ยไรไม่สร้างสรรค์และไอ้ฟลุค” ไอ้ทอปด่าไอ้ฟลุคเสียเอง ดีมากเพื่อนรัก หุหุ
“เล่นไพ่ดีกว่า ตกลง 9 เกนะ มาๆลงไต๋ๆ จะแจกไพ่แล้ว” ไอ้ทอปพูดต่อ ไอ้นี่คึกนักนะ นอกจากเรื่องหนังก็มีเล่นไพ่นี่แหละ ที่มันคึกคักเวลาลงเล่น หุหุ
หมอบว่ะ ...เออกูก็หมอบ... สู้เว้ย 5 บาทเอาไงไอ้เต้ ...ไอ้เหี้ยแบงค์แม่ง คิดว่าจะหมอบกันหมด ไอ้เต้จะได้รวบ อิอิ
“เออ กูด้วย” ไอ้พี่เกียร์ ลงใส่ไปอีก 5 บาท
“อ่ะ เอาไงดีวะ” ผมหันไปถามไอ้ทอป ไพ่มันดีแต่ก็ไม่มากอ่ะคับ
แหะๆ เล่นไพ่แล้วชอบเผยไต๋ให้ชาวบ้านดูรู้ทุกทีเล้ยยย เซ็งงง
“อ่ะสู้ๆ” แล้วก็ตัดสินใจใส่ไปอีกห้าบาท เห็นไอ้พี่เกียร์นั่งขำผมอยู่
“เปิดนะ” ไอ้แบงค์บอก ทุกคนก็พยักหน้าแล้วกระผมก็เปิดคนแรกเลย
“กู 8 แต้ม” แหะๆ พอผมบอกแม่งก็หัวเราะกันทั้งคู่เลย ชิ ชิ ไรวะ แมร่ง มันแต้มเยอะแล้วนะสำหรับผม
“มึงอ่ะ” ไอ้พี่เกียร์ถามไอ้แบงค์
“ใครแต้มน้อยกว่าหมดแก้วนะพี่” ไอ้ห่าแบงค์เริ่มปีนเกลียวแล้วไง ไอ้นี่ แล้วพี่เกียร์ก็ตอบตกลง สรุปว่าสีเหมือนกัน แต่ข้าวหลามตัดไอ้แบงค์หรือจะสู้โพธิ์ดำพี่เกียร์ได้ สรุปไอ้แบงค์หมดแก้วสมพรปาก เป็นที่เฮฮาของเพื่อนฝูง โย่วๆ
ตาที่สอง ไอ้ฟลุคสู้กับไอ้ทอป ไอ้ฟลุคก็ต้องแดกไป จนสุดท้ายกลายเป็นกติกาคับ ใครสู้แล้วแพ้ก็ได้รับไปหนึ่งแก้ว แมร่ง แบบนี้ต้องมีคนเมาแน่ๆ ไอ้เต้เลยคิดหมอบก่อนดีกว่า สู้ไปมีหวัง โดนเอาเหล้ากรอกปากแน่ๆ น่ากลัว แต่ก็ไม่พ้นหรอกคับ ด้วยความโลภของกระผม ริอาจอยากได้เงินที่กองรวมกันอยู่ตรงหน้า สู้กี่ตา ก็ต้องกินเหล้าตลอด จนเริ่มมึน เงินก็เริ่มหมด แมร่ง ซวยจริงๆ
และแล้วสวรรค์ก็มีตา ส่งไพ่เรียง สิบ แจ็ค แหม่ม มาให้ในมือไอ้เต้ โอ้ว โน โน่ โน่ โนว์
ไอ้เต้ก็เก็บอาการสุดฤทธิ์คับคราวนี้ หวังว่าต้องได้แน่ๆ แล้วอีกอย่างได้พี่เกียร์ ไอ้ฟลุค ไอ้ทอป สู้กันหมด
มีไอ้แบงค์คนเดียวที่หมอบ หูย โชคดีของไอ้เต้ที่จะได้เงินกองโต คราเดียวคืนทุนแน่ๆเมิง ว่าแล้วไอ้ฟลุคก็ใส่เลย 10 บาท พอทุกคนใส่สิบบาทครบ ไอ้พี่เกียร์ดันกวนตีนครับ ขอด่าหน่อยเถอะ
