บทที่ 24
.
.
.
ภุมรินคอยทำกับข้าวไปให้ตะวันในทุกๆวันจนผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ เมฆากลับไปเรียนแล้ว บุรินทร์เองก็เข้าไปในตัวจังหวัดและเข้ากรุงเทพฯบ้างเพื่อทำงาน รัชพลก็ยังคงไม่ยอมไปเจอตะวันแม้ภุมรินจะไปคะยั้นคะยอทุกวันก็ตาม
คุณริลณียังอยู่ที่ไร่แม้ว่าตอนนี้บุรินทร์และรัชพลจะอ่อนลงแล้วก็ตาม เธออยากจะอยู่กับหลานชายทั้งสองนานๆ ส่วนอัคคีกับเพลิงนภาหลังจากเที่ยวทั่วจังหวัดจนหนำใจแล้วก็ขอตัวกลับก่อนเพราะเพลิงนภาต้องกลับไปเรียนและอัคคีก็ทิ้งงานนานไม่ได้
อาการของตะวันตอนนี้หายเกือบปกติแล้ว เหลือแต่รอยบนใบหน้าที่ยังมีให้เห็นอยู่ ทุกๆวันที่เขาไปหาตะวัน คนตัวโตก็หาเรื่องหยอดได้ทุกวัน
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาเร็วขึ้นเมื่อต่างเปิดใจบอกความรู้สึกข้างใน และวันนี้ตะวันบอกกับภูผาว่าเขาต้องการที่จะไปคุยเรื่องของภุมรินกับบุรินทร์ที่ไร่น้ำริน ภูผาก็ตอบตกลง
เขาเองก็อยากจะไปขอโทษบุรินทร์เรื่องที่เจ้าลูกชายตัวดีทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเสียก่อน หากเมฆาอยู่ด้วยก็จะพาไปทั้งหมดนั่นแหละ
เพราะฉะนั้นเช้านี้ไร่น้ำรินจึงได้ต้อนรับแขกคนคุ้นเคยที่มาเยือนแต่เช้าตั้งแต่ภุมรินยังทำกับข้าวไม่เสร็จด้วยซ้ำ ภุมรินเป็นคนบอกตะวันเองว่าวันนี้บุรินทร์กลับบ้านเพราะตะวันถาม ตะวันจึงใช้โอกาสนี้เข้ามาหาบุรินทร์ที่ไร่พร้อมกับภูผา
“พี่ตะวัน มาได้ไงเนี่ย ลุงภูสวัสดีครับ” ภุมรินงงไม่น้อยที่อยู่ๆตะวันก็โผล่หน้ามาหาตั้งแต่เช้า แล้วยังจะพาภูผามาด้วยอีก ภูผายิ้มให้เขาเล็กน้อย แต่ตะวันนี่สิยิ้มหน้าบ้านเป็นจานดาวเทียมเลย
“พี่มาหาอาบูรน่ะ อาไปอยู่ไหนเหรอริน” ตะวันถามหาบุรินทร์ ทำเอาภุมรินงงไม่น้อย
“พ่ออยู่ในบ้าน เดี๋ยวป้าจันจะตั้งโต๊ะแล้ว พี่ตะวันกับลุงภูก็ไปกินข้าวด้วยกันสิ” ตอนแรกนั้นภุมรินจะทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปหาตะวันเหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้ตะวันมาถึงที่ก็ทานมันที่นี่ซะเลย
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอไปเจออาบูรก่อนนะ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับพ่อของรินน่ะ” ตะวันบอกก่อนจะค่อยๆสอดมือเข้าไปจับมือของภุมรินไว้
ภุมรินก็กุมมือนั้นตอบ แม้จะไม่เข้าใจว่าตะวันอยากจะคุยกับบุรินทร์ทำไมเพราะตะวันก็รู้ว่าบุรินทร์นั้นยังไม่อยากตะวันเข้าใกล้เขามากนักแม้จะเริ่มที่จะไม่ห้ามแล้วก็ตามที
“ไปสิ เดี๋ยวรินพาไปเอง เชิญลุงภูด้วยนะครับ” เจ้าบ้านบอกก่อนจะพาทั้งสองคนเดินเข้าไปในบ้าน
บุรินทร์ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ระหว่างรอป้าจันจัดโต๊ะก็หันมามองผู้มาใหม่ เขาวางหนังสือพิมพ์ในมือลงก่อนจะจ้องไปที่มือของตะวันและภุมรินที่กุมกันแน่น บุรินทร์กระแอมเล็กน้อย ทั้งสองคนเลยจำเป็นที่จะต้องปล่อยมือกัน
“มาบ้านอาทำไมแต่เช้าตะวัน แกก็มาด้วยเหรอไอ้ภู” บุรินทร์ถามเพื่อนลูกชายก่อนจะหันไปมองเพื่อนของตัวเองที่ตามหลังมา
“ก็ไอ้ลูกชายฉันมันมีเรื่องอยากจะคุยน่ะ พูดง่ายๆก็มาขอเมีย” ภูผาพูดตรงๆ ภุมรินหน้าแดงเห่อเมื่อรู้สาเหตุของการมาในครั้งนี้ของตะวันและภูผา แล้วอะไรคือภูผาพูดแบบนั้น เขาเป็นผู้ชายนะ เมียอะไรกัน
บุรินทร์ไม่ตอบแต่คิ้วนี่กระตุกเป็นว่าเล่น เขาไม่คิดว่าตะวันจะกล้าถึงขนาดนี้ทั้งๆที่เพิ่งโดนรัชพลจัดชุดใหญ่ไปจนถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล แม่ว่าช่วงหลังเขาจะยอมให้ภุมรินไปหาตะวันตามคำสั่งของริลณีก็ตาม
“ก็ดีสิ จะได้คุยเป็นเรื่องเป็นราวซักที” ผู้อาวุโสที่สุดที่เดินลงมาจากชั้นบนโดยมีเด็กรับใช้คอยพยุงพูด ริลณียิ้มให้ตะวันและภูผาก่อนมานั่งข้างๆบุรินทร์
“นั่งก่อนสิ จะได้คุยกันสะดวกหน่อย” เธอว่า
ทั้งหมดนั่งลงบนโซฟา ตะวันยิ้มให้ภุมรินและพยายามขยับเข้าไปนั่งกับคนตัวเล็กให้ชิดมากที่สุด แต่ก็ยังคงเกรงๆสายตาของบุรินทร์อยู่
“ที่มาวันนี้ก็อยากจะมาขอโทษที่ตะวันมันใจเร็วไปหน่อย ทำอะไรไม่ค่อยคิดถึงได้พาหนูรินไปจนค่ำมืดอย่างนั้น และก็อยากจะขอโอกาสให้ตะวันมันได้คบกับหนูริน” ภูผาเปิดประเด็น
ภุมรินนั่งก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าใครโดยเฉพาะตะวัน เขารู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนกำลังถูกสู่ขอยังไงอย่างนั้น
“แล้วแกคิดว่าฉันจะยอมเหรอไอ้ภู แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากให้รินมีใครตอนนี้” บุรินทร์ตอบ ภุมรินรู้อยู่แล้วว่าบิดาของตนจะต้องพูดแบบนี้
“ให้โอกาสผมกับรินได้คบกันเถอะนะครับอาบูร ผมจริงใจกับน้องจริงๆ และผมยินดีที่จะดูแลและปกป้องริน ผมสัญญาว่าผมจะไม่ทำให้รินเสียใจแน่นอนครับ” ตะวันพูดพร้อมกับมองตาของบุรินทร์อย่างแน่วแน่
“ไอ้บูร เราก็ก็รู้จักกันมานานแล้วนะ กับตะวันเองแกก็เห็นมันมาตั้งแต่เกิด แกก็รู้ว่าตะวันมันเป็นคนยังไง ฉันมั่นใจว่าตะวันมันรักหนูรินจริงๆ ถ้าวันไหนมันทำให้ลูกแกเสียใจ คนแรกที่จัดจะการมันก็คือฉัน” ภูผาพูดต่อ
บุรินทร์เป็นคนเชื่อในความคิดของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และเขาก็รู้ว่าบุรินทร์หวงลูกมากแค่ไหน ยิ่งภุมรินก็ยิ่งมากเข้าไปใหญ่
แต่บุรินทร์ก็ต้องเข้าใจว่าตอนนี้ภุมรินโตพอที่จะเลือกทางเดินชีวิตได้แล้ว บุรินทร์ไม่มีทางอยู่กับลูกไปตลอดได้หรอก และเขาเองก็เชื่อในตัวลูกชายของเขา ว่าจะไม่มีทางทำให้ภุมรินเสียใจแน่นอน
“พ่อ รินรักพ่อนะครับ พ่อไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลเรื่องของรินแล้ว รินโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วนะ รินรู้ว่าพ่อรักรินและเป็นห่วงรินมากแค่ไหน รินก็จะยังเป็นรินของพ่อเหมือนเดิม ให้รินคบกับพี่ตะวันนะครับ” ภุมรินขยับเข้าไปใกล้บุรินทร์ ส่งสายตาอ้อนวอนไปให้บิดาที่ยังนั่งนิ่งอยู่
“สิ่งที่พ่อกลัวที่สุดคือพ่อไม่อยากให้รินต้องเสียใจ พ่อทำใจไม่ได้ ที่เห็นรินต้องเป็นทุกข์” บุรินทร์ดึงตัวของภุมรินมากอด ภุมรินเอนตัวไปซบกับอกของบิดาแล้วกอดเอวนั้นแน่น
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นคุณอาไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องรินอย่างดี และผมไม่มีทางทำให้น้องรินเสียใจแน่นอน” ตะวันให้คำมั่นอย่างหนักแน่น
“ตาบูร อนุญาตให้เด็กมันได้เรียนรู้กันเถอะ มันถึงเวลาที่ต้องปล่อยให้รินมีชีวิตเป็นของตัวเองได้แล้ว แกกับฉันก็จะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย ปล่อยให้รินได้ดูแลและรักคนที่เขาเลือกเถอะนะ” ริลณีช่วยพูดอีกแรง
บุรินทร์ไม่พูดอะไร แต่กอดลูกชายแน่นเข้าไปอีก ภุมรินกอดตอบบิดาแน่นเช่นกัน คนเป็นพ่อหอมเบาๆที่หน้าผากของภุมริน นึกย้อนไปมันก็เร็วเหมือนกันนะ
ภุมรินโตขนาดนี้แล้ว ตอนนั้นน้องรินของพ่อยังตีนเท่าฝาหอยอยู่เลย ตัวก็เล็กเหลืองซะจนพ่อกับพี่รัชต้องคอยมองป้าจันทุกครั้งที่กลับมาจากไร่
เขาเองก็ไม่กล้าจะอุ้มลูกเพราะกลัวน้องรินจะรับเชื้อโรคง่าย ไหนจะมือที่หยาบกระด้างจากการทำไร่อีก กลัวว่าผิวบางๆของภุมรินจะระคาย
เมื่อก่อนนั้นไร่น้ำรินก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ กว่าจะก่อร่างสร้างตัวมาได้รัชพลก็เรียนมัธยมแล้ว ตอนไปเรียนที่อื่นก็ร้องห่มร้องไห้อยากกลับบ้านทุกวัน จนพ่อทนไม่ได้ต้องลงไปหาบ่อยครั้ง
แล้วดูตอนนี้สิ น้องรินของพ่อจะเติบโตและบินสู่โลกกว้างโดยไม่มีพ่ออีกแล้ว
“...น้องริน” บุรินทร์เรียกชื่อของลูกชายเบาๆพร้อมกับกอดภุมรินโยกตัวไปมา
“ครับพ่อ”
“น้องรินสัญญากับพ่อได้มั้ย ว่าถ้าวันไหนตะวันทำไห้น้องรินต้องเสียใจ น้องรินต้องบอกกับพ่อ” บุรินทร์พูด ภุมรินยิ้มกว้างเมื่อเข้าใจความหมายของคำพูดนั้น
“รินสัญญา ขอบคุณนะครับพ่อ” กอดบุรินทร์แน่นเข้าไปอีก ร่างเล็กน้ำตาซึมเล็กน้อย บุรินทร์คือคนที่เขารักที่สุดและเขาเชื่อว่าบุรินทร์นั้นก็รักเขา จึงยอมให้เขาและตะวันได้มีโอกาสเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
“ตะวันเองก็เถอะ สัญญากับอาได้มั้ย ว่าจะไม่ทำให้น้องรินเสียใจ” บุรินทร์หันไปถามตะวันที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ผมจะไม่ทำให้น้องรินเสียใจครับ ผมสัญญา” ตะวันรับคำมั่น
เขาเบนสายตาจากบุรินทร์ไปมองภุมรินที่หันมาสบตาเขา ทั้งสองคนยิ้มบางเบาให้กันและกัน เหมือนภูเขาถูกยกออกไป และตะวันเองก็ต้องทำตามที่สัญญาไว้ให้ได้เช่นกัน
“ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ ฉันก็อยากจะขอทาบทามหนูรินไว้ก่อนนะ ในอนาคตหากทั้งสองคนอยากจะมีชีวิตด้วยกันยังไงนั้น ก็ค่อยมาคุยกันอีกที” ภูผาว่า
เขาดีใจที่ในที่สุดบุรินทร์ก็ยอมให้ไอ้ลูกชายตัวดีของเขาได้มีโอกาสรักภุมรินอย่างที่ตะวันต้องการ
“ทาบทามไว้แล้ว ถ้าลูกชายแกทิ้งลูกฉัน ฉันไม่ไว้หน้าแกหรอกนะไอ้ภู” บุรินทร์ว่า เขาจะทำอย่างที่พูดจริงๆ หากตะวันไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้
“ฉันอนุญาตให้แกอัดมันเต็มที่เลย ถ้าไอ้ตะวันมันทิ้งหนูริน” คำตอบนั้นทำให้บุรินทร์ยิ้มอย่างพอใจ
“เฮ้อ... กว่าจะเคลียร์กันได้นะยะ น้องรินของฉันเสียน้ำตาไปเป็นกุรุด น้องรินมาหายายซิลูก” คุณริลณียิ้มพร้อมกับเรียกภุมรินให้เข้าไปหา
ภุมรินก็ทำตาม เขาผละจากบุรินทร์แล้วไปหาริลณีที่อ้าแขนรออยู่ ร่างเล็กเข้าไปกอดหญิงชราแน่น คุณริลณีหอมแก้มหลานชายไปหนึ่งที
“ตะวันด้วย มาหายายหน่อย” เธอเรียกตะวัน
ตะวันเองก็เดินไปหาคนทั้งคู่ เขานั่งลงข้างๆอีกฝั่งหนึ่งของริลณี
“ต่อจากนี้มีอะไรก็คุยกันนะลูก อย่าให้อะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของเราสองคนได้ อย่าลืมว่ากว่าจะผ่านมาได้มันยากแค่ไหน เมื่อพ่อเค้าอนุญาตแล้วก็จงรักษาความจริงใจที่มีต่อกันไว้ให้ดีที่สุด ยายขออวยพรให้หลานทั้งสองมีแต่ความสุขแล้วกันนะ และน้องริน ถ้าพ่อหรือพี่เค้าทำอะไรให้ไม่สบายใจก็บอกได้เสมอ ยายจะจัดการให้เอง” ริลณีร่ายยาว ประโยคหลังนั้นแอบเหน็บแนมบุรินทร์เล็กน้อย
“ขอบคุณครับ” ทั้งคู่ตอบพร้อมกันก่อนจะยกมือไหวริลณี ริลณีลูบหัวหลานทั้งสองเบาๆ และยินดีกับทั้งคู่ด้วยเช่นกัน
“แต่อาบอกไว้ก่อนนะตะวัน ห้ามเกินเลยกับริน” บุรินทร์สั่ง ตะวันยิ้มแห้งๆไปให้
“ครับอาบูร” ตะวันไม่ได้คิดเรื่องที่จะเกินเลยกับภุมรินเลยสักนิด ก็แค่เคยคิดอยากที่จะมองจะลูบๆคลำๆภุมรินก็เท่านั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้จะให้ใครรู้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นบุรินทร์คงไม่อนุญาตให้เขาคบกับภุมรินแน่ๆ
“เมื่อคุยกันเข้าใจแล้วก็ไปกินข้าวกันดีกว่า ยายหิวจะแย่แล้วเนี่ย คุณภูผากับตะวันก็อยู่กินด้วยกันนะจ้ะ แล้วนี่ตารัชไปไหนอีกเนี่ย” ริลณีว่า พร้อมกับมองหาหลานชายคนโตที่เธอยังไม่เจอหน้าเลยตั้งแต่ลงมา
“อยู่ในโรงบ่มเหมือนเดิมนั่นแหละ เดี๋ยวรินไปตามให้เองครับ” รัชพลกลับมานอนที่ห้องเหมือนเดิมหลังจากอัคคีกลับไปแล้ว แต่ก็ยังตื่นแต่เช้าแล้วเข้าไปโรงบ่มกว่าจะออกมาก็ดึกมากแล้ว
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปด้วย พี่อยากคุยกับไอ้รัช” ตั้งแต่เกิดเรื่องเค้ายังไม่ได้คุยกับรัชพลเลย เขาอยากจะปรับความเข้าใจกับเพื่อนรักคนนี้ และอยากจะคุยกับเรื่องภุมรินด้วย เขาอยากให้รัชพลมั่นใจว่าเขาจริงใจกับภุมริน
“ไปคุยกันก็ดี ตารัชจากคนบ้างานก็ยิ่งบ้าเข้าไปใหญ่ จนอาเป็นห่วงมันแล้วเนี่ย” บุรินทร์ว่า
รัชพลปกติก็ไม่ค่อยจะพูดจะคุยอยู่แล้ว ยิ่งเขาไปดุไปวันนั้นรัชพลยิ่งซึมหนัก เจ้าตัวคงรู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกันที่ทำร้ายตะวันขนาดนั้น
รัชพลรักตะวันมาก เพราะตั้งแต่เล็กทั้งสองคนก็มีกันและกันเสมอมา มิตรภาพของเขาทั้งสองคน มีค่าเกินกว่าจะจบลงง่ายๆ
“ถ้าอย่างนั้นผมกับรินของตัวก่อนนะครับ” ตะวันลุกขึ้นก่อนจะขอตัวไปหารัชพลที่โรงบ่ม โดยมีภุมรินเดินตามไปด้วย
ทั้งสองคนเดินมาหารัชพลที่โรงบ่มซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล ภุมรินคว้ามือของตะวันขึ้นมาจับไว้แล้วบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจก่อนจะเดินไปหารัชพลที่กำลังเดินดูถังไม้โอ๊กที่เรียงรายอยู่ในมือก็จดอะไรลงในกระดาษไป
“พี่รัช” ภุมรินเรียกพี่ชาย
รัชพลหันมามองตามเสียง แต่ก็ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าภุมรินพาตะวันมาด้วย ตะวันมองเพื่อนรักด้วยสายตาที่รู้สึกอึดอัดใจ
เขาก็รู้ว่ารัชพลรู้สึกไม่ดีที่ทำกับเขาแบบนั้น แต่เรื่องนี้รัชพลไม่ใช่คนผิดทั้งหมด เขาเองก็ผิด เขาไม่อยากจะโทษรัชพล และอยากจะให้รัชพลรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธรัชพล
“ไอ้รัช กูอยากจะคุยกับมึง” ตะวันเดินไปหารัชพล โดยมีภุมรินเดินตามไปด้วย
“มึงมีเรื่องอะไร” รัชพลไม่มองหน้าตะวันแต่เดินตรวจงานของตัวเองไปตามปกติ
“ไอ้รัช เรื่องวันนั้นก็ไม่ได้โกรธมึง กูเองก็ผิดที่ยั่วโมโหมึง แต่สิ่งที่กูทำ กูอยากให้มึงรู้ว่ากูจริงใจกับริน” ตะวันพูด รัชพลวางมือจากงานที่ทำอยู่แล้วหันมามองหน้าของตะวัน
“พี่รัช พี่ตะวันเค้าไม่ได้โกรธพี่รัชเลยนะ รินอยากให้พี่รัชกับพี่ตะวันเข้าใจกันเหมือนเดิม” ภุมรินเข้าไปจับแขนพี่ชายไว้
“ไอ้รัช เราเป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหนแล้ว มึงก็รู้ว่ากูเป็นคนยังไง กูรู้ว่ามึงรักน้องรินมาก และมึงก็ไม่อยากที่จะทำร้ายกูขนาดนั้น กูขอโทษที่พารินไปโดยไม่บอก กูแค่อยากเจอรินแต่ในเมื่อมึงห้ามกูกับรินพบกันกูเลยแอบพารินออกไป มันไม่แปลกที่มึงจะโกรธ และกูก็เข้าใจ ถ้ามึงไม่ว่าอะไร กูขอโอกาสดูแลน้องมึงจะได้มั้ย” ตะวันมองหน้ารัชพล รัชพลตอนนี้คาดเดาอะไรไม่ได้เลย ภุมรินและตะวันที่รอคำตอบอยู่นั้นต่างก็ลุ้นว่ารัชพลจะว่ายังไง
“มึงไม่ได้โกรธกูแน่นะตะวัน ตั้งแต่เล็กจนโตกูไม่เคยทำร้ายมึงขนาดนั้น มึงคือเพื่อนที่ดีที่สุดของกู กูไม่อยากทำใจลำบากหากวันหนึ่งมึงทำให้น้องกูเสียใจ” รัชพลว่า
“กูไม่มีทางทำให้รินเสียใจ มึงเชื่อใจกูได้เลยนะไอ้รัช”
“พี่รัช” ภุมรินเรียกชื่อรัชพลพร้อมกับวาดแขนเข้ากอดรัชพลไว้ รัชพลลูบหัวน้องชาย
“น้องรินยังเด็กนะตะวัน และตัวเล็กของกูมันก็ยังไม่เคยมีความรักหรือมีแฟน กูห่วงและหวงรินมาก รินยังดูเหมือนเด็กตัวน้อยๆในสายตากูเสมอ ถ้ามึงบอกว่ามึงจะไม่ทำให้รินเสียใจ แล้ววันหนึ่งมึงทำให้น้องกูร้องไห้ กูก็ไม่เอารับประกันว่ามึงจะไม่โดนกูอัดเหมือนครั้งนี้” รัชพลหันหน้าไปคุยกับตะวันตรงๆ
ตะวันมองหน้ารัชพล เขาตีความหมายในสิ่งที่รัชพลต้องการบอกได้ ถ้ารัชพลพูดถึงขนาดนี้ก็แปลว่ารัชพลเองก็ยอมใจอ่อนให้เขาได้คบกับภุมรินแล้ว
ความจริงแล้วนั้นรัชพลยอมใจอ่อนตั้งแต่ที่คุยกับภุมรินแล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะเตือนตะวันอีกครั้ง ว่าถ้าหากตะวันทำภุมรินเสียใจ เขาจะไม่รับประกันความปลอดภัยของเพื่อนรัก
“ไม่มีวันนั้นแน่นอน ขอบใจมากนะไอ้รัช กูไม่รู้ว่ากูรักรินได้เท่าที่มึงรักรึเปล่า แต่กูจะดูแลรินให้เท่ากับที่มึงทำ”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน”
ทั้งสองคนยิ้มให้กันก่อนที่คนตัวโตจะโผเข้ากอดกัน ภุมรินมองภาพนั้นแล้วยิ้มตาม มิตรภาพของรัชพลและตะวันจะยังคงอยู่ เขาดีใจที่ตะวันและรัชพลเข้าใจกันอีกครั้ง
“รินขอกอดด้วย” ภุมรินอ้าแขนไปกอดทั้งสองคน รัชพลรีบรวบตัวภุมรินมากอดไว้คนเดียวแล้วเบี่ยงตัวหลบตะวันไปอีกทาง
“ไปกินข้าวกันเถอะ พี่หิวจะแย่แล้ว” พี่ชายพูดก่อนจะเลื่อนแขนมากอดคอภุมรินแล้วเดินนำออกไป ภุมรินหันมามองหน้าตะวันที่ทำหน้ายู่ คนตัวเล็กหัวเราะเบาๆ
พี่รัชยอมให้คบแต่อีกนานกว่าพี่ตะวันจะได้อิงแอบแนบชิดรินแน่ๆ
******************************************************************************
ตอนที่ 24 มาแล้ว ตอนหน้าจะเป็นตอนจบแล้วนะคะ
ไม่รู้ว่าจบเร็วไปมั้ย แต่รู้สึกใจหายเหมือนกันที่มันจะจบแล้ว
ฝากด้วยนะคะ