คริสโตเฟอร์
ผมขับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบท์มาส่งเชอรี่แฟนเก่าของผมอย่าคิดว่าผมอยากจะกลับไปหาเขานะไม่ใช่ผมมีบางสิ่งที่ต้องให้เธอช่วยผมยอมโดนด่าภายหลังหากเธอรู้ความจริงว่าผมแค่หลอกใช้เธอ เพราะว่าเชอรี่คือคนที่กายมันหลงรักเชอรี่จะสามารถเอาความลับจากไอ้พี่กายมาให้ผมได้
“ทำไมมาส่งเชอรี่ที่บ้านละเราไม่ไป...เออ..ไป..”เชอรี่พูดทำหน้างอเมื่อก่อนนะใช้ผมกับเชอรี่เข้าโรงแรมด้วยกันบ่อยแต่ทว่าผมกับเธอเปลี่ยนไปแล้วเมื่อก่อนผมแค่อยากได้เพราะว่าเธอสวย
“เอานะไว้ก่อนนะคะว่าแต่พรุ่งนี้ใช่ไหมค่ะที่”
“พี่ต้องการอะไรคืนเหรอและมันสำคัญมากเหรอคะ”
“สำคัญซิค่ะ...เพราะพี่อาจจะถูกไล่ออกเชอรี่ก็รู้นี้ว่าไอ้กายนะมันรักและหลงเชอรี่มากแค่ไหน...และมันก็กัดพี่ไม่ปล่อยเลยนะคะคนดี” ผมอ้อนเชอรี่ ผมใช้นิ้วไต่ไปตามแก้มเนียนใส่นั้นเบาๆ เธอยิ้ม
“เข้าบ้านเถอะค่ะพ่อเชอรี่ยืนมองอยู่แล้วอย่าทำให้ท่านไม่เชื่อใจในตัวพี่อีกเชอรี่อาจจะไม่ได้เจอพี่นะคะ” ผมบอกเธอ เชอรี่เขย่งปลายเท้าเพื่อจะหอมแก้มของผมตอนแรกผมทำท่าจะขัดแต่ถ้าผมขัดเธอจะรู้ทันทีผมเลยต้องยอมให้เธอทำเธอหอมแก้มผมเสียงดัง
พอเชอรี่ผ่านพ้นประตูเข้าบ้านไปผมก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาปาดเช็ดที่แก้มของผม ก่อนจะรีบบิดรถออก ผมคงกลับไปนอนบ้านพักไม่ได้ ผมคงต้องไปนอนกับไอ้โป้งที่โรงพยาบาลไอ้กายมันต้องชดใช้ผมจะขึ้นไปหาหลักฐานทุกอย่างที่มันทำเอาไว้
ผมขับรถมาถึงโรงพยาบาลและเดินขึ้นไปหาไอ้โป้งที่ห้องพักพิเศษ ผมเห็นโป้งนั่งหลับมือก็กุมมือปันปันไว้สายน้ำเกลือที่ห้อยอยู่คนที่นอนก็ยังหลับไหลเพราะฤทธิ์ยา
“อ้าวคริส” โป้งลืมตาขึ้นมองผม ผมพยักหน้าว่าผมเอง ผมทรุดตัวลงนั่งที่โซฟา
“เชอรี่ละ”
“ไปส่งบ้านแล้ว”
“มึงกำลังทำอะไรอยู่วะมึงจะกลับไปหาเชอรี่อย่างนั้นเหรอวะ” โป้งถามลุกมาหาผม มานั่งข้างๆผม
“กูไม่ได้อยากกลับไปแต่กู...เชื่อว่าไอ้กายมันเป็นคนอยู่เบื่องหลังวะและมันต้องนัดไอ้พวกนี้มาอีกแน่ๆ ” ผมพูดกับไอ้โป้ง ไอ้โป้งมันมองหน้าผม ผมรู้ว่ามันอยากจะแก้แค้นให้ปันปัน มันคงไม่รอให้กฏหมายแน่นอนเพราะมันไม่เชื่อว่ากฏหมายจะทำอะไรพวกมันได้
“กูช่วย” โป้งมันหันมาหาผม
“อย่ามึงดูแลปันปันกูกลัวมันทำอีกมันต้องการมึงตอนนี้โป้ง”
“และกูไม่สนใจอะไรแล้วมันทำกับเพื่อนๆกูมาเยอะแล้วและเรื่องพวกนี้มันก็มาจากกู” ผมพูดกับไอ้โป้ง
“มึงไม่บอกครูเขม”
“พี่เขมห้ามกูแน่ๆ”
“ก็เพราะว่าเขารักมึงเขาเป็นห่วงมึงและกูรู้ว่าวันนี้เขาทำโทษมึงเพราะครูเขมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับปันปัน ” ผมก้มหน้าลง ผมรู้ว่าพี่เขมเสียใจแค่ไหน ผมรู้ดีแววตาคู่นั้นที่มองผม ผมยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง
“กูไม่อยากให้พี่เขมเดือดร้อนเพราะกูอีกกูเชื่อว่าพ่อมันเต้นแน่ถ้าลูกเขาโดนข้อหาหนัก” ผมพูดและมองหน้าไอ้โป้ง
“อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่เขม” ผมพูดกับไอ้โป้งมันก็มองหน้าผม พร้อมกับพ่นลมออกมาจากปาก
“กูขอละโป้ง....กูยอมให้พี่เขมมองกูไม่ดี...แต่กูจะให้พี่เขมเดือดร้อนเพราะกูอีกไม่ได้...ทุกอย่างมันควรหยุดได้แล้ว” ผมพูดกับไอ้โป้ง
“หมับ”โป้งมันโอบไหล่ผม
“รอให้ปันปันมันแข็งแรงก่อนได้ไหมวะ” โป้งถามผม
“กูยิ่งลงมือเร็วทุกอย่างจะได้ยุติเร็วขึ้น คือเรียกว่ายิ่งเร็วยิ่งดีโป้งเพราะว่ามันควรจะได้รับบทเรียน” ผมพูดแค่นั้น
“คืนนี้กูนอนด้วยวะกูไม่กล้ากลับไปหาพี่เขมวันนี้กูยังไม่กล้ามองหน้าเขาเลย” ผมพูด
“กูเห็นแล้วแหละ” ไอ้โป้งมันพูดและมันก็ส่งหมอนกับผ้าห่มมาให้ผม
“มึงนอนบนโซฟาวะกูจะนอนข้างๆปันปัน...กูกลัวมันหายไป..กูใจหายที่เห็นสภาพปันปันแบบนั้นกูโคตรกลัวเลยวะกูกลัวเสียมันไปวะคริส..กูเพิ่งจะรู้ว่ากูรักมันมากวะ” โป้งพูดด้วยน้ำเสียงที่บอกได้ว่ามันเป็นห่วงใยปันปันมากแค่ไหน มันคงรู้แล้วซินะว่ามันควรรักใครในตอนนี้ ปันปันดูแลมันดีตั้งแต่เข้ามาเรียนภาพที่มันสนิทกับปันปันไหนก็ไปด้วยกัน ปันปันมันตามใจโป้งทุกอย่างไม่เคยขัดใจเลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ครูเขมชาติ
ผมตื่นมาแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัวแอบเผลอมองที่นอนว่างๆ เขาไม่ได้กลับมานอนกับผมเหมือนที่ผ่านมา ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วซินะ ผมรีบแต่งตัวเพื่อจะทำหน้าที่ยืนเวรหน้าประตูตอนเช้าวันนี้ ผมไม่ต้องทำอาหารเช้าหรอกมั้ง ผมขับรถอออกมาจอดไว้ที่ด้านหน้า ผมจะไปหาปันปันไปสอบถามเรื่องที่เกิดขั้นผมรู้ว่ามันหนักแต่ผมต้องถามเพื่อหาวิธีช่วยเหลือเขาและเรื่องนี้พ่อแม่ปันปันต้องรู้แน่ๆ
“สวัสดีค่ะครู..ถาวรได้ยินเด็กๆคุยกันว่าเมื่อคืนครูพาปันปันไปโรงพยาบาล ..เด็กเป็นอะไรเหรอค่ะ”
“เออ...คือ...มีดบาดนะครับมีดบาดที่ข้อมือหมอเย็บทำแผลเรียบร้อยแล้วครับ”
“อ้าวเหรอ...”
“นอนโรงพยาบาลเมื่อคืนวันนี้ผมจะไปดูเขาอยู่เหมือนกันหลังจากสอนคาบแรกเสร็จแล้วนะครับ”
“ค่ะ...นึกว่าเป็นอะไรมากเห็นเด็กบอกว่าเลือดไหลเยอะเลย”
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วนะครับแต่ผมคงต้องโทรแจ้งพ่อแม่ของปันปันให้ทราบผมคงต้องไปขอเบอร์ติดต่อที่ฝ่ายกองทะเบียนใช่ไหมครับครูเก่ง”
“ใช่ค่ะพี่นิดดูแลอยู่ขอพี่นิดได้เลยค่ะ” ครูเก่งพูดผมพยักหน้าผมหันมาทำหน้าที่ยืนหน้าประตูเช่นตรวจดูเสื้อผ้าหน้าผมเด็กนักเรียนสักพักก็เห็นรถบิ๊กไบท์ขับผ่านเข้าไป นี้เขาเพิ่งจะกลับมาตอนเช้าอย่างนั้นเหรอคงไม่ต้องถามหรอกมั้งว่าเขาไปทำอะไรมาก เมื่อคืนหายไปด้วยกันแบบนั้น
“ครูกับคริสมีปัญหากันหรือเปล่าคะเรื่องเมื่อวานที่ครูทำโทษเขา”
“เออ..” ผมเงียบพูดไม่ออกเหมือนกันมันเร็วมาก
“เขาคงแค่เสียใจนะคะเด็กวัยรุ่นก็แบบนี้นะคะ” ครูถาวรพูด พอดีนายกายกับนายอั๋นเดินเข้ามาทางประตูพอดีเลย
“นายกายชายเสื้อนะเอาเข้ากางเกงด้วยซิ” ครูถาวรเอ็ดนายกายเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“แค่ก่อนนะคะเชอรี่ได้ค่ะพี่จะโทรหาทันทีคิดถึงพี่ขนาดนั้นเลยเหรอคะได้ซิค่ะ” ผมหันไปมองทำไมชื่อเชอรี่เหมือนกันเลย และกนายกายก็เก็บมือถือพร้อมกับหยัดชายเสื้อเข้ากางเกงเขามองผมพร้อมแสยะยิ้มให้ผม
“มันยังไม่สายนะกายถ้านายจะหยุดทำเรื่องไม่ดี” ผมพูดกับนายกายเขามองหน้าผมแบบไม่เกรงกลัวอะไร
“ใครละจะหยุดผม...ครูเหรอ...เราต่างกันครู” นายกายพูดก่อนจะเดินออกไปแบบไม่สนใจครูถาวรมองหน้าผมและมองนายกายที่เดินผ่านผมไป
“ครูเขมมีเรื่องอะไรอีกเหรอคะ”
“ผมยังหาหลักฐานไม่ได้ถ้าผมหาหลักฐานได้ทุกคนจะได้รู้ครับ” ผมพูดและหันกลับมาทำหน้าที่ครูยืนเวรตามปกติ ทำไมเรื่องวุ่นวายพวกมันถึงได้เกิดขึ้นหรือว่ามันผิดตั้งแต่ผมมาเป็นครูที่นี้ซะก็ไม่รู้
“นายคริสจะไปสอบเมื่อไหร่คะวิชาแรกเห็นเขาบอกว่าคณิต”
“วันจันทร์หน้านี้นะครับ” ผมพูดแต่ผมเองยังไม่รู้เลยว่าเขาจะไปหรือเปล่า ผมยืนเวรหน้าประตูสักพักก็กลับขึ้นห้องพักครูผมก็เห็นถุงน้ำเต้าหู้วางอยู่บนโต๊ะ ผมหันไปมองรอบๆห้องเห็นพี่นิดนั่งอยู่
“พี่นิดครับใครซื้อน้ำเต้าหู้มาให้ผมเหรอครับ”
“อนุชิตค่ะเชาเอามาวางไว้นะคะครูเขม”ครูนิดเงยหน้าจากพิมพ์ดีดตอบผม ผมพยักหน้า ผมก็เลยแกะทานซะเลยกำลังหิวอยู่เหมือนกัน ว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าของผมไม่ใส่น้ำตาลทรายถึงใส่ก็ใส่น้อยเต็มทีและไม่ใส่เม็ดแมงลักผมไม่ชอบ ผมนั้งดื่มน้ำนมถั่วเหลืองที่ครูนิดบอกว่าอนุชิตเอามาให้จนหมดแก้ว
“ครูเขมคะผู้อำนวยการเรียกนะคะคงเป็นเรื่องที่เด็กในหอคุยกันเรื่องนายปันปันนะคะ” ครูสมพิศเดินมาบอกผม ผมก็รีบลุกขึ้นผมเดินตรงไปหาท่านผู้อำนวยการทันที ผมก็คิดว่าจะเข้ามาหาท่านเหมือนกันแต่ท่านเรียกผมซะก่อน
“ก๊อกๆ” ผมเคาะประตุหน้าห้องทำงานท่าน
“เชิญครับ”
“ผู้อำนวยการครับสวัสดีครับ”
“เชิญนั่งครับครูเขม...ผมได้ยินเด็กๆพูดกันว่านายปันปันมีเรื่องเมื่อวานเห็นเด็กที่พักหอข้างๆปันปันบอกว่าเลือดไหลเต็มข้อมือเลยเกิดอะไรขึ้นครับครู” ผู้นวยการมองหน้าผม ผมเองก็ทำท่าคิดว่าจะบอกความจริงดีไหม
“บอกผมเถอะครับครู”
“ตอนแรกผมก็ไม่ทราบครับว่าเกิดอะไรขั้นแต่นายโจ้และนายอาร์ทพูดว่าปันปัน...ถูกขมขืนในห้องน้ำชายที่ถูกปิดตายไม่ได้ใช้แล้วนะครับตอนแรกผมไม่ทราบเรื่องนี้เลยจิรงๆนะครับผู้นวยการผมมาทราบตอนที่นายปันปันกรีดข้อมือตัวเองแล้ว” ผมพูดผู้อนวยการมีสีหน้าตกใจ
“ฝีมือของใครครับครู”
“ผมไม่มีหลักฐานแน่ชัดครับผมกำลังสืบคนแรกคงเป็นเอกรินทร์ก่อนแต่ผมจะให้นายกายรู้ไม่ได้ว่าผมกำลังสืบหาหลักฐานอยู่”
“นายกายอีกแล้วเหรอครับผมคงไม่ไหวแล้วละครับครูท่าหากว่าเป็นเขาจริงๆ “ ผู้อำนวยการพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาทางปากแบบเหนื่อยเต็มที่
“นายปันปันเป็นยังไงบ้างครับครู”
“ผมจะไปเยี่ยมเขาหลังจากหมดชั่วโมงสอนคาบที่สองครับท่านและผมจะโทรบอกพ่อแม่ปันปันด้วยนะครับ”
“ดีครับพ่อแม่เขาควรจะได้รู้นะไม่ใช่เอาลูกมาทิ้งไม่ดูดำดูดี” ผู้อำนวยการพูด
“ครูหาหลักฐานมาให้ได้ผมจะได้เรียกพ่อนายกายมารับฟังว่าลูกชายเขาเป็นยังไงและลูกชายคนเล็กคงต้องดูพฤติกรรมก่อนจะให้มาเรียนที่นี้ผมไม่อยากให้เด็กที่มาเรียนโดยใช้อิทธิพลพ่อทำความเดือดร้อนนะครับ”
“อย่าเพิ่งเลยนะครับท่าน ผมเชื่อว่าเด็กเหล่านี้ยังกลับตัวได้อยู่นะครับ”
“ครูจะแก้ไขยังไงเขาไม่ใช่ผ้าขาวบางแล้วนะครับครู เปรียบก็เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกสีตกใส่ซักอย่างไรก็ไม่กลับมาขาวเหมือนเดิม” ผู้อำนวยการพูด
“ผมยังอยากให้เขากลับตัวเป็นคนดีครับท่าน”
“ถ้าครูทำได้ก็ดีได้บุญด้วยนะครับ....แต่ผมคนหนึ่งละที่ไม่ไหวแก่แล้วไปสู้รบคงจะไม่ได้ไหว” ผู้นวยการพูดผมพยักหน้า ผมลุกขึ้นเดินลงไปช่วยครูดูแลนักเรียนที่เข้าแถวตามปกติ ผมเห็นคริสโตเฟอร์ยืนเข้าแถวเงียบๆ ผมเองก็อยากขอโทษที่ผมทำโทษเขาวันนั้นผมเองก็ผิดที่ไม่ฟังเขาเลย หลังจากกิจกรรเข้าแถวเสร็จเรียบร้อยผมก็เดินออกเพื่อดักนายเอกรินทร์เขาคงรู้ดีว่าผมดักรอเขา
“เอกรินทร์” ผมเรียกนายเอกรินทร์ดูสีหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที
“ขอเวลาครูสักสิบนาทีคุยกับเธอได้ไหม” ผมถามเอกรินทร์
“ผมไม่รู้เรื่องที่เกิดกับปันปันครับครู”
“เธอรู้ว่าครูจะถามอะไรนั้นแปลว่าเธอรู้เธอจะช่วยปกปิดการกระทำผิดแบบนี้ของเพื่อนเธอไม่ได้นะเอกรินทร์เขาควรได้รับการแก้ไขไม่อย่างนั้นมันจะติดตัวเขาไปจนกตาย” ผมพูดกับนายเอกรินทร์ ดูเขาร้อนรนที่จะคุยกับผม
“ผมไม่พร้อมคุยตอนนี้ครับครูผม...ผมจะไปคุยกับครูที่บ้านพักนะครับผมขอร้อง” เอกรินทร์บอกผม ผมพยักหน้าว่าได้และเขาก็รีบเดินกลับขึ้นห้องเรียนไปทันที ผมคิดว่านายกายคงจะขู่อะไรเขาไว้แน่ๆ นายกายยืนมองก่อนจะรีบเดินกลับขึ้นห้องเรียนเช่นกัน ผมเดินขึ้นห้องพักครูหยิบหนังสือไปทำการสอนผมเห็นขวดน้ำเก็กฮวยวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมกับกระดาษโน๊ต “ ^ __^ “ เหมือนกับที่ติดไว้ที่ถุงน้ำถั่วเหลืองผมไม่เคยบอกนายอนุชิตเลยนะว่าผมชอบดื่มน้ำเก็กฮวยนะ ผมรีบเดินขึ้นบันไดเพื่อหวังจะได้เจอนายคริสโตเฟอร์
“คริส” ผมเรียกเขาขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าห้องเรียน
“พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้ถามความจริงกับเรา แต่ถ้าเราเลือกจะไปมีชีวิตที่ปกติพี่ยินดีนะ”
“พี่ขอบใจนะน้ำเต้าหู้กับน้ำเก็กฮวย”
“ครับ” คริสโตเฟอร์พูดแค่นั้นก็เดินเข้าห้องเรียนไปผมก็เดินหันหลังออกเพื่อขึ้นไปทำการสอนอีกชั้นนี้เขาเปลี่ยนความคิดไปแล้วใช่ไหม ผมเสียเขาไปแล้วใช่ไหม ผมเดินขึ้นห้องเรียนชั้นที่ผมทำการสอนเป็นคาบแรก ม.1/2 ห้องนายอนุชิต ผมก็ทำการสอนตามปกติผมโตพอจะแยกแยะเรื่องส่วนตัวได้ดีจะต้องไม่กระทบกับการสอนของผมเด็ดขาด
พอผมสอนเสร็จผมก็ขับรถออกจากโรงเรียนเพื่อตรงไปหาปันปัน ไปถามเหตุการณ์เอาเท่าที่เขาจำได้ผมรู้ว่าเจ็บปวดแต่ผมต้องรู้ข้อมุลมากกว่านี้ ผมก็ได้โทรแจ้งพ่อแม่ของปันปันเขาทราบเรื่องแล้วและกำลังเดินทางมาหาปันปันที่โรงพยาบาลเช่นกัน ผมจอดรถและรีบเดินขึ้นไปหาผมแวะหาซื้อของฝากพวกนมเพื่อเขาจะทานได้
“ครูเขมสวัสดีครับ” โป้งกำลังป้อนข้าวปันปันอยู่พอดีเลย
“สวัสดีเป็นไงปันปัน” ผมถามคนที่นอนผมรู้ว่าที่ผ่านมานะฝันร้าย
“ครูขอบคุณนะครับที่พาผมส่งโรงพยาบาล” ปันปันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ผมส่งนมที่ผมซื้อมาให้ปันปันกับโป้ง
“ถ้าอย่างนั้นโป้งลงไปหาอะไรทานก่อนเถอะนะ” ปันปันบอกโป้ง ผมพยักหน้าว่าผมอยู่ดูแลปันปันให้ พอโป้งออกไปจากห้องผมก็นั่งลงที่ตรงขอบเตียงคนไข้ ปันปันมองหน้าผมน้ำใสๆไหลรินจากลูกผู้ชาย
“พ่อต้องไม่ให้ผมเรียนแน่ๆเลยครู”
“อย่าเพิ่งคิดมากซิปันปัน...” ผมพูด
“ฮือๆ...ครู...ทำไมผมต้องเจอเรื่องเชี้ยๆพวกนี้ด้วยอะครู”
“ฟู่” ผมพ่นลมหายใจออกมาหนึ่งที
“ปันปัน...ทุกคนในชีวิตต้องเจอเรื่องแย่ๆ หนึ่งครั้ง แค่หนึ่งครั้งหรืออาจจะมากกว่านั้นแต่ที่แย่ที่สุดนะแค่หนึ่งครั้ง”
“และถ้าเราผ่านเรื่องที่แย่ที่สุดไปได้เรื่องอื่นก็จะแค่แย่แต่ไม่แย่ที่สุด....ครูก็เหมือนกันเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมายมีทั้งดีและแย่ และมีทั้งแย่ที่สุดและแย่รองลงมาแต่นี้มันคือบททดสอบของโลกใบนี้ปันปัน”
“มันแค่ฝันร้ายแต่อาจจะใช้เวลาหน่อยไม่ใช่แค่ตื่นมาแล้วหาย...ความเข้มแข็งเท่านั้นที่จะทำให้มันดีขึ้นถ้ายิ่งเข้มแข็งมากเท่าไหร่มันจะย่นระยะเวลาความเจ็บปวดให้สั้นลง”
“รู้ไหมว่ากว่าจะมาเป็นชีวิตนะมันยากแค่ไหนกว่าเราจะเติบโตจากเด็กตัวแดงๆจนปีกกล้าขาแข็งได้ขนาดนี้แต่เธอจะมาจบมันเพียงเพราะคนชั่วไม่คุ้มเลยปันปัน” ผมพูดปันปันก็ปาดน้ำตา
“ชีวิตเรามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและอันไหนที่เจ็บปวดก็ทิ้งมันไปชีวิตเรายังมีเรื่องที่ดีอีกมากมายรออยู่”
“สัญญากับครูซิว่าจะไม่ทำอีกไม่ทำแบบนี้ครูเสียดายเรานะครูอยากเห็นอนาคตลูกศิษย์ครูอยากเห็นความสำเร็จลูกศิษย์อย่าทำให้ค่าน้ำนมทีพ่อแม่เธอมอบให้สูญเปล่า” ผมพูดปันปันร้องไหและโผ่มากอดผม
“ครูจะหาหลักฐานเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้นะ” ผมพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวปันปันเบาๆ
“ตอนที่พวกมันทำกับผม ผมดึงสร้อยคอพวกมันไว้ได้แต่ผมไม่กล้าให้โป้งดูมันอยู่บนหัวเตียงนอนผมนะครับครู”
“ครูอย่าให้โป้งดูนะมันต้องไปเอาเรื่องพวกมันแน่ๆ พวกมันไม่ใช่คนในโรงเรียนหรอก”
“แล้วพวกมันเข้ามาทำร้ายเธอได้ยังไง”
“ผมได้ว่ามีคนจ้างพวกมันมา”
“อืมม..ช่วงนี้พักผ่อนนะปันปัน...พยายามอย่าไปคิดมากถ้าทำไมได้นั่งสมาธิเพื่อจะช่วยได้” ผมพูดปันปันปาดน้ำสองแก้มผมได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากข้างนอก
“ม๊ากับเตี่ยคงมาแล้วแหละครู” ปันปันพูดด้วยสีหน้ากังวลเสียงประตูถูกเปิดเข้ามาผู้หญิงเลยวัยกลางคนตัวผอมๆมวยผมตรงดิ่งเข้ามาหาปันปันพร้อมกันสวมกอดด้วยความรักคงเดาได้ไม่ยากว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
“ม๊า..ฮือๆ”
“อาปันปันทำไมถึงทำแบบนี้ละลูกทำแบบนี้ทำไม” แม่ของปันปันกอดปันปันพากันร้องไห้
“ปันปันเราเป็นอะไรทำไมถึงได้ทำอะไรงี่เง่าแบบนี้...อั๋วะส่งเรามาเรียนให้ลื้อมีการศึกษาหวังจะให้ไปช่วยกิจการที่บ้านดูลื้อซิ “เตี่ยของปันปันมาถึงต่อว่าปันปันใหญ่เลย
“พอแล้ว...อาเก๊า..ลื้อไม่เห็นเหรอว่าอาปันปันมันไม่สบายเลิกพูดไม่ดีกับลูกได้ไหม” แม่ของปันปัน
“อั๋วถามว่าเรานะเป็นอะไรหรือว่าไอ้โรคเก่าลื้อกำเริบฮะไอ้โรคตุ๊ดโรคอะไรนั้นนะ”
“อั๊วะบอกให้ลื้อพอไง...อาเก๊า” แม่ของปันปัน
“เออ...คุณพ่อครับผมว่าใจเย็นๆก่อนดีกว่าไหมครับ”
“ลื้อเป็นใคร”
“ผมเป็นครูครับ”
“เป็นครูอย่าบอกนะว่าลื้อกับลูกอั๋วเป็นแฟนกัง”
“เออ...ไม่ใช่..ครับ”
“เตี่ยครูเขาไม่ใช่แฟนผมหรอก แฟนผมไม่ใช่คนนี้ “ ปันปันบอกกับพ่อเขา
“แฟนเราผู้หญิงหรือผู้ชายละห๊ะ!”
“เตี่ยผมทำไม่ได้ ก็ผมเป็นไปแล้ว เตี่ยไม่เคยเข้าใจผมเลย ฮือๆ ..และผมก็ไม่อยากเป็นแบบนี้นะเตี่ย..ฮือๆแต่มันเลือกไม่ได้นิ” ปันปันพูด
“ทำไมละเลือกไม่ได้และอย่าบอกนะว่าที่เรากรีดข้อมือเพราะว่าเรื่องนั้นนะ” พ่อของปันปันพูด
“ตกลงมันเป็นอะไรครู” พ่อของปันปันหันมาถามผมมือก็ชี้ไปทางปันปัน
“เออ..เขา...”
“ผมถูกผู้ชายข่มขืนเตี่ย...ผมถูกผู้ชายข่มขืน..ฮือๆ” ปันปันพูด แม่ของปันปันถึงกับยกมือขึ้นทาบอกและรีบดึงลูกชายเข้ามากอด
“อาหรายนะ ...ครู...มีแบบนี้ด้วยเหรอ...” พ่อของปันปันหันมาถาม
“ใจเย็นๆครับ....ผมยังหาหลักฐานมาไม่ได้..แต่ที่ผมอยากให้คุณพ่อเห็นใจปันปันดีกว่าไหมครับถ้ามัวแต่มาหาเหตุผลว่าเพราะเขาเป็น...ตุ๊ดหรือเกย์อย่างที่คุณพ่อเข้าใจ..สภาพจิตใจที่แย่ๆ มันก็แย่ลงไปอีก”
“ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ข้างเขาในวันที่เขาล้มแล้วเขาจะลุกขึ้นมาได้ยังไงตอนนี้สภาพจิตใจปันปันย้ำแย่พออยู่แล้วนะครับ”
“ผมเข้าใจนะครับว่าคุณพ่อไม่อยากให้ลูกถูกมองว่าผิดปกติ”
“ครูจะให้ผมยอมรับมันหรือไงละครู”
“เขาเป็นลูกคุณหรือเปล่า...ทำไมต้องแคร์สายตาใครมากกว่าคนที่เป็นลูกละครับคุณพ่อ..และผมก็ไม่เห็นว่าปันปันจะทำตัวเหลวไหลแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเขาตอนนี้เป็นเพราะคนที่คนอื่นไม่ใช่ตัวเขานะครับคุณพ่อ”
“ผมไม่ได้ให้คุณพ่อยอมรับ..ในวันนี้...คุณพ่อจะรอในวันที่เขาประสบความสำเร็จแล้วก็ได้แต่วันนี้สภาพจิตใจเขาแย่มากพอแล้วอย่าซ้ำเติมเลยครับไม่อย่างนั้นคุณพ่ออาจจะเสียเขาไป” ผมพูด
“ฉันเห็นเห็นด้วยกับครูนะ...ลื้อไม่รักลูกจริงกะอีแค่ลูกไปรักไปชอบผู้ชายลื้อก็ทำเป็นจะเป็นจะตาย ลื้อมันรักตัวเอง”
“อั๋วจะอยู่กับลูกถ้าลื้อยังเห็นแก่ตัวแบบนี้” แม่ของปันปันลุกขึ้นหันมาต่อต้านผู้เป็นสามีตัวเอง ผมรู้ว่าปกติผู้หญิงที่เป็นภรรยาคนจีนแทบจะไม่ได้เสนอความคิดอะไรทั้งนั้นเพราะอำนาจการตัดสินใจคือสามีเท่านั้นแต่นี้เธอออกมาเพื่อปกป้องลูกตัวเอง
“เตี่ย...อย่าทำร้ายปันปันอีกเลยนะฉันขอ” ผู้หญิงคนที่ยืนอยู่น่าจะพี่สาวปันปัน
“เตี่ยอั๋วะขอโทษ...” ปันปันพยายามยกมือข้างเจ็บเพื่อไหว้ขอโทษพ่อตัวเอง เขายืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร
“ลื้อจะกลับไปอยู่บ้านไหม”
“ผมจะเรียนที่เตี่ย”
“ทำไมละม๊ากลัวลื้อทำอีกไปอยู่กับม๊านะปันปัน”
“อั๋วะจะไม่ทำแล้วม๊าอั๋วะสัญญา” ปันปันพูด ผมยิ้มที่เห็นเขาพูดแบบนี้
“ปันปัน” ผู้หญิงที่เดินแทรกผู้เป็นพ่อเข้าไปหาปันปัน
“เจ้..อั๋วะขอโทษ”
“อย่าทำอีกนะม๊าเป็นห่วงเรามากนะม๊านะไม่กินข้าวเลยนะที่รับโทรศัพท์ว่าเรานะทำร้ายตัวเอง อย่าทำอีกนะปันปัน”
“แล้วนี้ค่ารักษาพยายาล”
“จะให้ผมรับผิดชอบให้ก็ได้นะครับ เขาเป็นลูกศิษย์ผม”
“เมื่อวานใครพาเราโรงพยาบาลละปันปัน”
“ครูเขมครับเจ้” พี่สาวปันปันหันมาพยักหน้าขอบคุณผม โป้งเดินเข้ามาพอดีพร้อมกับถุงโจ๊ก โป้งตกใจเหมือนกันที่เห็นครอบครัวปันปัน
“สวัสดีครับเตี่ย สวัสดีครับม๊า สวัสดีครับเจ้” โป้งยกมือไหว้ก่อนจะเดินแทรกตัวไปหาปันปัน ทุกคนมองโป้งกันหมด
“ม๊า...อั๋วะอกตัญญูที่เลือกทำให้เตี่ยเสียใจแต่อั๋วะเชื่อว่าคนที่ปันปันเลือกนะเขารักปันปันมากนะม๊า.”
“อาปันปันจะบอกม๊าว่านี้แฟนเราเหรอ”
“ใช่ม๊าโป้งเป็นแฟนผมม๊า” พอปันปันพูด เตี่ยของปันปันสะบัดหน้าไปมองโป้งทันที
“โป้งนะดูแลปันปันดีนะม๊า ดีมากเลยนี้ก็มานอนเฝ้าปันปันทั้งคืนเลยม๊า..นะม๊า”
“ขอบใจนะโป้ง...ม๊าฝากอาปันปันด้วยละ”
“ตกลงเราไม่กลับใช่ไหมปันปัน” เตี่ยของปันปันถาม
“ไม่เตี่ยผมจะเรียนให้จบแล้วผมค่อยกลับ...ผมกับโป้งคุยกันว่าจะไป...เปิดร้านกาแฟสดที่บ้านของโป้งแม่ของโป้งเขาทำเบเกอรี่นะเตี่ยตอนปิดเทอมและจะเอาที่แม่ของโป้งไปขายที่ตลาดนัดเปิดท้าย” ปันปันพูด
“จะได้สักกี่บาทตามใจก็แล้วกัน...เยี่ยมกันเสร็จแล้วก็เตรียมตัวกลับ” เตี่ยของปันปันเดินออกไปทันที ผมเชื่อว่าสักวันเขาจะให้อภัยปันปัน แม่ของปันปันก็กอดปันปัน
“อยากได้อะไรบอกเจ้นะเจ้จะส่งมาให้ปันปัน...เงินนะเจ้โอนให้ตลอดอยู่แล้ว”
“ขอบใจนะเจ้หงษ์”
“ถ้าอย่างนั้นม๊ากลับก่อนนะ...เตี่ยเรานะปากกับใจไม่ตรงกันหรอก”
“ครูคะอิฉันขอบคุณนะคะ....” แม่ของปันปันพูดก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน ผมเองก็คิดเช่นนั้นว่าพ่อของปันปันนะแข็งนอกแต่อ่อนใน โป้งก็ยกมือไหว้แม่ของปันปัน
“ม๊าฝากปันปันด้วยนะโป้ง ปันปันนะเขาไปบ้านครั้งล่าสุดเขาเล่าให้ม๊าฟังว่ามีเพื่อนชื่อโป้งดีมาก” ม๊าของปันปันพูด โป้งพยักหน้ารับคำ แม่กับพี่สาวของปันปันเดินออกไป ผมเหลือบมองเวลาผมต้องกลับแล้วผมมีสอนต่อช่วงบ่าย
“มีอะไรโทรหาครูนะโป้งและถ้าหมอบอกว่ากลับได้เมื่อไหร่ก็บอกครู ครูจะได้มาเคลียร์ค่าใช่จ่ายให้” ผมบอกทั้งคู่
“ครูเขมครับ” โป้งเรียกผม ผมหันมามองหน้าโป้ง
“เออ...ครู...อย่าเข้าใจไอ้คริสมันผิดเลยนะครับ...ช่วงนี้ที่มันหลบหน้าครูเพราะว่า...มัน..ไม่อยากทำให้ครูเดือดร้อนอีก...มันรักครูมากนะครับ” โป้งพูดกับผมตอนที่ผมกำลังจะหันหลังเดินออก ผมพยักหน้าหน้าเบาๆและเดินออกมา นี้แสดงว่านายคริสโตเฟอร์กำลังคิดจะทำอะไรอีกแน่ๆ ยิ่งทำให้ผมเป็นห่วง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ก่อนอื่นคนแต่งต้องขอโทษที่หายไปเกือบอาทิตย์ คนแต่งป่วยเป็นโรคกระเพาะ วันนี้เอามาลงให้แล้วนะคนอ่านอย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะ
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมแม้น คะแนนบวกเป็ด ขอบคุณนะคะ
รักคนอ่านจัง