[นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ภมรอ้อนตะวัน *แจ้งข่าวงานหนังสือ* [จบแล้ว] ตะวัน - ริน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายชุด ดวงใจไร่รัก] ภมรอ้อนตะวัน *แจ้งข่าวงานหนังสือ* [จบแล้ว] ตะวัน - ริน  (อ่าน 131398 ครั้ง)

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
 :m16:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2018 22:10:23 โดย Speirmint28 »

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
นิยายเรื่อง "ภมรอ้อนตะวัน" เป็นนิยายเรื่องแรกของ "นิยายชุด ดวงใจไร่รัก"


นิยายชุดนี้มีทั้งหมดสามเรื่อง

ภมรอ้อนตะวัน ตะวัน - ภุมริน (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50942.0
พระจันทร์ล้อนที รัชพล - สิตางศุ์ (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
ปฐพีเคล้าเมฆา เพียงดิน - เมฆา (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53471.0


ฝากติดตามนิยายชุดเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาพบกับความรักฟิลกู๊ดของสามคู่สามรสในบ้านไร่ ที่จะทำให้คุณยิ้มไม่หุบ  :m3:



เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
 :katai4:

จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
 :-[

ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater







ติดตามข่าวสารได้จากเพจนี้ค่ะ

https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf




























ภมรอ้อนตะวัน






บทที่ 1



“เร่งมือกันหน่อยโว้ย สายมากแล้ว ไอ้นพ ยกแบบนั้นองุ่นได้ช้ำพอดีสิวะ ยกให้มันดีๆ” เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วบริเวณ


ไอเย็นของหมอกกลางฤดูหนาวยังคงมีให้สัมผัสแม้ว่าตอนนี้จะสิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว ร่างเพรียวบางในเอี๊ยมยีนส์สีหม่นตะโกนก้องไปทั้งลานกว้างที่มีคนงานนับสิบกำลังลำเลียงลังไม้บรรจุองุ่นสีแดงเข้มขึ้นรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่สีแดงเปื้อนโคลน



“เสร็จแล้วครับนายน้อย” ชายผอมกะหร่องผิวเข้มหันมาบอกเมื่อองุ่นลังสุดท้ายถูกลำเลียงใส่รถเสร็จเรียบร้อย ผู้เป็นนายก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปประจำตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับของรถสีแดงคันนั้นก่อนที่ชายหนุ่มชื่อนพจะเข้าประจำที่ในตำแหน่งคนขับและสตาร์ทรถให้เคลื่อนออกไปเพื่อมุ่งหน้าสู่ตลาดในตัวเมือง



‘ภุมริน’ เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองกรุงมาได้ไม่ถึงปีเขาก็เข้ามาช่วยงานที่ ‘ไร่น้ำริน’ ไร่องุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือ อันมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีเพราะไร่น้ำรินตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลเกือบพันเมตร


เขาเป็นบุตรชายคนเล็กของบุรินทร์เจ้าของไร่น้ำรินที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองและมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนชื่อรัชพลซึ่งต้นปีหน้าก็จะอายุครบเบญจเพสพอดี ส่วนมารดาของเขานั้นเสียไปตั้งแต่เขาเองยังจำความไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เขาจึงเติบโตมากับพ่อและพี่ชายกับคนงานในไร่อีกหลายร้อยคน

ภุมรินเป็นชายร่างเล็กที่สูงไม่ถึงมาตรฐานชายไทยด้วยซ้ำ ผิวออกขาวเหลืองจากการที่เจ้าตัวชอบอยู่กับไร่กับสวน ดวงตากลมโตอันได้มาจากมารดาที่เสียไป จมูกนั้นโด่งรั้นรับกับริมฝีปากบาง หุ่นผอมบางแต่ก็ดูไม่น่าเกลียดแต่เจ้าตัวกลับไม่ชอบเสียอย่างนั้น ไว้ผมยาวประบ่าเพราะเขาเห็นว่ามันดูเท่แต่นั่นกลับขับให้ดวงหน้าของเขาดูสวยหวานมากกว่าจะเท่ด้วยซ้ำไป


ภุมรินนั้นมักทำตัวโผงผางและพูดจาไม่นาวไม่มีน้ำ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เจ้าตัวโดนคนอื่นพูดหยอกล้อว่าเขาเหมือนผู้หญิงบ้าง ดูบอบบางมากกว่าจะเป็นผู้ชายบ้าง เขาจึงพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้สมชายมากที่สุด โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากิริยาหลายๆอย่างนั้นกลับทำให้มีผู้ชายหลายคนเข้าหามากยิ่งขึ้น จนภุมรินต้องไล่ตะเพิดไปหลายราย แต่ถึงอย่างนั้นภุมรินก็เป็นที่รักของคนในบ้านจนพ่อและพี่ชายหวงออกนอกหน้า รวมทั้งยังเป็นที่รักของคนงานในไร่แม้ว่านายน้อยรินจะชอบด่าคนงานเวลาเข้าไปตรวจที่ไร่ก็ตาม



รถกระบะของไร่นำรินแล่นเข้ามาในตลาดส่งสินค้ากลางตัวเมืองที่ตอนนี้กำลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายจากไร่ต่างๆที่มาส่งทั้งผักและผลไม้ รถขนผลผลิตจอดเรียงรายนับไม่ถ้วน


ร่างเล็กของภุมรินตะโกนบอกให้คนงานของตลาดเข้ามาช่วยขนลังองุ่นลงก่อนที่เจ้าตัวจะเดินยังสำนักงานขนาดเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของตลาด สำนักงานแห่งนี้มีไว้สำหรับเรียกเก็บบิลสินค้าที่เอามาส่งซึ่งมันเป็นหน้าที่ที่ภุมรินต้องเขามาจัดการบิลค่าองุ่นของไร่น้ำรินในทุกๆเช้า

ร่างบางได้รับเสียงงทักทายจากคนรู้จักบ้างประปรายก่อนที่ร่างเพรียวบางในชุดเอี๊ยมและหมวกหนังใบโตจะเข้าไปนั่งตากแอร์เย็นเพื่อรอคิวของตัวเอง ภุมรินมาที่นี่ทุกเช้าจนสนิทกับพนักงานบัญชีของตลาดประสิทธานนท์ นอกจากนั้นพ่อของเขาเองยังเป็นเพื่อนกับคุณภูผาเจ้าของตลาดแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งทำให้ไร่น้ำรินแอบได้สิทธิพิเศษอยู่ไม่น้อย


“วันนี้มาสายนะคะน้องริน” พนักงานบัญชีสาวของตลาดประสิทธานนท์ทักเมื่อถึงคิวของภุมรินแล้ว นับดาวเป็นหญิงวัยเกือบจะสามสิบปีที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอยิ้มให้ภุมรินก่อนจะทำหน้าที่ของเธอ


“พอดีไร่มีปัญหานิดหน่อยน่ะครับพี่ดาว กว่าจะขนองุ่นเสร็จก็กินเวลาไปนานเลย ว่าแต่วันนี้ใครไปดูของครับ ได้ข่าวว่าพี่เก่งลา” เก่งที่ภุมรินกล่าวถึงนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่จะไปตรวจดูของจากไร่น้ำรินเป็นประจำ


“วันนี้ได้คนตรวจของกิตติมศักดิ์เลยแหละน้องริน” นับดาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นบิลให้กับคนตรงหน้า


“ใครกันครับ คนตรวจกิตติมศักดิ์” ภุมรินขมวดคิ้ว


“นั่นไงคะ เดินมาพอดีเลย คิกๆ” ว่าที่คุณแม่หัวเราะก่อนจะชี้มือไปที่หน้าประตูของสำนักงานขนาดเล็กนี้


ประตูกระจกเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์สีเข้ม ใบหน้าคมๆ คิ้วหนาๆและดวงตาที่เฉี่ยวคมนั้นทำให้ภุมรินขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก ผู้มาใหม่ยักคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงมาหาคนตัวเล็กที่เริ่มจะลมออกหูอย่างไม่ทราบสาเหตุ รอยยิ้มกวนๆนั้นยิ่งยั่วโมโหภุมรินได้เป็นอย่างดี


“ไม่เจอกันนานสวยเหมือนเดิมเลยนะครับน้องริน” ตะวัน ประสิทธานนท์ ลูกชายคนโตของภูผาเดินเข้ามาถือวิสาสะโอบไหล่เจ้าของร่างบาง


“ไอ้พี่ตะวัน ไม่เจอกันนานก็ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะครับ” ขืนตัวออกจากวงแขนนั้นพร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์


เป็นอันที่รู้กันทั้งอำเภอว่าลูกชายคนโตของพ่อเลี้ยงภูผากับลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงบุรินทร์นั้นไม่ค่อยจะคุยกันดีๆสักเท่าไหร่ แม้ว่ารัชพลพี่ชายของภุมรินจะเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวและเรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลก่อนจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ แต่ภุมรินก็ยังคงไม่ชอบเพื่อนของพี่ชายคนนี้


ตะวันนั้นมองดูก็รู้ว่าแค่แกล้งแหย่แกล้งหยอกน้องรินไปอย่างนั้น แต่กับอีกคนไม่ใช่ ภุมรินไม่พอใจทุกครั้งที่เจอตะวัน ในตอนเด็กๆก็เคยเล่นกันตามประสา แต่มีวันหนึ่งป้าจันแม่บ้านของไร่ที่ช่วยเลี้ยงเขามาเกิดคิดสนุกจับคุณหนูน้องรินแต่ชุดของยายส้มโอหลานสาวที่อายุรุ่นเดียวกัน คุณหนูน้องรินในคราบผู้หญิงเกิดติดตาต้องใจไอ้พี่ตะวันเข้าจนเจ้าตัวแซวน้องเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง

ภุมรินโดนแซวบ่อยเข้าก็เกิดโมโหปาก้อนหินใส่หัวคนโตกว่าจะต้องเย็บไปสี่ห้าเข็ม แต่ถึงอย่างนั้นตะวันก็ยังไม่เลิกพูดว่าน้องรินนั้นสวยอย่างนั้นน่ารักอย่างนี้สุดท้ายกลายเป็นว่าน้องหนูรินเกลียดขี้หน้าพี่ตะวันไปโดยปริยาย จนตะวันเรียนจบมอหกแล้วไปต่อที่ฝรั่งเศสนั่นแหละ

ผ่านไปเกือบเจ็ดปีพี่ตะวันจบปริญญาโทกลับมาพอดีก็ยังปากดีแซวน้องรินไม่เลิก ยิ่งพอคนตัวบางไว้ผมประบ่าและดูโตขึ้นก็ยิ่งทำให้ตะวันคิดว่าน้องเพื่อนคนนี้เหมาะกับคำว่าสวยมากกว่าจะหล่อ เปิดประตูเข้ามาคิดว่าสาวที่ไหนที่แท้ก็น้องรินนี่เอง แม้ว่าจะกลับมาเมืองไทยช่วงปิดเทอมบ้างแต่ก็ไม่เคยได้เจอกันเลยซักครั้งเพราะภุมรินนั้นเรียนอยู่กรุงเทพฯและปิดเทอมของไทยกับฝรั่งเศสก็ไม่ตรงกัน เป็นอันว่าเจอหน้ากันอีกครั้งในรอบเกือบเจ็ดปี


