≡▉≡ interstellar♗รัก➀ล้านปีแสง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ≡▉≡ interstellar♗รัก➀ล้านปีแสง  (อ่าน 57472 ครั้ง)

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
≡▉≡ interstellar ♗ รัก➀ล้านปีแสง

ตอนที่ 13 ด่านทดสอบอวกาศ


นานเท่าไหร่แล้วที่เนตั้นไม่เคยรู้สึกว่าได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม สบาย ผ่อนคลายและมีความสุข สมัยอยู่ที่ดาวโลกก็เหนื่อยกับการเรียนหนังสือรวมทั้งปัญหาอีกมากมาย ตอนที่ถูกมนุษย์ต่างดาวลักพาตัวมาก็อยู่ด้วยความหวาดระแวง แถมร่างกายยังไม่ชินกับการนอนโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนอีก จึงไม่เคยนอนหลับอย่างมีความสุขเลย แต่เมื่อคืนนี้เนตั้นนอนหลับสบายมาก หลับรวดเดียวจนถึงเวลาตื่นเลย

พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นดวงตาใสแป๋วของใครอีกคนจ้องมองดูอยู่ ยิ้มละไมและสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักทำให้การตื่นนอนวันนี้มีความหมายพิเศษต่างไปจากทุกวัน เนตั้นค่อยๆ แย้มริมฝีปากแล้วคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย ความรู้สึกที่มีต่อกันตอนนี้ต่างจากทุกวันที่ผ่านมาอย่างมากมายมหาศาล

มันเป็นความรู้สึกที่แสนพิเศษจริงๆ สำหรับเนตั้นและเนบิวลา

เนบิวลาคือคนๆ เดียวที่เนตั้นเหลืออยู่ในตอนนี้ ผู้ชายคนนี้เติมเต็มทุกสื่งทุกอย่างที่เคยขาดหายไปจากชีวิตของเนตั้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่เคยมีใครสักคนทำให้เนตั้นรู้สึกอบอุ่นใจและมั่นคงได้อย่างนี้เลย ตอนที่เรียนหนังสือและพอจีบสาวเป็น นอกจากสาวๆ เหล่านั้นจะไม่ทำให้เนตั้นรู้สึกเหมือนอย่างตอนนี้แล้ว พวกเธอยังทำให้ชีวิตของเนตั้นสับสนวุ่นวาย ยิ่งวิ่งไขว่คว้าก็ยิ่งห่างไกล สุดท้ายก็หมดแรงและอ่อนล้า

เนตั้นโผเข้ากอดอกเปล่าเปลือยของหนุ่มตาคมที่มอบรสรักสุขล้นให้เมื่อเกือบสิบชั่วโมงที่ผ่านมาอย่างรักใคร่ ซุกหน้าลงบนอกแกร่งราวกับเด็กน้อยที่โหยหาความอบอุ่น ถ้าใครเห็นดวงตาของเนตั้นตอนนี้คงรู้แล้วว่าเนตั้นได้สยบยอมต่อชายผู้นี้ไปแล้ว

"หนาวเหรอ"

เนบิวลาถามพลางกอดหนุ่มน้อยหน้าใสที่บัดนี้ซุกตัวอย่างมีความสุขอยู่บนอกของตัวเอง มือข้างหนึ่งไล้เรื่อยขึ้นมาลูบแผ่วเบาบนผมสีน้ำตาลเข้มแบบลูกครึ่ง

"นิดหน่อย" หนุ่มน้อยตอบพลางกอดอีกฝ่ายแน่นขึ้น

"นายดูมีความสุขนะ ฉันไม่เคยเห็นเนตั้นมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย" เนบิวลาโน้มศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยแล้วสูดดมกลิ่นผมที่หอมอ่อนๆ หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข

"อืม" เนตั้นยอมรับตามตรง ถึงตอนนี้ก็คงปฎิเสธไม่ได้แล้วว่าเนตั้นรู้สึกดีกับเนบิวลามากขึ้นจริงๆ "เมื่อก่อนนะ...เวลาฉันมีแฟน สาวๆ พวกนั้น...ไม่เห็นทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้เลย"

"ทำไมล่ะ" ทำหน้าอยากรู้

"ก็...ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าผู้หญิงส่วนมากอยากได้ความอบอุ่นจากผู้ชาย แต่ฉันให้เขาไม่ได้ เพราะตัวฉันเองก็ไม่เคยรู้เลยว่าความอบอุ่นมันเป็นยังไง คนขาดความอบอุ่นอย่างฉัน...จะให้ความอบอุ่นกับใครได้ล่ะ"

"นายก็เลยต้องการใครสักคนที่ให้ความอบอุ่นกับนายได้ใช่ไหมล่ะ" เนบิวลาพูด่อเองอย่างรู้ทัน

เนตั้นไม่ตอบ ช้อนตาขึ้นมองแล้วก็ยิ้มอย่างที่เนบิวลาไม่เคยเห็นมาก่อน จะว่าอายก็ไม่ใช่ ท้าทายก็ไม่เชิง

"แล้วนายคิดว่าฉัน...ให้ความอบอุ่นกับนายได้หรือเปล่าล่ะ" เนบิวลาถามต่อ

เนตั้นซบหน้าลงกับอกของเนตั้นตามเดิมแทนการตอบคำถาม คงไม่ใช่เรื่องยากที่เนบิวลาจะเดาคำตอบนั้นได้ ยิ่งเห็นอาการแบบนี้ของเนตั้นก็ยิ่งหลงรักและอยากทะนุถนอมดูแลมากขึ้นไปอีก

"อืม...แล้วเมื่อคืน...นายว่าฉันโอเคไหม สำหรับฉันนะ ฉันว่านาย...สุดยอดมากๆ เลย สุดยอดมากกว่าตอนที่นายแอบลักหลับฉันอีก"

แน่ะ...ยังอุตส่าห์จำได้ เนตั้นเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ เนตั้นได้แต่ซุกหน้าอยู่อย่างนั้น ถ้ากล้าพูดอย่างเนบิวลาบ้างก็คงบอกไปแล้วว่าเนบิวลาสุดยอดมากขนาดไหน ร่างกายที่กำยำ พละกำลังสมชายชาตรี ประสบการณ์ก็พอมี ทุกอย่างดีไปหมด แต่ที่ทำให้สุดยอดกว่านั้นก็คือ...ความรักที่เนบิวลามีให้เนตั้นต่างหาก ทำให้ทุกสัมผัสและลีลาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเสน่หาและความสุขที่ยากจะหาให้ได้ใกล้เคียงจากคนอื่น

เนบิวลาขำเบาๆ ที่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบเพราะความเขินอาย แต่อาการที่เนตั้นสนองตอบตอนร่วมรักกันก็บอกเนบิวลาได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายพอใจมากแค่ไหน เรียกได้ว่า...

มีความสุขจนแทบจะต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว

"นาย...เหนื่อยหรือเปล่า" เนตั้นถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปสักพัก

"หายเหนื่อยแล้ว ถามทำไมเหรอ" เนบิวลาถามอย่างแปลกใจ ถ้าหากมองเห็นหน้าของเนตั้นด้วยคงจะเห็นว่าเจ้าตัวหน้าแดงจนถึงใบหูเลย แต่พอดีเนบิวลาเห็นแค่เส้นผมก็เลยไม่รู้ว่าคนที่นอนซบอยู่เขินอายสักแค่ไหน

"เปล่า...ไม่มีอะไร"

ดูเหมือนคำตอบของเนตั้นไม่น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่ เนบิวลาเลยจับพลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะขึ้นไปทาบทับไว้ จ้องหน้าหนุ่มลูกครึ่งไม่ให้คลาดสายตา แต่คราวนี้ เนตั้นก็หาได้หลบตาเหมือนที่ผ่านๆ มาไม่ จ้องตากลับคืนอย่างไม่สะทกสะท้าน

"ติดใจเหรอ" เนบิวลาถามไปตรงๆ แม้เนตั้นไม่หลบตา พยายามไม่แสดงอาการเขิน แต่เนบิวลาก็รู้ดีว่าอีกไม่นานเจ้าตัวก็จะทนเขินไม่ไหวอย่างแน่นอน

"จะให้จัดให้อีกดอกเหรอ"

เนตั้นดูตกใจนิดหน่อยที่ถูกถามตรงไปตรงมาขนาดนั้น แต่ก็เป็นสิ่งที่เนตั้นต้องการนั่นแหละ ครั้นจะทำยึกยักลีลาท่ามากก็กลัวจะอด ติดใจจนอดใจไว้ไม่ไหวแล้ว คงไม่อ้อมค้อมไปมากกว่านี้ให้เสียเวลา

"ก็...ไหวหรือเปล่าล่ะ" กลั้นใจถามออกไปจนได้ รู้สึกประหม่ามากจนหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ

เนบิวลายิ้มกรุ้มกริ่ม จ้องตาล้วงลึกจนเหมือนดูจะกลืนกินเนตั้นให้หายไปทั้งตัว แต่ก่อนจะตอบคำถามของหนุ่มน้อยที่เริ่มมีอาการประหม่ามากขึ้น เนบิวลาก็เขยิบตัวให้ของแข็งแนบชิดกับของแข็งของอีกฝ่าย ความต้องการเริ่มพลุ่งพล่านจนอยากจะลงมือให้สาสมใจ แต่เนบิวลาก็ต้องระวังในทุกการเคลื่อนไหวพอสมควร เพราะพละกำลังและความแข็งแกร่งของกระดูกมีมากกว่าคนบนดาวโลก พลาดขึ้นมาอาจทำให้อีกฝ่ายกระดูกกระเดี้ยวหักได้

"แบบนี้...คิดว่าไหวหรือเปล่าล่ะ"