“กูใส่อีกสิบ ใครจะเอาบ้าง” นั่น...ชิ ต่อมงกกับความกลัวไอ้เต้เริ่มฟาดฟันกันเอง ปกติไม่เคยสู้เยอะๆแบบนี้
มันตื่นเต้นอ่า แต่แล้วด้วยความมั่นใจในไพ่ตัวเองก็ใส่ตามสิคร้าบ ได้แน่ๆ วู้ๆๆๆ
ไอ้ทอปหมอบไปแล้ว (สู้แล้วหมอบก่อน ต้องซัดหนึ่งอึกนะคับ ไม่ต้องถึงกับหมดแก้ว)
ไอ้ฟลุคยังต่อ ตอนนี้ในกองเท่าไหร่แล้วล่ะ ไต๋ 5 คนคนละ 5 บาทก็ 25 สู้กันไปรอบแรก 10 บาท 4 คน ก็ 40 เป็น 65 สู้ตานี้อีก 3 คน คนละ 10 บาท เป็น 95 แล้ว โหยยย เกือบร้อยแน่ะ
“ไงพี่” ไอ้ฟลุคถาม “ผมต่ออีก 5 บาทแล้วกัน” แมร่ง ไอ้ฟลุคยังจะต่ออีกมึง ใจใหญ่นักนะ เดี๋ยวเถอะมึง โดนไอ้เต้กินเรียบ แล้วจะร้องไม่ออก อิอิอิ
“เออ 10 เลยแล้วกัน” อ้าว ไอ้พี่เกียร์ หาเรื่องงงง ไอ้เต้เริ่มหวั่นสิคับ หุ้นโดนปั่นซะขนาดนี้
“อ่ะๆ” ผมใส่ตามไปอย่างไม่เต็มใจ
“งั้นผมหมอบแล้วกัน” อ้าวไอ้ฟลุค ทิ้งกูกลางทางซะงั้น ห่าเอ้ยยยย เหลือสองคนแล้ว
“เปิดนะพี่” ผมพูดบอกไอ้พี่เกียร์มันไป
“เท่าไหร่ล่ะ”
แล้วไอ้พี่เกียร์หงายไพ่ออกมาให้ผมและเพื่อนๆดู
แมร่งงงง ตอง 6 ฮือๆๆๆๆๆ
ไอ้เต้แทบน้ำตาซึม เงินก็ไม่ได้ แถมยังต้องกระดกหมดแก้วอีก พวกมันพอเฮฮาตื่นเต้นกันเสร็จ ก็จัดการรินเหล้าอย่างงามให้ผมผสมเสียเต็มแก้วเลย
ฮือๆ สวรรค์มีตาแต่หามีแววไม่ ชิ ชิ สวรรค์ ทำไมต้องกลั่นแกล้งข้าน้อยด้วยยยย
แล้วผมก็มองกองเงินที่ถูกกอบเข้าไปหน้าตักพี่เกียร์อย่างเศร้าสลดใจ และมองแก้วสุราสีอำพันใสด้วยความแค้น ดี... ไหนๆก็เอาดีทางเล่นไพ่ไม่ได้ กูจะเอาดีทางเหล้าแทน
ทันใดนั้น ไอ้ผู้ร้ายก็แอบเปลี่ยนบทเป็นพระเอกในทันใด
“เดี๋ยวพี่กินเองละกันแก้วนี้ สงสารมัน โดนไปหลายแก้วแล้ว” ไอ้พี่เกียร์ ไม่ต้องเลย ทำมาพูดดี สงสารแล้วไม่หมอบไปตั้งแต่แรกละวะ หึ ผมคว้าแก้วมาจากมือไอ้แบงค์ ด้วยความหงุดหงิดแล้วกระดกเองทันทีหมดแก้ว
...อิ๊ ทำไมแก้วนี้เข้มจังวะ
“โห แก้วนี้กูชงพิเศษเลยนะมึง ซัดซะ”
ไอ้แบงค์มองตาค้างแล้วพูดหลังจากผมเทเหล้าลงคอจนหยดสุดท้ายหายเกลี้ยงเหลือแต่เพียงน้ำแข็ง
“เออ มาๆรีบเล่น กูจะเอาทุนคืน” พูดจบก็ชำเลืองหางตามองไอ้พี่เกียร์ ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้บ้าเอ้ย
เล่นไปเล่นมา แบงค์ร้อยก็หายไปสองใบ ไรวะ แมร่งเอ้ยยยย พากันมาปลอกลอกไอ้เต้ ไอ้พวก 18 มงกุฏ
และแล้วเมื่อฟ้าสว่างพวกผมจึงรู้สึกได้ว่า ง่วงและเมามากแล้ว ไอ้ทอป ไอ้แบงค์มันหลับไปตั้งแต่ตี สี่ แล้วแหละคับ เหลือผม ไอ้ฟลุค พี่เกียร์เล่นสลาฟกันต่อ จนตอนนี้ข้างนอกเริ่มมีแสงตะวัน มองนาฬิกาก็หกโมงแล้ว
“นอนเหอะว่ะ” ไอ้ฟลุคมันคงไม่ไหวแล้วแหละคับ ผมก็ง่วงแย่แล้ว เหล้าหมดไปนานและ
“เออๆ”
ผมพูดจบ ไอ้ฟลุคก็คลานขึ้นเตียงไปนอนกับไอ้แบงค์และไอ้ทอป แล้วกูล่ะ แมร่ง เจ้าของห้องนอนพื้นหรอวะ
“ไปนอนห้องพี่ละกัน จะได้ไม่ต้องเบียด” เสียงไอ้พี่เกียร์พูดขึ้น
“ไม่เป็นไรพี่ นอนนี่แหละ ปกติเต้ก็นอนพื้นบ่อยๆเวลาพวกมันมา”
“อย่าดื้อสิ ง่วงแล้วเร็ว” ไม่ได้ดื้อเฟ้ยยย แมร่ง นอนซอกเตียงสบายกว่าไหนๆ แล้วห้องตัวเองมีไม่นอน ไปนอน 2046 เพื่อนๆผมมันก็ต้องสงสัยสิคร้าบ
“เร็ว” ไอ้พี่เกียร์ ลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมามาให้ดึงผมขึ้น
“เอ่อ...” จะอ้างไรดีวะ
“เร็ว ง่วง”
แล้วผมก็ต้องจำใจเดินตามไปนอนห้องข้างๆ กับพี่เค้า
เฮ้อ...อย่าทำแบบนี้ได้มั้ยคับ พี่เป็นผู้ชาย แต่ผมเป็นเกย์นะพี่ ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันหรอก
พี่อาจจะเห็นผมเป็นน้องไม่ได้คิดอะไร แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าผมจะเผลอไปรู้สึกดีดีด้วยที่มาทำแบบนี้กับผม
เสียงไอ้คนข้างๆกรนได้สักพักแล้ว มันฟังดูน่ารำคาญแต่ผมก็เต็มใจที่จะฟัง
และรู้สึกดีกว่าเมื่อวานที่นอนคนเดียวเงียบๆ ถึงผมจะไม่รู้ว่าจริงๆระหว่างเราคืออะไร
ผมคงไม่มีสิทธิ์หันไปกอดพี่แต่ขอบคุณนะคับที่ทำให้ผมหลับอย่างอบอุ่นแบบที่ไม่เคยรู้สึกมานาน
แม้ว่าพี่อาจจะไม่รู้ตัวก็ตาม