“ยังปากดีเหมือนเดิมนะเรา ไหนรถของไร่น้ำริน จะให้ดูมั้ยองุ่นน่ะ” ตะวันถือวิสาสะกระชากบิลในมือของภุมรินมาดูก่อนจะเดินอาดๆออกไป ภุมรินได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและตามออกไป


“คิดว่าตายไปแล้วซะอีก ทำไมไม่อยู่เมืองนอกต่อล่ะ กลับมาทำไม” ภุมรินยืนพิงท้ายกระบะรถพร้อมกับกอดอกมองอีกคนที่กำลังนับสินค้า


“พูดแบบนี้คิดถึงพี่ตะวันเหรอครับน้องหนูริน” ตะวันหยุดนับก่อนจะหันมาคุยกับคนตัวเล็ก


“คิดถึงบ้าอะไรล่ะ อย่าหลงตัวเองสิไอ้พี่ตะวัน รินก็แค่ลืมไปแล้วว่ามีผู้ชายหน้าลิงๆอย่างพี่ตะวันเป็นเพื่อนพี่รัช” พูดจบก็หัวเราะร่วนอยู่คนเดียว ภุมรินนั้นชอบว่าตะวันหน้าเหมือนลิงเพราะตอนเด็กๆตะวันหน้าคล้ายลิงจริงๆนั่นแหละ พอนึกถึงทีไรเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะไม่หยุดทุกที ตะวันเองก็ไม่คิดว่าภุมรินจะยังคงว่าเขาไม่เลิก เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เขาเถียงภุมรินไม่เคยจะได้


“หยุดหัวเราะเลยนะไอ้ตัวแสบ มาว่าคนอื่นแล้วยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก” ทนเห็นคนตรงหน้าหัวเราะเยาะไม่ไหว ตะวันยื่นมือไปบีบจมูกรั้นนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว จนภุมรินถึงกับโมโหอีกรอบเลยเหยียบเท้าของคนตัวโตไปเต็มแรงก่อนจะซัดเข้าที่หน้าแข้งเป็นการปิดท้าย


“เล่นอะไรเจ็บนะโว้ยไอ้พี่ตะวัน” ร่างบางแหว บีบมาได้ มือก็ไม่ใช่จะเบาๆ


“พูดยังกับตัวเองไม่เล่นแรงอย่างนั้น เตะมาได้ ขาหักรึเปล่าไม่รู้” ตะวันกุมหน้าแข้งตัวเองหลังจากโดนเรียวขานั้นซัดลงมาอย่างจัง เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้มือเท้าหนักอย่าบอกใคร พ่อเลี้ยงบุรินทร์พาไปเล่นเทควันโดตั้งแต่เด็ก


“ก็สมควรแล้ว ปากหมาหน้าลิงอย่างพี่น่ะแค่นี้ยังน้อยไป” ยืนจังก้าพร้อมกับเชิดหน้าคอตั้ง ตะวันมอภาพนั้นอย่างหมั่นไส้ขั้นสุด


“บอยมาตรวจองุ่นของไร่น้ำรินแทนฉันที” ตะโกนบอกลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนจะกระชากแขนของคนตัวบางให้เดินตาม ภุมรินที่ไม่ทันตั้งตัวก็ลอยฉิวไปพร้อมกับแรงลากนั้น


“จะพารินไปไหน ปล่อยนะพี่ตะวัน มันเจ็บนะโว้ย อย่าลากแบบนั้น” ภุมรินพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล ตะวันลากน้องน้อยมาโดยไม่สนใจเสียงโวยวายและมือเท้าที่ระดมทุบระดมเตะ


“ทำไมถึงได้เป็นเด็กดื้อแบบนี้นะน้องริน” ตะวันพาภุมรินมาที่รถฟอร์จูนเนอร์คนโตที่จอดอยู่บริเวณตัวบ้านอันไม่ไกลจากตลาดเท่าไหร่ก่อนจะกดเปิดรถแล้วยัดร่างบางเข้าไปในรถสีดำสนิทแล้วตัวเองก็เดินวนกลับมาประจำที่คนขับ


“จะทำอะไรไอ้พี่ตะวัน จะลักพาตัวเหรอ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” ฝ่ามือบางฟาดเปรี้ยงเข้าที่หัวไหล่ของตะวันอย่างแรงก่อนที่ตามมาอีกหลายชุด


“โอ้ยๆๆๆ มันเจ็บนะริน ตีมาได้ เฮ้ย! อย่ากัด เป็นหมารึไงไอ้ตัวเล็ก” ตะวันสะดุ้งโหยงเมื่ออีกคนกัดมือของเขาที่กำลังพยายามหยุดคนตัวเล็กเข้าเต็มแรง

“พูดไม่ฟังใช่มั้ยห๊ะ” ตะวันจัดการผลักหัวภุมรินออกก่อนจะรวบมือทั้งสองข้างนั่นไว้ เขารวบมือทั้งสองข้างของภุมรินไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะรีบสตาร์ทรถ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวบางก็ยังดิ้นไม่ยอมหยุด


“รินจะฟ้องพ่อว่าพี่ตะวันลักพาตัวริน” ภุมรินตะโกนลั่นรถที่แล่นออกมาสู่ถนนใหญ่ เจ้าตัวนิ่งบ้างแล้วเพราะรู้ว่ารถแล่นฉิวแบบนี้ดิ้นไปก็ไม่เป็นผล


“ใครอยากจะลักพาตัวนายห๊ะน้องหนูริน น่าฉุดตายแหละ” ตะวันปล่อยมือจากข้อมือบางนั้นเมื่ออีกคนสงบลงแล้วหันมาจับพวงมาลัยสองข้าง


“ไม่น่าฉุดแต่ก็มีคนลากขึ้นมาในรถแล้วกันน่า ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาตั้งหลายปีทำไมนิสัยพี่ยังแย่เหมือนเดิมนะ” ภุมรินกอดอกพร้อมกับมองตรงไปข้างหน้า ไม่อยากจะมองหน้าของอีกคน


“แล้วเราล่ะ โตจนเรียนจบแล้วยังนิสัยเด็ก ดื้อไม่เคยเปลี่ยน” น้องหนูรินตอนเด็กดื้อยังไงโตมาก็ยังดื้อไม่เปลี่ยน แล้วไอ้กิริยาที่ชอบเงี้ยวๆใส่เขานั่นอีก ยี่ห้อนี่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้จริงๆ


“รินไม่ใช่เด็กที่จะมาใช้คำว่าดื้อนะ แล้วจะพารินไปไหน จอดตรงนี้เลย จะลง” หันไปแหวใส่คนขับอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่าอยู่บนรถภุมรินอยากจะกระโดดถีบไอ้พี่ตะวันแรงๆซักที


“จะพากลับไร่น้ำรินนั่นแหละ นั่งนิ่งๆไปเลย พี่จะไปหาไอ้รัช แล้วก็เลิกทำเสียงแง้วๆได้แล้ว มันรำคาญ” ตะวันว่าก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าทางไปไร่น้ำริน


“จิ๊!” ภุมรินจิปากอย่างขัดใจก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่าง  ทำไมนะ ทำไมไอ้พี่ตะวันต้องชอบมาวุ่นวายให้เขารำคาญอยู่เรื่อย พี่รัชก็เหมือนกัน จะไปเป็นเพื่อนคนแบบนี้ทำไม


ไม่นานรถคนโตก็เคลื่อนขึ้นมาบนเขาสูงอันเป็นที่ตั้งของไร่น้ำริน ทางเข้ามีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนชื่อไร่อยู่ สองข้างทางเต็มไปด้วยไร่องุ่นและคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตจากองุ่นสีแดงเข้ม

แสงแดดตอนสายๆของฤดูหนาวนั้นสาดส่องลงมาพออุ่น แสงสีทองเรืองไปทั่วทั้งไร่กระทบกับน้ำค้างจนเกิดแสงระยิบระยับ รถของตะวันเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านไม้หลังงามที่บางมุมถูกพันด้วยเถาสีเขียวชอุ่ม หน้าบ้านมีต้นจามจุรีขนาดใหญ่ปลูกอยู่และมีแคร่ตั้งใต้ต้นไม้นั้น บรรยากาศอันร่มรื่นของไร่น้ำรินทำให้ตะวันสูดอากาศเข้าเต็มปอดหลังจากลงมาจากรถแล้ว ไร่น้ำรินเปลี่ยนไปเยอะเลย
 

“พี่รัชอยู่โรงบ่ม จะไปหาก็ไป” ภุมรินที่ลงรถตามมาหันไปบอกตะวันที่ยืนยิ้มเหมือนคนบ้าก่อนที่เจ้าตัวเตรียมจะเดินเข้าไร่ ไม่อยากจะอยู่เสวนากับไอ้พี่ตะวัน ยิ่งคุยยิ่งเป็นประสาท


“จะไปไหน ไปด้วยกันเลย พี่จำทางไปโรงบ่มไวน์ไม่ได้แล้ว” ตะวันรีบคว้าแขนของอีกคนไว้และปฏิกิริยาตอบกลับก็ไม่พ้นอาการขัดขืนจากอีกคน


“จำไม่ได้ก็หาเอาเองสิ” สะบัดแขนตัวเองออกจากมือนั้นก่อนจะรีบเดินเข้าไร่ไป ตะวันจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วรีบเดินตามไปช้อนคนตัวบางนั้นพาดบ่า

“เฮ้ย! ไอ้พี่ตะวันทำอะไร ปล่อยนะเว้ย” ภุมรินตะโกนลั่นจนคนงานแถวนั้นหันมามอง กำปั้นเล็กทุบหลังตะวันดังอักๆ


“พูดไม่ฟังก็ต้องเจอแบบนี้ ไหนบอกมาซิทางไปโรงบ่มอยู่ตรงไหน” ยังคงจับขาของภุมรินไว้มั่นพร้อมกับฟาดมือลงบั้นท้ายของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว


“ไอ้พี่ตะวันบ้า เวียนหัวโว้ย ปล่อยรินลงเดี๋ยวนี้” เสียงโวยวายของภุมรินยังไม่หยุด เคล้าไปกับเสียงหัวเราะสะใจของตะวันที่เดิมหัวเราะลั่นไปทั่งไร่


คนงานหลายๆคนพอจะรู้จักตะวันก็ไม่คิดเอะใจอะไรเพราะสองคนเค้าเล่นกันแบบนี้ประจำ แต่คนงานใหม่หลายๆคนถึงกับงงว่านายน้อยของพวกเขาโดนใครอุ้มไป ไร่น้ำรินวันนี้ชั่งครึกครื้นเสียจริง



*****************************************************************************



สวัสดีค่ะ เราเพิ่งลงที่เล้าเป็นครั้งแรกนะคะ ยังไงก็ฝากติตามและติดชมด้วยค่ะ  :mew3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-10-2018 22:09:49 โดย Speirmint28 »

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
น่าติดตามดีค่ะ

แต่อยากให้เคาะแบ่งช่วงนิดนึง

เราอ่านในมือถือติดกันเป็นพรืดเลย

ไม่รู้ว่าเพราะมือถือหรือเปล่า

5555

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
เรื่องใหม่ น่าสนุก รอติดตามน๊าาาา คนเขียนมาต่อเร็วๆน๊าาาาา

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สนุกๆ ติดตามจ้า  อยากให้เว้นวรรค คำพูด อะ เราเล่นในโทสับ มันติดกันเป็นพรืดเลย มาต่ออีกน้าาาา ชอบพี่ตะวันกับน้องริน

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
น่าสนใจ จะติดตามน้าาาาาา

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
นี่แค่ตอนแรกยังฟัดกันมันส์ขนาดนี้ ภมรอ้อนตะวันได้แสบจริงๆ 555 ตั้งหน้าตั้งตารอตอนต่อไป มาต่อไวๆเน้อออ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-12-2015 19:24:47 โดย ศตรัศมี »

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ติดตามค่ะ  :katai2-1: :katai2-1: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ blanchard

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 376
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-3

 :m4:   ม่วนอีลี่จ้า

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 2



.



.




.




.



“จะอ้วกอยู่แล้วรู้มั้ย จับพาดมาได้ มันเวียนหัวรู้รึเปล่า” เสียงบ่นอุบของภุมรินทำให้ตะวันหัวเราะร่วน



ตะวันปล่อยคนตัวเล็กลงเมื่อมาถึงหน้าโรงไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเจ้าของไร่ ห่างไปอีกหน่อยเป็นที่พักของคนงานที่ถูกสร้างเป็นบ้านขนาดเล็กเรียงรายลายเป็นร้อยหลัง



คนงานของไร่นี้มีทั้งพักอยู่ในไร่และพักอยู่ในตัวหมู่บ้านที่ไม่ห่างจากที่นี่เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นคนละแวกนี้เกือบทั้งหมด ส่วนบ้านหลังที่ทางไร่จัดให้อยู่หลังละสี่คน บางหลังพักแบบครอบครัวบ้าง เพื่อนร่วมงานบ้าง ตามแล้วแต่สะดวก ในส่วนของบ้านใหญ่นั้นมีแม่บ้านและคนงานชายอีกสี่ห้าคนคอยดูงานบ้านอยู่แล้ว



โรงบ่มไวน์ที่เป็นโรงไม้ขนาดใหญ่ก็จะมีคนงานของผลัดเวรกันมาเฝ้ายามอยู่ทุกคืน โรงบ่มไวน์นี้รัชพลเป็นคนจัดการทุกอย่างหลังจากที่เรียนจบโดยตรงจากเมืองนอก เขาปรับปรุงรสชาติและคิดสูตรไวน์องุ่นใหม่ๆเพื่อตีตลาด ไร่น้ำรินนั้นส่งออกทั้งองุ่นแดงสดคุณภาพและไวน์องุ่น รวมไปถึงองุ่นแปรรูปอีกมากมาย กำไรที่ได้ก็พอจะจ่ายค่าแรงคนงานอย่างไม่ขาดตกบกพร่องและพอมีเหลือเก็บอีกมากมาย



ส่วนองุ่นที่ต้องไปส่งในตลาดทุกเช้านั้นเป็นแค่ส่วนเล็กๆของกำไรที่ไร่น้ำรินได้ ภุมรินจะคอยดูแลในเรื่องนี้ นอกจากองุ่นแดงแล้วไร่น้ำรินยังปลูกองุ่นขาวที่สลับกันออกผลผลิต องุ่นขาวนั้นปลูกเพียงแค่ไม่กี่สิบไร่ ซึ่งเอาไว้ส่งในตลาดและใช้ผลิตไวน์เท่านั้น



ท้ายไร่ของไร่น้ำรินคือน้ำตกขนาดไม่ใหญ่มาก มีลำธารไหลเอื่อยตลอดทั้งปี มีกระท่อมเล็กๆที่บุรินทร์สร้างเอาไว้ บรรยากาศตรงนั้นถือว่าร่มรื่นที่สุดของไร่น้ำริน ตะวันเองก็เคยไปนั่งเล่นที่นั่นตอนเด็กๆ โดนเจ้าตัวเล็กผลักตกน้ำอยู่บ่อยครั้ง



ภุมรินพาตะวันเข้าไปในโรงไม้นั้น มีถังไวน์องุ่นเรียงอยู่พร้อมกับอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำไวน์อีกมากมาย ร่างหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆอยู่กับหลอดอะไรบางอย่างที่บรรจุน้ำสีแดง ตะวันคิดว่าน่าจะเป็นไวน์



รัชพลเปลี่ยนไปไม่มากจากครั้งที่เจอกันล่าสุด เขาและรัชพลเจอกันอยู่บ่อยครั้งเมื่อเรียนอยู่ต่างประเทศเพราะเรียนที่ฝรั่งเศสด้วยกันแต่คนละเมือง รัชพลนั้นไม่ต่อปริญญาโทแต่กลับมาดูไร่แทน รัชพลเมื่อเห็นผู้มาใหม่เป็นใครละมือจากงานที่ทำอยู่ก่อนจะเดินมาหา
 


“ว่าไงไอ้ตะวัน หล่อขึ้นนี่หว่า แล้วเราทำหน้าบึ้งแบบนั้นทำไมตัวเล็ก” ทักทายเพื่อนรักก่อนจะคว้าไหล่น้องชายมากอดแล้วพากันออกไปนั่งที่เก้าอี้ไม้หน้าโรงบ่ม



“อยากมาดูไร่น้ำรินน่ะ ว่าจะมาสวัสดีอาบูรด้วย” สองปีหลังนั้นตะวันเรียนหนักจึงไม่ได้กลับประเทศไทย เมื่อกลับมาจึงถือโอกาสแวะมาหาเพื่อนและมาสวัสดีบุรินทร์เสียหน่อย



“พ่อไปกรุงเทพฯไปคุยกับลูกค้า วันศุกร์โน่นถึงจะกลับ มึงมาก็ดีละ ปลายปีนี้มีงานเกษตรพอดี ว่าจะเอาไวน์ตัวใหม่ไปเปิด อยากให้มึงช่วยอะไรนิดหน่อย” ตะวันเลิกคิ้ว เขาเพิ่งกลับมาได้แค่สองวันเพื่อนรักก็มีงานให้ช่วยเสียแล้ว



“ให้ช่วยอะไรวะ” ถามนั้นทำให้รัชพลยิ้มกว้าง



“ช่วยเป็นพรีเซนเตอร์ให้ไวน์รุ่นภุมรินกับไอ้ตัวเล็กมันไง”



“ไม่ได้นะ!” เสียงนั้นไม่ได้มาจากตะวันแต่มาจากคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างรัชพล พอพี่ชายพูดจบเจ้าตัวก็แหวขึ้นอย่างไม่พอใจ หน้าบึ้งตึงนั้นยิ่งงอเข้าไปใหญ่



“อะไรกันตัวเล็ก ยังไม่เลิกโกรธไอ้ตะวันมันอีกเหรอ เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะ อีกอย่างถ้าได้ไอ้ตะวันมาช่วยพี่ว่ามันออกมาดีกว่าเดิมแน่ๆ ตัวเล็กจะได้ไม่ต้องจำรายละเอียดไวน์เยอะๆด้วยไง” รัชพลพูดกับน้องชาย
เขารู้ดีว่าภุมรินนั้นไม่ชอบเพื่อนของเขาคนนี้ แต่เรื่องมันก็ผ่านมาหลายปีจนตอนนี้โตๆกันหมดแล้ว ไม่คิดว่าภุมรินจะยังไม่เลิกเกลียดขี้หน้าตะวัน



“น้องหนูรินเค้าคงไม่อยากทำงานร่วมกับกูหรอกไอ้รัช ตอนเด็กๆเป็นยังไง โตมาก็ยังเหมือนเดิม เอ... หรือยังไม่โตนะ” ตะวันยิ้มระรื่น ภุมรินนั้นหน้าแดงก่ำไปด้วยความโมโหอย่างเต็มขั้น



“รินโตแล้วนะไอ้พี่ตะวัน รินไม่ใช่เด็ก!” ฟาดมือลงกับไหล่หนานั้น ภุมรินองค์ลงทีไรต้องมีทำร้ายร่างกายทุกทีไปสิน่า ตะวันถอยหนีแต่ยังคงหัวเราะอยู่



“อ้าวๆ ตีกันอีกแล้ว พอเลยพอ ไอ้ตะวันมึงก็อย่าไปยั่วโมโหตัวเล็กมัน เดี๋ยวเอาไว้คุยทีหลัง ไปดูไร่กันมั้ย เดี๋ยวให้ป้าจันทำกับข้าวเพิ่ม เที่ยงนี้กินข้าวด้วยกัน”     รัชพลต้องสงบศึกก่อนที่จะตีกันไปมากกว่านี้ ทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยตะวันที่ชอบแหย่น้องชายเขาล่ะ แล้วเจ้าตัวเล็กของเขาก็ดันยุขึ้นซะด้วย



“รินไม่ไปนะ ไปกันเองเลย เกลียดหน้าพี่ตะวัน” พูดแค่นั้นแล้วลุกพรึบเดินดุ่มๆไปทางบ้าน ตะวันหัวเราะตามหลังไม่ขาดจนภุมรินหันมาปาหินใส่แล้วเชิดหน้าเดินต่อไป



“น้องมึงนี่จริงๆเลยนะ ไปดูไร่ก็ดี ไม่รู้เปลี่ยนไปเยอะรึเปล่า” สองหนุ่มพากันเดินเข้าไปในไร่องุ่นที่กำลังเริ่มออกผลผลิต พร้อมกับคุยกันถึงเรื่องต่างๆในช่วงที่ไม่ได้เจอกันด้วย รัชพลกับตะวันนั้นถือว่าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของกันและกัน มีเรื่องอะไรก็คอยช่วยจุนเจือกันตลอด ตะวันรักเพื่อนคนนี้มาก รวมไปถึงน้องชายของเพื่อนรักด้วย



โต๊ะอาหารมื้อกลางวันของไร่น้ำรินวันนี้มีแขกผู้มาใหม่หนึ่งคน ตะวันยิ้มร่าผิดกับนายน้อยของไร่น้ำรินที่หน้าบึ้งตึง ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเองไปโดยไม่สนใจเสียงของรัชพลและตะวันที่กำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ



ในช่วงบ่ายของวันนี้รัชพลต้องเข้าไปในโรงบ่มอีกรอบส่วนภุมรินนั้นจะเข้าไปไร่อีกฝั่งที่ปลูกองุ่นขาว ซึ่งตะวันได้บอกว่ายังดูไร่ไม่ครบอยากเที่ยวไร่องุ่นเสียหน่อย รัชพลเลยให้ภุมรินเป็นคนพาไปเพราะเจ้าตัวจะเข้าไร่อยู่แล้ว



ในตอนแรกนภุมรินไม่ยอมท่าเดียวพร้อมกับไล่ให้ตะวันกลับบ้านด้วยซ้ำ แต่พอรัชพลเอ็ดเข้าหน่อยเจ้าตัวก็ยอมแต่ยังกระฟัดกระเฟียดใส่คนตัวโตไม่เลิก นั่นยิ่งทำให้ตะวันอารมณ์ดีเข้าไปใหญ่



“แล้วอย่าไปตีกันตายก่อนล่ะ”  รัชพลพูดหลังจากที่กินข้าวกลางวันเสร็จแล้วพากันมาที่โรงรถซึ่งมีรถหลายคันและหลายรุ่นจอดเรียงกัน มีรถเอทีวีจอดอยู่สามคนของมุมขวาสุด ภุมรินเดินไปคร่อมรถคันในสุดโดยมีตะวันเดินไปคร่อมรถอีกคันที่อยู่ข้างๆ