สายตาเจ้าชู้หวานฉ่ำที่ไม่ลดดีกรีลงทำให้เนตั้นทนเขินไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องยอมเบี่ยงสายตาหลบเล็กน้อย

"เนตั้น...ฉันรักนายนะ ฉันจะทำให้นายมีความสุขมากที่สุด...เท่าที่นายต้องการ"

แค่ได้ยินคำว่ารักของเนบิวลา หัวใจของเนตั้นก็พองโตและเต้นแรง ก่อนหน้านี้ ความเคยชินกับการไม่มีใครรักอาจทำให้เนตั้นรักใครจริงๆ ไม่ได้ แต่ครั้งนี้...ชีวิตทั้งชีวิตของเนตั้นกำลังจะเปลี่ยนไปจากความรักของหนุ่มต่างดาวผู้นี้ในไม่ช้า

เนตั้นไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไปแต่ใช้สองมือโน้มใบหน้าของเนบิวลาเข้ามาหา รอคอยรสจูบและสัมผัสรักที่เร่าร้อนอย่างใจจดใจจ่อ เพียงริมฝีปากแตะกันเนตั้นก็เสียวสะท้านจนต้องโอบกอดเนบิวลาแน่นขึ้น จากนั้นจึงปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นโดยที่ไม่มีแรงต้านทานใดๆ เหมือนเมื่อก่อนเหลืออยู่เลย


ภาพดาวเคราะห์สีน้ำเงินขนาดยักษ์ปรากฎอยู่เบื้องหน้าของผู้มาเยือนแล้ว หลังจากที่เดินทางแรมรอนมาจากดวงดาวอันไกลโพ้นหลายวัน ทีมูลาพันเวก็อยู่ใกล้มากพอที่จะเดินทางไปถึงได้ในเวลาไม่ถึงสิบนาที

สถานีอวกาศขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ยักษ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในความเป็นจริงแล้ว ดาวเคราะห์ดวงไหนที่ใหญ่ขนาดนี้จะไม่สามารถมีชั้นบรรยากาศได้เลย แรงดึงดูดที่มหาศาลจะดึงดูดชั้นบรรยากาศทั้งหมดไปอยู่ที่พื้นผิวของดวงดาว ที่สำคัญ ต่อให้ดวงดาวเอื้อต่อการมีชีวิตมากขนาดไหน แรงดึงดูดที่มหาศาลอาจทำให้สิ่งมีชีวิตต้องใช้พลังงานสูงมากในการเคลื่อนที่ หรืออาจจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เลย แต่ดาวทีมูลาพันเวกลับเป็นข้อยกเว้น ถึงแม้ดาวเคราะห์หินดวงนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่ใจกลางของดวงดาวกลับเป็นก๊าซมวลเบา จึงทำให้มีน้ำหนักและแรงดึงดูดไม่มากจนเกินไป เราเรียกดาวเคราะห์แบบนี้ว่า Puffy Planet

สถานีอวกาศขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไว้หลายจุดรอบๆ ทีมูลาพันเว คนที่ไม่เคยมาหรือคนที่เคยมาทดสอบแต่ไม่ผ่านจะต้องเข้ามารายงานตัวที่สถานีอวกาศก่อนเสมอ ส่วนคนที่ผ่านแล้วสามารถลงสู่พื้นผิวของดวงดาวได้โดยตรง แต่อย่าคิดลักลอบหนีเข้าไปเป็นอันขาด เพราะไม่มีใครสามารถหนีรอดได้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ยังไม่สามารถลักลอบเข้าไปได้เลย

เนบิวลานำยานเข้าไปจอดยังสถานีสำหรับจอดยานอวกาศของผู้มาเยือน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่หนึ่งนายมาช่วยนำทางทั้งสองคนเข้าไปยังสถานีทดสอบที่เชื่อมกันด้วยทางเดินโปร่งแสง แต่สามารถกันรังสีอวกาศได้ทุกชนิด

สถานีทดสอบมีขนาดใหญ่พอๆ กับห้างพารากอนที่เนตั้นเคยไปเที่ยวยังไงยังงั้น รูปทรงของมันดูแปลกประหลาดมากจนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นรูปทรงอะไรหรือมีกี่เหลี่ยมมุม แม้กระทั่งสีที่ใช้ก็ยังมีสีที่ตาเปล่าของเนบิวลาและเนตั้นไม่สามารถมองเห็นได้ แต่สิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้สามารถเห็นคลื่นแสงที่อยู่เหนือการเห็นของมนุษย์ได้อีกอย่างน้อยสามสี สีที่ตามองไม่เห็นจึงกลายเป็นสีดำไป

เนบิวลากับเนตั้นถูกจับแยกกันทันที การทดสอบจะเกิดขึ้นพร้อมกันสำหรับคนที่มาถึงพร้อมกัน พอแยกกันแล้วสองหนุ่มก็ดูจะตื่นเต้นไม่น้อยเพราะไม่มีใครเคยรู้เลยว่าที่นี่ใช้วิธีการทดสอบยังไงบ้าง ทุกคนที่มาถึงต่างมองหน้ากันไปมา ยิ้มปลอบใจกันบ้าง แต่ทุกคนล้วนมีคำถามในใจว่า...

อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้!?

สิ่งที่ทุกคนจะได้รับจากการมาทดสอบก็คือการมีความสามารถสื่อสารด้วยกระแสจิต เมื่อก้าวเข้าไปในห้องทดสอบแล้วจะมีคลื่นบางอย่างวิ่งเข้าสู่สมองและกระตุ้นการสร้างเซลล์ที่ใช้สำหรับการสื่อสารด้วยกระแสจิตขึ้น เพียงไม่กี่วินาทีก็จะสามารถสื่อสารด้วยกระแสจิตได้ ส่วนคนที่สามารถสื่อสารด้วยกระแสจิตได้จะมีเซลล์แบบนี้อยู่ในสมองอยู่แล้ว คลื่นที่ว่าก็จะไม่สร้างเซลล์ให้แต่อย่างใด

มีสิ่งมีชีวิตจากดาวดวงอื่นมาทดสอบพร้อมกับเนบิวลาและเนตั้นประมาณสิบกว่าชีวิต ทั้งหมดถูกจับแยกไปคนละห้อง จากนั้นการทดสอบก็เริ่มขึ้น เนื่องจากกระบวนการทดสอบเกิดจากการคิดค้นโดยสิ่งมีชีวิตปัญญาเลิศที่มีอารยธรรมมานานกว่าหนึ่งร้อยล้านปี จึงไม่มีใครสามารถเข้าใจหรือถอดรหัสกระบวนการต่างๆ ได้เลย ทุกคนทำได้เพียงเข้าไปยังห้องทดสอบและใช้สัญชาตญาณของตัวเองตอบสนองต่อการทดสอบเท่านั้น และการทดสอบของแต่ละคนและแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกันเลย เพราะกระบวนการทดสอบจะถูกออกแบบตามลายดีเอ็นเอของแต่ละคนที่ถูกตรวจสอบโดยอัตโนมัติทันทีที่เข้ามาในสถานีอวกาศ

บางคนเจอการทดสอบที่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวจนแทบสติแตก บางคนก็รู้สึกหดหู่สุดขีด บางคนเห็นแสงและได้ยินเสียงประหลาดๆ ที่ทำให้ระบบการรับรู้สับสนจนแทบตัดสินใจหรือคิดไม่ได้ บางคนหลงติดเข้าไปในสถานที่ที่หาทางออกไม่ได้ บางคนถูกสะกดจิตจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ บางคนถูกดูดเข้าไปในหลุมดำจนรู้สึกเหมือนร่างกายฉีกขาดเป็นชิ้นๆ และบททดสอบประหลาดอื่นๆ อีกมากมาย

บททดสอบของเนตั้นก็ประหลาดเช่นเดียวกัน ขณะเดินเข้าไปในห้องทดสอบ เนตั้นก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหนักขึ้นเรื่อยๆ หนักมากจนเนตั้นเคลื่อนไหวช้าลงและช้าลง จนกระทั่งหยุดสนิทเพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกแล้ว

พลันเนตั้นก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกเหวคล้ายกับถูกดูดด้วยแรงดึงดูดมหาศาล ร่างของเนตั้นถูกดึงให้เคลื่อนต่ำลงไปด้วยความเร็วสูงอย่างมาก ด้วยความกลัวเนตั้นจึงร้องออกมาสุดเสียง ถ้าหากกระแทกกับอะไรบางอย่างเข้า ร่างของเนตั้นคงแหลกไม่เป็นชิ้นดี

หลังจากนั้นไม่นาน ความเร็วก็เพิ่มสูงขึ้นอีกจนรู้สึกได้ถึงผิวหนังที่เสียดสีกับอากาศจนแทบจะลุกไหม้ เนตั้นรู้สึกร้อนไปทั้งตัว คล้ายกับว่ากำลังถูกเผาด้วยความร้อนสูงหลายพันองศา เนตั้นจึงกรีดร้องเสียงดังมากขึ้นจนกระทั่งรู้สึกได้ว่าสติสัมปชัญญะกำลังจะขาดสะบั้นลงในอีกไม่ช้า แต่ก็ยังเหลือสติน้อยนิดที่พอสั่งให้ตัวเองหลับตาและใช้มือปิดปากของตัวเองได้ เพราะถ้ายังขืนร้องเสียงดังและมองเห็นอยู่ก็จะยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่

กระทั่งในที่สุดเนตั้นก็รู้สึกได้ว่าร่างกายที่เคลื่อนที่เหมือนตกจากที่สูงด้วยความเร็วค่อยๆ เคลื่อนที่ช้าลงและช้าลง ในที่สุดก็หยุดนิ่งสนิท น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ก็ค่อยๆ ลดลงจนเป็นปกติ เนตั้นสามารถเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง และนั่นก็คือจุดสิ้นสุดของการทดสอบ

ส่วนเนบิวลา ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในห้องทดสอบ เนบิวลาก็รู้สึกได้ถึงอาการร้อนวูบวาบของตัวเอง จากนั้นก็ดูเหมือนว่าอารมณ์และความต้องการทางเพศของตัวเองเพิ่มสูงขึ้นและสูงขึ้น อวัยวะส่วนนั้นของเนบิวลาแข็งตัวสุดขีดจนน่าจะแข็งพอๆ กับเพชรได้เลย ความกระวนกระวายและต้องการหาทางระบายออกเพิ่มทวีจนเนบิวลาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฉีกทึ้งเสื้อผ้าออกจนไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น

เนบิวลาวิ่งวนไปทั่ว สบถคำหยาบคายออกมาเพื่อแสดงความต้องการทางเพศอย่างบ้าคลั่ง ชนิดที่ว่าถ้าอัดเสียงไว้ฟังทีหลังเจ้าตัวคงช็อคว่าพูดออกไปได้ยังไง เนบิวลาจับอวัยวะเพศของตัวเองแล้วก็รูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าจะเร็วเท่าไหร่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่มากขึ้นทุกทีๆ ได้เลย พอสอดส่ายสายตาหาสิ่งระบายอย่างอื่นก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการแม้แต่อย่างเดียว ในที่สุดก็ต้องกรีดร้องโหยหวนเสียงดังและทิ้งตัวลงเกลือกกลิ้งกับพื้นราวกับคนเสียสติ จนกระทั่งเนบิวลารู้สึกเหมือนสติสัมปชัญญะกำลังจะขาดผึงในอีกไม่ช้า ภาพของเนตั้นก็พลันแวบเข้ามาในหัวสมอง ไม่รู้ว่าแทรกเข้ามาได้อย่างไรเพราะเนบิวลาไม่สามารถคิดเรื่องอื่นได้เลย นอกจากทำยังไงก็ได้ให้ปลดปล่อยความต้องการที่สูงยิ่งยวดให้เร็วที่สุด

เพียงครู่เดียว ความต้องการทางเพศที่ไม่สามารถวัดค่าได้ก็ค่อยๆ ลดลง ร่างกายของเนบิวลาค่อยๆ หยุดดิ้นรนกระเสือกกระสนจนกระทั่งกลับคืนสู่สภาวะปกติก่อนที่การทดสอบจะสิ้นสุดลง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทุกคนออกมาจากห้องทดสอบแล้ว ไม่มีใครสักคนจำได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องทดสอบนั้น ไม่มีใครมีร่องรอยของความหวาดกลัว หดหู่หรือความรู้สึกอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงทดสอบติดมาด้วย ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ได้ถูกลบออกไปจากความทรงจำแล้ว

เนบิวลากับเนตั้นเดินมานั่งด้วยกันยังที่ที่จัดไว้ พอนั่งลงก็จับมือกันไว้และยิ้มให้กัน คอยลุ้นผลอย่างใจจดใจจ่อ แต่ก็ไม่ต้องคอยนานนักเพราะการทำงานของที่นี่รวดเร็วมาก

"เธอสองคนมาด้วยกันใช่ไหม" เจ้าที่สาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาถามเนบิวลากับเนตั้นด้วยกระแสจิต

"ใช่ครับ" เนบิวลากับเนตั้นตอบพร้อมกัน

"ตามฉันมา" มนุษย์ต่างดาวหญิงสาวคนนั้นบอกพลางเดินนำออกไปก่อน เนบิวลากับเนตั้นลุกขึ้นแล้วเดินตามเธอไป

คนบนดาวดวงนี้แท้ๆ ไม่สวมเสื้อผ้า มีผิวหนังเป็นลายริ้วขวางสีน้ำตาล เนื่องจากสภาพอากาศบนพื้นผิวของดวงดาวไร้ซึ่งมลพิษและรังสี จึงไม่จำเป็นต้องปกป้องด้วยเสื้อผ้า มีปากขนาดเล็กและไม่มีหูเพราะใช้กระแสจิตสื่อสารเพียงอย่างเดียว ไม่มีอวัยวะเพศเพราะมนุษย์อารยธรรมสูงหลุดพ้นจากความต้องการในการสืบพันธุ์ไปแล้ว แต่สามารถสืบพันธุ์ด้วยการชุบเลี้ยงเซลล์ขึ้นมาใหม่ได้ การวิวัฒนาการจึงค่อยๆ ทำให้อวัยวะเพศหายไป กระนั้น สภาพภายนอกบางอย่างยังพอบอกได้ว่าใครเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

สองหนุ่มถูกพามาที่ห้องๆ หนึ่งที่มียานอวกาศส่วนบุคคลจอดอยู่เต็มไปหมด เนบิวลากับเนตั้นถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ยานอวกาศรูปทรงคล้ายๆ เมล็ดข้าวมีเกล็ดสีเงินเปล่งประกายระยิบระยับ เห็นไปไกลสุดลูกหูลูกตา มันดูสวยงามมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครสามารถออกแบบยานอวกาศที่สวยขนาดนี้ได้ วัสดุที่ใช้ก็มีความพิเศษมากและไม่สามารถจัดหาหรือผลิตได้จากดาวดวงอื่นเลย

"เอาล่ะ ฉันขอแสดงความยินดีด้วย พวกเธอสองคนผ่านการทดสอบของเราแล้ว เพราะฉะนั้น เราจะมอบยานลำนี้ให้กับเธอสองคน คนละลำ ยานอวกาศนี้จะพาพวกเธอลงไปที่พื้นผิวของทีมูลาพันเว และจะไปส่งเธอถึงบ้านที่เราจัดสรรไว้ให้ บ้านของเธอสองคนอยู่ติดกัน จะอยู่แยกกันหรืออยู่ด้วยกันก็ได้ ถ้าหากจะเดินทางไปไหน ใช้ยานอวกาศที่เราให้พวกเธอได้เลย ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ไม่เป็น เพราะยานสามารถอ่านกระแสจิตของพวกเธอได้ มันจะพาพวกเธอไปทุกที่ที่พวกเธอคิด แม้กระทั่งไม่รู้ว่าจะไปไหน มันก็จะช่วยเสนอทางเลือกให้ มันสามารถเดินทางข้ามกาแล็กซี่ได้ จะไปไกลแค่ไหนก็ได้ แต่...มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถพายานนี้ออกไปจากดาวของเราได้ ยกเว้นว่าจิตของคนๆ นั้นบริสุทธิ์มากๆ พวกเธอลองสั่งให้มันบินกลับดวงดาวของพวกเธอก็ได้นะ ถ้าอยากลอง ถ้าจิตของเธอสองคนบริสุทธิ์มากๆ เธอจะเอายานนี้กลับไปที่ดวงดาวของพวกเธอได้เอง แต่ถ้าไม่ ยานนี้จะเข้ามาจอดที่โรงจอดอัตโนมัติ แต่ไม่ต้องห่วง เราเก็บยานของพวกเธอไว้ให้แล้ว พวกเธอสามารถใช้ยานลำเดิมกลับดวงดาวของพวกเธอได้ พร้อมที่จะไปกันหรือยังล่ะ"

แม้ดูเหมือนว่าเรื่องที่สื่อสารมีค่อนข้างมาก ถ้าพูดกันด้วยปากเปล่าอาจจะต้องใช้เวลาเป็นนาทีสองนาที แต่พอใช้กระแสจิต เนบิวลากับเนตั้นกลับสามารถเข้าใจสารทั้งหมดได้ในเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

สองหนุ่มจับมือกัน หันมายิ้มให้กันด้วยความดีใจ แล้วหันไปพยักหน้ากับเจ้าหน้าที่สาวคนนั้น

"พร้อมแล้วครับ" สองหนุ่มส่งกระแสจิตตอบไปพร้อมกัน

"งั้น...ก็เชิญขึ้นยานได้เลย ลำไหนก็ได้ แต่ต้องแยกกันไป"

สองหนุ่มพยักหน้าตกลงตามที่เจ้าหน้าที่สาวคนนี้บอก จากนั้นก็เดินไปเลือกยานของตนเอง แม้ดูเผินๆ ยานทุกลำจะเหมือนกัน แต่ความเป็นจริงแล้วมันถูกออกแบบให้ดูไม่เหมือนกันเลย แต่ต้องสังเกตดีๆ จึงจะเห็นความแตกต่าง

พอสองหนุ่มขึ้นไปนั่งบนยาน ยานอวกาศรูปเมล็ดข้าวสีเงินก็ค่อยๆ ลอยตัวขึ้น จากนั้นก็แล่นออกไปจากโรงจอด พอออกจากสถานีอวกาศแล้ว ยานทั้งสองลำก็พุ่งลงสู่พื้นผิวดวงดาวในแนวดิ่งอย่างรวดเร็ว เร็วจนแทบไม่สามารถสังเกตเห็นวิวทิวทัศน์ได้เลย รู้ตัวอีกทียานอวกาศก็พาสองหนุ่มลงจอดที่บ้านที่ทั้งสองคนได้รับจัดสรรแล้ว


บ้านของเนบิวลาและเนตั้นอยู่ติดกันตามที่เจ้าหน้าที่คนนั้นบอก รูปทรงมันแปลกประหลาดเหลือล้ำชนิดที่ดาวแม็กโซนาเดียต้องใช้เวลาอีกเป็นร้อยล้านปีจึงจะสามารถออกแบบรูปทรงเช่นนี้ได้ มันดูเหมือนโปร่งแสง แต่พอดูอีกทีก็ดูเหมือนทึบแสง ขนาดมันใหญ่พอให้อยู่กันได้สักสี่ห้าคน มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ทุกอย่างในบ้านทำงานให้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะทำอาหาร ล้างจาน ทำความสะอาดและอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งยังสามารถรับคำสั่งทางกระแสจิตได้ด้วย

เนบิวลาเลือกมาชมบ้านของเนตั้นก่อน สองหนุ่มวิ่งดูตรงนั้นตรงนี้และทดลองใช้กระแสจิตสั่งงานให้บ้านทำงานให้ เช่น สั่งให้ทำอาหารให้กิน ล้างจาน เปิดเพลงและหารายการสนุกๆ มาให้ดู ทุกอย่างสะดวกสบายไปหมด

"สุดยอดเลยเนตั้น เราสองคนนี่โชคดีสุดๆ เลย นายรู้ไหมว่ามีคนจากดาวแม็กโซนาเดียหลายคนมาทดสอบที่นี่ แต่มีคนผ่านน้อยมากๆ" เนบิวลาหยุดพูดแล้วก็มองไปรอบๆ อีกรอบ หลังจากที่มองหลายรอบแล้ว

"อืม...จะว่าไปฉันก็อยากพาพ่อกับแม่แล้วก็น้องชายมาเที่ยวที่นี่ด้วยจังเลย พวกเขาต้องชอบมากแน่ๆ"

เนตั้นหันไปยิ้มกับหนุ่มตาคม แล้วก็มองไปรอบๆ อีกเช่นกัน "ก็ดีนะ คงสนุกน่าดูเลย อยู่กันหลายๆ คนอบอุ่นดี ฉันยังไม่เคยเห็นพ่อกับแม่แล้วก็น้องชายของนายเลย พวกเขาจะต้อนรับฉันหรือเปล่านะ" เนตั้นหันกลับมามองหน้าเนบิวลาตรงประโยคท้าย

"ถ้านายผ่านการทดสอบจากดาวนี้ได้ นายจะได้รับการยอมรับแน่ๆ เผลอๆ พอนายไปถึงดาวแม็กโซนาเดียของเรา นายจะกลายเป็นคนดังเลยนะ ทีนี้ใครๆ ก็จะอยากรู้จักนาย"

"โห...ดาวนี้ช่วยฉันได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ดีจังเลย แล้ว...เราจะกลับกันเมื่อไหร่ดีล่ะ"

"อยู่เที่ยวที่นี่ก่อนสักวันสองวันดีไหม แล้วค่อยกลับ ฉันว่า...ฉันจะลองเอายานที่เราได้มากลับไปที่แม็กโซนาเดียด้วย ถ้าเอาออกไปได้ก็เจ๋งเลย คราวนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนในจักรวาลก็ได้" แค่คิด...แววตาของเนบิวลาก็เปล่งประกายด้วยความสุข หากทำได้จริงๆ เจ้าตัวคงจะดีใจไม่น้อยเลย

"แล้ว...คนที่ดาวแม็กโซนาเดียจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าฉันผ่านการทดสอบแล้ว ฉันจะไม่โดนจับแน่นะ" เนตั้นถามเมื่อนึกขึ้นได้

"ตอนนี้ดีเอ็นเอของเราสองคนถูกส่งไปทั่วจักรวาลด้วยเทคโนโลยีควอนตั้มพิเศษแล้ว พอนายไปถึงดาวแม็กโซนาเดีย ฉันจะพานายไปที่ด่านตรวจคนต่างดวงดาว เขาจะเช็คข้อมูลนายว่ามีดีเอ็นเอของนายส่งมาจากดาวทีมูลาพันเวหรือเปล่า ถ้ามีนายก็จะผ่านการตรวจ แล้วนายก็จะได้รับสวัสดิการพื้นฐานทุกอย่าง มีบ้านให้ มียานอวกาศให้ อาจจะไม่ดีเท่าที่นี่หรอก ที่นี่ดีกว่าเยอะ แต่นายก็จะพออยู่ได้ อ้อ...นายจะได้เรียนหนังสือแล้วก็ทำงานด้วย แล้วแต่ว่านายอยากจะเรียนอะไร ทำงานด้านไหน"

"โห...ดีขนาดนั้นเลยเหรอ แสดงว่าการทดสอบที่นี่ต้องดีมากๆ แน่ๆ เลย ดวงดาวต่างๆ ถึงให้การยอมรับมากขนาดนี้" เนตั้นยิ้มชวนฝัน คิดไปไกลถึงวันที่ตัวเองจะได้อยู่ที่ดาวแม็กโซนาเดียอย่างมีความสุข แถมยังมีบ้านหลังที่สองที่ทีมูลาพันเวอีก

"แน่นอน ว่าแต่...นายจำได้ไหมว่าทดสอบอะไรไปบ้าง ฉันจำอะไรไม่ได้เลย"

เนตั้นส่ายหน้าแทนคำตอบ

"ช่างเหอะ เขาคงไม่อยากให้เราจำได้ ฉันว่า...เราไปเที่ยวกันดีกว่านะเนตั้น ฉันอยากไปเที่ยวแล้ว ตื่นเต้นชะมัดเลย ต้องมีอะไรแปลกๆ ให้เราดูเยอะแน่ๆ เลย" เนบิวลาชวนด้วยน้ำเสียงและท่าทางตื่นเต้น ท่าทางคงอยากไปเต็มแก่

"โอเค ฉันก็อยากไปเที่ยวแล้วเหมือนกัน" เนตั้นตอบด้วยท่าทางตื่นเต้นไม่แพ้กัน

เนบิวลายิ้มพอใจก่อนจะเดินนำออกไปก่อน หนุ่มน้อยหน้าใสวิ่งตามหลังไป พอถึงตัวก็กระโดดขี่หลังพร้อมกับหยอดคำหวานที่เนตั้นไม่เคยพูดให้เนบิวลาฟังมาก่อน

"ฉันมีความสุขมากๆ นะที่ได้อยู่กับเนบิวลา"

เพียงแค่ได้ยินเท่านั้น หัวใจของเนบิวลาก็พองโตจนแทบจะเก็บไม่อยู่ รู้สึกได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล หนุ่มตาคมยิ้มมีความสุข แล้วก็พาเนตั้นวิ่งลงไปจากบ้านอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงหัวเราะร่าของเนตั้น

TBC



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2016 11:07:04 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โอ้ยยยยยย หวานๆๆๆๆๆๆกันซะ  :-[ :-[ :-[

โคตรฮาการทดสอบของเนบิวล่าเลยอ่ะ ความต้องการทางเพศสูงจนแข็งเหมือนเพชร 5555 :m20: :m20: :m20:

ตอนนี้ก็ทดสอบผ่านทั้ง 2 คนแล้ว กลับดาวตอนนี้ อะเนด้าก็ทำอะไรเนตั้นเรื่องลักลอบเข้าดาวได้แล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

กำลังสนุกเลย รอตอนต่อไป มาต่อไวๆนะคร้าบบบบบ :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
หือออ ทดสอบเร็วมากๆ เรียกว่าทดสอบจิตกันเลยทีเดียว จะว่าไปทดสอบทางจิตนี่ก็ดีนะคับ สมกับเป็นดาวที่เจริญแล้วจริงๆ ดาวพันเวนี่จะมีอะไรให้เนตั้นเที่ยวชมบ้าง รอ รออ่านตอนต่อไปนะคับ ลุ้นตอนกลับดาวนาเดียด้วยว่าจะตอบรับเนตั้นยังไงคับ :katai5:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ดีใจกับเนตั้นด้วยจริงๆ ค่ะ จากนี้ก็ใช้ชีวิตในต่างดาวได้ง่ายขึ้นแล้วเนอะ ^^ ส่วนเนบิวลา บททดสอบนี่บ่งบอกถึงความหื่นที่มีอยู่ในตัวมากๆ เลยนะคะ :laugh: แต่แอบน่ารักก็ตรงที่แม้ตัวเองอยู่ในสภาวะกดดันสุดๆ ก็ยังคิดถึงแต่เนตั้นนี่ล่ะค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
เป็นบททดสอบทางจิตที่โหดอยู่นะคะ
ดีใจที่ผ่านการทดสอบนะเนตั้น  :katai2-1:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ดีใจด้วยน่ะทั้งสองคน ตอนนี้เนตั้นก้อมีจุดเริ่มต้นมีบ้านของตนเองแล้ว นายจะได้ไม่ต้องน้อยใจในโชคชะตาแหละ เขาถึงว่าก่อนที่เราจะทำอะไรสำเร็จชีวิตต้องตกต่ำเป็นศูนย์  :เฮ้อ: แต่กว่าจะถึงตรงนั้นเราคงบอบช้ำจนไม่รู้จะหาทางออกให้ตัวเองเลยน่ะ แต่ในที่สุดนายก้อผ่านมาได้ หวังว่าความสุขจะอยู่กับนายสองคนไปนาน ๆ น่ะ  :mew1: คนเขียนอย่าเพิ่งรีบใจร้ายล่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
เย้ๆ วิวาห์เหาะกันไปเลย

ปล.ไม่เอามาม่าน้าาา กินอิ่มแล้ว ขอแบบมุ้งมิ้งๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ดีใจกับทั้งคู่ด้วย ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วใช่มั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
มีความฟิน มีความยินดี   :katai2-1: จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องตัวตนที่แปลกแยกแล้วนะเนตั้น
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
ว่าแต่ทั้งสองคนจะมีการแต่งงานไหมคะ เช่นว่าให้ได้รับการยอมรับจากสังคมในฐานะคู่ชีวิตแบบหญิงชายในแมกโซนาเดีย

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
เนบิวลาคนหื่น นี่ถึงขั้นซึมลึกในจิตใต้สำนึกเลยทีเดียว  :m20:

เนตั้นมีที่ทาง มีตัวตนแล้วนะ ขอให้มีชีวิตที่มีความสุขและมั่นคงต่อไป

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
เย้!!!! มาต่อืีเดียว 2 เรื่องเลย รอๆๆๆ :hao7: :hao7: :hao7:

เรื่องความทรงจำ ตัวเอกอีกคนคือใครอ่ะครับ หล่อดี เอิ้กๆๆๆ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
≡▉≡ interstellar ♗ รัก➀ล้านปีแสง

ตอนที่ 14 เพื่อนรักเพื่อนร้าย


ดาวทีมูลาพันเวถือเป็นดาวในฝันที่ใครๆ ก็อยากจะได้สิทธิเข้ามาอยู่ เพราะดาวดวงนี้ถือว่าเป็นดาวที่มีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตปัญญาเลิศยาวนานที่สุดเท่าที่ค้นพบในจักรวาล โดยส่วนมากแล้วสิ่งมีชีวิตปัญญาเลิศมักมีอารยธรรมที่สืบทอดต่อเนื่่องกันไม่เกินสิบล้านปี เพราะส่วนมากถ้าไม่เจออุตกาบาตถล่มเสียก่อน ก็อาจจะเจอการระเบิดของดวงอาทิตย์ แต่ที่น่าเศร้ากว่านั้นก็คือ สงครามที่มนุษย์ปัญญาเลิศทำลายล้างกันเอง ทั้งบนดาวดวงเดียวกันหรือต่างดวงดาวกัน

ด้วยเหตุนี้ ดาวทีมูลาพันเวจึงมีความเจริญทางเทคโนโลยีสูงสุด ทันสมัยที่สุด ล้ำหน้ามากที่สุด อย่างไรก็ตาม ดาวดวงนี้รับเฉพาะคนที่ผ่านการคัดเลือกเท่านั้น แม้กระทั่งการท่องเที่ยวระหว่างดวงดาวก็ต้องใช้เงื่อนไขเดียวกัน มีเพียงรัฐบาลหรือตัวแทนของดวงดาวที่ได้รับเชิญเท่านั้นที่สามารถเข้ามาสู่พื้นผิวของดาวทีมูลาพันเวได้โดยไม่ต้องผ่านการทดสอบ

เนบิวลาพาเนตั้นมาเล่นที่สวนสนุกแห่งหนึ่งที่อยู่ทางตอนเหนือของดวงดาวเป็นที่แรก สวนสนุกแห่งนี้ชื่อว่าสวน "มีซามูลา" สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือสนามต้านแรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่ (Anti-gravity field) ก่อนเริ่มเล่น ผู้เล่นจะได้รับอุปกรณ์คล้ายๆ รองเท้าที่เอาไว้ดึงดูดให้ตัวผู้เล่นอยู่ในสนามต้านแรงโน้มถ่วง และใช้กลับลงสู่พื้นดินเมื่อเล่นเสร็จแล้ว

ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในสนามต้านแรงโน้มถ่วง ตัวของเนบิวลาและเนตั้นก็ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นจากพื้น เมื่อทดลองพุ่งตัวก็พบว่าตัวลอยสูงขึ้นไปได้อีก สองหนุ่มจึงสนุกกันใหญ่ จนกระทั่งรู้ตัวอีกทีเนตั้นก็พบว่าตัวเองขึ้นมาสูงมาก มองลงไปก็กลัวจนขาสั่น มีเพียงเนบิวลาเท่านั้นที่คุ้นเคยกับการเคลื่อนที่ในระดับสูงจนไม่รู้สึกกลัวแม้แต่น้อย

"มาสิเนตั้น ขึ้นไปให้ถึงก้อนเมฆเลย ไปวิ่งเล่นบนก้อนเมฆกัน" เนบิวลาหันมาเร่งเร้าเมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดและทำหน้าแหยๆ

"ฉันกลัวน่ะเนบิวลา มันสูงมาก ฉันกลัวตกน่ะ" เนตั้นมองกลับลงไปข้างล่างแล้วก็เงยหน้ามองเนบิวลา แทบไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปไหน

"ก็อย่ามองข้างล่างสิ แล้วทำไมตอนแรกไม่เห็นกลัวล่ะ"

"ก็ตอนนั้นลืมดู" พูดแล้วเนตั้นก็ขำตัวเอง

เนบิวลาก้มไปกดปุ่มที่รองเท้า สักพักตัวก็ค่อยๆ ลอยต่ำลง พอถึงตัวของเนตั้นเนบิวลาก็กดปุ่มเดิมอีกครั้งเพื่อยุติการลดระดับ

"มา เดี๋ยวฉันพานายขึ้นไปเอง"

เนบิวลาดึงหัวของเนตั้นให้มาซบที่หน้าอกของตัวเอง คนอายุน้อยกว่าตกใจจึงดิ้นพยายามดิ้นหนี

"นายจะทำอะไรน่ะเนบิวลา คนเยอะแยะเลย อายเขา"

"ไม่ต้องสนใจหรอก คนที่นี่เขายอมรับความรักที่หลากหลายได้ เขาไม่มองเราหรอก ถึงมองก็ไม่มีใครว่าอะไร มาเร็ว ซบที่อกฉันนี่แหละ นายจะได้ไม่ต้องเห็นอย่างอื่น จะได้ไม่กลัวไง"

แม้ว่าจะฟังดูแปลกๆ ไปหน่อยสำหรับเนตั้น แต่ก็คงต้องเชื่อเพราะเนตั้นเองไม่มีความรู้เรื่องธรรมเนียมปฏิบัติของดาวอื่นๆ เลย เนตั้นก็จึงยอมกอดและซบกับหน้าอกของเนบิวลาเสียเอง

"ไม่ต้องกลัวนะ อยู่กับฉันแล้วนายจะปลอดภัย"

"รู้แล้ว" เนตั้นพูดเสียงึมงำเบาๆ ในลำคอ ยอมรับแต่โดยดีตามที่เนบิวลาพูดทุกอย่าง

เนบิวลายิ้มพอใจ สิ่งที่เนตั้นพูดและแสดงออกนั้นชัดเจนในตัวอยู่แล้ว แทบไม่ต้องตีความใดๆ

"งั้นไปกันเลยนะ"

พูดจบแล้วเนบิวลาก็ค่อยๆ ถีบตัวสูงขึ้นและสูงขึ้น เนตั้นกอดแน่นและหลับตาปี๋ แต่ก็มีแอบชำเลืองบ้างเล็กน้อย จนกระทั่งมาถึงชั้นก้อนเมฆซึ่งอยู่สูงจากพื้นดินประมาณแปดกิโลเมตร เนบิวลาจึงหยุดถีบตัว พอทรงตัวดีแล้วจึงดันตัวเนตั้นออกจากอ้อมแขน เนตั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้น พอเหลือบเห็นก้อนเมฆขาวโพลนไกลสุดลูกหูลูกตาก็ออกอาการตื่นเต้นจนแทบไม่เหลือความกลัว

"เห็นไหม ก้อนเมฆเต็มไปหมดเลย สวยไหมเนตั้น"

เนตั้นมองไปรอบๆ แล้วยิ้มอย่างพอใจ มันสวยงามจนดูเหมือนโลกของเทวดาหรือนางฟ้าตามความเชื่อบนโลกมนุษย์ในประเทศไทย แต่ภาพจริงๆ ที่เห็นตรงหน้านั้นสวยงามและได้บรรยากาศกว่าที่เคยเห็นในหนังสือหรือละครจนเทียบกันไม่ได้

"ว้าว สวยสุดๆ ไปเลยเนบิวลา"

"ไปวิ่งเล่นกันดีกว่าเนตั้น"

ว่าแล้วเนบิวลาก็คว้าข้อมือเนตั้นพร้อมกับพาวิ่งออกไป ร่างของทั้งคู่ลอยสูงขึ้นไปได้อีกนิดหน่อยเพราะสุดเขตของคลื่นต้านแรงโน้มถ่วงพอดี พอกระโดดขึ้นไปเหนือเขตคลื่นต้านแรงโน้มถ่วง ร่างก็จะถูกดูดหล่นลงมา พอเข้าเขตคลื่นอีกครั้งก็ค่อยๆ หยุด ราวกับมีผืนผ้าใบขนาดใหญ่ขึงตึงรับไว้ กระนั้นก็สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้เล่นได้มากทีเดียว

แรกๆ เนบิวลากับเนตั้นแค่วิ่งเล่นและกระโดดเฉยๆ แต่หลังๆ สัญชาตญาณผู้ชายที่มีอยู่แล้วก็กระตุ้นให้เปลี่ยนมาเล่นสู้กัน ผลักกันบ้าง เหวี่ยงกันบ้าง โยนกันบ้าง บางครั้งเนบิวลาก็เผลอเล่นแรงจนเหวี่ยงเนตั้นกระเด็นไปไกลเป็นร้อยๆ เมตรเลย โชคดีที่ไม่เจ็บตัว

พอเล่นด้วยกันเบื่อแล้วก็เริ่มชวนคนอื่นๆ มาเล่นด้วยบ้าง สิ่งมีชีวิตที่นี่มีสารพัดรูปร่างเพราะมาจากดาวดวงอื่นเป็นส่วนมาก หลายคนอพยพมาที่นี่เพราะดาวดวงเดิมอยู่ไม่ได้ด้วยหลายๆ สาเหตุ เช่น ถูกหลุมดำดูดกลืนหายไป ดวงอาทิตย์ระเบิดเป็นซุเปอร์โนวาหรือไม่ก็มีสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือ แม้ว่าจะมาจากหลากหลายดวงดาว แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ต่างยืนด้วยสองขาและมีมือคล้ายๆ กัน

ด้วยความที่มีเจอสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกๆ โดยธรรมชาติของมนุษย์ก็มักจะอดคิดสงสัยในใจไม่ได้ แม้ว่าจะกล้าเอ่ยถามตรงๆ ก็ตาม เนบิวลาเองก็เถอะ แม้จะฝึกจิตมาดีแค่ไหนแต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้จิตนิ่งได้ ทั้งคู่จึงเผลอคิดแผลงๆ ในใจอยู่หลายเรื่อง

"ทำไมผู้หญิงคนนี้หัวดูแปลกๆ หัวโต๊โต แต่ตัวเล็กนิดเดียวเอง"

"มนุษย์ต่างดาวพวกนี้มาจากไหนกันนะ ทำไมตัวเขียวๆ แถมยังตัวเล็กอีก จะเล่นกับเราไหวไหมเนี่ย"

"เพิ่งเคยเห็นมนุษย์ต่างดาวมีสี่มือก็วันนี้แหละ ทำไมมีมือเยอะจัง แล้วอย่างนี้มือไม่พันกันยุ่งเลยเหรอ"

"มนุษย์ต่างดาวคนนี้ดูน่ากลัวจังเลย ตาโตจนแทบถลนออกมา จมูกก็เล็ก เหมือนสัตว์ประหลาดเลย"

ทั้งสองหนุ่มต่างก็ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ในหัวนั้นถ่ายทอดเป็นกระแสจิตไปให้คนอื่นๆ รับรู้ด้วย เพราะฉะนั้น ทุกคนที่มาเล่นกับสองคนนี้ก็จะถูกสองหนุ่มวิพากษ์วิจารณ์ในใจ พอเล่นไปสักพักจึงเลิกเล่นด้วยเพราะรู้สึกไม่พอใจที่สองหนุ่มไม่ให้เกียรติ เล่นเอาสองหนุ่มงงเป็นไก่ตาแตกที่อยู่ดีๆ คนที่เข้ามาเล่นด้วยก็พากันจากไปในเวลาไม่นาน

นี่คือการกดดันคนที่มาอยู่ใหม่ให้ได้รับบทเรียน ชาวทีมูลาพันเวนั้นใช้กระแสจิตสื่อสารกันเพียงอย่างเดียว การคิดในหัวทำให้เกิดคลื่นกระแสจิตถ่ายทอดออกไปจึงเป็นการสื่อสารอย่างหนึ่ง คนอื่นๆ สามารถรับรู้ได้ อย่างไรก็ตาม คนใหม่ๆ ที่มาอยู่ที่นี่จะสามารถปรับตัวและฝึกจนกระแสจิตนิ่งได้ทุกคนเพราะผ่านการทดสอบมาแล้ว เพียงแต่ต้องอาศัยเวลาอีกเพียงเล็กน้อยจึงจะสามารถหยุดคิดในหัวและสื่อสารด้วยกระแสจิตเมื่อจำเป็นต้องสื่อสารได้

"ทำไมไม่มีใครเล่นกับเราเลยล่ะเนบิวลา" เนตั้นปรารภขึ้นด้วยภาษาแม็กโซซึ่งเป็นภาษาพูด

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน พวกเขามาเล่นกับเราแป๊บเดียวแล้วก็หนีไปหมดเลย" เนบิวลาพูดพลางมองตามคนเหล่านั้นที่กำลังเดินหนีไปเล่นที่อื่น พยายามคิดทบทวนแต่ก็จนด้วยเกล้าจริงๆ ว่าทำอะไรผิดไปหรือเปล่า เมื่อนึกไม่ออกจึงเลือกที่จะตัดความสงสัยทิ้งไป

"ลงไปกันดีกว่าเนตั้น จะได้ไปที่อื่นต่อ" เนบิวลาหันไปชวน

เนตั้นพยักหน้าตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แม้เมือกี้จะสนุกมากแค่ไหน แต่พอเห็นคนเดินหนีแล้วก็ชักจะหมดสนุกเอาดื้อๆ

"กล้าลงเองไหมคราวนี้ ถ้าลงเองได้ ฉันจะทำของอร่อยๆ ให้กินคืนนี้" เนบิวลาท้าทาย ไม่บ่อยนักที่จะได้ใช้คำว่า "คืนนี้" โชคดีที่ดาวทีมูลาพันเวมีกลางวัน-กลางคืนเหมือนดาวโลก

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ฉันชินแล้ว" เนตั้นยิ้มและยักคิ้วใส่

"โอเค งั้นฉันไปแล้ว นายลงเองนะ" พูดจบเนบิวลาก็กดปุ่มที่รองเท้า จากนั้นก็ทิ้งตัวดิ่งลงไปข้างล่างด้วยความเร็ว

"เฮ้ย รอด้วยสิเนบิวลา"

โวยวายไปตอนนี้ก็ไม่ทันเสียแล้ว ร่างของเนบิวลาลอยละลิ่วลงไปอย่างรวดเร็วจนห่างไปไกลแทบมองไม่เห็น เนตั้นไม่มีทางเลือกจึงต้องยอมกดปุ่มและทิ้งตัวตามลงไปโดยการเอาหัวลงก่อนเหมือนเนบิวลา พอร่างลอยละลิ่วด้วยความเร็วลงไปสู่พื้นดิน เนตั้นก็ต้องรีบเอามือปิดปากด้วยความกลัว ความรู้สึกตอนนี้ไม่ต่างจากการกระโดดลงหน้าผาโดยที่ไม่มีอะไรรองรับเลย

เนบิวลาลงไปถึงพื้นก่อนแล้ว เนตั้นตามมาติดๆ น่าแปลกที่พอใกล้ๆ ถึงพื้นความเร็วของการเคลื่อนที่ก็ค่อยๆ ลดลง เป็นเพราะแรงต้านแรงโน้มถ่วงมีความเข้มข้นมากกว่าในระดับที่สูงขึ้นไปนั่นเอง พอจะถึงพื้นเนตั้นก็กลับตัวเอาขาลง สุดท้ายก็ลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยท่ามกลางสายตาคอยลุ้นของเนบิวลา

"ฉันชอบท่าตีลังกาของนายมากเลยเมื่อกี้ สุดยอดเลยเนตั้น" เนบิวลาเอ่ยชมพลางยิ้มจนตาหยี

เนตั้นยักคิ้วให้ทีหนึ่งเป็นเชิงล้อเลียน "แกล้งกลัวไปงั้นแหละ"

"แกล้งกลัวเหรอ ทำไมตอนขึ้นกอดเราแน่นเลยล่ะ" เนบิวลาพูดแหย่

"หลอกแต๊ะอั๋งเฉยๆ"

"ต้องหลอกด้วยเหรอ โอเคๆ เชื่อก็เชื่อ เดี๋ยวคืนนี้...เราจะเอาคืน" ยิ้มกรุ้มกริ่มและทำหน้าหื่นใส่

"กลัวที่ไหนล่ะ" เนตั้นยักคิ้วให้อีกที

เนบิวลารวบคอเนตั้นมากอดไว้อย่างเอ็นดู เนตั้นดิ้นเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยอมเดินตามเนบิวลาไป

"ไปไหนกันดี"

"ไปรับความรู้กันดีกว่า"

"รับความรู้คืออะไร เรียนน่ะเหรอ" เนตั้นหันไปมองหนุ่มหน้าคมพลางเลิกคิ้วสงสัย

"ใช่ รับความรู้ก็คือไปเรียน เราสองคนได้รับสิทธิ์เรียนฟรีได้สองสาขารู้เปล่า"

"โห แล้วเมื่อไหร่เราจะได้กลัวดาวแม็กโซนาเดียล่ะ"

"แป๊บเดียว ใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งช่วงงานอีก"

"หา! เรียนหนังสือน้อยกว่าหนึ่งช่วงงานนี่นะ แล้วจะเรียนรู้เรื่องเหรอ"

"เดี๋ยวนายก็รู้ ไปที่ยานของเราดีกว่า"

เนบิวลาตัดบทเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับเนตั้น ต้องไปเห็นด้วยตัวเองนั่นแหละจึงจะเข้าใจว่ารับความรู้คืออะไร การเรียนของดาวเทคโนโลยีสูงนั้นใช้วิธีการฝังความรู้ในวิชาที่อยากเรียนเข้าไปในคลื่นสมอง ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็จะได้ความรู้ที่พร้อมสำหรับใช้งานแล้ว เด็กๆ จึงมักใช้เวลาช่วงวัยเด็กไปกับการทำกิจกรรมและฝึกทักษะทางร่างกายให้แข็งแรงเป็นส่วนใหญ่ ไม่เรียนวิชาการเลย เมื่อพร้อมทำงานแล้วก็จะซื้อชุดความรู้ในสาขาที่ต้องการมาฝังเข้าไปในคลื่นสมองแทน ไม่ต้องเสียเวลาเรียนเป็นสิบยี่สิบปีเหมือนดาวโลก สิ่งพิเศษของดาวทีมูลาพันเวคือความรู้ที่นี่เป็นความรู้ที่ก้าวหน้ามากๆ แม้ว่าจะเป็นเพียงความรู้ขั้นพื้นฐานก็ตาม เนบิวลากับเนตั้นสามารถเอาไปใช้ทำงานที่แม็กโซนาเดียหรือที่ไหนๆ ก็ได้ในจักรวาลนี้


สตรอนเทียมีโอกาสได้ต้อนรับอาคันตุกะที่มาเยือนถึงบ้านอย่างไม่คาดฝัน แม้ว่าก่อนหน้านี้เพิ่งจะคุยกันไป แต่สตรอนเทียกลับรู้สึกว่าไม่อยากคุยกับเธออีก เพราะรู้สึกเหมือนตัวเองได้ตกเข้าไปในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แค่นี้ก็ทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองมากพอแล้ว

เนินหุบผาสูงชันหลังบ้านมีลมพัดแรงตลอดเวลา หญิงสาวชุดสีดำปล่อยให้ผมปลิวสยายไปตามแรงลมอย่างอิสระ แววตาของเธอครุ่นคิดและดูแข็งไปบ้าง แต่ก็แฝงแววหม่นเศร้าอยู่ในที

บนโต๊ะไม่มีเครื่องดื่มหรือของขบเคี้ยวใดๆ วางอยู่ ที่นี่ไม่มีธรรมเนียมการเอาของมาต้อนรับโดยที่ผู้มาเยือนไม่ได้ร้องขอ การที่แขกขอดื่มน้ำหรือสิ่งอื่นใดจากเจ้าบ้านไม่ถือเป็นการเสียมารยาท แต่การนำของที่ผู้มาเยือนไม่ต้องการมาต้อนรับนั้นเสียมารยาทมากยิ่งกว่า

"เขาหายกันเลยทั้งสองคน เธอไม่รู้จริงเหรอว่าเขาไปไหนกัน" ในที่สุดสาวชุดดำก็เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลลงมาพร้อมกับปากที่ขยับขึ้นลง

"ฉันติดต่อเขาไม่ได้เลย ฉันก็เลยเดาว่าสองคนนั้นน่าจะไปที่ดาวดวงอื่นมากกว่าตอนนี้ ไม่งั้นก็น่าจะเช็คตำแหน่งได้บ้าง" สตรอนเทียตอบโดยไม่หันไปมองหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงข้าม รู้สึกถึงความยุ่งยากใจขึ้นมาทันที

"ไปต่างดาวงั้นเหรอ ไปทำไมล่ะ"

"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่เดาเอาเท่านั้นแหละ อีกอย่าง...เนบิวลาก็ได้สิทธิ์หยุดทำงานตั้งหนึ่งเสี้ยวฤดู เขาก็คงอยากไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง" สตรอนเทียถอนหายใจเมื่อพูดจบ แล้วก็หันมามองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่อยากพูดออกไป

"ฉันว่าเธอ...ตัดใจเสียเถอะอะเนดา ฉันรู้จักเนบิวลาดี ยังไงๆ เขาก็ไม่กลับมาหาเธอหรอก เธอเชื่อฉันสิ เขาเป็นคนใจคอเด็ดเดี่ยวมาก เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอ"

"แต่เราเคยรักกันมากนะสตรอนเทีย เธอก็รู้นี่ว่าเนบิวลารักฉันมากแค่ไหน เขารักฉันมาก รักมากจนฉันไม่คิดว่า...เขาจะรักคนอื่นได้อีก เธอเข้าใจความรู้สึกของฉันใช่ไหมสตรอนเทีย"

อะเนดาเผลอสาดอารมณ์ออกไปอย่างลืมตัว พอเห็นสตรอนเทียนิ่งอึ้งไปเธอจึงค่อยๆ ลดอารมณ์ลง

"แล้วยังไงล่ะ ก็เขารักคนอื่นไปแล้ว เธอจะทำอะไรได้ล่ะอะเนดา" แม้จะเห็นใจแต่สตรอนเทียก็ไม่อยากให้อะเนดาดิ้นรนจนตัวเองต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้ สตรอนเทียรู้จักเพื่อนดี ลองให้เนบิวลาพูดและทำอย่างนี้แล้วก็คงเป็นเรื่องยากที่จะดึงกลับมา

"ฉันคิดว่าเนบิวลาแค่หลง คงไม่ใช่ความรักจริงๆ หรอก มันจะเป็นไปได้ยังไง เขารักฉันมาตั้งหลายปี จู่ๆ เจอผู้ชายคนหนึ่งแค่เสี้ยวฤดู เขาจะหมดรักฉันเลยเหรอ เขาไม่เคยรักผู้ชายมาก่อนน่ะ ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะรักผู้ชายคนนั้นได้"

"เธอรู้ได้ยังไงว่าเขารักผู้ชายไม่ได้!"

อะเนดาหยุดชะงักกับคำถามของเพื่อนของอดีตคนรัก รู้สึกเสียความมั่นใจไปมากพอดู เมื่อเห็นอะเนดานิ่งเงียบ สตรอนเทียจึงถือโอกาสพูดต่อ

"ฉันรู้ว่าทำไมเนบิวลาถึงรักเนตั้น เขาทิ้งเนตั้นไม่ได้หรอก"

"หมายความว่าไง เธอรู้อะไรมาอย่างงั้นเหรอสตรอนเทีย" อะเนดาแทบจะหยุดร้องไห้และหูผึ่งด้วยความอยากรู้

สตรอนเทียหน้าเสียเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไปเสียแล้ว จึงรีบบอกปัดเป็นพัลวัน "ไม่มีอะไรหรอก เอาเป็นว่า...ฉันแนะนำให้เธอหยุดแค่นี้ อย่าเหนี่ยวรั้งเนบิวลาอีกเลย ฉันมั่นใจว่ายังไงๆ เขาก็ไม่มีวันกลับมาหาเธออีก"

"งั้นเหรอ" อะเนดาแค่นเสียง "ลองมาเป็นฉันดูไหมล่ะสตรอนเทีย"

"แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะอะเนดา ถึงเธอเอาเนบิวลากลับมาได้ แต่หัวใจเขาก็ไม่ได้อยู่กับเธอแล้ว เขาไม่รักเธอแล้วเธอไม่รู้เหรอ" สตรอนเทียชักเหลืออดจึงพูดเสียงดังจนเกือบเป็นตะคอกกลับไป

อะเนดานิ่งอึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่าสตรอนเทียจะกล้าแสดงกิริยาอย่างนี้กับเธอ ถ้าอย่างงั้น เธอก็คงต้องเอาจริงซะที

"ฉันไม่ได้อยากร้ายหรอกนะสตรอนเทีย แต่เหตุการณ์มันบังคับให้ฉันเป็นแบบนี้ เธอจะบอกฉันมาดีๆ หรือว่าเธอ...อยากให้เพื่อนรักของเธอรับรู้ว่าเธอเคยแอบทำอะไรลับหลังเขาบ้าง จะเอาอย่างงั้นไหม"

อะเนดาหยิบเรื่องนี้มาขู่อีกแล้ว ดูเหมือนจะเป็นการขู่ที่ได้ผลทุกครั้งเสียด้วยสิ แต่ครั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาหรือเปล่า

"แล้วไอ้สิ่งที่ฉันทำกับเธออยู่ตอนนี้...มันเลวไม่ต่างจากเรื่องนั้นหรอก เธอหยุดขู่ฉันได้แล้วนะอะเนดา ยังไงๆ ฉันก็จะไม่ร่วมมืออะไรกับเธออีกแล้ว" สตรอนเทียยืนกรานเสียงดัง แต่ในใจก็อดที่จะกลัวไม่ได้

"เธอแน่ใจเหรอ" อะเนดาคาดคั้น ดูเหมือนว่าเธอจะหยุดร้องไห้ไปเสียแล้ว

สตรอนเทียนั่งนิ่ง สักพักก็ถอนหายใจ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวแท้ๆ ที่ทำให้สตรอนเทียต้องมาติดบ่วงและต้องทำเรื่องแย่ๆ กับเพื่อนของตัวเอง

"เธอจะให้ฉันทำอะไร" สตรอนเทียหันหน้าหนี รู้สึกได้ถึงความอัดอั้นตันใจของตัวเองจนแทบจะระเบิดออกมา

"เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเนตั้นล่ะ นั่นแหละที่ฉันอยากรู้ ทำไมมนุษย์ต่างดาวคนนั้นมาอยู่ที่นี่ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"

สตรอนเทียส่ายหัวอย่างเหนื่อยอ่อน "ฉันบอกเธอไม่ได้หรอกอะเนดา"

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ยิ่งเธอพูดแบบนี้ฉันก็ยิ่งอยากรู้ แสดงว่ามันต้องมีลับลมคมในอะไรแน่ๆ เลย"

ก็ใช่น่ะสิ มันเป็นเรื่องใหญ่ระดับดวงดาวหรือระหว่างดวงดาวเลยด้วยซ้ำ ถ้าเกิดใครรู้ระแคะระคายเข้าคงไม่เป็นผลดีแน่ๆ

"ว่าไงล่ะสตรอนเทีย เธอจะเล่าให้ฉันฟัง หรือเธอ...จะให้ฉันเล่าเรื่องนั้นให้เนบิวลาฟังล่ะ เธอลองคิดดูดีๆ นะ เพื่อนรักของเธอจะคิดยังไงถ้าเกิดเขารู้ว่า...ครั้งหนึ่ง...เธอเคยทำอะไรกับเขาไว้"

สตรอนเทียหันขวับมามองอะเนดา ขยับปากเหมือนจะเถียงแต่สุดท้ายก็ได้แต่ชะงักไว้อย่างนั้น ดูท่าแล้วก็คงไม่พ้นต้องถูกต้อนจนมุมเช่นเคย คิดสะระตะดูแล้ว สตรอนเทียคงไม่กล้าให้อะเนดาเล่าเรื่องนั้นให้เพื่อนรักฟังแน่ๆ เนบิวลาคงโกรธมาก อาจจะมากจนไม่เหลือความเป็นเพื่อนอยู่อีกเลย

สตรอนเทียกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สีหน้าและแววตาบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังคิดหนัก หนักมากเสียด้วย สักพักก็ก้มหน้า บ่งบอกให้รู้ว่าได้ยอมจำนนต่อคำขู่นั้นแล้ว

เมื่ออะเนดาได้ฟังเรื่องทั้งหมด สีหน้าและแววตาของเธอก็เปลี่ยนไป จากที่ดูเศร้าก็กลายเป็นแข็งกระด้าง ไม่นานเธอก็ยิ้มมุมปากคล้ายกับได้แนวคิดที่สำคัญบางอย่างขึ้นมาได้แล้ว

"ขอบคุณมากที่เธอเล่าให้ฉันฟัง มันมีประโยชน์สำหรับฉันมากๆ เลยล่ะ"

"เธอจะทำอะไรเหรออะเนดา" 

สตรอนเทียถามอย่างหวาดหวั่น ไม่เคยเห็นอะเนดาแสดงสีหน้าท่าทางอย่างนี้มาก่อนเลย ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงที่เคยอ่อนหวานอย่างเธอจะมีแววตาเช่นนี้ได้

"ฉันขออนุญาตไม่บอกเธอก็แล้วกันนะสตรอนเทีย แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงๆ ฉันก็รับรองว่า...เธอกับเนบิวลาจะยังเป็นเพื่อนกันต่อไป เนบิวลาจะไม่มีวันรู้เรื่องนั้นอย่างเด็ดขาด"

TBC




-------------------------------------------------------------------------------------

Prince Charming

เมื่อ "เจ้าชายมาดเข้ม" กับ "หนุ่มตี๋รุ่นพี่มาดกวน" มาเจอกัน อะไรจะเกิดขึ้น

Prince Charming (เจ้าชายเดินดิน) เป็นเรื่องราวของเจ้าชาย "มาร์ติน" ผู้สูงศักดิ์จากเมือง "บูรณา" ที่เกิดเบื่อชีวิตแบบเจ้าชายอันเต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมาย จึงแอบเสด็จหนีมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างสามัญชน แล้วบังเอิญได้เจอกับ "ดลยุทธ์" หนุ่มตี๋สุดหล่อที่มาทำหน้าที่เป็นสารถีให้ด้วยความจำใจ แม้จะได้มาพักผ่อนหย่อนใจอย่างอิสระ แต่เจ้าชายก็ต้องปวดหัวกับการคอยปราบพยศหนุ่มตี๋สุดกวนที่แสนเอาแต่ใจ แต่ช่วงเวลาสามเดือนที่อยู่เมืองไทย เจ้าชายน้อยแห่งบูรณากลับพบว่าชีวิตของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว!!!




"เอ๊ะ! นี่นายเป็นคนขับรถหรือเป็นพ่อของฉันกันแน่!"

"นี่คุณ! คุณมาเที่ยวของคุณคนเดียวไม่ใช่เหรอ ผมแค่มาขับรถให้นะครับ ทำไมจะต้องให้ผมตามติดคุณขนาดนั้น จะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว!"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2016 06:48:40 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ่านช่วงของเนบิวลากับเนตั้น แล้วยิ้มตลอดเลย น่ารักมากกกกก :impress2: :impress2: :impress2:

สตรอนเทีย ไอ้เพื่อนเลว เคยทำอะไรไว้หล่ะถึงได้กลัวขนาดเล่าเรื่องทั้งหมดให้อะเนดาฟังเนี่ย  :angry2: :angry2: :angry2:

อะเนดาตอนนี้เริ่มออกจิตนิดๆแล้วนะ คิดวางแผนจะทำอะไรเนตั้นอีกเนี่ย หรือจะแจงทางการทางเรื่องมนุษย์ที่ถูกจับมาทดลองคือเนตั้นกัน  แต่เนตั้นผ่านการทดสอบที่ดาวทีมูลาพันเวแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหานะ(หรือป่าว) :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ชื่อตอนนี่แบบ ยังกับชื่อละครหลังข่าวเลยอะ - -

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ไม่รักก็คือไม่รัก
รักก็คือรัก
ตรรกะง่าย ๆ
แน่นอนว่า คนถูกตัดสัมพันธ์ย่อมเสียใจมากกว่า แต่การไม่ยอมจบนี่แหละที่ทำให้เจ็บปวดเท่าทวี

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สตรอนเทียแกเคยนอนกับแฟนเพื่อนล่ะซิ ถึงได้ยอมให้เขาข่มแบบนี้ ความจริงให้บอกๆ ไปเถอะ เพราะยังไงเนบิวล่าก็คงไม่กลับไปคบแล้ว แล้วไอ้ตอนที่พลาดไปก็ไปอธิบายให้เนบิวล่าฟังเราว่าเนบิวล่าอาจโกรธแต่คงไม่ตัดเพื่อนหรอก แต่ก็คงต้องให้เวลาหน่อยเพราะความเชื่อใจมันคงไม่เหมือนเดิมแล้ว

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เลิกก็เลิกสิ ทำไมยังมาตอแยกันอีกคนมีเยอะแยะ อะเนด้านี่ได้เป็นแฟนเนบิวล่าเพราะแผนชั่วแน่เลย
เนตั้นผ่านด่านทดสอบจากดาวพันเวแล้วและกำลังจะได้ความรู้มาทำงานที่ดาวนาเดียแล้วนะ
รอ รออ่านตอนต่อไปคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เหตุผลของเรื่องผิดพลาดครั้งเดียวน่ากลัวจะเสียเพื่อนได้ไม่เท่ากับการที่สตรอนเทียให้ความร่วมมืออะเนด้าทำลายเนตั้นคนที่เนบิวลารักเลยนะคะจะบอกให้

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :a5: งานนี้ต้องเรียกว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด อย่าบอกน่ะว่าสตรอนเทียเผลอมีสัมพันธ์กับอะเนดาน่ะ แต่เราว่ามันไม่น่าใช่น่าจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้น่ะ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงร้ายทุกทีเลยน่ะ อยากเจอผู้หญิงที่เข้าใจเรื่องได้ดีกว่าน่ะ ขนาดอยู่ต่างดาวยังมีผู้หญิงน้ำเน่าแบบนี้อยู่ด้วยแฮะ แล้วพอรู้เรื่องราวแบบนี้เธอจะทำอะไรล่ะ แต่ทั้งเนบิวล่ากับเนตั้นก้อได้เป็นคนของดาวที่ยิ่งใหญ่แล้วนี่น่า แบบนี้สิ่งที่อะเนดาจะทำจะมีผลอะไรกับทั้งคู่ไหม  :m16:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
:a5: งานนี้ต้องเรียกว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด อย่าบอกน่ะว่าสตรอนเทียเผลอมีสัมพันธ์กับอะเนดาน่ะ แต่เราว่ามันไม่น่าใช่น่าจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้น่ะ ทำไมต้องเป็นผู้หญิงร้ายทุกทีเลยน่ะ อยากเจอผู้หญิงที่เข้าใจเรื่องได้ดีกว่าน่ะ ขนาดอยู่ต่างดาวยังมีผู้หญิงน้ำเน่าแบบนี้อยู่ด้วยแฮะ แล้วพอรู้เรื่องราวแบบนี้เธอจะทำอะไรล่ะ แต่ทั้งเนบิวล่ากับเนตั้นก้อได้เป็นคนของดาวที่ยิ่งใหญ่แล้วนี่น่า แบบนี้สิ่งที่อะเนดาจะทำจะมีผลอะไรกับทั้งคู่ไหม  :m16:

I thought about this during plotting.  Anyway, Maxonadia is not 'Earth' so their social norms about women are different.  There is no gender issue.  All are just equal and any sexual orientations are fully accepted.  So it's not about a woman but a person being a scoundrel in a Y novel.

ก็คิดประเด็นนี้อยู่ตอนวางพล็อตนะครับ แต่ว่าดาวแม็กโซนาดีมีปทัสถาน (มาตรฐานว่าอะไรปกติ/ไม่ปกติ) เกี่ยวกับผู้หญิงต่างจากดาวโลกของเรามากเพราะไม่มีปัญหาเรื่องเพศสภาพ ทุกคนเท่าเทียมกันและใครจะมีเพศวิถีแบบไหนก็ได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงที่ต้องเป็นตัวร้ายในนิยายวาย แต่เป็นแค่เรื่องของคนๆ หนึ่งที่มีเหตุทำให้ต้องร้าย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ยัยอะเยดา สงสัยต้องทำเรื่องเลวๆแน่
อย่านะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
หญิงก็ร้าย ชายก็เลว  :m16:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
วันนี้ช่วงเย็นๆ ผมจะเริ่มเขียนตอนใหม่นะครับ

ขอแจ้งให้ทราบว่าเรื่องใหม่ทั้ง 2 เรื่อง ผมจะเขียนในนามปากกา inxsara นะครับ เพราะว่าระดับความดราม่ายังไม่พอ
ใครอยากติดตาม 2 เรื่องตามข้างล่างนี้ก็ไปติดตามได้ ส่วนใครที่คิดว่าจะติดตามแค่ sarawatta ก็ไม่เป็นไรครับ
จริงๆ ก็คนเดียวกัน สำนวนภาษาก็ไม่ได้ต่างกันมาก แค่คนละแนวเท่านั้นครับ (แอบเสียดายเล็กน้อย)
 
เอาเป็นว่าผมเคารพในการตัดสินใจของทุกคนนะครับ Anyway, the show must go on!!!





ขอบคุณทุกคนที่มาติดตาม ไม่ว่าจะชื่อไหนก็ตาม

Sarawatta
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-04-2016 12:12:30 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เรารออยู่ค่ะ รอการรวมเล่มของต้น - สน อย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ
อยากได้เป็นเจ้าของโดยไวจังค่ะ ช่วยแจ้งข่าวความคืบหน้าให้ทราบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ RindaP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ว่างๆ มานั่งรอ อะเฮือกกกกก  :laugh: :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด