นิยายเรื่อง "ภมรอ้อนตะวัน" เป็นนิยายเรื่องแรกของ "นิยายชุด ดวงใจไร่รัก"
นิยายชุดนี้มีทั้งหมดสามเรื่อง
ภมรอ้อนตะวัน ตะวัน - ภุมริน (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50942.0
พระจันทร์ล้อนที รัชพล - สิตางศุ์ (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
ปฐพีเคล้าเมฆา เพียงดิน - เมฆา (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53471.0
ฝากติดตามนิยายชุดเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาพบกับความรักฟิลกู๊ดของสามคู่สามรสในบ้านไร่ ที่จะทำให้คุณยิ้มไม่หุบ :m3:
เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
:katai4:
จะเป็น BoxSet ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง BoxSet ได้ค่ะ
:-[
ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater
ติดตามข่าวสารได้จากเพจนี้ค่ะ
https://www.facebook.com/Speirmint28-213061652381782/?fref=nf
ภมรอ้อนตะวัน
บทที่ 1
“เร่งมือกันหน่อยโว้ย สายมากแล้ว ไอ้นพ ยกแบบนั้นองุ่นได้ช้ำพอดีสิวะ ยกให้มันดีๆ” เสียงโหวกเหวกดังไปทั่วบริเวณ
ไอเย็นของหมอกกลางฤดูหนาวยังคงมีให้สัมผัสแม้ว่าตอนนี้จะสิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว ร่างเพรียวบางในเอี๊ยมยีนส์สีหม่นตะโกนก้องไปทั้งลานกว้างที่มีคนงานนับสิบกำลังลำเลียงลังไม้บรรจุองุ่นสีแดงเข้มขึ้นรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่สีแดงเปื้อนโคลน
“เสร็จแล้วครับนายน้อย” ชายผอมกะหร่องผิวเข้มหันมาบอกเมื่อองุ่นลังสุดท้ายถูกลำเลียงใส่รถเสร็จเรียบร้อย ผู้เป็นนายก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปประจำตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับของรถสีแดงคันนั้นก่อนที่ชายหนุ่มชื่อนพจะเข้าประจำที่ในตำแหน่งคนขับและสตาร์ทรถให้เคลื่อนออกไปเพื่อมุ่งหน้าสู่ตลาดในตัวเมือง
‘ภุมริน’ เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองกรุงมาได้ไม่ถึงปีเขาก็เข้ามาช่วยงานที่ ‘ไร่น้ำริน’ ไร่องุ่นขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดหนึ่งของภาคเหนือ อันมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีเพราะไร่น้ำรินตั้งอยู่บนยอดเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลเกือบพันเมตร
เขาเป็นบุตรชายคนเล็กของบุรินทร์เจ้าของไร่น้ำรินที่ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองและมีพี่ชายอยู่หนึ่งคนชื่อรัชพลซึ่งต้นปีหน้าก็จะอายุครบเบญจเพสพอดี ส่วนมารดาของเขานั้นเสียไปตั้งแต่เขาเองยังจำความไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เขาจึงเติบโตมากับพ่อและพี่ชายกับคนงานในไร่อีกหลายร้อยคน
ภุมรินเป็นชายร่างเล็กที่สูงไม่ถึงมาตรฐานชายไทยด้วยซ้ำ ผิวออกขาวเหลืองจากการที่เจ้าตัวชอบอยู่กับไร่กับสวน ดวงตากลมโตอันได้มาจากมารดาที่เสียไป จมูกนั้นโด่งรั้นรับกับริมฝีปากบาง หุ่นผอมบางแต่ก็ดูไม่น่าเกลียดแต่เจ้าตัวกลับไม่ชอบเสียอย่างนั้น ไว้ผมยาวประบ่าเพราะเขาเห็นว่ามันดูเท่แต่นั่นกลับขับให้ดวงหน้าของเขาดูสวยหวานมากกว่าจะเท่ด้วยซ้ำไป
ภุมรินนั้นมักทำตัวโผงผางและพูดจาไม่นาวไม่มีน้ำ ส่วนหนึ่งมาจากการที่เจ้าตัวโดนคนอื่นพูดหยอกล้อว่าเขาเหมือนผู้หญิงบ้าง ดูบอบบางมากกว่าจะเป็นผู้ชายบ้าง เขาจึงพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้สมชายมากที่สุด โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากิริยาหลายๆอย่างนั้นกลับทำให้มีผู้ชายหลายคนเข้าหามากยิ่งขึ้น จนภุมรินต้องไล่ตะเพิดไปหลายราย แต่ถึงอย่างนั้นภุมรินก็เป็นที่รักของคนในบ้านจนพ่อและพี่ชายหวงออกนอกหน้า รวมทั้งยังเป็นที่รักของคนงานในไร่แม้ว่านายน้อยรินจะชอบด่าคนงานเวลาเข้าไปตรวจที่ไร่ก็ตาม
รถกระบะของไร่นำรินแล่นเข้ามาในตลาดส่งสินค้ากลางตัวเมืองที่ตอนนี้กำลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายจากไร่ต่างๆที่มาส่งทั้งผักและผลไม้ รถขนผลผลิตจอดเรียงรายนับไม่ถ้วน
ร่างเล็กของภุมรินตะโกนบอกให้คนงานของตลาดเข้ามาช่วยขนลังองุ่นลงก่อนที่เจ้าตัวจะเดินยังสำนักงานขนาดเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของตลาด สำนักงานแห่งนี้มีไว้สำหรับเรียกเก็บบิลสินค้าที่เอามาส่งซึ่งมันเป็นหน้าที่ที่ภุมรินต้องเขามาจัดการบิลค่าองุ่นของไร่น้ำรินในทุกๆเช้า
ร่างบางได้รับเสียงงทักทายจากคนรู้จักบ้างประปรายก่อนที่ร่างเพรียวบางในชุดเอี๊ยมและหมวกหนังใบโตจะเข้าไปนั่งตากแอร์เย็นเพื่อรอคิวของตัวเอง ภุมรินมาที่นี่ทุกเช้าจนสนิทกับพนักงานบัญชีของตลาดประสิทธานนท์ นอกจากนั้นพ่อของเขาเองยังเป็นเพื่อนกับคุณภูผาเจ้าของตลาดแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งทำให้ไร่น้ำรินแอบได้สิทธิพิเศษอยู่ไม่น้อย
“วันนี้มาสายนะคะน้องริน” พนักงานบัญชีสาวของตลาดประสิทธานนท์ทักเมื่อถึงคิวของภุมรินแล้ว นับดาวเป็นหญิงวัยเกือบจะสามสิบปีที่ตอนนี้กำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอยิ้มให้ภุมรินก่อนจะทำหน้าที่ของเธอ
“พอดีไร่มีปัญหานิดหน่อยน่ะครับพี่ดาว กว่าจะขนองุ่นเสร็จก็กินเวลาไปนานเลย ว่าแต่วันนี้ใครไปดูของครับ ได้ข่าวว่าพี่เก่งลา” เก่งที่ภุมรินกล่าวถึงนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ที่จะไปตรวจดูของจากไร่น้ำรินเป็นประจำ
“วันนี้ได้คนตรวจของกิตติมศักดิ์เลยแหละน้องริน” นับดาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นบิลให้กับคนตรงหน้า
“ใครกันครับ คนตรวจกิตติมศักดิ์” ภุมรินขมวดคิ้ว
“นั่นไงคะ เดินมาพอดีเลย คิกๆ” ว่าที่คุณแม่หัวเราะก่อนจะชี้มือไปที่หน้าประตูของสำนักงานขนาดเล็กนี้
ประตูกระจกเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์สีเข้ม ใบหน้าคมๆ คิ้วหนาๆและดวงตาที่เฉี่ยวคมนั้นทำให้ภุมรินขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก ผู้มาใหม่ยักคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงมาหาคนตัวเล็กที่เริ่มจะลมออกหูอย่างไม่ทราบสาเหตุ รอยยิ้มกวนๆนั้นยิ่งยั่วโมโหภุมรินได้เป็นอย่างดี
“ไม่เจอกันนานสวยเหมือนเดิมเลยนะครับน้องริน” ตะวัน ประสิทธานนท์ ลูกชายคนโตของภูผาเดินเข้ามาถือวิสาสะโอบไหล่เจ้าของร่างบาง
“ไอ้พี่ตะวัน ไม่เจอกันนานก็ยังปากหมาเหมือนเดิมเลยนะครับ” ขืนตัวออกจากวงแขนนั้นพร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์
เป็นอันที่รู้กันทั้งอำเภอว่าลูกชายคนโตของพ่อเลี้ยงภูผากับลูกชายคนเล็กของพ่อเลี้ยงบุรินทร์นั้นไม่ค่อยจะคุยกันดีๆสักเท่าไหร่ แม้ว่ารัชพลพี่ชายของภุมรินจะเป็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวและเรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลก่อนจะแยกย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ แต่ภุมรินก็ยังคงไม่ชอบเพื่อนของพี่ชายคนนี้
ตะวันนั้นมองดูก็รู้ว่าแค่แกล้งแหย่แกล้งหยอกน้องรินไปอย่างนั้น แต่กับอีกคนไม่ใช่ ภุมรินไม่พอใจทุกครั้งที่เจอตะวัน ในตอนเด็กๆก็เคยเล่นกันตามประสา แต่มีวันหนึ่งป้าจันแม่บ้านของไร่ที่ช่วยเลี้ยงเขามาเกิดคิดสนุกจับคุณหนูน้องรินแต่ชุดของยายส้มโอหลานสาวที่อายุรุ่นเดียวกัน คุณหนูน้องรินในคราบผู้หญิงเกิดติดตาต้องใจไอ้พี่ตะวันเข้าจนเจ้าตัวแซวน้องเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง
ภุมรินโดนแซวบ่อยเข้าก็เกิดโมโหปาก้อนหินใส่หัวคนโตกว่าจะต้องเย็บไปสี่ห้าเข็ม แต่ถึงอย่างนั้นตะวันก็ยังไม่เลิกพูดว่าน้องรินนั้นสวยอย่างนั้นน่ารักอย่างนี้สุดท้ายกลายเป็นว่าน้องหนูรินเกลียดขี้หน้าพี่ตะวันไปโดยปริยาย จนตะวันเรียนจบมอหกแล้วไปต่อที่ฝรั่งเศสนั่นแหละ
ผ่านไปเกือบเจ็ดปีพี่ตะวันจบปริญญาโทกลับมาพอดีก็ยังปากดีแซวน้องรินไม่เลิก ยิ่งพอคนตัวบางไว้ผมประบ่าและดูโตขึ้นก็ยิ่งทำให้ตะวันคิดว่าน้องเพื่อนคนนี้เหมาะกับคำว่าสวยมากกว่าจะหล่อ เปิดประตูเข้ามาคิดว่าสาวที่ไหนที่แท้ก็น้องรินนี่เอง แม้ว่าจะกลับมาเมืองไทยช่วงปิดเทอมบ้างแต่ก็ไม่เคยได้เจอกันเลยซักครั้งเพราะภุมรินนั้นเรียนอยู่กรุงเทพฯและปิดเทอมของไทยกับฝรั่งเศสก็ไม่ตรงกัน เป็นอันว่าเจอหน้ากันอีกครั้งในรอบเกือบเจ็ดปี
“ยังปากดีเหมือนเดิมนะเรา ไหนรถของไร่น้ำริน จะให้ดูมั้ยองุ่นน่ะ” ตะวันถือวิสาสะกระชากบิลในมือของภุมรินมาดูก่อนจะเดินอาดๆออกไป ภุมรินได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและตามออกไป
“คิดว่าตายไปแล้วซะอีก ทำไมไม่อยู่เมืองนอกต่อล่ะ กลับมาทำไม” ภุมรินยืนพิงท้ายกระบะรถพร้อมกับกอดอกมองอีกคนที่กำลังนับสินค้า