“รินจะฆ่าเพื่อนพี่รัชหมกไร่เลยคอยดู” คนตัวบางกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อมาขับรถมาจอดตรงหน้าพี่ชาย



“อย่างเราเนี่ยนะจะทำอะไรไอ้ตะวันมันได้ มันเตะครั้งเดียวก็ขาดสองท่อนแล้ว” รัชพลหัวเราะร่วนพอดีกับที่ตะวันขับรถอีกคันมาจอดข้างๆภุมริน



“พี่รัช ทำไมพี่ชอบเข้าข้างพี่ตะวันอยู่เรื่อย ตกลงเป็นพี่รินจริงๆรึเปล่าเนี่ย ไปเลย เข้าโรงบ่มไปเลย” ต่อว่าพี่ชายเสร็จก็กระชับหมวกหนังสีน้ำตาอีกครั้งแล้วออกรถหนีไป



“ขับรถระวังๆนะริน ทางนั้นมันขรุขระ” ตะโกนตามหลังน้องชายไปก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนสนิทที่ยักคิ้วให้ทีนึงแล้วออกตัวตามคนตัวเล็กไป



รถเอทีวีสองคันขับตามกันมายังอีกฝั่งหนึ่งของไร่ที่ไม่ไกลออกไปจะเป็นน้ำตกของไร่น้ำริน เส้นทางสายเล็กนี้ทอดยาวไปโดยมีต้นองุ่นล้อมรอบ คนงานตะโกนทักภุมรินบ้างประปราย เจ้าตัวก็ยิ้มตอบ



รถเคลื่อนตัวมาถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ภุมรินก็จอดพร้อมกับตะวันที่แล่นมาจอดข้างๆ ร่างเล็กกวาดสายตามองไปยังบริเวณของท้ายไร่ที่ปลูกองุ่นขาวไว้ ได้ยินเสียงน้ำตกดังอยู่ไม่ไกล ตะวันเองก็สูดอากาศเข้าอีกเต็มปอด แม้ว่าจะเที่ยงแล้วแต่แดดก็ไม่แรงเท่าที่ควร



“นี่หมวกของพี่รัช” คนตัวเล็กยื่นหมวกหนังสีน้ำตาลเข้มให้ตะวัน



“ขอบคุณครับน้องริน แล้วนี่เราจะไปไหนต่อ” กล่าวขอบคุณพร้อมกับรับหมวกมาใส่



“ก็ไปตรวจไร่สิ ถามอะไรโง่ๆ แล้วไม่ต้องตามรินมานะ จะไปไหนอะไรก็ไปเลย” ทำหน้ายักษ์ใส่อีกคนแล้วเดินตามทางเล็กๆที่แบ่งเป็นสายๆของไร่



“เดี๋ยวก่อนสิน้องริน พี่ไปด้วย ถ้าเกิดหลงทางขึ้นมาจะทำไง” รีบเดินตามอีกคน ขาวยาวๆนั้นก้าวไม่เท่าไหร่ก็ถึงคนตัวเล็ก ตะวันเดินข้างๆภุมรินที่ทักทายคนงานซึ่งกำลังตัดพวงองุ่นออกจากต้น



“นี่พี่ตะวัน รินเบื่อหน้าพี่มาก ถ้าไม่รู้จะไปไหนก็ไปรอที่รถ ไม่ต้องตามรินมาเลยนะ” หันมาเอ็ดคนที่อายุมากกว่า แม้ตะวันจะตัวใหญ่กว่าไม่น้อย แล้วยังจะอายุมากกว่าเกือบสามปีแต่ภุมรินก็ยังต่อว่าอีกคนอย่างหน้าตาเฉย น่าจะอยู่คุยกับพี่รัชที่โรงบ่ม ไม่เจอกันนานไม่ใช่เหรอ ตามเขามาทำไมก็ไม่รู้



“ไม่เอาหรอก นั่งรอที่รถก็เบื่อน่ะสิ ตามรินมาสนุกกว่าตั้งเยอะ” ตะวันยิ้มแล้วเดินตามภุมรินไปอย่างนั้น ไม่สนใจเสียงบ่นและใบหน้าบอกบุญไม่รับของอีกคน



“อยากทำอะไรก็ทำเลย อยากตามมาก็ตามใจ รินเบื่อจะพูดกับคนอย่างพี่แล้ว” เดินหน้าบึ้งตึง เพียงแค่นั้นตะวันก็หัวเราะอีกครั้ง จะมีใครโมโหได้น่ารักเท่าภุมรินอีกไม่มีแล้ว



ตะวันมองภุมรินตรวจไร่ไปเรื่อยๆ องุ่นสีเขียวลูกงามล่อตาล่อใจหนุ่มนักเรียนนอกไม่น้อยจนเจ้าตัวแอบเด็ดจากพวงนำมาเช็ดเสื้อแล้วโยนเข้าปากอยู่หลายลูกจนเจ้าของไร่อย่างภุมรินต้องตีมือโตๆนั้นหลายครั้งพร้อมกับด่าอีกคนจนตะวันบ่นว่าหูชาแล้ว



ร่างเล็กๆของภุมรินตัวเล็กมากเมื่อมีตะวันมาเดินข้างๆ ผมหยักศกที่ยาวประบ่านั้นพลิ้วไหวตามสายลม ชุดเอี๊ยมยีนส์นั้นดูตัวโคร่งมากเมื่อสวมไปบนร่างบาง เสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีแดงเข้มถูกพับแขนขึ้นจนเกือบถึงข้อศอก



ตะวันมองคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา น้องหนูรินเมื่อตอนเด็กพอโตขึ้นแล้วดูดีไม่น้อย ตอนเด็กๆนั้นเขาอาจจะชอบแซวภุมรินเพราะอยากจะแหย่ให้อีกคนโมโหเล่นๆเพราะเวลาภุมรินโกรธแล้วดูน่ารักเลยทีเดียว เขายังแอบคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตรึเปล่า แต่พอมาถึงตอนนี้น้องรินนั้นดูสวยจริงๆ ตัวก็บาง มองมุมไหนก็ไม่มีความเป็นผู้ชายเลยสักนิด



รัชพลเล่าว่าภุมรินนั้นพยายามที่จะเพิ่มกล้ามเนื้อให้เหมือนรัชพลแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ได้ซักทีจนเจ้าตัวถอดใจแล้วเลิกราไป นั่นทำให้ตะวันหัวเราะให้กับภุมรินเป็นรอบที่สิบของวัน กลายเป็นว่าภุมรินนั้นเป็นตัวกระตุ้นต่อมหัวเราะของเขาไปเสียแล้ว



“รินพาพี่ไปน้ำตกหน่อยสิ ไม่ได้ไปนานแล้ว” ตะวันบอกกับคนตัวเล็กหลังจากที่เจ้าตัวหยุดพักอยู่ใต้ต้นองุ่น ภุมรินนั้นตัดองุ่นมาหนึ่งพวงให้กับตะวันหลังจากที่ทนไม่ไหวเพราะตะวันนั้นยังไม่เลิกเด็ดองุ่นจากต้น



“อยากไปก็ไปเองสิ เดินไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว” น้องหนูรินว่าก่อนจะโยนองุ่นเข้าปากบ้าง



“ไปคนเดียวจะสนุกอะไร เจ้าถิ่นต้องนำทางสิ ป่ะ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย” ตะวันลุกพรึบพร้อมกับดึงแขนให้ภุมรินลุกตาม ภุมรินลุกไปตามแรงดึงนั้นแต่ก็ยังไม่วายจะบ่น



“ทำไมชอบดึงแขนรินนักห๊ะพี่ตะวัน มันเจ็บนะ” ทำหน้ายุ่งแล้วดึงแขนตัวเองออกจากคีมแน่นๆนั้น



“ไม่ได้ตั้งใจดึงให้เจ็บซักหน่อย แขนรินนั้นแหละเล็กเอง กินข้าวเยอะๆสิจะได้ตัวโตๆ เจ็ดปีที่แล้วก็ตัวเท่านี้”



“นี่พี่ตะวัน รินน่ะไม่ได้ตัวเล็กเกินไปหรอก พี่นั่นแหละที่ตัวเป็นยักษ์ปักหลั่นเอง แล้วยังแรงควายอีก”



“นี่ว่าพี่เป็นควายเหรอห๊ะน้องหนูริน” ตะวันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมองคนที่ทำหน้าระรื่นอย่างมีน้ำโห



“ก็มันจริงนี่นา พี่ตะวันนอกจากจะหน้าลิงแล้วยังแรงควาย ถึกกว่าควายไบซันอีก” หัวเราะอย่างอารมณ์ดี



“หยุดพูดเลยนะ!” ตะวันชี้หน้าเจ้าเด็กตัวแสบ ถ้าเป็นคนอื่นพูดเขาคงซัดปากไปนานแล้ว

 

“ไม่หยุด ไอ้พี่ตะวันหน้าลิง แบร่” แลบลิ้นใส่เพื่อนพี่ชายแล้ววิ่งหนี เสียงหัวเราะของนายน้อยรินดังก้องไร่โดยมีเสียงตะโกนของเพื่อนพี่ชายตามหลังมา เคล้ากับแสงแดดของบ่ายแก่ๆและเสียงน้ำตกที่ดังใกล้เข้ามา



กว่าตะวันและภุมรินจะกลับก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นเข้าแล้ว ตะวันต้องกลับมาอาบน้ำและยืมชุดของรัชพลมาเปลี่ยนหลังจากโดนภุมรินแกล้งผลักตกน้ำ


ภุมรินโดนรัชพลว่าเพราะทำเพื่อนของเขาเปียกมะลอกกลับมาแต่เจ้าตัวแสบกลับยิ้มหน้าบานอย่างอารมณ์ดี เป็นอันว่าตะวันก็ได้อยู่กินมื้อเย็นกับไร่น้ำรินอีกมื้อแล้วขอตัวกลับก่อนที่จะดึก



รัชพลให้ไวน์องุ่นกับตะวันไปสองขวดพร้อมองุ่นอีกหนึ่งกล่องใหญ่ ก่อนกลับตะวันก็ไม่วายแหย่ภุมรินจนร่างบางแหวใส่ เป็นอันว่าจบวันแบบที่รัชพลต้องยกมือก่ายหน้าผาก



เช้าวันถัดมาภุมรินต้องไปส่งองุ่นที่ตลาดอีกเหมือนทุกวันและก็เจอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้าของตลาดเหมือนเมื่อวาน มีศึกน้ำลายขนาดย่อมเกิดขึ้นให้นับดาวปวดหัวเล่นๆ เป็นแบบนี้ในทุกๆเช้าของวันต่อๆมา ถ้าวันไหนน้องหนูรินกับพี่ตะวันไม่ได้ลับฝีปากกันซักวันคงเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ



**************************************************************************************************



มาต่อแล้วนะคะ เราเพิ่งเคยเอาลงเล้าครั้งแรกเลยไม่ค่อยรู้จังหวะการเว้นวรรคเท่าไหร่ ฝากติดตามด้วยนะคะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ว๊าวววววว... มาแล้ววววว ^^

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 3

.

.

.

