เธอ..คือหนึ่งในไม่กี่คน
[/size]
ตอนที่ 19
[/size]
..................หาว ทำไมวันนี้น่าเบื่ออย่างนี้นะ ผมอ้าปากหาวยกแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วบิดตัวไปมานั่งบนโซฟารับรองแขก ใน
ห้องกรรมการผู้จัดการใหญ่ วันนี้วันหยุดของผม อยากนอนตื่นสายอยากนอนบนที่นุ่มๆห่มผ้าห่มอุ่นๆถ้าจะให้ดีมีพีเทียนนอนอยู่
ข้างๆอยู่บนเตียงนั้น ห่มผ้าห่มผืนเดียวกันตื่นลืมตาขึ้นมามีเขาบอกอรุณสวัสดิ์ พร้อมด้วยจูบรับอรุณด้วยก็ไม่เลวนะ อ้าผมคิดอะไร
บ้าๆอีกแล้ว ที่จริงวันนี้เป็นวันหยุดบริษัทต้องหยุดงาน และผมกับพี่เทียนต้องได้ใช้เวลานี้อยู่ด้วยกันถ้าวันไหนพี่เทียนไม่มารับผม
ที่บ้านไปที่บ้านคุณย่าก็ออกไปข้างนอก
..................เราทั้งสองใช้เวลาด้วยกันบ่อยขึ้นเราให้เวลาซึ่งกันและกันโดยที่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ผมมีโอกาสได้ทานกับข้าว
ฝีมือพี่เทียนบ่อยๆโดยมีผมเป็นลูกมือ มีความรู้สึกเหมือนเราทั้งสองเป็นคู่แต่งงานใหม่ยังไงยังงั้น ยิ่งเวลาที่อยู่กับน้องหนึ่งน้อง
สองยิ่งเหมือนครอบครัวเข้าไปใหญ่ บางทีผมก็รู้อายบ้างที่ผู้ใหญ่รู้เรื่องของเราแต่พี่เทียนทำทุกอย่างเป็นเหมือนเรื่องปกติ เขา
ชอบหนีบผมออกมาที่ทำงานด้วยถ้าวันไหนผมว่างๆ วันไหนถ้าเขาว่างเขาจะไปรับไปส่งผมที่มหาวิทยาลัย
..................ยิ่งรู้จักพี่เทียนผมก็ว่าเขาเป็นคนผู้ชายที่ขี้หึงขี้หวง เพราะมีบางครั้งมีผู้ชายเข้ามาคุยกับผม เขาจะแสดงอาการไม่
พอใจออกมาทันที ส่วนเขาก็มีทั้งผู้หญิงผู้ชายเข้ามาหาบ้าง แต่เขาก็ปฏิเสธไปเขาอย่างชัดเจนเสมอ ตัดปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ ผม
หันหน้าไปมองผู้ชายตัวโตที่นั่งทำงานอยู่ไม่ไกลจากผม รู้สึกเหมือนรู้จักเขาเมื่อวานนี้เองยิ่งได้รู้จัก ยิ่งได้เรียนรู้ ยิ่งได้ชิดใกล้เขา
ยิ่งทำให้ผมไม่เป็นตัวของตัวเองผู้ชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายต่อหัวใจผม เขาชอบทำให้หัวใจของเต้นแรงด้วยคำพูดหวานหวาน
หัวใจเต้นระส่ำเวลาที่ริมฝีปากนั่นประกบลงมา และหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะที่คิดถึงเขา ยังอยากได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาตลอด
อ้อมกอดของเขาที่คอยกอดผมไว้ยังอบอุ่นเสมอเหมือนครั้งแรกที่เขาสวมกอดผมไว้
..................ตอนนี้ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือที่ต้องแปลเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องต่อไปที่จะมีคิววางแผลงในปีหน้า ช่วงนี้ว่างๆเพราะ
เพิ่งส่งงานแปลล่าสุดให้พี่ชัช ดูเหมือนงานที่ทำไม่ค่อยมั่นคงนักไม่ใช่พนักงานประจำแต่เป็นนักศึกษามีแต่งานนี้ที่พอจะทำได้
ไม่มีผลต่อการเรียน ที่บ้านก็อนุญาตผู้ใหญ่ก็เห็นด้วย ผมสามารถใช้ความสามารถของผมได้เต็มที่ ผมไม่มีอภิสิทธิ์เหนือพนักงาน
คนอื่นรวมถึงค่าตอบแทน เดี๋ยวนี้จะทำอะไรจะต้องผ่านความเห็นชอบหลายคนมาก เข้าใจทุกคนรักและหวังดีกับผมรู้สึกอบอุ่นยัง
ไงไม่รู้ที่มีแต่คนรัก บางทีพี่เทียนชอบล้อผมว่าผมเป็นลูกคนใหม่ของพ่อแม่พี่เทียน เป็นหลานคนโปรดคนใหม่ของคุณย่า ใน
อนาคตถ้าเรียนจบแล้วจะทำอะไรนะเรื่องนี้ยังคิดไม่ตก แต่พี่เทียนเคยบอกว่าเรียนจบแล้วให้มานั่งเฝ้าพี่เทียนที่ทำงานกะว่าจะให้
เป็นยามว่างั้นหรือจะให้ผมกลับไปทำร้านเสื้อผ้าแบบเดิมคงไม่เหมาะ หรือไม่อย่างนั้นอาจจะได้ไปช่วยงานบริษัทของคุณพ่อกับ
คุณแม่ดีนะ
..................ช่วงนี้ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วการเรียนของผมไม่น่าห่วง โตแล้วมีความรับผิดชอบมากพอจัดลำดับความสำคัญ
ได้ หนึ่งปีการศึกษาชีวิตนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของผมในรั้วมหาวิทยาลัยกำลังจะผ่านไป แล้วต่อไปจะได้รับบทหน้าที่เป็นรุ่นพี่ปี
สองจะมีน้องเรียกผมว่ารุ่นพี่ พี่ปุ๊กกี้พี่ปีสี่ก็จะจบแล้ววันเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน
“นินเป็นอะไร เบื่อมากเลยหรอ”
“นิดหน่อยครับพี่เทียน”
“อยากออกไปเดินเล่นข้างนอกกับพี่ไหม”
“พี่เทียนออกไปทำงานไม่ใช่หรอครับผมกลัวไปกวน”
“เราก็อย่าวิ่งเล่นไปทั่วสิ”ฮึ ผมไม่ใช่เด็กนะครับ
“ปะ ออกไปทำงานกับพี่ที่สตูดิโอ”พี่เทียนเดินเข้าจูงมือออกไปจากห้อง วันนี้มีงานโปรเจ็คใหญ่ของบริษัท โปรเจ็คที่ผมเคยคุย
กับพวกพี่ชัชทางบริษัทเห็นชอบด้วยเสียงในที่ประชุมเห็นด้วยเป็นเอกฉันท์แต่ปรับเปลี่ยนอะไรบ้างเยอะแยะ ห้องด้านหลัง
สำนักงานปรับแต่งเป็นห้องสตูดิโอชั่วคราว ฉากหลังถูกเนรมิตขึ้นโดยทีมงานช่างฝ่ายศิลป์มืออาชีพและนักศึกษาฝึกงาน
..................วันนี้เป็นวันแรกของการรวมตัวผู้เข้ารอบทั้งสิบคนอย่างเป็นทางการและจะมีการถ่ายรูปโปรโมทผู้เข้ารอบทั้งหมด
สิบคนในโปรเจ็คตามล่าหานักปั้นเรื่อง หลังจากที่ใช้เวลานานในการเฟ้นหาคนที่มีความรู้ความสามารถความฝันและพรสวรรค์ตาม
ที่คณะกรรมการต้องการจากจำนวนผู้สมัครส่งเรื่องสั้นห้าสิบหน้าเข้ามาจากทั่วประเทศที่มีอายุตั้งแต่สิบแปดถึงยี่สิบสามปีตาม
ที่ทางบริษัทต้องการคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ทางบริษัทสร้างขึ้นช่วงอายุนี้เท่านี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีในเรื่องของคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด
กล้าแสดงออก
..................ห้องสตูดิโอขนาดกว้างมีผู้คนกำลังพลุ่งพล่านไปมากำลังเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายภาพตากล้องมืออาชีพกำลังขน
กล้องไป อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายภาพหัวหน้าแผนกและทีมงานที่มีหน้าที่กำลังตั้งใจทำงาน
“นิน ไปเดินรอบๆก่อนนะเดี่ยวพี่ไปคุยงานเดินระวังด้วยนะที่สำคัญห้ามซน เพราะพี่เป็นห่วง”
“ครับ”คนบ้าอยู่ใกล้ๆแค่นี้สั่งซะไปไกลเชียว
“คุณเทียนคะ มาแล้วหรอคะเชอร์รีนมารอตั้งนาน”
“สวัสดีครับเชอร์รีน”
“แล้วนี่ใครคะ อ้อเด็กฝึกงานที่นี่หรอคะ”
“นี่นินเป็น...”
“เธอไปทำงานช่วยคนอื่นสิมายืนทำตรงนี้ เราไปกันเถอะค่ะอย่าไปสนคนอื่นเลย”
“นินพี่ไปทำงานก่อนนะ”
พี่เทียนถูกหญิงคนที่ชื่อเชอร์รีนรู้สึกว่าจะเป็นชื่อนี้ ผมจำเธอได้เธอเป็นคนขับรถเฉี่ยวผมหน้าบริษัททำให้ผมต้องเข้าไปนอนใน
โรงพยาบาลอยู่สามวันเพราะข้อเท้าอักเศษหมอที่เป็นเจ้าของไข้กลัวมีอะไรแทรกซ้อนและต้องการให้อยู่เฉยข้อเท้าจะได้หายเร็ว
ขึ้น เธอลากแฟนผมไปแล้วเธอไม่ฟังด้วยซ้ำว่าพี่เทียนจะบอกว่าผมเป็นใครแถมยังเข้าผิดว่าผมเป็นเด็กฝึกงานอีกด้วย
ตึง ตึง เสียงข้อความของผมดังขึ้น ผมล้วงมือเข้าไปกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูข้อความ เป็นข้อความที่ฐิตาส่งมา
อ้อ ผมเกือบลืมไปแล้วสิที่ฐิตาชวนผมไปงานวันเกิดของเธอที่บ้านเธอส่งวันเวลาและแผนที่สถานที่มาให้ผม ใกล้แล้วนี่นาอย่างนี้
ผมคงต้องหาของขวัญให้เธอแล้วซิว่าแต่จะเป็นอะไรดีน้า
“นิน มายืน อะไรตรงนี้คนเดียวไปดูพี่ทำงานไหม”เสียงผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักผม
“สวัสดีครับพี่ศิลป์ วันนี้มาช่วยพี่เค้าดูเรื่องงานหรอครับ”ผมทักทายพี่ศิลป์ผู้ชายนิสัยดีเหมือนหน้าตาเขาส่งยิ้มมาให้ผม
“อื้อ ก็เราเด็กฝึกงานเขาเรียกก็ต้องมาอุตส่าจะได้นอนตื่นสายซะหน่อย”ท่าทางบ่นไม่จริงจังของเขาดูน่ารักจังผมก็เห็นเขาบ่นไป
อย่างนั้นแหล่ะแต่เวลาทำงานนี่ขยันจริงๆนักศึกษาฝึกงานที่นี่ให้เงินค่าแรงเยอะขนาดนั้นเลยรึไงนะแต่ถ้าดูจากราคาค่างานแปล
ของผมก็ถือว่าเยอะนะ
“แล้วเราโดนพี่เทียนลากมาละซิ”
“ครับ”
“แล้วตอนนี้ไปไหนซะแล้วล่ะ ไม่มาเฝ้าเดี๋ยวพี่อุ้มกับบ้านซะเลย”เขาชะเง้อมองหา
“ฮ่า ฮ่า พี่ศิลป์พูดซะเหมือนผมเป็นลูกหมาอย่างนั้นเลย”
“ไม่ใช่ ๆลูกแมวเหมือนกว่า”พี่ศิลป์เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับผมพี่เค้าเรียนคณะที่เกี่ยวกับศิลปะ
เหมือนชื่อพี่เค้าเลยผมกับพี่เขาเจอกันบ่อยๆที่ห้องพี่ชัชพี่ศิลป์มาคุยงานเรื่องปกหนังสือ ออกแบบรูปเล่มก็เลยได้มีโอกาสได้คุย
และรู้จัก พี่ศิลป์เขาเข้ามาจีบผมแต่พี่เทียนรู้เขาจึงต้องหยุดพี่ศิลป์เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งผิวสีเข้มสูงนิสัยดีฐานะทางบ้านก็ดี
ผมพึ่งรู้ว่าเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของพี่เทียนเป็นเพื่อนสนิทของพี่แทนพี่ศิลป์เล่าให้ผมฟังว่าเขาเอาเรื่องที่เขาเข้ามาจีบผมแล้วโดน
พี่เทียนเบรกไปเล่าให้พี่แทนฟังพี่ศิลป์บอกพี่แทนหัวเราะชอบใจแล้วยังบอกอีกว่าเขารู้อยู่แล้วว่าถ้าพี่ศิลป์เห็นผมจะต้องชอบแล้ว
จีบผมแน่นอนอ้าผู้ชายบ้านนี้ร้ายทุกคนจริงๆ
“ได้ยินจากพี่ชัชว่าโปรเจคนี้เราเป็นช่วยคิดใช่ไหม”
“เอ่อ อ้อก็แค่เสนอความคิดนิดหน่อยในฐานะพนักงานคนหนึ่ง”มันก็ไม่ใช่ความคิดของผมทั้งหมดหรอกพี่ๆเขาช่วยปรับแผนให้
มันเข้าองค์กรที่ทำอยู่มันเลยออกมาค่อนข้างดี
“เก่งจังเลยนะเรา ตัวแค่เนี้ย”ขนาดร่างกายไม่ได้ตัดสินความรู้ความสามารถของคนหรือที่เราเรียกว่าอย่าตัดสินคนเราเพียง
ภายนอกเพราะเขาอาจจะมีกว่าที่เราเห็นก็ได้ที่สำคัญประสบการณ์สอนให้ผมรู้ว่าอย่าหัดมองคนแค่เพียงมุมเดียวต้องมองหลายๆ
มุมและมองนานๆ
“ผู้หญิงที่ยืนอยู่กับพี่เทียนใครหรอครับ”ผมมองนานแล้วไม่ค่อยชอบเลยอะไรจะชัดเจนขนาดนั้น
“อ้อ คุณเชอร์รีน เห็นพี่ๆบอกว่าเป็นพีอาร์ให้บริษัทอะไรประมาณนี้พี่ก็ไม่รู้หรอก แต่ที่ทุกคนในบริษัทรู้เธอกำลังจะรวบหัวรวมหาง
พี่เทียน”อ้อ มาอีกคนแล้วซินะเสน่ห์แรงจังเลยแฟนผม
“อื้อ”หึงอะ ผู้หญิงคนนั้นทำเหมือนเป็นเจ้าของพี่เทียนเลย
“เป็นไงหวงหรอเรา ไม่ต้องห่วงหรอกถ้าพี่เทียนเขาชอบแบบนั้นเขาคงไม่ปล่อยให้คุณเชอร์รีนไว้นานขนาดนี้เขาคงควงกันไป
นานแล้วเชื่อใจเขาเถอะน่า”ผมนะเชื่อใจพี่เทียนแต่ผมไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนั้นต่างหากไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนบ้าง
“ศิลป์มาช่วยพี่ดูทางนี้หน่อย”เสียงพี่ทีมงานเรียกพี่ศิลป์
“ครับพี่ นินไปช่วยพี่ทำงานไหมจะได้ไม่คิดมาก”อะไรหน้าตาผมมันแสดงว่าคิดมากขนาดนั้นเลยหรอครับ เดินตามพี่ศิลป์ไปเขา
กำลังจะกล้องกัน อ้าเห็นกล้องตัวละหลายแสนไปจนถึงหลักล้านตั้งอยู่กับเลนส์ราคาแพงนี่แล้วอารมณ์ดีขึ้นเลย
“นิน นิน”กำลังเพลิดเพลินกำลังดูกล้องอยู่มีเสียงแรกให้ต้องออกมาจากความฝันซะได้
“ครับ พี่โชค”พี่ทีมงานอีกคน
“พี่ยืมตัวเราหน่อย ไปยืนเป็นแบบให้พี่หน่อยพี่จะลองกล้องปรับโฟกัส ลองแสง”
“ได้ครับ ตรงไหนครับ ตรงนี้ไหม”
“ใช่ๆ ตรงนั้นดียืนลองเปลี่ยนท่าซิ เหมือนกับกำลังถ่ายแบบนะไม่ใช่ถ่ายรูปติดบัตร ดี เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆนะ ไอ้ศิลป์ไปปรับแสง
ตรงนั้นให้พี่หน่อย...”วันนี้ได้เป็นนายแบบรับเชิญเปิดกล้องด้วยรูปออกมาจะเป็นยังไงบ้างกล้องราคาแพงจะถ่ายรูปสวยสมใจไหม
น้าอยากได้รูปของผมจังเลย
“นิน พอก่อนมานี่ไอ้ศิลป์ มาช่วยพี่ดูรูปหน่อย”ว้าว จะได้ดูรูปของตัวเองด้วย วิ่งไปที่คอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้พี่โชคเอาเมมโมรี่เสียบ
เข้าไป
“เฮ้ย เจ้านินมันขึ้นกล้องว่ะ”พี่โชค
“พี่ผมว่านะพี่มันตัดสินไม่ได้น้องมันดูดีอยู่แล้วแสงน้อยแสงมากน้องก็ยังดูดีเผลอๆตัวจริงยังดูดีกว่าในรูปอีก”พี่ศิลป์เดินเข้ามาดู
ภาพอีกคน
“พี่ก็ว่างั้น ดูดีเกินไปนะเรานะ”พี่โชค
“ดูอะไรกันนะ”ทุกคนหันกลับไปตามเสียงพี่เทียน
“อ้อ ผมลองทดลองกล้อง ทดสอบแสงก่อนถ่ายจริงนะครับเลยให้น้องมาเป็นแบบ”พี่โชค
“เออ น่ารักดีวะแล้วปรับแสงยังไงทำไมแต่ละรูปมันก็เหมือนๆกันต่างแค่ท่าโพส”พี่เทียน
“ฮ่า ฮ่า เห็นไหมพี่โชคคุณเทียนยังบอกเลยว่าไม่ต่างน้องมันดูดีเกินไปถ่ายยังไงก็ไม่ต่าง”พีศิลป์หัวเราะเพราะทุกคนมีความเห็นเดียวกัน
“พี่เทียนคะน้องๆทั้งสิบคนมาพร้อมแล้วค่ะ ทุกคุณคะนี่คือคุณเทียนคนที่ทำให้มีการประกวดครั้งนี้เกิดขึ้นค่ะ”พี่หมิวพาผู้เข้าประกวดมาแนะนำ
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”เสียงผู้เข้ารอบทั้งสิบคนทักทายพี่เทียน
“สวัสดีครับเรียกพี่เทียนก็ได้จะได้ดูเป็นกันเองมากขึ้น”
“เดี๋ยวเราจะถ่ายรูปแนะนำตัวทั้งภาพนั่งภาพเคลื่อนไหว นี่คือพี่โชคพี่เขาจะดูแลเรื่องภาพถ่ายวีดีโอแนะนำตัว”
“สวัสดีครับ/ค่ะ”
“สวัสดีครับเรียกพี่โชคก็ได้”
“ทุกคนเดียวพี่หมิวจะพาไปเตรียมตัวที่แต่งตัวนะคะแล้วเรียกออกมาถ่ายรูปอัดวีดีโอทีละคน เดินตามพี่หมิวมาเลยค่ะ”
“พี่เทียนคะ พี่เทียนไปไหนมาคะเชอร์รีนหาตั้งนานไปเข้าห้องน้ำแปบเดียวเอง นั่นคือผู้เข้ารอบสิบคนที่จะถ่ายรูปวันนี้ใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
“แล้วนี่พี่เทียนกำลังทำอะไรอยู่คะ”
“ผมกำลัวช่วยพี่โชคดูความพร้อมอยู่นะครับ เชอร์รีนมีอะไรไหมถ้าไม่มีผมจะทำงานต่อ”
“อ้อ เอ่องั้นเชอร์รีนไม่กวนแล้วเชอร์รีนไปช่วยหมิวทำงานดีกว่าค่ะ”ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วพี่เทียนหันกลับส่งยิ้มให้ผมแต่ผมแลบลิ้น
ทำหน้ายู่ใส่แล้วกลับมาสนใจรูปภาพตัวเองต่อ
“น้องๆเขามาแล้วเดี๋ยวเราก็เตรียมตัวเลยศิลป์นินว่างไหมพี่รบกวนไปช่วยไอ้ศิลป์มันหน่อย”
“ได้ครับ พี่โชคอย่าลืมเลี้ยงข้าวกลางวันผมนะ”
“โอ้ย เรื่องนั้นไม่มีปัญหาวันนี้พี่เลี้ยงหลายกล่องเลย”
“ฮ่า ฮ่า”เสียงหัวเราะทุกคนดังขึ้นใจร้ายชอบแกล้งผม
เมื่อฉากแสงกล้องพร้อมก็ถึงเวลาที่เรียกผู้เข้าประกวดเดินเข้ากล้องเริ่มจากทีละคนเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมสไตล์มีพี่ๆช่วยคิด
เรียบร้อยการทำงานแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยทำตอนที่ผมทำร้านเสื้อผ้าเสื้อผ้าแต่ละชุดของผมก็ต้องหานางแบบนายแบบมาสวม
ใส่แล้วถ่ายรูปแต่คงแตกต่างกันตรงที่ครั้งนี้โฟกัสที่คนไม่ใช่เสื้อผ้า ต้องถ่ายรูปแสดงความเป็นตัวตนของแต่ละคนออกมาตามมา
ด้วยรูปคู่รูปกลุ่มรวมทั้งสิบคนถ่ายรูปนิ่งเรียบร้อยพี่โชคก็ให้ทุกคนพักเพื่อเชครูปที่ออกมาน่าพอใจหรือมีอะไรต้องแก้ไข
“เหนื่อยไหม ถ้าเหนื่อยก็พักนะพี่มาเที่ยวมาได้มาทำงาน”
“ไม่เหนื่อยครับสนุกดีแค่เดินเช็คแสงเฉยๆไม่ได้แบกอะไรเลย”
“สนุกก็ดี ไม่อยากให้อยู่เดียว มายืนเป็นกำลังใจให้พี่เวลาทำงานดีกว่า”
“บ้า พี่เทียนพูดอะไรไม่รู้”
“แปลกตรงไหนที่พูดว่าอยากให้แฟนมาเป็นกำลังใจในการทำงาน ฮึ”
“พี่เทียน พี่เทียนคะ”
“ครับ”
“เหนื่อยไหมคะ ดาวเอาน้ำมาให้เห็นพี่เทียนไม่ได้พักเลย”ดาวหนึ่งในสิบผู้เข้ารอบเดินถือน้ำมาให้พี่เทียน
“อ้อ ขอบคุณครับไม่เหนื่อยหรอกครับพี่ไม่ได้ทำอะไรมาก”พี่เทียนรับน้ำเปล่าขวดเล็กที่มีไอน้ำเกาะอยู่รอบๆขวดไว้แต่ไม่ได้เปิดดื่ม
“พี่เทียนมาอยู่ตรงนี้เองหรอคะเหนื่อยไหมเชอร์รีนเอาน้ำมาให้ดื่ม แต่...”รถไฟชนกัน
“ขอบคุณนะเชอร์รีนแต่น้องดาวเอามาให้พี่แล้ว”พี่เทียนชูขวดน้ำในมือขึ้น
“เดี่ยวพี่ขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะครับ ตามสบายนะครับ”พี่เทียนหนีไปแล้ว
“ไม่ทราบน้องดาวมาทำอะไรตรงนี้คะ ทำไมไม่แต่งตัวรอถ่ายวีดีโอ”
“แล้วพี่เชอร์รีนละคะไม่มีอะไรทำหรอคะถึงได้มาเดินอ่อยพี่เทียนเขาตลอด ไม่เห็นหรอคะว่าเขาไม่ชอบตัวเอง”
“นี่เธอ เธอพูดอะไรแล้วเธอรู้ได้ยังไง”
“เฮอะๆ ไม่อยากหรอกค่ะพอพี่เชอร์รีนพี่เทียนก็รีบเดินหนี อีกอย่าง หนูจะบอกคุณเชอร์รีนเอาบุญ คุณเทียนเขาไม่สนใจป้าแก่ๆ
อย่างคุณหรอกค่ะ”
“แก.แกรู้ยังไง”
“ฮึ ...ถ้าเค้าเอาคุณคุณคงไม่วิ่งไล่ตามจับเขาขนาดนี้หรอกค่ะ หนูพูดถูกไหมคะ”
“แล้วแกรู้ได้ยังว่าแกเป็นสเป็คเขา”
“แหม คุณป้า อุ๋ยคุณพี่คนหนึ่งก็แก่อีกคนทั้งน่ารักทั้งเด็กกว่าเขาก็ต้องเลือกหนูเป็นธรรมดา”
“แก แก นัง..ฉันไม่เห็นเขาจะสนใจแกเลยนังเด็กหลงตัวเอง”
“แรกๆก็เป็นอย่างนี้ทุกคนแหล่ะแต่ถ้าได้หนูแล้วรับรองเดินตามต้อยต้อยต้อย ฮึ ฮึ”
“อินังเด็กบ้าแกนะแก นังหน้าด้าน”
เอ่อคุณเชอร์รีนอย่าพยายามด่าคนอื่นเลยครับเดี๋ยวมันจะเข้าตัวเองนะครับ
“แล้วแก มองอะไรเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ผู้ชายก็ไม่เชิงขนาดฉันมีพร้อมขนาดนี้เขายังไม่พร้อมอย่างแกก็คงไม่มีใครเอาหรอกนะ”อ้าว
แล้วไหนมาลงที่ผมละครับผมว่าคนที่เขารักเราเขาคงไม่เลือกมองที่หน้าตาอย่างเดียวมั้งครับมันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้นเช่นนิสัย
ถ้าคุณง่ายกับเขามากเกินไปแล้วคุณไม่คิดบ้างรึไงครับว่าเขาจะไม่คิดว่าคุณก็คงง่ายกับคนอื่นด้วยต่อหน้าคนเยอะแยะคุณยังกล้า
แสดงออกแบบไม่ให้เกียรติตัวเองเลยแล้วลับหลังละครับคุณเชอร์รีน ผู้หญิงอย่างคุณเชอร์รีนไม่ได้น่ากลัวเท่าไหร่ผมว่าผมเจอ
คนที่น่ากลัวกว่านั้นเยอะ
“พี่ศิลป์เป็นยังไงบ้างครับ”
“ใกล้เสร็จแล้วเที่ยงก็น่าจะเรียบร้อย ทำไมอยากกลับแล้วหรอเรา”
“ดูดีนะครับ ถ่ายรูปออกมาได้ดีทีเดียว วีดีโอนี่ก็ดูดีใช้ได้ดึงความเป็นตัวเองออกมาได้ดีมากเลย”
“เขาเทรนมาดี กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ต้องพาน้องไปแปลงโฉมพัฒนาบุคลิกภาพสอนอะไรหลายๆอย่าง”น่าจะเป็นอย่างนั้นดูแต่ละ
คนมีความเชื่อมั่นตัวเองมากเวลาอยู่หน้ากล้อง
“อ้อ”
“ดูพี่เทียนนี่เนื้อหอมนะมีแต่สาวๆขายขนมจีบตลอดเลย นินไม่เปลี่ยนใจมาชอบผู้ชายใจดีนิสัยอบอุ่นเหมือนพี่บ้างหรอ”พี่ศิลป์คงเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่
“ฮ่า ฮ่า พี่ศิลป์นี่น่ารักดีนะครับ ไว้นินจะแนะนำเพื่อนน่ารักให้พี่ศิลป์รู้จักเพื่อนนินคนนี้นิสัยดีนินเห็นครั้งแรกยังชอบเขาเลย”
“จริงดิ อ้าเชื่อได้ไหมนะน้องนินแกล้งอำพี่รึเปล่า”
“เปล่าพี่ศิลป์นินจะโกหกพี่ชายใจดีนิสัยอบอุ่นได้ไง”
ผมว่านิสัยน่ารักเหมือนพี่ศิลป์น่าจะเหมาะกับช๊อปนะทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้ดี
“อ้าว เรียบร้อยแล้วทั้งภาพนิ่งภาพคลื่นไหวพี่ถ่ายรูปกันเสียไว้เยอะด้วยเช็คดูคร่าวๆทีมงานก็ดูพอใจนะไม่น่ามีปัญหาอะไร ไอ้ศิลป์เก็บกล้องลงกล่องเลยส่วนอย่างอื่นเอาไว้ก่อน”
“พี่โชคใช้งานผมคุ้มไปเปล่าครับ”
“น่า นินมันยังไม่บนเลย เออ ว่าแต่วันนี้มาส่งงานกับพี่ชัชหรอเรา”
“เอ่อ ก็ประมาณนนั้นครับ”
“ขยันดีนะเราพี่เห็นเข้ามาช่วยงานบริษัทบ่อย ถ้าไม่บอกพี่นึกว่าเป็นเจ้าของบริษัทซะอีก”
“ฮ่า ฮ่า”พี่ศิลป์หัวเราะอะไร บริษัทของพี่เทียนมีคนรู้ว่าผมเป็นแฟนกับพี่เทียนไม่กี่คนเท่านั้นผมไม่อยากให้ทุกคนปฏิบัติกับผมเหมือนเดิมและป้องกันเรื่องที่บางคนยังไม่เปิดกว้าง
“พี่โชคครับเชิญทางนี้หน่อยครับ”
“ครับ พี่ไปพบผู้ใหญ่เดี๋ยวกับมาช่วย”พี่ทีมงานเรียกพี่โชค
งานวันนี้เสร็จเร็วกว่าคิดไว้คงเพราะทีมงานเป็นมืออาชีพพอสมควรผู้เข้ารอบไม่ใช่ดารานางแบบชื่อดังทีมงานบอกทำอะไรก็ยังเชื่อฟังอยู่ พี่ศิลป์กับไปทำงานทิ้งผมให้นั่งเหงาอยู่คนเดียว
“นิน หิวยัง”พี่เทียนเดินมานั่งลงข้างผม
“ยังเลยครับ”เขาจับปลายผมที่เคลียอยู่บนคอเล่นรู้สึกจักจี้ยังไงไม่รู้ พี่เทียนชอบจับผมเล่นเขาบอกว่าผมของผมนุ่มมีกลิ่นหอม
อ่อนผมกับพี่เทียนเล่นเกมส์จ้องตากันอยู่นานถ้าตอนนี้ไม่มีคนหรืออยู่ที่บ้านเขาคงอดใจไม่ไหวดึงผมเข้าไปกอดจูบไปแล้ว
“ปะ เดี๋ยวไปเก็บของที่ห้องแล้วไปหาอะไรทานกัน เสียดายเวลาจังเลยวันนี้ว่าจะพาเด็กดีไปดูหนังเราไม่ได้ดูหนังด้วยกันนานแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับมาทำงานที่พี่เทียนก็สนุกไปอีกแบบ”พูดง่ายๆก็คือขอแค่ได้อยู่กับพี่เทียนไม่ว่าที่ไหนผมก็มีความสุขทั้งนั้นแหละครับ
“อ้า แฟนพี่นี่รักจังเลยนะกลับไปต้องหารางวัลให้ซะแล้ว”รางวัลที่ว่ากลับแล้วต้องได้นี่ไม่น่าไว้ใจเลยครับพี่เทียนแล้วสายตาที่มองมานี่หื่นใช่เล่นเลยครับ
“พี่เทียนพี่เทียนไม่ทานข้าวหรอคะ ดาวเห็นพี่ๆทีมงานแจกข้าวดาวเลยเอาข้าวมาเผื่อนี่ค่ะ”ดาวเดินถือข้างกล่องมาให้พี่เทียน
“ขอบคุณครับ แต่ไม่ดีกว่าครับ..”พี่เทียนปฏิเสธ
“พี่เทียนคะมาทานข้าวเชอร์รีนเอาข้าวกล่องมาเผื่อ เอ่อนังดาว ไม่ใช่น้องดาวทำไมไม่ไปนั่งทานกับเพื่อนคะพี่เทียนนี่ข้าวกล่องของเชอร์รีนรับไปสิคะ”คุณเชอร์รีนอีกคนมีน้ำใจถือข้าวกล่องมาให้พี่เทียน
“ข้าวกล่องของดาวดีกว่าค่ะ”ดาวยื่นข้าวกล่องให้พี่เทียน
“ของเชอร์รีนดีกว่าค่ะ”เชอร์รีนยื่นข้าวกล่องให้พี่เทียน
สองสาวกำลังแย่งกันเสนอข้าวกล่องของตัวเองให้พี่เทียนอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เอ่อ พอก่อนครับ พอก่อน พี่ขอบคุณทั้งสองคนมากแต่พี่จะออกไปทานข้าวกับแฟนพี่”
“แฟน”ดาว
“แฟน พี่เทียนมีแฟนตอนไหนทำไมเชอร์รีนไม่เห็นรู้เลยคะ”อ้าว แล้วเป็นอะไรกันไม่ทราบทำไมต้องไปคอยรายงานคุณเชอร์รีนด้วยว่าพี่เทียนมีแฟนหรือไม่มี
“มีแล้วมีมานานแล้วครับ”
“ไหน ไหน ไหนคะคนไหนแฟนพี่เทียน ฮึไม่มีอย่ามาหลอกเชอร์รีนหน่อยเลยค่ะ”คุณเชอร์รีนครับผมยืนอยู่ตรงนี้ครับ ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้
“คงจะหน้าตาไม่ดีใช่ไหมคะ พี่เทียนถึงไม่พาไปไหนมาไหนด้วยพี่เทียนคงอายคงถูกที่บ้านบังคับสินะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะมีแฟนแล้วดาวก็ไม่สนใจเพราะยังไงก็ยังไม่ได้แต่งงานเมื่อมีแฟนได้ก็เลิกได้ใช่ไหมคะ”แรงส์ได้อีกกว่านี้มีอีกไหม
“พี่ไม่รู้นะที่ดาวเคยเจอมานะแบบไหนแต่พี่รักแฟนพี่มาก พี่ไม่พอใจมากที่ดาวว่าแฟนพี่อย่างนั้น ที่พี่ไม่นอกใจเค้าไม่ได้ให้เกียรติ
เค้าคนเดียวแต่มันเป็นการให้เกียรติตัวพี่เองด้วย ถ้าวันนี้พี่นอกใจแฟนได้วันหน้าถ้าเราเป็นแฟนกันพี่ก็ต้องนอกใจเราได้เหมือน
กัน”อืม อันนี้จริงถ้าคนเคยทำก็จะทำต่อไปเรื่อยๆ คิดว่ามันสนุกมันท้าทาย ผู้หญิงหลายคนถามว่าทำไมผู้ชายถึงชอบนอกใจแต่
คุณลืมคิดไปรึเปล่าว่าคนที่สอนให้ผู้ชายรู้จักคำนี้ส่วนหนึ่งก็คือผู้หญิงด้วยกันเองเรื่องอย่างนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังมันต้องทั้งสอง
ข้างเสียงดังดีด้วย
“พี่เทียนไม่ลองดูก่อนหรือคะบางทีอาจจะติดใจก็ได้”คำพูดนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากดาวผู้หญิงที่ดูภายนอกดูเรียบร้อย ขนาดคุณเชอร์รีนเธอยังตกใจ
“ดาวควรให้เกียรติตัวเองด้วยนะ พูดอะไรออกมา วันนี้พี่จะลืมคำพูดที่ดาวทำลงไปแต่ครั้งหน้าพี่ไม่เอาไว้แน่”
“แต่ พี่เทียน..”
เสียงของดาวยังดังไล่หลังเราทั้งคนมา พี่เทียนจูงมือผมกลับไปเก็บของที่ห้องแล้วรีบขึ้นรถ
“พี่เทียนอารมณ์ไม่ดีหรอครับ”
“นิดหน่อย”
“เรื่องอะไรบอกนินได้ไหมครับ”
“พี่ขยะแขยงผู้หญิงคนนั้น เธอมีความคิดอย่างนั้นได้ยังไง”
“ผู้ชายบางคนเขาอาจจะชอบแบบนั้น”
“แต่พี่ไม่ใช่”
“บางที นินก็คิดเรื่องที่ว่าพี่เทียนไม่ยอมมีอะไรกับนิน บางทีนินกลัวพี่เทียนเบื่อแล้วไปกับคนอื่น”พี่เทียนตบไฟเลี้ยวจอดรถข้าง
ทางแล้วหันมาคุยกับผม
“นิน นินกำลังดูถูกความรักพี่รึเปล่า”พี่เทียนคงโกรธผมมาก
“ไม่ใช่อย่างนั้น นินอยากให้พี่เทียนมีความสุข”
“แล้วพี่เคยบอกเราไหมว่าพี่ไม่มีความสุข”
“ไม..ไม่เคย”
“ที่พี่ไม่มีอะไรกับเราไม่ใช่ไม่อยาก แต่พี่ไม่อยากเห็นแก่ตัว นินยังเด็กอีกอย่างพี่ไปปรึกษาเรื่องนี้กับหมอประจำตัวเรามาแล้ว คุณ
หมอยากให้ระยะเวลานานกว่านี้ พี่ไม่อยากมีความสุขแค่ครั้งคราวแต่คนที่พี่รักต้องมานอนป่วย พี่ไม่อยากเป็นคนอย่างนั้น ก่อนที่
พี่จะมีเราพี่ไม่มีแฟนเป็นปีๆก็ยังอยู่ได้ไม่ตาย อีกอย่างพี่ต้องการอยู่กับคนที่พี่รักและจะมาอยู่ใช้ชีวิตกับพี่ไปจนตาย พี่ไม่ได้
ต้องการเซ็กอย่างเดียวถ้าพี่ต้องการเรื่องนั้นเรื่องเดียวพี่คงไปหาหิ้วเด็ก พอสมใจก็แยกทางอย่างนั้นไม่ดีกว่าหรอไม่ต้องมานั่ง
เอาใจไม่ต้องมานั่งห่วง พี่รักนินนะรักมากด้วย”
“นินขอโทษ ฮึก ฮือ นินไม่ได้ตั้งใจที่จะคิดอย่างนั้น ฮึก ฮือ พี่เทียนอย่าโกรธนินเลยนะอย่าทิ้งนินไปเลยนะนินก็รักพี่เทียนเหมือน
กัน”ผมโผเข้ากอดพี่เทียนปล่อยน้ำตาออกมา
“อย่าร้องเด็กดีพี่ไม่ได้โกรธเราพี่ไม่เคยคิดที่จะทิ้งเราไปไหนด้วย พี่ดีใจนะที่เปิดอกคุยกันเราได้เข้าใจกันมากขึ้น หยุดร้องได้แล้ว
คนดี”พี่เทียนใช้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้ผม บางทีความรักการเชื่อใจซึ่งกันและกันคงยังไม่พอความรักของเราสองคนมันเพิ่งเริ่มต้น
เท่านั้นเราต้องผ่านอุปสรรคและเรียนรู้มันไปพร้อมกันๆ
*************************************************************
จบไปอีกตอน //// ใกล้จะจบแล้ว/// ผลกรรมกำลังตามมาไปซื้อเทอร์โบติดจรวดมาแล้ว กรรมจะตามทันตอนต่อไป
ขอบคุณคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอคุณทุกความคิดเห็น
*** ***ฝากเรื่องเริ่มต้นเรื่องร้าย ลงท้ายเรื่องรัก ด้วย*****
โปรดติดตามตอนต่อไป