“พูดแบบนี้คิดถึงพี่ตะวันเหรอครับน้องหนูริน” ตะวันหยุดนับก่อนจะหันมาคุยกับคนตัวเล็ก
“คิดถึงบ้าอะไรล่ะ อย่าหลงตัวเองสิไอ้พี่ตะวัน รินก็แค่ลืมไปแล้วว่ามีผู้ชายหน้าลิงๆอย่างพี่ตะวันเป็นเพื่อนพี่รัช” พูดจบก็หัวเราะร่วนอยู่คนเดียว ภุมรินนั้นชอบว่าตะวันหน้าเหมือนลิงเพราะตอนเด็กๆตะวันหน้าคล้ายลิงจริงๆนั่นแหละ พอนึกถึงทีไรเจ้าตัวเล็กก็หัวเราะไม่หยุดทุกที ตะวันเองก็ไม่คิดว่าภุมรินจะยังคงว่าเขาไม่เลิก เรื่องนี้เป็นเรื่องเดียวที่เขาเถียงภุมรินไม่เคยจะได้
“หยุดหัวเราะเลยนะไอ้ตัวแสบ มาว่าคนอื่นแล้วยังจะมีหน้ามาหัวเราะอีก” ทนเห็นคนตรงหน้าหัวเราะเยาะไม่ไหว ตะวันยื่นมือไปบีบจมูกรั้นนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว จนภุมรินถึงกับโมโหอีกรอบเลยเหยียบเท้าของคนตัวโตไปเต็มแรงก่อนจะซัดเข้าที่หน้าแข้งเป็นการปิดท้าย
“เล่นอะไรเจ็บนะโว้ยไอ้พี่ตะวัน” ร่างบางแหว บีบมาได้ มือก็ไม่ใช่จะเบาๆ
“พูดยังกับตัวเองไม่เล่นแรงอย่างนั้น เตะมาได้ ขาหักรึเปล่าไม่รู้” ตะวันกุมหน้าแข้งตัวเองหลังจากโดนเรียวขานั้นซัดลงมาอย่างจัง เห็นตัวเล็กๆอย่างนี้มือเท้าหนักอย่าบอกใคร พ่อเลี้ยงบุรินทร์พาไปเล่นเทควันโดตั้งแต่เด็ก
“ก็สมควรแล้ว ปากหมาหน้าลิงอย่างพี่น่ะแค่นี้ยังน้อยไป” ยืนจังก้าพร้อมกับเชิดหน้าคอตั้ง ตะวันมอภาพนั้นอย่างหมั่นไส้ขั้นสุด
“บอยมาตรวจองุ่นของไร่น้ำรินแทนฉันที” ตะโกนบอกลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนจะกระชากแขนของคนตัวบางให้เดินตาม ภุมรินที่ไม่ทันตั้งตัวก็ลอยฉิวไปพร้อมกับแรงลากนั้น
“จะพารินไปไหน ปล่อยนะพี่ตะวัน มันเจ็บนะโว้ย อย่าลากแบบนั้น” ภุมรินพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล ตะวันลากน้องน้อยมาโดยไม่สนใจเสียงโวยวายและมือเท้าที่ระดมทุบระดมเตะ
“ทำไมถึงได้เป็นเด็กดื้อแบบนี้นะน้องริน” ตะวันพาภุมรินมาที่รถฟอร์จูนเนอร์คนโตที่จอดอยู่บริเวณตัวบ้านอันไม่ไกลจากตลาดเท่าไหร่ก่อนจะกดเปิดรถแล้วยัดร่างบางเข้าไปในรถสีดำสนิทแล้วตัวเองก็เดินวนกลับมาประจำที่คนขับ
“จะทำอะไรไอ้พี่ตะวัน จะลักพาตัวเหรอ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ” ฝ่ามือบางฟาดเปรี้ยงเข้าที่หัวไหล่ของตะวันอย่างแรงก่อนที่ตามมาอีกหลายชุด
“โอ้ยๆๆๆ มันเจ็บนะริน ตีมาได้ เฮ้ย! อย่ากัด เป็นหมารึไงไอ้ตัวเล็ก” ตะวันสะดุ้งโหยงเมื่ออีกคนกัดมือของเขาที่กำลังพยายามหยุดคนตัวเล็กเข้าเต็มแรง
“พูดไม่ฟังใช่มั้ยห๊ะ” ตะวันจัดการผลักหัวภุมรินออกก่อนจะรวบมือทั้งสองข้างนั่นไว้ เขารวบมือทั้งสองข้างของภุมรินไว้ด้วยมือเดียวก่อนจะรีบสตาร์ทรถ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวบางก็ยังดิ้นไม่ยอมหยุด
“รินจะฟ้องพ่อว่าพี่ตะวันลักพาตัวริน” ภุมรินตะโกนลั่นรถที่แล่นออกมาสู่ถนนใหญ่ เจ้าตัวนิ่งบ้างแล้วเพราะรู้ว่ารถแล่นฉิวแบบนี้ดิ้นไปก็ไม่เป็นผล
“ใครอยากจะลักพาตัวนายห๊ะน้องหนูริน น่าฉุดตายแหละ” ตะวันปล่อยมือจากข้อมือบางนั้นเมื่ออีกคนสงบลงแล้วหันมาจับพวงมาลัยสองข้าง
“ไม่น่าฉุดแต่ก็มีคนลากขึ้นมาในรถแล้วกันน่า ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาตั้งหลายปีทำไมนิสัยพี่ยังแย่เหมือนเดิมนะ” ภุมรินกอดอกพร้อมกับมองตรงไปข้างหน้า ไม่อยากจะมองหน้าของอีกคน
“แล้วเราล่ะ โตจนเรียนจบแล้วยังนิสัยเด็ก ดื้อไม่เคยเปลี่ยน” น้องหนูรินตอนเด็กดื้อยังไงโตมาก็ยังดื้อไม่เปลี่ยน แล้วไอ้กิริยาที่ชอบเงี้ยวๆใส่เขานั่นอีก ยี่ห้อนี่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้จริงๆ
“รินไม่ใช่เด็กที่จะมาใช้คำว่าดื้อนะ แล้วจะพารินไปไหน จอดตรงนี้เลย จะลง” หันไปแหวใส่คนขับอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่าอยู่บนรถภุมรินอยากจะกระโดดถีบไอ้พี่ตะวันแรงๆซักที
“จะพากลับไร่น้ำรินนั่นแหละ นั่งนิ่งๆไปเลย พี่จะไปหาไอ้รัช แล้วก็เลิกทำเสียงแง้วๆได้แล้ว มันรำคาญ” ตะวันว่าก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าทางไปไร่น้ำริน
“จิ๊!” ภุมรินจิปากอย่างขัดใจก่อนจะหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ทำไมนะ ทำไมไอ้พี่ตะวันต้องชอบมาวุ่นวายให้เขารำคาญอยู่เรื่อย พี่รัชก็เหมือนกัน จะไปเป็นเพื่อนคนแบบนี้ทำไม
ไม่นานรถคนโตก็เคลื่อนขึ้นมาบนเขาสูงอันเป็นที่ตั้งของไร่น้ำริน ทางเข้ามีป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนชื่อไร่อยู่ สองข้างทางเต็มไปด้วยไร่องุ่นและคนงานที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตจากองุ่นสีแดงเข้ม
แสงแดดตอนสายๆของฤดูหนาวนั้นสาดส่องลงมาพออุ่น แสงสีทองเรืองไปทั่วทั้งไร่กระทบกับน้ำค้างจนเกิดแสงระยิบระยับ รถของตะวันเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านไม้หลังงามที่บางมุมถูกพันด้วยเถาสีเขียวชอุ่ม หน้าบ้านมีต้นจามจุรีขนาดใหญ่ปลูกอยู่และมีแคร่ตั้งใต้ต้นไม้นั้น บรรยากาศอันร่มรื่นของไร่น้ำรินทำให้ตะวันสูดอากาศเข้าเต็มปอดหลังจากลงมาจากรถแล้ว ไร่น้ำรินเปลี่ยนไปเยอะเลย
“พี่รัชอยู่โรงบ่ม จะไปหาก็ไป” ภุมรินที่ลงรถตามมาหันไปบอกตะวันที่ยืนยิ้มเหมือนคนบ้าก่อนที่เจ้าตัวเตรียมจะเดินเข้าไร่ ไม่อยากจะอยู่เสวนากับไอ้พี่ตะวัน ยิ่งคุยยิ่งเป็นประสาท
“จะไปไหน ไปด้วยกันเลย พี่จำทางไปโรงบ่มไวน์ไม่ได้แล้ว” ตะวันรีบคว้าแขนของอีกคนไว้และปฏิกิริยาตอบกลับก็ไม่พ้นอาการขัดขืนจากอีกคน
“จำไม่ได้ก็หาเอาเองสิ” สะบัดแขนตัวเองออกจากมือนั้นก่อนจะรีบเดินเข้าไร่ไป ตะวันจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วรีบเดินตามไปช้อนคนตัวบางนั้นพาดบ่า
“เฮ้ย! ไอ้พี่ตะวันทำอะไร ปล่อยนะเว้ย” ภุมรินตะโกนลั่นจนคนงานแถวนั้นหันมามอง กำปั้นเล็กทุบหลังตะวันดังอักๆ
“พูดไม่ฟังก็ต้องเจอแบบนี้ ไหนบอกมาซิทางไปโรงบ่มอยู่ตรงไหน” ยังคงจับขาของภุมรินไว้มั่นพร้อมกับฟาดมือลงบั้นท้ายของอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว
“ไอ้พี่ตะวันบ้า เวียนหัวโว้ย ปล่อยรินลงเดี๋ยวนี้” เสียงโวยวายของภุมรินยังไม่หยุด เคล้าไปกับเสียงหัวเราะสะใจของตะวันที่เดิมหัวเราะลั่นไปทั่งไร่
คนงานหลายๆคนพอจะรู้จักตะวันก็ไม่คิดเอะใจอะไรเพราะสองคนเค้าเล่นกันแบบนี้ประจำ แต่คนงานใหม่หลายๆคนถึงกับงงว่านายน้อยของพวกเขาโดนใครอุ้มไป ไร่น้ำรินวันนี้ชั่งครึกครื้นเสียจริง
*****************************************************************************
สวัสดีค่ะ เราเพิ่งลงที่เล้าเป็นครั้งแรกนะคะ ยังไงก็ฝากติตามและติดชมด้วยค่ะ :mew3:
สวัสดีค่ะ คนเขียนมีข่าวมาแจ้งเรื่อง นิยายต่อของ ภมรอ้อนตะวัน
ตอนนี้เรื่อง พระจันทร์ล้อนทีออนแอร์แล้วนะคะ
นิยายเรื่อง "พระจันทร์ล้อนที" เป็นนิยายเรื่องที่สองของ "นิยายชุด ดวงใจไร่รัก"
นิยายชุดนี้มีทั้งหมดสามเรื่อง
ภมรอ้อนตะวัน ตะวัน - ภุมริน (จบแล้ว) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50942.0
พระจันทร์ล้อนที รัชพล - สิตางศุ์ (กำลังออนแอร์...) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
ปฐพีเคล้าเมฆา เพียงดิน - เมฆา (ยังไม่ออนแอร์)
ฝากติดตามนิยายชุดเรื่องนี้ด้วยนะคะ มาพบกับความรักฟิลกู๊ดของสามคู่สามรสในบ้านไร่ ที่จะทำให้คุณยิ้มไม่หุบ :m3:
พระจันทร์ล้อนที
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่รัชนะคะ จากเรื่องที่แล้วนั้นพี่รัชทำแสบกับน้องรินไว้เยอะ มาติดตามเรื่องของพี่รัชเองดีกว่าค่ะ เรื่องนี้ที่ชื่อพระจันทร์ล้อนที นทีในที่นี้คือนามสกุลของพี่รัช “รักษ์นที” เนื้อเรื่องจะแตกต่างจากเรื่อง ภมรอ้อนตะวัน ค่อนข้างจะมาก เพราะเรื่องนี้จะออกแนวเคร่งๆ ตามสไตล์คุณพี่รัชเค้าล่ะค่ะ แต่ก็ยังมีความโรแมนติกอยู่นะ
ใครไม่เคยอ่านเรื่องแรกของนิยายชุดนี้ ไปตามอ่านภมรอ้อนตะวันได้ค่ะ แต่ไม่อ่านเรื่องนั้นก่อนก็สามารถอ่านเรื่องนี้เข้าใจได้ค่ะ
ฝากเรื่องของพี่รัชด้วยนะคะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51978.0
สวัสดีค่ะ ^^ ไม่ได้เข้ามาพูดคยซะนานเลย เรามีเรื่องจะมาแจ้งค่ะ
ตอนนี้นิยายทั้งสามเรื่องจะวางจำหน่ายที่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ วันที่ 17 - 28 ตุลาคม 2561 นี้ค่ะ
:katai4:
จะเป็น Box Set ทั้งหมด คือ ภมรอ้อนตะวัน พระจันทร์ล้อนที และปฐพีเคล้าเมฆา
หรือถ้าใครซื้อภมรอ้อนตะวันไปก่อนหน้าแล้ว สามารถซื้ออีกสองเล่มพร้อมกล่อง Box Set ได้ค่ะ
:-[
ตามลิ้งค์ที่เฟสบุักของเฮอร์มิทเลยค่ะ
https://www.facebook.com/HermitBooks/photos/a.359474807434062/1825847777463417/?type=3&theater