.
เช้าวันศุกร์ที่แสนสดใส ไอเย็นของอากาศเริ่มลดลงเมื่อใกล้ผลัดเปลี่ยนฤดู ลูกชายคุณภูผาขับรถมาที่ไร่น้ำรินแต่เช้าพร้อมกับของฝากอีกกระเช้าใหญ่ๆ


วันนี้งานในไร่ยังดำเนินไปอย่างเช่นทุกวัน กระบะสีแดงเปื้อนโคลนคันเก่าก็ยังทำหน้าที่รับน้ำหนักลังองุ่นอยู่เช่นเคย แต่ร่างบางของคนที่ตะวันคุ้นหน้าดีในช่วงนี้กลับไม่อยู่คอยคุมงานเหมือนกับทุกที


“นพ น้องรินไปไหน” เอ่ยถามคนงานที่กำลังง่วนกับการขนสินค้าขึ้นรถ


นพหันมามองคนตัวสูง เขารู้จักตะวันเพราะต้องไปส่งของที่ตลาดทุกวันนี่แหละ แล้วนายน้อยยังชอบไปลับฝีปากกับนายตะวันคนนี้ทุกเช้าอีกด้วย เพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของคุณรัช


ปึก!



ตะวันยังไม่ทันได้คำตอบจากชายหนุ่มผอมกะหร่องตรงหน้าก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่กระทบกับหัวของเขาเข้าอย่างจัง



ตะวันร้องโอยพร้อมกับหันไปมองที่มาของแอปเปิลที่ถูกกินไปแล้วเกือบครึ่ง



“มาทำไมแต่เช้าไอ้พี่ตะวัน” ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้สิน่า


ภุมรินในชุดเอี๊ยมชุดเก่งที่พร้อมเข้าไร่เข้าสวนได้ทุกเวลากำลังนั่งกัดแอปเปิลสีแดงสดพร้อมกับยักคิ้วมาให้ ในมือถือตะกร้าใบเล็กที่บรรจุแอปเปิลอีกหลายลูก


เจ้าตัวเล็กปีนขึ้นไปบนต้นจามจุรีที่สูงท่วมหัวของตะวัน แล้วยังไม่พอ ยังนั่งกินแอปเปิลอย่างสบายใจ ตะวันอยากจะแช่งให้ตกลงมาขาหักเสียจริง จะได้ไม่ต้องซ่าอีก



“มาขอกินข้าวเช้าด้วย” เดินไปใกล้จามจุรีต้นใหญ่ เงยหน้าคุยกับคนข้างบน ตะวันวางกระเช้าที่เอามาฝากบุรินทร์ไว้ที่แคร่



“บ้านไม่มีข้าวกินรึไง ถึงได้มาขอข้าวบ้านคนอื่นกินแบบนี้” ภุมรินหมุนตัวมาคุยกับตะวัน


คนที่อยู่ข้างล่างนั้นแอบเสียวในใจ เพราะดูท่าทางแล้วภุมรินพร้อมจะตกทุกเวลา


“ล้อเล่นหรอกน่า วันนี้อาบูรกลับไม่ใช่เหรอ เลยจะมาสวัสดีซักหน่อย แล้วขึ้นไปทำไมบนต้นไม้แบบนั้น ตกลงมาขาหักจะทำไง แค่นี้ก็ขาสั้นเหมือนไม่มีขาอยู่ละ” ตะวันพูดหน้าตายแต่กลับทำให้คนบนต้นไม้โมโห



ภุมรินปาแอปเปิลใส่แขกผู้มาเยือนอย่างไม่ยั้งมือ


“ขาสั้นยังดีกว่าสูงเป็นเปรตแบบพี่ตะวันแหละ” ยังไม่หยุดปาแอปเปิลสีแดงนั้น จนตะวันต้องหลบอุตลุด



“โอ้ย! มันเจ็บนะน้องริน หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ” ร่างสูงใหญ่ของตะวันแอบหมุนตัวหลบไปอยู่ข้างหลัง

ภุมรินก็ยังหมุนตัวตาม


“ไม่หยุด พี่ตะวันปากเสีย ต้องเจอแบบนี้แหละ” แอปเปิลในตะกร้าหมดแล้วแต่ภุมรินก็ยังไม่วายปาตะกร้าหวายนั้นใส่ตะวันอย่างสุดแรง


ตะวันกุมหัวตัวเองเมื่อหวายแข็งๆกระทบหัวเข้าอย่างจัง



“ทำไมนิสัยแบบนี้นะน้องริน ชอบทำร้ายร่างกายคนอื่นอยู่เรื่อย” คนตัวโตทนไม่ไหวจนต้องไปคว้าเอาข้อเท้าเล็กที่ห้อยลงมาจากต้นไม้

ภุมรินตกใจแล้วสะบัดสุดแรง



“ปล่อยนะไอ้พี่ตะวัน” สะบัดข้อเท้าแล้วตะโกนไปทั่วบริเวณ คนงานที่กำลังขนองุ่นอยู่หันมามองอย่างงงวย


จะมีก็แต่นพที่ชินการศึกระหว่างนายน้อยและคุณตะวัน แปลกก็ตรงที่วันนี้เปลี่ยนสถานที่ประลองยุทธ์กันก็เท่านั้น


“ไม่ปล่อย รู้มั้ยน้องริน ทำร้ายร่างกาพี่แบบนี้ พี่แจ้งตำรวจจับได้เลยนะ” ตะวันไม่ยอมปล่อยแต่กลับรวบข้อเท้าอีกข้างของภุมรินมาจับไว้มั่น



“งั้นก็ไปแจ้งเลยสิ ออกไปจากไร่น้ำรินเลยนะ” ภุมรินสะบัดข้อเท้าแรงๆเพื่อที่ว่ามันจะไปเตะเข้าส่วนไหนของตะวันบ้าง

มือบางทั้งสองข้างจับกิ่งของต้นจามจุรีไว้แน่นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าไม่มั่นคงอีกต่อไป



“ไม่ออก จนกว่าจะสั่งสอนให้น้องรินรู้จักเข็ดหลาบซะบ้าง พี่แก่กว่าต้องสองสามปี” ตะวันเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน



“แก่กว่าแล้วไง พี่ตะวันนั่นแหละที่ทำตัวเหมือนเด็ก ชอบว่าริน แล้วยังชอบแกล้งรินอีก ปล่อยเลยนะ” รู้สึกว่าตัวเองเริ่มไถลลงไปตามแนวไม้


ตะวันก็ยังไม่ยอมปล่อย คราวนี้ภุมรินโมโหจริงๆเสียแล้ว เขาเกลียดพี่ตะวันที่สุด



“เล่นอะไรกันสองคน เสียงดังไปถึงในบ้าน”
คุณบุรินทร์ในชุดที่พร้อมเข้าไร่หันมาตะโกนถามอยู่หน้าประตูบ้าน ก่อนจะเดินมาหาตะวันและภุมรินที่กำลังยื้อยุดฉุดกันอยู่



“พ่อช่วยรินด้วย พี่ตะวันแกล้ง... เหวอ~” พูดยังไม่ทันจะจบประโยคร่างของภุมรินจะไถลลงไป



“เฮ้ย!” ตะวันร้องอย่างตกใจก่อนที่จะปล่อยข้อเท้าทั้งสองข้างของภุมรินแล้วรีบรับอีกคนไว้อย่างรวดเร็ว



ร่างของภุมรินหล่อนตุบลงมาทับร่างของตะวันอย่างแรง คนตัวบางซบอยู่กับอกของตะวัน


ทั้งร่างแนบไปกับร่างใหญ่นั้น สองมือนั้นวางอยู่บนอกแกร่ง เขาสัมผัสได้ถึงแรงเต้นหัวใจของอีกคน


ภุมรินรีบลุกพรึบอย่างรวดเร็ว แต่ตะวันยังคงแน่นิ่งไม่ยอมลุกตาม



“รินเป็นอะไรมั้ยลูก ตะวันเป็นอะไรรึเปล่า” ทั้งบุรินทร์ทั้งคนงานกรูกันเข้ามาหาทั้งสองคน ภุมรินส่ายหัว



“พ่อเลี้ยงครับ เลือดออกเต็มเลยครับ” นพหันมาบอกบุรินทร์เมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกจากศีรษะของตะวันที่นอนนิ่ง ข้างใต้มีหินก้อนเท่ากำปั้นอาบเลือดอยู่



“ตะวัน/พี่ตะวัน” สองพ่อลูกตะโกนอย่างตกใจพร้อมพุ่งเข้าหาคนที่นอนนิ่ง



เลือดของตะวันไม่ยอมหยุดไหล บุรินทร์ตะโกนให้คนงานเอารถออก


ภุมรินหน้าซีดเผือดเพราะสาเหตุที่ตะวันต้องเจ็บตัวส่านหนึ่งก็มาจากเขา คราวนี้ถึงกับสลบไปเลย ถ้าคุณภูผารู้เรื่องไม่เอาเขาตายเหรอ ลูกชายเค้าเพิ่งกลับมา ภุมรินมาทำให้เลือดอาบเสียแล้ว




โรงพยาบาลประจำอำเภอในช่วงสายของวันต้องต้อนรับลูกชายคนโตของพ่อเลี้ยงภูผาที่นั่งสะลึมสะลืออยู่บนเตียงคนไข้ ตะวันรู้สึกตัวหลังจากที่หมอเย็บแผลให้ไม่นานนัก ข้างๆมีรัชพลและภุมรินนั่งอยู่ ส่วนคุณบุรินทร์นั้นขอตัวกลับไปดูไร่สักพักหนึ่งแล้ว



รัชพลเอ็ดน้องชายไปหลายรอบ เขาออกจากโรงบ่มไวน์แล้วมุ่งมาโรงพยาบาลหลังจากได้รับรายงานจากนพ คราวนี้ภุมรินเล่นแรงกว่าทุกครั้ง ถึงกับได้เลือดแล้วหมอยังบอกให้นอนโรงพยาบาลอีกตั้งคืนนึง


คุณภูผารู้เรื่องที่ลูกชายเข้าโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่เยี่ยมไม่ได้เพราะมีธุระในตัวจังหวัด เย็นๆถึงจะเข้ามา



รัชพลสั่งให้ภุมรินอยู่รับหน้าพ่อของตะวัน เจ้าตัวเล็กถึงกับซึมไม่ออกลวดลายเหมือนทุกครั้งจนคนบนเตียงเอ็นดูอยู่ไม่น้อย จะว่ายังไงล่ะ เรื่องนี้ตะวันเองก็มีส่วนผิดด้วยเต็มๆ เพราะเขาเป็นคนจับขาน้องเอง



ใครจะไปรู้ว่าภุมรินจะตกแล้วล้มทับ หินก้อนนั้นก็ดันไปอยู่ตรงนั้นพอดี คงเป็นคราวซวยของเขาเอง แต่ดูเหมือนทุกคนพร้อมใจกันโทษภุมรินทั้งนั้น




“พี่จะกลับแล้ว คืนนี้ต้องนอนเฝ้าไอ้ตะวันมันด้วย เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง แล้วไม่ต้องปีนขึ้นไปอีกนะต้นไม้น่ะ”



รัชพลต่อว่าน้องชายอีกครั้งก่อนกลับ ถ้านับตั้งแต่เด็กๆแล้วนั้นตะวันเจ็บตัวเพราะภุมรินมาหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะหนักสุด เพราะเจ็บถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาลเลยทีเดียว




“รินรู้แล้วน่า พี่รัชพูดเป็นสิบรอบแล้ว” เถียงกลับแต่ก็ยังไม่ยอมมองหน้าพี่ชาย เจ้าตัวแสบดูจ๋อยสนิท ข้างกายมีกระเป๋าเสื้อผ้าที่รัชพลให้คนงานเอามาให้



คืนนี้ภุมรินต้องรับผิดชอบด้วยการนอนอยู่เป็นเพื่อนของตะวัน




“ยังจะมาเถียงอีก พี่ไปแล้ว อย่าทำอะไรแผลงๆอีกล่ะ ไอ้ตะวันกูไปแล้วนะ ถ้าตัวเล็กมันทำอะไรอีกบอกได้เลย” เอ็ดน้องชายก่อนจะบอกลาเพื่อนที่นั่งมองสองพี่น้องเถียงกัน




รัชพลเดินออกจากห้องไปแล้วภุมรินจึงล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวยาวแล้วเหยียดขา



ร่างบางถอนหายใจเฮือกแล้วหันมามองหน้าตะวันที่จ้องอยู่ ร่างสูงในชุดของโรงพยาบาล บนหัวมีผ้าพันแผลพันอยู่ บริเวณที่ถูกก้อนหินนั้นคือตรงที่เลยท้ายทอยขึ้นมาไม่มาก ตะวันต้องโกนผมตรงนั้นออกเพื่อเย็บแผล



“มองอะไรพี่ตะวัน” ร่างเล็กลุกขึ้นขัดสมาธิบนโซฟาแล้วจ้องหน้าคนเจ็บกลับ



“มองคนทำผิดแล้วไม่ขอโทษ นี่เจ็บนะรู้มั้ย” ตะวันชี้ไปบนหัวตัวเองที่ถูกผ้าพันอยู่ ภุมรินกัดปากล่างแล้วก้มลงต่ำ



“ขอโทษ... ใครบอกให้พี่ดึงขารินเองล่ะ” ถึงอย่างนั้นก็ยอมขอโทษแต่โดยดีเพราะครั้งนี้เขารู้สึกผิดจริงๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าตะวันไม่ดึงขาเขาก็คงไม่ต้องเจ็บตัวแบบนี้



“หึๆ แล้วใครใช้ให้รินปาแอปเปิลใส่พี่ล่ะ” ภุมรินชักสีหน้าใส่ ตะวันทำให้เขารู้สึกได้ไม่นานจริงๆ



“ก็พี่ตะวันมาว่ารินก่อนทำไม” กอดอกอย่างไม่พอใจ
“ความจริงพี่ตะวันเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เอาเลือดหัวออกซะบ้าง” ภุมรินยกยิ้มอย่างพอใจ อาการหงอจ๋อยเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ชายเมื่อครูหายไปแล้ว




“ถึงยังไงคืนนี้รินก็ต้องนอนเฝ้าพี่อยู่ดี ตั้งแต่รู้จักกันมาพี่เจ็บตัวเพราะรินเป็นร้อยรอบแล้วมั้ง”



“รินอยู่เพราะพี่รัชสั่งหรอก ถ้าให้อยู่เองรินไม่มีทางมานอนเฝ้าพี่ตะวันแน่ รู้อย่างนี้รินพุ่งใส่แรงๆซะดีกว่า พี่จะได้สมองเสื่อมเป็นเอ๋อไปเลย” ปากเล็กนั้นยังด่าปาวๆจนตะวันหมั่นไส้


เรื่องนี้ภุมรินเองก็มีส่วนผิด แต่ดูเจ้าตัวเล็กพูดสิ มันน่าจับโยนลงจากต้นไม้จริงๆ รู้อย่างนี้ไม่ไปเป็นเบาะรองให้คนตกต้นไม้หรอก



“ปากดีนะตัวแสบ แล้วใครกันนั่งเป็นหมาหงอยเมื่อกี้”



“รินไม่ใช่หมานะ!” ให้ตายเถอะ คุยกันดีๆสักห้านาทีไม่เคยจะได้เลยจริงๆสิน่า



“หยุดเถียงเลย พี่ปวดฉี่ ช่วยพยุงหน่อย” คราวนี้ตะวันเป็นคนปิดบทสนทนาอันยืดเยื้อเอง เถียงกับคนอย่างภุมรินไม่มีทางจบแน่ๆถ้าเจ้าตัวไม่ชนะ



“พี่เจ็บที่หัวทำไมต้องพยุง ไม่ได้เจ็บขาซักหน่อย” ภุมรินยังไม่เลิกบึ้งตึง



“จะเจ็บหัวหรือเจ็บขารินก็เป็นคนทำให้พี่เจ็บ มานี่เลยตัวเล็ก มาช่วยพี่เดี๋ยวนี้เลย” ตะวันยักคิ้วอย่างคนที่เหนือกว่า การเจ็บครั้งนี้ก็พอมีข้อดีอยู่บ้าง



“ไม่” แต่อีกคนกลับปฏิเสธแข็งขัน



“จะมาไม่มา ไม่มาพี่บอกไอ้รัชว่ารินดื้อใส่พี่” ชื่อของเพื่อนรักยังคงใช้ได้กับคนตัวเล็ก



ภุมรินนั้นออกจะเกรงๆรัชพลอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่รัชพลเป็นคนค่อนข้างจะเข้มงวดกับภุมรินและก็ยังหวงมากอีกด้วย



“จิ๊!” จิ๊ปากอย่างขัดใจแต่ก็ยอมลุกไปช่วยคนตัวโตที่หน้ายิ้มแป้นอยู่ดี 




“ว่าง่ายอย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อยนะน้องริน ฮ่าๆ” ตะวันหัวเราะอารมณ์ดีพร้อมกับวาดแขนไปโอบคอภุมรินไว้ คนตัวโตแกล้งทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงไปทำให้ภุมรินถึงกับเซ



“ตัวโตยังกับควาย หนักเป็นบ้า” คนตัวเล็กบ่นอุบแล้วพยุงตะวันเข้าห้องน้ำไป


เขาไม่เข้าใจ เจ็บที่หัวแล้วมันจะไปลงที่ขาได้ยังไง ไอ้พี่ตะวันไม่วายเจ้าเล่ห์อีกแน่ๆ คราวนี้เขาจะยอมไปก่อน แต่อย่าหวังจะได้ใช้เขาแบบนี้อีก



ตะวันเข้าไปทำธุระในห้องน้ำก่อนจะออกมา เขายกยิ้มให้ภุมรินที่ยืนหน้ายุ่งอยู่หน้าประตูแล้วแกล้งโผไปพิงคนตัวเล็กกว่า


ภุมรินขบเขี้ยวอดไม่ได้ที่จะเหยียบเท้าคนเจ็บไปแรงๆอีหนึ่งที ตะวันร้องเสียงหลงแล้วชี้หน้าคาดโทษอีกคน


ภุมรินยิ้มอย่างสะใจแล้วพาร่างโตๆของตะวันไปที่เตียงคนไข้



“ปล่อยสิพี่ตะวัน” ภุมรินพยายามเอาตัวเองออกจากวงแขนของตะวันที่ยังไม่ยอมปล่อยจากคอของเขา แถมเจ้าตัวยังยิ้มหน้าระรื่นอีก



“ไม่ปล่อย”


ตะวันยิ้มกริ่มพร้อมกับกระชับวงแขนเข้าแน่น ใบหน้าหวานนั้นอยู่ห่างจากเขาไม่มาก ดวงตากลมที่สบมานั้นทำให้ตะวันเองก็ยังเผลอจ้องมองเสียนาน น้องรินสวยจริงๆ

มาถึงตอนนี้เขาอยากจะชมอีกคนว่าสวยจากใจจริงๆ แต่กลัวภุมรินจะเข้าใจว่าเขาแกล้งอีกตามเคย ทุกอย่างบนใบหน้าสวยหวานนี้ทำให้หัวใจหนุ่มสั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนภุมรินก็หน้าเริ่มร้อนและขึ้นสี

เขาเพิ่งเคยจะจ้องหน้าตรงๆของเพื่อนพี่ชายก็วันนี้ พี่ตะวันหน้าลิงที่แสนจะกวนเขานั้นตอนนี้ดูโตขึ้นและคมเข้มกว่าตอนที่ยังเด็ก ไรหนวดจางๆรับกับริมฝีปากของคนตรงหน้าโดยที่ไม่น่าเกลียด จมูกโด่งที่ใกล้จะสัมผัสกับปลายจมูกของเขาและดวงตาเฉี่ยวที่จ้องมองมานั้น


เครื่องหน้าทุกอย่างของตะวัน ทำให้อีกคนดูดีเสียจริง แล้วทำไมเขาต้องมาใจสั่นเพราะผู้ชายด้วยกันล่ะนี่


เป็นภุมรินที่ผลักอกคนตรงหน้าออกก่อน ใบหน้าเห่อร้อนและเบือนหนีไปมองทางอื่น เจ้าตัวก้าวฉับๆไปนั่งที่โซฟาพร้อมกับหลบตาตะวันที่ยังไม่เลิกมอง

ตะวันยกยิ้มที่มุมปาก ไม่บ่อยครั้งที่จะเห็นภุมรินทำตัวไม่ถูกแบบนี้ กลิ่นหอมจางๆของแชมพูยังคงติดที่ปลายจมูก


เขาไม่ได้ใจสั่นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ



“พี่หิวแล้ว ไปหาอะไรให้กินหน่อยสิ” ตะวันทำลายความเงียบนั้น



“...อือ” ภุมรินที่นั่งหน้าแดงอยู่ครู่ใหญ่ตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกพรึบแล้วก้มหน้างุดออกไป


ตะวันมองตามแผ่นหลังบางที่เดินออกไป เขายิ้มกว้างออกมา




...บางที น้องหนูรินก็น่ารักไม่เบา









*****************************************************************************






ตอนที่สามมาต่อแล้วจ้า ขอบคุณสำหรับการติดตามและคอมเม้นนะคะ เรายังมือใหม่สำหรับเว็บนี้อยู่ ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยค่ะ เรื่องนี้จะมาต่อทุกวันเวลาประมาณนี้นะคะ(หากไม่มีอะไรผิดพลาด) คนเขียนชื่อมิ้นท์นะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ  :mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-12-2015 21:36:00 โดย Speirmint28 »

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สนุกมากๆ ชอบมาต่ออีกน้า รอติดตามจ้า :mew1:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
บอกจะมาต่อทุกวันนี่ดีใจเลยยยยย ;')))))

คุณพ่อพี่ตะวันจะอะไรน้องมั้ยน๊าาาาา

รอติดตามจ้าาาา

ออฟไลน์ Pisoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 241
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่ตะวันนี่ขี้แกล้งนะคะ  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อัพทุกวัน  เย้!!!!!!!  :mew1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คนหนึ่งก็ขี้แกล้ง อีกคนก็ยุขึ้นซะด้วย เข้ากันดีเหลือเกิน

ออฟไลน์ MysteriOuS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตามจ้าาาา  :katai5:

ออฟไลน์ angelnan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
ชอบ ริน กับตะวัน มาต่อทุกวันชอบที่สุด อิอิ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
สนุกกกกก ชอบ ๆ บรรยากาศบ้านไร่บ้านสวนด้วย ถูกใจที่สุดเลย  :m3:
น้องหนูริน แสบมาก แถมยังปากร้ายจริง ๆ แต่ยังไงก็น่ารักอยู่ดี
แล้วน้องก็เป็นเด็กดีรู้จักขอโทษนะ แต่จะว่าน้องมากก็ไม่ถูก
ก็พี่ตะวันสุดหล่อ ยียวนกวนประสาทเหลือเกิน หาเรื่องน้องตลอด ๆ อ่ะ
นี่ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่านี้ ถึงเจ็บหัวแต่ปากยังดีเหมือนเคยเลย
ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างเริ่มรู้สึกอะไร ๆ ต่อกันแล้วสินะ แหม เขินอ่ะ  :o8:
ชอบพี่รัชจัง ดูเป็นผู้ใหญ่น่านับถือ ไม่แปลกที่น้องรินจะเกรงพี่เหลือเกิน
พี่รัชจะมีคู่กับเขาไหมน้อ ติดตาม ๆ จ้า
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :mew1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แล่วๆๆๆๆ พี่ตะวันกับน้องรินเริ่มมีปฏิกิริยากันแล้ว คู่กัดจะเปลี่ยนเป็นคู่รักเมื่อไรน๊อออ รอตอน 4 จ้า

ออฟไลน์ Speirmint28

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-1
บทที่ 4
.

.


.

เช้าของวันถัดมารัชพลเป็นคนอาสามารับตะวันและภุมรินกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไร่น้ำรินเป็นคนออกให้แม้ว่าตะวันจะปฏิเสธแล้วก็ตาม



รถของรัชพลมีภุมรินนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถโดยมีคนเจ็บนั่งสบายอยู่ด้านหลัง



ภุมรินบ่นอุบถึงความเมื่อยขบที่ต้องนอนโซฟาทั้งคืนแถมตะวันยังกรนเสียงดังอีกต่างหากเลยโดยตะวันสวนให้ว่าคนตัวเล็กเองก็นอนน้ำลายยืด เกิดเป็นสงครามขนาดย่อมจนรัชพลต้องห้ามศึกจ้าละหวั่น



รถคันโตของไร่น้ำรินเลี้ยวเข้าจอดร้านอาหารข้างทางที่ถูกตกแต่งสไตล์คันทรี่ เนื่องจากเช้านี้ทั้งคนป่วยและคนไม่ป่วยยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง จำเป็นที่ต้องกินข้าวก่อนที่จะไปส่งตะวันแล้วเลยกลับไร่น้ำริน



ร้านนี้เป็นร้านที่รัชพลและภุมรินมากินอยู่บ่อยครั้งเมื่อออกมาข้างนอก



“พี่รัช~ วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ” เสียงแหลมดังขึ้นพร้อมกับร่างระหงส์ของสาวจ้าวนางหนึ่งวิ่งมาเกาะแขนรัชพลไว้


ภุมรินถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆ



“เสียงยังคงแสบแก้มหูเหมือนเดิมเลยนะครับพี่จิ๋ม” ภุมรินพูด



“จุ๋มจิ๋มค่ะ! พี่บอกกี่ครั้งแล้วคะน้องริน” เจนจิราลูกสาวเจ้าของร้านอาหารหันมาแหวใส่ภุมรินที่ทำหน้าไม่ยี่หระ ภุมรินไม่ชอบใจทุกครั้งที่เจนจิราชอบมากวอแวพี่ชายของตัวเองอย่างออกนอกหน้า



เป็นอันรู้กันทั้งบางว่าน้องจุ๋มจิ๋มนั้นชอบรัชพลถึงขนาดไหน แต่จนแล้วจนรอดรัชพลก็ไม่เคยจะสนใจซะด้วยซ้ำวันๆเอาแต่หมกอยู่กับไวน์องุ่นจนภุมรินเคยแซวหลายครั้งว่ารัชพลนั้นคงไม่พ้นที่จะต้องแต่งงานกับไวน์ซักถังในโรงบ่ม



“นี่ยายจุ๋มไปเอาเมนูมาซิ พี่หิวไส้จะขาดแล้ว” รัชพลแงะมือปลาหมึกนั้นออกก่อนจะนั่งลงข้างๆภุมริน ตะวันเองก็นั่งลงเรียบร้อย




“ได้เลยค่ะพี่รัช รอจุ๋มจิ๋มแป๊บนึงนะคะ” เจนจิราส่งยิ้มหวานอีกครั้งก่อนจะรีบไปหยิบเมนูมาให้



กว่าทั้งสามคนจะสั่งอาหารเสร็จรัชพลก็ต้องรับมือกับเจนจิราจนเบื่อ ภุมรินต้องไล่ตะเพิดไปนั่นแหละหญิงสาวถึงจะยอมไป


เช้าๆแบบนี้คนไม่ค่อยจะมีเยอะเท่าไหร่กอปรกับร้านเพิ่งเปิดทำให้มีคนมานั่งกินเพียงไม่กี่โต๊ะ




เถ้าแก่ชัยเจ้าของร้านนั้นเปิดร้านมานานตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ฝีมือทำอาหารของร้านก็ยังคงเส้นคงวาไม่เคยเปลี่ยน



เจนจิรานั้นมีดีกรีเป็นถึงนักบัญชีสาวที่เข้ามาช่วยงานของร้านเมื่อเรียนจบ



ความจริงแล้วก็คนคุ้นหน้าคุ้นตากันนี่แหละ ตะวันและภุมรินเองก็รู้จัก ติดก็แต่ว่าตั้งแต่รัชพลเรียนจบจากเมืองนอกมานั้นความฮอตของชายหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างมากมายจนสาวน้อยสาวใหญ่ในอำเภอจ้องจะอยากเป็นแม่เลี้ยงไร่น้ำรินกันใจจะขาด



หนึ่งในนั้นก็คือเจนจิรา




“งานเกษตรใกล้เข้ามาละนะ” รัชพลเปิดบทสนทนาเมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว



“แล้วยังไง จะให้กูช่วยมั้ย” ตะวันถามเพราะครั้งนั้นยังไม่ได้ตกลงอะไรกัน



“ก็คงอย่างนั้น ตัวเล็กคนเดียวคงไม่ไหว” พาดพิงไปถึงคนที่เคี้ยวข้าวแก้มตุ่ยไม่สนใจคนตัวโตทั้งสอง



“ฉันเตรียมไวน์ไว้สองแบบ คือไวน์ขาวกับไวน์แดง ทั้งสองแบบนี้อยู่ในชื่อรุ่นภุมริน เป็นไวน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรินน่ะ” รัชพลพูดต่อ



เขาใช้เวลากับไวน์รุ่นใหม่นี้นานพอสมควร แรงบันดาลใจของไวน์รุ่นนี้ก็มาจากน้องชายของตัวเอง




ภุมรินรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รัชพลตั้งใจจะทำ เจ้าตัวก็ดีใจยกใหญ่ที่จะได้มีไวน์เป็นของตัวเองพร้อมกับเสนอตัวเป็นพรีเซนเตอร์เรียบร้อย



“ไวน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากน้องริน กินแล้วคงไม่บ้าตามหรอกนะ” ตะวันอดที่จะแซวไม่ได้



“อยากหัวแตกอีกรอบรึไงพี่ตะวัน” ภุมรินทำตาเขียวปัดใส่อีกคน



“อย่าเพิ่งเถียงกันสิ เป็นการเป็นงานหน่อย” รัชพลเอ็ด



“แล้วจะให้กูช่วยยังไง”




“ไม่ยาก แกก็ขึ้นไปพรีเซนต์ไวน์รุ่นนี้พร้อมกับตัวเล็กมัน เดี๋ยวแบ่งกันเองว่าใครจะเอาแบบไหน รายละเอียดไว้ค่อยคุยกันอีกที พรุ่งนี้มึงว่างมั้ยหรือจะให้กูไปหาที่บ้าน”




บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆบนโต๊ะกินข้าว สรุปได้ว่าตะวันยินดีช่วยงานนี้ของรัชพลโดยจะเข้าไปคุยรายละเอียดที่ไร่น้ำรินในวันพรุ่งนี้



ภุมรินแอบค้านเล็กน้อยแต่เนื่องจากมีความผิดติดตัวอยู่เลยต้องยอมตามใจรัชพล จึงได้สายตากวนๆจากตะวันมาให้โมโหเล่นๆอีกรอบ




หลังทานอาหารเช้าเสร็จแล้วรัชพลไปส่งตะวันที่บ้านก่อนจะเข้าไร่น้ำริน เจ้าตัวเข้าไปในโรงบ่มไวน์อย่างเช่นทุกวันและภุมรินก็เข้าไปดูไร่ตามปกติ




คนตัวเล็กเดินตรวจงานไปไม่ถึงครึ่งโทรศัพท์นกระเป๋าก็ดังขึ้นเป็นเสียงข้อความเข้า


เป็นตะวันที่ส่งอิโมติคอนรูปหน้ากวนๆมาให้ ภุมรินเบ้ปากใส่โทรศัพท์ก่อนจะหลบเข้าไปนั่งใต้ต้นองุ่นข้างๆ เจ้าตัวตอบกลับอย่างหมั่นไส้ ไม่นานนักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น



“โทรมาทำไมพี่ตะวัน งานการไม่มีทำรึไง แล้วเอาเบอร์รินมาจากไหน” รัวคำถามใส่ไม่ยั้ง



“ถามรัวแบบนี้ใครจะตอบทัน งานน่ะมีทำแต่เสร็จแล้ว ส่วนเบอร์รินก็ขอจากไอ้รัชไง ไม่เห็นยากเลย” ตะวันตอบเสียงนิ่ง



เขาแอบขอเบอร์โทรศัพท์ของภุมรินจากรัชพลเมื่อตอนที่ภุมรินไปเข้าห้องน้ำตอนกินข้าวด้วยกัน รัชพลบอกให้ไปขอเองแต่เจารู้ว่าถ้าไปขอตรงๆคนตัวเล็กไม่ยอมให้แน่ๆ



ภุมรินแอบด่าพี่ชายในใจ แล้วมันเรื่องอะไรที่พี่รัชต้องเอาเบอร์ของเขาไปให้ไอ้พี่ตะวันด้วยเนี่ย




“แล้วตกลงโทรมามีอะไรห๊ะ รินไม่ว่างทะเลาะด้วยหรอกนะ งานการมีตั้งเยอะ ใครจะเหมือนลูกเจ้าของตลาดใหญ่ล่ะ ทำงานนิดๆหน่อยๆก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือ”



มันน่าหมั่นไส้เสียจริง เขาต้องตากแดดตากลมในไร่ทั้งวันกว่าจะได้เงินแต่ละบาท แล้วดูไอ้พี่ตะวันสิ นั่งทำงานในห้องแอร์กำไรจากตลาดและธุรกิจอื่นๆของบ้านประสิทธานนท์ก็เยอะกว่ากำไรของไร่น้ำรินทั้งปีซะอีก




“ก็ไม่มีอะไร พี่กลัวน้องหนูรินจะเหงาปากน่ะ ไม่มีคนเถียงด้วย” คำตอบที่ได้จากอีกฝ่ายทำให้ภุมรินอยากจะเข้าไปในโทรศัพท์แล้วเตะไอ้พี่ตะวันสักครั้งสองครั้ง โทรมากวนเขาเนี่ยนะ




“พี่ตะวันกลัวน้องหมาในปากพี่เหงารึเปล่า ถึงได้โทรมาหาริน ไม่คุยด้วยแล้ว จะทำงาน”



กดตัดสายแล้วยู่ปากใส่โทรศัพท์ ไอ้พี่ตะวัน มีวันไหนไม่ปั่นหัวเขาบ้างเนี่ย พี่รัชอีก จะเอาเบอร์รินไปให้ทำไมก็ไม่รู้ คิดแล้วภุมรินก็อารมณ์บูดอีกรอบของวัน




ตะวันหัวเราะน้อยๆเมื่ออีกคนตัดสายไป ร่างสูงเหยียดขายาวไปบนโต๊ะทำงานแล้วเอนตัวไปกับเก้าอี้


ได้ยินเสียงเงี้ยวๆของน้องหนูรินทำให้อารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย คนตัวเล็กน้องเพื่อนสนิทคนนี้น่าแกล้งที่สุดเลยแหละ ตอนเด็กๆภุมรินนั้นตอบโต้เขาแรงกว่านี้ด้วยซ้ำ


แผลเป็นที่เหนือคิ้วนั้นเป็นหลักฐานได้ มือไม้ฟาดได้เท่าไหร่ภุมรินไม่เคยยั้ง เห็นตัวเล็กๆแบบนั้นมือเท้าหนักอย่าบอกใครเชียว



“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรคนเดียวหาตะวัน แผลบนหัวทำให้แกเป็นบ้าไปแล้วรึไง”


ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาในห้องทำงานของลูกชายพร้อมกับแซวเมื่อเห็นตะวันนั่งยิ้มอยู่คนเดียว



สำนักงานที่ทำงานของตะวันนี้แยกออกมาจากตัวตลาดไม่ไกล



ตะวันเพิ่งจะเข้ามารับช่วงต่อภูผาเมื่อไม่กี่วันมานี้ ในส่วนของตลาดนั้นภูผาให้ตะวันเป็นคนดูแล ส่วนเขาจะควบคุมธุรกิจอื่นๆที่เปิดอยู่ในตัวจังหวัด



เจ้าลูกชายคนโตกลับมาก็ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนมือ ส่วนลูกสาวอีกคนของภูผาตอนนี้กำลังเรียนต่ออยู่เมืองนอกนานๆครั้งจะกลับมาบ้าน




“แผลบนหัวไม่ทำให้ผมบ้าหรอกครับพ่อ แต่คนทำให้เกิดแผลต่างหาก”


ตะวันเอาขาที่พาดโต๊ะลงแล้วหมุนเก้าอี้ไปคุยกับบิดา



“หนูรินน่ะเหรอ เมื่อวานดูจ๋อยไปเลย ลูกไอ้บูรคนนี้ดูน่าเอ็นดูไม่น้อย ยิ่งโตยิ่งเหมือนแม่”



ภูผาเคยเจอภุมรินบ้างเพราะลูกชายคนเล็กของเพื่อนสนิทมาส่งองุ่นทุกเช้า วันไหนเขาเข้าสำนักงานที่ตลาดก็ทักทายอยู่บ่อยครั้ง



มองหน้าภุมรินแล้วทำให้นึกถึงภรรยาของบุรินทร์ขึ้นมาทุกครั้งไป เมื่อวานก็เจอกันอีกในโรงพยาบาล เจ้าตัวหน้าซีดเมื่อเจอเขา ภูผาเดาได้เลยว่าต้องกลัวความผิดที่ก่อไว้




“เห็นน่ารักอย่างนั้นนะครับ อย่าให้ได้พูดเชียว ความน่ารักลบฮวบ” ตะวันพูด



ก็น้องหนูรินคนน่ารักเวลาพูดแล้วอยากจะปิดปากเล็กๆนั่นจริงๆน่ะสิ คนอะไรปากจัดซะไม่มี



“หึ แล้วตกลงหนูรินเค้าทำอะไรให้ลูกชายพ่อนั่งยิ้มคนเดียวซะล่ะ” ภูผาหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกลับมาถามคำถามเดิมที่ยังไม่ได้คำตอบ



“ก็ไม่มีอะไร แค่ผมโทรไปแกล้งน้องก็เท่านั้น” คำตอบที่ได้ทำให้ภูผายักคิ้วอย่างมีเลศนัยแล้วยกยิ้มที่มุมปาก



หากใครมาเห็นหน้าภูผาตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหมือนกับตะวันอย่างกับแกะ รอยยิ้มที่มุมปากของตะวันนั้นได้มาจากภูผาเต็มๆ



“หึๆ ไอ้เสือ... ไอ้บูรตอนหนุ่มๆมันแม่นปืนนะ ไหนจะเพื่อนแกอีก รายนั้นก็โหดไม่เบา”

ภูผายิ้มกรุ้มกริ่มให้ลูกชาย แค่มองตาก็รู้ว่าคิดอะไร



“อะไรกันเนี่ยพ่อ มามองผมแบบนั้นทำไม” ตะวันเกลียดรอยยิ้มของพ่อตัวเองที่สุดก็วันนี้แหละ


ใครว่าตะวันเป็นคนที่ยิ้มได้กวนที่สุดแล้ว จะบอกว่าเขานั้นไม่ถึงครึ่งของภูผาด้วยซ้ำไป



“เหอะๆ พ่อไปทำงานละ ระวังตัวไว้เลยไอ้ลูกชาย” ภูผาหัวเราะร่วนก่อนจะออกจากห้องไป ทิ้งให้ตะวันนั่งหน้าร้อนผ่าวอยู่คนเดียว



แล้วทำไมเขาต้องเขินด้วยเนี่ย




เช้าวันรุ่งขึ้นรถคันโตของตะวันก็เข้ามาจอดหน้าบ้านรักษ์นที คนงานก็ยังคนขนองุ่นขึ้นรถตามปกติโดยมีลูกชายคนเล็กของเจ้าของไร่กำลังนั่งเคี้ยวหมากฝรั่งคอยคุมอยู่ไม่ไกล




“ขยันแต่เช้าเลยนะน้องริน” คำทักทายแรกนั้นทำให้ตะวันได้ค้อนวงงามกลับมา ภุมรินกอดอกมองคนตัวโตอย่างเบื่อหน่าย

เขาเจอตะวันแทบจะทุกวัน



“ใครจะขี้เกียจเหมือนพี่ตะวันล่ะ พี่รัชอยู่โรงบ่มนู่น อยากจะคุยงานอะไรกันก็ไปเลย”



ภุมรินเบื่อหน้าตะวันเต็มทนแล้ว และยังเบื่อน้องหมาในปากนั่นอีกด้วย



“จ้าพ่อคนขยัน น้องรินก็รีบไปส่งองุ่นแล้วกับมาคุยงานล่ะ” ประโยคสุดท้ายของบทสนทนาในเช้านี้




ตะวันเดินเลี้ยวไปยังโรงบ่มไวน์ เดินไปได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถของภุมรินดังออกไป


รัชพลที่รออยู่โต๊ะหน้าโรงบ่มหันมายิ้มให้เพื่อนสนิทเล็กน้อยก่อนจะกางกระดาษหลายแผ่นให้ตะวันดู



“อันนี้เป็นรายละเอียดของเนื้องานนะ ตกลงมึงจะพูดไวน์แดงใช่มั้ย อันนี้รายละเอียดของสินค้า ไปจำมาแล้วเดี๋ยวค่อยมาซ้อมกับตัวเล็กมัน อีกสองอาทิตย์ข้างหน้าก็จะเริ่มแล้ว งานนี้ถ้าผ่านไปด้วยดีรับรองไวน์รุ่นนี้ต้องขายดีแน่นอน”


รัชพลยื่นกระดาษส่วนหนึ่งให้ตะวันอันมีเนื้อหาของไวน์ที่ตะวันต้องพูด



งานเกษตรที่ว่านี้เป็นงานเปิดบูทจากไร่ต่างๆที่จะนำผลผลิตของตัวเองมาวางโชว์และขาย


เป็นงานที่จัดขึ้นทุกๆปีละปีนี้ไร่น้ำรินจะนำไวน์รุ่นใหม่ไปเปิดตัวด้วย



“ตัวเล็กของมึงมีหวังข่วนกูทุกวันแน่ๆ เหอะๆ” ยกยิ้มเมื่อนึกถึงอีกคน



ภุมรินเหมือนแมวตัวเล็กที่ชอบขู่ฟ่อ ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการข่วนและกัดเท่านั้น ตะวันอยากจะจับตัดเล็บตัดขนให้หมด




“หึ มึงก็ไปแซวมันมาก รู้ว่ามันไม่ชอบ อย่าไปทำให้ได้อีกแผลล่ะ แผลเก่าก็ไม่รู้จะหายทันงานรึเปล่า”


รัชพลชักจะชินกับน้องชายและเพื่อนรักที่เถียงกันทุกนาทีเสียแล้ว



“ถ้าได้แผลใหม่มาอีกนะ กูคงให้มึงพาน้องรินไปปล่อยวัดแล้วล่ะ คนอะไรดุชะมัด” รัชพลหัวเราะลั่นกับคำพูดนั้นของตะวัน



ตะวันและรัชพลคุยรายละเอียดกันอีกครู่ใหญ่ก่อนภุมรินจะตามเข้ามา


คนตัวเล็กต้องพูดเนื้อหาเกี่ยวกับไวน์ขาว ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูเป็นการเป็นงานนั้นเสียงทะเลาะของตะวันและภุมรินก็ดังขึ้นเนืองๆ



รัชพลไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือไม่ที่จับสองคนนี้มาร่วมงานกัน กลัวงานของตัวเองจะล่มซะเหลือเกิน



คนที่เหมือนจะอารมณ์ดีกว่าใครเพื่อนจะเป็นตะวัน เขาหัวเราะทุกครั้งเมื่อทำให้อีกคนโกรธหน้าแดงได้







แต่คนตัวเล็กนี่สิ อยากจะฆ่าตะวันหมกป่าอย่างที่เคยพูดไว้เสียจริง





************************************************************************************************




มาแล้วจ้าตอนที่สี่ ตกใจมีคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้น 555555555555 ขอบคุณนะคะ :katai2-1: :katai2-1: คนอ่านเยอะคนเขียนก็ดีใจ มีคนถามว่าพี่รัชจะมีคู่มั้ย มีนะคะ แต่แยกเป็นอีกเรื่องนึง ต้องรอเรื่องนี้จบก่อน งิงิ เรื่องนี้เราแต่งมาเกินครึ่งเรื่องแล้ว แต่เพิ่งจะเอาลง มีแนวโน้มว่าไม่ดองแน่นอนค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ  :katai4:

ออฟไลน์ ศตรัศมี

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Nam-Ing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยิ่งกัดกันยิ่งลูกดกนะคะ พี่ตะวันน้องริน   :haun5:  :hao7:

ออฟไลน์ Wendy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
เมื่อไหร่จะได้อ้อนพี่ตะวันน้ออออ
จิ้มแก้มนายน้อย
 :hao3:

ออฟไลน์ askmes

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
พี่ตะวันช่างแหย่จริ๊งงงง..

ปริ่มตรงที่ไม่ดอง.. คนเขียนสู้ๆ เฮ้!!!!

ออฟไลน์ Seilong2

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
พี่ตะวันชอบแกล้งน้องงงง

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
น่าร๊ากกกกกกกกกก มีเรืีองมาให้ติดอีกแล้ว :3123:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ชอบมากเลย บางทีก็หมั่นไส้ไอ้พี่ตะวันนะ สงสารน้อง ถ้าน้องทนไม่ไหวแล้วหนีไป อิฉันจะสะใจที่สุดเจ้าค่ะ อิอิ

ขอบคุณจ้ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด