พิเศษของโป้งVSปันปัน ขอแค่โป้งจะไม่ปล่อยมือปันปัน
ผมเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะเข้าแถว ผมได้ยินเสียงคนคุยกันทางด้านท้ายตึกผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงไอ้กาย ผมหันมามองหน้าปันปัน ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางเดินไปแต่ปันปัน ดึงแขนผมไว้
“อย่าเลยโป้ง...ปันปัน กลัวมันจะทำอะไรโป้งนะ”
“มันไม่กล้าหรอกน่า...” ผมหันไปบอกคนข้าง (ยิ่งนับวันก็ยิ่งรักผมเพิ่งจะรู้ว่าเป็นคนที่ถูกรักนี้มันดีแบบนี้นี้เอง ผมเดินออกไปยืนตรงมุมเสา
“จะมาเอาอะไรกี้..งานก็ทำไม่สำเร็จกะอีแค่เอายาไปใส่ไว้ในกระเป๋าให้คริสมันแค่นี้เธอยังทำพล้าดเลย” เสียงไอ้กายมันโวยวายใส่กี้
“แต่กี้ทำได้แล้วนะพี่ต้องไปโทษนางแก้มมันต่างหาก”
“ไม่รู้ละวันนี้พี่ต้องพากี้ไปดูหนังนะเราเป็นแฟนกันนะ”
“แฟนบ้าอะไรใครบอกเธอ..อ้อเลิกไปโพนทะนาบอกใครต่อใครนะว่าเธอเป็นเมียพี่...เลิกทำซะก่อนที่พี่จะเปิดเผยให้ทุกคนรู้ว่าพี่ไม่ใช่ผัวคนเดียวของเธอกี้” ไอ้พี่กาย ผมยืนกอดอกแสยะยิ้มอย่างสมเพศตนสวยประจำโรงเรียน กี้เธอยืนหน้าซี้ดเผือดไปเลย
“ทำไมละ พี่เป็นผัวกี้นะ..และมันก็เป็นเรื่องจริง!”
“หึๆ”เสียงหัวเราะที่เยือกเย็นของพี่กาย ไอ้นี้นะเหรอเรื่องฟันผู้หญิงทิ้งจะขึ้นชื่อแล้วทำไมคนสวยๆอย่างกี้ยังไปหลงมันอีกวะ ผมละไม่เข้าใจเลย
“นี้ไอ้อั๋นมันก็ผัวเธอ..ไอ้เอกอีกละ...ห๊ะ!”
“คิดเหรอว่าพี่จะเอาคนมากผัวอย่างเธอมาเชิดหน้าชูตาว่าเป็นแฟน เมีย ...ไปไหนก็ไปเลยไปกี้อย่าให้กูหมดความอดทนนะ”
“ฉันจะไปหาพ่อแม่พี่”
“ก็ไปซิ ...ท่านนะเข้าใจว่าของเล่นก็คือของเล่นและ...ลองดูนะว่าคลิปที่โดนพวกไอ้อั๋นกับไอ้เอกนะมันจะไม่แพร่ออกไปทั้งโรงเรียน...ก็ลองดู”
“ไอ้พี่กาย..ไอ้พี่ชั่ว..ฮือๆ..พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง..”
“หยุด!! ..อย่ามาทุบตีกูแบบนี้คราวหน้ามึงโดนแน่...กี้” ไอ้พี่กายมันง้างฝามือทำท่าจะตบกี้
“ดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง...อยากรู้ว่าจะดังเท่ากับความสวยเธอมั้ย..ไอ้คลิปที่โดนรุมนั้นนะ.แถมมันดูก็รู้ว่าเธอสมยอม” ไอ้กายนี้มันเลวได้ดีจริงๆ และกี้ก็วิ่งร้องไห้ออกไปผ่านพวกผมสองคนออกไป กี้หันมามองผมกับปันปันแว๊ปหนึ่ง
“กูจะทำยังดีวะ ...ถ้าไม่มีนางแก้มเข้ามายุ่งวันนั้นไอ้คริสมันคงถูกไล่ออกไปแล้ว” ไอ้กาย ผมเดินออกมาจากที่หลบมุม แม้ว่าปันปันจะดึงแขนผมไว้ก็ตาม ไอ้พี่กายมันหันมามองผม มีเพื่อนมันสองคนแต่ไอ้สองคนนี้มันไม่กล้ากับผมหรอก
“ยืนแอบฟังคนอื่นไม่มีมารยาทปะว่ะ”
“มารยาทไว้ใช่กับคนที่สมควรวะ แต่คนอย่างมึงนะไม่น่าจะได้สมควรได้รับหรอกไอ้กาย”
“มึงจะทำอะไรกูไอ้โป้ง”
“หมับ” ผมจับที่คอเสื้อมันทันที ไอ้กายมันหน้าซี้ดเป็นไก่ต้มทันที ผมดันมันอัดไว้กับกำแพงและหันไปชี้ไอ้สองตัวที่ยืนอยู่ว่าอย่าเข้ามาหาเรื่องเจ็บตัว มันก็ถอยหลังมันรู้จักผมดี
“เลิกยุ่งกับไอ้คริสซะ...ไม่อย่างนันมึงนะได้กลับไปนอนหยอดน้ำเกลืออีกรอบแน่...และกูนี้แหละที่จะต่อยมึงเอง..กูไม่แคร์หรอกถ้ากูถูกไล่ออกหรือพักการเรียนสาเหตุเพราะกูต่อยลูกตำรวจอาการสาหัส!” ผมพูด สีหน้าผมจริงจังแค่ไหน ดูหน้าไอ้กายก็รู้มันกำลังกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงในคอ
“ปึก” ร่างมันกระแทกกับกำแพง ไอ้กายมันไม่มีอะไรที่น่ากลัวหรอกสำหรับผม มันแค่มีสมุนและมีพ่อเป็นเกาะกำบังแค่นั้น
“พอเถอะโป้งอย่าไปกัดกับหมาบ้าอย่างมันเลยว่ะ” ปันปันเข้ามาดึงแขนผมไว้ ไอ้กายมันมองหน้าผม มือมันกำหมัดไว้แน่น
“โป้ง!” คริสโตเฟอร์ ไอ้อาร์ทและไอ้โจ้มันวิ่งมาทางท้ายตึกเช่นกัน
“ ไม่เอานะโป้ง ...” คริสโตเฟอร์มันดึงแขนผมไว้ พวกไอ้อาร์ทมันมองหน้าไอ้สมุนขี้ขลาดที่ยืนชิดติดกำแพงอยู่ จนกระทั้งไอ้อั๋นกับไอ้พี่เอกเดินเข้ามาพอดีมันคงปืนข้ามรั่วเข้ามา เพราะมันมาสายกันพอมันเห็นพวกผมเท่านั้นแหละกรูกันเข้ามาทันที
“พวกมึงมาซ่าอะไรกับเพื่อนกู” ไอ้พี่อั๋นมันยืนประชันหน้ากับผม ผมก็หันไปประชันหน้ากับมันแบบไม่กลัวเกรงอะไรทั้งนั้น
“มึงช่วยห้ามความบ้าของเพื่อนมึงหน่อยนะไอ้อั๋น” ผมพูดกระแทกเสียงไม่ต้องตะโกนแต่มันก็มีพลังพอที่จะทำให้คนตรงหน้าผมกำมือแน่นด้วยความโกรธ
“อ๊อดเข้าแถวแล้ววะโป้งไปเถอะวะ” ไอ้อาร์ทบอกพวกผม ผมหยักไหล่ไอ้พี่เอกไม่ได้พูดอะไรมันแค่ยืนมองพวกผม ไอ้พี่เอกนะผมเคยช่วยชีวิตมันไว้แต่มันก็เป็นเพื่อนไอ้กายผมรู้ มันก็คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกัน ผมหันหลังออกเดินตามเพื่อนๆ
“มึงรู้ได้ไงว่ะ ว่าพวกกูอยู่ตรงท้ายตึกอะ” ปันปันถามไอ้สามคนที่วิ่งมาหาผม
“โจ้มันเห็นกี้นั่งร้องไห้อยู่เข้าไปถามอะไรก็ไม่ตอบและกี้ก็บอกว่าพวกมึงยืนอยู่ที่ท้ายตึกเช่นกันพวกกูเลยตามไปดู” ไอ้อาร์ทพูด
“มึงจะไปหาเรื่องมันทำไมวะโป้ง”
“โป้งเข้าไปเตือนมันให้เลิกยุ่งกับคริสยะ” ปันปันพูดแทนผมนะเป็นคนปากหนักและไม่ชอบแสดงเพื่อเอาหน้า
“โป้ง..ถ้าเรื่องที่มันจะยัดยาให้กูนะ..ช่างมันเถอะต่อไปกูจะระวังตัวมากกว่านี้และกูไม่อยากให้มึงไปยุ่งว่ะโป้ง..กูกลัวมันเล่นสกปรกกับมึงอีกคนแค่กูพอแล้ว” คริสโตเฟอร์มันพูด ผมหยุดมองหน้ากันจะถอดหายใจ
“ครูเขมฝากถามว่าพ่อโป้งเป็นยังไงบ้าง..และได้รับการทำบายพาสหัวใจหรือยัง “
“ครูเขมเขาเต็มใจช่วยมึงนะโป้ง” คริสโตเฟอร์พูด
“ช่วยพ่อมึงก่อนโป้ง ...พ่อมึงสำคัญนะโป้ง”
“แต่ว่าเงินมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะคริส” ผมพูดเพราะว่าหมอบอกว่าถ้าทำบอลลูลพ่อผมมีความเสี่ยงเยอะกว่าทำบายพาสและค่าใช่จ่ายก็เพิ่มขึ้นอีก
“ครูเขมเขาเต็มใจและมึงก็หามาคืนเขาที่หลังซิโป้ง” คริสโตเฟอร์พูดผมพยักหน้าเบาๆ
“ตอนเที่ยงนะไปกับกูที่ห้องสมุดวะโป้ง..ครูอยากจะคุยกับมึงเรื่องพ่อมึง..ครูขออยากช่วยและมึงตะได้เรียนให้จบ” คริสโตเฟอร์หันมาบอกผม ก่อนจะเดินแยกเพื่อไปเข้าแถว ผมหันมามองคนที่สวมมือเข้ามาจับมือผมบีบไว้ ถ้าไม่มีคนนี้ข้างๆผม ผมคงรู้เหมือนกำลังสู้อยู่คนเดียวเหมือนกัน
“ปันปันเห็นด้วยนะโป้ง..และปิดเทอมเราไปช่วยแม่โป้งทำเค้กจะได้มีรายได้เพิ่มดีไหม..เราชอบโดนัทที่แม่โป้งทำอะ ..เราไปขายตามตลอดนัดเปิดท้ายก็ได้ดีไหมโป้ง” ผมยิ้มออกมาทันที ทำไมผมคิดไม่ได้นะ
“เราช่วยกันนะ” ปันปันพูด
“อืมม...ขอบใจนะ..และอย่าทำหน้าตาแบบนี้ได้มั้ย” ผมหันไปมามองคนที่ยิ้มตาหยีให้ผม
“ทำไมอะ” = 0 = ทำแก้มป่องด้วย
“มันน่ารัก” พอผมชมเข้าหน่อยคนที่ถูกชมถึงกับยิ้มตาหยีทันที ผมพากันเดินไปเข้าแถวผมนะให้ปันปันยืนด้านหลังผมเพื่อออกตัวปกป้องคนรักผมเอง
“ขอบคุณนะ..โป้งจัง”
“บอกอย่าเรียกโป้งจังไงปันปัน”
“ทำไมอะเขาชอบ”
“โป้งไม่ตัวการ์ตูนญี่ปุ่นซะหน่อยและมันฟังดูไม่โหด ..โป้งจัง~” ผมพูดชื่อตัวเองยังแอบขนลุกเลย ไอ้พี่กายมันหันมามองหน้าผม ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ จนกระทั้งกิจกรรมหน้าเสาร์ธงเสร็จสิ้น
ผมก็เดินไปขึ้นห้องเรียนตามปกติพยายามตั้งใจ ผมต้องเรียนให้จบ ม.6 ก่อนให้ได้และนั้นผมจะได้คิดหาช่องทางทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เมื่อก่อนพ่อทำงานได้เยอะๆ ที่ละเป็นหมื่นแต่ตอนนี้หมดไปกับค่ารักษาก็เยอะอยู่เงินที่มีก็ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆเช่นกัน
เมื่อก่อนไม่ซิไม่นานมานี้ผมยังเที่ยวสนุกกับแฟนผมที่เป็นนักเรียนพยาบาลเธอเรียนปีสองแล้วแต่ตอนนี้เราเลิกกันอย่างเป็นทางการเธอคงตัดสินใจบอกพ่อแม่เธอไปตามจริงๆนะว่าเธอเป็นสาวกเลสเบี้ยน ส่วนผมก็คงจะบอกแม่ผมเร็วๆนี้แหละว่าผมเป็นอะไร ที่จริงแม่ก็เริ่มสงสัยแล้วเรื่องผมกับปันปัน แม่ถามผมแต่ไม่ได้ถามเชิงว่าจะต่อต้านนะแต่ผมก็ยังแค่ยิ้มๆไม่ได้ตอบอะไร
“หมับ” ผมเอื้อมมือไปกุมมือคนที่นั่งข้างๆผม ระหว่างที่ครูให้จดบนกระดานไวท์บอร์ด ผมเหลือบมองคนที่ตั้งใจเรียน ปันปันเป็นคนที่เรียนเก่งเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านเขามีพี่สาวถึงห้าคน ปันปันเป็นคนสุดท้อง ไม่แปลกใจหรอกที่เตี่ยปันปันจะพยายามให้ลูกกลับไปสู้โลกที่ปกติ
“มีอะไรอะ” ผมสะดุ้งปันปันยื่นหน้าใกล้ๆผม ใกล้มาก
“ไม่มีอะไร”
“เห็นจ้องตั้งนานแล้วนะ”
“เปล่า!”
“เสียงสูงอะ”
“อย่าถามเยอะได้มั้ย” ผมพูดคนที่นั่งข้างทำปากยู่ใส่ผมทันที
“หงึกๆ”มีมือมาสะกิดข้างหลังผม ผมหันไปมองเป็นสองคนสาวที่นั่งข้างหลังผมนั้นเอง เป้ยกับมะนาว
“ว่าไง” ผมหันไปถาม
“ถามหน่อยซิ ตกลงนายสองคนเป็นแฟนกันหรือเปล่า” มะนาวถามผมแววตาเป็นประกาย ส่วนคนข้างนี้เขินอายซะขนาดนี้ไม่ต้องตอบแล้วมั้ง
“ปันปันเขินใหญเลยอะ...ตกลงเป็นแฟนกันใช่ปะ”
“อืมม” ผมพยักหน้า
“เห็นไหมแกฉันบอกแล้วว่าท่าทางสองคนเขาแบบนี้เป็นกันชัว “
“พวกเราเป็นสาววายอะ..อยากรู้จังว่ารักกันได้ยังไงอะไรแบบนี้”
“พวกเราอยากเขียนนิยายเรื่องความรักของผู้ชายกับผู้ชายอะ..” เป้ยพูดและมองหน้าผมสองคน
“ไม่รู้ซิว่าเกิดตอนไหน...คงระหว่างที่เราเป็นเพื่อนกันมั้ง..คือมันบอกไม่ถูกอะว่าไปรักกันตอนไหน..รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้วอะ” ผมพูด
“ฟินมากอะ...รักกันนานๆนะ” สองสาวที่นั่งโต๊ะข้างหลังผมสองคนพูดผมพยักหน้าขอบคุณ ครูสมชายเข้ามาสอนภาษาอังกฤษพอดีเลย ผมก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาเรียนกันต่อ และช่วงนี้ที่คริสมโตเฟอร์มันเรียนพิเศษกับครูเขมมันก็ดึงพวกผมขึ้นไปนั่งเรียนด้วย มันก็ดีนะได้ความรู้เพิ่ม ไม่ใช่เรียนแค่ในตำรา
หลังจากเลิกคาบที่สี่ผมก็เดินลงจากตึกจะรีบไปหาอะไรทานไอ้คริสโตเฟอร์มันคงรอทานกับพวกผมอยู่ด้านล่างและมันบอกผมว่าครูเขมอยากจะคุยกับผมเรื่องพ่อ ผมเข้าใจแล้วแหละว่าทำไมคริสโตเฟอร์มันรักครูเขมมากขนาดนี้ ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออกมาผมเจอพี่เอกยื่นอยู่เหมือนเขารอผมอยู่
“พี่เอกมีอะไรหรอ”ผมถามพี่เอก ปันปันมองหน้าผมกับพี่เอกสลับกันไปมา
“กูอยากให้มึงเลิกเข้าไปยุ่งกับไอ้กายวะก่อนที่มันจะมาเล่นมึงอีกคน” พี่เอกบอกผมน้ำเสียงบอกได้ว่าเป็นห่วงแต่ทว่าไอ้คริสโตเฟอร์นะมันเป็นเพื่อนของผมนะซิ
“ผมไม่ยุ่งไม่ได้พี่เอก..พี่นะควรจะบอกเพื่อนพี่ให้เลิกยุ่งกับไอ้คริสมันและเรื่องที่มันท้าแข่งรถกับไอ้คริสคราวก่อนนะ ไอ้คริสมันไม่รู้เรื่องว่าพ่อมันจะเป็นคนไปจับคนที่แข่งรถในคืนนั้นและไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่าใครเป็นคนโทรแจ้ง”
“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วด้วยพี่ควรจะบอกไอ้กายมันเลิกบ้าได้แล้ว”
“พี่บอกมันได้เหรอวะ” พี่เอกพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมา ก่อนจะหันมามองหน้าไอ้ปันปันที่ยืนทำหน้างง เหตุการณ์คืนนั้นผมจำได้ดีว่าเราไปท้าแข่งรถด้วยเงินเดิมพัน หนึ่งหมื่นบาทแต่คืนนั้นดันซวยพ่อพี่กายที่เป็นนายทหาร เป็นคนไปดักจับพวกแข่งรถเองและจับลูกชายตัวเองซึ้งมันสร้างความอับอายให้เขาเป็นอย่างมากและไอ้พี่กายก็คิดว่าเป็นฝีมือไอ้คริสโทรไปแจ้ง
พวกผมก็โดนและพ่อแม่ก็มาประกันตัวกันและหลังจากวันนั้นไอ้คริสโตเฟอร์ก็มีเรื่องต่อยกับไอ้พี่กายหนักที่สุดก็ไอ้พี่กายมันด่าถึงพ่อแม่นั้นแหละ ไอ้กายมันเลยโดนต่อยไปจนสลบคาทีและคริสโตเฟรอ์โดนพักการเรียนไป
“ไปกินข้าวกันเถอะวะ...ดูแลปันปันดีดีละ” พี่เอกพูดก่อนจะเดินแยกไปอีกทางเพื่อไม่ให้พี่กายเห็นว่าพี่เอกนะญาติดีกับพวกผม ผมเคยช่วยพี่เอกไว้ตอนนั้นเราไปเที่ยวกันพี่เอกกำลังถูกรุมกระทืบและมันก็ชักมีดขึ้นมาแต่พวกผมลงไปช่วยไว้ซะก่อนพี่เอกเลยรอด
“ทำไมไอ้พี่เอกมันดีกับโป้งจังเลยอะ”
“โป้งเคยช่วยพี่เอกไว้นะปันปัน...เออ..ต่อไปนี้ห้ามอยู่ห่างๆจากโป้งนะรู้ไหม”จากที่พี่เอกพูดผมเริ่มเป็นห่วงปันปันมากขึ้น ผมเดินลงไปที่โรงอาหารเหมือนเช่นปกติ ปันปันก็เดินไปหาซื้อของชอบของเขา ผมเห็นไอ้โจ้กับไอ้อาร์ทมันยืนใช้ความคิดเลือกว่าจะกินอะไรดี พ่อมันสองคนเป็นที่รู้จัก ไม่ค่ยอมีใครกล้ายุ่งกับไอ้อาร์ทและไอ้โจ้หรอกแต่มันสองคนดีที่ไม่เคยเอาพ่อมาเบ่งเหมือนไอ้กาย
“กินไรวะโป้ง” ผมสะดุ้งมือไอ้คริสโตเฟอร์มาแตะที่ไหล่ผม
“ทำไมวันนี้หน้ามึงบอกบุญไม่รับเลยว่ะ” ไอ้คริสโตเฟอร์ถามผม
“ไม่มีอะไรหรอกนะ” ผมหันไปพูดกับคริสโตเฟอร์
“โป้งข้าวผัดปูที่โป้งชอบอะ” ปันปันซื้อข้าวผัดปูมาให้ผมร้านป้าใจทำแน่ๆ ผมหันไปรับจานข้าวมาคนนี้เรียกได้ว่ารู้ใจผมมาก คริสโตเฟอร์แตะไหล่ผมเบาๆและเดินเลี่ยงออกไปหาครูเขมผมเดินไปที่นั่งทางด้านหลังกัน พอเดินถึงก็เห็นไอ้คู่รักจากเพื่อนสนิมกลายมาเป็นคู่รักหวานแหว๋ว โจ้กับอาร์ท
“นี้มึงสองคนยังรักกันอยู่ดีใช่ปะ” ผมสะบัดหน้ามามองปันปัน ถามอะไรนะ ไอ้อาร์ทก็สะบัดหน้ามามองปันปันอีกคน
“ปากมึงเหรอครับปันปันของพ่อ” ไอ้อาร์ท
“ก็กูเห็นไอ้โจ้มันถ่ายรูปคู่กับหมาโพสลงอินทาแกรมตลอดนี้หว่า..ฮาๆ ” ปันปันพูด
“เห็นไหม..ใครเขาก็เข้าใจผิดกันหมดงดอัพรูปกับเจอาร์เดี๋ยวนี้!...ไม่อย่างนั้นเขาจะเอาไปคืนร้านขายพันธุ์สุนัข” ไอ้อาร์ทมันสั่งห้ามโจ้ โจ้หันมาทำท่าจะโบกปันปัน
“โป้งเดี๋ยวเขาต้องไปเอาสบูที่ม๊าส่งมาให้ใหม่” ปันปันบอกผม
“ที่แม่มึงส่งมาให้ใช้หมดแล้วเหรอวะปันปัน ..มึงถูหรือมึงกินเข้าไปด้วยวะ” ไอ้อาร์ทมันถามไอ้ปันปัน ผมหันไปมองคริสโตเฟอร์เดินมาพร้อมกับครูเขมมานั่งทานกับพวกผมด้วย
“นั้นดิ” ไอ้โจ้
“ก็มันเล่นถูนานขนาดนั้นกูนี้ตัวจะเปื่อยหมดแล้ว” ผมพูดและหันไปมองปันปัน แค่สิวไม่กี่เม็ดเองแถวตัวมันก็ขาวจั๋วมาก
“ปันปัน ไปหาหมอเถอะมึงก่อนที่ไอ้โป้งมันจะเปื่อยเพราะต้องเข้าไปถูหลังให้มึงน้าน..นาน ” ไอ้โจ้พูด คนที่ได้ยินทำปากมุบมิบทันที
“และเพื่อว่าหมอจะให้ยาแต่ไม่ใช่ยารักษาสิวนะลดอาการหื่น” ไอ้อาร์ทพูด ผมยื่นมือไปแตะมือว่าจริงมาก
“แป๊ะ!”
“โป้งจัง”
“อีกแล้วบอกว่าอย่าเรียกโป้งจังไง” ผมหันมามองคนที่นั่งข้าง
“อายเขา” >////<
“ไอ้เชี้ยนี้มันอยากดูไอ้โป้งแก้ผ้าอะดิ..ดูหน้าก็รู้...บ่งบอกได้ว่าโรคจิตมาก..ฮาๆ “ ผมนั่งทานอาหารเที่ยงกันพร้อมกันเสียงหัวเราะ นี้คือความทรงจำของคำว่าเพื่อนแท้ ไม่จำเป็นต้องนานแค่ไหนแค่ความจริงใจแค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผม
หลังจากทานอาหารเที่ยงผมตามคริสโตเฟอร์ขึ้นไปห้องสมุด ผมนั่งรอครูเขมเขาเดินเข้ามาหาผมโดยปล่อยให้คริสโตเฟอร์อ่านหนังสือต่อ
“โป้งครูอยากช่วยเธอนะ..ครูไม่ได้อยากจะช่วยให้เธอยอมรับครูกับคริสโตเฟอร์แต่ครูยินดีจะช่วยเธอในฐานะครูและลูกศิษย์..เธอเป็นลูกศิษย์ของครูนะถึงแม้จะไม่ได้สอนก็ตาม “
“พ่อเธอต้องการมันนะโป้ง”ครูเขมกุมมือผมไว้
“ครูให้ยื่มก่อนเมื่อเธอสามารถคืนครูได้เธอค่อยคืนแต่เธอต้องเรียนให้จบก่อนนะโป้ง..สัญญากับครูว่าเธอจะตั้งใจเรียนให้จบ” ครูเขมพูดผมพยักหน้าผมจำต้องยอมรับความช่วยเหลือจากคนที่ผมเคยพูดไม่ดี ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ ผมย่อตัวลงผมก้มลงกราบครูเขม
“อย่าทำแบบนี้ซิโป้ง”
“ผมขอโทษครับครูที่ผมเคยพูดไม่ดีกับครูผมขอโทษครับ..ผมรู้แล้วว่าทำไมคริสมันรักครู มันยอมทำทุกอย่างเพื่อครู เพราะครูดีแบบนี้นี่เองครับ..แม้กระทั้งผม “
“ครูเป็นครูโดยอาชีพครูต้องไม่เลือกปฏิบัติและครูยินดีที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยลูกศิษย์เมื่อลูกศิษย์ต้องการ...ในขณะที่ครูยังมีแรงทำได้อยู่” ครูเขมพูด
“พรุ่งนี้ครูจะโอนให้เอาไปเพื่อรักษาพ่อเธอและเธอก็ตั้งใจเรียนให้จบแค่นี้ที่ครูอยากได้” ครูเขมพูด มือนั้นลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะดันผมให้ลุกขึ้นและครูเขมก็เดินกลับไปหาคริสโตเฟอร์เพื่อทำการติวหนังสือให้คริสโตเฟอร์ต่อ ผมเดินออกไปหาปันปัน ผมหยิบมือถือขึ้นมาและกดโทรหาแม่
“แม่”
“ว่าไงโป้งลูก”
“ผมมีเงินให้พ่อทำบายพาสแล้วแม่”
“ไปเอามาจากไหนนะโป้ง”
“ครูเขาให้ผมยื่มและผมจะพยายามหางานทำพิเศษผมจะค่อยใช้คืนครูเขมเขาแม่”
“ฮึกๆ ...”
“แม่บอกหมอได้เลยนะว่าพ่อพร้อมจะเข้ารับการทำบายพาสแล้วแม่..ต่อไปโป้งจะไม่เหลวไหลอีกแล้วแม่..โป้งรักแม่รักพ่อนะ..โป้งขอโทษที่ผ่านมาโป้งทำตัวไม่ดีเลยแม่” ผมพูดน้ำตาผมซึมแต่ผมพยายามกลั้นเพื่อไม่ให้ไหล
“โป้งดีสำหรับแม่อยู่แล้วลูก...ฝากขอบคุณครู..คนนั้นด้วยนะและถ้ามีโอกาสแม่จะไปขอบคุณเขาเองลูก” แม่ผมพูด
“ครับแม่...แม่ดูแลพ่อต่อเถอะครับ”ผมกดวางสาย ผมหันมามองปันปันกำลังใจที่อยู่ข้างๆผมอีกคน ปันปันกุมมือผมไว้ เหมือนกับว่าเขาหยัดบางสิ่งในมือผม ผมแบมือดู มันเป็นสร้อยทอง
“เอาไปขายช่วยพ่อโป้งนะ..แม่ของโป้งนะดีกับปันปันมาก ปันปันช่วยโป้งได้ไม่มากแต่อยากช่วย”
“เราเป็นแฟนต้องช่วยแฟนซิ”
“แต่นี้ม๊าปันปันซื้อให้ไม่ใช่เหรอ”
“เอานะไว้เราเก็บเงินทำใหม่ก็ได้นิ..ม๊านะเป็นผู้หญิงที่เข้าใจปันปันมากที่สุดแม้ว่าพ่อจะไม่เคยเข้าใจแต่ม๊านะเข้าใจและรักปันปันเขาเชื่อว่าม๊าจะไม่ว่าอะไรปันปันหากจะใช้สิ่งนี้ช่วยคนที่ปันปันรัก ” ปันปันพูดพร้อมกับกอดผม ผมก็หันไปกอดปันปันตอบ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาพิเศษของโป้งVSปันปันมาต่อให้ ดึกๆหน่อยจะมาลง NC ของโป้งกับปันปันบ้างค่ะ ฝากไว้อีกคู่นะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านคะ ขอบคุณทุกกำลังใจไม่ว่าจะคอมเม้น หรือบวกเป็ด ขอบคุณจริงๆค่ะ
รักคนอ่านจัง